“เข้ามาเลย”
ใหญ่เปิดประตูห้องให้ลูกศิษญ์คนใหม่ ทีมมองไปรอบๆอย่างสนใจ ห้องของเชฟหนุ่มดูสบายตากว่าห้องของวีรภัทรมากด้วยโทนสีขาวฟ้า ตั้งแต่โซฟา ผ้าม่าน ไปจนถึงเคาท์เตอร์ครัวที่มีทุกอย่างตั้งแต่เครื่องทำอาหารคาวจนถึงอาหารหวาน ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับทีมเพราะในบทสัมภาษณ์ เชฟใหญ่เคยบอกว่าตัวเองทำของหวานได้แย่มากจนรู้สึกแย่ที่จะคิดที่จะทำด้วยซ้ำ
“ห้องสวยดีนะครับ”
“อ๋อ แฟนพี่เป็นคนแต่งน่ะ พี่ไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้หรอก” ร่างสูงหัวเราะ คำตอบนั้นยิ่งทำให้แฟนพันธุ์แท้ประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก เขาไม่เคยได้ยินว่าเชฟใหญ่มีแฟนแล้ว
“ผมเพิ่งรู้นะครับเนี่ยว่าพี่ใหญ่มีแฟนแล้ว” ร่างโปร่งว่าอย่างสนใจ อยากรู้จังว่าผู้หญิงที่มัดใจหัวหน้าเชฟที่เป็นที่หมายปองของสาวน้อยใหญ่ทั่วเอเชีย ใหญ่ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ จังหวะเดียวกับที่ประตูห้องนอนเปิดออก เผยให้เห็นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มอีกคนที่ทีมรู้จักดีในเสื้อกล้ามสีขาวยืดย้วยกับกางเกงบ็อกเซอร์ขาสั้น เผยให้เห็นรอยสีชมพูที่แผ่กระจายอยู่ทั่วร่างเหมือนกับของทีมราวกับส่องกระจก ใบหน้าหล่อหวานพิมพ์นักร้องเกาหลีหาวหวอด ก่อนจะสังเกตเห็นคนที่ไม่ควรอยู่ในห้องนั่งเล่นของตน
“ใครอ่ะ?” ร่างโปร่งถามครึ่งหลับครึ่งตื่น ทีมที่ควบคุมความตื่นเต้นไม่ไหวแนะนำตัวเสียงสูง
“ผมชื่อเทสต์ครับ ผมชอบผลงานของคุณณัฐภาสมากเลยนะครับ โดยเฉพาะเค้กมูสส้มผสมมิ้นท์...”
“อือ…ดีใจนะที่ได้เจอ แต่ขออาบน้ำแป๊บนะ ” ร่างโปร่งปรามเสียงที่ดังอยู่ข้างหูแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไร หาวอีกรอบก่อนจะเดินสะลึมสะลือเข้าไปในห้องน้ำ
“โทษทีนะ เด็กคนนั้นลองสูตรขนมใหม่ทั้งคืนเลย บอกให้ไปนอนก็ไม่เชื่อ กว่าจะกล่อมให้ไปนอนได้เล่นเอาเมื่อยเอวเลยล่ะ” ร่างสูงขอโทษขอโพยเรื่องที่เพื่อนร่วมห้องเสียมารยาท ทีมส่ายหน้าอย่างไม่ถือโทษ ยังคงรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เจอพาติชิเย่คนโปรด
แต่เอ๊ะ...เมื่อกี้พี่ใหญ่พูดว่าอะไรนะ?
“เอ่อ...หรือว่า...”
“อื้อ นั่นแฟนพี่เอง เรียกพี่โดนัทก็ได้ พอได้กาแฟซักแก้วเดี๋ยวเขาก็อารมณ์ดีเอง”ร่างสูงยิ้ม เดินเข้าครัวไปชงกาแฟจังหวะเดียวกับที่คนรักของเขาเดินกลับออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ดีกว่าเมื่อครู่มาก ณัฐภาสคว้าแก้วกาแฟจากมือของร่างสูงที่ยืนเป่าควันให้คนรักแล้วกรอกเข้าปากอึกใหญ่หลายอึก
“เป็นไงครับ ตื่นรึยัง?” เชฟใหญ่ลูบศีรษะของคนรัก ร่างโปร่งพยักหน้าแล้ววางแก้วกาแฟลงในซิงค์น้ำแล้วหันกลับมาทีมที่ยืนเอ๋ออยู่กลางห้อง
“นาย..ชื่ออะไรนะ”
“ที..เทสต์ครับ!”สายตาของอีกฝ่ายทำให้เขาประหม่าจนเกือบหลุดพูดชื่อจริงออกมา ณัฐภาสหันไปหาคนรักด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วพาเข้ามาทำไม?”
ไหนว่าได้กาแฟแล้วจะอารมณ์ดีไงครับ?!
ทีมนึกอยากจะหาที่หลบภัย จู่ๆห้องที่โล่งกว้างก็กลายเป็นเหมือนกับดักชั้นดีให้นักล่าเชือดเขาได้สะดวกขึ้น
“นัท ทำไมพูดกับน้องแบบนั้น?ไม่น่ารักเลย” ร่างสูงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ณัฐภาสเม้มปาก กอดอกยืนพิงเคาท์เตอร์ครัวด้วยสีหน้าดื้อดึง
“เอ่อ...ผมมาวันหลังก็ได้ครับ” ทีมรีบหาทางออกให้ตัวเอง ทว่าเจ้าของห้้องกลับไม่ยอมง่ายๆ
“เทสต์อยู่นี่แหละ ลองเปิดเมนูในสมุดดูว่าอยากทำอะไร พี่ขอคุยกับแฟนก่อน” ร่างสูงดึงแขนเรียวของคนรักแล้วดึงเข้าไปในห้องนอน ทีมที่ไม่มีทางเลือกเดินเข้าไปในครัวอย่างว่าง่าย เปิดสมุดสีดำเล่มใหญ่กางออกเพื่ออ่านลายมือเป็นระเบียบสองลายมือข้างในที่เขียนด้วยปากกาคนละสี
“นัท อย่างอนสิ พี่ก็เคยพาคนอื่นมาทำอาหารที่นี่ ไม่เห็นนัทจะโวยวายแบบนี้เลย”
“ผมโวยแล้ว พี่นั่นแหละที่ไม่ฟัง อีกอย่าง คนอื่นมันไม่น่ารักแบบเด็กนั่นนี่”
“อ้าว...สรุปพี่ผิด?”
“หรือพี่จะให้ผมผิด?”
ทีมหลุดขำพรืดออกมาจากเสียงที่ลอดออกมาจากห้องนอนของคนทั้งสอง ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจเชฟใหญ่ แต่ความใจดีกับคนอื่นไปทั่วของร่างสูงก็ดูจะเป็นเรื่องที่น่าหนักใจพอสมควรสำหรับคนเป็นแฟน แต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงดูเหมือนการทะเลาะประจำวันที่ดูจะไม่ร้ายแรงอะไร เขาจึงไม่เป็นห่วงอะไรมากนัก
ทำเค้กโรลครีมสดดีกว่า
“พี่ใหญ่ จะทำอะไรอ่ะ?!”
“ทำโทษเด็กเกเร”
“พี่ใหญ่! ไม่เอา!ผมเพิ่งอาบน้ำมานะ!”
ร่างโปร่งเปิดเครื่องผสมแป้งเค้กทันที ได้แต่หวังว่าเสียงของมันจะดังกลบบทลงโทษอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในห้องนั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก ไม่นานนัก คนทั้งสองก็ค่อยๆเปิดประตูออกมาจากห้องนอน เชฟใหญ่ดูอิ่มเอิบราวกับเพิ่งได้กินอาหารทิพย์ ส่วนคนรักของชายหนุ่มนั้นอยู่ในสภาพเดียวกับที่ทีมเจอในตอนแรก
“เอ่อ...คือ...” ณัฐภาสจ้องมองลูกบิดประตูราวกับว่ามันเป็นสัตว์ประหลาด ร่างโปร่งดูเหมือนว่ายังหาเสียงของตนไม่เจอ
“เอ่อ..ประตู...ปิดไม่สนิทเหรอ...”
อา...นั่นสินะสาเหตุที่ทำให้เสียงคมชัดประหนึ่งโฮมเธียเตอร์แบบนี้
ร่างสูงที่เดินตามออกมายิ้มขำ ดูไม่ได้มีความอับอายอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย ดูปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นแผนของใคร
“เอ่อ..คุณณัฐภาสว่าไงนะครับ เครื่องมันเสียงดัง” ทีมโกหกหน้าเป็น คนมีชะนักติดหลังรีบกุลีกุจอมายืนข้างเขาเพื่อเบี่ยงประเด็นจากบทลงโทษสุดสยิวที่เกิดขึ้นในห้องนอนเมื่อครู่
“มาคงมาคุณอะไรล่ะ ไม่เอาๆ เรียกพี่นัทสิ แล้วทำอะไรเนี่ย โห โรลครีมสด มาๆ พี่สอน ให้คนอย่างพี่ใหญ่สอนเดี๋ยวก็เข้าโรงพยาบาลกันพอดี”ณัฐภาสรีบพูด คนโดนด่ายิ้มขำ กอดอกยืนมองคนรักเริ่มต้นหลักสูตรทำขนมเร่งรัดโดยไม่คิดจะแก้ตัว
“พี่ใหญ่ทำขนมแย่ขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ทีมถามอย่างไม่ค่อยปักใจเชื่อ เชฟระดับโลกอย่างนั้นจะทำไม่ได้จริงๆหรือ เขาคิดว่าเป็นการพูดเกินจริงของอีกฝ่ายที่ไม่ชอบทำขนมเสียอีก
“พี่ใหญ่”ณัฐภาสไม่ตอบ หันไปหาคนรักที่ยืนอยู่ด้านหลัง “เด็กมันอยากลองของว่ะ”
“เทสต์มีประกันสุขภาพใช่มั้ย?” ร่างสูงถาม เดินมายืนข้างคนรักแล้วเริ่มต้นทำส่วนผสมของตัวเองบ้าง ทีมพยักหน้าอย่างหวั่นใจ รู้สึกลางไม่ดีอย่างไรบอกไม่ถูก
“…..”
“เป็นไง?”ร่างสูงถามอย่างมีความหวัง เล่นเอาคนชิมไม่กล้าพูด ได้แต่ยิ้มแหยๆพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้
“อื้อหือ หมาอดอาหารยังไม่กินเลยมั้งเนี่ย” ผิดกับพาร์ติชิเย่หนุ่มที่แตะขนมที่ลิ้นแค่นิดเดียวก็แทบจะคว่ำจานทิ้ง
“ไม่เห็นเป็นไรเลย พี่มีกินโดนัทแทนก็ได้” เชฟหนุ่มเย้า ทีมนึกไพล่ไปถึงบทสัมภาษณ์ของชายหนุ่มก่อนจะหลุดขำออกมา
“มีอะไรเหรอเทสต์?”หลังจากทำขนมด้วยกันอย่างสนุกสนาน ณัฐภาสก็ถือเขาคนอายุน้อยกว่าเป็นเพื่อนทันที ทิ้งคนรักให้กลายเป็นหมาหัวเน่าอยู่ในห้องของตัวเอง
“เปล่าครับ ผมแค่นึกถึงบทสัมภาษณ์ของพี่ใหญ่....”
“เฮ้ย!ไม่ได้นะ...อุ๊บ!”
“บทสัมภาษณ์อะไร” ณัฐภาสยกมือปิดปากคนรัก หันมาถามเขาอย่างสงสัย
“เอ่อ...”ทีมลังเล แต่เมื่อเห็นสายตากดดันของร่างโปร่ง จึงตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ออกมา และเปิดอีบุ๊คนิตยาสารอาหารที่เขาชอบซื้อมาอ่านให้ณัฐภาสดู
‘…แล้วคนไม่ชอบทำขนมอย่างเชฟใหญ่นี่ชอบทานขนมหวานประเภทไหนเหรอคะ?’
‘โดนัทครับ’
‘เอ๊ะ? ทำไมเหรอคะ?’
‘เพราะโดนัทมีรู....’
“ไอ้เชี่ยพี่ใหญ่!!!” คนอ่านตวาดลั่น ฝ่ายชายหนุ่มผู้ให้สัมภาษณ์รีบกอดเอวคนรักอย่างเอาอกเอาใจ ทีมจึงหันไปสนใจขนมเค้กของตนที่ยังไม่เสร็จ
Rrrr
“หือ?โทรศัพท์? อ้าว คุณวีโทรมาทำไมเนี่ย?” ชื่อของคนรักทำให้ร่างโปร่งหันกลับไปอย่างสนใจ
เอ๊ะ พี่ใหญ่ใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกับเขานี่
เดี๋ยวนะ...
“ครับคุณวี..เอ๊ะ? ครับ ตอนนี้น้องอยู่ห้องผม อ้าว...” ใหญ่ดึงโทรศัพท์ออกจากหูมาดูอย่างตกใจ ก่อนจะยิ้มแห้งๆให้กับทีมที่ยืนหน้าซีดอยู่หน้าเตาอบ
“พี่ขอโทษ...”
คนอายุน้อยที่สุดในห้องรับโทรศัพท์ของตัวเองมาแนบหู พยายามทำเสียงให้ดูเหมือนตัวเองไม่ได้กำลังกลัวเพลิงพิโรธของคนรักจนตัวสั่น
“ฮัล...ฮัลโหล?”
“ไป..อะ..ห้อง...นั้น...” เสียงปลายสายฟังดูไม่ชัด เหมือนว่าอีกฝ่ายอยู่ในที่อับสัญญาณเช่นลานจอดรถหรือลิฟท์ แต่ทีมคิดว่าเขาพอจะฟังรู้เรื่องอยู่
“มาทำอาหารครับ”
“ทำ..อนา..จาร..?”
“อาหารครับ! ทำเค้กกับแฟนพี่ใหญ่ ไม่ได้อยู่กันสองคน” ร่างโปร่งรีบแก้ตัว
“ทำ..กับแฟน..ไอ้ใหญ่...สองคน?!!!”
“คุณวี! ทำไมหูถึงได้ยินแต่เรื่องอย่างว่าครับเนี่ย?!”
“ทำ..แต่.เรื่องอย่างว่า..!!!”
“โอ๊ย คุยไม่รู้เรื่องแล้วครับคุณวี ไปคุยกันที่ห้องดีกว่า” ทีมกดตัดสาย ทว่าเสียงเคาะประตูรัวๆทำให้คนทั้งสามมองหน้ากันอย่างหวั่นใจ ณัฐภาสรับหน้าที่หน่วยกล้าตายเดินไปเปิดประตู เผยให้เห็นประธานบริษัทที่ยืนหอบหายใจเล็กน้อยอยู่หน้าประตู
“คุณวี ฟังผมอธิบายก่อน” ทีมรีบก้าวเข้าไปประชิดตัวคนรักก่อนที่ชายหนุ่มจะพุ่งเข้าใส่เจ้าของห้อง “ผมมาทำอาหาร ทำขนมน่ะครับ ไม่มีอะไรจริงๆ”
“สวัสดีครับท่านประธาน” เจ้าของห้องทั้งสองยกมือไหว้ วีรภัทรรับไหว้ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ แต่การอยู่ต่อหน้าพนักงานทำให้สติความเป็นประธานบริษัทเริ่มกลับมาอีกครั้ง ณัฐภาสพยายามจัดเสื้อผ้าของตนให้เรียบร้อย แต่ก็ยังถูกสายตาไม่ไว้ใจจับจ้องมาทางตนอยู่ดี
“ท่านประธานมาพอดีเลยครับ เค้กของเทสต์เสร็จพอดี อยู่ทานด้วยกันสิครับ” เชฟใหญ่เชื้อเชิญด้วยรอยยิ้ม แต่วีรภัทรส่ายหน้า
“ไม่ล่ะ ผมมีธุระต้องทำต่อ”
“เอ๊ะ งานยังไม่เสร็จเหรอครับคุณวี”ร่างโปร่งยืนอยู่ข้างกายถาม “จริงๆไม่เห็นต้องกลับมาเลยนี่ครับ ขับรถสองรอบเหนื่อยแย่เลย”
“แค่อยากเห็นหน้าเธอ ไม่ได้รึไง” ร่างสูงถามเสียงอ่อน
“….เราไปคุยกันต่อที่ห้องดีกว่าครับ รบกวนเขานานแล้ว อ๊ะ เค้ก” คนอายุน้อยกว่าหันกลับไปหาโรลครีมสดของตัวเอง ตัดมันออกเป็นชิ้นๆแล้วห่อครึ่งนึงใส่กล่อง “ที่เหลือฝากพี่ใหญ่กับพี่นัทช่วยชิมได้มั้ยครับ ผมอยากรู้ว่าผมต้องปรับปรุงตรงไหน”
“โอเค ไม่มีปัญหา” เชฟใหญ่รับคำ ทีมจึงดึงงแขนคนรักเบาๆให้เดินตามเขากลับไปที่ห้อง
“ท่านประธานนี่ขี้หวงใช่เล่นเหมือนกันนะเนี่ย” ร่างสูงหัวเราะเมื่อลับร่างของแขก(?)ทั้งสอง แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เขาจึงหันไปหาร่างโปร่งที่ยืนอยู่หน้าโรลครีมสดที่ทีมทำไว้เมื่อครู่“นัท?”
“พี่ใหญ่...มานี่”
ร่างสูงทำตามที่คนรักบอกอย่างงุนงง ณัฐภาสตักโรลครีมสดคำโตส่งเข้าปากชายหนุ่ม ร่างสูงเบิกตากว้าง
“อร่อย..อร่อยมาก!”
“ใช่…อร่อยกว่าที่ผมทำอีก” คนอายุน้อยกว่าพึมพำ ถึงแม้ในวงการเชฟ คนที่อายุเพียงยี่สิบห้าปีเช่นเขายังไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่ประสบการณ์สูงส่งจนน่าตกใจอะไรขนาดนั้น แต่เขาก็ถือว่าเป็นเชฟขนมหวานที่มีชื่อสียงระดับเอเชียคนนึง
แต่สิ่งที่น่าตกใจไม่ได้มีแค่นั้น...
“ผม…เคยกินขนมรสชาติแบบนี้เมื่อสามปีก่อน”
“เอ๊ะ?” เชฟใหญ่เอียงคออย่างไม่เข้าใจ
“ตอนนั้นอาจารย์ของคณะขอร้องให้ผมกับพาร์ติชิเย่ที่ผมทำงานให้มาสอนทำขนมง่ายๆ หารายได้เข้าคณะ ผมเลยตกลงไป ในตอนนั้นมีเด็กคนนึงสมัครมากับเพื่อน”
“แล้ว…?”
“ผมกับพี่คนนั้นจะสุ่มชิมคนที่ทำน่ากิน แล้วทีนี้มันมีเค้กก้อนนึงที่ทำได้สวย ประณีตจนเหมือนกับตัวต้นแบบ” ณัฐภาสย้อนคิดถึงความหลัง “แต่เด็กที่ช่วยสอนทำขนมบอกว่าคนที่มาเรียนขอตัวกลับไปโดยไม่คิดจะเอามันไปด้วย”
“ทั้งๆที่สวยขนาดนั้นเนี่ยนะ?”
“ผมก็สงสัย เลยลองชิมดู เค้กวันนนั้นเป็นเค้กสตรอเบอร์รี่ครีมสด แต่กลิ่นหอมจางๆกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์แบบนี้ไม่ผิดแน่”
“แปลว่าเทสต์เคยไปเรียนทำขนม? ก็ไม่แปลกนี่ เด็กคนนั้นดูจะชอบทำอาหารน่าดู” คนฟังไหวไหล่อย่างไม่แปลกใจ
“ที่แปลก คือผมจำชื่อของเด็กคนนั้นได้” ณัฐภาสล้วงโทรศัพท์ออกมาเปิดรูปถ่าย “ผมถ่ายใบสมัครเก็บไว้ เผื่อว่าวันนึง ชื่อของเด็กคนนี้จะโผล่มาในหนังสือสอนทำอาหาร หรือมีร้านเป็นของตัวเอง”
ใบสมัครไม่มีรูปถ่ายแนบ แต่ชื่อที่เด่นหราอยู่บนกระดาษเอสี่ระบุไว้อย่างชัดเจน
‘ธัชนันท์ เมธาสกุล ชื่อเล่น ทีม อายุ 17ปี’
“ทีม?” เชฟใหญ่ขมวดคิ้ว “ทำไมน้องเขาต้องโกหกชื่อตัวเองด้วย?”
“ไม่รู้สิครับ อาจจะกลัวท่านประธานตามตัวเจอถ้าเชิดเงินหนีไปก็ได้มั้ง” ณัฐภาสเอ่ยติดตลก
“น้องเขาไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกน่า”
“ใครจะรู้พี่ มีแฟนอายุมากกว่าตั้งยี่สิบ นั่นมันโคแก่กินหญ้าอ่อนชัดๆ”
“โถ พ่อคนคบคนอายุใกล้กัน พ่อหญ้าแก่” ร่างสูงหัวเราะคนรักที่อายุห่างกันสิบปีเต็มของตน แต่ลึกๆในใจยังคงตะขิดตะขวงใจกับข้อมูลที่ได้รับรู้
ทำไมถึงต้องโกหกแม้กระทั่งชื่อของตัวเอง?
______________________
มีความแข่งกับเน็๖ที่กำลังจะหายไป5555555
จำโดนัทกันได้มั้ยยยยยยย รูมเมทของหนุ่มคนไหนของเราน้ออออ