[จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]Your Stranger รัก||ไม่||ลืม ตอนพิเศษ คห.1998 P.67 (13/3/63)  (อ่าน 554617 ครั้ง)

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
นางร้ายนะคะ หัวหน้า !!!

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
ถ้าจำได้คงต้องอธิบายกันยาว

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
มาเร็วๆนะติดแง่มเลย

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
ติดใจตรงหนีอดีต คืออะไร งง งง งง งง งงไปหมด แต่เมฆหมอกคงไม่ได้เป็นพี่น้องกันเพราะไม่มีเด็กคนละพ่อที่ไหนเกิดได้ในปีเดียวกันหรอก หรือว่าใช่วะ งงต่อไป ปูทางอิตาลีจนคิดว่าฝั่งนู้นเป็นตัวเอกแทนเมฆล่ะ 

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
นี่ขนาดยังจำไม่ได้นะเมฆ ลวนลามเขาซะ  :hao7:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
นี่ถ้าไรท์ไม่บอกว่าเมฆาเป็นพรัเอกยังคิดว่าเป็นตัวโกงไปแล้วนะเนี่ย

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
Chapter 16: [Then] ครั้งแรก


หลังจากวันนั้นมธุวันก็ดูมึนตึงกับเขาจนเมฆาไม่รู้ว่าควรจะคุยกับอีกฝ่ายตอนไหน



ไม่ใช่ว่าร่างโปร่งกำลังโกรธเขา เพราะทุกครั้งที่เมฆาเข้ามากอดหรือหอม อีกฝ่ายก็ไม่ได้บ่ายเบี่ยง ซ้ำยังจูบตอบเขาอย่างเต็มใจ แต่นอกจากนั้น เขารู้สึกว่าเหมือนมธุวันกำลังหลบหน้าเขาอยู่กลายๆ ทั้งที่อีกฝ่ายก็ไม่ได้หายหน้าไปไหน




นี่เราคิดมากไปเองรึเปล่านะ




“วันนี้เมฆซื้อไข่ลูกเขยมาด้วยนะ เห็นเมื่อวานบ่นอยากกินใช่มั้ย เดี๋ยวเมฆควักไข่แดงออกให้”




เมฆาโอบเอวของร่างโปร่งที่กำลังหยิบจานออกมาจากตู้เพื่อเตรียมจัดโต๊ะ กดจมูกหอมฟอดใหญ่ที่แก้มเนียนนุ่มของคนรักอย่างคิดถึง วันนี้มธุวันไม่มีเรียน ทำให้เขาต้องทนเหงาคิดถึงคนที่อยู่ที่ห้องทั้งวัน




“ขอบใจนะ”




มธุวันยิ้ม รับถุงกับข้าวสองสามอย่างมาจากคนรักแล้วเริ่มแกะเทใส่ถ้วย ส่วนเมฆาก็คดข้าวจากหม้อหุงมาวางบนโต๊ะทานข้าวอย่างรู้งาน ถึงแม้จะเป็นกิจวัตรประจำวันของคนปกติ แต่สำหรับเมฆาที่บิดาและมารดาแทบไม่เคยได้ทานข้าวด้วยกัน และมธุวันที่ป้าและยายต้องทำงานตลอดเวลา การได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่คนทั้งคู่ตั้งหน้าตั้งตาคอย
อย่างน้อยมันก็เคยเป็นน่ะนะ




“กินเยอะๆนะ หมอกผอมลงเยอะเลยนะรู้มั้ย”




เมฆาตักกับข้าวให้คนรักอย่างเอาอกเอาใจ ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเมฆากลายเป็นฝ่ายที่พูดมากกว่าเมื่อเขาเห็นว่ามธุวันมักจะทำหน้าเหมือนมีอะไรในใจเสมอ





“พอแล้วเมฆ หมอกกินไม่ไหว”




มธุวันปราม ช่วงนี้เขารู้สึกอิ่มตื้อๆเลยทานอะไรไม่ค่อยลงเท่าไหร่




“เป็นอะไรรึเปล่า ไปหาหมอมั้ย?”




เมฆาถามด้วยความเป็นห่วง มธุวันส่ายหน้า




“หมอกไม่เป็นไรหรอก แค่เพลียๆน่ะ”




“งั้นหมอกไปพักผ่อนนะ เดี๋ยวเมฆเก็บโต๊ะให้”




เมฆาอาสา เขาเป็นห่วงมธุวันมากจริงๆ ถึงแม้อีกฝ่ายจะทำเหมือนทุกอย่างยังเป็นปกติ แต่รอยคล้ำจางๆใต้ตาและดวงหน้าอิดโรย รวมถึงพฤติกรรไม่อยากอาหารของอีกฝ่ายบอกชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ซึ่งเมฆารู้ว่าเป็นเพราะเรื่องในคืนที่เขาหายไปโดยไม่บอกกล่าว




จะโดนโกรธก็สมควรแล้ว




ร่างสูงคว่ำแก้วใบสุดท้ายแล้วถอดผ้ากันเปื้อนออกแขวนไว้ที่ห่วงจับรูปดอกซากุระที่มธุวันซื้อมาแปะไว้ ตัวตนของอีกฝ่ายที่ปรากฎมากขึ้นเรื่อยๆในห้องที่เคยเป็นเพียงของร่างสูงไม่เพียงแต่ทำให้เขาหัวใจพองโตจนคับอก แต่ยังตอกย้ำให้เมฆารู้ว่าเขาโชคดีแค่ไหนที่มีมธุวันไหนชีวิต




และเขาจะไม่ยอมให้เรื่องงี่เง่าอย่างความกลัวของของเขามาทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาสั่นคลอนแน่





“หมอก! เมฆมีเรื่องจะคุย...ด้วย....”




ร่างโปร่งของคนรักเดินออกมาจากห้องน้ำโดยมีเพียงผ้าขนหนูผืนเล็กพันรอบเอว คำพูดที่เตรียมไว้ถูกกลืนหายลงไปในลำคอ เมฆาอ้าปากค้างมองร่างขาวเนียนที่เขาเฝ้าฝันถึงแทบทุกเวลาที่ยืนอยู่ตรงหน้า ฝ่ายมธุวันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรเมื่อคนรักโผล่พรวดเข้ามาในห้องนอนโดยไม่บอกกล่าว




“ขอ…ขอโทษนะ เมฆไปรอข้างนอก...”




“ไม่เป็นไรหรอกเมฆ เราผิดเองแหละที่ไม่แต่งตัวออกมาจากห้องน้ำให้เรียบร้อย”





มธุวันเอ่ยเสียงเรียบ คำใช้เรียกแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปทำให้เมฆารู้สึกโหวงๆในอก มธุวันเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบชุดนอนของตัวเองออกมา




หมับ!




“หมอกครับ เมฆขอโทษ”




อ้อมกอดอุ่นของร่างสูงโอบรัดเอวบางไว้จากด้านหลังแน่น มธุวันนิ่งค้างอย่างตกใจกับการกระทำของร่างสูง รวมถึงคำขอโทษของอีกฝ่าย




ขอโทษนะ...เมฆคบกับหมอกไม่ได้จริงๆ




ขอโทษนะ...แต่แค่เห็นร่างกายของหมอก เมฆก็ทำอะไรไม่ลงแล้ว




เหตุผลต่างๆนานาในการขอโทษของอีกฝ่ายแล่นเข้ามาในหัวอย่างไม่หยุดยั้ง





“ไม่หรอก...เราต่างหากที่ต้องขอโทษ”





มธุวันเอ่ยขึ้น ไม่ยอมหันกลับไปหาอีกฝ่าย บอกตัวเองว่าอย่าอ่อนแอ อย่าร้องไห้ให้เมฆต้องลำบากใจ ร่างโปร่งรู้สึกถึงอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้น ราวกับกลัวว่าหากคลายอ้อมกอดลง เขาจะหายไปจากตรงนี้




“หมอก...”




“เรา…เราเข้าใจนะ” เสียงหวานที่สั่นเครือทรยศความตั้งใจของร่างโปร่ง มธุวันพยายามกลั้นก้อนสะอื้นที่จุกอยู่ในลำคออย่างยากลำบาก “ของแบบนี้ถ้าไม่ชอบ...ก็ทำไม่ลงหรอกเนอะ”




“หมอก พูดเรื่องอะไรน่ะ?”




เมฆาขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจคำพูดที่ออกมาจากปากของคนรัก




“ถ้าเมฆ...ถ้าเมฆอยากทำเรื่องแบบนั้นกับคนอื่น เราก็โอเคนะ เรา..เราไม่ถือ”




มธุวันพยายามทำเสียงให้สดใสที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งที่เขาไม่โอเคเลยสักนิด ร่างโปร่งยกมือขึ้นกอดตัวเอง เขาไม่อยากให้เมฆาไปมีคนอื่น แต่ถ้าหากว่านั่นเป็นทางเลือกที่จะทำให้เมฆายังอยู่ตรงนี้ เขาก็จะทำใจยอมรับมัน




“ฮึก…ขอโทษนะ ที่เราไม่ดีพอ...อ๊ะ!”





เด็กหนุ่มร้องขึ้นเมื่อร่างสูงที่กอดเขาไว้เหวี่ยงเขาลงบนเตียงด้วยแรงที่ไม่เบานัก ผ้าขนหนูผืนเล็กที่ผูกไว้รอบเอวคลุมพื้นที่ส่วนตัวของเขาไว้อย่างหมิ่นเหม่ มธุวันเงยหน้ามองคนที่คร่อมร่างของเขาไว้อย่างไม่เข้าใจ แต่ดวงตาสีควันบุหรี่ที่คุกรุ่นไปด้วงแรงโทสะของร่างสูงทำให้ร่างที่นอนอยู่ข้างใต้หุบปากฉับ





“โอเคงั้นเหรอ?”




เสียงทุ้มดังขึ้นลอดไรฟัน เมฆากัฟันกรอดจนสันกรามที่คมอยู่แล้วเด่นเป็นสันขึ้นอีก มธุวันรับรู้ได้ถึงความโกรธของร่างสูงอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน ร่างโปร่งที่เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมายกมือขึ้นพยายามดันร่างของอีกฝ่ายออก แต่แขนเรียวทั้งสองข้างถูกรวบขึ้นตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว




“เมฆ…อุ๊บ...”




ริมฝีปากได้รูปบดขยี้ลงมา ดูดกลืนคำพูดอะไรก็ตามที่คนใต้ร่างพยายามจะพูด มธุวันพยายามจะร้องประท้วง แต่กลับกลายเป็นการเปิดทางให้ลิ้นร้อนรุกรานเข้ามาราวกับอสรพิษร้ายที่จ้องจะกลืนกินเหยื่อให้หมดภายในคำเดียว




“อื้อ...อือ...”





มธุวันเริ่มรู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบดื่มด่ำที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับ รวมถึงมือใหญ่ที่หยาบกร้านจากการยิงปืนและแข่งรถเป็นประจำนวดคลึงสะโพกกลมกลึง กระตุกผ้าขนหนูผืนเล็กโยนทิ้งลงบนพื้นอย่างไม่ใยดี เมื่อเห็นว่าคนรักเริ่มโอนอ่อนกับสัมผัสของเขา เมฆาจึงปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระ เชยคางมนขึ้นรับจูบที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดพันกับลิ้นเรียวที่พยายามจูบตอบอย่างเงอะงะ ก่อนที่ร่างสูงจะถอนริมฝีปากออก แล้วฝังเขี้ยวลงบนซอกคอขาว




“โอ๊ย!”





ร่างโปร่งร้องออกมาเบาๆ แต่คราวนี้เมฆาไม่คิดจะหยุด ร่างสูงจุมพิตลงบนรอยกัดที่เป็นปื้นแดงบนผิวเนื้อขาวเนียน ลิ้นร้อนลากไปตามรอยแดง ชิ้มความหวานของผิวเนื้อที่ไม่มีใครเคยแตะต้อง




“เมฆจะนอนกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”





“อ๊ะ..เมฆ...”





ติ่งหูเย็นถูกฟันคมๆขบ เมฆางับเบาๆที่ใบหูบาง มธุวันผวากอดคนรักเมื่อลิ้นร้อนสอดเข้ามาหยอกล้อในหู ขนอ่อนทั้งร่างลุกเกรียวอย่างห้ามไม่อยู่




“ทำไมหมอกถึงยอมให้เมฆทำกับใครก็ได้ล่ะ”




มธุวันรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงของคนรัก เมฆาซุกหน้าลงกับซอกคอขาว พึมพำเสียงสั่น





“เมฆไม่มีวันยอมให้ใครมาแตะต้องหมอก”





“เมฆ…”





“หมอกไม่รักเมฆถึงขนาดไม่สนเลยเหรอว่าเมฆจะได้กับใคร”





“มะ…ไม่ใช่อย่างนั้นนะเมฆ โอ๊ย!”




คนถึงเข้าใจผิดรีบขัดขึ้น แต่กลับถูกเขี้ยวคมๆของร่างสูงงับลงบนหัวไหล่ก่อนจะได้พูดอะไร




“ถ้าเมฆทำกับใครก็ได้ เมฆทำกับหมอกก็ได้ใช่มั้ย”





เมฆาถาม ไม่รอคำตอบของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มร่างสูงทาบทับริมฝีปากลงบนแอ่งชีพจรบนลำคอของคนรัก มธุวันครางออกมาเบาๆเมื่อลิ้นร้อนลากลงมาตามลำคอของเขาอย่างเชื่องช้า สติเริ่มถูกครอบงำด้วยความรู้สึกที่ถูกร่างสูงปลุกปั่น ร่างเปลือยเปล่าแอ่นกายขึ้นรับสัมผัสเมื่อริมฝีปากอุ่นครอบครองเม็ดทับทิมสีสดล่อตาล่อใจ มืออีกข้างสะกิดเขี่ยหยอกเย้าเม็ดทับทิมอีกข้างจนเริ่มชูชันขึ้นรับสัมผัส มธุวันยกมือขึ้นปิดริมฝีปากที่ส่งเสียงแปลกๆออกมาไม่หยุดของตัวเอง แต่กลับถูกคนรักดึงออก





“เรียกชื่อเมฆสิครับหมอก...”





“เมฆ..เมฆ...อ๊ะ....”





มธุวันสะดุ้งเฮือกเมื่อริมฝีปากของร่างสูงขยับลงไปไกลกว่าเดิมมาก เลยไปจนถึงจุดที่มธุวันไม่เคยคิดว่าจะมีคนแตะต้องนอกจากตัวเอง ร่างโปร่งที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองไม่มีอาภรณ์ติดกายสักชิ้นหน้าแดงก่ำ ขยุ้มเส้นผมสีดำสนิทเพื่อดึงอีกฝ่ายออกจากพฤติกรรมหน้าอายที่กำลังทำให้เขาปั่นป่วนไปหมด แต่นิ้วเรียวยาวที่เย็นเยียบจากของเหลวลื่นๆที่เคลือบอยู่ซึ่งค่อยๆแทรกเข้ามาทางด้านหลังทำให้สะโพกของเขาขยับหนีเข้าไปในโพรงปากอุ่นของคนรักอย่างช่วยไม่ได้ มธุวันขยุ้มกลุ่มผมหนาสีดำสนิทเพื่อระบายอารมณ์ที่ปะทุในอก ลืมไปสนิทว่าเมื่อครู่ตนกำลังจะทำอะไร




“รักเมฆมั้ยครับ?”





ร่างสูงถอดริมฝีปากออก เงยหน้าขึ้นถามร่างนอนหอบหายใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ มธุวันพยักหน้า ร้องครางออกมาเมื่อนิ้วเรียวยาวเริ่มหมุนควงสำรวจเส้นทางภายใน




“อะไรนะครับ? เมฆไม่ได้ยิน”





ดวงตาสีควันบุหรี่เข้มขึ้นด้วยแรงอารมณ์ เมฆาในตอนนี้ใช้เพียงราคะเป็นตัวนำในการบำเรอรักในกับร่างที่บิดเร่าอย่างทรมานตรงหน้า





“รัก..อึ่ก.. หมอก...รักเมฆ...”





ร่างโปร่งตอบอย่างยากลำบาก ลมหายใจกระตุกจากจังหวะที่นิ้วเรียวยาวของร่างสูงกำลังบรรเลงอย่างร้อนแรง





“จะพูดว่าจะให้เมฆไปนอนกับคนอื่นอีกมั้ยครับ?”





เมฆางอนิ้วครูดกับผนังอ่อนนุ่มเบาๆ มธุวันขยับรับสัมผัสตามสัญชาตญาณ ดวงตาสีเทาฟ้าปกคลุมไปด้วยม่านหมอกแห่งราคะ สะโพกกลมขยับตามจังหวะที่ร่างสูงกำหนดราวกับหุ่นเชิดที่ไร้ความคิด





“มะ...ไม่..อ๊า!”





เมฆากระตุกยิ้มมุมปาก เพิ่มนิ้วเพื่อขยายช่องทางคับแคบ มองใบหน้าสวยหวานที่เหยเกอย่างห้ามไม่อยู่ แต่กลับดูน่ากินเสียจนเขาแทบทนไม่ไหว




“เมฆ..ฮึก...รัก..หมอกรักเมฆ...”




เสียงหวานพึมพำ คำที่อยากได้ยินทำให้เมฆาตัดสินใจผละออกจากร่างที่อ่อนยวบไร้เรี่ยวแรงบนเตียง แล้วถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เป็นกล้ามเนื้อสมส่วนจากการออกกำลังกายที่ไม่ว่าผู้ชายคนไหนเห็นก็ต้องอิจฉา ก่อนจะจัดการกับปราการด่านต่างๆของตัวเองอย่างรวดเร็ว




“เมฆขอนะ”




ความเจ็บปวดในคราแรกทำให้ภาพรอบตัวมืดดำไปชั่วขณะ ก่อนที่แรงกระแทกกระทั้นเสียดสีกับจุดที่เขาต้องการจะทำให้ร่างโปร่งโอบกอดอีกฝ่ายไว้แน่น จิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูง ใบหน้าเรียวเชิดขึ้นร้เสียงครางหวานดังระงมไปทั่วห้องคลอไปกับเสียงเตียงที่ขยับด้วยจังหวะอันรวดเร็ว




“เจ็บ...ฮะ..อ๊ะ....”




เมฆาผ่อนแรงลงทันทีที่ได้ยินดังนั้น แต่เรียวขาขาวตวัดรอบเอวสอบไว้อย่างรวดเร็วราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหนีไปอีก




“ไม่เอา..อย่าไป...”




“หมอก...ไหวมั้ย..อึ่ก...”




ถึงแม้จะควบคุมตัวเองไม่ไหว แต่เมฆาเป็นห่วงร่างที่บิดเร่าเหงื่อโทรมกายอยู่ข้างใต้เขามากกว่า




“แรง…แรงอีก...”




คำขอที่ไม่คาดคิดของอีกฝ่ายฉีกกระชากฟางเส้นสุดท้ายยังดึงสติเขาไว้ด้วยกัน เมฆาจำได้เพียงความรู้สึกสุขสมที่เอ่อล้นในอก ก่อนที่เขากับคนรักจะจูงมือกันขึ้นไปชมสวรรค์เป็นครั้งแรกในชีวิต






--------------

 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
ชอบมะชอบมะชอบม้าาาาา

รู้สึกว่ากว่าเขาจะได้กันช่างยาวนาน
พาร์ทNowก็ปล่อยพี่เมฆเป็นตัวประกออบต่อไป55555

ออฟไลน์ มาชิ มาชิ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ชอบบบบากเลยละ

เอาอีก
เอาอีก
55555
 :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ Ouizzz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 640
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Duangjai

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
555. ถามทำม้ายยยยย ชอบดิ

เอามาเสริฟต่อโดยด่วนเชียว

หน่วงๆมาเจอบทรักเมฆกับหมอกก้อฟินกันไป

 :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:  :katai3:

...
.



ออฟไลน์ naplatoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ในที่สุดดดดดด  :-[ :-[ :ling1: :hao7: :ling1:
น้องหมอกก็โดนกินน กรี๊ดดด หมอกน่ารักมากกกกก :-[

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สำเร็จแล้วนะหมอกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
 :oo1: กันสักทีนะ ลุ้นมานานแล้ว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
รักกัน แต่ไม่คุยกัน  :really2: :really2: :really2:
ไม่รู้เมฆ มีอะไรในใจ ถึงยับยั้งความรักของตัวเองกกับหมอก

ในที่สุด เมฆ ก็กินหมอก
เมฆ หมอก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Elektra

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-18
เบื่อนิยายที่นายเอกเป็นกะเทยจิตใจอ่อนไหวมากค่ะ

ออฟไลน์ WilpeR

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1555
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
ว้าว ครั้งแรกมาแล้ว ครั้งน่อไปล่ะจะมาอีกเมื่อไร 5555 ชอบมาก ถึงแม้ว่าจะดูรุนแรงกันมากก็เถอะ

ออฟไลน์ ต้นไม้ใบหญ้า

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อู้หู ครั้งแรกมาแบบงงๆ 5555

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
อ้าว...then เคยได้กันแล้วด้วย  งานนี้ยิ่งสงสัยหนักว่าเพราะอะไรถึงได้เลิกกัน  :katai1:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ครึ่งหลังจะไม่มีฉากนี้แล้วหรอคะ 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ous_p

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :mew1: เค้าบอกรักกัน เมฆหนี้ไปแบบนั้นหมอกก็คิดมากสิ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
อ้าวววว   :oo1:

ออฟไลน์ littlepig

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +413/-5
เมฆาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกหนักๆบนร่างกาย



“ฟี้….”




ก้อนหนักๆที่ว่านั้นคือร่างเปลือยเปล่าของมธุวันที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขบนตัวของเขา อุณหภูมิของร่างโปร่งที่แผ่กระจายให้ความอบอุ่นในห้องแอร์เย็นเฉียบทำให้เมฆาอยากจะกอดอีกฝ่ายไว้แล้วนอนต่อแบบนี้ทั้งวัน




แต่รอยเขี้ยวที่กระจายตามหัวไหล่มนและซอกคอขาวทำให้คนที่ยังสะลึมสะลือตื่นเต็มตา บางจุดนั้นถึงขั้นมีรอยเหมือนมีเลือดซิบถึงแม้จะไม่มีเลือดออกมาแล้ว




“อือ…เช้าแล้วเหรอ...”





ร่างที่ถูกประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของแทบทุกซอกทุกมุมของร่างกายปิดปากหาว ขยี้ตาอย่างงัวเงีย มธุวันขยับลุกขึ้นจากร่างของคนรัก แต่ความรู้สึกปวดระบมที่สะโพกทำให้เขาต้องฟุบกลับลงไปที่เดิมแทบจะในทันที





“โอ๊ย..จะ..เจ็บ....”




“หมอก!เป็นอะไรมั้ย?”




ร่างสูงที่เห็นคนรักลูบสะโพกน้ำตาคลอหน่วยเริ่มเกิดอาการตกใจ ขยับพลิกให้อีกฝ่ายลงมานอนบนเตียงอย่างทะนุถนอมแล้วสำรวจความเสียหายที่ตัวเองก่อไว้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เด็กหนุ่มเบิกตากว้างเมื่อเห็นคราบของเหลวสีแดงที่ต้นขาขาวปะปนกับของเหลวสีขาวขุ่น รวมถึงรอยเขี้ยวหลายแผลที่ประทับบนต้นขาด้านในซึ่งเมฆาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำไว้




“เมฆ…เอ่อ...”




“ขอโทษ”




เมฆาไล้นิ้วไปตามรอยรักสีกุหลาบบนเรียวขาของคนรัก ไล่จุมพิตตามรอยประทับราวกับจะปลอบโยนผิวเนื้อเนียน เสียงทุ้มพร่ำขอโทษร่างโปร่งด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้น





“เมฆ…คือว่า....”




“เมฆขอโทษ เมฆไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายหมอก”




เมฆาไล่ประทับริมฝีปากลงบนต้นขาที่บอบช้ำ หวังให้อีกฝ่ายหายโกรธเขาสักนิดก็ยังดี





แต่ทำขนาดนี้ ถึงหมอกจะโมโหจนบอกเลิกกับเขา เมฆาก็ไม่แปลกใจ นั่นเป็นสิ่งที่เขาสมควรโดน




“เมฆ…หมอกอายนะ!”





เสียงร้องของร่างโปร่งทำให้เมฆาที่มัวแต่ใช้ริมฝีปากปลอบประโลมผิวกายของคนรักชะงัก เมฆาเงยหน้าขึ้นอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่มธุวันพูด





ภาพที่เห็นคือดวงหน้าเรียวที่แดงก่ำอย่างอับอาย มือเรียวพยายามเอื้อมปิดช่องทางสีหวานที่แดงช้ำจากความรุนแรงเมื่อคืนก่อนซึ่งอยู่ตรงหน้าเมฆาในระยะที่คมชัดฟูลเอชดี ส่วนขาเรียวก็ถูกแยกพาดอยู่บนไหล่ของเมฆาข้างละขา ทำให้ไม่สามารถหุบเข้ามาเพื่อปิดบังอะไรได้เลย





ถึงเมื่อคืนมธุวันจะโยนความอายทิ้งไประหว่างทางตอนสติเริ่มหลุด แต่ตอนเช้าตรู่ตะวันส่องแสงสติครบถ้วนแบบนี้ เดี๋ยวก็จับขาเขาแยกออก เดี๋ยวก็ลูบนู่นเลียนี่ เขาก็มียางอายเหมือนกันนะ!






“….ขอโทษครับ”





เมฆารีบจัดที่จัดทางคนรักให้อยู่ในสภาพที่สามารถสนทนากันได้โดยไม่รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาอีกรอบ ร่างสูงเอาหมอนมาตั้งล้อมไว้ให้ร่างที่เจ็บระบมไปทั้งตัวไม่ต้องทิ้งน้ำหนักลงบนเตียงมากนัก ขยับสอดหมอนนุ่มใต้บั้นท้ายกลมกลึงที่ดูจะได้รับความเสียหายมากที่สุด ก่อนจะห่มผ้าให้อีกฝ่ายกันหนาวด้วย





“เมฆ…” มธุวันยังคงเรียกคนรักด้วยน้ำเสียงอึดอัดใจ ดวงหน้าแดงระเรื่อเบือนหนีหันไปมองทางอื่นที่ไม่ใช่เมฆา




“ครับ?” เมฆาเลิ่กลั่ก เขาทำให้อีกฝ่ายไม่สบายตัวกว่าเดิมรึเปล่า




“…เก็บอาวุธด้วย”





เมฆาก้มมองอาวุธที่เตรียมประจัณบานทุกเมื่อของตัวเอง ก่อนจะรีบก้มคว้าบ็อกเซอร์บนพื้นขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว




“หมอก...เจ็บมากมั้ย ไปหาหมอมั้ย?”




ร่างสูงค่อยๆนั่งลงข้างคนบนเตียง มธุวันส่ายหน้า ยิ้มให้อีกฝ่ายไม่ต้องรู้สึกเป็นกังวล ถึงแม้จะแอบรู้สึกเจ็บๆ แต่สภาพโดยรวมเขาคิดว่าตัวเองไม่เป็นอะไรมาก





“เมฆขอโทษนะครับ”





เมฆาเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างรู้สึกผิด




“เมฆ ถ้าหมอกพูดอะไรกับเมฆ เมฆอย่าโกรธหมอกได้มั้ย?”




มธุวันถามด้วยน้ำเสียงลังเล ถึงแม้จะไม่รู้ว่าคนรักต้องการจะบอกอะไร แต่เมฆาก็พยักหน้าอย่างแข็งขัน




“ห้ามล้อ ห้ามแกล้ง ห้ามไปพูดให้ใครฟังด้วย”




ร่างโปร่งเสริม เมฆาพยักหน้าอีกครั้งแม้ในหัวจะเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น เขาได้แต่หวังว่าสิ่งที่อีกฝ่ายจะพูดไม่เกี่ยวอะไรกับการจะผลักไสเขาไปหาคนอื่นเหมือนเมื่อคืนอีก




“คือ…”




มธุวันเม้มปาก คนฟังยิ่งเกร็งมากขึ้นไปอีก เมฆาเงี่ยหูฟังอย่างใจจดใจจ่อ




“คือ…แรงๆ...ก็ดีนะ หมอกชอบ”




คนฟังแทบเสียศูนย์ทรุดลงไปกองกับพื้นเมื่อได้ยินดังนั้น มธุวันนึกอยากจะมุดลงไปใต้ผ้าห่มแล้วไปโผล่ขึ้นมาอีก แต่เขารู้ว่าหากตัวเองไม่พูดอะไร อีกฝ่ายคงจะตีความไปว่าเขาไม่ชอบ




“หมอก...ไม่กลัวเหรอ?”




เมฆาถามอย่างไม่เข้าใจ




“กลัว? กลัวอะไรเหรอ?”




ร่างโปร่งเอียงคออย่างไม่เข้าใจคำถาม




“ทุกครั้งที่เมฆเห็นหมอก เมฆรู้สึก...อยากครอบครอง...อยากขังหมอกไว้คนเดียว ไม่ให้ใครได้เห็น ไม่ให้ใครได้สัมผัส เมฆอยากทิ้งรอยของเมฆไว้ไม่ให้ใครกล้าเข้ามาใกล้หมอก”




เมฆาพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายเข้าใจ




“เมฆกลัว ว่านิสัยแบบนั้นของเมฆจะทำร้ายหมอก จะทำให้หมอกเจ็บโดยที่เมฆไม่รู้ตัว”





“เมฆคิดว่าหมอกไม่ได้รู้สึกแบบนั้นกับเมฆเหรอ?”




ร่างโปร่งถามย้อน เมฆาเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย มธุวันถอนหายใจ เอื้อมมือมาจับมือของคนรักไปบีบเล่นด้วยขยับร่างกายส่วนอื่นไม่ได้




“หมอกเชื่อใจเมฆ หมอกเชื่อว่าเมฆจะไม่มีวันทำร้ายหมอก”




“แม่ของเมฆก็เชื่อว่าพ่อจะไม่ทำร้ายแม่ แต่แม่ก็ยังร้องไห้ทุกวัน”




เมฆาเถียงเสียงอ่อน มธุวันที่พอจะรู้เรื่องครอบครัวของอีกฝ่ายอยู่บ้างยกมือของอีกฝ่ายขึ้นมาจุมพิตลงบนหลังมือปลอบขวัญอย่างอ้อยอิ่ง





“เมฆคือเมฆ พ่อของเมฆก็คือพ่อ คนเรามีสิทธิ์ที่จะเลือกทำในสิ่งที่ตัวคิดว่าถูก หมอกเชื่อใจเมฆ เพราะฉะนั้นเมฆก็ต้องเชื่อใจตัวเองด้วยนะ”




ร่างสูงหน้า รู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อยท่ี่ได้คุยกับอีกฝ่าย




“แต่...เมื่อคืนหมอกไม่เจ็บเลยเหรอ?”




เมฆายังคงถามอย่างไม่อยากเชื่อ มธุวันนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยสีหน้าจริงจังถึงแม้แก้มเนียนขึ้นสีเลือดฝาดมากขึ้นก็ตาม





“แสบๆนิดหน่อย คงเพราะเลือดออกน่ะ แต่...เมื่อคืนหมอกรู้สึกดีมากเลยนะ”





เมื่อเห็นท่าทีเขินอายแสนน่ารักนั้น เมฆาก็โถมตัวเข้ากอดคนรักด้วยกลัวหากดึงอีกฝ่ายเข้ามาหาจะทำให้ร่างที่ปวดระบมบอบช้ำมากขึ้น




“อย่าไล่เมฆไปหาคนอื่นอีกนะครับ”





“อือ…ไม่ทำแล้วล่ะ ขอโทษนะ”





มธุวันกอดตอบด้วยแรงที่มีอยู่น้อยนิด รู้สึกโล่งใจที่อีกฝ่ายไม่ได้ไม่สนใจเขาอย่างที่คิดในตอนแรก




“ถ้าหายดีแล้ว…”เมฆาพึมพำ “เมฆทำต่อได้มั้ย?”




“บ้า” มธุวันตีไหล่คนรักเบาๆ แต่รอยยิ้มบนริมฝีปากเรียวสื่อความหมายไปอีกทางอย่างชัดเจน “หมอกจะนอนแล้ว”





“งั้นหมอกพักผ่อนนะ เดี๋ยวเมฆไปหาอะไรมาให้กิน...”





เมฆาอาสาเอาอกเอาใจคนรักอย่างกระตือรือร้น แต่แขนเรียวดึงมือของเขาไว้เสียก่อน




“เมฆนอนด้วยกันสิ ไว้ตื่นแล้วค่อยไปก็ได้”





เสียงหวานออดอ้อนอย่างที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน เมฆากลืนน้ำลายกับดวงหน้าเรียวที่ช้อนตามองเขาด้วยสีหน้าที่ร่างสูงปฎิเสธไม่ลง





“ปวดสะโพกอยู่ไม่ใช่เหรอ...”




“ทะลึ่งอ่ะ หมอกแค่ให้นอนเป็นเพื่อนเฉยๆ”




คนโดนเข้าใจผิดแก้ตัวหน้าแดงก่ำ งอนกลบเกลื่อนความเขินอายพลิกตัวหนีเขานอนไปเสียอย่างนั้น เมฆาอมยิ้มกับพฤติกรรมที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนักของคนรัก สอดกายเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนหนาแล้วโอบเอวบางของมธุวันไว้จากด้านหลัง ใบหน้าคมซุกไซร้ซอกคอขาวเนียน ก่อนจะกระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนรัก





“นอนเป็นเพื่อนไม่ได้ครับ เมฆนอนเป็นแฟนหมอกได้อย่างเดียว”




ไม่มีเสียงตอบรับจากคนในอ้อมกอด แต่จากใบหูที่ขึ้นสีจนเหมือนคนเป็นไข้ เมฆารู้ดีว่าอีกฝ่ายได้ยินเขาอย่างชัดเจน









 “ผลตรวจออกมาแล้วครับ”





นาวินทร์ยื่นซองเอกสารให้กับพี่ชายบังเกิดเกล้าที่นั่งอยู่ในเก้าอี้อ่านหนังสือตัวโปรด วันนี้วรินทร์อยู่ในชุดคลุมผ้าไหมลื่นสีม่วงเข้ากับดวงตา ร่างโปร่งมักจะไม่ค่อยใส่สูทหากไม่จำเป็นต้องเข้าประชุมทางการของตระกูล เพราะยังไงเสีย คนภายนอกแก๊งก็ไม่มีใครรู้อยู่แล้วว่าเงาของหัวหน้าตระกูลอัลฟอนโซ่คนปัจจุบันเป็นใคร





นาวินทร์ต้องยกความดีความชอบให้กับบรรพบุรุษของเขาที่ดูจะระแวงเหลือเกินว่าจะมีคนใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของสายเลือดอัลฟอนโซ่และเงาของเขามาเล่นงานคนที่พวกเขาควรปกป้อง การเก็บกฎของตระกูลไว้เป็นความลับ การสับขาหลอก ปล่อยข่าวลือ แม้กระทั่งใช้ตัวตายตัวแทนเพื่อหลอกล่อให้ผู้ประสงค์ร้ายเข้าใจว่าสามารถกำจัดเงาที่เป็นเหมือนด่านสุดท้ายได้แล้วเปลี่ยนไปทุกรุ่นตามความเหมาะสม





อย่างเช่นปีนี้ ที่นอกจากผู้อาวุโสของตระกูลเหลียนสิบกว่าชีวิตและทีมอารักขาส่วนตัวที่นิโคไลไว้ใจ ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจว่านาวินทร์ที่ดูมีศักยภาพในการดูแลนิโคไลมากกว่าคือเงาของร่างสูง





