ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 25 (END) P.9  (อ่าน 83210 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
«ตอบ #30 เมื่อ18-05-2017 11:38:53 »

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
«ตอบ #31 เมื่อ18-05-2017 21:15:05 »

รอตอนต่อไปค่ะ~
สู้ๆๆ

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 7 [16/5/17]
«ตอบ #32 เมื่อ18-05-2017 23:41:55 »

 :hao7: กำลังรอลุ้นว่าจะไปเสียท่าพี่โชตอนไหน :ling1:

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 8

วันนี้ผมตื่นสายครับมองนาฬิกาแล้วผมต้องสะดุ้ง เด้งตัวออกจากที่นอนทันที นี่มันสิบเอ็ดโมงแล้วครับผมต้องเอาข้าวเช้าไปส่งให้พี่โชนี่นา ป่านนี้พี่โชคงโมโหจนจะกินหัวผมได้แล้วแน่ๆ

ตายๆๆๆๆ

ผมตาลีตาเหลือกอาบน้ำอาบท่ารีบแต่งตัวเพื่อไปร้านอาหารตามสั่ง เพื่อซื้อข้าวไปให้พี่โช ระหว่างรอข้าวผมก็หยิบโทรศัพทขึ้นมาเล่น

พี่โช (5 Misscall)

‘เชี่ย!!! พี่มันโทรมาด้วยหรอวะ’ ผมอุทานขึ้น

Facebook มีการแจ้งเตือนข้อความใหม่

‘ตามหลอกหลอนกูทุกที่เลยนะไอ้พี่โช’
 
 
Chokun Eiei :
ไอ้เบี้ยว
มึงอยู่ไหน
กูหิวข้าว
Art Patavee :
พี่โช
ผมเพิ่งตื่น
*สติกเกอร์
พี่มันอ่านครับแต่มันไม่ตอบ นี่จะทำให้กูรู้สึกผิดสินะ

“ข้าวได้แล้วหนุ่ม” ป้าแกเรียกผม

ผมรีบเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า “เท่าไหร่ครับป้า”

“40 บาทลูก”

ผมขวักเงินจ่าย ป้าเสร็จก็รีบไปนั่งวินมอเตอไซด์ตรงไปหอพี่โชอย่างด่วน ไม่รู้ไปถึงผมจะโดนอะไรบ้าง

ฮื่อๆๆ!!!

ก็อกๆๆๆ

“พี่โชเปิดประตูให้หน่อย”

เมื่อประตูเปิดออก “........”

ผมยิ้มแหยๆ อย่างรู้สึกผิด “พี่โชหิวข้าวหรือเปล่าครับ” เวลานี้ผมต้องพูดเพราะสุดชีวิตสิครับ

“กูบอกให้มึงมาสายได้แต่ก็ไม่ใช่ให้มึงมาเที่ยงไหมล่ะ” พี่มันว่าแดกดันผม

“แฮ่ะๆ ผมขอโทษคร้าบบบ ผมหลับเพลินไปจริงๆ”

“เออไปเทใส่จานให้กูหน่อยกูหิว”

ผมพยักหน้ารับคำสั่งแล้วรีบวิ่งไปในห้องครัวเพื่อเทข้าวใส่จานมาเสิร์ฟพี่มันก่อนที่จะโมโหไปมากกว่านี้ เสร็จผมก็เดินถือจานออกมา

“นี่พี่ทำอะไรอยู่หรอ”

“โมแบบบ้าน”

“วันนั้นก็ทำไปแล้วไม่ใช่หรอพี่”

“มึงคิดว่ากูเรียนวิชาเดียวหรือไง?”

“โหงี้พี่ต้องทำโมเดลนี่มันทุกวิชาเลยหรอ”

“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่ก็เยอะพอสมควร”

“โหดีแล้วที่ผมไม่คิดเรียนถาปัตย์”

“แล้วของมึงมันง่ายนักหรอวะไอ้เขียนโปรแกรมหนะ”

“มันก็ไม่ง่ายหรอกพี่ แต่ดีกว่ามานั่งทำโมของพี่เยอะเลย” ผมยิ้มตาหยี

“เอาข้าวมาได้แล้ว กูหิว”

ผมยื่นจานข้าววางตรงโต๊ะญี่ปุ่นหน้าพี่โช พี่โชก็ตั้งหน้าตั้งตากิน คงเพราะความหิวนั่นแหละครับ แต่แปลกมาถึงนึกว่าจะโดนอาละวาดแล้วซะอีกสงสัยพี่โชจะหิวจนไม่มีแรง ไหนจะงานที่กองอยู่ตรงหน้าอีก

“แล้วพี่มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า” ผมหันหน้าไปถาม

“ก็ถ้าอยากช่วยกูก็มีให้มึงทำ มาตัดโมให้กูแล้วกัน”

ผมพยักหน้ารับ พร้อมกับพูดออกไป “ทำไมพี่ไม่มีแฟนอ่ะ”

พี่โชหรี่ตามองผมเชิงสงสัย “แล้วเกี่ยวอะไรกับมึง”

“เปล่า ก็ไม่เกี่ยวกับผมหรอก ผมแค่อยากให้พี่มีคนดูแลไง”

“ก็มึงไง”

กึก!!!

ผมอึ้งไปกับทำตอบของพี่โช ใจครับใจ ใจผมเต้นแรงตามคำพูดของพี่มันอีกแล้วครับ หน้าผมร้อนเหมือนเอาหน้าไปอังไฟ เมื่อได้สติจึงรีบพูออกไป

“ไม่ใช่แบบนี้ดิพี่ ผมแค่โดนพี่ลงโทษป่าววะ”

“แปลว่าถ้าหมดหนึ่งเดือนมึงก็จะไม่ดูแลกูแล้ว” พี่มันเอียงหน้าถามผม

“ใช่ดิพี่ ก็ผมพ้นโทษแล้วหนิ”

“เหอะ” พี่มันพูดแค่นั้นก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ

“พี่โชพี่ว่าน้ำตาลเพื่อนผมเป็นไง”

“ก็ดี”

“เฮ้ยพี่ ก็ดีมันคืออะไร คือแบบน่ารักดี สวยดีงี้หรอ”

“อึ้ม”

“แล้วพี่ไม่สนใจจีบมันหรออยู่กับมันมีความสุขนะพี่”

“คือมึงจะชงเพื่อนมึงให้กู?

“ใช่พี่ ผมก็อยากให้พี่ได้คนดีๆ แล้วก็อยากให้เพื่อนผมได้คบคนดีๆ อย่างพี่ด้วย” หึหึ มึงหนะหรอคนดีไอ้พี่โช ถ้าไม่ใช่เพราะต้องเชียร์ไอ้ตาลนะกูไม่มานั่งชมมึงหรอก

“เป็นแม่สื่อ?” พี่โชเลิกคิ้ว

“เฮ้ยพี่ พ่อสื่อเถอะพ่อสื่อ” ผมโวยวาย “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วนะพี่ ไอ้ตาลมันปลื้มพี่มากเลยนะ พี่ไม่คิดจะลองเปิดใจให้มันหน่อยเหรอ”

“กูไม่ชอบให้ใครมาคิดแทนกูว่ากูควรจะชอบใครไม่ชอบใคร”

กึก!

ช็อตนี้กูตาย นี่กูโดนพี่มันด่าอยู่สินะ มันไม่อยากให้ผมไปเสือกเรื่องของมันนั่นสินะ

“ก็ไม่ใช่แบบนั้นพี่ ผมไม่ได้จะคิดแทนพี่แค่พูดให้พี่ลองคิดดูเฉยๆ” ผมทำเสียงอ่อน

“อือ”

“โอเคผมช่วยพี่ทำงานดีกว่า”

จากนั้นผมนั่งตัดกระดาษไม่กล้าพูดกล้าจาอะไรเลยครับ ไม่แม่แต่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตา พี่โชโหมดนี้น่ากลัวชิบผาย ผมก็ไม่ได้ไปบังคับขืนใจมันสักหน่อยแค่นำเสนอสิ่งดีๆ ให้มันเท่านั้นเอง ฮื่อๆๆๆ
 
“เบี้ยวงั้นพรุ่งนี้มึงมาช่วยกูทำงานให้เสร็จนะ”

“พรุ่งนี้หรอพี่” ผมทำท่าคิด “เฮ้ยไม่ได้ผมมีนัดแล้ว พรุ่งนี้ไอ้กายมันจะพาผมไปหัดขับรถ”

“มึงขับรถไม่เป็นเหรอ?”

“ครับ” ผมตอบรับแค่นั้น

“ไอ้ณัฐบอกกูว่าไอ้กายเพิ่งถอยรถใหม่มาไม่ใช่หรือไง”

“ใช่ๆ มันเลยจะสอนผมนี่แหละ”

“แล้วมึงไม่กลัวไปทำรถมันพังเหรอวะ”

นั่นสิผมก็กลัวอยู่เหมือนกัน แถมยังบอกไอ้กายไปแล้วแต่มันก็ยังยืนยันว่าจะสอน งั้นก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

“ก็กลัวนะพี่ แต่ไอ้กายมันบอกรับปากผมแล้วก็ต้องสอน”

“งั้นพรุ่งนี้มึงมาช่วยกูทำงานแต่เช้าจะได้เสร็จไว”

“แต่พี่ผมนัดกับไอ้กายมันเก้าโมงเช้า”

“เดี๋ยวกูสอนมึงเอง”

“ฮ่ะ?” ผมทำหน้างงๆ

“ก็กูบอกเดี๋ยวกูสอนมึงขับรถเอง มึงงงอะไร”

“แต่.....”

“มึงจะแต่อะไร โทรไปบอกเพื่อนมึงสิว่าเดี๋ยวกูสอนเองมันไม่ต้องมาสอนมึงแล้ว”

“พี่ผมเกรงใจ”

“รถกูไม่ใช่ป้ายแดงมึงเลยไม่อยากขับเหรอ?” ประชดกูซะงั้น

“ไม่ใช่พี่ เออเดี๋ยวผมโทรบอกไอ้กายแปป”

พูดจบผมก็เดินออกไปโทรศัพท์ที่ระเบียงเพื่อบอกไอ้กายยกเลิกนัดวันพรุ่งนี้ ตอนแรกไอ้กายมันก็ไม่ยอมครับ มันพูดแต่รับปากผมแล้วไม่อยากผิดคำพูด แต่พอผมบอกไปว่าพี่โชเขาจะเป็นคนสอนผมมันก็เข้าใจและยอมโดยดี

คุยโทรศัพท์เสร็จผมก็กลับเข้ามาเดินเข้ามานั่งที่หน้าทีวี หยิบโทรศัพท์มาไถเฟสบุ๊คเล่น เลื่อนไปเรื่อยๆ จนสะดุดกับข้อความหนึ่ง
 
Sugar Sweet – จบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม

เอกชัย จ้า : เศร้าไรว๊าาาาาา

แก้วคนสวย คนเดิม : มึงเป็นไรว่ะตาล

Sugar Sweet : กูเป็นคนสวย พวกมึงก็รู้ อิอิ J

กายกรรม ครับผม :กูเกือบอินละ ถ้าไม่เห็นคอมเม้นท์มึงข้างบน ห่านนนนนน

ท้องฟ้า สดใส : อย่าคิดมากน๊า

ผมเห็นสเตตัสน้ำตาลแล้วก็เข้าไปส่องดูคอมเม้นท์ ผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมมันเป็นอะไร มันทำให้ผมร้อนใจเป็นห่วงมัน คบกันมาเป็นสิบๆ ปีมันมีอะไรต้องบอกผมทุกเรื่องแต่ทำไมครั้งนี้มันไม่มาปรึกษาผม มึงเป็นอะไรกันแน่น้ำตาล

ผมลุกออกจากที่นั่ง

“ไปไหนอีก”

“ผมขอไปโทรหาไอ้ตาลแปปพี่” พี่โชพยักหน้ารับ
 
ตื๊ด! ตื๊ด! ไม่นานน้ำตาลก็รับสาย

(อือ)

“มึงเป็นอะไรวะ”

(กู?) น้ำตาลทำเสียงสงสัย

“เออก็มันนั่นแหละ สเตตัสมึงหมายความว่ายังไง”

(อ้อ กูก็ขึ้นอะไรไปเรื่อยเปื่อยมึงสนใจอะไรเนี่ยะ)

“จะไม่ให้กูสนใจมึงได้ มึงเป็นเพื่อนกูหนิ”

(จ้ากูซึ้ง ฮ่าๆ ไม่มีอะไรโว้ยมึงคิดมาก เออแล้วมึงอยู่ไหน)

“เอ่อ กูอยู่ห้องพี่โช เอาข้าวมาให้พี่มันตามประสาขี้ข้าไงมึง”

(อ๋อ เออๆ งั้นแค่นี้แหละกูจะดูซีรี่ย์ กำลังฟิน บ๊าย)

แล้วน้ำตาลก็สายผมทิ้งไป ผมคงคิดมากไปเองนั่นแหละครับคงไม่มีอะไร มันคงดูซีรี่ย์แล้วอินไปมั้ง เหอะๆ

=================
TBC.

Talk. เราขอโทษที่ทำให้คนอ่านอึดอัด :monkeysad: :monkeysad: เราอยากให้เห็นความรักของเพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ใช่แค่อาร์ทรักน้ำตาลยอมทำตามที่น้ำตาลขออย่างเดียวน๊าาาา น้ำตาลก็รักอาร์ทเหมือนกัน รอดูความรักเพื่อนของน้ำตาลหน่อยน๊า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2017 17:50:17 โดย Le_Let »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ papapoope

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 291
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :pig4:

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3
 :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
พี่โชจะสอนขับรถ
ิาร์ทจะโดนกินหัวมั้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 8 [20/5/17] P.2
« ตอบ #39 เมื่อ: 22-05-2017 08:08:57 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 9


ระหว่างทางที่พี่โชกำลังพาผมไปยังสนามแข่งรถที่พี่มันบอกจะพาผมไปสอนขับรถ ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่าทำไมพี่มันต้องเรียกผมว่าเบี้ยวด้วยวะ ผมเลยตัดสินใจทำลายความเงียบขึ้น

“พี่โชผมถามไรหน่อยดิ” ผมลองเชิงถามพี่มันก่อน

“ว่า?”

“ทำไมพี่ต้องเรียกผมว่าเบี้ยวด้วยวะ” ผมทำหน้าสงสัย

“มึงจะอยากรู้ไปทำไม” โชตอบเสียงกวนๆ

“อ้าว ก็พี่เอามาเรียกผมนี่หว่าผมก็ต้องอยากรู้ดิ แม่งน่าเกลียดจะตาย” ผมเบะปาก

“หึ เพราะไม่เหมือนใครไง” โชพึมพำในลำคอ

“พี่ว่าไงนะ?” ผมเอียงคอถาม

“ก็กูไม่อยากเรียกเหมือนคนอื่นมึงมีปัญหาอะไร?” พี่มันถามยียวน

“ก็ไม่ได้มีปัญหา แต่แล้วทำไมต้องเรียกว่าเบี้ยววะพี่ คำอื่นมีเยอะแยะ” ผมพูดออกไปอย่างหัวเสีย

“ก็มึงเบี้ยวนัดกูตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ”

“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมเถียงกลับทันควัน “ครั้งแรกที่พี่เจอผม ผมเดินชนพี่จนชีทกระจายต่างหาก” นี่ผมลืมตัวเถียงออกไปเพื่ออะไร

“ฮะ มึงเดินชนกู?” พี่โชทำหน้าแปลกใจ

“คือ..เอ่อ ผมว่าแล้วพี่ต้องจำไม่ได้ ก็ที่โรงอาหารคณะพี่นั่นแหละ พอผมจะขอโทษพี่ก็สะบัดตูดหนีผมไปซะงั้น” ผมตอบเสียงอ้อมแอ้ม

“หึหึ งั้นเหรอถึงยังไงกูก็เรียกมึงว่าเบี้ยวอยู่ดี” พี่โชยักคิ้วและยกยิ้มมุมปาก

“พี่แม่ง” ผมโวยวายก่อนจะเลิกคิ้วเป็นคำถาม“พี่ยิ้มไรวะ”

“งั้นแปลว่ามึงตามกูอยู่นานแล้ว” พี่โชเอียงหน้าถาม

“ปะ...เปล่าสักหน่อยใครมันจะไปตามพี่วะ ผมแค่ไปกินข้าวที่คณะพี่ มันบังเอิญ..ใช่ๆ มันบังเอิญต่างหาก” ผมรีบแก้ตัวตะกุกตะกัก

“หึหึ” พี่โชยิ้มล้อผมไม่หยุด

“เฮ้ย! พี่ยิ้มอะไรเล่า ขับรถไปเมื่อไหร่จะถึงสักทีเนี่ยผมอยากขับรถใจจะขาดแล้ว”

ผมแสร้งพูดไปอย่างนั้น ในขณะที่ในใจของผมมันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ผมทำได้แค่เพียงเงียบเพื่อจบบทการสนทนาแล้วหันหน้าออกนอกหน้าต่าง เพราะตอนนี้หน้าผมร้อนไปหมด นี่ผมเป็นอะไรกันแน่
 
เมื่อรถเคลื่อนมาถึงสนามแข่งรถ ผมก็ได้แต่ตื่นเต้นที่จะได้ขับรถ ผมอยากหัดขับรถมาตั้งนานแล้วแต่ที่บ้านไม่มีใครยอมให้ผมแตะรถเลยสักคน ไม่รู้เพราะว่าเป็นห่วงผมหรือเป็นห่วงรถกันแน่

เมื่อรถจอดสนิทพี่โชทำท่าจะเปิดประตูลงจากรถก่อนจะหันมาพูดกับผม

“มึงลงมาเปลี่ยนที่นั่งกับกู”

เท่านั้นผมก็พยักหน้ารับแล้วรีบเปิดประตูเพื่อสลับไปนั่งยังตำแหน่งคนขับ

“คาดเข็มขัด” พี่โชหันมาบอกผมที่นั่งอยู่หน้าพวงมาลัย

ผมพยามยามดึงเท่าไหร่มันก็ดึงไม่ออก จนพี่โชต้องโน้มตัวมาเพื่อจะดึงสายเข็มขัดนิรภัยให้ผม ทำให้หน้าของเราสองคนอยู่ใกล้กันแค่คืบจนสัมผัสได้ถึงความอุ่นของลมหายใจ เราสองคนสบตากันนิ่ง จริงๆ ไอ้พี่โชนี่หน้าใสมากเลยนะ ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่ง.....เฮ้ย! นี่ผมคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย

เมื่อได้สติผมก็ผละหน้าออกห่างจากพี่โชแล้วรีบหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ส่วนพี่โชก็รีบดึงเข็มขัดนิรภัยไปเสียบให้

“ก็แค่เนี๊ยะ”

“ก็มันดึงไม่ออกนี่หว่า” ผมพูดเสียงอ่อย

“งั้นลองสตาร์ทรถดู”

สตาร์ทรถเสร็จพี่โชก็อธิบายวิธีการใช้งานของแต่ละส่วนไล่ไปเรื่อยๆ พี่โชอธิบายอย่างละเอียดและใจเย็น จะว่าไปพี่มันก็เป็นคนดีนี่หว่า ไม่แปลกเลยที่ไอ้ตาลจะชอบพี่มัน

เมื่อพี่โชอธิบายจบ พี่โชก็สั่งให้ผมเข้าเกียร์เพื่อให้รถเดินหน้า ผมเอื้อมมือไปจับคันเกียร์แบบเก้ๆ กังๆ ผมไม่มั่นใจว่าต้องขยับไปทางไหนแต่แล้วก็มีมืออุ่นๆ มากุมมือผมให้ขยับคันเกียร์ ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาเมื่อมีมือพี่มันมากุมอยู่แบบนี้

“ขยับขึ้นไปข้างหน้าแบบนี้ ทำใจให้สบายแล้วค่อยๆ แตะคันเร่ง” พี่โชพูดพรางกุมมือผมไว้หลวมๆ

ผมทำตามที่พี่โชบอก พอผมเริ่มแตะคันเร่งพี่โชก็ปล่อยมือผมแล้วบอกให้ผมใช้สองมือประครองพวกมาลัย

