ตามหทัย(ครุฑ x นาค)หน้า ๕ ตอนที่ ๑๐ วันที่ ๒๙ / ๙/๖๑
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตามหทัย(ครุฑ x นาค)หน้า ๕ ตอนที่ ๑๐ วันที่ ๒๙ / ๙/๖๑  (อ่าน 38329 ครั้ง)

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
น่าสนใจดีนะคะ ถ้าศศิศได้ขึ้นไปแก้แค้นที่วิมานแก้ว คงจะมันน่าดูเชียว

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
รอตอนต่อไป~

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ตอนที่  ๖

                ศศิศมหานาคราชร่ายคาถากลับคืนสู่ร่างทิพย์ ทันใดนั้นมีเด็กน้อยวัยประมาณ 7 - 8 ขวบวิ่งถลาเข้ามากอดพระองค์ทันที
         
          "เสด็จแม่ ! "

      เด็กน้อยตรงหน้าที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับฆเคศวรไม่มีผิดวิ่งเข้ามากอดองค์ศศิศนาคราช ผู้สูงศักดิ์จนพระองค์รู้สึกงุนงง
 
       "ข้าไม่ใช่แม่ของเจ้าหรอก เด็กน้อย"  องค์ศศิศตรัสเสียงอ่อนโยน

        "เสด็จแม่ไม่ต้องการข้าแล้ว  เพราะข้าทำให้เสด็จแม่ต้องตาย" เด็กน้อยร่ำไห้ฟูมฟายจนนาคราชหนุ่มรู้สึกสะเทือนพระทัย

        "เจ้าหมายความว่าอย่างไร"

        "เสด็จแม่ตายเพราะคลอดข้า  มันเป็นความผิดของข้า"

       องค์ฆเคศวรผู้เป็นบิดาเข้ามาแก้ไขความเข้าใจผิดของครุฑน้อยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย "วาโย เขามิใช่เสด็จแม่ของเจ้า ท่านผู้นี้คือศศิศมหานาคราช"

        "ไม่จริงพะย่ะค่ะ เสด็จพ่อโกหก" เด็กน้อยตรัสตอบทั้งสีหน้างอแง

        "วาโย เสด็จแม่ของเจ้าไม่อยู่แล้ว ตอนนี้เรามีกันแค่สองพ่อลูกเท่านั้น กลับไปวิมานฉิมพลีกับพ่อเถอะ อย่าได้รบกวนศศิศมหานาคราชอีกเลย" ราชาครุฑเบือนพระพักตร์หนีภาพลูกน้อยเกาะพระกรของศศิศแน่นราวลูกลิง

        "ลูกไม่เชื่อ เสด็จแม่ ลูกจะอยู่กับเสด็จแม่ ฮื่อๆ เสด็จพ่อใจร้าย ลูกเกลียดเสด็จพ่อ" พระทัยของคนเป็นพระราชบิดาเจ็บปวดเหลือแสน สงสารลูกน้อยนักที่ไม่มีโอกาสได้อยู่กับพระราชมารดา

        ศศิศทอดพระเนตรพระโอรสองค์น้อยเศร้าโศกจนถึงกับสะอื้นไห้คร่ำครวญอย่างขวัญเสีย พระองค์เห็นพระทัย ในพระทัยเจ็บปวดราวมีเข็มมาทิ่มแทง พระองค์ก้มพระวรกายเข้าไปลูบพระเศียรพระโอรส

           'ทำไมข้าถึงรู้สึกผูกพันเด็กคนนี้ราวกับเขาเป็นลูกของข้า ทั้งที่เขาคือลูกของฆเคศวรหรือว่าชายาของฆเคศวรคือร่างหนึ่งของข้าตอนไปชดใช้กรรมในโลกมนุษย์' ศศิศนึกสงสัยในพระทัย

   "หยุดร้องได้แล้วนะเด็กดี เจ้าชื่ออะไรหรือ "

     "วาโยพะย่ะค่ะ"

     องค์ศศิศเสก กำไล 'บ่วงนาคบาศ' แล้วทรงตั้งจิตอธิษฐาน

     'หากเด็กน้อยตนนี้เป็นโอรสของข้า ขอให้กำไลอันนี้กลายเป็นบ่วงนาคบาศเป็นอาวุธคุ้มครองเขา หากเขามิใช่โอรสของข้าขอให้กำไลอันนี้กลับกลายเป็นเพียงกำไลเครื่องประดับธรรมดา'

      หลังจากนั้นพระราชทานแก่พระโอรสน้อยทันที

     เมื่อครุฑน้อยสวมใส่ มันกลับกลายเป็นนาคราชเลื้อยพันรอบข้อมือ เด็กน้อยหัวเราะชอบใจ ขณะที่องค์ฆเคศวรรีบจับนาคน้อยนั้นกระชากออกจากพระกรพระโอรส ครุฑราชพนมพระกรร่ายมนต์อาลัมพายน์ใส่นาคน้อยที่ขยายขนาดเป็นพญานาคขนาดเท่าลำต้นตาลทันที ขณะที่ศศิศชูพระหัตถ์ขึ้น พญานาคตนนั้นเลื้อยเข้ามาพันขดและกลายเป็นกำไลดังเดิม

      องค์ศศิศทอดพระเนตรเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วรู้สึกมั่นพระทัยว่า พระโอรสครุฑตนนี้คือโอรสของตนไม่ผิดแน่แท้

      "นี่เจ้า! คิดจะทำร้ายลูกของข้าอย่างนั้นรึ" องค์ฆเคศวรตวาดเสียงก้องผุดลุกขึ้นยืนชี้พระพักตร์ศศิศอย่างโกรธจัด แต่พระองค์หาได้สะทกสะท้าน เชิดพระพักตร์ท้าทายแล้วตรัสว่า

     "เจ้ากำลังเข้าใจผิด เจ้าครุฑโง่ นี่คือ บ่วงนาคบาศ" 

       องค์ศศิศก้มพระวรกายตรัสกับพระโอรสน้อยว่า " เมื่อลูกสวมใส่มัน ลูกจะอยู่ในน้ำได้มิต่างจากนาคราชตนหนึ่ง หากลูกใช้มันเป็นอาวุธมันจะเป็นศาสตราที่ทรงอานุภาพร้ายแรง หากลูกต้องการให้มันเป็นเชือกวิเศษ เมื่อมันตรึงมัดผู้ใดก็มิอาจมิดิ้นสุดจากมันได้ ลูกชอบหรือเปล่า"

     "ชอบพะย่ะค่ะ"

     " ลูกน่ารักขนาดนี้ แม่มีหรือจะไม่รักลูก ตอนนี้ลูกออกไปวิ่งเล่นข้างนอกก่อนนะ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับเสด็จพ่อของลูก"

     "พะย่ะค่ะ เสด็จแม่"

     องค์ฆเคศวรหันพระพักตร์ไปตรัสกับทหารองครักษ์ทั้งสองตน "พวกเจ้าจงดูแลลูกข้าให้ดี ให้เขาเที่ยวเล่นสักพักแล้วพาเขากลับไปยังตำหนักวิมานแก้วอากาศของข้า"

    "รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ"



     เมื่อเด็กน้อยวิ่งออกไปพร้อมกับพี่เลี้ยงครุฑทั้งสองตนที่ติดตามไปด้วยจนราชาครุฑคลายกังวลก็หันพระพักตร์ไปทางข้าราชบริภารของศศิศที่พอทราบว่าเจ้าเหนือหัวของตนได้รับบาดเจ็บก็พากันขึ้นจากบาดาลมาเฝ้าหน้าถ้ำริมทะเลตะวันออกแห่งนี้

     "พวกเจ้าก็ออกไปด้วย" องค์ศศิศตรัสเมื่อทอดพระเนตรท่าทางกังวลของเหล่าข้าราชบริภาร

     "แต่ว่า..."

     "ออกไปเถอะ ข้ามีเรื่องต้องการถามจากปากของราชาครุฑ

       "พะย่ะค่ะ / เพคะพระบาทเจ้า"


     เมื่อทุกคนออกไปหมด


     "เด็กคนนั้นคือโอรสของเจ้าที่อยู่ในไข่ใช่หรือไม่"

     "ใช่"


     "โตเร็วสมกับเป็นบุตรครุฑ ถ้ามิใช่เพราะมีแม่เป็นมนุษย์คงจะโตเป็นหนุ่มเลยทีเดียว"


     "ใช่"


     "นางตายหลังจากคลอดเด็กคนนั้นคลอดใช่หรือไม่"


      "ใช่"


      "นางชื่อ ลัญยาวดีแห่งนันทปุระใช่หรือไม่"


      "ใช่"

      องค์ศศิศเม้มพระโอษฐ์แน่น ตอนนี้พระองค์แน่พระทัยแล้วว่า พะราชธิดาลัญยาวดีคือร่างหนึ่งของพระองค์ไม่ผิดแน่ พระองค์เริ่มตั้งพระทัยว่าจะสืบหาคนร้ายผู้ที่ฆ่าพระองค์ในตอนนั้น พระองค์อยากรู้ว่านักว่าเป็นฝีมือใครทำไมถึงเลือดเย็นขนาดนี้  และจะแก้แค้นผู้ที่ทำร้ายพระองค์ในตอนนั้นทุกตน

       "เจ้าไม่คิดจะแก้แค้นคนที่ฆ่านางเลยรึ"

       "แก้แค้นอย่างนั้นหรือ ผู้ที่ทำให้นางตายนั้นก็คือข้า นางตายเพราะข้า ถ้าข้าดูแลนางดีกว่านี้ นางคงไม่ตาย "     

       องค์คเฆศวรตรัสตอบเสียงเบาด้วยความเจ็บปวด ในพระทัยนึกสงสัยว่าเหตุใดนาคราชตนนี้ถึงรู้เรื่องราวของชายาตนได้หรือมีครุฑตนใดทรยศ ในโลกนี้นอกจากชาวครุฑที่วิมานฉิมพลีแล้ว ผู้ที่เคยเห็นชายาของตนล้วนแต่ตายกันไปหมดแล้ว เหตุใดนาคราชตนนี้ถึงได้รู้เรื่องนี้ได้

       "เจ้าครุฑโง่ "

       "หากมิใช่ว่า ข้าติดค้างหนี้บุญคุณเจ้าที่ได้ช่วยเหลือโอรสของข้า ข้ามิยอมให้เจ้ามาหยามเกียรติข้าเช่นนี้แน่"

      " หึ เจ้ากล้าทำร้ายผู้ที่มีใบหน้าเหมือนชายาเจ้าอย่างนั้นหรือ"

      องค์ฆเคศวรเบิกพระเนตรกว้างแล้วมีพระพักตร์เกรี้ยวกราด

      "ด้วยเหตุนี้เจ้าจึงแสร้งเนรมิตใบหน้าเพื่อลวงข้าใช่หรือไม่ เล่ห์กลของเจ้าลวงข้ามิได้หรอก"

      องค์ศศิศทอดพระเนตรราชาครุฑแล้วนึกฉงนในพระทัย เหตุใดคราที่พระองค์เป็นพระราชธิดาลัญยาวดีถึงไปยอมเป็นชายาครุฑงี่เง่าโง่เขลาตนนี้ได้

     "ข้ามีใบหน้าเช่นนั้มาตั้งแต่จุติเมื่อพันกว่าปีก่อนแล้ว หากเจ้ามิเชื่อลองไปทูลฯถามพระแม่อุมาเทวีผู้ประทานพรกำเนิดข้าได้" องค์ศศิศทอดพระเนตรท่าทีของราชาครุฑแล้วก็นึกหวั่นพระทัยกลัวฆเคศวรจะล่วงรู้ความลับที่พระองค์ปิดซ่อนไว้และอาจจะเข้ามาขัดขวางการแก้แค้น

     ขณะที่องค์ฆเคศวรนิ่งไปชั่วครู่ ไม่ว่ากระไร แต่ชำเลืองดูท่าทีของนาคราชหนุ่มเพื่อประเมินท่าที เพราะราชาครุฑเองก็เคยได้ยินเรื่องราวพรกำเนิดของนาคราชหนุ่มผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนาคราชที่งดงามที่สุดในสามโลก แต่มิเคยสนพระทัยไยดีเรื่องราวของเผ่าศัตรูเท่าใดนัก
 
     ทันใดนั้นฆเคศวรก็คว้าศศิศเข้าไปจุมพิตอย่างดูดดื่ม นานจนศศิศแทบขาดอากาศถึงได้ยอมปล่อยแล้วก็ยังคว้าพระกรของศศิศมากุมไว้

      "ปล่อย"

      "ไม่ปล่อย พี่ไม่มีวันปล่อยเจ้าไปจากพี่อีกแล้ว"

      "น้องหญิง ในที่สุดพี่ก็หาเจ้าพบ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาพี่เฝ้าตามหาดวงจิตของเจ้าบนโลกมนุษย์จนลืมตามหาเจ้าที่เมืองบาดาลแห่งนี้"

      "เจ้าเพ้อเจ้ออะไรกัน ข้ามิใช่ชายาของเจ้า ข้าเป็นนาคราช นามของข้าคือ ศศิศมหานาคราช ข้าถือกำเนิดจากบงกชมณีหยาดตามพรของพระแม่เจ้าอุมาเทวีที่ทรงประทานพรให้เสด็จพ่อของข้า ข้าจะเป็นมนุษย์ได้อย่างไรเล่า  เจ้าปล่อยมือข้าได้แล้ว"

      ศศิศมหานาคราชตรัสตอบเสียงเบา พระองค์เองเคยไปชดใช้กรรมในโลกมนุษย์และมิใช่เรื่องแปลก หากพระองค์จะเป็นพระราชธิดาลัญยาวดี เพราะพระนางสิ้นพระชนม์ด้วยมนต์ดำซึ่งสอดคล้องตามคำสาปที่พระองค์ได้รับ
   
      พระองค์จะต้องแก้แค้น!

      แต่เรื่องนี้จะให้องค์ฆเคศวรรับรู้มิได้เพราะผู้ที่ลงมือคงไม่พ้นเป็นผู้ที่ใกล้ชิดครุฑราชอย่างแน่นอน

      "ตอนที่วาโยบอกพี่ พี่ยังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เมื่อครู่พี่สัมผัสได้ถึงดวงจิตของเจ้า แม้มันจะเบาบางเหลือเกิน น้องหญิง ต่อให้เจ้าจะอยู่ในร่างไหน เจ้าก็คือดวงหทัยของพี่"

      หลังจากตรัสจบ องค์ฆเคศวรก็เข้าอุ้มศศิศที่ยังงุนงงขึ้นแนบพระอุระก่อนจะกลับร่างเป็นพญาครุฑแล้วโผบินสู่ท้องฟ้า

      "ปล่อยข้าลงบัดเดี๋ยวนี้"

      "พี่จะพาเจ้าไปหาผู้หนึ่ง"

      "ผู้ใดกัน"

      "ผู้ที่คอยดูแลเจ้าตอนที่เจ้าอยู่ที่วิมานฉิมพลี"

       "ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้ว ข้ามิใช่ชายาของเจ้า ข้ายังมิเคยไปวิมานฉิมพลีของพวกเจ้าเลยสักครั้ง"

       "น้องหญิง เจ้าจะจำอดีตชาติไม่ได้ พี่ก็ไม่ว่า แต่เจ้าจะใจร้ายใจดำกับลูกกับสวามีเยี่ยงพี่ได้ลงคอเชียวรึ" สองพระกรประสานกันแน่นรอคอยคำตอบ แต่แล้วคำตอบของศศิศก็ทำให้ราชาครุฑพระพักตร์ซีดเผือด

       "เจ้ามิใช่สวามีของข้า"

        ความรักระหว่างพวกเขามันจบสิ้นไปแล้ว แม้ลึกๆแล้วพระองค์จะเริ่มสงสารราชาครุฑที่ต้องสูญเสียชายาอันเป็นที่รักไป ต้องรอคอยการถือกำเนิดของโอรสพระองค์เดียวกว่าร้อยปี แต่ลัญยาวดีตายไปแล้วที่ยืนอยู่นี่คือ 'ศศิศมหานาคราช'   

       "แต่เจ้าคือชายาของพี่"

        "....."


              เมื่อพญาครุฑพานาคราชหนุ่มไปยังวิมานฉิมพลีก็บินตรงไปยังตำหนักแห่งหนึ่ง องค์ฆเคศวรพาพระองค์เสด็จยังด้านในตำหนัก
      องค์ศศิศกำลังจะตรัสโต้เถียง แต่สายพระเนตรกลับทอดพระเนตรวิมานสีขาวที่ประดับประดาไปด้วยผ้าม่านสีน้ำทะเล

      "ตำหนักเบญจมาศ"

      ภาพตำหนักและของประดับทุกอย่างเหมือนในความฝันไม่มีผิดเพี้ยน ทุกสิ่งอย่างเป็นของที่เกี่ยวกับทะเลแสดงถึงรสนิยมของเจ้าของตำหนักว่า ชื่นชอบทะเลเป็นอย่างมาก

         ภายในห้องบรรทมประดับประดาไปด้วยม่านสีฟ้าและเปลือกหอย ศศิศเอื้อมพระกรไปยังข้างแท่นบรรทม มีสมุดเล่มน้อยเล่มสีฟ้าวางอยู่

      องค์ศศิศรู้ได้ทันทีว่า นี่คือตำหนักที่ประทับของพระชายาลัญยาวดี เพราะพระองค์เคยสุบินถึงตำหนักแห่งนี้

      "พระธิดา" หญิงสาวในชุดนางกำนัลของชาวครุฑโผเข้ามากอดนาคราชหนุ่มทันที

      "จำปา ? แล้วหิมาลายาล่ะ "

      พระองค์ตรัสชื่อสตรีในฝันที่ใบหน้าเหมือนคนตรงหน้ามิผิดเพี้ยน พระองค์รู้สึกคุ้นเคยราวกับรู้จักกันมานานแสนนาน

      "หม่อมฉันรอคอยพระธิดากลับมานานแสนนานแล้ว ในที่สุดพระองค์ก็กลับมา ฮื่อๆ หม่อมฉันคิดถึงพระองค์เหลือเกิน"

       "ข้า... เจ้าจำคนผิดแล้ว ข้ามิใช่พระราชธิดาลัญยาวดีที่เจ้ารู้จักหรอก" พระองค์เบือนพระพักตร์หนีเมื่อทอดพระเนตรสตรีตรงหน้าร่ำไห้สะอึกสะอื้น

       องค์ฆเคศวรเพียงแย้มพระโอษฐ์กว้างทันที ราชาครุฑคว้าพระกรศศิศมาจับไว้

      "ปล่อยมือข้า!"

      "พี่กลัวเจ้าหลง"

       องค์ฆเคศวรกระชับพระกรที่จับพระองค์ไว้แน่น

       "พี่? ข้ามิเคยจำได้ว่า มีพี่เป็นครุฑ"

       "พี่มิใช่พี่ของเจ้า แต่พี่คือสวามีของเจ้า"

       "ข้ามิใช่ชายาของเจ้า"

       "น้องหญิง หากเจ้ามิใช่ชายาของพี่ ไยเจ้าถึงจำจำปาได้ และเจ้ารู้ได้เยี่ยงไรเล่าว่า ชายาของพี่นามว่า ลัญยาวดี"

       " ข้า  คือข้า...ข้าได้ยินมาน่ะ"

       "นอกจากคนสนิทในตำหนักของวิมานฉิมพลีแล้ว ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องชายาของพี่เลย และหิมาลายาตั้งแต่เล็กจนโตก็มิได้ออกจากวิมานฉิมพลีเลยสักครั้ง เจ้าจะไปรู้จักนางได้เยี่ยงไร เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะเคยมายังวิมานฉิมพลีของพี่ "

        "ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น ข้ารู้แต่ข้าเกลียดครุฑเยี่ยงเจ้าที่สุด"

        "น้องหญิง แต่พี่รักเจ้าที่สุด แม้ตอนนี้เจ้าจะลืมพี่ไป แต่พี่สัญญาว่า พี่จะดูแลปกป้องเจ้ากับลูกอย่างดีที่สุด"

       องค์ศศิศย้อนให้ว่า "เจ้ามีสิทธิ์อันใด อย่าลืมว่าเจ้าน่ะดูแลตัวเองยังไม่ได้เลย ข้าได้ยินว่า เพียงรับมือฝูงอสูรปักษา เจ้าก็บาดเจ็บปางตายแล้วมิใช่หรือ "

        "มิใช่ว่าพี่สู้พวกมันมิได้ แต่ครั้งนั้นหากพี่ไม่แกล้งเจ็บ เจ้าก็คงมิได้สนใจไยดีพี่" องค์ฆเคศวรหลบพระเนตรตรัสตอบปฏิเสธไม่เต็มเสียง

        "ข้ามินึกเลยว่า ครุฑเยี่ยงเจ้าจะมีเล่ห์กลร้ายกาจเช่นนี้"


        "น้องหญิง พี่เพียงแต่มิรู้วิธีเกี้ยวพาราณสีเจ้าเท่านั้น หาได้มีเจตนาหลอกลวงเจ้าเลย พี่เพียงแต่ รักเจ้าตั้งแต่แรกพบจนมิอาจจะหักห้ามความรู้สึกได้จึงได้ทำเช่นนั้น"

        "นั่นมันก็เรื่องของเจ้ามิได้เกี่ยวกับข้า" องค์ศศิศตรัสย้อนให้

        "เกี่ยวสิ วาโยก็เป็นลูกของเรา เจ้าจะใจร้ายทอดทิ้งเขาได้อย่างนั้นหรือ"

        "ข้า..ข้าเป็นพญานาคจะมีลูกเป็นพญาครุฑได้อย่างไร ที่ข้ายอมเป็นแม่เขาก็เพราะสงสาร กำพร้าแม่แล้วยังมีครุฑโง่เยี่ยงเจ้าเป็นพ่ออีก แล้วไม่ต้องมาถามอะไรข้าอีกนะ ข้ารำคาญ" ท่าทีแสร้งหงุดหงิดไม่พอพระทัยขององค์ศศิศทำให้องค์ฆเคศวรพอจะคาดเดาได้

        " มีผู้ใดเคยบอกเจ้าหรือไม่ว่าเจ้าน่ะ โกหกใครมิแนบเนียนเลย"องค์ฆเคศวรตรัสเสียงระรื่น

        "ข้า... ช่างเถอะ เอาเป็นว่า เจ้าหยุดเรียกข้าว่าน้องหญิงเสียที ข้าเป็นบุรุษหาใช่สตรีไม่"

        "ถ้าเช่นนั้น ข้าจะเรียกเจ้าว่า 'ศศิศ' พระจันทร์ในหทัยข้า" ราชาครุฑตรัสเสียงหวาน ขณะที่ศศิศเริ่มรู้สึกพระทัยเต้น รู้สึกเขินอายและหมั่นไส้ในเพลาเดียวกัน

#########
       

          พอมีเวลาปุ๊บต้องรีบมาต่อเลยค่ะ  เพราะเวลายิ่งมีน้อยๆ แต่พอรู้ว่ามีคนรออ่านยังไงก็มาค่ะ   ตอนหน้าศศิศมาแก้แค้นและสืบหาผู้ที่ทำร้ายทุกตนค่ะ ฝากติดตามด้วยนะคะ

     ขอกำลังใจสักหน่อย เม้นต์สักนิด ให้มีแรงมาต่อนะคะ สัปดาห์นี้เศร้าเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2018 21:22:54 โดย natsikijang »

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ดีใจมาต่อแล้ว

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ศศิศจะทำยังไงต่อ?

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พ่อครุฑนี่มือไวใจเร็วจริงๆเลย ทำไมน่าหมั่นไส้แบบนี้

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
รอตอนต่อไป  :pig4:

ออฟไลน์ First14120

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ bojaemyboo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
พ่อครุฑนิปากหวานจริงเชียว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
อห.  ปุ๊บปั๊บจนตกใจตั้งตัวไม่ทันหรือเราอ่านข้ามไปนะ  เหมือนต้องกลับไปอ่านใหม่คือที่เราจำได้ก็คือศศิได้ไข่ลูกจากคนที่ไม่หวังดี  แล้วเหมือนไปทำอะไรซักอย่างพร้อมไข่ในถ้ำจนครุฑมาเจอแล้วทำร้านเจ็บหนัก  ก็ตัดเข้าภาคอดีตที่ใันใช่มั้ยคะ  นี่ก็รอตามพอรู้ว่าเริ่มจะวายเเล้ว  แต่งงว่าลูกออกจากไข่แล้ว? ศศิที่โดนทำร้ายตื่นจากฝันหายจากบาดเจ็บ? เหมือนมันกระโดดๆ  หรือไม่ก็เราอ่านนานแล้วลืมเอง

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อห.  ปุ๊บปั๊บจนตกใจตั้งตัวไม่ทันหรือเราอ่านข้ามไปนะ  เหมือนต้องกลับไปอ่านใหม่คือที่เราจำได้ก็คือศศิได้ไข่ลูกจากคนที่ไม่หวังดี  แล้วเหมือนไปทำอะไรซักอย่างพร้อมไข่ในถ้ำจนครุฑมาเจอแล้วทำร้านเจ็บหนัก  ก็ตัดเข้าภาคอดีตที่ใันใช่มั้ยคะ  นี่ก็รอตามพอรู้ว่าเริ่มจะวายเเล้ว  แต่งงว่าลูกออกจากไข่แล้ว? ศศิที่โดนทำร้ายตื่นจากฝันหายจากบาดเจ็บ? เหมือนมันกระโดดๆ  หรือไม่ก็เราอ่านนานแล้วลืมเอง

เราก็งงเหมือนกันค่ะ น่าจะบรรยายตอนช่วงศศิศสลบไปหน่อยเพราะเรางงๆตื่นขึ้นมาทำไมลูกโตเลย? สลบไปนานเท่าไหร่ แล้วไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง โอยยย ยังไงก็ติดตามตอนต่อไปค่าาา

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
อห.  ปุ๊บปั๊บจนตกใจตั้งตัวไม่ทันหรือเราอ่านข้ามไปนะ  เหมือนต้องกลับไปอ่านใหม่คือที่เราจำได้ก็คือศศิได้ไข่ลูกจากคนที่ไม่หวังดี  แล้วเหมือนไปทำอะไรซักอย่างพร้อมไข่ในถ้ำจนครุฑมาเจอแล้วทำร้านเจ็บหนัก  ก็ตัดเข้าภาคอดีตที่ใันใช่มั้ยคะ  นี่ก็รอตามพอรู้ว่าเริ่มจะวายเเล้ว  แต่งงว่าลูกออกจากไข่แล้ว? ศศิที่โดนทำร้ายตื่นจากฝันหายจากบาดเจ็บ? เหมือนมันกระโดดๆ  หรือไม่ก็เราอ่านนานแล้วลืมเอง

เราก็งงเหมือนกันค่ะ น่าจะบรรยายตอนช่วงศศิศสลบไปหน่อยเพราะเรางงๆตื่นขึ้นมาทำไมลูกโตเลย? สลบไปนานเท่าไหร่ แล้วไปอยู่ที่นั่นได้ยังไง โอยยย ยังไงก็ติดตามตอนต่อไปค่าาา

       ขอบคุณมากนะคะ  เดี๋ยวนัทสึไปรีไรท์ใหม่ในจุดนี้   :pig4:

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
ค่าาาารอติดตามนะคะคุณคนเขียนเราชอบพอร์ตเรื่องนี้น่าติดตามดี  จริงๆเราว่าคุณคนเขียนบรรยายภาษาก็ดีนะคะ  อาจจะขาดการเชื่อมๆกันและภาพรวมๆของบริบท เราว่าถ้าเติมเต็มตรงนี้ได้ต้องสนุกมากแน่ๆ

ออฟไลน์ Axis._.

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อยากอ่านตอนต่อไปเเล้วววว เห็นการพัฒนาภาษาสำนวนของคนเขียนชัดเจนเลยจากตอนเเรกๆพอมาตอนที่ห้าที่หกนี่ไหลลื่นเลยทีเดียว อยากให้มาต่อเร็วๆจัง รออยู่น้าาาา  :impress2:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ j4c9y

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2820
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-7
ชอบตัวเลยยน

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ขอโทษที่ดองเรื่องนี้ไปนานนะคะ   เพิ่งจะเคลียร์งานได้ค่ะ เรื่องนี้มันยาก ใช้เวลาเขียนแต่ละตอนนานมาก เพราะนัทสึไม่ถนัดเลย ขอบคุณนะคะที่ยังติดตามกัน ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ที่ยังมารออ่าน และให้กำลังใจนะคะ

ออฟไลน์ kanj1005

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
รอค่ะ
แวะไปอ่านบทที่2ต่อก่อน

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
ตอนที่  ๗

        นาคราชหนุ่มทอดพระเนตรพระพักตร์ของพระโอรสน้อยบรรทมหลับสนิทบนแท่นบรรทม ตอนนี้ฆเคศวรเสด็จไปว่าราชการแล้ว เหลือเพียงจำปาและพระองค์เท่านั้นแล้วจึงตรัสกับจำปาว่า


        “ก่อนพระนางลัญญาวดีจะสิ้นพระชนม์ เจ้าจำได้ไหมว่ามีเหตุการณ์ประหลาดๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง”


        จำปาพยายามนึกถึงอดีต นางส่ายหัวปฎิเสธ แต่สักครู่ก็กราบทูลว่า “ตอนนั้นพระองค์ทรงมีพระสุบินร้ายทุกคืนเลบเพคะแล้วตามพระวรกายก็มีรอยเสือขบกัด”


        องค์ศศิศนิ่งอึ้งไปทันที


        มีพระสุบินร้ายทุกคืน…


        มีรอยเสือขบกัด…


       สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว ทำไมไม่มีผู้ใดตรวจรักษานาง ทำไมไม่มีใครสนใจเรื่องนี้  มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


       นาคราชหนุ่มครุ่นคิดย้อนไปถึงเรื่องราวในอดีต แต่ร่างเพรียวกลับจำอะไรไม่ได้เลย จึงจำต้องหันมาถามจำปาต่อ “แล้วเรื่องเหล่านี้ ฆเคศวรไม่ทราบเลยรึ”


      “องค์พระบาทเจ้าในช่วงนั้นทรงเสด็จนำทัพปราบอสูรสารเศียรเพคะ แม้ว่าพระนางจะประชวร แต่ก็ไม่มีหมอหลวงคนไหนมารักษา มีเพียงหมอหญิงที่คอยดูแลเรื่องพระครรภ์เท่านั้นเพคะ หม่อมฉันเคยไปหาหมอหลวงเรื่องนี้ หมอหลวงหาว่าหม่อมฉันบอกเรื่องไร้สาระเพคะ”


      “ดูเหมือนทุกคนจะไม่ใครสนใจนางเลยนะ หึ สนใจแต่พระโอรส”


       องค์ศศิศนึกสงสารชะตาชีวิตตนเองในอดีตชาติ  พระองค์ทรงลูบพระเกศาพระราชโอรสวาโยแล้วตรัสว่า “ข้าต้องกลับนครบาดาลแล้ว ถ้าลูกตื่นแล้วร้องหาข้าให้เจ้าเอาสิ่งนี้ให้เขา ถ้าเขาเรียกหาข้า ข้าจะตอบเขาทันที”


       แม้จะไม่อยากพรากจากพระราชโอรสพระองค์น้อยเพียงใด แต่ภาระหน้าที่ในตำแหน่งกษัตริย์แห่งท้องทะเลตะวันตกก็มิอาจจะทอดทิ้งได้ ร่างเพรียวหยิบกระจกมรกตที่เผ่ายักษ์แห่งนครเภตรามอบเป็นของบรรณาการขึ้นมาแล้วพระราชมันให้แด่พระราชโอรสองค์น้อย


       “จะไปแล้วหรือเพคะ” จำปาทูลถามน้ำตาคลอ นางเพิ่งจะได้พบพระนางผู้เป็นเจ้านายเพียงชั่วครู่เท่านั้น


      ร่างเพรียวแย้มพระโอรษฐ์แล้วตรัสว่า “อันตัวข้านั้นเป็นพญานาคา แต่วิมานแห่งนี้เป็นที่ประทับของครุฑ มันไม่ใช่ที่ของข้า เจ้าเข้าใจใช่ไหม”


      “เพคะ”


      นางเข้าใจแต่ไม่อยากจะยอมรับ ไม่อยากจะทนดูพระนางต้องจากไปอีก แต่ครั้งนี้พระนางอยู่ในร่างพญานาคราชผู้ทรงฤทธิ์ ไม่ใช่พระนางผู้ทรงอ่อนแอและถูกผู้ใดรังแกได้อีกแล้ว  จำปานึกในใจ


      “พระนางต้องเสด็จกลับมานะเพคะ”


     “มาสิ ข้าต้องมาหาลูกของข้าอยู่แล้ว”


     ตอนนี้พระองค์เป็นพระมารดาแล้ว อย่างไรก็ต้องทำหน้าที่พระมารดาพระราชโอรสน้อย เพราะเจ้าครุฑราชงี่เงาที่วันๆ เอาแค่ตามหาพระราชชายานั่นคงไม่มีปัญญาปกป้องลูกของพระองค์ได้ดีหรอก  เรื่องอันใดจะปล่อยให้เขาดูแลพระราชโอรสของเขาเพียงลำพัง    พระองค์ไม่ไว้พระทัยเด็ดขาด


      “ข้าไปนะ”  องค์ศศิศเสด็จออกจากตำหนักก่อนจะเสด็จออกจากวิมานฉิมพลีจากนั้นทรงเหาะกลับไปยังริมชายทะเลาอาณาเขตของพระองค์แล้วทรงกลับร่างเป็นมหานาคราชเจ็ดเศียรขนาดมหึมาเลื้อยลงสู่ท้องทะเลกว้าง


     เมื่อเสด็จกลับยังนครบาดาลแล้วทรงว่าราชการเสร็จก็เสด็จยังห้องทรงพระอักษรและทอดพระเนตรพระตำราที่มีในห้อง


     “ฝันร้าย เนื้อตัวมีรอยถูกขบกัด เสือที่ไหนกันจะกล้ากัดพระราชชายาครุฑงี่เง่านั่นได้”


     มันเหมือนหนทางไขปริศนาจะมืดมิด พระองค์เริ่มคิดว่า มันจะต้องเป็นมนตราที่ร่ายให้เกิดพระอาการประชวรเช่นนั้น แต่เมื่อค้นเท่าไรก็มิเจอ


      วิ้งงงงงงงงงงง


      เสียงเรียกของกระจกมรกต นาคราชหนุ่มแย้มพระโอรษฐ์แล้วร่ายพระคาถาปรากฎกระจกบานใหญ่ขึ้นทันที


      “ว่าอย่างไร คนเก่งของแม่” พระองค์ตรัสเสียงอ่อนโยน


      “น้องหญิง นี่พี่เอง” ครุฑราชตรัสตอบ พระองค์ทอดพระเนตรพระราชชายาอยู่ในห้องทรงพระอักษรแล้วแย้มพระโอรษฐ์


       กระจกวิเศษนี่มันดีจริงๆ…


       นาคราชหนุ่มตรัสต่อว่าทันทีว่า “เจ้ากล้าดีอย่างไรมาขโมยของลูกข้า”


       “ลูกยังหลับอยู่ พี่เลยขอยืมมาใช้หน่อยน่ะ พี่คิดถึงเมีย”


       “ครุฑหน้าด้าน”

        ร่างเพรียวพระพักตร์เห่อร้อนเมื่อถูกเกี้ยวพาราณสี พระองค์ทำเป็นไม่สนพระทัย เสด็จไปค้นหาพระตำราเล่มอื่นต่อ


       “น้องหญิง อ่านอะไรอยู่รึ”


       “เรื่องของข้า”


      “ถ้าเจ้าไม่เข้าใจตำราเล่มไหนถามข้าได้นะ  ตำราในห้องของเจ้า ข้าล้วนอ่านมันมาแล้วทั้งสิ้น”

      เจ้าครุฑงี่เง่า บ้ากามนี่ ช่างขี้โม้สิ้นดี…


      “เช่นนั้น เจ้ารู้รึไม่ มนตราอันใดทำให้ฝันร้ายและเนื้อตัวมีรอยถูกเสือขบกัด”


       ครุฑราชหนุ่มนิ่งเงียบไปแล้วส่ายพระพักตร์ตอบ “ข้าเองไม่เคยได้ยินมนตราเช่นนั้นมาก่อน”


      “ถ้าเช่นนั้นก็อย่ามารบกวนข้า ข้ากำลังยุ่ง แค่นี้นะ” พระองค์คว่ำกระจก ภาพของครุฑราชหนุ่มหายไปทันที


       มนตราอันใดกันที่ครุฑและนาคยังมิรู้ รึว่าจะเป็นมนตราของอสูรกัน มันมิน่าจะใช่มนตราของเทพเทวาอย่างแน่นอน…

       เห็นทีว่าพระองค์คงต้องเสด็จไปแดนอสูรเพื่อหาคำตอบด้วยพระองค์เองเสียแล้ว….


***************************************************************************

   กลับมาแล้วค่ะ  มาร่วมกันไขปริศนาการตายในอดีตชาติของศศิศไปพร้อมๆกัน ต่อไปนาคจะบุกแดนอสูรแล้ว แฟนซีไปอีกค่ะ  เรื่องนี้ยังไม่จบเลยไปเปิดเรื่อง หงส์เหนือบัลลังก์อีก  แต่พอมีไอเดีย ถ้าไม่ได้เขียนต่อแล้วมันจะตายค่ะ นัทสึเป็นพวกเด็กไฮเปอร์ ที่มาต่อช้าไม่ใช่ว่าเพราะติดเรื่องใหม่ แต่เพราะติดเรื่องข้อมูลมากกว่าค่ะ  ไม่อยากแต่งมาไม่ดีแล้วตัวเองก็ไม่มีความรู้ด้านวรรณคดีไทยแนวหิมพานต์ลึกซึ้ง


    ขอตัวไปทำการบ้านเกี่ยวกับแดนอสูรก่อนนะคะ 
    ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณที่ทวงถามค่า  ขอบคุณทุกคอมเม้นต์นะคะ 

   ใครอ่านขอให้สวยให้หล่อ ใครเม้นต์ขอให้รวยทุกคนนะคะ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2018 21:48:30 โดย natsikijang »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ xexezero

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
วาโยน่ารักกกก รอตอนต่อไปนะคะ^^

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3709
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
คิดว่าจะไม่มาต่อเรื่องนี้แล้วค่ะ ดีใจมากๆที่กลับมา
ตอนต่อไปคงมีงัดข้อกันบ้างล่ะ มารังแกกันจนตาย สงสารชาติที่แล้วของศศิศจริงๆ

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ ปักษธร

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 25
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รออยู่นะค่ะมาต่อเร็วๆนะค่ะสู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
อ่านแล้วอยากอ่านต่อเรื่อยๆเลยค่ะ  :katai1:

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12

ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
   
       
ตอนที่ ๘     

       เมื่อแสงสุดท้ายลับขอบฟ้า หลังจากสุริยะเทพทรงเคลื่อนราชรถกลับสู่แดนสุริยโลก ท้องฟ้าก็เริ่มมืดสลัว     


       นาคราชหนุ่มยังคงประทับในห้องทรงพระอักษรคอยตรวจตราฎีกาที่บอกเล่าความเป็นไปของโลกบาดาล รวมทั้งจำนวนเม็ดฝนที่ตกบนพื้นโลกด้วยความสนพระทัย


       กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกปาริชาตลอยมาตามลม


       มันหอมเสียจนพระวรกายที่เหนื่อยล้าจากการทรงงานเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกวิงเวียนพระเศียร


       "กลิ่นอะไรกัน ช่างหอมเหลือเกิน"


       ศศิศมหานาคราชนึกฉงนพระทัยยิ่งนัก เหตุใดจึงได้กลิ่นหอมในโลกบาดาลของพระองค์ได้ องค์ศศิศเงยพระพักตร์ขึ้นแล้วเสด็จออกไปด้านนอกพระตำหนักทันที


       เมื่อทอดพระเนตรออกไปยังด้านนอกพระตำหนัก พระองค์ทอดพระเนตรต้นไม้แห่งสรวงสวรรค์ส่องแสงเรืองรองระยิบระยับด้วยอำนาจแห่งเทวมนตรา


       หลังจากนั้นตรัสด้วยน้ำเสียงกึกก้องกังวานไปทั่วทั้งบาดาลว่า "ฆเคศวร เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงกล้าเข้ามาในนครบาดาลของข้า โดยมิได้รับอนุญาต"


        ร่างสูงองอาจของครุฑราชเสด็จออกมาจากด้านข้างพระตำหนักทันที
 
      "อย่าโกรธไปเลย ชายาแห่งพี่ อันตัวพี่นั้นมาที่นี่เพราะมาตามหทัยที่คิดถึงเจ้าเท่านั้น"


        นาคราชหนุ่มหันไปทอดพระเนตรต้นปาริชาตที่ออกดอกงามเด่นอยู่หน้าทางเข้านครบาดาล "เหตุใดเจ้าถึงบังอาจขโมยต้นไม้สวรรค์มาไว้ที่นี่ เจ้าปรารถนาจะให้เหล่าเทพบุกมาโจมตีเมืองบาดาลของข้ากระนั้นหรือ เจ้าครุฑเจ้าเล่ห์"


      ครุฑราชแย้มพระโอรษฐ์บางๆ ก่อนจะรีบตรัสแก้ไขความเข้าพระทัยผิดว่า "หาเป็นเช่นนั้นไม่ พี่เพียงปรารถนาให้กลิ่นหอมของมันช่วยทำให้เจ้าสดชื่นบ้าง พี่จึงได้ขอยืมต้นปาริชาตมาจากองค์เทวราช"
   
   
      ศศิศนาคราชนึกขันในพระทัย อันดอกปาริชาตนั้นจะมีดอกบานครั้งหนึ่งต่อเมื่อครบหนึ่งร้อยปีเท่านั้น มีรึเทวราชพระอินทร์จะทรงยินยอมพระราชทานมาง่ายดาย

       หากมิใช่เพราะความอหังการของเจ้าครุฑตนนี้ ที่มีพลังเหนือวัชระของเทวราชจนพระองค์ต้องยอมพระราชทานต้นปาริชาตในที่สุด

     "เจ้ากำลังวางแผนอะไรอยู่ ครุฑราช"


      "พี่เพียงอยากให้เจ้าจำพี่กับบุตรของเราได้อีกครั้งเพียงเท่านั้น"


      องค์ศศิศส่ายพระเศียรน้อยๆ แล้วตรัสว่า "อดีตที่เจ็บปวด มีค่าอันใดที่ต้องจดจำ ชีวิตของข้าจุติมาเพื่อหน้าที่อันยิ่งใหญ่ เพื่อพิทักษ์บาดาล เหตุใดต้องมาสนใจจดจำเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไร้ค่าด้วยกันเล่า"


      ครุฑราชนิ่งชะงัก สายพระเนตรสะท้อนเงาความเศร้าดุจจมอยู่ในห้วงมหาสมุทรลึก พระองค์ตรัสเสียงเศร้าว่า "คงถึงเวลาที่พี่ต้องกลับวิมานฉิมพลีแล้ว"


      "ข้ารอเพลานี้มานานเหลือเกิน" องค์นาคราช รีบตรัสตอบ


      องค์ฆเคศวรฉวยโอกาสที่องค์ศศิศเผลอ ทรงจับพระหัตถ์ของชายาของพระองค์มาจุมพิตแล้วตรัสว่า "พี่คงไม่ได้มาหาเจ้าอีกสักพักใหญ่ทีเดียว ตอนนี้อสูรภัทรกรกำลังบุกเข่นฆ่าเหล่ามนุษย์ในเขตไพศาลี พระหรินารายณ์มีพระราชโองการผ่านพระอัยกาเจ้าให้เหล่าครุฑกำจัดพวกมัน"


       อสูรภัทรเป็นอสูรร่างกายใหญ่โต มีฤทธิ์เดชมากมายและได้รับประทานพรจากเทพผู้ให้กำเนิดพระพรหมให้มีพละกำลังเหนือศัตรูทั้งปวง
 
 
      องค์ศศิศอดตรัสถามด้วยความสนพระทัยมิได้ว่า "อสูรตนนั้นได้รับพรจากพระพรหมมิใช่หรือ แล้วเจ้าจะสามารถสู้กับมันได้รึ"


      "เจ้ามิต้องกังวล แม้อสูรตนนั้นจะมีพละกำลังเหนือกว่า แต่พี่จะเอาชนะมันด้วยปัญญา"



      "หึ มั่นใจเสียจริงนะ ครุฑราช"

      นาคราชหนุ่มเริ่มรู้สึกเวียนพระเศียร แต่ยังฝืนเสด็จไปส่งครุฑราชถึงหน้าทวารแห่งนครบาดาล
 
   
      "พี่มีชายาที่ทรงเกียรติ มีบารมีอำนาจยิ่งใหญ่ในบาดาล งดงามจนสามโลกกล่าวนาม และมีบุตรที่น่าชื่นชม เช่นนี้แล้วหาต้องกลัวอาวุธหรืออำนาจชั่วร้ายใดๆ อีก ความรักที่มีต่อพวกเจ้าจะทำให้พี่มีพลังและเอาชนะอสูรร้ายได้" ครุฑราชตรัสด้วยสุรเสียงอันอ่อนโยน


      องค์ศศิศรีบตรัสตอบว่า "ช่างเป็นผู้ที่กล่าววาจาหวานเลี่ยนได้ชวนคลื่นไส้อาเจียนเสียจริง รีบไปเสียทีสิ ข้าชักจะทนฟังต่อมิไหวเสียแล้ว"


      "พี่ไปก่อนนะเจ้า ขอให้เจริญสุข พรของพี่จะอยู่กับเจ้าไปตลอด" ครุฑราชตรัสจบก็เสด็จผ่านทวารบานออกไปเหนือผิวน้ำก่อนจะกลายร่างเป็นพญาครุฑมหึมาทะยานสู่ท้องฟ้าทันที


    องค์นาคราชบรรทมเหนือแท่นบรรทม กลิ่นหอมจากดอกปาริชาตลอยอบอวนทั้งบาดาล
     หยดพระอัสสุธาราเริ่มไหลคลอพระเนตรทั้งสอง


       ต้นไม้แห่งการระลึกชาติเริ่มแสดงเทวฤทธิ์ของมันเสียแล้ว ความทรงจำมากมายเริ่มย้อนกลับมา กี่ร้อยชาติ กี่ร้อยภพ นับไม่ถ้วนเสียแล้ว


(ฉากฝันถึงอดีต)




       ภาพครุฑราชประทับเคียงข้างสตรีนางหนึ่งที่สวดขอพรอยู่ หลังจากสวดมนต์ต่อพระพิฆเนศ ทั้งสองจึงสวดว่า


      "โอม ไจ มาตา ดี (สามจบ)

       โอม ชยะ ศรี ปารวตี มาตา (สามจบ)

        โอม ศรี มหา อุมาเทวะไย นะมะห์ (สามจบ)

        โอม โรคา นะเศษา นะปะหัมสิตุษฎา
รุษตาตุกามาน สะกะลา นะภีษะตาน
ตะวามา ศะริตานาม นะวิปัน นะรานาม
ตะวามา ศะริตายา ศะระยะตาม ประยันติ (หนึ่งจบ)



       พระแม่ได้โปรดประทานโอรสให้เราด้วยเถิด"


       สตรีนางนั้นยังคงสวดวิงวอนต่อพระแม่ปารวตีต่อเนื่องจนสิบปีต่อมาพระแม่ปารวตี มหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่เสด็จมาประทานพรแด่พวกเขา พระมหาเทวีประทับบนหลังเสือ พระพักตร์งดงามเปี่ยมด้วยความเมตตา ทรงช่างสง่างามเหลือเกิน


        "คารวะ พระแม่"


        "เราพอใจในการสวดสรรเสริญของเจ้า ข้ามาเพื่อทำคำขอของพวกเจ้าให้เป็นจริง ต่อไปนี้เจ้าจะมีบุตรที่ยิ่งใหญ่ คำสาปใดๆ มิอาจทำอันตรายเขาได้ ครุฑราช"


        พวกเขาก้มลงคารวะพระแม่ด้วยความซาบซึ้งและยินดี


        "ขอบพระทัยพระแม่"


        พระมหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่ประทานต่อว่า "ขอให้เจริญสุข"


        หลังจากนั้นพระนางก็เสด็จจากไปยังเทือกเขาไกรลาสเคียงข้างผู้เป็นพระสวามี องค์พระมหาเทพศิวะ ผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาล


        สืบเนื่องด้วยพรของพระมหาเทวีกระมังจึงทำให้วาโย ยุพราชแห่งวิมานฉิมพลีทรงรอดพ้นภยันตรายจากคำสาปของผู้ไม่ประสงค์ดี
        *******************************

       นัทสึมาแล้วค่ะ คราวนี้ไปทำการบ้านอ่านตำนานเหล่าทวยเทพมาแล้ว ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ติชมกันบ้างนะคะ และสุดท้ายขอบคุณทุกคนที่ยังรอและเม้นต์ทวง ทำให้นัทสึดีใจมากๆ กดบวกให้แล้วทุกคนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2018 22:03:42 โดย natsikijang »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด