[เรื่องสั้น] ปะพบ...สบรัก ❤ =บทที่ 4= (14/02/2560)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] ปะพบ...สบรัก ❤ =บทที่ 4= (14/02/2560)  (อ่าน 4561 ครั้ง)

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++











ปะพบ…สบรัก





สารบัญ




บทนำ
บทที่ 1
บทที่ 2
บทที่ 3



















นิยายเรื่องนี้เคยคิดพล็อตไว้นานมากแล้วค่ะ
จนได้มีโอกาสแต่งเนื่องจากเดือนนี้ฝนจะมีโปรเจควาเลนไทน์ที่เขียนร่วมกับเพื่อนนักเขียนด้วยกันนะคะ
นั่นคือโปรเจค "Nine Steps Forward"
เขียนกับคุณกระต่าย LinLin the Rabbit ค่ะ

โปรเจคมีรายละเอียดคือ ฝนกับคุณกระต่ายจะลงเรื่องสั้นวันละตอน
ตั้งแต่วันที่ 6 ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ รวมแล้ว 9 วัน 9 ตอนต่อคน
โดยโปรเจคจะมาในตีมวาเลนไทน์ อาจจะมีทั้งหลายตอนจบ หรือตอนเดียวจบ
แต่เซ็ตติ้งเกี่ยวกับความรัก เข้ากับบรรยากาศในเทศกาลแห่งความรักเลยค่ะ

โปรเจคนี้คิดสด เขียนสดๆ วันต่อวัน จะมีน้อย มีมากก็ลงทุกวัน
ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยน้าาา

มานับถอยหลังด้วยกันค่ะ ❤



ละอองฝน.


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2017 15:06:30 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2










บทนำ

 











                ลมเย็นจากใบพัดขนาดใหญ่ของพัดลมในรถตู้เป่ารดหัวจนผมที่เซ็ตมาอย่างดีถูกตีแตกกระเจิง เสียงขับขานเพราะๆ ของเพลงบัลลาดสัญชาติเกาหลีในโทรศัพท์ ไม่อาจสู้เพลงลูกทุ่งยุคใหม่ที่ดังสะเทือนจากลำโพงลั่นรถได้ แต่กระนั้นปภพก็ยังเสียบหูฟังคาเอาไว้ให้เพลงมันตีกันเล่น เพราะคิดว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะได้ลงจากรถตู้คันนี้ไปต่อรถไฟฟ้าแล้ว
 
 
 
ครั้นมาถึงที่หมาย ควักเงินสตางค์จ่ายให้คนขับเรียบร้อย ปภพก็รีบวิ่งตัดหน้ารถแท็กซี่ที่จอดรอผู้โดยสารไปยังฟุตปาธ และระหว่างทางเดินสาธารณะนั้นก็มีของขายแบกับพื้นมากมายให้สาวๆ ชาวออฟฟิศซื้อหาก่อนเข้าทำงาน แต่ของเหล่านั้นไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเขาได้ ชายหนุ่มจึงรีบเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนและเข้าไปรอรถไฟฟ้าที่สถานี
 
 
 
ระหว่างรอเขาก็เข้ามายืนต่อท้ายแถวคนที่มาก่อนอย่างเป็นระเบียบ พลางทอดสายตามองปลายท้องฟ้าที่เริ่มมีสีชมพูอ่อนรำไร คาดว่าอีกไม่นานพระอาทิตย์ดวงโตก็คงจะโผล่ขึ้นมาเต็มดวง แต่เป็นโชคดีของเขาที่ยามนั้นคงเข้าไปนั่งตากแอร์อยู่ในสำนักงานแล้ว
 
 
 
                เปอร์เซ็นความหนาวเย็นในประเทศนี้นั้นน้อยมาก หากเทียบกับความร้อนที่เบียดแทรกเข้ามาแทนที่ทุกฤดู ดังนั้นเขาจึงไม่เคยมองว่าเดือนไหนเป็นฤดูอะไรจากอากาศเลย แต่มองจากการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์มากกว่า ยกเว้นเสียแต่ว่าวันนั้นฝนจะตกตั้งแต่เช้ามืด ฟ้าก็จะครึ้มจนมองไม่เห็นแสงสีทองงดงาม—
 
 
 
            ปี๊ด!!!!!!!!!
 
 
 
                เสียงเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเป่านกหวีดเตือนผู้โดยสารไม่ให้ออกไปยืนล้ำเส้นสีเหลือง เพราะรถกำลังจะเทียบเข้าชานชลาแล้ว
 
 
 
เฮ้อ~
               
 
 
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะเวลาเข้าสู่โลกส่วนตัวทีไรมักจะถูกขัดจากสภาพแวดล้อมทุกที
               
 
 
หลายครั้งที่ปภพคิดอยากลาพักร้อน อยากออกไปพักยาวๆ ฟังเสียงลม เสียงคลื่นทะเล เสียงน้ำตก เสียงธรรมชาติบลาๆ อะไรก็ว่ากันไป แต่ชีวิตหนุ่มออฟฟิศอันแสนน่าเบื่อ ภาระเยอะ แถมเงินเดือนไม่สูงเพราะเพิ่งเริ่มทำงานอย่างเขาจะไปเอาวันหยุด เอาเงินเก็บไปทำอะไรอย่างนั้นได้
 
 
 
                ดังนั้นทุกวันหลังจากเรียนจบ เขาก็ต้องดำเนินชีวิตน่าเบื่อๆ ของตัวเองต่อไป…
 
 
 
                “นั่งตรงนี้ก็ได้ครับ”
 
 
 
หลังจากเข้ามายืนในรถและนั่งได้ไม่กี่สถานี ปภพก็ต้องลุกให้สาวๆ ออฟฟิศที่โดยสารในขบวนเดียวกันกับเขานั่ง เพราะหากยังทนนั่งต่อไป เขาคิดว่าบางทีอาจโดนสายตาเหล่านั้นเชือดเฉือนเอาก็ได้ ไม่ก็โดนถ่ายรูปไปประจานความไม่มีน้ำใจลงในโซเชียลให้คนด่าเล่น ชายหนุ่มจึงยอมตัดปัญหาโดยการเสียสละที่นั่งแทน แต่ถ้าวันไหนเลิกงานมาแล้วเหนื่อยมากๆ ปภพก็จะทนหน้าด้านนั่งหลับทับสิทธิ์ของตัวเองจนกว่าจะสุดปลายทางเหมือนกัน
 
 
 
พอลุกขึ้นยืนก็ต้องเบียดกับประชากรในรถไฟฟ้าในเวลาเร่งด่วนอีกเรือนแสน ขนาดว่าพอยืนๆ ไปเรื่อยๆ ตัวจะเบียดกันจนไม่ต้องหาราวจับก็สามารถยืนได้อยู่
 
 
 
ระหว่างที่ปภพโดนคนเบียดจนแทบจะติดกับประตูอยู่แล้ว ชายหนุ่มก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มาชนด้านหลัง มันดุนๆ ดันๆ อยู่แถวสะโพก
 
 
 
อาจจะเป็นสัมภาระของใครสักคนนั่นแหละ ชายหนุ่มคิด
 
 
 
แต่แล้วไอ้ความคิดในแง่ดีของปภพก็ต้องถูกปัดพร้อมกระทืบซ้ำให้ตกไป เมื่อรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากปลายนิ้วมือของใครบางคนที่กำลังลูบไล้ก้นของเขาอยู่!
 
 
 
และมันไม่ใช่แค่ลูบเท่านั้น เพียงไม่กี่วินาทีที่เขากำลังอยู่ในอาการตกใจ ไอ้มือปริศนาก็บีบมาที่เนื้อหนั่นนิ่มๆ นั้นอย่างแรง จนชายหนุ่มต้องหลุดปากร้องออกมาเสียงดัง
 
 
 
“เฮ้ย!”
 
 
 
เขาขยับตัวตั้งใจรีบหันหลังกลับไปมองในนาทีนั้น แต่ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ กลับทำท่านิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อยากจะตะโกนถามนักว่า

 
 
ใครกันที่บีบก้นกู!
 
 
 
แต่เอาเข้าจริงก็ไม่กล้า เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ดันโดนลวนลาม มันทั้งน่ากลัวและน่าขยะแขยงไปพร้อมๆ กัน ซ้ำร้ายยังจับมือใครดมไม่ได้นี่สิ สุดท้ายปภพจึงตั้งท่าหันหน้าเข้ามาทางผู้โดยสารโดยสมบูรณ์
 
 
 
ก่อนจะถึงสถานีที่มีคนลงเยอะมากที่สุด เขามองสังเกตคนที่มีโอกาสลวนลามตนให้มากที่สุด เผื่อว่าจะมีคนไหนส่อพิรุธออกมาบ้าง
 
 
 
ที่ด้านหลังตรงๆ เป็นผู้หญิงวัยกลางคนท่านทางเรียบร้อยเหมือนคุณครู ที่ด้านซ้ายเป็นสาวออฟฟิศหน้าตาธรรมดาที่เอาแต่ก้มหน้าอ่านทวิตเตอร์ ส่วนด้านขวาเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลายจากโรงเรียนชายล้วนมีชื่อ ซึ่งเจ้าตัวยืนเบี่ยงๆ หันหน้าไปอีกทางตั้งแต่ที่เขาพลิกกลับมาแต่แรก ไม่ว่ามองคนไหนปภพก็ไม่เห็นความเป็นไปได้ของไอ้โรคจิตเลย ครั้นเมื่อต้องลงจากรถชายหนุ่มก็จับคนร้ายไม่ได้
 
 
 
ปภพเดินหัวเสียออกจากขบวนรถไฟ ในใจยังโกรธกรุ่นไม่หาย พยายามตัดใจว่าช่างมันเถอะ อย่างไรก็คงไม่ได้เจออีกแล้ว เขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรนัก
 
 
 
ทว่าหลังจากหนุ่มออฟฟิศผู้โชคร้ายเดินออกจากขบวนรถไฟไป ดวงตาของใครคนหนึ่งในรถไฟฟ้าก็มองผ่านกระจกไปที่เขา กระทั่งแผ่นหลังห่อๆ นั้นลับสายตา เจ้าของดวงตานั้นจึงยกยิ้มขึ้นมาประดับมุมปากบางๆ









+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++





และคนร้ายตัวจริงก็คือ...


ละอองฝน.

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2








บทที่ 1













                ธามเป็นเด็กต่างจังหวัด แต่สามารถสอบเข้ามาเรียนโรงเรียนดังได้ตอนม. 4 ดังนั้นพ่อกับแม่จึงส่งให้มาเรียนและอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ตามลำพัง โดยอาศัยเช่าบ้านของเพื่อนแม่อยู่



ทุกๆ เช้าธามจะตื่นนอนตั้งแต่ตี 4 เพื่อลุกขึ้นมาอ่านหนังสือเตรียมบทเรียนไปก่อนล่วงหน้า ตกเย็นก็จะทำการบ้านทบทวนบทเรียนที่เรียนมา ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็จะออกไปวุ่นวายอยู่ที่สถาบันสอนพิเศษมีชื่อต่างๆ ที่เขาเปิดสอนกัน



ถ้าเปรียบเทียบกับเด็กหนุ่มในวัยเดียวกัน เขาถือว่าเป็นเด็กที่ขยันเรียนและรู้หน้าที่ของตัวเองดีพอสมควร เพราะนอกจากจะรับผิดชอบตัวเองโดยการตั้งใจเรียนแล้ว เขาก็ยังไม่เคยเที่ยวทำตัวเหลวไหลให้พ่อแม่ต้องคอยเป็นห่วงหรือหนักใจอีกด้วย



คนรอบข้างหลายๆ คนเคยพูดและแสดงความเป็นห่วงกับพ่อแม่ของธามว่า พวกท่านเข้มงวดกับชีวิตของลูกชายเพียงคนเดียวจนเกินไปไหม เพราะภาพลักษณ์ที่ทุกคนเห็นจนชินตาคือ ธามจะเป็นเด็กเนิร์ดคงแก่เรียน พูดน้อย ยิ้มน้อย ไม่ค่อยมีสังคมเหมือนเด็กต่างจังหวัดทั่วๆ ไป ยิ่งเรื่องชู้สาวนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเด็กหนุ่มแทบไม่มีวี่แววว่าจะรักจะชอบใครเลย ทั้งที่รูปร่างหน้าตาดีมากแท้ๆ



แม่ของธามนั้นให้เหตุผลว่าเพราะธามอาจจะยังเด็ก ดังนั้นจึงไม่สนใจเรื่องพวกนี้ และเธอก็คิดว่ามันดีอยู่แล้วที่ลูกชายสนใจแต่เรื่องเรียนอย่างเดียว



ตัวธามเองเวลาได้ยินคำพูดของญาติๆ หรือผู้ใหญ่คนไหนก็จะเฉยๆ เพราะเขาไม่รู้สึกสักนิดว่าการที่จะไม่มีเพื่อนมากมาย หรือเที่ยวเล่นอย่างเด็กคนอื่นจะถือว่าเป็นปัญหา



ในทางตรงกันข้ามเด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่าการมีเพื่อนไม่มาก แต่สนิทสนมรู้ใจกันนั้นดียิ่งกว่า อีกทั้งเรื่องที่ตั้งใจมุมานะเรียนก็เพราะเขารู้สึกสนุกกับมัน ไม่ใช่ถูกบังคับฝืนใจจากพ่อแม่แม้แต่น้อย ดังนั้นที่ผ่านมาชีวิตวัยรุ่นของธามจึงไม่มีอะไรที่กระตุ้นความสนใจของเขาได้เป็นพิเศษนอกจากการเรียน



จนกระทั่งวันที่เขาได้พบกับใครคนหนึ่ง



ช่วงเวลานั้นเป็นเช้าที่วุ่นวายวันหนึ่ง ซึ่งเขาต้องฝ่าการจราจรติดขัดและเบียดเสียดกับผู้คนอยู่ในรถไฟฟ้าเพื่อไปโรงเรียนให้ทัน



ใครคนนั้นไม่ได้สะดุดตาธามตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เพราะรูปร่างและหน้าตาที่ดูเหมือนลูกคนจีนทั่วๆ ไป ตาตี่ คิ้วบาง ผิวขาวเผือด องค์ประกอบรวมดูจืดชืด ยิ่งผนวกเข้ากับชุดพนักงานออฟฟิศที่แสนธรรมดา อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ชายที่ดูจืดจางสุดๆ



ธามเพิ่งสังเกตเห็นเขาคนนั้นครั้งแรกตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสถานีเป่านกหวีดใส่ เนื่องจากมัวแต่ใจลอยจนเผลอเหยียบเส้นเหลืองที่ขีดเตือนเอาไว้



เขายืนอยู่อีกแถวที่เยื้องๆ กับธามเล็กน้อย เสียบหูฟังเอาไว้ ท่าทางคล้ายไม่สนใจอะไร พอรถมาแล้วต้องเคลื่อนแถวเขาไปใกล้ เด็กหนุ่มยังได้ยินเสียงเพลงลอดออกมาจากหูฟังนั่นเลย



หูเสียกันพอดี



เด็กหนุ่มคิดตำหนิในใจ ก่อนต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้ารถ



เพียงระยะทางไม่กี่สถานี ภายในรถไฟฟ้าก็มีผู้โดยสารอยู่เต็มไปหมด เดี๋ยวคนนั้นเบียดซ้าย คนนี้เบียดขวา จนสุดท้ายธามก็โดนดันไปอยู่เกือบถึงรอยต่อของตู้โดยสาร



เขายืนอยู่ ณ ตรงจุดนั้นสักพัก สายตาก็เหลือบไปเห็นชายที่ถูกเป่านกหวีดใส่เมื่อครู่อยู่ไม่ไกลออกไป ชายคนนั้นหันหน้าเข้าหาประตู หันหลังให้ผู้โดยสารส่วนใหญ่ในขบวน ในทีแรกก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร ทว่าสายตาเจ้ากรรมดันไปสะดุดกับมือปริศนาข้างหนึ่งเข้าให้



มือข้างนั้นจะไม่มีอะไรแปลกไปจากมือของคนอื่นๆ เลย ถ้าหากว่าเจ้าของของมันไม่กำลังใช้ส่วนปลายนิ้วไล้ไปตามแนวโค้งบนสะโพกของหนุ่มออฟฟิศหน้าจืดอยู่!



ธามรู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นโรคจิตตัวเป็นๆ ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงพยายามเบียดแทรกผู้คนเข้าไปใกล้ เขาอยากรู้ว่าเจ้าของมือนั้นเป็นใคร ทั้งยังอยากเตือนให้หนุ่มออฟฟิศคนนั้นได้รู้ว่ากำลังถูกลวนลามอยู่



แต่จนแล้วจนรอดก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้ง เพราะทันทีเขาขยับเข้าไปใกล้พอจนเกือบแตะตัวของหนุ่มหน้าจืดได้ มือข้างนั้นก็ออกแรงขยำความกลมกลึงใต้กางเกงแสลกนั่นทันที



“เอ้ย!” เสียงร้องด้วยความตกใจดังขึ้นพร้อมๆ กับที่เจ้าตัวหันหน้ากลับมา



ใบหน้าจืดๆ ที่ไร้อารมณ์ก่อนหน้าบัดนี้แดงก่ำจนเห็นได้ชัด ดวงตาตี่ๆ นั้นขยายกว้างขึ้นมากเท่าที่มันสามารถจะขยายได้ พร้อมกับส่ายเลิกลั่กไปมาหาคนโรคจิตอย่างขวัญเสีย มองดูไปก็คล้ายสัตว์เล็กๆ ที่กำลังตื่นตกใจ



ธามตั้งใจอยากจะเข้าไปบอกว่าคนที่ทำมิดีมิร้ายกับเขา เป็นผู้หญิงใส่แว่นทางท่าภูมิฐานคนนั้น แต่อารมณ์แปลกประหลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้นในเวลานี้กลับทำให้เด็กหนุ่มก้าวออกไปไม่ได้



เพราะทันทีที่มองใบหน้าจืดๆ ที่ประเดี๋ยวอาย ประเดี๋ยวโกรธของอีกฝ่าย ความเป็นชายของเขาดันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา ราวกับว่าท่าทางตื่นๆ นั้นไปกระตุ้นหรือกดโดนสวิตช์เข้า ซึ่งถ้าหากธามเข้าไปในตอนนี้ คนโชคร้ายคงกลายเป็นตัวเองที่ถูกหาว่าโรคจิต



เด็กหนุ่มใช้กระเป๋าเป้ที่สะพายพาดไหลไว้ปิดบังร่างกายท่อนล่างไม่ให้ใครสังเกตเห็น ก่อนจะเบี่ยงตัวหันไปด้านข้างทำทีว่าไม่รับรู้อะไร รอจนกระทั่งผ่านไปสักครู่ ร่างกายไม่รักดีจึงค่อยๆ สงบลง พร้อมกันกับที่หนุ่มออฟฟิศหน้าจืดลงไปจากรถพอดี ซึ่งนั่นก็ทำให้ธามรับรู้ความผิดพลาดของตัวเองอีกประการ นั่นคือเขานั่งรถไฟฟ้าเลยป้ายจากสถานีที่จะลงมาไกลโข



เหตุการณ์วุ่นวายในเช้าวันนั้นจึงทำให้ธามเกือบมาไม่ทันเข้าแถวที่โรงเรียน อีกทั้งวันทั้งวันก็ยังเผลอคิดหมกมุ่นเรื่องที่ตัวเองเกิดอารมณ์ทางเพศเพราะใบหน้าของคนคนนั้นจนเรียนแทบไม่รู้เรื่อง





+++





หลังเลิกเรียนธามรีบตรงกลับบ้านพักทันที และทำการปลดเปลื้องให้กับตนเองเพื่อลดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในให้สงบลง



ถึงอย่างนั้น ยามที่ปฏิบัติภารกิจอะไรต่อมิอะไร ภาพแก้มแดงๆ กับดวงตากระต่ายตื่นตูมก็วิ่งวุ่นอยู่ในหัว เป็นสิ่งเร้าชั้นดีที่พาให้ไปถึงจุดสูงสุดได้เร็วขึ้น



นี่เราเป็นโรคจิตหรือไงนะ



ธามได้แต่คิดกลัวในใจ



คืนนั้นหลังจากทำการบ้านและอ่านหนังสือเสร็จเรียบร้อย เด็กหนุ่มจึงรีบเข้านอนแต่หัววัน ด้วยหวังว่าความคิดฟุ้งซ่านจะหายไปเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ ซึ่งมันก็เป็นความคิดที่ค่อนข้างดีทีเดียว เพราะเมื่อยามเช้าของวันใหม่มาเยือน ธามก็ไม่ได้รู้สึกมีอารมณ์เมื่อนึกถึงใบหน้าของคนคนนั้นอีกแล้ว



แต่ไม่ว่าเพราะอะไร เขาจึงรู้สึกว่าอยากเจอคนคนนั้นอีกสักครั้งแทน









++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++






เด็กหนุ่มก็แบบนี้ละน้า อารมณ์มันพลุ่งพล่านโดยหาเหตุผลไม่ได้หรอก /ใช่หราา 55555
มาเปิดเผยตัวละครลับอีกตัวแล้วค่ะ คือน้องธามนั่นเอง
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กนักเรียนกับหนุ่มออฟฟิศ
ซึ่งเคยคิดพล็อตไว้ว่าจะเขียนเป็นเรื่องสั้นๆ นานแล้ว
จะบอกว่ามันหาสาระอะไรไม่ได้หรอกค่ะ
แค่อยากเขียนเรื่องง่ายๆ น่ารักๆ ใสๆ(?) ไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น
หากจะหาแก่นสารสำคัญหรือพล็อตที่หนักแน่นอะไรคงไม่ได้จริงๆ
ซึ่งเรื่องนี้ฝนเขียนวันต่อวัน คือยังไงก็ต้องลงทุกวันให้ครบเก้าวันตามที่คิดโปรเจคไว้
หากจะสั้นบ้างยาวบ้าง ยังไงก็ต้องขออภัยด้วยนะคะ
เอาเป็นว่าเจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
มารอดูว่าเจ้าเด็กโรคจิตจะเข้าไปทำความรู้จักกับเหยื่อ-- /แค่กๆ กับพี่ปภพเค้ายังไง
ฝากติดตามด้วยนะคะ

ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2017 01:54:26 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
ธามตั้งใจอยากจะเข้าไปบอกว่าคนที่ทำมิดีมิร้ายกับเขา เป็นผู้หญิงใส่แว่นทางท่าภูมิฐานคนนั้น
ไม่คิดว่าจะเป็นนาง สนุกอ่ะ รออ่านจ้า   :katai1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เพราะคุณป้าโรคจิตคนนั้นเลยเชียวววว

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2









บทที่ 2











   ตั้งแต่วันที่ปภพเจอคนโรคจิตจับก้นบนรถไฟฟ้าวันนั้น ทุกเช้าเย็นของการไปกลับที่ทำงานก็เหมือนเดินอยู่ท่ามกลางซอยเปลี่ยวที่มีโจรร้ายชุกชุมอย่างไรอย่างนั้น ชายหนุ่มเลิกจมอยู่กับโลกของตัวเอง และค่อยระแวดระวังสอดส่องผู้คนมากขึ้น ต้องคอยกระตุ้นเตือนไม่ให้ตัวเองมัวเหม่อหรือฟังเพลงจนเพลินเกินไป พอกลับถึงบ้านทีไรปภพก็รู้สึกเหนื่อยกว่าที่ผ่านๆ มา



   ก๊อก ก๊อก ก๊อก!




   “เฮีย ม๊าเรียกกินข้าว” เสียงตะโกนของน้องสาวตัวดีดังขึ้นพร้อมกับเสียงเคาะประตูหน้าห้องรัวๆ จนน่ารำคาญ



   ก๊อก ก๊อก ก๊อก!



   “อาเฮีย ได้ยินหมวยไหม”


   “ได้ยินแล้วๆ เดี๋ยวเฮียลงไป” ชายหนุ่มจำต้องดึงตัวเองขึ้นจากที่นอน ก่อนจะดึงเนคไท คลายกระดุม แล้วลงไปนั่งร่วมโต๊ะกับครอบครัว



   บ้านของปภพเป็นครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน พ่อกับแม่ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้าผักรายใหญ่ในตลาด เขามีพี่น้องด้วยกัน 4 คน เป็นผู้ชาย 3 ผู้หญิง 1 โดยปภพเป็นลูกชายคนที่ 2



   “อาปวยเล้ง ม๊าบอกกี่ทีแล้ว กลับมาถึงให้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ให้นอนแช่ไปทั้งชุดอย่างนั้น”

   “เดี๋ยวก็อาบน้ำแล้วม๊า ค่อยเปลี่ยนทีเดียวก็ได้” ปภพตอบ

   “เอาๆ กินข้าวได้แล้ว ลื้อก็อย่ามัวไปบ่นปวยเล้งมันเลย” ผู้เป็นพ่อตัดบท ก่อนจะคีบคะน้าต้นอ่อนใส่จานปภพ “เราก็กินเข้าไปเยอะๆ ตั้งแต่ทำงานมาตัวก็ผอมเหลือแต่กระดูกแล้ว อย่างนี้จะไปสู้คนอื่นได้ยังไง”


   “ขอบคุณครับป๊า” ปภพยิ้มขอบคุณ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าว



   เพราะครอบครัวของชายหนุ่มค้าขายพืชผลทางการเกษตร ดังนั้นลูกๆ ทุกคนในบ้านจึงถูกตั้งชื่อเหมือนผักทั้งหมด เริ่มจากพี่ชายคนโตชื่อขิง น้องชายชื่อตังโอ๋ น้องสาวคนเล็กชื่อต้นหอม และปภพชื่อ ปวยเล้ง



   ปวยเล้งเป็นชื่อที่ชายหนุ่มไม่กล้าแม้แต่จะบอกใคร ไม่ใช่เพราะเขาเกลียดมัน แต่เวลาได้ยินคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวเรียกแล้วมันแสลงใจ



เนื่องสมัยเรียนประถมเขาถูกเพื่อนล้อเพราะชื่อน่าอายนี่จนกลายเป็นปม พอย้ายไปเข้าโรงเรียนมัธยม รวมถึงมหาวิทยาลัยตามลำดับ ชายหนุ่มจึงบอกเพื่อนๆ ว่าตัวเองชื่อปภพแค่ชื่อเดียวเท่านั้น



   แต่นอกเหนือจากปัญหาเรื่องชื่อสุดประหลาดที่พ่อแม่ตั้งให้แล้ว ครอบครัวของปภพก็ไม่มีเรื่องราวอะไรให้ชายหนุ่มรู้สึกอับอายอีก ถึงแม้จะมีฐานะความเป็นอยู่กลางๆ ค่อนไปทางลำบากอยู่บ้าง หากพี่น้องทุกคนก็สนิทสนมและรักใคร่กลมเกลียวกันดี



   ตอนนี้ตัวเขากับพี่ชายก็ได้เข้าทำงานแล้ว อีกปีน้องชายคนรองก็จะเรียนจบ มีก็แต่สาวน้อยต้นหอมน้องสุดท้องที่ยังเรียนมัธยมอยู่คนเดียวเท่านั้น แต่เมื่อทุกแรงช่วยกันทำงานแบ่งเบาภาระครอบครัว ปภพคิดว่าต่อไปในอนคตอันใกล้ พ่อกับแม่ของเขาก็คงจะได้สบายขึ้นเสียที







+++







   “เล้ง”

   “ครับเฮียขิง” หลังกินข้าวอิ่ม พี่ชายคนโตของบ้านก็เดินตามปภพขึ้นมาบนห้อง ก่อนจะเอ่ยธุระที่ตั้งใจจะมาพูดด้วย

   “ตอนนี้เล้งมีแฟนหรือยัง”

   “ยังหรอกเฮีย รูปร่างอย่างผมใครจะไปเอา อีกอย่างช่วงนี้ก็ทำแต่งานด้วย” ปภพรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนรูปร่างหน้าตาดีอะไร เพราะสมัยเรียนเขาก็เคยมีแฟนแค่คนเดียวเท่านั้น ก่อนจะเลิกรากันไปหลังคบกันได้ไม่นาน


   “ในสำนักงานบัญชีของเราน่าจะมีแต่ผู้หญิงไม่ใช่หรือไง ไม่มีคนที่สนใจบ้างเลยเหรอ”

   “หูย ไม่มีหรอกครับ” ชายหนุ่มโบกไม้โบกมือปฏิเสธ “สาวออฟฟิศสวยๆ เขาเลือกผู้ชายเก่งนะเฮีย”

   “อย่าพูดเหมือนตัวเองไม่มีดีอย่างนั้นสิ”

   “ก็จริง เฮียไม่ต้องมาปลอบใจน้องหรอก” ปภพทำท่าเหมือนร้องไห้กระซิกๆ ก่อนจะโดนโบกหัวไปทีหนึ่ง จึงเริ่มกลับมาสนใจพี่ชายที่เอาแต่ทำหน้าจริงจังอีกครั้ง “ว่าแต่เฮียขิงถามผมทำไม มีอะไรหรือเปล่า”


   “ไม่มีอะไรหรอก” ขิงทำหน้าลำบากใจ แต่สุดท้ายเมื่อเห็นสายตารู้ทันของน้อง จึงยอมเอ่ยออกมา “อันทีจริงก็มี”

   “นั่นไง ผมว่าแล้ว” ปภพยิ้ม แล้วพยักเพยิดให้พี่ชายพูด

   “เฮ้อ…ฟังแล้วก็อย่าโกรธไปล่ะ”

   “ไม่โกรธหรอกครับ เฮียขิงพูดเถอะ”

   “คือม๊าแกเป็นห่วงเล้งน่ะ เห็นว่าอยู่มาตั้งนานก็เคยพาแฟนมาบ้านสักที แล้วเมื่อวันรวมญาติตอนตรุษจีนที่ผ่านมา แกไปรู้มาว่าไอ้ซานลูกชายอากู๋มีแฟนเป็นผู้ชาย ม๊าก็เลยกล้วว่าเล้งจะ…”


   “จะเป็นเกย์เหรอเฮีย” เห็นพี่ชายเอาแต่อ้ำอึ้ง ปภพจึงพูดออกมาเอง

   “ก็นั่นแหละ” เฮียขิงพยักหน้า “แต่เฮียก็บอกม๊าไปแล้วนะ ว่าเล้งไม่ได้เป็น”

   “ฮ่าๆๆ ม๊านะม๊า คิดได้ไงว่าผมจะเป็นเกย์ ผมไม่ได้เคยชอบผู้ชายสักหน่อย แค่ยังไม่มีแฟนเอง”ปภพนึกถึงมารดาที่ชอบเป็นกังวลเรื่องของเขาแล้วก็ขำ “แต่ก็ขอบคุณนะเฮียนะครับที่แก้ต่างแทนให้ ไม่งั้นม๊าคงวิตกจริตไปนานเลย”


   “อืม ไม่เป็นไรหรอก ลื้อก็รีบหาแฟนให้ได้สักทีสิ ม๊าจะได้ไม่ต้องมากังวนอีก ดีไม่ดีเดียวแกพาไปดูตัวล่ะยุ่งเลยนะ หมดสิทธิ์เลือกเองกันพอดี”


   “หาได้ง่ายๆ ก็ดีสิเฮีย” ปภพว่าพลางถอนหายใจ “เอาเถอะๆ ไว้หาได้เมื่อไหร่จะรีบพามาให้ม๊ารับขวัญให้สมใจเลย”


   “ดีแล้ว” พอหมดเรื่องพูด ขิงก็ตั้งท่าเดินกลับห้องของตัวเอง เพราะเขาก็อยากพักผ่อนเต็มที “ไม่มีอะไรแล้ว เฮียไปล่ะ ง่วงนอน”


   “ครับๆ ผมก็จะอาบน้ำเหมือนกัน ง่วงจะแย่แล้ว” ปภพตบบ่าตัวเองปุๆ ก่อนจะแยกย้ายกลับเข้าห้องใครห้องมัน



   เขานึกขันผู้เป็นแม่ของตัวเองไม่หาย ไม่รู้คิดได้อย่างไรว่าเขาจะเป็นเกย์เหมือนลูกพี่ลูกน้อง แค่เพราะยังไม่ยอมมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหมือนเฮียขิงเท่านั้น แต่ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบพวกรักร่วมเพศหรอก เพียงแต่ตัวปภพเองก็ยังไม่เคยนึกชอบผู้ชายคนไหนมาก่อนเหมือนกัน ดังนั้นชายหนุ่มจึงคิดว่าความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะมีแฟนเป็นผู้ชายนั้นเท่ากับศูนย์



   แต่ปภพไม่เคยเตรียมใจไว้เลยว่า หลังจากที่เขาคิดเช่นนั้น ต่อมาไม่นานจะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เขามาทำให้รู้สึกหวั่นไหวอย่างที่ตัวเองยังนึกกลัว









+++






สาบานว่าไม่เคยคิดแกล้งปวยเล้ง-- เอ้ย! ปภพคนดีของเจ้เลยนะคะ แต่ชื่อนี้มันออกมาจากอินเนอร์จริงๆ  :laugh: :laugh:
2 ตอนนี้อาจจะดูเป็นเรื่องพื้นฐานครอบครัวของตัวละครมากสักหน่อย แต่พอหลังจากที่สปาร์กกันติดแล้ว รับรองว่าน้องธามจะทำให้พี่ปวยเล้งคนดีเครื่องร้อนผ่าวๆ อย่างแน่นอน 555555 /โดนตะกร้าผักปาหน้า


ยังไงก็ฝากติดตามด้วยค่ะ


เจอกันตอนหน้านะ


ละอองฝน.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2017 16:26:47 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
แหมๆๆๆ อยากอ่านตอนสปาร์กไวๆ ปวยเล้งนี่เป็นชื่อที่คาดไม่ถึงเหมือนผู้หญิงโรคจิตภูมิฐานคนนั้น    :katai2-1:

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ติดตามๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รอตอนต่อไปค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
แววว่าดราม่าครอบครัวมาแต่ไกลเลย

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2



บทที่ 3












หลังจากผ่านมาหลายวัน วันที่สุดก็ได้พบเขาอีกครั้ง


แล้วตั้งแต่นั้น ผมก็ละสายตาจากเขาไม่ได้เลย



   ธามรู้สึกเหมือนกันตัวเองทำตัวคล้ายกับพวกโรคจิตเข้าไปทุกที เพราะเมื่อเขาบังเอิญได้พบกับหนุ่มออฟฟิศหน้าจืดที่สถานีรถไฟฟ้าอีกครั้ง ธามก็พยายามทุกวันเพื่อให้ตัวเองได้เจอชายคนนั้นอีก ทีแรกมันก็มีบ้างที่จะคลาดกัน แต่พอจับจุดได้ ธามก็รู้ว่าจะพบชายคนนั้นที่สถานีได้ในเวลาใด



   เขาจะมาถึงสถานีรถไฟฟ้าประมาณ 6 โมงเช้า บวกลบไม่เกิน 10 นาที ในมือมีกระเป๋าใบเล็กๆ เอาไว้ใส่ตั๋วเติมเงินโดยสาร เขามักเดินเข้าไปยังสถานีเลยโดยไม่ซื้อกาแฟหรืออาหารจากร้านรวงที่ขายอยู่ด้านหน้า นั่นทำให้ธามพลอยไม่ได้ซื้อไปด้วย เนื่องจากกลัวว่าจะตามเข้าไปไม่ทันรถขบวนเดียวกัน



   แต่หลังจากที่เจอกันครั้งแรก ธามก็ไม่ค่อยเห็นชายคนนั้นเสียบหูฟังอีกเลย และส่วนใหญ่ก็จะนั่งกับเบาะโดยสารตลอดเส้นทาง ทั้งยังคอยมองไปทางนั้นที ทางโน้นที ราวกับคอยจับผิดสิ่งผิดปรกติ ซึ่งธามก็พอเดาได้อีกว่าเขามองหาอะไร ดูท่าว่าเหตุการณ์อุกอาจวันนั้นคงทำให้เขาขยาดกลัวพวกโรคจิตบนรถไฟฟ้ามากทีเดียว



   สถานีต่อไป ศาลาแดง ท่านสามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้ามหานครได้ที่สถานีนี้



   Next station Sala Daeng , interchange with MRT.



   และนี่เป็นสถานีปลายทางที่เขาลงทุกเช้า ซึ่งมันเป็นคนละสถานีกันที่ธามต้องลง แต่เด็กหนุ่มก็เลือกที่จะเขามาถึงนี่ ออกจากขบวนรถไฟพร้อมกัน รอดูจนแน่ใจว่าเขาออกไปจากสถานีแล้ว จากนั้นจึงนั่งย้อนกลับไปยังสถานีที่ตนเองต้องไปโรงเรียน



   ธามเคยคิดจะคอยอีกฝ่ายกลับบ้านในตอนเย็น แต่แค่คิดก็รู้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้ว เพราะธามเลิกเรียนไม่ตรงเวลา บางวันก็เลิกช้า บางวันก็เลิกเร็ว ซ้ำยังไม่รู้เวลาเลิกงานของอีกฝ่าย และที่สำคัญ คนที่ใช้บริการขนส่งรถไฟฟ้าก็มากมายจนนับไม่ถ้วน ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงมีโอกาสได้เจอชายคนนั้นเฉพาะช่วงเช้าของทุกวันเท่านั้น



   มีหลายครั้งที่ธามอยากเข้าไปทัก ทว่าก็นึกหาเหตุผลไม่เจอจะทำอย่างนั้นได้อย่างไร เขารู้สึกชอบหนุ่มหน้าจืดคนนั้นก็จริง แต่มันก็ออกจะแปลกไม่น้อยหากเข้าไปพูดคุยทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมากก่อน



   จะทำเหมือนเวลาจีบผู้หญิง แต่ธามก็ไม่เคยจีบใคร ซ้ำอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชาย ถ้าจู่โจมออกไปตรงๆ เด็กหนุ่มคิดว่าตัวเองอาจจะถูกต่อยจนหน้ายับก็เป็นได้ ไม่ก็ถูกมองด้วยสายตาประหลาด



   17 ปีที่ลืมตาดูโลก ธามไม่เคยประสบปัญหาแบบนี้มาก่อน ไม่เคยตกหลุมรักใครตั้งแต่แรกเจอ และก็ไม่เคยเก็บเอามาคิดถึงจนรุ่มร้อนในใจขนาดนี้



   เขาคิดว่าตัวเองนั้นเป็นเอามากจริงๆ



   “เป็นอะไรน่ะธาม ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” วิทย์เงยหน้าขึ้นมาจากจานข้าวแล้วถามขึ้น

“คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ” ธามตอบเลี่ยงๆ เพราะถึงบอกว่าไม่มีอะไร คนจมูกดีอย่างวิทย์ก็คงไม่เชื่ออยู่ดี

“คิดเรื่องอะไรล่ะ บอกกันฉันได้นะเว้ย เห็นทำหน้าเครียดมาตั้งแต่คาบเช้าแล้ว” เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาว่า

นี่คงจะลอบสังเกตกันมาตลอดเลยสินะ ธามคิดในใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ แล้วยกน้ำกระเจี๊ยบเย็นๆ ขึ้นมาดูดอึกหนึ่ง

“คือ…” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างช่างใจว่าจะลองพูดกับเพื่อนดีไหม

“เป็นอะไรก็บอกมาเหอะน่า ไม่ต้องอายหรอก ถ้าไม่ได้ไปแอบชอบใครเข้าน่ะนะ”

“แค่กๆๆ” ทันทีที่วิทย์พูดจบ ธามก็สำลักน้ำเจี๊ยบที่เพิ่งดูดเพิ่มเข้าไปอีกรอบทันที

“เฮ้ย นี่อย่าบอกนะว่า...” วิทย์รีบวางช้อนส้อมแล้วดูดน้ำในแก้วของตัวเองให้คอโล่ง จึงว่าต่อ “ไปแอบชอบใครเข้าวะ คนในห้องเราป่ะ”

“ไม่ใช่” ธามส่ายหน้า

“ห้องอื่นเหรอ” วิทย์ถามต่อ

“ไม่ใช่ คนข้างนอก”

“ไม่อยากจะเชื่อ อย่างนายเนี่ยนะจะไปแอบชอบใครได้ เห็นสนแต่เรื่องเรียนเรื่องเดียว” วิทย์ทำตาโตยืนยันว่าตัวเองไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เพื่อนบอกจริงๆ

“ฉันก็ไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกัน” ธามว่า


ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะชอบ ซ้ำยังเก็บมาหมกมุ่น จนแสดงสีหน้าออกมาชัดเจนถึงเพียงนี้


   “ว่าแต่เขาเป็นใครวะ”

   “นายไม่รู้จักหรอก”

   “ไม่รู้จักก็ไม่เป็นไร ว่าแต่มีเฟสไหม อยากเห็นน่ะ” วิทย์ถูมือ ซ้ำยังทำหน้าไม่น่าไว้ใจอีกต่างหาก

   “ไม่มีหรอก ยังไม่เคยคุยกันเลย ขนาดชื่อก็ยังไม่รู้”

   “จริงเหรอ” วิทย์ตาโตอีกรอบ “แล้วทำไมไม่ถามล่ะ ไม่กล้าหรือไง”

   “…” ธามนิ่งไปครู่หนึ่ง “ก็ทำนองนั้น”

   “ไม่ได้นะธาม กล้าๆ หน่อยสิ”

   “มันจะไม่เหมาะหรือเปล่า”

   “คนที่ทำให้นายทำหน้าแปลกๆ แบบนี้ สงสัยว่าต้องน่ารักมากแน่ๆ เลยใช่ป่ะ นานๆ จะเจอคนที่ถูกใจ ลองดูก็ไม่เสียหายนะ ถ้าเกิดเขาโอเค มันก็ดีไม่ใช่เหรอ”

   “แล้วถ้าไม่โอเคล่ะ”

   “ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย แค่นี้อย่าไปกลัว ข้อสอบกลางภาคคณิตฯ เสริมของอาจาย์สมพงษ์น่ากลัวกว่าเป็นไหนๆ จริงป่ะ”



   แม้สิ่งที่วิทย์เปรียบกับสิ่งที่ธามต้องเจออาจจะดูไม่เกี่ยวกันเท่าไหร่ แต่ธามก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา และตั้งใจว่าถ้ามีโอกาส ก็จะลองทักผู้ชายคนนั้นดูสักครั้ง





+++





   โอกาสที่ธามคิดถึง มันมาเร็วราวกับมีใครบางคนกำหนดเอาไว้



   เย็นวันวันนั้นหลังจากที่เด็กหนุ่มเลิกเรียน ไม่รู้วิทย์นึกครึ้มอกครึ้มใจอะไร จึงชวนให้เขาไปเป็นเพื่อนช่วยเลือกเสื้อที่สยาม หลังจากเดินดูข้าวของจนได้มาครบตามที่ต้องการเรียบร้อย พวกเขาก็หาอะไรกินรองท้อง ก่อนแยกย้ายกันกลับบ้าน



   ขณะที่ธามกำลังจะเดินเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า เขาก็พบหนุ่มออฟฟิศหน้าจืดคนนั้นเดินสวนออกมาด้วยความบังเอิญ



   เห็นดังนั้นธามจึงรีบหันหลังกลับแล้วเดินตามคนคนนั้นไปโดยไม่ต้องคิด เขาเดินตามฝูงชนเพื่อข้ามสกายวอร์คแล้วมุ่งหน้าไปเซนทรัลเวิร์ด ธามมองแผ่นหลังผอมๆ นั่นห่างๆ พยายามกะระยะไม่ให้ตัวเองเดินชิดอีกฝ่ายมากเกินไป ทั้งยังต้องระวังไม่ให้คาดสายตาด้วย



   เดินตามกันไปครู่ใหญ่ ธามก็พอเดาได้ว่าเขาต้องการไปที่ไหน เพราะมันคือที่ที่ธามชอบมาบ่อยๆ เวลาอยากเปลี่ยนบรรยากาศอ่านหนังสือ



   ศูนย์การเรียนรู้ชั้นบนสุดของห้างคือที่ที่ว่านั่น



   ชายคนนั้นเดินผ่านเข้าไปโดยใช้บัตรสมาชิก ซึ่งธามเองก็มีเหมือนกัน ธามเห็นเขาเอาหนังสือไปวาง จากนั้นก็ยืมต่อทันที เขาใช้เวลาอยู่ตรงเคาน์เตอร์แค่ครู่เดียวก็เดินออกจากศูนย์การเรียนรู้



   ทว่าโชคของธามกลับเริ่มต้นที่ตรงนี้



   ชายคนนั้นมายืมหนังสือก็จริง แต่พอได้หนังสือก็รีบเดินออกไปแล้วทิ้งกระเป๋าเอกสารเอาไว้บนเคาน์เตอร์แทน บรรณารักษ์ที่คอยดูแลสังเกตเห็นพอดี เธอจึงตั้งท่าจะรีบเอาไปให้ ธามจึงใช้จังหวะนี้เข้าไปหาเธอ และโกหกออกมาโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคิดแผนนี้ได้ตอนไหน



   “เดี๋ยวครับ”

   “มีอะไรคะน้อง”

   “นี่กระเป๋าที่พี่ผมลืมไว้ใช่ไหมครับ”

   “เอ่อ…นั่นพี่ชายน้องเหรอคะ”

   “ครับ คนที่ตัวประมาณนี้” ธามทำมือวัดจากอากาศ “ขาวๆ ตี๋ๆ ใช่ไหมครับ”

   “ใช่ค่ะ”

   “งั้นผมขอกระเป๋าคืนด้วย ขอบคุณมากนะครับที่เก็บไว้ให้”

   “อ๋อ ไม่เป็นไรค่ะ”



   ธามรับกระเป๋ามาจากเธอ ก่อนจะรีบเดินออกจากที่นั่น เพราะกลัวว่าชายคนนั้นจะหายไปเสียก่อน โชคดีมากที่แถวนั้นเป็นพื้นที่โล่งๆ จึงมองเห็นได้ว่าเขาเดินไปถึงตรงไหนแล้ว ธามรีบวิ่งเหยาะๆ ตามไป ในใจไม่คิดสิ่งใด นอกเหนือไปจากการที่จะได้คุยกับใครคนนั้นสักครั้ง



   ไม่นานธามก็เดินตามชายคนนั้นทัน เขารอให้ก้าวลงจากบันไดเลื่อนเรียบร้อย ก่อนจะเอื้อมมือสั่นๆ ไปสะกิดที่ไหล่ และเอ่ยเรียก



   “พี่ครับ”

   “ครับ!” เขาสะดุ้งเล็กน้อย ท่าทางตกใจนั่นยังเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ ไม่เปลี่ยน


ธามพยายามควบคุมน้ำเสียง สีหน้า และกดความตื่นเต้นลงไป ก่อนเอ่ย


“ผมเห็นพี่ลืมนี่ไว้ข้างบนครับ ก็เลยเอามาคืน”

“โอ๊ะ!” ดวงตาตี่ๆ เบิกกว้างเล็กน้อย ก่อนริมฝีปากบางจะแย้มยิ้มออกมา “ขอบคุณมากนะครับน้อง ไม่ได้น้องพี่คงแย่ ในนี้มีเอกสารสำคัญอยู่ด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ”



เขาเงยหน้ามองธามเต็มตา ทั้งยังส่งยิ้มมาให้เสียเต็มแก้ม จากตรงนี้ธามจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าความสูงของพวกเขาต่างกันพอควร



“งั้นพี่ไปก่อนนะครับ ขอบคุณมากจริงๆ” เขายิ้มให้ธามอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินไป



พออยู่ต่อหน้ากันจริงๆ เด็กหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ และมันยิ่งทั้งโง่และบ้าหนักกว่าเดิม เมื่อเขารีบเร่งฝีเท้าตามไป จากนั้นก็สะกิดอีกฝ่ายอีกครั้ง พร้อมกับเอ่ยประโยคหนึ่ง



“พี่ครับ”

“หืม?”



ผมขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหมครับ”











+++






มาแล้วค่าาาา


น้องธามสู้เค้านะลูก  o13
อาปวยเล้ง งานนี้ลื้อโดนเด็กกินแน่ๆ โฮะๆๆ

 :laugh: :laugh:


ดีใจที่คนอ่านชอบนะคะ
เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตายแล้ว เร็วไปไหม ปวยเล้งจะระแวงไหมนี่

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
รุกฆาต..ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆ     :hao6:

ออฟไลน์ ละอองฝน

  • แมวดำ
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 261
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +398/-2





บทที่ 4









“ผมขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหมครับ”



ปภพถึงกับอึ้งและพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะเมื่อได้ยินสิ่งที่เด็กหนุ่มตรงหน้าบอกกับตนเอง เขาเผลอเสียมารยาทด้วยการกวาดตามองเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า



แม้รูปร่างจะสูงใหญ่กว่าเขาค่อนข้างมาก แต่ชุดที่สวมใส่ก็สามารถบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่าเป็นแค่เด็กมัธยมเท่านั้น เห็นท่าทางกระสับกระส่ายยามรอคอยให้เขาตอบแล้วก็พอจะเดาได้ลางๆ ว่าอีกฝ่ายขอเบอร์เขาเพื่ออะไร




“พี่คงให้ไม่ได้ ขอโทษนะครับ” ปภพว่า



ใบหน้าอ่อนเยาว์นั่นสลดไปวูบหนึ่งเมื่อได้ยินคำตอบ



“ค…ครับ ไม่เป็นไรครับ” เสียงที่ออกมาแข็งทื่อไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเมื่อครู่ ปภพจึงยิ้มเอ็นดูให้อีกฝ่าย ก่อนเดินจากมา




+++




ปภพหยิบหูฟังออกมาเสียบโทรศัพท์ฟังเพลงระหว่างนั่งรถ วันนี้เขากลับบ้านช้าเพราะมายืมหนังสือ เวลาเดินทางจึงไม่ตรงกับเวลาเลิกงานองคนส่วนใหญ่ ภายในขบวนรถไฟจึงมีที่ให้นั่งสบายๆ ไม่ต้องแย่งใคร



โลกเรานี่มันไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ



ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเด็กมัธยมคนนั้น



หน้าตาก็น่าเอ็นดู รูปร่างก็ดี ไม่น่าเป็นเกย์เลย



นึกๆ ดูแล้วก็น่าเสียดาย ถ้าเปลี่ยนเป็นเขาล่ะก็ ด้วยรูปร่างหน้าตาแบบนั้น ป่านนี้คงมีแฟนสวยๆ น่ารักๆ ไปอวดม๊ากับป๊าได้แล้ว



   ไม่รู้เด็กคนนั้นคิดยังไงถึงมาขอเบอร์เขา ผู้ชายจืดชืดอย่างเขามีอะไรน่าสนใจกัน ชายหนุ่มนึกสงสัย ส่วนหนึ่งก็ยังแอบคิดเผื่อไว้ว่าตัวเองอาจจะเข้าใจอีกฝ่ายผิดก็ได้ แม้ท่าทางและสีหน้าอีกฝ่ายจะแสดงออกมาอย่างชัดเจนขนาดนั้นก็เถอะ



แต่คิดไปคิดมา ปภพก็ค่อนข้างแปลกใจตัวเองไม่น้อย ที่ไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือไม่พอใจเมื่อถูกเด็กมัธยมชายมาขอเบอร์ ทั้งที่เขาเองก็เป็นผู้ชาย ซ้ำยังแก่วัยกว่าอีกฝ่ายตั้งหลายปี



คงเพราะกำลังตกใจละมั้ง



ชายหนุ่มคิด เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งในชีวิต อย่าว่าแต่เด็กผู้ชายเลย แม้เด็ก สตรี คนชรา หรือหมาสักตัวยังไม่มอง ยิ่งคิดมันก็เลยยิ่งเศร้า ชายหนุ่มจึงปัดเรื่องไร้สาระออกจากหัว และนั่งฟังเพลงจนกระทั่งลงไปต่อรถตู้กลับบ้าน




+++





   วันนี้เป็นเช้าวันทำงานอีกวันที่ดูเหมือนจะสงบสุขดี กว่าเดือนมาแล้วที่ปภพไม่เห็นวี่แววโรคจิตบนรถไฟฟ้า เขาจึงสบายใจและปล่อยตัวตามสบายได้เหมือนเก่า


   แต่ถ้ามีช่วงที่คนเบียดแน่นขบวนมากๆ ชายหนุ่มก็จะพยายามหันหลังชิดผนังเอาไว้ เว้นเสียแต่ว่าต้องหลบให้คนออกจากขบวนไป ก็จะมีการเคลื่อนที่บ้างเล็กน้อย



   เช่นเดียวกับตอนนี้



   ปภพเคลื่อนตัวหลบให้คนอื่นๆ ออกจากรถ และเวลานั้นก็เป็นเวลาที่ไม่ทันได้ระวังตัว



   “อ้ะ!”



เสียงร้องด้วยความตกใจของเขาดังขึ้น บางคนก็หยุดเพื่อหันมามอง บางคนก็ไม่สนใจ เพราะเป็นช่วงคนเข้าออกรถไฟฟ้าพอดี



ชายหนุ่มหันรีหันขวาง มองไปคนที่อยู่รอบกาย แล้วดวงตาตี่ๆ ของเขาก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อหันไปสบเข้ากับเด็กมัธยมคนหนึ่ง คนที่เคยช่วยเก็บกระเป๋าคืน คนเดียวกับที่ขอเบอร์เขาวันนั้น



“นาย…” ปภพมองไล่สายตาไปยังมือของเด็กคนนั้นที่กำลังจับข้อมือของผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้แน่น


“น้าผู้หญิงคนนี้เป็นคนจับก้นพี่ครับ ผมเห็น” เด็กหนุ่มประกาศเสียงดัง


แต่คนร้ายตัวจริงกลับตะโกนเสียงดังกว่า “ฉันไม่ได้ทำ!”


“ผมเห็นสองครั้งแล้วนะครับ เมื่อเดือนที่แล้วก็ด้วย คราวนั้นเพราะตกใจ แต่คราวนี้ผมไม่ปล่อยเอาไว้แน่ หรือจะตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดก็ได้”


“อะ…ฉันเปล่านะ ฉัน…”



พอถูกไล่ต้อนจนจนมุมผู้หญิงคนนั้นก็ไม่รู้จะอย่างไร เธออึกอัก มองคนนั้นที มองคนนี้ที ผู้โดยสารที่อยู่รอบข้างเริ่มหันมาซุบซิบกัน บ้างก็ยกมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวีดีโอเอาไว้ ปภพก็ไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับเธอ ในหัวมันวิ้งไปหมด ด้วยไม่คิดว่าไอ้โรคจิตที่เขาหวาดผวาจะมาในรูปแบบนี้



“จับส่งนายสถานีเลย”


“นั่นสิ โรคจิตแบบนี้เอาไว้ไม่ได้”



พอเสียงวิพากษ์วิจารต่างๆ นาๆ ดังขึ้น คนทำผิดก็เริ่มหน้าเสีย ทีแรกเธอตะโกนด่ากราดไม่ให้ใครถ่ายคลิป แต่ตอนนี้ทำได้เพียงยกมือปิดหน้าร้องไห้



“เอาไงครับพี่” เด็กหนุ่มที่จับข้อมือคนร้ายเอาไว้เอ่ยถาม


“เดี๋ยวลงไปคุยกันที่สถานีหน้าก็แล้วกัน” ปภพตอบหลังจากที่ค้นหาเสียงของตัวเองเจอในที่สุด เขาหันไปมองคนอื่นๆ แล้วเอ่ยขอร้อง “ช่วยหยุดถ่ายด้วยนะครับ ผมไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปกว่านี้ เดี๋ยวผมจะจัดการต่อเอง ขอบคุณทุกคนมากนะครับ”



   หลายคนทำตามที่ปภพขอ เพราะเห็นว่าเป็นคำขอของผู้เสียหาย พอรถถึงสถานีถัดมา ปภพจึงออกจากขบวนรถพร้อมกับเด็กหนุ่ม และโรคจิตสาวคนนั้น



   “อย่าส่งฉันให้ตำรวจเลยนะคะ ฉันขอโทษ” เธอว่าพลางร้องไห้ ทั้งยังเริ่มพูดเรื่องหน้าที่การที่จะเสียหายหากมีการดำเนินคดีเรื่องนี้



   ปภพไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนดี เขาหวาดหวั่นกับโรคจิตคนนี้มานานเป็นเดือน ใจหนึ่งก็โกรธ ทั้งรู้สึกอายและโมโหไปในคราวเดียวกัน



   “คุณทำเรื่องร้ายแรงมากขนาดไหนรู้ไหม”


   “รู้แล้วค่ะ ฉันขอโทษ…อึก ขอโทษจริงๆ จะให้ทำอะไรก็ได้ อย่าแจ้งตำรวจเลยนะคะ”


   “เฮ้อ…จริงๆ เลย” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา “ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไป แต่จำเอาไว้ว่าอย่าไปทำอย่างนี้กับใครอีก”

   “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ”



   เธอก้มหัวขอบคุณปภพ ก่อนจะรีบดึงแขนกลับมาจากก่อนเกาะกุมของเด็กหนุ่ม จากนั้นก็วิ่งลงไปจากสถานี ครู่เดียวก็หายลับตาไปในที่สุด



   ปภพถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ก่อนหันกลับมาสบตากับเด็กหนุ่มที่ช่วยเขาไว้



   “พี่ใจดีเกินไปนะครับ เราน่าจะแจ้งความเอาผิดกับเธอ จะได้ไม่กล้าไปทำอย่างนี้กับใครอีก” เด็กหนุ่มว่า


   “ช่างเถอะ เธอคงเข็ดแล้วล่ะ อีกอย่างพี่ต้องรีบเข้าประชุมด้วย ไม่สะดวกไปสถานีตำรวจเช้านี้”


   “งั้นก็แล้วแต่พี่เลยครับ…”



   พอสถานการณ์คลี่คลาย ปภพก็เดินนำไปยืรอรถไฟฟ้าขบวนถัดไป ระหว่างรอเขาก็หันมาขอบคุณคนที่ช่วยตัวเองเอาไว้เป็นครั้งที่สอง



   “เราช่วยพี่ไว้อีกแล้ว ไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลย”


   “ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”


   “ไม่เป็นไรไม่ได้หรอก ยังไงก็ขอบคุณมากๆ นะ”


   “ครับ”



พูดกันแค่นั้นทั้งสองคนก็เงียบเสียงลง ปภพมองแผ่นหลังกว้างในชุดนักเรียนของเด็กตรงหน้า จู่ๆ ก็เกิดความคิดแปลกๆ ขึ้นมา



“ว่าแต่เราชื่ออะไร”


“ธามครับ”


“พี่ชื่อปภพนะ เรียกพี่ภพก็ได้”


“ครับพี่ภพ” ธามยิ้มออกมาด้วยความดีใจ เมื่อได้ทราบชื่อของปภพ


“อืม…ที่เราถามที่คราวที่แล้วน่ะ”


“ครับ?”


“เรื่องเบอร์โทรศัพท์” ปภพเว้นช่วงเพื่อช่างใจนิดหน่อย ก่อนจะเอ่ย “ยังอยากได้เบอร์พี่อยู่ไหม”






++++++++






happy valentine's day ค่าาาาา  :L1: :L2: :mew1:


เหมือนมิชชั่นจะเฟล จบไม่ทันวันที่ 14 เพราะไม่สบายค่ะ วันหยุดก็นอนป่วยเป็นผักต้มเลย ฮือออ
แต่ไม่เป็น เราจะยังเขียนตอนไปให้จบ นี่ก็เหลือไม่กี่ตอนแล้วล่ะ

ตอนนี้พี่ปวยเล้งแกยอมให้เบอร์น้องแล้วนะคะ
มาดูว่าเรื่องราวของทั้งคู่จะเป็นไงต่อไป



เจอกันตอนหน้าค่ะ


ละอองฝน.




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-02-2017 15:23:14 โดย ละอองฝน »

ออฟไลน์ ืniyataan

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-1
สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ เอาใจช่วยธาม
ไรต์หายไวๆนะ รออ่านจ้า   :katai2-1:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ utamon

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
พี่ภพแจกเบอร์แล้ว สู้นะน้องธาม จีบพี่ภพให้ติดล่ะ :m13:
แล้วสู้กันต่อในประเด็นของครอบครัว..
น้องธามมันยังไม่ได้เริ่มจีบพี่ภพเลย กลัวเรื่องนี้ไปก่อน 5555

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
ปัญหาในอนคตคือแม่ของภพแน่เลย
แม่จะยอมรับได้แค่ไหน

 :กอด1: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MaidenQueen

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รออ่านน้องธามปวยเล้งต่ออยู่นะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด