ตอนเสริม ใจง่าย กันย์side
เรื่องมันก็นานมาแล้ว...ทั้งๆที่เป็นคนขี้ลืมแต่กลับจำได้ขึ้นใจ
วันแรกที่พวกเราพบกัน...ตอนนั้นผมอยู่ม.ห้าเห็นจะได้ วันนั้นเพื่อนสนิทที่เป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียนมีแข่งกับโรงเรียนซึ่งเป็นแชมป์เก่า ผมที่ติดสอยห้อยตามไปด้วยแล้วก็นั่งอยู่ในแสตนด์เชียร์ของฝั่งตัวเอง
พริบตาแรกที่เห็นร่างสูงกับใบหน้าหล่อเหลาสวมชุดยูนิฟอร์มของฝ่ายตรงข้ามเดินลงสนามมาก็เหมือนมีลูกศรพุ่งมาปักอก
นั่นคือเรื่องราวการตกหลุมรักของผู้ชายใจง่ายคนนี้ แน่นอนว่ามันเป็นการพบกันเพียงฝ่ายเดียว จากการแอบถามผู้จัดการทีมของเรามาทำให้ผมรู้ว่าชื่อของเขาคือ เจ้านาย
เจ้านายของผมเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน ผมคิดว่าเขาคงไม่รู้ตัวหรอกแต่สายตาของผู้หญิงทั้งสนาม ไม่ว่าจะจากโรงเรียนไหนก็เพ่งเล็งไปที่เขากันทั้งนั้น แต่คนซื่อบื้ออย่างเจ้านายของผมก็ไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย เพราะข้างกายของเขามีผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งอยู่
ตอนนั้นผมก็แค่ตัดใจแล้วก็ลืมเรื่องของเจ้านายไป...
ตัวผมที่คิดเอาเองว่าลืมเขาไปแล้วก็ติดตามข่าวทีมบาสชั้นม.ปลายแล้วก็นั่งรถไปดูรอบชิงชนะเลิศอย่างช่วยไม่ได้
ไม่ใช่เพราะว่าทีมของนายแข่งหรอกนะ แต่เป็นเพราะเพื่อนสนิทกึ่งบังคับชวนไปต่างหากล่ะ จริงๆนะ
แล้วพระเจ้าก็เล่นตลก พวกเราได้เจอกันอีกครั้งในมหาวิทยาลัย และเจ้านายก็ยังคงเป็นเจ้านายที่เนื้อหอมตามเดิม แต่เพิ่มเสน่ห์แบบคนหนุ่มเข้าไป กลิ่นไออันตรายของผู้ชายกร้านโลกที่แผ่ออกมารอบตัวเป็นเหมือนฟีโรโมนประจำตัวของเขา
โดยไม่รู้ตัว ผมก็หอบข้าวของไปนั่งในสวนหย่อม...ม้าหินอ่อนตัวที่อยู่ใกล้ทางที่นายต้องเดินผ่านมากที่สุด
ผมเห็นเขาเดินผ่านทางนั้นอยู่หลายครั้งจึงตัดสินใจตั้งรกรากอยู่ที่ม้าหินอ่อนนั่นทุกเย็นจนชาวบ้านเขาเรียกโต๊ะตัวนั้นว่า สวนหย่อมยามเย็นของกันย์ เลยทีเดียว
ไม่ต้องชอบก็ได้...แต่อย่างน้อยก็อยากให้เห็นตัวตนของผมคนนี้ อยากเห็นภาพของตัวเองสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้นสักครั้ง
“กันย์”เสียงทุ้มของคนที่อยู่ด้วยกันตลอดคืนเอ่ยเรียก ผมผินหน้ามองคนที่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ข้างกาย
เจ้านายของผมกำลังจะร้องไห้...สีหน้ารู้สึกผิดและเจ็บปวดเหลือประมาณ
เขาคงจะโทษว่ามันเป็นความผิดของตัวเอง ผมฝืนความเมื่อยล้าและความเจ็บปวดจากช่องทางที่ถูกรุกรานอย่างหนักเมื่อคืนแล้วก็เอื้อมมือไปสัมผัสใบหน้าของเขาอย่างอ่อนโยน
“ไม่เป็นไร...”
มือหยาบกร้านเอื้อมมาทาบทับฝ่ามือของผม พวกเรามองกันอยู่เนิ่นนาน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ใกล้ชิดเจ้านายขนาดนี้
และนายก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิด เขารั้งเอาร่างของผมเข้าไปกอดเสียแน่น ภายใต้แผงอกแกร่งได้ยินเสียงหัวใจกำลังเต้นรัวเร็ว ด้วยความเสียดาย เหมือนไม่อยากแยกจากจากคนนี้ไป ผมซบใบหน้ากับแผงอกแกร่งนั้นแล้วก็เอามือของตัวเองโอบรวบตัวของเขาไว้
“นาย...ฮึก...ฮือ”แล้วน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมาอีกจนได้
ให้ตายเถอะ ผมนี่มันขี้แงเป็นบ้าเลย...แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าน้ำตาพวกนี้มันจะช่วยรั้งผู้ชายคนนี้เอาไว้กับผมให้นานขึ้นสักวินาทีก็ยังดี
“อย่าไปเลยนะ...อย่าหายไปเลย ฮือ...”
“กันย์ ไม่เอาอย่าร้องไห้สิ อย่าร้องนะ ได้โปรด...”น้ำเสียงเจ็บปวดดังขึ้นข้างหู...นายยิ่งกอดผมแน่นขึ้นอีก
จริงสิ ยังมีวิธีนั้นอยู่นี่หน่า วิธีที่จะทำให้นายเป็นของผม
“นาย...นิสัยไม่ดี...”ผมผละตัวเองจากเขา เจตนาเผยใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาให้อีกฝ่ายเห็นอย่างเจตนาเรียกร้องความเห็นใจ
“ขอโทษ...”เจ้านายของผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่พูดว่าขอโทษซ้ำไปซ้ำมาเหมือนถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ การกระทำเหล่านั้นยิ่งตอกย้ำให้ผมรู้ว่าเรื่องเมื่อคืนเป็นเพียง’ข้อผิดพลาดที่เขาไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น’
“แค่ขอโทษมันไม่พอหรอกนะ...”
“เห...แล้วจะให้ทำยังไง...อะไรก็ได้ ถ้ากันย์ขอมาล่ะก็จะยอมทำตามทุกอย่างเลย...”
“เป็นแฟนกัน...”
.
.
พระเจ้า ผมพูดออกไปแล้ว ผมขอเจ้านายเป็นแฟน แน่นอนว่านายสะอึกหายไปพักใหญ่ๆหลังจากได้ยินคำพูดของผม และหลายอึดใจต่อมาเขาก็ตอบกลับมาว่า
‘ตกลง’
พวกเราเป็นแฟนกันแล้ว แต่รู้สึกไม่ดีเลย สิ่งที่ผมทำลงไปก็ไม่ต่างจากผู้หญิงที่อยากได้ผู้ชายจนทนไม่ไหม ปล่อยตัวท้องแล้วก็อุ้มลูกไปขอให้เขารับผิดชอบ
ผมมันนิสัยไม่ดีแล้วก็ขี้ขลาด แต่ถึงอย่างนั้นผมก็รักนายจนถอยไปไหนไม่ได้แล้ว
“เห้อ...”
“เป็นไร หน้าตาดูโทรมๆ”ตี๋เพื่อนรักทักทายอย่างเป็นห่วง ตอนนี้พวกเราแล้วก็เพื่อนในกลุ่มอีกคนหนึ่งชื่อโรจน์ ชื่อจริงชื่อไพโรจน์ เชยสะบัดแต่ก็หล่อสะบัดเช่นกัน
ถ้านับตามรูปร่างหน้าตาแล้วไอ้โรจน์นี่ควรจะได้เป็นเดือนคณะมากกว่าผมด้วยซ้ำแต่มันดันปฏิเสธเสียงแข็งแล้วก็ยัดตำแหน่งเดือนมาให้ผมด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้ามึงเด่นดังขึ้นมาผู้ชายคนนั้นอาจจะหันมามองมึงก็ได้
ใช่แล้ว เพื่อนสมัยมัธยมที่ผมตามไปดูมันเล่นบาสก็คือนายโรจน์นั่นเอง แต่ด้วยความห่ามและหัวช้าเรื่องความรักของมันผมก็เลยไม่ได้เล่าให้มันฟังว่าเป็นใครจนไอ้ตี๋ปากพล่อยหลุดเล่าออกไปเมื่อเทอมก่อนนั่นเอง
“เปล่า”ผมตอบเสียงเนือย
หลังจากที่นายรับคำขอเป็นแฟนจากผมเขาก็ดูแลผมอย่างดียิ่งกว่าลูกในไส้ของเขาซะอีก ทั้งอุ้มไปอาบน้ำ แต่งตัวให้ หาข้าวให้กิน นั่งข้างเตียงคอยเช็ดตัว แถมเมื่อคืนยังอยู่ค้างเป็นเพื่อนอีก พอวันนี้อาการดีขึ้นแล้วเขาก็ขับรถผมมาส่งที่คณะแล้วก็ปลีกตัวกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองที่หอ
“เห้อ...”
แล้วก็หลุดถอนหายใจไปอีกรอบจนได้ ตี๋วางช้องแล้วก็มองผมสลับกับข้าวต้มที่พร่องไปไม่ถึงครึ่งหน้าเครียด
“อ้ำ”มันแย่งเอาช้อนไปจากมือแล้วก็ยื่นมาจ่อปาก บังคับให้กินเหมือนคุณแม่ไม่มีผิด ผมไม่อยากจะขัดศรัทธาเลยก้มหน้างับอาหารในมือของมันเนือยๆ
“มึงจะอาศัยจังหวะนี้เข้าดามใจมันหรือไง”โรจน์พลั้งปากพูดอะไรบางอย่างออกมา ไอ้ตี๋รีบลุกไปบีบคอมันจนหน้าเขียวขณะที่ผมกระพริบตามองการกระทำประหลาดนั่นอย่างงุนงง
“ดามใจ? อะไรเหรอ” เอียงคอถามอย่างสงสัย ไอ้ตี๋หน้าซีดวิ่งกลับมาเกาะแขนผมไม่พูดอะไร
“ตี๋มันบอกว่าวันที่ไปร้านเพื่อนไอ้นายเมื่อวันซืน มึงได้ยินว่าไอ้นายมันชอบใครอยู่แล้วก็เดินน้ำตาร่วงไปเข้าห้องน้ำจากนั้นก็ไม่กลับมาเลย พอไปตามที่ลานจอดรถก็ไม่เห็นรถมึงคิดว่ากลับไปแล้ว คืนนั้นโทรไปก็ไม่รับสาย ไม่รู้ทำอะไรอยู่ มันเลยเอามาปรึกษาด้วยความเป็นห่วง ไม่ได้มีเจตนานินทาอะไร”โรจน์ช่วยอธิบายให้ยาวเหยียดแถมแก้ตัวให้เพื่อนเสร็จสรรพ เอาไปเลยรางวัลผู้ชายแสนดี
ส่วนตี๋ก็หน้าหงอยมองผมเหมือนลูกหมาขี้เรื้อนถูกเทศบาลไล่จับ
“อ่อ...เรื่องนั้นนั่นเอง...”
เหอๆแล้วผมจะเล่าให้เพื่อนฟังอย่างไรดีล่ะทีนี้?
“กันย์”ฉับพลัน เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยก็ดังเรียก ผมมีสีหน้าแปลกใจนิดหน่อยตอนหันไปเห็นร่างสูงๆของนายกำลังวิ่งมาหา ส่วนเพื่อนผมสองคนตกใจเหมือนเห็นผี ไอ้ตี๋นี่หนักเลย อ้าปากค้างชี้หน้านายเหรอหรา
“อ่า...”นายชะงักขานิดหน่อยกับปฏิกิริยาของเพื่อนผม ผมก็เลยกวักมือเรียกให้เขามานั่งข้างๆ นายส่งยิ้มแห้งๆให้ไอ้โรจน์จากนั้นก็หย่อนตัวลงนั่งข้างกายผม
“กินข้าวยัง”ผมถาม คิดว่านายคงยังไม่ได้กินอะไรเพราะแค่กลับไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาแล้วมาที่โรงอาหารตึกคณะผมได้เร็วขนาดนี้ก็ถือว่าทำเวลาดีมากแล้ว
แต่นายกลับพยักหน้า”กินข้าวเหนียวหมูมาแล้ว”
สมแล้วที่เป็นผู้ชายตัวใหญ่กินเร็วชะมัด ผมคิดในใจอย่างเอ็นดูก่อนจะตักข้าวตัวเองไปจ่อปากอีกฝ่าย นายผงะถอยแบบงงๆผมก็เลยตีหน้างอแล้วก็พูดเสียงอ้อล้อว่า
“กินไม่หมด ช่วยกินหน่อยดิ”
แรดมาก มีการช้อนตาอ้อนหนุ่มด้วย แร๊ด...แรด
ด้านหนุ่มเองก็งับข้าวเข้าปากไปด้วยท่าทางเก้อเขินหน่อยๆ ปฏิกิริยาตอบสนองของนายนั้นเรียกรอยยิ้มเต็มแก้มของผม อย่างน้อยการกระทำของผมก็มีอิทธิพลกับเขาอยู่หน่อย
เอาวะ เป็นไงเป็นกัน...ลองจีบนายดูสักตั้งจะเป็นไร...
“กันย์ก็กินด้วยสิ ข้าวเช้าสำคัญต่อร่างกายนะ”นายพูดเสียงดุ นั่นยิ่งเข้าทางผมไปใหญ่
“ป้อน”
“หา?”
“อ้า...”ส่งช้อนให้หนุ่มแล้วก็อ้าปากนิดๆ แรดกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ผมก็แอบหวั่นเหมือนกันว่าอ่อยมากไปไหม เดี๋ยวหนุ่มรู้ตัวเผ่นหนีไปก่อนจะทำยังไง แต่ท่าทางนายจะไม่คิดอย่างนั้น
นัยน์ตาสีดำขลับซึ่งสะท้อนภาพใบหน้าของผมอย่างที่เคยปรารถไว้เป็นประกายระยิบระยับ ใบหน้าชวนมองแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มละมุน ก่อนจะตักข้าวป้อนให้ผมตามคำขอ
บรรยากาศดีชะมัด เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสจังเลยน้า
ตี๋กับโรจน์ก็คงคิดอย่างนั้น ดูทำหน้าเข้าสิ ฮ่าๆๆๆ ต่อให้พวกมันถามผมก็จะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่บอกหรอกว่าสอยผู้ชายมาได้ด้วยวิธี(ขี้โกง)แบบไหน
________________________________________
สรุปว่ากันย์ชนะค่ะ เพราะว่ากันย์แอบชอบเขาก่อนนานเวร่อออร์
555555+
นิยายเรื่องนี้ไม่ต้องลุ้นนะคะว่าพระนางจะรักกันเมื่อไหร่
ลุ้นแค่ว่าเมื่อไหร่พวกมันจะรู้ว่าใจตรงกันก็พอ