[เรื่องสั้น] คุณหมาป่ากับศักดิ์ศรี ตอนพิเศษ1จบ Update: 16-03-2017
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] คุณหมาป่ากับศักดิ์ศรี ตอนพิเศษ1จบ Update: 16-03-2017  (อ่าน 3818 ครั้ง)

ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะ ครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรัก ชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้าม แจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะ ปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของ แต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้าม จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิด เดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การ พูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอม ให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้าม ลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อ ขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ด นิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยาย ที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยาย เรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วน หรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด ออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้าม แจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

18.ใคร จะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2017 22:53:48 โดย meelhek »

ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เรื่องราวของพี่พัด

“พี่พัด!”

เสียงใสๆเอ่ยขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะโถมทั้งร่างเข้าหาผู้เป็นพี่ชาย พัดขยี้หัวทุยอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วค่อยๆดันเด็กชายออก ก็ดูสิ ไหนจะเสื้อกล้ามที่มีแต่คราบดินทราย ไหนจะจมูกที่มีน้ำมูกสีใสๆย้อยออกมา ถ้าปล่อยให้ถูไถต่อไปมีหวังเสื้อนักเรียนสีขาวสะอาดคงเปื้อนจนโดนแม่แพ่นกบาลเอาแน่

“ว่าไงหมอก เป็นหวัดเหรอ” ไม่ว่าเปล่า พี่ชายแสนดียังหยิบทิชชู่ที่พกไว้มาให้เจ้าตัวเล็กสั่งน้ำมูกดังปื้ดอีกต่างหาก ซึ่งหมอกก็ทำตามที่โดนดี ก่อนที่จะเริ่มเจื้อยแจ้วทั้งที่ฟันซี่หน้าหลอไปสองซี่

“เปล่าฮะ หมอกแค่ทำสงครามทรายกะพี่โป้ง พี่พัดไปช่วยหน่อยสิฮะ” หมอกว่าแล้วก็ดึงแขนเสื้อคนตัวสูงจนแทบขาด พัดยิ้มแหยพลางยื้อเอาไว้

“เอ่อหมอก..  พอดีพี่..” 

“นะ.. น้า..”

พัดอยากจะบอกว่าพี่จะรีบกลับไปอาบน้ำ ทำการบ้าน ดูบอล แต่พอเห็นสายตาเว้าวอนของน้องชายข้างบ้านแล้วก็ทำใจปฏิเสธไม่ลงไปซะได้ จึงได้แต่ถอนหายใจแล้วยิ้มรับแต่โดยดี

“อื้ม ได้สิ”

และแล้วก็เป็นไปตามคาด... คราบสีน้ำตาลของดินทรายเปรอะเปื้อนเสื้อสีขาวจนแทบจะแทบเปลี่ยนสี แถมยังยับยู่ยี่เพราะแรงดึงของเจ้าพวกเด็กแสบทั้งหลาย แถมยังมีอาการจามตกค้างเนื่องจากสูดละอองดินเข้าไปเป็นจำนวนมาก
คือถ้าสงครามเมื่อครู่มีแค่หมอกกับน้องโป้งที่เรียบร้อยล่ะก็คงไม่มีปัญหาอะไรนักหรอก ติดที่ว่า พอพัดที่อยู่ชั้นม.ปลายไปถึง น้องโป้งเองก็เรียกเจ้าเด็กป.6ตัวแสบที่อยู่บ้านใกล้ๆมาช่วยเช่นกัน ทีนี้ล่ะ บรึ้ม! กลายเป็นโกโก้ครั้นช์!

“พี่พัดเจ็บมั้ย”

“ไม่เจ็บหรอก หมอกต่างหาก”

“หมอกก็ม่ายเจ็บ” เด็กน้อยว่าแล้วยิ้มโชว์ฟันหลออย่างน่ารัก ทำเอาพัดถึงกับยิ้มตามไปด้วย มือป้อมๆเองก็กระชับฝ่ามือหนาของคนที่ยืนข้างๆก่อนจะเหวี่ยงไปพลางร้องเพลงไปพลาง



“อ้าว ทำไมบ้านหมอกมืดล่ะ” พัดว่าเมื่อเดินมาหยุดหน้าบ้านหมอกที่อยู่ก่อนเขาหนึ่งหลัง ความมืดของบ้านทำเอาพัดประหลาดใจ และหมอกดูจะยิ่งตกใจยิ่งกว่า

“ม.. หม่าม้าจะทิ้งหมอก...” เด็กน้อยเบะปากน้ำตาคลอทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า แม่เคยเปิดโฆษณาเก่าๆให้หมอกดู ในนั้นมีลูกหมาถูกทิ้งน่าสงสาร ตอนนั้นหมอกร้องไห้หนักมากจนแม่ต้องปลอบว่าจะไม่ทิ้งหนูแน่ๆ แต่สุดท้ายแม่ก็ทิ้งหมอกไปจนได้...

“เฮ้ย” พัดถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นหมอกน้ำตาไหลพราก จึงรีบอุ้มเจ้าเด็กป.1ที่หนักพอสมควรแล้วขึ้นมาแนบอก ได้แต่พูดปลอบใจอย่างไม่รู้จะทำยังไง คือเขามั่นใจว่าพ่อแม่หมอกไม่ได้ทิ้งลูกไปไหนไง แต่ตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้เลยไม่รู้จะพูดยังไงให้เด็กน้อยคลายความกังวล

“อย่าร้องนะ เดี๋ยวป๊ะป๋าหม่าม้าก็กลับมานะ  นี่ๆ เดี๋ยวพี่โทรให้..”

“ไม่ต้องโทรอะไรทั้งนั้นล่ะ” เสียงผู้หญิงอันทรงอำนาจดังมาจากทิศทางที่คุ้นเคย หรือก็คือ...  ประตูบ้านของพัดเอง ชายหนุ่มทำหน้าเหรอหราเมื่อเห็นใบหน้าอมยิ้มของพี่สาวโผล่ออกมาจากประตู

“พ่อแม่หมอกเค้าไปงานวันเกิดเพื่อนน่ะ กลับดึกๆโน่น จริงๆก็บอกน้องแล้วนะ สงสัยไปเล่นแล้วลืม มาๆรีบพาน้องเข้าบ้านเร็ว”

แป่ว...

“โอ๊ะ จริงด้วย หม่าม้าไม่ได้ทิ้งหมอกล่ะ”

นี่ก็อย่างกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี น้ำตานี่แห้งไปทันทีเลยนะเจ้าเด็กบ๊อง!

“โธ่เอ๊ย ทำเอาตกใจหมด” พัดว่าแล้วขยี้หัวเจ้าตัวเล็กอย่างแรงด้วยความหมั่นเขี้ยว หมอกพยายามปัดป้องแต่กลับหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วกอดคอพี่ชายเอาไว้ ถูไถใบหน้าขาวเนียนกับแก้มของพัด

“หมอกขอโทษน้า หมอกตื่นตูม..”

ใครจะไปโกรธลงกันเล่า…

และเพราะกลับมาพร้อมเนื้อตัวเปรอะเปื้อนจึงโดนสั่งอย่างเด็ดขาดว่าให้ไปอาบน้ำ ถึงแม้ว่าพัดจะหิวซะจนกินตู้เย็นทั้งตู้ได้ก็ขัดคำสั่งไม่ได้ จึงต้องยอมแพ้และจูงมือเข้าเด็กน้อยเข้าไปด้วย นี่ไม่ได้จะอาบให้เพราะใจดีหรือเพราะอยากให้รีบเสร็จหรอกนะ แต่เพราะว่าเจ้าเด็กหมอกนี่อาบน้ำไม่เป็นต่างหาก!

“เมื่อไรหมอกจะอาบน้ำเองได้อ่ะ”

“พี่พัดไม่อยากอาบให้หมอกเหรอ…” เจ้าเด็กน้อยทำหน้าเศร้าขึ้นมาทันทีจนพัดสะดุ้งโหยง เด็กหนุ่มเกาหัวแกรกๆแล้วถอน
หายใจ

“เปล่านะ แค่พี่เห็นว่าคนอาบน้ำเป็นอ่ะเท่ สาวๆชอบเยอะแน่”

พัดว่าแล้วสังเกตสีหน้าหมอกที่ดูจะไม่เข้าใจเท่าไรนัก หมอกปล่อยมือที่จับจูงกันแล้ววิ่งดุ๊กๆมาอยู่ด้านหน้า ไม่มีเวลาให้พัดได้งงเท่าไรนักเมื่อเจ้าหนูอ้วนกลมกระโดดเกาะเอวแน่นจนคนพี่แทบจุก

“แต่หมอกชอบพี่พัดคนเดียวน้า”

น่ารัก…

ดวงตากลมโตที่เงยขึ้นมองกับรอยยิ้มใสซื่อบริสุทธิ์ขโมยหัวใจคนเป็นพี่เข้าไปเต็มๆ 

จริงแล้วถึงคนสูง180อย่างพัดจะมองว่าหมอกเป็นแค่ตุ๊กตาตัวน้อย แต่ในความเป็นจริงก็สูงกว่า100เซนและหนักเกือบ20กิโลแล้ว มาให้อุ้มแบบอุ้มเด็กแบบนี้แค่แปปเดียวแขนก็ชา แต่ถึงอย่างนั้นพัดก็ยังกระชับอ้อมกอดและอุ้มเข้าเด็กน้อยไปจนถึงห้องน้ำ

ก็เด็กมันน่ารัก ให้ทำไงได้



เวลานอนของพัดถูกเลื่อนให้เร็วขึ้นเมื่อแม่ของหมอกติดต่อมาว่าพ่อของหมอกเมาเละในงานวันเกิดเพื่อนไปเสียแล้ว ทั้งสองคนจึงต้องไปเช่าโรงแรมใกล้ๆนอนกันไปก่อน จึงจำเป็นต้องฝากหมอกนอนกับพัดสักคืน ทีแรกเด็กก็งอแงจะกลับบ้าน จนพัดต้องยอมทิ้งการบ้านอันหนักหนาของเด็กม.ปลายมานั่งต่อเลโก้กับน้องจนสี่ทุ่มกว่า ถึงจะยอมเข้านอนดีๆได้

“พี่พัดเปลี่ยนไปนะ” เด็กน้อยพูดขึ้นมาหลังจากซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มแล้ว ทั้งๆที่สะลึมสะลือแล้วก็ไม่ยอมปล่อยมือจากพี่ชายที่อยากไปทำการบ้านเต็มแก่

“ยังไงเหรอ”

“เมื่อก่อนพี่พัดจุ๊บๆหมอกที่ปากด้วย แต่ตอนนี้จุ๊บแค่แก้มเอง”

เด็กหนุ่มถึงกับหน้าเหวอ ไม่คิดว่าเจ้าเด็กตรงหน้าจะคิดเรื่องแบบนี้ “ก็หมอกโตแล้วนี่…”

“โตแล้วเลยรักน้อยลงเหรอ ไม่ใช่พี่พัดคนเดียวนะ.. แต่ป๊า ป๊าก็ไม่จุ๊บหมอก แม่ก็ทำหน้าแปลกๆตอนหมอกจะจุ๊บด้วย ทุกคนไม่รักหมอกแล้ว” ว่าจบก็ร้องไห้ออกมาเสียยกใหญ่จนพี่สาววัยทำงานที่เข้านอนไปแล้วออกมาจ้องตาเขม็ง พัดจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปลอบเจ้าหนูน้อยให้ได้

พี่ชายล้มตัวนอนข้างๆเจ้าหนูจอมป่วยแล้วกอดไว้กับอก ให้น้ำตาไหลลงกับเสื้อนอนจนชื้นหน้าอกไปหมด แต่ถึงจะคิดว่าเด็กน่ารักขนาดไหน แต่จะให้จุ๊บปากเด็กประถมก็ดูจะเกินไปหน่อย จึงทำแค่กอดฟัดและงับๆหัวไปนิดหน่อยจนเจ้าเด็กน้อยจั๊กจี้และเป็นฝ่ายผลักออกมาเอง

“อะไร ไม่อยากให้กอดเหรอ”

“พอแล้ว นอนแล้ว” ถึงจะโผล่มาจากผ้าห่มนิดเดียวแต่ก็พอจะเห็นแววตาอยู่ว่าพอใจ เห็นอย่างนั้นพัดก็โล่งใจ เด็กหนุ่มก้มลงไปหอมแก้มเจ้าตัวยุ่งอีกที กล่าวฝันดีและปิดไฟ




พัดขมวดคิ้วเมื่อแจ้งชื่อหมอกให้ครูห้องธุรการแล้วเขาไม่ประกาศเรียก แต่กลับเดินไปสุมหัวซุบซิบกันแทน
วันนี้พ่อแม่ของหมอกติดธุระกันทั้งคู่พอดี ประจวบเหมาะกับที่พัดว่างเนื่องจากเพิ่งไปเซ็นสัญญาเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งและออกจากที่นั่นมาเพียงบ่ายสามโมง จึงพอดีกับที่หมอกเลิกเรียน

โรงเรียนประถมของหมอกเป็นโรงเรียนเอกชนที่มีการดูแลเด็กอย่างดี อย่างตอนที่จะมารับนี่ก็ต้องมาแจ้งที่ธุรการก่อนให้ประกาศเรียกเด็กออกมา โดยที่ผู้ปกครองไม่มีสิทธิ์เข้าไปในโรงเรียน และเด็กก็ห้ามออกนอกโรงเรียนเองเช่นกัน ในโรงเรียนนี้เด็กน้อย คุณครูส่วนใหญ่จำหน้าผู้ปกครองกันได้ นี่เป็นสิ่งที่พ่อแม่หมอกภูมิใจในโรงเรียนนักหนา แต่พอคนมารับเป็นพัดแล้ว เขากลายเป็นคนน่าสงสัยในสายตาคุณครูไปในทันที

ก็ดูสิ ตอนนี้หมอกถูกคุณครูคนหนึ่งพามาจากไหนไม่รู้ มานั่งตรงข้างห้องธุรการแล้วมองมาทางเขา คงจะกำลังถามว่ารู้จักคนที่มารับมั้ยอยู่แน่ๆ เพราะเจ้าหมอกมันหันมามองเขาแวบนึง

แล้วส่ายหน้า…

เฮ้ย! ทำไมจำกันไม่ได้วะ!

พัดคิดอยากจะวิ่งเข้าไปในเขตเฉพาะนักเรียนให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อสถานการณ์มันเริ่มจะไปกันใหญ่โดยที่ครูสาวคนที่ไปถามหมอกเมื่อครู่เดินมาสมทบกับครูในห้องธุรการ ไม่รู้ว่าคุยกันเรื่องอะไรหรอกนะ แต่หน้าเครียดๆแบบนี้สถานการณ์เลวร้ายสุดก็คือคงจะโทรเรียกตำรวจกันนั่นแหละ

“เฮ้ หมอก!!” เมื่อไม่รู้จะทำยังไงเลยตะโกนมันเสียเลย ครูกับเด็กหันมามองกันตรึมจนรู้สึกอาย แต่ผลลัพธ์ก็น่าพอใจอยู่เมื่อเจ้าหมอกหันมาชี้หน้าอ้าปากหวอ ดูเหมือนจะจำได้แล้ว

จะว่าไปที่หมอกจำไม่ได้แต่แรกก็ต้องโทษตัวเองนั่นแหละ ก็ดันใส่เชิ้ตเรียบร้อยแบบที่เด็กมันไม่เคยเห็นมาก่อน แถมยังลืมถอดแว่นกันแดดก่อนลงจากรถอีก

“หูว พี่พัด ทำไมวันนี้หล่อ!”

ชายหนุ่มตอบรับยิ้มๆ เสมองไปยังพวกครูที่ทำหน้าอึ้งๆ “พอดีผมเป็นพี่ข้างบ้านน่ะครับ น้องมันไม่เคยเห็นผมแต่งตัวแบบนี้ ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ”

คุณครูหน้าเจื่อนก้มหัวให้ปะหลกๆ จนหมอกต้องเอ่ยถามขณะถูกจูงมือไปที่รถ “ครูเค้าขอโทษพี่ทำไมเหรอ”

“พี่ดันแต่งตัวหล่อจนเราจำไม่ได้น่ะสิ ครูเลยนึกว่าพี่เป็นพวกเรียกค่าไถ่” พูดพลางทำท่ามั่นใจในความหล่อเสียเต็มประดาจนเด็กที่เพิ่งชมไปหยกๆยังทำท่าจะอ้วก จนคนเป็นพี่เขกหัวไปหนึ่งทีอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะดึงกระเป๋านักเรียนออกจากตัวเด็กประถมและเตรียมเหวี่ยงมันไปเบาะหลัง

“อ๊ะ อย่าเหวี่ยงนะ” หมอกแหวขึ้นมาทันทีซ้ำยังรีบวิ่งไปกระชากกระเป๋าออกจากมือพี่อีกต่างหาก เล่นเอาพัดงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อลองคิดว่าน้องมันหวงอะไรในกระเป๋า จะว่าไม่อยากโยนหนังสือเรียนก็ไม่น่าใช่ เพราะปกติหมอกไม่ใช่เด็กรักเรียนสักเท่าไร

“ทำไม มีอะไรเหรอ”

“เนี่ย วันนี้ฝ้ายเอาขนมมาให้” ว่าแล้วก็หยิบถุงคุกกี้ที่เริ่มปริแตกเป็นบางชิ้นออกมาจากกระเป๋า พัดขมวดคิ้ว หมอกไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิง และเขาไม่เคยได้ยินชื่อฝ้ายมาก่อนเลย

“พี่รู้จักฝ้ายมั้ย”

“ไม่อ่ะ ไม่ค่อยสนิทกับหมอก ไม่เคยไปเล่นที่บ้านด้วย”

พัดพยักหน้าหงึก “แล้วทำไมเค้าเอาขนมมาให้หมอกล่ะ”

พอถามไปอย่างนั้นแทนที่หมอกจะรีบตอบกลับมาอย่างธรรมชาติ กลับอ้ำอึ้งอะไรไม่รู้แล้ววิ่งขึ้นเบาะหน้าไปโดยไม่ตอบอะไรกลับมา และนั่นทำให้พัดยิ่งสงสัยมากไปใหญ่ ชายหนุ่มจึงขึ้นที่นั่งคนขับ และติดเครื่องไว้อย่างนั้นโดยไม่ขับไปไหน

“ทำไมไม่ขับอ่ะ หมอกอยากกลับบ้านแล้วนะ”

“แล้วทำไมหมอกไม่บอกพี่ล่ะว่าน้องคนนั้นเอาขนมให้หมอกทำไม” พัดพูดไปแล้วเหลือบมองหมอกที่แก้มขึ้นสีแดงเรื่อ อ้าปากพะงาบๆ ก็พอจะเดาออกอยู่หรอกว่าเรื่องอะไร

“น้องเค้าบอกชอบหมอกเหรอ”

“รู้ได้ไงอ่ะ!”

