ตอนที่ 16
เจ้าชายกับค่ายอาสา (6)
ช่วยร่วมมือ
“คือว่าเรื่องนี้ผมอธิบายได้นะพี่ก้าน คือ…”
ร่างสูงไม่สนใจสิ่งที่ผมกำลังจะพูด เขาบิดแขนออกจากการเกาะกุมแล้วเดินดุ่มๆเข้าไปหาเจ้าชายที่ลอยคออยู่ในน้ำตกด้วยสีหน้าช็อกโลกสุดๆ
เห็นตอนไหนไม่เห็น ดันมาเห็นตอนกระโดดขึ้นจากน้ำแบบเต็มๆเสียด้วย
ไอ้เจ้าชายมึงก็นะ… จะโผล่หัวขึ้นมาแบบคนปกติเขาไม่ได้หรือไง มันจำเป็นต้องกระโดดโชว์ท่าทาง โชว์หางอันสวยงามด้วยเรอะ!
“พี่ก้าน เดี๋ยวสิ!”
ผมวิ่งตามไปติดๆ พี่ก้านเดินนั่งยองๆลงตรงจุดที่ผมนั่งรอเจ้าชายเมื่อครู่ ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็คงมีแต่ต้องบอกความจริงเท่านั้นล่ะนะ
“เจ้าชายครับ กลับร่างมนุษย์แล้วไปใส่เสื้อผ้าเถอะ ผมจะอธิบายกับพี่ก้านเอง”
“กลับร่างมนุษย์? เจ้าชาย?”
พี่ก้านทวนคำพลางมองผมอย่างสงสัย
เจ้าชายพยักหน้ารับก่อนจะมีแสงสว่างวาบมาจากใต้น้ำเพราะเจ้าชายของกลับร่างมนุษย์จากในนั้น เขาค่อยๆว่ายาทางผมแล้วรับเสื้อผ้าก่อนจะว่ายไปขึ้นฝั่งอีกทาง
พี่ก้านมองตามตาไม่กะพริบแม้แต่ช็อตเดียว
“รูปปั้น…พี่ก้านหวังว่าเราคงมีคำอธิบายดีๆกับเรื่องทั้งหมดนะ”
ให้ตายสิ อยากจะหายไปอยู่ดาวอังคารชะมัด ชาตินี้ทั้งชาติชีวิตของผมคงจะไม่พบกับความสงบสุขอีกแล้ว!!!
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสาธยายให้พี่ก้านฟังจนหมดไม่มีเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ตอนเรือล่ม ไปจนถึงที่เจ้าชายช่วยชีวิตผมเอาไว้ การแต่งงาน การก่อกบฏในแดนเงือก และ…
พันธะสัญญาการผูกวิญญาณของเรา
พี่ก้านฟังไปก็ตาโตไป ส่งเสียงร้องอู้หู อ้าหาอย่างน่าหมั่นไส้
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า คนแรกที่รู้ความลับพวกนี้จะเป็นพี่ก้าน!
“แล้วรูปปั้นเคยคิดหรือเปล่าว่าถ้ากบฏพวกนั้นมันมาตามล่าเจ้าชายถึงที่นี่ มนุษยชาติจะเป็นยังไง? พวกเราไม่ต้องเดือดร้อนไปด้วยเหรอ”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน่า ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูเหลือเชื่อไปบ้าง แต่ผมขอร้อง พี่ก้านช่วยปิดเรื่องนี้เป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาที่เจ้าชายจะได้กลับไปยังดินแดนเงือกได้หรือเปล่า”
“ถึงพูดไปก็คงไม่มีใช่หรอกรูปปั้น บนโลกนี้มีเงือกอาศัยอยู่จริงๆ นึกว่ามีแต่ในนิทานปรัมปราเสียอีก นี่ได้มาเห็นตัวเป็นๆเลย”
ท่าทางของพี่ก้านยังดูอึ้งไม่หาย
แหงล่ะ เรื่องนี้ใครทำใจเชื่อได้ทันทีก็เก่งแล้ว ขนาดตัวผมเอง ทุกวันนี้ยังไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเท่าไหร่เลย
มนุษย์กับเงือกเนี่ยนะ…
แถมผมยังเกือบจะตกเป็นของเงือกหรือภาษาชาวบ้านก็คือปลาดีๆนี่เองอีก!
คิดยังไงก็อเมซิ่งสุดๆ!
“พี่รับปากก่อนสิว่าจะปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เรื่องของเจ้าชายจะต้องไม่มีใครรู้อีกนอกจากพวกเรา เพื่อความปลอดภัยของเจ้าชายและตัวพวกเราเอง ผมไม่รู้ว่าพวกกบฏมันสืบเรื่องเจ้าชายได้มากน้อยแค่ไหนแล้ว ถ้ามันรู้ว่าเจาชายหลบมาอยู่ที่นี่ อะไรจะเกิดขึ้นบ้างก็ไม่รู้”
“มันจะไม่ง่ายกว่าเหรอถ้าเราส่งเจ้าชายกลับคืนสู่ทะเลไปซะ ทำแบบนี้มันเสี่ยงมากนะรูปปั้น และพี่ก้านก็ไม่โอเคด้วยกับการที่เราต้องมาเสี่ยง”
“พี่ไม่โอเคแต่ผมโอเค คนที่จะดูแลเจ้าชายได้ในตอนนี้มีแค่ผม และผมจะไม่ทิ้งเขา”
ผมมองหน้าพี่ก้านอย่างจริงจัง
อีกฝ่ายเองมีท่าทีเหนื่อยใจอย่างเห็นได้ชัด ผมเข้าใจดีว่าพี่ก้านเป็นห่วง เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะพบเห็นหรือเกิดขึ้นง่ายๆ เพียงแต่…ถ้าผมทิ้งเจ้าชายไปด้วยเหตุผลว่ากลัวตัวเองจะเดือดร้อน ผมคงไม่มีหน้าไปพบพ่อหลังจากตายไปแล้วหรอก
ยังไงเจ้าชายก็คือคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้
ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ผมจะไม่ยอมให้เจ้าชายต้องเป็นอันตรายเด็ดขาด!
“พี่ก้านคงห้ามอะไรไม่ได้ใช่ไหม”
“ผมขอโทษ แต่เรื่องนี้ผมขอตัดสินใจด้วยตัวเอง ถ้าพี่จะไม่ช่วย ขอแค่อย่ามาห้ามก็พอ”
“ได้ยังไงกันล่ะ ตอนนี้เท่ากับพวกเราลงเรือลำเดียวกันแล้ว หน้าที่ของพี่ก้านคือดูแลรูปปั้นให้ดี เพราะงั้น…แค่สัญญามาก็พอว่าถึงเวลาจะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆเด็ดขาด ต้องมาบอกพี่ก้านเท่านั้น ตกลงไหม?”
“พี่ก้าน…”
ผมมองพี่ชายต่างสายเลือดด้วยความซาบซึ้งใจ
ความหวังดีของพี่ก้านผมรับรู้ตลอดมา นอกจากพ่อกับลุงกิ่งแล้ว ก็มีพี่ก้านนี่แหละที่เปรียบเหมือนคนในครอบครัว คอยดูแลเอาใจใส่ผม เมื่อก่อนตอนแม่ยังมีชีวิตอยู่ ผมจำได้ลางๆว่าแม่เคยสอนผมเสมอว่าต้องรักพี่ก้านให้มากๆ รักให้เหมือนพี่ชายแท้ๆ
วันนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าเพราะอะไรแม่ถึงบอกแบบนั้น
เพราะพี่ก้านรักและเป็นห่วงผมจากใจจริง เป็นเหมือนพี่ชายแท้ๆของผม
“ข้าเข้าไปได้หรือยัง?”
เจ้าชายที่แต่งตัวเสร็จแล้วตะโกนถามจากต้นไม้อีกต้นที่อยู่ไม่ไกล
ผมกวักมือเรียกเขา เจ้าชายกระโดลงจากโคนต้นไม้แล้วรีบเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าอึดอัด คงจะกังวลอยู่ไม่น้อยที่ความลับดันมาแตกให้กับคนที่ตัวเองเกลียดขี้หน้า
แต่ทำไงได้ล่ะ
ผมเองก็ไมได้อยากให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อย
“เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงนะครับเจ้าชาย พี่ก้านยอมเข้าใจ และจะช่วยเราปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ”
“จริงเหรอ? เจ้ามนุษย์อวดดีคนนี้เนี่ยนะ?!”
“ไม่สบอารมณ์กับคำว่าเจ้ามนุษย์เลยแฮะ”
พี่ก้านสวนขึ้นพลางถลึงตาใส่เจ้าชายที่ชี้นิ้วไปทางพี่ก้านด้วยไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน
ผมยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเอง ไมเกรนขึ้นสมองกะทันหัน
ดูยังไงๆก็ไม่น่ารอด
“แล้วนี่จะทำยังไงกันต่อไป แค่ให้อยู่ไปเรื่อยๆแบบบนี้เท่านั้นเหรอ?”
“ตอนนี้ก็คงต้องเป็นแบบนั้น หน้าที่ของผมคือปกป้องเจ้าชายจนกว่าจะถึงเวลาที่เจ้าชายจะได้กลับไปสานต่อบัลลังก์ราชา”
ตอบพี่ก้านก่อนจะเงยหน้าส่งยิ้มให้เจ้าชาย
“เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้าไม่ยอมให้ปูนปั้นต้องเดือดร้อนเพราะเรื่องนี้อย่างแน่นอน เมื่อใดที่สงครามสงบ ข้าจะกลับไปทันที”
“…”
“และจะกลับมาพาเจ้าไปด้วย หากเจ้าต้องการ”
เจ้าชายต่อประโยคขึ้นมาเมื่อผมหน้าเจื่อนไปหลังจากที่เขาพูดเรื่องจะกลับไปแดนเงือก ทำเอาฉีกยิ้มด้วยความดีใจแทบไม่ทันเลยทีเดียว
พึ่บพั่บๆๆๆๆ
“คัทๆๆๆ พอได้แล้ว จะจ้องตากันให้ท้องเลยหรือไง เป็นปลาสายพันธุ์ไหนน่ะเรา อย่าบอกนะว่าปลากัด!”
คนที่จ้องจะกัดชาวบ้านนั่นมันมึงมากกว่ามั้งไอ้พี่ก้าน!
ผมหรี่ตามองพี่ก้านที่ใช้มือมาโบกไปโบกมาตรงหน้าคั่นระหว่างผมกับเจ้าชาย นานๆกูจะได้มีโหมดแบบนี้ มึงก็ยังจะขวางอีกเนาะ!
“ผมว่าเรากลับกัยดีกว่า เดี๋ยวไอ้จ้าวกับพวกชาวบ้านจะเป็นห่วง”
“!!!”
พอพูดถึงไอ้จ้าว สีหน้าของอีกคนก็เปลี่ยนไปในทันที
แต่ผมกำได้แค่มองและคาดเดาเอาเท่านั้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ แม้จะอยากรู้เหตุผลของพี่ก้านก็ตาม แต่ผมก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะไปถามเรื่องส่วนตัวของพวกเขา
ขอเสือกอยู่เงียบๆแล้วรอจังหวะล้วงความลับแบบเนียนดีกว่า
“กลับมาแล้วครับผมมมม!”
พี่ก้านตะโกนดังลั่นจนคนในหมู่บ้านที่ประชุมกันอยู่ที่บ้านผู้เฒ่าพากันหันมามอง หนึ่งในนั้นมีไอ้จ้าวที่นั่งซึมกะทือหน้าตาเหมือนคนอดข้าวมาสามปีรวมอยู่ด้วย
มันตั้งท่ายิ้มกว้างพุ่งเข้ามาหาพี่ก้าน ทว่าอีกฝ่ายกลับวิ่งเลยผ่านเข้าไปหาผู้เฒ่าแทน ผมชะงักมองไอ้จ้าวที่ยืนนิ่งเหมือนคนไร้วิญญาณค้างอยู่ตรงทางเข้า
“ไอ้จ้าว…”
“ไม่ต้องมายุ่งกับกู!”
พลั่ก!
ว่าแล้วก็ผลักผมจนเกือบล้มก้นจ้ำเบ้าถ้าไม่ได้เจ้าชายรับเอาไว้ ไอจ้าววิ่งดุ่มๆกลับไปทางที่พักผมคนเดียว ผมได้แต่มองมันกับพี่ก้านสลับกันไปมาด้วยรู้จะช่วยยังไงดี
“เรื่องของพวกเขา ก็ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเองเถอะ ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่”
“ผมรู้ว่าตัวเองไม่ควรเข้าไปยุ่ง แต่เห็นแบบนี้แล้วมันหงุดหงิดจริงๆนะครับ ถ้าเจ้าชายได้เห็นความสัมพันธ์ของสองคนนี้ตั้งแต่เด็กเหมือนผม เจ้าชายจะเข้าใจเลยว่าทำไมผมถึงหงุดหงิด”
ไอ้จ้าวน่ะไม่เท่าไหร่ มันเป็นพวกปากร้ายแต่ใจดีและขี้สงสารจะตายไป แต่ปัญหาคือพี่ก้านเนี่ยสิ จนทุกวันนี้ผมยังไม่รู้สาเหตุที่เขาเปลี่ยนตัวเองมาแต่งหญิงแล้วก็ตีตัวออกห่างจากไอ้จ้าวเลย
เหมือนจะเข้าถึงง่ายที่สุด…
แต่ความจริงเป็นคนที่เข้าถึงยากที่สุดเลยต่างหาก เฮ้อ!
“กลับกันมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวป้ายกกับข้าวไปให้กิน”
“ขอบคุณมากเลยครับ”
ผมยกมือไหว้ขอบคุณป้าคนหนึ่งก่อนจะมองเจ้าชายแล้วกระซิบบอกให้เขาทำตาม
เจ้าชายยกมือไหว้ตามผมด้วยท่าทีเงอะงะ
“ขะ…ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้าพ่อรูปงาม ถ้าไม่บอกว่าเป็นคนเหมือนกันจะนึกว่าเทวดานะเนี่ย หล่ออะไรปานนั้น”
ไม่พูดเปล่า มือเหี่ยวย่นยังเอื้อมมาจับตัวเจ้าชายสุดรักสุดหวงสุดดวงใจของผมอีก
“ไปดีกว่าครับ จะได้รีบไปทำงานกันต่อ”
คว้าแขนเจ้าชายพาเดินกลับไปทางที่พักทันที ทำไงได้ล่ะ เกิดสัมผัสตัวผู้หญิงมากๆแล้วรู้สึกฟินนาเล่จนอยากกลับไปคั่วผู้หญิงอีก ผมก็ซวยน่ะสิ!
แต่เดี๋ยวก่อน
จำได้ว่าตอนแรกผมค่อนข้างเกลียดขี้หน้าเขาไปจนถึงขยะแขยงเลยนี่นา แล้วไหงตอนนี้ถึงได้หวงเป็นจงอางหวงไข่แบบนี้เล่า!
โอ๊ยยย! ก่อนจะไปเสือกเรื่องของไอ้จ้าวกับพี่ก้าน เห็นทีคงต้องจัดการเรื่องของตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเสียแล้ว!
“ใจเย็นๆสิ เจ้าจะรีบลากข้าไปไหนเนี่ย”
“ไปอาบน้ำไงครับ จะได้รีบกินข้าวรีบทำงาน”
“ทำไมต้องทำเสียงไม่พอใจข้าด้วย ข้าทำอะไรผิดอีกหรือไง”
“ไม่รู้!”
“แต่…”
“ผมบอกไม่รู้ก็ไม่รู้ไงครับ!”
กูไม่รู้จริงๆ มึงเลิกถามเหอะ!
อีกหน่อยผมคงกลายเป็นพวกขี้ระแวง ทำตัวเหมือนเมียหลวงในละครที่คอยตามหึงหวงผัวจนสุดท้ายความรักก็ไปไม่รอด และมือที่สามหรือภาษาชาวบ้านคือเมียน้อยก็จะคาบผัวไปแดก ถ้าเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริงๆผมจะทำยังไงดีล่ะ
ผมไม่อยากต้องกลายเป็นเมียหลวงหรอกนะเว้ย!
“เจ้าชายเข้าไปอาบน้ำก่อนเลยนะครับ ผมจะคอยเฝ้าให้”
“ทำไมต้อง…”
“เพราะตอนนี้เราจะประมาทอีกไม่ได้ แค่พี่ก้านคนเดียวผมก็จะบ้าอยู่แล้ว เพราะงั้น…ขอร้องล่ะ ฟังที่ผมพูดหน่อย”
“ข้าเข้าใจแล้ว เลิกทำหน้าบูดแบบนั้นเสียที ข้าเห็นแล้วไม่สบายใจ”
“งั้นก็เข้าไปอาบน้ำได้แล้วครับ”
ว่าพลางดันเจ้าชายเข้าไปในห้องน้ำและปิดประตูให้เสร็จสรรพ ส่วนตัวผมก็ยืนเฝ้ายามอยู่ด้านหน้านั่นแหละ
พลั่ก!!!
เสียงเปิดประตูกระท่อมที่อยู่ห่างไปเพียงเล็กน้อยดังราวกับประตูจะพัง ผมหันไปมองหน้าคนเปิดก็พบว่าเป็นไอ้จ้าว ใบหน้าบูดบึ้งและขอบตาที่แดงก่ำของมัน…
ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าร้องไห้มา
“มองหาพ่อมึงเหรอ!”
ความสงสารของกูจะมลายหายไปก็เพราะความปากหมาของมึงนี่แหละ!
ผมเดินทิ้งห่างกระท่อมมาเล็กน้อยเพ่อจะคุยกับไอ้จ้าว จะว่าไปไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของผมกับมันหมางเมินกันมาเนิ่นนานขนาดนี้ อาจเพราะตอนนั้นยังเด็กมาก และผมไม่มีความกล้าพอที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ถึงได้ปล่อยให้วันเวลาค่อยๆทำลายมิตรภาพของผมกับไอ้จ้าวไปได้มากถึงขนาดนี้
“กูมีเรื่องอยากจะคุยกับมึง”
“แต่กูไม่มี”
“กูไม่ได้คิดอะไรกับพี่ก้าน”
“…”
“ไม่เคยคิดไปมากกว่าความเป็นพี่น้อง สำหรับกู พี่ก้าน มึง รวมถึงพี่ดาวคือครอบครัว ครอบครัวที่กูไม่ต้องการสูญเสีย”
“แต่มึงเสียกูไปแล้ว”
“…”
“มึงเสียกูไปตั้งแต่วันที่มึงแย่งพี่ก้านไปจากกู!”
“กูบอกแล้วไงว่าไม่ได้แย่ง ทำไมมึงถึงไม่เชื่อกูบ้าง”
“งั้นมึงรู้ไหมว่าทำไมพี่ก้านถึงหันมาแต่งหญิงแบบนี้”
ผมส่ายหน้าให้กับคำถามนั้น
มันเป็นเรื่องที่ผมสงสัยมาจนถึงทุกวันนี้ว่าเพราอะไร ตอนแรกก็แค่คิดว่าสงสัยพี่ก้านจะเพิ่งค้นพบตัวเองว่าเป็นกระเทย จนกระทั่งท่าทีของพี่ก้านที่มีต่อไอจ้าวมันเริ่มชัดขึ้น ทำให้ผมต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของตัวเองใหม่
พี่ก้านไม่ได้เป็นกระเทยหรืออะไรทั้งสิ้น
พี่ก้านยังเป็นคนเดิม แต่ทำไมถึงหันมาแต่งหญิง มันเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจจริงๆ
“มึงรู้เหรอ?”
“รู้สิ รู้ดีด้วย”
“เพราะอะไร?”
เป็นครั้งแรกที่ผมใส่ความจริงจังลงไปในน้ำเสียงเวลาคุยกับไอ้จ้าวขนาดนี้
อีกฝ่ายยังคงมองหน้าผมอย่างไม่ชอบหน้าเหมือนเดิม ก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น เงยหน้ามองฟ้าอย่างหมดแรง
ท่าทางของมันเจ็บปวดจนผมอดปวดใจตามไม่ได้
“เพราะมึงไง”
“…”
“พี่ก้าน…ทำทุกอย่างก็เพื่อมึงทั้งนั้น”
“เดี๋ยวรูปปั้นเลื่อยไม้ออกมาตามแบบนี้เลยนะ พี่ก้านจะไปช่วยพวกผู้หญิงมัดฟางตรงนู้นก่อน”
“อื้ม ได้สิ พี่ไปเถอะ”
หมับ!
“เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าตาดูไม่ค่อยดีเลยนะ”
พี่ก้านคว้าหมับเข้าที่หน้าผมแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อสำรวจหาพิษไข้
ผมมองพี่ก้านตาไม่กะพริบ ในสายตาที่ส่งผ่านไปนั้นมีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ มีแต่คำว่าทำไม เพราะอะไร เพื่ออะไร อยู่ในหัว
อึดอัดชะมัด…
“รูปปั้น…”
“พี่ก้าน คือผม…”
‘พี่ก้านเขาทำเพื่อมึงไง เพื่อให้คนที่ร้องไห้แทบตายตอนเสียแม่ไปได้มีแม่เหมือนคนอื่นๆ เขายอมที่จะทิ้งความเป็นลูกผู้ชายแล้วหันมาแต่งหญิงเพื่อจะเป็นแม่ให้กับมึง ยอมแม้กระทั่งทิ้งคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับกูเพื่อมึง ทำไมวะ ทำไมพี่ก้านต้องทำเพ่อมึงขนาดนั้นทั้งที่ทั้งมึงและมันต่างก็ยืนยันกับกูว่าไม่ได้คิดอะไรเกินเลยต่อกัน แต่ทำไมถึงมีกูคนเดียวที่ถูกทิ้ง! กูคนเดียวที่ไม่มีใครต้องการ ทำไม!’
“หืม? มีอะไร ทำไมไม่พูดต่อล่ะ”
ใบหน้าหวานยิ้มเอียงคอทำท่าน่ารักเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป แม้ความจริงตัวเองจะตัวถึกและบึกบึนเพราะเป็นผู้ชายก็ตาม
น้ำตาร่วงผล็อยด้วยกลั้นไม่อยู่ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าการที่พี่ก้านหันมาแต่งหญิงจนถูกนินทาไปทั่วหมู่บ้าน รวมถึงผมเองยังเคยรังเกียจและออกปากไล่เขาเพราะคิดว่าเขาเป็นพวกแปลกๆ มันเป็นเพราะเขาทำเพื่อผม
พี่ก้านไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้กับผมในงานศพแม่
ที่บอกว่าจะเป็นแม่ให้ผมนั้น เขาไม่ได้โกหก แต่พี่ก้านรักษาสัญญาและทำตามนั้นในอีกสามปีต่อมา…
คนที่สัญญาไม่เคยลืม แต่คนที่ถูกสัญญาด้วยอย่างผมกับลืมไปแล้ว นั่นคงเป็นเพราะผมเด็กมากเกินกว่าจะมานั่งจำเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตตอนนั้นได้
ทำไมล่ะพี่ก้าน ทั้งที่ระหว่างเรามันเป็นเพียงแค่พี่น้องกันเท่านั้น แล้วทำไม…ทำไมต้องยอมทำร้ายหัวใจตัวเองและคนที่รักเพื่อผม
ทำไม?
เพราะอะไร?
“รูปปั้น…”
“ปูนปั้น! เป็นอะไรไป เจ้า! เจ้าทำอะไรปูนปั้น!”
เจ้าชายที่กำลังตอกไม้เพื่อสร้างรั้วอยู่ไม่ไกลวิ่งพรวดเข้ามากระชากผมออกจากพี่ก้าน เจ้าตัวถึงกับเหวอทำอะไรไม่ถูก รีบส่ายหน้าปฏิเสธยกใหญ่
“ฉันเปล่านะ จู่ๆรูปปั้นก็ร้องออกมา รูปปั้น เป็นอะไรไปเหรอ ไม่สบายหรือเปล่า?”
“ผม…ผม…”
“พี่ก้าน! พี่ก้าน!”
เสียงเรียกพี่ก้านดังมาแต่ไกล เรียกความสนใจจากทุกคนในที่นี่ เด็กในหมู่บ้านของพวกผมที่มาร่วมอาสาในครั้งนี้ด้วยอีกกลุ่มวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาด้วยสีหน้าท่าทางตกใจระคนกับดีใจ
“มีอะไรกัน ทำไมวิ่งหน้าตาตื่นแบบนี้”
“ทะ…ที่…ที่หมู่บ้านของเรา มะ…มีเรื่องใหญ่แล้ว”
“เรื่องใหญ่?”
ไอ้จ้าวที่กำลังเลื่อยไม้รีบเข้ามาสมทบด้วยเพื่อรอฟังว่าเกิดอะไรขึ้น
“เมื่อกี้พ่อโทรมาบอกผมว่า…ประกายดาว…”
“…”
“พี่ดาวกลับมาแล้ว”
ตุ้บ!
ค้อนในมือเจ้าชายร่วงปุไปบนพื้นพร้อมกับสีหน้าที่บ่งบอกได้ชัดเจนว่ากำลังได้ฟังเรื่องเหลือเชื่อ มือที่จับผมไว้ในตอนแรกก็ร่วงผล็อยไปข้างกาย
“ว่าอะไรนะ พี่ดาวเหรอ?!”
“ใช่ครับคุณจ้าว ตอนนี้ที่หมู่บ้านตื่นเต้นกันยกใหญ่ พ่อบอกว่าลุงเสริมไปเจอพี่ดาวนอนสลบอยู่ริมหาดในสภาพตัวเองเหมือนถูกน้ำทะเลพัดจนมาเกยตื้นที่ฟัง”
พี่ดาวนะไม่ใช่ปลาพะยูน! มาเกยตงเกยตื้นพ่องมึงสิ!
“ดาว…”
“…”
“ประกายดาว!”
“เจ้า…! เอ่อ ไคโอ!”
ผมรีบวิ่งตามเจ้าชายที่ทะเล่อทะล่าวิ่งออกไปเป็นคนแรก
จะว่ายังไงดีล่ะ ใจหนึ่งผมก็รู้สึกดีใจมากที่พี่ดาวยังไม่ตาย แต่ว่าอีกใจหนึ่ง…
ผมกลับรู้สึกเหมือน…กำลังจะสูญเสียเจ้าชายไป
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า เอาล่ะสิ คนที่คิดว่าตายไปแล้วอย่างประกายดาวกลับมา? แบบนี้ความสัมพันธ์ของเจ้าชายและน้องปั้นจะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี่ย เยื่อใยและความรักของเจ้าชายที่มีต่อประกายดูเหมือนจะยังหลงเหลืออยู่มากมายเสียด้วย ขณะที่อีกคู่ก็ยังลุ่มๆดอนๆ พี่ก้านที่ยืนยันหนักหนาว่าคิดกับน้องปั้นเป็นแค่พี่น้อง แต่กลับทำทุกอย่างได้เพื่อน้องปั้นแบบนี้ ตกลงแล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งหมดเกี่ยวข้องกันยังไง? อินุงตุงนังอะไรอย่างนี้เนี่ยยยยย
ใครที่ยังตามอ่านอยู่ก็ขอบคุณมากนะคะ สัญญาว่าอัพให้อ่านจนจบแน่นอน ไม่ต้องห่วงว่าจะค้างคาอะไรเลย จุ๊บๆๆๆ