“ผมเกร็งวะพี่ มันตื่นเต้น” ผมพูดออกไปด้วยสีหน้าเหยเก

“ปล่อยตัวให้สบายให้เป็นธรรมชาติ แล้วมองไปข้างหน้า”

พี่โชไม่พูดเปล่า พรางเอื้อมมือมาลูปหัวผมทำให้ผมรู้สึกลืมความตื่นเต้นไป ผมก็ตั้งใจขับรถไปตามถนน เมื่อขับไปได้สักพักพี่โชก็บอกให้ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้น

“มันก็ไม่ยากนี่หว่า” ผมโพร่งขึ้น

“อืม” พี่โชตอบรับแค่นั้น

ผมเริ่มชินกับรถ จากนั้นพี่โชก็ให้ผมขับวนรอบสนามอีกหลายๆ รอบจนเกือบค่ำ พี่โชก็ตัดสินใจบอกให้ผมเป็นคนขับรถกลับไปยังหอ

“พี่ไม่เอาผมยังไม่กล้า” ผมพูดอย่างรุกรี้รุกรน

“ถ้ามึงไม่กล้าวันนี้ มึงจะกล้าวันไหน”

“พี่วันหลังไม่ได้เหรอ” คิ้วผมขมวดเข้าหากัน

“แต่วันนี้มีกูมึงจะกลัวอะไร” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงปกติแต่ทำไมผมถึงรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกที่มีพี่มันอยู่ข้างๆ

ผมหันหน้าไปสบตาพี่โช ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้าร้อนผ่าวอีกแล้ว วันนี้พี่มันจะทำผมใจเต้นแบบนี้อีกกี่ครั้ง

ผมหันหน้าหนีสายตาพี่โชไปมองถนน แล้วตอบเสียงอ้อมแอ้ม “ก็ได้”

จากนั้นผมก็ทำสมาธิขับรถออกมาจากสนามโดยมีพี่โชนั่งอยู่ข้างๆ คอยบอกทุกอย่าง เมื่อผมรู้สึกกลัวหรือตื่นเต้นพี่โชจะยื่นมือออกมาจับไหล่ผมบ้าง ลูบหัวผมบ้าง

“พี่ทำอย่างกะผมเป็นเด็กสามขวบ” ผมขมวดคิ้วใส่พี่โช

“อ่าวไม่ใช่เหรอ ฮ่าๆ”

“เฮ้ยพี่ ไม่ต้องมาขำ” ผมแกล้งทำสีหน้าเคืองๆ ใส่พี่โช

“เออกูไม่ขำแล้วก็ได้ กูเห็นมึงกลัวกูก็คอยปลอบมึงนี่ไง”

“คร้าบบบบ” ผมลากเสียงกึ่งประชด

“หึหึ”

วันนี้ผมรู้สึกว่าผมกับพี่โชจะคุยกันรู้เรื่องที่สุดตั้งแต่รู้จักกันมา ระหว่างทางในรถมีแต่เสียงพูดคุยของเราสองคนจนรถเคลื่อนมาจอดยังหน้าหอของผม

“ขอบคุณครับพี่โช” ผมพูดพรางยกมือไหว้พี่โช

“หือ?” พี่โชเลิกคิ้วทำหน้างง คงเพราะผมไม่เคยยกมือไหว้พี่มันมานานตั้งแต่ที่โดนมันบังให้เป็นขี้ข้านั่นแหละครับ

“ก็ขอบคุณที่พี่พาผมไปสอนขับรถไง” ผมตอบไปพรางยิ้มกว้างให้คนตรงหน้า

“ไม่เป็นไร” พี่โชตอบ แล้วก็พึมพำต่อ “เดี๋ยวมึงก็ได้ตอบแทนกูอยู่แล้ว”

“ว่าไงนะพี่” ผมถามออกไปเพราะได้ยินไม่ชัด

“เปล้า!”

“ครับเปล่าก็เปล่า พี่ผมขึ้นห้องแล้วนะ ขับรถกลับดีๆ”

“อืม ฝันดี” พี่โชมองหน้าผม

กึก!

ผมอ้าปากค้าง ก่อนตอบออกไปอย่างตะกุกตะกัก “คะ...ครับ ฝันดี”

พูดจบผมรีบวิ่งขึ้นห้องโดยไม่คิดจะหันกลับไปมองพี่มันอีก ตอนนี้จิตใจผมสับสนไปหมด เรื่องที่เกิดขึ้นกับผมมันคืออะไรอีกทั้งใจยังเต้นแรงกับคำพูดและการกระทำของพี่มัน

‘นี่มันเหี้ยอะไรวะ’ ผมตะโกนออกมาลั่นห้อง

*************

เช้าวันนี้ผมรีบตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปซื้อข้าวให้พี่โช วันนี้ผมใส่ชุดนักศึกษาออกมาเลยเพราะคิดว่าเอาของกินให้พี่โชเสร็จจะเข้าไปเรียนเลย ผมเลือกซื้อหลายอย่าง มีทั้งโจ๊ก น้ำเต้าหู้ ปลาท่องโก๋ ข้าวผัด และขนมอีกพอสมควร

วันนี้ผมเลือกจะเคาะประตูแทนที่จะแขวนไว้เหมือนทุกๆ วัน

ก๊อกๆ

รออยู่นานกว่าจะมีคนมาเปิดประตู พี่โชโพล่ออกมาด้วยสภาพที่เพิ่งตื่นนอน

“อ่าว ทำไมวันนี้มึงเคาะประตูได้วะ” พี่โชถามเสียงงัวเงีย

“เฮ้ยพี่ ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าให้ดีวะ” ผมตะโกนใส่หน้าพี่โช ก็พี่มันเล่นโผล่ออกมาด้วยสภาพที่ทั้งตัวมีแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว

“กูก็ใส่แบบนี้นอนทุกคืน”

“ไม่ใช่ที่พี่ใส่แบบไหนนอน แต่มีคนมาเคาะห้องก็ใส่เสื้อหน่อยไหมล่ะ”

“เหอะ มึงจะเข้ามาไหม ไม่เข้ากูจะได้ไปนอนต่อ” แล้วพี่โชก็ทำท่าจะเอื้อมมือดึงประตูปิด

“เฮ้ย เข้าๆ พี่อย่าเพิ่งปิด” ผมรีบเอื้อมมือไปจับประตู

พี่โชเดินนำผมเข้าไปในห้องแล้วหยุดนั่งลงตรงโซฟาหน้าทีวี ส่วนผมก็เดินเข้าไปในครัว เพื่อเทอาหารใส่จาน สักครู่พี่โชก็เดินตามผมเข้ามาเมื่อเห็นของที่ผมซื้อมาก็พูดขึ้น

“มึงซื้อมาทำไมเยอะแยะ”

“ก็ผมอยากให้พี่กินเยอะๆ”

พี่โชขยับมายืนตรงหน้าผมแล้วหรี่ตามพรางเอื้อมมือมาแตะหน้าผาก “มึงป่วยเหรอ?”

ผมปัดมือพี่โชออก “เฮ้ยพี่ผมไม่ได้ป่วย แค่อยากให้พี่กินเยอะๆ มันผิดตรงไหน”

“อืม”

“แล้วอีกอย่างวันนี้ก็วันสุดท้ายแล้วด้วยที่ผมจะส่งข้าวให้พี่” ผมพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“อะไรวันสุดท้าย?” พี่โชเลิกคิ้ว

“ก็วันนี้ครบหนึ่งเดือนพอดีที่ผมเป็นขี้ข้าพี่ ต่อไปผมก็เป็นอิสระแล้ว” ผมแสร้งทำเป็นดีใจ

“มึงอึดอัดมากเหรอที่ต้องมาเป็นขี้ข้ากู”

กึก!

ทำให้กูรู้สึกผิดซะงั้น ไอ้พี่โช

“เฮ้ย ไม่ใช่พี่” ผมรีบแก้ตัว

“อืม” พี่โชรับคำด้วยสีหน้าที่นิ่งจนน่ากลัว

“พี่โกรธผมเหรอ ผมไม่ได้อึดอัดจริงๆ” ผมตอบไป ก่อนจะพูดตามด้วยเสียงเบา “อยู่ใกล้พี่ก็ไม่ได้แย่นี่หว่า”

“ฮ่ะ? มึงว่าไงนะ”

“ปะ..เปล่า อ๋อผมถามว่าพี่โกรธผมหรอ ผมแค่พูดเล่นผมไม่ได้อึดอัดสักหน่อย”

“ไม่ใช่ ประโยคหลัง”

“ไม่ได้พูดอะไรสักหน่อยพี่หูฝาดแล้ว” ผมทำไม่รู้ไม่ชี้ เทของกินใส่จานต่อ

“หึหึ” พี่โชยกยิ้มมุมปาก แล้วเดินไปอาบน้ำ

ผมจัดการเททั้งหมดที่ผมซื้อมาใส่จาน แล้วเอามาวางหน้าทีวี เพื่อรอพี่โชออกมากิน สักพักพี่โชก็เดินออกมา พอพี่โชมองจานบนโต๊ะก็บ่นออกมาอีกครั้ง

“มึงจะซื้ออะไรมาเยอะแยะ” พี่โชบ่นเบาๆ

“ก็ผมไม่รู้ว่าวันนี้พี่อยากกินอะไร ผมเลยซื้อทุกอย่างที่พี่ชอบมานี่ไง” ผมพูดอย่างเอาใจพี่มัน

“มึงโทรมาถามก็ได้มั้ง”

“ไม่เอาอ่ะ เซอร์ไพรส์ รู้จักไหม เซอร์ไพรส์อ่ะ”

“เหอะๆ” พี่โชทำหน้าระอา

“หรือพี่จะไม่กินก็ได้นะ” ผมเบะปากใส่พี่โช

“งั้นมึงก็มากินด้วยกัน”

“ไม่เอาผมซื้อมาให้พี่”

“มึงคิดว่ากูจะกินหมดนี่?”

“ฮ่าๆ ผมก็ว่าไม่น่าจะหมด”

“รีบมากินจะได้รีบไปเรียน กูมีเรียนเช้า”

ผมลงไปนั่งกินข้างๆ พี่โชเรากินกันไปเงียบๆ เพราะตอนนี้ใกล้เวลาที่จะต้องไปมหา’ลัยแล้ว

จากนั้นพอกินเสร็จพี่โชกับผมรีบเก็บทุกอย่างไปไว้ในครัวแล้วเราสองคนก็เดินออกจากห้องมายังลิฟท์

“เดี๋ยวมึงไปกับกู”

“แหงดิพี่”

“มึงไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอ”

“เรื่องไรล่ะ ผมจะสายเพราะพี่ทำไมผมต้องปฏิเสธ หึหึ” ผมยักคิ้วท้าทาย

“เออเดี๋ยวกูรับผิดชอบมึงเอง” พี่โชพูดแล้วเอื้อมมือมายีหัวผม

“ดีมาก” ผมหันไปยักคิ้วพร้อมกับปัดมือพี่โชออกและแกล้งโวยวาย “เฮ้ย พี่หัวผมยุ่งหมด”

จากกนั้นผมก็นั่งรถพี่โชออกจากหอพักไปยังมหาวิทยาลัย พี่โชขับตรงไปส่งผมที่คณะก่อน

“ตอนเย็นเจอกันที่ชมรม” พี่โชบอกก่อนที่รถจะจอดสนิท

“โอเคพี่” ผมตอบจบก็เอื้อมมือไปเปิดประตู ก่อนลงผมหันไปหาพี่โช “ขอบคุณนะครับ” ผมยิ้มให้พี่โชก็ยิ้มตอบ
 
ผมปิดประตูรถแล้วยืนมองรถพี่โชขับออกไปจึงหมุนตัวเดินเข้าคณะแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นน้ำตาลและกายยืนมองอยู่

“ใครมาส่งมึงวะ” ไอ้กายถามผม

“อ่อ พี่โชอ่ะเมื่อเช้ากูซื้อข้าวไปให้เขา”

“นี่มึงยังไม่หมดสัญญาทาสอีกเหรอวะ ฮ่าๆ” ไอ้กายพูดกลั้วขำ

“วันนี้วันสุดท้ายแล้วโว้ย กูเป็นอิสระแล้ววววว” ผมตะโกน

“งั้นมึงจะชงไอ้ตาลให้พี่โชก็ยากแล้วดิว๊า” ไอ้กายหันไปแซวไอ้ตาล

“เชี่ยกาย” น้ำตาลหันไปด่ากาย

“เฮ้ย แต่กูยังอยู่ในชมรมมึงไม่ต้องกลัวเพื่อนเดี๋ยวกูจัดให้แน่นอน” ผมเดินไปโอบไหล่น้ำตาล

“เออๆ รีบไปเรียนเหอะพวกมึง นี่จะถึงเวลาแล้วเดี๋ยวสายจะโดนอาจารย์ทำโทษ” น้ำตาลพูดแค่นั้นก็พละเดินนำหน้าไป

=================
TBC.

Talk.อ่านแล้วมาเม้าส์กันน๊าาาา  :hao3:

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น้ำตาลเธอรู้อะไรบางอย่างใช่ไหม.. ฉันว่าเธอน่าจะสัมผัสถึงความใกล้ชิดได้

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สนุกกกกกกกกกก ต่ออีกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :z3: :z3: :z3: รอออออยากเห็นความคืบหน้าาา :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
 :katai2-1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
 :katai3: :katai3: :katai3:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
หรือว่าพี่โชไปคุยกับตาลแล้วตั้งแต่รู้ว่ามีพ่อสื่อตัวยุ่งมาชง ตาลถึงโพสต์แบบนั้นอ่ะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ใครจะชงใครให้ใคร ลุ้นต่อไป

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 10

<sugar time>

วันนี้เป็นวันที่ชมรมฟุตบอลจัดการแข่งขันเพื่อซ้อมก่อนที่จะไปแข่งกีฬาสามยู เราต้องไปเชียร์ไอ้อาร์ทมันไม่สิเราต้องไปเชียร์พี่โชต่างหาก แต่สมนาคุณไอ้อาร์ทมันหน่อยแล้วกันด้วยการชวนท้องฟ้าไปด้วย
 
ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนอาร์ทต้องรีบแยกตัวไปชมรมเพื่อเตรียมตัวในการแข่งขันวันนี้

“ไอ้ตาลเจอกันที่สนามนะเว้ย”

“เออเดี๋ยวกูตามไป กูขอไปหาอะไรกินก่อน” พูดจบเราก็หันไปชวนกาย “ป่ะไอ้กายไปหาไรกินกัน”

“ป่ะ” กายตอบรับ พรางเดินไปเกาะแขนอาร์ท “แข่งให้ชนะนะพี่อาร์ท นุ้งกายส่งใจไปเชียร์”

“ไอ้เชี่ยกายกูขนลุก” อาร์ททำหน้าขยะแขยง

“ฮ่าๆ พวกมึงสองตัวเล่นห่าไรกันอุบาท” เราทำหน้าเอือมใส่มันสองคน

“เออๆ เลิกเล่นกูไปแล้วช้าเดี๋ยวโดนด่าว่ะ เจอกัน” อาร์ทว่าจบก็รีบเดินจ้ำไปยังสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัย
 
เรากับกายเดินมายังร้านขายของตรงลานกิจกรรมเพื่อหาอะไรกินรองท้องระหว่างที่จะไปดูอาร์ทแข่งและกายมันก็ต้องไปซ้อมดนตรีที่ชมรมต่อ

ระหว่างที่เราซื้อมาม่ามานั่งกินที่โต๊ะ เราก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะทักไปหาท้องฟ้า
 
 
Sugar_Sweet
ฟ้าตอนนี้อยู่ไหน?
รอไม่นานนักท้องฟ้าก็ตอบกลับมา
ท้องฟ้า สดใส
เราอยู่ห้องเรียนชั้นแปด ตาลมีอะไรหรือเปล่า
Sugar_Sweet
เลิกเรียนยัง
เราจะชวนฟ้าไปเชียร์ไอ้อาร์ทแข่งบอลหน่ะ
*สติกเกอร์
ท้องฟ้า สดใส
เลิกแล้ว
เรากำลังจะลงไปข้างล่าง ตอนนี้ตาลอยู่ไหน
 
Sugar_Sweet
ตาลอยู่ที่ลานกิจกรรม
เจอกันนะ
ท้องฟ้า สดใส
OK
*สติกเกอร์
 
เมื่อท้องฟ้าบอกเช่นนั้นเราก็กลับมาสนใจมาม่าในมือต่อ ระหว่างกินไปเราก็คุยกับไอ้กายไปเรื่อยเปื่อย

“เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่สนามแล้วกัน” กายพูดออกมาขณะที่กินอิ่ม

“เออดีกูขี้เกียจเดิน อีกอย่างสงสารฟ้าด้วยถ้าต้องมาเดินไกลขนาดนั้น”

“อ่าวฟ้าไปด้วยหรอวะ?” กายทำหน้าแปลกใจ

“เออกูจะให้ไปเซอร์ไพรส์ไอ้อาร์ทสะหน่อย” เรายักคิ้วให้กาย

“อ๋อตอบแทนที่ไอ้อาร์ทคอยชงมึงให้พี่โชสินะ ฮ่าๆ” ไอ้กายทำเสียงกวนตีน

“มึงนี่แสนรู้เนอะไอ้กาย ไหนไปคาบของตรงนั้นมาให้กูสิ” เราแกล้งชมมันแล้วชี้ไปที่กองขยะ

“สัด!” มันด่าแล้วใช้มือผลักหัวเรา

“หวัดดีกาย ตาล” ฟ้าเดินมาถึงก็โบกมือทักทาย

ทั้งเราและกายโบกมือตอบ

“ดีฟ้า จะไปเชียร์ไอ้อาร์ทกับตาลมันหรอ” กายถามฟ้า

“อื้ม ฟ้าว่างพอดีไปดูฟุตบอลบ้างคงสนุกดีนะ” ฟ้าพูดจบก็ยิ้มหวาน

“โอเคงั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวไอ้อาร์ทมันแข่งสะก่อน” เราพูดพลางลุกขึ้นยืนเพื่อเดินไปลานจอดรถ
 
กายขับรถมาส่งเราทั้งสองคนถึงประตูทางเข้าสนามฟุตบอล ก่อนที่กายจะออกรถ

“ไอ้ตาลถ้าไอ้อาร์ทเตะเสร็จมึงก็โทรมาหากูนะ เผื่อเสร็จพร้อมกันเดี๋ยวกูได้แวะมารับ”

“เออขอบใจมากมึง” เรากับฟ้าโบกมือให้กายก่อนที่รถจะเคลื่อนออกไป
 
เราสองคนเดินเข้าไปในสนามและมองหาว่าไอ้อาร์ทอยู่ตรงไหนจึงเดินเข้าไปหาอาร์ทก็เจอทั้งพี่คิวกับพี่โช เลยทักทายและแนะนำท้องฟ้าให้พี่ๆ รู้จัก

แค่นั้นเราและท้องฟ้าก็ไปจัดการหาที่นั่งเพื่อรอชมการแข่งขันฟุตบอลข้างสนามมีแต่เสียงเชียร์ เสียงเพลงดังเซงเซ่ เรากับท้องฟ้าก็คุยกันหัวเราะเฮฮาไปจนการแข่งขันจบลง เราทั้งสองก็เดินตรงไปหาอาร์ทกับกลุ่มนักฟุตบอล

“ป่ะไอ้อาร์ทกลับหอกัน” เราเดินมาถึงก็รีบชวนไอ้อาร์ทกลับหอเพราะโทรให้กายมารับแล้วเลยกลัวว่ากายจะต้องมารอ

“ไปดิ พี่คิวพี่โช ผมพาน้ำตาลไปร้านด้วยได้ไหมพี่” อาร์ทตอบรับเรา แล้วหันพูดต่อกับพี่โชและพี่คิว

“ได้ดิ สำหรับน้องน้ำตาลคนสวยไปได้อยู่แล้ว” พี่คิวหันมาทำตาเจ้าชู้ใส่เรา เราก็ได้แต่ยิ้มกลับไปให้พี่คิว

