***นี่เป็นนิยายเขียนสด ไม่มีกรองสติใดๆ แม้แต่คำผิด (ขอโทษมา ณ ที่นี้) เขียนด้วยฟิลลิ่ง และพลิกล็อกได้ตลอดเวลา คนอ่านควรตั้งสติ หึหึหึ***
ตุ๊ดอัพเกรด
Version 5.2 Complete
" เด็กมันยั่ว "
ถึงแม้ว่าสถานะของใครบางคนจะขยับเลื่อนขั้นอัพเกรดขึ้นมาเป็นแฟนแล้วก็ตาม ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ในสายตาของพีท ไทม์ก็ยังทำหน้าที่สารถีเหมือนเดิม พาไปกินข้าวเหมือนเดิม เพิ่มเติมขึ้นมานิดหน่อยคงจะเป็น..
"ปล่อย"
ไอ้ความมือไวของมันนี่แหละ เผลอไม่ได้เลย เอะอะจูง เอะอะจูง ไม่ได้ตาบอดนะเว้ย ไม่ต้องจูงก็ได้ ไอ้คนมือไวยิ้มเผล่ก่อนจะยอมปล่อยง่ายๆ ลองมึงไม่ปล่อยดูสิ เดี๋ยวได้โดนพีทร่างสองเล่นเอา
"โห่เฮียยยย นิดเดียวเอง"
นิดนึงก็ไม่ได้เว้ย..
นี่ถ้าเกิดเขาตะบะแตกขึ้นมา..ใครจะรับผิดชอบ!
รู้มั้ยว่า
'เก็บอารมณ์' ตัวเองเนี่ยมันยากกว่าเก็บความรู้สึกตั้งสิบเท่าไปกลับเชียงใหม่-ยะลาอีก โว๊ะ!!
อีกคนนี่ก็ไม่ได้รู้อะไรเล้ยว่าไอ้เฮียพีทที่มันคอยตามตูดต้อยๆ เนี่ยสปาร์คง่ายเบอร์ไหน ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ จะกอดก็มาเถอะ จะยิ้มดาเมจทำลายล้างแค่ไหนสีก็ทนได้
ตอนนี้น่ะเหรอ
...
เหอะ! สบตาไม่กี่วิเขาก็แทบคุ้มคลั่งแล้ว!
มันกลายมาเป็นแบบนี้ได้ไงวะเนี่ยยยยยยยย
เหมือนคำว่าเพื่อน เป็นผ้ายันต์มากกว่าเส้นกีดกั้นความรู้สึกในความหมายเชิงเปรียบเทียบของพีทอีกนะในตอนนี้ พอผ้ายันต์มันหลุดนี่ประดุจปลุกผีให้ตื่น
แหน่ะ ยังมีหน้าหันมายิ้มอีก
โอ้ยยยยยยย ทำไมไม่เห็นใจคนทางนี้บ้างวะ
หลังจากสอบเสร็จช่วงเช้า แน่นอนว่าเมื่อคืนทั้งคืนมีใครบางคนที่ไม่ได้นอน แถมยังต้องแบ่งเวลาที่ใช้ทบทวนก่อนเข้าห้องขับรถมารับแฟนใหม่ป้ายแดง (ที่เฝ้าประคบประหงมมาอยู่หลายปี) นี่อีก
วันนี้พีทมีเรียนถึงเที่ยงพอดี เดินลงมาจากตึกยังไม่ทันจะหันไปรับไหว้รุ่นน้องก็เห็นอีกคนนั่งสัปหงกพิงเสาอยู่มุมหนึ่งแถมใต้ตึก รู้ว่าไม่ไหวแล้วยังจะฝืนอีก นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่พีทเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาก่อน เพราะปกติคนที่ตาม คนที่เดินเข้ามาหาก็มีแต่อีกคนนั่นหละ // แหม่ นางพญาเนอะ <<คนเขียน
พีทมองตามมือไทม์มันกำรีโมทรถอย่างหลวมๆ ราวกับว่าพอมานั่งปุ๊บก็สลบเหมือดไปทั้งอย่างนั้นจนไม่ทันได้เก็บอะไรให้เข้าที่เข้าทาง และมันกำลังจะร่วงจากมืออีกคนที่ดูท่าทางจะหลับสนิทเอามากๆ เลยรับชิงรีโมทก่อนมันจะร่วงจากมืออีกคนไว้ คนหลับความรู้สึกไวพอสมควรถึงกับสะดุ้งตื่นเด้งตัวขึ้นทันที
"เหี้ย! เอ้ย .. เฮีย" คนที่เพิ่งตื่นตกใจเผลอสบถสัจว์ใส่หน้าคนตรงข้ามอย่างเผลอตัว "เฮีย..." หาวอีกวอด "..เสร็จนานยัง กลับเลยมั้ย"
"เออ นานพอจะเห็นเดือนมหาลัยนอนน้ำลายยืด"
คนฟังยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ย "แต่ยังหล่อมั้ยล่ะ" ก่อนจะยักคิ้วอีกที
เออ... เอาเลย เอาที่สบายใจเลย
พีทมองนิ่งไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะเดินนำดิ่งออกจากตึก อีกคนรีบลุกเร่งฝีเท้าเดินตามไปอย่างไว
รถสปอร์ตคาร์จอดในพื้นที่พิเศษ (หมายถึงที่ๆไม่มีใครกล้าจอด) อยู่ตรงริมบาทวิถีหน้าตึก และมันเด่นมากซะจนแค่ปรายตามองก็เห็นแล้ว พีทเดินดิ่งไปที่ประตูคนขับทันที
"เฮ้ยๆๆ เฮียๆ ผมขับเองๆ" อีกคนร้องห้าม แต่คนมีไวกว่าเปิดประตูเข้าไปนั่งแทนที่ประจำของเจ้าของรถเรียบร้อยแล้ว ทิ้งเจ้าของรถยืนเกาท้ายทอยอย่างไม่อยากจะยอมแบบคนเอาแต่ใจ ..แต่จะทำไงได้นอกจากยอมล่ะวะ เฮ้อ
ไทม์เอาร่างมุดลงไปนั่งในห้องโดยสารตรงตำแหน่งข้างคนขับ ซึ่ง..บอกตรงๆเลยว่าไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ถึงคราวก่อนจะนั่งในตำแหน่งนี้ตอนให้เฮียลองขับคราวก่อนก็เถอะ
"รู้ว่าง่วงก็นอนไป ถ้าระแวงกลัวขับไปชนอะไรเดี๋ยวแวะไปนอนบ้านกูก่อน"
เปล่า.. ไม่ได้ระแวง เขายอมรับว่าเฮียขับรถเก่งจริงๆ เพราะลองไม่นานก็ชินกับแรงม้าของรถ แต่คือ..เข้าใจอารมณ์แฟนมั้ยวะ เลื่อนขั้นเป็นแฟนแล้วก็อยากดูแลมากกว่าถูกดูแลแบบนี้ ไทม์แอบเถียงในใจ
ไทม์ทะเลาะกับตัวเองได้ไม่นานก็ผล็อยหลับไป สารถีจำเป็นขับไปก็ลอบมองคนข้างๆ ไป นี่ก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่พีทลงมือทำอะไรให้กับคนข้างๆ บ้างหลังจากเป็นผู้รับมาตั้งนาน พอได้มาทำให้แบบนี้มันก็รู้สึกดีไปอีกแบบ มันแตกต่างและเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเหนือบ่ากว่าแรงตัวเองเลยซักนิด และที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือ
มันอิ่มใจ
คนขับค่อยๆ ปล่อยฝีเท้าชะลอความเร็วรถให้ช้าลงเผื่อว่ามันจะช่วยให้เขาใช้เวลาขับรถไปถึงบ้านที่อยู่หลังมอถัดไปไม่กี่ซอยได้นานขึ้น
ก็มันเพิ่งหลับไปเองนี่นะ อยากให้ได้งีบให้เต็มที่กว่านี้ซักหน่อย..
******
พอถึงบ้านคนขับจอดเทียบรั้วหน้าบ้านช้าๆ และยังไม่ปลุกอีกคนในทันที พีทนั่งว่างๆ เลยหยิบชีทของไอ้คนหลับขึ้นมาอ่านเล่นฆ่าเวลา อ่านจนหมดแล้วไอ้คนข้างๆ นี่ก็หลับเหมือนตายไม่มีทีท่าว่าจะตื่นง่ายๆ
พีทมองไทม์ลังเลว่าจะปลุกดีหรือไม่ปลุกดี แต่พอหันกลับไปมองคนหลับ กว่าจะรู้ตัว สายตาเขาก็ถูกดึงดูดจนละไปมองอะไรไม่ได้
ขอยอมรับตรงนี้เลยว่าตัวเองก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะกระเถิบเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นแฟนคนตรงหน้านี่ ..เขาเป็นตุ๊ดที่ไม่เพ้อเจ้อ ไม่เพ้อฝัน (เหรอ??) อยู่ในความเป็นจริง ความเป็นจริงที่ว่านี่คือ ใจของคนสองคนจะตรงกัน มีเพียงศูนย์จุดห้าในจำนวนร้อย แล้วคิดดู ถึงจะพอรับรู้แล้วจะกล้าเสี่ยงเหรอ? ถ้าเสี่ยงแล้วมันไม่เวิร์ค ต้องเสียคนดีๆ ไปเขาก็ไม่กล้าแลกหรอก ถ้าเรายังพอที่จะห้ามความรู้สึกตัวเองในวันที่เรายังควบคุมมันได้ งั้นก็พยายามไม่คิดอะไรด้วยซะยังจะดีกว่า
แต่พอมาถึงวันนี้ บอกเลยว่าพัง พังหมดแล้วอะไรต่อมิอะไรที่คิดว่าคุมอยู่
..และมีอีกอย่างที่ถูกทำลายจนพังไปแล้วเช่นกัน
สายตาของพีทจับจ้องสำรวจใบหน้าของคนตรงข้าม ปอยผมที่เซทลวกๆ เมื่อเช้าเริ่มหลุดลุ่ยปอยผมตกลงมาปรกหน้าผากกำลังไหวตามแรงแอร์ในรถ มองเลื่อนลงมาถึงคิ้วไม่หนาไม่บางเข้ารูปลับกับเปลือกตาและแพขนตาหนายาวนั่นที่เขาเคยแอบอิจฉาเพราะว่าถ้าดัดแล้วปัดมาสคาร่าต้องเด้งกว่าชะนีหลายๆ นางแน่ สันจมูกได้รูปสวยปลายพุ่ง มองไล่ลงมาเรื่อยๆ จนถึงกลีบริมฝีปากบางชุ่มชื้นนั่น..
อ่า... ใจสั่นเลยแฮะ
นึกไม่ถึงจริงๆ นั่นแหละว่าจะกลายมาเป็นแฟน..
..
ก่อนห้วงความคิดจากจิตใต้สำนึกส่วนลึกจะสร้างภาพๆ หนึ่งลอยเข้ามาซ้อนทับภาพตรงหน้า..
ภาพใครบางคนกำลังนอนจมอยู่บนหมอน ริมฝีปากบางนั่นขยับอ้า หอบโกยอากาศพลางเรียกชื่อเขา..
"อ่ะ...อื้อ ....เฮีย..."!!!พีทรีบหลับตาข่มสติก่อนที่จะถูกจิตใต้สำนึกกลืนกิน มือเย็นเฉียบกำแน่นระงับอารมณ์บ้าๆ นั่น
คิดเหี้ยอะไรเนี่ย..คิดเหี้ยอะไรเนี่ย
เอาใหม่ๆ
กูตอนแต่งหญิง กูตอนอ้วน กูตอนเป็นช้างเผือกขาหนีบดำ...
.
"เฮ้ออออ...."
ได้ผลชะงัด ลมหายใจถี่กระชั้นของพีทเริ่มกลับสู่สภาวะปกติหลังจากพยายามควบคุมและดึงสติกลับมาด้วยการจินตนาการอะไรก็ตามที่ทำให้เขาอารมณ์หดกลับมาเป็นปกติได้
ตั้งแต่คราวนั้นที่เป็นคืนแรก.. แม้จะเมาแต่ก็ใช่ว่าจะไม่เหลือสติ เขาจำได้ดีว่าคืนนั้น ตัวเอง ..ทำอะไรลงไปบ้าง และต้องขอบคุณน้ำเมานั่นด้วยซ้ำที่ทำให้คืนนั้นเขาเห็นเป็นภาพคนตรงหน้านี่แทนที่จะเป็นคู่ขาที่นอนด้วย เพราะไม่อย่างนั้น มันคงยืนยันความรู้สึกลึกๆ ของตัวเองไม่ได้ชัดเจนจนเป็นรูปเป็นร่างทั้งเสียงขนาดนี้หรอก
เห้อ... งั้นที่ผ่านมาไอ้ที่เข้าใจว่าตัวเองแอ๊บแมนมาตลอด จริงแล้วมันก็ไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิดน่ะสิ..
พีทสะบัดหัวไล่ความคิดทิ้ง พอก่อน ค่อยๆ คิดแล้วกัน นี่เพิ่งคบกันได้สองวัน ยังมีเวลาให้คิดอีกเยอะ
อีกอย่าง เรื่องความลับนั่น.. หวังว่าจะมีโอกาสเหมาะมากพอที่จะบอก ถึงอีกใจนึงมันจะร้องเตือนว่าถ้าบอกมันอาจจะไม่เหมือนเดิมก็เถอะ ถ้ายังเป็นในสถานะเดิมก่อนที่จะเลื่อนมาเป็นแฟน ตอนนั้นคงจะกล้าบอกมากกว่าตอนนี้ แต่พอมันเลยมาถึงจุดนี้แล้ว .. มันจุกอยู่ในคอ จะบอกก็ไม่กล้า จะเก็บไว้ก็อึดอัด เอาเป็นว่า ขอเรียนรู้จักไอ้คนตรงหน้านี่อีกหน่อยแล้วกัน
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานขนาดไหน ไทม์ที่รู้สึกเหมือนได้นอนเต็มที่ก็เริ่มได้สติ ตาเรียวคมรี่ตาปรับแสงก่อนจะหันหน้าไปมองคนขับที่กำลังก้มหน้าดูมือถือตาแทบจะติดจอ
"เฮีย" คนถูกเรียกสะดุ้งโหย่งรีบปิดล็อคจอก่อนจะหันขวับกับมามองคนข้างๆ "ไร"
"ถึงนานยังเนี่ย ทำไมไม่ปลุกอ่ะ" ไทม์เกาคอมองไปรอบๆก่อนจะยกข้อมือที่สวมนาฬิกาทาคฮอยเยอร์รุ่นลิมิเตดขึ้นมาดู "โห สี่โมงกว่าแล้ว"
"อ่าฮะ จะกลับเลยมั้ย"
ไม่รู้อะไรดลใจให้พีทถามแบบนี้ ทั้งที่ปกติเมื่อก่อนนี่แทบจะไล่อีกคนนึงกลับโดยไม่คิดจะถามด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าคำตอบนั้น..
"ไม่อ่ะ"
"..."
"..ยังง่วงอยู่เลยอ่ะ"
"..."
ไอ้คนที่นั่งฝั่งข้างเบาะคนขับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ก่อนจะกระซิบเสียงเบา
.
.
"คืนนี้ค้างบ้านแฟนแล้วกัน"โอ้ยยยยยยย พีทเอ้ยยยยยย
คืนนี้มึงทรมานตายห่าแน่ๆ !!!TBC
หึหึ หุหุฮึฮิ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอ้ยยย ทำไมเขียนเรื่องนี้แล้วมันกร๊าวววววใจจุง 55555555555
นี่มันนิยายคลายเครียด ท่องไว้ คลายเครียด คนอ่านต้องอ่านไปงงไปแน่เลย นี่เขียนไประแวงไปกลัวคนอ่านไม่เข้าใจนะเนี่ย ถามว่าแคร์มั้ย ก็แคร์แหละ แต่ต้องเขียนไง 555555555555 .วิ่งซิกแซกสับขาหลอกหลบตรีนคนอ่าน
บร๊ะบาย เจอกันตอนหน้า
รักส์ณ๊
Zhiki