เฮ้ย ! มันไม่ใช่ลูกกู
ตอนที่ 16
อาหารหน้าตาน่าทานถูกวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะในมื้อเย็นที่มีประโยชน์มากกว่าทุกวัน ไอ้หัวหอมที่ดูตื่นเต้นกับอาหารหยิบนู้นกินนี่แถมยังกินได้เยอะยิ่งกว่ามื้อไหนๆ ท่าทางที่มีความสุขของมันชวนให้ผมรู้สึกว่า อาหารสำหรับเด็กไม่ใช่แค่กินๆไปให้อิ่มเท่านั้น แต่มันต้องทั้งอร่อย หลากหลาย แล้วก็มีประโยชน์ครบถ้วนถึงจะดีที่สุด
“ อร่อยจังเลย กาลิคอิ่มแล้วครับคุณปู่คุณย่า " เสียงใสๆที่บอกพ่อกับแม่ของไอ้ภาพ ลืมเจ้าเด็กที่ขี้อายเมื่อกี้ไปได้เลย เพราะเพียงแค่ได้กินข้าวนั่งคุยกันสักพักก็กลายเป็นว่า มันจัดการอ้อนพ่อแม่ไอ้ภาพจนหลงรักมันไปหมด
“ กินอิ่มแล้วเหรอ " แม่ลูบหัวมันเบาๆอีกคนก็พยักหน้ารับ " งั้นกินไอติมมั้ย ที่นี่น่ะ มีไอติมด้วยนะ "
“ กินครับ กิน คุณย่ากาลิคจะกินไอติม "
“ ได้เลย " เธอบอกก่อนจะหันไปหาแม่บ้านที่ยืนอยู่ " น้าแก้ว ไปเอาไอติมให้น้องกาลิคหน่อยนะคะ "
“ ได้ค่ะ " พี่เลี้ยงไอ้ภาพรับคำก่อนจะเดินเข้าไปในครัวแล้วกลับออกมาพร้อมกับไอศกรีมช็อคโกเล็ตถ้วยใหญ่เธอวางตรงหน้ากาลิค
“ ขอบคุณครับ น้าแก้ว " มือเล็กยกมือไหว้คนที่เอามาให้ ก่อนจะเริ่มกินไอศกรีมตรงหน้า
“ งั้นเดี๋ยวผมต้องขอตัวกลับก่อนแล้วนะครับ วันนี้ว่าจะกลับไปนอนที่บ้านสักหน่อย " ผมเอ่ยบอกทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารก็หันมามองหน้า
“ แม่มึงอยู่บ้านเหรอ "
“ ไม่หรอก ไปต่างจังหวัดน่ะ แต่ว่าขมไม่ได้กลับบ้านนานแล้วก็เลยอยากจะไปนอนที่บ้านน่ะครับ " หันไปยิ้มเขินๆให้พ่อกับแม่ กาลิคที่นั่งกินไอศกรีมอยู่ข้างๆก็พูดขึ้น
“ ให้กาลิคกินไอติมเสร็จก่อนนะอาขม "
“ ได้สิ " ลูบหัวมันเบาๆ พ่อก็ถาม
“ แล้วทำไมกาลิคไม่นอนที่นี่กับอาภาพละ "
“ เพราะว่า กาลิคต้องนอนกับอาขม ไม่งั้นอาขมจะเหงาครับ "
“ นอนกับอาภาพก็ได้นี่ " แม่ที่บอกแบบนั้นแต่เจ้าตัวเล็กก็ส่ายหน้าไปมาทันที ก็แน่นอนละ มันไม่เคยนอนกับไอ้ภาพเลยสักครั้งอยู่กับไอ้ภาพมากสุดก็ตอนครั้งที่ออกไปกินเคเอฟซี แป็ปซี่ แล้วกลับมาด้วยขนมถุงใหญ่คราวนั้นแหละ
“ ไม่ได้ครับ "
“ มันไม่เคยนอนกับภาพหรอกม๊า กาลิคอยู่กับไอ้ขมตลอด มันติดไอ้ขมจะตายไป " ภาพบอก ก่อนจะก้มลงกินข้าวไปเรื่อยเปื่อยด้วยรสชาติที่ถูกปาก
“ อาภาพท่าทางงอนๆนะ " ผมหันบอกหัวหอมที่ก็เงยหน้าขึ้นถามงงๆ
“ อาภาพงอนกาลิคเหรออาขม "
" ก็หัวหอมไม่ยอมนอนกับอาภาพไง นอนแต่กลับอาขม อาภาพก็เลยงอนๆ ดูสิ ก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวเลย " ภาพเหลือบตาขึ้นมองผม มันส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกไร้สาระเพราะมันเองไม่ได้รู้สึกอะไรอย่างงั้น
“ อาภาพพพ " เสียงติดอ้อนที่เอ่ยเรียกคนตรงหน้าที่ยังกินไม่หยุดปาก
“ นี่ภาพ ลูกเรียกก็หยุดกินแล้วมองก่อนสิ " แม่ตีหลังมันที่ยังซดน้ำซุปในถ้วยของตัวเองไม่สนใจอะไร มันวางช้อนลงอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะเอ่ยถามคนที่เรียกมัน
“ ทำไมครับ ทำไมละกาลิคลูกกกกกกกกก "
“ อาภาพอย่างอนกาลิคนะ กาลิคต้องนอนกับอาขม ไม่งั้นอาขมจะเหงา "
“ ไม่เหงาหรอก ไปนอนกับอาภาพบ้างก็ได้ " ผมพูดกับอีกคนที่ก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอนตัวมากอดแขนผมไว้แน่น
“ ไม่เอา กาลิคจะนอนกับอาขม "
“ เห็นมั้ย มันไม่นอนกับภาพหรอก กาลิคมันติดไอ้ขมจะตายไป " พูดแบบนั้นก่อนจะยื่นจานปล่าวให้กับแม่บ้าน ขอข้าวเพิ่มอีกจาน
“ แต่แม่อยากจะให้กาลิคนอนที่นี่นะ ขมนอนที่นี่สิลูก แม่ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ "
“ แต่ว่า "
“ นะๆ คืนนี้ม๊าอยากจะนั่งดูการ์ตูนกับกาลิคก่อนนอน ใช่มั้ยป๊า " แม่หันไปถามพ่อที่ก็พยักหน้ารับด้วยความสนใจ
“ ขมนอนที่นี่สิ นอนห้องภาพน่ะ ป๊าว่าไอ้ภาพมันคงชอบ "
“ แค่กๆ " เจ้าของห้องสำลักแกงจืดที่กำลังกินอยู่ทันที มันหันมองพ่อตัวเองด้วยสายตานิ่งๆแต่อีกฝ่ายกลับมีท่าทีไม่สนใจอะไรนัก ผมเหลือบมองมันที่ก็หันมาสบตาผมเพียงครู่แล้วก้มลงไปกินข้าวของตัวเองต่อ
“ นะขม นอนที่นี่เถอะ ม๊าอยากจะอยู่เล่นกาลิคสักหน่อยนะ " คำพูดของผู้ใหญ่ที่ชวนให้ผมไม่กล้าขัด ตอนนั้นก็เลยจำใจต้องพยักหน้ารับไปอย่างช่วยไม่ได้
มื้ออาหารเย็นที่อิ่มหนำจบลง ไอ้ภาพเดินลูบพุงขึ้นไปชั้นบนช้าๆเหมือนมันกำลังจุกที่กินเข้าไปเยอะเกินไป ก็แน่ละเล่นกินข้าวตั้งสามจานตบด้วยไอศกรีมอีกมันจะไม่อิ่มได้ไงวะ เปิดประตูเข้าไปในห้องที่กว้างขวางของมันจำได้ว่าครั้งล่าสุดที่นอนที่นอนก็ตอนประถมห้า แล้วหลังจากนั้นก็ไม่นอนอีกเลย ต่อให้แม่ไปต่างจังหวัดก็นอนที่บ้านคนเดียวเหมือนเริ่มโต ก็เริ่มดูแลตัวเองได้แล้ว
“ อาภาพห้องอาภาพใหญ่จัง " มันวิ่งขึ้นไปที่เตียงกระโดดอยู่บนนั้นก่อนจะมองไปรอบๆ " อาภาพ อาภาพมีหุ่นยนต์ด้วยยย " มือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบหุ่นยนต์ราคาหลายบาทที่ตั้งอยู่ที่ตู้โดนไอ้ภาพคว้าตัวไว้ก่อนจะล้มลงบนเตียงทันที
“ หยุดเลยไอ้ตัวแสบ อันนี้แตะต้องไม่ได้นะ " มันว่าผมก็ยกยิ้มก่อนจะมองเหล่าหุ่นยนต์แล้วก็ฟิกเกอร์ของสะสมราคาหลายบาทของมัน ที่มันหวงเอามากๆ
“ แตะต้องไม่ได้ " มันพูดตามก่อนจะเอียงหน้ามองอีกคน " ทำไม ทำไมแตะต้องไม่ได้ "
“ มันเป็นของรักของหวงของกูน่ะ " ภาพบอกเด็กน้อยก็ยิ่งงง
“ อธิบายให้มันดีๆ ก่อนที่ของราคาหลายหมื่นของมึงจะเหลือแค่ชื่อ " ผมเตือนอีกคนก็หน้าซีดลง
“ เชี้ย ไม่ได้นะ ขมมึงอธิบายให้หน่อย บอกมันอย่ามายุ่งกับของของกูเดี๋ยวมันพัง มันแพงนะมึง บางอันก็หาซื้อไม่ได้แล้วด้วย "
“ อาขม " หัวหอมเรียกผม เหมือนมันไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกคนพูดเท่าไหร่
“ เอามือไปจับไม่ได้นะ ดูได้อย่างเดียวแล้วก็ต้องดูไกลๆด้วย เพราะนี่น่ะเป็นของรักของหวงของอาภาพ "
“ ของรักของหวง คืออะไร "
“ อื้ม มึงมีของที่ไม่ว่าจะเป็นอาภาพ หรือว่าอาขม หรือว่าใครๆ มึงก็ให้ไม่ได้มั้ยละ "
“ น้องไง น้องหมีน่ะ " ภาพบอกอีกคนก็ส่ายหน้าไปมา
“ อาขมหนูให้อาภาพยืมกอดน้องหมีได้นะ " มันบอก ก่อนจะเอียงหน้าคิดพลางมองหน้าผม " อาขมไง หนูหวงอาขม หนูจะไม่ให้อาขมกับใครหรอก " มันว่าก่อนจะดึงตัวเองเข้ามากอดแล้วหอมแก้มผมไว้
“ ไอ้เด็กขี้อ้อน " ผมก้มลงหอมแก้มมันกลับ ภาพก็ถาม
“ กับอาภาพก็ไม่ให้เหรอ "
“ ไม่ให้หรอก " มันส่ายหน้าไปมามือเล็กๆนั่นก็กอดผมไว้แน่น
“ ของพวกนั้นที่อาภาพไม่ให้ หัวหอมจับก็เพราะว่า มันเป็นของรักของหวงของอาภาพเหมือนกัน เหมือนที่หัวหอมหวงอาขมไง เหมือนกันเลย " ผมบอกมันก็พยักหน้ารับ " เราไม่อยากจะให้ใครจับมัน เพราะว่ากลัวว่ามันจะพัง หัวหอมยังเด็ก ยังไม่รู้ว่าของพวกนั้นมันแพง จับไม่ได้ เพราะงั้นถ้าโตขึ้นเมื่อไหร่ อาภาพก็ให้จับเองละ "
“ จริงเหรอ " มันเงยหน้าถามผม ผมก็พยักหน้ารับ ก่อนจะดึงมันมายืนบนพื้น
“ ยืนดูจากตรงนี้ก็พอ ห้ามล้ำเขตเข้าไปละ ถ้ามันพังแล้วละก็ อาภาพต้องเสียใจมากแน่ๆ เพราะงั้น หัวหอมก็อย่าทำให้อาภาพเสียใจนะ "
“ ครับ " หัวหอมพยักหน้ารับ
“ โอเค คราวนี้เราก็อาบน้ำกันได้แล้ว " จับมันถอดเสื้อถอดกางเกงเรียบร้อยไอ้ภาพก็เอื้อมมือไปสะกิดส่วนกลางของไอ้ตัวเล็กแซวๆ
" อุ้ยๆ นี่อะไร "
“ งื้ออ อาภาพมาจับน้องทำไม " มือเล็กๆเอื้อมปิดส่วนกลางของตัวเองก่อนจะทำหน้ายู่ใส่ " นี่น้องนะ น้องของกาลิค "
“ เหรอ นี่น้องเหรอ แล้วชื่ออะไรอะ "
“ ชื่อน้องหนอน "
“ น้องหนอนเหรอ น้องหนอนตัวเล็กอะ "
“ น้องหนอนตัวเล็ก เพราะกาลิคยังตัวเล็กอยู่ " มันเอาทาบอกตัวเองไอ้ภาพก็คว้ามันมากอดด้วยความน่ารัก
“ เล่นกันพอยัง ไปอาบน้ำได้แล้วไป โป๊ๆ น้องหนอนจะหนาวนะหัวหอม ไปอาบน้ำกัน " ผมจูงมืออีกคนเข้าไปในห้องน้ำ จัดการอาบน้ำให้เรียบร้อยไอ้ภาพก็เดินหยิบผ้าขนหนูมาให้แบบรู้งาน ปะแป้งให้มันจนหอมตอนที่เดินออกมาผมเองก็ลืมไปเลยว่า หัวหอมไม่มีชุดนอนสำหรับใส่คืนนี้ " ภาพ กูลืมวะ "
“ ลืมอะไร "
“ ลืมไปว่าหัวหอมมันไม่มีชุดนอน ขอเสื้อมึงสักตัวสิ "
“ ไปหยิบเอาเลย ในตู้อะ " ผมเดินไปหาเสื้อที่อยู่ในตู้ก่อนจะหยิบเสื้อนอนตัวนึงออกมาใส่ให้อีกคนที่ตอนนี้โดนไอ้ภาพจับผูกจุกเรียบร้อยแล้ว ชุดนอนที่หัวหอมใส่ยาวจนถึงตาตุ่มแต่ก็น่ารักน่าเอ็นดูไปอีกแบบ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น แม่ไอ้ภาพที่เดินเข้ามายิ้มให้ไอ้ตัวเล็กที่ก็วิ่งเข้าไปหาทันที " กาลิค อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ ไปดูการ์ตูนที่ห้องย่ากันมั้ย "
" ไปครับ " อีกคนที่ไม่ปฎิเสธ เดินจูงมือแม่ออกไปก่อนจะหันมาบ๊ายบายกับผม " เดี๋ยวกาลิคมานะ บ๊ายบาย "
" บ๊ายบาย " ยกมือขึ้นโบกบ๊ายบายกลับไป ประตูที่ปิดลงผมก็ผ่อนลมหายใจออกมา
“ ถึงขนาดต้องถอนหายใจเลยเหรอวะ " ไอ้ภาพพูดขึ้นผมก็หันไปมองหน้ามัน
“ ก็เออนะสิไอ้เชี้ย นี่กูเกร็งจะตายห่าอยู่แล้ว "
" แล้วมึงจะเกร็งทำไม "
" ก็กูไม่รู้ว่ามึงไปเคลียร์กับพ่อแม่อีท่าไหน ทำไมพ่อแม่มึงดูไม่โกรธ ไม่เคืองเหี้ยอะไรเลยวะ กูก็ทำตัวไม่ถูกเนี้ย เดี๋ยวดี๊ด๊าเกินไปจะกลายเป็นว่า อ๋อออ ไม่ใช่ลูกมึงสินะ มึงเลยดี๊ด๊าได้ กูเลยได้แต่เงียบๆ เกร็งๆเนี้ย " ถอนหายใจออกมาแรงๆ ผมทรุดตัวลงนั่งข้างอีกคนไอ้ภาพก็หัวเราะ " หัวเราะเชี้ยไรวะ "
“ ก็หัวเราะมึงอะ "
“ ไม่ได้โดนตบใช่มั้ยวะ " ผมจับหน้ามันส่ายไปมาเพื่อเช็คดู ภาพก็ส่ายหน้า
“ เปล่า ไม่ได้โดนตบ "
“ แล้วบอกพ่อกับแม่ยังไงเค้าถึงดูไม่โกรธ แถมยังดูเอ็นดูไอ้หัวหอมอีกทั้งๆที่ว่าน่าจะไม่ชอบเปล่าวะ ลูกใครก็ไม่รู้ " ไอ้ภาพเหลือบมองผมก่อนจะทำท่าคิด
“ กูแค่พูดความจริงออกไปเท่านั้นแหละ ไม่อยากจะโกหก " มันบอกผมก็ขมวดคิ้ว
“ ความจริงยังไง มึงบอกยังไงวะ "
“ จำไม่ได้แล้ววะ " ภาพบอกปัด
“ อ้าว.. "
“ แต่เอาเป็นว่าผมลัพธ์มันไม่แย่มึง กูไม่ได้โดยอะไร ไม่ได้หักเงินเดือน หรือโดนตบ อะไรพวกนั้นมันไม่มี ไม่มีอะไรเลย พ่อรับมันเป็นหลานจะพาเข้าโรงเรียนนั่นคือสิ่งที่กูต้องการ แล้วมันก็มีแค่นั้น " สายตาที่ยังไม่เชื่อของผม มองหน้ามันที่เลิกคิ้วขึ้นมอง " อะไรของมึงอีกขม ก็กูบอกว่าไม่มีอะไรแล้ว ทำไม มันดูง่ายเกินไปเหรอ "
“ อื้ม มันง่ายเกินไป " จะมีพ่อแม่สักกี่คนที่เข้าใจว่าลูกไปทำผู้หญิงคนอื่นท้องง่ายๆวะ ปกติคนเป็นพ่อแม่ก็ต้องโกรธแล้วไม่ชอบใจไม่ใช่เหรอ " หรือว่ามึงไปพูดอะไรแบบพวกสัญญากับเค้าไว้ "
“ ไม่ได้พูด "
“ ภาพ..” ผมจ้องหน้ามัน " มองหน้ากู แล้วบอกความจริงกูมา เดี๋ยวนี้ ไอ้สัด " สายตาคมที่มองไปทางอื่น ไอ้ภาพไม่มีทางหลอกผมได้หรอก
“ ก็ไม่มีอะไร แค่บอกว่าช่วยเลี้ยงให้ก่อนสามเดือน ถ้าแม่มันไม่มารับจะไปตรวจดีเอ็นเอ ว่าเป็นลูกใคร "
“ แล้วทำไมไม่ตรวจตอนนี้เลยวะ กูโอเคนะ ตรวจเลยก็ได้ " ผมบอก มันก็ส่ายหน้า
“ กูไม่อยากจะตรวจก่อนอะ " มันว่าก่อนจะทำทีเป็นลุกขึ้นยืน " โอ๊ย ไปอาบน้ำดีกว่า โคตรเหนียวตัวเลย เมื่อวานทั้งวันก็ยังไม่ได้อาบ "
“ ไอ้ภาพ " ผมเอ่ยเรียกมันที่ดูท่าทางเหมือนกำลังเปลี่ยนเรื่อง
“ ถ้าตรวจแล้วกาลิคเป็นลูกมึง มึงจะทำยังไงวะขม "คำถามที่เอ่ยถามผมจากคนที่กำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ร่างสูงที่หันมาจ้องผมที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง
“ ถ้าหัวหอมเป็นลูกกู กูก็แค่เลี้ยง "
“ เลี้ยงยังไง "
“ ก็ทำทุกอย่างอะ แต่จะไม่มีทางให้แม่ต้องมาลำบากกับลูกแบบกูแน่นอน กูคงบอกแม่ก่อนเป็นอย่างแรกแล้วก็ หางานทำ เพื่อที่จะส่งมันเรียน หรือไม่ก็ขอให้แม่ช่วยส่งให้กูเรียนจบก่อน ยืมเงินเค้าแล้วก็ผ่อนจ่ายให้ไปหลังจากเรียนจบแล้วได้งาน ถามทำไม "
“ ก็เปล่า " ภาพส่ายหน้าไปมา " แค่คิดว่าก็รอหน่อยเถอะ ยังไงก็บอกป๊าไปแล้วว่าเราจะรอจนกว่าแม่กาลิคจะมารับ เดี๋ยวเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา เค้าจะหงุดหงิดอีก " มันพูดแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ผมผ่อนลมหายใจออกมาบางทีก็ไม่เข้าใจมันเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องรอเวลาแล้วทำให้ทุกอย่างมันช้ามากขึ้นไปอีก สำหรับผม ถ้าหัวหอมเป็นลูกผม ผมก็พร้อมเผชิญปัญหาที่จะตามมาอยู่แล้ว แม้มันจะหนักหนาและไม่ได้ทำได้ง่ายๆอย่างที่พูดออกไปก็เถอะ
.........................................................
ขับรถกลับมารับหัวหอมที่บ้านไอ้ภาพหลังจากเรียนเสร็จเรียบร้อบ ถุงเสื้อผ้าและของใช้สองสามถุงใหญ่ถูกขนขึ้นรถโดยแม่บ้านของบ้าน วันนี้พ่อกับแม่ของภาพจัดการพากาลิคเข้าไปสมัครเรียนเรียบร้อยแล้ว และแน่นอนว่าต้องใช้เส้นสายนิดหน่อยเพื่อดำเนินเรื่อง สำหรับโรงเรียนนานาชาติใจกลางเมืองที่ค่าเทอมค่างข้างสูงขนาดนั้น
" ได้เรียนที่ดีๆซะด้วยน่าอิจฉาสุดๆไปเลย " ไอ้ภาพพูดเปรยๆตอนที่เราเข้ามานั่งในรถเตรียมตัวกลับไปคอนโด ซึ่งตอนแรกท่านก็ไม่ค่อยอยากจะให้มา เพราะอยากจะให้อยู่ท่านมากกว่า แล้วพอไอ้ภาพแซวว่าติดแล้วหลานเหรอ ผมก็ได้ยินเสียงอ้อมแอ้มของพ่อพูดแค่ว่า จะได้ช่วยกันดูแลหาข้าวปลาหาให้กินจะได้ถูกหลักอนามัยเด็กจะได้โตไวๆแล้วก็แข็งแรงก็เท่านั้น
แต่ถ้าอยู่ที่บ้านหัวหอมมันคงต้องตื่นไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันเพราะค่อนข้างไกลจากตัวเมืองอยู่ที่คอนโดคงสะดวกกว่า พวกเราเองก็ด้วย สีหน้าไม่ดีของพวกท่านตอนที่เราจะออกมา ตอนนั้นไอ้ภาพก็ก้มลงบอกอะไรกับไอ้หัวหอมสักอย่าง มันที่วิ่งเข้าไปกอดท่านทั้งสองไว้ พร้อมเสียงเล็กๆติดอ้อนที่พูดออกมา ' คุณปู่คุณย่า วันเสาร์นี้กาลิคจะมาเยี่ยมนะครับ ' เป็นประโยคสั้นๆที่ท่านทั้งสองก็จับมันไปหอมแก้มเสียหลายที ก่อนจะปล่อยตัวให้ออกกันมาได้ ก็เรียกว่าเป็นขวัญใจคนใหม่ของบ้านนั้นแทนไอ้ภาพไปแล้วละนะ
“ เดี๋ยวเราแวะห้างก่อนนะ "
“ แวะทำไมวะ " ผมหันไปถามคนขับที่ก็ผิวปากร้องเพลงสบายใจ
“ ก็แวะซื้ออุปกรณ์การเรียนไง รองเท้าใส่ไปโรงเรียนก็ยังไม่มี กระเป๋าด้วย " ภาพบอกผมก็พยักหน้ารับก่อนจะหยิบเอาระเบียบการขึ้นมาอ่านคร่าวๆ
“ แต่เค้าบอกว่า ใส่ผ้าใบแบบไหนก็ได้ แล้วกระเป๋าก็แบบไหนก็ได้ ทั้งสองอย่างมันก็มีแล้ว มึงจะซื้ออีกทำไมวะ เปลืองตังค์ "
“ ไม่ได้หรอก มึงรู้มั้ยว่า กาลิคมันควรมีรองเท้ากับกระเป๋าเจ๋งๆนะ เอาให้เท่ แล้วสาวเหลียวไปเลย "
“ ภาพ.. มึงกำลังฝังนิสัยฟุ่มเฟือยให้ลูกนะ " ผมเตือนอีกคนก็หันมายิ้มแห้งๆ
“ น่าๆ ไม่ฟุ่มเฟือยหรอก มันก็จำเป็นคนเราควรมีรองเท้าที่ใส่โรงเรียน แยกกับรองเท้าที่ใส่ไปเที่ยวสิจริงมั้ย "
“ ต้องมีเหรออาขม " คนที่นั่งอยู่บนตักผมหันมาถาม มือเล็กที่กำลังเคี้ยวช็อคโกเล็ตตุ่ยๆ ผมเช็ดปากให้มันก่อนจะส่ายหน้า
“ ไม่จำเป็นหรอกเรามีอะไร เราก็ใช้ไปอย่างงั้น พังแล้วก็ค่อยซื้อให้ แต่ว่าถ้ามีคนอยากจะซื้อให้เรา เราก็รับไว้ แต่จำไว้นะ มันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องเอาไปอวดเพื่อนนะ "
“ อื้มๆ กาลิคจะจำไว้ "
“ ทำไมพอมึงสอนกาลิคทีไร กูดูเหมือนคนเหี้ยๆคนนึงที่เด็กไม่ควรเอาอย่างเลยวะ " ไอ้ภาพบอกผมก็ยกยิ้ม
“ รู้ตัวก็ดี "
“ แล้วนั่นเป็นอะไร "
“ อะไรเป็นอะไร " ผมหันไปหามัน รถที่ชะลอจอดเพราะว่ารถติดไฟแดงพอดีร่างสูงที่หันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจัง
“ มึงทำหน้าเครียดมาสองวันแล้วนะ เป็นเหี้ยอะไร เรื่องก็เคลียร์แล้ว มึงจะกังวลเรื่องเหี้ยไรอีก "
“ กูคิดหลายเรื่องน่ะ "
“ เช่น " ภาพถามผมก็ยกมือขึ้นไปปิดหูเจ้าตัวเล็กไว้ ผมพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะไม่อยากจะให้หัวหอมได้ยิน
“ เกรงใจพ่อแม่มึงถ้ามันเกิดเป็นลูกกูขึ้นมา อีกอย่างส่งหัวหอมไปเรียนโรงเรียนั้นค่าเทอมแพงมากเลยนะเว้ย กูจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปส่งมันเรียนต่อ ยังไงก็ให้มันออกมาเรียนโรงเรียนธรรมดาก็เท่านั้น " ผมก้มหน้าลงซบที่ผมนุ่มๆของเจ้าตัวเล็กไอ้ภาพก็นิ่งไป
“ ไหนใครเคยบอกกูว่า อย่าไปคิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ให้คิดถึงปัจจุบันก่อน "
“ เออ กูรู้ว่าเราไม่ควรกังวล แต่มันก็อดกังวลไม่ได้นี่หว่า มึงบอกพ่อแม่มึงไปแล้ว พ่อแม่มึงก็โอเคแล้วแต่กูนี่สิ ถ้าเกิดว่าเป็นของกูขึ้นมา กูก็ต้องไปบอกแม่กูเหมือนกัน แล้วยังไม่รู้เลยว่าเค้าจะว่ายังไง "
“ คิดมาก อีกสามเดือนอาจจะมารับก็ได้ ตอนนี้เลี้ยงมันให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้เถอะ กูว่าอย่างน้อยนะ ก็เป็นความทรงจำดีๆของมัน ว่าครั้งนึงมันเคยเจอคนดีๆที่รักแล้วก็ดูแลมัน มึงเองก็เคยพูดนิใช่มั้ย "
“ ไม่รู้จำไม่ได้ " ผมบอกปักมือหนาก็เอื้อมมือมาขยี้หัวก่อนจะหัวเราะ
“ คิดมากไอ้เหี้ย เอาให้มันเป็นเรื่องที่ต้องเครียดก่อนค่อยเครียด ตอนนี้เราไม่ต้องให้กาลิคมันอยู่บ้านคนเดียวแล้ว มันได้ไปเรียนหนังสือ มีเพื่อน มีสังคม นั่นก็โอเคแล้ว "
“ แต่เรื่องนี้กูก็เครียดนะ " ก้มมองมันก่อนจะหอมแก้มไปเต็มฟอด " ไม่รู้ตัวแค่นี้ไปโรงเรียนจะถูกเพื่อนแกล้งรึเปล่า จะเรียนทันเพื่อนมั้ยก็ไม่รู้ แม้จะเข้าอนุบาลสองก็เถอะ แต่เด็กสมัยนี้ตัวใหญ่จะตายกูกลัวมันโดนเพื่อนแกล้งเนี้ย แถมโรงเรียนนั้นยังมีแต่พวกคุณหนูอีก มีปัญหาอะไรขึ้นมาแย่แน่ๆ "
“ ไม่โดนหรอกน่า สอนมันสิ อีกอย่างมึงอย่าคิดไปว่าพวกคนมีฐานะจะปกป้องลูกแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันสิ คนบางคนเค้าก็มีความคิด มีเหตุผล แต่ถึงเราจะเจอคนไม่ดี ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร พ่อกูก็ใหญ่เหมือนกัน มึงคิดว่าเค้าจะยอมให้ใครมาแกล้งกาลิคอยู่ฝ่ายเดียวเหรอ "
“ อื้ม ก็จริง " กูลืมไปว่าพ่อมึงมีอิทธิพลหนา ไม่งั้นคงฝากเข้ามาให้เรียนไม่ได้หรอก ทั้งๆที่เอกสารที่ยื่นเข้าเรียนมีไม่ครบด้วยซ้ำไป “ หัวหอม "
“ ครับ " ดวงตากลมๆที่เงยหน้าขึ้นมามองผม ที่ก็กอดมันไว้ ไม่อยากให้ไปเรียนเลย กลัวโดนแกล้ง กลัวมันไม่มีความสุข กลัวไปหมด " อาขมกอดกาลิคแน่นเลย "
“ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแล้ว "
“ แบบที่อาขมกับอาภาพไปใช่มั้ย " มันถามผมก็พยักหน้ารับ
“ ถ้าเพื่อนแกล้งก็จัดการมันเลย " ภาพบอกผมก็หันไปชักสายตาใส่
“ ทำแบบนั้นไม่ได้นะ ถ้าเพื่อนแกล้ง ก็หลีกซะ บอกว่า อย่ามาแกล้งกาลิค แต่ถ้าเพื่อนยังแกล้งก็ให้บอกคุณครู แล้วถ้าบอกแล้ว เพื่อนยังแกล้ง ก็มาบอกอาขมนะ "
“ อื้ม "
“ มันจะเข้าใจมั้ยละ ว่ามันโดนแกล้ง " ภาพบอกผมก็ส่ายหน้าไปมา
“ แต่เพื่อนกันจะไม่ทำให้ เพื่อนเจ็บตัวโดยตั้งใจหรอกนะ " ผมบอก อีกคนก็พยักหน้ารับ หัวหอมจ้องมองผมมันที่เอื้อมมากอดคอมก่อนจะหอมแก้มผม " หอมแก้มกูทำไมละ หื้ม ? อ้อนกันเหรอ "
“ ก็อาขมเศร้า ไม่เป็นไรนะ กาลิคจะไปไม่นานแล้ว กาลิคจะรีบกลับมาอยู่กับอาขมนะ ไม่เหงานะ อาขมต้องเข้มแข็ง " ไอ้ตัวแสบพูดเหมือนตอนที่ผมปล่อยให้มันอยู่ที่บ้านเลย
“ อื้ม " ตอบมันได้สั้นๆ ก่อนจะก้มลงกอดมัน ไม่อยากจะให้ไปไหนเลย แม้แต่ตัวผม ผมก็ไม่อยากจะไปไหนทั้งนั้น อยากจะอยู่กับมัน อยู่ด้วยกันทั้งวันเลย
“ อาภาพ อาภาพต้องดูแลอาขมด้วยนะ "
“ ครับผม จะดูแลให้นะ " ภาพบอกก่อนจะขยี้หัวมัน
“ มึงอะ ดูแลตัวเองนะ อย่าให้ใครแกล้งละ " ผมบอกหัวหอมก็พยักหน้ารับ
“ ครับผม ไม่ต้องต้องห่วง " แต่พูดแบบนั้นแหละ ที่ห่วงที่สุดเลยรู้มั้ย ไอ้ตัวเล็ก
.............................................................
จะไปโรงเรียนแล้วลูกกกกก ตั้งใจเรียนนะคนดี #กอดน้อง คุณแม่ขมก็ดูห่วงลูกชายตัวเองมากเลยนะคะ #แซว
ส่วนคุณพ่อภาพก็ดูสมเป็นพ่อจริงๆ แบ่งโซนได้ดีค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนส่งลูกเข้าโรงเรียนจริงๆเลย #โบกผ้าเช็ดน้ำหมากให้กาลิค
ตอนหน้ามาอ่านกัน ว่าไอ้ตัวเล็กไปโรงเรียนวันแรก จะเป็นยังไง จะเกิดเรื่องวุ่นๆ อะไรขึ้นอีกมั้ย
ฝากแท็ก #มมชลก ในทวิตด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์ค่าา