ตอนที่ 18 เพราะรักพาย พาร์ท
ผมมองพี่พลกับไอ้กิตเดินจากไปอย่างไม่รู้จะทำยังไง ผมไม่เจอภีมตั้งหลายเดือน พอเห็นเขาตอนแรก เขาดูไม่เหมือนผู้ชายที่ผมเห็นตอนจากมาเลยสักนิด เขาดูโทรม และเศร้า ผมเกือบจะลุกไปหาเขาด้วยซ้ำ แต่พอนึกถึงเรื่องวันนั้นก็อดที่จะโกรธเขาไม่ได้ จนต้องเมินหน้าหนีเขาในทันที
“พี่พายคับ” เขาเรียกผมเสียงอ่อน ผมหันมามองใบหน้าเขาที่ไม่เหลือเค้าโครงของโคตรเดือนเลยสักนิด หนวดเคราที่ไม่โกนนั้น กับตาเศร้าๆกำลังทำให้ผมใจอ่อน ผมกำลังจะลุกหนีเขาเข้าไปในเรือน แต่ด้วยท้องที่โตขึ้นทำให้ลุกอย่างลำบาก จนภีมต้องเข้ามาช่วยพยุง
“ปล่อย!!!” ผมบอกเขาเสียงดัง แต่เขาก็ยังโอบตัวผมไว้แน่น
“ไม่คับ เดี๋ยวล้มไปจะทำยังไง ลูกเรายังไม่ครบกำหนดคลอดเลยนะคับ” ภีมพูดติดจะดุผมนิดหน่อย
“ลูกของพี่ตะหาก” ผมรีบค้านในทันที ก็คนมันโกรธปากก็เลยไวตาม
“ลูกของเราคับ ก็พี่เป็นเมียผมนี่นา” ภีมพูดพลางยิ้มให้ผม แต่หน้าที่ดูซูบซีด ถึงแม้จะยิ้มก็ไม่ได้ทำให้เขาดูสดใสขึ้น ยิ่งเห็นใกล้ๆผมยิ่งปวดใจ อยากจะสัมผัสหน้าเขาขึ้นมา ตอนนี้ผมพยายามเก็กหน้านิ่งที่สุด แต่มือของผมก็ดันไปสัมผัสหน้าเขาโดยไม่รู้ตัว
“ไม่สบายรึเปล่า” พอรู้ตัวว่าผมสัมผัสหน้าเขา ผมก็อดไม่ได้ที่จะถามเขาถึงสิ่งที่ผมคิดตั้งแต่เห็นหน้าเขาครั้งแรก ยิ่งมองใกล้ๆสภาพของภีมก็ยิ่งทำให้ผมทนโกรธเขาต่อไปไม่ไหว
“ผมคิดถึงพี่ คิดถึงจนแทบบ้า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า และเหนื่อยล้า ก่อนจะกุมมือผมที่แนบแก้มเขาเอาไว้พร้อมกับถูแก้มของตัวเองเข้ากับมือของผมอย่างหวงแหน
“ภีม” ผมได้แต่เรียกชื่อเขาเท่านั้น
“ผมไม่เคยมีอะไรกับมาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เพราะมายจัดฉากทั้งหมด พี่จะเอาหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่คอนโดผมวันนั้น หรือจะเอาหลักฐานอะไรก็ได้ที่ผมมีตอนนี้เพื่อให้พี่มั่นใจว่าผมมีแค่พี่คนเดียว ผมรักแค่พี่คนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ใช่พี่ผมก็ไม่ต้องการใครอีก ขอร้องนะคับ...อย่าทิ้งผมไปได้ไหม” คำพูดและน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำอ้อนวอน จนผมไม่อาจต้านทานเขาได้อีกแล้ว
ผมดึงภีมเข้ามาในอ้อมกอดทันที เขากอดผมแน่นขึ้นซุกหน้าลงที่ไหล่ของผม และร้องไห้ออกมา ผมก็ร้องไห้ด้วยเหมือนกัน ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงปวดใจขนาดนี้ ทรมานขนาดนี้ ผมคงรักภีมมาก มากจนตอนนี้ผมไม่อยากออกจากอ้อมกอดเขาเลย เราอยู่ในอ้อมกอดของกันละกันเป็นชั่วโมงจนมืดค่ำ เขาพยุงผมเข้าเรือนโดยที่เราไม่ได้พูดอะไรกันเลย
ตอนนี้ผมเข้าไปอาบน้ำ ส่วนภีมก็นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น ระหว่างที่อาบน้ำผมก็ได้แต่คิดถึงคำพูดของเขา ผมรู้ว่าผมเชื่อคำพูดของเขาได้ เขาดูโทรมขนาดนั้นเพราะตามหาผม ผมไม่อยากทรมานเขาอีกแล้ว
ผมแต่งตัวออกมาหาเขาที่นั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น ภีมที่จุดตะเกียงรอบบ้านเสร็จพึ่งจะนั่งลง เขามองมาที่ผมด้วยสายตาที่คล้ายจะถาม และอ้อนวอนผมในคราวเดียวกัน
“ไปอาบน้ำสิ” ผมบอกเขาพร้อมกับยื่นผ้าเช็ดตัวให้เขาไปด้วย ภีมยิ้มก่อนจะทำตามที่ผมบอก พอเขาเข้าห้องน้ำไปแล้วผมก็เก็บเสื้อผ้าที่เขาถอดทิ้งไว้ และเตรียมชุดใหม่วางไว้ให้เขาบนเตียง
พอเขาออกมาจากห้องน้ำ ผมได้มองเขาสภาพกึ่งเปลือยเต็มๆตา เขาดูผอมมากที่เดียว ผมหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกจึงเดินหนีออกมารอที่ห้องนั่งเล่น
“หิวรึเปล่า” ผมถามตอนเขาเดินออกมา
“ไม่ค่อยหิวคับ” เขาตอบ
“ไม่ค่อยก็แปลว่าหิว ไปกินข้าวสิ มีข้าวอยู่ในหม้อ กับข้าวอยู่บนโต๊ะอาหารในครัว ลองเปิดฝาชีดูว่ากินได้ไหม ถ้ากินไม่ได้พี่จะทำไข่เจียวให้” กับข้าวที่มีก็เป็นน้ำพริกกะปิคับ ผมกลัวว่าเขาจะกินไม่ได้เพราะมันเผ็ดมาก น้ำพริกเผ็ดๆเป็นอีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบกินตอนท้องแบบนี้
ภีมเดินเข้าไปกินข้าวในห้องครัวอย่างว่าง่าย ก่อนที่ผมจะเดินตามเข้าไปดู ผมเห็นเขาเหงื่อแตกพอสมควรระหว่างกินข้าวกับน้ำพริก เขากินผักที่ผมเตรียมไว้เกือบหมด ผมว่าแล้วว่าคงเผ็ดเกินไป
“ถ้ากินไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนกิน เดี๋ยวพี่ทำไข่เจียวให้” ผมบอก
“ไม่เป็นไรคับ ผมกินได้ พี่กำลังท้องอยู่ จะให้มาทำอะไรแบบนี้ได้ไง” ภีมรีบเดินมาหาผมก่อนที่ผมจะเปิดตู้เย็นหยิบไข่ออกมา
“ทำได้ ไปนั่งรอเดี๋ยวนี้ ดูซิเหงื่อแตกเยอะขนาดนี้ยังบอกว่ากินได้อีก” ผมดุเขาไปที ก่อนจะเริ่มทอดไข่ ระหว่างที่ผมถอดไข่ภีมก็เดินมายืนดูผมข้างๆ
“ให้ผมทำดีกว่าคับ” ภีมบอกผม
“ไม่เป็นไร คราวก่อนภีมก็ทอดไหม้ไปทีนึงแล้ว” ผมบอกเขาพลางนึกถึงครั้งที่อยู่ด้วยกันเมื่อก่อน ภีมเคยอยากทำอาหารให้ผมกิน ตอนแรกเขาไปซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของตั้งมากมาย กับตำราอาหาร ผมเลยบอกให้เขาลองทอดไข่ดูก่อนว่าเป็นไง ปรากฏว่าไหม้หมดเลย สุดท้ายมือนั้นผมเลยต้องทำให้เขาทานตามเดิม
“ผมคิดถึงพี่ คิดถึงตอนพี่ทำอาหารให้ผมกินแบบนี้ที่หอ คิดถึงตอนที่พี่แสดงออกว่าห่วงใยผม คิดถึงจนกลัวว่าที่เห็นอยู่นี้เป็นแค่ความฝัน” เขาพูดพลางกอดผมจากด้านหลังแล้วซุกหน้าที่ซอกคอผม
“พี่ก็คิดถึง” ผมบอกเขาตามที่ใจคิด ภีมก็กระชับกอดผมแน่นขึ้น
หลังจากภีมทานข้าวเสร็จเราก็มานั่งเล่นกันที่หน้าชานเรือนที่จุดตะเกียงสว่างไสวเต็มไปหมด พร้อมกับเปิดพัดลมไล่ยุง ผมนั่งพิงหมอนสามเหลี่ยม ส่วนภีมก็เอาหัวมาหนุนตักผม
“ผมขอโทษ” ภีมพูดขึ้นมา
“ภีมบอกว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น แล้วจะขอโทษทำไม” ผมถามพลางลูบหัวเขาเบาๆ
“ผมขอโทษที่ผมประมาท ขอโทษกับความโง่ของผม ผมทำให้พี่เสียใจ ทำให้พี่ต้องมาอุ้มท้องลูกอยู่คนเดียวแบบนี้” เขาพูดพลางเอาหน้าแนบกับท้องของผม
“ถือซะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน วันหน้าอย่าให้เกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นอีก” ผมบอกเขาอย่างอ่อนโยน
“ผมสัญญาคับ ผมจะไม่พลาดอีกแน่นอน”
ตุบ---ตุบ ผมรู้สึกตึกๆที่ท้อง เจ้าตัวแสบถีบอีกแล้ว
“พี่เป็นอะไรรึเปล่าคับ” ภีมรีบถาม เพราะภามคงถีบโดนแก้มเขาที่แนบกับท้องผมเต็ม
“ลูกถีบหน่ะ” ผมบอก
“ถีบพ่อแทนแม่หรอคับภาม” ภีมพูดพลางเอาแก้มแนบที่ท้องผมอีกครั้ง
ตุบ---ตุบ ดูเหมือนเจ้าตัวแสบจะถีบแทนคำตอบ
“พี่พลบอกว่าพี่ตั้งชื่อลูกว่าภามหรอ” ผมถามเขา
“ใช่คับ ชื่อนี้ก็คล้องกับเราสามคนดีนะคับ ภีม ภาม พาย” เขาพูดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะจูบที่ท้องผมเบาๆ
“อืม” ผมตอบรับอย่างยิ้มๆ และไม่นานภีมก็หลับไป
ผมได้แต่ลูบหน้าเขาที่หลับสนิทอยู่ที่ตักของผม เขาดูผ่อนคลาย และหลับสบาย ผมก็สบายใจไปด้วย ผมเฝ้าคิดถึงเขามาตลอด วันนี้เขามานอนอยู่กับผมแล้ว ผมก้มลงไปจูบที่หน้าผากเขาเบาๆ ก่อนจะเขย่าตัวปลุกให้เขาไปนอนข้างใน ไม่งั้นยุ่งกัดแย่เลย
“ภีม ภีมคับ”
“คับ พี่พายปวดตรงไหนรึเปล่าคับ” เขาสะดุ้งตื่นมาสำรวจผมในทันที
“เปล่า พี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่จะปลุกให้ภีมเข้าไปนอนข้างใน เดี๋ยวยุงกัด” ผมบอกเขา
“อ่อคับ” เขาลุกขึ้น และพยุงผมเข้าไปในเรือนพร้อมกัน
คืนนี้ผมนอนกับภีมบนเตียง ผมอนุญาตเขาเองแหละคับ การมีเขานอนด้วยก็ดีเหมือนกัน เพราะผมจะได้ไม่ต้องใช้เสื้อของเขามาดมก่อนนอนอีก
“ภีม ภีม” ผมเขย่าตัวปลุกเขา
“คับผม” เขาตอบรับพลางงัวเงียมองหน้าผม
“สายแล้วคับไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวเราไปทานอาหารที่บ้านแม่พี่กัน”
“ได้คับ” เขาดูว่าง่ายเหมือนที่เคยเป็น ระหว่างที่ภีมไปอาบน้ำผมก็นั่งอ่านนิยายรอเขาหน้าเรือน หน้าเรือนบุหลันเป็นที่ๆผมรู้สึกสบายที่สุด ร่มเย็น และมีลมพัดมาตลอด การมาอยู่ที่นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมใจเย็นลง
ตุบ—ตุบ เจ้าตัวเล็กถีบอีกแล้วคับ
“หิวแล้วหรอคับคนเก่ง” ผมลูบท้องพลางพูดกับลูกในท้องไปด้วย
“เดี๋ยวนี้ถีบบ่อยนะคับ ดีใจที่เจอคุณพ่อหรอคับ” ผมยังคงพูดหยอกล้อกับลูกในท้องเหมือนที่ผมทำประจำ ผมมักจะหาเรื่องมาคุยกับเขาทุกๆวัน เขาตอบรับผมเสมอ แค่รู้สึกว่าเขาแข็งแรงผมก็ดีใจคับ
ตุบ—ตุบ “ตอบรับหรอคับคนเก่ง” ผมลูบท้องก่อนที่ภีมจะลงมานั่งข้างๆ
“คิดถึงจังเลยคับคนเก่งของพ่อ” ภีมมาถึงเขาก็เอาหูมาแนบท้องผมทันที
“ภีมไม่รู้สึกแปลกที่พี่ท้องได้หรอ” ผมถาม
“ไม่คับ ผมดีใจซะอีกที่พี่มีลูกกับผม แค่นี้พี่ก็หนีผมไม่พ้นอีกแล้ว มีภามเป็นโซ่ทองคล้องใจขนาดนี้” เขาบอกพลางยิ้มให้ผม ก่อนที่จะจูบลงที่ท้องผมอย่างแผ่วเบา
“คิดอะไรเจ้าเล่ห์จริงๆ พี่ว่าโกนหนวดซะหน่อยไหมคับ” ผมถามเขา เพราะหนวดมันครึมจริงๆ
“พี่มีมีดโกนหรอคับ” เขาถามผม
“มีคับ อยู่ในห้องน้ำ ตรงตู้หลังกระจก” ผมบอก ก่อนที่ภีมจะลุกเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ แต่ผมรู้สึกว่าเขาคงจะโกนหนวดด้วยมีดโกนแบบนั้นไม่เป็นแน่ๆ เพราะเป็นมีดโกนจริงๆไม่ใช่ที่โกนหนาดแบบที่ขายในห้างสรรพสินค้า พี่พลชอบโกนด้วยมีดโกนแบบธรรมดา เขาเลยเอามาทิ้งไว้ที่เรืองบุหลัน เพื่อเขาและไอ้กิตมาค้างเป็นเพื่อนผม
พอผมเดินมาถึงหน้าห้องน้ำก็เป็นอย่างที่คิดคับ ภีมดูเก้ๆกังๆอยู่ที่หน้าประจก พอเห็นผมเขาก็ยิ้มให้ผมแบบคนที่มีความสุขจนล้นออกมา เห็นแล้วน่าหมันไส้อยู่เหมือนกัน
“มาคับ เดี๋ยวพี่โกนให้” ผมบอกเขาก่อนที่จะเข้าไปยืนตรงหน้าเขา แล้วหยิบมีดโกนจากมือเขามา
“ผมไม่อยากให้พี่ยืนนาน ผมทำเองดีกว่าคับ” เขาจับเอวผมไว้เป็นเหมือนการบอกว่าผมท้องอยู่นะ
“งั้นมานี้” ผมบอกพลางจูงมือเขาออกมานั่งที่พื้นในห้องนั่งเล่น ส่วนผมนั่งบนเก้าอี้พร้อมผ้าหนึ่งผืนวางใกล้ๆ
“แบบนี้พี่ก็ไม่เมื่อยแล้ว ยื่นหน้ามาคับ” ผมบอกเขาพร้อมยิ้มให้กับความน่าเอ็นดูของผู้ชายที่ยื่นหน้าให้ผมโกนหนวดอย่างว่าง่าย
“ผมรักพี่มากนะคับ” เขาบอกรักผมอีกแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานเขาก็บอกรักผมตลอดที่มีโอกาส
“พี่รู้” ผมบอกเขา
“ถึงพี่รู้แล้ว แต่ผมก็อยากบอกอยู่ดี เพื่อทดแทนเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน” เขาบอกพลางยิ้มให้ผม ผมชอบที่เขาดูสดใสขึ้น รอยยิ้มของเขาทำให้ผมยิ้มไปด้วย
“พี่ก็รักภีม รักมากเหมือนกัน อยู่นิ่งๆได้แล้วคับ เดี๋ยวมีดโกนบาดเอา” ผมบอกเขา
พอโกนหนวดให้เขาจนเสร็จ เขาก็กลับมาดูเหมือนโคตรเดือนที่ผมรู้จักหน่อย ยิ่งมีรอยยิ้มที่ดูเหมือนผู้ชายที่มีความสุขตลอดเวลาแบบนี้ นี้แหละคนที่ผมรัก
“ผมรักพี่จัง” เขาบอกพลางเอาจมูกของตัวเองมาถูกับจมูกผม
“แล้วนี้ได้ไปเรียนบ้างรึเปล่า” ผมถามเขา
“ไปบ้างคับ เวลามีสอบ” เขาบอกขณะที่จมูกเขายังคลอเคลียอยู่ที่แก้มผม
“แล้วการเรียนเป็นยังไงบ้าง แค่สอบอย่างเดียวผ่านรึเปล่า” ผมถามเขาด้วยความกังวล ถ้าผมเป็นต้นเหตุให้เขามีปัญหาเรื่องการเรียนผมคงไม่สบายใจ
“ผมสอบผ่านสบายมากอยู่แล้วคับ” เขาตอบพร้อมยิ้มให้ผมแบบเด็กๆที่ภูมิใจในตัวเอง
“แบบนั้นก็ดีแล้วคับ” ผมบอกอย่างโล่งใจ
“พ่อเก่งใช่ไหมคับภาม” ภีมพูดพลางจูบที่ท้องผมอีกครั้ง
“แล้วเรื่องงานละคับ” ยังมีอักเรื่องที่ผมเป็นห่วง ก็ภีมเป็นคนมีความรับผิดชอบเยอะนี่คับ
“ผมขอคุณพ่อพักเรื่องงานไว้ก่อนคับ ไม่มีพี่ผมก็ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น” เขาบอกก่อนจะกอดผม แล้วทำท่าอ้อนเป็นเด็กๆ
“ขี้อ้อนขึ้นนะเรา” ผมว่า
“ไม่เจอพี่ตั้งนาน อยากอ้อนให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“พอเลย” ผมทำท่าดุเขาไปที
“ผมสัญญานะคับว่าจะเป็นพ่อที่ดีของลูก และเป็นสามีที่ดีของพี่ จะไม่มีวันทำให้พี่เสียใจอีก ขอร้องละคับ...แต่งงานกับผมนะ” เขาบอกพลางหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋า สงสัยที่เขาไปคุ้ยหาเสื้อผ้าตัวเองในตะกร้าผ้าของผมคงหาสิ่งนี้
“คับ” ผมตอบรับก่อนที่เข้าจะกอดผมเข้าเต็มรัก และสวมแหวนให้ผม
“คืนดีกันเร็วดีจริงๆ กูก็ลุ้นแทบแย่ว่ามึงจะฆ่าภีมตายไปรึเปล่า” ไอ้กิตที่พึ่งมาถึงก็แซวเลยคับ
“กูไม่ได้โหดขนาดนั้นนะ” ผมบอก
“อารมณ์มึงแปรปรวนจะตายใครจะไปรู้” ไอ้กิตยังคงเถียงผม
“พอเลยสองคน ปะไปกินข้าวที่บ้านกันได้แล้ว แม่เตรียมอาหารไว้ตั้งเยอะ” พี่พลบอกพลางเดินนำเรามาที่เรือเพื่อที่จะกลับไปทานข้าวที่บ้านคับ
“พี่พลแน่ใจได้ไงว่าผมจะยอมคืนดีกับภีม” ผมถามระหว่างที่นั่งเรือออกมา
“แค่เห็นหน้าไอ้เด็กนี้ก็ใจอ่อนซะขนาดนั้น” พี่พลบอก
“ใครใจอ่อน ตอนแรกที่เห็นตกใจเหอะ” ผมแถ
“ปากแข็ง” ไอ้กิตพูด
“กูเปล่า” ผมบอกก่อนจะนั่งหันไปมองแม่น้ำด้านข้างแทนไม่งั้นโดนต้อนจนมุมแน่
“เพราะพี่รักผมมาก ผมรู้” ภีมบอกพลางหอมผมไปที ทำเอาผมเขินไปเลย
“หวานจริง เลี่ยน” ไอ้กิตทำท่าจะอ้วก
“มึงก็บอกให้พี่พลหอมมึงดิ มาแขวะกูไม” ผมว่ามัน
“พี่หอมไปทั้งคืนแล้ว ให้กิตมันพักบ้าง” พี่พลพูดแบบนี้ ไอ้กิตนี้ไปไม่ถูกเลยคับ มันเลยรีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องงานกับพี่พลแทน
“แถวนี้สงบดีนะคับ” ภีมพูดกับผม
“ใช่ อยู่แล้วสบายใจ” ผมบอก
“พี่จะกลับไปอยู่เรือนบุหลันอีกไหมคับ”
“พี่อยากอยู่ที่นั้นอีกสักพัก ภีมไม่ชอบเรือนบุหลันหรอ” ผมถามเขา
“เปล่าคับ ผมชอบมาก ผมเห็นว่าพี่อยู่ที่นั้นเพราะหลบผม แต่ตอนนี้เราก็เจอกันแล้ว”
“ขอพี่พักอยู่ที่เรือนบุหลันอีกสักหน่อยนะ” ผมบอกเขา
“แค่เดือนเดียวนะคับ พี่ใกล้คลอดแล้ว ผมอยากให้พี่ออกมาอยู่ข้างนอกมากกว่า อย่างน้อยอยู่บ้านคุณแม่พี่ได้ไหมคับ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง กับสายตาที่เป็นห่วง
“พี่ก็เห็นด้วยกับภีมนะ เวลาคลอดจะได้ไม่ลำบาก” พี่พลหันมาบอกผม คงแอบฟังผมกับภีมอยู่แน่ๆ
“กูด้วย” ไอ้กิตก็ตามมาอีกคน ถ้ามติเป็นเอกฉันท์ขนาดนี้ ผมคงดื่อไม่ได้แล้วสิ
“ตกลงหรือไม่ตกลงคับ” ภีมถามพลางมองหน้าผมซะใกล้เลย
“ก็ได้ตามนั้น” ผมตอบ
“ในที่สุดก็ออกมาหาแม่ที่นี้ได้สักที ถ้าภีมไม่เข้าไปหา แม่คงต้องเห็นแกคลอดที่เรือนบุหลันแน่ๆ” แม่ผมท่านบ่นผมเล็กน้อยตอนที่ผมเดินเข้าบ้าน
“แม่อย่าบ่นพายสิคับ พายท้องอยู่นะ” ผมอ้อนท่าน
“แกก็ใช้มุขนี้ตลอด” แม่ผมพูดอย่างปลงๆ
“มากินข้าวกันมา” พ่อผมเป็นคนเรียกเราไปนั่งที่โต๊ะอาหารคับ
วันนี้อาหารเต็มโต๊ะไปหมด ภีมคอยตักนู้นตักนี้ให้ผมกินตลอด เขาดูแลผมอย่างดีเหมือนี่เขาชอบทำ วันนี้กลายเป็นวันที่ผมมีความสุขที่สุด ผมได้อยู่กับคนที่ผมรักมากมาย
วันเวลาที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มีแต่ความทรงจำดีๆของผมกับภีมเต็มไปหมด ความทุกข์ที่เกิดขึ้นผมจะไม่เอามาใส่ใจอีก จากนี้ผมจะคุยกับเขาให้มากเวลามีปัญหา ผมจะได้ไม่ต้องเสียเขาไปอีก ผู้ชายคนแรกที่ผมรัก ผู้ชายที่ไม่สนว่าผมจะเป็นเดือนปีกทอง หรือคนที่ผ่านเรื่องอะไรมา เขายังคงรักผมด้วยความบริสุทธิ์ใจมาโดยตลอด...
“คิดอะไรอยู่คับคนดี” ภีมเดินเอาผ้ามาคลุมไหลให้ผม ขณะที่ผมนั่งอยู่ที่ริมน้ำยามเย็น
“คิดถึงสิ่งที่ผ่านมาคับ พี่ดีใจที่ภีมมาอยู่กับพี่ตรงนี้ ดีใจที่ภีมได้ใช้เวลากับลูกก่อนที่ลูกจะคลอด สองเดือนที่ผ่านมาพี่มีความสุขที่สุด” ผมบอกเขา ตลอดเวลาตั้งแต่ผมคืนดีกับเขาวันนั้น ภีมเป็นคนที่ดูแลผมดีมาตลอด เขาใส่ใจผม และลูกในท้อง
“ผมรักพี่ และรักลูกของเรา”
“บางทีพี่ก็คิดว่าเร็วไปไหม เพราะภีมยังเรียนอยู่ พี่กลัวว่าพี่จะเอาชีวิตวัยรุ่นที่ควรจะมีของภีมไปรึเปล่า การเลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันคงไม่ง่าย” ผมบอกเขาตามที่ใจผมคิดมาตลอด
“ไม่คับ ผมยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้มีพี่อยู่ข้างๆผมตรงนี้ แค่นี้ผมก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” เขาโอบกอดผมจากด้านหลัง
“ภีม พี่...โอ๊ยยย...ปวดท้อง” อยู่ดีๆ ผมก็ปวดท้องจนแทบจะทนไม่ไหว ดีที่ภีมพยุงผมไว้ไม่งั้นผมคงล้มไปที่พื้นแน่ๆ
“พี่ว่าพี่จะคลอดแล้ว” ผมบอกภีม
“คลอด!!!!!”
TBC