แอ๊บที่ 11: สุรา เป็นเหตุให้พิการได้
เสียงฟีโน่แล่นเข้ามาในเขตของโรงพยาบาลและค่อยๆ ดับเครื่องลง พี่แมนบิดกุญแจเก็บเข้ากระเป๋า แต่พอทำท่าจะลุกจากเบาะ ข้างหลังก็หนักๆ เหมือนมีผีชัตเตอร์ขี่คอไว้
“อีเอ็มมี่! ลงดิ ถึงแล้ว!”
“ไม่ลงง่ะ พี่แมนขับวนอีกรอบได้ป่ะ?”
ไม่พูดเปล่า มันยังขยับวงแขนกอดเอวแนบชิด แนบกว่านี้อีกนิดก็สมสู่กันบนฟีโน่แล้ว! แกนคณะสุดโหดขยับตัวยุกยิกให้อีตุ๊ดปลาหมึกมันหลุดออกไป แต่มันก็เหนียวได้ใจเหลือเกิน พี่แมนเธอจึงกลอกตามองฟ้า ถอนหายใจอย่างหน่ายเหนื่อยแล้วกระทืบเน้นๆ ไปบนหลังเท้าอีเอ็มมี่แบบเล็งเล็บขบอย่างแม่นยำ
ปึ้ก!
“แอร๊กกก พี่แมนอ้า~!”
กะเทยเสิ่นเจิ้นกระโดดแผล็วไปยืนกุมเท้าเหยงๆ เป็นกระต่ายขาเดียว ส่วนพี่แมนก็วาดขาลงมาจากฟีโน่อย่างแสนเท่ห์แล้วเดินนำเข้าอาคารไปอย่างไม่คิดจะแยแสเมียรักที่ยืนกระเง้ากระงอดโอดโอยอยู่เพียงลำพัง พอเอ็มเห็นว่าพี่แมนเธอไม่ง้อเขาแน่แล้วก็เลยเดินตามไปอย่างจำยอม
เมื่อคืนครับ...พังประตูห้องน้ำเข้าไปได้สำเร็จครับ แถมไอ้พี่แมนไม่ได้จับผมกดชักโครกอย่างที่มันขู่ด้วยครับ...
มันแค่โยนที่นอนหมอนมุ้งของผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วบังคับให้ผมนอนในนั้นทั้งคืนเท่านั้นเอง...กุซิก กุซิก!
เมียรักของพี่แมนคิดถึงค่ำคืนอันหนาวเหน็บอย่างทุกข์ระทม นี่มันยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันอีกไม่ใช่หรือไร? ไอ้เราก็คิดว่าจะได้นอนเตียงเดียวกัน ได้ทำอย่างงั้น ได้ทำอย่างงี้ แล้วก็ได้ทำอย่างงู้นด้วย หึหึ แค่คิดก็ฟินแระ!
“อีเอ็มมี่...คิดไรอยู่วะ? ทำหน้าหื่นๆ นะมึงง่ะ”
“เปล๊า!”
“เสียงสูง...”
พี่แมนหรี่ตาลงอย่างจับผิด เอ็มเลยต้องรีบหาทางเบี่ยงประเด็นก่อนที่จะถูกผัวรักจับได้เสียก่อน ตุ๊ดหุ่นล่ำรีบเดินไปติดต่อคุณพยาบาลตามใบนัดของหมอ วันนี้คุณหมอนัดถอดเฝือก กับตัดไหมที่หัวออก ส่วนที่พุงนั่น...ถ้าน้องเอ็มมี่ยังทำตัวดีรอดมือรอดตีนพี่แมนไปได้ อาทิตย์หน้าก็คงจะหายเหมือนกัน ย้ำว่าถ้ามันรอดไปได้น่ะนะ...
พอถอดเฝือกออกเรียบร้อย พี่แมนก็ให้เมียรักนั่งซ้อนฟีโน่เป็นตุ๊ดสก๊อยกลับหอ พอกลับมาถึง อีเอ็มมี่ก็ทำหน้าที่ศรีภรรยาที่ดีหาข้าวหาปลามื้อกลางวันให้สุดที่รักกินก่อนจะปัดกวาดเช็ดถูห้องหอแล้วลากตะกร้าผ้าไปซักที่ระเบียง แต่วันนี้เครื่องซักผ้าคงจะงอแงซักเล็กน้อย เพราะไม่ว่าจะกดปุ่มเท่าไหร่มันก็ไม่มีทีท่าจะหมุนให้แม่ศรีเรือนคนนี้ได้สมใจ
“พี่แมน เครื่องซักผ้าเจ๊งอ่ะ”
“ไหนกูดูดิ๊”
พี่แมนคว้ากล่องอุปกรณ์ช่างมาจัดการงัดเครื่องซักผ้าออกมาดูท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเมียรัก นี่กูเรียกมึงเพราะคิดว่ามึงจะโทรตามช่างนะไอ้พี่แมน มึงซ่อมเป็นด้วยเรอะ?
“พี่แมนซ่อมเครื่องซักผ้าเป็นด้วยเหรอ?”
“เป็นลูกผู้ชายก็ต้องทำเป็นดิ่วะ เหมือนที่มึงต้องทำอาหาร กวาดบ้าน ซักผ้าเป็นนี่แหละ”
มึงจะบอกว่ากูเป็นลูกผู้หญิงใช่มะ?
พี่แมนก็แงะๆ ไขๆ อยู่ชั่วครู่ก็ได้ความว่าสายพานเครื่องมันขาด ห้างที่มีอะไหล่ชิ้นนี้ก็อยู่ไกลพอสมควร ไหนๆ ก็จะไปแล้วก็ค่อยออกไปกินข้าวเย็นทีเดียวเลยดีกว่า
“มึงซักพรุ่งนี้ละกัน”
“ผ้าพี่แมนหมดตู้ละเหอะ!”
“งั้นมึงก็ลงไปหยอดตู้ข้างล่างไป”
“ขี้เกียจแบกอ่ะ ซักมือละกัน”
เอ็มขนเสื้อผ้าเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำใส่กะละมัง เทผงซักฟอก ใช้มือตีจนเกิดฟองอย่างคล่องแคล่ว ฝ่ายพี่แมนที่ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วก็ยืนพิงขอบประตูห้องน้ำมองเมียรักไปเพลินๆ
“มึงนี่...เป็นแม่บ้านที่ดีนะ”
เอ็มที่ง่วนอยู่กับการกดผ้าลงในน้ำแฟ๊บแอบมองพี่แมนที่ชมด้วยน้ำเสียงแปลกๆ อย่างสงสัย พอเห็นพี่แมนมองไปทางอื่นก็พอจะรู้ว่าพี่แมนแม่งกำลังเขิน เลยชมไม่เต็มปากเต็มคำ เห็นแล้วน่ารักน่าจับกดไม่หยอก
“จะชมว่าเป็นเมียที่ดีก็พูดมาเลยดิ”
“เสียตรงที่หลงตัวเองนี่แหละ”
แม่ศรีเรือนทำปากยื่นเป็นเป็ดเมื่อผัวรักไม่ชมดังหวัง ก่อนจะลงมือขยี้ผ้าในกะลังมังด้วยสกิลแม่บ้านระดับเมพ
“พี่แมนไม่คิดจะทำบ้างเหรอ?”
“มันใช่งานของผู้ชายที่ไหนล่ะ?”
อีเอ็มมี่ส่ายหัวค้าน
“งานบ้านเค้าไม่แบ่งหญิงแบ่งชายหรอกพี่ พ่อผมก็ช่วยแม่ซักผ้าตากผ้าออกจะบ่อย ท่านบอกว่าไม่อยากให้คนที่ท่านรักเหนื่อยอยู่คนเดียว”
เอ็มพูดไปก็ซักผ้าไปเพลินๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่รู้ตัวอีกทีพี่แมนก็มานั่งปุอยู่ข้างๆ กันแล้ว อีเอ็มมี่มองพี่แมนที่นั่งมองเสื้อผ้าตัวเองในกะลังมังแล้วหยิบขึ้นมาลองขยี้ๆ อย่างงงๆ
“ทำไรอ่ะ?”
“ซักผ้า...”
พี่แมนตอบเสียงงุบงิบ เอ็มที่สมองยังประมวลผลช้าเช่นเคยก็ได้แต่นั่งหน้าอึนต่อไป ตุ๊ดแรมต่ำใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่กว่าจะนึกย้อนถึงประโยคเมื่อครู่ของตัวเองออก ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างหุบไม่ได้
“พี่แมนอ่ะ...”
ไอ้ตัวดีส่งเสียงล้ออย่างมีเลศนัย ยิ่งทำให้คนแมนผู้แสนหน้าบางยิ่งรู้สึกกระฟัดกระเฟียดเข้าไปใหญ่
“ยิ้มเหี้ยอะไร?”
“ยิ้มให้คนที่ไม่อยากให้คนที่รักเหนื่อยอยู่คนเดียวต่าง...อุ๊บ...ถุย!”
พี่แมนลงโทษคนพูดมากด้วยการปาดฟองแฟ๊บใส่ปากเมียรักให้ชิมรสสะอาดกลมกล่อมไปหนึ่งคำใหญ่ อีเอ็มมี่รีบเปิดน้ำบ้วนปากก่อนจะหันกลับมามองค้อนอย่างเคืองๆ
“มึง...มันขาดอ่ะ”
เจ้าของห้องโชว์กางเกงบอลย้วยๆ ของตัวเองที่ขาดแคว่กคามือ ฝ่ายเมียรักก็ได้แต่กะพริบตาปริบๆ กับความมือหนักตีนหนักของสามีสุดที่รัก
“โห่ พี่แมน ขยี้แรงแบบนั้นก็ขาดดิ ทำแบบนี้ๆ”
ตุ๊ดแม่ศรีเรือนกุมมือพี่แมนไว้มือละข้างแล้วสอนวิธีการขยี้ผ้าแบบถูกต้อง ไม่ต้องออกแรงมากนักแค่ให้คราบต่างๆ มันหลุดออกไปก็พอใช้ได้แล้ว แต่ดูเหมือนพี่แมนจะไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
“อย่างงี้เหรอ?”
“ไม่ๆ ขยี้แบบนั้นเดี๋ยวเจ็บมือ ทำแบบนี้”
แล้วเอ็มก็เปลี่ยนท่า โอบตัวพี่แมนจากด้านหลังไว้ทั้งตัวแล้วสอนสุดที่รักซักผ้าไปอย่างแนบชิด ด้วยความที่ตั้งอกตั้งใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พี่แมนเธอก็ลืมตัวปล่อยให้ตัวเองถูกอีเอ็มมี่ลวนลามซะเต็มคราบ
“ทำแบบนี้เหรอ?”
“แบบนั้นแหละครับ เห็นไหม? คราบหลุดไปแล้ว”
อีเอ็มมี่พูดไปก็เอาคางเกยไหล่พี่แมนไป พอเห็นแก้มใสๆ ลอยไปลอยมาอยู่ปลายจมูก มันก็อดไม่ได้ที่จะหอมไปเต็มฟอด พี่แมนชะงักกึก ปล่อยเสื้อยืดของตัวเองหลุดจากมือแล้วผินหน้ากลับมาหาอีเอ็มมี่อย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าเหมือนอยากเชือดคน
“มึงทำอะไร?”
“ทำไมพี่แมนต้องทำหน้าน่ากลัวด้วยอ่ะ เป็นแฟนกันแล้ว หอมนิดหอมหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย”
“ไม่เป็นไรป้ามึงสิ อีหื่น! ปล่อยกูเลยนะ”
อีตุ๊ดหื่นได้ใจ ยิ่งกระชับอ้อมแขนโอบเอวคนแมนไว้แนบกับตัวแล้วหอมไปอีกฟอด
“ไม่ปล่อย”
มันลอยหน้าลอยตาตอบพี่แมนอย่างกวนเบื้องล่าง
“อ๋อ ท้าทาย~ ท้าทายใช่ไหม?”
คนโดนกอดเค้นเสียงขู่ แต่อีกะเทยเสิ่นเจิ้นก็ยังไม่อาจสั่งตัวเองให้ปล่อยวงแขนไปได้
“หอมไม่ได้ งั้นจูบนะ”
“อื้ออออออ~~!!!”
คนใจกล้าประกอบปากสอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดรัดพันอย่างชำนาญการ ชั่วพริบตาที่มันทำเยี่ยงนั้น ไอ้พี่แมนก็อ่อนระทวยเป็นโสรยาในอ้อมแขนคุณหฤษฎ์ ยิ่งอีเอ็มมี่เมียรักเอียงหน้าปรับองศาให้ยิ่งลึกยิ่งดูดดื่มมากขึ้น เนื้อตัวพี่แมนก็แดงเห่อยังกับเป็นไข้ ผิวแก้มใสๆ ร้อนผะผ่าวยังกับเตารีด แรงต้านใดๆ ก็ไม่มีเหลือกับเขาได้แต่ปล่อยให้ภรรยาหน้าหื่นตักตวงเอาได้ตามใจ
คนเจ้าเล่ห์เห็นว่าคราวนี้โชคชะตาฟ้าลิขิตให้กูฟินแน่แล้ว จึงฉวยโอกาสสอดมือผ่านเสื้อยืดย้วยๆ ของพี่แมนเข้าไปลูบไล้ผิวเนียนละเอียด เรื่อยขึ้นไปถึงติ่งไตสะดุดมือน่าเขี่ยเล่น ที่พอสะกิด พี่แมนก็หลุดเสียงครางแหลมสูงออกมาทันที
“อ๊ะ!”
เอ็มที่ได้ยินเยี่ยงนั้นก็ได้ใจจะรุกล้ำต่อ แต่มันดันลืมไปว่า พี่แมนเธอร้องได้ก็เพราะปากเธอเป็นอิสระแล้ว และเมื่อปากเธอเป็นอิสระแล้วสติเธอก็จะค่อยเริ่มกลับมาด้วย คนหื่นที่มัวแต่สนุกสนานกับหน่มหน๊มพี่แมนเลยถึงกับเหวอเมื่อเจ้าตัวผุดลุกขึ้นล็อคคอมันไว้ด้วยมือที่แข็งราวกับคีมเหล็ก
“อีตุ๊ดทรพี! มึงคิดจะเคลมกูใช่ไหม? อย่าอยู่เลยมึง!”
“เฮ้ย! พี่แมน! ดะ...บุ๋งๆๆๆ”
ไอ้พี่แมนผัวรักของอีเอ็มมี่ จับหัวเมียทรพีกดกะละมังซักผ้าอย่างโหดเหี้ยม นาทีนี้ถึงอีเอ็มมี่จะคร่ำครวญในใจขอโทษขอโพยอย่างสำนึกผิดเพียงใด ก็ไม่มีเสียงใดหลุดรอดมาได้นอกจาก...
“บุ๋งๆๆๆ”
แล้วอีเอ็มมี่ก็ลาโลกไปอย่างสงบสุข...
.
.
.
“เฮ้ย! อีเอ็มมี่ เป็นไรวะ? ทำหน้าเหมือนหมาแดกแฟ้บ”
คนถูกทักสะบัดสายตาส่งค้อนไปให้สามีเพื่อนดังขวับ โทษฐานที่พูดจาไม่นวลรูหู วันนี้ตุ๊ดเทียมมาหาเพื่อนสาวที่หอเพื่อนหญิง แต่แฝดน้องไม่ได้สถิตอยู่ที่หอ ออกไปแรดกับพี่เงิบสุดหล่อ หลงเหลือแต่แฝดพี่กับพี่งอกสามีของมันที่ลงมากินส้มตำหน้าหอด้วยกันนี่แหละ
“ป้า...ปลาร้าจานนึง พริกสิบเม็ด”
“แปบนะหนู”
อีเมเม่สั่งส้มตำอย่างนึกเปรี้ยวปาก แล้วนั่งลงบนโต๊ะม้าหินในร้านป้าแก โต๊ะหมาหินมันมีสี่ด้าน แต่อีเม่มันนั่งด้านเดียวกับพี่งอกชนิดแขนแนบแขน ขาแนบขา นี่ถ้ามันเอานมแนบหน้าพี่งอกได้มันคงทำไปแล้ว
“ห่างกันหน่อยก็ได้ม้าง?”
“อิจฉากูล่ะสิ หน้าม่อยอย่างนี้ สามีไม่ทำการบ้านเหรอจ๊ะ?”
เอ็มที่โดนแซวด้วยวาจาเสียบหัวใจของเพื่อนกุมาร มองซ้ายมองขวาหาข้าวเหนียวได้ก็ปั้นเป็นก้อนกระสุนแล้วดีดใส่แฝดพี่ทันที
“กูจะแช่งให้ของพี่งอกเหี่ยวเป็นมะเขืออบหม้อดินบ้าง”
“อ้าว อีนี่!”
คนที่เดือดร้อนอย่างพี่งอกเจ้าของมะเขือก็อดไม่ได้ที่จะด่าอีตุ๊ดตรงหน้าอย่างมีน้ำโห ไอ้แมนแม่งไม่อบรมเมีย! ไม่เหมือนน้องเมเม่คนดีของพี่ กิริยาดีไม่มีสะดุด
“ส้มตำได้แล้วจ้ะ”
อาหารหน้าตาน่าน้ำลายสอวางลงมาตรงหน้า คนบนโต๊ะเลยยุติศึกหันมาปรองดองกันได้ด้วยการจ้วงส้มตำจกข้ามเหนียวเข้าปากกันอย่างเอร็ดอร่อย
“กูถามจริงๆ เหอะ ไอ้แมนมันไม่ยอมฟีทเจอริ่งกับมึงใช่ไหม?”
คนถูกถามทำหน้าเหมือนกินส้มตำบูดทันที ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างแกนๆ
“แตะนิดเดียว พี่แมนก็จับกดน้ำแล้ว ชาตินี้จะได้ฟีทฯ กันรึเปล่ายังไม่รู้เลยพี่”
“เอาน่ามึง ไอ้แมนมันเป็นผัวตุ๊ดมือใหม่ มึงก็ต้องให้เวลามันบ้าง”
“มันไม่เห็นวี่แววเลยนะพี่งอก ไหนๆ พี่ก็ช่วยผมมาขนาดนี้แล้ว ถ้าผมกะพี่แมนได้เป็นฝั่งเป็นฝากันไปซักที พี่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องพี่แมนจะกีดขวางความรักระหว่างพี่กะอีเพื่อนเลวนี่อีกแล้วนะ”
พี่งอกเกาคางตัวเองอย่างครุ่นคิด ที่อีเอ็มมี่พูดมันก็ถูกอยู่ ช่วยมัน...ผลประโยชน์ก็ย้อนคืน ฟิน-ฟิน กันทั้งสองฝ่าย ชายหนุ่มคิดหาวิธีไปพลาง ตาก็เหลือบไปเห็นซุ้มยาดองข้างร้านส้มตำที่บริหารงานโดยสามีของคุณป้าแกนั่นเอง พี่งอกตบโต๊ะดังป้าบก่อนจะลากเมียตุ๊ดของแกนคณะไปเกาะซุ้มร้านยาดอง
“มึงน่ะปล้ำไอ้แมนไม่ได้หรอก แรงมันเยอะ มึงต้องทำให้มันมีอารมณ์แล้วปล้ำมึงเอง”
“โดยใช้ไอ้เนี่ยอ่ะนะ? พี่แมนจะยอมดื่มเหรอ?”
“โถ...มึงนี่มันโง่สมคำร่ำลือจริงๆ ก็ให้มันกินโดยที่ไม่รู้ตัวสิวะ! ผสมอาหาร ผสมเครื่องดื่ม อะไรก็ได้!”
“อือๆ เอาอันไหนดีอ่ะ?”
แล้วรุ่นพี่รุ่นน้องผู้สมรู้ร่วมคิด ก็ยืนเลือกยาดองกันหน้าเครียด เครียดยิ่งกว่าสอบ O-net ตอน ม.6 เสียอีก ทิ้งให้น้องเมเม่นั่งเขี่ยเส้นมะละกออยู่ที่โต๊ะคนเดียวอย่างเหงาๆ
“อันนี้ไหมพี่? ช้างกระทืบโรง”
“อ่อฮอ...โดนมาตั้งแต่ต้นเทอม มึงยังไม่อิ่มตีนมันสินะ”
อีเอ็มมี่ที่โดนด่าอะเกน ทำปากยู่แล้วหันไปชี้โหลอื่น
“อันนี้ละกัน...นารีรำพึง”
“แต่มึงเป็นตุ๊ด...”
เอ็มทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ท่ามกลางสายตาละเหี่ยใจอย่างพี่งอก รุ่นพี่ท่านได้แต่สงสัยในใจว่าความสัมพันธ์พวกมึงมาไกลขนาดนี้ได้ยังไงวะ?
“เออ...จริง ลุงมีตุ๊ดรำพึงป่ะครับ?”
เอ็มถามคุณลุงเจ้าของร้านอย่างใสซื่อ ลืมไปเสียสนิทว่าเขาไม่ได้เป็นตุ๊ดอย่างที่คนอื่นเข้าใจ ในขณะพี่งอกกุมหัวเครียดอย่างไม่รู้จะพามันไปอัพแรมที่ไหนดี
“มึงพอเห๊อะ ลุงครับ เอาโด่ไม่รู้ล้มครับ”
ลุงแกจัดแจงกรอกยาดองที่ว่าใส่ถุงแกงมัดปากอย่างดีแล้วส่งให้อีเอ็มมี่ที่จ่ายเงินไปอย่างไม่เกี่ยงงอนพร้อมรับคำสั่งสอนสุดท้ายจากพี่งอก
“กลับหอไป ซ่อนให้เนียน ถ้ามันจับได้...อย่าซักทอดถึงกูนะ”
แล้วพี่งอกก็เดินกลับไปนั่งกินส้มตำกับเมียกุมารอย่างมีความสุข ทิ้งให้เอ็มกับถุงยาดองและสายตามุ่งมั่นกลับรังรักไปด้วยแผนเคลมสามีรอบใหม่ที่ร้ายกว่าเดิม
โชคดีของเอ็มนักที่พี่แมนออกไปข้างนอกพอดี มันจึงเสาะหาภาชนะในครัวแล้วก็ได้ขวดแก้วเปล่าๆ มาใบหนึ่ง อีเอ็มมี่จัดการกรอกยาดองลงขวดแล้วตั้งแอบปะปนกับเหล่าเครื่องปรุงอาหารอย่างเนียนๆ พี่แมนไม่เคยคิดจะทำกับข้าวกินเอง ยังไงก็ไม่มีทางผิดสังเกตอยู่แล้ว เห้อ...คราวนี้ล่ะ กูจะได้ฟินเสียที
“เย็นนี้ทำอะไรให้กินดีน้า”
ตุ๊ดเจ้าเล่ห์ทำเสียงลัลล้าอย่างน่าตบ พลางเปิดตู้เย็นคุ้ยหาของสดมาคิดเมนู แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรออก กะเทยเทียมก็หน้าเขียวหลังตรงแด่ว เดินขมิบตูดเข้าห้องน้ำไปอย่างรีบร้อน เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่แมนไขประตูห้องเข้ามาพอดี
“อ้าว มึง? เข้าห้องน้ำก็ไม่ปิดตู้เย็น รีบอะไรนักหนา?”
พี่แมนเดินไปปิดตู้เย็นพลางบ่นเบาๆ ก่อนจะย่นจมูกฟุดฟิดแล้วเบ้หน้า เมื่อกลิ่นไม่พึงประสงค์ลอยออกมาจากห้องน้ำ พี่แมนเปลี่ยนชุดเป็นชุดอยู่บ้านแล้วนั่งเปิดคอมเล่นไปครู่ใหญ่กว่าอีเอ็มมี่จะออกมาจากห้องน้ำ
“พ..พี่...พี่แมน”
“อีเอ็มมี่! ท้องเสียเหรอมึง?!”
เห็นสภาพศพคลานออกมาจากห้องน้ำ กางเกงหลุดลุ่ยแล้วพี่แมนก็รีบไปประคองเมียรักให้มานั่งบนเตียง แต่ตูดยังไม่ทันกระทบฟูกนุ่มๆ อีเอ็มมี่ก็ตะกายเข้าห้องน้ำไปอีกรอบเพราะข้าศึกมาจ่อถึงที่
“เฮ้ย! อีเอ็มมี่!”
พี่แมนเดินวนอยู่หน้าห้องน้ำอีกครู่ใหญ่กว่าจะมีเสียงกดน้ำ เสียงเปิดประตูห้องน้ำ และศพตุ๊ดกระดื๊บออกมาจากห้องน้ำอีกครั้ง
“มึงๆ ลุก! มานั่งนี่ มึงไปแดกอะไรมาเนี่ย?!”
ศพตุ๊ดพูดได้ตอบกลับผัวรักอย่างอ่อนระโหยโรยแรง
“ส้มตำ...น...หน้าหออ่ะพี่...ปวด...ท้อง”
“มันใส่อะไรให้มึงกินเนี่ย? เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปกระทืบให้ร้านแม่งพังเลย!”
อารามเป็นห่วงเมีย พี่แมนก็พาลไปทั่ว พอเห็นพี่แมนเป็นแบบนั้นแล้วเอ็มก็ยิ้มออกได้อย่างฝืดฝืน
“ยิ้มเหี้ยอะไร? เดี๋ยวกูไปหายาให้มึงกินก่อน”
เจ้าของห้องลุกขึ้นหาหยูกยาตามกล่องหลังตู้เย็นก็ไม่มี ในตู้เย็นก็ไม่มีติดไว้ ก็อีเจ้าของห้องมันแข็งแรงไม่เคยป่วยอะไรกะใครเค้าเลยไม่จำเป็นต้องมียาสามัญประจำบ้าน
“เอ...แต่จำได้ว่าไอ้งอกเคยซื้อยาธาตุน้ำแดงมาทิ้งไว้นี่หว่า”
พี่แมนไล่หาต่อไปถึงในครัว เพราะจำได้ว่ามีอยู่ครั้งไอ้เงิบมันก็ท้องเสีย นอนบิดอยู่ในห้องเขาตอนมาค้างทำรายงานกัน ไอ้งอกเลยลงไปซื้อยาให้เพื่อนมันแล้วก็ทิ้งไว้ในห้องเขานี่แหละ
“เจอแล้ว”
พี่แมนคว้าขวดยาธาตุน้ำแดง มาเปิดดมๆ แล้วก็ได้แต่สงสัยว่ายาธาตุอะไรวะ กลิ่นเหมือนยาดอง? แต่คราวที่แล้วไอ้เงิบมันกินแล้วก็ดีขึ้น...ก็คงกลิ่นงี้ล่ะมั้ง
สรุปเองเออเองเสร็จสรรพพี่แมนก็เดินกลับไปหาเมียที่นอนหมดแรงอยู่บนเตียง ท่าทางเมื่อกี้จะโดนชักโครกสูบพลังงานไปเสียเยอะ พี่แมนประคองตัวเมียรักไว้แนบอกแล้วจ่อปากขวดยากับปากเมีย
“กินซะมึง จะได้หาย”
อีเอ็มมี่ที่เบลอๆ ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็โดนจับกรอกยาธาตุน้ำแดงไปหลายอึก ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอีกรอบเพราะข้าศึกชุดใหม่มาประชิดเมือง พี่แมนไม่ให้อีเอ็มมี่ล็อกประตูห้องน้ำเพราะกลัวมันจะเป็นลมตายคาส้วม แต่พี่ท่านก็ช่วยอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้มันวิ่งเข้าวิ่งออก ส่วนตัวพี่ท่านก็ลงไปซื้อเกลือแร่มาชงให้เมียดื่มกันขาดน้ำ
“อ่ะ อีเอ็มมี่ ดื่มเกลือแร่หน่อย”
“พ...พี่แมน ร้อน...ร้อน”
ตุ๊ดร่วมห้องร้องครางอย่างทรมาน เหงื่อกาฬแตกพลั่กอย่างผิดสังเกต จนพี่แมนต้องช่วยมันถอดเสื้อ...ไล่ลงมาถึงส่วนล่างที่ตื่นตัวอย่างไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดกับคนที่ถ่ายท้องจนแทบเป็นลม
“เฮ้ย! อีป้านั่นมันใส่อะไรให้มึงกินเนี่ย?”
“ไม่รู้...พี่แมน ทำให้หน่อย...”
“ทำบ้าอะไรเล่า?!”
พี่แมนเถียงหน้าแดง แต่พอเห็นสีหน้าทรมานของมันแล้วก็อดสงสารขึ้นมาไม่ได้ เอ็มส่งสายตาอ้อนวอนขอร้องในสิ่งที่มันต้องการ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือพี่แมนบีบเบาๆ อย่างขอความเห็นใจ
“มึงนี่นะ! นี่ไม่ได้ไปยั่วผัวป้าแกจนแกแค้นอะไรมึงใช่ไหม?”
ถึงจะพูดกลบเกลื่อนไปงั้น แต่มือพี่แมนก็ค่อยๆ เลื่อนลงไปยังจุดหมาย สร้างเสียงครางผะแผ่วจากคนป่วยตลอดทางที่มือลากผ่าน
“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ”
มือนิ่มๆ ของพี่แมนชะงักกึกตรงขอบกางเกงเมียรัก สร้างความไม่พอใจให้คนรอเป็นยิ่งนัก
“ผัวป้า? ขายยาดอง?”
พี่แมนรำพึง แล้วค่อยๆ นึกปะติดปะต่อเรื่องราวอย่างนึกขึ้นได้ ก่อนจะละมือไปจับขวดยาธาตุมาเปิดดมอีกครั้งจนแน่ใจ สีหน้าแสนเป็นห่วงเมียรักหายวับไปทันที เหลือเพียงสีหน้าโหดเหี้ยมเหมือนอยากกระทืบคนป่วยตอแหลเสียมากกว่า
“หึ...กูเกือบเสียท่ามึงแล้วไหมล่ะ? คิดจะวางยาดองกูเรอะ?”
“พี่แมน...ร้อนจังเลย”
ยิ่งได้ยินเสียงคราง พี่แมนยิ่งโมโห พอโมโหมากๆ เข้าพี่แมนก็ทนไม่ไหว เปิดขวดยาดองที่เหลือกรอกปากอีเอ็มมี่รวดเดียวหมดขวดจนมันไอแค่กๆ ก่อนจะหาเชือกมามัดมันไว้กับเตียง ไม่ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเขาตอนเผลอหลับได้
“พี่แมนทำไรอ่ะ? ปล่อยเค้า~”
“หึ...ค้างไปเสียเถอะมึง!”
พี่แมนทิ้งเสียงอาฆาตแค้นสุดท้ายไว้ก่อนจะนั่งเล่นคอม ยัดหูฟังเปิดเพลงกลบเสียงครางของตุ๊ดมีกรรมไปอย่างไม่สนโลก
ปล่อยให้อีเอ็มมี่ทรมานกับอาการปวดท้องและ “โด่ไม่รู้ล้ม” ไปเสียทั้งคืน
“งี๊ดดดด พี่แมน~ ทำให้เค้าที๊~~~!!”
โปรดติดตามแอ๊บต่อไป
#แอ๊บรัก
Talk~
พี่แมนเขาไม่ตัดน้องชายเอ็งไปดองเหล้าก็ดีเท่าไหร่แล้ว อีเอ็มมี่!