►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ►►►แจ้งข่าวรวมเล่มค่ะ @ดินแดนแห่งรัก อาณาจักรแห่งใจ@ (แฟนตาซี) (19/3/2019) P.23  (อ่าน 127222 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ทุกอย่างพร้อมแต่จะมีตัวมาขวางอีกมั้ยน้อ

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
ไปอยู่บ้านด้วยคนได้ไหมคะ เป็นโคมไฟก็ได้  :hao7:

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
บทที่ 27 ถอนพิษ

   ผมยืนกอดก้อนหินมองภาพชาว ‘คราเคน’ ขนของเข้ามาในห้องโถงรับแขกของพระราชวังแห่งเคลเบรอสด้วยความอึ้ง และคิดว่าคงไม่ใช่มีแค่ผมที่อึ้งกับภาพตรงหน้า เพราะทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ต่างก็จ้องภาพตรงหน้ากันอย่างเงียบกริบเหมือนๆ กัน

   อ้อ!... ก่อนที่จะมาถึงตอนนี้ ผมต้องเท้าความกลับไปก่อนหน้านี้สินะ

   ...

   หลังจากเสร็จภารกิจสกัดตัวยาจากไข่หงส์ฟินซ์ที่ถ้ำเสร็จแล้ว เราทั้งแปดก็เดินทางออกมาจากป่าคาล์มด้วยความระมัดระวังที่สุด ระวังทั้งอันตรายจากผู้ประสงค์ร้ายและสัตว์ร้ายในป่า ระวังทั้งตัวยาที่ได้มาด้วยความยากเย็น โชคดีที่การเดินทางราบรื่นดี ไม่มีเหตุการณ์อะไรให้ต้องใจหายใจคว่ำอีก

   เนื่องจากป่าคาล์มเป็นป่าที่ติดกับป่าไวท์ซึ่งเป็นรอยต่อของทั้งสองอาณาจักร เราจึงใช้ระยะเวลาไม่ถึง 3 วันก็สามารถเดินทางกลับมาถึงเคลเบรอสโดยสวัสดิภาพ

   เมื่อเดินทางมาถึงเราต่างแปลกใจเมื่อทราบว่าทีมเดวิลซึ่งมีพี่ไซรอสเป็นผู้นำทีมเดินทางไปหาไข่มุกดำที่ทะเลไมเรสยังไม่กลับมา ทุกคนต่างรอคอยด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากทะเลไมเรสอยู่ไม่ไกลจากอาณาจักรบาอัลและอาณาจักรรุคมากนัก แถมทีมนี้มีจุดหมายแค่ที่นี่ที่เดียว ไม่น่าจะใช้ระยะเวลาในการทำภารกิจนานขนาดนี้

   กังวลกันได้ไม่นาน ก่อนที่คิงเกรทเดนจะส่งทีมออกไปตาม ทีมเดวิลก็กลับมาถึงเคลเบรอสซะก่อน แต่ที่ทำให้เราอึ้งกันอยู่นั่นก็คือนอกจากสมาชิกทีมแล้ว ยังมีคนติดตามกลับมาด้วยอีกสิบกว่าคน

   ไซเลอร์กระซิบบอกว่าพวกเขาเป็นชาวคราเคนผู้ครอบครองอาณาจักรใต้น้ำในทะเลไมเรสที่พี่ไซรอสนำสาร์นขออนุญาตไปงมไข่มุกดำมา

   ลุงเซเรสเคยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่ายังมีอาณาจักรอีกอาณาจักรที่อยู่ใต้น้ำ ชื่ออาณาจักรคราเคน ถึงจะเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันกับอีกสามอาณาจักร แต่พวกเขาก็ไม่ค่อยจะสุงสิงกับคนบนบกนัก เพราะความที่ชาวคราเคนค่อนข้างเก็บตัว จึงไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้เจอตัวเป็นๆ แบบนี้

   ผมยืนมองผู้มาเยือนด้วยความสนใจ ลักษณะภายนอกของชาวคราเคนไม่ได้ต่างจากคนอาณาจักรอื่นๆ เลย มีเพียงสัญลักษณ์รูปหยดน้ำตรงหน้าผากเท่านั้นที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของคนในอาณาจักร

   หลังจากขนของเข้ามาหมดแล้ว คนเหล่านั้นก็ขยับไปยืนเรียงข้างละสองฝั่ง เว้นช่องว่างตรงกลางไว้ เพียงไม่นานก็มีคนสองคนเดินเข้ามาภายในห้องโถง

   คนที่เดินนำหน้าเป็นหญิงสาวผิวขาวจัด ขาวจนเหมือนจะเรืองแสงออกมาได้ ผมหยักศกสีแดงเพลิงเป็นประกายยาวจนเกือบจะถึงพื้น ใส่ชุดสีฟ้าอ่อนยาวเกือบถึงข้อเท้า ปิดหน้าด้วยผ้าสีเดียวกันกับชุด เผยให้เห็นเพียงดวงตาสีฟ้าเข้มสดใส ส่วนคนที่เดินตามมาเป็นชายหนุ่มรูปร่างบึกบึนหน้านิ่งผมดำสนิท

   เมื่อมาถึง ทุกคนก็ทิ้งตัวลงคุกเข่าเพื่อถวายความเคารพคิงแห่งเคลเบรอส

   “เจ้าหญิงพริโอเนซและคณะทูตแห่งคราเคนถวายพระพรฝ่าบาท” เสียงหวานกังวานใสจากผู้หญิงเพียงหนึ่งเดียวในคณะกล่าวขึ้น ฟังแล้วรู้สึกเคลิ้มชะมัด

   “ลุกขึ้นเถอะ เชิญพวกท่านตามสบาย”

   เมื่อทุกคนลุกขึ้นแล้ว แต่ละคนก็แยกย้ายไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง โดยแขกที่มาเยือนได้รับเชิญให้ไปนั่งยังเก้าอี้ที่จัดไว้ใกล้ๆ กับเก้าอี้ของคิงเกรทเดน

   “องค์ราชาเวลชาร์คแห่งคราเคนมีอะไรให้เรารับใช้รึเปล่า ถึงได้ส่งคณะทูตมาถึงที่นี่”

   ไซเลอร์กระซิบให้ฟังว่า คนที่นี่ไม่เคยเจอชาวคราเคนมาหลายร้อยปีแล้ว เพราะชาวคราเคนจะรู้สึกไม่สบายตัวและหายใจลำบาก เมื่อต้องขึ้นมาใช้ชีวิตอยู่บนบก ทุกคนจึงแปลกใจที่ครั้งนี้ชาวคราเคนขึ้นมาจากทะเลได้ แถมยังมาเป็นหมู่คณะอีกด้วย

   “ไม่มีปัญหาอะไรหรอกฝ่าบาท องค์ราชาเพียงแค่ส่งเจ้าหญิงพริโอเนซติดตามพระสวามีมาเท่านั้น”

   “ห๊ะ!!! พระสวามี” เอ่อ... อันนี้ผมไม่ได้อุทานนะครับ แต่เป็นเสียงอุทานที่ดังมาจากทั่วห้องโถงเลยเถอะ!

   แล้วทุกสายตาของคนทั้งห้องโถงก็หันขวับไปมองทีมเดวิลที่ยืนเงียบกริบตั้งแต่รายงานตัวต่อคิงเสร็จ ต่างก็สงสัยว่าใครกันแน่ที่อยู่ๆ ก็กลับมาด้วยตำแหน่งพระสวามีของเจ้าหญิง

   “...”

   แต่พี่ๆ แกก็นิ่งสงบสยบทุกความเคลื่อนไหว มีเพียงสีหน้าแปลกๆ เท่านั้นที่บ่งบอกว่าทุกคนรับฟังอยู่ ก่อนที่สายตาคนในทีมจะหันไปยังคนที่ทำหน้านิ่งอยู่คนเดียว  เจ้าตัวคงจะทนแรงกดดันจากทุกสายตาไม่ไหวเลยหันไปตอบข้อสงสัยของทุกคนกับคิงด้วยสีหน้านิ่งๆ

   “กระหม่อมเองฝ่าบาท”

   “ห๊ะ!!!”

   “ไซรอสเนี่ยนะ!”

   “ไซรอสเหรอ?”

   “เป็นไปได้ยังไง? / เกิดอะไรขึ้น?”

   ในขณะที่คนอื่นๆ อุทานและพูดคุยกันเซ็งแซ่ แต่คนเป็นพ่ออย่างท่านอลาสกันกับคนเป็นน้องอย่างไซเลอร์กลับทำแค่เพียงเลิกคิ้วแสดงความแปลกใจเท่านั้น ส่วนท่านไซรีนก็ทำเพียงมองพี่ไซรอสสลับกับเจ้าหญิงตาเป็นประกายด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานเหมือนจะดีใจมากกว่าที่ได้ลูกสะใภ้สมใจหลังจากที่บ่นอยากได้มานาน

   บ้านนี้นี่สตรองกันดีจริงๆ

   เมื่อทุกคนพูดคุยกันเสียงดังไม่ยอมหยุดกันสักที คิงจึงยกมือขึ้นเป็นเชิงบอกให้เงียบ    

   “ไปทำอีท่าไหน แฮ่ม! ข้าหมายถึง เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ไซรอสถึงได้ไปเป็นพระสวามีของเจ้าหญิงแห่งคราเคนได้ล่ะ”
 
   เป็นเรื่องน่าแปลกใจจนทำให้คิงถึงกับไปไม่เป็นอะคิดดู

   คณะราชทูตเงียบกริบ แต่มองไปทางพี่ไซรอสเป็นตาเดียว บอกด้วยกิริยาว่าให้พี่ไซรอสเป็นคนตอบ

   “เรื่องมันยาวฝ่าบาท เดี๋ยวกระหม่อมจะเล่าให้ฟังในภายหลัง กระหม่อมกับเจ้าหญิงได้คุยกันแล้วว่ารอให้ควีนฟื้นขึ้นมาก่อนแล้วค่อยคุยเรื่องของเราอีกที ในเมื่อตอนนี้เราได้ตัวยามาครบตามที่ดินบอกแล้ว กระหม่อมว่าน่าจะให้ดินเริ่มปรุงยาเลยน่าจะดีกว่าฝ่าบาท”

   อุย! ผมแทบจะสะดุ้งเมื่อฟังอยู่ดีๆ พี่ไซรอสก็โยนมาที่ผมเฉยเลย แล้วสายตาทุกคนคู่ก็เปลี่ยนมาจ้องผมแทน

   “เอ่อ... อุปกรณ์ที่ต้องใช้สำนักแพทย์เตรียมให้พร้อมแล้ว ตัวยาก็มาพร้อมหมดแล้ว เราไปปรุงยากันเลยก็ได้ครับ” ผมตอบอย่างเกร็งๆ

   “อืม ถ้าเช่นนั้นก็ฝากท่านอลาสกัน ท่านเรเนียนและท่านหญิงทั้งหลายช่วยดูแลแขกของเราด้วยก็แล้วกัน ข้าต้องขอโทษเจ้าหญิงและคณะทูตทุกท่านด้วยที่ไม่ได้ดูแลด้วยตนเอง”

   “หม่อมฉันเข้าใจฝ่าบาท แค่มาต้อนรับด้วยพระองค์เองก็ถือเป็นเกียรติมากแล้วค่ะ” เจ้าหญิงตอบรับด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ลุกขึ้นย่อตัวลงอย่างเรียบร้อยงดงาม

   “นานๆ จะได้รับแขกจากคราเคนสักที นับว่าเป็นเกียรติของเราเหมือนกัน”

   “ท่านพ่อฝากสาร์นมาถึงพระองค์เป็นลายลักษณ์อักษรและตรัสฝากมาว่าหากทรงว่างเมื่อไหร่จะทรงขึ้นมาพบด้วยพระองค์เองค่ะ”

   จบคำของเจ้าหญิงเสียงฮือฮาในห้องโถงก็ดังขึ้นอีกครั้ง จนคิงต้องทรงยกมือขึ้นเป็นปางห้ามญาติอีกรอบ

   “ข้าจะเฝ้ารอด้วยความยินดียิ่ง ถ้าเช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อนก็แล้วกัน ไปกันเถอะก้อนดิน”

   “ถวายพระพรฝ่าบาท” เสียงทุกคนในห้องโถงที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรักษากล่าวส่งเสด็จ

   “พวกเราขอให้การรักษาประสบผลสำเร็จ ขอส่งความห่วงใยและกำลังใจให้ควีนทรงหายโดยเร็ว ฝากด้วยนะก้อนดิน” ท่านเบตันเป็นตัวแทนกล่าวขึ้นมา

   “ฝากควีนด้วยนะก้อนดิน” เสียงความห่วงใยและความหวังจากทุกคนที่ส่งมาถึงทำให้ผมต้องค้อมรับหน้าที่ด้วยความเต็มใจและมุ่งมั่น
   ผมสัญญากับทุกคนในใจว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด!



   ผมเข้ามายืนในห้องบรรทมของคิงและควีนอีกครั้ง

   สิ่งแรกที่ทำก็คือเช็คของที่ต้องใช้ในการปรุงยาอีกรอบเพื่อความมั่นใจ (หลังจากเช็คไปแล้วหลายรอบ) และทบทวนหน้าที่ของคนที่มีส่วนในการปรุงยาอีกครั้งเพื่อความชัวร์

   ผมให้คิงนั่งอยู่ฝั่งด้านในของเตียงคอยกุมมือควีนและคอยพูดคุยกับควีนเพื่อเป็นการส่งกำลังใจให้ควีนได้รับรู้ เพราะแม้ว่าร่างกายของคนที่ถูกพิษจะหลับอยู่ แต่จิตใต้สำนึกและสัมผัสการรับรู้อื่นๆ ยังคงอยู่ครบถ้วนเหมือนคนทั่วไป ถ้าควีนได้รับกำลังใจและรู้ว่าเรากำลังพยายามช่วยอยู่จะได้ทรงเข้มแข็ง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การขับพิษมีโอกาสประสบผลสัมฤทธิ์ได้มากขึ้น

   ท่านคานาริโอนั่งอยู่อีกฝั่งของเตียงทบทวนเวทย์ถอนพิษจากหัวใจเพื่อเตรียมพร้อมระหว่างรอตัวยาไปก่อน สาเหตุที่ต้องให้ท่านคานาริโอทำหน้าที่นี้ เพราะท่านคานาริโอเป็นตระกูลสายเวทย์และมีสายเลือดสายเดียวกันกับควีนซึ่งจะช่วยให้พิษถูกถอนออกได้ผลเร็วกว่าจอมเวทย์ที่มาจากสายตระกูลอื่น

   ท่านลาซากับพินช์เชอร์เป็นผู้ช่วยในการปรุงยา เพราะตัวยาเตรียมไว้พร้อมแล้วเลยไม่จำเป็นต้องใช้คนมาก ผมอธิบายขั้นตอนทุกอย่างและลำดับในการใส่ตัวยาให้ทั้งสองเข้าใจคร่าวๆ ก่อนปฏิบัติจริงซ้ำอีกหลายรอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาด

   ผู้ที่ทำหน้าที่ร่ายเวทย์ขณะปรุงยาเพื่อให้ตัวยาและเวทย์เข้ากันจนสามารถกระจายไปได้ทุกส่วนของร่างกายคือท่านมอลทีส ซึ่งนอกจากจะเป็นจอมปราชญ์แล้วยังเป็นจอมเวทย์อันดับต้นๆ ของอาณาจักรอีกด้วย

   ส่วนเวทย์ในการปรุงยาผมก็เอาจากสมุดที่ลุงเซเรสให้มานำไปให้พวกท่านอ่านก่อนเพื่อความราบรื่นในการร่ายเวทย์ เพราะคนที่ต้องร่ายเวทย์ขณะปรุงยาต้องร่ายตั้งแต่ต้นจนจบวนไปเรื่อยๆ ตั้งแต่เริ่มปรุงจนปรุงสำเร็จ ส่วนคนที่ร่ายเวทย์หลังจากดื่มยาก็ต้องร่ายตั้งแต่เริ่มดื่มยาไปจนถอนพิษออกหมดเช่นกัน

   ด้านในห้องมีท่านไวเลอร์เฝ้าอยู่เพื่อป้องกันอันตรายและป้องกันไม่ให้ใครเข้ามารบกวนขณะปรุงยา

   ประตูด้านนอกห้องบรรทมมีท่านเบตันเฝ้าไว้อีกชั้น ด้านหน้าตำหนักก็มีทีมอื่นๆ ที่ไม่ได้ออกไปปฏิบัติภารกิจยืนเฝ้าและเดินตรวจตราดูแลทั้งภายในและรอบๆ พระราชวังอย่างแน่นหนา

   หลังจากเตรียมของและเตรียมคนเรียบร้อยแล้ว ผมก็หลับตาลงเพื่อรวบรวมสมาธิไม่ให้ตัวเองสติแตกจากความกดดันในระหว่างปรุงยา ซึ่งทุกคนก็พร้อมใจกันเงียบอย่างเข้าใจ

   ผมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อพร้อมแล้วก็ลืมตาขึ้นกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ประจำตำแหน่งของตัวเองแล้วบอก

   “มาเริ่มกันเลยครับ”

   เมื่อผมให้สัญญาณท่านมอลทีสก็เริ่มร่ายเวทย์ทันที ส่วนผมก็หยิบไข่มุกดำที่ยังอยู่ในน้ำทะเลใส่ลงไปในหม้อต้มที่มีส่วนผสมของน้ำค้างยามรุ่งสางและน้ำที่กลั่นจากดอกสโนว์ฟ็อกซ์อยู่ภายใน ด้านล่างเป็นไฟเวทย์ที่ให้ความร้อนในระดับที่เหมาะสม ฤทธิ์ของไข่มุกดำแห่งทะเลไมเรสจะทำให้น้ำเย็นแม้จะเดือดอยู่ก็ตาม งงไหม? ผมก็อธิบายไม่ถูกครับบอกตรงๆ แหะๆ

   พอใส่ไข่มุกดำได้สักครู่จนมั่นใจว่าอุณหภูมิคงที่แล้ว ผมก็ให้ท่านลาซากับพินเชอร์หยิบสมุนไพรชุดแรกที่เตรียมไว้ใส่ไปพร้อมๆ กัน ส่วนผมก็คอยคนให้เข้ากันแล้วปิดฝาไว้

   ผมคว่ำนาฬิกาทรายที่ใช้กำหนดเวลาลงแล้วนั่งจ้องเม็ดทรายอย่างใจจดใจจ่อด้วยความรู้สึกอึดอัด เพราะนอกจากเสียงร่ายเวทย์ของท่านมอลทีสกับเสียงน้ำในหม้อแล้วทุกคนก็เงียบกริบเพื่อให้ท่านมอลทีสมีสมาธิได้อย่างเต็มที่

   แล้วผมก็สะดุ้งโหยงเมื่อรู้สึกว่ามีคนสะกิดที่ขา เมื่อหันไปมองก็เห็นพินช์เชอร์จ้องมา น้องมันชี้ไปที่จมูกแล้วอ้าปากพะงาบๆ อ่านปากได้ว่า

   “พี่ดินหายใจสิครับ หายใจ”

   เฮือกกก!

   อ้อ! ผมกลั้นหายใจอยู่นี่เอง มิน่าล่ะ ถึงได้รู้สึกอึดอัดพิกล

   ใจเย็นๆ .....

   ตัวกูนี่แหละใจเย็นเย็นนนน

   โอ๊ยยยย! ดิน สติ! อย่าลนสิวะ หายใจเข้าลึกๆ ผมพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกหลายๆ ครั้ง เพื่อไม่ให้ตัวเองสติแตก รู้สึกอยากกอดก้อนหินชะมัด แต่ตอนนี้มันอยู่กับไซเลอร์ข้างนอกนี่สิ

   ผมหลับตาลงอีกครั้ง นึกถึงอ้อมกอดของไซเลอร์ที่ดึงผมเข้าไปกอดก่อนที่ผมจะเข้ามาในนี้โดยที่ก้อนหินยังอยู่ในอ้อมแขนพร้อมคำพูดหนักแน่นที่แสดงถึงความเชื่อมั่นในตัวผม

   “เจ้าทำได้”

   ส่วนคนอื่นๆ ก็เข้ามาตบบ่าหนักๆ (จนบ่าแทบทรุด) เพื่อให้กำลังใจ

   นึกถึงคำพูดและสายตาของทุกๆ คนที่ฝากความหวังมาแล้วก็ทำให้รู้สึกฮึดขึ้นมาทันที

   ในเมื่อทุกคนเชื่อใจและมั่นใจ

   ผมก็ต้องทำได้สิน่า!

   ผมลืมตาขึ้นมาด้วยความรู้สึกเยือกเย็นยิ่งกว่าเดิม มองนาฬิกาทรายที่ร่วงหล่นลงสู่เบื้องล่างด้วยความมุ่งมั่น เมื่อทรายเม็ดสุดท้ายหมดลง ผมก็ลุกขึ้นเปิดฝาหม้อ แล้วให้ท่านลาซากับพินช์เชอร์ช่วยหยิบตัวยาชุดต่อไปใส่ลงในหม้อ ส่วนผมก็คนเรื่อยๆ เมื่อตักขึ้นมาดูและเห็นว่าเข้ากันทั่วแล้ว ก็หยิบผงไข่หงส์ฟินซ์ที่บดละเอียดไว้มาเปิดฝาแล้วเทลงไป คนให้เข้ากันสักพักเพื่อให้ผงไข่ละลายและเข้ากันจนทั่วก็ปิดฝาลงแล้วหยิบนาฬิกาทรายอันเล็กกว่ามาตั้ง

   เราทั้งสามจ้องนาฬิกาทรายกันเงียบๆ จนกระทั่งเม็ดทรายเม็ดสุดท้ายหมดลง ผมก็หยิบเอาตัวยาที่สกัดจากเห็ดเรืองแสงมาเทใส่ถ้วยตวงแล้วเทลงไปหม้อ คนต่อไปเรื่อยๆ สักพัก เมื่อตักขึ้นมาดูและเห็นว่าสีเข้มข้นตามต้องการแล้วก็ปิดฝาแล้วเตรียมอุปกรณ์มากลั่นเหมือนตอนกลั่นเห็ดเรืองแสง

   หลังจากจัดการกับอุปกรณ์กลั่นเรียบร้อยแล้วเราก็นั่งจ้องขวดแก้วที่ใช้รองยากันด้วยความเงียบ มีเพียงเสียงของท่านมอลทีสที่ยังคงร่ายเวทย์ต่อไปอย่างมีสมาธิ จนยาหยดแรกหล่นลงสู่ขวดแก้วนั่นแหละถึงได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างแผ่วเบาของเราทั้งสามคน ก่อนที่จะยิ้มให้กันด้วยความโล่งอกเพราะถือว่าขั้นตอนสำคัญในการปรุงยาสำเร็จไปอีกขั้น

   เมื่อหันไปมองคิงก็เห็นทรงมองมาอย่างมีความหวัง แม้ว่ายาแต่ละหยดจะออกมาช้าแค่ไหน เราก็ยังคงเฝ้ามองหยดยาที่ไหลลงสู่ขวดแก้วหยดแล้วหยดเล่าอย่างใจจดใจจ่อ แม้ว่าตอนนี้จะเหลือเพียงรอให้ยาเต็มขวดแก้วแต่ทุกคนก็ยังไม่ขยับไปไหน ยังคงเฝ้าคอยอยู่ประจำที่อย่างเต็มใจ แปลกที่ไม่รู้สึกหิวหรือง่วงเลยสักนิด สงสัยจะลุ้นกันจนลืมหิว สงสารก็แต่ท่านมอลทีสที่ต้องร่ายเวทย์ต่อไปเรื่อยๆ ไม่สามารถหยุดพักได้เหมือนคนอื่น

   ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่คาดว่าคงนานพอดู เพราะผมรู้สึกเหมือน... จะเป็นเหน็บ

   อูยยยยย

   เพราะมัวแต่นั่งจ้องยาที่หยดลงขวดเพลินเลยลืมขยับตัว (ดีนะไม่ลืมหายใจด้วย) มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ยาใกล้จะเต็มขวดนั่นแหละ ถึงได้ขยับตัวเพื่อเตรียมพร้อม ผมค่อยๆ ขยับขาอย่างยากลำบาก ขยับทีจี๊ดทีสะเทือนไปทั้งขา คิดว่าทุกคนคงเคยเป็นเหน็บน่าจะเข้าใจความรู้สึกผมดี

   กว่าจะหายจากอาการเหน็บกินพินช์เชอร์ต้องขยับมาช่วยนวดขาอีกแรง เมื่อตัวยาหยดลงในขวดแก้วได้ปริมาณที่ต้องการแล้ว ผมก็ดึงปล้องหญ้าออกแล้วใส่ขวดใหม่รองไว้ เพื่อสำรองไว้เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด

   ผมส่งสัญญาณให้ท่านมอลทีสหยุดร่ายเวทย์ พินช์เชอร์รีบส่งน้ำให้ท่านมอลทีสจิบทันที ส่วนผมถือขวดยาและถ้วยชาใบเล็กเดินไปหาคิง แล้วส่งถ้วยชาให้คิง

   “กระหม่อมขอเลือดฝ่าบาทด้วยครับ”

   คิงรับถ้วยไปแล้วหยิบมีดที่พกไว้มากรีดนิ้วตัวเองอย่างไม่ลังเล หยดเลือดหยดลงในถ้วยที่รองไว้จนเต็ม ท่านลาซาก็นำยาห้ามเลือดโปะแผลแล้วปิดด้วยผ้าสะอาดอีกที

   ผมนำเลือดของคิงเทลงในขวดแก้ว เมื่อเทลงไปแล้วจุดที่เลือดสัมผัสกับตัวยาก็เรืองแสงออกมาทันที ผมยิ้มกว้างอย่างพอใจในปฏิกิริยา มันหมายถึงตัวยาใช้ได้และหัวใจของเจ้าของเลือดยังมั่นคงในรักเหมือนเดิม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ฤทธิ์ของยาสัมฤทธิ์ผล

   ผมนำน้ำที่สกัดจากดอกคาโมมายล์หยดใส่ลงไปเพื่อลบกลิ่นคาวเลือด ใส่น้ำผึ้งลงไปสามช้อนเพื่อให้ดื่มง่ายขึ้น ใช้ช้อนแก้วคนให้เลือดและตัวยาเข้ากัน ยิ่งเข้ากันมากเท่าไหร่ตัวยาในขวดแก้วก็ยิ่งเรืองแสงออกมามากเท่านั้น

   เมื่อตัวยาเข้ากันได้ทั่วแล้วผมก็ส่งให้คิง

   “ต้องทรงป้อนด้วยปากจนกว่าจะหมดครับ” ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่พอเพราะผมเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้แล้ว

   คิงขยับเข้าไปประคองควีนให้ลุกขึ้นในท่ากึ่งนั่ง โดยมีท่านมอลทีสเข้าไปช่วยประคองอีกฝั่ง ส่วนท่านลาซากับพินช์เชอร์ก็มายืนลุ้นอยู่ใกล้ๆ เตียงด้วย

   “ท่านคานาริโอเริ่มได้เลยครับ”

   เมื่อท่านคานาริโอเริ่มร่ายเวทย์ คิงก็ดื่มยาที่ยังคงเรืองแสงจากขวดแล้วป้อนสู่ปากของควีนอย่างนุ่มนวล ผมกับพินช์เชอร์ยืนมองไปหน้าแดงไป ถึงจะเขินกับภาพตรงหน้ามากแค่ไหนก็ต้องยืนสังเกตการณ์ต่อเพื่อเฝ้าดูฤทธิ์ของยา

   เพียงแค่ริมฝีปากของคิงกับควีนสัมผัสกัน เมื่อตัวยาเข้าสู่ร่างกายของควีนประสานกับเวทย์ที่ท่านคานาริโอกำลังร่าย ยาพิษที่ห่อหุ้มหัวใจของควีนก็เรืองแสงขึ้นมาต่อต้านตัวยาทันที

   เมื่อคิงผละออกมาก็ทรงชะงักเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ผมบอกให้คิงทรงป้อนยาต่อไปเรื่อยๆ ไม่ต้องสนใจสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งคิงก็ทำตามแต่โดยดี ทรงป้อนยาให้ควีนอย่างต่อเนื่อง

   จากที่มีแค่หัวใจเพียงจุดเดียวที่เรืองแสง ก็มีแสงสีทองอีกสายที่เข้าไปโอบล้อมหัวใจแล้วค่อยๆ กระจายออกไปเรื่อยๆ จนแสงสีทองอาบไปทั่วทั้งร่างของควีนเมื่อยาในขวดแก้วหมดลงพอดี

   คิงหันมามองหน้าผมด้วยสีหน้ากังวล ผมเพียงยิ้มให้อย่างมั่นใจก่อนจะบอกสั้นๆ

   “ต้องรอครับ”

   รอให้ฤทธิ์ยาเข้าไปต้านยาพิษภายในร่างกายควีนจนหมด แสงที่เรืองรองก็เริ่มอ่อนแรงลงจนหายไปในที่สุด

   “แค่กๆ”

   ผมรีบเอาผ้าส่งให้ท่านมอลทีสรองใต้ปากควีนและเช็ดปากให้ เมื่อควีนไอเอาพิษสีดำออกมา หลังจากพิษสีดำไหลออกมาหมดแล้ว ควีนก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ

   คิงจ้องปฏิกิริยาของควีนจนแทบจะไม่กระพริบตา

   ควีนลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแรง เมื่อแววตามีแววรับรู้ได้เต็มที่แล้วเห็นคิงอยู่ตรงหน้าก็พยายามยกมือขึ้นแต่เพราะหลับไปนานเลยไม่ค่อยมีแรง คิงเลยช่วยจับมือขึ้นมา ควีนใช้มือลูบไปที่ใบหน้าคิง ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วเรียกด้วยเสียงที่แหบพร่า

   “เกรทเดน”

   เพียงเท่านั้นคิงก็ดึงควีนเข้าไปกอดอย่างแนบแน่น แล้วเรียกชื่อควีนด้วยน้ำเสียงสั่นๆ จนผมรู้สึกได้

   “คูวาสซ์”

   “อืม”

   “คูวาสซ์”

   “อืม”

   “คูวาสซ์” ควีนพยายามยกแขนกอดตอบคิงแล้วตบหลังเบาๆ

   “อืม... ข้ากลับมาแล้ว”

   ผมแอบน้ำตาซึมด้วยความซาบซึ้งกับความรักของทั้งคู่ ส่วนพินช์เชอร์นั้นน้ำตาไหลพรากไปแล้ว ท่านลาซารีบเดินออกไปหน้าห้อง ก่อนที่จะได้ยินเสียงเปิดประตูและได้ยินเสียงตะโกนบอกกันเป็นทอดๆ

   “ควีนฟื้นแล้ว” ตามมาด้วยเสียงเฮลั่นดังมาจากข้างนอก

   ผมยิ้มกว้างออกมาก่อนจะหัวเราะด้วยความโล่งใจ

   ในที่สุดก็ทำสำเร็จ!

   ขอบคุณนะครับลุงเซเรส



   เมื่อคิงเลิกกอดควีนแล้วกลับมาประคองไว้อย่างเดียวด้วยอาการหน้าบานไม่หุบ ผมก็ขยับเข้าไปจับชีพจรของควีนดูอีกรอบ เมื่อดูแล้วแม้จะทรงอ่อนแรงไปบ้างแต่ชีพจรก็เต้นเป็นปกติดีก็ยิ้มอย่างโล่งใจ ก่อนจะให้ท่านลาซามาตรวจร่างกายของควีนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อเตรียมยาขับพิษที่ยังตกค้างและยาบำรุงให้ควีนกลับมาแข็งแรงในเร็ววัน

   “ขอบใจเจ้ามากนะก้อนดิน” คิงตรัสขอบคุณด้วยแววตาที่ซาบซึ้งและยินดีไร้แววหม่นเศร้าเหมือนก่อนหน้านี้

   “ขอบใจเจ้าด้วย” ควีนเองก็ตรัสขอบคุณด้วยน้ำเสียงแหบๆ ก่อนจะหันไปสบตากับคิงแล้วยิ้มให้กัน

   โอ๊ย! เบาหวานจะขึ้นตาผมไหม

   “ไม่เป็นไรครับ กระหม่อมเต็มใจมาก”

   การได้ช่วยชีวิตใครสักคนนี่มันให้ความรู้สึกดีจริงๆ ครับ

   
   เมื่อเตรียมอาหารและยาให้คิงกับควีนเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ปล่อยให้คิงอยู่กับควีนเพียงลำพัง เพื่อให้ทั้งคู่ทรงได้พักผ่อน พอเดินออกมาข้างนอกก็เจอกับทีมเฮดีสและคนอื่นๆ ที่ยืนยิ้มรออยู่

   พอก้อนหินเห็นหน้าผมก็ดิ้นในอ้อมแขนไซเลอร์เพื่อจะมาหาผม ในขณะที่ผมก็รีบเดินไปรับมันมากอดแน่นๆ ทันที ยอมรับว่าติดมันมากเหมือนกันครับ ห่างกันไม่นานก็คิดถึง คิดว่าชาตินี้ชีวิตผมคงขาดมันไม่ได้แล้ว

   ไซเลอร์ดึงผมไปกอดแน่นๆ อีกที รู้สึกได้ว่าริมฝีปากจะประทับมาแถวๆ กระหม่อมได้ยินเสียงกระแอมไอเสียงแซวเสียงล้อจากคนที่เหลือทำให้ผมรู้สึกร้อนๆ ที่หน้า

   “เก่งมาก” ไซเลอร์บอกด้วยน้ำเสียงภูมิใจ ผมยิ้มด้วยความรู้สึกภูมิใจไม่ต่างกัน

   พอไซเลอร์ปล่อยตัวผมคนอื่นๆ ก็เข้ามาตบบ่าขอบคุณ (จนบ่าแทบทรุด) ไม่ขาดสาย กว่าจะหลุดดงมาได้ก็เล่นเอาไหล่ทั้งสองข้างถึงกับระบม

   พวกเราตกลงกันว่าจะแยกย้ายกันไปรับประทานอาหารและพักผ่อนที่บ้านใครบ้านมันกันก่อน ตอนเย็นค่อยกลับมาที่พระราชวังใหม่ เพราะควีนอยากออกไปพบทุกคนทีเดียวเพื่อให้ทุกคนสบายใจ คิงทรงห้ามแล้วแต่ควีนบอกว่ายังไหว พอควีนดื้อท่านลาซาเลยตรวจร่างกายซ้ำอีกรอบแล้วบอกว่าถ้านั่งเฉยๆ ไม่นานก็พอจะอนุญาตให้ออกไปได้ คิงเลยต้องตามใจสั่งจัดเลี้ยงอาหารให้กับทุกคนในตอนเย็น

   ระหว่างทางไปที่ลานมังกร ทุกคนพูดคุยกันอย่างเฮฮา มีคนเข้ามาทักทายเป็นระยะ ผมรับรู้ได้ถึงบรรยากาศผ่อนคลายและความสุขที่อวลไปทั่วจนอดจะเดินยิ้มเหมือนคนบ้าไปตลอดทางไม่ได้

   “เย็นนี้พี่ไซรอสจะมาด้วยไหมครับ” ชเนาเซอร์ขยับไปกระแซะพี่ไซรอสที่เดินยิ้มๆ อย่างอารมณ์ดีไม่ต่างกัน พอถูกถาม พี่แกก็ยกคิ้วขึ้นเหมือนจะถามว่าถามทำไม

   “ก็ในเมื่อตอนนี้พี่ไซรอสมีเมีย เอ๊ย! มีภรรยาแล้ว จะไปไหนมาไหนสบายๆ เหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้วใช่ไหม ต่อไปก็คงต้องขออนุญาตภรรยาก่อนทุกครั้งสินะ พระสวามี” คำหลังนี่ลากยาวอย่างล้อเลียนสุดๆ

   พี่ไซรอสยกขาทำท่าจะถีบไอ้คนล้อ ผมนี่อยากจะบอกว่าเผื่อผมสักทีด้วยครับพี่ หมั่นไส้มานานแล้ว แต่ไอ้ตัวดีไหวตัวทัน วิ่งหัวเราะนำหน้าไปก่อน พี่ไซรอสส่ายหัว ส่วนคนอื่นๆ ก็หัวเราะขำกันถ้วนหน้า

   “ฮ่าๆๆๆๆๆ”

   ผมมองพี่ไซรอสแล้วอดนึกถึงเรื่องที่ห้องโถงไม่ได้ คิดแล้วก็ขำ คนอื่นลงน้ำไปอย่างมากก็คงได้ปลามา แต่พี่ไซรอสนี่ลงน้ำแล้วได้เจ้าหญิงมาเลย พี่นี่สุดยอดจริงๆ!



   ผมยืนเกาะระเบียงตรงชานเรือนวสุธารับลมที่พัดเอื่อยๆ มากระทบใบหน้าด้วยความรู้สึกสดชื่น สายตาทอดมองไปยังแม่น้ำตรงหน้าด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ก้อนหินนั่งห้อยขาอยู่บนระเบียงหันหน้าไปทางเดียวกัน มันสะบัดหางไปมาเหมือนกำลังรู้สึกผ่อนคลายไม่ต่างกัน ส่วนไซเลอร์ก็มายืนอยู่ข้างๆ จนไหล่แทบจะติดกัน สายตามองตรงไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนที่เราจะหันมาสบตาและยิ้มให้กันด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

   รู้สึกเหมือนได้กลับมาถึง “บ้าน” อย่างแท้จริง


@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

พูดถึงการร่ายเวทย์ทีไร นึกถึงการ์ตูนเรื่อง จอมอสูรเซนกิทุกที
“โอมเอยบ่วงพันธนาการอสูร จงขาดสะบั้นด้วยฤทธิ์มนตราแห่งข้า
ปลดบ่วง Vajura On Ark จอมอสูรเซนกิจงปรากฎกาย ณ บัดนี้”
555555 ยังจำได้อะคิดดู เคยดูสมัยสาวๆ (บ่งบอกถึงอายุมาก) ถถถ เซนกิของป้า เอ๊ย! ของพี่

ส่วนคำศัพท์นั้น เลือกใช้ตามที่ลองอ่านแล้วรู้สึกติดขัดน้อยที่สุดนะคะ
เอาจริงๆ คือใช้คำตามใจฉันสุดๆ 5555
ใช้คำในนิยายแฟนตาซีนี่มันก็จะมึนๆ หน่อยๆ แหะๆ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

# ommanymontra  :L2: :L1: :L2:
#poppycake กลับมาแล้วเย้ อยากจบจะเย้ เอ๊ย! จะแย่แล้ว เย้
#aiyuki เวลาจินตนาการบรรเจิดมันก็จะสนุกๆ ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ ค่ะ แต่เวลาตันนี่ห่อเหี่ยวมาก 55555 ส่วนก้อนหินนี่ตบตีกันเอาค่ะ มีแต่คนอยากได้ (เอาแอบก่อน)
#Ryu7801 555555 ไปค่ะ ไปอยู่กับดินกัน
#MayA@TK ตอนนี้ไม่ดัก เอ๊ย! ไม่เจอค่ะ ค่อยเจอทีหลัง แค่กๆๆๆ
#suikajang ชีวิตขาดหวานไม่ได้ค่ะ ฮิ้วววววววว ที่นี่น่าอยู่มากค่ะ อยากไปอยู่ข้างเตียง แค่กๆ หมายถึงยากไปอยู่ที่อาณาจักรนี้ด้วย อยากเลี้ยงก้อนหิน อยากฟัดดดดด ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด กอดดดดด ส่วนเรื่อง.... มาลุ้นกันค่ะ หึๆๆๆๆ
#tiew93 รับไว้เต็มหัวใจ ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ
#mild-dy  :L2: :L1: :L2:
#takara กลับบ้านเรา ร๊ากกกรออยู่
#Yara พี่ไซแกจริงจังเสมอค่ะ 55555
#♥►MAGNOLIA◄♥ หินหวงดินหนักมากค่ะ กับคนก็หวง กับสัตว์ยังจะหวง 5555
#shoi_toei พิธีแต่งรอไปก่อนค่า แค่กๆๆ ปรุงยาก่อน
#alternative เดี๋ยวได้แต่ง แค่กๆ รักษาคนก่อนค่ะ
#prangasia ตอนพิเศษคิดไว้ค่ะ ตะ...แต่ ขึ้นอยู่กับความขยันว่าจะไหวไหม แฮ่ (โดนตบ)
#•♀NoM!_KunG♀• ตอนนี้ยังค่ะ หึๆๆๆๆๆ
#KARMI ไปกันค่ะ เราจะเป็นผ้าปูที่นอน เอร๊ยยยยยย


เหลืออีกนิ้ดดดดดดดดดเดียว (บอกตัวเอง)

กอดดดดดดดดดดทุกคนนนนนนนนนน
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :pig4: :pig4: :pig4:

คลานต่อปายยยยยยยยยย
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-08-2017 14:06:30 โดย maneethewa »

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
 :m20: พี่ไซรอสทำไมโหดจังคะ มาเหนือมาก

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ควีนฟื้นแล้วทีนี้ก็รอหาตัวคนวางยาพิษควีนซินะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ suikajang

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
 :mc4: ควีนฟื้น ภาระกิจลุล่วง ดินก็ได้กลับบ้านพร้อมลูกและสามี  :katai2-1:
แต่พี่ไซรอสนี้ยังไง ออกก็น้อย บทบาทแค่นิดๆ หน่อยๆ ดันไปเป็นสวามีเจ้าหญิงได้ยังไง หุหุ
รอชมภาระกิจงมหาไข่มุกดำ แถมเมียจ้า อิอิ  :katai3:
 :L1:   :pig4:   :L1:
ปล.แหมะช่างโชคดีเข้ามาเจอพอดี ตอนนี้ได้นิยายมากองใหญ่ไม่ค่อยได้เข้า สงสัยน้องหินไปสะกิด คิดถึงน่อ  :mew1:

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
พี่ไซรอสไปแปปเดียวได้เมียเฉย 5555555
ควีนฟื้นแล้ว รอหาว่าใครคือคนร้ายสินะ
สู้ๆนะก้อนหิน ก้อนดิน คนเขียน :)

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ออร่าความหวานของคิงเกรทเดนนี่ กระจายทะลุจอมากกกกก โอ้ยย เบาหวานขึ้นตา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ลงน้ำก็ได้เมียระดับ Top เลยพี่ไซรอส

บ้านนี้ทำบุญด้วยอะไร น้องไซเลอร์ก็ได้คนที่ผูกจิตกับมังกรพิเศษอย่างดิน ได้ลูกเป็นมังกรอย่างหิน

มาเหนือทุกอาณาจักร ฮ่า ๆ ๆ ๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ Ryu7801

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ตอนนี้คิงกับควีนสร้างโลกส่วนตัวก่อนนะ. 55555

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
:mc4: ควีนฟื้น ภาระกิจลุล่วง ดินก็ได้กลับบ้านพร้อมลูกและสามี  :katai2-1:
แต่พี่ไซรอสนี้ยังไง ออกก็น้อย บทบาทแค่นิดๆ หน่อยๆ ดันไปเป็นสวามีเจ้าหญิงได้ยังไง หุหุ
รอชมภาระกิจงมหาไข่มุกดำ แถมเมียจ้า อิอิ  :katai3:
 :L1:   :pig4:   :L1:
ปล.แหมะช่างโชคดีเข้ามาเจอพอดี ตอนนี้ได้นิยายมากองใหญ่ไม่ค่อยได้เข้า สงสัยน้องหินไปสะกิด คิดถึงน่อ  :mew1:

นาทีที่ควีนฟื้น  :z3: :z3: :z3:
ทั้งคิงทั้งควีน บอกชื่อ บอกพันธ์ุกันออกมาเลย

นึกว่าจะได้รู้ว่าไซรอส จีบเจ้าหญิงแห่งคราเค่นได้ยังไง สุดยอดดดดด
ดำน้ำด้วย หาไข่มุกด้วย ยังสามารถจีบหญิงได้อีก
แถมเป็นเจ้าหญิงซะด้วย นับถือๆ บ้านนี้สตรองอย่างดินว่าจริงๆ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
นอกจากจะได้ยินดีที่ควีนฟื้น ก็ขอยินดีกับพี่ไซรอสด้วยที่ได้องค์หญิงเป็นภรรยานะคะ ^^

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
พี่ไซรอสมาเหนือมากกกกกก
กลับมาพร้อมภรรยา (เจ้าหญิงด้วยนะ!) กราบท่านพี่สิคะผู้ชายทุกคน 55555555
ในที่สุดควีนก้อฟื้นแล้ว (ตอนปรุงยาเหมือนดูดินทำแลปเคมี 5555555)

ออฟไลน์ duck-ya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เรียนหนักมากก โปรเจคก็เหนื่อย
เปิดมาอ่านก้อนดินแล้วชื่นใจ เหมือนได้ยาเพิ่มพลัง
ฮึบบบบ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
พี่ไซรอสมาแรงแซงโค้งมาก

ออฟไลน์ prangasia

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อยากรู้เลยว่าไซรอสไปได้เมียมายังไง เอาแค่เล่าก็พอ ไม่ต้องย้อนหลังนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ papapajimin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 294
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
สำเร็จแล้วววว กว่าจะได้ส่วนผสมแต่ละอย่าง
ควีนฟื้นแล้วจ้าา เก่งมักๆก้อนดินน

ออฟไลน์ jum1201

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-5

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ยินดีต้อนรับกลับเพคะ ควีนน




ออฟไลน์ Air_Yaoi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
พี่ไซรอสเนี่ย เห็นนิ่งๆงี้ ฟาดเจ้าหญิงเลยนะจ๊าาาาา

ออฟไลน์ maneethewa

  • มณีเทวา
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
    • Maneethewa - มณีเทวา
บทที่ 28 แค่ฝัน... รึเปล่า?



   ผมยืนมองกอดอกมะลิซึ่งมีหยดน้ำเล็กๆ เกาะพราวตามกลีบสีขาวที่ดูบอบบางและบริสุทธิ์ ยามที่หยดน้ำกระทบแสงแดดอ่อนๆ ดูเหมือนอัญมณีที่ส่องประกายงดงามจนยากจะถอนสายตา จมูกสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดในสวนและกลิ่นไอดินที่เหมือนกลิ่นดินชื้นๆ หลังต้องน้ำฝนให้ความรู้สึกสดชื่นและเย็นสบาย   

   ว่าแต่... ผมมายืนอยู่ตรงนี้ได้ยังไง

   แล้ว... ตั้งใจจะมาทำอะไรวะ

   ผมยืนเกาหัวด้วยความงง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตรงนี้คือสวนหลังบ้านท่านทูตสรายุทธ ซึ่งเป็นที่ๆ ผมคุ้นเคยดี ขนาดว่าถ้าหลับตาเดินก็ยังเดินได้ถูก เพราะเดินผ่านเข้าออกมานับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่เกิด

   แต่... เหมือนจะลืมอะไรไปสักอย่าง มันตงิดๆ อยู่ในหัว นึกยังไงก็นึกไม่ออก

   อืม... ลืมอะไรหว่า 

   ...

   ช่างแม่งเถอะ! คิดไปก็ปวดหัว เดี๋ยวก็คิดออกเองแหละ ผมกวาดสายตามองรอบๆ กำลังจะหันหลังกลับเพื่อเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกไว้ซะก่อน พอหันหลังกลับไปก็ถูกรวบกอดเข้าทันที

   “ดิน กลับมาแล้วเหรอ”

   “...”

   “คุณไฟ” ผมพยายามผละออกจากอ้อมกอดของคุณไฟ แต่ไม่หลุด เพราะคุณไฟกอดไว้แน่นมาก เหมือนกลัวว่าผมจะหายไปอย่างนั้นแหละ แต่ผมว่าผมอาจจะตายก่อนจะหายไปไหนได้นะ

   คุณไฟกอดแน่นไปแล้ว!!!

   “คุณไฟครับ ปล่อยก่อน ผมหายใจไม่ออก” ผมพยายามบอกด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น เนื่องจากถูกรัดจนกระดูกกระเดี้ยวแทบจะหัก รัดแน่นได้ขนาดนี้ คุณไฟเป็นญาติกับงูเหลือมรึไง!

   พอเห็นว่าคุณไฟไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยสักที ผมเลยเอาหัวโขกบ่าแรงๆ ไปที สงสัยจะแรงพอสมควร คุณไฟถึงกับสะดุ้งรู้สึกตัวแล้วคลายอ้อมกอดออกแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ ยังคงจับต้นแขนผมเอาไว้แน่น

   คุณไฟเป็นอะไรของเขาเนี่ย!

   “นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” น้ำเสียงแผ่วพร่าของคุณไฟยิ่งทำให้ผมสับสน

   เอ... หรือว่ากำลังฝันอยู่จริงๆ วะ ปฏิกิริยาของคุณไฟถึงได้แปลกๆ อย่างนี้

   ผมยืนมึนๆ ท่ามกลางความรู้สึกเหมือนลืมอะไรไปสักอย่างต่อไป

   “ขอโทษนะ”

   ห๊ะ! อันนี้อุทานในใจ

   “ขอโทษเรื่องอะไรครับคุณไฟ” ผมถามด้วยความงง

   “ขอโทษที่ทำให้นายตกเขา... ฉันขอโทษ” เสียงสั่นพร่าของคุณไฟคงจะไปกระทบปุ่มอะไรสักอย่าง ความทรงจำที่เหมือนจะเลือนๆ ไปค่อยๆ ผุดมาเป็นฉากๆ

   จำได้แล้ว!!!

   ครั้งสุดท้ายที่อยู่กับคุณไฟคือตอนไปเที่ยวด้วยกันแล้วผมก็พลัดตกเหว แล้วเรื่องราวหลังจากนั้นล่ะ มันเป็นแค่ความฝันเหรอ ตกลงนี่ผมตายไปแล้วใช่ไหม?

   แค่คิดก็รู้สึกใจหายวูบขึ้นมาเลย

   “ฉันขอโทษนะดิน” แต่ต้องพักเรื่องนั้นไว้ก่อน เพราะดูเหมือนคุณไฟจะจมอยู่กับความรู้สึกผิดมานานเกินไปแล้ว

   “ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เคยโกรธคุณไฟเลย ตอนนั้นผมบอกคุณไฟแล้วไงครับว่าอย่าโทษตัวเอง”

   “ฉันเป็นคนทำให้นายตายลงไปกับมือจะไม่ให้ฉันรู้สึกผิดได้ยังไง” อยู่ๆ น้ำตาคนพูดก็ไหลออกมาจนผมตกใจ

   “จะให้ฉันมีความสุขได้ยังไง... ในเมื่อฉันทำร้ายคนที่ตัวเองรักกับมือ” จบคำพูดขอบคุณไฟผมก็ได้แต่ยืนอึ้ง

   เอ่อ... เมื่อกี้นี้ผมคงหูฝาด คุณไฟไม่ได้บอกว่ารักผมหรอก... ใช่ไหม?

   “ฉันรักนาย... รักนายมานานแล้ว แต่ฉันมันโง่ที่ไม่กล้ายอมรับใจตัวเอง กว่าจะรู้ตัว กว่าจะยอมรับได้ กว่าจะเริ่มทำดีกับนายก็สายไปซะแล้ว” คำพูดที่ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้ยินพรั่งพรูออกมาเหมือนคนพูดกลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้บอกอีก

   เฮ้ย! ไม่ได้หูฝาดไปจริงๆ เหรอ คุณไฟเนี่ยนะจะรักผม ถ้าบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกยังจะน่าเชื่อซะกว่า แต่คำพูดที่ออกจากปากคนปากแข็งอย่างคุณไฟก็ทำให้ผมเชื่อได้อย่างสนิทใจ

   ผมได้แต่ถอนหายใจ เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ แล้วมองคนตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน ถึงแม้จะตอบรับความรู้สึกของคุณไฟไม่ได้ แต่ในฐานของคนที่เติบโตมาด้วยกันผมก็ยังคงมีความห่วงใยและความปรารถนาดีให้เสมอ

   “คุณไฟกับท่านทูตสบายดีไหมครับ” ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง ถึงคนฟังจะยิ้มอย่างขมขื่นแต่ก็ตอบกลับมาแต่โดยดี

   “ฉันกับคุณพ่อสบายดี หลังจากที่นายจากไป คุณพ่อก็กลับมาดูแลเอาใจใส่ฉันมากกว่าเดิม ส่วนฉันก็พยายามเข้าหาพ่อมากขึ้น เพื่อจะได้ให้นายสบายใจ เพราะตอนที่นายอยู่ นายก็พยายามขอร้องให้ฉันใกล้ชิดกับคุณพ่อใช่ไหม ตอนนี้ฉันรู้แล้วละ ว่าคุณพ่อรักฉันจริงๆ”

   ผมยิ้มด้วยความดีใจ ในที่สุดคนทั้งคู่ก็หันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกันสักที

   “อีกอย่างฉันก็ได้เพื่อนใหม่ กลุ่มที่ไปส่องนกด้วยกันไง พวกเขาคอยเป็นกำลังใจให้ ทั้งคอยฉุด คอยดึง ตอนนี้ฉันสอบเข้ามหาลัยได้แล้วนะ”

   “ดีจริง! ยินดีด้วยนะครับคุณไฟ”

   “อืม... ถ้ามีนายมาอยู่ข้างๆ เหมือนเดิมคงจะดีมากกว่านี้” คุณไฟปล่อยมือจากต้นแขนมาจับใบหน้าผมอย่างอ่อนโยน

   “ผมอยากให้คุณไฟมีความสุข ถึงจะไม่มีผม ผมก็เชื่อว่าคุณไฟก็มีความสุขได้”

   “ฉันจะพยายาม... แล้วนายล่ะ สบายดีไหม”

   “คุณไฟไม่ต้องเป็นห่วง ผมสบายดีครับ อยู่ที่โน่นผมมีความสุขดี”

   “ฉันรู้ คนอย่างนายอยู่ที่ไหนก็คงมีความสุข” ผมได้แต่ยิ้มรับคำพูดของคุณไฟ

   “คุณไฟก็เหมือนกัน ขอให้อยู่ที่นี่อย่างมีความสุขแทนผมด้วยนะครับ”

   “แล้วนายจะมาอีกไหม... ฉันจะฝันถึงนายอีกรึเปล่า” น้ำเสียงที่ถามเต็มไปด้วยความคาดหวังทำให้ใจผมอ่อนยวบ

   “ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะมาบ่อยๆ อยู่หรอกครับ อยากมาดูด้วยตาว่าคุณไฟกับท่านทูตสบายดีรึเปล่า แต่ก็คงยากหน่อย เอาเป็นว่าผมจะพยายามแล้วกันครับ” ถ้าก้อนหินโตขึ้น คงสามารถพามาได้อีกแน่ๆ อาจจะมาได้แบบตัวเป็นๆ ซะด้วยซ้ำ

   ว่าแต่... ก้อนหินอยู่ไหนล่ะ

   หรือว่าผมฝันไปแค่คนเดียว ที่ผ่านมานี่มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้นเหรอ?

   อืม.... แต่ก็ยังมีความรู้สึกตงิดๆ เหมือนว่าจะลืมอะไรไปสักอย่างอยู่เหมือนเดิม

   ลืมอะไรหว่า

   ก๊าส

   หือ?

   ก๊าสสสสสสส

   ...

   เสียงก้อนหินนี่!

   แต่น้ำเสียงดูร้อนรนขนาดนั้น ก้อนหินเป็นอะไร?

   “ก้อนหิน” ผมเผลอส่งเสียงร้องเรียกมันด้วยความเป็นห่วงโดยมีคุณไฟมองมาอย่างแปลกใจ

   ก๊าสสส...

   ดิน...ฮึก ดิน ตื่นสิ ฮึก


   ผมอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้างขึ้นมาทันทีเมื่อเสียงร้องของก้อนหินเปลี่ยนเป็นเสียงพูดเหมือนเสียงของเด็ก

   ดิน... ฮึก กลับมา ฮืออออออ

   “ก้อนหิน เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น” ผมรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายมากขึ้นเมื่อก้อนหินยังคงร้องไห้ไม่หยุด

   ทำยังไงดี! ต้องทำยังไงถึงจะกลับไปได้ล่ะ

   “ดินเป็นอะไร” คุณไฟถามขึ้นเมื่อเห็นอาการกระสับกระส่ายของผม

   “คุณไฟได้ยินเสียงอะไรไหมครับ” ผมลองถามคุณไฟดู เผื่อว่าผมจะหูแว่วไปคนเดียว

   “ไม่นะ”

   “แต่ผมได้ยิน อ๊ะ!” ผมหลุดอุทานเมื่ออยู่ๆ ก็มีแสงสีทองอาบทั่วร่าง ก่อนที่ร่างของผมจะค่อยๆ จางลงเหมือนเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่จะต้องไปจากที่นี่แล้ว

   “ดิน! เกิดอะไรขึ้น”

   “ผมต้องไปแล้วครับคุณไฟ อย่าลืมนะครับ อยู่อย่างมีความสุขเผื่อผมด้วย”

   “ดิน! เดี๋ยว อย่าเพิ่งไป”

   “ลาก่อนครับ” ผมรีบบอกเมื่อร่างของคุณไฟและบรรยากาศโดยรอบเริ่มเลือนรางลงเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงคุณไฟที่เหมือนจะไกลออกไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน



   
   "ก๊าสสสสส"

   ดิน ตื่นสิ ฮือออออ   

   ผมมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของก้อนหินดังอยู่ใกล้ๆ ส่วนเสียงเรียกที่คล้ายกับเสียงเด็กพูดนั้นดังก้องอยู่ในหัวพร้อมๆ กับเสียงร้องของก้อนหิน หรือว่าจะเป็นเสียงของก้อนหิน?

   ผมรู้สึกได้ว่าร่างของผมกำลังนอนหงายอยู่บนผ้าปูนุ่มๆ หัวหนุนอยู่บนหมอน มีผ้าห่มห่มร่างไว้ รู้สึกว่าก้อนหินมันปีนขึ้นมานอนอยู่บนตัวและยังร้องไห้ไม่หยุด ดูเหมือนว่ามันจะร้องมานานพอสมควรแล้ว เพราะน้ำตาเปียกจนชุ่มเสื้อผมไปหมด

   ประสาทหูของผมยังคงได้ยินเสียงชัดเจน ประสาทสัมผัสอื่นๆ ของร่างกายยังรับรู้และรู้สึกได้ครบทุกอย่าง เพียงแต่ลืมตาและขยับร่างกายไม่ได้เท่านั้นเอง

   เอ่อ...

   ถ้าเดาไม่ผิด ผมว่าผมน่าจะโดนพิษ

   ...

   และจากอาการที่เป็นอยู่ พิษที่ผมโดนก็น่าจะเป็น ‘พิษรัก’ ด้วย

   .
   .
   .

   ชิบ

   หาย

   แล้ววววววว!

   อ๊ากกกกกก!

   นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!

   ผมโดนพิษได้ยังไงวะ ใครก็ได้ช่วยบอกผมที

   ใจเย็นสิดิน มึงต้องใจเย็นเย็นนนนน

   ผมพยายามหายใจเข้าออกลึกๆ หลายๆ รอบ ถึงในทางปฏิบัติจะทำไม่ได้เพราะร่างกายนอนเป็นผักอยู่ แต่ในทางจิตใจแล้วมันก็ช่วยให้สามารถสงบสติอารมณ์ได้ดีขึ้นมาก

   อืม...

   ก่อนหน้านี้มันเกิดอะไรขึ้นนะ ผมครุ่นคิดด้วยความใจเย็นมากขึ้น

   เมื่อสติเริ่มกลับมา สมองมันก็โล่งขึ้นทำให้ความทรงจำก่อนหน้านี้ผุดขึ้นมาเป็นลำดับ

********************************************************



   หลังจากที่ควีนฟื้นแล้ว เราทั้งหมดก็ตัดสินใจแยกย้ายกันกลับบ้านเพื่อพักผ่อน พอถึงตอนเย็นก็เดินทางกลับมาที่พระราชวังอีกครั้งเพื่อร่วมรับประทานอาหารมื้อเย็นที่คิงทรงจัดเลี้ยง

   งานเลี้ยงจัดแบบบุฟเฟต์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินพูดคุยกันได้โดยสะดวก ตรงกลางห้องโถงเป็นโต๊ะที่จัดไว้สำหรับนั่งรับประทานอาหาร รอบๆ ห้องเป็นโต๊ะวางอาหารซึ่งจัดอาหารวางไว้เป็นชุดๆ เพื่อให้สะดวกต่อการหยิบ

   บรรยากาศในงานเลี้ยงเต็มไปด้วยความรื่นรมย์ ทุกคนต่างก็เข้าไปหาควีนที่นั่งอยู่ข้างๆ คิงด้านหน้าด้วยความยินดีที่เห็นควีนฟื้นขึ้นมาพูดคุยด้วยได้ตามปกติ

   ผมนั่งโต๊ะเดียวกับทีมเฮดีส แค่มาถึงก็มีคนแวะมาทักทายพูดคุยตลอดทั้งระหว่างที่นั่งอยู่ที่โต๊ะและระหว่างเดินไปหยิบอาหาร ส่วนก้อนหินผมปล่อยให้มันเดินเอง เพราะไม่ต้องห่วงเรื่องอันตราย แต่มันก็เดินตามอยู่ไม่ห่างอย่างกับลูกเจี๊ยบ ไม่ว่าจะเดินไปไหนมันก็ตามไปด้วยตลอด

   ระหว่างที่เดินไปตักอาหารที่โต๊ะอาหาร ก็มีคนเดินมาหาแล้วบอกว่าท่านมอลทีสให้มาตามไปพบที่สวน ผมมองไปที่ไซเลอร์ก็เห็นคุยอยู่กับเพื่อนๆ อยู่ เลยตัดสินใจอุ้มก้อนหินเดินตามไปแค่คนเดียว เพราะสวนอยู่ใกล้ๆ กับห้องจัดเลี้ยง คิดว่าท่านมอลทีสคงมีเรื่องจะคุยด้วย และคงคุยในห้องไม่สะดวกเพราะเสียงค่อนข้างดังเลยเรียกไปคุยที่สวนแทน

   เมื่อไปถึง คนที่นำมาก็โค้งคำนับให้ท่านมอลทีสแล้วก็เดินกลับไป

   “ท่านมอลทีส ต้องการพบผมมีอะไรเหรอครับ” ผมเริ่มถามเมื่อท่านมอลทีสยังคงยืนมองมานิ่งๆ

   “ก๊าสสสส” ก่อนที่ผมจะมองก้อนหินที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างแปลกใจเมื่อมันร้องและส่งเสียงขู่ในลำคอ

   แต่เมื่อเงยหน้ามองไปยังคนตรงหน้าอีกครั้ง สัญชาติญาณในส่วนลึกก็เตือนลั่น จนผมผวาจะถอยหลัง แต่ไม่ทัน เมื่ออะไรบางอย่างลอยวูบผ่านหน้าก่อนที่สติของผมดับวูบไป

   ไซเลอร์!!!

********************************************************



   ผมมารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรู้สึกถึงแรงเขย่าตัวอย่างรุนแรงจนหัวคลอน

   นี่ตั้งใจปลุกหรือจะฆ่ากันแน่ ถามจริง!

   เมื่อลืมตาขึ้นมาก็เกือบสะดุ้งเมื่อเห็นคนหน้าตาเหมือนมหาโจรอยู่ตรงหน้า แค่หน้าตาก็บ่งบอกว่าไม่ใช่คนดีแน่ๆ เพราะเหมือนเห็นคำว่า ‘ชั่ว’ แปะไว้บนทุกส่วนของใบหน้า

   พอเห็นว่าผมตื่นแล้ว ไอ้หมอนี่ก็ขยับออก ทำให้เห็นท่านมอลทีส ไม่ใช่สิ! ใครสักคนที่ใช้หน้าตาของท่านมอลทีสอยู่ เพราะถึงรูปร่างหน้าตาจะใช่ แต่ความรู้สึกส่วนลึกบอกผมว่าคนๆ นี้ไม่ใช่ท่านมอลทีสแน่ๆ

   “ก๊าส”

   เมื่อได้ยินเสียงร้องของก้อนหิน ผมก็รีบหันไปมองหามันทันที พอเห็นมันอยู่ในกรงขังขนาดพอๆ กับตัวมัน ตั้งอยู่ข้างๆ ตัวผม มือทั้งสองข้างของมันเกาะซี่เหล็กกรงแน่นสายตาจ้องมาที่ผมด้วยแววตาห่วงใย กวาดสายตามองคร่าวๆ แล้วสภาพร่างกายมันยังดูปกติทุกอย่าง ก็ค่อยโล่งใจหน่อยที่มันยังปลอดภัยดี จึงหันมาพูดกับคนตรงหน้าอีกครั้ง

   “ท่านเป็นใคร”

   “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอก” เสียงที่พูดออกมาก็เสียงของท่านมอลทีสชัดๆ อย่าเอาหน้าตาใจดีของท่านมอลทีสมาใช้ทำเรื่องแบบนี้ได้ไหม ผมขนลุก!

   “แล้วท่านต้องการอะไร... ข้ามั่นใจว่าข้าไม่เคยทำร้ายใครมาก่อน”

   “ข้าแค่ต้องการใช้ความสามารถของมังกรมรกต ถ้าจะโทษก็โทษที่เจ้าเป็นคู่ผูกชะตากับมันเองเถอะ” พูดจบก็หันไปรับถ้วยยาจากไอ้คนหน้าโหดมาถือไว้ ก่อนที่ไอ้หน้าโหดจะใช้มือบีบกรามให้ผมอ้าปากขึ้นแล้วคนที่หน้าตาเหมือนท่านมอลทีสก็กรอกยาในถ้วยลงไป

   “อึก” ผมพยายามสะบัดหน้าหนี แต่ขยับไม่ได้มากนัก เพราะมือทั้งสองข้างถูกมัดไพล่หลัง ข้อเท้าทั้งสองข้างก็ถูกมัดไว้เช่นกัน แม้แต่ลำตัวก็ยังถูกมัดไว้อย่างแน่นหนา

   “ก๊าสสสสส” ก้อนหินร้องด้วยน้ำเสียงโมโห มันพยายามชนประตูกรงที่ขังไว้อย่างแรง เมื่อไม่เป็นผลมันก็กางเล็บออกมาแล้วยกขึ้นเหมือนจะฟันโซ่ที่คล้องกรงขังไว้ แต่มันก็ต้องชะงัก เมื่อไอ้คนหน้าโหดใช้มือข้างที่ว่างถือมีดจ่อคอผมอยู่

   “ถ้าอยากให้มนุษย์นี่ตายก็เอาสิ” ปลายมีดคมจัดทิ่มถูกผิวรู้สึกเจ็บแปล๊บรู้สึกได้ว่าเลือดไหลซึมออกมา

   สัด!

   “ก๊าสสสสสสสสส” ก้อนหินร้องด้วยน้ำเสียงที่แสดงความโกรธสุดขีด เมื่อเห็นผมโดนจับกรอกยาโดยที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ มันเพียงเกาะกรงไว้แน่น น้ำตาไหลพรากด้วยความคับแค้นใจ

   ผมได้แต่ส่งสายตาปลอบมันว่าไม่เป็นไร พวกมันคงยังไม่ฆ่าผมในตอนนี้แน่ เพราะถ้าจะทำก็คงทำไปนานแล้ว

   “แค่กๆ”

   เมื่อกรอกยาจนหมดถ้วยแล้ว มันก็ปล่อยมือที่บีบปากไว้ออก มีคนอีกคนเอาถาดอาหารและน้ำมาวางไว้ข้างๆ ตัวผม ก่อนจะแกะเชือกที่มัดตัวและมือออก เหลือเพียงเชือกที่มัดขาไว้ คนที่หน้าตาเหมือนท่านมอลทีสไขกุญแจและปลดสลักประตูกรงขังก้อนหินทิ้งไว้ก่อนเดินออกไปที่หน้าห้องขัง เอาโซ่เส้นใหญ่คล้องประตูไว้หลายๆ รอบ แล้วใส่กุญแจดอกใหญ่ไว้แล้วร่ายเวทย์กำกับอีกที

   “เฝ้าให้ดี ระหว่างนี้ก็เอาอาหารมาให้ทุกมื้อด้วย ระวังอย่าให้ตายล่ะ เข้าใจไหม” คนที่หน้าตาเหมือนท่านมอลทีสบอกไอ้หน้าโหดที่เหมือนจะต้องทำหน้าที่เฝ้าพวกผมด้วยสีหน้าจริงจัง

   “ได้” เมื่อมันรับปาก คนๆ นั้นก็หันมามองผมด้วยแววตาเห็นใจขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนแววตาจะนิ่งลงแล้วทั้งหมดก็เดินออกไป

   ผมขยับไปช่วยก้อนหินเปิดประตูกรงที่ขังมันไว้ออก เมื่อประตูเปิดออก ก้อนหินก็วิ่งออกมาแล้วโผเข้ากอดผมทันที

   “ก๊าสสสส” มันเอาหัวถู แล้วเงยหน้าขึ้นมองทั้งน้ำตา

   
   “ไม่เป็นไรใช่ไหมหิน” ผมจับมันยกขึ้นพลิกดูตามตัว เมื่อเห็นว่ามันไม่มีแผลและร่างกายทุกส่วนดูปกติดีก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

   “ก๊าสสส” มันร้องรับทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด

   “โอ๋ๆ อย่าร้อง มันคงไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าตอนนี้หรอก เรายังพอมีเวลา แต่ดูเหมือนว่ายาที่มันจับกรอกเมื่อกี๊น่าจะเป็นยาพิษ แถมเป็นพิษรักอีกด้วย” ผมเช็ดน้ำตาให้มันอย่างเบามือ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนถูกพิษซะเอง พอมองไปรอบๆ ตัว ก็เห็นเพียงลูกกรง มันเหมือนจะเป็นห้องขัง คล้ายๆ กับคุกใต้ดินในบาอัลเลย

   “หิน ฟังนะ ถ้ามีโอกาสต้องหนีไปหาไซเลอร์นะเข้าใจไหม เพราะเมื่อพิษรักออกฤทธิ์แล้วถ้าเกิดมีอันตรายขึ้นมากูไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยนะ”

   
   “ก๊าสสส” มันส่ายหัวแล้วช้อนตามองด้วยแววตาดื้อดึง

   “อย่าดื้อสิ ถ้ามีคนมาช่วยเราจะได้รอดทั้งคู่ไง อีกอย่างกูไม่อยากให้มันใช้มึงเป็นเครื่องมือในการทำอะไรไม่ดีด้วย นะหินนะ” พอผมอ้อนมันบ้าง มันก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันหน้าหนี

   “หิน รับปากมาก่อน” ผมจ้องมันอย่างจริงจัง ก่อนจะจับมันนั่งบนตัก ปล่อยมือข้างหนึ่งแล้วยื่นไปตรงหน้ามัน ก้อนหินพ่นลมหายใจแรงๆ เหมือนไม่สบอารมณ์ แต่ก็ยอมยื่นมือมาตบลงบนมือแต่โดยดี ผมยิ้มด้วยความพอใจแล้วจับมันมากอดด้วยความเอ็นดู

   “ดีมาก ทีนี้ก็มาตุนพลังงานเอาไว้ก่อน” ผมหยิบอาหารที่พวกมันทิ้งไว้ให้มากินพร้อมทั้งป้อนก้อนหินไปด้วย ต้องกินตุนไว้ก่อนที่ยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กินอีกเมื่อไหร่

   เมื่อกินอาหารจนหมด ผมก็อุ้มก้อนหินเดินสำรวจห้องขัง เพราะก้อนหินใช้เล็บตัดเชือกที่มัดขาออกแล้ว ห้องขังที่เราอยู่เป็นเพียงห้องหนึ่งในอีกหลายๆ ห้องข้างนอกซึ่งแต่ละห้องมีขนาดแตกต่างกันไป ลักษณะเหมือนกับคุกใต้ดินที่เคยลงไปเก็บเห็ดจริงๆ

   ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ ผมอาจจะยังอยู่ในเคลเบรอสหรือไม่ก็อาจจะเป็นอีกสองอาณาจักรก็ได้ สำหรับโลกนี้นี่อะไรก็เกิดขึ้นได้ คาดเดาอะไรแทบไม่ได้เลย จะถามก้อนหินมันก็พูดไม่ได้ซะด้วยสิ

   เฮ้อ! เพิ่งรู้สึกอยากให้มันโตไวๆ ก็ตอนนี้นี่แหละครับ

   พอชะโงกไปมองด้านนอกก็เห็นคนเดินยามอยู่สองคน น่าจะหนีไปได้ยาก ยิ่งในสภาพที่ถูกพิษและกำลังจะหลับอย่างนี้ยิ่งหนีรอดยาก ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วอุ้มก้อนหินกลับมาพิงผนังเมื่อเริ่มจะรู้สึกง่วง

   ดูเหมือนว่าพิษน่าจะเริ่มออกฤทธิ์แล้ว...

   “หิน”

   “ก๊าส”

   “หนีไปให้ได้นะ”

   “ก๊าส”

   “หิน”

   “ก๊าส”

   “รักมึงนะ”

   “ก๊าสสสสสส”

   ผมบอกมันไว้ก่อน เผื่อว่าจะไม่มีโอกาสได้บอกอีก เสียดายที่ไม่ได้บอกคำนี้กับใครอีกคนด้วย คนที่มั่นใจแล้วว่า ‘รัก’ เช่นกัน

   ไซเลอร์

   ชื่อที่ผุดขึ้นในหัวก่อนที่สติของผมจะดับวูบไป


********************************************************

   แล้วจิตของผมก็ไปโผล่ที่บ้านท่านทูตและได้เจอกับคุณไฟ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเรียกของก้อนหินถึงได้กลับมารับรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพเหมือน ‘ผัก’ ด้วยความรู้สึกใจหายหน่อยๆ

   ตามที่เรียนเรื่องพิษรักมา สภาพร่างกายของคนที่ถูกพิษจะเหมือนคนที่นอนหลับไปเฉยๆ ส่วนจิตนั้นจะตื่นเมื่อยามพระอาทิตย์ขึ้น และหลับไปเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า

   นอกจากนี้ระบบต่างๆ ของร่างกายก็ยังคงทำงานได้ตามปกติ สามารถหายใจและกลืนน้ำลายได้ตามปกติ เวลาที่มีอาหารเข้าปาก ร่างนั้นก็จะสามารถรับอาหารเข้าไปได้ เพื่อให้สามารถรักษาสภาพร่างกายให้คงอยู่เหมือนเดิม

   แม่ง! คนคิดพิษนี่โคตรครีเอทจริงๆ ช่างเป็นคนที่มีจินตนาการสร้างสรรค์เอามากๆ แต่ควรนำไปใช้ในทางที่ถูกที่ควรมากกว่านะ ไม่ใช่เอามาสร้างพิษทำร้ายคนอื่นเค้าแบบนี้ โว๊ะ!

   ว่าแต่... ก้อนหินยังหาโอกาสหนีไปไม่ได้อีกเหรอเนี่ย แล้วระหว่างที่ผมหลับไปมันเป็นอันตรายอะไรรึเปล่า ผมคิดด้วยความกังวลและเป็นห่วง

   สักพักก็ได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ เปิดประตูออก แล้ววางอะไรบางอย่างไว้บนพื้น

   “ไม่เอาไปป้อนมันด้วยล่ะ”

   “ไม่ละ ขี้เกียจ”

   “แต่ท่านสั่งไว้...”

   “ช่างมันสิ! ไหนๆ ถ้าเสร็จงานมันก็ต้องตายอยู่แล้ว จะไปสนใจทำไม อีกอย่าง... ถ้าเจ้าไม่พูด ข้าไม่พูด แล้วใครจะรู้ล่ะจริงไหม ไปๆ ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ข้าชักจะเปรี้ยวปากอยากกินเหล้าเต็มแก่แล้ว”

   เมื่อปิดประตูห้องไว้เหมือนเดิมแล้วฝีเท้าของคนทั้งคู่ก็ห่างออกไป ผมเดาจากบทสนทนาคิดว่าพวกมันน่าจะเอาอาหารมาให้ ถึงจะไม่ป้อนให้ผมตามคำสั่ง แต่ก็ยังดีที่เอามาให้ ก้อนหินจะได้มีอะไรกิน

   ความคิดชะงักลง เมื่อรู้สึกว่าก้อนหินปีนลงจากตัวไป แล้วได้ยินเสียงลากของจากหน้าประตูมาไว้ใกล้ๆ

   ผมได้ยินเสียงกุกกักเหมือนก้อนหินกำลังทำอะไรสักอย่างกับอาหาร ก่อนที่จะรู้สึกว่ามันขยับเข้ามาใกล้ๆ จับปากให้อ้าขึ้น แล้วค่อยๆ หยอดอาหารที่ถูกบดจนละเอียดใส่เข้าปากของผมทีละนิด...

   มันทำด้วยความระมัดระวังเป็นที่สุด เหมือนกลัวว่าผมจะสำลัก พอหกก็เอาผ้ามาซับปากให้อย่างเบามือ

   ฮึก...

   อยู่ๆ น้ำตาผมก็ไหลออกมา

   มันรู้สึกจุกๆ ในอก ทั้งซาบซึ้ง ทั้งสงสารก้อนหินที่ต้องมาดูแลผมในสภาพแบบนี้

   “ก๊าส”

   "ดินอย่าร้อง"

   เสียงเล็กๆ นั้นดังขึ้นเมื่อเห็นน้ำตาของผม ก่อนที่ก้อนหินจะใช้ผ้าเช็ดน้ำตาที่ไหลออกอย่างอ่อนโยน เหมือนเลียนแบบที่ผมเคยทำให้มันเวลาที่มันร้องไห้

   “ก้อนหิน?”

   “ก๊าส” มันร้องรับ

   “ก้อนหินเหรอ?”

   “ก๊าสสสสส” ผมได้ยินเสียงร้องด้วยหู ก่อนที่จะได้ยินอีกเสียงดังขึ้นในหัว

   “ฮึก... ใช่ ดิน นี่ข้าเอง”

   “หิน! เป็นยังไงบ้าง ปลอดภัยดีไหม พวกมันทำร้ายมึงบ้างรึเปล่า” เมื่อมั่นใจว่าเป็นเสียงของก้อนหิน ผมก็รัวคำถามเป็นชุด

   “ไม่เป็นไร ข้าปลอดภัยดี”

   “ดีแล้วละ เลิกป้อนกูได้แล้ว กินเองเถอะ จะได้มีแรง”

   “ให้ดินอิ่มก่อน”

   “อิ่มแล้ว ไม่ต้องป้อนแล้ว”

   “แต่ยังไม่หมดเลยนะ”

   “ก็อิ่มแล้วไง อย่าดื้อสิ กินเองบ้าง กูเป็นห่วงนะ”

   “งั้นก็ต้องกินยาก่อน”

   “ยา? ยาอะไร?”

   ก้อนหินไม่ตอบ ผมได้ยินเสียงมันขยับตัวเหมือนกำลังทำอะไรสักอย่าง สักพักผมมันก็ขยับมาจับปากผมอ้าออกก่อนที่จะมีของเหลวกลิ่นหอมหวานไหลเข้ามาในปาก แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่จิตใต้สำนึกมันรับรู้ได้เองว่าสิ่งที่ร่างกายกำลังกลืนกินอยู่นี่คือเลือดของก้อนหิน!!!

   “หิน! มันคืออะไร? นี่เลือดมึงใช่ไหม?

   “...”

   “หิน!! บอกมา ถ้าไม่ตอบจะโกรธแล้วนะ”

   “ชะ... ใช่... ดินอย่าโกรธนะ ฮือออออ”

   “แล้วเอามาให้กินได้ยังไง มันเจ็บไม่ใช่รึไง? หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!”
ผมบอกมันด้วยความโมโห เพราะการที่จะทำให้เลือดมันออกมาได้ ก็ต้องใช้เล็บและฟันที่คมกริบของตัวมันเองเท่านั้นถึงจะทำให้เกิดแผลได้

   “ไม่ได้ ดินต้องกิน ท่านอีริคบอกว่ามันช่วยถอนพิษได้”

   “อีริค? ใคร?”

   “จิตวิญญาณของมังกรก่อนหน้าข้า”


   “...”

   “ให้กินมากี่วันแล้ว แล้วยังไม่พออีกเหรอ?”

   “ยังไม่พอ เพราะข้าตัวเล็ก เลยต้องใช้เวลานาน ขอโทษนะดิน”

   “ขอโทษทำไม กูสิต้องขอโทษที่ดูแลมึงไม่ดี”

   “ไม่นะ ฮึก... ดินดูแลดีที่สุดแล้ว”

   “เจ็บมากไหม? ฮึก...”

   “ไม่เจ็บ ไม่เจ็บสักนิดเลย ฮึก ดินอย่าร้องสิ ฮืออออออออ”

   ให้ตายสิ! ทำไมต้องให้ก้อนหินมาเจ็บตัวเพราะผมด้วย ผมยอมเจ็บคนเดียวซะยังจะดีกว่า!

   ฮึก...

   ผมรู้สึกสงสารมันจับใจจนน้ำตาไหลลงมาไม่หยุด ก้อนหินก็ขยับมากอดผมแน่นแล้วร้องไห้เหมือนกัน

   ไซเลอร์.... ช่วยเราด้วย!!!



@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

โอ๋ๆๆๆ ใครทำลูกกกกกก บอกแม่มา เดี๋ยวแม่จัดการให้  :hao5:
กลับมาแล้วค่า แฮ่! รอบนี้หายไปน้านนนนนนนนนนนนน  :hao6:
เพราะอีเว้นท์และอีไม่เว้นท์ทำเอาหัวหมุนนนนน
เครียดจนสมองฝ่อ จินตนาการก็หายไปเลยค่ะ ถถถ  :ling1:
สถานการณ์เริ่มจะดีขึ้นแล้ว หวังว่าต่อไปจะหัวดี อ่านอะไรก็ออก 555555 (ดักแก่มาก)  :hao3:
ขอบคุณที่ยังติดตาม ยังแวะมาอ่าน มาเม้นท์ให้กำลังใจเสมอนะคะ  :กอด1:
เหมือนเป็นพลังเป็นกำลังใจให้มีความพยายามในการเขียนต่อไป
กราบบบบบบบ  :L1:

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

#KARMI เห็นพี่แกเงียบๆ งี้ แกก็มีเสน่ห์นะคะ (เหรออออ)
#ซีเนียร์  :L2: :pig4: :L2:
#MayA@TK ใช่ค่า มาหาตัวคนร้ายกันนนน ทำแบบนี้กับลูกๆ เราได้ยังง๊ายยยยยยย
#suikajang พี่ไซรอสมาเหนือมากค่ะ 55555555 ถ้าขยันเดี๋ยวจะเขียนตอนพิเศษให้นะคะ ถถถ เอร๊ยยย ขอบคุณที่ยังคงติดตามมาให้กำลังใจนะคะ ให้ก้อนหินเอาหัวถูอ้อนนนนนน
#badbadsumaru ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า ฮึบๆๆๆ กระดึบๆ ต่อไป
#ommanymontra  :L2: :pig4: :L2:
#aiyuki คู่นี้นี่แย่งซีนมากเลยค่ะ เอร๊ยยย เขินนนน
#alternative  พี่แกจำเป็นค่า 55555 เดี๋ยวถ้าขยันจะเขียนตอนพิเศษมาขยายให้ฟัง ที่นี่ชิลด์กันมากไงคะ ใครก็อยากมาอยู่ด้วย
#Billie  :L2: :pig4: :L2:
#•♀NoM!_KunG♀• อีกนิดดดดดดดดดดเดียวค่ะ แง่มมมม
#Ryu7801 แย่งซีนคนอื่นหนักมากค่ะ
#♥►MAGNOLIA◄♥ 55555 นึกถึงเวลาแปลงร่างกันหมด โอ๊ยยย อยากไปอยู่ตรงนั้นมากค่ะ ถ้าขยันจะพยายามขยายความในตอนพิเศษนะคะ แฮ่
#Yara 55555 ทั้งคิงควีนและพี่ไซรอสแย่งซีนกันสุดๆ ค่ะ
#poppycake เห็นพี่เงียบๆ พี่ก็ได้ภรรยามาเงียบๆ นะคะ 555555 เขียนช่วงปรุงยานี่บันเทิงที่สุดแล้วค่ะ จินตนาการสนุกดี
#duck-ya หูยยยย ดีใจที่อย่างน้อยก็ช่วยเป็นกำลังใจให้ได้ค่ะ สู้ๆ นะคะ เราต่างเป็นกำลังใจของกันและกัน เจอเม้นท์แต่ละเม้นท์ก็ทำเอาชื่นนนใจเช่นกัน
#HISY คนอื่นๆ ยังจีบกันอยู่ พี่แกนี่ได้ภรรยาเลยค่ะ
#prangasia ถ้าขยันเดี๋ยวจะแต่งตอนพิเศษขยายความให้นะคะ แง่มมมม
#papapajimin ปลื้มปริ่มกันทั้งเมือง ก่อนที่จะโดนซะเอง ฮืออออ
#jum1201   :L2: :pig4: :L2:
#shoi_toei แล้วก็ตามด้วยตามหาก้อนดินกับก้อนหินต่อ
#Air_Yaoi พี่แกได้ภรรยามาแบบนิ่งๆ เหมือนกันค่ะ 5555555


ยังคงไม่จบ โอ๊ย โอยยย กระดึบๆ ต่อไป

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
หินน่ารัก

และไอ้คนร้ายชั่วมาก!

ไซเลอร์จะขาดใจแล้วมั้งเนี่ย เมียกะลูก (หืม?) หายไป

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ใครมันวางยาพิษดินจนทำให้หินต้องเสียสละเลือดเพื่อขับพิษ
จับตัวได้เมื่อไหร่ให้ก้อนหินเอาคืนให้หนักเลยยยย :katai1: :katai1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด