ตอนที่ 11
เจ้าชายกับค่ายอาสา (1)
“ทำยังไงดีปูนปั้น ข้าตื่นเต้นเหลือเกินที่จะได้ไปค่ายอาสากับเจ้า”
เจ้าชายที่กำลังนั่งเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋าบอกท่าทางดีใจสุดๆ
เมื่อวานพอกลับมาจากซื้ออุปกรณ์ทำแผล ผมก็อธิบายถึงการไปออกค่ายอาสากับชุมชนในครั้งนี้ให้เจ้าชายฟังอย่างละเอียดว่าเราต้องไปทำอะไรบ้าง และสิ่งที่เขาควรระวังมากที่สุดคืออะไร
“อย่ามัวแต่ตื่นเต้นดีใจจนลืมสิ่งที่ผมบอกไปนะครับ ห้ามให้ความลับที่เจ้าชายเป็นเงือกแตกเด็ดขาด ใครพูดใครถามอะไรก็ไม่ต้องตอบ อยู่ใกล้ๆผมอย่างเดียว ที่เหลือผมจัดการเอง”
“ข้าเข้าใจแล้วน่า เจ้าอย่าทำเหมือนข้าเป็นเด็กสิ”
“ผมแค่เป็นห่วง ถ้าคุณไม่อยากให้ผมเป็นห่วงก็ไม่เป็นไร”
“โกรธอีกแล้วเหรอ พักหลังเจ้าทำตัวเหมือนผู้หญิงจังเลยนะ ข้าล่ะตามอารมณ์ไม่ทัน”
ว่าพลางสั่นศีรษะไปมา
เดี๋ยวเหอะมึงๆ กล้าทำหน้าเอือมระอากูงั้นเรอะ เดี๋ยวพ่อก็จับขอดเกล็ดทำต้มยำกินเสียเดี๋ยวนี้เลยดีไหม!
“รูปปั้น เสร็จหรือยัง พี่ก้านมารับแล้วน้า”
“มนุษย์ตนนั้นเป็นขนจั๊กกะแร้ของเจ้าหรือไง ถึงได้ตามติดกันนัก”
ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งในบัดดล
มาถามกูแล้วกูจะรู้เรอะ ตั้งแต่เด็กยันโตไอ้พี่ก้านมันก็เป็นของมันแบบนี้มาตั้งนานแล้วเหอะ!
“รีบๆเข้าเถอะครับ ให้คนอื่นรอนานมันเสียมารยาทนะ”
“รู้แล้วน่า”
เจ้าชายรับขำแต่หน้าตายังบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่พี่ก้านมาวอแวกับผมอีกแล้ว
พวกเรารีบเก็บกระเป๋าและลงมาสมทบกับพี่ก้านที่จอดรถรออยู่ก่อนแล้ว ความจริงมันก็แค่รถสามล้อที่ต่อพ่วงออกมาเท่านั้นแหละครับ ไม่ใช่รถยนต์หรูหราอะไรหรอก อย่าเพิ่งจินตนาการไปไกล
“พวกเราไปเองได้ พี่ไม่เห็นจำเป็นต้องมารับเลย”
“เอาน่า ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน จะแยกกันไปทำไมให้เปลืองน้ำมันล่ะครับ”
“แต่…”
“…”
“ทำไมไอ้จ้าวถึงไปกับเราด้วยล่ะครับ”
ผมถามพลางมองไปที่ไอ้จ้าวที่นั่งหน้ามุ่ยซ้อนท้ายพี่ก้านอยู่
“กูไม่ได้อยากจะนั่งนักหรอกเว้ยไอ้รถเส็งเคร็งเหมือนขุดมาจากถังขยะแบบนี้น่ะ!”
“แหมๆ น้องจ้าวล่ะก็ พูดไม่เพราะอีกแล้วน้า เดี๋ยวพี่ก้านก็ตีปากเลยนี่”
ว่าพลางทำมือทำไม้เหมือนจะตีปากไอ้จ้าวจริงๆ
แปลก…
มีบางอย่างแปลกไปในตัวของสองคนนี้ อะไรบางอย่างที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
“ข้า เอ๊ย ฉันว่าเรารีบไปกันดีกว่านะ”
“อ๊ะ นั่นสินะครับ เดี๋ยวจะสายไปมากกว่านี้”
เจ้าชายรีบกระโดดขึ้นรถไปนั่งยิ้มแป้นเหมือนเด็กประถม ดูท่าทางจะตื่นเต้นไม่น้อยเลย เมื่อคืนก็เอาแต่ถามว่าโลกภายนอกเป็นยังไง สวยเหมือนดินแดนเงือกไหม?
คือก็เข้าใจนะว่าชุมชนที่ผมอยู่มันไม่มีอะไรเลยนอกจากวัดกับบ้านหลังเล็กๆติดกันเป็นพรืดและน้ำทะเล การที่เจ้าชายจะไม่นับรวมว่าชุมชนนี้เป็นโลกภายนอกก็คงไม่แปลก
“กูสงสัยมานานละ ไอ้ปั้น หมอนี่ใครวะ”
“เรื่องของกู เสือกทำไม”
“อ้าว ไอ้เหี้ย! กูถามดีๆนะเนี่ย”
“กูก็ตอบดีๆเหมือนกันว่าอย่าเสือก จบไหม?”
ผมเลิกคิ้วสูงมองหน้ามันอย่างตั้งคำถาม
จำเป็นต้องตัดบทจบแบบกวนตีนเพราะถ้าเกิดแนะนำให้รู้จักกันไปก็มีแต่จะทำให้กังวลกลัวว่าเจ้าชายมันจะทำความลับแตก
“กูไม่ถามก็ได้ ไม่ได้อยากรู้นักหรอก!”
“ก็ดี”
“เดี๋ยวสิๆ ทั้งสองคนทำไมต้องทะเลาะกันทุกทีด้วยนะ เมื่อก่อนออกจะรักกันมากแท้ๆ”
“หุบปากไปเลยไอ้ตุ๊ด!!!”
ผมและไอ้จ้าวตะโกนใส่พี่ก้านพร้อมกัน เล่นเอาตาลุงแก่จอมโรคจิตถึงกับเหวอไปเลย
“จ้าๆ กลัวแล้วจ้า พี่ก้านกลัวจนหัวหดแล้วเนี่ย”
“มึงเลิกพูดเรื่องเก่าๆสักทีเหอะไอ้พี่ก้าน กูขนลุก!”
“ผมเห็นด้วยกับไอ้จ้าว พี่เลิกเสี้ยมเหอะว่ะ”
แล้วผมกับไอ้จ้าวต่างก็สะบัดหน้าหันตูดใส่กัน เป็นอันประกาศความเป็นศัตรูอย่างแน่วแนวถาวร ผมไม่มีทางเป็นเพื่อนกับคนที่มันย่ำยีจิตใจของผมด้วยคำพูดว่า ‘ลูกไม่มีพ่อ’ เด็ดขาด!
สถานที่ที่เราต้องไปคือหมู่บ้านแสงจันทร์ หมู่บ้านที่อยู่บนภูเขาสูงและค่อนข้างห่างไกลจากเทคโนโลยียิ่งกว่าชุมชนของผม หน้าที่ของอาสาสมัครในแต่ละชุมชนของจังหวัดคือจะร่วมด้วยช่วยกันสร้างโรงเรียนเล็กๆให้กับเด็กในหมู่บ้านนี้ เพราะจะมีครูอาสามาสอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงสิ่งปลูกสร้างอื่นๆที่พอจะอำนวยความสะดวกให้กับคนในหมู่บ้านนี้ได้ โดยงบประมาณทั้งหมดทางจังหวัดเป็นคนออก เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ทำอะไรดีๆเพื่อสังคมแบบนี้
“สวยจังเลยนะ”
เจ้าชายที่นั่งเงียบไม่พูด ไม่แซะ ไม่แกะ ไม่เกา อะไรทั้งสิ้นมาตลอดเอ่ยขึ้น เขายื่นหน้ามาหาผมที่นั่งอยู่ข้างหน้าเขาอีกที จนเกือบกึ่งๆจะเกยคางลงบนไหล่ผมอยู่รอมร่อ น้ำเสียงแหบเสน่ห์ที่กระซิบข้างหูทำเอาสมองปั่นป่วนไปหมด
พักหลังไม่ว่าเจ้าชายจะทำอะไรผมก็รู้สึกรับมือได้ยากตลอดเลยแฮะ!
กลับเป็นตัวเองได้แล้วไอ้ปั้น!
“ชะ…ชอบไหมล่ะครับ”
“ชอบสิ ชอบมาก แต่ไม่เท่ากับที่ชอบเจ้าหรอกนะ”
ต้องขอบพระคุณเสียงลมที่เกิดจากการขับรถของพี่ก้านมากๆที่กลบเสียงพูดของเจ้าชายได้จนหมด ถ้าพี่ก้านหรือไอ้จ้าวได้ยินเข้ามีหวังงานงอก!
“หยุดพูดบ้าๆได้แล้วครับ ดูนู่นดีกว่า วิวตรงนั้นสวยดีนะครับ”
“หึๆ เข้าใจเปลี่ยนประเด็นนะเด็กน้อย”
“ผมเด็กกว่าคุณแค่ปีเดียว อย่ามาเรียกกันแบบนี้สิ!”
“โอ๊ะ! ตรงนั้นสวยจริงๆด้วย แต่สวยน้อยกว่าเมียข้านิดหนี่ง”
“คุณ!”
กูอยากจะบ้าตาย!
รู้งี้ให้พี่ก้านไปเช่ารถตู้คอนเทนเนอร์มารับเสียก็ดี จะได้จับไอ้ปลาลามกนี่ยัดเข้าไปแม่งเลย!!!
Special Part :
“ทำไมนั่งห่างแบบนั้นล่ะครับ เขยิบมาใกล้ๆพี่ก้านอีกก็ได้นะ พี่ก้านไม่กัดหรอก…”
“ไม่…!”
“แต่จะกินทั้งตัวเลยต่างหาก”
สาบานได้ว่าผมแทบจะพุ่งหลาวรถจากรถแม้ว่าตอนนี้รถมันจะวิ่งอยู่ก็ตาม
ไอ้ตุ๊ดโรคจิตมองผมผ่านกระจกด้านข้างของรถมอเตอร์ไซค์ด้วยรอยยิ้มขำขัน แต่สายตาโลมเลียของมันไม่ต่างจากเมื่อคืนนั้นเลย!
คืนที่ผมกับมัน…
มีอะไรกัน
และน่าเจ็บใจตรงที่สุดท้ายคืนนั้นผมก็ยอมเอนอ่อนตกเป็นของมันแต่โดยดีไร้การบังคับขืนใจใดๆนี่แหละ
อ๊ากกกกก!!!
เจ็บใจตัวเองชะมัด แค่คำพูดไม่กี่ประโยคของมันก็ทำเอาสมองเลิกสั่งการไปเลย
หมับ!
“ถ้าเขยิบมากไปกว่านี้จะตกรถนะ”
น้ำเสียงจริงจังและทุ้มต่ำเป็นการบ่งบอกว่าได้ว่ามันกลับมาเป็นไอ้พี่ก้านคนเดิม ไม่ใช่พี่ก้านที่แต่งหญิงทำตัวตุ้งติ้งน่าตบกะโหลกให้ร้าวคนนั้น
สายตาตำหนิเหมือนเมื่อก่อนที่ชอบใช้เวลาผมทำผิดหรอเล่นซนเกินเหตุกลายเป็นสิ่งที่ผมต่อต้านไม่ได้ไปแล้ว มือหนาที่จับต้นขาผมไว้บีบแน่น
“รู้แล้วเว้ย”
ตอบอ้อมแอ้มก่อนจะเขยิบเข้าไปใกล้จนอะไรต่อมิอะไรมันต้องกระแทกโดนกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
คนด้านหน้าเหยียดยิ้มอย่างพอใจที่ทำให้ผมยอมได้อีกเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่อาจนับได้ ผมแยกเขี้ยวใส่เขา หมั่นไส้ที่สุดท้ายก็ต้องแพ้อีกแล้ว
จะมีวิธีไหนสามารถเอาชนะไอ้ตุ๊ดตัณหากลับคนนี้ได้บ้างนะ!
เพราะไม่อยากมองหน้ากับไอ้พี่ก้านไปมาผ่านกระจกรถ ผมก็เลยเลือกที่จะมองไปทางอื่นแทน ส่วนหนึ่งก็เพื่อระงับอาการใจเต้นไม่เป็นส่ำของตัวเองด้วยนั่นแหละ
เวรกรรมจริงๆเล้ยไอ้จ้าว!
แต่…
พอหันไปมองทางซ้ายมือของตัวเองก็ต้องเจอกับอะไรที่น่าเบื่อยิ่งกว่า!
ไอ้การชี้โบ๊ชี้เบ๊แล้วหัวเราะคิกคักๆกันสองคนของไอ้ปั้นกับไอ้หัวเขียวนี่มันคืออะไรกันฟะ คิดว่ากำลังถ่ายมิวสิคฯกันอยู่หรือไง!
ผมเบะปากกับภาพที่เห็น ไอ้หัวเขียวและไอ้ปั้นต่างก็ชี้นู่นชี้นี่ให้กันและกันดูก่อนจะหัวเราะดี๊ด๊าท่าทางมีความสุข พวกมันชี้แม้กระทั่งหมายืนฉี่ใส่เสาไฟฟ้าอ่ะคิดดู!
แม่งมีอะไรให้ประหลาดใจวะ?
หมับ!
“ไอ้…!”
“ชู่ เดี๋ยวสองคนนั้นได้ยินนะ”
ไอ้พี่ก้านขยิบตาหนึ่งทีก่อนจะทำหน้าที่ขับรถต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่มือมันกำลังลูบไล้ต้นขาผมไปมาและกำลังจะลามไปถึงจุดอันตรายแล้วด้วย!
เหี้ยเอ๊ย! กูไม่น่าใส่กางเกงขาสั้นธรรมดาๆมาเลย!
ดูดิ เปิดช่องว่างให้แม่งล้วงเข้าไปถึงลำไส้แล้วเนี่ย!
“เราสองคนได้นอนห้องเดียวกันด้วยน้า พี่ก้านล่ะอยากให้ถึงตอนกลางคืนเร็วๆจังเลย”
“ไม่มีทาง กูไม่นอนกับมึงแน่นอน”
“น้องจ้าวคิดว่าจะหนีพี่ก้านพ้นเหรอครับ?”
เอียงคอกลับมาพูดเล็กน้อยเพื่อให้ผมได้ยินทุกถ้อยคำของมันอย่างชัดเจน
“พี่ก้านๆ อีกนานไหมกว่าจะถึง”
เพราะไอ้ปั้นหันมาคุยด้วย ไอ้พี่ก้านเลยรีบชักมือกลับไป นั่นทำให้ผมหายใจได้สะดวกขึ้นเยอะเลย
นึกว่าจะโดนมันลูบมาถึงตรงนั้นเสียแล้ว อ๊ากกกกก!
“หึ!”
เสียงหัวเราะเย้ยหยันหน่อยๆดังมาจากคนที่นั่งข้างๆ ผมก้มลงมองเจ้าของเสียงหัวเราะนั่นด้วยความไม่ชอบใจ แต่พอเห็นสายตาที่มันโฟกัสอยู่ก็ถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว
ไอ้หัวเขียวกำลังมองไปยังจุดที่มือของไอ้พี่ก้านมันลูบคลำอยู่เมื่อกี้!
บรรลัยแล้วไง อย่าบอกนะว่ามันเห็น!
“ใกล้แล้วล่ะ ทำไมล่ะ รูปปั้นเมื่อยแล้วเหรอ พี่ก้านนวดให้เอาไหมๆ”
“ถ้าพี่มานวดให้ผมแล้วใครจะขับรถล่ะครับ”
“อ่า นั่นสิเนอะ”
ผมกัดฟันแน่น
โมโหกับท่าทีของไอ้พี่ก้านจนไม่รู้จะเอาไประบายที่ไหนดี
เมื่อไรห่จะเลิกทำตัวแต๋วแตกแบบนี้สักที เม่อไหร่จะกลับมาเป็นคนเดิมแบบจริงๆจังๆสักที! ถ้าตราบใดที่ยังตัดใจจากไอ้ปั้นไมได้ มึงก็ไม่คิดจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมเลยสินะ
ถ้างั้น…
มึงมาทำเรื่องอย่างว่ากับกูทำไม
ถ้ากูไม่ได้เป็นที่หนึ่งสำหรับมึง แล้วเราจะมีเซ็กส์กันไปเพื่ออะไร…
สุดท้ายผมก็ทำได้แค่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อาจทนมองภาพไอ้พี่ก้านที่ยอมลงทุนเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่นที่ไม่ใช่ผมได้ เพราะถ้ามองมากไปกว่านี้ ผมกลัว…
กลัวตัวเองจะเจ็บปวดจนร้องไห้ออกมา
กลัวจะเก็บความรู้สึกมากมายที่มีให้มันไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
ผมกลัว…
กลัว…
“ไอ้จ้าว…ไอ้จ้าว!!!”
“ฮะ!!!! อะ…อะไร”
ผมเอ่ยถามอย่างลนลานด้วยตกใจกับเสียงเรียกอันดังลั่นของไอ้ปั้น
“มึงเป็นอะไรวะ ทำหน้าตาเหมือนคนกำลังจะฆ่าตัวตายเลย”
“เรื่องของกูไหม? มึงอย่าเสือก!”
“กูก็ไม่ได้อยากเสือกำนักหรอก ถ้ามึงไม่ทำหน้าน่าสมเพชขนาดนั้น!”
คำตอบของไอ้ปั้นทำให้ผมต้องมองตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกรถทันใด
บ้าน่า ทำไม…
ทำไมผมถึงได้แสดงใบหน้าที่เจ็บปวดออกมาได้ขนาดนี้ ทำไม!!!
“น้องจ้าว…”
เหมือนไอ้ตัวต้นเหตุจะพอรู้แล้วว่าผมเป็นอะไร มันมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำอธิบาย แต่ใครจะไปสนกันล่ะ
ยังไงเสียคำตอบของมันก็คงจะเหมือนทุกๆครั้ง
ไอ้ปั้น ไอ้ปั้น และไอ้ปั้น!
ชาตินี้ทั้งชาติ ผมไม่มีวันเทียบกับไอ้ปั้นได้หรอก…
ไม่รู้ทำไมพี่ก้านถึงได้รักมันขนาดนั้น ทำไมต้องเสียสละทำเพื่อมันขนาดนั้น น้องแท้ๆก็ไม่ใช่ ญาติกันก็ไม่ใช่ ก็แค่เพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกันแค่นั้น
ทำไมต้องทำอะไรมากมายขนาดนี้เพื่อมันด้วย!
“ไฟเขียวแล้วไอ้สัตว์ ไม่ไปกันหรือไง!”
ผมเปลี่ยนประเด็นแล้วชี้ไปที่สัญญาณไฟ ไอ้พี่ก้านรีบออกรถทันทีเพราะรถด้านหลังเริ่มบีบแตรไล่แล้ว ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติอีกครั้ง…
ไม่สิ
ไม่ปกติเลยสักนิด
ไอ้พี่ก้านมันจ้องผมผ่านกระจกมองหลังตาไม่กะพริบเลยต่างหาก!!!
ไอ้เหี้ย! มองทางเว้ยมองทาง จะมามองกูหาพระแสงอะไรเล่า!
“พี่ก้านๆ ทางเลี้ยวนะพี่! จะตรงลงเหวทำบ้าอะไรเนี่ย!”
หวังว่าจะถึงหมู่บ้านแสงจันทร์อย่างปลอดภัยนะ เฮ้อ!!!
“ถึงสักที ไชโย!”
ผมชูสองแขนขึ้นฟ้าอย่างดีใจ สูดอากาศที่บริสุทธิ์ของชุมชนนี้เข้าปอดอย่างเต็มที่
ว่าแล้วเชียว ที่ภูเขานี่กลิ่นหอมเย็นสบายสุดๆไปเลย ถึงทะเลที่อยู่ชอบจะสวยงามแค่ไหนก็เถอะ แต่ทะเลสำหรับคนที่ทำประมงนะ ส่วนใหญ่ก็มีแต่กลิ่นคาวปลาทั้งนั่นแหละ
“ที่นี่สุดยอดไปเลยนะ ต้นไม้เยอะมากเลย”
“ใช่ไหมล่ะครับ”
“เอาล่ะทุกคน พี่ก้านว่าเราไปหาพ่อเฒ่าของหมู่บ้านกันก่อนดีกว่านะ”
“แล้วคนจากชุมชนอื่นล่ะครับ”
“คงแยกย้ายกันไปแล้วน่ะ เพราะอาสาของแต่ละชุมชนต่างก็มีหน้าที่ต่างกัน คนที่ช่วยทำฝายกัน้ำก็จะไปพักอีกจุดหนึ่ง คนที่ช่วยทำทางก็ไปอีกจุดหนึ่ง ส่วนพวกเราสี่คนจะช่วยกันทำโรงเรียนเล็กๆและสร้างห้องสมุดให้กับเด็กๆร่วมกับอาสาจากชุมชนอื่นประมาณสิบคน เอาล่ะ ถ้าเข้าใจแล้วก็เข้าไปข้างในกันเถอะ”
“ถึงยังไงกูก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคนรวยๆอย่างกูทำไมจะต้องมาเป็นอาสาด้วยเนี่ย”
ไอ้จ้าวบ่นไม่เลิก
แต่ก็จริงของมัน ผมเองยังแปลกใจเลยที่รู้ว่าไอ้จ้าวจะมาด้วย เพราก็อย่างที่มันบอกนั่นแหละ คือมันรวย มันเป็นคุณชาย พ่อแม่งมีอิทธิพลคับฟ้า แต่ไหงถึงยอมส่งลูกชายให้มาลำบากที่นี่ได้
แปลกใจจริงๆ
“มา ฉันถือให้”
เจ้าชายที่เพิ่งเสร็จจากการดื่มด่ำในธรรมชาติหันมาคว้ากระเป๋าจากผมไปถือเอง อะไรคือการมาแสดงความเป็นสุภาพบุรุษกับสุภาพบุรุษเหมือนกันอย่างผมล่ะเนี่ย!
“ปะ…ไปกันดีกว่าครับ”
ตัดบทมันดื้อๆแบบนี้นี่แหละ
พี่ก้านเดินนำพวกเราทุกคนไปยังบ้านที่เป็นจุดศูนย์กลางของที่นี่ มีชาวบ้านมากมายยืนรอกันอยู่แล้ว เด็กๆในชุดแปลกๆเองก็ยืนออกันอยู่เพียบ ภายในบ้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นศาลาเสียมากกว่ามีชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่
หรือว่าคนๆนี้ก็คือ…พ่อเฒ่าที่พี่ก้านพูดถึง
“สวัสดีครับพ่อเฒ่า พวกผมเป็นอาสาจากชุมชนน้ำทะเลครับ ต้องขอโทษด้วยที่มาช้า พอดีรถขึ้นเขาสูงๆไม่ค่อยได้ก็เลยใช้เวลานานพอสมควรเลย”
อันนี้จริง ทางขึ้นมาหมู่บ้านค่อนข้างชัน กว่าจะขึ้นมาถึงนี่ได้พวกผมต้องลงแรงไปเข็นรถกับเส้นเอ็นในกายแทบจะขาด!
“ไม่เป็นไรหรอก ขอบคุณมากๆเลยนะที่ยอมเสียสละเวลามาเพื่อหมู่บ้านเล็กๆของเรา”
“พ่อบังคับมาต่างหากล่ะตา”
“ไอ้จ้าว!”
ผมถลึงตาใส่มัน เจ้าตัวเลิ่กลัก ดูแปลกใจมากว่าทำไมตัวเองถึงถูกโกรธใส่
ไอ้เวรเอ๊ย พูดะไรไม่คิด!
“พวกเราจัดบ้านที่จะใช้สำหรับพักไว้ไห้แล้วล่ะนะ อาจจะไม่ใหญ่โตอะไรเป็นเพียงแค่กระท่อมเล็กๆ แต่ก็จะพยายามดูแลพวกคุณอย่างดีเลยล่ะ”
“ขอบคุณมากครับ”
ผมกับพี่ก้านยกมือไหว้ขอบคุณ เหลือก็แค่ไอ้เจ้าชายผู้ไม่ค่อยเข้าใจมารยาทของมนุษย์เท่าไหร่นักกับไอ้คุณชายจอมหยิ่งผยองเท่านั้น
เฮ้อ… จะรอดไหมเนี่ย
“ห้องพักของคุณทั้งสี่อยู่ปลายหมู่บ้านตรงโน้นนะ มีที่กว้างขวาง มีทุ่งหญ้าด้วยล่ะ เชิญตามสบายเลยนะ”
“ขอบคุณมากครับพ่อเฒ่า”
“จริงสิ ก่อนอื่นต้องจับสลากไม้นี่ก่อนนะ เพื่อแบ่งว่าใครจะได้นอนคู่กับใคร มันเป็นประเพณีของหมู่บ้านที่ต้องปล่อยให้เจ้าป่าเจ้าเขาท่านเป็นผู้ตัดสิน”
คำพูดของผู้เฒ่าทำเอาพวกผมสี่คนมองหน้ากันโดยพลัน สลากไม้เล็กถูกคุณลุงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆพ่อเฒ่ามาตลอดส่งให้
“เชิญเลยจ้าๆ เลือกกันคนละ 1 อันนะ ใครได้สีที่ปลายไม้เหมือนกันก็นอนด้วยกันเลย”
“เอ่อ แต่ว่าพวกผม”
“รูปปั้น ไมเป็นไรหรอก”
พี่ก้านค้านเอาไว้
ไม่เป็นไรห่าอะไรล่ะ! พวกมึงไม่เป็นแต่กูเนี่ยเป็น! ถึงกระท่อมสองหลังมันจะไม่ได้ห่างกันถึงสองร้อยเมตรก็เหอะ แต่ถ้าได้นอนแยกห้องกับเจ้าชายจริงๆมันก็อดเป็นห่วงว่าความจะแตกไม่ได้อยู่ดี!
ฉิบหายแล้วไอ้ปั้นเอ๊ย
“เอาสิ จับเลย”
คุณลุงเร่งอีกครั้ง สุดท้ายพวกเราต่างก็ต้องจับไปที่ด้ามไม้กันคนละหนึ่งอัน ก่อนที่จะดึงขึ้นมาดูสีที่ตนได้และรูมเมทของตัวเอง!
“เฮ้ยยย!”
นรกขุมไหนกลั่นแกล้งผมถึงขนาดนี้!!!
ผม VS ไอ้จ้าว…
เจ้าชาย VS พี่ก้าน…
เอาจริงดิ?!!!
บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
สวัสดีค่า มาอัพแล้วนะค้า ความซวยกำลังจะบังเกิดขึ้นแล้ว เมื่อมีการสลับคู่เกิดขั้น ก๊ากกกก 5555+ แต่ละต่างก็เป็นศัตรูคู่กัดกันเสียด้วย แล้วต้องมาเป็นรูมเมทกันเป็นอาทิตย์แบบนี้ จะเป็นยังไงต่อล่ะเนี่ย ที่สำคัญคือ…เจ้าชายจะไม่ทำโก๊ะจนความลับแตกจริงเหรอ?? มาเอาใจช่วยน้องปั้นกับเจ้าชายกันด้วยน้า
เรื่องนี้เปิดพรีแล้วนะคะ สามารถสั่งซื้อได้ที่ลิงก์
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScSk5ZhmYYWSL9uITHmFI3nuw5sKsScBIfm8xxQBPAYAEUM4A/viewform?usp=sf_linkหรือจะสั่งผ่านเว็บไซด์ออนไลน์ที่บิวเพิ่งทำขึ้นก็ได้ค่ะ วิธีการสั่งซื้อขั้นตอนทุกอย่างง่ายมากๆ ไม่เสียเวลาอะไรเลย สนใจคลิกลิงก์ด้านล่างเน้อ
http://bubble-bew-j-juliet.lnwshop.com/