[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 506307 ครั้ง)

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เป็นประธานที่ยอมเลขามาก แต่ก็นะก็ยังเป็นประธานที่ทำให้เลขาปวดหัวมากที่สุดเหมือนกัน ^^
ไปญี่ปุ่น สงสัยจะถึงเวลาสวีทของเมฆหมอกแล้วมั้ง  :hao6:

ออฟไลน์ ChabaSri

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
แบบนี้ก็ได้หรอท่านประธาน 5555555

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
คุณเชษฐ์ บทเหมือนเป็นพระเอกของเรื่องมาก

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
จริงๆ เมฆาไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ได้

เปลี่ยนชื่อเรื่องนี้เป็น เลขาที่รัก อะไรแบบนี้ดีกว่า

นี่อยู่ทีม เรือผีแล้วกัน #เชษฐ์หมอก น่ารักกกกก

ออฟไลน์ raizvita

  • Called me ZC. ' v <,,
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
น้องว่า....ไม่น่าจะได้ง่ายๆ จนกว่าจะถึงวันที่เมฆจำได้ว่าทำอะไรลงไปและมีเหตุผลอะไรนะ555++

พ่อลูกปรึกษากับดิบดี ถามหมอกอ่ะยังคะะะะะ

ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
นี่สรุปเมฆเป็นพระรองรึเปล่า 555555
ค่าตัวแพงเลยโดนแย่งซีน

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
มุมดีๆของคุณพ่อสินะ ถึงจะมีน้อย แต่ถือว่าตอนนี้คุณทำดีค่ะ
เมฆกลับมาเป็นตัวประกอบอีกแล้วเรอะ วงวารรรร

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7
เมฆเป็นพระเอกที่เลือนลางจริงๆ  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ลีลา ชั้นเชิงการง้อ ระหว่างพ่อ กับลูก
พ่อชนะขาด  :hao3: :hao3: :hao3:

นี่คุณเชษฐ์ รู้หรือยังเนี่ยข่าวว่าตัวเองเลือดบวก
แฮ่......มาจากเมียหลวงตัวเอง
ที่เพิ่งบอกกับเมฆาว่า
“พ่อรักหมอก....แค่ไม่รู้ว่าพ่อรักหมอกเหมือนลูกแท้ๆ
หรือรักเขาเหมือนแม่แท้ๆของพ่อกันแน่”
อะจ๊ากกกกก เหมือนแม่แท้ๆ หมอกมีความเป็นแม่สูงมากกกกกกกก
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หมอกนิสัยต่างจากตอนเมื่อก่อนมากกกกก ชอบเวลาแอบหลุดความน่ารักเหมือนเมื่อก่อน
อยากให้มีมือที่สามมาให้หึงอีกจังค่ะ ชอบตอนเมฆหึง5555 :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ J029

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ชอบนิสัยคุณธีรเชษฐ์ ไม่เหมือนคนเป๋็นพ่อเลยสักนิด

ออฟไลน์ Grey Twilight

  • Moderator
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-17
ปกติเรื่องนึงผมจะคอมเมนท์ไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่นี่เราอดไม่ได้ เห็นแล้วมันฟีดกู๊ดเหลือเกิน อ่านตอนง้อนี่โอ้โห สกิลคุณเชษฐ์เทิร์นโปรมากๆอะครับ จำได้ทุกอย่างของมธุวันที่เสียไปเพราะเรื่องของตัวเอง อื้อหือ ความใส่ใจนี้... เป็นผมโดนง้อแบบนี้ก็ระทวยครับ คนอะไรกันว้า สกิลง้อนี่อย่างเทพอะครับ

มีเรื่องอยากพูดเกี่ยวกับตัวพล็อตเรื่องเยอะเหมือนกัน คราวที่แล้วลืมพูดครับ (ฮา) เอาเรื่องเบาๆก่อน เรื่องเคมีคู่ อย่างตอน ‘ง้อ’ ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่าเคมีที่ควรจะเป็นนี่เป็นยังไง อย่างเมฆา เคมีที่เหมาะกับเขาคือมธุวันภาคน่ารักสมัยเรียน ซึ่งอ่านแล้วอิ่มใจมากครับ คาแรกเตอร์ของพวกเขาทั้งสองคนมัน fit-in together น่ะนะ แล้วอย่างคุณเชษฐ์ เคมีที่เหมาะกับเขาคือมธุวันภาคเลขาผู้หน้านิ่งเลือดเย็นนี่แหละครับ อันนี้อ่านแล้วสนุกครับ มันฟีดกู๊ดคนละแบบกับของเมฆาน่ะนะ อาจจะเพราะมีฉากต่อปากต่อคำ มธุวันงอนแล้วเหวี่ยงแบบนิ่งๆ ไม่สนไม่แคร์ จนสุดท้ายธีรเชษฐ์ก็ต้องยอม มาง้ออยู่ดีนี่ล่ะครับ (หัวเราะ)

ผมว่าคนปราบคุณเชษฐ์ได้นี่ต้องแบบหมอกตอนเป็นเลขาอะครับ ฮะๆ คือเอาจริงๆแบบน้องมีนคงไม่เวิร์คเท่าไหร่มั้งในชีวิตจริง อย่างคุณเชษฐ์นี่ถ้าจะประคองชีวิตคู่ให้รอดไปแบบไม่มีดรามา คงต้องแบบมธุวันภาคเลขาอะครับ ถ้าคุณเชษฐ์ได้คู่นิสัยแบบคุณเลขานี่ ชีวิตคู่ฮาเฮชัดๆ แต่ในเรื่องก็มีคู่แบบนี้อยู่นะครับ คุณนิโคไลกับคุณหมอคนนิ่งนั่นไง ดังนั้น เราไม่ได้จะชี้เป้าเปลี่ยนคู่เชียร์หรืออะไรนะครับ แต่บอกว่าเออ เรือผีลำนี้นี่...บันไดชวนขึ้นเรือตกแต่งยั่วยวนเหลือเกิน ใจสั่นไปหมด ฮะๆๆ (แบบอะไรนะ ไบรซ์มิวซ์ใช่ไหมครับ แต่คู่นี้แววเยอะกว่าคู่นั้นนะครับ (หัวเราะ)) แต่ว่าตรงที่บอกว่ารักเหมือนลูกกับรักเหมือนแม่นี่ฟังไม่ค่อยขึ้นนะครับ ผมว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้นิยามแบบนั้นนะเท่าที่รู้สึก เพราะธีรเชษฐ์คืออย่างน้อยต้องชอบนิสัยคนแบบมธุวันภาคเย็นชานิ่งๆอยู่ด้วยล่ะ อาจจะถูกใจแต่แรก แล้วทีนี้มธุวันดันช่วยธีรเชษฐ์แก้ปัญหาได้เยอะ ความรู้สึกดีๆเลยบวกเพิ่มเข้าไปอีก มันเลยต้องง้อ จะไปใช้อำนาจบังคับก็ไม่ได้เพราะว่ารู้สึกชอบอยู่เหมือนกัน คือมันไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่ก็ไม่ได้เป็นโทน Pure love ขนาดนั้นเหมือนกัน ลองสังเกตตอนที่มธุวันไปพบลูกค้าคือนิโคไลที่อายุพอๆกับธีรเชษฐ์สิครับ โอ้โห จัดหนักจัดเต็ม แทบจะสกัดกั้นทุกทางยังกับตัวร้าย (หัวเราะ) [เพิ่มเติมตรงจุดนี้ : ถ้าเป็นวรรณกรรมโลกสีเทา ความเข้ากันและพล็อตตรงนี้มันอาจ develop ไปสู่เชิงชู้สาวได้เหมือนกันนะครับ แต่ก็จะแตกประเด็นออกได้เป็นสองทาง คือไม่ดรามาไปเลย ก็จะออกแนวมุ้งมิ้งตลกแบบที่เราเห็นคุณเชษฐ์โดนหมอกข่มอยู่ในเรื่อง และจุดพวกนี้ที่เรามักจะเห็น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของคู่หลักในวรรณกรรมโลกสีเทาส่วนมากครับ]

