เกรี้ยวกราดวันสงกรานต์
อิสระ :
"แกรก...แกรก...แกรก..."
ผมลากไม้กวาดทางมะพร้าวเก่าๆ ไปกับพื้นเบาๆ เพราะถูกหลวงพ่อใช้ให้มากวาดใบไม้ที่ลานวัด ในช่วงเย็นๆ ของวัดแถวบ้านเงียบจนได้ยินเสียงใบไม้ที่ปลิวตามลมไปกับพื้น เป็นที่ที่เหมือนพระอาทิตย์ตกดินเมื่อไรผีก็พร้อมโผล่มาเลย
ที่ผมมาอยู่ที่วัดนี้ก็เพราะเหงา ไม่เท่เลยแต่เหงาอะ ตอนนี้ปิงย้ายไปเชียงใหม่แล้ว ไอ้ปรินซ์ ไอ้โอม ไอ้ปอนด์
เรียนจบแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน ไม่ค่อยโผล่หัวมาให้เห็น ลันลินาน้องสาวที่ย้ายมาอยู่กับผมได้พักหนึ่งแต่บ่นว่ากิจกรรมทางมหา'ลัยเยอะเลยขอย้ายไปอยู่หอใกล้ๆ มหา'ลัยกับเพื่อน ผมก็เลยต้องอยู่บ้านคนเดียว เหงาจนไม่รู้จะทำอะไรดีก็เลยหันหน้าเข้าทางธรรม ตอนแรกตั้งใจจะบวชไปเลยแต่กลัวว่าโกนหัวแล้วจะไม่เท่ว่ะ อีกอย่างจะเป็นพระไปด้วย เป็นฟรีแลนซ์รับงานไปด้วยไม่ได้ไง เลยผันตัวมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแทน ทำหน้าที่พุทธศาสนิกชน เข้าวัดปฏิบัติธรรมก็สุขกาย สบายใจดี ผมกวาดใบไม้มากองรวมกันฝั่งหนึ่ง แรงลมก็พามันกระจายกลับมาอีกฝั่งหนึ่ง
"ไอ้ใบไม้ หาเรื่องกูเหรอเนี่ย อยู่นิ่งๆ ดิวะ"
พอหันไปด่า มันก็อยู่นิ่งเหมือนรู้ว่าโดนด่า ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วกวาดมันกลับไปกองรวมที่เดิม
ฟิ้ว!
"ไอ้สันดาน! มึงจะเอาใช่ไหม! อยากโดนเผาใช่ไหม!"
ผมกำไม้กวาดแน่นแล้วกวาดมันกลับไปกองที่เดิมอย่างหงุดหงิด เผาแม่ง! เหี้ยอะไรของกูวะ มายืนทะเลาะกับใบไม้ใบหญ้า วัดไม่ได้ทำให้รู้สึกสงบขึ้นเลยโว้ย!
"โยมอิส"
ผมชะงักการกระทำในมือแล้วหันไปหาหลวงพ่อที่เดินเข้ามาเรียก
"ครับหลวงพ่อ"
"ยังกวาดไม่เสร็จอีกเหรอ จะมืดแล้วนะ"
"ใกล้เสร็จแล้วครับหลวงพ่อ หลวงพ่อมีอะไรให้ผมทำอีกไหมครับ"
"ไม่มีแล้วโยม โยมทำจนไม่เหลืออะไรจะให้ทำแล้ว" หลวงพ่อพูดติดตลก วันนี้ทั้งวันผมไม่ได้อยู่เฉย กวาดลานวัด ถูศาลา ทำความสะอาดกุฏิ ล้างอุโบสถ เปลี่ยนหลอดไฟ ขัดห้องน้ำ ให้ข้าวหมาวัด เหลือแค่ขึ้นสวดพระอภิธรรมงานศพแทนหลวงพ่อเท่านั้นแหละที่ทำไม่ได้
"งั้นผมทำอาหารเย็นให้ไหมครับ"
"เดี๋ยวอาตมาโบกเลยนี่"
อ้าว หลวงพ่อเกรี้ยวกราดจัง
"โยมอิสไม่ต้องทำงานเหรอ"
"วันนี้ไม่มีงานครับ" ที่จริงไม่อยากทำงานแล้วแหละ อยากมาเป็นลูกศิษย์วัด เกาะชายผ้าเหลืองหลวงพ่อ กินข้าววัดฟรีไปวันๆ ชีวิตมันไม่มีอะไรอยู่แล้วนี่ โดนทิ้งอยู่แล้วนี่ ตัวคนเดียวอยู่แล้วนี่
"แล้วโยมจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า"
"อีกพักหนึ่งครับ ผมยังไม่อยากกลับบ้าน"
"ทำไมล่ะ"
"ผมเหงาครับ"
"ทำไมเหงาล่ะ"
เอ๊ะ! หลวงพ่อหนิ! ถามจริง จะขยี้ความเหงาผมทำไมล่ะครับ
"ต้องนอนคนเดียว ก็เลยเหงาครับ เวลาหลวงพ่ออยู่คนเดียว ไม่เหงาเหรอครับ"
"ไม่รู้สิโยม ความเหงาของคนเรามันไม่เท่ากันนะ บางคนอยู่คนเดียวเลยเหงา บางคนอยู่หลายคนก็ยังเหงา แล้วก็มีบางคนที่อยู่คนเดียวแต่ไม่รู้สึกเหงา คนเรามันไม่ได้เหงาโดยสภาพแวดล้อม มันเหงาโดยความรู้สึกต่างหาก"
แหม...นี่หลวงพ่อ หรือพี่ฉอด สายทิพย์ คำพูดคำจากระแทกหัวจิตหัวใจ ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนหลวงพ่อจะ
ขอตัวขึ้นกุฏิไปก่อน ผมกวาดใบไม้ที่พื้นต่อจนเสร็จ ก่อนจะมืดก็เลยต้องกลับบ้าน ปั่นจักรยานช้าๆ กลับมาถึงบ้านที่เงียบสนิท เปิดประตูเข้าไปเจอชีสไบท์ แมวที่เก็บมาเลี้ยง ตอนแรกมีอีกตัวชื่อไวท์มอลต์ แต่ไอ้น้องข้างบ้านมันขอไป บอกว่าจะเอาไปให้แฟนอะไรนี่แหละ มันมาอ้อนเลยต้องยอมให้ไป ชีสไบท์มันไปนั่งรอที่จานข้าวแล้วคงจะหิว เลยเดินไปหยิบอาหารเทลงไปในชามให้
"ชีสไบท์ เวลามึงอยู่ตัวเดียวแบบนี้ เหงาปะวะ"
"..."
"ไม่ตอบกูอีก เมินกูอีก เอ้า แดกช้าๆ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก"
ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วทิ้งตัวลงโซฟา เกือบปีแล้วที่ปิงย้ายไปที่นั่น แต่เหมือนเพิ่งไปส่งที่มหา'ลัยเมื่อวานนี้เอง ที่จริงปิงก็โทรหาผมทุกวัน บางวันไม่ว่างก็ไลน์มา แต่มันไม่ใช่ตัวจริง อยากเห็นหน้าใกล้ๆ อยากบีบแก้ม อยากลูบคาง อยากดมกลิ่น คิดถึงฉิบหาย
ที่ผมไม่ตามปิงไปอยู่ด้วยเพราะปิงห้าม ปิงบอกว่าไม่อยากติดผม อยากโตขึ้น แล้วตอนนี้ก็โตขึ้นจริงๆ มีชีวิตใหม่ๆ กับเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ อย่างมีความสุขดี ผมก็อยากให้ปิงได้ใช้ชีวิตในมหา'ลัยอย่างเต็มที่ ให้ได้ไปใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระแต่เหตุผลหลักที่ตามปิงไปอยู่เชียงใหม่ไม่ได้นั้นเพราะไม่มีตังค์ซื้อหรือเช่าบ้าน จนไง แค่นั้นเลย จึงทำได้แค่นอนเหงาอยู่บ้านเป็นลุงแก่ๆ อยู่อย่างนี้ ทฤษฎีใดที่ถูกกล่าวเอาไว้ว่าทำแล้วหายเหงา ผมก็ทำตามทุกอย่างแล้วนะ อย่างที่กระทู้พันทิปมันบอกเอาไว้
Q: คนเหงา เขาทำอะไรกันครับ?
A: นั่งเล่นพันทิปทั้งวันก็หายเหงาแล้วค่ะ
หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่เขาบอกว่านั่งอ่านทั้งวันก็หายเหงาได้ ผมก็เลยลองดู แต่เปิดไปเจอแต่กระทู้ที่ไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากการนั่งอ่าน เช่น
นั่งสมาธิแล้วตัวลอยจากพื้น ปกติไหม?
แฟนเราชอบร้องเพลงชินจังในห้องน้ำทุกวันเลย แปลกไหมคะ?
ชอบดูคลิปตลกในเวลางาน มีวิธีการกลั้นขำอย่างไรคะ กลัวเจ้านายด่าค่ะ
ได้เงินไปมหา'ลัยวันละ 1000 บาท ถือว่าน้อยหรือไม่ครับ
ส้นตีนอะไรของพวกมันวะ คนพวกนี้แม่งเหมือนจะเหงากว่ากูอีกนะ เลอะเทอะฉิบหาย สรุปว่าวิธีนี้มันไม่ได้ผล ไม่หายเหงาแถมหงุดหงิด พาลอยากเดินไปตบบ้องหูเจ้าของกระทู้อีก ก็เลยลองวิธีอื่น
A: ออกไปวิ่งครับ ไม่เหงาแล้วยังสุขภาพดีด้วย
สวนสาธารณะตอนเย็นๆ เป็นแหล่งรวมของผู้คนในชุมชน มีพื้นที่กว้างให้เด็กๆ มาวิ่งเล่น มาให้อาหารปลา มาทำกิจกรรมกับครอบครัว ส่วนรอบๆ เป็นพื้นที่สำหรับให้คนมาวิ่งออกกำลังกาย ผมก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าให้แน่น แล้วสูดลมหายใจเบาๆ เอาล่ะ ผมจะเดินสายเฮลตี้ ปิงกลับมาต้องได้ฟัดซิกซ์แพ็กแน่นอน ผมวิ่งออกมาจากจุดเริ่มต้น พักเดียวก็ต้องแวะไปเกาะเสาไฟริมทางเอาไว้เพราะแม่งเหนื่อยมาก หันกลับไปมองระยะทางที่วิ่งได้ สัด ถึงสองร้อยเมตรเปล่าก็ไม่รู้
กูจะเป็นลม กลับบ้านดีกว่า สายเฮลตี้ไม่ใช่ทาง กูเกลียดวิชาพละ! กูเกลียดการวิ่ง!
A: ดูซีรีส์เกาหลีสิคะ
ผมเลือกซีรีส์เรื่องหนึ่งจากรีวิวในเว็บเดียวกัน ซีรีส์ตอนหนึ่งมีประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมดูไปสามชั่วโมงเพราะอ่านซับไม่ทัน ผมกดหยุดแล้วเลื่อนกลับมาที่ฉากเดิม วนไปวนมาจนดูไม่รู้เรื่องแล้ว ขี้เกียจอ่านซับด้วยเพราะงั้นหนังเกาหลีก็คงไม่ใช่หนทางคลายเหงาของผม
นอนดีกว่า คิดได้แค่นั้นจึงเดินไปทิ้งตัวลงบนที่นอนหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เหลือบตามองนาฬิกาที่หัวเตียงเกือบจะสองทุ่ม เร็วเกินกว่าจะนอนแต่ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอน ชีสไบท์มันเดินเข้ามาเล่นด้วย กระโดดข้ามขาผมไปๆ มาๆ อยู่พักหนึ่งแล้วก็เดินหายออกไปจากห้อง
"หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว..."
เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหมอนดังขึ้น ผมคว้ามากดรับโดยไม่ต้องดูเบอร์เลย ในเวลานี้มีคนเดียวอยู่แล้ว คนที่เหมือนยาแก้เหงาได้จริง ๆ
"หลินปิง"
(ครับ มารายงานตัวแล้วครับผม)
"กำลังคิดถึงเลย"
(พี่อิสกินข้าวยังครับ)
"ยังเลย ขี้เกียจกิน"
(ไปกินเลย ขี้เกียจได้ไง ผอมตายแล้วมั้งครับ พุงยังอยู่ไหม)
"อยู่ รอปิงกลับมาฟัดเนี่ย"
(เออใช่ สงกรานต์นี้ผมกลับไปหาดีไหมครับ)
"ไม่ต้องกลับ"
(อ้าว)
"รถเยอะ อันตราย ช่วงเทศกาลไม่อยากให้เดินทาง"
(งั้นพี่อิสมาหาผมสิครับ)
"ไม่ไปอะ"
(ไม่คิดถึงเหรอ)
"คิดถึงแต่ไม่ชอบคนเยอะ คนไปรวมกันอยู่เชียงใหม่ครึ่งประเทศแน่นอน"
(ถ้างั้นผมขอไปเที่ยวกับเพื่อนนะ)
"ไม่ให้ไป"
(อะไรอ่า แล้วจะให้อยู่หอเฉยๆ เหรอ เพื่อนชวนไปเล่นน้ำด้วยเนี่ย)
"ไม่ให้ไปโว้ย เกิดไปเจอพวกเถื่อนๆ ที่มันชอบลวนลามทำไง วัยรุ่นเยอะด้วย ไม่เอา ไม่ให้ไป"
(ทำเป็นขี้หวง แต่ไม่มาหา)
"บ่นอะไร"
(เปล่าครับ งั้นแค่นี้นะ ผมจะออกไปกินข้าวกับเพื่อน)
"เออ กินผักด้วยนะ"
(ครับๆ)
ผมพลิกหน้าจอมือถือมาดูตอนที่ปิงวางสายไปแล้ว ในอีกวินาทีต่อมาไลน์ก็เด้งขึ้นมาที่หน้าจอ เป็นข้อความเสียงจากปิง
"ลืมบอกรักพี่อิสเลย รักนะครับ"
น่ารักให้กูตายไปเลย...ผมกดฟังเสียงนั้นซ้ำๆ แล้วยิ้มเป็นบ้าออกมาคนเดียว หลงไปในบ่วงของหลินปิงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกดออก แล้วเข้าไปดูเฟซบุ๊กแทน เข้ามาดูไทม์ไลน์ของปิงทุกวันแต่ปิงไม่ค่อยโพสต์อะไรมากมายนัก ไม่เคยโพสต์รูปตัวเองเลย ปกติจะถ่ายส่งมาทางไลน์มากกว่า เพราะสั่งเอาไว้ เห็นแก่ตัวไง อยากเก็บความน่ารักของมันไว้ดูคนเดียว ในเฟซบุ๊กส่วนใหญ่ก็เป็นรูปอาหารที่กิน หรือไม่ก็ที่ที่ไป หมา แมวที่เจอบ้าง พร้อมแคปชันจืดๆ แบบหลินปิงสไตล์
รูปก๋วยเตี๋ยว
ลืมสั่งว่าไม่ใส่ถั่วงอก
รูปสเต็ก
สเต็กอีกแล้ว
รูปไข่ดาวที่โปะอยู่บนข้าวผัดอเมริกัน
อร่อยนะ
รูปนมเปรี้ยวขวดใหญ่สองขวดที่ได้รับมาจากพี่รหัส เพราะมีโน้ตแปะเอาไว้ว่า กินนมเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ
ขอบคุณนะครับ
รูปแมวขาวตัวอ้วนที่นอนอยู่บนโต๊ะ
แมวอ้วน
รูปดอกไม้ที่อุทยานราชพฤกษ์
สวยมาก
ไม่เคยพูดถึงพี่อิสเลยสักนิดหนึ่ง นิดหนึ่งก็ไม่มี เหอะ! ผมกดออกจากหน้าไทม์ไลน์ของปิง แล้วเลื่อนผ่านๆ ในหน้าแรก ก่อนจะไปหยุดที่ภาพหนึ่งซึ่งลันลินาเป็นคนแชร์มา
น้ำปิง นิติศาสตร์ ปี1
นี่มันลูกแมวของกูนี่! ปิงในชุดนักศึกษาแม่งโคตรทำลายล้าง ดูโตขึ้นมากเพราะเครื่องแบบนักศึกษา ผมเหมือนพ่อที่เฝ้ามองการเติบโตของลูกน้อย เห็นมาตั้งแต่ชุดนักเรียน ชุดนักศึกษา จนกว่าปิงจะเรียนจบหวังว่าผมจะไม่แก่ชราตายไปก่อน ความน่ารักของปิงมักจะเพิ่มขึ้นตอนยิ้ม แล้วในรูปก็ยิ้มหวานเชียว ว่าแต่ใครถ่ายเนี่ย ใครถ่าย!
ผมกดดูรูปอื่นๆ คงเป็นภาพจากกิจกรรมทางมหา'ลัย เป็นภาพเผลอๆ บ้าง หันมองกล้องบ้าง ใครสั่งใครสอนให้ไปยิ้มเรี่ยราดให้คนอื่นก็ไม่รู้ จากยอดแชร์และจำนวนคอมเมนต์ที่ไม่น้อยทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความน่ารักของน้องนี่คือผมหวงมากใช่ไหม เออใช่ ผมหวง กดรีพอร์ตแม่ง!
ผมกดเข้าไปอ่านคอมเมนต์ที่พูดถึงปิง เหมือนว่าความน่ารักของลูกแพนด้าจะทำให้คนอื่นหลงไปด้วยแล้ว และหัวคิ้วแทบจะชนกันเมื่อไปเห็นภาพหนึ่ง ที่เป็นปิงกับเพื่อนที่อยู่หอเดียวกัน ชื่อไอ้เคน ปิงแนะนำให้รู้จักตอนวิดีโอคอลคุยกัน แต่ในภาพคือไอ้เคนยืนกอดคอปิง แพนด้าหน้าแมวตัวเล็กๆ ไปยืนข้างๆ ไอ้ตัวสูงนั่นก็หวานเลยไง และมีแฮชแท็กกำกับมาด้วย
#เคนปิง
พ่อมึงสิ! ผมกดเข้าไปไล่อ่านคอมเมนต์ ก่อนจะมาหยุดที่คอมเมนต์หนึ่งที่ถูกเขียนโดยไอ้เคนอะไรนั่น
ปิงเมียเรา นอนด้วยกันทุกคืน
ไอ้เวรนี่! กูยังไม่เคยใช้คำว่าเมียกับปิงเลย มึงใครเนี่ย มึงเป็นใคร! ไอ้นี่อายุไม่น่ายืน ผมกดออกจากเฟซบุ๊กแล้วกดโทรหาปิง เสียงรอสายดังอยู่สองสามทีจึงรับสาย
(ครับพี่อิส)
"สงกรานต์หยุดวันไหนบ้างนะ"
(สิบสามถึงสิบเจ็ดครับ)
"เออ พี่ไปหา"
(ครับ?)
"พี่จะไปหา"
(โอ้เย่!)
"ดีใจเหรอ"
(ดีใจสิครับ แล้วทำไมเปลี่ยนใจอะ คิดถึงเหรอ)
"ใช่ คิดถึง"
.
.
.
"หวงด้วย"
...
อ่านต่อด้านล่างค่ะ