[18+] ▪▪▪ เดนเด็กช่าง ▪▪▪ {:CH11.5 น่ารัก? |05.03.60|P.4
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [18+] ▪▪▪ เดนเด็กช่าง ▪▪▪ {:CH11.5 น่ารัก? |05.03.60|P.4  (อ่าน 28144 ครั้ง)

ออฟไลน์ xkoxko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เขียนดีมากๆอะ คือจินตนาการตามเป็นฉากๆเลย ธันเท่มากๆ อยากอ่านต่อแล้ว ฮือออออ :z10: ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ ณ จันทร์

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คิดถึงเรื่องนี้จังค่ะ มีเพจมั้ยคะ  o13 o13 o13

ออฟไลน์ mam.nalok

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตามคะตาม

ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ซ้อธันนนนนน
แม่งโคตรโหดดดดด

กานแม่งสมควรโดนแหละ

ออฟไลน์ GOOD•DAMN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
5.2 บทลงโทษ


เขากับธันนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ยี่สิบนาทีที่แล้ว ทางแดนบดินทร์ติดต่อไปยังสว่างนิมิตร เพื่อแจ้งให้ทราบถึงพฤติกรรมของนักศึกษาแลกเปลี่ยน ติวลอบยิ้มมุมปาก เห็นว่าคราวนี้คนรับโทษก็คือคนที่กระทำผิดไม่ใช่เขา เขาถึงได้นั่งสบายอารมณ์และดูไม่ทุกข์ร้อนอะไรเท่าไหร่ ส่วนอีกคนที่นั่งข้างกัน แหงสิมันผิด แต่ก็ใช่ว่าจะกลัว ตรงกันข้าม มันหลับไปตั้งแต่สิบนาทีที่แล้ว

ติวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นไปพรางระหว่างรอคณะกรรมการกับฝ่ายปกครองเรียก เช็คนู้น เล่นนี่ พอเบื่อจัดๆ เลยถ่ายรูป เขาใช้กล้องหน้าบันทึกภาพหน้าตัวเอง แม้งย้อนแสงอีก เออ เอาเข้าไป เขาหันไปเรื่อยจนกว่าจะได้มุม และในมุมที่ว่า มีส่วนเกินติดเข้ามาในภาพด้วย ภาพที่บันทึก จึงเป็นภาพเขาที่ทำหน้าซังกะตาย กับ ศพหน้ายับที่หลับอยู่เป็นแบ็กกราวน์

"พิสิษฐ์ เข้ามา" อาจารย์หญิงวัยกลางคนเดินออกมาเรียกเขาเข้าไปพบ ในเมื่อเรียกเขาคนเดียว เขาเลยไม่ได้ปลุกศพข้างๆ เข้าไปด้วย เลยปล่อยมันนอนอืดรออยู่ข้างนอก

...

เสื้อช็อปสีกรมสี่คนเดินแยกตัวออกมาจากกลุ่มเด็กมุง หลังจากพยาบาลหามพวกไอ้กานขึ้นรถไปโรงพยาบาลครบทุกคนแล้ว หนึ่งในนั้นหน้านิ่วคิ้วขมวดครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขากำลังชั่งใจกับเรื่องบางเรื่อง จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาเห็น มันมีน้ำหนักพอที่จะทำให้เขาปักใจเชื่อว่า ไอ้เด็กแลกเปลี่ยนนั่นคือ "จงอางดำ"

"มีอะไรปะวะไอ้ตั้ม ดูทำหน้ายังกะแม่จะมีผัวใหม่" เพื่อนมันทัก แต่ดูเขาจะไม่ได้ยินด้วยซ้ำ กลับคิดเรื่องนั้นซ้ำไปซ้ำมา

"เหี้ยตั้มหูแตก" เพื่อนอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับขำอุบกันทั้งสามคน ก่อนที่จะขำกันไม่ออกกับประโยคถัดมาของตั้ม

"กูว่าไอ้เชี่ยนั่นแหละ ใช่"

ทั้งสามคนหยุดหัวเราะก่อนจะหันมาทวงคำตอบ "ใช่ไรวะ?" หนึ่งในนั้นถาม

"จงอางดำ"

ทุกคนชะงักไป.. ก่อนจะพยายามหัวเราะแห้งๆ "เฮ้ย ไม่ใช่หรอก มันไม่กล้ามาเหยียบถึงนี่หรอก" คนแรกว่า ก่อนที่อีกคนจะสมทบ "ที่นี่มันแดนบดินทร์นะเว้ย" พร้อมกับหัวเราะพร้อมกันทั้งสามคน

"ก็เพราะเป็นมันไง มันถึงกล้า" ทุกคนเงียบไปอีกครั้ง ก่อนที่ไอ้ตั้มจะพูดขึ้นมาอีก

"แต่มันคงไม่ใช่หรอกมั้ง จุดเดือดของใครๆ ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น"

...

ธันได้สติอีกครั้งก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่คนเดียวซะแล้ว เขาลูบตาตัวเองปรับสภาพการมองเห็นก่อนจะมองดูรอบๆ ไม่มีใครอยู่ตรงระเบียงหน้าห้อง เว้นแต่เสียงข้างในยังดังลอดออกมาเป็นระยะๆ สงสัยวันนี้คุยกันแบบมีมารยาท ไม่ตะโกนเหมือนวันก่อนเลยจับใจความไม่ค่อยออกว่าคุยอะไรกันอยู่

เขาเห็นเงาคนในห้องกำลังจะเดินออกมา ประตูกระจกถูกกระชากให้เปิดก่อนที่จะปิดมันด้วยแรงโทสะ คนตรงหน้าจ้องเขาราวกับอยากจะฆ่าเขาให้ได้ในตอนนี้ มันโมโหจนหน้าเขียวกำหมัดแน่น

"แม้งเอ้ย!!!!" ติวสบถอย่างอัดอั้นในอารมณ์จนจะถึงขีดสุด เขาเก็บมันไว้ไม่อยู่อีกแล้วเลยหันหน้าเดินหนีไปอีกทาง

เกิดอะไรขึ้น? เขางงๆ กับท่าทางที่แสดงออกของติว เหมือนวีรกรรมที่ตัวเองก่อไว้เป็นแค่ความฝันจากการนอนกลางวันของเขาเมื่อครู่

...

"ไอ้เหี้ยเอ้ย!!!"

ติวโมโหจัด พอเดินมาถึงห้องก็ถีบเก้าอี้ในห้องพักล้มก่อนจะเดินไปถีบเก้าอี้ของไอ้ธันนั่นร่วงไปอีกตัว เขารู้สึกอยากระบายโทสะใส่มันจังๆ แต่ก็ไม่อยากให้เรื่องแย่ลงไปมากกว่านี้แล้ว แค้น! แค้นแมร่งฉิบหาย!! ไอ้พวกหัวหงอกก็เรียกเขาเข้าไปด่ากันสนุกปาก รุมกันอย่างกับอีแร้ง แต่กลับไม่เรียกไอ้ตัวปัญหาไปฟังห่าอะไรเลย! เขาโมโหมาก โมโหและพร้อมจะพาลกับทุกอย่าง

เขายกเก้าอี้ของไอ้ธันที่ล้มแล้วทุ่มขึ้นไปบนที่นอน เหลืออีกไม่กี่เซนต์ก็เกือบจะถึงหน้าต่างบานเกล็ด เขายกอีกตัวขว้างแมร่งใส่ตู้ล็อกเกอร์เหล็กที่เป็นที่เก็บของๆ ธันจนเสียงดังสนั่น ถ้าเขาเผาทุกอย่างที่รกตาได้เหมือนตอนอยู่ปีสอง เขาคงทำไปแล้ว แต่ตอนนี้เวลานี้ เขาทำอะไรไม่ได้เลยซักอย่าง!

เสียงหงืดพร้อมกับระบบสั่นของมือถือในกระเป๋ากางเกง เขาล้วงออกมารับสายก่อนจะตะคอกอย่างหัวเสีย "มีอะไรวะ!" เขาเงียบฟังครู่นึงแต่คิ้วหนาก็ยังขมวดเป็นปมอยู่แบบนั้น ก่อนที่เขาจะตะคอกเสียงอีกที

"เออ! เตรียมกระหรี่กับถุงไว้ให้ด้วย เอามาแมร่งให้หมด"

พอพูดจบเขาก็โยนมือถือลงบนเตียงก่อนจะเดินไปหยิบยางรัดผมเส้นสีดำ เขามองกระจกไปพร้อมๆ กับรวบผมเป็นหางม้า คิ้วดกเข้มตั้งแต่หัวจนถึงหางคิ้วลับกับตาคู่นั้น เมื่อเขาโมโหมันยิ่งดูดุดันขึ้นเป็นเท่าตัว จมูกหนาและโด่ง ริมฝีปากบางบึ้งตึงทำมุมเชิดขึ้น กล้ามเนื้อตั้งแต่ช่วงคอลงไปแสดงถึงความเป็นชายที่สมบูรณ์นั่น บวกกับคราบน้ำมันเครื่องที่เลอะอยู่ทั้งบนผิวและเสื้อตราห่านสีขาวมันดูไม่ได้สะอาดสะอ้านเท่าไหร่ นั่นล่ะคือเขาเอง

ติวปาดคราบน้ำมันดำๆ ออกจากแก้มก่อนจะเปลี่ยนเสื้อ เขาถอดเสื้อทิ้งไว้ที่พื้น ไม่อยากบอกตัวเองเท่าไหร่ว่าหุ่นนี่เซ็กซี่แค่ไหน แต่เห็นใครๆ ก็พูดกันว่าแบบนั้น

พอใส่เสื้อตราห่านสีขาวกับฉีดสเปรย์น้ำหอมเสร็จเรียบร้อย เขาคว้ากุญแจห้องกับกุญแจรถกำลังจะออกจากประตู คนที่เดินสวนเข้ามาไม่ใช่ใครที่ไหน เขามองมันแบบที่ถ้ามีมืดอยู่ในมือคงจะปักแมร่งเข้าที่เบ้าตาให้หายแค้น

อีกคนมองสภาพห้องก่อนจะเหล่มามองไอ้คนที่กำลังจะสวนออกมา ไอ้ติวเดินชนไหล่ธันออกไปอย่างไม่ยี่หระ เขามองมันจนกระทั่งมันขึ้นรถแล้วเหยียบจนฝุ่นโขมงออกจากที่จอด ธันเดินไปลากเก้าอี้ออกจากเตียงแล้วขึ้นมานอนต่อ เขาเสียพลังงานกับไอ้พวกเดนไปต้องพักผ่อนซักหน่อย

...

วันนี้แมร่งเป็นวันเหี้ยอะไรเนี่ย..

"หรี่ไม่มี" ไอ้ทัดบอกเขาเสียงอ่อย เขาอดกลั้นอารมณ์ที่จะไม่หันไปต่อยเพื่อนตัวเองไว้ "งั้นถุงยางกูล่ะ" เขาถามเสียงนิ่ง ไอ้กัสโยนมาให้เขากล่องเดียว ก่อนจะหยิบใส่กระเป๋าหลังกางเกงยีนส์

"พวกกูวนรถหาก่อนจะมาร้าน สงสัยวันหยุดกระหรี่แห่งชาติ ไปซ่องไหนก็ลาป่วย" ไอ้ดำว่า

"เอดส์แดกยกซ่อง" ไอ้โสนพูดหน้าระรื่นก่อนจะชะงักพอรู้ว่าเล่นผิดเวลา ไอ้ติวมองหน้าไอ้โสนจนมันหยุดหัวเราะ "เออ เดี๋ยวกูค่อยหาของฟรีแถวนี้เอา" เขาพูดจบก็ยกซดหมดแก้ว "แล้วไหนวะเจ้าภาพ กูยังไม่เห็นหัวมันเลย"

"กูนี่แหละเปิดขวด" ไอ้ดำตอบเขา "ไอ้จ๊อดป๊ามันป่วย สงสัยไปเฝ้าพินัยกรรม" ไอ้คนถามไม่ได้สนใจจะฟัง เขาชงเข้มๆ แล้วกระดกหมดไปอีกแก้ว

อีกแก้ว..

และอีกแก้ว

เจ้าภาพและพวกในวงนั่งมองมันกินล้างกินผลาญนิ่งๆ คนเดียวก็เกือบครึ่งขวดแล้ว โซดาขวดเดิมยังเหลือก้นขวด ตอนโมโหแมร่งแดกเหล้าเปลืองฉิบหาย ดำรู้ว่าเพื่อนโมโหจัดเลยไม่ห้าม แต่..

"เหลือให้พวกกูบ้างนะ แดกงี้จะเยี่ยวใส่ขวดให้พวกกูแดกต่อรึไง" ดำพูดหน้านิ่งก่อนจะค่อยๆ จิบ ไอ้เสกหันหน้าไปคุยเรื่องสัพเพเหระกับไอ้เก้าไอ้กัสไอ้ปาย ไอ้ทัดนั่งกินเงียบๆ กับไอ้โสน ส่วนอีติ๋ม(หิน) เดินนออกไปสั่งกับแกล้ม

ดำกระดำครึ่งแก้วแล้วหันมาพูดกับไอ้ติว "มึงว่ามันยังอ่อนเหมือนที่มึงคิดอยู่มั้ย" แค่นี้ก็รู้ว่าไอ้ดำหมายถึงใคร "ถ้ามันไม่แน่จริง มันไม่เข้ามาอยู่กลางดงศัตรูหรอก" ดำพูดให้เพื่อนคิดตาม

"มันจะห้าวมาจากไหนกูไม่สน แต่มันทำกูเดือดร้อน!" ไอ้ติวเดือดขึ้นมาอีก ถีบถังน้ำแข็งบนเก้าอี้กระเด็น "อย่าพูดถึงมันตอนนี้ได้มั้ย เสียรสเหล้า" แล้วเขาก็กระดกหมดแก้วอีกที

"แต่กูต้องพูด" เดี๋ยวเหล้ากูหมด

ไอ้ติวลุกขึ้นยืนอย่างเหลืออด เขาเอาเท้าเขี่ยเก้าอี้ให้พ้นทางแล้วเดินออกจากวงอย่างหงุดหงิด เพื่อนข้างหลังส่ายหัวไม่ไหวจะเคลียร์ ไอ้ดำยกอีกแก้วก่อนจะลุกเดินตามไป เขารีบก้าวจนจับบ่าไอ้ติวได้ เขากัดฟันกรอดก่อนจะหันหมัดมาจะตะบันหน้าไอ้ดำ

หมัดนั้นพุ่งตรงใส่หน้าดำเต็มๆ เขาถึงกับหน้าหันกระเด็นไปชนอีกโต๊ะ คนในร้านแตกฮือ รวมไปถึงพวกไอ้เก้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ไอ้ดำตั้งหลักได้ก็พุ่งหมัดเข้าใส่ไอ้ติวอย่างไม่ยั้ง ผลักกันต่อยผลัดกันถีบ พอทั้งคู่เริ่มลงไปฟัดกันกับพื้น พวกไอ้ทัดไอ้เสกก็กรูกันเข้ามาแยกทั้งสองคนออกจากกัน พวกมันลุกมาทั้งโต๊ะจับเพื่อนแยกแต่ไม่ยักจะห้ามอยู่ ดำดิ้นจนหลุดแล้วกระโดดถีบไอ้ติวกับไอ้เสกไอ้เต้อไอ้ปายกระเด็นไปด้วย

ไอ้ดำกัดฟันมองหน้าเพื่อนที่ล้มอยู่ที่พื้น ถ้ามันไม่เมา เขาคงจะไม่ชนะไอ้ติวแบบนี้แน่เขารู้ดี และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต่อยกันเองซะด้วย มันเกิดขึ้นบ่อยกว่าไปต่อยคู่อริด้วยซ้ำ

"ฟังที่กูกำลังจะบอกให้ดีนะ"

"..."

"ไอ้สวะนิมิตที่มึงคุม มันคือจงอางดำ"

พอไอ้ดำพูดจบก็ถ่มเลือดทิ้ง

นี่แหละสิ่งที่ไอ้ดำตั้งใจจะบอกกับเขาแต่แรก ถ้าอดทนฟังแต่แรกคงไม่ต่อยกันจนเกือบเละแบบนี้ ไอ้ติวลุกขึ้นตั้งหลักแล้วเสยผมที่ลงมาเกาะกะหน้า

"จงอางดำแล้วไง คิดว่ากูจะกลัวมันเหรอ" ติวเลิกคิ้วถาม

ไอ้ดำยิ้มแสยะ "อ๋อ กูลืมไป มึงกลัวแค่พ่อมึงคนเดียวนี่หว่า" ติวกัดฟันกรอดจะพุ่งเข้ามาจะต่อยไอ้ดำอีก แต่ถูกอีกสี่ตัวที่เหลือกระชากไว้ "ปล่อยกู!!! กูจะกระทืบปากมัน!!!"

พอจ่ายค่าเหล้ากับค่าเสียหายในร้านเสร็จ ไอ้ดำเปรยตามองเพื่อนก่อนจะเดินออกจากร้านไป ไอ้ติวสะบัดพวกไอ้เสกออกก่อนจะเดินแยกไปอีกทางไปขึ้นรถ ทุกคนรู้ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็จะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้วเลยแยกย้ายกันกลับ

...

ติวจอดรถอยู่หน้าม่านรูดตั้งแต่ยี่สิบนาทีที่แล้ว

"กี้ ห้านาที เจอกันที่เดิม.. ห๊ะ เออ งั้นก็เลิกกันนะ บาย" เขากดตัดสายทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า ไอ้เหี้ยเอ้ย!! นี่แมร่งจะไม่มีใครว่างมันเลยรึไง นี่ยังไม่ถึงสามทุ่ม อย่ามาตอแหลว่าออกจากบ้านไม่ได้กันนะเว้ย

"ฮัลโหล บิวเหรอ ว่างปะเดี๋ยวไปรับ...ออร์คิด...เห้ยเดี๋ยว" พอพูดชื่อม่านรูดเขาก็ถูกตัดสายใส่อีกครั้ง เขาทุบพวกมาลัยรถอย่างหัวเสียสุดๆ

วันนี้แมร่งเป็นวันเหี้ยอะไรเนี่ย!!!

เขาเหม่อมองเข้าไปในม่านรูด ก่อนภาพเหตุการณ์วันนั้นจะถูกฉายซ้ำอีกครั้ง เขาเริ่มสร่างจนกระทั่งตาลุกวาวเหมือนคิดเรื่องบางอย่างได้ ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปาก เขาหรี่ตาเจ้าเล่ห์เมื่อนึกถึงบทลงโทษ..

..

นึกแล้วเยี่ยวเหนียวขึ้นมาเลยทีเดียว



TBC.




*************

เห็นทีต้องชะลอการอัพลงบ้างละ เห็นแว้บๆ ว่าลงถี่เกิน 5555+
ไม่รู้ใครอ่านเรื่องนี้ละจำได้รึเปล่า ที่เราบอกว่ายังไงเรื่องนี้ก็ต้องเขียนให้จบ เราจะทำจริงๆ ให้ได้ตามนั้นนะ
อาจจะช้าหน่อย หายบ้าง แต่ตอนนี้กลับมาแล้วนะ  เย้

มีคนทวงถามเรื่องแฟนเพจ ก็มีแล้วนะ แต่แค่ไม่ใช่ชื่อ GOOD.DAMN ขออุปไว้เซอร์ไพรส์ทีหลังละกัน

วันนี้พอก่อนเนอะ เดี๋ยวมาลงอีก นี่ยังไม่ได้อ่านทวนของตอนที่แล้วเลย
ฝันดีจ่า

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
ลงถี่ดีต่อใจมาก ๆ ยิ่งทิ้งท้ายตอนนี้ ยิ่งอยากอ่านไปอีก
 :ling1:

ออฟไลน์ SiHong

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 484
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
สนุกมากค่ะ อ่านเพลินมาก

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
เจ้ยยยย !!!! มาบ่อย ๆ เย๊อะๆ มันดีต่อใจมากกว่ากันนา  :mew2: ว่าแต่ตอนต่อไปคือเค้าจะแซ่บกันแล้วแน่นวล  :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ Trystan

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอครับ สนุกๆ

ออฟไลน์ smmikie

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ปล่อยให้อยากแล้วจากไปปปป
จะอัพช้าลง แรงนะค่ะ ติดเรื่องนี้นะ อย่าทำร้ายกันแบบนั้น

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
มาบ่อยๆ เยอะๆ ดีค๊าาา ชอบๆ

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อัพบ่อยๆดีแล้วครับ อยากอ่านอีก

ออฟไลน์ GOOD•DAMN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
ตอนที่ 6 เจาะไข่จงอาง



เขาไม่ลืมที่จะไม่หยิบอาวุธในเก๊ะหน้ารถ ..เจลหล่อลื่น แล้วล้วงกล่องถุงยางที่แบนแต๊ดแต๋ในกระเป๋าหลัง ติวไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังทำอะไรบางอย่างที่สามารถเปลี่ยนชีวิตเขาทั้งชีวิตได้เลย

ผู้ชายกับเซ็กซ์ ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นได้ คนระยำที่ผ่านอะไรต่อมิอะไรมาอย่างเขา กับแค่อัดถั่วดำซักครั้งมันจะแค่ไหนกันวะ!

ติวเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องที่เก้าอี้ยังล้มอยู่เหมือนเดิมไม่เจอใครเลยมองไปที่ห้องน้ำ ปะตูปิดเงียบเชียบแต่ไฟเปิดอยู่ เขารู้สึกได้ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ในห้องน้ำ ติวมองเจ้าเล่ห์ยิ้มมุมปากก่อนจะทุบประตูเสียงดัง

ปัง ปัง

"ออกมานี่ดิ!"

ปัง ปัง ปัง

"กูบอกให้มึงออกมา!!" ติวตะโกนอยู่หน้าห้องน้ำ ซักพักประตูก็เปิดออก เขาลดตามองลงต่ำ หยดน้ำพราวเกาะบนแผงอกขาวๆ นั่นเลยจนถึงสะดือ ธันออกมาจากห้องน้ำที่มีผ้าขนหนูผืนเดียวปิดคลุมส่วนล่างเอาไว้ ติวมองต่ำลงอีกก็สังเกตุเห็นบางอย่างก่อนจะเหลือบตาขึ้นสบตาไอ้ธัน

!!!

เขาพลันรู้สึกเหมือนวันนั้นขึ้นมาอีก

..รู้สึกอันตรายอย่างบอกไม่ถูก

เสียงไอ้กานแว่วในหู "... ถั่วดำของโปรดมันนิ"

ถ้าซัดกันตอนนี้ ผ้าขนหนูผืนเดียวนี่เสียเปรียบเต็มๆ เขาเบี่ยงตัวจะเดินออกมาจากห้องน้ำ พอพ้นหลังไอ้ติวเขาก็กระโจนไปหยิบประแจเลื่อนบนโต๊ะไอ้ติว เขาคว้ามันได้ทัน แต่ไอ้ติวก็คว้าผ้าขนหนูเขาได้ทันเหมือนกัน

มันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เมื่อธันยกประแจจะทุบหัวไอ้ติวแต่มันหลบแล้วล็อกตัวเขาทุ่มลงกับเตียงก่อนจะล็อกข้อมือข้างที่ถือประแจเลื่อนแล้วใช้นิ้วโป้งกดเส้นเอ็น ไม่นานมือธันแทบไม่รู้สึก ติวปล่อยข้อมือข้างนั้นจะปัดประแจเลื่อนให้พ้นมือธัน มันไม่เป็นผล ธันยังพยายามจะฟาดเขาอีกครั้ง เขายกแขนป้องก่อนจะยื้อแย้งประแจเลื่อนกัน

ติวใช้ขาข้างหนึ่งแทรกกลางลำตัวธันก่อนจะใช้หัวเข่าดันจุดยุทธศาสตร์ มันได้ผล ธันชะงักจ้องหน้าเขา ติวยิ้มเหมือนกำลังจะชนะก่อนจะกระชากประแจเลื่อนหลุดจากมือธันแล้วโยนไปหน้าประตูห้อง ติวแทรกขาอีกข้างเข้ามาระหว่างขาทั้งสองของไอ้ธันป้องกันการถูกเจาะไข่ในขณะที่หัวเข่าก็ยังนวดผ่อนหนักเบาอยู่ที่จุดเดิม

เหมือนเขาไม่ใช่แค่ต่อสู้อยู่กับร่างที่คร่อมอยู่ด้านบนอย่างเดียว แต่ทว่าเป็นตัวเองด้วย ธันแทบจะอดกลั้นอารมณ์ไม่ให้มันเกิดไม่ได้เลย เขารู้สึกกำลังจะเดือด แต่จะทำยังไงในเมื่อความกำหนัดมันมีมากกว่า..

มันทั้งแค้น ทั้งเงี่ยน อยากระบายปนๆ กับอยากเอาคืนไอ้เหี้ยธัน วิธีนี้นี่มัน all in one ชัดๆ เขาได้ และมันเสีย ทุกอย่างลงตัวพอดิบพอดี ติวนอนทาบธันแล้วใช้จังหวะนั้นปลดตะขอรูดซิบกางเกงยีนส์ เขาเบียดหน้าท้องชนกลางลำตัวของมันเพื่อที่จะใช้มือทั้งสองข้างดึงกางเกงออกให้พ้นทาง เขายันร่างด้วยขาดันตัวขึ้นสูงก่อนจะใช้เข่าอีกข้างดันซ้ำเข้าที่เดิม พร้อมกับกระซิบข้างหู

"จงอางดำแล้วไง กูจะเจาะไข่แดงมึงวันนี้แหละ"

เขาเริ่มรุนแรงกับร่างที่แน่นไปด้วยมัดกล้าม ไม่นุ่มนิ่มบอบบางเหมือนของผู้หญิง ที่จะบีบจะจับก็เขียวช้ำไปหมด แต่นี่ตรงกันข้าม เขาสามารถบีบเคล้นได้อย่างเต็มแรงเสี้ยน

เสียงหอบหายใจดังหืดเหมือนกำลังจะคลุ้มคลั่ง ติวก้มลงฝังรอยฟันที่หัวไหล่ขวาก่อนจะดูดซ้ำที่เก่า กลิ่นสบู่ยังอบอวลอยู่ใต้วงแขน เขาก้มลงจูบอย่างลืมตัวก่อนจจะเลื่อนริมฝีปากร้อนผ่าวมาที่ยอดอก ทันใดนั้น ธันรู้สึกประหลาด และปฏิเสธความรู้สึกนั้นไม่ได้เลย

เขารู้สึกว่าแพ้ก็วันนี้เอง รู้สึกได้เลยว่าไม่มีอะไรปกปิดจุดอ่อนนี้ได้แม้ว่าจะแกร่งแค่ไหน นี่มันเป็นที่สุดของจุดอ่อนชัดๆ! เขาหนีไม่พ้นเมื่อมือข้างนั้นของมันโอบอุ้มอยู่ที่ส่วนที่เคยซ่อนเร้น ที่ตอนนี้ไม่มีอะไรปิดป้อง เขานอนรับความพ่ายแพ้อย่างน่าสมเพชที่สุด เหมือนศักดิ์ศรีลูกผู้ชายถูกทำลายลงง่ายๆ เจ็บใจ แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่เหลือสติใดๆ ที่จะขัดขืนมันได้อีก

พอนึกออกว่าการเข้ามาอยู่ในรังศัตรูต้องมาเจออะไรแบบนี้ คิดว่ามันน่าจะได้ซัดกันก่อนจะเอาตัวรอดได้ แต่สถานการณ์ถูกบีบให้เขาแพ้ ติวสาวอุ้งมือขึ้นลงเป็นจังหวะ นิ้วชี้กับนิ้วโป้งที่กำเป็นกระบอกถูชนคอหยักครั้งแล้วครั้งเล่า ธันข่มตาสะกดอารมณ์

เจลเย็นๆ ถูกโบกลงข้างหลังก่อนที่จะถูกรุกรานด้วยนิ้วเป็นลำดับต่อมา เขารู้ตัว่ากำลังจะเจออะไรต่อไปแต่ร่างกายกลับแน่นิ่งคิดอย่าถี่ถ้วน ธันมองหาของแต่จะฟาดหัวไอ้เหี้ยติวแต่ที่ใกล้มือที่สุดก็มีแต่หมอน ขาทั้งสองข้างของเขาถูกยกขึ้นวางบนหน้าตักไอ้ติวแล้ว เขากำลังรอจังหวะ

ทันทีที่ติวก้มตัวลงมาหาเขา ธันรวบรวมแรงสุดท้าย ยกหัวขึ้นโหม่งหัวไอ้ติว ก่อนจะเอื้อมมือไปให้ถึงแถ้วเซรามิคที่วางอยู่บนโต๊ะ ความพยายามสูญเปล่าเมื่อธันถูกกระชากแขนอีกข้างกลับมา ติวใช้มือล็อกตัวธันเอาไว้ก่อนจะเลื่อนศอกมากดคอหอย

"อย่าให้กูใช้ความรุนแรง" ติวจ้องตาลึก ธันจ้องกลับอย่างไม่เกรงกลัว เขาไม่ยอมรับเรื่องระยำแบบนี้เป็นความพ่ายแพ้แน่ๆ ติวเลิกเบามือกับส่วนอ่อนไหว เขาถอนนิ้วออกก่อนจะจับหัวใจที่ใส่ถุงยางพร้อมอยู่แล้ว เสือกเข้าไปในโพร่งอุ่น

!!!

ธันถลึงตามองเขาก่อนจะขบกรามอดทนกับความเจ็บปวด มันกำแขนทั้งสองของเขาผ่อนปรนความเจ็บที่กำลังมากขึ้นเมื่อติวเริ่มรุกเข้าเรื่อยๆ ไม่มีถอย ธันหายใจไม่ออกเลยเผยอปากหอบโกยอากาศ โดยที่ตาคู่นั้นก็ยังจ้องอาฆาตไอ้ติวอยู่อย่างไม่ลดละ

ทันทีที่ติวดันเข้าไปจนสุด เขาซบลงกับซอกคอธันก่อนจะหอบหายใจเหมือนสัตว์ป่า ด้วยความรังเกียจ ธันใช้หัวพยายามดันให้ติวเอาหน้าออกไปให้พ้นจากซอกคอเขา จากนั้นก็เริ่มต่อต้านด้วยการผลักอก

นั่นเป็นการบังคับให้ติวต้องกอดธันอย่างช่วยไม่ได้ เขาเริ่มขยับเอวบดเนื้อเบียดโพร่งอุ่น อีกครั้งที่ถูกบั่นกำลังด้วยจุดอ่อน เรี่ยวแรงเหลือน้อยลงทุกที การโยกเอวเบียดซ้ำลงที่เดิมทำให้สติเขาเริ่มเสียการควบคุม จังหวะเนิบนาบทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มตาม ธันยังพยายามปรือตาจ้องไอ้กามตรงหน้า

พอจังหวะของทั้งคู่เริ่มสอดคล้องกัน ธันสติหลุดปล่อยมันทำตามใจชอบ ติวคลายกอดเมื่ออีกคนไร้การขัดขืน เขาเท้าแขนดันตัวขึ้นตั้งหลักเพื่อให้อยู่ในท่าที่เหมาะ เขาถอดเสื้อโยนไปบนโต๊ะ ธันปรือตามองเห็นภาพเบลอๆ หุ่นหนาของมันก้มลงคร่อมตัวเขาอีกรอบ ธันขมวดคิ้วไม่ยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้น

'รู้สึกดีจนอยากตาย'

ติวมองธันแล้วรู้สึกตื่นตัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันขมวดคิ้วแล้วเริ่มเม้มริมฝีปากไม่ให้เสียงเล็ดลอด นั่นยิ่งกระตุ้นให้เขาอยากทำให้มันหมดความอดทนไม่ได้เข้าไปใหญ่ ติวสาวท่อนของมันไปด้วยตอนโยกเอว จังหวะนั่นเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ หัวใจเต้นถี่รัวเหมือนเสียงกลองที่โหมกระหน่ำดังอยู่ในอก

เมื่ออารมณ์อยู่เหนือทุกอย่าง จุดสุดยอดอยู่ใกล้แค่ชั่วครึ่งจังหวะ ติวอัดกระแทกสุดแรงเสี้ยนส่งท้าย เขาเกร็งไปทั้งตัวในขณะที่ธันหันไปกัดผ้าห่มที่พับอยู่ใกล้ๆ พยายามกลืนเสียงตัวเองไม่ให้เล็ดลอด คิ้วขมวดนั่นคลายลงก่อนจะเลิกขึ้นสูง เขาคายผ้าหอบโกยอากาศเหมือนคนเพิ่งพ้นจากใต้น้ำ ติวหมดแรงจนตาพร่ามัว มองคนตรงหน้าที่กำลังเผยอปากหายใจ

เขาจ้องริมฝีปากนั่น ก่อนจะตัดสินใจก้มลงไปจูบ ..

!!!!

ติวสะดุ้งตัวโยน ก่อนจะรู้ตัวว่าเผลอหลับไปในรถ เขาขนลุกซู่ไปทั้งตัวก่อนที่จะรู้สึกเปียกแฉะแปลกๆ ในกางเกงเป็นลำดับต่อมา

เฮ้ย!! นี่ฝันเหรอเนี่ย! เขาแค่คิดนะ แค่คิดเฉยๆ ถึงกับเก็บเอาไปฝันเป็นตุเป็นตะเลยเหรอ ติวสะดุ้งขนหัวลุก ในความฝันนั่นเหมือนจริงมาก แล้วเขาเองก็สุุดโต่งในฝันนั่นอีกต่างหาก

เขารีบลงจากรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ ห้องพักในสถาบันด้วยสติที่ไม่เต็มร้อย ถึงจะสร่างเมาแล้วก็เถอะ ในหัวเอาแต่นึกว่าฝันบ้าฝันบออะไรวะ ทั้งชีวิตเขาทำเรื่องแบบนั้นแค่กับผู้หญิง แล้วในฝันนั่นอะไรกันวะนะ

ติวเปิดประตูเข้าไป พอดีกับที่เห็นธันนั่งเอามือลูบปากอยู่บนเตียงก่อนจะหันมาจ้องเขาอย่างตื่นตระหนก

เขาเองก็ตกใจ ปฏิกิริยาแบบนั้นมันทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้

'หรือว่ามันเองก็ฝันแบบเดียวกันกับเขา???'

เฮ้ยยยย..

เฮ้ยยยยยยยย..

ธันเอามือลงก่อนจะเสมองไปรอบห้องแล้วถึงกลับมาสบตาติวที่กำลังจ้องเขาอยู่อย่างไม่ละสายตา มันรู้สึกแปลกๆ เวลาจ้องกลับว่ะ ทำไมถึงได้รู้สึกไม่เป็นตัวเองแบบนี้วะ มันก็แค่เรื่องเพ้อเจ้อเท่านั้นเอง ธันพยายามจะไม่คิดอะไร แม้ว่าอารมณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นและจบลงในความฝันนั่นแล้ว แต่ว่าทำไมความฝันถึงส่งผลถึงความรู้สึกในตอนนี้

เขาไม่รู้หรอกว่ามันเป็นอะไร แต่อาการแบบนี้มันเหมือนกับตอนนั้นไม่ผิด ..

ดูเหมือนมันกำลังเขินโง่ๆ แบบไม่รู้ตัว

ติวลอบยิ้มชั่วร้าย ดูเหมือนว่าเรื่องสนุกจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ โธ่..ไอ้ลูกงูน้อย ติวเดินไปที่เตียง เขาจ้องธันแบบโคตรคุกคามอย่างเห็นได้ชัด ธันไม่ละสายตาหนี เขาจ้องกลับอย่างไม่กลัวแม้ว่าจะซ่อนมันไว้ไม่มิดแล้วก็เถอะ

'ไอ้เชี่ยนี่ตลกดีว่ะ' เขาหัวเราะในใจก่อนรอยยิ้มนั้นจะปรากฏบนใบหน้าเข้ม

ติวถอดเสื้อต่อหน้าเขาพลางยักคิ้วยียวน ก่อนจะหันหลังกลับเดินเข้าไปในห้องน้ำ ธันหน้านิ่งมองตามแผ่นหลังนั้นจนกระทั่งมันปิดประตูห้องน้ำ แมร่งไปได้ซักที เขาผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ อย่างเหนื่อยหน่าย

ไอ้เหี้ยนี่แมร่งเป็นอะไรมากปะวะ ตอนก่อนออกไปนี่จ้องเขาตาขวางอย่างกะจะฆ่า แถมเหวี่ยงเขวี้ยงข้าวของกระจุยกระจาย กลับมากลิ่นเหล้าหึ่งแล้วยังมายิ้มพิลึกๆ จนน่าขนลุกอีก ท่าจะเมาจนประสาทแดกแล้วไอ้นี่

ทำไมเขารู้สึกกลัวมันแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ มันไม่ใช่แบบที่กลัวถูกรุมกระทืบ แต่หากมันเป็นอารมณ์กลัวของผู้ชายที่เรดาห์ตรวจเจอสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ากระเทย หรือไม่ก็เกย์อะไรเทือกๆ นั้นกำลังคุกคาม หึ่ย ไม่หรอก มันก็เอาผู้หญิงเหมือนผู้ชายปกติ แล้วมันก็ไม่มีมีท่าทางว่าจะเข้าข่ายกระเทยเลยด้วยซ้ำ นึกภาพตามแล้วอ้วกแทบแตก

'แล้วไอ้ฝันอุบาถว์ๆ นั่นอะไรวะ?' เขานึกขึ้นได้ แล้วภาพในฝันนั่น.. ก็ทำเขาตกสู่ภวังค์อีกครั้ง

...

สายๆ วันเสาร์ติวตื่นมาก็ไม่เจอใครแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องน้ำก็ไม่เจอ เดินออกไปตรงระเบียงที่วางช่องแอร์ก็ไม่เจอ เฮ้ย มันหายไปไหนของมันวะ เขาใส่รีบใส่รองเท้าแตะเดินจ้ำออกจากห้องทั้งๆ ที่ใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ก่อนจะเห็นมันเดินถือตะกร้าผ้าออกมาจากตึกใหญ่ ติวชะลอฝีเท้า มองธันที่กำลังเดินมาทางเขา

"กูไม่ได้หนี แล้วกูก็จะไม่หนี" ธันหยุดเพื่อพูดแค่นั้นก่อนจะเดินสวนไป ติวหันกลับไปถาม "นั่นผ้ามึงคนเดียวเหรอ" ธันสวนทันควัน "แล้วกูขี้ข้ามึงรึไง มือตีนมีก็ซักเองสิวะ"

ติวรู้สึกหน้าแหกนิดหน่อยก่อนจะเดินตามหลังมาห่างๆ

ระหว่างที่ธันกำลังตากผ้าอยู่ลานกลางแจ้ง ติวใส่เสื้อทั้งๆ ที่น้ำยังไม่อาบ เขามองธันแล้วคิดไปเรื่อย งานบ้านไอ้นี่ไม่เลวเลยนะ ตอนตื่นมาถึงจะไม่ตั้งใจสังเกตุก็รู้ว่าห้องสะอาดขึ้นเยอะกว่าตอนที่เขาอยู่คนเดียว ผ้ามันก็เอาไปซักมือที่ห้องน้ำตึกใหญ่เพราะมันเป็นอ่างปูนยาวๆ ต่อกันหลายๆ ก๊อก ที่ห้องพักกับตึกหญ่นี่ก็ไม่ได้ใกล้กันเลยมันนี่ก็พยายามเนอะ เขาส่งซักรีดตลอด ไม่ก็เอากลับไปเปลี่ยนที่บ้าน ทำเองไม่เป็นหรอกเรื่องพรรค์นี้

งานบ้านไม่เลว การบ้าน(ในฝัน)ก็ไม่เลว นี่มันคุณสมบัติศรีภรรเมียชัดๆ!

"เหี้ยเอ้ย นี่กูคิดบัดซบอะไรอยู่เนี่ย" เขาหลุดพูดออกมา

ติวเพ่งพิจารณารูปร่างธัน มันสูงเกือบเท่าเขา นั่นคือร้อยแปดสิบอัพแน่ๆ เพราะเขาน่าจะสูงกว่าซักห้าเซนต์ได้ อย่าแปลกใจไปเลย เขาอายุสิบเก้าจะยี่สิบปีนี้แล้ว เพราะมอสามติดร. กับศูนย์รวมกันเกือบยี่สิบตัว แก้เป็นปีๆ กว่าจะรอดมาต่อปวช. ผิวมันก็ไม่ขาวมาก แต่ก็ไม่คล้ำ ดูสะอาดดี ตัวไม่หนาเท่าเขาแต่ก็เป็นผู้ชายรูปร่างกล้ามเนื้อโอเคคนหนึ่ง

โปรไฟล์ของจงอางดำ ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อนิดหน่อย เรื่องที่เล่าต่อๆ กันมามันดูขัดแย้งกับตัวมันเอง มันน่าจะเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ไม่ยุ่งกับใครก่อน มีข้อนี้แหละที่ตรงกับคุณสมบัตินั้น แต่เรื่องอื่น .. มันก็ดูกตัญญูต่อแม่ของมัน ไม่เห็นเหมือนกับเรื่องของ 'จงอางดำ' ที่เค้าเอาไปพูดกันเลยซักนิด

...

คนอย่างไอ้นี่อ่ะเหรอ จะ 'ฆ่าพ่อตัวเอง' ตั้งแต่อายุสิบสี่


TBC.



รู้สึกฟินขึ้นเรื่อยๆ ..
เผื่อใครหลงเข้ามาอ่านใหม่ ที่เห็นลงถี่ๆนี่เป็นรีรันนะ เดิมเขียนไว้ถึงตอนที่ 11 ถ้าพ้นตอน 11 ไปความถี่คงจะน้อยลง  :m15:
ตอนนี้คนเขียนกำลังอ่านทำความคุ้นเคยกะภาษา ลืมจริงๆ เนี่ยกลัวเขียนแย่ลงตอนนี้พยายามซึมซับอยู่เลยลงช้าหน่อย   :serius2:

ติดตามชมตอนต่อไปป  :mew1:


ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อุ้ย....นึกว่าเขาได้กันแล้วจริงๆ แค่ฝันเองหรอ ?
แต่ฝันตรงกัน อิย๊ะๆ มันคืออารายค๊าาาา
รอตอนต่อไปนะค่ะ ^^

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3
 :hao6:
ฝันตรงกัน ทำให้แต่ละคนมองกันแปลกๆ
ถ้าเป็นจริงเมื่อไหร่ ก็หายแปลกไปเองแหละ

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
อ่าวเฮ้ยยยยย!!!! ไม่เหมือนที่คิดนิหว่า   :o9:

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
เย้ๆ กลับมาแล้ววๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อัพถี่ๆ ก็ดีแล้วค่ะ.  บางเรื่องหายไปนานเหมือนอารมณ์ไม่ต่อเนื่อง. ความสนุกลดลงไปเยอะเลยค่ะ

ออฟไลน์ GOOD•DAMN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
ตอนที่ 7 คนพิเศษ


วันอาทิตย์ของสัปดาห์แรกน่าจะดูไม่ค่อยแตกต่างจากวันอื่นๆ เท่าไหร่ ธันตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดตามปกตินิสัย เพราะต้องเป็นคนไปขนผักจากรถขายส่งที่จะมาส่งท้ายตลาดตอนหัวรุ่ง เขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกเป็นห่วงคนข้างหลัง หญิงวัยกลางคนที่เขารักป่านนี้กำลังทำอะไรอยู่ เขาหันไปมองต้นกำเนิดเสียงที่กำลังกรนอย่างเมามันส์ กว่ามันจะตื่นก็น่าจะซักเก้าโมง ถ้าเขาออกไปช่วยแม่ขนผักกับจัดแผงซักหน่อยกลับมาก็น่าจะทัน เขาดันตัวขึ้นจากที่นอนอย่างระวังแล้วเดินไปล้างหน้า แล้วเดินไปที่ตลาดทันที

จะว่าไกลมันก็ไกล จะว่าใกล้มันก็ใกล้ ใช้เวลาเดินลัดเลาะตามซอยประมาณเกือบสี่สิบนาทีก็ถึงท้ายตลาด เขาเห็นแม่กำลังยกลังถั่วฝักยาวลงจากรถมาใส่รถเข็นอย่างทุลักทุเล ไอ้ลังถั่วฝักยาวที่เขาเคยยกมันสิบกว่าโลนะ แล้วไอ้พวกที่มากับรถขนผักแมร่งยืนกันนิ่งไม่คิดจะช่วยอะไร เขารีบเร่งเท้าเข้าฉวยลังคามือแม่ทั้งแบบนั้น ธันไม่พูดพล่ามทำเพลง เขารีบยกที่เหลือจนเสร็จในเวลาไม่นาน

ฟ้าเริ่มสางแล้ว แม่เข็นรถเข็นขายของโดยมีธันเข็นรถเข็นสองล้อจุตระกร้าสานไม้ไผ่แบบหยาบใช้ขนผักตามมาติดๆ แม่พูดกับเขาโดยที่ไม่ได้หันมาถาม "หน้าไปโดนอะไรมาอีกแล้วล่ะ"

"..." ธันไม่ตอบเพราะรู้ว่าแม่คงรู้อยู่แล้ว เขาเลยเข็นไปเงียบๆ จนถึงแผงขายผัก แม่พยายามจะจับหน้าเขาดูรอยช้ำพวกนั้นแต่เขาก็บ่ายเบี่ยงโยกหน้าหนีจนกระทั่งแม่เลิกตื้อจะดูนั่นแหละ เขาช่วยแม่จัดแผงเงียบๆ ไม่พูดไม่จากระทั่งจัดแผงเสร็จ

"ธันกลับแล้วนะ" เขาพูดกับแม่ แต่กลับมองไปรอบๆ แผงดูความเรียบร้อยแทน แม่มองมาที่เขา ในแววตานั้นมีรอยยิ้มเจืออยู่ด้วยก่อนที่แม่จะหยิบเงินในกระเป๋าเอี้ยมขายของส่งมาให้เขา ธันยกมือไหว้แล้วรับเงินสำหรับค่าอาหารอาทิตย์นี้ "ถ้ามีเวลาจะมาช่วยนะแม่" ธันสบตาแม่หน่อยนึงก่อนจะหลบตาแล้วหันหลังเดินออกมาเลย

พวกเขาไม่ได้คุยอะไรกันมากกว่านั้น แม่ได้แต่ระบายยิ้มแล้วส่ายหน้ามองตามหลังลูก


***


ติวละเมอตื่นขึ้นมาฉี่ พอจะเดินกลับมานอนต่อพอไม่เห็นธันถึงกับตาสว่าง นาฬิกาบอกเวลาตอนนั้นช่วงตีห้ากว่าๆ เขาขมวดคิ้วค่อยๆ นึกว่ามันหายไปไหนแต่เช้า แต่ก็ยังไม่ทำให้เขาว้าวุ่นเท่ามันหายไปตอนกลางวันเลยไม่ได้รีบร้อนจะหาตัวมันเท่าไหร่ ติวทิ้งตัวลงจะนอนต่อ แต่หลับตายังไม่ถึงนับหนึ่งถึงสิบเขาก็ลืมตาอีกครั้งพร้อมกับดีดตัวขึ้นไปล้างหน้าอย่างลวกๆ แล้วเดินไปที่รถทันที

เขารู้ว่าธันต้องมาช่วยแม่แต่เช้าแน่ๆ แล้วก็เป็นไปอย่างที่สันนิษฐานไว้ ติวขับรถเข้ามาทางท้ายตลาดก็เห็นมันกับแม่กำลังยกของกันอยู่พอดี เขาไม่ได้ลงไปแต่กลับดูลาดเลาคอยสังเกตุพฤติกรรมไปพลาง มันยกของลงจากรถไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เข็นรถเข็นกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปที่แผงแล้ววิ่งเข็นออกมาขนผักไปอีกอย่างขยันขันแข็ง ส่วนแม่มันก็คอยเช็คของ แล้วจ่ายเงินกับคนขาย ติวนั่งมองจนผล็อยหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีก็เห็นหลังมันไหวๆ วิ่งข้ามถนนเส้นตรงหน้าเขาไป ติวรีบสตาร์ทรถขับตามไปจี้ตูดแล้วบีบแตรใส่

ปริ๊นนนนนน ปริ๊นนนนนนน

ติวกดลากเสียงกวนประสาทธัน นึกว่ามันจะสะดุ้ง แต่เปล่าเลย มันเหล่มองนิดหน่อยก่อนจะเดินหลบขึ้นฟุตบาท คงเพราะโดนแบบนี้บ่อยอย่างไม่ต้องสงสัย ติวขับรถไปขนาบข้างแล้วเปิดกระจกเรียกมันขึ้นรถ

ธันหันหน้ามามองนิ่งๆ ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถ "เหี้ยนี่แมร่งทำตัวเป็นเหาบนหัวกูตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" ธันพูดสบถแบบจงใจให้ไอ้ติวได้ยิน ติวเหล่มองก่อนจะตอบแบบลอยหน้าลอยตา

"เออ ไปไหนไม่บอก กูจะตามแมร่งให้ยิ่งกว่าผัวมึงอีก คอยดู"

พอได้ยินแบบนั้น ธันถึงกับต่อปากต่อคำไม่เป็นไปอึดใจ "ผัวบ้านพ่อมึงสิ ไอ้เหี้ย" ติวหัวเราะครืดในคอ

ระหว่างทางที่ติวขับมาถึงทางแยก เขาเลี้ยวไปอีกทาง "เดี๋ยวกูแวะไปเอาของที่บ้านกูแปบนึงแล้วกัน มึงกินไรยัง" ติวถามขณะที่กำลังขับรถผ่านเข้ารั้วทางเข้าบ้านตัวเอง

"กูไม่กินข้าวเช้า" ธันตอบตาพลางมองลอดประตูบ้านเห็นหญิงวัยกลางคนยืนชะเง้อมองมาที่รถ ติวดับเครื่องปลดล็อกเบลท์ หันมาจ้องธัน "งั้นเดี๋ยวไปกินกัน รออยู่ในนี้แปบ"

"แล้วมึงจะถามกูทำเหี้ยอะไรวะ" ติวไม่รอฟังคำด่า รีบลงจากรถเดินจ้ำๆ เข้าบ้านแทบจะเดินผ่านคนในครอบครัวแทบเป็นธาตุอากาศ จากที่ธันหงุดหงิดได้ครู่เดียวแต่พอสังเกตุปฏิกิริยาของติวกับคนผู้หญิงซึ่งน่าจะเป็นแม่ของมันก็อดสงสัยไม่ได้

ติวเดินขึ้นมาบนห้องของตัวเองหยิบเสื้อผ้าสองสามชุดไปทั้งไม้แขวน หยิบแหวนรุ่นที่เป็นลายสัญลักษณ์แทนตัวเขากลับมาสวมที่นิ้วชี้ตามเดิมหลังจากที่ถอดลืมไว้ที่บ้านหลายวัน จังหวะที่เขาถือของกำลังจะเดินออกจากห้องนอนไอ้โทรศัพท์ก็สั่นแทรกขึ้นมาทันที ที่หน้าจอโชว์เป็นชื่อไอ้ดำ

"Kกระดกฟาดหน้ามึงรึไงถึงตื่นมาโทรหากูแต่เช้าเนี่ย" เขากรอกเสียงตอบราวกับเรื่องเมื่อคืนไม่ได้มีเรื่องบาดหมางอะไรกันมาก่อน เสียงปลายสายตอบกลับมา "พ่อกูใช้ไปเก็บดอก" มันพูดไปหาวไป

"ว่าแต่กู แล้วมึงอ่ะ ตื่นมาอมKจงอางแต่เช้าเลยนะ" ติวจิ๊ปากหมั่นไส้เพื่อน แมร่งทำไมมีแต่คนหาเรื่องเขาแต่เช้าเลยวะ ตะกี้ก็ไอ้ธันทีนึงละ ไอ้ดำเข้าเรื่องถาม "วันนี้มึงจะไปสโมสรพ่อมึงกับพวกกูมั้ย" ติวยิ้ม "แมร่งจงใจเน้นคำนั้นจังเลยนะไอ้สัส" ปลายสายหัวเราะร่วน "งั้นตามมาแล้วกัน ซักบ่ายสอง แล้วเย็นๆ ไปต่อร้านเหล้าปั่น โอเค ตามนี้"

"ได้ ว่าแต่ไอ้สโมสรพ่อกูเนี่ย เอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้มั้ยวะ" ติวแกล้งถามเพื่อน ไอ้ดำรู้ทัน "ถ้าหมายถึงหมาในปากมึงก็นะ กูว่าแมร่งแค่เดินผ่านก็หมดสิทธิ์ละ" ไอ้ดำหัวเราะยาวเลยทีนี้

"กูหมายถึง งู เว้ยยยยยยยย"

ติวพูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงอารมณ์ดีสุดๆ ไอ้ดำเริ่มหัวเราะฝืดๆ "โห ถ้ามึงพามันมาด้วย คอยกันพวกกูไม่ให้รังแกสัตว์เลี้ยงมึงเองแล้วกัน" ติวเดินไปเปิดตู้หยิบกางเกงว่ายน้ำออกมาสองตัวโยนไปวางกับกองเดียวกับผ้าที่จะขนไปด้วย "กูเอาอยู่แล้วกัน" ติวว่า

จบการสนทนาแค่นั้น ติวเก็บมือถือแล้วขนของลงไปชั้นล่าง เขาเห็นแม่กำลังจัดโต๊ะอาหาร เลยทำเป็นมองผ่านไป

"น้องสอบติดโรงเรียนจังหวัดแล้ว เย็นนี้กลับบ้านมาฉลองให้น้องหน่อยนะ"

เสียงแม่พูดกับเขา ติวไม่แม้แต่จะหยุดฟัง ประจวบเหมาะกับที่ชายวัยกลางคนน่าเกรงขามหน้าตาดุดันในชุดไปรเวทกำลังเดินเข้ามา เขาเดินสวนออกไปอย่างไม่ยี่หระ



ติวพาธันออกไปกินไข่กระทะเจ้าเก่ากับน้ำเต้าหู้ ทั้งที่ไม่ค่อยเต็มใจจะกินเท่าไหร่ แต่ก็ยอมกินเงียบๆ ระหว่างรอจนกว่าจะถึงเวลานัด ติวขับรถกลับมาที่ตลาดให้ไอ้ธันอยู่ช่วยแม่ ส่วนเขาก็นั่งอยู่ในแผงนั่นด้วยเพราะไม่รู้จะไปไหน

"ไอ้ธัน" ติวที่กำลังกดเล่นเกมส์ในมือถือเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง

เขารู้สึกไม่ชอบหน้ามันตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้ามัน อาจจะเคยเจอกันบ้างแต่ยิ่งมาเจอกันตรงๆ ยิ่งมองยิ่งเกลียดขี้หน้า ธันที่กำลังทอนเงินลูกค้าหันไปมองคนเรียก "อ้าว ไอ้เติร์ก" ติวหันไปมองธัน เห็นแววตามันวาววับดีใจที่ได้เจอไอ้เหี้ยนั่น ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปอีก

เหมือนจะรู้สึกได้ว่ามีสายตาอาฆาตจ้องมา ไอ้เติร์กเลยเหล่ไปสบตาตอบ.. อ้อ ไอ้เหี้ยเกียร์ (GEAR = ฟันฟือง) เขารู้จักมันในชื่อนี้แล้วพอจะรู้ด้วยว่ามันเป็นคนคุมประพฤติไอ้ธันเพื่อนสนิทเขา แล้วเติร์กก็ไม่ได้สนใจมันอีก เขาเดินไปสวัสดีแม่ แล้วเรียกไอ้ธันออกไปคุยส่วนตัวนอกร้าน "มึงออกมากะกูแปบดิ" เขาหันไปหาแม่ธัน "แม่ๆ ยืมตัวธันซักแปบนะแม่" พูดห้วนๆ กับแม่ตามประสา

ยิ่งเห็นยิ่งรกอกเขาแปลกๆ ยังไงไม่รู้พิกล ติวมองไอ้ธันที่ดูกระตื้อรือร้นจะออกไปคุยกับไอ้ห่านั่น แมร่งดูดีใจจนเนื้อเต้นแล้วล่ะมั้งน่ะ ถึงหน้าตามันไม่ได้แสดงออกชัด แต่การกระทำนี่แมร่งโคตรชัดเลยสัส ทำท่าเหมือนหมาวิ่งกระดิกหางตามตูดไอ้เหี้ยเติร์กไปติดๆ

"ทำเป็นระริกระรี้! จะติดเป้งเหรอสัส" เขาบ่นอุบเบาๆ แต่แม่ก็ยังได้ยินแถมยังแอบหัวเราะกับคำพูดเขา ติวสะดุ้งหันไปมองแม่ธัน เขาตกใจที่แม่ได้ยิน นี่เขากำลังด่าลูกต่อหน้าแม่อยู่นะ

แม่สบตากลับด้วยสายตาอ่อนโยน "แม่ไม่รู้หรอกนะ ว่าโรงเรียนของเราน่ะเป็นยังไง" แม่พูดพร้อมกับหันทำอย่างอื่นไปด้วย "แม่รู้แต่โรงเรียนเรากับธันไม่ถูกกัน" ติวฟังแม่พูดเงียบๆ "ศักดิ์ศรีเหนือทุกอย่าง ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่" จนกระทั่งแม่หันมาสบตาเขาอีกครั้ง

"ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว ทำไมถึงได้คอยมาดูแลคนของฝั่งตรงข้ามอย่างธันล่ะ" ติวสบตาแม่ธัน ตอบอย่างไม่ต้องคิด "ไอ้พวกหะ.. สถาบันเค้าให้ผมคอยดูมัน มันอยู่ในความรับผิดชอบของผม"

แม่ธันหัวเราะเบาๆ "ศักดิ์ศรี .. เหนือทุกอย่างไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้ยอมง่ายจัง" แม่ย้ำคำเดิมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

"แลกกับข้อตกลงบางอย่างที่ผมจะได้มั้งครับ" ติวตอบเสียงเนิบ แม่พยักหน้าคิดตาม

"งั้นแสดงว่าเราก็คงเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก" ติวรู้สึกเหมือนแม่กำลังจะหลอกด่าเขาอยู่ยังไงชอบกล

แม่ยิ้มกรุ้มกริ่มมองติวอย่างไม่เชื่อ เธอรับรู้ได้ว่าเด็กคนนี้ตั้งใจดูแลลูกเขามากกว่าหน้าที่เสียอีก เลยเริ่มลดระยะห่าง "ธันน่ะ เป็นคนไม่ค่อยชอบพูด แต่สีหน้าเค้าแทบจะเป็นคำตอบสำหรับทุกอย่างได้เลยล่ะ"

'นี่ขนาดไม่ค่อยพูดนะเนี่ย ต่อปากต่อคำทีนี่เก่งฉิบ' เขาคิดในใจ

"คนที่ทำให้ธันระเบิดได้ แม่นับถือเลยล่ะ เพราะมันไม่ใช่นิสัยเขาเลย"

ประโยคนั้นทำให้ติวนึกย้อนไปถึงเมื่อหลายวันก่อนที่มันมีเรื่องกับไอ้กายรอบสอง ตอนที่ธันผลักอกตะโกนใส่แล้วชี้หน้าเขา

'มึงนั่นแหละมาเสือกอะไรด้วย! มึงเป็นพ่อกูเหรอสัส นี่เรื่องของกู! มันต่อยกู ไม่ได้ต่อยแม่มึง ไม่ต้องมาเป็นเดือดเป็นร้อนแทน!!'

"ถึงธันจะหัวแข็ง แต่เขาเป็นเด็กที่เรียบร้อยสำหรับแม่ ถึงเขาจะโตขึ้น แต่เขาไม่เปลี่ยนไปจากตอนเด็กเลย" แม่พูดไปยิ้มไป ติวคิดตาม สิ่งที่แม่กำลังบอกเขา คงจะหมายถึง เขาไม่ได้มีพฤติกรรมเหมือนอย่างวัยรุ่นทั่วไป ที่ก้าวร้าวขึ้นเรื่อยๆ 'แบบตัวเขา'

"จริงๆ ผมก็ไม่ได้อะไรกับเขาหรอก อ่า..แม่" ติวเรียกไม่เต็มปาก "มีแต่มันนั่นแหละ ตั้งแง่เป็นศัตรูกับผมลูกเดียวเลย" ..แถมเขายังเคอะเขิน ไม่รู้จะใช้สรรพนามอะไรแทนไอ้ธันดี ที่ติวตอบกับแม่แบบนั้นหมายถึงที่รู้สึกตอนนี้ แม้ว่าตอนแรกจะอยากกระทืบหน้ามันที่ทำไอ้กายเพื่อนเขาโคม่าก็เถอะ

"ปกติธันไม่ไว้ใจคนง่ายๆ .." แม่สบตาเขาแล้วระบายยิ้มออกมากว้างๆ ก่อนจะพูดต่อ

"..งั้นเขาคงไม่ปล่อยแม่ไว้กับศัตรูหรอก จริงมั้ย?"

แม่พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เหมือนได้ระบายเรื่องที่อยากพูดกับใครซักคนมานาน "ธันน่ะ เค้าไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับเขามาก เขาแยกห้องนอนกับแม่ตั้งแต่จำความได้ แม้แต่เพื่อน สนิทกันยังไงก็ยังต้องมีช่องว่างให้เขาเลย"

นี่แม่กำลังจะว่าเขาเรื่องที่ตามติดชีวิตลูกชายเขาเกินไปแบบตอนแรกสินะ?

"แต่ถ้าคนไหนที่ทั้งทนเขาได้และเขาทนอยู่ด้วยได้ตลอดเวลา แม่คิดว่า.."

"..."

" ..คนนั้นคงจะเป็นคนพิเศษ เป็นคนที่ธันยอมรับ"

"..."

'คนพิเศษ' กับ 'คนที่มันยอมรับ'

ติวรู้สึกแปลกใจกับคำพูดของแม่และทำให้เขารู้สึกสงบลงจนลืมว่ากำลังหงุดหงิด นั่นด้วยสาเหตุอะไรเขาก็ไม่รู้ แต่การที่เป็นเรากลายคนพิเศษและเป็นที่ยอมรับของคนที่โลกหมุนรอบตัวเองจัดเหมือนไอ้ธันนี่มัน...  อดใจเต้นไม่ได้เลยแฮะ

ทั้งหมดที่แม่พูดถึงธันให้ฟัง ทำให้ติวคิดตามเงียบๆ แม่ต้องการจะบอกอะไรกับเขาผ่านประโยคบอกเล่าพวกนั้นกันแน่ "แล้วเอ่อ ..แม่ เล่าให้ผมฟังทำไม" เขาถามออกไปตรงๆ แม่หันมาสบตาเขาอย่างจริงจัง

"แม่ไว้ใจเราได้ใช่มั้ย"

ติวไม่แสดงท่าทางโต้ตอบอะไร แต่กลับถามด้วยประโยคที่อาจมีน้ำหนักพอจะทำให้แม่ไขว้เขวได้ "แล้วแม่จะไว้ใจผมที่เป็นคนในสถาบันศัตรูลูกชายตัวเองได้ไง" ติวพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยแอบซ่อนความรู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูกนั้นไว้ลึกที่สุด

"แม่ว่าเราดูไม่เหมือนคนพวกนั้นเลยนะ" แม่พูดพร้อมกับหันไปพยักหน้าเรียกเขาให้มองตามสายตาแม่ไป เขามองตามกลุ่มนั้นที่กำลังเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆ ซึ่งเขารู้ดีว่าตรอกนั้น มีไว้สำหรับเข้าไปเล่นยาโดยเฉพาะ

เขาหันกลับมาจ้องนิ่งมองขนมหม้อแกงอย่างเหม่อลอย แม่ธันมีบางอย่างในสิ่งที่พ่อแม่เขาไม่มี ใช่ว่าเขาจะโหยหาหรืออยากจะได้อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ตลอดชีวิตที่ถูกตราหน้าไว้ว่าเลวนักหนา เดนนรกมาเกิด คนทั้งโลกรุ่มด่า ยังไม่เท่าคำนั้นที่หลุดมาจาก..

ติวน้ำตาตกใน เขาไม่สามารถปลดแอกเรื่องละเอียดอ่อนนั่นออกมาเป็นคำพูดแม้ซักนิดเดียว ทำได้เพียงแต่นิ่งยอมรับอย่างสุดทางหลีกหนี สิ่งเดียวที่แม่ธันมองเขาออกอย่างทะลุปรุโปร่ง ..อาจเป็นสิ่งเดียวที่เด็กมีปัญหาต้องการจากครอบครัวก็เป็นได้

'การยอมรับในตัวตน'

"แม่ฝากธันด้วยนะลูก" ดูเหมือนว่าการคุยกับแม่ไอ้ธันครั้งนี้ ทั้งสมอง และหัวใจของเขาต้องใช้งานหนักทีเดียว

"ครับ"

..และนั่นอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรบางอย่างก็ได้


***


หลังจากเติร์กเดินนำธันออกมาจากแผงผักมาไกลพอแล้ว เขาหยุดเดินแล้วหันมาคุยกับเพื่อน "ไหนบอกกูมาดิ หมาตัวไหนมันทำหน้ามึงเป็นงี้" เติร์กพูดแล้วรอฟัง ข่มอารมณ์เดือดดาลไว้ลึกๆ อย่างอดทน

"มันอยู่โรงบาล หรือมึงจะตามไปซ้ำมันล่ะ" ธันพูดเสียงเรียบ พิงตัวกับผนังปูน

"แล้วไอ้เกียร์มันทำไรมึงรึเปล่า" เติร์กถามดีๆ เขาอารมณ์เย็นลงมากหลังจากที่รู้ว่าเพื่อนส่งพวกเดนบดินเข้าโรงบาล พลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาดูดแล้วพ่นควันตามลำดับ

ธันยักไหล่ "มันต่างหากเป็นตัวคอยห้าม" ธันหลุบตามองต่ำก่อนจะสบตาเติร์ก ที่เดินปรี่เข้ามาใกล้ "หมายความว่าไง"

"เพราะถ้ามีใครมาทำกู หรือว่ากูไปทำใคร มันจะเป็นคนโดนลงโทษไง" ประโยคนั้นทำให้เติร์กหัวเราะ แล้วตบบ่าเพื่อนอย่างแรง "งั้นสุดเหวี่ยงไปเลยมึง ดักอัดพวกเดนแมร่ง คนรับกรรมก็ตกอยู่กะพวกเดนด้วยกันเอง สะใจฉิบหาย!!!" เติร์กดูดบุหรี่เข้าอีกเต็มปอด

"กูไม่เคยคิดจะทำแบบนั้น" ธันตอบเสียงนิ่ง เติร์กหยุดหัวเราะแล้วกลับมาจ้องเพื่อนสนิท "นี่มึงลืมเหรอ ไอ้พวกเหี้ยมันทำอะไรกับพวกเรามั่ง" เสียงไอ้เติร์กเริ่มแข็งขืนขึ้นเรื่อยๆ

ธันถอนหายใจเฮือกเหลืออด "กูไม่ได้ลืม แต่มันใช่เรื่องของกูมั้ย"

"งั้นที่ไอ้วัฒน์ตายก็ไม่ใช่เรื่องของมึงใช่มั้ย?! ปล่อยผ่านไป อโหสิให้มัน ทำไมไม่บวชให้พวกมันด้วยซะเลยล่ะ!!!"

ประโยคนั้นทำเขากำหมัดแน่นจนมือเขียว "แล้วถ้ามันไม่เล่นยา มันจะตายห่ามั้ย ..บอกกูมาสิไอ้เหี้ยเติร์ก" ธันพูดเสียงต่ำในคออย่างเหลือดอด เขาจ้องไอ้เติร์กจนตาแดงก่ำ ดูเหมือนเรื่องนี้จะเฉียดจุดพีคของธันอยู่เหมือนกัน

"..." เติร์กตอบธันไม่ได้ เขาเดือดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เขารู้ว่าเพื่อนเขาคิดอะไรที่ลึกมากกว่าแสดงอารมณ์โทสะออกมาแบบเขา เติร์กยื่นมือถือตัวเองส่งให้ธัน "มึงเอาของกูไปใช้ก่อน"

ธันมองไอโฟนห้า ไม่อยากรับแต่ก็ต้องรับ เพราะมันก็จำเป็นจริงๆ นั่นแหละ ธันมองมือถือในมือตัวเองก่อนที่ไอ้เติร์กจะหยิบชาร์จเจอร์ออกมาจากกระเป๋าส่งมาให้เขาด้วย

"อ้อ แล้วก็ มึงอย่าไปไว้ใจพวกมันมากแล้วกัน ไอ้พวกเหี้ยนั่น หึ! ถ้าไอ้เกียร์มันพุ่งเข้ามาต่อยกูได้ มันคงพุ่งมาแล้ว"

"อย่างมันไม่ยุ่งกับใครก่อนหรอก มีแต่มึงนั่นแหละที่จะพุ่งไปต่อยมัน" เติร์กฟังเพื่อนสนิทแก้ต่างให้ศัตรูก็หัวเสียอีกรอบ "รู้จักมันดีแล้วเหรอ? นี่ตกลงมึงคบกูหรือคบมันเป็นเพื่อนอยู่กันแน่"

"นี่มึงเป็นเหี้ยอะไรมากปะ จะไปไหนก็ไปซะไป กูรำคาญแล้ว" ธันไล่เติร์กอย่างหมูอย่างหมา เพื่อนสนิทจ้องหน้าเขาก่อนจะหันหลังเดินหนี ธันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่มันไปได้ซักที

เติร์กที่กำลังเดินห่างออกมาเรื่อยๆ เอาแต่คิดว่าเพื่อนตัวเองกำลังจะเปลี่ยน ถ้ามันแปรพรรคเขาคงรู้สึกเหมือนถูกแทงข้างหลัง แล้วยิ่งตอนที่มันแก้ต่างไอ้เหี้ยเกียร์กับเขายิ่งรู้สึกเหมือนไอ้ธันเริ่มให้ความสำคัญกับมัน

เขารู้สึกเหมือน 'กำลังจะถูกแย่งเพื่อน'

เติร์กกัดฟันกรอดพยายามข่มอารมณ์อย่างที่สุดไม่ให้เดินกลับไปต่อยกับไอ้ฟันเฟืองนั่นตอนนี้

...

สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่รอเวลานั้นมาถึง

เขาต้องได้กระทืบไอ้เหี้ยนี่เร็วๆ นี้แน่!!



TBC.



ตอนนั้นก็คิดว่าตอนนี้จะน่าเบื่อ พอย้อนมาอ่านเองรู้สึกอบอุ่นดี  :-[
เจอกันตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
ชอบๆ มาอีกเยอะๆ ค่ะ ^^

ออฟไลน์ Viewonohm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 844
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-5
รอนะคะ ขอบคุณที่เอามาลงใหม่ค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ k2blove

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1868
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-3

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
ติดตามๆ

+ 1 ให้ครับ

ออฟไลน์ padloms

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
โอ้ยยยย รักคุณแม่ของธัน ความเข้าใจความห่วงความรักที่แม่แสดงออกมา เป็นคุณแม่ที่แกร่งและรู้เลยว่าโอบอ้อมอารีสุดๆ  :กอด1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด