***นี่เป็นนิยายเขียนสด ไม่มีกรองสติใดๆ แม้แต่คำผิด (ขอโทษมา ณ ที่นี้) เขียนด้วยฟิลลิ่งเมื่อองค์แม่ลงประทับจับมงสวมหัวเท่านั้น***
ตุ๊ดอัพเกรด
Version 2.2 Complete
" อมยิ้มหน้าแดง "
หลังจากที่เคลียร์กับแม่จนนางพ้นโทษจากการโดนยึดบัตรเครเดตและรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางก็กะจะพาฉันมาเลี้ยงขอบคุณที่ร้านอาหารญี่ปุ่น แต่...
"อยากกินส้มตำอ่ะ"
"..."
ฉันรู้ว่านางกินเผ็ดไม่ได้แต่ความอยากของอิฉันมันปิดหูปิดตา ความอยากพุ่งทะยานเหนือทุกสิ่งอย่างแม้กระทั่นคนที่จะจ่ายในมื้อนี้ จริงๆ ก็ควรไปหาของแพงกินนะ แต่มันไม่ไหวแล้วนี่ เจ๊ไม่ไหวแล้ว อยากกินปลาร้าาาาาา
พอนึกถึงต่อนปลาร้าแล้วอิฉันกลืนน้ำลายดังเอื้อกพร้อมๆ กับคนหล่อข้างๆ ที่กลืนน้ำลายเพราะขนลุกทันทีที่นึกถึงพริกสีแดงๆ เต็มจานส้มตำที่อิฉันชวนนางมากินรอบที่แล้ว
แต่โนแคร์ รอบนี้ยังไงนางก็ต้องตามใจ และฉันก็ไม่ยอมด้วย
"ส้มตำ ขอร้านข้างทางนะ ในห้างไม่เอามันไม่นัว"
ปอร์เช่ บ็อกซ์สเตอร์ 718 เปิดประทุนชะลอความเร็วก่อนจะเลี้ยวเข้าลานจอด และแล้วนางก็ยอมฉันจริงๆ ด้วย น่ารักจริงเล้ยเด็กโง่
พอเราเดินเลาะฟุตบาทไปเรื่อยๆ ก็ถึงเพิงที่ทำเป็นร้านอยู่ริมถนน ร้านนี้รับประกันเลยค่ะว่าเผ็ชและแซ่บเด็ดดวงมากกกก
"แกกินกับฉันไม่ได้แกก็สั่งจืดๆ มากินเอานะ ตำไทยเด็กก็ได้" ฉันบอกนางไปพลางเขียนเมนูประจำลงไป
โดยปกติแล้วฉันไม่ค่อยหยาบกับฮีหรอก ถ้าไม่หงุดหงิดจนรำคาญขึ้นมาอ่านะ คือเข้าใจปะว่าบางครั้งอ่ะ ถ้าวอแวมากเกินมันก็ไม่ค่อยโอเคนี่ยิ่งเป็นคนขี้รำคาญอยู่ด้วย ยอมรับเลย เรียกได้ว่าเอาแต่ใจสุดๆ แต่นางก็ดีนะที่เข้าใจ ไม่ค่อยถือโทษโกรธอะไร ตอนนี่ร้อนเป็นไฟนางก็จะเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งซะอีก
ตำลาวพริกครึ่งครกกับปลาร้าเป็นตัวๆ เมี่ยงปลานิลย่างเกลือ น้ำตกหมู ต้มแซ่บซุปเปอร์ หูหมูย่างอบสมุนไพร ตำไทยเด็กอ่อน และไก่ย่าง อยู่ตรงหน้าอิฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และมันดูฟูลมากจนคิดว่ากินหมดนี่คงอิ่มไปถึงสิ้นอายุขัยในชาติหน้า
ช้อนในมืออิฉันจ้วงเอาตำลาวกับปลาร้าใส่ปากสลับกับซดน้ำต้มแซ่บ โอ้ยยย แซ่บอีหลี แซ่บหลาย แซ่บปะล่ำปะเหลือ ตัดภาพกลับไปที่บักหำตรงข้ามที่ค่อยๆ กินตำไทยเด็กทีละจิ๊ดสลับกับมองอิฉันไปด้วย
"มองไมอ่ะ กินไปดิ"
ทำอย่างกับมองฉันแล้วมันจะทำให้อิ่มงั้นแหละ
ส้มตำลาวจานที่สองหมดไปแล้ว ในขณะเดียวกันนั้นคนรวยตรงหน้าอิฉันกำลังใช้ช้อนกับส้อมแงะเนื้อไก่ออกจากกระดูก นี่เห็นแงะมาตั้งแต่จานที่สองมาเสิร์ฟแล้วนี่ยังไม่ได้กินอีกเหรอเนี่ย ฉันเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้อ่ะแกร เลยแย่งจานนางมาแล้วเอามาแงะให้
เนื้อไก่ส่วนน่องถูกอิฉันค่อยๆ แกะออกอย่างชำนาญ ด้วยผู้เชียวชาญด้านไก่อย่างอิฉัน.. แหม สมัยอ้วนๆ นี่ชอบม้าก เอาจริงเรื่องกินฉันก็ชำนาญหมดแหละ แต่เลาะกระดูกไก่กับหมูนี่อิชั่นระดับโปรเฟชชั่นนอลแล้วค่ะพูดเลย พูดจบก็แงะไก่เสร็จพอดี ฉันส่งจานกลับให้นาง
"อ่าว ทำไมไม่ป้อนด้วยอ่ะ"
"เดี๋ยวทุบ" ฉันยกมือทำท่าจะทุบนางจริงๆ นางก็ขำก่อนจะก้มหน้ากินไก่
"แอบยิ้มไร เห็นนะ!" ฉันทำเสียงเหวี่ยงขู่นาง แต่นางก็รู้ว่ามันไม่มีอะไรในน้ำเสียงนั้นเลยยิ่งยิ้มออกมาแบบไม่ปิดบังอะไรอีก
"เปล่า ฮึๆ โอ้ย" ฉันหยิบมะเขือในจานผักสดเขวี้ยงใส่หัวนางด้วยความหมั่นใส้ ผู้ชายอะไรน่าขย้ำหัวจริงๆ
"จะบอกไม่บอก เอาอีกลูกมั้ย"
"โอ้ยๆ ยอมแล้วๆ " นางปล่อยช้อนยกมือป้องพัลวัล "พริกติดฟันเฮียอ่ะ"
"ตรงไหน" อิฉันเอาลิ้นดุนพร้อมกับกำลังจะล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องส่อง นางก็พูดสวนขึ้นมาพอดี
"ออกแล้วๆ" ท่าทางไม่น่าไว้ใจ เดี๋ยวบอกมีเดี๋ยวบอกไม่มีนี่ก็เลยยกกล้องขึ้นส่องดูอีกที
มื้อนื้หมดไปไม่ถึงพัน อิฉันเลยขอใช้สิทธิ์เงินที่เหลือไปกินขนมต่อ นางรู้ใจขับพาไปร้านประจำทันทีโดยไม่พูดต่อรองอะไรซักคำ ท่าทางจะหิวสิท่า ส้มตำกินไปไม่กี่คำ ไก่ย่างก็แกะจนอิ่มได้กินไม่กี่คำ (ไม่กี่คำที่ได้กินคืออิฉันแกะให้อ่านะ)
คราวนี้นางชี้แหลกทั้งเค้กทั้งวาฟเฟิลและแซนวิชทูน่า ท่าทางจะหิวมากจริงๆ ขนาดไม่ชอบของหวานนะยังสั่งมาขนาดนี้ สงสารนางเลยเหมือนพามาเสียตังค่าทรมาน ฮ่าๆๆ
นางตักบานอฟฟี่ใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ ระหว่างรอพนักงานอบวาฟเฟิล ซดกาแฟดำตามดับหวาน ยิ่งนางหลับตาถอนหายใจอารมณ์ประมาณว่า 'โอยย กูรอดมื้อนี้แล้ว' ฉันยิ่งขำอ่ะแกร แกนึกตามดิ ผู้ชายหน้าอย่างหล่อแล้วมาทำหน้าแบบนี้ บังเทิงกระเทยจริงๆ
"กินช้าๆ ก็ได้มั้ง ไม่แย่งหรอก" นี่บอกนางไป กลัวขนมติดคออ่ะกินขนาดนี้ แล้วดู กินมูมมามยังไม่รู้อีกว่าหน้าเลอะไปหมดละ อิฉันเลยหยิบทิชชู่ส่งให้นาง
"ตรงไหนอ่ะ" หลังจากรับนางก็พยายามเช็ด แต่เช็ดเท่าไหร่ก็ไม่สะอาดซักที
"ไม่ใช่ ซ้ายหน่อย ข้างๆ จมูก"
อืม ..หนำซ้ำเลอะกว่าเดิมอีก นี่จงใจปะเนี่ยถามจริง
"พอ ไม่เช็ดละ เดี๋ยวขาดช่วง ไว้กินเสร็จค่อยเช็ด"
นางวางทิชชู่คว้าส้อมจ้วงเค้กดาร์คช็อกตักเข้าปากต่อ แต่คนตรงข้ามอย่างอิฉันเห็นแล้วมันขัดหูขัดตาไง
"เอาหน้ามานี่" นี่หยิบทิชชู่รอนางยื่นหน้ามา นางก็ยังนิ่งทำหูทวนลมกัดแซนวิซคำใหญ่เคี้ยวตุ้ยๆ
ลำไย!
ความหงิดทำให้อิฉันลุกขึ้นยื่นไปเช็ดหน้าให้นางเองจนได้ทิชชู่ที่กำลังเช็ดปกปิดรอยยิ้มมุมปากเสี้ยววิ มันเกิดขึ้นเร็วมากจนอิฉันไม่ทันสังเกตุเห็นก่อนจะกระแทกตูดตัวเองนั่งลงที่เดิม
"ขอบคุณนะครับ" เจ้าของคำขอบคุณพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำโดยไม่เงยหน้ามองคนรับคำกลับก้มหน้าก้มตากินต่อกระทั่งกินเสร็จ
..
มันอร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ อร่อยขนาดไม่เงยหน้ามามองเนี่ยนะ?
บรรยากาศในรถขากลับเงียบฉี่ อิฉันกับราชรถคนขับเดดแอร์เรียบร้อยตั้งแต่ก้าวขึ้นรถมา บอกตรงๆ นี่ไม่ชอบเลยอ่ะ มันยังไงก็ไม่รู้ จะเปิดเพลงก็ไม่กล้า กลัวเครื่องเสียงรถพังฉันเลยเงียบตลอดการเดินทางจนถึงบ้าน
พอรถจอดสนิทอิฉันก็ถือกระเป๋าเตรียมจะลง บั้ยบายเดดแอร์ ลาก่อย
"เดี๋ยวเฮีย"
"ไม่" ฉันสวนไวกว่าแสงตอบนางทันควัน
"ยัง!"
"อ่าว.. ไม่ได้จะขอค้างนี่อีกเหรอ" แต่ยังไงคืนนี้ก็โนนะคะ อันเดอร์สแตนด้วยให้อิฉันขออาบน้ำขัดผิวเปิดมินิคอนเสิร์ตขุ่นแม่บียอนเซ่ในห้องน้ำบ้างเหอะค่ะ อึดอัดมาหลายวันแล้ว
"เปล่า"
"..." ฉันขมวดคิ้วแทนคำถามกลับ
"..." แล้วนางก็เงียบ
"..." อืมฉันยังรอฟังอยู่
"..." แล้วนางก็เงียบแข่งกับฉัน
..
"โอ้ยมึงมีอะไรก็รีบพูด!" นั่นไงคายหมาออกแล้วในที่สุด คอร์กี้ วิ่งไปเลยลูกแม่!
"คือ.."
คืออะไรอีกวะคะ??
..
..
พอ! สิ้นสุดความอดทนแล้ว บายค่ะ!!!
"ไว้นึกได้พรุ่งนี้ค่อยบอก กูไปละ"
มันรีบฉุดแขนรั้งอิฉันไว้ โอยยยย กลอกตาสามร้อยหกสิบองศาแปบ
"ให้เวลาห้าวิ ถ้ายังไม่พูดกูไปละ"
"คือ..."
"5"
"เดี๋ยวๆๆเฮีย"
"รีบ ..4"
"ด.. เดี๋ยวดิ"
"3"
"อ่า.. ฝันดีนะเฮีย"
"สะ...ห๊ะ?"
"ห๊ะ ..อะ ไร"
"แค่เนี๊ยะอ่านะ" โอ้ชิท มึงล้อกูเล่นใช่มั้ยเนี่ยยยยยยยยยยยย
"ก็.. อืม แค่นี้แหละ รีบไม่ใช่หรอ ไปดิ"
แหน่ะ มันเริ่มงอนกลับบ้าง แต่ใครแคร์คะ ง่วงขนาดนี้ ไม่ไหวแล้ว ถ้าอีกนิดนี่จะปรี๊ดแล้วนะ เผลอๆ องค์แม่จะเข้าสิงเอาด้วยกวนประสาทกันงี้ อิฉันรวบกระเป๋าอีกรอบเปิดประตูเตรียมจะย้ายตูดออกจากรถ เสียงแว่วๆ เบาหวิวแทบไม่ได้ยินลอยเข้าโสตประสาทพอดี
"..จะรีบไปคุยกับไอ้พี่แซมรึไง"ห๊ะ อะไรแซมๆ นะ "มึงพูดว่าอะไรนะ"
นางลอยหน้าลอยตากลับมาตอบ "เปล่า รีบไปดิ รีบไม่ใช่แง้ะ?"
เอาล่ะ ใกล้หมดความอดทนละ อิฉันย้ายตูดกลับเข้ามานั่งในรถก่อนจะกระชากประตูปิดโดยไม่สนใจว่ารถจะราคาเท่าไหร่ ด้ายย.. ไอ้ไทม์
"มึงงี่เง่าอะไร เอาจริงๆ มึงเป็นอะไร ตั้งแต่บนรถขากลับละ"
"บนรถไรเฮีย ไม่เกี่ยวเลย กินของหวานมันง่วงเลยต้องตั้งสมาธิขับ" อ่าวเหรอ เออว่ะลืม มันกินข้างหวานแล้วชอบง่วงนี่หว่า แม้แต่กาแฟก็เบรคไม่อยู่ แต่อิฉันไม่ยอมค่ะ หาเรื่องต่อ อยากไฟท์มากไม่ใช่เหรอ มา จัดให้
"แล้วเมื่อกี้มึงพูดอะไร" ฉันไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำเสียงเวลาตัวเองโกรธมันแมนโคตรมหาแมนขนาดไหน โอ้ย! จริงๆ เจ๊อยากหวีดนะ อยากกรี๊ดอัดหน้าซักที
"เปล่า"
"มึงจะพูดดีๆ หรือให้กูโมโหก่อนไทม์"
ถ้าจะมีใครซักคนที่รู้ดีที่สุดว่าอิฉันโมโหเวอร์ชั่นอัพเดทแล้ว (ไม่นับช่วงม.เปล่านะ อันนั้นมันเก่าแล้ว ความแรงคนละระดับค่ะพูดเลย!) ก็คงจะมีคนตรงหน้าอิฉันนี่แหละที่รู้ดีที่สุด
มันอึกอักอีกแปบก่อนจะรับรู้ได้ว่าอารมณ์อดทนของอิฉันสิ้นสุดลงแล้วเลยยอมเปิดปากพูด
"...พี่แซมได้เบอร์เฮียไปยัง"
โห่ ก็นึกว่าเรื่องอะไร! "ยัง มีไรอ่ะ ถามทำไม" มันจะอยากรู้ไปทำไมอ่ะเรื่องแค่นี้เอง
"เปล่าๆ พอดีมีเรื่องคุยกะเค้านิดหน่อยเลยว่าจะขอเบอร์เค้าจากเฮียอ่ะ"
"มึงมีเรื่องจะคุยกะเค้าก็ไปขอเค้าดิ จะมาขอต่อเพื่อ?" เอาตรงๆ ปะแกร ฉันไม่เข้าใจตรรกะนาง คือถ้าพี่แซมได้เบอร์ฉันไป แล้วนางจะมาขอเบอร์พี่แซมจากฉัน? งงปะ? คือถ้ามีเบอร์ฉันแต่ถ้าเขายังไม่ได้โทรแล้วฉันจะมีเบอร์เขาได้ไงคะซิส? หรือจะรอให้เขาโทรหาอิฉันก่อน แล้วค่อยเอาเบอร์จากอิฉันไป? ถ้ามีเรื่องจะคุยจะมารอเพื่อ?
ฉันหยุดคำถามรอยแปดเอาไว้ในใจเพราะคนตรงหน้ากำลังยิ้มออกมาอย่างเปิดเผยอีกรอบ
อืม ฉันว่าฉันชินแล้วแหละ ชินจริงๆ
"แต่คิดว่าตอนนี้น่าจะไม่มีไรต้องคุยกับพี่แซมแล้วแหละ" มันพูดจบก่อนจะยิ้มละมุนีส่งมาให้ฉัน
แต่ทว่า คราวนี้ฉันว่าฉันชินไม่ค่อยไหวว่ะ "เออ ถ้าไม่มีไรแล้วกูไปก่อนนะ"
ขอตัวหลบไปเพิ่มภูมิต้านทานตัวเองก่อนนะ สู้ไม่ไหวแล้วค่ะ ดาเมจนางรอบนี้แรงมากจริงๆ
ใครบางคนที่ยังอยู่ที่เดิมกัดปากยิ้มหน้าแดงอย่างไม่ต้องหลบซ่อนมองอีกคนจนหายลับเข้าไปในบ้าน
โดยไม่รู้เลยว่าอีกคนแม้ จะพยายามควบคุมไว้แต่ก็อดไม่ได้ที่จะไม่อมยิ้มหน้าแดงเพราะใครบางคนข้างนอกนั่นอีพีท ถึงผู้นั่นจะดีระดับไฮเอนด์ แต่นั่นเพื่อนนะ!!!
แกจะกินไม่ได้!!
..
แต่เอาจริง ฉันคิดไปเองมั้ยอ่ะ ฉันรู้สึกสวยมาก รู้สึกเหมือนถูกนางหึงเลยอ่ะแกรรรรร หวี๊ดดดดดดดดดดด!! *อัดหน้าลงกะหมอน*
-----------------------------------------
Next Version Up on Date : ไม่รู้ เดี๋ยวดูก่อน (ปล. ที่ทำตรงตรงนี้อยากกำหนดเดดไลน์ตัวเองมาก แต่คิดว่าเรื่องนี้คงได้มาอัพเร็วๆนี้แหละ 555)