“โอเคพี่งั้นผมไปแล้ว เจอกันที่ร้านสามทุ่มครับ” อาร์ทบอกพี่สองคนนั้น

จากนั้นเราก็รอกายมารับไปส่งที่หอเพื่อกลับไปเตรียมตัว เรากลับถึงหอเราก็แยกกับท้องฟ้าเพราะเราอยู่คนละชั้นกัน

เราก็รีบอาบน้ำแต่งตัวพอเสร็จก็รอไม่นานอาร์ทก็นั่งแท็กซี่มารับ ในระหว่างทางที่ไปร้านเหล้าเราก็คุยกันตลอดทางจนถึงหน้าร้าน เราสองคนเจอพี่คิวพอดีจึงเดินตามพี่คิวเข้าไปในร้าน

เมื่อถึงโต๊ะไอ้อาร์ทมันก็จัดแจงให้เรานั่งใกล้ๆ กับพี่โช ‘กูก็อยากจะขอบคุณมึงนะ แต่มันโจ่งแจ้งไปไหมมึง’ เราได้แต่คิดในใจและนั่งต่อไป

เมื่อนั่งไปสักพักพี่โชก็ชวนเราคุยจากที่เกร็งตอนแรกก็ทำตัวตามสบายขึ้นพี่โชเป็นกันเองและใจดีกับเรามากเลย แต่พอเราหันกลับไปมองที่ไอ้อาร์ทก็เห็นว่ามันหายไปจากที่นั่ง สงสัยคงจะไปเข้าห้องน้ำแหละมั้ง

“น้ำตาลพี่จะไปเข้าห้องน้ำจะไปด้วยกันไหม” พี่โชเข้ามากระซิบข้างหูเรา เพราะเสียงดนตรีดังมาก

“พี่โชไปก่อนเลยก็ได้ ตาลยังไม่ปวดเท่าไหร่”

เราพูดจบพี่โชก็พยักหน้ารับแล้วลุกออกจากโต๊ะไป เรานั่งไปสักพักก็รู้สึกปวดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา แล้วคิดว่าเดินไปตอนนี้อาจจะไปเจอไอ้อาร์ทพอดีจะได้ให้มันรอกลับมาพร้อมกันเลย แต่เมื่อเราเดินไปถึงใกล้หน้าห้องน้ำเราก็ต้องชะงัก เมื่อภาพที่เราเห็นคืออาร์ทกำลังจูบอยู่กับพี่โช ตอนนี้เราไม่รู้เราควรจะรู้สึกอะไร เราจะช็อคที่เห็นไอ้อาร์ทจูบกับผู้ชาย หรือว่าช็อคที่เห็นผู้ชายที่เราชอบจูบกับเพื่อนเรา

เรายืนมองอยู่ที่มุมนั้น ตอนนี้ในใจเราวูบโหวง เมื่อเห็นว่าอาร์ทเดินกลับไปที่โต๊ะแล้วเราจึงเข้าไปในห้องน้ำ พยามยามสงบสติอารมณ์ให้เป็นปกติที่สุด จากนั้นเราก็เดินออกมายังหน้าห้องน้ำก็เห็นพี่โชยืนสูบบุหรี่อยู่ พี่โชหันมาเห็นเราพอดี เราเลยเดินเข้าไปหา

“อ่าวพี่โชมาสูบบุหรี่อยู่นี่เอง” เราทักออกไปแบบนั้น

“อื้ม ตาลมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่ออกมาพร้อมพี่” พี่โชพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ก็ตอนแรกตาลยังไม่ปวดเท่าไหร่นี่นา”

“ป่ะเข้าไปที่โต๊ะกันเถอะ” พี่โชพูดจบก็ดับบุหรี่ในมือแล้วทิ้งลงถังขยะ

เราสองคนเดินกลับมาที่โต๊ะก็เห็นอาร์ทนั่งอยู่แล้ว เมื่ออาร์ทเห็นเรามันก็ทำอาการลุกลี้ลุกลนแล้วรีบโพร่งคำถามมาถามเรา มันคงกลัวว่าเราจะเห็นสินะ ใช่เราเห็น ตอนนี้เรายังไม่อยากเผชิญหน้ากับมันเลยด้วยซ้ำแต่จะทำไงได้ล่ะ

เมื่อนั่งต่อกันไปอีกสักพักใหญ่พวกพี่ที่ชมรมก็ชวนกันกลับเพราะเห็นว่าดึกแล้วจึงเรียกเช็คบิล จากนั้นก็พากันแยกย้ายเราตกลงกันได้คือพี่โชไปส่งเรากับอาร์ท

ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรมีแต่อาร์ทที่บอกให้พี่โชไปส่งมันก่อนแล้วค่อยไปส่งเรา บรรยากาศในรถเงียบมากไปจนถึงหออาร์ทเมื่อส่งอาร์ทเสร็จพี่โชก็ออกรถเพื่อไปยังหอเราซึ่งไม่ไกลจากหออาร์ทเท่าไหร่

“ขอบคุณที่มาส่งนะคะพี่โช”

“ไม่เป็นไร ตาลก็เหมือนน้องสาวพี่ จะปล่อยให้นั่งแท็กซี่กลับได้ไงยิ่งสวยๆ อยู่ ฮ่าๆ” พี่โชพูดพรางหัวเราะแล้วโบกมือให้เรา เราจึงยิ้มและโบกมือตอบ

‘ตาลก็เหมือนน้องสาวพี่’ น้องสาวเราคงเป็นได้แค่น้องสาวของพี่โชแค่นั้นสินะ

เราเดินเข้าห้องด้วยความรู้สึกวูบโหวงในอก มันเรียกว่าอะไรหรอ อกหักหรือเปล่า เราจุกในอกจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก ตอนนี้เราอยากมีใครสักคนที่เราพอจะอธิบายความรู้สึกของเราได้ เมื่อนึกได้ว่าท้องฟ้าอยู่หอเดียวกับเราจึงตัดสินใจไปเคาะประตูห้องท้องฟ้า

ก๊อกๆ

ไม่นานฟ้าก็เปิดประตูออกมา เราโถมตัวเข้าไปกอดฟ้าเต็มแรง มันทำให้น้ำตาที่จุกอยู่ไหลออกมาอย่างหยุดไม่ได้

ฟ้าตกใจแล้วถามขึ้น “ตาลเป็นอะไร ทำไมเป็นแบบนี้”

“…………อึ้ก” เราเงียบเอาแต่ร้องไห้

ท้องฟ้าเข้าใจจึงไม่ซักไซร้เราอีก ปล่อยให้เราร้องไห้อยู่อย่างนั้น ท้องฟ้านั่งลูบหลังมือเราแล้วพูด

“ตาลยังไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะ ร้องออกมาเถอะจะได้โล่ง”

“……...” เราได้แต่มองหน้าฟ้าอยู่อย่างนั้น

เวลาผ่านไปสักพัก เราเริ่มรู้สึกดีขึ้น และคิดว่าควรเล่าให้ท้อฟ้าฟังดีไหม กลัวว่าถ้าเราไปแล้วผลที่ออกมามันจะแย่กว่าเดิมหรือเปล่า

“เอ่อ...ฟ้า...คือ” เราอ้ำอึ้ง

“ถ้าไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องเล่าก็ได้ตาล” ฟ้าพูดพรางเอื้อมมือมาลูบไหล่เรา

“ฟ้าสัญญากับเราไหมว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง” เราโพร่งถามฟ้าออกไป

“อื้ม ถ้าตาลไว้ใจเล่าให้ฟ้าฟังจะให้ฟ้าไปทำลายความไว้ใจตาลได้ยังไงล่ะ”

“คือ...เราชอบพี่โช”

“ฮ่ะ ตาลชอบพี่โช” ฟ้าทำหน้าตกใจ

“ใช่เราชอบพี่โช เราเลยขอให้ไอ้อาร์ทช่วยเข้าไปตีสนิทกับพี่โชเพื่อให้เรามีโอกาสได้เข้าใกล้พี่โชแต่.....” เราก็เงียบไป

“แต่อะไร?” ฟ้าทำหน้าสงสัย

“วันนี้เราเห็นไอ้อาร์ทกับพี่โชจูบกัน”

“ฮ่ะ! อาร์ทเนี่ยนะจูบกับพี่โช” ฟ้าดูตกใจมาก

เราพยักหน้ารับก่อนจะพูดออกไป “เราไม่รู้ว่าเขาจูบกันทำไม เพราะอะไร ไอ้อาร์ทมันก็ยังดูจะอยากช่วยให้เรากับพี่โชได้ใกล้ชิดกัน เราไม่เข้าใจอ่ะฟ้าว่ามันคืออะไร ไอ้อาร์ทมันคิดอะไรอยู่เราสับสน”

“ใจเย็นๆ นะตาล มันอาจจะไม่ใช่อย่างที่ตาลเห็นก็ได้ ลองคุยกับอาร์ทตรงๆ ดูไหม”

“ไม่อ่ะฟ้า เรารู้สึกได้มาสักพักนึงแล้วนะว่าพี่โชดูแปลกๆ กับไอ้อาร์ทแต่เราก็คิดว่าเราคิดมาก จนเราเห็นเหตุการณ์กับคำพูดของพี่โชวันนี้เราก็เข้าใจแล้วแหละฟ้า”

“หือ? คำพูด...พี่โชพูดอะไรกับตาลหรอ” ฟ้าพูดพร้อมขมวดคิ้วเข้าหากัน

“พี่โชบอกว่าเขาเห็นเราเป็นเหมือนน้องสาว”

ฟ้าเงียบไปก่อนจะพูดขึ้นมา “แล้วอย่างนี้ตาลจะทำยังไง ตาลโกรธอาร์ทหรือเปล่า”

เราส่ายหน้า “เราไม่รู้ เราไม่อยากทะเลาะกับไอ้อาร์ท เราไม่ได้โกรธมันนะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าเรารู้สึกยังไง เราสับสน”

“เราเข้าใจนะ” ฟ้าพูดปลอบพร้อมกับมือที่ยื่นมาลูบไหล่เรา

“มันคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา เรารักมันมาก เราเองก็รู้สึกผิดที่บังคับให้มันช่วยเราตั้งแต่แรก เราไม่กล้าโกรธมันหรอก เราแค่คิดว่าเราต้องการเวลาเพื่อทำใจกับเรื่องนี้เรายังไม่พร้อมจะคุยจะเผชิญหน้ากับมันตอนนี้”

“งั้นเอาอย่างนี้สิ ช่วงนี้นอกจากเรียนตาลก็ไปชมรมค่ายอาสากับเราไปช่วยงานชมรมไปหาอะไรทำเพื่อให้ความรู้สึกของตาลดีขึ้น” ฟ้าเสนอทางออกให้เรา

“แล้วเราจะทำยังไงเวลาเจอหน้าไอ้อาร์ท”

“ก็ทำให้เป็นปกตินั่นแหละถ้าตาลไม่อยากจะให้มันเป็นปัญหา อาจจะเลี่ยงการอยู่ด้วยกันสองคนก็ได้นะ”

“อืมคงต้องเป็นอย่างนั้น” เราพยักหน้า “ขอบคุณมากนะฟ้า เราหาเรื่องมาให้ฟ้าปวดหัวจริงๆ”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิ เราเป็นเพื่อนกันนะตาล” ฟ้ายิ้มเย็ยๆ ให้ มันทำให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมา

เราอ้าแขนออก พร้อมพูด “ขอกอดอีกทีนะ”

เราสองคนกอดกันอยู่สักครู่ก่อนจะผละออกจากกันจนเป็นอิสระ เราได้มาคุยกับท้องฟ้าทำให้เรารู้สึกดีขึ้นมากจนน่าแปลกใจ เพราะเมื่อก่อนไม่ว่าเราจะมีเรื่องอะไรก็จะมีแต่ไอ้อาร์ทที่ทำให้เราสบายใจได้อยู่คนเดียวแต่ตอนนี้มีเพิ่มมาอีกหนึ่งคนมันก็ดีนะ

"ฟ้า...."

"หือ?" ฟ้าทำหน้าสงสัย

"ฟ้ารู้ใช่ไหมว่าที่เราเข้ามาสนิทกับฟ้าเพราะอะไร"

"ก็พอมองออกนะ ตาลมาสนิทกับฟ้าเพราะอาร์ทใช่ไหม"

"อื้ม..แต่เราไม่รู้ว่าตอนนี้อาร์ทมันยังคิดเหมือนเดิมอยู่ไหม แล้ว เอ่อออ ... ฟ้าคิดยังไงกับอาร์ทเหรอ"

"เราหรอ..เราก็คิดกับอาร์ทแค่เพื่อนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว" ฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ และพูดต่อแบบยิ้มๆ "อ่อ..แล้วอีกอย่างเรามีคนที่ชอบอยู่แล้วหน่ะ"

"จริงสิ เรารู้จักไหม ให้เราช่วยอะไรหรือเปล่า" เราทำหน้าตาตื่นอยากรู้อยากเห็น

"เดี๋ยวสักวันตาลก็จะรู้เองแหละ แต่ไม่ใช่วันนี้แน่ๆ เรายังไม่พร้อม ถ้าเราพร้อมเมื่อไหร่ตาลได้ช่วยเราแน่ไม่ต้องห่วง" ท้องฟ้ายิ้มหวาน

"เอางั้นหรอ เราขอบคุณฟ้ามากๆ เลยนะ" เราส่งยิ้มให้ฟ้า และเอื้อมไปจับมือฟ้ามาแนบแก้ม อุ่นใจชะมัดที่ได้เพื่อนดีๆ เพิ่มมาอีกหนึ่งคน

หลังจากนั่งคุยกับฟ้าอีกสักพักเราก็ขอตัวกลับมาที่ห้องเราคิดแล้วว่าเราเองจะต้องพยามยามทำใจ ถ้าเกิดอาร์ทกับพี่โชชอบกันจริงๆ เราก็จะต้องรับมันให้ได้เพราะยังไงเราก็ไม่อยากเห็นเพื่อนมีความทุกข์ เราไม่อยากให้อาร์ทต้องไม่มีความสุขเพราะเรา

เรารักเพื่อนคนนี้มาก อาร์ทไม่ได้เป็นแค่เพื่อน มันเป็นทั้งพี่ ทั้งน้อง เป็นทุกอย่างที่เราไม่มีวันยอมเสียมันไปจากชีวิตเด็ดขาด


====================
TBC.

Talk.อ่านด้านของน้ำตาลแล้วเป็นยังไงบ้าง เม้าส์กันหน่อยยยย :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-05-2017 02:07:49 โดย Le_Let »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ผมแค่ช่วยเพื่อน >> ตอนที่ 10 [27/5/17] P.2
« ตอบ #49 เมื่อ: 27-05-2017 01:48:13 »





ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ตาลคู่ฟ้า อาร์ทคู่พี่โชซินะ แฮปปี้ทั้งคู่

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
แต่ละคนมีคู่แล้ว ส่วนกายอกหักสินะ
 :hao4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อ้าวน้องกายจะคู่ใครละที่นี้ หรือพี่ณัฐหว่าาาา ลูกเจ้าของโชว์รูมรถเลยนะ อิอิอ มโนไปอีก

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

Artจะเป็นอิสระ รื้อออออ ไม่น่ารอกพี่โช
น้ำตาล สู้ๆ

รออ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :z10: กำลังน่าติดตามมากกำลังงวดดดดกำลังจะได้เรื่องงงงแร้วววว

ออฟไลน์ boobooboo

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
โช ชอบน้องแล้วอ่ะดิ

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
ฟ้าชอบน้ำตาลแหงๆ

ออฟไลน์ Le_Let

  • เป็ดบ้าหัดเขียน
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
    • twiter
ตอนที่ 11

วันนี้มีเรียนเช้า ผมกลับมาตื่นเวลาปกติไม่ต้องรีบตื่นเหมือนหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้เพราะผมไม่ได้เป็นขี้ข้าพี่โชมันแล้ว ผมตื่นก็อาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน เมื่อถึงคณะผมก็เห็นกายกับน้ำตาลนั่งกันอยู่ที่โต๊ะใต้คณะผมรีบเดินจ้ำเข้าไปหา

“มึงสองคนกินไรกันยังวะ” ผมโพร่งถามกายและน้ำตาล

“กูกินแล้วมีแต่ไอ้ตาลนี่ไม่ยอมกินห่าอะไรเลย” กายบุ้ยปากไปที่น้ำตาล

“มึงเป็นไรวะตาล” ผมถามออกไป

"นั่นสิกูถามก็ไม่ยอมบอก เอาแต่นั่งกล้มหน้ากล้มตาเล่นโทรศัพท์" กายว่าเสริม

“เปล่ากูไม่ได้เป็นไรสักหน่อย” น้ำตาลรีบปฏิเสธ

“เอองั้นเย็นนี้มึงไปดูกูซ้อมบอลนะ..นะๆๆๆ” ผมกอดแขนอ้อนน้ำตาล

น้ำตาลขยับแขนออกจากมือผมแล้วหันมาพูด “กูไปไม่ได้กูรับปากฟ้าไปแล้วว่าจะไปช่วยชมรมเรี่ยไรเงินออกค่าย”

“ของชมรมอะไรวะ” ผมถามออกไป

“ค่ายอาสา” น้ำตาลตอบแค่นั้น

“แล้วอย่างนี้ถ้าเขาไปออกค่ายมึงต้องไปด้วยหรือเปล่า” ผมถามอย่างสงสัย

“กูกำลังคิดอยู่ว่าจะไปดีไหม เพราะเขาจะไปตลอดปิดเทอมนี้ 1 เดือนเต็มๆ”

“ไม่เอามึงไม่ต้องไปอยู่กับกูนี่แหละ กูไม่ให้มึงไป” ผมพูดราวกัเป็นคำสั่งห้ามน้ำตาล

“มึงเป็นผัวมันหรอ?” ไอ้กายถามผมด้วยสีหน้ากวนตีน

“ผัวพ่องดิไอ้กาย มันเป็นแม่กูต่างหาก” พูดจบผมก็ยักคิ้วให้กาย

ผมด่าและเถียงกับไอ้กายอยู่พักใหญ่ก่อนที่น้ำตาลจะเตือนว่าถึงเวลาเรียนแล้ว พวกเราก็กุลีกุจอกันวิ่งขึ้นตึกเพื่อไปเรียน

หลังจากวันนี้ไปเป็นเวลาเกือบสองเดือนหลังเลิกเรียนผมต้องรีบเข้าไปยังชมรมซ้อมฟุตบอลอย่างจริงจังเพื่อแข่งกีฬาสามยู

เลิกเรียนผมก็รีบมาชมรม เพื่อจะได้มีเวลาอู้ก่อนซ้อม ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมานั่งกินขนมเพื่อรอให้สมาชิกในชมรมมาครบ

พี่คิวเดินเข้ามาก็ทักผม “แดกอย่างเดียวเลยนะมึง”

“ก็ผมหิวนี่หว่า”

“เออแดกไวๆ ได้รีบไปวอร์ม” พี่คิวสั่งผม

“คร้าบบบบ”

ผมนั่งกินขนมของผมต่อไปก็เห็นพี่โชเดินเข้ามาในห้องชมรม พี่โชมีสีหน้าเนือยๆ หน้าซีดๆ

“เป็นไรเปล่าพี่” ผมถามออกไปด้วยความสงสัย

พี่โชส่ายหน้าเป็นคำตอบ แล้วทำท่าจะเดินเข้าไปเปลี่ยนชุด

“เฮ้ยพี่แต่พี่หน้าซีดมากเลยนะ” ผมเดินเข้าไปใกล้แล้วเอื้อมมือจับแขนพี่โชไว้ไม่ให้เดินหนี

“กูไม่ได้เป็นไร” พี่โชตอบปัดรำคาญ

“ไม่เป็นก็ไม่เป็น” ผมปล่อยมือพี่โชแล้วเดินออกไปวอร์มเตรียมซ้อมข้างนอก
 
ผมกำลังวอร์มอยู่ก็เห็นพี่คิวกับพี่โชเดินมาพร้อมกันทั้งสองคนก็เริ่มวอร์มแต่เมื่อวอร์มไปได้สักพักพี่โชก็ล้มฟุบไปกับพื้น

“เฮ้ยไอ้โช” เสียงพี่คิวตะโกนลั่น ทำให้สมาชิกทั้งหมดหยุดการกระทำแล้ววิ่งกรูกันเข้าไปหาพี่โช

“โชเป็นไรวะ” สมาชิกในชนรมพากันรุมถาม

“ไม่รู้เหมือนกันวะเมื่อกี้เห็นมันบอกว่ามึนๆ กูบอกให้มันลาสักวันก็ไม่ยอม”

“ฝืนตัวเอง เดี๋ยวก็ตายห่า” พี่ปันที่มาทีหลังบ่น

ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ พี่โชแล้วพูด “พี่ปันงั้นวันนี้ผมลาได้ไหมพี่ เดี๋ยวผมพาพี่โชไปหาหมอแล้วไปส่งที่หอเอง” ผมไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องเป็นคนอาสาที่จะดูแลพี่โช แต่รู้แค่ว่าไม่อยากให้พี่โชอยู่ไกลจากสายตาผมในเวลาที่พี่โชอาการแย่แบบนี้

พี่ปันเลิกคิ้ว “ทำไมไม่ให้ไอ้คิวพาไป มันเป็นเพื่อนกัน”

“ให้พี่คิวซ้อมเถอะพี่ยิ่งเล่นไม่ค่อยดีอยู่”

"อ่าวไอ้นี่" พี่คิวหันมามองด้วยสายตาคาดโทษผม

“เอองั้นก็ได้ แล้วได้เรื่องยังไงมึงโทรมาบอกกูด้วยแล้วกัน” พี่ปันพยักหน้าเห็นด้วยแล้วฝากฝังผม

ผมพยักหน้ารับก่อนหันไปบอกพี่คิวให้ช่วยกันแบกพี่โชไปที่รถ แล้วก็หันไปบอกสมาชิกในชมรถคนนึงให้ไปหยิบของ ของพี่โชที่อยู่ในล็อกเกอร์ออกมาให้

เมื่อจับพี่โชนั่งที่เบาะเรียบร้อยผมก็ปรับเบาะให้นอนลงจากนั้นก็เดินมายังฝั่งคนขับ พี่คิวตามมาพูดกับผม

“กูฝากด้วยนะไอ้อาร์ท ได้เรื่องยังไงอย่าลืมโทรมานะมึง”

“ครับพี่ตังใจซ้อมนะ” ผมยังทำท่าทะเล้นใส่พี่คิว

"เออมึงรีบไปเลย กูเห็นว่ามึงอาสาช่วยดูแลเพื่อนกูนะ ไม่งั้นมึงโดนบาทากูแน่" พี่คิวทำท่ายกขาเป็นการขู่

ผมรีบขึ้นรถมานั่งตรงฝั่งคนขับ จากนั้นก็สตาร์ทรถ ผมยังไม่หายตื่นเต้นเลยครับนี่ก็เพิ่งจะเป็นครั้งที่สองที่ผมจะต้องขับรถออกถนนใหญ่ แล้วพี่โชก็ยังจะมาหลับอีก ใครจะช่วยให้ผมสงบได้ล่ะทีนี้

“ไม่ต้องตื่นเต้นกูอยู่กับมึงตรงนี้” มีเสียงเบาๆ หลุดออกมาจากคนที่นอนอยู่บนเบาะ เมื่อผมหันไปมองก็เห็นพี่โชปรือตามองผมพร้อมกับยิ้มมุมปากให้ผม

ผมยิ้มตอบพี่โช แล้วรู้สึกว่าอุ่นใจจริงๆ ที่พี่มันอยู่ด้วย จึงตอบกลับไป “ครับ พี่นอนเถอะเดี๋ยวถึงโรงพยาลแล้วเดี๋ยวผมปลุก”

พี่โชแค่พยักหน้า แล้วก็ปิดเปลือกตาลง

จากนั้นผมก็เคลื่อนรถออกตรงไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเมื่อถึงโรงพยาบาลผมพยายามปลุกพี่โชแต่เหมือนพี่โชจะหลับลึกไป ผมจึงเรียกให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลมาพาพี่โชไปที่เปลรับผู้ป่วย

“ผู้ป่วยเป็นอะไรมาครับ” เจ้าหน้าที่ถามผม

“คือเขากำลังซ้อมฟุตบอลอยู่แล้วก็วูบไปหน่ะครับ”

“ครับเดี๋ยวญาติเอารถไปจอดด้านนู้น แล้วขึ้นมากรอกประวัติให้ผู้ป่วยแล้วกันนะครับ เดี๋ยวผมพาผู้ป่วยไปห้องฉุกเฉินก่อน” เจ้าหน้าที่อธิบายให้ผมฟัง

จอดรถเสร็จผมก็รับจ้ำมายังเค้าเตอร์เพื่อกรอกประวัติให้พี่โช โชคดีที่ผมหยิบกระเป๋าของพี่โชมาด้วยในนั้นจึงมีข้อมูลพี่โชครบทุกอย่าง

ผมนั่งรอหมอที่ตรวจอาการพี่โชอย่างใจจดใจจ่ออยู่หน้าห้องฉุกเฉิก

“ญาติคุณโชกุนค่ะ” พยาบาลเดินออกมาเรียกจากห้องฉุกเฉิน

“ครับ” ผมรีบเดินเข้าไปหาพยาบาล

“เข้าไปพบคุณหมอข้างในเลยค่ะ”

ผมเดินตามพยาบาลเข้าในห้องฉุกเฉิน ก็พบพี่โชนอนหลับอยู่แล้วมีคุณหมอยืนอยู่ข้างๆ

“คนไข้เป็นไข้หวัดธรรมดาครับ แต่อาจจะเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอจึงทำให้วูบไปได้” หมอหันมาพูดกับผม

เมื่อหมอพูดแบบนั้นผมก็โล่งใจที่พี่โชไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง จึงถามหมอกลับไป “แล้วแบบนี้เขาต้องนอนโรงพยาบาลไหมครับ”

“ไม่ต้องนอนก็ได้ครับ เดี๋ยวอีกสักพักคนไข้ก็น่าจะตื่นเดี๋ยวหมอสั่งยาแล้วกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้เลย แต่ต้องคอยวัดไข้เช็ดตัวเป็นระยะนะครับ”

“ครับ”

“งั้นญาติไปรอรับยาและชำระเงินด้านนอกได้เลยค่ะ” พยาบาลบอกผม

ผมเดินออกมานั่งรอด้านนอกเพื่อรอรับยา และทำการจ่ายค่ารักษาพยาบาลเรียบร้อย ระหว่างเดินกลับมาหาพี่โชที่หน้าห้องฉุกเฉินผมก็โทรรายงานอาการพี่โชให้คนในชมรมทราบเรียบร้อย พอเดินมาถึงเห็นพี่โชนั่งรออยู่แล้ว

“เดินไหวไหมพี่”

พี่โชได้แต่พยักหน้า แล้วผมก็เข้าไปประครองให้เดิน พอถึงรถผมก็เปิดประตูให้พี่โชเข้าไปนั่งที่เบาะ แล้วปรับเบาะให้ตั้งขึ้นนิดนึง ผมจึงปิดประตู้แล้วอ้อมมาขึ้นด้านคนขับ

“ไหนตอนอยู่ห้องชมรมพี่บอกผมว่าไม่เป็นไรไง” ผมพูดเสียงแข็ง

“ก็กูไม่ได้เป็นไรนี่หว่า” พี่โชพูดเสียงพร่า

“นี่นะไม่ได้เป็นไร ดีไม่หัวฟาดฟื้นตาย พี่แม่งบ้า” ผมว่าอย่างหัวเสีย

“เป็นห่วงกูหรอ”

ยังมีหน้ามาถามอีกนะถ้าไม่ห่วงจะมานั่งอยู่ตรงนี้หรอวะ

“ห่วงสิวะ” ผมพึมพำไม่ตั้งใจให้อีกคนได้ยิน

“แค่นี้กูก็หายแล้ว” พี่โชพูดขึ้นลอยๆ ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

“ว่าไงนะ?” ผมหันไปถาม

พี่โชส่ายหน้า แล้วพูด “กูอยากกลับห้องแล้ว อยากนอน”

ผมพยักหน้ารับแล้วรีบออกรถทันที ระหว่างทางโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ผมล้วงออกมาจากกระเป๋าก็เห็นชื่อขึ้นที่หน้าจอ

Rrrr

‘เชี่ยกาย’

“มากูถือให้” พี่โชพูดพร้อมกับแบมือรับโทรศัพท์จากผม

พี่โชกดรับแล้วเอามาแนบหูผมไว้

“เออว่าไง”

(มึงซ้อมบอลเสร็จยังวะไปแดกหมูกระทะกัน)

“มึงไปกันเลยกูบายวะ”

(เห้ยได้ไงวะ นี่ไอ้ตาลอุตส่าห์ชวนฟ้าไปด้วยได้นะมึง)

“เออกูบายวะกูมีธุระ”

(เออๆ ตามใจมึงแล้วกัน ถ้าเปลี่ยนใจจะตามพวกกูอยู่กันร้านหลังมอนะโว้ย)

“เออ”

กายวางสายไป แต่ผมก็คิดว่าทำไมคนที่โทรมาชวนผมถึงไม่เป็นน้ำตาล ทำไมผมรู้สึกว่าพักหลังมามันตั้งใจจะหลบหน้าผมหรือผมคิดไปเอง เออจริงๆ ใครชวนก็เหมือนกันนั่นแหละพวกมันก็อยู่ด้วยกันนี่หว่าคงคิดมากไปเอง ผมคิดเพลินจนลืมไปว่ามีคนอยู่ข้างๆ

“เฮ้ยเหม่ออะไรวะ รถจะลงข้างทางอยู่แล้ว” พี่โชพูดขึ้นทำให้สติผมกลับมา

“อ่อเปล่าพี่ พวกไอ้กายชวนไปกินหมูกระทะเฉยๆ”

“งั้นเดี๋ยวมึงส่งกูเสร็จมึงเอารถกูไปก็ได้”

“ได้ไงอ่า พี่ต้องวัดไข้เช็ดตัวทั้งคืนนะ”

“เดี๋ยวกูทำเองก็ได้”

“ไม่...ผมจะอยู่”

พี่โชยกยิ้มมุมปากก่อนจะตอบ “งั้นก็ตามใจมึง”

รถจอกสนิทที่ลานจอดรถหอพัก ผมลงจากรถเพื่ออ้อมไปเปิดประตูประคองร่างพี่โชออกจากรถพร้อมกับหยิบกระเป๋าและถุงยาของพี่มันมาด้วยเมื่อถึงหน้าห้องผมก็ไขกุญแจเข้าไป

ผมพาพี่โชตรงไปที่ห้องนอนแล้ววางร่างพี่โชให้นั่งลงบนเตียง

“พี่นอนไปก่อนเดี๋ยวผมไปหาอะไรในครัวให้พี่กินจะได้กินยา” ผมออกคำสั่ง

พี่โชได้แต่มองผมแล้วล้มตัวลงนอนช้าๆ ผมจึงเดินออกมาเปิดตู้ในครัวดูว่าพอจะมีอะไรทำให้พี่โชกินได้บ้าง แล้วผมก็เจอโจ๊กเป็นซองๆ วางอยู่เต็มตู้ ผมเพิ่งรู้ว่าพี่โชชอบกินโจ๊กขนาดนี้

ผมจัดการเสียบกาน้ำร้อนและเทโจ๊กใส่ถ้วย เมื่อน้ำเดือดก็จัดการกดน้ำใส่ในถ้วย จึงหยิบถ้วยเดินเข้ามาในห้องนอนพี่โช

“พี่โชลุกขึ้นมากินโจ๊กก่อน”

“อื้อ” พี่โชตอบรับแบบรำคาญ แต่ก็ไม่ยอมลุขึ้นมาอยู่ดี

ผมวางถ้วยลงที่โต๊ะแล้วจัดการไปดึงพี่โชให้นั่งพิงกับหัวเตียง

“อ่ะ กินซะจะได้กินยา” ผมยื่นถ้วยโจ๊กให้

“ป้อน” พี่โชพูดแค่นั้น แล้วสบตาผม

“ฮ่ะ?”

“ป้อนหน่อย” พี่โชพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ

“มือพี่ก็ไม่ได้เป็นอะไรหนิ” ผมขมวดคิ้ว

“ไม่มีแรงป้อนหน่อยนะ” น้ำเสียงของพี่โชเปลี่ยนไป ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าพี่โชกำลังอ้อนผม

“นี่พี่อ้อนผมเหรอ” ผมเลิกคิ้วและยกยิ้มมุมปาก

“ไม่ป้อนก็ไม่เป็นไร วางไว้ตรงนั้นแหละเดี๋ยวมีแรงกินไหวค่อยกินก็ได้” พี่โชพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ

“โอเคๆ ป้อนก็ป้อน” พูดกลั้วหัวเราะ

หลังจากผมรับคำผมก็ตักโจ๊กไปจ่อที่ปากพี่โช พี่โชอ้าปากรับโดยดีจนหมดถ้วย ผมก็จัดแจงเอายาให้พี่โชกินเรียบร้อย ไม่นานนักพี่โชก็หลับสนิทโดยที่ยังไม่ได้เช็ดตัว

ผมเก็บข้าวของไปไว้ในครัวและกลับมายังห้องนอนเพื่อเฝ้าวัดไข้ให้พี่โช ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาผ้ามาชุบน้ำไว้สำหรับเช็ดตัวพี่โช

โทรศัพท์สั่นขึ้นผมควานหาโทรศัพท์ของตัวเองเมื่อหยิบขึ้นมาก็พบว่าไม่ใช่ ปรากฏว่ามันเป็นของพี่โช ผมจึงหยายหน้าจอขึ้นมาดู

Rrrrr

‘ป๊า’

เมื่อผมเห็นเช่นนั้นก็ปล่อยให้โทรศัพท์สั่นไปเพราะผมไม่กล้ารับ แต่แล้วผมก็ต้องทำใจกล้ารับโทรศัพท์เพราะว่าป๊าพี่โชโทรมาไม่ยอมหยุด อาจจะมีธุระสำคัญก็ได้

“สวัสดีครับ” ผมรับด้วยน้ำเสียงเกร็ง

(โชอยู่ไหนลูก)

“เอ่อ...โชไม่สบายครับ ตอนนี้นอนหลับอยู่”

(แล้วนั่นใครเจ้าณัฐเหรอ)

“ไม่ใช่ครับเพื่อนโชที่มหา’ลัย”

(อ่อโชเป็นอะไรมากหรือเปล่าแล้วตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง)

“พะ..เอ้ย โชดีขึ้นแล้วครับ หมอบอกให้กลับมาพักผ่อนเดี๋ยวก็จะหายครับ”

(ฮะ ถึงจั้นต้องไปหาหมอเลยเหรอ งั้นถ้าโชตื่นแล้วให้โทรกลับหาป๊าด้วยนะ)

“ครับถ้าโชตื่นเดี๋ยวผมบอกให้โชรีบโทรกลับครับ สวัสดีครับ” ผมรับคำแล้วก็กดวางโทรศัพท์

เวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้วที่พี่โชนอนหลับผมจึงเข้าไปวัดไข้และน้ำผ้าชุบน้ำไปเตรียมเช็ดตัวให้

“พี่โชเช็ดตัวก่อนนะ” ผมเรียกพี่โชพร้อมเอามือไปเขย่าไหล่

“อื้อ” พี่โชสะบัดมือผมออก

ช่วยไม่ได้งั้นผมจับพี่ถอดเสื้อถอดกางเกงเองเลยแล้วกัน ตอนนี้ร่างกายพี่โชเหลือเพียงบ็อกเซอร์ จากนั้นผมก็นำผ้าชุบน้ำมาเช็ดจากหน้าลงมาที่คอและเรื่อยๆ ลงมายังลำตัว

“หนาว” พี่โชมันไม่พูดเปล่าพี่มันเอาแขนมาเกี่ยวตัวผมลงไปกอด จนหน้าผมแนบกับอกพี่มัน

“พี่โชปล่อย หนาวเดี๋ยวผมห่มผ้าให้” ผมโวยวาย พยามขืนตัวออกจากอ้อมกอดพี่มัน แต่เหมือนจะไม่เป็นผม เพราะพี่มันยิ่งรัดผมแน่นกว่าเดิม

ผมทำใจอยู่นานกว่าจะยอมอยู่นิงๆ เพราะยิ่งดิ้นก็มีแต่เหนื่อย ผมปล่อยตัวเองให้อยู่ในอ้อมกอดของพี่โชแบบนั้นจนผมเองเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา

ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่าตัวเองกำลังใช้แขนทั้งสองข้างกอดเอวพี่โชไว้ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้สติจึงค่อยๆ ดึงมือออกมาจากเอวพี่โชแล้วลุกขึ้นมานั่งหันหลังให้คนที่ผมคิดว่ายังนอนหลับอยู่ ตอนนี้ใจผมเต้นแรงไม่เป็นจังหวะและใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมา

“ตื่นแล้วหรอ” ฮ่ะเสียงพี่โชถามผม แสดงว่าพี่มันตื่นก่อนผมแบบนี้พี่มันก็ต้องรู้ว่าผมกอดพี่มันกลมหน่ะสิ

‘โอ๊ยยย ไอ้อาร์ทมึงทำอะไรลงไปวะเนี่ย’ ผมคิดในใจ ทั้งที่ตอนนี้หน้าแดงจนไม่กล้าหันหน้าไปมองพี่โช

“ตะ..ตื่นแล้วเหรอ พะ..พี่...ตื่นนานแล้วหรอ” ผมถามอย่างตะกุกตะกักทั้งที่ยังหันหลังให้พี่โชอยู่อย่างนั้น

“อื้ม”

“งั้น....” ผมพูดแค่นั้นก็เงียบไป

“อุ่นดี” พี่โชพูดเสียงเรียบ

ผมหันขวับไปมองหน้าพี่มันแบบอาฆาตอย่างลืมตัว หน้าผมร้อนจนจะระเบิดออกมา

“กูดีขึ้นเพราะมึงนอนกอดกูสินะ” พี่โชยกยิ้มมุมปากและยักคิ้วให้ผม

“เฮ้ย พี่พูดไรวะ พี่นั่นแหละลากผมไปกอด” ผมว่าอย่างหัวเสีย

“หึหึ” พี่โชขำแค่นั้น ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยผมให้นั่งบ่นงึมงำอยู่บนเตียงอย่างนั้น

หลังจากนั้นไม่นานพี่โชก็เดินออกจากห้องน้ำมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พี่มันมีความสุขอะไรนักหนา แต่ต่างจากผมที่ตอนนี้ทั้งกายและใจอยู่ไม่เป็นสุขเลยสักนิด

ผมนึกขึ้นได้ว่าป๊าพี่โชโทรมา จึงเอ่ยออกไป “เออพี่โชตอนที่พี่หลับป๊าพี่โทรมาหลายสาย ผมเลยถือวิสาสะรับไปกลัวว่าจะมีเรื่องด่วน”

พี่โชพยักหน้ารับแล้วหยิบโทรศัพท์เดินออกไปข้างนอกห้องนอน คงจะไปโทรหาป๊าพี่มันนั่นแหละ สักพักพี่โชก็เดินกลับเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก คงจะไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่เดาว่าอย่างนั้น ผมได้แต่มองอย่างสงสัยแต่ไม่กล้าถามออกไปจึงหันไปสนใจโทรศัพท์ในมือผมแทน

==============
TBC.

Talk.อ่านแล้วรู้สึงยังไงกันบ้าง ... จริงๆ เราก็เขียนไปล่วงหน้าเรื่อยๆ นั่นแหละ แต่ทยอยลง เพราะเราอยากฟังความเห็นคนอ่าน ถ้าไม่ถูกใจตรงไหน หรืออยากได้แบบไหนอยากให้มาคุยกัน ถ้าปรับได้เรายินดีที่จะปรับให้
จริงๆ เราคุยกันได้น๊าาา อย่าทิ้งกันไว้ลำพัง :))) รักคนอ่าน <3
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-05-2017 11:41:12 โดย Le_Let »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด