[เรื่องสั้น] พี่ครับ...ผมสงสัย จบ [+ตอนพิเศษวันสงกรานต์] (8/4/17)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] พี่ครับ...ผมสงสัย จบ [+ตอนพิเศษวันสงกรานต์] (8/4/17)  (อ่าน 4042 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mocc1007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

================================================

พี่ครับ...ผมสงสัย


1
      ในช่วงเวลาใกล้สอบแบบนี้ สถานที่ต่างในมหาวิทยาลัยมักจะเต็มไปด้วยกระจุกนักศึกษาที่รวมตัวกันมาอ่านหนังสือ บ้างก็มีหัวโจกของแต่ละวิชามาติวให้ บ้างก็ต่างคนต่างอ่านไม่เข้าใจตรงไหนก็ค่อยถามคนที่เข้าใจ มีน้อยคนนักที่จะมานั่งอ่านคนเดียวตามม้านั่งใต้ถุนอาคารหรือโรงอาหารในมหาลัย เนื่องจากว่ากลุ่มคนที่มาอ่านกันแบบที่กล่าวมานั้นไม่ได้อ่านกันแบบเงี่ยบเชี่ยบสักเท่าไหร่ จะมีเสียงหัวเราะหรือโหวกเหวกโวยวายบ้างตามประสาเพื่อนๆ หากอยากอ่านคนเดียวเงียบๆ ก็คงต้องอ่านที่ห้องคนเดียวไม่ก็ไปร้านกาแฟ หรืออาจจะเป็นที่ที่ทุกคนต้องเงียบที่สุด – ห้องสมุด


      ผมเดินมายังโต๊ะที่นั่งประจำ ผมเลือกนั่งเกือบๆ ปลายสุดของแถวโต๊ะเพราะว่าส่วนมากคนจะนั่งกันแถวแรกๆ มากกว่าจะเดินไกลมานั่งลึกๆ เลยทำให้ตรงนี้ไม่ค่อยจะมีคนเดินเพ่นพ่านไปมารบกวนสมาธิ ที่นั่งตรงนี้ผมนั่งมาตั่งแต่ตอนปีสอง ผมค้นพบว่าที่อ่านหนังสือที่เหมาะกับผมที่สุดก็คือห้องสมุด ที่ที่ใครๆ ก็ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดหนังสือเสียงดัง แถมช่วงสอบห้องสมุดก็เปิดยี่สิบสี่ชั่วโมงให้นักศึกษาอ่านหนังสืออีกด้วย ถึงแม้ว่าคนอาจจะเยอะช่วงนี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้รบกวนสมาธิมากนักผมจึงเลือกที่จะมาอ่าหนังสือที่นี่ทุกๆ ครั้งที่มีการสอบ


      เปิดหนังสืออ่านไปได้ซักพัก ดูนาฬิกาตอนนี้จะสองทุ่มแล้วแต่คนก็ยังไม่บางตาลงไปเลยสักนิด วันนี้คนเยอะพอควร เพราะมีคนมานั่งไกลถึงที่ที่ผมนั่งอยู่ เห็นว่ายังไม่ดึกมาก ผมเลยก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อจนสี่ทุ่มครึ่ง จนเปลือกตาผมก็บอกว่ามึงไม่ไหวแล้วนะมึงควรไปนอนได้แล้ว อาจจะเพราะผมนอนตีสองตีสามมาหลายวันทำให้วันนี้ผมออกจะเพลียๆ ง่วงเร็วแถมวันนี้ยังไม่ได้กินกาแฟอีก ผมไม่อยากทำร้ายร่างกายไปมากกว่านี้จึงเก็บของใส่เป้สพายหลังใบเก่ง แล้วเดินออกจากห้องสมุด


       ก่อนจะถึงรถ เพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมก็โทรเข้ามาพอดี


       “มึงอยู่ไหนวะ” มันถามทันทีที่ผมกดรับสาย


       “เพิ่งออกจากหอสมุดมหาลัย กำลังจะกลับห้อง ทำไม”


       “เออกูไม่เข้าใจเรื่อง...”


       สรุปว่ามันอยากให้ผมสอนครับ ผมเลยบอกมันว่าให้ไปรอที่ห้อง แต่มันบอกว่ามันไม่รีบ ผมว่างั้นเอาเป็นพรุ่งนี้ที่หอสมุดแล้วกันมันก็ตกลง






       วันต่อมาผมเลยมีลูกเดินตามต้อยๆ เข้ามานั่งในห้องสมุดด้วย พวกเพื่อนผมมันรู้กันดีครับว่าผมจะมาอ่านหนังสือที่นี่ทุกวัน บางวันพวกมันก็มาด้วยบางวันก็ไม่ พวกมันบอกว่าไม่ค่อยชอบบรรยากาศห้องสมุดเท่าไหรเพราะมันอึดอัด ทำอะไรเสียงดังนิดเดียวก็ไม่ได้


       หลังจากผมอธิบายหัวข้อที่เพื่อนผมมันไม่เข้าใจเสร็จ มันก็ตัดสินใจว่าจะอ่านหนังสือต่อที่นี่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะถ้ามันสงสัยอะไรอีกจะได้ถามผมได้เลย เราอ่านกันเงียบๆ ต่อไป ผมชอบนะเวลาที่ต่างคนต่างใจจดใจจ่ออยู่กับตัวหนังสือตรงหน้า บางคนก็อ่านไปจดไป บางคนก็อ่านไปขีดเน้นไป ทุกคนมีสมาธิอยู่กับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องสื่อสารอะไรกับใคร



       "กูไปเข้าห้องน้ำแปปนะ" เพื่อนผมบอกก่อนจะวางของทุกอย่างแล้วลุกเดินไปทางห้องน้ำ


       ไปแปปเดียวมันก็เดินกลับมา แต่มันไม่ได้เดินมาแล้วนั่งเฉยครับ มันฉีกกระดาษสมุดแล้วก็เขียนอะไรไม่รู้หยุกหยิกๆก่อนจะยื่นมาให้ผม ในกระดาษเขียนว่า



       กลุ่มน้องโต๊ะข้างๆ มองมึง



       "ห่ะ มึงรู้ได้ไง" ผมต้องพูดให้เบาที่สุด เพราะในนี้เงียบมาก พูดดังนิดเดียวได้ยินกันหมด


       "ก็กูเห็น" ผมหันไปมองทางขวา เพราะโต๊ะทางฝั่งซ้ายผมไม่มีคนนั่ง ก็เจอกับกลุ่มนักศึกษาชายซึ่งดูจากหน้าตาและการแต่งตัวที่แสนเรียนร้อยแล้วคิดว่าคงเป็นปีหนึ่งกำลังก้มหน้าอ่านหนังสืออยู่


       "ตอนไหน"


       "ตั้งแต่ตอนแรกๆ ที่เราเข้ามา"


       "น้องเขามองมึงป่ะ" ผมถาม


       "ไม่ กูลองพิสูจน์แล้ว ที่เมื่อกี้กูไปห้องน้ำอะ พวกน้องแกก็ยังมองเหมือนเดิม คือไม่ได้มองตลอดเวลานะแต่มองทุกๆสิบนาทีได้มั้ง"


       "นี่มึงว่างจนถึงขั้นไปจับผิดชาวบ้านเลยหรอวะ" ผมตั้งท่าจะเอาปากกาเคาะหัวมัน


       "อะไรเล่า ก็กูบังเอิญเห็นพอดี" มันดึงปากกาออกจากมือผมทัน


       "เออ ช่างมันเถอะ กูคงเคยไปเหยีบเท้าใครในกลุ่มมั้ง" ผมว่าแล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ไม่สนในมันอีก
เราสองคนเข้ามาที่นี่ตั้งแต่แปดโมงเช้า จนตอนนี้จะเที่ยงแล้วเราเลยออกความเห็นกันว่าจะไปหาอะไรกินก็จะเข้าเรียนตอนบ่าย













       เย็นวันนั้นผมก็หอบหนังสือใส่เป้แล้วก็ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดเหมือนทุกวัน อีกสองวันก็จะเริ่มสอบแล้ว จะมามัวเลอะเทอะเหลวไหลไม่ได้แล้ว ผมมานั่งลงที่ประจำตามปกติ แต่บางอย่างไม่ปกติ กลุ่มเด็กปีหนึ่งเมื่อตอนเช้าที่ตอนนี้มันยังนั่งอยู่ที่เดิม สีหน้าดูตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือดี มีการถามกันบ้างบางครั้ง แต่แล้วไม่นานผมก็ได้ยินเสียงคนในกลุ่มพึ่บพั่บลุกขึ้นกันหลายคน


       “พวกกูไปก่อนนะเว้ย” ผมเงิยหน้ามอง เห็นว่าเด็กพวกนั้นกำลังกระซิบบอกลาเพื่อนคนหนึ่ง


       “โชคดีเว้ย เจอกันพรุ่งนี้” ไอ้คนที่ถูกลากระซิบตอบ แล้วที่เหลือก็พากันเดินออกไป ผมเห็นเด็กพวกนั้นมองผมแว็บๆด้วย


       ผมเลิกสนใจแล้วก้มห้าอ่านหนังสือต่อ


       รู้สึกว่าตาเริ่มลายแล้ว ผมเลยกะจะพักสายตาสักพัก ผมถอดเว่นออกแล้วกุมขมับหลับตาสักพัก



       ครืด... เสียงขาเก้าอี้ขุดพื้นปลุกผมจากการหลับ ห่ะ! เดี๋ยวนะ นี่กูหลับไปนานแค่ไหนแล้ว ผมสะดุ้งตื่นก่อนจะรีบสวแว่นแล้วมองนาฬิกาข้อมือ โล่งอก ผมหลังไปสิบห้านาที แล้วใครมันทำเสียงเก้าอี้ดังจนปลุกผมกัน


       ผมเงิยหน้าไปเจอกับเด็กปีหนึ่งที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปเมื่อกี้


       “ขอโทษนะครับพี่ ผมขอนั่งด้วยไดไหม” มันถามแล้วยิ้มหน้าระรื่น หอบหนังสือพรุงพรัง


       ผมมองไปรอบๆ ตัว โต๊ะก็เหลือตั้งเยอะแยะทำไมไม่นั่งวะ แต่ผมยังไม่ทันได้อ้าปากตอบอะไร มันก็วางของมันลงบนโต๊ะพร้อมกับพาตูดตัวเองสัมผัสเก้าอี้เรียบร้อย ผมได้แต่มองหน้ามันงงๆ เอากะมันสิ หน้าด้านไปอีก แต่ก็ช่างแม่ง แค่มันไม่รบกวนการอ่านหนังสือผมเป็นพอ แต่ผมว่าก่อนจะอ่านต่อผมไปล้างหน้าดีกว่า


       คิดได้ดังนั้นผมก็ลุกจากเก้าอี้ตรงมาห้องน้ำกวักน้ำล้างหน้าให้หายง่วง พอเดินกลับมาไอ้เด็กนั่นก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม เออแล้วจะให้มันไปไหนวะ


       ผมเดินมานั่งโดยไม่พูดอะไรอ่านหนังสือต่อ มันก็ไม่ได้กวนอะไรผม มันไม่พูดผมก็ไม่พูด เออจะว่าไปผมก็ยังไม่ได้คุยกับมันซักคำเลย ตอบคำขอนั่งของมันผมก็ยังไม่ได้ตอบ จนตอนนี้จะเที่ยงคือแล้ว ผมวางแผนไว้ว่าวันนี้จะอ่านถึงตีหนึ่งเพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้า


       “พี่ครับ...” ผมได้ยินเสียงมันพูดขึ้นเลยเงิยหน้ามามอง “ผมสงสัยหัวข้อนี้อะครับ...”


       เอากะมันสิ แล้วมันรู้ได้ไงว่าผมเคยเรียนวิชานี้วะ “ไหน” เออผมก็ไปเล่นกับมันเนอะ ผมเอียงคอไปดูชีทมันก่อนจะหลุดขำออกมานิด ก่อนจะอธิบายให้มันฟัง มันก็พยังหน้างึกๆเหมือนจะเข้าใจ “...เออ แล้วก็ข้อสอบของอาจาร์แกอะ แกเน้นอะไรมากๆ ที่แกพูดซ้ำ แกจะออกตรงนั้นแหละ”


       “อ่อ เข้าใจแล้วครับ ของคุณครับพี่”


       กว่าจะอธิบายเสร็จตอนนี้ก็เลยเที่ยงคืนครึ่งไปแล้วผมอยากรีบอ่านให้จบเรื่องนี้เร็วๆ จะได้กลับไปนอนพัก แต่แล้วพอผมอ่านบรรทัดสุดท้ายจบ ก็มีเสียงพูดขึ้นมาอีก


       “พี่ครับ...ผมสงสัย ไอ้ตรงเนี้ยทำไมมันถึง...” ผมฟังคำถามมัน ผมว่ามันคงเรียนคณะสายสุขภาพเหมือนผม เพราะตอนปีหนึ่งมันมีวิชาที่สายสุขภาพต้องมาเรียนรวมกัน     


       ผมตอบคำถามมัน กว่าจะจบก็ปาไปเกือบตีหนึ่งครึ่งแล้วจะได้นอนไม่เนี้ยกูบ่นในใจไปก็เก็บของใส่เป้เตรียมจะกลับไปนอน


       “พี่จะกลับแล้วหรอครับ”


       “อืม”


       “ดีเลยผมก็จะกลับเหมือนกัน” มันว่าก่อนจะเก็บของทุกอย่างตามผม


       ไอ้เด็กนี่แม่งกวน เมื่อกี้ผมยังเห็นท่ามันจะอ่านต่ออยู่เลย


       ผมเดินออกมาโดยที่มันเดินตามมาติดๆ แล้วมาหยุดที่ข้างๆ ผม


       “ผมชื่อพีคนะครับ” มันแนะนำตัวหลังออกจากประตูหอสมุด


       “อืม”


       “พี่ไม่คิดจะบอกชื่อผมหน่อยหรอ”


       “เมฆ”


       “พี่เมฆจะกลับบ้านเลยใช่ไหม”


       “บ้านพี่ไม่ได้อยู่เลยนะ” ผมตอบมันหน้าตาย


       “พี่เมฆนี่ก็เป็นคนกวนเหมือนกันนะครับ ฮ่าๆ”


       ผมล้วงกุญแจรถมากดปลดล็อค “แล้วนี่แกกลับยังไง” ผมถามมันไปงั้นแหละ ถึงมันจะกลับแท็กซี่ผมก็ไม่ไปส่งมันหรอก


       “ผมเอารถมาครับ” มันล้วงกุญแจมาโบกโช ผมพยักหน้ารับรู้แล้วเปิดประตูรถ โยนเป้สพายหลังไปไว้เบาะข้างคนขับ แล้วลงไปนั่งหลังพวกมาลัย “กลับบ้านดีๆ นะครับ”


_____________
สวัสดีนักอ่านทุกคน เอาเรื่องสั้นมาให้ลองอ่านกัน
เรื่องนี้มาแบบงงๆ พล็อตก็เมาๆ ตัวละครก็เป็นอึนๆ
จะเป็นยังไงก็ฝากติดตามด้วนน้าา มีสามตอนจบ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-04-2017 22:27:58 โดย Mocc1007 »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ดูท่าน้องพีคจะแอบปลื้มพี่เมฆ...รออ่านจ้า  :katai2-1:

ออฟไลน์ Mocc1007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
2


       ตอนนี้เวลาห้าทุ้มกว่า วันคนในห้องสมุดเยอะเป็นพิเศษ โต๊ะนักกันเกือบเต็มแต่บรรยากาศก้ยังเงียบเชียบเหมือนเดิม ได้ยินเพียงเสียงพลิกกระดาษไปมาเบาๆ หรือเสียงถอนหายใจของคนที่ร้อนรนกับการสอบ


       พรุ่งนี้จะสอบแล้ว แต่ยังอ่านหนังสือได้ไม่ถึงไหน ผมกำลังเขี้ยวกับวิชาที่จะสอบพรุ่งนี้อยู่ที่ห้องสมุดที่เดิม ไอ้ที่ไม่เดิมคือคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมตอนนี้ แต่ก็เอาเถอะ เอาที่มันสบายใจเลย จะให้ผมไล่มันไปก็ดูจะไร้มารยาทเกินไปหน่อย เอาเป็นว่าผมจะทำเป็นไม่ยินดียินร้ายกับเรื่องนี้

     
       “พี่เมฆ ไปเซเว่นกันมั้ยครับ” ไอ้เด็กพีคมันดึงผมออกมาจากโลกแห่งตัวออักษรอีกครั้งด้วยเสียงทุ้มๆ ของมัน

       “ไปไมวะ” ผมขมวดคิ้วถาม

       “ผมเห็นพี่ท่าทางเหมือนจะง่วง ผมก็ตาปรือๆ อยู่เหมือนกัน หิวด้วย ผมคิดว่าน่าจะออกไปซื้อกาแฟกับของกินรองท้องสักหน่อย”

       อันที่จริงผมก็รู้สึกง่วงจริงๆ นั่งหละ ได้กาแฟสักกระป๋องให้รู้สึกตื่นขึ้นมาบ้างก็ดีเหมือนกัน “อืม เอางั้นก็ได้” นี่ผมก็เป็นคนบ้าจี้เหมือนกันนะเนี้ย

       เซเว่นที่จะไปนั้นมีให้เลือกสองทาง ระหว่างหนึ่ง เดินไปไม่เปลืองน้ำมันแต่อาจจะเดินนานนิดหน่อย หรือสองขับรถไปจะเร็วแต่ก็เปลืองเพราะมันไม่ได้ไกลขนาดนั้น คือไอ้ร้านสะดวกซื้อที่ว่าเนี้ยมันอยู่ในระยะที่ไม่ค่อยจะพอดีนักสำหรับหอสมุด

       “แล้วเราจะเดินหรือจะขับรถไป” ผมถามมันตอนเดินออกมาหน้าหอสมุด ถนนด้านหน้าตอนนี้แถบจะไม่มีรถผ่าน

       “พี่เมฆอยากเดินมั้ยหล่ะครับ”

       ถ้ากูตอบว่าไม่หล่ะวะ “อืม เดินก็ได้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ง่วง” จะว่าไปแล้วผมเพิ่งจะรู้จักมันได้สองวันเอง ทำไมเราคุยกันเหมือนรู้จักกันมาเป็นเดือนเลยวะ ผมได้แต่คิดในใจแล้วเดินนำหน้าออกมาให้มันวิ่งตาม

       “แล้วพวกเพื่อนๆ แกไม่มาอ่านด้วยหรือไงวันนี้”

       “พวกมันบอกว่าอยากอ่านคนเดียวครับ ผมไม่อยากอ่านคนเดียวที่ห้องเพราะผมต้องหลับคาหนังสือแน่ๆ เลยมาอ่านกับพี่เมฆดีกว่า สอนเข้าใจด้วย”

       เหอะ แล้วทำไมต้องกูวะ

       “แล้วพี่เมฆหล่ะ ทำไมมาอ่านคนเดียว แฟนไม่มาด้วยแล้วหรอ”

       “แฟนที่ไหนวะ” ผมงง

       “ก็คนที่มาด้วยเมื่อวานไง” มันอธิบาย

       ผมคิดว่าเมื่อวานผมพาใครพา “อ๋อ ไอ้นั่นอะนะ เพื่อนสนิทพี่เอง ใช่แฟนที่ไหนไม่มีเถอะ”

       “อ่าวผมก็นึกว่าแฟน ก็น่ารักอย่างพี่เมฆเนี่ยใครจะไปคิดว่าจะยังโสดหล่ะครับ” มันว่า เราเพิ่งจะเดินผ่านเสาไฟมาเลยทำให้ผมมองไม่เห็นหน้ามัน

       “น่ารงน่ารักอะไรหล่ะ ไอ้นี่แม่งง่วงจนเพ้อเจอป่ะเนี้ย” อันนี้คงไม่ใช่มุขหลอกถามว่าโสดไหมของมันหรอกนะ

       “ก็ผมพูดความจริง”

       “จริงก็แย่แล้ว”

       หลังจากนั้นเราก็เงียบกันมาเรื่อยจนเดินมาถึงเซเว่น เราก็แยกยายไปหยิบของที่ต้องการ ผมหยิบกาแฟหนึ่งกระป๋อง กับขนมปังใส่สังขยาห่อหนึ่ง ซื้อไปมากไม่ได้เพราะหอสมุดเขาห้ามเอาของกินทุกอย่างเข้า ผมซื้อกะว่าจะเดินไปกินไปให้หมดก่อนจะถึงหอสมุด เดินวนอยู่ในนั้นสักพักดูว่าไม่มีอะไรที่อยากได้อีก จ่ายเงินเสร็จก็มายืนรอไอ้พีคอยู่หน้าประตู ไม่นานมันเดินออกมาพร้อมกับถุงที่มีขนมสามสี่ห่อกับกาแฟหนึ่งแก้ว

       “หอสมุดเขาไม่ให้เอาของกินเข้านะ” ผมบอกมัน เพราะดูแล้วของที่มันซื้อมากินไม่หมดก่อนถึงแน่ๆ

       “รู้ครับ ผมนั่งกินอยู่ข้างหน้าก่อนค่อยเข้าไปก็ได้ ผมหิว” มันว่าแล้วก็ออกเดินกลับตามทางเดิมที่เราเดินมา

       ก็ตามที่คุณมึงจะทำเลยครับ “อ่อ”

       แป็ก!!!

       เสียงผมเปิดกระป๋องกาแฟทำให้พีคมันหันมามองกระป๋องในมือ

       “ทำไมพี่เมฆกินกาแฟกระป๋องอะ” มันถาม

       “พี่ว่ามันแรงดี แบบแก้วมันทำอะไรหนังตาพี่ไม่ได้หรอก อะนี่ ฝากแปป” ผมยื่นกาแฟกระป๋องให้มันถือเพื่อจะได้แกะห่อขนมปัง

       พอร่างกายได้รับคาเฟอีนก็รู้สึกตื่นขึ้นมาพอจะสู้กับตัวหนังสือได้บ้าง เราเดินกันด้วยความเงียบอีกครั้ง ไม่มีใครพูดอะไร ต่างคนก็ต่างกินของที่ซื้อมา ตาก็มองทางปากก็เคี้ยวของกินไป จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าหอสมุดผมก็กินหมดพอดี แต่ข้างๆ ผมเนี้ยสิเหลืออีกตั้งสองห่อ ผมกะจะเข้าไปก่อนแล้วถ้าไม่ถูกรั้งไวก่อน

       “พี่เมฆเดี๋ยวก่อนสิ มาช่วยผมกินขนมก่อน ผมกินคนเดียวไม่หมดแน่ๆ”

       “ถ้าคิดว่ากินไม่หมดแล้วแกซื้อมาทำไมเยอะแยะวะ”
       
       “น่า นะๆๆๆๆ ถือซ่ะว่าผมเสี้ยงตอบแทนที่พี่สอนเมื่อวาน” มันทำท่าอ้อนครับ โถ่น่ารักตายอะ ทำงี้กูแทบจะวิ่งหนี

       “เออๆ” แต่สุดท้ายผมก็มานั่งลงบนขั้นบันใดข้างๆ มัน อาจจะเพราะผมขี้เกียจอ่านหนังสือมั้ง เลยทำให้ยังไม่อยากเข้าไปตอนนี้ ไอ้พีคแกะถุงขนมก่อนจะยื่นมาให้ผม

       “อะ นี่ครับ” ผมหยิบขนมขึ้นมากินสองสามชิ้น พีคมันก็หยิมกินบ้าง “พี่เมฆ ผมขอถามอะไรพี่หน่อยได้มั้ยครับ”

       “แกจะถามอะไรหล่ะ” พูดกันไว้ก่อนครับ เผื่อเป็นคำถามที่ไม่อยากตอบ

       “เป็นคำถามเกี่ยวกับตัวพี่อะ พี่จะหาว่าผมละลาบละล้วงก็ได้นะ”

       “เออๆ ถามมา ตอบได้ก็ตอบ ไม่ได้ก็ไม่ตอบ”

       “ทำไมพี่เมฆถึงไม่มีแฟนอะ”

       แค่ก!ๆ ผมแถบจะสำลักขนม มันหาว่าผมขายไม่ออกหรอวะ

       “เห้ย ผมไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่มีคนเอานะครับ” มันคงสังเกตเห็นหน้าผมที่น่าจะแสดงอารมตอนออกนี้ไปแล้ว “ผมหมายถึงว่า พี่เมฆน่ารักขนาดนี้ ต้องมีคนเข้ามาจีบเยอะแน่ๆ แต่ทำไมถึงไม่เลือกมีแฟน”

       “อ่อ... หึ แค่เรียนพี่ก็ไม่มีเวลาทำอย่างอ่านแล้วครับไอ้น้อง เรื่องเรียนก็ปวดหัวจะตายอยู่แล้วไม่อยากเอาเรื่องความรักมาให้ปวดหัวเพิ่ม” ผมตอบมันไป เป็นครั้งที่สองของวันแล้วนะที่มันชมผมว่าน่ารัก แต่บอกไว้ก่อนว่ากูไม่เขินหรอกโว้ย ฮ่าๆๆๆ

       “งั้นพี่เมฆก็คงเคยมีแฟนมาแล้วสิครับถึงได้รู้ว่ามันปวดหัว”

       “ก็เคย ตั้งแต่ตอนมันธยมนู้นแหละ นานแหล้วหล่ะ”

       “แล้วทำไมถึงเลิกกันหล่ะครับ” มันยังถามต่อ

       ไอ้เด็กนี่มันขี้ซักจริงๆ “คนแรกมันขี้หึงเกินไป งี้เง้าเกิน พี่ก็เลยเลิก อีกคนแยกกันไปเรียนคนละที่ พอเวลาผ่านไปก็กลายเป็นว่ามันไปเจอคนใหม่ มันก็มาบอกเลิก พี่ก็ไม่ได้รั้งอะไรเพราะถึงยังคบกันต่อไปมันก็ไม่มีความสุขหรอก” ผมตอบมันยาวเยียด ผมกะว่าจะลงรายละเอียดเยอะกว่านี้ประชดมันแต่ขี้เกียจพูด

       “พี่เมฆนี่ใจแข็งมากๆ เลยนะครับ มีคนมาจีบตั้งเยอะแยะแต่ก็ไม่ยอมรับใครเลย”

       “แกรู้ได้ไงว่ามีคนจีบพี่เยอะ มีหน่ะมันก็มี แต่ก็มีแต่พวกกากๆ ไม่กล้าแสดงตัว หรือไม่ก็พวกกะล่อนปลิ้นปล้อนกลอกเสียบ ใครจะไปใจอ่อนให้วะ”

       “งั้นแสดงว่าถ้ามีคนมารุกจีบพี่จริงๆ พี่จะเล่นด้วยใช่ป่ะ”

       “นี่แกถามเหมือนแกจะจีบพี่อย่างนั่นแหละ”

       "..." มันเงียบไป

       "..."

       “ถ้าจริงพี่จะให้ผมไหมละ”

       “...”

       “ผมขอจีบพี่เมฆได้ไหมครับ”

       ห่ะ...



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

      Peak

       ผมรอคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อกี้ผมไปเอาความกล้ามาจากไหน อะไรดลใจให้พูดไปแบบนั้น

       “หึ” พี่เมฆยิ้ม “ถ้าแกคิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ”

       พี่เมฆพูดแค่นั้นแล้วก็ลุกขื้นยืนก่อนจะก้าวขาฉับๆ เดินไปทางประตูหอสมุด

       “ผมไม่ท้องง่ายๆ หรอก” ผมตะโกนตามหลังพี่เมฆไป

       ผมนั่งกินขนมที่ซื้อมาต่อจนหมดถึงได้เข้าไปอ่านหนังสือต่อ พี่เมฆดูเหมือนจะไม่ได้สะทกสะท้านกับการขอจีบของผมเลยแม้แต่นิดเดียว อ่านหนังสือต่อได้อย่างหน้าตาเฉย คนอะไรใจแข็งเป็นบ้า ขนาดผมแอบหยอดหลายรอบแล้วยังไม่ยักเขินสักที หรือพี่แกตายด้านไปแล้ววะ

       วันนั้นเราอ่านกันถึงตีหนึ่ง พี่เมฆก็บอกว่าจะกลับแล้ว เราเลยเก็บของแยกย้ายกันกลับไปนอน

       
       
       สัปดาห์แห่งการสอบเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับแผนการจีบพี่เมฆของผม ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้มากหรอกครับ แค่มาอ่านหนังสือที่ห้องสมุด อ่อยด้วยการให้พี่แกสอนบ้าง หรือแอบมองพี่แกอ่านหนังสือบ้าง ผมชวนพี่เมฆไปเซเว่นทุกวัน ชวนคุยเรื่องสารพัด มันเหมือนผมมาช่วนพี่เมฆคุยมากกว่ามาจีบ เพราะไม่ว่าผมจะหยอดพี่เมฆไปกี่ครั้งๆ พี่แกก็ยังเฉย ไม่มีอาการเขินหน้าแดงใดๆ ทั้งสิ้น

       และแล้วคือสุดท้ายของการอ่านหนังสือก็มาถึง ความจริงพี่เมฆสอบเสร็จแล้ววันนี้ แต่ผมเลือกอีกตัวหนึ่งพรุ่งนี้ ผมใช้ลูกตื้อให้พี่เมฆมาติววิชานี้ให้เพราะพี่เมฆเคยเรียนตอนปีหนึ่ง และมันก็ได้ผลครับ

       “...เข้าใจแล้วใช่ไหม” พี่เมฆอธิบายด้วยเสียงเบาหวิวเหมือนทุกที

       “ครับ” ผมพยังหน้าตอบ วิชานี้ไม่ใช่วิชายากอะไร ที่จริงผมเข้าใจอยู่แล้ว แต่แค่หาข้ออ้างให้พราเมฆมาด้วยเฉยๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ “เออ พี่เมฆครับ พรุ่งนี้พี่เมฆว่ามั้ย”

       “อืม ว่าดิ สอบเสร็จแล้ว”

       “ดีเลย งั้นพรุ่งนี้สอบเสร็จเราไปฉลองกัน”

       “ฉลองอะไรวะ”

       “ฉลองสอบเสร็จไง”

       “อืมไปดิ” เฮ้ย ตอบตกลงง่ายไปมั้ยเนี้ย หรือพี่เมฆกำลังอ่อยผมอยู่ แต่ผมว่าพี่เมฆเป็นคนง่ายๆ อยู่แล้วมากกว่า ชวนไปไหนก็ไป ขอร้องให้ทำอะไรก็ทำ น่ารัก

       “งั้นผมขอเบอร์พี่เมฆไว้หน่อยได้ไหมครับ สอบเสร็จแล้วจะได้โทรหา” ไม่อยากจะบอกเลยว่าตั้งแต่ผมตีสนิทจีบพี่เมฆมาเกือบจะสองสัปดาห์ ยังไม่มีเบอร์กันเลย นี่กว่าผมจะหามุขขอเบอร์ได้นั่งคิดอยู่เป็นชาติ

       “เอาโทรศัพท์แกมาสิ” พี่แกก็ตอบรับไวมาครับ ผมรีบคว้าโทรศัพท์ผมยื่นให้พี่เมฆโดยเร็ว พี่แกหยิบไปแล้วกดเลขหยุกหยิกก่อนจะยื่นคือมาให้ผม

       “พี่เมฆครับผมขอถ่ายรูปหน่อยสิ เอาไว้ใส่ในรายชื่อ” ผมยังไม่พอครับ ยิ่งพี่แกยอมผมก็ยิ่งได้ใจ

       พี่เมฆไม่ตอบแต่ลุกมานั่งข้างๆ ผมแล้วดึงโทรศัพท์ในมือผมไป

       “ยิ้มดิ” พี่เมฆพูดก่อนจะยกโทรศัพขึ้นถ่ายเซลพี่กันสองคน พี่เมฆทำปากจู๋ด้วยครับ ฮือ ผมเขินจะตายแล้ว

       โชคดีที่วันนี้คนในห้องสมุดไม่เยอะเพราะหลายคณะสอบเสร็จแล้ว ทำให้ผมไม่ต้องอายมากที่อยู่ดีๆ พี่เมฆก็หยิบโทรศัพท์ผมไปกดชัตเตอร์

       ผมรับโทรศัพท์ผมคืนมาก็พบว่าพี่เมฆเลือกรูปเองแล้วเรียบร้อย เซฟชื่อเองเสร็จสับ

       ให้ตายเถอะ ทำไมก่อนหน้านี่พี่เมฆไม่อ่อยขนาดนี้ พี่แกกินยาผิดขวดรึเปล่า

       
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

มาแล้วกับตอนที่สอบ จีบเร็วอ่อยเร็ว
พี่เมฆก็ยังมึนๆ ตายด้านเหมือนเดิม 55555
เนื่องเรื่องเหมือนจะยังไม่จบ แต่อีกตอนเดียวก็จบแล้วฮะ
ฝาหคอมเม้นเป็นกำลังใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้นักเขียนตาดำๆ คนนี้ด้วยนะครับ

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
พี่เมฆอ่อยน้องหรอ

 :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ที่มึนที่ซึนนี่เขินน้องใช่ม๊า...รอจ้า  :katai5:

ออฟไลน์ Mocc1007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0

3



       “พี่เมฆ ผมสอบเสร็จแล้วนะ พี่เมฆกินข้าวเที่ยงยังอะ” วันต่อมา พีคมันก็โทรมาผมตอนเที่ยง

       “กินแล้ว”

       “โหย ไรอะ ไม่รอผมเลย” มันทำเสียงน้อยใจ “นี่ผมกะจะกินพร้อมพี่เมฆนะเนี้ย แล้วนี่เราจะไปฉลองกันตอนไหนหล่ะครับ”

       “ตอนเย็นๆ ค่อยไป”

       “แล้วตอนนี้หล่ะครับ ผมจะกินข้าวกับใครอ่า” เออนะไอ้เด็กนี่

       “เออ งั้นแกก็ซื้อขึ้นมากินที่คอนโดพี่ก็ได้” ผมตอบมันไป กี้เกียจเถียงครับ

       “เย้” มันว่าแค่นั้นแล้วก็วางสายไปเลย

       สามสิบนาทีต่อมาผมก็ได้ยินเสียงออดหน้าประตูห้อง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ใครที่ไหน ผมเดินไปเปิดก็พบกับเด็กปีหนึ่งที่แต่งตัวเนียบเสื้อเรียบกริบถือถุงซุปเปอร์พรุงพรังยืนยิ้มอยู่ มันเดินแทรกตัวเข้ามาในห้องก่อนที่ผมจะทันได้อ้าปากถาม

       “นี่แกซื้อของสดมาทำไมเยอะแยะ” ผมถามมัน

       “ก็ผมหิวอะ คิดถึงฝีมือพี่เมฆ” ผมตามมันที่เดินดุ่มๆ เข้าไปในครัว ไอ้พีควางถุงบนเค้าเตอร์ก่อนจะเดินไปที่ที่ผมแขวนเสื้อกันเปื้อนไว้ “ทำให้ผมกินหน่อยนะครับ นะๆๆๆๆๆ” มันทำหน้าทำตาอ้อนอีกแล้วครับ เหอะ

       พีคหยิบเสื้อกันเปื้อนจากที่แขวนแล้วเดินมาใส่ให้ผม ผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ความจริงคือขัดขืนอะไรไม่ได้เลยมากกว่า เพราะถึงขัดขืดไปมันก็ใช้ลูกตื้อมาเป็นไม้ตายอยู่ดี ก็ได้แต่ยืนนิ่งให้มันเอื้อมมือไปมัดเชือกที่ด้านหลังให้ หลังจากมันใส่ให้ผมเสร็จมันก็ไปหยิบของตัวเองมาใส่บ้าง

       “แล้วนี่ซื้อมาให้ทำอะไรอะ” ผมถามเพราะมันซื้อมาเยอะมาก มันคงไม่คิดจะให้ผมทำให้กินทั้งหมดนี่หรอกใช่ไหม

       “ผมอยากกินแพนงหมู” ไอ้พีคแจ้งเจตจำนงอย่างชัดเจนพลางหยิบของที่ต้องใช้ออกจากถุง “ส่วนที่เหลือเนี่ยเอาไว้ทำกินวันหลัง” แล้วมันก็หิวถุงที่เหลือไปไว้ในตู้เย็น

       พีคกับผมช่วยกันทำแพนงหมูอยู่นานพอควร ระหว่างทำเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนัก ผมเป็นคนทำโดยที่มีไอ้พีคเป็นลูกมือ ช่วยหั่นหมู เตรียมเครื่องปรุงให้ และไม่นานอาหารที่ไอ้พีคเป็นคนอยากกินก็ส่งควันหอมกรุ่นอยู่ในหม้อ ผมเห็นพีคเดินไปตักข้าวสวยร้อนๆ ไปวางรอที่โต๊ะกินข้าว ผมจึงถอดเสื้อกันเปื้อนออกแล้วตักแพนงใส่ชามเดินตามออกไป

       “น้ำตาจะไหล ผมคิดถึงแพนงที่พี่เมฆทำมากๆ เลยนะรู้มั้ย”

       เออๆ รู้แล้ว ดูจากหน้าตามันละก็น่าเชื่อจริงๆ แหละ ดูแววตามันสิ ฮ่าๆๆ “จริงหรอ คิดถึงก็รีบๆ กิน เข้าไป”

       “พี่เมฆนั่งกินเป็นเพื่อนผมก่อนสิ” ผมมองไปที่จานอีกใบที่มันตักข้าวใส่แล้วเรียบร้อย

       “ไม่เอาอะ พี่กินอิ่มแล้ว”

       “นะๆๆ น้า” อีกแล้วครับ “เราไม่ได้นั่งกินข้าวด้วยกันนานแล้วนะครับ ตั้งสามอาทิตย์แล้วนะ”

       สุดท้ายผมก็ต้องนั่งกินกับมันครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

Peak

             
 
       ในที่สุด!!! วันที่ผมรอคอยก็มาถึง วันที่ผมได้กินแพนงหมูสุดโปรดกับพี่เมฆอีกครั้ง เย้ๆๆๆๆ

       หลักจากที่ผมกับพี่เมฆต้องกลายเป็นคนไม่รู้จักกันน่าสามสัปดาห์ เพราะเกมบ้าบอที่ผมไปสัญญากับพี่เมฆไว้เอง ฮือออ พูดแล้วก็จะร้องไห้ ผมสัญญากับพี่เมฆไว้ตอนสอบมิดเทอมว่าจะทำคะแนนให้ได้ถึงเกณฑ์ที่พี่เมฆตั้งไว้ เพราะตอนนั้นเราทะเลาะกันนิดหน่อยครับ ผมหาว่าพี่เมฆบ้าเรียน(ซึ่งมันก็จริงไหมหล่ะครับ) สนใจเรียนมากกว่าสนใจผม พี่เมฆเลยท้าให้ผมทำคะแนนมิเทอมให้ได้ตามที่พี่เมฆตั้งไว้ ถ้าทำไมได้ ตอนสอบไฟนอลเราต้องทำเป็นไม่รู้จักกันสามสัปดาห์เพื่อที่จะได้แยกกันอ่านหนังสือ ซึ่งมันเป็นเหมือนการลงโทษไม่ให้ผมไปกวนพี่เมฆอ่านหนังสือมากกว่า และผลออกมาตามที่เห็น ผมทำไม่ได้ครับ ฮือออ ร้องไห้อีกรอบ

       แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้ครับ ในเมื่อเราไม่รู้จักกันผมก็เข้าไปทำความรู้จักพี่เมฆใหม่ซะเลย ผมแกล้งตีสนิทพี่เมฆ พี่เมฆก็เล่นด้วยครับ แกล้งชวนคุย ถามเรื่องต่างๆ นาๆ พี่เมฆก็ตอบ แกล้งขอเบอร์ก็ให้ แถมพี่เมฆก็แกล้งผมกลับแกล้งผมบอกว่าตัวเองยังไม่มีแฟน ผมเลยขอจีบซะเลย

       จีบแฟนตัวเองนี่มันก็เขินเหมือนกันนะครับ แต่พี่เมฆเนี่ยสิ ไม่เขินให้มุขหยอดผมซักแอะเลย ให้ผมเขินคนเดียวตลอด

       “พี่ยังไม่ได้คิดบัญชีที่แกผิดสัญญาเลยนะ” พี่เมฆพูดขึ้นหลังจากที่ผมกินอิ่ม

       “ผิดสัญญาอะไรครับ” ผมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

       “ก็ไหนพี่บอกให้เราทำเป็นไม่รู้จักกัน แต่แกกลับมาตีสนิทขอจีบเนี้ย”

       “ก็ถูกแล้วนี่ครับ ก็เราไม่รู้จักกัน แต่ผมชอบพี่ ผมก็ต้องเข้าไปจีบสิ”

       “ชอบ?”

       “อ้อไม่สิ ผมพูดผิด เอาใหม่ ก็ผมรักพี่เมฆหนิ ก็ต้องอยากอยู่ใกล้ๆ สิ เดี๋ยวมีหมาที่ไหนคาบไปแดกตอนผมไม่อยู่แล้วผมจะอยู่กับใคร”

       “หึ” พี่เมฆยิ้มหยัน

       “เออ แล้วเราจะไปฉลองสอบเสร็จที่ไหนดีครับ” ผมถาม ตอนนี้บ่ายสามแล้ว

       “ทะเล” ตามคาดครับ

       “โอเคครับ งั้นเดี๋ยวผมไปจัดของให้นะ” ผมว่าก่อนจะลุกจากโต๊ะไปจัดของระหว่างที่พี่เมฆทำความสะอาดห้องครัว ไม่ต้องถามให้มากความครับ ทริปหลังสอบ สองวันหนึ่งคืน เราไปกันทุกเทอมตั้งแต่ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ ตอนที่ผมอยู่มอสี่ พี่เมฆอยู่มอหก ผมหยิบเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นใส่กระเป๋า เสื้อผ้ากับของใช้ผมพอมีติดห้องนี้ไว้อยู่บ้างเลยไม่จำเป็นต้องกลับไปเอาที่ห้องผม

       “เสร็จยัง” พี่เมฆเข้ามาในห้องตอนที่ผมเก็บของเสร็จพอดี

       “เสร็จพอดีเลยครับ งั้นผมขออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะครับ”

       “อืม”

       “เออพี่เมฆครับ หลังจากกลับจากทะเล ไปนอนบ้านผมนะ แม่บ่นคิดถึง”

       “ได้ พี่ก็คิดถึงแม่แกเหมือนกัน คิดถึงน้องพัคด้วย” พี่เมฆพูดถึงหลานชายตัวเล็กของผม ไหงพี่เมฆคิดถึงแต่แม่กับหลานอะ ไม่ยอมมม

       “คิดถึงแต่แม่กับหลานอะ พี่เมฆไม่คิดถึงผมเลยหรอ” ผมเดินหน้ามุ่ยเข้าไปหาพี่เมฆ “ผมคิดถึงพี่เมฆมากเลยนะ ไม่ได้อยู่ด้วยกันตั้งสามอาทิตย์ สามอาทิตย์เลยนะที่ไม่มีพี่เมฆนอนข้างๆ ไม่มีพี่เมฆให้กอด ไม่มีพี่เมฆให้อ้อน—“

       ยังไม่ทันที่ผมจะสาธยายจบก็ถูกพี่เมฆดึงไปกอด

       “พี่ตอบแบบนี้แทนได้ไหม” พี่เมฆกระซิบข้างหูผมก่อนจะประกบปากผม



-จบ-



====================================

จบแล้วครับ มาแบบมึนๆก็จบแบบงงๆ 55555
น้องพีคสายอ้อนกับพี่เมฆตายด้าน
ฝากคอมเม้นเป้นกำลังใจด้วยนะคร้าบบบบ

รักนักอ่านทุกคนเลยยยย :mew1: :pig4:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
อ่าว...วววววว คดีพลิก ขอตอนพิเศษได้ไหม อยากอ่านตอนน้องพีคอ้อนพี่เมฆ   :katai2-1:

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
โถ่เอ้ย ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง :-[

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
คดีพลิก

 :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :a5: :a5: :a5: :a5:
อ้าววววววววววว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
อ่านจบ นี่แบบร้องอ้าววววว กันเลยทีเดียว  เค้าเป็นแฟนกันอยู่แล้วนี่หว่า :katai2-1:

ออฟไลน์ Mocc1007

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนพิเศษ – สงกรานต์

ก่อนวันสงกรานต์

       สองทุ่ม ตอนนี้ผมนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขกกับแม่และน้องชายคนเล็กที่อายุห่างกันเกือบสิบห้าปีตอนนี้กำลังนอนหนุนตักผมอยู่

       “พี่เมฆครับ โทรศัพท์พี่เมฆสั่นหรือเปล่า” หมอก น้องชายผมพูดขึ้นทำให้ผมต้องละสายตาจากทีวีมาดู

       “อ้อ ใช่จริงๆ ด้วย” ผมบอกน้อง หมอกยกหัวตัวเองขึ้นเพื่อนให้ผมล้วงหยิบโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้น

       มองดูหน้าจอปรากฎเป็นว่าไอ้พีคครับ

       “ว่าไง”

       “พี่เมฆ พรุ่งนี้สงกรานต์ไปเที่ยวกันเถอะ” มันพูดผ่านสายมาด้วยเสียงออดอ้อน จะเที่ยวอะไรอีกเนี้ย เดือนก่อนก็เพิ่งจะไปทะเลมาหยกๆ นี่จะชวนไปไหนอีกวะ “ผมอยากเล่นน้ำกับพี่เมฆอ่า”

       “จะไปไหนหล่ะ” ผมถาม

       “ผมอยากไปเชียงคาน” ทำไมมันอยากไปไกลจังวะ

       “มันไกลมากเลยนะ จะขับรถไหวหรอ แล้วที่พักอีก ได้ยินว่าที่พักช่วงเทศกาลนี่นั่นแทบจะไม่มีว่างเลยนะ”

       “เราก็เปลี่ยนกันขับไงครับ ส่วนที่พักพอดีผมมีเพื่อนอยู่แถวนั้นเลยจัดการแล้วเรียบร้อย นะๆ พี่เมฆ ผมอยากเที่ยวอ่า”

       “อืมๆ ไปก็ไป” มันวางแผนมาอย่างดีครับ

       “เย้ งั้นพรุ้งนี้เราออกเดินทางสักแปดโมงเช้า บวกเวลารถติดน่าจะถึงตอนค่ำๆ”

       แผนการชวนเที่ยวอันแยบยลของมันใช้การได้ครับ ผมก็อยากเที่ยวอยู่เหมือนกัน

       พีคมันชวนผมคุยเรื่องที่เที่ยวต่อว่าจะไปไหนกันบ้าง สรุปแล้วคือเมื่อเราไปถึงจะต้องเอาของเข้าห้องพักก่อน พอสักสองทุ่มจะออกมาเดินเล่นที่ถนนคนเดิน วันต่อมาจะไปที่แก่งคุดคู้ เล่นน้ำกัน พอบ่ายๆ จะมาเล่นน้ำที่บ้านเพื่อนของพีค ซึ่งที่จริงแล้วพวกเพื่อนๆ พีคก็ไปครับ แต่มันขอแยกเที่ยวกับเพื่อนแล้วนัดเจอกันเอา เช้าวันต่อมาเราก็จะเดินทางกลับ

       “พี่เมฆจะไปไหนอะ” หมอกถามขึ้นตอนที่ผมยังไม่ทัดได้วางสายจากพีค

       “พี่จะไปเที่ยว ไปด้วยกันมั้ย” ผมถาม

       “ไปไหนอะ”

       “เชียงคาน”

       “ไปครับ!!” หมอกรีบตอบโดยเร็ว

       “เออพีค ชวนน้องพัคไปด้วยสิ จะได้ไปเป็นเพื่อนหมอกด้วย พาเด็กไปจะได้คึกคักหน่อย” ผมหันไปคุยโทรศัพท์กับพีคให้ชวนหลานชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับหมอกของมันไปด้วย

       “อ...โอเคครับ ตามนั้นเลย งั้นเดี๋ยวผมโทรจองห้องพักอีกห้องเลยละกัน”

++++++++++++++++++++++
Peak

       เช้าวันสงกรานต์ ผมรีบอาบน้ำแต่ตัวเพื่อจะได้ไปรับพี่เมฆก่อนเวลา ตอนแรกผมก็รู้สึกน้อยใจอยู่หรอกที่พี่เมฆชวนน้องตัวเองไปแถมให้ผมชวนหลานไปอีก แต่พอมาคิดอีกทีพี่เมฆคงไม่มีทางรู้หรอกว่าผมน้อยใจ งอนไปพี่เมฆก็ไม่รู้ผมเลยยอมจำนนแต่โดยดี เดินไปชวนน้องพัคที่กำลังจะเข้านอน รายนั้นพอได้ยินก็ถึงกับตาสว่างไม่อยากนอนตื่นเต้นขึ้นมาทันที

       ผมไปเคาะประตูห้องพัคเพื่อจะเช็คว่าหลานชายตัวเล็กของผมแต่งตัวเสร็จแล้วหรือยัง

       “เข้ามาเลยพีค” เสียงพี่สาวผมดังลอดประตูออกมา

       “เสร็จหรือยังครับ” ผมถามพี่สาวผม

       “เสร็จแล้วครับคุณน้าพีค” พี่สาวผมตอบ “น้องพัคไปกับน้าพีคหามดื้อนะลูก แกก็ดูหลานดีๆ นะพีค ขับรถดีๆ หล่ะ ไม่ต้องรีบ”

       “ครับๆ” ผมตอบ

       
       

       ผมออกไปรับพี่เมฆก่อนแปดโมงเช้าเพื่อเช็คความเรียบร้อยก่อนออกเดินทาง เราเดินทางกันเกือบเก้าชั่วโมง รถติดเป็นพืด นี่ขนาดเป็นวันที่คนน่าจะกลับกันหมดแล้วยังติดอยู่ เด็กสองคนด้านหลังคุยกันเสียงเจี๊ยวจ๊าวกลายชั่วโมงก่อนจะเหนื่อยแล้วก็สลบกันไป พี่เมฆถามว่าจะให้สลับไปขับไหมหลายรอบแต่ผมยังไหวครับ

       เราถึงตัวจังหวัดเลยตอนห้าโมงเย็น ต้องขับต่อไปอีกสี่สิบห้านาทีเพื่อจะเข้าไปยังตัวอำเภอ กว่าจะเก็บของเสร็จได้พักจริงๆ ก็เกือบทุ่ม ห้องพักของเราเป็นโฮมสเตที่กึ่งๆ เป็นโรงแรมตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง มีระเบียงไว้ให้ยืนชมวิวพระอาทิตย์ตก แต่เราไม่ทันได้ดูครับวันนี้ เพราะมัวแต่ขับรถวนหาที่พักจนพระอาทิตย์ตกดินไปซะก่อน ส่วนด้านหน้าของที่พักเป็นถนนคนเดินที่ตอนนี้กำลังคึกคัก คนแน่นจนเกือบเดินไม่ได้ ช่วงเทศกาลก็แบบนี้แหละครับ คนเที่ยวเยอะ

       ผมให้เด็กสองคนนอนอีกห้องข้างๆ กัน พี่เมฆก็บ่นนิดๆ ว่าจะแยกให้เปลือทำไม ก็ผมอยากนอนกับพี่เมฆสองคนนี่นา

       “จะออกไปเดินเลยไหม” พี่เมฆถามผมที่ตอนนี้นอนแผ่หลาอยู่บนเตียง

       “ผมขอพักเหนื่อยก่อนแปปครับ”

       “ใครบอกให้แกอวดเก่ง ขับคนเดียวจนถึงหล่ะ”

       “ก็ผมกลัวพี่เมฆเหนื่อยไง”

       “แล้วแกก็มาเหนื่อยซะเองเนี้ยนะ”

       “งั้นพี่เมฆก็มาช่วยคลายเหนื่อยให้ผมหน่อยสิ” ผมขอครับ เผื่อได้

       พี่เมฆเดินเข้ามาหยุดที่ข้างเตียง ก่อนจะก้าวขาขึ้นมาคร่อมผมที่นอนหงายอยู่ ผมตกใจนิดๆกับการกระทำของพี่เมฆ “จะให้ช่วยแบบไหนดีหละ” พี่เมฆถามก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบผม ผมก็ตอบรับอ้าปากรับจูบพี่เมฆอย่างว่าง่าย และมือผมไม่อยู่เฉย ล้วงเข้าไปใต้เสื้อลายดอกสีสดของพี่เมฆไปแล้วอย่างรวดเร็ว

       “มืออย่าซนสิ” พี่เมฆผละจูบออกมาบอกผม

       “งั้นอย่างอื่นซนแทนละกันครับ” ผมไม่รอช้าผลักพี่เมฆให้เป็นฝ่ายนอนอยู่บนเตียงแล้วผมขึ้นคร่อมแทน ก่อนจะโน้มตัวลงไปบดจูบริมฝีปากพี่เมฆ ขมเม้มกลีบปากได้รูปก่อนที่จะไหลลงมาพรมจูบที่ต้นคอ เรื่อยลงมาตามลาดไหล่ มือทั้งสองข้างผมกำลังปลดกระดุมเสื้อพี่เมฆที่ละเม็ดส่วนมือพี่เมฆก็กำลังลงไปปลดกระดุมกางเกงผม

       แต่ก่อนที่เราจะได้มีอะไรเกินเลยไปกว่านั้น

       ก็อกๆๆ

       เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นขัดจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มของเรา

       พี่เมฆยิ้มหัวเราะผลักผมออกก่อนจะติดกระดุมตัวเองคืน ผมที่อารมณ์ค้างก็ได้แต่เดินดุ่มๆ เข้าห้องน้ำ ปล่อยให้พี่เมฆเป็นคนไปเปิดประตู

       “พี่เมฆครับ เราจะออกไปเดินเล่นกันตอนไหนอ่า” เสียงดังลอดประตูห้องน้ำเข้ามา แต่หลังจากประโยคนั้นผมก็ไม่คิดจะสนใจฟังอะไรอีก


       เราออกมาเดินกันตอนสามทุ่ม คนยังไม่ดูบางตาลงไปเลย มีแต่จะดูมาขึ้นไปอีก ถนนคนเดินที่นี่สองข้างทางจะเต็มไปด้วยบ้านไม่เก่าๆ ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ ร้านค้าต่างๆ จะติดไฟสีเหลือกส้มเพื่อให้บรรยากาศเก่าๆ ร้านขายของกินเยอะมาก เด็กๆสองคนตื่นเต้นกันใหญ่ แวะร้านนั้นเข้าร้านนู้น อิ่มหนำสำราญกันเต็มที่ ผมกับพี่เมฆซื้อเสื้อคู่ไว้ใส่พรุ่งนี้กัน เลือกลายกันอยู่นานครับ แต่สุดท้ายพี่เมฆก็ต้องยอมซื้อตัวที่ผมชอบ ฮ่าๆ

       บรรยากาศกำลังดี มีวงดนตรีเปิดหมวกเล่นตามข้างทางอยู่หลายวง เสียงเพลงเคล้าอารมณ์ไปกับการเดินเลือกซื้อของ มือหนึ่งถือถุงอีกมือถือของกิน พี่เมฆป้อนของกินเข้าปากผมไม่ขาดสายเพราะผมกินเองไม่ได้ครับ ของเต็มสองมือ ร้านรวงต่างๆ มีแต่ของน่าซื้อทั้งนั้น ร้านเสื้อผ้า ของฝากมีเพียบเลย เราเดินกันจนขาลากกันไปข้างถึงจะเอ่ยปากกลับ


       วันต่อมาเราออกจากห้องพักตอนเก้าโมง ผมนัดเพื่อนไว้ตอนบ่ายโมงเราเลยจะไปเที่ยวกันที่แก่งคุดคู้เล่นน้ำโขงกันก่อน ตอนออกมารถเริ่มจะติดแล้ว เพื่อนผมบอกว่าที่นี่รถติดทุกปี ตอนไปใช้ทางสายหลักได้แต่ตอนกลับมันแนะนำให้ไปทางถนนเลี่ยงเมืองแทนเพราะรถจะได้ไม่ติด

       ตอนนี้เป็นช่วงน่าร้อนทำให้น้ำลดจนสามารถลงได้ครับ เด็กๆ สองคนพอเห็นน้ำก็รีบวิ่งลงน้ำไปก่อนพวกผมสองคน ผมเช่าห่วงยางให้เด็กๆ คนละอันกันไว้ก่อน อันตรายครับ มีข่าวเด็กจมน้ำทุกปี เราเล่นน้ำกันจนถึงเที่ยงก็ขึ้นมาเพื่อหาอะไรกิน แต่คนเยอะมากๆ ครับ เยอะจนเราตัดสินใจว่าจะไปกินที่ที่พัก ดังนั้นเราเลยเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนจะกลับมาที่พักทางถนนเลี่ยงเมืองตามที่เพื่อนผมบอก แต่ก่อนที่เราจะถึงที่พักก็ต้องไปติดที่ถนนหลักก่อนจะถึงอยู่อีกเกือบยี่สิบนาที 

       พอทานอาหารเสร็จเราตัดสินใจว่าจะเดินไปยังบ้านของเพื่อนผมที่อยู่ถัดไปอีกสามซอย และทันทีที่เราเดินออกมาจากที่พักก็เปียกเลยครับ เด็กๆ ก็สนุกกันใหญ่เลย พกปินฉีดน้ำกันคนละกระบอกยิงใส่คนนู้คนนี้ กว่าจะมาถึงก็ทำเอาเหนือยเหมือนกัน โดนสาดน้ำกันจนจะเปื่อย

       “อ้าวไอ้พีคมาแล้ว สวัสดีครับพี่เมฆ” เพื่อนผมทักก่อนจะหันไปสวัสดีพี่เมฆ “มาเที่ยวครอบครัวสุขสันต์หรอครับเนี่ย”

       พี่เมฆหัวเราะก่อนจะเดินดุ่มๆ เข้าไปในวงเหล้าทั้นที ผมปล่อยให้พวกเด็กๆ ไปเล่นน้ำกับพวกเพื่อนรุ่นเดียวกันที่หน้าบ้าน พร้อมกำชับให้เล่นอย่างระวัง

       เรานั่งกินกันจนฟ้าจะมืด ตอนนี้พี่เมฆเมาไปแล้วเรียบร้อยครับ กอดคอหัวพิงผมอยู่ตอนนี้ พี่เมฆเป็นคนที่เมาแล้วชอบเลื้อย มือนี่อยู่ไม่สุข ล้วงนั่นล้วงนี้ผมตลอดจนต้องจับไว้ ผมนั่งกินต่ออีกนิดจนรู้สึกว่าพี่เมฆต้องไปนอนแล้วถึงได้บอกลาเพื่อนๆ เรียกเด็กที่กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกให้เดินตามมา

       “เที่ยวกับพีคนี่สนุกดีจริงๆ” พี่เมฆพูดขึ้นลอยๆ ระหว่างทาง น้ำเสียงฟังก็รู้ว่าเมาได้ที่

       “ถ้าพี่เมฆชอบเราก็เที่ยวกันบ่อยๆ สิครับ” ผมกระซิบข้างหู

       พอถึงห้องผมก็ให้พี่เมฆเข้าไปอาบน้ำ ก่อนจะไปอาบได้ก็มีงอแงให้ผมไปอาบด้วยอยู่ แต่ผมบอกว่าไม่ได้เพราะต้องไปจัดการอาบน้ำแล้วส่งเด็กๆ สองคนเข้านอนก่อน พี่เมฆถึงยอมอาบน้ำเองแต่โดยดี

       ผมกลับเข้าห้องมาอีกทีก็เห็นว่าพี่เมฆนั่งอยู่บนเตียงกำลังเขี่ยหน้าจอมือถืออยู่ทั้งตัวมีเพียงผ้าเช็ดตัวพาดเอวอยู่ผืนเดียว เมาขนาดนนี้ยังอ่านตัวหนังสือในจอออกอีกหรอวะ

       “พี่เมฆทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าครับ เดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก แล้วนี่เมาขนาดนนี้ยังมีอารมณ์มาเขี่ยโทรศัพท์อีกหรอ”

       “ไปอาบน้ำไป” พี่เมฆไล่ผมไปอาบน้ำ ผมก็ไม่อยากเถียงคนเมาเลยต้องทำตาม

       ออกมาออกยังเห็นพี่เมฆยังนั่งอยู่ท่าเดิมแต่โทรศัพท์เก็บไปแล้วครับ

       “มานี่ดิ” พี่เมฆเรียกให้ผมเดินไปไกล้ๆ

       “ครับ?” ผมเลิกคิ้วถาม

       พี่เมฆไม่ตอบแต่ดึงให้ผมนั่งลงบนเตียงก่อนจะขึ้นมานั่งคร่อมผม ตอนนี้เราทั้งคู่มีพียงผ้าเช็ดตัวคนละผืนปิดบังร่างกายท่องล่าง ผมเข้าใจแล้วครับว่าพี่เมฆต้องการอะไร ผมดึงพี่เมฆเข้ามาจูบแลกลิ้นอย่างดูดดื่ม ขบเม้มริมฝีปากของกันและกัน พี่เมฆเมานั้นจะมีความต้องการสูงกว่าในยามปกติหลายเท่านัก คิดไปแล้วผมว่าเราค้างที่นี่กันอีกคืนดีไหมนะ

       เราจูบกันอยู่นานก่อนที่พี่เมฆจะผลักให้ผมนอนราบลงกับเตียงโดยที่ตัวเองนั่งทับส่วนนั้นของผมอยู่ ผมตั้งรับจูบที่พี่เมฆบดลงมากอีกครั้งพร้อมกับมือก็ล้วงต่ำลงไปปลดผ้าเช็ดตัวของเราทั้งสองคน

69696969696969696969

เอาตอนพิเศษมาให้อ่านกันครับ
ตอนแรกคิดว่าจะไม่เขียนแล้ว แต่นี่ก็ไกล้จะสงกรานต์ อยากเขียนอะไรเกี่ยวกับสงกรานต์เลยมาลงเรื่องนี้555

อันนี้แนะนำที่เที่ยวไปในตัวครับ หลยคนอาจจะเข้าใจว่าเชียงคานน่าเที่ยวแค่ตอตฤดูหนาว
แต่จริงๆ คือหน้าร้อนก็มีที่เที่ยวเหมือนกัน
แถมตอนสงกรานต์คนเยอะมาก รถติดที่ถนนในเมืองแบบไม่ขยับเลย

ยังไงก็สุขสันต์ สวัสดีปีใหม่ไทยล่วงหน้านักอ่านทุกคนครับ
ฝากคอมเม้นให้เป็นกำลังใจด้วยครับ
 :katai5: :katai2-1:
ปล.ฝากเรื่องสั้นอีกเรื่องไว้ด้วยครับ อีกตอนเดียวก็จะจบแล้ว
Loop of Déjà vu

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อ๊ากกกกก  ค้าง ตัดได้โหดร้ายมาก    :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
อ้าวเฮ้ยยย!!!!!
เราก็ลุ้นไปเถอะว่าให้พีคจีบพี่เมฆติด
ที่ไหนได้เป็นแฟนกันอยู่แล้ว!!!!  :ling1:

ตอนพิเศษน่ารักดีจัง
มีพาน้อง พาหลานไปเที่ยวด้วย
แต่จะดีกว่านี้ถ้าไม่ตัดจบแบบนี้!! 
มีต่ออีกสักนิดก็ไม่ได้ ใจร้ายยย :m15:

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
จะตัดจบแบบเน้จริงๆหรา...ใจร้าย ใจดำ อำมหิต งือๆๆๆๆๆๆ    :z3:

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด