พิมพ์หน้านี้ - [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 22-01-2017 23:46:09

หัวข้อ: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 22-01-2017 23:46:09
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย bo :ling2:y's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
____________________________________________________________________________________________


►ความรู้สึกเป็นอิสระ◄
►หัวใจเป็นของอิสระ◄


สารบัญ

บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3563362#msg3563362)
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3563370#msg3563370)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3564590#msg3564590)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3565867#msg3565867)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3566416#msg3566416)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3567541#msg3567541)
ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3568219#msg3568219)
ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3569525#msg3569525)
ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3570739#msg3570739)
ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3571515#msg3571515)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3572273#msg3572273)
ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3573158#msg3573158)
ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3573901#msg3573901)
ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3574665#msg3574665)
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3575387#msg3575387)
ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3576042#msg3576042)
ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3576847#msg3576847)
ตอนที่ 17 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3577712#msg3577712)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3578511#msg3578511)
ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3579866#msg3579866)
ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3580613#msg3580613)
ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3581264#msg3581264)
ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3581969#msg3581969)
ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3581974#msg3581974)
ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3582756#msg3582756)
ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3583432#msg3583432)
ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3584098#msg3584098)
บทส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3584773#msg3584773)
ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3615441#msg3615441)
ตอนพิเศษ คนกากกับความเหงาของเขา (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3686894#msg3686894)
ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3763491#msg3763491)
ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3789798#msg3789798)
ตอนพิเศษ อิสระเดือนคณะในตำนาน  (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3862509#msg3862509)
ตอนพิเศษ สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57458.msg3928644#msg3928644)


**นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมติที่แต่งขึ้น เรื่องราว บุคคลใดๆ ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฏในเรื่องไม่มีอยู่จริง หากบังเอิญซ้ำกับชื่อหรือนามสกุลจริงของท่านใดขออภัยมา ณ ที่นี้**



**ฝากเรื่องที่ผ่านมาด้วยค่า**
บูรพากับองศาเหนือ [จบแล้ว] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56758.0)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทนำ] 22-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 22-01-2017 23:51:05
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมติ ทุกสิ่งใดในเรื่องล้วนไม่มีอยู่จริง





บทนำ

ชีวิตเรื่อยเปื่อย

 

“ทุกชีวิตมีอิสระ อย่าให้อะไรมาเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของคุณ ฟรีดอมไลฟ์ประกันภัย ให้คุณใช้ชีวิตอย่างอิสระ ชีวิตดีๆ ที่คุณเลือกได้...”

ผมหันไปมองโฆษณาในทีวี เพราะสนใจโฆษณาที่กำลังฉายอยู่เมื่อสะดุดกับคำว่า ใช้ชีวิตอย่างอิสระ กำลังคิดว่าชีวิตแบบนั้น มันเป็นแบบไหนกันนะ

“ไอ้ปิง!”

เสียงเรียกนั่นทำให้ผมสะดุ้งนิดหนึ่งแล้วหันไปมอง

“บัง” คนเรียกพูดสั้นๆ แล้วโบกมือเป็นเชิงให้ผมหลบ ผมได้แต่พยักหน้าหน่อยๆ แล้วถอยออกมาจากหน้าทีวี หันไปมองคนในบ้านที่นั่งพร้อมหน้ากันอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ทั้งย่า ป้า พี่ใบเฟิร์นและข้าวฟ่าง ลูกสาวของป้า

“ปิงไปโรงเรียนแล้วนะครับ สวัสดีครับ”

“ไม่กินข้าวก่อนเหรอ” ย่าหันมาถาม ผมได้แต่ส่ายหน้าหน่อยๆ แม้จะอยู่ที่นี่มาเกือบสิบปีแต่ผมก็ไม่รู้สึกว่าที่นี่เป็นบ้าน คนในบ้านก็ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าครอบครัวได้หรือเปล่า แม้แต่โต๊ะกินข้าวยังไม่มีที่สำหรับผมเลย

“ย่าก็ชวนมันทุกวันอะ ไม่เห็นมันจะกินสักวัน”

“ไม่กินก็ดีแล้วไง จะได้ไม่เปลือง”

“มันคงจะออกไปกินข้างนอกแหละ มีเงินเยอะมั้ง”

“เรื่องของมันเหอะน่า”

ผมถอนใจเบาๆ กับเสียงที่ตามมา ไม่สนใจแล้วสวมรองเท้าเดินออกมานอกบ้าน เดินออกมาได้พักหนึ่ง ฝนตกลงมานิดหน่อย เพราะไม่มีร่มจึงทำได้แค่ดึงหมวกจากเสื้อฮู้ดที่สวมอยู่ขึ้นมาคลุมแล้วเดินฝ่าฝนออกไป

โรงเรียนของผมไม่ไกลจากบ้านเท่าไรแต่เดินไปก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จึงต้องออกจากบ้านแต่เช้าจะได้ไม่สาย ระหว่างทางก็หยิบขนมปังขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง ผมทำงานที่ร้านกาแฟและเบเกอรี่ มีขนมปังอร่อยๆ ให้กินฟรี เพราะเจ้าของใจดีมาก อาหารหลักทุกเช้าของผมก็คือขนมปังไส้กรอกที่ได้ฟรีมาทุกวัน จริงๆ ผมชอบกินไส้กรอกมากกว่าขนมปัง แทนที่จะกัดเข้าปากพร้อมกันแต่ผมมักจะกินขนมปังข้างนอกก่อน แล้วค่อยยัดไส้กรอกเข้าปากทั้งชิ้นทีหลัง รสชาติของมันทำให้ผมอารมณ์ดีและปลอบใจผมได้เสมอ ผมหยิบขึ้นมาอีกชิ้น แทะขนมปังออกเหมือนเดิมจนเหลือแต่ไส้กรอกเอาไว้

“อิ๋ง...อิ๋ง...”

เสียงร้องของลูกหมาตัวหนึ่งเรียกความสนใจของผมให้หันไปมอง มันมองไส้กรอกในมือผมแล้วแลบลิ้นออกมา คงกำลังฝันถึงรสชาติของไส้กรอกในมือผม แต่ขอโทษนะหมา นายคงต้องฝันไปก่อน เราไม่ใจดีพอจะเสียสละอาหารเช้าของเราให้สัตว์สี่ขาหน้าตาน่าสงสารอย่างนายหรอก ไส้กรอกชิ้นนี้มันก็ต้องต่อชีวิตเราเหมือนกันเว้ย เพราะงั้น...

“อิ๋ง...อิ๋ง...”

“โถ คงหิวมากสินะ เอาไปๆ” ผมนั่งยองๆ ลงไปหามันแล้วส่งไส้กรอกในมือให้ ทันทีที่ไส้กรอกส่งถึงปากมันก็กินเข้าไปอย่างหิวโหยราวกับไม่มีอะไรตกถึงท้องมานานชาติหนึ่งแล้ว

โถๆ น่าสงสาร...น่าสงสารตัวเองเนี่ย! ไม่มีจะกินยังคิดจะแบ่งปันให้หมา เออ ให้มันได้อย่างนี้

“หมดแล้ว ไม่ต้องมอง” ผมลุกขึ้นแล้วเดินผละมาจากเจ้าหมาตัวนั้นที่ยังมองตาม ผมได้แต่โบกมือให้มันหน่อยๆ ก่อนจะเข้าโรงเรียน

ชีวิตในโรงเรียนของผมมันสุดแสนจะธรรมดา ถ้าในโรงเรียนมีการแบ่งฐานันดรอย่างที่เขาว่ากัน ฐานะของผมคือพวกไร้ตัวตนอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นประเภทที่ว่าขาดเรียนไปก็ไม่มีใครรู้ เป็นตัวเฉยๆ ไม่มีบทบาท เหมือนมานั่งเป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ถ่ายรูปรวมก็หลุดเฟรม ครูก็จำชื่อไม่ค่อยได้ ทำนองนั้นเลย

ที่นั่งของผมคือแถวหน้าสุดมุมซ้าย ที่ที่หลายๆ คนเลี่ยงเพราะมันตรงกับโต๊ะครู แบบว่าเงยหน้าขึ้นมาก็ต้องสบตากับครูพอดี แต่พอผมเงยหน้าขึ้นมาทีไร ครูจะเป็นฝ่ายหลบตาผมลงไปทุกที ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เพื่อนที่นั่งข้างๆ ผมคือ เมธี มนุษย์แว่นเลนส์หนามีฐานันดรเป็นเด็กเนิร์ด ผมกลายมาเป็นเพื่อนกับมันเพราะบังเอิญมานั่งข้างกันแบบไม่ได้เจตนา มันคงเริ่มต้นจากตรงนั้น

จริงๆ เด็กไร้ตัวตนกับเด็กเนิร์ดมันต่างชนชั้นกันนะ เมธีมันยังมีประโยชน์ตรงที่สมองของมันชาญฉลาดไปทุกเรื่อง เพื่อนหลายคนยังเห็นค่าเวลาขอลอกการบ้าน แต่ทั้งผมและมันมักจะเป็นตัวที่ถูกไอ้พวกฐานันดรอันธพาลแกล้งบ่อยๆ ก็เลยฟอร์มทีมกัน รวมกลุ่มกันเข้าไว้คิดว่าจะดูทรงพลัง คิดว่าจะไม่มีใครมากลั่นแกล้งอีก แต่สรุปพินาศกว่าเดิม กลายเป็นทีมอ่อนปวกเปียก รวมตัวกันไว้ให้พวกมันมาแกล้งทีเดียวพร้อมๆ กันไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหา

แต่การเป็นเพื่อนกับเมธีก็ไม่ได้แย่อะไร อย่างที่บอกว่ามันเป็นคนเรียนเก่ง ทุกครั้งที่ขอลอกการบ้านหรือขอให้ติววิชาไหนให้ มันก็พร้อมจะช่วยผมเสมอ ถึงแม้ว่าแต่ละวันจะพูดคุยกันน้อยมากก็เหอะ เมธีอยากเป็นหมอ มีความตั้งใจเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ มันบอกว่าพระเจ้าส่งมันเกิดมาเพื่อเป็นอย่างนั้น และมันจะไม่ทำให้พระเจ้าผิดหวัง วันๆ มันก็เอาแต่อ่านหนังสือ สนใจเรื่องกายวิภาคและสรีรวิทยามากเป็นพิเศษ ใช้เวลาแต่ละวันนั่งท่องชิ้นส่วนกระดูกอะไรของมันไป กายหยาบมันนั่งเรียนอยู่นี่ แต่จิตวิญญาณมันคงไปเป็นนักศึกษาแพทย์ที่ไหนแล้วสักที่

ส่วนผมไม่มีความตั้งใจแบบนั้น ยังไม่เคยคิดถึงอนาคตหรือกระทั่งวันพรุ่งนี้ ผมคงเป็นเด็กม.ปลายที่ชีวิตจืดจางที่สุด ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย เดินทางสู่อนาคตที่ไร้จุดหมาย แต่ละวันผ่านไปเหมือนทุกวัน วิชาเรียนเดิมๆ ครูคนเดิมๆ การบ้านแบบเดิมๆ...เป็นชีวิตที่น่าเบื่อ

“นั่งนี่กัน” เมธีชี้ไปที่โต๊ะว่างในโรงอาหาร ตั้งใจจะนั่งกินข้าวกันตรงนี้ แต่ในตอนที่กำลังจะก้าวขาเข้าไปนั่งก็ถูกแก๊งนักเรียนกลุ่มหนึ่งปาดหน้าพุ่งเข้าไปนั่งโต๊ะนั้นก่อนหน้าตาเฉย

“พวกกูจะนั่งนี่”

“อืม โอเค” เมธีพูดเบาๆ ก่อนจะพยักหน้าเรียกผมไปอีกทาง คนที่ปรากฏตัวเมื่อครู่คือ ยิม และผองเพื่อนของมัน พวกฐานันดรอันธพาลที่ว่า หาเรื่องแกล้งชาวบ้านได้ทุกวัน ไม่รู้ว่าสนุกตรงไหน และที่ผมยอมให้ตลอดโดยไม่โต้ตอบเพราะรู้ว่ามันไม่คุ้มแน่ๆ ยอมให้มันรังแกวันละนิดละหน่อย เดี๋ยวมันก็คงเบื่อไปเอง

เมื่อถูกแย่งที่ในโรงอาหารไป เราจึงย้ายออกมานอกโรงอาหาร มีโต๊ะกินข้าวนอกโรงอาหารที่โรงเรียนจัดตั้งเอาไว้ให้เพิ่มเติม เพราะในโรงอาหารแออัดจนไม่เพียงพอต่อจำนวนนักเรียนในช่วงพักกลางวัน แต่ไม่ค่อยมีใครมานั่งกินที่นี่เท่าไรนักเพราะมันค่อนข้างจะร้อน ถึงจะมีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ แต่แสงแดดมันก็ลอดส่องลงมาอยู่ดี 

“น่ารำคาญพวกนั้นจริงๆ โต๊ะว่างมีเป็นสิบ ก็จะต้องมานั่งตรงนั้นด้วย” เมธีบ่นเบาๆ ขณะหย่อนตัวลงนั่ง

“ช่างมันเถอะ” คำว่า ช่างมันเถอะ ออกจากปากผมเป็นครั้งที่มากกว่าร้อยตั้งแต่เรียนที่นี่มา เมธีก็ได้แต่พยักหน้าหน่อยๆ ผมหยิบขวดน้ำมาเปิดแล้วตั้งเอาไว้ข้างๆ จาน กำลังจะเลื่อนมือมาจับช้อนเพื่อจะกินข้าวคำแรก แต่ก็ต้องชะงักกะทันหัน

ตุ้บ!

“เฮ้ย!” เมธีร้องลั่นเมื่อบอลลูกหนึ่งซึ่งปลิวมาจากทางไหนไม่รู้ กระทบเข้ากับขวดน้ำของผม แล้วเทไปที่จานข้าวของมันอย่างคว้าเอาไว้ไม่ทัน

“เฮ้ย! โทษทีว่ะ!” เจ้าของลูกบอลวิ่งเข้ามาพร้อมคำขอโทษ ผมหันไปเห็นว่าเขาคือ ช็อก นักเรียนห้องสองที่ใครๆ ก็รู้จักดี ถ้าแบ่งชนชั้นตามฐานันดรที่ว่า ผมจัดประเภทให้เขาไม่ได้ ช็อกคือคนที่หน้าตาดีมาก หล่อมาก สูงมาก เป็นรองประธานโรงเรียน เป็นนักกีฬา เป็นนักดนตรี เป็นตัวท็อป เป็นตัวห่าอะไรก็ไม่รู้ที่ไม่น่าใช่มนุษย์ ความเพอร์เฟกต์ที่มวลมนุษยชาติควรแบ่งๆ กันมี แต่ดันไหลไปรวมกันที่เขาหมดเลยอย่างไม่ยุติธรรม 

“เป็นอะไรเปล่าอะ”

“ไม่เป็นไร แต่ข้าวเพื่อนเรากลายเป็นข้าวต้มไปแล้ว” ผมพูดก่อนหันไปมองจานข้าวของเมธีที่ไม่น่าจะกินต่อได้แล้ว เจ้าของจานก็ได้แสดงอาการเคืองๆ ผ่านสีหน้าบูดบึ้ง

“งั้นรอแป๊บหนึ่งนะ” ช็อกว่าแล้ววิ่งเข้าไปในโรงอาหาร ชั่วครู่หนึ่งก็เดินออกมาพร้อมจานข้าวในมือและน้ำขวดหนึ่ง

“อะ นี่ของมึง” ข้าวจานนั้นส่งให้เมธี ส่วนขวดน้ำยื่นมาให้ผม

“นี่ของปิง”

“ขอบ...” ผมกำลังจะกล่าวขอบคุณแต่ต้องหยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมองอย่างประหลาดใจ

“ทำไม” คนถูกมองขมวดคิ้วถาม

“รู้จักชื่อเราด้วยเหรอ”

“รู้ดิ ตอนเข้าค่ายธรรมะตอนม.สี่เราอยู่กลุ่มเดียวกัน นอนข้างๆ กันด้วยจำได้ปะ”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ ผมจำได้แน่...แต่ไม่คิดว่าเขาจะจำได้ไง

“ขอโทษอีกทีว่ะ ไม่ทันระวัง ไปแล้วนะ” ช็อกยิ้มกว้างโชว์ความหล่อของใบหน้าที่ดูดีในทุกกิริยา ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในสนามบอล ผมหันมองตามเขาไปทั้งที่ยังประหลาดใจอยู่ ตั้งแต่จบค่ายธรรมะผมก็ไม่เคยคุยกับเขาเลย แทบจะไม่เคยเดินสวนกันด้วยซ้ำไป...น่าแปลกใจที่เขายังจำชื่อผมได้ด้วย

มุมปากผมยกขึ้นยิ้มนิดๆ ก่อนจะหันกลับมา แล้วสะดุ้งนิดหนึ่งเพราะสายตาของเมธีที่มองลอดแว่นมา ก่อนจะพูดจาแซวๆ

“แหมๆ ยิ้มหน้าบานเลยนะ ปลื้มเลยสิ เขาจำชื่อมึงได้เนี่ย”

“ปลื้มอะไร” ผมว่าพลางส่ายหน้ายิ้มๆ

“มึงชอบเขาเหรอ”

“เปล่า!”

“ตัดใจเลย นกแน่ๆ”

“ไม่ได้ชอบเว้ย”

“นกๆๆ นกแน่ๆ”

“กินข้าวไปเลยไป!”

เมธีหลุดหัวเราะ ก่อนที่จะกินข้าวจานใหม่ที่ช็อกซื้อมาให้ ผมพลันคิดว่าชาติที่แล้วช็อกคงสะสมบุญเอาไว้หนักมาก ถึงได้เกิดมาสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ก้มมองตัวเองแล้วก็ต้องคิดหนัก ชาติที่แล้วคงบาปหนาน่าดู ไม่สูง ไม่หล่อ ไม่มีความสามารถด้านไหนเลย แถมซื่อบื้ออีก ถ้าเปรียบเทียบระหว่างผมกับช็อกก็คงจะดูเหมือนเทวดากับหมาไร้บ้าน ฟังดูสะเทือนใจแต่ก็ใกล้เคียงความจริงที่สุดแล้ว...สถานะของผมมันก็ทำนองนั้นเลย

.

.

.

หลังเลิกเรียน เมธีต้องไปเรียนพิเศษต่อ ส่วนผมต้องไปทำงานพิเศษเช่นกัน เพราะไปทางเดียวกันก็เลยเดินออกจากโรงเรียนพร้อมกันทุกๆ วัน ก่อนแยกกันเราพากันไปแวะซื้อชาไข่มุกร้านประจำ ผมชอบกินไวต์มอลต์ ส่วนเมธีชอบกินชาเขียวไม่หวาน กินแทบทุกวันจนพ่อค้าเห็นก็ทำให้ทันทีโดยไม่ต้องสั่ง ยืนรออยู่หน้าร้านสักพักก็ได้ชาไข่มุกกันมาคนละแก้ว

“งั้นกูไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้”

ปากไม่ว่างเพราะกำลังดูดชาไข่มุกอยู่ก็เลยได้แต่พยักหน้าหงึกๆ แล้วโบกมือเป็นเชิงลา ผมเดินต่อไปยังร้านกาแฟที่ทำงานพิเศษซึ่งไกลออกไปอีกหน่อย เดินช้าๆ อย่างไม่ต้องเร่งรีบ เรื่อยเปื่อยเหมือนทุกๆ วัน จากโรงเรียนถึงร้านก็ได้เวลางานพอดี

ในระหว่างทาง ผมมองไปเห็นไอ้ยิมที่กำลังเดินสวนมา แสร้งทำไม่สบตาแล้วเลี่ยงไปอีกทาง แต่มันก็หันมาส่งเสียงทักผมก่อนจนได้

“ไอ้ปิง”

ผมฉีกยิ้มฝืนๆ ให้กับคนที่ก้าวเท้ามายืนตรงหน้า ด้วยส่วนสูงที่มากกว่าหลายเซ็นต์ ผมแทบจะต้องเงยหน้าขึ้นมอง

“จะกลับบ้านเหรอ”

“เปล่า ไปทำงาน”

“ขยันนะมึงเนี่ย”

ผมได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ 

“เออ ไปเหอะ วันนี้กูไม่แกล้งอะไรมึงหรอก”

ผมพยักหน้าอีกทีแล้วรีบเดินออกมา ก้าวขาไม่ทันถึงสองก้าวก็ต้องหวีดลั่น เพราะไอ้ยิมมันดันยื่นเท้ามาขัดขาผมจนเกือบล้ม

พรวด!

ฉิบหาย!

ผมสบถลั่นอยู่ในใจ แม้จะทรงตัวเอาไว้ไม่ให้ล้มได้ แต่ชาไข่มุกในมือสาดพรวดไปเทใส่ใครก็ไม่รู้ ผมเงยหน้าขึ้นมองผู้เคราะห์ร้ายคนนั้น เขาเหลือบตามามองผม ใบหน้าเรียบๆ ดูน่ากลัวแปลกๆ แค่สบตาผมก็ตัวแข็งทื่อ มือข้างหนึ่งที่ถือแก้วชาไข่มุกอยู่ยกขึ้นไปพนมกับอีกข้างอย่างอัตโนมัติ แทบจะก้มลงกราบให้ไว้ชีวิตผมด้วย

“ขอโทษครับพี่” ผมเอ่ยคำขอโทษด้วยความสำนึกผิดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่ไอ้ยิมจะเสนอหน้าเข้ามาด่าผมแทนเขา

“ไอ้ปิง! ซุ่มซ่ามจริงๆ เลยมึงอะ! ดูดิ เสื้อพี่เขาเลอะหมดเลย มึงนี่มันเซ่อจริงๆ”

ก็เพราะมึงขัดขากูไม่ใช่หรือไง! ไหนบอกไม่แกล้งกูไง นี่หายนะใหญ่เลยเนี่ย! ผมเถียงผ่านสายตาที่แทบจะถลนออกมานอกเบ้าด้วยความขุ่นเคือง

“ไอ้นี่มันซุ่มซ่ามอย่างนี้ประจำอะพี่ ถ้าพี่ไม่พอใจพี่จะต่อยมันก็ได้นะ” ไอ้ยิมพูดขำๆ แต่ไม่ต้องบอกพี่เขาก็พร้อมจะซัดหมัดใส่หน้าผมแล้วมั้ง...ดูหน้าเหอะ

“เดี๋ยวผมจัดการให้เองพี่ จะพามันไปสั่งสอนเอง วันหลังจะได้ระวังมากกว่านี้...”

พลั่ก!

ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อหมัดของคนตรงหน้าผมซัดเข้าหน้าไอ้ยิมเต็มๆ ผมได้แต่กะพริบตาปริบๆ มองใบหน้าเรียบเฉยที่ยกมือสะบัดเบาๆ ไอ้ยิมที่หน้าหงายเงิบไปเพราะแรงชกหันขวับมาโวยวายทันที

“เฮ้ย! พี่มาต่อยผมทำไมวะ!”

“มึงทำเสื้อกูเลอะ” เขาตอบเสียงเรียบ

“ไอ้นี่ต่างหากที่เป็นคนทำ!” มันตะคอกเสียงดัง คว้าคอเสื้อผมจนตัวลอยไปยืนตรงหน้าผู้ชายคนนั้น

“ก็มึงขัดขามัน” เขาตอบกลับด้วยเสียงเรียบๆ ขณะที่ผมได้แต่ยืนอึกๆ อักๆ พูดอะไรไม่ถูก อยู่ๆ เขาก็ถอดเสื้อตัวเองออกแล้วโยนมาใส่หน้าผม

“เอาไปซักให้ด้วย” พูดแค่นั้นแล้วยกมือหยิบชาไข่มุกในมือผมที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วไปหน้าตาเฉย เดินเปลือยท่อนบนออกไปจากตรงนี้ขณะยกชาไข่มุกกระดกเข้าปาก

หรือจะสติไม่ค่อยดี...ผมคิดอยู่ในใจก่อนก้มมองเสื้อของเขาที่อยู่ในมือ ก่อนจะเหลือบตาไปมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้ยิมมองผมตาขวาง มือกำแน่นราวกับกำลังคาดโทษว่าผมเป็นสาเหตุที่ทำให้มันถูกชก เสียงที่เปล่งออกมาทำเอาผมต้องกลืนน้ำลายลงคอนิดๆ

“ไอ้ปิง!”

ในวิชาพละที่ต้องวิ่งรอบสนามเพื่อทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย ผมมักวิ่งถึงจุดหมายเป็นคนท้ายๆ เพราะขาผมสั้น ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง แถมยังไม่ชอบวิชาพละเอาซะเลย แต่พอไอ้ยิมตะโกนชื่อผมดังลั่น สองเท้าผมออกวิ่งโดยอัตโนมัติด้วยความเร็วแบบทุบสถิติด้วยเหตุผลเดียวเลย...หนีสิ รออะไร!

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 1] 22-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 22-01-2017 23:59:17
ตอนที่ 1

อิสระ

 

ร้านกาแฟที่ผมทำงานมีชื่อร้านว่า เวียงพิงค์ คาเฟ่ ตั้งมาจากชื่อของลูกชายเจ้าของร้าน ที่นี่เป็นร้านเล็กๆ แต่คนเยอะแทบทุกวัน ในช่วงเย็นๆ หลังเลิกเรียนแบบนี้ก็จะเต็มไปด้วยนักเรียนหญิงจากโรงเรียนหญิงล้วนใกล้ๆ ผมเดินเข้าร้านที่ตอนนี้ที่นั่งเต็มหมดแล้วทุกที่ หันไปค้อมตัวเล็กน้อยเป็นเชิงทักทาย พี่อีม ที่ประจำอยู่ที่เคาน์เตอร์ ก่อนเปิดประตูห้องพักเข้าไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อพร้อมสำหรับทำงาน 

ร้านนี้เป็นร้านที่เปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง มีพนักงานผลัดเวรกันทำเป็นกะๆ ไป บางวันผมก็เลิกสองทุ่ม บางวันห้าทุ่ม บางวันเที่ยงคืน และได้หยุดวันเสาร์อาทิตย์ งานในร้านก็เป็นไปเหมือนทุกๆ วัน ทำอะไรซ้ำๆ กันทุกวันแต่ที่นี่ก็น่าเบื่อน้อยกว่าที่บ้านหรือโรงเรียน ผมชอบอยู่ที่ทำงานมากกว่าที่อื่นๆ ชอบเวลางานเยอะๆ แบบหัวหมุน มันมีความสุขแบบยุ่งๆ ไม่ต้องคิดอะไรดี

“น้องปิง”

ผมหันไปหา พี่พิงค์ ลูกเจ้าของร้านที่เดินเข้ามาเรียก รอยยิ้มจากใบหน้าหล่อขยับกว้าง วันนี้เขาสวมเสื้อยืดลายทางขาวสลับดำกับกางเกงสีขาว เข้ากับผิวขาวๆ และผมสีควันบุหรี่ของเขา วันนี้ก็เลยดูสว่างไปทั้งร่างเลย

“คิดถึงพี่ไหม เมื่อวานไม่เจอกันตั้งวันหนึ่ง” พี่พิงค์ตรงเข้ามายกมือข้างหนึ่งกอดคอผม พี่พิงค์จะเข้ามาดูแลความเรียบร้อยของร้านแทนพ่อแม่เขาตลอด ในวันที่ว่างๆ หรือบางวันที่เขาไม่มีเรียนก็จะมานั่งเล่นอยู่ที่นี่ทั้งวัน ความเป็นกันเองของเขาที่มีต่อพนักงานไปจนถึงลูกค้า ทุกคนที่นี่จึงรักพี่พิงค์

“ไม่คิดถึงเลยครับ”

“ไล่ออก”

“ไม่ออกครับ”

“ดูมันเหอะ แล้วนี่ทำงานเหนื่อยไหม”

“ไม่เหนื่อยครับ”

“ถามแต่ปิง ไม่เห็นถามพวกหนูบ้างเลย” พี่อีมโผล่หน้ามาถาม

“ไม่ถาม ไม่สนใจ มีอะไรไหม”

“โอ้โฮ รู้สึกซึ้งใจมากเลยค่ะเจ้านายขา”

“ทำโกโก้เย็นให้หน่อยสิ” พี่พิงค์หันบอก

“ไม่สนใจหนูแล้วยังจะมาใช้หนูอีก”

“เร็วๆ เลย”

“ค่าๆ ว่าแต่ทำไมวันนี้กินโกโก้คะ ปกติกินแต่กาแฟ”

“ดึกแล้ว เดี๋ยวนอนไม่หลับ เอาโกโก้ดีกว่าครับ”

“แป๊บหนึ่ง เดี๋ยวจัดให้”

“ไม่ต้องหวานมากนะ ช่วงนี้รู้สึกอ้วนตัวจะแตก” พี่พิงค์พูดขำๆ แล้วเดินไปคุยกับพนักงานคนอื่นๆ ก่อนจะกลับมาหยิบโกโก้เย็นที่พี่อีมทำเสร็จแล้วไปนั่งกินที่โต๊ะ พี่พิงค์ก็เป็นหนึ่งในมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบอย่างหาที่ติไม่ได้ ขยับตัวทำอะไรก็ดูดีไปหมด ที่สำคัญคือนิสัยดีมากๆ ใครได้เป็นแฟนนี่มีกลุ้ม เพราะน่ารักขนาดที่ว่าใครเห็นก็ต้องมอง คงได้หวงกันวุ่นวาย พี่พิงค์มีแฟนไหมนะ...ไม่เคยได้ยินพูดถึงเลย

...

 

ผมเดินกลับมาที่บ้านหลังเลิกงาน คนในบ้านยังไม่นอนเพราะได้ยินเสียงทีวีห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ ผมเดินเลี่ยงๆ เข้าไปในห้องนอนตัวเองที่อยู่หลังบ้าน เดิมเคยเป็นห้องเก็บของ แต่ปัจจุบันเป็นห้องของผม ผมย้ายมาอยู่ที่นี่หลังจากที่พ่อกับแม่ตาย ย่าเป็นญาติคนเดียวที่ผมรู้จักในตอนนั้น เมื่อย่าพาผมมาอยู่ด้วย ผมก็ตามมาอย่างไม่รู้ประสีประสา นึกว่าย่าจะพาไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าด้วยซ้ำ แต่เอาจริงๆ ผมรู้ว่าย่าก็ไม่ได้เต็มใจเลี้ยงผมเท่าไรนัก เพราะแม่เคยเล่าให้ฟังว่าครอบครัวของพ่อไม่ค่อยชอบแม่ พ่อกับแม่ไม่ได้แต่งงานกันและดันมีผมก่อนเลยยิ่งถูกเกลียดเข้าไปใหญ่ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจว่าผมทำอะไรผิด

ผมเปิดกระเป๋านักเรียนตั้งใจจะเอาการบ้านออกมาทำ แต่มองไปเห็นเสื้อยืดสีขาวที่อยู่ในนั้นจึงหยิบออกมา กลิ่นไวต์มอลต์และคราบไข่มุกยังติดอยู่บนเสื้อ เมื่อมองดูเสื้อตัวนี้ผมหลุดยิ้มออกมานิดๆ ขณะที่นึกไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้น

คนแปลกหน้าเจ้าของเสื้อตัวนี้คงเป็นคนแปลกๆ พอทบทวนเหตุการณ์ดูก็รู้สึกโชคดีที่วันนี้คนถูกต่อยไม่ใช่ผม แต่โชคร้ายที่พรุ่งนี้ผมอาจจะถูกไอ้ยิมต่อยคืนก็ได้ ผมส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ เอาเสื้อตัวนี้ไปซักที่หลังบ้าน เผื่อมีโอกาสจะได้เอาไปคืนให้เขา

“ทำไรอะ”

ผมหันหน้าไปมองข้าวฟ่าง ลูกสาวคนเล็กของป้าที่ไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร เธอฉวยเอาเสื้อในมือผมไปแล้วกางเสื้อออก

“เสื้อใครอะ ตัวอย่างใหญ่ ไม่ใช่เสื้อปิงแน่ๆ”

“ของเพื่อน” ผมตอบส่งๆ

“แล้วทำไมมาอยู่ที่นี่อะ”

“ปิงเอามาซัก ปิงทำเสื้อเพื่อนเลอะ”

“ของเพื่อนจริงอะ”

ผมพยักหน้าหงึกๆ

“ของแฟนรึเปล่า” น้ำเสียงเอ่ยแซวนั่นฟังดูประหลาด

“บ้า ไม่ใช่” ผมรีบปฏิเสธ ยื่นมือไปคว้าเสื้อคืนแต่ข้าวฟ่างก็เอาหลบผมไป

“มีแฟนไม่บอกเหรอ”

“ไม่ใช่จริงๆ”

“ปิงมีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ”

“ไม่ใช่ เอาคืนมา”

“ชัวร์อะ! ของแฟนแน่ๆ”

เด็กเวรเอ๊ย!

ผมระงับความโมโหด้วยการสูดลมหายใจลึก ผ่อนลมหายใจเบาๆ แล้วขอเสื้อตัวนั้นคืน แต่ข้าวฟ่างก็ยังไม่ยอมปล่อย

“ปล่อย”

“ไม่ บอกก่อนว่าเป็นของแฟน”

“เออ ของแฟน พอใจยัง”

“เขาเป็นใครอะ เจอกันที่ไหน ที่โรงเรียนเหรอ หรือว่าไง” ข้าวฟ่างคงไม่รู้จักคำว่าประชด เชื่อไปว่าผมพูดจริงก็เลยยิงคำถามใส่ผมขณะที่ยังคงไม่ยอมปล่อยเสื้อในมือ

“ปล่อยก่อนดิ”

“ไม่ปล่อย จนกว่าจะเล่ามา”

“ปล่อย”

“ไม่!”

ผมออกแรงดึงเสื้อนั่นคืนมาแต่ข้าวฟ่างก็ดึงมันกลับไป

“เล่ามา!”

“ปล่อย”

“ไม่ปล่อย! เล่ามา!”

“ทำอะไรกัน”

โครม!

ข้าวฟ่างปล่อยมือจากเสื้อตอนที่แม่ของเธอเดินเข้ามา เป็นเหตุให้ผมหงายเงิบล้มหัวกระแทกประตูเข้าจังๆ...เวรจริงๆ

“ทะเลาะอะไรกัน”

“ไม่ได้ทะเลาะกันแม่”

“แล้วโวยวายอะไรกัน”

“ฟ่างแค่ถามปิงเรื่องแฟน แต่ปิงไม่ยอมเล่าให้ฟัง”

“อะไรนะ นี่มึงมีแฟนแล้วเหรอ”

ผมก้มหน้าลง ขี้เกียจอธิบายอะไรให้คนที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจ พูดไปก็เท่านั้น ลอบถอนใจอย่างเอือมระอา ขณะที่ข้าวฟ่างพูดมากตามประสา หันไปร่ายยาวเล่าให้ป้าฟังด้วยเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิด 

“แฟนปิงเป็นผู้ชายด้วยแม่ ดูดิ นั่นอะ เสื้อแฟนปิง ปิงเอามาซักให้”

เมื่อผมเหลือบตาขึ้นไปมองข้าวฟ่างเคืองๆ เด็กนั่นได้แต่ยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้

“มึงมีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ”

ผมไม่ได้ตอบอะไร เอาจริงๆ ไม่มีโอกาสได้โต้ตอบมากกว่าเพราะป้าไม่เปิดโอกาสให้ผมพูด

“มึงไม่อายเขาบ้างหรือไง เป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบเหรอ พ่อแม่มึงคงจะภูมิใจน่าดูนะ ตายตาไม่หลับแล้วมั้ง เป็นบ้าหรือเปล่าเนี่ยฮะ...”

เพราะเบื่อที่จะฟัง ผมจึงเดินออกมาที่หลังบ้านขณะที่ป้ายังพูดไม่จบ

“ไอ้ปิง นี่มึงเดินหนีกูเลยเหรอ มึงนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ นับวันยิ่งดื้อนะมึงเนี่ย...”

ผมไม่ได้สนใจเสียงบ่นของป้าที่ดังไม่หยุด เทน้ำใส่กะละมังซักเสื้อตัวนี้ให้เรียบร้อยแล้วกลับเข้าห้อง ความคิดที่จะทำการบ้านก็ล้มเลิกกลางคัน เดี๋ยวค่อยไปลอกเมธีเอาพรุ่งนี้ ผมอาบน้ำแล้วก็นอนเลย ที่ผมบอกว่าไม่เคยนึกถึงวันพรุ่งนี้ เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าพรุ่งนี้ของผมจะเป็นยังไง มันก็คงเป็นพรุ่งนี้ที่น่าเบื่อเหมือนเคย...

...

 

แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เหตุการณ์วนไปซ้ำๆ เข้าเรียน นั่งเฉยๆ สบตาครูวันละหลายรอบ โดนพวกไอ้ยิมแย่งที่ในโรงอาหาร ออกมานั่งกินข้าวข้างนอก มองพวกตัวท็อปเตะบอลในสนาม กลับเข้าไปเรียน เลิกเรียน แล้วก็ไปทำงาน ในร้านกาแฟก็เหมือนทุกวัน เสียงพูดคุยของกลุ่มนักเรียนหญิงดังคลอกับเสียงเพลงในร้าน วันนี้ผมต้องทำงานถึงเที่ยงคืน จริงๆ หลังจากสามสี่ทุ่มไปแล้วร้านก็จะเงียบ จะมีลูกค้ากะกลางคืนก็ในช่วงที่เด็กมหาวิทยาลัยมีสอบ แต่ช่วงนี้ก็เงียบๆ เราจึงว่างมากพอจะนั่งคุยกันด้วยเรื่องสัพเพเหระ ผมพูดไม่ค่อยเก่งเลยเป็นฝ่ายนั่งฟังมากกว่า คุยกันไปคุยกันมาก็ได้เวลาเลิกงานพอดี

“กลับบ้านดีๆ นะปิง”

“ครับ”

ผมพยักหน้ายิ้มๆ แล้วเดินออกมาจากร้าน นานๆ ครั้งผมจะได้ทำงานไปจนถึงเที่ยงคืน เพราะพวกพี่ในร้านใจดีกับผมมากๆ เห็นว่าผมเป็นเด็กนักเรียนอยู่เลยสลับกะให้เวลาเลิกงานไม่ดึกนัก แต่ผมก็เกรงใจพี่ที่ทำแต่กะดึกทุกวันเลยขอเปลี่ยนบ้าง...แล้วผมก็อยากใช้เวลาอยู่ที่บ้านให้น้อยที่สุดด้วย

ตอนเที่ยงคืนแบบนี้เริ่มเงียบ รถก็น้อยลงไปเยอะ อากาศชื้นๆ เพราะฝนตกลงมาเมื่อเย็น ผมสวมเสื้อคลุมตัวเก่าแล้วดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาคลุมหัว ก่อนจะเดินตรงกลับบ้าน ระหว่างทางผมหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าร้านข้าวที่เขียนว่า วันนี้ร้านปิด เขายืนบ่นอะไรพึมพำก่อนจะเดินออกไป ดวงตาผมเบิกกว้างเล็กน้อย ขณะสองเท้าหยุดชะงักเพราะจำได้ว่าเขาคือคนที่ชกไอ้ยิม ผมคิดจะเดินตามเขาไปแต่คลาดสายตานิดเดียวเขาก็หายไปแล้ว ผมหยุดยืนอยู่ที่กลางซอย หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นเขา เลยล้มเลิกความพยายามที่จะมองหา

“หยุด อย่าขยับ!”

“เฮ้ย!” ผมร้องลั่นเมื่อมีร่างหนึ่งโผล่มาข้างหลังผม เขาใช้ท่อนแขนล็อกคอผมเอาไว้ แล้วใช้อีกมือดึงเชือกที่หมวกฮู้ด รูดจนปิดหน้าผมมิด

“มึงเป็นใคร ตามกูมาทำไม”

“ผมเองๆ”

“ผมไหนวะ! มึงบอกมา มึงต้องการอะไร ฮะ!? ต้องการอะไร! กูไม่มีเงินหรอกนะ กูจนมาก อย่ามาปล้นกูเลย ไปปล้นคนรวยๆ โน่น!”

“ปล่อยผมก่อนสิโว้ย!” ผมตะโกนสุดเสียง อีกฝ่ายจึงยอมปล่อย ผมยกมือดึงเชือกที่หมวกฮู้ดที่เขารูดให้คลายออก เมื่อเห็นหน้าผมหัวคิ้วเขาก็ขมวดเป็นปม ไล่มองหัวจดเท้า

“ผมเองพี่”

“ใครวะ”

“ที่เมื่อวานผมทำชาไข่มุกหกใส่พี่อะ”

“อ๋อ มึงเหรอ”

“พี่จำผมไม่ได้เหรอ”

“ใส่ชุดนักเรียนก็เหมือนกันหมดแหละ กูจะไปแยกออกได้ไง ไหนเสื้อกูอะ” พูดประโยคหลังพลางแบมือมาตรงหน้า

ผมปลดเป้ออกจากบ่า รูดซิปกระเป๋าแล้วหยิบเสื้อที่ซักไว้เมื่อคืนส่งคืนให้เขา

“เออ บอกให้ซักก็ซักจริงเนอะ”

“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม”

“ช่วยอะไร กูไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

“ถ้าพี่ไม่ต่อยไอ้นั่น มันก็ต่อยผมไปแล้ว พี่ช่วยผมไว้ ขอบคุณนะครับ”

“กูอยากได้คำขอบคุณที่รสชาติเหมือนขนมจีบกุ้ง”

“ครับ?”

เขาหันไปมองร้านสะดวกซื้อที่อยู่อีกฟากถนน ผมประมวลคำพูดของเขาในหัวนิดหน่อย ก่อนจะเข้าใจแล้ววิ่งข้ามถนนไปซื้อขนมจีบกุ้งให้เขาเพื่อแทนคำขอบคุณ แถมชีสไบท์ให้ด้วยเพราะมันกำลังลดราคาพอดี

“นี่ครับ ขอบคุณมากนะครับ”

“หลอกแดกง่ายนะมึงเนี่ย แต่ก็ขอบใจนะ โคตรหิวเลยตอนนี้ จะออกมากินข้าวแม่งร้านข้าวเสือกปิด ทรยศคนหิวอย่างกูได้ยังไง” ประโยคหลังคล้ายจะบ่นกับตัวเองมากกว่า

“อ๋อ ที่เมื่อกี้พี่ไปยืนบ่นหน้าร้านนั่นเหรอครับ”

“เออดิ ร้อยวันพันปีไม่ปิด ดันมาปิดวันที่กูจะแดก หงุดหงิดฉิบหาย” เขาว่าแล้วยัดขนมจีบกุ้งเข้าปากไปทีละสองชิ้น เคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนหันมาถามผม

“เอาปะ”

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ วันนี้พี่พิงค์ซื้อข้าวเย็นมาให้กินเรียบร้อยแล้ว มื้อเย็นของผมเลยจบไปตั้งแต่สองทุ่มและไม่รู้สึกหิวเพราะปกติผมไม่ค่อยกินข้าวเย็นอยู่แล้ว

“อันนี้อะไรวะ”

“ไส้กรอกชีสครับ ที่ข้างในมันเป็นชีสอะ”

“เหมือนอสุจิเลยอะ”

หือ?

ผมหันขวับไปมอง คนข้างๆ กำลังบีบไส้กรอกจนชีสไหลออกมาจากตัวไส้กรอกแล้วพูดถ้อยคำทะเล้นนั้นอย่างหน้าตาเฉย

“ไส้กรอกหลั่งน้ำอสุจิ”

เวรกรรมของไส้กรอกชีส...

“เฮ้ย โทษที ลืมไปมึงยังเด็ก” หันมาพูดขำๆ เหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าพูดอะไรออกมา ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งไป...ช็อกตั้งแต่ประโยคแรกแล้วไหมล่ะ

“มึงอยู่ม.อะไรแล้ววะ” เขาเปลี่ยนเรื่องชวนคุย

“ม.หกครับ”

“จริงดิ ม.หกสูงได้แค่นี้เหรอ มึงคนแคระปะเนี่ย”

ผมเหล่มองด้วยหางตา ที่จริงผมไม่ได้เตี้ยมากนะ แต่คนข้างๆ ผมดันสูงมาก ต้องเงยหน้าคุยเลย

“แล้วชื่ออะไร”

“ครับ?”

“มึงอะ ชื่ออะไร”

“ปิงครับ”

“อี๋”

ผมหันขวับไปมองเขาอีกที เพราะอยู่ๆ ก็ทำหน้าตาเหมือนขยะแขยงอะไรสักอย่าง

“ปลิงดูดเลือดอะนะ ชื่อน่าเกลียดอะ”

“ไม่ใช่! ปิงมาจากแม่น้ำปิงครับ ไม่ใช่ปลิงแบบนั้น”

“อ๋อ แล้วไป นึกว่าชื่อปลิงดูดเลือด แหยะ ขนลุกเลยกู”

“ผมเกิดที่เชียงใหม่ แม่ก็เลยตั้งชื่อให้ว่าน้ำปิง แม่บอกว่าทำให้นึกถึงเชียงใหม่” ผมอธิบายถึงที่มา จริงๆ ผมชื่อว่าน้ำปิงนั่นแหละ แต่พอโตมาก็รู้สึกว่ามันน่ารักเกินตัวไปหน่อยเลยตัดให้คนอื่นเรียกปิงเฉยๆ ดีกว่า

“ทำไมไม่ชื่อแคบหมู ไส้อั่วไรงี้วะ กูคิดถึงเชียงใหม่มากกว่าอีก”

ขอมองแรงอีกทีเหอะ

“สัด แค่นี้ต้องมองด้วยหางตา”

“แล้วพี่ชื่ออะไรครับ”

“อิสระ”

“อิสระ...” ผมทวนชื่อเขาออกมาเบาๆ ดูเหมือนเป็นคำที่มีความหมายตรงตัวอยู่แล้ว แต่ผมกลับไม่เคยเข้าใจเลย อิสระ...มันเป็นยังไงนะ

“มีปัญหาอะไรกับชื่อกู ถึงต้องทำหน้าแบบนั้น”

“เปล่าครับๆ กำลังคิดว่าชื่อพี่เท่ดี”

“กูไม่ได้เท่แต่ชื่อนะ”

ผมหันหน้าไปมองเขาที่กำลังจะพูดต่อ

“ตัวกูก็เท่มาก”

“...”

“คงเป็นเพราะความหล่อของหน้ากู”

“...”

“หล่อมะ”

“อ่า...ครับ”

“ไม่จริงใจก็ไม่ต้องเห็นด้วยก็ได้ แหม่” เขาว่าแล้วผลักหัวผมเบาๆ เอาจริงๆ ถ้ามองดีๆ เขาก็หล่อนะ คิ้วหนา ตาสองชั้นคมๆ หน้าไม่ได้ดูเรียบเนียนใสปิ๊งเพราะไม่ได้โกนหนวดให้เกลี้ยงเกลา ผมสั้นเปิดหูแต่ดูเซอร์บอกไม่ถูก ตัวสูงใหญ่อาจจะไม่ใช่แบบที่กล้ามแน่นๆ แต่ก็ดูสมส่วนพอดีตัวเขา แม้จะแต่งตัวด้วยเสื้อยืดตัวใหญ่ๆ กับกางเกงบอลและรองเท้าแตะธรรมดาๆ แต่ว่ามองรวมๆ ก็เป็นคนที่ดูดีคนหนึ่งเลย

“งั้นผมเรียกพี่ว่าพี่อิสนะ”

“เอาที่มึงพอใจ”

“ครับ พี่อิส งั้นผมกลับบ้านก่อนนะ ดึกแล้วอะ”

“ก็ไปดิ กูไม่ได้รั้งเลยเนี่ย”

ผมยิ้มเจื่อนๆ แล้วเดินออกมา

“เดี๋ยวปิง”

“ครับ?”

“ขอเบอร์หน่อยดิ”

“หือ?” ผมเงยหน้าไปมองเขา เบิกตาขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัย

“แค่ขอเบอร์มึงจะต้องช็อก เกิดมาชาตินี้ไม่เคยมีใครขอเบอร์เลยหรือไง”

“ผมไม่มีโทรศัพท์”

คราวนี้เป็นเขาที่เบิกตากว้างขึ้นนิดๆ

“อะ นี่กูช็อกเลยนะ ไม่มีโทรศัพท์?”

“ครับ”

“มึงมาจากยุคไหนวะเนี่ย แล้วเวลาคนติดต่อมึงต้องทำไง มึงใช้พิราบสื่อสารเหรอ หรือส่งจดหมายเอาเหรอ”

“ไม่เคยมีใครต้องติดต่อผมนี่ครับ ผมไม่มีเพื่อนหรือญาติที่ไหน”

“ทุกวันนี้มึงขุดหลุมอยู่ปะเนี่ย หรืออยู่ในโพรงต้นไม้”

“บ้าดิพี่”

“แล้วกูจะติดต่อมึงยังไงเนี่ย”

“พี่จะมาติดต่อผมทำไมอะ”

“เผื่อกูอยากแดกขนมจีบฟรีไง”

ผมส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วหันไปบอก

“ผมทำงานที่ร้านกาแฟตรงหัวมุมโน้นครับ แล้วก็เรียนที่นี่” ผมชี้ไปที่ตัวอักษรย่อที่ปักบนหน้าอก ก่อนพูดต่อ “ถ้าพี่ผ่านมาแถวๆ นี้คงได้เจอกันอีกครับ”

“เออ เงินเดือนออกก็ไปซื้อโทรศัพท์นะมึง เด็กป.หนึ่งมันยังมี อะไรของมึง หลุดมาจากสมัยอยุธยาหรือไง”

“งั้นผมไปแล้วนะ”

“เออ กลับดีๆ”

ผมค้อมหัวลงเล็กน้อยเป็นเชิงลาก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น หันไปมองอีกทีเขายังยืนอยู่ตรงนั้น ยืนกินชีสไบท์แล้วบ่นพึมพำอยู่คนเดียว

“อร่อยดีว่ะ ไส้กรอกอสุจิ”

ผู้ชายคนนี้แม่งโคตรประหลาด แปลกตั้งแต่นาทีแรกที่เห็นหน้าจนกระทั่งตอนนี้เลย แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ในความประหลาดของเขาที่มองเห็นจากตรงนี้...ทำให้ผมยิ้มออกมาซะเฉยๆ

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทนำ+ตอนที่ 1] 22-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-01-2017 10:14:33
อิสระคนแปลก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทนำ+ตอนที่ 1] 22-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 24-01-2017 10:25:44
พี่อิสระ... ฮาตะ 55555555
เป็นคนแปลกจริงๆด้วย
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 2] 24-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 24-01-2017 23:29:50
ตอนที่ 2

ครอบครัว

 

ผ่านไปเกือบอาทิตย์ สามวันมานี้ผมเลิกงานเที่ยงคืนติดๆ กันเพราะพี่อีมขอแลกเวร เห็นบ่นว่าช่วงนี้งานที่มหาวิทยาลัยเยอะ ผมก็เลยต้องเข้ากะดึกแทน ช่วงนี้ก็เลยนอนน้อยกว่าปกติ จึงไม่แปลกที่ทุกเช้าผมจะเดินสะโหลสะเหลมาโรงเรียนแบบงงๆ เห็นป้ายรถเมล์แล้วอยากจะแวะหลับมันทุกป้ายเลย

“ปิง!”

เหมือนถูกปลุกด้วยเสียงเรียกดังลั่น จากที่สะลึมสะลือก็ตาสว่าง หันไปมองชายเจ้าของเสียงที่กำลังปั่นจักรยานเข้ามา

“พี่อิส?”

“เฮ้ยหลบหน่อย ไม่มีเบรก!”

เชี่ย!

ตุ้บ!

ใจผมอยากจะหลบอย่างคำที่เขาสั่ง แต่ขามันแข็งทื่อไม่ขยับตามเพราะสมองหยุดประมวลผลไปกะทันหัน พี่เขาเลยหักรถจักรยานหลบผมแต่ไม่พ้น จึงเฉี่ยวแขนผมจนขนมปังในมือลอยไปตกอยู่ข้างๆ เขาที่ใช้เท้าเบรกจักรยานแล้วหันกลับมาหาผม

“เป็นไรปะ!”

“ผมไม่เป็นไรแต่พี่ฆ่าขนมปังผม ตายคาที่เลย”

ผมชี้ไปยังขนมปังไส้กรอกที่ตกอยู่ข้างๆ

“มีอันเดียวด้วย”

“โถๆ ขอโทษๆ” เขาว่าแล้วก้มลงไปหยิบขนมปังชิ้นนั้นขึ้นมา ปัดๆ ฝุ่นหน่อยแล้วส่งคืนให้ผม

“กินได้ ยังเช้าอยู่ เชื้อโรคยังไม่มาหรอก”

“มันใช่เหรอพี่!”

“กินไส้กรอกก็ได้ ไส้กรอกไม่เปื้อน” เขาแกะเนื้อขนมปังข้างนอกออกแล้วยื่นไส้กรอกให้ผม

“ไม่เอา”

“กินเหอะ กินได้ เร็วๆ”

“ไม่เอา! อื้อ!” เขาตรงเข้ามาล็อกคอผมแล้วยัดไส้กรอกที่ฉีกให้ครึ่งหนึ่งเข้ามาในปาก ผมกะพริบตาปริบๆ แล้วเคี้ยวไส้กรอกนั้น เออ...ไม่น่าสกปรกหรอกเพราะขนมปังมันห่ออยู่ ถุย!

“พี่อะ!”

“อะๆ คายมาๆ” เขาหัวเราะเบาๆ แล้วยื่นมือมารองที่ปากตอนผมกำลังจะคายออก ผมกลัวว่ามือเขาจะเลอะเลยหันไปคายที่ริมทาง

“พี่มาทำอะไรแถวนี้เนี่ย”

“ก็ผ่านมาแล้วเห็นมึงพอดี แล้วนี่ดูสภาพ ไปอดนอนมาจากไหน ขอบตางี้ดำเชียว” เขาว่าแล้วจิ้มเข้ามาใต้ขอบตาผม มือเย็นๆ ของเขาทำให้ผมโยกหน้าหลบ

“นอนน้อยอะครับ”

อยู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมา

“ขำอะไรอะ”

“มึงเหมือนหลินปิงเลย”

“หลินปิง?”

“ก็ไอ้ลูกแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ไง”

“มันชื่อหลินฮุ่ยไม่ใช่เหรอ”

“นั่นแม่มันโว้ย มึงอัปเดตข้อมูลหน่อยไหม หลังเขาฉิบหาย มึงแม่งเหมือนคอมวินโดวส์ 98 เขาเลิกใช้กันไปนานแล้วมึงรู้ปะเนี่ย”

ผมได้แต่เหลือบตาขึ้นมองเขาเคืองๆ ทำให้ผมอดมื้อเช้าแล้วยังมีหน้ามาด่าว่าหลังเขาอีก แล้วคอมวินโดวส์ 98 นี่มัน...หมายถึงวินโดวส์ไหนอะ เดี๋ยวนี้เขาใช้อะไร 99 หรือ 100

“ยังจะมาทำหน้าหลินปิงใส่กูอีก นี่กูถามจริง เวลาอยู่บ้านมึงใช้หินจุดไฟไหม”

“ไม่ได้ขนาดนั้นโว้ย พี่อะ ไปไหนก็ไปเลย ผมจะไปเรียนแล้ว” ผมว่าแล้วเดินออกมา

“ตั้งใจเรียนนะหลินปิง”

“ไม่ใช่หลินปิง”

“อย่าลืมซื้อมือถือด้วยนะ”

“ไม่ซื้อ!”

ผมรีบเดินเข้าโรงเรียนก่อนที่จะสาย แต่ยังไม่ทันจะถึงประตูก็เห็นไอ้ยิมยืนอยู่ตรงรั้วโรงเรียน มันยกสองนิ้วกระดิกเรียกด้วยท่าทางกวนๆ ผมหันซ้ายหันขวา เมื่อเห็นว่ามีแค่ผมที่ยืนอยู่ตรงหน้ามันจึงชี้นิ้วเข้าหาตัวเองเป็นเชิงถาม

“มึงนั่นแหละ!”

เมื่อมันย้ำว่าคนถูกเรียกคือผมก็เลยรีบวิ่งเข้าไปหา

“มีอะไร”

“มึงโกหกกู”

“โกหกอะไร”

“มึงบอกว่ามึงไม่รู้จักมันไง”

“ใคร”

“ก็ไอ้คนที่ชกหน้ากูไง วันก่อนมึงบอกว่าไม่รู้จักมัน แต่เมื่อกี้กูเห็นมึงยืนคุยกับมัน”

“อ๋อ...ก็เพิ่งรู้จักกัน โอ๊ะ!” ผมร้องลั่นเมื่อไอ้ยิมผลักไหล่ผมดันไปติดกำแพง

“ทำไม ไปทำความรู้จักกับมัน ให้มันกลับมาชกกูอีกเหรอ”

“ไม่ใช่สักหน่อย” ผมพยายามดันมือไอ้ยิมออก แต่ออกแรงแค่ไหนก็สู้แรงมันไม่ได้

“มึงคิดจะหาพวกเอาไว้เอาคืนกูใช่ไหม”

“ไม่ใช่...” ผมขมวดคิ้วแน่นเมื่อไอ้ยิมกดนิ้วเข้ามาข้างกระดูกไหปลาร้าจนเจ็บแปลบ

“ไม่ใช่ก็ดี แต่จำไว้ คราวหลังอย่าโกหกกูอีก”

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วรีบวิ่งเข้าโรงเรียนตอนที่มันปล่อยผม เวรกรรมจริงๆ ที่ชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้

แต่ผมไม่เคยโกรธไอ้ยิมเลยนะ แค่อยากรู้มากกว่าว่าคนที่คอยเอาแต่แกล้งคนอื่น หาเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนเนี่ย มันโตมายังไง มีพื้นฐานครอบครัวแบบไหน พ่อแม่สั่งสอนยังไง อันนี้งงเฉยๆ...ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

...

 

วันนี้เป็นอีกวันที่ผมต้องทำงานจนถึงเที่ยงคืน ทุกวันศุกร์ลูกค้าจะเยอะกว่าวันอื่นๆ งานยุ่งหัวหมุนจนผมยังไม่ได้หย่อนตัวลงนั่งตั้งแต่ตอนเริ่มงาน แต่ผมก็ชอบความวุ่นวายแบบไม่ได้หยุดพัก ยิ่งเหนื่อยก็ยิ่งดี กลับบ้านจะได้นอนหลับยาวๆ โดยไม่ต้องตื่นมาเจอใครเลย การทำแบบนั้นมันเป็นการเอาตัวรอดอย่างหนึ่งของผมเหมือนกัน

“เสิร์ฟโต๊ะสามหน่อยจ้ะ”

“ปิงไปเองครับ”

“ใครก็ได้ไปถูพื้นชั้นบนให้หน่อย”

“ปิงเองครับ!”

“หนู เอาขยะไปทิ้งหน่อย”

“ปิงเองๆ!”

“ปิงมันไปโดนอะไรมา ดีดไม่หยุดเลยเนี่ย”

ผมวิ่งเอาขยะมาทิ้งที่หลังร้าน ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในร้าน วุ่นวายอยู่สักพักไม่ทันรู้ตัวก็ได้เวลาเลิกงาน พี่ที่เข้ากะต่อไปมาเปลี่ยนกะ ผมอยากจะอยู่ช่วยต่อเพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ จะกลับบ้านเช้าก็ยังได้ แต่พี่ๆ เขาไล่ให้ผมกลับเพราะกลัวผมจะตายก่อนถึงเช้า ก็เลยจำเป็นต้องกลับก่อน

วันนี้ใช้พลังงานเยอะก็เลยหิวนิดหน่อย ผมหยิบขนมปังที่ได้ฟรีออกมาจากกระเป๋า กำลังจะแกะกินแต่สายตามองไปเห็นพี่อิสระนั่งอยู่ที่ริมฟุตปาท หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเพราะเราเจอหน้ากันบ่อยตั้งแต่เริ่มรู้จัก ผมยัดขนมปังกลับเข้าถุงเหมือนเดิมแล้วเดินเข้าไปหาเขา

“พี่อิส”

“อ้าว หลินปิง”

กำลังจะโวยเพราะชื่อที่เขาเรียก แต่เปลี่ยนใจเพราะเห็นสีหน้าของเขาที่ไม่เหมือนทุกครั้ง

“พี่เป็นอะไรอะ ร้องไห้เหรอ”

“เปล่า” เขาปฏิเสธขณะยกมือปาดข้างแก้ม เสียงสูดน้ำมูกและตาแดงๆ บ่งบอกว่าคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักแน่ๆ เลย

“พี่เป็นอะไรอะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

เขาพยักหน้ารับในตอนที่ผมนั่งลงข้างๆ ไม่ค่อยเก่งเรื่องปลอบใจคนอื่นเท่าไรได้แต่ถามเผื่อว่าเขาอยากจะระบาย

“เป็นอะไรเหรอพี่”

“น้องสาวกูตาย”

ดวงตาของผมขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ ขณะที่ผมนิ่งไปเขาก็ปล่อยโฮออกมาเลยอย่างไม่อาจฝืนกลั้น เสียงร้องไห้ของเขาเรียกสติของผมกลับมาแล้วยกมือตบไหล่เขาเบาๆ อย่างต้องการที่จะปลอบใจ

“เมื่อคืนเรายังนอนด้วยกัน”

“...”

“เมื่อเช้ายังกินข้าวด้วยกัน”

“...”

“ไม่รู้ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย”

“...”

ผมพยักหน้ารับในทุกๆ ประโยคของเขา มือที่วางอยู่บนไหล่ยังขยับตบเบาๆ กระทั่งเขาหันหน้ามามองผม

“แล้วมึงจะร้องไห้ทำไมเนี่ย”

“ฮะ? ผมเหรอ” ผมยกมือปาดน้ำตาที่ไหลมาแบบไม่รู้ตัว คงเพราะเข้าใจได้ว่าความสูญเสียมันรู้สึกยังไงละมั้งก็เลยน้ำตาไหลออกมาเฉยเลย

“แทนที่จะปลอบใจกู มาดราม่ากับกูอีก”

“ไม่เป็นไรนะพี่ น้องสาวพี่ไปสบายแล้ว”

เขาพยักหน้ารับเบาๆ

“ผมไม่รู้จะปลอบใจพี่ยังไง”

“กูอยากได้คำปลอบใจที่รสชาติเหมือนขนมปังไส้กรอก”

ผมก้มมองขนมปังในมือ ขณะที่เขาก็มองมันอยู่เหมือนกัน ผมมีชิ้นเดียวนะพี่...

“หิวอะ คิดถึงน้องด้วย”

“กินเลยพี่ กินเยอะๆ นะ กินแล้วต้องเข้มแข็งนะพี่” ผมยัดขนมปังใส่มือเขาแล้วจับมือเขาเป็นเชิงให้กำลังใจ

“ขอบใจมึงมากนะหลินปิง”

“ไม่เป็นไรครับ”

“งั้นกูกลับบ้านไปหาน้องนะ”

“ครับ สู้ๆ นะพี่”

“ขอบใจมาก”

ผมโบกมือให้เขาตอนที่เขาเดินหายเข้าไปในซอย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้า น้องสาวของพี่อิสคงขึ้นไปอยู่บนนั้น เหมือนพ่อกับแม่ของผมที่ขึ้นไปนานเป็นสิบปีแล้ว ตอนเด็กๆ ผมไม่เข้าใจหรอกว่าความตายคืออะไร คิดว่าพ่อแม่ไปสวรรค์เดี๋ยวก็กลับมา แต่ก็ขึ้นไปนานเหลือเกิน จนโตมาจึงเข้าใจว่าคนที่ขึ้นไปบนนั้นจะไม่มีวันได้กลับลงมา...นั่นแหละคือความตาย

 

วันเสาร์อาทิตย์เป็นวันที่ผมเกลียดที่สุด ผมขออนุญาตสวนทางคนอื่นที่รอคอยวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่ผมไม่ปรารถนาถึงมัน ผมไม่ชอบวันหยุดเพราะมันเป็นวันที่ผมไม่ได้ออกไปไหนและการไม่มีที่ให้ออกไปไหนนี่แหละก็เลยทำให้เสาร์อาทิตย์มันน่าเบื่อ

วันหยุดของผมก็วนซ้ำไปทุกอาทิตย์ ผมตื่นแต่เช้าเพื่อซักผ้า ช่วยย่าทำความสะอาดบ้าน วันหยุดผมจะได้กินข้าวที่บ้านแต่ก็ไม่ได้ร่วมโต๊ะกับคนในบ้านเพราะมันไม่มีที่ว่างให้ ผมชอบออกมานั่งกินข้าวที่โต๊ะหินอ่อนหลังบ้าน ท้ายห้องครัว ตรงนี้เงียบที่สุดแล้ว ระหว่างนั้นก็อ่านหนังสือบางเล่มจากชั้นหนังสือของลุงที่ตายไปแล้ว ลุงผมมีหนังสือเยอะมาก ชั้นหนังสือกลายเป็นผนังห้องแถบหนึ่งไปเลย โชคดีที่ป้าไม่ได้หวงและอนุญาตให้ผมหยิบมาอ่านได้ เลยทำให้เวลาว่างของผมมักจะหมดไปกับการอ่านหนังสือ

“ยังไม่อิ่มอีกเหรอปิง”

ผมเงยหน้าไปหาย่าที่เอาจานมาเก็บที่อ่างล้างจานใกล้ๆ

“วางไว้เลยย่า เดี๋ยวปิงล้างเอง”

“กินข้าวไปเหอะ เดี๋ยวทำเอง”

ผมพยักหน้ารับ ก้มลงตักข้าวคำหนึ่ง พลิกหนังสือไปอีกหน้าหนึ่ง

“จะกินข้าวหรืออ่านหนังสือก็ควรจะเลือกเอาสักอย่างสิ”

“กินไปด้วยอ่านไปด้วยมันอร่อยกว่าไง”

“เด็กสมัยนี้นี่นะ”

ผมได้แต่ยิ้มหน่อยๆ ให้ย่าที่กำลังบ่นไปตามประสา จริงๆ แล้วย่าใจดีกับผม แต่ย่าไม่มีบทบาทอะไรในบ้านนัก เพราะตั้งแต่ลุงตายไป ป้าก็กลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวและมีอำนาจสูงสุดในบ้าน ทุกๆ อย่างในบ้านต้องขึ้นอยู่กับป้าทั้งหมด ป้าเป็นคนอารมณ์เสียง่าย ยิ่งตั้งแต่ลุงตายไปป้าก็ต้องทำงานคนเดียว วันไหนเหนื่อยกลับมาก็จะหงุดหงิดมากเป็นพิเศษ โมโหขึ้นมาก็ไม่มีใครอยากยุ่งหรือเข้ามาห้ามเพราะจะโดนบ่นพ่วงไปด้วย เวลาผมโดนบ่น โดนตี ผมไม่ค่อยเถียงหรือโต้ตอบ จนคล้ายว่าจะกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของป้าไปแล้ว

วันนี้ทั้งวันผมจมอยู่กับหนังสือเล่มหนาของลุง สนุกจนวางลงไม่ได้จึงอ่านรวดเดียวจบไปเลย รู้ตัวอีกทีก็เกือบจะทุ่มหนึ่งแล้วก็เลยลุกไปอาบน้ำ เดินออกมาจากห้องอีกทีฟ้าก็เปลี่ยนสีไปแล้ว ห้องของผมติดกับห้องครัว ประตูห้องใกล้กับประตูหลังครัวพอดี ผมก็เลยเดินเข้าไปในครัวได้ง่ายๆ เดินเข้าไปเห็นย่าอยู่ในนั้นพอดี

“กินข้าวไหมปิง ยังมีข้าวอยู่นะ”

“ไม่หิวเลยย่า”

“เอาส้มไปกินไหม น้าเนตรแกซื้อมาฝาก”

“ไม่เอาอะ ย่ากินเหอะ ปิงแค่มากินน้ำ” ผมเปิดตู้เย็นหยิบน้ำมาขวดหนึ่ง

“ถ้าหิวก็มาเอาไปกิน”

“ครับ” ผมตอบรับย่าก่อนย่าจะเดินออกจากครัวไป ผมกระดกน้ำขึ้นดื่มหมดขวด กำลังจะเอาขวดไปทิ้งถังขยะ ข้าวฟ่างก็เดินเข้ามาในครัวพอดี

“หิวอ่า มีอะไรกินบ้างเนี่ย” ข้าวฟ่างว่าแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น มีขนมที่ป้าซื้อมาใส่ไว้เต็มตู้ แต่ผมแตะต้องไม่ได้สักชิ้น หยิบขนมของข้าวฟ่างไปกินทีไรเป็นต้องมาโวยวายเป็นเรื่องทุกที 

“เพิ่งกินข้าวไปไม่ใช่เหรอ”

“ฟ่างเป็นเด็ก ฟ่างต้องกินเยอะๆ”

ผมได้แต่พยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากครัวมา แต่ข้าวฟ่างดึงแขนผมเอาไว้ก่อน

“อะไร”

“เล่าเรื่องแฟนให้ฟังหน่อยดิ”

ผมถอนใจเบาๆ ในบรรดาคนในบ้าน ข้าวฟ่างเข้ามาวุ่นวายกับผมมากที่สุด ต่างจากพี่ใบเฟิร์นที่ตั้งแต่ขึ้นมหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยมาสุงสิงอะไรด้วย ดูออกว่าพี่ใบเฟิร์นไม่ชอบผมมากๆ ผมก็เลยเลี่ยงที่จะคุยกับเขา จริงๆ ข้าวฟ่างอ่อนกว่าผมสองปี แต่ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันเลยทำให้เราคุยกันเยอะที่สุด และด้วยความที่เป็นน้องคนสุดท้อง ใครๆ ก็ตามใจ จนบางทีผมคิดว่าเธอเสียนิสัยและไม่มีมารยาทเอาซะเลย 

“แฟนปิงชื่ออะไรอะ”

“ไม่มี ไม่ใช่แฟน”

“อย่ามาโกหกน่า วันนั้นยังบอกว่าเป็นแฟนอยู่เลย”

“วันนั้นโกหก”

“อะไรของปิงวะ เล่าให้ฟังหน่อยน่า ฟ่างไม่บอกใครหรอก ปิงมีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ”

“ถ้าปิงมีแฟนเป็นผู้ชายแล้วมันจะทำไมเหรอ”

“ฟ่างไม่ว่าอะไรหรอก แต่แม่คงไม่ชอบ”

“แม่ฟ่างก็ไม่เคยชอบอะไรในตัวปิงอยู่แล้วนี่”

“นี่ตกลงแฟนปิงเป็นผู้ชายจริงดิ”

“บอกว่าไม่มีไง”

“อย่ามาว่ะ! เล่ามาเลย เร็วๆ!” ข้าวฟ่างเข้ามาโอบร่างผมเอาไว้จากข้างหลังตอนที่ผมกำลังจะเดินออกไป ข้าวฟ่างไม่ยอมโตขึ้นเลยทั้งๆ ที่ขึ้นม.ปลายแล้วแท้ๆ ความอยากรู้อยากเห็นเกินขอบเขตทำเอาผมรำคาญ

“ฟ่างจะอะไรนักหนาเนี่ย ปล่อย!” ผมสะบัดข้าวฟ่างที่โอบร่างผมอยู่ให้หลุดออกเพราะรำคาญเต็มทนด้วยแรงที่ไม่ได้มากมายอะไร แต่อีกคนที่สะบัดตัวออกไปในจังหวะนั้นเป็นเหตุให้แขนข้างหนึ่งของข้าวฟ่างปัดไปโดนแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงลงพื้นพอดี

เพล้ง!

เราทั้งคู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ก่อนข้าวฟ่างจะหันขวับมาพูดเสียงดัง

“แก้วแตกเลย! เดี๋ยวโดนแม่ว่าแน่!”

“หลบดิ เดี๋ยวเก็บเอง”

“ถ้ายอมพูดแต่แรกก็ไม่ทำแก้วแตกหรอก ตกลงจะไม่บอกจริงๆ เหรอว่าแฟนปิงเป็นใคร”

ผมถอนใจเบาๆ แล้วบอกให้หลบอีกที

“หลบ จะไปเอาไม้กวาด”

“ถึงจะชอบผู้ชายก็ไม่ผิดหรอกนะ ฟ่างแค่อยากรู้ว่า...”

“หลบไป!” ผมยกมือขึ้นผลักข้าวฟ่างให้หลีกทาง ร่างที่ถูกผลักเซไปเหยียบเศษแก้วที่พื้นเข้าพอดีอย่างไม่ทันระวังจนร้องลั่นออกมา

“โอ๊ย!”

“เฮ้ย” ดวงตาผมเบิกกว้างเล็กน้อยตอนที่ข้าวฟ่างยกเท้าขึ้นมา เศษแก้วปักเข้าไปในเท้านั่นจนเลือดไหลออกมาเป็นทาง

“ฟ่าง เจ็บเปล่า”

“เจ็บดิ!”

“ทำอะไรกันอะ”

ผมหันขวับไปมองพี่ใบเฟิร์นที่เดินเข้ามา เมื่อพี่ใบเฟิร์นเลื่อนสายตาไปมองเท้าข้าวฟ่างที่เลือดเริ่มซึมจนหยดลงพื้นก็แสดงอาการตกใจออกมา

“ฟ่าง เป็นอะไร!”

“ปิงผลักฟ่างอะ”

“ไอ้ปิง...” เสียงพี่ใบเฟิร์นเค้นเรียกชื่อผมด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ผมได้แต่ก้มหน้าลงต่ำไม่อาจโต้ตอบอะไรกลับไปได้ มองเห็นชะตากรรมของตัวเองที่จะตามมาอย่างคาดเดาได้ไม่ยาก

เพียะ!

เพียะ!

เพียะ!

ด้ามไม้กวาดพลาสติกคือเครื่องมือลงโทษที่ป้าพอจะหาได้ ฟาดใส่ผมไม่ยั้งเพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้ข้าวฟ่างเจ็บตัวโดยไม่ไถ่ถามถึงเรื่องราวก่อนหน้าเลยสักคำ ผมไม่มีโอกาสแก้ตัวได้แต่ก้มหน้าลงเงียบๆ ไม่มีแม้แต่เสียงร้องโอดครวญ หลับตาแน่นในทุกๆ ครั้งที่ด้ามไม้กวาดนั้นตีเข้ามา

“จะตีมันทำไมนักหนา พอได้แล้ว” ย่าที่ทนดูอยู่นานเดินเข้ามาห้าม

“ต้องตีสิ! มันจะได้จำ!”

“เด็กมันทะเลาะกัน เดี๋ยวมันก็ดีกัน”

“ทะเลาะอะไรถึงกับเลือดตกยางออก มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ แม่ไม่ต้องยุ่งน่า”

แต่ก็อย่างที่บอกว่าเสียงของย่าไม่เคยมีความหมาย ย่าได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินออกไป ผมรู้ว่าย่ากำลังหลีกเลี่ยงสายตาของผมที่กำลังขอความช่วยเหลืออยู่ แต่ย่าช่วยอะไรผมไม่ได้เลย...แม้จะอ้อนวอนแค่ไหนก็ตาม

ผมทนยืนอยู่ตรงนั้นให้ป้าตีจนร่างกายผมรับไม่ไหวแล้ว ในตอนที่ป้าตั้งท่าจะฟาดด้ามไม้กวาดใส่อีกครั้งผมจึงยกมือคว้าด้ามไม้กวาดนั้นเอาไว้

“พอแล้วได้ไหมป้า”

“...”

“ปิงเจ็บ”

“มึงกล้าต่อรองกับกูเหรอ มึงปล่อยเลยนะ ไอ้ปิง!” ป้าดึงด้ามไม้กวาดกลับไปแล้วฟาดมันเข้ามาที่ขาผมจนทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้น ถึงจะเจ็บแค่ไหนก็ร้องไม่ออกสักคำ ได้แต่คุกเข่าก้มหน้าลงไปแบบนั้นเพื่อฟังป้าด่าด้วยอารมณ์โกรธแค้น

“ถ้ากูรู้ว่าโตมามึงจะดื้อแบบนี้ กูไม่เลี้ยงมึงให้เสียข้าวสุกหรอก ไอ้เด็กเวร”

ขณะที่ป้ากำลังด่า ผมก็เก็บเศษแก้วตรงหน้าไปด้วยเพราะกลัวว่าใครเผลอมาเหยียบเข้าผมคงซวยอีก

“มึงฟังกูอยู่หรือเปล่า ฮะ!?”

“ฟังครับ”

“กูเกลียดหน้ามึงจริงๆ มึงมันน่าจะตายไปพร้อมพ่อแม่มึงเลยด้วยซ้ำ มาอยู่ให้เป็นภาระของกูทำไม”

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองป้าที่พูดออกมาแบบนั้น จริงๆ ผมไม่ได้โกรธ คิดแบบป้าเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร...ไม่รู้เหมือนกัน

“มึงมองหน้ากูทำไม มึงไม่พอใจเหรอ ฮะ!? ไม่พอใจเหรอ! มึงมันก็แค่เด็กกำพร้าที่ไม่มีใครเอา กูเลี้ยงมึงมานี่เคยสำนึกบุญคุณบ้างไหม ฮะ!?” ป้าฟาดไม้ในมือเข้ามาอีกชุด ผมได้แต่กำมือแน่น เศษแก้วที่ถืออยู่ทิ่มแทงเข้าไปจนเจ็บแปลบ แต่เจ็บไม่เท่าคำพูดของป้าที่ทิ่มแทงเข้ามารุนแรงกว่า

“มึงออกจากบ้านกูไปเลยนะ ไปไหนก็ไป ไสหัวไป ไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าเลยนะ ไป!!!” ป้าโยนไม้กวาดทิ้งอย่างโมโหแล้วเดินออกไป ผมเงยหน้าไปมองพี่ใบเฟิร์นที่ยังยืนอยู่ สายตาเย็นชามองผมแล้วพูดเสียงเรียบ

“โดนตียังไม่ร้องสักแอะ มึงยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าวะ”

ผมเคยชินกับคำพูดประเภทนั้นจนไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกแล้ว ก้มลงเก็บเศษแก้วที่เหลือใส่ถุงขยะแล้วเดินออกไปทิ้งนอกบ้าน โยนถุงขยะลงถังแล้วหย่อนตัวเองลงที่ริมฟุตปาท นั่งเฉยๆ อยู่ตรงนี้พักหนึ่ง ในหัวผมว่างเปล่า ทั้งที่จริงควรจะรู้สึกอะไรสักอย่าง...แต่เหมือนทุกอย่างมันด้านชาไปหมดแล้ว

“ปิง”

หันมองย่าที่เดินเข้ามาเรียก

“ย่า ออกมาทำอะไร”

“เห็นปิงออกมานาน”

“ปิงนั่งเล่นเรื่อยเปื่อยอะย่า กลับเข้าไปตอนนี้ป้าคงไม่พอใจ”

ย่ายกมุมปากขึ้นยิ้มบางๆ แล้วนั่งลงข้างๆ ผม มือเหี่ยวย่นยกขึ้นแตะไหล่ผม

“เหนื่อยไหมลูก”

“...”

“ทนไหวไหม”

ผมไม่เคยอยากร้องไห้ โดนตีแค่ไหนก็ไม่มีน้ำตาสักหยดจนถึงตอนนี้ ทว่าตอนที่ย่าถามคำถามนั้นออกมา น้ำตาก็พลันร่วงลงมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงพยักหน้าเพื่อบอกกับย่าว่าผมยังไหว...ยังทนได้อยู่

“ปิงไม่เป็นไรหรอก ทนได้”

ย่าส่งเสื้อตัวหนึ่งที่ถือติดมือมาด้วยให้ผม เป็นเสื้อคลุมตัวที่ผมใส่มันบ่อยๆ

“ถ้าจะออกไปข้างนอกก็สวมเสื้อด้วย อากาศมันเย็น”

ผมพยักหน้ารับก่อนที่ย่าจะเดินกลับเข้าบ้านไป ผมยังได้ยินเสียงป้าบ่นอยู่ในนั้น เข้าไปตอนนี้คงได้โดนด่าอีกระลอก วันนี้ผมรับอะไรไม่ไหวอีกแล้วก็เลยคิดว่าต้องไปหาที่นอนที่อื่นสักคืน

ลุกออกมาจากตรงนั้นแล้วสวมเสื้อที่ย่าเอามาให้ ดึงหมวกฮู้ดขึ้นใส่อย่างที่ชอบทำ อากาศเย็นๆ ชื้นๆ เพราะฝนทำให้ผมรู้สึกหนาวนิดๆ จึงล้วงมือทั้งสองข้างเข้ากระเป๋าเสื้อ ก่อนที่หัวคิ้วจะขมวดเข้าหากันเมื่อเจอบางอย่างอยู่ในนั้น กระเป๋าข้างซ้ายมีส้มลูกหนึ่ง ส่วนข้างขวามีแบงก์ห้าร้อยใบหนึ่ง ริมฝีปากขยับเป็นรอยยิ้มบางๆ...ขอบคุณนะครับย่า

 

To be continued.


หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 2] 24-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 25-01-2017 08:06:43
ปิงน่าสงสารอะ ขีวิตรันทดจังเลยอะ อีป้า นังฟ่างแกมัน...... พี่อิสคนแปลก55
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 2] 24-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 25-01-2017 11:29:51
ปิงไม่ยุ่งกับใคร ไม่ต่อปากต่อคำ
แต่มีคนมายุ่ง วุ่นวายกับปิง
ยิมเพื่อนเกเรที่ร.ร. คิดไรกับปิงปะ
ฟ่างลูกป้า จะเซ้าซี้ อะไรนักหนา
เรื่องแฟน เรื่องเกย์ เป็นสาววายปะ
บอก ไปก็ไม่เชื่อ จนได้เรื่อง ได้เลือด
กลายเป็นเรื่องใหญ่โต ถูกตีถูกไล่ออกจากบ้าน
ป้าก็เอาเรื่องเอาราวไม่ได้บ่นด่าปิง
ลามไปเรื่องพ่อแม่ปิง เด็กจะไปรู้อะไรด้วย
แล้วปิง จะทำไงต่อไปเนี่ย
      :L1::L1::L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     



หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 26-01-2017 23:45:39

 ตอนที่ 3

บังเอิญ

 

ผมเดินออกมาเรื่อยเปื่อย เพราะเกิดหิวขึ้นมานิดหน่อยก็เลยแวะหาอะไรกิน ร้านของกินริมถนนตอนกลางคืนมีอะไรให้เลือกกินเยอะ ผมแวะที่ร้านรถลูกชิ้นทอด กวาดตามองลูกชิ้นหลากหลายในตู้กระจกแล้วเลือกอันที่ชอบที่สุด

“เอาไส้กรอกชีส...”

 

“ไส้กรอกหลั่งน้ำอสุจิ”

 

ประโยคนั้นดันแวบเข้ามาในหัวอย่างกะทันหัน ผมกะพริบตามองแม่ค้าที่ทวนซ้ำ

“ไส้กรอกชีสนะ เอากี่อันดีลูก”

“เปลี่ยนเป็นลูกชิ้นปลาแล้วกันครับ เอาสองไม้เลย”

“ได้จ้า”

พี่อิสทำให้ไส้กรอกชีสในความคิดของผมไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ผมหิ้วถุงลูกชิ้นทอดกับน้ำอัดลมแก้วหนึ่งเดินมานั่งกินที่ป้ายรถเมล์ ยังงงๆ กับสภาวะบุคคลเร่ร่อนกะทันหันเลยปรับตัวไม่ทัน ที่จริงผมไปนอนบ้านเมธีได้ แต่ต้องโทรบอกมันล่วงหน้า ติดตรงที่ผมไม่มีโทรศัพท์มือถือ ข้อนี้เลยต้องผ่าน หรือผมจะไปนอนที่ร้านกาแฟก็ได้เพราะมันเปิดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่วันนี้เป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดร้าน ข้อนี้ก็เลยต้องผ่านเช่นกัน ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากยัดลูกชิ้นเข้าปากให้อิ่มท้องไปก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน

“หลินปิง”

“พี่อิส!”

ผมเรียกชื่อคนที่เดินเข้ามาเรียกแล้วโบกมือให้ยิกๆ ด้วยรอยยิ้มกว้างของตัวเอง ก่อนจะลดมือลงเมื่อรู้ตัวว่าระริกระรี้เกินเหตุ ไม่รู้ทำไมถึงดีใจเหมือนหมาเจอเจ้านายเลย

“รอรถเมล์เหรอ จะไปไหน”

“เปล่าครับ ไม่ได้ไปไหน นั่งเฉยๆ”

“ประหลาดคน”

“แล้วพี่อะ จะไปไหนเหรอ”

“ไปหาอะไรกินมา” เขาว่าแล้วนั่งลงข้างๆ ผม

“แล้วพี่เป็นไงบ้าง เรื่องน้องสาวพี่” ผมพูดเบาๆ ตอนที่สีหน้าของเขาหม่นลงทันทีที่ผมถามถึง

“ก็ยังทำใจไม่ได้หรอก แต่ก็ดีขึ้นแล้ว ว่าแต่มึงมานั่งทำอะไรตรงนี้เนี่ย”

“โดนไล่ออกจากบ้านมาครับ เลยกำลังคิดอยู่ว่าจะไปนอนไหนดี”

“ทะเลาะกับพ่อแม่มาเหรอ ไอ้ลูกทรพี!”

ผมหันขวับไปมองคนข้างๆ ที่แสดงปฏิกิริยาตอบรับเสียงดังเกินกว่าเหตุ เมื่อถูกผมมองตาขวางคนข้างๆ ก็ยิ้มแห้งๆ ใส่

“เออ ทะเลาะอะไรกับพ่อแม่มาล่ะ”

“เปล่า ไม่ใช่พ่อแม่ครับ”

“อ้าว”

“แต่เป็นป้าครับ ผมอาศัยบ้านเขาอยู่แล้วเขาก็ไม่ชอบผมเท่าไร ทะเลาะกันทีไรเขาก็ไล่ผมออกมาทุกที วันนี้ป้าก็โกรธผมอีกแล้ว” ผมร่ายยาว เล่าเรื่องของตัวเองให้เขาฟังอย่างไม่ได้รู้สึกอาย

“แล้วมึงจะไปนอนที่ไหน”

“ก็คิดอยู่นี่ไงครับ”

“หน้าเซเว่นไหม สว่างดี มีหมาเป็นเพื่อนด้วย”

“ถ้าไม่ช่วยก็อย่ากวนตีนดิพี่”

“โห นี่ด่าเหรอ”

“อือ”

“พอออกจากปากมึงนี่ไม่เหมือนโดนด่าเลยนะ ไม่มีความหยาบอะไรทั้งสิ้น”

ผมขมวดคิ้วนิดๆ

“หมีแพนด้ามันด่าไม่เจ็บเนอะ”

“พี่แม่ง...”

“ไปนอนบ้านกูไหมล่ะ”

“ไปครับ” ผมตอบรับแล้วลุกพรวดขึ้นทันที แต่ถูกอีกคนยกมือเบรกเอาไว้

“เดี๋ยว มึงจะไม่คิดอะไรสักนิดเหรอ”

“ผมไม่มีทางเลือก”

“หลอกไปขายง่ายๆ เลยนะมึงเนี่ย”

“ผมรู้ว่าพี่ไม่เอาผมไปขายหรอก”

“ขายก็ไม่ได้กี่ตังค์หรอกมึงอะ ตัวเท่าหางหมา...”

“ตกลงจะให้ไปนอนไหมเนี่ย”

“เออๆ ไปดิไป แล้วมึงหิวไหมเนี่ย บ้านกูไม่มีอะไรให้กินนะ”

“ไม่หิวครับ กินลูกชิ้นไปแล้ว”

“ไส้กรอกอสุจิปะ”

“พี่ น่าเกลียด!”

“ไร้เดียงสาจริงๆ เลยมึงเนี่ย โตแล้วก็หัดจังไรหน่อยดิ”

“จังไรแบบพี่เหรอ”

“อะ เดี๋ยวกูไล่ไปนอนหน้าเซเว่นนะ”

“ขอโทษครับพี่ บ้านพี่อยู่ไหนอะ ไปทางไหน ทางนี้เหรอ” ผมชี้ไปมั่วซั่ว ก่อนเขาจะดึงมือผมให้เดินตามไปอีกทาง

เดินคุยกันมาเรื่อยๆ พี่อิสก็พาผมมายังหมู่บ้านใกล้ๆ นั่น ผมเลื่อนสายตามองบ้านชั้นเดียวสีขาวสะอาดขนาดกำลังพอดี พี่อิสก้มลงหยิบรองเท้าผ้าใบหน้าบ้านขึ้นมาล้วงกุญแจจากในนั้นเพื่อไขเข้าบ้าน

“ดีนะมึงมาตอนบ้านกูไม่รก เข้ามา” เขาเดินนำเข้าไปก่อนเพื่อเปิดไฟ ทันทีที่ไฟกลางห้องติดขึ้นผมก็ได้เห็นสภาพของบ้านที่เจ้าของบอกว่าไม่รก มาตรฐานความรกของเขาคงแตกต่างจากผมพอสมควร...เอาง่ายๆ ตรงไหนบ้างที่ไม่รก   

ผมกวาดตามองไปรอบๆ กลางบ้านมีโต๊ะวาดภาพขนาดใหญ่กับกองกระดาษที่อาจเรียกว่ากองขยะได้ บนพื้นมีโมเดลตึกสองสามชิ้นวางอยู่ กระดาษม้วนใหญ่ๆ สี่ห้าม้วนวางอยู่บนโซฟาหน้าทีวี อุปกรณ์เขียนแบบอะไรทำนองนั้นวางระเกะระกะไปทุกทิศทาง

“พี่เรียนสถาปัตย์เหรอ”

คนข้างๆ หลุดหัวเราะ ขณะที่ผมขมวดคิ้วยุ่ง

“ขำไร”

“หน้ากูเหมือนนักศึกษาไหม”

“ก็เหมือน...” นักศึกษาที่เรียนไม่จบสักทีทั้งๆ ที่อายุเยอะแล้ว...ผมไม่ได้ถามเพราะหน้าพี่เขาสักหน่อย ถามเพราะข้าวของที่มองเห็นนี่ต่างหาก

“ถึงหน้ากูจะหล่อเหลาอ่อนเยาว์เสมอแบบนี้ แต่จริงๆ กูเรียนจบแล้ว”

“แล้วของพวกนี้...?” ผมเว้นวรรคพลางชี้ไปยังของที่สุมอยู่บนพื้น

“ของไอ้พวกรุ่นน้องที่ชอบมาสุมหัวที่นี่อะ อย่าไปขยับของมันเชียวนะ เดี๋ยวมันหาอะไรไม่เจอมันจะด่าเอา”

“แล้วพี่ทำงานอะไรเหรอ”

“เป็นฟรีแลนซ์ วาดภาพประกอบไรงี้อะ แต่ก็ไม่ค่อยมีงานหรอก เลยไม่ค่อยจะมีแดก”

ผมเม้มปากกลั้นขำแล้วพยักหน้ารับ

“ตรงนั้นกูยกให้พวกน้องๆ มันใช้ทำงานกัน ส่วนตรงนี้พื้นที่ของกู” พี่อิสชี้ไปที่อีกมุมห้อง เป็นมุมเล็กๆ ที่มีคอมตั้งโต๊ะยี่ห้อที่เป็นรูปแอปเปิลวางอยู่สองเครื่องบนโต๊ะทำงานที่ดูสะอาดสะอ้านกว่าตรงนี้ ใกล้ๆ กันมีโซฟาตัวยาวอีกตัวหนึ่ง

“มานั่งนี่ได้” เขาเรียกให้ผมเข้าไปนั่งที่โซฟาตัวนั้น สายตาเอาแต่กวาดมองไปข้างหน้าไม่ทันระวังเท้าจึงไปเตะเข้ากับจานอะไรสักอย่างซึ่งวางอยู่ที่พื้น ในจานมีอาหารเม็ดเหมือนอาหารแมวที่กินเหลืออยู่ ผมเงยหน้าถาม

“อาหารแมวเหรอพี่”

“อย่ายุ่ง!”

ผมชะงักกึกตอนที่กำลังจะหยิบจานนั้นหลีก หันมองอีกคนที่กำลังพูดต่อ

“นั่นเป็นอาหารจานสุดท้ายที่น้องสาวกูกินเหลือเอาไว้ กูอยากเก็บเอาไว้ดูเป็นครั้งสุดท้าย”

อาหารจานสุดท้ายของน้องสาว?

ผมทบทวนทุกคำพูดประโยคนั้นแล้วหันไปเห็นถุงอาหารยี่ห้อหนึ่งที่วางอยู่ไม่ไกลกันจึงชัดเจนว่าเป็นอาหารแมว

“น้องสาวพี่นี่คือ...”

เขาชี้นิ้วไปยังรูปหนึ่งที่แปะไว้เหนือคอมพิวเตอร์

“บังเอิญ น้องสาวกู”

ผมก้าวเท้าเข้าไปใกล้ๆ เพื่อมองรูปแมวรูปใหญ่และตัวอักษรที่เขียนทับลงไปบนรูปถ่ายนั่น

 

R.I.P. บังเอิญ น้องสาวสุดที่รัก

 

“พี่มีน้องสาวเป็นแมวเหรอ”

“มันไม่ใช่แมว มันคือบังเอิญ แก้วตาดวงใจของพี่” เขาทำหน้าคร่ำครวญแล้วยื่นมือไปลูบแมวในภาพนั่นเบาๆ เมื่อวานที่บอกว่าน้องสาวตายนี่คือแมว ผมเสียน้ำตาให้คนพรรค์นี้ไปได้ไงเนี่ย ตอนนี้อยากได้คำปลอบใจรสขนมปังไส้กรอกคืนมากเลย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะดูอาการแล้วพี่เขาคงรักแมวตัวนี้มากจริงๆ นั่นแหละ

“วาสนาน้องมันน้อยนัก เลยต้องมาด่วนจากพี่ไปก่อน บังเอิญเอ๋ย ชาติหน้ามีจริงเราคงได้เกิดมาเป็นพี่น้องกันอีก...”

“ให้ผมนอนไหนเหรอ”

ผมพูดแทรกตอนที่เขากำลังคร่ำครวญ คนถูกขัดหันขวับมามอง แยกเขี้ยวใส่ทีหนึ่งก่อนจะตอบ

“จริงๆ มันมีห้องอยู่ แต่มันไม่ได้ทำความสะอาดอะ นอนห้องกูไปก่อนแล้วกัน”

“แล้วพี่อะ”

“กูมีงาน จะได้นอนเปล่าไม่รู้ จะอาบน้ำไหม แต่เสื้อผ้ากูมึงคงใส่ไม่ได้อะ เตี้ยหมาตื่นขนาดนี้”

ผมเงยหน้าไปมองเขาเคืองๆ กล้าที่จะออกปากเถียงขึ้นมาเฉยๆ

“เตี้ยแล้วหนักหัวพี่เหรอ”

“เล่นหัวพี่เลยเหรอ อันนี้แรงนะไอ้หลินปิง!” เขาตะโกนเสียงดังแล้วเข้ามาล็อกคอผม ก่อนดึงเชือกที่หมวกเสื้อฮู้ดรูดปิดหน้าผม แค่ขนาดแขนที่ล็อกคอผมอยู่ก็แทบจะใหญ่กว่าสองแขนผมรวมกันแล้ว เรี่ยวแรงแค่ปลายนิ้วของเขามากมายกว่าจนผมขัดขืนอะไรไม่ได้นอกจากออกปากขอโทษไปรัวๆ

“โอ๊ยๆๆ ปิงขอโทษๆๆ!”

“ขอโทษดังๆ!”

“ขอโทษครับ! ปิงขอโทษ!”

“เออ ดีมาก”

“ปิงขอโทษ ปิงไม่ได้ตั้งใจ” ผมดึงเชือกจากหมวกฮู้ดที่ถูกรูดปิดหน้าออก หันมองคนข้างๆ ที่อยู่ๆ ก็ยกมุมปากขึ้นยิ้มแล้วพูดขำๆ 

“แทนตัวเองว่าปิง น่ารักดี”

หือ? ผมไม่ทันรู้ตัวว่าเมื่อกี้เรียกแทนตัวเองด้วยชื่อแบบที่มักพูดกับผู้ใหญ่คนอื่น แต่ให้พูดกับพี่อิสคงไม่เหมาะ ไม่รู้เหมือนกันว่าผมตัดสินด้วยอะไรแต่ใจมันบอกว่าไม่เหมาะอะ

“พูดกับกูแบบนั้นดิ”

“ไม่เอาอะ”

“ไรวะ”

“งั้นพี่ก็แทนตัวเองว่าพี่ดิ”

“ไม่” ปฏิเสธได้ชัดถ้อยชัดคำ

“ทำไมอะ”

“กูเป็นคนหยาบ หยาบทั้งกายและใจ”

“เชื่อ”

“ไปนอนไป!” เขาว่าแล้วเดินนำเข้าไปในห้องนอน ห้องนอนที่ดูเรียบๆ โล่งๆ ไม่มีเตียง มีเพียงที่นอนวางอยู่กับพื้น เดาจากสายตาน่าจะประมาณห้าฟุต ชั้นวางของใกล้ๆ เตียงและตู้เสื้อผ้าตรงมุมหนึ่ง ผนังห้องฝั่งหนึ่งมีรูปวาดใหญ่ๆ เป็นรูปดอกไม้ที่ผมไม่รู้ว่ามันชื่อดอกอะไร แบบที่ดอกเป็นพุ่มกลมๆ พอเป่ามันจะปลิวออกไป ในภาพก็มีเกสรบางส่วนคล้ายปลิดปลิวตามลมไป

“แดนดิไลออน” คงเพราะเดาได้จากสายตาผมที่จ้องรูปนั้นอยู่นาน พี่อิสเลยเอ่ยชื่อดอกไม้ออกมา เพิ่งรู้วันนี้ว่ามันชื่อว่าดอกแดนดิไลออน

“พี่วาดเองเหรอ”

“อือ กูชอบ”

“สวยดีครับ”

“ตกลงจะอาบน้ำไหม”

“ไม่เป็นไร ผมเพิ่งอาบมาตอนเย็น นอนชุดนี้ก็ได้”

“ตามใจ งั้นกูจะได้อาบ” เขาว่าแล้วถอดเสื้อออก ที่จริงก็เคยเห็นเขาถอดเสื้อต่อหน้ามาแล้ว แต่ครั้งนี้ได้สังเกตใกล้ๆ หน่อย ถึงจะไม่ได้ขาวมากแต่ผิวพรรณก็เนียนละเอียด สีผิวเสมอกันทุกส่วน ไม่มีซิกแพ็กหรือกล้ามล่ำๆ แต่รูปร่างก็ดูกระชับพอดีตัว ไม่ได้อ้วนหรือผอมเกินไป

“มองไร”

“พี่อิสไม่เห็นมีซิกแพ็กเลย”

“มีทำไม กินได้เหรอ มีพุงนี่น่ารักจะตาย”

“แล้วพุงพี่กินได้เหรอ”

“ฟัดได้นะ มาดิ เข้ามาฟัดดิ”

“อื้อ! ไม่เอา ปล่อย”

ผมขัดขืนพี่อิสที่กำลังดึงหัวผมให้เข้าไปซุกพุงเขา ด้วยการกำมือแล้วทุบๆ ดันๆ เขาออกไป

“เฮ้ย ปิง มือมึงเลือดออกอะ” เขาปล่อยผมออกแล้วดึงมือผมไปดู แผลที่ได้จากเศษแก้วก่อนหน้านี้มีเลือดซึมออกมาอีก คงเพราะเมื่อครู่เผลอกำมือแน่นไปหน่อย

“โดนอะไรมา”

“แก้วบาดครับ”

“มานี่ ทำแผลให้”

เขาลากผมไปที่ห้องน้ำ เปิดก๊อกที่อ่างล้างหน้าให้น้ำไหลผ่านมือ แล้วก็ลากออกมาข้างนอก ดึงทิชชูเช็ดให้แห้ง ก่อนจะเอาปลาสเตอร์ยาแบบผ้าแปะให้สองแผ่นต่อกันเป็นอันเสร็จพิธี ทำไมถึงเรียกไอ้ที่ทำเมื่อกี้ว่าการทำแผลให้ ในเมื่อพี่แกฉีกทุกกฎของการปฐมพยาบาล

“เจ็บเปล่า”

“ไม่ครับ มันไม่ลึก”

เขาพยักหน้ารับแล้วลุกเอาเศษปลาสเตอร์ยาไปทิ้ง

“เออปิง กูเห็นกี่ทีๆ มึงก็ใส่แต่เสื้อแบบเนี้ย แฟชั่นห่าอะไรของมึงไม่แคร์สภาพอากาศบ้านเมืองเลย ประเทศนี้มันหนาวมากมั้ง”

“ผมชินอะ” ผมชอบใส่เสื้อคลุมที่มีหมวกฮู้ด เวลาหลบอยู่ในฮู้ดมันปลอดภัย ตอนที่ผมต้องการหลีกหนีจากอะไร บางครั้งมันก็ช่วยผมได้ รู้สึกเหมือน...เหมือนเต่าอยู่ในกระดองอะไรแบบนั้น

“ร้อนตายห่า เปิดแอร์ไหม”

“ไม่เป็นไรพี่ ถอดเสื้อง่ายกว่า” ผมว่าแล้วรูดซิปถอดเสื้อคลุมออก

“หลินปิง”

“ครับ?”

ผมขานรับโดยอัตโนมัติทั้งๆ ที่ถูกเรียกด้วยชื่อหมีแพนด้า

“โดนตีมาเหรอ”

ผมก้มมองร่างกายตัวเองที่เป็นรอยช้ำ บางรอยเล็ก บางรอยใหญ่ แต่ก็คงดูออกง่ายๆ ว่าได้รอยนั้นมาจากการถูกตี

“เขาตีมึงเหรอ”

ผมพยักหน้ารับ

“เลว”

“...”

“เป็นบ้าอะไรต้องมาตีเด็กขนาดนี้ ไม่เลวเกินไปหน่อยเหรอ”

“พี่ นั่นป้าผม”

“ป้ามึงไม่ใช่แม่กู! กูด่าไม่ได้หรือไง แล้วมึงเจ็บไหมเนี่ย”

“ไม่เจ็บ”

“อย่ามาโกหก”

“ไม่เจ็บจริงๆ พี่ ผมขาวไง โดนอะไรนิดหน่อยก็ช้ำง่าย แต่ไม่เจ็บหรอก” อย่างที่บอกว่าผมซุกตัวอยู่ในเสื้อคลุมแทบจะตลอดเวลาในทุกฤดู ผิวผมเลยไม่ค่อยได้สัมผัสแดดเท่าไร มันก็เลยขาวอย่างที่เห็นและเป็นรอยได้ง่ายๆ

“มึงจะอวดว่าตัวเองขาวใช่มะ”

“อื้อ โอโม่ไหมล่ะ”

“แดกแฟ้บเข้าไปหรือไง รออยู่นี่ กูไปซื้อยาให้”

“ไม่เป็นไรพี่ ไม่เป็นไรจริงๆ” เมื่อผมปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำอีก พี่อิสจึงยอมที่จะไม่ออกไปซื้อยาให้

“ตามใจ แต่จะมาช้ำในตายบ้านกูไม่ได้นะ หลอนตายห่า”

“ตายก็สิงอยู่นี่แหละ” ผมพูดขำๆ

“นอนเหอะ กูไม่รู้วันนี้มึงเจออะไรมาบ้างแล้วก็ขี้เกียจฟัง เพราะกูไม่ชอบเรื่องดราม่า”

“ไม่เล่าหรอกน่า”

“กูไปอาบน้ำละ นอนเองได้ไหมเนี่ย ต้องเล่านิทานก่อนนอนไหมหรือต้องกล่อม”

“บ้าดิพี่ ไม่ใช่เด็กๆ”

“กูจะไปรู้เหรอเห็นตัวเล็กเหมือนหมา” เขาว่าก่อนที่จะหันไปหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ ผมได้แต่แยกเขี้ยวใส่ลับหลังแล้วล้มตัวลงบนที่นอนเขา ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม กะพริบตามองเพดานโล่งๆ นั่น ผมกำลังนอนอยู่ในบ้านของคนที่เพิ่งรู้จักกันแค่ไม่กี่วัน แถมคนคนนั้นก็ยังนิสัยแปลกประหลาดสุดๆ แต่ก็คงไม่เป็นไรหรอก สิ่งเดียวที่ผมคิดในตอนนี้คืออย่างน้อยๆ วันนี้ผมก็มีที่นอนแล้ว...แค่นั้นแหละที่สบายใจ

...

 

เช้าวันถัดมา ผมตื่นสายนิดหน่อยเพราะไม่มีนาฬิกาปลุก วันนี้รู้สึกปวดเนื้อปวดตัวนิดหน่อยจากการที่ถูกตีเมื่อวาน บางจุดบวมช้ำขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ตอนที่ผมเดินออกไปนอกห้อง เจ้าของบ้านยังนั่งจดจ่ออยู่ที่หน้าคอม เขาคงไม่เห็นว่าผมยืนมองอยู่ พี่อิสน่าจะไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน ดูจากแก้วกาแฟ เครื่องดื่มชูกำลังสองขวด และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้วยหนึ่งซึ่งวางอยู่ใกล้ๆ

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

ผมหลุดหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขาเป็นเสียงเพลงหนูมาลี คนคนนี้คงจะชอบแมวมากจริงๆ

“โหล” พี่อิสรับโทรศัพท์ด้วยเสียงเนือยๆ ก่อนจะโพล่งพรวดขึ้นมาจนผมแอบสะดุ้ง

“เสร็จเหี้ยอะไรล่ะ! กูเพิ่งลงสีใหม่ ยังไม่ได้นอนเลยเนี่ย มึงจะเร่งอะไรนักหนา เออ! กูขอครึ่งชั่วโมง ไอ้ฉิบหาย!” เขาโยนมือถือทิ้งลงบนโต๊ะแล้วหันไปหยิบเมาส์ปากกาทำงานต่อ ปากก็บ่นไปด้วยไม่หยุด

“งานอะเร่งจริง ทีเงินนี่รอเป็นชาติ สั่งวันนี้จะเอาพรุ่งนี้ คิดว่าพวกกูมีเวทมนตร์หรือไง อยากได้เหี้ยอะไรก็เสกๆ เอา ฉิบหาย ต้องมาอดหลับอดนอน ตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบชีวิตกูวะเนี่ย เทดีไหมเนี่ย ไม่ทำดีไหมเนี่ย!”

เขาโยนปากกาทิ้ง แต่อึดใจเดียวก็หยิบมันขึ้นมาวาดต่อ

“ไม่ทำก็ไม่มีแดก! โว้ย!”

ผมหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่คิดจะเข้าไปกวน จึงเดินกลับเข้ามาในห้องนอน ผ่านไปเกือบๆ ชั่วโมง ก็ได้ยินเสียงเฮลั่นห้องของคนข้างนอกที่บ่งบอกว่างานเสร็จแล้ว ผมจึงเดินออกไป พี่อิสทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาวแล้วคว้าหมอนที่หล่นอยู่กับพื้นขึ้นมาหนุน จังหวะนั้นก็หันมาเห็นผมพอดี

“อ้าว หลินปิง นึกว่าตายคาห้องกูไปแล้ว”

“ตื่นนานแล้วเหอะ แต่เห็นพี่ทำงานอยู่เลยไม่อยากกวน”

“มานั่งนี่ดิ๊” เขาเขยิบตัวเข้าไปชิดพนักพิงโซฟาเพื่อให้ผมเข้าไปนั่ง ผมจึงเดินไปนั่งตามคำสั่ง ปลายนิ้วของเขาแตะตามลำตัวในจุดที่เป็นรอยเขียวช้ำ

“เจ็บปะเนี่ย”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ให้บอกว่าไม่เจ็บก็คงจะโกหก

“ไปซื้อยามาทาไป หรือจะให้กูไปซื้อให้?”

“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวซื้อเอง”

“กูตื่นมาต้องเห็นยานะ ไม่งั้นกูจะฟาดมึงซ้ำ”

“ครับ เดี๋ยวออกไปซื้อเลย”

“เออ เดี๋ยวช้ำในตายไม่รู้ตัวนะมึง”

“ครับ แล้วนี่พี่เพิ่งได้นอนเหรอ”

“เออ ง่วงมากเลย”

“ทำไมไม่ไปนอนในห้องล่ะพี่” ผมว่าพลางลุกออกมาจากโซฟา

“ขี้เกียจพาร่างไป กูจะหลับกลางอากาศละเนี่ย มึงก็หาอะไรทำไปละกัน คอมตัวซ้ายเปิดเล่นได้ แต่ตัวขวาห้ามยุ่ง แล้วอย่าเสือกเข้าโฟลเดอร์ที่ชื่อแปลกๆ หนังโป๊กูเยอะ ทีวีเปิดดูได้แต่หารีโมตเอาเอง ถ้าหิวก็มีมาม่า ทำกินเอาเอง โตแล้วต้องช่วยตัวเองนะจ๊ะ นอนละ ฝันดี” พี่อิสร่ายยาวแล้วสะบัดผ้าห่มลายคิตตี้สีชมพูที่ผืนสั้นกว่าตัวขึ้นคลุม...เคยมีใครบอกไหมว่าหน้าตาพี่ขัดกับการห่มผ้าลายคิตตี้มากเลย

ความง่วงของเขาคงถึงขีดสุดแล้วจริงๆ แค่หลับตาลงครู่เดียวก็ดูเหมือนจะหลับไปเลย ผมปล่อยให้เขานอนแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น ในส่วนของห้องนั่งเล่นที่ดูสกปรกนั่น ผมก็อยากช่วยทำความสะอาดแต่ถูกสั่งห้ามไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่กล้าหยิบจับอะไรในบ้านเขาเพราะถ้ามันเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางขึ้นมา หาไม่เจอจะโดนโวยวายเอาได้

ผมนั่งเงียบๆ อยู่ในบ้านพี่อิสโดยไม่มีอะไรทำ ก่อนจะออกมาเดินเล่นข้างนอก วันนี้ผมก็ไม่ต้องทำงาน ร้านไม่ได้ปิดแต่ตารางงานพาร์ตไทม์ของผมมีแค่จันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น ใกล้ๆ บ้านพี่อิสมีสวนสาธารณะและสนามเด็กเล่น ผมเข้าไปนั่งที่ชิงช้าริมสนามและแกว่งมันเบาๆ ในใจก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถอนใจออกมาเบาๆ เพราะหนึ่งในความคิดนั้น...วันนี้ผมคงต้องกลับบ้าน

มีหลายเหตุผลที่ผมต้องกลับไป พรุ่งนี้ผมต้องไปโรงเรียน ผมอยู่บ้านพี่อิสไปตลอดไม่ได้ และตอนนี้ป้าคงหายโกรธและใจเย็นลงแล้ว มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกไล่มานอนนอกบ้าน ตอนที่เดินกลับเข้าบ้านไปมันก็เลยไม่ต้องเคอะเขิน ไม่ใช่อารมณ์ที่ว่าเป็นเด็กจองหองเดินออกจากบ้านอย่างกล้าหาญแล้วก็ต้องกลับไปตายรัง แบบนั้นคงน่าอาย แต่ผมชินแล้ว เดินกลับเข้าบ้านทุกคนก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เพราะผมต้องการจะหลบเลี่ยงการเจอหน้าพวกเขาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เลยคิดจะกลับเข้าไปตอนที่ทุกคนนอนหมดแล้วก็น่าจะดีกว่า

ผมเดินออกมาหาอะไรกินแถวๆ บ้านพี่อิส ตอนที่เดินผ่านร้านขายยาก็นึกถึงคำพูดของเขาที่กำชับให้ผมซื้อยา จึงถอยหลังกลับมาแล้วเปิดประตูร้านเข้าไป

กริ๊ง!

เสียงกริ่งหน้าประตูทำให้คนที่อยู่ในนั้นหันขวับมา แต่กลายเป็นผมที่ต้องตกใจ

“ช็อก?”

“อ้าว ปิง”

ผมได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วยกมือขึ้นทักทายอย่างดูเก้ๆ กังๆ

“มาซื้อยาเหรอ”

ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนที่ช็อกจะตะโกนเข้าไปเรียกคนข้างใน

“พ่อ มีคนมาซื้อยา” ผมเลยเข้าใจว่าที่นี่คงจะเป็นร้านยาของพ่อเขา สิ้นเสียงเรียกของช็อก คนข้างในก็เดินออกมา ชายที่สวมเสื้อกาวน์มีสถานะเป็นเภสัชกรและเป็นพ่อของช็อกที่เจ้าตัวกำลังแนะนำ

“ปิง นี่พ่อเรา พ่อ นี่เพื่อนผม”

“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พ่อช็อกที่ตอบรับด้วยรอยยิ้มใจดี

“ปิงเป็นอะไรอะ ไม่สบายเหรอ”

“เปล่าๆ สบายดี แค่มาซื้อยา ยาทาแก้ฟกช้ำ”

“ช้ำอะไร ช้ำใจเหรอ” ช็อกพูดแล้วหัวเราะออกมา ทั้งผมและพ่อของเขาหันไปมองนิ่งๆ จนคนเล่นมุกฝืดรู้ตัวจึงหยุดหัวเราะไปเอง

“เออ ไม่ตลกก็ได้”

“ยาแก้ช้ำเหรอ เอาแบบไหนดีลูก” พ่อของเขาว่าพลางร่ายยาวถึงประเภทของยาให้ผมฟัง

“แบบไหนก็ได้ครับ”

“ใช้เองไหมลูก”

ผมพยักหน้ารับ

“งั้นขอดูแผลได้ไหม จะได้รู้ว่าควรทายาแบบไหน”

“แผล...มันอยู่ในเสื้ออะครับ”

“ก็ถอดสิ”

ผมกะพริบตาปริบๆ มองช็อกที่พูดอย่างนั้น

“ถอดเลย จะได้ให้พ่อดูแผล งั้นเดี๋ยวถอดให้”

“เฮ้ย!” ผมร้องลั่นเมื่อช็อกตรงเข้ามารูดซิปเสื้อคลุมผมออก

“อายอะไรวะ แค่นี้เอง ถอดเลย”

“อย่าแกล้งเพื่อนสิช็อก”

“ก็เพื่อนมันน่าแกล้ง” ช็อกหัวเราะหน่อยๆ แล้วถอดเสื้อคลุมผมออกได้สำเร็จ ก่อนรอยยิ้มหุบลงช้าๆ หัวคิ้วเขาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยตอนที่เห็นรอยช้ำบนตัวผม

“เฮ้ย ไปโดนอะไรมาเนี่ย” เขาไล่สายตามองไปทั่วร่างกายแล้วดึงเสื้อยืดตัวในผมขึ้น ผมอายนิดหน่อยที่ถูกดึงเสื้อขึ้นแถมสายตานั่นยังเลื่อนไปทั่วร่างอีก ได้แต่ฝืนยิ้มเคอะๆ เขินๆ   

“โดนพวกเพื่อนแกล้งเหรอ ไอ้พวกที่มันชอบแกล้งอะ ชื่ออะไรนะ”

“เปล่าๆ ไม่ใช่”

“แล้วไปโดนอะไรมา”

“โดนไม้เรียว”

“ทำไมมันเยอะแบบนี้อะ”

“เพราะเราดื้อไง”

“หน้าตาอย่างนี้อะนะ”

“หน้าอย่างเรา...ทำไมเหรอ”

“จ๋องไง”

ผมกะพริบตาปริบมองคนที่พูดอย่างจริงจัง

“จ๋องอย่างนี้ดื้อเป็นด้วย”

“อย่าว่าเพื่อนสิช็อก”

“โธ่พ่อ เพื่อนกัน” ช็อกพูดขำๆ แล้วยกมือขึ้นกอดไหล่ผมให้เขยิบเข้าไปข้างๆ ผมเผลอตัวแข็งทื่อเมื่อถูกกอดไหล่อยู่อย่างนั้น มันแบบโอ้โฮ...ช็อกระยะประชิด

“งั้นเอายาตัวนี้ไปนะ บางจุดนี่เหมือนจะบวมด้วย กลับไปถึงบ้านทายาเลยนะ”

ผมพยักหน้า ผละตัวออกจากกอดของช็อกแล้วขยับไปรับยาจากพ่อของเขา

“ใช้ทานะห้ามกิน แล้วก็อาบน้ำแล้วค่อยทา ไม่ใช่ทาแล้วไปอาบน้ำนะ” ช็อกพูดไปขำไปอยู่คนเดียว มุกฝืดของเขาทำให้ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ แล้วเปลี่ยนเรื่องไปถามราคากับพ่อของเขา

“อันนี้เท่าไรครับ”

“ไม่เป็นไรลูก เพื่อนช็อก พ่อไม่คิดตังค์”

“แต่ว่า...”

“เอาไปเหอะน่า” ช็อกว่าแล้วหยิบยาในมือยัดเข้ากระเป๋าเสื้อคลุมของผม

“ขอบคุณมากครับ”

“ไม่เป็นไรครับ”

“งั้นเรา...เราไปก่อนนะ”

“อือ แล้วถ้าทายาไม่หาย ต้องไปหาหมอนะ”

ผมพยักหน้ารับอีกที ก่อนจะหันไปยกมือไหว้พ่อช็อกแล้วเดินไปที่ประตู เสียงของช็อกเอ่ยเรียกผมเอาไว้ก่อน

“ปิง”

“หือ?”

“แล้วมาบอกด้วยนะว่าหายหรือไม่หาย เจอกันที่โรงเรียน”

“อื้อ” ผมตอบรับแล้วเปิดประตูออกมา มุมปากขยับเป็นรอยยิ้มเมื่อเดินออกมาได้ระยะหนึ่ง เพิ่งเคยได้คุยกับช็อกนานๆ เพิ่งเข้าใจว่าทำไมคนค่อนโรงเรียนถึงชอบช็อก เพราะเขาเป็นแบบนี้นี่เอง...แบบน่ารักเนอะ

To be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 27-01-2017 00:30:09
ถึงปิงจะบอกว่าช็อกน่ารัก แต่เราว่าพี่อิสระน่ารักกว่า (?)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: TR ที่ 27-01-2017 00:47:07
เห็นชื่อคนแต่งแล้วรีบกดเข้ามาโดยไม่ลังเล ติดใจตั้งแต่บูรพากับน้องเหนือ ;)
ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ แค่3ตอนก็ติดแล้ว
ชอบพี่อิสคนประหลาดจังเลย มีความเพี้ยนสูงดี
ชีวิตหลินปิงนี่เหมือนจะรันทด แต่ชอบที่ปิงไม่ทำมองตัวเองว่ารันทดเบอร์นั้น
หรืออาจจะเป็นอย่างที่ช็อกว่า ว่าปิงมันเอ๋อ
รอตอนต่อไปค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 27-01-2017 20:20:45
ออกมาจากบ้านนั้นเถอะหลินปิง ชีวิตรันทดค่อดๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 27-01-2017 23:36:05
ชอบน้องปิงจังเลยค่ะ ชอบความคิด การมองโลกของน้อง
แต่อ่านแล้วอยากร้องให้จริงๆ นะ  :mew4:
ชอบค่ะ รอติดตามนะคะ
คนเขียนสู้ๆ นะคะ
 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: momonuke ที่ 27-01-2017 23:37:47
ชอบช็อกเบาๆ 555555555555555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 3] 26-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-01-2017 00:12:56
อย่าอยู่เลยปิง บ้านแบบนี้  :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 28-01-2017 00:27:05
ตอนที่ 4

เหล้าจ๋า

 

ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านพี่อิส เจ้าของบ้านยังนอนอยู่ที่เดิม ผมก็เลยเข้าไปนั่งเงียบๆ ที่หน้าทีวี นั่งมองเข็มนาฬิกาที่ขยับไปทีละวินาที ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเรื่องสนุก แต่ตอนนี้เป็นกิจกรรมที่เพลินที่สุดเลย

“เฮ้ย”

สะดุ้งโหยงเพราะเสียงเรียกที่ดังมาจากข้างหลัง ผมเงยหน้ามองพี่อิสด้วยสภาพที่เพิ่งลุกออกมาจากที่นอนยังดูสะลึมสะลือ ผมเผ้าไม่เป็นทรง และใบหน้ายับๆ เหมือนยังนอนไม่เต็มอิ่ม อ้าปากหาวจนกรามขยับเสียงดังกร๊อบ

“ตื่นแล้วเหรอพี่”

“นั่งทำไรเนี่ย” เขาถามขณะนั่งลงข้างๆ ผม

“ก็แค่นั่ง...นั่งเฉยๆ ครับ”

“นั่งเฉยๆ กูนึกว่าผ้าขี้ริ้ว”

ผมหันไปมองเคืองๆ จนอีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไม่มีใครเล่นด้วยเหรอ”

“ผมไม่ได้อยากเล่นกับใครสักหน่อย”

“กินไรยังอะ”

“กินแล้วครับ แล้วพี่หิวเปล่า”

“หิวดิ หิวตาลายละเนี่ย มึงนี่กินได้ไหม จับแดกแม่ง” แกล้งพูดพลางยกมือจับหัวผมโยกเข้าไปหา

“อื้อ! กินไม่ได้! ผมซื้อข้าวมาให้พี่แล้ว เดี๋ยวไปเอาให้”

“เออ รู้หน้าที่ มีประโยชน์นะมึงเนี่ย”

เพราะว่าเขาใจดีให้ผมมานอนที่บ้าน ผมก็เลยอยากตอบแทนเขาบ้าง เดินไปหยิบกล่องข้าวที่ซื้อมา มองหาจานแต่ไม่เห็นว่าอยู่ตรงไหนก็เลยตะโกนถาม

“พี่อิส จานอยู่ตรงไหนอะ”

“ตู้ข้างบนอะ”

ผมเงยหน้ามองตู้เก็บของที่อยู่เหนือหัวผม ยืดสุดแขนไปเปิดตู้ได้แต่หยิบจานข้างในไม่ถึง ตอนติดตั้งเฟอร์นิเจอร์นี่คำนวณส่วนสูงจากเจ้าของบ้านคนเดียวเลยใช่ไหม ผมถอนใจนิดหน่อยแล้วหยิบช้อนมาคันหนึ่งก่อนเดินกลับไปหาพี่อิส

“ไหนจานอะ”

“เอาไม่ถึง”

“แคระเอ๊ย!”

“ตู้มันสูงเหอะ กินในกล่องนี่แหละจะได้ไม่ต้องล้างจาน”

เขาพยักหน้าขำๆ แล้วเปิดกล่องข้าวกิน ยังไม่ทันจะเอาเข้าปากก็ต้องหยุดชะงัก ทั้งผมและเขาสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงปึงปังจากด้านนอก

ปังๆๆๆ!

ผมหันไปมองเสียงทุบประตูด้านนอกแล้วหันไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ

“พวกเหี้ยบุกบ้านกูอีกละ ปิงไปเปิดให้หน่อยดิ”

ผมลุกตามคำสั่ง ไปเปิดประตูให้คนที่ยังเคาะไม่หยุดอยู่ที่หน้าบ้าน

“โย่ว! พี่อิส! อ้าว ไม่ใช่ว่ะ”

ผมเปิดประตูไปเจอผู้ชายสามคนด้านนอกนั่น พวกเขามองผมงงๆ ขณะที่เดินเข้ามาในบ้าน จนเดินไปถึงพี่อิสก็ยังมองไม่ละสายตา ผมก็เก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าจะวางตัวเองไว้ส่วนไหนของบ้านดี

“ใครอะ เด็กพี่เหรอ”

“เออ เก็บมาเลี้ยง” พี่อิสว่าแล้วกวักมือเรียกผมเข้าไปหา ผมจึงเดินไปยืนข้างๆ เขา

“ไหนพี่บอกอยากได้แมวใหม่ แล้วนี่ไปเอาตัวอะไรมาเลี้ยง”

“หมีแพนด้า”

ทั้งสามคนขมวดคิ้วมองผมอีกที

“มันก็เหมือนแมวดีไม่ใช่เหรอวะ ดูหน้ามันดิเนี่ย” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือมาเกาคางผม ผมได้แต่สะบัดหน้าหนี เกือบเคลิ้มไง

“เอาดีๆ ตกลงว่าใคร”

“นี่หลินปิง”

“ปิงเฉยๆ ครับ” ผมเอ่ยปากแทรก

“เด็กดื้อโดนไล่ออกจากบ้าน กูสงสารเลยให้มานอนนี่”

“หลอกเด็กมาเย่ปะเนี่ยพี่”

“เย่ห่าอะไรล่ะ นี่มัธยม ฟันน้ำนมหมดปากยังก็ไม่รู้ กูไม่อยากเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง”

พวกเขาหัวเราะครืน พี่อิสเองก็ยิ้มบางๆ คงจะมีผมคนเดียวที่ยืนขมวดคิ้วยุ่งๆ  ไม่เข้าใจอะ เย่คืออะไร หันมองหน้าพี่อิส แต่ไม่ทันจะได้ถามเขาก็เปลี่ยนเรื่องไปแนะนำทั้งสามคนให้ผมรู้จัก

“นี่พวกรุ่นน้องที่มหาลัยอะ กูเรียนจบแล้วแต่สลัดพวกมันไม่หลุด พวกสายรหัสจัญไร นี่ไอ้ปอนด์” พี่อิสชี้ไปที่ผู้ชายหน้าตี๋ผมยาวประบ่า มาดเซอร์ในแบบฉบับผู้ชายสายอาร์ต

“นี่ไอ้โอม” อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ลักษณะคล้ายๆ กัน แต่คนนี้ดูคมเข้มกว่า ทรงผมไถข้างแต่ด้านบนยาวและถูกมัดเอาไว้แบบเท่ๆ มีหนวดเครานิดหน่อย

“นี่ไอ้ปรินซ์” คนนี้แปลกหน่อยตรงที่ไม่ดูเซอร์ ใบหน้าเกลี้ยงเกลา ทรงผมสุภาพดูเรียบร้อย และมีลักยิ้มที่ข้างแก้มทั้งสองข้างตอนที่กำลังยิ้มให้ผมอยู่

“สวัสดีครับ” ผมยกมือขึ้นไหว้ แต่พี่อิสปัดมือผมลง

“ไม่ต้องไหว้พวกมันหรอก ไม่น่าเคารพ”

“นี่พี่ครับ น้องมันมีมารยาทก็ดีแล้วไง อย่าให้ทรามเหมือนพี่เลย”

“มึงออกจากบ้านกูไปเลย”

“โด่! ใจน้อย ยิ่งแก่ยิ่งใจน้อย”

“ตกลงมาทำไมเนี่ย”

“ผมกับไอ้โอมมาเก็บงาน ส่วนไอ้ปรินซ์มาทำเวร”

“เออ มาพอดีแม่บ้าน กวาดไอ้พวกนี้ทิ้งให้หมดทีดิ๊ เกะกะฉิบหาย”

“เฮ้ยๆ อย่ายุ่งกับผลงานพวกกูนะโว้ย” พี่ปอนด์กับพี่โอมเข้าไปในกองเศษกระดาษพวกนั้นแล้วจัดการกับโมเดลที่วางเอาไว้ ส่วนพี่ปรินซ์ที่บอกว่าเป็นแม่บ้านคือเป็นแม่บ้านจริงๆ  พี่อิสบอกให้ฟังว่าพี่ปรินซ์ขอให้พี่อิสช่วยทำโปรเจกต์คราวที่แล้วแลกกับการทำความสะอาดบ้านให้สองเดือน ทุกๆ วันอาทิตย์พี่ปรินซ์เลยต้องมาทำเวร ทำความสะอาดทุกซอกทุกมุม นั่นคงเป็นเหตุผลที่พี่อิสไม่ให้ผมแตะงานบ้าน เพราะมีแม่บ้านประจำตำแหน่งอยู่แล้ว คนที่กำลังเก็บกวาดบ้านชี้ไปยังจานข้าวแมวซึ่งยังวางอยู่ที่เดิมขึ้นมาแล้วเอ่ยปากถาม

“พี่อิส อาหารบังเอิญนี่ทิ้ง...”

“อย่ายุ่ง! อาหารจานสุดท้ายของมัน กูเก็บไว้ดูต่างหน้า”

พี่ปรินซ์พยักหน้ารับแล้วเดินข้ามจานข้าวของน้องสาวพี่อิสไป คงจะทิ้งเอาไว้ให้เหี่ยวแห้งกลายเป็นฟอสซิลอาหารแมวเลยมั้ง

“หลินปิง”

“ครับ”

“กลับบ้านเลยเปล่า”

“อีกแป๊บหนึ่งได้ไหมอะครับ อยากให้ดึกกว่านี้ ให้เขานอนกันให้หมดก่อน”

“เออ จะอยู่ก็อยู่ ไม่ได้ว่าอะไร แค่กลัวจะรำคาญไอ้พวกนี้อะ”

“ไม่เป็นไรครับ”

“งั้นไปนั่งดูทีวีกัน”

พื้นที่หน้าทีวีถูกพี่โอมกับพี่ปอนด์ครองไปแล้ว โซฟาหน้าทีวีก็ถูกสุมไปด้วยข้าวของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานของพวกเขา

“หลบดิ กูจะดูทีวี”

“แหวกเอาสิพี่”

พี่อิสเอาเท้าเขี่ยของที่พื้นหลบไปข้างๆ เพื่อแหวกทางให้เดินเข้าไปถึงโซฟา หยิบของบนโซฟาโยนลงพื้นเพื่อเคลียร์พื้นที่ หย่อนตัวลงนั่งก่อนแล้วตบแปะๆ ลงข้างตัวเขาเป็นเชิงเรียกให้ผมเข้าไปนั่งด้วย

“นี่ปิง”

“ครับ?” ผมหันไปหาพี่โอมที่เรียก

“มาอยู่กับพี่อิสไม่กลัวเหรอ”

“กลัวอะไรเหรอครับ”

“พี่เขาจะจับปล้ำเอาอะดิ”

ผมหันขวับไปหาพี่อิส เขาได้แต่กลอกตามองบน

“มึงคิดว่ากูจะกล้าไหม ตัวเท่าหางหมา ทำอะไรรุนแรงได้ไหมเนี่ย มึงดูแขนมันเล็กกว่านิ้วโป้งตีนกูอีกมั้ง” พี่อิสว่าแล้วจับแขนผมโบกไปโบกมา

“ไม่ต้องกลัวหรอกปิง พี่รู้จักพี่อิสมายังไม่เคยเห็นพี่แกปล้ำใครเลย”

“เออ ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ทำเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้”

“สงสัยจู๋เล็ก”

“ไอ้พวกเหี้ย! เดี๋ยวกูถีบ!”

“เสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้วมั้ง ต้องหาคนมาปลุกนกเขาให้ผงาดขึ้นมาขัน”

“ไอ้สันดานนี่! มึงพูดอะไร เห็นไหมเด็กนั่งอยู่นี่เนี่ย!”

“โทษทีๆ”

ผมไม่เป็นอันได้ดูทีวีเพราะถูกพี่โอมและพี่ปอนด์ชวนคุยไม่หยุด ขณะที่พี่ปรินซ์ก็ปัดกวาดเช็ดถูบ้านไปเรื่อยๆ  ระหว่างพูดคุยผมก็ได้แต่หัวเราะไปกับคำพูดทะลึ่งตึงตังของพวกเขา ก่อนที่สายตาจะไปสบเข้ากับพี่อิสที่มองมาพอดี

“มองอะไรครับ” ผมถามเบาๆ

“เวลาหัวเราะก็ต้องหน้าแดงด้วยเหรอ”

“ก็ขาวไง” ผมว่าแล้วยกมือนาบหน้า ผมเป็นพวกหน้าแดงง่ายมาก ไม่ใช่แค่ตอนเขิน แต่ตอนที่เหนื่อย กระทั่งอากาศร้อนหรือหนาว ใบหน้าผมก็จะเปลี่ยนสีง่ายมาก

“แหม ไอ้หนูกลูต้า ขาวจนกูหมั่นไส้ละเนี่ย”

ผมได้แต่หัวเราะตอนที่พี่อิสยกมือผลักหัวผมเบาๆ

“วันนี้มึงหัวเราะมากกว่าทุกวันนะ”

“ก็พวกพี่ตลก ปกติไม่ได้ขำแบบนี้หรอก”

“กัญชาไหม ขำทั้งวันแน่นอน”

ผมหันขวับไปมองด้วยหางตา

“อ๋อ โทษๆ ลืมไปว่าเด็กน้อย” พี่อิสพูดขำๆ แล้วยกมือขยี้หัวผมอีกที ก่อนที่พี่โอมจะเงยหน้าขึ้นมาเรียก

“พี่ กินเหล้ากันปะ”

“กูอะแดกได้ แต่พวกมึงไม่มีเรียนกันหรือไง”

“ไม่มี”

“มึงไปซื้อน้ำแข็งมาเลย เหล้ายังเหลือ”

พี่โอมกับพี่ปอนด์ละจากงานออกไปซื้อของ สักพักหนึ่งก็กลับเข้ามา คนหนึ่งเดินไปหยิบแก้วและขวดเหล้าในครัว อีกคนหาพื้นที่ตั้งวง

“เอาตรงไหนเนี่ยพี่ จะเลอะงานปะ”

“ของพวกมึงอะเกะกะ มาตรงนี้มา” พี่อิสขยับวงเหล้าไปใกล้ๆ กับมุมทำงานของเขา เอาเท้าเขี่ยจานข้าวบังเอิญหลบไปอีกทาง ไหนห้ามคนอื่นยุ่ง ไหนบอกอาหารจานสุดท้ายเอาไว้ดูต่างหน้า เขี่ยทิ้งเป็นกองขี้แมวเลย

เมื่อวงเหล้าพร้อม คนก็พร้อม พี่อิสเรียกผมไปนั่งใกล้ๆ แล้วโยนขนมขบเคี้ยวที่พี่โอมกับพี่ปอนด์ซื้อมาให้

“เด็กน้อย นั่งกินขนมไปนะหนู”

“ปรินซ์โว้ย ปรินซ์!”

คนถูกเรียกเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมผ้าถูพื้นในมือ

“พอแล้ว มาแดกเหล้า”

คนตรงนั้นพยักหน้ารับ วางผ้าถูลงกับพื้น เดินไปล้างมือในครัวก่อนจะเดินเข้ามาร่วมวงด้วย พี่ปรินซ์นั่งลงข้างๆ ผมแล้วก็ยิ้มให้ ก่อนเปลี่ยนสีหน้าอ่อนโยนไปพูดจาขึงขังกับเพื่อนที่เหลือ 

“แดกกันทุกอาทิตย์ เมื่อไรงานพวกมึงจะเสร็จเนี่ย”

“เออน่า พวกกูทำเรื่อยๆ”

“แล้วของมึงอะเสร็จยัง” พี่อิสหันไปถามพี่ปรินซ์

“เสร็จแล้ว ไม่ต้องห่วง”

“ห่วงดิ เดี๋ยวก็มาอ้อนให้กูช่วยอีก”

“ครั้งนั้นมันสุดวิสัยเหอะ ผมไม่สบายไงเลยทำไม่ทัน”

“ไม่รู้แหละ กูเบื่อจะช่วยงานพวกมึงแล้ว”

“แหม ช่วยน้องหน่อยมันจะเป็นอะไรไป คุณอิสระสุดหล่อเกาหลีลีมินโฮสุดๆ” พี่อิสหลุดยิ้มเขินๆ กับคำเยินยอของคนข้างๆ ก่อนรีบปรับสีหน้าพูดจาดุๆ หน่อยเป็นเชิงสั่งสอน 

“เออ แต่ก็หัดรับผิดชอบมั่ง โตๆ กันแล้ว กูไม่ได้มีเวลาว่างมาช่วยงานพวกมึงตลอดนะ พวกมึงก็รู้ว่ากูนี่ฟรีแลนซ์คิวทอง”

“มีงานเดือนละงานสองงานเนี่ยนะ”

“แดก!” พี่อิสชูแก้วเหล้าขึ้นเปลี่ยนเรื่อง

“เออพี่ ผมมีอะไรมาให้ด้วย” พี่โอมว่าแล้วหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังออกมาสองขวดแต่ไม่มีฉลากแปะเอาไว้

“ไรวะ”

“ยาดอง”

“เชี่ย! ฟีลไหนเนี่ย”

“โด่ไม่รู้ล้ม อะ จัดไปเลย ไอ้ที่ล้มๆ จะได้โด่ขึ้นมา”

“แล้วถ้ามันโด่แล้วไม่ล้มล่ะ”

“ฉิบหายแน่นอน”

ทั้งสามคนหัวเราะลั่นกับการตบมุกกันไปมา ส่วนพี่อิสหันมามองผมแล้วหันไปปรามรุ่นน้องของตัวเอง

“นี่ๆ พวกมึง ต่อไปนี้เล่นมุกอะไรมึงกรองหน่อยนะ บ้านกูมีเยาวชนเห็นไหมเนี่ย” เขาว่าพลางยกมือมาเคาะหัวผมสองสามที

“แล้วไอ้ที่มานั่งกินเหล้าต่อหน้าเยาวชนเนี่ยตัวอย่างที่ดีมากเลยดิ” พี่ปรินซ์ว่า

“ไม่เป็นไรครับ กินเลยๆ” ผมรีบบอก

“แล้วกินเหล้าเป็นปะเนี่ย”

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ อย่าว่าแต่กินเลย เพิ่งเคยเห็นเหล้าใกล้ๆ ก็วันนี้แหละ

“แลบลิ้นดิ”

“ครับ?”

“แลบลิ้น”

ผมแลบลิ้นออกตามคำสั่งของพี่อิส ก่อนเขาจะใช้นิ้วจุ่มลงไปในแก้วเหล้าแล้วแตะเข้ามาที่ลิ้นผม

“อื้อ!”

ผมขมวดคิ้วแน่น เหล้าเพียวๆ แค่หยดเดียวก็ทำให้ผมหน้าเหยเกเพราะรสชาติแปลกๆ ของมัน ผมยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มเพื่อล้างรสชาติที่ติดอยู่ที่ลิ้น พี่อิสได้แต่หัวเราะเบาๆ ที่ได้แกล้งผม

“เด็กน้อยเอ๊ย ลองมะ กูชงอ่อนๆ ให้”

“พี่ จะมอมเมาเยาวชนหรือไง น้องมันกินไม่เป็นน่ะดีแล้ว ไม่ต้องสอนอะไรเหี้ยๆ ให้หรอก”

“เหี้ยยังไง เขาก็กินกันทั้งโลกอะ มันโตแล้ว นี่ม.หกแล้ว กินให้รู้เว้ย” พี่อิสพูดพลางเทเหล้าใส่แก้วแล้วผสมด้วยน้ำอัดลมยื่นมาให้ผม

“ลองดู”

ผมลังเลนิดหน่อย ผมไม่เคยคิดแตะของพวกนี้เลย เพราะถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยว่ามันเป็นอบายมุขอะไรเทือกนั้น แต่โตแล้วก็อยากลองดู เอาให้รู้อย่างที่พี่อิสบอก แค่อยากชิมว่ารสชาติมันเป็นยังไงจึงยื่นมือไปรับแก้วนั้นจิบเข้าปากไปหนึ่งที พวกพี่ทั้งหมดมองมากันแบบลุ้นๆ

“เป็นไง”

“รสชาติเหมือนโคล่าอะ”

“ก็มันโคล่าไง เหล้ามันผสมอยู่ ไม่ได้รสชาติเลยเหรอ”

ผมสั่นหน้ายิ้มๆ ไม่รู้อะ...มันเหมือนน้ำอัดลมเฉยๆ เลย

“เอาอีกไหม”

“นี่พี่ สาบานว่าไม่ได้คิดจะหลอกมอมเหล้าแล้วลากเข้าห้องอะ”

“พวกมึงนี่สันดานต่ำตมจริงๆ กูสอนมันกินเหล้าเฉยๆ เว้ย”

“งั้นเอาโด่ไม่รู้ล้มไปซัดก่อน เผื่อเปลี่ยนใจอยากลากเข้าห้องแล้วมันจะไม่โด่”

“ไอ้เหี้ย! กูบอกให้กรองมุกไง กรองมุก!”

ผมนั่งร่วมวงกับพวกพี่ๆ จนเวลาล่วงเลยไปไม่รู้ตัว เหล้าที่ชงบางๆ แก้วแล้วแก้วเล่าส่งมาให้ผมดื่ม พอดื่มไปสักพักมันก็หยุดไม่ได้แล้ว พูดคุยกันไปด้วย ดื่มกันไปด้วย เป็นการสังสรรค์ที่ผมเพิ่งเข้าใจว่ามันสนุกยังไง รู้ตัวอีกทีผมก็เห็นพี่อิสแยกร่างได้แล้วอะ

“โอ๊ะ! พี่อิสมีคู่แฝด”

“ฮะ?”

“เมาแล้วแยกร่างได้เหรอ เจ๋งว่ะ!”

“หลินปิง มึงเมาแล้วใช่ไหมเนี่ย”

“เมาต้องเป็นยังไงอะ”

“ก็เป็นแบบเนี้ย”

“ต้องแยกร่างได้เหรอ” ผมถามเบาๆ ยกนิ้วชี้พี่อิสสองคนสลับกันไปมา

“กลับบ้านไหม กูไปส่ง”

“ไม่เอา! ไม่กลับ!” ผมโวยวาย เผลอสะบัดมือพี่อิสที่เข้ามาจับ

“เชี่ย เมาจริง”

“ไงล่ะ มอมเหล้าน้องอะ”

“หลินปิง กลับบ้านกัน”

“ผมไม่อยากกลับ ผมไม่ชอบบ้าน ผมไม่ชอบคนที่บ้าน” ผมพูดพลางส่ายหน้ารัว

“ทำไมอะ”

“ป้าชอบด่าผม ผมโดนตีบ่อยมากทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ผมไม่ควรเล่าใช่ไหมอะ พี่อิสไม่ชอบฟังเรื่องดราม่าใช่ไหม”

“อยากเล่าก็เล่ามาเหอะ”

ผมเห็นน้ำตาตัวเองที่ร่วงแหมะลงมาบนหลังมือ เมาแล้วแน่ๆ ผมรู้ตัวในตอนที่ความดราม่าพุ่งเข้าชนแบบหยุดเล่าความขมขื่นในชีวิตตัวเองไม่ได้เลย ทั้งที่ความจริงผมไม่เคยคิดจะเล่าเรื่องในบ้านให้ใครฟัง ไม่ค่อยร้องไห้ให้ใครเห็น เคยคิดว่าใจมันด้านชาจนไม่มีความรู้สึก แต่จริงๆ ไม่ใช่ ผมรู้สึกแต่แค่เก็บมันไว้ เมื่อได้โอกาสแสดงความรู้สึกนั้นมันก็ไหลทะลักออกมาไม่หยุด ผมบังคับตัวเองไม่ให้ฟูมฟายไม่ได้เลย

“ผมเจ็บมาก แล้วก็เหนื่อยมาก ผมคิดถึงพ่อกับแม่ด้วย”

“ไม่เอา ไม่ร้อง”

“ผมไม่ไหวแล้ว”

“มาโอ๋มา”

ผมซุกตัวเข้าไปในอกของพี่อิส นอกจากรู้ว่าเขาชื่ออิสระและเป็นนักวาดภาพประกอบฟรีแลนซ์ นอกจากนั้นผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกเลย รู้จักกันได้ไม่นานแต่ผมชอบเวลาอยู่กับเขา ผมได้พูดมากกว่าที่เคย ได้หัวเราะมากกว่าทุกครั้ง และตอนนี้ผมรู้แล้วว่าเหล้ามันดียังไง มันทำให้ความรู้สึกของผมเป็นอิสระอย่างไม่ต้องกักเก็บเอาไว้...ผมคิดว่าผมเริ่มชอบแล้วละ...หมายถึงเหล้านะ

To be continued.

 



คำเตือน
สุรา เป็นเหตุก่อมะเร็งได้
สุรา เป็นเหตุให้เซ็กส์เสื่อมได้
สุรา เป็นเหตุให้พิการและเสียชีวิตได้
สุรา เป็นเหตุทะเลาะวิวาทและอาชญากรรมได้
สุรา ทำร้ายครอบครัว ทำลายสังคมได้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 28-01-2017 08:22:08
น้องปิง สร่างเมาแล้วกลับไปขนของมาอยู่บ้านของพี่อิสเลย
ยังไงหนูก็ทำงานเลี้ยงตัวเองอยู่แล้วนี่
ชีวิตเป็นของเรา ไม่มีความสุขก็อย่าทน
//อารมณ์มาเต็ม ฮ่า
รอตอนต่อไปนะคะ
 :L1: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-01-2017 09:31:23
ปิง อยู่ให้เขาตีทั้งแม่ทั้งลูก มานานแล้ว
พอเหอะ บ้านป้าน่ะ ออกมาอยู่ข้างนอกได้และ
อยู่อย่างอิสระ ดีกับร่างกายและจิตใจปิง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 28-01-2017 16:38:38
พี่อิสรับน้องมาเลี้ยงเลย สงสารน้องงงง  :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-01-2017 18:48:52
แกล้งมอมน้อง ดราม่าเอย น้ำตาเอยมาเลยไหม
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ppreaww ที่ 28-01-2017 20:41:42
ชอบจังเลยค่ะ ตัวละครมีเสน่ห์ทุกตัวเลย เนื้อเรื่องก็อ่านเพลิน ดีงาม
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 4] 28-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 28-01-2017 21:45:17
ทีมพี่อิส
ขอเชียร์พี่อิสนะ ตลก น่ารัก เก็บหลินปิงมาเลี้ยงด้วย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 29-01-2017 21:10:16
 

ตอนที่ 5

เมาค้าง

 

เช้านี้ผมถูกปลุกด้วยเสียงพูดคุยที่ดังลอดเข้ามาในห้อง กะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับแสงจากด้านนอกที่สาดเข้ามา เมื่อสายตาขยายได้เต็มที่แล้วกวาดตามองไปรอบๆ ก็เด้งพรวดขึ้นมาจากเตียงเพราะเช้านี้ผมยังอยู่ในห้องนอนของพี่อิส ทำไมยังอยู่ห้องพี่อิส!

ถึงจะพยายามคิดแต่สมองไม่ประมวลผลเลย ผมบอกอาการตอนนี้ไม่ถูก ทั้งๆ ที่ตื่นนอนแล้วแต่ยังรู้สึกง่วงอยู่ ทั้งมึน ทั้งปวดหัวตุบๆ  เป็นความทรมานบทใหม่ในชีวิตที่เดาว่ามันคืออาการเมาค้าง เรียกว่าเมาค้างแน่ๆ

“ไงแพนด้า”

ผมหันไปมองพี่อิสที่เดินเข้ามาทักแล้วพูดต่อ 

“กูนึกว่าตายไปแล้ว เรียกก็ไม่ตื่น กะว่าเข้ามาดูอีกทีไม่ตื่นกูจะโทรเรียกมูลนิธิมาเก็บศพละนะ”

“ตื่นแล้วนี่ไง แต่ไปโรงเรียนไม่ทันแล้วอะ” ประโยคหลังพูดเสียงแผ่วตอนที่รู้ตัวว่าตอนนี้คงจะสายมากแล้ว

“เออดิ แล้วไหวปะเนี่ย”

“มึนหัว” ผมตอบหน้ายุ่ง

“หัดเมาก็ต้องหัดแฮงค์ ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวออกมากินข้าว”

ผมพยักหน้ารับแล้วลุกออกจากเตียง ก่อนถอดเสื้อออกแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แต่ก็ต้องชะงักกึก ยกมือเกาะขอบประตูเอาไว้แป๊บหนึ่ง

งือ...บ้านหมุนได้

ความรู้สึกเหมือนตอนเล่นเรือไวกิ้งแล้วต้องรีบวิ่งไปอ้วกอะ ผมรีบพุ่งพรวดเข้าห้องน้ำ อะไรก็ตามที่กินและดื่มเข้าไปเมื่อคืนไหลกลับทางเดิมพุ่งลงชักโครกอย่างน่าอนาถ เมื่อคืนผมหลงรักเหล้ามาก รสชาติดี ดื่มเพลิน มีความสุขตอนดื่ม แต่หลังจากนั้นคือความบรรลัย ไม่โอเค หักสิบคะแนนเลย!

หลังจากอาบน้ำเสร็จก็สดชื่นขึ้นมานิดหน่อย อาการมึนหัวทุเลาลงไปเยอะ ผมเดินออกมาที่หน้าประตูห้อง เห็นพี่โอมกับพี่ปอนด์กำลังนั่งทำโมเดลกันต่อ พี่ปรินซ์กำลังจัดการเศษซากความเละเทะจากวงเหล้าเมื่อคืน พี่อิสนอนสบายๆ ดูทีวีอยู่ที่โซฟาตัวยาว ผมก้าวเท้าเข้าไปเรียกเบาๆ

“พี่อิสครับ”

“เฮ้ย หลินปิง!”

อีกคนตอบกลับเสียงดังจนเผลอสะดุ้งเฮือก คนที่เรียกผมลั่นลุกพรวดขึ้นมา ก่อนจะดันตัวผมกลับเข้าไปในห้องนอน

“อะไรเนี่ยพี่”

“มาแก้ผ้าให้คนอื่นดูได้ไง ไม่อายคนบ้างเหรอ”

“ผมแค่ถอดเสื้อเองนะ ไม่ได้แก้ผ้า”

“เออ นั่นแหละ ผู้ชายเต็มบ้านจะมายืนเปลือยอยู่งี้ได้ไงฮะ” เขาว่าแล้วคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวให้ นี่ผมเมาหรือเขายังไม่สร่างวะเนี่ย

“ผมก็เป็นผู้ชายนะพี่”

“มันไม่เหมือนกัน”

“ไม่เหมือนยังไงอะ ผมก็มีทุกอย่างแบบที่พี่มีแหละ”

“มีเหมือนที่พี่มี แต่มีไม่เท่าพี่แน่นอน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้น แล้วหรี่ตามองผมหัวจดเท้า

“ตลกละ”

“เออ อย่าไปถอดเสื้อให้ใครเห็นอีก พวกนั้นมันจังไรไว้ใจได้เหรอ แล้วเมื่อกี้ไปเรียกทำไม”

“ผมจะยืมเสื้อผ้าอะ ใส่ตัวเก่าไม่ไหวแล้ว เน่ามาก”

“อ๋อ เออ เดี๋ยวหาให้” เขาว่าแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ผมกวาดตามองเสื้อผ้าในตู้ของเขาที่มีไม่มาก แถมยังเป็นโทนสีเดียวกันหมด ไม่ขาวก็ดำ มีน้ำเงินเข้มและเทาแทรกมาสองสามตัว

“ทำไมเหมือนกันหมดเลยอะ”

“ซื้อยกโหลมาไง ถูกดี และมึงรู้ไหมข้อดีของการมีเสื้อสีเดียวคืออะไร”

“อะไรครับ”

“ใส่ซ้ำได้ไม่มีใครรู้ไง มึงก็อ้างว่ามีหลายตัว”

“ดูสกปรกอะ พี่ทำบ่อยเหรอ”

“ก็บางทีกูก็ไม่รู้ตัวไหนใส่แล้ว ตัวไหนยังไม่ใส่ไง แม่งเหมือนกันหมด เอานี่ เล็กสุดเท่าที่มีละ” เขาส่งเสื้อยืดสีขาวตัวหนึ่งกับกางเกงบอลให้ผม

“ตัวนี้ซักแล้วใช่ไหม”

“ซักแล้วโว้ย ไม่ซักมันจะอยู่ในตู้ไหม”

“ไม่ไว้ใจ”

“อย่างกูไม่ซักเสื้อก็หอมเว้ย”

“ทฤษฎีไหนอะ”

“ไม่เชื่อมึงดม ตัวนี้กูใส่มาสองวันละเนี่ย”

“อื้อ! ไม่เอา!” ผมโวยวายตอนที่เขาคว้าหัวผมแล้วเปิดเสื้อขึ้นก่อนจะยัดหัวผมเข้าไปในนั้น

“หอมไหม”

“ไม่หอม ปล่อย!”

“ไรวะ หอมจะตาย” เขาปล่อยผมออกแล้วดึงเสื้อตัวเองขึ้นมาดม จริงๆ ก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆ น่าจะจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ประสาทสัมผัสของผมยังแฮงค์อยู่ ได้กลิ่นอะไรตอนนี้ก็จะอ้วกละเนี่ย

ผมเดินกลับออกมาข้างนอกอีกที พี่ปรินซ์อุ่นโจ๊กที่ซื้อมาตั้งแต่เช้าแล้วยกมาให้ผมที่โซฟาหน้าทีวี บริการให้อย่างดีจนผมเกรงใจได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณ

“ขอบคุณครับ”

“ทำไมของหลินปิงมีกุ้งด้วยอะ” พี่อิสที่นั่งอยู่ข้างๆ ยื่นหน้ามาถาม

“ก็ผมซื้อแบบพิเศษมาให้น้อง” พี่ปรินซ์หันมาตอบ

“ไอ้ปรินซ์ทรพี ทีของกูไม่มีนะ”

พี่ปรินซ์ได้แต่ยักไหล่หน่อยๆ แล้วเดินเข้าครัวไป ผมกำลังจะตักโจ๊กใส่ปากแต่ก็หันไปเห็นคนข้างๆ ที่หันมามองด้วยหางตา

“มีอะไรครับ”

“เมื่อคืนสร้างความวุ่นวาย เช้ามายังเสือกได้กินกุ้งอีก”

“เมื่อคืน...ผมทำอะไรเหรอ” ผมถามเบาๆ ความทรงจำเป็นศูนย์ตั้งแต่เหล้าเข้าปากไปสองสามแก้วแรก

“จำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”

“จำไม่ได้ ภาพตัด แหะๆ”

“เฮอะ อย่าให้กูเล่า เดี๋ยวมึงจะต้องซุกหน้าลงหมอนไปด้วยความอับอายแน่นอน”

“แย่มากเลยเหรอ”

“ไม่แย่หรอกปิง ก็แค่เมาเป็นลูกหมา เล่าเรื่องที่บ้านซ้ำไปซ้ำมาสิบกว่ารอบ ร้องห่มร้องไห้ฟูมฟายจนเกือบสำลักน้ำตาตาย อ้วกใส่หน้าพี่อิส แล้วก็จูบปากไอ้ปรินซ์แค่นั้นเอง” พี่ปอนด์เป็นคนรายงานสถานการณ์เมื่อคืนให้ผมฟัง ผมตัวแข็งเหมือนถูกฟรีซแล้วนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนที่ยังหลงเหลืออยู่ในสมองรางๆ

 

“ผมจะกินอีก ไม่เอา ไม่พอ เอ้าโชน!”

“ผมเกลียดป้า ป้าตีผมบ่อยมากเลย ม่าย ยังเล่าไม่จบ ฟัง! ต้องฟัง!”

“พี่อิส! อยากอ้วกอะ!”

“ผมไม่เคยมีแฟน ไม่เคยจูบใคร มาพี่ปรินซ์มาจูบกัน มาจูบกาน!”

 

ผมหันขวับไปมองพี่ปรินซ์ซึ่งยังคงมอบรอยยิ้มอ่อนโยนขณะที่ผมได้แต่สบถคำหยาบลั่นอยู่ในใจ...ฉิบหาย

สุดท้ายต้องซุกหน้าลงไปบนหมอนด้วยความอับอายอย่างที่พี่อิสบอก ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคนรอบข้างจนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาอีกเลย

“ไม่ต้องซุก ลุกขึ้นมาแดกโจ๊ก เดี๋ยวเย็นหมด” พี่อิสเคาะหัวผมเบาๆ  ผมขยับหน้าเงยขึ้นมาอย่างเขินๆ  ผมเปลี่ยนใจไม่ชอบเหล้าแล้ว ให้คะแนนติดลบเลย เพราะผลพวงที่ตามมานี่วิปโยคน่าดู

“ผมเมานะ ไม่นับเนอะ”

“กินๆ เข้าไป จะได้กลับบ้าน”

“อะไร พี่จะให้ปิงกลับบ้านเหรอ” พี่ปรินซ์ละจากการทำความสะอาดแล้วเดินเข้ามาถาม

“เออดิ จะให้มันอยู่ที่นี่ตลอดไปหรือไง”

“พี่ได้ยินปิงเล่าเรื่องที่บ้านทั้งคืน ยังจะให้ปิงกลับไปที่แบบนั้นอีกเหรอ” พี่ปอนด์หันมาพูด

“เมื่อคืนพี่ยังร้องไห้เพราะสงสารปิงอยู่เลยนะ” พี่โอมเสริม

“ใครร้อง มั่ว!”

“ก็เห็นน้ำตาซึมอะ”

ผมหันไปมองเขา คนถูกมองคงแถไม่ได้ก็เลยยอมรับเสียงอ่อย

“ก็เรื่องมึงดราม่าฉิบหาย แต่ไม่รู้แหละ ยังไงมึงก็ต้องกลับบ้าน”

“พี่จะไล่ปิงไปเหรอ”

“กูไม่ได้ไล่โว้ย แต่มึงเข้าใจไหมว่าปิงมันเป็นเด็ก มันมีบ้าน มีผู้ปกครอง จะมาอยู่กับกูตลอดได้ไง”

“พี่ไม่สงสารปิงเหรอ” พี่ปรินซ์ว่าแล้วนั่งลงข้างๆ ผม

“ไอ้ปรินซ์ มึงโดนมันจูบไปทีเดียว ตกเป็นทาสมันเลยนะ เข้าข้างมันทุกเรื่องเลยเนี่ย”

“ไม่เกี่ยวกับจูบเลย แต่ผมไม่อยากให้ปิงกลับไปที่นั่น พี่ดูรอยช้ำยังไม่หายเลยเนี่ย ถ้าไปถูกตีซ้ำจะทำยังไง”

“งั้นให้กูไปกระทืบป้ามัน เอาไหม”

“ไม่เอานะพี่” ผมแย้ง

“พี่อิสแม่งไม่มีหัวใจ” พี่ปรินซ์พูดแค่นั้นแล้วสะบัดหน้าหนีเดินเข้าครัวไป

“เอ้า ไอ้นี่ มาเหวี่ยงกูอีก”

“พี่ไม่ห่วงปิงหรือไง”

“ถ้าปิงโดนตีอีก จำไว้เลยว่าเป็นความผิดพี่!”

“ไอ้เหี้ยพวกนี้ กูผิดอะไรนักหนาเนี่ย เออ! กูมันคนไม่มีหัวใจ ห่วงใครไม่เป็นโว้ย พวกมึงก็ไสหัวออกไปจากบ้านคนไม่มีหัวใจอย่างกูเลย ไอ้พวกเวร ไปพร้อมไอ้ปิงมันเลย ไป๊!”

ผมได้แต่หัวเราะเบาๆ ที่จริงก็ตั้งใจจะกลับบ้านอยู่แล้ว เพราะจริงอย่างเขาว่า ผมอยู่กับเขาที่นี่ตลอดไปไม่ได้หรอก...ถึงจะอยากให้เป็นอย่างนั้นก็เถอะ

“งั้นผมขออยู่ถึงตอนเย็นนะ เดี๋ยวออกไปทำงานแล้วก็กลับบ้านเลย”

“เออ แล้วอยากมาที่นี่เมื่อไรก็มาได้ ว่างๆ ก็แวะมา”

ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนพี่อิสจะหันไปบ่นพวกพี่ทั้งสามคนต่อ

“รีบๆ ทำให้เสร็จเลยนะพวกมึงอะ แล้วก็เก็บของไปให้หมดเลย อย่าให้เหลือแม้แต่เศษกระดาษสักเสี้ยวเดียว ไม่งั้นกูตามเตะยันบ้านเลย”

“โห่ พี่อิสขี้น้อยใจอะ โอ๋นะๆ”

“ไม่ต้องมาโอ๋กู กูมันคนไม่มีหัวใจไง”

แต่ผมคิดว่าพี่อิสมีหัวใจนะ...เป็นหัวใจที่ดีกับผมมากๆ เลยด้วย

.

.

.

วันนี้ผมยังต้องทำงานจนถึงเที่ยงคืนเพราะพี่อีมขอลา อย่างที่บอกว่าผมชอบทำงาน ยิ่งชั่วโมงทำงานเพิ่ม เงินก็เพิ่มไปด้วย สิ้นเดือนนี้ผมคงได้เงินเยอะกว่าทุกครั้ง ผมออกมาทิ้งขยะที่หลังร้าน เห็นพี่พิงค์นั่งจิ้มมือถือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ตรงนั้นเลยเข้าไปทัก

“พี่พิงค์”

“เฮ้ย!”

“ผมเอง”

“ตกใจหมด”

“เห็นพี่พิงค์ยิ้มอะไรคนเดียว แอบมาเขินอะไรตรงนี้”

“บ้า ไม่ได้เขิน” ปฏิเสธทั้งที่ยังยิ้มกว้าง

“เหรอ เห็นยิ้มแก้มแตกเชียว”

“อย่ามาแซวว่ะ” เขาว่าแล้วโบกมือปัดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังหุบยิ้มไม่ได้เลย

“คุยกับแฟนเหรอ แฟนเด็กที่พวกพี่เขาพูดถึงกันเหรอ”

“โอ๊ย ปิงขี้แซวว่ะ กลับไปทำงานเลย ไปๆๆ”

“เนี่ย เขาเรียกว่าเขินนะ”

“ไล่ออก!”

ผมแลบลิ้นให้พี่พิงค์อย่างทะเล้นๆ ก่อนจะกลับเข้ามาในร้าน ปล่อยให้พี่พิงค์ยิ้มคนเดียวต่อไป ที่ไม่เข้ามานั่งเล่นข้างในคงเพราะแอบไปเขินอยู่แน่ๆ  พวกพี่ๆ เคยพูดถึงแฟนพี่พิงค์ที่เป็นเด็กมัธยมแต่ผมยังไม่เคยเห็นเลย ได้ยินว่าหน้าตาดีมาก ก็คงจะเหมาะกับคนที่ทั้งหล่อและน่ารักอย่างพี่พิงค์อยู่แล้ว

วันนี้ร้านค่อนข้างเงียบ มีแค่นักศึกษาสองคนนั่งติวหนังสืออยู่ที่ชั้นสอง ผมนั่งเฉยๆ ไม่มีงานทำเวลาจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว เผลอแป๊บเดียวก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว ผมเดินออกจากร้านพร้อมขนมปังฟรีที่ได้มากินเหมือนเดิม อากาศข้างนอกหนาวชื้นๆ เพราะฝนตกลงมาปรอยๆ ก็เลยดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาสวม หดเข้ากระดองแล้วแกะขนมปังกิน เหลือไส้กรอกไว้กินตอนสุดท้ายและขณะที่กำลังจะกัดไส้กรอกกินก็ต้องหันขวับไปมองเสียงเอะอะจากข้างหลัง

“แพนด้า! หลินปิง!”

ผมกระโดดหลบจักรยานของพี่อิสที่พุ่งเข้ามา เพราะมันไม่มีเบรกเขาเลยใช้เท้าไถไปกับพื้นเพื่อหยุดรถ

“พี่มาทำอะไรเนี่ย”

“มากินไส้กรอก”

“ฮะ?”

ขณะที่กำลังงงกับคำพูดเขา พี่อิสก็โน้มหน้าเข้ามากัดไส้กรอกในมือผม

“พี่!”

“อร่อยอะ ชอบ”

“ชอบก็ไปซื้อกินเองดิ มาแย่งทำไมเนี่ย!”

“แย่งกินนี่แหละอร่อยดี”

“พี่อะ!”

“อะๆ เดี๋ยววันหลังซื้อมาคืน”

“แล้วตกลงพี่มาทำไมเนี่ย” ผมถามซ้ำก่อนที่เขาจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าผ้าที่วางอยู่ในตะกร้าจักรยาน หยิบบางอย่างในนั้นยื่นให้ผม เมื่อเห็นว่ามันคือโทรศัพท์มือถือกับที่ชาร์จแบตหัวคิ้วผมก็ขมวดมุ่นแล้วเงยหน้าไปถาม

“อะไรครับ”

“เฮ้ย นี่มึงข้ามภพมาจากศักราชไหน ไม่รู้จักมือถือเหรอ”

“รู้ว่าเป็นมือถือ แล้วมาให้ผมทำไม”

“กูเกลียดเวลาติดต่อใครไม่ได้อะ แล้วไอ้พวกเวรนั่นมันก็กดดันกู บอกให้กูซื้อให้มึง”

“ซื้อให้ผม?”

“เออ เอาไป”

“แต่มันแพง...”

“เออแพง รู้ไหมเครื่องหนึ่งซื้อมาม่าได้กี่ลัง แต่กูซื้อมาแล้วไง ก็เอาไปเหอะน่า ไม่สบายใจก็คิดว่ายืมก็ได้ แล้วเดี๋ยวค่อยเอามาคืนกู” เขาร่ายยาวขณะยัดมันใส่มือผมที่ยังสับสน พูดอะไรไม่ออกนอกจากคำว่าขอบคุณที่คิดได้เพียงอย่างเดียว

“ขอบคุณ...”

“ไม่ต้องขอบคุณ กูไม่ได้เต็มใจ ตังค์ก็ไม่ค่อยจะมี ต้องมาเปย์เด็กอีก”

กลืนคำขอบคุณลงคอแล้วเหลือบตามองเขาเคืองๆ

“มึงจะใช้เป็นปะเนี่ย”

“ก็แค่จิ้มๆ ใช่ไหมอะ”

“เออ ก็หัดๆ ใช้ไป มีอะไรด่วนก็โทรหากู แต่เฉพาะเรื่องด่วนเท่านั้นนะโว้ย ไม่ต้องโทรมาพร่ำเพรื่อ กูไม่ได้มีเวลาว่างมารับโทรศัพท์ตลอดเวลาหรอกนะ เข้าใจ๊?”

“แล้วแบบไหนถึงเรียกว่าเรื่องด่วนเหรอครับ”

“ก็แบบเวลาโดนตีหรืออะไรแบบนั้น ก็โทรมาละกัน เดี๋ยวกูมารับ”

ผมหลุดยิ้มออกมา คำพูดจากน้ำเสียงเรียบๆ และใบหน้านิ่งๆ ที่ดูไม่มีอะไรนั่นมันทำให้ใจผมรู้สึกดีอย่างประหลาด

“กลับบ้านได้ละ เดี๋ยวกูไปส่ง”

“จักรยานเนี่ยนะ”

“เออ ดีกว่าเดินละกัน ขึ้นมา”

“เบรกก็ไม่มี” ผมว่าแล้วก้าวขาขึ้นไปซ้อนท้ายจักรยานพี่อิส ที่บอกว่าจักรยานไม่มีเบรกคือไม่ใช่พวกจักรยานฟิกเกียร์ที่มันไม่มีเบรกอะไรแบบนั้นนะ แต่เป็นจักรยานญี่ปุ่นแบบที่แม่บ้านเอาไว้ไปจ่ายตลาด สายเบรกขาด ตะกร้าบิดเบี้ยว เก่าแก่ผุพัง เป็นจักรยานที่ดูน่าอนาถใจ

“บ่นจังเลยเว้ย ขอโทษที่พี่คนนี้มันไม่ได้เกิดมารวยล้นฟ้า ไม่มีปัญญาขับบีเอ็มมารับ”

“พี่ไม่มีมอเตอร์ไซค์เหรอ”

“ไม่มี”

“ซื้อสิ”

“แหม ค่าไฟเดือนนี้กูยังไม่ได้จ่าย จะเอาตังค์ที่ไหนไปซื้อมอไซค์”

ผมคุยกับพี่อิสมาตลอดทาง สักพักก็ปั่นจักรยานมาถึงที่หน้าบ้าน

“หลังนั้นแหละพี่”

เขาชะลอความเร็วลงและใช้เท้าหยุดรถ ผมก้าวเท้าลงจากจักรยานของเขาแล้วหันไปกล่าวคำขอบคุณ

“ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”

“เออ แลกกับไส้กรอกที่มึงหวงมากเมื่อกี้ไง แล้วนี่เขานอนกันหมดแล้วเหรอ” พูดประโยคหลังพลางพยักพเยิดเข้าไปในบ้านที่ปิดไฟหมดแล้ว

“น่าจะนอนหมดแล้วครับ”

“เออ เข้าไปเหอะ รีบนอน พรุ่งนี้ไปเรียนใช่ปะ กูไปละ”

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วโบกมือให้ตอนที่พี่อิสปั่นจักรยานออกไป ผมเดินเข้าบ้านแล้วตรงเข้าห้องตัวเอง ก็ดีที่ไม่เจอหน้าใคร เพราะครั้งนี้ผมหายไปถึงสองคืน กลับเข้ามาแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าต้องทำหน้ายังไงตอนเจอคนในบ้าน

ผมถอดเสื้อคลุมออกแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือที่พี่อิสให้มา มันกลายเป็นวัตถุแปลกปลอมที่ผมไม่เคยมีก็เลยงงๆ อยู่กับมัน ปัดหน้าจอเพื่อปลดล็อกแล้วก็กดเข้าตรงนั้นตรงนี้อย่างสนใจ ในสมุดรายชื่อมีชื่อเดียวที่ถูกบันทึกเอาไว้

 

พี่อิสระ♥

 

ผมหลุดยิ้มตอนที่เห็นตัวอีโมจิหลังชื่อนั่น...ใส่หัวใจมาทำไมเนี่ยพี่


To be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: lek2512 ที่ 29-01-2017 21:29:40
อ่านแล้วสงสารปิงอะ  ป้ากับพวกญาติใจร้ายเกินไปแหละ ปิงมาอยู่กับอิสระเหอะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 29-01-2017 21:50:53
กลัวปิงโดนไล่ออกจากบ้านอีกรอบจัง
แบบโดนลูกป้าใส่ร้ายว่าหายไปนอนกับแฟนงี้
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 29-01-2017 21:51:02
แหม ทำไมคิดว่าพี่อิสน่ารัก มีความมุ้งมิ้งอ่ะ อา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 29-01-2017 22:01:10
น้องปิงน่ารัก โคตรน่ารักกกกกกกกกกกกกกก
ส่วนแฟนพี่พิ้งค์นี่แอบคิดว่าเป็นช็อกแฮะ 555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 30-01-2017 00:04:38
อะนะ รักเด็กหลงเด็กจมอยู่ในความขาวของน้องละสิ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 30-01-2017 06:16:20
กลัวปิงโดนไล่ออกจากบ้านอีกรอบจัง
แบบโดนลูกป้าใส่ร้ายว่าหายไปนอนกับแฟนงี้
 :katai1:
คิดเหมือนกันเลย
ไม่มีเรื่อง ยังทำให้เป็นเรื่องมาแล้ว
เด็กบ้า กวน......จริงๆ
แล้วแทนที่จะบอกว่าตัวเองผิดเอง ก็ไม่พูด
ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด เดือดร้อนปิง
ถูกโมโห ถูกตี นี่เลย อยูดีๆก็เจ็บตัวเฉยเลย
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
     
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 5] 29-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-01-2017 16:25:22
พี่อิสมาสู่ขอน้องไปเลี้ยงอย่างเป็นทางการเถอะน้าาาาาา  :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 30-01-2017 22:27:03

 ตอนที่ 6

พี่อิสคนดี

 

เช้านี้ผมรีบตื่นแต่เช้าแล้วออกไปเรียน ก่อนออกจากบ้านเลยไม่ได้เจอหน้าใครนอกจากย่า ย่าไม่ได้ว่าอะไรเรื่องที่ผมหายไปสองคืนแล้วก็บอกว่าป้าไม่ได้พูดถึงเลย ก็คงมีความจริงข้อหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าต่อให้ผมจะหายไปไหนมันก็ไม่มีใครเดือดร้อนเลย...ผมไม่ได้สำคัญ

ผมเดินเรื่อยๆ ไปโรงเรียนอย่างไม่รีบร้อนเพราะมีเวลาเหลือเฟือ เดินมองฟ้า มองเมฆที่มืดครึ้ม วันนี้ฝนก็คงจะตกอีกเช่นเคย

                                                       

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

หือ? เพลงนี้?

 

“หนูมาลี มีลูกแมวเหมียว ขนมันปุยคล้ายสำลี...”

 

เสียงเพลงทำสองขาผมหยุดชะงัก ยกเป้ที่สะพายหลังอยู่ขึ้นฟังจึงได้ยินว่าเสียงมันมาจากตรงนั้น ผมล้วงเข้าไปข้างในแล้วหยิบมือถือที่กำลังร้องเพลงนั้นออกมา พี่อิสตั้งริงโทนเสียงเดียวกับของเขาเอาไว้ให้ด้วยและคนที่โทรเข้ามาก็มีแต่เขาคนเดียว

 

พี่อิสระ♥

 

“สวัสดีครับ”

“สุภาพเกิ๊น! กูหยาบๆ อยู่นี่ยิ่งถ่อยเลยเนี่ย จะพูดเพราะอะไรนักหนา”

“อ้าว แล้วพี่จะให้รับว่าไง”

“ฮัลโหล โย่เย่ อะไรก็ว่าไป”

“พี่มีอะไรเปล่าอะ”

“ไม่มีอะ แค่อยากรู้ว่ามึงรับโทรศัพท์เป็นเปล่า”

“ผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะพี่”

“เออ รับเป็นก็ดี”

“ไหนบอกว่าให้โทรตอนมีเรื่องด่วนเท่านั้นไง พี่ไม่ได้มีเวลาว่างมาคุยโทรศัพท์ไม่ใช่เหรอ”

“แน่ะ หัดยอกย้อน กูเป็นคนซื้อโทรศัพท์ให้ กูจะโทรตอนไหนก็ได้เว้ย! แล้วนี่ไปโรงเรียนยัง”

“กำลังไปครับ”

“แล้วป้ามึงว่าไงมั่งอะ”

“ยังไม่เจอหน้าเลย”

“เออๆ”

“เป็นห่วงเหรอ”

“กูเปล่า! แต่ไอ้พวกเหี้ยนี่มันกดดันกู ให้กูโทรมาถามเนี่ย”

“โดนกดดันบ่อยเนอะพี่เนี่ย”

“เออดิ! งั้นแค่นี้”

ตู๊ด...ตู๊ด...

กดวางสายไปรวดเร็วอย่างนั้น ผมหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเก็บมือถือเข้าเป้ไปเหมือนเดิม เดินมาสักพักก็ถึงโรงเรียน ผมไม่ได้มาโรงเรียนวันหนึ่งแต่โชคดีที่ไม่มีการบ้านอะไรต้องตามส่ง หลังจากจบคาบวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นคาบสุดท้ายก่อนพักกินข้าว เมธีมันรีบไปพบครูวิชาเคมีเพราะมันไม่เข้าใจบทเรียนและให้ผมไปรอที่โรงอาหารเลย ผมกำลังเก็บของขณะที่เพื่อนในห้องทยอยออกไปกันหมดแล้ว

“ปกรณ์”

“...”

“ปกรณ์!”

ผมหันไปมองตามเสียงครูที่หันมาเรียก หันซ้ายหันขวาก็เห็นว่าในห้องมีแต่ผมคนเดียว

“ปกรณ์ เธอช่วยยกนี่ไปที่ห้องครูหน่อยได้ไหม”

“ได้ครับ” ผมตอบรับแล้วยกเล่มรายงานทั้งหมดเดินตามครูออกไป ระหว่างนั้นครูหันมาบอกกับผม

“ขอบใจมากนะจ๊ะปกรณ์”

“ครูครับ”

“ว่าไงปกรณ์”

“ผมชื่อปวินท์ครับ”

รอยยิ้มของอีกฝ่ายค้างชะงัก ได้แต่มองตากันในความเงียบครู่หนึ่ง ครูยกมุมปากยิ้มแห้งๆ ก่อนก้าวเท้าฉับๆ เดินนำไปก่อน ขนาดครูที่นั่งจ้องตากันทุกวันยังลืมชื่อผมเลย...ไร้ตัวตนเลเวลอัป

“ไอ้ปิง!”

ผมหยุดเท้าขณะที่กำลังหอบรายงานไปไว้ห้องพักครู ไม่ต้องหันไปดูเจ้าของเสียงเรียกก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไอ้ยิม

“มีอะไร”

“กูขอรายงานคืนก่อน กูก๊อปไอ้เดย์มาแล้วลืมลบชื่อ อยู่ไหนวะ นี่ไง เล่มนี้ของกู” มันชี้ไปที่รายงานเล่มเกือบสุดท้าย

“เดี๋ยวหาที่วางก่อน...”

“ไม่ต้อง กูรีบ”

ฟึบ!

“เฮ้ย!” ผมโวยลั่นเพราะมันดึงเอารายงานเล่มเกือบสุดท้ายออกไป เป็นเหตุให้สี่สิบกว่าเล่มข้างบนร่วงกระจายลงพื้น มันยักไหล่หน่อยๆ ก่อนรีบวิ่งออกไปจากตรงนี้ ทิ้งให้ผมได้แต่ถอนใจเบาๆ แล้วนั่งลงกับพื้นเก็บรายงานทั้งหมดคนเดียว สายตาที่กวาดมองรายงานที่กระจายอยู่ตามพื้นเห็นมือหนึ่งยื่นเข้ามาช่วยเก็บจึงต้องเงยหน้ามอง...ช็อกห้องสองและแสงออร่าของเขา

“ต่อยให้ไหม”

“ฮะ?” ผมร้องถามพลางกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจคำถามเมื่อครู่

“ก็ไอ้คนที่ชอบแกล้งปิงไง ต่อยให้ไหม”

“เฮ้ย ไม่เอา”

“ยอมให้มันแกล้งอยู่ได้”

“เดี๋ยวมันเบื่อก็เลิกแกล้งเองแหละ”

“ใจเย็นเหลือเกินนะ” ช็อกว่าแล้วเอารายงานในมือตีใส่หัวผมเบาๆ  ผมหดคอลงเล็กน้อยตอนที่ถูกตี โดนสันอะ เจ็บนะ

“ให้ช่วยถือไหม จะไปห้องพักครูวิทย์ปะ”

“ไม่เป็นไร”

“นี่ก็จะไปเหมือนกัน เอามาดิ” เขาว่าแล้วยกรายงานไปจากผม เหลือไว้ในมือผมสี่ห้าเล่มก่อนเดินนำไปที่ห้องพักครูหมวดวิทยาศาสตร์

“เร็วๆ ดิ” เมื่อคนที่เดินนำไปหันมาเรียก ผมจึงรีบก้าวช่วงขาสั้นๆ ตามให้ทันไปเดินข้างๆ เขา ระหว่างทางเกือบจะทุกคนที่เดินสวนกันจะหันมาทักทายช็อก เพราะแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเขา แล้วเขาก็เพิ่งได้รับรางวัลนักเรียนดีเด่น คนดีศรีมัธยมซึ่งมีพิธีมอบรางวัลหน้าเสาธงไปเมื่อเช้านี่เอง เพิ่มความฮอตแบบทวีคูณ

“หวัดดีช็อก”

“หวัดดีครับ”

“ไงพี่ช็อก นักเรียนดีเด่น”

“อย่าแซวๆ”

“พี่ช็อกหล่อจังวันนี้”

“หล่อทุกวันเหอะ”

ช็อกก็ฮอตตามประสาของช็อก ผมที่เดินมาด้วยกลายเป็นวิญญาณ ทุกคนเดินผ่านและเฉียดไหล่ไปแบบไม่มีใครมองเห็น...ไร้ตัวตนเลเวลตันแล้ว

 

...

 

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ผมจะได้ทำงานจนถึงเที่ยงคืนเพราะพรุ่งนี้พี่อีมจะกลับมาทำงานตามปกติ หลังเลิกงานผมเดินตรงกลับบ้านเหมือนเคย แต่เดินมาได้ครึ่งทางฝนก็เทลงมาไม่หยุด ไม่รู้ว่านี่มันฤดูอะไรกันแน่ ผมวิ่งเข้ามาหลบหน้าร้านอาหารร้านหนึ่งที่ปิดไปแล้ว ยืนรอให้ฝนหยุดแต่มันไม่ยอมหยุดสักที ยืนอยู่ตรงนี้มืดๆ คนเดียวก็น่ากลัวแปลกๆ จึงตัดสินใจปลดเป้มากอดเอาไว้ ดึงหมวกฮู้ดขึ้นคลุมหัวแล้ววิ่งฝ่าฝนกลับบ้านเลย กลับมาถึงบ้านเจอป้าที่ยังไม่นอนกำลังนั่งอยู่ที่หน้าทีวี ผมหยุดยกมือไหว้เขาแต่ถูกสวนกลับมาด้วยคำบ่นลั่น

“ตัวเปียกจะมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม พื้นเลอะเทอะหมด มึงมาเช็ดเลยนะ!”

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วตรงเข้าห้อง รีบถอดเสื้อผ้าที่เปียกโชกออกแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบลวกๆ หยิบผ้าแห้งมาเช็ดกระเป๋า เปิดดูให้แน่ใจว่าข้างในไม่มีอะไรเปียก ในกระเป๋าไม่มีอะไรมากนอกจากสมุดเล่มหนึ่งกับขนมปังไส้กรอกที่ยังไม่ได้กินชิ้นหนึ่ง

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

แล้วก็ลืมไปเลยว่าในนั้นมีโทรศัพท์มือถืออยู่ด้วยจนกระทั่งมันส่งเสียงร้องจึงรีบกดรับ

“ว่าไงพี่อิส”

“ไม่สวัสดีครับแล้วเหรอ”

“ก็พี่บอกว่าไม่ต้องสุภาพ”

“ว่าง่ายนะมึงเนี่ย เชื่องกว่าหมาที่เคยเลี้ยงอีก”

“พี่อิส เดี๋ยวต่อยเลย โทรหาผมทำไมเนี่ย ว่างมากเหรอ”

“กูมีธุระด่วน”

“มีอะไรเหรอ”

“กูจะถามว่ามึงซื้อขนมปังที่ไหน อร่อยดี กูชอบ”

“เนี่ยเหรอเรื่องด่วน”

“เออ ด่วนสำหรับกูละกัน ตกลงร้านไหน”

“ไม่ได้ซื้อ ได้ฟรีมาจากร้านที่ทำงาน”

“เหรอ แล้วกูไปซื้อได้ไหม”

“ได้ดิ ก็เขามีไว้ขาย”

“เออ แล้วนี่ถึงบ้านแล้วใช่ปะ”

“ครับ เพิ่งถึงเลย”

“เปียกฝนปะ กูเห็นฝนตก”

“เปียกสิจะเหลือเหรอ”

“ระวังไข้แดกละกัน”

“ผมไม่ป่วยง่ายๆ หรอกน่า”

“เฮอะ ป่วยขึ้นมากูจะสมน้ำหน้าให้ จะไปยืนสมน้ำหน้ามึงถึงบ้านเลย”

“ไอ้ปิง! กูบอกให้มึงมาเช็ดพื้น!” เสียงป้าที่ดังมาจากข้างนอกเรียกความสนใจทั้งหมดของผมไป จึงรีบบอกลาพี่อิสแล้วกดวางสาย

“พี่อิส แค่นี้ก่อนนะ”

“อ้าว เฮ้ย...”

ผมยัดมือถือเข้าไปใต้หมอน ก่อนป้าจะเปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี ปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุดรับฟังคำสั่งของป้าที่พูดซ้ำ

“กูบอกให้มึงไปเช็ดพื้นไง”

“ครับๆ”

“เมื่อกี้มึงพูดกับใคร กูได้ยินเสียงคุย”

“ปิง...คุยคนเดียวครับ” ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินออกมาข้างนอก

“ประสาทแดกนะมึงเนี่ย”

ผมไม่ได้สนใจคำพูดของป้า ไปหยิบผ้ามาถูพื้นที่ผมทำเปียกเมื่อกี้ เสร็จแล้วก็กลับเข้ามาในห้อง ทิ้งตัวลงที่นอนทั้งๆ ที่หัวยังเปียกอยู่เพราะขี้เกียจลุกไปอาบน้ำ ล้วงเข้าไปใต้หมอนหยิบมือถือที่ยัดเข้าไปเมื่อครู่ออกมาแล้วจ้องมันอยู่อย่างนั้น แค่มองมือถือเฉยๆ  ไม่ได้เปิดหน้าจอหรือทำอะไรกับมันเลยก่อนจะหลุดยิ้มออกมาบางๆ  โทรศัพท์นี่ดีจัง อยู่ห่างกันตั้งไกล ยังได้ยินเสียงกันได้ด้วย ชอบจัง...หมายถึงโทรศัพท์นะ

 

...

 

ต่อให้กลางคืนจะนอนดึกแค่ไหนแต่ในทุกเช้าผมจะต้องตื่นเร็วเสมอ คงเป็นเพราะความเคยชิน เช้านี้ของผมก็เหมือนเมื่อวาน ผมเดินถือขนมปังกินมาเรื่อยๆ อย่างไม่เร่งรีบ เก็บไส้กรอกไว้กินตอนสุดท้ายเหมือนทุกที

“หลินปิง!”

ผมหันขวับไปมองเสียงที่คุ้นเคย เจ้าของจักรยานเก่าๆ คันนั้นกำลังพุ่งเข้ามาหา ผมเหลือบตามองไส้กรอกในมือ ก่อนจะรีบยัดมันเข้าปากตัวเองอย่างรวดเร็ว

“ง่ำๆๆๆ!”

พี่อิสใช้เท้าเบรกจักรยานแล้วหยิบถุงบางอย่างที่วางอยู่ในตะกร้าส่งให้ผม

“กูซื้อขนมปังมาฝาก”

ฮะ?

“แค็กๆ!” ผมสำลักไส้กรอกที่อัดเข้าไปเต็มปากเพราะรีบกินไปหน่อยมันเลยทรยศด้วยการเข้าไปติดอยู่ในคอ

“เป็นอะไรของมึง”

“ติดคอ!”

“เอ้า! ตะกละไง ตะกละ”

พลั่ก!

พี่อิสเข้ามาทุบหลังให้ ไส้กรอกก็หลุดออกจากคอพอดี รอดตายหวุดหวิด แต่ไม่แน่ใจว่าควรขอบคุณหรือด่าเพราะพี่อิสตีหลังแรงจนเข่าทรุดลงกับพื้น ดีที่เขาคว้าแขนผมเอาไว้ได้ทันเพื่อช่วยให้ทรงตัวขึ้น

“เชี่ย! กูตบเบาๆ เองนะ”

“พี่อะ เจ็บหลังเลย”

“เปราะบางเกิน แล้วอะไร แดกยังไงให้ติดคอ”

“กลัวพี่แย่ง”

“เฮอะ! สมน้ำหน้า!”

ผมได้แต่เหลือบตามองเคืองๆ แล้วเลื่อนไปยังถุงขนมปังที่ตะกร้าหน้าจักรยาน

“ไหนอะ ซื้ออะไรมาฝาก”

“ไม่ฝากละ เปลี่ยนใจไม่ให้แดก เสือกหวงกูก่อน”

“ง่ะ!”

“ไม่ต้องทำหน้าดัดจริต ไม่ให้แดก”

“แต่พี่ทำผมเจ็บหลังนะ เป็นรอยแน่ๆ”

“ไหนมาดู”

“เฮ้ย!” ผมโวยลั่นเพราะพี่อิสจับผมหันหลัง ถอดเป้แล้วดึงเสื้อคลุมผมขึ้น

“มาดูหน่อย”

“เฮ้ยพี่! ไม่เอา!”

“อย่าดิ้นสิวะ!”

พี่อิสดึงทั้งเสื้อคลุมและเสื้อนักเรียนผมออกจากกางเกงได้สำเร็จ ถกเสื้อด้านหลังขึ้นแล้วก็พูดออกมาหน้านิ่งๆ

“เออ แดงจริงด้วย”

“ก็พี่ตบแรง”

“มึงขาวเหอะ โดนอะไรนิดอะไรหน่อยก็แดงไม่ใช่หรือไง อีกอย่างกูช่วยไม่ให้ไส้กรอกติดคอมึง ทั้งๆ ที่มึงควรตายด้วยความตะกละตะกลามของมึงไปแล้ว ที่จริงมึงควรขอบคุณกูนะ”

“ขอบพระคุณครับ” ผมหันไปพูดขณะที่ยัดเสื้อเข้าในกางเกง ถ้าพิจารณาหน่อยก็คงเข้าใจว่าประชด แต่คนอย่างพี่อิสคงจะไม่เสียเวลาพิจารณาหรอก

“เออ จำใส่กะลาหัวที่มึงครอบด้วยผมทรงผมอะไรของมึงก็ไม่รู้เอาไว้ว่ากูคือผู้มีพระคุณของมึง”

ผมหันมองตาขวางอีกที มาว่าทรงผมอีก เด็กม.ปลายใครเขาๆ ก็ไว้รองทรงเว้ย!

“งั้นผมไปเรียนแล้วนะ”

“เออ แล้ววันนี้เลิกงานกี่โมง”

“สามทุ่มครับ”

“อือ ไปเรียนเหอะ”

“ไม่ให้ขนมปังแน่นะ”

“ไม่”

“ใจร้าย”

“เออ กูมันคนไม่มีหัวใจไง” เขาผลักหัวผมทีหนึ่งก่อนจะปั่นจักรยานออกไป ผมเดินเข้าโรงเรียนเหมือนอย่างเคย เมื่อถึงคาบเรียนก็เปิดเป้ล้วงเข้าไปหยิบปากกา แต่กลับพบสิ่งที่สร้างความแปลกใจให้ผมนิดหน่อยเมื่อเห็นว่ามันคือขนมปังไส้กรอกสองชิ้น หลุดยิ้มออกมานิดๆ  ไม่รู้ว่าคนมือไวเอามาใส่ไว้ตอนไหน ผมเพิ่งรู้จักกับพี่อิสเลยไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนยังไง เท่าที่รู้คือเป็นคนพิลึกแล้วก็ปากหมา...แต่ว่าใจดีมากๆ เลย

...

 

วันนี้เวลาทำงานผมแค่สี่ชั่วโมงเลยเสร็จไวกว่าที่คิด ยังไม่ทันเหนื่อยเลยก็ได้เวลาเลิกงาน แถมวันนี้ผมยังหน้าบานตลอดการทำงานเพราะเงินเดือนออก แถมได้เยอะด้วยเพราะก่อนหน้านี้เลิกดึกหลายวัน วันนี้ก็เลยเดินตัวปลิวออกจากร้านหลังเลิกงาน ตั้งใจจะไปแวะหาอะไรอร่อยๆ กินเพื่อให้รางวัลตัวเองเสียหน่อย ก่อนเสียงมือถือที่ดังขึ้นจะทำให้หยุดชะงักกลางทาง 

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว”

 

มันเปลี่ยนเสียงยังไงอะ...ตั้งใจว่าจะถามพี่อิสทีหลังแต่มีหวังเขาคงไม่ยอมให้ผมเปลี่ยนแน่ๆ  ส่ายหัวเบาๆ กับความคิดของตัวเองแล้วกดรับ

“ครับพี่อิส”

“เลิกงานยัง”

“เลิกแล้ว”

“อือ ก็ดี กลับบ้านดีๆ”

“พี่อยู่ไหนอะ”

“กูก็อยู่บ้านกูดิ”

ผมกำลังจะตอบกลับไปแต่สายตามองไปเห็นหัวของคนคนหนึ่งโผล่ออกมาจากกำแพงตรงหัวมุมถนน คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเพราะหัวนั้นคุ้นเหลือเกิน ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเป็นคนที่คิดเอาไว้ แล้วกรอกเสียงลงไปในสายโทรศัพท์

“บ้านพี่อยู่ตรงนี้เหรอ”

“เชี่ย!” เขาสะดุ้งเฮือกแล้วกระโดดออกไปอย่างตกใจ เมื่อหันมาเห็นว่าเป็นผมก็ถอนใจทีหนึ่ง

“เดี๋ยวนี้นอนในถังขยะเหรอ” ผมว่าแล้วชี้ไปที่ถังขยะสามสีข้างๆ

“กูอุตส่าห์แอบ”

“หัวโผล่อะ”

เขาเหลือบตาไปมองกำแพงแล้วพูดพึมพำคนเดียว

“กำแพงเหี้ยนี่จะสร้างให้มันสูงๆ หน่อยไม่ได้หรือไงวะ”

“พี่มาทำอะไรเนี่ย”

“ก็ผ่านมาเฉยๆ”

“เดี๋ยวนี้ผมเจอพี่บ่อยมากเลยอะ”

“ทำไม ไม่อยากเจอหรือไง”

“อ๋อ เข้าใจละ พี่ตามดูผมใช่ปะ”

“ทำไมกูต้องตามดูมึงด้วย!” หันมาพูดเสียงดังด้วยใบหน้ายุ่งๆ

“เป็นห่วงผมอะดิ”

“กู...” เขาอึกอักที่จะตอบ ผมจึงแทรกสวนกลับไป

“อ๋อ หรือโดนพวกพี่ปรินซ์กดดันอีก โดนกดดันมาใช่ไหม ฮะๆๆ”

“เออ!” เขาตะคอกกลับมาตอนที่ผมกำลังเซ้าซี้

“เออนี่คือ...?”

“โดนกดดันเว้ย! แล้วก็...เป็นห่วงนิดหน่อย” เสียงพูดเบาๆ แบบไม่เต็มปากเต็มคำกับใบหน้ายุ่งๆ ทำผมหลุดยิ้มออกมานิดหน่อย ฝ่ามือของเขายกขึ้นผลักหัวผมเบาๆ ทีหนึ่ง

“เออพี่อิส วันนี้ผมเงินเดือนออก ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันปะ ผมเลี้ยงเอง”

“จะมาเลี้ยงกูทำไม เก็บตังค์ไว้ใช้เหอะ”

“ก็ผมอยากขอบคุณพี่ที่ให้ผมไปนอนบ้านไง พี่อยากได้คำขอบคุณรสชาติเหมือนอะไร”

“สเต๊ก” คนที่บอกให้ผมเก็บตังค์ไว้ใช้สวนกลับมาทันควัน ผมจึงหันไปพยักหน้าหงึกๆ เพราะอยากกินด้วยเหมือนกัน

“เอาดิ ไปเลย ร้านไหน นำไป”

“เลี้ยงจริงอะ”

“จริงสิ”

“กูไม่ปฏิเสธนะ เพราะกูเป็นพวกหิวตลอดเวลาแต่เสือกไม่ค่อยจะมีกิน”

“ครับ วันนี้ผมรวย”

จริงๆ ก็มีเรื่องที่ต้องขอบคุณเขาหลายเรื่อง ขอบคุณที่ให้ไปนอนบ้าน ขอบคุณที่ซื้อมือถือให้ ขอบคุณที่ใจดีกับผม และขอบคุณที่เป็นห่วง...เพราะผมไม่ได้รับความห่วงใยจากใครมานานมากแล้ว

To be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-01-2017 22:38:43
ยิ่งอ่านยิ่งพบความน่ารักกกกก ปิงโชคดีจังที่มาเจอพี่อิส และเบื่อป้ามากๆ ผู้ใหญ่แบบนี้ไม่ชอบเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: TR ที่ 30-01-2017 22:55:11
พี่อิสคนดีจริงๆด้วย โอ๊ยโอย อยากได้อย่างพี่อิสมาไว้ครอบครองสักคน
ดีใจแทนหลินปิง อยู่ว้าเหว่มานาน เจอความห่วงใยสไตล์พี่อิสคนซึน ไม่รักไม่ได้แล้วนะ
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ppreaww ที่ 30-01-2017 22:56:02
น่ารักๆ อ่านแล้วย้มตลอดเลย :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-01-2017 23:01:33
ทำไมอ่านไปชักมันเขี้ยวพี่อิส รู้สึกว่าพี่จะน่ารักเกินไปละ ฮา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 31-01-2017 01:33:08
กลียดโคตรเหง้าตระกูลป้า โดนเฉพาะอิฟ่าง รู้สึกผิดมากไหมที่ทำให้คนๆ นึงจ้องเจ็บขนาดนั้น รักปิงกับพี่อิส อิอิ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-01-2017 05:28:35
เกลียดโคตรเหง้าตระกูลป้า โดนเฉพาะอิฟ่าง รู้สึกผิดมากไหมที่ทำให้คนๆ นึงต้องเจ็บขนาดนั้น รักปิงกับพี่อิส อิอิ
ช่าย.....เลย เกลียดฟ่าง น่ารำคาญที่ซู้ด
พี่อิส น่าร้ากกกก
แหม....ห่วงใยเอง แล้วอ้างพวกปรินซ์กดดัน
เขากดดันทีเดียว อ้างยาว...เลย
มีตามมาแอบดูตอนเลิกงานด้วย  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 31-01-2017 09:01:37
อยากให้พี่อิสมีงานดีๆ เฮียจะได้มาสู่ขอน้อง อิอิ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 31-01-2017 09:22:29
กลัวความราบรื่นนี้จะอยู๋กับน้องปิงไม่นาน
ชอบพี่อิสกับน้องปิงมากๆ ค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
 :กอด1: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 31-01-2017 09:47:04
น่ารัก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 6] 30-01-17
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 31-01-2017 11:29:50
น้องปิงทำพี่น้ำตาแตกไปหลายรอบเลย :sad4:
เอาใจช่วยนะ น้องปิงสู้ๆ :กอด1:
ถึงพี่อิสจะไม่เต็มบาท แต่พี่แกก็พึ่งพาได้อยู่นะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 01-02-2017 23:09:57

ตอนที่ 7

วิถีอิสระ ‘1’

 

อิสระ :

 

ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!

ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงแจ้งเตือนไลน์ที่ดังไม่หยุด ยกมือแงะขี้ตาแล้วคว้ามือถือมาเปิดดู ก่อนจะเห็นว่าเป็น ลันลินา น้องสาวเวอร์ชันมนุษย์ที่กำลังรัวสติกเกอร์เหมือนกันมาเป็นสิบๆ ตัว กวนตีนอะไรเนี่ย บ้านพ่อมึงไม่มีนาฬิกาหรือไง ไม่รู้เหรอว่ากี่โมงกี่ยาม แล้วส่งเหี้ยอะไรมารัวๆ  มึงบ้าหรือเปล่าฮะ! ผมด่าอยู่ในใจแล้วพิมพ์ข้อความกลับไปด้วยความเกรี้ยวกราด

 

“ว่าไงคะ”

 

น้องสาวคนนี้ผมรักมาก โมโหแค่ไหนก็ด่าไม่ลงจริงๆ  หลังจากที่ส่งข้อความนั้นไป วินาทีเดียวอีกฝ่ายก็ตอบกลับมา

 

“ได้รับของขวัญวันเกิดที่ส่งมาแล้วน้า”

 

ลินาส่งรูปตัวเองถ่ายคู่กับกล้องถ่ายรูปที่ผมส่งไปให้เป็นของขวัญวันเกิดแนบมาให้ดู

 

“เซอร์ไพรส์มากๆ เลย”

 

เซอร์ไพรส์ห่าอะไรล่ะ มึงเล่นอ้อนตั้งแต่วันเกิดปีที่แล้วยาวมายันวันเกิดปีนี้ ลองไม่ซื้อให้สิคงจะโดนด่าพ่อให้ ไม่ได้รู้เลยว่าราคากล้องนั่นมันแพงขนาดที่พี่มันต้องอดมื้อกินมื้อไปวันๆ  ผมยิ้มนิดๆ ตอนที่น้องส่งรูปคู่กับกล้องมาให้ดูอีกสามสี่รูป

 

“ใช้ดีๆ ล่ะ แล้วก็อย่าดื้อ”

“ค่า คิดถึงนะ ว่างๆ ก็มาหากันบ้าง หนูรักพี่อิสค่ะ”

 

น้องสาวส่งสติกเกอร์แทนคำขอบคุณอีกสองสามตัวเป็นอันจบบทสนทนา ผมยังคงยิ้มเมื่อนึกไปถึงน้องสาวที่อยู่กับพ่อที่ต่างจังหวัด ที่จริงแล้วผมกับลินาเป็นพี่น้องคนละแม่ ผมไม่ชอบครอบครัวใหม่ของพ่อเลย แต่ลินาเป็นข้อยกเว้น เพราะน้องสาวผมน่ารักมาก ผมเป็นพวกใจง่ายกับตัวอะไรที่มันลักษณะเหมือนน้องสาว ขาวๆ เล็กๆ นุ่มๆ ฟูๆ ถ้านิสัยเหมือนน้องสาวด้วยก็ยิ่งหลงหน้ามืดตามัวเลย ผมตั้งใจจะนอนต่อหลังจบบทสนทนานั้น แต่ดูเหมือนจะไม่ได้นอนดีๆ เพราะวางมือถือลงไม่ถึงครึ่งนาทีเสียงมือถือก็ดังขึ้นอีก

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

ผมหันขวับไปมอง นึกไม่ออกว่าใครจะโทรมาแต่เช้า จึงคว้าขึ้นมาดูก่อนจะเห็นว่าเป็น ไอ้เชน จริงๆ ควรเรียกมันว่าคุณเชน เพราะมันเป็นคนป้อนงานและจัดการติดต่อลูกค้าให้ผมเรื่อยๆ แต่ด้วยสันดานการทวงงานที่ไม่เคยปรานีหรือใจดียืดหยุ่นเวลาให้เลย โหดร้ายกับผมตลอด ผมก็เลยให้เกียรติมันด้วยการเรียกอย่างนั้น

 “ว่าไง”

“เช็คออกแล้วนะครับคุณอิสระ มารับด่วนๆ เลยโว้ย”

“แหม กว่าจะออกได้ กูจะไปนั่งขอทานบนสะพานลอยอยู่แล้ว รายได้ดีกว่านั่งวาดรูปอีก”

“เออ ออกแล้วนี่ไง จะเข้ามาเอาเลยเปล่า”

“เดี๋ยวค่อยไป กูยังไม่ลุกจากที่นอนเลยเนี่ย”

“เออๆ ตามใจ”

ผมกดวางสายแล้วยิ้มนิดๆ  งานที่แล้วแหกหูแหกตาทำข้ามวันข้ามคืน แต่ดีที่ได้เงินเยอะหน่อย พอจะอยู่รอดไปเป็นเดือนๆ ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป สองสามเดือนมานี่แดกบะหมี่ซองละหกบาทจนจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ละ รีวิวได้ทุกรสทุกยี่ห้อเลยเหอะ

พอรู้ว่าได้เงินแล้วอารมณ์ดี ผมก็เลยลุกขึ้นมาทำความสะอาดบ้าน เพราะวันนี้ยังไม่เห็นไอ้ปรินซ์โผล่หัวมาทำเวรงานบ้าน ที่จริงก็ไม่อยากใช้งานน้องมันมาก แต่เศษซากความสกปรกก็เกิดจากพวกมันทั้งนั้น หอบงานมาทิ้งเอาไว้ที่นี่ รกจนบ้านจะกลายเป็นรังหนูอยู่แล้ว หยิบจับอะไรไปทิ้ง ทำอะไรของมันหายไปชิ้นหนึ่งก็โดนโกรธอีก

ที่จริงไอ้ปรินซ์กับไอ้โอมมันเป็นสายรหัสผม ส่วนไอ้ปอนด์เป็นสายเสือก ตอนที่ผมอยู่ปีสี่พวกมันอยู่ปีหนึ่ง ก็เลยเป็นสายรุ่นสุดท้ายที่ผมยังรู้จักอยู่ ถัดจากรุ่นมันไปผมก็ไม่ค่อยได้เจอแล้ว ส่วนไอ้สองรุ่นก่อนหน้าพวกมันพอเรียนจบก็แยกย้ายกันไป ไม่กลับมาให้เห็นหัวอีกเลย

 ผมหยิบจานข้าวของบังเอิญขึ้นมา จริงๆ ก็ยังอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของบังเอิญที่ตายแบบปุบปับเพราะถูกไอ้เปรี้ยว หมาหน้าปากซอยฟัดจมเขี้ยว ตายต่อหน้าต่อตาอย่างช่วยเอาไว้ไม่ทัน ถึงจะยังทำใจไม่ได้แต่สุดท้ายก็คงต้องปล่อย ผมถอนใจเบาๆ แล้วทิ้งจานข้าวของบังเอิญลงถังขยะ เก็บกวาดบ้านต่อ ทำนั่นทำนี่ไปเพลินๆ ก็ปาเข้าไปเกือบบ่ายสอง เลยอาบน้ำแต่งตัวออกไปรับเช็ค ขึ้นเงินเสร็จก็ตั้งใจจะไปหาอะไรอร่อยๆ กินให้ชื่นใจ กำลังจะเดินไปป้ายรถเมล์นั่งรถไปห้างแต่เปลี่ยนใจกะทันหันเพราะคิดอะไรขึ้นได้ ผมหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาหลินปิง วันนี้วันอาทิตย์คงไม่ได้ทำงาน ปล่อยให้เสียงรอสายดังสองสามครั้งอีกฝ่ายก็กดรับ

“ครับพี่อิส”

“อยู่ไหนอะ”

“อยู่บ้านครับ”

“ไปหาอะไรกินกัน วันนี้กูเลี้ยง” หลอกแดกน้องมันมาหลายที พอมีเงินก็เลยอยากจะเลี้ยงมันคืนบ้าง

“ไปปล้นเงินมาเหรอ”

“กวนตีน ออกมาเร็วๆ เลย เดี๋ยวไปรอหน้าบ้าน”

“เฮ้ย เดี๋ยวพี่ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

“ให้ไว...” คำพูดหยุดชะงักตอนที่ได้ยินเสียงคนอื่นแทรกเข้ามาในสาย

“ไอ้ปิง! มึงมีโทรศัพท์ด้วยเหรอ! เอามาดูสิ มึงไปเอาของใครมา มีคนให้ปิงมา แฟนปิงเหรอ ไหนขอดูหน่อย ข้าวฟ่าง เอามานี่! โห! มือถือรุ่นใหม่ด้วยนะแม่! เอาคืนมานะข้าวฟ่าง!”

หัวคิ้วขยับเข้าหากันเล็กน้อยตอนที่ได้ยินเสียงดังวุ่นวายจากหลายๆ คนถกเถียงกันไปมา

“ปิง” ผมส่งเสียงเรียกเบาๆ แต่แน่นอนว่าไม่มีเสียงของปิงตอบกลับมา

“เอามา! อย่า! ไอ้ปิง! มึงอยากโดนตีหรือไง!”

“ปิง!”

ผมกดวางสายแล้วรีบวิ่งไปทางบ้านปิง ก่อนสองขาหยุดชะงัก เดี๋ยว! กูไม่ควรวิ่ง กูเริ่มแก่แล้วและต้องฉลาด จึงหันขวับไปโบกแท็กซี่แล้วกระโดดขึ้นไปอย่างไว

“ไปบ้านปิงครับ!”

“บ้านใครนะครับ” ลุงคนขับแท็กซี่หันมาถาม ตอนที่เรามองหน้ากันอย่างงงๆ ก่อนผมนึกชื่อหมู่บ้านของปิงแล้วรีบพูดออกไปใหม่ ไม่ถึงสิบห้านาทีลุงแท็กซี่ก็พาผมมาถึงหน้าหมู่บ้านปิง ผมจ่ายค่าแท็กซี่โดยไม่รอตังค์ทอน แค่สามบาทแหละไม่เป็นไรหรอก

ก่อนรีบวิ่งไปยังหน้าบ้านปิง กดกริ่งสองสามครั้งก็ไม่มีใครออกมาเปิดให้ หันซ้ายหันขวามองไม่เห็นใครผ่านมาผมก็เลยกระโดดข้ามรั้วเข้าไปแม่ง รั้วสูงแค่หน้าอกเลยข้ามมาอย่างได้ง่ายๆ แต่พอเข้ามาในบ้านก็เลยเห็นว่ารั้วมันไม่ได้ล็อก

ผีบ้าผีบอ กูจะกระโดดให้เสียวจู๋ทำไม ฉิบหาย!

ผมตรงเข้าไปในบ้านปิงอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ทรามตั้งแต่กระโดดข้ามรั้วบ้านเขามาแล้วแหละเลยไม่ต้องไปกังวลเรื่องมารยาทตรงนั้น ว่าแต่...กูมาถูกบ้านไหมเนี่ย

“มึงอย่าอวดดีให้มากนะ! ถ้ามึงเก่งนักก็เก็บข้าวเก็บของออกจากบ้านกูไปเลย ออกไปเลย!”

ผมชะโงกหน้าเข้าไปในบ้านหลังจากได้ยินเสียงนั้น ก่อนจะเดินพรวดเข้าไปข้างใน การปรากฏตัวของผมทำให้คนในบ้านหันขวับมามองเป็นตาเดียว

“หวัดดีครับ” ผมยกมือขึ้นทักทาย หญิงวัยกลางคนที่ไม่ต้องเดาให้ยากเลยว่าเป็นป้าของปิงหันขวับมาเสียงดังใส่ผมทันที

“มึงเป็นใคร!”

“พี่อิส...” ปิงที่นั่งกองอยู่กับพื้นเอ่ยเรียกชื่อผมเบาๆ ผมพยักหน้ารับ กำลังจะยื่นมือไปดึงให้ปิงลุกขึ้นแต่ถูกเสียงดังของป้าแทรกขึ้นมาขัด

“มึงเข้ามาในบ้านกูทำไม!”

“ผมมาหาปิงครับ”

“แล้วเข้ามาในบ้านกูได้ยังไง!”

ผมไม่ได้ตอบคำถามป้าปิงแล้วกวาดตามองสภาพบ้านที่ดูเละเทะ ข้าวของกระจัดกระจาย เสื้อผ้าถูกโยนออกมากอง หนังสือเรียนถูกทิ้งระเนระนาด เศษกระจกที่น่าจะมาจากกรอบรูปที่แตกละเอียดร่วงกราวอยู่ที่พื้นข้างๆ

...นี่มึงทะเลาะกันหรือมีใครวางระเบิดที่นี่เนี่ย

คิ้วผมขมวดเข้าหากันเมื่อหันไปมองสภาพปิง ที่ขาและหัวเข่าทั้งสองข้างมีเลือดไหลซึมออกมาคงเพราะถูกเศษกระจกบาด ผมนั่งลงไปแล้วยกมือจับเข่าของเขา เจ้าของแผลสะดุ้งนิดหนึ่งจนต้องเบามือลง

“เจ็บไหมเนี่ย”

ปิงพยักหน้ารับ

“นี่มึง กูถามว่ามึงเข้ามาได้ยังไง!” ป้าของปิงเข้ามากระชากแขนผมเต็มแรง ผมจึงลุกพรวดขึ้นอย่างเอาเรื่อง มาเตะเนื้อต้องตัวชาย ชายไม่ยอมนะ!

“ผมกระโดดข้ามรั้วมา แต่ที่จริงรั้วไม่ได้ล็อกนะครับ” ตอบไปตามความจริงยิ่งเพิ่มความโมโหให้อีกฝ่าย

“มึงบุกรุกบ้านกูเหรอ!”

“ผมมาหาปิง”

“พี่เป็นแฟนปิงเหรอ” เด็กผู้หญิงผมยาวตัวเล็กๆ เอ่ยถาม ผมจำชื่อที่ปิงเล่าให้ฟังไม่ได้ แต่คงเป็นไอ้ตัววุ่นวายที่ปิงบ่นว่ารำคาญ อ้าปากพูดแค่สองประโยคผมก็รำคาญอย่างที่ปิงว่าแล้ว

“ว่าไง พี่เป็นแฟนปิงเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ” ผมหันไปตอบ

“แล้วพี่เป็นใครอะ”

“ไม่เสือกสิคะ”

เด็กคนนี้อ้าปากค้าง รวมถึงป้าของปิงที่หันขวับมามอง ถึงเด็กนี่จะหน้าตาน่ารักก็เหอะ แต่ไม่ใช่น้องสาวกู กูด่าได้

“มึงบุกรุกบ้านกูแล้วยังจะมาด่าลูกกูอีกเหรอ! แฟนมึงใช่ไหมไอ้ปิง!” คนเป็นป้าหันขวับกลับไปหาปิง เด็กนั่นได้แต่ส่ายหน้า นิ้วมือสองข้างจิกเข้าหากันอย่างหวาดกลัว ผมจึงหันไปตอบคำถามนั้นแทน

“ผมเป็นแค่คนรู้จักของปิงครับ ไม่ใช่แฟน”

“แล้วมึงมาที่นี่ทำไม!”

ผมถอนใจเบาๆ เรียกสติ คนที่เอาแต่ตะคอกเสียงดังใส่ทำผมหัวเสียจนเกือบจะหลุดด่าสวนกลับไป ถ้าหากระงับใจเอาไว้ไม่ได้คงปล่อยเหี้ยหลุดจากปากไปหลายตัวแล้ว...ดีนะที่เป็นคนมีมารยาท

“พี่อิส พี่กลับไปก่อนนะ” ปิงยันตัวเองขึ้นมาแล้วหันมาหาผม

“ไปด้วยกันดิ”

“เดี๋ยวผมตามไป นะ กลับไปก่อน”

“ออกไปทั้งคู่นั่นแหละ ไสหัวออกไปจากบ้านกูเลย ไป!” ป้าของปิงตะโกนลั่นแล้วหยิบเสื้อผ้าที่เดาว่าน่าจะเป็นของปิงโยนใส่เป็นเชิงไล่

“นี่ป้า...” ผมหันขวับไปหาป้าของปิงอย่างหมดความอดทนจนต้องพูดอะไรสักอย่าง

“...”

“ทำไมป้าต้องรุนแรงกับปิงมันด้วย ทำไมต้องตีมันขนาดนี้”

“แล้วมึงเสือกอะไร มึงเป็นแค่คนอื่นเกี่ยวอะไร!”

“ผมเป็นคนอื่นยังคิดได้เลย แล้วนี่ป้าเป็นป้า เป็นคนในครอบครัวทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยอะป้า แก่แล้วทำไมคิดไม่ได้อะ”

“ไอ้เหี้ยนี่!”

“ทำไมครับ!” ผมก้าวเท้าเข้าไปหาป้าของปิงตอนที่เธอยกมือขึ้นสูงทำท่าจะตบผม

“กูเป็นป้ามัน กูจะด่ายังไงก็ได้!”

“ปิงมันทำอะไรผิดนักหนาอะ จะด่ามันไปถึงไหน”

“กูจะด่าจนกว่ากูจะตายนี่แหละ!”

“งั้นป้าก็ตายเร็วๆ สิครับ”

“พี่อิส!” ปิงยกมือขึ้นปิดปากผมตอนที่พ่นคำพูดชวนโดนตบออกไป มือเล็กๆ พยายามจะปิดปากไม่ให้ผมพูดต่อ ผมอ้าปากกัดมือปิงไปทีหนึ่ง

“อ๊า!” คนถูกกัดร้องลั่นแล้วชักมือออกไป อยากมาสกัดดาวรุ่ง กัดแม่งเลย

“ถ้ามึงรักมึงเอ็นดูมันมาก ก็เอามันไปอยู่ด้วยเลย”

“ผมถือว่าป้าอนุญาตแล้วนะ” ผมว่าแล้วก้มลงไปเก็บหนังสือของปิงใส่กระเป๋า หยิบโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอแตกหล่นอยู่กับพื้น หอบเสื้อผ้าที่กองอยู่ขึ้นมาแล้วหันมากระชากมือปิงให้เดินตาม

“ไปดิ!”

“พี่...”

“จะอยู่ให้โดนตีหรือไง อยู่กับคนบ้า ประสาทแดกตาย”

“ไอ้เหี้ยนี่”

“ป้าอย่า!”

เพียะ!

ปิงหน้าหันเพราะถูกคนเป็นป้าตบเข้าฉาดใหญ่ ผมกำหมัดแน่นอย่างเดือดๆ เพราะกันปิงเอาไว้ไม่ให้ถูกตบไม่ทัน ความโกรธของผมพุ่งสูงสุดจนเกือบจะระเบิด แต่สองมือของปิงที่เกาะแขนผมเอาไว้กระตุกยิกๆ ไม่ให้โต้ตอบ

“มึงออกไปเลย ไสหัวออกไปแล้วไม่ต้องกลับมา! จะไปอยู่กับใครก็ไป!!! กูเลี้ยงเด็กอย่างมึงมาได้ยังไงก็ไม่รู้ สันดานเหมือนพ่อแม่มึงไม่มีผิด ไอ้พวกนอกคอก ไอ้เนรคุณ แหม! โตแล้วอยากจะปีกกล้าขาแข็ง ไปเลย! ไสหัวไป!!!”

ผมเก็บของของปิงใส่กระเป๋าแล้วดึงเขาออกมานอกบ้าน ขืนอยู่ต่ออีกนิดอาจจะได้ระเบิดตรงนั้นจริงๆ  คนถูกลากหันมองเข้าไปในบ้านอย่างลังเล ก่อนเลือกที่จะยอมเดินตามผมออกมา ผมก้าวเท้าเร็วๆ ออกมาจนคนข้างๆ ต้องดึงมือผมเอาไว้ให้ช้าลง 

“พี่อิส ช้าหน่อย ผมเจ็บขา”

ผมหยุดเดินแล้วหันกลับไปหาเขา ลืมไปว่าปิงมีแผลอยู่ เลือดที่หัวเข่ายังไหลออกมาเป็นทาง

“นั่งนี่ก่อน” ผมดึงมือปิงไปนั่งที่ป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้าน ปิงก้มดูแผลตัวเองด้วยใบหน้าเหยเก เศษกระจกเล็กๆ ยังติดอยู่ในแผล ผมถอนใจเบาๆ วางของเขาที่ถือติดมือมาไว้ที่เก้าอี้ตัวข้างๆ แล้วคุกเข่าลงตรงหน้าเขา ค่อยๆ เขี่ยเศษกระจกออกจากแผล

“ไปโรง'บาลไหม”

“ไม่เป็นไรครับ”

ผมถอนใจเบาๆ แล้วเงยขึ้นไปมองข้างแก้มที่เป็นรอยนิ้วจากการถูกตบ เพราะเขาเป็นคนตัวขาว เลยยิ่งเห็นรอยแดงนั้นได้อย่างชัดเจน ผมเลื่อนสายตาไปมองตาปิง คนถูกมองดูงงๆ นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้หลบตาไป แววตาของปิง มันไร้ความรู้สึก ราวกับว่าทุกอย่างมันดูชินชาไปหมดแล้ว ผมไม่เคยอยากรู้เรื่องของปิง ไม่ชอบเรื่องดราม่าและไม่อยากฟัง แต่ตอนนี้สงสัยเป็นบ้าว่าเด็กคนนี้ผ่านอะไรมามากมายแค่ไหน...มากขนาดไหนถึงทำให้หัวใจเฉยชาจนไร้ความรู้สึกแบบนี้

“เจ็บมากไหม”

“เจ็บ แต่ทนได้” เขาพูดเสียงใสแล้วยิ้มให้บางๆ  ในตอนนั้นผมยกนิ้วชี้เคาะไปเบาๆ ที่อกข้างซ้ายของเขา ในจุดที่ไม่มีแผลแต่น่าจะเจ็บปวดที่สุด ก่อนออกปากถามอีกครั้ง

“ตรงนี้อะ เจ็บไหม”

สีหน้าของปิงเปลี่ยนไปนิดหน่อยแล้วหลบตา ผมจึงรู้สึกผิดที่ถามออกไปแบบนั้น ถ้าหากไม่ถามก็คงไม่กระทบกระเทือนจิตใจ แต่พอถูกถามเหมือนจี้ตรงจุด ความรู้สึกมันเลยถูกปลดปล่อยออกมาผ่านสีหน้าหม่นๆ นั้น ผมเป็นพวกหยาบคายและปลอบคนด้วยคำพูดไม่เป็น ที่ทำได้ก็แค่ดึงเด็กคนนี้เข้ามากอด แล้วเงียบฟังเสียงสะอื้นเบาๆ จากคนที่ซุกอยู่ในอกด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ

 

...

 

ผมพาปิงไปทำแผลที่คลินิกใกล้ๆ แถวนั้นก่อนจะพากลับมาที่บ้าน เห็นรถที่จอดหน้าบ้านก็รู้เลยว่าพวกน้องสายรหัสมันมาถล่มบ้านอีกแล้ว เข้าไปในบ้านก็ได้แต่กลอกตามองสภาพบ้านที่กลับมาโสโครกเหมือนเดิมเพราะกองงานของพวกมัน กูเพิ่งทำความสะอาดไปเมื่อเช้าเนี่ย!

“ไอ้พวกเวร บ้านกูรกอีกแล้ว!”

“พี่อิส กลับมาแล้วเหรอ”

“อ้าวปิง!”

“หวัดดีครับ” ปิงยกมือไหว้ทักทายไอ้พวกนี้ บอกกี่ทีว่าไม่ต้องไหว้ เอารางวัลหนูน้อยมารยาทงามไปเลยไป

“เฮ้ย! ปิงเป็นอะไรอะ” ไอ้ปอนด์หันมาเห็นขาปิงที่ถูกพันด้วยผ้าก๊อซทั้งสองข้าง ทั้งไอ้ปรินซ์และไอ้โอมต่างก็หันขวับมาให้ความสนใจ

“แหวกทางสิ ให้น้องมันไปนั่งก่อน” ผมว่า ก่อนไอ้พวกนั้นจะรีบแหวกกองกระดาษที่ขวางทางโซฟาให้ปิงไปนั่ง ทั้งหมดละงานในมือแล้วเขยิบเข้ามาจ้องหน้าปิงกับผมสลับไปมาอย่างรอเอาคำตอบ

“ผมทะเลาะกับป้ามาครับ” ปิงให้คำตอบจนพวกมันกระจ่างแล้วสามัคคีกันหันขวับมามองผมเป็นตาเดียว เป็นแววตาที่ดูเคืองๆ

“มองเหี้ยไรแบบนั้น มันทะเลาะกับป้า ไม่ได้ทะเลาะกับกู”

“ก็เพราะพี่นั่นแหละ ไล่ปิงกลับบ้านอะ”

“บอกแล้วไงถ้าปิงโดนตีอีก มันเป็นความผิดพี่”

“พี่แม่งทำให้ปิงโดนตี”

“พี่ทำให้ปิงเจ็บตัวว่ะ”

“เดี๋ยวๆ”

ผมยกมือเบรกพวกมันที่รุมด่ายับไม่หยุด

“รุมด่ากูงี้ มึงตบกูเลยดีกว่า”

ป้าบ!

ผมหน้าทิ่มลงไปเพราะโดนตบเข้าที่ท้ายทอยเต็มๆ  อ้าปากค้างหันขวับไปมองจึงเห็นว่าเป็นไอ้ปรินซ์ที่ยืนทำหน้าบูดไม่พอใจอย่างแรงอยู่

“ไอ้ปรินซ์ทรพี! มึงตบกูเลยเหรอ!”

“ก็พี่ทำให้ปิงเจ็บ”

“ไอ้พวกน้องเหี้ย!”

“แล้วทะเลาะกันเรื่องอะไรเหรอ”

ผมหันไปสนใจคำถามไอ้ปรินซ์แล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เพราะผมก็ลืมถามว่าทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร จากที่ได้ยินเสียงลอดมาในสายตอนที่คุยกันอยู่ก็ฟังไม่ได้ใจความเท่าไรนัก

“ป้าเขาเห็นว่าผมมีโทรศัพท์มือถือ คิดว่าผมซื้อโดยไม่ได้บอกเขาก่อน”

“แค่เห็นว่ามีมือถือก็โมโหเลยเหรอวะ”

“ครับ แต่จริงๆ เขาก็พาลไปเรื่อย ขุดเรื่องนั้นเรื่องนี้มาด่า ตามประสาเขานั่นแหละครับ” ปิงพูดแล้วยิ้มฝืนๆ  ก่อนไอ้น้องรหัสพวกนี้จะเริ่มโยนความผิดให้ผมอีกระลอก

“พี่อิสแหละ ซื้อมือถือให้น้องไง”

“เออ พี่อิสผิด”

“ไอ้ฉิบหาย! พวกมึงเป็นคนสั่งให้กูซื้อไม่ใช่หรือไง!” ผมหันไปโวยลั่น

“แต่พี่เป็นคนซื้อไง พี่ผิด”

“ไม่รับผิดชอบร่วมกันเลยเหรอไอ้พวกเวร”

“ก็พี่ซื้ออะ แล้วแต่พี่เลย”

“สารเลว”

ผมพูดพึมพำคล้ายพูดคนเดียวแต่เจตนาด่าไอ้เวรตะไลพวกนี้ให้มันได้ยิน มีคนแบบพวกมึงไงอยุธยาถึงเสียกรุงอะ แต่ถึงอย่างนั้นในใจผมก็คิดว่าถ้ามือถือเครื่องนั้นเป็นสาเหตุให้ปิงโดนตีจริงๆ...ผมก็ผิดแหละ

“ปิงเจ็บมากไหมเนี่ย”

“ไม่เป็นไรแล้วครับ”

“โทษพี่อิสคนเดียวเลย”

“พี่อิสผิดเต็มๆ”

“พี่อิสควรตายอะ”

ผมรู้สึกผิดก็จริง แต่จะนั่งเงียบๆ ให้พวกห่านี่ด่าก็ใช่เรื่อง จึงขอยืมคำพูดของป้าปิงมาใช้ไล่ตะเพิดพวกมันออกไปด้วยเสียงดังลั่นบ้าน 

“พวกมึงไสหัวออกจากบ้านกูไปเล้ย!”

...

 

ผ่านไปครึ่งคืน ไอ้พวกทรพีก็พากันไสหัวกลับไป ผมเข้ามาอาบน้ำ ส่วนปิงก็ยังไม่หลับ นั่งมองมือถือหน้าจอแตกแล้วลูบเบาๆ อยู่อย่างนั้น ดูใจลอยจนผมเดินเข้าไปหาเขาก็ยังไม่รู้ตัว เผลอมองเด็กคนนี้แบบหัวจดเท้า ปิงเป็นคนตัวเล็ก แต่ไม่ถึงกับผอมบาง ผิวขาวจนซีด แต่แก้มเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนๆ ได้ง่ายเวลาหัวเราะหรือเขิน และหน้าตาที่อยู่เฉยๆ จะซึมเหมือนคนใกล้ตาย แต่ถ้ายิ้มแล้วจะน่ารักฉิบหาย...ดูรวมๆ แล้วโคตรเหมือนบังเอิญ

“หลินปิง”

คนถูกเรียกสะดุ้งนิดหนึ่งแล้วหันมามองผม

“เป็นอะไร”

“คิดอะไรเพลินๆ อะครับ เออ พี่อิส...”

“ฮึ?”

ปิงยกมือถือให้ผมดูแล้วพูดเสียงจ๋อยๆ

“ผมว่ามันตายแล้ว”

ผมหยิบมือถือมาดู กดๆ ดูแล้วมันไม่ติด เลยกดค้างที่ปุ่มเปิดเครื่อง พักหนึ่งหน้าจอก็สว่างวาบขึ้นมา ก่อนจะได้ยินเสียงร้องบ่งบอกว่าแบตหมด

“แค่แบตหมดอะ ยังไม่ตาย”

“โหย ตกใจหมดเลย นึกว่าทำพังแล้ว”

“แล้วทำไมมันแตกงี้อะ” ผมถามขณะลุกไปหยิบสายชาร์จมาเสียบ

“ก็ข้าวฟ่างมันแย่งไป ก็เลยแย่งคืนมาแต่หลุดมือ มันเลยฟิ้ว ไปกระแทกผนังห้อง เลยบาดเจ็บสาหัสเลย”

ผมหลุดหัวเราะกับการอธิบายเหตุการณ์ของเด็กนี่ กดดูมือถือที่ยังเล่นได้ปกติ แต่แปลกใจนิดหน่อยที่ตอนให้ไปยังไง มันก็ยังเป็นแบบนั้น เหมือนเครื่องเปล่าเลย ไม่เคยถ่ายรูป ไม่เคยโหลดอะไรเพิ่มเติม และมีแค่ผมที่เป็นสายโทรเข้า ไม่มีสายโทรออกด้วยซ้ำ

“นี่ไม่เคยมีใครโทรหาเลยเหรอ นอกจากกูอะ”

เขาส่ายหน้าหน่อยๆ

“กูสมัครไลน์ไว้ให้ เห็นไหมเนี่ย”

ปิงส่ายหน้าอีก

“หลังเขาเอ๊ย!” ผมว่าแล้วกดเข้าแอปพลิเคชันไลน์ที่สมัครเอาไว้ให้แล้ว ปิงชะโงกหน้ามามองอย่างสนอกสนใจ

“มันใช้ยังไงอะครับ”

“กูแอดเพื่อนไว้แล้ว เห็นไหมนี่คือกู”

“ครับ”

“เวลามึงอยากคุยกับกูก็กดเข้าไปแล้วก็พิมพ์มา อะ ลองส่งสติกเกอร์ก็ได้”

ปิงดูงงๆ ยกมือจิ้มสติกเกอร์ไลน์ที่ผมโหลดเอาไว้ให้แล้วส่งมา ผมกดดูในมือถือตัวเองก่อนส่งกลับไป

“ส่งเป็นเสียงก็ได้นะ กดตรงนี้ค้างไว้...” คำพูดหยุดชะงักตอนที่ปิงกดสติกเกอร์ส่งมาให้ผมอีกแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“อันนี้น่ารักดีครับ” ปิงว่าแล้วกดสติกเกอร์ส่งมาอีกตัว

“เออ คุยในนี้จะได้ไม่เปลืองค่าโทร”

“ไม่เสียตังค์เหรอ”

“เสียค่าเน็ตไปแล้วไง กูจ่ายรายเดือนให้ ไม่มากมายอะไรหรอก ไม่ต้องขอบคุณก็ได้”

“ครับ”

“อ้าว ไม่ขอบคุณจริงๆ เหรอ”

“ก็พี่ไม่ได้เต็มใจนี่ ถูกกดดันมาใช่ไหมล่ะ”

“เออ! นอนได้แล้ว ดึกแล้ว” ผมว่าพลางผลักหัวเล็กๆ นั่นด้วยความหมั่นไส้หนึ่งที

“แล้วพี่ล่ะครับ”

“กูมีงาน”

ปิงพยักหน้ารับ ก่อนผมจะลุกเดินออกมาปิงกลับดึงมือผมเอาไว้ น้ำเสียงเรียบๆ เอ่ยชื่อผมเบาๆ

“พี่อิส”

“อะไร”

“ขอบคุณนะครับ”

“...”

“ขอบคุณจริงๆ”

ผมไม่ได้โต้ตอบอะไรนอกจากยกมือลูบหัวปิงเบาๆ แล้วเดินออกมาทิ้งตัวลงบนโซฟาข้างนอก จริงๆ ผมไม่มีงานหรอก แต่ไม่อยากไปนอนเบียด ให้ปิงนอนสบายๆ ดีกว่า ขณะนอนมองเพดานแล้วคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ผมยังคิดถึงเรื่องที่ปิงเจอมาวันนี้ เอาจริงๆ ที่ผมพาปิงออกมาที่นี่มันทำให้ต้องกลับมาทบทวนว่าผมไปเสือกอะไรกับครอบครัวเขาก็ไม่ทราบ

ไม่ได้คิดอยากยุ่งเลยแต่อดสงสารไม่ได้ เพราะผมเข้าใจความรู้สึก คล้ายว่ามองเห็นตัวเองในอดีตในตอนที่มองปิง ผมเองก็เคยมีสภาวะแบบนั้น เป็นคนที่ไม่มีใครเอา หลังจากพ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งคู่เกี่ยงกันที่จะเลี้ยงผม สุดท้ายผมได้ย้ายไปอยู่กับพ่อ แต่ผมก็เข้ากับครอบครัวใหม่ของพ่อไม่ได้ ผมไม่ใช่เด็กที่ยอมใครง่ายๆ เหมือนปิง ก็เลยกลายเป็นปัญหาใหญ่ระหว่างผมกับพ่อและเมียใหม่ เป็นปัญหาเรื้อรังไม่จบสิ้น ผมกลับมาอยู่กับแม่ก็ไม่ได้เพราะแม่เองก็มีครอบครัวใหม่เหมือนกัน แถมลูกใหม่ของแม่ที่ลักษณะเหมือนลิงอีกสามตัวซึ่งน่ารำคาญมาก ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ดีหรอก แต่ผมเป็นของผมแบบนี้ ผมค่อนข้างเอาแต่ใจและใช้ชีวิตอย่างอิสระ เป็นอิสระสมชื่อ หรือจริงๆ แม่ควรตั้งชื่อผมว่า สงบ วะ จะได้เป็นคนสงบเสงี่ยมกว่านี้สักหน่อย

แต่เพราะเป็นอิสระไง เลยต้องมีทางเดินเป็นของตัวเอง การอยู่คนเดียวเลยเป็นทางเลือกสุดท้ายของผม แม่ใจดียกบ้านหลังนี้ให้เป็นที่ซุกหัวนอน ก่อนหน้านี้พ่อส่งเงินให้ใช้จนเรียนจบ ผมติดต่อกับพ่อแม่เรื่อยๆ  ถ้าตัดปัญหาเรื่องครอบครัวใหม่ของทั้งคู่ออกไป เขาก็คือพ่อแม่ที่ผมยังรักอยู่ ถึงเขาจะไม่ต้องการผมแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยเลิกรักพวกเขาเลย

ติ๊ง!

เสียงไลน์ดึงผมออกจากภวังค์ความคิด หยิบมือถือมาดูจึงเห็นว่าเป็นสติกเกอร์จากปิง

เออ นี่ก็เล่นไม่เลิก

ผมส่งสติกเกอร์ตัวที่บอกว่าฝันดีส่งกลับไป เป็นเชิงไล่ให้ไปนอน

“พี่อิส”

“เชี่ย!” ผมลุกพรวดขึ้นมาจากโซฟาเพราะปิงเดินออกมาโผล่ที่ปลายโซฟา

“ตกใจอะไรอะ”

“ตกใจมึงนี่แหละ ออกมาทำไม”

“ทำไมผมไม่มีสติกเกอร์ตัวนี้อะ” ปิงชูหน้าจอให้ดูขณะพูดถึงสติกเกอร์ตัวที่ผมส่งไป

“มันต้องโหลด”

“โหลดให้หน่อยดิ” ตาแป๋วกะพริบปริบๆ ด้วยใบหน้าที่เหมือนบังเอิญของผมไม่มีผิด แค่ยกหัวคิ้วขึ้นนิดๆ และเชิดปากหน่อยๆ มันเลยดูเหมือนกำลังอ้อน หลอกล่อให้ผมใจอ่อนด้วยตากลมๆ ของมัน

“เออ เดี๋ยวโหลดให้!”

หาเรื่องเสียตังค์อีกกู!

ผมโหลดสติกเกอร์ผ่านเครื่องตัวเองแล้วส่งเป็นของขวัญให้ปิง จนคนข้างๆ พอใจ ก็เกือบหมดตัวพอดี ทางที่ดีคือไล่มันไปนอนดีกว่า ไม่งั้นล้มละลายแน่นอน ปิงยอมไปนอนง่ายๆ อย่างที่บอก ผมเองก็กะจะนอนเหมือนกัน

ติ๊ง!

อะไรอีกโว้ย! ผมเปิดเข้าไปเห็นเป็นข้อความเสียงจึงกดฟัง

 

“พี่อิสๆ ฝันดีนะๆ”

 

มุมปากของผมมันยกขึ้นเองอัตโนมัติเมื่อได้ยินเสียงใสๆ ผ่านข้อความเสียงนั้น ผมจึงกดสติกเกอร์รูปหมีทำท่าโอเคกลับไปแล้ววางมือถือลง

ติ๊ง!

ไอ้เด็กนี่...

ติ๊ง!

ติ๊ง!

ติ๊ง!

ผมกำมือถือแล้วเดินเข้าไปในห้อง ก่อนตะโกนลั่น

“ไอ้หลินปิง! นอนโว้ย! นอน!”

“แหะๆ ก็มันน่ารักทุกตัวเลย”

“เดี๋ยวกูเตะแม่ง! นอนเลย!”

“ครับๆ นอนครับ”

ผมชี้หน้าคาดโทษ ตบสวิตช์ปิดไฟแล้วกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟา มือไปถูกหน้าจอมือถือที่เปิดไลน์ค้างเอาไว้ กดไปโดนข้อความเสียงที่ปิงส่งมาเมื่อกี้อีกทีพอดี เสียงนั้นจึงดังขึ้นมาอีก

 

“พี่อิสๆ ฝันดีนะๆ”

 

ผมขยับยิ้มออกมาอีกครั้งแล้วตอบอยู่ในใจ...เออ ฝันดี

 

To be continued. 
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-02-2017 23:45:15
แหม พี่อิสกับพวกทรพี (ฉายา จากพี่อิส) นี่น่ารักดีเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 01-02-2017 23:46:49
เกลียดครอบครัวปิง  :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-02-2017 23:54:37
ปิง หลุดจากนรกบ้านป้าและ
หลุดจากฟ่าง ผีเปรต / ป้า ยมบาล
จะได้เป็นผู้เป็นคนหน่อย
ตกนรกมานานเลย
บ้านพี่อิส เหมือนเป็นสวรรค์ละ  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 02-02-2017 00:02:51
น้องปิงน่าร้ากกกกกกกก เขินตัวแตกเบยยยย :ling1: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 02-02-2017 00:12:11
ถ้าเราเป็นอิส เราจะตบหน้าป้ากับลูกแม่งสักที ผู้หญิงแบบนี้นี่ไม่สมควรให้เกียรติ ฮึ่ยยย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 02-02-2017 00:35:59
รำคาญปิงน่าจะตบอิป้าซักที  เอาให้หนักคนแบบนี้ ป้าก็ป้าเถอะจัดหนักทั้งแม่ทั้งลูกแม่ม
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: moosawvans ที่ 02-02-2017 00:46:25
รักพี่อิส กับน้องปิงหลังเขา  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 02-02-2017 10:23:12
อยากกินเด็กก็ต้องเปย์บ้างอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 02-02-2017 15:38:24
อยากพุ่งเข้าไปจิกหัวตบนังป้าซักที  :fire:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 02-02-2017 17:07:58
อร๊าย พี่อิสๆ ฝันดีนะ
เคลิ้มเลยล่ะสิ
ชอบน้องปิงมากเลย ดีแล้วลูกหนูจะได้มีชีวิตของหนูสักที
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 02-02-2017 23:34:02
เนื้อเรื่องดีมาก สนุกกระชับอ่านแล้วไม่ค้างแต่ละตอนจบแล้วประทับใจ ชอบคาแร็คเตอร์ทุกตัวละครเลย ปิงน่ารักถูกใจมากกกก  :L1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 7] 01-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 03-02-2017 02:27:28
น่ารักกกก

ปล.ไส้กรอกชีส พี่อิสนี่จังมาก ความคิด เอาซะหัวเราะลั่นห้อง

ปริ๊นก็น่ารักชะมัด

อิป้านี่ ตากฏหมายแล้ว ฟ้องได้ไหมนั่น ทำร้ายร่างกายเกินไปนะ เลวจริงอินังฟ่างอีก เสือกอะไรเบอร์นั้น สงสารย่าไปอีก เห้อ


ปิงออกมาใช้ชีวิตตัวเองเนอะ ทำงาน เก็บตังเรียน สู้ ๆ เข้า
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 03-02-2017 23:33:45
ตอนที่ 8

นมเปรี้ยววันละขวด

 

ผมลุกขึ้นจากเตียงในตอนสายๆ ของวันถัดมา หันไปมองรูปวาดดอกแดนดิไลออนที่ผนัง เป็นอีกครั้งที่เข้ามานอนในห้องของพี่อิส นาฬิกาที่หัวเตียงบ่งบอกเวลาว่าสายเกินกว่าจะไปเข้าเรียนแล้ว ทั้งๆ ที่ปกติผมจะตื่นเช้า แต่พอได้นอนที่นี่ผมกลับตื่นสายทุกที เช้านี้เลยไปโรงเรียนไม่ทันอีกแล้ว เดินออกมาข้างนอกเห็นพี่อิสกำลังนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี มือหนึ่งก็กดมือถือเล่นไปด้วย จังหวะที่เดินออกไปเขาก็หันมาเห็นผมพอดี

“ไงมึง นอนกินบ้านกินเมือง”

“ไปโรงเรียนไม่ทันอีกแล้วอะ”

“เฮอะ ขาเป๋ขนาดนี้ยังจะไปอีกหรือไง กูไม่ปลุกเพราะเห็นว่ามึงเจ็บขาไง ขาดเรียนไปเหอะ”

ผมเดินกะเผลกเข้าไปนั่งข้างๆ เขา

“ตอนเย็นก็ไม่ต้องไปทำงานหรอก โทรไปลาเลย”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ  จริงๆ ก็ไม่ได้เจ็บมากขนาดนั้น แต่เพราะแผลมันตึงๆ ทำให้เดินลำบากนิดหน่อย แล้ววันนี้ก็ขี้เกียจมากด้วย ได้ลางานก็คงดี

“อะ” พี่อิสเอาหลอดเจาะขวดนมเปรี้ยวสองขวด แล้วส่งให้ผมขวดหนึ่ง

“ผมไม่ชอบกินนมอะ”

“กินเข้าไปเหอะ ขี้ง่ายดี”

“พี่นี่...”

“เออ กินเหอะน่า จะได้โตเร็วๆ”

ผมรับขวดนมเปรี้ยวมาดื่มตามที่เขาบอก รสชาติของนมเปรี้ยวดีกว่านมวัวรสจืดที่ผมไม่ชอบ ก็เลยพอจะกินได้

“นั่งกินนมกับมึงแล้วนึกถึงน้องสาว เมื่อก่อนต้องกินนมพร้อมกันทุกวันเลย”

“แมวพี่กินนมเปรี้ยวด้วยเหรอ”

“กูหมายถึงน้องสาวจริงๆ เว้ย เป็นคน”

“อ๋อ...พี่มีน้องสาวด้วยเหรอ”

“อือ แต่คนละแม่นะ”

“แล้วครอบครัวพี่...” ผมหยุดคำถามเพราะเห็นหน้าพี่อิสที่หันมามอง เหมือนไม่อยากให้ถาม แต่เขาก็หันมาตอบด้วยสีหน้าที่ปรับให้เป็นปกติ

“บ้านแตกไปนานละ กูอยู่คนเดียวตั้งแต่สิบแปด”

ผมพยักหน้านิดๆ แล้วก้มหน้าลงไปดูดนมต่อ

“แต่ไม่เหงาหรอกนะ เพราะไอ้พวกเหี้ยนั่นมันถล่มบ้านกูบ่อยๆ แล้วตอนนี้ก็มีมึงมาอยู่ด้วยนี่ไง”

ผมพยักหน้าอีกที มุมปากยกขึ้นนิดๆ

“กูถามบ้างได้ไหม ทำไมป้ามึงเขาต้องไม่ชอบมึงด้วยวะ”

“เขาไม่ชอบแม่ผมอะ แม่พาพ่อหนีไป”

“โอ้โฮ แม่มึงเปรี้ยวว่ะ”

“แล้วก็ท้องแบบไม่ได้แต่งด้วย พอพ่อแม่ผมตายก็ไม่มีใครอยากเลี้ยงผม ย่าเอาผมมาเลี้ยง แต่คนที่บ้านก็ไม่ค่อยพอใจหรอก ใครจะอยากมีภาระ”

“ชีวิตมึงนี่เหมือนซินเดอเรลล่าเลยเนอะ”

“ครับ?”

“แต่เป็นซิลเดอเรลล่าเวอร์ชันมีกระจู๋”

“พี่!” ผมเผลอยกมือทุบแขนเขาเบาๆ  อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะ

“ล้อเล่นเว้ย แหม ทำเป็นอาย หรือมึงไม่มีกระจู๋”

“พี่ต้องกรองมุกนะ”

“อ้อๆ โทษๆ” เขาว่าแล้วยกมือเคาะหัวผมเบาๆ

“ผมขอถามอีกคำถามหนึ่ง”

“ว่า?”

“ทำไมพี่ถึงให้ผมมาอยู่บ้าน ทั้งๆ ที่เราก็เพิ่งรู้จักกัน”

เขาเงียบ แสดงสีหน้าครุ่นคิดอยู่นานจนผมแทรกขึ้นมาก่อน

“เพราะสงสารผมเหรอ”

“เฮ้ย ไม่ใช่เว้ย เพราะมึงเหมือนบังเอิญไง กูอยากได้แมวตัวใหม่พอดี”

“เอาความจริงเหอะ”

“เออ! สงสาร แต่ไม่ได้พูดให้มึงรู้สึกแย่นะเว้ย กูเองก็เคยเป็นแบบมึง พอเห็นมึงแล้วก็เลยสงสารไง”

“ขอบคุณนะครับ”

เขาหันขวับมามองแล้วเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

“ขอบคุณที่สงสารผม”

ผมไม่ได้คิดว่าการถูกสงสารเป็นเรื่องไม่ดีหรืออะไร ต้องขอบคุณมากกว่าที่อย่างน้อยก็มีคนเห็นใจผม พี่อิสจะสงสารหรือเวทนาผมมากกว่านี้ก็ได้ ไม่เป็นไรเลย

“แต่พี่ไม่ได้ให้ผมมาอยู่บ้านเพราะจะทำแบบที่พี่ปอนด์บอกใช่ปะ”

“ปอนด์มันว่าอะไร”

“หลอกมาเย่”

“สัด!”

“จริงๆ ผมไม่เข้าใจหรอกว่าเย่แปลว่าอะไร”

“ไม่ต้องรู้หรอก”

“บอกหน่อยสิ ตกลงมันแปลว่าอะไรครับ”

“เย่คือ...เอ่อ...คือฆ่าให้ตาย แบบว่าจริงๆ กูคือฆาตกรโรคจิตฆ่าหั่นศพคนมาหลายร้อยแล้ว”

“เชื่อนะ”

“พ่อมึงดิ! เอาเป็นว่ามึงไม่ต้องรู้หรอก ไม่ได้สำคัญอะไร” เขาพูดปัดๆ

“แล้วตกลงพี่จะเย่ผมไหมอะ”

“ไม่โว้ย!” พี่อิสกระแทกขวดนมเปรี้ยวลงบนโต๊ะแล้วลุกออกไป

“พี่จะไปไหนอะ”

“ไปขี้!”

โอ้โฮ...นมเปรี้ยวนี่เห็นผลไวแฮะ

...

 

หลังจากกินข้าวกลางวันเสร็จแล้ว พี่อิสออกไปข้างนอก ส่วนผมกำลังทำความสะอาดห้องที่พี่อิสยกให้เป็นห้องนอนของผม สภาพที่ไม่ได้ใช้งานมานานมากทำให้ต้องทำความสะอาดใหม่แทบจะทุกซอกทุกมุม ถ้าทำความสะอาดเสร็จคงเป็นห้องที่น่าอยู่น่าดู เพราะมันกว้างกว่าห้องนอนที่บ้านผมเกือบเท่าตัว แถมมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน ผมคิดว่าคงต้องจ่ายค่าเช่าบ้านให้พี่อิสแล้ว เพราะห้องดีๆ แบบนี้มาอยู่ฟรีๆ ก็เกรงใจ

“หลินปิง!”

“ครับ?” ผมขานรับพี่อิสที่เดินเข้ามาเรียกหน้าประตู

“กูซื้อผ้าปูที่นอนมาให้”

เลื่อนสายตามองชุดผ้าปูที่นอนที่เขาถือติดมือมา ริมฝีปากที่ขยับกว้างก่อนหน้าหุบลงเล็กน้อย

“ลายเบ็นเท็นเนี่ยนะพี่”

“ก็กูถามเขาว่าเด็กผู้ชายชอบลายไหน เขาก็เลือกมาให้ ไม่ชอบเหรอ เท่ดีออก”

“พี่อิส พี่ทำเหมือนผมเป็นเด็กประถมอะ ผมม.หกแล้วนะ”

“เอ้า! กูจะไปรู้เหรอ นึกว่าเด็กๆ ชอบ”

“โธ่พี่ ผมจะสิบแปดแล้วนะ จะมาเบ็นทงเบ็นเท็นอะไรเล่า”

“กูอุตส่าห์ปั่นจักรยานไปซื้อมาเลยนะ เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน” เขาแกล้งทำเป็นบ่นแล้วนอนลงบนเตียง มองไปรอบๆ ห้องที่ทำความสะอาดเกือบจะเสร็จแล้วก่อนเอ่ยปากพูดต่อ 

“หลินปิง มึงรู้เปล่าว่าเจ้าของห้องคนเก่าเป็นใคร”

ผมละสายตาจากผ้าปูเบ็นเท็นแล้วหันไปหาเขาที่ทำท่าเหมือนกำลังจะเขย่าขวัญผมให้หลอนไปกับเสียงเบาๆ ที่เขาเปล่งออกมา

“เจ้าของห้องคนเก่าอะ ตายไปแล้วนะ”

“เหรอครับ”

“เออ ตายคาห้องนี้เลยเว้ย!”

ผมเกือบสะดุ้งตอนที่พี่อิสโพล่งเสียงดัง ผมกวาดตามองไปรอบๆ แล้วพยักหน้าหน่อยๆ

“งั้นผมขออนุญาตนะครับ ขอนอนหน่อยนะฮะ”

“โวะ! ไม่สนุกเลย มึงไม่กลัวหน่อยเหรอ กูกะจะแกล้ง”

“ผมไม่กลัวผีนี่”

“เคยกลัวอะไรบ้างไหมมึงเนี่ย”

“ต้องกลัวสิ ผมเป็นแค่เด็กม.ปลายเองนะ”

“อะไรบ้างที่มึงกลัว”

“กลัวพี่ก่อนเลย”

“เดี๋ยวกูเตะกลิ้ง”

“ตอนแรกกลัวจริงๆ แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้ว กลัวอย่างอื่นมากกว่า กลัวไม่มีที่นอนแล้วก็กลัวไม่มีอะไรกิน”

“ดึงเข้าดราม่าอีก ก็มีที่นอนแล้วนี่ไง เชิญมึงนอนตามสบายเลย อยู่ไปให้นานๆ จนกว่ากูจะไล่มึงออกไปนั่นแหละ”

“งั้นก็อย่าไล่สิ”

“มึงก็ต้องเป็นเด็กดีนะ”

“เกิดมาไม่เคยดื้อสักครั้งเลย” ผมพูดอย่างโอ้อวด พี่อิสพยักหน้ารับขำๆ แล้วยกมือเคาะหัวผมเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ

“ส่วนเรื่องกินก็ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงก็ไม่อดตาย ถ้ามึงกินบะหมี่ต้มได้ทั้งเดือนแบบกูอะนะ”

ผมหลุดหัวเราะก่อนปรับน้ำเสียงและสีหน้าไปบอกกับเขาอย่างจริงจัง

“ขอบคุณนะพี่อิส”

“ขอบคุณอะไรนักหนาเล่า ชอบทำเหมือนกูเป็นคนดี แล้วนี่เอาผ้าปูไปซักด้วย เดี๋ยวไม่แห้ง”

“เอาไปเปลี่ยนได้ไหมอะ ไม่อยากได้เบ็นเท็น”

“ใช้ๆ ไปเหอะน่า กูยังห่มผ้าลายคิตตี้เลย”

“โคตรไม่เข้ากับพี่ คิดยังไงไปซื้อมา”

“ของน้องสาวกูเว้ย มันมาลืมไว้ กูก็เอามาใช้แม่งเลย มันนิ่มดี อุ่นด้วย”

“น้องสาวพี่อายุเท่าไรเหรอ”

“เท่ามึงมั้ง ม.หกเหมือนกัน”

“แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนอะ”

“อยู่ชลบุรี บ้านพ่อกูอยู่ที่นู่นอะ”

“หน้าตาเหมือนพี่ปะ”

“มีคนบอกว่าคล้ายกันนะ ดูรูปไหม กูเอาให้ดู”

ผมพยักหน้าหงึกๆ  เขาจึงควักมือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง

“มานอนนี่ดิ” เขาตบที่ข้างๆ บนเตียงเป็นเชิงให้ผมขึ้นไปนอนบนนั้น ผมขยับขึ้นไปนอนข้างๆ เขา ชะเง้อมองแกลเลอรีภาพในมือถือของพี่อิสที่มีอัลบั้มรูปของน้องสาวแยกเอาไว้

“นี่ไง น้องกู ชื่อลันลินา”

ผมดูรูปของน้องสาวพี่อิสที่เขาเลื่อนไปเรื่อยๆ  น้องสาวพี่อิสสวยมาก มีบางมุมที่คล้ายๆ เขาโดยเฉพาะเวลายิ้ม

“นี่เป็นหลีดด้วย สวยไหมล่ะ”

“สวยครับ”

“นี่ตอนไปประกวดวาดภาพได้ที่หนึ่งระดับจังหวัดเลยนะ เก่งได้กู”

“ครับ”

“เป็นนักบาสด้วยนะ ธรรมดาที่ไหน”

ผมแอบหัวเราะเบาๆ พี่อิสเหมือนลุงแก่ๆ กำลังอวดลูกสาวด้วยความภาคภูมิใจยังไงยังงั้นเลย

“แล้วน้องพี่มีแฟนไหมอะ”

“ถามทำไมวะ”

“ก็ดูเหมือนพี่จะหวงน้องอะ เลยอยากรู้ว่ามีแฟนยัง”

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ ไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของมัน มันโตแล้วอะ แต่ถ้ามึงจะจีบกูก็ไม่ขัดนะ”

“บ้าดิพี่”

“สวยขนาดนี้ยังไม่ชอบอีกเหรอ มีสิทธิ์อะไรไม่ชอบน้องสาวกู”

“ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่ได้รู้จักน้องสาวพี่ซะหน่อยจะไปจีบได้ยังไงกันเล่า”

“หรือชอบกู?”

“ฮะ!?”

ผมร้องลั่นอย่างสงสัยที่อยู่ๆ ก็ถูกถามแบบนั้น

“อย่างกูนี่ชอบไหม”

“...” ไม่รู้จะตอบว่ายังไง ได้แต่เงียบมองหน้าเขา พอนอนอยู่ข้างๆ กันแบบนี้ระดับสายตามันเลยเท่ากัน ปกติยืนอยู่จะมองเห็นแค่คางเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้ได้จ้องตากันแบบชัดๆ แล้วผมก็ไม่กล้าหลบตาเลย

“เฮ้ย หน้าแดงทำไมวะ มึงเขินเหรอ”

“ก็พี่จ้องตาอะ!” ผมว่าก่อนลุกพรวดขึ้นแล้วถอยห่างออกมา

“ว้าย เขิน”

“ไม่เขิน”

“อย่ามาโกหก เขินเว้ย ดูคนเราเขิน แอบชอบพี่เหรอจ๊ะ” พี่อิสลุกตามขึ้นมาแซวด้วยท่าทางกวนๆ

“ไม่ใช่!”

“เขินก็บอกว่าเขินดิ กล้าทำกล้ารับ”

“ไม่เขินไง ไม่ใช่!”

“ว้ายๆ”

“พี่อิส เดี๋ยวเตะเลย!”

“เตะสิจ๊ะ เตะมาด้วยความเขินเลย”

“พี่อิสแม่ง!” ผมยกขาตั้งใจจะเตะเขาจริงๆ แต่อีกฝ่ายเอี้ยวตัวหลบเป็นเหตุให้ขาผมเหวี่ยงเข้าไปกระแทกกับขอบเตียงจังๆ จนส่งเสียงร้องออกมาดังลั่น

“โอ๊ย!”

“เอ้า โง่อีกโง่ เขินแล้วโง่”

“พี่อิส!”

“อะๆ ไม่แกล้งละ เดี๋ยวมีคนเขินตาย”

ผมได้แต่แยกเขี้ยวใส่แล้วหันไปหยิบผ้าขี้ริ้วมาทำความสะอาดต่อ

“เออ เย็นนี้ไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันปะ จะเลี้ยงตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่อดไง”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ

“อยากกินอะไรอะ”

“อยากกินอะไรที่ไม่เคยกิน”

“อะไรล่ะ จะแดกอะไรก็ว่ามา”

ผมนึกไปถึงอาหารที่อยากกิน จริงๆ มีหลายอย่างที่ผมอยากลองแต่ไม่เคยกิน แต่มีอย่างหนึ่งที่แวบเข้ามาในหัวเป็นอย่างแรกก็เลยพูดออกไป

“อยากกินหมูกระทะ”

“มึงไม่เคยกินเหรอ”

ผมพยักหน้า พวกร้านหมูกระทะหรือพวกบุฟเฟต์มันเหมาะที่จะไปเป็นกลุ่มๆ มากกว่า ไปคนเดียวคงเหงาแปลกๆ ผมก็เลยไม่เคยลองสักครั้ง

“อยู่แต่ในถ้ำสินะมึงเนี่ย งั้นเย็นนี้ไปกินกัน ชวนพวกไอ้ปรินซ์ไปด้วย”

“ตกลงครับ”

“หน้าบานเชียวมึง หายเขินแล้วดิ”

“พี่ จะวนทำไมเนี่ย!”

“เออๆ เดี๋ยวกูโทรชวนไอ้พวกนั้นก่อน” พี่อิสว่าแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหารุ่นน้องของเขา ปลายสายคงปล่อยให้รอนานจึงได้รับคำทักทายหยาบคายสมเป็นพี่อิส

“ไอ้ห่า! ทำอะไรอยู่วะไม่รับโทรศัพท์ มือถือมีไว้วางทับกระดาษหรือไง! เออ กูจะชวนไปกินหมูกระทะเย็นนี้ ...อ้าว ทำไมวะ เฮ้ย ไว้ก่อนดิ ...อะไรวะ! หลินปิงมันชวนนะเว้ย ...จริงๆ  อ้ะ ไม่เชื่อมึงพูดกับมันเลย”

พี่อิสยื่นมือถือมาแนบหูผมแล้วขยับปากบอกว่าเป็นพี่ปรินซ์

“พี่ปรินซ์ครับ ไปกินหมูกระทะกันนะ”

“ได้สิครับ เดี๋ยวเจอกันตอนเย็น”

“ครับผม”

พี่อิสชักมือถือกลับไปแนบหูตัวเอง

“อีดอกปรินซ์! รู้สึกมึงจะหลงไอ้หมีแพนด้านี่เกินไปแล้วนะ ...เออ ชวนไอ้สองตัวนั้นด้วย ...อะไรอีก พวกมึงนี่งานยุ่งกันเหลือเกินนะ บอกไปว่ากูเลี้ยง! ...แหม ทีงี้ละว่างกันเลยนะไอ้ฉิบหาย ...เออๆ เจอกันที่ร้านเลยละกัน ...โอเค บายครับ” จะลงท้ายด้วยครับทำไมในเมื่อหยาบทั้งกายและใจมาตั้งแต่ต้นจนจบ ผมนึกขำอยู่ในใจ พี่อิสกดวางโทรศัพท์แล้วหันมาหาผม

“รีบทำความสะอาดเลย เดี๋ยวไม่เสร็จ”

“พี่ไม่ช่วยผมหน่อยเหรอ”

“กูเป็นคุณชาย จะทำงานบ้านได้ไง มึงเป็นซินเดอเรลล่ามึงก็ทำไป”

ผมหันมองตาขวาง

“ทำหน้ากวนตีน เดี๋ยวตบตาแตก งั้นเดี๋ยวกูไปซักนี่ให้” เขาว่าแล้วหยิบผ้าปูที่นอนเบ็นเท็นขึ้นมา

“เป็นคุณชายซักผ้าได้ด้วยเหรอ”

“แน่นอน กูเป็นคุณชายจิตใจอารี กูจะช่วยนางซินซักผ้า”

“ขอบคุณนะครับคุณชาย”

พี่อิสหัวเราะเบาๆ ยกมือเขกหัวผมทีหนึ่งแล้วเดินออกไป ส่วนผมหันกลับไปทำความสะอาดต่อ คิดอะไรอยู่ในหัวก็ไม่รู้ จนมุมปากยกขึ้นยิ้มอย่างห้ามไม่ได้ สายตาเหลือบไปเห็นตัวเองในกระจกจากประตูตู้ที่เปิดอยู่แล้วสะดุ้งนิดหนึ่ง...หน้าบานอะไรขนาดนั้นอะปิง

 

ผมมานั่งอยู่ในร้านหมูกระทะ ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ในรอบสิบเจ็ดปีกว่าๆ  กำลังมองดูชิ้นเนื้อที่วางอยู่บนกระทะมีรู เสียงดังฉ่าๆ และชิ้นเนื้อที่ดีดตัวตอนโดนความร้อนเหมือนมันดิ้นได้ เนื้อหมูค่อยๆ เปลี่ยนสี รอสักพักก็ถึงเวลาที่จะ...

ขวับ!

“พี่อิส!” ผมโวยลั่นตอนที่พี่อิสใช้ตะเกียบช่วงชิงหมูชิ้นนั้นที่ผมรอคอยไปต่อหน้าต่อหน้า อ้าปากกินหมูที่แย่งไปแล้วร้องออกมาเบาๆ

“โอ๊ย ร้อน”

“สมน้ำหน้าอะ แย่งอยู่ได้”

คนแย่งหมูไปได้แต่หัวเราะชอบใจแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม

“พี่จะแกล้งปิงทำไมเนี่ย” พี่ปรินซ์ถามหน้ายุ่ง

“ทำไม หลินปิงกู กูแกล้งได้” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นมาเกาคางผม ผมได้แต่สะบัดหน้าหนี เรียกชื่อผมว่าหลินปิงจนผมจะแปลงร่างเป็นแพนด้าไปนั่งกินไผ่โชว์ที่สวนสัตว์อยู่แล้ว

“เอานี่ พี่เอาให้” พี่ปรินซ์ว่าแล้วคีบเนื้อในชามตัวเองส่งมาให้ผม

“ขอบคุณครับ”

“นี่ไอ้ปรินซ์ มึงนี่ชักจะเยอะ คิดอะไรกับปิงปะเนี่ย” ผมหันไปมองพี่ปอนด์ที่พูดแซวๆ

“ไอ้บ้า คิดอะไรเล่า”

“ไม่ใช่ว่าโดนจูบไปทีหนึ่งแล้วติดใจนะ”

“พ่อมึงดิ! กูแค่เอ็นดูปิง เหมือนน้องชายที่บ้าน”

“น้องชายห่าอะไร นี่น้องสาวกู เหมือนบังเอิญไหม เหมือนเนอะ” พี่อิสว่าขำๆ แล้วยื่นมือมาเกาคางผมอีกที สายตาของพวกพี่ๆ ที่มองมาพลอยพยักหน้ารับคล้อยตามไปด้วย

“เออ เหมือนว่ะ”

“ดูๆ ไปก็เหมือนนะเนี่ย”

“ตอนแรกก็ไม่คิดอะไร พอพูดแล้วคิดเลยเนี่ย เหมือนบังเอิญอะ”

“พวกพี่นี่ ผมเป็นคนนะ จะเหมือนแมวได้ไง!”

“ว่าแต่พี่เหอะพี่อิส เอาหลานเขามาอยู่บ้านแบบนี้อะ ป้าเขาจะเอาตำรวจมาจับพี่ปะเนี่ย ปิงมันยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยนะ”

“กูจะบอกกับตำรวจว่าเด็กมันตามกูมาเอง”

“ป้าเขาไม่ยุ่งหรอกครับ เขาจะยินดีซะอีกที่ผมไม่ได้อยู่บ้านเขาแล้ว”

“ไม่ต้องดราม่าเลย แดกเข้าไปๆ” พี่อิสคีบเนื้อในกระทะใส่เข้ามาในชามผม

“พี่อิสไม่ได้หลอกปิงมาเย่จริงๆ ใช่ปะ”

“ไอ้เหี้ยปรินซ์!” พี่อิสโวยลั่นแล้วเอาผักกาดดิบยัดใส่ปากพี่ปรินซ์

“เอ้า ก็ผมเป็นห่วงปิงอะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ปรินซ์ พี่อิสเขาไม่ฆ่าผมหรอก”

“ฆ่า?”

“ก็เย่แปลว่าฆ่าให้ตายไม่ใช่เหรอครับ”

“โอ๊ย เด็กน้อย โดนพี่อิสหลอกแล้ว เย่เนี่ยมันแปลว่า...”

“ไอ้โอม! หุบปากเลย เรื่องเหี้ยๆ ไม่ต้องสอน!” ผักกาดดิบถูกยัดเข้าปากพี่โอมไปอีกคน

“เย่มันแปลว่าจับปล้ำเว้ยปิง ระวังโดนพี่อิสจับเย่!”

“ไอ้เหี้ยปอนด์!”

ผมหันขวับไปหาพี่อิสเมื่อรู้ความหมาย อีกฝ่ายก็หันมาพอดี ก่อนเราทั้งคู่จะหันขวับกลับไปมองหมูในกระทะแทน ผมกลอกตาไปมาอย่างพูดอะไรไม่ถูก พี่อิสหันไปด่าเสียงนิ่งๆ

“ไอ้พวกบ้า มึงพูดให้หลินปิงมันกลัวกู”

“ถ้าตำรวจจับนี่หลายข้อหาเลยนะพี่เนี่ย”

“เงียบไปเลย เงียบแล้วแดก!”

“จริงๆ แล้วพี่อิสเป็นคนแบบไหนเหรอครับ” ผมเอ่ยคำถามขึ้นมาก่อนถูกคนข้างๆ สวนกลับ

“แหม ไอ้หลินปิง มึงก็ถามเหมือนกูไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้เลยเนอะ”

“ก็ผมอยากรู้”

“พี่อิสเหรอ...” เว้นวรรคคำพูดเล็กน้อยด้วยสีหน้าครุ่นคิด พี่อิสแทรกประโยคถัดไปขึ้นมาก่อน

“ตอบดีๆ นะมึง ตอบไม่เข้าหูกูจะให้จ่ายมื้อนี้เอง”

“โอ๊ย! เป็นคนดี ประเสริฐหาใครเปรียบ”

“ใจดีโคตรๆ นี่มันพ่อพระในคราบคนถ่อยชัดๆ”

“ถึงจะปากหมา หยาบคาย จิตใจต่ำตม แต่ในเศษเสี้ยวของความเสื่อมทรามก็ยังเป็นคนดีอยู่นะ”

“จ่ายกันเองเลยนะไอ้พวกเลว!” พี่อิสกำลังจะเอ่ยปากด่าต่อแต่เสียงมือถือก็ดังแทรกขึ้นก่อน เขาขมวดคิ้วตอนพลิกหน้าจอขึ้นมาดู

“เดี๋ยวกูมา” เขาว่าแล้วลุกออกไป ทั้งสามคนรีบหันขวับมารวมหัวกัน

“เมื่อกี้โม้นะ ไอ้ที่ว่าประเสริฐอะ”

“แต่ที่บอกว่าปากหมา หยาบคาย จิตใจต่ำนี่เรื่องจริง”

“แต่ก็ใจดีอยู่นะ แต่ก็เป็นบางเรื่องอะ อะไรที่เขาช่วยได้เขาก็ช่วย แต่ถ้าเรื่องไหนไม่อยากยุ่งก็จะไม่ยุ่งเลย”

“เขาเป็นพวกทำอะไรตามใจตัวเอง ขี้โมโหไปอย่างนั้น แต่ก็ไม่เคยโกรธอะไรจริงๆ จังๆ หรอก”

“แล้วพี่อิสเขามีแฟนไหมครับ”

“โอ๊ย! ใครจะเอา!”

พวกพี่ๆ พากันหัวเราะครืน ก่อนพี่ปรินซ์จะพูดต่อ

“เอาจริงๆ พี่อิสเคยมีแฟนนะ แต่ว่าเลิกกันไปแล้ว”

“เออ กูลืมไปเลยนะเนี่ยว่าพี่มันเคยมีแฟน”

“เนยอะนะ ไม่ได้ยินชื่อนี้นานแล้วว่ะ”

“นั่นดิ พอเลิกกันก็ไม่เคยได้ยินพี่มันพูดถึงเลย กูไม่เคยเห็นพี่มันเฮิร์ตเลยนะ”

“คีปลุคไงมึง เดี๋ยวไม่เท่ เผลอๆ ไปแอบร้องไห้ในห้องน้ำ แบบเปิดฝักบัวรดหัวแล้วก็ร้องเพลงเศร้าไปด้วยอะ”

“แต่บางทีกูยังเห็นเนยโทรหาพี่อิสอยู่เลยนะ”

“ไม่รู้ดิ พี่อิสไม่ให้เสือกเรื่องนี้ด้วยไง”

“หรือว่าที่กำลังคุยกันอยู่วะ พี่อิสถึงยืนยิ้มหน้าบานขนาดนั้น”

ผมหันไปมองพี่อิสที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่อีกทาง ยิ้มกว้างๆ ระหว่างที่คุย ผมก็เดาไม่ได้ว่ากำลังคุยกับใครอยู่ ก็อาจจะเป็นคนนั้น...อาจจะเป็นแฟนเก่าของเขา

To be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Key Mine ที่ 04-02-2017 00:20:31
พี่อิสแม่งกากว่ะ แต่เป็นไอ้กากที่โคตรเท่เลย

อ่านแปปเดียวติดภาษามาเลยอะ 5555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 04-02-2017 00:45:20
อย่าแกล้งน้อง ไอ้พี่อิสสสสสสสสสส
น่ารักจริงเด็กน้อยหอยสังข์ปิงงงง :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-02-2017 01:10:06
พี่อิสจะทำไรก็ได้ แต่อย่าทำปิงเจ็บน้าาาา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 04-02-2017 01:36:47
พี่อิสแม่มโคตรกร๊าวใจเลย
กากแต่โคตรเท่
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-02-2017 06:59:41
เพิ่งมีคนที่ดีกับปิง ก็พี่อิส นี่แหละ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 04-02-2017 08:54:59
ดูท่าว่าชีวิตน้องปิงเริ่มสดใส
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 04-02-2017 09:15:25
พี่อิสคนกาก... แต่น่ารัก ฮิ้ว...
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 04-02-2017 11:55:04
น้องปิง จับพี่อิสให้อยู่หมัดเลย ทำให้พี่อิสทั้งรักทั้งหลงซะ
อย่าปล่อยให้หลุดมือไปหาแฟนเก่าได้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 04-02-2017 14:04:19
หึงละสิ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 04-02-2017 18:48:30
 o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 8] 03-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 04-02-2017 23:24:23
 o13 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 04-02-2017 23:32:51
ตอนที่ 9

ชายชรากับเด็กน้อย

             

เพราะบ้านพี่อิสไกลจากโรงเรียนพอสมควรก็เลยต้องตื่นเช้ากว่าปกติ หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนเตียงนอน มองผ้าปูที่นอนทีไรก็อดตกใจหน้าเบ็นเท็นไม่ได้ทุกที ตัวเบ้อเร่อเลยเนี่ย ผมที่กำลังเดินออกมาข้างนอกชะงักกึกเพราะพี่อิสยืนอยู่หน้าประตูพอดี

“อ้าว กำลังจะไปเรียก”

“พี่อิสตื่นแต่เช้าเลยนะครับ”

“ลุกมาทำอาหารเช้าให้นี่ไง” พี่อิสชี้ไปยังโจ๊กคัปกึ่งสำเร็จรูปกับนมรสจืดกล่องหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา

“เทน้ำใส่โจ๊กคัปนี่เรียกว่าทำอาหารเหรอครับ”

“เออน่า ทำได้ก็บุญละ กินเลย เย็นหมดแล้วเนี่ย”

ผมพยักหน้ารับยิ้มๆ  กำลังจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาแต่พี่อิสคว้าไหล่ผมเอาไว้ก่อน มองหัวจดเท้า สายตาไปหยุดอยู่ที่หัวเข่าของผม

“เดี๋ยวนะ”

“อะไรครับ”

“กางเกงมึงนี่สั้นไปไหม”

“ฮะ?” ผมก้มดูกางเกงตัวเองที่สั้นเหนือหัวเข่าขึ้นมานิดหน่อย แต่สำหรับผมก็เป็นความยาวที่กำลังดี ไม่เรียกว่าสั้นด้วยซ้ำ

“กางเกงอะ สั้นจังวะ”

“ไม่สั้นขนาดนั้นนะ”

“แผลที่หัวเข่าก็ยังไม่หาย ไม่อายเขาเหรอ ยาวกว่านี้ไม่มีหรือไง”

“ไม่มีครับ”

“อะไรของมึง สมัยนี้เขานิยมแบบนี้เหรอ มึงจะโชว์ขาอ่อนให้คนอื่นดูหรือไง”

“พี่อิสขี้บ่น”

“เออ กูจะบ่น มึงจะทำไม มึงไปซื้อใหม่เลยนะ เอาให้ยาวถึงแข้งเลย”

“คนอื่นใส่สั้นกว่านี้อีก”

“ก็เรื่องของคนอื่นสิวะ ทำไมต้องไปทำตามเขา”

“สายแล้วๆ ไม่มีเวลาฟังแล้วครับ” ผมตัดบทพี่อิสแล้วนั่งลงกินโจ๊กคัปที่ไม่ร้อนแล้วก็เลยตักเข้าปากแบบรัวๆ  คนข้างๆ ยังบ่นเป็นลุงแก่ๆ ไม่หยุดปาก

“เด็กสมัยนี้ก็แปลก เห็นคนอื่นทำก็ทำตาม ไม่ได้คิดเลยว่ามันควรหรือไม่ควร...”

ผมกินโจ๊กหมดก็ตามด้วยนมอีกกล่อง ปกติไม่ชอบกินนมเลย แต่พี่อิสมองด้วยหางตาตอนที่ผมเมินใส่นมก็เลยต้องยกกล่องขึ้นมาเจาะดูดอย่างช่วยไม่ได้ กินเสร็จก็คว้าเป้ขึ้นสะพายพร้อมจะออกจากบ้านแล้ว

“กูต้องไปส่งไหม”

“ผมไปเองได้ครับ”

“เออ ไปดีๆ  เลิกงานกี่โมงก็ไลน์มาบอกด้วย แล้วขากลับแวะซื้อผ้าก๊อซมาด้วยนะ เอาตังค์ไป” เขาร่ายยาวแล้วควักแบงก์ร้อยส่งให้ผมสองใบ

“ให้ตังค์ทำไมอะ”

“ก็ให้ตังค์ไปโรงเรียนไง”

ผมหลุดหัวเราะออกมาขณะที่พี่อิสขมวดคิ้วแน่น

“พี่อิส พี่อายุเท่าไรอะ”

“ยี่สิบห้า”

“แล้วพี่คิดว่าผมอายุเท่าไร”

“สิบเจ็ดไง”

“แต่พี่ทำเหมือนผมเป็นเด็กประถมอะ พี่เหมือนลุงแก่ๆ ส่งหลานไปโรงเรียนเลย ลุกมาทำอาหารเช้าให้ บ่นนั่นบ่นนี่ แถมให้ตังค์ไปโรงเรียนอีก”

“เอ้า แล้วมึงมีตังค์ใช้หรือไง”

“มีครับ ปกติผมหาเงินใช้เองอยู่แล้ว”

“กูไม่รู้นี่ กูเคยแต่เลี้ยงแมว ไม่เคยเลี้ยงเด็ก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเว้ย แมวกูไม่เคยไปโรงเรียนซะหน่อย”

“พี่ไม่ต้องดูแลผมขนาดนี้ก็ได้ แค่ให้อยู่บ้านก็ขอบคุณมากแล้ว ผมอาจจะเด็กกว่าพี่ แต่ไม่ได้เด็กอย่างที่พี่คิดนะ”

“เออ พูดเหมือนกูแก่เลยเนี่ย”

“ก็ทำตัวแก่มากอะ”

“เดี๋ยวเตะเลย”

“งั้นผมไปโรงเรียนแล้วนะ”

เขาพยักหน้ารับแล้วเดินไปที่หน้าประตู ก้มลงสวมรองเท้า ก่อนที่พี่อิสจะเรียกผมด้วยชื่อที่เคยชินไปเสียแล้ว

“หลินปิง”

“ครับ?”

“ต่อไปนี้ใช้ชีวิตอย่างที่มึงอยากใช้ ชีวิตมึงเป็นอิสระแล้วนะ”

“เป็นอิสระ...เหรอครับ”

“ใช่ อยากทำอะไรก็ทำ อยากพูดอะไรก็พูด มีอะไรก็บอกกู ไม่ต้องเก็บเอาไว้คนเดียว ให้ความรู้สึกของมึงเป็นอิสระบ้าง”

ผมได้แต่พยักหน้ารับเบาๆ ขณะที่อีกคนยังบ่นต่อ

“ที่บอกว่าทำอะไรที่อยากทำ หมายถึงทำแต่เรื่องดีๆ นะ ไม่ใช่ไปทำตัวเกเรจนเสียคน ไม่งั้นกูเตะตัวขาดเลยนะ เรื่องไหนที่กูไม่เห็นด้วยกูจะดุมึงเอง”

“ครับๆ”

“ไปเรียนได้แล้ว”

“ครับลุง”

“ลุงพ่อมึง!” พี่อิสยกเท้าขึ้นเตะผมเบาๆ ก่อนผมจะเดินออกมาจากบ้าน มุมปากขยับเป็นรอยยิ้มกว้างอย่างห้ามไม่ได้ ตลอดทั้งชีวิตผมไม่เคยมีความรู้สึกนี้เลย ไอ้ความรู้สึกที่เดินตัวปลิวออกจากบ้าน มีความสุขแม้ในวันที่อากาศชื้นครึ้มฟ้าครึ้มฝน เพิ่งจะเข้าใจวันนี้เอง...ความรู้สึกที่เป็นอิสระ

 

...

 

วันนี้ที่โรงเรียน ผมต้องมาทำงานตามส่งเพราะเมื่อวานขาดเรียนไป โชคดีที่เมธี เพื่อนแสนดีที่หนึ่งถ่ายรูปการบ้านเอาไว้ให้ลอกก็เลยเอามานั่งปั่นในคาบดนตรี เพราะครูไม่สอนอะไร ปล่อยให้นักเรียนนั่งเล่นเครื่องดนตรีกันไปเอง ผมไม่ค่อยชอบวิชาดนตรีเพราะเล่นอะไรไม่เป็นสักอย่าง สอบทฤษฎีผมคะแนนเต็มตลอด แต่สอบปฏิบัติขึ้นมาเมื่อไรฉิบหายแน่นอน ตอนม.สี่ครูสอนกีตาร์แค่สี่คอร์ด ผมเล่นบอดตั้งแต่ต้นเพลงยันจบ เพื่อนนี่ตามล้อกันยันจบเทอมเลย แต่ก็มีคู่หูสายบอดอย่างเมธีเป็นเพื่อนกันเลยไม่ค่อยเขินเท่าไร

“เด็กๆ หันมาฟังทางนี้หน่อย” ผมละสายตาจากงานแล้วเงยหน้าขึ้นไปมองครูลัทธพล ครูประจำวิชาดนตรีที่เพิ่งเข้ามาสอนได้ปีแรก ด้วยความที่ครูอายุยังไม่มากและใจดีเป็นกันเอง เด็กๆ ส่วนใหญ่ก็เลยปลื้มครูมากกว่าครูสอนดนตรีคนอื่นๆ

“มีอะไรคะครู”

“ขอทวนเรื่องสอบปฏิบัติครั้งแรกหน่อยนะ จำได้เปล่าว่าตกลงกันไว้ว่ายังไง”

“เลือกเครื่องดนตรีเองแล้วก็เล่นคนละเพลงค่ะ” ผู้หญิงแถวหน้าเป็นตัวแทนตอบ

“ใช่แล้ว ถ้างั้นอีกสองอาทิตย์จะเริ่มสอบครั้งแรกแล้วนะ”

“ฉิบหายละ” ผมเผลอสบถออกมา แต่เป็นจังหวะที่ทุกคนเงียบพอดี เสียงของผมก็เลยดังพอที่จะได้ยินทั้งห้องจนต้องรีบยกมือขึ้นอุดปากตัวเอง ครูลัทธพลหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ

“ฉิบหายแน่นอน ถ้าปกรณ์ยังเอาแต่ทำการบ้านในห้องครู”

“ผม...”

“ไม่ต้องเถียงเลย ครูดูอยู่นะครับ”

“คือผม...”

“แน่ะ! ปกรณ์ ยังจะเถียง”

“ผมชื่อปวินท์ครับครู!” ผมสวนกลับเสียงดังเมื่อครูไม่เปิดโอกาสให้ผมพูดเลย แค่อยากทวงคืนชื่อจริงของตัวเองให้ครูจำได้บ้าง

“อ้าว ขอโทษทีครับ” ครูลัทธพลยกมือเป็นเชิงขอโทษก่อนจะหัวเราะหน่อยๆ หรือไม่บางทีผมอาจจะไปเปลี่ยนชื่อเป็นปกรณ์ไปเลย น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรื่องนี้ก็ได้

“โอเค งั้นเดี๋ยวอีกสองอาทิตย์เริ่มสอบเลยเนอะ ครูจะสอบแบบเรียงเลขที่นะครับ ใครอยากให้ครูสอนอะไรเป็นพิเศษก็มาหาได้เลยนะ”

ผมตอบรับครูไปพร้อมกับเพื่อนในห้อง ก่อนจะหันขวับไปหาเมธี มันเองก็หันมามองในจังหวะเดียวกัน แค่มองตาก็เข้าใจว่าความฉิบหายวายป่วงกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้ว คู่หูสายบอดคัมแบ็กแน่นอนเทอมนี้

...

 

หลังเลิกเรียน ผมตั้งใจจะไปทำงาน แต่พอไปถึงร้าน พี่พิงค์เห็นว่าผมเจ็บขาก็เลยไล่กลับมา ทั้งๆ ที่บอกแล้วว่าไม่เจ็บมาก แต่เขาก็ไม่ยอมให้ผมทำงาน แถมให้ขนมปังมากินอีก ใจดีกับผมจนไม่กล้าจะโต้เถียงอะไรก็เลยได้แต่ทำตามที่บอก แต่เพราะไม่ต้องทำงานผมก็เลยว่างอย่างกะทันหัน เพิ่งเคยมีเวลาว่างหลังเลิกเรียน ไม่รู้ว่าจะเอาเวลาไปทำอะไรดีเลยตั้งใจจะกลับบ้าน

บ้าน...

คิดถึงคำนี้ขึ้นมาด้วยความรู้สึกสับสนนิดหน่อย นึกถึงบ้านของป้าที่ผมเดินออกมาโดยไม่ได้คิดไตร่ตรองอะไร แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากกลับไปที่นั่นเลย เว้นก็แต่ความเป็นห่วงที่มีต่อย่า มันทำให้ผมนึกถึงบ้านหลังนั้นขึ้นมา ผมจึงหยิบมือถือขึ้นมากดเบอร์บ้านซึ่งเป็นเบอร์เดียวที่จำได้ ลังเลนิดหน่อยตอนที่จะกดโทรออก ก่อนจะหลับหูหลับตาจิ้มโทรออกไป ขอให้คนที่รับเป็นย่าทีเถอะ...ได้โปรด

“สวัสดีค่ะ”

“ย่า!” ผมถอนใจโล่งอกเมื่อปลายสายเป็นเสียงย่ารับ

“ปิงเหรอ ปิงใช่ไหม”

“ปิงเอง”

“ไปอยู่ที่ไหน เป็นยังไงบ้าง”

“ปิงโอเคดี”

“แล้วไปอยู่กับใคร ใช่คนที่เข้ามาวันนั้นไหม”

“ใช่ครับย่า ปิงอยู่กับเขา”

“เป็นคนดีไหม ไว้ใจได้หรือเปล่า”

“ไว้ใจได้ครับ เป็นคนดีด้วย ย่าไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

“จะไม่ห่วงได้ยังไงล่ะ จะไปอยู่ไปกินยังไง ย่าน่าจะช่วยอะไรปิงได้มากกว่านี้”

“ไม่เป็นไรครับย่า ทุกอย่างโอเคมากเลย ปิงอยู่ไม่ไกลจากย่า อย่าห่วงเลยนะครับ”

“ถ้ายังไงก็โทรหาย่าบ่อยๆ นะ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีด้วย”

“ได้ครับ ย่าก็ดูแลตัวเองนะ”

ผมกดวางสายจากย่าแล้วถอนใจออกมาเบาๆ ถึงจะเป็นห่วงย่าแต่ผมก็ไม่อยากกลับไปที่นั่นแล้ว คนที่นั่นคงรู้สึกดีกว่าถ้าไม่มีผม เพราะฉะนั้นผมก็จะขอเป็นคนเห็นแก่ตัวและใช้ชีวิตอย่างที่อยากใช้ ทำอะไรที่อยากทำ...ขอเป็นอิสระสักที

...

 

ผมเดินกลับเข้ามาในบ้านพี่อิส เห็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งอยู่หน้าคอม ไม่รู้ว่าใจลอยอะไร ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ เขายังไม่รู้ตัวเลย ผมชะโงกหน้าไปดู เขากำลังใช้ดินสอวาดรูปลงบนกระดาษ มันไม่ได้เป็นรูปวาด เหมือนแค่ขีดๆ เขียนๆ ไปเรื่อยเปื่อยไม่ได้จริงจัง สายตาเลื่อนมองมือข้างที่จับดินสออยู่ ผมจึงเพิ่งสังเกตเห็นเป็นครั้งแรก...พี่อิสเป็นคนถนัดมือซ้าย

“พี่อิส”

“เชี่ย!”

ผมกระโดดออกมาเพราะตกใจเสียงพี่อิสที่ตกใจผม เขายกมือทาบอกแล้วถอนใจเบาๆ ทำท่าทางเหมือนคนแก่ที่หัวใจเกือบวายแล้วหันมาพูดเสียงดุ

“ไอ้หลินปิง ตกใจหมด!”

“ขอโทษครับๆ”

“แล้วนี่ไม่ทำงานเหรอ”

“เจ้านายไล่กลับมา บอกว่าไม่อยากใช้งานเด็กขาเป๋”

เขาพยักหน้ารับ

“แล้วพี่ทำอะไรอยู่เหรอ เห็นนั่งเหม่อ”

“คิดอะไรเพลินๆ ไม่มีงานทำ ว่างฉิบหาย”

“เออพี่ ผมซื้อขนมมาฝาก” ผมว่าแล้วหยิบโตเกียวหน้าโรงเรียนที่ซื้อมาฝากส่งให้เขา

“ขนมเด็กๆ”

“ไม่กินใช่ปะ”

“กิน หิวอยู่” เขาว่าแล้วยัดโตเกียวเข้าปาก ขณะที่ผมได้แต่อมยิ้มหน่อยๆ  คนแก่กินขนมเด็กๆ

“เออ พี่อิส พี่เล่นดนตรีเป็นไหม” ผมถอดเป้กับเสื้อคลุมออกแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา พี่อิสเดินมานั่งข้างๆ ผมด้วย

“ไม่เป็นอะ”

“โห่ ไม่เท่เลย”

“เกี่ยวอะไร แค่นี้กูก็เท่มากแล้วเว้ย จะให้กูทำอะไรอีก แล้วถามทำไม”

“ผมมีเรียนวิชาดนตรี ต้องเล่นดนตรีให้เป็นเพลงด้วย แต่ผมเล่นอะไรไม่เป็นสักอย่างเลย ตกแน่ๆ”

“ซ้ำชั้นไปเลยมึง”

“พี่อะ!”

“แล้วนี่มึงจะไม่ซื้อกางเกงใหม่ใช่ไหม” พี่อิสชี้มาที่กางเกงผม วนเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว

“ไม่ซื้อแล้ว อีกเทอมเดียวก็จบแล้ว เปลืองเงิน”

“เฮอะ พูดไม่ฟังนะมึง แล้วได้ซื้อผ้าก๊อซมาไหม จะได้ทำแผลให้”

“เออ ลืม” นึกขึ้นได้ก็ตอนที่เขาพูดถึง ลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท

“หลินปิงเอ๊ย เพราะมึงตัดผมทรงนี้ไง มึงถึงได้ขี้ลืม”

“มันเกี่ยวกันไหม!”

“ไม่รู้ กูเหมาหมดแหละ ทรงผมมึงมันขัดตากู”

“รองทรงเว้ยพี่ นักเรียนมันก็ตัดได้ทรงเดียวนี่แหละ สมัยเรียนพี่หัวเกรียนใช่ปะล่ะ”

“เออดิ แต่มึงผมยาวแล้วนะเนี่ย ทิ่มตาแล้ว”

ผมยกมือปัดผมข้างหน้าที่เริ่มยาวจนปิดคิ้ว แต่ข้างหลังยังไม่ยาวมากเพราะตัดครั้งล่าสุดลุงช่างตัดผมเอาข้างหลังออกเยอะไปหน่อย

“ไปตัดเลย มึงจะปล่อยยาวเป็นราพันเซลหรือไง”

“แต่ข้างหลังมันยังไม่ยาวเลยนะ เปลืองตังค์อะ”

“งั้นกูตัดให้”

“ได้เหรอ”

“ได้ดิ” เขาว่าแล้วลุกไปหยิบกรรไกรตัดกระดาษที่โต๊ะทำงานมา ผมกะพริบตาปริบๆ กับท่าทางเอาจริงของพี่เขา ขยับกรรไกรแง้บๆ มาจ่อตรงหน้า แต่ว่าผมไม่มั่นใจเลยสักนิดเลยออกปากปฏิเสธ

“พี่อิส ผมว่าไปร้านตัดผมดีกว่า คงเสียเงินไม่เท่าไร”

“เหอะน่า เมื่อก่อนกูตัดหน้าม้าให้น้องสาวประจำ”

“มันเหมือนกันเหรอ”

“เชื่อพี่สิ”

พี่...

“อยู่เฉยๆ”

ผมอยู่เฉยๆ ตามคำสั่ง ที่ยังนิ่งก็เพราะเมื่อครู่คำแทนตัวเองว่าพี่ยังติดอยู่ในหู น้ำเสียงทุ้มต่ำและคำว่าพี่ฟังดูอ่อนโยนแปลกประหลาด แค่คำเดียวจากปากเขากลับสะกดผมให้อยู่นิ่งได้จริงๆ...พี่อิสก็พูดเพราะๆ เป็นนี่นา

มือใหญ่ของเขาจับผมด้านหน้าของผมลงมา อีกมือค่อยๆ เล็มออกทีละนิด ผมนั่งเกร็งอย่างลุ้นๆ ส่วนเขาเองก็ดูตั้งใจจนไม่กล้าชวนคุยอะไร ได้ยินแค่เสียงกรรไกรดังกระทบกัน

“หลับตาดิ”

ผมหลับตาลงตามคำสั่ง ก่อนพี่อิสจะเป่าลมใส่หน้าเบาๆ

“เสร็จละ”

ผมลืมตาขึ้น เห็นหน้าพี่อิสที่อยู่ใกล้ๆ พอดี ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนนี้ผมรู้สึกว่าพี่อิสโคตรน่ารักเลย เขายกมือขึ้นปัดผมด้านหน้าให้แล้วขยับมุมปากขึ้นยิ้ม ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงเบาๆ

“สัด...แหว่ง”

“งื้อ!” ผมยกมือจับหัวแล้วกะพริบตาปริบๆ  อีกฝ่ายได้แต่หัวเราะออกมา

“เนียนๆ ไป ไม่มีใครสังเกตหรอก”

“พี่อะ!”

“มันก็ไม่ได้แย่”

ผมได้แต่มองตาขวาง พี่อิสยังคงมองหน้าผมอยู่ สายตาของเขาที่ไม่เลื่อนออกไปไหนเลยทำให้ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย ขยับปากถามเบาๆ

“พี่มองอะไร”

“ตามึงเป็นสีน้ำตาลด้วยอะ” เขาว่าแล้วยกมือจับคางผมให้อยู่กับที่ ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ มองเข้ามาในลูกตาของผมอย่างจริงๆ จังๆ

“ใครๆ เขาก็สีนี้กัน”

“ไม่ดิ นี่น้ำตาลอ่อนเลย เป็นเพราะมึงขาดสารอาหารปะเนี่ย”

พี่อิสยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก พี่อิสกำลังมองตาผมใกล้ๆ ขณะที่ผมก็ได้เห็นพี่อิสแบบใกล้ๆ ด้วยเหมือนกัน ผมไม่กล้าเลื่อนสายตาไปมองส่วนอื่นนอกจากส่วนของดวงตา คิ้วหนาเรียงตัวสวยเข้ากันดีกับตาสองชั้นคมๆ และดวงตาของเขาเป็นสีน้ำตาลเข้ม

“พี่อิส! น้องปิง!”

“เชี่ย!” ทั้งผมและพี่อิสรีบผละออกจากกันหลังได้ยินเสียงเรียกที่หน้าประตู พี่ปอนด์ผู้เป็นเจ้าของเสียงเดินเข้ามาพร้อมพี่โอม พี่ปรินซ์อย่างเคย

“ทำอะไรกันอะ”

“เล่นจ้องตากันเหรอ”

“เปล่าเว้ย กูกำลังนั่งดูตาหลินปิงมันอยู่”

“ดูทำไม”

“ก็สีมันแปลกๆ ไม่เชื่อมึงมาดูดิ” สิ้นคำพูดของพี่อิส พวกพี่ๆ ทั้งสามคนก็พุ่งตัวเข้ามาจ้องตาผมแบบจริงๆ จังๆ  ผมรู้สึกขัดเขินขึ้นมาเล็กน้อยกับการมานั่งให้คนอื่นมองตาเล่น เดาว่าหน้าคงแดงไปแล้วเพราะรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า

“แปลกยังไงอะ” พี่ปอนด์ขมวดคิ้วถาม

“เขาเรียกว่าน้ำตาลเฮเซลนัทเว้ย” พี่โอมบอก ผมเพิ่งได้ยินชื่อเรียกของสีน้ำตาลแบบนั้นเป็นครั้งแรก

“สวยดีครับ” พี่ปรินซ์พูดแล้วยิ้มนิดๆ

“พอแล้วๆ พอๆ หลินปิงกูหูแดงหมดแล้วเนี่ย” พี่อิสเข้ามาดึงทั้งสามคนออกไปแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด

“แล้วพวกมึงมาทำไมเนี่ย”

“มาทำงานสิครับ ขออนุญาตเลยนะฮะ มึง ไปขนของมา”

“กูไม่อนุญาตได้ไหมล่ะไอ้ห่า” พี่อิสบ่นเบาๆ ก่อนพวกพี่ๆ จะไปช่วยกันยกของเข้ามา จัดการทำโมเดลกันอย่างดูชำนาญ ผมนึกสนุกเลยขอเข้าไปช่วยด้วย พวกเขาก็เลยให้ผมช่วยตัดอันที่ง่ายๆ เพราะเกิดพลาดไปตัดผิดเดี๋ยวต้องเสียเวลาพวกเขาร่างแบบใหม่อีก ระหว่างนั้นก็ชวนกันคุยไปเรื่อยเปื่อย ส่วนพี่อิสนอนกินป๊อปคอร์นอยู่บนโซฟาสบายๆ

“แล้วปิงไปโรงเรียนยังไงอะ”

“เดินไปครับ”

“เฮ้ย ไกลนะ”

“พี่อิสทำไมไม่ไปส่งน้อง”

“เออได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปส่ง ปั่นจักรยานไป แล้วให้หลินปิงมันนั่งตะกร้าหน้าไป ดีไหม”

“จะบ้าเหรอพี่ ไม่ใช่อีทีนะ” หมายถึงหนังที่เป็นมนุษย์ต่างดาวขี่ตะกร้าหน้ารถของมนุษย์ ผมเคยดูตอนเด็กๆ

“เฮ้ย รุ่นมึงนี่ทันอีทีด้วยเหรอวะ”

“มาดูตอนโตแล้วนี่แหละครับ เมื่อก่อนลุงผมชอบดูหนังมาก ผมก็เลยได้ดูด้วย”

“แล้วมึงชอบดูหนังไหม”

ผมพยักหน้ารับ ผมชอบดูหนังกับลุง แต่พอลุงตายไปก็ไม่มีใครชวนผมดูหนังอีกเลย ไม่เคยเข้าโรงหนังด้วยเพราะค่าตั๋วหนังแพงเกินไปสำหรับผม

“งั้นดูหนังกัน” พี่อิสว่าแล้วลุกไปที่หน้าทีวี ดึงลิ้นชักจากชั้นวางทีวีออกมา ผมแหวกทางที่เต็มไปด้วยเศษกระดาษเข้าไปหาเขา ก่อนจะเห็นดีวีดีหนังอัดแน่นอยู่ในนั้น คิดว่าสมัยนี้จะไม่มีคนสะสมดีวีดีแบบนี้แล้วซะอีก

“โห โคตรเยอะเลย พี่อิสชอบดูหนังเหรอครับ”

“อือ ชอบดูหนังแต่ไม่ชอบเข้าโรงหนัง รำคาญเสียงดังเกินอะ แล้วมึงชอบดูแนวไหน”

“ดูได้ทุกแนวครับ”

“หนังโป๊ไหม”

“พี่แม่ง!”

“เดี๋ยววันหลังกูส่งไฟล์ให้ เอาไว้ดูคนเดียว”

“พี่อิส ไหนบอกเรื่องเหี้ยๆ ไม่ต้องสอนไง” พี่ปรินซ์หันมาพูดก่อนโยนเศษกระดาษที่ขยำเป็นก้อนมาโดนหัวพี่อิสพอดี

“กูล้อเล่นเว้ย! อันนี้ดูยัง” พี่อิสเปลี่ยนเรื่องกลับมาที่ดีวีดี ปลายนิ้วไล่ผ่านกล่องดีวีดีไปทีละแผ่น ปากพึมพำชื่อเรื่องไปด้วย คราวนี้ผมเป็นฝ่ายถามบ้าง

“แล้วพี่ชอบดูแนวไหน”

“ที่สุดก็ต้องหนังโป๊อยู่แล้ว”

“พี่! จริงจังสักวินาทีได้ไหมครับ”

“กูดูไม่จริงจังตรงไหนอะ”

“พี่นี่มัน...” ไม่มีคำไหนจะพูดจึงได้แต่ถอนใจออกมาแทน อีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ แล้วให้คำตอบใหม่อีกที

“กูชอบหนังรัก”

“...”

“แบบมีฉากเรตเยอะๆ”

ผมหันขวับไปมองคนที่เกือบจะจริงจังแล้วก็ล้อเล่นอีก พี่อิสนี่มันน่า...

“ทำไมต้องมองตาขวางด้วยอะ”

“ไม่พอใจกับความจัญไรของพี่ไง”

“กูนึกว่ามึงจะชินแล้วซะอีก” พี่อิสพูดขำๆ ก่อนเลือกหนังรักเรื่องหนึ่งมาเปิดดู ผมละจากการเป็นลูกมือพี่ๆ ทั้งสามเพราะหมดงานในส่วนที่ผมจะทำได้แล้ว ขยับขึ้นมานั่งบนโซฟาดูหนังกับพี่อิส พอในหนังมีฉากเรตอย่างที่บอกพี่อิสก็ยื่นมือมาปิดตาผม

“ไม่ต้องดูๆ”

“พี่ ผมโตแล้ว”

“มึงนี่แก่แดด”

“มันไม่ได้มีอะไรสักหน่อย” ผมพูดปัด ขณะที่ฉากเลิฟซีนในหนังยังคงไม่จบและยาวนานกว่าที่ผมคิด ผมเลื่อนสายตาจากหน้าจอเหลือบมองไปทางอื่น ก่อนไปสบเข้ากับสายตาพี่อิสที่มองผมอยู่พอดี

“ไหนว่าโตแล้วไง แค่นี้มึงยังหน้าแดงเลย”

“ผมเปล่า”

“เขินหรืออยาก?”

“พี่!” ผมใช้กำปั้นทุบเขาเบาๆ  แต่เขาหันมาเอาคืนผมด้วยการดีดหน้าผาก แรงจนกะโหลกเกือบร้าว ผมจึงหันไปคว้าม้วนกระดาษที่พี่ปรินซ์ส่งให้แล้วใช้เป็นอาวุธ

“มันเจ็บนะโว้ย”

“พี่ทำผมแรงกว่านี้อีก”

“ไอ้แพนด้าทรพี!”

“พี่อิส!” ผมโวยลั่นเพราะพี่อิสคว้าม้วนกระดาษไปจากมือผมอย่างง่ายดายแล้วใช้แขนอีกข้างล็อกคอผมเอาไว้ พริบตาเดียวผมก็ติดแหง็กอยู่กับท่อนแขนของเขาอย่างไร้แรงขัดขืน จนต้องเอ่ยปากยอมขอโทษก่อนเหมือนทุกที

“พี่ ผมขอโทษ”

“จะตีพี่อีกไหม พูดสิ”

“มะ...ไม่ทำแล้วครับ” ผมตอบอึกอัก ชะงักไปกับคำว่าพี่ของเขาอีกแล้ว

“ถ้าทำอีก พี่จะลงโทษนะ”

“ไม่เอา ไม่ทำแล้ว บอกแล้วไม่ทำไง”

“ดีมาก” พูดแค่นั้นก่อนคลายแขนที่ล็อกคอเอาไว้แต่ก็ไม่ได้ปล่อยผมออก แขนข้างนั้นยังโอบคอผมอยู่หลวมๆ  หลังผมยังแนบอยู่กับตัวของพี่อิสในท่าทางที่ดูคล้ายกำลังถูกกอด ผมค่อยๆ ขยับตัวออกมาจากตรงนั้นเองในตอนที่อิสดูไม่ได้สนใจอะไร ก่อนความสนใจของพวกเราทั้งหมดจะถูกเทไปที่เสียงหนึ่งซึ่งดังขึ้นที่หน้าประตู

“พี่อิส”

ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นยิ้มกว้างแล้วโบกมือเป็นเชิงทักทายทุกคนในที่นี้ น่าจะเป็นผมคนเดียวที่ไม่รู้ว่าคนที่กำลังเดินเข้ามานั้นเป็นใคร กระทั่งพี่อิสเอ่ยชื่อเธอขึ้นมาผมก็เลยจำได้...

“เนย”

...แฟนเก่าพี่อิสนั่นเอง 

 

To be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-02-2017 23:50:56
ตกลงพี่อิสนี่เลิกกับแฟนยังคะเนี่ยยยย  :ling3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 05-02-2017 00:35:04
งื้ออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
รู้สึกเหมือนจะมีดราม่าาาาาาาาาา
พี่อิสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 05-02-2017 01:15:35
ก็เลิกกันแล้ว ให้มันจบๆไปปปปป นะพี่อิสส
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 05-02-2017 02:15:39
ง่ะ ค้าง :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 05-02-2017 02:51:47
พึ่งเข้ามาอ่าน งือออออ สงสารปิง
ค้างอะ เนยมาทำไมมมม   
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 05-02-2017 07:16:18
มุกไม่ได้กรอง คำนี้ฮา น้องปิงก็น่ารักขึ้นเรื่อยๆ ชอบเวลาน้องสดใสน่ารักตามวัย
เนย มาทำไม แง้ววววว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 05-02-2017 08:47:34
เธอกลับมาทำไม ตอบ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-02-2017 11:10:16
เอาล่ะสิ จะใช่แบบนี้ไหม และคนอกหักคนนี้ จะรักคุณตลอดไป...
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 9] 04-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 05-02-2017 14:00:47
ยัยเนย มาทำไมเนี่ย  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 05-02-2017 22:07:29
ตอนที่ 10

ช็อกโกแลตชิป

 

คนที่เพิ่งเข้ามาหันทักทายทุกคนในบ้านอย่างรู้จักกันดี ก่อนที่สายตาจะมาหยุดนิ่งอยู่ที่ผม นิ่งอยู่อย่างนั้นคล้ายจะรอให้ผมหรือใครพูดอะไร แต่ก็ไม่มีใครพูดจนกระทั่งอีกฝั่งถามออกมาเอง

“นี่คือ...?” เว้นวรรคให้เป็นคำถาม มองหน้าพี่อิสที่หันมาแนะนำแบบลวกๆ เอ่ยเพียงแค่ชื่อไม่ได้บอกสถานะอะไร

“นี่หลินปิง หลินปิง นี่เนย”

ผมยกมือไหว้ตามมารยาทก่อนจะลุกออกมาจากโซฟา เพื่อให้พี่เนยเข้าไปนั่งกับพี่อิสแทน คนมาใหม่ขยับเข้าไปนั่งตัวติดกับพี่อิสจนอีกคนขยับหนีห่างออกไปเล็กน้อย

“แล้วนี่กินอะไรกันยัง เราซื้อขนมมา กินด้วยกันดิ” ยกถุงขนมที่ถือติดมาส่งให้พี่ๆ ทั้งสามคนแต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างทันที ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้กินข้าวกันเลย

“กินแล้ว ยังอิ่มอยู่เลย”

“ใช่ อิ่มมาก อันที่จริงพวกเรากำลังจะกลับแหละ”

“ฮะ?” พี่อิสหันขวับมามองงงๆ

“กลับเลยละกัน ไปนะพี่อิส” พวกพี่ทั้งสามคนสามัคคีกันลุกออกจากตรงนี้ไป เก็บของลวกๆ แล้วเดินไปที่ประตู ผมร้องเรียกพวกเขาเอาไว้ก่อน

“ปิงไปด้วยครับ”

“มึงจะไปไหน!” พี่อิสตะโกนถาม

“ไปซื้อผ้าก๊อซครับ”

“อ๋อ เออ รีบกลับล่ะ มืดแล้วมันอันตราย”

ผมพยักหน้ารับ แล้วเดินตามพี่ๆ ทั้งสามคนออกมาที่หน้าบ้าน ไม่ได้เจตนาจะออกไปซื้อของหรอก แต่ให้อยู่ด้วยก็รู้สึกแปลกๆ  ผมควรเป็นตัวประกอบฉากที่ต้องรู้กาลเทศะแล้วออกมาในเวลาที่เหมาะสมแบบนี้

“อะไรยังไงวะ ไหนว่าเลิกกันแล้วไง” พี่ปอนด์เปิดประเด็นขึ้นมา

“เออดิ กูก็งงเลย หรือว่าจะรีเทิร์น”

“ไม่รู้ว่ะ พี่อิสแม่งก็ไม่เคยพูดถึงด้วยไง ถามก็หาว่าเสือกอีก”

“พวกพี่ไม่สนิทกับพี่เนยเหรอครับ ทำไมต้องออกมาก่อนด้วยอะ” ผมหันไปถาม

“ไม่ใช่ไม่สนิทนะ แต่อึดอัดว่ะ”

“ไม่รู้ดิ แต่กูว่าเนยมันไม่ค่อยชอบพวกเราเท่าไรหรอก”

“มาหาถึงบ้านคงมีเรื่องอยากจะคุยกันสองคนมั้ง มีพวกเราอยู่ก็ก้างชัดๆ”

“แล้วนี่ปิงจะออกไปไหนเหรอ” พี่ปรินซ์หันมาถามผม ขณะกำลังปลดล็อกรถที่จอดอยู่ริมถนนอีกฝั่งของบ้านพี่อิส

“ไปร้านยาครับ”

“พี่ไปส่งเปล่า”

“ไม่เป็นไรครับ หน้าปากซอยนี่เอง พวกพี่กลับเถอะครับ”

“แล้วรีบกลับเข้าบ้านนะ มันมืดแล้ว”

“ครับ” ผมโบกมือให้พวกเขาก่อนจะเดินออกมาที่หน้าปากซอยเพื่อตรงไปร้านยา ทุกคนเอาแต่ย้ำให้ผมกลับบ้านเร็วๆ เพราะตอนนี้เริ่มมืดแล้ว ความเป็นห่วงเป็นใยเล็กๆ น้อยๆ นั่นทำเอาผมรู้สึกดีใจแปลกๆ  ปกติตอนที่ทำงานพิเศษแล้วต้องกลับบ้านเที่ยงคืนเป็นประจำ ยังไม่เคยมีใครที่บ้านบอกว่ามันอันตรายเลยสักครั้งเดียว

“ปิง!”

หือ?

ผมหยุดเท้าเพราะเสียงนั่น  ก่อนหันกลับไปจึงเห็นช็อกที่ก้าวเท้าเร็วๆ เข้ามาหา เอ่ยคำถามออกมาก่อนที่ผมจะพูดอะไร

“ปิงอยู่แถวนี้เหรอ เห็นเดินออกมาจากในซอย” พูดประโยคหลังพลางชี้นิ้วเข้าไปในซอยที่ผมเพิ่งเดินออกมา

“เราเพิ่งย้ายมา”

“อ๋อ แล้วนี่จะไปไหนอะ”

“ไปร้านยาพ่อช็อกนั่นแหละ”

“อ้าว เป็นอะไรอีก”

ผมชี้ไปที่หัวเข่าแทนคำตอบ ช็อกขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมามองหน้าผม

“นี่ถ้าไม่รู้จักปิงมาก่อน คงคิดว่าเป็นพวกอันธพาลตีกับชาวบ้านไปทั่วจนตัวมีแต่แผลนะเนี่ย”

“อันนี้เป็นอุบัติเหตุ”

“ก็อย่างว่าแหละ จ๋องขนาดนี้จะไปตีกับใครได้”

ผมได้แต่หัวเราะเบาๆ พอกับช็อกที่เอาแต่ยิ้มกว้างๆ  ถ้าไม่ใช่ช็อกผมคงทุบไปแล้วสักทีหนึ่ง

“เออ เมื่อวานไม่ได้ไปโรงเรียนเหรอ”

“รู้ได้ไงอะ”

“เห็นเพื่อนปิงมันนั่งกินข้าวคนเดียวอะ ชื่ออะไรนะ”

“เมธี”

“เออ นั่นแหละ เพราะแผลนี่เหรอเลยขาดเรียนอะ”

ผมพยักหน้านิดๆ

“ขยันเจ็บตัวจริงๆ เลยนะ คือเป็นพวกเสพติดความเจ็บปวดงี้เหรอ”

“บ้าดิ ไม่ได้อยากเจ็บซะหน่อย”

“งั้นก็อย่าเจ็บบ่อยๆ สิ” ช็อกว่าแล้วยกมือมาโยกหัวผมเบาๆ  ช็อกทำแบบนี้เลยรู้ตัวเลยว่าผมเตี้ยกว่าเขามาก ทำไมช่วงนี้อยู่ใกล้ใครก็ดูเตี้ยไปหมดเลย

ผมกับช็อกเดินเข้ามาในร้านยาของพ่อเขา แล้วผมก็ได้ผ้าก๊อซฟรีมาอีก ทั้งๆ ที่ดึงดันจะจ่ายเงินให้แล้วแต่เขาก็ไม่เอา ความเกรงใจคงแสดงออกผ่านสีหน้าชัดไปหน่อย ช็อกก็เลยหันมาพูดขำๆ

“เอาไปเหอะน่า แค่นี้ร้านไม่เจ๊งหรอก”

ผมไหว้ขอบคุณพ่อช็อกอีกที ก่อนจะเดินออกมา ช็อกเอ่ยปากเรียกผมอีกที

“ปิง”

“ฮะ?”

“รีบกลับบ้านปะ”

ผมเหลือบตาไปมองนาฬิกาที่ผนังร้าน เพิ่งออกมาได้ไม่ถึงยี่สิบนาที เดาว่าพี่เนยคงยังไม่กลับและผมก็ไม่อยากเข้าไปขัดสองคนนั้นด้วย เลยหันกลับไปส่ายหน้าให้ช็อกแทนคำตอบ

“งั้นไปกินไอติมกันปะ”

“ฮะ?”

“ไอติมไง ไปปะ”

“ไอติม...”

“งั้นเดี๋ยวมานะพ่อ”

“โอเค ไปส่งปิงที่บ้านด้วยนะ”

“ได้ครับ”

คนเป็นพ่อลูกคุยกันจบก่อนช็อกจะเดินเข้ามาจับไหล่ผมหมุนให้เดินออกไปนอกร้าน ตอนที่สมองผมยังติดอยู่กับคำว่าไอติม ไอติมอะไรก่อน เดี๋ยว...

“นี่คือเราตกลงแล้วเหรอ”

“ไม่รู้แหละ เห็นยืนทำหน้างงอยู่ได้ มาเร็ว”

ช็อกเลื่อนมือจากไหล่มาจับมือผมแล้วจูงให้เดินออกมาร้านไอศกรีมที่อยู่ไม่ไกลจากร้านพ่อเขา เข้าไปในร้านท่ามกลางสายตาคนในนั้นที่มองมา ผมก้มมองมือเราสองคนที่จับกันอยู่เลยดึงมือตัวเองกลับมาอย่างเก้ๆ กังๆ  ช็อกนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งหนึ่ง ผมกำลังจะเดินไปนั่งอีกฝั่งแต่เขาดึงมือผมให้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ

“เราชอบนั่งฝั่งเดียวกันมากกว่า”

“ทำไมอะ”

“ไม่รู้ดิ ชอบอะ”

“แต่คนอื่นเขาก็นั่งคนละฝั่งนะ จะได้หันหน้าคุยกันไง”

“แต่แบบนี้มันใกล้กันกว่าไง”

ผมได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนช็อกจะดึงกระดาษกับปากกามาจดเมนูลงไป จัดการสั่งให้ผมเรียบร้อย ไม่นานไอศกรีมสองถ้วยที่หน้าตาน่ากินก็ถูกยกมาเสิร์ฟ

“สตรอว์เบอร์รีของเรา”

ช็อกเลื่อนไอศกรีมสีชมพูไปตรงหน้าตัวเองแล้วเลื่อนอีกถ้วยให้ผม

“นี่ของปิง ชิปโกแลตช็อก เอ๊ย ช็อกโกแลตชิป เอ๊ย ถูกแล้ว!”

“ฮึ?” ผมหันหน้าไปมองงงๆ  คนข้างๆ หัวเราะชอบใจ ก่อนเขาจะหยุดขำแล้วปรับสีหน้าเป็นปกติ

“เออ ไม่ตลกก็ได้เว้ย”

มุกห้าบาทสิบบาทไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกขบขัน แต่สีหน้ายุ่งๆ ของช็อกในตอนนี้กลับทำให้หลุดยิ้มออกมาเล็กน้อย

“กินเลยนะ”

“เดี๋ยวๆ ถ่ายรูปก่อน” เขายกมือเบรกช้อนของผมที่กำลังจะตักไอศกรีมในถ้วย ก่อนหยิบมือถือตัวเองออกมา ยกขึ้นสูงเพื่อถ่ายรูปด้วยกล้องหน้า ผมเลื่อนตัวหลบออกจากกล้องแต่ถูกช็อกถองศอกใส่เบาๆ

“มองกล้องดิ”

“เราต้องถ่ายด้วยเหรอ”

“มาด้วยกันก็ต้องถ่ายด้วยกันสิ ยิ้มหน่อย”

ผมฉีกยิ้มนิดๆ ก่อนช็อกจะกดถ่ายแล้วมองดูภาพอย่างพอใจ

“ปิงยิ้มแล้วน่ารักว่ะ”

“ฮึ?”

“ยิ้มบ่อยๆ ดิ ชอบทำหน้าซึม เป็นส้วมเหรอ”

“...”

“ส้วมซึมไง ตึ่งโป๊ะ!”

ช็อกเป็นคนหล่อๆ ปกติเหอะ อย่าเป็นตลกเลย ไม่รุ่งหรอก ผมอยากแนะนำจากใจ แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มเจื่อนๆ ส่งไป

“โอ๊ย! เป็นคนอื่นเขาขำไปแล้ว ทำไมไม่ขำอะ” ช็อกว่าแล้วยื่นมือมาดึงแก้มผมเบาๆ

“กินได้ยังอะ ละลายละเนี่ย”

“กินเลยๆ” เขาว่า ส่วนตัวเองยังจิ้มๆ อยู่ที่หน้าจอมือถือ เพราะนั่งใกล้แบบเฉียดไหล่ผมเลยเห็นว่าเขากำลังอัปโหลดภาพลงแอปพลิเคชันเฟซบุ๊กที่ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนั้นเท่าไรนัก

“ขอเฟซบุ๊กปิงหน่อยดิ”

“เราไม่มี”

“โบราณมาจากไหนเนี่ย”

ริมฝีปากผมคว่ำลงเล็กน้อย ชีวิตที่ไม่ทันสมัยของผมถูกกล่าวหาว่าหลุดมาจากยุคโบราณเสมอเลย ก็ไม่เห็นจะอยากมีเลย เฟซบุ๊กอะไรนั่น...

“งั้น แท็กปิง ผู้ไม่มีเฟซบุ๊ก” เขาพูดพลางจิ้มลงไปบนมือถือเสร็จแล้วหันมาหาผม

“แล้วมีไลน์ปะ”

“อันนี้มี พี่อิสทำให้” ผมรีบบอก

“เออ ถ้าไม่มีนี่จะตกใจแล้วนะ ขอไอดีหน่อยดิ”

“ไอดี?”

“ไอดีไลน์ไง”

ผมวางช้อนไอศกรีมลง แล้วหยิบมือถือออกมาส่งให้เขา

“ขอแค่ไอดี ให้มือถือเลยเหรอ ใจดีว่ะ”

“ไม่ใช่ แต่เราทำไม่เป็น ช็อกทำเองเลย อยากได้อะไรก็หาเอา”

“โห...มนุษย์หินชัดๆ” ช็อกส่ายหัวนิดๆ ก่อนจะหยิบมือถือหน้าจอแตกๆ ไปจากผม

“มือถือผ่านสงครามอะไรมาเนี่ย”

“ยังไม่มีตังค์ซ่อมอะ”

เขาหัวเราะเบาๆ จิ้มนั่นจิ้มนี่อยู่สองสามทีก็คืนให้ผม

“อะคืน เดี๋ยวว่างๆ ไลน์ไปคุยด้วย”

ผมพยักหน้ารับ มองหน้าจอเห็นชื่อที่ปรากฏเพิ่มเข้ามาในไลน์

 

The Shock

 

กับรูปโปรไฟล์หล่อบรรเจิด เป็นรูปเขากำลังนั่งเล่นกีตาร์ ช็อกเป็นนักดนตรีด้วย ทุกๆ งานโรงเรียนผมเห็นเขายืนเล่นกีตาร์อยู่บนเวทีเป็นประจำ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูดีไปหมดเลยแฮะ

“ทำไม หล่อจนน่าสงสัยเลยเหรอ มองนานเชียว”

“มองกีตาร์เหอะ”

“กีตาร์มันหล่อกว่าหน้าเราเหรอ”

“เล่นยากไหม”

“ไม่ยากนะ ทำไมเหรอ ปิงอยากเล่นเปล่า”

“ไม่อยากเลย แต่เทอมนี้เรามีเรียนดนตรีด้วย”

“อ๋อ เราเรียนไปเทอมที่แล้ว”

“ต้องสอบเล่นเครื่องดนตรีคนละเพลงด้วยปะ”

“เออ มีๆ”

“เราสอบตกแน่ๆ เล่นอะไรไม่เป็นสักอย่างเลย” ผมพูดเสียงเบา ก่อนจะหยิบช้อนมากินไอศกรีมที่เริ่มละลายต่อ

“เราสอนให้เปล่า”

“ฮึ?”

“เล่นดนตรีไง เดี๋ยวสอนให้”

“ได้...ได้เหรอ”

“ได้ดิ ตอนเย็นว่างปะล่ะ มาที่บ้านก็ได้”

“ตอนเย็นเราต้องทำงานอะ”

“เสาร์อาทิตย์ก็ได้ เดี๋ยวสอนหลักสูตรเร่งรัดให้ อาทิตย์เดียวเป็นเลย”

“จริงนะ” ผมหันขวับไปหาเขาอย่างคาดหวัง

“จริง”

“ขอบคุณนะช็อก” ผมพูดพลางยิ้มกว้าง

“แต่ปิงต้องจ่ายค่าจ้างเรานะ”

“เราไม่มีเงินนะ”

“ไม่เอาเป็นเงิน”

“แล้ว...เอาอะไร”

“แค่ยิ้มให้เราแบบนี้บ่อยๆ ก็พอ” ช็อกว่าแล้วยื่นมือมาจับแก้มผมสองข้างแล้วดึงให้ปากยกขึ้นเป็นยิ้ม ใกล้กันแบบนี้ผมเลยได้เห็นหน้าช็อกชัดๆ  ที่ผ่านมาช็อกเป็นเหมือนคนที่ผมดูเอื้อมไม่ถึง ฐานันดรคนละชั้น ช็อกดูห่างไกลจากพวกไร้ตัวตนแบบผม แต่ตอนนี้ผมได้อยู่ใกล้มาก ใกล้แบบ...ช็อกเลย

“ปิง”

“หือ?” ผมสะดุ้งนิดหนึ่งที่เขาเรียก แล้วปล่อยมือออกจากหน้าผม

“ถามจริง ตัดผมร้านไหน แหว่งด้วยเนี่ย”

“เฮ้ย! เห็นชัดเลยเหรอ”

“จะทักนานละ แฟชั่นใหม่เหรอ”

ผมยกมือดึงผมหน้าที่พี่อิสตัดให้ ไหนพี่อิสบอกเนียนไง กลับบ้านไปผมจะโวยวายให้น่าดูเลย หลังจากกินไอศกรีมเสร็จ ช็อกชวนผมคุยแบบไม่หยุดปาก เขาพูดเก่งมาก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ก็ชอบเขา เป็นคนมีพลังงานเยอะและเป็นพลังงานที่ทำให้คนอยู่ใกล้ๆ รู้สึกดีไปด้วย ก็อยากฟังเขาพูดต่อแต่เห็นว่าเริ่มดึกแล้ว เลยชวนกันกลับบ้าน ช็อกเดินมาส่งผมที่หน้าบ้านพี่อิส ปฏิเสธแล้วว่ามาเองได้ แต่เขาก็ตามมาถึงหน้าบ้านจนได้

“ถึงแล้ว ที่นี่แหละ”

“นี่บ้านปิงเหรอ”

“ไม่ใช่หรอก เรามาอยู่กับพี่ที่รู้จักอะ”

“อ๋อ โอเค งั้นเราไปละ ไว้เจอกัน”

ผมพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นโบกนิดๆ ก่อนช็อกจะเดินออกไป ผมรอให้เขาเดินไปสุดทางแล้วเดินเข้าบ้าน

“ใครมาส่ง!”

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งเมื่อพี่อิสโผล่มาตอนที่ผมก้มลงไปถอดรองเท้า เงยหน้าขึ้นมาเจอเขายืนเท้าเอวอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าขึงขังผิดปกติ

“เมื่อกี้ใคร”

“เพื่อนครับ”

“แล้วไปไหนกันมา กลับดึกดื่น” พี่อิสชี้ให้ผมไปนั่งที่โซฟาแล้วเดินตามมาถามเสียงเข้ม

“ไปกินไอติมกันมาครับ”

“เป็นเพื่อนที่ไหน มีเพื่อนกับเขาด้วยเหรอมึงอะ”

“ก็เพิ่งรู้จักกันครับ”

“เพิ่งรู้จักกัน แล้วมึงไปกินข้าวกับเขาเนี่ยนะ!”

“กินไอติมครับ”

“เออ นั่นแหละ ไปได้ยังไง”

ผมกะพริบตาปริบๆ มองพี่อิสที่ไม่รู้ว่าโมโหอะไร ใบหน้าบูดบึ้งบ่นต่อไม่หยุด

“เพิ่งรู้จักก็ไปกับมันได้เหรอ ผู้ชายมันไว้ใจได้เหรอ ฮะ?”

“พี่อิส นั่นเพื่อนที่โรงเรียน ผมอยู่ม.หกแล้ว เห็นเป็นเด็กเหรอ แล้วอีกอย่างผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกันนะ”

“ไม่รู้แหละ หน้าตากะล่อนไว้ใจไม่ได้ คราวหลังจะออกไปไหนกับใครดูหน้าด้วย”

“ผมยังมาอยู่บ้านพี่ทั้งๆ ที่เราเพิ่งรู้จักกันเลยนะ พี่นี่ไว้ใจได้ไหม”

“กูเป็นข้อยกเว้นเว้ย!”

ผมได้แต่ส่ายหน้ายิ้มๆ

“หวงน้องมากเหรอ”

“หวงดิ!”

ผมแกล้งถามกะจะแซวเล่นแต่เขายอมรับเฉยเลย จึงกลายเป็นผมที่นิ่งไปนิดหนึ่ง เขาพูดต่อด้วยเสียงที่เบาลงเล็กน้อย

“ไม่รู้แหละ กูอ่อนไหวง่ายกับตัวอะไรที่เหมือนน้องสาวกู”

“ตกลงผมเป็นตัวอะไรกันแน่เนี่ย”

“แพนด้าหน้าแมวไงมึงอะ”

พี่อิสว่าแล้วผลักหัวผมเบาๆ

“แล้วคราวหลังถ้าไปไหนกับใครหรือจะกลับช้าก็บอกกูด้วย”

“...”

“ถ้าการไลน์มาบอกแค่ประโยคเดียวไม่ได้ทำให้มึงตายก็ไลน์มาบอกกูด้วย เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ”

“ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียน”

“ครับลุง”

“เตะแม่ง!”

ผมวิ่งหลบเท้าพี่อิสที่เตะเข้ามาจริงๆ หันไปหัวเราะใส่เขาแล้วเดินเข้าห้อง เบ็นเท็นตัวใหญ่บนที่นอนยิ้มให้ผมเหมือนต้อนรับกลับห้อง ผมถลาเข้าไปทิ้งตัวลงบนที่นอน หนึ่งวันนี้ยาวนานกว่าที่คิด มันไม่ใช่หนึ่งวันที่น่าเบื่อเหมือนที่ผ่านมา ได้เจออะไรที่ไม่เคยเจอ ทำอะไรที่ไม่เคยทำ พูดอะไรที่ไม่เคยพูด...วันนี้ดีจังเลย

...

 

ในเช้าวันต่อมา ผมเดินออกมาจากห้องหลังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ได้กลิ่นอะไรไหม้ๆ มาจากในครัวก็เลยเดินตามกลิ่นเข้าไปในนั้น เห็นพี่อิสกำลังบ่นอะไรท่าทางหงุดหงิดอยู่คนเดียว

“ไส้กรอกนี่ไหม้ง่ายฉิบหาย แดกได้ไหมเนี่ย สัด! ร้อน!”

หลังจากมีชีวิตร่วมกับเขามาสักพัก อีกนิสัยหนึ่งของเขาที่ผมสังเกตเห็นคือเขาชอบพูดคนเดียว ไม่ต้องมีคู่สนทนาก็พูดจาเป็นเรื่องเป็นราวได้คนเดียว และที่สำคัญคือบ่นได้ทุกเรื่องจริงๆ

“พี่อิส”

“อ้าว ตื่นแล้วเหรอ” เขาหันมามอง แล้วเลื่อนสายตามาที่กางเกงผม สีหน้าไม่ค่อยพอใจ นี่ขนาดเลือกตัวที่ยาวสุดมาแล้วนะเนี่ย ผมจึงรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วชี้ไปยังไส้กรอกทอดที่หน้าตาแปลกๆ

“นี่อะไรอะ”

“เฮ้ย อันนั้นกินไม่ได้ กูไม่รู้ว่ามันต้องแกะพลาสติกไง ทอดแม่งไปทั้งเปลือกเลย อะ กินอันนี้” เขาว่าแล้วยกอีกจานมาให้เป็นไส้กรอกทอดที่หั่นเป็นแฉกๆ แต่ดูเหมือนพี่อิสจะหั่นมันหลายแฉกไปหน่อยมันเลยแตกกระจาย บางอันก็ขาดไม่เป็นชิ้น

“กูไม่รู้ว่าทอดไส้กรอกมันจะยากขนาดนี้”

“นี่พี่ทำเองเหรอ” ผมหันไปมองข้าวผัดสองจานที่อยู่ข้างๆ กัน

“เออดิ จะทำโจ๊กคัปให้เดี๋ยวมึงก็ว่ากูอีก”

“ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย จริงๆ ไม่ต้องลำบากก็ได้”

“กูทำกินเองด้วยไง แต่กินได้เปล่าไม่รู้ มึงลองดิ”

ผมนั่งลงบนโต๊ะกินข้าวแล้วตักข้าวมาคำหนึ่ง เขาใส่แคร์รอตกับถั่วลันเตาเข้าไปในนั้นด้วยผมเลยเอาส้อมเขี่ยออก แต่ถูกลุงเจ้าของข้าวผัดชี้หน้าบ่น

“เขี่ยผัก เดี๋ยวตบเลย”

“โห่ ก็ไม่ชอบ...”

“อยู่กับกูห้ามเลือกแดก กินเข้าไป”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วเอาข้าวคำนั้นเข้าปาก คนทำเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยอย่างดูลุ้น รสชาติข้าวผัดกระจายในปากของผมเต็มที่เมื่อเคี้ยวไปหนึ่งที...โคตรพ่อโคตรแม่จะหวาน

“อร่อยครับ”

ผมพูดคำนั้นออกไปทำไมนะ คงเป็นเพราะสีหน้าของพี่อิสที่ดูลุ้นหรือไม่ก็ความตั้งใจที่เขาลุกมาทำกับข้าวให้ ผมจึงบอกว่ามันอร่อยเพื่อให้เขาพึงพอใจ

“ไม่ธรรมดาจริงๆ เลยกูเนี่ย ทำอะไรก็ดีไปหมด” เขาพูดยิ้มๆ  หันไปตักไส้กรอกส่วนที่อยู่ในกระทะมาใส่จานแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม ก่อนจะตักข้าวในจานตรงหน้าตัวเองกินบ้าง เคี้ยวไปสองสามทีแล้วเงยหน้ามามองผม

“มึงว่ามันหวานไปไหม”

“ไม่นี่ครับ อร่อยดี”

“เหรอ มึงว่าอร่อยก็คงอร่อย”

เขาว่าแล้วตักใส่ปากอีกคำ คิ้วขมวดเข้าหากันแล้วส่ายหน้านิดๆ

“แต่กูว่าหวานนะ ฉิบหาย ข้าวผัดหรือฝอยทองเนี่ย แดกลงเหรอ” กินไปบ่นไปแล้วก็หยิบซอสปรุงรสมากระแทกใส่เข้าไป ที่จริงมันก็หวานแหละแต่ไม่ได้แย่ ผมกินได้จนหมดจาน อาจเพราะไม่เคยได้นั่งกินข้าวเช้าที่บ้านก่อนไปโรงเรียนแบบนี้หรือเปล่านะ...มันก็เลยอร่อยด้วยความรู้สึกละมั้ง

หลังกินข้าวเสร็จผมเตรียมตัวจะออกไปเรียน แต่พี่อิสเดินตามออกมาด้วย ล็อกบ้านแล้วเอากุญแจใส่ไว้ในรองเท้าผ้าใบคู่เดิม

“พี่อิสจะไปไหนเหรอ”

“ไปหาเนยอะ มันจะกลับบ้านที่อยุธยาเลยให้กูขับรถไปให้”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ

“ไม่รู้จะกลับกี่โมง ถ้ามึงกลับก่อนก็เอากุญแจในนี้นะ”

“ครับ แล้วนี่...พี่จะไปชุดนี้เหรอ” ผมเลื่อนสายตามองเสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่ เสื้อยืดสีเทากับกางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะคู่เดิม

“เออดิ ทำไมอะ”

“ก็น่าจะแต่งตัวให้ดูดี...กว่านี้หน่อย”

“นี่ไม่ดีเหรอ”

“ก็ดี แต่มันเหมือนชุดนอนอะ”

“ชุดนอนต้องแก้ผ้าสิ”

“วู้ พี่นี่”

“เนยมันก็เคยบอกกูนะ ไปบ้านมันให้แต่งตัวดีๆ หน่อย แต่กูไม่เคยแต่งดีกว่านี้เลยอะ”

“ทำไมล่ะครับ”

“ทำตามที่คนอื่นบอกมันก็ไม่สนุกดิ กูชอบทำตามใจตัวเองมากกว่า”

“แต่พี่เนยขอก็น่าจะทำให้นะ”

“ไม่ใช่เรื่องสำคัญนี่ อีกอย่าง แค่นี้กูก็เท่มากแล้ว แต่งตัวดีกว่านี้คงหล่อฉิบหาย คนมองคงช็อกตาย”

นิสัยอีกอย่างของเขาที่เพิ่งค้นพบคือมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เพดานของความมั่นใจสูงในระดับที่ผมแตะไม่ถึงแน่ๆ  สูงออกไปนอกโลกแล้ว

“มึงไม่ต้องทำหน้าเหยียดกูขนาดนั้น กูเล่นมุก”

“ไม่ได้คิดอะไรเลย”

“มึงด่าอะไรกูอยู่ในใจใช่ไหม กูได้ยิน”

“เปล่าซะหน่อย!”

“ไปเลย เดี๋ยวไปเรียนสาย” พี่อิสหมุนไหล่ผมให้เดินออกไปพร้อมกัน ก่อนเขาจะแยกไปอีกทางส่วนผมก็เดินตรงไปโรงเรียน

“ปิง!”

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งเพราะเสียงเรียกนั้น ก่อนที่มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจะเข้ามาจอดเทียบฟุตปาทที่ผมยืนอยู่

“ช็อก”

“ไปด้วยกันดิ” ว่าพลางพยักพเยิดไปข้างหลังเป็นเชิงให้ผมขึ้นมอเตอร์ไซค์ไปด้วยกัน

“ไม่เป็นไร เราเดินไปได้”

“จะเดินให้เหนื่อยทำไม ขึ้นมาดิ”

ขณะที่ผมลังเล อีกคนก็เร่งเร้า

“เร็วๆ เดี๋ยวสายนะเว้ย! จะไปไม่ไป!?”

ผมพยักหน้าหงึกๆ เพราะเสียงดังๆ ของเขาแล้วก้าวขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปแบบงงๆ  ระหว่างที่ช็อกขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ผมแอบตัวเกร็งเมื่อนั่งซ้อนอยู่ตรงนี้

ปึ้ก!

ผมสะดุ้งเฮือกตอนเขาเบรกติดไฟแดง เพราะไม่ทันได้ตั้งตัว หน้าผมจึงชนเข้ากับแผ่นหลังของเขาพอดี

“อะไรปิง นั่งหลับเหรอ”

“เปล่า”

“ก็เบรกเบาๆ เอง หัวกระแทกหลังเราเฉยเลย เจ็บเปล่า”

“ไม่เจ็บ ไม่เป็นไร” จากที่เบรกเมื่อกี้ทำให้ผมเลื่อนเข้าไปชิดเขา เลยถอยตัวเองออกมานิดหนึ่ง

“เขยิบมาก็ได้ แหม” เขาว่าแล้วยกมือมาโอบเอวผมให้เขยิบเข้าไปใกล้เขาจนหน้าผมเฉียดหลังเขา

“เราว่า...ใกล้ไปนะ”

“ไม่รู้ กลัวปลิว” เขาพูดแค่นั้นก่อนสัญญาณไฟจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวจึงขับไปต่อ ผมขยับหน้าไปมองตรง ปลายจมูกเฉียดเข้ากับเสื้อนักเรียนเรียบๆ ของเขาจนได้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มจางๆ...คราวนี้ใกล้จนได้กลิ่นช็อกเลย

ไม่ถึงสิบนาทีช็อกก็เลี้ยวมอเตอร์ไซค์เข้าโรงเรียนไปจอดที่ลานจอดรถหลังอาคารเรียน ผมก้าวขาลงจากมอเตอร์ไซค์ ท่ามกลางสายตาคนที่อยู่แถวๆ นี้ซึ่งมองมาแทบจะเป็นตาเดียว ทุกสายตาทำให้ผมรีบหลบตา เงยหน้าขึ้นอีกทีก็ตอนที่ช็อกหันมาถาม

“ตอนเย็นกลับพร้อมกันเปล่า”

“เราต้องไปทำงานอะ”

“อ๋อ โอเค งั้นตอนเช้ามารอเราที่เดิมนะ เดี๋ยวมาพร้อมกัน เข้าใจไหม เข้าใจสิ” ช็อกถามเองตอบเอง จับหัวผมให้พยักหน้าลงไป ผมได้แต่หลุดยิ้มออกมาบางๆ

“งั้นเราไปก่อนนะ”

“เฮ้ย ไม่จ่ายค่าขึ้นมอไซค์หน่อยเหรอ”

“คิดตังค์ด้วยเหรอ”

“ไม่เอาตังค์ เอายิ้ม”

“ฮะ?”

“ยิ้มให้ก่อน”

“...”

“ยิ้มเร็ว” ช็อกจิ้มนิ้วเข้ามาข้างเอวผม จั๊กจี้จนผมต้องยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้

“พอใจยัง”

“พอใจมาก”

“ไปนะ” ผมโบกมือให้ช็อกหน่อยๆ ก่อนจะเดินออกมา ก้มหน้าหลบตาคนที่มองมาแล้วก้าวเท้าเร็วๆ ให้ผ่านตรงนี้ไป และตั้งแต่ตอนที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนกับช็อก บางอย่างในชีวิตผมก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

“เฮ้ย นั่นใช่คนที่มากับช็อกเมื่อเช้าปะ”

“เออใช่ๆ คนเดียวกับที่ไปกินไอติมด้วยกันเว้ย”

 

“นั่นคนที่มากับช็อกอะ ชื่ออะไรไม่รู้”

“กูไม่เคยเห็นหน้าเลย”

 

“มึงรู้จักคนนั้นปะ อยู่ห้องมึงอะ”

“อ๋อ ไอ้ปิง”

 

“ปิงไหนวะ!”

“ปิงเฉยๆ อะ คนที่เฉยๆ”

 

“ปิงเป็นใครวะ”

“ไปสืบมาดิ!”

 

“ไอ้ปิง ทำไมคนมองมึงเยอะจังวะ” เมธีหันมาถามตอนที่ผมกับมันกำลังเดินออกมานั่งที่โต๊ะนอกโรงอาหาร ผมก็รู้สึกว่าสายตาของคนอื่นหันมามองผมหลายครั้งอย่างที่ว่าจริงๆ ด้วย

“มึงไปก่อเรื่องอะไรไว้ปะเนี่ย”

“เมื่อเช้ากูมาโรงเรียนกับช็อก เรียกว่าก่อเรื่องไหม”

เมธีทำหน้าครุ่นคิดแล้วส่ายหน้าเบาๆ

“ใช่เหรอวะ”

“ก็ตั้งแต่เช้า คนก็มองกูแปลกๆ แบบนี้เลย เพราะเรื่องนั้นแน่ๆ อะ”

“แล้วมึงมาด้วยกันได้ไงอะ”

“กูย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ๆ บ้านช็อกแล้วเจอกันพอดี”

“คนต้องคิดว่ามึงเป็นอะไรกับไอ้ช็อกแน่เลย”

“กลัวอะ”

“กลัวทำไมเล่า มึงไม่ได้เป็นอะไรกับมันสักหน่อย หรือว่าเป็น?”

“บ้า! ไม่ได้เป็นดิ!”

“ปิง!”

ทั้งผมและเมธีหันขวับไปหาช็อกที่วิ่งจากสนามบอลมาหาผม เสียงดังของช็อกทำให้สายตาคู่อื่นหันมามองด้วย ผมกลอกตากลับไปมองเมธีที่กำลังอมยิ้มนิดๆ แล้วหันกลับไปมองช็อกที่วิ่งมาถึงพอดี

“มี...มีอะไรเหรอ”

“หิวน้ำอะ ขอกินน้ำหน่อยดิ”

“ฮะ?”

“หวงเหรอ เมื่อคืนเรายังเลี้ยงไอติมเลย”

“เปล่าๆ เอาไปดิ” ผมหยิบขวดน้ำส่งให้ช็อก เขายกขึ้นดื่มก่อนจะส่งคืนให้ผม

“แต๊งกิ้วนะปิง” ช็อกว่าแล้วยกมือเคาะหัวผมเบาๆ ก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปในสนามบอล เมธียังอมยิ้มกรุ้มกริ่มแม้ว่าผมจะส่ายหน้ายิกๆ ปฏิเสธว่ามันไม่ได้มีอะไร ขณะที่สายตาของผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็มองมาที่ผมแบบจริงๆ จังๆ  ผมทำได้แต่กะพริบตาปริบๆ แล้วกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ...ผมกลัวแล้วครับ

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 05-02-2017 22:28:39
ไม่เชื่อว่าเนยจะมาดีเลยยยยย รู้สึกเกลียดนางงงง
ปิงจะไม่โดนอะไรใช่ไหมลูกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 05-02-2017 22:33:45
รู้สึกไม่ถูกชะตากับเนยอ่ะ 55555555
น้องปิงก็ยังน่ารัก
 :L2: :L2: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-02-2017 23:06:15
ปิงโดนจีบ (แต่เจ้าตัวไม่รู้ววว) พี่อิสหวงน้อง แบบพ่อหวงลูกสาวหรือหวงก้าง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-02-2017 23:09:59
ไม่เชื่อว่าเนยจะมาดีเลยยยยย รู้สึกเกลียดนางงงง
ปิงจะไม่โดนอะไรใช่ไหมลูกกก
ช่าย เลย
พี่อิส ตลก หวงปิงด้วยเรื่องกางเกง สั้น-ยาว
"มึงไปซื้อใหม่เลยนะ  เอาให้ยาวถึงแข้งเลย"
กางเกงขาสั้น จะให้มันยาวถึงหน้าแข้ง พิลึกละ  :ling1: :ling1: :ling1:
ช็อก คิดไรกับปิงแน่เลย
นั่งกินไอติมก็ต้องนั่งฝั่งเดียวกัน จะได้ใกล้ๆ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 05-02-2017 23:35:13
เป็นน้องเนยรักโรคจริงหรอคะ ? ไม่ค่อยเชื่อเท่าไรค่ะ หึ
ช็อกนิไงคะ ชอบจริงหรอ นิคือเดินหน้าจีบแล้วมะ
อิพี่นิก็แอบออกตัวแรงพอตัวนะคะ แต่คิดว่าตอนนี้ไม่น่าจะคิดว่าชอบในลักษณะชู้สาว
หรือเปล่านะ?
หรือจริงๆ ก็ชอบแหละ แล้วเอาแมวที่ตายไปแล้วมาเป็นข้ออ้าง บวกกับสงสารด้วย
ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

รออ่านต่อนะจ๊ะ
ไม่ต้องดราม่าน้ำตาแตกอะไรเนอะ กลั๊วกลัว แค่เรื่องครอบครัวคนน้องก็ปัญหาสังคมพอร้าววว
ตลกเฮฮา ฟีลกู๊ดแบบนี้ดีแล้ววว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 05-02-2017 23:58:32
เราชอบพระเอกอย่างพี่อิส ดูฉลาดมีไหวพริบ
กล้าด่าป้าปิง ถือว่าไม่สุภาพเรี่ยราด
หวังว่านางจะเป็นอย่างงั้นตลอดถ้าชะนีมาร้ายใส่ปิง
ไม่ใช่ฉลาดกับทุกคน เเต่ดูชะนีร้ายๆ ไม่ออก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 06-02-2017 00:04:20
เนยดูไม่โอเค ขนาดสามหน่อยังไม่ชอบเลย
ช็อกมาจีบแน่ๆ แน่แท้ แน่นอน เอาล่ะค่ะ คุณพ่อก็จะได้ทำหน้าที่หวงลูกละ
ที่บอกให้ใส่เกงยาวๆ คือน่ารักอ่ะ กับที่ตื่นมาทำกับข้าวให้น้องอีก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 06-02-2017 00:31:57
เราไม่กลัวเนยนะ พี่อิสต้องปกป้องปิงได้ แต่แฟนคลับช็อกเนี่ยสิฮื่อออ

ปล.เราจองช็อก ช็อกดีมาก ดีต่อใจ ปกติไม่เคยเขินฉากนายเอกกับพระรองเลย นี่เขินมากจนอยากให้พี่อิสเป็นพี่ชายพอ 555555555555555  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 06-02-2017 00:53:17
แทบจะแยกร่างให้ฝั่งนึง พี่อิสกับน้องปิง อีกฝั่ง ช็อกปิง
คือแบบเฮ้ย เขินจริงจัง พี่อิสควรหวงน้องมากกว่านี้
เดวปิงติดใจช็อกอดแน่ๆ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 06-02-2017 09:36:13
พี่อิสคนกากถ้าช้านะระวัง ชคปด(ช็อกคาบไปแดก) หึหึ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 06-02-2017 11:07:39
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: nanami253 ที่ 06-02-2017 11:31:03
ดูปากพี่นะคะน้องเนย " ออกไปไกลๆ จากพี่อิสของนองปิงสะ"
ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน !! :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 06-02-2017 14:35:37
นังเนยนี่ใครคะ ออกไป๊  :angry2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 10] 05-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 06-02-2017 20:51:22
ถ้าช็อกจีบปิง พี่อิสจะหึงบ้างมั้ย :hao3: ตามมาเป็น fc ด้วยคนค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 06-02-2017 23:27:34
ตอนที่ 11

เท่แบบอิสๆ

 

วันนี้ผมกลับมาทำงานปกติ โดนพี่พิงค์บ่นนิดหน่อยเพราะแผลยังไม่ทันหายดี แต่มันไม่ได้ลำบากต่อการทำงานเท่าไรนัก ผมไม่อยากหยุดงานนาน ไม่ได้ทำงานหลายวันแล้วเริ่มขี้เกียจแถมกลัวว่าจะได้เงินน้อยด้วย ขณะที่ผมกำลังเก็บโต๊ะแล้วเดินเอาแก้วไปเก็บในครัว สองขาก็หยุดชะงักเพราะไฟในร้านดับพรึบลงกะทันหัน

ผมเงยหน้ามองหลอดไฟที่ดับสนิททุกดวง แต่นอกร้านสว่างเป็นปกติ คนในร้านส่งเสียงจอแจแต่พนักงานไม่ได้มีปฏิกิริยาใด เพราะที่ไฟดับเป็นฝีมือของพี่พิงค์ที่สับสวิตช์ไฟอยู่ข้างหลัง ทิ้งช่วงให้ลูกค้าแตกตื่นไม่ถึงนาที พี่อีมก็จัดการจุดเทียนบนเค้กก้อนหนึ่งแล้วเดินออกไป ก่อนเสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ทเดย์จะดังขึ้นจากกลุ่มนักเรียนหญิงโต๊ะหนึ่ง เมื่อรู้ว่าไฟดับเป็นแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดซึ่งเด็กนักเรียนกลุ่มนั้นมาขอให้เราช่วยแผนการ พี่พิงค์เลยจัดการเล่นใหญ่ ดับไฟให้เป่าเทียนกันเลย บรรดาลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ก็หัวเราะชอบใจ ร่วมร้องเพลงไปด้วยจนดังทั่วร้าน

 

“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทูยู...”

 

เสียงเพลงท่อนสุดท้ายจบลง เจ้าของวันเกิดที่นั่งยิ้มแก้มปริหัวเราะเบาๆ ดูเคอะเขิน ก่อนจะเป่าเทียนนั้น

“เย้!”

“ขอบคุณมากนะพวกแก ดีใจมากอ่า!”

“พวกเรารักแกนะเว้ย!”

“อื้อ รักๆ”

“สุขสันต์วันเกิดนะแก”

“ขอบคุณมากๆ”

พี่พิงค์สับสวิตช์ขึ้น ก่อนบรรยากาศในร้านจะกลับมาเป็นปกติ ผมอดยิ้มไม่ได้กับภาพตรงหน้าหรือที่จริงแล้วความรู้สึกในใจคืออิจฉามากกว่า ผมจำไม่ได้แล้วว่าได้เป่าเทียนวันเกิดครั้งสุดท้ายตอนอายุเท่าไร

“พี่คะ”

“ครับ?” หลุดออกจากความคิดตอนที่นักเรียนหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาเรียก

“พี่ปิงใช่ไหมคะ”

ผมพยักหน้าอย่างดูงงๆ ที่เธอรู้จักผม ก่อนอีกฝ่ายจะหันไปหาเพื่อนที่เดินมาด้วยกัน

“บอกแล้วว่าใช่”

“ตัวจริงขาวกว่าในรูปอีก”

เดาได้ด้วยประโยคนั้นว่าพวกเธอคงรู้จักผมเพราะช็อก ช่วงนี้ผมเริ่มหวั่นวิตกนิดหน่อย คนชอบช็อกอาจจะไม่ชอบผม เพราะอยู่ดีๆ ก็เหมือนจะไปตีสนิทช็อกอะไรทำนองนั้น ผมจะโดนเกลียดหรือเปล่า

“พี่ปิงทำงานที่นี่เหรอคะ”

“ครับ”

“ทำทุกวันไหมคะ”

“ทำบางวันครับ”

“อ๋อ พี่ปิง ดูใกล้ๆ แล้วก็น่ารักนะคะเนี่ย”

ผมได้แต่ฉีกยิ้มฝืดๆ ส่งไป

“เหมือนเคะตัวน้อยๆ”

“ครับ?”

“อยู่กับพี่ช็อกแล้วคลิกอะ ฉันชิปคู่นี้!”

“เนอะแก!”

สองคนยกมือตีกันพร้อมเสียงหวีดร้องเบาๆ  ผมยืนกะพริบตาปริบๆ เพราะไม่เข้าใจที่พวกเธอพูด ไม่เข้าใจสักคำเลย เป็นภาษาวัยรุ่นที่เข้าใจเฉพาะกลุ่มหรือว่าเป็นภาษาอื่น...หรือยังไงนะ

“งั้นพวกหนูไปก่อนนะคะพี่ปิง”

“อ่า...ครับ”

“แกหยิบไม้พายขึ้นมา!”

ผมสะดุ้งเสียงของเธอที่แผดขึ้นมาก่อนจะเดินออกไป ปล่อยให้ผมงงกับคำพูดที่หาความหมายไม่เจอเข้าไปอีก...อะไรวะ

“มีสาวๆ มาจีบเหรอน้องปิง”

“ไม่ใช่พี่” ผมหันไปตอบพี่พิงค์ที่เดินเข้ามาถาม

“เห็นมาหวีดอะไร”

“เขาพูดอะไรไม่รู้ ไม่ค่อยเข้าใจ ตอนแรกนึกว่าจะโดนตบซะอีก”

“หือ? ทำไมต้องโดนตบอะ”

“ช่วงนี้ผมไปทำตัวสนิทกับคนดังของโรงเรียนอะครับ แล้วแฟนคลับเขาเยอะ โดนมองแต่ละทีนี่เสียวหลังเลยอะ ไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า”

“จริงดิ แล้วปิงเป็นแฟนเขาเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ ผมย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ๆ เขา เราเลยเจอกันบ่อย จริงๆ ไม่มีอะไรเลย”

“เขาจีบเปล่า”

“ไม่ครับ”

“หรือจีบเขา?”

“ม่าย!” ผมส่ายหน้ารัวๆ  พี่พิงค์หลุดหัวเราะแล้วยกมือโยกหัวผมเบาๆ

“เอาคืนไง ชอบแซวพี่”

“โห่...ไม่มีอะไรน่าแซวเลย เขาเป็นผู้ชายด้วย”

“แล้วปิงไม่ชอบผู้ชายเหรอ”

ผมเหลือบตาขึ้นไปมองพี่พิงค์ นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบออกไปจากใจจริง

“ผมไม่เคยชอบใครครับ ไม่รู้ว่าแบบไหนถึงเรียกว่าชอบ”

“เด็กน้อยเอ๊ย” พี่พิงค์ส่ายหน้ายิ้มๆ

“โอ๊ะ! ถึงเวลาเลิกงานแล้วนี่นา ผมกลับบ้านดีกว่า”

“เดี๋ยวๆ กระตือรือร้นแปลกๆ ปกติเลิกงานนี่ไล่ยังไม่ไป ไหนว่าไม่ค่อยชอบบ้าน”

“ผมย้ายบ้านแล้วครับ” ผมยิ้มนิดๆ แล้วปลดผ้ากันเปื้อนออก ก่อนจะเดินไปเก็บของหลังร้าน จริงอย่างที่พิงค์ว่า เมื่อก่อนบ้านไม่ได้ทำให้ผมอยากกลับไปเลย แต่ตอนนี้ผมชอบบ้านมาก ชอบห้องนอนสวยๆ  ที่นอนนิ่มๆ กับผ้าปูที่นอนลายเบ็นเท็นที่ชักชอบมันแล้ว...ผมชอบทุกอย่างที่บ้านเลย

ผมสะพายเป้ขึ้นบ่า บอกลาคนในร้านและเดินออกมาข้างนอก เห็นผู้ชายท่าทางคุ้นๆ นั่งก้มหน้ากดมือถืออยู่ที่ริมฟุตปาท เสื้อผ้าชุดเมื่อเช้าที่จำได้ดีเลยมั่นใจว่าเป็นเขาโดยไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมาให้มองเลย

“พี่อิสครับ!”

“โห่ มึงเลิกงานกี่โมงเนี่ย รอนานฉิบหาย นี่กูรอจนแทบจะไหลลงท่อระบายน้ำไปแล้วเนี่ย”

บ่นใส่เป็นชุดก่อนทำการทักทายใดๆ ตามสไตล์ของลุง

“มานั่งรอทำไมอะ”

“กูเพิ่งกลับมาไง เดินผ่านร้านพอดีเลยรอ ก็ไม่รู้จะรอทำห่าอะไรเหมือนกัน”

“ทำไมไม่เข้าไปรอในร้านอะ”

“ไม่เอาอะ กูไม่ชอบเข้าร้านกาแฟ เห็นมีแต่เด็กนักเรียน”

“งั้นไปกินข้าวกัน”

“อือ ยุงกัดฉิบหาย เกาจนหนังกำพร้ากูแหกหมดแล้วเนี่ย ดูๆ” เขาว่าแล้วยื่นท่อนแขนที่มีรอยเกาแดงๆ ส่งมาให้ดูเหมือนกำลังฟ้อง

“แล้วจะให้ช่วยเกาหรือไง”

“เออ เกาเลย”

“พี่นี่”

เขายื่นแขนมาตรงหน้าเหมือนจะแกล้งไม่ให้ผมเดิน ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ แล้วยกมือขึ้นมาเกาแขนให้เขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ พอเห็นมือตัวเองที่อยู่บนแขนเขาเลยรู้ตัวว่าแขนผมเล็กมากเมื่อเทียบกับท่อนแขนใหญ่กับเส้นเลือดหนาๆ พวกนั้น ขนาดตัวที่แตกต่างย้ำชัดกว่าตอนอยู่ใกล้ๆ พี่อิสผมตัวเล็กนิดเดียว เล็กแบบเป็นแมวของเขาได้เลย

“จั๊กจี้อะ”

“พอใจยังอะ”

“พอเหอะ ขนลุก” เขาดึงแขนกลับไป เราเดินกันมาพักหนึ่งจึงตกลงกันว่าจะกินบะหมี่หมูแดงร้านริมทาง พี่อิสเป็นคนกินอะไรก็ได้ง่ายๆ  ผมก็กินทุกอย่างยกเว้นผักกับนมจึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องกินเท่าไร

“คนเยอะอะ ซื้อไปกินบ้านเหอะ”

“ได้ครับ” ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนพี่อิสจะไปสั่งบะหมี่ใส่ถุงกลับบ้าน

“ของผมไม่ใส่ถั่วงอกนะครับ” ผมหันไปสั่งกับป้าคนขาย

“ใส่ไปเลยครับป้า” พี่อิสแย้งขึ้นมา

“พี่อิส ผมไม่กิน”

“บอกแล้วไงอยู่กับกูห้ามเลือกกิน กินผักแล้วมันจะตายหรือไงฮะ?”

“โห่ ขอเลย ถั่วงอกนี่เกินความสามารถจริงๆ อะ”

“เดี๋ยวกูสอนกิน”

“อย่างอื่นผมได้หมด เว้นถั่วงอกนะพี่อิส ไม่เอา”

เขาหรี่ตามอง คิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะพยักหน้าส่งๆ

“เออ ยอมให้อย่างหนึ่งก็ได้ แต่อย่างอื่นมึงต้องกินนะ ไม่งั้นกูจะยัดใส่ปากมึงเอง”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปสั่งป้าอีกทีว่าถุงหนึ่งไม่ใส่ถั่วงอก ไม่ถึงสิบนาทีบะหมี่สองถุงที่สั่งก็ได้ ผมกำลังควักกระเป๋าสตางค์ออกมาจ่ายเงิน

“ไม่ต้อง กูจ่ายเอง” พี่อิสดึงถุงพลาสติกออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในนั้นอีกทีออกมาควักเงินจ่ายค่าบะหมี่ ผมหลุดยิ้มกับถุงพลาสติกใสๆ ในมือเขา ข้างในมีกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์มือถือ ซองบุหรี่ ไฟแช็ก และลูกอมสองสามเม็ด

“มึงยิ้มอะไร”

“นี่กระเป๋าพี่เหรอ”

“เออ ทำไม”

“ชาวบ้านเขาก็รู้หมดเลยว่าพกอะไรบ้าง”

“เท่จะตาย ไปได้แล้ว” เขารับเงินทอนมาจากแม่ค้า ก่อนจะสะบัดหน้าเป็นเชิงให้ผมเดินออกไป

“จริงๆ พี่ไม่ต้องจ่ายให้ผมก็ได้นะ ข้าวเช้าก็ทำให้กิน”

“เออ ไว้กูหมดตัวเมื่อไรมึงค่อยจ่าย”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยทำให้พี่หมดตัวเร็วๆ นะ”

“กวนตีน เดินไปเลยไป”

ผมหัวเราะหน่อยๆ กำลังจะเอากระเป๋าสตางค์ตัวเองเก็บใส่เป้ ก่อนสองขาที่กำลังก้าวไปจะเซเกือบล้มเพราะถูกชนไหล่เข้าจังๆ จนกระเป๋าสตางค์ในมือกระเด็นตกไป คนที่เดินชนไหล่ดูรีบร้อนไม่ได้สนใจหันมองผมด้วยซ้ำ

“อะไรของมันวะ เดินชนไม่ขอโทษสักคำ สันดาน” พี่อิสบ่นพึมพำแล้วก้มลงไปหยิบกระเป๋าสตางค์ให้

“เขาอาจจะรีบก็ได้”

“แหม โลกสวยนะมึง เป็นกูตามไปเตะละ...” เขาหยุดพูด แล้วขมวดคิ้วนิดหนึ่งเมื่อมือหนึ่งคลี่กระเป๋าสตางค์ผมออกแล้วมองไปยังบางอย่างในนั้น

“นี่มึงเหรอ” เขาพลิกกระเป๋าสตางค์มาให้ผมดูบัตรประชาชนที่อยู่ในนั้น

“ก็ต้องเป็นผมสิ”

“เชี่ย หน้าอย่างมึน มึงง่วงมากเหรอ”

“พี่อิส เอาคืนมาเลย”

“โคตรตลกอะ” เขาหัวเราะเบาๆ แล้วส่งคืนให้ผม

“โห่พี่ หน้าใครๆ ก็ตลกหมดแหละถ้าอยู่ในบัตรประชาชนอะ”

“กูหล่อนะ”

“ขอดูหน่อยสิ”

“ไม่ให้”

“ไม่หล่อจริงอะดิ ทำเป็นอวด”

“ไปเลย รีบเดิน บะหมี่อืดหมดแล้ว ดึกแล้วด้วย พรุ่งนี้มึงต้องไปเรียนอีก”

“พรุ่งนี้ว่าจะไม่ไปโรงเรียนนะ”

“หือ? ทำไม” เขาหันหน้ามาถาม

“พรุ่งนี้ตอนบ่ายมีงานประชุมผู้ปกครองประจำเทอมอะ มีเรียนแค่ช่วงเช้า ผมเลยว่าจะไม่ไป”

“ประชุมผู้ปกครองเหรอ”

“อื้อ ผมไม่มีผู้ปกครองไปร่วมงาน ตอนบ่ายก็กลับได้เลย”

พี่อิสพยักหน้าหน่อยๆ  ทุกๆ เทอมจะมีงานประชุมผู้ปกครอง ผมไม่รู้ว่าในงานเป็นยังไง เพราะไม่เคยมีผู้ปกครองไปสักปีเลย ป้าไม่เคยว่างไปเป็นผู้ปกครองให้ผม หรือจริงๆ ก็อาจจะว่างแต่ไม่อยากไปก็ได้...ไม่รู้เหมือนกัน

“งั้นกูไปให้ไหมล่ะ”

“ครับ?”

“กูไปเป็นผู้ปกครองให้ไง”

“พี่จะไปให้เหรอ”

“เออ หรือกูไม่ได้แก่พอจะเป็นผู้ปกครองมึงได้”

ปกติถ้าไม่มีผู้ปกครองไปในวันพบผู้ปกครอง ผมจะถูกฝ่ายปกครองเรียกไปคุยส่วนตัวแล้วก็มีจดหมายถึงผู้ปกครองอีกครั้ง บางทีครูที่ปรึกษาจะโทรหาป้าแต่ป้าก็โยนให้ย่าคุยทุกที แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านนั้นแล้ว ถ้าครูโทรไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้าให้พี่อิสไปเป็นผู้ปกครองให้...

“เอาไง จะให้ไปไหม พรุ่งนี้กูว่างอยู่พอดีด้วย ไม่สิ กูก็ว่างทุกวันแหละ”

“เอาครับ ไปครับ”

“เออ ก็แค่นั้น โชคดีขนาดไหนที่มึงจะมีผู้ปกครองเท่อย่างกู”

“พี่อิสโคตรเท่เลย” ผมรีบพยักหน้าหงึกๆ แล้วชูนิ้วโป้งขึ้นสองข้าง เอาใจไว้ก่อนเพราะกลัวพี่แกติสต์เปลี่ยนใจขึ้นมา ผมคงดีใจเก้อ

...

 

เช้าวันถัดมา ผมจัดตารางสอนแค่ช่วงเช้าซึ่งมีแค่วิชาคณิตพื้นฐานกับคณิตเพิ่มเติม เอาจริงๆ มันจะแยกกันทำไมก็ไม่รู้ แต่จะพื้นฐานหรือเพิ่มเติมมันก็คือความอัปยศในชีวิตการเรียนของผมทั้งสิ้น ผมเกลียดตัวเลข ถ้าไม่ใช่จำนวนเงิน อะไรที่เป็นเลขเกลียดหมดเลย

ผมแต่งตัวเสร็จออกมาข้างนอก พี่อิสอยู่ในครัวเหมือนทุกวัน กลิ่นอาหารเช้าพาผมให้เดินเข้าไปในครัว วันนี้มีขนมปังปิ้ง โบโลน่า แล้วก็ก้อนอะไรไม่รู้เหลืองๆ ฟูๆ น้ำมันเยิ้มๆ

“จ้องอะไร กินสิ”

“อันนี้อะไรอะ” ผมชี้ไปยังสิ่งที่น่าสงสัยก้อนนั้น

“ไข่ดาว”

“ทำไมมัน...”

“มึงอย่ามีปัญหากับไข่กู ก็แค่กินเข้าไป”

“ครับ” ผมปลดเป้ลงจากบ่าแล้วหยิบขนมปังปิ้งกรอบๆ เข้าปากก่อน

“เอาซอสไหม”

ผมพยักหน้ารับ

“หยิบเอง ในตู้เย็น”

แล้วจะถามเพื่อ... ผมหมุนตัวกลับไปเปิดตู้เย็น กวาดตาหาขวดซอส ตู้เย็นขนาดใหญ่กับทุกพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเสบียงดูแน่นขนัด เฉพาะช่องฝั่งประตูก็เต็มไปด้วยของมึนเมาที่ไม่เหมาะกับเยาวชน ทั้งเบียร์ขวด เบียร์กระป๋อง โซดา ไวน์คูลเลอร์ ให้เพียบไปหมด ไม่รู้เลยว่าขวดซอสมันซ่อนอยู่ในซอกไหน

“พี่อิส หาไม่เจอ”

“มันก็อยู่ตรงนั้นแหละ มึงพยายามก่อนที่จะบอกว่าหาไม่เจอได้ไหม”

ผมแอบคว่ำปากใส่คนที่กำลังบ่น ก้มมองในตู้เย็นอีกทีก็หาไม่เจอจริงๆ

“นี่ไง”

เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ที่ข้างหู ตอนที่พี่อิสยื่นมือมาจากด้านหลัง หยิบขวดซอสที่นอนอยู่ที่ชั้นล่าง ผมตัวแข็งตอนหันไปเจอหน้าเขาที่โน้มลงมาพอดี กะพริบตาปริบๆ ตอนที่พี่อิสไม่ยอมขยับตัวออกไป มุมปากเขายกขึ้นนิดๆ ก่อนจะถอยออกไป

“เป็นงูฉกเบ้าตามึงไปแล้ว” เขาพูดพลางบิดฝาขวดซอส

“ก็มันไม่เห็น...” ผมเถียงเบาๆ

“เปิดไม่ออกว่ะ อะ เปิดเอง” เขายื่นขวดซอสให้ ผมหมุนข้อมือบิดฝาซอสเบาๆ ฝาก็เปิดออก พี่อิสเบิกตาขึ้นงงๆ

“แขนใหญ่ๆ นี่ไม่ได้ช่วยเรื่องความแข็งแรงเลยใช่ปะ” ผมแกล้งแซว

“โด่ กูบิดจนมันจะออกอยู่แล้วเหอะ กินเลย เดี๋ยวสาย”

ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วเทซอสลงไปบนบางสิ่งที่เขาเรียกมันว่าไข่ดาว เอาตรงไหนมาไข่ดาว...ไม่รู้เหมือนกัน

“แล้ววันนี้กูต้องไปกี่โมง”

“เริ่มประชุมบ่ายโมงครับ”

“อือ แล้วมึงกลับพร้อมกูได้เลยใช่ไหม”

“ครับ”

“เค” เขาพยักหน้านิดๆ แล้วหันไปเปิดน้ำล้างกระทะ ผมมองเขาจากด้านหลัง พี่อิสอยู่ในชุดที่คล้ายๆ กับเมื่อวาน เขาจะไปชุดนี้เลยไหมนะ ถ้าลองขอให้แต่งตัวหล่อๆ ดู จะโดนด่าหรือเปล่า ไม่เสี่ยงดีกว่า เขาดูเป็นคนที่ชอบทำอะไรตามใจตัวเองจริงๆ นั่นแหละ ขนาดพี่เนยขอยังไม่ทำให้เลย ถ้าผมขอนี่คงโดนสวดยับแน่ๆ

“หลินปิง”

“ครับ...ครับพี่อิส?”

“มึงมองกูนานมากเลย มีอะไร”

“ไม่มีครับ”

“พูดมา” เสียงเข้มๆ ทำให้ผมต้องเอ่ยปากในสิ่งที่คิดออกไป

“กำลังคิดว่าวันนี้จะขอให้พี่อิสแต่งตัวหล่อๆ ได้หรือเปล่า ผมแค่คิดเฉยๆ นะครับ ไม่ได้กะจะขอจริงๆ”

“เออ ได้ เดี๋ยวหล่อให้โรงเรียนพังเลย”

“จริงนะ”

“อือ”

“โกนหนวดด้วยนะ”

“เรื่องมากจริง เดี๋ยวไม่ไปแม่ง”

“โอเคๆ ไม่ต้องโกนหนวดก็ได้”

พี่อิสหัวเราะในลำคอเบาๆ  ผมรีบยัดอาหารเช้าที่เขาทำให้กินจนหมดแล้วออกไปโรงเรียน เดินออกมาที่หน้าปากซอย เห็นมนุษย์คนหนึ่งนั่งไขว่ห้างร่างกายสว่างจ้าอยู่บนมอเตอร์ไซค์ เมื่อคนตรงนั้นหันมาเห็นผมพอดีจึงยกมือขึ้นเป็นเชิงทักทาย

“ช็อก...มานั่งทำอะไรตรงนี้”

“รอปิงไง บอกแล้วว่าจะไปโรงเรียนพร้อมกัน”

“เฮ้ย จริงๆ ไม่เป็นไรนะ เราไปเองได้”

“ทำไมเล่า ไปกับเรามันไม่ดียังไง ยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว”

“แต่ว่า...”

“ทำไม”

“เอาจริงๆ เราเกร็งมากตอนอยู่กับช็อกอะ”

“ทำไมวะ”

“เรากลัวว่าคนที่ชอบช็อกเขาจะไม่ชอบเราหรือเปล่า”

“เฮ้ย จะบ้าเหรอ ทำไมเขาต้องไม่ชอบปิงด้วย”

“ไม่...ไม่รู้ดิ บางทีก็ถูกมองแปลกๆ”

“งั้นเราก็มีเพื่อนไม่ได้เลยดิ ใครเป็นเพื่อนเราก็ต้องถูกไม่ชอบงี้เหรอ ไร้สาระ”

“ไม่เป็นไรจริง ๆ เหรอ”

“เออดิ ปิงคิดมาก” ช็อกยื่นมือมาขยี้หัวผมเบาๆ

“เฮ้ย หลินปิง”

หือ?

ทั้งผมและช็อกหันขวับไปหาเสียงทุ้มต่ำที่ฟังดูคุ้นหูและคนที่จะเรียกผมแบบนั้นก็มีคนเดียวบนโลกนี้

“พี่อิส”

“มึงลืมมือถือ” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือถือให้ผมแต่สายตามองไปทางช็อก คนถูกมองก็ได้แต่ส่งยิ้มให้อย่างดูเก้ๆ กังๆ ผมจึงรีบแนะนำ

“พี่อิส นี่เพื่อนผมเอง ที่ไปส่งบ้านวันนั้นไง ส่วนนี่พี่ที่เราอยู่บ้านด้วยอะ” ประโยคหลังผมหันไปพูดกับช็อก เขาพยักหน้านิดๆ แล้วหันไปแนะนำตัวกับพี่อิสอีกที

“ผมช็อกครับ”

“เป็นห่าอะไรต้องช็อก”

“ไม่ใช่ เขาชื่อช็อก” ผมสะกิดแขนเขา

“อ้าวเหรอ เออ ชื่อมึงนี่น่าตกใจดีนะ”

ช็อกหัวเราะเบาๆ แล้วหันมาพูดกับผม

“จะสายแล้วอะ รีบไปกัน”

ผมพยักหน้ารับกำลังจะก้าวขาขึ้นซ้อนมอเตอร์ไซค์ แต่พี่อิสก็ยกมือดึงแขนผมเอาไว้ก่อน

“เดี๋ยวๆ”

“ครับ?”

“ไปด้วยกันเหรอ”

“ใช่ครับ”

“ไปมอไซค์เนี่ยนะ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“หมวกกันน็อกก็ไม่มี อันตรายไหมเนี่ย ฮะ? ถ้าเกิดอุบัติเหตุทำไง...”

วิญญาณลุงขี้บ่นเข้าสิงอีกแล้ว ผมรีบก้าวขาขึ้นมอเตอร์ไซค์ช็อกแล้วสะกิดให้เขาสตาร์ตรถออกไปเลย

“เฮ้ย! ยังพูดไม่จบเลย”

“สายแล้ว ไม่มีเวลาฟังแล้ว เจอกันตอนบ่ายครับ ไปนะ”

“หวัดดีครับ” ช็อกหันไปพูดกับพี่อิส

“ไม่ต้องมาหวัดดีกู”

“ไปเลยช็อก”

“ขับดีๆ นะมึง! ไอ้เด็กเวร วันหลังเอาหมวกกันน็อกมาด้วยสิโว้ย!”

ผมหัวเราะเบาๆ ตอนที่ช็อกขับออกมาแล้วแต่พี่อิสยังยืนบ่นอยู่ตรงนั้นไม่หยุด ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งเหมือนมนุษย์ลุงเข้าไปทุกที

ช็อกขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่เดิมเหมือนเมื่อวาน สายตาคู่อื่นๆ ก็ยังมองมาเหมือนเมื่อวาน แต่ผมลดความเกร็งลงนิดหน่อยเพราะในความเป็นเพื่อนคงไม่ผิดเพียงเพราะเรามาโรงเรียนพร้อมกัน

“พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมนะปิง”

“โอเค”

“ต้องเอาหมวกกันน็อกมาเปล่าอะ พี่ปิงแม่งอย่างน่ากลัวเลย”

“เฮ้ย พี่อิสไม่น่ากลัวนะ”

“ไม่รู้ดิ มองเราเหมือนจะกัดอะ”

“เขาหน้าตาโหดเฉยๆ แต่ใจดีมากเลย ขนาดเพิ่งรู้จักกับเรายังให้เรามาอยู่บ้านเลย”

“ปิงเพิ่งรู้จักกับเขาเหรอ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ

“เขาให้ปิงมาอยู่ด้วยนี่ ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงใช่เปล่า”

“คือยังไงอะ”

“ก็แบบ...เขาเคยแบบ...คิดล่วงเกินอะไร...”

“เฮ้ย ไม่มี!” ผมปฏิเสธเสียงดัง

“ไว้ใจได้เหรอ ไม่ได้รู้จักกันดีสักหน่อย ปิงก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนเขาจะบอกลาเพื่อแยกกันเดินไปคนละทาง ผมกำลังคิดว่าทำไมทุกคนต้องคิดว่าพี่อิสเป็นพวกโรคจิตหลอกเด็กมาทำมิดีมิร้าย หรือว่าหน้าตามันเข้าข่าย? แต่เลิกคิดเรื่องนั้นไปได้เลย ขนาดถอดเสื้อเดินในบ้านยังโดนบ่น โดนสั่งให้แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องทุกครั้ง เลยมั่นใจว่าพี่อิสไม่ใช่พวกที่จะคิดเรื่องอะไรแบบนั้นแน่นอน ถ้าถามว่าไว้ใจพี่อิสไหม ผมก็ไว้ใจไปแล้ว พี่อิสไม่น่ากลัวเลย เป็นแค่ลุงแก่ๆ อายุจริงยี่สิบห้า หน้าสามสิบ...ความคิดหกสิบบวกๆ

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 06-02-2017 23:48:46
พี่อิสน่ารักอ่ะ มารอรับน้องหน้าร้าน ไปเป็นผู้ปกครองให้ด้วย ซึ้งอ่ะ รอดูคนหล่อโรงเรียนพัง
หวงน้องแล้ว รอคู่นี้เขาหวั่นไหวกัน กรี๊ดดดด มีความฟินสูง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 06-02-2017 23:53:26
ตาอิสขี้บ่น  :m20:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 07-02-2017 00:16:14
แต่งหล่อๆเลยนะพี่อิส  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 07-02-2017 00:39:24
 :katai5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Grey Twilight ที่ 07-02-2017 01:08:38
ตอนแรกไม่กล้าคอมเมนท์ครับ กลัวแนวคุณรชา (หัวเราะ) ที่กลัวนี่ไม่ใช่อะไรนะครับ คุณรชาเขียนนิยายดีครับ ประมาทไม่ได้เลยล่ะ อย่างเรื่องเก่านี่ก็อื้อหือ บูรพานี่อย่างหล่อเลย องศาเหนือนี่ก็น่ารักสุดๆ ส่วนแพทกับลูกไม้นี่ก็โอเคเลยนะครับ ถือว่าทำบาลานซ์ตัวละครได้ดีทีเดียว

ดังนั้น เรื่องนี้ผมเลยไม่ชัวร์ว่ามันจะเป็นรักโรแมนติกรึเปล่า คือตอนแรกก็คิดว่ามันคือคู่พี่อิสกับน้องปิงนะ แต่อ่านไปอ่านมา ฟีลลิ่งของสองคนนี้มันให้อารมณ์ครอบครัวอะครับ ซึ่งมันตอบสนองอย่างไม่มีที่ติกับประเด็นที่น่าสนใจของเรื่องจุดนึง นั่นคือการที่ปิงเป็นเด็กที่ขาดความเอาใจใส่และปกป้องดูแล เขาน่าสงสารเพราะเหมือนขาดพ่อ ความรักของแม่อาจจะได้จากย่า แต่เค้าไม่มีตัวอย่างหรือแบบอย่างของผู้นำครอบครัวที่จะคอยดูแลเอาใจใส่เค้าเหมือนเป็นคนสำคัญในครอบครัว อีกทั้งปิงยังโดนทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจจนชินชาและไม่กล้าที่จะรับความอบอุ่นที่คนอื่นมอบให้ด้วยความจริงใจ ความอบอุ่นอันนี้คือความรักของพ่อที่จะคอยดูแล ปกป้อง สั่งสอน เป็นความรักที่บริสุทธิ์และน่าประทับใจครับ

อีกตัวแปรนึงที่ทำให้ผมไม่มองพี่อิสกับปิงเป็นคู่รัก เพราะมีการบรรยายว่าพี่อิสรักน้องสาวพอสมควรเลย แล้วเค้าก็มีปมแบบเดียวกับปิงมาก่อน พอมาเจอคนที่รูปลักษณ์กับนิสัยคล้ายๆน้องสาว แต่กลับมีปมและน่าสงสารแบบเดียวกับที่เค้าเคยเจอหรืออาจหนักกว่า มันเลยกระตุ้นความรู้สึกเชิงครอบครัวให้รุนแรง ทำให้เค้าพยายามทำให้ปิงมีความอบอุ่นและพยายามช่วยเหลือเป็นที่พึ่งแบบผู้ใหญ่ เพราะน่าสังเกตว่าพอปิงมาอยู่ พี่อิสก็เริ่มทำตัวเป็นผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองมากขึ้น แต่แฝงความขี้เล่นเนื่องจากวัยไม่ได้แก่มากนัก มันเป็นภาพบุคลิกของคุณพ่อที่ดูดีไม่ใช่น้อยเลยน่ะครับ

ทีนี้พอฟีลลิ่งของพี่อิสเข้ามาแล้วมันตอบโจทย์ตรงนี้มากๆ ผมเริ่มเขวละ แล้วชื่อเรื่องเองมันก็ไม่ได้สื่อตรงๆว่าจะเป็นรักโรแมนติกด้วย มันอาจเป็นรักแบบครอบครัวอบอุ่น (ห่างกันเกือบ 7 ปี เลยนะเฮ้ย) ซึ่งถ้าเป็นจริง นับว่าเขียนออกมาได้เฉียบมากนะครับ ยกนิ้วให้เลยล่ะ เพราะมีไม่มากนักที่จะมีนิยายครอบครัวแนวอบอุ่น (ที่ตัวละครเอกมีปม แต่ดำเนินเรื่องแบบสดใส) ออกมาให้อ่านกันบ่อยๆ ถ้าเรื่องรักโรแมนติก ผมกลับไปมองช็อกนะ เพราะว่าดูเหมือนถ้าจะจีบปิงจริง ผ่านด่านพี่อิสคงไม่ง่ายอะครับ (ฮา) ยังไม่นับพวกรุ่นน้องพี่อิสที่น่าจะสถาปนาตัวเป็นพี่ชายหลินปิงอีก นับว่าไม่เบา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 07-02-2017 01:10:12
โอ้ยย คือขำพี่อิสมากอ่ะ
หน้าไปก่อนอายุไม่พอ ความคิดยังไปก่อนหน้าอีก 555555
 :laugh: :laugh: :laugh:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 07-02-2017 01:23:40
พี่อิส พี่เป็นพระเอกหรือเปล่าคะ 555555
ทำไมในความคิดปิงแต่ละอย่าง พี่แก่มากเลยอะ น้องสงสาร 55555

ช็อคนี่แค่ชอบที่ปิงเอ๋อ แกมเอ็นดูเฉย ๆ ปะ หรือว่าปิงมันดูน่าขย้ำขนาดนั้น จนมีแต่คนคิดว่าพี่อิสจะขย้ำปิง
เอ๊ะ หรือพี่อิสมองปิงเป็นน้องสาวถึงหวงมาก

เอ๊ะ สุดท้าย พี่ใช่พระเอกไหมคะ พี่อิสระ คนเท่ห์ 5555 ขำหนักมาก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 07-02-2017 03:44:36
พี่อิสโครตเท่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 07-02-2017 04:50:43
พี่อิส ดูเป็นบราค่อนนะ
แต่ก็มีบางมุมที่ประชิดปิง ถึงเนื้อถึงตัว
ไม่นับอาการไปรับกลับ หวงมากๆ จนถึงขั้นบ่น
จนปิงมองพี่อิสว่าไม่น่ากลัวเลย เป็นแค่ลุงแก่ๆ
อายุจริงยี่สิบห้า หน้าสามสิบ ความคิดหกสิบบวกๆ

กลายเป็นพี่อิสเสพติดปิง เพราะอยู่คนเดียวมาตลอด
ช็อก ดูว่าสนใจปิงนะ แฟนคลับจิ้นช็อก ปิงและ
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 07-02-2017 05:51:37
น้องปิง ของพี่อิสนะ
ช็อกอย่าทำให้หวั่นไหว  :katai4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-02-2017 06:59:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 07-02-2017 10:06:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 07-02-2017 14:40:26
มีความสดใสน่ารักเวลาช็อก-เอ๋อ อยู่ด้วยกัน :impress3: และมีความอบอุ่นปลอดภัยเวลา พี่อิส-หลินปิงอยู่ด้วยกัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 07-02-2017 14:43:27
ช็อกก็ดูดี
พี่อิสก็โดนใจ

แต่เชียร์พี่อิสเต็มที่ค่ะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 07-02-2017 16:03:02
มีความละมุนดี ชอบ เรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 07-02-2017 16:30:04
เค้าหลงรักพี่อิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 07-02-2017 17:33:04
พี่อิส ส่งน้องไปเรียนทุกวันสิ
ช็อกจะได้ไม่ต้องมาเกะกะ  :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 11] 06-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 07-02-2017 23:16:34
อิพี่อิสหวงน้องปิงอะดิ แหมๆๆ ช็อกลูกเจออิพี่อิสทีด้อยเลยยย   :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 07-02-2017 23:19:58
ตอนที่ 12

ผู้ปกครองเล่นใหญ่

 

หลังจากพักกลางวัน ผมมายืนรอพี่อิสอยู่ที่ลานจอดรถข้างตึกเรียน งานประชุมผู้ปกครองกำลังจะเริ่มแล้วแต่พี่อิสยังมาไม่ถึง เมธีที่ยืนรออยู่ข้างๆ หันไปเห็นพ่อตัวเองเดินเข้ามาพอดีจึงเอ่ยปากบอก

“พ่อกูมาละ” ชี้ไปยังชายวัยกลางคนสวมแว่นหนาที่อยู่ในชุดสุภาพสะอาดตาสมฐานะคุณหมอแผนกอายุรกรรม ผมเจอพ่อเมธีหลายครั้ง ทั้งที่งานประชุมผู้ปกครองเทอมก่อนๆ แล้วก็ตอนที่ไปนอนบ้านเมธี ยกมือไหว้เพื่อทักทาย อีกฝ่ายก็ยิ้มรับอย่างคนคุ้นเคย

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีลูก”

“แล้วพี่มึงจะมาตอนไหนอะ ให้กูรอเป็นเพื่อนไหม” เมธีหันมาถาม

“ไม่เป็นไร มึงกับพ่อขึ้นไปก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวตามไป”

“โอเค เจอกันบนห้อง”

เมธีว่าก่อนมันกับพ่อจะเดินขึ้นตึกไป ผมชะโงกหน้าออกไปมองที่ถนนหลายรอบเพราะพี่อิสยังไม่มา พลางคิดไปว่าเขาจะมายังไง เดินมา ปั่นจักรยานมา หรือว่าจะนั่งรถเมล์มา เกือบถึงเวลาเริ่มประชุมแล้วเลยตั้งใจจะโทรตามเขา แต่จังหวะเดียวกันนั้นมือถือผมก็สั่นขึ้นมาพอดี เลยรีบกดรับอย่างไว

“พี่อิส อยู่ไหนแล้วครับ”

“เข้ามาในโรงเรียนแล้ว กูต้องไปตรงไหนเนี่ย”

“ผมยืนรออยู่หน้าอาคารสามครับ เข้าประตูมาเลี้ยวซ้ายก็เจอเลย พี่อยู่ตรง...”

“เออ กูเห็นมึงละ”

“ครับ? พี่อยู่ไหนอะ พี่อิส...” เขากดวางไปก่อนที่ผมจะพูดจบ ผมกวาดตามองก็ไม่เห็นทั้งคนหรือจักรยาน เว้นแต่รถยนต์สีขาวคันหนึ่งเลี้ยวเข้ามาก่อนจะจอดในช่องจอดที่ว่างอยู่พอดี เมื่อประตูฝั่งคนขับถูกเปิดออกและเห็นคนที่ก้าวลงมาจากรถนั่น ดวงตาของผมก็ขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย

พี่อิส?

เขาผลักประตูรถปิด ยกกุญแจขึ้นมากดล็อกแล้วเดินเข้ามาหา ผมเผลอเลื่อนสายตามองเขาหัวจดเท้า พี่อิสดูแปลกตาด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวถูกพับขึ้นถึงข้อศอก ชายเสื้อเรียบร้อยอยู่ในกางเกงสีดำขายาวถึงข้อเท้าและรองเท้าผ้าใบสีขาวเรียบๆ ดูสุภาพ และที่สำคัญโกนหนวดด้วย...นี่มันไม่ใช่ลุงคนที่บ้านนี่นา

“ไงมึง ยืนทำหน้าเป็นแพนด้าเห็นป่าไผ่ มึงจะช็อกอะไรขนาดนั้น” รูปลักษณ์เปลี่ยนไปแต่คำพูดคำจายังเหมือนเดิมก็เลยยืนยันได้ว่านี่คือพี่อิส ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พี่อิสในเวอร์ชันแปลกตานี่ก็ทำให้ผมต้องพูดออกไปตรงๆ อย่างที่คิด

“พี่อิสโคตรหล่อ”

“กูบอกแล้วไง จะหล่อให้โรงเรียนพังเลย” พูดเล่นขำๆ พลางแกล้งทำหน้าเก๊ก ถ้านิยามคำว่าหล่อโรงเรียนพังที่เขาว่าหมายถึงแบบนี้ ผมว่าเสาตึกเรียนก็เริ่มสั่นแล้วแหละ ผมพาเขาเดินไปที่ห้องเรียน ระหว่างทางแทบจะไม่มีสายตาไหนไม่หันมองเขาเลย รู้สึกว่าถูกมองจนคนข้างๆ ผมก้มลงมากระซิบข้างหู

“ที่เขามองกูนี่เพราะกูหล่อหรือกูแปลกวะ”

“เพราะพี่หล่อมากไง ทำไงดี คนมองไม่หยุดเลย”

“ฉิบหาย กูเกร็งนะเนี่ย เมื่อไรจะถึงห้องมึง”

“ใกล้แล้ว”

“ให้ไวเลย”

“พี่อิสคีปลุคด้วยนะ คีปลุค”

“เออ คีปจนไส้กูบิดหมดแล้วเนี่ย”

ก้าวเท้าเร็วๆ จนมาถึงห้องเรียน ครูที่นั่งรอต้อนรับอยู่หน้าห้องเงยหน้ามองพี่อิสแล้วยิ้มกว้าง หันมองผมสลับกับพี่อิสแล้วเอ่ยปากถาม

“นี่คือผู้ปกครองของ...?”

“ผมเป็นพี่ชายปวินท์ครับ”

ผมหันขวับไปมองคนข้างๆ อย่างตกใจนิดๆ...พี่อิสรู้ชื่อจริงผมด้วยแหละ

“ค่ะ พี่ชายปวินท์นะคะ เซ็นชื่อตรงนี้แล้วเชิญด้านในได้เลยค่ะ”

ผมนั่งรอพี่อิสอยู่ข้างนอกเพราะช่วงแรกเป็นช่วงที่คุยกันระหว่างครูกับผู้ปกครอง หลังจากนี้ถึงจะเรียกไปคุยส่วนตัวทั้งนักเรียนและผู้ปกครองพร้อมๆ กัน ไม่รู้ว่าพี่อิสจะเบื่อไหมเพราะข้างในดูเหมือนจะใช้เวลานานกว่าที่คิด

“ปิงๆ”

“หือ?” ผมหันไปหาเพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาสะกิด

“นั่นพี่ชายปิงเหรอ”

ผมพยักหน้าหงึกๆ

“โห พี่ชายปิงโคตรหล่อเลยอะ”

“พี่ปิงมีแฟนยังอะ”

ผมนิ่งไปนิดหนึ่งเพราะคำถามตรงๆ ที่ถูกถาม ลังเลนิดหน่อยแต่ก็ตอบไปอย่างที่คิด

“มี...มีแล้ว” มั้ง...ที่ต้องละคำหลังเอาไว้ในใจเพราะผมก็ไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของพี่อิสกับพี่เนย ไม่รู้เลยว่าเขาเป็นอะไรกัน พี่อิสไม่เคยบอกและผมก็ไม่กล้าถาม

“ว้า มีแฟนแล้วเหรอ”

“หล่อขนาดนั้น ไม่มีก็แปลกแล้วไหม เนอะปิงเนอะ”

ผมได้แต่ยิ้มบางๆ ก่อนคนข้างๆ จะเปลี่ยนเรื่องคุยไป ไม่นานหลังจากนั้นการประชุมรวมในช่วงแรกก็จบลง

ครูประจำให้ผู้ปกครองออกมารอข้างนอกแล้วจะเรียกเข้าไปคุยพร้อมนักเรียนเป็นรายบุคคลอีกที พี่อิสเดินออกมาหาผมด้วยใบหน้านิ่งๆ

“เป็นไงบ้างครับ”

“เกือบหลับ มีแต่มนุษย์ป้าบ่นอะไรกันก็ไม่รู้”

“พี่อิสก็เป็นมนุษย์ลุงเหมือนกันนะ”

“ลุงห่าอะไรล่ะ” เขกหัวผมทีหนึ่งก่อนจะนั่งลงข้างๆ

“น่าเบื่อหรือเปล่า แทนที่พี่จะได้อยู่บ้านทำงาน”

“ไม่ ก็สนุกดี เขาให้เสนอความคิดที่อยากให้โรงเรียนปรับปรุงแก้ไข กูก็เสนอไปข้อหนึ่งด้วย”

“อะไรครับ”

“กูอยากให้เด็กผู้ชายใส่กางเกงขายาวถึงแข้ง”

“มันใช่เรื่องไหม!”

“เอ้า! ก็มึงดู มันสั้นเห็นขาอ่อนเนี่ย อายเขาไหมฮะ?” พี่อิสว่าแล้วดึงชายกางเกงผมลง กางเกงมันสั้นเหนือเข่าอยู่แล้ว ยิ่งตอนนั่งเลยสั้นเข้าไปอีก แต่ใครๆ เขาก็ใส่สั้นราวๆ นี้กันทั้งนั้นแหละ

“ดูแต่ละคน ไอ้นั่นสั้นเสมอจู๋ละ แฟชั่นห่าอะไรของพวกมึง เข็มขัดยาวกว่ากางเกงพวกมึงอีกเนี่ย กูไม่เข้าใจเลย สมัยกูต้องถึงหัวเข่าเลยนะเว้ย...”

เข้าไปประชุมผู้ปกครองไม่ถึงชั่วโมง กลับออกมาแก่กว่าเดิม บ่นไม่ได้หยุดปากจากเรื่องกางเกง ลามไปถึงทรงผม ลามไประบบการศึกษา แล้วก็วนกลับมาเรื่องกางเกงอีกรอบ

ระหว่างที่นั่งฟังพี่อิสบ่นก็เกือบจะถึงเลขที่ผม ไอ้ยิมที่เลขที่ต่อจากผมพาแม่มันมารอแถวๆ หน้าห้อง มันขมวดคิ้วแน่นตอนเห็นผมนั่งอยู่กับพี่อิส จังหวะที่พี่อิสหันไปมองมันพอดี ใบหน้านิ่งๆ ของคนข้างๆ มองไอ้ยิมแบบหัวจดเท้า อีกฝ่ายก็มองไม่ละสายตาเช่นกัน บรรยากาศแบบนี้มัน...

“ปวินท์ เข้ามาได้จ้ะ”

โอ้เย่! ได้จังหวะพอดี ผมรีบดึงมือพี่อิสให้เดินเข้าห้องอย่างไว

“ว่าไงปวินท์ เทอมนี้พาผู้ปกครองมาได้สักทีนะจ๊ะ”

ผมพยักหน้ารับยิ้มๆ

“นี่พี่ชายปวินท์นะคะ”

“ครับ ผมอิสระครับ”

“ค่ะ คุณอิสระ”

ผมหันไปมองครูประจำชั้นที่ทำเสียงหวานตอนเรียกชื่อพี่อิส แววตาที่เอาแต่มองพี่อิสกับรอยยิ้มเคอะเขินนั่นมันคืออะไรครับครู นี่พี่ผมนะ เดี๋ยวข่วนเลย!

แต่เดี๋ยวนะ...ผมจะหวงเขาทำไมเนี่ย

“สำหรับปวินท์ เรื่องการเรียนอยู่ในระดับพอใช้ค่ะ แต่ก็มีบางวิชาที่น่าเป็นห่วง อย่างคณิตศาสตร์นี่ต้องพยายามอีกหน่อยค่ะ คะแนนค่อนข้างจะต่ำกว่าเกณฑ์นิดหน่อย”

“นี่โง่คณิตเหรอเนี่ย” เขาหันขวับมาถาม

ผมพยักหน้ารับโดยไม่คิดเถียงสักคำ ใช้คำว่าโง่ยังน้อยไปเลยด้วยซ้ำ

“ไม่ถึงกับโง่หรอกค่ะคุณอิสระ ของอย่างนี้มันพัฒนากันได้ ยังไงปวินท์ก็พยายามอีกหน่อย”

“ตอนเรียนไม่ตั้งใจอะดิ การบงการบ้านไม่เคยเห็นทำ มัวแต่ไปคุยกับไอ้ช็อกห่าอะไรนั่นละสิ”

“ไม่เกี่ยวเลย!”

“หนังสือไม่เรียน เอาเวลาไปคุยกับผู้ชาย น่าจับเฆี่ยน!”

ครูเงยหน้าขึ้นมามองพี่อิสแล้วฉีกยิ้มแห้งๆ  ผมแอบกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ...คีปลุคหน่อย...คีปลุค

“อ่า เอาเป็นว่าเรื่องเรียนไม่มีอะไรต้องดูแลเป็นพิเศษนะคะ ส่วนตัวเด็ก ปวินท์แกเป็นคนเงียบๆ นะคะ เงียบมาก”

จริงๆ ครูคงอยากพูดว่าเด็กนี่มันไม่มีคนคบนั่นแหละ แต่ถนอมน้ำใจผมด้วยการใช้คำว่าเป็นคนเงียบๆ แทน ที่จริงผมก็ไม่ได้ชอบเสียงดังสักหน่อย เป็นคนเงียบๆ ก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ

“ปกติอยู่ที่บ้านปวินท์ก็เป็นแบบนี้ใช่ไหมคะ”

“อย่างนี้แหละครับ นั่งเฉยๆ นี่นึกว่าผ้าขี้ริ้ว”

โคตรอยากเตะพี่!

“แต่ก็น่ารักดีใช่ไหมครับ ผมไม่ชอบพวกพูดมาก มันน่ารำคาญ น้องนิสัยแบบนี้นี่สเปกผมเลย” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือมาเกาคางผม ผมปัดมือเขาทิ้งแล้วหันไปยิ้มหน่อยๆ ให้ครูที่กำลังมองเราอยู่ด้วยสายตาแปลกๆ  คงเพราะผู้ปกครองของผมค่อนข้างประหลาด

“แล้วคุณอิสระมีคำถามอะไรกับทางโรงเรียนบ้างไหมคะ”

“มีเรื่องหนึ่งครับ”

“เชิญพูดมาได้เลยค่ะ”

“กางเกงนักเรียนชายมันสั้นไปครับ เห็นแล้วหมั่นไส้”

“คะ?”

“ครูน่าจะหักคะแนนพวกที่ใส่กางเกงสั้นนะครับ หรือไม่ก็จับไปตีหน้าเสาธงไรงี้ สร้างกฎให้การแต่งกายมันดูเรียบร้อยกว่านี้จะดีมากเลยครับ ผมไม่อยากให้ใครเห็นขาอ่อนน้องผม”

“พี่อิส!” ผมเอาศอกกระแทกคนข้างๆ ที่พูดจาเลอะเทอะ เขาหันมายักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้

“ค่ะๆ เดี๋ยวทางโรงเรียนช่วยดูเรื่องนี้ให้ค่ะ”

“แล้วก็อีกเรื่อง ผมรู้มาว่าในห้องนี้มีอันธพาลด้วยนะครับ”

“คะ? อันธพาล ครูว่าเรื่องแบบนั้นไม่น่ามี...”

“มีครับครู น้องผมโดนแกล้งประจำเลย”

ผมกระตุกเสื้อพี่อิสอีกทีขณะที่เขากำลังพูดจริงจัง

“คุณอิสระใจเย็นๆ ก่อนนะ ครูว่าเด็กๆ คงเล่นกันมั้งคะ”

“เล่นอะไรครู ไม่เล่นครับ ผมเคยเห็นมันแกล้งน้องผมกับตาครั้งหนึ่ง แม่งขัดขาหน้าทิ่มเลย มีเด็กนิสัยแบบนี้อยู่ครูไม่คิดจะทำอะไรหน่อยเหรอครับ”

“ไม่มีอะไรครับครู พี่อิสเข้าใจผิดน่ะครับ...” ผมรีบบอกปัดแต่ก็โดนพี่อิสหันมาขัด

“ไม่ผิดเว้ย กูเห็นอยู่ ถ้าวันนั้นกูไม่ช่วยมึงโดนต่อยไปแล้วไหม ผมฝากครูดูแลเรื่องนี้ด้วยนะครับ ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ ผมไม่ยอมจริงๆ ด้วย” พี่อิสหันไปทำเสียงแข็งใส่ครูด้วยสีหน้าโมโหเกินเรื่อง ผู้ปกครองเล่นใหญ่มาก

“ค่ะ ยังไงครูจะเข้มงวดเรื่องนี้กับเด็กๆ อีกที”

“ถ้าครูไม่จัดการ ผมจะจัดการเอง ใครรังแกน้องผม เดี๋ยวเตะให้ตัวขาดแม่ง!” พี่อิสโวยเสียงดัง แน่นอนว่าไอ้ยิมที่อยู่หน้าห้องต้องได้ยินแน่นอน มันถึงได้มองเข้ามาด้วยแววตาเคืองๆ

“อย่าให้เจอนะ กูจะชกให้หน้าแหกเลย”

“พี่อิส!”

“ทำไมเล่า!”

“อ่า...เราหมดเรื่องคุยแล้วนะคะ เชิญกลับบ้านได้ค่ะ เชิญเลยค่ะ” ครูผายมือออกไปนอกประตูเป็นเชิงให้กลับได้ จริงๆ ครูคงอยากไล่ออกไปเลยมากกว่า ผมกระตุกเสื้อพี่อิสให้ลุกออกมา สายตาเขายังมองไปที่ไอ้ยิมกับแม่มันที่เดินสวนเข้าห้องไป

“พี่อิสจะหัวร้อนอะไรเนี่ย บอกให้คีปลุคไง”

“ก็มึงดูไอ้นั่นมันมองกู”

“มันอาจจะแค่มองเฉยๆ ก็ได้ วันนี้พี่หล่อไง”

“มันเปรี้ยวตีนกูอะดิ อยากโดนต่อยอีกทีมั้ง”

“ไม่เอาน่าพี่ ต่อยกับเด็กมัธยม เท่มากมั้ง”

“กูไม่ได้ต่อยเอาเท่เว้ย กูจะต่อยคนที่มันรังแกมึง”

“แบบนี้พี่ก็จะเป็นอันธพาลไม่ได้ต่างจากมันเลยนะ”

เขาถอนใจแรงๆ ใส่ผมด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิด ผมจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“กลับบ้านกันครับ เลิกเร็วกว่าที่คิดด้วย”

“เออ”

“เหลือเวลาตั้งเยอะก่อนผมไปทำงาน เราไปหาอะไรกินกันไหมครับ”

“ไปดิ อยากกินอะไร”

“พิซซ่า!” ผมโพล่งอาหารที่อยู่ในหัวออกไปทันที ทั้งๆ ที่เพิ่งกินข้าวกลางวันไปเมื่อกี้แต่ผมอยากกินพิซซ่ามานานมากแล้ว

“เอาดิ ไปกินพิซซ่ากัน”

“โอ้เย่!”

“ยิ้มแล้วเหมือนบังเอิญฉิบหาย” พี่อิสว่าแล้วผลักหัวผมทีหนึ่ง พี่อิสคงไม่ได้มองผมเป็นคน บางวันเป็นแพนด้า บางวันเป็นแมว ผมชินแล้วแต่ก็ยังสงสัย...แมวมันยิ้มได้ด้วยเหรอ

“พี่อิส พี่รู้ชื่อจริงผมได้ไงอะ”

“วันที่กูดูบัตรประชาชนมึงไง”

“อ๋อ...ไม่คิดว่าจะจำได้ด้วย”

“กูใส่ใจ” เขาพูดแค่นั้นก่อนจะเดินนำไปที่รถ ผมอมยิ้มแล้วเดินตามเขาไป พี่อิสควักกุญแจออกมาปลดล็อกรถยนต์คันสีขาวที่เขาขับมา

“พี่อิสไปเอารถใครมาอะ”

“หน้ากูเหมือนพวกโจรกรรมรถงี้เหรอ”

ผมพยักหน้ารับก่อนโดนกำปั้นเขกเข้ากลางกบาลในจังหวะเดียวกัน

“ก็ปกติเห็นพี่ปั่นจักรยานไง เลยคิดว่าพี่ไปยืมรถใครมา”

“รถกู” เขาตอบสั้นๆ แล้วเปิดประตูฝั่งข้างคนขับให้ผม ชี้เป็นเชิงให้เข้าไปนั่ง ก่อนเขาจะเดินไปขึ้นอีกฝั่ง ผมกวาดตามองในรถที่ดูสะอาดเอี่ยมเหมือนไม่ค่อยได้ใช้งาน

“รถพี่เหรอ”

“อือ พ่อกูซื้อให้ จอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถหมู่บ้านสามชาติแล้ว ก็อยากจะเอามาขับเท่ๆ หรอกแต่เสือกไม่มีตังค์เติมน้ำมัน”

ผมหลุดขำพรืด พี่อิสส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดต่อ

“จะรวยก็รวยไม่สุด อนาถาฉิบหาย”

ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังขับรถออกไป พี่อิสคนที่แต่งตัวหล่อเหลาขับรถยนต์ราคาเป็นล้าน พี่อิสคนนี้ดูแปลกตาไปมากเลยจริงๆ

“มองไร”

“ผมคิดว่าวันนี้พี่อิสจะปั่นจักรยานมาซะอีก”

“ไอ้บ้า กูก็อายเป็นนะ แต่งตัวอย่างหล่อจะให้ปั่นจักรยานแม่บ้านมางี้”

“แต่วันนี้หล่อจริง โกนหนวดด้วย”

“ก็มึงบอกให้ทำ” เขาพูดเสียงเบา

“ไหนพี่บอกว่าไม่ชอบทำตามที่คนอื่นบอกไง”

เขาเหลือบตามามองนิดๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนน พึมพำบางคำออกมาเบาๆ แต่ก็พอที่ผมจะได้ยิน

“แล้วมึงเป็นคนอื่นหรือไง”

ผมเผลอยิ้มออกมาแล้วหันไปมองนอกกระจก ถึงจะดีใจแต่ก็อดสงสัยไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกับสถานะของตัวเอง ถ้าผมไม่ใช่คนอื่น แล้วสำหรับเขาผมเป็นอะไร เป็นคนที่เหมือนน้องสาว แมวตัวใหม่ หมีแพนด้า หรือแค่เด็กน่าสงสาร...ไม่รู้เลย 

“พี่อิส อยากกินชาไข่มุกอะ” ผมชี้ไปที่ร้านชาไข่มุกร้านประจำที่พี่อิสกำลังจะขับรถผ่าน

“เอาดิ แต่แม่งไม่มีที่จอดรถเลยอะ”

“ให้ผมลงตรงนี้แล้วพี่อิสไปจอดข้างหน้าก็ได้”

“เออได้”

“พี่อิสเอาอะไรอะ”

“อะไรก็ได้”

ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะเปิดประตูลงไปร้านชาไข่มุก เพราะไม่รู้ว่าพี่อิสชอบกินอะไร เลยสั่งไวต์มอลต์ที่ผมชอบไปเหมือนกัน ยืนรออยู่แป๊บหนึ่งก็ได้ไวต์มอลต์ไข่มุกมาสองแก้ว

“ไอ้ปิง”

ผมรับเงินทอนแล้วหันไปหาเสียงเรียก ไม่ต้องหันดูก็รู้ว่าเสียงไอ้ยิม

“วันนี้มึงไม่เป็นเด็กกำพร้าแล้วนี่ มีผู้ปกครองมานี่หว่า”

ผมเพียงแค่พยักหน้ารับเบาๆ

“ผู้ปกครองมึงหน้าตาคุ้นๆ ว่ะ ใช่คนที่ต่อยกูปะ”

“อืม ใช่”

“มันมาเป็นผู้ปกครองมึงได้ไงวะ”

“ก็สนิทกันตั้งแต่วันนั้นแหละ”

มาลองย้อนคิดดู ผมควรขอบคุณไอ้ยิมหรือเปล่าที่ทำให้ผมได้รู้จักกับพี่อิสวันนั้น

“กูเห็นมันดูหวงๆ มึงนะ ตกลงเป็นพี่หรือเป็นผัวมึงวะ”

“เฮ้ย ยิม พูดอะไรวะ เขาเป็นพี่กู”

“เขาเป็นลูกแม่มึงเหรอ”

“...”

“กูพูดอะไรผิดหรือไง” ไอ้ยิมยิ้มเหยียดแล้วก้าวเท้าเข้ามาหา ผมได้แต่ก้มหน้าลงหนีใบหน้าเอาเรื่องนั่นด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย

พี่อิสช่วยด้วย...พี่อิส

“เฮ้ย” เสียงที่สามทำให้ทั้งผมและไอ้ยิมหันไปมอง ก่อนจะเห็นพี่อิสยืนอยู่ข้างหลังเรา สีหน้าเรียบเฉยมองไอ้ยิมแล้วยื่นมือมาดึงผมให้เข้าไปใกล้ๆ  ผมแอบถอนใจเบาๆ ที่พี่อิสเข้ามาพอดีอย่างกับได้ยินเสียงในใจที่ร้องให้ช่วย

“แกล้งอะไรน้องกู”

“เปล่านี่พี่ แค่คุยกันเฉยๆ ทักทายกันไง เพื่อนกัน”

“ตอแหลไม่เนียน กูได้ยินหมดแล้ว”

ไอ้ยิมเค้นหัวเราะออกมา

“แล้วตกลงพี่เป็นพี่มันจริงๆ เหรอ”

“แล้วมึงเสือกอะไรอะ”

“อ้าวพี่...”

“ทำไม” พี่อิสก้าวเท้าเข้าไปก้าวหนึ่ง ไอ้ยิมก็ก้าวเข้ามาก้าวหนึ่ง ความสูงที่พอๆ กันทำให้ทั้งสองคนจ้องหน้ากันได้อย่างพอดิบพอดี ใบหน้าที่ดูเอาเรื่องนั้นทำบรรยากาศตรงนี้คุกรุ่น ผมยกมือเกาะแขนพี่อิส

“ปกป้องไอ้ปิงขนาดนี้กูคงไม่ต้องถามแล้วแหละว่าพี่หรือผัว”

“แล้วที่มึงพูดอยู่เนี่ยปากหรือส้นตีน”

“พี่จะเอาใช่ปะ!”

“มึงก็มาดิ”

“คราวนี้กูไม่ปล่อยไปเหมือนคราวก่อนแน่!”

ผมเห็นหมัดพี่อิสกำแน่นเหมือนพร้อมจะชกเข้าหน้าไอ้ยิมแล้วจึงรีบเข้าไปคว้าแขนเขาเอาไว้แล้วดึงออกมาจากตรงนั้นเพราะไม่อยากให้มีปัญหา

“พี่อิสไปเหอะ พี่อิสไป...”

ไอ้ยิมเหยียดยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างกวนประสาท มือข้างนั้นของพี่อิสยังคงกำแน่น ฝืนแรงของผมที่กำลังดึงมือเขาเอาไว้

“พี่อิสครับ”

สายตาที่จ้องเขม็งไปยังไอ้ยิมเลื่อนกลับมามองผมที่เอ่ยปากเรียกอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะยอมเดินตามผมออกมาขณะที่ไอ้ยิมก็เดินออกไปอีกทาง หลุดออกมาจากตรงนั้นพี่อิสก็บ่นผมยับ

“แม่งหงุดหงิดฉิบหาย มึงดูหน้ามันโคตรกวนส้นตีน แล้วดูมันพูด ดูปากมัน กูไม่เอาตีนยัดปากก็บุญละ ไอ้เด็กเหี้ย กูกลับไปต่อยมันดีไหมเนี่ย!”

“พี่อิส!” ผมคว้าแขนเขาที่หันหลังกลับไปอย่างฉุนเฉียว

“โห ขึ้นเลยกู!”

“ไม่เอานะพี่อิส พี่อิส!” ผมยกมือคล้องแขนพี่อิสเอาไว้ไม่ให้เขาหมุนกลับไปอีกรอบขณะที่กำลังหงุดหงิดจัด

“พี่อิสไม่เอา พี่! คลายหมัดเลย คลายหมัดเดี๋ยวนี้ ตีเลย!” ผมว่าแล้วยกมือตีมือเขาที่กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดที่แขนขึ้นปูด ตีเข้าไปสี่ห้าทีเขาก็ยอมคลายหมัดนั่นออกแล้วถอนใจแรงๆ ใส่หน้าผม

“หงุดหงิดง่ายจังเลย หัวร้อนมาจากไหน”

“ก็เด็กเหี้ยนั่นมันกวนตีน”

“ใจเย็นๆ เอานี่ไปกิน” ผมยกแก้วชาไข่มุกใส่ปากเขา พอดูดเข้าไปก็ดูเหมือนจะอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย มุมปากยกขึ้นนิดๆ อย่างดูพอใจในรสชาติ

“อร่อยใช่ปะ”

“อือ น้ำอะไรขาวๆ อสุจิเหรอ”

“ไวต์มอลต์โว้ย! นี่พี่เป็นอะไรกับอสุจิมากปะ ถามหน่อยเหอะ!”

“อสุจิคือจุดเริ่มต้นของชีวิตกู”

“พี่แม่ง...”

“อสุจิไข่มุก”

“พี่อิส! กรองมุก!”

“ล้อเล่นโว้ย อันนี้ใช่ที่มึงทำหกใส่กูคราวก่อนไหม”

“อ๋อ ใช่ครับ อันที่จริงวันนั้นผมงงมากเลยนะ พี่ชกไอ้ยิมแล้วก็หยิบชาไข่มุกของผมไปกินเฉยเลย”

“กูหิว”

“แล้วก็เดินถอดเสื้อไปด้วย”

“เออ เดินถอดเสื้อกลับบ้าน หมาเห่าทั้งซอย”

“ก็พี่จะถอดทำไมเล่า”

“ถ้ากูไม่ถอดให้มึงไปซัก มึงจะได้กลับมาเจอกูอีกปะล่ะ”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ เห็นด้วยกับคำพูดของเขา มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้กลับมาเจอเขาอีกทีและเจอหลังจากนั้นอีกหลายๆ ที ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ จนกระทั่งผมได้มาอยู่กับเขาแบบนี้...ทุกอย่างมันเริ่มต้นจากตรงนั้น 

...

 

พี่อิสกำลังขับรถพาผมไปกินพิซซ่า อารมณ์กลับมาเป็นปกติหลังจากกินชาไข่มุกหมดไปแก้วหนึ่ง เวลาที่พี่อิสโมโหดูน่ากลัวกว่าเวลาปกติมากๆ  ความใจร้อนและฉุนเฉียวของเขา ผมคาดเดาไม่ได้ว่าเขาจะโกรธจนทำอะไรได้บ้าง ถ้าเมื่อกี้ผมห้ามไม่ฟังป่านนี้คงต่อยกับไอ้ยิมยับไปแล้ว

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

ทั้งผมและเขาล้วงหาโทรศัพท์พร้อมกันเมื่อได้ยินเสียงนั้น ก่อนจะหันมองกันแล้วหัวเราะออกมา

“ของกูๆ” เขาว่าแล้วชูมือถือตัวเองให้ดู ก่อนจะกดรับ

“ว่าไงเนย”

บุคคลปลายสายทำให้ผมหันหน้ามองออกไปนอกกระจกเพื่อไม่ให้ดูเหมือนผมกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของเขา

“มีอะไร เป็นอะไร พูดดีๆ ดิ ...อะไรนะ ...เออๆ เดี๋ยวรีบไป ตอนนี้เลย”

ดูเหมือนมีเรื่องด่วนที่ทำให้เขาจะต้องไปที่ไหนสักที่ พี่อิสกดวางสายก่อนจะหันมาบอกผม

“โทษทีว่ะปิง กูต้องรีบไปหา...”

“ไม่เป็นไรครับ ไปเหอะ” ผมตัดบทอย่างไม่มีปัญหา ชี้ให้จอดรถข้างหน้า

“งั้นพี่อิสให้ผมลงข้างหน้าก็ได้ เดี๋ยวผมไปรอที่ทำงานเลย”

“งั้นเดี๋ยวไปส่งร้าน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมลงตรงนี้เลยดีกว่า”

เขาพยักหน้ารับแล้วเปิดไฟเลี้ยวเข้าไปจอดริมฟุตปาท ผมรีบเปิดประตูรถลงมาเพราะดูเหมือนตรงนี้จะห้ามจอดจึงรีบบอกให้พี่อิสขับรถออกไป

“พี่อิส ตรงนี้ห้ามจอด รีบไปๆ”

“เออ พิซซ่าไว้วันหลังนะมึง”

“โอเคครับ”

“เจอกันที่บ้าน”

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วโบกมือให้ก่อนพี่อิสจะขับออกไป ผมคิดอะไรนิดหน่อยในระหว่างที่เดินไปร้านกาแฟ พี่เนยสำคัญกับพี่อิสขนาดที่ว่าเพียงแค่โทรมาก็รีบไปหาทันที...สำคัญระดับนั้น




to be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 07-02-2017 23:39:49
มีความเขินพี่อิสสส หล่ออะไรเบอร์นั้น หวงน้องแรงมากกกกก อารมณ์ดรอปพอได้ยินคำว่า 'เนย' งื้อออ น่าเห็นในน้องปิงงงง  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 07-02-2017 23:40:27
ฮือออ พี่อิสน่ารักกกกกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 08-02-2017 00:05:47
หน็อยนังเนย กล้าขวางเดตของหนูปิงกับพี่อิสหรอ ไม่มีเพื่อนฝูงให้โทรหาหรือไง  :fire:  :m31:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 08-02-2017 00:15:11
น่ารักมากกก
ดีมากกกก
ฮือออ ปิงได้เจอพี่อิสนับเป็นโชคดี โอยยยย
พ่อคุณพ่อขนุนหนัง ดูแลน้องต่อไปนะ อย่าทิ้งงง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 08-02-2017 00:37:45
ตอนหน้าขอให้ชาไข่มุดติดคอพี่อิส ทิ้งน้อง !!
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 08-02-2017 00:42:40
เอานังเนยออกไปปปปปป  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 08-02-2017 00:57:34
รำคาญพวกที่เลิกเเล้วไม่จบ พอมีอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็ถ่อมาโทรมาตลอด
เเล้วที่รำคาญยิ่งกว่าคือ ผช ที่ถ่อไปทุกครั้ง เเต่ถือว่าพี่อิสยังโสดเเล้วกัน
เลยใจดีออกกับชะนีเนย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 08-02-2017 01:21:15
เรื่องเนยนี่ไงนะ ไม่ไหวๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 08-02-2017 01:36:10
คือไม่เชื่อว่าเนยจะมาอย่างเป็นมิตรอะ
น่าจะเป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าจริงๆ
ปิงคือน่ารักกกอะ เหมือนตัวอะไรซักอย่างที่เอ๋อๆมึนๆ
ไม่ทันใครเค้าเลยย น่าจับมาขยำๆบีบๆๆมากๆอะ55555
พี่อิสเปิดตัวมาตอนแรกคือแบบ เชรดดดคนอะไรโคตรเท่
คือแบบมาถึงนิ่งๆ กูรู้กูเห็นแล้วต่อยเลย พร้อมเดินจากไปแบบคูลๆ
แล้วระดับออร่าพระเอกก้เนิ่มหายไปทีละตอนทีละตอนค่ะ55555
เหลือแต่ความลุงที่เริ่มเข้ามาทักทายจนสนิทกับพี่อิสของเราเรื่อยๆ
เป็นพระเอกที่แบบขี้บ่นมากกก กากมากกก แต่ก้คือมีมุมอบอุ่นน่ารักอยู่เบาๆ
ส่วนช็อกนี่คืออเคมีดีมากๆอะ แน่ๆอยู่แล้วว่านางชอบและเนียนจีบปิงแน่ๆอะ
แต่เคมีดี๊ดีดูเข้าไปหมดไม่ว่าจะกับพี่พิงค์หรือก้บเมธีหรือยิมก้ตามแต่
#ช็อกกินกับอะไรก้อร่อย กับปิงก้จะเป็นแบบรักใสๆหัวใจสี่ดวงมาก555
กับพี่พิงค์นี่น่าจะเป็นแอบๆเมะชนเมะที่มุ้งมิ้ง กับยิมน่าจะมาแนวคู่กัดที่รัก
ส่วนเมธีนี่รู้สึกได้ว่าเมธีเป็นคนน่าแกล้งคนนึงเลยอะ อาจจะมาฟิลน่ารัก555
ช็อกคือแยากให้มีคู่มากก55555555
รอความชัดเจนจนกพี่อิสค่ะ ชอบน้องรึยังหวงกันขนาดนี้
แล้วกับเนยนี่ยังไงอะ เหมือนจะไม่สนใจแต่เค้าเรียกทีไรก้ไปหาตลอด
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 08-02-2017 06:05:39
ลุงอิส ชัดเจนคับชัดเจน กับเนยนี่อะไรยังไง คายแล้วอย่ากลับไปกินอีกนะคับ ไม่ดีๆ เสียลำไส้หมด

หลินปิงน่ารักได้อีกอยู่กับอิสแล้วเหมือนความต่างที่ลงตัวเดะ คนซึนที่น่ารักเจอกับคนถ่อยที่กร๊าวใจ 5555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 08-02-2017 10:19:49
เมื่อไหร่พี่อิสจะเลิกวอแวกับแฟนเก่าสักที
จะเปลี่ยนใจเชียร์ช็อกแล้วนะ
ยิมนี่ชอบปิงป่าว
ดูเป็นเดือดเป็นร้อนจัง

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 08-02-2017 10:27:59
อิสนี้แคสเป็นพ่อ(ทูลหัว)ปิงใช่ป่ะ555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 08-02-2017 10:33:15
ตอนแรกๆมาขำๆ อมยิ้มได้ พอสายเข้าปุ้บหมดอารมณ์เลย ฮืออออ หนูปิงของพี่  :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 08-02-2017 10:37:55
น้องปิงไม่ใช่คนอื่นหรอกลูก
ตอนนี้เป็นน้องสาวพี่อิสไปก่อน :hao7:
แล้ววันหน้าค่อยขยับเลื่อนฐานะนะลูก :hao6:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 08-02-2017 13:23:14
อ่านทันละค่อยเม้นทีเดียว

มันก็ดราม่าหน่อยๆ นะ แต่แบบอ่านๆ ไปละขำมากกว่า ไม่รู้ขำอะไร แต่สนุกอ่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: PKT ที่ 08-02-2017 17:50:49
 :laugh: :laugh: ตลกพี่อิสสสสสสส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 08-02-2017 18:06:13
น้องปิงน่ารักกกก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-02-2017 18:32:51
ตอนนี้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเริ่มคิดเกินกว่าพี่น้องเมื่อไหร่ (ขอให้พี่อิสคิดได้ก่อนปิงด้วยเถ้อะ  :call:) หวังว่าพี่อิสจะจัดการความรักครั้งเก่าที่มันยังค้างคาอยู่เสียทีนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 12] 07-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-02-2017 22:24:32
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 08-02-2017 22:57:50
ตอนที่ 13

แบบช็อกๆ

 

จากที่ตั้งใจจะไปรอทำงานที่ร้านเลยแต่ยังเหลือเวลาเยอะมาก ผมก็เลยแวะเข้ามาในร้านหนังสือฆ่าเวลาไปก่อน ผมเลื่อนมือไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งบนชั้นหนังสือขายดีมาเปิดอ่านผ่านๆ  ถึงผมจะชอบอ่านหนังสือแต่ซื้อไม่บ่อย เพราะเมื่อเทียบกับรายได้ที่ผมมี หนังสือพวกนี้ก็ราคาแพงไปสำหรับผม

“ปิง”

ผมเงยหน้าขวับไปมองเสียงเรียกเบาๆ ตรงหน้า ก่อนจะเห็นว่าเป็นช็อกที่กำลังยืนยิ้มกว้างอยู่

“ช็อก มาได้ไงอะ”

“แวะมาซื้อยางลบ” เขาว่าแล้วชูยางลบในมือให้ดู

“แล้วไม่กลับบ้านเหรอ”

“ยังอะ ตอนเย็นมีซ้อมดนตรี แล้วปิงอะ ไม่กลับเหรอ”

“เรารอไปทำงาน”

“ทำงานกี่โมง”

“ห้าโมง”

“เหลือเวลาตั้งเยอะ ไปเรียนดนตรีกันปะ”

ผมพยักหน้ารับตามคำชวน วางหนังสือเก็บไว้ที่เดิมแล้วตามเขาออกมา ช็อกพาผมกลับมาที่โรงเรียน ในห้องซ้อมดนตรีของวงดนตรีโรงเรียนที่ปกติไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาใช้งาน ผมเก้ๆ กังๆ อยู่หน้าห้องแล้วกวาดตามองไปรอบๆ

“เราเข้าไปได้จริงๆ เหรอ”

“ได้ดิ มากับเราซะอย่าง”

“ครูเขาจะไม่ว่าเอาใช่ไหม”

“ปิงขี้กลัวว่ะ เข้ามา” ช็อกดึงมือผมเข้าไปในห้องนั่น ก่อนจะหันไปปิดประตูห้อง ในนี้เงียบมากและค่อนข้างมืด มีแค่ไฟหลอดยาวกลางห้องดวงเดียว ผมนั่งลงที่เก้าอี้ตรงมุมห้อง

“ปิงอยากเล่นอะไร”

“อะไรก็ได้ง่ายๆ”

“ตอนม.สี่เรียนกีตาร์ใช่ปะ แปลว่ามีพื้นฐานแล้ว งั้นเอากีตาร์ดีกว่า” ช็อกว่าแล้วหยิบกีตาร์โปร่งตัวหนึ่งมานั่งข้างๆ ผม

“อย่าเรียกว่ามีพื้นฐานเลย เราลืมหมดแล้ว จำคอร์ดไม่ได้ด้วย”

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวสอนให้ใหม่ อะ” ผมรับกีตาร์มาจากช็อกแล้วกอดเอาไว้แบบงงๆ จนคนข้างๆ หัวเราะออกมา

“กีตาร์ยังตัวใหญ่กว่าปิงอีก”

“เราสายพันธุ์แคระไง” ตอนแรกก็ต่อต้านตอนที่พี่อิสบอกว่าเป็นคนแคระ แต่ตอนหลังเริ่มรู้ตัวเพราะอยู่ใกล้ใครก็ตัวเตี้ยไปหมดก็เลยต้องยอมรับความจริง

“มาเริ่มเลยดีกว่า เอาคอร์ดพื้นฐานก่อนนะ” ช็อกเลื่อนตัวเองจากเก้าอี้ลงไปคุกเข่าตรงหน้าผม แล้วยกมือมาจับมือผมให้ขยับไปจับสายกีตาร์ตามสายตามช่องที่เขาบอก

“ลองดีดดู”

ผมเลื่อนมือขวาขึ้นมาดีดสายกีตาร์

“บอด เอาใหม่”

อีกที

“บอด”

อีกที

“บอดมาก”

อีกที

“บอดที่สุด”

“งื้อ! ไม่เล่นแล้ว โยนทิ้ง!” ผมพูดอย่างหงุดหงิด ผมรู้ตัวตั้งแต่ตอนม.สี่แล้วว่าไม่ได้เกิดมาเพื่อเล่นกีตาร์ ไม่อยากพยายามทำอะไรที่มันรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่เอาแล้ว!

“โอ๋ๆ หงุดหงิดง่ายจังเลย ก็ปิงดูไม่มีแรงอะ ดูมือเนี่ย นิ่มเป็นฟองน้ำเลย” ช็อกว่าแล้วบีบมือผมเบาๆ  ตอนถูกจับมือทำเอาผมเคอะเขินเล็กน้อยเพราะความใกล้ชิดเกินไป ผมจึงดึงมือตัวเองกลับมาช้าๆ ขณะที่ช็อกเปลี่ยนเรื่องพูด

“เราว่าปิงเล่นคีย์บอร์ดดีกว่า” แล้วลุกไปที่คีย์บอร์ด ผมเดินตามไปด้วย

“อันนี้ง่ายกว่าเหรอ”

“ไม่รู้ว่าง่ายกว่าไหมแต่ไม่เจ็บมือแน่ๆ  สงสารมือนิ่มๆ ไม่เหมาะจะจับสายกีตาร์” ช็อกจับมือผมไปวางบนคีย์บอร์ด ชี้ให้กดจนเกิดเป็นเสียง ผมพยักหน้าเบาๆ ตอนที่เขากำลังสอนถึงตัวโน้ตพื้นฐาน พูดถึงคีย์ขาว คีย์ดำ คอร์ดนั่นนี่โน่นแบบดูมีหลักการ ผมไม่ค่อยเข้าใจแต่พยายามกดมือลงไปตามที่เขาบอก

“ปิงอยากเล่นเพลงอะไรอะ”

“ไม่รู้เหมือนกัน ปกติเราไม่ฟังเพลง”

“เฮ้ย ไม่ฟังเพลงเหรอ”

“ไม่ค่อย...ไม่เลย” ถ้าไม่นับเพลงที่ได้ยินผ่านๆ ในร้านกาแฟ ผมก็ไม่เคยเปิดเพลงเองเพื่อฟังเลย ผมไม่ได้แปลกเกินไปใช่ไหม

“รู้จักยูทูบปะเนี่ย”

“รู้จักดิ แต่ไม่ฟังเพลงไง”

“ปิงเอ๊ย งั้นเดี๋ยวเราเลือกเพลงให้นะ”

ผมพยักหน้ารับ ให้ช็อกเป็นคนเลือกต้องดีกว่าอยู่แล้ว

“แต่วันนี้เอาพื้นฐานให้คล่องก่อน จำให้ได้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนก็พอแล้ว”

“โอเค”

ชั่วโมงกว่าๆ ที่ช็อกสอนให้ผมกดทั้งโน้ต ทั้งคอร์ด นอกจากเขาจะเล่นกีตาร์เก่งแล้ว ยังเล่นคีย์บอร์ดได้ดีมากอีกด้วย จนผมสงสัยว่าช็อกนี่ทำมาจากอะไรเหรอ ทำไมถึงดีไปหมดทุกอย่างแบบนี้ เกิดเป็นช็อกนี่ดีจัง ถูกแล้วที่คำว่าเพอร์เฟกต์อธิบายความเป็นเขาเอาไว้ได้ครอบคลุมที่สุด

“ปิง...”

“...”

“ปิง!”

“ฮะ!?” ผมหลุดจากความคิดตอนที่ช็อกยื่นหน้าเข้ามาเรียกเสียงดังข้างๆ หู

“เหม่ออะไร”

“เปล่า”

“เปล่าอะไร เรียกไม่ตอบ เหนื่อยแล้วเหรอ”

“เปล่าๆ”

“ใกล้ได้เวลาทำงานของปิงแล้วอะ วันนี้แค่นี้ก่อนละกัน”

“โอเค”

“พรุ่งนี้มีคาบดนตรีใช่ปะ อย่าลืมไปซ้อมที่เราสอนไปนะ”

“โอเค”

“วันเสาร์เจอกันที่ร้านยาพ่อนะ เดี๋ยวเราไปรับ พาไปที่บ้าน”

“โอเค”

“จะพูดแต่คำว่าโอเคหรือไง”

“โอ...” ผมชะงักกึกก่อนจะเผลอหลุดคำว่าโอเคออกไป ช็อกหลุดหัวเราะเบาๆ

“ปิงแม่งตลกว่ะ”

“เราเหรอ”

“อื้อ อยู่ด้วยทั้งวันคงขำตาย”

“ไม่ใช่แล้ว จริงๆ เราเป็นคนเงียบนะ อยู่ด้วยทั้งวันอาจจะเบื่อก็ได้ เรายังเบื่อตัวเองเลย”

“งั้นก็พูดเยอะๆ สิ”

ผมเงยหน้าไปหาช็อกที่บอกอย่างนั้น

“พูดเยอะๆ แล้วก็ยิ้มเยอะๆ ปิงจะน่ารักมากเลยนะ” เขาว่าแล้วยกมือดึงแก้มผมสองข้าง ผมอยากรู้ว่ากับคนอื่นเขาก็ทำแบบนี้ด้วยหรือเปล่า คงเพราะเขาเป็นคนใจดีและดูเข้ากับทุกคนได้ง่ายๆ  บางการกระทำของเขามันทำให้ความรู้สึกผมวูบไหวไปด้วย...ไม่รู้จะเรียกความรู้สึกนั้นว่าอะไรดี

“อ้าว ไอ้ช็อก”

ทั้งผมและช็อกผละออกจากกันเมื่อมีคนเปิดประตู ก่อนหันไปเห็นว่าเป็นผู้ชายสามคนที่เดินเข้ามา ทั้งหมดหันมามองผมพร้อมกันแล้วหันไปหาช็อก

“มึงมาตั้งแต่เมื่อไรวะ”

“นานละ”

“แล้วนี่ใคร”

“นี่ปิง เพื่อนกู”

ผมยิ้มนิดๆ เป็นเชิงทักทาย จำได้ว่าพวกเขาคือสมาชิกวงดนตรีเดียวกันกับช็อก คงมาที่นี่เพื่อจะซ้อมดนตรีอย่างที่ช็อกบอก

“อ๋อ คนที่มึงไปกินไอติมด้วยอะนะ”

“เออ บ้านอยู่ใกล้ๆ กันไง”

“น่ารักนะเพื่อนมึงเนี่ย จีบได้เปล่า”

ผมหันขวับไปมองผู้ชายหัวสกินเฮดที่โพล่งถามขึ้นมาแบบขำๆ

“เพื่อนกู อย่ายุ่ง ขอร้อง” ช็อกดึงเพื่อนเขากลับไป

“ทำเป็นหวงนะ”

“งั้นเราไปก่อนนะ” ผมหาจังหวะพูดแทรกก่อนจะเดินไปหยิบเป้ขึ้นสะพาย

“ให้เราไปส่งเปล่า”

“ไม่เป็นไร”

“ตอนเช้ารอที่เดิมนะ”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนบอกลาอีกครั้งด้วยการยกมือขึ้นโบก ช็อกยืนส่งผมที่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มกว้างๆ เหมือนเคย...ช็อกใจดีกับผมเสมอเลย

...

 

หลังเลิกงาน ผมเดินกลับบ้านอย่างคนหิวโหย คงเพราะวันนี้ใช้แรงงานมากไปหน่อย ไม่รู้ว่าพี่อิสกินข้าวหรือยังก็เลยแวะซื้อบะหมี่ร้านเดิมไปสองถุง เดินออกมาจากร้านบะหมี่ได้ไม่กี่ก้าวฝนก็ตกลงมาไม่บอกไม่กล่าว ผมวิ่งเข้าไปหลบที่ป้ายรถเมล์ ก่อนฝนจะลงเม็ดหนาเทลงมาไม่หยุด ไม่รู้แล้วว่านี่มันฤดูอะไรกันแน่ เหมือนรวมทุกฤดูเอาไว้ในวันเดียวเลย เห็นว่าฝนไม่มีทีท่าจะหยุดตกง่ายๆ ผมเลยตัดสินใจดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาสวมหัวแล้ววิ่งฝ่าฝนไปอย่างเคย ผมไม่ชอบเวลาที่ฝนตกแล้วต้องติดแหง็กอยู่ที่ไหนสักที่ อย่างน้อยต้องกลับให้ถึงบ้านก่อน เปียกฝนก็ช่างมัน

วิ่งกลับมาถึงบ้าน แปลกใจนิดหน่อยที่บ้านปิดเงียบ พี่อิสยังไม่กลับมา ผมล้วงกุญแจบ้านในรองเท้าผ้าใบแล้วไขเข้าไป เช็ดมือที่เปียกก่อนจะควักมือถือขึ้นมาส่องทางที่มืดสนิท ควานหาสวิตช์ไฟแล้วเปิด เดินเลี่ยงๆ พื้นที่กลางบ้านที่เต็มไปด้วยงานของพวกพี่ๆ เพราะกลัวน้ำจากตัวผมจะไปเปียกงานของพวกเขา รีบเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องแล้วออกมาเช็ดน้ำที่เปียกเป็นทาง

เปรี้ยง! เปรี้ยง!

เสียงฟ้าผ่าทำเอาผมสะดุ้งเฮือกหลายที มองออกไปข้างนอกเห็นลมพัดแรงและฝนตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ราวกับพายุ

เพล้ง!

ผมหันขวับไปมองเสียงกระจกแตกที่ดังมาจากในครัว รีบวิ่งเข้าไปดูเห็นหน้าต่างครัวที่ไม่ได้ปิดบานหนึ่งถูกลมกระแทกเข้ามาจนแตก ผมรีบวิ่งเข้าไปปิดบานที่เหลือ ฝนที่ตกแรงขึ้นทำให้สาดเข้ามาทางบานหน้าต่างที่แตก สติผมแตกไปพร้อมกับกระจก หันซ้ายหันขวาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี

พรึบ!

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อไฟดับพรึบลง มองออกไปข้างนอกก็มืดสนิทไปหมด ยิ่งร้อนรนทำอะไรไม่ถูก ผมก้าวเท้ากลับไปในห้องครัว หยิบของที่วางอยู่ใกล้หน้าต่างบานที่แตกหลบเข้ามาเพื่อไม่ให้ฝนสาดถึง ใช้แสงไฟจากมือถือส่องหาผ้าขี้ริ้วที่หลังครัวแล้วกวาดเศษกระจกนั่นหลบมุมไปก่อนจะได้ไม่เหยียบเข้า เก็บของส่วนที่ฝนจะสาดถึงที่เหลือเข้ามาวางบนโต๊ะกินข้าวแบบรีบๆ พักหนึ่งฝนก็เริ่มซาเม็ดลงจนไม่สาดเข้ามาข้างในอีก ผมได้แต่เอาผ้าขี้ริ้วซับน้ำที่ไหลเข้ามาแบบลวกๆ ไปก่อน เพราะมองอะไรไม่ค่อยเห็นเลยยังไม่เก็บกวาด ทิ้งเอาไว้อย่างนั้นก่อนแล้วเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น ทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวที่อยู่ในมุมทำงานพี่อิส แล้วถอนใจออกมาเบาๆ พี่อิสไปไหนอะ...

 

“เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...”

 

หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาเขาแต่ได้ยินปลายสายบอกมาแบบนั้น ขมวดหัวคิ้วแน่นแล้วกดโทรหาเขาอีกที

 

“เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...”

 

พี่อิสอยู่ไหน พี่อิสทำไมยังไม่มา ผมคงเริ่มชินกับการมีพี่อิสคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ เวลาที่กำลังเดือดร้อนหรือลำบาก ผมมักจะร้องหาเขาเป็นคนแรก โดยที่ลืมไปว่าพี่อิสไม่ได้อยู่คอยช่วยเหลือผมตลอดเวลา...มันไม่ใช่หน้าที่ของเขา

 

“ปิง”

“...”

“หลินปิง”

ผมรู้สึกตัวเพราะเสียงเรียกของพี่อิส ยกมือขยี้ตาอย่างงงๆ ก่อนลืมตาขึ้นมองจึงเห็นพี่อิสอยู่ตรงหน้า

“มานอนอะไรตรงนี้”

ผมยกมือขยี้ตาอีกทีเพราะยังง่วงอยู่เลย

“เอา มึนอีก ถามว่าทำไมมานอนตรงนี้”

ไม่ได้ให้คำตอบในทันที เพราะผมยังงงอยู่เหมือนกันว่าทำไมมานอนที่โซฟา ก่อนจะตั้งสติได้จึงหันขวับไปหาเขา

“เมื่อคืนฝนตกหนักมากเลยครับ แล้วก็ลมแรงด้วย ในครัวเละเลย พี่อิสไปดู...” ผมลุกขึ้นแล้วดึงมือเขา ตั้งใจจะพาเข้าไปดูในครัว แต่มือนั้นดึงผมให้กลับไปที่เดิม

“กูเห็นแล้วๆ”

“กระจกแตกเลยด้วย ผมยังไม่ได้เก็บ เมื่อคืนไฟดับ แล้วก็...” พี่อิสยกมือแตะปากผมที่กำลังพูดรัวๆ เพื่อรายงานสถานการณ์

“เออ เห็นแล้ว กูเก็บแล้ว”

ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วนั่งลงที่เดิม ก่อนที่พี่อิสจะนั่งลงข้างๆ

“กูลืมปิดหน้าต่างครัวเองแหละ แล้วมึงเป็นอะไรเปล่า ตกใจเลยดิ”

ผมพยักหน้ารับ

“แล้วมานอนตรงนี้รอกูเหรอ”

ผมพยักหน้ารับอีกที เมื่อคืนคิดว่าเขาจะกลับมาแต่ก็หลับไปตอนไหนไม่รู้ ไฟกลับมาติดตอนไหนยังไม่รู้เลย

“โทษที กูไม่ได้บอกก่อนว่าจะไม่กลับ แบตมือถือกูหมดด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ”

“ไปอาบน้ำไป จะได้ไปโรงเรียน”

“ครับ” ผมตอบรับแล้วเดินเข้าห้องไปอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาหาพี่อิสในครัว ฝ่ายนั้นกำลังเก็บของที่ระเนระนาดกลับเข้าที่

“ทำกับข้าวไม่ทันอะ กินนมไปก่อน” พี่อิสชี้ไปที่นมกล่องรสจืดที่วางอยู่บนโต๊ะ เจาะหลอดให้เรียบร้อย ผมแอบหน้าบูดนิดๆ เมื่อเห็นนม

“กินเข้าไป มันไม่ตายหรอกน่า!” เห็นผมอิดออดที่จะกินเขาก็หันกลับมาแผดเสียงใส่ทันที

“โห่ ก็คนมันไม่ชอบ”

“กินดีๆ หรือจะให้จับกรอกปาก”

“ดุมาก เป็นพี่อิสหรือเป็นหมาพิตบูลเนี่ย”

“หลินปิง เดี๋ยวนี้มีเถียงนะมึง รีบๆ แดกเข้า วันนี้กูไปส่งที่โรงเรียน”

“ฮะ? พี่อิสจะไปส่งเหรอ”

“เออ จะออกไปข้างนอกพอดี”

ผมพยักหน้ารับ หลับหูหลับตากินนมนั่นให้หมดแล้วออกมาสวมรองเท้ารอเขาอยู่ข้างนอก หยิบมือถือขึ้นมาไลน์หาช็อกเพื่อบอกให้เขาไม่ต้องรอ พักหนึ่งเขาก็ตอบกลับมาด้วยข้อความสั้นๆ ที่บอกว่า

 

“รับทราบ”

 

กับสติกเกอร์อีกตัวหนึ่งที่ทำให้ผมสะดุ้งเฮือกเพราะมีเสียงออกมาจากสติกเกอร์ตัวนั้น

 

“โอเค โอเค”

 

น่ารักจัง มีเสียงด้วย ผมจิ้มเข้าไปที่สติกเกอร์นั่นอีกที เสียงก็ออกมาอีกที เลยยิ้มอย่างชอบใจ

“ยิ้มอะไร”

“พี่อิส อยากได้อะ” ผมโชว์มือถือให้พี่อิสดูสติกเกอร์ตัวนั้น

“ทำให้หน่อยสิครับ”

“ไม่”

“โห่”

“ไม่ต้องมาโห่ มันเปลืองตังค์ ที่มีอยู่ก็เยอะแล้วไง แล้วเดี๋ยวนี้มีไลน์คนอื่นนอกจากกูได้ไง”

“นี่ช็อกไง”

“อยู่โรงเรียนคุยกันไม่พอหรือไง ถึงต้องมาคุยไลน์กันอีก เยอะนะเยอะ”

“อยู่โรงเรียนแทบจะไม่ได้เจอกันเลยเหอะ อยู่คนละห้อง แต่พี่อิส...อยากได้อันนี้จริงๆ อะ ทำให้หน่อย”

“ไม่! ไปขึ้นรถ!”

ผมแอบคว่ำปากใส่เขาด้วยความไม่พอใจแล้วเดินไปขึ้นรถ คิดแค้นอยู่ในใจ อย่าผมให้ทำเป็นนะ จะโหลดแล้วส่งไปแกล้งให้ไลน์ค้างเลย!

พี่อิสขับรถพาผมมาจอดที่ร้านค้าหน้าปากซอย ไล่ลงไปซื้อขนมปัง โดยบอกว่าแค่นมไม่พอ ทั้งๆ ที่ผมเถียงไปแล้วว่าอิ่มมาก แต่เขาก็ใช้อำนาจอิสระและสายตาโหดๆ ไล่ผมลงไปสำเร็จ ก็เลยต้องยอมลงไปซื้อขนมปังมาสองชิ้น เผื่อเขาด้วย ผมแกะชิ้นหนึ่งกินเอง อีกชิ้นให้เขา

“นี่ครับ”

“ขับรถอยู่”

“จะให้ป้อนเหรอ”

เขายักคิ้วแทนคำตอบ

“ไม่อะ โตแล้ว กินเองดิ ขับรถมือเดียวก็ได้” ผมยัดขนมปังใส่มือเขาในจังหวะที่จอดติดไฟแดงพอดี

“มันอันตรายนะโว้ย ป้อนหน่อยก็ไม่ได้”

“เก็บมุกนี้ไปอ้อนแฟนไป...เฮ้ย! ช็อก!” ผมหันไปเห็นมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่เข้ามาจอดติดไฟแดงข้างๆ พอดี เลยเปิดกระจกลงไปทักทาย

“ช็อก!”

“เฮ้ย! ตกใจหมด!”

ผมหัวเราะกับท่าทางตกใจของช็อกที่หันขวับมาหา

“หวัดดีครับพี่อิส” ช็อกก้มหัวลงมาทักพี่อิส คนถูกทักได้แต่พยักหน้าหน่อยๆ ไม่ตอบอะไรเพราะขนมปังเต็มปาก

“เออปิง เมื่อวานที่สอนไปยังจำได้อยู่ปะเนี่ย ไม่ใช่ลืมหมดแล้วนะ” ช็อกหันกลับมาคุยกับผม

“จำได้ๆ หลับตากดคอร์ดได้เลย”

“ขี้โม้ว่ะปิง วันนี้เรียนดนตรีตอนบ่ายใช่ปะ”

“ใช่ๆ”

“เออ เราว่างพอดี เดี๋ยวไปหาดีกว่า”

“ได้เหรอ ไปสอนเราต่อนะ แล้ว...เย้ย!” ผมแทบหัวทิ่มเพราะพี่อิสออกรถกะทันหัน ยังคุยกับช็อกไม่ทันจบก็เลยหันกลับไปโบกมือให้เขา อีกฝ่ายก็ตะโกนไล่หลังมา

“เจอกันที่โรงเรียน!”

“โอเค!” ผมตอบกลับไปแล้วหันไปหาพี่อิส

“พี่อะ หัวเกือบทิ่มเลย”

“ก็มันไฟเขียวแล้ว มึงจะจอดให้คันหลังด่าหรือไง แล้วเมื่อวานไปทำอะไรกับมันมา มันสอนอะไร”

“สอนเล่นคีย์บอร์ด ที่ผมจะสอบดนตรีไง ก็เลยให้ช็อกสอนให้ ผมเล่นเก่งเลยนะ น่าจะมีพรสวรรค์ด้านนี้เลย”

“เฮอะ!”

ผมหันไปมองเขาที่ทำหน้าเหมือนไม่พอใจ ก่อนจะพูดพึมพำกับตัวเอง

“บอกกูจะไปทำงานเลย ที่ไหนได้ไปกับไอ้นั่น ไว้ใจไม่ได้จริงๆ ไอ้หลินปิงนี่ ต้องตามรับตามส่งทุกวันแล้วมั้ง ฉิบหาย”

บ่นเหมือนไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้ด้วยเลยนะ...พี่อิสขับรถมาอีกแป๊บก็ถึงหน้าโรงเรียน ผมหยิบเป้แล้วเปิดประตูรถลงมา ก่อนจะหมุนตัวกลับไปหาเขา

“แล้ววันนี้พี่กลับบ้านหรือเปล่า”

“กลับดิ กูไปธุระแป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับแล้ว”

“โอเคครับ แต่ถ้าไม่กลับบอกผมด้วยนะ”

“เออ”

“ถ้าการไลน์มาบอกไม่ได้ทำให้พี่ตาย ก็ไลน์มาบอกด้วยนะ”

“เด็กเวร! ย้อนกู มึงอยู่ตรงนั้นเลยนะ! ลงไปเตะแม่ง! ไอ้หลินปิง!”

ผมแลบลิ้นให้พี่อิสอย่างทะเล้น ก่อนจะรีบวิ่งเข้าโรงเรียนพร้อมเสียงด่าที่ดังไล่หลังมา ในความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนใกล้ชิด กลับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ต้องรักษาระยะห่างเอาไว้ ผมไม่เคยชอบใครเลยไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกตัวเองเท่าไร แต่ผมพอรู้ว่าจะปล่อยให้ความรู้สึกมันเกินเลยไปมากกว่านี้ไม่ได้...มากกว่านี้อีกนิดก็ไม่ได้แล้ว

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 08-02-2017 23:16:32
ปิงไปหวั่นไหวกับช็อกดีกว่า ปล่อยพี่อิสบ่นเป็นลุงไป  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 08-02-2017 23:22:29
อิสปิงหลบไปค่ะ ช็อกปิงจะเดิน  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-02-2017 23:36:14
ปิงรู้ตัวแล้ว (และพยายามสร้างระยะห่าง) ทีนี้ก็เหลือแต่พี่อิสแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 08-02-2017 23:39:04
หวั่นไหวก็อย่าเก็บไว้คนเดียวนะหลินปิง
ลุงอิสก็คงไม่ต่างกัน
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ
เห็น sundaynight001 แล้วคิดถึงน้องเหนือกับบูรพาเลย
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 08-02-2017 23:40:43
เชียร์ช็อค ไม่ชอบพี่อิสมักวิ่งเเจ้นไปหาชะนี เเถมไม่กลับบ้าน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: YingNatchaxx ที่ 08-02-2017 23:41:54
น้องเริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 08-02-2017 23:43:01
เชียร์ลุงอิสรีบทำคะแนนหน่อยนะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 09-02-2017 00:04:54
ประทับใจอยู่หลายที่ คงเป็นคนเดียวที่พี่อิสแสนจะตามใจแล้วล่ะ ถอยชุดใหม่ หัวใหม่ด้วยเฮ้ย
หล่อโรงเรียนพังที่แท้จริง รักในความใส่ใจ จำขื่อน้องได้ ในความบอกว่าน้องไม่ใช่คนอื่น
ในความไม่อยากให้ใส่ขาสั้น น่ารักมาก เนยโทรมาไมวะคะ รมเสีย

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 09-02-2017 00:21:51
ช๊อก ไม่ได้เหรออออ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 09-02-2017 00:39:16
แฟนน้อง ต้องพี่อิสเท่านั้น
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 09-02-2017 01:01:58
พี่อิสไม่อยู่เวลาน้องต้องการได้ไง
อหหห. ช็อกคะแนนนำอ่ะ
งือออออ
คอยดูนะ มาหึงมาหวงทีหลังจะไม่ยกให้เลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-02-2017 01:12:53
อิพี่อิสใจดีกับแฟนเก่าไปอ่ะ ปิงรักษาระยะห่างเอาไว้แหละดีแล้วลูก  :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2017 07:06:25
ปิง เริ่มรู้ใจตัวเองและสร้างกำแพงกั้น
พี่อิส ทำหวงปิง แต่หวงแบบไหนนะ
ช็อก ใกล้ชิดปิง คิดไรกับปิงเกินเลยปะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 09-02-2017 10:02:28
หวงปิงแบบน้อง หรือแบบไหนกันพี่อิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 09-02-2017 10:21:01
ปิง พี่ก็เลือกไม่ได้ลูก สองคนเลยละกันนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 09-02-2017 15:09:38
ดูท่า...วัวแก่จะกินหญ้าอ่อนนะ ฮิ้ววววววพี่อิส

 :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:  :hao3:

........
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 09-02-2017 15:59:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 09-02-2017 16:12:40
ในตอนนี้พี่อิสคือต้นไม้ใบหญ้า ก้อนหิน และคนขับรถแค่นั้น ไม่มีบทบาทสำคัญ สู้ช็อกไม่ได้แล้ว มัวแต่ซึนน่ะ 5555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 09-02-2017 17:06:04
มาต่อๆ
พี่อิส เป็นพระเอกสายฮานี่เอง ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 13] 08-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 09-02-2017 17:48:48
ไม่ว่าน้องปิงจะอยู่กับใครก็ดีงามไปหมดอ่ะ เค้าเลือกทีไม่ถูกกกกกก ชอบทั้งสองทีมเลยยยยยยย :katai1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 09-02-2017 23:19:55

ตอนที่ 14

มีคนดูแลก็อ่อนแอได้

 

เมื่อคืนฝนตกหนัก วันนี้อากาศก็เลยชื้นแปลกๆ  ผมรู้สึกหนาววูบวาบมาตั้งแต่ชั่วโมงก่อนตอนเดินออกมาจากห้องเรียนคอมพิวเตอร์ที่เปิดแอร์แบบอุณหภูมิแทบจะติดลบ เกือบแปลงร่างจากหมีแพนด้าเป็นหมีขั้วโลกแล้ว อยู่ๆ น้ำมูกก็ไหลไม่หยุด ลำบากไอ้เมธีต้องไปถามหาทิชชูจากเพื่อนผู้หญิงข้างหลังมาให้เพราะรำคาญเสียงสูดน้ำมูกของผม

“ไม่สบายได้ไงวะมึง”

“เมื่อคืนตากฝนอะ”

“ไหวปะเนี่ย ไปห้องพยาบาลเปล่า”

“ไม่เป็นไร ไหวอยู่”

ผ่านไปครึ่งวันผมอยากถอนคำพูดที่บอกว่ายังไหว อยู่ๆ ร่างกายก็ทรยศด้วยอาการปวดหัวแบบฉับพลัน ทั้งปวดทั้งมึนยิ่งกว่าตอนเมาที่บ้านพี่อิสอีก โลกหมุนจนตาลายไปหมด แถมยังหนาวจนข้างในสั่น ผมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไร เหมือนจะไม่ได้ป่วยมานานมากๆ แล้ว ผมมานั่งกินข้าวกับเมธีตอนพักกลางวัน แค่สองสามคำร่างกายก็ต่อต้านด้วยการกลืนไม่ลงเลยยุติเอาไว้แค่นั้น

“ปิง มึงหน้าซีดมากเลยอะ ไหวแน่นะ”

“เดี๋ยวกูไปหายาที่ห้องพยาบาลกินดีกว่า ปวดหัวอะ”

“กูไปเป็นเพื่อนไหม”

“ไม่เป็นไรๆ มึงกินข้าวต่อเหอะ เดี๋ยวเจอกันที่คาบดนตรีเลยนะ”

“ไปได้แน่นะ”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วลุกออกมาจากตรงนั้น เอาจานไปเก็บที่หลังโรงอาหารแล้วตรงไปห้องพยาบาลที่อยู่ถัดไปอีกตึก

“ไอ้ปิง!”

ผมหันไปหาไอ้ยิมที่เดินเข้ามาเรียก

“ว่าไง”

“เมื่อเช้ากูเห็นพี่มึงมาส่งถึงหน้าโรงเรียนเลยนี่หว่า”

ผมแค่พยักหน้าเบาๆ แล้วหันกลับไป

“เฮ้ยเดี๋ยวดิ!” ไอ้ยิมดึงแขนผมเอาไว้ แค่มันออกแรงเบาๆ ก็ปลิวกลับไปหามัน ร่างกายโงนเงนเพราะแทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว ยิ่งปวดหัวอยู่แล้วเห็นหน้าไอ้ยิมนี่เหมือนไข้จะขึ้นเข้าไปอีก

“มีอะไรอีก”

“เอาจริงๆ กูยังโมโหเรื่องเมื่อวานไม่หายเลยนะ พี่มึงแม่งอย่างกวนตีนอะ กูนี่อยากจะต่อย”

“พี่อิสเขาก็อยากต่อยมึงเหมือนกันแหละ”

“แล้วมึงห้ามทำไมอะ”

“ไม่อยากให้มีปัญหาไง ปล่อยก่อนได้เปล่าวะ กูจะไปห้องพยาบาล” ผมแกะมือมันออกแล้วหันหลังหนีมันมา

“มึงคิดว่าเดินหนีกูได้เหรอ!”

โอย...ไม่มีอารมณ์จะเถียง เวียนหัวพะอืดพะอมอยากจะอ้วกใส่หน้ามันซะเลย

“เดี๋ยวนี้มีคนซัปพอร์ตแล้วหัดดื้อเหรอ เอาดิ ไปฟ้องผัวมึงเลย ให้มาต่อยกูเลย!”

“ยิม...ปล่อยเหอะ”

“กูไม่ปล่อย จะทำไม!”

“ปล่อย”

“กูไม่...”

“เฮ้ย! ปล่อยปิงดิ!”

เสียงของช็อกที่ดังแทรกขึ้นเรียกความสนใจของผมกับไอ้ยิมให้หันขวับไปมอง ก่อนที่ช็อกจะเดินเข้ามาดึงมือผมอีกข้าง

“เสือกอะไรวะไอ้ช็อก”

“มึงแกล้งอะไรปิงอีกอะ ปล่อยดิ”

“โห ไอ้ปิง ช่วงนี้เนื้อหอมนะมึง ใครๆ ก็เอาแต่ปกป้องมึงเนี่ย” ไอ้ยิมว่าแล้วกระชากผมกลับไป

“กูบอกให้ปล่อยไง”

“ไม่ปล่อย!”

ผมเอนไปเอนมาฝั่งนั้นทีฝั่งนี้ทีเพราะสองคนนี้ผลัดกันดึงไปๆ มาๆ

“ปล่อย!”

“กูไม่ปล่อย!”

“ปล่อย!!!” ผมตะโกนเสียงดังที่สุดเท่าที่จะดังได้แล้วสะบัดมือออกมาจากทั้งสองคน ถอนใจยาวด้วยลมหายใจร้อนผ่าว โคตรอยากร้องไห้...ปวดหัวเพราะโดนไข้กินไม่พอ ต้องมาปวดประสาทกับไอ้ยิมอีก

“เอาไว้ค่อยหาเรื่องกันวันหลังนะ” ผมหันไปพูดกับไอ้ยิมแล้วตบไหล่มันเบาๆ ก่อนหันไปหาช็อก

“ช็อก ขอบคุณมาก ไว้เจอกัน” พูดแค่นั้นแล้วเดินออกมาเพราะอยู่ตรงนั้นต่อไปไม่ไหวแล้ว ร่างกายต้องการห้องพยาบาลแบบด่วนที่สุดเลยตอนนี้

“ปิง ปิงเป็นอะไรเปล่าอะ” ช็อกเดินตามผมมาด้วย กำลังจะหันไปตอบแต่ขาที่หมดแรงเดินก็ทำผมทรุดฮวบลงไปกับพื้น โอย เจ็บเข่าอีก

“ปิง! เป็นอะไรอะ”

 ไม่สบายไง ไม่สบาย สภาพนี้ไม่น่าถามนะช็อก ฮือ...

“ปิง! เป็นอะไร!”

ผมอยากตอบเขาแต่ทำไม่ได้ หูได้ยินเสียงเขาเหมือนดังมาจากไกลๆ ทั้งๆ ที่ช็อกก็อยู่ตรงนี้ ก่อนจะมองไม่เห็นอะไรอีกเลย...อ้าว ช็อกหาย

...

 

ลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ตอนที่นอนอยู่ในห้องพยาบาล สายตาปรับเข้าหาแสงแล้วกะพริบมองเพดานขาวๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองข้างๆ เตียง เผลอสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นหน้าช็อกที่จ้องอยู่

“ตกใจอะไร ไม่ใช่ยมทูตมาเก็บวิญญาณซะหน่อย”

“ถ้ายมทูตหล่ออย่างนี้คงยอมตายแหละ”

“บ้า” ช็อกว่าเบาๆ แล้วอมยิ้มนิดๆ คล้ายจะเขิน ก่อนจะปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติ

“ปิงเป็นไงมั่งอะ โอเคขึ้นยัง”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แทนคำตอบ ยังปวดหัวอยู่แต่ดีที่โลกหยุดหมุนแล้ว

“เราตกใจหมดเลย แล้วนี่ไม่สบายได้ไงอะ เมื่อเช้ายังดีๆ อยู่เลย”

“งงเหมือนกัน ป่วยเฉยเลย”

“เมื่อคืนเปียกฝนกลับบ้านหรือเปล่า”

ผมพยักหน้ารับ

“โตแล้วไม่รู้เหรอว่าห้ามตากฝนอะ สมควรป่วยแล้ว” ช็อกบ่นแล้วตบเข้ามาเบาๆ ที่หน้าผากผม

“นี่เราโดดเรียนดนตรีใช่ปะ”

“เออดิ แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวมาเรียนกับครูช็อกนี่” ช็อกพูดติดตลก

“แล้วนี่ช็อกไม่มีเรียนเหรอ”

“บอกแล้วไงว่าว่าง อาจารย์วิชาเคมีเขาไม่มา แต่ใกล้จะหมดคาบแล้วอะ เราต้องกลับไปเรียนสังคม”

“ช็อกไปเหอะ”

“ไม่อยากไปเลยอะ”

“ขี้เกียจไม่ดีนะ”

“ไม่ได้ขี้เกียจเรียน แต่เป็นห่วงปิงเนี่ย”

“เราไม่เป็นไร”

“งั้นนอนไป”

“ให้นอนอีกแล้วเหรอ เพิ่งตื่นเนี่ย”

“เออ นอนไป หลับตาเลย เลิกเรียนเรามาหา เดี๋ยวกลับบ้านพร้อมกัน” ช็อกแตะมือลงมาบนหน้าผากผมแล้วโน้มตัวลงมาพูดเสียงนิ่มข้างๆ หู ผมพยักหน้ารับก่อนหลับตาลงอย่างว่าง่าย ผมไม่ได้อยากนอนต่อสักหน่อย ไม่ได้อยากนอนสักนิด แต่เปลือกตากลับหลับลงเพราะคำสั่งแค่ครั้งเดียวนั่น

...

 

หลังเลิกเรียนช็อกมาหาผมที่ห้องพยาบาลแล้วกลับบ้านพร้อมกัน ผมโทรไปลางานกับพี่พิงค์แล้วเพราะยังไม่หายปวดหัว แถมยังดูเหมือนจะแย่กว่าเดิมอีกเพราะรู้สึกหนาวมาก เสื้อคลุมที่สวมอยู่ยังไม่ช่วยเลย ลมหายใจร้อนผ่าวแถมเพิ่มอาการไอไม่หยุดมาอีก ผมก้าวขาลงจากมอเตอร์ไซค์ช็อกตอนที่มาถึงหน้าบ้าน ก้าวพลาดเซไปอีกทางเพราะโลกเอียงไปแถบหนึ่ง

“เฮ้ย! ไหวปะเนี่ย” ช็อกคว้าแขนผมเอาไว้ จอดมอเตอร์ไซค์แล้วเข้ามาประคอง

“ไหวนิดหนึ่ง”

“คืออะไรไหวนิดหนึ่ง ไป เข้าบ้าน พี่อิสอยู่ปะเนี่ย”

ผมพยักหน้าหงึกๆ เพราะเห็นประตูหน้าบ้านเปิดอยู่ ก่อนช็อกจะพาผมเข้าไปในนั้น เห็นพี่อิสนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ วันนี้เขาคงจะมีงาน

“พี่อิสครับ” ช็อกร้องเรียกเขา ก่อนคนถูกเรียกจะหันขวับมามอง ดูท่าทางตกใจนิดหนึ่งที่เห็นว่าเป็นช็อก ลุกมาจากตรงนั้นแบบงงๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามามองผม

“ผมมาส่งปิงอะครับ ปิงไม่สบาย”

“ปิงเป็นอะไร” พี่อิสตรงเข้ามาแล้วดึงผมไปจากมือช็อก

“ปิงเป็นไข้ครับ ปวดหัวมาก ไอด้วย กินยาลดไข้ไปแล้ว นี่ยาครับ” ช็อกร่ายยาวรายงานอาการผมให้พี่อิสฟังแล้วส่งถุงยาที่ได้มาจากห้องพยาบาลให้เขา

“ผมบอกให้ไปหาหมอ แต่ปิงไม่ยอมไป”

“เราไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย”

“แล้วมาทำให้เป็นห่วงทำไมอะ”

“บอกแล้วไงไม่ต้องห่วง”

“เป็นดื้อนะเราอะ”

“เราเปล่า...”

“มึงส่งเสร็จแล้วมึงก็ไปดิ” บทสนทนาที่เถียงกันไปมาระหว่างผมกับช็อกถูกแทรกด้วยเสียงแข็งๆ ของพี่อิส สายตาที่มองช็อกเรียบเฉยกว่าปกติ

“ครับ เอายาให้ปิงกินหลังอาหารนะครับ ในนั้นเขียนบอกเอาไว้แล้ว”

“ถ้าเขียนไว้ก็ไม่ต้องบอก กูอ่านออก”

ช็อกได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนหันกลับมามองผมที่กำลังพูดคำขอบคุณ

“ขอบคุณมากนะช็อก”

“หายไวๆ นะปิง” ช็อกพยักหน้ายิ้มๆ แล้วยื่นมือมาเคาะหัวผมเบาๆ แต่ถูกพี่อิสปัดมือออกไป

“มันปวดหัวอยู่ไง จะมาเคาะหัวมันอีก”

“ครับ ฝากดูแลปิงด้วยนะพี่” ช็อกพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป ก่อนที่พี่อิสจะสวนกลับด้วยเสียงเบาๆ ที่ไม่จงใจให้ช็อกได้ยิน

“ไม่ต้องสั่ง มันหน้าที่กู”

พี่อิสพาผมเข้าบ้านมานั่งที่โซฟา หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อยขณะตั้งคำถาม

“ป่วยได้ไง เมื่อเช้ายังไม่เป็นอะไรเลย”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ เมื่อคืนตากฝนแล้วก็ไม่ได้อาบน้ำมั้ง”

“แล้วทำไมไม่โทรให้กูไปรับ”

“ก็ช็อกมาส่งแล้วไง”

พี่อิสถอนใจแล้วกลอกตาขึ้นบนนิดๆ ก่อนจะไล่ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมยังเพลียแล้วก็ง่วงมากคงเพราะยาที่กินเข้าไปก็เลยมานอนต่อในห้อง เกลียดการนอนซมอยู่บนที่นอนแล้วทำอะไรไม่ได้ ทั้งปวดหัวแล้วก็ไอไม่หยุด พี่อิสเอาโจ๊กมาให้กินก่อนกินยาก็อ้วกออกหมด ร่างกายต่อต้านอาหาร หรือกระทั่งน้ำดื่มก็ไม่อยากกลืนลงคอที่เจ็บแปลบแม้แต่ตอนกลืนน้ำลาย

“พี่อิส แล้วแบบนี้จะตายหรือเปล่า ตายแน่ๆ เลยอะ”

“บ้าแล้ว ป่วยแล้วเพ้อเจ้อนะมึงเนี่ย”

“กลัวตาย” ผมพูดเบาๆ ก่อนน้ำตาจะหยดเป็นทาง ร้องไห้ทำไมไม่รู้ แค่อยากจะร้อง ไม่ใช่ว่ากลัวตายจริงๆ แต่ความคิดในหัวมันตีกันบ้าบอไปหมด ทั้งปวดหัว ทั้งเจ็บคอ เดี๋ยวก็หนาวจนสั่น เดี๋ยวก็ร้อนวูบวาบ หายใจไม่ออก อึดอัดไปหมด...ร้องไห้มันซะเลย

“ร้องไห้ทำไม”

“ตายแน่ๆ เลย”

“ไม่ตายหรอก”

“จะไม่ตายเหรอ”

“ไม่ตายๆ” พี่อิสคุกเข่าลงมาข้างๆ เตียง แล้วตบไหล่ผมเบาๆ

“ผมกลัว”

“ตื่นมาก็หายแล้ว ไม่ร้องนะ”

“...”

“ไม่ตายหรอก เชื่อพี่สิ”

พี่...

พี่อิสแทนตัวเองแบบนี้อีกแล้ว เสียงทุ้มต่ำพูดนิ่มๆ แบบนี้ทีไรผมก็ต้องยอมนิ่งอย่างที่เขาบอกทุกที มือที่ตบไหล่เบาๆ เลื่อนมาลูบหัวผมแทนคล้ายจะปลอบใจ ในใจผมร้องหาเขาอีกแล้ว อยากให้เขาอยู่ด้วย อยากตื่นมาแล้วเจอเขา จะได้มั่นใจว่ายังไม่ตาย...อยากให้พี่อิสอยู่ตรงนี้นานๆ เลย

 

แสงแดดตอนเช้าที่ลอดเข้ามาจากหน้าต่างปลุกให้ผมตื่น แต่เดาว่าคงสายเกินจะเรียกว่าเช้าไปแล้ว ผมยกมือขยี้ตาสองสามที ยืดตัวบิดขี้เกียจ กลิ้งอยู่บนเตียงก่อนจะหยุดนิ่งแล้วคิดอะไรอยู่ในหัว

ยังไม่ตาย

นอกจากยังไม่ตายแล้ว อาการทั้งหลายก็หายเป็นปลิดทิ้ง ลืมไปเลยว่าเมื่อคืนป่วยจะเป็นจะตาย มุมปากผมยกขึ้นนิดๆ เพราะรู้สึกดีขึ้นมาก ได้นอนยาวๆ แบบเต็มอิ่มด้วย กลิ้งอยู่บนที่นอนเบ็นเท็นอีกสองสามทีแล้วก้าวเท้าลงจากเตียง ก่อนจะหยุดกึกเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่นอนอยู่กับพื้นใต้ผ้าห่มสีชมพูลายคิตตี้

พี่อิส?

ผมค่อยๆ ก้าวเท้าลงจากเตียงแล้วไปนั่งข้างๆ เขา มองดูพี่อิสที่หลับตานิ่ง ทุกองค์ประกอบบนใบหน้าดูดีลงตัวไม่ว่าจะตอนหลับหรือตื่น ถ้าไม่นับความหยาบเถื่อนของเขา...พี่อิสนี่โคตรหล่อเลย

“พี่อิส” ผมจิ้มเข้าไปข้างๆ แก้มเพื่อปลุกเขา อีกฝ่ายขยับคิ้วเข้าหากันนิดๆ อย่างดูรำคาญ

“พี่อิสครับ”

“หือ?” เขาส่งเสียงตอบกลับมาด้วยใบหน้ายุ่งๆ แต่ตายังไม่ลืม

“ตื่นๆ” ผมจิ้มลงไปที่แก้มเขาอีกที

พี่อิสลืมตาขึ้นมามองผมแวบหนึ่งก่อนจะหลับลงไปอีก ดูสะลึมสะลือ

“ตื่นแล้วเหรอ”

“ตื่นแล้วครับ”

“เป็นไงบ้างอะ”

“หายแล้ว”

เขายกมือขึ้นมาแตะหน้าผากผมทั้งตัวเองยังไม่ลืมตา ดูจะยังไม่ตื่นดี ริมฝีปากผมขยับเป็นรอยยิ้ม ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่พี่อิสกับหน้าง่วงๆ ของเขา...น่ารักเป็นบ้าเลย

“ตัวยังร้อนอยู่เลย”

“ไม่เป็นไรแล้ว หายดีแล้วครับ แล้วพี่อิสมานอนอะไรตรงนี้”

เขาลืมตาแล้วลุกพรวดขึ้น หันมาแผดเสียงดังใส่จนผมสะดุ้งนิดหนึ่ง

“ก็มึงนั่นแหละ!”

“ผม...ทำไมเหรอ”

“มึงรั้งกู กูจะไปก็ไม่ให้ไป ฉิบหาย ร้องไห้จะเป็นจะตาย กูจะไปไหนได้ล่ะ เลยต้องมานอนเฝ้ามึงตรงนี้ไง ปวดหลังเลยเนี่ย”

ผมกะพริบตาปริบๆ มองดูเขาที่บ่นไม่หยุด นึกไปถึงสิ่งที่เขาบอก แต่จำไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนร้องให้เขาอยู่ด้วย ภาพในความทรงจำเป็นศูนย์ ผมหลับสนิทเกินกว่าจะฝันด้วยซ้ำ

“พี่อิสมั่วแล้ว ผมจะไปรั้งพี่ทำไม”

“เฮอะ! ร้องหากูทั้งคืน พี่อิสอย่าไป พี่อิสอย่าไป ทำไม ชอบกูมากเหรอ”

“บ้า!”

“หลงรักกูละสิ”

“จะบ้าเหรอพี่ จำไม่เห็นได้เลย พี่แกล้ง” ผมพูดปัดแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง คนข้างๆ ยกมุมปากขึ้นยิ้มแล้วพูดเสียงเรียบ

“หายป่วยก็ดีแล้ว เพราะกูเหนื่อยมาก”

“ทำไมเหนื่อย”

“เป็นห่วงไง เป็นห่วงจนเหนื่อยหัวใจมาก”

ผมก้มหน้าลงนิดๆ ตอนที่พี่อิสยกมือขึ้นวางบนหัวผม ปลายนิ้วโป้งเคลื่อนขยับลูบเรือนผมเบาๆ  ผมยังคงได้แต่นั่งนิ่งๆ ก่อนพี่อิสจะเปลี่ยนเรื่อง

“ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวออกไปหาอะไรกินกัน กูหิวจนกัดผ้าห่มแดกไปหลายทีละ” เขาว่าแล้วม้วนผ้าห่มคิตตี้ถือออกไปข้างนอก ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูก่อนพุ่งเข้าห้องน้ำ เงยหน้ามองตัวเองในกระจก หน้าเปลี่ยนสีจากขาวซีดเป็นชมพูไปทั้งหน้า ไม่ใช่เพราะเป็นไข้ ไม่ใช่เพราะอากาศหนาว...แต่เป็นเพราะเขิน

 

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ผมเดินออกมาข้างนอกเห็นพี่อิสรออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว กำลังจัดวางกระถางตะบองเพชรให้เป็นระเบียบ ปากก็บ่นอะไรไปด้วยไม่หยุด

“อ้าว ไอ้เหี้ยนี่ใจเสาะ ตายห่าไปตั้งแต่เมื่อไร” ว่าแล้วหยิบกระถางตะบองเพชรที่ตายแล้วออกมา ขณะที่ผมได้แต่เม้มปากกลั้นรอยยิ้มมองดูเขาที่ยังบ่นพึมพำ การพูดคนเดียวนี่เป็นเสน่ห์ของเขานะ พี่อิสไม่ได้บ้า

“พี่อิส”

“อาบน้ำหรืออะไร นานจัง รอจนตะบองเพชรกูตายไปต้นหนึ่งแล้วเนี่ย” เขาว่าพลางชูกระถางตะบองเพชรที่ตายไปแล้วส่งให้ดู

“ไม่เกี่ยวเลย”

“โคตรหิวข้าวเลย กินอะไรดี”

“อะไรก็ได้ครับ”

“อยากกินอะไรเล่า”

“พิซซ่า”

“ซ่าเซ่ออะไรล่ะ กูต้องรีบกลับมาทำงาน เมื่อคืนงานการไม่ได้ทำ กินอะไรง่ายๆ ไปก่อนได้ไหม”

“ก็ได้ครับ” ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วเดินตามเขาไป คิดในใจแค่ว่า...พิซซ่ามันสั่งมากินก็ได้นี่นา

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

ผมหันขวับไปมองหมาตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่โผล่ออกมาจากในซอย มันส่งเสียงเห่าตอนที่เห็นเราเดินผ่านเสียงดังลั่น

“ไอ้เปรี้ยว! มึงเห่าเหี้ยอะไร!”

แต่เสียงดังกว่าหมาก็พี่อิสนี่แหละ ด่ากลับไปจนหมาหุบปากเงียบ หมาใหญ่นั่นหยุดเห่าแต่เดินนิ่งๆ เข้ามา มองผมด้วยสายตาแปลกๆ คงเพราะเพิ่งเห็นผมเป็นครั้งแรกเลยแปลกหน้าสำหรับมัน

“ไอ้ตัวนี้แหละที่กัดบังเอิญตายอะ มึงมานี่เลย เดี๋ยวโดนแดกไปอีกคน” พี่อิสจับมือผมให้ไปหลบหลังเขา ก่อนหมาตัวนั้นจะเห่าไล่ขึ้นมาอีกที

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

“มึงจะเห่าทำไม! ไม่เคยเห็นหมีแพนด้าเหรอ ไอ้เปรี้ยว! หุบปาก!”

เฮ้ย...นี่ไม่ใช่หมีแพนด้าเว้ยพี่

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

“ยังไม่หยุด เดี๋ยวเตะปากหมาแม่ง!”

“พี่อิส รีบไปเหอะ ทะเลาะกับหมาอยู่ได้” ผมดึงมือเขาที่จับกันอยู่ให้ออกมาจากตรงนั้น

“ก็ดูมันกวนตีน เห่าอยู่ได้ ที่จริงกูอยากทุบมันตั้งแต่มันกัดน้องสาวกูตายแล้วนะ”

“บาปนะพี่”

“ก็มันฆ่าบังเอิญ พูดแล้วขึ้นเลย กลับไปเตะแม่ง!”

“พี่อิส!” หงุดหงิดง่ายแม้แต่กับหมา วิถีอิสระตัวจริง!

“ดีนะกูเหี้ยไม่พอจะฆ่าหมา ไม่งั้นมันตายไปนานละ เห่าดีนัก ปากดีเหมือนเจ้าของหรือไง” เขาบ่นไม่หยุดขณะที่ผมดึงมือเขาออกมาไกลแล้ว คนหัวเสียแสดงสีหน้ายุ่งๆ

“เก่งกับหมาเหรอพี่”

“เออ ตบเด็กเตะหมาเนี่ยงานถนัดกูเลย”

“พี่นี่!”

“กูมันคนหยาบไง”

“เชื่อแล้วว่าหยาบจริง แล้วมือนี่ปล่อยได้ยัง” ผมว่าแล้วยกมือข้างที่จับกันขึ้นมา แต่พี่อิสไม่ยอมปล่อยแถมยังจับแน่นกว่าเดิม

“กูไม่ปล่อย”

“ทำไมไม่ปล่อย”

“กูเนียน”

หือ?

“กินร้านนี้นะ ขี้เกียจเดิน” เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วพาเดินเข้าร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ที่อยู่หน้าปากซอยเลย พี่อิสสั่งอาหารง่ายๆ อย่างกะเพราหมูและสั่งข้าวผัดให้ผม ก่อนจะดึงถุงพลาสติกเก็บของส่วนตัวออกมาจากกระเป๋า ผมหลุดหัวเราะออกมาทุกทีที่เห็นถุงพลาสติกนั่น

“ขำไร”

“เกลียดถุงพี่มากเลยอะ”

“ไม่เท่อย่างกูทำไม่ได้นะ”

ผมได้แต่ส่ายหัวยิ้มๆ

“ถ้าอยากให้ดูราคาแพง มึงก็ใส่ยี่ห้อเข้าไป ป้าครับ ยืมปากกาหน่อย” ประโยคหลังเขาหันไปพูดกับป้าเจ้าของร้าน แล้วหยิบปากกาเคมีมาจากป้ามาวาดสัญลักษณ์ชาแนลลงไปบนถุงพลาสติกนั่น

“เป็นไง ดูแพงขึ้นไหม”

“อย่างนี้ก็ได้เหรอ”

“สำหรับกู อะไรก็ได้ทั้งนั้น” เขาพูดขำๆ แล้วส่งปากกาคืนให้ป้า

อิสระนี่มันอิสระจริงๆ

“พี่สูบบุหรี่ด้วยเหรอ” ผมมองไปที่ซองบุหรี่สีขาวแดง มีรอยแกะที่มุมซองแล้ว

“กูคงไม่พกไว้เท่ๆ เฉยๆ หรอกมั้ง”

“ไม่เคยเห็นพี่สูบเลย”

“ก็สูบตอนมึงไม่อยู่ไง เป็นเด็กเป็นเล็ก ไม่อยากให้มาสูดควันพิษ มันไม่ดี”

“ไม่ดีแล้วพี่สูบทำไมอะ”

เขาเงียบแล้วเหลือบตาขึ้นมามองผม ก่อนจะตอบไม่เต็มเสียงกลับมาด้วยเหตุผลฟังไม่ขึ้น

“กูโตแล้วไง”

“เคยมีคนขอให้เลิกสูบปะ”

“เยอะแยะ”

“พี่เนยเหรอ”

“ก็ด้วย”

“แล้วทำไมไม่เลิกอะ”

“มันไม่ใช่เลิกง่ายๆ เหมือนหย่ากับเมียก็ไปเซ็นใบหย่าอย่างนี้นะมึง ทำไม จะบอกให้กูเลิกอีกคนหรือไง”

“ถ้ามันไม่ดีก็ไม่อยากให้สูบหรอก”

“ลองขอดูสิ”

“...”

“เผื่อกูจะทำให้”

ผมเงียบแล้วคิด สิ่งที่คนอื่นขอแล้วเขาไม่ทำ แต่ถ้าเป็นผม เขาจะยอมทำให้หรือเปล่า แต่ลองคิดดูแล้วก็...

“ไม่เอาดีกว่า พี่จะสูบก็สูบไปเหอะ ถ้าพี่ชอบอะ”

“อะไรของมึงวะ”

“ผมมีสิทธิ์อะไรไปยุ่งเรื่องของพี่ล่ะ” ผมพูดเบาๆ แล้วเลี่ยงสายตามองไปทางอื่น ที่ผมไม่กล้าขอ เพราะกลัวเขาจะทำให้ แล้วถ้าเขาทำในสิ่งที่ผมขอให้ทุกครั้ง มันคงไม่ดีต่อความรู้สึกของผมแน่ๆ  ผมกลัวจะสำคัญตัวเองผิด...กลัวตัวเองจะคิดไกลกว่านี้

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-02-2017 23:37:03
ตอนแรกว่าจะอารมณ์ขึ้นเหมือนกัน แต่เห็นคนเขียนเกรี้ยวกราดไปแล้วหลุดขำแทน ฮ่าๆๆ
พี่อิสนี่มึนอ่ะ มึนมากทีเดียว ขำตอนเนียนจับมือน้องมาก   o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 09-02-2017 23:37:21
สงสารน้องปิงลูก เหมือนคนไม่กล้าที่จะมีอะไรไว้ให้ผูกพันธ์มากๆ มันเลยกลายเป็นความกลัว  :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 09-02-2017 23:54:37
มีอะไรก้อพูดออกม่นะลูก ปิงงงงง
เป็นห่วงความสัมพันธ์จริงๆๆ
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-02-2017 00:06:28
หรือว่าเพราะเราอ่านจากมุมของปิง เลยรู้สึกว่าพี่อิสยังรู้สึกไม่ชัดเจนเท่าไหร่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 10-02-2017 00:07:24
ปิง กลัวจะรักพี่อิส
เลยไม่กล้าขอให้พี่อิสเลิกบุหรี่
ที่จริงปิงรักพี่อิสไปแล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 10-02-2017 00:23:09
ถ้าปิงขอพี่อิสฟังแน่ๆ ห่วงจนเหนื่อยหัวใจไปหมดละ โอ้ย น่ารักน่ะ
มีนงมีเนียนจับมือ ใช่ใช่ไหมคะ ชอบน้องใช่ไหม

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: thepoe ที่ 10-02-2017 01:07:08
เกลียดพี่อิสสสสได้มั้ยยยยย ช็อกอุตส่าห์มาช่วยปิงงงง 5555555555
ดูนางทำตัววววว  มีการไล่ไปอีกกกกก
 :m16:

คนที่โดนดาเมจคำว่าพี่ของพี่อิสไม่ใช่แค่ปิงหรอกกก
เราด้วยยฮือออ ดาเมจรุนแรงมากกกจะตัยยแล้วว
แล้วมุขเหนื่อยหัวใจของคุณลุงคืออัลไลลลลลลล
 โอ้ยยยยยยย วันนี้โดนดาเมจรุนแรง เขินจนจะเอาโทรศัพท์ฟาดหน้าตัวเอง
บวกด้วยใต้ความเนียนนี้หมั่นไส้มากกกกกกกค่ะ
 :hao7:

ตบท้ายการจบแบบฮื่อ จริงๆเหมือนพี่อิสก็หวังให้ปิงขอเลยอะ
นี่ขอตบตีกับความคิดตัวเองแปป อยากอ่านต่อจังเลยยยย
มาต่อเร็วๆนะไรท์ สู้ๆๆค้าบบบ
 :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 10-02-2017 01:13:38
โอ้ยยย อีพี่อิส อย่ามาหมาหยอกไก่เเถวเน้ รู้ไหมเด็กมันคิดดดดด
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 10-02-2017 01:38:21
วันนี้ตาลุงขี้อ่อยจัง เหนื่อยหัวใจแทนน้องปิงเลยนะเนี่ย เฮ้อ อึดอัดแฮะ แง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: whitefang ที่ 10-02-2017 03:37:01
ชอบตรง กูเนียน 555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 10-02-2017 04:34:14
ตามมาลุ้นค่ะ อิสอิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 10-02-2017 04:41:35
ช็อกน่ารักนะ
แต่ความผูกพันของอิสปิงมันไปไกลขนาดนี้แล้ว คงต้องรอเรื่องหน้าแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 10-02-2017 08:07:07
เหมือนมีเส้นกั้นอะไรบางๆแหะ
ชอบอ่าาา มีแถว่าเนียนด้วย ชอบๆ มีหยอดกันไปมา ถถถถถ
แต่ที่หายไปไม่อยากรู้หรอว่าไปไหนนน ไปไหนกับเนยยยย
ปล. ปิงชักเนื้อหอม
ปล.2 มาต่อไวๆน้าาา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 10-02-2017 14:32:52
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆชอบพี่อิสกับน้องปิง+1
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 10-02-2017 15:58:57
ตอนที่แล้วนี่เกือบเทใจให้ช็ิอกละนะสุภาพบุรุษจริงๆ พี่อืสตอดนิดตอดหน่อยน้องมันก็ระทวยละไม่อยากคิดถ้าพี่มันจีบน้องจริงๆจะเป็นไง คงมีวันนั้น?
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 10-02-2017 16:50:40
ชอบน้องเหรอคะคุณอิสระ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 14] 09-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 10-02-2017 22:50:17
คือ คนพี่นิคือชอบเขา แต่ปากหนักไรงี้ แล้วอิแฟนเก่าชะนีน้อยนั้นก็ไม่เคลียร์
จะอาศัยเนียนๆ ไปเรื่อยๆ งี้หรอ น้องเขาก็อ่อนไหว หวั่นไหวกับเราแล้วไง
ก็ถ้ารุกนิได้เลยนะ ได้เลยนะ โถ่
หรือเชียร์ให้ไปกับช็อกดี ไปเลยมะ ช้าแบบนี้ ให้ได้กับช็อกเลยนะ
 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 10-02-2017 23:49:06
 

ตอนที่ 15

ไม่ใช่คนคิดมาก

 

เช้าวันอาทิตย์ ผมตื่นโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ลุกไปอาบน้ำแปรงฟันแล้วเดินออกมานอกห้อง ไม่เห็นพี่อิสอยู่ที่หน้าจอคอม ไม่รู้ว่าเขานอนหรือยังเพราะเมื่อคืนบอกว่าจะทำงานโต้รุ่ง ผมกำลังหมุนตัวกลับไปมองหาเขาในห้อง

“อุ๊ย...” ชะงักนิดหนึ่งเพราะเขาเดินออกมาพอดีด้วยสภาพสวมบ็อกเซอร์ตัวเดียว เปลือยท่อนบน คลุมผ้าขนหนูอยู่บนหัว ผมยังเปียกจนน้ำหยดลงมา

“ตกใจอะไร”

“ตกใจพี่อิสแก้ผ้า”

“ทำไมจ๊ะ หุ่นพี่อิสน่ากินใช่ไหมจ๊ะ” เขาแกล้งทำเสียงดัดจริตแล้วยกมือใช้ผ้าขนหนูขยี้ผม

“น่ากินดิ เพราะพี่อิสอ้วนเหมือนหมู”

“เดี๋ยวเตะเลย” ไม่พูดเปล่า ยกเท้าขึ้นมาเตะผมเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว หยิบนมเปรี้ยวสองขวดออกมา ส่งให้ผมขวดหนึ่ง ผมปฏิเสธการกินนมไม่ได้ก็เลยต้องรับมา จังหวะที่พี่อิสยื่นขวดนมเปรี้ยวให้ผม ผมหันไปเห็นรอยสักที่ข้างลำตัวเขาที่ไม่เคยเห็น หรืออาจจะไม่ทันสังเกต เป็นรอยสักเล็กๆ เส้นบางๆ รูปดอกแดนดิไลออนเกสรปลิวออกไป ตามแนวซี่โครง

“พี่อิส มีรอยสักด้วยอะ”

“แน่นอน เพราะกูหล่อและเท่มาก”

“วู้” ส่งเสียงเอือมระอากับความลุ่มหลงในตัวเองของคนข้างๆ ผมไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วดอกไม้ชนิดนี้มันมีความหมายว่าอย่างไร เคยสงสัยจนลองเปิดอินเทอร์เน็ตดู บ้างก็บอกว่าเป็นดอกไม้แห่งความสุข ความสนุกสนาน และความหวัง เป็นดอกไม้แห่งคำอธิษฐาน เป็นดอกไม้แห่งมิตรภาพ มีความหมายเยอะแยะบอกอยู่ แต่ผมรู้จักชื่อมันจากพี่อิส ทุกครั้งที่มองไปที่มัน ก็เลยเป็นดอกไม้ที่ทำให้ผมคิดถึงเขา...คิดถึงอิสระ

“วันนี้ไปกินพิซซ่ากันปะ”

“โอ้เย่!” ผมชูสองมือขึ้นสูงอย่างดีใจเมื่อได้ยินชื่ออาหารที่อยากกินมากๆ มาสักพักแล้ว

“หลินปิงเอ๊ย เหมือนแมวเห็นอาหารเม็ดเลยมึง”

ผมเหลือบตาขึ้นไปมองเคืองๆ

“เดี๋ยวเที่ยงๆ ค่อยออกไปละกัน กูจะทำความสะอาดบ้านก่อน วันนี้ไอ้ปรินซ์มันไม่มาทำหน้าที่มัน”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วย”

“ไม่ต้องเสือก ป่วยอะหายดีแล้วหรือไง”

“หายแล้วเหอะ สบายดีมากเลย ช่วยนะ”

“ก็ได้”

“เริ่มเลยไหมครับ”

“ไปขี้ก่อน” เขาว่าแล้ววางขวดนมเปรี้ยวที่ดูดหมดแล้วไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินเข้าห้องไป ผมได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ กับความเป็นเขาที่ไม่เคยสร้างภาพลักษณ์อะไรให้ผมเห็น เป็นตัวเองอย่างเต็มที่ตามวิถีอิสระตัวจริง

 

ผมเข้ามาช่วยพี่อิสทำความสะอาดในห้องของเขา ปกติแล้วเขาไม่ค่อยได้เข้ามานอนในห้อง ใช้เวลากินนอนอยู่ที่โซฟามุมทำงานมากกว่า ห้องก็เลยไม่สกปรกเท่าไร พี่อิสใช้ผมถอดผ้าปูที่นอนไปซัก ยัดเข้าเครื่องซักผ้าเสร็จก็เดินกลับมาหาเขา พี่อิสบอกกับผมว่าไม่ชอบนอนบนเตียงเพราะกลัวผีใต้เตียง ผมไม่คิดว่าคนอย่างพี่อิสจะต้องกลัวอะไร ด่ากราดทุกอย่างกระทั่งผีก็คงกลัวพี่อิสหัวหดแน่ๆ

“พี่อิส อันนี้อะไรอะ” ผมชี้ไปที่แฟ้มปกแข็งเล่มหนาที่สอดอยู่ในชั้นวางของ

“อัลบั้มรูป แม่กูทำมาให้นานละ”

“ขอดูได้ไหมครับ”

“อือ” เขาตอบสั้นๆ ขณะกำลังจัดชั้นวางของอยู่ ผมดึงแฟ้มนั้นออกมา ปัดฝุ่นหนาที่เกาะอยู่แล้วเปิดเข้าไปในหน้าแรก

 

อิสระ เสรีไพศาล

Since 16/09/19XX

 

ภาพที่อยู่ในหน้าแรกเป็นเด็กทารกแก้มย้วยกับตาโตๆ ริมฝีปากผมขยับเป็นรอยยิ้มเมื่อมองดูภาพเบบี้อิสระ ก่อนจะพลิกหน้าต่อไป ยังคงเป็นพี่อิสเวอร์ชันทารก

“ว้าย! อย่ามาดูจู๋เค้านะ!” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือมาปิดภาพทารกเปลือย

“น่ารักจะตาย”

“จู๋อะเหรอ ตอนนี้น่ารักกว่าอีกนะ ดูมะ”

“พี่อิส!”

“ล้อเล่นโว้ย แม่กูแม่งก็ไม่เซนเซอร์อะไรสักหน่อยเลย เปิดต่อไปเลย” เขาว่าแล้วพลิกหน้าต่อไปเอง ก่อนจะละจากการจัดของมานั่งดูรูปข้างๆ ผม

“พี่นี่กวนตีนมาตั้งแต่เด็กเลยใช่ไหม” ผมมองดูรูปพี่อิสตอนประถมที่ท่าทางแก่นเซี้ยวไม่ใช่เล่น

“กูเรียบร้อยนะ แต่ข้างบ้านเรียกไอ้เด็กเปรต”

ผมหลุดหัวเราะออกมา

“หมายถึงกูสูงเหมือนเปรตมั้ง”

“อ่า...คงใช่ อันนี้เริ่มหล่อแล้ว” ผมชี้ไปที่รูปพี่อิสสมัยมัธยม หัวเกรียนๆ กับชุดนักเรียนที่กางเกงยาวถึงหน้าแข้งอย่างที่เคยบอกจริงๆ ด้วย

“แน่นอน เบ้าหน้ากูดี”

ผมเลื่อนสายตามองภาพเขาสมัยมัธยมไปเรื่อยๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ภาพถือพานไหว้ครูคู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง

“ได้ถือพานด้วย”

“เออ เขาคัดจากหน้าตาไง”

เกลียดความหลงตัวเองของพี่อิสมากเลย พูดตรงๆ

“ไอ้นี่รักแรกกูเลยนะ” เขาชี้ไปที่ผู้หญิงคนข้างๆ

“แฟนเก่าเหรอ”

“แฟนห่าอะไรล่ะ มันไม่ชอบกู มันบอกว่ากูปากหมา รักครั้งแรกหัวใจก็แตกสลาย”

ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วเปิดหน้าถัดไป เริ่มเป็นพี่อิสเวอร์ชันโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงตอนมหาวิทยาลัย คิ้วขมวดเข้าหากันตอนที่เห็นภาพในหน้าล่าสุด ใบหน้าหล่อเหลาสวมชุดนักศึกษาถูกระเบียบยืนอยู่บนเวทีและสวมสายสะพายซึ่งตัวหนังสือบนนั้นทำเอาหัวคิ้วผมขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

 

เดือนคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 25XX

 

“เดี๋ยวนะ เดือนคณะ?”

“บอกแล้วไงว่ากูหล่อมาก กูรองเดือนมอเลยนะมึง แพ้วิศวะไปหน่อยเดียว เสียดายกูไม่มีซิกแพ็กไปสู้เขา”

“ช็อก”

ช็อกจริง...นึกภาพไม่ออกว่าพี่อิสลุคเดือนคณะจะเป็นยังไง เลื่อนสายตามองภาพตอนประกวดในหน้าถัดไป ผมก็ยิ่งแปลกใจ ในภาพดูไม่ใช่พี่อิสเลย ทั้งดูเรียบร้อย ยิ้มแย้มด้วยท่าทางเป็นมิตร สวมภาพลักษณ์หนุ่มหล่อในฝันอะไรแบบนั้นเลย เมื่อลองตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ปล่อยเนื้อปล่อยตัว หัวฟู ขอบตาคล้ำ ถ้าวันไหนไม่โกนหนวดก็ยิ่งดูทรุดโทรม เกินคาดคิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวกับคนในภาพ

“มึงจะข้องใจอะไรมาก กูจริงๆ โว้ย สมัยก่อนกูหล่อไง กูเท่มากด้วย”

“แปลกใจอะ เดือนคณะ คณะพี่มีกี่คนเหรอ”

“เยอะโว้ย! แต่กูไม่ได้อยากเป็นสักหน่อย เป็นดงเป็นเดือนห่าอะไรนี่ลำบากฉิบหาย”

“ทำไมอะครับ”

“ต้องทำกิจกรรมอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด กูนี่ไม่ได้ว่าง เรียนก็หนักพอแล้ว แถมยังต้องคีปลุคหนักมาก ต้องทำตามที่คนอื่นบอก ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้สังคมห่าเหวอะไรก็ไม่รู้ โคตรอึดอัด พอขึ้นปีสองกูก็ไม่เอาห่าอะไรเลย เลอะเทอะ เดือนคณงเดือนคณะอะไร กูไม่เอาด้วยแล้ว เลิกเล่น”

ผมหลุดหัวเราะเบาๆ แล้วเปิดหน้าถัดไป เป็นรูปพี่อิสสมัยเรียน จนกระทั่งถึงรูปตอนรับปริญญา นับพ.ศ.ที่เขาจบกับอายุผมแล้ว ตอนพี่อิสเรียนจบ ผมเพิ่งอยู่ม.สามเอง

“นี่พ่อแม่พี่เหรอ” ผมชี้ไปที่รูปชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนประกบเขาคนละข้าง

“ใช่ กว่าจะเอามาร่วมเฟรมกันได้ กูอ้อนจนท้อใจเลย ต้องรูปนี้ แม่งรูปประวัติศาสตร์เลย” พี่อิสพลิกไปอีกรูป เป็นรูปสมาชิกครอบครัวหลายคน

“ใครบ้างเหรอครับ”

“นี่พ่อกู นี่เมียใหม่พ่อ นี่ลูกใหม่พ่อสองคน ส่วนนี่แม่กูกับผัวใหม่เขา แล้วก็ลูกอีกสาม”

“โห อย่างเจ๋งอะ ว่าแต่พี่อิสก็มีพี่น้องเยอะเลยนะครับ”

“แต่ไม่มีใครนับญาติกูสักคนอะ” เขาพูดขำๆ แล้วพลิกหน้าต่อไป เป็นรูปเขาคู่กับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ถักผมเปียสองข้าง

“เว้นลันลินาเนี่ยแหละ จริงๆ ถ้าน้องคนอื่นเป็นผู้หญิงกูก็คงชอบอะ กูชอบเด็กผู้หญิง ไม่ชอบเด็กผู้ชาย”

“งั้น...พี่อิสก็ไม่ชอบผมเหรอ”

“มึงเหมือนผู้ชายมากงั้นดิ”

“หือ?”

“ตัดกระจู๋ออกก็เป็นน้องสาวกูได้เลย”

“พี่อิส! กรองมุก!”

“โทษๆ แล้วมึงอะ ถามแต่เรื่องกู ไม่เห็นเล่าเรื่องตัวเองบ้างเลย มึงเป็นใครมาจากไหน มาอยู่บ้านกูเนี่ย”

“พี่ลากผมมาเอง ผมก็เลยตามมา”

“ใจง่ายสัด แล้วชีวิตมึงเป็นยังไง ตอนเด็กๆ งี้”

“เท่าที่จำได้ก็เป็นเหมือนคนทั่วๆ ไป ใช้ชีวิตเหมือนเด็กปกติ ผมเกิดและโตที่เชียงใหม่ มีพ่อแม่ใจดี โดนตีบ้างตอนดื้อเป็นธรรมดา ตอนผมเจ็ดขวบ พ่อกับแม่รถคว่ำตายทั้งคู่ ผมก็เลยต้องมาอยู่กับย่าที่นี่ แล้วชีวิตหลังจากนั้นก็อย่างที่พี่อิสเห็น”

“จบ?”

“จบครับ”

“ไอ้บ้า ชีวิตมึงนี่โมเมนต์น้อยมาก เอาจริงๆ ที่ผ่านมามึงทนอยู่ในบ้านนั้นได้ไงวะ ต้องใจแข็งขนาดไหน กูเป็นมึงโดดน้ำตายไปนานละ เจอแบบนั้นกูคงไม่ทน”

“เคยอยากลองโดดดูเหมือนกันนะ”

“เฮ้ย กูพูดเล่น”

“ผมก็เคยเบื่อชีวิตเหมือนกันนะครับ เจอเรื่องหนักๆ บางทีก็ทนแทบไม่ไหว แต่ผมก็ไม่ค่อยคิดอะไรมาก ผมว่าผมเด็กเกินกว่าจะตายนะ ยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย”

พี่อิสถอนใจเบาๆ แล้วยกมือขึ้นมาวางบนหัวผมก่อนจะมองหน้าอยู่อย่างนั้น เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด แปะมืออยู่บนหัวผมนานจนต้องเอ่ยถาม

“พี่อิส...ทำไมมองนาน”

“ไม่รู้จะพูดอะไรแต่อยากเท่”

“วู้” ผมจับมือเขาลงจากหัว อีกฝ่ายได้แต่ยิ้มให้นิดๆ

“มึงเก่งมากนะหลินปิง เก่งกว่ากูเยอะเลย”

ผมพยักหน้ารับ

“แต่ความหล่อสู้กูไม่ได้เลย”

“โวะ! ไปดูผ้าดีกว่า เสร็จแล้วมั้ง” ผมลุกพรวดขึ้นพร้อมกับอัลบั้มรูปในมือ ก่อนสะดุดกึกเพราะมีรูปจำนวนหนึ่งตกลงมาจากอัลบั้ม ผมก้มลงไปเก็บก่อนจะเห็นว่าเป็นรูปโพลารอยด์จำนวนหนึ่งที่พี่อิสคงจะเสียบมันไว้ในหน้าใดหน้าหนึ่งจึงตกลงมา...เป็นรูปเขากับพี่เนย

“ไปดูผ้าดิ” เขารวบภาพพวกนั้นไปจากมือผม แล้วเก็บใส่อัลบั้มภาพแบบลวกๆ  ก่อนจะยัดอัลบั้มภาพกลับไปในชั้นวางของที่เดิม ผมเดินออกไปยังเครื่องซักผ้าที่ยังหมุนไม่หยุด จึงเดินกลับเข้าไปที่หน้าห้องพี่อิส

“พี่อิส ผ้ายังไม่เสร็จ”

“เออ ปล่อยมัน”

ผมเห็นว่าในห้องเขาไม่มีอะไรให้ช่วยทำแล้วเลยเดินเข้าห้องตัวเอง ทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างสบายๆ มองเพดานห้องด้วยหัวโล่งๆ อยู่พักหนึ่ง

ติ๊ง!

ผมได้ยินเสียงดังจากมือถือเลยลุกขึ้นมาหยิบดู ก่อนจะเห็นแจ้งเตือนไลน์ที่หน้าจอจึงกดเข้าไปเห็นข้อความที่มาจากช็อก

 

“ปิง เป็นไงบ้าง หายป่วยยัง”

 

“หายแล้ว”

 

ผมตอบกลับไป พักหนึ่งช็อกก็ส่งรูปตัวเองคู่กับคีย์บอร์ดมาให้

 

“คีย์บอร์ดมันเป็นห่วง”

 

ผมหลุดยิ้มออกมานิดๆ แล้วเปลี่ยนจากการพิมพ์คุยเป็นโทรหาเขาง่ายกว่า เพราะผมพิมพ์ช้า โทรออกปุ๊บปลายสายก็กดรับทันที

“ว่าไงคนป่วย”

“หายแล้ว วันนี้ช็อกอยู่บ้านเปล่า”

“อยู่ๆ”

“งั้นเราไปหานะ สอนคีย์บอร์ดต่อให้หน่อย”

“ก็รออยู่เนี่ย”

“งั้นเดี๋ยวเราออกไปเลย เจอกันที่ร้านพ่อช็อกนะ”

“โอเคครับ”

ผมกดวางสายจากช็อกแล้วเดินไปบอกพี่อิสที่ยังจัดของอยู่ในห้อง

“พี่อิส ผมออกไปข้างนอกนะ”

“ไปไหน”

“ไปบ้านช็อก ไปให้ช็อกสอนเล่นดนตรี”

“ไหนบอกจะไปกินพิซซ่ากับกูไง”

“เอาไว้ก่อนนะครับ วิชาดนตรีสำคัญกว่า ไปนะ” ผมโบกมือให้เขาน้อยๆ ก่อนจะเดินออกมาหน้าบ้าน ได้ยินเสียงเขาไล่หลังมา

“อ้าวเฮ้ย! แล้วจะกินข้าวเย็นไหม หลินปิง!”

“พี่อิสกินเลยไม่ต้องรอ”

“จะกลับกี่โมงก็โทรมาบอกด้วยนะโว้ย!”

“คร้าบ!”

ความรู้สึกเหมือนขออนุญาตพ่อออกจากบ้านครั้งแรกเลย ผมเดินตัวปลิวออกมาจากบ้านพี่อิส เห็นไอ้เปรี้ยว หมาใหญ่ผู้สังหารบังเอิญตายคาเขี้ยว ในใจแอบหวั่นนิดหน่อยเพราะดูหน้าตามันไม่เป็นมิตร เลยเดินเลี่ยงๆ จากหน้าบ้านหลังนั้นแล้วก้าวเท้าเร็วๆ ออกไปที่ปากซอย ตรงไปร้านยาพ่อช็อกได้โดยไม่ถูกหมากัด เห็นร่างสว่างยืนยิ้มกว้างรอผมอยู่ตรงนั้นแล้ว

บ้านช็อกอยู่ไม่ไกลจากร้านยาของพ่อเขา เป็นบ้านสองชั้นขนาดใหญ่พอสมควรบ่งบอกฐานะ ช็อกพาผมไปไหว้แม่ที่อยู่บ้านเพื่อทักทาย ก่อนจะพาขึ้นมาห้องเขาที่ชั้นสอง แอบตกใจในความใหญ่โตของห้องนอนเขานิดๆ  ช็อกคงชอบดนตรีมากจริงๆ  พื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องจึงเป็นมุมดนตรี มีกีตาร์ไฟฟ้าตัวหนึ่ง กีตาร์โปร่งอีกสองตัว คีย์บอร์ด และอุปกรณ์ขยายเสียงจำนวนหนึ่ง

“ปิง!”

“ฮะ!?” ผมเผลอตอบเสียงดังเพราะตกใจเสียงเรียกของเขา คนข้างๆ หัวเราะก๊าก ผมเชิดปากขึ้นนิดๆ แล้วถอดกระเป๋าวางบนโต๊ะหนังสือของเขา

“เราเลือกเพลงที่เล่นง่ายๆ เอาไว้ให้แล้ว ปิงลองเลือกดูว่าอยากเล่นเพลงไหนหรือเปล่า” ช็อกว่าแล้วส่งกระดาษสี่ห้าแผ่นให้ ผมรับมาพลิกดูชื่อเพลงตรงหัวกระดาษ

“เป็นไง ชอบเพลงไหน”

“ไม่...”

“ไม่ชอบเลยเหรอ”

“ไม่รู้จักสักเพลงเลย”

“เฮ้ย นี่ปิงย้อนยุคมาจากรัตนโกสินทร์ไหนปะเนี่ย แบบเดินผ่านกระจกหลงยุคมาอะไรงี้ปะ”

“ก็บอกแล้วว่าไม่ค่อยฟังเพลงไง”

“ก็ไม่คิดว่าจะขนาดนี้ไง นอกจากเพลงชาตินี่เคยฟังเพลงอะไรบ้าง”

“หนู....หนูมาลี”

“โอ๊ย ตายแล้วววว” ช็อกลากเสียงยาวแล้วยกมือเขย่าหัวผมไปๆ มาๆ ผมก็ได้แต่แสดงสีหน้ายุ่งๆ ผมไม่รู้จักเพลงพวกนั้นเลยนี่นา

“งั้นเราเลือกให้เลยนะ”

“อื้อ ช็อกเลือกเลย เอาง่ายๆ นะ”

ช็อกหยิบกระดาษกลับไป กวาดตามองโน้ตบนกระดาษนั้นก่อนจะเลือกมาแผ่นหนึ่งส่งให้ผม

“เพลงนี้ละกัน เราชอบ”

ผมพยักหน้าก่อนจะรับกระดาษนั่นมาดู มันชื่อเพลงว่า ลูกอม ผมได้ยินเป็นครั้งแรกก็ตอนนี้ วิชาดนตรีคาบพิเศษเริ่มต้นอย่างไม่รอให้เสียเวลา ก่อนอื่นช็อกให้ผมฟังเพลงนี้มากกว่าสิบรอบเพื่อให้จำทำนองได้ ช็อกใจดีกับผมก็จริง แต่เวลาสอนก็จริงจังมาก สอนอย่างเข้มงวดผมก็เลยจำคอร์ดจำโน้ตได้อย่างรวดเร็ว เริ่มเล่นเป็นเพลงได้แบบช้าๆ  ยังติดๆ ขัดๆ บ้างในบางท่อน ผมเริ่มสนุกกับการเล่นคีย์บอร์ด ค้นพบความมหัศจรรย์ของมัน เป็นเครื่องดนตรีที่เสียงเพราะ แต่ที่เพราะกว่าเสียงดนตรี...ก็คงเป็นเสียงของคนข้างๆ มั้ง

 

“เราจะลอยข้ามฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว จะไม่มีความเหงาเข้ามากล้ำกราย เพลงนี้เพื่อเธอ มันเป็นของเธอรู้ไหม...[1]”

 

ช็อกร้องเพลงเบาๆ คลอไปด้วยตอนผมกำลังเล่นคีย์บอร์ด ปกติจะเห็นเขาเล่นกีตาร์ในวง ไม่เคยได้ยินร้องเพลงเลย เสียงนิ่มๆ ฟังเพลินจนผมลืมกดโน้ตเลย

“อ้าว หยุดทำไมอะ ลืมเหรอ”

“เอ่อ...ลืม ขอโทษ”

“ไม่เป็นไร เอาใหม่”

ผมเริ่มเล่นเพลงใหม่อีกที วนซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น แต่ถึงยังไงก็ยังเล่นไม่คล่อง ได้ตรงนี้ลืมตรงนั้น เล่นท่อนสองได้ ลืมท่อนแรกไปแบบติดๆ ขัดๆ  แต่ช็อกก็สอนผมอย่างใจเย็น ให้ค่อยๆ เล่นไปเรื่อยๆ จนลืมเวลาไปเลย ท้องฟ้าข้างนอกเปลี่ยนสีแล้ว แม่ช็อกเลยขึ้นมาตามเราลงไปกินข้าวเย็น ได้โอกาสพักพอดีเพราะตอนนี้นิ้วจะล็อกอยู่แล้ว

“แม่ไม่รู้ว่าปิงชอบกินอะไร ก็เลยทำซะเยอะเลย”

“ผมกินอะไรก็ได้ครับ”

“น่ารักมาก ไม่เหมือนช็อกเลย ช็อกเลือกกินมาก”

“คนเรามันก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตสิครับแม่”

“ไอ้สิ่งที่เลือกกินมันไม่มีประโยชน์เลยค่ะช็อก ของมันๆ ทอดๆ ขนมหวานนี่ชอบนัก”

“ไม่เอาดิแม่ ไม่เผากันเอง กินข้าวๆ” ช็อกตัดบท ก่อนมื้อเย็นของบ้านช็อกที่มีผมเกินมาคนหนึ่งจะเริ่ม

“ปิง กินเยอะๆ ดิ เดี๋ยวแม่เราน้อยใจ” ช็อกว่าแล้วตักกับข้าวมาใส่จานผม พ่อกับแม่ช็อกชวนผมคุยจนไม่รู้สึกอึดอัด ระหว่างมื้ออาหารจึงเป็นไปอย่างมีความสุขดี ผมมองดูครอบครัวช็อกก็ทำให้คิดถึงพ่อแม่ตัวเองขึ้นมา อดคิดไม่ได้ว่าถ้าพ่อแม่ผมยังอยู่...ครอบครัวเราจะเป็นอย่างไร

...

 

หลังจบมื้อเย็น ช็อกก็สอนบทเรียนสุดเข้มงวดอย่างต่อเนื่อง ผมก็ยังมึนๆ งงๆ กับการเล่นคีย์บอร์ดอยู่ ดีที่ช็อกไม่ใช่คนขี้หงุดหงิด ผมลืมก็ทวนให้จนเริ่มจำได้ ผมจำท่อนแรกได้แต่ยังกดไปช้าๆ ช็อกยืนยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นฝีมือลูกศิษย์อย่างผมพัฒนาแบบก้าวกระโดด ไม่ใช่ว่ามีพรสวรรค์ แต่เพราะช็อกทุ่มเทสอนหนักมากต่างหาก

“ปิงเก่งนะ”

“คนสอนดีไง”

“อวยกันไปอวยกันมาเนอะ” ช็อกพูดขำๆ  ผมหลุดยิ้มแล้วเหลือบตาไปมองนาฬิกา

“เฮ้ย จะสองทุ่มแล้วเหรอ”

“ทำไมอะ รีบกลับเหรอ”

“เราว่า เราควรจะกลับ...”

“อีกแป๊บหนึ่งดิ จะได้ท่อนสองละเนี่ย”

“งั้นขอไลน์ไปบอกพี่อิสก่อน เดี๋ยวโดนด่า” ผมว่าแล้วลุกไปหยิบมือถือในเป้ไลน์หาพี่อิสว่าจะกลับช้าหน่อย อีกฝ่ายอ่านแต่ไม่ตอบ...อ่านไม่ตอบคือกวนตีนนะ

“ไปไหนมาไหนก็ต้องรายงานพี่อิสด้วยเหรอ”

“เขาขี้บ่นอะ เป็นลุงแก่ๆ” ผมว่าแล้วยัดมือถือเข้ากระเป๋าที่เดิม

“แต่พี่อิสดูหวงปิงมากเลยนะ”

“ไม่หวงหรอก”

“หวงดิ ดูออก”

“...”

“ยิ่งกับเรา ยิ่งดูหวงเลย”

“เขาเป็นห่วงแหละ ชอบเล่นใหญ่ด้วยไง ไม่มีอะไรหรอก” ผมพูดปัดๆ ก่อนช็อกจะพยักหน้ารับเบาๆ  อันที่จริงพี่อิสก็เคยพูดว่าหวง เคยพูดแบบนั้นอยู่เหมือนกัน...แต่ก็ไม่รู้ว่าหวงแบบไหนในความหมายของเขา


[1] เพลง ลูกอม / วัชราวลี

 

To be continued. 
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-02-2017 00:03:40
เอาที่สบายใจเลยพี่อิส จะปล่อยช็อคทำคะแนนจนได้เป็นแฟนปิงก็แล้วแต่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 11-02-2017 00:07:00
หงุดหงิดพี่อิสจริงๆ ฮึ่ย ส่วนช็อกน่ารักมากกกกกก บ้านช็อกก็น่ารักทุกคนเลย ฮื่อ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 11-02-2017 00:11:20
ยังไม่จบกะชะนีเนยจริงๆ ไม่งั้นคงไม่หาทางเปลี่ยนเรื่อง
นางดูเป็นคนฉลาดตรงไปตรงมา เเต่ตอนนี้เเนวพระเอกไทยจริงๆ
เซ็งกะอิพี่กิส 
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 11-02-2017 00:54:53
ปิงน่ารักกกกกกกก ชีวิตหนูช่วงแรกนี่จะรันทดไปไหน
ดีที่เจออิสระ
พี่อิสนี่ก็นะ ชอบก็จีบเลยเพ่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 11-02-2017 01:12:55
หลงปิงงงงงงงงงง น้ำปิงน่าร้าก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 11-02-2017 01:37:55
เหมือนพี่อิสแกชอบทำความสะอาดบ้านเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 11-02-2017 01:47:48
ปิงน่าร้ากกกกกกกกก
ชอบครอบครัวช็อกมากอ่ะ น่ารักสุดๆ อ่านละยิ้มตามเลยย
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 11-02-2017 02:14:44
อ่านไม่ตอบนะพี่อิส  :z13:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 11-02-2017 02:59:42
พี่อิสรักเนยมากหรอ...
ลำบากซะล่ะมั้งปิงเอ๊ย  :sad4:
ช็อกก็น่าเอ็นดูดีนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-02-2017 06:10:12
ทั้งที่ เย้.....ดีใจจะได้กินพิซซ่าที่พลาดมาหลายครั้ง
แต่พอเห็นรูปคู่ พี่อิส เนย ปิงก็เผ่นไปหาช็อก
เรียนดนตรีกับช็อก จนมืดค่ำ
นี่คือความโหวงของปิง ว่าพี่อิสหวงปิงในแง่ไหน
การกระทำ คำพูด มันเหมือนปิงสำคัญ
แต่ไม่ชัดเจน แต่ในใจพี่อิส น่าจะพอรู้ใจตัวเองละ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 11-02-2017 06:59:10
รักในความกากของพี่อิส ปิงน่ารักก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 11-02-2017 07:27:04
อยู่กับเทพบุตรช็อกแต่ยังมีโมเม้นให้คิดถึงคนกากอยู่นะหลินปิง ท่าทางจะถอนตัวยากเสียแล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 11-02-2017 07:36:10
น้องดูคิดมากกับเรื่องเนย ตอนแรกว่าจะอยู่ด้วยกัน ไปนอกบ้านเลยอ่ะยาวๆๆ ทิ้งลุงไว้คนเดียว
สงสารอิสเบาๆ แถมไม่โทรตามด้วยนะ เหงาไหมลุง พี่อิสก็หวงจริงแหละ แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็ยังไม่ชัด
อารมณ์สมภารกินไก่วัดล่ะงานนี้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 11-02-2017 11:46:09
จนฝ่ายนั้นเขาร่วมโต๊ะกับพ่อแม่แล้วนะพี่
นิเพิ่งเห็นแค่อัลบั้มรูป แถมมีรูปชะนีน้อยคู่อีก
ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
จะได้กินไหมเนี่ย เด็กเนี่ย โถ่
แมวบังเอิญก็ตายห่า คนที่เหมือนแมวก็จะโดนคาบนะจ๊ะ

 :ruready :ruready :hao3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 11-02-2017 12:19:58
มีความคลุมเครือ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 11-02-2017 13:00:20
หืออออออ
มีพาเข้าบ้านแล้วเว้ยยย ถถถถ
พี่อิสจะทำยังไงต่อน้ออ ไม่ใช่ตอนหน้ามานั่งเฝ้าหน้าบ้านเขาเรอะ
ปล. มาอัพต่อน้าคะ fc เพ่อิสคนกาก 555 กากกับเด็กน้อยปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 11-02-2017 14:54:09
ถึงจะทีมพี่อิสแต่ถ้ายังไม่ชัดเจนก้ไม่ปล่อยน้องให้หรอกนะ
ตอนนี้ช็อกคะแนนนำอยู่เห็นๆเลยอะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 11-02-2017 21:07:50
ฮ้าาาาาา~~~~

ตามอ่านรวดเดียวเลย เพลินมากกกก

พี่อิส~ พี่จะเอายังไง เลือกชีวิตตัวเองหน่อยย เนยหรือน้องปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 15] 10-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 11-02-2017 21:45:15
ถ้าพี่อิสยังไม่รุกหนักกว่านี้
ปิงปิงคงจะมีใจให้ช็อกแน่นอน
ลุยหน่อยสิพี่อิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 11-02-2017 23:59:17

 ตอนที่ 16

ต้องทำใจ

 

ผมอยู่ที่บ้านช็อกจนเวลาล่วงเลยไปเกือบครึ่งคืนก็เลยต้องขอตัวกลับก่อน เพราะพรุ่งนี้เราทั้งคู่ต้องไปโรงเรียน บอกกับช็อกแล้วว่าเดินกลับเองได้เพราะจริงๆ บ้านช็อกกับบ้านพี่อิสก็ไม่ไกลกันมาก เดินไม่เกินสิบนาทีก็ถึงแล้ว แต่เขาก็ดึงดันที่จะเดินมาส่งเลยขัดไม่ได้

“พรุ่งนี้ไปพร้อมเรานะปิง”

“โอเค”

“เดี๋ยวนี้ไม่กลัวไปโรงเรียนพร้อมเราแล้วใช่ปะ”

“ไม่กลัวแล้ว” ผมส่ายหน้ายิ้มๆ

“ไม่ควรกลัวแต่แรกด้วยซ้ำ”

“ไม่ให้กลัวได้ไง ก็เราเสนอหน้าไปเป็นเพื่อนกับตัวท็อปโรงเรียนเลยนะ”

“จะบ้าเหรอ เราไม่ใช่คนหรือไง”

“พูดตรงๆ เลยนะ เมื่อก่อนช็อกดูเกินเอื้อมมากอะ เหมือนเข้าถึงตัวยาก เป็นคนละชั้น”

“อะไรของมึงวะปิง!”

ผมหัวเราะเบาๆ แต่ช็อกหยุดเดินแล้วมองหน้าผม ผมก็เลยต้องหันไปถาม

“มีอะไรเปล่า”

“เมื่อกี้เราเรียกปิงว่ามึงด้วยอะ ขอโทษ”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร”

“ทำไมพูดกูมึงกับปิงแล้วรู้สึกผิดวะ”

“ปกติเราก็พูดกูมึงกับเพื่อนคนอื่นนะ” ผมกับเมธีหรือไอ้ยิมและเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ ก็ขึ้นกูมึงตลอด แต่ก็ด้วยระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันจนสนิทสนมจึงกล้าพูดแบบนั้น แต่กับช็อก ผมคงยังประหม่าถ้าจะขึ้นกูขึ้นมึงก็เลยใช้คำว่าเรามาตลอด

“นี่ก็กูมึงกับเพื่อนทุกคนอะ เว้นปิงเนี่ย คือถ้าไม่ได้สนิทกันจริงๆ แล้วมาขึ้นกูมึงกับปิงนี่คือต้องเป็นพวกหยาบคายมากเลยนะ”

ผมหลุดหัวเราะก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อ ถ้าพูดถึงคนที่ขึ้นกูมึงกับผมตั้งแต่วันแรกที่ได้คุยกัน ก็มีอยู่คนหนึ่งแหละ...คนที่หยาบทั้งกายและใจ

"แต่ต่อให้เราสนิทกับปิงมากกว่านี้ เราก็จะไม่พูดกูมึงหรอกนะ"

"ทำไมอะ"

"แบบนี้มันก็น่ารักดีไง"

ผมพลันชะงักไปเล็กน้อยตอนที่ช็อกพูดเช่นนั้น แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาคล้องคอผม ไม่รู้ว่าการสนิทมากขึ้นกว่านี้มันมีทิศทางไปยังไง แต่มันก็คง...ก็คงดีมั้ง

แกร๊ก!

“หือ?” ทั้งผมและช็อกหันไปมองของที่ร่วงไปที่พื้น ก่อนจะเห็นว่าเป็นพวงกุญแจที่ผมห้อยติดเป้เอาไว้ เป็นพวงกุญแจรูปมูมินทำจากพลาสติกแข็งๆ ตัวเล็กๆ  ช็อกก้มลงไปหยิบมันขึ้นมา มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มตอนเห็นพวงกุญแจอันนั้นของผม

“ปิงชอบมูมินเหรอ”

“เปล่าหรอก ได้มาจากไหนไม่รู้ จำไม่ได้แล้ว ห้อยไว้นานมากแล้ว”

“แต่เราชอบนะ น่ารักดี” เขาไม่หุบยิ้มเลยแม้แต่ตอนที่ส่งคืนให้ผม ผมมองเจ้าตัวมูมินยิ้มแป้นในมือแล้วส่งกลับไปให้เขา

“งั้นเราให้”

“ให้เราเหรอ”

“อื้อ ก็ช็อกชอบ”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร”

“เอาไปเหอะ ให้”

“งั้นอีกสองนาทีค่อยให้”

ผมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องรอ สีหน้าสงสัยมากพอให้ช็อกอธิบายต่อ

“จริงๆ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดเรา ให้เลยเที่ยงคืนไปก่อนค่อยให้เรานะ”

“วันเกิดช็อกเหรอ เฮ้ย งั้นเราไปหาอย่างอื่นให้ดีกว่า”

“ไม่เอา จะเอาตัวนี้”

“...”

“เอาตัวนี้แหละ ชอบแล้ว”

ผมพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มบางๆ  กว่าจะเดินไปถึงบ้านพี่อิสก็เลยเที่ยงคืนพอดี จึงยื่นพวงกุญแจในมือให้เขา

“สุขสันต์วันเกิดนะ”

“ขอบคุณครับ” ช็อกรับมันไปแล้วยิ้มกว้างมองดูมันอยู่อย่างนั้น

“แล้วก็ขอบคุณที่มาส่ง กลับดีๆ นะ”

“เดี๋ยวถึงแล้วไลน์มาบอก จะได้ไม่ต้องห่วง”

“โอเค”

ผมยืนรอจนกว่าช็อกจะเดินลับตาไป จึงหมุนตัวเข้าบ้าน คิดว่าพี่อิสจะนอนไปแล้ว แต่ไฟกลางบ้านยังเปิดอยู่ ผมค่อยๆ เปิดประตูบ้านเข้าไป พี่อิสนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี ได้ยินเสียงผมก็เหลือบตาขึ้นมามอง

“พี่อิสยังไม่นอนอีกเหรอ”

“มึงยังไม่กลับจะหลับยังไง น้องออกไปซนที่บ้านไหนก็ไม่รู้ คิดว่าพี่อย่างกูจะนอนสบายใจได้เหรอ ฮะ?”

“เอาความจริง”

“งานกูยังไม่เสร็จ”

“เล่นซะใหญ่” ผมพูดเบาๆ แล้วนั่งลงข้างๆ เขา

“แล้วทำไมกลับดึกขนาดนี้”

“ไลน์มาบอกแล้วไงครับ”

“มึงไม่บอกนี่ว่าดึกขนาดนี้ วันหลังระบุมาเลยว่ากี่โมง เที่ยงคืน ตีหนึ่งว่าไป”

“โห ใครจะไปกะเวลาเป๊ะขนาดนั้น แล้วพี่ล่ะ อ่านแล้วทำไมไม่ตอบ”

“ก็มันไม่ใช่ประโยคคำถาม”

“ก็ตอบหน่อย จะได้รู้ว่ารับรู้แล้ว”

“อ่านแล้วก็แปลว่ารู้แล้วไง กูก็คิดว่ามึงคงกำลังตั้งใจเรียนดนตรีอยู่ จะคุยไรต่อก็ใช่เรื่อง แล้วเป็นไงบ้างอะ เล่นได้ยัง”

“ก็เกือบได้แล้วครับ ช็อกสอนเก่ง”

“แหม มึงก็ไม่ต้องทำหน้าชื่นชมมันขนาดนั้น กูรู้ละว่ามันเพอร์เฟกต์ และนี่กินไรมายัง”

“กินที่บ้านช็อกมาแล้วครับ แม่ช็อกทำกับข้าวอร่อยมาก”

“นี่ได้กินข้าวกับพ่อแม่มันด้วยเหรอ”

“ครับ พ่อแม่ช็อกใจดีมาก แล้วพี่อิสกินข้าวยัง”

“ไม่แดกละ จุก”

“เป็นไรอะ”

“เรื่องของกูเหอะ”

“เออ ไม่ยุ่งก็ได้ ไปอาบน้ำนอนแล้ว”

“ไปเลย” พี่อิสยกเท้าเตะผมทีหนึ่ง ผมหันไปตีขาเขาคืนแล้วเดินเข้าห้อง หยิบเสื้อผ้ากำลังจะเข้าไปอาบน้ำ ได้ยินเสียงไลน์ดังพอดีเลยหยิบขึ้นมาดู

 

“ถึงบ้านแล้วนะ”

 

ผมขมวดคิ้วนิดๆ แล้วจิ้มกลับไป

 

“ถึงไวจัง”

 

คำตอบที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำเอาผมหลุดหัวเราะเบาๆ

 

“กลับคนเดียว กลัวผี เลยวิ่งมา”

 

ผมส่ายหน้าขำๆ ก่อนจะสังเกตเห็นรูปโปรไฟล์ช็อกที่เปลี่ยนไป พอกดเข้าไปดูรูปแบบขยายใหญ่จึงเห็นว่าเป็นรูปมูมินจากพวงกุญแจที่ผมให้เขาไป

ติ๊ง!

ผมกดออกจากรูปโปรไฟล์แล้วเข้าไปอ่านข้อความที่เขาส่งมาอีกทีพร้อมกับลิงก์ยูทูบ

 

“เอาเพลงไปฟังก่อนนอนนะ”

“ใช้หูฟังด้วยนะ”

“ต้องหลับตาฟังด้วยนะ”

 

ผมตอบกลับช็อกไปแล้วเดินออกมาข้างนอก พี่อิสขยับร่างจากโซฟาหน้าทีวีไปหน้าคอมแล้ว ดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะมีงานทุกวันเลย

“พี่อิส”

“ฮึ?”

“มีหูฟังไหม”

เขายื่นหน้าพร้อมใบหูมาทางผม ในความกวนตีนนี้ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่อิสผมคงด่าไปแล้ว

“หูฟังแบบที่เสียบกับมือถือได้อะครับ”

“มึงก็ขำมุกกูให้หน่อยเหอะ แล้วจะเอาหูฟังไปทำอะไร”

“ฟังเพลงไง”

“ไม่หลับไม่นอนนะปิง”

“เพลงเดียวเอง เดี๋ยวก็นอนแล้ว”

“เออ เดี๋ยวเช้าไม่ตื่นกูจะถีบให้ตกเตียงเลยนะ” เขาชี้หน้าอย่างคาดโทษ ก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบหูฟังโยนมาให้ผม ผมเดินกลับเข้ามาในห้อง เสียบหูฟังแล้วกดเข้าลิงก์เพลงที่ช็อกส่งมาให้ เป็นเพลงที่ไม่คุ้นหูเพราะไม่เคยฟัง

 

“มีคำถามในยามค่ำคืน เธอยังยืนดูดาวหรือเปล่า ในเมืองหลวงแสงไฟวับวาบ ฝุ่นควันขาวลบดาวจางไป...[1]”

 

เปลือกตาหลับลงอย่างที่ช็อกบอก ค่อยๆ ฟังเพลงไปทีละประโยค

 

“นึกถึงคืนฟ้าพราวหมู่ดาว เรานอนหนาวดูดาวรำไร พ้นข้ามคืนเช้าพรากเราไกล ก่อนจากกันไป เราจะไม่ลืมดาว...”

 

ผมเป็นคนไม่ชอบฟังเพลง ส่วนใหญ่ก็ได้ยินผ่านๆ จากที่อื่น ในร้านกาแฟตอนทำงานบ้าง จากชมรมเสียงตามสายของโรงเรียนบ้าง ไม่ค่อยได้ฟังจริงๆ จังๆ จึงไม่รู้ว่าโลกนี้มีเพลงแบบนี้ด้วย...เพลงเพราะๆ

...

 

เช้าวันถัดมาผมเกือบตื่นสายเพราะเลื่อนนาฬิกาปลุกไปสองรอบ อยากจะเลื่อนอีกรอบแต่กลัวพี่อิสเข้ามาด่า เลยเอาชนะความขี้เกียจด้วยการลุกมาอาบน้ำอย่างสะลึมสะลือ แต่งตัวเรียบร้อยจึงออกมาข้างนอก แต่เจ้าของวาจาที่ว่าจะถีบตกเตียงยังไม่ตื่นเลย เดาว่าคงทำงานโต้รุ่งเหมือนเดิมถึงได้นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา ผมเขยิบเข้าไปหาเขา ค่อยๆ หยิบผ้าคิตตี้ที่หล่นอยู่ที่พื้นขึ้นมาห่มให้แล้วออกไปโรงเรียน

เพราะพี่อิสไม่ตื่นก็เลยไม่มีข้าวเช้า กำลังคิดว่าจะแวะซื้ออะไรกินดี หรือจะไปหาอะไรกินที่โรงอาหารดี เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นช็อกนั่งคร่อมมอเตอร์ไซค์รออยู่ตรงนั้นแล้ว ขนาดวันนี้ออกจากบ้านเช้ากว่าทุกวัน ช็อกก็ยังมารออีก

“มารอทุกวันเลย เกรงใจอะ”

“เก็บคำว่าเกรงใจไปใช้กับคนอื่นนะ อยู่กับเราไม่ต้องเกรงใจ”

“ใจดีเกิน”

“ผมเป็นคนดีครับคุณ ขึ้นมาเลย”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วก้าวขึ้นไปซ้อนมอเตอร์ไซค์ช็อก ก่อนเขาจะพาผมขับตรงเข้าโรงเรียนเหมือนเคย การมาโรงเรียนพร้อมช็อกคงเป็นเรื่องชินตาทุกคนไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลยไม่มีใครหันมองเหมือนวันแรกๆ  ผมแยกกับช็อกที่ลานจอดรถเหมือนเดิม แต่วันนี้ยังไม่ขึ้นตึกเพราะจะไปหาอะไรกินที่โรงอาหารก่อน

“ปิงจะไปโรงอาหารเหรอ”

“อื้อ วันนี้ไม่ได้กินข้าวเช้ามาอะ”

“งั้นไปกินด้วยกันดิ”

ผมโดนช็อกลากมาโรงอาหารพร้อมเขา ซื้อข้าวแล้วเข้ามานั่งกับกลุ่มเพื่อนของเขา ช็อกมีเพื่อนเยอะมากๆ  ขนาดโต๊ะตัวยาวในโรงอาหารแทบจะนั่งไม่พอเลย และที่น่าแปลกใจคือทุกคนสามัคคีกันหันมาทักทายผมราวกับรู้จักกันดี ทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกด้วยซ้ำ

“หวัดดีปิง”

“อ้าว ปิง”

“นั่งเลยปิง”

จะว่าเกร็งมันก็เกร็ง แต่ความเป็นกันเองของทุกคนทำให้ผมยอมนั่งลงข้างๆ ช็อก

“มึงกับปิงไปเป็นเพื่อนกันได้ไงวะช็อก”

“กูรู้จักกับปิงตั้งแต่ม.สี่แล้ว ตอนเข้าค่ายธรรมะนอนด้วยกัน”

“อ้าว จริงดิ ไม่เห็นเคยพูดถึง”

“แต่เพิ่งมาสนิทตอนนี้ไง ปิงย้ายบ้านมาอยู่ใกล้ๆ กู”

“เราโต้นะปิง ขอไลน์ปิงได้เปล่า”

ผมหันขวับไปมองอย่างงงๆ ก่อนช็อกจะยกมือผลักหน้าเพื่อนไปทางอื่น

“แดกข้าวไปมึงอะ”

“มึงจะหวงทำไมวะช็อก ปิงไม่ได้เป็นอะไรกับมึงซะหน่อย”

“เพราะกูรู้สันดานมึงไง เพื่อนกูตามพวกมึงไม่ทันหรอก กินข้าวเหอะปิง ไม่ต้องสนใจพวกมัน”

ผมพยักหน้าหงึกๆ แล้วตักข้าวใส่ปาก

“พี่ช็อกคะ”

“จ้า” ช็อกหันไปตอบเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เข้ามาเรียกอย่างเป็นมิตร เขาน่ารักกับทุกคนเสมอ

“วันนี้วันเกิดพี่ช็อกใช่ปะ”

“ใช่ค่ะ”

“ของขวัญค่ะ”

“ขอบคุณนะ จริงๆ ไม่ต้องก็ได้”

“เต็มใจให้ค่ะ”

“ขอบคุณครับ น้อง...” ช็อกทำหน้านึก

เด็กหญิงตรงหน้ามองอย่างลุ้นๆ เพื่อให้ช็อกเอ่ยชื่อเธอออกมา

“โบว์!”

“อุ๊ย! จำได้ด้วยอ่า”

“เจอกันหลายครั้งแล้วไง ขอบคุณนะครับ”

“งั้นหนูขอถ่ายรูปพี่หน่อยสิ”

“ได้สิคะ”

“ขอคู่กับพี่ปิงได้ไหมคะ”

หือ? แล้วนี่ไปเกี่ยว...?

“ได้เลย ปิงหันมา”

ผมยังสับสนว่าตัวเองเกี่ยวอะไร แถมไม่ทันเคี้ยวข้าวคำที่ยัดเข้าไปเสร็จ ช็อกจับผมหมุนไหล่ให้หันไปมองกล้อง ก่อนจะต้องยิ้มออกมาด้วยเสียงชัตเตอร์บังคับทั้งที่ยังอมข้าวจนแก้มตุ่ย

“น่ารักสุด!” เธอพูดแค่นั้นก่อนจะขอตัวเดินออกไป ผมเคี้ยวข้าวในปากแล้วหันไปหาช็อก

“เราไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย”

“ปิงกำลังเป็นคู่ชิปไอ้ช็อกมันไง” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยบอกผม

“คู่ชิป? คืออะไรเหรอ” ผมถามด้วยความไม่รู้จริงๆ ก่อนช็อกจะยกมือเคาะหัวผมเบาๆ

“เพื่อนกูไม่รู้เรื่องพวกนั้นหรอก”

“โห เกิดยุคหินเหรอปิง” ผู้หญิงคนเดิมหันมาพูด ก่อนจะอธิบายให้ผมฟังเกี่ยวกับคำว่า คู่ชิป ที่ผมไม่เข้าใจ มันหมายถึงการจับคู่คนสองคนที่ดูคล้ายว่ามีความสัมพันธ์ต่อกันอะไรทำนองนั้น พอได้รู้ความหมายของมันผมจึงนิ่งไปเล็กน้อย ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ให้คนที่ช่วยอธิบาย

“และตกลงพวกมึงนี่ยังไงกัน”

“ไอ้บ้า เพื่อนกัน”

“เพื่อนกินเพื่อนไม่ได้นะ”

“ไม่โว้ย! ปิงไม่ต้องไปฟังนะ พวกนี้มันไร้สาระ”

ผมยังคงได้แต่ยิ้ม และคิดว่าความคิดพวกนั้นดูเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่า เพราะจริงๆ แล้วความเป็นไปได้ในความคิดนั้น เป็นศูนย์ ไม่สิ...คงติดลบเลยต่างหาก

...

 

หนึ่งวันในโรงเรียนของผมผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนเคย วันนี้ไอ้ยิมไม่มาหาเรื่องอะไร คงเพราะคราวที่แล้วคนหาว่ามันแกล้งผมจนต้องหามเข้าห้องพยาบาล สังคมตราหน้าว่ามันเป็นคนร้าย ผมอยากอธิบายว่าคราวนั้นผมป่วยเองไม่เกี่ยวกับมัน แต่พอคนเข้าใจอย่างนั้นมันจึงไม่มาวุ่นวายกับผมเลย ก็อาจจะดีแล้ว

 หลังเลิกเรียนผมกับเมธีแยกกันกลับบ้านเหมือนเดิม เมธีไปเรียนพิเศษ ส่วนผมก็ไปทำงาน ระหว่างที่เดินออกไปหน้าโรงเรียนผมผ่านไปเห็นช็อกกำลังเดินไปที่ลานจอดรถ เขาหันมาเห็นผมพอดีก็เลยเลี่ยงไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหา ช็อกหอบหิ้วถุงของขวัญแล้วก็ตุ๊กตาตัวใหญ่ เดาว่าคงมาจากแฟนคลับเขา

“โห ต้องโทรเรียกสิบล้อมารับแล้วมั้ง ของขวัญเยอะขนาดนี้”

“เว่อร์น่า”

ผมเลื่อนสายตามองของขวัญในมือเขา มูมินเต็มไปหมดเลย ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าช็อกชอบเจ้าตุ๊กตาโทรลตัวขาวๆ นั่น ของขวัญส่วนใหญ่ของช็อกจึงเป็นตุ๊กตาตัวนั้น

“ช็อกชอบมูมินจริงจังเลยนะเนี่ย”

“ใช่แล้ว ขาวๆ นิ่มๆ แล้วนี่ปิงจะไปทำงานเหรอ”

“อื้อ”

“ไปส่งเปล่า”

“ไม่เป็นไร คนละทางเลย ช็อกแหละ ขนกลับได้ไหมเนี่ย”

“ได้ๆ” เขายัดของจำนวนหนึ่งใส่เป้ และเอาตุ๊กตายัดใส่ถุงใหญ่แขวนที่หน้ารถมอเตอร์ไซค์

“ขับดีๆ นะ ระวังด้วย”

“ครับผม” ช็อกโบกมือให้ผมก่อนจะขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป เขาได้รับของขวัญเยอะแยะ เพราะเป็นที่รักของคนอื่น ผมเข้าใจได้โดยไม่เกิดข้อสงสัยว่าทำไมช็อกจึงถูกรักมากขนาดนี้ ก็เขาเป็นแบบนั้นไง...แบบที่น่ารัก

...

ในร้านกาแฟ วันนี้ผมถูกใช้ให้มานั่งเอาขนมใส่กล่องเป็นเซตเพราะมีออเดอร์ให้จัดชุดอาหารว่างมาจำนวนหนึ่ง ขนมปังไส้กรอกหนึ่งชิ้น บราวนี่หนึ่งชิ้น กับน้ำผลไม้หนึ่งกล่องค่อยๆ วางลงไปแล้วพับกล่องและติดสติกเกอร์ร้านเป็นอย่างสุดท้าย เป็นงานง่ายๆ ที่นั่งทำเพลินๆ  ฟังเพลงจากในร้านที่ดังคลอมาเบาๆ  สองมือผมหยุดชะงักเมื่อได้ยินจังหวะเพลงที่คุ้นหู ท่อนแรกของเพลงดังขึ้นพร้อมกับมุมปากที่ขยับเป็นรอยยิ้ม

 

“มีคำถามในยามค่ำคืน เธอยังยืนดูดาวหรือเปล่า ในเมืองหลวงแสงไฟวับวาบ ฝุ่นควันขาวลบดาวจางไป...”

 

ที่คุ้นหูก็เพราะเมื่อคืนฟังเพลงเดียววนอยู่นานมาก เป็นเพลงที่ช็อกส่งมาให้ฟัง

 

“นึกถึงคืนฟ้าพราวหมู่ดาว เรานอนหนาวดูดาวรำไร พ้นข้ามคืนเช้าพรากเราไกล ก่อนจากกันไป เราจะไม่ลืมดาว...”

 

ผมเคาะเท้าไปตามจังหวะเพลงอย่างอารมณ์ดี ผมคงชอบเพลงนี้ไปแล้ว

“อารมณ์ดีจังเลยนะ”

“พี่พิงค์ มาตั้งแต่เมื่อไรครับ”

พี่พิงค์ในชุดนักศึกษานั่งลงตรงข้ามผม

“มานานแล้ว เดี๋ยวพี่ช่วย”

พี่พิงค์หยิบกล่องไปช่วยแพ็กขนม

“ว่าแต่วันนี้อารมณ์ดีอะไร เห็นนั่งยิ้มคนเดียว”

“เพลงเพราะดีครับ”

“เฮ้ย รู้จักด้วยเหรอ เพลงนี้อย่างเจ๋ง พี่ก็ชอบ”

“มีคนส่งให้ฟังครับ เพิ่งเคยฟังเมื่อคืนเอง”

“นั่นแน่ะ! ใครส่งให้ฟัง”

“เพื่อนครับ”

“จริงอะ ถ้ามีแฟนต้องเอามาให้พี่สแกนก่อนนะปิง ไม่ผ่านมาตรฐานพี่ไม่ให้คบนะ”

“เพื่อนจริงๆ ครับ”

พี่พิงค์หรี่ตายิ้มอย่างแซวๆ

“เพื่อนเหอะ เพื่อน”

“อะๆ เชื่อๆ”

“แซวแต่ผมอะ แล้วแฟนพี่พิงค์อะ เป็นไงมั่งครับ”

“อย่าพูดถึงเลย ตีกันจะตายละ นี่เพิ่งทะเลาะกันมา”

“อ้าว ทำไมล่ะครับ”

“งี่เง่าไง”

“เขาหรือพี่”

“พี่เนี่ย” พี่พิงค์หัวเราะเบาๆ

“ไปง้อสิครับ”

“ทำไมต้องง้อก่อนตลอดเลย เสียศักดิ์ศรีมาก”

“เสียศักดิ์ศรีดีกว่าเสียเขาไปนะ ถ้ารักก็ไปง้อเถอะครับ”

พี่พิงค์เงยหน้าขึ้นมามองผมแล้วเบิกตาขึ้นนิดๆ จ้องจนผมต้องเอ่ยถาม

“มีอะไร...เหรอครับ”

“ชอบคำพูดน้องปิงเมื่อกี้มากอะ ขอไปเป็นแคปชันวันนี้หน่อยเหอะ” พี่พิงค์ว่าแล้วหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มสองสามทีทวนประโยคที่ผมพูดเมื่อกี้ไปด้วย

“เมื่อไรจะได้เจอแฟนพี่พิงค์บ้าง เห็นพี่ๆ บอกว่าแฟนพี่น่ารักมาก คงจะสวยน่าดู”

“น้องปิง”

“ครับ?” ผมเงยหน้าไปมองพี่พิงค์

“แฟนพี่เป็นผู้ชายว่ะ”

“อ๋อ...ครับ”

ผมพยักหน้าเบาๆ  ไม่ใช่ว่าตกใจ เพียงแค่ผมไม่รู้มาก่อน พี่พิงค์ยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยปากถาม

“แปลกไหม”

“แปลกตรงไหนครับ”

“ไม่คิดว่าแปลกเหรอ”

“ไม่ครับ” ผมส่ายหน้าปฏิเสธ เรื่องของพี่พิงค์ไม่ใช่เรื่องแปลกในความคิดผมเลย ที่ผ่านมาผมไม่เคยชอบใครเลย ไม่มีความรู้สึกอยากรักอยากเกลียดใครทั้งนั้น แต่ตอนนี้ความคิดผมเปลี่ยนไปแล้ว และคนที่ทำให้ความรู้สึกผมไม่เหมือนเดิมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ความรักที่ทุกคนต่างพูดถึงกันมันดูเหมือนว่าจะไม่มีข้อแม้...ทว่าทุกเรื่องในโลกก็มีข้อยกเว้นของมัน บางทีมันมีเงื่อนไขว่าคนคนนั้นจะต้องอยู่ในสถานะที่เราจะรักเขาได้ บางคนเข้ามาทำให้เรารู้สึกดี แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้รักได้ นั่นก็คือข้อจำกัด...และผมอาจกำลังติดอยู่ในข้อจำกัดข้อนั้น


[1] เพลง เธอยังยืนดูดาวหรือเปล่า / รามอินทรา-แจ้งวัฒนะ Feat. Vinegar Syndrome

To be continued.   
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 12-02-2017 00:13:48
โถ่ ปิงของแม่ มาให้แม่กอดเร็ววววว น่าร๊ากกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-02-2017 00:15:02
น้องสร้างกำแพงแล้ว พี่อิสจะมาเย็นใจไม่ได้นะคะ เห็นเงียบน้อวปิงคิดมากเพียบเลยนะคะ
ถามว่าพี่อิสนี่ค่าตัวแพงใช่ไหมคะ บทบาทน้อยกว่าช็อกเยอะ แค่พ่อหวงลูกสาวไปวันๆ
ข้าวปลาไม่กิน จุก ที่ลูกสาวไปกินข้าวกับว่าที่แฟนมา โถ น่าสงสารสองตอนซ้อนเลยพี่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 12-02-2017 02:19:08
บางทีก็ลืมไปว่าพี่อิสเป็นพระเอก นี่ฟินกับช็อกปิงไปแล้วค่ะ โฮะๆๆๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 12-02-2017 05:29:06
ทำไมต้องเขียนให้ช็อกน่ารักขนาดนี้ด้วย กะบิ้วท์ดราม่าทีหลังใช่ไหมครับคนเขียน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 12-02-2017 11:02:06
สนุกมากพึ่งมาได้อ่านแอบเสียดาย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 12-02-2017 11:18:35
เล่นติดลบเลยเหรอหลินปิง ช็อกหมดโอกาสเลยอ่ะดิ ส่วนพี่อิสคนถ่อยตอนนี้ค่าตัวแพงนะ มารับผิดชอบหัวใจดวงน้อยๆ ของหลินปิงด้วย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 12-02-2017 12:49:12
เรื่องน่ารักมาก
ยังสงสัยว่าใครพระเอก แต่เชียร์ พี่อิส ชอบเฮียมุ้งมิ้งมาก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 12-02-2017 12:54:10
บรรทัดทุดท้ายคมไปอีก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-02-2017 15:30:49
ช็อก ปิง  :mew1: :mew1: :mew1:
มีคนจิ้นไม่ใช่น้อย
แต่ปิง ว่าความเป็นไปได้ติดลบ  :hao3:
ปิงมีคำแนะนำดีๆให้พี่พิงค์ด้วย
"เสียศักดิ์ศรี ดีกว่าเสียเขาไปนะ ถ้ารักก็ไปง้อเถอะครับ"
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 12-02-2017 15:50:21
เอาล่ะซิๆ รู้สึกสถานะ พี่อิส-หลินปิง จะสั่นสะเทือน เพราะเจอความ The Shock เข้าไปอ่ะ  :z2: :really2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-02-2017 20:04:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 12-02-2017 20:06:54
อิพี่อิสสสสสส พี่ควรทำอะไรซักอย่างนะ
สงสารปิง ลึกๆน้องมันคิดมากนะเนี่ย
อย่ามัวมาทำลอยชายใจเย็น พูดแต่เรื่องไร้สาระ
แต่เรื่องมีสาระและควรจริงจังกลับไม่พูด
จริงๆในสายตาอิพี่อิสน้องมันน่าจะดูออกง่ายนะ
อะไรที่ควรเคลียร์ก็เคลียร์ได้ล่ะ น้องช้อกมาแรงเหลือเกิน
แต่แรงแค่ไหนเราก็อยู่ทีมพี่อิสนะ บังเอิญชอบคนบ้าๆ
มากว่ากว่าคนเป็นสุภาพชน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 12-02-2017 21:01:14
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 16] 11-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 12-02-2017 21:51:25
ถ้าพี่อิสไม่รีบทำคะแนนจะเชีียร์ช็อกแทนแล้วววว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 13-02-2017 00:02:35

ตอนที่ 17

สุขจนล้นใจ

 

วันอาทิตย์วนกลับมาอีกครั้ง หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาของผมผ่านไปอย่างเรื่อยๆ ไม่เฉื่อยช้าหรือรวดเร็ว ทุกเช้าตื่นมากินข้าวที่พี่อิสทำให้ ไปโรงเรียนพร้อมช็อก นั่งเรียนโดยที่ไอ้ยิมไม่มาวุ่นวายเลยตลอดสัปดาห์ ตอนเย็นก็ไปทำงาน กลับถึงบ้านพูดคุยกับพี่อิสนิดหน่อย แค่นิดหน่อยเท่านั้น

ช่วงนี้พี่อิสดูเหมือนจะไม่มีเวลาเลย เขาทำงานหนักไม่พักผ่อน ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมก็เลยวุ่นวายกับเขามากไม่ได้ กลับเข้าห้องนอนช็อกก็ส่งเพลงมาให้ฟังวันละเพลง กิจวัตรวนซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวอีกทีก็มาถึงวันอาทิตย์ที่ผมวนกลับมานั่งเล่นคีย์บอร์ดที่บ้านช็อกอีกแล้ว เมื่อวานก็มาขลุกอยู่ที่บ้านเขาทั้งวัน วันนี้ช็อกก็เรียกมาซ้อมอีก เพราะวันอังคารหน้าก็จะถึงวันสอบจริงแล้ว หลังจากเล่นเพลงเดิมวนซ้ำอยู่หลายรอบจนไม่ได้นับ ในที่สุดผมก็เล่นคีย์บอร์ดเพลงที่ช็อกเลือกให้จนได้

“เดี๋ยววันสอบบอกเราด้วยนะ เราจะไปดู”

“ไปดูเหรอ...ทำไม”

“ไปเชียร์ปิงไง”

“เราไปสอบ ไม่ได้ไปประกวดนะ”

“เออ จะไป เผื่อปิงลืมคอร์ดไง เห็นหน้าเราจะได้จำได้”

ผมส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนหันมองนาฬิกาแล้วก็คิดว่าควรกลับบ้านได้แล้ว

“งั้นเดี๋ยวเรากลับก่อนนะ”

“โอเค เราไปส่ง”

ขัดไม่ได้อยู่แล้วถ้าเขาบอกว่าจะไปส่ง ก็เลยต้องยอมเดินตามเขาลงบันไดบ้านมา บอกลาพ่อกับแม่ของช็อกที่นั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างแล้วเดินไปหน้าประตู สายตาผมหันไปเห็นปฏิทินที่หน้าประตู ก่อนสองเท้าจะเดินช้าลงแล้วหยุดมองอยู่ครู่หนึ่ง

“มีอะไรเปล่าปิง”

“ช็อกว่างอยู่ใช่ไหม”

“ว่างดิ”

“ช็อกไปบ้านเป็นเพื่อนเราหน่อยได้ไหม”

ช็อกตกลงทันทีตอนที่ผมขอให้เขาพามาที่บ้าน ไม่ใช่บ้านของพี่อิส แต่หมายถึงบ้านของป้า ผมคิดจะกลับไปที่บ้านนั้นหลายครั้งแล้ว แต่ไม่อยากไปคนเดียว ชวนพี่อิสก็ไม่ได้เพราะเขาไม่มีเวลาให้เลย ผมไม่ได้เจตนาจะกลับไปอยู่ที่นั่น แต่ว่ายังมีข้าวของบางอย่างที่ไม่ได้เอาติดมาด้วย เสื้อผ้าที่เอามาได้ในวันที่ออกมากับพี่อิสก็น้อยมากจนต้องใส่ซ้ำไปซ้ำมา ผมก็เลยหาโอกาสกลับมาที่นี่ วันนี้เป็นโอกาสดีเพราะเป็นวันเกิดข้าวฟ่าง ทุกปีป้ากับพี่ใบเฟิร์นจะพาข้าวฟ่างออกไปกินข้าวนอกบ้าน ผมเลยมั่นใจว่าวันนี้ทางสะดวกแน่ๆ

ระหว่างทางผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ช็อกฟังจนมาถึงที่นี่ เขาก็เข้าใจและยินดีจะมากับผมอย่างไม่เกิดข้อสงสัย ช็อกจอดมอเตอร์ไซค์ที่หน้าบ้าน ผมชะเง้อเข้าไปมองเห็นว่ารถป้าไม่อยู่ก็เลยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

“ช็อกรอเราอยู่ตรงนี้ก็ได้นะ เดี๋ยวเรามา”

“เราไปด้วย”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะปีนรั้วบ้านเข้าไปเพราะไม่มีกุญแจ ไปถึงในบ้านข้างในก็ล็อกอีกชั้น จึงเดินไปยังหลังบ้าน โชคดีที่ประตูหลังซึ่งทะลุไปยังห้องครัวเปิดค้างเอาไว้ ผมเห็นย่าอยู่ตรงนั้นพอดี

“ย่าครับ”

“ตาเถร!” ย่าอุทานลั่นแล้วฟาดขวดน้ำในมือใส่ผมด้วยความตกใจ น้ำที่เปิดขวดอยู่สาดเข้ามาจนต้องกระโดดหลบ

“ย่า! ปิงเอง!”

“ปิง!”

“ปิงเองครับ”

ดวงตาของย่าขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยพอๆ กับรอยยิ้มที่คลี่ออก ก่อนสายตาคู่นั้นจะเลื่อนไปมองช็อกที่ยืนหน้าเปียกเพราะถูกน้ำจากขวดเมื่อครู่สาดเข้าไปเต็มๆ

“สวัสดีครับ” ช็อกยกมือขึ้นไหว้เพื่อทักทายย่า ก่อนคนตรงหน้าจะหันกลับมาถามผม

“ปิงมาได้ยังไงลูก”

“ปิงมาเอาของครับย่า ย่าสบายดีนะ”

“สบายดี แล้วปิงล่ะ เป็นยังไง”

“ดีครับ ปิงรีบเก็บของก่อนนะ ป้าคงยังไม่กลับใช่ไหม” ผมว่าแล้วเดินเข้าไปในห้องที่อยู่ติดกับครัว ส่วนช็อกยืนรออยู่ข้างนอก เมื่อเปิดไฟให้สว่างก็เห็นห้องนอนเล็กๆ ที่ไม่เปลี่ยนไป เดาว่าเป็นฝีมือย่าเข้ามาทำความสะอาดให้ ผมหันไปมองย่าที่เดินตามเข้ามาด้วย

“ย่าไม่คิดว่าปิงจะกลับมาหรอก แต่ก็ทำความสะอาดเอาไว้”

“ขอบคุณนะครับ” ผมตอบย่าแล้วหันไปหยิบของบางส่วนใส่กระเป๋า สิ่งแรกที่ตั้งใจมาเอาคือสมุดบัญชีอีกเล่มที่เก็บเงินแยกเอาไว้ ผมได้เงินส่วนนี้มาตั้งแต่ตอนที่พ่อแม่ตายไป ย่าว่ามันเป็นเงินประกันหรืออะไรสักอย่าง ป้าก็ไม่ได้เข้ามายุ่งกับเงินส่วนนี้ของผม ผมเลยใช้เงินจำนวนนี้ใช้จ่ายเรื่องเรียน ค่าเทอม หรืออะไรก็ตามที่จำเป็น ผมยัดสมุดบัญชีนั่นใส่กระเป๋าและหยิบเอาเสื้อผ้าอีกบางส่วนใส่ลงไปด้วย กวาดตามองรอบห้องดูว่าอะไรที่จำเป็นอีกบ้าง แต่ข้าวของในห้องโล่งๆ นี่ก็ดูไม่มีอะไรจำเป็นเลย จึงหมุนกลับไปหาย่า

“ย่าครับ ปิงขอบคุณย่ามากนะครับที่พาปิงมาอยู่ด้วยในตอนนั้น”

“ปิงก็หลานย่านะ”

“ปิงรักย่ามากนะครับ”

“แล้วปิงไปอยู่ในที่ที่ดีใช่ไหม อยู่กับคนดีๆ หรือเปล่า”

“ครับย่า เป็นที่ที่ดีมาก แล้วก็อยู่กับคนที่ดีมากครับ”

“แต่ถ้าวันไหนไม่มีที่ไป กลับมาที่นี่นะลูก ถ้าย่ายังไม่ตาย ก็กลับมาได้เสมอ”

“ครับย่า ไว้ปิงจะโทรหาบ่อยๆ นะ”

“ปิง! มีคนมา!”

ผมกับย่าหันขวับไปมองช็อกที่พรวดพราดเข้ามาในห้อง ก่อนจะหันหน้ามองกันเลิ่กลั่ก ย่าผลักให้ผมกลับเข้าห้องแล้วเอ่ยปากบอก

“เดี๋ยวย่าเรียกพวกนั้นไปที่ห้องอื่น ปิงกับเพื่อนรออยู่นี่ก่อน เดี๋ยวทางสะดวกแล้วย่ามาเรียก”

“ครับ”

“ย่า! อยู่ไหนอะ!” ไม่ทันที่ย่าจะเดินออกไป เสียงข้าวฟ่างก็ดังขึ้นใกล้ๆ  ผมดึงช็อกเข้ามาหลบหลังประตู ย่ามือไวเอื้อมมือไปปิดไฟได้ทัน

“ใครมันเอามอไซค์มาจอดหน้าบ้านก็ไม่รู้ ไม่เกรงใจกันเลย แล้วนี่ย่าแกไปไหน” เสียงบ่นที่จำได้ดีดังใกล้เข้ามาจนเหมือนมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูนี่เอง

“อ้าวแม่ มาทำอะไรที่ห้องไอ้ปิงมัน” เสียงป้าดังอยู่ใกล้ๆ จนใจผมเต้นระทึก มือชุ่มเหงื่อที่จับมือช็อกอยู่สั่นระริกอย่างหวั่นๆ

“คิดถึงปิงมันน่ะสิ” ย่าตอบเบาๆ แล้วดึงประตูปิด

“จะไปคิดถึงมันทำไม ป่านนี้ไปเสียคนอยู่ที่แล้วก็ไม่รู้ ช่างหัวมันเหอะน่า เด็กไม่รักดีแบบนั้น”

ผมหันมองมือของช็อกที่บีบมือผมเบาๆ คงเพราะคำพูดของป้าที่เขากำลังได้ยิน แต่มันไม่ได้ทำร้ายผมเท่าไรนัก คงเพราะชินกับคำพูดพวกนั้นไปนานแล้ว

“แล้วนี่ไปกินอะไรกันมาล่ะ”

“โอ๊ย เลือกร้านกันอยู่เป็นชั่วโมง สองพี่น้องนี่ทะเลาะกันตลอดทาง สุดท้ายก็ไปกินร้านเดิมที่ชอบนั่นแหละ”

“เฟิร์นขึ้นห้องก่อนนะ”

“ย่า ฟ่างซื้อน้ำเต้าหู้มาฝาก”

“อ๋อ ดีจังๆ เดี๋ยวย่าไปเอาแก้วในครัว”

“ฟ่างไปเอาให้”

“ไม่เป็นไร ย่าไปเองๆ”

ผมได้ยินเสียงพูดคุยกันดังออกไปไกลๆ เดาว่าคงเดินออกไปจากตรงนี้แล้วเลยถอนใจออกมาอย่างโล่งอก ในห้องมืดมากจนผมไม่เห็นหน้าช็อก แต่มือที่จับกันอยู่ทำให้แน่ใจว่าเขายังอยู่ข้างๆ  ช็อกยังคงบีบมือผมอยู่ แต่แรงขึ้นเรื่อยๆ คงเพราะอาการตื่นเต้นมากกว่าจะปลอบใจ

“ช็อก” ผมกระซิบเรียกเขาเบาๆ

“อือ” เขาตอบกลับมาด้วยเสียงที่เบากว่า

“เราเจ็บมือ บีบแรงมากเลย” ผมกระซิบไปอีกที

“โทษๆ” เขาคลายมือออกนิดหนึ่งแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ปล่อย

เพล้ง!

ผมหันขวับไปมองเสียงของตกแตก หันไปเจอแต่ความมืด ไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไร เขยิบไปกำแพงด้านที่ติดกับห้องครัวแล้วฟังเสียงที่ดังมาจากในนั้น

“ย่าอะ ไม่ระวังเลย”

“ขอโทษๆ”

“เดี๋ยวหนูเก็บเอง ย่าออกไปรอข้างนอกเลย”

“มีอะไรกัน”

“ย่าทำแก้วแตก”

“ไปหยิบไม้กวาดมาสิ”

เสียงเงียบไปพักหนึ่ง ผมก็เห็นแสงลอดเข้ามาจากทางหน้าประตู ย่าเป็นคนเปิดประตูแล้วกระซิบเรียกให้เราออกไปจากตรงนี้

“ไปเร็วลูก ไป”

ช็อกดึงมือผมออกมาจากห้อง พุ่งตัวออกไปที่ประตูหน้าบ้านอย่างไว ป้ากับข้าวฟ่างที่อยู่ในครัวเลยไม่ทันเห็นเรา

“ปิงๆ เดี๋ยว”

“ครับย่า”

“เอานี่!” มือเหี่ยวย่นยัดบางอย่างใส่กระเป๋ากางเกงผม ก่อนจะโบกมือไล่ให้รีบไป ผมโบกมือบอกลาย่าแล้วทะยานออกประตูรั้วไปอย่างไว

“เฮ้ย” ช็อกอุทานเบาๆ แล้วคว้าตัวผมหมุนคว้างไปหลบหลังกำแพง ผมกะพริบตาปริบๆ ตอนที่ท่อนแขนช็อกล็อกร่างผมอยู่ให้อยู่ติดกับเขา ส่วนตัวเขาหันหลังชิดกำแพงด้วยท่าทางตกใจนิดๆ

“มีอะไรเหรอช็อก”

“มีผู้หญิงมองเราอยู่จากชั้นสอง”

“พี่เฟิร์น?”

ช็อกเลื่อนหน้ากลับไปมองก่อนจะหันขวับกลับมาอีกที จังหวะนั้นหน้าเขาก็ชนเข้ากับหน้าผมแบบไม่ตั้งใจ แต่ช็อกดูไม่ได้สนใจตรงนี้ คงเพราะกำลังตื่นเต้นกลัวว่าจะถูกจับได้ ท่อนแขนช็อกยังล็อกผมให้อยู่ในอกเขา ผมกลอกตาไปซ้ายทีขวาที หากว่ามือใหญ่ของเขาเลื่อนมาแตะที่อกข้างซ้าย ช็อกคงได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นผิดจังหวะเลยแหละ...ช็อกอยู่ใกล้เกินไป

“เขาเข้าไปแล้ว ไปเร็ว” ช็อกดึงมือผมแล้วก้าวเท้าเร็วๆ ออกมาจากตรงนั้นจนแทบจะกลายเป็นวิ่ง ผมรั้งแขนเขาเอาไว้ก่อน

“ช็อก เดี๋ยว”

“ฮะ?”

“เอามอไซค์มา”

“เออ ลืม!”

ท่าทางสติแตกของช็อกทำเอาผมเกือบหลุดหัวเราะแต่รีบเม้มปากกลั้นขำเอาไว้ก่อน เขาวิ่งกลับไปคว้ามอเตอร์ไซค์แล้วขับออกมาจากหน้าบ้าน สักพักหนึ่งก็ลดความเร็วลง ผมได้ยินเสียงคนข้างหน้าหัวเราะออกมา

“ตื่นเต้นฉิบหายเลย”

ผมเองก็ได้แต่หัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน จากการที่เพิ่งจะทำตัวเป็นโจร ปีนเข้าบ้านป้าตัวเอง ขโมยของของตัวเองแล้วก็หนีหัวซุกหัวซุนออกมา บ้าชะมัด ผมนึกขึ้นมาได้ว่าย่ายัดอะไรเข้ามาในกระเป๋ากางเกง ก็เลยควักออกมาดู มุมปากขยับเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นของที่ย่ายัดมาให้...เป็นแบงก์ห้าร้อยสองใบ

...

 

“ขอบคุณมากนะช็อก” ผมเอ่ยปากบอกกับช็อกตอนที่เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งผมถึงหน้าบ้านพี่อิส

“ไม่เป็นไรครับผม”

เพราะช็อกใจดีตลอดเลย ผมที่เคยเกรงใจเขามากๆ ก็เริ่มรู้สึกน้อยลง ความสัมพันธ์ขยับไปสนิทกันมากขึ้น และผมก็ไม่ค่อยเกร็งแล้วเวลาอยู่กับเขา

“ไว้เจอกันพรุ่งนี้ที่เดิม”

ผมพยักหน้ารับ ยืนส่งช็อกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกไป ก่อนกลับเข้าบ้าน ผมเห็นรถพี่ปรินซ์จอดอยู่ที่อีกฝั่งถนน วันนี้วันอาทิตย์พวกพี่เขาคงมารวมตัวกันอีกแล้ว ไม่มาทำงานก็คงมาเมาแน่นอน ผมคิดว่าเปิดประตูบ้านเข้าไปก็คงเจอ แต่ผิดคาด บ้านเงียบผิดปกติ ถ้าพวกพี่ๆ มารวมตัวกันมันน่าจะส่งเสียงอะไรมาบ้าง ผมไม่เห็นรองเท้าพวกเขาที่หน้าบ้านด้วย หันไปมองรถอีกทีให้แน่ใจว่าใช่รถพี่ปรินซ์หรือเปล่า...ก็ใช่นี่นา

“มาแล้วเหรอ!”

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งตอนที่พี่อิสที่ดูเหมือนยืนรอผมอยู่ส่งเสียงดังใส่ทันทีที่ผมก้าวเท้าเข้าบ้าน ผมได้แต่พยักหน้ารับ แววตาเกรี้ยวกราดคล้ายจะโกรธเคืองอะไรไม่รู้เขม้นมองมาที่ผมอย่างน่ากลัวแปลกๆ จนต้องเอ่ยปากถาม

“พี่อิส มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“มึงทำอะไรไว้ไม่รู้ตัวเหรอ”

ผมปลดเป้ออกจากบ่า แล้วครุ่นคิดในคำพูดของเขา จำได้ว่าไม่ได้ทำอะไรให้ไม่พอใจเลย โดนพี่อิสด่าครั้งสุดท้ายก็เมื่อเช้าตอนที่เขี่ยแคร์รอตออกจากต้มจืดที่เขาทำให้กินแค่นั้น ไม่รู้ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร

“ไม่รู้หรือไง”

“ไม่รู้ครับ” ผมตอบตามตรง

“มึงซักเสื้อกูทำไม”

“ครับ?”

พี่อิสหันไปคว้าเสื้อยืดสี่ห้าตัวที่พาดอยู่บนพนักพิงโซฟาแล้วยื่นมาตรงหน้าผม ก่อนออกไปบ้านช็อก ผมเห็นว่าเขายุ่งกับงานอยู่ก็เลยเอาผ้าไปซักให้ แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าผมทำอะไรผิดตรงไหน ผมแค่ซักเสื้อที่มันต้องซักอยู่แล้ว ผมก็แค่...

“มึงไม่รู้เหรอว่าเป็นเสื้อกู”

“รู้ครับ”

“แล้วมึงซักทำไม!”

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อพี่อิสฟาดเสื้อตัวนั้นลงพื้น

“กูถามว่าซักเสื้อกูทำไม!”

“มันใส่แล้วก็ต้องซักสิครับ”

“กูสั่งเหรอ”

“...”

“กูสั่งให้ซักหรือไง”

“เปล่าครับ”

“แล้วมึงซักทำไม”

ผมสะดุ้งอีกทีแล้วกำหมัดแน่น ความโกรธเคืองของเขาที่กำลังเป็นอยู่ดูไม่มีเหตุผล แต่ท่าทางของเขาก็ทำให้ผมกลัวขึ้นมาจริงๆ

“อะไรที่กูไม่ได้สั่ง มึงไม่ต้องทำ”

“ผมขอโทษครับ”

“ขอโทษแล้วมันช่วยอะไร! มึงซักเสื้อกูไปแล้วไง มึงซักไปแล้ว เข้าใจไหม!”

“พี่อิส!” ผมแทบลอยเพราะเขาตรงเข้ามากระชากแขนเข้าไปหา ตะคอกใส่หน้าจนต้องหลับตาแน่น

“มึงจะไปไหนก็ไปเลย” เขาปล่อยผมออกแล้วผลักไหล่จนเซ ผมเงยหน้าไปมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ

“พี่อิส”

“ไปดิ!”

“พี่อิสเป็นอะไร”

“ไป!” เสียงคำรามลั่นทำให้ผมต้องยอมถอยออกมาที่ประตูด้วยความไม่เข้าใจ ขาที่เกือบจะแข็งทื่อก้าวเท้าแทบไม่ออก ผมไม่รู้ว่าพี่อิสเป็นอะไรไปหรือผมทำอะไรผิด

ผมหันกลับไปมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ในจังหวะนั้นไฟในบ้านก็ดับพรึบ ปรากฏให้เห็นแสงไฟจากเทียนที่ปักอยู่บนก้อนเค้กซึ่งถูกพี่ปรินซ์ถือออกมา

 

“แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู้ยู แฮปปี้เบิร์ทเดย์ ทู้ยู...”

 

เสียงเพลงวันเกิดดังขึ้นในขณะเดียวกัน ผมหันมองไปยังเค้กก้อนใหญ่ในมือพี่ปรินซ์ พี่โอมกับพี่ปอนด์ยืนร้องเพลงอยู่ข้างๆ  ก่อนพี่อิสจะเดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้า...วันนี้วันเกิดผม เพลงนั้นถูกร้องให้ผม ชื่อที่เขียนอยู่บนเค้กก็เป็นชื่อของผม เสียงเพลงท่อนสุดท้ายจบลงพร้อมเสียงปรบมือ พี่อิสเอ่ยปากบอกผมที่ยังคงยืนนิ่ง

“เป่าเทียนดิ”

พี่อิสแม่ง...

“หลินปิง”

เขาเรียกชื่อผมซ้ำตอนที่ยังจ้องหน้าเขาอยู่ ก่อนที่ผมจะทรุดฮวบลงไปกับพื้นพร้อมกับบ่อน้ำตาที่แตกกระจายอย่างกลั้นไม่อยู่

“อ้าวเฮ้ย!”

“ปิง ร้องไห้ทำไม!”

“ตกใจอะ! ฮือ!”

“ฉิบหาย มึงไปเปิดไฟดิ!”

ผมไม่ได้ร้องไห้เพราะแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดที่พวกเขาทำให้เลย แต่ตกใจที่พี่อิสไล่ออกจากบ้าน เล่นใหญ่จนผมเกือบช็อกตาย สั่นตั้งแต่ปาเสื้อลงพื้นแล้ว ผมเกลียดพี่อิส!

“มึงจะร้องทำไมเนี่ย!”

“พี่อิสเสียงดังใส่ผมอะ! ฮือ!”

“เฮ้ย ไม่ร้องดิ กูล้อเล่น มันเป็นแผนไง”

“พี่อิสเล่นใหญ่ไง น้องมันเลยตกใจ”

“สัด! ก็พวกมึงสั่งกูไม่ใช่หรือไง คนคิดแผนก็พวกมึงอะ สันดาน! มึงช่วยกันปลอบน้องเลย”

“โอ๋ๆ ปิงไม่ร้องนะ พี่อิสเขาล้อเล่นนะ”

“เป่าเทียนเร็ว เทียนละลายหมดแล้ว มาเร็วๆ โอ๋เอ๋ๆ”

“ไม่ร้องนะคนเก่ง”

คำปลอบโยนของพวกพี่ๆ ทั้งสามคนทำให้ผมใจเย็นลงมาหน่อย ขำตรงที่พวกเขาปลอบเหมือนผมเป็นเด็กเล็ก หลอกล่อให้ผมหยุดร้องไห้ ผมเงยหน้าขึ้นมามองเทียนบนเค้กที่ละลายไปครึ่งแท่งแล้ว

“มึงดูสภาพมัน กูเลยดูเหี้ยมากจริงๆ” พี่อิสพูดเบาๆ แล้วยกมือปาดน้ำหูน้ำตาที่ไหลนองหน้าให้

“ผมนึกว่าพี่อิสขาดยาแล้วคลั่งซะอีก”

“ไอ้บ้า กูไม่ได้ติดยา”

“ถึงสภาพจะเหมือนก็เหอะ”

“สัดโอม เดี๋ยวกูถีบ”

“อย่าตีกันๆ ปิงเป่าเทียนเร็ว ละลายแล้ว”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ สูดน้ำมูกที่กำลังไหลแล้วตั้งใจจะเป่าเทียน

“อธิษฐานด้วย”

“ขอให้พี่อิสซื้อพิซซ่าให้ผมกินสักที”

“คำอธิษฐานมึงจำเป็นต้องเอากูเข้าไปเกี่ยวด้วยไหม”

“ขอพิซซ่าถาดใหญ่เลย” ผมพูดแค่นั้นแล้วเป่าเทียนตัวเลขบนเค้กนั่นจนดับ วันนี้เป็นวันเกิดผมแต่ไม่เคยได้นึกถึง ผมเกิดวันเดียวกับข้าวฟ่าง ทุกคนในบ้านรู้ดีและจำได้ แต่ในทุกๆ ปีก็จะสนใจแต่ข้าวฟ่างมากกว่าอยู่แล้ว ความสำคัญของวันเกิดผมก็ลดลงไปเรื่อยๆ จนไม่มีความหมายอะไรเลย ผมไม่ได้เห็นเค้กวันเกิดตัวเองมานานมาก ครั้งสุดท้ายที่มีเค้กวันเกิดก็ยังจำไม่ได้เลย ผมไม่รู้ว่าพี่เขารู้ได้ยังไงว่าวันนี้เป็นวันเกิดผม เทียนตัวเลขบนเค้กที่บ่งบอกอายุในปีนี้ของผมทำให้ยิ้มออกมา...ผมโตขึ้นอีกปีแล้ว

“ขอบคุณนะครับ”

“ไปกินเค้กกันดีกว่า” พี่ปรินซ์เดินนำไปวางเค้กลงบนโต๊ะกลางโซฟา พี่โอมกับพี่ปอนด์เข้าไปในครัว ขนเครื่องดื่ม ขนม และจานชามออกมา ผมหันไปมองพี่อิสที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ

“พี่อิสรู้วันเกิดผมได้ไง”

“ก็วันที่กูดูบัตรประชาชนมึงไง”

ผมคิดไม่ถึงว่าไม่กี่วินาทีที่เขาแกล้งเอาบัตรประชาชนผมไปดูในวันนั้น นอกจากจะจำชื่อนามสกุลจริงผมได้ ยังจำวันเกิดผมได้อีก

“พี่จำได้ด้วย?”

“กูใส่ใจ”

“ขอบคุณนะครับ พี่...” ผมชะงักกึกเมื่อพี่อิสดึงผมเข้าไปกอด กะพริบตาปริบๆ ตัวแข็งทื่อแนบอยู่กับอกเขา

“สุขสันต์วันเกิดนะปิง” เสียงทุ้มต่ำดังเบาๆ ใกล้แค่ข้างหู

“...”

“มีความสุขมากๆ แล้วก็ใช้ชีวิตให้เป็นอิสระ”

“...”

“อยู่กับพี่ อย่าไปไหน พี่ไม่มีวันไล่ปิงไปไหน”

ความรู้สึกผมสะดุดกึกกับประโยคนี้ของพี่อิส นอกจากมันจะเป็นประโยคที่ทำให้จิตใจสั่นไหว พี่อิสยังแทนตัวเองว่า พี่ อย่างที่เขาไม่ค่อยพูด เสียงเบาๆ ดังข้างหู กับตัวเราที่โอบกอดกันเอาไว้ ทำให้หยดน้ำตาเคลื่อนไหลผ่านแก้มผมไปอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ร้องเพราะตกใจ แต่ซาบซึ้งในสิ่งที่เขาทำให้ ผมรู้จักกับพี่อิสได้ไม่นาน แต่สิ่งที่ได้รับจากเขามันเติมเต็มสิ่งที่ผมขาดหายมาตลอดชีวิตได้แทบทุกเรื่อง

“ขอบคุณครับพี่อิส”

“แต่วันหลังซักเสื้อได้นะ ไม่สั่งก็ซักได้”

ผมหลุดหัวเราะออกมาก่อนพี่อิสคลายกอดผมออก

“พี่น่าจะคิดเหตุผลที่ดีกว่านี้มาดุผม แค่ซักเสื้อแล้วโดนไล่ออกจากบ้านมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย”

“ก็กูคิดไม่ออก มึงไม่เคยทำอะไรให้กูไม่พอใจเลย”

“...”

“มึงเป็นเด็กดีเกินไป”

ผมได้แต่ยิ้มบางๆ อ้าแขนต่อหน้าพี่อิสเป็นเชิงขอกอดอีกครั้ง พี่อิสตอบรับอ้อมกอดของผมในชั่วขณะนั้น ยกมือเคาะหัวผมเบาๆ อย่างที่ชอบทำก่อนจะชี้ให้เดินไปที่โซฟาหน้าทีวี

ผมก้าวเท้าไปได้ก้าวเดียวก็ต้องสะดุดกึกอีกทีเพราะพี่ปรินซ์ที่เข้ามากอดผม

“สุขสันต์วันเกิดนะปิง”

“ขอบคุณครับพี่ปรินซ์”

เขาคลายกอดออก แล้วมองหน้าผม

“แค่อยากทำแบบที่พี่อิสทำอะ”

“ทำด้วยๆ”

พี่โอมกับพี่ปอนด์พูดพร้อมกันแล้วตรงเข้ามากอดผมบ้าง

“สุขสันต์วันเกิดนะปิง!”

“ขอบคุณครับ”

“กอดกันๆ!” เราทั้งสี่คนกอดกันกลมแล้ววิ่งไปรอบๆ ส่งเสียงโหวกเหวกไปด้วย ผมหลุดหัวเราะกับการที่พี่ๆ ทุกคนพร้อมที่จะทำเรื่องราวบ้าๆ บอๆ ไปด้วยกัน ก่อนที่เสียงดังของเจ้าของบ้านจะตะโกนขึ้นมา

“เฮ้ย! ไร้สาระพอแล้ว มาตัดเค้ก กูหิว!”

เราทั้งหมดรีบลงไปนั่งเรียบร้อย ผมกำลังจะตัดเค้กแต่ถูกพี่โอมเบรกเอาไว้ก่อน

“ถ่ายรูปก่อน” เขาว่าแล้วยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป กดชัตเตอร์ไปสี่ห้าที ผมฉีกยิ้มกว้างได้มากที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ ไม่รู้ต้องยิ้มกว้างแค่ไหนถึงจะอธิบายความสุขที่ผมกำลังมีอยู่ในตอนนี้ได้

“ปิงมีเฟซบุ๊กยัง”

“ยังเลยครับ”

“ไม่ต้องมีหรอก เดี๋ยวก็เอาแต่คุยกับคนอื่นอีก กูไม่เห็นว่าจะจำเป็น” พี่อิสบ่นขณะกำลังยัดเค้กใส่ปาก

“ผมอยากมีอะ” ผมหันไปหาพี่โอม

“กูบอกไม่ต้องมีไง”

“สมัครดิ”

“ไม่ต้องสมัคร”

“ต้องทำยังไงเหรอครับ”

“กูพูดนี่ได้ฟังไหม”

“ลุงอย่ายุ่งได้ไหม”

“ลุงเตี่ยมึงสิ กูบอกไม่ต้องสมัครไง ไอ้หลินปิง!” เสียงของพี่อิสลอยผ่านหูผมกับพี่โอมไปอย่างไร้ความหมาย พี่โอมเขยิบเข้ามาใกล้แล้วหยิบมือถือผมกดนั่นกดนี่ให้ ใช้เวลาไม่นานผมก็มีบัญชีแอปพลิเคชันนั้นเรียบร้อย พี่โอมกดเพิ่มเพื่อนทุกคนในที่นี้ให้ผมเสร็จสรรพ

“พี่อิส รับแอดน้องดิ”

“กูไม่รับ”

ผมหันไปมองเขาแล้วกะพริบตาปริบๆ ทำหน้าให้เหมือนบังเอิญที่สุดเท่าที่จะทำได้

“สัด แพนด้า หัดอ้อนนะมึง เอาไปรับเองเลยไป!”

ผมรับมือถือที่พี่อิสโยนให้แล้วส่งให้พี่โอมจัดการ ก่อนการแจ้งเตือนจะเด้งขึ้นที่หน้าจอมือถือผม

 

อิสระ เสรีไพศาล เป็นเพื่อนของคุณแล้ว

 

“พี่มีของขวัญให้ด้วย” พี่ปรินซ์พูดขึ้น ก่อนจะขยับมานั่งข้างๆ ผม ผมตาวาวตอนที่มองเห็นกล่องของขวัญ แค่เซอร์ไพรส์วันเกิดก็ขอบคุณมากแล้ว แต่นี่มีของขวัญในมือคนละกล่องด้วย พี่ปรินซ์ยื่นให้ผมเป็นคนแรก

“นี่ของพี่ครับ”

“ขอบคุณครับ”

“อันนี้ของพี่ ปิงต้องชอบแน่ๆ”

“ขอบคุณครับ” ผมรับของขวัญมาจากพี่โอม

“ปิงต้องชอบของพี่ที่สุด” พี่ปอนด์ยื่นให้ผมอีกคน ก่อนทุกสายตาจะหันไปรวมกันที่พี่อิส คนถูกมองกำลังเคี้ยวเค้กตุ้ยๆ เต็มปาก

“พี่อิสไม่มีของขวัญให้ปิงเหรอ”

“เค้กนี่ตังค์กู”

“อะไรวะพี่ เค้กกับของขวัญมันไม่เหมือนกันสักหน่อย”

“มึงเอามือถือกูมานี่ดิ”

“โทรหาใครอะ” พี่โอมถามพี่อิสที่รับโทรศัพท์ไปจากเขา จิ้มมือถือสองสามทีแล้วเอาแนบหู

“กูจะทำให้คำอธิษฐานปิงเป็นจริงไง”

หือ?

“สั่งพิซซ่าหน่อยครับ”

“โอ้เย่!” ผมชูมือขึ้นอย่างดีใจเมื่อได้ยินพี่อิสพูดอย่างนั้น แล้วรีบขยับเข้าไปหาพี่อิส ไม่คิดว่าคำอธิษฐานก่อนเป่าเค้กจะส่งผลเร็วขนาดนี้ ผมชอบวันเกิดจัง ปีละครั้งนี่น้อยไปนะ เราน่าจะมีวันเกิดกันทุกเดือนเลย

ใช้เวลาไม่นานพิซซ่าที่สั่งก็มาส่ง ผมรีบลุกไปเปิดประตูก่อนที่พี่อิสลุกตามมาจ่ายเงิน เปิดพิซซ่าถาดใหญ่กับของกินอีกสี่ห้าอย่างจากร้านเดียวกัน ดวงตาของผมเป็นประกายตอนเห็นของกินพวกนั้น

“คุณอิสระใจป๋ามากครับวันนี้”

“พ่อบุญทุ่ม”

“ใจดีผิดสันดาน”

พี่อิสฟาดมือใส่กบาลพวกพี่คนละทีแล้วเดินมานั่งข้างๆ ผม ผมยกนิ้วโป้งสองข้างให้ด้วยความชื่นชม

“พี่อิสโคตรเท่เลย”

“วันนี้เท่านั้นแหละ! กูหมดตัวแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้ก็แดกมาม่าวนไป!”

“งื้อ!”

ปาร์ตี้วันเกิดเล็กๆ ของผมล่วงเลยไปจนถึงเที่ยงคืน พี่อิสไล่ผมไปนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน ส่วนพวกเขาก็นั่งดื่มกันต่ออย่างเคย ผมอาบน้ำเสร็จก็ทิ้งตัวลงบนที่นอน มุมปากยังยกขึ้นยิ้มไม่หุบ มือเลื่อนไปหยิบของขวัญของพวกพี่มาแกะดู พี่ปรินซ์ให้เสื้อคลุมแบบมีฮู้ดเหมือนอย่างที่ผมชอบใส่ พี่โอมให้เสื้อยืดลายหมีแพนด้า พี่ปอนด์ให้เสื้อยืดลายเดียวกับพี่โอมแต่คนละสี เหมือนตั้งใจจะกวนผมอยู่หน่อยๆ แต่ผมก็ชอบทั้งสองสีเลย ส่วนพี่อิสให้อะไรมามากมาย...รวมถึงความสุขจนเต็มอิ่มไปทั้งหัวใจเลย

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 13-02-2017 00:19:13
กรี๊ดดังมากพี่อิฐ คือตอนแรกตกใจหนักมาก คิดไปไกล เสื้อพี่อิฐใครให้มาวะ สักพัก ร้องเพลงวันเกิด สักพักพี่อิฐมากอด บอกว่าไม่ไล่ไปไหน ซักเสื้อให้ได้นะ คือ ดูแลพี่ได้นะ ไม่บอกก็ดูแลได้นะ แบบนี้ชะความหมาย ฟิน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 13-02-2017 00:39:32
พี่อิสทำเราละลายยยย

ฮือออ คนอะไรหยาบคายก็ปานนั้น บ้าบอ เป็นลุงแก่ ก็ปานนั้น

แต่ทำไม
เท่จังคะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 13-02-2017 00:46:54
อิพี่อิสจะเล่นใหญ่ไปไหน อ่านตอนแรกตกใจมาก
แทบจะสะดุ้งตามน้อง นึกว่าผีเข้า แต่ชอบตอนที่เข้ามากอดมากเลย
รู้ตัวมั้ยอะพี่อิสว่าตัวเองแทบจะกลายเป็นโลกทั้งใบของน้องมันไปละนะ
อย่ามัวมาเรื่อยๆเรียงๆสิ ทำอะไรซักอย่างได้แล้วววว

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-02-2017 00:51:24
ซึ้งอีกแล้วค่ะพี่อิส ปิงมีความสุขมาก ร่าเริงมาก ยิ้มเกือบตลอดเวลาเลย
พักนี้ป๋าดูขยันทำงานเนอะ ดูดีมีอนาคตตั้งแต่มีคนมาให้ดูแล
เล่นใหญ่มากตอนเสื้อ ตกใจ คิดว่าพี่สิงอีพี่ ที่ไหนได้ โฮยยยย จะบ้าตาย
น้องปิงมีความสุขมากๆ นะลูกนะ มีทั้งพี่พ่อลุง ในคนเดียวกัน รักพี่อิสน้า
คุณย่าน่ารักจัง ส่วนช็อก ใจเต้นไรนี่จอข้ามนะคะ พอดีคนอ่าน #ทีมพี่อิส

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 13-02-2017 00:58:16
เฮียอิสหล่อมากตอนนี้  o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 13-02-2017 01:44:52
พี่อิสทำเราน้ำตาไหลเลย คิดว่าจะไล่น้องปิงจริงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 13-02-2017 02:21:55
โอยยยยอิพี่อิสตอนแรกคือมโนไปไกลแล้วว
เสื้อใคร อะไรยังไง ทำไมซักไม่ได้ ทำไมโมโหน้องขนาดนี้
ด่าไปยันแบบไหนบอกจะไม่ไล่น้องไปไหนไง นี่ไล่เอาไล่เอา
สุดท้ายคือเซอร์ไพรซ์วันเกิด พร้อมกลับโหมดละมุนสุดๆ
โอยยยยอมมม ชอบเวอร์ละมุนของคุณพี่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 13-02-2017 03:15:45
ผมรักพี่... ประโยคนี้ใช่ไหมที่พูดออกมาไม่ได้ ตอนนี้ดีงามมาก ขอบคุณคับ^o^
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 13-02-2017 05:55:18
ขำ พี่อิส......ทำเหี้ยม ดุดัน ไปก็เท่านั้น  :hao3:
เขารู้กันหมดละ ว่าพี่อิสใจดี
แผนเซอร์ไพรซ์ นี่ทำเอาปิงน้ำตาแตก
แตพี่อิสกอดปิงแล้วพูดซึ้งมาก
"ใช้ชีวิตอย่างอิสระ......อยู่กับพี่ อย่าไปไหน พี่ไม่มีวันไล่ปิงไปไหน"
โอ๊ย......น่ารัก อบอุ่น ฟินนนนน
ไม่มีแรงยืนเลย เล่นใหญ่ากปายยยย
ช็อก แค่มีคนชั้นบนมองมาถึงกับกอดปิงเลยนะ  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 13-02-2017 05:57:23
คุณอิสระทำเราน้ำตาไหลอีกแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Bronc ที่ 13-02-2017 06:44:37
พี่อิส เท่านั้น ขอเถอะนะ ให้หลินปิงกับพี่อิสรักกันและได้อยู่ด้วยกันตลอดๆ ไม่มีดราม่า
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 13-02-2017 07:05:01
พีอิสบทน้อยไปสองตอน
กลับมามีบทนี่เล่นใหญ่เลย จ้าง100เล่น 500
ว่าแต่ โครตฮา ไล่ออกจากบ้านเพราะซักเสื้อให้ 555
ปล. มาทวงนิยายอีกละ อิๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-02-2017 09:11:36
อื้อหือ พี่อิสคนเท่
น่ากลัวตอนนี้สุขสุด ตอนหน้าดราม่าจะมาเคาะประตู
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 13-02-2017 09:53:01
พี่อิสใจหล่อสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 13-02-2017 10:21:07
ซึ้งอ่ะ  :mew6:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 13-02-2017 10:33:58
ตอนที่พี่อิสไล่น้องออกจากบ้่านนี่ตกใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 13-02-2017 10:35:05
ตกใจอะตอนพี่อิสไล่น้อง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 13-02-2017 10:52:00
อิพี่อิสร้ายมากน้ำตาชั้นไหลเลย เล่นใหญ่จริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 13-02-2017 12:32:08
พี่อิสเล่นใหญ่เกิ๊นนนนน เหมือนคนขาดยาจริงด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-02-2017 14:19:22
นึกว่าพี่อิสจะไล่น้องจริงๆ เราดราม่าไปพร้อมน้อง ร้องไห้เลยยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 13-02-2017 14:27:19
ฮือออ ชอบบบบ
ช็อกก็ดี แต่ว่าชอบลุงอิสมากๆ
ดีใจที่ปิงได้มาเจอกับพี่อิสนะ
ปิงรักพี่อิสแล้วแน่ๆ
แล้วพี่อิสอะ  เราไม่แน่ใจเลย
ดูเหมือนจะมากกว่าน้อง แต่ยังติดยัยเนย
อยากให้ทั้งสองรักกัน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: thepoe ที่ 13-02-2017 15:18:34
พี่อิสเล่นใหญ่มากกกกกกกกก ใหญ่จนนี่เกือบด่าแล้ววว
มาว่าน้องปิงเราทำไมแค่ซักเสื้อ เกือบละ อีกนิดเดียวจะช็อกปิงละ
555555555555 ดีนะเค้กมาตัดหน้าซะก่อน
รู้สึกตัวละครห้าคนนี้ทำเราอบอุ่นหัวใจมากเลย
อิอิ มาต่อไวๆน้าค้าาืเปฌนกลจให้น้าา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 13-02-2017 20:16:53
ตอนแรกหัวใจตกไปอยู่ตาตุ่มเลย โหยยยย ถ้าพี่อิสไล่น้องจริงนี่เกลียดเลยนะ เกลียดดดดด แบนนนนนนนน
สงสารน้องมาก ผ่านชีวิตตกระกำลำบากสุดอะไรสุด โหคือแบบ เกลียดบ้านป้านั่นมากอ่ะ ลูกพี่ลูกน้องนั่นด้วย
อะไรจะนิสัยเลวขนาดนี้ ไม่เข้าใจจริงๆ มีแค่ย่าคนเดียวที่รักน้อง แง ..
ชอบเวลาที่พี่อิสบอกว่าต่อไปขอให้น้องมีอิสระอ่ะ แบบ ซึ้งตาม T ____ T

จะติดตามต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ
ขอให้หมอกควันที่บดบังความรักของทั้งคู่อยู่จางหายไปไวๆนะคะ <3
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 13-02-2017 22:14:06
พี่อิสดีมากอีกละ
คะแนนกลับมานำโด่งเลย ฮือออ
ย่ายังเป็นย่า แต่ช็อกเริ่มรุกเยอะนะ
พี่อิสอย่ายอมมมมม
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 17] 12-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 13-02-2017 22:45:20
พี่อิสเล่นใหญ่อะไรเบอร์นั้น
น้องก็ตกใจสิ
แต่ตอนนี้พี่อิสน่ารักนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 13-02-2017 23:20:09
ตอนที่ 18

ไม่ชัดเจน

 

เช้าของวันถัดมา ผมตื่นมาเตรียมตัวไปโรงเรียน เดินออกจากห้องเห็นซอมบี้สามตัวนั่งเรียงกันอยู่บนโซฟาในมือถือนมเปรี้ยวคนละขวด

“ตื่นแล้วเหรอปิง”

“ครับ” ผมพยักหน้ารับพี่ปรินซ์ที่หันมาทักทาย พวกเขายังอยู่ในเสื้อผ้าชุดเมื่อคืน ดูจากสภาพแล้วเมื่อคืนคงดื่มกันหนักไม่ใช่เล่น และที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่น่าจะเพราะตื่นเช้า แต่เดาว่ายังไม่ได้นอนมากกว่า ผมเดินเข้าไปหาพี่อิสที่อยู่ในครัวเหมือนทุกวัน นี่คือหัวหน้าซอมบี้ ในสภาพหัวฟูยุ่งเหยิง เปลือยท่อนบนแล้วใส่กางเกงบอลตัวเดียวยืนทำกับข้าวอยู่หน้าเตา

“พี่อิส เมามากก็ไม่ต้องลุกมาทำกับข้าวให้ก็ได้นะ”

“ใครเมา กูไม่ได้เมา!” พี่อิสหันมาเถียงก่อนจะหยิบจานไปตักอาหารในกระทะมาให้ วันนี้มีข้าวผัดผักสามสีอีกแล้ว พอรู้ว่าผมไม่ชอบกินผักเขาก็พยายามยัดเยียดผักเข้ามาในทุกเมนูที่ทำ พี่อิสจะสับผักละเอียดจนเขี่ยออกไม่ได้เลยจำเป็นต้องกินเข้าไป

“เอาไข่ดาวปะ”

“ไม่เอาครับ”

“ต้องเอา”

“แล้วพี่จะถามเพื่อ?”

“กินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ เคยได้ยินไหม กินนมเติบใหญ่ กินไข่แข็งแรง” เขาว่าแล้วหยิบกระทะอีกใบมาตั้งไฟ เทน้ำมันแล้วตอกไข่ใส่ลงไป พักหนึ่งก็ได้ไข่ดาวฟูๆ น้ำมันเยิ้มๆ วางลงบนจานข้าวผัดของผม ไข่ดาวพี่อิสไม่เหมือนไข่ดาวบ้านอื่น เพราะเขาทำไข่แดงแตกทุกทีที่ตอกลงกระทะ หน้าตาไข่ดาวมันเลยออกมาแปลกไม่เหมือนใคร คงเป็นดาวดวงแปลกๆ ที่มีดวงเดียวในจักรวาล

“พี่อิสไม่กินข้าวเหรอ” ผมถาม ขณะที่เขาเอากระทะไปวางในอ่างล้างจานแล้วเดินกลับมานั่งตรงข้ามผม

“แดกตอนนี้กูอ้วกแตกแน่นอน”

“ไหนไม่เมา”

“รีบกินเข้า เดี๋ยวสาย” เขาเปลี่ยนเรื่องแล้วยกมือเท้าคางนั่งมองผมกิน ผมเหลือบตาขึ้นไปมองสายตาคู่นั้นที่จ้องอยู่

“พี่อิส จ้องแบบนี้ไม่กล้ากินนะ”

“กินเหอะ กูแค่ดูเฉยๆ”

“ดูอะไรครับ”

“หลินปิงอายุสิบแปดแล้ว น่ารักขึ้น”

“ฮึ?”

“เฮ้อ แฮงค์ฉิบหาย” เขาเปลี่ยนเรื่องอีกทีแล้วลุกพรวดขึ้นเดินออกไปจากครัว เดินไปบ่นพวกที่อยู่ข้างนอกเสียงดังลั่นบ้าน

“พวกมึงทำไมยังไม่กลับอีก มานั่งหน้าสลอนกันอยู่ได้ กลับไปได้แล้วไป รกบ้าน!”

ผมหลุดยิ้มออกมาแล้วตักข้าวผัดกินต่อ เฮ้อ...วันนี้ข้าวผัดหวานกว่าวันก่อนอีกนะลุง

...

 

วันนี้ผมก็มาโรงเรียนพร้อมช็อกเหมือนเคย แถมโดนลากมานั่งในโรงอาหารเป็นเพื่อนเขาอีก ผมที่กินข้าวมาแล้วเลยซื้อน้ำมานั่งกินเป็นเพื่อนเขา

“ปิง เมื่อคืนทำไมไม่อ่านไลน์เราอะ”

“ฮะ? ไลน์มาเหรอ” ผมหยิบมือถือขึ้นมากดดูไลน์ เมื่อคืนแกะของขวัญเสร็จก็ปลื้มอกปลื้มใจนอนหลับไปตอนไหนไม่รู้ไม่ทันได้ดูมือถือเลย

“ก็ส่งเพลงไปให้ฟังไง”

“โทษที เมื่อคืนมีปาร์ตี้กับพวกพี่อิสนิดหน่อย เราก็เลยไม่ได้หยิบมือถือเลย”

“ปาร์ตี้อะไรเหรอ”

“เมื่อคืนวันเกิดเรา”

“อ้าว จริงดิ ทำไมไม่บอกอะ”

“ตอนแรกกะว่าจะทำเป็นลืมๆ ไป แต่พี่อิสเขาจำได้ก็เลยกินเค้กกัน” ผมพูดแล้วยิ้มบางๆ ให้ช็อก เขาวางช้อนลงแล้วมองหน้าผม เชิดปากขึ้นนิดๆ เหมือนงอนกัน

“อยู่กับเราทั้งวันไม่บอกนะ”

“เราขอโทษ แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้สำคัญอะไร”

“งั้นปิงอยากได้อะไรอะ เราซื้อให้”

“เฮ้ย ไม่เป็นไร”

“ไม่ได้ดิ วันเกิดเราปิงยังให้ของขวัญเลย”

“พวงกุญแจเก่าๆ อะนะ”

“เออน่า อยากได้อะไรบอกมา เร็วๆ ไม่งั้นเราจะโกรธต่อ”

ผมนิ่งคิด ไม่รู้ว่าตัวเองอยากได้อะไร อะไรที่พอจะขอเขาได้โดยที่ไม่ลำบากเกินไป ทั้งที่ความจริงไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องมาให้ของขวัญผมเลยด้วยซ้ำ

“ไม่อยากได้อะไรเลยเหรอ”

“ช็อกยิ้มให้เราก็พอ”

“เราก็ยิ้มให้ทุกวันอยู่แล้วไง อย่าเอามุกเราไปใช้ เอาอย่างอื่นๆ เร็วๆ”

โธ่ ก็คนมันไม่มีอะไรอยากได้ นอกจาก...

ความคิดผมสะดุดนิดหนึ่งเมื่อนึกไปถึงสิ่งหนึ่ง ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดเข้าไลน์ช็อก เลื่อนไปดูสิ่งที่เราคุยกันวันก่อนๆ แล้วโชว์หน้าจอให้เขาดู

“เราอยากได้อันนี้”

“อยากให้เราเปลี่ยนหน้าจอมือถือให้เหรอ”

“ไม่ใช่! สติกเกอร์ตัวนี้อะ ที่มันมีเสียงด้วย”

“แค่เนี้ย!”

“อื้อ เราอยากได้แต่ทำไม่เป็นอะ”

“โอเค งั้นเราซื้ออันนี้ให้” ช็อกหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาแล้วจิ้มนั่นจิ้มนี่สองสามที พักเดียวไลน์ผมก็เด้ง ช็อกกดส่งของขวัญมาเป็นสติกเกอร์ตัวที่ผมชอบ

“โอ้เย่! ได้แล้ว ขอบคุณนะช็อก”

“อื้อ” เขาตอบสั้นๆ ตายังมองอยู่ที่หน้าจอมือถือ จังหวะเดียวกันนั้นก็มีข้อความไลน์เด้งเข้ามาอีก ช็อกส่งสติกเกอร์มาเป็นของขวัญอีกตัว

“เฮ้ย ช็อก ส่งมาอีกทำไม”

“ก็มันน่ารัก”

“พอแล้ว เกรงใจ”

“สุขสันต์วันเกิดนะปิง”

“ขอบคุณมาก”

“โตแล้วนะปิง” ช็อกว่าแล้วยกมือเคาะหัวผมเบาๆ  ผมได้แต่ยิ้มรับความใจดีของเขาด้วยความคิดบางอย่างในใจ ขณะที่ฝ่ามือของเขายังวางอยู่บนหัวจนผมต้องโยกหัวออกมาจากมือของเขาเอง...ช็อกใจดีเกินไปแล้ว

 

...

 

ในคาบที่สองของวันนี้เป็นวิชาสังคม แต่ครูไม่เข้ามาสอนเพราะติดประชุมกับทางหมวด ก็เลยกลายเป็นคาบว่าง นักเรียนในห้องเสียงดังเป็นปกติ บางคนก็จับกลุ่มคุยกัน บางคนลอกการบ้าน พวกไอ้ยิมหลังห้องก็สุมหัวเล่นเกมมือถือ ส่วนเมธีที่นั่งอยู่ข้างๆ นั่งอ่านหนังสือวิชาเคมีล่วงหน้า ผมไม่มีอะไรทำเลยฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะ ก่อนจะคิดขึ้นมาได้ว่าผมมีบางสิ่งที่ทำฆ่าเวลาได้เหมือนคนอื่นเขาอย่างแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ก็เลยควักมือถือขึ้นมากดเข้าแอปนั้นที่พี่โอมสมัครให้ อยากรู้ว่ามันดียังไง ผมเลื่อนหน้าจอไปๆ มาๆ เพราะจำนวนเพื่อนมีแค่พวกพี่ๆ ก็เลยเห็นแต่เรื่องราวของพวกพี่เขา ผมไม่เห็นของพี่อิสเลยกดเข้าไปดูในชื่อของเขา รูปพี่อิสที่ตั้งเป็นรูปประจำตัวเห็นแค่ข้างหลังแต่ก็รู้ว่าเป็นเขา เลื่อนลงไปดูไทม์ไลน์ผมก็นิ่งไปนิดหนึ่ง เพราะมีแต่รูปที่ถูกแท็กมาจากเฟซบุ๊กของพี่เนย ยิ่งไล่ลงไปเรื่อยๆ ก็มีแต่ภาพคู่กับพี่เนย ผมเลื่อนผ่านๆ แล้วกดออก ในหน้าแรกของแอปพลิเคชันมีประโยคหนึ่งที่ผมหยุดมองอยู่นาน

 

คุณกำลังคิดอะไรอยู่

 

ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้คิดอะไรไม่ค่อยออกเลย

“ปิง เป็นไรวะ”

“ฮะ?” ผมหันขวับไปหาเมธี

“เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนคนจะตาย ป่วยอีกแล้วเหรอ”

“เปล่า”

“มึงก็อย่าเพิ่งตายนะ ให้กูเป็นหมอก่อน จะได้รักษาเพื่อน”

“ขอบคุณมึงมากนะเมธี แต่กูขอไม่ป่วยดีกว่า” ผมพูดขำๆ แล้วตบไหล่เพื่อนเบาๆ

“เออ แล้วพรุ่งนี้สอบดนตรีแล้วอะ มึงซ้อมมาดียัง”

“ดียิ่งกว่าดี” ผมพูดอย่างมั่นใจ

“จริงอะ อย่าให้กูได้ยินนะว่าเล่นบอด”

“กูไม่เล่นกีตาร์แล้ว เปลี่ยนไปเล่นคีย์บอร์ด ง่ายกว่าเยอะเลย”

“อ้าวเหรอ ใครสอนให้อะ หรือเล่นเอง?”

“ช็อกสอน”

“ไอ้ช็อกอะนะ”

“อื้อ”

“มึงกับมันนี่ยังไง ตกลงไม่นกเหรอ” มันว่าแล้วหรี่ตามอง

“มานกมาหนูอะไรเล่า ไม่มีอะไร เป็นเพื่อนกัน” ผมพูดปัดๆ เมธีจึงหันกลับไปอ่านหนังสือต่อ ผมเก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้วนั่งเฉยๆ ในระหว่างที่ยังไม่หมดเวลา คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หนึ่งในความคิดนั้นทำให้ผมเผลอถอนใจออกมาเบาๆ...มีเรื่องกวนใจผมอยู่เล็กน้อย


...

 

ผมตรงกลับบ้านทันทีหลังเลิกงาน กลับมาถึงบ้านก็เห็นพี่อิสนั่งอยู่หน้าจอคอมเหมือนเคย ผมปลดเป้จากบ่าแล้วเดินเข้าไปหา

“พี่อิส”

“เออ มาแล้วเหรอ ไปกินข้าวดิ”

“ครับ มีขนมปังมาด้วย พี่อิสกินเปล่า” ผมเดินกลับไปหยิบขนมปังในกระเป๋าที่พี่พิงค์ให้มาส่งให้พี่อิส

“วางไว้ก่อน”

“ช่วงนี้งานเยอะเหรอ”

“แน่นอน กูเท่ไง”

“มันเกี่ยวกันไหม”

เขาแค่ยิ้มนิดๆ ตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมขณะที่มือกำลังร่างภาพด้วยเมาส์ปากกา

“พี่อิสนอนเช้าทุกวันเลย พักบ้างสิครับ”

“กูนอนกลางวัน ตื่นกลางคืนเว้ย”

“มันเสียสุขภาพนะ”

เขาละงานในมือแล้วหันมาหาผม

“เป็นห่วงเหรอ”

“เห็นแก่แล้วไง”

โป๊ก!

“โอ๊ย!” ผมร้องลั่นเมื่อกำปั้นนั้นเขกเข้ามากลางหัวพอดี

“ทุบให้กบาลแยกเลย มาว่ากูแก่ ไปแดกข้าวไป๊!”

“ครับๆ” ผมรีบวิ่งเข้ามาในครัว แล้วหันกลับไปมองเขาที่กลับไปจดจ่ออยู่หน้าจอคอมเหมือนเดิม ผมนั่งลงกินข้าวที่โต๊ะ ในระหว่างนั้นหน้าจอมือถือที่กำลังแสดงการแจ้งเตือนก็เรียกความสนใจจากผมไป เป็นข้อความจากช็อก

 

“ถึงบ้านยัง”

 

ผมพิมพ์ตอบกลับไป ความเร็วในการจิ้มแป้นพิมพ์ของผมเร็วขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยเพราะเริ่มคุ้นกับมันแล้ว ช็อกมาถามผมเรื่องสอบดนตรีในวันพรุ่งนี้ แล้วก็ชวนผมคุยเรื่อยเปื่อย ผมกินข้าวไปด้วยคุยกับช็อกไปด้วยจนเพลิน

“ชอบมันเหรอ”

“ครับ?” หันขวับไปหาพี่อิสที่โผล่มาจากด้านหลังอย่างตกใจนิดๆ

“ไอ้ช็อกไง ชอบมันหรือเปล่า”

“แล้วชอบได้ไหม”

“เอ้า มึงก็ถามใจมึงสิ มาถามอะไรกูล่ะ”

“พี่อิสไม่ค่อยชอบช็อกไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ กูอะไม่ชอบมัน”

“...”

“ถ้าถามกู กูไม่โอเคอยู่แล้ว”

“...”

“เพราะกูไม่อยากให้ใครมาชอบมึง” ทิ้งคำพูดเอาไว้แค่นั้น ตัวเขาก็เดินกลับไปทำงานต่อ

ผมวางมือถือลงบนโต๊ะ มืออีกข้างเขี่ยข้าวที่เหลืออยู่ วุ่นวายอยู่ในความคิด

การกระทำของช็อกไม่ชัดเจน...คำพูดของพี่อิสไม่ชัดเจน...ความรู้สึกของผมไม่ชัดเจน

ใจผมเซไปเซมาไม่หยุดนิ่ง ผมไม่รู้ว่ามันจะใช่ความชอบหรือการตกหลุมรักใครสักคนไหม ผมอาจเป็นเด็กที่ขาดความรักจึงโหยหา พอมีใครใจดีด้วย ใจผมก็รู้สึกหวั่นไหวเป็นว่าเล่น เผลอคิดว่ามันคือความรักไปเสียหมด ผมเพิ่งรู้ว่าความรักมันยาก...ไม่เข้าใจเลยสักนิด

To be continued.

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 13-02-2017 23:33:34
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 13-02-2017 23:41:46
พี่อิส พี่จะเอาไงแน่เนี่ย เดี๋ยวอ่อย เดี๋ยวเมิน เดี๋ยวไปกับเนย
เลือกได้แล้ว จะอยู่กับแพนด้าหรือจะยัยเนยก้อน :hao4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 13-02-2017 23:49:39
น้องปิงกำลังเรียนรู้กับความรัก ว่าแต่พี่อิสนี่กะปลดล็อคตัวเองตอนน้องอายุเท่าไรคะ 18 แล้วมีแฟนได้น่า
ขนาดแฮงก็ยังมาทำกับข้าวให้กิน น่ารักมากเลยนะ มาชมว่าน่ารักอีกไรอีก คิดใช่มั้ยคะ
สงสารน้องไปเจอเนยโพสต์ไรเยอะแยะอีก คิดมากๆ พี่เขาไม่อยากให้ใครมาชอบก็คือเขาชอบหนู
นี่ถอดเขบ็ดจากพี่อิสคนอิสมาให้เลยนะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 14-02-2017 00:38:07
ถ้ายังวิ่งเเจ้นไปทุกครั้งที่ชะนีโทรหาก็อย่ามาเเสดงอาการค่ะอิพี่อิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 14-02-2017 00:49:45
สับสนน่าดู สู้ๆนะน้องปิง อิคนพี่ก็ไม่ชัดเจน  :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 14-02-2017 01:37:17
เออพี่อิสจะเอาไง น้อง 18 แล้ว  :z2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 14-02-2017 08:47:55
ต้องเรียกว่าอายุ  18 หัวใจว้าวุ่น 5555
เลือกไม่ถูกเลยเรา เอ้ย คิดว่าเป็นตัวเอง ถ่ดๆ ปิง 5555
พี่อิสอ่อยให้ชัดเจนกว่านี้หน่อยสิ 
ปล. คนแต่งน่ารักมาอัพทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 14-02-2017 09:52:40
รอตอนต่อไปค่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 14-02-2017 14:36:14
เชียร์พี่อิสขาดใจ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 14-02-2017 18:10:45
เรื่องอิสกัยเนยนี่ยังค้างคาใจตลอดจะเชียร์ก็เชียร์ได้ไม่เต็มที่  :mew2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 15-02-2017 17:33:09
พี่อิสกับช็อกช่วยชัดเจนด้วยจ้า
สงสารปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-02-2017 21:06:47
อ่านเรื่องนี้แล้วเจ็บใจ เจ็บใจตัวเองที่มาอ่านช้าไปไง เลยไม่ได้เม้น อยากเม้นมากกกก
โอ๊ย อิพี่อิส แม่ง พระเอกจริงดิ กาก หยาบ ต่ำตม ถ่มถุย 5555 แต่โคตรฮา
เข้าใจว่าน้องปิงจะตกหลุมรักคนแบบนี้ได้ไม่ยาก
ปิงขาดอะไรหลายอย่าง โหยหาสิ่งมาเติมเต็ม และคนแบบพี่อิสเท่านั้นที่ให้ได้
ช็อกก็น่ารัก เร้าใจดี แต่คงเด็กไปสำหรับปิง เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 15-02-2017 21:28:10
มาทวงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 18] 13-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: aommyga40 ที่ 15-02-2017 22:31:06
พี่อิสสสส ขอชัดกว่านี้ ทีมพี่อิสระคนหยาบ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 15-02-2017 22:49:15
ตอนที่ 19

พัง

 

ในคาบดนตรี ผมนั่งอยู่มุมห้องกับเมธีเพื่อรอให้ถึงเลขที่ตัวเอง ลำดับเลขที่ของห้องผมเริ่มจากผู้ชายก่อนแล้วค่อยเป็นผู้หญิง ไล่ตามตัวอักษรของชื่อ พวกผู้หญิงที่เลขที่กลางๆ ไปจนถึงท้ายๆ ก็สบายตัวเพราะถูกยกไปสอบอาทิตย์หน้า แต่ผมคิดว่าดีแล้วที่เป็นเลขที่แรกๆ มันจะได้จบๆ ไป นั่งใจเต้นอยู่พักหนึ่งครูลัทธพลก็เรียกชื่อผม

“เลขที่สิบสอง ปวินท์ไม่ใช่ปกรณ์”

เสียงคนในห้องหัวเราะหน่อยๆ เพราะคราวก่อนครูเรียกชื่อผมผิด ตั้งแต่นั้นมาผมก็ถูกเรียกว่าปวินท์ไม่ใช่ปกรณ์มาตลอดเลย ผมยิ้มนิดๆ ให้ครูแล้วกำกระดาษโน้ตไปที่คีย์บอร์ด

“เล่นคีย์บอร์ดนะ”

“ครับ”

“โอเค เริ่มเลย”

ผมสูดลมหายใจเบาๆ เรียกสติ คนในห้องที่มองมาเป็นตาเดียวทำให้เกร็งนิดๆ  เมธีพยักหน้าให้เป็นเชิงให้กำลังใจ

ปิงทำได้...ผมบอกกับตัวเองในใจ แล้วเริ่มกดคีย์บอร์ดลงไปตามโน้ต เสียงคีย์บอร์ดที่ดังออกมาเป็นทำนองทำให้ผมเริ่มมีความมั่นใจ ในทุกสิ่งที่ช็อกสอน ในทุกคอร์ด ทุกโน้ตที่กดลงไป ไหลลื่นไปตามจังหวะอย่างอัตโนมัติ

ผมเล่นผ่านท่อนแรกไปได้ก่อนจะหยุดกึก เมื่อเงยหน้าไปเห็นช็อกอยู่ที่นอกหน้าต่างห้อง ช็อกโบกมือเป็นเชิงให้ผมเล่นต่อแต่พอหันกลับมามองโน้ตบนกระดาษผมก็สตันไปเลย ลืมว่าท่อนนี้ร้องยังไง ทำนองยังไง ต้องกดตัวไหน...

 

“ฉันไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้ดวงดาวจะหายไปไหน...”

 

ขณะที่กำลังงงกับตัวเองอยู่ เนื้อเพลงที่ร้องเป็นทำนองในท่อนที่ผมกำลังอึ้งอยู่ก็ดังขึ้นจนทุกคนหันไปมอง ช็อกเป็นเจ้าของเสียงร้องนั้น เขาชี้ไปที่คีย์บอร์ดเพื่อให้ผมเล่นต่อ เสียงร้องเมื่อกี้ของเขาทำให้สิ่งที่อยู่ในหัวผมกลับมา

มือกดลงไปที่คีย์บอร์ดได้อีกครั้ง ก่อนท่อนต่อๆ ไปจะไหลไปเรื่อยๆ ไม่สะดุด เสียงร้องตามเบาๆ ของเพื่อนในห้องที่สามัคคีกันดังขึ้นมาและดังขึ้นเรื่อยๆ ในท่อนฮุคซึ่งเป็นท่อนที่ทุกคนร้องได้ ทำให้ผมมีความมั่นใจมากขึ้น

ผมเล่นต่อไปเรื่อยๆ อย่างที่ช็อกสอน เหลือบตาขึ้นไปมองช็อกที่ยังอยู่ตรงนอกหน้าต่าง แวบเดียวที่เผลอเงยหน้าไปมองทำให้ผมกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่อยู่ และยิ้มกว้างไปจนจบเพลง เสียงปรบมือของเพื่อนทำให้ผมเขินนิดหน่อย เดาว่าหน้าคงแดงไปถึงหู รับรู้ได้ว่ามันร้อนผ่าวแปลกๆ

“มึงเจ๋งว่ะปิง”

ผมได้แต่ยิ้มเคอะๆ เขินๆ กับคำชมของเมธี หันไปมองที่หน้าต่างอีกทีแต่ช็อกไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว

“นี่ปิง” เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเขยิบเข้ามาหาผม

“ฮะ”

“กับช็อกนี่อะไรยังไง”

“ไม่มีอะไร”

“ไม่มีอะไรเลย มายืนให้กำลังใจกันเฉยๆ เพื่อนกันอะเนอะ” เพื่อนพูดอย่างแซวๆ  ผมได้แต่ผลักไหล่ให้เธอกลับไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนตัวเอง ยังไม่วายไปแซวกันต่อในกลุ่มอีก ผมย้ำคำเดิมให้กับเมธีที่หรี่ตาแซวผมอีกคน

“บอกแล้วไม่มีอะไร”

...

 

วันนี้ผมไม่ต้องไปทำงานเพราะพี่อีมขอแลกเวร เปลี่ยนเป็นเย็นพรุ่งนี้จนถึงเที่ยงคืน วันนี้ผมก็เลยว่างตอนเย็น ตั้งใจจะกลับบ้านเลยเพราะไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว ขณะที่กำลังเดินออกจากโรงเรียนก็ต้องชะงักกึกแล้วโวยลั่น เพราะใครสักคนเดินเข้ามาจากด้านหลัง ดึงหมวกฮู้ดผมคลุมหัวแล้วกดอยู่อย่างนั้น

“ใครอะ ปล่อยนะ!”

“ไม่ปล่อยเว้ย!” เสียงใหญ่ๆ ที่ตะโกนกลับมาทำให้ผมขยับปากเป็นยิ้ม ถึงจะแกล้งดัดเสียงแต่ก็จำได้อยู่ดี

“ช็อก”

“เราเอง” เขาว่าแล้วปล่อยผมออก

“เล่นอะไร” ผมพูดเบาๆ ขยับหมวกฮู้ดให้เข้าที่เหมือนเดิม

“จะไปทำงานเหรอ เราไปส่งปะ จะไปหาอะไรกินด้วย”

“วันนี้เราหยุด”

“อ้าวเหรอ”

“งั้นไปกินข้าวกันไหม เราเลี้ยง”

“เฮ้ย จะมาเลี้ยงทำไม”

“อยากขอบคุณที่ช่วยสอนคีย์บอร์ดให้ไง”

“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย”

“น่า ให้เลี้ยงเหอะ เราจะได้สบายใจ”

“อะๆ ก็ได้ๆ”

“ช็อกอยากได้คำขอบคุณรสชาติเหมือนอะไร”

“ฮึ? คำขอบคุณมันมีรสชาติด้วยเหรอ”

“มันหมายความว่าอยากกินอะไร”

“อ๋อ เอาเป็นรสสเต๊กก็แล้วกัน”

“สเต๊ก?”

“อื้อ มีร้านที่ชอบไหม”

“เราเคยไปกินกับพี่อิสครั้งหนึ่ง อร่อยมากเลย ไปปะ”

“ได้เลย”

ผมกับช็อกเดินเข้ามาในย่านหนึ่งที่พี่อิสพามากินสเต๊กครั้งก่อน ผมจำไม่ได้ว่าร้านมันอยู่ตรงไหนเพราะมาแค่ครั้งเดียว ช็อกเลยจอดมอเตอร์ไซค์ไว้ในที่ที่จอดได้แล้วเดินหาร้าน ก่อนจะถึงร้านสเต๊กช็อกแวะซื้อโกโก้กับนักเก็ตไก่กินไปแล้ว คงเพราะหิวจัด

“ปิง อ้าปาก”

ช็อกจิ้มนักเก็ตยื่นมาถึงปากแล้ว ผมก็เลยต้องอ้าปากกินอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่ช็อกจะชวนผมคุยเรื่องการสอบวิชาดนตรีที่ผ่านไป

“ปิงทำได้ดีเลยนะ”

“แล้วอยู่ดีๆ ช็อกก็หายไปไหนอะ เราหันกลับมาอีกทีไม่เจอแล้ว”

“อ๋อ โดดเรียนมาไง แล้วเพื่อนมันโทรมาตามว่าครูเช็กชื่อ เรานี่วิ่งกลับห้องแทบไม่ทันเลย”

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องมา”

“ถ้าเราไม่มาวันนี้ ปิงก็เบลออะ”

“เราเบลอเพราะหันไปเห็นช็อกนั่นแหละ”

“หล่อจนช็อกไปเลยเหรอ”

“ไม่ใช่แล้ว เราตกใจต่างหาก แต่ยังไงก็ขอบคุณอีกทีนะ ไม่ได้ช็อกเราสอบตกแน่ๆ”

“อื้อ ก็บอกว่าไม่เป็นไรไง” ช็อกยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเคาะหัวผมเบาๆ  ผมเงยหน้าไปตั้งคำถามกับเขา

“ช็อกใจดีแบบนี้กับทุกคนหรือเปล่า”

“แน่นอน เราเป็นคนดี”

“เพราะเป็นคนดีเฉยๆ เหรอ”

“...”

“ไม่ได้รู้สึกดีเหรอ”

“หมายความว่าไงวะ”

“ถ้าไม่ได้คิดจะชอบใครแล้วทำไมขยันทำตัวให้คนอื่นชอบอะ ไม่คิดบ้างเหรอว่าเขาจะรู้สึกดี”

“บ้า เพื่อนกันทั้งนั้น ใครจะมารู้สึกดีกับเรา”

“เราไง”

ผมแอบถอนใจเบาๆ เพราะเผลอพูดออกไปแล้ว ผมไม่ไหวกับความรู้สึกอึดอัดในใจแล้ว อยากให้มันชัดเจนกันไปสักทางก็เลยตัดสินใจพูด

“ปิงชอบเราเหรอ”

ผมพยักหน้ารับ

“แต่ช็อกไม่ได้ชอบเราใช่ไหม”

“ก็ชอบ แต่...”

คำว่า ‘แต่’ ทำให้ผมรู้ล่วงหน้าว่ามันคือการปฏิเสธแน่ๆ

“แต่ไม่ได้ชอบขนาดนั้น”

ปฏิเสธได้อย่างตรงจุด

“แล้วเราก็เหี้ยไม่พอ”

หัวคิ้วผมขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ไม่เข้าใจความหมายของประโยคหลังที่เขาพูดจึงเอ่ยปากถาม

“คือยังไงอะช็อก”

“เรามีแฟนแล้ว”

ดวงตาขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเก็บอาการตกใจเอาไว้ไม่อยู่ ผมทำได้แค่นิ่งเงียบขณะที่ช็อกพูดต่อเสียยืดยาว

“ปิง จริงๆ ปิงเป็นคนน่ารักนะ บางทีเราก็มีความสุขเพราะได้อยู่กับปิง ได้แกล้งปิง แต่เราคิดอะไรกับปิงไปมากกว่านี้ไม่ได้ เราแค่อยากเป็นเพื่อนกับปิง ซึ่งแบบนั้นมันก็ดีอยู่แล้ว เราก็เลยไม่ได้ชอบปิง...แบบนั้น”

“โอเค” ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก้าวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้น เมื่อหันไปเห็นร้านสเต๊กที่พี่อิสพามาครั้งก่อนพอดี จึงหันกลับไปหาช็อก

“อยู่ตรงนี้นี่เอง ไปกัน”

ช็อกเดินตามผมเข้ามาในร้าน นั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม ผมรับเมนูมาจากพนักงานแล้วหันไปหาช็อก

“สเต๊กไก่ที่นี่อย่างอร่อยเลย เอาไหม”

“เอาก็ได้”

“สเต๊กไก่ที่หนึ่งครับ” ผมหันไปสั่งกับพนักงาน

“แล้วปิง...”

“เรา...เรายังไม่หิวเลย” ผมพูดปัด

“ปิง”

“เดี๋ยวเรากลับเลยดีกว่า แต่เราจ่ายให้นะ เราเลี้ยง” ผมควักแบงก์ร้อยออกมาส่งให้พนักงานที่รับออเดอร์ไปด้วย แล้วลุกออกมาจากร้าน ช็อกตามผมออกมาแล้วดึงมือผมเอาไว้

“ปิง เดี๋ยวดิ!”

“...”

“ปิง เราขอโทษ อย่าโกรธเราเลย”

“เราไม่ได้โกรธ”

“ไม่ได้โกรธแล้วหนีทำไมอะ”

“เรา...เราแค่ไม่รู้ว่าต้องทำหน้ายังไงตอนมองช็อก”

“ปิง เราขอโทษ เราแม่งเหี้ยมากว่ะ เราน่าจะบอกปิงตั้งแต่แรก เราไม่รู้จริงๆ ว่าปิงจะคิด... เราขอโทษ”

“ไม่เป็นไร เราผิดเองที่ไม่ได้ถาม”

“เราขอโทษ เราใจร้ายกับปิงมากใช่ไหม เราไม่ได้ตั้งใจ”

“เราสิที่ต้องขอโทษ คิดไปเองซะไกล ยังหน้าด้านไปบอกชอบช็อกอีก”

“เรายังเป็นเพื่อนกันใช่ไหมปิง”

“อื้อ ได้สิ”

“จริงๆ นะ”

“แต่ว่าที่เราพูดไปเมื่อกี้ ช่วยทำเป็นไม่ได้ยินได้ไหม”

“...”

“เราอายว่ะ”

“ถ้าทำเหมือนไม่ได้ยินแล้วเราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมไหม”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ไม่รู้ว่ามันจะช่วยให้เราสบายใจขึ้นไหม แต่ช็อกก็บอกกับผมว่าจะทำเหมือนว่าไม่ได้ยินและลืมมันไป

“ขอบคุณนะ” ผมยกมือตบไหล่เขาเบาๆ  เดาจากสีหน้าของช็อกเขาก็คงทำตัวลำบากเหมือนกับผมในตอนนี้ บอกลากันไปก่อนดีกว่า

“เรากลับก่อนนะ เอาสเต๊กไปกินด้วยล่ะ”

ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเดินออกมา สองเท้าเริ่มก้าวเท้าเร็วๆ จนเปลี่ยนเป็นวิ่งออกไปอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ผมลืมตั้งคำถามนั้นไปได้ยังไง ลืมคิดไปว่าคนแบบช็อกจะไม่มีแฟนได้ไง รู้จักกันมาตั้งนานแต่ดันไม่เคยพูดถึงเลยสักครั้ง การสารภาพรักที่พังไม่เป็นท่าทำเอาผมแทบอยากระเบิดตัวเองให้ตายไปเลยตอนนี้...น่าอายชะมัด

ผมวิ่งไม่ได้หยุดมาจนถึงหน้าบ้านพี่อิส ยืนเกาะรั้วหายใจหอบถี่คล้ายคนใกล้จะตาย ตั้งสติแป๊บหนึ่งแล้วเดินเข้าไปเปิดประตู เจอพี่อิสยืนอยู่ตรงนั้นพอดี

“อ้าว หลินปิง ไม่ทำงานเหรอ”

“วันนี้หยุดครับ”

“แล้วทำไมสภาพมึง...”

ผมไม่ได้ตอบอะไร พุ่งพรวดเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบน้ำขึ้นดื่ม

“เป็นอะไรวะ”

ผมดื่มน้ำไปครึ่งขวดแล้วกระแทกที่เหลือลงบนโต๊ะ พี่อิสที่อยู่ข้างๆ สะดุ้งเฮือก ผมก้าวขาออกมาก้าวหนึ่งก็ทรุดฮวบอย่างหมดแรง พี่อิสเข้ามารับร่างผมเอาไว้

“ปิงเป็นอะไร”

“ไม่เป็นไรครับ” ผมพูดปัดๆ แล้วทรงตัวให้อยู่กับที่ พี่อิสขมวดคิ้วมองผมหัวจดเท้า

“แล้วทำไมมึงเหงื่อท่วมงี้อะ”

“ผมวิ่งมาครับ”

“วิ่งมา?”

“ครับ” ผมพยักหน้าตอบแล้วเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟา พี่อิสเดินมานั่งข้างๆ ทั้งที่ยังทำหน้างงๆ อยู่

“เป็นอะไรของมึง จะซ้อมไปแข่งมาราธอนเหรอ”

“ใช่ครับ ผมเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองก็วิ่งเร็วอยู่เหมือนกันนะ ผมน่าจะได้สักเหรียญในงานวิ่งมาราธอน”

พี่อิสเขยิบเข้ามาแล้วจับหัวผมพลิกไปพลิกมา

“พี่อิสทำอะไร”

“ดูว่ามึงไปล้มหัวแตกที่ไหนมาหรือเปล่า มึงดูเพี้ยนมากเลย”

“พี่อะ”

“ตกลงเป็นอะไร ใครทำอะไรมา”

“...”

“เป็นอะไรบอกพี่สิ”

ผมเงยหน้ามองพี่อิสที่ทำเสียงอบอุ่นอีกแล้ว มุมปากขยับขึ้นนิดๆ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ

“ไม่มีอะไรครับ”

“อย่ามาโกหกดิ บอกแล้วไงว่ามีอะไรก็บอกกู เก็บไว้คนเดียวมันเหนื่อยหัวใจไหม”

“ผม...”

“...”

“ผมหิว”

“โวะ!”

“ทำอะไรให้กินหน่อยสิครับ”

“ไม่มีอะไรให้ทำเลย เมื่อกี้กูจะออกไปซื้อข้าวข้างนอกพอดี”

“งั้นไปเลยสิครับ ไปครับ ไปเลย”

“เออๆ ไปอาบน้ำเลย เดี๋ยวกูกลับมา”

ผมพยักหน้ารับ ก่อนพี่อิสจะเดินออกไป พอเห็นว่าพี่อิสไปแล้วผมก็เดินเข้าห้อง ปลดเป้โยนลงบนเตียง ถอดเสื้อคลุมและเสื้อนักเรียนชุ่มเหงื่อนั่นออก ทรุดนั่งลงข้างๆ เตียง แล้วคิดไปถึงช็อก เรื่องระหว่างผมกับเขาที่ผ่านมาทุกอย่างมันดีอยู่แล้วแต่ผมทำพังหมดเลย ในตอนนั้นจึงเข้าใจเหตุผลที่มนุษย์ย้อนเวลาไม่ได้ คงเป็นบทลงโทษอย่างหนึ่ง เพื่อให้รู้จักทบทวนในสิ่งที่ทำผิดพลาดไป ไม่น่าเลย...ผมคิดได้แค่คำนั้นอยู่ในใจ

...

 

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมมานั่งรอพี่อิสอยู่ที่โซฟาห้องนั่งเล่น ปวดขาร้าวระบมจนต้องมานั่งด่าตัวเองว่าจะวิ่งกลับมาทำไม อาการเบลอจนสติหลุดมันเป็นแบบนี้นี่เอง นั่งทุบขาตัวเองอยู่อย่างนั้นนานพักหนึ่ง พี่อิสก็กลับเข้ามาพร้อมถุงในมือพะรุงพะรัง

“พี่อิสซื้ออะไรมาเยอะ”

“กูไปโลตัสมา ไปหยิบจานในครัวไป กินข้าวกัน”

“ก็รู้อยู่ว่าหยิบไม่ถึง” ผมบ่นเบาๆ แล้วเดินตามเขาเข้าไปในครัว พี่อิสวางถุงในมือลงบนโต๊ะ

“พี่อิสซื้ออะไรมากินอะ”

“สเต๊ก”

ผมนิ่งมองพี่อิสที่ส่งกล่องสเต๊กมาให้ผมแล้วหันไปหยิบจานที่ตู้ด้านบน

“ร้านที่เราไปกินกันวันนั้นไง สเต๊กไก่มึงชอบไม่ใช่เหรอ”

“ก็ชอบ แต่...”

 

“แต่ไม่ได้ชอบขนาดนั้น”

 

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดที่กำลังนึกถึงคำพูดของช็อก พี่อิสขมวดคิ้วถาม

“แต่อะไร”

“แต่ทำไมต้องวันนี้ด้วย”

“ทำไม ไม่อยากกินเหรอ ไม่กินกูกินเอง” เขาหยิบกล่องไปจากหน้าผม

“กินๆๆ” ผมดึงกล่องคืนมาและเทใส่จาน แกะอีกกล่องให้เขาด้วยเพราะพี่อิสยังวุ่นวายกับของในถุงที่ซื้อมา ปากบ่นพึมพำไม่ได้หยุด

“ไปเดินโลตัสเหมือนผีแม่บ้านเข้าอะ ไอ้ห่านี่ไม่ได้จำเป็นแต่ลดราคากูก็ซื้อมาเฉย ซื้อสองถูกกว่ากูก็ซื้อมาสองเลย ถามว่าปกติใช้ไหม ก็ไม่ อะ ซื้อนี่มาฝากมึงด้วย” เขาส่งถุงเวเฟอร์เคลือบช็อกโกแลตให้

“พี่อิส ผมไม่ใช่เด็กนะ”

“มีปีโป้ด้วย”

“เฮ้ย อันนี้ชอบ แช่ฟรีซให้หน่อย!”

“แหม ไม่เด็กเลยเนอะ” เขาเขกหัวผมทีหนึ่งแล้วรับปีโป้ไปแช่ช่องฟรีซให้ จัดของเสร็จก็มานั่งตรงข้ามผม

“พี่อิส คิดไงซื้อสเต๊กมาอะ”

“ก็กินข้าวทุกวันก็เบื่อปะวะ เพิ่มโปรตีนให้มึงด้วย จะได้โตเร็วๆ”

“จะขุนให้โตไปถึงไหน” ผมส่ายหน้ายิ้มๆ

ติ๊ง!

ทั้งผมและเขาหันขวับไปมองมือถือผมที่แจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นมา เหลือบไปเห็นว่าเป็นช็อก ส่งลิงก์เพลงมา เขาคงพยายามทำตัวให้เหมือนปกติอยู่ ผมยื่นมือไปปิดหน้าจอ

“ไม่ตอบอะ” พี่อิสหันมาถาม

“ไม่ใช่ประโยคคำถามครับ”

“เออๆ ทำดีๆ”

“ดียังไง”

“มันจีบก็ต้องเล่นตัวแบบนี้แหละ มันจะได้ไม่ว่ามึงง่ายไง”

“เขาไม่ได้จีบผม”

“มึงรู้ได้ไงว่ามันไม่จีบ ไม่ทันมันละสิ”

“เขาไม่ได้ชอบ เขาจะจีบทำไม”

“มันไม่ชอบมึงเหรอ”

“อือ”

“มึงรู้ได้ไง”

“ก็เขาบอก”

พี่อิสวางช้อนในมือแล้วเงยหน้ามองผม

“ช็อกมันบอกว่ามันไม่ชอบมึง?”

“ครับ เขามีแฟนแล้ว”

“ว้ายนก!”

เกลียดพี่อิสจังเลยโว้ย

“มึงไปบอกชอบมันหรือว่าไง”

“อือ”

“แล้วมันก็ปฏิเสธอะนะ”

“อือ”

“เชี่ยช็อกแม่ง มันพูดตรงๆ เลยอะนะ”

“อือ”

“ที่มึงสติแตกวิ่งกลับมาเมื่อเย็นอะนะ”

“อือ”

“มันไม่ชอบแล้วมันมาเต๊าะมึงทำไมวะ”

“เขาไม่ได้เต๊าะ เขาเป็นคนดี เขาก็ทำดีกับทุกคนนั่นแหละ ใครรู้สึกก็แพ้ไป”

“โธ่เอ๊ยน้องกู อกหักเลย แดกเหล้าไหม”

“ไม่เอา!”

พี่อิสอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“พี่อารมณ์ดีขณะที่ผมกำลังอกหักเหรอ”

“เฮ้ย! กูเปล่า เห็นน้องเจ็บพี่ก็เจ็บ หัวใจพี่นี่มีบาดแผล มันสุดแสนจะทรมาน...”

“ไม่ต้องเล่นใหญ่เลย”

“เออๆ เอาน่า ไม่ต้องคิดมาก รักแรกมันไม่ค่อยสมหวังหรอกเว้ย”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ

“รักครั้งแรก หัวใจก็แตกสลาย”

“พี่อิส จะตอกย้ำทำไม เจ็บแล้ว!”

“อะๆ กินเข้าไป อกหักก็ต้องกิน” พี่อิสว่าแล้วเอื้อมมือมาตัดสเต๊กเป็นชิ้นๆ ให้ ผมยกส้อมจิ้มใส่ปาก คำปลอบโยนรสชาติสเต๊กไก่ก็เยียวยาความรู้สึกได้ระดับหนึ่ง

“ไม่ต้องเศร้านะ”

“ไม่เศร้า”

“ไม่ใช่แอบไปร้องไห้คนเดียว กรีดแขนประชดไรงี้ไม่เอานะ”

“บ้า ไม่ทำ”

พี่อิสหัวเราะแล้วยื่นมือมาเคาะหัวผมเบาๆ ก่อนพูดบางคำด้วยโทนเสียงอบอุ่นที่ไม่ได้ยินบ่อยๆ

“เขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ”

“...”

“พี่ยังอยู่”


To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 15-02-2017 23:13:34
อ่าว ช็อก อ่าว ทำไมทำงี้อะ
ไอ้คนหลอกลวงง ไอ้คนขี้อ่อยยโมโหหหหหห
นี่ไอ้พี่อิส ทำมาเป็นพี่ยังอยู่
พี่เองก็ไม่ต่างไรจากช็อกเลยนะ
ยัยเนยนั่นน่ะ จะเอาไง
ให้ความหวังเด็กไปวันๆงี้หรอออออ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 15-02-2017 23:17:26
  :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 15-02-2017 23:22:34
ทำไมเราดีใจ 5555 ก็เรา #ทีมพี่อิส นี่นา แต่เกลียด ว๊าย นก ของพี่อิสจัง ร้ายกาจจจจ
เดี๋ยวน้องร้องไห้ทำไงพี่ ทีทจริงโล่งใจอ่ะเด้จะได้ใจเย็นได้ ชิลได้ ซึมซับกับน้อไปเรื่อยๆ ตามประสาพี่อิส
ช็อกก็เป็นคนดีนะบอกมาตรง ๆแต่เราควรห่างกันสักพักว่ะ แต่ที่ปิงไปบอกชอบช็อกคนอ่านก็มีความช็อค
หนูไม่ชอบคนแก่เหรอลูก น่ารักออกนะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 15-02-2017 23:31:44
ขี้อ่อยแบบซ็อก ทำแบบนั้นเป็นใคร ใครก็คิดป่ะว่ะ แม่งงง ไม่เป็นไรนะปิงๆ พี่อิสยังอยู่เนอะๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 15-02-2017 23:39:52
ไม่แปลกใจเลยซักนิดที่ปิงชอบและพูดออกไป
ตั้งแต่ได้อ่าน เราแทบจะไม่พูดถึงความรู้สึกปิงกับช้อคเลย
ส่วนมากเราเน้นระหว่างพี่อิสกับปิงมากกว่า
ไม่ใช่อะไรหรอก แอบเดาได้ว่ายังไงปิงชอบแน่
แต่มันแค่ไม่ใช่ความรู้สึกที่ลึกซึ้งแบบพี่อิสแน่นอน
คนมาทำดีใครๆก้ชอบ คอยช่วยเหลือ คอยอยู่เป็นเพื่อน
จากงง เปลี่ยนมาเป็นประทับใจ จากประทับใจก้กลายเป็นชอบ
เพราะสำหรับคนมีปัญหาที่ขาดความรัก แทบจะไร้เพื่อนแบบปิง
คนแบบช้อกจะทำให้คนแบบปิงชอบได้ง่ายมากๆ
เราว่าความชอบของน้องมีทั้งชอบแบบที่อยากเป็นแบบเขา
สดใส มีความสุขให้ได้แบบเขา และความชอบในการที่เขาปฏิบัติต่อตัวเอง
ออกแนวไอดอลหน่อยๆ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตแน่นอน
การที่ปิงกล้าพูดออกไปนี่ก้บอกได้ลางๆว่าไม่ลึกซึ้ง
เพราะปิงไม่คิดหน้าคิดหลังเลยตอนพูดออกไปว่าจะเสี่ยงต่อการเสียมิตรภาพไปมั้ย
ถ้าเกิดช้อกไม่เข้าใจ จุดจบก้คือความเป็นเพื่อนอาจไม่ได้ไปต่อ
กลับกันถ้าเป็นพี่อิส ให้ตายหลินปิงจะไม่มีวันพูด ถ้าพี่อิสไม่พูดออกมาก่อน
ไม่มีวันพูด และบอกออกไปไม่ได้ นั่นเพราะอะไรน้องมันรู้ตัวดี
แค่มีความเสี่ยงที่จะเสียไปซักนิดน้องมันก้จะไม่ทำ เชื่อเลย

อันนี้มันแค่ปั๊บปี้เลิฟเบาๆ เจ็บและผิดหวังนิดหน่อย แต่ก้ไม่ได้ขนาดนั้นใช่มั้ยล่ะ

ชอบช้อกนะ แมนและตรงๆดี ชอบด้วยที่ลงเอยแบบนี้
ต่อไปช้อกอาจช่วยหลินปิงได้ เพราะอิพี่อิสมันยังไม่เคลียร์เลยซักอย่าง
ถึงศัตรูหัวใจจะถูกเขี่ยทิ้งไปได้ก้ไม่ใช่ว่าพี่อิสจะสามารถลอยชายต่อไปได้นะคะ
ความชัดเจนอะพี่ ทำให้น้องและคนอ่านเถอะ ถ้ายังหยอดแบบอิสๆแบบนี้
คนอ่านนี่ก้ใจเป๋ไปพร้อมน้องเหมือนกันนะ ฟินมันก้ฟิน
แต่ความหมั่นไส้มันก้ปนลงไปด้วยอะนะ แต่ถึงงั้นก้เถอะ ยังไงก้ #ทีมพี่อิสค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pimBNY ที่ 15-02-2017 23:41:01
อีช๊อกกกกก :z6:
อึนเลยปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 15-02-2017 23:42:59
รักพี่อิสที่สุดเลยคร้าาาาาา  :haun4: :hao4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 15-02-2017 23:47:41
ช็อกชอบส่งเพลงให้ปิงใช่ไหม
เราส่งกลับ
เอาไปฟังเลย

♫~♪ อย่าทำอย่างนี้ ไม่ว่ากับใคร เข้าใจไหม
ถ้าไม่รัก ไม่ต้องไปทำแบบนี้ให้ใคร
อย่าทำอย่างนี้
เพราะเขาจะมองว่าเธอน่ะใจร้าย
ที่ทำเหมือนเธอให้ใจ แต่มันก็ไม่จริง
♪~♫

คุณไม่รักทำไมไม่บอก มาลวงมาหลอกฉันเล่นทำไม♪~♫

//ปิงงง ไม่ร้องเนอะ ยังมีพี่อิสอยู่ แล้วพี่ล่ะ ชอบน้องไหม  :impress2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 15-02-2017 23:51:07
โอ้ยยยยยย ดีใจที่ช็อกมีแฟน
ฮืออออ
สงสารน้องนะ แต่แบบ ว้ายยยนก
ขอพูดเหมือนพี่อิสอ่ะ ,,
ตอนสุดท้ายแม่งจะร้อง ตอนที่บอกว่า เขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไรระ...พี่ยังอยู่ ฮืออ
รู้สึกอบอุ่นมากจริงๆ T^T
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: kung ที่ 15-02-2017 23:52:56
ปิงชอบช็อกมากกว่าพั่อิสได้ไงอะ ไม่ชอบเลย อกหักไปเลย o13 ดีที่ช็อครักแฟนมากกว่า  ทำไมปิงมองข้ามพี่อิสอะ ไม่เข้าใจ พึ่อิสออกจะน่ารักดันไม่รัก  #ทีมพึ่อิส ช็อคไม่รักเรารักเอง555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 15-02-2017 23:59:35
เกลียดตรงว้ายนก เกลียดดดด 5555555 นึกถึงสติ๊กเกอร์กวน-ีนอันนึงที่แบบ ว้ายนก นก นั่นก็นก นกอีกแล้ว นกเต็มไปหมดเลย
อิเพื่อนสนิทมันชอบส่งมาแกล้งเราค่ะ เกลียดมันมาก 555555555555
ปิงชอบช็อกไม่แปลกใจนะ แต่ช็อกนี่ดิ โห่ยยย แบบ โห่ยยยยยยยยยยยยย
มีแฟนอยู่แล้วมาทำตัวแบบนี้ได้ไงอ่ะ แฟนไม่ว่าหรอ แล้วที่ผ่านมาแฟนหนูไปอยู่ไหน ไม่ต้องไปรับไปส่งเลยงี้
ไม่ต้องตามเฝ้าหรือเดทกันเลยงี้ ช็อก หนูมีแฟนเป็นคนจริงๆใช่ป่ะ ไม่ใช่ผีใช่ป่ะ เบี่ยยยยย
เราไม่ชอบผู้ชายไม่ชัดเจนอ่ะ ยังไงกับปิงก็ดูพิเศษกว่าเพื่อนคนอื่นอยู่ละป่ะ มันไม่ใช่ความผิดปิงเลยเหอะ ช็อกนั่นแหละให้ความหวังเอง
คิดดูว่าคนเป็นแค่เพื่อนธรรมดาๆจะถึงขนาดโดดเรียนมาให้กำลังใจตอนสอบเล่นดนตรีจริงดิ คิดภาพไม่ออกเลยอ่ะ =____=
ไม่ชอบช็อก แบนช็อก บายยยยยยย ไปไกลๆเลย! ชิ่วๆ

รอพี่อิสค่ะ ยังไงก็เชื่อว่าพี่อิสเป็นพระเอกอยู่แล้ว //จากชื่อเรื่อง 55555555555
เย้เฮ~ #ทีมนก เอ้ยไม่ใช่ #ทีมพี่อิส
อบอุ่นหัวใจที่สุดเลย <3
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 16-02-2017 00:04:36
พี่อิสต้องเอาใจน้องเยอะๆนะคะ

น้องน่าสงสาร

แต่เกลียดคำพูดพิสมาก

ว้ายยย นก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 16-02-2017 00:53:55
จ๊ะ เชื่อจ๊ะ ว่าพี่อิสยังอยู่กับน้องปิง
เฮ้ย คือชอบ อิสระ ชอบเรื่องนี้ตรงนี้แหล่ะ มันรู้สึกเหมือนทั้งชีวิตคนเราจะเอาอะไรนักหนาเนอะ
ทำตามใจตนเองบ้างก็ได้ วะฮ่าฮ่า มันสุดขอบโลกจริงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyMine104 ที่ 16-02-2017 01:34:41
บางทีตอนเราอ่านเรื่องนี้ก็ไม่รู้ว่าต้องร้องไห้หรือหัวเราะดี555555
ปล.พี่อิสเป็นคนตลกสึสๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 16-02-2017 01:46:55
อาวหนูชอบช็อกหรอ นึกว่าชอบพี่อิส ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 16-02-2017 01:47:44
ช็อกเลยยยยยยยย   :katai1:
่่่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Past-Zeit ที่ 16-02-2017 05:47:23
อ่าว เฮ้ย ไอหล่อ ไม่เหมือนที่ทำไว้นี่นา5555
อ่อยซะหลงเลย ไม่เป็นไรนะเราเก็บพี่อิสไว้ให้อิงเเล้ว
งั้นช็อกเราขอเองละกัน//แบบนี้ก็ได้หรา
รักเเรกไม่สมหวัง รักอีกครั้งสมหวังเเน่นอน สู้ๆปิง :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 16-02-2017 06:56:27
อ้าว ช็อก ทำงี้เฮเลย ปิง หนีไปให้ไกลๆ แบบนี้ ให้เะ่อิสเยียวยาหัวใจก่อน
ปล. เพ่อิสเก็บอาการหน่อยค่ะ
ปล.2วันนี้จะมาอัพไหมนะ 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 16-02-2017 08:33:01
แหม ทำไมตอนอ่าน แต่ไม่เป็นไร พี่ยังอยู่ ของพี่อิสแล้วนึกถึงน้ำเสียงแบบอบอุ่นขึ้นมาเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 16-02-2017 09:27:50
เรางงว่าปิงไปชอบช็อกตอนไหน เพราะที่อ่านมามีแต่พร่ำเพ้อถึงพี่อิสว่าจะต้องบังคับตัวเองไม่ให้คิดไรไปมากกว่านี้ แต่กับช็อกเห็นๆ พูดอยู่ที่เพื่อนแซวว่ายังไม่มีวันรู้สึกอย่างนั้น แต่ไหง? หรือเราอ่านข้ามหว่า.. เอาเป็นว่าดีแล้วละกันจะได้เชียร์ถูกคน ส่วนช็อกคงไม่ได้เป็นแฟนพี่ที่ร้านปิงทำงานหรอกนะ เห็นว่าแฟนเด็กนี่

ปอลิง.หลินปิงใจง่ายเหมือนกันนะเราน่ะ แต่อย่างว่าทั้งหล่อและยังทำมาดีใครจะไม่เอา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-02-2017 09:45:15
ไม่เป็นไรนะปิง พี่อิสยังอยู่น้าาาาาาา
นี้ว่าปิงไม่ได้ชอบช๊อกแบบรักหรอก เป็นแบบแอบปลื้มมากกว่า
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 16-02-2017 10:06:29
ปิงกับช็อกก็เคลียร์แล้ว
พี่อิสกับแฟนเก่าว่าไงพี่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: nutiez ที่ 16-02-2017 14:18:35
ลุงอิสล้อจะน้อง ว้ายย นก อะไรก็ล้อไปเถอะ

จริงๆแล้วแอบดีใจใช่มั้ยล่าาาา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-02-2017 19:00:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tnkgif ที่ 16-02-2017 22:06:58
ไหนแฟนช็อคคะคุณณณณณ :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 16-02-2017 23:03:16
โคตรช็อกเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 19] 15-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-02-2017 23:23:03
เข้าใจปิงนะที่ชอบช็อก คนมาทำดีด้วยขนาดนี้ จะคิดเข้าข้างตัวเองบ้างก็ไม่เห็นแปลก
แต่อิช็อกนี่สิ น่าตีให้ตาย มีแฟนแล้วยังเที่ยวมาหว่านเสน่ห์ไปทั่ว
น้องปิงของเราใสซื่อบริสุทธิ์ออกอย่างนี้ โถ ไปบอกชอบเขาก่อน ได้แห้วกลับมาเป็นเข่ง
แล้วปิงก็จะรู้เองว่าชอบแบบเด็ก ๆ กับชอบแบบผู้ใหญ่มันต่างกันยังไง
อิพี่อิสไปเคลียร์เรื่องแฟนเก่าแฟนเก็บซะที ลำไย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 16-02-2017 23:45:56
ตอนที่ 20

ในวันที่ทนไม่ไหว

 

อาหารเช้าของพี่อิสเริ่มหลากหลายขึ้นเรื่อยๆ จนเมนูไม่ค่อยซ้ำ เช้านี้พี่อิสทำข้าวต้มกุ้งแต่คงต้มนานไปหน่อยเลยกลายเป็นโจ๊กแทน ผมไม่เคยบ่นเรื่องรสชาติอาหารที่เขาทำเพราะกินได้หมด มีแต่เขานั่นแหละที่ทะเลาะกับตัวเองทุกเช้า ไม่เคยพอใจฝีมือตัวเองเลย

“ข้าวต้มเหี้ยอะไรเละฉิบหาย เหมือนอ้วกหมาอะ”

“แค็ก!” ผมสำลักข้าวในปากเพราะคำพูดของเขา รีบยกน้ำขึ้นดื่มอึกใหญ่

“ค่อยๆ กินดิ ใครจะแย่งหรือไง เด็กตะกละจริงๆ”

“สำลักเพราะพี่อิสแหละ อ้วกหมาอะไรเล่า”

“ก็มึงดูดิ เละเป็นขี้”

“พี่อิส!”

“อะๆ ไม่พูดละ กินเข้าไป วันนี้กูไปส่งที่โรงเรียนนะ”

“พี่อิสจะออกไปไหนเหรอ”

“ไม่ได้ไปไหน ไปส่งมึงเฉยๆ”

“งั้นไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้”

“ไอ้ช็อกมันรอมึงอยู่ที่ปากซอย ถ้ามึงเดินไปมึงจะต้องเจอมันแต่ถ้าไปกับกู กูจะขับรถผ่านมันไปเฉยๆ”

ผมนิ่งมองพี่อิส แปลกที่เขารู้ใจผมว่าผมยังไม่อยากเจอช็อกในเช้านี้

“มึงลองคิดดูดีๆ ว่าจะไปกับกูหรือจะไปกับมัน”

“ไปกับพี่ครับ”

“ฉลาดมากเจ้าแพนด้าของพี่” เขาว่าแล้วลุกเอาชามข้าวตัวเองไปทิ้งอ่างล้างจาน

“พี่อิสไม่กินแล้วเหรอ”

“ไม่กินแล้ว ปวดขี้ ไปขี้แป๊บ”

เกลียดพี่อิส...

 

วันนี้ที่โรงเรียนผมไม่ได้เจอช็อกเลย จากที่เคยมาเล่นฟุตบอลตอนกลางวันก็ไม่เห็น แต่ก็ดีแล้ว ผมไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจอะไร เพียงแค่ยังทำตัวไม่ถูกเลยขอเวลาก่อน หากว่าทำได้ผมจะกลับไปเป็นเพื่อนเขาเหมือนเดิม หวังว่าผมคงไม่ได้ทำให้ช็อกอึดอัด

วันนี้ผมเลิกงานเที่ยงคืน ตอนนี้ดึกมากๆ แล้ว ยังคงมีลูกค้าสองสามโต๊ะนั่งอยู่แต่ไม่มีงานอะไรให้ทำ ผมก็เลยมานั่งอยู่เฉยๆ กับพวกพนักงานคนอื่นในครัว ฟังพวกพี่ๆ เขาคุยกันไปเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้มีบทพูดใดในบทสนทนา ผมกำลังรอเวลาเลิกงานในอีกไม่กี่นาที

ครืด...ครืด

ผมก้มลงไปใต้โต๊ะเพราะรู้สึกว่ามีอะไรสั่นอยู่ตรงนั้น ก่อนจะเห็นว่าเป็นโทรศัพท์มือถือที่หน้าจอกำลังสว่างอยู่บนพื้นจึงก้มเก็บขึ้นมา

“มือถือใครครับ” ผมถามพลางชูมือถือในมือให้ดู

“ของพี่พิงค์นี่”

“ทำหล่นไว้แน่เลย กดรับเลยปิง”

ผมกดปัดหน้าจอเพื่อรับสายที่โทรเข้ามา

“สวัสดีครับ”

“ใครอะ ใครรับโทรศัพท์เรา”

ผมจำได้ว่าปลายสายคือเสียงพี่พิงค์เลยตอบกลับไป

“ปิงเองครับ”

“ทำไมมือถือพี่ไปอยู่ที่น้องปิงอะครับ”

“พี่พิงค์ทำหล่นไว้ที่ร้านครับ”

“อ้าวเหรอ ก็ว่าหายไปไหน”

“ให้ผมเอาไปให้ไหมครับ”

“เอาๆ เอามาให้หน่อยครับ พี่อยู่ที่...ที่นี่ที่ไหนวะ”

หัวคิ้วผมขมวดเข้าหากันตอนที่ไม่ได้คำตอบจากพี่พิงค์ว่าอยู่ที่ไหน ซ้ำยังเอาแต่หัวเราะใส่ไม่มีเหตุผล

“พี่อยู่ไหนก็ไม่รู้อ่า”

“พี่พิงค์เมาปะเนี่ย” ผมถามเพราะสงสัยตั้งแต่เสียงแปลกๆ ของเขาในประโยคแรกแล้ว

“เปล่าซะหน่อย”

“พี่อยู่ที่ไหนครับ”

ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะคุยกันรู้เรื่องว่าพี่พิงค์อยู่ที่ไหน ก่อนที่ผมจะอาสาเอาโทรศัพท์ไปให้ตามที่บอก ขอออกงานก่อนเวลามาเกือบๆ สิบนาที ขึ้นแท็กซี่ต่อมาแค่แป๊บเดียวก็มาถึงย่านสถานบันเทิงที่พี่พิงค์บอกกับผม ตื่นตะลึงไปพักหนึ่งเพราะร้านเหล้าไม่ได้มีแค่ร้านเดียว ทั้งซอยแทบจะเป็นผับทั้งหมด เที่ยงคืนแล้วแต่คนก็ยังเยอะอยู่ ผมเดินมองหาร้านที่พี่พิงค์บอก ก่อนหันไปเจอพอดีจึงรีบเดินไปที่หน้าร้าน กวาดตามองหาพี่พิงค์แต่ไม่เจอ จะโทรกลับไปหาพี่พิงค์ตามเบอร์ที่เขาโทรมาก็ไม่ได้ เพราะมือถือติดรหัสผ่าน ก็เลยยืนรออยู่ที่หน้าร้าน

ชะเง้อเข้าไปข้างใน หันซ้ายหันขวามองคนที่หน้าร้านและเดินผ่านไปผ่านมา กลุ่มหนึ่งยืนสูบบุหรี่ควันลอยฟุ้งอยู่ใกล้ๆ  อีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้หญิงยืนคุยกันเสียงดัง ผมหันไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ซึ่งดูเหมือนกำลังมองผมอยู่ จึงหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่พอหันกลับไปอีกทีเขาก็ยังมองผมอยู่ ไม่ทันจะได้คิดอะไรเขาก็ก้าวเท้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม

“มาเที่ยวเหรอครับ”

“เปล่าครับ” ผมปฏิเสธ

“ดื่มกันหน่อยไหม”

“ไม่ครับ”

“เข้าข้างในไหม”

“ผมอายุไม่ถึงครับ” ผมพูดปัดๆ

“พี่พาเข้าได้นะ อยากเข้าไหม”

“ไม่ครับ”

“งั้นไปกับพี่ปะ”

“...” ผมขมวดคิ้วยุ่งเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ คนตัวสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจมูก

“นอนกับพี่ไหม เท่าไรก็ว่ามา”

“ครับ?”

“ชวนไปนอนด้วยเฉยๆ แล้วเดี๋ยวให้ตังค์กินขนม”

“ไม่เอาครับ!” ผมส่ายหน้ารัวก่อนจะเดินหนีออกมา แต่มือใหญ่คว้าแขนผมเอาไว้ก่อน

“อย่าหนีกันดิ!”

ผมได้แต่อึกอัก ฝืนแรงคนที่กระชากแขนให้เข้าไปหา

“คุยกันก่อน” เขายกมือขึ้นกุมไหล่ผมให้เขยิบเข้าไปชิดอก ผมยกมือดันตัวเองออกมา

“ปล่อยนะครับ”

“อย่าเล่นตัวดิ!”

“เฮ้ย!” คนตรงหน้าผมเซไปอีกทางเพราะมือหนึ่งผลักเขากระเด็นออกไป ผมหันขวับไปมองคนที่เข้ามาช่วย ยิ่งตกใจมากกว่าเดิมเมื่อเขาเป็นคนที่ผมรู้จัก

“ช็อก”

“มึงเสือกไรวะ” คนถูกผลักทรงตัวกลับมาแล้วโผเข้าหาช็อกอย่างเอาเรื่อง ช็อกดึงมือผมเข้าไปใกล้แล้วยกมือกอดไหล่ผม

“พี่นั่นแหละ เสือกอะไร”

“อ๋อ...มีเจ้าของ” อีกฝ่ายเหยียดยิ้ม เลื่อนสายตามองผมสลับกับช็อกแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมอีกที

“...”

“เสียดายเนอะ” เขากระซิบข้างหูก่อนจะพาร่างเมาๆ ของตัวเองออกไปจากตรงนี้ ผมหันไปมองช็อกแล้วผละตัวเองออกจากวงแขนของเขา

“ปิงมาทำอะไรที่นี่”

“เรา...”

“น้องปิง!” เสียงพี่พิงค์ดังแทรกเข้ามา ทั้งผมและช็อกหันไปมองเขา

“พิงค์”

ผมขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อชื่อพี่พิงค์ถูกเรียกโดยช็อก ช็อกเองก็ดูตกใจไม่แพ้กันที่พี่พิงค์เดินมาคล้องคอผมด้วยสภาพที่ดูเมาหนักจนยืนไม่ติดพื้น ใบหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์

“มาทำไม” พี่พิงค์ที่หันไปเห็นช็อกเอ่ยถามเบาๆ

“มารับพิงค์”

“ใครขอ”

“พี่ต่อโทรมาบอก ก็เลยมารับ”

“ไม่จำเป็นอะ น้องปิง ไหนมือถือพี่ครับ” พี่พิงค์เปลี่ยนเรื่องหันมาหาผม ผมยื่นมือถือให้เขาแต่สายตายังมองไปที่พวกเขาทั้งสองคนสลับกันอย่างงงๆ ...ทำไมสองคนนี้ถึงได้รู้จักกัน

“พิงค์ กลับบ้าน”

“ปล่อย!” พี่พิงค์สะบัดมือช็อกที่ตรงเข้ามาจับ

“ทำไมถึงเมาแบบนี้”

“เสือกอะไร”

“พิงค์!”

“เลิกกันไปแล้วจะเสือกอะไร”

คำพูดของพี่พิงค์ทำให้ผมกระจ่างและตกใจจนนิ่งไป พี่พิงค์เป็นแฟนช็อก ช็อกเป็นแฟนพี่พิงค์ เรื่องที่ผมเพิ่งรู้เป็นครั้งแรก

“พิงค์ พูดกันดีๆ ได้ไหม”

“ไม่พูดแล้วเว้ย ก็เลิกให้แล้วไง จะได้เอาเวลาไปคุยกับคนอื่นไง สบายใจปะ”

“พิงค์”

“ไปเหอะ คบคนรุ่นเดียวกันสนุกกว่า นี่ก็จะหาใหม่เหมือนกัน ไม่เอาเด็กละ ไร้สาระ เนอะน้องปิงเนอะ พี่พิงค์จีบน้องปิงดีกว่า อ้าว นี่ก็เด็กนี่หว่า” พี่พิงค์ว่าแล้วยกมือหยิกแก้มผมเบาๆ  ผมได้แต่ฝืนยิ้มแล้วหันไปหาช็อก เขาขมวดคิ้วด้วยใบหน้าที่ดูขึงขังก่อนจะดึงตัวพี่พิงค์ไป คนเมาที่ไม่มีแรงขัดขืนเซไปหาช็อกก่อนจะโวยลั่น

“เฮ้ย! ปล่อย!”

“ไปคุยกันดีๆ ที่บ้านได้ไหม”

“ไม่!”

“เราพาพิงค์กลับบ้านก่อนนะ ไว้คุยกัน” ช็อกหันมาบอกกับผม แล้วทั้งดึงทั้งลากพี่พิงค์ออกไปจากตรงนี้ ผมมองตามเขาไปก่อนจะถอยหลังเดินออกมาให้พ้นจากหน้าผับนั่น สองเท้าผมเดินช้าลงและหยุดนิ่งไปเมื่อถึงป้ายรถเมล์ หย่อนตัวลงนั่งขณะคิดอะไรอยู่ในหัว

ช็อกกับพี่พิงค์เป็นแฟนกัน ใกล้ตัวเสียจนผมไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะบังเอิญขนาดนั้น ช็อกมีแฟนแล้วเป็นเรื่องตื้นเขินที่ผมควรจะรู้แต่ดันมองข้ามไป ส่วนกับพี่พิงค์ ผมก็พูดคุยกับเขาบ่อยๆ พูดถึงแฟนเขาบ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้ว่าคนคนนั้นคือช็อก และที่สำคัญ ผมดันไปบอกชอบช็อก...ไปบอกชอบแฟนพี่พิงค์

นั่งตรงนั้นอยู่นานก่อนจะลุกจากป้ายรถเมล์ ตั้งใจจะเดินกลับบ้านแต่รถยนต์คันหนึ่งเข้ามาจอดเทียบฟุตปาท เมื่อคนขับเปิดประตูรถลงมาจึงเห็นว่าเป็นช็อก

“ปิงกลับยังไง เราไปส่งไหม”

“ไม่เป็นไร”

“ไปเหอะ ดึกแล้ว”

ผมมองเข้าไปในรถ เห็นพิงค์นั่งเงียบๆ อยู่ที่เบาะข้างคนขับโดยไม่พูดไม่จา เลื่อนสายตากลับไปมองช็อกที่บอกให้ผมขึ้นรถอีกที แต่ผมปฏิเสธด้วยการโกหก

“ไม่เป็นไร เราให้พี่อิสมารับแล้ว”

“อ้าวเหรอ งั้น...”

“ช็อก” ผมขัดคำพูดเขาขณะเงยหน้ามอง

เขาเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งแทนคำถาม

“เราไม่รู้มาก่อนว่าช็อกกับพี่พิงค์เป็นแฟนกัน”

“เราก็ตกใจที่ปิงรู้จักพิงค์เหมือนกัน”

“ช็อกกับพี่พิงค์ทะเลาะกันเพราะเราหรือเปล่า”

ช็อกเงียบไปแทนที่จะโต้ตอบ ผมรอให้เขาตอบคำถามเมื่อครู่อยู่นาน เขม้นมองจนช็อกพูดมันออกมาด้วยสีหน้าที่ดูลำบากใจ

“ไม่มีอะไรหรอกปิง ไม่ใช่เพราะปิงเลย”

“เอาความจริงสิช็อก เรารู้สึกผิดนะ”

“พิงค์เห็นไลน์ที่เราคุยกันก็เลยเข้าใจผิดเฉยๆ  เดี๋ยวเราเคลียร์กับพิงค์เอง ปิงไม่ต้องคิดมาก”

“เราขอโทษ”

“บอกแล้วว่าไม่เกี่ยวกับปิงไง ไม่ต้องคิดมากดิ”

ผมทำได้แค่พยักหน้ารับเบาๆ ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายบอกลาก่อน

“งั้นเรากลับก่อนนะ”

“อืม”

“ไว้เจอกันที่โรงเรียน” ช็อกว่าแค่นั้นก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถแล้วขับออกไป ผมมองตามรถที่แล่นออกไปจนลับตา แล้วหันกลับมาก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกประหลาดๆ ที่เกิดขึ้นในใจอย่างไม่เคยเป็น ความรู้สึกผิดบีบแน่นอยู่ในอกแบบโคตรอึดอัด...ผมทำพลาดไปแล้ว

...

พี่อิสมาส่งผมที่โรงเรียนอีกวัน ช็อกไม่ได้มารอผมที่หน้าปากซอยเหมือนทุกวัน แต่ก็ดีแล้วที่เขาไม่ได้รอ ผมบอกกับพี่อิสแล้วว่าจะมาโรงเรียนเองแต่เขายืนยันจะมาส่งผม เห็นบอกว่าช่วงนี้มีเงินเยอะพอจะฟุ่มเฟือยกับค่าน้ำมันรถที่ขับมาส่งได้ก็เลยต้องตามใจเขา

“เด็กนักเรียนสมัยนี้แม่งน่ารักฉิบหาย มึงดูคนนั้น เหมือนน้องสาวกูเลย” พี่อิสชี้ไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ผมยาวมัดด้วยโบสีน้ำเงิน

“นั่นก็เหมือนน้องสาว นี่ก็น้องสาว น้องสาวเต็มไปหมดเลย”

“พี่เหมือนโรคจิตนะรู้ตัวไหม”

“ไอ้บ้า”

“เดี๋ยวแจ้งตำรวจจับเลย!”

“กูแค่มองเฉยๆ ไม่หึงนะคนดี” พี่อิสว่าแล้วยื่นมือมาหยิกแก้มผม

“หึงอะไรเล่า!”

“หึงจนหน้ายู่ไปหมดแล้ว”

“ไม่ใช่เลย มั่ว!”

“อะๆ ลงไปเรียนได้แล้วไป วันนี้เลิกสามทุ่มเหมือนเดิมใช่ไหม”

“ใช่ครับ”

“โอเค รอที่บ้านนะ ตั้งใจเรียน”

ผมพยักหน้ารับก่อนจะลงจากรถแล้วเดินเข้าโรงเรียน คาบแรกวันนี้ซึ่งเป็นวิชาคณิตมีสอบย่อย ใช้เวลาไปแค่ครึ่งชั่วโมง สอบเสร็จอาจารย์ก็ปล่อยเลย เมธีหยิบหนังสือวิชาต่อไปขึ้นมาเตรียมตัว ส่วนผมทิ้งหัวหนักๆ ฟุบลงไปบนโต๊ะเช่นเคย ใช้พลังงานในการสอบคณิตไปหมดหลอด คิดคำตอบกี่ทีไม่เคยตรงในตัวเลือกสักข้อ วิชาคณิตนี่เขาคิดค้นมาให้ใครเรียนเหรอ อันนี้อยากรู้เฉยๆ แต่ผมคงไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายแน่ๆ

“ปิง!”

ผมผงกหัวขึ้นมาเพราะเสียงเรียกของเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ตรงเข้ามาด้วยท่าทางร้อนรนประหลาด

“มีอะไรเหรอ”

“ไอ้ยิมมันแกล้งปิงอีกแล้ว”

“มันทำอะไร...” ผมยังถามไม่ทันจบเพื่อนก็ส่งมือถือมาให้ผมดู ในกลุ่มไลน์ของห้องมีรูปผมถูกกอดอยู่ที่หน้าผับ เหตุการณ์เมื่อคืนที่ถูกคนเมานั่นเข้ามาขอนอนด้วย หัวคิ้วขมวดแน่นมองดูรูปภาพและข้อความนั่น

 

“เมื่อคืนไปเที่ยวแล้วเจอเพื่อนว่ะ”

“เห็นยืนขายตัวอยู่”

“บอกกูทีว่าใช่ไอ้ปิงเปล่า หรือหน้าเหมือน? 5555”

 

“ไอ้เชี่ย...” เมธีสบถออกมาเบาๆ ตอนที่ผมยังคงนิ่งงัน

“ไม่จริงใช่ไหมปิง”

ผมส่ายหน้าช้าๆ แทนคำตอบ

“ปิงต้องอธิบายกับเพื่อนนะ เดี๋ยวเกิดมีคนเข้าใจผิดแล้วพูดไปมันจะเป็นเรื่องใหญ่ได้”

ผมกำหมัดแน่นแล้วลุกพรวดออกไปหาไอ้ยิมแต่มันไม่ได้อยู่ที่หลังห้อง จึงก้าวเท้าเร็วๆ ออกมาข้างนอกก่อนจะเจอมันอยู่ที่หน้าห้องน้ำ

“ไอ้ยิม”

“มีอะไร” มันถามเสียงเรียบ

“รูปในไลน์คืออะไร”

“กูดิต้องถามว่าคืออะไร มึงขายตัวจริงปะ”

“ไอ้ยิม!”

“เมื่อคืนกูเห็นมึงพอดี กะว่าจะทักละแต่เห็นยุ่งๆ อยู่ก็เลยไม่ได้เข้าไป”

“มึงทำแบบนี้ทำไมวะ”

“กูแค่ไม่แน่ใจว่าเป็นมึงหรือเปล่าเลยมาถามเพื่อน กูแค่สงสัยไง”

“ยิม นี่มันมากไปนะ”

“ก็ถ้าไม่ใช่มึง มึงก็ไปแก้ตัวดิ”

ผมกำมือแน่นกว่าเดิม โกรธอย่างไม่เคยเป็น โกรธมากเสียจนอยากทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน อย่างเช่นกระโดดถีบหรือซัดหมัดใส่หน้ามันสักที แต่ที่ทำได้กลับแค่พ่นลมหายใจเบาๆ เรียกสติแล้วเงยหน้ามองมัน

“มึงแกล้งกูแล้วมึงได้อะไรวะยิม”

“...”

“มึงไม่ชอบกูขนาดนั้นเลยเหรอ กูไปทำอะไรให้ไม่พอใจนักหนาเหรอ มึงน่าจะรู้ว่าชีวิตกูแย่มากพอแล้ว กูเหนื่อยมากเลย มึงพอได้ไหม ขอร้องละ”

“...”

“มึงช่วยไปบอกเพื่อนทีได้ไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง”

“ทำไมกูต้องบอก”

“ก็มึงทำให้เพื่อนเข้าใจผิด แล้วเพื่อนก็ฟังมึงมากกว่ากู”

“ก็ถ้ามันไม่ใช่ความจริงมึงจะเดือดร้อนอะไร”

“แต่เพื่อนเข้าใจกูผิดไง คนอื่นเขาก็มองกูไม่ดีดิ”

“มึงก็ไม่เคยมีอะไรดีอยู่แล้วนี่!”

ผมนิ่งไปเพราะคำพูดของมัน มือกำแน่นเล็บจิกเข้าฝ่ามือจนเจ็บแปลบ

“กูแกล้งมึงแล้วมีความสุขอะ สะใจ มีอะไรปะ”

“ไอ้เหี้ย!” สติขาดผึงอย่างห้ามไม่ได้ ผมยกมือกระชากคอเสื้อมันแล้วดันเข้ากำแพงอย่างเหลืออด

“ไอ้ปิง!”