พัดแทบอยากจะเปิดกระจกตรงที่นั่งข้างคนขับลงมาให้เจ้าเด็กน้อยมองหน้าตัวเอง ถ้าใครมองไม่ออกมันก็คงซื่อบื้อเกินไปหน่อยแล้ว

“จะไม่รู้ได้ไงล่ะ แล้วนี่หมอกตอบเค้าไปว่าไงล่ะ”

“หมอกก็.. อืม ยังไม่ทันตอบเลย เค้าก็บอกว่าพรุ่งนี้ค่อยตอบก็ได้ หมอกก็เลยว่าค่อยคิดพรุ่งนี้”

“หมอกชอบน้องเค้ารึเปล่า”

พอได้ยินคำถามอย่างนี้เด็กก็หน้าเหวอขึ้นทันที ตอบกลับมาแบบตะกุกตะกัก “ฝ้ายก็น่ารักดี แต่แบบ… เป็นแฟนกันตอนนี้ต้องโดนล้อแน่เลยอ่ะ มีเพื่อนโดนล้อเรื่องแบบนี้ด้วย หมอกไม่อยากโดนล้อ”

ดูท่าคงจะชอบอยู่สินะ แต่คนเป็นพี่ได้ยินก็อดกลั้นหัวเราะให้กับคำตอบใสๆแบบนี้ไม่ได้ ไม่รู้คิดได้ยังไงว่ากลัวโดนล้อ ปกติเพื่อนเค้าล้อกันแล้วดูทั้งสองคนทำท่าปฏิเสธกันต่างหาก ถ้าเป็นแฟนกันจริงๆใครเขาจะมาล้อ

แต่เรื่องแบบนี้ไม่พูดดีกว่า…

“ดีแล้วล่ะ โดนล้อเดี๋ยวก็ทะเลาะกับเพื่อนอีก นี่เดี๋ยวก็จะขึ้นม.1แล้ว เกิดได้ไปอยู่คนละโรงเรียนก็ต้องเสียใจอีก”

“นั่นสิเนอะ งั้นหมอกไม่มีแฟนดีกว่าเนอะพี่พัด”

“อื้ม”

พัดพยักหน้าพร้อมๆกับลอบมองใบหน้าด้านข้างของเด็กน้อยที่นั่งร้องเพลงคลอกับวิทยุ ความรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดพรั่งพรูขึ้นมาในจิตใจ

เฮ้อ เขาคงจะหวงน้องเกินไปสินะ




ร่างกายขยับไม่ได้ หายใจอึดอัด

พัดพยายามพลิกตัวแต่กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง นี่เขาถูกผีอำงั้นหรือนี่? ชายหนุ่มกลั้นใจ ลืมตาขึ้นในความมืด และต้องตกใจเมื่อมีร่างมนุษย์ขนาดใหญ่นั่งคร่อมทับเอาไว้อยู่

“ว้ากกกกกก”

เจ้าเงานั่นก้มลงมาเอามือหนึ่งอุดปาก แล้วเอามือหนึ่งเปิดม่านข้างเตียงและนั่นทำให้พัดรู้ว่าสายโด่งเข้าแล้ว เขามองคนที่มานั่งทับ ขมวดคิ้วมุ่น

“พี่พัดจะร้องทำไมเนี่ย!”

“แล้วหมอกจะมานั่งทับพี่ทำไมเนี่ย” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเอื่อย เมื่อคืนเป็นวันศุกร์สิ้นเดือนที่พนักงานออฟฟิศอย่างเขาต้องทำโอทีจนดึก จ้องคอมพิวเตอร์จนเพลียอยากจะนอนให้ถึงเที่ยง แต่เจ้าเด็กนี่…

“ก็ถ้าไม่นั่งทับจะรู้เหรอว่าพี่ยังแข็งแรงอยู่” ว่าแล้วก็เอาสะโพกถูไถกลางลำตัวจนพัดขนลุก รีบผลักเด็กที่ตอนนี้สุงเกือบเท่าตัวเองแล้วออกไปทันที วิ่งเข้าห้องน้ำโดยไม่คิดชีวิต

“แหม่ ไม่เห็นต้องอายเลย”

“ต้องอายสิ!”

ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักมาจากข้างนอกจนคนที่ขังตัวเองถอนหายใจ ถ้ายังอยู่ตรงนั้นแบบนี้จะกล้าทำอะไรที่ควรจะทำได้ยังไงล่ะ!

“ให้ช่วยเปล่า”

“ไม่ต้องเลย! ลงไปอยู่ข้างล่างกับแม่ไป”

“ก็ได้”

เสียงเดินผ่านหน้าห้องน้ำและเสียงปิดประตูผ่านไปทำให้พัดสงบใจลงได้บ้าง ไม่รู้ว่าทำไมหมอกถึงได้โตมาเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่ห้องม.ปลายที่อยู่ก็เป็นวิทย์คณิตที่เข้มงวด เพื่อนก็มีแต่เพื่อนดีๆที่ชวนกันเรียน ไม่รู้ว่าไปเรียนรู้เรื่องเพศอะไรมาจากไหน แถมยังไอ้วิธีการอ่อยแบบนี้อีก ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนแบบนี้!

ว่าก็ว่าเถอะ โลกปัจจุบันนี่อินเทอร์เน็ตมันกว้างขวางและเข้าถึงง่าย ต่อให้เป็นกลุ่มเด็กเรียนจะเสพหนังโป๊เป็นตั้งๆก็ไม่แปลก แต่ไปดูมาแล้วมาทำกับผู้ชายที่แก่กว่าเป็นสิบปีอย่างเขานี่สิแปลก

ถึงจะบ่นไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่ใช่ว่ารังเกียจอะไร ถ้าจะพูดให้ถูก.. เขาเองก็รู้สึกตัวมานานพอสมควรแล้วว่ามองน้องในแง่ไหน ความน่ารักของหมอกที่เขาเห็นมาตลอด ความหวง พยายามกั้นเรื่องรักให้น้องมองไปแต่เรื่องเรียน ก็นับว่าประสบความสำเร็จใช้ได้อยู่

แต่ในฐานะที่เป็นพี่ชาย เรื่องแบบนี้มันยากเหลือเกิน...

“ทำไมลงมาช้าจัง แฟบ?”

ตอนแรกพัดก็ไม่เข้าใจหรอกว่าเจ้าเด็กตรงหน้านี่พูดอะไร เพราะว่าในปากของมันยังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆและแม่ก็ยังยืนอยู่ในครัว ถึงบางทีบ้านเขาจะโอเคกับการดูแลเด็กข้างบ้าน แต่บางทีก็ไม่ใช่ว่าจะสบายขนาดพูดอะไรก็ได้

“เมื่อกี้พูดอะไรน่ะ”

“แฟบไง”

“ใครสั่งใครสอนให้พูดอย่างนี้กับผู้ใหญ่”

หมอกดูอึ้งไปนิดๆกับพัดที่ยืนกอดอกหน้าตาจริงจัง เด็กหนุ่มวางช้อนส้อมลงกับจาน จ้องหน้าคนเป็นพี่ “มันก็ไม่ได้ไม่สุภาพ
ขนาดนั้นป่ะ”

“ถ้าพูดกับเพื่อนก็ไม่เป็นไรไง แต่พี่เป็นพี่นะ”

“ไม่เห็นจะอยากให้เป็นพี่สักหน่อย!”

“หมอก!”

เด็กหนุ่มไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตาพุ้ยข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ คือจริงๆในสถานการณ์แบบนี้จะวิ่งออกไปเลยก็ไม่แปลก แต่
การกินข้าวให้หมดจานก่อนออกไปแล้วเอาจานไปเก็บซ้ำยังไหว้แม่อย่างเรียบร้อยนี่ มันก็อดจะเอ็นดูไม่ได้จริงๆนั่นแหละ

“กลับแล้ว…”

“เดี๋ยว ที่บ้านฝากเราไว้กับพี่”

“หมอกโตแล้วนะอยู่ม.ปลายแล้ว อยู่บ้านคนเดียวได้น่า!” แล้วก็เดินปึงปังออกไป ทิ้งพัดเอาไว้กับห้องที่เงียบงัน จนกระทั่งแม่ถือกับข้าวอีกจานออกจากครัวมาตั้งนั่นแหละ

“ทะเลาะอะไรกับน้อง”

“หมอกมันพูดไม่เพราะ” คนพี่ตักกับข้าวมาพูนจานอย่างหงุดหงิด แม่นั่งเงียบ ถอนหายใจกับลูกชายที่ทำงานมาได้หลายปีจนซื้อรถได้อีกคัน แต่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี

“จะยังไงก็ช่างเถอะนะ แต่กินเสร็จก็เอาผัดฟักทองไปให้น้องด้วย นี่รีบกลับไป ยังไม่ทันได้กินเลย”

พัดมองหน้าแม่ที่พูดเหมือนกับว่าฉันจะบังคับให้แกไปง้อน้อง แล้วจะทำไม ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้ารับ
อย่างจำใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 22:30:55 โดย meelhek »

ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
แม้หมอกเลือกที่จะกลับไปขังตัวเองอยู่ในบ้าน แต่ด้วยความที่สนิทกันจนสามารถฝากบ้านฝากลูกไว้กับอีกฝ่ายได้ แน่นอนว่ากับแค่กุญแจบ้าน ทางฝั่งพัดต้องมีไว้ชุดหนึ่งอยู่แล้ว

เขาไขประตูเข้าไปอย่างเงียบเชียบ และมองกวาดไปทั่วบ้านที่ปิดไฟมืดสนิท พัดนำผัดฟักทองไปไว้ที่โต๊ะกินข้าวก่อนจะเดินขึ้นบันไดอย่างระมัดระวัง ชายหนุ่มหยุดที่หน้าห้องของน้องชายคนสนิทและค่อยๆเปิดประตูเข้าไป

หมอกอยู่ในนั้นตามคาด หลับสนิทคงเพราะเหนื่อยจากการร้องไห้ สังเกตจากจมูกที่แดงเถือกและคราบน้ำตาที่เปรอะทั่วแก้ม เขาไม่เข้าใจว่าหมอกจะร้องไห้ขนาดนี้ทำไมกับเรื่องที่เขาต่อว่า ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ควรปฏิบัติตามอยู่แล้ว

ไม่อยากให้เป็นพี่… คำนี้หมายความว่ายังไงกันนะ?

หมอกเก็บซ่อนความเกลียดชังที่มีต่อเขามาตลอดงั้นหรือ? ไม่น่าใช่ หากไม่ชอบหน้ากันทำไมถึงมาขลุกอยู่ด้วยกันบ่อยเสียขนาดนั้น ทั้งๆที่โตแล้วและเฝ้าบ้านคนเดียวได้ ทำไมถึงยังดึงดันจะไปอยู่บ้านเขาทุกที คนเกลียดกันไม่มีทางทำอย่างนี้หรอก

ถ้าไม่เกลียด ก็แปลว่ารัก…

แต่มันเป็นรักในแบบไหนกัน รักแบบที่ไม่อยากเป็นพี่ชาย แล้วเขาต้องเป็นอะไร? เพื่อน พ่อ หรือ คนรัก…
พัดสลัดความคิดนั้นออกจากหัว เขาลุกขึ้นเปิดเครื่องปรับอากาศให้น้องได้นอนหลับสบาย เดินไปปิดหน้าต่างแล้วกลับมาจ้องหน้าคนหลับอีกครั้ง

“พี่รักหมอกนะ ยังไงพี่ก็เป็นพี่ชายของหมอกเสมอนะ”

ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากไปเกือบชิดกับริมฝีปากของอีกฝ่าย แล้วจึงเลื่อนออกมา เบี่ยงไปที่แก้มเปื้อมคราบน้ำตานั่นแทน และประทับลงไปแผ่วเบา



ชายหนุ่มกลับบ้านไปแล้ว หมอกรู้ตัวดีตั้งแต่เสียงเดินลงจากบันไดเงียบไปแล้วมีเสียงเปิดประตูหน้าบ้านตามมา เด็กหนุ่มเคยหลับ แต่เขารู้สึกตัวตั้งแต่ได้ยินเสียงของรีโมทแอร์กับเสียงปิดหน้าต่างที่ค่อนข้างฝืดเคือง

หมอกจับไปที่แก้ม ฝั่งที่พี่ชายข้างบ้านฝากความอบอุ่นเอาไว้ น้ำตารื้น

“บอกแล้วไง ว่าไม่อยากได้พี่ชาย”




ตั้งแต่วันนั้นหมอกก็ไม่มาทำอะไรรุ่มร่ามอีกเลย

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะวิ่งมาหาด้วยท่าทางร่าเริงสดใสเหมือนเคย กลับกัน พัดรู้สึกว่าตัวเองกับหมอกค่อยๆออกห่างกันไปเรื่อยๆอย่างไรไม่รู้ อย่างเช่นเวลาพ่อแม่ไปเที่ยวหรือทำงาน ก็ไม่มาขอค้างที่บ้านเหมือนแต่ก่อน จนตอนนี้น้องก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว สอบติดอะไรที่ไหนไม่มาบอกสักคำ ถ้าพ่อแม่ของหมอกไม่มาบอก เขาคงไม่มีทางรู้เลย

“นี่พัดทะเลาะกับหมอกเหรอ” แม่ของหมอกเอ่ยถามเมื่อนำไส้อั่วจากเชียงใหม่มาฝาก พัดถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพยักหน้า ถึงแม้อยากจะบอกว่ามันเป็นแบบนี้มาปีกว่าแล้ว ไม่รู้เรื่องกันได้ยังไง

“ผมไม่รู้นะว่าน้องโกรธผมเรื่องอะไร น้องไม่ได้เล่าให้คุณน้าฟังเลยเหรอครับ”

“ถ้าเล่าให้ฟังน้าจะเพิ่งมาถามพัดเหรอ เนี่ยน้าก็รู้สึกผิดนะที่พวกน้าทำแต่งาน แต่ปกติมีพัดอยู่มันเลยไม่มีปัญหามาตลอด ใครจะไปรู้มามีวันที่เราทะเลาะกัน”

“ผมก็ไม่คิดเหมือนกันครับ” เขาว่าแล้วถอนหายใจอีกเฮือก ที่แม่ของหมอกเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ก็ไม่ใช่เพราะเรื่องที่ว่างานหนัก
อย่างเดียว แต่เป็นเพราะพอเข้าปีหนึ่งหมอกก็ทำกิจกรรมหนักจนกลับดึกแทบทุกวัน ขนาดว่าเขาทำโอทีบ่อยแล้วยังแพ้น้องเลย ต่อให้ไม่ทะเลาะก็คงไม่มีเวลาเจอกันเหมือนแต่เก่าอยู่แล้ว

“น้าว่าน้องรักพัดนะ”

“ผมรู้”

“ไม่รู้หรอก ถ้ารู้แล้วจะเป็นแบบนี้เหรอ”

พัดเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังกินไส้อั่วที่เอามาฝากจนแทบหมดด้วยความสงสัย “ผมรู้ว่าน้องรักผม ผมเองก็รักน้อง”

“แล้วรักของน้องกับเราเหมือนกันรึเปล่า พัดอยู่กับน้องตลอดก็ต้องรู้สิว่าหมอกมันไม่ได้รักเราแบบพี่ชาย”

พัดกัดฟัน “ผมรู้ครับ แต่ผม…”

“พัดรักน้องแบบพี่น้องใช่มั้ย”

“ใช่ แต่ก็ไม่ใช่ คือผมยอมรับนะว่าห่วงและหวงน้องในหลายๆอย่าง จะว่าในฐานะพี่ก็… ผมก็เคยคิดนะว่าถ้าผมไม่ใช่พี่ชายแล้วผมจะห่วงน้องอยู่รึเปล่า ผมก็ว่ายังไงผมก็คงห่วงน้องอยู่ดี แต่แบบ.. นี่มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับน้า ถ้าผมรู้สึกอะไร แล้วเพื่อนหมอก สังคมของหมอก คนรอบข้างจะมองหมอกยังไง หมอกเป็นเด็กที่ไม่ชอบโดนล้อผมรู้ดี ถ้าต้นเหตุมันจะมาจากตัวผม…”

“หยุด!” แม่ของหมอกปรบมือเข้าหากันเสียงดังลั่นจนพัดที่กำลังบ่นเสียยืดยาวสะดุ้ง หญิงสาวมองหน้าลูกชายเพื่อนบ้านอย่างหงุดหงิด

“นี่พัดกำลังคุยอยู่กับใคร”

“ก็คุณน้า…”

“แล้วน้าเป็นใคร”

“แม่ของหมอก”

“ก็เออน่ะสิ!!” ตวาดเสียงดังลั่นจนพัดแทบจะตัวลีบแนบไปกับเก้าอี้ แม่ของหมอกตบโต๊ะกินข้าวดังปังจนไส้อั่วชิ้นสุดท้ายกระเด็นออกจากจานแต่ก็ไม่สนใจ เธอโน้มตัวมามองชายหนุ่มที่ดูหวาดกลัว

“นี่ไง! แม่หมอกอยู่ตรงนี้ไง แล้วพัดจะกลัวอะไรล่ะ! คนเป็นแม่น่ะรู้อยู่แล้วว่าลูกเป็นแบบไหน ต้องการอะไร แล้วเค้าต้องการเธอ!
คือถ้าพัดคิดกับน้องแค่น้องจริงๆน้าก็จะให้เขาตัดใจ แต่เห็นพัดลังเลแบบนี้… น้าว่าน้องก็ยังมีหวังใช่มั้ย”

พัดยังมีสีหน้าลังเล เพราะความที่คงสถานะพี่ชายมาแสนนานทำให้ค่อนข้าทำใจลำบาก “ผม… ผมขอเวลา”

“โอเค พัดอยากช้า ก็เชิญ แต่บอกไว้ก่อนว่าวันนี้น้องจะพาแฟนมาที่บ้าน ผู้ชายด้วย จะเกิดอะไรขึ้นน้าไม่รู้นะ”

“แล้วน้าจะไปไหนครับ”

“นัดกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยไว้น่ะ คงกลับดึกแหละ”

“ไม่ใช่ครับ ตอนนี้น้าจะไปไหน ไส้อั่วที่เอามาฝากน้ากินหมดเลยนะครับ ยังไม่ตกถึงมือแม่ผมเลย”

หญิงสาวดูจะอึ้งกับคำถามย้อนศร เธอหัวเราะอย่างชอบใจที่แม้จะอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแต่เจ้าเด็กข้างบ้านก็ยังมีอารมณ์พอที่จะพูดล้อเล่นได้

“เดี๋ยวเอามาให้ใหม่ย่ะ ได้ใครมานะขี้ทวงแบบนี้”

พัดเองก็หัวเราะหลังจากที่คุณน้าข้างบ้านกลับไป แล้วกลับมาทำหน้าขมขื่นอีกครั้ง ในหัวมีแต่ความคิดที่น้องจะมาแฟนมาบ้านไม่รู้จบ แล้วต่อให้มันจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะมีสิทธิ์ไปห้ามหรืออะไรมั้ย?




กลางคืนมาเร็วกว่าที่คิด…

และให้ตายเถอะ ทั้งชีวิตอันแสนสงบเรียบง่ายของพัด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะต้องมาเดินวนเวียนหน้าบ้านตัวเองในยามวิกาล แล้วนี่ก็ใกล้จะสองทุ่มแล้ว ทำไมหมอกยังไม่กลับมาบ้านเอง

“ถึงแล้วครับ”

พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาพอดี หมอกนั่งมอร์เตอร์ไซด์จากหน้าปากซอยเข้ามาพร้อมๆกับอีกหนึ่งคันที่เขาไม่รู้จักคนซ้อน แต่เดาได้
ไม่ยากว่าน่าจะเป็นแฟนหมอกที่ว่า ว่าแต่นั่นมันจะหอบกระเป๋าเสื้อผ้ามาทำไม? กะจะค้างบ้านหมอกงั้นเหรอ?

“หลังนี้ครับพี่” หมอกชี้ขวนให้ชายแปลกเดินเข้ามาขณะกำลังไขประตู

“หมอก”

ชายหนุ่มส่งเสียงทักออกไป หมอกหันมามองแวบนึงแล้วดึงแขนคนแปลกหน้าเข้ามาใกล้ “สวัสดีครับพี่พัด นี่แฟนหมอก”

“เดี๋ยวสิ นี่หมอกคิดไงถึงพาแฟนมาที่บ้านตอนนี้ นี่มันดึกแล้วนะ”

“แล้วไงอ่ะ หมอกโตแล้วนี่” หมอกพูดอย่างไม่สนใจแล้วดันแฟนหนุ่มเข้าบ้านไป ก่อนตัวเองจะเดินตามโดยหันมามองเพียงแค่
หางตาา

“เฮ้ย ฟังพี่ก่อน” พัดสาวเท้าตามเข้าไปติดๆแต่ก็ไม่ทัน เพราะเจ้าของบ้านนั้นล็อคประตูไปแล้ว

หัวใจของพัดเต้นแรงและปวดหนึบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนต้องยกมือกุมอกไว้ ความรู้สึกที่เก็บกักและอดทนมาตลอดไหลทะลักออกมาจนควบคุมไม่อยู่ แค่จินตนาการว่าหมอกพูดจาหวานๆกับคนอื่น สัมผัสร่างกายคนอื่น และตกเป็นของคนอื่นก็คลื่นไส้จนแทบอาเจียน

รับไม่ได้ รับไม่ได้จริงๆ…

“บุกก็บุกวะ!”

พอตัดสินใจแล้วก็ไม่รอช้าที่จะกระทำ เขาเดินเข้าไปหยิบกุญแจบ้านหมอกที่อุตส่าห์ไม่เตรียมไว้แต่แรกเพราะคิดว่าจะหยุดหมอกไว้ได้ แล้วไขเข้าไปโดยไม่สนใจอะไรทันที

ไฟด้านล่างเปิดอยู่ก็จริง แต่เหมือนเปิดทิ้งไว้ให้ดูมีคนมากกว่า แต่ไม่ได้ใช้งานอะไร ดูท่าว่าทั้งสองคนคงจะไปอยู่กันที่ห้องนอนหมอกมากกว่า และนั่นทำให้ยิ่งเจ็บปวดเข้าไปใหญ่

จะมาทันมั้ย… ทำอะไรกันอยู่…

“ไปอาบน้ำเลยไป”

“โห่ มานอนกันเลยดีกว่าน่า”

“เฮ้ย ไม่เอา.. อย่า..”

เสียงของหมอกที่ไล่อีกฝ่าย เสียงของอีกฝ่ายก่อนที่เสียงเตียงถูกกระแทกจะดังขึ้น และเสียงร้องห้ามของหมอก…
ทนไม่ไหวแล้วเว้ย!

“ทำอะไรกัน!”

“พี่พัด...”

หมอกดูท่าจะตกใจไม่น้อยที่ชายหนุ่มโผล่เข้าไปอย่างกะทันหัน และได้เห็นสภาพที่ทั้งสองคนกำลังฟัดกันอยู่บนเตียงจนเสื้อผ้าหลุดรุ่ย ความโกรธพุ่งขึ้นจนควบคุมไม่ได้ พัดไม่เคยมีเรื่องชกต่อยกับใคร และวันนี้มันจะเป็นครั้งแรก

“อย่าอยู่เลยมึง!” หมัดลุ่นๆกระแทกเข้าที่ข้างแก้มโดยไม่มีเวลาให้หลบ เด็กหนุ่มที่ดูจะเป็นแฟนของหมอกหน้าหันตามแรงจนร่วง
จากเตียงไป

เจ้าของห้องตกใจจนรีบวิ่งไปดึงแขนพี่ชายข้างบ้านไว้ ไม่อย่างนั้นคงมีหมัดซ้ำและอีกฝ่ายคงเจ็บหนักมากแน่ๆ

“หมอกจะห้ามพี่ทำไม!”

“แล้วพี่จะทำเค้าทำไม เค้าเป็นแฟนผมนะ”

หมัดที่ง้างเตรียมซ้ำชะงักกึก พัดหันมามองหน้าน้องชายด้วยสีหน้าหมดแรง ความจริงที่กระแทกเข้าใส่หน้าจังๆนี่มันยิ่งกว่าหมัดที่ปล่อยไปเสียอีก

นั่นสินะ น้องจะไปมีใครมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเขาเลยนี่นา…

“หมอกรักมันเหรอ…”

เสียงที่อ่อนแรงทำให้หมอกตกใจนิดๆ แต่ก็ยังตอบกลับไปเสียงแข็ง “ใช่สิ”

“แล้วพี่ล่ะ…”

ทั้งห้องเงียบกริบไปทันทีที่พัดเอ่ยคำนั้น แม้กระทั่งตัวเองยังไม่รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรออกไป และมันใช่เรื่องที่สมควรพูดในตอนนี้รึเปล่า แต่ที่แน่ๆ เขาได้เห็นน้ำตาของหมอก ที่ค่อยไหลรินลงมาจากดวงตา

“หมอก…”

“หมอกรักพี่อยู่แล้ว รักมาตลอด ไม่ใช่พี่หรอกเหรอที่ปฏิเสธหมอก ตอนนี้หมอกมีแฟน หมอกจะมีความสุขแล้ว พี่มาขัดขวางทำไม ไม่คิดว่ามันสายไปหรอกเหรอ...”

“พี่… ขอโทษ..” พัดพูดทั้งที่ก้มหน้า ไม่กล้าสู้น้ำตาของน้องชาย ที่เขาเพิ่งจะรู้ตัวแล้วว่าไม่ได้มองแบบน้องอีกต่อไปแล้ว

“พี่… รักหมอกนะ พี่ขอโทษที่บอกช้าไป พี่คงไม่ขัดขวางอะไรละ ขอโทษนะน้องที่ต่อยไป เดี๋ยวพี่ขอบัญชีไว้หน่อย จะโอนค่ารักษาไปให้นะ”

ในที่สุดก็สนใจคนที่โดนต่อยเสียที คนๆนั้นลุกขึ้นมาอย่างหงุดหงิด สายตาเห็นได้ชัดเลยว่าขุ่นเคืองไม่น้อย “คิดว่าแค่นี้มันจะจบเหรอพี่”

“อ้าว ก็จะไม่ยุ่งแล้ว จะจ่ายค่ารักษาให้ด้วย ไม่จบรึไง”

“ไม่จบสิ พี่ยังไม่ได้ฟังหมอกมันตอบเลย”

พัดขมวดคิ้วพลางนึกว่าจะให้ฟังอะไร ในเมื่อทุกอย่างมันจบสิ้นไปแล้วเรียบร้อย แต่ถึงอย่างนั้น ชายเสื้อของเขาก็ยังถูกดึงรั้งไว้
ให้หันไปหา และเพียงแค่ขยับตัวหันหน้า ทั้งร่างของหมอกก็โถมเข้าหาโดยไม่ทันตั้งตัว

“เฮ้ยหมอก ทำไรเนี่ย”

“ผมก็รักพี่.. ผมดีใจ..” ว่าแล้วซุกหน้ากับบ่า ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนพัดต้องลูบหัวเพื่อเป็นการปลอบ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ดีว่านี่มันเกิด
อะไรขึ้น แล้วทำไมคนที่เหมือนจะเป็นแฟนถึงได้ยิ้มทั้งๆที่หน้าบวมอย่างนั้น

พัดดันไหล่คนที่กอดอยู่ให้เคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ แล้วถามเสียงเรียบ “สรุปว่านี่คืออะไร? น้องเป็นใคร? แล้วตกลง เราเป็นอะไรกันแล้ว?”

ทั้งคำถามและหน้างงๆทำเอาเด็กสองคนหลุดหัวเราะ ทั้งๆที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตาแต่หมอกก็ยังหัวเราะ แล้วจึงเฉลยเรื่องราวทั้งหมด

“เนี่ย พี่โป้ง ที่ตอนเด็กๆอยู่หมู่บ้านเดียวกะเราไง”

หมอกผายมือไปทางเด็กที่ชื่อโป้งซึ่งมันก็พยักหน้า แล้วแนะนำตัวเองต่อ “ที่ชอบแกล้งไอ้หมอกจนมันไปเรียกพี่มาช่วยบ่อยๆไง จำได้ยังพี่”

พัดพยักหน้าช้าๆ เริ่มเทียบใบหน้าของเจ้าหมอนี่กับเด็กโป้งในอดีต จำได้แล้ว ที่บ้ายบ้านไปตอนหมอกป.สาม และเพราะว่าไม่
ได้สนิทกันเท่าไรเลยไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย

“แล้วเรามาเจอกันได้ไง”

“หมอกมันมาเข้าคณะเดียวกับผมอ่ะดิพี่ ก็เลยเจอกัน นี่ก็ว่าจะมาค้างบ้านมัน รำลึกความหลังที่เคยอยู่แถวนี้สักหน่อย”

“ไม่ใช่แฟนกัน?”

“ไม่ใช่สิพี่” โป้งพูดพลางกลั้วหัวเราะ ซึ่งก็ทำให้พัดโล่งใจไปได้อีกเปลาะ แต่ก็ยังมีเรื่องที่สงสัย

“แล้วแผนแกล้งพี่นี่ ใครคิด”

เด็กสองคนมองหน้ากันแล้วยิ้มขำ ก่อนที่หมอกจะเฉลย “แม่หมอกคิดเอง” พัดหน้าเหวอทันทีที่ได้ยิน แต่หมอกก็รีบพูดต่อโดยที่ไม่ทันได้ถามอะไร “คือหมอกเข้ามหาลัยแล้วก็เล่าให้ฟังว่าเจอพี่โป้ง พี่โป้งอยากมาค้างบ้าน แล้วแม่ก็รู้ว่าหมอกชอบพี่ ก็เลยขอความร่วมมือพี่โป้งหลอกพี่กันหน่อย”

ความหงุดหงิดพุ่งตรงไปที่คนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ทันที พัดสาบานเลยว่าจะกินไส้อั่วที่แม่ของหมอกซื้อมาฝากเพื่อนบ้านให้จนไม่เหลือของฝากเลย

“เล่นซะพี่ตกใจหมด”

“แต่สุดท้ายมันก็ดีไม่ใช่เหรอ” หมอกว่าแล้วเดินมาคล้องคอพัดที่ทรุดลงไปนั่งชันเข่า โป้งเห็นดังนั้นจึงเอ่ยแทรก

“งั้นผมไปนอนห้องแขกนะ พี่จะเคลียร์อะไรก็เชิญ นี่ผมเอาที่อุดหูมาด้วย เซฟๆ”

พัดทำท่าจะเขวี้ยงหมัดให้อีกสักทีข้อหาล้อเลียน เจ้าโป้งจึงรีบเผ่นอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะบอกว่ายังไงก็ขอค่ารักษา เด็กแสบนี่ยังไงก็แสบจริงๆ

“พี่พัด อย่าโกรธหมอกนะ หมอกอดทนมาตลอดเลย นึกว่าพี่พัดไม่รัก…”

“บางทีถ้าเราไม่ใช้ไม้แข็งอย่างนี้พี่อาจไม่รู้ตัวก็ได้ พี่ขอโทษนะ แล้วก็ขอบคุณด้วยที่รักพี่มาตลอด”

หมอกเดินเข้ามากอดคนเป็นพี่ที่เลื่อนสถานะเป็นคนรักในชั่วพริบตาอีกครั้ง และในตอนนั้นเองที่เพิ่งรู้สึกตัวว่าพัดมีอาการแปลกๆ

“อะไรเนี่ย พี่จะยุกยิกทำไมเนี่ย”

“ก็พอสมหวังแล้วมันโล่งนี่นา เฮ้อ.. นี่เราก็เป็นแฟนกันแล้วใช่มั้ย ถ้าพี่จะขอ…”

พัดรั้งเอวคนรักเข้าใกล้และเลื่อนหน้าไปที่ริมฝีปาก ที่ที่เขาอดทนมานานเหลือเกินและอยากจะครอบครองให้ได้ในวันนี้ เพื่อยืนยืนว่าหมอกรักเขาและเป็นของเขาคนเดียว

แต่ทว่า…

“หยุด” หมอกยกมือขึ้นมากั้นและเอ่ยห้ามตอนบรรยากาศมันดีๆอยู่แล้ว พัดขมวดคิ้วอย่างงุนงงเมื่อหมอกขืนตัวออกจากอ้อมกอด

“ทีตอนอยากจะทำละไม่ให้ทำ ตอนนี้จะมาเรียกร้อง หมอกไม่ง่ายนะ”

พัดคอตก มองเด็กที่ยืนเชิดหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา ให้ตายเถอะ หมอกเอาคืนเขาเสียแล้ว

“โธ่หมอก ก็เมื่อก่อนเป็นพี่น้อง ตอนนี้เป็นแฟน พี่รักหมอกนะ…”

“ไม่ต้องเลย หมอกก็รักพี่มาตั้งนานหมอกยังไม่เคยได้เลย ไม่รู้ล่ะ ตามใจหมอกสักหนึ่งเดือน แล้วหมอกจะกลับไปปลุกเหมือน
ตอนม.ปลายนะ”

ว่าจบก็ดันคนรักออกนอกประตูแล้วล็อคห้อง ทิ้งให้คนที่ช็อคไปกับคำหวานเมื่อครู่ยืนทื่ออยู่หน้าห้องพักนึง พัดจึงได้สติพอที่จะเคาะประตู

“เฮ้ยหมอกเปิดสิ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน”

“ไม่รู้ไม่ชี้ จะนอนแล้ว กลับบ้านไปเลย”

ไม่ได้ยินคำบอกรักซ้ำ แถมยังบอกให้รออีกต่างหาก อะไรจะทำร้ายไปมากกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพัดก็ยอม หมอกรอเขามานานแล้วเขาจะเป็นฝ่ายรอบ้างจะเป็นไรไป

แต่อย่าให้ถึงเดือนหน้าเชียวนะ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2017 22:32:40 โดย meelhek »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ค้าง..งงงงง การแก้แค้นที่แสนหวาน รอๆๆๆๆๆ   :ling1:

ออฟไลน์ Kei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: น่าติดตามจังเลย

ออฟไลน์ แมวดำ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
ค้างด้วยคนน่าติดตามมาก

ออฟไลน์ กบกระชายไทยนิยม

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ไม่รู้จะสงสารหรือสมน้ำหน้าพี่พัดดี :hao7:

ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
เรื่องราวของน้องหมอก


“น้องหมอก นี่พี่พัดนะครับ”

เด็กตัวเล็กเอียงคออย่างสงสัยเมื่อเห็นคนแปลกหน้า ใครก็ไม่รู้นี่เดี๋ยวก็ยิ้ม แล้วก็ปิดหน้า แล้วก็เปิดให้เห็นหน้าตาประหลาดๆ เด็กน้อยไม่รู้ว่าคนๆนี้กำลังทำอะไร และไม่สามารถถามออกมาเป็นคำพูดได้ จึงทำได้แค่ร้องไห้เพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น

“อ้าว หมอก ทำไมล่ะลูก พี่พัดเค้าเล่นด้วยเห็นมั้ยน่ะ” หญิงสาวที่เป็นเหมือนโลกทั้งใบของหมอกอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา เขาซุกลงกับอกเธอโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองอะไรอีกเลย ทำเอาคนตั้งใจมาเล่นด้วยยิ้มเจื่อนๆ

“งั้นผมกลับบ้านก่อนดีกว่าครับ”

“จ้ะ แล้วมาเล่นกับน้องใหม่นะ”

เด็กชายยกมือไหว้แล้วเดินกลับอย่างจ๋อยๆ นึกโทษแม่อยู่ในใจว่าทำไมต้องมายุ่งเกี่ยวอะไรกับบ้านย้ายมาใหม่ด้วย นี่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรแท้ๆกลับทำให้น้องร้องไห้ออกมาเสียอย่างนั้น

แต่หลังจากนั้น จะด้วยแม่หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้พัดมีธุระมาที่บ้านของหมอกแทบทุกวัน และค่อยๆเล่น จนเจ้าตัวเล็กจำได้ และติดเด็กชายราวกับตังเม

คำที่หมอกพูดได้แรกๆ นอกจาก ป้อ แม่ะ หม่ำ แล้ว ก็เป็นชื่อของพัดนี่แหละ



หมอกไม่เข้าใจความแตกต่างของเพศ…

ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจว่าผู้ชายคืออะไร ผู้หญิงคืออะไรอย่างนั้นหรอกนะ เข้าใจด้วยว่าผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงแล้วจะมีลูก ถึงคุณครูจะไม่ได้สอนว่ามียังไงก็เถอะ

แต่คุณครูไม่เห็นจะสอนเลย ว่าการที่อยากจะจุ๊บพี่ชายข้างบ้าน มันเป็นเรื่องผิดปกติตรงไหน

“อ่า… เรื่องนี้หรอกเหรอคะ”

แล้วหมอกก็ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมแม่จะต้องถอนหายใจตอนคุณครูอธิบายพฤติกรรมในห้องเรียน ว่าเขาร้องไห้จ้าเมื่อครูบอกว่า
จุ๊บกับพี่ชายไม่ได้เด็ดขาด กับพ่อแม่ยังบอกว่าโตขึ้นจุ๊บปากไม่ได้ แต่จุ๊บแก้มได้ งั้นทำไมสำหรับพี่พัด หมอกถึงจุ๊บอะไรไม่ได้
เลย

“ก็หมอกรักพี่พัดนี่ ครูก็บอกให้จุ๊บได้แค่คนที่รัก หมอกผิดตรงไหน” หมอกพูดแล้วขยี้ตาที่แดงเพราะร้องไห้ในมันช้ำไปอีกจนแม่ต้องมาดึงไว้ ก่อนจะบอกคุณครูว่าขอให้ตัวเองจัดการแล้วอธิบายกับลูกตัวน้อย

“หมอกไม่ผิด แต่พี่พัดเค้าผิดนะ” เด็กน้อยหน้าเหวอทันทีที่ได้ยิน คุณแม่รีบอธิบาย “กฏหมายมีอยู่ว่าถ้าคนที่อายุมากกว่าจุ๊บเด็กที่อายุต่ำกว่า18 จะถูกจับเข้าคุกนะลูก ถ้าพี่พัดจุ๊บหนูอาจจะต้องเข้าคุกนะ”

เท่านี้ล่ะหมอกก็แทบจะร้องไห้จ้าขึ้นมาอีกครั้ง พ่อเคยอธิบายเรื่องตำรวจกับคนร้ายให้เด็กน้อยฟัง และจำได้ไม่ลืมว่าที่ๆเรียกว่าคุกเป็นที่ๆไม่ดี มีแต่คนไม่ดี หมอกไม่อยากให้พี่พัดไปอยู่ที่นั่น

“ไม่เอาน้า”

“นั่นแหละ เพราะงั้นตอนนี้ก็จุ๊บพี่พัดไม่ได้นะ หนูต้องอายุ18ก่อนนะ ไหนอีกกี่ปีนับซิ”

“ตอนนี้หมอกหกขวบ” เด็กน้อยนับเลขอย่างตั้งใจ เขาไม่รู้วิธีการเอาเลขมากกว่ามาลบ เลยใช้วิธีนับจากน้อยไปมากซึ่งใช้เวลา
แต่คุณแม่ก็รออย่างใจเย็น แม้คุณครูที่นั่งใกล้ๆจะเหวอไปแล้วก็ตาม

“อีก12ปี!”

“ใช่จ้ะ หมอกเก่งมาก รออีก12ปีเนอะ ไม่นานหรอก นี่ไงแปปเดียวหมอกก็หกขวบละ อีกแปปๆก็18 ไว้ถึงตอนนั้นถ้ารักพี่พัดที่สุดอยู่ ค่อยไปจุ๊บเขานะลูกนะ”

“หมอก.. หมอกจะอดทน”

คุณแม่ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหันไปส่งยิ้มให้คุณครูที่กระซิบถามเบาๆว่าสอนแบบนี้ดีแน่หรือ ซึ่งฝั่งแม่ก็คิดว่ามันอาจจะไม่ได้ดีที่สุดหรอก แต่ในเวลาจำกัดก็คิดได้เท่านี้ และมันก็ได้ผลเสียด้วย

ต่อไปก็แค่ลุ้นว่าพอหมอกครบ18จะยังอยากจุ๊บพี่พัดอยู่รึเปล่าเท่านั้น และตามปกติ เด็กผู้ชายวัยนั้นความรู้สึกอยากจุ๊บพี่ชายที่อายุห่างกันร่วมสิบปีมันก็คงจางหายไปนานมากแล้ว

แต่ถ้าถึงวันนั้นแล้วยังอยากจุ๊บอยู่… ก็คงต้องเลยตามเลยซะละมั้ง



ในช่วงพักเที่ยง เด็กทุกคนต่างวิ่งเล่นกันอย่างเต็มที่จนเหงื่อไหลไคลย้อย และเมื่อถึงเวลาเข้าเรียนต่างก็แข่งวิ่งกันมารับแอร์เย็นฉ่ำที่คุณครูเปิดรอไว้ให้ทุกวัน แต่วันนี้โต๊ะเรียนที่ว่างเปล่าของทุกคนกลับมีถุงคุ้กกี้วางอยู่คนละถุง เด็กๆต่างเข้าไปหยิบดูด้วยความสนใจ

“นี่ของใครอ่ะ มาจากไหนเนี่ย”

“ก็เพิ่งมาเห็นพร้อมกันเนี่ย จะรู้ได้ไง” หมอกตอบเพื่อนที่นั่งข้างๆก่อนที่คุณครูจะเดินเข้ามาพร้อมกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งและสั่ง
ให้ทุกคนนั่งที่

“ทุกคน ไม่ต้องตกใจกับถุงขนมนะ พอดีว่าแม่ของฝ้ายเค้าเพิ่งเปิดร้านขนม ก็เลยเอามาแจกพวกเราให้ลองชิมดู แต่อย่าเพิ่งกินตอนนี้นะ เลิกเรียนค่อยกิน รสชาติเป็นไงพรุ่งนี้มาบอกด้วยนะคะ แม่ฝ้ายเค้าอยากรู้”

หมอกและเพื่อนๆส่งเสียงตอบรับอย่างเข้าอกเข้าใจแล้วเก็บคุกกี้ลงใต้โต๊ะบ้าง ในกระเป๋าบ้าง  ก็ว่าอยู่ว่าทำไมไม่เห็นฝ้ายไปเล่นกับพวกผู้หญิงตอนเที่ยง ที่แท้ก็มาแอบวางขนมนี่เอง



เด็กก็ยังเป็นเด็ก เรื่องฝ่าฝืนคำสั่งนี่ถนัดนัก เพราะถึงจะบอกให้เอากลับไปกินที่บ้านแล้วบอกความเห็น แต่หลายคนเลือกที่จะแกะกินทันทีที่เลิกเรียน ใครกินหมดก็ขอแบ่งเพื่อนที่กินแค่นิดเดียวแล้วตั้งใจจะเก็บไปแบ่งที่บ้าน แถมหลายคนกินเสร็จแล้วก็ไม่ยอมบอกว่าอร่อยไม่อร่อยยังไงจนฝ้ายปวดหัว ต้องไล่ตามถามทีละคนๆ

“จริงๆเลยนะ แม่เราอุตส่าห์ทำมาให้กิน” เด็กสาวดูจะเด็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่จึงทำหน้ามุ่ย หมอกที่กำลังเก็บกระเป๋าเห็นอย่างนั้นจึงเข้าไปหาเธอ

“ก็ครูบอกให้มาบอกพรุ่งนี้ไง เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็คงมาบอกเองมั้ง” ไม่รู้ว่ามันเข้าท่ารึเปล่าเพราะเด็กสาวถอนหายใจ แต่อย่างน้อยหมอกก็ถือว่าได้ช่วยให้เธอสบายใจขึ้นมา นิดนึงล่ะมั้ง

“ถ้าจริงก็ดีสิ แล้วหมอก แกว่าไงบ้างอ่ะ”

“เรายังไม่ได้กินเลย” เด็กชายว่าแล้วหยิบถุงคุ้กกี้ที่ยังถูกซีลอย่างดีออกมา

“จะเก็บไปกินจะพ่อแม่สินะ”

“ก็ใช่..”

คำพูดแปลกๆทำให้เด็กสาวสงสัย ก็ใช่ แปลว่าใช่ แต่ใช่ไม่หมด หมอกคงมีใครที่อยากแบ่งด้วยอีกแน่ และเด็กสาวที่เริ่มถึงวัยแก่แดดก็ไม่คิดจะปล่อยผ่านเรื่องนี้

“จะเก็บให้แฟนเหรอออ” ฝ้ายพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนและมันทำให้หมอกอ้าปากหวอ เห็นได้ชัดเลยว่าจี้ใจดำ

“ไม่.. ไม่ใช่ซะหน่อย ฝ้ายอย่าแซวดิ” เพราะหมอกมีผิวขาวทำให้พอเขินทีเห็นชัดเลยว่าใบหูเปลี่ยนสีเป็นแดงจัดขนาดไหน เด็กสาวยิ้มแล้วว่าต่อ

“แต่ก็ชอบเค้าใช่มั้ยล่ะ” หมอกพยักหน้าทำให้เด็กสาวแก่แดดคิดแผนอะไรดีๆออกทันที “เอางี้มะ หมอกเอาคุกกี้นี่ไปบอกเค้าดิว่าเราสารภาพรักแล้วให้หมอก”

หมอกย่นคิ้วเข้าหากัน “ทำไม? มันเรื่องโกหกนี่นา”

“จะได้รู้ไงว่าเค้าชอบหมอกเปล่า นะ”

เด็กชายมีสีหน้าลังเลแล้วพยักหน้ารับ บางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่เขาเรียกกันว่าลองใจล่ะมั้งนะ แต่หมอกก็ยังกลัวอยู่ดี ว่าถ้าเล่นแบบนี้แล้วพัดทำเฉยๆขึ้นมาจะเป็นยังไง



“ดีแล้วล่ะ โดนล้อเดี๋ยวก็ทะเลาะกับเพื่อนอีก นี่เดี๋ยวก็จะขึ้นม.1แล้ว เกิดได้ไปอยู่คนละโรงเรียนก็ต้องเสียใจอีก”

ถึงจะพูดไปโน่นนี่แต่หมอกก็เห็นได้ชัดเลยว่าพัดกำลังทำหน้าโล่งใจโดยไม่รู้ตัว เด็กน้อยหัวใจพองโตที่พี่ชายสุดที่รักยังหวงตนอยู่บ้าง

“นั่นสิเนอะ งั้นหมอกไม่มีแฟนดีกว่าเนอะพี่พัด”

“อื้ม”

บางทีพัดคงไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมีสีหน้าที่สบายใจขนาดไหนตอนที่เด็กน้อยบอกว่าจะไม่มีแฟน และไม่รู้เลยว่าคนข้างๆหน้าบานไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

อย่างนี้ต้องเล่าให้ฝ้ายฟังแล้วสิว่าแผนได้ผลน่ะ



หมอกเริ่มรู้สึกว่าตั้งแต่ขึ้นมัธยมมา หัวข้อสนทนาของเพื่อนๆก็เริ่มเปลี่ยนไป ของผู้หญิงน่ะไม่เท่าไร เพราะถึงจะพูดคุยเรื่องเครื่องสำอางค์ เรื่องเครื่องแต่งกายบ้าง ถึงหมอกจะฟังไม่รู้เรื่องแต่ก็ยังเป็นหัวข้อที่เข้าหูแล้วไม่กระดาก แต่พวกเพื่อนผู้ชายนี่สิ…

“เฮ้ย เอามาให้แล้ว”

“เจ๋งว่ะ เดี๋ยวเที่ยงเอาไปก็อปในห้องคอม”

คุยเรื่องอะไรกันนะ? พักนี้พวกผู้ชายชอบทำอะไรแบบนี้ ยื่นแฟลชไดรฟ์ให้กันแล้วพูดอะไรเหมือนเป็นรหัสลับ และเพราะมันดูไม่น่าไว้วางใจ หมอกเลยเลือกที่จะอยู่ห่างๆดีกว่า

“หมอก สนป่าว” เสียงจากในกลุ่มนั้นเรียกมาทำเอาหมอกที่อ่านการ์ตูนอยู่สะดุ้ง เขาจะตะโกนถามว่ามีเรื่องอะไร แต่ทางนั้นกลับกวักมือให้มาใกล้ๆแทน

“มีอะไรกันเหรอ?”

“หนังชมพูไง มีแฟลชไดรฟ์เปล่า มาก็อปไป”

หมอกขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจที่พูดเท่าไร แต่ท่าทางยักคิ้วหลิ่วตาแปลกๆทำให้เดาได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องดีจริงๆนั่นแหละ

“หนังชมพูคือไรอ่ะ” หมอกพูดด้วย้ำเสียงปกติและทำให้ทั้งกลุ่มสะดุ้งโหยง หนึ่งในนั้นคว้าคอหมอกมาแล้วเอามืออุดปากด้วยความเร็วแสง ส่งเสียงกระซิบ

“ไม่รู้ได้ไงวะ หนังโป๊ไงหนังโป๊”

หมอกตาโต ดึงมือเพื่อนออก แต่ยังคงเสียงกระซิบ “มันไม่ดีไม่ใช่เหรอ เอามาได้ไงเนี่ย”

“ไม่ดียังไงวะ เค้าเรียกสื่อเพื่อการศึกษา นี่พี่ชายคัดมาให้ เด็ดๆทั้งนั้น ตกลงเอาป่าว”

เห็นสีหน้าเพื่อนที่คะยั้นคะยอเสียเหบือเกิน หมอกจึงต้องรีบพยักหน้ารับโดยไว ถึงจะรู้ว่ามันไม่ดีแต่ด้วยอายุเท่านี้ ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่า



ไม่เคยคิดว่าการเปิดคอมในห้องตัวเองมันจะรู้สึกผิดร้ายแรงขนาดนี้ ได้ยินเสียงแม่คุยกับพ่อและเสียงทีวีที่อยู่ด้านล่างทำให้มือที่ถือแฟลชไดรฟ์สั่นกึกๆ แต่มาถึงตอนนี้ ก็หยุดไม่ได้แล้ว…

ภาพในหน้าจอฉายภาพชายหญิงเปล่าเปลือยทันทีที่เปิดไฟล์ ใจของหมอกเต้นรัวกับความตรงหน้า ตื่นเต้นในแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน และแน่นอนว่า.. อวัยวะบางอย่างก็ตื่นขึ้นตามเช่นกัน

“พี่พัด…”

ให้ตายเถอะ ทำไมถึงได้มองพระเอกเป็นพี่พัดไปได้นะ…

มือเล็กขยับรัวเร็ว ปากพร่ำเรียกชื่อพี่ชายในขณะที่มองภาพตัวเองกับอีกฝ่ายซ้อนทับกับพระนางที่อยู่ในฉาก ความรู้สึกแย่ครอบคลุมจิตใจ ผิดที่มั่นใจว่าคิดกับพี่ชายมากกว่าพี่ แต่ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไร สิ่งที่มันพลุ่งพล่านทั้งในร่างกายและจิตใจก็ไม่สามารถสงบลงได้

เคยคิดว่า พอโตแล้วจะชอบน้อยลงแท้ๆ…

แต่มันกลับไม่ใช่เลย…

“พี่่พัด… ผมรักพี่…”



เส้นบางๆที่เผลอก้าวข้ามทำให้การบุกเข้าห้องนอนในยามเช้าของพี่ชายไม่เหมือนเคย จากที่เคยยิ้มร่าเมื่อเห็นใบหน้าของพัดยามหลับ กลับเป็นสีหน้าหวาดหวั่นเมื่อรู้ตัวว่าควบคุมจิตใจตนเองไม่ได้

“พี่พัด.. ตื่น…” หมอกเขย่าเบาๆที่ร่างของพี่ชายที่กำลังนอนแผ่สบายอยู่บนเตียงนอน และหมอกรู้ดีว่าพัดไม่ตื่นกับแค่เสียงเบาๆแบบนี้แน่นอน

“รีบตื่นมาสอนการบ้านหมอกได้แล้ว” มีแต่เสียงงึมงำเป็นการตอบรับแล้วพลิกตัวกลับไปอีกทาง หมอกนั่งลงตรงขอบเตียง มองหน้าที่ชายที่กำลังหลับพริ้มอย่างมีความสุข

“พี่พัด…”

หมอกค่อยๆก้มหน้าลงจนริมฝีปากจรดกับแก้มสากของคนหลับ หอมเบาๆด้วยความรักใคร่ทั้งที่ใจเต้นโครมคราม ก่อนจะค่อยๆถอนมันออกมา จ้องมองใบหน้าของพี่ชายไม่ห่าง

“เหวอ!” ทั้งๆที่คิดจะลุกแต่แขนแข็งแกร่งของอีกคนกลับรวบตัวลงมากอดทั้งๆที่ยังหลับ คงเห็นว่าเขาเป็นหมอนข้างนิ่มๆที่ตัวเองเผลอถีบตกเตียงไปล่ะสิ

“พะ.. พี่พัด..”

“งืม…” ใบหน้าที่ซุกไซ้เข้าข้างลำคอทำเอาหมอกสะดุ้งโหยง เด็กหนุ่มตกใจรีบยันตัวพี่ชายออกห่าง ซ้ำยังเตะซ้ำไปอีกหนึ่งทีจนคนหลับตาสว่างทันตา

“เฮ้ย อะไรๆ” พัดที่งัวเงียนั่งจ้องหน้าน้องชายข้างบ้านที่ไม่รู้ทำไมมันหน้าแดงนักอย่างงงงวย แต่ยังไม่ทันจะถามอะไร หมอกกลับหยิบหมอนข้างข้างเตียงมาปาอัดหน้าแล้ววิ่งออกไปเสียอย่างนั้น

“หมอก เดี๋ยวดิ!”

หมอกพยายามสงบใจขณะหนีเข้ามาในห้องน้ำ แต่ไม่ว่าอย่างไรกลับนึกออกแต่ภาพที่ตัวเองโดนจู่โจมเมื่อครู่ สลับกับฉากในหนังที่ดูเมื่อคืนที่ติดตาวนเวียนอยู่ในสมอง 

รักมาก หลงมาก กลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้ว



ความอายหายไปตามกาลเวลา จนบางครั้งมีแต่ความหงุดหงิดเข้ามาเมื่ออีกฝ่ายไม่คิดจะทำอะไรเสียที หมอกรุกทุกอย่าง ตื่นเช้า ก่อนเข้านอน หรือแม้กระทั่งเวลาเดินเที่ยวด้วยกัน จนบางทียังคิดว่า ตัวเองหน้าไม่อายไปไหมนะ

“หมอก เฮ้ย” หมอกสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็โดนเขย่าไหล่อย่างแรง สิ่งที่คิดๆไว้กระจัดกระจายไปทั่ว

“มีอะไรเหรอพี่พัด”

“นี่ทำการบ้านหรือหลับ คิดไม่ออกเหรอ” พี่ชายทักขึ้นแล้วมองไปยังสมุดที่ว่างเปล่า เขาสอนการบ้านน้องแล้วออกไปหาขนมมาให้ บวกคุยกับแม่ไปกว่าสิบนาทีแต่หมอกกลับไม่กระดิกเลยสักนิดจนสงสัย

“เปล่า…”

ด้วยใบหน้าและร่างกายที่เข้ามาชิดทำเอาหมอกมองอย่างเผลอไผล จนเลื่อนเข้าไปจุ๊บแก้มพี่ชายเบาๆอย่างอดไม่ได้

“เฮ้ย” และพัดก็ตกใจเกินกว่าเหตุทุกที ทำมาตั้งแต่เด็กแล้วแท้ๆ

“ตกใจอะไรล่ะ” หมอกยิ้ม ทำหน้ายียวน ทำเอาพัดเลื่อนมือมาขยี้หัวอย่างหมั่นเขี้ยวแล้วจับให้มองการบ้านตรงหน้า

“รีบทำการบ้านเถอะน่า”

หมอกพ่นลมหายใจถึงจะหงุดหงิดที่พี่ชายตกใจ แต่ก็ยังอมยิ้มอย่างดีใจเมื่อพัดเล่นกับตนอยู่ “ก็ได้”



การรุกยังถูกทำอย่างต่อเนื่อง ไม่วันนี้วันหน้าก็สักวัน ที่หมอกคิดว่าพัดจะตอบรับความรู้สึกของตนเสียที หมอกไม่เสียเวลาเอ่ยปากเมื่อเข้ามาถึงห้องนอนอย่างเคย แต่กลับเลิกผ้าห่มของคนที่นอนแผ่หลา และขึ้นคร่อมทับซ้ำยังวางมือสองข้างขยับลงบนหน้าอกคนนอนเบาๆ

“พี่พัด ตื่นๆ”

ด้วยน้ำหนักหรืออะไรไม่รู้ แต่พัดลืมตาขึ้นแล้วร้องเสียงดังทันที “ว้ากกกกกก”

หมอกก้มลงเอามืออุดปากด้วยความหนวกหู แล้วใช้มืออีกข้างเปิดม่านให้พัดเห็นว่าตัวเองตื่นสายขนากไหน เด็กชายยิ้ม เลื่อนหน้าไปใกล้

“พี่พัดจะร้องทำไมเนี่ย!”

“แล้วหมอกจะมานั่งทับพี่ทำไมเนี่ย” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเอื่อย หมอกรู้ดีว่าพัดไม่มีแรงขยับ เพราะว่าเช้าๆแบบนี้แรงยังไม่เข้าที่เท่าไร หรือต่อให้มีแรง ก็ไม่ขยับให้เขาตกเตียงเจ็บตัวหรอก

“ก็ถ้าไม่นั่งทับจะรู้เหรอว่าพี่ยังแข็งแรงอยู่” หมอกใช้สะโพกถูไถกลางลำตัวอย่างไม่รู้จักอาย จนพัดสะดุ้งแล้วผลักออก ซึ่งเด็กคนนี้ก็ยอมลุกขึ้นมาเสียโดยที หัวเราะคิกคักไล่หลังคนที่รีบวิ่งเข้าห้องน้ำ

“แหม่ ไม่เห็นต้องอายเลย”

“ต้องอายสิ!”

ทั้งๆที่ควรจะจัดการอะไรๆแท้ๆ แต่หลังเสียงตะโกนกลับเงียบ หมอกจึงแหย่เข้าอีกหน่อย “ให้ช่วยเปล่า”

“ไม่ต้องเลย! ลงไปอยู่ข้างล่างกับแม่ไป”

“ก็ได้”

หมอกตอบรับพลางยักไหล่ แม้ว่าจะอีกฝ่ายจะไม่เห็น แล้วยอมลงมานั่งกินข้าวที่แม่ของพัดทำไว้ให้แต่โดยดี ผ่านไปเกินครึ่งจานโน่นแหละกว่าพี่ชายจะเดินลงมาด้วยท่าทางที่ดูขุ่นเคืองจนน่าแซว

“ทำไมลงมาช้าจัง แฟบ?” เผลอหลุดคำหยาบออกไปอย่างตะครุบปากตัวเองไม่ทัน เพราะปกติจะพูดคำหยาบลามกกับพวกเพื่อนๆอยู่บ่อยๆตามประสาเด็กผู้ชายจนเผลอพูดออกมา เขาเสมองหน้าพี่ชายนิดๆและเห็นว่าคิ้วของพัดขมวดกันยุ่ง

“เมื่อกี้พูดอะไรน่ะ”

ในเมื่อเผลอไปก็ควรจะขอโทษ แต่จิตใจฝ่ายกบฏกลับสั่งว่าให้ลองตอกกลับไปดู “แฟบไง”

“ใครสั่งใครสอนให้พูดอย่างนี้กับผู้ใหญ่”

หมอกดูอึ้งไปนิดๆกับพัดที่ยืนกอดอกหน้าตาจริงจัง เด็กหนุ่มวางช้อนส้อมลงกับจาน จ้องหน้าคนเป็นพี่ “มันก็ไม่ได้ไม่สุภาพขนาดนั้นป่ะ”

“ถ้าพูดกับเพื่อนก็ไม่เป็นไรไง แต่พี่เป็นพี่นะ”

คำพูดสั้นๆแต่ทำให้หมอกสะอึก เด็กชายกำมือแน่น กัดฟัน โพล่งความใจในออกมาเสียงดัง

“ไม่เห็นจะอยากให้เป็นพี่สักหน่อย!”

“หมอก!”

เด็กหนุ่มไม่ฟัง ตั้งหน้าตั้งตาพุ้ยข้าวเข้าปากอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ เพราะเสียดายที่แม่พัดอุตส่าห์ทำไว้ให้ ก่อนจะคว้าแก้วน้ำมาซดดังอึกๆแล้วเดินตึงตังเข้าห้องครัวไปสวัสดีแม่

“กลับแล้ว…”

“เดี๋ยว ที่บ้านฝากเราไว้กับพี่”

“หมอกโตแล้วนะอยู่ม.ปลายแล้ว อยู่บ้านคนเดียวได้น่า!” แล้วก็เดินปึงปังออกไป พอพ้นประตูเท่านั้นแหละที่น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ หมอกรีบไขแล้วรีบล็อคประตู วิ่งเข้าบ้านขังตัวเองในห้องนอน ร้องไห้จนแทบขาดใจแล้วหลับไป



“พี่รักหมอกนะ ยังไงพี่ก็เป็นพี่ชายของหมอกเสมอนะ”

เสียงแผ่วเบาที่ได้ยินข้างหูแทบทำให้น้ำตาไหลอีกระลอก หมอกได้ยินเสียงรีโมทแอร์กับปิดหน้าต่างแต่ก็ยังหลับตาอยู่เพื่อดูว่าพี่ชายจะทำอะไร

และมันเจ็บยิ่งกว่าที่เคยคิดไว้…

หมอกจับไปที่แก้ม ฝั่งที่พี่ชายข้างบ้านฝากความอบอุ่นเอาไว้ น้ำตารื้น

“บอกแล้วไง ว่าไม่อยากได้พี่ชาย”

ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ความรู้สึกที่ว่า พอกันที ผลักดันให้หมอกออกห่างจากพัดมากขึ้น ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นมาหมอกก็ไปปรึกษากับเพื่อนหลายคน และทุกคนลงความเห็นว่าขนาดนี้แล้วก็ควรตัดใจ บ้างก็เสริมมาอีกว่าชีวิตอีกยาวไกล ต้องได้เจอผู้หญิงที่ดีกว่านี้แน่นอน

อยากจะขำแล้วบอกเพื่อนๆว่าคนที่เขารักไม่ใช่ผู้หญิง แต่ก็ปล่อยเลยตามเลยไปเสียดีกว่า

การที่ไม่สนใจเรื่องพัดมันก็ดี เพราะทำให้หมอกได้โฟกัสกับเรื่องเรียนมากขึ้น ต้องขยันให้มากขึ้นไปใหญ่เพราะไม่มีใครมาคอยสอนการบ้านเหมือนแต่ก่อนแล้ว

จนกระทั่งเรียนจบมัธยม เขาก็ไม่ได้คุยกับพัดสักคำ ว่าจะเรียนอะไร เรียนที่ไหน เข้าใจว่าอึกฝ่ายต้องเป็นห่วง แต่ถ้าเข้าใกล้ ทุกสิ่งที่อุตส่าห์ทนเก็บไว้ก็พังทลายกันพอดี

“หมอก ใช่หมอกรึเปล่า?” หมอกหันมองตามเสียงเรียก จึงได้เห็นผู้ชายตัวเล็ก เล็กกว่าเขาหลายเซนติเมตร แต่มีแววตาแห่งความแสบ ความกวนอยู่ข้างใน และเขาจำแววตานั้นได้ดี

“พี่โป้ง!”

หมอกแทบถลาเข้าหาพี่ชายแถวบ้านที่ย้ายบ้านไปตั้งแต่หมอกยังเด็ก ถ้าเป็นคนปกติคงจำกันไม่ได้ไปแล้ว แต่สำหรับหมอกที่เมื่อก่อนโดนแกล้งจนต้องวิ่งไปหาพัดแทบทุกวัน ลืมพี่ชายคนนี้ไม่ลงแน่ๆ

“เฮ้ย ไม่ได้เจอกันนานเลย สบายดี”

“สบายดีพี่ นี่พี่อยู่ม.นี้ด้วยเหรอ”

“พี่อยู่คณะนี้เว้ย” โป้งชี้ไปยังป้ายหน้าตึกคณะ ที่เดียวกับที่หมอกกำลังจะมาสอบสัมภาษณ์และนั่นทำให้เด็กหนุ่มดีใจเข้าไปใหญ้

“ทำไมโลกกลมงี้วะ งี้หมอกก็มาเป็นรุ่นน้องพี่อ่ะดิ”

“เออดี พี่จะได้แกล้งแกอีก”

โป้งว่าแล้วหัวเราะคิกคัก ซึ่งนั้นทำให้หมอกมองตั้งแต่หัวจรดเท้า “โหพี่ ตัวแค่นี้แกล้งหมอกไม่ไดแล้วมั้ง”

“ไอ้นี่ เดี๋ยวโดนๆ” คนพี่ทำท่าจะโบกหัวเข้าให้ หมอกทำท่าปัดแ้องแบบขำๆ

“เออหมอก แล้วพี่พัดเป็นไง สบายดีป่ะ” โป้งพูดขึ้นเมื่อจู่ๆก็นึกขึ้นได้ว่าปกติหมอกจะมีแพ็คคู่เป็นพี่ชายต่างวัยอยู่ด้วยตลอด และโป้งใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกันกว่าจะเค้นชื่อนี้ออกมา ที่ถามก็ไม่ใช่คิดถึงอะไรเท่าไร แต่เห็นว่าหมอกสนิทกับพัดมากจึงคิด
จะใช้เพื่อให้การสนทนาลื่นไหล แต่หมอกกลับซึมไปเสียอย่างนั้น

“สบายดี…” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เสียงดูไม่ดีเลยสักนิด โป้งขมวดคิ้ว ถามอย่างจริงจัง

“เป็นไรเนี่ย ทะเลาะกันเหรอ”

หมอกถอนหายใจ ตอบรับ “ก็นิดหน่อยอ่ะ เอาไว้สอบเสร็จแล้วเล่าให้ฟัง”

“เออๆ แต่เดี๋ยวพี่มีงานต่อหน่อย เอาเบอร์มาได้มะ”

“อืมๆ”



ทั้งสองคนนัดเจอกันที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยหลังจากสอบเสร็จ หมอกใช้เวลาสักพักในการมองหาคนตัวเล็กอย่างโป้ง ก่อนที่จะเห็นว่าพี่ชายคนนี้นั่งอยู่คนเดียว

“ไม่มีเพื่อนเหรอ”

“มีสิวะ แต่เห็นแกมีเรื่องส่วนตัวมาคุย เลยมาคนเดียว”

หมอกพยักหน้าพลางคิดว่าโป้งมีมุมใส่ใจคนแบบนี้ด้วยงั้นเหรอ เพราะเมื่อก่อนโดนแกล้งมาตลอด ก็แปลกดีที่ไม่ได้คิดแค้นอะไร กลับสบายใจเมื่ออยู่ด้วยเสียด้วยซ้ำ

“วางกระเป๋าไว้แล้วไปซื้อของกินไป”

“ไม่ขโมยนะ?”

“ไอ้นี่ กระเป๋าแกมันเหมือนเพาเวอร์เรนเจอร์มั้ยล่ะ” ว่าแล้วก็ขำทั้งคู่ หมอกเองก็คิดออกพอดีว่าโป้งเคยยึดเอาเพาเวอร์เรนเจอร์สีแดงของตัวเองไป จนพัดต้องตามไปเอาเรื่องถึงบ้าน บอกแม่ของโป้งจนโดนตีก้นลายต่อหน้าทั้งพัดและหมอก

เฮ้อ คิดถึงพี่พัดชะมัด…

“เอ้า ตกลงทะเลาะอะไรกันอ่ะ”

“สั้นๆคือ หมอกชอบพี่พัดแล้วพี่พัดไม่ชอบหมอก”

“เรื่องใหญ่นี่หว่า” โป้งวางช้อนส้อมแล้วนั่งฟังอย่างจริงจัง จนหมอกหลุดขำออกมา

“ก็ไม่เท่าไรหรอกพี่ เนี่ยหมอกก็พยายามตัดใจอยู่ เค้าก็เห็นหมอกเป็นแค่น้องอ่ะเนอะ”

โป้งพยักหน้า แล้วนึกภาพพี่ชายที่โตกว่าพวกตนเป็นสิบปี “พี่เค้าคง.. คิดอะไรหลายๆอย่างอ่ะเนอะ เรื่องสังคมเรื่องอะไร ก็เค้าโตแล้วนี่นะ”

“หมอกก็โตแล้วนะ” หมอกพูดหน้ามุ่ย ทำไมใครๆก็ว่าเขาเป็นเด็กกันนัก

“เด็กกว่าพี่เขาป่ะล่ะ แล้วนี่คือยังไงก็ชอบใช่มะ”

“พยายามตัดใจอยู่ไง…” ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่โป้งก็รู้อยู่ว่าหมอกยังทำไม่ได้ ในฐานะพี่คนนึงที่ไม่เคยทำตัวสมเป็นพี่เลยจึงคิดจะทำอะไรสักอย่าง

“เฮ้ย รู้ว่ามันยากนะเว้ย แต่เดี๋ยวเปิดเทอมแกจะเจอคนเพียบเลย พวกเพื่อนพี่หล่อๆก็เยอะ บางที.. มันอาจจะดีขึ้นมั้งนะ แต่เฮ้อ พอเจอแกก็นึกถึงแถวนั้นว่ะ”

เพราะเห็นหน้าหงอยขั้นสุดของหมอกตอนที่เขาพูดเรื่องคนอื่นแล้วโป้งจึงรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างเร็ว ก็ว่าแนะนำอะไรที่ดีแล้วนะ แต่
ดูท่าหมอกจะไม่ชอบใจ แต่พอพูดเรื่องบ้านปุ๊บ แววตาก็เริ่มสดใสขึ้นมานิดนึง

“ไปบ้านหมอกมั้ยอ่ะพี่”

“จริงอ่ะ ไปได้เหรอ” อย่างที่ว่าว่าตัวเองไม่ได้สนใจเรื่องบ้านเก่าเท่าไร ย้ายมาตั้งนาน คนรู้จักนอกเหนือจากนี้ก็ไม่มี แต่น้องมันเสนอมาเลยต้องทำท่าตื่นเต้นปนเกรงใจนิดหน่อย

“ได้ดิ ดีเหมือนกัน ถ้าคุยเรื่องตอนเด็กๆคงจะสนุกน่าดู” หมอกพูดด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นอย่างนี้โป้งจึงคิดได้ว่าควรจะทำอะไรตามที่น้องมันอยากได้จะดีกว่า



แต่ก็ไม่ได้คิดว่าการค้างบ้านจะต้องรับภาระหนักอย่างนี้นะ!

โป้งนึกอย่างกล้าๆกลัวๆเมื่อจู่ๆหมอกก็มาบอกในวันที่ตกลงกันว่าจะไปค้างบ้านซึ่งเป็นช่วงหลังสอบกลางภาคเสร็จ จริงๆก็ตกลงวันกันไว้นานแล้ว แต่ที่มาบอกเอาวันนี้คงกลัวเขาจะไม่ไปล่ะสิท่า

“น่า ช่วยหมอกนิดนึงนะ นี่ครั้งสุดท้ายจริงๆ ถ้าครั้งนี้เฟลอีกหมอกตัดใจจริงๆละ”

โป้งทำหน้าเหวอเมื่อน้องชายพูดจาขอร้องในเรื่องที่มีความเสี่ยง เพราะหลังจากที่หมอกกลับไปบอกแม่ว่าเขาอยากไปบ้าน แม่ของหมอกก็ปิ๊งแผนการอันบรรเจิดขึ้นมาว่าจะให้เขากับหมอกแกล้งเป็นแฟนกันเพื่อลองใจพัด

จำไม่ได้หรอกว่าแม่ของหมอกเฟี้ยวขนาดคิดอะไรเป็นเด็กๆแบบนี้ แต่ที่จำได้คือพี่ชายนาดพัดนี่แหละที่ทำให้เขาโดนลงโทษไปหลายที เรียกได้ว่าเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจังและหวงหมอกมากเติมไม้ยมกล้านตัว

“หมอก พี่กลัวตายว่ะ”

“ไม่ตายพี่ อย่ากลัว”


ถึงจะอิดออดแต่สุดท้ายโป้งก็ซ้อนมอเตอร์ไซด์วินหน้าปากซอยตามมาจนได้ บางทีหมอกก็อยากจะบอกโป้งเหมือนกันว่าเขาก็กลัวไม่แพ้กัน แผนเสี่ยงๆแบบนี้พลาดขึ้นมาเขามีแต่เจ็บกับเจ็บฝ่ายเดียว

“เฮ้ย ทำไรกันวะ!”

แต่ถ้าผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างนี้ก็ค่อยคุ้มที่ลองเสี่ยงขึ้นมาหน่อย…

หมอกมัวแต่ซาบซึ้งและดีใจว่าพัดอุตส่าห์เข้ามาดักทางพวกเขา จนเกือบลืมไปเลยว่าโป้งโดนกระชากแล้วต่อยกระเด็นไปกองกับพื้นโน่นแล้ว

ดูท่าเรื่องที่พี่โป้งกลัวจะเป็นจริงเหมือนกันสินะ…



บทสรุปของแผนนี้ออกมาได้อย่างสะสวยเกินคาด พัดยอมสารภาพรักแต่โดยดีซึ่งมันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของหมอก แม้คำสารภาพจะต้องแลกมากับการที่โป้งโดนต่อยจนหน้าปูดและต้องระเห็จไปนอนห้องแขกห้องเล็กก็ตามที

“พี่โป้ง กินได้มั้ยเนี่ย”

โป้งพยักหน้าหงึกหงีกแล้วตักข้าวต้มเข้าปาก ถึงมันจะแย่สำหรับเขาแต่ก็ยังดีที่หมอกมีกะใจทำข้าวต้มเบาๆให้กิน เพราะพัดหมัด
หนักมากแถมผลของมันที่ไม่แสดงเมื่อคืนกลับมาปรากฏตอนเช้าให้แก้มม่วงปูดเป็นที่น่าอนาถใจ

“พี่เข้าไปได้มั้ย” เสียงประตูบ้านเปิดขึ้นพร้อมๆกับคนที่เข้ามาพร้อมขนมนมเนยมากมาย หมอกไม่ได้ตอบว่าได้หรือไม่ได้ แต่เข้าไปเอาขนมทั้งหมดจัดวาง ให้พัดมองหน้าโป้งอย่างรู้สึกผิด

“เอ่อ พี่ขอโทษนะเว้ย”

“ช่างเถอะครับ มีความสุขกันก็ดีแล้ว”

พัดหัวเราะขื่นๆ มีความสุขตรงไหนในเมื่อเขายังต้องไปนอนเหงาอยู่คนเดียวทั้งที่ตกลงใจเป็นแฟนกับเด็กดื้อตรงนี้แล้ว แถมหมอกยังทำตาเขียวใส่อีกต่างหาก

“หมอก ทำไมมองพี่งั้นล่ะ”

“ก็พี่พัดนั่นแหละ ฮึ้ย…” หมอกว่าแล้วก้าวเท้าฉับๆมาคว้าคอเสื้อคนที่ยืนอยู่ไปประกบปาก จนโป้งที่กินข้าวต้มถึงกับสำลักกับภาพตรงหน้า

พัดตกใจจนหน้าแดง ละล่ำละลั่ก “จะ.. จูบทำไมเนี่ย!”

“เป็นแฟนก็ต้องจูบกันสิ!”

“ไหนหมอกบอกรออีกเดือนนึงไง” พัดถามด้วยตาเป็นประกาย มีความหวังว่าน้องจะยอมก่อนเวลาที่ตั้งไว้

“อีกเดือนนั่นมัน.. ตัวหมอกต่างหากล่ะ”

คราวนี้คนยืนอ้าปากค้าง คนนั่งข้าวต้มพุ่ง ทั้งสองคนต่างมองน้องชายที่ปกติจะน่ารักมาตลอดอย่างไม่เชื่อสายตา พัดที่ถึงจะเจอเด็กยั่วมาเป็นปีๆก็ยังตกใจ ไม่ต้องพูดถึงโป้งที่ยังมองภาพหมอกเป็นเด็กกะโปโลน้ำมูกย้อยตลอดเวลา

“หมอกพูดจริงนะ”

“ไม่กลับคำหรอกน่า”

“ตอนนี้จูบได้?”

“อื้อ”

“งั้นจูบทั้งตัวเลยได้เปล่า” หมอกหันมามองคนพูด หน้าแดงเถือก ผิดกับพัดที่เป็นฝ่ายยิ้มและหัวเราะเบาๆแทน ก่อนจะดึงน้องชายมากอดฟัดตามใจอยาก จนเสียงหัวเราะและหยอกล้อของทั้งสองคนอบอวลไปทั่วบ้าน

ส่วนโป้ง ก็ขอไปรีบเก็บจานเก็บกระเป๋ากลับบ้านก่อนแล้วกัน แล้วจะไม่มาอีกแล้วให้ตายเถอะ!!

_______________________________________________________________________________________

สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์เข้ามาอ่านกัน
ชื่อเรื่องนี้แปลตรงตัวแบบง่ายๆ(และโง่ๆ)เลยจากชื่อเพลง Ookami to Pride ของวงSKE48ค่ะ
แปะลิ้งค์ http://alive.in.th/watch_video.php?v=MARNY8M49NUG&play_list=2058
เนื้อเพลงก็จะเป็นเด็กสาวกระเง้ากระงอดว่าตัวเองเป็นสาวแล้วนะทำไมพี่ชายไม่ทำอะไรสักที ทีนี้ถึงจะอยากทำก็จะไม่ให้ทำแล้วนะ! 
เนื้อหาดูน่ารักนะคะ อย่างแต่งให้น่ารัก แต่ทำไมบางทีก็มีกลิ่นดราม่าTT ไม่น่ารักเท่าที่หวังเลย แต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็มีความสุขแล้วเนอะคะ ขอบคุณที่อ่านค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แหม ทำไมอ่านจากคนเขียนแล้วรู้สึกว่าดูเป็นเพลงที่ออกแนวน่ารักมุ้งมิ้ง ฮา
แต่แบบที่เขียนมาก็โอเคนะคะ

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ขอตอนพิเศษ..ษษษษษษษษษษ   :oo1:

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
ขอตอนพิเศษด้วยคน  หมอกแสบมาก :hao3:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
สรุปว่ารอไปก่อนนะพี่พัด อีกเดือนนึง ฮาาาา

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
โธ่...โป้งช่างน่าสงสาร 55555555 :m20: :m20:

ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนพิเศษ1 คู่แข่ง [1/2]

มหาวิทยาลัยเดิม คณะเดิม สาขาเดิม จุดรวมตัวเดิมๆ แค่เป็นวันแรกของช่วงปรับพื้นฐานเด็กปีหนึ่งเท่านั้น แต่มันก็ทำให้พัดที่กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในพี่ว้ากตัวสั่นงันงก

เพราะคณะบริหารมีผู้ชายอยู่น้อยนิด แค่เป็นชายแท้ก็โดนบังคับให้มาฝึกเป็นพี่ว้ากโดยพร้อมเพรียงซะแล้ว ไม่ถามกันเลยว่ามีใครมีเบื้องหลังแบบไหนบ้าง อย่างตัวพัดที่มีน้องชายข้างบ้านอยู่ป.3 วันๆโอ๋น้องตามใจน้องสิ้นดี จู่ๆจะให้เขามายืนดุคนที่เป็นน้องแบบนี้ มันก็ไม่ไหวนะ

“ไอ้พัด ใจแข็งหน่อยสิวะ” เพื่อนสนิทของเขาตบเข้าที่หลังดังป้าบจนสะดุ้งตัวโยน อยากจะร้องเพราะความเจ็บแต่ก็ต้องตะครุบปากเอาไว้ ไม่งั้นน้องๆที่เรียนปรับพื้นฐานอยู่ด้านในคงได้ยินพอดี

“อย่าตีกันเองสิวะไอ้โจ้” พัดกระซิบ ซึ่งเพื่อนสนิทก็ทำแค่ยักไหล่อย่างไม่ใยดี แล้วบอกให้ยืนตัวตรงเตรียมพร้อม
ไม่นานเสียงจอแจก็ดังขึ้นจากข้างในก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกกลายๆว่าอาจารย์ปล่อยเด็กแล้ว ถึงตัวอาจารย์จะยังไม่ออกมาก็เถอะ โจ้หันไปผงกหัวกับพวกปีสองให้เข้าไปบอกให้น้องนั่งกับที่ ใช้ใบหน้ายิ้มแย้มให้น้องสบายใจ ก่อนที่พวกปีสามอย่างตนจะ
เข้าไปแบบโหดสุดขั้วให้ตื่นกลัว

“พวกคุณ ฟังทางนี้!”

แค่เสียงตะโกนของโจ้ก็ทำเอาขี้หูสั่น ถ้าไม่เกรงใจพัดคงเอามือปิดสองหูไปแล้ว ขนาดตัวเขายังกลัวไม่ต้องพูดถึงน้องๆที่นั่งเหวอกันเลย ยิ่งมีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่คงจะขวัญกระเจิงกัน ไม่รู้ว่าตั้งแต่รุ่นไหนที่นึกคึกให้มีการว้ากขึ้นมา พวกเขาเรียนบริหารแท้ๆไม่รู้จะต้องทำตัวแบบวิศวะไปทำไม เข้าหาแบบดีๆไม่ดีกว่าเหรอ เผลอๆได้ทำความรู้จักกับรุ่นน้องสวยๆด้วย

ไอ้โจ้บอกกฎข้อบังคับอะไรไปอีกสักพัก ก่อนจะปล่อยให้น้องกลับ และให้พวกปีสองสอนน้องร้องเพลงก่อนเปิดเทอม ซึ่ง.. ในบรรดากฎทั้งหมดพัดไม่เข้าใจอยู่อย่างเดียว ว่าจะห้ามให้ปีหนึ่งใส่ทรงเอไปทำไม สาวๆกลุ่มใหญ่ใส่ทรงเอสั้นๆนั่งไม่ระวังตัวก็เป็นอาหารตาให้พวกผู้ชายกลุ่มน้อยอยู่แล้วแท้ๆ โดยเฉพาะไอ้โจที่เป็นเสือผู้หญิง คงกล้ำกลืนน่าดูที่ต้องมาประกาศอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง

“ขอให้เทอมแรกผ่านไปเร็วๆด้วยเถ้อ” นั่นไง แล้วก็มานั่งบนบานไร้สาระ ประชุมกับพวกปีสี่ขอยกเลิกกฎซะก็สิ้นเรื่อง

“ผ่านเทอมนี้ไปก็ต้องเริ่มทำธีสิสแล้วนะ”

“เออว่ะ” โจ้ฟังที่พัดเตือนสติแล้วทึ้งหัว ความคิดสองอย่างตีกันวุ่นทั้งเรื่องกระโปรงรุ่นน้องและเรื่องธีสิส พัดหลุดขำออกมาก่อนจะกระชับกระเป๋า เมื่อพวกเขาซุ่มกันอยู่ในพื้นที่หลืบของมหาวิทยาลัยมาสักพักใหญ่ๆแล้ว ป่านนี้น้องๆกลับไปหมดไปต้องคีพลุคแล้วจะได้กลับบ้านสักที

“ไอ้พัดจะไปไหนวะ”

“กลับบ้านดิ จะอยู่ยันมืดเลยรึไง”

“อ้าว เร็วไปป่ะวะเพิ่งบ่ายสอง”

พัดอยากจะบอกว่านี่ช้าไปแล้วด้วยซ้ำ คุยกะน้องเสร็จตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว ยังมานั่งลอยชายกันอยู่ได้ เขายิ่งมีสิ่งที่ต้องทำอยู่
“ไม่เร็วหรอก ถึงบ้านหมอกก็กลับมาพอดี”

“ชิ ไอ้คนติดน้อง” โจ้ส่งเสียงล้อเลียนตามมาแต่พัดด็ไปสน เขาโบกมือลาโจ้และเพื่อนคนอื่นที่นั่งรวมๆกันอยู่ ใครๆก็รู้ว่าพัดติดน้องชายมากแค่ไหนจนทุกคนพากันล้อว่าเลี้ยงต้อยๆ แม้มันจะปฏิเสธอยู่ทุกวันก็ตาม




รถเมล์เป็นตัวเลือกเดียวของพัดในการใช้กลับบ้าน เด็กมหาลัยไม่ค่อยมีเงินอย่างเขาจะให้นั่งแท๊กซี่ทุกวันมันก็ไม่ไหว เพราะงั้นแม้ว่าบนรถเมล์จะเบียดเสียดยังไงก็ต้องทนใช้ต่อไป

ว่าแต่ทำไมช่วงบ่ายสองถึงคนแน่นอย่างนี้นะ พัดมองซ้ายขวาไม่มีที่นั่ง แถมคนยังขึ้นมาเรื่อยๆจนเริ่มเบียดกันแล้วอีกต่างหาก สงสัยบางจุดคงจะรถติดหรือมีอุบัติเหตุจนปล่อยรถมาได้น้อย แต่ก็ช่วยไม่ได้ เพราะถ้าเปลี่ยนคันตอนนี้ก็คงไม่ทันหมอกกลับบ้าน
อย่าหาว่าบ้าหรืออะไรเลยนะ แต่การที่ได้กลับไปแล้วยืนเซ็นต์รับหมอกจากรถตู้รับส่งนี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆ ชอบนักแลการแสดงตัวตนเป็นเจ้าของหมอก ถึงจะอยู่ในสถานะผู้ปกครองก็เถอะ

ผ่านไปประมาณเกือบห้าป้าย คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าพัดก็ลุกออกพอดี แต่จะให้ผู้ชายรูปร่างสมบูรณ์ไปนั่งมันก็กระไรอยู่ เลยคิดมองหาเด็กผู้หญิงที่อยู่แถวนั้น แต่น้องนางก็อยู่ห่างไปอีกสามคนได้ จะแทรกมาก็ลำบาก

ถ้าอย่างนั้น...

“น้องนั่งเลยครับ” พัดหันซ้ายขวาแล้วมาหยุดตรงที่เด็กหนุ่มที่อยู่ด้านซ้ายของตัวเอง อายุหน้าตาไม่ได้ต่างกันแต่จากที่ใส่เครื่องแบบนักศึกษาเรียบร้อยสุดแถมยังผมสั้นถูกระเบียบ ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าเด็กกว่าแน่ๆ

เด็กคนนั้นหันมาทำหน้าเหรอหราแล้วชี้เข้าหาตัว พัดพยักหน้าหนึ่งทีเด็กคนนั้นจึงรีบค้อมหัวขอบคุณเป็นการใหญ่แล้วรีบแทรกเข้าไปนั่ง เขาเห็นเด็กคนนั้นถอนหายใจน้อยๆแล้วบิดขาตัวเองไปมา อาจจะเป็นตะคริวแต่เมื่อกี้ทนยืนอยู่ก็เป็นได้

และเพราะความเป็นพี่ชาย เห็นใครเป็นอะไรมันก็อดจะห่วงไม่ได้ อาจจะดูเสียมารยาทสักหน่อยแต่ก็ดีกว่าปล่อยให้น้องคนนี้เจ็บ

“เป็นตะคริวเหรอครับ”

“อ่า.. ครับ” เด็กคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาตอบสั้นๆแล้วก้มไปดูที่ขาของตัวเองต่อ สีหน้าดูจะเจ็บปวด

“เชิดปลายเท้าขึ้นครับ สุดๆเลย”

“ครับ.. เอ่อ.. โอ๊ย..”

มันเจ็บสุดๆแน่นอนเขารู้ดี แต่เด็กคนนั้นก็ยังกลั้นเสียงร้องไม่ให้รบกวนคนบนรถเมล์ ทั้งมือทั้งตัวเกร็งตามไปกันหมด พัดจึงใช้มือที่ไม่ได้เกาะราวไปจับมือเด็กคนนั้นไว้

“ใจเย็นๆนะ เดี๋ยวก็หาย จิกมือพี่ก็ได้”

“ครับ...”

บางทีพัดก็ไม่เข้าใจว่าตัวเขากำลังช่วยคนตะคริวกินหรือช่วยคนท้อง แต่หลังจากโดนจิกมือสักพักสีหน้าของน้องคนนั้นก็ผ่านคลาย ตะคริวคงหายไปแล้ว

“ขอบคุณมากนะครับ” เด็กคนนั้นยิ้มให้หน้าตาแจ่มใส พัดจึงยิ้มกลับแล้วบอกว่าไม่เป็นไร เห็นน้องเขาเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างต่อที่เพราะขณะนั้นคนด้านหลังรถเมล์ทยอยออกไปหลายคนเขาจึงต้องขยับไปข้างหลังทันทีตามแรงดันจากฝูงชน เห็นเด็กคน
นั้นเหมือนจะหันหลังมองตาม แล้วก็หันกลับไป คงเพราะหาโอกาสพูดกับเขาไม่ได้แล้วนั่นเอง




“พี่พัด!” เจ้าตัวเล็กตะโกนอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกระโดดลงมาจากรถโรงเรียนทันทีที่คุณครูเปิดประตูให้ คุณครูสาวดูลังเลเล็กน้อยที่จะยื่นสมุดรายชื่อให้เขา คงเพราะนานๆทีเขาก็ได้มารับหมอกสักที ปกติแม่ของเขาที่เป็นแม่บ้านจะคอยรอรับอยู่ตลอดวันที่บ้านหมอกไม่มีใครอยู่

“เป็นพี่ชายครับ เป็นลูกบ้านนี้”

พอเห็นหมอกพยักหน้ารับหงึกหงักแล้วคุณครูจึงยอมยื่นสมุดมาให้แต่โดยดี ตัวหมอกพอเห็นพี่ชายเซ็นต์เรียบร้อยก็วิ่งตื๋อเข้าบ้าน เรียกแม่เขาอย่างกับเป็นแม่ตัวเองโดยทิ้งให้พัดยืนสวัสดีคุณครูแทนเสียอย่างนั้น

“หมอก ไม่หวัดดีครูก่อนเลยนะ”

“ขอโทษ หมอกลืม หมอกอยากกินขนม คุณป้าบอกวันนี้มีเค้ก” ทันทีที่พูดจบแม่ของพัดก็เอาเค้กมาเสิร์ฟให้ทันที เจ้าตัวเล็กเห็นแล้วร้องโอ้โหเสียงดัง นานๆทีเจ้าตัวจะได้กินช็อกโกแลตแบบจัดเต็มแบบนี้ เพราะปกติอยู่บ้านพ่อแม่ตัวเองไม่ค่อยซื้อให้ กลัวฟันจะผุ และที่แม่พัดกล้าเอาของแบบนี้มาให้เด็กไม่ชอบแปรงฟันก็เพราะรู้ว่าลูกตัวเองจะกลับบ้านเร็วนี่แหละ เป็นหน้าที่ของพัด
เสมอที่ต้องพาเด็กดื้อแปรงฟันอยู่ทุกที

“แล้วมหาลัยเป็นไงบ้างล่ะพัด เป็นพี่ว้ากสนุกมั้ย”

“สนุกอะไรล่ะแม่ เนี่ยแค่ฟังไอ้โจ้ว้ากยังหูชาเลย”

“พี่ว้ากคืออะไรเหรอ” เด็กน้อยที่เคี้ยวตุ้ยๆเงยหน้าขึ้นถามทั้งช็อคโกแลตเปื้อนปาก จนพัดต้องหยิบทิชชู่มาเช็ดรอบๆให้ พัดมองไปหาแม่ขอความช่วยเหลือ เพราะว่าให้ตอบหมอกไปคงเผลอพูดไปแน่ว่าเป็นกลุ่มคนใจร้ายที่ทำให้รุ่นน้องกลัว

“เอ่อ.. ก็.. พออยู่มหาลัยปีสาม ผู้ชายเท่ๆจะถูกเลือก ให้เป็นคนดูแลกฎระเบียบของคณะน่ะลูก”

เจ้าเด็กน้อยตาโตขึ้นมาทันที หันมาถามพี่ชายอย่างตื่นเต้น “เป็นฮีโร่อ่ะเหรอ”

“เท่กว่านั้นอีก”

“หูววววว”

เจ้าเด็กน้อยตาเป็นประกายเต็มที่พุ่งเข้ามากอดแล้วบอกว่าพี่พัดเท่ที่สุด คนเป็นพี่เห็นน้องเชื่อสนิทจึงได้แต่ลูบหัวด้วยความเอ็นดู แล้วค่อยหันไปชูนิ้วโป้งให้แม่ที่ปูมาดีเหลือเกิน จนไม่ได้ดูเลยว่าเด็กที่ซุกอยู่กับหน้าท้องทิ้งอะไรเอาไว้

“ตายแล้วน้องหมอก เสื้อพี่พัดเปื้อนหมด” แม่พูดขึ้นเมื่อเด็กน้อยเงยหน้าจากเสื้อพี่ชายออกมา พัดแทบร้องจ๊าก เมื่อเศษช็อกโกแลตที่ติดอยู่บนริมฝีปากน้องย้ายมาติดบนเสื้อเขาทั้งหมด อยากจะเอาหัวโขกโต๊ะที่เมื่อกี้เช็ดปากให้น้องไม่ดี จนผลกรรมมันมาตกที่ตัวเองแบบนี้

“โธ่ แบบนี้ก็ซักเหนื่อยสิ”

“พี่พัด หมอกขอโทษ..” เจ้าตัวเล็กหน้าเสียไปเลยเมื่อเห็นพี่ชายหงุดหงิด หมอกไม่รู้จะทำไงจึงได้แต่ยกมือพนมท่วมหัว เจออย่างนี้ใครไม่ใจอ่อนก็แย่แล้ว

ก็หมอกของพัด น่ารักที่สุดในโลกเลยนี่นา…




ช่วงเชียร์ผ่านพ้นไป เสียงที่ใช้ไปหนักๆเริ่มคืนสภาพ และพัดก็พร้อมแล้วที่จะรับสายตารังเกียจจากเหล่ารุ่นน้องที่เคยว้ากใส่อย่างที่โจ้ได้รับ เพราะตอนนี้ท่านหัวหน้าว้ากไม่ว่าจะเดินไปไหนนี่น้องถอยกรูดอย่างกับทะเลโมเสส สร้างความชีช้ำให้โจ้ยิ่งนัก

“ทำไมน้องๆหนีกูหมดเลยวะ”

“ก็มึงดุนี่ เอาน่า ผ่านไปสักพักเดี๋ยวก็ดีเอง”

“ไม่ต้องมาปลอบเลย มึงไม่เข้าใจความรู้สึกกูหรอก” โจ้ว่าแล้วมองไปที่ไหนสักที่ ก่อนจะสะบัดแขนเดินออกไป ใครจะไปเชื่อว่าเพื่อนตัวใหญ่อย่างกับหมีควายจะมางอน ไม่ได้คิดจะง้อหรอกนะ แต่ยังไงก็เดี๋ยวจะไปทางเดียวกันอยู่ดีก็เลยว่าจะเดินตาม ถึงอย่างนั้นกลับมีกลุ่มคนมาขวางไว้

“พี่พัดครับ” เด็กที่เขาเคยช่วยบนรถเมล์เอ่ยปากทัก ทีแรกไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็นรุ่นน้องในคณะ เพราะงั้นที่ทำดีด้วยวันนั้นแทนที่จะถูกมองว่าเป็นพี่ที่อ่อน แต่ดันกลายเป็นว่ามีข่าวลือในหมู่รุ่นน้องว่าเขาใจดีเสียอย่างนั้น เอ่อ อันนี้ไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่น้องรหัสบอกมา

“ครับบีม” และพัดก็ได้รู้ว่าเด็กคนนี้ชื่อบีมด้วย ไม่ได้มารู้เอาตอนจบเชียร์แล้วหรอกนะ แต่เพื่อนมันเคยแกล้งให้น้องมาเต้นทุเรศๆเลยจำติดตา ทั้งหน้าทั้งป้ายชื่อ ก็เหลือเชื่อด้วยว่าเด็กหน้าตาเรียบร้อยไม่น่าจะกล้าขนาดนั้น

“คือว่า… พวกเราจะสอบการตลาดแล้ว แต่ว่า..”

“จะขอให้พี่ติว?”

“ค.. ครับ”

พัดกวาดตามองทั้งเด็กตรงหน้าและสาวๆสี่คนด้านหลัง จริงๆเขาเองก็ต้องสอบวิชาของตัวเองเหมือนกัน แต่เห็นแก่ว่าน้องๆพวกนี้อุตส่าหฺบากหน้าเข้ามาขอ จะไม่สอนให้ก็คงใจร้ายไปหน่อย อีกอย่าง เขาจะได้ทบทวนความรู้เก่าๆด้วย

“ได้สิ”

เพียงแค่ตอบไปน้องก็ต่างแย่งกันพูดขอบคุณกันใหญ่ก่อนจะตกลงนัดวันกันให้เรียบร้อย พัดจึงได้ปลีกตัวมาปลอบใจเพื่อนสนิทที่นึกว่ามันจะเดินไปไกลแล้วแต่กลับแอบมองอยู่ที่เสาใกล้ๆนี่เอง

“แล้วมึงติวให้กูด้วยนะ กูจะได้ป๊อบอย่างนี้บ้าง”

พัดตบไหล่โจ้พลางถอนหายใจ “เออๆ วันนั้นก็ซื้อขนงขนมอะไรมาเลี้ยงน้องละกัน เค้าจะได้รู้กันว่ามึงใจดี”

“วันนั้นให้กูไปได้เหรอ”

“เออสิวะ”

“พัด! ทำไมมึงใจดีอย่างนี้!” ว่าแล้วก็กอดหมับแถมยังเอาหน้าที่มีหนวดเคราขึ้นเป็นตอมาถูไถใบหน้าจนพัดขนลุกเกรียวจนต้องรีบดันออกห่าง ไม่นับว่ามีคนกำลังมองแล้วถ่ายรูปไว้ซะด้วย!

“เชี่ยโจ้ ปล่อย!!”




เสียงออดที่ดังขึ้นทำให้พ่อแม่ลูกที่นั่งดูทีวียามค่ำกันอยู่หันหน้าไปทางประตูโดยอัตโนมัติ หมอกลุกขึ้นด้วยความเคยชินเพราะเวลาอยู่กับแม่ แม่มักจะใช้ให้หมอกไปดูคนอยู่เสมอๆ แต่กลับถูกพ่อเอามือขวางไว้แล้วลุกขึ้นแทน ก็นี่มันทุ่มกว่าแล้วจะปล่อยให้หมอกออกไปหน้าบ้านได้ไง

“สวัสดีครับ”

“อ้าวพัดเหรอ เข้ามาสิๆ”

พัดยกมือสวัสดีคุณน้าข้างบ้านก่อนจะก้าวเข้าไปอย่างเกร็งๆ เพราะถึงจะบอกว่าทั้งสองบ้านสนิทกันแต่ก็เป็นผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ และเด็กกับเด็ก ยิ่งพ่อแม่ของหมอกไปทำงานบ่อยๆไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ทำให้พัดไม่ได้เจอทั้งสองคนบ่อยนัก มีแต่เจ้าตัวเล็กนั่นล่ะนี่เจอแม่ของพัดบ่อยซะจนแทบจะรักกว่าลูกแท้ๆแล้ว

“พี่พัด!” เด็กน้อยพอเห็นพี่ชายเดินเข้ามาก็กระโดดกอดอย่างดีใจ พัดจุกเล็กน้อยเพราะน้ำหนักของหมอกมากขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังปั้นหน้ายิ้มแย้มและลูบหัวน้องชายอย่างปกติ

“พี่พัด…”

“หืม?” พัดตอบกลับอย่างงงๆเมื่อหมอกเอาหน้าซุกกับท้องเขาแล้วบ่น

“ทำไมวันนี้กลิ่นแปลกๆ”

“เฮ้ย จัํกจี้” พัดพูดพลางหัวเราะเบาๆไปด้วย แล้วจึงมองหน้าคุณน้าข้างบ้านทั้งสองขอความเห็นใจ แม่ของหมอกจึงได้รีบเข้ามาดึงตัวลูกชายออกห่าง พัดดมตัวเองบ้าง รู้สึกจะอยู่ใกล้โจ้มากไปจนละอองบุหรี่มันมาติด นี่เพิ่งถึงบ้านเลยไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน รู้สึกผิดกับหมอกขึ้นมาเมื่อเห็นเด็กต้องมาได้กลิ่นไม่พึงประสงค์แบบนี้

“มัวแต่ดมพี่เค้าไม่ดูเลยว่าพี่เค้าเอาไรมาให้” คำหลอกล่อของคุณแม่ได้ผล เพราะหมอกคลายคิ้วเคร่งเครียดแล้วมองไปยังมือขวาของพัดที่หิ้วถุงบางอย่างมาพอดี

“ว้าว ขนม!” 

เด็กน้อยวิ่งตื๋อไปดึงถึงจากมือแล้วเททุกอย่างลงบนโต๊ะทันที ดวงตากลมโตเป็นประกาย มือไม้นี่เตรียมลงกับขนมจนแม่ต้องมาดึงตัวไว้

“ดึกแล้วหมอก ไว้กินพรุ่งนี้”

“งื้อ ก็หมอกอยากกินอ่าาา” หมอกงอแงแถมยังสะบัดตัวไปมาจนพ่อต้องมาช่วยจับแล้วให้แม่เป็นฝ่ายกวาดขนมลงถุงตามเดิม พัดมองภาพตรงหน้าพลางยิ้มเจื่อนๆ ก็รู้อยู่หรอกว่าหมอกต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้ แต่ตอนเช้าเขาต้องรีบออกจากบ้าน ถ้าเอามาให้แล้วมายืนคุยอย่างนี้คงไม่ทันการแน่ๆ

“ว่าแต่พัดได้ขนมมาจากไหนเยอะแยะเนี่ย ไม่ได้ซื้อเองใช่มั้ย”

“อ๋อครับ พอดีน้องๆปีหนึ่งเขามาขอให้ผมติวน่ะครับ นี่ตอนจะกลับบ้านก็เลยพากันมาดักให้ขนม” พัดตอบพลางนึกถึงช่วงเวลาที่สาวๆปีหนึ่งรวมทั้งน้องบีมกรูกันเข้ามาแล้วยื่นถุงขนมให้ โดยไม่ได้สนใจโจ้ที่แอบหลบมุมไปทำท่าร้องไห้กระซิกๆเลยสักนิด จะว่าดีใจก็ดีใจ จะว่าสงสารเพื่อนก็สงสาร

“แหม สาวๆเยอะแยะเลยสิบริหารน่ะ” แม่ของหมอกเอ่ยแซว ซึ่งคนฟังก็ได้แต่ยิ้มเขินๆ

“ถ้ามีแฟนก็พามาเจอน้าบ้างนะ น้าจะช่วยแสกนอีกแรง”

“ฮ่ะๆ ได้เลยครับ” ถึงจะคิดว่ายังไม่มีแฟนในเร็วๆนี้หรอกแต่พัดก็ตอบรับแบบคล้อยตามไป แล้วจึงมองหน้าเด็กน้อยที่หยุดดิ้นแล้วแต่กลับมองมาทางเขาอย่างคิ้วขมวด

“หมอก มีไรเปล่า”

“พี่พัดห้ามมีแฟนน้า!”

จู่ๆหมอกก็ตะโกนลั่นแถมยังวิ่งมาเกาะขาร้องไห้ พัดทำอะไรไม่ถูกจึงรีบอุ้มขึ้นมาไว้แนบอกซึ่งตอนนี้เสื้อนักศึกษาสีขาวก็โดนทั้งน้ำมูกน้ำตาโจมตีไปเต็มๆ พัดไม่รู้ว่าหมอกตกใจอะไรกับเรื่องที่ว่าเขาจะมีแฟน ไม่รู้ว่าน้องเข้าใจเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ยังไงก็ปล่อยน้องลงไปไม่ได้จริงๆ

“หมอกคงกลัวว่า ถ้าพัดมีแฟนแล้วจะไม่สนใจหมอกมั้ง” แม่ของหมอกเอ่ยขึ้นเพื่อช่วยเหลือพัดที่ไม่รู้จะพูดปลอบยังไง ชายหนุ่มพยักหน้าว่าเข้าใจ ก่อนจะทั้งปลอบทั้งอธิบายในหัวข้อที่ว่าจะไม่ทิ้งหมอกไปไหนเด็ดขาด และยังแถมจุ๊บเข้าที่ข้างแก้มสองข้างโดยไม่กลัวเปื้อนน้ำมูกน้ำตา

“พี่พัดต้องรักหมอกน้า”

“พี่รักหมอกที่สุดอยู่แล้ว”

เด็กสองคนเหมือนตกอยู่ในโลกสีชมพู ไม่ได้สนใจฝั่งผู้ใหญ่ที่มีสีหน้าปุเลี่ยนๆ พ่อของหมอกกระตุกเสื้อแม่แล้วดึงเข้ามากระซิบเบาๆ “แม่ ถ้าหมอกโตแล้วยังรักพัดอยู่จะทำไง”

หญิงสาวมองหน้าสามีแล้วถอนหายใจ ตบไหล่อีกฝ่ายดังปุ “พ่อต้องเตรียมใจตั้งแต่ตอนนี้แล้วล่ะ ลูกเราได้ใส่ชุดเจ้าสาวแน่”

“เฮ้ย แม่!”




มือเล็กนั่งห่อขนมที่ซื้อมาอย่างวิจิตรบรรจง ยังไงซะบีมก็เป็นผู้ชายที่ฝีมือในเรื่องคหกรรมถือว่าอ่อนหัดที่สุด เพราะงั้นจะให้มานั่งทำขนมเอาไปให้พี่ที่แอบชอบ มีหวังพี่เขาเรียนจบไปแล้วแน่ๆ

เสียงมือถือสั่นครืด เด็กชายหยิบขึ้นมาดูข้อความในไลน์กลุ่มที่เพื่อนๆส่งมาให้แล้วอมยิ้ม คิดว่าตัวเองช่างโชคดีเหลือเกิน เป็นเกย์แต่ไม่ถูกกลั่นแกล้ง แถมยังมีเหล่าเพื่อนสาวคอยให้กำลังใจอีก

‘พรุ่งนี้สู้ๆนะ บุกบ้านพี่พัดให้ได้’

‘พี่โจ้ต้องมาด้วยแน่ เดี๋ยวพวกเรากันไว้ให้เอง’

‘อย่าลืมถ่ายรูปตอนได้กินพี่พัดนะยะ!’

บีมขำกับคำเชียร์พลางส่ายหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ตอบกลับไปว่าจะพยายาม เรียกเสียงวี้ดว้ายจากเพื่อนสาวกลับมาไม่น้อย
เด็กหนุ่มนำถุงขนมไปใส่ไว้ในกระเป๋าเรียนเพื่อกันลืม ก่อนจะกลับขึ้นเตียงมานั่งสวดมนต์ อธิษฐานให้ตนกับพี่พัดไปกันได้ด้วยดีด้วยเถิด

___________________________________________________________________________________________

สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วค่ะ!
ไม่รู้จะผิดหวังกันรึเปล่านะคะที่ตอนพิเศษกลับมาเป็นอะไรแบบนี้ พอดีเกิดอยากจะเขียนว่าถ้ามีใครชอบพี่พัดขึ้นมาจะทำไง
แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ จบเรื่องนี้จะได้เจอกับอนาคตที่หวานแหววของพัดกับหมอกแน่นอนค่ะ
จะว่าไปทำไมตอนพิเศษยาวกว่าเรื่องหลัก 5555
แล้วๆ ใครที่ยังจำพี่โป้งสุดซวยได้ ฝากติดตาม มาจากไหน ไอ้หน้ามึน? ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ!




ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
คุณแม่ใจกว้างมากๆๆๆๆๆๆ    รอตอนสวีทอยู่นะฮะ   o13

ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
น้องจะบุกแล้วนะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
มีคนมาชอบพี่พัด... หมอกจะว่ายังไงล่ะทีนี้

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ meelhek

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตอนพิเศษ1 คู่แข่ง [2/2]

พัดมองซ้ายขวาอย่างงงๆเมื่อถึงเวลานัดแล้วกลับมีเพียงบีมนั่งอยู่ที่โต๊ะติวในห้องสมุดเพียงคนเดียว แถมน้องยังเลือกนั่งโต๊ะสำหรับสี่คนซึ่งเล็กสุดเสียด้วย ทั้งๆที่ตอนมานัดติวคุยกันว่าจะมาสิบคนแท้ๆ

"อ้าว พี่พัด" บีมที่เห็นรุ่นพี่ที่แอบปลื้มเดินเข้ามาพอดีจึงรีบกุลีกุจอดึงที่นั่งฝั่งตรงข้ามให้ พัดเดินเข้าไปจับพนักเก้าอี้แล้วมองซ้ายขวาอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถาม

"แล้วคนอื่นๆล่ะ"

"พอดีเพื่อนๆเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามีธุระน่ะครับ แต่ว่าจะยกเลิกก็เกรงใจพี่พัด ว่าแต่.. พี่โจ้ไม่มาด้วยกันเหรอครับ" ถามเป็นมารยาทไปอย่างนั้น ทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนๆแอบหลอกนัดโจ้ไปอีกที่หนึ่ง ซึ่งก็ไม่ไกลกันหรอก แค่บอกพัดให้มาติวชั้นห้าส่วนโจ้ให้ไปชั้นสาม ส่วนเวลาก็นัดให้เหลื่อมกันครึ่งชั่วโมง พอถึงเวลาถ้าโจ้เกิดจะโทรหาพัดเพื่อถามอะไรขึ้นมาพวกสาวๆก็จะได้มีข้ออ้างได้ว่า ไหนๆเราก็ช้าแล้ว มาติวกันเอง ให้พี่พัดติวกับบีมไปสองคนนั่นแหละ

"ไม่รู้สินะ เห็นบอกว่าจะกลับไปงีบที่หอ" บีมพยักหน้าหงึกๆอย่างเข้าอกเข้าใจ เด็กหนุ่มหยิสมุดและชีทออกมาเตรียมเรียน แต่รุ่นพี่กลับเดินอ้อมมาแล้วดึงเก้าอี้ข้างๆออกก่อนจะนั่งลงจนตัวเกือบสัมผัสกันเพราะความใกล้ชิด

"อ้าว.. ทำไมพี่.."

"ติวกันสองคนนี่ แบบนี้ง่ายกว่าเนอะ" พูดจบแล้วก็หันมายิ้มให้ ความเจิดจ้ากระแทกตาบีมเข้าอย่างจังจนเผลอหลบตา แต่ก็พยักหน้าเบาๆโดยเก็บซ่อนความดีใจเอาไว้




แผนต่อไปของบีมคือการแกล้งเป็นลมบนรถเมล์ จากที่เคยเล่าให้เพื่อนสาวฟังว่าพัดเคยช่วยเหลือตนยังไง สาวๆจึงเสนอว่าตอนกลับทางเดียวกัน พอใกล้ถึงป้ายที่พัดจะลงให้แกล้งเป็นลมซะ มันเนียนอยู่แล้วเพราะช่วงเย็นคนเบียดแน่นเป็นปลากระป๋อง แล้วทีนี้พัดที่ใจดีจะต้องพาบีมลงด้วยอย่างแน่นอน ทว่า...

"บ้านบีมไปไกลจากพี่มากมั้ย"

"เอ่อ.. ก็ไม่ไกลนะครับ" โกหก ของพัดนั่งมาแค่ประมาณครึ่งสาย แต่ของบีมไปจนสุดสาย จากบ้านพัดก็ประมาณชั่วโมงโน่น

"งั้นแวะกินข้าวเย็นบ้านพี่ก่อนเปล่า ตอบแทนที่เราให้ขนมพี่วันนั้นไง"

บีมหน้าเหวอขึ้นมาทันที ก็ยังไม่ทันใช้แผนอะไรอีกฝ่ายก็เอ่ยปากชวนเสียแล้ว ในใจนี่อยากจะชูมือขึ้นสูงๆแล้วตอบว่าไปครับ!เสียงดังลั่น แต่ด้วยความเหนียมอายที่มีจึงทำได้แค่ถามกลับไปเบาๆ

"จะดีเหรอครับ ผมเป็นฝ่ายรบกวนพี่มากกว่า..."

"เฮ่ย ไม่เป็นไร คนเยอะๆสนุกดี น้องชายพี่จะได้มีเพื่อนเล่น" พัดพูดพลางคิดถึงหน้าหมอก วันนี้เด็กน้อยมาอยู่บ้านเขาจนถึงสองสามทุ่มโน่น จะให้เขาพาเล่นอะไรเดิมๆก็อาจจะเบื่อ ถ้าลองหาเพื่อนใหม่ไปอาจจะสนุกขึ้นก็ได้

"พี่มีน้องชายด้วยเหรอครับ" ตามข้อมูลที่สืบๆมาพบว่าพี่เขาเป็นลูกคนเดียว แล้วจะมีน้องจากไหนกัน?

"น้องข้างบ้านน่ะ แต่ก็รักมากแหละนะ"

รอยยิ้มตอนที่บอกว่ารักน้องมากนั้นสดใสเจิดจ้าและดูมีความสุขจนบีมสัมผัสได้ ถึงความรักที่ส่งผ่านจากคำพูดจะดูล้นๆไปนิด แต่
บีมก็คิดว่ามันคงเป็นเรื่องธรรมดาของคนรักน้องล่ะมั้ง





"กลับมาแล้ว"

"พี่พัด!"

เสียงใสๆกับร่างเล็กๆพุ่งออกมาจากในห้องทันทีที่พัดเปิดประตูเข้าไป บีมตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเด็กตัวน้อยกระโดดเกาะเอวพัด โดยที่ผู้ถูกกระทำดูจะจุกได้ที่อยู่แต่ก็ยังยิ้มเหมือนไม่รู้สึกอะไร

“วันนี้มีไข่ตุ๋นด้วยล่ะ”

“โอ้โห ของโปรดหมอกเลยนี่นา ว่าแต่นี่หมอก.. ดูซิพี่พาใครมา” มัวแต่ทักทายน้องชายสุดที่รักเพลินจนเกือบลืมรุ่นน้องที่ยืนอย่างไม่มีบทบาทอยู่ที่ประตู บีมยิ้มให้หมอกอย่างเก้ๆกังๆในขณะที่หมอกก็ยกมือไหว้อย่างเก้ๆกังๆเช่นกัน

“ใครอ่ะ..” หมอกถามหลังจากไหว้ไปแล้ว แม่บอกเสมอว่าเจอผู้ใหญ่ต้องไหว้ ถึงหมอกจะไม่รู้ว่าเป็นใครก็เถอะ แต่ก็ดูน่าไว้ใจมากกว่าเพื่อนพี่ชายที่ตัวโตๆผมยุ่งๆกลิ่นเหม็นๆคนนั้น

“นี่ชื่อพี่ีบีม เป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย บีมนี่หมอก น้องข้างบ้านพี่เอง”

“หวัดดีครับหมอก พี่ชื่อบีมนะ”

บีมแนะนำตัวอีกครั้งหลังจากที่หมอกยืนมองอย่างงงๆ แต่ก็ดูจะไม่มีปฏิกิริยาอะไรจนบีมเริ่มหน้าเสีย พัดจึงต้องตัดบทขึ้นมาเสียก่อน

“น้องยังไม่คุ้นน่ะ ปะ ไปกินข้าวกันดีกว่า” ว่าแล้วก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาแนบอกจนผู้มาเยือนมองตาค้าง คิดในใจขึ้นมาว่าเป็นเด็กนี่ดีจริงๆ




หมอกไม่ร่าเริงเหมือนเคยจนพัดคิดว่าพาบีมมาผิดที่ผิดเวลารึเปล่า แต่พอคิดว่าตอนโจ้มาแรกๆก็แบบนี้ จนตอนนี้ถึงหมอกจะบ่นเหม็นๆเพราะบุหรี่ที่แทบซึมลึกไปทุกอณูผิวของโจ้ แต่ก็ยอมเล่นด้วยแล้ว เล่นแรงเสียด้วยซ้ำ คงจะประมวลผลแล้วว่าเป็นคนที่ไม่ต้องเกรงใจ เพราะงั้นที่พาบีมมาวันนี้ ถ้ารอสักนิดหนึ่งก็คงจะดีขึ้นเอง

“บีมวาดรูปเก่งมั้ยลูก” แม่ของพัดถามขึ้นเพื่อสร้างบรรยากาศเป็นมิตรแก่สมาชิกใหม่ บีมพยักหน้าทั้งๆที่ยังเคี้ยวข้าว ก่อนจะรีบกลืนลงไปแล้วตอบ

“ครับ ชอบมากเลย ว่างๆก็วาดพวกการ์ตูนอะไรเล่นครับ”

“ดีจัง วันนี้หมอกมีการบ้านศิลปะ ให้พี่บีมช่วยมั้ยลูก” เหมือนจะเห็นพัดมองค้อนมาที่แม่หน่อยๆที่หาว่าตัวเขาวาดรูปไม่เก่ง บีมมองหน้าหมอกที่ถูกพาดพิง แล้วเด็กน้อยก็พยักหน้าช้าๆ ทำเอาบีมโล่งใจ

“พี่บีมมากะหมอก” หมอกเดินมากระตุกเสื้อถึงที่หลังจากทานข้าวเสร็จ หมายถึงหมอกเสร็จคนเดียวนะแต่คนอื่นยังกินไม่เสร็จ ผู้ชายกินเยอะอย่างบีมก็ยังไม่อิ่มหรอกเพราะต้องละเลียดกินอย่างเกรงใจ แต่ก็รีบกินข้าวที่เหลือในจานแล้วลุกตามไป เพราะกลัวน้องจะเปลี่ยนใจ

“ไหน การบ้านอะไรครับน้องหมอก” บีมเอ่ยถามเมื่อน้องพามาที่โต๊ะญี่ปุ่นที่ถูกกางไว้หน้าทีวี เด็กน้อยเดินไปหยิบกระดาษ ดินสอ และสีไม้มาเตรียมพร้อม

“คุณครูให้วาดฮีโร่”

“งั้นหมอกจะวาดอะไร เดี๋ยวพี่หาแบบให้” บีมเตรียมควักสมาร์ทโฟนขึ้นมาหารูปฮีโร่ต้นแบบแล้ว แต่หมอกลับส่ายหน้าแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“หมอกจะวาดพี่พัด”

“หะ?” บีมตกใจ แต่พอนิ่งคิดไปนิดหนึ่งก็ไม่ตกใจ เพราะเด็กอายุประมาณนี้มักจะมองพี่ชายเป็นฮีโร่อยู่แล้ว

“แล้วจะวาดพี่พัดใส่ชุดอะไรครับ ซุปเปอร์แมนดีมั้ย?”

“หมอกจะวาดพี่พัดใส่ชุดดำๆ ละมีผ้าคลุม พี่พัดจูงมือหมอกด้วย”

บีมคิดภาพตาม ชุดดำจะหมายถึงชุดสูทมั้ยนะ แล้วผ้าคลุมนี่.. ถ้าพิจารณาจากการ์ตูนที่เด็กวัยหมอกได้ดูขณะนี้ สมมติฐานที่บีมคิดขึ้นมาคงใช้ไม่ได้ แต่ยังไงก็ลองเสิร์ชรูปหน้ากากทักซิโด้ให้น้องดู และผลตอบรับคือน้องยิ้มกว้างกว่าเดิมมากๆ

“ใช่เลย! หมอกจะวาดแบบนี้” เด็กน้อยคว้ามือถือของบีมมาวางลงบนโต๊ะแล้วเริ่มวาดตาม ไม่พูดไม่จาอะไรอีก บีมที่นั่งดูก็ส่งยิ้มแห้งๆไปให้พี่ชายของน้องหมอกที่นั่งดูอยู่จากโต๊ะอาหารแล้วส่งสายตากลับมาว่าให้ทำใจ


แต่ถึงจะมีรูปหน้ากากทักซิโด้ยืนเท่อยู่กลางจอ แต่เท่าที่บีมดูก็เหมือนว่าหมอกจะไม่ได้วาดตามนั้นสักเท่าไร ชุดก็เหมือนอยู่หรอก แต่ท่าทางที่หมอกวาดมัน…

“พี่พัดกำลังทำไรอยู่เหรอครับ”

“กำลังอุ้มหมอกล่ะ” หมอกยังไม่ได้วาดตัวเองเข้าไปในภาพ ทำให้บีมที่เห็นมือสองข้างของพัดโค้งๆขึ้นมาถึงกับสงสัย หมอกเป็นเด็กที่วาดภาพดีใช้ได้แถมยังพูดตรงจนปักอกคนถาม

หมอกจะวาดพัดอุ้มหมอกเป็นท่าเจ้าหญิง… จริงอยู่หมอกอาจจะเด็กแล้วคิดว่าพัดเป็นพี่ก็ต้องอุ้มน้อง แต่ถ้าให้คนโตแล้วอย่างบีมมามอง แบบนี้มันอุ้มเจ้าสาวชัดๆ น้องจะรู้ตัวมั้ยว่ากำลังวาดอะไรอยู่

“อย่างนี้หมอกก็เหมือนเจ้าสาวของพี่พัดเลยนะครับเนี่ย” บีมแกล้งแหย่ หวังจะได้รับเสียงหัวเราะดังๆจากทั้งพัดที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ทั้งแม่ที่ยืนล้างจานอยู่แล้วตอบกลับมาว่าไม่ใช่เรื่องจริงจัง แต่สิ่งที่ได้กลับเป็นพัดที่อยู่ๆก็สะดุ้งอ้าปากค้างหน้าแดง ส่วนน้องหมอกน่ะเหรอ ยิ้มร่าและตอบกลับมาทำเอาบีมแทบเป็นลม

“ก็หมอกโตขึ้นจะเป็นเจ้าสาวพี่พัดนี่นา!”

ถ้าเป็นในการ์ตูนคงมีฟ้าผ่าลงมากลางหัวบีมเข้าให้แล้ว คำพูดของเด็กแต่มีน้ำหนักจนปวดหัวใจขึ้นมาหนึบๆ มองพัดไปก็เอาแต่ยิ้ม ดูท่าจะภูมิใจมากกว่าปฏิเสธ หรือว่าพี่น้องสองคนนี้…

“แต่ว่าน้องหมอก..” จะบอกว่าเป็นผู้ชายเลยเป็นเจ้าสาวของพัดไม่ได้ก็ไม่ได้ ในเมื่อตัวเองที่เป็นผู้ชายก็จ้องจะเป็นเจ้าสาวของพัดอยู่เหมือนกัน บีมจึงคิดเปลี่ยนคำพูดเสียใหม่ “ยังเด็กมากเลยนะ กว่าจะเป็นเจ้าสาวได้ต้องโตมากเลยรู้เปล่า”

“หมอกรู้! แม่บอกว่าถ้าอยากจุ๊บพี่พัดต้องรออายุ18 หมอกรอได้!” สีหน้าจริงจังจริงใจจัดเต็มแบบนี้ คนรักข้างเดียวก็มีแต่ใจแป้ว ยิ่งพัดเดินเข้ามาดึงหมอกไปกอดแล้วบอกว่าพี่จะรอน้องหมอก ยิ่งทำให้ใจเจ็บปวดเข้าไปใหญ่

“ผมว่า.. ผมกลับก่อนดีกว่านะครับ”

“อ้าว เออ จะสองทุ่มแล้วนี่ บีมมีการบ้านด้วยใช่มั้ย”

ผู้มาเยือนพยักหน้าหงึกๆ ถึงที่อยากรีบกลับจะไม่ใช่เพราะการบ้าน แต่เป็นเพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวต่างหาก บีมเก็บมือถือแล้วลุกขึ้นยืนทันที หมอกมองตามอย่างงงๆและดูจะเสียใจอยู่เล็กน้อยที่จู่ๆบีมก็เก็บมือถือที่เปิดรูปหน้ากากทักซิโด้ค้างไว้ไป แต่พัดก็รีบบอกว่าดึกแล้วบีมต้องรีบกลับ หมอกจึงยิ้มแย้มขึ้นมาได้

“แล้วมาเล่นกับหมอกใหม่น้า สวัสดีค้าบ”

บีมตอบรับด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ พลางนึกหงุดหงิดตัวเองว่าจะมาอะไรกับเด็กตัวแค่นี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถปั้นสีหน้ายิ้มตามปกติขึ้นมาได้จริงๆ

“กลับบ้านดีๆนะ”

“อ่า.. ครับ” บีมตอบกลับพัดที่อุตส่าห์มาส่งถึงหน้าบ้าน แล้วเดินหน้าจ๋อยออกไปโดยไม่รอพัดที่กำลังปิดประตูและกำลังเอ่ยปากว่าจะไปส่งหน้าหมู่บ้าน ทำเอาเจ้าของบ้านต้องเกาหัวแกรก แต่พัดก็เข้าใจแค่ว่า บีมคงอยากกลับบ้านเร็วจริงๆนั่นแหละ




“แกจะกลัวอะไรกับแค่เด็ก!”

พอมารายงานเพื่อนสาวพวกหล่อนก็ตบโต๊ะดังปังด้วยความไม่พอใจ ยิ่งทำเอาบีมที่ตัวเล็กอยู่แล้วตัวลีบเข้าไปใหญ่

“แต่เขาดูรักกันมากๆเลยนะแก”

“ปีสามกับป.สามเนี่ยนะ?” เพื่อนสาวยกเรื่องช่องว่างระหว่างวับขึ้นมาพูดแล้วส่ายหน้า เพราะถ้าเป็นพวกเธอให้มองเด็กประถมแล้วมีความรู้สึกรักชอบแบบจริงจังมันเป็นไปไม่ได้เลย

“แล้วแกจะเอาไงบีม ถอยเหรอ”

“ก็คงเป็นแค่รุ่นน้องนี่แหละ…”

“เฮ้ย สู้สิวะ เข้าหาน้องบ่อยๆ หาพี่พัดบ่อยๆแล้วสารภาพรักไปเลย”

บีมหน้าขึ้นสีทันทีที่เพื่อนสาวบอกแบบนั้น ลนลานจนไม่รู้จะตอบกลับว่าอย่างไร ทั้งเขินอาย ทั้งกลัวที่จะผิดหวังไปพร้อมๆกัน

“เอาจริงเหรอ”

“จริง!” เพื่อนสาวรอบโต๊ะพากันพยักหน้าอย่างจริงจังจนบีมรู้สึกกลัว แต่ก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่า ไม่อยากจะยอมแพ้หมอกที่เด็กกว่าเป็นสิบปีไปหรอก




บีมใช้เวลาเข้าหาพัดไปเรื่อยๆ จากวันเป็นเดือน จากเดือนล่วงมาเป็นเกือบปี ทั้งหมั่นเข้าไปคุย หมั่นเข้าไปที่บ้านพัด ซื้อขนมไปฝากหมอก ถึงจะเจอภาพบาดตา เจอคำพูดบาดหูเท่าไรก็ได้แต่อดทน ช่วงเวลาที่ไปร้องไห้กับเพื่อนสาวเพราะท้อแท้ก็มี แต่ความรู้สึกชอบนี้เท่านั้นที่ผลักดันให้บีมไม่ยอมแพ้

“พี่พัดครับ” บีมเอ่ยเรียกเมื่อเห็นพัดกำลังจะเดินออกไปจากห้องของโรงแรมที่ใช้จัดงานบายเนียร์ บีมแอบมองและเห็นแวบๆว่าพัดคุยโทรศัพท์และทำท่าจะร่ำลากับคนอื่น หมายความว่าแม่ของหมอกที่อาสามารับเด็กข้างบ้านได้มาถึงแล้ว

“อ้าวบีม กลับด้วยกันเปล่า แม่หมอกมาแล้วเนี่ย” พัดเอ่ยถามอย่างใจดีเช่นเคย แต่บีมกลับส่ายหน้า แล้วหันไปมองเหล่าเพื่อนสาวที่ยืนแอบๆกันอยู่หน้าประตู ที่กำลังทำท่าให้กำลังใจกันอย่างสุดฤทธิ์

เพราะบีมตั้งใจว่าจะสารภาพรักวันนี้นี่แหละ…

แต่ถ้าจะถามว่าทำไมถึงเลือกวันบายเนียร์ที่คนทั้งคณะมารวมตัวกันแบบนี้ คำตอบก็อยู่ที่เหล่าเพื่อนสาวจอมยุของบีมนี่แหละ พวกเธอเห็นบีมเสียใจกับความรักอยู่เรื่อยๆจึงพลอยรู้สึกเจ็บปวด และอยากให้มีสถานะชัดเจนสักทีว่าคบหรือจบ ไม่อยากนั้นบีมก็จะเจ็บซ้ำๆไปเรื่อย จนพัดเรียนจบ หรือจนตัวบีมเรียนจบจะมานั่งเสียดาย ก็เคยคิดว่ารีบทำเสียตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า

“แต่ผมขอคุยกับพี่พัดแปปนึงได้มั้ยครับ”

“อ้อ ได้สิ”

บีมชวนพัดไปยังที่ลับตาคนกว่านี้หน่อย แต่ช่วงงานเลิกแบบนี้ต่างคนก็ต่างจับกลุ่มถ่ายรูปทั้งในและหน้าห้องจัดเลี้ยง ทั้งสองคนจึงต้องค่อยๆเดินหลบรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชวนถ่ายรูป ไปจนถึงหน้าลิฟท์ที่ไม่ค่อยมีคน ถ้าจะมีใครนอกจากสองคนนั้นก็มีแต่เด็กสาวที่มองอยู่ห่างๆนั่นแหละ

“พี่พัดครับ…”

“ครับ” พัดตอบรับอย่างสบายๆโดยไม่ได้รู้สึกเลยว่าบีมหัวใจเต้นแรงและหายใจถี่รัวจนแทบจะยืนไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเด็กหนุ่มก็กำหมัดแน่น พยายามสูดหายใจเข้าลึก และปล่อยคำสารภาพออกมาในทีเดียว

“ผมชอบพี่พัดครับ! เป็นแฟนกับผมได้มั้ยครับ!”

พวกสาวๆต่างพากันอุดปากซึ่งกันและกัน ไม่อย่างนั้นคงได้ส่งเสียงกรี๊ดออกไปรบกวนบรรยากาศเสียแล้ว พัดมองคนตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ใบหน้าเริ่มขึ้นสีด้วยความตกใจระคนเขินอาย ก็ใครจะไปรู้ว่าคนที่มองเป็นน้องชายมาตลอดจะคิดกับตัวเองแบบนี้

“เอ่อ… พี่..”

“พี่บีมจะเป็นแฟนพี่พัดเหรอ?”

เสียงเล็กที่แทรกขึ้นมาทำให้ทั้งสองคนหันขวับไปมองโดยพร้อมเพรียง เด็กตัวเล็กๆเดินออกมาจากห้องน้ำใกล้ๆลิฟท์สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนโดยพร้อมกัน และที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือเด็กน้อยทีร้องไห้ออกมาทันทีหลังจากพูดจบ

“ไม่เอา! ไม่เอาๆๆๆๆ!”

“หมอก ขึ้นมาได้ไงเนี่ย” พัดรีบปรี่เข้าไปแุ้มเด็กน้อยไว้แนบอก จูบแก้มซับน้ำตาและเอ่ยคำปลอบใจที่ทำร้ายจิตใจคนสารภาพรักได้อย่างถึงที่สุด

“พี่ไม่เป็นแฟนใครหรอกนะ พี่มีหมอกคนเดียวนะ” ตัวพัดเองก็ไม่ได้รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นยังไง ไม่รู้ว่าตัวเองจะรกน้องชายข้างบ้านได้อย่างคนรักจริงมั้ย แต่การที่หมอกร้องไห้เป็นสิ่งที่พัดเกลียดที่สุดในชีวิต และไม่ว่าต้องทำยังไงก็จะหยุดความเศร้าน้องไว้ให้ได้

“พี่พัด.. หมายความว่า…”

“ขอโทษนะบีม แต่พี่ยังไม่พร้อมจริงๆ พี่ต้องดูแลหมอก”

“ครับ ขอบคุณครับพี่ แต่จากนี้พวกเรา…”

“พี่จะเป็นพี่ชายที่ดีของบีม ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงนะ”

บีมพยักหน้ากลั้นสะอื้น แล้วเดินเข้าไปจับมือหมอกที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของพัด เอ่ยเสียงสั่น “น้องหมอกไม่ต้องร้องแล้วนะ พี่บีมไม่แย่งพี่พัดไปหรอกนะ”

เด็กน้อยดูจะเบาเสียงลงในขณะที่บีมเดินเข้าไปหาแก๊งค์เพื่อนสาวที่ออกมาจากที่แอบดูกันเรียบร้อยแล้ว เด็กหนุ่มทรุดลงนั่นร้องไห้กลางวงในขณะที่เพื่อนๆต่างรุมกอดและเอ่ยคำปลอบใจ

พัดรู้สึกผิด แต่จะให้เขาทำยังไงในเมื่อต่อให้ไม่มีหมอกเขาก็ไม่ได้คิดกับบีมในแง่นั้นจริงๆ จึงทำได้แค่ยืนมองคนที่กำลังร้องไห้เท่านั้น มีคนหลายคนเริ่มได้ยินเสียงเอะอะแล้วออกมาดูกันแล้ว บีมคงไม่บอกหรอกว่าพัดทำอะไร แต่จากสภาพ ใครๆก็คงพอเดาออก แต่จะให้พัดหนีจากสถานการณ์นี้ ก็ไม่มีทางไป

“จะยืนอีกนานมั้ย ลงกันได้แล้ว” เสียงผู้หญิงกับเสียงลิฟท์เปิดทำให้พัดรีบตามเธอคนนั้นไปในลิฟท์ทันที พอเจอเหตุการณ์น่าตกใจเลยลืมไปว่าตัวเองอยู่หน้าลิฟท์ ต้องขอบคุณแม่ของหมอกที่กดลิฟท์ให้อย่างถูกจังหวะ หญิงสาวเล่าว่าหมอกอยากเซอร์ไพรส์เลยพาขึ้นมา แล้วตอนเข้าห้องน้ำก็ได้ยินช็อตสำคัญพอดี หมอกจึงผลุนผลันออกไปในขณะที่แม่เลือกที่จะหลบในห้องน้ำจะดีกว่า

“จริงๆน่าจะออกมาช่วยผมนะครับ หมอกร้องไห้ใหญ่แล้ว” พัดว่าพลางลูบหลังเด็กน้อยที่ยังสะอื้นเบาๆอยู่ แต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว

“ออกไปให้น้องคนนั้นคิดว่า โอ้โห ฝ่ายค้านมาพร้อมทั้งตัวแม่ตัวลูก แถมตัวแม่ยังเห็นอีกว่าน้องเค้าทำหมอกร้องไห้ น้องคนนั้นคงยิ่งรู้สึกแย่กว่านี้อีก”

“ก็จริงนะครับ เฮ้อ”

“เอาน่า พัดไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ต่อให้ไม่มีหมอกพัดก็ไม่ได้ชอบน้องเค้าใช่มั้ย”

“ครับ…”

“แต่น้าก็ต้องสอนหมอกอย่างจริงจังเรื่องนี้ด้วยแหละ ไม่อย่างนั้นพอถึงวันที่พัดจะมีแฟนขึ้นมาจริงๆ จะให้ยอมเลิกเพราะเห็นแก่น้องก็ไม่ได้ อ้อ ยกเว้นแต่พัดเล็งน้องไว้อ่ะนะ”

แม่ของหมอกพูดกลั้วหัวเราะ แต่พัดไม่ขำด้วยกลับตกใจเสียต่างหาก “คุณน้า! หมอกเพิ่งตัวแค่นี้เอง อย่าเพิ่งรีบคิดสิครับ”
หญิงสาวหัวเราะเบาๆพลางเดินนำมาที่รถแล้วเปิดประตูเบาะหลังให้พัดวางหมอกที่หลับไปแล้วในนอนสบายๆ ส่วนตัวเองค่อยเดินมานั่งด้านหน้า

“ถ้าสมมติน้องโตแล้วยังชอบพัดอยู่ จะโอเคมั้ย”

“หะ” พัดหันไปมองคุณน้าที่กำลังออกรถอย่างงงๆ ก็เขานึกว่าจบการสนทนาเรื่องนี้แล้วเสียอีก แต่สีหน้าของแม่หมอกที่มองตรงไปยังถนนนั้นช่างจริงจัง ซึ่งพัดก็ไม่รู้ว่าแม่หมอกจริงจังกับการขับรถหรือบทสนทนากันแน่

“ให้น้องอายุ18ก่อนค่อยว่ากันครับ”

“แปลว่าน้าตัดชุดเจ้าสาวได้เลยสินะ”

“คุณน้า!!”

พัดโวยใส่หญิงสาวที่หัวเราะคิดคัก ก่อนจะรีบหุบปากเพราะเด็กด้านหลังส่งเสียงอืออาเหมือนไม่พอใจ เขาขมวดคิ้วมุ่น คิดถึงอนาคต พี่ชาย กับน้องชาย ห่างกันสิบปี จะมีความเป็นไปได้มั้ยนะ?

___________________________________________________________________________________________

สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ!
ตัดจบฉับเลย แต่ทุกคนก็รู้อนาคตกันอยู่แล้วเนอะ มีใครสงสารบีมมั้ยคะ? เราสงสารนะ เราอยากแต่งแยกให้น้องมีคู่ แต่คงอีกสักพักล่ะนะคะ ขอให้พัดกับหมอกสวีทหวานกันก่อน 5555 แล้วเจอกันตอนหน้าค่ะ!

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
#ทีมขุ่นแม่ อ่านเกมส์ขาด 555   :hao3:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9

ออฟไลน์ Minoru88

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ทีมคุณแม่ค่ะ แม่มองขาดมากๆ
กำลังเสริมคนสำคัญ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด