Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]  (อ่าน 54996 ครั้ง)

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
พ่อตาเซนท์ดีเว่อร์

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ทั้งพ่อ ทั้งน้อง ไวมาก จับได้ทันที
พ่อ หวงเดือนสิบแบบไม่ออกอาการ
ให้พี่ยุทธ นอนคนเดียวซะเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 คุณพ่อน้องสิบอย่าโหดกับว่าที่ลูกเขยมากนะ :hao3:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พ่อตาจัดหนักๆ ให้พี่ยุทธซักทีสองทีซิ ข้อหาไม่มาบอกกล่าวขอกันก่อนก็ได้น้องไปซะแล้ว

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุณพ่อตาอย่าโหดกับพี่ยุทธมากนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ weedear

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-4
น่าร้าคคคคคค

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ TheP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 45
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อิพี่โดนมองแรงซะแล้วว เดือนสิบน่ารักกก

ออฟไลน์ Sky

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 933
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-2
บ้านนี้นี่เซนส์แรงกันหมดเลยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
หุ้ยอ่านตามทันแล้วสนุกดีชอบมาก

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
สงสัยงานนี้จะโดนพ่อตาแกล้ง(,,,,

ออฟไลน์ PYonG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
งานหนักแล้วพี่ยุทธ เจอพ่อตาหมายหัว
 สู้ๆนะ o13 o13

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
โอ้ยย หวานเว่อออ หมันไส้
พี่ยุทธก็ดีย์มาก เดือนสิบก็น่ารักกกก

ออฟไลน์ monkey_saru

  • ทำไมหัวใจถึงเอียงซ้าย...*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 o13 o13 o13

เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย น่ารักมากกกก  อ่านวันเดียวตามให้ทันเลย ฮ่าๆ

พี่ยุทธ์รุกแรงมาก น้องตั้งตัวไม่ทัน
ตอนฉากโคมไฟครั้งแรก รู้สึกว่าน้องกลัวจริงๆ แต่พี่ปลอบน้องให้น้องรู้สึกว่าเชื่อใจพี่ได้จริงๆนะ โอยยย  :heaven

ตอนนี้เอาใจช่วยพี่แกให้รอดพ้นคุณพ่อตาไปด้วยดีแล้วกัน โดนจ้องขนาดนี้ 55555

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
สู้ๆ พี่ยุทธ เอาใจพ่อตาเข้าไว้  :laugh:

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1043
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
คนแต่งหายไปไหนคะ จะครบเดือนแล้วน้าาา คิดถึงพี่ยุทธกับเดือนสิบบบ

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

19


“สิบบบบบบ หิววววว”

“เออๆ ใกล้เสร็จแล้วรอแปปนึง”



เดือนสิบตะโกนตอบกลับน้องชายที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่บนโซฟาข้างๆกับร่างสูงของคนเป็นพี่ที่กำลังดูสารคดีอะไรซักอย่าง ออกจากห้องน้ำมาได้เดือนอ้ายก็เอาแต่ร้องเย้วๆ เรียกหาของกินไม่หยุด พอบอกจะทอดไข่เจียวง่ายๆ ให้กินก่อนดันบอกไม่เอาจะรอ ร่างเล็กได้แต่โคลงหัวไปมาอย่างเอือมๆ เมื่อเจ้าน้องชายยังส่งเสียงตะแง่วๆ มาไม่หยุด กระทั่งกับข้าวเสร็จหมดทุกอย่าง เขาถึงได้เรียกให้อีกสองคนมาช่วยกันจัดโต๊ะ



“เอ้า หิวนักก็กินเข้าไปเยอะๆเลยนะ” เขาผลักหัวกลมๆของน้องชายไม่แรงนัก เจ้าตัวเลยเงยหน้าขึ้นมาค้อนใส่

“กับน้องกับนุ่งนี่รุนแรงตลอด” เดือนอ้ายทำปากขมุบขมิบบ่นให้พี่ชาย ก่อนจะเริ่มตักข้าวส่งให้คนอื่นๆ ส่วนอีกคนที่นั่งว่างๆ อยู่ก็รับหน้าที่รินน้ำใส่แก้ว

“โคตรคิดถึงกับข้าวฝีมือสิบเลยอ่ะ”

 “แล้วอยู่หอไม่ได้ทำกับข้าวกินเองหรือไง” คนฟังไหวไหล่

“ขี้เกียจอ่ะ อีกอย่างไปช่วยงานจารย์โป้กว่าจะกลับก็ค่ำล่ะ”

“ตกลงเรียนต่อที่นี่เหมือนเดิมใช่ไหม” เมื่อเดือนที่แล้วเดือนอ้ายโทรไปหาเขาบอกว่าจะเรียน ปวส อยู่ที่เดิม เขาไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่ถามย้ำก็แค่อยากรู้ว่าน้องมั่นใจแล้วจริงๆ

“คงงั้นแหละ หัวไม่ดีไม่อยากไปไกลอ่ะ กลัวไม่จบ” เดือนอ้ายว่าติดตลก แต่เขารู้ดีว่าอีกเหตุผลหลักที่น้องไม่อยากไปไกลก็เพราะว่าอยากอยู่ดูแลพ่อกับแม่

“ว่าไปนั่น เกรดก็ไม่เคยต่ำกว่าสามไม่ใช่หรือไง” จริงๆมันก็หัวดีไม่ได้ต่างจากเขาหรอก เพียงแต่เจ้าตัวขี้เกียจเรียนทฤษฎีและเน้นเอาแต่ปฏิบัติมากกว่า

“โชคช่วยไง”

“เฮอะ! แล้วพ่อกับแม่ว่าไงมั่ง”

“สิบก็รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องเรียนพ่อกับแม่ไม่ขัดหรอก มีแต่กลัวว่าอ้ายจะมีเรื่องจนไม่ได้เรียนต่อนั่นแหละ”

“นี่ยังไม่เลิกมีเรื่องอีกหรือไง?” เดือนสิบขมวดคิ้ว จ้องหน้าน้องชายที่รีบหลบตาวูบราวกับกำลังหนีความผิด



เดือนอ้ายเป็นคนหัวรั้น แถมยังอารมณ์ร้อนกว่าเขามาก แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยยอมลงให้ใครถ้าคนพวกนั้นไม่ใช่คนในครอบครัว และเพราะไอ้นิสัยไม่ยอมคนที่ขัดกับหน้าหวานๆของเจ้าตัวนี่แหละมันถึงได้เป็นปัญหา เข้าโรงเรียนช่างไปเจอไอ้พวกหัวโจกมันแซวเข้าหน่อยก็ของขึ้นจนมีเรื่องมีราวกับเขาไปทั่ว เห็นตัวเล็กๆแบบนี้มันกลัวใครที่ไหน เห็นว่าตัวเองเป็นมวยเข้าหน่อยนี่ท้าเขาตีเขาต่อยไม่ยั้ง จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่อริมันมาหาเรื่องเขาจนถึงขั้นเข้าโรงบาลนั่นแหละเจ้าตัวถึงได้เริ่มเพลาๆลงมาบ้าง นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเด็กกิจกรรมแถมยังชอบวิ่งช่วยงานอาจารย์ในสาขาจนเขาเอ็นดูนะ โดนไล่ออกตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้ว



“ก็ไม่ได้มีบ่อยแล้วไง นี่ถ้าพวกมันไม่มาหาเรื่องก่อนอ้ายก็ไม่อยากมีหรอกเรื่องอ่ะ” เจ้าตัวเถียง ซ้ำยังกอดอกทำหน้าทำตาจริงจังใส่เขาอีกด้วย

“เลี่ยงได้มันก็ดี ยิ่งขึ้น ปวส ยิ่งต้องระวังตัวรู้ป่าว ยิ่งพวกไอ้อู๊ดไฟฟ้าอ่ะตัวอันตรายเลย ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกมันรู้ไหม”



ไอ้อู๊ดมันเป็นนักศึกษารุ่นเดียวกับเขา ถ้าเทียบกันก็เท่ากับว่ามันกำลังจะขึ้น ปวส2 ซึ่งเป็นพี่โตสุดในวิท’ลัย ไอ้อู้ดมันเป็นประธานสาขา ข่าวในทางไม่ดีก็มีไม่น้อย ทั้งเรื่องชกต่อยทั้งเรื่องยา ถ้าไม่ติดว่าพ่อมันเป็นตำรวจใหญ่คงโดนซิวไปนานแล้ว แถมมันยังเรียนสาขาไฟฟ้ากำลังที่เป็นศัตรูคู่แค้นกับพวกเด็กช่างกลอีกต่างหาก แล้วน้องชายเขามันเป็นพวกยอมใครที่ไหน ถึงจะเพื่อนเยอะยังไงก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี



“รู้น่า บ่นมาตั้งหลายปีแล้วยังไม่เบื่ออีกรึไง สิบขี่บ่น เนอะพี่ยุทธเนอะ” ว่าแล้วก็พยักพเยิดหาพักพวก

คนที่อยู่ดีๆก็ถูกลากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบทสนทนาเลยได้แต่พยักหน้ารับยิ้มๆ เดือนสิบมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ กับคนที่ขึ้นชื่อว่าสำคัญแล้วจะคิดโน่นคิดนี่เยอะไปหมด จะต่างก็แค่วิธีการแสดงออกก็เท่านั้น

“ที่บ่นก็เพราะเป็นห่วงไง ถ้าเป็นคนอื่นจะมานั่งบ่นแบบนี้หรอ ทำไม? หรือเดี๋ยวนี้เป็นห่วงไม่ได้?”

เดือนอ้ายถึงกับร้องอื้อหือเมื่อเห็นว่าพี่ชายเริ่มหน้าตึง

“อื้อหือ.. ตรวจพบคนน้อยใจหนึ่งอัตรา ว่าแต่จะง้อยังไงดีน้า” แต่แทนที่จะสำนึกกลับยิ่งทำเป็นลอยตา ซ้ำยังมีร่างสูงอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆกันหัวเราะหึๆเป็นลูกคู่อีกต่างหาก



ทีงี้ล่ะเข้ากันดีจังนะ



“พูดมากไม่ต้องกินต่อแล้วมั้งข้าวเนี่ย” ว่าแล้วก็กอดอกฉับ ชักเริ่มเคืองขึ้นมาตงิดๆ

“ได้ไงอ่ะ หูยย พี่ยุทธดูดิ คนอะไรไม่รู้ขี้น้อยใจชะมัด ขี้น้อยใจแบบนี้ระวังแฟนไม่รักนา” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคัก แววตาพราวระยับราวกับกำลังสนุกนักหนา จนสุดท้ายก็เป็นเดือนสิบเองนั่นแหละที่ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความกวนประสาทของน้องชาย

“พอเลยๆ ไหนบอกว่าหิวนักหิวหนาไง รีบๆกินเข้าไปเลย”

“แน่ะ! ไม่ปฏิเสธด้วยว่าไม่มีแฟน งี้ก็แสดงว่าสิบมีแฟนแล้วอ่ะดิ ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟังเลย” เดือนอ้ายยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่อยากเล่าไง”

“หูยไรวะ ที่อ้ายคบกับใครยังเล่าให้สิบฟังหมดเลยอ่ะ แบบนี้มันโกงกันนี่หว่า” เจ้าตัวว่าแล้วก็กอดอกฉับ กระแทกหลังพิงลงไปกับพนักเก้าอี้พลางส่งเสียงเหอะขึ้นจมูกใส่เขาอีกต่างหาก

“ช่วยไม่ได้ดิ ไม่ได้ขอให้เล่าซักหน่อย” คนพี่ก็ใช่ว่าจะง้อ ได้ทีตัวเองบ้างก็ลอยหน้าลอยตากลับใส่คนเป็นน้องซะอย่างนั้น

“โห่ สิบอ่ะ ได้… จำไว้เลยนะ” เดือนอ้ายมองหน้าพี่ชายอย่างเคืองๆก่อนจะตักข้าวคำโตใส่ปาก แถมยังเคี้ยวตุ้ยๆราวกับมันเป็นที่ระบายอารมณ์ชั้นดีอีกต่างหาก




“เป็นไงบ้างครับ” หัวเราะเยาะน้องชายอย่างผู้ชนะจนมันชักดิ้นชักงอแล้วถึงได้หันมาเอ่ยถามคนเป็นพี่ที่เอาแต่นั่งยิ้มฟังเขากับน้องเถียงกันอยู่เงียบๆ ไม่รู้ว่าพี่จะนอยด์รึเปล่าที่เขาเอาแต่คุยกับน้องชายจนไม่ค่อยได้สนใจเท่าที่ควร

 “อร่อยมาก สิบทำอะไรพี่ก็ว่าอร่อยหมดนั่นแหละ” เดือนสิบหัวเราะออกมาเบาๆกับถ้อยคำช่างพูดของคนเป็นพี่ จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกันมาพี่ยุทธก็ยังไม่เคยว่าหรือติติงอะไรเขาซักครั้ง อาจมีบ้างที่ดุนิดๆหน่อยๆเวลาเขาเล่นเกมกับไอ้ปืนเพลินจนบางทีก็เลยเวลา แถมยังเอาใจเก่งจนเขาจะกลายเป็นเด็กติดสปอยล์อยู่แล้ว






หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเขาทั้งสามคนก็พากันมานั่งกองอยู่หน้าทีวี ดูรายการนั่นนี่ไปเรื่อยจนกระทั้งเกือบๆ สี่ทุ่มเดือนอ้ายก็เริ่มตาปรืออ้าปากหาวหวอด เดือนสิบเลยไล่น้องชายไปนอน เข้าใจว่าเจ้าตัวคงเพลียจากที่ไปช่วยขับรถให้ลุงมาทั้งวัน แต่ไอ้คนที่ตาจะปิดไม่ปิดแหล่กลับงอแงเป็นเด็กๆจะให้เขาไปนอนด้วยกันเดี๋ยวนั้นให้ได้ เดือนสิบมองน้องชายอย่างอ่อนใจ ลูบผมนุ่มที่เอนลงมาซบไหล่อย่างอ้อนๆ นั่น ก่อนจะหันมามองคนเป็นพี่ก็เห็นว่าตาเริ่มปรือแล้วเหมือนกัน คงเพราะเหนื่อยจากการขับรถ


“ขึ้นไปนอนเลยไหมครับ ดึกป่านนี้แล้วพ่อกับแม่คงไม่กลับ”

“ยังไม่ถึงสี่ทุ่มเลยนะ”

“แถวนี้แค่สามทุ่มก็เข้านอนกันหมดแล้วครับ”

“งั้นขึ้นนอนเลยก็ได้ แต่สิบจะไม่มานอนกับพี่จริงๆ น่ะหรอ” เดือนสิบถึงกับตาโตเมื่อได้ยินคนเป็นพี่ออดอ้อน แต่พอหันกลับไปมองน้องชายที่กำลังหายใจเข้าออกสม่ำเสมอถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมา

“โตแล้วอย่างอแงสิครับ ไม่ได้ดูน่ารักเลยนะ”

“ร้าย” มือหนาบีบปลายจมูกเขาเบาๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะฉกวูบลงหอมแก้มเขาฟอดใหญ่แล้วรีบผละออก เดือนสิบได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าคนเป็นพี่จะกล้าทำแบบนี้

“ไปครับขึ้นนอนกัน” ร่างสูงว่า ตาคมพราวระยับดูมีความสุขจนน่าหมั่นไส้ อยากจะด่าก็ด่าไม่ออกเลยได้แต่ค้อนใส่อย่างเคืองๆ ก่อนจะหันมาปลุกน้องชายให้ลุกขึ้นไปนอนดีๆ ซึ่งครั้งนี้เดือนอ้ายยอมทำตามอย่างง่ายดาย คงเพราะง่วงมากแล้วจริงๆ แต่ดินสะโหลสะเหล่ขึ้นบันไดไปได้แค่สามขั้นก็หันกลับมากวักมือเรียกคนเป็นพี่ชายให้เดินตาม เดือนสิบเห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำ หันมามองหน้าคนเป็นพี่ก็เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าเซ็งๆ

“ไปครับ ขึ้นนอนกัน” ว่าจบก็ตบไหล่หนาปุๆ แล้วรีบเดินแกมวิ่งตามหลังน้องชายขึ้นบันได้ไป กลัวว่าถ้าอยู่นานกว่านี้คงได้ถูกอีกฝ่ายจับทำโทษที่บังอาจไปหัวเราะเยาะเจ้าตัวเข้า แต่หน้าของพี่ยุทธตอนที่มองเขาสลับกับเดือนอ้ายมันดูตลกมากจริงๆ นี่นา


“แสบจริงนะคนบ้านนี้”

คนถูกทิ้งได้แต่บ่นงึมงำกับตัวเอง ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินเสียงคนเป็นน้องเรียกบอกให้ขึ้นไปนอนได้แล้วเพราะเจ้าตัวจะปิดไฟ







20%






กลับมาแล้วววว มาสั้นด้วย // ตบบบ
ฮาร์ดดิสพังค่ะ ข้อมูลหายเกลี้ยงเลย ฮืออออ อย่าว่าเค้าา
ไม่รู้ว่าทุกคนลืมไปหมดหรือยัง แต่ใครที่ยังรออยู่ก็ขอขอบคุณมากๆ นะคะ ต่อไปนี้คาดว่าจะได้มาต่อเรื่อยๆ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่เวลาว่างเลย เพราะเราต้องทำงานไปด้วย รื้อพล็อตใหม่ด้วย ฮ่อลลล
 :L2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-06-2017 20:38:07 โดย เล็กต้มยำ »

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
มาต่อเร็วๆน้า

ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ดีใจมากค่ะที่มาต่อ

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
นึกว่าจะเท ดีใจมากมาย

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เดือนอ้าย แกล้งพี่ยุทธหรือเปล่า

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ crazydoii

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ เล็กต้มยำ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ตอนที่ 19 ครบ



ปึก! ปึก!


เดือนสิบยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงดี เมื่อเห็นว่าต้นเสียงที่ดังปึงๆ ลั่นไปถึงในครัวจนต้องออกมาดูคือคนตัวสูงที่กำลังตอกตะปูลงบนกิ่งต้นกัลปพฤกษ์อยู่บนบันไดอลูมิเนียมทรงเอ โดยมีน้องขายของเขาเป็นคนจับตัวบันไดให้มันนิ่งๆ อยู่ด้านล่าง เยื้องไปอีกหน่อยจะเห็นคนอายุมากสุดกำลังชื่นชมกล้วยไม้และไม้ดอกนานาพันธุ์ที่วางกระจายอยู่บนพื้นข้างรถของคนที่ปีนอยู่บนบันได ท่าทางถูกอกถูกใจแบบไม่เหลือมาดทำเอาคนมองอย่างลูกชายคนโตถึงกับส่ายหัว


“ทำอะไรกันน่ะพ่อ” เดือนสิบเดินเข้าไปใกล้ เสียงของเขาทำให้ทั้งสามคนหันมามอง


“มาพอดีเลยเอ็ง ช่วยเอานี่ไปแขวนไว้ตรงนั้นให้พ่อที” คนเป็นพ่อไม่ได้ตอบคำถามแต่ยื่นของในมือมาให้เขา เดือนสิบรับเอาเอื้องเขากวางอ่อนที่ถูกพันติดกับท่อนไม้จากคนเป็นพ่อมาถือไว้ ตากลมมองกล้วยไม้หลากพันธุ์หลายสิบต้นที่วางเรียงกันอยู่กับพื้นก่อนจะหันไปมองคนซื้อซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังมองมาทางเขาอยู่พอดี ยุทธนายกยิ้มอ่อน คิ้วเข้มข้างหนึ่งยกขึ้นเหมือนกับจะอวดว่าของฝากที่ตนลงทุนขนมาเป็นที่ถูกอกถูกใจพ่อของเขาแค่ไหน


“พ่ออย่างเห่ออ่ะสิบ นี่ลงทุนเข้าไร่ตั้งแต่เช้ามืดไปขนเอาไม้มาเลยนะ น้ำเนิ้มก็ไม่ยอมอาบ” ท่อนไม้น้อยใหญ่ที่วางเกลื่อนอยู่โดยรอบยืนยันคำพูดของน้องชายได้เป็นอย่างดี เดือนสิบหัวเราะออกมาเบาๆ นั่งลงไม่ไกลจากผู้เป็นพ่อหลังเอากล้วยไม่ไปแขวนไว้ตามที่อีกฝ่ายบอก มือเรียวจับกระถางกล้วยไม้ต้นหนึ่งขึ้นมาดู อันที่จริงเขาไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับพวกไม้ดอกไม้ประดับมากนัก แต่เพราะพ่อกับแม่ชอบมากเลยเคยหาข้อมูลไว้บ้าง เจ้าต้นที่อยู่ในมือถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นรองเท้านารี แต่ไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์ไหน เพราะตอนที่พี่ซื้อเขาไม่ได้ดูด้วย เจ้าต้นนี้ที่บ้านมีอยู่หลายพันธุ์เหมือนกันเพราะแม่ชอบมาก เรียกได้ว่าแทบจะเป็นนักสะสมเลยก็ได้


“ต้นนี้พันธุ์เหลืองกาญจน์ แม่เอ็งเขาบ่นว่าอยากได้นานแล้วแต่พ่อไม่มีเวลาพาไปหาซื้อซักที นี่ถ้าออกมาเห็นคงดีใจ” พ่อพูดไปมือก็พันลวดอ่อนรอบเอื้องสายเพื่อให้มันยึดติดกับท่อนไม้ไปด้วย “ต้องขอบคุณรุ่นพี่เอ็ง” พ่อเงยหน้าขึ้นมาพูดยิ้มๆ ดวงตาที่ผ่านอะไรมาเกือบห้าสิบปีมองไปทางลูกชายคนเล็กและชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ไม่ไกล


“แล้วนี่กำลังทำอะไรกันเหรอครับ” เดือนสิบมองตาม เห็นคนเป็นพี่กำลังรับโซ่เส้นใหญ่จากน้องชายของเขาขึ้นไปพันรอบกิ่งไม้ที่เพิ่งตอกตะปูกันสายโซ่เคลื่อนลงไป เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าชิงช้าตัวเก่าที่เคยห้อยอยู่ตรงนั้นถูกเอาออกไปแล้ว


“แม่เอ็งอยากได้ซุ้มชิงช้าใหม่ ไปเห็นที่บ้านยายแจ่มมาคราวก่อนบ่นกรอกหูข้าอยู่ทุกวันแต่ก็ไม่มีเวลาทำให้ซักที” เดือนสิบรู้ เพราะพ่อทำงานหนัก


“ไม่มีเวลาแต่เตรียมของไว้หมดแล้วเนี่ยนะพ่อ” ลูกชายคนเล็กที่หูดีได้ยินบทสนทนาว่าขึ้นเหมือนจะล้อ คนเป็นพ่อหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพึมพำว่ารู้มาก


ของที่เตรียมไว้หมดแล้วของเดือนอ้ายก็คือชิงช้าตัวใหม่ที่ทำจากไม้สักทาสีย้อมไม้และลงแลคเกอร์เคลือบอย่างดี ใกล้กันเป็นเถาวัลย์ไม้เลื้อยขนาดกว้างประมาณสองนิ้วยาวเท่าไหร่ไม่แน่ใจ ที่เอาไว้เชื่อมระหว่างกัลปพฤกษ์สองต้นเพื่อทำเป็นซุ้ม ประจวบเหมาะกับของฝากที่ได้มาจากคนต่างถิ่นเป็นไม้ประดับพอดี ที่เหลือก็แค่ประกอบให้เข้าที่เข้าทาง


“ก็เตรียมไว้ให้เอ็งกับพี่กลับมาช่วยกันทำไงเจ้าอ้าย ข้าทำคนเดียวไหวที่ไหนชิงช้านั่นก็ได้ไอ้เจ้าเพชรมันมาช่วยเลื่อยไม้ให้ สีมันก็ช่วยทา ไม่อย่างนั้นคนแก่อย่างข้าเจอกลิ่นฉุนๆ ได้เป็นลมเป็นแล้งกันพอดี …เอาคีมตรงนั้นมาให้พ่อที” ประโยคหลังหันมาบอกลูกชายคนโต เดือนสิบยื่นคีมตัดลวดให้พ่อ


“แล้วนี่แม่ไม่รู้เลยเหรอพ่อ” คนถูกถามหัวเราะในลำคอ วางคีมตัดลวดลงพลางเอ่ยกับลูกชาย


“รู้สิ แต่แม่เอ็งเขาแกล้งไม่รู้”


สองพ่อลูกหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขเรียกความสนใจจากชายหนุ่มอีกสองคนที่เพิ่งทำสายห้อยชิงช้าเสร็จ ยุทธนาปีนลงจากบันไดก่อนที่เดือนอ้ายจะพับมันแล้วเอาไปพิงไว้กับต้นไม้ ช่วยกันเก็บเครื่องมือลงกล่องก่อนจะเดินมาหาสองพ่อลูกที่นั่งคุยกันอย่างถูกรส


“แอบนินทาแม่กันอยู่ใช่ไหม อ้ายจะฟ้อง” ไอ้คนตัวเล็กนั่งลงได้ก็ทำตัวน่าหมั่นไส้ในสายตาพ่อมันขึ้นมาทันที เลยถูกเขกกะบานจนต้องร้องโอดโอย  “โอ้ย พ่ออ่ะ!”


“เอ็งมันรู้มาก” โดนเขกแค่เบาๆ แต่มันดันร้องซะลั่น เดือนอ้ายหน้างอ เบียดกระแซะเข้าไปใกล้พี่ชายมากกว่าเดิม


“สิบดูพ่อดิ ยิ่งแก่ยิ่งชอบใช้กำลังอ่ะ ไม่น่ารักเล้ย …โอ้ยพ่อ! มันเจ็บนะ” ประโยคท้ายแทบจะร้องเสียงหลงเมื่อโดนคนถูกนินทาในระยะเผาขนลงมือซ้ำที่เดิม


“เนี่ย พูดยังไม่ทันขาดคำเลยอ่ะ สิบดูพ่อดิ” แทนที่จะรู้สึกสงสารเจ้าของหัวทุยที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่บนไหล่ เดือนสิบกลับแกล้งผลักมันออกอย่างไม่ใยดี


“สมควรโดน”


คำพูดเหมือนจะไร้เยื่อใยของพี่ชายทำเอาเดือนอ้ายอ้าปากหวอ ท่าทางเศร้าอกเศร้าใจอย่างที่ใครก็ดูออกว่าแกล้งทำก่อนที่เจ้าตัวจะขยับห่างจากพี่ชายไปนั่งเบียดชายหนุ่มอีกคน ไม่เบียดเปล่าแต่มันยังทิ้งตัวพิงไหล่ของคนที่เอาแต่นั่งยิ้มไปด้วยทั้งตัว


“พี่ยุทธช่วยด้วย” หน้ามนช้อนมองรุ่นพี่ที่ตนทึกทักเอาเองแล้วว่าสนิทหลังคุยกันได้ไม่นาน ด้วยท่าทางที่ถ้าคนไม่รู้จักเห็นก็คงต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าเอ็นดู ทว่าพ่อกับพี่ชายที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกนอกจากจะเอ็นดูแล้วยังมีความรู้สึกหมั่นเขี้ยวระคนหมั่นไส้ปนมาด้วย โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อที่ถึงกับส่ายหัวระอา


“พอเลยเอ็ง พี่เขาทำงานมาเหนื่อยๆ อย่าไปกวน” ตั้งแต่ขนกล้วยไม้ลงจากรถ แล้วเข้าไร่ไปช่วยเขาขนพวกท่อนไม้รากไม้ตั้งแต่เช้าตรู่ ไหนจะอาสาช่วยรื้อและทำสายห้อยชิงช้าให้จนมาถึงตอนนี้เพิ่งจะได้พัก แม้อากาศบนเขาจะเย็นแต่ใบหน้าคมก็มีเหงื่อซึมออกมาให้เห็น


“ผมกวนเหรอพี่ยุทธ”


คนถูกถามก้มมองเจ้าของใบหน้าหงอยๆ ทว่านัยน์ตาพราวระยับอย่างเด็กซนแล้วส่ายหัว เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับแค่ต้องเป็นโซฟากิตติมศักดิ์ให้ไอ้ตัวเล็กนี่ทิ้งน้ำหนักใส่แบบไม่เกรงใจ ดีเสียอีกที่คนในครอบครัวของเดือนสิบเริ่มเปิดใจให้ และมองเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัว


โดยเฉพาะคนเป็นพ่อที่ถึงแม้ต่อหน้าลูกชายจะไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขามากนัก แต่เมื่อเช้าตอนเข้าไร่ด้วยกันก็ซักประวัติเขาซะแทบขาวสะอาด ถึงจะทำเหมือนคุยเรื่องทั่วไปแต่เขาก็รู้สึกได้ว่ากำลังถูกอีกฝ่ายซักประวัติอยู่แน่ๆ ยุทธนาไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือมองว่ามันเป็นการละลาบละล้วงอะไร ดีเสียอีกที่พ่อน้องอยากรู้เรื่องของเขา ถึงอีกฝ่ายจะทำทีเหมือนถามไปงั้นๆ ก็เถอะ


“เห็นไหมพ่อ พี่ยุทธยังไม่ว่าอะไรซักคำ”


“เอ็งมันมึน” บ่นใส่ลูกชายที่ยิ้มร่ารับก่อนจะมองขึ้นไปสบสายตาไอ้หนุ่มคราวลูกอีกคน “อย่าไปตามใจมันให้มากนัก เห็นหน้ามันซื่อๆ อย่างนี้แต่ดื้ออย่าบอกใคร”


“โหยพ่อ ทำไมว่าแต่อ้ายคนเดียวอ่ะ สิบมันก็ดื้อเหมือนกันนะ” บุ้ยปากใส่พี่ชาย ไม่ยอมถูกว่าคนเดียว


“พอกันทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละพวกเอ็ง” ไอ้คนน้องดื้อโผงผางไม่ยอมใคร ส่วนไอ้คนพี่ก็ไม่น้อยหน้า ถึงปากจะรับคำครับๆ เหมือนยอมแต่ก็แอบดื้อเงียบ ดื้อตาใสให้เอาผิดไม่ลง รู้จักโอนอ่อน รู้ว่าทำยังไงถึงจะผ่อนผิดตัวเองให้กลายเป็นเบา ผิดกับน้องชายที่ดื้อแพ่งหัวชนฝา นิสัยมุทะลุขัดกับหน้าตาจนเขากับภรรยาต้องคอยเป็นห่วง


ช่วยกันประกอบชิงช้าอยู่ไม่นานร่างเล็กของผู้หญิงคนเดียวในบ้านก็เดินออกมาเรียกให้เข้าไปทานข้าว อย่างที่พ่อบอกว่าแม่ทำเป็นไม่รู้เรื่องที่พ่อแอบทำชิงช้าให้ ตอนออกมาเรียกถึงจะเห็นว่าพวกเขาสี่คนทำอะไรกันอยู่แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากทักท้วง ดวงตาเป็นประกายอีกทั้งใบหน้าเปื้อนยิ้มขณะพูดชักชวนไปเรื่องอื่น สองพี่น้องลอบสบตาแล้วยิ้มให้อย่างรู้กัน เพราะแม่น่ารักอย่างนี้พ่อถึงขัดใจไม่ได้ซักที


ครอบครัวชาวสวนใช้ชีวิตเรียบง่าย ข้าวปลาอาหารทำเองจากวัตถุดิบที่หาได้จากไร่จากสวน ทั้งปลาที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อประกอบอาหารและส่งขาย พืชผักปลูกกินเองและเผื่อแผ่เพื่อนบ้าน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารอบอวลไปด้วยความสุขแม้ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีทุกอย่างช่วยอำนวยความสะดวก ถึงจะไม่ได้ตกเป็นหัวข้อสนทนาบ่อยนัก แต่ยุทธนาก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอื่น ทั้งน้องและครอบครัวเอาใจใส่เขา พ่อที่ถึงจะไม่ค่อยพูดอะไรเหมือนแม่ แต่การที่เลื่อนจานอาหารมาตรงหน้าเขาแล้วบอกให้ลองชิมก็เป็นการแสดงออกที่สัมผัสได้ว่าเอาใจใส่มากแล้ว






ตกเย็น สายลมเอื่อยพัดปะทะหน้าบางเบา สองร่างกำลังเดินทอดฝีเท้าอย่างไม่เร่งรีบไปตามคันดินซึ่งเป็นทางเท้า สองข้างทางขนาบด้วยไม้ผลยืนต้นที่ให้ผลตามฤดูกาล ในมือของคนเป็นน้องถือลำไยพวงใหญ่ที่ทั้งคอยปลิดกินเองและยื่นให้คนเป็นพี่ที่ถือคันเบ็ดตกปลาเดินเคียงข้าง สองฝั่งพื้นที่ยาวสุดสายตาเป็นทุ่งนากว้าง ต้นกล้าสีเขียวขจีเอนไหวตามแรงลมให้ความรู้สึกสบายตาสบายใจจากคนที่ได้พบเห็น


“เพราะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ดีแบบนี้หรือเปล่า ผิวถึงได้ดีแบบนี้” ดีแบบนี้ของคนตัวสูงคือผิวขาวเนียนละเอียดของคนเป็นน้องที่กำลังยื่นลำไยที่ถูกแกะเปลือกออกครึ่งหนึ่งมาให้ ยุทธนาจับข้อมือเล็กไว้แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยไปมา


“อยากลองมาอยู่ดูไหมล่ะครับ บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องทนรถติดทั้งเช้าสายบ่ายค่ำ บ้านเรา ที่เรา อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องกลัวสายตาคนอื่น ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกใครมองเป็นตัวตลกหรือแปลกประหลาด”


เสียงพูดเอื่อยๆ พอๆ กับสองเท้าที่ผ่อนจังหวะการก้าวเดินจนในที่สุดก็หยุดลง เดือนสิบยิ้มให้คนเป็นพี่ที่กำลังยกยิ้มตาม มือใหญ่กระชับมือเขาแน่นขึ้นแล้วแกว่งมันเบาๆ ขณะออกเดินอีกครั้ง ตาคมละจากใบหน้าเนียนของคนเป็นน้องแล้วทอดมองไปยังหนทางเบื้องหน้า รอยยิ้มยังไม่จางหายไป กลับกันมันยิ่งคลี่ออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ ยามฟังเสียงคนข้างตัวพูดไปเรื่อยแล้วนึกภาพตาม


“ตื่นเช้า เข้าไร่ ปลูกผัก เลี้ยงปลาไว้ทำอาหารกินเองง่ายๆ ตกเย็นก็กลับบ้านพักผ่อนกับครอบครัว นั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมหน้า พูดคุยสัพเพเหระ”


สายลมเอื่อยพัดเอาปอยผมปลิวไปด้านหลัง เดือนสิบแหงนมองเสี้ยวหน้าเปื้อนยิ้มของคนตัวสูง คล้ายรู้ตัวว่าถูกจับจ้องรอยยิ้มนั้นถึงได้กลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง


“เอาไว้แก่ตัวลง หรือให้อะไรเข้าที่เข้าทางกว่านี้แล้วเรามาอยู่ที่นี่กันดีไหม ปลูกบ้านอีกหลังอยู่ใกล้ๆ พ่อกับแม่ ทำไร่ทำสวน ปลูกผักเลี้ยงปลากินกันง่ายๆ ถ้าสิบอยากมีลูกซักคนเราก็รับเด็กมาเลี้ยง หรือจะขอจากพี่ยิมกับพี่นาวมาซักคนก็ได้ถ้าสิบไม่สบายใจจะเลี้ยงลูกคนอื่น”


คิดไปถึงพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่ถึงจะแต่งงานกันมาเกือบสองปีแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมมีลูกซักที อันที่จริงคือพี่เขาน่ะอยากมีเต็มแก่ ติดก็แต่พี่สะใภ้ที่อ้างว่าอายุยังน้อยบออกว่าอยากทำงานก่อน แต่มันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่าเพราะพี่สะใภ้เขาเพิ่งจะยี่สิบห้าเท่านั้นผิดกับพี่ชายที่ใกล้จะสามสิบอยู่รอมร่อ หน้าที่การงานก็มั่นคงเป็นถึงรองประธานบริษัทอยากมีลูกก็คงไม่แปลก


ยุทธนาพูดไปเรื่อยตามความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาในหัวทว่าคนฟังนิ่งไปแล้ว ก้อนเนื้อในอกคล้ายทำงานผิดจังหวะ ถึงจะเคยคิดเผื่ออนาคตไว้บ้างแต่เขาก็ไม่เคยมองกาลไกลถึงขนาดนี้ แม้ไม่ได้มองถึงวันที่ต้องเลิกรากันแต่ก็ไม่ได้คิดไปถึงยามที่คบกันจนแก่เฒ่า เดือนสิบมองเสี้ยวหน้าเปื้อนยิ้มของคนเป็นพี่ ความรู้สึกมากมายตีรวนอยู่ภายในจนบอกไม่ถูก มันทั้งอึ้ง ตื่นเต้น แปลกใจระคนดีใจจนยากจะแยกแยะ


“ดีไหม” เสียงทุ้มเอ่ยย้ำ มาพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาจริงจังที่สบมอง เดือนสิบค่อยๆ ยิ้มตอบคนเป็นพี่ มือเล็กกว่าสอดประสานเรียวนิ้วเข้าด้วยกันกับมือใหญ่แล้วบีบกระชับ เหมือนเป็นการย้ำคำพูด


“ครับ แล้วเราจะมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน”





 :katai5:



ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:


เหมือนจะหวานนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด