ตอนที่ 12
“มึงเป็นอะไรของมึง”
คำถามเดิม ๆ ที่แทนไทเฝ้าถามเจ้าขุนมาตลอดทั้งวันหากแต่ก็ได้คำตอบกลับมาเพียงใบหน้าที่เรียบนิ่งปราศจากรอยยิ้มก่อนจะเบือนหนีไปอย่างไม่สนใจ เจ้าขุนเป็นอะไรของมัน..
แทนไทถอนหายใจแล้วนั่งลงตรงปลายผ้านวมที่มีเจ้าขุนนอนตะแคงหันไปฝั่งตรงข้าม นึกหน่ายใจด้วยไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทเป็นบ้าอะไรไปถึงได้ทำตัวแบบนี้ ทั้งที่วันนี้เป็นวันทัศนศึกษาที่เจ้าตัวบอกว่ารอคอยมานานแท้ ๆ แต่ก็กลับทำตัวเบื่อโลกเหมือนไม่อยากมาผิดกับที่ตัวเองเคยพูดไว้เสียอย่างนั้น..
ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ชั่วโมงที่แล้วตอนที่พวกเขารอรถบัสของโรงเรียนที่จะพาไปชมเทศกาลดอกไม้ที่จังหวัดเชียงใหม่ นักเรียนมัธยมปลายปี 1 ตื่นเต้นกันมากเนื่องจากว่านี่เป็นครั้งแรกกับการทัศนศึกษาค้างคืนของพวกเขา เจ้าขุนก็เช่นกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่หมอนั่นจะได้ออกต่างจังหวัด และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่จะได้นอนเต็นท์ และนี่ก็ยังเป็นครั้งแรกที่จะได้มีเซ็กซ์กับเขาในเต็นท์.. แน่นอนว่าได้ยินแล้วแทนไทก็ตบหัวเพื่อนสนิทเกือบทิ่ม
อย่างไรก็ตามเจ้าขุนที่แทนไทรู้จักในตอนนั้นยังเต็มไปด้วยรอยยิ้มกว้าง ๆ กับเสียงหัวเราะแหลม ๆ ที่หยอกล้อเขาเล่นอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันทีที่เท้าข้างหนึ่งของเขาเหยียบย่างขึ้นบนรสบัส..
“แทนไท~” เสียงแปลกหน้าตะโกนเรียกให้แทนไทที่กำลังก้าวขึ้นรถต้องหยุดอยู่กับที่ เขาหันไปมองตามต้นเสียงพลางหรี่ตามองใครก็ตามที่เขาคิดว่าไม่รู้จักแน่ ๆ ก่อนจะหันไปสะกิดเจ้าขุนให้ช่วยดูว่าใคร หากแต่เพื่อนสนิทกลับไม่ตอบอะไรแล้วดึงแขนเขาให้รีบขึ้นรถเสียอย่างนั้น
ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ขึ้นไปแขนอีกข้างหนึ่งของเขาก็กลับถูกรั้งเอาไว้ก่อนพร้อมกับเสียงแปลกหน้าที่ขยับเข้ามาใกล้และเสียงสบถของเจ้าขุน
“เฮ้ ฉันเรียกนายอยู่นะ”
แทนไทจึงหันกลับไปมอง เขาหรี่ตามองอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่าตัวเองรู้จักชายร่างบึกบึนตรงหน้าตอนไหนจนกระทั่งอีกฝ่ายชี้ลายปักประจำชมรมบาสเกตบอลบนเสื้อของตัวเองให้ดู เขาถึงได้ร้องอ๋อ
“ไง” แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงส่งเสียงออกไปอย่างไม่แน่ใจเท่าไรนัก..
เพื่อนในชมรมของเจ้าขุนจะมาทักเขาทำไมกัน..
“ไง” คนที่แทนไทจำได้ลาง ๆ ว่าชื่อสมหวังตอบพร้อมรอยยิ้มหวานขณะที่เขายิ้มตอบกลับไปแห้ง ๆ แล้วก็แค่นั้น.. ก็เพียงแค่ยิ้มให้กันไปให้กันมาโดยไม่มีบทสนทนาใด รู้สึกอึดอัดจนทำตัวไม่ถูกจนต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิทที่ยืนหน้าตึงอยู่บนรถ แต่แม่งก็ไม่ช่วยห่าอะไรเลยนอกจากทำหน้าดุใส่
เขาจึงถอนหายใจแล้วหันหน้ากลับไปมองคนที่ยังคงยืนยิ้มหวานให้โดยไม่มีเปลี่ยนแปลง ช่วยตัวเองก็ได้วะ คิดแล้วว่า “มีอะไรรึเปล่า ต้องขึ้นรถแล้ว”
“อ๋อ.. ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากมาทักทายตอนนายเสื้อไม่เปื้อนน่ะ” สมหวังพูดติดตลกอย่างอารมณ์ดี ตรงข้ามกับเขาที่หัวเราะแห้ง ๆ เพราะไม่รู้จะตอบกลับไปอย่างไรดี..
“โอเค.. งั้นฉันขึ้นรถนะ” ..เลยยิ้มให้หนึ่งทีแล้วรีบตัดบทจบหากแต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือไว้อีกครั้ง
“เดี๋ยวสิ” แทนไทหันไปมองแล้วเลิกคิ้วข้างหนึ่งแทนประโยคคำถาม สมหวังทำท่าลุกลี้ลุกลนอยู่สักพักจนเขาจะเดินหนีอีก อีกฝ่ายถึงได้รีบพูดต่อว่า “คืนนี้มานอนกับฉันไหม”
และเพราะแทนไทที่เลิกคิ้วขึ้นทั้งสองข้างพร้อมกับตาที่เบิกโตอย่างตกใจ สมหวังถึงได้อธิบายต่อพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง “ฉันหมายถึงตรงเต็นท์ที่ฉันนอนมันใกล้ทะเลสาบ เผื่อนายอยากมานั่งเล่น.. แล้วก็ค้างกับฉันน่ะ”
แต่ถึงอย่างไรคนฟังก็ยังตาโตอยู่ดี เพิ่งรู้จักกันแท้ ๆ แต่ดันชวนนอนด้วยแล้วเนี่ยนะ แถมยังส่งยิ้มพร้อมแววตาที่แฝงอะไรบางอย่างมาให้เขาอีก ให้ตาย นี่มันเจ้าขุนในร่างโทรลล์ชัด ๆ
“ไม่ล่ะ ฉันจับคู่นอนกับไอ้ขุนไว้” พูดพลางชี้ไปที่คนด้านหลังซึ่งยังคงทำหน้าตึงไม่หาย สมหวังชะโงกหน้ามองไปตามนิ้วเล็กแล้วร้องในลำคอแผ่วเบา
“ไงขุน.. ไม่รู้ว่ามึงยืนอยู่ตรงนี้” สมหวังทักทายห้วน ๆ เช่นเดียวกันกับเจ้าขุนที่ทักทายห้วน ๆ ตอบกลับไปด้วยการยกนิ้วกลางให้ แทนไทกลอกตาหน่าย เพิ่งจะรู้ว่าเพื่อนในชมรมทักทายกันแบบนี้.. แต่ก็ช่างเถอะ
“งั้นฉันไปนะ” เขาพูดเร็ว ๆ พลางรีบก้าวขึ้นรถไว ๆ โดยแกล้งไม่สนใจคนที่อยู่ข้างล่างก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งตามเจ้าขุนที่คลายหน้าตึงไปเล็กน้อย.. หากแต่ก็เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเมื่อเขาพบว่าคนที่เขาพยายามจะหนีนั้นกลับมาปรากฏอยู่เบื้องหน้าอีกครั้ง
“พอดีรถห้อง D เต็มฉันก็เลยต้องมาอยู่คันนี้น่ะ” ช่างโชคร้ายเสียจริง.. เปล่าหรอก แทนไทหมายถึงตัวเขาเองไม่ได้หมายถึงส่วนเกินจากห้อง D ข้างหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว
เขายิ้มแห้ง ๆ แทนคำตอบรับแล้วหันไปหาเพื่อนสนิทที่กลับไปทำหน้าตึงอีกครั้งแล้วจึงเริ่มถามคำถามซ้ำซากของวันเป็นครั้งแรก
“มึงเป็นอะไรของมึง”
..จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังต้องถามคำถามนั้นอยู่..
แทนไทไม่เข้าใจ ทั้งที่ตอนแรกก็ยังร่าเริงดีอยู่แท้ ๆ แต่จู่ ๆ ก็กลับเปลี่ยนท่าทีกลายเป็นไอ้หน้าหล่อที่เขาไม่รู้จัก กลายเป็นคนที่ถามก็ไม่ตอบ.. กลายเป็นคนที่เรียกก็ไม่สนใจ.. สบตาก็ดันหลบ.. และอีกหลายร้อยการกระทำที่มันไม่เคยทำมาก่อน เขาถอนหายใจอีกครั้ง ไม่รู้จะทำอย่างไรกับไอ้เพื่อนบ้าโง่งี่เง่าแถมยังหื่นกามคนนี้ดี
“ขุน ไปอาบน้ำ” น้ำเสียงของแทนไทอ่อนลง หวังว่าเพื่อนสนิทที่กลายเป็นคนแปลกหน้านี้จะยอมพูดกับเขาบ้าง..
ไม่นานคนที่หันนอนตะแคงก็ลุกขึ้นนั่ง หยิบข้าวของเตรียมอาบน้ำก่อนจะออกจากเต็นท์ไปโดยไม่พูดไม่จาทว่าแทนไทก็ยังหลุดยิ้ม เพราะอย่างน้อยก็ยังฟังแหละนะ.. หากแต่เพียงยิ้มได้ไม่นานรอยยิ้มของเขาก็ต้องจางลงเมื่อได้ยินคำพูดจากปากเพื่อนสนิทที่นิ่งเงียบมาทั้งวัน
“ทำไมยังอยู่นี่อีก” คนฟังขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจว่าคนพูดต้องการจะสื่อถึงอะไรกัน กำลังจะเปิดปากถามออกไปแต่คนที่ทำทีว่าเก็บของอยู่ก็ตอบออกมาให้ก่อนว่า “นัดกับไอ้หวังไว้ไม่ใช่รึไง” ก่อนจะรีบหนีหน้าโดยการทิ้งตัวลงนอนตะแคงดังเดิม
เขาหลุดหัวเราะ สรุปว่าที่คุมโทนหน้าตึงทั้งวันเพราะโกรธเรื่องเขากับสมหวังงั้นเหรอ นี่เจ้าขุนเป็นเด็ก 5 ขวบหรือไงที่มาเที่ยว
หวงเพื่อนตัวเองไม่ให้ไปสนิทกับคนอื่นอะไรแบบนั้น แต่ไม่ต้องถามเขาก็คงรู้คำตอบได้จากการกระทำทั้งหมดของเจ้าตัวดี แทนไทขยับไปนั่งข้างแผ่นหลังของคนขี้งอน
“ทำไมถึงคิดว่ากูจะไปกับมัน” ถามด้วยน้ำเสียงติดขำอย่างห้ามไม่ได้ ใบหน้าหวานกลั้นยิ้มโดยอัตโนมัติเสียจนปวดแก้มไปหมด ขณะที่คนนอนอยู่เพียงแค่ไหวไหล่เบา ๆ แล้วแสร้งตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
“ก็เห็นสนิทกันดี”
เท่านั้นแทนไทก็หลุดขำอีกครั้ง เจ้าขุนมันตาฝาดไปแล้วหรือไงถึงได้เห็นว่าคนที่หนีหน้าสมหวังมาตลอดทั้งวันนั้นสนิทสนมกันน่ะ งี่เง่าสิ้นดี เขาทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ แล้วว่า “ยังไงก็ไม่สนิทเท่าคนบางคนหรอกน่า” พลางใช้ศอกเข้าทิ่มแผ่นหลังของเพื่อนสนิทแล้วว่าต่อ “เพราะงั้นหายงอนแล้วก็กลับมาคุยกันได้แล้ว”
ทว่าคนขี้งอนกลับขยับตัวออกห่างอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะใช้มือตบเบา ๆ ที่เอวของตัวเองแล้วว่า “ง้อก่อน”
แทนไทหลุดขำอีกเป็นรอบที่สาม ง้อกับผีน่ะสิ หาเรื่องชวนทำลามกเสียมากกว่าไม่ว่า แต่ทั้งที่รู้แบบนั้นเขาก็ยังจะกวาดแขนข้างหนึ่งไปเกาะเอวคนขี้งอนตรงหน้าก่อนจะว่า “หายงอนยัง”
“ยัง” ตอบกลับทันควันโดยไม่คิดก่อนจะดึงมือเล็กที่เกาะเอวตัวเองแค่เพียงผิวเผินให้กระชับแน่นจนเจ้าของร่างปลิวมาชนกับแผ่นหลัง
เขายู่หน้าน้อย ๆ อย่างนึกอึดอัดพลางพยายามขยับให้หายใจได้สะดวกแต่เพราะมือหนาที่ล็อกข้อมือเขาไว้แน่นจึงทำอะไรไม่ได้ เลยต้องยอมเลยตามเลยให้คนขี้งอนโดยใช้มืออีกข้างสอดเข้าใต้ร่างก่อนที่จะใช้มือทั้งสองข้างของเขากอดกระชับตัวเองให้แน่นขึ้นไปอีก
“หายงอนยัง” เสียงหวานถามเสียงอู้อี้โดยที่หน้านั้นจำต้องแนบไปกับแผ่นหลังกว้าง ใกล้ขนาดนี้ แนบขนาดนี้ ได้กำไรขนาดนี้ ถ้าเจ้าขุนยังไม่หายโกรธเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วนะ ทว่าคนขี้งอนก็ยังตอบอยู่แต่คำเดิม..
“ยัง” ก่อนจะเลื่อนมือเล็กให้ต่ำลงมาจากเอวเล็กน้อยแล้วไปสัมผัสที่บางส่วนก่อนจะว่าต่อ “ขุนศึกยังงอนอยู่”
“พ่อง!” แทนไทสบถเสียงดังพลางกระตุกมือจนตัวเกร็งเมื่อมือถูกเลื่อนไปจับอะไรเข้า เจ้าขุนมันก็คือเจ้าขุนจริง ๆ ทำไมถึงเที่ยว
หาเรื่องทำลามกได้ไม่เว้นแต่ละวินาทีนะ!
“ปล่อยนะ!” เขาร้องพลางดิ้นพล่านให้หลุดจากมือแกร่ง หากแต่ดิ้นไปก็เท่านั้นเพราะอย่างไรอีกคนก็แรงเยอะกว่าเลยจำต้องทนให้มือปัดป่ายอยู่กับขุนศึกที่มีเพียงผ้าตัวบางกั้น
“ได้ไง ยังไม่หายงอนเลย” พูดพลางดึงมือของแทนไทเข้าไปใต้กางเกงชั้นในที่มีขุนศึกรอทักทายอยู่ งอนที่ไหน นี่มันแข็งชัด ๆ ! ..เขาบ่นกับตัวเองในใจเมื่อต้องสะดุ้งเฮือกที่ปลายนิ้วโดนเข้ากับส่วนหัวที่ร้อนฉ่า ฉับพลันความร้อนจากส่วนที่สัมผัสก็วิ่งผ่านปลายนิ้วเข้าสู่ร่างกายจนเขาร้อนรุ่มไปทั้งตัว ทำเอาแทนไทต้องซุกหน้ากับแผ่นหลังแน่นพลางเกร็งตัวทุกทีที่สัมผัส
“..ไม่ต้องเกร็ง..” เจ้าขุนกระซิบ ทั้งที่ตัวเองควรจะเป็นฝ่ายต้องเกร็งลุ้นกับมือนุ่มนิ่มแท้ ๆ แต่กลับต้องมาคอยปลอบเพื่อนสนิทที่สั่นไปด้วยความประหม่าอยู่เสียแบบนี้
นิ้วเรียวลูบหลังมือเล็กอย่างปลอบโยนพลางป้อนคำพูดปลอบใจไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าของร่างก็ยังกระตุกเกร็งทุกครั้งที่ฝ่ามือพาดผ่านขุนศึกเต็มตัวขณะที่เจ้าขุนสูดปากอย่างชอบใจพลางดึงมือเล็กให้สัมผัสตัวตนของเขาเต็มมือมากขึ้นไปอีก แรกเริ่มแทนไทก็ขืนดื้อดึงไม่ยอมแตะจนเขาต้องกอบกุมมือเล็กให้จับขุนศึกของเขาไว้อีกทีจากนั้นเพื่อนคนเก่งถึงได้จำยอมสัมผัสมันอย่างห้ามไม่ได้ ..ก่อนจะที่ในที่สุดจะได้เริ่มภารกิจง้อคุณขุนศึกอย่างแท้จริง
ฝ่ามือเล็กถูกจับให้ขยับขึ้นขยับลงตามจังหวะที่เจ้าขุนเป็นคนชักจูงพาให้สัมผัสขุนศึกจนครบทุกซอกส่วนจนเจ้าตัวนั้นครางฮึมในลำคออย่างพอใจ และยิ่งเมื่อนิ้วเล็กเผลอปัดป่ายโดนส่วนหัวเขาก็ยิ่งร้องฮึมก้องพลางขยับมือให้เร็วอีก สัมผัสนุ่มนิ่มที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อตามนิ้วมือทำให้เขาแทบคลั่งจนเขาต้องละจากมือเล็กออกแล้วไปสัมผัสเจ้าของร่างแทน
“..อ..อื้อ..” เสียงหวานครางอู้อี้เมื่อมือของเจ้าขุนเอื้อมมาแปะอยู่ที่ต้นขาของเขาก่อนจะค่อยบีบเค้นไล่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงคุณซาลาเปา ร้อนถึงมือที่สาวทำหน้าที่อยู่ต้องรีบกลับมาตะปบเจ้ามือปลาหมึกก่อนที่จะทำอะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่นี้ แต่ก็เพียงเท่านั้นในเมื่ออีกฝ่ายมีแรงมากกว่าแล้วเขาจะไปสู้อะไรได้ เขาครางแผ่วอีกครั้งเมื่อฝ่ามือหนานวดคลึงก้อนเนื้อเด้งสู้มือก่อนจะสะดุ้งเฮือกทันทีที่มือนั้นสอดเข้าไปใต้ผ้าตัวบาง
“หยุดเลยนะ” แทนไทขู่เสียงแผ่วพลางเงยหน้าขึ้นค้อนใบหน้าหล่อที่หันมายิ้มแป้นอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ชวนให้ฟาดมือลงไปที่แผ่นหลังนั้นอย่างเต็มแรง แต่กระนั้นแล้วเจ้าขุนก็ยังวาดรอยยิ้มที่มีแต่ชวนใจสั่นให้จนต้องเบือนหน้าหนี
“ไม่ได้ใส่กางเกงในหรือ” ถามพลางลูบไล้คุณซาลาเปาใต้ผ้าอย่างเพลินมือ ขณะที่คนถูกถามได้แต่หันไปมองไปทางอื่น ไม่รู้ว่าจู่ ๆ ทำไมถึงนึกเขินคำตอบของตัวเองขึ้นมา
“ก..ก็..จะนอนแล้วไง! แล้วก็เอามือของมึงออกไปด้วย!” ตอบเสียงดังกลบเกลือนความรู้สึกบางอย่างที่พร้อมจะปะทุขึ้นมาก่อนจะดึงเอามือที่ล้วงเข้าใต้กางเกงนอนของเขาออก หากแต่ดึงยังไงก็ไม่ขึ้นสมกับเป็นมือหนวดปลาหมึกขุนจนเขาได้แต่ถอนหายใจเสียงดัง “บอกให้เอามือออกไปไง!!”
“..ชู่ว.. เสียงเบา ๆ สิ ..อยากให้เต็นท์อื่นเขารู้รึไงว่าเราทำอะไรกันอยู่..” ไม่ยกนิ้วขึ้นมาแนบปากเปล่าแต่ยังแกล้งบีบคุณซาลาเปาแรง ๆ ให้เขาร้องเล่นด้วย
“อื้อ.. อย่า..” ไม่รู้ว่าที่เสียงหวานผะแผ่วลงเพราะว่ากลัวใครจะมาได้ยินหรือว่าหลงเคลิ้มไปกับสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นกันแน่ และยิ่งถูกนิ้วเรียวลูบบางเบาที่หว่างกลางก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอ่อนระทวยจนแทบไม่เหลือแรงหลงเหลือให้ปัดมือปลาหมึกนี้ออกเลย มีแต่จิกเกร็งที่ข้อมือหนาไปด้วยความเสียวซ่านพร้อมกับเสียงที่ครางแผ่ว
“พูดว่าอะไรนะ ไม่ได้ยินเลย..” คนหูไม่ดีหันพลิกข้างมาอีกฝั่งก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานที่หยาดเยิ้มไปด้วยอารมณ์พลางใช้นิ้วลูบที่หว่างกลางคุณซาลาเปาไม่ห่าง คนถูกถามกัดปากแน่น ทั้งที่ปากอยากบอกออกไปว่าไม่ให้ทำแต่ใจกลับเรียกร้องให้นิ้วของเพื่อนสนิทเข้ามาสักที จนสุดท้ายปากก็แพ้ทางให้กับร่างกายที่โหมกระหน่ำไปด้วยความต้องการที่หยุดไม่อยู่ จึงใช้มือสอดเข้าใต้ขาข้างหนึ่งของตัวเองก่อนจะยกมันขึ้นมา
“ทำเบา ๆ ล่ะ.. เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” คำพูดน่าอายชวนให้เขาต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ยิ่งถูกมองกลับมาด้วยสายตาที่พึงพอใจของเพื่อนสนิทแล้วก็ยิ่งชวนให้อยากจมหน้าไปกับพื้นให้รู้แล้วรู้รอด และเจ้าขุนก็คงรู้ดีว่าแทนไทคิดอย่างไรถึงได้ไม่มัวแต่มองอยู่ให้เขินเล่นแล้วรีบทำให้ดังใจต้องการ
“..อ..อื้อ...อื้ม..” เสียงหวานครางแผ่วเมื่อนิ้วที่สามของเจ้าขุนเข้าไปได้ แม้จะดูรวดเร็วนักแต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะร่างกายที่เริ่มจะเคยชินกับกิจลามกนี้หรือเป็นเพราะเจ้าของนิ้วที่ขยับอย่างช่ำชองเขาก็ไม่ใจนัก รู้เพียงแต่ความต้องการนั้นเพิ่มสูงขึ้นมากเสียจะทนไม่ไหวจึงต้องกดสะโพกลงกับนิ้วเรียวซ้ำแล้วซ้ำเล่าพลางหลุดปากร้องขอออกไปอย่างไม่ตั้งใจว่า
“...ใส่.. ใส่เข้ามาเลยได้ไหม..”
ริมฝีปากหยักเหยียดยิ้ม เจ้าขุนชอบเวลาเพื่อนสนิทของเขาอ้อนด้วยดวงตาปรือปรอยเหลือเกิน เพราะมองแล้วมันเย้ายวนใจจนอยากจะฟัดให้ต้องช้ำคาปากเสียทุกครั้ง เช่นนั้นแล้วเขาจึงโน้มใบหน้าลงไปก่อนจะจุมพิตปากช่างอ้อนอย่างดูดดื่มเสียจนเสียงหวานต้องร้องครางอือในลำคอ เท่านั้นก็ผละออกมาก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับดึงกางเกงลงพอให้ขุนศึกที่อึดอัดอยู่ใต้ผ้าได้ออกมารับลมบ้าง ขณะที่แทนไทก็รู้หน้าที่ของตัวเองดีจึงได้คว่ำร่างไปกับฟูกนอนพลางยกสะโพกตัวเองขึ้นสูง ขุนศึกพร้อม คุณซาลาเปาพร้อม ทุกอย่างเหมาะเจาะพร้อมที่เดินทางต่อจนกระทั่ง..
“แทนนนนนน” ขุนศึกเลี้ยวหลุดพรวดจากคุณซาลาเปาไปเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงแปลกหน้าดังขึ้นมานอกเต็นท์ พวกเขาจิ๊ปากพร้อมกันอย่างขัดใจ ใครมันกล้ามาขัดจังหวะตอนจะเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้กัน!?
ไม่ต้องรอให้ต้องเอ่ยปากถามเสียงแปลกหน้าก็ดังขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะคลายคำถามที่ค้างคา “ฉันมารับนายไปนั่งเล่นแล้ว~” ก็สมหวังไงจะใครล่ะ
แทนไทกลอกตาอย่างหน่ายใจ ไม่เข้าใจว่าคำว่าไม่ที่เขาบอกสมหวังไปมันเข้าหูท้วม ๆ นั่นบ้างไหม ..ซึ่งก็คงไม่ แหงล่ะ เขาถอนหายใจพลางคิดจะเอ่ยปฏิเสธไปอีกครั้ง ทว่าคำพูดเหล่านั้นก็ต้องกลืนหายไปเมื่อจู่ ๆ เจ้าขุนก็กดขุนศึกเข้ามาจนสุด
แม้จะไม่ได้เจ็บอะไรมากแต่เพราะไม่ทันได้เตรียมใจก็ทำเอาอึดอัดไม่ใช่เล่นเหมือนกัน เขาหันไปทำตาเขียวใส่คนที่ทำหน้านิ่งแสร้งไม่รู้เรื่องอะไรก่อนจะต้องยกนิ้วกลางใส่มันสักทีแทนคำด่าแต่ก็กลายเป็นว่าโดนอีกคนกระแทกขุนศึกเข้ามาเฉย
“โทษที นึกว่าขอ” กระซิบบอกอย่างไม่ใส่ใจให้กับคนที่จมหน้าครางแผ่วไปกับหมอนก่อนจะเริ่มทำสิ่งที่เพิ่งจะขอโทษไปเสียใหม่ด้วยแรงที่หนักหน่วงมากกว่าเดิม
“..บ..เบาหน่อย.. เดี๋ยวมัน..ได้ยิน..” แทนไทบอกไปอย่างยากลำบากเมื่อต้องคุมร่างกายที่กำลังสั่นคลอนเพราะแรงกระแทกที่เข้ามา อีกทั้งยังต้องกลั้นเสียงให้เบาที่สุดเพราะกลัวว่าคนด้านนอกจะได้ยินอีก แต่กระนั้นคนฟังก็ยังทำหูทวนลมไม่ได้ยินแล้วสวนขุนศึกเข้ามาอย่างไม่ใส่ใจพลางตอบกลับมาน่ายียวน
“ก็ครางให้มันเบา ๆ สิ” คำตอบชวนให้อยากต่อยปากแตกแต่ก็ทำได้เพียงแต่นึกเพราะในความจริงแล้วคนที่ปากแตกนั้นอาจจะเป็นเขาที่กำลังกัดปากตัวเองแน่นจนรู้สึกถึงรสเลือดจาง ๆ ในปากนี้เสียมากกว่า
“แทนไท~ นายอยู่ไหม” เสียงด้านนอกยังคงดังขึ้นพร้อมกับเสียงสาวเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้ แทนไทเกร็งตัวแน่นไปทั้งตัวเพราะความกลัวจนเจ้าขุนรับรู้ได้ผ่านคุณซาลาเปาที่บีบรัดเขาแน่นเสียจนอดที่จะสูดปากไม่ได้
“..แน่นเกินไปแล้วนะแทน..” กระซิบแผ่วพลางตีเข้าที่เนื้อแน่นอย่างหมั่นเขี้ยว แทนไทเกร็งตัวมากกว่าเดิม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าถูกกระตุ้นจากฝ่ามือหนานั่นหรือเป็นเพราะกลัวว่าคนข้างนอกจะได้ยินเสียงฟาดเนื้อนี้กันแน่.. แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเขาก็ยังแอ่นสะโพกรับแรงกระแทกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งเจ้าขุนกดสะโพกลงลึกมากเท่าไรเขาก็ยิ่งยกขึ้นรับมากเท่านั้น เขาโหยหาเจ้าขุนพอ ๆ กับที่เจ้าขุนโหยหาเขา แทบบ้าคลั่งเสียจนทนไม่ไหว อย่างไรก็ช่าง.. ถ้าสมหวังอยากจะดูหนังสดนี้นักก็เข้ามาเลย..
แต่ฉับพลันที่แทนไทเผลอปล่อยเสียงร้องน่าอายไปอย่างไม่อาจอัดอั้นก็มีเสียงที่ดังกว่าเข้ามาแทรกแซง พร้อมกับเสียงก้าวเท้าที่หยุดลงอยู่ใกล้หน้าประตูเต็นท์ของพวกเขา..
“สมหวัง! ดึกดื่นป่านนี้แล้วทำไมยังออกมาเพ่นพ่านอยู่ที่นี่อีก!”
..เป็นครูเฉลียวจอมโหดประจำชั้นของเจ้าขุนนี่เอง..
หลังจากนั้นก็เกิดเสียงเอะอะของอาจารย์และนักเรียนต่างห้องต่อมาอีกเพียง 2 – 3 ประโยคก่อนที่ทุกอย่างจะกลับไปเงียบสงบตามเดิมอย่างที่ควรจะเป็น แทนไทพรูลมหายใจอย่างโล่งอกเมื่อสิ่งวุ่นวายได้กลับไปอยู่ยังที่ของตนเสียทีก่อนจะเผลอหันไปสบตากับสายตาคมที่จ้องมองเขาอยู่อย่างยากจะเข้าใจ ก่อนที่ดวงตาคู่นั้นจะขยับเข้ามาใกล้พร้อมกับริมฝีปากที่แนบลงปิดกับของเขาอย่างเร่าร้อนชวนให้พายุอารมณ์ที่สงบไปแล้วกลับมากระหน่ำอีกก่อนจะผละออกไปเพียงแค่คืบ
“อย่าคิดนะว่าจะจบลงแค่นี้” คนผละจูบกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังซึ่งหาฟังได้ยากจากมนุษย์เจ้าขุน หากแต่สำหรับมนุษย์แทนไทแล้วเขาก็เข้าใจดี
เขาแสร้งบึนปากอย่างไม่พอใจเท่าไรก่อนจะพลิกตัวให้หันมานอนหงายเพื่อจะได้คุยกับคนขี้งอนตรงหน้าได้ง่ายขึ้นพลางอ้าขาทั้งสองข้างออก
“ให้ง้ออีกแค่รอบเดียวเท่านั้นนะ” พูดไปอย่างนั้นทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าอย่างไรตัวเองก็ไม่สามารถจบลงด้วยคำว่า ‘รอบเดียว’ ได้หรอก
..พูดเลยว่าคืนนี้ไม่ได้นอน..
TBC
ก้าวขึ้นอีกขั้นสำหรับเพื่อนเล่น คราวนี้มีเพียงเต็นท์ผ้ากั้นเท่านั้น..
ตอนแรกว่าจะเขียนแบบมีคนนอนอยู่ด้วยแต่ก็คงจะแอดวานซ์ไป
เลยดรอปลงมาให้เหลือแค่งอนกันผ่านเต็นท์ผ้าก็พอ 555
แงงง ยังไงก็รอดูต่อไปนะคะว่าเพื่อนสนิทสองคนนี้จะเล่นอะไรต่อ > <