“มึงแม่งโคตรเหี้ย!” ผมใช้แรงทั้งหมดที่มียกมือบีบเข้าลำคอของมันด้วยมือที่สั่นระริก

“ไอ้ปิง! ปล่อยกู!”

“มึงไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านกูต้องทนแค่ไหน เมื่อไรมึงจะรู้ตัวสักทีว่ามึงมันเหี้ยแค่ไหน!”

“ไอ้ปิง!”

“เมื่อไรมึงจะพอ เมื่อไรจะพอใจ!”

พลั่ก!

ไอ้ยิมยกขาขึ้นถีบผมจนตัวลอยออกมา จังหวะเดียวกันมันก็คว้าร่างผมมาขึ้นคร่อมแล้วสาดหมัดเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว หมัดแล้วหมัดเล่าที่มันซัดเข้ามาจนผมหนีไปไหนไม่ได้ ที่จริงก็รู้ตัวแหละว่าผมสู้อะไรมันไม่ได้หรอก แต่ความอดทนของผมทะลุเพดาน ผมคงทนมานานเกินไปถึงจุดที่ล้นจนทนไม่ไหวมันเลยระเบิดออกมา แต่สุดท้ายก็ต้องรับชะตากรรมในสิ่งที่กำลังจะเกิด

“เฮ้ย! หยุดนะ! พอแล้วยิม พอแล้ว!” เสียงเพื่อนที่เข้ามาห้ามไม่ได้ทำให้ไอ้ยิมหยุดชกผม

“ไอ้เหี้ยยิม!”

พลั่ก!

ผมหลุดออกมาจากมือไอ้ยิมเพราะร่างมันลอยออกไปด้วยถีบของใครสักคน หันขวับไปเห็นว่าเป็นเขา...ช็อก

ผมยันตัวเองขึ้นมายกมือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกและปากจนท่วมมือ เมธีเข้ามาดึงผมให้ออกมาจากตรงนั้น เพราะพอไอ้ยิมที่หันกลับมาเห็นว่าเป็นช็อกก็ตรงเข้าไปเอาเรื่องทันที

“มึงเสือกเหี้ยอะไรไอ้ช็อก!”

“มึงชกปิงทำไม”

“ไอ้เหี้ยปิงมันทำกูก่อน”

ช็อกพุ่งเข้าใส่ไอ้ยิมอย่างไม่สนเสียงห้ามของเพื่อนที่อยู่ด้วย ผลัดกันชก ผลัดกันโดนชก แลกหมัดแลกถีบกันอยู่อย่างห้ามไม่ได้ ไอ้ยิมเหวี่ยงร่างสูงของช็อกไปกระแทกผนังตึก ก่อนจะคว้าคอช็อกกดลงพื้น คร่อมร่างแล้วสาดหมัดใส่เหมือนที่ทำกับผม

“ช็อก!” ผมสะบัดเมธีที่รวบตัวผมเอาไว้ออกแล้วเข้าไปดึงแขนไอ้ยิมเพื่อให้มันปล่อยช็อกออก

“ไอ้ยิม!”

มันสะบัดร่างผมกระเด็นออกมา ผมไม่หยุดแค่นั้นแล้วตรงเข้าไปอีกที รวบรวมแรงทั้งหมดที่มีถีบมันจนตัวปลิว ไม่รอให้มันยันตัวขึ้นมา ผมยกมือขึ้นชกสุดแรง

พลั่ก!

“เฮ้ย!” เสียงเพื่อนที่อยู่ตรงนี้ร้องลั่น เพราะมันไม่ทันตั้งตัว เมื่อถูกผมชกร่างเลยเซไปอีกทาง แล้วก้าวพลาดจนกลิ้งตกบันไดไป ทุกอย่างรอบตัวเงียบกริบ ผมเบิกตาขึ้นตอนที่ไอ้ยิมยันตัวเองขึ้นมา แล้วหันมามองผมด้วยแววตาเกรี้ยวกราด เลือดไหลซึมออกมาจากหน้าผากของมัน

“ไอ้ปิง” มันเค้นชื่อผมออกมาเบาๆ แล้วก้าวบันไดขึ้นมาแต่ทรุดฮวบลงไปก่อน ลั่นเสียงโอดครวญกุมข้อเท้าของตัวเอง ผมเดาว่าขามันคงพลิกตอนตกบันไดลงไป

“ไอ้ยิม!”

“พามันไปห้องพยาบาลก่อนดีกว่า เร็ว”

ผมได้แต่กำหมัดแน่น ไม่อาจควบคุมลมหายใจหอบถี่และริมฝีปากที่สั่นระริก ผมเป็นคนทำมันเอง...ผมเอง

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-02-2017 23:59:07
ช็อกไปหลายเรื่องเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 17-02-2017 00:00:35
โอ้ยย ชิบหายจริงๆปิงเอ้ยย  :katai1: :katai1:
ชอบพี่อีสอ่ะ มันเป็นสันดาน 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: kung ที่ 17-02-2017 00:09:16
ยังยืนยัน พี่อิสโคตรน่ารัก แมนๆกากๆจริงใจดี เรารักพี่อิส555 ส่วนช็อกกับพี่พิงค์ก็เดาได้อยุ่นะ ปิงก็ยังชอบช็อกเหมือนเดิม ยังไม่ชอบพี่อิส เฮ้อ.. #อ้าแขนรอพึ่อิส :mew1:  ส่วนปิงปล่อยไปค่ะ :z2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 17-02-2017 00:22:11
ตอนนี้อึ้งค่ะ ตอนนี้แล้วยังพอเดาได้
แต่ตอนนี้คือ... จุดใต้ตำตอมากมาย
โอ้ยยย สงสารพี่พิงค์ อินังช้อกเอ้ย!!!
ละไอ้ยิมนี่อะไรอะ โรคจิตหรอ
อยากเจอจิตกว่ามั้ยน้อง ตอนหน้าเจอแน่
ถ้าเจอพี่อิสภาคจิตแบบจริงจัง หวังว่าใจน้องคงจะสู้ได้นะ
คนแบบยิม มันต้องลองเจอคนจริงๆซักที
แล้วมันจะได้รู้ บนโลกใบนี้มันไม่ได้เป็นคนเดียวที่แน่  :m16:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 17-02-2017 00:22:31
คอมเม้นตอน19
ความชัดเจนเริ่มมาแล้ววววว แอบเดาๆไว้อยุแล้วว่าปิงต้องชอบช็อกแน่ๆเลย
เพราะโดยพื้นฐานคือปิงขาดความรักขาดคนคอยเอาใจใส่คนคอยตามใจ คอยดูแลมาโดยตลอด
และทั้งหมดที่ปิงขาด ช็อกเข้ามาทำทั้งหมดแบบชัดเจน คือสถานะที่ชัดเจนและเป็นไปได้มากกว่าที่พี่อิสทำ
แต่ก้ยังแอบคิดตอนแรกว่าช็อกอาจจะชอบปิงบ้าง คือจากที่ปูมาตอนแรกคือช็อกโคตรคนดี เฟรนลี่เป็นที่สุด
ซึ่งคนแบบนี้มีโอกาสเสี่ยงให้คนรอบข้างเข้าใจผิดได้ง่ายๆว่าชอบว่าจีบ
ช็อกสุดตอนนี้คือปิงแบบอยู่ดีๆก้บอกออกไปก่อน ไร้เกริ่นนำไร้อะไรใดๆทั้งสิ้น5555555
แต่ก้เออดี จะได้เคลียๆกันไปให้ชัดเจน ปิงก้ไม่ได้เสียใจอะไรมาก อาจจะแค่เฟลๆ อาย เสียหน้านิดหน่อย
แลกกับสถานะเคลียมากๆ+พี่อิสไร้คู่แข่ง+พี่อิสเดินหน้าจีบได้เต็มที่+น้องหัวใจว่าง5555
ปัญหาคือเมื่อไหร่พี่อิสจะเลิกเนียนเลิกเต๊าะน้อง แล้วหันมาจีบจริงจังขัดเจนซะทีคะ!!
เมื่อไหร่จะเคลียชะนีซะที ความชัดดเจนอยู่ที่ไหนนน!!!!
รอออออออออค่าาา
-------------------------------------------------------------------
คอมเม้นตอน20
เป็นไปตามคาดเลยยยเรื่องช็อกกับพี่พิงค์ ไม่ได้รู้หรือสังเกตอะไรด้ทั้งนั้นค่ะ
แค่รู้สึกว่าเออเคมีเค้าเข้ากันดีจังถึงจะไม่มีฉากที่ออกมาพร้อมๆกันก้เถอะ
ส่วนพี่อิสคนกาก alwayกากเหมือนเดิมอะ ไม่จีบซะที
บทน้อยเพราะค่าตัวพี่แพงใช่มั้ย ตอบบบ!! ช่วงนี้ช็อตสินะมาโก่งค่าตัวเนี่ย
พระเอกเราต้องมีตัวตนในเรื่องค่ะ5555555 โอยยย555
ส่วนยิมนี่แบบอยากจะมองบนใส่รัวๆ เป็นอะไรอะแกรรร หาเรื่องนฝปิงทำไมเยอะแยะ
ตอนแรกก้แอบเดาๆว่าอาจจะชอบปิงเลยแกล้ง เลยคอยหาเรื่องงี้
แต่มาตอนนี้คือแบบไม่ใช่ละ นี่แกล้งแรงไปละ แถมชกไม่ยั้งขนาดนั้นอีกอะ
คือไม่เข้าข่ายชอบ แถมเหมือนจะเกลียด จะโกรธ จะแค้นไรปิงมานานขนาดนั้นอะแรงด้วย
ใกล้จบแล้วยังไม่อยากให้จบเลย ก่อนจบวอนพี่อิสโชว์สกิลจีบน้องอย่างจริงจังทีค่ะ
อย่าให้นางกากไปจนจบเรื่องเลย ขอฉากที่ออร่าพระเอกออกมาหน่อยยย
นอกจากฉากเปิดตัวแล้ว พระเอกเราก้กากมาตลอด กากขึ้นเรื่อยๆ สงสารนาง5555
รอค่ะะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 17-02-2017 00:29:18
อ่านเรื่องนี้เพราะพี่อิสคนกากเลยนะ ขำดี ว่าแต่เฮียเป็นพระเอกจริงเหรอเนี่ยะ บทเทไปที่ช็อกซะมากกว่า
ส่วนยิม สมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 17-02-2017 00:47:52
โห รู้สึกแย่แทนปิง
ดันไปรู้สึกดีกับแฟนของคนที่ดีกับเรา
แถมยังเลิกกันอาจจะเพราะเราด้วย
แล้วนี่ดันมามีเรื่องอีก
แล้วพี่อิสจะว่ายังไง  เรายังเชียร์พี่อิสนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 17-02-2017 00:58:23
อย่าเพิ่งจบ กำลังสนุกเลยยยย ช็อกอีกตอนที่ช็อกกับพี่พิงค์เป็นแฟนกัน กินเด็กเป็นอมตะเนอะพี่เนอะ
ยิมทำไมเลวงี้วะ เลวไร้มิติ คือเลวไปหมด มีปัญหาทางบ้านแน่ๆ แต่ก็อย่าเป็นไรละกัน สงสารปิง
เจอมาเยอะเกินไปแล้ว

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 17-02-2017 01:12:58
สมน้ำหน้าไอ้ยิม แต่ก็แอบใจแป้วเหมือนกัน เกิดมันเป็นอะไรหนักขึ้นมา ปิงต้องแย่มาก ๆ
เรื่องแกล้งก็ไปเริ่มทำเขาก่อนแท้ ๆ พอเขาสู้ขึ้นมา ทำเป็นโมโห เก่งเป็นคนเดียวไงว้า  :z6:

พี่พิงค์ไม่ได้รู้ใช่ไมอ่า ว่าคนที่ช็อกคุยคือปิง ขอให้ไม่รู้ต่อไป เพราะปิงก็ตัดแล้ว ช็อกเองก็สารภาพแล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 17-02-2017 01:55:46
เบื่ออิพี่อิส ไม่ขอพูดถึง
ส่วนอียิม เกียดคนเเบบนี้มาก
คนนิสัยส้นทีนๆ ที่คิดว่ากูทำคนอื่นเเล้วสะใจ
เเต่คนอื่นไม่มีสิทธิที่จะมาทำเเบบเดียวกับกู
ไอ้ห่านนน ไอ้ส้นทีนนนน
หวังจะมีคนมาช่วยเป็นพยายานนะ
ว่าไอ้ห่านนี่มันหาเรื่องเอง
ไม่ใช่ให้ปิงโดนเกลียดคนเดียว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 17-02-2017 02:59:18
ไอ้ยิมสมควรโดนแล้วเกลียดมันมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 17-02-2017 03:37:10
เกลียดช็อกอะ โคตรให้ความหวังแล้วบอกทำดีกับทุกคน :m16:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: beerby-witch ที่ 17-02-2017 03:47:49
ขอความเห็นใจให้พระเอกด้วยค่ะ อีกห้าตอนจะจบแล้วแม่งยังไม่รักกันเลย  :katai5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 17-02-2017 06:08:08
ใกล้จบแล้วอ่ะดิ
จริงๆก็สมน้ำหน้ายิมนะ สมควรๆ เวรกรรมตามสนอง ไปยุ่งกับเขาทำไม เฮอะๆๆ
ขอบทเพ่อิสหน่อยค่ะ ช็อคจะเป็นพระเอกแทนอยู่แล้วววว เอ๊ะหรือช็อคเป็นพระเอก แค่ยืมชื่อเพ่อิสมาเป็นชื่อเรื่องเฉยๆ 555
ขอให้โชคเข้าข้างปิงนะ เพื่อนๆเป็นพยานได้ ว่าใครเริ่มก่อน
สุดท้าย ขอประเด็นเคลีย เนยได้นะจ้า ไม่เอาคบซ้อน แอบคุยเหมือนช็อคนะเออออ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-02-2017 06:10:51
ยิมทำเกินไปนะ แต่ปิงก็ขาดสติไปหน่อย (ถ้าอัดเสียงไว้แล้วเดินไปพูดกับยิม เอาคลิปเสียงนั่นไปลง ก็แก้ข้อกล่าวหาได้แล้ว) แต่ก็อีกนั่นละ... เข้าใจว่าเกิดเรื่องแบบนี้กับใครก็มีแต่ต้องร้อนใจทั้งนั้น จะทำยังไงล่ะทีนี้ เรื่องมันยุ่งวุ่นวายเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ming88 ที่ 17-02-2017 07:10:32
งื้อ สงสารปิงๆ :sad4: :sad4: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-02-2017 09:13:46
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 17-02-2017 12:02:37
ช็อก ทำให้ช็อก ชิส์ ทำดี อ่อยปิง
ที่แท้เป็นแฟนกับพิงค์
พี่อิส น่ารัก ปลอบปิง
"เขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ พี่ยังอยู่"  :mew1: :mew1: :mew1:
......
สะใจ สมน้ำหน้าเชี่ยยิม เธ่อ.....ดีแต่รังแก ทำร้ายปิงตลอด
ยังกะปิงเป็นลูกเมียน้อยของพ่อมัน
พยานมากมายน่าจะให้ความเป็นธรรมกับปิง
ก็โดนทำร้ายอยู่คนเดียวทั้งปี
ปิงก็โดนหมัดกระหน่ำรัวๆ จนหน้าตาบวมปูด หน้าแตก
เป็นไรเป็นกัน พี่อิสช่วยปิงอยู่แล้ว
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-02-2017 12:35:44
ซวยของแท้ปิงเอ้ย เรื่องพิงค์ช็อกยังไม่คลี่คลาย มีเรื่องยิมเข้ามาอีก
อิยิมนี่จิตของแท้เลย ตอนแรกยังคิดว่าแกล้งเพราะแอบชอบหรือเปล่า
นี่มันตั้งหน้าตั้งตาแกล้งชัด ๆ นิสัยไม่ดี
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 17-02-2017 18:09:17
พี่อิสเป็นคนเปิดเผย ดีใจน้องอกหักก็แสดงออก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 17-02-2017 18:44:24
ส่วนหนึ่งเราคิดว่าปิงมีโลกที่แคบมาก่อนด้วยล่ะ พอเจออะไรใหม่ๆ บางทีก็ปรับตัวไม่ทันไม่แน่ใจในอะไรแม้แต่ความรู้สึกตัวเอง เฮ้อ ขอผ่านไปเร็วๆ ละกัน

ส่วนยิมเป็นคนจังไรตั้งแต่เกิดหรือเปล่า อันนี้สงสัยจริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Kominum ที่ 17-02-2017 18:46:02
สนุกมากกก รอตอนต่อไป :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-02-2017 19:34:29
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 17-02-2017 20:38:57
ช็อกเหมือนเป็นของแสลงไปละเมื่อก่อนชอบนะแต่เดี๋ยวนี้พอเห็นชื่อแล้วหมดอารมณ์ พี่อิสจีบน้องมันจริงๆจังๆสักทีเหอะนะะะ ถึงจะแอบระแวงแจ่ก็อยากให้น้องมันลืมช็อกสักที ส่วนอิยิมหมดคำพูดค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 17-02-2017 21:59:59
เกลียดอิยิม ทำไมต้องมาแกล้งน้องของเราด้วย !!  :m31:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 20] 16-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 17-02-2017 23:32:09
อ้าว...ใกล้จะจบแล้ว
แต่คุณพี่อิสยังไม่ได้ทำอะไรให้คืบหน้าไปไหนเลย
นินึกว่าช๊อกเปนพระเอกไปแล้วนะเนี่ย
เดินหน้าหน่อยเถอะพี่อิส ขอร้องงงงงง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 17-02-2017 23:39:52
ตอนที่ 21

เหนื่อย

 

ในห้องปกครองที่เงียบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ ไม่มีใครพูดอะไรออกมาเลยทั้งผมและครูฝ่ายปกครอง ช็อกไม่ได้เข้ามาที่นี่ด้วย เพราะคิดดูแล้วเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเลยขอให้เขารออยู่ข้างนอก ครูฝ่ายปกครองก็เห็นด้วยเพราะช็อกเป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียน ไม่ควรเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้

เรารอกันอยู่พักหนึ่ง ประตูก็เปิดออกด้วยครูฝ่ายปกครองอีกคน เดินนำไอ้ยิมและแม่มันเข้ามา ผมไม่ได้ก้มหน้าหนีตอนที่แม่ของมันมองมาที่ผมอย่างดูเอาเรื่อง

“เด็กคนนี้เหรอคะ” เสียงเรียบๆ เอ่ยถาม

“คุณแม่นั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวรอผู้ปกครองของปวินท์ก่อนค่อยคุยกันนะคะ”

ผมเงยหน้าไปมองครูผู้หญิงที่เดินเข้ามา สะดุดกับคำว่าผู้ปกครองของผม แม่ของไอ้ยิมและตัวมันที่ไปทำแผลเรียบร้อยแล้วนั่งลงที่โซฟาตัวข้างๆ  ไอ้ยิมสีหน้าเรียบเฉย ตอนที่สบตากันมันก็ได้แต่แสร้งมองออกไปทางอื่น

ครูผู้หญิงเดินออกไปนอกห้องอีกครั้ง พักเดียวก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับใครอีกคน ดวงตาของผมขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเป็นป้าของผม สายตาของป้าที่มองมาทำให้ผมต้องก้มหน้าลงไป ผมคิดว่าจะเป็นพี่อิส ผมคิดว่าครูโทรตามพี่อิส ผมอยากให้เขามาเป็นผู้ปกครองผมมากกว่า...อยากให้พี่อิสอยู่ตรงนี้

“เชิญนั่งเลยค่ะ”

“ดิฉันขอเข้าเรื่องเลยนะคะ ลูกชายของคุณ...”

“หลานค่ะ” ป้าพูดขัดแม่ไอ้ยิมที่เข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นลูกของป้า

“ค่ะ หลานของคุณทำร้ายร่างกายลูกชายดิฉันนะคะ”

“มึงทำเหรอ” ป้าหันมาถามผม

ผมพยักหน้ารับ

“ดิฉันไม่รู้ว่าคุณเลี้ยงหลานยังไง”

“ฉันไม่ได้เลี้ยงค่ะ มันหนีออกจากบ้านตามไปอยู่กับไอ้กุ๊ยที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่แปลกใจเหมือนกันค่ะว่าทำไมถึงเสียคนแบบนี้ ออกไปไม่นานก็เป็นอันธพาลเลย สันดานออกเร็วนี่” ประโยคหลังป้าหันมาพูดกับผม นอกจากกำหมัดแน่นก้มหน้าฟัง ผมก็ทำอะไรไม่ได้เลย

“แล้วทางโรงเรียนจะจัดการเรื่องนี้ยังไงคะ” แม่ไอ้ยิมหันไปหาครู

“ก่อนอื่นครูต้องถามก่อน ว่าปัญหาของพวกเธอคืออะไร ทำไมต้องทะเลาะกันหนักขนาดนี้”

ไอ้ยิมหันมามองหน้าผมแต่ไม่ได้พูดอะไร ผมหันไปมองอาจารย์ที่มองอย่างเค้นเอาคำตอบ

“ผมเป็นคนเริ่มเองครับ”

“เธอมีเหตุผลอะไรปวินท์”

“ผมเกลียดมันครับ”

ไอ้ยิมขบกรามแน่นตอนที่ผมหันไปพูดแบบนั้น ผมพูดคำเดิมซ้ำ

“โคตรเกลียดเลย”

“เด็กก็ยอมรับแล้วนะคะ คงไม่ต้องสืบสาวอะไร บอกมาเลยดีกว่าว่าจะลงโทษยังไง เพราะดิฉันไม่ยอม ยังไงก็จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จะพักการเรียนหรือไล่ออกไปเลยก็ได้”

“คุณแม่ใจเย็นๆ นะครับ”

“เกิดเรื่องแบบนี้จะให้ใจเย็นเหรอคะ ขนาดในโรงเรียนยังทำกันได้ถึงขนาดนี้เลย”

“ปกติมึงก็ไม่สู้คนนี่หว่า” ป้าพูดขึ้นมาแล้วยกมุมปากขึ้นยิ้ม หัวเราะในลำคอเบาๆ

“ยังไงดิฉันก็ไม่ยอมค่ะ ต้องลงโทษสถานหนัก ถ้าทางโรงเรียนไม่จัดการ ดิฉันจะจัดการเอง จะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้เลย”

“คืออย่างนี้นะครับ โทษสถานหนักคือการไล่ออก แต่เด็กอยู่ม.หกแล้ว แล้วการไล่ออกกลางเทอมแบบนี้คงไม่เป็นผลดี ผมว่าเราประนีประนอมกันได้นะครับ ถือว่าเห็นแก่อนาคตของเด็ก”

“งั้นก็ให้พักการเรียนไป”

ผมเงยหน้ามองครูที่ดูกล้ำกลืนที่จะพูดออกมาเหมือนกัน

“ถ้าอย่างนั้นเพื่อเป็นการลงโทษ เราคงต้องพักการเรียนของเธอนะปวินท์”

ผมได้แต่เงียบ ในใจผมร่ำร้องเพื่อจะแย้งบทลงโทษนั้นแต่ทำอะไรไม่ได้

“คุณป้าว่ายังไงคะ” ครูผู้หญิงที่คงเดาความรู้สึกของผมออก หันไปถามความเห็นของป้าแล้วก็ได้คำตอบที่ผมไม่ประหลาดใจนัก

“ไม่ว่ายังไงค่ะ ผิดก็ว่ากันไปตามผิด ถ้าหลานฉันมันไม่ดี ก็ลงโทษกันไป”

“ถ้าอย่างนั้นจะถือว่าผู้ปกครองยินยอมนะครับ ครูนุจรีเอาเอกสารให้ผู้ปกครองปวินท์เซ็นด้วย”

ผมมองกระดาษแผ่นนั้นที่ครูยื่นให้ป้าพร้อมปากกา ป้าเซ็นลงไปอย่างไม่ลังเล ทั้งตัวผมและอนาคตผมไม่มีความสำคัญอะไรกับป้าเลย ผมไม่ได้พูดอะไรออกไป ที่ผมเงียบไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ความเจ็บปวดข้างในมันอธิบายไม่ได้ ผมรู้แค่ว่าตัวเองไร้ค่า ไม่มีใครเข้าข้างผมเลย...ไม่มีเลยสักคน

“จบเรื่องแล้วใช่ไหม ฉันจะได้กลับ”

“เชิญค่ะ”

“เสียเวลากูจริงๆ” ป้าพูดแค่นั้นแล้วลุกออกไป ผมกำเอกสารที่ครูยื่นให้เอาไว้แน่น กำลังจะลุกออกไปแต่ประตูห้องปกครองก็ถูกเปิดเข้ามาเพราะช็อกที่พรวดพราดเข้ามา

“ชนะพล เข้ามาทำไม พวกเธอก็ด้วย” ไม่ใช่แค่ช็อก ยังมีเพื่อนในห้องผมอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงเมธีที่ก้าวเท้ามายืนข้างๆ ผม ช็อกวางสายตาอยู่ที่กระดาษในมือผมแล้วหยิบมันไป

แควก!

“ชนะพล!” ครูฝ่ายปกครองเรียกชื่อเขาดังลั่นตอนที่ช็อกฉีกกระดาษนั่นทิ้ง

“เรื่องนี้ปิงไม่ผิดครับ เพราะปิงช่วยผม และที่ไอ้ยิมตกบันไดมันเป็นอุบัติเหตุครับ”

“แต่ปวินท์บอกว่าเขาเป็นคนเริ่มเรื่องนี้ก่อน”

ช็อกหันขวับไปหาไอ้ยิม

“มึงไม่ได้บอกเหรอว่าปิงเริ่มเพราะอะไรอะ เพราะความเหี้ยของมึงไม่ใช่เหรอ!”

“ชนะพล ใจเย็นๆ แล้วอธิบายให้ครูฟัง”

“ไอ้ยิมมันเอารูปปิงไปโพสต์ในกลุ่มไลน์แล้วบอกกับเพื่อนว่าปิงขายตัวครับ”

“อะไรนะ”

“ปิงไปขอให้มันอธิบายเรื่องนี้กับเพื่อน แต่มันไม่ยอม ก็เลยมีเรื่องกันนิดหน่อยครับ”

“จริงหรือเปล่าปวินท์”

ผมพยักหน้ารับ

“แล้วทำไมปิงไม่บอกเรื่องนี้กับครูวะ บอกไปให้หมดเลยว่าไอ้นี่มันทำอะไรกับปิงไว้บ้าง” ผมก้มหน้างุดตอนที่ช็อกหันมาเสียงดังใส่ด้วยท่าทางหงุดหงิด ไอ้ยิมกำหมัดแน่นมองช็อกด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

“เธอพูดอะไรของเธอ!” แม่ไอ้ยิมหันไปแผดเสียงใส่ช็อก

“ลูกชายของคุณแม่นิสัยเสียมากครับ มันแกล้งปิงมาตลอด หาเรื่องปิงสารพัด ไม่เชื่อถามเพื่อนในห้องดูก็ได้ เมธี มึงอยู่กับปิงตลอดอะ มึงเองก็โดนมันแกล้งเหมือนกัน บอกสิว่าโดนอะไรมาบ้าง”

เมธีพยักหน้าแล้วเดินเข้ามาด้วยท่าทางจริงจัง หันบอกกับครูและแม่ของไอ้ยิม

“ใช่ครับ พวกเราโดนไอ้ยิมแกล้งตลอด โดนหาเรื่องทุกวันเลยครับ ไล่เราไปกินข้าวนอกโรงอาหาร บางวันก็แย่งสมุดการบ้านผมไปลอกแล้วก็ไม่เอาไปส่งให้ ทั้งผม ทั้งปิง และเพื่อนคนอื่นๆ ก็ถูกแกล้งประจำครับ”

“ใช่ค่ะ หนูเป็นพยานได้”

“หนูก็เห็นค่ะ”

“บางทีเขาก็แกล้งพวกหนูด้วยค่ะ”

เพื่อนในห้องที่เข้ามาผลัดกันพูดผลัดกันอธิบายจนไอ้ยิมเริ่มหน้าเสีย แม่ของมันก็ด้วย

“พวกมึงมารุมกูทำไมเนี่ย”

“ก็มึงเหี้ยจริงอะ ถ้ามีคนที่จะต้องถูกพักการเรียนหรือไล่ออก ก็ควรเป็นมันนี่แหละครับ”

“ปวินท์ เธอมีอะไรจะพูดไหม” ครูหันมาเรียกผม

ผมหันไปมองไอ้ยิม เลื่อนสายตาไปมองช็อกและเพื่อนคนอื่นๆ ก่อนที่ผมจะส่ายหน้าแทนคำตอบ

“ปิง! พูดอะไรสักคำสิ!”

“ผมไม่ต้องพักการเรียนแล้วใช่ไหมครับ” ถ้าให้ผมพูดสักคำ นั่นก็คือคำถามแรกที่ผมอยากจะถาม ครูฝ่ายปกครองหันมองกระดาษที่ถูกช็อกฉีกจนขาดวิ่นก่อนให้คำตอบกับผม

“ใช่ เพราะเธอไม่ผิด”

“ขอบคุณครับ”

ผมพูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปที่ประตูเพื่อออกไปจากที่นี่ คำถามของเพื่อนคนหนึ่งหยุดมือของผมที่กำลังยกเปิดประตู

“แล้วไอ้ยิมจะถูกพักการเรียนหรือเปล่า มันทำกับปิงขนาดนี้ ปิงอย่าไปยอมมันนะ”

เราทั้งหมดหันไปมองไอ้ยิมกับแม่ของมัน ผมเงยหน้ามองช็อก ใจจริงช็อกคงอยากให้ผมเอาเรื่องมันคืนอย่างถึงที่สุด แต่ผมไม่ได้ติดค้างใจอะไร ผมอยากจบเรื่องนี้สักที ตอนนี้เหนื่อยมากเลย

ไอ้ยิมกับแม่มันถูกครูฝ่ายปกครองขอคุยต่ออยู่ในนั้น ส่วนผมและเพื่อนๆ ครูให้ออกมาข้างนอกก่อน ผมหันไปหาเพื่อนทุกคน ตอนที่เพื่อนพยายามช่วยพูดจนผมพ้นผิด ผมรู้สึกว่าตัวเองโง่เง่าที่ไม่พูดความจริงออกไป ผมไม่ได้ต่อสู้เพื่อตัวเองเลย ได้แต่ก้มหน้ายอมรับอย่างคนขี้แพ้

“ขอบคุณทุกคนมากนะ ไม่อย่างนั้นเราคงโดนพักการเรียนไปแล้ว”

“ไม่เป็นไร เพื่อนกัน”

“ไม่เป็นไรนะปิง”

“ปิง สู้ๆ”

ผมพยักหน้าให้พวกเขา ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง เลยดูเหมือนเข้ากับเพื่อนไม่ได้ ผมคุยกับเพื่อนในห้องน้อยมาก ผมจึงไม่เคยรู้ว่าพวกเขาก็พร้อมจะเข้าข้างเพื่อนที่เอาแต่นิ่งเฉยอย่างผมเหมือนกัน ผมทำได้แค่ขอบคุณก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันกลับไปที่ห้อง ผมหันไปมองช็อกที่ยังอยู่ข้างๆ

“ช็อก”

“...”

“ขอบคุณมากนะ”

“ไม่เป็นไร”

“...”

“เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนดิ”

ผมอยากย้อนเวลากลับไปอีกแล้ว ผมคงไม่พูดอะไรบ้าๆ ออกไปและคงความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเขาไว้ที่คำว่าเพื่อน ผมคงมีความสุขกว่านี้

“แล้วช็อกกับพี่พิงค์...” เว้นวรรคเป็นคำถาม ก่อนที่ช็อกจะพยักหน้ารับเบาๆ

“โอเคแล้ว”

ผมยกมุมปากยกยิ้มนิดหน่อยด้วยความรู้สึกโล่งใจ

“จริงๆ เรากับพิงค์ก็ทะเลาะกันบ่อยแหละ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับปิงเลย งี่เง่าทั้งคู่ด้วยไง เลิกกันเดือนละหลายครั้ง” ช็อกพูดขำๆ

“...”

“เพราะงั้นปิงก็ไม่ต้องรู้สึกผิดแล้วนะ เพราะมันไม่เกี่ยวกับปิงจริงๆ”

“...”

“เข้าใจไหมปิง เข้าใจสิ”

ช็อกจับหัวผมให้พยักหน้าลงไป ผมถอยออกมาจากช็อกและหันหลังให้ด้วยความรู้สึกที่ปนเปกันไป ยังคงมีความรู้สึกผิดในบางเรื่องค้างอยู่ในใจ ผมเองก็ไม่ได้ชอบช็อก...มากขนาดนั้น

ผมใช้ช็อกเป็นเครื่องมือพาผมหนีไปจากความรู้สึกที่มีต่อใครอีกคนต่างหาก ที่ผมไปบอกชอบช็อกเพราะผมแค่อยากลองก้าวไปกับช็อกก้าวหนึ่งเพื่อถอยออกมาจากเขาก้าวหนึ่ง แต่สุดท้ายผมก็ไปไหนไม่รอด หัวใจจนมุมจนในที่สุดมันก็ต้องยอมรับ ผมชอบเขาต่างหาก ไม่ใช่ช็อก...เป็นพี่อิสต่างหาก

 

...

 

ผมเดินเข้าไปในร้านกาแฟตอนเย็นอย่างทุกวัน ที่จริงวันนี้ผมไม่อยากมาทำงานเลย ที่ถูกไอ้ยิมชกบวมช้ำจนปวดไปทั้งหน้า โหนกแก้มกับปากก็แตกจนแสบไปหมด แถมเจ็บหน้าอกที่ถูกถีบจนปลิวอีก อยากกลับบ้านไปนอนมากกว่า แต่ไม่ได้ลางานล่วงหน้าก็เลยจำเป็นต้องเดินเข้ามาที่นี่

“เฮ้ย ปิง หน้าไปโดนอะไรมาอะ!” วินาทีแรกที่พี่ในร้านเห็นหน้าผมก็หันมาถามอย่างตกใจ

“โดนต่อยครับ” ผมตอบตามความจริง

“โอ๊ย ตายแล้ว เจ็บไหมเนี่ย”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ

“งั้นไม่ต้องทำงานหรอก กลับไปพักเหอะ”

“พี่พิงค์เข้ามาหรือยังครับ”

“ยังเลย เดี๋ยวก็คง...”

“น้องปิง!” เสียงพี่พิงค์ดังแทรกอย่างได้จังหวะ เจ้าของเสียงพรวดพราดเข้ามาแล้วตรงดิ่งมาหาผมอย่างกับตั้งใจเอาไว้แล้ว คว้ามือผมเดินออกไปหลังร้านท่ามกลางสายตางงๆ ของพี่คนอื่นๆ  เมื่อพี่พิงค์ที่เดินนำผมมาหมุนตัวกลับมามอง ดวงตาคู่นั้นก็ขยายกว้างขึ้นเล็กน้อย

“เฮ้ย! หน้าไปโดนอะไรมาอะ”

“มีเรื่องนิดหน่อยครับ”

“เจ็บไหมเนี่ย”

“เจ็บนิดหน่อยครับ”

“ไม่นิดแล้วมั้ง งั้นวันนี้หยุดงานไปเลย”

“ขอบคุณครับ ว่าแต่...พี่พิงค์มีอะไรหรือเปล่า”

“เออลืมเลย! เมื่อคืนพี่โคตรเมาเลยแต่จำได้ว่าน้องปิงเอามือถือไปให้ แต๊งกิ้วนะ” พี่พิงค์หัวเราะด้วยท่าทางเขินๆ  ผมได้แต่พยักหน้ารับก่อนที่เขาจะพูดต่อ

“แล้วอีกเรื่อง ปิงรู้จักกับช็อกด้วยเหรอ”

“ครับ...รู้จักครับ”

“คนที่ไปโรงเรียนพร้อมช็อก คนที่ไลน์คุยกับช็อก คนที่ช็อกส่งเพลงให้ฟังทุกวัน คือปิงเหรอ”

พี่พิงค์รู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว ผมจึงได้แต่พยักหน้ารับ สูดลมหายใจหนึ่งทีแล้วเงยหน้าขึ้นไปร่ายยาวด้วยอารมณ์ที่อัดอั้นอยู่ในใจของผม

“พี่พิงค์ ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่รู้ว่าช็อกมีแฟนแล้ว ผมไม่รู้ว่าแฟนช็อกคือพี่พิงค์ ผมขอโทษครับ”

“เฮ้ย ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย”

“ผมรู้ว่าพี่โกรธ แต่ว่าผม...”

“ไม่ได้โกรธซะหน่อย”

“ครับ?”

“พี่จะบอกว่าเป็นปิงก็ดีแล้วไง พี่แม่งโกรธช็อกฟรีเลยอะ ถ้ารู้ว่าเป็นปิงพี่ไม่งอนหรอก ช็อกมันก็ไม่บอกว่าเป็นปิง หลบๆ ซ่อนๆ อยู่ได้ พี่รำคาญเลยบอกเลิกแม่ง แต่สุดท้ายพี่ก็เป็นฝ่ายฟูมฟายจะเป็นจะตาย ให้อภัยมันง่ายๆ ตอนมันมาง้อ” พี่พิงค์พูดติดตลก แต่ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์จะขำด้วยเลยสักนิด

“พี่พิงค์ แต่ผม...ผมบอกชอบช็อก”

“แล้วชอบจริงหรือเปล่า”

“...”

“ชอบแบบที่มากกว่าเพื่อน”

ผมส่ายหน้าเบาๆ เพื่อปฏิเสธ

“พี่พิงค์เชื่อผมนะครับ ช็อกไม่ได้ชอบผม ช็อกรักพี่พิงค์มาก ผมยอมรับว่าผมหวั่นไหวไปกับช็อก เพราะไม่เคยมีใครทำดีกับผม ผมคิดไปเองทั้งหมดเลย ผมกับช็อกไม่มีอะไรจริงๆ  พี่พิงค์อย่าโกรธช็อกเลยนะครับ อย่าเลิกกับช็อกเลย”

พี่พิงค์ยกมือจับไหล่ผมทั้งสองข้าง

“ปิงมองหน้าพี่หน่อย”

ผมเงยหน้ามองพี่พิงค์ กัดริมฝีปากสั่นๆ ของตัวเองเอาไว้

“ปิงไม่ต้องขอโทษพี่เลย มันไม่ใช่ความผิดปิง พี่ทะเลาะกับช็อกบ่อยๆ อยู่แล้วไง ที่เคยเล่าให้ฟังอะ ต่อให้ไม่ใช่เพราะปิงเราก็ทะเลาะกันเรื่องอื่นอยู่ดี ส่วนเรื่องที่ปิงหวั่นไหวไปกับช็อกพี่เข้าใจนะ ช็อกมันแรดไง” พี่พิงค์หลุดหัวเราะ แต่ผมก็ยังยิ้มไม่ออก เขาจึงปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วพูดต่อ

“แล้วพี่กับช็อกก็คบกันแบบไม่ได้บอกใครมากด้วย ไม่แปลกที่ปิงจะไม่รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน พี่เองก็ไม่ได้บอกปิงว่าแฟนพี่อยู่โรงเรียนเดียวกับปิง ไม่งั้นปิงก็คงรู้ตั้งแต่แรกแล้ว และที่สำคัญพี่ไม่โกรธปิงเลย แค่ปิงบอกว่าไม่มีอะไร พี่ก็เชื่อว่ามันไม่มีอะไร เพราะพี่รู้ว่าปิงเป็นคนยังไง” พี่พิงค์พูดยาว พลางยกมือตบไหล่ผมเบาๆ

“ที่จริงผมอายที่จะเจอหน้าพี่พิงค์กับช็อกแล้ว ผมกะจะมาที่นี่เพื่อลาออก”

“ไอ้บ้า! ไม่ให้ออกเว้ย! ยิ่งหาพนักงานไม่ได้อยู่”

ผมยิ้มออกมาได้เพราะความใจดีของพี่พิงค์ที่ไม่ได้โกรธเคืองผม

“สบายใจแล้วนะ”

“ครับ”

“งั้นกลับบ้านเหอะ ไปพักไป”

“ขอบคุณนะครับ”

ผมบอกลาพี่พิงค์ก่อนจะตรงกลับบ้าน ผมโชคดีที่เจอแต่คนดีๆ แม้จะทำเรื่องผิดพลาดไปบ้างก็ได้รับการให้อภัยจากพวกเขาง่ายๆ ต่อไปนี้ผมจะใช้ชีวิตให้ดีกว่านี้ จะไม่ทำพลาดแบบนี้อีกแล้ว แต่ขณะเดียวกันมันก็มีความกลัวอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในใจของผม...ผมคงกลัวการบอกรักใครสักคนไปเลย

 

ผมมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านพี่อิสอย่างกังวลเล็กน้อย ผมไม่อยากบอกเขาเรื่องที่โรงเรียนวันนี้แต่แผลบนใบหน้าคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยต้องเดินเข้าบ้านไปพร้อมความจริง พี่อิสนอนเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาหน้าทีวีพอดี พอผมเปิดประตูเข้าไปเขาก็เด้งตัวขึ้นมา คงเพราะตกใจ

“ไม่ทำงานเหรอ”

“หยุดครับ”

“ทำไม...” เขาชะงักคำพูดแล้วขมวดคิ้วเข้าหากันตอนที่ผมเดินเข้าไปใกล้ เดาว่าคงต้องคุยกันยาวผมเลยเดินไปหย่อนตัวนั่งแหมะลงข้างๆ  พี่อิสยกมือจับหน้าผมพลิกไปมา สายตาของเขาเลื่อนมองไปทั่วใบหน้า ทั้งเสื้อนักเรียนที่เลอะเลือดและกระดุมที่ขาด เป็นสภาพที่เดาได้ไม่ยากว่าผ่านอะไรมา

“ใครทำ” เขาถามสั้นๆ

“ไอ้ยิม”

“ไอ้เหี้ยนี่อีกแล้วเหรอ!” เขาว่าแล้วลุกพรวดขึ้น

“มีอยู่คนเดียว”

“บ้านมันอยู่ไหน มึงบอกมาเลย”

“พี่อิสจะไปต่อยมันคืนให้เหรอ”

“กูจะทำมากกว่าต่อยอีก”

ผมหลุดยิ้มออกมา แล้วดึงพี่อิสให้นั่งลง

“ไม่เป็นไร ผมเอาคืนเรียบร้อยแล้ว”

“เอาคืนยังไง”

“ก็ถีบมันไปทีหนึ่งแล้วซัดหมัดไปเปรี้ยง กระเด็นตกบันไดไปเลย” ผมพูดจริงจังพลางออกท่าทางประกอบ พี่อิสขมวดคิ้วแน่นเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด

“จริงๆ นะพี่อิส มันตกบันไดหัวแตกแล้วก็ขาพลิกเลย”

“มึงทำเหรอ”

“ใช่ครับ ผมเอง เกือบโดนพักการเรียนเลย แต่ดีที่เพื่อนช่วยเอาไว้เลยรอด”

“ทำไมไม่โทรหากู ตอนนี้กูเป็นผู้ปกครองมึงนะ ทำไมกูไม่รู้เรื่อง”

“ครูเขาโทรหาป้าแล้วไง”

“ป้ามึงไปที่โรงเรียนเหรอ”

“ครับ แต่ไม่มีอะไรแล้วแหละ ตกลงกันได้แล้ว”

“มึงน่าจะบอกกู”

“ก็บอกอยู่นี่ไง”

“กูหมายถึงบอกตอนที่เกิดเรื่อง กูน่าจะทำอะไรได้บ้าง กูควรไปช่วยมึงหรือทำเหี้ยอะไรสักอย่าง ไม่ใช่มานั่งฟังมึงเล่าตอนเรื่องมันจบไปแล้วแบบนี้เว้ย”

“บ้าดิพี่ ผมไม่อยากให้พี่ต้องมาวุ่นวายกับเรื่องของผมหรอกนะ”

“แต่กูอยากวุ่นวายกับมึง!”

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งที่พี่อิสเสียงดังขึ้นมา พอเห็นว่าผมตกใจเขาก็หันไปถอนใจเบาๆ เหมือนเรียกสติ ปรับสีหน้าขุ่นๆ ที่ดูหงุดหงิดให้กลับมาเป็นปกติ มือใหญ่ยกขึ้นดึงหัวผมให้เข้าไปซบที่ไหล่ของเขา มืออีกข้างยกขึ้นรวบเอวผมให้เขยิบเข้าไปใกล้แล้วกอดเอาไว้อย่างนั้น นานเสียจนผมต้องเปล่งชื่อเขาออกมาเบาๆ

“พี่อิส”

“กูบอกแล้วไงว่ามีอะไรให้บอกกู”

“...”

“ในตอนที่มึงเดือดร้อนหรือกำลังลำบาก มึงควรเรียกหากู”

“...”

“เพราะกูคือพี่อิสของมึงไง”

“...”

“อย่าทำเหมือนกูดูแลมึงไม่ได้ดิ”

“ผมขอโทษครับ”

พี่อิสคลายกอดผมออก แล้วยกมือลูบข้างแก้มใกล้ๆ จุดที่เป็นแผล

“เจ็บหรือเปล่า”

“เจ็บครับ”

“เดี๋ยวไปซื้อยามาให้”

“มีแล้วไง ที่ซื้อมาคราวก่อน เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จค่อยทา”

“งั้นกินข้าวกันไหม หิวยัง”

“หิวครับ”

“อยากกินอะไร”

“อยากกินข้าวผัดหวานๆ กับไส้กรอกทอด”

“ให้กูทำ?”

ผมพยักหน้าหงึกๆ

“ไปช่วยกันดิ”

“โอเคครับ”

“แต่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไป มานั่งโชว์หัวนมอ่อยอยู่อย่างนี้กูใจไม่ดี”

“งื้อ!” ผมยกมือกุมเสื้อนักเรียนที่กระดุมหลุดไป

“กูล้อเล่น! ถอดเสื้อไปแช่ไว้ไป คราบเลือดมันซักยาก เสร็จแล้วออกมาช่วยกูทำกับข้าวเลย”

“ครับๆ” ผมรับคำแล้วคว้าเป้เดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้อง ทิ้งตัวลงบนที่นอนเบ็นเท็นอย่างเพลียๆ  แต่ตอนนี้หัวใจหนักๆ ของผมมันเบาลงมากเพราะความสบายใจ ผมไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนหลายวันที่ผ่านมา ได้แต่ภาวนาว่าขอให้ความราบรื่นของชีวิตและความรู้สึกที่เรียบง่ายในใจอย่างตอนนี้...อยู่กับผมไปนานๆ

 

ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ ที่ชีวิตผมกลับสู่สภาวะปกติ พี่อิสมาส่งที่โรงเรียนทุกเช้า แม้ว่าจะเกือบสายทุกวันก็ตาม เขามัวแต่ทำนั่นทำนี่ให้ผมต้องนั่งรอทุกเช้า อย่างเช่นตอนนี้ที่ยังขี้ไม่เสร็จ...เพลียใจ

“พี่อิส! ผมไปเองแล้วนะ!”

ผมตะโกนเข้าไป จังหวะนั้นพี่อิสก็เดินออกมาพอดี

“มึงจะรีบไปไหน เพิ่งจะเจ็ดโมง”

ผมเงยหน้ามองนาฬิกาที่ผนังบ้านที่เข็มนาฬิกาหยุดอยู่กับที่

“นาฬิกามันตายแล้วครับ”

“ฮะ? มันตายเหรอ” พี่อิสหันขวับไปมองนาฬิกา ก่อนจะเดินเข้าไปหา

“ตอนนี้มันจะแปดโมงแล้ว นี่มันตายแล้ว”

“โธ่ เห็นกันอยู่หลัดๆ  มึงคงทำบุญมาน้อย เกิดชาติหน้าขอให้มึงมาเป็นนาฬิกาบ้านกูอีกนะ”

“พี่อิส! มันใช่เวลามาตลกไหม” ผมว่าแล้วดึงพี่อิสออกมา คนข้างๆ ยังคร่ำครวญไม่เลิก

“ไว้กูจะทำบุญไปให้!”

เกลียดพี่อิสมากขึ้นทุกวันเลยโว้ย!


...

 

ที่โรงเรียนก็เป็นไปตามปกติ บางทีเป็นปกรณ์ บางทีเป็นปวินท์ ผมชินแล้วกับการที่ครูจำชื่อผมไม่ได้จนจบเทอม ผมยังเจอช็อกทุกวันตอนพักเที่ยง ผมนั่งกินข้าว เขาเตะบอลกับเพื่อน เราทักทายกันทุกครั้งที่เจออย่างไม่ต้องหลบเลี่ยงกัน ส่วนไอ้ยิมถูกลงโทษด้วยการหักคะแนนจิตพิสัย โดนทัณฑ์บนเอาไว้ และต้องบำเพ็ญประโยชน์ทุกๆ เย็น ผมกับมันไม่ได้พูดอะไรกันเลย มันไม่เข้ามาวุ่นวาย เราต่างคนต่างกลายเป็นอากาศที่ลอยผ่านหน้ากันไปมา ต่างคนต่างอยู่จึงไม่มีปัญหาอะไรต่อกันอีก

ผมก็ยังคงทำงานที่ร้านกาแฟให้กับพี่พิงค์เหมือนเดิม เขายังเป็นพี่ที่ใจดีกับผมเหมือนเคย บางครั้งบางคราวก็พาช็อกมานั่งเล่นที่นี่ด้วย และผมก็ไม่ได้มีความอึดอัดใจต่อใครทั้งนั้น ผมก็แค่มาทำงาน เลิกงานก็กลับบ้านเหมือนทุกวันที่ผ่านๆ มา

“กลับบ้านดีๆ นะปิง”

“ครับ”

ผมหันไปโบกมือให้พวกพี่ๆ ในร้าน ก่อนจะเดินออกมาข้างนอก ในเวลานี้ยังคงวุ่นวายไปด้วยผู้คนและรถรา ผมมองดูผู้คนที่ผ่านไปมา เคยสงสัยว่าคนอื่นเขาจะมีชีวิตอย่างไร จะมีความสุขหรือเจ็บปวดคล้ายกับผมบ้างหรือเปล่า มีคนที่ชีวิตแย่กว่าผมไหม ยิ่งโตจึงยิ่งเข้าใจว่าผมเองเป็นเพียงจุดเล็กๆ ของโลกนี้ มีผู้คนที่อาจมีชีวิตที่ดีหรือไม่ดีอยู่อีกเป็นพันล้าน ผมภาวนาให้ตัวเองเก่งขึ้นทุกครั้งที่เจอเรื่องแย่ๆ และหวังว่าในสักวันหนึ่งผมคงจะแข็งแกร่งกว่านี้

...

 

ผมเดินกลับมาที่บ้านพี่อิส ระหว่างทางผมเห็นหมาตัวหนึ่งนอนอยู่ในสนามเด็กเล่นกลางสวนสาธารณะหน้าบ้าน มันคล้ายกับหมาตัวที่ผมเคยให้ไส้กรอกกินก็เลยเดินเข้าไปดู

“เราเคยรู้จักกันหรือเปล่า”

ผมเอ่ยคำถาม นั่งลงไปลูบหัวหมาตัวนั้นที่ดูเชื่องๆ  เดาว่ามันคงหิว ผมเลยหยิบขนมปังในกระเป๋าที่ได้มาฉีกเป็นชิ้นๆ ให้มัน ไม่ทันจะวางลงพื้นหมาตัวนี้ก็งับขนมปังไปจากมือผมเลย

“หิวมากอะดิ กินเข้าไปๆ”

“ปิง”

ผมหันขวับไปตามเสียงเรียก ก่อนจะเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหา เข้ามาใกล้จึงเห็นว่าเป็นพี่เนย

“พี่เนยเอง จำได้เปล่า”

“จำได้ครับ”

“มานั่งทำอะไรที่นี่เหรอ”

“เอาขนมปังให้หมาอะครับ กำลังจะเข้าบ้านแล้ว”

“คุยกันหน่อยสิ”

ผมเดินตามพี่เนยไปนั่งที่เก้าอี้ในสวน เดาไม่ได้ว่าพี่เนยมีเรื่องอะไรจะคุยกับผม อีกคนขยับมุมปากขึ้นยิ้มอย่างดูเป็นมิตรแล้วเริ่มบทสนทนาก่อน

“ปิงทำไมกลับบ้านดึกจังคะ”

“ผมเพิ่งเลิกงานอะครับ”

“อ๋อ ทำงานพิเศษด้วยเหรอ ขยันจัง”

“พี่เนยมีอะไรหรือเปล่าครับ”

“อืม...พี่ถามหน่อยสิ ทำไมปิงถึงมาอยู่กับพี่อิสได้เหรอ”

“พี่อิสไม่ได้เล่าเรื่องผมให้พี่เนยฟังเหรอครับ”

“พี่อิสไม่เคยพูดถึงปิงเลย”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ แล้วตอบคำถามตามความจริง

“พี่อิสเขาแค่สงสารผมน่ะครับ เลยพาผมมาอยู่ด้วย”

“พี่อิสกับปิง...ไม่มีอะไรกันใช่ไหม”

“มีอะไรกันหมายถึงยังไงครับ”

“คือเอาตรงๆ เลยนะ ปิงไม่ได้ชอบพี่อิสใช่ไหม”

ผมเงียบ ก่อนจะพยักหน้ารับ...แน่นอนว่าผมโกหก

“คือถ้าไม่มีอะไรกันพี่จะได้สบายใจไง”

ผมพยักหน้าอีกที ก่อนจะเอ่ยปากถามบ้าง

“แล้วพี่เนยเป็นแฟนกับพี่อิสมานานหรือยังครับ”

“พี่อิสไม่เคยเล่าให้ฟังเลยเหรอ”

“พี่อิสไม่เคยพูดถึงพี่เนยเลยครับ”

คนข้างๆ หลุดหัวเราะออกมา คงขำที่ผมยอกย้อนเขาด้วยคำพูดที่ฟังดูคล้ายคลึงกับประโยคก่อนหน้าของตัวเอง พี่เนยปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉยแล้วหันมาให้คำตอบ

“พี่กับพี่อิสเลิกกันไปนานแล้วแหละ”

“ครับ?”

“ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน”

ความจริงข้อนั้นทำให้ผมหันมองด้วยความรู้สึกที่สับสนประหลาดอยู่ในใจ ก่อนประโยคถัดไปจะทำให้ผมสับสนยิ่งไปกว่าเดิม

“แต่พี่กำลังง้อพี่อิสอยู่”

“...”

“พี่ก็เลยกังวลใจเรื่องปิงไง เพราะกลัวพี่อิสจะชอบปิง แต่ถ้าปิงบอกว่าไม่มีอะไร พี่ก็จะเชื่อว่ามันไม่มีอะไร”

“...”

“พี่คบกับพี่อิสมาสองปี ความผูกพันมันมีมากอยู่แล้ว ถ้าพี่จะกลับมาคบกับพี่อิสก็ไม่น่ายาก พี่อิสจะต้องใจอ่อนกับพี่แน่ๆ พี่ยังรักเขาอยู่”

“...”

“นี่พี่กำลังจะไปหาพี่อิส ปิงกลับบ้านช้าหน่อยได้ไหม”

“ครับ?”

“ขอโอกาสให้พี่อยู่กับพี่อิสตามลำพังหน่อยได้ไหม คืนนี้ปิงกลับบ้านช้าหน่อย หรือถ้าไม่กลับ...” ประโยคหลังเสียงแผ่วลง เว้นวรรคอยู่ชั่ววินาทีก่อนส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่เป็นไร ขอแค่กลับช้ากว่าเดิมหน่อยก็พอ ได้ไหม ถือว่าพี่ขอนะ”

“ครับ” ผมตอบรับสั้นๆ  ก่อนพี่เนยจะบอกลาแล้วเดินไปทางบ้านพี่อิส ผมถอนใจออกมาเบาๆ แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ เงยหน้ามองท้องฟ้ามืดๆ ข้างบนนั่น ความรู้สึกในใจอธิบายไม่ได้อีกแล้ว ที่ผมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เพราะสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตาอะไรทำนองนั้นเป็นคนกำหนดเอาไว้ใช่หรือเปล่า เขารู้ตัวใช่ไหมว่าทำอะไรอยู่ถึงได้ทำกับผมแบบนี้ ผมแค่อยากถามสักคำจากทุกความรู้สึกข้างในที่ผมมี

“พอใจหรือยัง”

...

“ผมเหนื่อยแล้วนะ”


To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 17-02-2017 23:47:56
เนย คำเดียว ร่าน ร่านมาก ไม่ใช่แรดนะ เบาไป ร่านนี่เหมาะมาก ด้วยประการทั้งปวง ปิงน่ารักซะจนโกรธไม่ลงอะ

ขำที่พี่พิงค์ด่าช็อก เออ ช็อกมันแรดจริงนะ สมควรกับคำนี้

พี่อิส ช่วยเคลียร์ ผญคนนี้ด้วยคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 17-02-2017 23:58:17
เนยคะ ตบกันไหม อีดอกกกกกก  :z6: :z6: :z6: กระโดดถีบขาคู่เลยค่ะ!!!!
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 18-02-2017 00:04:41
อีชะนีเนย มาไม่กี่ประโยคนี่อารมณ์ขึ้นปึดๆๆ เลย บ้ามาก น่าโมโห
ถ้าคนจิตใจดีจะไม่ปล่อยคนที่เขาต้องกลับบ้านอยู่นอกบ้านแบบนี้หรอก แบบนี้เรียกคนใจร้าย
เพื่อนปิงน่ารักกันมาก โดยเฉพาะช็อก รอดไปได้อีกรอบ ปิงพูดน้อยมากอ่ะ น้อยจนเป็นภัยกับตัว
อียิมนี่เลวจัดนะ ไม่ไหวๆ เรื่องปิงชอบช็อกก็เพราะงี้เอง เพราะชอบพี่อิส โถ. หนูลูก น่าสงสาร
พี่อิสตอนกอดปลอบน้องน่ารักนะ ดูลึกซึ้ง

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 18-02-2017 00:21:25
ตบบบบบอิเนย จะฟ้องพี่อิททททททแงงง
สงสาารรปิงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 18-02-2017 00:22:48
ช่างกล้า ไม่คิดอะไรเลย ให้ปิงไปอยู่ไหน ระหว่างที่ตัวเองนอนกะอิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 18-02-2017 00:31:13
อีเนยยยย โอ้โหหหห พูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลยค่ะ
อยากจะถามเลยว่าตบมั้ย จะได้จบ ยางอายอยู่ไหนน
แรด แรดมากกก ขี้มโนนสุด เอ่าอะไรคิดว่าพี่อิสจะยอมกลับไปกินของเก่าอะ
อยากจะรีเทิร์นก้พยายามเองสิมาบลัพคนอื่นทำไม
อยากได้โอกาสก้ต้องหาเอาเอง จะมาบอกให้คนอื่นเดือดร้อนเพื่อโอกาสตัวเองไม่ได้มะ
ส่วนยิมนี่ก้นะ สมน้ำหน้าค่ะ แม่นางด้วยออกตัวแรง ล้อฟรีเลยมั้ยละ เบรกทันมั้ยคะ
หน้าแตกสุดดด ซีดดดไปเลยย ป้าก้ด้วยควรบทหายไปได้แล้ว ไม่ควรกลับมามีตัวตนเลยจริงๆ
นอกจากจะไม่มีประโยชน์ใดๆแล้ว ยังมีแต่โทษ
พี่อิสตอนนี้คือน่ารักกกมาก ห่วงน้องสุด มีแอบหยอด แต่ก้นคงความค่าตัวแพงเหมิอนเดิมค่ะ
น้องปิงนี่ก้อบบอยากจะเอามากอดแน่นๆ แล้วตามด้วยเขย่าๆๆ5555 หนูจะคนดีไปแล้วลูกกก
สวสารรรนางงง ให้ได้เจอเรื่องดีๆบ้างเถอะะะ
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-02-2017 00:44:24
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 18-02-2017 00:58:54
ช็อกแรดจริง สงสารพี่พิงค์ คงปวดหัวน่าดู
ในแง่เพื่อนแม่งเป็นคนดีนะ
แต่สำหรับคนเป็นแฟน นางก็เฟรนลี่ไปหน่อยมั้ง
เห้อ สงสารปิง
ทำไมตัวแค่นั้นถึงเจอเรื่องหนักๆตลอดเลย
จะมีความสุขก็มีมารขวางตลอด
หมั่นยัยเนย  มั่นหน้ามากมั้ง คิดว่ากันปิงออกมาได้
แล้วผู้ชายเขาจะยังกลับมาเอาเธอหรอออ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 18-02-2017 01:12:41
เห้อออ    สงสารน้องปิง  :katai4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 18-02-2017 01:34:43
เหนื่อยจริงชึวิตปิง เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 18-02-2017 01:35:45
พี่อิสคะ ช่วย step up ทวงความเป็นพระเอกทีเถอะ
อย่าปล่อยชะนีของพี่มาทำตัวต่ำๆ กับคนที่มันเจอเเต่เรื่องร้ายๆ
หล่อนจะอ่อยผู้ชายเเล้วให้เด็กไปหาที่นอนเองอ่ะนะ จิตใจโคตรต่ำ
ถ้าเลิกกันเเล้วก็ตัดให้ขาด โว๊ะ พี่อิสออกน้อยเเต่ทำให้รำคาญกว่าใครเลย 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 18-02-2017 01:48:56
อิเนยอิโส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 18-02-2017 02:34:18
เฮ้ยยย เกินไปมั้ยเนย บอกน้องกลับช้า ไม่ก็ไม่ต้องกลับเนี่ย แล้วน้องปิงของเจ้จะไปอยู่ไหนห๊ะะ คิดสิคิดบ้าง!!  :z6:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 18-02-2017 05:17:41
อิยิมมันมีปมอะไรนักหนา ตกบันไดไปน่าจะหัวกระแทกให้หายบ้าบ้าง
อิป้านี่ก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย
อิเนยก็ดูพยายามจนน่าเกลียด
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-02-2017 05:53:31
นังเนย บ้าๆๆๆๆๆ  เลวโคตร
ปิงนอนในบ้านพี่อิส แล้วขอไม่ให้เขากลับบ้าน
แล้วปิงจะไปนอนที่ไหน นังบ้า.....
พี่อิส ชัดเจนด้วย ไอ้ที่บอกปิง
"....เขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ พี่ยังอยูู่"
พูดกับปิงด้วยความรู้สึกอะไร
เตือนตัวเองตอนถูกอดีตแฟน ยั่วนะ
ไม่งั้น เฮอะ.....ถูกปิงเท นะจะบอกให้
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-02-2017 05:56:59
นังเนย บ้าๆๆๆๆๆ  เลวโคตร  :z6: :z6: :z6:
ปิงนอนในบ้านพี่อิส แล้วขอไม่ให้เขากลับบ้าน
แล้วปิงจะไปนอนที่ไหน นังบ้า.....
พี่อิส ชัดเจนด้วย ไอ้ที่บอกปิง
"....เขาไม่ชอบก็ไม่เป็นไรนะ พี่ยังอยูู่"
พูดกับปิงด้วยความรู้สึกอะไร
เตือนตัวเองตอนถูกอดีตแฟน ยั่วด้วย
ไม่งั้น เฮอะ.....ถูกปิงเท นะจะบอกให้
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
[/quote]
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 18-02-2017 09:02:16
รันทดเข้าไปอีกกกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-02-2017 09:57:09
นังเนย !!!  :m31:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: vwm666 ที่ 18-02-2017 10:07:54
โห เรื่องนี้มาซะดราม่าเลย จากบูรพากะองศาเหนือ 555555555555
ให้กำลังใจคนแต่งเน้อ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 18-02-2017 10:08:44
อ๊ะอีดอก แบบนี้ก็ได้เหรออออ
โอ้โห ง่ายมากอ่ะ
น้องปิงของช้านนน อุตส่าห์ผ่านเรื่องแย่เพื่อมาเจอเรื่องแย่กว่า ฮืออออ
พี่อิสไม่ดูแลน้องอีกละ งอนน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 18-02-2017 10:27:39
แหม ถ้าพี่อิส จะทำอะไรๆแบบนั้น ก็ปล่อยพี่เค้าไปเถอะค่ะ
ถ้าเรื่องเนยไม่ใช่เรื่องจริง ก็คงแผนพี่อิสหรือเปล่า
น้องปิงต้องสตรองนะลูก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 18-02-2017 10:35:15
เบ้ปากให้กับน้องเนย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 18-02-2017 10:36:25
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 18-02-2017 11:08:52
นี่บอกตรงๆแบบนี้เลยเหรอเนี่ยยยยย
คุณเนยยยย ไม่คิดว่าน้องเขาจะไปอยู่ตรงไหนอ่ะ ไม่ได้รับรู้ถึงปัญหาเขาเลนว่าทำไมถึงมาอยู่ด้วย
ยินดีด้วยที่ปิงหลุดพ้นจากยิมซักที
เหลือแต่พี่อิสเนอะ
ปล. มาต่อเลยนะ ลุ้นเนี่ยจะเอาไงต่อออ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 18-02-2017 11:20:10
โอ้โห ผู้หญิงคนนี้ร่านได้อีก ถ้าอิสเอานะควายอ่ะไม่มีวัวผสมเลย

หลิงปิงมาซบอกพี่นี่ลูกถึงจะเล็กแต่ก็อุ่นนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Past-Zeit ที่ 18-02-2017 14:39:45
ทันทีที่พี่พิงค์ด่าว่าช็อกมันเเรด เออ เเบบ ใช่เลย คำนี้เเหละที่รอคอย5555
เป็นคำที่เหมาะสมกับช็อก พี่พิงค์ใจดีมากกก เรานึกว่าปิงจะโดนไล่ออกเเล้ว
เเล้วเนยคือไรวะ เอาพี่อิสไปปู้ยี่ปู้ยำที่ไหนก็เอาไปดิ มันเป็นปัญหาของคุณอิสระเขา
ว่าจะแก้ปัญหานี้ยังไง เเต่นี่บอกไม่ให้ปิงกับบ้าน เเล้วมันจะไปอยู่ที่ไหนได้วะ
คือถ้ามันมีที่ไป มันคงไม่มาอยู่กับพี่อิสเเล้วววว
 ปิงรู้ใจตัวเองเเล้ว เหลือเเต่พี่อิสเนี่ย เมื่อไรจะเคลียร์ตัวเองเสร็จ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 18-02-2017 14:53:29
นังเนย!! อะไรของหล่อนเนี่ย
มานงมาเนอะอะไร ไม่เข้าใจ!

พี่อิสก็ปากหนัก น้องก็ปากหนัก เริ่มพูดกันได้แล้ววว :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 18-02-2017 15:19:23
ช่างกล้านะเนย คงต้องรอดูท่าทีของพี่อิสแล้ว ว่าจะได้เสียงสรรเสริญไปทางไหน หึ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 18-02-2017 15:26:52
หลังๆ นิอิพระเอกของเราได้บทเยอะมาก
มาแต่ละที เดี๊ยวก็ปวดขี้มั้งอะไรมั้ง โถ่เอ้ย
แล้วนิมันเรื่องอะไรของน้องปิงอีก ชีวิตมันจะอะไรเบอร์นั้นลูกกกกกกกกกกกกกกกก

แล้วยิ่งอ่านมาจนถึงตอนท้ายๆ ได้แต่ โอ้โห โอ้โห
คืออิเนยมึ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง มึงเอางี้เลย
คือน่าเกลียด แล้วเป็นผู้หญิงพูดออกไปโต้งๆ งี้เลย
จะนอนกับเขา แล้วมาไล่เด็กเขาออกไป
เดี๊ยวมารอดูคนพี่ หึหึ
ชัดเจนสักที
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 18-02-2017 15:31:03
มาซบอกแบนๆของพี่ก็ได้นะปิง พี่ยินดี
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 18-02-2017 18:47:45
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ *มองแรง*  สนุกจัง เหมือนคนบ้า อ่านไปเดี๋ยวขำเดี๋ยวหน่วง ปรับอารมณ์ไม่ทันจริงๆ พี่อิสนี่ก็...เส้นบางๆมันกั้นอยู่นะระหว่างคนติสกับคนกาก  :laugh:  // ตอนเด็กพ่อแม่ต้องเลี้ยงด้วยอะไร? จิตใจถึงจะเข้มแข็งและอดทนได้เหมือนปิง แต่โมเม้นท์ พี่อิสกับปิงนี่ มันน่ารักมีความสุขนะ อิสระสมชื่อ  แต่นึกภาพว่าพอเป็นแฟนกันแล้ว มันจะเป็นยังไง นึกไม่ออกอ่ะ คงไม่ต่างจากทุกวันนี้เท่าไหร่แต่แค่ปิงจะรู้สึกมีความสุขมากขึ้น(?) เท่านั้นแหละมั้งเนอะ  //  ส่วนช๊อกนี่  นิสัยดี เฟรนลี่ ขี้อ่อย ให้ความหวัง ต่างกันตรงไหน? ช๊อกยังเด็ก ช๊อกไม่เข้าใจ อธิบายช๊อกที 5555555

เสียดาย เพิ่งมาได้อ่านตอนใกล้จะจบแล้ว เพิ่งได้มาเม้นท์ให้กำลังใจคุณรชา เขียนดีมากค่ะชื่นชม เป็นแฟนคุณรชาตั้งแต่บูรพาองศาเหนือละ  ตอนแรกกะจะเข้ามาอ่านหลายทีละ แต่แอบไปเห็นคอมเม้นท์แนะนำว่าเรื่องนี้มีแอบหน่วง เราเลยถอยออกมาตั้งหลัก เพราะช่วงนี้ชีวิตจริงก็ดราม่าอยู่ แล้วก็ไม่บอกว่ามันหน่วงปนฮาเป็นไบโพลาร์แบบนี้ 55555 รู้งี้อ่านนานละ เดี๋ยวเกาะติดให้กำลังใจกันไปจนจบเลยค่ะ เรื่องต่อๆไปด้วย สู้ๆค่ะ คุณรชา  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 21] 17-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 18-02-2017 18:52:55
น้องไม่กล้าบอกรักแล้วแหละอีพี่  อีพี่อิสต้องบอกน้องด่วนๆ ล่ะ ไม่งั้นหลินปิงหนีจากกรงกากๆ ของอีพี่อิสแน่อ่ะ เร็วๆๆๆๆๆๆ
 :katai1: :katai4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 22] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 18-02-2017 23:23:14

ตอนที่ 22

วิถีอิสระ ‘2’

อิสระ :

 

สองปีที่แล้ว

...

ผมเดินเข้ามาในร้านหมูกระทะร้านหนึ่งซึ่งตั้งอยู่แถวๆ หลังมหาวิทยาลัย พวกสายรหัสนัดกันมาเลี้ยงสาย ผมเรียนจบไปปีกว่าแล้วยังถูกพวกมันตามมาให้เลี้ยงข้าวบ่อยๆ ด้วยความที่สายเหนียวแน่นเป็นปึกแผ่น หรือแค่หาเรื่องแดกของฟรีก็ไม่รู้ ผมยังเดินไม่ทันถึงโต๊ะฝูงลิงอย่างพวกมันก็ส่งเสียงโห่ร้องก้องร้านเป็นการต้อนรับ

“เฮ! คนจ่ายตังค์มาแล้วโว้ย!”

“สันดาน” ผมด่าเบาๆ  ก่อนไอ้ปอนด์จะเลื่อนเก้าอี้ประจำตำแหน่งให้ ไอ้ห่านี่มันไม่ใช่น้องสายของผมด้วยซ้ำ มันสนิทกับไอ้โอมและไอ้ปรินซ์ซึ่งเป็นสายรหัสของผม มันจึงเสนอตัวเป็นสายเสือก เนียนมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว

“แดกไม่รอกู พวกมึงนี่ไม่มีมารยาท”

“มารยาทของพวกผมมีไว้ใช้กับคนที่ควรใช้ครับ”

“ไอ้พวกเหี้ย!”

“ไว้ด่ากันวันหลังครับคุณพี่ ผมขอแนะนำน้องปีหนึ่งก่อนเลย นี่เอย นี่แมกซ์” ไอ้อัพปีสามที่นั่งตรงข้ามผมเอ่ยขึ้น ก่อนจะหันไปแนะนำเด็กปีหนึ่งสองคนที่ห้อยป้ายบ่งบอกสถานะ ผู้ชายคนหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่งรีบยกมือไหว้

“สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ”

“หวัดดีครับ” ผมยกมือรับไหว้เด็กทั้งสองคน เอยเป็นเด็กผู้ชาย ส่วนแมกซ์เป็นเด็กผู้หญิง

“แล้วงานพี่เป็นไงบ้างพี่อิส” ไอ้ป็อบปีสี่ที่นั่งถัดไปจากไอ้อัพถามขึ้นมา

“ก็ดี”

สมาชิกสายรหัสชวนกันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้เหมือนไม่ได้เจอกันมาชาติกว่า ทั้งๆ ที่พวกมันก็ขยันไปสุมหัวกันที่บ้านผมบ่อยๆ  แต่นานๆ ทีจะได้มาอยู่รวมกันแบบนี้จึงมีเรื่องให้คุยไม่ได้หยุดปาก ข้อดีของการเป็นพี่อาวุโสคือการที่ผมไม่ต้องกระดิกนิ้วทำอะไรเลย หมูก็มีคนย่างให้ น้ำก็มีคนเอาให้ กุ้งก็มีคนแกะให้ นั่งแดกสบายๆ แล้วไปล้มละลายตอนจ่ายตังค์ก็พอ...นับสิกี่หัวเนี่ย กูจะร้องไห้

“เฮ้ย! พี่อิส!”

ผมหันขวับไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะเห็นว่าเป็นไอ้โดมปีเดียวกับพวกไอ้ปรินซ์ รุ่นน้องที่ผมสนิทพอสมควรเพราะสมัยเรียนเตะบอลด้วยกันบ่อยๆ  มันเดินนำกลุ่มนักศึกษามาสี่ห้าคน

“พี่มาทำอะไรที่นี่เนี่ย”

“กูมาร้านหมูกระทะ กูจะมาดูโชว์มอเตอร์ไซค์ผาดโผนมั้งไอ้ควาย”

“ปากหมาเหมือนเดิม”

“สัด”

“พาน้องมาเลี้ยงเหมือนกันเหรอมึง” ไอ้ปรินซ์หันไปถาม

“เออดิ”

“รวมโต๊ะเลยมึง”

เพราะจำนวนสมาชิกทั้งสองสายเยอะไปหน่อย พนักงานร้านเลยให้เราย้ายโต๊ะไปริมสุดซึ่งต่อกันได้ยาวเท่าที่ต้องการ เกิดการขยับที่นั่งสมาชิกนิดหน่อย พวกปีเดียวกันย้ายไปนั่งข้างกันจะได้คุยกัน ส่วนผมขยับมาริมสุด ซ้ายมือคือไอ้ปรินซ์ ส่วนขวามือเว้นว่างเอาไว้ไม่มีใครนั่ง

“เนย! ทางนี้!” ไอ้โดมที่นั่งอยู่ตรงข้ามผมหันไปเรียกใครสักคนข้างหลังผม ก่อนน้องผู้หญิงคนหนึ่งจะเดินเข้ามา ผมเพิ่งเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรก ไม่ได้รู้จัก

“โทษทีโดม ไม่มีที่จอดรถเลยอะ วนไปสามรอบ”

“เออๆ นั่งเลย”

“หนูนั่งนี่ได้ไหมคะ”

“ครับ” ผมพยักหน้าให้ ก่อนเธอจะนั่งลงทางขวามือผมที่ว่างอยู่ แค่แวบเดียวที่เหลือบตาดูก็เห็นว่าเด็กคนนี้มีคุณสมบัติของความเป็นน้องสาวมาก

“ทำไมสมาชิกเยอะจัง”

“รวมโต๊ะกับเพื่อนอะ สองสายเลย”

“ถึงว่าคนเยอะจัง อ้าวโอม หวัดดี” คนข้างๆ หันไปทักไอ้โอม

“หวัดดีๆ”

“แล้วนี่...?” เธอหันมาหาผม เว้นวรรคคำพูดนิดหน่อยเป็นเชิงให้คนใดคนหนึ่งแนะนำ ก่อนไอ้โดมจะเอ่ยปากบอก

“นี่พี่อิส จบไปแล้ว”

“หวัดดีค่ะ หนูชื่อเนยอยู่ปีสองค่ะ”

“หวัดดีครับ”

“นี่พี่อิสระ เดือนคณะในตำนาน”

ผมเหลือบมองตาขวางที่มันพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา คนที่ตกใจกว่าใครดูจะเป็นไอ้เอยปีหนึ่งที่ถามเสียงดังลั่น

“พี่อิสเนี่ยนะเป็นเดือนคณะ!?”

“แน่นอนสิ กูหล่อขนาดนี้” ผมตอบ

“เป็นเดือนคณะไม่พอ เป็นรองเดือนมอนะมึง”

“เดือนคณะนี่เขาเลือกจากอะไรเหรอครับ เอาคนที่ดูเพี้ยนๆ เหรอ”

“ไอ้ห่า! เดี๋ยวกูตัดสาย!”

“ขอโทษคร้าบ!”

ไอ้หอยหลอดนี่!

“แต่นี่เชื่อนะ พี่หล่อจริงๆ อะ” ผมหันขวับไปหาคนข้างๆ ที่พูดขึ้นมาแล้วตอบกลับไปขำๆ

“ตาถึงมาก”

“แล้วพี่อิสทำงานอะไรเหรอคะ”

“เป็นฟรีแลนซ์ครับ รับวาดภาพประกอบอะไรแบบนี้”

“เจ๋งอะ! รายได้ดีปะพี่”

ถามรายได้ เดี๋ยวจับกดกระทะหมูย่างเลยนี่ คำถามไม่สร้างสรรค์ผมเลยตอบเลี่ยงๆ

“ก็พออยู่ได้ครับ”

“พี่อิสวาดรูปเก่งเลยดิ”

“ก็พอได้ครับ”

“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกพี่มึง นี่มันตัวเทพเว้ย”

“มึงก็อวยเกินไป”

“แล้วอย่างนี้ก็คือทำงานอยู่ที่บ้านเหรอคะ”

“ครับ ไม่ค่อยออกไปไหน”

“เจ๋งว่ะ ผู้ชายอยู่ติดบ้านนี่เป็นอะไรที่หายาก”

“เยอะแยะไป” ผมพูดปัด

“ไม่รู้ดิ ไม่เคยเจอ”

“แล้วถ้าเจอจะทำไงครับ”

“จีบดิ รออะไร”

“แล้วรออะไรล่ะ เจอแล้วนี่”

ริมฝีปากคนข้างๆ ขยับเป็นรอยยิ้มก่อนจะหันขวับไปมองกระทะตรงหน้าด้วยท่าทางที่ดูเคอะเขิน ไอ้โดมโยนก้านผักบุ้งมาใส่หน้าผม

“พี่อิส! อะไรของมึงเนี่ยพี่! มาเต๊าะเพื่อนผมทำไม”

ผมได้แต่ยักไหล่ ขณะที่เนยก็ยังคงอมยิ้มไม่ยอมสบตา ไม่แดกแล้วหมู กูอยากแดกของหวานจังเลยโว้ย

...

 

หลังจากกินหมูกระทะกันเสร็จพวกเด็กๆ ก็แยกย้ายกันกลับไป เหลือไอ้โดมและไอ้สามเกลอที่ยังอยู่คุยกับผมต่อ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะพูดชื่อของคนที่กลับไปแล้วเมื่อครู่ขึ้นมา

“พี่อิส เห็นแลกไลน์กับเนยเหรอ”

ผมพยักหน้าแทนคำตอบขณะที่ปากไม่ว่างเพราะคาบมวนบุหรี่อยู่ ทุกคนตรงนี้หันมองผมด้วยสายตาประหลาด ยกมือคีบบุหรี่ออกจากปากแล้วพูดต่อ

“ทำไม กูก็มีไลน์น้องรหัสทุกคนไง”

“คนละสายเลยพี่มึง!”

ผมหัวเราะเบาๆ แก้เขิน

“จะจีบเนยเหรอ ไม่เคยเห็นพี่อิสมีแฟนเลย”

“นั่นดิ ไม่คิดว่าคนแบบพี่จะหาแฟน”

“คนแบบกูมันทำไม”

“พี่เป็นคนโลกส่วนตัวสูงจะตายไง”

“คนโลกส่วนตัวสูงมันไม่มีหัวใจหรือไง ไอ้บ้า”

“แล้วชอบเนยเหรอ”

“ก็น่ารักดี” ผมตอบเบาๆ ยกมวนบุหรี่เข้าปากอีกที ก่อนที่เสียงไลน์ในกระเป๋าจะดังขึ้นจนเรียกความสนใจของทั้งหมดตรงนี้ไป ผมหยิบมือถือขึ้นมาดู ก่อนมุมปากจะขยับเป็นรอยยิ้มจางๆ

 

“พี่อิสถึงบ้านยังคะ ไปต่อกันไหม”

 

“พวกมึง กูกลับก่อนนะ”

“อ้าว รีบไปไหนอะ”

ผมยกมือถือให้มันดูแทนคำตอบแล้วขับรถออกไป...มีเรื่องให้ไปทำต่อหลังจากนั้น

 

สองปีผ่านไป

...

“พี่อิสทำไมเป็นแบบนี้อะ พี่อิสทำไมลืมอะ พี่อิสลืมวันครบรอบของเราได้ไงอะ!”

“พี่ขอโทษแล้วไง พี่ทำงานข้ามวันข้ามคืนหนูก็เห็น”

“มันไม่สำคัญสำหรับพี่เลยใช่ปะ!”

“มันก็แค่วันครบรอบเองเปล่า”

“พี่อิส! มันไม่ใช่แค่! แต่มันคือวันครบรอบ! วันครบรอบสองปี!”

ผมคบกับเนยมาสองปีแล้ว เป็นสองปีที่หนักหนาสาหัสพอสมควรสำหรับความสัมพันธ์นี้ และวันนี้ก็เป็นวันครบรอบและอาจจะเป็นวันตายของผมด้วยเพราะเสือกลืมไง ไม่มีเซอร์ไพรส์ ไม่มีของขวัญ ไม่มีเหี้ยอะไรในหัวเลยเพราะว่าลืมจริงๆ โว้ย! มันจะกำหนดวันมานับให้วุ่นวายทำไมกันนัก

“พี่อิสเป็นแบบนี้ตลอดเลยอะ หนูหรืองานพี่ที่สำคัญกว่า”

“งาน”

“พี่อิส!”

การโกหกไม่ใช่สันดานของผม แต่พูดเรื่องจริงก็พินาศได้เหมือนกัน

“ก็เนยบอกให้พี่คิดถึงอนาคต พี่ก็ตั้งใจทำงานอยู่นี่ไง”

“พี่อิส แล้วหนูล่ะ หนูอยู่ในอนาคตของพี่ด้วยหรือเปล่า”

ผมยอมรับว่าตัวเองเป็นพวกสันดานเสียและขี้หงุดหงิด คนเอาแต่ใจมาเจอกับคนไม่ตามใจใคร คนขี้งอนมาเจอคนไม่ชอบง้อ คนขี้อ้อนมาเจอคนขี้รำคาญ ผมไม่ชอบทำตามคำสั่งของคนอื่น ขณะที่เนยมักจะออกคำสั่งและเกิดคำถามกับความเป็นผมตลอดเวลา ทำไมพี่อิสไม่ทำแบบนั้น ทำไมพี่อิสไม่ทำแบบนี้ ทำไมพี่อิสไม่ทำตามที่หนูขอ สองปีที่ผ่านมามีแต่คำพูดแบบนี้กรอกหูผมอยู่ตลอด และผมก็ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร มันจึงยากที่จะรักษาความสัมพันธ์ที่ต่างคนต่างเอาแต่ใจแบบนั้นได้

“พี่อิส หนูถามจริงๆ เหอะ พี่ยังรักหนูอยู่หรือเปล่า”

“หนูอยากได้คำตอบว่าไงอะ ให้ตอบว่าไงหนูถึงจะพอใจ”

“พี่อิส! พี่จะมาประชดทำไมเนี่ย!”

“ก็พี่จะได้พูดให้ถูกใจไง”

“พี่อิส ถ้าพี่ยังเป็นแบบนี้ มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอกนะ ทำไมไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองบ้าง”

“ก็สันดานมันเปลี่ยนไม่ได้ไง”

“พี่อิส! หนูโคตรเบื่อความคิดพี่เลยอะ!”

“ถ้ารับไม่ได้กับความคิดพี่ มันก็เป็นปัญหาของหนูแล้วแหละ”

“พี่อิส งั้นเราเลิกกันไหม”

ผมหันขวับไปหาเนย ไม่ใช่ครั้งแรกที่คำว่าเลิกหลุดออกมาจากปากเนย โมโหทีไรก็จะพูดออกมาแบบนี้ทุกที ผมเลยไม่รู้ว่าอยากเลิกจริงหรือแค่ประชด

“เราควรลดความสัมพันธ์ กลับมาเป็นพี่น้องกันหรืออะไรก็ได้ เราอาจจะเป็นแฟนที่แย่ แต่เป็นพี่น้องที่ดีต่อกันได้นะ หนูไม่อยากให้เราเกลียดกัน”

“อืม”

“พี่จะไม่เสียใจใช่ไหมถ้าเราจะเลิกกัน”

“คงเสียใจกว่าถ้าเราดันทุรังคบกันต่อ”

เนยเค้นหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเอ่ยปากด่าผมอย่างดูคับแค้นใจ

“พี่อิสแม่งเหี้ยจริงว่ะ”

เนยพูดแค่นั้นก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากบ้านผมไป ผมได้แต่ถอนใจเบาๆ  ผมคงเหี้ยจริงๆ เพราะไม่รู้สึกเสียใจเลยที่เลิกกัน ภาวนาให้มันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ว่าอีกสองชั่วโมงก็โทรมาฟูมฟาย ร้องห่มร้องไห้เหมือนทุกที ปิดมือถือก่อนเลยกู...รักจะเหี้ยต้องเหี้ยให้สุด ผมโยนมือถือที่ปิดเครื่องแล้วลงบนโซฟาแล้วเดินไปทำงานต่อที่หน้าคอม สิ่งที่สำคัญสำหรับผมตอนนี้กลับไม่ใช่ความรู้สึกแต่เป็นงานที่ต้องส่งต่างหาก

“โย่ว! พี่อิส!”

ผมหันไปมองพวกไอ้ปรินซ์ที่เดินเข้ามาในบ้านพร้อมหอบหิ้วอุปกรณ์ทำโมเดลเข้ามา ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่บ้านผมกลายเป็นที่สุมหัวของพวกมัน คงเพราะบ้านผมมีพื้นที่มากพอในการทำงานและก็อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมาก น้องรหัสทุกรุ่นมันเลยสถาปนาบ้านผมเป็นแหล่งทำงานของพวกมันไปแล้ว

พวกมันนั่งทำงานกันสักพักก็เริ่มขี้เกียจ จากที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานก็เริ่มนอนเลื้อย ไอ้โอมคลานเข่าเข้ามาหาผมแล้วเอ่ยปากพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน

“พี่อิส กินเหล้ากันไหมจ๊ะ”

เครียดงานก็หาเรื่องเมา สันดานพวกเราสายรหัสจัญไรจริงๆ

“เอาดิ” น้องมันชวนด้วยความน่ารักขนาดนั้นผมจะปฏิเสธได้ยังไง พอผมตกลงเอาด้วยพวกมันก็จัดการออกไปซื้อเครื่องดื่มและกลับมาตั้งวงอย่างไว กินดื่มกันตามประสา หาเรื่องมาคุยได้เรื่อยๆ ในวงเหล้า วันๆ ผมอยู่แต่บ้านไม่มีเรื่องให้พูดมากก็เป็นฝ่ายฟังมากกว่า เออออไปกับมันแล้วยกแก้วเหล้าเข้าปากเรื่อยๆ

“พี่อิส แล้วพี่กับเนยเป็นไงมั่งวะ ไม่เห็นเล่าให้ฟังบ้างเลย”

“ไม่ต้องพูดถึงได้ไหม”

“ทำไมวะพี่”

“กูไม่อยากพูดถึงไง”

“โธ่ มีอะไรไม่เคยบอกอะ”

ผมส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ผมไม่ค่อยเล่าเรื่องตัวเองกับเนยให้พวกมันฟัง ไม่มีอะไรจะเล่า ไม่รู้จะเล่าอะไร คาดหวังจะรู้เรื่องอะไรกัน ผมคิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องของผมกับเนยเท่านั้น ไม่ว่าจะวันดีๆ หรือวันที่ไม่ดี วันที่คบหรือวันที่เลิก มันก็เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน ไม่ได้คิดอยากเอาไปบ่นกับใครให้เขารำคาญ แต่การเลิกกันอย่างเป็นทางการ ผมก็คงต้องแจ้งข่าวพวกมันสักหน่อย

“พวกกูเลิกกันแล้ว”

“อ้าว จริงดิ”

“อืม”

“พี่อกหักเหรอเนี่ย ตั้งแต่เมื่อไร”

“ก่อนมึงมาแป๊บเดียว”

“โห แผลสด”

“แผลอะไร กูไม่ได้...”

“พี่มึงเศร้า ชงเหล้าเข้มๆ เลยโว้ย!”

“กูไม่เศร้าโว้ย”

ว่ากันตามตรง ผมไม่ได้รู้สึกเศร้า ความเสียใจหรือเสียดายเวลาก็มีอยู่บ้างอย่างไม่อาจปฏิเสธ แต่เพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีความสามารถในการประคับประคองความสัมพันธ์กระท่อนกระแท่นนั้นให้ดีกว่าเดิม รู้อยู่แล้วว่ามันต้องจบแบบนี้แน่ๆ ก็เลยไม่ได้เจ็บปวด การเลิกกันมันทำให้ผมกลับมาเป็นอิสระและคิดได้ว่าผมไม่ควรลงมาจากโลกส่วนตัวที่สูงลิบลิ่วเพียงแค่หลงความน่ารักของใครบางคนตั้งแต่แรก...ผมอาจเหมาะที่จะอยู่คนเดียวมากกว่าก็ได้

 

ในตอนเช้า ไอ้สามตัวนี่ยังไม่ลุกไม่ตื่นเพราะเมาหนัก ผมไม่ได้อยากพาน้องเสียผู้เสียคนแต่พวกมันดันกระจอกเอง สอนกี่ทีแล้วว่าเวลากินเหล้าให้รู้ลิมิตตัวเอง ไม่ใช่กินจนเมาหมดสภาพแบบนี้ แต่พวกมันก็โตๆ กันแล้ว ไม่อยากจะบ่นอะไรมาก

ผมเดินเข้ามาในครัวหลังจากแปรงฟันเสร็จ หยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาสี่ห้าซองใส่ถุงพลาสติกแล้วเดินโซซัดโซเซออกจากครัว ไอ้ปรินซ์ลุกมานั่งหัวโด่ด้วยใบหน้ายับๆ หันมาถามผมทั้งที่ยังไม่ลืมตาดี

“พี่อิส ตื่นแต่เช้าเลยนะ”

“กูตื่นมาใส่บาตร”

“เชี่ย...เป็นไปได้”

“คนอย่างกูมันทำบุญทำกุศลไม่เป็นหรือไง”

“แค่หน้าพี่ก็บาปแล้ว”

“ไอ้ห่า มึงตื่นแล้วก็ไปกับกูดิ”

ไอ้ปรินซ์พยักหน้าแล้วเดินตามผมออกมาหน้าปากซอยเพื่อรอพระ ไม่นานก็เห็นพระสงฆ์รูปหนึ่งเดินมาพอดี ผมยกมือโบก

“นิมนต์ครับหลวงพ่อ”

“โบกหลวงพ่อเป็นโบกแท็กซี่เลยนะพี่”

“กูกลัวหลวงพ่อไม่จอด”

เราหลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันขำๆ ก่อนเสียงกระแอมไอของหลวงพ่อดังขึ้นคล้ายกำลังดุ ผมจึงรีบหันไปหาคนที่เปิดฝาบาตรรอ ไอ้ปรินซ์ยกมือขึ้นเกาะแขนตอนที่ผมเอาถุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่บาตรหลวงพ่อ หลวงพ่อต้องเข้าใจนะว่าผมหุงข้าวไม่ทัน เอาบะหมี่ไปฉันก่อนนะครับ เผื่อหิวดึกๆ

“อายุ วัณโณ สุขขัง พลัง”

ผมคุกเข่าลงไปพนมมือรับพรหลวงพ่อก่อนท่านจะเดินออกไป

“คิดยังไงลุกมาใส่บาตรวะพี่”

“กูอารมณ์ดีไง ไปกรวดน้ำด้วย อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรหน่อย จะได้หลุดพ้นจากภัยพาลสันดานบาปไง”

“พี่หลุดพ้นจากตัวเองไม่ได้นะ”

“มึงว่าไงนะ”

“คนสันดานบาปก็เห็นจะมีแต่พี่คนเดียว”

ผมถอนใจออกมาทีหนึ่ง อยากตะโกนเรียกหลวงพ่อให้ย้อนกลับมาแล้วพาไอ้ปรินซ์ไปทำศพต่อเลย ไอ้เวรตะไล!

 

ผมกับเนยยุติความสัมพันธ์กันแบบเงียบๆ สักพักหนึ่งแล้ว มีบางทีเนยโทรหาผมบ้างแต่ผมเลี่ยงที่จะรับ ไม่ตอบไลน์กลับเพราะผมไม่มีอะไรจะคุย และผมขอตั้งสัตย์ปฏิญาณไว้ตรงนี้เลยว่าผมจะไม่มีวันลุ่มหลงไปกับสิ่งมีชีวิตที่ลักษณะคล้ายน้องสาวอีกแล้ว ไม่มีวัน!

 

“พี่อิสครับ”

...

กูถอนคำพูดทันไหม...คำปฏิญาณหมดความหมายตั้งแต่ผมได้รู้จักกับหลินปิง จริงๆ มันคือปิงเฉยๆ แหละ แต่เรียกหลินปิงแล้วมันน่ารักกว่า เหมือนแพนด้าตัวน้อยๆ ขาวๆ นิ่มๆ ซึมๆ  เป็นผู้ชายแต่ดันมีสภาวะคล้ายน้องสาว ปิงแม่งน่ารักมาก ยอมรับว่าหลง แต่คลั่งมันมากไม่ได้เดี๋ยวไม่เท่ เลยต้องทำเนียนๆ ปากดีตอนอยู่ต่อหน้ามัน แต่ลับหลังใจนี่อ่อนยวบไม่เป็นตัวเอง ปิงมีผลต่อใจผมระดับนั้น

หลินปิงเป็นเด็กน่าสงสารจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ดูเป็นคนที่ทัศนคติดี เป็นคนบอบบางทางร่างกายแต่เข้มแข็งทางด้านจิตใจ จนบางครั้งดูใจด้านชาไปบ้าง แต่บางทีก็ปลดปล่อยความรู้สึกให้เป็นอิสระ...อย่างเช่นตอนเมาแบบนี้

ผมไม่ได้มีเจตนาเลวร้ายอะไรเลยตอนที่สอนให้น้องกินเหล้า โตแล้วก็ต้องเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้ตัวเองบ้าง โดนไปสามแก้วบางๆ เจ้าแพนด้าสติหลุดเหนือการควบคุม ผมไม่รู้ว่าน้องมันจะคออ่อนขนาดนั้น

“เอ้า โชน!”

“ปิงพอแล้ว ไปนอนไป”

“ไม่เอา ไม่พอ! พี่อิสกินดิ กินๆๆ”

“ไปนอนได้แล้ว”

“พี่อิสอยากฟังเรื่องของผมปะ ป้าผมเนี่ยโคตรใจร้ายเลยนะ...”

กูฟังมาสิบรอบแล้วโว้ย! ชีวิตปิงแม่งทำเอาผมน้ำตาเอ่อไปสองรอบ ปกติผมไม่ค่อยร้องไห้เพราะเป็นคนเท่มากๆ ไง แต่ชีวิตปิงมันน่าสงสารจริงๆ  สงสารจนอยากคว้ามากอด มาปลอบใจ แต่คิดว่าตัวเองยังไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแบบนั้นได้

“ไม่คุยเรื่องดราม่าดิ เปลี่ยนเรื่องๆ” ไอ้โอมพูดปัดๆ

“ปิงมีแฟนปะ” ไอ้ปรินซ์หันไปถาม

“ไม่มีครับ ไม่เคยมีเลย ไม่เคยชอบใครเลย”

“ไม่มีเลยเหรอ”

“ม่ายอะ”

“ไม่เคยมีแฟนก็ซิงดิ”

“ไอ้ห่า ถามอะไรอย่างนั้น” ผมยกมือตบปากไอ้ปอนด์

“งั้นมาจูบกันปะครับ มาพี่ปรินซ์ มาจูบกัน!”

“มาครับ”

“ไอ้เหี้ยปรินซ์!”

“อ๊าก!” ผมกระชากหัวไอ้ปรินซ์ออกมาจากหลินปิงที่มันเอาปากไปแตะกันเมื่อกี้

“มึงก็เคลิ้มเลยนะฉิบหาย!”

“ก็น้องมันชวน”

“สันดาน! ไปนอนกันไปพวกมึงอะ พอแล้วเลิกแดกได้แล้ว ไปปิง ไปนอน”

“พี่อิส จูบกันปะ”

“เฮ้ย...” ปิงเขยิบเข้ามาใกล้ ดวงตากลมๆ มองเข้ามาพร้อมกับหน้าที่ยื่นเข้ามาใกล้ผม อีกนิดเดียวปากเล็กๆ นั่นก็จะชนกับปากผมแล้ว

“พี่อิส”

กลายเป็นผมที่ถูกแช่แข็งเพราะดวงตาใสแป๋วคู่นั้นที่จ้องอยู่ วินาทีที่กำลังนิ่งงัน ปิงก็มอบบางอย่างให้กับผมอย่างไม่ทันตั้งตัว

“อ้วก!”

เชี่ย!

ผมหลับตาแน่นเพราะปิงมันอ้วกพุ่งเข้ามาเต็มๆ หน้า

“โทษๆ” มือเล็กๆ ยกขึ้นเคาะหัวผมเบาๆ  ดูมัน...ดูมันทำ!

ผมลุกไปล้างหน้าในห้องน้ำ กำชับให้ไอ้พวกนี้เลิกดื่มแล้วพาปิงเข้าไปนอนในห้อง เมื่อทิ้งลงที่นอนก็หมดฤทธิ์แล้วหลับไปเลย ผมปล่อยให้ปิงนอนแล้วออกไปข้างนอก ไอ้โอมกับไอ้ปอนด์นอนอยู่บนโซฟาหน้าทีวีคนละมุม ไอ้ปรินซ์ยึดโซฟามุมทำงานของผมไปแล้ว ผมหันซ้ายหันขวาหาที่นอนให้ตัวเองบ้าง

ว้า...ไม่มีที่นอน ต้องไปนอนกับหลินปิงแล้วแหละ

ผมเดินกลับเข้าไปในห้อง ปิงตัวเล็กใช้พื้นที่บนที่นอนแค่นิดเดียวเอง ผมจึงอุ้มขยับไปนิดหนึ่งแล้วนอนลงข้างๆ นอนมองใบหน้าแดงก่ำของคนที่กำลังหลับไม่รู้เรื่อง หลินปิงนี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่ ขาวๆ นิ่มๆ เวลาทำหน้าซึมก็เหมือนลูกแพนด้าง่วงๆ  แต่เวลายิ้มขึ้นมาก็กลายเป็นลูกแมวขี้อ้อน ดวงตาที่ปิดอยู่ทำให้เห็นขนตายาว จมูกก็แดงเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักตอนเมาแล้วพล่ามเรื่องดราม่า ปากเล็กๆ ที่ไม่ค่อยขยับยิ้มเป็นสีชมพูอ่อนๆ  มองอยู่อย่างนั้นด้วยความคิดเดียวที่เกิดขึ้นวนไปวนมา...ปิงแม่งอย่างน่ารักเลย

 

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 18-02-2017 23:29:00
 

ตอนที่ 23

วิถีอิสระ ‘3’

อิสระ :

 

ตอนนี้ผมพาปิงมาอยู่ที่บ้าน สงสารที่ต้องอยู่ในที่แบบนั้น อีกอย่างลำบากต้องตามดูด้วย แล้วก็ขี้เกียจคิดเรื่องแถตอนโทรหา เอามาอยู่ในสายตาดีกว่า ด้วยความสัตย์จริงผมไม่ได้ชอบปิงตั้งแต่วันแรกที่เจอ ยอมรับว่าในตอนแรกมันเป็นเพราะความสงสาร แต่ยิ่งรู้จัก ยิ่งเอ็นดู มันเกิดเป็นความรู้สึกอยากรัก อยากดูแล อยากทำให้ปิงมีความสุขกว่านี้ ผมอยากจะพาปิงไปทำอะไรที่ไม่เคยทำ จะสอนความเป็นอิสระให้เขาได้เรียนรู้ นั่นคือความตั้งใจของผม ปิงมักจะตื่นเต้นกับอะไรง่ายๆ ที่แสนจะธรรมดาเพราะว่าเขาไม่เคยเห็น ไม่เคยทำ แค่บอกว่าจะพาไปกินหมูกระทะก็ดี๊ด๊ายิ่งกว่าบังเอิญตอนเล่นกับก้อนกัญชาแมว

“พี่อิสไม่ได้หลอกปิงมาเย่จริงๆ ใช่ปะ” ผมชวนไอ้น้องสามตัวนี้มานั่งกินด้วยเพราะจะได้คุยกันสนุกๆ แต่คิดผิดมากเลย เอาพวกมันมาจุดไฟเผาตัวเองชัดๆ

“ไอ้เหี้ยปรินซ์!”

“เอ้า ก็ผมเป็นห่วงปิงอะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับพี่ปรินซ์ พี่อิสเขาไม่ฆ่าผมหรอก”

“ฆ่า?”

“ก็เย่แปลว่าฆ่าให้ตายไม่ใช่เหรอครับ”

“โอ๊ย เด็กน้อย โดนพี่อิสหลอกแล้ว เย่เนี่ยมันแปลว่า...”

“ไอ้โอม! หุบปากเลย เรื่องเหี้ยๆ ไม่ต้องสอน!”

“เย่มันแปลว่าจับปล้ำเว้ยปิง ระวังโดนพี่อิสจับเย่!”

“ไอ้เหี้ยปอนด์!”

ผมหันไปมองปิง อีกฝ่ายหันมาพอดี ก่อนจะหันขวับไปคนละทาง ปิงหน้าแดงเกินกว่าเหตุไปมาก

“ไอ้พวกบ้า มึงพูดให้หลินปิงมันกลัวกู”

ยอมรับว่าอยู่ใกล้ๆ แล้วใจไม่ดี คิดไม่ดีตลอดเลยกูอะ สติต้องครบตอนอยู่กับมันไม่อย่างนั้นคงจับขย้ำแน่ ผมแค่มันเขี้ยวไม่ได้คิดจะทำอะไร อยากกัดแก้ม อยากฟัดเหมือนเล่นกับแมวเฉยๆ เห็นทะลึ่งตึงตังแบบนี้จริงๆ ปอดแหกเรื่องพรรค์นั้นมาก กับคนอื่นนี่หื่นเป็นบ้าเป็นบอ แต่พูดตรงๆ ผมไม่กล้าคิดเรื่องอย่างว่ากับปิงเลย สงสารน้อง ไม่กล้าทำอะไรแม้แต่จะแตะต้อง อีกอย่างชีวิตมันแย่มากพอแล้ว มาเจอคนจัญไรแบบกูอีกมันก็คงเหนื่อยแล้วแหละ

ขณะไอ้พวกนี้กำลังพูดถึงผมอยู่เสียงมือถือก็ดังขัดจังหวะ ผมพลิกหน้าจอขึ้นมาดูก่อนจะเห็นว่าเป็นไอ้เชน เลยลุกออกมาคุยข้างนอก

“มีไร”

“แหม มึงรับโทรศัพท์เป็นมิตรมากเลยเนอะ”

“กูคนหยาบไง”

“หยาบจนกูเริ่มเกลียดมึงละ”

“ตกลงมีไร”

“กูมีงานให้มึง”

“ว่ามาเลยครับคุณเชน”

“ดัดจริตขึ้นมาเชียว”

ผมหัวเราะเบาๆ สายตาเหลือบไปมองไอ้พวกนั้นที่โต๊ะ สุมหัวคุยแล้วมองมาทางผม ไม่รู้ว่านินทาอะไรให้ปิงมันฟังอยู่ พวกนี้มันน่าเตะเรียงตัว

“ตกลงงานอะไร”

“วาดภาพประกอบแบบเรียน แต่มันคือมนุษย์ป้าสำนักพิมพ์ดีดีบุ๊กคราวก่อนอะ”

“กูไม่เอา!” ผมปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด นึกไปถึงมนุษย์ป้าคนนั้น ให้ผมวาดภาพประกอบหนังสือเรียนแค่ไม่กี่ชิ้น แต่แม่งหาเรื่องให้แก้อยู่นั่นแหละ เอะอะนัดคุย นัดเจอ นัดดูแบบตลอดเวลา ทักไลน์ขอความคืบหน้าทุกเช้าด้วยภาพสวัสดีวันจันทร์ยาวไปยันวันอาทิตย์

“แต่เขาอยากได้มึงนะเว้ย”

“แต่กูไม่อยากได้เขา”

“เขาชอบงานมึงมากเลยนะ”

“ไม่เอา กูยอมอดตายดีกว่า กูกลัวเขา”

“มึงก็บ้า เขาจะทำอะไรมึงหรือไง ตกลงไม่รับใช่ไหม”

“บอกเขาไปว่ากูโคตรยุ่ง”

“เออๆ เปลี่ยนใจโทรหากูนะ”

ผมกดวางสายหลังจากคุยเสร็จ ก่อนจะเห็นไลน์จากเนยเด้งขึ้นมา ผมกดปัดทิ้งแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ พวกมันสามัคคีกันเปลี่ยนเรื่องคุย

“นินทากูจบแล้วเหรอ”

“ใครนินทา ไม่มี้!”

“เหอะ อ้าปากกูก็เห็นไส้ติ่งแล้วพวกมึงอะ”

ไอ้สามตัวยังชวนปิงคุยไปเรื่อยๆ ระหว่างกิน ส่วนแพนด้ามันไม่ใช่คนกินเก่ง อิ่มแล้วก็เริ่มเล่น ย่างหมูแล้วคีบใส่จานให้คนอื่น ว่างก็นั่งแกะเปลือกกุ้งให้ คอยเติมน้ำแข็ง เติมน้ำดื่ม ก่อนไอ้ปรินซ์จะพาไปตักไอศกรีมมากิน ตื่นเต้นเสียยกใหญ่ที่ได้กินไอศกรีมฟรีทุกรส ตักไอศกรีมเข้าปาก สองขาก็ดีดดุ๊กดิ๊กด้วยความอร่อย มีรอยยิ้มอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่เข้ามานั่งในร้านวันนี้เลยน่ารักเป็นพิเศษ จับหลินปิงย่างไปด้วยเลยได้ไหม อยู่ก็น่ารักให้ใจเต้นเปล่าๆ แดกลงท้องแม่งให้หมดเรื่อง

...

 

พอมีปิงมาอยู่ด้วย ผมตื่นเช้าอย่างที่ไม่เคยตื่น ปกติเที่ยงแหละกว่าจะลุกจากที่นอน แต่ตอนนี้ชีวิตผมจะเปลี่ยนไป ผมลุกมาเตรียมอาหารเช้าให้ปิง ผมทำกับข้าวไม่เป็นก็เลยทำได้แค่โจ๊กคัปกับนมกล่อง พรุ่งนี้จะทำอะไรที่มันน่ากินกว่านี้ ผมคิดว่าเลี้ยงเด็กไม่น่ายาก สมัยก่อนผมก็อยู่กับน้องสาว ก็ทำทุกอย่างเหมือนที่ทำให้น้องสาว แต่ปรากฏว่ามันไม่เหมือนกัน ปิงมันโตแล้ว โตกว่าที่ผมคิดเยอะเลย ถึงร่างกายมันจะเป็นลูกแพนด้า แต่ความคิดมันล้ำไปเยอะเลย เผลอๆ ความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าผมอีก ผมก็เลยต้องเปลี่ยนความคิดและแนวทางการดูแลปิงใหม่ ต้องดูแลแบบเท่ๆ ไม่ใช่ทำตัวเป็นลุงอย่างที่มันว่า

แต่ในสายตาผมมันก็คือเด็กไง ไม่ว่าจะพยายามยังไงปิงก็คือลูกแพนด้าในสายตาผม อย่างตอนนี้ผมกำลังนั่งดูหนังกับปิงอยู่ เมื่อถึงฉากเรตเกินเรื่องก็หันขวับไปปิดตาคนข้างๆ เพราะคิดว่ามันไม่เหมาะ

“ไม่ต้องดูๆ”

“พี่ ผมโตแล้ว”

“มึงนี่แก่แดด”

“มันไม่ได้มีอะไรสักหน่อย” ปิงปัดมือผมออกแล้วนั่งดูตาแป๋ว ไม่รู้สึกรู้สาอะไร หนังแม่งก็ไม่เซนเซอร์ห่าอะไรหน่อยเลย กดปิดเลยดีไหมเนี่ย!

“พี่อิส”

เสียงหนึ่งที่หน้าประตูทำให้เราทั้งหมดหันไปมอง

“เนย”

ผมเอ่ยชื่อคนที่เข้ามาเบาๆ  ก่อนเธอจะเดินเข้ามาในบ้าน พอเนยเข้ามาไอ้พวกนี้ก็พากันออกไป รวมถึงปิงด้วย แม่ง ทิ้งกูเลย...ผมไม่ได้เจอเนยมาหลายเดือนแล้วตั้งแต่เราเลิกกัน ตอนนี้เลยไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เนยที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ดูเก้ๆ กังๆ ยื่นขนมที่ซื้อมาให้

“หนูซื้อมาฝาก”

“เนยมาทำอะไรที่นี่”

“ก็พี่อิสไม่ยอมรับโทรศัพท์หนูเลยอะ ไม่ตอบไลน์ด้วย”

“พี่ไม่คิดว่าเราจะต้องคุยกันอีกนะ”

“พี่น้องกันเขาก็ต้องมีเรื่องคุยกันบ้างแหละ พี่อิสสบายดีนะ”

“ก็ดี”

“หนูซื้อขนมมาฝากด้วย”

“อิ่มแล้วอะ”

“กินหน่อยเหอะ ซื้อมาแล้วนะ”

“กินไม่ได้อะ คำเดียวก็อ้วกแตกแน่นอน”

เนยนิ่งไปนิดหนึ่งแล้วดึงขนมในมือกลับไป

“จริงๆ ที่มาวันนี้หนูจะมาชวนพี่อิสไปเยี่ยมยายอะ ยายไม่สบายอยู่โรงพยาบาล ถามถึงพี่อิสด้วย”

ผมหันขวับไปหาเนยเมื่อพูดถึงยาย เมื่อก่อนผมไปบ้านเนยที่อยุธยาบ่อยๆ เพราะขับรถไปให้ เลยสนิทกับยายของเนยพอสมควร ผมไปที่นั่นทีไรก็จะได้กินกับข้าวอร่อยๆ ที่ยายทำ

“หนูจะไปพรุ่งนี้นะ พี่อิสไปไหม”

“อืม ไปก็ได้”

แค่ไปเยี่ยมยายคงไม่เป็นไรหรอก ผมคิดว่าเนยคงไม่เข้าใจเจตนาของผมผิดไป เอาจริงๆ ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นไปได้ตอนที่เนยบอกให้เราเปลี่ยนความสัมพันธ์กลับไปเป็นพี่น้องอะไรแบบนั้น ผมอาจจะใจแคบเกินไปก็ได้ แต่ผมไม่ต้องการให้เหลือความสัมพันธ์อะไรอยู่เลย อยากให้มันจบไปเลยมากกว่า

...

 

เนยกลับไปแล้วเพราะผมหมดเรื่องจะคุยต่อ แต่ลูกแพนด้าของผมมันยังไม่กลับมา บอกว่าจะออกไปซื้อผ้าก๊อซ แม่งไปรอซื้อหน้าโรงงานหรือไง ทำไมยังไม่กลับมาอีก เมื่อวานดูข่าวในทีวีมีข่าวแก๊งลักเด็กด้วย ป่านนี้โดนจับไปตัดแขนตัดขา พาไปขอทานที่ไหนแล้วก็ไม่รู้ จิตใจว้าวุ่นฉิบหาย ผมเดินไปส่องที่หน้าประตูเป็นรอบที่แปด ก่อนจะเห็นปิงเดินมากับเด็กนักเรียนอีกคน มองไกลๆ ยังหล่อออร่ากระแทกเบ้าตากูเลย ใครวะ ใครหน้าไหนมันกล้ามาส่งน้องกูดึกๆ ดื่นๆ ถึงหน้าบ้าน มันเป็นใคร!

“ใครมาส่ง!”

ผมถามด้วยความหวงแบบโคตรหวง ก่อนจะได้คำตอบมาว่าเป็นเพื่อนที่โรงเรียน รู้จักกันไม่นานแต่มีชวนไปกินไอตงไอติม เฮอะ! แต่ก็เอาเหอะ แพนด้ามันก็ควรมีเพื่อนบ้าง เพราะงั้นครั้งนี้ผมจะปล่อยไปก่อน

 

ผมเริ่มชินกับการใช้ชีวิตใหม่ตั้งแต่ปิงเข้ามาอยู่ด้วย ช่วงหลังๆ มานี้ผมรับงานเยอะขึ้น จากที่เคยขี้เกียจ รับแค่เดือนละงานสองงาน ก็ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ เราเป็นคนเท่ เราต้องเปย์เด็ก ปกติผมไม่ขวนขวายเรื่องงาน ชีวิตไม่มีจุดหมายก็เลยไม่ไขว่คว้าอะไร อยู่ไปวันๆ  เรื่องกินก็เหมือนกัน ปกติผมกินอะไรก็ได้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั้งเดือนก็อยู่ได้ แต่พอมีปิงมาอยู่ด้วย ผมก็อยากดูแลน้องให้ดี อยากให้กินอะไรดีๆ ผมตื่นเช้ามาทำกับข้าวทุกวัน ดูผ่านยูทูบเอา รู้ว่ามันไม่อร่อยหรอก แต่ปิงกินหมดจานทุกที เลี้ยงง่าย ทำอะไรก็กินหมด ผมต้องใส่ใจเรื่องอาหารมากกว่าเดิม เพราะปิงดูขาดสารอาหาร กินก็น้อย เรี่ยวแรงก็ดูไม่ค่อยจะมี ปิงชอบเขี่ยผักในอาหารทิ้ง ตอนที่ผมทำกับข้าวก็เลยสับให้ละเอียดยิบ เอาให้แม่งเขี่ยไม่ได้ต้องกล้ำกลืนฝืนกินกันไป ตอนบังคับให้กินนมก็แทบจะต้องจับกรอกปาก ยิ่งเป็นนมจืดมันแทบจะอ้วกกลับมาใส่หน้า มาอยู่กับผมปิงต้องมีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่แย่ลง ผมไม่เคยคิดอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคนและคงไม่เปลี่ยนหรอก การเป็นผมมันเท่อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะดีพอ พอที่ปิงจะเชื่อใจว่าผมดูแลเขาได้

ผมชอบปิง แต่ไม่แน่ใจว่าปิงคิดยังไงกับผม เริ่มแก่แล้วก็ควรจะฉลาดเรื่องนี้ แต่เอาจริงๆ หัวใจนี่อย่างโง่ ปิงก็ไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาเลย ผมอ่อยจนอ่อนใจแล้ว ปิงก็ยังนิ่งเฉย หรือว่าปิงจะเข้าใจผิดเรื่องผมกับเนยวะ

ตอนมันเห็นรูปคู่ผมกับเนยในอัลบั้มนี่หน้าบูดเลย แต่หลังจากวันนั้นผมก็เอาไปทิ้งหมดแล้ว ไม่มีคำว่าถ่านไฟเก่า ขี้เถ้าก็ไม่เหลือ ผมกับเนยไม่มีอะไรกันแล้วจริงๆ  หลังจากวันที่ไปเยี่ยมยายที่อยุธยาเราก็แทบไม่ได้ติดต่อกัน เว้นแต่วันที่เสร็จจากประชุมผู้ปกครองปิง เนยโทรหาผมเพราะไอ้โดม รุ่นน้องของผมมันถูกรถชน ผมก็เลยรีบไปหามันที่โรงพยาบาล ไม่มีใครเฝ้าผมก็เลยอยู่เป็นเพื่อนมันจนไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้บอกปิงก่อนด้วยว่าจะไม่กลับบ้าน ตอนนั้นก็กลัวปิงจะโกรธ แต่แพนด้ามันซึมมาก มันไม่ว่าอะไรเลย ผมก็เลยตามเลย แต่ก็รู้สึกผิดที่ทิ้งปิงไว้บ้านคนเดียว ยิ่งเจ็บใจตัวเองตอนที่ปิงไม่สบายอีก คืนนั้นทั้งคืนผมแทบไม่ได้นอนเพราะอยู่เฝ้าปิงที่โดนไข้กินจนอาการน่าเป็นห่วง

ลูกแพนด้านอนร้องไห้กลัวตัวเองตาย น่าสงสารเป็นบ้า ผมจะพาไปหาหมอก็ไม่ยอมไป มือเล็กๆ จับมือผมเอาไว้แน่นเหมือนกลัวผมจะหนีไปไหน แถมยังเรียกหากันทั้งคืน ผมจะไปไหนได้ล่ะ ปวดฉี่ยังไม่ไปเลย

“พี่อิสอย่าไปนะ”

“ไม่ไปๆ”

“พี่อิสอยู่กับผมนะ”

“พี่อยู่นี่”

“พี่อิสอย่าไป”

“พี่ก็อยู่นี่แล้วไง”

ผมดูแลปิงเหมือนพี่ชาย และปิงก็คล้ายกับน้องสาวผม เราอายุห่างกันเยอะพอสมควร เลยเกิดความไม่แน่ใจว่าปิงคิดยังไงกับผมกันแน่ ปิงอาจจะมองว่าผมเป็นแค่พี่เขาก็ได้ แต่เอาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าน้องมันจะรับผมในแบบที่ผมเป็นผมได้หรือเปล่า ทั้งปากหมา ขี้โมโห กาก ไร้สาระ สันดานเสีย ชีวิตเสื่อมทราม...แต่คนจัญไรก็มีหัวใจนะ

 

...

 

ช่วงนี้รู้สึกว่าปิงจะไปสนิทกับไอ้เด็กหล่อนั่นเหลือเกิน รู้ทีหลังว่ามันชื่อไอ้ช็อก ปิงไปโรงเรียนพร้อมมัน เสาร์อาทิตย์ก็ไปบ้านมันให้มันสอนดนตรีให้ ผมไม่มีทักษะด้านดนตรีแล้วน้องมันต้องสอบ ก็เลยต้องยอมให้ พักหลังๆ มานี้ก็เห็นคุยไลน์กันบ่อยด้วย ผมอยากเดินไปกระชากมือถือแล้วปาทิ้ง กระทืบซ้ำให้แหลกคาตีน

อย่าเอามือถือที่กูซื้อให้ไปคุยกับผู้ชายคนอื่นสิโว้ย!

แต่ทำไงได้อะ เรามันคนเท่ ผมอยากเป็นพี่อิสที่ใจดีของน้อง ก็เลยต้องทำใจเย็น นั่งมองลูกแพนด้าคุยกับคนอื่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ผมมาคิดๆ ดูแล้ว ผมอาจต้องยอมนะถ้าปิงจะชอบคนอื่น ผมจะดูแลปิงในฐานะพี่อิสของปิง มันก็ดูเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนดี เพราะเป็นพี่น้องกันมันเลิกรากันไม่ได้ ผมไม่อยากให้เราผิดใจกัน เพราะผมเอาปิงมาอยู่ด้วยแล้ว ถ้าทะเลาะกันปิงจะไปอยู่ที่ไหน ผมไม่อยากให้เกิดปัญหานั้น ตอนปิงมาถามผมว่าจะชอบไอ้ช็อกได้ไหม ผมก็อยากบอกว่า ได้ เอาที่ใจปิงต้องการเลย แต่จิตสำนึกแม่งดันหวงไง ไม่ได้โว้ย ชอบใครไม่ได้! ทำเป็นปากดีห้ามไม่ให้ปิงชอบใคร แต่ตัวเองก็บอกชอบปิงไม่ได้ ควายเอ๊ย... ยอมรับเลยว่าปอดแหก ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเสียปิงไป ขี้แพ้ว่ะ ไม่เท่เลย

แต่ตอนที่ปิงมาถามผมแบบนั้นมันอาจแปลว่าใจเขากำลังลังเล ปิงอาจจะชอบไอ้ช็อกไปแล้วจริงๆ ก็ได้ ซึ่งถ้าปิงลงเอยกับไอ้ช็อกได้ผมก็โอเค ยอมรับในจุดนี้ได้อยู่แล้ว

...แต่ปิงเสือกนก

ก็สงสารน้องที่อกหัก แต่กูต้องไปซื้อกล้วยมาขึ้นศาลพระภูมิก่อน แก้บนหน่อย แถมแอปเปิลฟูจิอีกสองลูกกับพวงมาลัยเจ็ดสีเจ็ดศอกไปเลย ทำกับข้าวไปใส่บาตรตอนเช้าด้วย อิ่มบุญ อิ่มใจ ปิงจะเกลียดผมไหมถ้ารู้ว่าผมเฉลิมฉลองการอกหักของน้องอย่างนี้

ปิงไม่ได้ฟูมฟายจะเป็นจะตายตอนที่อกหัก มีแอบซึมบ้างเล็กน้อย เหี่ยวเฉาเป็นผ้าขี้ริ้วไม่ได้ซัก ผมตั้งใจว่าต่อไปนี้มันคือหน้าที่ผมแล้วที่จะต้องดูแลปิงให้ดี แต่บางทีผมก็โคตรกระจอก เพราะทำอะไรไม่ได้เลย อย่างวันที่ปิงโดนเพื่อนที่โรงเรียนซัดหน้าแหกกลับมา...

ผมวุ่นวายอยู่ในครัวเพราะปิงบอกว่าอยากกินข้าวผัดกับไส้กรอกทอด เขาบอกจะออกมาช่วยแต่เงียบหายไปในห้องนานแล้วก็เลยเดินเข้าไปดู เห็นร่างเล็กๆ นอนหลับอยู่บนเตียงทั้งชุดนักเรียนเลอะๆ นั่น

“หลินปิง...เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนสิ”

“...”

“ปิง” ผมขยับร่างปิงเบาๆ คนบนเตียงขยับตัวนิดหน่อยแต่ก็ไม่ยอมลุกขึ้นมา ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าหลับสนิท ผมยืนมองอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินไปเปิดตู้หยิบเสื้อปิงมาตัวหนึ่งแล้วกลับมาที่เตียง ปลดกระดุมเสื้อนักเรียนถอดออก แล้วสวมเสื้อยืดเข้าไปแทน ก่อนจะนั่งลงข้างๆ มองดูใบหน้าช้ำๆ  แม้แต่ตอนหลับยังขมวดคิ้วแน่นไม่รู้ว่าเพราะความเจ็บปวดหรือกำลังฝันร้ายอะไร ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจผมจึงเจ็บปวด เห็นปิงเจ็บแล้วรู้สึกโกรธแต่ก็เสือกทำอะไรไม่ได้เลย

ผมเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ปิง แตะริมฝีปากลงไปเบาๆ ที่หน้าผาก คิ้วที่ชนกันคลายออกในตอนนั้น ผมปล่อยให้ปิงนอนอยู่อย่างนั้น ส่วนตัวเองก็นั่งอยู่ข้างๆ ไปจนถึงเช้า

 

...

 

ตั้งแต่วันนั้นผมไปส่งปิงที่โรงเรียนทุกเช้า จะไปรับตอนเลิกงานแต่เขาไม่ยอม ยืนยันจะกลับเอง ก็ต้องยอมเขา จริงๆ ผมไม่อยากให้ปิงทำงานด้วยซ้ำแต่ก็ขัดใจไม่ได้ ทุกวันของผมวนไปอย่างไม่น่าเบื่อ ตื่นมาทำกับข้าว ไปส่งปิงที่โรงเรียน กลับมาทำงาน ตอนเย็นออกไปซื้อข้าวรอ บางวันก็ทำข้าวเย็นด้วยถ้าขยัน

วันที่ปิงกลับบ้านดึกไม่ใช่ว่าไม่ห่วง เหลือบมองนาฬิกาแทบจะทุกๆ ห้านาที ถ้าปิงเลิกงานสามทุ่ม สามทุ่มครึ่งต้องถึงบ้าน ถ้าเลิกเที่ยงคืน เที่ยงคืนครึ่งต้องถึงบ้าน เลยไปแค่นาทีเดียวต้องโทรตาม ผมเหลือบตาไปมองนาฬิกาอีกที เสียงประตูหน้าบ้านก็เปิดออกพอดี ปิงกลับมา...

“เนย”

“หวัดดีพี่อิส”

“มาทำไม”

“น้องคิดถึงพี่บ้างไม่ได้เหรอ ซื้อขนมมาฝากด้วย นี่บราวนี่ร้านที่ชอบไง”

“ช่วงนี้ไม่กินหวานว่ะ” ผมพูดแค่นั้น ไม่ได้รับถุงขนมที่เนยส่งให้

“พี่อิสทำอะไรอยู่อะ”

“ทำงาน”

“ยุ่งเหรอ”

“ยุ่งดิ งานเยอะ ไม่มีอะไรก็กลับไปเหอะ”

“ทำไมต้องไล่อะ”

“พี่ต้องทำงานไง”

“ขออยู่คุยด้วยหน่อยไม่ได้เหรอ”

“ไม่ได้”

“พี่อิส อย่าใจร้ายมากดิ”

ผมไม่ได้สนใจเนย เหลือบมองนาฬิกากับหน้าจอมือถือสลับไปมา ถ้ามาช้าก็ควรจะไลน์มาบอก เป็นเรื่องที่เราตกลงกันไว้และปิงก็ปฏิบัติตามเสมอ แต่เงียบไปเลยแบบนี้มันแปลก

“พี่รอปิงอยู่เหรอ”

“อืม” ผมตอบ กำลังจะหยิบมือถือกดโทรหาปิงแต่เสียงเนยดังขัดขึ้นมาก่อน

“วันนี้ปิงไม่กลับหรอก”

“...” เหลือบตามองเนยที่พูดออกมาอย่างนั้น ก่อนอีกฝ่ายจะอธิบายต่อ

“เมื่อกี้หนูเจอปิงข้างนอกพอดี เห็นบอกว่าจะไปนอนกับเพื่อนหรืออะไรนี่แหละ”

“เหรอ”

“ปิงไม่ได้โทรหาพี่เหรอ เห็นบอกว่าจะโทรบอกพี่เอง”

“จริงเหรอ”

“จริงสิ เจอปิงตอนเลิกงานพอดี”

“อ๋อเหรอ”

“อื้ม”

ผมเงียบมองเนย คนถูกมองแสร้งมองออกไปทางอื่น การคบกันในระยะหนึ่งยาวนานพอจะทำให้ผมรู้จักเนยดี กิริยาแบบนี้มันดูออกไม่ยากอยู่แล้วว่ากำลังโกหกผมอยู่

“ไม่เนียน”

ผมพูดแค่นั้นก่อนจะกดมือถือโทรหาปิง

 

“เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...”

 

คิ้วผมขมวดเข้าหากันนิดหน่อย ปิงไม่เคยมือถือแบตหมด เพราะทุกเช้าผมจะเช็กตลอดว่าชาร์จแบตไปหรือเปล่า แล้วปิงก็ไม่ใช่คนที่จะเล่นมือถือจนแบตหมดแน่นอนอะ แพนด้าปิดเครื่องทำไมวะ

“ปิงบอกว่าจะไปนอนกับเพื่อนจริงๆ นะ”

“ปิงไม่เคยไปไหนไม่บอก อีกอย่างมันมีเพื่อนที่ไหนอะ”

“แต่ว่า...”

“เงียบไปเลย”

“พี่อิสดูเป็นห่วงปิงมากเลยนะ”

“ก็ต้องเป็นห่วงดิ” ผมพูดแค่นั้นแล้วกดมือถือหาปิงอีกที แต่ก็ได้ยินเสียงปลายสายตอบกลับมาแบบเดิม มึงเป็นใครเนี่ย กูไม่อยากคุยกับมึง กูอยากคุยกับปิงโว้ย

ผมวางมือถือลงอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนหันมองเนยที่แสดงสีหน้ายุ่งๆ บ่งบอกความไม่พอใจออกมา

“เนยไปพูดอะไรกับปิง”

“ไม่ได้คุยอะไรเยอะแยะ ก็แค่ทักทาย”

“ทำไมต้องโกหกว่าปิงไม่กลับ”

“ไม่ได้โกหก ก็ปิงบอกว่าจะไม่กลับไง”

“พูดเรื่องจริงบ้างดิเนย”

“ไม่เชื่อก็ตามใจ! ออกไปตามหามันเลยสิ!”

ผมไม่ได้โต้ตอบอะไร นอกจากเดินไปคว้ากุญแจรถแล้วก้าวเท้าออกจากบ้าน ในตอนนั้นเนยดึงมือผมเอาไว้ก่อน

“เออ! หนูเป็นคนสั่งให้ปิงไม่ต้องกลับบ้านเองแหละ หนูอยากอยู่กับพี่สองคน เลยขอให้ปิงไปอยู่ที่อื่น”

“เพื่ออะไรวะเนย”

“พี่อิส พี่อิสไม่ต้องไปตามปิงหรอก อยู่กับหนูนะ”

“...”

“หนูคิดถึงพี่ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม”

“...”

“พี่อิสยังรักหนูอยู่หรือเปล่า”

“ไม่แล้ว ไม่รักเลย”

“พี่ไม่ใช่คนใจร้ายแบบนี้ พี่เคยใจดีกว่านี้” อีกฝ่ายเงยหน้ามองด้วยน้ำตาที่เอ่อออกมา จะว่าใจร้ายก็ได้ แต่ผมไม่รู้สึกใจอ่อนหรือสงสารเนยเลย ไม่มีเหตุผลที่ทำให้ผมอยากกลับไปหาเนยเลย นึกถึงก็เจอแต่เรื่องแย่ๆ ที่ผ่านกันมา เรื่องแย่ๆ ที่หักล้างความผูกพันไปหมด ผมเลิกกับเนยด้วยเหตุผลที่สมควรเลิกแล้ว ไม่อยากให้เราต่างคนต่างต้องมาเสียเวลาให้กันอีก อยากให้มันจบไปเลย

“พี่อิส พี่ไม่รักหนูแล้วจริงๆ เหรอ”

“ไม่ชัดเหรอ”

“พี่อิสไม่รู้สึกอะไรกับหนูแล้วเหรอ”

“พี่รู้สึกกับคนอื่นมากกว่าแล้ว”

“ปิงเหรอ”

“ใช่” ผมตอบอย่างไม่ลังเล

“ทำไมต้องปิงอะ”

“ทำไมเป็นปิงไม่ได้อะ”

“ไม่อยากให้เป็นปิง”

ผมถอนใจเบาๆ แล้วนิ่งมองหน้าเนยที่ไม่ได้หลบตาหนีสักวินาทีเดียว ก่อนที่จะต้องจบเรื่องราวพวกนี้เสียที

“เนยก็คบคนอื่นไปแล้วไม่ใช่เหรอ”

ผมพอรู้เรื่องของเนยหลังจากที่เราเลิกกันไปจากคำบอกเล่าของคนรู้จักอยู่บ้าง เนยไปคบกับคนอื่นแทบจะทันทีที่เราเลิกกัน เป็นคนที่ผมเองก็พอจะเคยเห็นหน้าแต่ว่าไม่รู้จักดี อีกฝ่ายรู้จักกับเนยมานานแล้ว คนที่ผมเคยถามว่าทำไมสนิทกันนัก คนที่เนยตอบเสมอว่าเป็นแค่เพื่อนกัน คนนั้นเลย

“รักคนอื่นไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วจะกลับมาหาพี่อีกทำไม”

“มันไม่ดีเท่าพี่ไง”

“...”

“พอเสียพี่ไปถึงรู้ว่าไม่มีใครดีเหมือนพี่เลย”

ผมถอยหลังหนีเนยที่กำลังก้าวเท้ามาหา เมื่อเห็นว่าผมไม่ยินดีที่จะใกล้กว่านั้น เนยจึงชะงักไปนิดหน่อย

“พี่ให้โอกาสหนูหน่อยได้ไหม”

“คงไม่ได้แล้วเนย”

“พี่อิส”

“พอเสียเนยไปถึงรู้ว่ามีคนดีกว่าเนยเยอะเลย”

“พี่! ต้องใจร้ายขนาดนี้เลยเหรอ!”

“ก็เคยบอกว่าพี่เหี้ยไม่ใช่เหรอ”

“พี่อิส”

“กลับไป แล้วอย่ามายุ่งกับปิงอีก”

“...”

“อย่ามาทำให้ปิงเข้าใจอะไรผิด”

“...”

“เพราะพี่อาจจะเหี้ยกว่านี้ก็ได้”

ผมเดินไปเปิดประตูเพื่อเป็นคำสั่งสุดท้ายให้เนยออกไปจากที่นี่ อีกฝ่ายดูไม่พอใจนักแต่ก็ยอมเดินออกไป ผมได้แต่ถอนใจออกมายาวๆ  คว้ามือถือขึ้นมาโทรหาปิงอีกที ขับรถหาทุกที่ที่คิดว่าปิงจะไปแต่ไม่เจอ ผมกลับมารอปิงที่บ้านจนเช้าแต่เขาก็ไม่กลับมา

ออกไปรอที่หน้าโรงเรียนแต่เช้า เกือบๆ แปดโมงเขาก็มาโรงเรียนพร้อมกับเพื่อนคนหนึ่ง ปิงเคยพูดถึงเด็กคนนั้นเหมือนกันแต่ผมจำไม่ได้ว่าชื่ออะไร เห็นปิงถึงโรงเรียนแล้วผมก็สบายใจ ถ้าไม่ติดว่าเป็นในโรงเรียนผมคงวิ่งเข้าไปกอดแล้ว ปิงเดินเข้าไปในโรงเรียนจนลับตา ขณะที่ผมกำลังจะกลับบ้าน เสียงมือถือดังขึ้นมาก่อน เป็นปิงโทรมาจึงรีบกดรับ

“ว่าไงปิง” ผมรับด้วยเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด

“ผมอยู่ที่โรงเรียนแล้วนะ เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้าน ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนครับ”

“แล้วไปไหนมา”

“ไปนอนบ้านเมธีครับ”

“อืม”

“พี่ไม่ได้โกรธใช่ไหมครับ”

“โกรธทำไม ปิงไม่ได้ทำอะไรผิดนี่”

“งั้น...งั้นแค่นี้นะครับ”

“เดี๋ยวปิง”

“ครับ?”

“เย็นนี้รีบกลับบ้านนะ”

“...”

“พี่คิดถึง”

 

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: farfarneenee ที่ 18-02-2017 23:52:37
พี่อิสรุกแล้ววววว :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 18-02-2017 23:55:11
ชอบพี่อิส  o13   ปิงกลับมาควรคุยเรื่องเนยให้น้องเข้าใจนะ สงสารหลินปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-02-2017 23:56:57
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 18-02-2017 23:59:43
โอ๊ยยยยย ฉันรักพี่อิส ฉันรักเขาาาาา ฮือออออ
พี่อิสคนคูล พี่อิสคนดีที่หนึ่งเลยยยยย
ดีขนาดนี้เดี๋ยวยกแพนด้าให้เป็นรางวัลเลย
เอาไปนอนกอด นอนซุก ฟัดซะให้หนำใจนะพี่นะ
ถ้าหลินปิงรู้ซักนิด แค่ซักนิดในสิ่งที่พี่คิดพี่ทำนะ
พี่จะไม่มีวันนกเชื่อสิ หยุดปอดแหกละกล้าให้เหมือนกับเวลาที่ปากหมาสิพี่
เดี๋ยวพี่ก็ได้กินแพนด้า ได้กลืนลงท้องสมใจอยาก
ตอนนี้ไม่ด่าเนยหรอก ถือว่าที่พี่อิสด่าน่ะ ก็น่าจะอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนล่ะ
โผล่มาถึงไม่ดีแต่ก้น่าจะกระตุ้นอิพี่อิสได้บ้าง อย่างน้อยตอนนี้ก็พูดว่าคิดถึงตรงๆ
ส่วนหลินปิง กลับบ้านนะลูกนะ หนูต้องได้รู้ว่าสำคัญกับลุงเขาขนาดไหน
มันดีต่อใจ รักผู้ชายแบบพี่อิสจริงๆ ใครจะว่าพี่เป็นไงไม่รู้
แต่เชื่อเถอะพี่ คนที่จะรักจะดีต่อแพนด้าแบบนี้นอกจากพี่มันไม่มีใครอีกแล้ว
ฉะนั้น อย่ารอช้า ครอบครองซะ เอามาเป็นของตัวเองเลย นี่เชียร์ขาดใจ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 19-02-2017 00:02:47
ฮูยยย พี่อิสน่ารักอ่ะ แฟนคลับอยู่ทางนี้ค่ะ ชอบน้องแต่ไม่อยากบอกกลัวไม่แนว
สงสารแกเวลาหึงหวงทำไรก็ไม่ได้ อันนี้ซึ้งมากเลยที่บอกอยากอยู่ไปแบบนี้เพราะได้อยู่นานๆ
ไม่อยากให้ปิงไปอยู่ที่อื่น. ฮาอีตรงแก้บนตอนปิงเลิกแฟน โอ้ยยยย ตาบ้า
ตอนนี้ถ้าไม่เคลียร์กัน น้องจะคิดมากเรื่องเนย เพราไม่รู้เกิดไรขึ้น เดินหน้าเถอะพี่อิส พลีส
มีแฟนเด็กสดชื่น เด็กขึ้นอีกยิ่งกว่าโกนหนวดเคราอ่ะเพ่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 19-02-2017 00:03:41
อีพี่อิส เกือบจะสายไปละนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-02-2017 00:08:12
พี่อิสเหมือนพระเอกก็ตอนนี้แหล่ะจ้า ครั้งแรกที่มองว่ามีควาทพระเอก  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 19-02-2017 00:16:21
พระเอกแบบนี้แหละค่ะที่ดิฉันตามหามานาน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 19-02-2017 00:21:15
พี่อิสสู้ๆ พี่อิสต้องอธิบายกับน้องนะ ว่าไล่อิเนยเน่าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 19-02-2017 00:21:59
เยี่ยมมากที่อิส ที่สุดของความเป็นพระเอกในทุกตอน  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 19-02-2017 00:35:55
โธ่พี่อิสไอ้เราก็ลุ้นกลัวถ่านไฟเก่าจะลุกโชน ที่ไหนได้พอมาอ่านพาร์ทพี่แก โอ้โหมีความชัดเจนมากอ่ะ ชอบคือชอบ ไม่ชอบก็คือไม่!! แทบจะตบไล่ออกจากบ้าน ถถถ  :ling1: :ling1:



ชอบตอนพี่อิสคุยกับเนยอ่ะ "ไม่เนียน" "เลิกพูดว่ารักสักทีลำคาญ!" ถถถ  พอพี่อิสโดนตบขึ้นมา นี่หยุดอ่านแล้วคิด อิพี่อิสมันจะตบกลับมั้ยวะ พอมาอ่าน ถถถถ พี่มันเกือบจะตบอยู่แล้วเว้ย แต่พอดีกลัวไม่เท่  :serius2: :serius2:


สุดท้ายก็ชัดเจนซักทีนะพี่อิส แหม นายไปตั้งนาน เค้าจ่ายเงินค่าตัวให้แล้วเหรอคะ หรือเพิ่งคิดได้ว่าตัวเองเป็นพระเอกคะคุณพี่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 19-02-2017 00:42:43
ให้ไวเลยพี่อิส อย่าช้าๆ
ป่านนี้ปิงคิดไปไกลละเนี้ย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pimBNY ที่ 19-02-2017 00:50:15
โดนตบแน่เนย
พี่อิฐน่ารัก ชอบพระเอกแบบนี้ตรงๆแมนๆกากๆ แต่มีอะไรก็บอกหลินปิงมันหน่อย
มาต่อเยอะๆ ขอตอนพิเศษเพิ่ม
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-02-2017 01:02:11
เหยโอเค รู้ถึงความรู้สึกของพี่อิสแล้ว
ลงเรือพี่อิสเต็มตัวแล้วละ #ทีมอิสระ ของจริง
หุหุ นี่เลิกปอดแหกแล้วเดินหน้าได้แล้ว
น้องมันสับสนก้เพราะไม่รู้นี่ละ
สู้เว้ยพี่อิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 19-02-2017 01:21:36
นี่แหละคือพระเอกที่เราต้องการ
ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง ไม่ใจอ่อนกับคนอื่น
แต่พี่ปอดแหกอะ รับสารภาพกับน้องปิงเร็วพี่
สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 19-02-2017 02:06:29
เพิ่งมาอ่าน ตอนที่ปิงบอกชอบช็อกเรางงมาก มันเร็วมาก สรุปบอกเพราะพี่อิส
เอาจริงนะถ้าเราเป็นพิ้งค์เราไม่เอาช็อกละอะ คือเหมือนนอกใจเลยนะแบบนี้

พี่อิสรุกแล้ว ดีมาก เนยตลกอะ ดูมาแบบจะเอาอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2017 02:23:37
สมน้ำหน้าอีนังเนย.  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 19-02-2017 02:34:24
กรี้ดดดด ะรเอกโผล่เเล้ว 55555 มาสมค่าตัวที่เเพงมาก
ชอบพระเอกเเบบนี้เเหละ ไม่โง่ ไม่ควาย ฉลาดก็ฉลาดตลอด
เบื่อนิยายที่เขียนว่าพระเอกฉลาด เเต่หลงมุกตื้นๆ ของชะนี
เเล้วยังจริงจัง ใครดีมาดีตอบ ไม่ใช่เอาเพศเเม่มาอ้าง

รักคนเขียน อัพเร็วมาก
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 19-02-2017 02:40:40
ปกติจะเกลียดการใช้กำลังกับผู้หญิงมาก. แต่ตอนนี้ต้ิองขอบอกว่า. ถ้าพี่อิสไม่ตบ _ตบเองค่าา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 19-02-2017 05:12:25
พี่อิส ความคิด การกระทำ ดีทุกอย่างแล้ว เหลือแค่พูดออกไป
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 19-02-2017 05:45:30
อิสระคนจริงเว้ยเฮ้ย ต้องอย่างนี้สิวิถีคนแมน ถ่อยและกาก แต่ได้ใจ 5555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 19-02-2017 07:22:05
พี่อิสบอกชอบน้องไปเร็วๆดิคนอ่านอึดอัดนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 19-02-2017 08:43:53
พี่อิสสุดยอดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 19-02-2017 09:06:37
เฮ้ พี่อิส จะเลิกปอดแล้วเว้ย รักใครให้บอก
ก็ถ้าความรักมันดี มันทำให้พี่อิสมีจุดมุ่งหมายเป็นคนที่ดูแลเธอได้ มันคูลมากพี่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 19-02-2017 10:05:19
เพ่อิสเท่มากกกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-02-2017 14:15:34
พี่อิสของน้อง...นายเท่มาก
ไม่ต้องดีเด่มากมายขอให้เป็นคนจริง คำไหนคำนั้น จะรักก็รัก จะเลิกก็เลิก ไม่ลังเล ไม่โลเล
แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ฝากดูแลน้องปิงด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-02-2017 14:28:52
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ClioNe ที่ 19-02-2017 16:16:11
 :L2: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 19-02-2017 16:33:48
ชัดเจนมากพี่อิส!!! แต่อย่าลืมอธิบายให้น้องรู้ด้วยืเดี๋ยวน้องเข้าใจผิด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 19-02-2017 17:00:30
โหยยยยยย วิถีอิสระ โคตรเท่อ่ะ!!  ถึงจะจัญไรแต่ก็มีหัวใจนะเว้ยยย กร๊ากกก อย่างฮาอ่ะ  :jul3:   มีถวายกล้วยศาลพระภูมิ แถมแอปเปิ้ลฟูจิแก้บนหลินปิง"นก" ด้วย  อยากจะรู้... หากน้องปิงรู้ น้องจะรู้สึกยังไง? ณ จุดๆนี้  :laugh:

มารอดูพี่อิสคนเท่ จะจีบน้องยังไง?ให้น้องเข้าใจว่าจีบไม่ใช่กวนตีน!! 5555  *เตรียมทิชชู่ไว้ซับน้ำตาเวลาขำ*
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 19-02-2017 17:38:10
คนแบบนี้แหละที่ปิงปิงต้องการรรรรรรร พี่อิสกล้าๆโหนยยยยยยย  คนเชียร์จะเพลรยล่ะนะ  :fire: :angry2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 19-02-2017 17:50:43
เย้ๆ ใจตรงกัน พี่อิสต้องพูดกับน้องให้ชัดเจนนะ ขอให้ปิงกลับบ้านเร็วๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 19-02-2017 18:23:49
เนยแย่มาก มีสิทธิ์อะไรตบพี่อิส
เลิกกันแล้วแท้ๆ แถมไปมีแฟนใหม่ด้วย
เพราะรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูหล่อ สะอาดของพี่อิส หรือเปล่า
ชักชวนให้เนยกลับมาขอคบใหม่
พี่อิส เด็ดขาด ชัดเจนดีมาก
ให้เนย รู้ไปเลยว่าไม่หวนกลับไปดีกัน
แต่พี่อิส ต้องพูดกับปิงด้วยนะว่าเลิกกับเนยจริง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tnkgif ที่ 19-02-2017 20:56:05
ทำไมพี่อิสน่ารัก น่ารักโคตรๆ โอ้ยยย หลงพี่อิส หลงหลินปิงด้วย  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 19-02-2017 21:29:07
กราบพี่อิส ช็อตที่เถียงกับเนยนี่ถูกใจสุดล่ะ หลายๆเรื่องพระเอกจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเวลาเถียงกับผญ.อ่านแล้วขัดใจ โถๆเอาจริงพวกผช.ปากจัดจะตายยิ่งผญ.แรดๆนี่ด่าสาดเสียเทเสียล่ะ
เคลียร์กับน้องเรื่องเนยด่วนเลยนะพี่อิส เข้าใจผิดไปไกลโพ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 23] 18-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 19-02-2017 22:35:25
โอ้ยยยยยยย
พี่อิส เทคะแนนให้เต็มที่เลย
กาก แต่ได้ใจ ฮอลลลล
กลายเป็นคนเท่ขึ้นมาทันที
เราเท่ เราต้องเปย์เด็ก ชอบคติพี่มากค่ะ เอ็นดู
น้องน่ารักแบบอยากกลืนลงท้องก็เข้าใจ ฮืออ
กลืนแม่งงงงงง
นังเนยน่าตบจริงๆ พี่อิสทำดีมาก ไม่ต้องให้โอกาสอะไรทั้งนั้น
เดี๋ยวคิดไปไกล เราหมดใจแล้วก็เทเลย
เอาเวลาไปทำให้น้องหายงอนเถอะะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 19-02-2017 22:51:08
ตอนที่ 24

ปล่อยความรู้สึกให้เป็นอิสระ

 

ปิง :

 

วันนี้หลังเลิกเรียนผมไม่ได้ไปทำงาน โทรไปลาตั้งแต่เที่ยงเพราะจะรีบกลับบ้าน ไม่รู้ว่าพี่อิสเป็นอะไรหรือเปล่า อยู่ดีๆ มาบอกคิดถึงผมก็เลยเป็นห่วง หรือลุงแกจะเมาค้างก็ไม่รู้ หลังจากแยกกับเมธีผมก็ตรงกลับบ้านทันที พี่อิสเปิดประตูทิ้งเอาไว้เลยเดินเข้าไป ผมยืนพิงประตูอยู่ที่หน้าบ้านพี่อิสยังไม่รู้ตัว คงเพราะกำลังวุ่นวายอยู่กับสิ่งในมือ ริมฝีปากผมขยับเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นเขากำลังเย็บกระดุมเสื้อนักเรียนของผมที่ขาดตั้งแต่วันที่ทะเลาะกับไอ้ยิมจึงถอดทิ้งไว้ไม่ได้หยิบมาใส่เลย เสียงพูดคนเดียวก็ดังไม่หยุดตอนที่ดึงด้ายขึ้นๆ ลงๆ

“อ้าว ไอ้ห่าผิดรู มันต้องอันไหน อันนี้เหรอ ต้องไขว้ยังไง ไอ้เหี้ย ยากจังโว้ย”

เขาโวยวายแล้วเลื่อนมือไปจิ้มหน้าจอมือถือ เดาว่าคงกำลังศึกษาวิธีการเย็บกระดุมจากในยูทูบอยู่เพราะได้ยินเสียงวิดีโอดังเบาๆ

“รูตรงข้าม รูนี้เหรอ แทงเข้าไป โอ๊ย! ทิ่มอีก! ฉิบหาย ซื้อเสื้อใหม่ง่ายกว่าไหมเนี่ย!”

ผมหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังจนพี่อิสหันมาเห็น

“อ้าว มาแล้วเหรอ”

“มาแล้วครับ”

“ไม่ทำงานเหรอ”

“ก็พี่อิสบอกให้กลับเร็วๆ ไง” ผมว่าแล้วเดินไปนั่งข้างๆ  เขายิ้มอย่างพอใจ ก่อนปรับสีหน้านิ่งๆ แล้วหันมาถาม

“ไม่ต้องไปทำงานได้ปะวะ กูอยากให้มึงกลับบ้านเวลานี้ทุกวัน”

“ไม่ทำแล้วจะเอาอะไรกินอะ”

“มึงคิดว่ากูเลี้ยงมึงไม่ได้เหรอ”

“พี่อิส ผมไม่ได้มาอยู่ที่นี่เพื่อจะเป็นภาระพี่นะ”

“แต่กูอยากมีภาระ”

“...”

“กูอยากเปย์”

“วู้! แล้วนี่พี่ทำอะไรเนี่ย เห็นนั่งบ่นไม่หยุด”

“เย็บกระดุมให้มึงไง ยากฉิบหาย กูโดนเข็มทิ่มจนมือพรุนไปหมดละ มึงดูๆ” ว่าแล้วก็ยื่นปลายนิ้วแดงๆ ให้ดูเหมือนจะฟ้องกัน ผมดึงมือใหญ่ๆ เขามาลูบปลายนิ้วเบาๆ

“ตัวก็ใหญ่ เข็มทิ่มแค่นี้ไม่น่าเจ็บนะครับ”

“เจ็บโว้ย เจ็บเหมือนนิ้วขาดเลย เจ็บจนจะร้องไห้แล้ว”

“ขี้แยจัง”

“เป่าหน่อยสิ” เขายื่นมือมาแล้วทำหน้าย่นใส่ สีหน้าอ้อนๆ ของเขาทำให้ผมต้องยอมเป่าลมลงไปบนมือเขาเบาๆ

“ไม่เจ็บนะ เพี้ยง”

พี่อิสหัวเราะเบาๆ

“หิวไหม ทำอะไรให้กินปะ”

“เอาครับ ขอเยอะๆ เลย หิวมาก”

“งั้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป”

ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะหยิบเป้ลุกเข้าห้อง แต่เดินมาได้แค่สองก้าวก็ต้องชะงักกึก เมื่อถูกพี่อิสเข้ามากอดจากด้านหลัง

“พี่อิส”

เขาซบหน้าลงมาบนไหล่ผมแล้วพูดเบาๆ ที่ข้างหู

“วันหลังอย่าไปไหนไม่บอกอีก”

“...”

“พี่เป็นห่วง”

“ครับ” ผมตอบรับเบาๆ แล้วพลิกตัวกลับไปกอดพี่อิสจากด้านหน้าแทน ขอกอดให้แน่นๆ...ขออยู่อย่างนี้สักพักหนึ่ง...เพราะผมก็คิดถึงพี่อิสเหมือนกัน

 

...

 

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินเข้าไปในครัว เปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่ม สายตาหันไปเห็นปีโป้ในช่องฟรีซ พี่อิสคงซื้อมาให้ใหม่เพราะคราวที่แล้วผมกินหมดไปวันก่อน ก็เลยหยิบออกมาสองอัน

“แกะหน่อย” ผมยื่นให้พี่อิสแกะเปลือกให้

“ใช้กูอีก”

“นะลุงนะ”

“ลุงห่าอะไรเล่า”

“แกะหน่อยน้า”

“อ้อนเก่งขึ้นนะมึง” เขาว่าแล้วดึงปีโป้ไปจากมือ ก่อนจะดึงเปลือกออกง่ายๆ แล้วส่งคืนมาให้ผม

“ทำไรกินอะ”

“ข้าวผัด”

“พี่ทำเป็นอย่างเดียวเหรอ”

“แดกไหม”

“แดกครับ”

พี่อิสคว่ำปากใส่หน่อยๆ ก่อนจะหันไปสับแคร์รอตอย่างละเอียดยิบ

“พี่อิส! น้องปิง!”

“มันมาอีกแล้ว” พี่อิสพูดเบาๆ ก่อนจะหันไปมองพวกพี่สามคนที่เดินเข้ามา วันนี้มาแปลกที่ข้าวของในมือไม่ใช่อุปกรณ์ทำโมเดลแต่ดูเหมือนจะเป็นอาหาร

“พี่ ย่างหมูกัน”

“ฮะ?”

“พวกผมซื้อหมูกระทะมา ตอนแรกจะชวนไปกินที่ร้าน แต่วันนี้วันศุกร์คนเยอะ ก็เลยซื้อมากินที่บ้านแทน เอาหน้าบ้านเนอะ จะได้ไม่เหม็นควัน”

“เดี๋ยวๆ มึงถามกูยังเนี่ย”

“ปิงอยากกินปะ” พี่ปรินซ์หันมาถามผม ผมพยักหน้าหงึกๆ แทนคำตอบ ผมชอบหมูกระทะเลยไม่ลังเล เงยหน้าขึ้นไปหาพี่อิสเพื่อบอกกับเขาผ่านสายตาว่าผมอยากกินมากๆ เลย

“มึงไปติดเตาเลย” พี่อิสหันไปสั่ง ก่อนจะโยนมีดที่กำลังสับแครอททิ้ง แล้วหันไปจัดการวัตถุดิบสำหรับทำหมูกระทะที่พวกพี่ปรินซ์เอามาแทน ปาร์ตี้หมูกระทะถูกจัดที่หน้าบ้านซึ่งมีพื้นที่กว้างพอสำหรับตั้งเตาและพวกเราห้าคน ผมตั้งใจจะเข้ามาช่วยพวกเขาเตรียมของ แต่ก็ถูกพี่อิสเขี่ยออกมาจากวงตลอดเลย

พอผมจะหั่นหมู...

“ไม่ต้อง มีดมันคม ไปแกะกุ้งไป”

พอผมจะแกะกุ้ง...

“เดี๋ยวมันทิ่มมือ ไปซื้อน้ำแข็งไป”

พอผมจะออกไปซื้อน้ำแข็ง...

“เดี๋ยวหมากัด ไอ้โอมมึงไปซื้อดีกว่า”

ผมหมดหน้าที่เลยมานั่งกินข้าวเกรียบที่พี่ปรินซ์ซื้อมาฝากเงียบๆ ปล่อยให้พวกเขาเตรียมของกันไป ไม่นานก็ถึงเวลากิน เครื่องดื่มหลากหลายชนิดทั้งเหล้าทั้งเบียร์ถูกยกเข้ามาร่วมวงหมูกระทะด้วย ส่วนผมกินได้แค่น้ำอัดลมเท่านั้น เพราะคนข้างๆ กำชับไว้หนักแน่นมากว่าถ้าผมแตะแอลกอฮอล์แม้แต่หยดเดียวจะเตะให้ตัวขาด โหดขนาดนี้ก็ต้องยอมเขาแหละ

“เออปิง ปิงม.หกแล้วนี่ คิดเรื่องเข้ามหาลัยไว้ยัง”

“คิดไว้บ้างแล้วครับ”

“จะเข้าที่ไหนอะ”

“จะเลือกเชียงใหม่เป็นอันดับแรกครับ”

“แค็ก!” ผมหันขวับไปมองพี่อิสที่สำลักน้ำ ก่อนจะหันมามองแล้วเบิกตาขึ้นนิดๆ

“มึงจะไปไหนนะ พูดอีกทีซิ”

“เชียงใหม่ครับ”

“เชียงใหม่ที่อยู่ทางเหนืออะนะ เชียงใหม่ไกลๆ นั่นอะนะ”

“ครับ ผมอยากกลับไปอยู่เชียงใหม่ สำนึกรักบ้านเกิดไง”

“รักบ้านเกิดห่าอะไร มึงต้องรักบ้านกูนี่ กูไม่ให้ไป!”

“พี่ไปเกี่ยวอะไรกับน้องมันเล่า”

“กูเป็นผู้ปกครองมันไง กูไม่อนุญาต”

“จะตัดอนาคตน้องหรือไง”

“เรียนที่ไหนก็มีอนาคตเหมือนกันอะ ไม่รู้แหละ กูไม่ให้ไป ไม่งั้นมึงกับกูไม่ต้องมาคุยกันเลย”

“โห่พี่อิส ผมจะสอบติดหรือเปล่าไม่รู้”

“ก็ถ้ามันติดขึ้นมาเล่า!”

“ก็แค่เชียงใหม่เอง”

พี่อิสหยิบมือถือขึ้นมาจิ้มนั่นจิ้มนี่ก่อนจะโวยลั่นขึ้นมา

“เจ็ดร้อยกิโลเลยนะโว้ย!”

“อะไรของพี่เนี่ย”

“กูไม่ให้ปิงไป กูตายห่าแน่ๆ หายไปวันเดียวกูยังคิดถึงเป็นบ้าเป็นบอ ถ้าไปไกลขนาดนั้น กูขาดใจตาย” เขาพูดพึมพำคล้ายจะพูดคนเดียวขณะหันไปเทเหล้าลงแก้วแล้วกระดกเข้าไปเพียวๆ

“เฮ้ยพี่มึง แดกเพียวเลยเหรอ”

“เดี๋ยวก็อ้วกแตกตาย”

“เตรียมเก็บศพพี่มึงเลย”

“เออ เอากูไปเผาได้เลย”

พวกเขาเปลี่ยนเรื่องคุยไปแล้ว แต่ผมยังติดอยู่ในประโยคนั้นของพี่อิสอยู่เลย ถ้าผมไปอยู่ไกลๆ...พี่อิสจะขาดใจตายเลยเหรอ

...

 

ไฟในเตาหมูกระทะมอดดับไปนานแล้วเพราะไม่มีใครกินต่อ แต่วงสนทนายังไม่เลิกราเพราะเหล้ายังไม่หมด แต่เดาว่าสติของแต่ละคนก็ไม่ค่อยจะเหลือกันแล้วแหละ โดยเฉพาะพี่อิสที่เมาจนหัวตั้งตรงบนคอไม่ได้ เขาพาร่างเมาๆ ของตัวเองลุกไปห้องน้ำ หายไปนานจนผมคิดจะลุกไปดู

“ปิง”

“ครับ” ผมหันไปหาพี่ปรินซ์ที่สะกิดเรียก

“จูบกันปะ”

“พี่!”

พลั่ก!

วินาทีที่ไม่ทันกะพริบตา พี่ปรินซ์ก็ปลิวไปไกลเพราะถูกพี่อิสถีบกระเด็นไปนอนนิ่งกับพื้น

“ไอ้ปรินซ์!”

“ไอ้ปรินซ์ตายแล้ว!”

“พี่อิสฆ่าไอ้ปรินซ์!”

“สมน้ำหน้า!” พี่อิสว่าแล้วนั่งลงข้างๆ ผม พวกที่เหลือลากพี่ปรินซ์เข้าบ้านไป

“พี่อิสไปนอนเถอะ เลิกกินได้แล้ว”

“ยังไม่เลิก”

“ไม่มีใครเขากินด้วยแล้ว”

“นี่ไง เพื่อนเพียบ!” เขาว่าแล้วหยิบขวดเบียร์มาตั้งเรียงตรงหน้า

“นี่เพื่อนพี่เหรอ”

“เออดิ นี่ลีโอ นี่ไอ้ช้าง”

เฮ้อ...

“พี่อิสไปนอนเถอะ”

“ไม่”

“เพื่อนพี่คงง่วงแล้วแหละ” ผมว่าแล้วจับขวดเบียร์ตรงหน้าเขานอนลง

“อ้าว หลับกันหมด”

“ครับ เขานอนกันหมดแล้ว พี่ก็ไปนอนได้แล้ว”

“ไม่เอา ลุกขึ้นมา”

“พี่อิส ไปนอน ไม่งั้นผมไปก่อนแล้วนะ”

“ไม่ไป ไม่มีใครไปไหนทั้งนั้นอะ โดยเฉพาะมึงอะตัวดีเลย” พี่อิสว่าแล้วดึงมือผมให้นั่งลงแล้วฉุดเข้าไปใกล้ๆ

“...”

“มึงอย่าไปไหนนะ”

“...”

“ห้ามไปไหนนะ”

“...”

“พูดสิว่าจะไม่ไปอะ”

“...”

“ห้ามไปจากพี่นะ”

“ครับ ผมจะไม่ไปจากพี่”

พี่อิสพยักหน้ายิ้มๆ อย่างพอใจ

“แต่ตอนนี้พี่อิสต้องไปนอนนะ เมามากแล้ว”

“ยังไม่ง่วงเลย”

เขาว่าแล้วฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะ

“ไหนไม่ง่วง”

“ยังไม่อยากนอน” เขาพูดเบาๆ แล้วยกมือขึ้นจิ้มหน้าผม นิ้วเรียวไล้จากหน้าผากลงไปข้างแก้มและเขี่ยใบหูผมเบาๆ

“ทำอะไรเนี่ย”

“น่ารัก” เขาพูดโดยไม่มีเสียง ก่อนจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมได้แต่กัดริมฝีปากกลั้นรอยยิ้ม เดาว่าหน้าคงเปลี่ยนสีไปแล้ว รู้สึกร้อนๆ แปลกๆ  ที่แปลกกว่าคือความรู้สึกในใจ ผมไม่กล้าถามเรื่องเขากับพี่เนยว่าเป็นยังไงกันบ้าง ไม่รู้ว่าพี่เนยง้อพี่อิสได้หรือเปล่า ไม่รู้ว่าเขากลับไปคบกับพี่เนยหรือเปล่า ผมอยากรู้...พี่อิสเมามากขนาดนี้ หลอกถามเลยดีไหมนะ

“มองหน้ากูเหมือนมีอะไรจะพูด”

“ครับ?”

“จะพูดอะไรก็พูดมา”

“พี่อิส”

“อือ”

“พี่อิสเป็นอะไรกับพี่เนยเหรอ”

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“มันบอกมึงว่าไงอะ”

“บอกว่าเป็นแฟนเก่ากัน”

“ใช่”

“แฟนเก่าแปลว่าเลิกกันไปแล้วใช่ไหม”

“อืม”

“แต่พี่เนยยังชอบพี่อยู่”

“แต่กูไม่ได้ชอบเนยแล้ว”

“ครับ?”

“ไม่ได้ชอบแล้ว ไม่ชอบเลย”

ผมพยักหน้าหน่อยๆ มุมปากยกขึ้นเกือบเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแต่ต้องเม้มปากกัดเอาไว้ ความชัดเจนของพี่อิสทำให้ผมอยากยิ้มออกมาสักครั้ง

“ผมคิดว่าพี่อิสยังชอบพี่เนยอยู่ซะอีก”

“ไร้สาระ มึงเข้าใจผิดแล้ว”

“...”

“เรื่องของกู ก็ควรถามกูสิ”

“...”

“ต่อไปนี้อยากรู้อะไรถามกู เชื่อแต่คำพูดกู อย่าไปเชื่อคำพูดใคร เข้าใจเปล่า”

“เข้าใจครับ”

ผมพยักหน้ารับ ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้ ผมก็คงไม่เหนื่อยหัวใจอย่างนี้หรอก การเข้าใจผิดและคิดไปเอง ทำให้ผมพลาดเรื่องดีๆ บางเรื่องไป ผมหลุดจากความคิดตัวเองก่อนจะหันกลับไปหาพี่อิสที่หลับตาลงไปแล้ว

“พี่อิส”

“...”

“พี่”

“...”

“พี่อิส พี่นอนตรงนี้ไม่ได้นะ ยุงกัดตายนะพี่ พี่อิส!” ผมยกมือตบหน้าผากเขาเบาๆ แต่อีกฝ่ายก็นิ่งสนิท พี่อิสตายไปแล้ว... ผมลุกไปหาพวกพี่ๆ ทั้งสามคนในบ้าน แต่ทั้งหมดก็แยกกันไปนอนคนละทางแล้ว หันกลับมาหาพี่อิสแล้วมองเขาที่นอนอยู่ตรงโต๊ะหน้าบ้าน ผมไม่รู้จะเอาร่างหมีๆ นี่เข้าบ้านยังไง จะทิ้งไว้ตรงนี้ก็ใจร้ายเกินไป ก็เลยออกแรงทั้งหมดที่มียกร่างเขาขึ้นมา

ฮึบๆ...ไม่ไหว หนักมาก

เปลี่ยนจากคิดจะแบกเป็นลากแทนละกัน พอได้อยู่ ผมดึงพี่อิสเข้ามาในบ้านแบบทุลักทุเล ก่อนจะพาเข้ามาในห้องแล้วทิ้งลงบนที่นอนของเขา

โป๊ก!

“โอ๊ย!” เสียงร้องดังลั่นเพราะกะจังหวะผิดไปหน่อย เลยปล่อยพี่อิสลงไปจนหัวเขากระแทกกับขอบตู้ข้างที่นอน เขาลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้าเจ็บปวด

“พี่อิส”

“ทำอะไรกูเนี่ย”

“คือ...”

“เจ็บนะเว้ย” เขาพูดเบาๆ ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะหลับตาลงไปอีกทีโดยไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรกลับไป ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาหน่อยๆ  ก่อนจะนั่งลงไปข้างๆ ที่นอนเขาแล้วพลิกดูหัวที่โขกกับขอบตู้เมื่อครู่...เวรแล้ว พี่อิสหัวแตก

 

เช้านี้ผมตื่นก่อนพี่อิส ไม่บ่อยที่จะผมตื่นก่อนเพราะเมื่อคืนเขาเมาหนักมากหรืออาจตายเพราะสมองบวมไปแล้วก็ได้ พวกพี่ๆ สามคนตื่นแล้วก็พากันกลับไป ส่วนผมมาจัดการกับเศษซากจากปาร์ตี้เมื่อคืน กระทะย่างหมูคืองานยากที่สุดเพราะขัดยังไงก็เอาไม่ออก ก็เลยแช่เอาไว้แล้วจัดการกับจานชามที่เหลือก่อน

“เฮ้ย”

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งเมื่อพี่อิสเดินเข้ามาในครัว สภาพเปลือยท่อนบนหลังอาบน้ำเป็นภาพชินตา เขาเดินเข้ามาเปิดตู้เย็นหยิบนมเปรี้ยวออกมาสองขวด

“มึงกินยัง”

“กินแล้วครับ” ผมตอบ พลางพยักหน้าไปยังถังขยะให้เขาดูขวดเปล่าที่ผมทิ้งเอาไว้ในนั้น อีกคนพยักหน้ารับเบาๆ แล้วเอาอีกขวดในมือเก็บเข้าที่เดิม

“พี่อิสเป็นไงบ้างครับ”

“เป็นไงอะไร”

“ก็...เมื่อคืนพี่เมามากเลย”

“เออ ปวดหัวฉิบหายเลย เหมือนหัวแตกอะ”

อุ๊ย...

“ใครทำอะไรกูปะวะ”

“ใครจะทำอะไรพี่!”

“มึงเสียงดังทำไมเนี่ย”

“ไม่มีใครทำอะไรพี่ไง พี่คงแฮงค์มั้ง” ผมพูดแล้วยิ้มแห้งๆ

“ก็คงงั้น” เขาว่าพลางเปิดฝานมเปรี้ยวแล้วกระดกเข้าไปทีเดียว โยนขวดทิ้งแล้วเดินออกไปที่โซฟาด้วยเสียงบ่นตามประสา

“เจ็บฉิบหาย ใครตีหัวกูปะวะ เหมือนจะบวมๆ ด้วยนะเนี่ย”

จะบอกยังไงว่าเป็นฝีมือเราเองแหละพี่...ผมทำตัวเนียนๆ ไปก่อนเพราะยังไม่อยากโดนด่า ล้างจานเสร็จก็เดินไปเก็บขวดเบียร์หน้าบ้านใส่ถุงขยะ แล้วเอาไปทิ้งนอกบ้าน เห็นไอ้เปรี้ยว หมาตัวใหญ่อยู่ตรงนั้นพอดี

“เปรี้ยว เราเพื่อนกันนะ” ผมพูดอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ถังขยะ

“โฮ่ง!”

“ไม่เห่าดิเปรี้ยว”

“โฮ่ง! โฮ่ง!”

“เราแค่มาทิ้งขยะเว้ย”

“โฮ่ง!”

“แง้! ไปแล้ว!” ผมโยนถุงขยะไปแบบไม่ลงถังก่อนจะรีบวิ่งเข้าบ้านขณะที่ไอ้เปรี้ยวยังคงวิ่งตาม แต่พอเข้ามาถึงรั้วมันก็หันหลังกลับไป ไม่ลืมที่จะหันมาแยกเขี้ยวคล้ายจะเยาะเย้ยกัน ไอ้หมานี่มัน...

“เป็นอะไรปิง” พี่อิสถามผมตอนที่เดินมาหน้าบ้านพอดี

“เปรี้ยวมันแกล้ง”

“ไอ้หมาสันดานนี่ ไปเตะแม่ง!”

“เฮ้ยๆ พี่อิส ช่างมันเหอะน่า มันแค่เห่าเอง” ผมว่าแล้วดึงมือพี่อิสเข้าบ้าน

“น่ารำคาญฉิบหาย อย่าให้เผลอนะ กูจะเตะให้เป็นใบ้ เอาให้เห่าไม่ได้เลย” เขาพูดเดือดๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ผมนั่งลงข้างๆ เขาด้วย

“หัวร้อนอีกแล้ว”

“ร้อนจนปวดหัวเลยเนี่ย” เขาว่าแล้วยกมือลูบหัวตรงที่แตกเบาๆ

“ปวดมากเลยเหรอพี่”

“เออ มึงดูดิ มันเป็นอะไรไหม มันเจ็บมากเลย” เขาว่าแล้วโน้มหัวลงมาให้ผมดู ผมยกมือแหวกเส้นผมเขาดูก่อนจะเบิกตาขึ้นนิดๆ เพราะจุดที่โขกกับขอบตู้เมื่อคืนมันบวมปูดมีรอยแยกเล็กๆ

“แตกไหม”

“แตกครับ”

“เชี่ย! ได้ไงอะ เมื่อคืนใครทำอะไรกูปะ หรือกูล้ม หรืออะไร”

“แหะๆ”

“หัวเราะอะไร”

“ผมทำพี่อิสหลุดมือครับ หลุดไปโขกขอบตู้จังๆ เลย”

“มึงนี่เอง!”

“อ๊า!” พี่อิสยกมือจับผมเขย่าเต็มแรง

“มึงแกล้งกูเหรอ ฮะ!?”

“ผมไม่ได้ตั้งใจ ก็พี่อิสเมาอ่า!”

“คิดจะฆ่ากูใช่ไหม จะฆ่ากูใช่ไหม!” เขาคว้าคอผมแล้วจับหัวกดลงไปบนโซฟา

“โอ๊ย! พี่อิส คอหักแล้ว คอหัก!”

“ไอ้หลินปิงเอ๊ย!” เขาปล่อยผมออกแล้วยกมือเขกหัวเบาๆ

“ขอโทษครับ”

กลายเป็นผมต้องมานั่งทำแผลให้เขา พี่อิสที่ตัวสูงไปหน่อยเลยขยับลงไปนั่งที่พื้น ส่วนผมนั่งอยู่บนโซฟา แตะสำลีชุ่มยาลงไปบนหัวเขาเบาๆ

“เจ็บปะ”

“เจ็บดิ”

“ร้องได้นะ”

“ไม่เอา ไม่เท่”

“หัวแตกไม่ต้องคีปลุคก็ได้”

พี่อิสหัวเราะเบาๆ  พอผมทำแผลเสร็จ เขาก็เลื่อนขึ้นมานั่งบนโซฟาข้างๆ ผม

“พี่จะนั่งเปลือยอีกนานไหม”

“จะโชว์พุง มีไรปะ”

ไม่มีซิกแพ็กเหมือนชาวบ้านเขาก็เลยได้แต่โชว์พุงนุ่มๆ ให้ผมเห็น ผมหันไปมองรอยสักรูปดอกแดนดิไลออนของเขาแล้วยกมือจิ้มเบาๆ

“ตอนสักเจ็บปะ”

“เจ็บน้อยกว่ามึงทำกูหัวแตก”

“ย้ำจริง สำนึกผิดแล้ว”

เขาหัวเราะเบาๆ แล้วผลักหัวผมทีหนึ่ง

“มึงชอบปะ”

“ชอบอะไรครับ”

เขาเงียบไปพักหนึ่ง ใบหน้าเรียบเฉยจนผมเดาไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเขาเงียบเลยถามซ้ำไปอีกที

“ชอบอะไรครับพี่”

“แดนดิไลออน”

“อ๋อ ชอบสิครับ สวยดี”

“ปิง มึงไม่ใช่เด็กขี้โกหกใช่ปะ”

ผมกะพริบตามองอย่างงงๆ 

“กูถามอะไรหน่อยสิ แต่มึงต้องตอบตรงๆ นะ”

“ครับ”

“มึงชอบกูปะวะ”

ผมเงยขวับขึ้นไปมองเขา ดวงตาขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ สายตาของคนตรงข้ามมองคาดคั้น หัวคิ้วขมวดเข้าหากันนิดหนึ่ง

ผมยังกลัวการบอกชอบใครสักคน ถ้าผมบอกชอบพี่อิสแล้วมันพัง ผมก็คงอยู่ไม่ได้เพราะตอนนี้ผมมีแต่เขา ผมจะไม่เหลือใครเลย ผมไม่กล้า...

“คิดนานว่ะ”

“คือ...”

“ตกลงชอบไหม”

“คือผม...”

“คืออะไรเล่า พูดมาสิโว้ย!”

“ใจเย็นดิ อย่ากดดัน!”

“ชักช้าเดี๋ยวกูตบหัวแตกเลย! พูดมา!”

“ครับ ชอบ!”

ผมโพล่งออกไปเพราะตกใจเสียงดังของเขา ผมยังไม่ทันได้ทบทวนความคิดอีกรอบ แต่หัวใจโง่ๆ มันก็สั่งให้พูดออกไปเลย ไม่ใช่ตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสอื่นแล้ว

“ตกลงชอบใช่ไหม”

“ชอบครับ”

“ชอบแบบไหนวะ แบบที่กูชอบมึงหรือเปล่า”

“แล้วพี่อิสชอบผมแบบไหนอะ”

“มึงอย่าถามย้อนสิ”

“เอ้า ก็ผมไม่รู้ว่าพี่ชอบผมแบบไหน”

“งั้นกูขอพิสูจน์หน่อย”

ไม่ทันที่ผมจะพูดอะไร พี่อิสก็ยื่นหน้าเข้ามา ริมฝีปากชนปากผมเบาๆ ก่อนจะรีบดึงหน้าตัวเองออกไป วินาทีเดียวใจผมก็เต้นโครมคราม พี่อิสเขยิบเข้ามาใกล้แล้วแนบหูลงมาบนอกของผมที่ยังสติหลุด

“ใจมึงเต้นแรงมากเลยนะ”

“ครับ...แรงสิครับ”

พี่อิสเอาหน้าตัวเองออกไปจากอกผม สบตากันอยู่พักหนึ่งเขาก็ไม่ยอมพูดอะไรออกมา ได้แต่ถอนใจเบาๆ แล้วยื่นหน้ามาจุ๊บปากผมอีกที แต่คราวนี้เขาดึงหน้าผมให้เข้าไปแนบกับอกเขา

“ใจกูเต้นแรงไหม”

ผมเงียบฟังเสียงใจเขาที่ขยับเป็นจังหวะเร็วๆ ไม่แพ้กัน

“เป็นไง ได้ยินไหม”

“ได้ยินครับ”

เขาปล่อยผมออก แล้วจับไหล่ให้หันตรงไปมองเขา

“ได้ยินว่าไง”

“ครับ?”

“หัวใจกูมันบอกว่าไง”

“มันก็...ดังตึกๆ”

“ไม่ดิ มันบอกรักมึงหรือเปล่า”

ตายดีกว่า...

“หลินปิง กูชอบมึงว่ะ ไม่ได้ชอบแบบน้องสาว ไม่ได้ชอบแบบลุงแบบหลาน กูชอบแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักคนคนหนึ่ง กูไม่กล้าพูดก่อนเพราะคิดว่ามันไม่เท่ แต่ไม่ไหวแล้วอะ กูแม่งอย่างคลั่งมึงเลย”

“...”

“กูอยากกัดแก้มมึง กูอยากขย้ำมึง กูอยากจับมึงแดกไปเลย”

“งื้อ! ผมก็ตายพอดีสิ!”

“กูบอกรักหวานๆ เหมือนคนอื่นไม่ได้ แต่มึงเข้าใจกูปะ”

“ครับ”

“ครับเหี้ยอะไรเล่า คิดไงก็บอกมา!”

“ผมก็ชอบพี่ โคตรชอบพี่เลย!”

มุมปากพี่อิสยกขึ้นเป็นยิ้มกว้าง เขาเม้มปากแน่นแล้วทิ่มหน้าลงไปบนโซฟา

“พี่อิสเป็นไรอะ”

“กูเขิน! ไอ้บ้า! กูเขิน!”

เขาโวยลั่นแล้วมุดๆ ลงโซฟาไป ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาปรับสีหน้าเป็นเรียบเฉย

“กูจะเท่ละ ตั้งใจฟัง”

“ครับ”

“กูเป็นคนรักอิสระเพราะกูชื่ออิสระ ไม่รู้ว่าเกี่ยวไหม”

“อ่า...ครับ”

“กูเป็นอิสระมากๆ  กูใช้ชีวิตแบบอิสระ มีตรรกะแบบอิสระ ความเป็นกูมันก็เป็นอย่างที่มึงเห็น”

ผมพยักหน้าตาม

“กูอาจจะสันดานเสียและหยาบคายไปบ้าง แต่อยากให้มึงเชื่อใจกูว่ากูดูแลมึงได้”

ผมพยักหน้าอีกที

“อยู่กับกูแล้วให้กูดูแลนะ”

“ครับ”

พี่อิสดึงผมเข้าไปกอด เป็นกอดที่อุ่นกว่าทุกครั้ง และหัวใจก็อิ่มกว่าทุกที ผมไม่มีปัญหากับความเป็นเขา ทั้งการใช้ชีวิตแบบอิสระ และความคิดหรือตรรกะแบบอิสระ เพราะผมชอบทุกอย่างที่เป็นเขา ผมชอบความเป็นอิสระของเขา เพราะเวลาอยู่กับเขา ความรู้สึกผมก็เป็นอิสระเช่นกัน และในนาทีนั้น...หัวใจของผม เป็นของอิสระไปแล้ว

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: marisa9397 ที่ 19-02-2017 23:09:00
อ่านแล้วอิ่มใจมาก น่ารักกก   :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 19-02-2017 23:16:32
โอ้ยยยย อ่านมาทั้งเรื่องเพิ่งกรี๊ดพี่อิสตอนนี้ ดีจัง สรุปหลอกน้องมาเย่จริงๆใช่ป่ะ 55555555555  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-02-2017 23:19:01
เยยยยยย้ พี่อิสไม่ป๊อดแล้วโว้ยยยยย
รักกันแล้วนะโว้ยยยยยยย
คึคึคึ ชอบจังเลย ชอบตอนที่สองคนนี้คุยกัน
ชอบตอนทำแผลอะ อ่านแล้วยิ้ม
ว้า อีกแค่ไม่กี่ตอนจะจบแล้ว
ใจหายเลย แต่ยังไงก็จะติดตามต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 19-02-2017 23:22:56
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Ball ที่ 19-02-2017 23:29:48
พี่คนคูลลลลล พูดออกไปแบบนี้ล่ะถึงจะเท่
อมพะนำไว้ไม่เท่หรอกนะ ในที่สุดก้ไม่นกอะ อิอิ
เราชอบตอนเอาขวดเบียร์มาตั้งเป็นเพื่อนมาก ตลก
คือขำออกมาเลย ละตอนหลินปิงวางมันลงละบอกเพื่อนนอนหมดล่ะ
คือฮาาาาา พี่อิสมันสมเป็นพี่อิสจริงๆ ส่วนหลิงปิงต่อไปก็มีความสุขนะลูกนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2017 23:34:09
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 19-02-2017 23:36:22
แอร๊ยยยยยย พี่อิสของน้องงงงงงงงง
 :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: นางฟ้าเชียงชุน ที่ 19-02-2017 23:42:14
เรื่องนี้สุดยอดไปเลยยยยย o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-02-2017 00:04:13
คนกากก็หวานได้ไม่แพ้ใคร ยอมใจ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 20-02-2017 00:12:27
ดีต่อใจ o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 20-02-2017 00:20:14
โคตรฟิน โคตรมีความเลยค่ะตอนนี้ ซึ้งหลายตอนมากเลย
ตอนที่พี่อิสบอกว่าอยากให้น้องกลับเวลานี้ทุกวัน ก็คนมันคิดถึง พี่เลี้ยงได้ ทุบอกปึ้กๆ น่ารักเนอะ
ตอนที่กอดน้องบอกอย่าหายไปไหนอีก เป็นห่วง งืออออ ตอนที่ปิงบอกอยากกินหมูทะปุ๊บ รีบไปทำปั๊บ
ตอนที่บ่นว่าถ้าน้องไปอยู่ไดลต้องขาดใจตาย แค่วันเดียวก็จะตายแล้วงี้ ฮืออออ
สุดท้ายเขาบอกรักกันแล้วโว้ยค่ะะะะ จุดพลุ!! คำบอกรักน่ารักน้า จุ๊บๆๆ ใจเต้นๆ
กูโคตรคลั่งมึงเลย โอยๆๆ ตามด้วยความเขิน อีพี่อิสน่ารักมาก น้องปิง หนูมีแฟนแล้วนะลูก รักน้องปิงมาก

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 20-02-2017 00:33:25
ในที่สุดดดดดดดด ใจตรงกันแล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 20-02-2017 00:57:01
โอ้ยยยย จะไปหาคนแบบพี่อิสได้ที่ไหนคะ บอกที ตอนนี้คลั่งพี่อิสมาก บอกรักสไตล์อิสระ ถถถ นี่ชอบความคิดปิงมาก พี่อิสหรือซีอุย
จะบอกคนเขียนว่าชอบมากเลยค่ะ อ่านไปเขินไปแบบฮาๆ/จิกหมอนขาด ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pannuna ที่ 20-02-2017 01:19:08
ชอบพี่อิสระะะะะะมากๆเลยยย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 20-02-2017 03:05:17
อร้ายยยย..เขินแทนหลินปิงเลย
จู่ผู้ชายก้มาบอกว่าชอบ มาบอกว่ารัก

พี่อิสบทจะเร็วนิก้เรวมากกกก
ไม่ใช่แค่หลินปิงตั้งรับไม่ทันนะ
คนอ่านนิก้ปรับอารมณ์ไม่ทัน
ตอนก่อนยังแอบบ่นว่าพี่อิสชักช้าอยุ่
มาตอนนี้พี่ท่านทั้งจุ๊บทั้งบอกชอบเรียบร้อย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: zonpine ที่ 20-02-2017 05:41:19
พี่อิสนี่คือเมะในดวงใจจริงๆ o13
กว่าจะยอมพูดนะลุงเด็กมันน่ากินจนอดใจไม่ไหวล่ะซี่  :laugh: :laugh: :laugh:
รอนะคะมาต่อไวๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 20-02-2017 06:38:15
เขาบอกรักกันแล้วถึงตะเป็นสไตร์แบบพี่อิสก็เถอะน่ารักๆๆๆๆยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะเสียดายอะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 20-02-2017 06:54:35
กรี๊ดดดดดด สารภาพรักกันแบบสายฟ้าแล่บ พี่อิสคนเท่ทำตะมุมตะมิฟังเสียงหัวใจน้อง แล้วตัวเองไม่รอดเอง เขินหน้าแดงซุกโซฟา โอ๊ยยยยย บอกฉันที ข้างตู้ติดบันไดมี 3 เกลอแอบถ่ายคลิปไว้แล้วใช่ไหม? กรี๊ดดดด *ทุบโต๊ะรัวๆ*

คือตอนนี้มันพีคสุดอ่ะ ตั้งแต่พี่อิสคนจัญไร *ชื่อนาง ชื่อนาง*  มานั่งมุ้งมิ้งเย็บกระดุมเสื้อนักเรียนให้น้องล้าว โอ๊ยยยพ่อคุณ พ่อคนเท่ พ่อคนสายหวานไม่เข้ากับ..นิสัย *อืม นิสัย*  คือบอกเลย ลุ้นมาก คิดแทนไม่ออกว่าอย่างพี่อิสเนี่ย จะบอกรักน้องยังไงให้น้องไม่คิดว่ากวนตีนหรือเมาค้างหรือนอนไม่พอแล้วเบลอ  555555 เอออ แบบนี้มันใช่อ่ะ กูถาม กูบังคับ กูกดดันให้มันตอบกูก่อนแบบนี้แหละ ถึงจะใช่! ชอบมากค่ะ สนุกจริงๆ เยี่ยม  มารอดูกันว่าน้องปิงจะได้สำนึกรักบ้านเกิดหรือบ้านกูของพี่อิสกัน  อยากเห็นคนใจขาดๆๆ 55555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 20-02-2017 07:17:45
จะจบแล้วววว
ขอตอนพิเศษตอน คนกากกิรแพนด้าได้ป่ะ 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 20-02-2017 07:30:26
พี่อิสเท่แบบน่ารักอะ ฮา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 20-02-2017 08:38:26
ตอนนี้พี่อิสเท่หว่ะ
ทำดีแล้วพี่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: thaiboyskif ที่ 20-02-2017 08:50:30
 :impress2: :-[รักความอิสระของพี่อิสชอบความมึนของน้องปิง ขอบคุณผู้เขียนค่า
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 20-02-2017 09:45:29
ตลกตอนพี่อิสด่าเนยอะ อยากกอดหลินปิงด้วย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 20-02-2017 10:02:12
พึ่งจะได้เข้ามาอ่าน แต่พอมาอ่านแล้ว ก็หยุดไม่ได้   ชอบ พี่อิสคนติส กับ หลินปิงคนเอ๋อ อย่างจริงจัง!!!
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-02-2017 10:04:21
พี่อิสโคตรเท่อ่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 20-02-2017 10:48:17
ฮาตรงกูจะเท่นี่แหละ น่ารักมากแดกแบบไหนยังไม่รู้เลยเหรอออ หลินปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 20-02-2017 11:20:51
รักเรื่องนี้จังเลย ทั้งพี่อิสทั้งน้องปิง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 20-02-2017 11:52:54
พี่อิสแม่งโคตรเท่ เท่ก็คือเท่
เท่แบบกากๆ ก็ถือว่าเท่ ฮอลล
บอกรักกันแล้ว ฮอลล ดี
ขอให้หวานยิ่งๆขึ้นไป
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 20-02-2017 15:05:41
พี่อิสโคตรเท่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 20-02-2017 16:19:20
มันเป็นนิยายที่ทั้งบ้า ทั้งตลก ทั้งน้ำตา จะบ้าตาย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 20-02-2017 18:03:35
งื้อออออออ 2 คนนี้บอกรักกันได้ดิบๆ แต่น่ารักมากกกกกกอะ
ดีมากที่สลัดเนยออกไป หึ มาทำให้ปิงเข้าใจผิด
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ammie_mn ที่ 20-02-2017 18:07:42
ว่าละพอพี่อิสมันได้รักแล้วมันต้องเป็นแบบนี้ คลั่งน้องปิงจนตายไปเลยค่ะพี่อิส 5555  :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 24] 19-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 20-02-2017 18:21:43
บอกรักแบบติ๊สๆ อิสระซะอย่าง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 20-02-2017 23:27:23
ตอนที่ 25

ทาสแมว

 

เย็นวันจันทร์ในร้านกาแฟยุ่งกว่าที่เคย ทุกโต๊ะในร้านเต็มหมด ถึงเวลาเลิกงานแล้วแต่ผมยังอยู่ช่วยพวกพี่ๆ เขาต่อเพราะงานล้นมือจนพนักงานที่มีดูน้อยไปเลย ผมเดินหมุนไปหมุนมาไม่ได้หยุดอยู่พักหนึ่ง

“น้อง”

“ครับ” ผมหันขวับไปตามเสียงเรียก ก่อนจะชะงักกึกเมื่อเห็นว่าเป็นพี่อิส

“ตกใจไร”

“พี่อิสมาได้ไงครับ”

“มารับไง นี่มันเลยเวลางานมาเจ็ดนาทีแล้วนะ เมื่อไรจะเลิก”

“อีกแป๊บหนึ่งนะพี่ ยุ่งมากเลย”

“อะไรวะ”

“พี่กลับบ้านไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวเลิกแล้วตามไป”

“ไม่เอาอะ ก็มาแล้วนี่ไง เลิกงานได้แล้ว ไปเหอะ”

“ทำไมพี่อิสงอแงอะ”

“ก็คิดถึงไง หิวข้าวแล้วด้วย รอกินข้าวเนี่ย”

“มีอะไรเปล่าปิง” ทั้งผมและพี่อิสหันไปหาพี่พนักงานที่เดินเข้ามาถาม

“ไม่มีอะไรครับ นี่พี่ปิงเอง”

“พี่เหรอ” พี่อิสขมวดคิ้วถาม

“พี่ไง”

“จะพี่ได้ไง เป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่เหรอ”

“ฮะ!?” พวกพี่พนักงานร้องออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

“นึกว่าตกลงกันแล้วซะอีก ไหนบอกว่าโคตรชอบกูมากไง”

“พี่อิส!” ผมยกมือขึ้นปิดปากพี่อิสที่กำลังพูดเรื่องนั้นต่อหน้าคนมากๆ  ก่อนเขาสะบัดมือผมออกแล้วหันไปถามพี่อีกคน

“ปิงเลิกงานได้แล้วใช่ไหมครับ”

“ค่ะ กลับได้เลยนะปิง”

“ไปเร็วแมวน้อย”

แมวน้อยอะไร!

“กลับบ้านกันเร็วๆๆ”

“ครับๆ” ผมรีบไปเก็บของแล้วบอกลาพวกพี่ๆ พนักงาน ก่อนจะลากพี่อิสออกมาข้างนอก ก้าวเท้าเร็วๆ จนพี่อิสดึงมือผมเอาไว้แล้วถามหน้ายุ่ง

“จะรีบไปไหนเนี่ย”

“ก็พี่อิสอะ ไปพูดอย่างนั้นต่อหน้าคนอื่นได้ไง”

“เขินเหรอ”

“เขินดิ!”

“ทำมาเป็น...”

“ไปบอกว่าเป็นแฟนได้ไงอะ”

“ทำไมอะ กูโกหกหรือไง”

“ยัง!”

“ยังอะไร”

“ยังไม่ได้เป็นแฟน”

“ยังเหรอ”

“ก็พี่ไม่ได้ขอ”

เขาทำหน้าครุ่นคิดตอนที่ผมพูดอย่างนั้น เราบอกความในใจต่อกันแล้วก็จบลงแค่นั้น พี่อิสไม่ได้พูดถึงสถานะของเราเลยว่าเราควรเรียกกันว่าอะไรดี

“ขอสิครับ”

“ไอ้บ้า!”

“ทำไมอ่า!” ผมโวยตอนที่เขาปฏิเสธ

“ขอเป็นแฟนเนี่ยนะ เขินตายห่า ไม่เอาโว้ย กูเลยวัยแล้ว” เขาโวยวายก่อนจะรีบก้าวเท้าเดินหนีไป ผมรีบตามไปเดินข้างๆ แล้วหันไปพูดด้วย

“เอาจริงๆ พี่ไม่ได้จีบผมด้วยซ้ำ”

“กูจีบทุกวันแหละ แต่มึงไม่รู้ตัวไง”

“จีบทุกวันเลยเหรอ”

“เออ ก็กูอ่อยมึงทุกวันคิดว่าจะจีบป้ามึงหรือไง”

“งั้นก็ขอเป็นแฟนเลย”

“ไม่!”

“งั้นผมขอเอง พี่อิส เป็นแฟนกันนะ!”

“ไม่เอา!”

“พี่อิส!”

“พอแล้ว กูเขิน!”

อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์มันชัดเจนพอก็เลยไม่ขอให้เขาพูดถึงสถานะของเราอีก การมีอยู่ของกันและกันตรงนี้ก็ดีเกินพอ...ให้เป็นอะไรก็ได้ทั้งหมดเลย

 

“ปิง ตื่นได้แล้ว”

“...”

“หลินปิง!”

ผมหรี่ตามองพี่อิสที่เข้ามาเขย่าตัวปลุกให้ผมตื่น

“ยังเช้าอยู่เลย”

“ก็บอกให้ปลุกไปใส่บาตรไม่ใช่เหรอ พระจะมาแล้ว ลุกเร็ว” เขาว่าแล้วขยำแก้มผมก่อนเขย่าอีกรอบจนต้องยอมลุกขึ้นมา

“ลุกแล้วครับ ลุกแล้ว” ผมลุกพรวดขึ้นจากที่นอน ขืนไม่ยอมลุกมีหวังแก้มหลุดติดมือพี่อิสไปแน่ ยังไม่ทันได้แปรงฟันพี่อิสก็ลากผมออกมาที่ปากซอยเพื่อมารอพระ พี่อิสลุกมาใส่บาตรบ่อยๆ อยู่แล้ว วันนี้ผมอยากลุกมาด้วยก็เลยบอกให้เขาปลุก แต่ไม่รู้ว่าต้องตื่นเช้าขนาดนี้

หันไปเห็นพระที่เดินมาพอดี พี่อิสก็ดึงมือผมเข้าไปใกล้ๆ แล้วจับมือผมหยิบถุงกับข้าวใส่ลงบาตรพระไปพร้อมๆ กัน เสร็จจากใส่บาตรก็พามากรวดน้ำที่หน้าบ้าน

“ขอให้ชีวิตมีแต่เรื่องดีๆ  มีความสุขกับเขาสักทีนะลูกนะ” พี่อิสว่าแล้วเคาะขวดเปล่าลงบนหัวผมเบาๆ

“อะไรของพี่”

“ก็ให้พรไง ทำบุญเยอะๆ มึงอะ แต้มบุญหมดมั้งชีวิตถึงเจอแต่เรื่องแย่ๆ”

ผมพยักหน้าตามก่อนเอ่ยปากแย้งเพราะไม่ถูกทั้งหมด

“แต่ก็เจอเรื่องดีๆ อยู่เรื่องหนึ่งนะครับ”

“อะไร”

“พี่ไง” ผมว่าแล้วชี้ไปที่เขา

“กู?”

“ครับ พี่อิสเป็นเรื่องดีๆ ของผมนะ”

คนตรงข้ามกัดริมฝีปากแน่นแล้วรีบก้าวเท้าเข้าบ้าน

“พี่อิส ไปไหน”

“ไปเขินเว้ย!”

เฮ้อ...คนแก่ขี้เขินว่ะ

 

...

 

ภาพเดิมๆ ที่ต้องเห็นในตอนเช้าคือพี่อิสที่วุ่นวายอยู่ในครัว พูดคนเดียวไม่ได้หยุด ทะเลาะกับตัวเอง ทะเลาะกับกระทะ ทะเลาะกับไส้กรอก ทะเลาะกับน้ำมันไปเรื่อยแล้วแต่อารมณ์ของเขา

“กระเด็นจังเลยโว้ย! มึงจะกระเด็นเหี้ยอะไรนักหนา ทำตัวดีๆ ไม่เป็นหรือไง รำคาญ!”

ผมเดินเข้าไปหา คนตัวสูงที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็หันมาเห็นพอดี

“นั่งเลย ใกล้เสร็จแล้ว”

“วันนี้ทำอะไรให้กินอะ” ผมมองไปในกระทะเห็นแผ่นแฮมกำลังดีดตัวเพราะน้ำมันร้อนๆ

“ถอยไปห่างๆ เลย ไอ้แผ่นเหี้ยนี่มันกระเด็นฉิบหาย” เขาโบกมือปัดๆ ให้ผมถอยออกมา ผมเลยไปนั่งรอที่โต๊ะ พี่อิสวุ่นวายอยู่ที่หน้าเตาพักหนึ่งก็ยกจานมาเสิร์ฟแล้วนั่งลงข้างๆ ผม เมนูวันนี้คือขนมปังปิ้งเจาะรูตรงกลางเป็นรูปหัวใจ ข้างกันมีแฮมกับไส้กรอกแล้วก็ไข่ดาว

“โห รูปหัวใจด้วยอะ” ผมว่าแล้วหยิบขนมปังขึ้นมาส่องรูตรงกลางที่ถูกเจาะ

“แน่นอนสิ มันคือหัวใจเท่ๆ ของพี่อิส”

“เจาะทำไม หายไปครึ่งแผ่นเลย”

“ตอนแรกกูจะตอกไข่ดาวใส่ตรงกลางไง แบบในรูปเนี่ย แต่เสือกทำไม่ได้” เขาว่าแล้วส่งรูปในมือถือให้ดู ผมไม่ได้โฟกัสที่ภาพนั้นเท่าไร ที่สนใจคือหัวข้อกระทู้ที่พี่อิสเปิดค้างเอาไว้

 

10 เมนูสำหรับคุณหนู ๆ ในมื้อเช้า

 

“อะไรของลุงเนี่ย เมนูสำหรับคุณหนูๆ”

“เออน่า! กินเข้าไป”

“ไข่ดาวกากมากเลย”

“เรื่องมาก จะแดกไหม!”

“แดกครับแดก” ผมพูดขำๆ แล้วหยิบขวดซอสมาเทลงบนไข่ดาวเยิ้มน้ำมันของเขา ของแท้ต้องไข่แดงแตก แต่เอาจริงๆ ผมก็เสพติดมันไปแล้ว ผมคงชอบดาวแปลกๆ ที่มีดวงเดียวในจักรวาล...ชอบมากเลย

“พี่อิสขี้เกียจเปล่า ต้องตื่นเช้ามาทำกับข้าวให้ทุกวันเลย”

“ขี้เกียจบางวัน”

“ถ้าขี้เกียจก็ไม่ต้องก็ได้นะ”

“ต้องทำดิ”

“...”

“ทำเพื่อมึง”

หัวใจถูกกระแทกแรงมากด้วยถ้อยคำธรรมดาๆ นั่น ผมเม้มปากกลั้นยิ้มนิดๆ แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงเบา

“ผมกลัวพี่ลำบาก”

“ไม่ลำบาก มีเรื่องลำบากมากกว่านั้นอีก”

“เรื่องอะไรครับ”

“ต้องระงับตัวเองไม่ให้จับมึงแดก อันนั้นลำบากสุดในตอนนี้”

“พี่อิส!”

เขาหัวเราะหน่อยๆ แล้วยกมือขยี้หัวผมเบาๆ

“ล้อเล่นเว้ย! ใครจะไปกล้าแดก น่ารัก น่าทะนุถนอมขนาดนี้”

“พี่อะ!”

“กินข้าวเร็ว”

ผมพยักหน้ารับ ตักไข่ดาวใส่ปาก ก่อนพี่อิสจะปรับสีหน้าเป็นจริงจังแล้วพูดต่อ

“ปิง กูไปคิดมาแล้ว กูจะไม่ขอมึงเป็นแฟนนะ”

“ครับ?”

“กูไม่อยากเป็นแฟนกับมึงเลย”

ผมวางช้อนในมือแล้วเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจ

“เป็นแฟนกันแล้วมันบอกเลิกกันได้ไง”

“...”

“เป็นอย่างอื่นดีกว่าไหม เอาที่มันเลิกกันไม่ได้”

ผมหลุดยิ้มออกมานิดๆ ก่อนจะเสนอไอเดียออกไป

“เป็นลุงเป็นหลานไหม”

“สัด!”

“ก็พี่อิสก็เหมือนลุงอยู่แล้วเหอะ!”

“ไม่แก่ขนาดนั้นโว้ย!”

“งั้นเป็นแมว”

“ฮึ?”

“ผมเป็นแมวของพี่ไง”

“แล้วกูเป็นอะไรอะ”

“เป็นเจ้าของผมไง”

“เออ อันนี้ดี”

ผมหัวเราะออกมาเบาๆ ยังไงก็ไม่มีความเป็นคนในสายตาเขามาตั้งแต่ต้นแล้ว จะแปลงร่างเป็นแมวหรือแพนด้าก็ไม่น่าเป็นอะไรหรอก

“งั้นมึงเป็นแมวกูนะ”

“ได้ครับ”

พี่อิสยิ้มกว้างแล้วหัวเราะในลำคอเบาๆ

“เมี้ยว” ผมทำเสียงแมวก่อนไถหัวลงไปบนแขนเขาเบาๆ อีกฝ่ายหันขวับมามอง

“ทำอะไรอะ”

“เป็นแมวไง เมี้ยวๆ”

“ไอ้บ้า!”

ผมสะดุ้งนิดหนึ่งเมื่อพี่อิสหันมาเสียงดังใส่

“อย่าทำแบบนี้อีกนะ!”

“ทำไมอะ”

เขาไม่พูดอะไรแต่คว้าหัวผมไปแนบลงบนอกเขาเพื่อให้ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ โครมครามอย่างกับจะหลุดออกมานอกอกยังไงยังงั้น

“กูจะตายละ น่ารักฉิบหาย”

“พี่อิสกาก”

“กูหลงแมวไง”

“งั้นก็เลี้ยวแมวตัวนี้ไปนานๆ นะ”

“อ้อนกูสิ”

“เมี้ยวๆ หลินปิงร้องเมี้ยวๆ” ผมไถหัวลงไปที่แขนเขาอีกที พี่อิสถอนใจเบาๆ แล้วลุกหนีผมไปพร้อมกับเสียงบ่นตามประสาคนกาก

“มึงจะน่ารักให้กูหายใจไม่ออกตายไปเลยหรือไง ไอ้แมวบ้า”

 

...

 

ทุกๆ เช้าก่อนไปโรงเรียนผมต้องออกมายืนกดดันพี่อิสอยู่ที่หน้าบ้านให้เขารู้ว่าเรารีบ ผมกินข้าวเสร็จแล้ว แต่เขายังยืนจัดกระถางตะบองเพชรอารมณ์ดีอยู่เลย

ผมเดินออกมาหน้าบ้านเห็นใบปลิวโฆษณาอาหารเสียบเอาไว้ที่ตู้จดหมายเลยดึงออกมาดู เป็นพิซซ่าที่ผมชอบ และคำว่าซื้อสองแถมหนึ่งตัวใหญ่เบิ้มดึงความสนใจผมเป็นอย่างแรก

“พี่อิส เย็นนี้เราควรกินพิซซ่ากันนะ”

“ทำไมอะ”

“เพราะซื้อสองแถมหนึ่ง นี่ไงๆ”

“ไม่เบื่อหรือไงวะ”

“ไม่เบื่อ”

“แต่กูเบื่อแล้ว กินอย่างอื่นเหอะ”

“แต่มันซื้อสองแถมหนึ่งไง”

“กินหมดเหรอ แค่สองชิ้นมึงก็อิ่มแล้ว”

“ชวนพวกพี่ปรินซ์มากินด้วยกันไง”

“ชวนพวกมันมาไม่ได้แดกแค่พิซซ่าแน่นอน เดี๋ยวก็เมาไม่ได้ทำงานอีก ไม่เอาอะ กินอย่างอื่น”

“โห่...ก็อยากกินนี่นา” ผมพูดเบาๆ แล้วเสียบใบปลิวกลับเข้าไปที่เดิม

“ไม่ต้องมาหน้าบูดเลย ไปขึ้นรถ”

ผมเบะปากให้หนักกว่าเดิมก่อนจะเดินไปขึ้นรถ เป็นเจ้าของแมวไม่เห็นตามใจแมวเลยวะ นี่มันกบฏทาสแมวชัดๆ

 

...

 

ที่ร้านกาแฟบางวันก็วุ่นๆ บางวันก็เงียบๆ  วันนี้เป็นแบบแรก หัวหมุนไม่ได้หยุดตั้งแต่เวลาเข้างานจนถึงเวลาเลิกงาน ผมอยู่ช่วยพวกพี่เขาต่ออีกพักหนึ่ง กว่างานที่เหลือจะน้อยลงจนแทบไม่มีอะไรให้ทำแล้ว

“ปิง กลับบ้านได้แล้วนะ เดี๋ยวพ่อมาตามอีก”

“อย่าแซวสิครับ”

“ล้อเล่นน่า กลับได้แล้วไป”

“ครับๆ” ผมรับคำแล้วเดินเอาแก้วที่เก็บมาจากโต๊ะไปไว้ที่อ่างล้าง ก่อนจะเดินกลับออกมาที่เคาน์เตอร์

“น้องปิง”

ผมเงยหน้ามองตามเสียงผู้หญิงที่เดินเข้ามาเรียก ชะงักกึกเมื่อเห็นว่าเป็นพี่เนย ความตกใจของผมคงแสดงออกให้เห็น อีกฝ่ายจึงขยับมุมปากขึ้นยิ้มฝืนๆ แล้วถามผม

“ตกใจเหรอ”

“เปล่าครับ” ผมบอกปฏิเสธ ค้อมหัวลงเล็กน้อยแทนคำบอกลาแล้วตั้งใจจะเดินออกมาจากตรงนั้น ทว่าพี่เนยเรียกผมเอาไว้ก่อน

“น้องปิงเลิกงานแล้วเหรอ”

“ครับ”

“รอพี่แป๊บหนึ่งสิ ขอคุยด้วยหน่อย”

ผมพยักหน้าเบาๆ แล้วเดินออกไปรอพี่เนยที่หน้าร้าน พักหนึ่งเขาก็เดินตามผมออกมาพร้อมแก้วเครื่องดื่มในมือ ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากสีหน้าเรียบๆ ที่จ้องผมอยู่อย่างนั้น

“พี่เนย มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“พี่อิสเป็นยังไงบ้าง”

“ครับ?”

“พี่อิสไม่อยากคุยกับพี่แล้ว แต่พี่ยังอยากรู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้าง” สีหน้าเรียบเฉยที่เพ่งมองมา ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าฝ่ายนั้นต้องการอะไร ผมตอบคำถามไปตรงๆ

“พี่อิสสบายดีครับ”

“เขาบอกชอบปิงหรือยัง”

“ครับ?”

“เขาบอกว่าชอบหรือเปล่า”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ

“พี่แพ้แล้วสินะ”

“พี่เนย คือผม...”

“ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพี่อิสถึงชอบแบบปิง...”

อีกฝ่ายเว้นวรรคคำพูดก่อนมองผมหัวจดเท้า ผมเข้าใจความหมายที่ละเอาไว้ พี่เนยหมายถึงว่าถ้าพี่อิสชอบแบบผม ผมที่เป็นผู้ชาย...

“ทำไมต้องเป็นปิงด้วยไม่เข้าใจเลย”

“ไม่เข้าใจเหมือนกัน”

ทั้งผมและพี่เนยหันขวับมองตามเสียงของคนที่โผล่มาจากข้างหลัง ประโยคจากปากพี่อิสถูกพูดต่อตอนที่พี่เนยยังได้แต่อึ้ง

“ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเจอเนยที่นี่ ทั้งๆ ที่บอกไปแล้วว่าอย่ามายุ่งกับปิงอีก”

“พี่อิส”

“นึกว่าจะพูดรู้เรื่องแล้ว”

“แค่บังเอิญเจอ”

“ขอโทษนะแต่พี่เชื่อคำพูดเนยไม่ได้เลยว่ะ” พี่อิสดึงมือผมให้ไปยืนข้างๆ

“หนูมันก็ร้ายในสายตาพี่อยู่แล้วแหละ”

“ถ้าดีจริงก็คงไม่ทำแบบนี้หรอก”

“หนูมีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจไม่ใช่เหรอพี่ พี่ลองมาเป็นหนูแล้วต้องตอบคำถามคนอื่นดูไหม ว่าทำไมพี่ถึงเลิกกับหนูไปคบกับ...เด็กผู้ชาย”

“ถ้าพี่เป็นเนย พี่จะไม่ตอบคำถามใคร”

“พี่...”

“เพราะเรื่องของกูมันไม่เกี่ยวกับคนอื่น”

ผมเงยหน้ามองพี่อิสที่เปลี่ยนสรรพนามที่ใช้พูด ขณะที่พี่เนยก็ดูไม่พอใจเท่าไรนัก ส่วนผมได้แต่ยืนเงียบ พูดอะไรไม่ได้เลย

“แล้วที่ผ่านมามันคืออะไรอะพี่”

“มันก็คือรักนั่นแหละ”

“...”

“แต่มันไม่ดีพอจะให้รักต่อไง”

“...”

“แล้วกูก็ไม่ได้เลิกกับมึงเพราะใคร กูเลิกกับมึงเพราะมึงเป็นมึงนี่แหละ”

“อย่างกับพี่ดีนัก! พี่ก็นิสัยเสียเหมือนกันนั่นแหละ!”

พี่อิสยกมุมปากยิ้ม มองดูพี่เนยที่เริ่มจะระงับอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว ไม่รู้เลยว่าพี่เนยกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ พี่เนยยังชอบพี่อิสจริงๆ หรือว่าแค่ยอมไม่ได้ที่พี่อิสมาชอบคนอย่างผม ผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้เลย มันมักทำให้เหนื่อยใจ

“เราอย่ามาเจอกันอีกเลยดีกว่า พี่น้องอะไรกูก็ไม่เอาทั้งนั้นอะ”

“เออ ก็ได้”

“แล้วต้องให้ย้ำอีกทีไหมว่าอย่ามายุ่งกับปิงอีก”

“หวงเหลือเกินนะ”

“หวงกว่าที่มึงคิดเยอะเลย”

พี่เนยสบถคำด่าหยาบคายอย่างจงใจให้ได้ยิน ก่อนสะบัดหน้าเดินออกไปจากตรงนี้ด้วยสีหน้ายุ่งๆ  ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่อิสที่ถอนใจออกมาทีหนึ่ง

“ขอโทษที่ทำให้ต้องมาเจออะไรแบบนี้”

ผมส่ายหน้า ก่อนที่เขาจะดึงมือผมเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ริมถนนอีกฝั่ง ระหว่างทางกระทั่งมาถึงหน้าบ้าน ผมไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย คงเพราะผมยังคงคิดถึงคำพูดของพี่เนยที่ค้างคาอยู่ในหัว ผมหยุดคิดถึงมันไม่ได้เลย

“เป็นอะไร” ความเงียบผิดปกติของผมคงเห็นชัด พี่อิสถึงได้หันมาถาม

“ผมคิดถึงคำพูดของพี่เนย”

“มึงจะคิดทำไม”

“มันคาใจผม”

“เรื่องอะไร ถามกูนี่” เขาขมวดคิ้วพูด

“พี่อิสเลิกกับพี่เนยมาคบกับผม ไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ”

“ทำไมต้องเป็นอะไรด้วย”

“คนอื่นจะคิดกับพี่อิสยังไง”

“กูบอกแล้วไงมันไม่ใช่เรื่องของคนอื่น”

“แต่ผมกลัวว่า...”

“แคร์แค่กูไม่ได้หรือไง”

“แต่คนอื่นเขา...”

“ถ้ามึงแคร์คนอื่น มึงก็ไปอยู่กับคนอื่น ไม่ต้องมาอยู่กับกู” พี่อิสพูดแค่นั้นแล้วเดินลงจากรถ ปิดประตูเสียงดังจนผมสะดุ้งเฮือก ผมทำให้พี่อิสโกรธแล้ว...ไม่ได้ตั้งใจเลย

ผมเปิดประตูรถตามลงไป เดินเข้าบ้านช้าไปแค่ไม่กี่ก้าวก็ไม่เห็นเขาแล้ว กวาดตามองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นก่อนที่ขาจะชะงักกึกเมื่อมองเห็นสิ่งที่อยู่บนโต๊ะหน้าโซฟา...พิซซ่าสามกล่อง

นั่นทำให้ผมทรุดเข่าลงไปนั่งเงียบๆ  มองกล่องพิซซ่านั้นด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไป เพิ่งรู้ว่าตัวเองกำลังงี่เง่ากับเขาทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องคิดมากเลยด้วยซ้ำ ผมไม่ควรตั้งคำถามกับความรักของพี่อิสเพียงเพราะคำพูดของคนอื่นที่กดดันให้ผมคิด มีพี่อิสอยู่ตรงนี้ก็พอแล้ว ผมควรแคร์เพียงแค่เขาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ

พี่อิสหายเข้าไปในห้องนานแล้ว ผมตั้งใจจะรอให้เขาออกมาแล้วขอโทษเขาอย่างจริงใจ แต่รออยู่นานก็ยังไม่ยอมออกมาสักที ผมที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้องสูดลมหายใจหนึ่งทีแล้วยกมือเคาะประตูเบาๆ

ก๊อกๆๆ

“เชี่ย” ผมอุทานคำหยาบด้วยความตกใจ เพราะพี่อิสเปิดประตูออกมาทันทีที่ผมเคาะ เลยไม่ทันตั้งตัว มือยังยกค้างอยู่อย่างนั้นพลางกะพริบตาปริบๆ มองเขาที่เลิกคิ้วขึ้นด้วยใบหน้างงๆ

“ทำไมเปิดไวจังครับ”

“กูอยู่หน้าประตูพอดีไง มีอะไร”

“คือ...ผมอยากขอโทษพี่อิส”

“ขอโทษเรื่องอะไร”

“ก็ผมทำให้พี่โกรธ...หรือเปล่า”

“เออ กูไม่พอใจนิดหน่อย”

“ผมขอโทษ” ผมได้แต่ก้มหน้าลงต่ำ เอ่ยคำขอโทษเบาๆ

“ขอโทษกูหรือขอโทษพื้นอะ มองหน้ากูดิ”

“ผมขอโทษครับ ผมรู้ว่าพี่อิสรักผมแล้วผมก็รักพี่อิสมาก ผมจะไม่สนใจคนอื่นแล้ว จะสนใจพี่คนเดียว ผมจะ...”

พี่อิสดึงผมเข้าไปกอดทั้งที่ยังพูดไม่ทันจบ ก่อนเสียงทุ้มต่ำที่แสนอบอุ่นจะดังข้างๆ หูผม

“พี่ไม่ได้โกรธเลย”

“...”

“น่ารักขนาดนี้ใครจะไปโกรธลง”

เขาคลายกอดผมออกแล้วยกมือลูบหัวเบาๆ  เรามองหน้ากันอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนที่ผมจะผงะไปเล็กน้อยเมื่อพี่อิสโน้มหน้าลงมา ปากของเขาเกือบจะชนกับปากผมแล้ว มุมปากคนขี้แกล้งยกขึ้นนิดๆ พร้อมเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ  ก่อนเขาจะเลื่อนเป้าหมายจากริมฝีปากขึ้นไปที่หน้าผากแทน ริมฝีปากนุ่มกดลงเบาๆ ที่หน้าผากผม แค่นั้นก็อบอุ่นพอแล้ว

“ผมคิดว่าพี่โกรธผมมากซะอีก เห็นพี่หายเงียบเข้าไปในห้อง”

“อ๋อ ปวดขี้ ไปขี้มา”

“พี่อะ!” พี่อิสก็ยังเป็นพี่อิสจริงๆ

“สั่งพิซซ่ามาให้แล้วอะ เห็นยัง”

“เห็นแล้ว ไหนเมื่อเช้าบอกเบื่อไง”

“ก็มึงจะกินไม่ใช่เหรอ”

“ก็เลยต้องตามใจเหรอครับ”

“ก็มึงเป็นแมวกู”

“...”

“ส่วนกูก็ทาสแมวไง”

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tnkgif ที่ 20-02-2017 23:31:41
หลินปิงนี่ก็ไม่ธรรมดานะ 555555555  :hao6:
จะจบเเล้วหรออออ ไม่อาววววว  :katai4: :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 20-02-2017 23:48:24
น่ารักโว้ยยยยยยยย  :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 20-02-2017 23:48:49
เกือบแล้วมั้ยล่ะ อีเนยยยยย ถ้าปิงไม่ห้ามนะมรึง
สะใจที่พี่พูดจริงงๆ :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-02-2017 23:51:24
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: about ที่ 20-02-2017 23:58:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 21-02-2017 00:13:17
เออ คนบ้าอะไรน่ารักจังเลยเว้ยยยย ความพี่อิสนี้ดีงาม  o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 21-02-2017 00:17:17
ตาบอดพร้อมน้องปิง  :-[
คนหยาบอย่างพี่อิส ทำไมน่ารักได้ขนาดนี้~~
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 21-02-2017 00:27:24
โคตรน่ารัก
พี่อิสคนกาก แต่น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 21-02-2017 00:43:13
เขินพี่อิสหนักมากกกก
ทำไมคนกากถึงได้น่ารักขนาดนี้ค่ะซิสสสส
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 21-02-2017 00:59:12
โอ้ยยย ทำไมน่ารักกันขนาดเน้ งื้ออ ไม่ไหวแล้ว หลงคนกาก กับแมวน้อยอ่ะ

พี่อิสนี่กากคงเส้นคงวา น้องปิงก็คิดว่าโกรธมากหนีเข้าห้องไป เปล่าค่ะ ไปขี้!! ฮ่า
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 21-02-2017 03:05:37
น่ารักมากกกกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2017 05:49:03
"พี่อิส...หนูก็แค่ไม่เข้าใจอ่ะ ทำไมต้องเป็นปิง!"
"เป็นปิงแล้วไงอ่ะ"
"ก็ปิงเป็นผู้ชายอ่ะ! คนอื่นจะว่ายังไงถ้าพี่เลิกกับหนูไปคบกับผู้ชายอ่ะ"
เหตุผลนังเนยบูด กากมากกกกก
เข้าใจ ไม่เข้าใจ เขาก็รักปิง ไม่รักเธอ
เขาเลิกกับเธอ เพราะเธอประสาท และขอเลิกกับเขาก่อน
แล้วเธอก็มีคนใหม่ไปตั้งแต่เลิกกัน
มีใครเขามาต่อว่าเธอหรอ ว่าพี่อิสเลิกกับเธอไปคบกับผู้ชาย
มโนเองล้วนๆ โคตรกากเลย น่าให้โดนตบกลับจริงๆ
คงเพราะทั้งยั่ว ทั้งตื๊อพี่อิส แล้วไม่ขึ้น แถมโดนไล่อีก
ใครได้นางเป็นแฟน ซวยโคตร
พี่อิส โชคดีและ ที่เลิกกับนาง
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 21-02-2017 06:29:02
พี่อิสกากแต่ค่ดเท่ หลินปิงก็น่ารักซะ เอาจริงๆ มันก็หมดสมัยแล้วนะที่ผู้ชายจะไม่ทำไรเลยกะผู้หญิง เพราะชะนีบางตัวเนี่ยมันสุดจะทน แค่เลือกทำกับคนให้เหมาะก็พอ แค่ไหน แบบไหน ที่จะไม่สร้างปัญหาให้เราอีก

#พี่อิสเก่งกับหมา เด็ก ผู้หญิง และคนชราอยู่แล้ว 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 21-02-2017 06:38:16
ทำตัวเองทั้งนั้นนน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 21-02-2017 06:41:38
ทาสแมวก็แอบน่ารักนะเนี่ย :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 21-02-2017 07:00:52
ฮือออ น่ารักมาก
เขารักกันแล้วเขาเข้าใจกันแล้ว
มันไม่ควรจะจบแค่นี้ดิ
ยืดๆ ออกไปก๊อนนนนนนนนนนนนนน
อยากเห็นความหวานของสองคนนี้ แบบมุมอื่นๆ ไปเที่ยวด้วยกันงี้ไรงี้
ลุ้นผลแอดไปด้วยกันอะไรงี้

จริงๆ เราไม่สนใจความในใจของนายช็อกเลยนะ
เราอยากอ่านพี่อิสน้องปิงเยอะๆ เพราะว่านังช็อกมันมีบทมากเหลือเกิน
ในช่วงเวลานึง หมั่นไส้มัน อย่าไปให้บทมันพอแล้ว
ชิ

 55555555555555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 21-02-2017 07:42:27
เนยก็แค่อาย เสียหน้า ที่แฟนเก่ามีแฟนใหม่เป็นผู้ชาย ลืมๆ ห่างๆไปแล้วก็จบป่าววะเนยเอ้ยยย *อินกะนังเนย*  // พี่อิสคนกาก เอ้ยยย คนเท่ นี่ทำอะไรก็น่ารักเนอะ *หราาาา* ไข่ดาวแตกอมน้ำมัน หนมปังหัวใจแหว่ง งี้  มันไม่ได้อยู่ทีทำแล้วเป็นไง? มันอยู่ที่ใครทำต่างหากว้อยยย ฮริ้ววววว แหมะ!! มันหว๊านนน หวาน สมเป็นวิถีอิสระจริงๆ  สนุกมากอ่ะค่ะ ชอบๆๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 21-02-2017 07:49:39
พี่อิสน่ารักตามใจน้องอย่างนี้ไงน้องถึงได้รัก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 21-02-2017 07:52:52
หลินปิงน่ารักเกินไปแล้ว :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 21-02-2017 09:13:17
 o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 21-02-2017 10:24:02
เนยไม่รู้ตัวเองเลย ว่าทำตัวเองมาตลอด
ไม่มีปิง อิสก็เบื่อเต็มทน ทนไม่ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 21-02-2017 11:58:11
น่ารักมากกก ติดเรื่องนี้สุด ๆ พี่อิสเป็นพระเอกที่เลิศที่สุดเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 21-02-2017 14:53:27
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-02-2017 15:04:06
โอ๊ยหมั่นไส้คนแก่มีแฟนเด็ก หวานจนเบาหวานขึ้นตาแล้วนี่
ปิงน่ารักน่ากลืนลงท้องมากเลยลูก สงสารพี่อิสจัง ต้องอดทนแค่ไหนที่จะไม่จับเด็กกิน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pimBNY ที่ 21-02-2017 15:46:35
เอาอีกๆๆ อิพี่มันยังไม่ได้แสดงความหื่นออกมาเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-02-2017 16:04:15
  o13 o13 o13o13 o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 21-02-2017 16:37:13
ขอตอนพิเศษสิบตอนค่ะ ขอฉากสวีทเยอะๆ น้องปิงน่ารักกกกกก  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 21-02-2017 21:57:45
อ่านทันแล้วววว เรื่องนี้ครบรส! ชอบค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 21-02-2017 22:01:50
พี่อิสก็ทำถูกและชัดเจนดีอยู่แล้วค่ะ ก็เนยไม่จบ งี่เง่าแบบนี้ก็ต้องพูดกันตรงๆ
หวานมากคู่นี้ มันกุ๊กกิ๊กก๊าวใจอ่ะ ฟินค่ะฟิน จงเป็นทาสแมวตลอดไป เพี๊ยง
ตอนไปรับก็น่ารักนะ พี่ที่ไหน นี่แฟน เอ้อ ปิงนี่ยังไง ตอนร้องปิงรู้สึกผิดก็น่าสงสาร
โถ บอกรักรัวๆๆๆ เลยลูกที่ไหนได้พี่ไปขี้มา จ๊บ 5555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 25] 20-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 21-02-2017 23:33:52
พ่อทาสแมว งื้อออออ
ทำไมเป็นคนงี้
ชอบพี่เขา เป็นนัวเองเสมอต้นเสมอปลาย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 21-02-2017 23:48:50

ตอนที่ 26

รักแรกของผม

 

บ่ายของวันหยุดว่างๆ พี่อิสชวนผมออกไปข้างนอก ตั้งใจว่าจะไปกินพิซซ่าแล้วก็ซื้อของเข้าบ้านนิดหน่อย ผมแต่งตัวเสร็จก็เลยออกมารอเขาที่ห้องนั่งเล่น ก่อนพี่อิสจะเดินออกมาจากห้องเขา ผมเบิกตาขึ้นนิดๆ เมื่อพี่อิสอยู่ในชุดที่ชวนตะลึงอีกแล้ว เสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงยีนส์สีเข้ม

“พี่อิส หล่อทำไม”

“ไปเดตก็ต้องแต่งตัวหล่อๆ หน่อยไง”

“ไม่เอาอะ ไปเปลี่ยน”

“เอ้า! ทำไม จะให้กูใส่กางเกงบอลลากเตะไปอะนะ”

“ครับ”

“ไม่อายเขาเหรอ เดินข้างๆ กูอะ”

ผมส่ายหน้าเบาๆ

“ผมชอบแบบนั้นมากกว่า พี่อิสเป็นพี่อิส มันดีอยู่แล้ว”

มุมปากพี่อิสยกขึ้นจนเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม

“แล้วก็ไม่ชอบให้หล่อ เดี๋ยวคนมองเยอะ ผมหวงด้วยไง”

“โอเค รอแป๊บ” เขาพุ่งตัวกลับไปในห้องนอนก่อนจะออกมาในชุดที่คุ้นตา เสื้อยืดสีพื้นกับกางเกงบอลตัวเก่า แต่วันนี้ไม่หิ้วถุงพลาสติก เปลี่ยนเป็นถุงผ้าสีขาวแทน แม้ว่าเวลาพี่อิสแต่งตัวดีๆ มันจะหล่อมากๆ ก็เถอะ แต่ผมชอบแบบนี้มากกว่า ผมนิยามความเป็นพี่อิสไม่ได้เลย ไม่รู้จะอธิบายว่าเขาเป็นคนแบบไหน มันจัดประเภทไม่ได้ มันคือเขา เขาคนนี้...เขาที่มีคนเดียวในโลกเลย

...

 

หลังจากกินพิซซ่าเสร็จ พี่อิสมาเดินเลือกซื้อของเข้าบ้านขณะที่ผมเดินตามต้อยๆ ผมต้องดึงเขาออกมาจากชั้นวางของที่ลดราคาหรือมีโปรโมชั่นซื้อสองถูกกว่าตลอดทาง ไม่อย่างนั้นผีแม่บ้านเข้าสิงพี่อิสจนหน้ามืดตามัวแน่นอน เดินผ่านแผนกของใช้มาถึงแผนกอาหาร จากผีแม่บ้านก็กลายเป็นผีแม่ครัว ไปเลือกวัตถุดิบทำอาหารอย่างตั้งอกตั้งใจ

“ครบยังวะ เหมือนมันขาดอะไร” พี่อิสบ่นพึมพำแล้วหยิบของในรถเข็นดู

“เหลืออะไรเหรอครับ”

“ไม่รู้ดิ คิดไม่ออก มันเกี่ยวกับมึงนี่แหละ”

พี่อิสยกมือเท้ารถเข็นแล้วจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น

“มองแล้วจะนึกออกใช่ไหม”

“เออ กูกำลังใช้ความคิดอยู่ มึงจะหูแดงทำไม”

“เขินสิครับ พี่มองนาน”

เขายิ้มนิดๆ แต่ยังไม่เลิกมอง

“นึกออกยังครับ”

“ยัง”

“นี่นึกอยู่เหรอ”

“เปล่า กูอยากมองมึงเฉยๆ”

“วู้!” ผมกำลังจะหันหน้าหนี แต่พี่อิสคว้าผมเอาไว้ให้หันกลับไปมองเขา

“อะๆ กูจะนึกดีๆ ละ คิดไม่ออกแต่เกี่ยวกับมึงแน่นอน”

“อะไรอะครับ อาหารแมว...ไข่ไก่...ไส้กรอก...แฮม...”

“ปีโป้!”

“เออใช่! ปีโป้หมด!”

ทั้งผมและเขาพุ่งกลับไปที่ชั้นขนมทันทีที่นึกออก ที่จริงก็ท่องมาตลอดทางเลยว่าจะมาซื้อปีโป้ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ผม แต่พี่อิสก็เสพติดปีโป้ไปด้วยอีกคน แพ็กหนึ่งกินได้ไม่เกินสามวันก็หมดแล้ว แวะไปทางตู้เย็นทีไรก็ต้องหยิบติดมือกันมาคนละอันสองอันตลอดเลย เมื่อได้ขนมที่ต้องการแล้ว ผมเดินนำเขามาแผนกเครื่องเขียน ซื้อปากกาสองสามแท่ง ก่อนจะเดินกลับไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์

“ดูนั่นดิ เหมือนมึงเลย” พี่อิสสะกิดให้ผมมอง พลางชี้ไปที่ตุ๊กตาแพนด้าที่วางอยู่บนชั้น

“จะบ้าเหรอพี่”

“ตายแล้ว หลินปิง ทำไมหนูมาอยู่ตรงนี้ล่ะลูก”

“พี่อิส!”

“ซื้อดีกว่า”

“จะเอาไปทำไม”

“เอาไปนอนกอดไง”

“...”

“หรือมึงจะให้กูนอนกอดมึง จะได้ไม่ต้องซื้อ”

“เอาตัวไหนดีอะ” ผมว่าแล้วหันขวับไปที่ชั้น ก่อนพี่อิสเอาตุ๊กตาที่ถืออยู่ฟาดใส่หัวผมเบาๆ

“เฮอะ!”

“ตัวนี้น่ารัก” ผมหยิบตัวหน้ายิ้มมา

“ไม่ กูชอบตัวนี้” เขาเอาตัวในมือผมยัดใส่ที่เดิมแล้วหยิบตัวที่ทำตาโตปากจู๋มาแทน

“หน้ามันตลกเหอะ”

“เหมือนมึงจะตาย ไหนมึงลองทำหน้าแบบนี้”

“ไม่เอา”

“ทำหน่อย เร็วๆ”

“ยังไงอะ” พี่อิสยื่นหน้าแพนด้าตัวนั้นมาให้ผมดู ผมทำตาโตและปากจู๋ให้เหมือนมันจนคนข้างๆ หัวเราะก๊ากออกมา

“เหมือนมาก ขอถ่ายรูปหน่อย”

พี่อิสควักมือถือออกมา ยื่นแพนด้ามาข้างๆ ผมกลั้นหัวเราะแล้วทำหน้าแพนด้านั่นอีกที

“น่ารัก” พี่อิสพูดเบาๆ กับตัวเองอย่างพอใจแล้วยิ้มกว้างกับหน้าจอมือถือตัวเอง ในตอนนั้นผมหันไปเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ใกล้ๆ มองมาทางผมแล้วยิ้มให้นิดๆ  ผมงงนิดหน่อยที่คนไม่รู้จักมายิ้มให้แต่ก็ยิ้มรับไป ก่อนที่พี่อิสจะหันมองตามแล้วลากผมเดินออกมาจากตรงนั้น เขาหยุดเดินกะทันหันก่อนหันขวับกลับมาหาจนผมที่เดินตามต้องชะงักไปด้วย

“อะไรครับ”

พี่อิสยกมือดึงหมวกฮู้ดขึ้นมาคลุมหัวผมแล้วรูดเชือกผูกที่ใต้คาง

“ทำอะไรเนี่ย”

“หดเข้ากระดองไป ไม่อยากให้คนมอง”

“ฮึ?”

“คนอื่นมองแล้วไม่ชอบใจเลย”

“...”

“จะเห็นแก่ตัวมากปะวะ ถ้ากูอยากเก็บความน่ารักมึงไว้ดูคนเดียว”

พี่อิสพูดแค่นั้นแล้วคว้ามือผมเดินตามเขาไป ผมกัดริมฝีปากด้วยความเคอะเขิน ก่อนหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ แค่พี่อิสอยากแสดงความเป็นเจ้าของก็ต้องทำเป็นเท่ด้วย ตาลุงคนนี้มัน...น่ารักเป็นบ้าเลย

...

 

พี่อิสกับผมเดินออกมานอกห้างหลังจากซื้อของเสร็จ ไม่รู้จะไปไหนต่อเพราะปกติก็เป็นพวกติดบ้านกันทั้งคู่ก็เลยตกลงกันว่าจะกลับบ้านดีกว่า

“พี่อิส เอาออกได้ยัง” ผมว่าแล้วชี้ไปยังเสื้อฮู้ดที่คลุมหัวอยู่

“ยังไม่ได้”

“โห่ มันอึดอัด”

“ปกติมึงก็ใส่ อย่ามาเยอะ”

“ปกติมันรัดแน่นขนาดนี้ไหมล่ะ พี่นี่มัน...”

“น้องปิง!”

ผมเป็นคนถูกเรียกแต่พี่อิสหันขวับไปมองก่อน พอเห็นว่าเป็นพี่พิงค์กับช็อก ผมจึงหลุดยิ้มกว้างออกมาแล้วเดินเข้าไปหา พี่อิสเลื่อนสายตาไปมองช็อกกับพี่พิงค์สลับกัน ส่วนพี่พิงค์ก็มองผมกับพี่อิสสลับไปมา

“น้องปิง พี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“ไอ้ช็อก คุยด้วยหน่อยดิ” พี่พิงค์กับพี่อิสโพล่งขึ้นมาพร้อมกัน ก่อนพี่อิสจะคว้าคอช็อกหันไปทางหนึ่ง ส่วนพี่พิงค์ดึงมือผมมาอีกทาง

“มีอะไรครับพี่พิงค์”

“แฟนน้องปิงเหรอ”

“เอ่อ...ไม่ใช่แฟนครับ”

“แล้วเป็นอะไรกัน”

“ผมเป็นแมว เขาเป็นเจ้าของครับ”

“มันคืออะไร!”

“มันคือสถานะที่เลิกกันไม่ได้ไงครับ”

“พี่บอกว่าคบใครให้เอามาให้พี่สแกนก่อนไง นี่คืออะไร ไม่ผ่านคิวซีเว้ย!”

“พี่อิสเป็นคนดีนะครับ”

“เหมือนพวกขโมยกระเป๋าตังค์! คือไม่โอเค!”

“เฮ้ย! พี่พิงค์ พี่อิสเป็นคนดีมาก ใจดีด้วยครับ”

“ไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่พวกล่อลวงเด็กมาทำ...ทำอะไรแบบนั้นใช่ไหม”

“ไม่ใช่ครับ! พี่อิสไม่ใช่คนแบบนั้น! เป็นคนดี ไว้ใจได้ครับ”

“สภาพอย่างนั้นอะนะ!”

“สภาพอย่างผมมันทำไมเหรอคุณ”

ทั้งผมและพี่พิงค์สะดุ้งเฮือกเมื่อพี่อิสโผล่มาข้างหลัง

“พูดตรงๆ อย่าโกรธนะคุณ เหมือนโรคจิตล่อลวงเด็กอะ”

“โอ้โฮ ปากอย่างนี้เคยโดนตบไหมคุณ”

“อ้าว กุ๊ยว่ะคุณ”

“เออ กุ๊ยโว้ย มีไรไหม!”

“ใจเย็นๆ พี่อิส แฟนผมครับแฟนผม” ช็อกเข้ามาดึงพี่พิงค์ออกไปในตอนที่สองคนนี้เถียงกันเอาเป็นเอาตาย

“แฟนมึงปากดีอะ”

“พี่อิส นี่เจ้านายผม!”

“อ้าว ฉิบหาย” พี่อิสสบถเบาๆ แล้วถอยออกมาก้าวหนึ่ง

พี่พิงค์ยักคิ้วให้ด้วยใบหน้ากวนๆ ก่อนพี่อิสจะหันมากระซิบข้างหูผม

“เจ้านายมึงกวนตีนเนอะ”

“มาเป็นแฟนน้องปิงได้ไงอะ” พี่พิงค์หันมาถาม

“ไม่ใช่แฟนซะหน่อย ผมเป็นเจ้าของปิง ปิงเป็นแมวของผม”

“โอ๊ย อะไรก็เหอะ แล้วมาคบน้องปิงนี่จริงจังปะเนี่ย รักน้องจริงหรือเปล่า”

พี่อิสดึงผมเข้าไปใกล้แล้วยกมือกอดไหล่ หันพูดกับพี่พิงค์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผมรักปิงมากกว่าที่จะอธิบายให้คุณเข้าใจได้ซะอีก ไม่ต้องห่วง”

“...”

“ถ้าผมทำปิงเสียใจหรือร้องไห้ คุณมาตบผมเลยก็ได้”

“...”

“แล้วก็...สีผมคุณเท่ดีนะ” พี่อิสว่าแล้วชี้ไปที่ผมพี่พิงค์ ซึ่งวันนี้เปลี่ยนสีใหม่เป็นสีชมพูเลย

“จริงปะ เพิ่งทำมา กลัวจะไม่เข้ากับหน้า”

“โคตรดี เหมาะอยู่”

“ตาถึงว่ะ นี่โดนช็อกบ่นเรื่องสีผม”

“มึงรู้จักศิลปะไหมไอ้ช็อก”

“เออ มันเป็นศิลปะเหอะ”

ช็อกยืนกะพริบตาปริบๆ เพราะโดนรุมด่าแบบไม่ทันตั้งตัว อยู่ดีๆ สองคนนี้ก็เข้าขากันได้ดีราวกับที่เถียงกันเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้น ผมหันมองพี่พิงค์กับพี่อิสที่คุยกันต่อ

“แล้วนี่มาทำไรกันเหรอ”

“ว่าจะมาดูหนังอะ แล้วนี่จะกลับกันแล้วเหรอ”

“ครับ กลับแล้ว พาปิงมากินพิซซ่า แล้วก็ซื้อของนิดหน่อย”

“โอเคคับ งั้นไว้เจอกันนะครับ”

“ได้ครับ”

ไปสนิทกันตอนไหนเหรอ...

“ไว้เจอกันนะปิง”

“ไว้เจอกันช็อก”

“ไม่ต้องเจอกันก็ได้มึงสองคนเนี่ย” พี่อิสแทรกเข้ามาตอนผมกำลังบอกลาช็อก ก่อนพี่พิงค์กับช็อกจะเดินเข้าห้างไป พี่อิสยังหรี่ตามองผมแล้วเชิดปากขึ้นนิดๆ

“กูแม่งไม่ชอบหน้ามันเลย ทำมาเป็นหล่อ”

“เขาไปทำอะไรให้”

“มันคือรักแรกมึงไง”

“รักแรกอะไรเล่า!”

“รักครั้งแรก หัวใจก็แตกสลายไง”

“พี่อิส!”

“ยังชอบมันอยู่เหรอ”

“จะไปชอบเขาได้ไง ก็ชอบพี่อยู่นี่ไง”

พี่อิสยกมุมปากข้างหนึ่งขึ้นยิ้มพอใจ ก่อนผมจะถามต่อ

“แล้วเมื่อกี้เรียกช็อกไปคุยอะไร”

“แค่ทักทายกัน”

“สนิทกันหรือไงถึงต้องทักทาย”

“ทำไม กูจะคุยกับรักแรกมึงไม่ได้เลยเหรอ”

พี่อิสกวนตีนดีแฮะ...

“ใช่สิ รักแรกของผม ผมยังรักเขาอยู่ทำไงดี ลืมไม่ลงเลย มันฝังใจอะ”

“อันนี้มึงล้อเล่นหรือว่าไง”

“รักแรกของผม เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้จักที่จะรักใคร ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าหัวใจซื่อบื้อของผมมันจะรักใครเป็น แต่เขาสอนผม สอนให้รู้ว่าการตกหลุมรักใครสักคนมันเป็นยังไง”

“เออ เอาเข้าไป”

“เขาทำให้ผมรู้ว่าความสุขคืออะไร ทำให้ผมยิ้มแล้วก็หัวเราะอย่างที่ไม่เคยเป็น”

“เอาให้พอ”

“ผมอยากขอบคุณเขา ขอบคุณที่มาทำให้ผมรัก ขอบคุณที่มารักผม ผมอยากบอกรักเขาทุกวัน บอกให้เขารู้ว่าผมรักเขามากขนาดไหน”

“มึงก็ไปบอกมันสิ!”

“ก็บอกอยู่นี่ไง”

“...”

“พี่อิส พี่ต่างหากที่เป็นรักแรกของผม”

“กูเหรอ”

“พี่นั่นแหละ”

“...”

“ผมรักพี่ก่อนใครเลย”

 

...

 

หลังจากกินมื้อเย็นกันเสร็จ พี่อิสก็ไปนั่งประจำหน้าคอมเพื่อทำงานต่อ ส่วนผมเข้าห้องมาอาบน้ำและตั้งใจจะทำการบ้านคณิต คว้าสมุดหนังสือมานอนทำบนเตียงอย่างดิบดี แต่นั่งงมมาเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่ขยับไปสักข้อเลย บนเตียงไม่ใช่สถานที่ที่ควรทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ เพราะอยู่บนเตียงทีไรมันพร้อมจะดูดวิญญาณเราได้ทุกเมื่อ ผมยังกลิ้งไปกลิ้งมาเพราะทำการบ้านไม่ได้แต่ก็ยังไม่อยากนอน

“หลินปิง ยังไม่นอนอีกเหรอ”

“ทำการบ้านอยู่ครับ”

“การบ้านไร กูเห็นมึงนอนกลิ้ง”

“ผมใช้ความคิดอยู่ แต่ไม่เข้าใจเลยสักข้อ”

พี่อิสเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ ผมแล้วหยิบสมุดการบ้านไปดู

“มันโคตรยากเลยครับ”

“กระจอก”

ผมเหลือบตาขึ้นไปมอง

“ง่ายๆ ใครๆ ก็ทำได้”

“ทำให้หน่อยดิ”

“การบ้านมึง มึงก็ทำเองดิ”

“จริงๆ ทำไม่เป็นใช่ปะล่ะ”

“โด่ หลินปิง กูจบสายวิทย์มาเหอะ มา กูทำให้ดูข้อหนึ่ง เดี๋ยวอธิบายให้ฟังด้วย” พี่อิสหยิบดินสอขึ้นมา นั่งมองโจทย์แคลคูลัสครู่หนึ่งแล้วลงมือเขียน เสียงทุ้มต่ำอธิบายให้ผมฟัง ดูมีความรู้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ตรงนี้เอาเอเอกซ์กำลังสองคูณตลอด นี่มันก็จะได้เป็นเอกซ์กำลังสาม ลบ เอกำลังสาม ส่วน เอเอกซ์กำลังสอง เอกซ์ลบเอ ใช่ไหม”

เอกซ์กำลังสอง กำลังสาม กำลังสี่อะไรไม่รู้ แต่ผมโคตรชอบเวลาพี่อิสพูดน้ำเสียงแบบนี้มากๆ เลย มันดีจริงๆ นะ

“ฟังอยู่ไหมเนี่ย”

“ไม่เข้าใจอะ ไว้ไปลอกเมธีดีกว่า”

“เอ้า ดูมัน การบ้านตัวเองก็ทำเองสิ ไปลอกเพื่อนแล้วเมื่อไรจะทำเป็น ฮะ?”

“ขี้บ่น”

“เออ จะบ่น ทำไม เอามาทำเลย”

“ไม่ทำแล้ว เก็บๆๆ โอ๊ย!” ผมชักมือออกมาจากสมุด เพราะรีบร้อนเก็บลวกๆ ไม่ทันระวังเลยโดนกระดาษบาดมือเข้าไปทีหนึ่ง

“ได้แผลอีก ไหนมาดู” พี่อิสดึงมือผมที่เลือดเริ่มซึมออกมาจากแผล ดึงทิชชูมาซับเลือดที่ปลายนิ้วแล้วขมวดคิ้วมองยุ่ง

“เจ็บไหม”

“นิดหนึ่ง”

“บอบบางจริงๆ เลยมึงเนี่ย”

“อ่อนแอให้ดูแลเหอะ”

“อ่อยเหรอ”

“ครับ”

“ร้าย”

“เป็นแมวขี้อ้อนไง”

“อ้อนเกินไปไม่กลัวโดนแดกเหรอ”

“พี่ไม่กล้าหรอก”

“...”

“พี่ใจกาก”

“เดี๋ยวจะโดน!”

“เฮ้ย!” ผมร้องลั่นเพราะพี่อิสผลักหัวผมกดลงไปบนเตียง

“แดกแม่งเลย แดกแม่ง!” เขาว่าแล้วกัดเข้ามาที่ลำคอผม ไม่กัดแบบล้อเล่นแต่งับเข้ามาเต็มๆ เลย

“พี่อิส! เจ็บๆๆ”

“ยอมยัง”

“ยอมๆ”

เขาหัวเราะเบาๆ แล้วปล่อยผมแต่ยังไม่ยอมลุกออกไป ค้ำแขนข้างหนึ่งลงบนเตียงขณะยังคร่อมร่างผมอยู่

“กัดมาได้ เป็นหมาเหรอ”

“แวมไพร์เว้ย”

ผมหัวเราะหน่อยๆ ขณะที่พี่อิสก็ยังไม่ลุกออกไป แล้วจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น

“ทำไมมองนาน”

“กำลังคิดอะไรอยู่”

“คิดอะไรครับ”

“เจ้าของแมวนี่จูบแมวได้ไหม”

“ครับ?”

ไม่ทิ้งช่วงให้สงสัย มือใหญ่ข้างหนึ่งก็เลื่อนมาจับคางผมให้อยู่ในตำแหน่งที่พอดีสำหรับริมฝีปากของเขาซึ่งลดระดับลงมาในจังหวะเดียวกัน ริมฝีปากนุ่มๆ ประกบเข้ามาเบาๆ  ผมคงเป็นเด็กที่โง่เกินกว่าจะตอบโต้จูบนั้นกลับไปได้ เป็นแมวตัวเล็กๆ ที่ไร้เดียงสาเลยปล่อยให้เจ้าของเป็นฝ่ายทำสิ่งนั้นเพื่อสอนบทเรียนบทใหม่ที่เรียกว่าจูบ

จูบคือการแตะกันที่ริมฝีปากแต่กลับไปเดือดร้อนที่หัวใจ ในนั้นกำลังเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ จูบไม่ได้หวานหรือมีรสชาติอะไร แต่มันนิ่มนวล อ่อนโยน และอบอุ่น จูบของพี่อิสเป็นแบบนี้นี่เอง

บทเรียนจบแล้วด้วยการที่พี่อิสถอนริมฝีปากออกไป มุมปากเขายกขึ้นนิดๆ แล้วเลื่อนมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ

“แมวน้อยของพี่อิส เชื่องจัง”

“ผมงงอยู่ต่างหาก”

“นี่จูบแรก จำไว้ด้วย”

“จูบแรกผมจูบกับพี่ปรินซ์ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ที่ไหน ตอนนั้นแค่เอาปากแตะกัน กูกระชากหัวไอ้ปรินซ์ออกมาทันเหอะ”

“อ๋อ”

“เพราะงั้นกูเป็นจูบแรกมึง”

“ตื่นเต้นเลย”

“ใจเต้นแรงปะ”

“ลองฟังสิครับ”

เขาแนบหูลงมาบนอกผมแล้วหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจ

“แค่จูบก็อาการหนักแล้ว มากกว่านี้มึงตายคามือกูแน่”

“ฮึ?”

“ไม่มีอะไร กูพูดกับตัวเอง กูไปทำงานต่อละ” เขาว่าก่อนลุกออกไป

“เดี๋ยวก่อน...” ผมกางมือออกแล้วพยักหน้าเรียกให้เขากลับมาก่อน

“มีอะไร”

“ขอฟัดพุงหน่อย” ผมว่าแล้วซบหน้าลงไปบนพุงเขา สองแขนยกขึ้นโอบร่างเขาเอาไว้

“ทำไมๆ อ้อนเอาอะไร”

“กอดเฉยๆ”

ก็แค่ใจผมเรียกหาเขาเฉยๆ  แม้จะอยู่ใกล้ๆ ก็ยังอยากกอดเอาไว้ เพราะตอนนี้ผมโคตรชอบพี่อิสเลย ไม่รู้เลยว่าคนที่ผมทำชาไข่มุกหกใส่ในวันนั้น จะมายืนเป็นพี่อิสที่ผมรักอยู่ในวันนี้ คนที่ดูเพี้ยนๆ  คนที่ถอดเสื้อในที่สาธารณะได้ คนที่ทำให้ผมเกือบเลิกกินชีสไบท์กับไวต์มอลต์เพราะเอาไปเปรียบเทียบกับอะไรที่ไม่สมควร คนที่ชอบแย่งกินไส้กรอก คนที่บ้าๆ บอๆ และชอบเล่นใหญ่ คนธรรมดาๆ ที่ทำให้ผมหลงรักอย่างเหนือความคาดหมาย พี่อิสไม่ต้องดีไปกว่านี้เลย สำหรับผมมันพอดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ สุดท้ายแล้วเราอาจต้องการคนธรรมดาที่เข้ากันดีและไปด้วยกันได้ มีความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายแต่มั่นคง และพี่อิสคือคนคนนั้นของผมแล้ว พี่อิสเคยบอกกับผมว่า...

 

“กูเป็นคนรักอิสระ เพราะกูชื่ออิสระ”

 

ส่วนผมอยากบอกกับเขาว่า...

 

“ผมก็เป็นคนรักอิสระ เพราะพี่ชื่ออิสระ”

To be continued.
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: queenrulet ที่ 22-02-2017 00:03:56
รักพี่อิสแรงมากค้ะ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 22-02-2017 00:11:58
ประโยคสุดท้ายหวานมากกกก น้องปิงก็น่ารักขี้อ้อนขึ้นทุกวัน ทาสแมวก็งมงายไปสิคะ
จะแดกน้องละเนี่ย หยอดกันนิดหยอดกันหน่อย เขินกันไรกัน น่ารัก แล้วก็มีเฟิร์สคิสกันด้วย กีสสสๆๆ
น้อง 18 แล้ว กินได้พี่ #จับปิงใส่พาน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: gunghan ที่ 22-02-2017 00:13:42
ไม่อยากให้จบเลย
ขอแบบนี้เป็นเรื่อยๆได้มั้ย
ไม่ก็มีภาค 2 ต่อเลยนะๆๆๆๆ
:hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-02-2017 00:34:33
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: SiHong ที่ 22-02-2017 00:48:36
น่ารักมากกกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 22-02-2017 00:51:31
โชคดีของน้องปิงที่ได้เจอคนอย่างพี่อิสระ และได้พบความอิสระที่แท้จริง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 22-02-2017 00:57:01
จะบทส่งท้ายแล้ว แงงงงงง
คิดถึงพี่อิสแย่เลยอ่ะ
ฮึกกกก พระเอกกากๆ มีไม่เยอะ
พี่จะตราตรึงในใจ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 22-02-2017 01:21:55
ฮิ้วววว HAPPY สุดใจจจ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 22-02-2017 01:22:13
ไม่อยากให้จบเลยยยยฮือออ หลงรักความเท่ของพี่อิส กับความน่าร้ากกกของหลินปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-02-2017 03:11:44
ดีใจกับปิง หาที่ทางของตนเองเจอแล้วเนอะ อิสระที่คุณตามหา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 22-02-2017 05:36:55
หวานมาก
อยากรู้ความสัมพันธ์กับบ้านลุงป้า ก็ขาดกันไปแบบนี้เหรอ อยากให้รู้ว่าชีวิตปิงดีขึ้นแค่ไหน เมื่อไม่ต้องอยู่กับบ้านกากๆ ของตัวเอง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: manami1155 ที่ 22-02-2017 07:35:51
หลินปิงดาเมจแรงมากกกกก
จี้อ้อนสุด น่ารักสุด
พี่กากเอ้ย พี่อิสทนไหวได้งัยเนี้ย 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 22-02-2017 08:59:11
น่ารักกกกกกก แค่จูบแต่เราฟินมากกกกกกก
 :o8: :-[ :impress2:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 22-02-2017 09:04:09
อยากได้ตอนพิเศษพี่อิสกับปิงเยอะๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyMine104 ที่ 22-02-2017 09:40:05
น่ารักเกินไปแล้ววววฮือออออพี่อิสนี่ควรได้รับตำแหน่งทาสแมวแห่งชาติจริงๆเป็นคนเท่อะไรเบอร์นั้นดี๊ดี #พี่อิสเป็นคนตลก  :katai2-1:
ปล.เป็นนิยายที่อ่านแล้วใจเต้นแรงจริงๆ :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 22-02-2017 09:40:17
อยากอ่านไปเรื่อยๆ เป็นไปได้หมัยยยยย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 22-02-2017 10:02:12
โอ้ย บทจะหวานก็ทำเอาใจสั่น
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 22-02-2017 10:11:22
หวานกันในแบบสไตส์พี่อิสน้องปิงน่ารักๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 22-02-2017 10:27:45
ดีมากๆเลยอ่าาาาาาา  :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tulakom5644 ที่ 22-02-2017 10:41:41
โคตรดีอ่ะ!!!!!!! ชอบงานคุณรชาทุกเรื่องเลยค่ะ สนุกมากกกกกกกก แม้จะไม่มีฉากอัศจรรย์ใดๆ แต่เนื้อเรื่องมันอัศจรรย์และดีต่อใจตลอดทั้งเรื่องจีๆนะ 555555  :katai2-1: :z1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 22-02-2017 11:32:09
ตอนนี้มันดีกับหัวใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-02-2017 13:27:58
อื้อหือ สาดความหวานกันไม่ยั้งเลย อิจฉา
ชอบความเรียบ ๆ ง่าย ๆ ละมุนกำลังดีอย่างนี้ อ่านแล้วสุขใจ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 22-02-2017 17:17:05
โอ๊ยยยยยย ของดีแบบนี้ทำไมชั้นเพิ่งมาเจอ
ชอบอิสระมากค่ะ
น้องปิงก็น่ารัก

แต่ ขอโทษนะคะ เเอบสารภาพว่าหลงพี่ปริ๊นซ์อ่ะ
งุ้ยยยยยยย ชอบพี่ปริ๊นซ์มากกว่สพระเอกของเรื่องซะอีก 555555 มีความหลงน้อง มีความเต๊าะ มีความแม่บ้านแม่เรือน อยากได้ปริ๊นซ์จุงงงงงง :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 22-02-2017 18:43:15
ละลายยยย
พี่อิสคือทำดีมากกกอะ
ดีใจกับปิงๆที่ในที่สุดก้เจอที่ที่เรียกว่าบ้านซะที
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 22-02-2017 19:14:57
โอ๊ยยยยยย ปวดแก้มกับการยิ้มพร้อมกับอ่านเรื่องนี้มากก ดีงามเหลือเกิน   :-[  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 22-02-2017 19:21:46
ตอนนี้หวานมากค่ะ
แต่ความกากของพี่อิสคนเท่ยังมีอยู่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 22-02-2017 22:42:46
อย่าพึ่งจบไม่ได้เหรอคะ มันสั้นไปนะ ฮืออออออออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 22-02-2017 23:24:57
น้องปิงน่ารักจังลูกกกกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 22-02-2017 23:41:09
คือชอบมาก อิสระ มันแสดงให้เราเห็นถึงการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องตามใจใคร แต่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนไง
แล้วสิ่งที่ดีคือ แม้จะ อิสระ แค่ไหน แต่มันก็ยอมปรับเพื่อสิ่งอื่นได้ คือมันพริ้วไหว
ปรัชญาชีวิตแบบอิสระ เรื่องนี้ มันคือใช่
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ บทส่งท้าย 22-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 23-02-2017 00:00:18
บทส่งท้าย

 

อิสระ :

 

ติ๊ง!

ผมหยิบมือถือขึ้นมาดูหลังจากได้ยินเสียงไลน์ พลิกหน้าจอมาดูเห็นว่าเป็นลินา ส่งรูปตัวเองหน้าบึ้งใกล้ๆ หน้าจอคอมที่เปิดหน้าประกาศผลสอบรอบรับตรงมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาให้ดู

 

“ไม่ติด”

 

สั้นๆ ก่อนจะรัวสติกเกอร์หน้าบึ้งเหมือนหน้ามันมาอีกสิบกว่าตัว ลินากับหลินปิงคล้ายกันเรื่องหนึ่งคือการคลั่งไคล้สติกเกอร์ไลน์เป็นบ้าเป็นบอ โหลดกันเหมือนพ่อพวกมันเป็นซีอีโอไลน์คอร์ป ผมขี้เกียจพิมพ์เลยกดโทรออกหาน้องแทน พอรับก็ไม่รอให้พี่มันทักทายอะไร รัวมาเป็นชุดอย่างฟูมฟาย

“แง้! ไม่ติดอ่าพี่อิส ได้ไงอะ มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง! หนูเสียใจ! หนูเครียด! หนูจะบ้าตาย!”

“ใจเย็นๆ”

“ก็หนูไม่ติดอะ! ไม่มีที่เรียนต่อแล้วเนี่ย!”

“ที่อื่นก็มีไหม”

“ก็คาดหวังที่นี่มากนี่นา”

“ลองเลือกที่อื่นดู มันต้องติดสักที่แหละ”

“พี่อิสไปบนเก้าวัดให้หนูเลยนะ”

“พี่ให้สิบวัดเลย”

“เฮ้อ ค่อยสบายใจหน่อย ถ้าหนูสอบติดมาเลี้ยงชาบูหนูด้วยนะ”

“ได้ดิ เลี้ยงสิบมื้อเลย”

“เย้! งั้นแค่นี้ก่อนนะพี่อิส หนูต้องไปบอกพ่อแม่ก่อนว่าไม่ติด เตรียมหูชาได้เลย”

“จ้ะ ไว้คุยกัน”

“คิดถึงพี่อิสนะ”

“คิดถึงเหมือนกันค่ะ”

ผมกดวางสายจากลินา ก่อนจะหันไปมองไอ้สามตัวที่สามัคคีกันหันมามองด้วยหางตา คว่ำปากลงนิดๆ ด้วยใบหน้ากวนตีนจัด

“อะไรของพวกมึง”

“คุยกับน้องสาวนี่พูดเพราะ พูดคะพูดขาอย่างนั้นอย่างนี้ คุยกับพวกผมนี่ยังกะจะขู่กรรโชกทรัพย์”

“สร้างภาพฉิบหายเลยพี่”

“ก็นี่น้องสาวกู พวกมึงเป็นน้องสาวกูหรือไง ฮะๆๆ!?” ผมว่าแล้วตบกบาลพวกมันกันไปคนละที กระแนะกระแหนกูเหลือเกิน

“ปิงมาแล้ว” ไอ้ปรินซ์ว่าแล้วชี้ไปยังเด็กตัวขาวโอโม่หน้าตามึนเป็นแมวอดนอน วันนี้ที่โรงเรียนปิงมีงานปัจฉิมนิเทศ เลิกแค่ครึ่งวัน ผมก็เลยบอกว่าจะไปรับที่โรงเรียน แต่ก่อนออกจากบ้านเจอไอ้พวกนี้พอดี ก็เลยพากันตามมาด้วย

“ปิง!” ไอ้โอมตะโกนเรียก เมื่อเห็นพวกเราหน้ามึนๆ ก็เบิกตาโพลงเหมือนถูกปลุกให้ตื่นแล้ววิ่งหน้าบานเข้ามา

“พวกพี่มาได้ไงครับ”

“ก็มารับไง”

“ยินดีด้วยนะปิง จบม.หกแล้ว”

“ขอบคุณครับ”

ปิงเรียนจบแล้ว ผมก็ยินดีกับปิงด้วย แต่อีกใจกำลังกังวล ปิงยืนยันกับผมว่ายังไงก็จะเลือกเรียนต่อที่เชียงใหม่ ผมไม่อยากให้ไปเลย พูดตรงๆ แบบไม่เท่ ไม่ใช่ปิงที่ขาดผมไม่ได้ แต่ผมต่างหากที่ห่างน้องไม่ได้ หัวใจมันเรียกหาแต่ปิงอะ เข้าใจกันบ้างไหม

“ไปกินพิซซ่ากัน”

ไอ้สามคนนี้คุยกันตั้งแต่ตอนมาแล้วว่าจะชวนปิงไปกินพิซซ่า คนถูกชวนพยักหน้าหงึกๆ อย่างไม่มีปฏิเสธ ปิงไม่รู้จักเบื่อพิซซ่าทั้งๆ ที่กินบ่อยมาก อาทิตย์หนึ่งนี่ต้องมีสักมื้อที่ไปจบที่พิซซ่า กินจนกูจะพูดอิตาลีได้อยู่ละ แล้วขัดใจได้ไหมล่ะ กฎของทาสแมวข้อที่หนึ่งถึงร้อยคือห้ามขัดใจแมวไง

“พี่จอดรถไว้ที่ไหนครับ”

“หน้าโรงเรียนนู่น”

ไอ้ปรินซ์ว่าแล้วเดินนำไป ที่จริงผมตั้งใจจะพาปิงไปเที่ยวต่อ ไปหาไรกิน ไปกันสองคน ไปตามลำพัง แต่ไอ้พวกนี้เสือกมาด้วยเลยเสียแผนหมด ไม่รู้จะเขี่ยพวกมันทิ้งยังไงก็เลยตามเลย

“ใครให้ดอกไม้มา” ผมหันไปคุยกับปิง

“เพื่อนๆ แล้วก็รุ่นน้องด้วย อันนี้ช็อกให้” ปิงชูกล่องช็อกโกแลตให้ดู

“ใครให้นะ”

“ช็อกครับ”

“ปาทิ้งแม่ง!”

“เฮ้ย พี่อิส! ผมชอบกิน เก็บไว้กินสิ”

“มันมาให้มึงทำไมล่ะ”

“ช็อกก็ให้ทุกคนแหละ”

“เออ แล้วไป”

“หวงน้องเหลือเกินนะพี่มึง”

“หวงดิ”

“หวงแบบลุงหวงหลานน่ะเหรอ”

“พ่อมึงสิ! เจ้าของหวงแมวเว้ย!” ผมว่าแล้วยกมือคล้องคอปิง เกาคางให้เบาๆ คนตัวเล็กก็เคลิ้มเลย มันจะทำตัวคล้ายแมวไปทุกวันๆ ละ

“ปิง”

ผมหันขวับไปตามเสียงเรียก เมื่อเห็นว่าเป็นไอ้เด็กอันธพาลที่ชื่อไอ้ยิ้ม? ไอ้ยิม? ไอ้ห่าอะไรก็เหอะ! เห็นว่าเป็นมันผมก็ดึงมือปิงไปหลบหลัง ปิงชะโงกหน้าออกมาจากหลังผมไปหามัน

“มีอะไรเปล่ายิม”

“ขอคุยด้วยหน่อยสิ”

“กูไม่ให้คุย”

“แป๊บเดียวครับพี่”

“ก็คุยตรงนี้เลย”

“ผมอยากคุยกับปิงสองคน”

“กูบอกให้คุยตรงนี้เลย มึงจะเอาไง” สิ้นคำผมไอ้สามตัวที่มาด้วยก็ก้าวเท้าเรียงแถวกันเข้ามาเผชิญหน้ากับไอ้เด็กนี่

“ใครวะพี่” ไอ้โอมหันมาถาม

“ไอ้คนที่ชกหลินปิงหน้าแหกไง”

“มึงนี่เอง!” ไอ้ปรินซ์พรวดเข้ามาแล้วยกมือผลักอกไอ้เด็กนี่

“ทำน้องกูเหรอ!” ไอ้สองตัวที่เหลือเข้าไปร่วมด้วย

“เฮ้ยๆๆ พวกมึงใจเย็น!”

“เย็นอะไรพี่ มันทำปิงอะ พี่ยอมเหรอ!” ไอ้โอมหันมาเสียงดังใส่ผม ก่อนทั้งหมดจะหันไปมองหน้าไอ้เด็กนั่นอย่างเอาเรื่องจนกลายเป็นผมที่ต้องเอ่ยปากห้ามเอาไว้

“เฮ้ย พวกมึง ไม่เอา”

“อย่าห้ามดิพี่”

“นี่มันในโรงเรียนนะโว้ย พอๆ ไม่เอา”

“อย่านะครับพี่” ปิงเข้ามาห้ามตรงกลาง ไอ้สามหมาบ้านี่ถึงได้ยอมถอยออกมา ไอ้พวกนี้ ออกตัวแรงเกินเรื่อง นี่มันหลินปิงของผม พวกแม่งก็ปกป้องซะผมกลายเป็นดอกเห็ดไร้ประโยชน์เลยไอ้พวกบ้า! แย่งซีนกูหมด ลำบากต้องมาห้ามพวกมันทั้งๆ ที่ผมเองก็อยากเอาตีนยัดปากไอ้เด็กนี่สักที แต่ปิงไม่ชอบใจเท่าไรที่ผมมักจะใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาเสมอ ปิงเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับไอ้เด็กนี่แล้ว ผมก็เลยต้องเลยตามเลย

“มึงจะพูดอะไรก็พูดมา” ผมหันไปบอกกับไอ้เด็กนี่ที่หน้าเสียไปนิดหน่อย เจอแก๊งพี่ชายปิงเข้าไป ซีดเลยสิมึง

“ปิงคือ...”

“ว่ามาเลย” ปิงพูดเบาๆ ขณะที่ถอยออกมาเกาะชายเสื้อผมอย่างดูหวั่นๆ  ไม่ต้องกลัวนะลูก ถ้ามันพูดอะไรไม่ถูกใจหนู เดี๋ยวพี่สั่งกระทืบเอง ไอ้เด็กนั่นมองมาที่ผม ก่อนจะเลื่อนสายตากลับไปหาปิง

“ขอโทษ”

“ฮึ?”

“ขอโทษไง ที่กูแกล้งมึงตลอดเลยอะ กูขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไร”

“...”

“ไม่ได้โกรธอะไรแล้ว แล้วก็คงไม่ได้เจอกันแล้วด้วย ไม่เป็นไรหรอก”

“ขอบคุณมึงนะ แล้วก็ขอให้โชคดี”

“โชคดีเหมือนกัน”

ไอ้เด็กนั่นยิ้มนิดๆ ให้ปิง ปิงใช้มืออีกข้างโบกให้มันเบาๆ  บทสนทนาสั้นๆ จบลงง่ายๆ อย่างนั้น ก่อนปิงจะหันไปมองไอ้สามตัวที่ยังเดือดไม่หยุด

“มาสำนึกได้วันสุดท้าย สายไปเปล่าวะ” ไอ้โอมพูดขึ้นมา

“นั่นดิ สำนึกผิดจริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้”

“ถ้าพี่อิสไม่ห้ามนะ เละไปแล้ว”

“พวกมึงจะโมโหอะไรนักหนา มันคิดได้ก็ดีแล้วไง ยังดีกว่ามันไม่มาขอโทษปะวะ” ผมว่าแล้วตบไหล่พวกมันให้หันหลังเดินต่อ

“แล้วปิงอะ ไม่โกรธมันจริงๆ เหรอ” ไอ้ปอนด์หันไปถามปิง

“ผมโกรธใครเป็นที่ไหนล่ะครับ” ปิงพูดยิ้มๆ เขาเป็นแบบนั้น อยู่กับปิงผมเหมือนเป็นไอ้บ้าขี้โวยวาย ขณะที่ปิงจะเฉยๆ ไม่เคยโมโหใคร ปิงเลยเหมือนเป็นน้ำเย็นๆ คอยดับไฟให้ผมอยู่ตลอด ผมก็พยายามที่จะใจเย็นลงเพราะเขา แทนที่โตกว่าจะเป็นคนสอน แต่ผมกลับได้เรียนรู้อะไรมากมายจากน้องมากกว่า

 

เอี๊ยด!

“เฮ้ย!” เราทั้งหมดร้องลั่น ผมคว้าร่างปิงที่เกือบลอยไปโขกเบาะหน้าไว้ได้ทันจากการที่ไอ้ปรินซ์เบรกรถกะทันหัน เพราะมีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งปาดหน้าเราไป

“ขับรถยังไงของมันวะ!” ไอ้ปรินซ์โวยทันที

“มันจะรีบไปตายที่ไหน!” ไอ้โอมเสริมอีกคน

“แม่มันตายมั้ง!” ไอ้ปอนด์ว่าอีก

“มึงจอดเลย กูลงไปด่าพ่อมันให้!” ผมก็ด้วย

“ใจเย็นๆ สิครับ เขาไม่ได้ตั้งใจซะหน่อย”

เสียงใสๆ ประโยคเดียวของปิงทำให้พวกเราพยักหน้าเบาๆ  ก่อนไอ้ปรินซ์จะขับรถต่อไป ใจสงบเหมือนสายฝนชโลมความรุ่มร้อนในทรวง ไอ้ที่โมโหกันเป็นบ้าเป็นบอหายเป็นปลิดทิ้ง นี่แหละอำนาจแห่งหลินปิงละ

หลังจากกินพิซซ่าและเดินเล่นกันสักพัก ไอ้ปรินซ์มาส่งผมกับปิงที่บ้าน แต่พวกมันก็ยังไม่กลับ มาสุมหัวกันต่อที่บ้าน ไล่ก็ไม่ไปก็เลยต้องปล่อยให้มันอยู่ที่นี่ต่อ

“เออปิง พวกพี่มีของขวัญให้ด้วยนะ”

“ของขวัญอะไรครับ”

“ของขวัญเรียนจบไง”

“งือ...ที่จริงไม่ต้องก็ได้นะครับ”

“ทำมาแล้วไง เดี๋ยวไปเอาให้” ไอ้ปรินซ์ว่าแล้วหายออกไปข้างนอก พักหนึ่งก็กลับมาพร้อมเฟรมขนาดย่อมๆ ห่อด้วยกระดาษน้ำตาล ผมบอกกับพวกมันไว้เป็นอาทิตย์แล้วแหละว่าปิงจะเรียนวันนี้วันสุดท้าย งงเหมือนกันที่ไปเตรียมของขวัญอะไรกันด้วย ไอ้ปรินซ์นี่หลงปิงอย่างไม่น่าไว้วางใจ ฆ่าทิ้งก่อนดีไหม ถือว่าตัดไฟแต่ต้นลม

“อันนี้พวกพี่ช่วยกันทำ”

“ขอบคุณนะครับ แกะเลยนะ”

“แกะเลยๆ”

ปิงยิ้มนิดๆ แล้วค่อยๆ ฉีกกระดาษน้ำตาลที่ห่อออก เผยให้เห็นรูปวาดสีน้ำมันบนเฟรมผ้าใบเป็นรูปปิงกำลังยิ้มกว้าง เป็นภาพวาดแท้ๆ แต่เหมือนมีปิงอีกคนยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นเลย ปิงช็อกไปแล้ว ตาโตอ้าปากค้างเป็นแมวเห็นอาหารเม็ด แล้วหันกลับมาหาคนวาด

“เป็นไง ชอบเปล่า”

“ชอบครับ สวยมาก ชอบมากเลยครับ”

“แล้วพี่อิสอะ ไม่มีของขวัญให้น้องเหรอ”

“เลี้ยงพิซซ่าไปแล้วไง”

“โห่ ทุกงานเลยพี่เนี่ย เอาของกินเข้าแลก มันต้องมีของขวัญเป็นชิ้นเป็นอันบ้างโว้ยพี่ ไม่เท่เลยว่ะ”

“พี่อิสให้ของขวัญผมมาแล้วแหละครับ”

“อะไรเหรอ”

ผมเองก็หันไปหาปิง เอาจริงๆ ยังไม่เคยให้อะไรปิงเป็นชิ้นเป็นอันอย่างที่มันว่านั่นแหละ นอกจากมือถือเครื่องหนึ่ง ขนาดหน้าจอแตกยังไม่พามันไปซ่อมเลย แล้วนี่ไปให้อะไร...

“ความสุขไงครับ ให้มาเยอะเลย”

ปิงว่าแล้วยิ้มกว้างให้ หัวใจผมหลุดออกนอกอก ลอยออกนอกโลกไปจักรวาลไหนแล้วไม่รู้

“พูดดี! มาจุ๊บเหม่งที!”

ผมดึงหน้าผากปิงเข้ามาจุ๊บลงไปอย่างล้อเล่นสี่ห้าที อยากฟัดแต่คนเยอะ เดี๋ยวเก็บไว้ฟัดในห้องคนเดียวดีกว่า

“ฆ่าพวกผมให้ตายไปเลยเหอะพี่”

“เออ อยู่กันสองคนบนโลกนี้ไปเลย”

“เห็นปิงเป็นของพี่อิสแล้วกูปวดใจ กูไปดีกว่า ก่อนที่ไฟในตากูจะเผาบ้านนี้”

“กลับไปเลยไป กูจะได้อยู่กับปิงสองคน ไปชิ่ว!”

พวกมันอยู่คุยต่ออีกพักหนึ่งก็พากันกลับไป ปิงเข้าห้องไปอาบน้ำ ส่วนผมก็เดินหาที่เหมาะๆ ติดภาพที่พวกมันให้ปิงมา ก่อนจะเลือกตรงผนังระหว่างห้องผมกับห้องปิงที่ว่างอยู่ เจาะตะปูแล้วแขวนเอาไว้ ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในบ้านก็มองเห็นได้ ตัวจริงปิงไม่ค่อยยิ้ม ในภาพเลยดูมีความสุขมาก แค่มองก็มีความสุขตามแล้ว

ยิ่งอยู่ด้วยผมยิ่งหลง ปิงแม่งโคตรพอดีกับชีวิตเลย ผมตามใจใครไม่เป็นขณะที่ปิงไม่ใช่คนเอาแต่ใจ ผมไม่ชอบง้อใครขณะที่ปิงไม่เคยงอนอะไร ผมเป็นคนขี้รำคาญขณะที่ปิงไม่ใช่คนน่ารำคาญ เรื่องเดียวที่ปิงทำให้ผมลำบากใจ คือการที่เขาชอบทำตัวน่าฟัดตลอดเวลาแหละ...เรื่องเดียวเลย

ผมเดินเข้าไปในห้องปิง แมวน้อยกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำพอดี ยังไม่ใส่เสื้อด้วย เห็นร่างเล็กๆ ขาวๆ นิ่มๆ ตัวเท่าหางหมา ปีนี้ก็อายุสิบแปดแล้ว จบม.ปลายแล้ว ทำไมมันยังเหมือนลูกแพนด้าตะงุ้ยๆ อยู่เลยวะ ผมรอให้ปิงใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วเดินเข้าไปหา

“พี่อิส ทำไมยังไม่อาบน้ำอีก”

“หล่อ ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้” ผมว่าแล้วนั่งลงบนเตียง

“หล่อก็สกปรกได้เหอะ”

“เออ เดี๋ยวอาบ มานั่งนี่มา”

ปิงเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ แล้วเดินมานั่งข้างๆ ผม

“มีอะไรเปล่าครับ”

“เอาของขวัญมาให้”

“จะสำลักความสุขตายอยู่แล้วนะ”

“มีให้มากกว่าความสุขอีก”

ผมหยิบสร้อยเส้นหนึ่งในกระเป๋ากางเกงแล้วสวมให้ ปิงก้มมองสร้อยที่ผมสวมให้ก่อนมุมปากจะยกขึ้นนิดๆ แล้วขยับเป็นรอยยิ้มกว้าง ผมมองสร้อยคอกับจี้วงกลมข้างในเป็นเกสรดอกแดนดิไลออนที่สวมให้ ตอนแรกคิดว่าสร้อยจะยาวไป แต่มันพอดีกับคอเล็กๆ ขาวๆ ของปิงเลย

“สวยจังเลยครับ”

“แน่นอนสิ เลือกมาดี”

“ขอบคุณนะครับ”

แมวน้อยโผเข้ามากอด แขนเล็กๆ ยกขึ้นโอบคอผมเอาไว้ ก่อนจะซบหน้าลงมาบนไหล่ ใกล้จนผมได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากปิง ใกล้จนคิดอะไรไม่ค่อยออกเลย...อยากฟัดน้องมาก

“ผมรักพี่อิสมากนะ”

“แต่พี่อยากแดกปิงมากนะ”

“พี่อิส!” เขาโวยลั่นแล้วผละตัวออกจากผม

“ไม่ล้อเล่นนะเนี่ย”

“บ้าแล้ว”

“พี่จะไม่ทน”

“ม่าย!”

ผมทำได้แค่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะนอนลงบนเตียงแล้วจับปิงนอนลงข้างๆ ด้วย ปิงยังก้มหน้าลงไปยิ้มกับสร้อยคอที่ผมให้อยู่เลย ชอบจังเลยเวลายิ้มเนี่ย

ปิงไม่ค่อยยิ้มแต่ปิงทำให้ผมยิ้มได้ตลอด ปิงเหมือนคนไม่ค่อยมีความสุขแต่ปิงเป็นความสุขของผม เพราะฉะนั้นหน้าที่ของผมคือการทำให้ปิงได้รับเช่นเดียวกับสิ่งที่ให้ผมมา อยากทำให้ยิ้ม ให้มีความสุขไปด้วยกันเท่าที่จะทำได้

“คืนนี้พี่นอนนี่นะ”

“พี่อิสไม่ชอบนอนบนเตียงไม่ใช่เหรอ”

“คิดว่าไม่น่าจะได้นอน”

“กลับห้องไปเลยไป!”

“โห ล้อเล่น ไม่แกล้งๆ”

“แต่ผมรู้ว่าพี่อิสไม่ทำหรอก”

“ทำไม ไว้ใจ?”

“พี่อิสแก่แล้ว น่าจะไม่ไหว”

“เดี๋ยวจะโดน!”

“ล้อเล่น ไว้ใจต่างหาก”

“รู้จักพี่ดีพอแล้วเหรอ”

“ผมอยู่กับพี่มาตั้งนาน”

“รู้อะไรเกี่ยวกับพี่บ้างเหอะ”

“อืม...” ทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนร่ายยาวถึงความเป็นตัวผมเท่าที่รู้ออกมาให้ฟัง

“พี่อิสชื่ออิสระ พี่อิสมีรอยสักรูปดอกแดนดิไลออนตรงนี้” ปิงจิ้มเข้ามาที่ข้างลำตัวด้านซ้ายของผม

“พี่อิสถนัดมือซ้าย พี่อิสชอบแมว พี่อิสชอบกินนมเปรี้ยว พี่อิสชอบกินผัก พี่อิสชอบกินเหล้า”

ผมพยักหน้าตามสิ่งที่ปิงกำลังสาธยาย

“พี่อิสชอบดูหนัง พี่อิสไม่ชอบที่คนเยอะๆ พี่อิสชอบพูดคนเดียว แล้วก็...พี่อิสเป็นคนรักอิสระ”

“หมดแล้ว?”

“นึกไม่ออกแล้ว”

“มีอีกอย่างที่ปิงควรรู้ไว้นะ”

“อะไรครับ”

ผมเขยิบเข้าไปใกล้ๆ แล้วดึงปิงเข้ามากอดไว้หลวมๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู ด้วยประโยคที่เขาควรรู้เอาไว้

...

“พี่อิสรักปิงมาก”

 

 

-HAPPY-
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-02-2017 00:04:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนที่ 26] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 23-02-2017 00:11:56
ไม่อยากได้ยินคำบอกลา ฮื้ออออ  :ling1:
ปล.แอบสงสารพี่อิส เย่ก็อด น้องแอดติดที่เชียงใหม่อีก โถถถถถ พ่อคุณ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนพิเศษ-ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 23-02-2017 00:17:07
ขอลบตอนทิ้งนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนพิเศษ-ความในใจของช็อก] 22-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 23-02-2017 00:17:52
ขอลบตอนทิ้งนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-02-2017 00:27:05
 :L2: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: continued ที่ 23-02-2017 00:49:33
อิ่มเอมเลยค่ะ
ชอบในความกากของพี่อิส
มุกในเรื่องไม่แป้กสักมุก อ่านไปขำไป ไหลลื่นสุดๆ

ความรู้สึกเราอยากเดียวคือ ในเรื่องจบแค่เป็นแฟนกัน แต่จริงๆเราแอบอยากให้มันยาวกว่านั้น555
การเป็นแฟนกันมันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเอง นี่ปิงยังต้องไปเรียนเขียงใหม่ ไปเจอใครอีกเยอะ ก็เลยรุ้สึกไม่สุดเท่าไหร่
เพราะมันสุขนิยมไปหน่อย555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 23-02-2017 00:50:10
ถึงจะอ่านความในใจของช็อคไป ถึงจะเขียนให้ดูตลก แต่ก็เกลียดช็อคอยู่ดี จับปลาสองมือ ให้ความหวังคนอื่น
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-02-2017 00:53:40
 :L1: :L1: :L1:   ขอบคุณครับบบบบบ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 23-02-2017 01:13:07
น่ารัก พี่อิสกวนตีนเสมอต้นเสมอปลาย
ดูแลน้องดีดีนะ เราไว้ใจพี่
จะคิดถึงเรื่องนี้
<3
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 23-02-2017 01:31:09
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
ชอบในความกากของพี่อิส

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-02-2017 02:44:05
คนแบบนี้ในสังคมมีอยู่เยอะ แบบที่ดีไม่ทั่วจนเผลอใจอะไรแบบนี้อะ ก็เลยไม่ได้รู้สึกเกลียดช็อกมากมายอะไร คนเรามันมีทั้งดีและเลวปะปนกัน ความผิดพลาดมันมีได้ตลอดแหละ
** สงสารอิลุง ให้เฮียแกได้สมปราถนาหน่อยเถอะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: THiiCHA ที่ 23-02-2017 03:25:51
เลิกแรดนะช็อกนะ 5555555555

ปิงไปมช จริงดิ สงสารลุงอ่ะ ร่อนเร่จูงแมวเป็นวิญญานเฮี้ยนแน่ๆงานนี้ ขำมาก 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 23-02-2017 03:43:21
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกดีสุดๆ ชอบพี่อิสนู๋ปิงมาก สองคนนี้รู้สึกเป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ อบอุ่นหัวใจค้าบบบ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-02-2017 07:26:06
จะเลิกแรดได้เร้อช็อค
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 23-02-2017 07:28:37
เต็มอิ่ม อร่อย คุ้มค่ามาก *นิยายหรือตามสั่ง*  สนุกอ่ะ ชอบพี่อิสคนเท่ เท่แบบกากๆ  สมัยตั้งแต่บูรพาก็ชอบ ชอบตัวละครของรชาจริงๆ มีความชัดในบุคลิกดี ยีนส์เด่นสูงลิ่ว 5555  o13

รอติดตามไกด์ เรื่องต่อไป เอาจริง เดี๋ยวต้องแว้บไปรื้อฟื้นก่อน ไกด์ไหนในบูรพา?  *อินี่ก็จำได้แต่บูรพากับเหนือ ปลาทองชัดๆ*
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 23-02-2017 08:46:30
พี่อิสย้ายบ้านไปชม เลยค่ะ55555
ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 23-02-2017 09:11:27
อยากได้ตอนพิเศษใส่ไข่ ขอแบบลุงได้กินแมวก่อนไปเรียนเชียงใหม่ได้เปล่า
น้องปิงไปเรียนไกลอีกหลายปีกว่าจะเรียนจบ  ลุงแกคงจะ(เซ็กส์)เสื่อมพอดี

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆคลายเครียดเรื่องนี้นะคะ
รอติดตามเรื่องต่อๆไปนะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-02-2017 09:27:43
ขำ กร๊ากกกก กับความคิดพี่พิงค์  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
"เหมือนพวกขโมยกระเป๋าตังค์! คือไม่โอเค!"
ยังอีก  "พูดตรงๆ อย่าโกรธนะ เหมือนโรคจิตล่อลวงเด็กอ่ะ"
ส่วนความคิดของช็อก
ดูยังไงก็เหมือนพวกพกกัญชาอยู่ในตัวอ่ะ ต้องเป็นพวกแบกถุงปุ๋ยคุ้ยขยะแน่นอน
.......
"แล้วก็...ทรงผมคุณเท่ดีนะ"
"เฮ้ยจริงป่ะ เพิ่งตัดมากลัวจะไม่เข้ากับหน้า"
"ไม่ๆ โคตรดี เหมาะอยู่"
"เฮ้ยตาถึงว่ะ นี่โดนช็อกบ่นเรื่องสีผม"
งง ๆ กับพี่อิส พี่พิงค์ เพิ่งด่ากับ จะตบกัน แป๊บๆเอง
......
"รักแรกของผม เป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้จักที่จะรักใคร
ผมไม่คิดมาก่อนเลยว่าใจช้ำๆ ของผมมันจะรักใครเป็นแต่เขาสอนผม
สอนให้รู้ว่าการตกหลุมรักใครสักคนมันเป็นยังไง"
"เขาทำให้ผมรู้ว่าความสุขคืออะไร ทำให้ผมยิ้มแล้วก็หัวเราะอย่างที่ไม่เคยเป็น"
"ผมอยากขอบคุณเขา ขอบคุณที่มาทำให้ผมรัก ขอบคุณที่มารักผม
ผมอยากบอกรักเขาทุกวัน บอกให้เขารู้ว่าผมรักเขามากขนาดไหน"
"พี่อิส...พี่ต่างหากที่เป็นรักแรกของผม"

.....
"ปิงรู้มั้ยว่าโลกนี้ไม่มีใครเหมาะกับเราเท่าพี่อีกแล้ว"
"เพราะพี่เท่ไง จำไว้ว่าพี่อิสระคือคุณค่าที่ปิงคู่ควร  :z3: :z3: :z3:
แฮ่......เม้นยาวไปมาก ขออภัย
ขอบคุณไรท์ ทำให้คนอ่านยิ้ม หัวเราะ เบิกบาน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล.   ขอแก้ที่ผิดนะ
ช็อก ตอนแรกจะเขียนว่า ชอร์ค แล้วให้พ่อชอร์คเป็นครู ------ ชอล์ก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-02-2017 10:36:39
เป็นนิยายที่ฟีลกู๊ด แม้ชีวิตของปิงจะดราม่า(มากๆๆๆ)
ถ้าช็อกเลวกว่านี้อีกนิดนึง(การอ่อยอย่างนี้นับเป็นความเลวอย่างหนึ่ง)เรื่องคนดาร์กกว่านี้เยอะ


ซึ่งดีแล้วไปเป็นแบบนั้น :laugh:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 23-02-2017 12:31:50
ปิงอาจเป็นภาระและดูไร้ตัวตนสำหรับครอบครัวป้า แต่ปิงเป็นที่รักของทุกคนที่ได้ใกล้ชิด
ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ถ้าอยู่ในที่ ๆ เหมาะก็จะมีความสุขและให้ความสุขกับคนอื่นไปพร้อม ๆ กัน

แนะนำให้พี่อิสไปเปิดร้านกาแฟที่เชียงใหม่จะได้ไม่ห่างปิง
ขอบคุณสำหรับนิยายใส ๆ น่ารัก ๆ อ่านแล้วมีความสุขเรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 23-02-2017 13:34:54
แล้วหลินปิงจะไปเรียนเชียงใหม่ไหม
เค้าอยากรู้ :katai1:
แล้วพี่อิสจะได้เย่กับน้องไหม 555 :z1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 23-02-2017 14:37:45
สนุกมากกกกกกกกกก
ชอบมากอะ มีหลายอารมณ์มาก ทั้งหวานละมุน น่าสงสาร ตลกโปกฮา แต่มันกลมกล่อม
ถ้าเป็นอาหารก็คืออร่อยมาก

ขอบคุณผู้แต่งมากๆครับ ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับอีกคน
ชอบมากเรื่องนี้

อยากให้คนอื่นๆได้อ่านเรื่องนี้กันนะครับ
สนุกแน่ ไม่ผิดหวัง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 23-02-2017 15:15:57
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 23-02-2017 16:55:09
จบซะแล้ววว
เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราอ่านไปยิ้มไป หัวเราะดังๆไปเลยก็มี 555
ชอบพี่อิสมากกกก ชอบความกาก ชอบความไม่เท่แต่แอบเท่? 555 ชอบความอยากฟัดน้องใจจะขาด ชอบทุกๆอย่างที่สร้างคนๆนี้ขึ้นมา
น้องปิงโชคดีมากที่เจอพี่อิส เจอก๊วนแก๊งทั้งหลายที่เข้ามาสร้างความสุขในชีวิต แต่เหมือนสิ่งอื่นใดคงต้องอิจฉาพี่อิสที่มีแฟนน่ารักขนาดนี้
จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อไปนะคะ
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 23-02-2017 19:35:12
จบซะแล้ววววววววววววววววววว
ชอบคู่พี่อิสคนกาก อ่า ไม่แถมให้อีกตอนหราาาาาาาาาาาาาาา ฮ๋าๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 23-02-2017 22:13:10
 :3123: ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ ค่ะ ประทับใจมาก ๆ เลย

แอบอยากรู้ว่าพี่อิสจะสมหวังมั้ยอะค่ะ 5555+  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 23-02-2017 22:20:14
จบซะแล้ววววว
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ
รอตอนพิเศษ  :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 23-02-2017 23:22:33
เกลียดพี่อิสกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน 5555555555555 เราอ่านยังอยากฟัดปิงเลยค่ะ แนะนำพี่อิสเขียนหนังสือมุกตลกขาย แข่งกับบูรพาจะรุ่งมาก 55555555

ปล.เรารักช็อกนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [บทส่งท้าย+ตอนพิเศษ : ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 23-02-2017 23:26:52
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Parkaoms ที่ 24-02-2017 20:18:20
ชอบความกากของลุงอิสมากค่ะ 5555555555555555  :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 25-02-2017 07:06:08
รักเลยเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 25-02-2017 10:54:15
จบแล้วววอะ ต้องคิดถึงพี่อิสคนกากกับน้องปิงแน่ๆเลย
สนุกมากกกกกก ชอบคาแรคเตอร์พี่อิสมากก
คือเป็นคนกาก แต่ก้มีมุมคูลๆอบอุ่นๆ ดูแลปิงได้
และที่สำคัญคือชัดเจนมาก รักและหลงน้องจนเข้าขั้นคลั่ง
คือชอบบบบ ชอบหนักตอนไฝว้กะเนย คนจริง5555
ปิงคือน่ารัก น่าสงสาร ดูบอบบางแบบน่าปกป้องอะ
เหมือนแก้วบางๆที่จับแรงไปก้จะแตกอะไีแบบนี้
มีพี่อิสคอยปกป้องอะเหมาะสมมมสุดแล้วว
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-02-2017 12:34:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 25-02-2017 13:07:57
พี่อิสของน้อง บอกตามตรงหนูนึกว่าพี่จะเป็นผู้ชายที่เคร่งขรึม พูดน้อยต่อยหนัก แต่ความเป็นจริงคือลุงขี้บ่นนี่เอง หนูขอโทษที่หนูคิดผิดนะลุงนะ
พี่อิสคนหยาบทั้งกายทั้งใจ แต่ก็น่ารักจะมีใครที่ตื่นเช้าเพื่อมาทำอาหารให้เมียเด็กอีกคะ ไม่มีแล้วนอกจากคนนี้ เราขอสารภาพว่าตอนแรกเอนเอียงไปทางช็อกปิงแล้วค่ะ พระเอกของเราน่าตีจริงๆ ไม่ยอมทำคะแนนเลย เหมือนพี่อิสกับน้องปิงเขาเกิดมาเพื่อคู่กัน เหมาะสมยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยกอีก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่านนะค :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: larynx ที่ 25-02-2017 16:43:52
ดิฉันผิดคาดกับพี่อิสระมากๆเลยค่ะ เปิดมาอย่างคูลถอดเสื้อโชว์ไปดิพอเปิดปากพูดเท่านั้น เอ๊ะ...นี่ไม่ใช่แบบที่คิดนี่นา ชีวิตปิงน่าสงสารมาก แต่นิยายน่ารักกรุบกริบสุดๆ ชอบความกากของพี่อิสมาก พอเขากากเขาโนสนโนแคร์ปุ้ป ฉากที่เขาพูดกับเนยเนี่ย มันพีคมากกก มันกร๊าวใจน้องมากๆเลยค่ะพี่ /คลานเข่า 

ปล.จบจริงๆเหรอคะ ยังไม่ทันได้เย่เลยค่---  :katai4:

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 26-02-2017 01:51:34
จบแบ้ววว น่ารักเนอะ พี่อิสน้องปิง ความทาสแมวขั้นสุด น้องบอกรัก พี่บอกอยากแดกแย่ละ
มีแฟนเด็กต้องอดทน ขำตะงุ้ยๆ ของพี่อืส น่ารักมาก ความดูแลใส่ใจไม่มีใครเกินพี่อิส
น้องปิงก็น่ารักเกิน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 26-02-2017 02:39:26
ขอบคุณคุณรชาที่เขียนนิยายสนุกๆ เรื่องนี้มาแบ่งปันกันอ่านนะคะ อยากจะบอกว่าลังเลอยู่นานกว่าจะมาอ่านเรื่องนี้ได้ แต่พอได้อ่านแล้วกลับหยุดไม่ได้เลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย แม้เนื้อเรื่องจะไม่หวือหวามาก แต่ก็จับจุดสนใจของดิฉันไว้อย่างอยู่หมัด อ่านบทนี้แล้วต้องอ่านบทต่อไปให้ได้ ไม่อย่างนั้นจะลงแดงตายจริงๆ

ตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องก็เห็นจะเป็นอิสระกับน้ำปิงนี่แหละค่ะ ปิงเป็นคนที่เราคิดว่า ถ้ามีคนอย่างปิงในโลกมากกว่านี้ โลกของเราจะน่าอยู่มากขึ้นมากๆ เลยค่ะ นี่พูดในแง่ที่ว่าเป็นคนที่ให้อภัยคนอื่น และไม่ผูกใจเจ็บ และก็เป็นคนที่ใช้ความอดทนจนถึงที่สุดก่อนที่จะทนไม่ไหว นั่นแหละค่ะ...บางอย่างที่ไม่ควรทนน้องก็ไม่ทนเหมือนกัน สรุปว่าน้องน่ารักมากนะคะ มีบางมุมที่ดิฉันคิดว่าน้องไม่น่าจะทำอย่างนี้แน่ๆ เลย แต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง เพราะน้องทำให้เซอร์ไพรส์มากๆ เป็นตัวละครที่ดิ้นได้และมีมิติมากๆ ค่ะ และที่สำคัญ...ปมชีวิตอันหม่นหมองของน้องก็ทำให้เรื่องนี้น่าอ่านดีค่ะ โดยเฉพาะทำให้ดิฉันอยากจะวิ่งเข้าไปในนิยายเพื่อตบ ตบ ตบ ตบ คุณป้าของน้องปิงให้หน้าหงายเลย

ส่วนพี่อิสนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ นับว่าเป็นตัวละครที่ทำตัวได้หยาบคายแต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ดิฉันรู้สึกรักเขามากๆ ค่ะ คนเราไม่จำเป็นต้องแสร้งว่าเป็นคนอื่นเพื่อเอาใจใคร แต่เป็นตัวเองอย่างที่เราเป็นน่ะดีที่สุดแล้ว (แต่บางทีพี่แกก็ล้นๆ นิดหนึ่งนะคะ) มุกแต่ละอย่างของพี่อิสทำให้หัวเราะออกมาได้ค่ะ และ "ความเป็นอิสระ" ก็ทำให้อยากอ่านเรื่องของเขามากกว่านี้ อิสระกับปิงเป็นคนสองขั้วที่มาเจอกันแล้วทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่กลมกล่อมมากๆ เรียกว่ารสชาติเข้ากันได้แบบไม่กระดากลิ้นเลยสักนิด ที่สำคัญ...ดิฉันพ่ายแพ้ให้กับความทุ่มเทของเฮียแก เข้าใจหัวจิตหัวใจของพี่อิสแกเลยว่า การอยากจะทำให้ชีวิตของคนๆ หนึ่งดีขึ้นมานั้นเป็นอย่างไร และการที่ตั้งใจทำงานหามรุ่งหามค่ำเพราะอยากให้คนๆ หนึ่งมีชีวิตดีๆ นั้นสำคัญมากแค่ไหน ยกมือซูฮกให้พี่อิสระคนกากเลยค่ะ พี่ได้ใจน้องไปเต็มๆ

ช็อกเป็นตัวละครที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่ง และโมเมนต์ที่เขามีร่วมกับน้องปิงก็เป็นโมงยามที่ทำให้หัวใจหวั่นไหว เรียกว่าสั่นคลอนถึงขนาดอยากให้เขาเป็นพระเอกแทนพี่อิส แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่คลิกเท่าพี่อิส รายนั้นเรียกว่าเกิดมาเพื่อน้องปิงจริงๆ ดิฉันแอบคิดแล้วตั้งแต่ตอนแรกที่อ่านเจอว่าแฟนพี่พิงค์เป็นเด็กมัธยม เลยแอบทายว่าน่าจะเป็นช็อก...แล้วก็ไม่ผิดไปกว่าที่ทายไว้เลย ดีใจ อิอิ

ถ้าไม่พูดถึงคนๆ นี้คงไม่ได้ เพราะเป็นคนที่เข้ามาวุ่นวายในความสัมพันธ์ของพี่อิสกับน้องปิงอย่างที่สุด...เนย หล่อนเป็นตัวละครหญิงที่ได้อ่านคำพูดคำจาแล้ว ทำให้ดิฉันต้องอุทานคำหยาบคายออกมาว่า "อีสัด!" ซึ่งไม่ได้ใช้บ่อยนักกับการพูดถึงตัวละครสักตัวหนึ่งในนิยายเรื่องใดๆ ก็ตาม ยิ่งมาได้อ่านตอนหลังๆ ที่หล่อนต่อว่าน้องปิงว่า "คิดว่าชนะเหรอ" นั่นแล้ว ดิฉันก็กลอกตาบน และบึนปากเป็นจังหวะสามช่า โอ๊ย เพราะหล่อนคิดได้เท่านี้ไงถึงเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้! เฮ้อ เหลือเกินกับหล่อนจริงๆ

รู้สึกว่าจะยาวเกินไปแล้วสำหรับคอมเม้นท์ขอบคุณอันนี้ ตัวละครที่สร้างความสนุกสนานให้กับเรื่องนี้คือสามหน่อปรินซ์ โอม ปอนด์ ก็น่ารักค่ะ ชอบมุกที่โยนและรับกันอย่างช่ำชอง รู้สึกว่าเป็นมุมน่ารักๆ อีกอย่างของนิยายเรื่องนี้เลยค่ะ ขอบคุณคุณรชาอีกครั้งนะคะ ถ้าจะมีอะไรที่สมควรปรับปรุงอยู่บ้างในเรื่องนี้ก็คงเป็นความยาวของเรื่องค่ะ คืออยากให้ยาวกว่านี้ อ่านเพลินมาก อ่านแป๊บๆ ก็หมดแล้ว นี่ยังไม่จุใจเลยค่ะ กลายเป็นแฟนนิยายคุณรชาไปแล้ว เดี๋ยวจะขอตัวไปอ่านเรื่องบูรพากับองศาเหนือแล้วนะคะ

ขอบคุณค่ะ ^_______^

ป.ล. จริงๆ มีเรื่องอยากบอกอีกเยอะเลยค่ะ แต่ถ้ายาวกว่านี้ก็เกรงใจ เท่าที่เขียนไปนี่ก็ยาวมากแล้ว อ้อ...มีอีกอย่างที่อยากชื่นชมนะคะ คือคุณรชาใส่ใจกับการใช้ภาษาในเรื่องมาก เท่าที่อ่านมาแทบไม่เจอคำผิดเลย อาจมีบ้างที่ใช้ตามสมัยนิยม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ขัดอะไร สรุป ภาษาอ่านง่าย ทำให้ดึงดูดผู้อ่านเข้าไปในเนื้อเรื่องได้อย่างไม่ยากเย็น จะรออ่านเรื่องใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 26-02-2017 10:42:49
ขอบคุณนะสำหรับนิยายดีๆๆ ชอบมากก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Taohoo ที่ 26-02-2017 12:52:32
ขอมอบรางวัลนักเขียนยอดเยี่ยมแห่งปีให้คุณรชาไปเลยค่ะ คุณลงนิยายแบบไม่มีข้อแม้ ไม่ต้องรอคอมเมนท์  ให้เราได้อ่านนิยายยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้แบบต่อเนื่อง เนื้อเรื่องไม่ต้องพูดถึง 'สุดสุด' คำผิดแทบไม่มี (จริงๆแอบเจอคำนึง คำว่า 'ความสำพันธ์'
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Aor123 ที่ 26-02-2017 16:07:56
รักเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย มีครบทุกอารมณ์จริงๆ
คืออยากจะบอกว่าพี่อิสเป็นพระเอกที่ตามหาเลย กากๆ เกรียนๆ
ดิบๆเถือนๆ 555555 แบบน่ารักอะ คือคุณรชาเขียนพี่อิสออกมาได้กวน
จริงไรจริง มุกที่เล่นหรือการพูดคุย มันเหมือนสัมผัสได้ว่าพวกเค้า
มีตัวตนจริงๆ จับต้องได้ ไม่โอเวอร์เกินไป ชอบบบ
ส่วนน้องปิงก็น่าร้ากกกก น่าฟัด เปนนายเอกที่ไม่งี่เง่าเลย ไม่งอแง
ง่องแง้ง ชีวิตรันทดแต่ไม่ทำตัวให้ตัวเองหดหู่ ที่เป็นแมวน้อยขี้อ้อนนของ
พี่อิส 5555
สุดท้ายนี้อยากบอก อ่านไปอ่านมาสั้นจังเลยย อยากอ่านพี่อิสคนกากกับ
น้องหลิงปิงอิกอ่าา  :hao7: 5555 อยากให้มีภาค 2 จังเลยพลีสสส
อยากเห็นตอนน้องเรียบจบทำงาน ไปเที่ยว ไปนู้นไปนี่ ที่สำคัญ
ฉากนั่น  :oo1: ถ้ามีคงฟินบ้านพัง 5555 (แอบหื่นอิกช้าน)
สุดท้ายจริงๆ ขอบคุณคุณรชามากค่ะจะติดตามผลงานต่อไปจ้าา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 27-02-2017 01:01:28
 :man1:
อ่านจบแล้ววววว มันดีต่อใจมากๆ เลยอ่ะ
พี่อิสน้องหลินปิง โอ๊ยยย น่ารักอะไรขนาดนี้
ขอพี่อิสได้ไหม (โดนฟรีคลิกจากปิงๆ) 555+
ปล.1 ขอบคุณนะคะ สำหรับนิยายดีๆ ที่มีครบรส แหะๆ
ปล.2 ฉันไปหลงอยู่มุมไหนมา ทำไมเพิ่งเจอเรื่องนี้  :heaven
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 27-02-2017 21:31:15
จบแล้ว ชอบอ่ะ
 หลงพี่อิสมาก หล่อ บ้าบอ ติสอีกต่างหาก
เหมาะกัหลินปิงสุดๆ
อยากได้ตอนพิเศษด้วยอ่ะ อยากฟินกว่านี้อีก
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 27-02-2017 21:43:25
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ  :pig4:

แอบงงเรื่องยิม คนที่ทำให้ปิงปิงเกือบโดนพักการเรียน คนที่ไม่เคยแสดงทีท่าเสียใจในการกระทำของตัวเอง อยู่ดีๆมาขอโทษ มันดูไม่สมเหตุสมผลอ่ะจ้า

แอบงงตอนจบด้วยนิดนึง เจ๊ไม่เข้าใจความคิดของปิงปิง เลือกไปเรียนเชียงใหม่แล้วจะยังไงกับพี่อิสต่อ? ฐานะและเวลาทำงานของพี่อิส มันไม่อำนวยให้คบระยะไกลนะจ๊ะหนู
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: hunhan ที่ 28-02-2017 03:54:51
พลาดไปได้ไงวะกับนิยายเรื่องนี้ ฮื่อออ อยากได้หลินปิงมากอดจังเลยคร้า ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วยย เขินมากกก พี่อิสระเป็นพระเอกที่เพอเฟคสุดตั้งแต่เราอ่านนิยายมา อิมเมจทุกอย่างไม่ได้เว่อร์เกินไป ตรงใจมากๆแถมยังเป็นคนกากด้วยยย555 ขำ อย่างที่บอกคนกากก็มีหัวใจนะเว้ย เรามันคนกากแล้วก็หลงรักคนกากแบบพี่อิสระไปแล้วโว้ยย พี่แม่งเทห์ได้ใจ ทำไงหลงรักนางแล้ว555 อ่านแล้วอิมเมจพี่ช่างเหมือนพี่ซันนี่อย่างกะอะไร ฮืออ อยากไปแย่งพี่อิสมาจากน้องหลินปิง หมั่นเคี้ยว จับกด555 สุดท้ายอยากบอกว่ารักเรื่องนี้มีทุกรสทุกอารมณ์ทำให้เราเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมาก ขอบคุณจริงๆที่แต่งนิยายดีๆให้อ่าน และอยากบอกว่าขอโทษที่มาช้าไป อยากเม้นแบบทุกตอน อยากตบคนกาก ข้อหานอกใจเราไปคบหลินปิง ไม่ใช่และ
สุดท้ายจริงๆอย่างบอกว่าเกลียดคนแบบช็อค//ค้อมหัวเบาๆ555 สงสารพิงค์ แต่ก็นะว่าอะไรไม่ได้ เพราะเรารักพี่อิสระ กร๊ากๆไปหละ555 ไว้คิดถึงจะกลับมาอ่านอีกรอบ อิอิ รักกก :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: gunnk16 ที่ 28-02-2017 22:14:10
ชอบมากกกกกก มาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบละมีความสุข
ชอบนิสัยคุณลุงมากกก นึกถึงคุณลุงในซีรีย์ก็อบลิน55555555

:hao5: :hao5: :hao5:

หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 01-03-2017 00:29:13
ขอบคุณที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ อ่านจบแล้วหัวใจเป็นอิสระปิงเลย  555555555 ถึงพี่อิสจะจัญไร  แต่หัวใจพี่เท่มาก   :3123:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: praewp ที่ 01-03-2017 15:22:07
ประทับใจๆ ติดดาวให้เลยเรื่องนี้ ⭐⭐⭐⭐⭐
สนุกมาก ขำตรงน้องแอดติดมช.อ่ะ 555+
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 01-03-2017 23:37:12
ซื้อหนังสือแน่นอนค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: basanti ที่ 02-03-2017 11:04:57
ปกติไม่ค่อยชอบพระเอกห่าม ๆ กาก ๆ เท่าไหร่ แต่มาเจอพี่อิสนี่รักเลย กากได้น่ารักมาก

รักหลินปิงด้วย ชอบตัวละครทุกตัว ขอบคุณรชามากค่ะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-03-2017 14:25:08
โอ้ยๆ ทำไมผมเพิ่งเห็นเรื่องนี้  อ่านจนจบเลย
ชอบทุกตัวละครมากๆๆ  ปิง พี่อิส ช็อก
เอ่อ..พี่ปริ๊นซ์ด้วย พี่แกออกมาบางตอนแต่ก็น่าค้นหานะ เหมือนจะมีอะไร 555+

เป็นนิยายที่ครบทุกรสเลย ฉากฮาๆ นี่ตลกมาก อ่านละขำอยู่คนเดียว ขำพี่อิสมาก 555+
พอตอนหน่วงๆ ดราม่า ก็เล่นเอาน้ำตาซึมเหมือนกันนะ ขอบคุณคนแต่งมากๆนะครับ


รอเรื่องต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: palm-metto ที่ 02-03-2017 21:29:37
หู้ยยยย เรื่องนี้ดีมาก ชอบมาก
ครบรส ทั้งดราม่า ทั้งความกากของพี่อิส

แรกๆแอบสงสาร น้ำตาซึมเลยด้วยตอนที่หลินปิงโดนกระทำ แต่พอมีพี่อิสมาช่วย กลายเป็นว่าฮาแตกกลับความกากของพี่อิสแทน
ผชอะไรกากได้ขนาดนี้ แต่เค้าก็รักปิงอ่าเนอะ

เพิ่งเคยอ่านเรื่องของคุณรชา ชอบมาก จะพยายาม หาเรื่องอื่นๆติดตามไปเรื่อยๆนะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 03-03-2017 04:17:34
เราชอบเรื่องนี้มาก  :mew1: พระเอกดูไม่ค่อยอะไรไม่เถื่อนไปแต่หยาบคายมาก55  :laugh: เป็นพระเอกนิยายที่ไม่มีซิกแพค คือแบบ..โอเคเลย มีพุงให้ฟัด555 ส่วนปิงเราชอบอะ ไม่ได้ดูใสแบบเด็กเกินไป อ่านไปเพลินมากกกกกก   :z2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: MONsDAY ที่ 03-03-2017 19:29:30
เรืองนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ
ชอบน้องปิง รังลุงอิส 555555
แต่แอบหมั่นไส้ช็อกเล็กน้อย

ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 03-03-2017 22:23:24
เห็นมีคนแนะนำ (อีกแล้ว)
เลยตามมาอ่านค่ะ ตอนอ่านไม่รู้เลยว่าเป็นคนเขียนเดียวกับบูรพาและองศาเหนือ คือตอนนั้นก็เห็นแนะนำเลยเข้าไปอ่าน
ปรากฏอ่านรวดเดียวจบชอบมาก พอมาเรื่องนี้ ลงอีหรอบเดิม อ่านรวดเดียวจบและชอบมาก
ชอบความเท่ ความเถื่อน ความถ่อยของพี่อิส ( นี่ชมหรือด่า?)
ชอบความสัมพันธ์ในเรื่อง ความกามแต่ทะนุถนอมของพี่อิส ความลุง ความคุยคนเดียว ความแก่ของพี่อิส (ชมหรือด่าอีกแล้ว?)
พี่อิสไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ทำให้ด่าเป็นชมชมเป็นด่าได้ ต้องยกให้พี่อิสจริงๆ
และปิงก็เหมาะกับพี่อิสมาก พี่อิสก็เหมาะกับปิง อ่านแล้วอิ่ม รู้สึกดีค่ะ  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Nuclear ที่ 04-03-2017 00:00:53
เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่น่ารักมากกก..   :mew3:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆแบบนี้นะคะ #รักอิสระ #รักน้ำปิง

ไว้จะติดตามสำหรับเรื่องต่อๆไปนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: psyche ที่ 04-03-2017 00:07:33
ตอนที่อ่านไม่ได้ดูชื่ิอคนแต่งนะ อ่านๆไป สนุกอะ พี่อิสมีความแปลก เกรียน มาก 555 พอตอน 3 ต้องดูชื่อคนแต่งละมาทำเราติดใจ อ้าว คุณรชา แห่งบูรพา องศาเหนือ  มันคือใช่ชอบงานเขียนคุณมาก หลินปิงน่าสงสารนะ แต่อ่านๆไป ความหยาบ ความลุง ของพี่อิสทำให้ หลินปิง ดูมีความทะเล้น เฮฮาในตัวเอง 555 เราชอบอะ   รออ่านผลงานชิ้นต่อไปนะคะ
พี่อิส ฉีกความเป็นพระเอกนิยายมาก มีความซกมก เกรียน หยาบ ปากหมา แต่ก็นะ อบอุ่นกับหลินปิง หลินปิงชีวิตดราม่าแต่เข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ เราชอบนายเอกแบบนี้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 04-03-2017 00:34:56
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: miniheartz ที่ 04-03-2017 01:29:30
ชอบมากกกกกกกก
อ่านจบแล้วมีแต่รอยยิ้ม ชอบความกากของพี่อิส
รู้สึกว่าพี่อิสมีความเรียลมาก
ขอบคุณนะคะที่แต่งนิยายสนุกๆแบบนี้มาให้พวกเรา

แต่ติดอยู่เรื่องนึง มันตะหงิดๆสงสัยในใจ555
คือตอนช็อคโพสรูปคู่กับนุ้งปิง พี่พิงค์จะไม่เห็นเลยเหรอว่ารู้จักกัน ได้แค่สงสัย55
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: order66 ที่ 04-03-2017 02:59:55
น่ารักๆๆๆๆๆ ปิงโครตน่ารักเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: sine ที่ 04-03-2017 03:19:15
เห็นในทวีตค่ะเลยตามเข้ามาอ่าน  แล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
แม้จะมีเรื่องครอบครับดราม่า (เราอ่อนไหวกับประเด็นนี้มากเลยค่อนข้างอินเบอร์ใหญ่555)
แต่ปิงเป็นเด็กที่เข็มแข็งมาก....แต่เข็มแข็งจนกลายเป็นด้านชาไปคงน่าสงสาร  ดีที่ปิงได้เจอพี่อิสทันเวลานะคะ
พี่อิสคนกาก ในความทะลึงตึงตังดูไม่เป็นโล้เป็นพายแต่ผู้ชายคนนี้กลับทำให้หัวใจรู้สึกอบอุ่น
คิดอะไร  รู้สึกอะไรก็พูดก็แสดงออกอย่างนั้นสมกับทั่ชื่ออิสระจริงๆ  นั่นแหละที่เหมาะกับเด็กอย่างปิง
เติมเต็มกันและกันในส่วนที่ขาด
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขค่ะ
ขอบคุณมากที่แต่งเรื่องราวดีๆออกมานะคะ
รออุดหนุนรูปเล่มค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 04-03-2017 05:22:17
คือดีงามขั้นสุด ชอบมาก แบบมันพอดีกำลังกรุบกริบ นี่แหละที่ต้องการ :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 04-03-2017 09:52:56
ดำเนินเรื่องดีมากค่ะ ชอบตัวละครมากคือมีเอกลักษณ์และเราว่ามันดีชอบลุงอิสระเพราะความเถื่อนกากแต่อบอุ่นขัดแย้งในตัวมาก ชอบน้ำปิงตรงที่เป็นคนคิดบวกรู้สึกอย่างนั้นเป็นเราคงไม่เย็น ชอบที่ทุกตัวละครเป็นอะไรที่พูดตรงไม่อ้อมคัอมให้ดราม่าหรือขัดอารมณ์ ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้มากเลย ป.ล.ชาตินี้ลุงอิสจะได้เย่หนูปิงรึเปล่าเนี่ยน่าสงสารจริงๆ555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 05-03-2017 12:27:04
เป็นเรื่องที่เรื่อยๆแต่มีอะไรอะ ชอบนะ

ชอบพี่อิสมากกกกกกกกกกกด้วย เป็นตัวของตัวเอง แต่พยายามทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อคนที่เรารัก o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 05-03-2017 18:37:00
พี่อิสนี่มันพี่อิสจริงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: fanglest ที่ 05-03-2017 19:39:18
เรื่องเรื่อยๆ แต่ สนุกดีค่ะ
พี่นี่แบบเลี้ยงเด็กไว้กินเอง 5555
สู้ๆนะคะ สร้างสรรค์ผลงานมาอีกเยอะๆน้าาา
แต่งดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 05-03-2017 22:16:34
ชอบพระเอกแบบนี้  หายาก กากด้วยฮาด้วยเท่ห์ด้วย
อยู่ในคนเดียวกัน พี่อิสพี่จะฮาไปไหน รักน้องหลินปิง
อ่านรวดเดียวจบหลินปิงมีความใจดีมันดีต่อใจ #ได้หมด
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 06-03-2017 21:32:55
น่ารักมากเลย่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 07-03-2017 16:52:57
กรี๊ดดดดดดดดดด คือดี คือรัก คือชอบบบบบ :sad4: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 07-03-2017 17:15:15
พี่อิสตายแน่ น้องแอดติดที่เชียงใหม่
ลงแดงแน่ 555+
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 07-03-2017 19:57:02
เรายังอ่านไม่จบ แต่เราไม่ชอบคนชื่อเนยมากๆๆๆๆๆ
ทั้งในนิยายและในชีวิตจริง   :z6: :beat:
อุ๊บบ!!!
เดี๋ยวอ่านจบมาเม้นอีกรอบ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 08-03-2017 01:06:56
หลงหลินปิง น่ารักจนลุงดูไม่คู่ควรไปเลย ก็ลุงดูโฉด คิคิคิ เป็นพวกเถื่อนๆแต่แพ้ของน่ารักสินะ
ชอบพระเอกแบบลุง แบบที่ไม่ได้ดูเพอร์เฟก ไม่ได้ดูเป็นพระเอ๊กพระเอก
ลุงธรรดา จนเชื่อตามได้ว่าคนแบบลุงมีอยู่จริง มีดีบ้างไม่ดีบ้าง มีพระเอกเรื่องไหนจะตบผู้หญิงแบบไม่ห่วงมาด ไม่คีพลุคสุภาพบุรุษใดๆทั้งสิ้น (ที่จริงอยากให้ลุงตบ ฮ่าๆๆๆ)
ส่วนคนแบบอิน้องช็อคก็เคยเจอเหมือนกัน แรดไปทั่ว

รักอิสระ รักหลินปิง ขอบคุณเรื่องน่ารักๆ
ปล.อยากรู้พอเด็กไปเรียนแล้วลุงจะทำไง แมวแพนด้าไม่สงสารลุงบ้างหรอ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Haruya ที่ 08-03-2017 09:51:06
อ่านตอนแรกสงสารปิง T^T
แต่หลังออกจากบ้านมาก็ดีขึ้น

ช็อคอะทำเหมือนชอบปิง ฉันยังเข้าใจงั้น ปิงไม่เขจ้าใจงั้นสิแปลก
สนุก น่ารกค่ะ แต่งดีขึ้นกว่าเรื่องแรกมากเลย เรื่องแรกก็สนุกนะ แต่เรื่องนี้ดีขึ้นไปอีก  :katai2-1: :mc4:

เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: @Iriz ที่ 08-03-2017 16:38:26
เป็นเรื่องเรื่อยๆไม่หวือหวา แต่อ่านแล้วยิ้มได้และมีความสุขทุกตอนเลยค่ะ
ชอบพี่อิสคนกากและน้องปิงมาก ชอบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ขอบคุณคนแต่งมากๆนะคะ :กอด1:  :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 08-03-2017 23:11:13
สนุกมากกกก ชอบพี่อิสระมากๆเลย ปิงๆก็น่ารัก เป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก อ่านเพลินดี

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mjpnta ที่ 09-03-2017 03:03:26
นิยายสนุกมากกกกกก คนเขียนเก่งมากเลยค่ะ ไม่มีตรงไหนขัดใจเลย
รักพี่อิสมากเลยอะ พี่อิสคนดี น้องปิงก็น่ารัก ถึงจะเจอแต่อะไรร้ายๆแต่น้องก็ยังเป็นคนดี
แล้วทุกเรื่องที่ผ่านมาในชีวิตจะทำให้หนูแข็งแกร่งนะลูก
โอ้ยยยชอบบบมากๆๆๆ อยากอ่านตอนพิเศษจังเลยค่ะ ถ้าคุณคนเขียนจะกรุณา แหะๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 10-03-2017 23:35:47
เราเข้ามาอ่านเรื่องนี้เพราะเห็นคนแนะนำกันมาเยอะ และก็ไม่ผิดหวังค่ะ พี่อิสคนกากโคตรกากเลย 555555 หลินปิงน่ารักกกกก เข้าใจอารมณ์ลุงอิสรักน้องหลงน้องขั้นสุด เห็นแล้วหมั่นเขี้ยวอยากจะฟัดตลอดเวลา พล๊อตเรื่องวางมาดีนะคะ ตัวละครมีเสน่ห์น่าสนใจค่ะ อยากให้เนื้องเรื่องยาวกว่านี้อีกจัง เรารู้สึกยังไม่เต็มอิ่มเลย //ติ่งหลินปิงน้อย  :-[   อยากอ่านตอนพิเศษอีกเยอะๆเลยค่ะ เจอกันในเล่มด้วย เราจัดเรียบร้อย เลิฟๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ice-cream ที่ 11-03-2017 22:24:53
สนุกมากกกก ฮามาก ชอบความกาก ความเล่นใหญ่ของพี่อิส ชอบน้องปิงผู้ใสซื่อ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: heyguy ที่ 12-03-2017 14:16:22
โอ้ยยยย เรื่องนี้ก็ดีอีกแล้วค่ะ มีความตะงุ้ย ได้ครบทุกรสชาติ สุข เศร้า สงสาร ซึ้ง และรัก
พี่อิสระเป็นคนตรรกะแปลกแต่มีทัศนคติที่ดี ถึงปากจะร้านแต่รักน้องมากนะบอกเลย
น้องหลินปิงของพี่นั้นก็น่ารักถึงป้าจะเลวทรามยังไงยังครองตนประพฤติชอบตลอดเวลา ปรบมือรัวๆ

ขอบคุณคุณรชา ที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้มาให้ได้ชื่นชม บอกตามตรงว่าตามมาจากบูรพากับองศาเหนือที่อ่านจบไปเมื่อคืน
ชอบแนวการเขียนมากเลยค่ะ ขอบคุณที่สร้างสรรค์ผลงานที่ดีและมีคุณภาพแบบนี้นะคะ
สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [ตอนพิเศษ-ความจริงในใจของช็อก] 21-02-17
เริ่มหัวข้อโดย: jarqqq ที่ 12-03-2017 21:00:04
แง่มๆ เราตามมาจากน้องเหนือ แล้วก็อ่านเรื่องนี้รวดเดียวเช่นกัน  :katai5:
หลงความตลกของอีพี่อิส หลงความกากมากๆแต่มีความใส่ใจน้องสุดๆของนาง
ใส่ใจทุกรายละเอียดเสียจริง คนแบบนี้เป็นใครใครก็รัก ถึงแม้จะทะลึ่งตึงตังไปหน่อย555
เรารอเรื่องต่อไปอยู่น้า เราชอบนิยายแบบนี้มากกก
คนเขียนสู้ๆต่อไปนะคะ  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 12-03-2017 21:06:50
 :กอด1:

ตามมาจากกระทู้แนะนำ  ไม่ผิดหวังเลย อ่าน 2 วันจบ  เอ๊ะ...เหมือนจะนาน ถ้ามีเวลาก็จะรวดเดียวจบ

ชอบความเป็นพี่อิสคะ  มีสไตล์เป็นของตัวเองมาก และมีความเป็นคนจริงๆ มาก
และชอบช็อกมาก เราเข้าใจตรงความใจดีของช๊อก 555+ แต่ชอบมากตรงที่บอกปิงไปอย่างตรงๆ ซื่อสัตย์กับสถานะและความรู้สึกมาก  (ดีใจแทนพี่พิงค์)

จะติดตามอ่านเรื่องต่อไปนะคะ

ขอบคุณ คุณคนแต่ง ที่แต่งนิยายดีๆ มาให้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Gottomon ที่ 12-03-2017 21:27:34
สนุกมากกกกกค่ะ โคตรๆ แบบอ่าน2 วัน ถ้าวันหยุดนะ อ่านรวดเดียวจบแน่นอน สนุกมากๆค่ะ
ทั้งดราม่า ทั้งความเอ๋อ ความฮา ครบมาก อิพี่อิสนี่ อ่อยจนไร่อ้อยโล้นละมั้ง
อิตอนที่นางบอกคิดถึง โอ้โห แทบจุดพลุฉลอง นางรุกแล้วโว้ยยยย เยส! ดีงาม
นึกว่าจะให้ตำแหน่งกับช็อคซะละ 555

มีหลายตอนเสียน้ำตาให้ดราม่าชีวิตหลินปิงน้อย รันทดสุด แต่ในใจคิดเหมือนคนเขียนเลยค่ะว่า
อิยิม นางคือบุคคลสำคัญ ผู้เป็นลิงค์ให้ปิงกับคนอื่นๆ ถึงนางจะโดนเกลียดทั้งเรื่องก็เถอะ 5555

ตอนที่ช็อคมาทำดีกับปิง ใจก็คิดว่าคงชอบปิง ดันไปทำให้ต่อมสับสนปิงปะทุ ดราม่าก็มาเลย
อันนี้ตำหนิช็อคนิดนึงเพราะสงสารพี่พิงค์ (สงสารหนักกว่าเดิมเพราะดันไปเรียกพี่แกว่าพี่พิ้ง) คือการที่มีแฟนแล้ว
ไปเฟรนลี่กับคนอื่นเกินไป มันก็ไม่ต้องมีหรอกแฟนอะ ถ้าจะดีไปทั่ว ดีนะ พี่พิงค์ไม่ฆ่าปิดปากอะ แถมพี่พิงค์ยังใจดี
ห่วงหลินปิงด้วย

ชอบจังเลยค่ะ อยากอ่านนิยายสนุกๆแบบนี้ทุกวันเลยอะ สนุกจริงๆ แบบต้องอ่านต่อเนื่องเลยทีเดียว เก่งสุดๆเลยค่ะคนเขียน
จะรอติดตามผลงานต่อไปเรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ สนุกๆ ที่เขียนขึ้นมาให้อ่านนะคะ เลิฟๆค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 14-03-2017 07:22:50
สนุกมาก ๆ ค่ะ น่ารักมากกก บทดราม่าก็น้ำตาซึมเลยยย ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 14-03-2017 14:09:14
 :pig4: :pig4: :pig4:
รักเลย
น้องปิง&พี่อิส
 :L1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: WASAWATTE ที่ 14-03-2017 22:17:40
อื้อหือออ อ่านแล้วอินดราม่าในช่วงแรกมาก ยอมรับว่าแอบน้ำตาซึม
หลินปิงคือน่าสงสารมาก เกลียดอีป้ามาก หงุดหงิด 555555
อีพี่อิสตอนแรกออกมากำลังจะประทับ แต่ที่ถอดเสื้อให้ปิงไปซักให้เนี่ย ถ่อยมาก
แต่จริงๆ แล้วคือ อ่อยเบอร์แรงใช่ป่ะ อ่านไปๆ ชอบช็อกมา นางน่ารัก
ลุงซึนเกิน ไม่อิน พอหลังๆ มาอิลุงทำคะแนนดีมาก แล้วก็หมั่นไส้อีช็อกแทน หึหึ
อยากให้ลุงอ้อนปิงเยอะๆ มาดลุงแกถ่อยแต่เวลาอ้อนแล้วน่ารักดี
ลุ้นตอนฉากปิงขอฟัดพุงมาก ว่าจะมีไรมากกว่านี้รึเปล่า  :m17:
พอจบแล้วก็โอเค ไม่ผิดหวังเลย ตามมาจากกระทู้แนะนำนิยาย ซึ้งจิต ชอบๆๆ
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 15-03-2017 01:21:14
ดีใจที่ได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้
ชอบพี่อิสคนกากมากกกกกกก กากแต่ก็น่ารักที่สุด
ปิงก็โคตรรรรร น่ารักน่าฟัด
เป็นคู่ที่เข้ากันได้ดีที่สุดเลยจริงๆ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 15-03-2017 03:16:56
อ่านรวดเดียวจบ คือน่ารักมากกกก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 15-03-2017 14:18:11
ของเค้าดี งานดี น่าร๊ากกก :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mayachiwit ที่ 15-03-2017 19:00:55
โอ๊ย..หลงรักพี่อิสคนกาก คนปากหมา คนบ้าแต่เท่ที่สุด ใจดีที่สุด และรักน้องแมวหลินปิงที่สุด
 คนเขียนเก่งมาก เทพมาก ชอบสำนวน ชอบมุข ทั้งฮา ดราม่า หวานแบบมึนๆ มันครบมาก ยก
 ให้เป็นหนึ่งในนิยายเรื่องโปรดของเราไปแล้วตอนนี้ ขอบคุณมากนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: CChompu ที่ 16-03-2017 00:05:13
ชอบคาแรคเตอร์พี่อิสมากค่ะ ดูเป็นคนเถื่อนๆ ธรรมดาๆ แต่มันน่ารักมาก
หลินปิงก็ธรรมดา แต่ก็น่ารักมากเข่นกัน มันน่ารักลงตัวแบบพอดีมากค่ะ
ดราม่ากำลังพอดี (ถึงแม้จะเบื่อข้าวฟ่างมากก็ตาม)
ชอบทั้งคู่เลย รักเรื่องนี้จังค่ะ ตามอุดหนุนแบบรูปเล่มแน่นอนค่า
 :-[
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Zoe204 ที่ 18-03-2017 02:05:40
สนุกมากกก ชอบพี่อิสคนกากมากๆ เป็นกากที่โครตเท่
ปล.มีแอบๆงงท้ายๆเรื่องนิสนุง ไหงอยู่ดีๆ อิยิมมันเกิดสำนึก
มาขอโทษหว่า และอีกเรื่องที่งงมากก อยากทราบว่า
อิน้องปิงจะไปเรียนที่เชียงใหม่เพื่อ!? เราไม่เข้าจายเธอ
เลยเจรงงงงงงๆ
:katai1: :z3: :ling1:
ปล.2 รักคนเขียนมากๆๆๆๆ เลยนะคะ ชอบสไตล์ การเขียน
ของคนเขียนทุกเรื่อง มันพอดี ลงตัวไปหมดทุกอย่าง
สุดท้ายนี้ ถ้าตัวได้อ่าน วอนขอตอนพิเศษ ของน้ำปิงกับ
พี่อิสคนกากอีกสัก 4-5 ตอนนะคะ เอิ๊กๆ
 :pig4: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: BaZkon ที่ 18-03-2017 17:21:34
มันน่ารัก มันดีค่ะ ชอบความกากพี่อิสมากจริงๆ 55555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: popular ที่ 21-03-2017 02:02:55
 o13 ขอบคุณครับ  o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: numildkub ที่ 21-03-2017 07:03:45
ขอบคุณนักเขียนนะค้า ตอนแรกอ่านไปไม่ได้คิดอะไร พอเจอคำคม เอ๊ะ! คิดถึงบูรพากับองค์เหนือ
ชอบพี่อิสมากเลย ตอนแรกจินตนาการถึงหน้า พี่อิสระ ฮาตะ หล่อไม่ออกจริงๆ 5555
แอบน้ำตาซึมตอนที่ปิงคุยกับท้องฟ้า พอได้หรือยัง ใจห่อเหี่ยวมากอ่ะ เหใือนคนสิ้นหวังจริงๆ
ไม่ชอบเนย บอกเลยจีจี ผู้หญิงอะไรทำคุณค่าตัวเองให้ต่ำลง ไม่มีศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงเลย
สรุปนะคะ ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ แอบชอบช๊อกมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ปรากฎตัวออกมา
แต่เสียดาย ไม่น่ามีคู่เลย อนิจจาเสียดายนัก ขอบคุณค่าาา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: +pEnGuIn+ ที่ 22-03-2017 13:09:04
พี่อิสดี พี่อิสตลก พี่อินคนกาก
สุดจะบรรยายกับผู้ชายชื่ออิสระ
นี่อ่านรวดเดียวจบเลย พี่อิสคลั่งน้องปิงนานๆนะ
รอน้องโตก่อน แล้วค่อยหื่นใส่นะ
คิดแล้วก็อยากอ่านตอนพี่อิสหื่นใส่ปิงจัง :ling1: :ling1:
น้องปิงน่ารักมาก น่ารักแบบเฉยๆแต่ถึงเฉยๆก็น่ารักอ่ะ
หลินปิงโชคดีแล้วที่ได้เจอพี่อิสนะลูก ชีวิตหนูดราม่ามากกก
อย่าถือสาลุงแกนะปิง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 22-03-2017 21:11:42
ขอบคุณคนเขียนค่า...
พี่อิส เป็นพระเอกที่มีบุคลิกพิเศษจริงๆค่ะ(หยาบทั้งกายและใจ) 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: brapair ที่ 22-03-2017 23:47:11
แงงงงง ชอบอิพี่อิสมากกกก น่ารักสุดไ เป็นตัวละครที่ไม่น่าเบื่อเลยยย
ชอบที่พี่มันชอบบังคับให้คนอื่นกินยาคูลท์อ่ะ ทำไมชอบไม่รู้งง55555555
น้องปิงก็น่ารักมากๆ รู้สึกถึงความเป็นแมวขนนุ่มๆ งุ้ยๆๆๆๆๆ
นิยายน่ารักมากเลยค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย55555
จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ~

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: en foo ที่ 22-03-2017 23:58:57
ชอบพี่อิสคนกาก. เอาจริงๆคนแบบอิช็อคมันน่าตบให้หน้าแหกจริงๆๆ
มีแฟนอยู่แล้วยังไปแรดๆๆกับปิงอีกกก.    อิบ้าาาา.
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 23-03-2017 16:25:17
สนุกมากค่ะ กอไก่ล้านตัว ละมุนมากก

เก็บรายละเอียดค่อนข้างดี พออ่านจบแล้วไม่เอ๊ะ

ไม่ขาดไม่เกิน เราขำมาก โดยเฉพาะมุขของพี่อิสคนเท่

มันทะลึงตึงตังมาก แต่กับเป็นคนอบอุ่นวะเห้ยยย

พี่อิสงานดีมากค่ะ

สองคนนี้เหมาะกันจริงๆ  เคมีลงตัวสุด


แฮปปี้จัง


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: แ ฝ ง. ที่ 24-03-2017 01:10:21
พี่อิสคนกาก กากสมชื่อจริงๆ
หลิงปิงก็น่ารักกกกกก น่ารักจนคิดว่าทำไมคนอย่างที่อิสต้องได้หลินปิงไปด้วย :laugh:
นิยายสนุกมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 25-03-2017 08:55:37
อ่านพึ่งถึงตอนแปดจบแต่ขอมาขอบคุณก่อน
ขอบคุณจริงๆที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา สนุกมากเลยดูเป็นธรรมชาติ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: heroza ที่ 25-03-2017 09:07:01
อ่านพึ่งถึงตอนแปดจบแต่ขอมาขอบคุณก่อน
ขอบคุณจริงๆที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมา สนุกมากเลยดูเป็นธรรมชาติ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 25-03-2017 21:17:03
อิพี่อิสเป็นคนหยาบที่โรแมนติคแบบแอบซ่อนมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 25-03-2017 23:32:32
คือเหมือนชื่อเรื่องเลยอ่ะ
รักอิสระ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 26-03-2017 10:34:44
Feel good จริงๆ มันดีงาม เวิคมากๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ์E_D_N ที่ 26-03-2017 15:39:54
ชอบพี่อิสและน้องปิงมากกก

ชอบการเล่า ชอบมุก ชอบทุกอย่างในเรื่องเลย

ขอบคุณคนเขียนมากๆที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้มาให้ได้อ่านจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 26-03-2017 16:10:15
พี่อิสน่ารัก หลงน้องแบบคูล ๆ 55555

ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารัก ๆ นะคะ

 :3123:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 26-03-2017 18:32:51
10 10 10 ไปเลย
ชอบการเล่าเรื่อง การใช้คำ ใช้ภาษา
เราชอบวิถีอิสระ โคตรชอบพี่อิสเลย วิถีคนหล่อ คนเท่
น้องปิงก็น่ารัก ลุงหลงจนไม่เท่แล้ว

เล่าเรื่องสนุกค่ะ
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: MAILOVEZ ที่ 27-03-2017 06:29:06
เป็นเรื่องที่อ่านจบแล้วกระโดดขึ้นมาอยู่ในเฟบเวอร์ริชเพลย์ลิสเลยสำหรับเรื่องนี้ชอบมากแบบมากๆ อ่านจบคืออารมณ์ไม่จบนั่งยิ้มไม่จบตามนิยาย พยายามอ่านช้าๆ ไม่อยากให้จบเร็วมันสั้นมากในความรู้สึกอ่านเพลินจนแบบลืมเวลาที่แท้จริง

รักพี่อิสกับน้องปิงมาก ชอบความเป็นพี่อิสชอบความกากความไม่เพอร์เฟค ชอบความหยาบทั้งกายและใจแต่เป็นผู้ชายที่โคตรอบอุ่น ชอบความเอาใจใส่ที่พี่อิสมีให้ปิงมันแฝงอยู่ในทุกการกระทำไม่ได้อ่อนหวานแต่มันโคตรดี ยิ่งอ่านก็ยิ่งชอบพี่อิสมากขึ้นทุกตอนยิ่งเวลาเป็นพาร์ทพี่อิสบรรยายนะคือแบบขำทั้งตอนชอบความอิสระสไตล์จริงๆ 5555555555

น้องปิงหนูเป็นนายเอกที่ทำให้หลงรักได้โดยที่แทบไม่ต้องทำอะไรมึนๆ อึนๆ ซึมๆ แบบนี้คือหลงจะตายหลงเบอร์เดียวกับพี่อิสอะบอกเลยอยากจับน้องมาฟัดให้แก้มช้ำ ชอบความบริสุทธิ์แต่น้องก็มีความซนๆ ทะเล้นแบบน้องปิงสไตล์รักเลยอะ

นามปากกานี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยไว้ใจได้เสมอเลย ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ และสนุกมากๆ เรื่องนี้นะคะ คงจะเสียใจมากถ้าไม่ได้อ่าน ขนาดมาตามอ่านตอนนี้ยังแอบเสียดายที่ไม่ตามมาแต่แรกแต่ดีใจที่มาทันรวมเล่มอยู่ยินดีโอนเงินสู่ขอพี่อิสน้องปิงแต่โดยดีเลยค่า เป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อๆ ไปนะคะ :)
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 27-03-2017 17:13:02
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: __puppy ที่ 28-03-2017 16:37:18
 o13

ชอบมากกกๆๆๆๆ อ่านรวดเดียวเลย ทั้งซึ้ง ทั้งขำ ชอบพี่อิส บ้าบอที่สุด แต่ก็รักน้องทีุ่ด ฮือ ประทับใจค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: whisperz ที่ 29-03-2017 22:17:08
 :jul1: ชอบนิยายเรื่องนี้มากค่ะ เป็นเรื่องที่ชอบที่สุดในเล้าแล้ว ขอบคุณที่แต่งนิยายให้อ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 31-03-2017 17:28:09
อยากอ่านงานเขียนเรื่องใหม่ของคนแต่งจัง

ชอบเรื่องนี้มากๆๆ

รอติดตามเรื่องใหม่นะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 01-04-2017 23:43:54
อ่านถึงตอน 21 แล้ว อินมาก
ผิดไหมที่จะบอกว่าเกลียดช็อก ก็รู้แหละว่ามันอาจพลิกแพลงแต่คือ... โกรธอ่ะ ถึงแม้ปิงจะบอกพิงค์ว่าเกือบชอบ แต่เท่าที่อ่านมาคือนั่นมันเทใจไปให้เกินครึ่งแล้วนะ มีตอนนึงมั้งที่เหมือนจะบอกว่ามีใจให้ช็อก จี๊ดสุดก็ตอนเอาโทรศัพท์ไปให้พิงค์ แล้วอีช็อกทิ้งปิงไว้เฉย อันนี้ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ แล้วที่ปิงรู้สึกผิดกับพิงค์ เราว่าอารมณ์มันหักแปลกๆ เหมือนฟีลขาดอ่ะ อยู่ๆก็หายเฮิร์ทไปเลยงี้ มีเพียงแค่มองหน้าไม่ติดเพราะยังตงิดใจกันเรื่องพิงค์ คนเขียนใจร้ายอ่ะ ให้ความหวังมาตั้งหลายตอน เราก็จิ้น #ช็อกปิง แบบอินมาก

ขออภัยที่ใช้ภาษาที่อาจจะทำให้คนเขียนไม่สบายใจ แต่อยากจะบอกว่าคุณเขียนและสื่อออกมาได้ดีมาก ไม่ได้อินมานานแล้วกับนิยายวาย แต่ยังโกรธอีช็อกอยู่นะ!!
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณชายชากุหลาบ ที่ 02-04-2017 02:24:09
ยังไงก็เกลียดช็อคอ่ะ เอาจริงๆไม่ได้อ่านตอนสุดท้ายที่ช็อคเป็นคนเล่าเรื่องอ่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 05-04-2017 13:04:20
อบอุ่นละมุนอะไรแบบนี้ เราดีใจมากที่ปิงได้เจอคนที่รักและดูแลปิงจริงๆ
พี่อิสเป็นบุคลิกพระเอกที่เราไม่ค่อยจะเจอแนวนี้เท่าไร แต่ทำเราหลงรักคาแร็คเตอร์นี้มากๆ
ชอบเดอะแก๊งค์ที่มาถล่มบ้านพี่อิสบ่อยๆ มันหายากมากอ่ะ ความสายรหัสที่เหนียวแน่นต่อให้
พี่อิสจบไปแล้ว ก็ยังมาก๊งมาป่วนกันอยู่ แถมยังรักหลินปิงให้ของขวัญวันเกิดวันเรียนจบม.6
รู้สึกดีกับฉากพวกนี้ ส่วนช็อกเป็นนิยามของสายอ่อยไปทั่ว ตั้งใจบ้างไม่ตั้งใจบ้าง
เป็นตัวแปรสำคัญของการเลิกกัน ต่อไปช็อกก็แคร์ความรู้สึกพี่พิงค์มากขึ้น
ทุกกาลเวลาทุกการเติบโตจะสอนช็อกว่าทำยังไงถึงจะรักษาคนที่เรารักและรักเราได้มากที่สุด
อ้อ ปิงไปเรียนที่บ้านเกิด ลุงจะเหี่ยวเฉาขนาดไหนนะ55555555555
ขอบคุณสำหรับความฟีลกู๊ดมากๆนะคะ เราจะติดตามเรื่องต่อๆไปนะ เลิ้บบบ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Quatree ที่ 07-04-2017 00:27:34
อ่านเเล้วรู้สึกดี o13 พี่อิสคนคลูกับน้องปิงคนน่ารัก :laugh:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 07-04-2017 22:10:56
อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 08-04-2017 08:35:51
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ หลงน้องปิงมากเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-04-2017 15:25:17
 :3123: :3123: :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 08-04-2017 16:50:16
ตามอ่านทีเดียวเลย คู่หลักน่ารักดีค่ะ
แต่คู่ช็อคพิงค์ (เอ๊ะ รึพิงค์ช็อค) นี่ทำเรามีความรู้สึกค่อนข้างจะตงิดๆ5555
คนอย่างช็อคมีเยอะจริงๆค่ะ ที่ว่าอ่อยไปทั่ว คุยเล่นกับคนอื่นไปทั่วทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว
มันทำให้เรารู้สึกว่าพิงค์ให้อภัยง่ายจัง และช็อคเองก็ดูไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยที่ไปคุยและชอบคนอื่น(จนเกือบขอเลิกกับพิงค์)
กลายเป็นว่าที่พิงค์โกรธเพราะไม่ใจกว้างพอที่เห็นแฟนตัวเองไปคุยกับคนอื่นผิดแทน
พิงค์กลายเป็นคนงี่เง่าขี้วีนเหวี่ยงในสายตาช็อค
ไม่รู้เราคนเดียวรึเปล่าที่อินเกิน และคิดว่าความรักของช็อคดูไม่สุดและดูไม่จริงจังเลย
ยิ่งประโยคที่บอกว่าคนที่ทำให้สบายใจกับคนที่รักเป็นคนละคนกัน และที่เลือกพิงค์ก็เพราะผ่านอะไรด้วยกันมามาก
เราเลยรู้สึกว่าช็อคน่าจะแค่ผูกพันธ์กับพิงค์ แต่ไม่ถึงขั้นรัก รึอาจจะรักไม่เท่าเมื่อก่อน
ขนาดเห็นพิงค์เช็คอินกับคนอื่นก็ยังดูไม่อะไรมาก ทั้งๆที่กับปิงนี่ดูใส่ใจความรู้สึกมากกกกอ่ะ
ถึงได้อ่านตอนพิเศษของคู่นี้จบแต่เราก็ยังรู้สึกฟินไม่สุดจริงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: phoenixa ที่ 08-04-2017 18:18:56
หลงคุณลุงอิสและหลานหลินปิงซะแล้วววว
ลุงหลานคู่นี้น่ารัก เถึยงกันก็ตลกดี
ชอบเวลาลุงเรียกน้องเป็นแมว เป็นแพนด้า หรือแม้กระทั่งเป็นผ้าขี้ริ้ว
เพราะมีอะไรบางอย่างมีบ่งบอกว่าเรียกด้วยความเอ็นดูและคลั่งไคล้
ก็อยากให้ลุงได้แดกน้องนะ แต่ก็อยากให้น้องใสๆ แบบนี้ต่อไป

ตอนแรกอ่านนี่คือไม่ชอบยิมเลย
แต่ก็ตงิดๆ ว่าแกล้งนิดๆ หน่อยๆ พอสร้างความรำคาญ
กับมีบทเยอะๆ นี่ ไม่ใช่ว่าคดีพลิกว่าชอบปิงๆ หรอกนะ
พอยิมแกล้งเรื่องขายตัวนี่ก็เลยเลิกคิด แล้วก็กลายเป็นเกลียดยิม
ทำแบบนี้เหมือนไม่ได้แกล้งน้องคนเดียวแล้วอ่ะ
ยิมลากเพื่อนๆ มาแกล้งด้วย
โดยใช้ความอยากรู้เรื่องชาวบ้านของมนุษย์
นี่ถ้ายืดเยื้อต่อไป ลูกแมวตัวขาวจะซึมขนาดไหน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-04-2017 18:40:35
สนุกมากกก  น่ารักมากกก  รักพี่อิสคนกากแต่เท่ ชอบเวลาพี่แกเขิน 5555

ปิงเป็นนายเอกที่น่ารัก ชอบความอ่อนนอก แข็งใน  รักความสดใส

จริงๆไม่ชอบผชแบบช็อคเลย ผชแบบนี้ไม่โอเค

จริงๆเราชอบยิมนะ ไม่รู้ทำไม

รักนิยายเรื่องนี้ ประทับใจมากครับ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 11-04-2017 21:46:46
เพิ่ง​อ่านถึงตอน 7 แต่อยากบอกว่าสนุกมากค่ะ อ่านไปขำไป คนแต่งเก่งมากๆ ขอบคุณ​ที่เขียนเรื่องสนุกๆให้อ่านค่ะ

ปล.อิมเมจหลินปิงเนี่ย  ทำให้นึกภาพเป็นน้องมิวซ์ เพจ..คิวท์บอยเลย 555+ เหมือนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ [จบแล้ว]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 12-04-2017 18:37:58
เรื่องนี้สนุกมากอ่ะ
น้องปิ้งน่ารักมาก
อีพี่อิสคนกากก็ตลกมากเหอะ หลงน้องน่าดูแต่ก็เถื่อนกับน้องตลอด 5555+
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 13-04-2017 23:02:47
เกรี้ยวกราดวันสงกรานต์

 

อิสระ :

 

"แกรก...แกรก...แกรก..."

 

ผมลากไม้กวาดทางมะพร้าวเก่าๆ ไปกับพื้นเบาๆ เพราะถูกหลวงพ่อใช้ให้มากวาดใบไม้ที่ลานวัด ในช่วงเย็นๆ ของวัดแถวบ้านเงียบจนได้ยินเสียงใบไม้ที่ปลิวตามลมไปกับพื้น เป็นที่ที่เหมือนพระอาทิตย์ตกดินเมื่อไรผีก็พร้อมโผล่มาเลย

            ที่ผมมาอยู่ที่วัดนี้ก็เพราะเหงา ไม่เท่เลยแต่เหงาอะ ตอนนี้ปิงย้ายไปเชียงใหม่แล้ว ไอ้ปรินซ์ ไอ้โอม ไอ้ปอนด์
เรียนจบแล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน ไม่ค่อยโผล่หัวมาให้เห็น ลันลินาน้องสาวที่ย้ายมาอยู่กับผมได้พักหนึ่งแต่บ่นว่ากิจกรรมทางมหา'ลัยเยอะเลยขอย้ายไปอยู่หอใกล้ๆ มหา'ลัยกับเพื่อน ผมก็เลยต้องอยู่บ้านคนเดียว เหงาจนไม่รู้จะทำอะไรดีก็เลยหันหน้าเข้าทางธรรม ตอนแรกตั้งใจจะบวชไปเลยแต่กลัวว่าโกนหัวแล้วจะไม่เท่ว่ะ อีกอย่างจะเป็นพระไปด้วย เป็นฟรีแลนซ์รับงานไปด้วยไม่ได้ไง เลยผันตัวมาเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อแทน ทำหน้าที่พุทธศาสนิกชน เข้าวัดปฏิบัติธรรมก็สุขกาย สบายใจดี ผมกวาดใบไม้มากองรวมกันฝั่งหนึ่ง แรงลมก็พามันกระจายกลับมาอีกฝั่งหนึ่ง
"ไอ้ใบไม้ หาเรื่องกูเหรอเนี่ย อยู่นิ่งๆ ดิวะ"

พอหันไปด่า มันก็อยู่นิ่งเหมือนรู้ว่าโดนด่า ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วกวาดมันกลับไปกองรวมที่เดิม

 

ฟิ้ว!

 

"ไอ้สันดาน! มึงจะเอาใช่ไหม! อยากโดนเผาใช่ไหม!"

ผมกำไม้กวาดแน่นแล้วกวาดมันกลับไปกองที่เดิมอย่างหงุดหงิด เผาแม่ง! เหี้ยอะไรของกูวะ มายืนทะเลาะกับใบไม้ใบหญ้า วัดไม่ได้ทำให้รู้สึกสงบขึ้นเลยโว้ย!

"โยมอิส"

ผมชะงักการกระทำในมือแล้วหันไปหาหลวงพ่อที่เดินเข้ามาเรียก

"ครับหลวงพ่อ"

"ยังกวาดไม่เสร็จอีกเหรอ จะมืดแล้วนะ"

"ใกล้เสร็จแล้วครับหลวงพ่อ หลวงพ่อมีอะไรให้ผมทำอีกไหมครับ"

"ไม่มีแล้วโยม โยมทำจนไม่เหลืออะไรจะให้ทำแล้ว" หลวงพ่อพูดติดตลก วันนี้ทั้งวันผมไม่ได้อยู่เฉย กวาดลานวัด ถูศาลา ทำความสะอาดกุฏิ ล้างอุโบสถ เปลี่ยนหลอดไฟ ขัดห้องน้ำ ให้ข้าวหมาวัด เหลือแค่ขึ้นสวดพระอภิธรรมงานศพแทนหลวงพ่อเท่านั้นแหละที่ทำไม่ได้

"งั้นผมทำอาหารเย็นให้ไหมครับ"

"เดี๋ยวอาตมาโบกเลยนี่"

อ้าว หลวงพ่อเกรี้ยวกราดจัง

"โยมอิสไม่ต้องทำงานเหรอ"

"วันนี้ไม่มีงานครับ" ที่จริงไม่อยากทำงานแล้วแหละ อยากมาเป็นลูกศิษย์วัด เกาะชายผ้าเหลืองหลวงพ่อ กินข้าววัดฟรีไปวันๆ ชีวิตมันไม่มีอะไรอยู่แล้วนี่ โดนทิ้งอยู่แล้วนี่ ตัวคนเดียวอยู่แล้วนี่

"แล้วโยมจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า"

"อีกพักหนึ่งครับ ผมยังไม่อยากกลับบ้าน"

"ทำไมล่ะ"

"ผมเหงาครับ"

"ทำไมเหงาล่ะ"

เอ๊ะ! หลวงพ่อหนิ! ถามจริง จะขยี้ความเหงาผมทำไมล่ะครับ

"ต้องนอนคนเดียว ก็เลยเหงาครับ เวลาหลวงพ่ออยู่คนเดียว ไม่เหงาเหรอครับ"

"ไม่รู้สิโยม ความเหงาของคนเรามันไม่เท่ากันนะ บางคนอยู่คนเดียวเลยเหงา บางคนอยู่หลายคนก็ยังเหงา แล้วก็มีบางคนที่อยู่คนเดียวแต่ไม่รู้สึกเหงา คนเรามันไม่ได้เหงาโดยสภาพแวดล้อม มันเหงาโดยความรู้สึกต่างหาก"

แหม...นี่หลวงพ่อ หรือพี่ฉอด สายทิพย์ คำพูดคำจากระแทกหัวจิตหัวใจ ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนหลวงพ่อจะ
ขอตัวขึ้นกุฏิไปก่อน ผมกวาดใบไม้ที่พื้นต่อจนเสร็จ ก่อนจะมืดก็เลยต้องกลับบ้าน ปั่นจักรยานช้าๆ กลับมาถึงบ้านที่เงียบสนิท เปิดประตูเข้าไปเจอชีสไบท์ แมวที่เก็บมาเลี้ยง ตอนแรกมีอีกตัวชื่อไวท์มอลต์  แต่ไอ้น้องข้างบ้านมันขอไป บอกว่าจะเอาไปให้แฟนอะไรนี่แหละ มันมาอ้อนเลยต้องยอมให้ไป ชีสไบท์มันไปนั่งรอที่จานข้าวแล้วคงจะหิว เลยเดินไปหยิบอาหารเทลงไปในชามให้ 
"ชีสไบท์ เวลามึงอยู่ตัวเดียวแบบนี้ เหงาปะวะ"

"..."

"ไม่ตอบกูอีก เมินกูอีก เอ้า แดกช้าๆ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก"

ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วทิ้งตัวลงโซฟา เกือบปีแล้วที่ปิงย้ายไปที่นั่น แต่เหมือนเพิ่งไปส่งที่มหา'ลัยเมื่อวานนี้เอง ที่จริงปิงก็โทรหาผมทุกวัน บางวันไม่ว่างก็ไลน์มา แต่มันไม่ใช่ตัวจริง อยากเห็นหน้าใกล้ๆ อยากบีบแก้ม อยากลูบคาง อยากดมกลิ่น คิดถึงฉิบหาย

ที่ผมไม่ตามปิงไปอยู่ด้วยเพราะปิงห้าม ปิงบอกว่าไม่อยากติดผม อยากโตขึ้น แล้วตอนนี้ก็โตขึ้นจริงๆ มีชีวิตใหม่ๆ กับเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ อย่างมีความสุขดี ผมก็อยากให้ปิงได้ใช้ชีวิตในมหา'ลัยอย่างเต็มที่ ให้ได้ไปใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระแต่เหตุผลหลักที่ตามปิงไปอยู่เชียงใหม่ไม่ได้นั้นเพราะไม่มีตังค์ซื้อหรือเช่าบ้าน จนไง แค่นั้นเลย จึงทำได้แค่นอนเหงาอยู่บ้านเป็นลุงแก่ๆ อยู่อย่างนี้ ทฤษฎีใดที่ถูกกล่าวเอาไว้ว่าทำแล้วหายเหงา ผมก็ทำตามทุกอย่างแล้วนะ อย่างที่กระทู้พันทิปมันบอกเอาไว้

 

Q: คนเหงา เขาทำอะไรกันครับ?   

A: นั่งเล่นพันทิปทั้งวันก็หายเหงาแล้วค่ะ

 

หนึ่งในเว็บไซต์ยอดนิยมที่เขาบอกว่านั่งอ่านทั้งวันก็หายเหงาได้ ผมก็เลยลองดู แต่เปิดไปเจอแต่กระทู้ที่ไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากการนั่งอ่าน เช่น

 

นั่งสมาธิแล้วตัวลอยจากพื้น ปกติไหม?

แฟนเราชอบร้องเพลงชินจังในห้องน้ำทุกวันเลย แปลกไหมคะ?

ชอบดูคลิปตลกในเวลางาน มีวิธีการกลั้นขำอย่างไรคะ กลัวเจ้านายด่าค่ะ

ได้เงินไปมหา'ลัยวันละ 1000 บาท ถือว่าน้อยหรือไม่ครับ

 

ส้นตีนอะไรของพวกมันวะ คนพวกนี้แม่งเหมือนจะเหงากว่ากูอีกนะ เลอะเทอะฉิบหาย สรุปว่าวิธีนี้มันไม่ได้ผล ไม่หายเหงาแถมหงุดหงิด พาลอยากเดินไปตบบ้องหูเจ้าของกระทู้อีก ก็เลยลองวิธีอื่น

 

A: ออกไปวิ่งครับ ไม่เหงาแล้วยังสุขภาพดีด้วย

 

สวนสาธารณะตอนเย็นๆ เป็นแหล่งรวมของผู้คนในชุมชน มีพื้นที่กว้างให้เด็กๆ มาวิ่งเล่น มาให้อาหารปลา มาทำกิจกรรมกับครอบครัว ส่วนรอบๆ เป็นพื้นที่สำหรับให้คนมาวิ่งออกกำลังกาย ผมก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าให้แน่น แล้วสูดลมหายใจเบาๆ เอาล่ะ ผมจะเดินสายเฮลตี้ ปิงกลับมาต้องได้ฟัดซิกซ์แพ็กแน่นอน ผมวิ่งออกมาจากจุดเริ่มต้น พักเดียวก็ต้องแวะไปเกาะเสาไฟริมทางเอาไว้เพราะแม่งเหนื่อยมาก หันกลับไปมองระยะทางที่วิ่งได้ สัด ถึงสองร้อยเมตรเปล่าก็ไม่รู้
กูจะเป็นลม กลับบ้านดีกว่า สายเฮลตี้ไม่ใช่ทาง กูเกลียดวิชาพละ! กูเกลียดการวิ่ง!
 

A: ดูซีรีส์เกาหลีสิคะ

 

ผมเลือกซีรีส์เรื่องหนึ่งจากรีวิวในเว็บเดียวกัน ซีรีส์ตอนหนึ่งมีประมาณหนึ่งชั่วโมง ผมดูไปสามชั่วโมงเพราะอ่านซับไม่ทัน ผมกดหยุดแล้วเลื่อนกลับมาที่ฉากเดิม วนไปวนมาจนดูไม่รู้เรื่องแล้ว ขี้เกียจอ่านซับด้วยเพราะงั้นหนังเกาหลีก็คงไม่ใช่หนทางคลายเหงาของผม

นอนดีกว่า คิดได้แค่นั้นจึงเดินไปทิ้งตัวลงบนที่นอนหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว เหลือบตามองนาฬิกาที่หัวเตียงเกือบจะสองทุ่ม เร็วเกินกว่าจะนอนแต่ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอน ชีสไบท์มันเดินเข้ามาเล่นด้วย กระโดดข้ามขาผมไปๆ มาๆ อยู่พักหนึ่งแล้วก็เดินหายออกไปจากห้อง 

 

"หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว..."

 

เสียงโทรศัพท์ที่วางไว้ข้างหมอนดังขึ้น ผมคว้ามากดรับโดยไม่ต้องดูเบอร์เลย ในเวลานี้มีคนเดียวอยู่แล้ว คนที่เหมือนยาแก้เหงาได้จริง ๆ

 

"หลินปิง"

(ครับ มารายงานตัวแล้วครับผม)

"กำลังคิดถึงเลย"

(พี่อิสกินข้าวยังครับ)

"ยังเลย ขี้เกียจกิน"

(ไปกินเลย ขี้เกียจได้ไง ผอมตายแล้วมั้งครับ พุงยังอยู่ไหม)

"อยู่ รอปิงกลับมาฟัดเนี่ย"

(เออใช่ สงกรานต์นี้ผมกลับไปหาดีไหมครับ)

"ไม่ต้องกลับ"

(อ้าว)

"รถเยอะ อันตราย ช่วงเทศกาลไม่อยากให้เดินทาง"

(งั้นพี่อิสมาหาผมสิครับ)

"ไม่ไปอะ"

(ไม่คิดถึงเหรอ)

"คิดถึงแต่ไม่ชอบคนเยอะ คนไปรวมกันอยู่เชียงใหม่ครึ่งประเทศแน่นอน"

(ถ้างั้นผมขอไปเที่ยวกับเพื่อนนะ)

"ไม่ให้ไป"

(อะไรอ่า แล้วจะให้อยู่หอเฉยๆ เหรอ เพื่อนชวนไปเล่นน้ำด้วยเนี่ย)

"ไม่ให้ไปโว้ย เกิดไปเจอพวกเถื่อนๆ ที่มันชอบลวนลามทำไง วัยรุ่นเยอะด้วย ไม่เอา ไม่ให้ไป"

(ทำเป็นขี้หวง แต่ไม่มาหา)

"บ่นอะไร"

(เปล่าครับ งั้นแค่นี้นะ ผมจะออกไปกินข้าวกับเพื่อน)

"เออ กินผักด้วยนะ"

(ครับๆ)

ผมพลิกหน้าจอมือถือมาดูตอนที่ปิงวางสายไปแล้ว ในอีกวินาทีต่อมาไลน์ก็เด้งขึ้นมาที่หน้าจอ เป็นข้อความเสียงจากปิง

 

"ลืมบอกรักพี่อิสเลย รักนะครับ"

 

น่ารักให้กูตายไปเลย...ผมกดฟังเสียงนั้นซ้ำๆ แล้วยิ้มเป็นบ้าออกมาคนเดียว หลงไปในบ่วงของหลินปิงอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกดออก แล้วเข้าไปดูเฟซบุ๊กแทน เข้ามาดูไทม์ไลน์ของปิงทุกวันแต่ปิงไม่ค่อยโพสต์อะไรมากมายนัก ไม่เคยโพสต์รูปตัวเองเลย ปกติจะถ่ายส่งมาทางไลน์มากกว่า เพราะสั่งเอาไว้ เห็นแก่ตัวไง อยากเก็บความน่ารักของมันไว้ดูคนเดียว ในเฟซบุ๊กส่วนใหญ่ก็เป็นรูปอาหารที่กิน หรือไม่ก็ที่ที่ไป หมา แมวที่เจอบ้าง พร้อมแคปชันจืดๆ แบบหลินปิงสไตล์ 

 

รูปก๋วยเตี๋ยว

ลืมสั่งว่าไม่ใส่ถั่วงอก

 

รูปสเต็ก

สเต็กอีกแล้ว

 

รูปไข่ดาวที่โปะอยู่บนข้าวผัดอเมริกัน

อร่อยนะ

 

รูปนมเปรี้ยวขวดใหญ่สองขวดที่ได้รับมาจากพี่รหัส เพราะมีโน้ตแปะเอาไว้ว่า กินนมเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ

ขอบคุณนะครับ

 

รูปแมวขาวตัวอ้วนที่นอนอยู่บนโต๊ะ

แมวอ้วน

 

รูปดอกไม้ที่อุทยานราชพฤกษ์

สวยมาก

 

 

ไม่เคยพูดถึงพี่อิสเลยสักนิดหนึ่ง นิดหนึ่งก็ไม่มี เหอะ! ผมกดออกจากหน้าไทม์ไลน์ของปิง แล้วเลื่อนผ่านๆ ในหน้าแรก ก่อนจะไปหยุดที่ภาพหนึ่งซึ่งลันลินาเป็นคนแชร์มา

 

 น้ำปิง นิติศาสตร์ ปี1

 

นี่มันลูกแมวของกูนี่! ปิงในชุดนักศึกษาแม่งโคตรทำลายล้าง ดูโตขึ้นมากเพราะเครื่องแบบนักศึกษา ผมเหมือนพ่อที่เฝ้ามองการเติบโตของลูกน้อย เห็นมาตั้งแต่ชุดนักเรียน ชุดนักศึกษา จนกว่าปิงจะเรียนจบหวังว่าผมจะไม่แก่ชราตายไปก่อน ความน่ารักของปิงมักจะเพิ่มขึ้นตอนยิ้ม แล้วในรูปก็ยิ้มหวานเชียว ว่าแต่ใครถ่ายเนี่ย ใครถ่าย!

ผมกดดูรูปอื่นๆ คงเป็นภาพจากกิจกรรมทางมหา'ลัย เป็นภาพเผลอๆ บ้าง หันมองกล้องบ้าง ใครสั่งใครสอนให้ไปยิ้มเรี่ยราดให้คนอื่นก็ไม่รู้ จากยอดแชร์และจำนวนคอมเมนต์ที่ไม่น้อยทำให้ผมขมวดคิ้วเข้าหากันนิดๆ ไม่อยากให้คนอื่นเห็นความน่ารักของน้องนี่คือผมหวงมากใช่ไหม เออใช่ ผมหวง กดรีพอร์ตแม่ง!

ผมกดเข้าไปอ่านคอมเมนต์ที่พูดถึงปิง เหมือนว่าความน่ารักของลูกแพนด้าจะทำให้คนอื่นหลงไปด้วยแล้ว และหัวคิ้วแทบจะชนกันเมื่อไปเห็นภาพหนึ่ง ที่เป็นปิงกับเพื่อนที่อยู่หอเดียวกัน ชื่อไอ้เคน ปิงแนะนำให้รู้จักตอนวิดีโอคอลคุยกัน แต่ในภาพคือไอ้เคนยืนกอดคอปิง แพนด้าหน้าแมวตัวเล็กๆ ไปยืนข้างๆ ไอ้ตัวสูงนั่นก็หวานเลยไง และมีแฮชแท็กกำกับมาด้วย

 

#เคนปิง

 

พ่อมึงสิ! ผมกดเข้าไปไล่อ่านคอมเมนต์ ก่อนจะมาหยุดที่คอมเมนต์หนึ่งที่ถูกเขียนโดยไอ้เคนอะไรนั่น   

 

ปิงเมียเรา นอนด้วยกันทุกคืน :P 

 

ไอ้เวรนี่! กูยังไม่เคยใช้คำว่าเมียกับปิงเลย มึงใครเนี่ย มึงเป็นใคร! ไอ้นี่อายุไม่น่ายืน ผมกดออกจากเฟซบุ๊กแล้วกดโทรหาปิง เสียงรอสายดังอยู่สองสามทีจึงรับสาย

(ครับพี่อิส)

"สงกรานต์หยุดวันไหนบ้างนะ"

(สิบสามถึงสิบเจ็ดครับ)

"เออ พี่ไปหา"

(ครับ?)

"พี่จะไปหา"

(โอ้เย่!)

"ดีใจเหรอ"

(ดีใจสิครับ แล้วทำไมเปลี่ยนใจอะ คิดถึงเหรอ)

"ใช่ คิดถึง"

.

.

.

"หวงด้วย"

...

อ่านต่อด้านล่างค่ะ


หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 13-04-2017 23:12:14
 

ผมหลีกเลี่ยงการเดินทางช่วงเทศกาลที่แสนน่าเบื่อด้วยการมาถึงเชียงใหม่ตั้งแต่ก่อนถึงวันหยุดยาว สงกรานต์เริ่มวันที่สิบสาม ผมมาตั้งแต่สิบถือว่าชนะ หนีพวกไอ้ปรินซ์มาด้วย ไม่งั้นร้องตามแน่ๆ เลยต้องตัดปัญหาด้วยการมาวันที่พวกมันทำงานกัน ผมจองโรงแรมใกล้ๆ มหา'ลัยปิงเอาไว้เพราะจะหาเรื่องให้ปิงมานอนด้วย เข้าไปเช็กอินที่โรงแรมก่อนแล้วจึงออกมาเดินเล่นข้างนอก เพื่อรอเวลาให้ปิงเลิกเรียน อากาศเดือนเมษาร้อนจนอยากไหลลงท่อระบายน้ำ เชียงใหม่ก็เชียงใหม่เหอะ ออกมาข้างนอกแค่สิบนาทีเหงื่อแตกเป็นทาง ผมเลยเลือกเข้ามารอปิงในร้านกาแฟ สั่งกาแฟมากินยังไม่ทันหมดแก้ว คนที่รออยู่ก็โทรหา

(พี่อิสถึงไหนแล้วครับ)

"ถึงแล้วเนี่ย อยู่ในร้านกาแฟ"

(ตรงไหนอะ)

"ร้านอะไรวะเนี่ย อ่านว่าอะไรวะ โวคาโน่อะไรไม่รู้อะ"

(อ๋อๆ รอแป๊บหนึ่งนะครับ ผมเลิกเรียนแล้ว เดี๋ยวให้เคนไปส่ง)

"เดี๋ยวพี่เข้าไปรับเอง"

(ไม่เป็นไรครับ เคนจะออกไปข้างนอกอยู่แล้ว แค่นี้นะ เดี๋ยวรีบไปครับ) ปิงพูดรัวๆ ก่อนจะกดวางสายไป ผมจึงไปจ่ายเงินแล้วออกมารอปิงข้างนอก เด็กผู้หญิงสองคนที่เดินสวนกับผมที่หน้าประตูร้าน มองหน้าแวบหนึ่งแล้วหันไปหัวเราะคิกคักกันสองคน ที่มึงมองนี่เพราะกูหล่อหรือเพราะกูกาก ผมก้มมองสภาพตัวเอง เสื้อยืดสีดำตัวเดิม กางเกงบอลตัวเดิม รองเท้าเตะคู่เดิม

โอเค กูกาก สภาพเหมือนตังค์ในกระเป๋าจะจ่ายค่ากาแฟไม่พอด้วยซ้ำ ผมรีบเดินออกมาข้างนอกร้าน กำลังจะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตัวยาวหน้าร้าน ตูดยังไม่ทันถึงเก้าอี้ เสียงใสๆ ที่จำได้ดีก็ดังขึ้น

"พี่อิสครับ!"

เจ้าแมวน้อยของพี่

"พี่อิส!"

ปิงกระโดดเข้ามากอด ผมก็รับร่างที่โผเข้ามาไว้ทันที ใครมองก็ไม่สนแล้วจังหวะนี้ แมวน้อยพูดคำว่าคิดถึง
วนไปวนมา งุ้งงิ้งๆ อยู่ในอก
"คิดถึงพี่อิสจัง คิดถึงสุดๆ ไปเลย คิดถึงมากๆ เลยครับ"

ผมกระชับกอดปิงให้แน่นกว่าเดิมแล้วพูดเบาๆ ตอบกลับไป 

"คิดถึงเหมือนกัน"

ผมคลายกอดออกแล้วเลื่อนสายตามองปิงในชุดนักศึกษา ปิงเวอร์ชั่นมหา'ลัยถูกใจพี่สุดๆ ที่สำคัญกางเกงขายาวนี่แหละ ที่ทำให้ผมชอบปิงเวลาใส่ชุดนี้ ปิงดูอ้วนขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ดูมีกล้ามเนื้อขึ้นเพราะเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่าไป
ออกกำลังกายที่ค่ายมวยบ้านเพี่อน โตแล้วจริงๆ แมวน้อยของพี่อิส แต่พอเห็นปิงแบบนี้ ด้านมืดในความคิดกูสามัคคีกันทำงานเลย ตัวเหี้ยอะไรไม่รู้มายืนกรอกหูอยู่เนี่ย
 

โตแล้วแดกได้...โตแล้วแดกเลย...โตแล้วจับแดกซะ

 

ควรเชื่อฟังมันไหมนะ

"เออพี่อิส เพื่อนผมมาด้วย" ปิงว่าแล้วหันไปกวักมือเรียกเพื่อน ก่อนไอ้เด็กสองคนนั้นจะเดินเข้ามา จริงๆ ก็รู้จักกันแล้ว แต่เจอตัวจริงเป็นครั้งแรกปิงก็เลยแนะนำให้อีกรอบ

"นี่อาร์ม ส่วนนี่เคนครับ"

"หวัดดีครับ"

ผมยกมือรับไหว้ไอ้สองคนนี้

"ส่วนนี่พี่อิส เป็น..."

"แฟนปิง" ผมพูดต่อให้แทน

"รู้แล้วแหละครับ คุยกับปิงทุกวันนี่นา" ไอ้เด็กที่ชื่ออาร์มพูดขำๆ ส่วนไอ้เคนได้แต่พยักหน้ายิ้มๆ

"กูย้ำไง จะได้ไม่ลืมว่าปิงเป็นของกู"

ผมพูดเสียงจริงจัง ไอ้ที่ยิ้มหัวเราะกันอยู่เงียบกริบ แล้วกลอกตามองกันไปๆ มาๆ ผมเลื่อนสายตาไปมองไอ้เคนที่ไม่ชอบหน้าเอาซะเลย เพราะแฮทแท็กห่าอะไรนั่น แล้วเสือกมาใช้คำว่าเมียกับลูกแมวของผมอีก เดี๋ยวจะได้เจออิทธิฤทธิ์อิสระ

"อะไรของพี่อิสเนี่ย" ปิงว่าแล้วกระแทกศอกใส่ผมเบาๆ

"กินข้าวกันปะครับ" ไอ้เคนออกปากชวน

"ไปๆ ไปนะพี่อิส ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหมครับ"

"ไม่หิวอะ"

"จะพาไปกินสเต็กร้านอร่อยไง ไปนะครับ นะๆ"

โคตรอยากปฏิเสธ เพราะผมไม่อยากไปกินข้าวกับเพื่อนปิง แต่แมวน้อยเข้ามากระตุกชายเสื้อจึ๋งๆ พร้อมพยักหน้าหงึกๆ ทำหัวด็อกแด็กจนยากจะปฏิเสธ

"ไปก็ไป"

"โอ้เย่!"

แพ้สุดคือไอ้ท่าโอ้เย่นี่แหละ อิสระผู้มีจิตใจแข็งแกร่งดั่งหินผา ต้องมาพ่ายแพ้ย่อยยับให้ไอ้แพนด้าหน้าแมวนี่เหรอ มันใช่เหรอ!

ผมเข้ามานั่งอยู่ในร้านสเต็กที่ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไร ร้านนี้คงอร่อยจริงๆ เพราะปิงมาบ่อยมาก ในหนึ่งอาทิตย์ต้องส่งรูปสเต็กไปให้ผมดูอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

"มึงเอาไร" ไอ้เคนหันไปถามไอ้อาร์มขณะเป็นคนคว้ากระดาษขึ้นมาจดเมนู

"เอาสเต็กหมู กับสปาเก็ตตี้"

"ปิงเอาเหมือนเดิมปะ"

"อื้อ เอาเหมือนเดิม"

เสือกมารู้ว่าปิงกูชอบกินอะไร ให้น้อยๆ หน่อยนะมึง

"แล้วพี่อิสล่ะครับ"

"เอาเหมือนปิง"

"พี่อิสต้องชอบแน่ๆ อร่อยกว่าร้านที่พี่อิสพาไปอีก"

"ขี้โม้"

"จริงๆ เหอะ กินแล้วจะติดใจ"

"ถ้าติดใจต้องทำไงอะ ต้องย้ายมาอยู่นี่แล้วมั้ง"

"มีตังค์แล้วเหรอ"

สัด...จี้จุดความจน

"แล้วนี่พี่อิสจะกลับวันไหนครับ"

"เรื่องของกู"

"พี่อิส!" ผมถูกปิงกระแทกศอกเข้ามาอีกที เพราะเผลอตอบคำถามไอ้เคนแบบหยาบคาย ปิงหันไปยิ้มแห้งๆ กับเพื่อนเอ่ยปากพูด

"พี่อิสอาจจะปากหมาไปหน่อย แต่จริงๆ เป็นคนใจดีมากนะ" ปิงช่วยแก้ตัวให้แต่ความรู้สึกเหมือนโดนด่ายังไงไม่รู้

"แล้วพี่อิสคบกับปิงมานานหรือยังครับ เป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไร" คราวนี้ไอ้อาร์มเป็นคนถาม ผมหันขวับไปมองหน้าปิง จังหวะเดียวกับที่ปิงหันมามองผม อย่าจ้องแบบกดดันขนาดนั้น เพราะผมไม่ได้จำ ผมไม่ใช่มนุษย์ประเภทสนใจวันครบรอบอะไรทำนองนั้น แล้วกับปิงก็ไม่รู้ด้วยว่าวันไหนเป็นวันแรกของเรา เพราะมองกันอยู่นานปิงเลยเขยิบเข้ามากระซิบถาม

"นับตั้งแต่วันไหนอะพี่อิส"

"พี่ไม่รู้"

"ผมก็ไม่รู้"

"ก็ปีกว่าแล้วแหละ" ผมพูดปัดๆ ปิงก็พยักหน้าหงึกๆ ตาม

"พี่อิสกับปิงนี่ดูไม่เหมือนแฟนกันเลยนะครับ"

ผมเหลือบตาขึ้นไปมองไอ้เคน

"ทำไมไม่เหมือน"

"ก็พี่อิสเหมือน...เหมือนพ่อมากกว่า"

"อ้าว ไอ้นี่!"

"พี่อิส! เคนเขาพูดเล่น"

"ครับๆ พูดเล่นพี่ ถึงจะเหมือนพ่อแต่ก็เหมาะกันดีนะครับ ปิงมันก็เหมือนเด็กอ่อนจริงๆ อะ"

"เด็กอ่อนอะไรเล่า"

"ปัญญาอ่อน"

"ไอ้บ้า!"

ผมมองดูสองคนนี้มันหยอกล้อกันไปมา น่ารักกันจริงนะมึง ตีนกระตุกเลยเนี่ย

"เอาจริงๆ พี่โคตรโชคดีเลย ที่ได้ปิงเป็นแฟนอะ ปิงแม่งโคตรน่ารักเลย"

"จริงครับ น้ำปิงน่ารักที่สุด" ไอ้อาร์มว่าแล้วยื่นมือมาดึงแก้มปิงแล้วเขย่าไปๆ มาๆ ผมมือไวไปหน่อยเลยเผลอยกมือตบมือมันเข้าไปจังๆ

 

เพียะ!

 

"กูไม่ชอบให้ใครมาแตะตัวปิง"

มันกะพริบตาปริบๆ แล้วยกมือลูบตรงที่ถูกตี  ไม่ได้พูดอะไรต่อสเต็กที่สั่งก็มาเสิร์ฟ คนข้างๆ ผมยิ้มกว้าง แล้วเลื่อนจานสเต็กมาให้ผม แล้วหันไปรับอีกจานของตัวเอง ไม่ใช่แค่สเต็กแต่มีซูชิอีกสองจานด้วย ตั้งแต่มาอยู่เชียงใหม่กินเก่งขึ้นมาก เมื่อก่อนต้องบอกว่ากินเยอะๆ เดี๋ยวนี้ต้องบอกว่าหยุดกินได้แล้วโว้ย ดูแก้มดินั่นน่ะ

"ทำไมของเคนมีไส้กรอกด้วยอะ" ปิงว่าตอนที่มองเห็นไส้กรอกที่เสิร์ฟมาคู่กับสเต็กของไอ้เคน

"ก็สั่งเพิ่มไง มากินวันก่อนอร่อยดี ลองดิ" ไอ้เคนว่าแล้วหั่นไส้กรอกส่งให้ปิง คนข้างๆ ผมโน้มตัวไปงับจากช้อนของมัน

"เออ อร่อย"

"เอาไปกินไป" มันว่าแล้วจิ้มทั้งชิ้นใส่จานปิง

"อะ แลกกัน" ปิงหั่นสเต็กกลับไปให้มันชิ้นหนึ่ง

กูไม่ได้ขับรถมาเจ็ดร้อยกว่ากิโลเพื่อมานั่งมองพวกมึงทำตัวเหมือนมาดินเนอร์กันสองคนนะโว้ย ระหว่าง
มื้ออาหาร ผมไม่ค่อยได้พูดอะไร เพราะพวกมันเล่นพูดแต่เรื่องที่รู้กันอยู่สามคน ต้องแอดฯ ใหม่มาเรียนกับพวกมันเท่านั้นถึงจะคุยด้วยได้ จึงทำได้แค่นั่งเงียบๆ กระทั่งกินเสร็จและเดินออกมานอกร้าน 
"ปิงกินไรต่อปะ"

"ไม่เอาแล้ว อิ่ม"

"งั้นกลับหอเลยปะ"

"ไปดิ พี่อิส งั้นผมกลับ..."

"ไม่ต้องกลับ คืนนี้นอนกับพี่"

"ครับ?"

"คืนนี้มานอนกับพี่ไง"

"ไม่เอาอะ พรุ่งนี้เรียนเช้า เดี๋ยวเลิกเรียนมาหา"

"พี่ไม่ได้ขอนะ"

"..."

"พี่สั่ง"

"ก็ด้าย" ปิงลากเสียงยาวอย่างงอแง ก่อนจะหันไปหาเพื่อน

"กลับกันเลย เดี๋ยวคืนนี้เรานอนกับพี่อิส"

"โอเค ไว้เจอกัน"

ปิงโบกมือลาเพื่อน ก่อนมันจะขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ส่วนผมเดินนำปิงมาที่โรงแรม

"แล้วผมจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนเปลี่ยนอะ"

"เสื้อพี่ไง"

"แปรงสีฟันอะ"

"แปรงพี่ไง"

"โห่ พี่อิสอะ!"

"ไม่ต้องพูดมาก จะอาบน้ำเลยไหม"

"เดี๋ยวค่อยอาบ"

"งั้นพี่อาบก่อน"

"เดี๋ยวสิครับ มานี่ก่อน" ปิงพยักหน้าเรียกให้เขาไปหา

"อะไร"

"ฟัดพุงหน่อย"

"มาดิ" ผมจับหัวปิงที่นั่งอยู่บนที่นอนกดเข้ามาซบพุง ปิงยกมือขึ้นโอบรอบเอวผมแล้วซุกหน้าถูไถไปๆ มาๆ

"เมี้ยวๆ"

"เมี้ยวพ่อง ทำตัวน่ารักไม่กลัวโดนจับแดกหรือไง"

ปิงหยุดกึกแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง

"โตแล้วนี่ ยอมยังอะ"

"พี่อิส ไปอาบน้ำเลย!"

"อาบด้วยกัน"

"ไม่เอา"

"ไปอาบน้ำด้วยกัน ไป"

"จะบ้าเหรอพี่อิส"

"พี่สั่งก็มา"

"ม่าย!"

            ผมลากปิงเข้ามาอาบน้ำด้วยกัน แต่ก็นั่นแหละ ได้แค่อาบน้ำ ปิงแม่งไม่ถอดกางเกงออกด้วยซ้ำ แถมไล่ผมออกมาก่อนอีก ผมคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายสั่งให้ปิงทำนั่นทำนี่ตามใจได้ แต่ลืมไป ผมทาสแมว ต้องยอมมัน

ถึงเวลานอนปิงก็ยึดผ้าห่มไปม้วนตัวเองเป็นซูชิโรล คิดไปเองว่าจะปลอดภัย ถ้าพี่คิดจะทำอะไร สะบัดทีเดียวก็ได้แล้วแมวน้อยเอ๊ย แต่ผมไม่ทำอะไรน้องหรอก ด้วยเกียรติแห่งศิษย์หลวงพ่อ ผมจะไม่ล่วงเกินใดๆ ปิง นอกจากเอาก้อน
ซูชิโรลมานอนกอดเท่านั้น
"พี่อิสหลับยัง"

"ยัง มีไร"

"อึดอัดสุดๆ อะ ขอออกไปจากผ้าห่มแป๊บ"

ผมหัวเราะเบาๆ แล้วปล่อยปิงออก ปิงเอาแขนโผล่ออกมาจากม้วนผ้าห่มแล้วดึงผ้าห่มออก

"เล่นอะไรไม่รู้" ผมว่าแล้วช่วยดึงผ้าห่มออกจากตัวให้

"ก็กลัวพี่อิสแกล้ง"

"จะไปแกล้งอะไรเล่า ขอกอดเฉยๆ"

"กอดเฉยๆ นะ"

"อือ" ผมสะบัดผ้าห่ม ห่มทั้งตัวผมและปิง แล้วดึงปิงเข้ามานอนบนแขนเพื่อจะได้กอดถนัด

"ไม่รู้จะกอดยังไงให้หายคิดถึงเลยเนี่ย"

ปิงหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วยกมือมากอดผมกลับ

"นอนเถอะครับ ขับรถมาเหนื่อยๆ"

"อือ"

"ฝันดีนะครับ"

"อือ"

ฟึ่บ!

ผมเบิกตาขึ้นนิดๆ เมื่อปิงยื่นหน้ามาหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะกลับไปซุกหน้าลงไปข้างๆ อกผมเหมือนเดิม ดูท่าจะเขิน ไม่ใช่แค่ปิง ผมก็ดันเขินไปด้วย แค่โดนหอมแก้มก็เขินเฉยเลย งงไปหมด 

สุดท้ายแล้วสงกรานต์นี้ผมก็ยังไม่ได้กินแมว แต่ผมกลายเป็นคนไม่โลภมากไปแล้ว แค่หอมแก้มเบาๆ แค่นอนกอดกัน แค่นี้ก็เพียงพอต่อความรู้สึก แค่เป็นปิงก็พอแล้วจริงๆ

อ่านต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 13-04-2017 23:13:42
วันสงกรานต์เดินทางมาถึงแล้ว วันนี้ปิงอ้อนผมออกไปเล่นน้ำกับเพื่อน ด้วยความน่ารักทั้งหมดทั้งมวลที่เอามาอ้อนจึงต้องยอมให้ไป ผมหันไปมองปิงที่เพิ่งแต่งตัวเสร็จแต่ชุดที่ใส่ทำให้ผมอดบ่นไม่ได้ 

"กางเกงมันสั้นไปไหม ฮะ?"

"ไปเล่นน้ำจะให้ใส่กางเกงยีนส์หรือไง"

"ยังจะเถียง ยาวกว่านี้ไม่มีเหรอ"

"ไม่มีแล้ว"

"แล้วเสื้อนี่มันบางไปไหมฮะ" ผมว่าแล้วดึงเสื้อมาดูเนื้อผ้าที่ดูเหมือนจะบางไป

"พี่อิส อะไรของพี่เนี่ย แก่ลงเยอะเลยนะ"

"ไปเปลี่ยนเลย เอาสีอื่น"

"ไม่มีแล้ว เอามาแค่นี้"

"ก็กลับไปเอาที่หอ"

"มันเสียเวลา เพื่อนรออยู่นะครับ"

"งั้นก็ใส่เสื้อพี่ ไปเปลี่ยน" ผมหยิบเสื้อยืดตัวหนึ่งให้ปิง คนตรงหน้าทำหน้ายุ่ง

"พี่อิสอะ"

"ไปเปลี่ยน"

"ตัวก็ใหญ่ เป็นเสื้อแขนยาวเลยเนี่ย" ปิงบ่นพึมพำตอนที่หันไปเปลี่ยนเป็นเสื้อของผม เพราะเสื้อตัวใหญ่ไปหน่อยปิงเลยดูตัวเล็ก เหมือนเด็กประถมหยิบเสื้อพ่อมาใส่แต่ก็ดีกว่าตัวเมื่อกี้ ไอ้เสื้อขาวๆ บางๆ นี่จะเผาทิ้งให้หมดเลย

ผมจำไม่ได้ว่าออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ครั้งสุดท้ายตอนอายุเท่าไร ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ ความวุ่นวายคือสิ่งที่เกลียดที่สุด แต่ตอนนี้ผมมาอยู่ที่คูเมืองเชียงใหม่ สถานที่เล่นน้ำสงกรานต์ยอดฮิตติดอันดับประเทศ ทั้งคนไทย ทั้งต่างชาติประมาณจำนวนไม่ได้ เรียกว่าเยอะจนทุกพื้นที่รอบคูเมืองไม่มีที่ว่าง

ปิงออกมากับเพื่อนแต่ชวนผมออกมาด้วย กลุ่มเพื่อนของปิงนอกจากไอ้เคนกับไอ้อาร์มก็มีคนอื่นๆ อีกรวมๆ
สิบคน ผมตั้งใจนั่งรออยู่แถวประตูท่าแพ แต่พวกเพื่อนๆ ของปิงมาฉุดให้ผมเดินตามไปด้วย แล้วก็เป็นห่วงปิงด้วยเลยต้องตามมา กางเกงขาสั้นที่มันไม่ยอมเปลี่ยนนี่ก็แอบทำให้หงุดหงิด เห็นขาขาวๆ กับเสื้อตอนเปียกน้ำนี่ใจไม่ดีเลย อย่างนี้ไม่ให้ตามมาคุมได้ไง ก็เลยต้องมาเดินตัวเปียกตามปิงไปรอบๆ คูเมือง บรรยากาศการเล่นน้ำที่นี่ก็คึกคักเหมือนที่เคยเห็นในทีวี ผมไม่ได้เอนจอยอะไรมากนัก แต่คนข้างๆ ดูจะสนุกกว่าใคร
ผมเดินมองปิงที่ดูสนุกสนาน ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะมาตลอดทาง ไม่เหนื่อย ไม่ร้อน กระโดดดึ๋งๆ ไปมาอย่างร่าเริง คงจะชอบเล่นน้ำ แค่มองร่างฉ่ำน้ำของลูกแมว พี่อิสก็จิตหลุดแล้ว ไม่อยากคิดชั่วจึงขอละสายตาไปมองสิ่งอื่นแป๊บหนึ่ง พักชมสิ่งที่น่าสนใจข้างๆ ทางก็ไม่เลว ถ้าผมมาอยู่เชียงใหม่มีใจแตกแน่นอน คนที่นี่ตัวขาวๆ นิ่มๆ มีบุคลิกคล้ายคลึงกับน้องสาวทั้งนั้น 

"พี่อิส!"

"ฮะ" 

"มองอะไรอะ"

ปิงเลื่อนสายตาไปมองกลุ่มสาวๆ ที่รวมตัวกันอยู่ริมถนน ดวงตากลมๆ ของคนข้างๆ หันขวับมามองผมเป็นแมวขู่แยกเขี้ยว

"พี่อิส!"

"แหะๆ"

"ฮึ่ย!"

"โอ๊ย!"

ผมร้องลั่นเมื่อปิงงับเข้ามาที่แขน เออ มันไม่ด่าเว้ย มันกัด

"มาเลย ไม่ต้องมองแล้ว"

"จ้ะๆ"

ผมเดินตามปิงไปกับกลุ่มเพื่อน เดินกันไปจนถึงอีกประตูของกำแพงเมือง พวกเด็กๆ ก็เริ่มเหนื่อย ก็เลยชนกันกลับ ผมแอบดีใจนิดหน่อยเพราะเหนื่อยตั้งแต่ร้อยเมตรแรกแล้ว เดินมาได้ขนาดนี้ถือว่าเป็นบุญ   

"เหนื่อยอะ รถจอดไกลจัง" ปิงบ่นเบาๆ

"ให้อุ้มไหมล่ะ"

"ไม่เอาอะ พี่อิสแก่แล้ว เดี๋ยวปวดหลัง"

"ใครแก่ เดี๋ยวโดน"

"โดนไร"

"โดนแดกแน่"

"พี่อิส!"

"จ้า จีบกันให้คนโสดตายไปเลยจ้า!"

"เออ หมั่นไส้แรง!"

"อุ้มกันลงคูไปเลยค่ะ! เชิญค่ะ!"

"อย่าแซวดิ" ปิงหันไปพูดแล้วโบกมือปัดๆ ใส่พวกเพื่อนๆ ที่หันมาแซวผมกับปิง

"อิจฉาน้ำปิงอะ"

มีแฟนเป็นพี่อิสคนเท่ก็จะน่าอิจฉาแบบนี้แหละ

"อย่างนี้มีอะไรให้อิจฉาเหรอ ตาลุงเนี่ยนะ"

"หลินปิง" ผมกัดฟันเรียกชื่อปิงออกมา

"แหะๆ หิวน้ำจัง" ปิงเปลี่ยนเรื่องแล้วชี้ไปที่ร้านขายน้ำอีกฝั่ง

"เปลี่ยนเรื่อง"

"หิวจริงๆ เดี๋ยวไปซื้อแป๊บนะครับ"

"เดี๋ยวพี่ไปเอง รอนี่แหละ"

"ครับ ไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวเราตามไป" ประโยคหลังปิงหันไปบอกกับกลุ่มเพื่อน ผมเดินข้ามถนนไปซื้อน้ำ หันกลับมาเห็นกลุ่มเพื่อนของปิงเดินไปก่อนแล้ว เหลือไอ้เคนกับไอ้อาร์มยืนอยู่กับปิง

"น้อง ปี้บ่ะมีตังค์ทอนเลย รอกำเน้อ"

ผมพยักหน้าหงึกๆ ให้คนขายน้ำ ฟังที่พูดไม่ออกเท่าไรนัก แต่เดาได้จากการที่เขาหยิบแบงค์ร้อยที่ผมจ่ายเดินไปที่ร้านอื่น คงไม่มีเงินทอน ผมหันกลับไปมองปิงที่อยู่อีกฟากถนนอีกที ก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าไอ้เคนมันกำลังยกมือข้างหนึ่งจับคางปิง อีกข้างวางอยู่บนหัว แล้วโน้มตัวยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ผมไม่รอเงินทอนแล้วเดินข้ามถนนกลับไปหาปิง

"ทำไรวะ"

ทั้งสามคนหันมามองผม

"มีคนสาดน้ำใส่ผม แล้วอะไรเข้าตาไม่รู้อะ เคนเลยเอาออกให้" ปิงอธิบาย ผมพยักหน้าหน่อยๆ

"แล้วเป็นอะไรเปล่า"

"ไม่เป็นไรแล้วครับ"

"อะ น้ำ" ผมยื่นน้ำให้ปิง กับไอ้สองคนนั้นด้วย

"มานี่เปิดให้" ไอ้เคนดึงขวดน้ำไปเปิดให้ปิง แล้วยื่นกลับมาให้ แต่ผมเป็นคนรับขวดน้ำนั่นไว้

"พี่อิส"

"มึงดูแลปิงเยอะไปแล้ว"

"ก็ปกตินะพี่"

"ปกติเหรอ"

"ใช่ดิพี่ ปิงมันเด๋อจะตาย น่าเอ็นดู"

"เสือกอะไรถึงมาเอ็นดูแฟนกู"

"แล้วพี่จะหวงอะไรนักหนา ผมก็เพื่อนปิงปะ"

"อ้าว ไอ้นี่!" ผมหันมองด้วยความไม่พอใจ จังหวะที่ไอ้เคนก้าวเท้าเข้ามาหาอย่างไม่กลัว

"พี่แม่งไร้สาระจัง"

"ก็มึงสนิทกับปิงเกินไปหรือเปล่า"

"ต่อยเลยปะล่ะ!"

"ไอ้เด็กนี่!"

"พี่อิส!"

"ไอ้เคน!"

ปิงเข้ามาดึงผม ส่วนไอ้อาร์มเข้าไปดึงไอ้เคนไว้

"พี่อิสไม่เอา!"

"มาเลยดีกว่า กูจะต่อยให้พี่มันเลิกไร้สาระเลย!"

"ไอ้เด็กเวร!"

"พี่อิสอย่า!"

"ปล่อยพี่!"

"พี่อิส ไม่เอานะ!"

"ปิงไม่ต้องห้าม! แฟนมึงอยากโดนมากมั้ง!"

"ไอ้เคนใจเย็นดิวะ!"

"พี่อิส!"

"ปล่อยดิปิง"

"พี่อิส เคนเป็นนักมวยนะ!"

 

ว้ายตายแล้ว...

 

            "ลูกเจ้าของค่ายมวยที่เคยเล่าให้ฟังไง! เดี๋ยวก็โดนต่อยตายหรอก!"

"นักมวยแล้วไง กูไม่กลัวหรอก" ผมทำปากดี แต่เหลือบตามองเส้นเลือดที่แขนมันขณะกำหมัดแน่น ไอ้สัด
น่าเกรงขามขึ้นมาเลย
"คุยกันดีๆ ดิพี่ ไม่พอใจอะไรกันอะ" ไอ้อาร์มเข้ามาพูดตรงกลาง

"ก็พี่มึงแม่งไร้สาระ หวงปิงมากเลยดิ"

"เออดิ มึงทำตัวสนิทกับปิงเกินไปอะ คิดอะไรกับปิงกู"

"จะคิดอะไรวะพี่ ก็บอกว่าน่าเอ็นดูก็แค่เอ็นดูปะ"

"แล้วแฮชแท็กเคนปิงส้นตีนอะไรนั่นอะ"

"เขาก็ล้อกันเล่นเฉยๆ ขำๆ"

"คิดว่ากูจะขำด้วยไหมล่ะ แล้วที่มึงไปคอมเมนต์ว่าปิงเมียมึง นอนด้วยกันทุกคืนอะ คืออะไร ขำมากไหม"

"ผมไม่ได้เป็นคนพิมพ์เว้ย ฝีมือไอ้ห่านี่" ไอ้เคนสะบัดหน้าไปทางไอ้อาร์ม มันฉีกยิ้มนิดๆ

"พี่โมโหเพราะคอมเมนต์นั้นเหรอ"

"เออดิไอ้สัด!" ผมเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ไอ้อาร์มแทน มันรีบพนมมือขึ้นแล้วถอยหลังหนีไปก้าวหนึ่ง

"ผมขอโทษ"

"ตลกเหรอมึงอะ"

"ขอโทษครับพี่ คือพวกผู้หญิงมันชอบแซวไอ้สองคนนี้เพราะสนิทกัน ผมก็เลยแกล้งเล่น ตอนนี้ก็ลบไปแล้วด้วย เพราะไอ้สองตัวนี้มันด่าผมไปแล้ว"

"มึงนี่มัน!"

"อย่าด่าผมเลย ผมผิดไปแล้ว"

"พี่อิส ใจเย็นๆ เลย ทำไมไม่พูดกันดีๆ" ปิงว่าแล้วถอนหายใจแรงๆ  ออกมา

"โมโหไง"

"ไร้สาระ"

"มึงเงียบไปเลย! ด่ากูไร้สาระมากี่รอบแล้วไอ้ห่า!"

"ก็พี่ไร้สาระจริงอะ"

"ใช่ ไร้สาระมาก"

"หลินปิง!"

"ก็มันไม่มีอะไรจริงๆ อะ พี่อิสโมโหอะไรก็ไม่รู้ แล้วเคนก็มีแฟนแล้วด้วย"

ไอ้เคนยักไหล่หน่อยๆ

"เสือกไม่บอกล่ะ"

"พี่ได้ถามกูสักคำไหมล่ะ"

"เฮ้อ! เข้าใจผิดกันแท้ๆ คนเราสมัยนี้มันใจร้อนกันแบบนี้ไงถึงได้มีเรื่องกันอะ"

"มึงเงียบไปเลยไอ้อาร์ม เพราะมึงนั่นแหละ!"

คนที่แทรกขึ้นมาหัวเราะแห้งๆ แล้วถอยหลังกลับไปอีกที

"วันหลังก็ถามก่อนนะพี่อิส โมโหแบบนี้ไม่น่ารักเลยครับ"

"เออขอโทษ"

"..."

"ขอโทษมึงด้วยไอ้เคน"

"ไม่เป็นไรครับ วันหลังก็มีสาระหน่อย"

"เดี๋ยวเถอะมึง"

มันหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยกมือตบบ่าผม

"ผมเข้าใจพี่ ถ้าผมเป็นแฟนปิงผมก็ห่วงว่ะ แม่งน่ารักฉิบหาย"

"ยังจะมาชมมันอีก"

"ก็ชมเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรโว้ยพี่ แฟนผมน่ารักกว่า"

"แล้วไป"

"เออ ๆ เคลียร์กันได้ก็ดีแล้ว กลับเลยไหม กางเกงในกูเปียก กูรู้สึกอับชื้น"

"ไปดิ"

ไอ้อาร์มกับไอ้เคนเดินนำไปก่อน ส่วนปิงหันมามองผมแล้วเชิดปากใส่นิดๆ

"อะไรเล่า"

"งับ!"

"โอ๊ย!"

ผมร้องลั่นเพราะปิงเข้ามากัดแขน คราวนี้แรงกว่าเดิม จมเขี้ยวเลยมั้งเนี่ย! 

"กัดทำไมเนี่ย"

"กัดเรียกสติ"

"อยากเป็นหมาเหรอ"

"ก็พี่อิสบ้า" ปิงหันมาด่าแต่ว่ายื่นมือมาจับมือผมเอาไว้แน่น ผมแกล้งกระชากให้ปิงเขยิบเข้ามาใกล้จนไหล่ชนแขนผมไม่ให้มีที่ว่าง คนข้างๆ หลุดยิ้มออกมานิดๆ

"ปล่อยเลย ไม่อยากอยู่ใกล้คนขี้หวง"

"ไม่รักจะหวงไหม"

"หวงเป็นคนบ้า"

"เราก็น่ารักให้มันน้อยๆ ดิ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยหวง"

ปิงส่ายหน้ายิ้มๆ แล้วพูดออกมาเบาๆ คล้ายจะพูดกับตัวเองแต่ก็พอที่ผมจะได้ยิน

"พี่อิสเป็นเจ้าของผม ผมก็เป็นของพี่ได้คนเดียวอยู่แล้ว จะหวงทำไมก็ไม่รู้"

 

...

 

วันนี้เป็นวันครอบครัว ปิงพาผมมาที่วัดแห่งหนึ่งเพื่อมาเยี่ยมโกฏิเก็บกระดูกของพ่อแม่ปิง ผมหันมองรูปที่หน้าโกฏิขณะที่ปิงกำลังวางพวงมาลัยไว้ตรงนั้น ปิงหน้าตาเหมือนแม่ แต่รอยยิ้มเหมือนพ่อ พ่อแม่ปิงคงเลี้ยงปิงมาดีมาก ถึงได้โตมาเป็นเด็กดีแบบนี้ แม้จะมีชีวิตอยู่ในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็เป็นเด็กที่มีทัศนคติดีเสมอ ผมเลื่อนมองพ.ศ.ที่
พ่อแม่ปิงเสีย นานมากแล้ว ในตอนนั้นปิงยังเป็นเด็กประถมอยู่เลย ผมเดาความรู้สึกของน้องไม่ได้ว่าจะเป็นยังไงเมื่อต้องสูญเสียพ่อแม่ไปขณะที่ตัวเองยังเด็ก ผมยังมองเห็นความเศร้าผ่านแววตาคู่นั้นในตอนที่ปิงมองไปที่รูปถ่ายของพ่อกับแม่ อดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือไปจับมือปิงเอาไว้ แล้วเลื่อนสายตากลับไปมองรูปพ่อกับแม่ 
 

"ผมดูแลปิงเองครับ ไม่ต้องเป็นห่วง"

 

ผมกับปิงเดินออกมาจากวัดช้าๆ ต้นไม้สองข้างทางทำให้ตรงนี้ไม่ร้อนมากจึงเดินได้สบายๆ

"ปิง โทรหาย่าหรือยัง"

"ครับ?"

"วันครอบครัวไง โทรไปหาย่าไป"

"โอเคครับ" ปิงตอบรับแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาย่า

"ย่าครับ ปิงเอง ครับ ปิงอยู่กับพี่อิสครับ คุยไหม" ปิงว่าแล้วยื่นมือถือมาให้ ผมกดเปิดสปีกเกอร์โฟนเพื่อให้เราได้ยินด้วยกัน   

"ไงย่า ทำไรอยู่" 

(ไปเชียงใหม่ไม่บอกย่าเลย จะได้ติดรถไปด้วย)

"โธ่ คุณย่าครับ แค่ชวนไปวัดยังไม่ไปเลย นี่จะมาเชียงใหม่เหรอ"

(ก็คิดถึงเจ้าปิงน่ะสิ แล้วปิงเป็นยังไงบ้างลูก)

"สบายดีครับ ใกล้ปิดเทอมแล้ว เดี๋ยวกลับไปหานะ"

(จ้าลูก เที่ยวสงกรานต์ก็ระวังตัวล่ะ ทั้งสองคนเลย)

"ครับย่า ไม่ต้องเป็นห่วงครับ"

(ดูแลน้องด้วยนะอิส อย่าทิ้งน้อง)

"รับทราบครับ"

(ดีมาก งั้นย่าไปทำกับข้าวก่อน ไว้คุยกันนะลูก)

"ไว้คุยกันครับย่า"

"เดี๋ยวซื้อแคปหมูไปให้เคี้ยวเล่นนะย่า ป้าเผลอแล้วเจอกัน"

(ทะลึ่งจริงๆ แกนี่ แค่นี้ๆ โชคดีลูก)

ปิงหัวเราะเบาๆ แล้วกดวางสายจากย่าไป

"ย่าเป็นคนในครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ของผมเลย"

ผมพยักหน้ารับเบาๆ ก่อนปิงจะพูดต่อ

"แล้วพี่อิสไม่ต้องกลับไปอยู่กับครอบครัวเหรอครับ"

"ไม่รู้จะเอาตัวเองไปเสือกกับครอบครัวไหนดี"

"พ่อแม่พี่อิสเขาก็รักพี่นะ"

"พี่ก็รักพวกเขา แต่พี่ก็มีพื้นที่ของพี่แล้ว คงไม่กลับไปอยู่ในที่ที่มันทำให้เราไม่สบายใจหรอก อีกอย่างพี่ก็มีครอบครัวของพี่ที่อยากอยู่ด้วยแล้ว"

"ครับ?"

"ก็ปิงไง"

"..."

"ปิงเป็นครอบครัวพี่นะ"

ปิงยิ้มกว้างหน้าแดงก่ำด้วยความเขินกับคำพูดธรรมดาๆ นั่น ผมเองก็ได้แต่ยิ้มบางๆ แล้วสอดมือเข้าไปจับกับมือปิงเอาไว้อีกที   

"อยู่ให้พี่ดูแลนะ"

"ครับ จะอยู่กับพี่ไม่ไปไหนเลย"

"ดีมาก"

"พี่อิสเป็นพ่อผมก็ได้นะ"

"เรียกพี่ว่าพ่อสิลูก"

"ปะป๊า"

ผมหันขวับไปมองปิงเพราะเกิดชอบคำที่ปิงเรียกขึ้นมา ทำไมวะ สัญชาตญาณความเป็นพ่อมันสูงมากถึงได้
ชอบใจตอนมันเรียกพ่อเนี่ย ไปซื้อพวงมาลัยมารดน้ำดำหัวกูเลยไหมล่ะ
"ปะป๊า ปะป๊าอิส"

โห น่ารักจังเลยลูกเอ๊ย

"ไม่เอาอะ เรียกพี่อิสอย่างเดิมดีแล้ว"

"ไม่อยากเป็นพ่อแล้วเหรอ"

"เรียกปะป๊าแล้วใจสั่น"

"ใจสั่น?"

"อือ"

ปิงแนบหูลงมาบนอกผม ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

"พี่อิสกระจอก"

"เออ!"

"งั้นจะเรียกปะป๊า"

"ไม่เอา!"

"ปะป๊า พาไปกินพิซซาหน่อย"

"หลินปิง!"

"ปะป๊า ปิงอยากกินพิซซ่าครับ"

"เรียกปะป๊าอีกทีพี่จะจับเยในรถนี่แหละ"

"พี่อิส!"

"เรียกป๊าสิลูก"

"ไปเลย!"

ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ปิงเป็นคนน่ารักขนาดนี้และไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมได้มาเจอกับคนน่ารักคนนี้ แม้จะไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ก็ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณโลกที่เหวี่ยงแพนด้าหน้าแมวตัวนี้มาให้ ผมจะดูแลน้องให้ดีอย่างไม่มีเงื่อนไข ดูแลไปทั้งชีวิตก็ยังได้...ผมสัญญา 

 

-สุขสันต์วันสงกรานต์-
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 13-04-2017 23:27:53
อิพี่อิสกากเสมอต้นเสมอปลาย 55555555 แพนด้าหน้าแมวคือน่ารักจริงงง งุ้งงิ้งสุดดดดดดด กว่าจะสี่ปีอิพี่ตายก่อน
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 13-04-2017 23:30:27
อยากฟัดปิง ๆๆๆๆๆๆ
อยากฟัดพุงพี่อิสคนกากด้วยยยยยย

มันน่ารักทั้ง ๆ ที่กากแบบพี่อิสเนี่ยแหละ!
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 13-04-2017 23:45:37
ยอมในความขี้หวง จากจนๆนี่มีตังไปหาถึงเชียงใหม่ เปิดโรงแรมนอนอีก อิสระสไตล์มาก 5555555555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 13-04-2017 23:47:07
โอ๊ยยยย อิพี่อิสคนกากกก ยังกากได้เสมอต้นเสมอปลาย เพิ่มเติมคือกลายเป็นมนุษย์ลุงไปแล้ว   :laugh:  ความกาก ความลุงของพี่อิสนี่มันช่างน่ารัก(?) น่าฟัดพุงจริงๆ  หวงน้อง อยากแดก (ไม่เปลี่ยนแปลง) แต่กากเพราะรักไม่กล้าทำ ถถถถถถถ อีกนิดหลินปิงคงได้รดน้ำดำหัวจริงๆเข้าสักปีอ่ะเนอะ ปะป๊าาาา  55555  :L1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Moose ที่ 14-04-2017 00:06:17
รักนิยายเรื่องนี้มากเลย รักคนเขียนด้วยค่ะ ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ มีความสุขมากที่ได้อ่าน  :L1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: MNIMD ที่ 14-04-2017 00:14:01
ลุงอิสลุงขี้บนลุงขี้หึงลุงขี้เหงา อยากจะโหวตพี่เป็นคุณลุงแห่งความเกรี้ยวกราดจริงๆ หมั่นไส้ทำมาเป็น
ไม่ไปหาน้องนู่นนั่นนี่พอเห็นว่าเคนมาเม้นพี่ก็รีบไปเชียงใหม่ขึ้นมาทันทีเลยนะคะ ขี้หึงจริงๆ ถ้าพี่อิส
ต้องการเพื่อนแก้เหงาเราพร้อมที่จะเป็นเพื่อนแก้เหงาให้พี่เสมอนะคะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 14-04-2017 00:20:40
พี่อิสคนเดิมเพิ่มเติมคือความแก่และความกากที่เพิ่มมากกขึ้น :laugh:
ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ไม่มีใครได้มากกว่านี้ มงความกากอยู่ที่พี่แกหลายสมัยล่ะ 5555
ถถถ เอ็นดูหรอกกก นี่ก็ช่วยสมทบทุนค่าเลี้ยงดูน้องปิงให้พี่อิสไปแล้วนะ นับวันรอหนังสือเลยยย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 14-04-2017 05:25:44
พี่อิส น้ำปิง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
พี่อิส ยังกาก เหมือนเดิม แต่กากแล้วมีจิตสาธรณะ
ปิง น่ารัก น่ากอด จนพี่อิสหวง
ปิงโตขึ้นแล้ว สงสารพี่อิสเลย อยู่ไกลกันเกินไป
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: wonderbe ที่ 14-04-2017 07:38:24
พี่อิสนี่กากคงเส้นคงวาจริงๆ   :pigha2: ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะะะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 14-04-2017 09:03:01
พี่อิสคนกาก  :katai1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 14-04-2017 10:53:15
พี่อิสนี่กากจริงๆ ขำ 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 14-04-2017 11:20:24
พี่อิสคนเกรี้ยวกราดดด น่ารักมากกกก
เรื่องนี้อ่านแล้วทั้งขำทั้งฟินทั้งน่ารักน่าเอ็นดู ชอบมากๆ ชอบความกากของพี่อิส ชอบเวลาพี่อิสไม่มีสติ
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Lalaleega ที่ 14-04-2017 12:43:36
คิดถึงหลินปิงกับพี่อิสมากเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-04-2017 13:41:40
จะอิจฉาใครดี
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 14-04-2017 14:19:14
ไม่เจอกันนานพี่อิสยังมีสไตล์เหมือนเดิมเลยนะคะ55555 อ่านไปแล้วกลัวใจพี่อิสจะเลี้ยงปิงเป็นลูกจริง ทำเป็นขู่จะเย่น้องมากี่ตอนละ แถมน้องเรียกปะป๋ายังใจสั่นอีก หัวใจคุณพ่อมากๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 14-04-2017 21:17:41
อิสระก็ยังเป็นอิสระ ทะเลาะกับใบไม้ก็ได้

ขอบคุณสำหรับตอบพิเศษนะคะ น้ำปิงยังน่ารักน่าฟัดเหมือนเดิม รู้สึกเส้นความอดทนของอิสระคนกากจะบางลงทุกวัน เราจะมีหวังได้อ่านฉากอัศจรรย์ของพี่อิสคนกากไหมคะ? อยากรู้บทเลิฟๆ จะเป็นยังไง

สุขสันต์วันสงกรานต์และปีใหม่ไทย ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 14-04-2017 22:39:32
ตอนแรกๆสงพี่อิส โดนทิ้งเป็นตาแก่เฝ้าวัด อย่างฮา
ตอนท้ายนี่ อิจพี่อิส หลินปิงรักหลินปิงหลงสุดๆ แต่นะสุดท้ายก็ยังไม่ได้กินเอาขึ้นหิ้งเถอะพี่ น้ำยาพี่คงหมดอายุแล้ว :laugh:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: zaalim ที่ 14-04-2017 23:42:54
โอยยย...อ่านแรกๆนี่ขึ้นเลย...ขึ้นแทนพี่อิสเลย ..อะไรว้าา..มี#เคนปงเคนปิง แถมมีมาบอกว่าเป็นเมียอีก นี่ลุ้นให้พี่อิสตั๊นหน้าสักทีสองทีเลยนะ ...แต่สุดท้ายก็นะ...กากใสใสสไตล์พี่อิส แม่มมม เป็นปิงจะกัดให้จมเขี้ยวเลยจริงๆ  :katai1:

ปล. ปิงปิงน่ารักที่ซู้ดดดด  แพนด้าหน้าแมวน้อย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 15-04-2017 01:54:39
โอ๊ยยย ปิงน่ารักสัสอ่ะ  :katai2-1: เกลียดความอ่านไม่จบของอิพี่อิส โถววว ตอนพิเศษก็แล้วกากเหมือนเดิม 555555555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: happy-jigsaw ที่ 15-04-2017 09:32:37
หลินปิงน่ารักมากเลย อ่านมากลางๆ เรื่องนี่เชียร์ช็อกมาก พี่องพี่อิสอะไรไม่รู้จัก แต่จริงๆ พี่แกก็ดี ดีแบบกากๆ นิดหน่อย นิสัยหลินปิงคือดีอ่ะ เข้มแข็งเกินตัว พี่อิสก็ดี สู้ชีวิตมาไม่ต่างกัน นึกถึงชีวิตจริงของคนหลายๆคนเลย ต้องมีแบบนี้ไม่น้อยล่ะ กัดปากตีนถีบกันเอง สำนวนการเขียนนักเขียนก็ดีงาม อ่านง่ายไม่ใช้คำฟุ่มเฟือย เรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่หวือหวาแต่ไม่น่าเบื่อ สรุปคือชอบทุกอย่าง  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: lemonpreaw ที่ 15-04-2017 23:37:45
ลดความเกรี้ยวกราดลงบ้างก็ได้พี่อิส
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: PiiNaffe ที่ 16-04-2017 02:46:00
อิพี่อิสกากยังไงก็กากอย่างงั้น 55555554
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 16-04-2017 15:35:47
อีพี่อิสสสสสส กากมาก 5555555 ทำไมหลินปิงถึงน่ารัก กร๊ากกกกกก รอหนังสือเลยค่า เปย์ไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 16-04-2017 23:09:10
โอ้ยยยยยย พี่อิสกับหลินปิงน่ารักจังงงงงงง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 16-04-2017 23:27:56
อ๋อยยยยย น่ารักกกกกก
ละมุนหัวใจมากกกกกกกกกก
> <
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: meyj4ever ที่ 17-04-2017 15:38:55
กรี๊ดดดด..อิลุงอิส อิพี่อิสคนกาก  ทะเลาะแม้กระทั่งใบไม้ 555
คิดถึงน้องหลินปิงผู้น่ารัก คิดถึงพี่อิสจอมเกรี้ยวกราด
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะจ๊ะ หายคิดถึงไปได้หน่อยนึงเลย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: JokerLK ที่ 17-04-2017 15:45:54
โอ้ย น่าสงสารคุณลุงเค้านะคะ ต้องไปรบกวนพระรบกวนเจ้าให้อยากโบกเล่น 55555555555555 คนบาปที่แท้จริง
ตอนแรกคิดเลยว่าพี่อิสจะไปหาบ่อยๆเพราะดูท่าทางจะติดน้องมาก #แต่พอมาดูฐานะทางการเงินของคนกากก็เข้าใจ โอ้ยยย
น้องก็น่ารักเรี่ยราดไปหมด ลุงก็หึงจนหน้ามืด 55555555

ปล. ตอนน้องปิงเรียกป๊าเนี่ย หน้าน้องมิวซ์ลอยมาได้ไงไม่รู้ ฮือออออออออ ความน่ารักของโลกใบนี้
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 17-04-2017 21:21:12
หลงรักความเติมเต็มของตัวละคร
พี่อิสคนกาก หลินปิงคนอึน น่ารัก
ชอบการดำเนินเรื่องเหมือนจะสบายๆ
แต่ก็แอบน้ำตาซึมไปหลายตอน
ตามมาจากองศาเหนือและรอเรื่องต่อๆไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 17-04-2017 21:40:23
ก็น่ารักอ่ะ ปะป๋าเลยหวง :o8:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: reverofjs ที่ 18-04-2017 13:32:49
โอ๊ยยยยยยยย คิดถึงคู่นี้หนักมากกกกกก
พี่อิสคนกากก็ยังคงกากเสมอต้นเสมอปลาย แถมตอนนี้ยังเพิ่มความเกรี้ยวกราดเข้ามาอี๊กกกกก
รักน้องหลงน้องขึ้นไปอี๊กกกกกกกก  o13
ส่วนหลินปิงก็น่ารักมากขึ้นกว่าเดิมอีกลูกกกก เอ็นดูววววววววววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 18-04-2017 14:14:32
ทำไมหนูน่ารักแบบนี้ หลินปิง

ส่วนพี่อิสยังคงเดิม

#พี่อิสคนกาก ช่วยเปลี่ยนแท็กให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 18-04-2017 16:57:48
ลุงอิสคนกากยังชอบโวยวายเหมือนเดิม :hao7:

เราเพิ่งมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ

ใครไม่ได้อ่านเรื่องนี้เราว่าพลาดอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 19-04-2017 22:31:41
น่ารักมากตอนพิเศษ สงสารพี่อิสเนอะ อยู่คนเดียว ปืงคิดถึงตลอดเลยจากสเตตัสส่วนตัว ฮือ น้องน่ารัก
พี่อิสมีความหวงเกิดขึ้น ก็แฟนน่ารักขนาดนี้ แกมีความคล้ายพ่อขึ้นทุกวันเนอะ
ตอนไปช่วยทำงานที่วัดนี่สงสาร โถ คนเหงา

ขอบคุณค่ะ สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 19-04-2017 23:34:04
พี่อิสยังโซกากเหมือนเดิม
เพิ่มเติมคือขี้หวงหนักมาก
และมีความคุณพ่อหนักมากเช่นกัน
ส่วนปิงๆน้อยนี่ก้น่ารักน่าขยี้เหมือนเดิมม
ฮืออออ เด็กคนนี้นี่น่าจับมทกอดแรงๆเหลือเกินนน
เราจะโดนพี่อิสต่อยมั้ย555555
ของคุณสำหรับตอนพิเศษค่าา
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 21-04-2017 19:26:24
 o13 สนุกค่ะ อ่านแก้เครียด ตลกดีชอบแนวนี้  o13
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-04-2017 20:49:21
 :pig4: :pig4:
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 23-04-2017 20:01:59
สนุกดีค่า
ชอบความกากของพี่อิส 5555
เวลาเขินก็ยังเก๊กเท่อีก
เป็นกุ๊ยในคราบคนดี
ชอบบุคลิกของทุกคนมา
ยกเว้นครอบครัวป้า
อยากอ่านตอนพิเศษเพิ่มจัง
จะมีมาเพิ่มอีกไหมอ่ะ?
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 24-04-2017 02:06:40
พี่อิสคนคูลลลล  :impress2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 02-05-2017 14:44:44
Thank you สำหรับนิยายดีๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: pang_lupank ที่ 05-05-2017 22:58:26
อ่านแล้วน้ำตาไหลพราก  :hao5: ไม่ดราม่าเลย แต่กูร้องห้ายยย ฮรื่อออ ปิงน้อยไปอยู่เชียงใหม่อะะะะะ ทำไมหนูทำเงงงง้ลูกก รู้สึกเหมือนลูกที่พรากจากอก หมันไส้เพื่อนนางอีกก บังอาจจ! กลับไปอยุ่กลับพี่อิสเร็วๆนะลูก  :o12: พี่อิสรีบๆจับน้องแดกกกกเลยยยย  :katai1: :serius2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 10-05-2017 20:26:14
แหม คุณอิสมีความเกรี้ยวกราดมากกก 555555555555 หวงถึงขนาดตามไปหาแพนด้าหน้าแมวถึงเชียงใหม่ ย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ หลินปิงเลยไหมละ ปล. ไม่ชอบป้ามาก แย่ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 10-05-2017 23:00:12
อ่านจบแบบรวดเดียว ไม่สามารถวางได้
เป็นเรื่องที่ดีต่อใจเรามาก
มีครบทุกรสชาติ อ่านได้เพลินๆ
อ่านละบับแบบอีพี่อิสนี่มีที่ไหนอีกไหมงะ 5555
ถึงจะปากร้ายแต่ใจดี ละมุนสุดๆแม้จะหน้าโจร =..=
เรื่องจบแล้วต้องคิดถึงแน่ๆ ชอบมากก ขอบคุณคนแต่งที่แต่งเรื่องดีๆ มาให้อ่านนะคะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Roman ที่ 13-05-2017 16:17:58
หลงพี่อิสแรงมากกกกก น้องปิงก็น่ารัก งื้ออออออ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 23-05-2017 15:55:00
น่ารักกกมากกก ฮาพระเอก ชอบความมั่นหน้าของพี่อิสจริงๆ 555
เหมือนสองคนนี้มาเพื่อเติมเต็มกันและกัน
ปิงก็แมวน้อยน่ารัก อยากเลี้ยงมั่ง

สนุกค่ะ ขอบคุณนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 24-05-2017 23:01:29
ชอบมากกกค่ะ เรื่องนี้จะอยู่ในtop list นิยายที่ชอบที่สุดในตอนนี้เลย รักง่ะ ฮือออ ทุกอย่างลงตัวไปหมด ขอบคุณนะคะ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-06-2017 16:31:40
โอ๊ย หวานมากกกกก หมั่นไส้ย
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: Yundori ที่ 30-06-2017 22:38:15
พี่อิสแบบหวงน้องขั้นสุดมากกก
แต่ปิงน่ารักอ่ะ ความน่ารักมันเพิ่มขึ้นจริงๆ
ยิ่งได้มาอยู่กะพี่อิสและมีความสุขยิ่งมีออร่า
น่ารักน่าฟัดมากก คิดถึงพี่อิสมากกจริงๆอ่ะน้อง  :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: NooMary ที่ 13-07-2017 16:34:20
อ๊าย  ฟิลกู๊ด  น่าสงสารลุงจัง  หลานหนีไปเรียนเชียงใหม่ 555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: GRID ที่ 22-07-2017 04:18:22
อ่านรวดเดียวจบเลย
ดีต่อใจจริงๆ รักทุกสิ่งที่เลือกสรรค์มาให้สัมผัส
รักอิสระ รักรชา
รอภาคต่อ ขอเหอะ นานแค่ไหนก็จะรอ
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: rcha ที่ 28-07-2017 12:48:05
สนุกมากค่ะ ชอบพี่อิสกับปิงมากกกกก
ติดเรื่องเดียว โกรธพี่อิสที่อำปิงเรื่องไล่ออกจากบ้าน
แต่ให้อภัยเพราะพี่อิสดูแลปิงดี แงงงง อิจฉาปิงมาก
อ่านเรื่องนี้แล้วยิ้มตามตลอดเลย
แต่ก็แอบสงสารพี่อิสที่ใครๆ ก็มองว่าพี่แกเถื่อน 55555
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: KeepItSimple ที่ 30-07-2017 01:16:29
 :mew1: อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วมีความสุขมากๆ
อ่านไปยิ้มไป อ่านไปเขินไป  :o8:
ถึงพี่อิสจะหลงหลงน้องปิง  แต่เราหลงพี่อิสมากนะคะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ เกรี้ยวกราดสงกรานต์เดย์
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 02-08-2017 08:50:44
โอ๊ยยย ทำไมปิงเป็นคนแบบนี้ ทำไมไม่เปิดโพสเลย พี่อิสจะได้ไม่ต้องระแวง 55555
อิสคนบ้า ทำหวง แต่ที่ไหนได้ รู้ตัวเองดีหรอก ชอบน้องไปเต็มๆ

ชีวิตปิงน่าสงสาร แต่ดีที่ไม่เกเร ทนเวอร์มากอะ ทำไงได้เนาะ ไม่มีที่ไป โชคดีเจอคนดี พี่อิสคนอิสระ

ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ เรื่องน่ารักมากค่ะ ดราม่าเบา ๆ แต่เราไหว 55555
เพราะนอกนั้นจะฮามาก เพราะอิสคนอิส ทำมึนหวงปิง
หัวข้อ: Re: ►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 10-08-2017 23:29:15
คนกากกับความเหงาของเขา

 

อิสระ :

 

ติ๊งต่อง!

 

เสียงกริ่งหน้าบ้านเป็นเหตุให้ผมโยนเมาส์ปากกาในมือทิ้งแล้วลุกพรวดไปหน้าบ้าน ไม่บ่อยนักที่จะมีคนมาหา ความดีใจออกนอกหน้าด้วยการรีบวิ่งแจ้นออกไป ก่อนต้องผิดหวังนิดหน่อยเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น

"นมเปรี้ยวมาส่งจ้า"

"ครับ"

ผมตอบรับสั้นๆ หันกลับมาหยิบเงินไปแลกกับนมที่มาส่งทุกอาทิตย์ หิ้วเข้าห้องครัวแล้วยัดเข้าตู้เย็น ของเก่ายังกินไม่หมด เลยหยิบมาดูวันหมดอายุ เลยวันที่จะกินได้แล้วก็เลยจับโยนทิ้งถังขยะให้หมด เพราะไม่มีปิงช่วยกินมันเลยเหลือเยอะ

"เมี้ยว"

ผมเลื่อนสายตาไปมองชีสไบท์ที่เดินเข้ามาหาพร้อมเสียงร้องงอแง หันมองถาดอาหารของมันที่ว่างเปล่าก็เข้าใจว่าหิว

"กินเก่งจังวะ" ผมบ่นหน่อยๆ เพราะจำได้ว่าเพิ่งเทอาหารให้มันกินเมื่อกลางวันเต็มถาด แต่เพราะมันมาออดอ้อนพันแข้งพันขาทำหน้าตาแบ๊ว เลยอดไม่ได้ที่จะตามใจ เดินไปหยิบถุงอาหารที่ใกล้จะหมดแล้วเทให้จนเกลี้ยงถุง

อาหารแมวหมดพร้อมกับผมที่ไม่มีอะไรกินพอดีในเย็นนี้ เลยหยิบกระเป๋าตังค์เดินออกไปข้างนอก ระหว่างทางก็เจอกับไอ้เปรี้ยว หมาตัวใหญ่ที่ตอนนี้เป็นมิตรต่อกันแล้ว มันเห่าสองสามทีเหมือนจะทักทายกัน

"โฮ่งๆ!"

"เห่าหาพ่อมึงเหรอ"

ผมทักกลับอย่างเอ็นดู ก่อนเดินผ่านหน้ามันไปแล้วตรงเข้าร้านสะดวกซื้อ หยิบอาหารกล่องสำเร็จรูปแบบไม่ต้องเลือกแล้วเอาไปจ่ายเงิน

"รับชีสไบท์เพิ่มไหมคะ ลดราคาอยู่เลย สองชิ้นแค่ยี่สิบสองบาทนะคะ"

ผมหลุดยิ้มออกมานิดหนึ่งในทุกครั้งที่เห็นชีสไบท์ก็อดที่จะนึกถึงวันที่คุยกับปิงไม่ได้ เอาจริงๆ ตอนนี้คิดถึงจนมองอะไรก็มีมันโผล่เข้ามาทุกอย่างนั้นแหละ

"เอาไหมคะพี่ ใกล้หมดโปรโมชั่นแล้วน้า"

ไม่ได้อยากกินเลยเนี่ย แต่พนักงานแม่งทำตัวน้องสาวมาก ไม่รู้จะอ้อนอะไรนักหนา อ้อนจนหน้ามืดตามัว
อยู่ดีๆ ได้ชีทไบท์มาสี่ชิ้นแบบงงๆ ผมจ่ายเงินเรียบร้อย กำลังจะเดินออกจากร้านแต่กลับไปสะดุดกึกอยู่หน้าตู้ไอติม ยืนมองไอติมรูปหมีแพนด้าแล้วใจสั่นแปลกๆ

คิดถึงหลินปิงโว้ย!

ผมถอนหายใจทีหนึ่งแล้วเดินเข้าไปหยิบไอติมรูปหมีแพนด้าไปจ่ายตังค์อีกรอบ

"รับชีสไบท์เพิ่มไหมคะ ลดราคาอยู่..."

พอเถอะ

ผมไม่ได้พูดออกไปแต่ดูจากหน้าตาและการมองตาขวางของผมก็น่าจะรู้แหละว่าผมไม่ต้องการชีสไบท์เพิ่มแล้วผมเดินออกมาหยุดอยู่หน้าร้าน แกะไอติมรูปหมีแพนด้าออกจากถุงแล้วมองอยู่อย่างนั้น กูนับถือในความพยายามที่จะเป็นแพนด้าของมึงจริงๆ ลูกกะตาไหลไปรวมกับปากและอนาโตมี่ที่มองแล้วรู้สึกสงสาร เป็นแพนด้าพิการแต่ถึงอย่างนั้นมันก็อร่อยดี ผมกัดไอติมเข้าปากแล้วมองหาที่นั่ง ก่อนหันไปสะกิดหมาที่หน้าร้าน 

"เฮ้ย ขยับไปหน่อยดิ"

มันเงยหน้ามองด้วยใบหน้านิ่งๆ แล้วลุกหนีไป ผมกำลังจะหย่อนตัวลงนั่งแต่ถูกมือหนึ่งดึงแขนเอาไว้ก่อน

"พี่อิส"

"อ้าวไอ้ปรินซ์"

"ทำไมต้องมาแย่งที่หมานั่งด้วย"

"เรื่องของกูเหอะ แล้วมึงมาทำไมเนี่ย"

"ไปหาพี่ที่บ้านไม่เจอไง ไปเที่ยวกัน"

"ไม่ไปอะ งานกูยังไม่เสร็จ"

"ไรวะพี่ พวกไอ้โอมรออยู่ที่ร้านแล้วเนี่ย กว่าพวกผมจะว่างรวมตัวกันมาหาพี่ได้ แล้วพี่ก็มาบ่นว่าน้องไม่มาหา เหงามากไม่ใช่หรือไง"

"คนเท่เขาไม่เหงากันหรอกมึง"

"เออ งั้นไปละ เหงาให้ตายไป"

"เฮ้ย เดี๋ยว"

ผมดึงแขนไอ้ปรินซ์เอาไว้ก่อนมันเดินออกไป

"ไปด้วยก็ได้"

ไม่เท่วันหนึ่งก็ได้วะ ผมต้องยอมรับความเหงาว่ามันมีมากขึ้นทุกที ไม่เคยรู้มาก่อนว่าความห่างไกลมันจะทำให้ผมทรมานขนาดนี้ ไม่เคยเหงาขนาดนี้ ไม่เคยคิดถึงใครขนาดนี้ ถ้าหลินปิงยืนอยู่ตรงนี้จะฟัดให้จมเขี้ยว จะบีบให้เละคามือเลย ทำโทษที่ปล่อยให้พี่อิสเหงาขนาดนี้

ผมแทบไม่ได้มาร้านเหล้า เพราะไม่ชอบที่คนเยอะๆ อยู่แล้ว อยากเมาก็เมาที่บ้าน แต่ช่วงหลังๆ ไอ้พวกนี้ก็ชวนมาที่นี่หลายครั้ง เย็นวันศุกร์หลังเลิกงานหรือโอกาสเหมาะๆ ก็มาเจอกันเป็นบางครั้งบางคราว พวกมันนั่งคุยกันสัพเพเหระ ส่วนผมนั่งปัดหน้าจอมือถือไปๆ มาๆ วันนี้ปิงยังไม่โทรหาเลย ปิงเริ่มเรียนเยอะ กิจกรรมเยอะและโทรหาผมไม่เป็นเวลาเหมือนแต่ก่อน ผมก็เหมือนลุงแก่ๆ รอหลานโทรกลับบ้านด้วยความหวังริบหรี่ แม่งเอ๊ย! ไม่เท่ โคตรไม่เท่!

 

ติ๊ง!

 

            ผมกดไปดูไลน์ที่เด้งขึ้นมาในแทบจะทันทีเพราะเห็นแล้วว่าเป็นปิง แต่ประโยคที่ส่งมาทำให้ยิ้มของผมรวบเก็บอย่างผิดหวัง

 

หลินปิง : พี่อิส วันนี้ไม่ได้โทรหานะครับ งานยังไม่เสร็จเลย

 

อิสระ : เออ งอนแล้ว

 

ผมพิมพ์กลับไป ปิงหายไปพักหนึ่ง ก่อนกลับมาพร้อมรูปถ่ายยิ้มกว้างๆ เต็มจอ

 

หลินปิง : ง้อครับ

 

ก็ดูมัน...ทำตัวน่ารักแบบนี้จะให้ทำยังไงอะ

 

อิสระ : ไม่หาย

 

พอผมพิมพ์กลับไปอย่างนั้นปิงจึงส่งภาพแคลื่อนไหวเป็นวิดีโอกับมา


"ปะป๊า ไม่งอนนะครับ ผมทำงานอยู่ เดี๋ยวพรุ่งนี้โทรหาครับ รักป๊านะ"

 

เสียงใสๆ ผ่านวิดีโอนั่นทำให้ผมยิ้มออกมาอีกที ส่วนช็อตสุดท้ายที่มันจูบใส่กล้องนั้น...ทำเอากูตายไปเลย

"หน้าบานเป็นหมาเห็นกระดูกเลยนะพี่"

"หมาแม่มึงสิ!"

"ไหนๆ น้องปิงเหรอ เอามาดูบ้าง"

"เฮ้ย! เอาคืนมา!"

ไอ้ปรินซ์ชิงมือถือไปจากผม เร็วเกินจะคว้าเอาไว้ได้ทัน มันเปิดวิดีโอปิงแล้วสุมหัวกันดู ก่อนจะสามัคคีกันหันมาแซวผม

"ปิงน่ารักขึ้นทุกวันเนอะ"

"แน่นอน เด็กกู"

"พี่ไม่หวงบ้างเหรอวะ"

"อยู่ไกลจนกูตามไปหวงไม่ได้ไง"

"เป็นผมนี่ตามไปอยู่ด้วยละ"

"ก็มันไม่ให้ไป มันบอกให้รออยู่ที่นี่"

"พี่มึงคงไม่แก่ตายก่อนปิงกลับมาใช่ไหม"

"สัด!" ผมยกมือโบกไอ้โอมไปทีหนึ่ง ก่อนหันไปหาไอ้ปรินซ์ที่ยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่กับมือถือของผมเพราะเปิดวิดีโอปิงดูซ้ำๆ

"พอได้แล้วมึงอะ เอาคืนมาเลย" ผมคว้ามือถือคืนมา มันเลยเหลือบตามองเคืองๆ

"น้องปิงน่ารักอะ"

"น่ารักแค่ไหนก็ของกูเว้ย"

"เกลียดพี่ว่ะ" มันพูดแค่นั้นก่อนจับแก้วเหล้ากระดกเข้าปาก ดื่มกันอยู่พักใหญ่ๆ ก็เริ่มล้มตายกันไปทีละคน ดูจากสถานการณ์แล้วผมคงต้องเป็นคนเก็บศพแน่นอนเลยยุติการดื่มของตัวเองเอาไว้แค่นั้น เดี๋ยวไม่มีคนขับรถกลับ 

"กูไปฉี่แป๊บ ไปไหม"

"ไปเหอะพี่ ฝากฉี่ด้วย"

ผมพยักหน้ารับแล้วเดินตรงไปห้องน้ำ เซไปนิดหนึ่งจนต้องยกมือค้ำโต๊ะข้างๆ เอ้า! ก็ว่าไม่เมานะ

"ไหวเปล่าพี่"

ผมหันมองเสียงข้างๆ ที่เอ่ยถาม เห็นเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ตัวเล็ก ขาว หน้าเล็ก ตาโต ยิ้มหวาน  โคตรหลินปิง...แต่ไม่ใช่

"ผมพาไปห้องน้ำไหม"

"ไม่เป็นไร" ผมตอบสั้นๆ แล้วเดินตรงไปห้องน้ำแต่เด็กคนนั้นตามผมมาด้วย

"เดี๋ยวก็ล้มหัวแตกหรอก"

"เฮ้ย ไม่ได้เมา"

"ก็เห็นเดินเซ หน้าจะทิ่มพื้นอยู่แล้ว"

"ไม่ใช่ละ" ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป เดินออกมาเด็กนั่นก็ยังยืนรอผมอยู่ข้างหน้า ผมไปทางซ้าย มันก็เดินตาม ผมไปทางขวามันก็เดินตาม

"จะเอาอะไร"

"ชอบพี่อะ"

ผมเบิกตาขึ้นนิดหนึ่งเพราะตกใจกับความตรงไปตรงมาของมัน รอยยิ้มกว้างๆ โชว์ฟันสวยทำเอาตาพร่าไปพักหนึ่ง วินาทีหนึ่งที่แอบคิดในใจว่าไอ้เด็กนี่แม่งน่ารักจังเลยวะ

"มีแฟนแล้วครับ" ผมพูดแค่นั้นก่อนเดินออกมา แต่ถูกอีกฝ่ายดึงแขนเอาไว้

"ก็ไม่ได้บอกว่าจะเป็นแฟนกับพี่ซะหน่อย แค่บอกว่าชอบ"

"แต่กูไม่ได้ชอบมึงเว้ย"

"จริง?"

มันถามแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจมูกเดาได้ว่าอีกฝ่ายก็คงเมาไม่แพ้กัน ผมถอยหลังหนี อีกมือดันหน้ามันออกไป แต่ไอ้เด็กนี่ก็ดื้อเสนอหน้าเข้ามาอีก

"แฟนอยู่ไหนอะ มาด้วยปะ"

"เปล่า"

"ทำไมไม่มาด้วยกันอะ"

"มันอยู่ไกล"

"อยู่ไกล แล้วไม่คิดถึงเหรอ"

"คิดถึงดิ"

"เหงาไหม"

ผมเผลอพยักหน้ารับคำถามนั้น ทั้งๆ ที่ความจริงมันไม่ใช่คนที่ผมจะต้องมายืนต่อบทสนทนาด้วยเลย

"เหงาเหมือนกัน ไปหาอะไรทำแก้เหงากันไหม"

"จะทำอะไร..." คำพูดผมติดขัดเมื่อมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิม ปลายจมูกไล้อยู่ข้างๆ แก้ม ก่อนเลื่อนริมฝีปากเข้ามาหา วินาทีเดียวที่ปล่อยให้มันแตะริมฝีปากนั้นเข้ามา ก่อนผมขยับหนี ปากนุ่มจึงกดเข้าเบาๆ ที่ข้างแก้มแทน

"ก็แค่ไปคุยกันแก้เหงาเฉยๆ"

"..."

"วันไนท์แสตน แฟนไม่รู้หรอก"

"จะคุยแก้เหงาหรือเอากันครั้งเดียวมันก็เหี้ยปะวะ"

"โห เจ็บอะ"

ผมไม่ได้พูดอะไรต่อแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ เด็กนั่นก็เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเองเหมือนกัน ยังคงมองมาทางผมด้วยรอยยิ้มกว้างๆ ยอมรับว่าน่ารักฉิบหาย ถึงผมจะไม่ใช่คนดี แต่ก็เหี้ยไม่พอจะนอกใจคนที่ผมรัก วินาทีเดียวที่เผลอไปกับมันก็อยากเอาหน้าไปให้ปิงตบเรียกสติแรงๆ แล้ว

ไอ้เหี้ยเอ๊ย!

ผมสบถด่าตัวเองอยู่ในใจก่อนยกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากรวดเดียว ไม่พอใจกับรสชาติของมันเลยจับในขวดแดกเพียวๆ ไปเลย ไม่มีคนขับรถกลับก็หลับแม่งที่ร้านนี่แหละ

.

.

.

"ไปเชียงใหม่กัน"

"เชียงใหม่อะไรล่ะพี่ ไม่ไป"

"กูจะไปหาปิง"

"จะไปอะไรตอนนี้เล่า"

"ก็กูจะไป มานี่ กูขับเอง"

"ไม่เอาเว้ย เดี๋ยวก็ได้ตายโหงกันหมดนี่แหละ"

"ก็กูจะไปเชียงใหม่ไง!"

"กลับบ้านเว้ยพี่ กลับบ้าน!"

สภาพยับเยินของพวกเราทุกคนกลับเข้ามาในบ้านผมอย่างทุลักทุเล ผมจองห้องน้ำก่อน ไม่ได้รักสะอาดจะอาบน้ำอะไรตอนนี้แต่อ้วกพร้อมพุ่งอย่างสุดจะกลั้น วิ่งถึงห้องน้ำก็สาดของเหลวจากปากลงชักโครกได้ทันเวลาพอดี

"ไหวปะพี่"

ผมพยักหน้าแทนคำตอบ แทบจะคลานสี่ขาออกมาทิ้งตัวลงโซฟา

"กูบอกว่าจะไปเชียงใหม่ไง"

"เชียงใหม่ห่าอะไรล่ะพี่ มาถึงบ้านก็บุญแล้ว"

"กูคิดถึงปิงอะ"

"เออ เดี๋ยวปิดเทอมน้องก็กลับแล้ว"

"เมื่อไรจะปิดเทอมเล่า กูคิดถึงไม่ไหวแล้วโว้ย!" ผมตะโกนลั่นก่อนกดหน้าตัวเองลงบนโซฟา ทำอะไรไม่ได้ร้องไห้แม่งเลย หมดกันความเท่ของกู ไม่เหลืออะไรเลย

ผมหยิบมือถือขึ้นมา ไม่สนว่ากี่โมงกี่ยามแล้วกดโทรหาปิงเพราะใจพี่สั่งมา ปล่อยให้เสียงรอสายดังสองสามที ปลายสายก็รับเสียงงู่งี่เหมือนผมไปปลุกให้ปิงตื่น

(ครับพี่อิส)

"ปิง"

(ครับ พี่อิสมีอะไรหรือเปล่า โทรหาดึกเลย)

"ปิง...หลินปิง"

(ครับ ได้ยินแล้วครับ มีอะไรเหรอ)

"พรุ่งนี้มาหาพี่หน่อยได้ไหม"

(อะไรนะครับ)

"พรุ่งนี้กลับบ้านเถอะนะ"

(พี่อิสเป็นอะไรหรือเปล่า)

"พี่คิดถึง"

.

.

.

"คิดถึงจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว"

 

...

 

ไม่รู้ว่ากี่โมงของวันต่อมา ผมตื่นมาเพราะได้ยินเสียงแมวมาร้องข้างๆ คงเพราะหิวและเลยเวลาอาหารของมันแล้ว แต่ก็ยากเกินกว่าจะลืมตาลุกขึ้นมาตอนนี้ หาอะไรแดกเองไปก่อนเถอะลูก ตอนนี้พี่จะตายละ เปลือกตาหนักพอๆ กับหัวเพราะอาการเมาค้าง ใช้ความพยายามในการลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ที่พื้นข้างๆ โซฟา จำห่าอะไรไม่ได้เลย ไม่มีหนังฉายซ้ำในหัว ไม่มีภาพไหนผุดโผล่ขึ้นมาในนั้น สมองขาวโพลนและรู้อย่างเดียวว่าแฮงก์แบบเลเวลสุดท้าย ผมยกมือขยี้ตาอีกทีก่อนลืมขึ้นอย่างเต็มตา

"เชี่ย!"

หวีดลั่นเพราะลืมตาไปเห็นปิงอยู่ตรงหน้า ขณะที่ผมยังนอนอยู่ที่พื้น หน้าปิงอยู่ตรงนั้นเหมือนฝันไป ก็อาจจะเป็นฝัน เพราะปิงไม่ควรอยู่ตรงนี้ ความเมามันน่ากลัวตรงที่แยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนหลอน ผมเห็นปิงยิ้มให้นิดๆ จนมุมปากตัวเองยกขึ้นตามรอยยิ้มนั่น

"กูฝันอยู่เหรอเนี่ย"

"ฝันมั้งครับ"

"ตามมาทำให้คลั่งถึงในฝันเลยเหรอ"

"อื้อ"

"คิดถึงพี่ไหม"

"คิดถึงครับ"

"พี่คิดถึงกว่าอีก"

"คิดถึงจนเป็นบ้าเลยเหรอ"

"เออดิ ตอนนี้ก็ไม่มีสติแล้วเนี่ย"

ผมว่าแล้วยกมือขึ้นไปบีบแก้มนั่นเบาๆ ในฝันก็จับได้ แถมนิ่มด้วย

"แล้วในฝันนี่จูบได้ไหมวะ"

"ได้ครับ"

สิ้นคำนั้นของมัน มือที่จับแก้มอยู่เลื่อนไปคว้าคอมันลงก่อนกดริมฝีปากลงไปเบาๆ ทีหนึ่ง

"ฝันดีจังวะ"

 

เพียะ!

 

"โอ๊ย!" ผมลุกพรวดขึ้นเพราะถูกตบเข้าที่แก้มสองข้างจากมือเล็กๆ ของปิง กะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้าพร้อมกับลูบแก้มตัวเองเบาๆ เพราะเจ็บจริง

"ลุกได้แล้ว พี่อิสไม่ได้ฝัน"

ผมยื่นมือไปดึงแก้มปิงอีกทีจนยืด

"อื้อ เจ็บนะ!"

"ปิง"

"ครับ"

ปิงเขยิบเข้ามาใกล้แล้วสวมกอดเข้ามา ตัวนิ่มๆ กลิ่นหอมๆ ที่สัมผัสได้ทุกสิ่งย้ำเตือนว่ามันไม่ใช่ฝัน กอดกลับไปด้วยความคิดถึงแทบขาดใจ ตัวเล็กๆ ที่อยู่ในอ้อมแขนขยับนิดหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมอง ตาใสๆ กับรอยยิ้มกว้างยิ่งย้ำว่านี่ปิงตัวจริง คำพูดเดิมๆแต่อยากเอ่ยให้ได้ยินทุกครั้งหลุดออกไปจากปากอย่างกลั้นเอาไว้ไม่ได้

"คิดถึง"

"ครับ"

"..." 

"คิดถึงเหมือนกันครับ"

 

 

-คิดถึงนะ-

 
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: maneethewa ที่ 10-08-2017 23:57:44
คิดถึงเหมือนกันค่ะ หลินปิงของพี่
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Miawncha ที่ 11-08-2017 00:00:47
คิดถึงงงง เห็ทวีตปุ๊บรีบเข้ามาเลย อ่านแล้วทั้งฮาทั้งจะร้องไห้ตามพี่อิสด้วยความคิดถึงพี่อิสกับหลินปิงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 11-08-2017 00:15:54
อีพี่อิสน่าสงสาร :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Issaree ที่ 11-08-2017 00:51:59
คิดถึง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 11-08-2017 01:09:07
คนอ่านก็คิดถึงไม่แพ้กันค่ะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: MorethanMore ที่ 11-08-2017 01:29:34
อ่านแล้วสงสารพี่อิส จะร้องไห้ แต่แค่เชียงใหม่เอง พี่อิสกาก อะ บินไปหาทุกอาทิตย์ ทุกเดือนก็ได้มั้ง หรือจนมาก ไม่มีค่าเครื่อง 55555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 11-08-2017 06:42:07
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 11-08-2017 07:17:08
 :heaven :heaven :heaven :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-08-2017 07:22:15
ชักสงสารพี่อิสคนกากแสนขี้เหงาของปิง ฮา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 11-08-2017 07:51:06
น่ารักกกกก อยากกอดหลินปิงบ้าง
อีกกี่ปีน้องถึงจะเรียนจบเนี่ย พี่อิสจะขาดใจตายอยู่ทุกวัน 5555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 11-08-2017 08:30:55
อ่านแล้วจะร้องไห้สงสารพี่อิสคนกาก 5555555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: praewypn ที่ 11-08-2017 08:34:19
งืออ น่ารักๆๆๆมากๆๆ เขินๆๆ คิดถึงพี่อิสกับหลินปิง  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 11-08-2017 09:14:19
โฮฮฮฮ ลุงน่าสงสารอ่านแล้วจะร้องไห้ตามลุง โอ๋ๆไม่เหงานะคนแก่ แต่ถ้าเหงามากๆแนะนำว่าบินไปหาหลินปิงเลยค่ะ ตั๋วเครื่องบินอย่างถูกค่ะเดี๋ยวนี้
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 11-08-2017 10:07:17
ปิงต้องกลับมาเยี่ยมลุงแกบ่อย ๆ นะ คิดซะว่าทำบุญกับคนแก่ ได้กุศล
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 11-08-2017 10:40:13
คิดถึงมากเลยยยยย
สงสารพี่อิสเลยตอนนี้ TT
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Xll ที่ 11-08-2017 18:51:54
ตอนนี้มันฮีลลลลลลลลลลลมากๆเลย ฮื่ออออออออออ คิดถึงหลินปิงงง คิดถึงพอๆกะพี่อิสเลยยย ปิงลูกกกกกกกกก

ส่วนพี่อิสก็กากเหมือนเดิม 5555555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 11-08-2017 19:41:24
โธ่ พี่อิสสส เกือบแล้วๆๆๆ
ดีใจจังปิงกลับมาหา สงสารพี่อิสเหมือนกันนะ อย่าแก่ตายก่อนนะพี่ 55555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-08-2017 23:02:07
กากจริงอะไรจริง เมาแล้วร้องไห้คิดถึงน้อง

ฮืออออออออออ :sad4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 12-08-2017 00:30:55
โถ่ๆๆๆ พ่อคนเท่ เมาอย่างกับหมา แล้วยังงอแงหาแฟนอีก 55555 แต่ก็สงสารเค้านะคะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-08-2017 00:31:08
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 12-08-2017 02:16:30
สงสารพี่อิส กว่าปิงจะเรียนจบพี่อิสคงไปเกิดแล้ว 55555555555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: lnwgreankak ที่ 12-08-2017 04:30:17
ขอตอนเรียนจบ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 12-08-2017 05:23:50
 o18 โถ่ๆ น่าเอ็นดูพี่อิส
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 12-08-2017 10:48:34
 o13

 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 12-08-2017 21:47:07
คิดถึงเหมือนกัน ฮือออ ชอบมากๆเรื่องนี้
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 13-08-2017 15:52:44
พี่อิสคนกาก แต่หลินปิงนี่น่ารักน่าฟัดสุดๆ วาร์ปจากเชียงใหม่มาเพราะว่าพี่คิดถึง  :o8:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 13-08-2017 17:00:38
คนกาก
คิดถึงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-08-2017 19:56:19
สงสารพี่อิสคนกาก :mew2:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 13-08-2017 21:46:15
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย อ่านแล้วร้องไห้กับน้องปิงไปหลายรอบมาก ฮืออ  :monkeysad:
ถึงน้องปิงจะไม่สู้คน แต่เราเข้าใจ และนับถือในความอดทนเข้มแข็งของน้องปิงมาก
โชคดีของน้องปิงที่ได้เจอคนอย่างพี่อิส พี่อิส อิสระสมชื่อจริง ๆ ชอบความเป็นอิสระมาก ๆ
ขอบคุณคนเขียนมาก ๆ เลยค่ะ พาพี่อิสกับน้องปิงมาหาบ่อย ๆ น้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 14-08-2017 00:09:25
เหงาจนน่าน้องไห้เลยแหละ สงสารพี่อิส ปิงรีบเรียนรีบจบนะลูก มีคนคอยค๊อยคอย
คิดถึงตลอดเวลา

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 14-08-2017 03:34:25
เราก้คิดถึงพี่อิสคนกากกับหลินปิงเหมือนกันน
พี่อิสกากเหมือนเดิมเลยนะคะ หมดสภาพสุดๆ
น่าสงสามากๆเลยละ5555555555
ขอบคุณค่าาา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 14-08-2017 08:26:06
ฮืออ เมื่อไรปิงจะเรียนจบอะ สงสารลุงง ขอภาค2ได้มั้ยคะ จะเป็นไปได้มั้ย แงงง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: Crossley ที่ 14-08-2017 11:03:35
สงสารพี่อิส ;-; ปิงตั้งใจเรียนน้า สามปีครึ่งเดี๋ยวก็จบ  :m15:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: TIKA_n ที่ 16-08-2017 07:28:46
เพิ่งอ่านจบไป ก็คิดถึงพี่อิสน้องหลินปิงอีกแล้วอ่ะ ฮืออ  :mew6:
เป็นคู่พระนายที่ชอบมาก แบบมาก ๆ  ทั้งคู่เลย รักในความเป็นทั้งสองคน
สนับสนุนให้มีภาค 2 ด้วยคนค่า เมื่อไหร่น้องปิงจะโตให้พี่อิสน้อ 555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 16-08-2017 13:09:59
โหยยย คิดถึงเหมือนกันเนี่ยย
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: HeIsMine ที่ 19-08-2017 10:03:05
คิดถึงหลินปิงตามพี่อิสเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 19-08-2017 14:45:41
โอ๊ยยย ฟินค่ะ อิจอิสระสุด บอกคิดถึงจนจะบ้า อีกวันปิงโผล่มาเลย
อิสคงคิดว่า ตรูน่าจะบอกไปนานแล้ว

ปิงน่ารักนะ รู้เวลา มาได้เวลาด้วย

อยู่ไกลก็ต้องคิดถึงกันสิเนาะ อีกนิดเดียวน้า ปิงรีบเรียนจบนะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 19-08-2017 20:48:08
ชอบพี่อิสคนเท่จัง :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: eiweiw ที่ 19-08-2017 22:09:51
 o13 o13
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 24-08-2017 22:56:08
โอ้ย น่ารักจังเลยลูก
คนพี่ก็ไปเยี่ยมเยียนไปอยู่กับน้องบ้าง
สักเดือนสองเดือนก็ยังดี
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-08-2017 14:09:04
ดีใจกับคนกาก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 27-08-2017 20:41:26
เพิ่งอ่านจบและรู้สึกว่านี่ฉันไปอยู่ไหนมา
พี่อิสทำให้เรายิ้มได้จริงๆ ตอนแรกที่อ่านแอบหวาดหวั่นไปกับชีวิตปิง ไหนจะป้ามหาภัย ไหนจะน้องสระเอือกอีก ไม่มีความสุขเอาซะเลย
แต่พอได้พบกับชายผู้นั้นที่ยิมเป็นผู้นำพามาก็ทำให้ชีวิตปิงเปลี่ยนไป
พี่เข้ามาดูแล ให้ความรักความอบอุ่นในแบบที่ปิงไม่เคยได้ สอนให้น้องรู้จักความกาก ความสถุน ความจัญ..
น้องก็เลยเหมือนได้เรียนรู้โลกกว้าง กลายเป็นติดพี่เลยทีนี้  แล้วพอน้องไม่อยู่พี่อิสก็เลยรู้ว่าจะเป็นบ้าไปแล้ว
ขอไว้อาลัยให้กับความน่าอนาถใจแบบกากๆของพี่อิสสิบวินาทีค่ะ ฮ่าๆ
(แก๊งสามหนุ่มสมุนกากเกรียนของพี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ยยยยย แต่เราชอบมากนะ แลดูผูกพันกันอย่างรุนแรง)

ปล. ฉากที่พี่อิสไล่น้องออกจากบ้านเพราะน้องซักเสื้อเนี่ย ทำเราตกใจมากๆจริงๆ ประหนึ่งว่าอิพี่อิสมันเอาเสื้อมาเขวี้ยงใส่หน้าเราเองเลย
อารมณ์แบบ อะไรของพี่วะแค่ซักเสื้อแค่เนี้ย แล้วเสื้อมันมีอะไร อย่าบอกนะว่านังเนยซื้อให้ หรือนังเนยจับเสื้อเหรอ พี่ไปรีเทิร์นกันแล้วมาหงุดหงิดใส่น้องเหรอ
คือเป็นฉากที่คุณรชาไม่ได้เขียนบรรยายเยอะมากขนาดนั้นนะ แต่อินี่อ่านแล้วคิดได้ขนาดนี้จริงๆค่ะ
รู้สึกเกลียด๙หงุดหงิดอิพี่อิสขึ้นมาทันที แล้วพอเฉลยว่าเซอร์ไพรส์น้องเราก็อึ้งเลย ทั้งความเล่นใหญ่และเหตุผลในการโมโหของพี่
นี่ดีนะที่น้องไม่ได้เป็นคนคิดมาก ไม่งั้นอิพี่อิสน่าจะมีเจ็บตัวบ้าง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-08-2017 02:17:53
สงสารลุงอิส  ความห่างไกลมันทรมานจริงแหล่ะ  คิดถึง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 02-09-2017 19:13:24
 :z2: :hao5:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: z9_0 ที่ 03-09-2017 20:34:35
หลงรักอิสระคนกากไปแล้วทำไงดี อย่างเกรียนแค่นา่ารักมากเลยเว้ย เป็นคนตรงๆ แสดงความรู้สึก แม้งคือดี เป็นผู้ชายที่โลกใบนี้ต้องการ ไม่เยอะ เป็นตัวของตัวเองเริสมาก รัก น้องปิงก็น่ารัก  น้องดูละมุมมากกกก ดีแล้วที่น้องได้รู้จักคนกากแบบอิสระคนีักจิง ชอบบบบบบบ แก็งรุ่นน้องก็ดี ชอบไปหมด องรวมมันได้จิงๆเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 03-09-2017 22:58:06
มันจะคิดถึงหน่อยๆ..
มันจะน่ารักหน่อยๆ..
ม้ันจะดูกาก ไม่หน่อย.. ล่ะคุณอิส..
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 04-09-2017 11:09:09
โอ้ย หลงรักคนกากอะ เท่ๆชิคๆต้องพี่อิสนี่แหละ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เป็นอมตะกับเค้าซะที เด็กไม่ยอมให้กิน5555  :laugh:
น้องปิงก็น่ารัก ถึงจะเจอป้ามหาภัยก็ยังอยู่ได้จนมาเจอฟ้าหลังฝนดีๆอย่างลุง สุดยอดไปเลย  :m15:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 07-09-2017 22:01:20
กำลังหวานเลย  เสียดายๆสงสารลุง น้องไปเรียนซะไกลเลย
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 27-09-2017 18:56:03
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ค่ะ หลังจากเห็นหลายคนแนะนำมาเยอะมากๆๆ  สำคมล่ำลือจริงๆ สนุกมาก
พี่อิสเป็นพระเอกนิยายที่เราตามหามานานน 
อยากได้แฟนแบบพี่อิสระ หาได้ที่ใหนนนน ชอบความต่ำตม 5555 ลุคเถื่อน ถ่อย หยาบคาย แต่จิตใจดี ผู้ชายลุคโจรที่รักแมวมันดูอ่อนโยน มันดูน่ารัก ไม่จำเป็นต้องลุคหล่อรวยเวอร์วังมากมาย แต่เขามีเสน่ห์ในตัวเอง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 09-10-2017 02:28:28
อร้ายยยยยน่ารักมาก :-[
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: TaemyG ที่ 21-11-2017 09:50:48
งือ คิดถึง แอบสงสารอีลุงอิสนะ ฮ๋าาา :man1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 05-12-2017 09:36:59
ชอบๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : คนกากกับความเหงาของเขา 10-08-17
เริ่มหัวข้อโดย: wetter ที่ 26-12-2017 06:13:02
ชอบมากกกกกกกก
ชอบคาแรกเตอร์ตัวละครมากๆ ชอบในความหยาบแต่น่ารักของพี่อิส นางก็รักของนางเด้อ55555
เอาจริงๆพี่อิสกับน้องปิงนี่ศีลเสมอกันมาก เกิดมาเพื่อคู่กันจริงๆ55555
ชอบเดอะแก๊งรุ่นน้องของพี่อิสด้วย พวกนางเลี้ยงปิงเหมือนเป็นเทวดา โอ๋มาก

พลอตดีมากค่ะ เนื้อเรื่องดำเนินเร็วแต่สมเหตุสมผล ไม่รู้สึกว่าตัดตอนหรือค้างคาเลยค่ะ สนุกมาก ชอบภาษาในการเล่าเรื่องด้วย ชอบสุดคืคาแรกเตอร์ตัวละคร คงเส้นคงวามีเอกลักษณ์มากๆ พระเอกในดวงใจเลยพี่อิสเนี่ย55555

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ Ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 31-12-2017 23:24:59

เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ

 

 

ปิง :

 

21 พ.ย. 25XX

สามทุ่มกว่าๆ เลยเวลารายงานตัวกับพี่อิสมาพักใหญ่ๆ ช่วงหลังๆ ผมโทรหาพี่อิสไม่ค่อยเป็นเวลา เพราะมีงานเยอะขึ้น มีสอบเยอะแล้วก็ทำกิจกรรมกับทางมหา'ลัยเยอะ คนแก่งอแงตลอดแต่อ้อนๆ หน่อยก็หายงอนเสมอ วันนี้รูมเมทของผมกลับบ้านหมด เลยสะดวกที่จะวิดีโอคอลหาพี่อิส คอลไปสองรอบก็ยังไม่รับ ผมเลยกดไปเป็นครั้งที่สาม ก่อนอีกฝ่ายกดรับ ผมร้องเรียกทันทีที่เห็นหน้าพี่อิสโผล่มา

"ป๊า"

(ป๊าพ่อป๊าแม่มึงสิ!) โอเค พี่อิสตัวจริงนะ

"อย่าดุสิป๊า"

(จ้า ว่าไงลูก)

"ไปไหนมา ไม่รับสาย"

(ป๊าไปขี้มาลูก นั่งอยู่ตั้งนานเสือกไม่โทรมาไง)

"พี่อิส!"

(แล้วนี่งานเสร็จแล้วเหรอ)

"ยังครับ วันนี้อาจจะนอนดึกเลยโทรหาก่อน"

(อย่านอนดึกให้มันบ่อยนัก สุขภาพแย่หมดแล้ว)

"ครับ เออ ป๊าครับ"

(ก็อยู่นี่ไง เรียกจังเลย เอ้อ เรานี่)

"คิดถึงป๊า"

(อ้อนเอาอะไร)

"มีเรื่องให้ช่วยหน่อย"

(กูว่าละไง)

ผมหลุดหัวเราะหน่อยๆ หลังๆ มานี้รู้ว่าพี่อิสแพ้ทางถ้าถูกเรียกแบบนั้น ผมใช้เป็นไม้ตายเวลาจะอ้อนเอาอะไรแล้วมันก็ได้ผลทุกที

"ผมกับเพื่อนในชมรม จะทำเสื้อขายแล้วเอาเงินไปช่วยมูลนิธิเพื่อแมวจรจัด พี่อิสช่วยออกแบบเสื้อให้หน่อยนะครับ เอารูปแมวน่ารักๆ"

(ภาพละแสน)

"บ๊ายบายครับ"

(เฮ้ย กูล้อเล่น!) เสียงดังของเขาหยุดผมเอาไว้ก่อนกดปิดหน้าจอ ผมหันมองเคืองใส่ อยู่ใกล้ๆ นี่จะกระโดดข่วนหน้าเลยจริงๆ

(รีบใช้เปล่าอะ)

"พี่อิสงานเยอะเหรอครับ"

(เยอะห่าอะไรล่ะ ว่างมาสามวันแล้วเนี่ย)

"งั้นวาดให้เลยนะ"

(เออ ได้ แล้วจ่ายค่าจ้างด้วยนะ)

"คิดแพงเปล่าอะ"

(กลับมาให้พี่กอดก็พอ)

ผมส่ายหน้ายิ้มๆ หลบตาลงแก้เขิน

(แล้วปีใหม่กลับบ้านปะเนี่ย)

"กลับดีไหมนะ"

(ไม่ต้องคิดละ กลับเหอะ)

"ไหนบอกว่าไม่ชอบให้เดินทางช่วงเทศกาลไง"

(ช่างเทศกาลแม่งเหอะ กลับมาได้แล้ว คิดถึงจะตายห่า)

"แต่ว่ารถมันเยอะ"

(นั่งเครื่องมา)

"แต่ว่า..."

(มึงจะกลับหรือไม่กลับ) พี่อิสว่าแล้วผลุบหายไปจากหน้าจอ ก่อนจะโผล่มาพร้อมกับชีสไบท์ที่ล็อกคอมันเอาไว้ อีกข้างใช้เมาส์ปากกาจี้คอมันอยู่

(มึงไม่กลับน้องมึงตายแน่)

"พี่อิส อย่าไปทำมัน"

(มึงจะกลับบ้านไหมล่ะ พูด!)

"พี่เมานมเปรี้ยวเหรอ"

(เออ คลุ้มคลั่งแล้วเนี่ย มึงไม่กลับกูจะแทงคอมัน แทงคอตัวเองด้วย!) ว่าแล้วก็ยกปากกาจี้คอตัวเอง เป็นการกระทำที่ทำเอาผมอยากกลั้นใจตายไปเลย

(ไม่กลับจะลงไปดิ้นแล้วนะโว้ย!)

"ครับๆ กลับก็กลับครับ"

(ดีมาก)

"ปล่อยแมวได้แล้ว เดี๋ยวมันก็ข่วนหน้าเอาหรอก"

พี่อิสหัวเราะหน่อยๆ แล้วปล่อยแมวออกจากการจับกุม ทันทีที่ปล่อยออกแมวก็กระโดดขึ้นมานั่งบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์แทน หน้าแมวเลยโผล่มาเต็มจอ ผมยกมือจิ้มหน้าจอ ชีสไบท์ก็มองตามนิ้วไปๆ มาๆ

"คิดถึงนะชีสไบท์"

(คิดถึงกูด้วยสิ)

แมวถูกยกออกไป ก่อนจะเป็นหน้าพี่อิสโผล่เข้ามาแทน พอผมไม่อยู่ด้วย เขาก็ปล่อยตัวเป็นลุงแก่ ผมยาวรุงรัง ไม่โกนหนวดด้วย เซอร์ในแบบฉบับของเขาแต่ขัดใจผมจริงๆ   

"พี่อิส ไปตัดผมได้แล้ว"

            (ผมยาวไม่เท่ไงวะ)

"ไม่อะ เหมือนอายุสามสิบเลย"

(เดี๋ยวกูวาร์ปไปตบปากเลยนี่)

"โกนหนวดด้วย"

(เออ รอมึงกลับก่อน)

"กลับไปเห็นหนวดจะโกรธนะ"

(เออน่า ไปทำงานได้แล้วไป)

"ครับ วาดรูปให้ด้วยนะครับ"

(ครับๆ แล้วอย่านอนดึกมากละเราอะ ไว้พรุ่งนี้คุยกัน)

ผมพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนกดปิดวิดีโอคอลไป คำว่าคิดถึงผุดขึ้นมาทุกครั้งหลังบทสนทนาจบลง แค่วันละไม่กี่นาทีที่ได้คุยกันไม่เคยพอสำหรับความคิดถึงของเรา แต่พรุ่งนี้เราก็จะคุยกันอีก พรุ่งนี้ของพรุ่งนี้เราก็จะคุยกันอีก อยากให้วันพรุ่งนี้ของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย   

ผมนั่งอ่านหนังสือหลังทำรายงานเสร็จต่ออีกหน่อย เลยเที่ยงคืนไปสิบนาทีแล้ว หน้าจอมือถือที่สว่างวาบขึ้นมาทำให้ผมละสายตาจากหนังสือไปหยิบมือถือขึ้นมาดู พี่อิสส่งรูปภาพมาทางไลน์ ภาพแรกเป็นรูปแมวกราฟิกน่ารักๆ ที่จะใช้เป็นลายเสื้อ ส่วนอีกภาพเป็นรูปเหมือนผม แต่มีหูเป็นแมว ผมรู้ว่าพี่อิสวาดภาพสวย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาวาดผมเลย ผมหลุดยิ้มออกมาขณะที่เลื่อนสายตาไปมองตัวหนังสือเล็กๆ ที่เขียนด้วยลายมือเขาไว้ข้างๆ ภาพ

 

คิดถึงแมว

จาก

ทาสแมว

 

...

 

30 ธ.ค.25XX

สายๆ ของวัน หลังจากใช้เวลาเดินทางไม่นานเท่าไรผมก็มาถึงสนามบิน การเดินทางช่วงเทศกาลคล้ายๆ กับเดินผ่านสมรภูมิรบ ผู้โดยสารทั้งขาเข้าขาออกมีมากจนตาลาย ผมก้าวขาสั้นๆ ของตัวเองออกมาที่โล่งๆ ก่อนถูกเหยียบตาย มองหาพี่อิสที่บอกว่าจะมารับในจุดที่นัดกันไว้ กวาดสายตาไปรอบๆ ก่อนหันไปเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยหน้าตายุ่งๆ เดาไม่ได้ว่ากำลังบ่นอะไรอยู่ในใจ ผมเดินเข้าไปใกล้เขาก็ยังไม่เห็น วันนี้เขาก็อยู่ในชุดเดิมที่ชินตา แต่หน้าตาดูสะอาด แถมตัดผมด้วย ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่เชื่อฟังคำสั่งของผม แต่ใบหน้าเกลี้ยงๆ ของเขาตอนนี้ก็ทำให้รู้สึกว่าที่จริงแล้ว ถ้าไม่ติดตรงกาก พี่อิสก็เป็นผู้ชายที่หล่อเป็นบ้า

"พี่อิส!"

"เฮ้ย!"

พี่อิสที่ไม่ทันตั้งตัว ถูกผมกระโดดใส่จนเซถอยหลังไป มือหนึ่งโอบรับร่างผมไว้ ส่วนอีกมือยืนไว้กับเสาอาคารเพื่อไม่ให้ล้ม

"เล่นอะไรเนี่ย เดี๋ยวก็ล้มหรอก"

"ก็นึกว่าจะรับได้ พี่อิสแก่เกินจะทำแบบนี้แล้วเหรอ"

"เดี๋ยวเหอะ"

"มานานยังอะ" ผมรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนโดนด่า

"นานจนลืมไปเลยว่ามายืนทำอะไรตรงนี้"

"นี่มาถึงจุดที่เป็นอัลไซเมอร์แล้วเหรอ"

"พี่ขออัดสักเปรี้ยงได้ไหมปิง"

"เฮ้ย!"

พี่อิสง้างมือทำท่าจะต่อย ผมรีบถอยหลังหนี เขาคว้าคอผมเข้าไป ใช้ท่อนแขนล็อกเอาไว้แล้วยื่นหน้ามาจูบแก้มแรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะพาเดินไปที่รถ ระหว่างนั้นก็ฟังเขาบ่นสัพเพเหระเรื่อยเปื่อยไปจนถึงบ้าน

 

บ้านพี่อิสไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย ยกเว้นแมวที่เคยตัวเล็กกว่านี้ ตอนนี้ชีสไบท์กลายเป็นแมวอ้วนตัวใหญ่ ทันทีที่ผมเดินเข้าบ้านมันก็วิ่งเข้ามาหา ผมยกสองมืออุ้มแมวขึ้นมาปรากฏว่าหนักกว่าที่คิด

"ทำไมมันอ้วนแบบนี้"

"กินดีอยู่ดีไง"

"มันท้องปะเนี่ย"

"เฮ้ย มันไปเสียตัวตอนไหน!"

"จะรู้ไหมอะ ท้องแน่ๆ เลยเนี่ย"

พี่อิสหันหน้ามองงงๆ แล้วเดินเข้ามาอุ้มแมวไปจากมือผมเพื่อดูท้องป่องๆ ของมัน

"แมวใจแตก ท้องไม่มีพ่อเหรอมึงเนี่ย มึงท้องกับใคร! บอกมาว่ามึงท้องกับใคร!"

"พี่อิส"

"อย่าให้รู้ว่าใครทำน้องกูท้อง เตะตัดชีวิตเลยนะ แล้วมันท้องจริงปะเนี่ย ฮะ มันดูยังไง" เขาว่าแล้วยกท้องแมวขึ้นแนบหู ก่อนใช้มือจิ้มๆ เข้าไปที่ท้องมันอย่างสงสัย ปากก็บ่นไปไม่หยุด

"ออกลูกมาอีกกูจะเลี้ยงไหวไหม ลำพังตัวกูยังไม่มีจะแดก พาไปทำแท้งเถื่อนดีไหมเนี่ย"

ผมหัวเราะหน่อยๆ กับความบ้าบอของเขา ก่อนพี่อิสจะปล่อยแมวลงกับพื้นแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา ผมเองก็เดินตามไปนั่งข้างๆ เขา พี่อิสหันมองผมด้วยใบหน้านิ่งๆ สายตาที่มองมาไม่ละ ทำให้คิ้วผมขมวดเข้าหากันหน่อยๆ

"มองทำไม"

"ก็จะน่ารักทำไมอะ"

"..."

"ไม่อยากให้มอง ก็อย่าน่ารักดิ"

"พี่อะ"

"กลับมานี่กอดพี่ยัง" เขาพูดหน้านิ่งพลางอ้าแขนออกรอให้ผมเข้าไปกอด ผมก็รอจังหวะนี้อยู่พอดีเลยเขยิบเข้าไปใกล้แล้วกอดเขาแน่นๆ ตัวใหญ่ๆ กับร่างกายอุ่นๆ ของเขาก็ทำให้ผมแทบจมลงไปในอ้อมกอดนั่น ก่อนก้มหน้าลงไปฟัดพุงอย่างเคยทำ พี่อิสกระชับกอดผมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วก้มหน้าลงมากดจมูกเข้าที่แก้มเบาๆ ซ้ำไปซ้ำมา

"พี่อิส พอแล้ว"

"คิดถึง"

"รู้แล้วครับ"

"จะหอมแก้มจนกว่าจะหายคิดถึง"

"งั้นคงต้องหอมถึงปีหน้าอะ" ผมพูดอย่างนั้นแล้วเป็นฝ่ายยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มเข้าบ้าง ผมทำทีหนึ่ง พี่อิสก็ทำกลับมาทีหนึ่ง สลับกันไปจนเริ่มงงว่าเล่นอะไรกันอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกอุ่นหัวใจแปลกๆ ...ทำแบบนี้ข้ามปีไปเลยดีไหมนะ

 

...

ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 31-12-2017 23:25:51
31 ธ.ค.25XX

            วันสิ้นปีเดินทางมาถึงแล้ว ถนนเส้นที่เคยแน่นไปด้วยรถรา วันนี้โล่งกว่าทุกวัน พี่อิสพาผมมาหาย่า โชคดีที่ป้าไม่อยู่บ้านพอดี จนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่กล้าเจอหน้าป้าอีกเลย ป้าคงตัดผมออกจากชีวิตได้ง่ายๆ โดยไม่คิดอะไรอยู่แล้ว แต่ผมก็ยังคงกลัวการเจอหน้าป้าอยู่ดี เพราะงั้นเลยต้องหาจังหวะดีๆ เพื่อมาเจอย่า ย่าเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ผมกลับมาที่นี่ ผมก็ยังอยากให้ย่าต้อนรับการกลับมาของผมเสมอ ดีใจทุกครั้งที่ได้เจอหน้ากัน ย่าก็ยังแข็งแรงและสบายดีเหมือนทุกครั้ง และตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าย่าจะสนิทกับพี่อิสมากกว่าผมซะอีก ถึงได้คุยกันไม่หยุดแล้วปล่อยให้ผมนั่งกินส้มหมดไปเป็นกิโลฯ โดยไม่ได้พูดอะไรเลย ย่าอาจลืมไปแล้วว่าใครกันแน่ที่เป็นหลานแท้ๆ 

"ย่าไปเคาท์ดาวน์บ้านผมปะ"

"ไม่เอาอะ แก่แล้ว"

"โห่ ไปดิ เดี๋ยวเลี้ยงเบียร์ขวดหนึ่งเลยอะ"

"มะเหงกสิ!"

"โอ๊ย! เจ็บนะเนี่ย ปิงดูย่าดิ ทำร้ายร่างกายพี่อะ"

"สมควรแล้วไง"

"ปิง"

เสียงที่โผล่เข้ามาขัดบทสนทนาทำให้เราทั้งหมดหันไปมองคนที่เดินเข้ามา

"ข้าวฟ่าง"

ผมตกใจจนลุกหนี รีบหันไปบอกลาย่าลวกๆ

"งั้นปิงกลับก่อนนะย่า ไว้จะมาหาอีก..."

"ปิง คุยกันก่อน!" ข้าวฟ่างดึงมือผมเอาไว้ก่อนผมจะพูดจบประโยค พี่อิสคว้ามืออีกข้างของผมเอาไว้ แล้วดึงเข้าไปหา สีหน้าข้าวฟ่างดูหวาดหวั่นเล็กน้อย ครั้งหนึ่งก็เคยเห็นฤทธิ์เดชอิสระไปแล้วคงไม่อยากโดนด่าหน้าสั่น เลยถอยหนีออกไป แล้วเอ่ยบางคำออกมาเบาๆ   

"ขอคุยด้วยเฉยๆ ค่ะ"

"จะคุยกับเราเหรอ"

"อือ...ได้ไหม"

เห็นท่าทางของข้าวฟ่างที่ดูไม่มีอะไร ผมจึงหันไปพยักหน้ากับพี่อิส แล้วเดินตามข้าวฟ่างไปอีกทาง โดยที่ย่ากับ
พี่อิสก็มองมาไม่ละสายตา ผมเองก็ไม่รู้ว่าข้าวฟ่างมีเรื่องอะไรจะคุยด้วย แต่ผมคิดว่าเราต่างคนต่างโตขึ้น เข้าใจที่จะคุยกันด้วยเหตุผลมากกว่าการมาโวยวายใส่กันหรือทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องแล้ว
"ไม่เจอกันนานเลยนะปิง"

"..."

"ปิงสบายดีนะ"

ผมพยักหน้ารับ

"ตัวใหญ่ขึ้นนะเนี่ย" ข้าวฟ่างว่าแล้วยกมือขึ้นบีบแขนผมเบาๆ อย่างล้อเล่น

"หมายถึงอ้วนขึ้นหรือเปล่า"

"เปล่า ไม่ใช่อ้วน แบบ ดูตัวโตอะ"

ผมหัวเราะหน่อยๆ ในตอนที่ข้าวฟ่างเองก็ยิ้มกว้างออกมา ก่อนปรับสีหน้าเป็นปกติแล้วเขยิบเข้ามาใกล้พร้อมเงยหน้าขึ้นมองด้วยใบหน้านิ่งๆ

"คิดถึงปิงอะ"

"ฮึ?"

"ตั้งแต่ปิงไม่อยู่ ไม่มีใครให้ทะเลาะด้วยเลย" ข้าวฟ่างพูดขำๆ แล้วเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนเก่าของผม ตอนนี้กลับมาเป็นห้องเก็บของอีกครั้ง แต่ข้าวของของผมที่ไม่ได้เอาไปไว้บ้านพี่อิสก็ยังถูกทิ้งเอาไว้อย่างนั้น ข้าวฟ่างหยิบกรอบรูปที่คว่ำอยู่ ปัดฝุ่นหนาที่เกาะอยู่ออกไปแล้วส่งให้ผม

"ตอนนั้นฟ่างทำแตก เลยเอาไปใส่กรอบใหม่ให้ คิดว่าปิงจะกลับมาเอา"

ผมมองดูกรอบรูปที่เป็นรูปผมกับพ่อแม่ ข้าวฟ่างทำแตกตั้งแต่วันที่พี่อิสพาผมออกไปจากที่นี่ ผมไม่ได้คิดถึงมันอีกเลยเพราะคิดว่าป้าคงกวาดทิ้งลงถังขยะไปนานแล้ว

"ขอโทษนะปิง"

"..."

"ที่ผ่านมาฟ่างทำตัวแย่มากจริงๆ ขอโทษจริงๆ นะ"

ผมทำได้แค่พยักหน้ารับ ไม่ได้โกรธเคืองมากมายจนต้องเก็บไว้เป็นความแค้นอยู่แล้ว เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ไม่อยากพูดถึงเหมือนกัน คงดีกว่าถ้าเราลืมมันไป ชีวิตผมอาจไม่ยืนยาวพอให้โกรธเคืองใครได้นานขนาดนั้น ผมคงทิ้งมันไว้กับปีนี้แล้วเริ่มต้นปีใหม่ด้วยชีวิตที่ดีกว่า ผมตั้งใจเอาไว้แบบนั้น

.

.

.

ผมกับพี่อิสออกมาจากบ้านย่าหลังจากคุยกันจบแล้ว พี่อิสไม่ได้ถามว่าผมเข้าไปคุยอะไรกับข้าวฟ่าง แต่เขาเห็นกรอบรูปในมือที่ผมถือเอาไว้ตลอดทางก็คงเดาได้ พี่อิสคงเข้าใจโดยไม่ต้องอธิบาย ผมมองตัวเองและพ่อแม่ในรูปนั้นซ้ำไปซ้ำมา ผ่านไปอีกปีแล้วที่พ่อกับแม่ไม่อยู่ แล้วก็เป็นอีกปีที่ความคิดถึงของผมไม่เคยลดลงไปเลย

"เชี่ย!" เสียงคนข้างๆ ทำให้ผมสะดุ้งจากความคิดแล้วหันขวับไปมองเขาที่อยู่ๆ ก็พ่นคำหยาบออกมา

"มีอะไรพี่อิส"

"ไอ้พวกนั้นมันมาได้ไงวะ"

ผมหันไปมองกลุ่มคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ทันทีที่เห็นว่าเป็นใครริมฝีปากผมก็ขยับกว้างเป็นรอยยิ้มในจังหวะเดียวกับตอนที่พี่อิสจอดรถที่หน้าบ้านพอดี ผมรีบเปิดประตูรถลงไปแล้ววิ่งเข้าไปหาพวกเขา

"น้องปิง!"

"พี่ปรินซ์!"

พี่ปรินซ์รับร่างผมที่กระโดดเข้าใส่ อุ้มขึ้นอย่างง่ายๆ แล้วจะยกหมุนไปรอบๆ

"เฮ้ยๆ วางลงเลย วาง!" พี่อิสเข้ามาโวยวายจนพี่ปรินซ์ต้องหยุดหมุนแล้ววางผมลง

"พี่อิสทำแบบนี้ไม่ได้แล้ว แก่เกินไป" ผมหันไปกระซิบบอกพี่ปรินซ์ แต่ถูกพี่อิสสับมะเหงกใส่หัวจนหน้าสั่น

"เจ็บ!"

"สม! แล้วพวกมึงมาได้ไงเนี่ย"

"พวกเรามาหาปิง"

"ใครบอกว่าปิงจะกลับ"

"เดาเอา หยุดยาวยังไงพี่ก็ต้องอ้อนให้ปิงกลับ"

"กูกะจะอยู่กับปิงสองคน พวกมึงนี่สาระแนจริงๆ"

"เราเคาท์ดาวน์ด้วยกันทุกปีนะพี่อิส ปีนี้จะพลาดได้ไง"

"พลาดๆ ไปบ้างก็ได้นะไอ้ห่า กูรำคาญพวกมึงเหลือเกิน"

"เอาน่า อยู่กันเยอะๆ สนุกดีนะครับ" ผมว่าแล้วเดินไปเปิดประตูบ้าน ไม่ทันจะเดินเข้าบ้านก็มีสมาชิกอีกสองเดินเข้ามาหน้าบ้าน เห็นว่าเป็นพี่บูรพากับพี่เหนือ ผมเลยรีบถอยหลังมาทักทายพวกเขา

"พวกมึงมาได้ไงวะ"

"ก็บ้านผมอยู่นี่ไหม"

"เออลืมไป ว่าแต่ไอ้เหนือ มึงอ้วนขึ้นนะเนี่ย"

"ไม่รู้จะทักว่าอะไรก็ไม่ต้องทักก็ได้นะพี่"

"ก็จริงอะ หน้าจะแตกอยู่แล้ว"

"กูเกลียดพี่อิส"

"ใครๆ ก็เกลียดพี่มันทั้งนั้นแหละ"

"พวกมึงสำเหนียกหน่อยไหมว่ายืนอยู่หน้าบ้านกู เดี๋ยวก็ไล่กลับบ้านให้หมดเลยนี่ รกหน้าบ้านจริงๆ"

"พวกพี่ๆ รู้จักกันหรือยังครับ" ผมเป็นตัวกลางแนะนำพวกพี่ปรินซ์ให้กับพี่บูรพาพี่เหนือ เสร็จจากการทำความรู้จักพวกพี่ปรินซ์ก็ชวนทั้งสองคนมาร่วมจอยปาร์ตี้เคาท์ดาวน์กันคืนนี้เสร็จสรรพ แฮปปี้กันทุกคนยกเว้นเจ้าของบ้าน

"รวมตัวคนจัญไรชัดๆ" พี่อิสบ่นเบาๆ ขณะยืนกรอกน้ำเข้าปาก พวกพี่ๆ ก็กำลังตกลงกันว่าจะกินอะไรกันดีสำหรับเย็นนี้ ก่อนตกลงกันได้ว่าจะปาร์ตี้หมูกระทะเหมือนอย่างเคย

"พวกมึงตกลงกันนี่ถามกูสักคำหรือยัง"

"ปิงอยากกิน"

ผมพยักหน้าหงึกๆ ตามคำพูดของพี่ปรินซ์ พี่อิสทำได้แค่ถอนหายใจแรงๆ แล้วควักกระเป๋าเงินหยิบแบงค์พันให้สามใบ

"ไปซื้อของมา"

"ขอบคุณครับป๊า" ผมว่าแล้วยกมือไหว้ก่อนหยิบแบงค์นั่นมา เพราะเรียกแบบนั้นเลยโดนสับกะโหลกเบาๆ มาด้วยทีหนึ่ง

"บูรพามึงออกไปซื้อของได้ไหม"

"ได้ครับ ไอ้เหนือไปกับกูดิ"

"ไม่เอา รถติด เบื่อ" พี่เหนือปฏิเสธหน้ายุ่ง ไม่ขยับตัวออกจากโซฟา

"ไม่ติดหรอก ถนนโล่งจะตาย ไปเร็ว ลุก"

"ไม่ไป ขี้เกียจ"

"ขี้เกียจแบบนี้ไงถึงได้อ้วน"

"พี่อิส คนอ้วนตีนหนักนะเว้ย"

พี่อิสส่ายหน้าขำๆ แล้วหันมาหาผม

"ปิงไปกับพี่เขาสิ อยากกินอะไรจะได้ซื้อเข้ามาด้วย"

"ขอกินพิซซาได้ไหม"

"ได้สิ ซื้อมาเลย"

ผมพยักหน้ารับก่อนพี่โอมกับพี่ปอนด์จะแทรกเข้ามาตรงกลางแล้วเลียนแบบประโยคผม

"ขอกินเหล้าได้ไหม"
"ขอกินเบียร์ด้วยได้เปล่า"
"กินตีนกูนี่ ไม่ต้องแดก"

"ปาร์ตี้อะไรไม่มีเหล้า จืด!"

"ปีใหม่ใครเขากินเหล้ากัน กูจะสวดมนต์ข้ามปี"

"กูล่ะเบื่อคนแก่" พี่โอมว่าแล้วควักเงินตัวเองส่งให้พี่บูรพาแล้วสั่งให้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สองสามอย่าง

"มึงจะเมาข้ามปีกันเลยหรือไง"

"ใช่สิครับ"

"พวกมึงนี่โตมายังไงวะ พ่อแม่ไม่เคยเปลืองน้ำลายสั่งสอนเลยใช่ไหม ฮะ?"

"แหม ไอ้ที่นั่งๆ อยู่นี่ก็โตมากับพี่มึงทั้งนั้นอะ"

"เออ ใครสอนกินเหล้า ใครสอนเข้าผับ ใครสอนให้เมา ใครสอนว่าต้องทำไงเวลาแฮงก์ ก็พี่ทั้งนั้นอะ"

"เอาซะกูเลวตัวหดเลยนะ"

"มากลับใจตอนแก่ก็ไม่ทันแล้วปะวะ"

"มึงก็รู้ว่ากูปฏิวัติตัวเองอยู่ กูไม่อยากเอาช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตไปจบที่โรงพยาบาลแผนกมะเร็งตับ กูต้องมีอายุยืน อยู่กับปิงไปนานๆ"

"ยังไงพี่ก็ตายก่อนพวกเราอยู่ดีอะ"

"เออ เผลอๆ ตายก่อนแก่อีก"

"ไอ้พวกเหี้ย!"

ผมปล่อยให้พี่อิสไล่ตีรุ่นน้องไปรอบบ้าน ส่วนตัวเองออกมาซื้อของกับพี่บูรพา ได้พูดคุยกันระหว่างทางแล้วผมก็รู้สึกว่าพี่เขาโคตรเท่เลย ตอนแรกที่เห็นหน้าคิดว่าเป็นคนเงียบๆ ซะอีก ใบหน้านิ่งๆ ดูสุขุม เสียงนุ่มๆ ที่เปล่งอยู่ในลำคอผ่านฟังแล้วละมุน ยิ่งตอนยิ้มมุมปากนั้นเอาถึงตาย เป็นคนที่อยู่เฉยๆ ก็ดูดีชะมัด

เรามาอยู่กันที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ บ้าน ช็อปปิ้งกับพี่บูรพาแตกต่างกับพี่อิสโดยสิ้นเชิง พี่บูรพาไม่มีจิตวิญญาณแม่บ้านเหมือนพี่อิสที่ต้องเลือกแล้วเลือกอีก ไม่หวั่นไหวต่อของลดราคาหรือประเภทซื้อสองถูกกว่า หยิบเอาเฉพาะไอ้สิ่งที่ตั้งใจมาซื้อ ไม่นานก็ได้ของที่ต้องการครบ ตอนที่เขาเดินหาแผนกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผมเลยจะแยกไปซื้อพิซซาข้างบน จะได้ไม่เสียเวลา

"พี่บูรพา ผมไปซื้อพิซซาข้างบนนะ"

"ไปด้วยกันดิ เดี๋ยวหลงทำไงอะ"

"พี่ ผมเตี้ยแต่โตแล้ว ไปได้น่า"

"เอางั้นเหรอ"

"ครับ เดี๋ยวมา แป๊บเดียว"

"อย่าหลงนะ"

"ครับ"

ผมแยกไปซื้อพิซซาที่อยู่ชั้นบน ดีที่คนไม่เยอะมาก ไม่เกินยี่สิบนาทีก็ได้ของที่สั่ง แต่พอเดินลงมาชั้นล่างพี่บูรพาไม่อยู่ที่เดิมแล้ว ผมหันซ้ายหันขวาหาเขาแต่ไม่เจอ ชั่งใจว่าจะรอตรงนี้หรือเดินหาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็เลือกที่จะเดินออกไป ผมกระโดดเหยงๆ ให้มองเห็นทะลุไปท้ายซอย คิดว่าเขาหล่อคงจะสังเกตได้ง่ายแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมเห็นพี่บูรพาหยุดอยู่ที่แผนกขนมจึงรีบก้าวเท้าเข้าไปหา

"พี่ครับ"

"เฮ้ย ทำไมเร็วจัง"

"คนน้อยอะครับ แล้วนี่...ทำไมซื้อเยอะจัง" ผมว่าแล้วมองไปที่กองขนมในรถเข็น โคอาลาร์มาร์ชเป็นแพ็กๆ ถูกซื้อเหมือนจะเอาไปขายต่อ

"ไอ้เหนือมันชอบอะ อันนี้สีแปลกๆ ไม่เคยเห็น"

"มันเป็นรสใหม่ครับ"

"เคยกินไหม"

"เคยกิน อร่อย"
            "กินไหม พี่ซื้อให้"
ผมทำได้แค่ยิ้มรับแต่มือหยิบขนมมาแพ็กหนึ่ง พี่บูรพาใจดีจังเลย 

"แล้วนั่นอะไรอะ"

"อ๋อ เยลลี่รสนมเปรี้ยวครับ พี่อิสชอบกินนมเปรี้ยวมาก น่าจะชอบอันนี้นะ"

พี่บูรพายิ้มรับพร้อมพยักหน้าเบาๆ ผมว่าเราทั้งคู่เข้าใจกันดี ผมว่าการเห็นอะไรบางอย่างแล้วคิดถึงคนที่ไม่ได้อยู่ด้วย มันเป็นอะไรที่พิเศษ ที่จริงมันก็เป็นแค่โคอาลาร์มาร์ชหรือเยลลี่ที่วางขายทั่วๆ ไป แต่พอเรารู้ว่ามันเป็นของที่ใครสักคนชอบ ทุกครั้งที่เจอมัน เราก็จะคิดถึงคนคนนั้นขึ้นมาเลย 

ใช้เวลาซื้อของไม่นาน เราก็กลับมาถึงบ้าน พวกพี่ปรินซ์จัดการวัตถุดิบสำหรับทำหมูกระทะอย่างเช่นทุกครั้งไม่ยอมให้ผมทำอะไรเลย ผมก็เลยทำได้แค่นั่งกินขนมที่ซื้อมาไปพลางๆ ข้างๆ คือพี่เหนือที่อยู่ในกิริยาเดียวกัน โคอาลาร์มาร์ชซองแล้วซองเล่าถูกกรอกใส่ปากเราสองคนจนเกือบจะหมดแพ็ก ก่อนพวกพี่ๆ จะเตรียมอาหารเสร็จ ปาร์ตี้เล็กๆ ของเราก็เริ่มขึ้น บทสนทนาไม่ได้หยุดลง พวกเขาผลัดกันหยิบยกเรื่องนั้นเรื่องนี้มาพูดแม้จะรู้จักกันวันแรกแต่กลับพูดคุยกันสนุกปาก ผมคิดถึงบรรยากาศเก่าๆ ก่อนไปเรียนที่เชียงใหม่ เริ่มต้นด้วยหมูกระทะ ลงท้ายด้วยแอลกอฮอล์ สุดท้ายก็เมากลิ้ง แต่มันก็มีเรื่องสนุกๆ ทุกครั้งที่มีปาร์ตี้แบบนี้

"อิ่มไหม เอาอะไรอีกปะ" พี่บูรพาหันไปถามพี่เหนือขณะเทน้ำอัดลมใส่แก้วให้ 

"พอแล้ว ตัวแตก"

"มึงรู้จักคำว่าอิ่มด้วยเหรอเหนือ"

พี่เหนือหันขวับไปหาพี่อิสที่เอาแต่แซวเรื่องน้ำหนักไม่ได้หยุด แต่จากที่เจอกันตอนสงกรานต์จนถึงตอนนี้ พี่เหนือก็ดูจะอวบๆ ขึ้นนิดหน่อยจริงๆ นะ

"อ้วนมากระวังไอ้บูรพาทิ้ง"

"อือ นี่กะจะจีบน้องปิงแล้วเนี่ย"

"จีบแม่มึงสิ!"

พี่อิสหันมาโวยพร้อมกับฟาดผักบุ้งในมือใส่พี่บูรพา

"โอ๊ย! เจ็บนะพี่!"

"อย่ามายุ่งกับลูกกู"

"ปิงพี่ถามจริงๆ โดนของปะเราอะ"

"ไอ้เหนือ เดี๋ยวกูถีบ"

"สวนนะเว้ยพี่"

"สองคนนี้เถียงกันไม่หยุดตั้งแต่เย็นละนะ" พี่ปรินซ์พูดเสียงเบื่อ แต่จริงอย่างเขาว่า เพราะพี่เหนือสวนทุกคำด่าของพี่อิสอย่างไม่กลัว ผมว่าพี่อิสเจอคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อแล้วละ

"อย่าให้มันโมโหแล้วด่าเป็นภาษาเหนือนะ งงไปยันพรุ่งนี้แน่นอน"

"มึงโดนบ่อยอะดิ"

พี่บูรพาพยักหน้ารับ

"แล้วพี่เคยโดนปิงด่าปะ"

ผมกับพี่อิสส่ายหน้าพร้อมกัน มีแค่เถียงบ้างบางครั้งแต่ไม่เคยด่าจริงๆ จังๆ เพราะเขาโตกว่าด้วย แล้วผมก็ไม่ได้คิดจะด่าพี่อิสด้วยเรื่องอะไร

"เด็กดีจัง"

ผมยิ้มแก้เขิน พี่อิสก็ยกมือมาเกาคาง มาถูแก้มผมเหมือนเล่นกับแมว

"พี่อิส แลกกันปะ"

"แลกอะไร"

พี่บูรพาพยักหน้าไปทางพี่เหนือ ส่วนพี่อิสหัวเราะออกมาเบาๆ

"พี่ว่าเราเหมาะกันนะปิง ให้สองคนนี้ไปด่ากันให้สนุก ส่วนเราไปหาอะไรทำคูลๆ กัน"

"อื้อ เอาๆ" ผมแกล้งพยักหน้าตามอย่างเห็นด้วย จังหวะที่เขยิบเข้าไปหาพี่บูรพา ก็ถูกพี่อิสเอาแขนล็อกคอเอาไว้ก่อน ส่วนพี่บูรพาถูกกระชากหัวอย่างแรงจากคนข้างๆ จนเราร้องลั่นออกมาพร้อมกัน เสียงหัวเราะจากพวกพี่ปรินซ์ดังลั่นบ้าน

"เดี๋ยวเถอะมึง!"

"ล้อเล่นๆ"

"ไปเล่นบ้านแม่มึงโน่น"

"ตัวมึงไม่งอนดิ!"

ผมหันมองพี่สองคนหยอกล้อกันก่อนลงท้ายด้วยพี่บูรพาจับหน้าพี่เหนือกดลงตักแล้วกดริมฝีปากลงบนแก้มแรงๆ ก่อนหันมองพี่อิสที่มองเคืองใส่อยู่

"ไม่ต้องมายิ้มเลย เขาชวนก็จะไปกับเขา ใจง่าย!"

"ก็อยากคูล"

"อยากคูลมึงไปอยู่ในตู้เย็นนู่นไป"

"โอ๋ๆ ล้อเล่นเฉยๆ หรอก"

"งั้นพี่ไปจีบคนอื่นบ้างเอาไหมล่ะ"

"ไม่เอา หวง!" ผมว่าแล้วยกสองมือขึ้นกอดพี่อิสไว้แน่นๆ แค่นั้นเขาก็หลุดยิ้มออกมา พี่ปรินซ์ได้แต่ถอนหายใจใส่แรงๆ

"ทำยังไงถึงจะได้แบบน้องปิงบ้างเหรอ"

"ทำบุญเถอะมึงอะ" พี่อิสหันไปตอบ ก่อนถูกพี่ปรินซ์มองตาขวางใส่อีกที

"ไอ้ปรินซ์ ไหนเราตกลงกันแล้วไงว่าเราจะขึ้นคานไปด้วยกัน ใครมีแฟนก่อนแพ้นะเว้ย"

"เนื้อคู่ไม่คูลเท่าเนื้อย่าง"

"เออ เนื้อคู่กูอยู่นี่ไง" พี่โอมว่าแล้วยกขวดเบียร์ก่อนรินให้รอบวง

"ปิงเอาไหม"

ผมหันไปหาพี่อิสก่อนเพื่อขออนุญาต ก่อนถูกส่ายหน้าแทนคำตอบ

"ขอกินบ้างไม่ได้เหรอครับ"

"ไม่ดี จะกินทำไม"

"โตแล้วนะ"

"ไม่เอา"

พี่อิสส่ายหน้าปฏิเสธลูกเดียว ผมเลยต้องอ้อน ขยับหน้าเข้าไปใกล้ ยกนิ้วชี้ขึ้นตรงหน้าเป็นเชิงขอว่าแก้วเดียว
หัวคิ้วที่ขมวดกันอยู่ของพี่อิสเริ่มคลายออก เริ่มใจอ่อนแล้วแน่นอน 
"นะ แก้วเดียว"

"หึ"

"แก้วเดียวเอง"

"เอ๊ะ! มึงหนิ!"

"น่า นะ"

"มึงคิดว่าทำตัวน่ารักนี่จะอ้อนได้ทุกเรื่องใช่ไหม"

"ป๊า"

"กูให้แก้วเดียว! แล้วไม่ต้องเสือกเมา ไม่งั้นกูจะตีให้น่องลายเลย"

ผมพยักหน้าหงึกๆ ก่อนกระดกน้ำอัดลมในแก้วให้หมดแล้วยื่นน้ำแข็งเปล่าให้พี่โอมเทเบียร์ให้ และลองชิมรสชาติของมัน ไม่แย่อย่างที่คิดแต่ก็ไม่ดีเท่าที่ควร เราใช้เวลากินและคุยกันไปถึงครึ่งคืน ก่อนถึงเวลาเคาท์ดาวน์เข้าปีใหม่ เปิดทีวีช่องที่พร้อมจะพาเรานับถอยหลังไปด้วยกัน ที่ผ่านมาทุกๆ วันปีใหม่ของผมมักจะผ่านไปเฉยๆ ที่เปลี่ยนไปคงมีแค่พ.ศ.ในวันถัดมา ผมไม่เคยเฉลิมฉลอง ไม่เคยตื่นเต้น ไม่เคยรู้สึกว่ามันพิเศษ จนถึงตอนนี้ ตัวเลขที่เริ่มนับถอยหลัง ทำให้ผมเผลอลุ้นไปด้วยในใจ

"ห้า!"

"สี่!"

"สาม!"

"สอง!"

"หนึ่ง!"

"แฮปปี้นิวเยียร์!!!"

ผมหันมองพี่บูรพาที่คว้าหน้าพี่เหนือไปจูบ ก่อนที่พี่อิสดึงหน้าผมไปหาแล้วแตะริมฝีปากเข้ามาเบาๆ ทีหนึ่ง

พี่ปรินซ์ พี่โอม พี่ปอนด์กอดคอกันแล้วจูบขวดเบียร์แทน ผมหลุดหัวเราะออกมาแล้วเขยิบเข้าไปกอดพี่อิสเพื่อขอบคุณที่ทำให้วันนี้ของผมมีความหมาย

การนับถอยหลังข้ามปีผ่านไปแล้ว แต่ปาร์ตี้ยังไม่จบง่ายๆ หัวข้อสนทนาดูจริงจังขึ้นมาเมื่อถูกถามถึงสิ่งที่อยากทำในปีนี้ ผมนั่งฟังเป้าหมายปีนี้ของพวกพี่ๆ แล้วก็ย้อนคิดถึงตัวเอง เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในปีนี้บ้าง

"มึงอะเหนือ ปีนี้อยากจะทำอะไร"

"อยากฉลาดขึ้น"

"ปกติมึงโง่เหรอ"

"ควายเลยเหอะ"

"ตัวมึงไม่ต้องขยี้ได้ไหม"

"โอ๋ๆ ควายอะไรไม่รู้โคตรน่ารักเลย"

"ปีนี้กูจะตั้งใจเรียน"

"ครับๆ"

"แล้วมึงอะบูรพา"

"ปีนี้ก็อยากมีชีวิตเหมือนปีที่ผ่านมานั่นแหละ เพราะทุกอย่างมันดีอยู่แล้ว ไม่ได้อยากให้มีอะไรเปลี่ยนไป"

"ปีนี้มึงต้องเขียนหนังสือด้วย เอาเงินมาเลี้ยงกู กูวัยกำลังโต"

"วัยกำลังอ้วนสิมึงอะ"

"ถ้ากูจะตบพี่อิสสักที จะมีใครห้ามไหม"

"จะช่วยซ้ำเลยเหอะ!"

"ไอ้พวกสารเลว!"   

"ว่าแต่พี่บูรพาเขียนหนังสืออะไรเหรอครับ" ผมสนใจคำพูดของเขาขึ้นมาเลยหันไปถาม

"เออใช่ บูรพามันเป็นนักเขียนด้วยนี่หว่า"

"มันเป็นพวกชอบเพ้อเจ้อไง"

"เขียนหนังสือแบบไหนวะ"

"Sundaynight01 เคยได้ยินไหม"

ผมเบิกตาขึ้นนิดๆ ทันทีที่ได้ยินนามปากกานั้น แล้ววิ่งเข้าห้องนอนไปที่ชั้นหนังสือ หยิบหนังสือสองเล่มที่ซื้อมาอ่านนานแล้ว ไม่มีคำพูดอะไรนอกจากโชว์หนังสือสองเล่มนั้นให้พี่บูรพาดูด้วยอารมณ์ตื่นเต้น

"เฮ้ย อ่านด้วยเหรอ"

"พี่บูรพา...พี่เป็นคนเขียนเหรอ"

เขาพยักหน้ารับยิ้มๆ แต่ผมทึ่งไปเลย แม้แต่พี่อิสก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ถึงได้ตกใจไปกับผมด้วย

"สุดยอดเลย พี่เซ็นให้ผมหน่อยสิครับ"

"เฮ้ย เขิน"

"เซ็นหน่อยนะ นะครับๆ"

ผมเดินไปหยิบปากกามาส่งให้เขา มองดูตัวหนังสือที่เขาเขียนลงในหน้าแรก พร้อมลายเซ็น ตอนนั้นก็ละสายตาจากเขาไม่ได้เลย พี่บูรพาโคตรเท่เลเวลสุด ไม่รู้เลยว่านักเขียนที่ชื่นชมผลงานจะนั่งอยู่ตรงหน้านี้แล้ว พี่บูรพาโคตรคนคูลเลยอะ 

"ปิง"

"..."

"หลินปิง!"

"ฮะ!"

ผมหันขวับหาพี่อิสที่ตะโกนใส่หู

"อีกนิดจะหลงมันแล้วนะเนี่ย พอเลย เลิกมอง"

"เปล่า ก็ชอบหนังสือ ไม่รู้เลยว่าพี่บูรพาเป็นคนเขียน"

"หน้าตามึงอย่างหลงรักมันอะ มานั่งนี่เลย กูหวง!" พี่อิสว่าแล้วดึงผมไปนั่งตัก ก่อนเราจะกลับสู่วงสนทนากันเหมือนเดิม ยังมีเรื่องคุยกันเรื่อยๆ และดูจะไม่จบง่ายๆ ส่วนผมก็เริ่มง่วง คงเพราะเบียร์สองสามแก้วที่ดื่มเข้าไปด้วยเลยทำให้ตาเริ่มหนักเลยไหลลงไปนอนตักพี่อิส แขนใหญ่ๆ ของเขาวางพาดอยู่บนตัวผม ผมมองดูรอยสักรูปหมีแพนด้าที่เขาได้มันมาสักพัก เขาบอกว่าเป็นรูปหลินปิงโหนกิ่งไผ่ ผมไม่เคยชอบรอยสักกระทั่งมันอยู่บนตัวของพี่อิส ทั้งดอกแดนดิไลออนและแพนด้าตัวนี้ ผมขยับตัวนิดหนึ่งให้นอนสบาย หันไปมองพุงพี่อิสแล้วยกมือจิ้ม พุงนิ่มๆ เหมาะจะเอาไว้ฟัดดี โดนจิ้มหลายๆ ทีเจ้าของพุงจึงก้มลงมามอง

"อะไร"

"พี่อิสอ้วน"

"กูบวมเบียร์ ถ้าอ้วนต้องแบบไอ้เหนือ"

"กูนั่งอยู่เฉยๆ เลยนะพี่ กวนตีน เดี๋ยวเผาบ้านแม่ง"

ผมปล่อยให้สองคนนี่เถียงกัน แล้วนอนมองหน้าเขาตรงๆ พี่อิสมุมนี้โคตรดีอะ ขอลูบสันกรามหน่อยได้ไหมนะ ผมชินกับพี่อิสหน้าตาเหวี่ยงๆ หรือไม่ก็สภาพอดหลับอดนอน แต่ถ้ายิ้มขึ้นมาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แล้วตอนนี้พี่อิสก็กำลังยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ เพราะบทสนทนาในวงเหล้านั่น

อย่ายิ้มนะ อย่านะ ยิ้มจนได้! โอ๊ย! หล่อจัง! ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ตอนนี้ผมละสายตาออกจากใบหน้านั้นไม่ได้ พี่อิสคงรู้ตัวว่าถูกมองนานแล้วเขาเลยก้มหน้าลงมาถาม

"มองทำไม"

"ก็จะหล่อทำไมอะ"

"..."

"ไม่อยากให้มอง ก็อย่าหล่อดิ"

พี่อิสหัวเราะพลางส่ายหัวเบาๆ แล้วจับผมลุกขึ้น

"ลูกกูเมาละ เดี๋ยวพาเข้านอนก่อน"

"เฮ้ย ยังไม่นอน เขายังไม่เลิกกันเลย"

"ไปเหอะ ง่วงละ"

"เดี๋ยวดิ!"

"พวกมึงเลิกกินก็หาที่นอนเอาเอง ปิดบ้านให้กูด้วย" พี่อิสหันไปสั่งพวกที่นั่งอยู่ก่อนลากผมเข้ามาในห้องนอน อันที่จริงก็ง่วงตาจะปิดแล้วเหมือนกัน ทิ้งตัวลงบนที่นอนก็อยากหลับไปเลย ผมไม่อาบน้ำข้ามปีนะ

"กินแล้วก็เมาเห็นไหม"

"เปล่าซะหน่อย"

"พี่ไปอาบน้ำแป๊บ"

"ไม่เอาๆ" ผมดึงพี่อิสไว้ก่อนที่จะลุกไป

"ทำไม"

"เน่าด้วยกัน ไม่อยากสกปรกคนเดียว"

"ก็ได้ แต่ปกติพี่คนสะอาดนะ"

ผมตบที่นอนข้างๆ เป็นเชิงให้เขาเข้ามานอนด้วย ผมยกแขนยันตัวเองขึ้นมามองหน้าเขา

"มองอะไร"

"หล่อ"

"ก็นี่อิสระเดือนคณะในตำนาน"

"แต่พี่บูรพาหล่อกว่า"

"ไอ้บูรพา! ไสหัวออกจากบ้านกูไปเลย!"

"พี่อิส!" ผมยกมือปิดปากพี่อิสที่ตะโกนลั่นห้อง คนข้างนอกคงสะดุ้งไปแล้ว

"ถ้าชมมันอีกที จะเดินไปเตะมันจริงๆ อะ"

"โห่ ป๊าครับ"

"ไม่ต้องมาป๊าเลย"

ผมหัวเราะหน่อยๆ แล้วล้มตัวลงนอน ยกมือกอดพี่อิสเอาไว้

"พี่อิส"

"อะไร"

"ขอบคุณนะครับ"

"เรื่องอะไร"

"ปีนี้ผมมีความสุขมากกว่าทุกปีเลย ได้เจอกับพี่อิส ได้เจอกับรุ่นพี่ดีๆ ได้เข้าเรียนมหา'ลัย ได้มีชีวิตใหม่ ถ้าวันนั้นผมไม่รู้จักพี่อิส ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ชีวิตจะเป็นยังไง พี่ทำให้ผมได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระจริงๆ พี่เป็นทุกอย่างของผมเลยนะ"

"เขินเลยนะเนี่ย"

"ปีหน้า แล้วก็ปีหน้าๆๆ ช่วยเลี้ยงแมวตัวนี้ไปนานๆ เลยนะครับ"

"เออ มาให้จูบที"

ไม่รอให้ผมพูดอะไรเขาก็เป็นฝ่ายลุกขึ้นมาจูบก่อน จูบอย่างที่เขาเคยสอน มากกว่าการแตะปากกันแล้วปล่อยให้ใจเต้นเฉยๆ ในตอนนี้มันลึกซึ้งกว่า นุ่มนวลกว่า ยาวนานกว่า แล้วจูบของพี่อิสก็อบอุ่นอยู่ในใจเสมอ

"นอนได้ละ"

ผมพยักหน้าหน่อยๆ แล้วกระชับกอดเขาให้แน่นกว่าเดิม ยกหูแนบอกเขาแล้วพบว่าข้างในนั้นก็เต้นโครมครามไม่แพ้กัน

"กาก"

"อะไร!"

"ใจเต้นตึกๆ เลย"

"เออ!"

"อยากกินเด็กใจจะขาดละสิ"

"นอนไปเลยมึงอะ!"

"คนกาก"

"นอน! ไม่งั้นจะจับแดกจริงๆ อะ"

"ครับๆ"

ผมมุดหน้าลงไปซบอกเขาอีกทีแต่หุบยิ้มไม่ได้ อย่างที่บอกทุกครั้ง แค่นี้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับหัวใจ ผมก็อยากให้เขาเป็นคนกากๆ ที่น่ารักไปนานๆ

"ป๊า"

"อะไรอีก!"

"พรุ่งนี้อยากกินข้าวผัดอะ ทำให้หน่อยนะ"

"อือ เดี๋ยวทำให้"

"ไข่ดาวกากๆ ด้วย"

"ได้"

ผมยิ้มออกมาอีกครั้ง แล้วกดริมฝีปากเข้าที่แก้มเขาอีกที จากนั้นก็ได้ยินเสียงถอนหายใจยาวๆ

"มึงน่ารักจนกูอยากกลั้นใจตายแล้วนะ รู้ตัวไหม"

"ตายไปเลยสิ เมี้ยวๆ"

"เชี่ย!" พี่อิสกัดฟันสบถคำหยาบแล้วดึงหมอนที่หนุนอยู่มากดหน้าตัวเองหนีผมที่กำลังแกล้งเขาอยู่ ก็ยังอยากพูดอีกครั้งว่าปีนี้ของผม เป็นปีที่ดีมากๆ ผมไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรในปีหน้า แต่ในปีนั้นก็อยากให้พี่อิสอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ผมมีความสุขดีแล้วกับสิ่งที่มีอยู่ พรข้อเดียวที่ผมจะขอ ก็คงขอให้ชีวิตมีพี่อิสอยู่ข้างๆ และเป็นแบบนี้ตลอดปี ตลอดไป...สุขสันต์วันปีใหม่ครับ

 

 

-HAPPY NEW YEAR-


 
แด่ วันปีใหม่และในทุกๆ การเริ่มต้น

 
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 01-01-2018 05:06:39
สัมผัสได้ถึงความน่ารักและใจดีของพี่อิส ... เสมอ
เป็นพระเอกที่ดิบ เถื่อน กาก ห้าว
แต่ ดีต่อใจ

ขอบคุณค่ะที่สร้างพี่อิสขึ้นมา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-01-2018 06:27:57
Happy New Year 2018
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๑  ขอให้ไรท์สุขสันต์ มีความสุขมากๆ

ปีใหม่ พี่อิส ก็มา พาปิงมาด้วย  :mew1: :mew1: :mew1:
พี่อิส ปิง  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ปิง อ้อนพี่อิสซะ พี่อิสแพ้ทางปิงตลอด
พี่อิส ก็ยังกากไม่เลิก กากแพ้ปิง
ไม่กล้าข้ามขั้น ต้องให้ปิงข้ามไปหาเองซะม้าง  :z3: :z3: :z3:

เพื่อนรุ่นน้องเก่าๆ(ไอ้พวกเหี้ยของพี่อิส)ก็มา ปรินซ์ ปอนด์ โอม 
บูรพา องศาเหนือ มาร่วมแก๊งด้วย  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เหนือ ที่ปกติปากดีกับบูรพา (บูรพาก็รักเหนือซ้า)
ต่อปากต่อคำกับพี่อิส อย่างไม่มีใครยอมใคร ไม่ดูอายุพี่อิสซะเลย
ขอบคุณไรท์ พาพวกเขากลับมา
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: yanaanay ที่ 01-01-2018 07:44:23
สวัวดีปีใหม่ค่ะคุณรชา ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆสนุกๆให้อ่านในปีที่ผ่านมานะคะ  :pig4: :pig4: ชอบนิยายรชามากๆค่ะ โดยเฉพาะเรื่องนี้คือนัมเบอร์วันของเราค่ะ

พี่อิส หลินปิง และเดอะแกงค์ยังน่ารักเหมือนเดิม  :L1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: ชมพูพาล ที่ 01-01-2018 10:37:49
พี่อิสคนกาก แต่น่ารักและรักปิงมากก
น่ารักมากเลยค่ะ ชอบคู่นี้มากๆ อ่านแล้วอมยิ้ม มีความสุข ชอบความอิสระของพี่อิสที่คงเดิมอย่างน่ารัก ชอบปิงๆ ตอนหยอกพี่อิส
แฮปปี้นิวเยียร์นะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 01-01-2018 19:48:04
พี่อิสกับน้องปิงนี่ทำให้ยิ้มได้ตลอด
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 01-01-2018 22:38:58
พี่อิสนี่มันพี่อิสจริงๆ ไม่เคยเปลี่ยน เป็นตัวของตัวเองขั้นสุด
แต่คงรวามกากอย่างเหนียวแน่ ชาตินี้จะได้กินหลินปิงมั้ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 01-01-2018 22:56:38
พี่อิสคนกากก นี่โคตรขำ ตอนจะพาแมวไปทำแท้งเถื่อน โว้ยย อิพี่อิสส แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้กินปิงนาจา คนนก 2018 นกข้ามปี 5555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 01-01-2018 23:32:18
ทาสแมว และก็ทาสเด้กด้วย
น่ารักมากกกกก สุขใจ ของขวัญปีใหม่
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 01-01-2018 23:36:03
กากอย่างยืนยง

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 02-01-2018 00:40:27
น่ารักมาก หัวเราะได้เพราะพี่อสเลยนะเนี่ย :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 02-01-2018 03:30:06
โอ๊ยยยยคิดถึงพี่อิสและเดอะแก๊งค์มากกกกก มีบูรพากับน้องเหนือมาเพิ่มด้วยพี่อิสต้องปวดหัวมากๆแน่เลย ขอบคุณไรท์มากๆนะคะทำให้หายคิดถึงพี่อิสบ้้างรักนะคนกากของหลินปิง 
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 02-01-2018 11:42:59
อ่านตอนพิเศษแล้วรู้สึกดีทุกครั้ง ดีใจกับปิงที่ได้มาเจออิส ถึงจะเป็นพระเอกแบบกากๆก็เถอะ แต่ที่เราเห็นแล้ะรู้สึกได้คือ อิส เท่มากกกกกกก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 02-01-2018 12:03:16
พี่อิสคนกากกับน้องปิง ยังคงน่ารักเหมือนเดิม โอย ดีใจ ๆ มาปีใหม่ให้หายคิดถึง  :กอด1:
นี่แอบสงสารชีสไบรท์ โดนจับเป็นตัวประกันจากคนแก่เมายาคูลท์ โถ ๆ
รู้สึกเหมือนผ่านมาตั้งนาน น้องปิงก็ยังเรียนไม่จบเสียที ไม่ใช่อะไร สงสารลุง
นี่ชอบความเข้าวัดฟังธรรม งดอบายมุขของพี่อิสมากอ่ะ น่ารักดี
สงกรานต์พาพี่อิสกับน้องปิงแอนด์เดอะแก็งค์ มาเยี่ยมกันอีกน้า  :impress:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 02-01-2018 12:18:28
คิดถึงพี่อิส คิดถึงปิง คิดถึงบูรพากับองศาเหนือ

HNY2018 คิดถึงๆจริง :mew4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 02-01-2018 13:29:59
น้องปิงน่ารักอ่าาาาาา แต่ยังชอบเหนือมากกว่าอยู่ดีนะ อิอิ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Namshine ที่ 02-01-2018 19:38:01
ถึงพี่จะกากพี่ก็ยังน่ารักเสมอ  :mew3:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Jiraapp ที่ 02-01-2018 19:48:16
เวลาปิงเรียกพี่อิสว่าป๊านี่มันกร๊าวใจจริง ๆ น่ารักกกกกก แล้วเหนือกับพี่อิสก็ทะเลาะกันสนุกมาก ขอบคุณนะคะสำหรับตอนพิเศษน่ารัก ๆ อย่างนี้ สัญญาว่าปีนี้จะต้องซื้อรักอิสระให้ได้หลังจากพลาดไปครั้งนั้น
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 02-01-2018 21:49:00
จะอดทนได้อีกกี่ปีใหม่เนี้ย น้องน่ารักมากกกก :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 02-01-2018 22:14:22
Happy new year ค้าา น้องปิงพี่อิส ละมุน มุ้งมิ้งมากก เรียกป๊านี่พี่อิสยอมทุกอย่างเลยถูกมะ5555 คิดถึงจังค่ะ มาบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: winning ที่ 03-01-2018 01:40:09
ฏอ๊ยยย พี่อิสคนกาก คนคูล

อดกินน้องไปอีกกี่ปีค่ะนั้นนน

หลินปิงก็น่ารักมากลูกกกก ฮือออ งุ้งงิ้งๆเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 03-01-2018 02:04:57
สวัสดีปีใหม่ 2561 ค่ะ
 คิดถึงพี่อิสคนกากกับหลินปิงสุดน่ารักมากเลย ไม่คาดฝันด้วยว่าจะเจอบูรพากับองศาเหนือในตอนพิเศษนี้ พิเศษมากจริงๆค่ะ แอบขำเมื่อเราเปรียบเทียบภาพพี่อิสใส่เสื้อยืดกลายเป็นลุง แต่บูรพาใส่แล้วโคตรหล่อ 55555555 สังขารค่ะพี่อิส ถึงจะแก่แต่ก็รักนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 04-01-2018 00:15:49
สวัสดีปีใหม่รชาด้วยค่ะ ขอบคุณที่พาพี่อิสคนกากและผองเพื่อนกับน้องปิงมาทักทาย ไม่เจอพี่อิสนานก็ยังกากเหมือนเดิมแต่ความน่ารักและใจดีก็เหมือนเดิมเช่นกัน ตอนพิเศษมีแขกรับเชิญเป็นสองหนุ่มบูรพากับองศาเหนือด้วย อย่าว่าแต่น้องปิงจะหลงบูรพาเลยเราก็ชอบเหมือนกัน แต่ขอพี่ปริ้นซ์ให้เราเถอะค่ะ ฮาา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-01-2018 01:07:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: BeauBeeiiz ที่ 06-01-2018 13:44:47
คิดถึงง ทุกคนเลย ,, อยากจิฟัดปิงบ้าง

แต่เดี๋ยวจะโดนพี่อิสเตะเอา

บูรพากับองศสเหนือก็มาเด้ออออ

ครบจริงๆ ขอบคุณค่าา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Cardiac ที่ 06-01-2018 16:23:41
 :3123:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 22-01-2018 01:39:45
55555 แพ้ทางมาก แพ้ทางกันทั้งคู่
แหมมมม มีพัฒนานะคะ รักกันแบบชัดเจน แสดงออกชัดเจน
ปลื้มใจมาก ที่ปิงพัฒนา เพราะอิพี่อะ หวงออกหน้าไปไกล นานแล้ว

ตลกเหนือ ทำไมร้าย ทำไมอ้วน
บูรพาก็แหย่ไปเหอะ แล้วสุดท้ายก็ต้องยอม

ตลกทีมน้องอิส ทำไมทุกคนถึงรู้ดี  :laugh:
ป๊าจะสวีทกับปิงก็อดเลย ต้องอาศัยแอ๊บว่าน้องเมา พาเข้านอนแทน

มาให้หายคิดถึงบ้าง ดีใจมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
มาอีกน้า เป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 23-01-2018 09:37:42
เพิ่งเห็นว่ามีตอนพิเศษ  :pig4: ..รักพี่อิสกับเดอะแกงค์รักหลินปิง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-01-2018 19:53:29
เกิดมาคู่กัน อย่างน้อยก็ช่วยเติมเต็มกันละกันได้ละนะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 26-01-2018 20:39:46
 :oo1: :mew1

ไม่ได้เข้ามานาน มาเจอตอนพิเศษพอดร

โอ้ย มันดี พี่อิส คือดี น้องปิงน่ารักมาก

ฮือออ เรื่องในดวงใจตลอดไป

ขอบคุนคนเขียนนะ เราชอบจริงๆ ขออีกๆ  :heaven
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันปีใหม่ ft.บูรพากับองศาเหนือ
เริ่มหัวข้อโดย: vy0Cik ที่ 27-01-2018 10:53:08
รักพี่อิสทำไมถึงชอบพี่อิสขนาดนี้ก็ไม่รู้ ถึงพี่อิสจะกาก แต่ก็กากในแบบของพี่อิส พี่อิสนี่มันพี่อิสจริงๆ :L1: รักคนชื่ออิสระ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 14-02-2018 23:14:13
เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์

 

อิสระ :

 

กลางศาลาวัดมีเพียงเสียงพระสวดดังก้องบ่งบอกว่าผมกำลังอยู่ในงานศพ ด้วยความที่ศาลาใหญ่เกินไปจึงเห็นได้ชัดว่าผู้ที่มาร่วมงานในคืนนี้น้อยจนนับจำนวนได้ โลงเย็นสีน้ำเงินเข้มลายม่านดอกไม้ประดับไฟกะพริบสลับสี พวงหรีดสองสามพวงตั้งอยู่ใกล้ๆ รูปหน้าศพ ระหว่างความสงบผมพึงตระหนักคิด ผมได้ยินมาตลอดทั้งชีวิตว่าเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในทุกๆ การสูญเสียมันโศกเศร้าเสมอ ผมอยากรู้ว่าโลกนี้มีใครบ้างที่จะยอมรับความธรรมดาในรูปแบบนั้นได้ ผมคิดวนอยู่อย่างนั้นท่ามกลางความเงียบและเสียงพระสวดอภิธรรม

“เชิญทุกท่านกรวดน้ำพร้อมกัน”

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

เชี่ย!

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเสียงมือถือตัวเองดังแทรกเสียงในศาลา ก่อนรีบลุกออกมาจากตรงนั้นแล้วกดรับในทันที

“ว่าไงไอ้ปรินซ์”

“พี่อิสอยู่ไหนเนี่ย”

“กูอยู่วัด”

“อ้าว ไปบวชแล้วเหรอ”

“ยังโว้ย กูมางานศพ”

“เฮ้ย! ใครเป็นอะไร”

“ลุงสมบัติ”

“สมบัติไหนวะพี่”

“กูก็ไม่รู้ มาวัดแล้วเจองานศพพอดี เห็นคนน้อยๆ กูเลยมานั่งเป็นเพื่อนเขา เหงาทั้งศาลาเลยเนี่ย”

“มึงไหวไหมเนี่ยพี่!”

“กูเหงา”

“กลับมาบ้านเร็ว ผมอยู่บ้านพี่เนี่ย ซื้อนมเปรี้ยวปีโป้ปั่นมาฝากด้วย”

“มึงจะให้กูทิ้งลุงสมบัติไปหานมเปรี้ยวปีโป้ปั่นของมึงเหรอ”

“เออ! กลับมาเร็ว หรือจะให้ไปรับที่วัด”

“ไม่ต้องๆ กูกลับเอง”

ผมวางสายจากไอ้ปรินซ์ก่อนกลับไปนั่งในศาลาตามเดิม ถึงผมจะไม่รู้จักลุงสมบัติแต่ก็อยากอยู่ให้จบงานก่อน นั่งเท่ๆ เป็นอุปกรณ์ประกอบฉากไปจนเสร็จพิธี บอกลาหลวงพ่อแล้วเดินกลับบ้านในตอนมืดๆ

ผมคิดว่าตัวเองกำลังประสบกับความเหงาระยะรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีชีวิตมา ช่วงนี้ผมคุยกับหลินปิงได้แค่อาทิตย์ละไม่กี่ครั้ง เพราะปิงเรียนเยอะมาก เหมือนเรียนเผื่อชาติหน้าไปแล้ว แบบชาติหน้าเกิดมาก็จบปริญญาตรีเลยมั้ง ฉิบหาย เห็นหน้าปิงผ่านวิดีโอคอลทีไรก็คิดว่าแพนด้าขโมยโน้ตบุ๊กไปเปิดกล้องคุย แมวน้อยแปลงร่างเป็นแพนด้าใต้ตาคล้ำเรียบร้อย ไหนจะเรียน ไหนจะกิจกรรมจึงแทบไม่มีเวลาพัก ผมเลยไม่อยากกวนใจน้องมันมาก

เมื่อขาดการติดต่อ ไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้ยินเสียง ความคิดถึงมันจึงก่อตัวรวดเร็ว รู้ตัวอีกทีก็โดนความคิดถึงรัดคอใกล้ตาย แล้วหายนะของการอยู่คนเดียวก็เริ่มต้นขึ้น ผมเหงาชนิดที่ว่าอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้เลย หันไปทางไหนก็เห็นทุกอย่างที่เกี่ยวกับปิง อาการหนักจนเกือบเพ้อ ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะตายยังไง แต่ตอนนี้เริ่มคิดถึงความตายแล้ว อีกนิดเดียวความคิดถึงมันคงฆ่าผม ความคิดถึงแม่งโหดร้ายกับชีวิตมากจริงๆ  วิถีคนที่เท่มาทั้งชีวิต ตอนนี้ไม่เหลืออะไรให้เท่แล้ว กูพูดเลย

 

“หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว...”

 

ผมพลิกหน้าจอมือถือที่ถืออยู่ในมือขึ้นมาดู ใจหวังว่าจะเป็นปิงแต่เสือกกลายเป็นไอ้ปรินซ์อีกแล้ว เลยถอนใจเบาๆ แล้วกดรับ

“อะไรอีก กำลังกลับแล้ว”

“บ้านพี่ไม่มีอะไรกินเลยว่ะ แวะซื้ออะไรมากินด้วยดิ”

“เสนอหน้ามาบ้านกูโดยไม่ได้เชิญ ยังจะให้กูซื้ออะไรไปให้กินอีก จิตใจมึงทำด้วยอะไรวะ”

“ก็คิดว่าพี่จะมีอะไรกินบ้าง นี่พี่มีชีวิตยังไงวะ ตู้เย็นพี่โล่งกว่าตู้เย็นตัวโชว์ในห้างอีก”

“เออๆ เดี๋ยวซื้อข้าวไปให้” ผมกดวางสายจากไอ้ปรินซ์แล้วเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ หยิบของกินแบบไม่ได้เลือก พออยู่คนเดียววิถีการกินแบบอะไรก็ได้ยัดใส่ปากไปเหอะก็กลับมาอีก ผมคิดว่าการตรอมใจจะทำให้ผอมลง แต่ฉิบหาย อ้วนเอาๆ  พุงนี่แบบลูกแฝดสามโตในท้อง คลอดออกมานี่ก็ห้าขวบแล้ว อ้วนจนนุ่มเป็นหมีเลยเนี่ย

ผมหิ้วตะกร้ามารอจ่ายเงิน ระหว่างนั้นก็หันไปเห็นชั้นวางของใกล้เคาน์เตอร์ ทั้งช็อกโกแลต ดอกไม้ และผลิตภัณฑ์ที่เข้ากันกับเทศกาลวาเลนไทน์ที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ ผมก็ควรจะอินไปกับมันอย่างคนมีความรัก แต่นี่เห็นแล้วอยากเผา คว่ำให้ล้มแล้วจุดไฟเผาแม่งมันเลย ใจคิดอย่างนั้นแต่กลัวเผาแล้ววิ่งไม่ทัน ไฟคลอกตายไปในกองเพลิงด้วยไม่คุ้ม เลยปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ

“รับขนมจีบเพิ่มไหมคะพี่ สองไม้สามสิบบาทเองน้า” ผมเงยหน้าขึ้นมองพนักงานร้านสะดวกซื้อคนเดิมที่ลักษณะเหมือนน้องสาว ไอ้ตัวที่ขยันอ้อนให้ซื้อนั่นซื้อนี่ด้วยมารยาน้องสาวของมัน แต่ตอนนี้ผมกำลังหมดอารมณ์คลั่งน้องสาว ไม่ต้องการขนมจีบ ซาลาเปา หรือส้นตีนอะไรทั้งนั้นอะ

“ไม่เอาครับ”

“ไม่เอาเหรอพี่ จีบกุ้ง จีบหมูสับไข่เค็ม อร่อยน้า”

“ไม่เอา”

“สักสองไม้สิคะ”

“กูบอกว่าไม่เอา! เดี๋ยวก็เผาร้านเลยนี่ โมโหแล้วโว้ย!”

“เฮ้ยพี่! ใจเย็น!”

“คิดเงิน ใส่ถุง เร็ว!”

“ค่ะๆๆ”

ผมกลับมาที่บ้านโดยที่ไม่ได้เผาร้าน ก่อนมาเห็นไอ้ปรินซ์นอนรออยู่ที่โซฟา โยนถุงของกินที่ซื้อมาให้มัน แล้วนั่งลงกับพื้น หยิบแก้วนมเปรี้ยวปีโป้ปั่นที่เริ่มละลายมายกดื่ม

“มาบ้านกูทำไมเนี่ย”

“เหงาอะพี่”

“โลกนี้ไม่ควรมีใครเหงากว่ากูแล้ว พูดแค่นี้”

“โห่ ไม่ดึงดราม่าดิวะพี่ มาอยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่ไง”

“แล้วทำไมมึงไม่ไปหาการหางานทำวะเนี่ย ในบรรดาสิ่งมีชีวิตบนโลกกูว่ามึงว่างสุดแล้วอะ”

“ขี้เกียจ” มันพูดเสียงเบื่อแล้วเอื้อมมือลงไปอุ้มไอ้ชีสไบท์ที่เดินผ่านมาพอดี ท้องโตๆ ของมันบ่งบอกว่าอีกไม่นานผมคงมีสมาชิกแมวเพิ่มอย่างน้อยๆ สองถึงสามตัวแน่นอน

“มันท้องเหรอพี่”

“อือ ใกล้คลอดละ”

“ท้องกับใครอะ”

“ท้องไม่มีพ่ออะดิ แรดไม่เข้าเรื่องไง นี่กูก็รอดูอยู่ว่าลูกมันออกมาแล้วหน้าจะเหมือนใคร กูจะตามไปตบกะโหลกยันบ้านเลย”

“ไหวไหม ให้ผมช่วยอะไรเปล่า”

“ไม่เป็นไร เรื่องของคนในครอบครัวกู กูจัดการเอง”

“ไม่ หมายถึงมึงอะพี่ ไหวไหม พอก่อน วางกาวลง”

“ไอ้สัด!” ผมคว้าหมอนแล้วฟาดใส่หน้าไอ้ปรินซ์ไปทีหนึ่งจนชีสไบท์ตกใจกระโดดหนีไปอีกทาง ผมคุยเรื่องไร้สาระไปกับไอ้ปรินซ์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนขยับไปนั่งที่หน้าคอมเพื่อทำงานที่ค้างเอาไว้ต่อ ไอ้ปรินซ์ที่นอนคุยกันพลางเล่นเกมมือถืออยู่ดีๆ หันไปอีกทีก็หลับไปเฉย คำว่ามาอยู่เป็นเพื่อนของมันสั้นมากจนผมยังไม่ทันรู้สึกว่าการมาของมันมีประโยชน์อะไรกับผมเลย ผมหยุดงานในมือ แล้วทิ้งหัวพิงพนักเก้าอี้เพื่อแหงนมองเพดานโล่งๆ

“ทำไมสี่ปีมันนานจังวะ”

“...”

“เพิ่งผ่านไปปีเดียวเอง ทำไมกูรู้สึกเหมือนชาติหนึ่งแล้ว”

“...”

“แล้วนี่กูพูดอยู่กับใคร”

“...”

“เฮ้อ” ผมลากเสียงถอนใจยาว ก่อนจะไหลลงไปนอนบนเก้าอี้ แต่จังหวะนั้นเสียงเรียกเข้าจากไลน์ก็ดังขึ้นจนผมดีดตัวขึ้นมาดูแทบไม่ทัน

หลินปิง!

มือไวกดตอบรับการโทรเข้าของวิดีโอคอลจากปิง หน้าจอกระตุกไปครู่หนึ่งก่อนปรากฏภาพจากอีกฝ่ายแต่ไม่ใช่หน้าปิง เพราะมันเอาตุ๊กตาแมวที่ผมซื้อให้มาวางอยู่ที่หน้าจอแทน พลางจับหน้าตุ๊กตาให้ผงกหัวขึ้นๆ ลงๆ ก่อนเสียงใสๆ จะแทรกเข้ามา

“ปะป๊า หวัดดีฮะๆ”

“เล่นอะไรเนี่ย เอาหน้ามาดู”

“ไม่ให้ดู”

“คิดถึงจะตายแล้ว ขอเห็นหน้าหน่อย”

“ไม่เอา ผมเห็นหน้าพี่อิสคนเดียวก็พอ”

“ปิง อย่ามาขี้โกง”

“ลุงๆ ลุงไม่โกนหนวดอีกแล้ว”

“ขอดูหน้าหน่อยเร็ว อยากเห็นหน้า”

“เฮ้อ ป๊าก็อ้อนจังเลยเนี่ย”

ปิงแกล้งถอนใจยาวแล้วยกตุ๊กตาแมวออกไปจากหน้าจอ ปรากฏให้เห็นหน้าตัวเองเข้ามาแทน แต่ยิ้มผมหุบลงตอนที่เห็นหน้าน้องชัดๆ  รอยแผลที่โหนกแก้มและสันกรามข้างขวา ทั้งถลอกทั้งช้ำจนเห็นได้ชัดแม้ไม่ได้ตั้งใจสังเกต

“ปิงเป็นอะไร”

“...”

“พี่ถามว่าเป็นอะไร”

อีกฝ่ายก้มหน้าหนีไปตอนผมถามซ้ำ ก่อนค่อยๆ เงยขึ้นมาพูดเสียงเบา กล่าวถึงสาเหตุของรอยแผลนั่น

“มอเตอร์ไซค์ล้มครับ”

“...”

“ก็ขับดีแล้วนะ แต่หมามันตัดหน้าอะ อยู่ดีๆ ก็วิ่งมาเฉยเลย”

“...”

“โทษหมาได้ไหมอะ”

“...”

“หมาผิดแหละเนอะ”

“...”

“โอเค ผมผิดเองก็ได้ แต่ไม่เจ็บเลยนะ นิดเดียวเอง”

ผมได้แต่มองหน้าคนที่กำลังฝืนยิ้มบอกว่าตัวเองไม่เจ็บโดยไม่ได้พูดอะไร ปิงหุบยิ้มลงช้าๆ ตอนที่ผมยังเงียบ กลอกตาไปทางซ้ายที ขวาที แล้วก็ก้มหน้าลงไปเงียบๆ

“พี่อิส พูดอะไรหน่อยสิครับ”

“เจ็บตรงไหนอีก”

“ไม่...ไม่มีแล้ว”

“ตรงไหนอีก”

ผมพูดซ้ำเพราะผมรู้จักปิงดี แม้เป็นการโกหกเล็กๆ น้อยๆ ผมก็รู้ เด็กขี้โม้ย่นหน้าใส่ตอนถูกจับได้ ก่อนยกข้อมือข้างหนึ่งขึ้นมาให้ดูรอยถลอก และรอยช้ำอีกนิดหน่อยที่ข้อศอก

“เจ็บแค่นี้”

“แน่ใจนะ”

“แน่ใจครับ”

“...”

“จริงๆ นะ”

“...”

“ไม่เชื่อก็ดูเลย ไม่มีตรงไหนแล้ว”

ปิงว่าแล้วลุกไปถอดเสื้อออกโชว์แทบทุกส่วนของร่างกายให้ดูเพื่อให้ผมแน่ใจว่าไม่มีแผลตรงไหนอีก ก่อนกลับมานั่งหน้าจอ ผมเลื่อนสายตามองรอยแผลบนใบหน้านั่นแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ยังคงเงียบจนปิงเริ่มทำตัวไม่ถูก ก้มหน้าลงต่ำ สลับกับเงยหน้ามองผม แล้วก็เล่นนิ้วตัวเองไปพลางๆ ก่อนถอนใจเฮือกหนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นมาถาม

“พี่อิส พี่โกรธผมเหรอ”

“จะไปโกรธเรื่องอะไร”

“แล้วทำไมพี่ไม่พูดอะไรเลย”

จะไปโกรธเพราะปิงเจ็บตัวมันก็ไม่ใช่ แต่เอาจริงๆ ผมก็ไม่พอใจ ไม่พอใจที่ปิงต้องเจ็บตัว ไม่พอใจที่ใบหน้านั่นมีรอยแผล ถ้าอยู่ใกล้ๆ ก็คงอุ้มมาโอ๋ไปแล้ว แต่นี่ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากมองดูเฉยๆ ผมก็ไม่ใช่ไอ้หมาตัวที่วิ่งไปตัดหน้ารถมัน แต่ผมกำลังรู้สึกผิดและโทษตัวเอง เพราะถ้าปิงอยู่ใกล้ๆ ผม ถ้าไม่ไปอยู่ไกลขนาดนั้น ผมก็น่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้

“พี่อยากไปหา”

“ครับ?”

“อยากไปดูให้แน่ใจว่าไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม”

“พี่อิส ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ สบายมาก”

“พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอให้ดูแลตัวเองดีๆ”

“...”

“พี่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าทำให้เป็นห่วง”

“ขอโทษครับ...ผมขอโทษ”

“เออ ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว”

ปิงพยักหน้ารับ ก่อนเงยหน้าขึ้นมาเหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้

“พี่อิส ผมมีอีกเรื่องที่ต้องบอก”

“อะไรอีก”

“ผมไม่เป็นไร แต่ว่าอันนี้มัน...ตายคาที่เลย” ปิงว่าแล้วยกมือถือหน้าจอแตกยับเยินเกินกว่าจะเรียกว่ามือถือแล้วมาให้ผมดู

“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาไปซ่อม”

“ยังคิดจะซ่อมอีกเหรอ สภาพนี้โยนทิ้งง่ายกว่ามั้ง”

“เฮ้ย! ทิ้งได้ไง เครื่องนี้พี่อิสซื้อให้นะ ผมชอบมันมากเลยด้วย”

ผมหลุดยิ้มออกมา ก่อนปิงจะพูดต่อคล้ายจะคุยกับตัวเองมากกว่า

“ถ้าเปลี่ยนเครื่องแล้วสติกเกอร์ไลน์มันจะยังอยู่ไหมครับ ถ้าหายผมจะเสียดายมากเลยนะ แล้วถ้าแบบนี้เบอร์โทรจะหายไปด้วยไหมอะ รูปถ่ายด้วยนี่ โห เสียดายอะ”

“พี่ซื้อให้ใหม่เอาไหม”

“ป๋ามากเหรอครับ”

“ก็เลี้ยงมึงได้”

“พ่อจ๋า อยากได้ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดเลย”

“ใจเย็นก่อน”

ปิงยิ้มกว้างก่อนสะดุ้งนิดหนึ่งคงเพราะเจ็บแผล ผมเลื่อนสายตามองปิงที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อตั้งแต่ตอนที่ถอดให้ดูแผล ขนาดคุณภาพของกล้องโน้ตบุ๊กไม่ได้ชัดมาก ยังมองเห็นความขาวที่ดูเหมือนจะเรืองแสงในที่มืดได้

“ปิง เพื่อนอยู่ห้องปะ”

“อยู่ครับ นั่งเล่นเกมอยู่นู่น”

“ใส่เสื้อ”

“ครับ?”

“ใส่เสื้อเข้าไป คนอื่นก็อยู่ด้วยจะมาถอดเสื้องี้ได้ไง ไม่อายเขาเหรอ ชอบโชว์มากหรือไง”

ปิงย่นหน้าใส่ก่อนหยิบเสื้อมาใส่ลวกๆ แล้วพูดพึมพำ

“บ่นไปเรื่อย”

“อะไร!”

“บอกว่าให้พี่บ่นไปเรื่อยๆ เลย ฟังอยู่”

“เดี๋ยวโดนเตะ”

“ก็ชอบฟังพี่บ่น บ่นไปเรื่อยๆ เลยนะ”

“...”

“เรื่อยๆ ไปจนแก่เลย”

ผมหลุดยิ้มก่อนส่ายหน้าเบาๆ แล้วก็แอบสวนคำตอบกลับไปในใจ...แค่นี้กูก็แก่พอแล้วแหละ

“พี่อิส งั้นผมไปนอนแล้วนะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า”

“เออ รีบนอน”

“บ๊ายบายครับ”

“ปิง เดี๋ยว”

“ครับ?”

“อย่าเจ็บตัวอีกนะ”

“ครับ ผมจะระวังมากกว่านี้ ขอโทษจริงๆ ครับ”

“ไม่ต้องขอโทษพี่ แค่ดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ก็พอ”

ปิงพยักหน้ารับก่อนกดวางไป ผมมองหน้าจอว่างเปล่านั่นอยู่พักหนึ่ง ความคิดถึงถูกคลายลงไปส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมด ต่อให้คุยกันทุกวันแต่มันไม่เหมือนกับการเจอหน้ากันด้วยตัวเป็นๆ เพราะผมกอดปิงผ่านวิดีโอคอลไม่ได้

ทั้งๆ ที่ตอนนี้อยากจับมากอดจะแย่ ผมถอนใจทีหนึ่งแล้วลุกไปหาไอ้ปรินซ์ที่โซฟา ก่อนสะกิดให้มันตื่น

“ปรินซ์”

“...”

“ไอ้ปรินซ์!”

“อะไรพี่”

“ไปเชียงใหม่กัน”

“...”

“กูจะไปหาปิง”

ผมหมดเหตุผลที่จะต้องทนคิดถึงอยู่ที่นี่จนแก่ตาย ต่อให้เป็นดาวอังคารมนุษย์ยังหาทางดิ้นรนไปจนถึงได้ นี่แค่เชียงใหม่มันจะไกลสักเท่าไรกันเชียว

 

ผ่านเจ็ดร้อยกิโลในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง ผมกับไอ้ปรินซ์ก็มาถึงเชียงใหม่ในตอนสายๆ ของอีกวัน และตอนนี้ผมก็มาอยู่ที่ห้างเพื่อหาซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้ปิง ดีที่ไอ้ปรินซ์มาด้วยเพราะสภาพกูตอนนี้เหมือนคนที่ไม่มีเงินพอจะซื้อที่ชาร์จแบตด้วยซ้ำ

“รุ่นนี้ก็สวยนะพี่”

“ใหญ่ไปเปล่าวะ นิ้วหลินปิงมันแค่สองข้อกูเองนะ” ผมยกมือตัวเองวัดกับหน้าจอมือถือ สำหรับผมมันก็ขนาดกำลังดี แต่ถ้าเป็นปิงก็อาจจะต้องสองมือโอบ สร้างความลำบากให้น้องอีก

“งั้นรุ่นนี้ไหมคะ กำลังดีเลย” พนักงานเดินเข้ามาแนะนำอีกรุ่นให้ เป็นไอ้มือถือที่ราคาแพงแบบเอาชีวิตไปแลกยังไม่รู้จะซื้อได้หรือเปล่า มือถือมันทำมาจากอะไหล่ดาวเทียมหรือไงวะ ทำไมต้องแพงขนาดนั้น แล้วตอนนี้ก็เคลิ้มตามพนักงานแล้วด้วยเนี่ย

“ราคาพิเศษแบบนี้พลาดไม่ได้แล้วนะคะพี่”

“ไอ้ปรินซ์ ห้ามกูที”

ไอ้ปรินซ์ยกมุมปากขึ้นยิ้มแล้วขยับเข้ามากระซิบข้างหู

“แพงขนาดนี้ซื้อมอเตอร์ไซค์ได้คันหนึ่งเลยนะพี่”

“เออดิ”

“แต่ปิงไม่ควรขี่มอเตอร์ไซค์เดี๋ยวล้มอีก เอาเงินมาซื้อมือถือดีกว่า”

“มึงพูดถูก”

ใช้ให้ห้ามเสือกมาเป่าหู แล้วกูใช่คนดื้อด้านที่ไหน รู้ตัวอีกทีไอ้มือถือราคาแพงเท่าชีวิตก็อยู่ในมือเรียบร้อยด้วยความหน้ามืดตามัว รู้สึกเท่มากตอนจ่ายด้วยเงินสด แต่แม่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตเลยนะนั่น แต่ผมเองก็ไม่ค่อยได้ให้ของขวัญอะไรปิงไม่ว่าจะเทศกาลไหน มากสุดก็แค่เลี้ยงพิซซ่า นี่จึงเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์สำหรับปีนี้และรวบยอดอีกยี่สิบปีข้างหน้าไปด้วยเลยละกันงั้นอะ

“พี่อิสโคตรป๋าเลยว่ะ”

“ป๋าเหี้ยอะไรล่ะ กูคงต้องแดกมาม่าไปพักหนึ่งอะ”

“พักเดียวเอง”

“พักนี้น่าจะประมาณห้าหกปี”

“ถุย! พี่ก็เว่อร์ เดี๋ยววาดรูปก็ได้ตังค์แล้วน่า”

“มึงขับเลย กูหมดแรงพอๆ กับที่หมดตัว” ผมว่าแล้วโยนกุญแจรถใส่มือไอ้ปรินซ์ก่อนขึ้นไปนั่งอีกฝั่ง เพราะปิงไม่มีมือถือ ผมก็เลยยังไม่ได้โทรบอกว่าจะมาหา คิดกันมาตลอดทางว่าทำยังไงถึงจะเจอตัวน้องได้ ไอ้ปรินซ์มันก็เสนอให้เข้าไปเดินหาในมหาวิทยาลัยเลย แต่มหาวิทยาลัยไม่ได้กว้างเท่าสวนสาธารณะหน้าบ้านไง ใหญ่โตขนาดนั้นจะไปเดินหายังไงเจอ ผมเลยคิดว่าจะไปรอที่หน้าหอดีกว่า ตอนนี้ปิงย้ายออกมาอยู่หอนอกแล้ว ปิงรายงานผมทุกอย่างทั้งชื่อหอและสถานที่ตั้งก็เลยจำได้ แต่เพราะไม่รู้เลยว่าปิงจะกลับมากี่โมง ผมกับไอ้ปรินซ์จึงทำได้แค่นั่งรอ ระหว่างนั้นผมก็นั่งแกะกล่องมือถือเครื่องใหม่ที่ซื้อให้ปิง ทดลองใช้งานมันดูแล้วก็ปรากฏว่าสับสนฉิบหายวายวอด

“แพงก็แพง แต่ใช้งานยากฉิบหาย มันไม่มีปุ่มอะไรให้กดเลยเนี่ย กูจะกลับหน้าแรกต้องทำยังไง”

“ก็เลื่อนข้างล่างขึ้นไปแบบนี้ไง”

“ไหน ไม่เห็นได้เลย”

“พี่อย่ากดค้างสิ”

“งงโว้ย แล้วโดนอะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลย แรดตลอด แพงก็แพงทำตัวดีๆ สิวะ เดี๋ยวก็ตบซิมหลุดเลย”

“เก่งกับสิ่งไม่มีชีวิต”

“มึงว่าปิงมันจะใช้เป็นปะวะ ยิ่งมึนๆ อยู่ด้วย”

“น้องไม่โง่หรอก”

“เออเนอะ”

“ไม่เหมือนพี่”

“อ้าวไอ้ห่า!” ผมปล่อยมือถือลงบนโต๊ะแล้วหันไปคว้าคอไอ้ปรินซ์เขย่า

“พี่! เจ็บ!”

“ขากลับมึงไม่ต้องกลับรถกูเลยนะ งอนแล้วไอ้เหี้ย!”

“พี่! ปิงมานู่น ปิงมาแล้ว”

ผมหันมองไปตามนิ้วไอ้ปรินซ์ แต่ยังไม่ได้ปล่อยมันออกเพราะคิดว่ามันหลอก แต่ปิงดันมาจริง ผมจึงปล่อยมือจากไอ้ปรินซ์ก่อนเราจะลุกขึ้นยืนพร้อมกัน มองดูคนที่กำลังเดินเข้ามาแต่ไม่ทันได้สนใจเรา แมวน้อยในชุดนักศึกษาดูเรียบร้อยเสมอ และยังคงสวมเสื้อคลุมมีหมวกฮู้ดตัวเดิม เป็นลุคที่มองทีไรก็ใจบาง อยากกระชากเนกไทมัดมือแล้วก็ย่ำยีมันทั้งชุดนี้เลย

“น้องปิง!”

ผมหันขวับมองไอ้ปรินซ์ที่ตะโกนเรียกปิงก่อน แอบประณามมันอยู่ในใจ การตะโกนเรียกปิงควรเป็นหน้าที่กู ทำไมเสือก แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้ปิงหันมามองด้วยหน้าตาเลิ่กลั่ก ตาโต อ้าปากค้าง แล้วหยุดอยู่กับที่ กลายเป็นผมกับไอ้ปรินซ์ที่เป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาเอง อีกคนยังดูงงๆ หันมองเราสองคนสลับกัน

“พี่...พี่มาได้ยังไงครับ”

“คิดถึงไงก็เลยมาหา”

ผมส่งสายตาอาฆาตให้ไอ้ปรินซ์ที่แย่งทุกซีนที่มีไป เอาไอ้นี่ไปฝังทั้งเป็นดีไหมเนี่ย รำคาญแล้ว

“มากอดหน่อย”

แน้! ไอ้นี่!

ไอ้ปรินซ์อ้าแขนรอรับ ก่อนปิงจะยิ้มกว้างออกมาแล้วขยับเข้ามาสวมกอดกับมัน ครู่หนึ่งจึงปล่อยออก แล้วหันมาหาผม ก่อนพาตัวเล็กๆ ของตัวเองตรงเข้ามาจังหวะเดียวกับที่ผมยกแขนโอบร่างนั้นเข้ามากอดแน่น

“ทำไมไปกอดมันก่อนกอดพี่”

“ต้องกอดพี่ทีหลังสิครับ”

“...”

“จะได้กอดนานๆ”

...

 

หลังจากเช็กอินเข้าโรงแรมและไล่ไอ้ปรินซ์ไปให้พ้นๆ ได้แล้ว ผมก็ได้อยู่กับปิงตามลำพังสักที ได้มองหน้าใกล้ๆ เพื่อดูรอยแผลบนใบหน้า

“ตอนล้มหัวกระแทกหรือเปล่า ได้ไปหาหมอมาไหม”

“เคนพาไปแล้วครับ หมอบอกว่าไม่เป็นอะไร”

“เจ็บไหม”

“เจ็บแบบทนได้ครับ”

“ไม่มีแผลที่อื่นแน่นะ”

“ตอนคอลคุยกันก็ให้ดูไปหมดแล้วไง”

“ก็บอกแล้วไงว่าจะมาดูเอง” ผมว่าพลางไล่สายตาสำรวจรอยแผลไปทั่วร่าง ปิงเชิดปากใส่ก่อนยกมือปลดกระดุมถอดเสื้อตัวเองออกเพื่อให้ผมมองเห็นผิวเนื้อด้านใน ทั้งด้านหน้าและด้านหลังไม่มีแผลอื่นอย่างที่บอกจริงๆ

“ต่อไปนี้ไม่อนุญาตให้เจ็บตัวตรงไหนอีกแล้วนะ”

“ครับ”

“ปิงเจ็บตรงไหน พี่ก็เจ็บที่ใจตลอดเลย”

“ไม่ใช่ความผิดพี่อิสเลย”

“พี่ควรอยู่ใกล้ๆ ไง”

“พี่ก็ไม่ได้อยู่ไกลซะหน่อย”

“...”

“เราก็อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”

ปิงว่าแล้วขยับตัวเองเข้ามาใกล้ผมอีก ยกสองมือขึ้นมากอดแล้วซบหน้าลงมาบนไหล่ ปิงโตแล้วดูแลตัวเองได้ เป็นคำที่ปิงบอกกับผมเสมอเพื่อให้ผมไว้ใจในตอนที่เราต้องอยู่ห่างกัน ผมก็เชื่อแบบนั้นมาตลอดเพราะปิงเก่งกว่าที่ผมคิด แต่ถึงอย่างนั้นความห่วงใยของผมมันก็ไม่เคยลดลง ผมอาจจะขี้บ่นไปจนบางครั้งกลายเป็นความน่ารำคาญ แต่โลกนี้มีปิงคนเดียว แล้วถ้าปิงเป็นอะไรไป ผมจะทำยังไง

“อย่าเจ็บอีกเลยนะ”

“ครับ”

ผมก้มหน้าลงไปเป่ารอยแผลนั่นเบาๆ แต่ในจังหวะเดียวกันปิงก็ขยับริมฝีปากมาชนกับปากผมอย่างรวดเร็วก่อนรีบหันหน้าไปอีกทาง กลอกตาหนีทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้

“ทำอะไรพี่”

“จุ๊บพี่ไง”

“เดี๋ยวนี้กล้า”

“วันนี้วาเลนไทน์นะครับ”

“แล้วไง ให้ทำอะไรก็ได้เหรอ”

ปิงหัวเราะเบาๆ แล้วทำแบบเดิมด้วยการเอาปากมาแตะผมอีก ก่อนยกสองมือขึ้นคล้องคอผม ขยับใบหน้าเล็กๆ เข้ามาพูดเบาๆ ที่ข้างหู

“เท่าที่พี่ต้องการ”

จบคำนั้นก็กลั่นแกล้งกันด้วยการชนริมฝีปากผมอีกที แต่ครั้งนี้ผมไม่ปล่อยให้ถอยออกไป เปลี่ยนจากสัมผัสผิวเผินเป็นจูบลึกซึ้งเนิ่นนานเท่าที่ความต้องการนั้นจะเพียงพอ ผมขยับริมฝีปากตัวเองออกมาแล้วกดเข้าเบาๆ ที่หน้าผาก ก่อนเลื่อนลงไปที่ข้างแก้ม ปลายคาง และในตอนที่ผมเลื่อนลงไปถึงลำคอ ปิงก็แอบกลืนน้ำลายตัวเกร็งๆ  ผมจึงหยุดแล้วเงยหน้ามอง ปิงกะพริบตาสองสามทีก่อนเอียงลำคอให้ผมทำซ้ำได้ถนัด ผมหลุดยิ้มกับท่าทางบ๊องๆ นั่น เลื่อนสายตามองร่างกายท่อนบนที่ยังคงเปลือยเปล่า ก่อนกดริมฝีปากเข้าที่อกข้างซ้ายเป็นที่สุดท้าย แล้วเอื้อมมือหยิบเสื้อที่ถอดไว้ข้างๆ ขึ้นมาสวมให้

“เด็กน้อยเอ๊ย”

“แหะๆ” ปิงหัวเราะแล้วทิ้งตัวลงมานอนพิงอกผม จังหวะเดียวกับที่ผมยกมือขึ้นกอดเอาไว้หลวมๆ  ไม่บ่อยที่จะได้โอกาสดีๆ แบบนี้ ถึงปิงจะเป็นของผมและใจคิดอยากย่ำยีตลอดเวลา แต่เอาเข้าจริงผมก็ต้องการเพียงเท่านี้ แค่นี้มันพอแล้วจริงๆ  ยิ่งรักมากแค่ไหน ยิ่งอยากทะนุถนอมต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ให้บอบช้ำ ดีเกินกว่าจะมีจริงแล้วกูเนี่ย เท่อะไรขนาดนี้ เท่จนเหนื่อย 

“พี่อิส อันนี้แผลลึก จะเป็นแผลเป็นไหม” ปิงว่าแล้วชูแผลที่ข้อมือให้ผมดู ผมไม่ได้ตอบ ทำได้แค่จับมือนั่นแล้วลูบแผลเบาๆ  ก่อนพลิกมือของปิงให้แบออก อีกมือก็เอื้อมไปหยิบโทรศัพท์จากถุงที่ข้างเตียงวางลงบนมือปิง ขนาดที่คิดว่าจะใหญ่ไปแต่พอดีกับมือ ปิงที่นอนพิงผมอยู่ลุกพรวดออกไปแล้วหันมองหน้าผมสลับกับโทรศัพท์งงๆ

“นี่...อะไรครับ”

ผมหลุดยิ้มเพราะคำพูดนั่น ครั้งแรกที่ผมซื้อโทรศัพท์มายัดใส่มือให้ปิงก็ทำหน้างงๆ แล้วก็ถามแบบนี้เหมือนกัน

“ก็มือถือไง”

“แต่นี่มัน...”

“เออ พี่ซื้อให้”

“ไม่เอา แพง!” ปิงว่าแล้วส่งโทรศัพท์กลับมาใส่มือผม

“เอ้า! ก็ซื้อให้”

“ไม่เอา”

“เอาไป”

“ไม่เอาครับ”

“ไม่ดื้อดิ”

“มันแพง แพงมากๆ ไม่ดิ โคตรแพงเลย ไม่เอาครับ”

“ก็ซื้อมาแล้วจะให้ทำยังไง”

“พี่อิสก็ใช้เองสิครับ”

“ก็มือถือพี่ยังไม่พัง”

“ก็เอาเครื่องนี้ไปใช้ แล้วเอาเครื่องเก่าให้ผมก็ได้ ผมไม่เอาอันนี้ ไม่เอาเด็ดขาด”

“งั้นทิ้งไป” ผมพูดแค่นั้นแล้วทิ้งมือถือนั่นลงบนเตียง

“เฮ้ยพี่!”

“ไม่เอาก็ทิ้งไป ก็แค่ความตั้งใจของพี่ที่อยากซื้อให้ ไม่เอาก็ไม่เอา”

“พี่อิส”

“ไม่สำคัญหรอก”

“พี่อิสครับ”

“ทิ้งไป!”

“เอาก็ได้!” ปิงคว้ามือถือนั่นไปก่อนที่ผมจะหยิบมันมา คงคิดว่าผมจะทุ่มทิ้งจริงๆ  ใจอยากเท่นะ แต่ไม่ได้รวยขนาดนั้น ปิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พลิกไปพลิกมาแล้วเงยหน้ามองผม

“ขอบคุณนะครับ แต่ทำไมต้องซื้ออันแพงๆ ด้วย”

“ไอ้ปรินซ์เลือก”

“เฮ้อ...แพงไป”

“เออ แพงเท่าชีวิตพี่เลย”

“ชีวิตพี่อิสเลยเหรอ”

“อือ ดูแลดีๆ ด้วย ให้ไปทั้งชีวิตแล้ว”

“แล้ว...ในเครื่องนี้มีหัวใจพี่ด้วยไหม”

“ก็ว่ามีนะ ลองหาดู”

ปิงหลุดยิ้มออกมา ก่อนทิ้งตัวลงมานอนพิงผมอีกที สิ่งแรกที่ปิงกดเข้าไปดูคือสมุดรายชื่อ ที่ผมบันทึกเบอร์ตัวเองลงไปเรียบร้อยแล้วเป็นชื่อแรก เมมไว้แบบเดิมเหมือนเครื่องก่อน และทันทีที่ปิงเห็นก็ยิ้มกว้างออกมาเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งมันจะยิ้มได้

 

พี่อิสระ❤

 

คนเท่ คนหล่อ พ่อแมวน้อยตลอดกาล

 

-HAPPY VALENTINE'S DAY-


แด่  ความรักและการเติบโต
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-02-2018 23:23:26
 :L2: :L1: :pig4:

Love Love Love
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 14-02-2018 23:46:17
หาอะไรมาเยียวยาพี่อิสหน่อยเหอะเราสงสาร
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: mamacub ที่ 15-02-2018 00:35:13
โอ้ยน้อ ลุงอิสผู้น่าสงสาร :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวลูกไก่ ที่ 15-02-2018 01:30:48
พี่อิสของน้องงง ฮืออ ป๋ามากค่ะ ทุ่มเทหมดล้าวให้น้องงง หนูปิงน่ารักทุกเทศกาล
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-02-2018 01:39:56
เป็นคนกากที่เรารู้สึกว่าเท่มากๆตลอดกาล
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 15-02-2018 01:55:18
วันนี้คนกากเขาอัพตัวเป็นป๋าแล้ววว แต่ก็ยังเป็นคนกากขี้เหงาตลอดกาลอยู่ดี55555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 15-02-2018 02:17:34
ความป๋าของพี่อิส
แอบน้ำตาซึม เราเขาใจความคิดถึง ความเป็นห่วงแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะระยะทางเลย พี่อิสคนคลู
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 15-02-2018 07:35:01
ขอบคุณมากๆค่ะคุณความสุขรักมากกว่าพี่อิสก็เต้าหู้ไขนี่แหละ o13 :mew3:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 15-02-2018 08:15:39
อยากเห็นปิงตอนเรียนจบ พี่อิสจะดีใจขนาดไหนกันนะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: mayyiyi ที่ 15-02-2018 09:08:23
เกรี้ยวกราดเสมอต้นเสมอปลาย 5555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 15-02-2018 09:36:57
พี่อิสร์ ผู้ยังคงแน่วแน่บนวิถีคนเท่
กลับมาให้หายคิดถึงแล้ววววววว

ปลื้มอะ ...

อยากบอกว่า พี่เหมาะสมจะอยู่บนคานสูงสุด
ของอันดับพระเอกเท่ แต่ติดดินมากที่สุดแระ!
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: aommaboo ที่ 15-02-2018 10:28:16
ฮือออ พี่อิสคนดียยยย
อบอุ่นมากเวอรร
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-02-2018 12:09:44
 :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 15-02-2018 13:26:11
ถถถถถ
คนกากของแมวน้อย


รักพี่อิสที่รักปิง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 15-02-2018 13:33:58
ความรักความคิดถึงทำให้พี่อิสเป็นเสี่ยชั่วคราว 55555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Fallinlove ที่ 15-02-2018 13:41:45
ป๋าอิส ก็น่ารักตลอด ๆ สำหรับน้องปิงอ่ะ พ่อบุญทุ่มตลอด  :m1:
แต่อะไรคือ เท่ห์จนเหนื่อย แหม หมั่นไส้ 555
ยังไงก็ยังคงชอบความให้เกียรติน้องของพี่อิสมาก รักและทะนุถนอม
ความเป็นทั้งชีวิตของกันและกัน ฮือออ  สุขสันต์วันวาเลนไทน์จริง ๆ > <
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 15-02-2018 15:49:33
 :o8: :pig4: :L1:

พี่อิสเท่แบบกากๆ น่าร๊ากกกก ส่วนปิงก็แบ๊วขึ้นทุกวันๆ
เพื่งผ่านไปปีนึงเองหรอ ทำไมเรารู้สึกเหมือนนานกว่านั้น โดยเฉพาะตอนที่พี่อิสเล่าถึงความคิดถึงต่อหลินปิง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: bojaemyboo ที่ 15-02-2018 16:09:49
ี่พี่หลินคนเหงารักหลินปิงมากกกกก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 15-02-2018 18:27:03
รักในความพี่อิสอ่ะ ฮือออ ถึงแม้พรี่จะเป็นคนกากแต่ก็เท่นะ แต่ก็กากอ่ะ
แต่รักก ชอบความรักที่พี่มีให้ปิง รักกๆ สุขสันต์วันแห่งความรักนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-02-2018 21:07:56
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: AeAng11 ที่ 15-02-2018 21:30:06
น่ารักเป็นห่วงมากมาหาเลยสามีดีเด่น
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 15-02-2018 22:56:21
 :L1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 15-02-2018 23:06:51
ขึ้นต้นมาก็ฮาเลย พี่อิสเอ๊ยยย
รักความกากความเกี้ยวกาจของพี่จริงๆ เป็นคนแก่ขี้เหงาอีกต่างหากน่าสงสารนะคิดถึงหลินปิงใจแทบขาด
ดีนะได้อยํด้วยกันวันวาเลนไทน์
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 16-02-2018 09:08:03
โอ๊ยยยขำพี่อิสไหวมั๊ยคะกว่าน้องจะจบพี่อิสคงไม่เป็นโรคซึมเศร้าไปซะก่อนนะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Yukina ที่ 16-02-2018 23:41:54
 :mew1: :mew1:
พี่อิส กับ ปิง ฮืออออออออ ดีอีกแล้ว

น่ารักกกกก พี่อิสคนกาก พระเอกในดวงใจเราจริงๆ

ขอบคุนครับ สำหรับตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 17-02-2018 08:33:25
พี่อิสระเท่โคตรๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Minty ที่ 17-02-2018 20:51:30
คิดถึงพี่อิสคนกาก :L1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 18-02-2018 00:07:51
 :man1:

 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 24-02-2018 01:03:04
ขอบคุณมากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: NongJesZa ที่ 11-03-2018 01:50:16
ขอบคุณนักเขียนที่แต่งเรื่องนี้ขึ้นมาทำให้ได้อ่าน อยากจะบอกว่า ชอบมากรักมาก 55555555 มันดูอบอุ่นและตลกรวมๆแล้วมีความสุข รักหลินปิงรักพี่อิส  รักอิสระ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-03-2018 16:20:58
นอนจับมือน้องไปจนแก่นั่นแหละอีพี่อิสคนกาก ชาตินี้ก็ไม่ได้กินตับน้องหรอก  :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-03-2018 18:02:51
ดีต่อใจ    :mew1:
พี่อิส ปิง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
        :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 17-03-2018 01:54:21
โอ้ยยยยยยย ดีต่อใจ  o13

อิสระพระเอกแห่งปี... เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีตัวร้าย เพราะพระเอกร้ายกว่า ถือว่างานหยาบจริง ๆ 5555+

เราชอบตอนพี่อิส ว่าเนยมาก "ไม่เนียน!" ให้ตายพี่ไม่โง่นะคร้าบบบ :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 24-03-2018 02:12:06
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 30-03-2018 12:48:30
ฮ่าๆ พี่อิสคนเท่ .. เท่แต่อดแดก 555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: TeuyHom ที่ 22-04-2018 13:32:42
พี่อิสน่ารักจริงๆ สายเปย์สุดๆ  :-[
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 25-05-2018 18:28:04
ปิงน่าร้ากกกกก :ling1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 30-05-2018 10:06:48
รักในความกากของพี่อิส น้องปิงน่าร้ากกก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: singalone ที่ 31-05-2018 22:15:53
โอ้ยยยยยยยยย โคตรจะดี ทำไมถุงมาเจอพีอิสกับน้องปิงช้าไปปปป รักทั้งสองคนมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Autonomyz ที่ 01-06-2018 23:23:52
มันกร๊าวใจมากกกกกกกกก

อยากจะติดตามน้อง อยากจะดูน้องเติบโต

อยากจะเห็นน้องใส่ชุดครุย เรื่อยไปจนใส่ชุดทำงาน

โอ๊ยยย ฟีลลิ่งอีพี่อิสมาเต็มเลยเราาาา

เห็นเด็กแล้วใจมันบางงงงงง

 :haun4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 02-06-2018 00:01:48
น่ารักนะลุง  :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 03-06-2018 21:18:24
อ่านจบแล้วค่า
แรกๆสงสารปิงมากเลย บ้านบ้านั่นก็เลวร้ายเกิ๊น
ดีแล้วที่มาอยู่กับพี่อิส อยากให้อยู่ด้วยกันตลอดไปจัง
แต่น้องก็ต้องไปเรียน สงสารพี่อิสเลย TT
ยังอยากอ่านไปเรื่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 08-06-2018 21:52:35
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-06-2018 21:32:08
พี่อิสคนกากที่โคตรป๋า โคตรเท่
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: gibari ที่ 10-06-2018 21:23:14
อิสระก็ไม่ได้แก่นะคะ แต่ออร่าความลุงนี่มันไม่ธรรมดาเอาเสียเลยค่ะ

ฮื้ออออออ เค้าเป็นพระเอกที่น่ารักมาก
แถมยังคีพคูลไม่เก่งเอาเสียเลยค่ะ
พระเอกสายกากออริจินัลแบบพี่เค้าหายากนะคะ ถือว่าเป็นโชคของน้องปิงเลย ที่ได้มนุษย์ลุงมาอยู่ในโอวาสแบบนี้น่ะ 555555

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักมากๆ นี้เลยนะคะ

ปล.ขำแรงกับการไปงานลุงสมบัติมาก เข้าใจว่าเหงา แต่ไม่คิดว่าอาการจะหนักหน่วงรุนแรงขนาดนี้เลยค่ะ 5555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 13-06-2018 07:34:51
เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ  สนุกใสๆมากกก น่ารักเวอร์!!!

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: mrsnikiforov ที่ 15-07-2018 23:23:13
ซงซานนนลุงอิส ฮื่ออออ ไม่คิดว่าน้องจะเลือกไปเชียงใหม่จริงๆนะเนี่ยย โอ๊ยยปล่อยคนแก่ให้เปล่าเปลี่ยวซะงั้น
ชอบความพี่อิสมากที่เถื่อนๆบ้าๆบอๆเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดจะเปลี่ยน แต่ แต่ พอเป็นน้องหลินปิงพูดหน่อยนี่อยากจะทำให้ อยากจะเป็นคนที่ดีกว่านี้ ดียิ่งขึ้นจะได้ดูแลน้องได้ไปอี๊กกก ฮิ้ววววว

เสียดายที่พี่อิสไม่มีโอกาสได้รู้แคปชั่นของน้องปิงตอนแรก ไม่งั้นหัวใจอิพี่จะต้องชุ่มช่ำแน่ๆ เมื่อไหร่น้องจะรีบเรียบจบแล้วมาอยู่เอาใจคนแก่หน่อยเร็วววว นี่ถ้าทำได้พี่อิสคงอยากจะไปเช้าบ้านอยู่เชียงใหม่แล้วรับทำงานจากโน้นแทนอ่ะ ถถถ ซงซานนน

ภาวนาให้เด็กน้อยโตพร้อมกินไวๆนะคะพี่อิส ฮาาา

ขอบคุณสำหรับนิยายสายฮาน่ารักเรื่องนี้นะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 17-07-2018 08:24:55
น่าสงสารลุงเค้านะคะ เมื่อไหร่เด็กน้อยจะเรียนจบกลับมาให้กอดน้าาาา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : เกรี้ยวกราดวันวาเลนไทน์ 140218
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 17-07-2018 13:04:34
ชอบทั้งสองคู่เลย  :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 20-07-2018 00:07:18

อิสระเดือนคณะในตำนาน

 

อิสระ :

 

สังคมใหม่และชีวิตมหาวิทยาลัยของผมกำลังเริ่มต้นขึ้น เมื่อเรียนจบม.หกและย้ายถิ่นฐานจากบ้านที่ชลบุรีมาอยู่ที่กรุงเทพ แม้จะเตรียมตัวเตรียมใจมาระยะหนึ่งก่อนเปิดเทอม แต่พอเอาเข้าจริงก็ตื่นเต้นทำตัวไม่ถูก ผมเดินเข้ามาในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ในวันรายงานตัววันแรก บรรยากาศหน้าตึกคึกคักไปด้วยเสียงของรุ่นพี่และจำนวนสมาชิกใหม่ที่เยอะพอสมควร ไอ้จุ๋ม เพื่อนจากโรงเรียนเก่าคนเดียวที่มียืนรอผมอยู่ที่หน้าตึกแล้ว เมื่อมันหันมาเห็นก็กวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหา แค่ห้านาทีที่ยืนอยู่ตรงนี้ไอ้จุ๋มก็ผูกมิตรกับเพื่อนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ส่วนผมยังคงทำตัวลำบาก ไม่ชินกับชุดนักศึกษาที่รีดเรียบจนกลีบคบกริบ ไม่ชินกับการติดกระดุมคอเม็ดบนและเนกไท ไม่ชินกับการยัดชายเสื้อใส่ในกางเกง โคตรไม่เป็นตัวเองเลย

“น้องชื่ออะไรคะ”

“อิสครับ”

รุ่นพี่เขียนชื่อผมใส่ป้ายชื่อ แล้วแขวนคอให้เสร็จสรรพ ผมก้มมองป้ายชื่ออันใหญ่ ขนาดว่าผมตัวใหญ่แล้ว ป้ายชื่อนั่นยังใหญ่กว่าความกว้างของร่างกาย ผู้หญิงตัวเล็กข้างๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง ป้ายชื่อบังมิดเหลือแต่หัวแล้ว ทำไมเราต้องห้อยป้ายอันใหญ่เท่าหลังคาบ้าน แต่ที่น่าโมโหกว่านั้น ทำไมเขียนชื่อกูผิด

 

น้องอิฐ

 

อิฐลุงอิฐป้ามึงสิ! สมัยเป็นเด็กมัธยม ผมไม่ใช่เด็กตั้งใจเรียนเท่าไร พ่อเคี่ยวเข็ญแทบตายในเทอมสุดท้ายของการเรียนเพราะกลัวจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ติด พ่อเคยบอกว่าเดี๋ยวเข้ามหาวิทยาลัยก็สบายแล้ว แต่พอได้มาเป็นเด็กมหาวิทยาลัยจริงๆ ผมอยากวิ่งกลับไปเคาะประตูบ้านพ่อแล้วตะโกนสุดเสียงใส่บุพการีว่า พ่อโกหกกู!

ทั้งบทเรียนที่หนักหน่วงตั้งแต่เริ่มต้น ไหนจะกิจกรรมรับน้อง ไหนจะงานที่ถาโถมเข้ามาจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนตั้งแต่อาทิตย์แรกด้วยซ้ำ ทำไมผมท้อแท้ตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งเลยวะ นอกจากกิจกรรมรับน้องที่ต้องเข้าร่วมทุกวันแล้ว ผมยังได้รับเลือกเป็นเดือนคณะ ผมยอมเป็นตัวแทนสาขาเข้าประกวดแล้วก็เสือกชนะสาขาอื่นมาด้วยหน้าโง่ๆ ที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ยืนเฉยๆ ก็ได้ตำแหน่ง เหมือนแม่งหมุนวงล้อสลากกินแบ่งแล้วก็ล้วงเลขขึ้นมาหาตำแหน่งเดือนคณะ สุดท้ายหวยลงที่กู จบ

แต่ยังไม่สิ้นสุดแค่นั้น เพราะผมยังต้องเป็นตัวแทนประกวดเดือนมหาวิทยาลัยต่อ โคตรพ่อโคตรแม่เซ็งเพราะกิจกรรมรัดตัวจนผมแทบไม่มีเวลาว่าง อย่างตอนนี้ก็ถูกเรียกไปคุยเรื่องการประกวดเวทีดาวเดือนมหาวิทยาลัยที่จะมีขึ้นในอีกสองอาทิตย์ ตอนที่รุ่นพี่ถามถึงความสามารถของ แพรวา ดาวคณะที่ยืนอยู่ข้างๆ แม่งร่ายยาวเป็นหางว่าว เล่นเปียโน ดีดกีตาร์ ร้องเพลง สีไวโอลิน ตีขิม รำไทย ชกมวย ยิงธนู แล้วตัดภาพมาที่ผมซึ่งยืนเงียบกริบ ผมห่อลิ้นสามแฉกได้ นับไหม

“น้องอิสไม่มีความสามารถอะไรที่อยากแสดงเลยเหรอ” พี่ม่อน ที่คล้ายว่าจะเป็นคนจัดการทุกอย่างในที่นี้หันมาถามผม

“ไม่มีเลยครับ”

“ดีดกีตาร์ได้ไหม”

“ไม่ได้ครับ”

“ร้องเพลงได้ปะ”

“ฝนตกใส่หลังคายังเพราะกว่าเลยครับ”

“เคยเต้นไหม”

“เคยแต่ไปดูเขาเต้นแอโรบิกหน้าบิ๊กซีอะครับ”

รุ่นพี่เริ่มประสาทแดกกับผมแล้วแน่นอน หันมองหน้ากันไปๆ มาๆ  ถ้าไม่รู้จะทำยังไง ปลดกูออกจากตำแหน่งก็ได้นะ กราบละ

“นอกจากหล่อแล้วก็ไม่มีอะไรที่ทำได้ดีบ้างเลยเหรอ ดีดกีตาร์ก็ไม่เป็น ร้องเพลงก็ไม่ได้”

ผมเงยหน้ามองรุ่นพี่ตรงหน้าพลางกะพริบตาปริบๆ  พูดจาแบบนี้มึงเดินไปใส่รองเท้าแล้วมาเหยียบหน้ากูเลยเหอะพี่ เป็นเด็กสถาปัตย์แต่จะมาคาดหวังให้ดีดกีตาร์ ร้องเพลง ถ้าทำไอ้พวกนั้นได้ดีกูก็ไปเข้าดุริยางค์แล้วไหมไอ้ควาย มันไม่ใช่เรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้นะโว้ย มึงเคยเห็นใครเกิดมาแล้วมือซ้ายจับคอร์ดกีตาร์ มือขวาถือไมโครโฟนออกมาจากท้องแม่ไหม ไอ้ฉิบหาย อิสระเดือด!

นั่งอยู่ตรงนี้ตัวหดเล็กนิดเดียวเพราะไม่เคยรู้สึกเสียหน้าขนาดนี้ เป็นครั้งแรกเลยที่รู้สึกกดดันเพราะเกิดมาหล่อ โกรธแม่ขึ้นมาทันที ทำไมแม่ต้องคลอดลูกหน้าตาหล่อเหลาแบบนี้ออกมาด้วยก็ไม่รู้ อยากขี้เหร่ อยากหน้าตาธรรมดา อยากหน้าตาบ้านๆ เพราะทุกสายตาที่ส่งมากดดันและผมไม่มีอะไรจะไปต่อสู้กับความคาดหวังของคนอื่นได้ จึงเอ่ยปากออกไปอย่างคนขี้แพ้

“พี่จะเปลี่ยนคนก็ได้นะครับ ผมคงไม่เหมาะ”

รุ่นพี่หันมองหน้ากันไปมาอีกครั้ง บางคนก็นิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิด ผมไม่รู้สึกเสียดายเลยด้วยซ้ำถ้าจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง ถ้าเป็นเดือนห่าอะไรมันลำบากขนาดนี้ ขอหลุดวงโคจรไปเป็นอุกกาบาตกากๆ ดีกว่า

“เปลี่ยนเป็นคนอื่นมันก็ไม่น่าจะทันแล้วแหละ เอางี้ พวกมึงไปคิดการแสดงอะไรง่ายๆ ที่น้องมันพอจะทำได้มา ยังมีเวลาซ้อมอยู่หรอก”

“โอเค”

“พรุ่งนี้มีนัดถ่ายรูปนะอย่าลืม เก้าโมงตรงเจอกันที่นี่ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเรียบร้อย มาให้พร้อมหน้า อย่าให้ต้องรอ วันนี้พอแค่นี้ก่อน”

ทุกคนในห้องพยักหน้ารับพี่ม่อนที่รวบรัดตัดจบเรียบร้อย สุดท้ายการขอถอนตัวของผมก็ไม่มีผล รุ่นพี่ทยอยเดินออกไปจากห้องประชุม ทิ้งผมไว้กับความสับสนงุนงง หัวใจร่ำไห้เรียกหาพ่อด้วยความอัดอั้น พ่อ! ผมมาทำอะไรที่นี่!

“อิส”

ผมเงยหน้ามองแพรวาที่เดินเข้ามาเรียก

“ไม่ต้องเครียดนะ ค่อยๆ คิดไป มันก็ไม่ได้จริงจังขนาดนั้นหรอก”

“นี่ขนาดไม่จริงจังนะ”

“เอาน่า มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เออ แลกพินบีบีกันปะ”

“ไม่ได้ใช้บีบีอะ”

“อ้าวเหรอ งั้นไม่เป็นไร กลับกันเลยไหม”

ผมพยักหน้ารับแล้วลุกตามแพรวาออกไปหน้าตึก ระหว่างนั้นคนข้างๆ ก็ชวนคุยไปด้วย ผมไม่แปลกใจว่าทำไมตำแหน่งดาวคณะถึงตกมาอยู่ที่คนคนนี้ ใบหน้าสวยคม เสียงเพราะแม้แต่ตอนพูดธรรมดา กิริยามารยาทงาม แถมยังมีอารมณ์ขัน ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างสวนทางกับผมโดยสิ้นเชิง เป็นการจับคู่ที่ล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว บอกเลยงานนี้ฉิบหายแน่นอน

“อิสกลับยังไงอะ”

“เอารถมา” ผมว่าพลางพยักพเยิดไปทางลานจอดรถ

“งั้นเรากลับด้วยได้ไหม”

“ได้ดิ”

ผมเดินนำไปที่ลานจอดรถ มองรถยนต์สีดำสวยหรูที่จอดอยู่ตรงหน้า

“ใครเอาเบนซ์มาจอดบังจักรยานกูวะ” ว่าแล้วก็เดินไปจูงจักรยานที่ใช้ปั่นมาเรียนทุกวัน เมื่อแพรวาเห็นพาหนะในมือก็หุบยิ้มแล้วทำหน้าเจื่อน

“เนี่ยนะรถอิสอะ”

“อือ รถจักรยาน ไปเปล่า หออยู่ไหนเดี๋ยวปั่นไปส่ง”

“โห! ยางแบนพอดี เดี๋ยวเดินไปเองก็ได้”

“เอางั้นเหรอ”

“จ้ะ เจอกันพรุ่งนี้นะ”

เพราะเรามันจนเลยต้องทนปั่นรถถีบ แม้แต่สาวดาวคณะก็โบกมือลาแล้วเดินจากผมไป ผมปั่นจักรยานออกมาจากหน้าตึก ก่อนจะเจอกับกลุ่มเพื่อนที่ยังนั่งกันอยู่ที่โต๊ะหน้าคณะ ไอ้จุ๋มหันมาโบกมือเรียกก่อน

“ไอ้อิส!”

ปั่นจักรยานตรงเข้าไปหาพวกนั้น ก่อนถูกแซวด้วยน้ำเสียงกวนตีน

“ว่าไงจ๊ะ พ่อแปดริ้วคิวต์บอย”

แปดริ้วหอกอะไรล่ะ บ้านกูอยู่บางละมุงโว้ย

“ดูทำหน้าเข้า เป็นเดือนคณะอย่าทำหน้าเป็นตูดสิจ๊ะ คีปลุคหน่อย”

“กวนตีนจัง เดี๋ยวกูต่อยตาแตกเลย”

“โหดจังวะ!”

“แล้วทำไมพวกมึงยังไม่กลับกันอีกเนี่ย”

“รอมึงไง”

“ซึ้งน้ำใจเพื่อน”

“ว่าจะไปกินเหล้าบ้านมึงอะ”

“ส้นตีนดิ!”

“ทำไมเล่า! พรุ่งนี้วันเสาร์นะเว้ย”

“พรุ่งนี้กูต้องตื่นแต่เช้า ไม่เอาด้วยหรอก”

“มึงก็ไม่ต้องแดกดิ”

“ไม่ให้กูแดก แต่ไปนั่งแดกที่บ้านกู?”

“เยส!”

“จิตใจพวกมึงอะ”

“มึงเป็นคนเดียวที่มีบ้านนี่หว่า หอพวกกูเสียงดังได้ที่ไหน ถือว่าสงเคราะห์เพื่อนนะ โหยหาสุราจะตายห่ากันอยู่แล้วเนี่ย”

สุดท้ายผมก็ยอมตามน้ำปล่อยให้เพื่อนมานั่งกินเหล้าที่บ้าน แม่อุตส่าห์ไว้ใจยกบ้านหลังนี้ให้อยู่คนเดียว แต่เสือกกลายมาเป็นแหล่งซ่องสุมของกลุ่มเพื่อนและสหายสุรา หัวใจรู้สึกผิด แต่มือกระดกเหล้าเข้าปากไปสองอึก ยกโทษให้ลูกด้วยนะแม่

“เฮ้ย ไหนบอกต้องตื่นเช้า แดกเอาๆ เดี๋ยวก็เมาตายห่าหรอก”

“กูเซ็งว่ะ”

“ทำไมวะ”

“กูไม่อยากไปประกวดดาวเดือนห่าอะไรนั่นแล้ว กูขอถอนตัวเขาก็ไม่ยอม กูไม่มีความสามารถอะไรไปโชว์ให้คนอื่นเขาดูว่ะ”

“มันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

“เออ พวกพี่แม่งกดดันกู ไม่เอาละ ยอมแพ้แล้วเนี่ย”

“ไอ้อิส ฟังกู”

“...”

“คนอย่างมึงไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ”

“...”

“แต่ถ้าอะไรยากๆ ยอมแพ้หมด”

“ไอ้สัด! มึงเพื่อนกูจริงปะเนี่ย!”

“กูล้อเล่นๆ เพราะกูเป็นเพื่อนมึงไง กูเลยรู้ว่ามึงมีอะไรดี”

“คนอย่างกูมีอะไรดีวะ”

“ปากดี”

“ไอ้เหี้ย! ออกจากบ้านกูไปเลย!”

“เฮ้ยๆๆ ใจเย็นดิวะ มึงหล่อมากเพื่อน มึงหล่อแบบหัวจดตีนเลย ดูดิเนี่ย ฝ่าตีนมึงยังขาวกว่าหน้ากูอีก” ไอ้จุ๋มว่าแล้วพลิกฝ่าเท้าผมขึ้นมา ไม่เคยสังเกตว่าฝ่าตีนขาวขนาดนี้

“จริงด้วยว่ะ ตีนไอ้อิสขาวกว่าหน้าไอ้จุ๋มอีก”

พวกมันพูดจาขบขันพากันหัวเราะคิกคัก เว้นผมที่มองตาขวาง ใช้ฝ่าตีนที่มันว่าขาวถีบเข้าไปเบาๆ ทีหนึ่ง

“ตลกอะไรมึง คนยิ่งเครียดๆ อยู่”

“โอ๋ๆ เพื่อนเอ๋ย ไม่เครียดๆ  รอยตีนกาจะหนากว่ารอยหยักในสมองแล้ว”

ผมยกตีนถีบไอ้จุ๋มอีกที คราวนี้แรงจนมันล้มไปนอนกับพื้น ไอ้คนโดนถีบกลิ้งลงไปหัวเราะชอบใจจนอยากกระทืบซ้ำ แต่เสียงของเพื่อนอีกคนเรียกผมเอาไว้ก่อน

“อิส นี่กล่องอะไรวะ”

ผมขมวดคิ้วมองกล่องสี่เหลี่ยมสีดำที่ถูกวางลืมเอาไว้ข้างๆ ตู้จนฝุ่นเกาะหนา

“แซกโซโฟน”

จริงๆ มันเป็นของพ่อ พ่อกับแม่เคยอยู่ที่บ้านหลังนี้ก่อนที่จะแยกทางกัน สิ่งของและความทรงจำบางอย่างก็ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่โดยไม่มีใครนึกถึง แม้แต่ตัวผมเองก็ยังเกือบลืมไปว่าเคยเล่นเครื่องดนตรีชนิดนี้ได้

“มึงเป่าเป็นนี่”

ผมพยักหน้ารับไอ้จุ๋ม ก่อนหันขวับมองหน้ามัน ตัวมันเองก็พยักหน้าหงึกๆ เป็นอันว่าเข้าใจกัน ด้วยความบังเอิญในขณะนั้น ผมก็ค้นเจอความสามารถของตัวเองที่ถูกทิ้งเอาไว้จนฝุ่นเกาะ ดูถูกกันดีนัก คอยดูนะ กูจะเท่ให้หลังคามหาวิทยาลัยสั่นเลย!

...

 
ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 20-07-2018 00:08:01
“ไอ้อิส”

“...”

“ไอ้อิสโว้ย!”

สองตาลืมขึ้นตอนที่ได้ยินเสียงตะโกนข้างหู เด้งตัวขึ้นมาจากที่นอน ก่อนต้องหลับตาแน่นเพราะปวดหัวจี๊ดขึ้นมาจนบ้านหมุนติ้วๆ  แล้วก็ต้องทิ้งหัวหนักๆ ลงไปบนหมอนเหมือนเดิม จำภาพสุดท้ายของเมื่อคืนไม่ได้ รู้ตัวอีกทีเมาค้างเรียบร้อย

“ไอ้อิส วันนี้มึงต้องเข้าคณะไม่ใช่หรือไง รุ่นพี่นัดมึงกี่โมง”

“เก้าโมง”

“ลุกดิวะ อีกสิบนาทีจะเก้าโมงแล้ว”

“ซวยแล้ว” ผมรู้ตัวดีว่าตอนนี้ความฉิบหายมาเยือนแล้ว แต่ไม่มีแรงแม้แต่จะตกใจ ได้แต่เปล่งเสียงเบาๆ บอกให้เพื่อนรู้ว่าผมโดนด่าตายแน่

“ลุก! ไอ้อิส! ลุกเร็ว!”

กว่าผมจะลากสังขารจากบ้านมาถึงคณะก็ปาเข้าไปเกือบเก้าโมงครึ่ง เพราะมาสายผิดเวลา เลยถูกทุกสายตาประณาม ผมผิดก็ต้องยอมรับผิด ยกมือไหว้ขอโทษรุ่นพี่ทุกคนที่ทำให้ต้องรอ ความผิดพลาดครั้งแรกก็ได้รับการให้อภัยง่ายๆ อาจเพราะไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้

“เปลี่ยนเสื้อผ้าสิ”

ผมพยักหน้ารับพี่ม่อนแล้วขยับไปอีกมุม เพราะแต่งตัวไม่ทันเลยหอบหิ้วเอาชุดนักศึกษามาเปลี่ยนที่นี่ ทันทีที่ถอดเสื้อยืดออก เสียงกรีดร้องก็ดังระงมจนต้องหันขวับไปมอง

“หูย!”

“โคตรขาวเลยมึง”

รู้สึกเหมือนกำลังเสียตัวเพราะสายตาที่จ้องอยู่ ผมรีบยัดเสื้อนักศึกษาเข้าสวมโดยเร็ว คนที่นี่แม่งน่ากลัว อยากกลับบางละมุงแล้ว คิดถึงบ้าน

ผมรู้แค่ว่าวันนี้ถูกเรียกมาถ่ายรูป แต่ไม่รู้ว่าจะต้องใช้รูปนั้นทำอะไร สมองเมาๆ ก็ไม่อยากรับรู้อะไรอีกเลย ได้แต่ทำตามคำสั่งของคนนั้นที คนนี้ที ก่อนถ่ายรูปก็ถูกจับไปแต่งหน้าทำผม ในตอนที่ได้กลิ่นสเปรย์ฉีดผมก็เกิดอาการพะอืดพะอมจนแทบอ้วก

“น้องอิสหล่อมากอะ หล่อเบอร์นี้ตำแหน่งเดือนมหาลัยไม่หนีไปไหนแน่นอนจ้ะลูก”

รุ่นพี่ตรงหน้าก็อวยไม่หยุด ส่วนผมก็นั่งกลั้นอ้วกจนจมูกบานไปหมด เมื่อจบจากการถ่ายรูป ผมก็ถูกเรียกไปคุยเรื่องการแสดงในวันประกวดอีกรอบ ทันทีที่ตกลงกันได้ว่าจะโชว์อะไร ก็ถูกสั่งให้ซ้อมในวันนั้นเลย ผมกังวลใจนิดหน่อย เพราะไม่ได้จับแซกโซโฟนมานานพอสมควร เคาะสนิมวิชาที่พ่อเคยสอนตอนเป็นเด็กขึ้นมา ลองเล่นอยู่สองสามครั้งแล้วก็พบว่าโชคดีที่ยังจำได้แต่ไม่ได้ดั่งใจเท่าไร หงุดหงิดตัวเองจนเผลอบ่นออกเสียงออกมา

“อิสระ ทำไมมึงห่วยแบบนี้วะ เฮ้ย มึงเคยทำได้ดีกว่านี้นะเว้ย”

“อิส”

ผมหันขวับมองแพรวาที่ละจากการซ้อมไวโอลินเข้ามาหาผม

“อิสพูดกับใครอะ”

“พูดคนเดียวไง”

“ฮะ?”

“เท่อะดิ”

“เอ่อ...เออ เท่ก็ได้”

“ความจริงใจติดลบมากเลยนะเธอ”

“เออ! ก็คนบ้าอะไรยืนพูดคนเดียว พูดกับกล้องแบบในละครเหรอ นี่มาซ้อมด้วยกันปะ จะได้ดูว่ามันเข้ากันเปล่า”

“เรายังไม่พร้อมอะ ขอซ้อมอีกแป๊บได้ไหม”

“เอาน่า ลองดูก่อน เอาขำๆ”

ผมพยักหน้ารับ ถอนใจทีหนึ่งแล้วพยักหน้ากับตัวเองเบาๆ

“มึงทำได้อิสระ มึงเท่อยู่ละ”

ผมกับแพรวาเริ่มซ้อมด้วยกัน ในตอนที่รุ่นพี่หันมาให้ความสนใจ แพรวาเล่นแบบสบายๆ เพราะดูมืออาชีพอยู่แล้ว แต่ผมกดดันจนนิ้วตีนหงิก ฝีมือก็กาก แถมเมาค้างไม่หาย ไม่เคยอยากตายเท่าวันนี้เลย

วันนั้นทั้งวันเราจมกันอยู่ในห้องนั่นเพื่อซ้อมเพลงเดิมๆ วนไปเป็นร้อยรอบ สนิมถูกเคาะออกจนผมเริ่มทำมันได้ดีเท่าที่เคยทำได้ เมื่อรุ่นพี่เริ่มพอใจกับโชว์ ผมก็เริ่มผ่อนคลายไปกับมัน คลายความกดดันออกไปได้นิดหน่อย กระทั่งถูกปล่อยให้กลับบ้านได้ เพราะอยู่ในโหมดจริงจังมาทั้งวันเลยเหมือนโดนสูบพลังไปหมดสิ้น เมื่อรุ่นพี่เดินออกจากห้องไปแล้ว ผมก็รีบปลดเนกไทออกจากคอ ดึงถุงเท้าออกพร้อมกันทั้งสองข้าง ก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่กับพื้นกลางห้อง ไม่ได้สนว่าแพรวายังอยู่ในห้องด้วย พอฝ่ายนั้นหันมาเห็นสภาพผมก็หัวเราะขำๆ

“ไหวไหมอิส”

“ท้อแท้”

“ก็ทำดีแล้วนี่ อิสเท่มากเลยรู้ตัวปะ”

“พอรู้”

แพรวาหลุดขำตอนผมยอมรับตรงๆ  ทำไมวะ ก็เท่อะ รู้ตัวหรอก ส่องกระจกก็รู้แล้ว

“วันนี้ไม่เครียดแล้วเนอะ”

ผมพยักหน้ารับเบาๆ ในจังหวะนั้นประตูก็ถูกเปิดเข้ามาอีกครั้งด้วยพี่ม่อนคนเดิม ผมรีบยันตัวเองลุกขึ้นมานั่งเพื่อฟังในสิ่งที่เขากำลังจะบอก

“เดี๋ยวพี่ส่งรูปให้ทางเฟซบุ๊กนะ เออ แล้วอย่าลืมว่ามันมีคะแนนโหวตในเว็บด้วยนะ ไปหาเสียงเรียกคะแนนกันหน่อย โพสต์รูปลงเฟซบุ๊กแล้วก็ใส่แคปชันน่ารักๆ ก็ไม่เลวนะ ยังไงพี่ฝากด้วยละกัน”

“ค่ะ”

แพรวาตอบรับ ส่วนผมแค่พยักหน้าเบาๆ เหมือนถูกครูสั่งการบ้านให้ทำแต่ไม่มีความรู้อะไรอยู่ในสมองเลยแม้แต่น้อย เฟซบุ๊กยังเล่นไม่ค่อยจะเป็น แล้วจะให้มาเรียกคะนงคะแนนโหวตอะไรวะ อิสระท้อแท้ฉิบหาย!

 

ผมจูงจักรยานกลับมาบ้านหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน คิ้วขมวดเข้าหากันเมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปเจอไอ้จุ๋มนั่งกินมันฝรั่งทอดอยู่หน้าโซฟา

“ทำไมมึงยังอยู่ที่นี่อีกวะ”

“รอมึงไง กินอะไรมายัง กูซื้อก๋วยเตี๋ยวมาให้อยู่ในครัวอะ”

“โห กราบน้ำใจเพื่อน”

“แดกเลยไหม เดี๋ยวไปอุ่นให้”

ผมพยักหน้ารับ เพราะเหนื่อยจนขี้เกียจเดินไปหยิบเอง เลยนั่งรอกินอยู่ตรงนี้ ไม่นานไอ้จุ๋มก็อุ่นก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ยกมาเสิร์ฟให้ถึงที่

“ไอ้อิส มึงคิดดูนะว่าจะไปหาเพื่อนประเสริฐอย่างกูได้ที่ไหน”

“เออ พูดมาก มาวางนี่”

ไอ้จุ๋มวางชามก๋วยเตี๋ยวลงตรงหน้า ไม่ให้เป็นการเสียเวลาก็ซัดเลยในทันที

“แล้ววันนี้ไปทำอะไรมาบ้างวะ”

“ถ่ายรูปแล้วก็ซ้อมโชว์ เหนื่อยจนอ้วกจะแตก”

“เอาน่า เดี๋ยวก็จบ อีกไม่กี่วัน”

“เออ กูจะไม่ไหวแล้วเนี่ย แค่ประกวดดาวเดือนมหาลัย แม่งจริงจังเบอร์ใหญ่เหมือนประกวดเวทีโลก ล่าสุดบอกให้กูโพสต์รูปลงเฟซบุ๊กแล้วใส่แคปชันน่ารักๆ  ฉิบหาย อย่างกูนี่น่ารักมากมั้ง พูดแล้วเหนื่อยว่ะ”

“ยากตรงไหนวะ ก็แค่โพสต์รูป”

“ทำให้กูหน่อยสิ”

“จัดให้เพื่อน”

ว่าแล้วก็คว้าโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดเฟซบุ๊ก ไอ้จุ๋มชำนาญเรื่องเทคโนโลยีมากกว่าผม เลยวานให้เป็นหน้าที่มันจัดการงานนี้ให้ เซฟรูปที่รุ่นพี่ส่งมาให้ แล้วโพสต์ลงในหน้าเฟซบุ๊กของผมพร้อมแคปชันที่มันคิดให้อีกเช่นกัน

“เรียบร้อย”

“ไหนดูดิ๊”

ไอ้จุ๋มเลื่อนหน้าจอมาให้ผมดู เมื่อไล่สายตาอ่านข้อความเหนือภาพนั่น เส้นก๋วยเตี๋ยวก็แทบพุ่งออกมาจากรูจมูก

 

อิสระ เสรีไพศาล : สันดานติดลบ แต่ถ้าได้คบจะติดใจ

 

“แคปชันส้นตีนอะไรของมึงไอ้จุ๋ม!”

“ไม่น่ารักเหรอวะ”

“เสี่ยวเหี้ยๆ”

“แบบนี้สาวกรี๊ดเหอะ”

“กรี๊ดที่หน้ามึงสิ ไอ้ห่า ลบเลย”

“ลบทำไม มีคนคอมเมนต์แล้ว ดูดิๆ”

ผมขมวดคิ้วมองคอมเมนต์แรก ก่อนจะพบว่ามันคือพี่ม่อนที่ทำผมขนหัวลุกอยู่เสมอ

 

โดราเอ ม่อน : น่ารักมากจ้า น้องอิฐ

 

เกือบดีใจแล้วที่พี่มันพอใจ แต่พออ่านไปถึงไอ้คำสุดท้ายก็เล่นเอาโมโหจนหัวไหม้ไฟลุก เขียนชื่อกูผิดอีกแล้วโว้ย!

 

ในที่สุดวันประกวดดาวเดือนมหาวิทยาลัยก็มาถึงจนได้ หัวใจผมเต้นแรงตั้งแต่ยืนอยู่หลังเวที จำนวนนักศึกษาปีหนึ่งทุกคณะนั้นมากมายจนน่าตกใจ แค่รอบแรกที่เดินออกไปยืนแนะนำตัวเฉยๆ ก็เกร็งจนไส้บิด ลำไส้เปลี่ยนทิศ ปวดฉี่ยังฉี่ไม่ออกเลยคิดดู เมื่อถึงเวลาโชว์การแสดงก็เหงื่อแตกตั้งแต่ยืนอยู่ข้างเวที ผมยืนดูการแสดงของคณะวิศวะที่กำลังโชว์อยู่ เพลงภาษาเกาหลีจังหวะมันๆ กับสกิลการเต้นอย่างกับดงบังชินกิบุกมหาวิทยาลัย พอถึงท่อนสุดท้ายแม่งก็โชว์ฉีกเสื้อตามจังหวะเพลง โชว์ซิกแพ็กจนเรียกเสียงกรี๊ดของคนทั้งหอประชุม ผมหันขวับไปหาแพรวา

“แพ้แล้ว กลับเหอะ”

“เฮ้ย ใจเย็น”

“ไอ้นี่ต้องได้ที่หนึ่งชัวร์” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนการแสดงของคณะวิศวะจะจบลง เสียงกรี๊ดยังดังตามมาไม่หยุด จนกระทั่งพิธีกรประกาศถึงโชว์ต่อไปซึ่งหมายถึงคณะผม เมื่อเช้าอุตส่าห์ลุกขึ้นมาใส่บาตรพระแต่เช้า ก็ได้แต่หวังว่าอานิสงส์ผลบุญจะส่งให้วันนี้ผมทำได้ดี

สิ้นเสียงประกาศของพิธีกร เสียงของคนดูก็เงียบลงไปตอนที่ไฟกลางเวทีดับลง แพรวายกกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า ผมเองก็ยื่นหมัดตัวเองไปชนกับกำปั้นแพรวาเบาๆ เพื่อเรียกพลังให้กันและกัน ก่อนเดินไปกลางเวทีเพื่อเริ่มการแสดง เสียงไวโอลินของแพรวาดังขึ้นก่อน แล้วตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของคนดู เมื่อเสียงแซกโซโฟนจากผมเริ่มขึ้น เสียงกรี๊ดก็ดังขึ้นอีก เมื่อบทเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆ ผมก็ค่อยๆ จมเข้าไปอยู่ในการแสดงนั่นจนไม่ได้โฟกัสคนดู ความรู้สึกในตอนนั้นสับสนปนเป อยู่ดีๆ ก็นึกถึงภาพวัยเด็กที่เผลอลืมมันไป พ่อสอนผมเป่าแซกโซโฟนขณะที่แม่นั่งฟังแล้วปรบมือให้ ก่อนชื่นชมว่าผมทำได้ดี ภาพเหล่านั้นวนกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้งด้วยความคิดถึง ผมรู้ภาพเหล่านั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก แต่ถ้าพ่อกับแม่ได้เห็นผมในวันนี้ ผมอยากให้พวกเขา...รู้สึกภูมิใจ

“กรี๊ด!!!”

เสียงกรีดร้องและเสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้งตอนที่การแสดงของผมจบอย่างไม่ทันรู้ตัว รอยยิ้มของผมปรากฏขึ้นโดยไม่ต้องฝืน รู้สึกหายใจได้โล่งตอนที่ทุกสิ่งทุกอย่างผ่านไปแล้ว

อาจจะเป็นเพราะแคปชันน่ารักๆ จากไอ้จุ๋ม ผมจึงได้คะแนนโหวตจนท่วมท้น คะแนนโหวตบวกกับคะแนนจากกรรมการเป็นผลให้ผมมายืนอยู่ในรอบห้าคนสุดท้ายได้อย่างเหนือความคาดหมาย เข้าสู่รอบตอบคำถามจากกรรมการ ใจก็กลับมาสั่นอีกรอบ

“คนต่อไป น้องอิสระ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เชิญเลือกคำถามได้เลยค่ะ”

ผมหยิบกระดาษแผ่นแรกจากมือพิธีกรโดยไม่ได้เลือก เหลือบมองคำถามนั่นก็เผลอตกใจจนเบิกตากว้าง ลูกกะตาเกือบแหกตอนฟังพิธีกรอ่านคำถามนั่น

“ในสังคมไทยปัจจุบัน มีจำนวนเยาวชนเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย การอบรมเลี้ยงดูจากผู้ปกครองถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้เยาวชนรุ่นใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเรียนรู้อยู่ในสังคมก็ยังเป็นเรื่องสำคัญเช่นเดียวกัน มีเยาวชนจำนวนไม่น้อยที่ประพฤติปฏิบัติตัวไปในทางที่ผิดด้วยปัจจัยหลายๆ ด้าน มีตัวอย่างมากมายจากข่าวสารในสังคมไทย ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์เลวร้าย มักมีการกล่าวโทษถึงปัจจัยอื่นๆ นอกจากการอบรมเลี้ยงดูในครอบครัว คุณเห็นด้วยหรือไม่ ว่านิสัยของเยาวชนไทยจะเปลี่ยนไปเพราะสังคมหล่อหลอมพวกเขา คุณคิดว่าการคบเพื่อนหรือการเลือกสถาบันทางการศึกษามีผลอย่างไรต่อนิสัยของเยาวชนไทย และคุณมีแนวทางอย่างไรที่จะชักจูงเยาวชนไทยให้หันมาสนใจในการศึกษา เชิญน้องอิสระตอบค่ะ”

นั่นคำถามหรือเรียงความ กูถามก่อน

หัวแบลงก์ตั้งแต่ประโยคแรก และเมื่อพิธีกรยื่นไมค์มาให้ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบกายก็ขาวโพลน พยักหน้ารับยิ้มๆ แต่หัวใจผมเดือดพล่าน ในคำตอบนั้นมีประโยคเดียวเลยที่ผุดขึ้นมาในหัว

 

ไปถามพ่อมึงเหอะไอ้สัด!

 

“ค่ะ เชิญตอบได้เลยค่ะ”

“ครับ”

“...”

“ผมคิดว่า...”

“...”

“ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ขอบคุณครับ!”

“กรี๊ด!”

โอ๊ย! กรี๊ดเหี้ยอะไรก๊าน! จะอวยก็ลืมหูลืมตาบ้างเหอะ กูตอบอะไรออกไป แม่มึงเอ๊ย! อายจนกูอยากแทรกพื้นเวทีหนีไปผูกคอตายที่บางละมุงแล้วโว้ย!

เมื่อจบการประกวด คณะวิศวะคว้าที่หนึ่งไปอย่างไม่ผิดโผ ส่วนผมได้รางวัลรองชนะเลิศมาแบบงงๆ  แต่เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันจบลง ผมจึงไม่คิดอะไรอีกแล้ว พอกันที ชีวิตนี้ขอทำอะไรแบบนี้ครั้งเดียว พี่ม่อนพาพวกเรามาเลี้ยงข้าวหลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาหลายวัน ผมตามมาทีหลังเพราะมัวไปช่วยรุ่นพี่แบกเครื่องดนตรีไปคืนคณะดุริยางค์ และอยู่ช่วยเก็บของอีกพักใหญ่ๆ  เมื่อมาถึงร้าน ทุกคนก็นั่งรอกันอยู่แล้ว ผมเดินตรงเข้าไปยังโต๊ะของพวกรุ่นพี่ ระหว่างทางก็เผลอไปได้ยินบทสนทนาของโต๊ะข้างหลัง

“มึงๆ เดือนถาปัตย์!”

“โห! โคตรหล่อ”

เมื่อรู้ตัวว่าผมได้ยิน สองคนนั้นก็เงียบเสียงไป เก๊กหน้าหล่อที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้ ก่อนหันไปยิ้มให้สองคนนั้น แล้วเดินต่อไปที่โต๊ะพี่ม่อน

“เชี่ย!”

“เขายิ้มให้กู เขายิ้มให้กู๊!”

เมื่อผมเดินเข้าไปถึงโต๊ะ เสียงโห่แซวอย่างล้อเล่นก็ดังขึ้น

“วู้ว! รองเดือนมอ!”

“ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ลำตัว!”

“ขอบคุณคร้าบ!”

“โห่! จะแซวทำไมเนี่ย”

“นี่ถ้าตอบคำถามดีๆ บางทีอาจจะได้ที่หนึ่งก็ได้นะ”

“ขอโทษพี่ ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออกจริงๆ”

“โอ๊ย! แค่นี้ก็ดีแล้ว” พี่ม่อนว่าแล้วยกมือตบบ่าผมเบาๆ

“เออ แต่เป็นกูกูก็ช็อกนะ คำถามอะไรวะ ยาวกว่าเรียงความที่กูเขียนส่งครูตอนป.สามอีก”

“ทำดีแล้ว ทั้งคู่เลย เหนื่อยกันมาเยอะแล้วนะ มาๆๆ กินข้าวกันดีกว่า”

ผมพยักหน้ารับตอนที่พี่ม่อนยื่นจานข้าวให้ พลันสายตาหันไปเห็นลูกแมวตัวหนึ่งเดินเตาะแตะเข้ามาหา

“อุ๊ย! แมว!”

ผมกระโดดลงจากเก้าอี้แล้วตรงเข้าไปหาลูกแมวที่ตัวเล็กกว่าฝ่ามือของผมอีก

“น่ารักอ่า!”

“เกลียดเสียงเล็กเสียงน้อยของมึงจริงๆ”

“แมวที่นี่เหรอครับ ชื่ออะไรอะ” ผมหันไปถามพนักงานเสิร์ฟที่เดินผ่านมาพอดี

“แมวใครก็ไม่รู้น้อง แม่มันมาคลอดลูกอยู่หลังร้าน แต่แม่มันเพิ่งโดนรถชนตายไปเมื่อวานนี่เอง” หัวใจผมอ่อนยวบตอนได้ยินเรื่องราวสุดสะเทือนใจนั่น ใช้สองมือประคองลูกแมวตัวเล็กนั่นขึ้นมามองหน้า

“ผมเอาไปเลี้ยงได้ไหมครับ”

“เอาไปเลยน้อง”

“ขอบคุณครับ”

“หล่อแล้วยังจิตใจดีอีกนะเราเนี่ย”

ผมยิ้มเขินๆ ให้พี่เขา ก่อนก้มลงมองลูกแมวที่ซุกเข้ามาในอ้อมอก

“อิสจะเลี้ยงมันจริงๆ เหรอ”

“อือ เราชอบแมว หน้าเหมือนน้องสาวเราเลย”

“เพี้ยน!”

ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนก้มลงไปจ้องหน้าลูกแมวที่ยกมือข้างหนึ่งกอดเอาไว้อีกที

“ชื่อบังเอิญละกันเนอะ เพราะเราเจอกันโดยบังเอิญ”

“...”

“บังเอิญน้องสาวพี่อิส น่ารักจังเลย”

 

หนึ่งปีในรั้วมหาวิทยาลัยของผมผ่านไปแล้ว ตอนเข้าปีหนึ่งก็เป็นมนุษย์ดีๆ แต่พอเลื่อนชั้นปีกลายเป็นซอมบี้ไปแล้วเรียบร้อย ทั้งเรียน ทั้งงาน ทั้งโปรเจกต์ผสมปนเปกัน แต่ละวันแทบไม่ได้นอน ดื่มกระทิงแดงบ่อยกว่าน้ำเปล่า นอนคณะมากกว่ากลับบ้าน ชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังตีน ลืมภาพเดือนคณะในชุดนักศึกษาผูกไทเรียบร้อยหัวจดเท้าไปได้เลย ตอนนี้ใบหน้าทรุดโทรมเหมือนแก่ลงไปสิบปี อย่าหวังว่าจะรีดเสื้อนักศึกษา แค่ได้ซักก็ถือว่าบุญแล้ว กางเกงยีนส์ใส่ซ้ำสามวันห้าวันถือเป็นเรื่องปกติ รองเท้าสวมอะไรได้ก็สวมมาก่อน ลากกายหยาบและร่างพังๆ มาถึงตึกคณะได้ถือว่าเก่งมากแล้ว อย่าคาดหวังอะไรไปมากกว่านี้เลย 

“อิส”

ผมเงยหน้ามองแพรวาที่เดินเข้ามาเรียก ระหว่างที่นั่งกินข้าวอยู่

“วันนี้ตอนเย็นมีประกวดดาวเดือนที่คณะ อย่าลืมไปนะ”

“ต้องไปด้วยเหรอ”

“อ้าว พี่ม่อนไม่ได้บอกเหรอ ต้องไปมอบตำแหน่งให้รุ่นน้องไงจ๊ะ”

“โห่!”

“ไม่ต้องมาโห่เลย เจอกันตอนเย็น ไม่มาละน่าดู”

“จ้า”

ผมตอบรับแพรวาส่งๆ ก่อนเธอจะเดินออกไป ไอ้จุ๋มที่อยู่ข้างๆ หันมาหัวเราะในลำคอ

“ดูสภาพเดือนคณะ โทรมเป็นศพ”

“มึงก็ไม่ได้ต่างจากกูเลยไอ้ห่า”

“แล้วเอาไง เย็นนี้จะไปไหม”

“กูไม่อยากไปเลยว่ะ ไปก็ไม่ได้ทำอะไรหรอก นั่งเล่นนิ้วตีนอยู่บ้านยังมีประโยชน์กว่าอีก”

“เออ เขาให้ไปก็ไปเหอะ”

ผมส่ายหน้าเหนื่อยๆ ก่อนตักข้าวใส่ปาก ระหว่างที่นั่งกินข้าวอยู่ก็มีเด็กปีหนึ่งสองคนถือจานข้าวเข้ามานั่งโต๊ะข้างๆ  เพราะโต๊ะที่ติดกัน ผมจึงได้ยินบทสนทนาของสองคนนั้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“แก วันนี้มีประกวดดาวเดือนคณะ ไปดูกันปะ”

“อือ เอาดิ”

“แกรู้ปะ ว่าเดือนคณะปีที่แล้วเป็นใคร เห็นเขาบอกว่าหล่อมาก”

“รู้สึกจะชื่อพี่อิส แต่สาขาไหนจำไม่ได้อะ”

“วันนี้พี่เขาจะมาไหมนะ อยากเห็นหน้าจัง”

“คิกๆ” ไอ้จุ๋มที่นั่งอยู่ข้างๆ หลุดหัวเราะออกมาเพราะบทสนทนาของน้องสองคนนั้น ก่อนมันจะทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด ด้วยการหันไปสะกิดบอกเด็กนั่น

“น้องๆ”

“คะ?”

“เดือนคณะปีที่แล้วนั่งอยู่นี่ไง นี่ครับ พี่อิสครับผม”

“เชี่ยจุ๋ม!”

เด็กสองคนนั้นหันมองผม เบิกตาขึ้นนิดๆ ก่อนพูดออกมาตรงๆ

“เดือนคณะนี่เขาเลือกจากอะไรคะพี่”

หัวใจเจ็บแปลบตอนที่น้องมันมองหน้าด้วยสายตาผิดหวังอย่างรุนแรง กูแทบมุดลงจานข้าวมันไก่แล้วกดหัวตัวเองให้จมน้ำซุปตายไปเลย

...

 

ในเย็นวันนั้นผมจำเป็นต้องไปร่วมงานด้วยอย่างช่วยไม่ได้ เพราะไม่อยากถูกมองด้วยสายตาผิดหวังแบบนั้นอีก เลยจำเป็นต้องคีปลุคหล่ออีกครั้ง ปั่นจักรยานไปตัดผมก่อนกลับมาที่บ้าน ขุดชุดนักศึกษาถูกระเบียบหัวจดเท้าขึ้นมาใส่อีกครั้ง ผมมองตัวเองในกระจกขณะยกแขนเสื้อขึ้นติดกระดุม

แม่งเสื้อตัวเล็ก แน่นนมฉิบหาย!

และในขณะที่กำลังก้าวออกจากบ้าน ฝนก็ลงเม็ดลงมาอย่างไม่ปรานี ยกมือเท้าเอวอย่างเซ็งๆ แล้วหันกลับเข้าไปในบ้าน หยิบกุญแจรถยนต์ที่พ่อซื้อให้แต่ไม่ค่อยได้เอาไปใช้ เพราะจักรยานมันหาที่จอดได้ง่ายกว่า แถมไม่มีปัญญาเติมน้ำมันด้วยก็เลยจอดทิ้งไว้เฉยๆ

ผมเดินลุยฝนไปที่ลานจอดรถหมู่บ้าน ปลดล็อกเมอร์ซิเดสเบนซ์สีขาวฝุ่นเขรอะ แล้วขับตรงไปมหาวิทยาลัย วนหาที่จอดอยู่พักใหญ่ ก่อนได้ที่จอดหน้าคณะพอดี และทันทีที่ผมตรงเข้าไปจอดรถ ทุกสายตาของคนตรงนั้นก็หันมอง เมื่อก้าวลงจากรถ รู้สึกเหมือนเดินลงพรมแดงเมืองคานส์ เก๊กหล่อสุดชีวิต ก่อนหันไปยิ้มให้ดินฟ้าอากาศแบบเท่ๆ  ตำแหน่งเดือนคณะไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วยนะโว้ย

 

เพราะผมนี่แหละ อิสระ เดือนคณะในตำนาน

 

ผมหันไปพยักหน้ากับไอ้จุ๋มที่ยืนรออยู่หน้าตึก ทำตัวให้คูล แล้วยื่นมือข้างหนึ่งหันไปปิดประตูรถอย่างเท่ๆ

ปึง!

“โว้ย!”

“ไอ้อิส เป็นอะไร!”

“ประตูรถหนีบมือกู๊!”

 

- จบเถอะ -
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: สรรพล้วยควัน ที่ 20-07-2018 00:34:53

เกลียดอิพี่อิสมากโว้ยยยยย5555555555555   :laugh:
ที่ได้รองเดือนมอมานี่คือเพราะแคปชั่นพี่จุ๋มแน่ๆอะ
ที่เกลียดกว่าคือการเก๊กหล่อ อิคนบ้า555555555555555
..แต่เห็นน้องบังเอิญแวบๆแล้วใจหายเพราะอีกห้าหกปีคือน้องต้องไปบายละอะ ฮืออ
((ยังคงอ้อนวอนคุณตหข.อยู่ตรงนี้ว่าอยากให้มีเรื่องราวต่อไปของทั้งสองคนมาก
พร้อมจะอ่านไปเรื่อยๆจนถึงวันที่น้องปิงบรรลุนิติภาวะเลยค่ะ  //กระซิบ))


หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 20-07-2018 02:03:27
พี่อิสคนกากในตำนาน  o13
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: mayyiyi ที่ 20-07-2018 02:10:14
ทำไมต้องขำอะไรแบบนี้ตอนตี2  อิพี่อิสโว้ยยยยยย
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 20-07-2018 04:06:33
กากเสมอต้นเสมอปลายจริงๆเล้ยยยย
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-07-2018 04:36:43
อิสระ คนจริง คิดถึงพี่อิส  น้องปิง...........   :hao5:

"ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว "

"ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ หล่อล้ำที่ลำตัว "  ก๊ากกกกกกก

พี่อิส  น้องปิง    :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 20-07-2018 11:10:16
พี่อิสนี่สุดยอดของความจ้อจี้เลย ต่อให้อิพี่กากยังไงก็คิดถึงเสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-07-2018 13:47:53
ทำอย่างไรก็สลัดคราบอีพี่อิสคนกากไปจากหัวไม่ได้สักที บอกตรงๆนะตอนนี้ก็ยังไม่เห็นรัศมีความหล่อของพี่เลยอะ 5555555 แต่เขาเห็นอยู่อย่าง ใจพี่หล่อมากๆ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 20-07-2018 14:56:11
ความกากนี้ เกือบแล้วพี่เกือบจะดีแล้ว
ประตูรถบ้าทำพี่อิสฉัน
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Naamtaan22 ที่ 20-07-2018 15:16:51
ให้ตายสิ พี่อิสคนกาก ทำให้เราหัวเราะจนน้ำตาไหลทุกครั้งที่อ่าน ยอมใจเลยจริงๆ ยังคิดถึงเรื่องนี้อยู่เสมอนะจ๊ะ จะมีตอนพิเศษอะไรมาเราก็ดีใจหมดแหละ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 20-07-2018 15:23:35
ถ้าไม่มีตอนนี้ก็จะลืมไปแล้วนะว่าพี่อิสมันหล่อน่ะ ฮ่าๆๆ โดนความกากบดบังจนมองไม่เห็นแต่อย่างน้อยพี่ก็เล่นแซ็กฯได้นะ อยากเห็นพี่อิสเล่นให้หลินปิงฟังบ้างจัง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: SN_sanook ที่ 20-07-2018 15:37:04
พี่อิสนี้คือพี่อิสจริงๆ ชอบนะคะ//ขอโทษนะน้องปิง :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: MyLavenderLand ที่ 20-07-2018 16:04:31
ว๊อยยยยยยยย  หมด! หมดกัน กับจินตนาการอดีตเดือนคณะของพี่อิสที่เราเฝ้าฝันถึง มันเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง อืมมมม 55555555 ขำจนน้ำตาเล็ดเลยอ่ะ   :jul3:

ขอบคุณนะค้าาา คิดถึงพี่อิสกับหลินปิงเหมือนกัน ถามว่าอยากอ่านตอนพิเศษตอนไหน? เรานึกไม่ออกอ่ะ รู้แต่คนเขียนเขียนตอนไหนมา สนุกทุกตอนเลยยยย /กอดขาขอตอนต่อไป อิอิ  มาบ่อยๆ น้าาา  :mew1:

หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-07-2018 21:45:30
กราบพี่อิสเลยค่ะ อ่านทีไรก็ฮาทุกที แม้แต่ตอนแต่งตัวยังทำเราขำเลยค่ะคุณ คุณรชานี่เขียนทางเรื่องชวนหัวได้เก่งมากค่ะ แถมยังเป็นเรื่องชวนหัวที่ถ้าอ่านดีๆ ก็มีอะไรๆ ให้หยิบมาขบคิดด้วยนะ เอาเป็นว่าเป็นติ่งพี่อิสและจะเป็นติ่งตลอดไป

ขอบคุณคุณรชามากๆ ค่ะ ^____^
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: ahpanpit ที่ 21-07-2018 19:53:22
ริจะรักเด็กต้องอดทนนะพี่อิส
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 22-07-2018 00:07:19
พี่อิสผู้รักษาความกากไว้ได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย 55555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 22-07-2018 01:42:47
พี่อิสสสสสส
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Meen2495 ที่ 22-07-2018 10:15:16
ลืมไปเลยว่า อิพี่อิสมันหล่อ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: kiszy ที่ 22-07-2018 13:23:41
โอ้ยยยยยยยย ลืมไปเลยว่าพี่อิสหล่ออออ

ความกากบดบังโหม๊ดดดด 555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Asui ที่ 22-07-2018 17:15:01
รักพี่อิส :angry2:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 22-07-2018 23:13:32
น่ารักดี ไม่เคยอ่านนิยายแนวนี้มาก่อนเลย สนุกมากๆเลยจ้า :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-07-2018 09:55:01
 :pig4: พี่อิส
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 24-07-2018 21:44:46
คิดถึงพี่อิส มาอีกนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-07-2018 22:36:56
อ่านเรื่องนี้ทีไรทั้งฮาและมีความสุข
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 25-07-2018 18:45:41
พี่อิสนี่มันพี่อิสจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Maccagadz ที่ 25-07-2018 22:31:40
คิดถึงพี่อิส น้องปิงง ความกากของพี่เค้าเสมอต้นเสมอปลายจังค่ะ แต่ถึงงั้นก็รักพี่น้า ขอบคุณคุณรชาที่แวะเอาพี่อิสมาส่งนะคะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้มีแรงเขียนเรื่องอื่นๆ ด้วย ติดตามผลงานอยู่เสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 25-07-2018 23:05:19
ความเกือบจะของพี่พี่อืสนี่มัน ไม่เคยไปสุดสักอย่างความกากนำมาตลอด แต่เพราะแบบนี้แหล่ะถึงหลงรักพี่อิสหัวปักหัวปำ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-07-2018 22:56:25
ความกากในตำนาน
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: IöLIKE ที่ 29-07-2018 23:04:39
Thanks.
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 07-08-2018 18:52:55
พี่อิสคนกากเสมอต้นเสมอปลายจริง ๆ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: sasi ที่ 07-08-2018 22:24:44
อ่านจบแล้วววววว ใจหาย คงคิดถึงพี่อิส กะน้องหลินปิงแย่เลย
ชอบคาแรคเตอร์พี่อิส คือดูเป็นมนุษย์โลกคนนึงจริงๆ
ชอบในความกากของพี่อิส และความซื่อของหลินปิง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: มนุษย์บิน ที่ 07-08-2018 22:56:47
จะหล่อก็หล่อไม่สุดความกากของพี่อิสแกมันบดบังไปหมด 5555555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 08-08-2018 07:36:23
พี่อิสคนเถื่อนขากถุย~

 :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: samesterx ที่ 08-08-2018 11:18:45
พึ่งตามมาอ่านรวดเดียวจนจบแล้วประทับใจในความกากกรังของพี่อิสมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 555555555555 ตอนช่วงแรกสงสารน้องหลินปิงมาก ทำไมชีวิตน้องอาภัพ โชคร้าย โดนคนรังแกมากมายขนาดนี้ ตอนโดนป้าตีคืออยากจะพุ่งเอาตัวไปรับแทน อย่าทำน้องงงง!!!!! ดีใจมากๆที่น้องได้เจอกับพี่อิสระ คนที่มีอิสระในชีวิตมากๆ ถึงแม้ว่า First Impression จะเป็นการที่อิพี่ถอดเสื้อเดินกลับบ้านแถมยังขโมยไวท์มอล์ตของน้องไปด้วยก็ตาม.... (ตกลงควรจะดีใจดีมั้ยนะที่น้องปิงของเราต้องมาเจอลุงคนนี้..)

อ่านไปอ่านมาเริ่มเชียร์ช็อกแทนพี่อิสคนกาก (เพราะหมั่นไส้พี่อิสส่วนตัว ลุงกากๆ) แต่พอถึงตอนที่ปิงบอกชอบเท่านั้นแหละ นี่ถึงกับแบบว็อทททททท อะไรของเธอยัยช็อกทำไมเธอแรดได้ขนาดนี้อ่ะ อยากตีหน้าช็อกมากที่มาทำให้น้องปิงต้องมาวิ่งกลับบ้าน (พอมาอ่านตอนพิเศษของช็อกแล้วก็เข้าใจนะ คนบางคนอยู่ด้วยแล้วสบายใจ แต่ไม่ได้รู้สึกมากถึงขนาดจะทำให้กลายเป็นคนรักได้  :z3:) ตอนนั้นคือเดินหน้าเชียร์พี่อิสสุดกำลังเลย เอาเถอะ ถึงพี่อิสจะกากขนาดไหนแต่พี่ก็มาดีไม่ได้มาร้าย ถึงพี่จะเหมือนคนพี้ยาแต่จริงๆพี่ก็พี้แค่ยาคูลท์

ฉากที่พี่อิสและน้องปิงบอกชอบกันนี่เรากรี๊ดแบบกรี๊ดเลยจริงๆ น่ารักมากกกกกกกกก (แน่นอนว่าน้องปิงน่ารัก ส่วนพี่อิสก็คือคนกากๆ) ตอนเขาสวีทกันแล้วยิ้มเหมือนดมกาวมา อ่านแล้วเขินเหมือนมีส่วนร่วมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เหมือนตัวเองเป็นไรฝุ่นบนคอมพี่อิสแล้วนั่งมองเขารักกัน เขายิ้มให้กัน เขามีโมเม้นกัน เฮือกกกก /สูดกาว กลั้นยิ้มหนักมาก เขินหนักมาก กรี๊ดให้กับความน่ารักของน้องหลินปิงตะงุ้ยๆๆๆๆๆของพี่ และยิ้มให้กับความแบกถุงปุ๋ยคุ้ยขยะของพี่อิส (แต่ก็รักพี่อิสเหมือนกัน แต่พี่อิสกากอ่ะ 555555555) โชคดีของน้องปิงแล้วที่หลุดจากวงจรชีวิตร้ายๆของตัวเองแล้วได้มาเจอกับพี่อิสที่มีอิสระ และได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง (บางทีพี่ก็คิดว่าน้องปิงโชคร้ายที่มาเจอลุงพี่อิส แต่น้องน่าจะคิดว่าตัวเองโชคดี พี่ก็เลยได้แต่ส่งน้องสู่ประตูสวรรค์)

ขอบคุณนะคะที่เขียนนิยายดีๆออกมาให้อ่าน ประทับใจกับความกากกรังเถื่อนถ่อยของพี่อิสมาก เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้าย ก็คือกากตั้งแต่ต้นจนจบนั่นเอง เย้ รักนะคะะะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 08-08-2018 19:25:45
พี่อิสโคตรกาก 5555555 เกือบดีแล้วจริงๆ ตายตอนจบซะได้
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 10-08-2018 23:56:32
พี่อิสสสสสสสสสสสคนกากที่หล่อ คิดถึง !!!
 :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 17-08-2018 22:54:52
ไม่เคยคิดภาพพี่อิสสมัยเป็นเดือนมาก่อนเลยค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 18-08-2018 17:37:46
กากมาแต่ไหนแต่ไร แต่ไม่เป็นไรค่ะพี่อิส หนูรักพี่ 55555555555555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 19-08-2018 18:48:00
โธ่เกือบจะดี. แล้วจะมีตอนพิเศษลงอีกไหม อยากอ่านอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 22-08-2018 18:18:56
ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะผัวขาคิดถึงเด้อขอบคุณไรท์มากๆนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 26-08-2018 21:54:21
สนุกกกกกกก  น่าย๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 29-08-2018 17:40:18
ไม่เคยรู้เลยว่าพระเอกเรื่องนี้หล่อ5555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: AngPao1932 ที่ 10-09-2018 10:03:02
รู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่ช๊อกทำมากๆเลยอ่ะ ส่วนอิพี่อิส ทำไมยังไม่ได้กินน้องอีกกกกกกกกกกกกก กากเกินไปแล้วววววววววววว
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 15-09-2018 22:01:34
เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ​พี่อิส​ น่ารักแบบกากๆ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: calmkung ที่ 11-12-2018 21:34:40
เอ็นซีขอหื่นแบบกากๆก็ได้จ้าา พี่อิฐฐฐ 55555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: mizzmizz ที่ 18-12-2018 23:09:55
เราไปอยู่หลุมไหนมา ทำไมเพิ่งเห็นตอนพิเศษตอนล่าสุด
55555+ เกือบคูลละจ่ะ อิพี่อิส ดันตกม้าตายตอนจบนะ
คนบ้าอะไร มันคูลได้แค่นี้จริงๆ สินะ 5555555+
ปล.ปีใหม่นี้หวังว่าเราจะได้อ่านตอนพิเศษพี่อิสอีกนะ หวังในหวัง 5555+
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ :อิสระเดือนคณะในตำนาน 20/7/18
เริ่มหัวข้อโดย: ReiiHarem ที่ 20-12-2018 20:43:15
ชอบอันนี้มาก "ฟัดพุงหน่อย" อ๋อยยยยยย น่ารักมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: เต้าหู้ไข่ ที่ 30-12-2018 18:06:40
สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว

 

อิสระ :

 

หนึ่งปีไม่ยาวนานเท่าไรนัก รู้ตัวอีกทีก็สิ้นปีอีกแล้ว อาจเป็นเพราะบรรยากาศปลายปีมีผลให้อารมณ์แปรปรวนเป็นระยะ ซึมๆ เหงาๆ ตามประสาคนถูกทิ้งที่ไม่มีใครเหลียวแล เป็นลุงแก่ๆ ใช้ชีวิตในบ้านหลังเก่าไปวันๆ ผมนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมฯ มาตั้งแต่เช้า วาดรูปจนเอียนแทบจะอ้วก งานก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน แต่หมดอารมณ์แล้วก็เลยละจากตรงนั้นมาทิ้งตัวนอนที่โซฟาหน้าทีวีข้างๆ ลลิตา หลานสาวตัวเล็กที่กำลังหลับปุ๋ย ผมหย่อนตัวลงนั่งเบาๆ ไม่อยากปลุกให้ตื่น แต่อีกฝ่ายก็รู้ตัวทันที ลืมตามองแล้วขยับตัวลุกขึ้น ผมใช้มือข้างหนึ่งอุ้มหลานมากอด

"ขอโทษ ตื่นเลย"

ลลิตามองค้อนใส่แล้วตอบกลับ

"เมี้ยว"

"เออ ลุงขอโทษ นอนต่อสิ" ผมยกมือเกาคางเบาๆ ลลิตาก็ทำหน้าเคลิ้มแล้วหลับไปอีกรอบ ผมมองแมวที่ขดตัวเป็นก้อนๆ นอนอยู่บนอก ทั้งสี ทั้งรูปร่าง เหมือนกับชีสไบท์แม่ของมันไม่มีผิด แต่ตอนนี้ก็หลงเจ้าตัวนี้มากกว่านิดหนึ่ง มองดูชีวิตอันสุขสบายของแมวก็อดอิจฉาไม่ได้ ชาติหน้ามีจริงไหม อิสระอยากเกิดเป็นแมว

 

"หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว..."

           

            แมวที่อยู่บนอก ตกใจเสียงโทรศัพท์ที่กำลังดังจึงกระโดดแล้วเดินไปทางอื่น ผมหยิบขึ้นมาดูชื่อแล้วพบว่าเป็น น้อยหน่า มนุษย์ที่มีหน้าที่หลักเป็นการทวงงาน รำคาญแต่ก็ต้องกดรับ

            "พี่อิส งานเสร็จยัง"

            "ใกล้แล้ว ไม่ใช่ใกล้เสร็จนะ ใกล้ตายแล้ว เป็นไง กูชงเองเล่นเองได้ด้วย ตลกจังเลย"

            "พี่อิส!"

เพราะรายได้จากงานฟรีแลนซ์เริ่มน้อยลงตามสภาพเศรษฐกิจ ผมจึงต้องปรับตัวด้วยการรับงานที่สำนักพิมพ์แห่งหนึ่งซึ่งเกี่ยวกับหนังสือเด็ก เป็นงานกึ่งประจำแต่ทำอยู่บ้านได้ จึงตอบโจทย์คนขี้เกียจออกจากบ้านอย่างผม ชีวิตการทำงานก็สบายๆ ลำบากสุดก็ตอนรับสายคนทวงงานนี่แหละ เวลาส่งงานช้า ผมจะไม่ค่อยมีเหตุผลอะไรมาแก้ตัว พอพูดตรงๆ ว่าขี้เกียจ ก็โดนสวดยับเหมือนทำผิดร้ายแรงจนไม่น่าให้อภัย 

"ยังไม่ถึงเดดไลน์เลย จะโทรมาทวงทำไมเนี่ย"

"ก็อยากได้เร็วที่สุดอะ พี่เร่งให้หน่อยได้ไหม"

"งานศิลปะมันเร่งได้ที่ไหน มันเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ..."

"เป็นเรื่องของพี่กับหนูนี่แหละ ถ้าเสร็จไม่ทันก็ตายทั้งคู่แน่ๆ พี่อยากเห็นหนูตายก่อนหรือพี่อยากจะตายก่อน พี่จะให้หนูทำยังไง ฮะ?"

"ใจเย็น อย่าเห็นกูเป็นสนามอารมณ์"

"พี่อิส จริงจังนะ!"

"จ้าๆ เดี๋ยวพี่รีบทำให้ ยังไงก็ทันเดดไลน์แน่นอน ไม่โมโหนะคะ"

"ถ้าไม่เสร็จหนูจะตามไปทวงถึงที่บ้านจริงๆ ด้วย!"

"จ้า"

อีหอยตลับ! ชาติก่อนทำบาปอะไรกับมันไว้วะเนี่ย!

ผมโยนมือถือลงบนโซฟา กำลังจะลุกกลับไปทำงานที่เดิม แต่เสียงโครมครามจากหน้าประตูก็ดังขึ้น

 

"เคร้ง!"

 

หันไปเห็นลลิตาที่เป็นตัวการสร้างเสียงดังนั่นด้วยการเล่นขวดเบียร์ที่วางอยู่จนล้มระเนระนาด

"ไอ้แมวซน! มันใช่ของเล่นไหม ฮะ! เอาไปปล่อยวัดดีไหมมึงเนี่ย!"

"เมี้ยว!"

"ไม่ต้องมาร้อง ไปสำนึกผิดที่มุมนู้นไป!" ผมว่าแล้วอุ้มลลิตาไปวางไว้อีกทาง ชี้นิ้วกำชับให้มันอยู่กับที่ ราวกับมันรู้ดีว่าถ้าซนต่อคงถูกเนรเทศไปอยู่กับหลวงพ่อที่วัดแน่ๆ จึงนั่งเฉยๆ ทำหน้าหงอยสำนึกผิด ความน่ารักจากใบหน้าจ๋อยๆ นั่นทำให้ผมต้องโน้มตัวลงไปใช้มือเกาคางเบาๆ

"ไม่ซนนะคะ"

ผมหันกลับมาเก็บขวดเบียร์ที่วางทิ้งไว้หลายวันแล้ว ตั้งใจจะเอาไปลงถังขยะ แต่ในจังหวะนั้นก็ดันหันไปเห็นอีกหนึ่งสิ่งมีชีวิตอย่างแมลงสาบกำลังโผล่ออกมาจากปากขวดที่ล้มอยู่

"ยังไงล่ะมึง จะหนีไปหรือจะตายตรงนี้"

ผมเอ่ยถาม หยิบขวดใบหนึ่งหวังจะใช้เป็นอาวุธในการสังหารมัน แมลงสาบตัวนั้นผลุบเข้าไปในขวด ก่อนจะโผล่หน้าออกมาจ้องหน้าผมอีกที

"มองหน้ากูทำไมวะแมลงสาบ"

"..."

"ทำไม ยังไม่อยากตายเหรอ"

"..."

"อ้อนวอนกูสิ ร้องขอชีวิตจากกูสิ"

เมื่อมองหน้าสิ่งมีชีวิตตัวนั้นก็เกิดสงสารราวกับว่ามันกำลังอ้อนวอนขอชีวิตอยู่จริงๆ ด้วยความเมตตาผมจึงหยิบขวดใบนั้นออกไปวางที่หน้าบ้านเพื่อปล่อยแมลงสาบออกไป ในตอนที่โยนมันลงพื้นแล้วกำลังไล่ให้มันออกจากประตู
เท้าข้างหนึ่งจากคนที่เดินเข้ามาพอดีก็กระทืบร่างแมลงสาบต่อหน้าต่อตา
ตุ้บ!

ผมเงยหน้ามองไอ้ปรินซ์ที่โผล่มาแล้วฆ่าแมลงสาบให้ตายคาตีน

"ไอ้ปรินซ์ มึงฆ่ามันทำไม!"

"แล้วจะปล่อยมันไว้ทำไม"

"มันเพิ่งบอกกูว่ามันอยากมีชีวิตอยู่ต่อ แล้วมึงก็กระทืบมันเละ จิตใจมึงอะไอ้ปรินซ์"

"พี่คุยกับแมลงสาบได้?"

"กูสัมผัสได้ว่ามันยังไม่อยากตายไง"

"มันสกปรก"

"แต่มันก็รักชีวิตของมันไหม"

"อะไรของพี่วะ เหงามากจนต้องเล่นกับแมลงสาบแล้วเหรอ" มันพูดแค่นั้นก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา ผมหันมองซากแมลงสาบด้วยความอาลัย ก่อนจะตามไอ้ปรินซ์เข้าไปด้วย

"แล้วนี่มึงมาบ้านกูทำไม"

"ไม่รู้จะไปไหนดี คิดถึงพี่เลยมาหา นี่อะไร เขียนจดหมายหาปิงอยู่เหรอ" ไอ้ปรินซ์ว่าพลางหยิบกระดาษที่ผมจดเดดไลน์ทุกงานเอาไว้ขึ้นดู

"เขียนจดหมายห่าอะไรล่ะ"

"งานเยอะจังวะพี่ พี่ทำงานหนักเกินไปหรือเปล่าเนี่ย"

"กูภาระเยอะ ลูกหลานกูเต็มบ้านมึงเห็นไหมเนี่ย" ไอ้ปรินซ์ละสายตาจากผมไปมองลลิตาที่เดินเข้ามาหามัน

"ว่าไง เจ้าเหมียว"

"ไอ้ปรินซ์ มึงควรรู้ได้แล้วนะว่าแมวทุกตัวบนโลกไม่ได้ชื่อเหมียว มันไม่ได้อะ มันไม่ควร หลานกูชื่อลลิตา ลลิตา เสรีไพศาล หัดจำบ้างสิ"

"หลาน?"

"เออดิ ชีสไบท์มันเป็นน้องสาวกู ลลิตาเป็นลูกของน้องสาวก็เท่ากับเป็นหลานกูไง"

"ชีวิตพี่มันโดดเดี่ยวมาก จนต้องเอาแมวมาเป็นญาติแล้วเหรอวะพี่"

"เออ ชีวิตของคนโดนทิ้งไง" ผมว่า ก่อนที่ลลิตาจะเปลี่ยนจากการคลอเคลียไอ้ปรินซ์เป็นเข้ามาหาผมแทน ใช้สองมืออุ้มหลานขึ้นมากอดเบาๆ เจ้าตัวเล็กก็ร้องงอแง

"เมี้ยว"

"ร้องทำไม หิวเหรอ หิวเหรอคะ หืม?"

"ทีกับแมวนี่มีเสียงสองเสียงสาม คุยกับผมไม่เห็นพูดดีอย่างนี้บ้าง"

"มึงตายแล้วไปเกิดใหม่เป็นแมวสิ กูสัญญาว่าจะเลี้ยงดูมึงอย่างดี"

"วู้!" ไอ้ปรินซ์ส่ายหน้าเบาๆ ก่อนที่ผมจะเดินไปเทอาหารให้ลลิตา ความจริงลลิตามันมีน้องอีกตัว แต่แม่ไอ้บูรพาที่อยู่ข้างๆ บ้านเกิดถูกชะตาจึงขอไปเลี้ยง คนจนๆ อย่างผมก็กลัวจะรับภาระสัตว์เลี้ยงพวกนี้ไม่ไหว เลยต้องตัดใจยกมันให้ไปอยู่กับคนรวยๆ เหลือไว้สองชีวิตในบ้านนี่ก็จะเลี้ยงไม่ไหวแล้ว จะว่าไป ไม่รู้ว่าชีสไบท์มันหายหัวไปไหนตั้งแต่เช้า

"แม่มึงหายไปไหนวะเนี่ย ไม่มาอยู่ดูแลลูกบ้างเลย ไม่ใช่ว่าแรดไปท้องกับใครอีกนะ"   

"พี่อิส พี่พูดกับใครวะ"

"กูบ่น กูแค่บ่น ไม่ได้ต้องการสนทนากับใครทั้งนั้นอะ"

ผมตอบไอ้ปรินซ์ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ลลิตา มองดูแมวที่กินอาหารอิ่มแล้ว กลิ้งตัวลงนอน หยิบของเล่นที่ยัดไส้กัญชาแมวให้เล่น ก็เอาตีนมังคุดน้อยๆ เขี่ยไปเขี่ยมาท่าทางสนุก แค่ดูแมวเล่นของเล่นก็กินเวลาชีวิตกูไปครึ่งวันแล้วอะ

"พี่อิส ปีใหม่นี้ปิงกลับบ้านเปล่า"

"ยังไม่รู้เลย ว่าจะโทรถามอยู่พอดี" ผมละสายตาจากแมวแล้วเดินกลับไปที่โซฟา มองหาโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้แล้วหยิบขึ้นมากดโทรหาปิง ก่อนต้องแปลกใจเมื่อเห็นตัวหนังสือที่หน้าจอ

 

สายไม่ว่าง

 

"คุยกับใครอยู่วะ"

"ฮัลโหล น้องปิง"

ผมหันขวับมองไอ้ปรินซ์ที่กำลังยกมือถือแนบหูคุยกับคนที่ผมเพิ่งจะกดโทรหา

"ปีใหม่กลับบ้านเปล่าปิง"

"ไอ้ปรินซ์! มึงจะโทรทำไมเนี่ย!"

"ก็พี่ช้าอะ น้องปิงครับ พี่ปรินซ์คิดถึงนะ รีบกลับมาได้แล้ว อยากกินพิซซาจังเลย"

เพราะผมทำหน้ายักษ์พลางยกกำปั้นทำท่าจะทุบ ไอ้ปรินซ์จึงยื่นมือถือมาให้ผมคุยกับปิงเอง ได้ยินเสียงใสๆ จากปลายสาย ความโมโหก่อนหน้าก็หายวับสลับอารมณ์ได้อย่างกับสับสวิทซ์

(พี่อิสครับ)

"จ้า"

(ผมยังไม่รู้เลยว่าปีใหม่จะได้กลับบ้านหรือเปล่า)

"อือ ไม่กลับก็ไม่เป็นไร"

(พี่จะไม่โกรธใช่ไหมอะ)

"จะไปโกรธอะไรเล่า"

(ครับ งั้นผมกลับหอก่อน เดี๋ยวคืนนี้โทรหานะ)

"โอเค"

ปิงกดวางสายไปแล้ว ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้ไอ้ปรินซ์แล้วนั่งลงข้างๆ มัน

"น้องไม่กลับเหรอ"

"อือ อาจจะไม่กลับ"

"ปีใหม่นี้ผมก็ต้องไปบ้านญาติที่ต่างจังหวัด คงจะมาหาพี่เหมือนทุกปีไม่ได้"

"อ้าวเหรอ"

"ไอ้โอมกับไอ้ปอนด์ก็นัดกันไปเที่ยว คงไม่ได้มาเหมือนกัน"

ผมพยักหน้ารับ

"พี่โอเคปะเนี่ย หรือจะไปต่างจังหวัดด้วยกัน"

"โอ๊ย มึงไปเหอะ กูอยู่ได้ งานกูเยอะแยะต้องรีบทำให้เสร็จ ไม่มีเวลาไปไหนหรอก"

"กลัวพี่จะเหงาไง"

"ถ้ากูเหงา กูไปสวดมนต์กับหลวงพ่อที่วัดก็ได้ ไม่ต้องห่วงกู"

"ถ้าเหงาก็โทรมาละกัน"

ผมส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนกลับไปนั่งทำงานต่อ ไอ้ปรินซ์อยู่คุยด้วยอีกพักใหญ่ๆ ก่อนจะกลับ  อารมณ์ปรับโหมดสู่ภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย ราวกับว่าสังคมได้ทอดทิ้งให้ผมอยู่คนเดียวบนโลกกว้าง คนเหงาข้ามศักราชใช่ไหมกูเนี่ย

...

ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับเทศกาลปีใหม่ที่จะกำลังจะมาถึงแม้ว่าวันนี้เกือบจะเป็นวันสิ้นปีแล้วก็ตาม อาจเป็นเพราะกำลังตั้งหน้าตั้งตาเร่งทำงานให้เสร็จทันตามเดดไลน์ จึงไม่ทันได้คิดเรื่องอื่นเลย

"พี่อิส!"

ผมหันขวับมองเสียงเรียก ก่อนเจ้าของเสียงอย่างลันลินาจะกระโดดเข้ามากอดผมจากด้านหลัง ผมหันมองน้องสาวตัวแสบที่กำลังเอาหน้าเล็กๆ วางอยู่บนบ่าผม

"กลับบ้านถูกด้วยเหรอ"

"แหม ไม่งอนสิ ก็มาหาแล้วนี่ไง" ลินากอดผมแน่นกว่าเดิมก่อนจะกดปลายจมูกเข้ามาฟัดข้างแก้มผม เหมือนเล่นกับหมา จนต้องร้องห้าม

"เล่นอะไร โตแล้วนะ"

"โตแค่ไหนก็เป็นน้องพี่อิสอยู่ดี"

ผมหลุดยิ้มกับคำพูดของน้องสาว ก่อนลินาจะปล่อยมือที่กอดผมออก

"พี่อิส กลับชลบุรีด้วยกันไหม"

"หนูจะกลับเหรอ"

"อือ พี่ไปด้วยกันสิ"

"งานพี่เยอะอะ ไปไม่ได้หรอก"

"แต่พี่ไม่ได้ไปหาพ่อนานแล้วนะ"

ผมนิ่งคิด จริงอย่างที่น้องบอก จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ากลับชลบุรีล่าสุดเมื่อไร หรือแม้แต่โทรหาพ่อครั้งสุดท้ายเมื่อไรก็จำไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะผมถอยห่างจากครอบครัวมาไกลจนไม่ได้คิดที่จะกลับไป หรือไม่บางที ตรงนั้นอาจจะไม่มีที่สำหรับผมแล้วก็ได้

"เอาไว้พี่โทรหาพ่อเอง"

"อือ งั้นหนูไปแล้วนะ"

"แล้วไปยังไงเนี่ย"

"ไปกับว่าน ว่านรออยู่หน้าบ้าน"

คิ้วผมขมวดเมื่อได้ยินชื่อแฟนของลินา

"ไอ้ไซบีเรียนนั่นอะนะ"

"พี่อิส! อย่าว่าแฟนหนู!"

"ก็หน้ามันเหมือนหมาไซบีเรียนอะ โอ๊ย!" ผมร้องลั่นเมื่อถูกมือของลินาตบเข้ามาที่แขนแรงๆ ทีหนึ่ง ก่อนจะเดินออกไปหน้าบ้าน ผมลุกเดินตามน้องออกไปด้วย เห็นคนที่ถูกพูดถึงยืนรออยู่ข้างๆ รถ เมื่อหันมาเห็นผมก็ยกมือไหว้ ตั้งแต่ปีหนึ่ง ที่ลินาคบกับแฟนคนนี้มา นิสัยดีใช้ได้ผมจึงไม่เคยก้าวก่ายเรื่องความรักของน้อง แม้ว่าความจริงจะแอบหวงอยู่บ้างก็ตาม

"สวัสดีครับพี่อิส"

"หวัดดี แล้วนี่จะไปกันเลยเหรอ"

"ไปเลยครับ พรุ่งนี้น่าจะรถเยอะ"

"เออ ก็ดี"

"ครับพี่" แฟนลินายืนสนทนากับผมขณะที่สองมือยังพนมอยู่ ไหว้ไปคุยไปเหมือนผมไม่ใช่มนุษย์ด้วยกัน

"มึงจะไหว้อะไร กูไม่ใช่ศาลพระภูมิ"

มันหัวเราะเบาๆ ลดมือลง ก่อนลินาจะหันมาบอก 

"ไปแล้วนะพี่อิส"

"อือ ถึงแล้วบอกด้วย ขับรถดีๆ" ประโยคหลังผมพูดกับว่าน ก่อนมันจะขับรถออกไปจนลับตา ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งตัวเองนอนลงบนโซฟา หันมองแมวสองตัวที่นอนเป็นก้อนๆ อยู่ด้วยกัน ตามองแมวสองตัวนี้แต่ใจกำลังคิดถึงแมวอีกตัวที่ไม่ยอมกลับบ้าน

 

คิดถึงปิงว่ะ...

 

ถอนหายใจเบาๆ แล้วหันไปหยิบกระเป๋าสตางค์ ตั้งใจจะออกไปหาอะไรกิน คว้าจักรยานคันเก่าปั่นออกไปจากบ้าน จอดจักรยานที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพราะขี้เกียจปั่นไปไกลกว่านั้น ในตอนที่กำลังจะเดินไปสั่ง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อน มุมปากขยับเป็นรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าปิงโทรมาแล้วรีบกดรับ

            (ป๊า!)

"ไม่ต้องมาปง มาป๊า"

(เป็นอะไรอ่า)

"เหงา คิดถึงมากด้วย"

(กินข้าวหรือยังครับ)

"กำลังจะกิน"

(กินก๋วยเตี๋ยวเหรอ)

ผมชะงักไปนิดหนึ่งเพราะแปลกใจที่ปิงรู้ว่าผมกำลังจะสั่งก๋วยเตี๋ยว หันมองซ้ายมองขวา คิดไปว่าน้องอยู่แถวนี้ ก่อนจะส่ายหัวกับตัวเองเบาๆ ปิงจะมาอยู่แถวนี้ได้ยังไง ปิงคงเดาเอาจากสิ่งที่ผมกินบ่อยๆ ละมั้ง

"อือ กินก๋วยเตี๋ยว ร้านเดิมเลย"

(พี่อิส)

"หืม?"

(สั่งเผื่อด้วย)

"ฮะ?"

(เส้นเล็กน้ำใส ไม่ใส่ถั่วงอก)

"..."

"พิเศษนะครับ"

ผมหันขวับไปมองเสียงที่โผล่มากระซิบข้างหู ด้วยความตกใจแทบจะหงายหลัง คนที่โผล่มาตรงหน้าหัวเราะชอบใจ

"ปิง"

"ผมเองครับ"

ปิงยิ้มกว้างก่อนจะกระโดดเข้ามากอด ผมรับร่างนั้นเอาไว้ สัมผัสร่างกายให้แน่ใจว่านี่ไม่ใช่ภาพหลอน ปิงกอดผมแน่น ผมเองก็ด้วย ตกใจที่อยู่ๆ ก็โผล่มา แต่ว่าก็ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก ปิงคลายกอดผมออกแล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง แต่ผมยังไม่อยากปล่อย จึงดึงตัวเข้ามากอดอีกที ที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวอาจจะไม่ใช่สถานที่เหมาะสมที่จะมายืนกอดกันได้นาน แต่ผมไม่อยากปล่อยเลย ช่างหัวร้านก๋วยเตี๋ยวเหอะ

"คิดว่าจะไม่มาซะแล้ว"

"ต้องมาสิครับ"

"..."

"คิดถึงพี่อิสที่สุดเลย"

ผมกับปิงกลับมาที่บ้าน ไม่รู้หลินปิงมันไปหิวมาจากไหน กลับถึงบ้านก็รีบเดินไปหยิบชามมาเทก๋วยเตี๋ยว แล้วจัดการก๋วยเตี๋ยวชามพิเศษอย่างรวดเร็ว ก่อนเดินไปหยิบปีโป้ในตู้เย็นมาเป็นของหวานตบท้ายอีกสามสี่อัน

"ทำไมไม่บอกพี่ว่าจะกลับ จะได้ซื้ออะไรไว้ให้กิน"

"อยากเซอร์ไพรส์พี่"

"วันหลังไม่ต้องนะ พี่ไม่ชอบความตื่นเต้นอะไรทั้งนั้นอะ"

"ก็อยากแกล้งพี่บ้าง"

"ไม่ต้องมาแกล้ง แค่คิดถึงปิงทุกวันพี่ก็เหนื่อยแล้ว"

ปิงหัวเราะเบาๆ แล้วแกะปีโป้ส่งให้ผมอันหนึ่ง ก่อนแกะให้ตัวเองอีกอันหนึ่ง

"พี่อิส"

"หืม?"

"ขอจูบทีหนึ่ง"

"เฮ้ย! เดี๋ยว" ผมโยกหน้าหลบปิงที่ยื่นหน้าตัวเองเข้ามาใกล้ เมื่อถูกปฏิเสธ หัวคิ้วก็ขมวดเข้าหากัน ริมฝีปากเชิดขึ้นดูเหมือนไม่พอใจ

"ทำไม"

"ปีโป้เต็มปากพี่เลย"

"ก็กินเร็วๆ สิครับ"

ยังไม่ทันกลืนหมดปาก ปิงก็จัดการยกสองมือขึ้นจับหน้าผมให้อยู่กับที่ กระทำการจูบจนผมไม่อาจปฏิเสธ กระทั่งริมฝีปากขยับออกไป แต่สองมือยังประคองใบหน้าผมให้มองหน้าตัวเอง ผมทำตัวเท่ๆ ด้วยการแกล้งทำเป็นหน้านิ่ง ทั้งที่ความจริงเขินจนแทบไหล

"คิดถึงพี่จัง"

ใจแข็งแค่ไหนก็ไม่รอด หลุดยิ้มออกมาจนได้ เพราะเสียงใสๆ กับใบหน้าแมวๆ นั่น ผมยกสองมือของตัวเองขึ้นจับหน้าปิง แล้วจูบคืนไปทีหนึ่ง เป็นจูบเล็กๆ ในระยะเวลาสั้นๆ แทนทุกความคิดถึงที่เราต่างคนต่างอดทนมาตลอดปี 

 

วันสิ้นปีกลายเป็นเพียงวันหนึ่งวันที่ผมต้องปั่นงานให้ทันเดดไลน์ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความพิเศษใดเกิดขึ้นในวันปีใหม่เลย นั่งหลังขดหลังแข็งอยู่หน้าจอคอมฯ มาตั้งแต่เช้า ปวดหลังจนไม่รู้จะนั่งท่าไหนจึงยกคอมฯ ลงมาวางกับพื้น เอาหลังพิงโซฟาในท่าที่คิดว่าสบายที่สุด ผมหันมองสิ่งมีชีวิตที่นอนรายล้อมอยู่รอบตัว ทางซ้ายคือชีสไบท์กับลลิตา ทางขวาคือหลินปิง เห็นว่าดึกแล้วจึงหันไปไปบอกให้ปิงเข้านอนก่อน

"ปิงไปนอนก่อนก็ได้นะ"

"ไม่เอา จะอยู่เป็นเพื่อนพี่"

"ตามใจนะ"

"อื้อ"

ผมปล่อยให้ปิงนอนเล่นมือถือไป ส่วนตัวเองก็กลับมาจดจ่อกับงานต่อ หันไปมองปิงอีกทีก็ตอนที่ขยับตัวขยุกขยิกอยู่ข้างๆ เลื่อนหัวมานอนบนตักผมด้วยใบหน้าง่วงๆ

"ไหนใครบอกจะอยู่เป็นเพื่อนพี่"

แค่ไม่กี่นาทีก็หลับเฉย ผมปล่อยให้ปิงนอนหนุนตักอยู่อย่างนั้น นานจนตะคริวแดกขาแต่ไม่กล้าปลุก ละงานในมือแล้วนั่งมองหน้าคนที่หลับอยู่ มุมปากมันก็ขยับเป็นยิ้มเองโดยที่ไม่รู้ตัว แค่มองเฉยๆ ก็หมดเวลาไปครึ่งคืน เข็มนาฬิกากำลังจะขยับข้ามปี ผมค่อยๆ ปลุกปิงเบาๆ

"ปิง"

"..."

"ปิงครับ"

ปิงขยับเปลือกตาขึ้นมองหน้าผม หน้าตาเหมือนแมวตื่นนอนไม่มีผิด คนที่เพิ่งตื่นนอนลั่นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

"หัวเราะอะไร"

"พี่เรียกผมว่า ปิงครับ"

"..."

"น่ารักดี"

"..."

"เขินเลย"

"บ๊อง" ผมยกมือเขกหัวปิงเบาๆ อีกคนก็หัวเราะออกมาอีกที ก่อนผมจะวางมือจากงานไว้แค่นั้นก่อนแล้วพาปิงเข้ามานอนในห้อง อีกคนเพิ่งรู้ตัวว่าเลยเที่ยงคืนมาแล้วตอนที่หันมองนาฬิกา

"ว้า...อดนับถอยหลังเลย ทำไมไม่ปลุกอ่า"

"ก็เห็นหลับอยู่ไง"

ปิงทำปากพองดูเหมือนไม่พอใจ วินาทีเดียวก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทน

"แฮปปี้นิวเยียร์นะครับ"

"..."

"ปีที่แล้วผมตั้งคำถามกับตัวเอง ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นยังไงในปีหน้า แต่พี่อิสทำให้ผมรู้ว่า ชีวิตที่มีพี่อยู่ด้วย..."

"..."

"มันดีมากๆ เลย"

ผมกะพริบตาถี่ๆ สองสามที ก่อนจะพลิกตัวนอนหันหลังให้ปิง

"อ้าว พี่...พี่อิส"

"แป๊บหนึ่ง"

"พี่เป็นอะไรอะ"

"กูไม่ไหวว่ะ กูเขิน"

"คนกาก!"

"ก็กูเขินอะ!"

ปิงหัวเราะเสียงดังแล้วกลิ้งทับตัวผมเพื่อจะมานอนหันหน้าให้อีกทาง ไม่รู้จะหนีไปเขินทางไหนก็เลยต้องมองหน้านั้นกลับไปด้วยรอยยิ้ม รู้ว่าตัวเองยิ้มกว้างก็ตอนที่มุมปากแทบจะฉีกถึงใบหูนี่แหละ ปิงขยับเข้ามากอดผมเอาไว้ เลื่อนมือมาจับพุงแล้วบีบเล่นพลางหัวเราะในลำคอเบาๆ

"สนุกมาก?"

"อื้อ พุงใหญ่กว่าปีที่แล้วอีก"

"บวมเบียร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว บวมไม่หาย"

"อ้วนก็ยอมรับว่าอ้วนเถอะน่า" ปิงหัวเราะแล้วกอดผมแน่นกว่าเดิม เลิกเล่นกับพุงแล้วเอ่ยปากบอกบางคำ

"ผมรักพี่อิสนะ"

"..."

"มากขึ้นทุกปีเลย"

ผมตอบกลับด้วยจูบเบาๆ ที่แตะเข้าที่หน้าผาก บอกรักผ่านจูบนั้นโดยที่ไม่ได้พูดอะไรตามประสาคนเท่ๆ ไม่ต้องมากไปกว่านี้เลย เพราะความรักแบบนี้...มันก็โคตรดีมากๆ แล้ว
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 30-12-2018 19:58:55
คิดถึงพี่อิสคนกากคิดถึงหลินปิงด้วยคิดถึงๆๆๆ แต่เมื่อไหร่จะเลิกกากได้กินปิงสักทีง่า
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: แมว ที่ 30-12-2018 20:24:41
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Narika ที่ 30-12-2018 20:33:41
เพิ่งพูดถึงพี่อิสเมื่อไม่นานมานี้ วันนี้ก็ได้อ่าน คิดถึงพี่อิสคนกากมากๆ อ่านทีไรยิ้มตลอดเลย555 :laugh:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Miawncha ที่ 30-12-2018 21:29:11
สงสารลุงอิสคนเหงาเหมือนกันนะ ขอบคุณหลินปิงที่ไม่ว่าจะยังไงก็กลับมาหาลุงเสมอ555555555
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 30-12-2018 21:50:02
ยังกากเหมือนเดิมเลยนะลุง อยากวาร์ปไปตอนน้องปิงเรียนจบ สงสารลุงแกแก่แล้ว  :jul3:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 30-12-2018 22:20:29
คือ...เป็นยังไง ก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยนจริงๆ พี่อิสของปิง บางตอนทนกลั้นหัวเราะไม่ไหวจริงๆ ค่ะ สงสารแกเหมือนกันนะคะ คนแก่อยู่บ้านคนเดียวกับแมว ถ้าน้องปิงเรียนจบเมื่อไรก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน นี่ตั้งตารอเล่มพิเศษเลยเนี่ย...อยากจะรู้ชีวิตหลังน้องเรียนจบแล้วกลับมาอยู่กับคนเหงา ถ้าน้องไม่กลับมาเสียทีเกรงว่าคนแก่จะไปบวชเสียก่อน

ขอบคุณคุณเต้าหู้ไข่สำหรับตอนพิเศษของพี่อิสคนกากนะคะ รักทุกตอน คิดถึงตลอดเวลา

ป.ล. หลาน (แมว) พี่อิสนี่มีชื่อแบบว่า...เหอะๆ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: junlifelove ที่ 31-12-2018 02:00:19
โอ๊ยยย พี่อิส น่ารักกกกกกก เป็นคนกากที่น่ารักอะ
คิดถึงความกากกังของพี่จริงๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-12-2018 03:55:24
เซอร์ไพรส์มากมาย เป็นเรื่องที่ทำให้ยิ้ม หัวเราะและเขินได้ตลอดเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: เนเน่ ที่ 31-12-2018 05:39:46
คิดถึงที่รักมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-12-2018 06:29:28
HAPPY NEW YEAR 2019  :mew1:
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๒   :mew1:

ดีใจไรท์มา   :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

พี่อิส ปิง   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 31-12-2018 07:42:05
พี่อิส
สวัสดีปีใหม่นะคะ
อยู่ด้วยกันทุกปีนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: 05th_of_06th ที่ 31-12-2018 09:09:02
แงงงง ไม่รู้ว่าเราเป็นคนเดียวไม๊ที่อ่านแล้วน้ำตาคลอ รักพี่อิส รักปิงมากๆนะะะะะะ รอเปย์เล่มพิเศษเลยย
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: river ที่ 31-12-2018 11:56:05
น่ารักเชียว
คิดถึงคนกากนะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: mab ที่ 31-12-2018 13:33:38
หวานกันมากเลย :hao7:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 31-12-2018 13:58:06
คิดถึงพี่อิสคนกากจังค่ะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-12-2018 22:05:12
 :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 31-12-2018 22:47:57
สวัสดีปีใหม่พี่อิส หลินปิง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 01-01-2019 01:24:17
คิดถึงคนกากกกกกก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 01-01-2019 01:49:25
อ้างถึง
อีหอยตลับ! ชาติก่อนทำบาปอะไรกับมันไว้วะเนี่ย!

โท่พี่อิส  :hao3:
แต่ก็ดีใจด้วยนะที่ปีใหม่นี้ไม่ต้องอยู่คนเดียว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: samesterx ที่ 01-01-2019 14:15:49
โอ๊ยยยยยยน่ารักกกกกกกกกกกกกกก พี่อิสคนกากที่กลายเป็นคนน่ารัก กับน้องปิงที่น่ารักอยู่แล้ว แงงงงง สวัสดีปีใหม่ค่า :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-01-2019 18:41:01
พอน้องกลับมาเต๊าะ พี่อิสถึงกลับเขินหนักเลย พ่อคนกากของน้อง 555555 คิดถึงจังเลยปิงน้อย
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: rockiidixon666 ที่ 02-01-2019 21:27:44
พี่อิสยังฮาเหมือนเดิม
สวัสดีปีใหม่นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Aimiya ที่ 03-01-2019 20:18:45
แง๊ พี่อิสคนกากยังน่ารักเสมอออออ หลินปิงกลับมาเซอร์ไพรส์แบบนี้พี่อิสทั้งรักทั้งหลงตายเลยยยย >//////<
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-01-2019 20:25:50
HNY2019จ้า
พี่อิสและน้องปิงนำความสุขมาให้เสมอ รักนะคะ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: TheDoungJan ที่ 03-01-2019 20:47:36
จะกี่ปีใหม่พี่อิสก็ยังคงความกากไว้เหมือนเดิม หลานพี่อิสชื่อน่ารักมากกกเลยค่ะ HNY ด้วยนะคะ♥
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 04-01-2019 00:43:28
คุณลุงที่กากเสมอต้นเสมอปลาย  :mew1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 04-01-2019 10:38:17
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 04-01-2019 14:05:15
พี่อิสกับหลินปิงน่ารักกก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: A_Narciso ที่ 04-01-2019 15:13:32
คิดถึงพี่อิสระคนเท่ กันน้องหลินปิงแมวน้อย มากๆค่ะ HNY นะคะคนเขียน :)
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 04-01-2019 23:25:01
พี่อิสต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรงนะ อย่าใช้ชีวิตประมาท อยู่กับปิงไปนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอบคุณทุกอิสระในความรักนี้ที่ให้กันเสมอมา
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: MooMiew ที่ 05-01-2019 16:28:24
ชอบความหน่วงๆของชีวิตน้องปิง และก็ชอบความเฉยๆกับโลกใบนี้ แต่พอน้องมารู้จักพี่อิสระ ชีวิตน้องก็มีสีสันขึ้น อบอุ่นละมุนเว่อ พอรักกันน้องก้ยังคงมีแต่พี่อิส เออรักกันจริง หมั่นไส้พี่อิสละ55555

ความแปลกของพี่อิสไม่ได้อยู่ในระดับขมวดคิ้วมาก ฮาแต่พอดี ประทับใจ

สนุกมากค้าบ ไปอยู่ไหนมา ทำไมเพิ่งรู้จักเรื่องนี้นะ

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ เดี๋ยวไปตามอ่านเรื่องอื่นต่อ อิอิ
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: JanTi ที่ 05-01-2019 16:38:43
  o13 o13
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: patsakon ที่ 06-01-2019 22:44:09
 ขอบคุณคัฟ :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: may27 ที่ 07-01-2019 13:30:52
 :3123:  นึกว่าตาฝาด คิดถึงพี่อิส  คิดถึงน้องปิง
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Mookku_ps ที่ 13-01-2019 05:37:46
น่ารักจริงๆพี่อิสกับน้องปิง  :man1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 11-04-2019 17:26:18
พี่อิสคนกากคนเดิม แต่น่ารัก
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 15-05-2019 00:10:33
 :-[
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Malibu ที่ 06-06-2019 12:19:16
รอวันพี่อิสได้กินน้อง  :-[
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: Areya ที่ 29-12-2019 00:57:32
รออ่านเรื่องนี้ที่หลินปิงจะโตพอสำหรับลุงนะคะ เรื่องน่ารักมาก อ่านแล้วอบอุ่นในใจมากมายค่ะ ขอบคุณที่มีเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 07-01-2020 08:42:45
อ่านรอบที่ 3 สนุกมากๆๆๆๆๆๆ
ต่อจากบูรพาองศาเหนือ. ไกด์กับพาย. รักนี้ผีไม่เกี่ยววว อ่านไปรอบที่ 3 แล้วววว ขอบคุณคับ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [END]►รักอิสระ◄ ตอนพิเศษ : สวัสดีปีใหม่อีกแล้ว 30/12/18
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 09-01-2020 10:25:01
พี่อิสกับหลินปิงน่ารักไม่เคยเปลี่ยน