พูดไปพูดมา แหม่ นี่ถ้าฉีกมธุวันออกมาเป็นสองคนได้นี่ก็ดีเนอะครับ จับให้คนพ่อกับคนลูกไปเลย คนละคาแรกเตอร์ คนอ่านแฮปปี้กันหมด (ฮา) แต่สรุปคือคุณลิตเติลพิกเลือกคาแรกเตอร์ได้ดีครับ (เอาเข้าจริงๆ ผมว่าเรื่องอื่น คุณลิตเติลพิกก็คิดคาแรกเตอร์ระหว่างพระ-นาง ที่เข้ากันได้ดีมากนะครับ แต่ปัญหาคือ diversity ของตัวละครด้านอื่นๆมันดันมีจุดร่วมกันอยู่ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นอะไรที่จงใจเกินไปและความสมเหตุสมผลไม่แน่น)

ทีนี้มาถึงเรื่องพล็อตของมธุวัน ผมอยากรู้นิดนึงตรงที่ว่า นิโคไลกับวรินทร์นี่ไม่ได้มีสายสัมพันธ์อะไรกันเลยหรือครับ? ถ้ามี การที่คุณนิโคลัสจะไปคู่กับพี่หมอ มันก็จะแปลกๆไปนิดหน่อยนะครับ ถ้าเราอิงจากหลักที่ว่าเรื่องของตระกูลอัลฟอนโซ่กับตระกูลเหลียนเกิดขึ้นมาเพราะความต้องการที่จะพันธนาการตระกูลทั้งสองนี้ไว้ด้วยกัน (ซึ่งผมว่าเหตุผล deep down ตั้งแต่เริ่มแรกที่ทำสัญญาอันนี้ คงเป็นเพราะความดรามาเรื่องความรักเนี่ยแหละครับ อาจจะเป็นชาย-ชายด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นชายหญิง สัญญาคลุมถุงชนคงถูกกำหนดขึ้นมาตั้งนานแล้ว) ทีนี้ถ้าเราอิงลอจิกตามความต้องการพันธนาการแบบนี้ คนทุกคนของตระกูลอัลฟอนโซ่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนตระกูลเหลียน ที่ดัน ‘อายุใกล้กัน’ ด้วยตลอดเวลา แล้วยิ่งตระกูลอัลฟอนโซ่เป็นผู้นำโลกมืด ทั้งอำนาจและความใกล้ชิดที่ต้องทำตามกฎพันธนาการนั้น มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องเกิดสายสัมพันธ์ทั้งทางกายและทางใจขึ้น

คือให้มองเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกันก็ได้ แต่มันต้องมีสตอรี่ปูมาก่อน และคาแรกเตอร์ของทั้งสองคนต้องเอื้อ เพราะถ้าเราอิงแบ็กกราวน์แบบปกติเข้ากับนิโคไลและวรินทร์ มันจะตีความได้แค่สองแบบครับ ไม่อัลฟอนโซ่เป็นตัวพระคู่กับฝ่ายรับคือตระกูลเหลียนที่ต้องอยู่ในเงามืดและมีกฎนี้ตราจองจำไว้ตลอดกาล ก็คืออัลฟอนโซ่เป็นตัวนางและตระกูลเหลียนต้องปกป้องเขาด้วยชีวิตแบบอัศวิน มันจะเข้าโรแมนติกพล็อตตลอดน่ะครับเพราะเนื้อหามันเอื้อจริงๆ (แต่โดยส่วนตัว พล็อตโลกมืดตรงนี้ของคุณลิตเติลพิกนี่ตรงใจผมใช้ได้เลยนะครับ มัน broaden สโคปเรื่องไปได้เยอะเลย แล้วก็สามารถสร้างนิยายเรื่องอื่นให้มาโยงต่อกับนิยายเรื่องนี้ก็ได้ด้วย สร้างเป็นจักรวาลย่อมๆได้เลย) อย่างมธุวัน ถ้าเขาเป็นน้องของนิโคไลจริงๆ เรื่องเขากับนาวินทร์ ผมว่าสตอรี่ของสองคนนี้มันถูกปูมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องเคมีเขากับนาวินทร์คงเลิกคิดไปได้ ดังนั้นถ้าเข้ากฎนี้จริงๆ เคมีมันก็จะเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่ไม่มี romantic issue ให้เราต้องกังวลครับ เพราะมธุวันเองก็เป็นคนหัวแข็งระดับหนึ่งนะในเรื่องของคนที่เขาใส่ใจ เขาคงไม่ไปจำกัดชีวิตของนาวินทร์ที่เป็นเพื่อนเขาขนาดนั้น และนาวินทร์ก็คงเข้าใจมธุวันในระดับหนึ่ง คงไม่เข้าไปยุ่งชีวิตส่วนตัวขนาดนั้นเหมือนกัน แต่นิโคไลกับวรินทร์สิครับ ปมสองคนนี้ยังไม่แน่เลย แล้ววรินทร์ก็รูปร่างกับคาแรกเตอร์น่าสนใจซะขนาดนั้นเสียด้วย แถมยังมีเรื่องของลูกนิโคไลอีก นับว่ามีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยครับ น่าสนใจมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2017 17:35:43 โดย Grey Twilight »

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
ปกติเรื่องนึงผมจะคอมเมนท์ไม่บ่อยเท่าไหร่ แต่นี่เราอดไม่ได้ เห็นแล้วมันฟีดกู๊ดเหลือเกิน อ่านตอนง้อนี่โอ้โห สกิลคุณเชษฐ์เทิร์นโปรมากๆอะครับ จำได้ทุกอย่างของมธุวันที่เสียไปเพราะเรื่องของตัวเอง อื้อหือ ความใส่ใจนี้... เป็นผมโดนง้อแบบนี้ก็ระทวยครับ คนอะไรกันว้า สกิลง้อนี่อย่างเทพอะครับ

มีเรื่องอยากพูดเกี่ยวกับตัวพล็อตเรื่องเยอะเหมือนกัน คราวที่แล้วลืมพูดครับ (ฮา) เอาเรื่องเบาๆก่อน เรื่องเคมีคู่ อย่างตอน ‘ง้อ’ ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่าเคมีที่ควรจะเป็นนี่เป็นยังไง อย่างเมฆา เคมีที่เหมาะกับเขาคือมธุวันภาคน่ารักสมัยเรียน ซึ่งอ่านแล้วอิ่มใจมากครับ คาแรกเตอร์ของพวกเขาทั้งสองคนมัน fit-in together น่ะนะ แล้วอย่างคุณเชษฐ์ เคมีที่เหมาะกับเขาคือมธุวันภาคเลขาผู้หน้านิ่งเลือดเย็นนี่แหละครับ อันนี้อ่านแล้วสนุกครับ มันฟีดกู๊ดคนละแบบกับของเมฆาน่ะนะ อาจจะเพราะมีฉากต่อปากต่อคำ มธุวันงอนแล้วเหวี่ยงแบบนิ่งๆ ไม่สนไม่แคร์ จนสุดท้ายธีรเชษฐ์ก็ต้องยอม มาง้ออยู่ดีนี่ล่ะครับ (หัวเราะ)

ผมว่าคนปราบคุณเชษฐ์ได้นี่ต้องแบบหมอกตอนเป็นเลขาอะครับ ฮะๆ คือเอาจริงๆแบบน้องมีนคงไม่เวิร์คเท่าไหร่มั้งในชีวิตจริง อย่างคุณเชษฐ์นี่ถ้าจะประคองชีวิตคู่ให้รอดไปแบบไม่มีดรามา คงต้องแบบมธุวันภาคเลขาอะครับ ถ้าคุณเชษฐ์ได้คู่นิสัยแบบคุณเลขานี่ ชีวิตคู่ฮาเฮชัดๆ แต่ในเรื่องก็มีคู่แบบนี้อยู่นะครับ คุณนิโคไลกับคุณหมอคนนิ่งนั่นไง ดังนั้น เราไม่ได้จะชี้เป้าเปลี่ยนคู่เชียร์หรืออะไรนะครับ แต่บอกว่าเออ เรือผีลำนี้นี่...บันไดชวนขึ้นเรือตกแต่งยั่วยวนเหลือเกิน ใจสั่นไปหมด ฮะๆๆ (แบบอะไรนะ ไบรซ์มิวซ์ใช่ไหมครับ แต่คู่นี้แววเยอะกว่าคู่นั้นนะครับ (หัวเราะ)) แต่ว่าตรงที่บอกว่ารักเหมือนลูกกับรักเหมือนแม่นี่ฟังไม่ค่อยขึ้นนะครับ ผมว่ามันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ได้นิยามแบบนั้นนะเท่าที่รู้สึก เพราะธีรเชษฐ์คืออย่างน้อยต้องชอบนิสัยคนแบบมธุวันภาคเย็นชานิ่งๆอยู่ด้วยล่ะ อาจจะถูกใจแต่แรก แล้วทีนี้มธุวันดันช่วยธีรเชษฐ์แก้ปัญหาได้เยอะ ความรู้สึกดีๆเลยบวกเพิ่มเข้าไปอีก มันเลยต้องง้อ จะไปใช้อำนาจบังคับก็ไม่ได้เพราะว่ารู้สึกชอบอยู่เหมือนกัน คือมันไม่ใช่เชิงชู้สาว แต่ก็ไม่ได้เป็นโทน Pure love ขนาดนั้นเหมือนกัน ลองสังเกตตอนที่มธุวันไปพบลูกค้าคือนิโคไลที่อายุพอๆกับธีรเชษฐ์สิครับ โอ้โห จัดหนักจัดเต็ม แทบจะสกัดกั้นทุกทางยังกับตัวร้าย (หัวเราะ) [เพิ่มเติมตรงจุดนี้ : ถ้าเป็นวรรณกรรมโลกสีเทา ความเข้ากันและพล็อตตรงนี้มันอาจ develop ไปสู่เชิงชู้สาวได้เหมือนกันนะครับ แต่ก็จะแตกประเด็นออกได้เป็นสองทาง คือไม่ดรามาไปเลย ก็จะออกแนวมุ้งมิ้งตลกแบบที่เราเห็นคุณเชษฐ์โดนหมอกข่มอยู่ในเรื่อง และจุดพวกนี้ที่เรามักจะเห็น ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของคู่หลักในวรรณกรรมโลกสีเทาส่วนมากครับ]

พูดไปพูดมา แหม่ นี่ถ้าฉีกมธุวันออกมาเป็นสองคนได้นี่ก็ดีเนอะครับ จับให้คนพ่อกับคนลูกไปเลย คนละคาแรกเตอร์ คนอ่านแฮปปี้กันหมด (ฮา) แต่สรุปคือคุณลิตเติลพิกเลือกคาแรกเตอร์ได้ดีครับ (เอาเข้าจริงๆ ผมว่าเรื่องอื่น คุณลิตเติลพิกก็คิดคาแรกเตอร์ระหว่างพระ-นาง ที่เข้ากันได้ดีมากนะครับ แต่ปัญหาคือ diversity ของตัวละครด้านอื่นๆมันดันมีจุดร่วมกันอยู่ ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นอะไรที่จงใจเกินไปและความสมเหตุสมผลไม่แน่น)

ทีนี้มาถึงเรื่องพล็อตของมธุวัน ผมอยากรู้นิดนึงตรงที่ว่า นิโคไลกับวรินทร์นี่ไม่ได้มีสายสัมพันธ์อะไรกันเลยหรือครับ? ถ้ามี การที่คุณนิโคลัสจะไปคู่กับพี่หมอ มันก็จะแปลกๆไปนิดหน่อยนะครับ ถ้าเราอิงจากหลักที่ว่าเรื่องของตระกูลอัลฟอนโซ่กับตระกูลเหลียนเกิดขึ้นมาเพราะความต้องการที่จะพันธนาการตระกูลทั้งสองนี้ไว้ด้วยกัน (ซึ่งผมว่าเหตุผล deep down ตั้งแต่เริ่มแรกที่ทำสัญญาอันนี้ คงเป็นเพราะความดรามาเรื่องความรักเนี่ยแหละครับ อาจจะเป็นชาย-ชายด้วยซ้ำ เพราะถ้าเป็นชายหญิง สัญญาคลุมถุงชนคงถูกกำหนดขึ้นมาตั้งนานแล้ว) ทีนี้ถ้าเราอิงลอจิกตามความต้องการพันธนาการแบบนี้ คนทุกคนของตระกูลอัลฟอนโซ่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนตระกูลเหลียน ที่ดัน ‘อายุใกล้กัน’ ด้วยตลอดเวลา แล้วยิ่งตระกูลอัลฟอนโซ่เป็นผู้นำโลกมืด ทั้งอำนาจและความใกล้ชิดที่ต้องทำตามกฎพันธนาการนั้น มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่ต้องเกิดสายสัมพันธ์ทั้งทางกายและทางใจขึ้น

คือให้มองเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทกันก็ได้ แต่มันต้องมีสตอรี่ปูมาก่อน และคาแรกเตอร์ของทั้งสองคนต้องเอื้อ เพราะถ้าเราอิงแบ็กกราวน์แบบปกติเข้ากับนิโคไลและวรินทร์ มันจะตีความได้แค่สองแบบครับ ไม่อัลฟอนโซ่เป็นตัวพระคู่กับฝ่ายรับคือตระกูลเหลียนที่ต้องอยู่ในเงามืดและมีกฎนี้ตราจองจำไว้ตลอดกาล ก็คืออัลฟอนโซ่เป็นตัวนางและตระกูลเหลียนต้องปกป้องเขาด้วยชีวิตแบบอัศวิน มันจะเข้าโรแมนติกพล็อตตลอดน่ะครับเพราะเนื้อหามันเอื้อจริงๆ (แต่โดยส่วนตัว พล็อตโลกมืดตรงนี้ของคุณลิตเติลพิกนี่ตรงใจผมใช้ได้เลยนะครับ มัน broaden สโคปเรื่องไปได้เยอะเลย แล้วก็สามารถสร้างนิยายเรื่องอื่นให้มาโยงต่อกับนิยายเรื่องนี้ก็ได้ด้วย สร้างเป็นจักรวาลย่อมๆได้เลย) อย่างมธุวัน ถ้าเขาเป็นน้องของนิโคไลจริงๆ เรื่องเขากับนาวินทร์ ผมว่าสตอรี่ของสองคนนี้มันถูกปูมาเรียบร้อยแล้ว เรื่องเคมีเขากับนาวินทร์คงเลิกคิดไปได้ ดังนั้นถ้าเข้ากฎนี้จริงๆ เคมีมันก็จะเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่ไม่มี romantic issue ให้เราต้องกังวลครับ เพราะมธุวันเองก็เป็นคนหัวแข็งระดับหนึ่งนะในเรื่องของคนที่เขาใส่ใจ เขาคงไม่ไปจำกัดชีวิตของนาวินทร์ที่เป็นเพื่อนเขาขนาดนั้น และนาวินทร์ก็คงเข้าใจมธุวันในระดับหนึ่ง คงไม่เข้าไปยุ่งชีวิตส่วนตัวขนาดนั้นเหมือนกัน แต่นิโคไลกับวรินทร์สิครับ ปมสองคนนี้ยังไม่แน่เลย แล้ววรินทร์ก็รูปร่างกับคาแรกเตอร์น่าสนใจซะขนาดนั้นเสียด้วย แถมยังมีเรื่องของลูกนิโคไลอีก นับว่ามีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะเลยครับ น่าสนใจมากๆ



อ่านคอมเมนท์นี้แล้วสะดุ้ง ต้องรีบกลับไปดูว่าตัวเองเผลอลงตอนต่อไปติดพ่วงมาด้วยรึเปล่าเลยทีเดียว ถามตรงปรเด็นเกินไปล้าววววว :a5:

คงบอกได้แค่ว่า รอตอนต่อไปนะคะ55555

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เด่วๆ พ่อลูกเค้าดีลกันงานแบบนี้เลยหรา 5555

ระวังสึกหนักที่รออยู่นะ

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
โอ้ยๆ ชอบคาแร็คเตอร์คุณพ่อง้อเลขามากอ่ะ ให้เป็นแม่เลยทีเดียว

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อื้อหือ ง้อ ได้น่าอิจมากอ้ะ

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
พ่อออสื่ออออด้วยนะเนี่ย
แต่สงสัยมากกก ทำไมเมฆถึงบอกเลิกหมอก วันนั้น โครตตตสงสัยยยจิงๆๆๆๆ

แล้วแม่ของเมฆ เป็นใคร ตระกูลแม่เมฆ จะเกี่ยวไรกับตระกูลหมอก ที่เป็นมิคาเอล
ต้องเป็นคู่อริกันชัวร์ เง้ออออ

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ตอนนี้น่ารักจังเลย :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ natsikijang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 540
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-4
สงสารหมอกเหลือเกิน  เมื่อไรปมจะคลี่คลาย เมฆ ความจำกลับมาบ้างแล้ว  แต่ก็ยังงงว่าเลิกหมอกทำไม ทั้งที่รักมาก

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ทำไมเราอินกับเรือผีมากกว่าเรือออฟฟิเชียลอีก  :hao7:

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
นีคือพ่อสามีกับลูกสะใภ้ง้อกันหรอบอกเลยนีลงเรือเตรียมไม้พายกับคู่นี้แล้วนะ 555

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
      คุณเชษฐ์แจ้งเกิดมากในตอนนี้เรารักนาง
หลังจากที่ไม่ชอบนางมาตลอดทั้งเรื่องของแว่นและทุกๆเรื่องที่มีนาง
       คุณเชษฐ์ให้ความรู้สึกแบบคนที่ไม่น่าคบที่สุดกับคนรักแบบน้องมีนก็ร้ายใส่ตลอดกับลูกแบบพี่น้ำอุ้นก็ทำร้ายจิตใจลูกมากๆจนลูกมีปม และกบเมฆาก็ตามเรื่องที่กล่าวในตอนก่อนหน้านี้คือทำให้ลูกมีปมจนกลายเป็นความกลัวในการที่จะมีชีวิตคู่และกับภรรยาของคุณเชษฐ์เองคุณเชษฐ์ก็สร้างแต่ความเสียใจให้
      อ่านๆมาเราเกลียดคุณเชษฐ์มากที่สุดละและงงกับบทนางในเรื่องนี้ที่สุดเพราะเรื่องก่อนๆนางมีฟิลแบบไม่ใช่คนที่จะใส่ใจใคร
แต่ตอนนี้ยอมรับว่ารักนาง555รออ่านความเป็นไปของคุณเชษฐ์ตัวละครที่ค้างคาและคาใจที่สุดค่ะ :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
เพิ่งเข้ามาอ่าน 

สนุกมาก ภาษาดีมาก ไทม์ไลน์ลำดับเรื่องน่าสนใจ   

นี่เราพลาดเรื่องนี้ไปได้ยังไง !!!

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5

[Special]หนึ่งวันของหมอคเชนทร์ 2

เขาไม่รู้ว่าเรื่องบ้าๆนี่จะดำเนินไปอีกนานเท่าไหร่


“น่านะ  ถือว่าสงสารพี่เถอะ”



“ผมไม่เข้าใจว่าผู้ชายคนนี้เขามีบุญคุณอะไรกับพี่นักหนา พี่ถึงต้องคอยรองมือรองเท้าทำทุกอย่างตามเขาสั่งแบบนี้”




คเชนทร์เอ่ยอย่างฉุนเฉียว นี่ถ้าหากระพีพัฒน์ไม่ได้เป็นรุ่นพี่ที่เขาเคารพนับถือเขาอาจจะด่าอีกฝ่ายแรงกว่านี้แล้วก็ได้ วันนี้ทั้งวันเขาต้องวิ่งโร่สอนนักศึกษาตั้งแต่เช้า ประชุมที่คณะ แล้ววาร์ปกลับมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลมาดักรอเขาด้วยตัวเองตั้งแต่อาจารย์แพทย์หนุ่มก้าวขาเข้ามาในตัวตึก




“พี่ขอโทษที่ต้องรบกวนครามนะ ถ้าพี่ทำเองได้พี่ทำไปแล้ว ขอร้องล่ะ คุณนิโคไลเขาไม่น่าจะอยู่ที่นี่เกินเดือนสองเดือนหรอก ระหว่างนี้ถือว่าช่วยพี่เถอะนะ”




แทนที่วันนี้เขาจะได้ดูแลคนไข้ที่ต้องการเขาจริงๆ คเชนทร์กลับถูกเด้งให้ไปดูแลเด็กไม่รู้จักโตที่ต้องการให้คนล้อมหน้าล้อมหลังอยู่ตลอดเวลานั่นอีกครั้ง เคยแวะไปหาอีกฝ่ายที่ห้องสองสามครั้งหลังการผ่าตัดแทนการนัดมาดูอาการที่โรงพยาบาลเพราะระพีพัฒน์ขอร้องไว้ แต่เขาก็เห็นว่าอีกฝ่ายแข็งแรงพอที่จะไม่จำเป็นต้องให้เขาไปตรวจที่ห้องแล้ว ทำไมเขาจะต้องถ่อไปที่นั่นอีก




“นะคราม เห็นแก่พี่เถอะ คนไข้พี่จะดูแลแทนให้ทั้งเวรเลย ครามดูแลคุณนิโคไลเสร็จกลับไปนอนเลยก็ได้”




ชายวัยกลางคนขอร้อง คเชนทร์ถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ แต่เขาไม่อยากจะปฎิเสธรุ่นพี่ที่อุตส่าห์ขอร้องขนาดนี้







และนั่นเป็นสาเหตุที่ร่างสูงมายืนอยู่ที่หน้าห้องพักของผู้ชายที่เขามั่นใจว่าเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียซักแก๊งซึ่งมีบอดี้การ์ดที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาดียืนรอเขากันอย่างครึกครื้นผิดปกติ



“คุณหมอมาแล้ว! He’s here!”




คุณนาวินทร์ที่ดูจะเป็นบอดี้การ์ดชาวไทยเพียงหนึ่งเดียวที่นิโคไลมีเปิดประตูตะโกนบอกด้านในด้วยท่าทีร้อนรนผิดวิสัย เช่นเดียวกับบอดี้การ์ดคนอื่นที่มีท่าทีกระสับกระส่ายผิดจากลุคนิ่งๆที่เขาเคยเห็น



“เชิญทางนี้เลยครับคุณหมอ”




นาวินทร์รีบเปิดประตูให้เขา อาจารย์แพทย์ร่างสูงก้าวตรงไปยังห้องที่เขารู้ดีว่าเป็นห้องนอนของอีกฝ่าย แต่เสียงหวาานที่ดังลอดออกมาจากห้องนั้นทำให้ชายหนุ่มชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมบิดลูกบิดประตู



“นิค ให้ผมทำให้คุณเถอะนะ”



“Shame.You look so pretty with you mouth shut.(น่าเสียดาย นายดูน่ารักกว่าตั้งเยอะตอนไม่อ้าปากพูดอะไร)”



“เชิญครับคุณหมอ”



นาวินทร์เอื้อมมือมาเปิดประตูให้เมื่อเห็นว่าคเชนทร์ไม่ยอมเปิดเสียที ภายในห้อง ร่างสูงของนิโคไลนอนแผ่อยู่บนเตียงโดยศีรษะของชายหนุ่มพาดอยู่บนตักของร่างสูงโปร่งในชุดคลุมกำมะหยี่สีม่วงสด คเชนทร์ไม่ได้ติดตามวงการบันเทิงนัก แต่เขารู้สึกว่าเคยเห็นด้วยตาสีม่วงสดและเส้นผมสีดำสนิทยาวสลวยนั้นที่ปกนิตยาสารสักฉบับในโรงพยาบาล ใบหน้าเรียวสวยที่ก้มลงมองคนที่นอนตักตัวเองอยู่ด้วยสายตาเป็นกังวลช้อนตาขึ้นมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก




“ริน ออกไปรอข้างนอก”




นิโคไลสั่ง นายแบบหนุ่มพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้อย่างระมัดระวัง ช้อนศีรษะของชายหนุ่มผมทองขึ้นแล้ววางลงบนหมอนใบโตอย่างทะนุถนอม




“ฝากด้วยนะครับ คุณหมอ”




เสียงหวานกระซิบขณะที่สวนเขาออกไปข้างนอก หากก่อนหน้านี้คเชนทร์ดูไม่ออกว่าอีกฝ่ายมาไม้ไหน ตอนนี้เขารู้แจ้งอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องใช้ตัวช่วยใด เพราะหากลูกปัดสีม่วงสดคู่นั้นสามารถฆ่าคนได้ ต่อให้หมอเทวดาก็พาเขากลับมาไม่ทันการณ์แน่นอน




มีคนรักที่น่ากลัวขนาดนี้ ผู้ชายคนนี้ยังกล้าตอดเล็กตอดน้อยเขาอีก ช่างไม่รู้จักกลัวตายจริงๆ




“หมอCrime~”




“คราม” เจ้าของชื่อแก้อย่างไม่สบอารมณ์




“เป็นอะไรมาครับ ทำไมวันนี้หน้าตาไม่สดใสเลย”คนที่นอนอยู่บนเตียงหัวเราะในลำคออย่างอ่อนเพลีย “ให้ผมตรวจภายในให้มั้ยครับ”




คเชนทร์เพียงแต่กลอกตาอย่างเบื่อหน่ายกับคำพูดสองแง่สามง่ามของอีกฝ่าย ร่างสูงในชุดกาวน์หิ้วกล่องอุปกรณ์เข้ามาใกล้คนที่นอนอยู่บนเตียง ตอนนั้นเองที่คเชนทร์สังเกตเห็นว่าแผลเก่าของร่างสูงมีเลือดซึมออกมา รวมถึงมีบาดแผลถูกของมีคมแทงเพิ่มขึ้นมาที่บริเวณหน้าท้องและต้นแขนอีกด้วย ถึงแม้ปากแผลจะดูกว้าง แต่เขาคิดว่าแผลไม่น่าจะลึกมาก ถึงอย่างนั้นคเชนทร์ยังคิดว่านี่ไม่ใช่อะไรที่ควรจะใช้แค่กล่องปฐมพยาบาลทำแผลอยู่ดี




“นี่คุณ...”




“ขอโทษนะครับหมอที่ต้องเสียเวลามาดูผม...”





คนที่ดูอ่อนเพลียกว่าปกติยังมีหน้ามาพูดแบบนี้กับเขา คเชนทร์รีบคว้าโทรศัพท์ออกมาเตรียมเรียกรถพยาบาล แต่กลับถูกคนบาดเจ็บดึงข้อมือเอาไว้เสียก่อน




“เจ็บขนาดนี้ถ้าไม่ไปโรงพยาบาลอาการคุณจะแย่เอานะ”





คเชนทร์ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจความดื้อของร่างสูง นิโคไลกระตุกยิ้มอย่างอ่อนแรง แต่ยังคงคุณสมบัติความกวนบอวัยวะเบื้องล่างไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง




“เป็นห่วงผมเหรอครับ?”




ไอ้เด็กบ้านี่!





คเชนทร์นึกอยากบีบคอคนป่วยที่เล่นไม่รู้เรื่องทั้งที่สภาพของตัวเองเป็นแบบนี้ ถึงแม้จะไกลหัวใจหรืออวัยวะสำคัญแค่ไหน แต่ถ้าไม่รีบให้การรักษาอีกฝ่ายก็ยังมีสิทธิ์ช็อคเพราะขาดเลือดได้อยู่ดี




“หมอครับ...”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “คนของผมทุกคนผ่านการเทรนมาระดับนึงแล้ว สามารถเป็น
ลูกมือหมอได้ถ้าหมอต้องการ”




“แต่อุปกรณ์....”




“ผมมีห้องผ่าตัดอยู่ข้างห้องนี้”




อะไรนะ?




คเชนทร์ถึงกับเอ๋อไปกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองได้ยินถูกหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดแล้ว ร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์เปิดประตูชะโงกหน้าออกไปเห็นลูกน้องหลายชีวิตยืนออกันอยู่หน้าห้องของเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด




“ผมขอคนที่พูดภาษาไทยได้สองคน”




ในเมื่อนิโคไลเชื่อใจว่าลูกน้องของตนสามารถช่วยเขาได้ คเชนทร์ก็ขอเลือกคนที่สามาถสื่อสารกับเขาได้แล้วกัน




นาวินทร์ก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าแปลกใจคือนายแบบหนุ่มที่เดิมทีเขาคิดว่าเป็นเพียงคนรักหรือไม่ก็คู่ขาของร่างสูงก็ก้าวออกมาด้วยเช่นกัน แต่ตอนนี้คเชนทร์ไม่มีเวลาเคลือบแคลงใจสงสัยอะไรมากนัก




“ย้ายเขาไปห้องผ่าตัดที่เขาว่าหน่อย”




เขาไม่หวังจะได้เห็นเตียงขนย้ายแบบในโรงพยาบาล แต่ยิ่งกระทบกระเทือนนิโคไลน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี นาวินทร์พยักหน้า ก่อนจะหันกลับไปสั่งให้ลูกน้องทำตามคำสั่งของนายแพทย์หนุ่ม




หลังจากเปลี่ยนชุดใน”ห้องปลอดเชื้อ”ที่เขาไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่แต่ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก ร่างสูงก็เดินตามนาวินทร์กับนาย
แบบหน้าสวยคนนั้นไป เมื่อประตูของห้องที่คเชนทร์คิดมาตลอดว่าเป็นห้องนอนสำรองเปิดออก ร่างสูงก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างกับความพร้อมสรรพของห้องผ่าตัดของร่างสูง




บางอย่างในนี้เขาไม่คิดว่าโรงพยาบาลเล็กๆจะมีด้วยซ้ำ



“ผมต้องกังวลเรื่องนั้นมั้ย?”




อาจารย์หมอหนุ่มชี้ไปที่ตู้เก็บเลือดมาตรฐานสากลที่มีถุงเลือดบรรจุอยู่ภายใน ในหัวนึกไปถึงภาพหัวหน้าแก็งมาเฟียที่จับลูกหนี้มารีดไถเลือดเก็บไว้เป็นการขัดดอก นาวินทร์ส่ายหน้า




“บอสถ่ายเลือดเก็บไว้เผื่อเวลาแบบนี้น่ะครับ ส่วนเซ็ทด้านล่างเป็นของพวกผมที่สามารถเข้ากับเลือดบอสได้ เทสต์หมดแล้วครับไม่ต้องห่วง”




คเชนทร์ถอนหายใจ แม้จะไม่อยากทำแต่เขาก็รู้ดีว่าตัวเองไม่มีทางเลือกมากนัก โดยเฉพาะกับลูกน้องเป็นสิบชีวิตที่ขัดปืนรออยู่ด้านนอก ถึงจะห่วงตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ








หลังจากการเย็บปิดปากแผลเสร็จสิ้นลงอย่างปลอดภัยโดยที่เขาไม่โดนกระสุนฝังหัว ร่างสูงในชุดกาวน์นั่งมองคนที่ตอนนี้นอนพิมพ์งานอยู่บนเตียงโดยไม่ดูสังขารของตัวเองสักนิด สิ่งเดียวที่ทำให้คเชทนร์รู้ว่าอีกฝ่ายตระหนักว่าตัวเองเพิ่งโดยเย็บแผลไปไม่รู้กี่สิบเข็มคือตอนที่นิโคไลบ่นกับลูกน้องว่าสายน้ำเกลือทำให้เขาทำงานไม่ถนัด เพราะคเชนทร์ดันเจาะมือซ้ายของชายหนุ่มด้วยความเคยชิน โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มถนัดซ้าย




“ทีนี้ก็รู้แล้วนะครับว่าทำไมเขาต้องซักประวัติก่อนทำอะไร”




คนที่ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรซักอย่างนอกจากชื่อและอายุของอีกฝ่ายเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งที่แฝงความสะใจเล็กๆอย่างห้ามไม่ได้




“ขอโทษครับ เป็นความผิดของผมเอง”




แต่คนที่ขอโทษกลับเป็นนายแบบหนุ่มที่ชื่อรินคนนั้นแทนเสียอย่างนั้น




“ช่างเถอะ ผ่านไปแล้ว” คนป่วยที่ไม่สำนึกว่าตัวเองผิดเอ่ยอย่างไม่ถือสา “เออนี่ ริน”




“ครับ?”




เจ้าของชื่อยืดตัวตรงรอรับคำสั่ง




“ทำไมคุณหมอถึงยังไม่มีน้ำหรือของว่างมาเสิร์ฟเลยล่ะ”




ร่างสูงถามเสียงเรียบ ดูจะไม่พอใจเรื่องที่คเชนทร์ไม่ได้น้ำดื่มมากกว่าเรื่องที่ตัวเองทำงานได้ไม่คล่องเสียอีก




“ผมจะไปทำให้เดี๋ยวนี้ครับ”




นาวินทร์รีบอาสา แต่เจ้านายของคนทั้งสองกลับตวัดสายตามองชายหนุ่มในชุดสูทสีดำด้วยสีหน้าไม่พอใจ




“ฉันสั่งริน”




“จริงสิครับ ผมนี่เสียมารยาท คุณหมอ ผมจะไปเตรียมของว่างให้นะครับ”




ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมยาวกรอมเท้าย่อตัวลงทำความเคารพชายหนุ่มบนเตียงอย่างชดช้อยสวยงาม ถึงแม้ใบหน้าสวยหวานจะมึนตึงเสียจนคเชนทร์รู้สึกได้ เช่นเดียวกับนาวินทร์ที่มีสีหน้าประหลาดใจอย่างปิดไม่มิด




“ไม่ต้องลำบากหรอก ยังไงผมก็ว่าจะกลับ...”



“ถ้ายังไง คืนนี้รบกวนคุณหมออยู่ดูอาการผมที่นี่ได้มั้ยครับ”




นิโคไลเอ่ยแทรกขึ้นก่อนเขาจะพูดจบ คเชนทร์ต้องควบคุมตัวเองไม่ให้กลอกตาไปมาอย่างเหลืออด ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่อาการของร่างสูงไม่ได้น่าเป็นห่วงถึงขั้นปล่อยไว้ไม่ได้ และเขารู้ว่าอีกฝ่ายก็รู้ดี




ช่างเถอะ เขาไม่ได้มีธุระจะต้องรีบไปไหนอยู่แล้วนี่



“ของว่างครับ”




เสียงของคนที่ออกไปเอาของว่างตอนไหนก็ไม่รู้ดังขึ้น วรินทร์วางจานไดฟุกุหน้าตาน่ารับประทานลงข้างๆชาร้อนบนโต๊ะข้างเขา ถึงแม้ขนมตรงหน้าจะดูน่าทานเพียงใด แต่สัญชาตญาณของคเชนทร์บอกให้เขาอยู่ห่างจากขนมจานนั้นให้มากที่สุดเท่า
ที่จะทำได้




“ถ้าอย่างนั้นผมลงไปหาข้าวเย็นกินเลยดีกว่า ผมไม่ค่อยค่อยชอบกินจุบจิบเท่าไหร่”




ชายหนุ่มในชุดกาวน์อ้างพร้อมลุกขึ้น




“ถ้าอย่างนั้นพาคนของผมลงไปด้วยซักคนนะครับ” นิโคไลยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นไม่ใช่รอยยิ้มออดอ้อนอวัยวะเบื้องล่างที่เขาเคยชินแต่อย่างใด “ผมเป็นห่วง”





“เชิญครับคุณหมอ”




ทั้งนาวินทร์และวรินทร์ลุกขึ้นพร้อมกัน คเชนทร์เดินนำทั้งสองออกมาจากห้องนอนของนิโคไล ชายในชุดสูทสองคนเดินเข้าไปแทนที่คนที่ออกมาทันทีโดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนคำพูดใดๆ





ก่อนที่อาจารย์แพทย์หนุ่มจะเดินออกไปจากห้อง ร่างสูงหันกลับมาหาชายหนุ่มทั้งสองที่เดินตามเขาเงียบๆเยี่ยงเงาตามตัว





“แค่คุณนาวินทร์คนเดียวก็พอครับ”





“ทำไมครับ? มีผมไปด้วยไม่ดีตรงไหนเหรอครับ?”





ดวงตาสีม่วงสดจ้องเขาอย่างแข็งกร้าวโดยไม่คิดจะปิดบัง ถึงแม้รอยยิ้มหวานนั้นไม่เคยละไปจากใบหน้างาม ราวกับว่ามันเป็นตราประทับที่ไม่สามารถแกะออกมาได้





แต่คนอย่างคเชนทร์ไม่ใช่คนที่จะยอมให้ใครใช้สายตาข่มแล้วจะหงอหนีไป เขาไม่ได้อยู่มาจนอายุเท่านี้โดยไม่ทำให้ใครเหม็นขี้หน้า




“พูดตรงๆนะครับ...ผมไม่วางใจความปลอดภัยของผมกับคนที่ทำหน้าเหมือนอยากจะเชือดคอผมตลอดเวลาเท่าไหร่”





คเชนทร์ตอบตามตรง เรียกเสียงหัวเราะในลำคอจากคนฟังได้เป็นอย่างดี




“เก่งจริงๆครับคุณหมอ” วรินทร์ชมด้วยสีหน้าตรงข้ามกับทุกสิ่งที่พูดอย่างสิ้นเชิง “แต่คงฉลาดกว่านี้ถ้าคุณไม่พูดสิ่งที่คิดกับคนที่คุณไม่รู้กำลังแบบนี้”




“เหรอครับ....”คเชนทร์ลากเสียง ไอ้เด็กนี่ชักจะเริ่มทำให้เขารู้สึกไม่สบอารมณ์เสียแล้ว“ถ้าคุณเก่งนัก ทำไมถึงยังต้องวิ่งโร่
เอาน้ำชามาเสิร์ฟให้ผมอยู่ล่ะ?”




ชายหนุ่มไม่รอคำตอบเดินออกจากห้องไปโดยมีนาวินทร์รีบกุลีกุจอเดินตามมาไม่ห่าง ถามว่าเขากลัวมั้ยที่ไปปีนเกลยวลูกน้องมาเฟียแบบนั้ ก็นิดหน่อย แต่ถ้าคนหัวหน้ายังไม่กล้าทำอะไรเขา คเชนทร์ก็ไม่เห็นเหตุผลที่ตัวเองจะต้องตกเป็นเป้านิ่ง
ให้วรินทร์เล่นงาน





“ขอโทษแทนคุณวรินทร์ด้วยนะครับ ปกติเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอกครับ”





นาวินทร์กล่าวขอโทษขอโพยแทนคนที่เสียมารยาทกับแขกของบอสอย่างผิดวิสัย ปกติวรินทร์เป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีกว่านี้ แต่ครั้งนี้เขาก็เข้าใจพี่ชายด้วยส่วนหนึ่ง เพราะหลังจากที่ถูกแทง บอสก็ปฎิเสธไม่ยอมให้ใครแตะต้องแม้แต่วรินทร์ที่มักจะได้รับความไว้วางใจให้ดูแลชายหนุ่มในทุกเรื่อง จะรอคุณหมอคเชนทร์มาเย็บแผลให้ท่าเดียว แถมยังไม่ยอมให้พวกเขาบอกคุณหมอระพีพัฒน์ด้วยว่าตัวเองเป็นอะไร นาวินทร์จึงทำได้แค่ขอร้องให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเกลี้ยกล่อมคุณหมอคเชนทร์ให้มาที่นี่ให้เร็วที่สุด นี่ยังถือว่าเป็นโชคดีของพวกเขาที่นิโคไลไม่ได้เสียเลือดจนเข้าภาวะช็อกไปเสียก่อน แต่ด้วยเหตุนี้สำหรับวรินทร์ คเชนทร์ในตอนนี้ถูกมองว่าเป็นอุปสรรคด้านความปลอดภัยของบอส และในสายตาของเงาคนนั้น คุณหมอจึงกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ไม่อาจปล่อยให้หลุดลอดสายตาไปได้





“ผมไม่ถือหรอกครับ เขาคงเป็นห่วงบอสของคุณมาก”




คเชนทร์เอ่ยอย่างเข้าใจ เขาต้องรับมือกับอารมณ์ของญาติผู้ป่วยที่กังวลว่าจะสูญเสียคนสำคัญของตัวเองไปอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เขาก็พอจะเห็นอกเห็นใจวรินทร์อยู่บ้างที่มีคนรักงี่เง่าแบบนั้น แต่ถึงกระนั้นท่าทีปรปักษ์อย่างเปิดเผยของคนอายุน้อยกว่าก็ทำให้เขาแอบหงุหงิดเล็กๆไม่ได้




“ครับ จะว่าอย่างนั้นก็ได้”




นาวินทร์ตอบยิ้มๆ ถึงแม้เขาจะค่อนข้างมั่นใจว่าที่พี่ชายของเขาดูจะไม่ชอบหน้าคนหมอมากกว่าเดิมน่าจะเป็นเพราะโดนใช้ให้ไปเอาของว่างมาให้อีกฝ่ายมากกว่า




เพราะขนาดภรรยาคนแรก หรือแม้แต่เอเดรียน ลูกชายแท้ๆของนิโคไลยังไม่เคยได้รับเกียรตินั้นเลยด้วยซ้ำ





คเชนทร์กวาดสายตาผ่านชั้นวางอาหารแช่แข็งที่วางเรียงกันเป็นตับลวกๆเพื่อหาของที่อยากกิน ถึงแม้เขาจะเป็นหมอและต้องบอกคนไข้อยู่เสมอให้ดุแลสุขภาพและทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่เขามักจะยึดอาหารสำเร็จรูปและเครื่องดื่มน้ำตาลสูงต่างๆเป็นที่พึ่งทางพลังงานเสมอเนื่องจากความเร็วและสะดวกของพวกมัน





“ไม่ต้องถือตะกร้าให้ผมก็ได้”





เขาหันไปบอกร่างสูงในชุดสูทที่เดินถือตะกร้าตามเขาต้อยๆจนคนมองกันเป็นแถบแล้ว แต่นาวินทร์ยังคงส่ายหน้า





“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”





คเชนทร์ขี้เกียจเถียงกับคนอายุน้อยกว่า จึงหยิบอาหารแช่แข็งไปเวฟโดยไม่คิดจะใส่ลงในตะกร้านั้น แล้วเดินไปหยิบน้ำหวานจากตู้แช่เย็น ก่อนจะนึกขึ้นได้




“วันนี้ให้คนไข้ทานอาหารอ่อนๆจืดๆก่อนนะ”




“ครับ เดี๋ยวผมจะให้เชฟของโรงแรมจัดการให้”




นาวินทร์รีบรับคำ หยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมต่อสายตรงหาห้องอาหาร





“แค่ข้าวต้มเปล่ากับไข่ตุ๋น ผัดผัก แล้วก็ผลไม้ คงไม่ต้องให้เชฟดูแลหรอกมั้ง?”





อาหารพื้นๆแค่นี้คนเราจะต้องให้เชฟโรงแรมจัดการให้เลยเหรอ? ครัวก็มีไม่ใช่รึไง?





ถึงจะไม่ใช่เงินของเขา แต่คเชนทร์ก็อดรู้สึกเสียดายไม่ได้ที่มันจะต้องเสียเปล่าไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง





“คือ…นอกจากคุณวรินทร์ พวกผมไม่มีใครทำอาหารเป็นเลยครับ แล้วเขาก็คงกลับไปแล้วด้วย”





บอดี้การ์ดหนุ่มสารภาพอายๆ คนเดียวที่ทำกับข้าวได้จริงๆในทีมของพวกเขาคือนิกิต้า แต่ถึงกระนั้นก็เป็นแค่ระดับที่สามารถเจียวไข่ได้ทอดไก่เป็นอะไรแนวๆนี้แค่นั้น




“…ตามที่พวกคุณสะดวกแล้วกัน”




อาจารย์แพทย์ควักกระเป๋าเงินออกมาจ่ายค่าอาหารของตนโดยไม่หันกลับไปหาบอดี้การ์ดหนุ่ม




เมื่อกี้...เขาเกือบจะเสนอตัวทำกับข้าวให้ไอ้เด็กบ้านั่นไปแล้ว




คเชนทร์ทำอาหารเป็นอยู่บ้าง เพียงแต่เขาไม่มีเวลาทำเท่านั้น และเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงคิดจะทำกับข้าวให้ไอ้เด็กกปากเสียที่ชอบลูบชอบคลำ แตะนู่นแตะนี่เขาตลอดเวลาทุกครั้งที่มาตรวจด้วย ทั้งๆที่ตัวเขาเองยังกินอาหารแช่แข็งอยู่
เลย





คงเพราะอีกฝ่ายเป็นคนป่วยล่ะมั้ง




“เอ่อ พรุ่งนี้คุณหมอจะให้พวกผมหาเสื้อผ้าให้ หรือจะให้ไปส่งคุณหมอที่ห้องตอนเช้าดีครับ?”




นาวินทร์เพิ่งวางสายจากการจัดการเรื่องอาหารการกินของบอสตัวเองเสร็จหันมาถามเขา คเชนทร์ส่ายหน้า




“ผมมีชุดสำรองในรถ พรุ่งนี้ผมจะตรงไปโรงพยาบาลเลย”




“ถ้าอย่างนั้นให้พวกผมขับไปส่งมั้ยครับ จะได้ไม่ง่วง”




“ผมไม่ไว้ใจฝากชีวิตของตัวเองไว้กับฝีมือการขับรถของคนอื่นหรอกนะ”




“แต่บอสสั่งว่า...”




“ที่ผมมาช่วยดูอาการบอสของพวกคุณครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองเป็นเพราะผมเกรงใจพี่พี่ที่จะต้องรับแรงกดดันจากพวกคุณหรอกนะ” คเชนทร์เอ่ยขัดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “เพราะฉะนั้นอย่ามาทำเหมือนผมเป็นอีหนูเด็กเก็บของบอสของคุณที่คุณจะต้องมาดูแลปกป้อง ถ้าจะมีใครทำอะไรผม ผมคงตายไปตั้งแต่มาดูอาการบอสของคุณครั้งแรกแล้ว เพราะฉะนั้น กรุณาเลิกยุ่งกับชีวิตของผมมากกว่าที่ทำอยู่ในตอนนี้จะเป็นพระคุณมาก ไม่อย่างนั้นผมรับรองได้ว่าบอสของคุณจะไม่เห็นหน้าผมอีก”




“ครับ ต้องขอโทษจริงๆครับ”นาวินทร์ก้มศีรษะให้เขาอย่างขอโทษขอโพย





คเชนทร์ได้แต่หวังว่าคืนนี้จะจบลงโดยเร็ว เขาอยากจะกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวที่ควรจะอยู่แต่ในนิยายหรือละครบู๊ที่เหล่าพยาบาลในวอร์ดติดกันงอมแงมเท่านั้นเต็มแก่แล้ว





“ไม่กิน”





บางทีเขาก็อยากจะรู้นักว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงเป็นบอสของแก๊งอิทธิพลอำนาจมืดในอิตาลีจริงๆ หรือเป็นเพื่อนเด็กวัยรุ่นที่ติดอยู่ในร่างของผู้ใหญ่วัยสามสิบปีกันแน่




“บอสครับ ทานหน่อยเถอะนะครับจะได้ทานยา”




“ไม่หิว”



บทสนทนาของนาวินทร์กับนิโคไลที่ดังลอดออกมาจากห้องนอนกว่าครึ่งชั่วโมงแล้วทำให้คเชนทร์นั่งทำงานอยู่กับบอดี้การ์ดคนอื่นของคนป่วยได้แต่ส่ายหน้าด้วยความสงสารกึ่งสมเพชเวทนาบอดี้การ์ดหนุ่ม




“He won’t(เขาไม่ทำหรอก)”




จู่ๆเสียงของนิกิต้าที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวถัดจากเขาก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย คเชนทร์เงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์ของตน ไม่มั่นใจว่าชายหนุ่มเจ้าของแผลเป็นขนาดใหญ่บนใบหน้านั้นกำลังพูดถึงใคร




“He won’t eat his dinner unless his work is done. Let alone all those meds.(เขาจะไม่กินข้าวถ้ายังทำงานไม่เสร็จ ไม่ต้องพูดถึงยาเลย)”




นิกิต้าขยายความเสียงเรียบ แต่คเชนทร์ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเขาอยู่




“You know being Young master’s favorite won’t save you from a bullet. Right?(นายรู้ใช้มั้ยว่าการเป็นคนโปรดของนายน้อยไม่ได้ช่วยให้นายไม่โดนเก็บน่ะ)”




ทาริน บอดี้การ์ดอีกคนที่เขาจำได้เพราะเป็นคนเดียวที่ดูจะอายุพอๆกับเขาเอ่ยขึ้น




“Better me than him.(ฉันตายก็ดีกว่าเขาตาย)”




นิกิต้าว่า คเชนทร์ไม่อยากยุ่งกับนิโคไลมากเกินความจำเป็น แต่เขาก็ไม่อาจปล่อยให้คนไข้ไม่ทานยาทั้งที่รู้อยู่แก่ใจไม่ได้





“บอสครับ....”




“บอกว่าไม่กิน”




นิโคไลยังคงง่วนอยู่กับจอคอม อันที่จริงเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายกำลังพูดว่าอะไร คำว่าไม่กินนั้นเป็นเพียงแค่คำตอบอัติโนมัติที่ออกจากปากเขาขณะที่กำลังจดจ่อกับงานตรงหน้าอยู่ก็เท่านั้น




หึ...คิดว่าทำงานแบบเขาไม่ต้องมีเอกสารงั้นสิ?




หากเหล่าแฟนคลับหนังมาเฟียได้มาเห็นจริงๆว่าวันคืนส่วนใหญ่ของเขาหมดไปกับงานเอกสารและการติดต่อธุรกิจ คงจะฝันสลายกันเป็นแถว




“คุณ…”




“ไม่กิน”




พึ่บ!




หน้าจอคอมของเขาถูกดันให้ปิดลง นิโคไลเงยหน้าขึ้นมองคนที่บังอาจรบกวนเวลาเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่นาวินทร์อย่างที่เขาคิด



“จะกินดีๆหรือจะให้ผมสอดท่อลงกระเพาะคุณ?”




คเชนทร์ถาม สีหน้าของอีกฝ่ายไม่มีเค้าของการล้อเล่นสักนิด




“แล้วถ้าผมยอมกินคุณหมอจะยอมป้อนผมมั้ยครับ?”




แต่ผิดคาด แทนที่หมอคเชนทร์จะตอกกลับมาอย่างทุกที ร่างสูงกลับยกถาดขึ้นมาวางบนโต๊ะเล็กบนเตียง แล้วเริ่มต้นตักอาหารขึ้นมา




อุ่ก!





ช้อนอาหารถูกจับยัดเข้าปากของคนป่วยเรื่องมากอย่างไม่ปราณี คเชนทร์ตอบโต้ศีลธรรมในใจที่กำลังด่าเขายังโคตรเหง้าว่าที่เขาทำเพื่อให้อีกฝ่ายกินยาได้ ไม่ถือว่าเป็นการทำร้ายคนไข้แต่อย่างใด





แต่นอกจากคนตรงหน้าจะไม่โกรธเขาแล้ว อีกฝ่ายยังยกยิ้มกวนโอ๊ยให้เขาทันทีที่คุณหมอดึงช้อนออกจากปากของตน





“ชอบลึกๆก็ไม่บอก ผมก็ชอบนะครับ”




ถ้าเขากระทืบคนไข้เพื่อไล่อาหารให้ลงคอเร็วขึ้น นั่นก็ยังถือเป็นการช่วยคนไข้อยู่ใช่มั้ย?




นาวินทร์ได้แต่นั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่าตัวเองควรจะเข้าไปห้ามดีมั้ย แต่อย่างน้อยที่สุดผลลัพธ์ที่ออกมาคือการที่บอสของเขายอมทานอาหารจากฝีมือการป้อนอัน...นิ่มนวล(?)ของคุณหมอคเชนทร์ และยอมกินยาตามในที่สุดล่ะนะ





--------

สอบเสร็จล้าววววววววววววว :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
ตกแน่ๆ555555 แต่ไม่เป็นไร แวะมาอัพก่อนละกัน555555


ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3

ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 มันนิ่มนวลตรงไหนกัน

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชอบบบบบ หมอน่ารัก :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด