9
กลางหน้าที่
“กลาง”
“ครับพี่ยอร์ช”
ขณะที่ผมกำลังเดินอยู่โถงทางเดินไปหน้าคณะ พี่ยอร์ชประธานชั้นปีที่ 2 ก็เข้ามาทัก พี่ยอร์ชเป็นผู้ชายเซอร์ถุลคนหนึ่งในคณะถึงแม้จะมีดีกรีเป็นประธานก็เถอะ เสื้อฮาวายสีน้ำเงินซีดพลิ้วๆ กางเกงยีนส์ขาดๆ สไตล์การแต่งตัวที่เรียกว่าเน่าทั้งตัว แต่เรื่องการทำงานชั้นปีนี้เข้มงวดอย่าให้บอก พี่เค้าเป็นที่ปรึกษาผมในการทำงานกับเพื่อนในคณะครับ
“มึงไปประชุมมายัง”
“กำลังไปครับพี่”
“มึงระวังมอxxดีๆ ไอ้พวกนี้หน้าเลือด ครั้งก่อนมาประชุมแทนรุ่นพี่มันกูนี่เถียงแทบไม่ทัน”
“เอ่อ...ครับ”
“เฮ้อกูว่าไม่รอดแน่นอนน้องกู” ทำไมอะพี่ผมไม่ได้เอ๋อนะ คิดไม่ทันไรพี่ยอร์ชก็พูดต่อ “มึงไปกับใคร”
“ไปกับปาปริก้า เอ้ย เพียว น้องรหัสพี่บูมอะครับ”
“อ๋อ เออๆ แล้วไอ้เจไปไหน”
“เจ...อ๋อ เบงเบง มันตามไปทีหลังครับ”
“เออๆ ขอให้เถียงมันชนะมันชื่อไรนะใส่แว่นเนี่ยแหละ ตัวจี๊ดเลย เถียงไม่ทันส่งไอ้เจไปสู้”
ช่วงนี้มีงานสี่เสาแห่งศิลปะครับ เป็นงานที่จัดเพื่อสานสัมพันธ์คณะศิลปกรรมของสี่มหาลัย ผม เพียว ไอ้เจตัวแทนปีหนึ่งต้องไปประชุมที่มอเจ้าภาพร่วมกับคณะกรรมการคณะอีกสามคน งานก็เยอะแถมยังใกล้สอบกลางภาคเข้ามาทุกทีแทบจะไม่มีเวลาพักเลยล่ะครับ ตอนกลางคืนผมกับพวกคอหล่นก็นัดกันไปเผางานกันใต้คณะ ตอนกลางวันก็ต่างคนต่างไปเพราะนอกจากวิชาเรียนก็ไม่ค่อยเจอกันหรอกครับ ส่วนไอ้เปาก็มีรุ่นพี่ปีสี่มาขอให้มันไปเดินแบบแฟชั่นโชว์งานธีสิส ไอ้นี่ก็ไปครับ มันบอกได้ทำอะไรใหม่ๆ แต่ผมว่ามันปฏิเสธรุ่นพี่ไม่ได้หรอก มันคนของประชาชน ตอนนี้เราก็ได้แต่เจอกันตอนทำงานเท่านั้นครับ
แก็งค์คอหล่น
เยส เอ้ย เบสไอ้กลางอยู่ไหนวะ
จะชวนไปแดกเนื้อย่างตอนเย็น
กะ-ละ-ล้วยเออกูว้อนท์มาก
คนกลาง
กูต้องไปประชุมอะ
พวกมึงกินกันเลย
Mr.Tapอะไรว้า ใครใช้งานประธานอีกล่ะ
Paramatkrikriประชุมไรวะ
กับใคร
ไปยังไง
โห เล่นพิมพ์มารัวซะขนาดนี้ผมก็ตอบไม่ทันสิครับ ตอนนี้ผมกำลังยืนรอเพียวหรือเหรัญญิกสุดสวยอยู่ที่หน้าคณะ ไหล่ขวาก็แบกเอกสารไปเสนองานด้วย ส่วนมือซ้ายก็จับมือถือ ผมกำลังจะพิมพ์ตอบด้วยมือข้างเดียว แต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นซะก่อน หน้าจอโชว์เบอร์เป็นคนที่ยิงคำถามมารัวๆ นั่นเอง พอรับปุ๊บพี่ท่านก็ยิงเหมือนเดิม
(อยู่ไหน)
“อยู่หน้าคณะ”
(ประชุมไรวะ ตอนเย็นเนี่ยนะ)
“ก็เค้านัดเย็นอะ” ก็แล้วทำไมต้องมาทำเสียงหงุดหงิดด้วยอะ ผมไม่ได้นัดซะหน่อย
(จะเสร็จกี่โมง ไปกับใคร)
“ไปกับเจ เพียว เสร็จดึกๆมั้ง...ไม่รู้ดิ เมื่อไหร่เค้าไม่ได้บอก”
(อะไรวะ ประชุมไม่มีกำหนดการหรือไง งั้นรออยู่นั่นจะไปรับ ที่ไหน)
“เฮ้ยไม่ต้อง มึงซ้อมเดินไม่ใช่หรอวะ เดินพรุ่งนี้แล้วด้วย ไม่เป็นไรอะกูกลับได้”
มันเดินแบบพรุ่งนี้เย็นครับที่ลานกิจกรรมของพวกแฟชั่นดีไซน์ แต่ก็ซ้อมรันทรูกันหลายรอบทีเดียว ผมเดินผ่านเมื่อตอนกลางวันก็เห็นเตรียมงานวันวุ่นเลย ว่าแต่โคตรดื้อเลยไอ้เปาเนี่ย ไม่เหนื่อยหรือไง จะว่าไป...ตั้งแต่ที่ผมโดนชกครั้งที่แล้วไอ้เปามันก็ดูแลผมตามที่บอกจริงๆ แม้ว่าหน้าผมจะกลับมาเป็นปกติแล้วก็ตาม
(ตอบมาที่ไหน)
“มอxxx”
(เดี๋ยวโทรหา แค่นี้)
ตู๊ด...ตู๊ด
แล้วไอ้เปาก็วางสาย ผมมองหน้าจอที่ตัดไปอย่างงงๆ นาทีกว่าที่คุยมันรวบรัดจนผมตามไม่ทัน ได้แต่เกาหัวแกรกๆ
“คุยกับใครอ่ะกลาง หน้างงเชียว”
“คุยกับไอ้เปาอะ”
ยังจำกันได้มั้ยครับปาปริก้าหรือเหรัญญิกของชั้นปีผมนั่นเอง ชื่อเล่นจริงๆ ชื่อเพียวเป็นผู้หญิงปราดเปรียว น่ารักดีครับ ผมสั้นประบ่าหน้าตาเกาหลี ไม่น่าหลงมาอยู่คณะป่าเถื่อนแบบพวกผมจริงๆ เราสองคนออกเดินไปขึ้นรถของมหาลัยที่จะขับเข้าไปในเมืองผ่านมอxxx เหมือนเป็นรถรับส่งอ.อะครับ ระหว่างการเดินทางเพียวก็ชวนผมคุย
“เออว่าจะถามนานแล้ว รู้จักกับเปามาก่อนป่ะ สนิทกันโคตรเร็ว” ผมเลิกคิ้วสงสัยก่อนจะพยักหน้า
“อื้อก็ประมาณนั้น”
“ถึงว่า แต่กลางเนี่ยน่ารักจังเลยน้า ผมยาวแล้วดูน่ารักไปอีกแบบ”
เอื้อมมือไปลูบผมหน้าตัวเองแล้วรู้สึกแปลก ตัดสกินเฮดมาสองเดือน ผมยาวแล้วไม่ชินเลย ผมไม่ชอบเซ็ทผมหรือทำอะไรกับผมมากมายปล่อยมันไว้อย่างนั้น ส่วนผมที่ยาวก็เลยไปเล็มให้มันไม่ปรกหน้าก็พอ
“เราไม่ชินเลย สกินเฮดมาตั้งนาน”
“ฮ่าๆ ตอนนั้นเหมือนหลวงจีนน้อย แต่ก็น่ารักนะ เพื่อนเราชอบกลางกันเพียบบบบ”
“หือเราน่ะหรอ” โดนชมว่าน่ารักมาสองรอบ ไอ้กลางนี่ตากระตุกแปลกๆ สาวๆ นี่ใช้คำชมแบบนี้กันหรอครับ
“เพื่อนเพียวพูดถึงเยอะเลย ยิ่งกลางเดินไปไหนกับเปาเนี่ยคนมองกันเต็มเลยรู้ป่ะ”
“จริงดิ ไม่เห็นรู้สึกเลย” ผมตาโตอย่างตกใจ แต่ว่าไอ้เปามันหล่อซะขนาดนั้นแถมแฟนคลับเพียบ ไม่มองก็แปลกแล้ว อีกอย่างยิ่งเปิดตัวด้วยป๊อปปูล่าร์โหวต ก็ยิ่งมีอีเว้นท์ติดต่อมาเยอะแยะเลย อันนี้ได้ยินมาจากพวกเดอะแก๊งครับ
“โธ่ กลางงง ไม่ไหวเล้ยยย เล่นโซเชียลไรมั่งป่ะเนี่ยยย”
“เราไม่ค่อยเล่นอะ”
“เปานะโคตรฮอตเลย นี่ถ้าไม่ติดว่าเห็นกันมาตั้งแต่รับน้องเพียวจะจีบเลย” ฮะ เฮ้ย สาวน่ารักอย่างเพียวจะจีบผู้ชายเลยหรอครับ
“ล้อเล่นน่ะ หน้าเหวอเลย แฟนคลับเนี่ยตามติดชีวิตเปาเลยนะ”
“แล้วเราเกี่ยวอะไรด้วยอะ” ผมยังไม่เข้าใจครับ เพียงมองผมด้วยความเอือมระอาแต่ก็อมยิ้มหน่อย เธอส่ายหน้าก่อนจะจับหัวผมโยกไปมา
“โหยยย ไม่รู้ตัวเลยคนเนี้ย”
แล้วเราก็คุยกันเรื่องนู้นเรื่องนี้เต็มไปหมด ส่วนมากเพียวจะเป็นคนพูดมากกว่า เธอกรอกหูผมเรื่องโซเชียลสอนผมเรื่องแอพที่เจ๋งๆ เพราะเพียวบอกว่าในโทรศัพท์มีสิ่งที่มีประโยชน์อยู่มากมายอย่างวาดเส้น ถ่ายภาพ ผมฟังก็ชักเคลิ้มลองกดๆ เล่นๆ กับเค้าบ้าง ซักพักในรถเมล์ของมอเงียบกริบแล้วเพียวก็หลับตาลง สงสัยเหนื่อยพูด ส่วนในมือของผมก็ถือมือถือไว้แล้วจ้องนิ่งๆ ที่แอพพลิเคชั่นรูปกล้องที่ผมเคยสมัครไว้โหวตใครบางคนเมื่อนานมาแล้ว
ขณะนี้เราอยู่มอxxxครับ สวยสง่าสมเป็นมหาลัยเก่าแก่ มีชื่อเสียง และใหญ่โตมากครับ ผมกับเพียวเราลงรถแล้วเดินตามหาห้องประชุมของคณะศิลปกรรมฯ ส่วนคณะกรรมการคณะผมอีกสามคนต้องล่วงหน้ามาก่อนเพื่อดูสถานที่วางแผนเส้นทางประกอบการเสนอกิจกรรมครับ
“เอ้า ไอ้กลาง เพียวทางนี้เว้ย”
ขึ้นบันไดมาชั้นนึงก็ได้ยินเสียงไอ้เจหรือเบงเบง(หวังว่าทุกคนคงจำกันได้) โบกมือหยอยๆ อยู่ตรงประตูไม้สักบานใหญ่มีป้ายแกะสลักว่า “ห้องประชุมเพชรจินดา” หลังจากมีเรื่องกันตอนเลือกประธานชั้นปี ผมกับไอ้เจก็สนิทกันมากขึ้นเพราะต้องติดต่องานกันตลอด แรกๆ ไอ้เปาหงุดหงิดมันบอกไม่ชอบหน้าไอ้เจ พักหลังๆ ถ้ามันว่างมันจะตามไปนั่งประชุมด้วยมันให้เหตุผลว่าถ้าผมเถียงไม่ทันมันจะจัดชุดใหญ่ให้ นั่งรอกันซักพักก็มีผู้ชายคนนึงเดินออกมาเรียก
“เชิญทุกคนเลยครับ ผมจะเปิดประชุมเวลาหนึ่งทุ่มนะครับ คุณพีช่วยตามคุณสามาด้วยนะครับ ไปเอาของนานแล้ว”
“ได้เลยคุณอาร์ต”
ผมมองไปข้างหน้าอย่างสนใจ ในชีวิตผมไม่ค่อยมีใครจะพูดเพราะๆ นักโดยเฉพาะกับเพื่อนผู้ชายด้วยกัน พอเห็นคุณอาร์ตที่ยืนสั่งงานอยู่ตรงนั้นผมก็เกร็งขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ผมเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย
“ทำไมถึงเรียกเค้าคนอื่นว่าคุณหรอ”
“อ๋ออออ...ก็ไอ้เนี่ย มันเรียกทุกคนว่าคุณ แทนตัวเองว่าผมทุกคำ เพื่อนทั้งชั้นปีก็เลยเรียกแบบนี้กันหมด แปลกเนอะ แต่ไอ้เนี่ยโคตรเก่ง เก่งทุกอย่าง” ไอ้เจกระซิบกระซาบแถมทำหน้าเหมือนเกลียดเค้ามาแต่ชาติปางก่อน มึงอิจฉาเค้าป่ะเนี้ยยย อาร์ตมอxxxคนนี้เป็นผู้ชายใส่แว่น ผมแสกกลาง ตัวสูงโปร่ง แต่งตัวด้วยแนวอะไรซักอย่างที่ผมไม่ค่อยสันทัดนัก อย่างที่บอกเราอยู่สายศิลปะดังนั้นการมีสไตล์เป็นของตัวเองเป็นเรื่องธรรมดาของคณะแบบนี้
ว่าแต่เอ่อ...ผมเจอคนล้นอีกคนแล้วหรอครับ
รอองค์ประชุมซักสัก พวกผมก็ได้แต่แนะนำตัวให้กับเพื่อนมออื่นเพราะปีหนึ่งเป็นฝ่ายจัดงานครับ ส่วนปีอื่นก็มาเป็นที่ปรึกษาหรือช่วยเราบ้างตามกำลังศรัทธา
เมื่อการประชุมเริ่ม ผมเริ่มนึกถึงคำพูดของพี่ยอร์ชขึ้นมาทันที “ระวังไอ้แว่นไว้ให้ดี” เพราะเวลาผมเสนออะไรไปมักมักจะเป็นแบบนี้
“ผมว่าคนจะไม่พอนะครับคุณกลาง เพราะแต่ละชั้นปีคนไม่ได้เยอะ เราต้องแบ่งคนไปบริการหลายด้าน”
“ใช้วัสดุแบบนั้นผมว่ามันแพงแล้วก็ไม่ทนน่ะสิครับ”
“คุณกลางครับ ผมว่าที่คุณเสนอ ผมว่ามันจะเกินงบประมาณนะครับ”
เอ่อ ผมเหลือบตาขอความช่วยเหลือ ทำไมไอ้หมอนี่มันขัดผมคนเดียวเลยครับ ไอ้เจทนไม่ไหวมันก็เลยโพล่งออกมา หน้าตามีอารมณ์ทางความโกรธสูง
“เกินไงอะ ถ้าไม่เอาไปทำของชำร่วยแพงก็ไม่เป็นไรป่ะ”
“เราว่าเราชอบแบบมันนะ สวยมากเลย แต่ถ้าเราลดต้นทุนของชำร่วยจะได้ไปโปะในส่วนอื่นได้มันก็คงจะดี”
“เอาของที่มันหาง่ายๆ มาทำเป็นของชำร่วยเก๋ๆ ตามแบบมั้ย”
พอไอ้เจพูดขึ้นมาหลายคนก็เลยกล้าแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น ไอ้อาร์ตมันก็ยอมจำนนพยักหน้ารับแถมส่งแรงอาฆาตให้ไอ้เจที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้พลางแกะของว่างมากิน
“เราจะเริ่มตามแผนที่ประชุมอีกสองอาทิตย์หลังจากมอพวกคุณสอบกลางภาคเสร็จนะครับ ปิดการประชุมเวลาสามทุ่มสามสิบหกนาทีครับคุณสา”
“โอ้ย โคตรหิวเลย”
เพียวกับไอ้เจบ่นทันทีที่เราเดินออกมานอกห้องประชุม เราบอกลาเพื่อนร่วมประชุมที่เดินเหนื่อยกันไปคนละทาง ผมใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดตา มันเหนื่อยมากครับข้าวก็ไม่ได้กินเลยแถมนั่งโคตรนาน ส่วนของว่างในห้องประชุมไม่ถูกปากผมเลยครับเลยได้แต่จิบน้ำไปเรื่อยๆ ผมมายืนรอไอ้เปาที่หน้าคณะสินกำ คุณอาร์ตที่เดินตามหลังมาก็ทักขึ้น
“แย่หน่อยนะ ดึกเลย พวกคุณกลับยังไงกันเนี่ย”
“เอ่อก็...” เพียวกับเจไม่ตอบครับ มันบ่นว่าเกลียดขี้หน้าผมเลยต้องรับหน้าสถานการณ์นี้แทนแต่ยังไม่ทันได้ตอบอะไร อาร์ตก็ถามขึ้นมาอีก
“มอพวกคุณอยู่ไกลให้ผมไปส่งมั้ย”
“เดี๋ยวเราให้ที่บ้านมารับแล้วอะ มอนายใกล้บ้านพอดี” ปกติเพียวจะนอนหอใกล้มอครับ สงสัยบ้านอยู่ในเมือง เพียวรีบตอบตัดบท
แล้วหันหน้าหนีทันที
“บ้านเพียวอยู่ไหน” ไอ้เจได้ยินก็เกิดสนใจขึ้นมา มึงจะไปบ้านเค้าหรอ
“อยู่แถวzzz”
“เฮ้ยงั้นกลับด้วย ไอ้กลางมึงอะยังไง”
“กูหรอ ไอ้เปาบอกว่าจะมารับอ่ะ”
“ดึกขนาดนี้เนี่ยนะ เพื่อนมึงนี่ดีจังวะ”
“เออนั่นสิ เพื่อนเราไม่มีใครสนใจซักคน”
“มันมาทำธุระแถวนี้มั้ง” ผมตอบเพียวกับไอ้เจ
“เอาไงคุณ ไปกับผมมั้ย”
“ไม่รบกวนดีกว่า ขอบใจมากนะ”
ผมหันไปบอกคุณอาร์ตที่อยู่ด้านหลัง ตัวสูงกว่าผมอีก มันไม่ตอบอะไรแต่ก็ยังยืนใกล้ๆ ผม คนที่มาประชุมเริ่มกลับกันหมดหน้าคณะมันก็วังเวงใช้ได้ เพื่อนผมก็เช่นกัน มันสองคนเดินไปขึ้นรถของบ้านเพียวแล้วก็จากไป ทิ้งให้ผมมองตามหลังอย่างเหงาๆ เดี๋ยวดิ ไม่รอกูหน่อยหรอ ดูท่าทางจะเหนื่อยครับเรียนทั้งวันยังจะมาประชุมต่ออีก
“เพื่อนคุณมายัง”
“คิดว่าคงยังไม่ถึงน่ะ” ผมตอบแล้วหัวเราะแหะๆ คุณอาร์ตทำหน้าชะงักวูบหนึ่งก่อนจะกระแอมเสนอทางเลือกให้ผมตามประสาเจ้า
บ้านที่ดี แปลกใจจังว่าอีกสองสามคนที่เหลือทำไมไม่ไปถามไถ่บ้าง
“งั้นคุณไปนั่งอยู่ร้านกาแฟมอผมดีกว่าเปิดยี่สิบชั่วโมง รอที่นั่นดีกว่าเยอะ”
“เอางั้นหรอ” ผมถามย้ำ
“งั้นแหละ มากับผมเดี๋ยวผมไปส่ง”
ผมตัดสินใจไปกับไอ้คุณอาร์ตเพราะไอ้เปาก็ยังไม่โทรมาแถมตอนนี้ผมต้องการน้ำหวานๆ ไม่งั้นผมวูบแน่ๆ ไอ้คุณอาร์ตก็ชวนคุยนิดหน่อยแล้วก็บอกลากันจากไปเหลือแต่ผมกับนักศึกษาในร้านประปราย สี่ทุ่มกว่าแล้วไอ้เปาก็ไม่โทรมาหรือมันจะลืมวะ
Rrrrrr
พูดถึงก็โทรมาปั๊บเลย
(อยู่ไหน กูรอหน้าคณะสินกำเนี่ย)
“แปบนะ กูอยู่ร้านกาแฟหลังตึกสินกำอีกนิดนึง เดี๋ยวเดินไปหา” ผมว่าพลางเก็บของบนโต๊ะเตรียมจะลุก
(ไม่ต้องเดินมา มันมืด เดี๋ยวกูอ้อมไปรับเอง)
ผมเดินออกมายืนรอหน้าร้าน ลองมาคิดๆ ดูว่า ถ้าไอ้เปาไม่มารับผมก็ต้องไปขอนอนบ้านไอ้เจมัน ดึกขนาดนี้ไม่มีรถเข้ามอผมหรอกครับ ครอบครัวผมไม่มีญาติพี่น้องคนรู้จักอยู่แถวนี้ซักคน ส่วนพวกคณะกรรมการที่มาด้วยกัน พวกนั้นยังไม่กลับมอง่ายๆ ครับ เพราะมีประชุมกันต่อ จะให้นั่งแท็กซี่กลับคนเดียว...ผมป๊อดครับบอกตรงๆ
“กลาง”
รอไม่นานไอ้เปาก็มาถึง ผมเปิดประตูขึ้นไปนั่ง ไอ้เปามันเหนื่อยมั้ยวะ
“มองอะไร”
“เปล่า มึงเลิกซ้อมเดินกี่โมง”
“ก็สองสามทุ่มมั้งไม่ได้ดูเสร็จแล้วก็ออกมาเลย แล้วทำไมไม่รอที่คณะ รู้ทางมอเค้าหรอเดี๋ยวก็หลงหรอก”
“มีเพื่อนเจ้าถิ่นมาส่ง ไม่หลงเว้ย แค่นี้เอง”
“ได้เพื่อนใหม่แล้วไง” ทำไมทำเสียงไม่พอใจวะไอ้นกกระปูด มันตั้งหน้าตั้งตาขับรถแต่เสียงประชดใช้ได้
“ก็เพื่อนที่ประชุมนั่นแหละ”
“ผู้หญิงผู้ชาย”
“มึงเป็นไรเนี่ย...ถามเยอะจัง ผู้ชาย เป็นประธานเหมือนกัน”
“แม่ง”
ไอ้เปาบ่นเป็นหมีกินผึ้งมันบอกผมตามคนที่พึ่งรู้จักไปได้ยังไง บ่นทุกเรื่องตั้งแต่เรื่องที่ได้เป็นประธานแล้วต้องมาทำงานงกๆ ก็มึง
นั่นแหละตัวการเลย กูอยากเป็นมั้ยก็ไม่ ไอ้เปามันบ่นไปด้วยขับรถไปด้วย ผมก็นั่งฟังบ้างไม่ฟังบ้าง ไอ้เด็กน้อยนี่มันขี้บ่นตั้งแต่เมื่อไหร่วะ พอผมพูดว่ายังไม่กินข้าวและชวนแวะกินข้าวข้างทางมันถึงจะยอมหยุด ตอนนี้เราเลยอยู่ตรงตลาดกลางคืนครับทางผ่านกลับมอ ตลาดนี้คนเยอะใช้ได้ หาที่จอดไม่นานเราก็มานั่งกันที่ร้านก๋วยจั๊บญวนโบราณ
“กินดิ”
“ไม่หิว”
“หิวหน่อยน่า หรือว่ากลัวอ้วน พรุ่งนี้เดินจริงนี่หว่า” ผมที่กำลังจะยื่นช้อนตักกระดูกอ่อนให้มันชิมก็เลยชะงักกลับ ชวนมันมากินได้ไงเนี่ย กว่าจะนอนก็ท้องอืดกันพอดี ไอ้เปาทำหน้าตาไม่สบอารมณ์แต่ก็คว้าข้อมือผมไว้ แล้วสุดท้ายงับช้อนกินจนได้
“กินก็ได้ ไม่เห็นต้องทำหน้างั้นเลย”
“ไม่ได้ทำโว้ย”
“แล้วประชุมเป็นไงบ้าง”
“ก็ดี เดี๋ยวมีประชุมต่ออีก ตอนเตรียมงานกูอาจจะต้องมานอนฝั่งนี้ก่อนสองสามวัน”
“ห๊ะ...ก็ไปพร้อมกับเพื่อนไม่ได้ไงวะ”
“ได้ไงอะ กูต้องไปก่อนไปพร้อมกับไอ้เจมัน”
“เชี่ยนี่อีกละ”
“ละมึงเป็นไรเนี่ยยย หงุดหงิดอะไร”
“เออ ไม่รู้แม่ง”
วันนี้มันแปลกๆ นะครับมันเริ่มทำหน้าตาหงุดหงิดใส่ผมอีกแล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดตักหมูยอนึ่งมาใส่ชามผมอีก กินเสร็จไอ้เปาก็ชวนผมเดินดูตลาด โชคดีที่พรุ่งนี้เรียนสาย มันเองก็ไม่เห็นรีบอะไร ผมที่ไม่อยากขัดใจมันก็เลยยอมเดินตามเงียบๆ จนไปหยุดที่สะพานไม้เล็กๆ ซึ่งมีไฟกระพริบติดอยู่ เสียงเหล่าแม่ค้าพ่อค้ายังดังอยู่โฉงเฉง
คนที่เดินนำหน้าผมนั้นไปถึงกลางสะพานก่อน สองมือของมันจับขอบสะพานไม้ไว้แล้วมองไปข้างหน้า กางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ้ตที่น้ำเงินเข้มขับให้ผิวขาวของมันเด่นขึ้น แสงจากไฟกะพริบกระทบเสี้ยวหน้าระยิบระยับ ไม่อยากยอมรับเลยว่าไอ้เปาเวอร์ชั่นโตคนนี้คือคนเดียวกับที่ผมคิดถึงมาตลอด ผมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายด้วยความเผลอไผลก่อนที่มันจะหันกลับมาถามผม
“ไปดูกูเดินด้วยนะพรุ่งนี้อะ งานแรกอยากให้มึงไปดู”
“มึงชอบทำอะไรแบบนี้หรอ แต่ก่อนขี้อายจะตาย” ผมเก็บมือถือแล้วก้าวเท้าไปยืนมองแม่น้ำข้างๆ มัน
“ทำไมวะ กล้าๆ แบบนี้ไม่ดีหรอ มึงไม่ชอบหรอ” มันหันมาจ้องเหมือนอยากให้ผมย้ำคำตอบนั้น
“ก็เปล่า กูสนับสนุนมึงอยู่แล้ว ไอ้นกกระปูด” ผมมองมันที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้เด็กน้อยขี้อาย โตขึ้นโคตรเจ๋งเลย ขอให้มึงเจ๋งมากขึ้นไปอีกนะ
“ว่าไงจะไปเปล่า”
“อื้มไปดิ”
ผมกลับมาที่ห้องและเริ่มทำอะไรบางอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
Khonklang first posts in a while
แต้งกิ้ว พรุ่งนี้จะไปดู
ผมขอบคุณที่มันกลับมาแล้วก็ขอบคุณที่มารับผมด้วย ไอ้น้องเลิฟ ผมอัพโหลดรูปที่สะพานแล้วแท็กมัน นี่มึงได้อภิสิทธิ์รูปแรกในอินสตาแกรมกูเลยนะเพื่อน โพสต์ได้ไม่นานก็มีเสียงเเจ้งเตือนดังขึ้นมามากมายครับ
Najanak ต้อนรับรูปแรกค่ะน้องกลาง โอ้มายก้อดจะเป็นลม
Feyina โอ้ย หลังน่าซบจัง ครั้งแรกนึกว่าน้องกลางแต่ดูแท็กแล้วกรีดร้อง
Gta44 ยังไงอะสองคนนี้ อยู่ด้วยกันตลอดเลอ
Pcdexk พี่จะไปดูน้องกลางไปด้วยได้มั้ยคะพรุ่งนี้ เจอกันค่า
Yesbest รูปแรกเป็นคนรูปไอ้เปาต้องคิดไงอะ มีพัฒนาการขั้นสูงว่ะ
Bananaboat กูว่าไม่อะ
Teletapbieeee ไม่มีพัฒนาการหรอไอ้กล้วย
Paramatkrikri ไม่เสือกดิมึงอะ
Bananaboat ว้ายยยยย
Paramatkrikri @khonklang แอบถ่ายหรอวะ ไปนอนได้แล้วไป
จนแล้วจนรอด ผมก็ยังอยู่ที่ห้องประชุม คณะกรรมการมีประชุมด่วน ผมที่ว่างคนเดียวก็ต้องรีบไปประชุม เพราะเพียวกับเจติดเรียน ผมนั่งแชร์ข้อมูลการประชุมให้กับพวกคณะกรรมการพร้อมกับหารือกัน นี่มันจะห้าโมงแล้ว ไอ้เปามันเริ่มเดินตอนหกโมงนี่หว่า โอ้ยจะทันมั้ยวะ
“มึงดูรีบๆ นะไอ้กลาง มีอะไรเปล่า” ไอ้เต้นทักผมเมื่อเห็นผมดูลุกลี้ลุกลน ไอ้เต้นเป็นหนึ่งในคณะกรรมการมันหมุนปากกาเล่นระหว่างรอเอกสาร เราประชุมกันมาซักพักแต่ว่ามีเอกสารจากฝั่งเจ้าภาพมาใหม่เลยต้องรอก่อนจะได้ไม่เสียเวลามาประชุมซ้ำ
“เอ่อ...คือ...” ผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบผมจะละเลยไม่ได้ แต่ว่าผมก็อยากรักษาสัญญา
“มีธุระไรป่ะวะ”
“คือมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”
ผมหันไปมองสายตาหลายคู่ในห้องประชุมเลยได้แต่ปฏิเสธไป ขอโทษนะไอ้เปา
เพจผู้ชายของเรา XUน้องเปาวันนี้ค่ะ ใครยังไม่ตามมารีบนะคะ ใกล้จะเดินแล้ว
มาดูงานแฟชั่นสวยๆ กัน รูปHDลงคืนนี้นะคะ @paramatkrikri
#ปรมัตคริคริ
2.2k ถูกใจ
Deejai โอ้ย หล่อมากกกก
Rearaiwan ทำไมทำหน้างั้นนนน หรือคุมธีมคะน้องเปา
Oopsza ขอโฟกัสที่กล้ามเนื้อนะคะ อยากสัมผัส
Teletapbieeee มายัง @khonklang มีคนรอว่ะ
“เพื่อนไม่มาเชียร์ว่ะ”
“มันบอกในไลน์ว่าติดประชุมที่ห้องคศก. จะรีบมา”
“จะทันป่ะเนี่ย เดินไปสองชุดละเหลือชุดสุดท้าย”
“ทันป่ะวะ!”
ผมวิ่งกระหืดกระหอบมารู้สึกถึงไรผมที่เปียกเลย มองเห็นกลุ่มเพื่อนที่ยืนอยู่ในกลุ่มคนที่พอขอทางเข้าไปได้ พอพวกมันเห็นผมทำหน้าตกใจ
“เฮ้ยไอ้กลาง เกือบแล้วมึง ชุดสุดท้ายแล้วเนี่ย”
“ยังมาทันเพื่อน” ว่าแล้วพวกมันก็ตบบ่าปุๆ ไอ้เบสส่งทิชชู่มาให้ผม ส่วนไอ้ทัพก็ส่งน้ำเย็นมาให้
“เอาไปเช็ดหน้าไป แก้มแดงหมดแล้ว”
“ขอบใจว่ะ”
“มึงเห็นกลุ่มสาวๆ ถือกล้องตรงนั้นมั้ย”
“ทำไมวะ”
“แฟนคลับไอ้เปามัน”
“โห ขนาดนั้น ไม่ใช่เล่นนะไอ้เปาเนี่ย”
ผมว่าพลางยกน้ำขึ้นมาดื่มอึกๆ ก่อนจะมองรอบๆ อีกครั้ง สถานที่จัดงานจัดคล้ายกับงานแฟชั่นโชว์ของจริง ธีมงานในวันนี้น่าจะเป็นธีมแฟนตาซีล่ะมั้งครับ คนเยอะมากแถมยังจัดงานได้สวยมากๆ อีกด้วย เก้าอี้ขนาบข้างพรมแดงทั้งสองข้างคือที่นั่งสำหรับอาจารย์ที่จะมาให้คะแนน รวมถึงคนที่อยู่ในวงการแฟชั่นที่อาจารย์เชิญมาจากข้างนอกด้วย
“ก็งั้นแหละกูก็มีนะแฟนคลับอะ”
“ฝันเถอะไอ้กล้วย อย่างมึงมีแมลงวันบินมาตอมก็ดีใจแทนละ”
“เชี่ยยยย ไอ้สัดทัพ”
“เฮ้ยๆ มาแล้ว” ผมรีบห้ามทัพก่อนจะตั้งใจดู นั่นไอ้เปาหรอ โคตรเท่เลยมันเดินแมนๆ แข็งแรงๆ แต่มีเสน่ห์มากๆ ครับ ได้ยินเสียงกรี๊ดเบาๆ มาตามจังหวะบีทหนักๆ ทำให้ผมใจเต้นไปด้วย ชุดของมันเป็นเสื้อซีทรูสีดำคลุมด้วยโค้ทยาวที่มีทรงแปลกตาเหมือนมันกำลังสวมเสื้อโค้ทเป็นเกราะงั้นแหละ ส่วนผมก็เซ็ทให้ตั้งขึ้นแล้วมีสเปรย์สีเงินเคลือบผมไว้ แต่งหน้าโทนดาร์กเข้มแต่ไม่บังความหล่อของมันเลยครับ
“ไอ้สัดเท่ว่ะ”
“ชุดนี้เจ๋งสุด”
“กรี๊ดดดด”
ผมยิ้มที่ได้ยินคอมเม้นต์จากรอบๆ ข้าง ได้ยินแบบนั้นแล้วก็อดภูมิใจไม่ได้ เปามันทำได้ดีจริงๆ นะครับ โชคดีนะเนี่ยที่การประชุมตอนท้ายแค่ชี้แจง ไม่ได้มีอะไรสำคัญมาก ผมถึงรีบวิ่งออกมาทันทีที่จบการประชุม ถ้าผมมาไม่ทัน ผมต้องพลาดอะไรไปแน่นอนเลยล่ะ
หลังจากเจ้าของผลงานเดินคู่มากับนางแบบนายแบบของตัวเองแล้วก็ถึงเวลาถ่ายรูป ไอ้เปากับนางแบบนายแบบอีกหลายคนยืนคุมธีมเพื่อให้หลายคนเข้าไปถ่ายรูป บางคนก็หอบช่อดอกไม้มาแสดงความยินดีกับเจ้าของธีสิสลามไปเพื่อนผมด้วย ผมเห็นดังนั้นเลยจะหันไปชวนเพื่อนคอหล่นไปหาไอ้เปากันแต่พวกมันหายไปไหนเนี่ย ผมยืนงงกับคนที่รายรอบแต่พอมองไปที่ไอ้เปาแล้วคนรุมเยอะขนาดนั้น…
“ขอบคุณครับ”
“น้องเปาของขวัญค่ะ”
“เปาขอถ่ายรูปด้วยดิ”
“น้องเปาคะดอกไม้ค่ะ เดินดีมาก”
“เดี๋ยวผมรับแทนนะครับ”
“กรี๊ดน้องกลาง”
ผมยื่นมือไปรับของขวัญจากแฟนคลับมันแทนตอนนี้คนเริ่มตีเป็นวงกว้างรอบไอ้เปาแล้วครับ ของที่ได้ก็ล้นมือเรื่อยๆ ผมเลยเดินเข้ามาหามัน ไอ้เปาเบิกตาขึ้นเล็กน้อยตกใจที่กูมาเงียบๆ หรอ
“โทษทีเว้ย มาช้าไปหน่อยแต่ทันดูนะ” ผมรีบพูด
“ก็ไม่ได้ว่าไร” นี่ไม่ได้ว่าไรนะ แต่หน้าบูดเชียว
“อ่ะยิ้มหน่อยดิ พี่ๆ มาขอถ่ายรูปน่ะ”
ผมบอกแล้วขยับมาด้านหลังเล็กน้อย เดี๋ยวเข้าเฟรมครับ ระหว่างนั้นพวกคอหล่นก็เดินเข้ามา ไอ้เชี่ยหายไปไหนกันกูไม่มีมือจะถือของแล้ว พวกมันยิ้มๆ แล้วก็เดินมาอยู่ข้างผมไม่ไกลจากไอ้เปานักครับ เปามันหันมามองบ่อยๆ ผมก็พยักหน้าส่งกลับไป เออพวกกูอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอกน่า
“ดีใจด้วยเว้ย เดินดีอ่ะ รุ่งนะเรา”
จู่ๆ ไอ้กล้วยก็พูดขึ้นตอนที่ไอ้เปาหันมามอง
“เป็นนายแบบแล้วรุ่ง”
“ไม่ เหมือนรุ่ง สุริยานะเรา”
“ไอ้สัด เก่าแล้วมึงอะ”
พวกผมทำหน้าเอือมแล้วรุมตบหัวไอ้กล้วยขนาดไอ้เปายังเดินมาตบด้วยเลยครับ รำคาญความจังไรของมัน แต่ก็ได้ยินเสียงกดชัตเตอร์ดังมาเป็นระยะๆ
“แป้งๆ ถ่ายรูปให้เราหน่อยดิ”
ไอ้เบสทักเพื่อนมันที่ถือกล้องอยู่ในกลุ่มของแฟนคลับของไอ้เปา
“ได้ๆ”
“ไอ้กลางมึงไปถ่ายก่อน คนเยอะถ่ายหลายคนตากล้องถอยหลังไม่ได้”
ไอ้ทัพคว้าดอกไม้ตุ๊กตาในมือผมออกไปแล้วดันหลังผมไปยืนข้างๆ ไอ้เปา สาวๆ ข้างหน้ากรี๊ดเบาๆ กรี๊ดทำไมครับผมไม่ได้สะดุดนะแถมต้องยกมือถือถ่ายอะไรกันขนาดนั้นครับ ไอ้เปาอมยิ้มนิดๆ พลางเอามือมากอดคอผม
“กูดีใจที่มึงมานะ”
ไอ้เปาพูดก่อนจะมองไปข้างหน้า ผมเงยหน้าขึ้นไปมองมันชัดๆ โห แต่งขนาดนี้เชียว ขณะที่แป้งกำลังบอกให้เตรียมตัวผมเหลือบไปเห็นเหงื่อของไอ้เปาที่กำลังจะไหลเข้าตามัน ผมรีบยกมือขึ้นไปปาดเหงื่อมันออก ไม่งั้นนะแสบตาน่าดู
ใครจะไปคิดว่า...นั่นเป็นเวลาเดียวกันที่เพื่อนไอ้เบสได้กดชัตเตอร์ และเป็นเวลาเดียวกันที่ไอ้เปาก้มลงมองผมพอดี
แชะ!
-------------------------