นั่นหมายความว่าค่าหัวของเขาก็สูงตามไปด้วย




เด็กหนุ่มอยากจะบอกผู้เฒ่าผู้แก่ของตระกูลเหลือเกินว่าไม่ต้องห่วงเรื่องที่พี่ชายของเขาจะเป็นตัวถ่วงความเจริญให้บอส เพราะด้วยนิสัยแบบนิโคไล ต่อให้อีกฝ่ายถูกยิงตายตรงหน้าร่างสูงก็คงจะทำแค่ไหวไหล่ แล้วบอกว่าพี่ชายของเขาอ่อนแอเอง




ส่วนวรินทร์นั้น ฉากหน้าคือนายแบบสุดฮอตที่คั่วกับผู้มีอิทธิพลมากมายทั่วโลก เป็นข่าวอื้อฉาวแต่กลับยืนหยัดอยู่ในวงการได้ด้วยฝีมือและทักษะการเอาตัวรอดที่มีเยอะเป็นทุนเดิม ทั้งที่ทุกคนที่ร่างโปร่งเข้าหา ล้วนแล้วแต่เป็นคำสั่งของเจ้านายที่วรินทร์ไม่อาจปฎิเสธได้




“พี่ริน เอายังไงต่อดีครับ”





ร่างสูงถาม เขารู้สึกเป็นกังวลตั้งแต่รู้ผลการตรวจ แต่นาวินทร์ก็ได้แต่ปลอบตัวเอง ว่าคนที่รู้มีแค่เขากับพี่ชายเท่านั้น นายแบบหนุ่มโยนซองเอกสารลงบนโต๊ะก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง




“ในซองนั้น คืออิสระของนาย”





นาวินทร์พยักหน้าเข้าใจ ทันทีที่ลูกชายคนเล็กของตระกูลกลับมา หน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมายมาตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลกก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้ง





“เพราะฉะนั้น พี่จะให้นายตัดสินใจ”





ประโยคนั้นทำให้คนที่ทำใจยอมรับชะตากรรมของตัวเองแล้ว เงยหน้าขึ้นมองพี่ชายอย่างรวดเร็ว ไม่อยากเชื่อสิ่งที่หูของตัวเองกำลังได้ยิน




“อะไรนะครับ?”





“ชีวิตพี่เป็นของนิโคไล มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงหรือแก้ไขอะไรไม่ได้”




ร่างโปร่งเอนตัวนอนพิงพนักเก้าอี้ตัวโปรด หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ ภาพตรงหน้าทำให้นาวินทร์นึกถึงเจ้าหญิงนิทราในนิทานที่เขาเคยฟังสมัยเด็ก





“แต่ก็มีหน้าที่เป็นพี่ชายของนาย เพราะฉะนั้นพี่จะให้โอกาสนายได้เลือก ว่าจะสวมปลอกคอนั่นรึเปล่า”





โอกาสที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับทำให้นาวินทร์คิดหนักเมื่อหยิบซองเอกสารกลับคืนมา ทีแรกเขาคิดว่าหากเขาต้องกลายเป็นเงาของมิคาเอลจริงๆ อย่างน้อยที่สุดเขายังสามารถโทษโชคชะตาและกฎบ้าๆของตระกูล แต่หากเขารายงานเรื่องนี้ให้กับนิโคไล เขาจะไม่สามารถโทษใครได้นอกจากตัวเอง





“พี่ให้เวลาสามวัน คิดดูดีๆแล้วกัน”





น้ำเสียงของอีกฝ่ายบ่งบอกชัดว่าบทสนทนานี้จบลงแล้ว นาวินทร์โค้งกายทำความเคารพพี่ชาย ก่อนจะเดินกลับออกไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้งเป็นสองเท่าของขามา

------------

เอาอีกติ่งมาต่อละจุ๊บ :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

ในเด็กดีเราลงนิยายที่เราคิดว่าจะเอามาลงในเล้าหลังจากคุณเมฆจบไว้ ชื่อ Help ช่วยด้วยครับ ผมไม่อยากอยู่ในร่างมัน
แล้วก็ Rivals รับน้องสองคณะไว้ ถ้ใครไม่กลัวค้างอล้วอยากอ่านก่อนก็หาได้นะคะ จุ๊บๆ แต่ถ้าล็อตนี้จบจะทยอยเอามาลงในเล้าเพื่อความต่อเนื่องเน้อ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตื่นเต้นๆ  ลุ้นนนน  :ling1: :ling1: :ling1:

ตกลงมธุวัน เป็นน้องของนิโคไล จริงๆ อะจ๊ากกกก
ชีวิตของหมอกจะเปลี่ยนไปเลย
จากคนธรรมดาที่อยู่บนที่ราบ กลายเป็นคนที่อยู่บนยอดเขาสูง
มีอำนาจสุดๆ รองจากนิโคไล
จากทรัพย์สินที่พอมี จะกลายเป็มหาเศรษฐี
อยู่ที่นาวินทร์ ตัดสินใจเท่านั้น ตื่นเต้นๆ  :z3: :z3: :z3:

มันเป็นการตัดสินใจที่ยากมากๆ
ระหว่างความจงรักภักดีต่อองค์กร กับอิสรเสรีภาพของตัวเอง  :really2: :really2: :really2:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ Piima

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
โอ้ยยย

เครียดอะเครียด

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ตื่นเต้นนนน

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด