พิมพ์หน้านี้ - Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: เล็กต้มยำ ที่ 01-01-2017 23:27:15

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 01-01-2017 23:27:15
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไข ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 01-01-2017 23:37:38
#intro


โกรธจนพูดไม่ออกเป็นยังไง ‘เดือนสิบ’ พึ่งเข้าใจแจ่มแจ้งในวันนี้ ทั้งตัวเขาสั่นเทิ้มไปหมด เมื่อเห็นภาพผู้ชายร่างสูงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟนกำลังโอบกอดผู้ชายรูปร่างบอบบาง ดูน่าทะนุถนอมที่ยืนร้องไห้อย่างน่าสงสารอยู่ข้างๆมัน สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอีกทั้งร่องรอยตามเนื้อตัวเด่นชัดบ่งบอกได้อย่างดีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น บนโต๊ะกระจกกลางห้องนั่งเล่นเกลื่อนไปด้วยเบียร์ทั้งขวดทั้งกระป๋องนับสิบ บ่งบอกว่ามันสองคนคงไม่ได้พึ่งจะเริ่มกินกันแน่ๆ


“ทำไมวะนุ” เขาถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับให้คงที่ ทว่าเนื้อเสียงก็ยังติดจะสั่นเครืออยู่ดี ฝ่ามือของไอ้ปืนเพื่อนสนิทที่คอยบีบไหล่เบาๆอย่างปลอบประโลมดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไร ตอนนี้ในอกเขามันร้อนรุ่มไปหมด


เขากับนุชาคบกันมาเกือบปี ทั้งๆที่มันเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำให้เขาเปลี่ยนใจลองไปคบกับผู้ชายด้วยกัน แต่มันกลับหักหลังเขาอย่างหน้าด้านๆโดยการพาผู้ชายคนอื่นขึ้นมานอนกกในห้องอย่างหน้าตาเฉยทั้งที่เรายังไม่เลิกกันด้วยซ้ำ


“ขอโทษนะสิบ แต่กูทิ้งน้องจีนไม่ได้จริงๆว่ะน้องเขาเป็นคนที่คอยอยู่ข้างๆกูมาตลอดในขณะที่มึงแม่งไม่เคยสนใจกูเลย”


“งั้นหรอ” เขาแค่นเสียงถาม มองมือของมันที่คอยโอบกอดปลอบปะโลมไอ้เด็กจีนที่ยังร้องไห้บีบน้ำตาไม่หยุดอย่างเฉยชา


“มึงเป็นคนเก่งนะสิบเก่งมากจนกูคิดว่าไม่มีกูมึงก็คงอยู่ได้ แต่กับน้องจีนมันไม่ใช่ว่ะ น้องเขาอ่อนไหวเกินกว่าที่กูจะทิ้งไปได้จริงๆ มึงเข้าใจกูนะ”


เข้าใจก็ควายละไอ้เหี้ย!


เพล้ง!!!


“โอ้ย!! เชี่ย!!”


“พี่นุ!! เลือด!!!”


ไอ้นุยกมือขึ้นกุมหัวด้วยสีหน้าเจ็บปวดทันทีที่เขาฟาดขวดเบียร์ที่วางเกลื่อนอยู่แถวนั้นลงไปบนหัวมันอย่างไม่ออมแรง เลือดสีแดงฉานไหลอาบตั้งแต่ใบหน้าหล่อๆของมันจนเปื้อนลงมาถึงลำคอไม่ได้ทำให้เดือนสิบรู้สึกผิดแต่อย่างใด ไอ้เด็กจีนที่ยืนอยู่ข้างๆกันกรีดร้องอย่างทำอะไรไม่ถูก


 “เชี่ยสิบ! ทำอะไรของมึงเนี่ย ห่าเอ้ย! ไอ้นี่ก็ร้องอยู่นั่นแหละถ้าไม่อยากให้ผัวมึงตายเพราะเสียเลือดก็รีบพามันไปหาหมอสิวะ!” ไอ้ปืนตะโกนลั่น ก่อนที่ประโยคท้ายมันจะหันไปพูดเสียงดังกับไอ้เด็กจีนที่เหมือนจะยังตั้งสติไม่ได้ ไอ้จีนพยักผงกหัวรับรัวๆแล้วพยุงไอ้นุที่ครางโอดโอยอย่างเจ็บปวดออกจากห้องไป


“จะเอาไงต่อ” ไอ้ปืนถามขึ้นเมื่อทั้งห้องกลับเข้าสู่ความเงียบสงบ ทว่าคนที่พึ่งสร้างเรื่องไปเมื่อกี้ยังคงยืนนิ่งงัน ดวงตากลมโตจับจ้องอยู่ที่ขวดเบียร์แตกๆในมือไม่กระพริบ


…แตกยับไม่ต่างกับสภาพจิตใจเขาตอนนี้…


หมับ


ฝ่ามือหนาๆของมันบีบลงมาที่ไหล่เบาๆคล้ายจะเรียกสติกลับมา เดือนสิบเงยหน้ามองเพื่อนสนิท ตากลมสั่นระริกคล้ายจะร้องไห้แต่กลับไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว


“พากูกลับห้องที” น้ำเสียงแผ่วพลิ้วคล้ายคนหมดแรงทำให้ไอ้ปืนไม่พูดอะไรต่อ มันค่อยๆโอบไหล่เดือนสิบเข้าหาบีบเบาๆอย่างให้กำลังใจก่อนจะพาเดินกลับลงไปขึ้นรถ


“มึงโอเคไหมวะ” ไอ้ปืนถามขึ้นหลังจากที่เขาและมันขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย น้ำเสียงเป็นห่วงของมันทำเดือนสิบเลือกที่จะพยักหน้า ทั้งที่จริงๆแล้วเขาแม่งโคตรจะไม่โอเค


“เออน่า กูไหว”


“แน่นะมึง อยู่กับเพื่อนละทำเป็นเก่ง อย่าให้กูรู้ว่าแอบไปร้องไห้คนเดียวเชียว” เขาแค่นหัวเราะฝืนๆ บางทีมันก็รู้ดีไป


“กูโอเคน่า กับคนเหี้ยๆอย่างมันกูไม่มีวันเสียน้ำตาให้หรอก” ใช่ เขาจะไม่มีวันเสียน้ำตาให้กับคนเหี้ยๆอย่างมันหรอก


ไอ้ปืนเบะปาก ก่อนจะเอื้อมมือมายีผมเขาจนยุ่งไปหมด


“ครับพ่อคนเก่ง เก่งมาก” มันว่าแค่นั้นก่อนจะหันไปออกรถ


เพราะเขาเก่งมากเกินไปอย่างนั้นหรอ เพราะแค่ต้องทำงานหลังเลิกเรียนจนไม่มีเวลาให้มันถึงกับต้องทิ้งเขาไปเลยหรอวะ ทั้งๆที่ก่อนจะคบกันแม่งยังบอกว่ารับได้แถมยังเข้าอกเข้าใจเขาเป็นอย่างดีแท้ๆ


‘กูเข้าใจเว้ย แค่เวลาที่เหลือมึงยกให้กูคนเดียวแค่นั้นก็พอ’


ไอ้เชี่ยนุ ไอ้คนโกหก เขาไม่น่าไปหลงเชื่อแม่งเลย


เดือนสิบเป็นเด็กต่างจังหวัด หลังจากที่ย้ายเข้ามาเรียนในกรุงเทพ ไอ้นุก็คล้ายจะเป็นเหมือนที่พึ่งเดียวของเขา เดือนสิบเป็นคนพูดไม่เก่งและเข้าหาคนอื่นไม่ค่อยเป็น ท่ามกลางเมืองใหญ่ในรั้วมหา’ลัยที่ไม่คุ้นชิน มันคือคนแรกที่เข้ามาคุยกับเขา เริ่มต้นจากการเป็นเพื่อน ระยะเวลาหลายเดือนที่มันคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ ความเอาใจใส่ของมันทำให้เขารู้สึกดีจนในที่สุดก็ยอมเปิดใจลองคบกับมัน ทั้งๆที่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยคบกับผู้ชายคนไหน ถึงจะมีคนพูดให้ได้ยินว่ามันเป็นคนเจ้าชู้หน้าม่อ แต่เขาก็อยากจะลองเชื่อใจมันดูสักครั้ง


เหอะ! แล้วยังไง สุดท้ายแม่งก็เหี้ย


เดือนสิบหลับตาลงอย่างข่มใจ เขาไม่อยากเสียน้ำตาให้กับคนเหี้ยๆอย่างมัน


“มึงโอเคแน่นะ ให้กูอยู่เป็นเพื่อนไหม” ไอ้ปืนถามขึ้นหลังจากที่มันขับรถมาจอดเทียบอยู่หน้าหอเขา มันดูเป็นห่วงเขามากจริงๆ


“กูโอเคน่า ไม่ต้องห่วง มึงรีบกลับไปนอนเถอะพรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่หรือไง” เขายิ้มให้ พยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติเพราะไม่อยากให้มันต้องเป็นห่วง แค่นี้เขาก็รบกวนมันมากแล้ว ถึงมันจะเต็มใจให้รบกวนก็เถอะ


“เออ มึงก็เหมือนกัน อย่าคิดมาก อย่าลืมว่ามึงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แค่ตัวคนเดียว อย่างน้อยๆถ้ามึงไม่มีใครขอให้มึงระลึกไว้ว่ายังมีกู” เขามองมันอย่างอึ้งๆ น้ำตาที่กลั้นไว้เกือบจะไหลถ้าไม่ใช่เพราะประโยคต่อมาของมัน “เป็นไง หล่อเลยดิ เอ้า ซึ้งๆ น้ำตาจะไหลก็ได้นะเดี๋ยวให้ยืมผ้าเช็ดหน้า” มันหัวเราะร่วนยีหัวเขาเบาๆอย่างเอ็นดู จนเดือนสิบเผลอยิ้มตาม


“ขอบคุณว่ะ” เขาพูดได้แค่นั้นเพราะมันตื้อในอกไปหมด อยากโผเข้ากอดมันแรงๆซักทีแต่ติดเพราะนิสัยไม่ใช่คนชอบแสดงออกเลยทำได้แค่ยิ้มบางๆให้มันเท่านั้น


ไอ้ปืนเป็นคนตัวใหญ่ สูงเกือบๆร้อยเก้าสิบในขณะที่เขาสูงแค่ร้อยเจ็ดสิบเจ็ดเซ็นเท่านั้น มันเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขาให้ความสนิทสนมและไว้วางใจ มันเป็นคนเฮฮา คุยสนุก ไม่มีใครในคณะที่ไอ้ปืนไม่รู้จัก ขนาดเขาที่เป็นเหมือนอากาศธาตุในคณะมันก็ยังอุตส่าห์มองเห็น เข้ามาทักทายแถมยังลากไปนู่นไปนี่ด้วยตลอดเวลาที่ไม่ได้อยู่กับไอ้นุ จนในที่สุดก็สนิทกันไปซะอย่างนั้น


.

.

.


ห้องของเดือนสิบเป็นห้องเช่าธรรมดาที่ราคาไม่แพงนัก ภายในห้องงมีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และโต๊ะเขียนหนังสือ ร่างโปร่งพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงขนาดห้าฟุตอย่างเหนื่อยอ่อน ดวงตากลมโตเหลือบเห็นกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนลิ้นชักข้างหัวเตียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ รูปที่เขากับไอ้นุถ่ายด้วยกันเมื่อสามเดือนก่อน เขาฉีกยิ้มสดใสให้กล้องในขณะที่มันกำลังหอมแก้มและกอดเขาเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน


เดือนสิบในตอนนั้นดูมีความสุขมาก มันทำให้คนยิ้มยากแบบเขาสามารถฉีกยิ้มกว้างๆออกมาได้เพียงเพราะคำหวานไม่กี่คำของมัน ทำให้เขาเขินอายเพียงเพราะได้สบตาพราวระยับอย่างคนเจ้าชู้ของมัน ทำให้เขามีความสุขเพียงเพราะมีมันอยู่ข้างๆ


แต่เขาคงอ่อนหัดเกินไป ถึงได้ตกหลุมพรางของมันง่ายๆ ไม่ได้คิดเผื่อใจ ไม่เคยคิดว่าต้องเจ็บ ไม่เคยคิดถึงในวันที่มันจะเดินจากไป…


เพล้ง!!!


เศษแก้วแตกกระจาย เมื่อเขาปัดมันทิ้งอย่างไม่ใยดี ภาพความสุขมากมายที่เคยเกิดขึ้นตอนอยู่ด้วยกันไหลบ่าราวกับสายน้ำหลาก รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ


น้ำตาที่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่มีทางเสียให้กับคนเหี้ยๆอย่างมันไหลนองหน้าอย่างสุดจะกลั้น


“ฮึก ฮือ…” เสียงสะอื้นแผ่วหลุดรอดริมฝีปากสีสดออกมาให้ได้ยินแม้ว่าเขาจะกลั้นมันไว้สุดกำลัง ร่างโปร่งขดตัวเข้าหากันราวกับจะปกป้องตัวเองจากความเจ็บปวด มือเรียวจิกทึ่งผ้าปูที่นอนแน่นราวกับว่ามันจะช่วยแบ่งรับความปวดปร่าในอกให้เบาบางลง


.

.

.


“มันเลิกกันแล้ว”


เสียงเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆดังแทรกเสียงโหวกเหวกของเหล่าเด็กวิศวะท่ามกลางโรงอาหาร ไม่ได้ทำให้เจ้าของร่างสูงนัยน์ตา
คมกริบละสายตาจากแผ่นหลังเล็กๆของรุ่นน้องร่วมคณะที่นั่งกินข้าวอยู่ถัดไปไม่ไกล


“เห็นว่าฝ่ายนั้นถึงกับเลือดตกยางออก เห็นเงียบๆก็นึกว่าจะไม่สู้คนที่ไหนได้ เอาเรื่องไม่เบาเหมือนกันนี่หว่า” ศิลา หนุ่มผิวเข้มเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันออกความเห็นบ้าง


“โอกาสของมึงมาถึงแล้วเชี่ยยุทธ จะเดินหน้าหรือจะปล่อยให้หมาคาบไปแดก ‘อีกรอบ’ ดีล่ะเพื่อน” น้ำเสียงกึ่งๆหยอกเย้าของปกรณ์เพื่อนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม ทำให้คนถูกแซวคิ้วกระตุก


ตาคมจ้องมองแผ่นหลังเล็กไม่ละไปไหนด้วยแววตาล้ำลึกยากจะคาดเดา ภาพใบหน้านิ่งเฉยของรุ่นน้องในคณะที่นึกถูกใจตั้งแต่แรกเห็นฉายขึ้นในหัว ก่อนที่เขาจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น


“นับจากวันนี้ไป อย่าหวังว่าใครจะได้แตะมัน”



*****


ตอนนี้เราทำการแก้ไขใหม่นะคะ
 :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-01-2017 08:21:36
สนุกมากค่ะ รีบมาต่อนะคะ ไอ้นุแม่งเลวมากพี่ยุทธรีบมาปลอบน้องสิบนะคะ
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: farafang ที่ 02-01-2017 11:17:42
น้องสิบบบบบบบ โอ๋ๆนะลูก
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 02-01-2017 12:27:40
รอค่ะ.  พี่ยุทธรักษาแผลใจให้น้องสิบหน่อย.    :hao3:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 02-01-2017 12:51:47
เป็นข้ออ้างที่ฟังแล้วโคตรขึ้น  :m16:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 02-01-2017 14:00:28
จ้องมานานปล่อยให้คนอื่นคาบไปได้ไง
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 02-01-2017 18:48:46
ไม่รักแล้วจะพูดอะไรก็พูดได้ เหตุผลเป็นล้านก็ยกขึ้นมาอ้างได้  :ruready :ruready รอตอนต่อไปค่ะ  :mew1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 03-01-2017 07:52:13


เป็นเหตุผลบอกเลิกที่บับบบบ   :z6:
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 03-01-2017 07:53:09
 o13
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 03-01-2017 12:42:10
คนเงียบๆนี่น่ากลัวจริงๆ 1เลยคือเดือนสิบ ฟาดขวดเบียร์กลางหัวแฟนเก่าได้นี่ดุดันจริงๆ 2ก็พี่ยุทธนี่ละจ่ะ อย่าหวังว่าใครจะได้แตะมัน หื้มมมมม น่าติดตามมากเว่อ มาอัพบ่อยๆนะคะ  o18
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 03-01-2017 21:35:37
ยุทธจะรุกเดือนสิบยังไง รอติดตามค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 04-01-2017 07:07:55
ติดตามค่าาาา ชอบสำนวนการบรรยาย ~~
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 05-01-2017 20:33:23
รออยู่เน้อออออ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 05-01-2017 20:52:17
เริ่มมาก็สนุกแล้วจะติดตามนะ
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 05-01-2017 21:00:49
อยากอ่านอีก
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Bradly ที่ 05-01-2017 21:07:14
จีบเลยๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** Intro... 1/01/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 05-01-2017 21:19:06
เหตุผลเลวๆ  อ่านแล้วขึ้นตามน้องเดือนสิบ
รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 อัพ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 06-01-2017 04:11:43
#ตอนที่หนึ่ง



ผ่านมาสองวันแล้ว หลักจากเหตุการณ์คืนนั้น เดือนสิบยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติ ทุกวันของเขายังคงเรียบเรื่อยอย่างที่เคยเป็นมา  เพียงแต่คนที่เคยอยู่เคียงข้างกันมันไม่มีอีกแล้ว เขาไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย หรือแสดงอาการเศร้าหมองกินไม่ได้นอนไม่หลับ เดือนสิบยังคงเป็นเดือนสิบที่เงียบสงบและยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่ในมุมของตัวเอง


เรื่องที่เขาเลิกกับไอ้นุแถมยังเอาขวดเบียร์ฟาดหัวมันดังกระฉ่อนไปทั้งคณะ เพราะไอ้นุมันเป็นถึงเดือนคณะมีคนรู้จักเยอะ ไม่แปลกที่เรื่องนี้จะเป็นที่สนใจของใครหลายๆคน 


ตอนคบกันเขากับไอ้นุไม่ได้ป่าวประกาศให้ใครรู้ก็จริง แต่การที่เขากับมันตัวติดกันตลอดในช่วงนั้นก็ทำให้คนอื่นเดาได้ไม่ยาก เดือนสิบพยายามเมินสายตาหลายๆคู่ที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น เขาอึดอัดกับคำถามเดิมๆซ้ำๆที่คนถามเองก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นความเงียบจึงเป็นคำตอบของทุกทำถามที่ถาโถมเข้ามา


“เที่ยงนี้กินไรดีวะ” เสียงพูดลอยๆของไอ้ปืนที่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะแลคเชอร์ทั้งๆที่เพิ่งเริ่มเรียนไปได้แค่ยี่สิบนาที ทำให้เดือนสิบต้องละสายตาจากจอโปรเจคเตอร์กลับมามองเพื่อนสนิท ไอ้ปืนหาวหวอด ปรือตามองเขาอย่างรอคำตอบ


“โรงอาหารคณะนี่แหละ ตอนบ่ายกูมีเรียนอีกวิชา” มันพยักหน้ารับเนือยๆ พึมพำบอกให้เขาตั้งใจเรียนจะได้กลับไปติวให้มันก่อนจะปิดเปลือกตาลงในที่สุด เดือนสิบได้แต่ส่ายหน้าระอา ก่อนจะหันกลับไปสนใจเสียงบรรยายของอาจารย์ประจำวิชาต่อ


.


.


.


บรรยากาศตอนเที่ยงของโรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ ยังคงเต็มไปด้วยเสียงอึกทึกโวยวายของเหล่านักศึกษา สมกับที่ถูกเรียกว่าเป็นคณะที่มีความเถื่อนสูงที่สุด ถึงแม้จะเป็นช่วงใกล้สอบปลายภาค ก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นเด็กคณะนี้นั่งสงบเสงี่ยมอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ


เดือนสิบฝากเพื่อนสนิทซื้อข้าว ก่อนจะแยกออกมาซื้อน้ำทั้งของตัวเองแล้วก็ของมันอย่างที่เคยทำ


“ชาเย็นสองครับป้า” รออยู่ไม่นานชาเย็นสองแก้วก็ถูกยื่นออกมาตรงหน้า เดือนสิบจ่ายตังพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบาๆ ก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะ ซึ่งไอ้ปืนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว


“หวัดดีสิบ” คนที่นั่งอยู่ข้างไอ้ปืนเอ่ยทัก


มันชื่อจอม เป็นเพื่อนในกลุ่มของไอ้ปืนตั้งแต่สมัยมอปลาย เขาค่อนข้างคุ้นเคยเพราะได้เจอกับมันบ่อยๆเวลาไอ้ปืนมันพาติดสอยห้อยตามไปด้วย 


ถัดจากไอ้จอม เป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ตัดผมสกินเฮดท่าทางกวนๆ มันชื่ออิฐ ไอ้อิฐกับไอ้จอมเรียนภาคคอมเหมือนกัน ส่วนเขากับไอ้ปืนเรียนภาคเครื่องกล


มันเงยหน้ายักคิ้วให้เขาเป็นการทักทาย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อด้วยท่าทางหิวโหย


“หวัดดี” เดือนสิบตอบรับ ก่อนจะนั่งลงตรงข้ามกับเพื่อนสนิท


“คืนนี้ไปร้านพี่อ้นป่ะ ใกล้สอบแล้วคงไม่มีเวลาไปอีกนาน ถือว่าเป็นการส่งท้ายก่อนสอบ” ไอ้จอมเปิดประเด็นทันทีที่เขาหย่อนก้นลงนั่ง มันยกแก้วนมเย็นขึ้นดูดพลางกวาดสายตามองเพื่อนร่วมโต๊ะอย่างขอความเห็น


“วันก่อนมึงก็เพิ่งจะไปมาไอ้สัด แดกบ่อยเกินจนเงินกูจะช็อตแล้วเนี่ย” ไอ้อิฐเงยหน้าขึ้นมาบ่น


“หรือมึงจะไม่ไป”


“ไม่ไปก็แย่ละครับ” มันว่าก่อนจะคว้าแก้วนมเย็นที่ไอ้จอมวางไว้ไปดูดต่อ เจ้าของแก้วโคลงหัวอย่างระอา ก่อนจะผลักหัวสกินเฮดของมันแรงๆไปทีอย่างหมั่นไส้


“แล้วมึงสองคนอ่ะ เอาไง” ไอ้จอมหันมาถามพวกเขาบ้าง


ไอ้ปืนยักไหล่เป็นเชิงบอกว่ามันยังไงก็ได้ ก่อนจะพยักพเยิดมาทางเขา จากนั้นสายตาทั้งสามคู่ก็จับจ้องมาที่เดือนสิบอย่างกดดัน


แน่นอนว่าถ้าคำตอบเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่คำว่าตกลง พวกมันก็คงชักแม่น้ำทั้งห้ามาหว่านล้อมจนเขาต้องยอมอยู่ดีนั่นแหละ


“ไปก็ไป” ไอ้จอมร้องเยส! ทันทีที่ได้ยินคำตอบ มันยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมมือข้ามโต๊ะมาตบลงที่ไหล่เขาปุๆ


“ต้องงี้ดิถึงจะคบกันยืด”


บางทีเขาก็คิดอยากจะเลิกคบกับพวกมันไปซะเดี๋ยวนี้ ติดอยู่ที่ถ้าไม่มีพวกมันเขาก็คงไม่มีใครคบแล้วนี่สิ เฮ้อ!


“ไปกันแค่สี่คนหรอวะ” ไอ้ปืนถามขึ้น


“ไม่อ่ะ กูชวนพวกไอ้ตู่ไว้ด้วย รวมๆก็น่าจะราวๆแปดเก้าคน สิบโอเคป่าวที่ไอ้ตู่มันไปด้วย ถ้าไม่โอเคเดี๋ยวเราแยกโต๊ะนั่งได้นะ” ไอ้จอมตอบ ก่อนที่ประโยคหลังมันจะหันมาถามเขา สีหน้ามันดูลำบากใจไม่น้อย


“เฮ้ยไม่เป็นไร เราโอเค” เดือนสิบยิ้มบาง พยักหน้าสำทับให้มันสบายใจ


ไอ้ตู่ที่ว่า มันเป็นเพื่อนภาคเดียวกับไอ้จอม เดือนสิบเคยเจอมันอยู่สองสามครั้งตอนไปกินเหล้ากับพวกไอ้ปืน มันเคยมีเรื่องกับไอ้นุอยู่ครั้งหนึ่งเพราะมาเกาะแกะเขา แต่นั่นมันก็นานมาแล้ว อีกอย่างเขาก็รู้ว่ามันแค่แซวเล่นไปตามประสาคนปากไว เลยไม่ได้อะไรกับมัน


แกร๊ก


“นั่งด้วยนะ โต๊ะเต็ม”


บทสนทนาของพวกเขาหยุดชะงักลง เมื่อเสียงทุ้มต่ำของใครบางคนเอ่ยขึ้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ในชุดเสื้อช็อปกางเกงยีนส์จะทรุดตัวนั่งลงข้างๆเขา เดือนสิบได้แต่กระพริบตามองคนตรงหน้าปริบๆ เพราะโรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ในตอนนี้ ถึงจะไม่ได้ว่างโล่งแต่ก็ยังพอมีโต๊ะว่างอีกหลายตัว


 “อ้าวพี่ยุทธ หวัดดีครับพี่ ไหงมากินข้าวคนเดียวอ่ะ เพื่อนไปไหนหมด” ไอ้ปืนเอ่ยทักทายคนตรงหน้าด้วยท่าทีสนิทสนม มันเป็นคนแรกที่ยกมือไหว้คนตรงหน้า จากนั้นพวกเขาถึงได้ไหว้ตาม


“ซื้อข้าวอยู่” พี่มันตอบสั้นๆ ก่อนจะลงมือจัดการกับอาหารตรงหน้าด้วยท่าทีหิวโหยไม่ต่างอะไรกับไอ้อิฐก่อนหน้านี้


“แดกไม่รอพวกกูเลยนะเชี่ยยุทธ” รุ่นพี่อีกสองคนเดินเข้ามาสมทบ หลังจากที่คนข้างๆเขากินข้าวไปได้ไม่กี่คำ


“นั่งด้วยนะน้อง โต๊ะเต็ม” คนที่ดูเหมือนจะตัวเล็กที่สุดบอกยิ้มๆ ก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆไอ้ปืน ซึ่งมันก็ขยับที่ให้อย่างแข็งขัน ดูเหมือนมันจะรู้จักรุ่นพี่กลุ่มนี้อยู่พอสมควร


“พี่หินพี่ป้องหวัดดีพี่”


“เออหวัดดี เป็นไงพวกมึง สบายดีนะ” พี่ป้อง หรือปกรณ์รับไหว้ ก่อนจะเอ่ยถามรุ่นน้องในคณะ พลางตักข้าวใส่ปากไปด้วยท่าทางหิวโหยไม่ต่างจากเพื่อนสนิท


“ก็ดีกว่าตอนรับน้องอ่ะพี่” ไอ้อิฐว่ายิ้มๆ


“พูดแบบนี้มึงอยากโดนซ่อมหรอไอ้อิฐ แทงปลาไหลซักร้อยทีเป็นการบริหารกล้าเนื้อขาหน่อยเป็นไง” พี่ป้องเอ่ยไม่จริงจังนัก


“โห่พี่ ผมแทงมาทั้งเทอมจนจะได้เสียกับลานเกียร์แล้ว พี่ยังจะใจร้ายใจดำทำร้ายผมได้ลงคออีกหรอ” มันโอดครวญ ด้วยท่าทางที่ดูก็รู้ว่าแกล้งทำ


“มึงนี่กวนตีนยังไงก็ยังกวนตีนเหมือนเดิมนะเชี่ยอิฐ” ไอ้คนโดนด่ายิ้มรับไม่สะทกสะท้าน จนรุ่นพี่ถึงกับโคลงหัวอย่างระอา


“เออพี่ คืนนี้พวกผมว่าจะไปร้านพี่อุ้มอ่ะ สนใจมาแจมป่ะ” ไอ้จอมหาแนวร่วมทันทีที่มีโอกาส รุ่นพี่ทั้งสามคนสบตากัน ก่อนที่ศิลาจะเป็นคนตอบ


“มีใครไปบ้างวะ”


“มีพวกผม แล้วก็พวกไอ้ตู่ไอ้เบ้นภาคคอมอ่ะพี่ ราวๆแปดเก้าคน” 


“พวกมึงนี่คือรวมทุกคนที่อยู่ในโต๊ะนี้ใช่ไหม” ศิลาว่า พลางลอบสบตากับเพื่อนสนิท ที่นั่งหน้านิ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างมีเลศนัย


“ครับพี่” ไอ้จอมตอบ


“โอเค งั้นพวกกูไปด้วย”


เดือนสิบได้แต่มองเพื่อนคุยกับรุ่นพี่ตาปริบๆ เขาไม่ไม่ใช่คนเพื่อนเยอะ กับรุ่นพี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตื่นนอน มาเรียน ทำงาน กลับห้อง หลักๆแล้วชีวิตของเขาวนเวียนอยู่แค่นี้ กิจกรรมรับน้องของคณะเขาก็เข้าบ้างไม่เข้าบ้างเพราะต้องทำงานไปด้วย เพราะฉะนั้นนอกจากพี่รหัสกับลุงรหัส เขาก็แทบจะไม่รู้จักใครทั้งนั้น แน่นอนว่ารวมถึงรุ่นพี่ทั้งสามคนนี้ด้วย


“น้องสิบนี่ปกติก็เป็นคนเงียบๆแบบนี้หรอครับ” มือที่กำลังเขี่ยข้าวในจานอยู่ชะงักกึก เมื่ออยู่ดีๆบทสนทนาก็วกเข้ามาหาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว


“ก็.. ครับ ผมพูดไม่เก่งน่ะ ถนัดฟังมากกว่า”


“เหมือนไอ้ยุทธเลย เพื่อนพี่ก็พูดไม่เก่ง แต่เรื่องกระทำชำเรานี่ของถนัดมันล่ะ”


“สัดป้อง” คนที่ถูกพาดพิงทั้งที่อุตส่าห์นั่งเงียบๆมองเพื่อนสนิทตาขวาง แต่ไอ้คนถูกหมายหัวกลับยิ้มหน้าระรื่นไม่สะทกสะท้าน แถมยังขุดเรื่องเพื่อนมาเผาให้รุ่นน้องฟังต่อหน้าตาเฉย


“เห็นนิ่งๆแบบนี้ลีลาบนเตียงไม่นิ่งนะครัช ทำคู่นอนอ่อนระทวยมานักต่อนักแล้ว”


“เหยดดด จริงดิพี่”


“จริ้ง! สมัยปีหนึ่งนี่ฮอตขนาดดาวคณะบัญชีกับบริหารตบกันแย่งเลยนะเว้ย ไม่ธรรมดา”


และหลังจากนั้นก็กลายเป็นมหกรรมย้อนวัยของรุ่นพี่ปีสาม จากแค่เรื่องของเพื่อนสนิทก็ลามไปจนถึงเพื่อนร่วมรุ่นร่วมคณะ ยันครูบาร์อาจารย์ก็ไม่เว้น สนุกเขาล่ะ จนเวลาผ่านไปเกือบถึงบ่ายโมงนั่นแหละ ถึงได้ฤกษ์แยกย้ายกันซะที


.


.


.


สองทุ่มครึ่งเป็นเวลานัดหมายที่ได้ตกลงกันไว้ เดือนสิบมาถึงร้านพร้อมกับไอ้ปืนด้วยรถ BMW รุ่นล่าสุดของมันในเวลาเกือบๆสามทุ่ม พอเดินเข้ามาในร้าน ก็เห็นว่าพวกไอ้จอมไอ้อิฐ และเพื่อนๆภาคคอมอีกสี่ห้าคนมากันครบหมดแล้ว


ร้านพี่อุ้ม หรือที่รู้จักกันในนาม ศุกร์เมา เสาร์ถอน ถูกเรียกว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของเด็กวิศวะมาแต่ไหนแต่ไร ตัวร้านก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย เป็นร้านเหล้าแบบนั่งชิล ที่ฉาบผนังด้วยปูนเปลือยขึ้นมาแค่ครึ่ง ส่วนที่เหลือเปิดโล่งรับลม มีเวทีปูนยกสูงขึ้นสำหรับวงดนตรีสด ใช้เก้าอี้ไม้และโต๊ะไม้ทั้งร้าน


ไอ้ปืนแวะทักทายพี่อุ้มที่ดูเหมือนจะกำลังยุ่งๆอย่างสนิทสนม ส่วนเขาก็ได้แต่ยกมือไหว้ทักทายตามมารยาทเพราะไม่ได้สนิทกับพี่แกมากมายเหมือนมัน ก่อนจะเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่กำลังนั่งคุยกันอย่างออกรส เดือนสิบยิ้มรับคำทักทายจากเพื่อนในโต๊ะที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ว่างข้างๆไอ้อ๋อง เด็กภาคคอมที่เคยกินเหล้าด้วยกันอยู่ครั้งสองครั้ง


“ไง ได้ข่าวว่าเลิกกับไอ้นุแล้ว สนใจมาคบกับกูไหม” พอหย่อนก้นนั่งลงปุ๊บ ไอ้ตู่ที่นั่งอยู่ถัดไปจากไอ้จอมก็เริ่มเอ่ยปากแซวปั๊บ เดือนสิบรับแก้มน้ำเมาที่ไอ้เบ้นยื่นมาให้ก่อนจะกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย


“ไอ้สัด”


“ฮ่าๆๆๆ” มันหัวเราะอารมณ์ดี “กูเลี้ยงง่ายนะเว้ย ตบตูดไม่กี่ทีก็หลับสนิทยันเช้าแล้ว ไม่สนใจจริงๆอ่อ” มันว่าพลางกระพริบตาปริบๆ เรียกเสียงหัวเราะครืนจากคนทั้งโต๊ะ


เขาส่ายหน้าอย่างระอา ไม่ได้นึกโกรธที่มันแซวเรื่องนั้น ถึงจะมีจี๊ดๆบ้างเวลาที่ได้ยินชื่อมันแต่ในเมื่อเขาเลือกแล้วที่จะตัด มันก็ต้องตัดให้ขาด


ท้องทะเลท้องฟ้ามีเพียงแค่เรา

ท่ามกลางหาดทรายขาว

แสงดวงดาวพร่างพราว ประกายสวยงาม

ดั่งบนสวรรค์เปิดทาง ให้คนอ้างว้างอย่างฉัน

บอกความในใจให้เธอได้ฟัง

โอกาสอย่างนี้ ต้องพูดไป


เสียงเพลงจากวงดนตรีสดดังขึ้นเมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงตอนสามทุ่มครึ่ง ข้างกายของเดือนสิบถูกขนาบข้างด้วยเพื่อนสนิทอย่างไอ้ปืน ส่วนอีกข้างเป็นไอ้ตู่ที่เสนอหน้าสลับที่กับไอ้อ๋องเพื่อมานั่งเต๊าะเขาโดยเฉพาะ


“ว่าทั้งหัวใจ มีแต่เธอนั้น อยากให้เชื่อกัน พยานคือฟ้าที่เฝ้าดู แล้วเธอคิดอย่างไรเมื่อได้รู้บอกที อยากฟังจากปากเธอ” ไอ้คนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาร้องคลอไปกับเสียงนักร้อง พลางเล่นหูเล่นตาใส่เขาอย่างเปิดเผย


จริงๆแล้วไอ้ตู่มันเป็นคนที่จัดว่าหน้าตาดีในระดับหนึ่งเหมือนกัน มันเป็นคนยิ้มหวาน ตาก็หวาน ยิ้มทีเลยเหมือนถูกดูดให้เข้าไปอยู่ในโลกของมัน ถ้าเป็นผู้หญิงถูกมันมองแบบนี้คงได้อ่อนระทวยลงไปกองกับพื้น แต่ประเด็นคือเขาไม่ใช่ผู้หญิง แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรกับมันไง ความรู้สึกเลยค่อนไปทางขำๆติดจะรำคาญซะมากกว่า


“หากเธอก็รัก เธอก็รู้สึกดีๆ เหมือนกัน แต่เธอก็เขินอายอย่างนั้น ที่จะต้องพูดมา แค่ร้องว่าอ๊าอิยาอิยา อ๊าอิยาอิยะ.. เฮ้ย!!” ไอ้ตู่ร้องเสียงหลงในจังหวะที่มันกำลังโน้มหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนที่ร่างหนาๆของมันจะผละห่างจากเขาไปไกลจนแทบตกเก้าอี้ เพราะแรงกระชากจากทางด้านหลังของใครซักคน


“เชี่ย!... เอ้า! พี่หิน.. อะไรของพี่วะเนี่ย” มันตั้งท่าจะด่าแต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมลง เพราะคนที่กระชากมันจนแทบตกเก้าอี้คือรุ่นพี่ปีสาม พ่วงตำแหน่งพี่ว๊ากสุดโหดแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์


“หวัดดีครับพี่ๆ” พวกปีหนึ่งทั้งหลายแหล่ต่างพากันยกมือไหว้อย่างพร้อมเพรียงทันที เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นรุ่นพี่ในคณะ แถมสองในสามยังเป็นพี่ว๊ากที่เคยสั่งซ่อมพวกมันอย่างทารุณเมื่อเทอมที่ผ่านมา


“เออหวัดดี กำลังได้ที่เลยสิพวกมึง เสียงดังลั่นไปถึงหน้าร้าน” พี่ป้องว่าก่อนจะเบียดกระแซะจนได้ที่นั่งข้างๆไอ้อิฐ ส่วนพี่ยุทธก็หยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ว่างข้างๆเขาแทนที่ไอ้ตู่ ที่ถูกพี่หินลากไปไหนแล้วก็ไม่รู้


ไอ้เบ้นมือชงทำหน้าที่แจกจ่ายแอลกอฮอล์ได้ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง หลังจากผ่านไปเกือบชั่วโมงทั้งโต๊ะก็เริ่มได้ที่ แม้แต่เขาเองที่กินแค่จิบๆ นั่งฟังพวกมันคุยกันเงียบๆ ไม่ได้ยกซดเอาๆเหมือนพวกมัน ก็ชักจะเริ่มมึนๆแล้วเหมือนกัน


“เมายังเนี่ย” เสียงทุ้มต่ำจากร่างสูงที่นั่งเงียบอยู่ข้างกัน ทำให้เดือนสิบละสายตาจากพี่ป้องที่จับได้ไม้สั้นจากการเล่นเกม และกำลังยกซดเหล้าเพียวๆหันมามองอย่างแปลกใจ


ไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือแสงไฟสลัวๆในร้าน ที่ทำให้เขามองว่าดวงตาคมกริบของอีกฝ่ายมันทอประกายอ่อนโยนแปลกๆ


“นิดหน่อยครับ” เดือนสิบตอบ ก่อนจะยิ้มบางๆให้อีกฝ่ายแก้เก้อ


เขารู้สึกเกร็งนิดหน่อยเมื่ออยู่ดีๆคนที่นั่งกินเหล้าเงียบๆมาตลอดก็ชวนคุย นับเป็นประโยคแรกตั้งแต่ที่เราเจอกัน แต่ประโยคถัดมากลับยิ่งทำให้เดือนสิบปะหลายใจยิ่งกว่า


“ออกไปสูดอากาศข้างนอกกันไหม”


.


.


บริเวณหลังร้านจัดเป็นสวนหย่อมขนาดเล็ก มีต้นไม้ใหญ่สองสามต้นไว้ให้ความร่มรื่น ปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และไม้พุ่มประปรายตามรสนิยมเจ้าของร้านทั้งนั้น เดือนสิบไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุผลที่ทำให้เขาเดินตามร่างสูงของรุ่นพี่คนนี้ออกมา เป็นเพราะเขาเองก็อยากออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์คลายความหนักอึ้งจากฤทธิ์เหล้า หรือเป็นเพราะดวงตาคมกริบที่ทอดมองมาอย่างอ่อนโยนนี่กันแน่


ฟึบ


แสงสว่างวาบจากไฟแซกในมือหนา ก่อนที่กลิ่นบุหรี่จางๆ จากคนข้างกายจะทำให้เดือนสิบเผลอย่นคิ้วด้วยความไม่ชอบใจ ถึงมันจะเป็นกลิ่นมิ้นไม่ได้เหม็นฉุนเหมือนบุหรี่ราคาถูกแต่เขาก็ไม่ชอบมันอยู่ดี ซึ่งท่าทางของเดือนสิบก็ไม่ได้รอดพ้นไปจากสายตาคมกริบของคนข้างๆ


“ไม่ชอบคนดูดบุหรี่หรอ”


“นิดหน่อยครับ” จริงๆแล้วเดือนสิบอยากจะบอกว่าไม่ชอบเอามากๆ ขนาดไอ้ปืนที่เมื่อก่อนดูดบุหรี่จัด พอเขาบอกว่าไม่ชอบมันก็พยายามลดลงและไม่มาสูบให้เห็นอีก แต่กับคนตรงหน้าเขาไม่กล้าบอกไปตรงๆเพราะเรายังไม่ได้สนิทกันถึงขั้นนั้น


“จริงๆก็ว่าจะเลิกอยู่… แต่ยังหาแรงบันดาลใจไม่ได้” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบเรื่อย ขณะที่ตาคมยังจับจ้องใบหน้าเนียนไม่วางตา


“สนใจมาเป็นแรงบันดาลใจให้หน่อยไหม สัญญาว่าจะเลิกอย่างเด็ดขาดเลย”


!!!!










*****






ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์รอน้องสิบนะคะ // กราบบบ
เราเพิ่งหัดเขียน ภาษาแปลกๆติดๆขัดๆก็อย่าว่ากันน้าา
ผิดพลาดตรงไหนติได้นะคะ เราพร้อมรับฟัง 
 :mew1::mew2:


หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 06-01-2017 05:44:28
 :laugh:


หยอดแรงงงงง
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 06-01-2017 06:20:09
เอาอีกๆ
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 06-01-2017 08:33:02
ชอบๆๆๆชูป้ายไฟเชียร์พี่ยุทธรัวๆ
เปิดใจด่วนๆเลยน้องสิบบบบ :-[
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 06-01-2017 09:32:22
อ้อยมาทั้งป่าเลยจ๊ะงานนี้
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 06-01-2017 09:43:31
ชอบพี่ยุทธอ่ะ
ดูละมุนดีจัง
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 06-01-2017 10:46:30
 :ped149: :ped149: :ped149: :ped149:
พี่ยุทธชอบเดือนสิบมานานแบบนี้ เปิดใจรับพี่เขาเถอะนะเดือนสิบ
แต่เดือนสิบคงไม่เปิดใจง่ายแน่ๆ แผลที่นุทำไว้ยังใหม่อยู่นี่เนอะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 06-01-2017 17:00:23
เดี๋ยว!!!!!!!!! มามุขนี้เลยหร๊อออออ 5555  :laugh:
โอยยยย ชอบๆๆๆๆๆๆ พี่ยุทธเห็นเงียบๆมุขเต๊าะเพียบนะจ้ะ 5555555
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 06-01-2017 17:02:35
พี่ยุทธได้ใจจริงๆ สู้ๆเอาชนะใจเดือนสิบให้ได้
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MOLI ที่ 06-01-2017 17:50:11
เดี๋ยวๆๆ พี่ยุทธเล่นมุขแบบนี้กันเลยเหรอ รู้สึกว่าเรื่องดำเนินไปเร็วอะ เพิ่งจะเจอหน้ากัน รู้ว่าพี่ยุทธแอบชอบมานานแต่รู้สึกว่ารุกมากไปหน่อยนะ หวังว่าเดือนสิบจะไม่คิดว่าเป็นเรื่องตลกร้าย  :hao5: พี่ยุทธอ่อย5555

รู้สึกเกลียดนุจริงๆ คำพูดที่บอกเลิก คำแก้ตัวมันใช้ไม่ได้เปล่า...คนประเภทนี้เลิกๆไปเถอะเดือนสิบ อกหักเข้าใจ เดินต่อไป ทางที่สว่างสดใสรอเราอยู่ แต่แอบเชียร์ปืนเบาๆ ตัวติดกันดีนัก!!   :hao7: :hao7:

ส่วนเรื่องภาษาการเขียน ถือว่าเป็นการเริ่มที่ดีค่ะ สู้ต่อไปนะคะ ติดตามๆ  :katai4:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 06-01-2017 18:02:37
ยุทธอ่อยแรงมากเว่อ เอาอีกๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 06-01-2017 20:34:09
หืมมมมมมมมม  :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 06-01-2017 21:44:16


ชอบพี่ยุทธอ่ะ เห็นเงียบๆมุกเต๊าะเพียบจริงจัง 55555
รอนะคะ  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 06-01-2017 23:55:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 07-01-2017 03:18:57
จัดไปแล้วนหนึ่งดอก *ปาอ้อย* :ling1:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-01-2017 05:10:11
น้องสิบกะพี่ยุทธ.  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 07-01-2017 07:55:05
โอมจงมา 
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 07-01-2017 14:54:58
อั้ยยะ สนใจมาเป็นแรงบันดาลใจให้พี่ยุทธไหมจ้ะน้องเดือนสิบ555
เห็นเงียบๆ แต่มาเร็วเคลมเร็วเหมือนกันนะ ทำไมทีแรกปล่อยให้หลุดมือไปได้ล่ะคะ
สนุกๆ มาบ่อยๆ อย่าหายไปนะคะ
+1 ให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-01-2017 15:42:26
เอาเลยค่ะพี่ยุทธมุกนี้เราให้ผ่านค่ะ เหลือแต่เดือนสิบจะยอมเป็นแรงบันดาลใจให้เลิกหรือเปล่านะคะ
หัวข้อ: Re: ★★★ อกหักมารักกับพี่ ★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 07-01-2017 17:47:03
จีบกันโต้ง ๆ เลยรึคะ!

แหม พูดไม่เก่งแต่จีบเก่งสินะ  :hao3:
ถึงจะใช้เวลานาน แต่อย่าเพิ่งท้อนะพี่ยุทธ รักษาแผลน้องด้วย
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 07-01-2017 19:25:40
มาแรงแซงทางโค้ง
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 07-01-2017 21:29:59


ชอบอ่ะ
พี่ยุทธเห็นนิ่งๆนี่เคลมเร็วเลยนะ   :laugh:

เกลียดเหตุผลไอ้นุมากอ่ะ คนอยากเลิกแม่งจะพูดอะไรก็พูดได้จริงๆ
สงสารเดือนสิบ พี่ยุทธรีบๆดามใจน้องให้ได้เร็วๆน้า
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 07-01-2017 22:04:56
โอ้ยยยพี่ยุทธ
หยอดเเรงมาก
รอมาต่อน้าาาชอบบบบ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 1 ... [6/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-01-2017 08:37:42
โห จีบได้เห่ยมากพี่ยุทธ น้องเดือนสิบจะเข้าใจไหมนี่
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 08-01-2017 17:49:18
#ตอนที่สอง




“เอ่อ.. ” เดือนสิบจับจ้องใบหน้าคมคายของรุ่นพี่ร่วมคณะอยู่ครู่สั้นๆ ก่อนจะกระแอมออกมาเบาๆแก้เก้อพลางยกนิ้วขึ้นเกาหัวกบาลด้วยท่าทีเหลอหลาจนเรือนผมสีน้ำตาลเข้มที่เซตมาอย่างลวกๆ เริ่มยุ่งเหยิงนิดๆ


ยอมรับว่าสตั๊นไปเหมือนกันกับประโยคในเชิงรุกจีบซึ่งๆหน้าที่ได้ยิน หนักสุดคือคนที่พูดมันออกมาดันเป็นรุ่นพี่ในคณะที่เขาเพิ่งมีโอกาสได้รู้จักอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ซึ่งเดือนสิบไม่ได้นึกมาก่อนว่าจะเจอประโยคทำนองนี้จากพี่มัน


พี่ยุทธในความรู้สึกเขาคือรุ่นพี่ที่วางท่านิ่งเฉยไม่สนโลก หรือจะเรียกว่าขวางโลกเลยก็ได้ พี่มันทำราวกับว่าไม่แคร์อะไรหรือใครทั้งนั้น ใบหน้าหล่อเหลาติดจะเย็นชาแทบตลอดเวลา รวมถึงดวงตาคมกริบที่ดูจะแข็งกร้าวอยู่ทุกขณะยามเมื่อกราดมองสิ่งรอบกาย ทว่าตอนนี้ตาคู่นั้นกลับทอดมองมาที่เขาอย่างอ่อนโยนจนเดือนสิบรับรู้ได้ถึงกระแสความอบอุ่นที่แผ่ออกมา


เขายิ้มแห้งให้อีกฝ่ายก่อนจะเสหลบตาคมเป็นประกายแปลกๆมามองบรรยากาศรอบๆแทน ยอมรับว่าถึงแม้ท่าทางจริงจังของพี่ยุทธจะไม่ได้ทำให้อึดอัด แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยอยู่เหมือนกัน


เสียงหัวเราะในลำคอของอีกฝ่ายดังขึ้นเบาๆทำลายความประดักประเดิดที่เกิดขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่ร่างสูงของรุ่นพี่ร่วมคณะจะเดินแยกออกไปยืนสูบบุหรี่อยู่ไม่ไกล เดือนสิบเผลอมองตามแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะละสายตาแล้วเดินมาทรุดตัวลงบนม้านั่งที่อยู่เยื้องไปไม่ไกล


คิดอย่างไรเดือนสิบก็คิดไม่ออกว่าพี่มันจะมานึกชอบอะไรเขาตอนไหน หรือแค่อยากจะแหย่กันเล่น? แต่ท่าทางของพี่มันก็ใช่ว่าจะเป็นคนขี้เล่นนี่หว่า


“อ้าวสิบ..? มานั่งทำไรตรงนี้วะ”


ความคิดฟุ้งซ่านของเขาถูกหยุดด้วยเสียงห้าวๆของไอ้จอมที่เดินเซๆมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆกัน มันล้วงซองบุหรี่ออกมาก่อนจะชะงักอย่างนึกขึ้นได้แล้วยัดเก็บลงไปเหมือนเดิม


“โทษที ลืมไปว่าสิบไม่ชอบ” มันยิ้มแหย เดือนสิบเลยสั่นหัวเบาๆ


“ไม่เป็นไร… ดูดได้ เรากำลังจะกลับเข้าไปข้างในอยู่พอดี”


อันที่จริงเขาอยากจะกลับเข้าไปตั้งแต่ได้ยินประโยคที่ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจแปลกๆจากรุ่นพี่ร่วมคณะแล้ว แต่กลัวจะถูกอีกฝ่ายมองไปในทางไม่ดี เพราะไอ้ตอนออกมาก็เดินตามเขามาต้อยๆครั้นจะชิ่งกลับเข้าไปเลยโดยไม่ได้บอกกล่าวมันก็ดูจะยังไงๆอยู่


“นี่เราไม่ได้มาไล่ที่ใช่ไหมเนี่ย ทำไมเรามาปุ๊บก็จะไปปั๊บเลยอ่ะ” ไอ้จอมเลิ่กลั่ก


“เปล่าๆ เรากำลังจะกลับเข้าไปพอดีจริงๆ”


มันพยักหน้าหงึกหงักท่าทางโล่งอกโล่งใจ ก่อนที่สายตาจะละจากใบหน้าของเดือนสิบไปอยู่ที่ใครอีกคนซึ่งกำลังเดินตรงเข้ามา


“อ้าวพี่ยุทธ.. อยู่นี่ด้วยหรอพี่”


“เออ” ร่างสูงครางรับสั้นๆ ทว่าตาคมกลับจับจ้องอยู่ที่เสี้ยวหน้าด้านข้างของรุ่นน้องอีกคน


เดือนสิบเผลอกัดปากเมื่อได้ยินเสียงทุ้มใกล้เข้ามา


“เมื่อกี้มีสาวมาถามหาพี่ด้วยอ่ะ แต่พี่ป้องบอกว่าพี่ไปเข้าห้องน้ำ หน้าอย่างสวย หุ่นงี้อย่างเซี๊ยะเลย” ไอ้จอมว่าตาเป็นประกายพลางทำไม้ทำมือประกอบ แต่คนที่ถูกสาวเจ้าถามหากลับปั้นหน้าเฉยครางรับเบาๆเท่านั้น ตาคมที่เคยทอประกายอ่อนโยนเมื่อก่อนหน้านี้กลับว่างเปล่าราวกับไม่รู้สึกรู้สา…


ความเงียบระหว่างพวกเขาเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อไอ้จอมเดินผละออกไปสูบบุหรี่… เดือนสิบรู้ว่าพี่ยุทธกำลังมองมาที่เขาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มองไปที่พี่มันก็ตาม ความกระอักกระอ่วนใจเกินขึ้นอีกครั้งเมื่อฝ่ายนั้นทรุดตัวลงนั่งข้างๆ


แม้จะห่างกันถึงหนึ่งช่วงแขนแต่เดือนสิบก็รับรู้ได้ถึงกระแสความอบอุ่นที่แผ่ออกมา


แต่เขาเลือกที่จะมองข้าม..


“ผมกลับเข้าไปข้างในก่อนนะพี่” เขาหยัดตัวยืนขึ้นจนเต็มความสูง ทว่าออกเดินได้แค่สองก้าวก็ต้องหยุดชะงักเพราะถูกเสียงทุ้มฉุดเอาไว้เสียก่อน


“สิบ…”


เดือนสิบเผลอเม้มปาก ก่อนจะตอบรับเสียงเบาทั้งที่ยังหันหลังให้อีกฝ่าย


“ครับ”


“ที่พูดเมื่อกี้.. พี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ”


.

.

.


“ไปไหนมาวะ” เสียงอ้อแอ้ของไอ้ปืนถามขึ้นทันทีที่เดือนสิบหย่อนก้นลงนั่งข้างๆมัน บรรยากาศในวงเหล้ายังคงครึกครื้นแม้จะมีเพื่อนบางคนฟุบลงไปกับโต๊ะแล้วก็ตาม หนึ่งในนั้นเป็นไอ้ตู่ที่ถูกนั่งประกบข้างด้วยพี่หินที่ดูเหมือนสติจะยังครบถ้วนที่สุด มันครางอ้อแอ้ฟังไม่ได้สรรพทั้งที่มือยังจับแก้วเหล้าแน่นไม่ยอมปล่อย


ดูๆไปแล้วก็ตลกดี


“สูดอากาศข้างนอก.. เมาแล้วดิมึง ตาปรือเชียว”


“นิดหน่อยวะ พี่ป้องแม่งใช้อำนาจมืดบังคับกูแดกไปสามช็อตเน้นๆ ตาลายเลยเนี่ย” มันว่าพลางสะบัดหัวไล่ความมึน


ส่วนไอ้คนที่ใช้อำนาจมืดทำให้มันเป็นอย่างนี้กำลังส่งเสียงอ้อแอ้ คะยั้นคะยอให้ไอ้อิฐที่นั่งปรือตาอยู่ข้างๆกันยกแก้วที่มีเหล้าเพียวๆอยู่เกือบครึ่งขึ้นดื่มท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนรอบวงที่ยังมีสติ ท่าทางโงนเงนนั่งไม่ติดทำให้เดือนสิบรู้ว่าฝ่ายนั้นก็เมามากไม่ต่างกัน


“โอ้ยไม่ไหวแล้วพี่ อีกซ็อตนี่อ้วกผมพุ่งแน่ๆ” ไอ้อิฐโวยวาย พลางเลื่อนแก้วเหล้าที่ถูกส่งมาวางไว้ตรงหน้าออกห่างราวกับมันเป็นตัวเชื้อโรค ทั้งที่เมื่อตอนกลางวันยังดี้ด้าเรียกหามันอยู่แท้ๆ


“อ่อนจังว้า ไหนเพื่อนมึงบอกว่ามึงคอทองแดงไง แค่นี้ทำมายึกยักนะไอ้สัด แดกเข้าไปเลยมึงเสียของ”


“โอ้โห.. กล้าพูดนะพี่ป้อง แล้วใครมันบังคับให้ผมยกเอาๆแบบนอนสต็อปละวะ แบบนี้ต่อให้แข็งเป็นเพชรยังต้องยอมแพ้เลย ไม่น็อคไปตั้งแต่กลมที่แล้วก็ถือว่าเก่งชิบหายแล้ว” ไอ้อิฐบ่นยาว จนรุ่นพี่ร่างเล็กยกธงขาวยอมแพ้แต่ก็ไม่วายทำปากขมุบขมิบบ่นมันด้วยประโยคที่เดือนสิบจับใจความไม่ได้ และหลังจากนั้นวันช็อตเจ้าปัญหาก็วนไปที่คนอื่นเรื่อยๆ


ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มกว่าๆ บรรยากาศในร้านเป็นไปด้วยความสนุกสนานเพราะนักร้องหยิบยกเพลงร็อคจังหวะโดนๆมาให้ลูกค้าขาแดนซ์ได้ออกสเต็ป โต๊ะที่เคยว่างโล่งเต็มไปด้วยลูกค้าทั้งหน้าใหม่และขาประจำเข้ามาจับจองจนเกือบเต็ม


ในจังหวะที่เดือนสิบกำลังกวาดมองบรรยากาศรอบๆ สายตาเขาก็ไปปะทะเข้ากับผู้ชายร่างสูงท่าทางคุ้นเคย บนหัวของมันยังคงมีผ้าพันแผลที่เขาฝากไว้เมื่อสองวันก่อน ไอ้นุ…


มันเดินเคียงคู่เข้ามากับหนุ่มน้อยหน้าแฉล้มรูปร่างบอบบางคนเดิมด้วยท่าทางยิ้มแย้มราวกับมีความสุขนักหนา ร่างกายเขาเกร็งขึ้นเองโดยอัตโนมัติเมื่อสายตาประสานกับมันที่เงยหน้าขึ้นมาพอดี รอยยิ้มที่เคยมีหายวับใบหน้าหล่อเหลาปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจนเดือนสิบรู้สึกหน่วงในอก


ทั้งที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็ง ทั้งที่คิดว่าการตัดคนเหี้ยๆอย่างมันออกไปจากใจไม่ใช่เรื่องยาก แต่พอได้มาเห็นว่ามันมีความสุขกับคนอื่นแค่ไหนเขาก็ยิ่งรู้สึกเจ็บเท่านั้น.. ความรู้สึกร้อนผ่าวที่หัวตาย้ำชัด บ่งบอกว่าเขายังคงคิดถึง และยังลืมมันไม่ได้อย่างที่คิด…


หมับ!


สัมผัสอบอุ่นที่สอดเข้ามาโอบกระชับฝ่ามือทำให้เดือนสิบถอนสายตาจากภาพเบื้องหน้ากลับมามอง เจ้าของฝ่ามือไม่ได้กำลังจับจ้องเขา ร่างสูงของรุ่นพี่ร่วมคณะยกแก้วเหล้าที่ใครสักคนยื่นมาให้ขึ้นจิบ ในขณะที่มือหนายังคงบีบกระชับมือเขาเอาไว้คล้ายจะปลอบประโลม เสี้ยวหน้าคมคายนิ่งสนิทจนเดือนสิบเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกยังไง…


อยากจะชักมือกลับ แต่ในใจลึกๆก็อดยอมรับไม่ได้ว่ามือคู่นี้ทำให้เขาคลายความปวดหน่วงในอกลง น้ำตาที่คิดว่าจะไหลกลับระเหิดหายไปเมื่อถูกปัดเป่าด้วยความอุ่นซ่านที่แผ่เข้ามา


“นั่นมันไอ้นุป่าววะ” เสียงของใครสักคนในกลุ่มทำให้เดือนสิบละความสนใจจากเสี้ยวหน้าคมคาย ทุกคนที่ยังมีสติต่างพากันหันขวับไปยังทิศทางที่ไอ้นุและเด็กใหม่ของมันนั่งอยู่… สามโต๊ะถัดไปนี่เอง


“หัวแตกขนาดนั้นแม่งก็ยังอุตส่าห์ลากสังขารมาแดกได้เนอะ ใจรักชิบหาย”


“ขัดเด็กมันไม่ได้อ่ะดิ ได้ข่าวว่าเป็นขาเที่ยวมาแน่ไหนแต่ไร”


“มึงโอเคไหมวะ” ไอ้ปืนก้มลงมาถามท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ของเพื่อนร่วมโต๊ะ ท่าทางมึนๆของมันหายวับเพราะความเป็นห่วงเพื่อนสนิทเข้าแทรก ฝ่ามือหนาวางลงที่ไหล่ของเดือนสิบ บีบเบาๆอย่างให้กำลังใจ


“โอเคดิวะ สบายมาก” ถึงจะว่าอย่างนั้น แต่สายตาก็ยังไม่วายเหลือบมองไปยังทิศทางที่มันนั่งอยู่


ความสนใจของเดือนสิบตกอยู่ที่ไอ้นุกับเด็กใหม่มันได้ไม่นานเมื่อเพื่อนในกลุ่มต่างก็ผลัดกันชวนเขาคุยนั่นนี่ไม่หยุด ต่างคนต่างสรรค์หาเรื่องตลกนั่นนี่มาเล่าจนเขาหลุดขำไปกับมุกของพวกมันอยู่บ่อยครั้ง


เดือนสิบเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามีเพื่อนหลายคนที่คอยเป็นห่วงเขา เพื่อนที่เขาเคยมองว่าเป็นคนอื่น แต่ในยามนี้พวกมันต่างแสดงออกว่าเป็นห่วง ถึงจะไม่ได้พูดออกมาตรงๆแต่ท่าทางที่แสดงออกอย่างโอเวอร์แอคติ้งของแต่ละคนก็ทำให้เดือนสิบรู้ว่าพวกมันกำลังทำเพื่อเขา


บางทีการที่เขาไม่มีเพื่อนหรือไม่สนิทกับคนอื่นเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะมัวแต่ยึดติดอยู่กับไอ้นุ เอาแต่คิดว่ามันเป็นให้ได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟนจนทำให้เผลอละเลยคนรอบข้าง ไม่ใช่เพราะคนอื่นไม่เข้าหา แต่เป็นเพราะตัวเขาเองต่างหากที่ขีดเส้นแบ่งความสำพันธ์ของพวกมันไว้แค่นั้น เป็นตัวเขาเองที่ปฏิเสธและผลัดดันพวกมันให้ออกห่าง…


.


.


.


เสาร์อาทิตย์หรือที่เรียกว่าเป็นวันหยุดของใครหลายๆคนใช้ไม่ได้กับเดือนสิบ อู่ซ่อมรถเฮียโหน่งพี่ชายของเฮียเหนิงพี่รหัสเขา เป็นที่ทำงานของเดือนสิบมาตั้งแต่เทอมที่แล้ว


ทางบ้านเขาไม่ได้มีฐานะดีนักแต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่ถึงกับขัดสน พ่อแม่เขาทำไร่ทำนาซึ่งเป็นอาชีพเกษตรกรที่สืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เดือนสิบมีน้องชายหนึ่งคนซึ่งตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช 3 ค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อยๆเหมือนกัน…


หลังจากเข้ามาอยู่กรุงเทพเพราะสอบชิงทุนได้เดือนสิบก็เริ่มหางานทำ เพราะถึงแม้จะมีทุนการศึกษาแต่มันก็ช่วยเฉพาะค่าเทอมไม่ได้รวมค่ากินอยู่จิปาถะอื่นๆ ถึงพ่อกับแม่จะย้ำอยู่เสมอว่าพวกท่านส่งไหวขอแค่ให้เขาตั้งใจเรียน แต่พอนึกภาพที่พวกท่านทั้งสองต้องตากแดดหน้าดำหาเงินงกๆไม่ได้หยุดหย่อน เพื่อหาเงินส่งทั้งเขาทั้งน้องเรียนแล้ว ความรู้สึกจุกแน่นมันก็ตีตื้นขึ้นมาจนทนอยู่เฉยไม่ได้…


ร้านของเฮียโหน่งเป็นอู่ซ่อมรถขนาดกลาง ทำเลที่ตั้งอยู่เยื้องไปไม่ไกลจากมหา’ลัยมากนัก จึงทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการส่วนมากเป็นนักศึกษาในมหา’ลัยเดียวกันกับเดือนสิบ เวลาทำงานถูกคิดเป็นชั่วโมงเนื่องจากเขาไม่สามารถมาได้เต็มวันเพราะติดเรียน จะมีแค่เสาร์อาทิตย์เท่านั้นที่ได้ค่าแรงเท่ากับพี่คนอื่นๆ


“สิบมาแยกน็อตตรงนี้ให้เฮียหน่อย” เสียงเรียกของเฮียโหน่งทำให้เดือนสิบละมือจากกล่องเครื่องมือที่เพิ่งเก็บเข้าที่เดินเข้าไปหา “ทำตรงนี้เสร็จก็กลับได้เลยนะ เดี๋ยวคันนี้เอาไว้ให้ไอ้ช้างมันเข้ามาเช็คดูอีกทีพรุ่งนี้” เดือนสิบตอบรับก่อนจะลงมือแยกน็อตตามที่ได้รับมอบหมาย


เฮียโหน่งเจ้าของร้านเป็นผู้ชายร่างสูง โดยพื้นฐานแล้วโครงหน้าอ่อนโยนเหมือนพี่รหัสเขา แต่เพราะไรหนวดเขียวครึ้มที่เจ้าตัวไม่ใส่ใจดูแลบวกกับผิวสีเข้มจากการเล่นกีฬากลางแจ้งจึงขับให้บุคลิกดูน่าเกรงขาม ทั้งที่จริงๆแล้วเป็นคนใจดี


เดือนสิบเข้ามาทำงานที่นี่ได้เพราะเฮียเหนิงเป็นคนฝากให้ ด้วยความที่เป็นคนเรียนรู้เร็วแถมยังมีฝีมืออยู่แล้ว เพราะเคยทำงานในอู่ซ่อมรถมาก่อนสมัยเรียนอยู่โรงเรียนช่างแถวบ้าน ใช้เวลาไม่นานเขาก็ได้รับความไว้วางใจจนได้จับงานใหญ่ๆอย่างพวก
เครื่องยนต์ราคาแพง หรือแม้แต่รถยี่ห้อดังนำเข้าจากต่างประเทศ


.


.


เดือนสิบออกจากอู่มาตอนเกือบๆสี่โมง เพราะช่วงนี้ใกล้สอบไฟนอลเฮียโหน่งเลยอนุญาตให้เขาเลิกเร็วกว่าปกติทั้งที่ยังได้ค่าแรงเท่าเดิม


“ผัดไทยกุ้งสดพิเศษหนึ่งครับลุง”


“อ้าว อาสิบนี่เอง ได้ๆนั่งรอเลย”


เดือนสิบเอ่ยทักทายลุงป้าง เจ้าของร้านที่คุ้นหน้ากันเพราะเขามาฝากท้องที่นี่บ่อยๆ ก่อนจะเดินมานั่งรอที่โต๊ะ เนื่องจากตอนนี้ลูกค้าไม่เยอะ รออยู่ไม่นานผัดไทกุ้งสดน่าตาน่าทานก็มาวางอยู่ตรงหน้า แต่ลงมือกินได้ไม่กี่คำ เสียงทุ้มคุ้นหูของใครบางคนก็ดังขึ้น ก่อนที่ร่างสูงของรุ่นพี่ในคณะจะนั่งลงตรงข้ามกับเขา


“นั่งด้วยนะ โต๊ะเต็ม”


เหตุการณ์คุ้นเคยร ทำให้เดือนสิบได้แต่กระพริบตามองคนตรงหน้าปริบๆ อยากจะปฏิเสธ แต่ที่แสดงออกได้คือการพยักหน้ารับและยกมือไหว้พี่มันตามมารยาทเท่านั้น


เหตุการณ์เมื่อคืนก่อนทำให้เขาอดจะรู้สึกประดักประเดิดไม่ได้เวลาเผชิญหน้า


“เพิ่งเลิกงานหรอ?” อีกฝ่ายเปิดประเด็น


“ครับ” เดือนสิบตอบรับ แม้จะรู้สึกแปลกใจว่าพี่ยุทธรู้เรื่องที่เขาทำงานได้ยังไงก็ตาม


อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนจะเงียบลง


“พี่ล่ะครับ มาทำอะไรแถวนี้”


บรรยากาศแปลกๆทำให้เดือนสิบเลือกที่จะชวนอีกฝ่ายคุย เพราะคิดว่าอย่างน้อยๆมันก็ทำให้ความอึดอัดลดน้อยลงกว่าการที่เราทั้งสองนั่งเงียบ


“จริงๆก็อยู่แถวนี้มาตลอดนั่นแหละ” คิ้วเรียวขมวดน้อยๆกับคำตอบของอีกฝ่าย


“หรอครับ.. ทำไมผมไม่เคยเห็นเลยล่ะ”


“ไม่เห็น… หรือไม่เคยมองกันแน่” ยุทธนาเว้นช่วง นัยน์ตาคมกล้าอ่อนแสงยามทอดมองดวงหน้าของรุ่นน้องร่วมคณะ “ขนาดพี่ยังเห็นเรามานั่งกินข้าวที่ร้านนี้ประจำเลย เต้าหู้ปลาท่องโก๋ตอนเช้าๆของแปะโอหน้าปากซอยนั่นก็ด้วย”


“….”


คำตอบของคนตรงหน้าทำให้เดือนสิบอึ้งไปไม่น้อย อยากหลบสายตาที่มองมาแต่ก็ทำไม่ได้อย่างที่คิด ราวกับว่าถูกความอ่อนโยนที่ส่งผ่านมาอย่างไม่ปิดบังดึงรั้งเอาไว้


แล้วตอนนั้นลุงป้างก็เอาผัดไทกุ้งสดที่หน้าตาเหมือนของเขามาเสิร์ฟ ร่างสูงถึงได้ถอนสายตาไป


“ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วนี่ เริ่มอ่านหนังสือบ้างหรือยัง”


หัวข้อสนทนาที่เปลี่ยนไปจากก่อนหน้านี้ลิบลับ ทำให้เดือนสิบรู้สึกหายใจหายคอคล่องขึ้น ความเกร็งเริ่มหายไปเมื่อเห็นอีกฝ่ายลงมือกินผัดไทตรงหน้าด้วยท่าทางสบายๆ


“เริ่มอ่านบ้างแล้วครับ” เขาตอบพลางเริ่มลงมือจัดการกับผัดไทของตัวเองบ้าง


“แล้วทำงานไปด้วยแบบนี้ เอาเวลาที่ไหนมาอ่านหนังสือสอบ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบเรื่อย ในขณะที่ตาคมก็ลอบสังเกตท่าทีของรุ่นน้องอยู่เป็นระยะ


“ก็อ่านหลังเลิกงาน ไม่ก็เวลาที่อู่ไม่มีลูกค้าน่ะครับ เจ้าของอู่ใจดีอนุญาตให้ผมกลับเร็วได้ถ้าเป็นช่วงสอบ” ร่างสูงพยักหน้ารับ


“แล้วมีวิชาไหนที่อ่อน หรือไม่เข้าใจไหม” เดือนสิบโคลงหัวทำท่าคิด เผลอยู่กลีบปากนิดๆอย่างไม่ตั้งใจเพราะติดเป็นนิสัย ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าท่าทางของตัวเองเรียกความเอ็นดูจากคนที่ลอบมองอยู่ตลอดได้มากโข


“Thermodynamic ละมั้งครับ ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่”


“ใจหลักของวิศวะเครื่องกลเลยนะนั่น… แล้วมีคนช่วยติวให้หรือยังล่ะ”


“ยังครับ” เดือนสิบตอบเสียงเบา เขาไม่เคยร่วมกลุ่มติวกับเพื่อนๆหรือรุ่นพี่คนอื่นๆ อาศัยอ่านทำความเข้าใจแล้วฝึกทำแบบทดสอบเองมากกว่า


“ช่วยติวให้ไหม”


บทสนทนาลื่นไหลชะงักลงเมื่อเดือนสิบเงยหน้าขึ้นมาสบตากับอีกฝ่ายตรงๆหลังจบประโยค คิ้วเข้มยกขึ้นน้อยๆมองมาที่เขาอย่างรอคำตอบ ไม่ได้ดูเร่งรัดหรือบังคับ แต่เป็นการเฝ้ารออย่างใจเย็น


เดือนสิบเผลอเม้มปากอีกครั้ง แต่ครู่เดียวคำตอบก็หลุดออกมา และมันทำให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเผยยิ้มบางจนเขาเผลอมองค้างไปชั่วขณะ


“รบกวนด้วยนะครับ”






 *****



ขอบคุณทุกคนที่อุตส่าห์รอน้องสิบนะคะ  :L2: :L2:

พูดถึงนิสัย
เดือนสิบเป็นคนพูดน้อย พูดไม่เก่ง ถามคำตอบคำ จนบางทีก็ทำให้คนรอบข้างคิดว่าเขาไม่อยากคุยด้วยอะไรแบบนี้อ่ะค่ะ
อีกอย่างคือตอนนั้นน้องมันมองเห็นแค่ไอ้นุจนไม่ได้สนใจคนอื่นๆด้วย เลยกลายเป็นว่าตัวเขานั่นแหละที่ปิดกั้นตัวเอง

เราไม่รู้ว่าทุกคนจะเข้าใจอารมณ์น้องอย่างที่เราเขียนไหม บางทีเราอ่านเองยังรู้สึกงงๆเหมือนมันวกไปวนมา  :a5:
ผิดพลาดยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ เราจะพยายามให้ดีขึ้น 
อย่าเพิ่งหนีเค้าไปไหนน้า :กอด1: :กอด1:



หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 08-01-2017 18:00:57
 :L2: :L1: :pig4:

สู้ๆนะนักเขียน เรารออ่าน

ชูป้ายพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-01-2017 19:15:52
fcพี่ยุทธค่ะ พี่ยุทธสู้ๆ นะคะ ตอนนี้ต้องให้เวลาน้องสิบหน่อยนะคะ น้องเพิ่งอกหัก เพิ่งเลิกกับแฟนมา มีพี่ช่วยมาปลอบแบบนี้เดี๋ยวก็ดีขึ้นค่ะ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 08-01-2017 19:18:35
เชียร์พี่ยุทธเต็มที่ ขนาดน้องสิบไม่ค่อยพูดด้วยสักเท่าไหร่พี่ยังใจเย็นและรอคอย o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-01-2017 19:37:11
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: naplatoo ที่ 08-01-2017 19:37:58
มาเชียร์พี่ยุทธค่าา สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: polartotty ที่ 08-01-2017 19:51:40
น่ารักอ่ะ มีความละมุน >_<
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-01-2017 20:03:32
น่ารักดีจัง
ดราม่าเกิดไปแล้วตอนต้นเรื่อง หลังจากนี้คงมีแต่กุ๊กกิ๊ก
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 08-01-2017 20:14:51
รอพี่ยุทธรุกหนัก
บอกน้องไปเลย ว่าจีบนะ  :-[

ปล. อยากกินผัดไทยเลยค่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 08-01-2017 20:33:43
รอติดตามตอนต่อไปค่า :katai4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 08-01-2017 21:13:25
ไม่เห็นหรือไม่เคยมองกันแน่
หมัดฮุกของพี่ยุทธ555
รอเขาติวหนังสือกัน ^^
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 08-01-2017 21:56:07
พี่ยุทธจีบแบบผู้ใหญ่ใจเย็นนะตอนนี้ ไม่ค่อยมีโมเม้นท์ให้กรี๊ดแบบเด็ก ๆ แต่เข้าหาอย่างจริงใจและค่อยเป็นค่อยไป เข้ากับสภาวการณ์ของเดือนสิบตอนนี้สุด ๆ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-01-2017 22:13:21
เมื่อไหร่อีนุจะได้บทเรียน.  เกลียดดด
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 08-01-2017 22:41:11
เมื่อไหร่อีนุจะได้บทเรียน.  เกลียดดด

รอด้วยคนค่ะ เกลียดดดดดด
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 08-01-2017 23:06:24



FC พี่ยุทธค่ะ มีความละมุน เชียร์ให้เดือนสิบใจอ่อนเร็วๆ  :o8:
อยากเห็นอินุเจ็บเหมือนกันค่ะ เกลียดดดด
ขอให้มันโดนแฟนเด็กหลอกไปเลยยิ่งดี  :z6:
คนเขียนสู้ๆนะคะ รอออ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 08-01-2017 23:15:16
ฮูวววว เด็กเครื่องกลยกมือหน่อยยยย


ถ้าพี่เค้าสอนไม่รู้เรื่องเดี๋ยวพี่ไปช่วยติวนะน้อง พวกยาวไปถึงฮีทหรือรีฟิกเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 09-01-2017 00:29:16
 o13FC พี่ยุทธ รอนะครับ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 09-01-2017 01:03:46
รอดูเขาติวหนังสือให้กันค่ะ  :o8:
พี่ยุทธมีความละมุน ขอห้เดือนสิบเปิดใจให้พี่ยุทธเร็วๆนะคะ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 09-01-2017 08:41:25
พี่ยุทธเปรี้ยวมาก จะไม่ให้ใครแตะน้องสิบ ฮ่าๆ น้องสิบไม่ชอบคนสูบบุหรี่นะพี่ เลิกเด็ดขาดอะได้รึป่าว
  รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 09-01-2017 10:39:14
ดีต่อใจทั้งพี่ทั้งน้องเลยยยยย ><
สู้ๆนะคะ เราติดตามค่ะะะ :L1:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 09-01-2017 11:16:09
เหยยดีอ่ะ เหมือนคนพูดน้อยสองคนมาเจอกัน

กระแสอบอุ่นแรงมากกก
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 09-01-2017 11:36:32
พี่ยุทธอบอุ่นมากเลย ถ้าเป็นเดือนสิบนี่อ่อนยวบไปแล้ว แอบสงสารพี่ยุทธด้วย เดือนสิบไม่เคยมองมาเลยสินะ แต่ต่อไปนี้คงมองแล้ว เพราะอ้อยขนาดนี้  :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 09-01-2017 13:26:11
พี่ยุทธ อบอุ่นมากๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 09-01-2017 13:36:18
นุต้องถูกทิ้งแน่ๆ สมน้ำหน้าไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 09-01-2017 14:16:17
ค่อยๆจีบ  ค่อยๆ เข้าหา  ทำให้รักมันซึมลึก
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 09-01-2017 17:20:57
หวาว :hao6:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 09-01-2017 19:44:53
ติวหนังสือ อูฮิฮิ ติวเสร็จอย่าลืมติวรักให้น้องนะจ้ะ  o18
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 09-01-2017 20:55:35
พี่ยุทธตั้ลลัคมากกกกก

 :katai5: :katai5:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: polartotty ที่ 09-01-2017 21:03:01
 รออยู่นะคะ ติดเรื่องนี้แล้วอ่า  :-[
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 2 ... [8/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 10-01-2017 03:27:58
แหมะ~~~~  พี่ยุทธ รุกน้องหนักเลยอ่ะ เอ้าาาา เดินหน้าจีบน้องเต็มกำลัง 55555   :laugh:  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 10-01-2017 12:35:46
#ตอนที่สาม


ยุทธนาซ่อนรอยยิ้มขบขันไว้ภายใต้ท่าทีนิ่งเฉย เมื่อเห็นคนที่เดินนำห่างไปไม่กี่ก้าวมีท่าทางหลุกหลิกชอบกล ตากลมเหลือบมองเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับมีเรื่องจะพูด ทว่ากลีบปากอิ่มกลับทำแค่เม้มเข้าหากันแล้วคลายออก เป็นอย่างนั้นอยู่สามสี่รอบตั้งแต่เดินออกมาจากร้านเฮียป้างจนเขากลัวว่าปากสวยๆนั่นจะช้ำไปเสียก่อน…


“มีอะไรหรือเปล่า?” เอ่ยถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ


คนถูกถามชะงักเท้า


“เอ่อ.. เปล่าครับ” ส่ายหน้าเบาๆพลางยิ้มแห้งแล้วออกเดินต่อ ยกชาเย็นที่ถือติดมือมาด้วยขึ้นดูดแก้เก้อ แต่ก็ยังไม่วายเหลือบมองรุ่นพี่ร่วมคณะที่เดินทิ้งห่างมาไม่ไกลอยู่เนืองๆ


ยิ่งเห็นท่าทางที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติยิ่งให้นึกเอ็นดู คงสงสัยว่าทำไมเขาถึงเดินตามมาแบบนี้ ไอ้ครั้นจะให้บอกไปเลยว่าพักอยู่คอนโดฝั่งตรงข้ามโดยที่เจ้าตัวยังไม่ได้เอ่ยปากถามก็ใช่เรื่อง จริงๆก็ไม่ได้อยากแกล้งนักหรอก แต่พอเห็นท่าทางหลุกหลิกเหมือนกระต่ายตื่นตูมแบบนี้แล้วมันอดไม่ได้จริงๆ


ยุทธนาชะงักเท้าเมื่อพวกเขาเดินมาถึงหน้าหอพักของเดือนสิบ ร่างเล็กกว่ายืนหันหลังให้เขา สูดหายใจลึกคล้ายรวบรวมความกล้าก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากันตรงๆ ตากลมหลุกหลิกเมื่อเห็นว่าเขามองอยู่ก่อนแล้ว


“อยากให้ช่วยติวเมื่อไหร่ก็บอกได้เลยนะ” ยุทธนาเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนเมื่อเห็นน้องเริ่มไม่ถูก


“ครับ..” เดือนสิบพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะกระพริบตาปริบๆมองโทรศัพท์มือถือที่อีกฝ่ายยื่นมาตรงหน้าอย่างงงๆ


เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากคนที่มองอยู่ได้อีกครั้ง…


“เบอร์ไง เผื่อว่างติววันไหนจะได้โทรมาบอก”


“อ่อ..” ครางรับพลางพยักหน้าหงึกหงักอีกครั้งแล้วรับโทรศัพท์จากอีกฝ่ายมากดเบอร์ตัวเองลงไปอย่างว่าง่าย ก่อนจะส่งคืน ร่างสูงกดอะไรอยู่ชั่วครู่จากนั้นโทรศัพท์ของเดือนสิบก็ดังขึ้น เขาล้วงมันขึ้นมาดูสายนั้นจึงตัดไป


“เบอร์พี่เอง.. มีเรื่องอะไรให้ช่วยก็โทรมาได้ ไม่ต้องเกรงใจเข้าใจไหม”


“ครับ..” เป็นอีกครั้งที่เดือนสิบพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย


“เข้าหอไปได้แล้วไป” ยุทธนายิ้มบางให้คนที่ยืนมองเขาตาแป๋ว ร่างโปร่งไม่ได้ทำตามที่เขาบอกในทันที เดือนสิบเม้มปากอย่างช่างใจก่อนจะเอ่ยถามออกมาในที่สุด


“แล้ว.. พี่พักอยู่แถวไหนหรอครับ”


คำตอบไขกระจ่างเมื่ออีกฝ่ายพยักพเยิดไปทางคอนโดหรูฝั่งตรงข้าม “ใกล้แค่นี้เอง อยากได้คนเลี้ยงข้าวเมื่อไหร่ก็บอก”


.


.


.


   วันจันทร์สีเหลือง


เช้านี้เดือนสิบเดินทางมามหา’ลัยพร้อมไอ้ปืน เนื่องจากวิชาที่ต้องเรียนวันนี้เป็นวิชาหลักที่เขากับมันลงเรียนด้วยกัน ไอ้ปืนถ่อมารับตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าทั้งที่มีเรียนตอนแปดโมงครึ่ง เพื่อให้เขามานั่งเปื่อยอยู่ในโรงอาหารคณะดูมันเล่นโทรศัพท์ด้วยท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่


ถามว่าทำไมไม่เอาโทรศัพท์ออกมาเล่นแก้เบื่อเหมือนมันบ้าง ถามว่าเดือนสิบรู้จักแอพลิเคชั่นอะไรกับเขาบ้างจะดีกว่า ขนาดเฟสบุ๊คที่ว่าฮิตคนเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง เดือนสิบยังมีมันไว้เพียงแค่ใช้ตามงานเวลาอาจารย์อัพเดตเท่านั้นเลย หน้าไทม์ไลน์ตอนไอ้ปืนสมัครให้โล่งยังไงทุกวันนี้ก็ยังคงโล่งอยู่อย่างนั้น เพื่อนในเฟสมีถึงร้อยคนหรือเปล่าก็ไม่รู้


“สิบ!” มือที่กำลังคนโจ๊กในชามไปมาหยุดชะงักเมื่อไอ้ปืนเรียกซะเสียงดัง


แชะ! แชะ!


และในจังหวะที่เดือนสิบเงยหน้าขึ้นด้วยท่าทางมึนๆมันก็ลั่นชัตเตอร์โทรศัพท์ที่ยกขึ้นมาจ่อรอท่าไว้ในทันที


“เล่นไรของมึง” ไอ้ปืนไม่ตอบ มันยักคิ้วยิ้มกวนๆแล้วก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์ต่อ เสียงหัวเราะคิกคักดังมาให้ได้ขมวดคิ้วเป็นระยะพอๆกับเสียงแจ้งเตือนที่ดังมาไม่ขาดสาย


เดือนสิบได้แต่ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่าเท้าคางมองเพื่อนสนิทอย่างเซ็งๆ ตากลมกลอกไปมาอย่างเบื่อหน่ายเมื่อไม่มีอะไรให้สนใจเป็นพิเศษ ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงสี่สิบอีกตั้งเกือบชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาเข้าเรียน ตั้งแต่เข้ามาในโรงอาหารไอ้ปืนก็ซื้อโจ๊กง่อยๆนี่มาประเคนให้เขาถึงที่พร้อมกับชาเย็นแก้วใหญ่ จากนั้นมันก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์จนเดือนสิบชักจะเริ่มนอยด์


“เบื่อหรอ กินหนมป่าวเดี๋ยวเลี้ยง” ดูเหมือนไอ้ปืนเพิ่งจะจับสังเกตอารมณ์นอยด์ๆของเพื่อนสนิทได้ มันถึงได้ยอมละความสนใจจากเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาคุยกับเขาซะที เดือนสิบส่งเสียงขึ้นจมูกพลางเบือนหน้าหนี ให้มันรู้ว่าเขานอยด์มันจริงจัง


อาการแบบเด็กๆที่เจ้าตัวไม่ได้แสดงมันออกมาบ่อยนักทำให้เพื่อนสนิทตัวสูงหลุดยิ้มเอ็นดู พาลให้นึกไปถึงวันแรกที่ได้เจอกัน เด็กตัวขาวหน้าเซ่อๆที่เข้าห้องผิดตั้งแต่วันแรกของการเปิดเทอม แต่จะว่ามันเซ่อคนเดียวก็ไม่ได้เพราะเขาก็ดันเข้าห้องผิดเหมือนกันกับมันอีก ท่าทางเหลอหลาตอนเดินออกไปหน้าชั้นเรียนเพราะอาจารย์บอกว่าไม่มีรายชื่อ ตากลมกระพริบปริบๆมองเขาที่ยืนนิ่งอยู่ข้างกันคล้ายลูกแมวหลง ไอ้ครั้นจะปล่อยไว้ก็ให้นึกส่งสารเลยลากมันติดไม้ติดมือออกไปด้วยกัน


ท่าทางนิ่งๆถามคำตอบคำจนเพื่อนร่วมคณะคิดว่าหยิ่ง แถมห้องเชียร์ก็ไม่ค่อยมาเข้าเลยทำให้มันกลายเป็นแกะดำในหมู่แกะขาวไปใหญ่ เดือนสิบไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นที่สนใจของคนในคณะแค่ไหน ตัวขาวๆตาโตๆปากแดงๆแบบนี้มันน่ารักน้อยเสียเมื่อไหร่ ยิ่งไปตัวติดกันกับไอ้นุที่ถูกเลือกให้เป็นเดือนคณะก็ยิ่งเป็นที่สนใจเข้าไปใหญ่ ติดแต่ท่าทางนิ่งๆพูดน้อยของเจ้าตัวนั่นแหละที่ทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้าหา จะมีก็แต่ไอ้ปืนนี่แหละที่ทนเห็นท่าทางเหมือนลูกแมวถูกเจ้าของทิ้งเวลาไอ้นุมันไม่อยู่ไม่ได้ จนต้องลากไปไหนมาไหนด้วยตลอด


ยิ่งรู้เหตุผลเรื่องที่มันไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมเพราะต้องทำงานไปด้วยก็นึกทึ่ง คิดไม่ถึงว่าท่าทางเซ่อๆไม่ทันคนแบบนี้กล้าไปทำงานในร้านเหล้าแบบนั้นได้ยังไง ถึงจะเป็นร้านที่ลูกค้าส่วนมากเป็นนักศึกษาในมหา’ลัยก็เถอะ ใช่ว่าจะปลอดภัยซะทีเดียว ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นห่วงเพราะเผลอคิดไปแล้วว่ามันเหมือนน้องชายคนหนึ่งที่ต้องดูแล ก็เลยเทียวไปรับไปส่งมันสลับกับไอ้นุในวันที่มันไม่ว่าง ดีหน่อยที่ช่วงหลังๆมามันได้พี่รหัสฝากฝังให้เข้าทำงานในอู่ซ่อมรถไม่ต้องไปเดินขาขวิดในร้านเหล้าทุกคืน เขาเลยไม่ต้องคอยเป็นห่วงมันมากเหมือนเมื่อก่อน


แต่ก็ใช่ว่าจะละเลยจนไม่สนใจ…


“งอนกูจริงอ่อ? เดี๋ยวตอนเย็นพาไปเลี้ยงบิงซูร้านพี่อ้อยเลยอ่ะ” ไอ้ปืนว่าพลางยื่นมือมาเขี่ยปลายคางเพื่อนสนิทเบาๆ จนเดือนสิบต้องปัดออกเพราะจักจี้ .ใบหน้าน่ารักที่มักจะนิ่งเฉยอยู่ตลอดบูดบึ้งไม่พอใจ


ท่าทางเหมือนเด็กๆที่มันแสดงออกกับเฉพาะบางคน และไอ้ปืนเป็นหนึ่งในนั้น น่าภูมิใจชะมัด!


“แถมเค้กมะพร้าวนมสดให้ด้วยเลยเอ้า” หน้าตาบูดบึ้งค่อยๆคลายลงเมื่อข้อเสนอเริ่มน่าสนใจขึ้น แต่ก็ยังไม่วายเหล่ตามองเพื่อนสนิทอย่างไว้ที


“สองก้อนนะ” ไอ้ปืนยิ้มร่าทันทีที่ได้ยินคำตอบ ก่อนจะเลื่อนมือมาขยี้ผมเขาจนยุ่งเหยิง


ใครว่าเดือนสิบเฉยชาหน้าหยิ่งเข้าหายากไอ้ปืนของเถียงขาดใจ ถ้าเข้าถูกจุด.. มันก็แค่ลูกแมวหลงติดเจ้าของเท่านั้นแหละวะ


“งั้นตอนนี้อยากกินไรป่าว เดี๋ยวไปซื้อให้” เดือนสิบนิ่งไปชั่วครู่ กลีบปากเผลอยู่เข้าหากันนิดๆระหว่างกวาดสายตามองไปรอบๆ


“น้ำแข็งใสใส่เฉาก๊วยเยอะๆราดนมเยอะๆด้วย”


“เล่นของแข็งแต่เช้าเชียว” ไอ้ปืนว่ายิ้มๆ


“อยากไง”


“ค้าบๆรอซักครู่นะค้าบ เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้ค้าบ” มันว่าติดตลกก่อนจะเดินแกมวิ่งออกไป


นั่งรออยู่ไม่นานน้ำแข็งใสราดนมฉ่ำๆก็มาวางอยู่ตรงหน้า เรียกรอยยิ้มกว้างที่นานครั้งจะได้เห็นให้ปรากฏบนใบหน้าเนียน และไอ้ปืนก็ไม่พลาดที่จะเก็บช็อตประทับใจนี้ไว้เพื่อเอาไปเผยแพร่ลงในไอจี ซึ่งเกินครึ่งของผู้ติดตามเรียกร้องอยากให้เขาลงรูปมันมากกว่าตัวเองเสียอีก


แชะ! แชะ! แชะ!


เสียงกดชัตเตอร์รัวๆไม่ได้ทำให้เดือนสิบละความสนใจจากของหวานตรงหน้า จะเรียกให้ถูกก็คือเขาขี้เกียจจะสนใจมากกว่า เป็นเรื่องปกติที่ไอ้ปืนมันมักจะแอบถ่ายรูปเขาอยู่บ่อยๆ แต่จะว่าแอบก็ไม่ได้อีกเพราะมันเล่นถ่ายให้เห็นกันโต้งๆนี่แหละ แรกๆก็ไม่ชอบใจหรอก ตาขวางใส่มันก็หลายครั้ง แต่ไอ้ปืนมันก็ยังทำมึน เขาเผลอทีไรเป็นต้องถ่ายทุกที จนขี้เกียจจะพูดจะด่าเลยปล่อยเลยตามเลย


“อร่อยป่ะ” พยักหน้าหงึกหงัก เพราะในปากเต็มไปด้วยเนื้อเฉาก๊วยนุ่มนิ่ม


แชะ!


และไอ้ปืนก็ไม่พลาดที่จะเก็บช็อตนี้ไว้เพื่อ ‘FCเดือนสิบ’ เหมือนเคย…


.

.

.


“โอ้ยยยเหนื่อยชิบหาย ไม่คิดมาก่อนว่ากับการเรียนจะสูบพลังชีวิตกูไปได้ขนาดนี้ นี่ถ้าอ้วกออกมาเป็นตัวแปรได้ตับไตไส้พุงกูคงไม่เหลือ…”


เสียงโอดครวญจากเหล่านักศึกษาวิศวะเครื่องกลชั้นปีที่หนึ่งดังเซ็งแซ่เมื่ออาจารย์ประจำวิชาแคลคูลัสเดินออกจากห้องไป ท่าทางเหนื่อยล้าปรากฏบนใบหน้าของแต่ละคนราวกับเพิ่งผ่านสมอรภูมิรบมาหมาดๆ แม้แต่เดือนสิบก็ไม่เป็นที่ยกเว้น ไอ้ปืนยิ่งแล้วใหญ่ บ่นงึมงำตั้งแต่เริ่มเรียนจนตอนนี้มันก็ยังบ่นไม่หยุด


“กูคิดผิดแน่ๆที่มาเรียนคณะนี้… มึงอย่าทิ้งกูนะเว้ยสิบ ขาดมึงไปกูคงใช้ชีวิตสามปีต่อจากนี้แบบโคตรลำบากมึงแม่งเหมือนพ่อพระมาโปรดกูชัดๆ รักมึงชิบหายยย”


ว่าพลางเอนหัวหนักๆของมันมาซบเข้าที่ไหล่เขาอย่างหมดแรง


“เว่อละเชี่ยปืน ลุกเร็ว! จะได้ไปหาอะไรกินกันกูหิวจนตาลายหมดละเนี่ย” บอกพลางไหวไหล่จนมันยอมยกหัวหนักๆออกไป แต่ก็ไม่วายงอแงมุดหัวลงไปถูไถกับโต๊ะแลคเชอร์จนผมยุ่งเหยิง


เหมือนหมาตัวใหญ่ๆเวลาโดนเจ้าของขัดใจ…


เดือนสิบยิ้มขำก่อนจะเลื่อนมือไปขยี้ขนยุ่งเหยิงของมันจนยุ่งขึ้นไปอีก ซึ่งไอ้หมาตัวใหญ่ก็ไม่ว่าอะไรนอกจากครางหงิงๆ ดูๆไปก็ตลกดี


“ไอ้จอมไลน์มาชวนไปกินข้าวด้วยกันอ่ะ” ไอ้หมาตัวใหญ่ผงกหัวขึ้นมาบอกเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้


“ที่ไหน”


“ร้านเจ๊เหมียวข้างมออ่ะไปป๊ะ? พวกมันบอกเดี๋ยวรอใต้ตึก”


“อื้อ ยังไงก็ได้”


.

.


“ช้าโคตรๆ” ไอ้จอมเปิดปากบ่นทันทีที่พวกเขาเดินเข้าไปในระยะสายตา ข้างๆกันมีไอ้อิฐที่กำลังนั่งเล่นเกมกดอย่างเมามัน และไม่ได้มีแค่พวกมันสองคนเท่านั้นแต่ยังมีไอ้ตู่กับไอ้เบ้นติดสอยห้อยตามมาด้วย


“ไงสิบ.. ไม่เจอตั้งหลายวันก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะ” ไอ้ตู่กวนตีนทันทีที่เขาเบนสายตาไปหามัน


“ส่วนมึงนี่ไม่เจอตั้งหลายวันก็ยังหน้าเหี้ยยย..มเหมือนเดิมนะเชี่ยตู่” เปล่า.. นั่นไม่ใช่เสียงของเดือนสิบ แต่เป็นรุ่นพี่ในคณะที่เพิ่งไปเมาแอ๋ด้วยกันมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เองต่างหาก


“อ้าวพี่ป้อง หวัดดีพี่ ไปไงมาไงถึงมาโผล่ตรงนี้ได้อ่ะ” มันว่าก่อนจะเอนตัวหลบฝ่ามือเล็กๆที่หมายจะเล่นของสูงได้อย่างทันท่วงที


“กูอยู่ตรงนี้มาก่อนมึงอีกไหมล่ะแหม.. กวนตีนแบบนี้สงสัยอยากชูมือขึ้นแล้วหมุนๆกลางลานเกียร์อีกรอบ” ปกรณ์เอ่ยไปถึงวีรกรรมครั้งก่อนที่ไอ้ตู่มันลืมเอาป้ายชื่อมาแถมยังพูดจากวนตีนรุ่นพี่ เลยถูกสั่งลงโทษให้ไปเต้นระบำชาวเกาะหน้าลานเกียร์เกือบชั่วโมง ทุกคนต่างพากันระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสะใจเพราะยังจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ดี จะเว้นก็แต่เดือนสิบที่ยืนเอ๋อไม่รู้เรื่องรู้ราวเพราะไม่ได้เข้าห้องเชียร์กับคนอื่นเขา


“พี่แม่มโหดร้ายว่ะ กับน้องกับนุ่งอ่ะ” ไอ้ตู่หน้างอ


“ตุ๊ดไอ้สัด”


ซึ่งไม่ได้รับความเห็นใจใด้ๆทั้งสิ้น


“แล้วนี่อีกสองเสือไปไหนอ่ะพี่ ไหงมาคนเดียวได้” ไอ้ปืนถามเพราะไม่เห็นรุ่นพี่ตัวสูงอีกสองคนที่มักจะเห็นไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด


“ไปรออยู่ร้านข้าวละ กูติดคุยกับจารย์โชคเลยให้พวกมันไปก่อน แล้วนี่พวกมึงจะไปกินอะไรที่ไหนกัน”


“ว่าจะไปร้านเจ๊เหมียวอ่ะพี่ ไม่ได้ไปกินนานละคิดถึง” ไอ้จอมตอบพลางทำหน้าเพ้อฝัน


“คิดถึงเจ๊เหมียว?”


“ไม่อ่ะ ลูกสาวเจ๊เหมียวฮ่าๆๆ”


“สัด!”


.

.

.


ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจของใครรึเปล่า เพราะตอนนี้เด็กวิศวะหน้ามนปีหนึ่งทั้งหกได้ระเห็จมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋ออยู่ในร้านเจ๊เหมียวเรียบร้อยอย่างที่ตั้งใจไว้ในทีแรก แต่ที่ไม่ได้ตั้งใจคือรุ่นพี่ร่วมคณะชั้นปีสามอีกสี่คนที่มานั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วยนี่ต่างหาก


 “อยากกินไรสั่งเลยครับน้องๆ เมื่อวานนี้เพื่อนกูถูกหวยเดี๋ยวให้มันเลี้ยง” พี่ป้องยิ้มร่าพลางตบบ่าเพื่อนที่นั่งทำหน้าปูเลี่ยนอยู่ข้างกันปุๆ


“ตามนั้นแหละน้อง อยากกินไรสั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ” เมื่อคนเลี้ยงคอนเฟิร์มปีหนึ่งทั้งหลายก็ยิ้มร่าดี้ด้าขึ้นมาทันที พากันยกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่ปรกๆก่อนจะสั่งแบบไม่เกรงใจอย่างที่อีกฝ่ายบอกไว้ก่อนหน้า


“เป็นไงวะพวกมึงเรียนหนักไหม? พอจะไหวกันหรือเปล่า” พี่หินถามขึ้นระหว่างนั่งรอกับข้าวที่เพิ่งสั่งไป


“เอาการเหมือนกันพี่ เมื่อกี้เพิ่งเจอแคลมาสิ้นฤทธิ์เลยเนี่ยรู้สึกเหมือนสมองมันกลวงๆ” ไอ้ปืนถือโอกาสบ่นคนแรก ก่อนจะตามมาติดๆด้วยไอ้อิฐ


“เหมือนกันพี่ เทอมที่แล้วเจอคิสครีตว่าหนักเทอมนี้มาเจออัลกอเข้าไป อ้อหอ.. วิชาเห้อัลไล... เรียนๆไปยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นควายเข้าไปทุกที” รุ่นพี่พากันหัวเราะเมื่อเห็นท่าทางชักดิ้นชักงอของมัน


“สู้ๆเว้ย ขึ้นปีสูงไปเดี๋ยวพวกมึงเจอหนักกว่านี้อีก แค่นี้จิ๊บๆ”


“เป็นการให้กำลังใจที่ดีมากพี่ ผมฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาเลยเนี่ย.. น้ำตาจะไหล” ไอ้จอมว่าพลางทำท่าเช็ดน้ำหูน้ำตาปลอมๆแบบเวอร์วัง เรียงเสียงหัวเราะจากคนทั้งโต๊ะได้อีกรอบ


เว้นก็แต่คนที่บอกว่าจะช่วยติวเทอร์โมฯให้เดือนสิบเมื่อวันก่อน ที่เอาแต่นั่งยิ้มมุมปากเล็กๆตาเป็นประกายแปลกๆ ซึ่งถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงไม่เห็น ตาคมๆจับจ้องรุ่นน้องตัวขาวตั้งแต่เดินเข้ามาในร้านไม่วางตาจนคนถูกมองรู้สึกได้


รอยยิ้มที่ไม่ได้เผยออกมาบ่อยนักถูกส่งให้กันอย่างเงียบๆ ในจังหวะที่เดือนสิบเหลือบมองและพวกเขาสบตากัน


เป็นไปอัตโนมัติ โดยที่ไม่มีใครรู้สึกอึดอัดหรือขัดเขิน…


รออยู่ไม่นานอาหารก็เริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟ เสียงบ่นระงมเงียบลงแทบจะทันที คำว่ากินอย่างกับห่าลงเป็นยังไงทุกคนคงได้ประจักเมื่อเห็นท่าทางของวิศวะปีหนึ่งที่ก้มหน้าก้มตากินอย่างหิวโหยไม่พูดไม่จา


“อร่อย” เสียงทุ้มต่ำจากคนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามมาพร้อมกับกุ้งตัวเบ้อเร่อถูกวางลงในจานของเดือนสิบ เรียกสายตาจากเพื่อนร่วมโต๊ะให้หันมามองอย่างแปลกใจระคนอึ้งๆ ราวกับภาพตรงหน้าเป็นสิ่งมหัศจรรย์พันลึกที่หาดูได้ยากยิ่งกว่าอะไร


“ขอบคุณครับ” เสียงขอบคุณแผ่วเบาเพราะเริ่มเกร็งๆกับสายตาหลายคู่ที่จับจ้อง


“อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่มอปลาย กูยังไม่เคยได้กินหารที่มันตักให้เลยซักครั้ง” ปกรณ์บ่นกระปอดกระแปดขึ้นมาเหมือนจะตัดพ้อ ทว่าสายตากลับจับจ้องไปยังเพื่อนสนิทที่ตีหน้าเฉยอย่างรู้ทัน


“อะไรยังไงวะเชี่ยยุทธ ไปสนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อไหร่” ศิลาเสริม สายตาเจ้าเล่ห์ไม่ต่างจากเพื่อนตัวเล็ก
เดือนสิบเริ่มขยับตัวอย่างอึดอัด เขาไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้ซักเท่าไหร่…


“ก้มหน้าแดกเงียบๆไปเลยพวกมึง” ยุทธนาปรามเพื่อนตาขวางเมื่อจับสังเกตได้ถึงอาการของรุ่นน้อง ท่าทางหลุกหลิกเขี่ยข้าวไปมาทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังกินได้ปกติ ไหนจะริมฝีปากสีสดที่เผลอเม้มเข้าหากันอยู่บ่อยครั้ง ดูก็รู้ว่าเจ้าตัวกำลังอึดอัด


.

.

.


“ไปสนิทกับพี่ยุทธตั้งแต่เมื่อไหร่”


ไอ้ปืนถามขึ้นระหว่างที่กำลังขับรถไปส่งเพื่อนสนิทที่อู่ ลอบสังเกตมาตั้งแต่ในร้านแล้วว่าบรรยากาศระหว่างสองคนนี้มันดูแปลกๆ ไอ้เพื่อนเขาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่สายตาของรุ่นพี่ร่วมคณะเวลามองมันนี่สิ


ดูก็รู้ว่าไม่ได้เอ็นดูมันในฐานะรุ่นน้องธรรมดาแน่ๆ


“ไม่ได้สนิทซักหน่อย”


เมื่อเพื่อนตอบมาแบบนั้นไอ้ปืนก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เพราะรู้ดีว่าถ้าเรื่องไหนที่เดือนสิบไม่อยากพูดมันก็จะไม่พูด อีกอย่างท่าทางของเพื่อนเขาก็ดูปกติไม่ได้มีอะไรอย่างที่ว่า


ส่วนรุ่นพี่คนนั้นก็คงต้องคอยจับตามองมากขึ้นล่ะนะ เห็นเงียบๆเฉยๆไม่คิดว่าจะมาสนใจแมวหลงของเขาได้…




*****





ขอบคุณทุกคนที่รอน้องสิบนะคะ แฮ่!  :กอด1: :กอด1:
เรื่อยๆมาเรียงๆก่อนเนาะ
ตอนนี้จะเห็นว่าเดือนสิบของเราไม่ได้มีแต่อารมณ์นิ่งนะเออ อารมณ์งอแงน้องมันก็มีค่ะ เอิ้ววว
ใครอยากเห็นลูกแมวหลงติดเจ้าของอย่างพี่ยุทธลงชื่อรอไว้เลย ตอนไหนไม่รู้ รู้แต่มาแน่ 55555
อยู่เป็นกำลังใจให้เขาไปนานๆนะตัวเอง กอดดด  :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 10-01-2017 12:58:54
ตั้งหน้าจีบน้องสิบแล้วสิพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 10-01-2017 13:03:12
ดูท่าหนทางจะยังอีกยาวไกลนะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 10-01-2017 14:33:55
ตอนนี้ไม่สนิท อีกไม่นานต้องสนิทแน่นอนใช่ไหมอ่ะพี่ยุทธ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 10-01-2017 15:21:42
พี่ยุทธรุกเต็มพิกัดเลย
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-01-2017 16:12:21
 :a5:

ปืน รักเพื่อนสนิท หรออออ

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 10-01-2017 17:27:47
กรี๊ดกร๊าดดด
เราชอบมากค่ะ มาต่อไวๆนะคะ
อยากเห็นแมวหลงติดพี่ยุทธจริงจริ๊งงงงงงงงงงงงง พี่ยุทธทำให้ติดไวๆนะคะ
จะมีคู่รองมั้ยคะนิ
อยากให้มาต่อบ่อยๆนะคะ เรื่องสนุกอ่า
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 10-01-2017 17:59:41
พี่ยุทธมีการพัฒนา ให้กุ้งด้วยช่วยติวด้วย ได้เบอร์น้องแล้วด้วย555
ติดตามนะจ้ะ  +1จ้า
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 10-01-2017 18:01:33
ปืนไม่ได้คิดอะไรกับเดือนสิบใช่ม้ายยย
เขินยุทธจัง จ้องเค้าขนาดนั้นเลยหรอ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 10-01-2017 19:13:03
รุกเลยค่ะ รุกแรงๆ เชียร์อยู่
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 10-01-2017 19:51:54
พี่ยุทธออกอาการ สู้ๆเน้อะ  :laugh: น้องสิบของพรี่น่ารักซะจริง :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 10-01-2017 21:15:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 10-01-2017 21:39:36

สิบน่ารักก พี่ยุทธสู้ๆค่ะ ตอนนี้ไม่สนิทแต่อีกไม่นานคงได้สนิทล่ะเนอะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-01-2017 21:47:55
พี่ยุทธนี่ขยันทำคะแนนนะครับ,,,
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 10-01-2017 22:49:00

ได้เบอร์แล้วอีกหน่อยคงได้ใจ
เดือนสิบน่ารัก พี่ยุทธสู้ๆ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-01-2017 01:16:06
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 11-01-2017 10:21:04
สู้ๆ  พี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: zenesty ที่ 11-01-2017 10:52:29
กดไลค์ เดือนสิบFC    o13  o13 ว่าแต่ต่อไปจะมีเพจ "เดือนสิบยุทธFC" อ๊ะป่าวหนอ จะได้กดไลค์แฟนเพจ 55555   o18  o18
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 11-01-2017 11:08:42

ปืนนี่ไม่ได้ชอบสิบใช่ไหม  :a5:
พี่ยุทธสู้ๆอีกหน่อยคงได้สนิทแน่ๆ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 11-01-2017 11:28:49
โอ๊ยเอ็นดู
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 11-01-2017 16:42:48
มีความอบอุ่น
ตู่จะมีคู่มั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MOLI ที่ 11-01-2017 21:19:26
       เห็นแล้วคือไม่ไหวค่ะ!!!! จากตอนที่สอง คือหลังจากที่กลับมาจากการไปสูดอากาศข้างนอกด้วยความหวาน(?) กันมาแล้ว พอกลับมาก็ดันมาเจอเจ้ากรรมนายเวรอย่างนุอีก โธ่....ชีวิตเดือนสิบของแม่ แต่ต้องเบรคเอาไว้ก่อน โมเมนท์ที่ดีต่อใจคือการให้กำลังใจของพี่ยุทรที่คือการจับมือเบาๆ นี่ถ้าเราโดนคงจะใจละลายหลอมเหลวซบอกแกร่งของพี่เขาไปแล้ว ในช่วงเวลาที่เราอ่อนแอ ความรู้สึกดีๆมันจะเป็น ++++ความรู้สึกดี แล้วการจับมือคือดีค่ะ5555555555 :hao7:

       แล้วก็....“ไม่เห็น… หรือไม่เคยมองกันแน่”
อีบ้าพี่ยุทร!!!!!!!!! เอาอีกแล้วนะ ไปแกล้งน้องทำไม ใครเขาจะไปมองหาคนที่ตัวเองยังไม่รู้จักกันเลา  :katai1: อกอีแม่เพลียค่ะ  :z3: เพราะงั้นแหละ จงชดใช้ด้วยการติวให้น้องเยอะๆๆๆๆๆ เอาหนักๆเอาเน้นๆนะ!!! ...หมายถึงเนื้อหาที่เรียนนะ คิดไรอยู่อะ รู้นะ อิอิ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

       ขอบคุณสำหรับตอนที่2 ค่ะ
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MOLI ที่ 11-01-2017 21:49:16

       อะไรคะพี่ยุทร เปิดมาก็ยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ น้องน่ารักใช่ไหมล่ะ o13 เอ็นดูน้องมากๆหน่อยนะ น้องเจ็บมาเยอะ ฝากเอาคืนนุแรงๆเอาให้ไม่ต้องโพล่มาอีกอะไรประมาณนั้นหน่อยนะคะ แล้วจะเป็นแม่สื่อที่ดีให้พี่หล่อเอง5555555555 :hao7: แล้วก็ยังมีการให้บงให้เบอร์กันไว้อี โอ๊ยยยยยย อ่อยไปอี๊กกกกกกกกกกอีพี่ยุทร แล้วเลี้ยงข้าวคือไรคะพี่ยุทรขาาาาาา หนูก็ต้องการคนเลี้ยงดูนะคะ555555555555 :hao5: :hao5:

       แชะ! แชะ!
       คือเพื่อนปืนนนนนน ทำแบบนี้ไม่ได้นะ เอาคืนมาค่ะ ต้องถ่ายรูปคู่โอนลี่!!! แล้วมันยังไม่ดีต่อใจเจ๊มากมากค่ะ เพื่อนกันทำอะไรก็ได้เหรอค่ะ ไม่ดีนะคะ เจ๊ยิ่งอวยๆเพื่อนปืนอยู่ การเขาหาตัวน้องสิบตั้งแต่เปิดเทอมถือเป็นเรื่องดี ควรกระทำค่ะ ความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องสิบให้ใครบอกใครก็พร้อมที่จะเอ็นดูน้องค่ะ รักค่ะ เอาใจเจ๊ไปอีกด้วยเถอะ :katai2-1: ........อ่านไปอ่านมา อ้าวอีเพื่อนปืน แกFCเดือนสิบ เฉยๆเหรอว่า ไม่จริงใช่ไหม ตบเจ๊ทีค่ะ :z3: :z3: 5555555555 แต่ขำ ให้อภัยแล้วกัน

       ชอบการคุยกันนนนน น่ารักกกกกกกกก :mew1: :mew1:
       "อร่อย"
       ค่ะ....อร่อยมากค่ะ ไม่ใช่กุ้ง พี่อะแหละที่อร่อย คงจะแซ่บเวอร์!
        :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

       น้องนุ่งมีเยอะแยะตะไมให้สิบคนเดียวอะ555 น้องอึดอัด พี่ก็ชัดเจนนนนนน ความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องเป็นอะไรที่อยากอ่านต่อ แล้วอยากให้น้องเขินเยอะๆ ดูไปแล้วเจ๊เริ่มเหมือนคนโรคจิตที่อยากให้น้องสิบหน้าแดง24ชม. :z3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

เป็นกำลังใจให้กับนักเขียนค่ะ รู้สึกภาษาดีขึ้นนะคะ(หรือเปล่า...555 แต่อ่านแล้วรู้สึกลื่นไหลมากกว่าช่วงแรกมากค่ะ) สู้ๆนะคะ ทั้งเรื่องการเรียน แล้วก็เรื่องการแต่งนิยายเลยค่ะ จะติดตามน้องสิบต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 11-01-2017 23:57:39
ติดตามค่ะ
พี่ยุทธขา รุกแรงจังเลย น้องสิบตกใจกลัวหมด
พี่ยุทธทำหนูเขินแทนน้องสิบเลยอ้ะ
 :o8:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 3 Up... [10/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-01-2017 22:19:26
สมัครเป็นแควนขับพี่ยุทธ  :man1:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 14-01-2017 01:34:06
#ตอนที่สี่



ห้องชุดบนคอนโดหรูชั้นยี่สิบเอ็ด สามเพื่อนสนิทวิศวะปีสามกำลังนั่งเผชิญหน้ากันอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขก สองคนที่ถูกเจ้าของห้องลากกลับมาจากมหา’ลัยด้วยกัน ได้แต่มองเพื่อนสนิทที่นั่งหน้าเครียดแบบที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนักอย่างแปลกใจ เพราะปกติเห็นแต่มันชอบทำหน้านิ่งๆหยิ่งๆซะมากกว่า แต่วันนี้มันกลับมาแปลก อยู่ดีๆก็บอกว่ามีเรื่องให้ช่วย ซึ่งมันสร้างความแปลกใจให้ปกรณ์เป็นอย่างมาก ร้อยวันพันปีตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมามันเคยขอความช่วยเหลือจากเขาที่ไหน มีแต่เขาเองนี่แหละที่เป็นคนหาเรื่องมาให้มันช่วยตลอดๆ


“กูจะจีบน้อง”


ประโยคแรกหลังจากที่พวกเขานั่งเงียบกันมากว่าสิบนาทีสร้างความแปลกใจให้คนฟังทั้งสองไม่น้อย ท่าทางจริงจังของยุทธนาบ่งบอกว่าเขาไม่ได้กำลังล้อเล่น


“น้อง? หมายถึงเดือนสิบอ่ะนะ” ร่างสูงพยักหน้าแทนคำตอบ ปกรณ์เลยถามต่อ


“แล้วที่ผ่านๆมานี่คือมึงไม่ได้กำลังจีบน้องมันหรอวะ ที่มีแอบยงแอบยิ้มตักอาหารให้กันนี่คือ?” ยุทธนาถอนหายใจยาว คิ้วเข้มขมวดยุ่งอย่างใช้ความคิด


“ก็จีบ.. แต่ไม่รู้ว่ะ เหมือนทุกครั้งที่สบตากันน้องมันดูจะรู้สึกอึดอัด” ว่าจบก็ถอนใจอีกเฮือก จนเพื่อนสนิทสองคนที่มองอยู่ลอบสบตากันแล้วลงความเห็นว่ามันกำลังเป็นเอามาก


“นี่ไอ้ยุทธ มึงอย่าลืมว่าน้องพึ่งรู้จักมึงนะเว้ย เดือนสิบไม่ได้รู้จักมึงมาก่อนเหมือนที่มึงรู้จักเขา มีคนไม่สนิทมาจ้องขนาดนั้นมันก็ต้องอึดอัดเป็นธรรมดาอยู่แล้วป่ะวะ” ศิลาว่า


เจ้าของห้องคิดตาม มันก็จริงอย่างที่เพื่อนเขาว่าน้องมันไม่ได้รู้จักเขามาก่อน แต่จะให้ทำไงวะ ในเมื่อเวลาเห็นหน้าแล้วมันอดมองไม่ได้ เหมือนเขาจะหลุดควบคุมทุกครั้งที่เจอเดือนสิบ ยิ่งพอน้องมาอยู่ใกล้ๆสายตาที่พยายามจับโฟกัสอย่างอื่นมันก็เอาแต่จะเบนมาที่หน้าใสๆนั่นไม่หยุด มองไกลๆว่ายากจะถอนสายตาแล้ว พอได้มามองใกล้ๆแม่งยากยิ่งกว่าอีก เฮ้อ…


“กูควรทำไงดีวะ” คำถามที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินจากปากคนอย่างยุทธนา ทำเอาเพื่อนสนิททั้งสองนิ่งค้างมองหน้ากันอย่างไม่อยากจะเชื่อ


“นี่ถ้าไม่ได้ยินกับหูกูไม่เชื่อจริงๆด้วยว่าคนอย่างมึงจะพูดประโยคนี้ออกมา” ศิลาว่ายิ้มๆ ตั้งแต่รู้จักกันมาห้าปีไม่เคยมีสักครั้งที่ยุทธนาจะมีท่าทีคิดไม่ตกอย่างนี้ ยิ่งเรื่องที่เครียดยังเป็นเรื่องความรู้สึกของคนอื่นยิ่งแล้วใหญ่ ถึงจะเป็นคนที่มันเฝ้ามองมาหลายเดือนก็เถอะ เห็นนิ่งๆไม่คิดว่าจะเป็นเอามากขนาดนี้


“ถ้าแค่มองแล้วน้องมันอึดอัด ทำไมไม่ลองพูดเคลียร์ๆไปเลยวะ” ปกรณ์ออกความเห็น


ยุทธนานิ่งไปอย่างใช้ความคิด นั่นสินะ ถ้าแค่มองมันยากทำไม่เขาไม่ลองทำให้มันง่ายโดยการพูดดูล่ะ…


.

.

.


หลังเลิกงานจากอู่เฮียโหน่งไอ้ปืนพาเดือนสิบไปเลี้ยงบิงซูอย่างที่ได้ตกลงกันไว้ แต่เค้กมะพร้าวนมสดต้องเป็นหมันไปอย่างน่าเสียดาย เพราะเขาไม่สามารถที่จะยัดมันลงไปได้หลังกินบิงซูถ้วยใหญ่ ไอ้ปืนแวะมาส่งเดือนสิบที่หอพักในเวลาเกือบทุ่ม แล้วรีบบึ่งรถออกไปหลังรับโทรศัพท์จากเด็กสักคนในสต็อก เห็นตัวติดกับเขาแบบนั้นแต่ไอ้ปืนเจ้าชู้อย่าบอกใครเชียว ผู้หญิงในสต็อกมีเป็นสิบไม่รู้มันคุยยังไงให้ทั่วถึง


เดือนสิบวางกระเป๋าไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำอาบท่า ใช้เวลาไม่นานก็กลับออกมาในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นที่ใส่นอนเป็นประจำ ร่างโปร่งหยิบชีทที่ต้องใช้เรียนพรุ่งนี้มานั่งอ่านคร่าวๆอยู่บนเตียงพลางเช็ดผมไปด้วยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พอผมแห้งเขาก็เอาโต๊ะญี่ปุ่นออกมากางแล้วลงมือทำการบ้านที่ค้างอยู่


ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงหลังจากที่นั่งหลังขดหลังแข็งทำการบ้าน เสียงท้องร้องประท้วงบังคับให้เดือนสิบจำต้องยอมรามือจากโจทย์แคลคูลัสเพื่อลงไปหาอะไรกินคลายหิว เขาไม่ได้ซื้อของกินอะไรมาตุนไว้เลยนอกจากมาม่าเพราะในห้องไม่มีตู้เย็น แถมมาม่าซองสุดท้ายก็หมดไปแล้วเมื่อเย็นวาน


ร่างโปร่งบิดขี้เกียจคลายความเมื่อยล้าก่อนจะลุกไปหยิบกระเป๋าตัง ตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆสามทุ่มร้านลุงป้างน่าจะยังเปิดอยู่


ติ้ง!..


เสียงแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ไม่ไกลทำให้เดือนสิบชะงักเท้า เขาเดินไปหยิบมันขึ้นมาดู เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันน้อยๆเมื่อเห็นรายชื่อที่โชว์หราบนหน้าจอ


‘พี่ยุทธ’


‘ขอโทษที่วันนี้ทำให้อึดอัด’ 20.45 น.


กลีบปากเผลอเม้มเข้าหากันนิดๆหลังอ่านข้อความ แปลกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมองออกว่าเขารู้สึกยังไง แต่พอคิดอีกทีมันก็น่าอยู่หรอก เล่นจ้องเอาๆขนาดนั้น …


ชั่งใจอยู่นานว่าจะพิมพ์ตอบกลับไปดีไหม สุดท้ายปลายนิ้วก็จรดลงกับแป้นพิมพ์จนเรียงร้อยเป็นประโยคสั้นๆ


‘ไม่เป็นไรครับผมโอเค…’ 20.49 น.


เดือนสิบยืนนิ่งมองหน้าจออยู่ชั่วครู่ จนมันดับไปเขาถึงได้ละสายตาแล้วลงไปหาอะไรกินอย่างที่ตั้งใจไว้ในตอนแรก แต่ในจังหวะที่กำลังล็อกประตูโทรศัพท์ในมือก็สั่นครืดคราดขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ข้อความ แต่มันเป็นสายเรียกเข้าจากคนที่ส่งข้อความมาก่อนหน้านี้ต่างหาก


เป็นอีกครั้งที่กลีบปากเผลอเม้มเข้าหากัน ตากลมจับจ้องรายชื่อที่กำลังโชว์หรา … เสี้ยววินาทีก่อนที่มันกำลังจะตัดไปนิ้วเรียวสวยก็กดรับ


“ครับ?” เดือนสิบเอ่ยสั้นๆ ขณะก้าวเดินลงบันได


หอพักที่เดือนสิบอาศัยอยู่เป็นหอเล็กๆค่าเช่าตกเดือนละไม่กี่พัน มีทั้งหมดแค่สามชั้น ชั้นละไม่กี่ห้องซึ่งเขาพักอยู่ชั้นสาม


‘ว่างอยู่หรือเปล่า’ เสียงทุ้มฟังดูไม่มั่นคงนัก คล้ายคนพูดกำลังตื่นเต้น


แต่ตื่นเต้นเนี่ยนะ? เดือนสิบย่นคิ้วก่อนจะตอบออกไป


“ครับ.. พี่ยุทธมีอะไรรึเปล่า?”


 ‘…กำลังจะไปกินข้าว… ไปด้วยกันไหม?’


“….”


‘ฮัลโหล.. สิบ’ ปลายสายเรียกซ้ำเมื่อเห็นว่าเขาเงียบไป


“…ก็ได้ครับ ผมกำลังจะลงไปหาอะไรกินอยู่เหมือนกัน”


‘โอเค งั้นพี่รอหน้าหอเรานะ’


“ครับ”


เดือนสิบวางสายพอดีกับที่เดินลงมาถึงชั้นล่าง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตาที่เพิ่งวางสายไปเมื่อครู่ยืนรออยู่ก่อนแล้ว พออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาเจอเขารอยยิ้มเล็กๆก็ถูกส่งมาให้ทันที เดือนสิบยิ้มบางตอบเพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาทขณะเดินเข้าไปหา


“ทำไมมาเร็วจังล่ะครับ” เหมือนมารออยู่แล้ว ก่อนที่จะโทรมาหาเขาซะอีก


“ผ่านมาพอดีน่ะ” อีกฝ่ายว่ายิ้มๆขณะที่สายตาไม่ละไปจากหน้าเขา จนเดือนสิบต้องเป็นฝ่ายเสตามองไปทางอื่นแทนเพราะชักเริ่มรู้สึกแปลกๆ เหมือนก้อนเนื้อในอกจะกระตุกวูบ…


เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยถาม


“กินอะไรดี”


“ผมว่าจะไปกินร้านลุงป้างน่ะครับ”


“โอเคงั้นไปกัน” รุ่นพี่ร่วมคณะตอบรับง่ายๆ จนเดือนสิบถึงกับหันมามองอย่างแปลกใจ แต่พออีกฝ่ายยิ้มให้เขาก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรต่อ


ทั้งสองคนเดินเคียงกันไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร คนน้องเงียบโดยนิสัย ส่วนคนพี่ก็เงียบเพราะเอาแต่ลอบสังเกตท่าทางของน้อง บ่อยครั้งที่ดวงตากลมโตเบนมาสบ แต่ก็แค่ครู่เดียวเพราะเดือนสิบมักจะรีบถอนสายตาออกไปเมื่อเห็นว่าเขามองอยู่ก่อนแล้ว…


คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันนิดๆ คล้ายจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่…


มาถึงร้านข้าวพวกเขาก็พากันสั่งอาหาร เดือนสิบสั่งคะน้าหมูกรอบคนพี่เลยบอกเอาด้วยแต่ขอพิเศษ รอลุงป้างทวนรายการอาหารเสร็จทั้งสองคนก็เดินมานั่งรอที่โต๊ะ บรรยากาศในร้านจอแจด้วยเสียงพูดคุยของลูกค้าที่มีอยู่ประปราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาในมหา’ลัยเดียวกันกับพวกเขาทั้งนั้น


“เอาน้ำอะไรเดี๋ยวพี่ไปหยิบให้” ยุทธนาถามขึ้น


“เดี๋ยวผมไปหยิบให้เองดีกว่าครับ พี่ยุทธจะเอาน้ำอะไร” เดือนสิบอาสา เพราะเห็นว่าตัวเองเป็นรุ่นน้อง ให้รุ่นพี่มาบริการดูจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ถึงอีกฝ่ายจะเต็มใจก็เถอะ


“อืม.. งั้นเอาน้ำเปล่าแล้วกัน” คนน้องพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้แช่แล้วหยิบน้ำเปล่ามาสองขวด


นั่งรออยู่ไม่นานลุงป้างก็ยกกระเพราะหมูกรอบร้อนๆมาเสิร์ฟ กลิ่นหอมๆของมันเรียกเสียงโครกครากจากกระเพาะน้อยๆของเดือนสิบได้เป็นอย่างดี เขาลงมือกินข้าวทันทีด้วยความหิวโหยจนลืมสนใจรุ่นพี่ร่วมคณะที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันไปชั่วขณะ กระทั่งกินไปได้ซักพักเสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ยขึ้นเบาๆ


“กินเลอะเป็นเด็กๆ” น้ำเสียงติดจะล้อเลียน กับแววตาอ่อนแสงที่ทอดมองทำให้เดือนสิบชะงัก ข้าวที่กำลังจะส่งเข้าปากค้างอยู่แบบนั้น จนคนมองหลุดยิ้มบาง


“กินเถอะเดี๋ยวค่อยเช็ดก็ได้” เสียงทุ้มนุ่มเรียกสติ เดือนสิบเลยส่งข้าวที่ถือค้างอยู่เข้าปากพลางเคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับทิชชู่ที่อีกฝ่ายส่งมาให้อย่างว่าง่าย


“ขอบคุณครับ” พึมพำเสียงเบาเพราะชักเริ่มจะรู้สึกเก้อๆขึ้นมากับสายตาที่จ้องอยู่


เหมือนยุทธนาจับสังเกตได้ เลยละสายตามาสนใจกับอาหารตรงหน้า แต่ก็ไม่วายเหลือบมองรุ่นน้องเป็นระยะอยู่ดีอย่างห้ามไม่ได้
พอกินอิ่มคนเป็นพี่เลยอาสาบอกว่าจะเลี้ยงแต่เดือนสิบกลับส่ายหัวปฏิเสธจนผมฟุ้ง


“ไม่ดีมั้งครับรบกวนพี่เปล่าๆ ผมจ่ายเองดีกว่า”


“ไม่รบกวนหรอกน่าพี่เต็มใจ อีกอย่างพี่เลี้ยงน้องถ้าปฏิเสธถือว่าเสียมารยาทนะ” พอพี่มันเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง เดือนสิบเลยจนใจจะเถียง ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินไปจ่ายเงินก่อนจะพากันเดินออกมาจากร้าน แม้จะยังติดใจเรื่องที่อีกฝ่ายเลี้ยงข้าวอยู่ก็เถอะ


“แล้วเรื่องติวหนังสือว่าไง ว่างวันไหนบอกพี่ได้เลยนะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบระหว่างเดินกลับหอ


เดือนสิบนิ่งคิด เมื่อวานเฮียโหน่งบอกเขาว่าช่วงนี้ยังไม่ต้องไปเข้าไปทำงานก็ได้ รอให้ผ่านช่วงสอบไปก่อนแล้วค่อยกลับไปทำ เพราะฉะนั้นนอกจากเวลาเรียนก็ถือว่าช่วงนี้เขาว่าง


“จริงๆช่วงนี้หลังเลิกเรียนผมก็ว่างนะครับ เอาตามที่พี่สะดวกดีกว่า”


“งั้นเป็นเสาร์อาทิตย์ดีไหม หลังเลิกเรียนเราจะได้มีเวลาทำการบ้านด้วย” ยุทธนาเสนอ เขารู้ว่าปีหนึ่งเทอมนี้เรียนหนัก แถมทั้งการบ้านทั้งรายงานก็บานเบอะ เรียนวิศวะไม่ใช่ง่ายๆถึงปีแรกจะเรียนแค่พื้นฐานแต่ก็หนักเอาการอยู่เหมือนกัน ยังนึกทึ่งว่ารุ่นน้องตรงหน้าเอาเวลาที่ไหนไปทำทั้งที่ทำงานควบคู่ไปด้วยแบบนี้ ถ้าไม่ขยันจริงๆไปไม่รอดแน่


“ก็ได้ครับ” เดือนสิบตอบรับพลางลอบสังเกตท่าทางของอีกฝ่าย “เอ่อพี่ยุทธครับ”


“หืม…” ร่างสูงครางรับ โดยที่ไม่ได้หันมามอง เสี้ยวหน้าคมคายนิ่งสนิทขณะก้าวเดินคล้ายกำลังใช้ความคิด


“ผมชวนเพื่อนมาติวด้วยได้ไหมครับ”


“…ได้สิ”


“ขอบคุณครับ” เดือนสิบยิ้ม เป็นจังหวะเดียวกับที่อีกคนหันมาสบตาเข้าพอดี…  ริมฝีปากได้รูปบิดยิ้มบาง ทอดสบตากลมที่คล้ายจะเบิกกว้างขึ้นนิดๆก่อนจะรีบเบือนหนีไปอีกครั้ง…

อีกครั้งที่เดือนสิบหลบตาคนๆนี้ ทว่าคราวนี้ไม่ได้เป็นเพราะความรู้สึกกระอักกระอ่วนหรืออึดอัดใจ…


ตึกตักๆ


เดือนสิบยกมือขึ้นกุมอก เมื่ออยู่ดีๆก้อนเนื้อที่อยู่ในนั้นคล้ายจะเร่งจังหวะเร็วขึ้นอย่างน่าประหลาด มันไม่ได้ถึงกับเต้นระรัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าหัวใจเข้าเต้นเร็วขึ้นหนึ่งอัตราเมื่อสบเข้ากับตาคมที่ทอดมองมาอย่างอ่อนโยนนั่น….


แต่ดูเหมือนเจ้าของตาคมจะเข้าใจไปคนละทาง


“โทษทีที่ทำให้รู้สึกอึดอัด” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบา ก่อนที่ตาคมจะละจากใบหน้าของเดือนสิบ


“คือ.. ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้กำลังรู้สึกอึดอัด ผมแค่.. ผม..” เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยแก้ความเข้าใจผิด ทว่าท้ายประโยคแผ่วลงเพราะไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่กำลังเป็นอยู่ยังไงดี


เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่จากคนข้างกายยิ่งทำให้หน้าใสๆหงอยลง ตากลมหลุบต่ำอย่างรู้สึกผิดที่ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจไปแบบนั้น


“ขอโทษครับ”


เสี้ยวหน้าคมคายหันกลับมามองรุ่นน้องร่วมคณะที่เดินก้มหน้าจนแทบชิดอก เสียงขอโทษแผ่วเบากระตุกใจเขาจนทนเฉยไม่ได้อีกต่อไป ท่าทางแบบนั้นทำให้ยุทธนารู้สึกอ่อนใจอยู่ไม่น้อย คิดดีแล้วว่ายังไงวันนี้เขาก็ต้องคุยกับน้องให้รู้เรื่อง ถึงจริงๆแล้วเขาไม่ได้อยากจะเร่งรัด แต่ถ้ายังปล่อยให้ระหว่างเรายังเป็นอยู่แบบนี้ความสัมพันธ์ที่คิดอยากจะสานต่อก็คงเป็นไปได้ยาก


“สิบ..” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นก่อนที่สองขาจะหยุดชะงัก เรียกให้คนที่เดินก้มหน้าอยู่เงยขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจ เรียวคิ้วสวยขมวดหน่อยๆแต่ก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรออกมา


จ้องตากันอยู่ชั่วครู่ ก่อนเสียงทุ้มจะเอ่ยออกมาอย่างมั่นคง “พี่อยากคุยกับสิบให้เข้าใจ..“


“….”


“รู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับเรา” กลีบปากได้รูปเผลอเม้มเข้าหากัน ตากลมเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคายที่ดูจริงจังขึ้นจนน่าหวั่นใจ


ความเงียบของร่างเล็กกว่าไม่ได้ทำให้ยุทธนาหงุดหงิด เขารอคอยอย่างใจเย็น ส่งผ่านความจริงใจผ่านสายตาที่สบมอง ปล่อยให้น้องค่อยๆคิด ค่อยๆตัดสินใจอย่างช้าๆ กระทั่งเดือนสิบยอมพยักหน้าเบาๆ เขาถึงได้เหยียดยิ้มบางออกมา


เอาล่ะ อย่างน้อยๆน้องก็ยังมองเห็นความรู้สึกของเขา ที่เหลือก็แค่ทำให้ยอมเปิดใจ…


“อาจดูเร็วไปหน่อยที่พูดออกมาตอนนี้ แต่พี่ไม่อยากรอจนเสียโอกาสไปอีกครั้ง… พี่อยากลองทำความรู้จัก อยากให้เราค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องแสดงออกยังไงเราถึงจะไม่รู้สึกว่ากำลังถูกคุกคาม…” โทนเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยเรียบเรื่อย


“….”


“พี่ไม่อยากให้สิบต้องรู้สึกอึดอัดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน พี่เป็นคนพูดไม่เก่งยิ่งเรื่องแสดงออกยิ่งแล้วใหญ่… แต่พออยู่กับเราทุกอย่างมันเหมือนพลิกแพลงไปหมด.. จนบางทีสิ่งที่แสดงออกมันเลยดูมากไปจนทำให้เราอึดอัด” ยุทธนาเว้นช่วง มองลึกลงไปในหน่วยตากลมโตที่เริ่มสั่นระริกก่อนจะหลุบลง แพขนตาหนากระพริบถี่คล้ายกำลังสับสน จนเมื่อน้องยอมเลื่อนสายตากลับมาสบกันอีกครั้งถึงได้พูดต่อ


“สำหรับเราพี่อาจะเป็นคนอื่นที่เพิ่งรู้จักกัน แต่สำหรับพี่มันไม่ใช่… อาจฟังดูเป็นเรื่องไม่เข้าท่า แต่พี่มองเรามานานแล้ว นานจนจากที่แรกๆแค่ชอบมอง.. จนมันกลายเป็นอยากดูแลไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้”


ยุทธนายิ้มบาง สบดวงตากลมโตที่เบิกขึ้นนิดๆอย่างมั่นคง กลีบปากสวยขยับเผยอขึ้นคล้ายจะพูดอะไรแต่สุดท้ายก็ทำแค่เม้มแน่นเข้าหากันอีกครั้ง ตากลมหลุบต่ำซ่อนความรู้สึกทั้งอึ้งทั้งสับสน แต่อีกความรู้สึกที่แทรกลึกเข้ามาเหนือสิ่งอื่นใดคือความอุ่นซ่านจากฝ่ามือหนาที่เอื้อมมากุมมือเขาเอาไว้ แรงบีบเบาๆทำให้เดือนสิบต้องเงยหน้าขึ้นสบตาคมอีกครั้ง


 “ถ้าเราไม่รังเกียจ จะลองให้โอกาสพี่สักครั้งได้ไหม.. ยังไม่ต้องถึงขั้นคบกันก็ได้ ขอแค่ให้พี่ได้ลองดูแลสิบได้ลองอยู่ข้างๆ.. ส่วนหลังจากนั้นจะเป็นยังไงต่อไปพี่จะให้สิบเป็นคนตัดสินใจ”


“แล้วถ้ามันไม่โอเคล่ะครับ” เดือนสิบเอ่ยถามอย่างไม่มั่นใจนักหลังเงียบไปชั่วครู่


คนฟังยิ้มบาง


“มันต้องโอเคสิ เพราะพี่จะทำให้มันโอเค”


“แล้วถ้าเป็นตัวผมเองที่ไม่โอเคล่ะ”


“พี่ก็จะตื้อไปจนกว่าเราจะโอเคนั่นแหละ”


“แล้วถ้าตื้อยังไงผมก็ไม่โอเคล่ะครับ” เดือนสิบซักต่อ ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ความประหม่าหายไปจากดวงตาคู่สวย


“อืม….” ยุทธนาหรี่ตามองคนที่กลายเป็นเจ้าหนูจำไมไปชั่วขณะ “งั้นก็ฉุดเข้าห้องเลยดีไหม ทำให้เป็นเมียก่อนแล้วค่อยตื้อต่อทีหลัง”


รูปประโยคฟังดูคล้ายจะล้อเล่น แต่ใบหน้าคมคายกลับฉายแววจริงจังขึ้นมาจนเดือนสิบถึงกับเหวอ


“บ้าแล้ว ใครจะยอมให้ฉุดง่ายๆกัน” บ่นขมุบขมิบก่อนจะเบือนหน้าหลบตาคมที่คล้ายจะดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาชั่วขณะ


ร่างสูงยิ้มกว้าง ทอดมองคนบ่นอุบอิบทั้งที่ใบหูเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ น่าเอ็นดูจนเผลอยื่นมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างไม่อาจห้ามใจ ฝ่ามือหนากระชับแน่นเข้าคล้ายเรียกความสนใจ ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยขั้นเมื่อดวงตาคู่สวยเบนกลับมาสบกันอีกครั้ง


“อย่าพึ่งกังวลไปเลย แค่สิบยอมเปิดใจให้.. สัญญาด้วยเกียติรของลูกผู้ชายว่าพี่จะไม่ทำให้เราต้องผิดหวัง”


“….”


“เชื่อใจพี่นะ”


ชั่วขณะที่ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา กระทั่งเสียงห้าวต่ำเอ่ยขึ้นเรียกรอยยิ้มกว้างจากคนที่ได้ฟัง


“….ลองดูก็ได้ครับ”




*****



 :katai5: :katai5: ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจพี่ยุทธกับเดือนสิบนะคะ  :L2: :L2:



หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 14-01-2017 03:48:05
สิบเปิดใจแล้ว. ที่เหลือแล้วแต่พี่ยุทธจะทำคะแนนเลย,,,
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-01-2017 09:23:29
เอาใจช่วยพี่ยุทธ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-01-2017 10:27:04
พี่ยุทธธธธธ พี่เยี่ยมมากยกนิ้วให้เลย  o13 พี่ดูอบอุ่นและเข้าใจน้องมากกกกกก
ดีใจที่น้องยอมลองเปิดใจให้พี่ซะที เราว่าครั้งนี้มันต้องดีกว่าครั้งก่อนแน่นอนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 14-01-2017 10:41:47
โอ้ยยยยยยยยดีงามพระรามเเปดมากๆๆๆๆ
ชอบบุคลิคเเล้วนิสัยของทั้ง
พระเอกเเละนายเอกเลยยยยยย
ชอบมากกก.   น่ารัก.  ฟีลกู๊ดมากกก
ติดตามนะจ้าาาาาาาา
มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 14-01-2017 10:59:41
เอาใจช่วยนะพี่ยุทธ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 14-01-2017 12:09:55
ยอมกับความแมนของพี่ยุทธ  ขอคบกับแล้ว
เปิดใจ แล้วน้องสิบจะไม่ผิดหวังแน่นอน
เริ๊ดดดดดดมากกกกกก. น่ารักเกินไป
อยากเป็นแอดมินเพจ#FCเดือนสิบ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-01-2017 13:22:36
 :L2: :L1: :pig4:

รักพี่ยุทธ ชูป้าย
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 14-01-2017 13:47:13
พี่ยุทธของน้องสิบ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 14-01-2017 17:25:02

โอ้ยยยย พี่ยุทธธธธธธ
 น่ารักอ่ะ  ฟีลกู๊ดมากกกกก 
เดือนสิบยอมเปิดใจแล้วที่เหลือเป็นหน้าที่พี่แล้วน้าาา
ทำให้เดือนสิบรักเร็วๆล่ะ สู้ๆๆๆ  o13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-01-2017 18:00:48
พี่ยุทธดูเป็นผู้ใหญ่จัง
ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 14-01-2017 18:38:14
ชอบมากกก รอดูพี่ยุทธจีบน้องกัน
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-01-2017 18:56:07
อร๊ายยยยย.  พี่ยุทธรุกน้องหนักมาก.   อิอิ. น้องใจอ่อนเหอะ 5555
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 14-01-2017 20:48:48
ละมุนจังเลย :-[
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 14-01-2017 20:52:12
 :-[
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 14-01-2017 22:04:39

พี่ยุทธอบอุ่นจัง ดูเข้าใจน้องมากๆเลย
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 14-01-2017 23:50:39
ถ้าน้องไม่ยอมใจอ่อนสักที
พี่ยุทธจะฉุดเข้าห้อง พี่ยุทธจะฉุดเข้าห้องแล้วค่อยตื้อต่อ55555 ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 15-01-2017 00:43:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 15-01-2017 06:41:37
ดีต่อใจ
ลองดูก็ได้ครับ แบบนี้แหละ แมน ๆ คุยกันเคลียร์

เดือนสิบจริง ๆ ไม่ได้เข้มแข็งเลย ยิ่งเด็กตจว สอบทุนมาเรียน ไม่เข้าเชียร์ เพื่อนแทบไม่มี ไอ้นุนี่ชั่วจริง

แต่ดีแล้วที่ชั่วเลยเจอพี่ยุทธ คิคิ รอเขิลต่อไป
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-01-2017 06:44:53
เชียร์พี่ยุทธ
 :110011: :z7: :110011: :z7: :110011: :z7:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 15-01-2017 12:16:39

พี่ยุทธโคตรดีเลย อบอุ่นมากๆ เข้าใจน้องสุดๆ
ถือป้ายไฟเชียร์พี่ยุทธ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★★อกหักมารักกับพี่★★★ ***** ตอนที่ 4 Up... [14/01/2560]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 15-01-2017 12:54:27
คราวนี้ก้อทำคะแนนยาวไปค่ะพี่ยุทธ o13
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 4 Up. [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 15-01-2017 23:19:51
เข้าสู้ช่วงเปิดใจค่ะ กรี้ดๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 4 Up. [14/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 16-01-2017 00:03:08
พี่ยุทธดามใจน้องหน่อยเร้วว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 16-01-2017 23:30:43
#ตอนที่ห้า


วันนี้เดือนสิบมีเรียนตอนเก้าโมงเช้า หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนักศึกษาเสร็จเรียบร้อยเขาก็ออกจากห้องในตอนแปดโมง เผื่อเวลาไว้กะว่าจะไปหาอะไรกินที่โรงอาหารคณะด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้เดินออกจากหอก็ต้องชะงัก เพราะร่างสูงคุ้นตาในชุดนักศึกษาที่ดูไม่ค่อยถูกระเบียบนักมายืนวางท่ากอดอกรออยู่ก่อนแล้ว


“พี่ยุทธหวัดดีครับ” เดือนสิบยกมือไหว้พลางเดินเข้าไปหา รู้สึกแปลกๆกับรอยยิ้มละไมนั่นนิดๆจนต้องเผลอหลุบตาต่ำ ยิ่งคิดไปถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อคืนก็ยิ่งไม่กล้ามองหน้า


เหมือนจะเขิน? รึเปล่านะ


“วันนี้มีเรียนเช้าใช่ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ทอดมองท่าทางของคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู


“ครับเรียนเก้าโมง พี่ยุทธมีอะไรรึเปล่าครับ” ยุทธนาส่ายหัวเบาๆ


“แค่จะมารับไปเรียนพร้อมกัน ได้ใช่ไหม” เดือนสิบนิ่งไป จ้องมองใบหน้าคมคายอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ


“ครับ งั้นไปกัน”


.

.


“กินข้าวเช้ามารึยัง หิวไหม?” ยุทธนาลอบสังเกตอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะนั่งตัวเกร็งตั้งแต่ขึ้นมาบนรถ ดวงตากลมโตมองออกไปนอกหน้าต่างสลับกับเหลือบมองเขาเป็นระยะๆ ท่าทางเหมือนกระต่ายป่าขี้แวง

“ยังครับ ว่าจะไปหาอะไรกินที่โรงอาหารคณะ เอ่อ..แล้วพี่ล่ะครับ”


คนถูกถามลอบยิ้ม รู้สึกดีนิดๆ เพราะดูเหมือนวันนี้น้องจะกล้าคุยกับเขามากขึ้น แม้จะยังดูเกร็งๆแต่ก็ถือว่าดีกว่าก่อนหน้านี้ ที่เอาแต่ถามคำตอบคำ อย่างน้อยๆวันนี้เริ่มมีถามกลับบ้างแล้ว นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี


“ก็กะว่าจะรอไปกินพร้อมเรานั่นแหละ” ตอบไปแล้วก็ลอบมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไปด้วย ตากลมหลุกหลิกก่อนจะเหลือบมองเขา ยุทธนาเลยแกล้งทำเป็นมองถนนเบื้องหน้าแทน เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนถูกมัดมือชก ถึงแม้ว่าเขาจะทำแบบนั้นจริงๆก็เถอะ


“ได้ไหมครับ” เดือนสิบเงียบไปนานจนเขาต้องถามย้ำ น้ำเสียงเรียบเรื่อยไม่ได้ดูกดดัน เสียงห้าวต่ำเลยตอบออกมาเบาๆ


“ครับ”


มาถึงมหา’ลัยเขากับเดือนสิบก็ตรงไปที่โรงอาหาร ยุทธนาเริ่มสร้างความสนิทสนมโดยการเป็นฝ่ายอาสาไปซื้อข้าว แลกกับการที่เดือนสิบเป็นคนไปซื้อน้ำให้ ซึ่งน้องก็โอเคแม้จะมีอิดออดบ้างในทีแรก


เดือนสิบเป็นฝ่ายซื้อของเสร็จก่อนเลยเดินมานั่งรอคนเป็นพี่อยู่ที่โต๊ะ ไม่นานร่างสูงก็ถือข้าวสองจากเดินมา ข้าวหมูกรอบถูกวางลงตรงหน้าของเดือนสิบ ก่อนที่อีกคนจะนั่งลงตรงข้ามกับเขา เดือนสิบเลยเลื่อนขวดน้ำเปล่าไปให้ ทั้งสองคนนั่งกินข้าวกันไปเรื่อยๆโดยไม่มีใครพูดอะไร ทว่าต่างฝ่ายต่างลอบสังเกตท่าทางของกันและกันอยู่เรื่อยๆ บ่อยครั้งที่เดือนสิบเผลอสบเข้ากับตาคมๆนั่น แต่ยังไม่ทันได้เสหลบรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากนั่นก็ทำให้เขาเผลอยิ้มตอบไปเสียแล้ว


“วันนี้เลิกเรียนกี่โมง” เสียงทุ้มถามขึ้นหลังจากที่เดือนสิบวางแก้วชาเย็นของตัวเองลง


“เที่ยงครับ วันนี้มีเรียนแค่วิชาเดียว”


“งั้นตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันนะ”


เป็นแค่ประโยคธรรมดาแท้ๆ แต่ทำไมทำให้รู้สึกอุ่นใจขนาดนี้วะ


“ครับ”


.

.


เพราะวิชาที่เรียนวันนี้เป็นวิชาเลือกซึ่งไอ้ปืนไม่ได้ลงด้วยกันเดือนสิบเลยต้องนั่งเรียนคนเดียว ต่างจากคนอื่นๆที่ส่วนมากแล้วมากันเป็นกลุ่ม เขาไม่ค่อยเดือนร้อนกับการนั่งเรียนคนเดียวก็จริงอยู่ แต่การนั่งเรียนคนเดียวโดยมีแฟนเก่าอย่างไอ้นุร่วมเรียนอยู่ด้วยในเสคเดียวกันก็แย่พอสมควร เดือนสิบรู้สึกได้ถึงสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมาที่เขาสลับกับไอ้นุที่นั่งอยู่คนละฝั่งของห้องเรียนเป็นระยะๆจนเริ่มอึดอัด


เดือนสิบไม่รู้ว่าไอ้นุมันมีท่าทียังไงเพราะเขาไม่ได้หันไปมอง เสียงอาจารย์หน้าชั้นเรียนบรรยายเรื่องระบบอะไรสักอย่างไม่ได้เข้าหัวเลยสักนิดเมื่อจิตใจเขาไม่ได้จดจ่ออยู่กับมัน อยากลุกออกไปจากห้องเรียนมันซะเดี๋ยวนี้แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าอาจารย์จะเช็คชื่อตอนไหน เขาไม่เคยนึกไม่ชอบใจกับการที่อาจารย์วิชานี้เช็คชื่อตามอารมณ์เท่ากับวันนี้มาก่อนเลยให้ตายสิ


ช่วงเวลาอันน่าอึดอัดของเดือนสิบจบลงเมื่อเสียงบอกทำความเคารพของใครสักคนดังขึ้น เขารีบก้มหน้าก้มตาเก็บสมุดดินสอเข้ากระเป๋าลวกๆไม่ได้สนใจแม้กระทั่งเสียงจอแจของเหล่านักศึกษาหลายสิบคนที่ดูเหมือนจะเงียบลงอย่างผิดสังเกต กระทั่งเงยหน้าขึ้นมาแล้วสบเข้ากับดวงตาคมกริบของคนที่บอกว่าตอนเที่ยงจะมารับไปกินข้าวด้วยกันนั่นแหละ


ความกังวนและอึดอัดที่ฝืนทนมากว่าสามชั่วโมงคล้ายจะเบาบางลงเมื่อได้รับความอ่อนโยนจากดวงตาคู่นี้ ฝ่ามือหนายื่นมาขยี้กลุ่มผมของเดือนสิบเบาๆแล้วคลี่ยิ้มบาง


“มารับไปกินข้าว” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆ แต่มีอานุภาพรุนแรง เดือนสิบเผลอยิ้มบาง พลางรวบกระเป๋าขึ้นมาสะพายก่อนจะลุกไปยืนเคียงข้างรุ่นพี่ร่วมคณะ


ชั่วคณะที่เดือนสิบไม่ทันสังเกต แววตาอ่อนโยนเมื่อครู่ก็แปลเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่งทันทีเมื่อหันไปจ้องมองใครอีกคน คนที่คล้ายจะลุกเข้ามาหาเรื่องเดือนสิบถ้าเขาไม่ชิงตัดหน้าเดินเข้ามาหาน้องซะก่อน สองขาคู่นั้นชะงักไปเมื่อเห็นเขาเดินตรงเข้ามาหาน้อง ตาตี่ๆจ้องเขม็งมาที่ยุทธนาไม่ลดละจนต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจมันถึงได้ละสายตาไป

เขาไม่ได้สนิทสนมกับไอ้เด็กนี่เท่าไหร่ แม้ว่ามันจะเป็นถึงเดือนคณะและเป็นที่รู้จักของรุ่นพี่หลายๆคน เคยเห็นมันบ่อยครั้งก็เวลาที่มันอยู่ข้างๆเดือนสิบ แต่เอาเข้าจริงยุทธนาก็ไม่ได้สนิทกับรุ่นน้องคนไหนเป็นพิเศษทั้งนั้นแหละ จะเว้นก็แต่คนข้างๆนี่ ที่เขาอยากจะสนิทเป็นพิเศษ…


ร่างสูงจ้องตากับไอ้เด็กนั่นอยู่ชั่วครู่ก่อนที่แรงกระตุกเบาๆตรงแขนเสื้อจะเรียกความสนใจไป ดวงตากลมแป๋วมองมาที่เขาเมื่อเห็นว่ายุทธนายังไม่ออกเดินสักที กระทั่งฝ่ามือหนาเคลื่อนไปกอบกุมข้อมือเล็กๆไว้แล้วพาเดินออกไปด้วยกัน


ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเกรงใจหรือไม่ได้สติ หรือจะอะไรก็แล้วแต่ยุทธนาก็ต้องขอขอบคุณ เพราะมันทำให้น้องยอมปล่อยให้เขาเดินกุมมือมาจนถึงลานจอดรถ โชคดีที่เดือนสิบเอาแต่ก้มหน้าก้มตาระหว่างทางเดินจึงไม่ได้สังเกตเห็นสายตาหลายๆคู่ที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น ทว่าเมื่อสบเข้ากับตาคมดุของเขาสายตาเหล่านั้นก็พลันสลายไป แม้จะแค่ครู่เดียวแล้วกลับมามองใหม่ก็เถอะ


ยุทธนารู้สึกโล่งใจที่อีกฝ่ายเอาแต่เดินก้มหน้า เขาไม่อยากให้น้องต้องรู้สึกอึดอัดกับสายตาสอดรู้สอดเห็นพวกนั้น เดี๋ยวจะพาลคิดมากไม่สบายใจไปอีก


“อ้าว.. ไม่ได้ไปกินที่โรงอาหารหรือครับ” เขายิ้มบาง มองท่าทีเหลอหลาเหมือนพึ่งได้สติของคนตัวเล็กกว่า ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ


“อยากเปลี่ยนบรรยากาศ” ตากลมๆนั่นดูจะหลุกหลิกขึ้นมาทันทีจนเขาหลุดขำ อดไม่ได้ที่จะขยี้กลุ่มผมนุ่มแรงๆด้วยความเอ็นดู น้องเลยย่นจมูกใส่เขา “หึๆ ป่ะขึ้นรถเถอะ”


เดือนสิบก้าวขึ้นรถอย่างว่าง่าย พลางลอบสังเกตท่าทางคนเป็นพี่ตั้งแต่เปิดประตูเข้ามานั่งกระทั่งคาดเข็มขัดเตรียมออกรถ


“อยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า” เอ่ยถามระหว่างขับรถ เดือนสิบส่ายหน้า


“ผมยังไงก็ได้ครับ แล้วแต่พี่เลย”


“เลี้ยงง่ายนะเรา” น้ำเสียงกึ่งๆล้อเลียนทำให้เดือนสิบเผลอมองค้อนอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว แต่พอได้สติก็รีบหลบตาเขาเป็นพัลวัน


ท่าทางที่แสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติทำให้บรรยากาศในรถดูผ่อนคลาย จนยุทธนาไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่าที่ได้ยินเสียงคนข้างกายฮัมเพลงเบาๆคลอไปกับเสียงเพลงที่เขาเปิด


ออร์ดี้คันสวยเลี้ยวเข้ามาจอดในห้างสรรพสินค้าที่อยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัยนัก เดือนสิบมีท่าทีแปลกใจนิดหน่อย แต่พอเขาบอกว่าจะมาซื้อของเข้าห้องด้วยน้องเลยไม่ว่าอะไร


“ร้านนี้แล้วกันเนอะ” คนเป็นพี่เสนอหลังเดินเข้ามาในห้าง พอเห็นน้องไม่ว่าอะไรก็ถือวิสาสะจูงมือเดินเข้าร้าน และเป็นอีกครั้งที่เดือนสิบไม่ได้ชักมือกลับ


“อยากกินอะไรสั่งเลยนะ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงเอง” ร่างสูงว่าขึ้นหลังรับเมนูมาจากพนักงานแล้วส่งให้เขา


“ไม่ดีมั้งครับ รอบที่แล้วพี่ก็พึ่งจะเลี้ยงผมไปเอง ผมเกรงใจ”


“ไม่ต้องเกรงใจไปหรอก เพราะรอบนี้ไม่ได้เลี้ยงฟรีๆ” ตาคมคล้ายจะดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาจนเดือนสิบเผลอมองอย่างระแวง


“....”


“หึๆ มองพี่แบบนั้นหมายความว่าไง แค่คิดว่าจะให้ไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนหน่อย เดินคนเดียวมันเหงา” น้ำเสียงเจือแววขบขันทว่าแววตากลับดูจริงจังจนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริงหรือเล่น กระทั่งได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นเบาๆ เดือนสิบถึงได้รู้ตัวว่ากำลังถูกแกล้ง เขาเผลอย่นจมูกเหมือนเวลาโดนไอ้ปืนมันแหย่ให้โมโหอย่างไม่ได้ตั้งใจ


ผลตอบรับคือมือหนาที่ยื่นมาบีบปลายจมูกเขาเบาๆคล้ายหมั่นเขี้ยวเสียเต็มประดา


กระทั่งดวงตาสองคูเผลอสบกัน รอยยิ้มบางๆ เจือแววเอ็นดูจากคนตรงหน้าทำให้เดือนสิบชะงัก เผลอเม้มปากอย่างติดเป็นนิสัยเวลารู้สึกประหม่าก่อนจะยกมือขึ้นถูปลายจมูกเบาๆเมื่ออีกฝ่ายชักมือกลับไป ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายเร่งจังหวะเร็วขึ้นจนความร้อนสูบฉีดทั่วใบหน้า ซึ่งมันไม่สามารถรอดพ้นไปจากตาคมๆนั่นได้เลย


 “หน้าแดงใหญ่แล้ว” น้ำเสียงติดจะล้อๆของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม แทบจะทำให้เดือนสิบมุดโต๊ะหนี ยิ่งเหลือบไปเห็นพนักงานสาวสวยยืนกัดปากตาเป็นประกาย ทำหน้าแปลกๆคล้ายกำลังอดกลั้นกับอะไรบางอย่างความร้อนที่หน้าก็ยิ่งลุกลาม เผลอครางฮือก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้


เดือนสิบกำลังเขิน แถมยังเขินมากๆด้วย


ยุทธนาเห็นท่าทางน้องแล้วให้นึกสงสารระคนเอ็นดู ก็ไม่ได้อยากแกล้งนักหรอก แต่พอเห็นท่าทางน่ารักๆที่นานๆครั้งจะได้เห็นแบบนี้แล้วมันอดไม่ไหวจริงๆ เคยเห็นไกลๆว่าน่ารัก พอสาเหตุที่ทำให้น้องมีท่าทีแบบนี้เป็นตัวเขาเองมันก็ยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่


ถ้าปกรณ์ได้มาเห็นอาการเขาตอนนี้มันคงจะคิดว่าเขาเป็นเอามาก แต่ยุทธนาก็ไม่เถียงหรอก เพราะเขาเป็นเอามากจริงๆ


หลังจากแกล้งน้องไปพอหอมปากหอมคอยุทธนาก็กลับมาวางท่าเฉยๆอีกครั้ง แต่ตาคมๆนั่นก็ยังไม่วายมองมาอย่างล้อเลียนให้ได้ขัดเขิน จนเดือนสิบเผลอค้อนใส่ไปหลายต่อหลายที เห็นนิ่งๆเงียบๆใครจะคิดว่าเป็นคนขี้แกล้งได้ขนาดนี้ แต่คิดอีกที ตอนอยู่กับเขาพี่มันก็ไม่ได้นิ่งนี่หว่า คิดอยู่คนเดียวแล้วก็ได้แต่ส่งเสียงหึขึ้นจมูกจนคนที่มองอยู่แอบขำ


แรงสั่นครืดคราดจากโทรศัพท์มือถือของเดือนสิบดังขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังกินข้าว พอเห็นว่าเป็นไอ้ปืนที่โทรเข้ามาเดือนสิบก็กดรับ


“ว่าไงมึง”


‘อยู่ไหนวะ’ เสียงดูง่วงๆ เหมือนคนพึ่งตื่น


“อยู่ห้าง SS มีไรเปล่า”


‘ไปทำไรที่นั่นวะ ปกติกูชวนไปไม่ยักจะอยากไป’ น้ำเสียงแปลกใจของไอ้ปืนทำให้เดือนสิบเผลอกลืนน้ำลาย อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองคนที่นั่งตรงข้ามกัน ซึ่งฝ่ายนั้นก็กำลังมองมาที่เขาอยู่พอดี คิ้วเข้มเลิกขึ้นหน่อยๆเป็นเชิงถาม เดือนสิบเลยยิ้มแห้งพลางส่ายหน้าเบาๆ


“ช่างเหอะน่า แล้วนี่โทรมามีไรป่าว”


‘เออ ว่าจะโทรมาถามเรื่องงานจารย์เอกอ่ะ กะว่าถ้ามึงอยู่หอจะเข้าไปหา แต่ถ้าไม่อยู่ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวตอนเย็นกูค่อยเข้าไปก็ได้’ เดือนสิบพยักหน้าหงึกหงักขณะฟัง


“อ่อ งั้นก็ตามนั้นแหละ มีอะไรอีกรึเปล่า”


‘ดูมึงจะอยากให้กูรีบวางจังนะ มีไรปิดบังกูอยู่ป่ะเนี่ย’ เป็นอีกครั้งที่เดือนสิบเผลอเหลือบมองรุ่นพี่ร่วมคณะ ก่อนจะคิดว่าไอ้ความรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลังทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่มันมาได้ไงวะ


“ฮึ! ไม่มี” ส่ายหัวจนผมฟุ้งกระจายทั้งที่คู่สนทนาก็ใช่ว่าจะเห็น


‘ให้มันจริงๆ แล้วนั่นไปห้างกับใครวะ’


“ก็…รุ่นพี่ที่คณะอ่ะ แค่นี้ก่อนนะกูทำธุระอยู่” ว่าจบก็กดตัดสายทันทีไม่ปล่อยให้ปลายสายได้ซักต่อ เผลอผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก แต่พอมาคิดอีกทีทำไม่เขาต้องรู้สึกโล่งอกด้วยวะ ในเมื่อไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย


ยุทธนามองคนที่เดี๋ยวก็ถอนใจเดี๋ยวก็ขมวดคิ้วอย่างนึกเอ็นดู วันนี้เขาได้เห็นเดือนสิบแสดงออกในหลายๆอารมณ์ ซึ่งบางอารมณ์ก็ไม่เคยได้เห็น ดูๆไปก็ไม่น่าใช่คนนิ่งๆอย่างที่ชอบแสดงออก แต่อาจขึ้นอยู่ที่ว่าคนๆนั้นจะทำให้เจ้าตัวแสดงออกมาแบบไหนมากกว่า


เหมือนน้องจะรู้ตัวว่าถูกมองอยู่ ตากลมๆเลยเหลือบขึ้นมามองหน้าเขาก่อนจะสะดุ้งนิดๆ เล่นเอายุทธนาเกือบหลุดขำอีกรอบแต่ก็ต้องเก็กไว้เพราะอยากจะดูท่าที


“หน้าพี่มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรือไง” เดือนสิบส่ายหน้ารัว


“เปล่าครับ ผมแค่เผลอคิดอะไรนิดหน่อย พอเห็นพี่จ้องอยู่มันก็เลย…” ยกมือขึ้นมาเกาแก้มเกาคออย่างไม่รู้จะพูดยังไง คนพี่เห็นแล้วสงสารเลยต่อประโยคให้


“เขิน?”


“บ้าแล้ว! ใครเขิน ผมแค่ตกใจหรอก” ทีอย่างนี้ล่ะปฏิเสธเร็วเชียว ยุทธนาโคลงหัวยิ้มๆ


“งั้นก็รีบกินได้แล้ว เอ้าปลาเนี่ยกินเข้าไปจะได้สูงๆ” ว่าพลางคีบเนื้อปลาใส่จานให้


“ผมก็ไม่ได้เตี้ยซักหน่อย” บ่นๆแต่ก็ยอมตักปลาที่อีกฝ่ายคีบให้เข้าปากพลางเคี้ยวตุ้ยๆ เรียกความเอ็นดูจากคนพี่ได้มากโข


“ใครเตี้ยกว่าพี่ ก็ถือว่าเตี้ยหมดนั่นแหละ” เดือนสิบย่นจมูกให้กับตรรกะข้างๆคูๆของอีกฝ่าย


“อย่าให้สูงบ้างนะ” บ่นอุบอิบก่อนจะจ้วงอาหารเข้าปากคล้ายประชด แต่จริงๆคือเขาหิวมากแถมอาหารตรงหน้าก็ยังน่ากินมากอีกด้วย


“แค่นี้ก็น่ารักแล้ว”


ถึงอีกฝ่ายจะพูดไม่ดังนักแต่ด้วยระยะห่างไม่ถึงสองช่วงศอกก็ทำให้เดือนสิบได้ยินมันชัดเจน เขาแกล้งทำเป็นไม่ใส่ใจ ก้มหน้าก้มตาจัดการกับอาหารตรงหน้าเพื่อซ่อนริ้วแดงแถวๆแก้ม แต่เดือนสิบคงลืมคิดไปว่าหูแดงๆนี่มันซ่อนไม่ได้…


หลังจากทานข้าวเสร็จยุทธนาก็ลากคนน้องเดินมาที่ชั้นสองโซนเครื่องใช้ รายการที่ลิสต์มาถูกยื่นให้โดยที่คนรับเองก็ได้แต่รับไปดูแบบงงๆ ตากลมเลื่อนดูรายการของที่อีกฝ่ายต้องซื้อซึ่งมันเยอะพอสมควร ส่วนมากจะเป็นพวกครีมอาบน้ำสบู่แชมพูแล้วก็ของใช้ต่างๆซึ่งบางอย่างเดือนสิบก็ไม่เห็นถึงความจำเป็นของมันเลย แต่จะให้บ่นไปก็ใช่เรื่อง หน้าที่ของเขาคือช่วยอีกฝ่ายซื้อของแลกกับค่าอาหารมื้อนี้


จากที่เดินซื้อของกันมาหลายรายการ เดือนสิบสังเกตเห็นว่ารุ่นพี่ร่วมคณะคนนี้ไม่ได้มีความรู้อะไรเกี่ยวกับของที่ตัวเองต้องซื้อเลยซักนิด เหมือนคนอื่นเป็นคนลิสต์รายการทั้งหมดให้แล้วเจ้าตัวก็เป็นคนมาซื้ออะไรแบบนั้น แต่พอเขาถามพี่มันก็บอกว่าไม่ได้มาซื้อของเองนานแล้ว เพราะปกติสิ้นเดือนจะมีแม่บ้านจากบ้านใหญ่มาจัดการให้ พอเขาถามต่อว่าแล้วทำไมเดือนนี้พี่มันไม่ให้แม่บ้านมาจัดการให้เหมือนเดิม อีกฝ่ายก็อ้างว่าอยากจะลองจัดการทุกอย่างเอง อยากจะด่าเหมือนกันว่าถ้ามาซื้อเองแล้วจะไม่รู้อะไรเลยแบบนี้ก็ปล่อยให้แม่บ้านมาจัดการเหมือนเดิมน่ะดีแล้ว แต่ก็ช่างมันเถอะ ไหนๆก็ซื้อมาจนเกือบครบแล้วบ่นไปก็ใช่ว่าจะช่วยอะไรได้


“อืม.. อันนี้ได้แล้ว สเปรย์ก็ได้แล้ว… ” เดือนสิบไล่ดูลิสต์รายกายในมือ ปากก็พึมพำรายชื่อของที่ยังไม่ได้ซื้อพลางก้าวเดินไปเรื่อยๆ เปิดโอกาสให้คนที่เข็นรถเข็นเดินตามหลังได้ลอบสังเกตท่าทางของตัวเองอย่างไม่รู้ตัว


รอยยิ้มบางจุดขึ้นที่มุมปากของยุทธนาแทบตลอดเวลาที่ได้เห็นท่าทางกระตือรือร้นของคนที่เดินเข้าโซนนั้นออกโซนนี้ไม่หยุด เสียงห้าวพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์ เรียวคิ้วสวยขมวดยุ่งคล้ายกำลังเถียงกับตัวเอง น่าเอ็นดูจนบางทีก็ทำให้เขาเผลอยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่รู้ตัว


ดูๆไปก็เหมือนคู่แต่งงานใหม่ที่มาช่วยกันซื้อของเข้าบ้านเลยแฮะ


‘นี่เลยครัชเบๆมาก พอมึงชวนน้องมันไปกินข้าวเสร็จใช่ป่ะ มึงก็ชวนน้องมันให้ไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนต่อเลย คิดดูนะเว้ยช่วยกันซื้อของเข้าห้องงี้ เหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันไงน่ารักจะตาย’


‘แล้วกูต้องซื้ออะไรบ้างวะ’


‘ไม่ยากเลยครัชเพื่อน เรื่องนี้เดี๋ยวพี่ป้องจัดให้’


สงสัยงานนี้คงต้องเลี้ยงเหล้าไอ้ป้องซักเมา….


 
*****



 :katai5: :katai5: มาเล้าาาาาา ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้พี่ยุทธครัช  :L2: :L2:
อิตอนพิมพ์ก็ว่ายาวทำไมพอมาลงแล้วมันดูสั้นๆกุดๆ - -  :a5:

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 17-01-2017 00:03:34
พี่มันร้ายยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 17-01-2017 06:53:54
พี่ยุทธมันร้ายค่ะหัวหน้า  :hao3:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Bk borz. ที่ 17-01-2017 07:15:18
พี่ยุทธแม่งร้ายย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 17-01-2017 07:33:23
 :mew1:น่ารักที่สุด
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 17-01-2017 07:58:34
ร้ายกาจมากพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 17-01-2017 08:36:17
มีผู้ช่วยช่างมโนมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 17-01-2017 09:09:24
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
พี่ยุทธทำไมเจ้าแผนการแบบนี้
นุจะเอาคืนที่โดนขวดฟาดหัวหรือไง :m16: :m16:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 17-01-2017 10:04:32
แหมๆ ทำเนียนเลยนะคะ :hao6:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ป่ามป๊ามป่ามปาม ที่ 17-01-2017 16:36:11
พี่ยุทธเป็นเอามากเลยนะ หลงน้องขั้นสุด :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: cheezett ที่ 17-01-2017 17:17:09
ช่ายยยมันสั้น เอกอีกๆๆคนเขียน5555  :laugh: :hao6: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 17-01-2017 20:21:17

ตัวช่วยดีมีชัยไปกว่าครึ่ง 5555
พี่ยุทธนี่หลงน้องขั้นสุดเลย เดือนสิบน่ารัก
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-01-2017 21:41:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 17-01-2017 22:03:44
มาต่อไวไวน้า :katai4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 17-01-2017 22:40:05
ร้ายกาจมาก,,,

555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 17-01-2017 23:32:13
น่ารักจังเลยยบ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 18-01-2017 02:03:13
พี่ยุทธคะ 55555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 18-01-2017 09:01:18
โอ๊ยยย คือมันดีต่อใจมาก พี่ยุทธพระเอกในดวงใจมาก ถ้าจะอบอุ่นละมุนขนาดนี้


ไอ้นุ อย่านะเว้ย เลิกแล้วเลิกเลย ไม่ต้องมาสนใจกัน มุงนอกใจเค้าก่อนเค้าจะโกธรก็ไม่เห็นแปลก เมื่อก่อนยอม ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้ต้องยอมนะเว้ยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 18-01-2017 11:05:46
คนพี่น่าร๊ากกกก คนน้องก็น่าจับกด  :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 18-01-2017 12:09:54
หาเวลาที่ได้อยู่กับน้องสิบได้เนียนจริงๆ นะพี่ยุทธ
น่ารักกกกก :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 18-01-2017 15:00:37
พี่ยุทธน่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
รอให้เป็นแฟนกับพี่ยุทธก่อนเถอะ
จะเชียร์ให้พี่ยุทธไปตั๊นหน้าไอ้นุเลย คอยดูววววววว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 20-01-2017 11:49:30
พี่ยุทธน่ารักกกกกก
น้องเดืิอนสิบก็น่ารักกก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-01-2017 13:00:59
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-01-2017 17:41:36
แผนเพื่อนๆ พี่นี่น่ารักจริง  o13
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 20-01-2017 21:12:11
อิพี่มันร้าย

ใจยังอยากให้อินุได้รับผลกรรมอยู่นะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 20-01-2017 21:43:50
น่ารักอ่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 21-01-2017 09:09:36

พี่ยุทธดีอ่ะ เดือนสิบไม่เอาเราเอาเอง 5555
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 21-01-2017 10:06:16
พี่ยุทธก็จีบแบบเนียนๆตลอด
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-01-2017 10:37:07
 :L2: :pig4:

อ้อออไม่ได้สังเกตชื่อ รออยู่หลายวันเลย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-01-2017 11:27:00
พี่ยุทธร้ายแต่น่ารัก ส่วนพี่ป้องนั้นนนนร้ายกว่ายิ่งนักเสือตัวจริงสินะ 555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 5 Up. [17/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-01-2017 16:08:25
ขยับเข้าไปใกล้น้องมากขึ้นนะคะเนี่ย

แผนสูง!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 21-01-2017 20:01:50


#ตอนที่หก



   เวลาเกือบๆสี่โมงเย็นเป็นช่วงที่รถค่อนข้างติดพอสมควร กว่าจะเคลื่อนตัวได้แต่ละครั้งก็กินเวลาไปหลายนาที ในทุกๆครั้งที่ต้องมาติดแหงกอยู่บนถนนที่มีรถติดยาวเหยียดขนาดนี้เขามันจะคิดว่ามันน่าเบื่อและพานให้ต้องรู้สึกหงุดหงิดอยู่ร่ำไป แต่ไม่ใช่กับครั้งนี้…


บรรยากาศในรถดูผ่อนคลายเพราะยุทธนาเลือกที่จะเปิดเพลงคลอเบาๆ เด็กน้อยของเขานั่งพิงเบาะตาปรือคล้ายจะหลับมิหลับแหล่ บอกให้หลับไปเลยก็งอแงพึมพำบอกไม่เอาจะไปนอนที่ห้องทีเดียว เขาไม่ได้ว่าอะไรต่อ แค่ลดแอร์ลงเมื่อเห็นอีกคนยกแขนขึ้นมากอดตัวเองไว้ จากนั้นก็ขับรถเงียบๆปล่อยให้ในรถคลอไปด้วยเสียงเพลงเบาๆและเสียงลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกอย่างสม่ำเสมอของคนที่ยืนกรานว่าจะไม่ยอมหลับในทีแรก…


   รถจอดลงหน้าหอของเดือนสิบได้ซักพักแล้วแต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น และแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่คิดที่จะปลุก เสียงผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแผ่นอกสะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะบ่งบอกว่าเจ้าตัวคงเพลียไม่น้อย แน่ล่ะ… กว่าจะเดินซื้อของให้เขาเสร็จก็ปาไปตั้งสองชั่วโมงกว่า ไอ้ตอนนั้นเขาก็รู้สึกดีจนลืมนึกไปว่าน้องจะเหนื่อย


ปลายนิ้วค่อยๆแตะลงระหว่างคิ้วที่ดูเหมือนจะย่นเข้าหากันหน่อยๆ คลึงเบาๆกระทั่งมันคลายออกจากกัน แต่แทนที่เขาจะถอนปลายนิ้วออกมาด้วย กลับเคลื่อนมันไปที่ผิวแก้มเนียนเกลี่ยเบาๆจนคนหลับครางฮือด้วยรำคาญที่ถูกรบกวนเวลานอน เปลือกตาที่ปิดสนิทขยับยุกยิกก่อนจะค่อยๆลืมขึ้นในที่สุด


ยุทธนาไม่ได้ละมือออกในทันที ปลายนิ้วยังคงเกลี่ยไปมาอยู่ที่ผิวแก้มนิ่ม มองสบกับดวงตากลมโตที่เบิกขึ้นนิดๆอย่างตกใจคล้ายพึ่งได้สติ หยักยิ้มบางใส่ตาใสๆนั่นก่อนจะเลื่อนมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างเอ็นดู


“ขี้เซา”


ตากลมกระพริบปริบๆเหมือนสติสตังพึ่งกลับมาครบถ้วนก็ตอนได้ยินเสียงเขา ตากลมหลุบต่ำ มือเรียวยกขึ้นถูปลายจมูกที่เริ่มกลายเป็นสีเรื่อเบาๆคล้ายกำลังเก้อเขิน


“เอ่อ.. ถึงหอแล้ว ผมลงก่อนนะครับ ขอบคุณมากๆที่วันนี้พาไปเลี้ยงข้าว” พูดทั้งที่ยังก้มหน้า


“ขอบคุณอะไรกันพี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณเรา อุตส่าห์ลำบากเดินซื้อของเป็นเพื่อนจนเหนื่อยขนาดนี้” คนเป็นน้องเงยหน้าขึ้นมามอง ส่ายหน้าปฏิเสธจนผมฟุ้ง


“ไม่ลำบากหรอกครับ ก็.. เพลินดี”


“พูดงี้เดี๋ยวคราวหน้าพาไปอีกดีไหม ฮึ” น้ำเสียงหยอกเย้าจนไม่รู้ว่าคนพูดพูดจริงหรือเล่น เดือนสิบเลยทำได้แค่ยิ้มแหยไปให้
เป็นการแบ่งรับแบ่งสู้ ตากลมวูบไหวเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาขยี้ผมเขาอีกครั้ง


“น่ารัก” เสียงหัวเราะในลำคอราวกับเอ็นดูกันนักหนาจนชักเริ่มเขิน


“ขี้แกล้งว่ะ เอามือออกไปเลยผมจะลงแล้ว” เดือนสิบย่นจมูกใส่พลางจับมือที่ยังยุ่งกับผมเขาไม่หยุดออก


ร่างสูงเหมือนจะชะงักไปเมื่อเห็นเดือนสิบทำแบบนั้น มองมือเล็กๆทั้งสองข้างที่กอบกุมรอบข้อมือเขาเอาไว้ ถึงจะแค่ครู่เดียวแล้วปล่อยออก.. ยุทธนาก็เหมือนจะรู้สึกใจเต้นขึ้นมาซะอย่างนั้น


ใจเต้น…. เพียงแค่น้องเป็นฝ่ายสัมผัสตัวเขาก่อน


“สิบ”


“ครับ?” คนถูกเรียกชะงักมือที่กำลังจะเปิดประตูหันกลับมามอง


“พรุ่งนี้.. ไปเรียนพร้อมกันนะ”


“….”


“….”


“ผมมีเรียนเก้าโมงนะครับ อย่าสายล่ะ” ว่าจบโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับมาอีกเดือนสิบก็ลงจากรถแล้วรีบวิ่งขึ้นหอโดยไม่หันกลับมามอง เลยไม่รู้ว่าไอ้คนที่นั่งอยู่ในนั้นกำลังยิ้มกว้างขนาดไหน


.

.

.


“มีอะไรปิดบังกูอยู่ใช่ไหม ช่วงนี้มึงดูแปลกๆไปนะ” ไอ้ปืนเอ่ยขึ้นระหว่างที่พวกเขากำลังนั่งกินข้าวอยู่ในโรงอาหารคณะ


“ไม่นี่ ก็ปกติ” แสร้งทำเป็นสนใจกับอาหารตรงหน้าเลี่ยงสายตาที่จ้องมาอย่างจับผิด ไอ้ปืนส่งเสียงเหอะในลำคอก่อนจะพาดแขนโอบไหล่เขาแล้วชี้มือไปยังจุดที่ใครคนหนึ่งกำลังยืนซื้อข้าวอยู่จนเดือนสิบต้องมองตามอย่างช่วยไม่ได้


“นั่นก็ปกติด้วยงั้นสิ มานั่งกินข้าวด้วยทุกวันแถมยังจ้องมึงจนแทบจะแดกแทนข้าวงี้? ปกติมากเลยเนอะ เหอะ! จะเล่าเองหรือต้องให้กูเค้นบอกมา!”


ไอ้ปืนมันก็พูดเกินไปถึงพี่ยุทธจะชอบมองเขาจริงแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นจ้องจนแทบจะกินอย่างที่มันว่าซะหน่อย เดือนสิบย่นจมูก จับแขนมันออกจากบ่าแล้วถอนหายใจเฮือก ยกแก้วชาเย็นขึ้นดูดคล้ายประวิงเวลาจนไอ้ปืนเร่งอีกรอบถึงได้ยอมเปิดปาก


“ก็เขาบอกว่าขอโอกาส”


“โอกาส?” ไอ้ปืนเลิกคิ้ว


“ก็ขอดูแลกูไรงี้อ่ะ”


“สรุปคือพี่มันจีบมึง?” พยักหน้าหงึกหงักยอมรับแต่โดยดี พอดีกับที่สายตาเหลือบไปเห็นคนที่กำลังยืนต่อแถวซื้อข้าวซึ่งหันมองมาทางเขาพอดี อีกฝ่ายคลี่ยิ้มบางส่งมาให้เดือนสิบเลยต้องยิ้มตอบกลับไป


“ส่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยให้กันขนาดนี้ไม่ใช่แค่จีบแล้วมั้งกูว่า มึงชอบพี่มันเข้าแล้วใช่ไหม?” ถึงกับหันขวับมามองเพื่อนสนิทตาโต


“บ้าแล้ว! กูยังไม่ได้ชอบซักหน่อย ก็.. ก็พี่เขายิ้มมากูก็ต้องยิ้มตอบเป็นธรรมดาป่ะละ จะให้หน้าบึ้งรึไง เสียมารยาทตายเลย”
ไอ้ปืนทำหน้าไม่เชื่อ


“คบกันมาเกือบปี พึ่งรู้ว่าเพื่อนกูเป็นคนมีมารยาทดีขนาดนี้เนอะ” เดือนสิบย่นจะมูกใส่เพื่อนสนิท ฟังดูก็รู้ว่ามันแขวะ แต่เพราะไม่อยากเถียงต่อ รู้ว่าเถียงไปยังไงก็เข้าตัวเลยปล่อยผ่าน พอดีกับที่ร่างสูงของรุ่นพี่ร่วมคณะเดินเข้ามานั่งลงตรงข้ามกับเขา รวมถึงเพื่อนสนิทอีกสองคนของพี่มันด้วย


ตั้งแต่วันที่ไปเดินห้างด้วยกันนี่ก็เข้าวันที่สามแล้วที่เดือนสิบมีเพื่อนร่วมโต๊ะเพิ่มขึ้นมาเป็นรุ่นพี่ร่วมคณะทั้งสามคน ยุทธนาไม่ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่ากำลังตามจีบเขา แต่การที่อีกฝ่ายคอยเทคแคร์เขาด้วยการกระทำเล็กๆน้อยๆอย่างการยื่นทิชชู่ให้เวลาเดือนสิบเหงื่อออก หรือตักกับข้าวในจานของตัวเองมาให้เขาแถมยังคะยั้นคะยอให้กินทางสายตาและคำพูดธรรมดาๆอย่าง ‘อร่อย’ แบบที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อนก็ทำให้คนอื่นดูออกได้ไม่ยาก


“เอ้อ เห็นว่าสิบจะให้ไอ้ยุทธมันติวเทอร์โมให้หรอ ต้นเดือนนี้ก็เริ่มสอบแล้วใช่ไหมจะเริ่มติวกันวันไหนล่ะ” ปกรณ์ถามขึ้น เล่นเอาไอ้ปืนหันขวับมาจ้องเขาแทบจะทันที สีหน้ามันแสดงออกชัดเจนมากว่า ‘ทำไมกูถึงไม่รู้เรื่อง’ จนเดือนสิบต้องยิ้มเจื่อนไปขัดตาทัพแล้วหันกลับมาตอบรุ่นพี่


“ก็ถ้าพี่ยุทธว่างก็คงเป็นเสาร์อาทิตย์นี้แหละครับ”


“ได้สิพี่ว่าง” คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาตอบ


“ทำไมกูไม่เห็นรู้ว่ามึงจะให้พี่ยุทธติวให้” ไอ้ปืนพูดด้วยท่าทีสบายๆ แต่น้ำเสียงกลับฟังดูคาดคั้นจนรู้สึกได้


“ก็มันลืม.. แต่กูก็ตั้งใจไว้แล้วนะว่าจะชวนมึงไปติวด้วยกันอ่ะ ไปนะ” ช่วงท้ายแอบใส่น้ำเสียงอ้อนมันไปด้วย ไอ้ปืนนิ่งไปครู่ก่อนจะถอนหายใจพรืด เอื้อมมือมาโยกหัวเขาเบาๆ


“เออ คิดว่ากูจะปล่อยมึงไปกับ’คนไม่สนิท’คนเดียวหรือไง” ย้ำชัดตรงคำว่าคนไม่สนิทก่อนจะปรายตามองไปทางยุทธนาที่มองมาอยู่ก่อนแล้วเป็นนัยย์ว่า ‘ผมหมายถึงพี่นั่นแหละ’ จนอีกฝ่ายถึงกับคิ้วกระตุก


“แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่าสนิท” คนถูกพาดพิงเอ่ยทะลุกลางปล้องเรียกสายตาแปดคู่ให้หันไปมองอย่างอึ้งๆ แต่ตาคมๆกลับจับจ้องอยู่ที่ดวงตาคู่เดียวของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน


 “…..”


“…..”


“…..”


แดกจุดกันเป็นแถวไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเอง เดือนสิบได้แต่มองคนตรงหน้าตาปริบๆ จะให้ตอบว่ายังไงดีล่ะ และในระหว่างที่สมองน้อยๆกำลังคิดหาคำตอบอยู่ ปกรณ์ที่เห็นท่าไม่ดีก็เอ่ยทำลายความเงียบขึ้น


“เชี่ยยุทธ มึงก็ไปถามอะไรแบบนั้นเล่า! ดูดิ๊น้องมันเขินจนพูดไม่ออกหมดแล้วเนี่ย” คนพูดไม่ออกเริ่มหลุกหลิก พอหาทางออกไม่ได้ก็หันมาสะกิดเพื่อนสนิทที่นั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆคล้ายขอความช่วยเหลือ ซึ่งไอ้ปืนก็ช่างเป็นเพื่อนที่ดีเหลือเกิน


“ก็แบบนี้อ่ะพี่ถึงจะเรียกว่าสนิท” ว่าจบมันก็คว้าคอเขาหมับก่อนจะกดจมูกหนักๆลงมาที่แก้มจนเกิดเสียงดังฟอด เดือนสิบตกใจจนแทบจะโวยมันออกมาแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเสียงกระซิบเบาๆบอกว่าให้นิ่งไว้ ไอ้ปืนค้างอยู่ในท่านั้นชั่วครู่แล้วผละออก มันยิ้มร้ายมองคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเพื่อนสนิทอย่างเหนือกว่า


หึ! ทั้งที่แววตาดูโกรธจนแทบระเบิดร่างเขาให้เป็นจุนขนาดนั้นแท้ๆแต่ก็ยังวางท่านิ่งเฉยเก็บอาการได้เป็นอย่างดี ก็นับว่าเป็นคนมีความอดทนสูงพอสมควร


จริงๆก็ไม่ได้อยากจะปีนเกลียวรุ่นพี่หรืออะไรหรอก ยังไงยุทธนาก็เป็นคนที่เขาให้ความนับถือพอสมควร แต่จะให้ทำเป็นไม่สนใจปล่อยให้อีกฝ่ายแทะโลมเพื่อนเขาทางสายตาอย่างสบายใจเฉิบมันก็ใช่เรื่อง ดูแลมันมาตั้งนานจะให้ใครที่ไหนก็ไม่รู้มาแย่งไป
เฉยๆได้ไง มันต้องมีบททดสอบกันหน่อย


อีกอย่าง… ไอ้ปืนก็แค่อยากจะเห็นคนนิ่งๆหลุดมาดบ้างเท่านั้นเอง


เดือนสิบปั้นหน้าไม่ถูกกับบรรยากาศที่ดูเหมือนจะมาคุขึ้นชั่วขณะ ส่วนไอ้คนสร้างเรื่องก็ทำเป็นไม่สนใจก้มหน้าก้มตากินข้าวจนเขาต้องบิดต้นขามันแรงๆอย่างหมั่นไส้ ไอ้ปืนสะดุ้งนิดๆก่อนจะปัดมือเขาออกอย่างไม่สนใจ ฮึ! ฝากไว้ก่อนเถอะ


คาดโทษเพื่อนสนิทเสร็จก็ต้องสะดุ้งเมื่อหันมาสบเข้ากับตาคมกล้าที่จ้องอยู่ ถึงท่าทางจะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเดือนสิบก็พอจะมองออกว่าอีกฝ่ายกำลังไม่พอใจมากๆ ด้วยความที่ไม่รู้จะทำยังไงเพราะตัวช่วยก็ช่วย (สร้างเรื่อง) ไปแล้ว เลยได้แต่ทำหน้าหงอยๆขอโทษขอโพยอีกฝ่ายในใจ


“ชาเย็นหน่อยไหมครับ อร่อยนะ” เลื่อนแก้วชาเย็นของตัวเองไปตรงหน้าของอีกฝ่ายแล้วก็ได้แต่มองอย่างลุ้นๆ


ท่าทางที่แสดงออกราวกับกำลังบอกว่า ‘ง้อนะ’ ของคนตรงหน้าทำให้ยุทธนาผ่อนลมหายใจ ตาคมอ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือบมองแก้วน้ำที่ถูกเลื่อนมาวางตรงหน้าสลับกับหน้าใสๆของคนให้อยู่ชั่วครู่ ก่อนจะยกมันขึ้นมาดื่มในที่สุด คนให้ถึงได้ยิ้มออก …ตาเป็นประกายเชียวล่ะ


จะทำให้หลงไปถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้


บรรยากาศที่เหมือนจะผ่อนคลายลงทำให้อีกสองคนที่นั่งลุ้นอยู่พลอยหายใจหายคอโล่งไปด้วย ปกรณ์กับศิลาลอบยิ้มอย่างรู้กันกับท่าทางของเพื่อนสนิท คันปากอยากล้อมันชิบหายแต่ต้องเก็บอาการไว้ก่อนเพราะเกรงว่าจะทำลายบรรยากาศสีชมพูอมม่วงที่มันอุตส่าห์สร้างขึ้น เห็นแบบนี้ไอ้ป้องก็รู้เวลานะเออ!


นอกจากสองหน่ออย่างปกรณ์กับศิลา คนที่อยากล้อเพื่อนสนิทใจแทบขาดก็คงเป็นไอ้ปืนนี่แหละ ทำเป็นบอกว่ายังไม่ชอบเขา แต่เชื่อเถอะว่าไอ้ท่าทางแบบนี้ถ้าไม่ใช่คนที่เดือนสิบแคร์จริงๆคงไม่มีทางได้เห็นหรอก!


.

.

.


วันเสาร์สีม่วง


โรงอาหารคณะเป็นสถานที่นัดติวที่พวกเขาตกลงกันไว้ ไอ้ปืนมารับเดือนสิบไปมหา’ลัยพร้อมกันตอนเก้าโมง คนในโรงอาหารมีบ้างประปรายซึ่งส่วนมากก็มานั่งจับกลุ่มติวกันทั้งนั้น เขากับยุทธนาไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากนอกจากเอ่ยทักทายกันธรรมดา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างไม่ค่อยแสดงออกเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ส่วนอีกหนึ่งคงเป็นเพราะไอ้ปืนที่ทำตัวเหมือนปลิงเกาะติดเขาแจ แถมยังชวนเดือนสิบคุยตลอดเวลาที่กินข้าวจนไม่มีเวลาไปสนใจพี่มัน


รู้ว่าไอ้ปืนมันจงใจแกล้งไม่ให้เขาได้มีโอกาสสนใจอีกฝ่าย บ่อยครั้งที่เดือนสิบมองหน้านิ่งๆคล้ายไม่พอใจของพี่มันแล้วได้แต่ขอโทษขอโพยอยู่ในใจอย่างรู้สึกผิด ซึ่งดูเหมือนยุทธนาเองก็เข้าใจดี เพราะพี่มันส่งยิ้มบางๆตอบมาทุกครั้งราวกับบอกว่าไม่เป็นไร


หลังจากกินข้าวเสร็จยุทธนาก็เริ่มแจกชีทให้น้องๆ จากที่ตอนแรกคิดว่าจะติวกันแค่สามคนก็ดันมีเพื่อนเข้ามาร่วมด้วยอีกหลายคน ซึ่งคนติวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ชีทแบบทดสอบที่เตรียมมามันไม่พอเลยต้องให้คนไปถ่ายเอกสารเพิ่ม เดือนสิบรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยกับการรวมกลุ่มติวกับเพื่อนหลายๆคน มันไม่ใช่ความรู้สึกอึดอัด แต่มันแปลกตรงที่เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรแถมยังสนุกไปกับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนอื่นๆอย่างที่ไม่เคยทำ


เสียงทุ้มเอ่ยอธิบายเนื้อความในหนังสือด้วยโทนเสียงเรียบเรื่อย ภาษาพูดไม่เป็นทางการและเข้าใจง่ายทำให้คนฟังต่างก็ฟังอย่างตั้งใจ ไหนจะใบหน้าหล่อเหลาที่ถึงแม้จะติดเย็นชาไปซักหน่อยแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันน่ามอง พออธิบายจบก็ลงมือทำโจทย์ให้ดูเป็นตัวอย่าง จากนั้นก็ปล่อยให้น้องๆปีหนึ่งได้ลองทำเองข้อไหนทำไม่ได้ค่อยให้น้องถาม


ยุทธนามองรุ่นน้องเกือบสิบคนที่ลงมือทำโจทย์ที่เข้าให้อย่างตั้งใจ แต่คนที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษยังคงเป็นคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา เดือนสิบเป็นคนหัวไวเพียงเขาอธิบายนิดหน่อยก็จับจุดและทำเองได้ หรือถ้าข้อไหนที่ไม่เข้าใจน้องก็จะลองทำด้วยตัวเองจนถึงที่สุดแล้วถึงมาถามความเห็นเขาทีหลัง พอเขาอธิบายก็ตั้งใจฟังและพยักหน้าหงึกหงักไปด้วย น่าเอ็นดูจนบ่อยครั้งเผลอลืมตัวเลื่อนมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่นๆนั่น


“วันนี้ก็พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวพี่จะให้โจทย์ไปลองทำดู ได้ไม่ได้ก็ขอให้ลองทำก่อนอย่าลอกเพื่อนเข้าใจใช่ไหม” ยุทธนาไล่สายตามองรุ่นน้องร่วมคณะเกือบสิบคนที่ตอบรับอย่างแข็งขัน


“งั้นก็แยกย้ายได้ พรุ่งนี้เก้าโมงที่เดิมถ้าใครอยากมาติวอีกก็มาได้”


“ขอบคุนครับ/ขอบคุณค่ะ” เขารับไหว้รุ่นน้อง จนทุกคนเริ่มทยอยลุกไปจนหมดถึงได้หันกลับมาสนใจคนที่นั่งจ้องเขาตาแป๋ว ซึ่งตอนนี้ข้างกายไร้ผู้พิทักษ์


 “ไง เหนื่อยไหม” เดือนสิบส่ายหน้า รวบสมุดปากกาเข้ากระเป๋า


“พี่ล่ะครับเหนื่อยไหม” ยุทธนายิ้มบาง


“จะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยถ้าได้คนไปกินข้าวเป็นเพื่อน” เดือนสิบย่นจมูก มองคนหน้านิ่งที่ดูจะไม่นิ่งทุกครั้งที่คุยกับเขาอย่างหมั่นไส้


“งั้นก็ไปกันครับ หิวจะแย่”


“แล้วนี่ผู้พิทักษ์เราไปไหนซะล่ะ ทำไมถึงปล่อยให้มากับพี่ได้” ยุทธนาถามขึ้นระหว่างขับรถ ถ้อยคำเรียกขานเพื่อนสนิททำเอาเดือนสิบถึงกับหลุดขำ แต่ก็ไม่วายเล่นไปกับอีกฝ่าย


“ผู้พิทักษ์อะไรกันครับ ไอ้ปืนมันเป็นผู้ปกครองผมต่างหาก”


“งั้น.. ถ้าพี่จะมาเป็นแฟนสิบ ก็ต้องขออนุญาตผู้ปกครองเราก่อนรึเปล่า” คนโดนเล่นกลับถึงกับเหวอปั้นหน้าไม่ถูก เสียงหัวเราะหึๆจากคนข้างๆยิ่งทำให้สองแก้มรู้สึกร้อนผ่าว


“ขี้แกล้งว่ะ” ได้แต่บ่นเพราะไม่รู้จะทำยังไง


“ก็ทำตัวให้น่าแกล้ง” คนขี้แกล้งไม่ว่าเปล่ายังเลื่อนมามาโยกหัวเขาไปมาอีกต่างหาก


“ผมเปล่า”


“น่ารัก”


“พี่ยุทธ!” เดือนสิบมองอีกฝ่ายเคืองๆ ดูก็รูว่าโมโหกลบเกลื่อน


“ครับ!” ทว่าคนถูกมองกลับยิ้มรับอย่างไม่สะทกสะท้าน มันน่าตีซักป้าบจริงๆให้ตายเถอะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นดูเป็นคนนิ่งๆแท้ๆ


“ไม่คิดมาก่อนเลยว่าพี่จะเป็นคนขี้แกล้งขนาดนี้” บ่นอุบ


“พี่ก็ไม่คิดมาก่อนว่าเราจะเป็นคนน่ารักขนาดนี้”


“พี่ยุทธ! หยุดเลย เลิกแกล้งผมแล้วหันไปขับรถดีๆเดี๋ยวนี้เลย” พอเถียงต่อไม่ได้ก็หันมานั่งกอดอกฉับ ตากลมมองตรงแสร้งทำเป็นไม่สนใจคนข้างๆที่ส่งเสียงหัวเราะหึๆราวกับอารมณ์ดีนักหนา


“มีคนบอกว่า เด็กผู้ชายถ้าชอบใครก็จะชอบแกล้งคนๆนั้นด้วยรู้หรือเปล่า”


เดือนสิบยังคงทำเป็นไม่สนใจ แม้จะอยากตะโกนใส่อีกฝ่ายดังๆว่า ‘แล้วตัวเองเป็นเด็กรึไงเล่า!!’ แค่ไหนก็เถอะ


“เงียบแปลว่ารู้…” ยุทธนาเหลือบมองคนหน้าหงิกทั้งที่แก้มขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่ารักน่าชังอย่างเอ็นดู อยากแกล้งต่อเพื่อยืนยันความ’ชอบ’ของตัวเองอีกซักหน่อยแต่ไม่เอาดีกวา หน้าแดงหูแดงไปหมดขนาดนี้ถ้าแกล้งต่อเดี๋ยวระเบิดตัวเองไปล่ะแย่เลย
ยังไงเขาก็ยังไม่อยากเป็นหม้ายทั้งที่ยังจีบไม่ติดหรอกนะ


ยุทธนาเลี้ยวรถเข้ามาจอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหา’ลัยเขาเท่าไหร่นัก ตัวร้านอยู่ห่างจากถนนใหญ่ราวห้าสิบเมตรเปิดโล่งรับลมเย็น


“อ้าวยุทธ.. จะมาไม่โทรบอกพี่ล่ะจะได้ให้คนทำกับข้าวไว้รอ” คนที่เอ่ยทักทายยุทธนาอย่างสนิทสนมเป็นผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาสะสวย ผมยาวถึงกลางหลังถูกมัดรวบไว้กันเกะกะ ท่าทางคล่องแคล่วดูทะมัดทะแมง


“ไม่เป็นไรหรอกครับพี่นาว ผมรอได้” ยุทธนาว่ายิ้มๆก่อนจะหันมาหาเดือนสิบ มือหนาแตะที่เอวเขาเบาๆ “นี่เดือนสิบครับ”


คนถูกแนะนำแบบไม่ทันได้ตั้งตัวยิ้มเขินก่อนจะยกมือไหว้อย่างงงๆ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากเจ้าของร้านคนสวย


“น่าตาน่าเอ็นดูเชียว”


“ขอบคุณครับ” ยิ้มเขินทำตัวไม่ถูก เพราะไม่บ่อยนักที่จะได้ยินคำพูดทำนองนี้จากคนไม่รู้จัก


“พี่ชื่อนาวนะจ๊ะเป็นพี่สะใภ้ยุทธ เดือนสิบทำตัวตามสบายเลยนะอยากกินอะไรสั่งเลยเดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจด้วยคิดซะว่าพี่เป็นพี่สาวเราอีกคนก็แล้วกันเนอะ” คนพูดไม่พูดเปล่ายื่นมือมาดึงแก้มเขาจนยืดอีกต่างหาก


เดือนสิบได้แต่ยิ้มแหยหันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างๆกันคล้ายขอความช่วยเหลือ ยุทธนามองท่าทางของอีกฝ่ายยิ้มๆก่อนจะพยักหน้าให้เป็นเชิงว่ายอมๆตอบตกลงไปเถอะ ด้วยรู้ว่านิสัยของพี่สะใภ้เป็นยังไง ถึงจะไม่ได้สนิทกันมากนักแต่ก็พอรู้มาบ้างว่าอีกฝ่ายเอาแต่ใจไม่ใช่เล่น


“งั้นก็รบกวนด้วยนะครับ” เดือนสิบตอบรับในที่สุด


“ฮึ่ยย น่ารักจริงๆเชียว” เจ้าของร้านคนสวยยิ้มกว้าง บอกพนักงานให้มารับออเดอร์จากพวกเขาก่อนจะเดินผละไปเมื่อเห็นว่ามีลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามา


“ผมพึ่งรู้ว่าพี่ยุทธมีพี่ชายด้วย” เดือนสิบเอ่ยทำลายความเงียบระหว่างนั่งรออาหารที่สั่งไป อีกอย่างคือเขาอยากหาเรื่องคุยเพื่อหลบเลี่ยงตายิ้มๆของอีกฝ่ายที่จ้องกันไม่เลิกนี่ด้วย


“เรารู้สิแปลก ขนาดเพื่อนในห้องยังไม่มีใครรู้เลย”


“พวกพี่ป้องพี่หินก็ด้วยหรอครับ” ยุทธนาส่ายหน้า


“เว้นพวกมันสองคนไว้แล้วกัน” เดือนสิบพยักหน้าหงึกหงัก “แล้วเราล่ะมีพี่น้องรึเปล่าหรือว่าลูกคนเดียว” ยุทธนาถามกลับบ้าง


“มีน้องชายคนหนึ่งครับ ตอนนี้อยู่ปวชสาม”


“เรียนช่างหรอ”


“ครับช่างกลเหมือนกัน” ยุทธนาพยักหน้ารับ เอ่ยถามต่อเรียบเรื่อยพยายามไม่ให้น้องรู้สึกว่าเขากำลังซักประวัติ


“ดีเลยสิ จบแล้วจะมาเรียนที่กรุงเทพฯเหมือนกันรึเปล่าล่ะ”


“ไม่รู้สิครับ ดูเหมือนมันไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่”


ยุทธนาพยักหน้ารับแต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่ออาหารที่สั่งไปก็เริ่มทยอยมาเสิร์ฟบทสนทนาเลยจบลงแค่นั้น


“อันนี้อร่อย”


เดือนสิบเหลือบมองคนที่ตักนั่นตักนี่ให้เขาชิมไม่หยุด ซึ่งครั้งนี้เสียงทุ้มเอ่ยประโยคเดียวกันเป็นรอบที่สามตั้งแต่อาหารมาเสิร์ฟ


“ขอบคุณครับ แต่พี่ยุทธกินเองบ้างเถอะไม่ต้องดูแลผมดีขนาดนี้ก็ได้” เดือนสิบว่ายิ้มๆ ถึงจะรู้สึกดีไม่น้อยที่อีกฝ่ายคอยเอาใจ แต่ความรู้สึกเก้อเขินมันมีมากกว่า


“ไม่ได้สิ ดูแลไม่ดีเดี๋ยวโดนหักคะแนนขึ้นมาทำไง” คนโดนหยอดย่นจมูก


“ไม่หักหรอกครับ เพราะตอนนี้ยังไม่มีคะแนนให้หัก” ยุทธนามองคนเขินที่ยักคิ้ววางท่าอย่างผู้เหนือกว่ายิ้มๆ


“งี้ก็แย่เลยสิ ดูแลดีขนาดนี้ยังไม่มีคะแนนสงสัยคงต้องไปช่วยอาบน้ำทาแป้งแล้วส่งเข้านอนด้วยซะล่ะมั้ง” แกล้งโอดทั้งที่หน้าเกลื่อนพรายด้วยรอยยิ้ม จนเดือนสิบชักเริ่มหมั่นไส้ขึ้นมาตงิด แล้วคำพูดคำจานั่นใช่คนที่ชอบวางท่านิ่งๆแน่หรอ


“พอเลยๆเลิกเล่นแล้วตั้งใจทานได้แล้วครับ”


“ตักให้พี่บ้างสิ” คนช่างเอาใจเหมือนจะอยากโคฟเวอร์คนเป็นง่อยขึ้นมา


“เรื่องอะไรล่ะครับ ตักให้ผมได้ก็ต้องตักให้ตัวเองได้สิ”


“ใจร้ายว่ะ”


เดือนสิบส่งเสียงหึขึ้นจมูก แต่ก็ยอมตักเนื้อปลาจากถ้วยต้มยำใส่จานของคนที่แกล้งทำเป็นน้อยอกน้อยใจจนน่าหมั่นไส้


“น่ารักแล้วยังใจดีอีก” พอทำให้แล้วก็มาแกล้งให้ได้เขินอีก มันน่าไหมเนี่ย


“กินไปเลย”


“รู้ป่ะเนี่ยว่าทำให้คนเขาหลงจนแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว”


ไม่รู้! ไม่รู้อะไรทั้งนั้นแหละ!


ยุทธนามองคนขยันเขินที่หน้าแดงหูแดงจนกลัวว่าจะระเบิดตัวเองไปซะก่อนยิ้มๆ ไม่ว่าจะพูดอะไรจะทำอะไรเขาก็มองว่ามันน่ารักน่าเอ็นดูไปเสียหมด


ดูท่าว่าเขาจะหลงคนตรงหน้าจนแทบจะบ้าแล้วจริงๆนั่นแหละ



*****



 :katai5: ขอบคุณทุกคนที่รออิพี่กับน้องสิบขอรับ  :L2: :L2:
ตอนที่แล้วมีแต่คนว่าพี่มันร้าย ตอนนี้มันร้ายกว่า และตอนหน้าๆมันจะยิ่งร้ายค่ะ  :laugh:



หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 21-01-2017 20:51:52
อยากได้แบบพี่ยุทธบ้างจัง
อิจฉาสิบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 21-01-2017 20:59:33
ดีงามมากๆๆๆๆๆๆ
ทั้งพี่ยุทธ
ทั้งน้องสิบ
ชอบบบบบบบบบบ :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 21-01-2017 21:05:41
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 21-01-2017 21:10:52
ขยันหยอดจัง

ไม่ทราบที่บ้านขายหนมครกป่าวคะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-01-2017 21:18:15
 :L2: :pig4: :L1:


หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: myapril ที่ 21-01-2017 21:19:46
หยอดเก่งจริงๆพี่ยุทธ
น้องสิบรับมือดีๆนะ555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-01-2017 21:26:51
ขยันทำน้องเขินนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-01-2017 21:29:19
หยอดตลอด ก็ดีที่สิบจะได้ไม่มีเวลาไปคิดถึงแฟนเก่า
พี่ยุทธมาถูกเวลา เขาจีบกันเราแต่เราฟิน :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-01-2017 22:20:57
ยุทธ รุกเดือนสิบหนักๆไปเลย  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
พี่ยุทธ ดูอบอุ่น เป็นที่พึ่งให้สิบได้ดี
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-01-2017 22:40:49
ยุทธนาพ่อคุณเอ๊ย....
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 21-01-2017 23:56:13

พี่ยุทธธธธ
หยอดเก่งขนาดนี้ที่บ้านขายขนมครกใช่ไหมมม
เขิลลล
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 21-01-2017 23:59:22
หลงอย่างหนัก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 22-01-2017 00:21:17
หยอดตลอดเลยน้า พี่ยุทธเนี่ย
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-01-2017 00:57:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 22-01-2017 01:50:42
 :impress2: น่ารักทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 22-01-2017 08:30:05
ขอแบบพี่ยุทธซักคน
สิบไม่เอามาหาเค้าน้าาา
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 22-01-2017 09:33:18
พี่ยุทธหยอดตลอดดดด น้องสิบเขินตัวแตกแล้วแบบนี้
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 22-01-2017 12:51:21
เขินหนักมาก!!!!
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 22-01-2017 12:59:56
ดีแล้วที่นุแฟนเก่าเดือนมาบอกเลิกไม่งั้นคงไม่ได้เห็นพี่ยุทธหยอดน้องเดือนแบบนี้ :m1: :m1: :m1: :m1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 22-01-2017 17:53:35
หยอดอีกล้าววววว น้องเขินหมดล้าาาาว
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 22-01-2017 18:39:44
หยอดเก่งนักนะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★ [ยุทธxสิบ] แก้ไขชื่อเรื่อง** ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 22-01-2017 20:05:41
ชอบ  ชอบอ่ะ   หยอดได้หยอดเข้าไปนะพี่ยุทธ 

 :hao3:     :hao3:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 23-01-2017 14:04:27
หยอดตลอดดด ใจอ่อนหยวบแล้วจ๊า
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 6 Up. [21/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 23-01-2017 20:03:35
ขอพี่ยุทธใส่ห่อกลับบ้าน1ที่ค่ะ o18
ขรึมๆแต่พออยู่กะน้องละน่าร๊ากกกกกก อยากเห็นตอนเป็นแฟนกานนนน :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 23-01-2017 21:11:11
#ตอนที่เจ็ด



   ถ้าใครเดินเข้ามาในโรงอาหารคณะวิศวะช่วงนี้อาจต้องรู้สึกประหลาดใจกับความเงียบสงบที่เกิดขึ้น ถึงจะไม่ได้เงียบฉี่เหมือนเด็กคณะอื่นๆแต่ความเงียบระดับนี้ก็ถือว่าไม่ปกติอยู่ดี ภาพนักศึกษาในชุดเสื้อช้อปที่กำลังจับกลุ่มรวมกันเพื่อติวหนังสือไม่ได้มีมาให้เห็นบ่อยนัก จะเว้นก็แต่ช่วงนี้ที่เรียกว่าเป็นมหกรรมสอบไฟนอล วันแรกของการสอบทุกคนดูจะกระตือรือร้นแต่เมื่อเข้าวันที่สองที่สาม ความรู้สึกนั้นจะค่อยๆเลือนหายไปเหลือแต่ความอ่อนล้า เดือนสิบเองก็เช่นกัน


   ร่างโปร่งทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางอิดโรย ก่อนที่เก้าอี้ตัวข้างๆจะถูกจับจองโดยไอ้ปืนที่ดูจะอาการหนักกว่าอยู่สักหน่อยมันฟุบหน้าลงกับโต๊ะก่อนจะเริ่มโอดครวญอีกครั้ง ทั้งๆที่ก็บ่นมาตลอดทางตั้งแต่เดินออกจากห้องสอบแท้ๆ


วิชาที่พวกเขาสอบวันนี้คือแคลคูลัสซึ่งเป็นการสอบที่รีดพลังชีวิตออกไปเยอะพอสมควร หน้าตาของเพื่อนๆแต่ละคนที่เดินออกจากห้องสอบดูอ่อนล้าไม่ต่างกัน เดือนสิบอยากจะฟุบไปกับโต๊ะอย่างไอ้ปืนบ้าง ติดแต่ตอนนี้เขาหิวเกินกว่าจะมัวอ้อยสร้อยแบบมัน ลุกขึ้นตั้งใจว่าจะไปซื้อข้าว กินเสร็จจะได้กลับหอไปนอนเอาแรง แต่สองขาที่ยังไม่ทันได้ออกเดินก็ต้องหยุดชะงักเมื่อร่างสูงคุ้นตาของคนที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เห็นมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า มือซ้ายถือจานข้าวส่วนอีกข้างมีน้ำชาเย็นที่เขาชอบ


ใบหน้าหล่อเหล่าดูอิดโรยไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่ ทว่ารอยยิ้มบางๆที่ส่งมาให้ยังดูอบอุ่นเสมอ จานข้าวที่อีกฝ่ายถืออยู่ถูกวางลงตรงหน้าก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงตรงข้ามกับเขา


“เห็นเหนื่อยๆกลัวว่าจะไม่มีแรงเลยซื้อมาให้” ไม่รอให้ได้เอ่ยถามเจ้าตัวก็ชิงอธิบายซะก่อน


“ผมไม่ได้แย่ขนาดนั้นซักหน่อย ไม่เห็นต้องลำบากเลย” ถึงจะรู้สึกดีใจลึกๆกับการเอาใจใส่ แต่พอเห็นท่าทางที่ดูเหนื่อยๆไม่ต่างกันก็อดจะรู้สึกเกรงใจไม่ได้ ทว่าคนชอบบริการกลับยิ้มบาง


“ที่ทำเพราะอยากทำให้ไม่ได้ลำบากอะไรเลย รีบกินเถอะกำลังหิวไม่ใช่รึไง” มือหนายื่นมาลูบหัวเขาเบาๆแล้วผละออก


“แล้วพี่ยุทธไม่กินด้วยกันหรอครับ”


“ไม่ล่ะพี่กินแล้ว” เดือนสิบพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มลงมือกินข้าว หันไปมองเพื่อนสนิทก็เห็นว่ามันยังคงฟุบหน้านิ่งไม่ไหวติง พอสะกิดมันก็ส่งเสียงครางฮือ สงสัยจะเพลียจนหลับ ไม่รู้เมื่อคืนมันอ่านหนังสือดึกหรืออ่านหนังสือหนักแล้วเล่นเกมต่อจนดึก


“ทำข้อสอบได้ไหม” ยุทธนาเอ่ยถาม


“ก็พอได้ครับแต่ไม่แน่ใจว่าถูกรึเปล่า” ถึงจะทำได้เกือบทุกข้อแต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่าถูกหมดไหม


“ต้องถูกอยู่แล้ว เก่งขนาดนี้มั่นใจหน่อยสิ” เดือนสิบย่นจมูก


“ก็มันกังวนนี่ครับ”


“ไม่ต้องไปคิดมากหรอกกังวนไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว มั่นใจในสิ่งที่ทำไปก็พอ” ยุทธนายิ้มให้กำลังใจ คนเป็นน้องเลยยิ้มตอบ


“พี่ยุทธล่ะครับ ทำได้ไหม”


“ก็มีได้มีไม่ได้เหมือนเรานั่นแหละ แต่ก็มั่นใจว่าทำได้เกินครึ่ง” เป็นอีกครั้งที่เดือนสิบย่นจมูกแล้วส่ายหน้าเบาๆใส่ท่าทางมั่นอกมั่นใจของคนตรงหน้า


ท่าทางน่าเอ็นดูจนคนมองอดไม่ได้เลยยื่นมือข้ามโต๊ะมาบีบจมูกรั้นๆอย่างหมั่นเขี้ยว


“ฮื่อ.. เจ็บ” พูดอู้อี้เพราะคนเป็นพี่ยังไม่ถอนมือออกไป


“หมั่นเขี้ยวว่ะ” คนขี้แกล้งหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ยอมปล่อยมือจากปลายจมูกรั้นแต่ก็ยังไม่วายขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างอดใจไม่ไหว


“ขี้แกล้งว่ะ” ถ้อยคำที่แทบจะเรียกได้ว่าติดปากยามเมื่ออยู่กับคนตรงหน้าถูกเอ่ยออกมาอีกครั้ง ถูจมูกตัวเองป้อยๆแสร้งก้มหน้าก้มตากินข้าว ทำเมินตาคมเป็นประกายที่มองมา


ยุทธนาไม่ได้แกล้งหรือแหย่อะไรน้องอีก เขาทำแค่นั่งดูอีกฝ่ายกินข้าวไปเรื่อยๆมียิ้มให้บ้างเวลาที่สบตากัน กระทั่งน้องกินเสร็จถึงได้เอ่ยถาม


“ตอนบ่ายมีสอบอีกรึเปล่า” เดือนสิบส่ายหน้า


“ไม่มีแล้วครับ มีอีกทีก็วันศุกร์เลย”


“งั้นก็แปลว่าพรุ่งนี้กับวันมะรืนเราว่างน่ะสิ” พยักหน้ารับหงึกหงัก มองท่าทีแปลกๆของอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจนัก


“… พี่ก็ว่าง… ไปเที่ยวกันไหม”


เดือนสิบนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยถาม


“….เที่ยวไหนครับ”


“พวกไอ้ป้องมันอยากไปเที่ยวทะเล เห็นว่าจะไปเกาะล้าน… ไปด้วยกันนะ”


ยุทธนามองคนที่ดูเหมือนจะนิ่งไปอีกครั้ง เขาส่งยิ้มบางๆให้ไม่ได้เร่งรัดให้น้องรีบตกลง ถึงช่วงสองสามอาทิตย์มานี้จะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ แต่ส่วนใหญ่ก็แค่ไปกินข้าวด้วยกันใกล้ๆหรือไม่ก็มานั่งติวหนังสือที่มหา’ลัย นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยปากชวนอีกฝ่ายไปเที่ยวด้วยกันอย่างเป็นทางการ ถึงจะไม่ได้ไปแค่สองคนก็เถอะ


“จริงๆไอ้ปืนมันก็เปรยๆว่าอยากไปทะเลอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมบอกมันว่ารอให้สอบเสร็จก่อน กลัวไปแล้วจะไม่สนุกเพราะมัวพะวงอยู่กับเรื่องสอบ”


ยุทธนาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เขายิ้มบาง ไม่ได้โกรธเคืองกับประโยคในเชิงปฏิเสธกรายๆ


“ถ้าอย่างงั้นสอบเสร็จแล้วไปเที่ยวด้วยกันนะ”


“ครับ”


ยืนยันหนักแน่นก่อนจะยิ้มกว้างตอบรับท่าทางที่แสดงออกอย่างดีใจของอีกฝ่าย


.

.

.


ช่วงเวลาหฤโหดอย่างการสอบไฟนอลค่อนข้างผ่านไปได้ด้วยดี เดือนสิบนั่งมองเพื่อนสนิทที่กำลังแหกปากร้องเพลงเสียงดังลั่นโดยที่ข้างๆกันมีลูกคู่คือไอ้ตู่ซึ่งกำลังโยกตัวอย่างเมามัน มีเสียงเฮลั่นและเสียงหัวเราะเป็นระยะจากคนอื่นๆที่นั่งโยกตัวอยู่บนโซฟาสร้างความสนุกครึกครื้น ของกินเล่นที่สั่งมาจนเต็มโต๊ะเหลือเพียงเศษซากทั้งที่เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง


หลังจากสอบวิชาสุดท้ายเสร็จแทนที่จะได้กลับไปนอนให้ฉ่ำปอดอย่างที่ตั้งใจ ไอ้ปืนที่ดูเหมือนจะหมดแรงในทีแรกก็ดี้ด้าเป็นปลากระดี่ได้น้ำขึ้นมาทันทีเมื่อไอ้จอมโทรมาชวนไปร้องคาราโอเกะ สมาชิกที่ร่วมด้วยก็พวกกลุ่มเดิมที่ไปกินเหล้าด้วยกันนั่นแหละ เดือนสิบที่อุตส่าห์ตั้งใจว่าจะกลับห้องไปนอนเลยต้องติดสอยห้อยตามมันมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้


หลายครั้งที่ถูกชักชวนให้ออกไปร้องแต่เขาก็ปฏิเสธไปเพราะถนัดเป็นคนฟังมากกว่า เห็นแต่ละคนปลดปล่อยความเครียดหลังสอบโดยการออกไปเต้นท่าบ้าๆบอๆดูไปก็ตลกเพลินๆดี กระทั่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้เด็กวิศวะเกือบๆสิบคนก็เริ่มทยอยหมดแรงกันไปทีละคนสองคน จนสุดท้ายก็ไม่เหลือ พากันนอนแผ่อ้าซ่า


เดือนสิบเดินแยกออกมาเข้าห้องน้ำระหว่างที่รอพวกมันเคลียร์ค่าใช้จ่าย ไอ้ปืนบอกว่ามันจะออกในส่วนของเขาให้เพราะมันเป็นคนลากเขามาซึ่งเดือนสิบก็ไม่ได้ปฏิเสธ


“อ้าวสิบ มาร้องเกะเหมือนกันหรอ” เสียงคุ้นเคย ก่อนที่เจ้าของส่วนสูงไล่เลี่ยกันกับเขาเดินมาหยุดยืนอยู่ที่อ่างล้างมือข้างๆ เดือนสิบยกมือไหว้อีกฝ่าย


“ครับ มากับพวกไอ้ปืน”


“อ่อ ไอ้กลุ่มที่โหวกเหวกอยู่หน้าบาร์นี่เอง ก็ว่ามองไกลๆหน้าดูคุ้นๆ แล้วนี่จะกลับกันแล้วหรอ”


“ครับ รอพวกมันเคลียร์ค่าเสียหายอยู่”


“เละเทะเลยสิ”


“ครับ ก็เยอะพอสมควรเลย” ปกรณ์หัวเราะร่า


“ห้องนั้นก็พอตัวเหมือนกันมีแต่พวกทโมนทั้งนั้น นี่ไอ้หินก็ทำแก้วแตกไปสองใบแม่งเมาแล้วเรื้อนชิบหาย เอ้อ… เราอยู่หอตรงข้ามกับคอนโดไอ้ยุทธนี่ ใช่ไหม” เดือนสิบกระพริบตาปริบๆก่อนจะพยักหน้างงๆกับการเปลี่ยนเรื่องกะทันหันของรุ่นพี่ร่วมคณะ


“ดีเลย งั้นพี่ฝากของไปให้มันหน่อย ตอนแรกกะว่าจะเอาไปให้เองแต่เมื่อกี้ม๊าโทรมาบอกว่ามีธุระด่วน ไม่ลำบากใช่ไหม”


คนถูกมัดมือชกไม่ทันมีเวลาได้จับต้นชนปลายก็ถูกอีกฝ่ายลากให้เดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องร้องคาราโอเกะซะแล้ว เจ้าตัวบอกให้เขายืนรออยู่ข้างนอกแล้วก็หายเข้าไปในห้อง แต่ไม่นานก็กลับออกมาพร้อมแฟ้มเอกสาร ซึ่งตอนนี้ถูกยัดใส่มือเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่เปิดโอกาสให้ได้ปฏิเสธ


“มันอยู่ชั้นยี่สิบเอ็ดห้อง 2505 เดี๋ยวพี่จะโทรไปบอกประชาสัมพันธ์ให้ ถ้าเขาถามสิบก็บอกว่าเป็นรุ่นน้องไอ้ยุทธมันแล้วกัน โอเคเนอะ ขอบคุณมากๆนะเดี๋ยวคราวหน้าพี่เลี้ยงข้าวตอบแทน แล้วเจอกัน”


ปกรณ์ตบไหล่รุ่นน้องปุๆจากนั้นก็หายลับเข้าไปในห้องคาราโอเกะอีกครั้ง ปล่อยให้รุ่นน้องร่วมคณะว่าที่เพื่อนสะใภ้มองตามตาปริบๆ


.

.

.


เพราะคำไหว้วานของรุ่นพี่ จึงทำให้ตอนนี้เดือนสิบต้องมายืนคอตั้งแหงนมองคอนโดหรูที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับหอเขาอย่างช่วยไม่ได้ สูดหายใจลึกคล้ายเรียกกำลังใจให้ตัวเองราวกับจะไปออกรบที่ไหน ทั้งที่จริงๆแค่เอาของขึ้นไปให้คนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเกือบอาทิตย์ ใช่.. เกือบอาทิตย์แล้วที่เขาไม่ได้เจอหน้าพี่ยุทธ เพราะต่างฝ่ายต่างยุ่งอยู่กับการสอบ เวลาว่างก็ยังไม่ตรงกันอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายจะหายเงียบไปเลย ทุกๆวันจะมีข้อความสั้นๆอย่าง ‘ฝันดี’ ไม่ก็ ‘คิดถึง’ หรืออะไรในทำนองนี้ถูกส่งเข้ามาทุกวันในเวลาสี่ทุ่มตรง เป็นข้อความสั้นๆที่ทำให้เขาเผลอยิ้มกว้างได้ทุกครั้งที่ได้รับ


เดือนสิบเรียกกำลังใจให้ตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน เขาบอกพี่ประชาสัมพันธ์ตรงเคาน์เตอร์ไปตามที่พี่ป้องแนะนำ อีกฝ่ายก็พาเขามาส่งที่ลิฟต์ด้วยท่าทางยิ้มแย้ม


ติ้ง!


ลิฟต์เปิดออกเมื่อมาถึงชั้นที่ต้องการ ร่างโปร่งก้าวเดินอย่างไม่มั่นคงนักกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าห้อง 2505 ตามที่รุ่นพี่ได้บอกไว้ อีกครั้งที่ความตื่นเต้นอย่างไม่มีสาเหตุเพียงแค่คิดว่าจะได้เจออีกฝ่ายทำให้ต้องสูดหายใจลึก ทำใจอยู่ชั่วครู่แล้วจึงกดออดในที่สุด


ความเงียบชั่วอึดใจก่อนที่ประตูจะเปิดออก


“สิบ..?”


คนที่เปิดประตูออกมาทำหน้าแปลกใจระคนไม่แน่ใจเมื่อเห็นเขา แต่ชั่วครู่ตาคมก็เปลี่ยนเป็นฉายประกายความดีใจออกมา


“เข้ามาก่อนสิ” ยุทธนายิ้มจางขยับหลีกทางให้ร่างเล็กกว่าได้เดินเข้ามาในห้อง ถึงจะแปลกใจไม่น้อยในทีแรก ที่เปิดประตูออกไปแล้วเจออีกฝ่ายแทนที่จะเป็นเพื่อนสนิทที่โทรมาบอกก่อนหน้าว่าจะเอาชีทงานมาให้ แต่หลังจากนั้นความรู้สึกดีใจระคนตื่นเต้นเล็กๆก็เข้ามาแทนที่


“พี่ป้องฝากให้ผมเอานี่มาให้ครับ บอกว่ามีธุระเลยมาไม่ได้” ยุทธนารับแฟ้มเอกสารจากน้องมาวางไว้บนโต๊ะ ก่อนจะนั่งลงข้างๆกัน นึกขอบคุณเพื่อนสนิทในใจไม่ว่ามันจะติดธุระจริงๆหรือแค่แกล้งติดธุระก็ตาม


“ขอบคุณครับ” ยุทธนายิ้มบางมองท่าทางเหมือนกระต่ายหลงถิ่นของคนเป็นน้องอย่างเอ็นดู เดือนสิบคล้ายจะตัวเกร็งตั้งแต่เดินเข้ามาในห้อง ตากลมดูหลุกหลิกไม่กล้าสบตาเขา


“เป็นอะไรรึเปล่าหน้าดูแดงๆ หรือว่าไม่สบาย” ร่างเล็กกว่าสะดุ้งโหยงตอนที่เขาขยับเข้าใกล้จนยุทธนาเกือบหลุดขำ ไม่ได้เจอกันเกือบอาทิตย์ดูเหมือนลูกแมวของเขาจะขี้ตกใจขึ้นมาอีกแล้ว


หรือเป็นเพราะอยู่แปลกถิ่น?


“เปล่าครับผมสบายดี.. คือผมแค่จะเอาของขึ้นมาให้.. แล้วก็ว่าจะกลับเลย” เอ่ยติดๆขัดๆแถมยังไม่ยอมสบตาอีกต่างหาก
ดูเหมือนเขาต้องเรียกความคุ้นชินให้ลูกแมวซะหน่อยแล้ว ขืนปล่อยให้กลับถิ่นตอนนี้มีหวังครั้งหน้าคงพาขึ้นมาด้วยยากแน่ๆ


“ไม่ได้เจอกันตั้งเป็นอาทิตย์มาถึงก็จะรีบกลับเลยหรอ ไม่คิดถึงกันบ้างรึไงฮึ”


เอ่ยเสียงนุ่ม วางมือลงบนหัวทุยสวยแล้วขยี้เบาๆอย่างที่ชอบทำ


สัมผัสคุ้นเคยทำให้เดือนสิบคลายอาการตื่นเต้นลง ตากลมค่อยๆช้อนมองเจ้าของห้อง ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยเกลี้ยงเกลาตอนนี้เริ่มมีไรหนวดสีเขียวขึ้นจางๆ เปล่าเลย.. มันไม่ได้ดูน่าเกลียดแต่กลับยิ่งเสริมให้เจ้าตัวดูหล่อเข้มดุดันขึ้นต่างหาก ไหนจะเสื้อนักศึกษาที่ปลดกระดุมเม็ดบนลงถึงสามเม็ดจนเผยให้เห็นแผ่นอกแน่นตึงนี่อีก…


มองลงมาถึงตรงนั้นแก้มขาวก็เหมือนจะร้อนวูบขึ้นมาอีกครั้ง ก้อนเนื้อในอกเต้นตึกตักเป็นจังหวะแปลกๆจนต้องเบือนหน้าหนี


ทั้งที่มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นหน้าอกผู้ชายซักหน่อย ของไอ้ปืนก็เคยเห็น พี่ที่อู่ซ่อมรถก็เห็นออกบ่อย หรือแม้แต่ไอ้นุเองเขาก็เคยเห็น เห็นมากกว่านี้ด้วยซ้ำ แต่ความเขินมันโคตรจะเทียบกันไม่ติดเลย ใจก็ไม่เต้นแรงขนาดนี้ด้วย


เป็นอีกครั้งที่ยุทธนารู้สึกว่าอีกฝ่ายน่าแกล้ง แก้มแดง หูแดง.. ชัดเจนว่าลูกแมวของเขากำลังเขิน แบบนี้จะเรียกว่าน้องมีใจให้เขาได้รึยังนะ


ไวเท่าความคิด ร่างใหญ่กว่าขยับเข้าไปใกล้..


“ว่าไงครับ.. คิดถึงพี่บ้างไหม”


คนถูกถามระยะประชิดผงะถอย ทว่าคนอยากพิสูจน์ความรู้สึกของอีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยให้เป็นอย่างนั้น แขนแกร่งคว้าเอวของอีกฝ่ายเข้ามาชิด กระซิบถามประโยคเดิมจนเกือบติดใบหูขาวที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงเรื่อ


เดือนสิบเป็นผู้ชายตัวเล็ก.. ถึงดูภายนอกจะไม่เล็กมากแต่เมื่อเทียบกับเขาที่จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายร่างยักษ์แล้วเจ้าตัวก็ดูตัวเล็กไปถนัดตา แถมรูปร่างยังดูผอมบาง เอวเล็กขนาดที่เขาสามารถรวบเอาไว้ได้ด้วยแขนเพียงข้างเดียวก็หนีไปไหนไม่รอด


กลิ่นหอมอ่อนๆเจือกลิ่นเหงื่อในระยะประชิดคล้ายจะปลุกสัญชาติญาณบางอย่างที่เก็บซ่อนเอาไว้ให้ตื่นขึ้นมา


ยุทธนาไม่ใช่คนดีร้อยเปอร์เซ็นต์ แน่ล่ะไม่มีใครดีได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งนั้น ทุกคนล้วนมีด้านมืดที่เก็บซ่อนไว้ และเลือกว่าจะแสดงมันออกมาแบบไหน กับใครต่างหาก


เขาเองก็ไม่ได้ต่างไปจากใครหลายๆคน เลือกที่จะแสดงออก และเลือกที่จะเก็บซ่อน… เพื่อรอ รอให้ถึงเวลาเหมาะสม แต่ตอนนี้เขาชักจะไม่อยากรอแล้ว…


ปลายจมูกโด่งปัดป่ายไปมาแผ่วพริ้วแถวใบหูขาว ข้างขมับเนียน หรือแม้แต่แก้มใส…


อันตราย


ทั้งที่เสียงในใจตะโกนบอกแบบนั้น แต่แทนที่จะหยุดเขากลับยิ่งอยากทำมากกว่านี้ ถึงจะอ้างว่าอยากพิสูจน์ความรู้สึกน้อง แต่ลึกๆในใจเขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้ต้องการแค่นั้น ไม่ได้อยากทำแค่สบตา ไม่ได้อยากทำแค่ยิ้มให้หรือสัมผัสเบาๆที่กลุ่มผมนุ่ม… แต่เขาต้องการมากกว่านั้น!


เดือนสิบหลับตาปี๋มือขยุ้มอกเสื้อเขาไว้แน่นยามที่สัมผัสอุ่นเคลื่อนผ่าน แก้มขาวๆแดงจัดขึ้นกว่าเดิม


 “ไหนตอบให้ชื่นใจหน่อยว่าคิดถึงพี่ไหม” ยุทธนาสูดหายใจลึกหลับตาลงชั่วขณะเพื่อเรียกสติแล้วลืมขึ้น ขยับใบหน้าออกห่าง แต่ก็แค่นิดเดียวเพื่อให้มองหน้าแดงๆของอีกฝ่ายได้ชัดเจน


เดือนสิบหลุบตาต่ำเม้มปากเข้าหากันแน่นไม่ยอมตอบ พอเขาอดใจไม่ไหวจะก้มลงไปหอมแก้ม เจ้าตัวก็ครางฮือซุกหน้าเข้ากับอกเขาแล้วส่ายหัวไปมา


ยุทธนาหัวเราะในลำคอ กดจูบที่กลุ่มผมนุ่มซ้ำๆ


“ไม่คิดถึงหรอ น้อยใจนะเนี่ย…”


เสียงทุ้มชิดริมหูจนเดือนสิบต้องหดคอหนี ไม่กล้าแม้แต่จะเงยขึ้นหน้าสบตาคมหรือกระทั่งส่งเสียงตอบกลับไป ทำได้แค่ซุกหน้าอยู่กับอกกว้างหลบซ่อนความรู้สึกในใจที่กำลังสั่นไหวรุนแรง


สัมผัสอบอุ่นที่วนเวียนอยู่บริเวณข้างขมับและกลุ่มผมนุ่มทำให้รู้สึกดี ดีเกินไปจนเขาคิดว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักมัน… ตกหลุมรักสัมผัสอ่อนโยนที่อีกฝ่ายมอบให้ ตกหลุมรักความเอาใจใส่


หรือบางที… เขาอาจจะถึงขั้นตกหลุมรักคนที่มอบทั้งหมดนั้นให้ไปแล้วก็ได้…


นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ กระทั่งคนในอ้อมแขนเริ่มขยับตัว


“ปล่อยก่อนครับ” เดือนสิบว่าเสียงติดจะสั่นๆ เขาค่อยๆดันคนเป็นพี่ออก ทว่าเจ้าของอ้อมกอดกลับทำตัวเป็นเด็กโข่งงอแงไม่ยอมปล่อย


“ไม่อยากปล่อยเลย” ว่าพลางกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นจนร่างเขาแทบจมไปกับแผ่นอกกว้าง


“ผมอึดอัดนะ”


“อยากกอด” เสียงทุ้มเอ่ยชิดขมับเนียน ฟังดูแผ่วเบาราวกระซิบ


“พี่ยุทธ..”


“อยากจูบ”


“…!!”


“อยากเป็นมากกว่าพี่แล้ว”


!!!!




*****



 :katai5: ขอบคุณที่รออิพี่กับน้องสิบค่ะ :กอด1: :กอด1:
ช่วงนี้เรางานเยอะจัดอาจมาช้าบ้าง ที่มอก็มีกิจกรรมอะไรนักหนาก็ไม่รู้ โดดแม่ม 5555  :z6:
เขาไม่อยากเป็นแค่พี่แล้วนะเออ เขาอยากเป็น.... แล้วววว
อิพี่มันร้ายนะคะ มันไม่ใช่คนดีอย่างที่แสดง มันเป็นสิงโตในคราบคิงคอง :laugh:
ใครที่เล่นทวิตเตอร์เค้าฝาก #YDแพ้ใจ ด้วยนะคะ  :กอด1:



หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-01-2017 21:14:43
 :L2: :pig4: :L1:
มันเป็นสิงโตในคราบคิงคอง คิดได้ไง :m20:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-01-2017 21:21:51
พี่ยุทธรุกหนักมากกกกก จะโดนตะปบแล้วสิบ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 23-01-2017 21:33:14
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
ไม่อยากเป็นพี่แล้วเหรอออออออออ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 23-01-2017 21:43:17
แอร้ยยยยยสสสสสส :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 23-01-2017 22:24:11
เดี๋ยว ๆ ใจเย็นค่ะ พี่ยุทธ กระต่ายตื่นหมดแล้ววววววว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 23-01-2017 22:40:01
แอร๊ยยยยย!! เขินนน
พี่ยุทธเม่งแอบร้ายว่ะ รุกหนักมากก น้องตกใจหมด 555
  :o8: :o8:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-01-2017 22:47:06
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-01-2017 22:50:47
หน้ามืดแล้วพี่เอ้ยยยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 23-01-2017 22:57:07
พี่ยุทธ ต้องขอบใจพี่ป้องแล้ว
ทำให้เดือนสิบได้มาเจอพี่ยุทธ
แอ่ะ.....พี่ยุทธ อยากเป็นมากกว่าพี่แล้ว
“อยากกอด”
“อยากจูบ”
“…!!”
“อยากเป็นมากกว่าพี่แล้ว”
บอกมาชัดๆเลย พี่ยุทธ.....อยากเป็นไร   :katai1: :katai1: :katai1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 23-01-2017 22:58:35
รุกแรง ลวนลามน้องหนักมาก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 23-01-2017 23:09:07
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: menano ที่ 23-01-2017 23:46:24
ฮือออออออออ

ชั้นรักพี่ยุทธ

ยิ่งอ่านยิ่งรักให้ตายสิ

รอตอนต่อไปนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 24-01-2017 00:00:15
มีพวกแม่ยกดีก็แบบนี้แหละ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 24-01-2017 00:07:44
พี่ยุทธจับน้องมาจูบเลยค่ะพูดมาะขนาดเน้!!!!!!

ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 24-01-2017 06:52:28
 :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-01-2017 07:44:00
ไม่อยากเป็นพี่แล้วววววว โอ๊ยยยยยยย พี่ยุทธค่ะ ตอนนี้ก็ขอเป็นแฟนอีกรอบเลยค่ะพี่หนูเชียร์จะได้เปลี่ยนสถานะกันซะที
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: konjingjai ที่ 24-01-2017 10:22:08
พี่ยุทธรุกหนักมากไปแล้วนะเดี๋ยวน้องก็กลัวหรอก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: NuNam ที่ 24-01-2017 15:04:52
หู หาง โผล่ แล้ว พี่ยุทธ น้องสิบจะรอดม๊ายยยย เข้าไปถ้ำเสือ เสือคงรีบกิน ไม่ปล่อยให้รอดใช่ม๊ายยยย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 24-01-2017 16:33:46
ความหื่นในตัวพี่ยุทธมันเริ่มจะคุมไม่ได้เข้าไปทุกทีแล้วนะคะ
น้องสิบยอมคบไวๆนะคะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดด  o13
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 24-01-2017 17:30:16
กรี้ดดดดดดพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: knxiiviii ที่ 24-01-2017 17:32:06
รุกหนักขนาดนี้นี่เดือนสิบยังไหวอยู่ไหมนั่น 555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 24-01-2017 21:29:55
เก็บหูเก็บหางก่อนพี่ยุทธ เดี๋ยวน้องตกใจหมด 55555
รุกแรงจริงๆ ไม่อยากเป็นแค่พี่แล้วอยากเป็นอะไรคะ เอาให้เคลียร์ๆ
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 24-01-2017 22:00:16
ร้ายกาจมากๆ

555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mynun ที่ 25-01-2017 03:37:12
ขอเม้นรวบยอดละกัน
ไอ้นุโง๊โง่ จัดหง่าว 5555555
แกเลือกทิ้งแมวน้อยไปคว้าแรด แกเลือกทิ้งของดีไปเอาของเน่า #อยากเห็นเวรกรรมติดจรวดสำหรับสองคนนั้น
มาถึงอิพี่กับอิน้อง โอ้ย ฉันเอ็นดู อิน้องน่าถนุถนอมมาก ฮือ #อมหัวแม่มิ
ส่วนอิพี่ ร้ายไงก็ร้ายงั้นร้ายเยอะๆ5555
เอฟซีพ่อปืนคะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 7 Up. [23/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 25-01-2017 12:41:55
อิพี่ยุทธ!!! ร้ายกาจมาก น้องกลัวหมดแล้ว 5555
 :L1: :L1:  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 28-01-2017 23:40:19
#ตอนที่แปด


“อยากเป็นมากกว่าพี่แล้ว”


!!!!


“พี่ยุทธ..”


“หลงจะบ้า..” สุ้มเสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู แรงกอดกระชับแน่นขึ้นจนผิวแก้มแนบสนิทไปกับอกกว้าง …ร้อนวูบไปทั้งหน้า เสียงก้อนเนื้อในอกแกร่งเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะดังก้องชัดเจนอยู่ในหัว ไม่ต่างจากของเขาที่เต้นกระหน่ำไม่แพ้กัน


“ปล่อยก่อนได้ไหมครับ กอดอยู่แบบนี้จะคุยกันไม่รู้เรื่องนะ” เวลาผ่านไปชั่วครู่ถึงได้บอกเสียงอ่อน เลื่อนมือไปสัมผัสแผ่วเบาที่แผ่นหลังกว้าง ตบเบาๆคล้ายปลอบประโลม


เสียงถอนหายใจแผ่วชิดอยู่ข้างขมับก่อนที่อ้อมแขนแข็งแรงจะคลายออกอย่างอ้อยอิ่ง มองน้องที่ขยับห่างไปเพียงนิด เดือนสิบนั่งขัดสมาธิหันหน้าเข้าหาเขา ตากลมช้อนมองทั้งที่ใบหน้าแดงก่ำ กลีบปากสีสดเม้มเข้าหากันน้อยๆข่มความประหม่า แทบจะทำให้คนมองสติหลุดอีกรอบ


ยุทธนาหลับตาลง พยายามข่มจิตข่มใจไม่ให้มันเตลิดไปไกลมากกว่านี้ ทว่าความนุ่มหยุ่นที่สัมผัสแผ่วกลางหน้าผากก็กระชากความอดกลั้นทั้งหมดของเขาลง เดือนสิบไม่น่าทำแบบนี้เลย ไม่น่าเลือกปลอบประโลมเขาด้วยการจูบหน้าผาก ถึงจะแค่ชั่วขณะเดียวแล้วรีบผละไป แต่สัมผัสแผ่วนั้นกลับกวนตะกอนสัญชาตญาณดิบที่เขาพยายามข่มมันลงไปในก้นบึ้งให้ขุ่นคลัก


“อ่ะ!”


เดือนสิบสะดุ้งโหยงสีหน้าตระหนก เมื่อเขาคว้าเอวบางเข้าหาจนอีกฝ่ายแทบเกยขึ้นมานั่งบนตัก ไม่ปล่อยให้ร่างเล็กได้ทักท้วงริมฝีปากอุ่นร้อนฉกก็วูบเข้าหากลีบปากสีเรื่ออย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ รู้สึกได้ถึงอัตราการเต้นของหัวใจที่คล้ายจะหยุดทำงานไปชั่วขณะ


“อื้อ!” ได้ยินเสียงหวานประท้วงแต่ยุทธนากำลังหน้ามืดเกินกว่าจะหยุด มือหนาเลื่อนมาโอบประคองข้างแก้มใสปรับเอียงให้ได้องศาถนัดถนี่ ปลายลิ้นร้อนไล้เลียกลีบปากอิ่มก่อนจุ่มแทรกเข้าหาความหวานภายใน เกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กกวาดต้อนเก็บชิมความหวานภายในแทบไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอ กายบางสั่นสะท้านมือเล็กขยุ้มอกเสื้อนักศึกษาของเขาแน่นจนมันยับยู่ กอดกระชับตัวคนเป็นน้องเข้ามาแนบชิดยกขึ้นด้วยแขนข้างเดียวร่างเล็กก็ขึ้นมานั่งคร่อมทับอยู่บนตักอย่างง่ายดาย


“ฮื่อ อึก!” เสียงประท้วงดังขึ้นอีกครั้ง กำปั้นเล็กๆต่อยลงที่กลางหลังเมื่อเริ่มหายใจไม่ทัน ยุทธนายอมผละริมฝีปากออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายได้รับอากาศหายใจตามที่ร้องขอ ทอดมองใบหน้าน่ารักขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย มือหนาไล้สัมผัสผิวเนียนช่วงเอวบางผ่านเนื้อผ้าบางเบา ยิ่งเห็นกลีบปากฉ่ำวาวเผยออ้าหอบเอาออกซิเจนเข้าปอด ก็เหมือนจะยิ่งเร่งเร้าให้เขาประกบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง.. และอีกครั้ง


 “ฮ้า.. พี่ยุทธ..พอครับ” เอ่ยร้องขอคนที่ทำท่าจะกดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง แต่น้องควรจะรู้รึเปล่าว่าไม่ควรเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าแบบนี้ ไม่ควรออดอ้อนเขาด้วยใบหน้าแดงก่ำและดวงตาฉ่ำน้ำปรือปรอย…


“อื้อ.. ม”


…เพราะมันจะทำให้เขาทนไม่ไหว


กลีบปากที่เริ่มบวมช้ำถูกดูดกลืนอย่างเอาแต่ใจอีกครั้ง ริมฝีปากร้ายกาจดึงดูดลิ้นเล็กเกี่ยวกระหวัดเข้ามาในโพรงปากอุ่นของตัวเองราวกับจะลงโทษ …ลงโทษที่กล้ามาทำตัวน่ารักใส่จนเขาอดใจไม่ไหว


ยุทธนามองน้องที่หลับตาปี๋ปล่อยให้เขาละเลียดชิมความหวานอย่างเอาแต่ใจ ฝ่ามือหนาเลื่อนเข้าจับที่ท้ายทอยเพื่อนปรับองศาให้สอดรับกับจูบร้อนแรง อีกข้างไล่ประคองเอวบาง เกาะเกี่ยวแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อในอกที่กำลังเต้นกระหน่ำรุนแรงจนแทบแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใคร บางจังหวะที่ลิ้นเล็กเหมือนจะขยับตอบรับอย่างกล้าๆกลัวๆยิ่งทำให้นึกเอ็นดู


 ไม่รู้จะทำตัวน่ารักไปถึงไหน แค่นี้เขาก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว..


กระทั่งแรงจิกทึ้งประท้วงที่บ่ากว้างจูบหนักหน่วงถึงได้ยอมผละออก มองแผ่นอกบางสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะหอบหายใจถี่กระชั้น สาบเสื้อนักศึกษาหลุดลุ่ยเพราะกระดุมถูกปลดออกไปสองสามเม็ดเผยให้เห็นผิวเนียน


ยุทธนาสาบาน.. เขาไม่รู้ตัวจริงๆว่าเผลอปลดมันออกไปตอนไหน


 “เป็นแฟนกันนะ” น้ำเสียงแหบพร่ากระซิบชิดผิวแก้มเนียน ริมฝีปากร้ายกาจยังคลอเคลียไม่ห่าง สติที่เหลืออยู่น้อยนิดของเดือนสิบแทบเตลิดเปิดเปิงเมื่อฝ่ามือหนาสอดผ่านเสื้อนักศึกษาตัวบางเข้ามาสัมผัสผิวเนื้อโดยตรง แรงบีบกระชับเหนือสะโพกเรียกให้ทั่งร่างสั่นสะท้านขนในกายลุกเกรียว


 “นะครับ..” ไม่อ้อนเปล่าริมฝีปากร้ายกาจยังงับกลีบปากอิ่มเล่นจนคนถูกเอาเปรียบต้องใช้มือปิดปากตัวเองไว้ เสียงหัวเราะในลำคอกับดวงตาพราวระยับทำให้เดือนสิบเผลอค้อนใส่ทั้งที่ใบหน้ายังแดงก่ำ


น่าเอ็นดู…


“เป็นแฟนกับพี่นะ..”


เดือนสิบครางฮือมุดหน้าลงกับบ่าแกร่งหลบริมฝีปากร้อนที่จ้องจะเอาเปรียบกันอยู่ทุกขณะ หัวทุยส่ายไปมาไม่รู้ว่าปฏิเสธคำขอเป็นแฟนหรือปฏิเสธสัมผัสหวิวไหวที่อีกฝ่ายมอบให้กันแน่ แต่ดูท่าแล้วน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

 
“ถ้าไม่ตอบพี่จะถือว่าเราตกลงแล้วนะ”


“ขี้ตู่” เสียงอู้อี้ชิดลำคอหนา ริมฝีปากนุ่มนิ่มเฉียดผิวกาย เล่นเอายุทธนาชักร้อนๆหนาวๆ


ได้แต่ภาวนาในใจ ขออย่าให้ตัวหน้ามืดจนลงไม้ลงมือปล้ำอีกคนไปก็พอ แค่นี้ความเป็นสุภาพบุรุษที่สั่งสมมาก็แทบจะไม่เหลือ


“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่ตกลงนี่จับปล้ำเลยนะ” อารมณ์ตอนนี้ยิ่งมาเต็มอยู่ด้วย… พูดทีเล่นทีจริงแต่ในใจฝ่ายมืดก็แอบภาวนาให้คนเป็นน้องปฏิเสธ จะได้จับปล้ำทำเมียให้มันรู้แล้วรู้รอด ไม่ต้องเป็นมันแล้วฟงแฟนข้ามขั้นไปลย


“นิสัยไม่ดีว่ะ” กำปั้นเล็กๆต่อยลงที่กลางหลังไม่เบานัก แต่ถึงอย่างนั้นแขนอีกข้างก็เกาะเกี่ยวรอบคอเขาไว้ไม่ยอมปล่อย ยุทธนายิ้มบาง ลูบไล้แผ่นหลังเล็กเพลินมือ


“สรุปเป็นแฟนกันแล้วเนอะ” สิ้นเสียงระรื่น หมัดเล็กๆก็ต่อยลงที่กลางหลังอีกหนึ่งตุบใหญ่ แอบจุกไม่น้อยเหมือนกันแต่ตอนนี้ความสุขมันมีมากกว่า


“ไหนขอดูหน้าแฟนให้ชื่นใจหน่อยซิ” ยุทธนาเอ่ยเย้า ฟอนเฟ้นผิวเนื้อเหนือสะโพกเพรียวอย่างแกล้งๆ เหมือนยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งอดใจไม่ไหว


“อื้อ! อย่าแกล้ง” เดือนสิบรัดรอบคออีกฝ่ายไว้แน่น พูดเสียงอู้อี้ซุกหน้าลงกับบ่ากว้างไม่ยอมทำตามที่เขาบอก ยุทธนายิ้มขำ มองดูลูกแมวที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นลูกลิงเกาะหนึบไม่ยอมปล่อย น่ารักน่าเอ็ดดูจนอยากฟัดให้จมเขี้ยว


ก้อนเนื้อในอกพองโตจนเขากลัวว่ามันจะระเบิดออกมาเพราะความสุขที่อัดแน่นจนล้นทะลัก นึกโทษตัวเองที่มัวแต่ชักช้าปล่อยเวลาให้ล่วงผ่านมาได้นานขนาดนี้ แต่ก็ช่างเถอะ.. เพราะยังไงตอนนี้น้องก็มาอยู่ในอ้อมกอดของเขาแล้ว และต่อดิ้นให้ตายยังไงก็ไม่ยอมปล่อยหรอกนะ


“ถ้ายังนั่งอยู่แบบนี้พี่จะไม่รับรองความปลอดภัยแล้วนะ”


สัมผัสอุ่นร้อนที่ไหล่บางทำเอาเดือนสิบสะดุ้งโหยง ผละออกจากไหล่กว้างแต่ยังไม่ทันได้ขยับลงจากเก้าอี้กิตติมศักดิ์มือหนาก็ยึดเอวเขาไว้ซะก่อน เรียวคิ้วสวยขมวดยุ่ง มองคนขี้แกล้งตาขวางทั้งที่แก้มแดงปลั่ง ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วโน้มหน้าลงมาใกล้จนต้องหดคอหนี เผลอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองอีกครั้ง เรียกเสียงหัวเราะในลำคอหนาจนต้องค้อนใส่อีกรอบ


“ปล่อยได้แล้วครับ” ว่าทั้งที่ยังไม่เอามือออก


“ยังไม่ได้เห็นหน้าแฟนชัดๆเลย ไหนเอามือออกก่อนเร็ว..” เดือนสิบย่นจมูก หน้าร้อนวาบกับสถานะใหม่ที่อีกฝ่ายยกให้แบบมัดมือชก


“ปล่อยเลยครับ ผมไม่เล่นแล้ว”


“ขอจูบก่อนแล้วจะปล่อย” คำขอโต้งๆทำเอาเดือนสิบถึงกับเหวอ ตากลมเบิกขึ้นนิดๆเหมือนกระต่ายตื่นตูมจนยุทธนาหลุดขำพรืด แทนคำตอบรับกำปั้นเล็กๆซัดผัวะมาที่ไหล่เขา ไม่เบาแต่ก็ไม่แรงถึงขั้นเจ็บปวดอะไร เพิ่งรู้ว่าน้องเขินแล้วชอบใช้กำลังก็วันนี้แหละ


“พอแล้วครับ เยอะแล้ว” ข่มความอายแล้วตอบกลับไปเสียงเข้ม


“ไม่พอหรอก.. มากกว่านี้ก็ยังไม่พอ” ใบหน้าคมคายโน้มลงมาชิดจนเดือนสิบต้องใช้มือดันหน้าอีกฝ่ายไว้ สัมผัสสากระคายใต้ฝ่ามือเพราะไรหนวดแข็งๆทำเอาจั๊กจี้อยู่หน่อยๆ


“พี่ยุทธ!! ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้เนี่ย!” คนโดนแหวหัวเราะร่า ยิ่งทำให้ไรหนวดสัมผัสกับฝ่ามือเขามากขึ้นกว่าเดิม ความรู้สึกแปลกๆทำให้เดือนสิบเลือกที่จะชักมือกลับแล้วเปลี่ยนมายันไหล่กว้างไว้แทน


“พี่ยุทธธ… ไม่เล่นแล้ว ถ้าไม่ปล่อยผมจะโกรธจริงๆแล้วนะ”


ยุทธนามองใบหน้างอง้ำของแฟนหมาดๆแล้วยิ้มบาง เดือนสิบเป็นคนรูปหน้าเรียว เล็กขนาดว่าฝ่ามือเขาแค่ข้างเดียวแทบจะปิดมิด ถึงเป็นอย่างนั้นแต่กลับมีแก้มเยอะ ยิ่งเจ้าตัวหน้างออมลมอมอากาศไว้แบบนี้ก็ยิ่งดูน่าฟัดน่าแกล้งเข้าไปใหญ่ แล้วแบบนี้จะให้เขาอดใจไหวได้ยังไง


แต่ถึงจะอยากฟัดแก้มกลมๆนั่นขนาดไหนตอนนี้เขาคงต้องอดใจเอาไว้ก่อนล่ะนะ… เดือนสิบแทบจะโดดลงจากตักเขาทันทีที่คลายอ้อมแขน ขยับไปยืนซะไกลแถมยังมองเขาอย่างระแวดระวังอีกต่างหาก


“ผมจะกลับห้องแล้ว” เจ้าตัวว่าเสียงเข้ม ใบหน้าขึงขังทั้งที่แก้มยังแดงปลั่งไม่หาย มันน่าลากมาจูบอีกซักทีสองที


ถึงจะคิดแบบนั้นแต่สุดท้ายยุทธนาก็ต้องเดินมาส่งอีกฝ่ายจนถึงหน้าหอจนได้ ระหว่างทางน้องเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำเอาๆหรือไม่ก็มองเมินไปทางอื่นโดยไม่สนใจเขาซักนิด มองเห็นแต่หูแดงๆที่บ่งบอกว่าอาการเขินอายยังไม่ได้ปลิวหายไปตามสายลมยามค่ำคืน ใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีพวกเขาก็มายืนอยู่หน้าหอพักของเดือนสิบ น้องพึมพำบอกให้เดินกลับดีๆแล้วรีบวิ่งปรู๊ดหนีขึ้นห้องไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้คนมองตามอย่างเขาได้แต่ส่ายหัวระอาทั้งขำทั้งเอ็นดู


ทำอย่างกับว่าเขาจะลากไปทำมิดีมิร้ายอย่างนั้นแหละ แต่ก็ไม่แน่หรอกนะ ช่วงนี้จิตใจฝ่ายดียิงไม่ค่อยจะอยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ด้วย…


.

.

.


“กูคุยกับพวกไอ้จอมแล้วนะ สรุปไปวันมะรืนนี้ ที่พักไอ้อิฐเป็นคนจัดการแล้ว ส่วนรถป๊ากูบอกว่าให้เอาคันที่บ้านไปได้” ไอ้ปืนอธิบายรายละเอียดเรื่องที่เคยคุยกันไว้ว่าจะไปเที่ยวให้ฟัง เดือนสิบได้แต่พยักหน้าหงึกหงักไม่ออกสิทธิ์ออกเสียงอะไรทั้งนั้น เพราะทริปนี้เขาฟรีตลอดงาน พวกมันว่ายังไงเขาก็ว่าตามนั้นนั่นแหละ


ตอนนี้เขามานั่งหน้าสลอนอยู่ในโรงอาหารคณะเพราะไอ้ปืนลากมาอีกตามเคย เดือนสิบไม่เข้าใจมันเลยจริงๆกับอีแค่เอางานมาส่งนี่มันจำเป็นต้องลากเขามาด้วยหรือไง วันหยุดหลังสอบแท้ๆแทนที่จะได้นอนหลับเป็นตายพักผ่อนอยู่ห้อง แต่กลับต้องแหกขี้ตาตื่นแต่เช้าเพราะมันเนี่ย แต่เอาเข้าจริงๆจะเรียกว่าเช้าก็ไม่ถูกเท่าไหร่นัก ไอ้ปืนมันโทรมาปลุกตอนแปดโมงครึ่งซึ่งถ้าเป็นวันปกติก็ถือว่าสายมากสำหรับเขา แต่เพราะเมื่อวานมันไม่ปกติ กว่าเขาจะข่มตาหลับลงได้ก็เลยเช้าวันใหม่มาตั้งหลายชั่วโมง


มันเป็นเพราะสัมผัสร้อยแรงที่ไม่ว่าจะอาบน้ำล้างหน้าไปกี่รอบต่อกี่รอบก็ยังติดตรึงไม่จางหาย แค่หลับตาลงก็คล้ายว่าอีกฝ่ายกำลังกดริมฝีปากร้ายกาจนั่นลงมาไม่หยุด ไม่ว่าจะทำยังไงเดือนสิบก็สะลัดภาพใบหน้าหล่อเหลาเจ้าของจูบร้อนแรงนั่นออกไปไม่ได้เลย กว่าจะข่มตาหลับได้จริงๆก็เกือบๆตีสี่แถมไอ้ปืนยังโทรมาปลุกแต่เช้าอีก สุดท้ายเลยต้องมานั่งสัพหงกขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าอยู่แบบนี้


บ้าชะมัด


“..สิบ ไอ้สิบ!”


“เสียงดังทำไมเนี่ย นั่งใกล้แค่นี้” เดือนสิบสะดุ้งโหยงก่อนจะหันไปมองเพื่อนตาขวาง


“กูเรียกมึงตั้งหลายรอบละห่า เหม่ออะไรของมึงเนี่ย หรือว่าเมาค้าง? ไม่สบายหรอ แต่เมื่อวานมึงก็ไม่ได้แดกเยอะนี่หว่า” เขาย่นจมูกแล้วปัดมือไอ้ปืนที่แตะโน่นแตะนี่เวอร์วังออกอย่างรำคาญ ถึงจะรู้ว่ามันทำเพราะห่วงก็เถอะ


“กูสบายดี แค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อย”


“แล้วอะไรที่ว่านี่มันอะไรวะ หน้ามึงถึงได้แดงขนาดนี้” มันไม่ว่าเปล่ายังจิ้มมาที่แก้มเขาแรงๆอีกต่างหาก


“ทำไมเดี๋ยวนี้มึงขี้เสือกจัง” 


“อื้อหือ.. ทำไมเดี๋ยวนี้ปากกล้าจัง” ไอ้ปืนผลักหัวเขาไม่เบานัก เดือนสิบเลยมองมันตาขวาง


“ก็ติดมาจากมึงนั่นแหละ”


“ร้ายกาจ!” มันหัวเราะลั่น ล็อคคอเขาเข้าไปหาแล้วขยี้ผมเขาจนยุ่งไปหมด “ตกลงมีเรื่องอะไร ไหนเล่าให้ฟังซิ”


เดือนสิบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ขยับตัวออกจากแขนมันแต่ไอ้ปืนดันล็อคไว้แน่น แกะออกยังไงมันก็ไม่ปล่อยจนสุดท้ายขี้เกียจจะสู้เลยเอนตัวพิงอกมันไปซะเลย มันหัวเราะอย่างผู้ชนะแล้วขยี้กลุ่มผมเขาเล่นอย่างเมามัน


ทำตัวเป็นเด็กๆ


ส่ายหัวอย่างระอา แต่เอาเถอะ อยู่ท่านี้เขาก็สบายดี


“อย่ามาหลับตาหนีกูนะ เล่ามาเร็วๆ” ไอ้ปืนเร่งยิกๆ แต่มือกลับนวดขมับให้จนเขาเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย จะหลับไปจริงๆก็เพราะมันนี่แหละ


“กูเป็นแฟนกับพี่ยุทธแล้ว” มือที่นวดอยู่ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเริ่มบีบนวดให้ใหม่อีกครั้ง


“หือ.. ตั้งแต่เมื่อไหร”


“เมื่อวาน”


“ทำไมกูไม่เห็นรู้เรื่อง”


“ก็รู้แล้วนี่ไง” เขาบอกทั้งที่ยังหลับตา ไอ้ปืนนวดสบายจนอยากจะหลับไปจริงๆ


“เมื่อวานมึงอยู่กับกูตลอดแล้วจะเอาเวลาตอนไหนไปตกลงคบกัน”


“….”


“สิบ..” มันเร่ง มือที่นวดอยู่หยุดไปอีกจนต้องขมวดคิ้ว


“ก็หลังจากที่มึงไปส่ง” ตอบเสียงอู้อี้เพราะตอนนี้สติเริ่มหายไปกับความผ่อนคลาย


ได้ยินเสียงไอ้ปืนถอนหายใจยาว ก่อนที่สัมผัสสบายจะกลับเข้ามาอีกครั้ง มันไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ เสียงจอแจเริ่มหายแว่วไปทีละน้อยจนสุดท้ายทุกอย่างก็เงียบสนิทเหลือเพียงเสียลมหายใจของตัวเองและเสียงหัวใจของไอ้ปืนที่ก้องสะท้อนอยู่ในหู


.

.


เดือนสิบรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกเพราะแรงเขย่าจากใครสักคน เสียงจอแจดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท ทำให้เปลือกตาบางเริ่มขยับยุกยิกก่อนจะลืมขึ้นมาในที่สุด


“พี่ยุทธ!” ทะลึ่งตัวลุกพรวดขึ้นอย่างไว เมื่อสังเกตรอบกายแล้วพบว่าเพื่อนสนิทหายไปกลายเป็นตักกว้างของใครบางคนที่รองรับหัวเขาไว้ต่างหมอนแทน


 “ตกใจอะไรขนาดนั้นฮึ” หมอนกิตติมศักดิ์ว่ายิ้มๆ มือหนาวางแหมะลงบนหัวเขาจัดทรงผมให้จนมันเข้าทรงแล้วลูบเบาๆ เดือนสิบถูจมูกไปมาเพราะความประหม่า ตากลมหลุกหลิกเมื่อมองหาจนทั่วแล้วไม่เห็นวี่แววของเพื่อนสนิท


“ไอ้ปืนหายไปไหนครับ”


“กลับไปแล้ว”


“อ้าว” ได้แต่อ้าปากเหวอเพราะไม่คิดว่าจะโดนเพื่อนทิ้งไว้แบบนี้


“แล้วนี่ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนถึงได้มาหลับเป็นตายเอาทั้งที่เสียงดังจอแจขนาดนี้” คนถูกล้อย่นจมูกเผลอค้อนใส่อีกฝ่ายอย่างเผลอตัว


ก็เพราะพี่มันนั่นแหละเขาถึงได้อดหลับอกนอนจนต้องมาหลับเป็นตายเอาแบบนี้ แต่ใครมันจะไปยอมบอกกัน!


“มองพี่แบบนั้นหมายความว่าไงฮึ?”


“เปล่านะ ผมไม่ได้มองซะหน่อย” เถียงทั้งที่จับได้อยู่ทนโท่ คนมองอดใจไม่ไหวจนเผลอเลื่อนมือไปโยกหัวทุยสวยไปมาอย่างเอ็นดู


“ครับไม่มองก็ไม่มอง แล้วนี่มาทำอะไรที่มอ เราสอบเสร็จแล้วไม่ใช่หรอ” มาถึงตรงนี้เดือนสิบก็พาลนอยด์ไปถึงเพื่อนสนิทอีกรอบ


ไอ้ปืนนะไอ้ปืน เป็นคนลากเขามาด้วยแท้ๆแต่กลับมาทิ้งกันไว้แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน คอยดูนะคราวหน้าเขาจะไม่ไปไหนกับมันอีกแล้ว ฮึ่ย!


“พาไอ้ปืนมาส่งงานครับ แต่อาจารย์ยังไม่มาเลยมานั่งรออยู่ตรงนี้” ตอบทั้งที่หน้ายุ่งเพราะยังเคืองเพื่อนสนิทไม่หาย


“นั่งรอหรือหลับรอ” คนพี่เอ่ยเย้า เรียกหน้ายุ่งๆของคนถูกล้อให้หันมามอง


“เขาเรียกพักสายตาหรอก แล้วพี่ยุทธมาอยู่นี่ได้ไง ทำไมไม่ปลุกตั้งแต่ทีแรกล่ะครับ”


“ตอนหลับหน้ารักดี มองเพลินๆ” คนฟังหน้าร้อนวาบ เสหลบตาคมพราวระยับเป็นพัลวัน สัมผัสร้อนผ่าวคล้ายจะเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้งจนเผลอเม้มปากเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว


“พอแล้ว..” เสียงอ้อมแอ้มในลำคอจับใจความไม่ได้คนพี่ต้องถามย้ำ


“หืม?”


“เลิกแกล้งได้แล้วครับ เขินจะแย่แล้ว..”


สาบานว่าถ้าตรงนี้ไม่ใช่โรงอาหารที่มีคนพลุกพล่านเขาจะจับคนตรงหน้าเข้ามาฟัดให้มันรู้แล้วรู้รอด
   

ก็เพราะชอบทำตัวน่ารักแบบนี้แล้วใครมันจะไปอดใจไหว..




*****






 :katai5: ขอบคุณทุกคอมเม้นเลย  :L1: :L1:
จริงๆอิพี่มันร้ายยค่ะ มันไม่ใส มันไม่ใช่สุภาพบุรุษ 55555
กระเตื้องมาทีละน้อย กลัวคนอ่านจะหายจังเลยค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งเค้าาา :hao5:



หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-01-2017 23:47:46
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 28-01-2017 23:52:27
พี่ยุทธร้ายกาจจจจจ แปปเดียวฉกน้องไปแล้วววว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-01-2017 00:02:59
เกือบจะโดนอิพี่กินแล้วนะสิบ มือไวจริงๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 29-01-2017 00:10:25
อีพี่ยุทธอย่าดีแตกนะ แอบหวั่นใจ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-01-2017 00:11:25
น้องน่าจะรอดได้อีกไม่นาน รับรองว่าเรียบร้อยโรงเรียนพี่ยุทธแน่ ๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 29-01-2017 00:32:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 29-01-2017 00:59:29
สัญญานะคะว่าจะมาต่อจนจบ เค้าชอบเรื่องนี้มาก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 29-01-2017 07:30:33
พี่ยุทธมันร้ายยยยยย

ปล.หาแฟนให้ปืนหน่อย กลัวนางเหงา อิอิ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 29-01-2017 09:43:10
ดีใจเจ้าค่ะ ลูกชายออกเรือนแล้ว
ทำไมเขาหวานกันงี้ล่ะเจ้าคะ //ตาลุกเป็นไฟ ฮ่าๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ
สู้ๆ ค่ะ เรารอติดตามอยู่นะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 29-01-2017 09:58:02
โอ้ยยยยยยพี่ยุทธเนี่ยมันร้ายยย ร้ายกาจมากๆ
เเต่ชอบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 29-01-2017 10:59:09
เขินนนนนนนนนนนแทนนนน
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 29-01-2017 11:26:22
พี่ยุทธรุกหนักจริงๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-01-2017 11:45:20
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 29-01-2017 11:46:47
 :-[ :o8: :-[ :impress2:

 :pig4: :pig4: :pig4:
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: lek2512 ที่ 29-01-2017 16:20:01
พี่คะ  พี่จวนจะเป็นหมาป่าขย้ำแมวน้อยเต็มทนแล้วนะเนี่ย 55555 :o8: :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 29-01-2017 18:04:53
อิพี่มันร้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 29-01-2017 19:03:47
เป็นแฟนกันล๊าววววว ยอมใจนังพี่ยุทธ อีกไม่นานน้องต้องตกเป็นของนังพี่แน่นวล ฮรืออออ :katai5:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 29-01-2017 19:33:03
พี่ยุทธนี่วัตถุ(ลวน)ลามไวจริงๆ ไม่เป็นแฟนก็จะบังคับเป็นซะงั้น  :hao3:

เดือนสิบต้องระวังตัวดี ๆ นะ เดี๋ยวจะไม่ได้เป็นแฟนนานจะได้เลื่อนขั้นแทน :hao6:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-01-2017 19:41:11
ดีงาม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 30-01-2017 11:11:43
น้องทำตัวน่ารักเกินไปแล้ววว อิพี่จะทนไปได้สักกี่น้ำ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 30-01-2017 13:37:12

โอ้ยยย อิพี่มันร้ายจริงๆค่ะ
หูหางเก็บไม่มิดแล้ว อีกไม่นานอิน้องเสร็จแน่ๆ
 :-[ :-[ :-[
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 30-01-2017 16:21:47
อิพี่ยุทธ. ร้ายกาจมากๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 30-01-2017 23:31:09
เป็นแฟนกันล้าววววววว กลัวใจอิพี่จังค่ะ กลัวมันอดใจไม่ไหว 55555555
เดือนสิบน่ารักกกกก
 :o8: :o8: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 31-01-2017 00:33:51
พี่ยุทธคนจริง. รุกเร็วมาก. อย่าทำน้องเสียใจนะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 31-01-2017 07:26:00
พี่ยุทธรุกหนักมาก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 8 Up. [28/01/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 01-02-2017 00:01:03
เดือนสิบจะรอดไปอีกกี่น้ำล่ะลูกพี่มันเป็นขนาดนี้แล้ว
รอฟินค่ะ ดีใจลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝา
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 01-02-2017 22:36:36
09


“อ้าว ไปไหนครับ” คำถามจากตุ๊กตาหน้ารถที่นั่งมาด้วยกันเรียกรอยยิ้มบางให้จุดขึ้นที่มุมปากได้รูป ยุทธนาไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกระทั่งกลับรถแล้วเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของคอนโด ลูกแมวของเขามีท่าทีเลิ่กลั่กมองซ้ายขวาอย่างไม่ไว้ใจ ยิ่งตอนกลีบปากสีเรื่อขยับบ่นงุบงิบไร้เสียงก็ยิ่งดูน่าหมั่นเขี้ยว ทั้งตลกทั้งน่าเอ็นดูจนอยากจับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอด แต่ก็ต้องกลั้นไว้เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตระหนกไปมากกว่านี้


“ผมจะกลับหอ” ลงรถได้ก็เริ่มงอแง จ้องมองคนเป็นพี่ด้วยใบหน้างอง้ำ ทว่าอีกคนกลับยิ้มจางแล้วเลื่อนมือมาจับกุมฝ่ามือเล็กไว้แน่นหนา ตาคมดูไหวระริกคล้ายจะมองมาอย่างอ้อนๆทำเอาคนถูกมองใจสั่นจนเผลอหลบตาวูบ


“ใกล้จะเที่ยงแล้วพี่ยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้าเลย”


“แล้วไงครับ” ตอบกลับเสียงเรียบ


“ที่ห้องมีของสด”


“แล้ว?” เดือนสิบย่นคิ้ว ชักเริ่มไม่แน่ใจว่านั่นเป็นประโยคบอกเล่าหรือเปล่า


“ทำกับข้าวให้กินหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยอ้อน ทว่าคนถูกมอบตำแหน่งพ่อครัวให้กลับรีบส่ายหน้าปฏิเสธ แค่คิดว่าจะต้องขึ้นไปอยู่
กับอีกฝ่ายสองต่อสองในห้องใบหน้าน่ารักก็เห่อร้อนขึ้นมาจนรู้สึกได้ .. ไม่เอาหรอก ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อวานเขาคงได้ระเบิดตัวเองตายแน่ๆ


“ไม่เอาครับ พี่ยุทธก็ทำกินเองสิผมจะกลับไปนอนแล้ว ง่วง” ยุทธนามองคนหน้าง้ำที่ปฏิเสธเสียงแข็งแล้วเบือนหน้าหนีอย่างอ่อนโยน มือหนาจับกระชับแน่นขึ้นเรียกร้องความสนใจให้อีกฝ่ายกระมามอง ทว่าเดือนสิบก็ยังนิ่ง ถึงจะไม่ได้สลัดมือเขาออกแต่น้องก็ไม่ยอมหันกลับมาสบตากันอยู่ดี


เอาไงดีล่ะ… จะตะล่อมยังไงลูกแมวถึงจะยอมขึ้นไปเล่นด้วย


“แค่แปปเดียวเอง พี่แค่อยากใช้เวลาอยู่กับเรา นะ..”


“ไม่เอาครับ” ยิ่งได้ยินแบบนั้นเดือนสิบก็ยิ่งส่ายหน้ารัว ในอกเต้นโครมครามไปก่อนแล้วทั้งๆที่อีกฝ่ายก็ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ใจหนึ่งก็ยังนึกเกร็งๆกับเหตุการณ์ชวนใจสั่นที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แต่อีกใจลึกๆก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็อยากใช้เวลาร่วมกับอีกฝ่ายเหมือนกัน …ทำไมถึงได้ย้อนแย้งขนาดนี้นะหัวใจ


ได้ยินแบบนั้นคนพี่ก็ได้แต่ถอนใจยาวก่อนจะตัดสินใจปล่อยมือจากคนเป็นน้องด้วยท่าทางหงอยๆ


“โอเคเข้าใจแล้ว พี่คงรุกสิบมากเกินไปสินะ ไม่เป็นไรหรอกถ้าเราจะรู้สึกอึดอัดเวลาอยู่ด้วยกันสองคนพี่ก็เข้าใจ มาเถอะเดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”


เดือนสิบแทบจะร้อง ‘ห๊ะ’ ออกมาอย่างไม่เชื่อหูเมื่อได้ยินถ้อยคำตัดพ้อจากคนตัวสูง ทว่าเสี้ยวหน้าคมคายที่คล้ายจะดูหม่นลงก็แอบทำเอาใจอ่อนยวบ สูดหายใจเข้าลึกก่อนจะผ่อนมันออกมาเฮือกใหญ่คล้ายรวบรวมกำลังใจก่อนจะคว้าข้อมือของคนที่กำลังยืนหันหลังให้


“ผมทำเป็นแต่อาหารง่ายๆนะครับ”


“ถ้าเราไม่สบายใจที่จะอยู่กับพี่ก็ไม่ต้องฝืนหรอก พี่เข้าใจ” เดือนสิบแทบจะกรอกตา แอบย่นจมูกใส่แผ่นหลังกว้างของคนขี้น้อยใจไปทีก่อนจะกระชับข้อมือหนาแน่นขึ้น กระตุกเบาๆให้อีกฝ่ายหันมาแต่คนเป็นพี่ก็ยังนิ่ง …นี่กำลังเอาคืนเขาอยู่หรือเปล่า?


“ผมเต็มใจครับ แต่ทำเป็นแค่อาหารง่ายๆนะไม่รู้ว่าจะอร่อยถูกปากรึเปล่า” สิ้นคำคน’แกล้ง’น้อยใจก็หลุดยิ้มกว้าง นัยย์ตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์สมใจ หากแต่ครู่เดียวก็ปรับมาเป็นปกติราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น


“ถ้าเป็นสิบทำ ไม่ว่าจะอะไรพี่ก็กินได้ทั้งนั้น” คนฟังย่นจมูก มองคนที่หันกลับมาทั้งที่ใบหน้าเกลื่อพรายด้วยรอยยิ้มอย่างหมั่นไส้ ชักเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าไอ้ท่าทางหงอยๆเมื่อกี้นี่เป็นจริงๆหรือแค่แกล้งทำ


“เปลี่ยนอารมณ์เร็วเนอะคนเรา” ว่าแล้วก็อดค่อนขอดไม่ได้ ยุทธนาหัวเราะในลำคอ สอดประสานฝ่ามือเข้ากับมือเล็กของน้อง กอบกุมไว้อย่างถือวิสาสะก่อนจะพาเดินเข้าคอนโดไปด้วยกัน


ยุทธนาเดินจูงอีกฝ่ายไปเงียบๆ ระหว่างทางเขาไม่ได้แกล้งหรือแหย่อะไรน้องอีกมีเพียงรอยยิ้มเล็กๆเท่านั้นที่ยังคงอยู่ไม่จางหาย จนเมื่อลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่ต้องการ ท่าทางชะงักนิ่งของคนที่ยืนกอดกระเป๋าอยู่หน้าประตูก็ไม่รอดพ้นสายตาคมกริบของร่างสูง ยุทธนาเป็นคนเดินเข้าห้องมาก่อนโดยไม่ได้คะยั้นคะยอหรือเร่งเร้าให้อีกฝ่ายรีบเดินตามเข้ามา เขาปล่อยให้น้องได้ยืนทำใจ?อยู่ซักพักก่อนที่เจ้าตัวจะเดินตามเข้ามาเอง


“ห้องครัวอยู่ไหนครับ” เข้ามาในห้องปุ๊ปก็ถามหาเป้าหมายปั๊บ ท่าทางจริงจังจนเรียกให้คนที่ใช้เรื่องทำกับข้าวเป็น’ข้ออ้าง’ถึงกับหลุดยิ้มเอ็นดู


“เราง่วงไม่ใช่หรอนอนพักก่อนไหม จริงๆพี่ก็ยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ตื่นมาค่อยทำก็ได้” เดือนสิบถึงกับย่นจมูก ม่านกลมใสกรอกกลิ้งก่อนจะจ้องเขม่งมายังคนเจ้าเล่ห์ที่ยืนยิ้มพรายอยู่ตรงหน้า ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ยุทธนากลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ขนาดนี้เดือนสิบเองก็ตอบไม่ได้ หรือแท้จริงแล้วอีกฝ่ายเป็นมาตลอดแต่เขาไม่รู้เองนะ


“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ง่วงขนาดนั้น” ถึงจะง่วงจริงแต่พอมาเจอแบบนี้ใครมันจะหลับลง แล้วไหนไอ้ท่าทีหงอยเหงาราวกับน้อยอกน้อยใจนักหนา ทำไมตอนนี้ถึงกลายมาเป็นท่าทางหูตั้งหางกระดิกไปได้


“งั้นก็เชิญทางนี้เลยครับคุณพ่อครัว” เอ่ยกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดีจนน่าหมั่นไส้ ก่อนจะเดินนำร่างเล็กกว่ามาที่ห้องครัวซึ่งอยู่ห่างมาจากห้องนั่งเล่นไม่มากนัก


“อยากทำอะไรจัดการได้ตามใจชอบเลยครับ หาอะไรไม่เจอถามได้” เดือนสิบหันมามองค้อนเจ้าห้องที่ตอนนี้ระเห็จตัวเองมานั่งอยู่ในห้องครัวด้วยท่าทีสบายๆโดยไม่คิดจะลุกขึ้นมาช่วยเขาหยิบจับอะไรเลยซักนิด ปากบางบ่นขมุบขมิบจับใจความไม่ได้ แต่ดูจากใบหน้าที่งอง้ำและค้อนวงโตที่เจ้าตัวขยันส่งมาให้เป็นระยะๆนั่นก็คงไม่พ้นแอบด่าเจ้าของห้องนั่นล่ะ


“อื้อหือ.. ” เสียงครางเบาๆดังแว่วมาให้ได้ยินเมื่อเจ้าตัวเปิดตู้เย็นแล้วพบกับของสดที่อัดแน่นอยู่ภายใน


จริงๆยุทธนาก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีอะไรบ้าง เขาแค่สั่งให้แม่บ้านซื้อของสดเข้ามาเตรียมไว้ให้เพราะพวกไอ้ป้องมันเปรยๆไว้ว่าอยากมาทำสุกี้ฉลองสอบเสร็จกินกันเอง แต่เหมือนวันนี้พวกมันคงต้องกินแห้วกันไปก่อนเพราะเขาได้ตัวพ่อครัวจำเป็นมาอย่างเหนือความคาดหมาย


ทีแรกเขาก็ว่าจะกลับมานอนเอาแรงซักหน่อยหลังจากสอบเสร็จ แต่เมื่อออกจากห้องสอบแล้วได้รับข้อความจากเบอร์ไม่คุ้นตาทว่าชื่อของคนที่ปรากฏอยู่ในเนื้อความนั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี เป้าหมายเลยกลับกลายมาเป็นโรงอาหารคณะแทน


ภาพที่ลูกแมวของเขากำลังหลับตาพริ้มพิงอกเพื่อนสนิทอย่างสบายใจเฉิบทำเอาเขาหัวร้อนไม่เบา แต่เพราะนิสัยไม่ใช่คนชอบโวยวายสิ่งที่ทำจึงเป็นตาขวางๆที่ฟาดฟันใส่รุ่นน้องในคณะอย่างไม่พอใจเท่านั้น ไอ้ปืนไม่ได้มีท่าทีเกรงกลัวหรือไม่พอใจในสิ่งที่เขาแสดงออก กลับกันมันเพียงแค่ยิ้มจางแล้วพูดออกมาด้วยท่าทีสบายๆ ซึ่งถ้าจับน้ำเสียงดีๆก็จะพบว่ามันมีความท้าทายเล็กๆอยู่ในนั้น


‘ผมต้องรีบไปส่งงานน่ะครับ แต่ปลุกยังไงไอ้นี่มันก็ไม่ยอมตื่นซักที ยังไงก็ฝากพี่ยุทธช่วยดูแลมันให้หน่อยนะครับ เสร็จแล้วเดี๋ยวผมจะมารับคืน’ คิ้วเข้มขมวดยุ่งเมื่อฟังจบ ตวัดมองสบตากับรุ่นน้องในคณะอย่างไม่ชอบใจนัก ยิ่งเห็นท่าทางที่มันปฏิบัติต่อลูกแมวของเขาอย่างอ่อนโยนในอกมันก็คับยิบๆจนอยากจะเข้าไปกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด


รู้ทั้งรู้ว่าทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนกัน ซ้ำไอ้ปืนยังเป็นคนที่คอยดูแลเดือนสิบมาตลอดแต่เขาก็ไม่ชอบใจอยู่ดี


‘ไม่ต้อง เดี๋ยวกูพากลับเอง’


ไอ้ปืนหัวเราะในลำคอ มองคนที่ค่อยๆโอบกระครองเพื่อนสนิทให้นอนลงบนตักกว้างอย่างนิ่มนวลทั้งที่ใบหน้าหล่อเหลาติดจะบึ้งตึงจนแทบจะกินหัวเขาได้


ถึงปฏิกิริยาที่แสดงออกว่าไม่พอใจจะดูนิ่งไปซักหน่อย แต่สายตาที่แสดงออกก็เอาเรื่องไม่เบา …ไม่ถึงกับที่คาดไว้ แต่ก็ถือว่ายังดีล่ะนะ


.

.


“งั้นเป็นต้มยำกับข้าวผัดแล้วกันนะครับ” คนที่ยุ่งอยู่กับการสำรวจวัตถุดิบในทีแรกเงยหน้าขึ้นมาถาม ยุทธนาจ้องสบตากลมแป๋วก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆ


“ครับ แล้วแต่เราเลย”


น้องพยักหน้าหงึกหงักเลิกสนใจเขาแล้วไปโฟกัสอยู่กับการเตรียมวัตถุดิบแทน มือเรียวหยิบนั่นจับนี่ดูคล่องแคล่วเคยมือถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่มาใช้ครัวห้องเขา ดูแล้วเพลินตาจนเผลอยิ้มออกมาไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ


รออยู่ไม่นานกลิ่นหอมอ่อนๆของกระเทียมเจียวก็ฟุ้งมาเรียกน้ำย่อย เดือนสิบวุ่นวายอยู่หน้าเตาซักพักข้าวผัดหมูและต้มยำหน้าตาน่าทานก็ถูกยกมาเสิร์ฟถึงที่ พ่อครัวกิตติมศักดิ์เดินกลับไปที่ตู้เย็นอีกครั้ง หยิบน้ำเปล่ากับแก้วอีกสองใบมาตั้งไว้ตรงหน้า แถมยังบริการรินน้ำให้อีกต่างหาก


“บริการดีขนาดนี้ถ้าซื้อขาดคิดเท่าไหร่ครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเย้า มองอีกฝ่ายที่ชะงักไปนิด ก่อนที่ตากลมๆนั่นจะหันมาค้อนใส่เขาวงโต


“กินไปเลยครับ พูดมากเดี๋ยวจะไม่ได้กิน” ยุทธนาแสร้งทำตาโต น่าหมั่นไส้จนคนทำเป็นเข้มนึกอยากจะทุบให้ซักที


“ทำไมโหดจังฮึ”


“ทำไมชอบแกล้งจังฮึ” เดือนสิบยอกย้อน จากนั้นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์แสนร้ายกาจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ตาคมพราวระยับจ้องมาทำเอารู้สึกเสียวสันหลังบอกไม่ถูก


“ก็มีแฟนน่ารักเห็นแล้วมันอดใจไม่ไหว เห็นแล้วอยากแกล้ง อยากแหย่ อยากฟัดแรงๆ”


“โอ้ยพี่ยุทธ! กินเข้าไปเลยครับ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” คนเขินหน้าแดงโวยลั่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายตักกุ้งตัวโตมาวางไว้บนจานให้ …ก็เพราะชอบทำตัวน่ารักแบบนี้แล้วจะไม่ให้เขาชอบแกล้งชอบแหย่ได้ยังไง


“เอ้อพี่ยุทธครับ”


“หืม..” ยุทธนาเลิกคิ้วเมื่อเห็นคนเป็นน้องท้วงขึ้นเหมือนนึกอะไรได้


“คือ.. วันมะรืนนี้”


“ครับ?” เกริ่นไปได้ซักหน่อยก็กลับมานิ่ง เล่นเอาคนที่รอฟังอย่างลุ้นๆทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยเร่ง


“พวกไอ้ปืนชวนไปเที่ยว”


“อือฮึ..” ยุทธนาครางรับ มองน้องที่เงียบไปอีกเกือบนาที คิ้วสวยตีกันยุ่งราวกับประโยคที่จะพูดมันต้องใช้ความคิดนักหนา กระทั่งได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วตากลมเลื่อนขึ้นมาสบกันแน่วแน่


“ไปด้วยกันนะครับ”


ก็แค่ประโยคสั้นๆกับแก้มแดงๆและดวงตากลมโตที่จับจ้องรอคอยคำตอบ ไม่รู้ทำไมใจเขาถึงได้เต้นโครมครามจนหลุดจังหวะขนาดนี้ เกือบจะหลุดยิ้มกว้างออกมาแล้วด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่ายั้งไว้เพราะต้องการแหย่อีกคนซะก่อน


“อยากให้พี่ไปด้วยจริงๆหรอ”


“…ครับ”


“มากไหม”


“….” คนฟังค้อนเข้าให้ก่อนที่ปากบางจะบ่นขมุบขมิบจับใจความไม่ได้ หากครู่ต่อมาก็ยอมพยักหน้ารับในที่สุด เท่านั้นรอยยิ้มกว้างจากคนตัวสูงก็ถูกส่งมาให้จนเดือนสิบถึงกับชะงักเผลอคิดว่าตัวเองตาพร่าไปชั่วขณะ ก้อนเนื้อในอกคล้ายจะสั่นไหวรุนแรงขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะเขาไม่เคยจ้องหน้าอีกฝ่ายได้จริงจังซักครั้งเลยไม่มีโอกาสสังเกตใบหน้าคมคายอย่างเต็มตา


ยุทธนาไม่ใช่คนหล่อมากจนถึงขั้นเห็นครั้งแรกแล้วต้องมองเหลียวหลัง เขาเป็นคนมีรูปหน้าคมคายจมูกโด่งเห็นสันกรามชัด คิ้วเข้มพาดเฉียงในองศาพอเหมาะรับกับดวงตาคมกริบดูดุดัน ยิ่งภายนอกแสดงออกว่าเป็นคนเงียบขรึมใบหน้าติดจะเฉยชาอยู่ตลอดจึงทำให้น้อยคนนักอยากจะเข้าหา แต่พอมายิ้มกว้างๆแบบนี้กลับทำให้ดูดีขึ้นเป็นกอง ยิ่งมีลักยิ้มบุ๋มลึกทั้งสองข้างแก้มก็ยิ่งขับให้ดูมีเสน่ห์จนยากที่จะละสายตา


“จ้องกันขนาดนี้พี่ก็เขินเป็นนะ” เสียงทุ้มเอ่ยล้อ เรียกให้คนที่เผลอตัวจ้องสำรวจอีกฝ่ายจนถูกจับได้หน้าร้อนวูบ เดือนสิบหน้าตื่นตากลมกรอกไปมาลอกแลกคล้ายทำอะไรไม่ถูกเรียกเสียงหัวเราะในลำคอหนา อดใจไม่ไหวจนต้องยื่นมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มแรงๆ ใจจริงอยากจับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถ้าทำอย่างนั้นคงยากทีเดียวกว่าเขาจะหลอกล่อให้ลูกแมวขึ้นมาเหยียบถึงถิ่นได้อีก


เพราะงั้นตอนนี้ก็คงต้องทนไปก่อนล่ะนะ



.

.

.


เดือนสิบกำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่ใช่ลำบากกายแต่เขากำลังลำบากใจมากๆต่างหาก ตากลมกรอกกลิ้งไปมาอย่างไม่รู้จะทำยังไงเมื่อเหลียวขวาก็เจอใบหน้าบึ้งตึงของเพื่อนสนิทอย่างไอ้ปืน และพอหันมามองทางซ้ายก็เจอใบหน้านิ่งเฉยทว่าแววตากลับดูออดอ้อนของแฟนหมาดๆ มองเลยหลังคนทั้งคู่ไปก็จะเห็นว่ามีรถตู้คันใหญ่ของไอ้ปืนและซีอาร์วีของพี่ยุทธจอดเคียงคู่กันอยู่ไม่ห่าง เดือนสิบอยากจะบ้า ให้เขาทำข้อสอบวิชาแคลคูลัสยังไม่น่าปวดหัวเท่าสถานการณ์ตอนนี้เลย


เรื่องมันเริ่มจากการที่ตกลงกันไว้ว่าจะไปเที่ยวทะเล ซึ่งเขาได้ตกลงกับไอ้ปืนไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ว่ามันจะเป็นคนแวะมารับเขาก่อนจะเลยไปรับพวกที่เหลือซึ่งนัดรวมตัวกันที่มอ ฟังดูเหมือนทุกอย่างเป็นไปได้ดีแต่แผนทั้งหมดกลับพลิกแพลงเมื่อแบกเป้ลงมาจากห้องแล้วเห็นว่ามีมนุษย์เพื่อนสนิทกับมนุษย์แฟนยืนเคียงคู่กับและกำลังจับจ้องมาที่เขาอย่างพร้อมเพียง


“สิบ..” ยุทธนาเรียกเสียงอ่อน


“ไอ้สิบ” ในขณะที่ไอ้ปืนก็ไม่ยอมน้อยหน้าเรียกชื่อเขากลับมาเสียงแข็ง


สาบานว่าตั้งแต่คบกันมามันไม่เคยทำให้เขารู้สึกลำบากใจเท่านี้มาก่อน ไอ้ปืนคอยตามใจตลอดไม่ว่าเขาจะทำอะไร อาจมีบ้างที่มันคอยปรามๆกับบางเรื่องที่มันคิดว่าหนักไปสำหรับเขา แต่ที่แน่ๆเลยคือมันไม่เคยขัดใจ ไม่เคยมาคะยั้นคะยอแกมบังคับจะเอาให้ได้แบบนี้


ส่วนอีกคนยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถึงจะไม่เคยบังคับอะไรเขาเลยแม้กระทั่งตอนนี้แต่แววตาที่มองมาอย่างเว้าวอนนั่นก็ทำเอาปฏิเสธไม่ลงเหมือนกัน …เดือนสิบกระชับสายกระเป๋าเป้แน่นขึ้น ตากลมมองสลับไปมาระหว่างเพื่อนกับแฟนอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี ถ้าเขาเลือกไปกับพี่ยุทธก็คงไม่พ้นถูกไอ้ปืนโกรธแน่ๆเพราะเป็นฝ่ายตกลงกับมันเอาไว้ซะดิบดี แต่ถ้าจะให้เลือกไปกับไอ้ปืน พอมองสบเข้ากับตาคมๆนั่นเขาก็ทำไม่ลงจริงๆ …นี่มันบ้าชะมัด


“ปืน…” เขาเรียกมันเสียงอ่อนเมื่อตัดสินใจแล้วว่ายังไงก็ทำลายความหวังในดวงตาคมนั่นไม่ได้ ไอ้ปืนส่งเสียงหึขึ้นจมูก ใบหน้าบูดบึ้งสะบัดหนีอย่างงอนๆ งอนไปจนบางทีเขาก็เริ่มคิดว่ามันแกล้งกันหรือเปล่า?


“ใช่ซี้… กูมันเป็นแค่เพื่อนนี่จะเอาอะไรไปสู้กับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟน” น้ำเสียงน้อยอกน้อยใจระดับสิบ


“ปืนนน…” เขาเขย่าแขนมันไปมา ช้อนตามองอ้อนๆอย่างที่มันชอบบอกว่าทำแล้วขี้เหร่ แต่พอทำแบบนี้ทีไรมันก็ขัดเขาไม่ได้ซักครั้ง และแน่นอนว่ารวมถึงครั้งนี่ด้วย ไอ้ปืนถอนหายใจยาวเลื่อนมือมาขยี้กลุ่มผมเขาจนมันยุ่งเหยิง แต่แทนที่จะเหวี่ยงใส่มันเหมือนทุกครั้งเขากลับยิ้มอ้อนแล้วเอียงหน้าให้มันทำได้ถนัด


“เบื่อมึงว่ะแม่ง จะไปกับแฟนก็ไปไป๊กูจะไปรับพวกไอ้จอมแล้ว ป่านนี้พวกมันบ่นกูถึงโคตรแล้วมั้ง เสียเวลาเพราะมึงเลยจริงๆ”


“ขอโทษ..” ถึงจะรู้ว่ามันพูดไปงั้นแต่ก็อดรู้สึกผิดไปได้อยู่ดี ปืนมองเพื่อนสนิทที่หน้าหงอยลงแล้วยิ้มขำ อดไม่ได้ที่จะบีบแก้มมันแรงๆอย่างหมั่นเขี้ยว ยิ่งเห็นคนบางคนที่จ้องอยู่เริ่มคิ้วขมวดไม่พอใจก็ยิ่งรู้สึกได้ใจ …ดูซิว่าจะมีความอดทนไปได้ซักกี่น้ำ


จุ๊บ!


สัมผัสเน้นๆกลางหน้าผากเล่นเอาคนถูกกระทำตาเบิกกว้างอย่างตกใจ อ้าปากพะงาบๆกำลังจะด่า หากแต่กลับไม่ทันแรงกระชากของใครอีกคนบริเวณต้นแขน ที่เล่นเอาทั้งร่างหลุดจากการเกาะกุมของไอ้ปืนแล้วถลาเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายแทน เดือนสิบหน้าตื่นเหลือบมองใบหน้าคมเข้มที่ดูเหมือนจะดุดันขึ้นเป็นเท่าตัวของคนที่เกี่ยวเอวเขาไว้แน่นหนา สลับกับมองใบหน้าระรื่นของเพื่อนสนิทอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก


“กูไปนะเจอกันที่โน่น” ปืนว่ายิ้มๆก่อนจะเลื่อนสายตาไปหาใครอีกคนที่จ้องมาเขม่ง “พี่ยุทธหวัดดีครับ” ทิ้งระเบิดเสร็จก็เดินตัวปลิวขึ้นรถไปอย่างสบายอารมณ์ ผิดกับอีกคนที่ยังคงนิ่งค้างไม่ไหวติงเพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก กระทั่งรู้สึกถึงแรงกระชับรอบเอวที่เพิ่มขึ้นตากลมถึงได้กระพริบถี่คล้ายเพิ่งได้สติ แหงนมองเสี้ยวหน้าคมคายก็ยังเห็นว่าคนเป็นพี่ยังตีหน้ายุ่งไม่หาย แต่เพราะไม่รู้จะทำยังไงเลยได้แต่กระตุกชายเสื้ออีกฝ่ายเป็นการเรียกร้องความสนใจแทน


“โทษที” เสียงทุ้มเอ่ยสั้นๆก่อนจะคลายแรงโอบกระชับรอบเอวเขาไว้แน่นออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแตะไว้เบาๆเป็นเชิงให้เดินไปขึ้นรถด้วยกัน


ระหว่างทางเดือนสิบได้แต่ลอบสังเกตท่าทางของคนข้างกายอยู่เงียบๆเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไร คิ้วเข้มดูจะขมวดยุ่งอยู่ตลอดเวลาราวกับมีเรื่องเครียดๆให้คิดนักหนา บางครั้งที่ตาคมเบนมาสบกันแล้วทำท่าจะพูดอะไรหากแต่สุดท้ายคนพี่ก็กลับเงียบไปแล้วเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขับรถจนผิดสังเกต


“พี่ยุทธมีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่าครับ” สุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ทนไม่ไหวเลยต้องเอ่ยถามออกไป ได้ยินเสียงถอนหายใจยาวหากอีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบอะไรกระทั่งรถชะลอลงเมื่อถึงไฟแดง


เป็นอีกครั้งที่ยุทธนามองหน้าน้องแล้วต้องถอนหายใจ ที่เงียบมาตลอดทางไม่ใช่เพราะโกรธเคืองหรือไม่พอใจคนตรงหน้า แต่เป็นเพราะเขากำลังโกรธตัวเองที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ลบภาพน่าหงุดหงิดนั่นออกไปจากหัวไม่ได้ซักที ยอมรับว่าเขากำลังหวง หวงมาก ถึงแม้จะรู้ว่าทั้งสองคนเป็นแค่เพื่อนกันและไอ้ปืนมันตั้งใจทำแบบนั้นเพราะหาเรื่องกวนประสาทเขาก็ตาม


“พี่ยุทธ..” แรงกระตุกบริเวณแขนเสื้อเรียกให้หลุดจากภวังค์อีกครั้ง


“โทษที พี่แค่กำลังหงุดหงิดตัวเองที่คิดอะไรงี่เง่า” เขายิ้มจางให้น้องคลายกังวล จับมือเล็กมากอบกุมไว้อย่างถือวิสาสะ เหลือบมองตัวเลขบนจอดิจิตอลก็เห็นว่าเหลือเวลาอีกเกือบนาที


“เรื่องเมื่อกี้รึเปล่าครับ” ยุทธนาพยักหน้ารับ ตาคมยังจับจ้องอยู่ที่ตัวเลขไม่ละไปไหน กระทั่งแรงกระตุกเบาๆจากมือที่กอบกุมไว้เขาถึงได้หันกลับมาจ้องสบตากลมแป๋วของน้อง


“ไม่เห็นต้องคิดมาเลย ผมกับไอ้ปืนไม่ได้มีอะไรซักหน่อย”


“พี่รู้ แต่มันก็อดหงุดหงิดไม่ได้อยู่ดี ไม่ชอบเลย” ไม่ชอบที่น้องปล่อยให้อีกฝ่ายเล่นถึงเนื้อถึงตัวแบบนั้น


“นี่กำลังหึงผมอยู่รึเปล่า” คนน้องว่าล้อๆ แอบเขินอยู่หน่อยๆถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนพูดมันออกมาเองก็เถอะ ทว่าประโยคถัดมาของคนถูกล้อกลับยิ่งทำเอาคนตั้งใจจะล้อเขาหน้าแดงวาบ ในอกเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ


“อืม… หึง หึงมาก หึงจนจะบ้าอยู่แล้ว”


โชคดีของเดือนสิบที่ไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี เขาเลยไม่ต้องถูกดวงตาคมกริบจ้องจนหน้าร้อนมากไปกว่าเดิม แต่ถึงอย่างนั้นมือที่กอบกุมกันไว้กลับไม่ยอมปล่อย และตัวเขาเองก็ไม่คิดจะชักมันกลับด้วย …อยู่แบบนี้ก็รู้สึกอบอุ่นดีล่ะนะ ถึงจะอุ่นจนร้อนไปหน่อยก็เถอะ


*****



 :katai5:  เรื่อยๆมาเรียงๆ  :กอด1: :กอด1:
ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยยค่ะ น้ำตาจะไหลดีใจแทนอิพี่จริงๆ  :L2:
ร้ายเนียนๆ เอ๊ะ! หรือไม่เนียน ก็อิพี่ยุทธนี่แหละค่ะ
ตอนหน้าไปทะเลแล้วว สงสัยต้องหาคู่ให้นุ้งปืนหน่อยจะได้ไม่มาคอยแหย่คู่คนอื่นเขา 55555






หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 01-02-2017 22:48:13
ถึงกับจุ๊บหน้าผาก ปืนเล่นใหญ่มากจนพี่ยุทธหัวร้อน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 01-02-2017 22:59:54
ทำไมเดือนสิบน่ารักขนาดนี้   ดีต่อใจจจยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-02-2017 23:21:19
พี่ยุทธโดนปืนยั่วโมโหคลอด ก็นะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-02-2017 23:34:08
นั่นสิ หาคู่ให้ปืนเลยค่ะ ทำไมถึงขี้แกล้งอย่างนี้ พี่ยุทธเคยทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า ฮา
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-02-2017 23:40:56
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-02-2017 23:42:58
ปืน เล่นจุ๊บ ถึงเนื้อถึงตัวเดือนสิบ
พี่ยุทธ ก็ของขึ้นเลย  :fire:
หึง ครับหึง  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-02-2017 23:47:27
 :L2: :pig4: :L1:

มามาหาคู่ให้ปืน จะได้ไม่กวนชาวบ้าน นี่คือขาดความอบอุ่นใช่ไหม

พี่ยุทธฟอร์มดี  o13
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 01-02-2017 23:57:20
 :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 02-02-2017 08:18:01
เพื่อนปืนเล่นใหญ่ไฟกะพริบมากค่าาา
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 02-02-2017 08:45:01
ดีค่ะ หาคู่ให้ปืนเลยค่ะ จะได้ไม่แหย่พี่ยุทธอีก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 02-02-2017 09:28:57
โอ้ยยยยยยพี่ยุทธๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 02-02-2017 09:30:32
ปืนสมควรต้องมีคู่แล้วนะ จะได้ไม่ต้องคอยมาป่วนคนอื่น
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 02-02-2017 11:40:52
ปืนขี้แกล้ง  :z2:
อยากได้น้องสิบมาเลี้ยงจัง



หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 02-02-2017 11:55:59
เอาน่าพี่ยุทธ ปืนมันดูแลของมันมานาน มันก็ต้องห่วงและหวงกันบ้างล่ะน้า อิอิ นิดๆหน่อยๆ

หาแฟนให้น้องปืนบ้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 02-02-2017 16:19:32
ขอเดือนสิบมาเลี้ยงได้ไหมม เอ็นดูววววว
หาคู่ให้ปืนเลยค่ะ เชียร์ 555
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 02-02-2017 19:46:10
ปืนแกล้งหนักๆ เอาให้พี่มันหัวร้อยเยอะๆ 555
เดือนสิบน่ารักจังลูกก  :o8:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 02-02-2017 19:53:53
หนูปืนขาลูกกกกกกก เล่นจริงเล่นใหญ่ไปแล้วววว เดี๋ยวพี่ยุทธคิดมากนะคะลูกกกกก
รบกวนไรทืส่งใครมาให้น้องปืนที :hao6:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 02-02-2017 23:44:21
เล่นใหญ่มากๆๆ

จัดเต็มเลยหรอปืน???
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 02-02-2017 23:49:06
สิบน่ารัก  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 03-02-2017 00:20:18
ปืนน่าตีจริงๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★.....ชื่อเดิม*อกหักมารักกับพี่* ตอนที่ 9 Up. [1/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 03-02-2017 09:48:41
ปืนเล่นใหญ๋มาก เอาอีก 5555555
พี่ยุทธยังฟอร์มดี แต่ก็อยากเห็นคนหลุดฟอร์มเหมือนกันน้าา
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 03-02-2017 20:39:51

10


“อ้าวสิบ มากับเพื่อนพี่ได้ไงครับเนี่ย”


“พี่ป้องหวัดดีครับ”


เดือนสิบยิ้มแหยก่อนจะยกมือไหว้รุ่นพี่ตัวเล็กที่พอเห็นเขาลงรถมาพร้อมกับเพื่อนตัวเองก็ยิ้มระรื่น ยิ่งเห็นสายตาวาวๆที่มองเขาสลับกับร่างสูงของใครอีกคนเหมือนจะล้อๆอยู่ในทีก็อดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ เหลือบมองคนที่ลงรถมาก่อนอย่างขอความช่วยเหลือทว่าฝ่ายนั้นกลับยืนกอดอกนิ่ง ผิดกับม่านตาคมคู่นั้นที่ดูไหวระริกอารมณ์ดี …ดีจนน่าหมั่นไส้เชียวล่ะ


“ไงมึง เงียบเลยนะ ที่ปล่อยพวกกูนั่งรอเกือบชั่วโมงนี่คือมัวไปหลอกล่อเด็กอยู่ถูกม่ะ?” พอเห็นรุ่นน้องเริ่มวางหน้าไม่ถูกปกรณ์เลยเปลี่ยนมาเป็นแซะเพื่อนตัวเอง ทว่าคนถูกแซะกลับไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ


“ไอ้สัด”


“หูยย พูดไม่เพราะเลย แบบนี้ต้องบอกให้เด็กเลิกคบจะได้ไม่เอาไปเป็นเยี่ยงอย่าง”


“พอเลยเชี่ยป้อง แล้วนี่ไอ้หินกับไอ้พีทไปไหน” ปกรณ์มองเพื่อนสนิทล้อๆ ยิ่งเห็นมันเอาแต่ลอบมองรุ่นน้องตัวขาวว่าที่เพื่อนสะใภ้อยู่ตลอดก็ยิ่งคันปากอยากแซว แต่เพราะกลัวจะทำให้น้องมันวางหน้าไม่ถูกไปกว่านี้เลยคิดว่ายั้งไว้ก่อนคงจะดีกว่า


“พวกมันไปเข้าห้องน้ำก่อนหน้ามึงจะมาถึงเนี่ยอีกเดี๋ยวคงออกมา ขนของขึ้นรถรอเลยก็ได้”


ยุทธนาพยักหน้ารับก่อนที่พวกเขาจะช่วยกันขนสัมภาระขึ้นรถ พอดีกับที่ขนของเสร็จอีกสองคนที่เหลือก็เดินออกมาพอดี


“มากันนานยังวะ” ศิลาเอ่ยทักเพื่อนสนิทที่กำลังปิดประตูหลังโยนกระเป๋าเป้ใบสุดท้ายเข้าไปในรถ แต่ยังไม่ทันได้คำตอบสายตาก็ไปปะทะเข้ากับใครอีกคนซะก่อน เขายิ้มให้รุ่นน้องร่วมคณะที่มีแนวว่าจะได้มาเป็นเพื่อนสะใภ้ในเร็วๆนี้


“หวัดครับพี่ๆ” เดือนสิบยกมือไหว้ก่อนจะยิ้มตอบเกร็งๆ ถึงจะคุ้นหน้าคุ้นตากันแล้วแต่มันก็อดประหม่าไม่ได้อยู่ดี เหลือบตามองคนที่ยืนห่างกันไปไม่ไกลนักฝ่ายนั้นก็ส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อย


“มาตอนที่พวกมึงไปเข้าห้องน้ำอ่ะ เก็บของหมดแล้วก็ไปเหอะร่างกายกูต้องการน้ำทะเลมากก คราวก่อนก็ชวดไปทีเพราะไอ้ห่ายุทธล่ะ คราวนี้กูจะเล่นให้ฉ่ำปอดเลยสาดด” ปกรณ์บ่นยาวก่อนจะโดดขึ้นรถไปจับจองที่นั่งหลังสุดเป็นคนแรก


“งั้นสิบนั่งหน้าเป็นเพื่อนไอ้ยุทธแล้วกัน พี่กับไอ้พีทว่าจะงีบซักหน่อย” ว่าจบก็คว้าคอเพื่อนสนิทที่ยืนทำหน้าง่วงๆอยู่ข้างๆให้ขึ้นรถไปด้วย เดือนสิบมองตามตาแป๋วพอหันกลับมามองอีกคนที่รับหน้าที่เป็นสารถี พี่มันก็ยักไหล่ประมาณว่าตามนั้นก่อนจะดันหลังเขาให้เดินไปขึ้นรถ เปิดประตูให้เสร็จสรรพแล้วถึงได้ดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคบขับ


“คาดเข็มขัดด้วยครับ” เดือนสิบพยักหน้าหงึกหงักทำตามอย่างว่าง่าย ยุทธนาพอเห็นว่าน้องคาดเข็มขัดเรียบร้อยก็เริ่มออกรถ


“ไอ้อิฐมันไลน์มาถามว่าจะแวะกินอะไรก่อนไหมหรือจะไปกินที่โน่นเลย เอาไง” ปกรณ์ถามความเห็นหลังได้รับข้อความจากรุ่นน้องที่อยู่บนรถอีกคัน


“กูยังไงก็ได้” ศิลาบอกโดยมีลูกคู่ที่นั่งตาปรืออยู่ข้างๆกันพยักหน้ารับ


“ไอ้ยุทธกับสิบว่าไง” เดือนสิบเหลือบมองคนขับพอดีกับฝ่ายนั้นหันมามองเขา พี่มันพยักหน้าให้เป็นเชิงว่ายังไงก็ได้เขาเลยเป็นฝ่ายตอบ


“แล้วแต่พวกนั้นเลยครับ”


“เออเว้ย คันนี้มันมีแต่พวกว่าง่าย” ว่าพลางพิมพ์ตอบรุ่นน้องไป รออยู่ไม่นานฝ่ายนั้นก็ตอบกลับมา “พวกมันบอกว่างั้นไปกินที่โน่นทีเดียวเลยแล้วกัน”


ทุกคนพยักหน้ารับอย่างเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งรถจะเงียบเสียงไป เดือนสิบเหลือบมองไปทางด้านหลังก็เห็นว่ารุ่นพี่ทั้งสามคนเริ่มพากันหลับตาพริ้มเข้าสู่โลกแห่งความฝันเป็นที่เรียบร้อย อาจเพราะต้องตื่นแต่เช้าทั้งที่เมื่อคืนนอนดึกเพราะถูกพี่พีทรบเร้าให้เล่นเกมด้วยจนดึกดื่น ซึ่งอันนี้พี่ป้องบ่นให้ฟังระหว่างขนกระเป๋าขึ้นรถ พอหันกลับมามองคนขับที่ไม่พ้นถูกดึงให้ร่วมลงสนามรบด้วยเมื่อคืนก็เห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังตั้งอกตั้งใจมองทางข้างหน้า เสี้ยวหน้าคมคายถึงจะไม่ได้ดูง่วงงุนแต่ก็มีความอ่อนล้าปรากฏให้เห็น


“ถ้าพี่ยุทธง่วงให้ผมขับเปลี่ยนก็ได้นะครับ” ฝ่ายนั้นละสายตาจากถนนชั่วครู่แล้วเหลือบมองเขาอย่างแปลกใจ


“ขับเป็นด้วยหรอเรา”


“ครับ เมื่อก่อนเฮียเจ้าของร้านที่ผมเคยทำงานอยู่เขาวานให้ช่วยไปส่งของให้บ่อยๆ”


“นี่เริ่มทำงานตั้งแต่อายุเท่าไหร่” คนถูกถามนิ่งไป ตากลมกรอกกลิ้งคล้ายกำลังใช้ความคิด


“ถ้าช่วยที่บ้านก็ตั้งแต่เด็กแล้วครับ แต่ถ้าทำจริงจังก็เป็นช่วงเข้าปวช อาจารย์ที่โรงเรียนฝากให้น่ะครับเป็นอู่ซ่อมรถใกล้วิทยาลัย”


“แล้วไม่เหนื่อยรึไง ทั้งเรียนทั้งทำงานไปด้วยแบบนั้น”


“เหนื่อยครับ แต่ก็สนุกดีได้ตังค์แถมยังได้ฝึกฝีมือไปด้วย” เดือนสิบว่ายิ้มๆ ก่อนจะหันไปมองคนด้านข้างเมื่อสัมผัสอุ่นวางทาบลงบนหัวแล้วโยกเบาๆ


“เด็กดี..”


“ไม่หรอกครับ เรื่องไม่ดีผมก็เคยทำ”


“หืมม.. อย่างเช่น?”


“ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งผมเหนื่อยมากๆเลยโดดงานไปเล่นเกม”


“นี่คือไม่ดีแล้วใช่ไหม” ยุทธนาเลิกคิ้ว


“ก็ต้องไม่ดีสิครับ พอผมโดดงานก็ไม่มีคนไปส่งของ เฮียเจ้าของร้านก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย”


คนฟังฟังแล้วยิ้ม ขนาดเรื่องที่น้องบอกว่าไม่ดีเขายังมองว่ามันเป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋ว ถ้าเทียบกับวีรกรรมของตัวเองกับกลุ่มเพื่อนสมัยมอปลายแล้วเดือนสิบดูเป็นเด็กน้อยไปเลย ขนาดว่าเรียนอยู่โรงเรียนช่างก็คิดว่าจะมีนิสัยโผงผางหรือมุทะลุเหมือนพวกเด็กช่างที่เขาเคยมีเรื่องด้วย แต่เปล่าเลย… น้องเป็นเด็กดีอย่างที่เขาคิด


“แล้วพี่ยุทธล่ะครับ”


“หืม?”


“เคยทำเรื่องไม่ดีบ้างรึเปล่า”


“เยอะแยะ”


“อย่างเช่น?”


“อืมม จะเอาเรื่องไม่ดี ไม่ดีมากๆ หรือโคตรจะไม่ดีเลยดีล่ะ” คนฟังย่นจมูก


“เอาตามที่พี่ยุทธสะดวกเลยครับ หรือจะเล่าหมดเลยก็ได้ผมอยากฟัง”


“เกิดฟังแล้วเรามองพี่ไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไงฮึ?”


“ก็ต้องฟังดูก่อน”


“แล้วถ้ามันไม่ดีถึงขั้นที่เรารับไม่ได้ล่ะ” เดือนสิบย่นคิ้วพลางจ้องมองเสี้ยวหน้าคมคายอย่างใช้ความคิด


“อืมม.. ไม่รู้สิครับ อยากรู้ก็ต้องฟังดูก่อน เล่าเถอะครับผมอยากรู้เรื่องของพี่จริงๆนะ” เขายิ้มสำทับให้ในจังหวะที่พี่หันมามอง


“เฮ้อ.. มาทำหน้าแบบนี้ใส่แล้วใครมันจะไปปฏิเสธลงฮึ” เดือนสิบยิ้มกว้าง เหลือบมองเสี้ยวหน้าคมคายอย่างรอคอย กระทั่งร่างสูงส่ายหัวเบาๆแล้วยอมเอ่ยปาก “ถ้าเป็นเรื่องเบาหน่อยก็คงต่อยตีกับเด็กต่างสถาบันจนถูกเรียกผู้ปกครองล่ะมั้ง”


“อย่างพี่ยุทธเนี่ยนะครับ” คนฟังทำหน้าไม่เชื่อ พอดีกับที่รถชะลอความเร็วเมื่อต้องจอดไฟแดงยุทธนาเลยถือโอกาสนั้นหันกลับมามองน้องตรงๆ คิ้วเข้าเลิกขึ้นสูง


“อย่างพี่มันทำไมฮึ?”


“ก็ดูเป็นคนนิ่งๆ ดูใจเย็นจนคิดไม่ว่าจะชอบมีเรื่องกับอื่น ถึงหน้าจะดุไปหน่อยก็เถอะ” ประโยคท้ายหันไปบ่นคนเดียวแต่ก็ไม่รอดพ้นหูคนหน้าดุอยู่ดี ผลเลยกลายเป็นหัวทุยที่โดนขยี้จนยุ่งเหยิง ทว่าก็เป็นคนเดียวกันที่ทำให้มันกลับมาเข้าทรงเหมือนเดิม


“ก่อนจะเย็นได้ขนาดนี้มันก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน ถ้าเป็นพี่เมื่อก่อนเราคงไม่รอดมาถึงทุกวันนี้หรอก”


“ไม่รอดอะไรครับ”


“ไม่ปล่อยให้รอดมาทำตัวน่ารักใส่แบบนี้ไง โดนจับกินไปตั้งนานแล้ว” ไม่ว่าเปล่ามือหนายังเลื่อนลงมาบีบจมูกรั้นที่ชอบทำย่นใส่เขาบ่อยๆราวกับหมั่นเขี้ยวนักหนา


“ฮื่อ.. เจ็บนะครับ!” เดือนสิบโวยลั่น ลูบจมูกตัวเองป้อยๆเมื่ออีกฝ่ายชักมือกลับไป ตากลมมองค้อนก่อนจะบ่นอุบ “แล้วใครจะไปยอมให้จับกินง่ายๆกัน บ้าชะมัด..”


“น่ารัก” ทว่าคนถูกค้อนกลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ไม่วายเอ่ยแซวเรียกริ้วแดงให้มาพาดผ่านอยู่ข้างแก้มใส


”ไม่ต้องมองเลยครับ! ไฟเขียวแล้วหันไปขับรถดีเลยๆ ผมไม่คุยด้วยแล้ว”


“ไม่อยากฟังพี่เล่าต่อแล้วหรอ”


“ฮึ!ไม่เอาแล้วครับ ไม่อยากฟังแล้ว” กอดอกฉับส่ายหน้าสำทับจนผมฟุ้งเลยทีเดียว


.

.

.


ใช้เวลาเกือบสามชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงบ้านพักที่ไอ้อิฐจองไว้ หลังจากก้าวลงรถเดือนสิบก็ถูกเพื่อนสนิทที่มาถึงก่อนแล้วเข้าชาร์จทันที ไอ้ปืนเอ่ยทักทายรุ่นพี่ก่อนจะคว้ากระเป๋าเขาแล้วลากให้เดินเข้าบ้านไปด้วยกัน ปล่อยให้ไอ้อิฐกับไอ้จอมรับหน้าที่พารุ่นพี่ทั้งสี่คนไปยังบ้านพักอีกหลังที่อยู่ติดกัน เดือนสิบมองตามแผ่นหลังกว้างเห็นอีกฝ่ายมองมาที่เขาพอดีเหมือนจะพูดอะไร หากแต่สุดท้ายก็เป็นเพียงรอยยิ้มแปลกๆเท่านั้นที่ถูกส่งมาให้


“อะไร มองตามขนาดนั้นหรือว่าอยากไปนอนบ้านโน้น?” เสียงแซวของไอ้ปืนเรียกให้คนที่คล้ายจิตใจจะหลุดลอยไปกับใครอีกคนให้หันมาย่นจมูกใส่ มันโยกหัวเขาไปทีก่อนจะเปิดประตูห้องให้เดินเข้าไปข้างใน


“เปล่าซักหน่อย” บ่นอุบก่อนจะเริ่มสำรวจสายตาไปรอบๆห้อง แค่จริงๆคือกำลังเลี่ยงสายตาจับผิดของเพื่อนสนิทต่างหาก


“ถึงจะอยากไปก็ไม่ให้ไปหรอก กูไม่ปล่อยให้มึงไปมีความสุขง่ายๆแน่น้องสิบ!” มันยักคิ้วทำหน้ากวนตีน จับปลายคางเขาให้เชิดขึ้นแล้วส่ายไปมาหยอกๆจนต้องปัดออก …นึกอยากจะจิ้มสายตาล้อเลียนของมันชะมัด!


“ความสุขบ้าอะไรของมึง แล้วนี่พวกที่มาด้วยไปไหนกันหมด” เดือนสิบเฉไฉ เอ่ยไปถึงพวกเด็กภาคคอมที่บอกว่าจะมาด้วยกัน ไอ้ปืนหัวเราะแต่ก็ยอมเลิกแกล้งเพื่อนสนิทแล้วเดินไปทิ้งตัวลงนอนแผ่บนเตียงเดี่ยวอีกหลังที่ตั้งอยู่ข้างกัน


“นอนอยู่อีกบ้าน ไอ้อิฐมันจองไว้สามหลัง ตกหลังละสี่คนพอดีเพราะมีสองห้อง มึงก็รีบจัดของได้แล้วไอ้พวกนั้นบ่นหิวกันระงม ตกลงกันไว้แล้วด้วยว่าจะไปหาอะไรกินในตลาดจะได้ซื้อของมาไว้เผื่อทำอะไรกินตอนเย็นด้วย”


เดือนสิบพยักหน้ารับก่อนจะเริ่มลงมือจัดของเข้าตู้ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ออกมาสมทบกับทุกคนที่มารออยู่หน้าบ้านพัก พวกเขาเลือกที่จะเอารถไปคันเดียวคือรถตู้ของไอ้ปืนที่กว้างพอจะจุคนทั้งสิบสอง อันได้แก่ พวกรุ่นพี่ปีสามทั้งสี่คน ไอ้ปืน และพวกไอ้จอม ไอ้อิฐ ไอ้ตู่ ไอ้เบ้น ไอ้อ๋อง ไอ้มอส ซึ่งเป็นเด็กภาคคอมที่ล้วนแล้วแต่คุ้นหน้ากันเป็นอย่างดีลงไปได้ ถึงจะมีเบียดๆกันบ้างแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา รอบนี้ไอ้ปืนนั่งหน้าโดยมีพี่ป้องโดดตามหลังมันขึ้นไปทันทีก่อนที่เดือนสิบจะทันได้ขึ้น ผลเลยกลายเป็นว่าเขาต้องมานั่งอยู่กับพี่ยุทธที่ฉวยโอกาสตอนนั้นพาขึ้นมานั่งที่เบาะเกือบหลังสุดด้วยกันและถัดจากพี่มันไปก็เป็นพี่พีทที่ตัวพอๆกันกับเขาจึงไม่ได้ทำให้เบียดมากนัก


“อึดอัดรึเปล่า” คนที่นั่งตรงกลางเอ่ยถามพลางขยับห่างออกไปอีกนิด


“ไม่ครับ สบายมาก”


“แต่กูอึดอัดอ่ะ เชี่ยยุทธมึงเถิบไปหน่อยดิ” เป็นรุ่นพี่อีกคนที่ถูกเพื่อนเบียดจนตัวแทบจะแนบไปกับกระจกรถเพราะมันกลัวว่าแฟนจะอึดอัดโวยขึ้น 


“พี่ยุทธขยับมาทางนี้อีกก็ได้ครับ” เดือนสิบออกปาก เพราะเห็นว่าระหว่างเขากับพี่มันยังมีพื้นที่เหลืออยู่นิดหน่อยเพราะเจ้าตัวเล่นขยับไปเบียดฝ่ายโน้นเกินเพราะกลัวว่าเขาจะอึดอัด


“ขอบใจนะสิบ น่ารักแถมยังน้ำใจงาม สมแล้วที่จะมาเป็นเพื่อนสะใภ้พี่” คนโดนแซวปั้นหน้าไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะถูกแซวจากคนที่ดูเงียบๆมาตลอดอย่างพี่พีท เขาไม่ค่อยได้คุยกับอีกฝ่ายมากนักแต่ก็คุ้นหน้ากันดีเพราะเห็นว่าไปไหนมาไหนกับรุ่นพี่กลุ่มนี้อยู่บ่อยๆ


“ไม่เป็นไรครับ” เดือนสิบยิ้มแห้ง เหลือบมองคนข้างตัวก็เห็นว่าฝ่ายนั้นกำลังจ้องเขาอยู่แล้วก็เอาแต่อมยิ้มโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่ชั่วขณะต่อมามือบางจะถูกรวบไปกุมไว้อย่างถือวิสาสะ อยากจะชักกลับเพราะหมั่นไส้ม่านตาคมดูเจ้าเล่ห์ ทว่าสิ่งที่ทำได้คือถอนสายตากลับมาแล้วนั่งเงียบๆฟังพวกข้างหน้าคุยกันด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ


พอมาถึงร้านอาหารไอ้พวกที่มีท่าทางสะลึมสะลือในตอนแรกก็ตาวาวกระโจนเข้าใส่เมนูแล้วสั่งยับราวกับหิวโหยกันมาแต่ชาติปางไหน


“สาบานว่าพวกมึงไม่ได้สั่งมาถมที่” พี่พีทที่เดินหน้าง่วงๆตามหลังทุกคนเข้ามาเอ่ยแซะขึ้นก่อนจะบอกให้เขาขยับแล้วแทรกตัวนั่งลงข้างๆเขากับไอ้ปืน


“แล้วพี่จะมาเบียดผมทำไมเนี่ยที่มีตั้งเยอะแยะ” คนโดนแย่งที่บ่นหน้ายุ่ง ทว่าอีกคนกลับไหวไหล่ด้วยท่าทางไม่ยี่หระ


“ก็กูอยากนั่งตรงนี้ ทำไม? นั่งไม่ได้หรอ?”


“ได้คร้าบ พี่อยากนั่งตรงไหนก็เอาที่พี่สบายใจเลยคร้าบ” ไอ้ปืนยอมลงให้ด้วยขี้เกียจจะเถียง เพราะถึงเถียงไปยังไงดูท่าแล้วก็คงไม่พ้นต้องพ่ายแพ้ให้อีกฝ่ายอยู่ดี เห็นทำหน้างวงๆแบบนี้แต่อย่าให้ได้ออกปากด่าใครเชียว…


“ใครเอาเครื่องดื่มอะไรบ้างครับผม” ไอ้เบ้นมือชงอันดับหนึ่งทำหน้าที่บริการเครื่องดื่มเพราะตกที่นั่งทิศตะวันตัก โดยมีไอ้จอมที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันเป็นลูกมือช่วยตักน้ำแข็งให้


“กูเอาเบียร์แล้วกันพวกมึงอ่ะ” พี่ป้องบอกก่อนจะหันมาถามเพื่อนสนิท ซึ่งพวกที่เหลือก็พยักหน้ารับง่ายๆ เพื่อนว่าไงก็ว่าตามนั้น
“งั้นของพวกกูเอาเบียร์หมดเลย”


ไอ้เบ้นรับคำแล้วเริ่มรินเบียร์แจกจ่าย ซึ่งพวกที่เหลือส่วนมากก็เลือกกินเบียร์แทนที่จะเป็นน้ำเปล่าทั้งนั้น มีแค่เขากับไอ้อ๋องที่สีหน้าดูอ่อนล้าเพราะเมารถมาตั้งแต่ต้นที่เลือกกินน้ำเปล่า


หลังกินเสร็จพวกที่ได้รับมอบหมายให้ไปเลือกซื้อของสดอันได้แก่เดือนสิบ ไอ้จอม ไอ้เบ้นและไอ้ปืนที่เต้นเหยงๆอยากไปด้วยก็แยกตัวออกมา ส่วนพวกที่เหลือก็แยกย้ายกันไปดูของหรือแล้วแต่ใครจะทำอะไรโดยมีข้อกำหนดว่าต้องมาถึงรถในเวลาก่อนสี่โมงเย็น


“ปูก็ได้แล้วหมึกก็ได้แล้วกุ้งก็ได้แล้ว เอาอะไรเพิ่มอีกดีวะ” ไอ้เบ้นเงยหน้าขึ้นมาถามหลังจากสำรวจของในถุง


“หอยไง! พวกเชี่ยตู่แม่งชอบกินหอย” ไอ้จอมเสนอ


“โอเค งั้นพวกมึงแยกไปซื้อหอยเดี๋ยวกูกับไอ้สิบจะไปซื้อเบียร์เพิ่ม”


“ห่าปืน ไอ้ที่ขนมาจนเต็มหลังรถนี่ยังไม่สะใจมึงอีกหรอวะ”


“มึงช่วยดูเพื่อนมึงแต่ละตัวด้วยครับเชี่ยเบ้น แดกทีกูนึกว่าห่าลง อีกอย่างซื้อไว้ก็ไม่เสียหาย ยังไงเหลือมันก็ดีกว่าขาด”


“ครับๆงั้นก็ตามนั้นเลยครับ แล้วจะเจอที่ไหนหรือจะไปที่รถเลย”


“ไปที่รถเลยก็ได้”


พอตกลงกันได้เขากับไอ้ปืนก็แยกย้ายไปซื้อเบียร์ ซึ่งพอเห็นปริมาณที่มันซื้อเท่านั้นแหละเดือนสิบถึงกับกลืนน้ำลายลงคอแล้วมองอย่างอึ้งๆ นี่สรุปว่าพวกมันแค่อยากมาเปลี่ยนสถานที่เมาโดยการเอาเรื่องเที่ยวมาอ้างถูกไหม? ไหนจะเหล้าเป็นลังนั่นอีก


“เยอะไปเปล่าวะ” เห็นแล้วมันก็อดจะท้วงไม่ได้ ทว่าไอ้คนจ่ายเงินกลับไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ


“มึงต้องถามว่าแค่นี้จะพอหรอวะ”


เดือนสิบได้แต่ทำหน้าขยาด มองลังเบียร์ที่ทางร้านกำลังยกขึ้นรถเพื่อเอาไปส่งสลับกับเพื่อนสนิทแล้วก็ได้แต่คิดว่า ‘งานนี้ไอ้ปืนมันคงกะเมาสามวันยันกลับ’

.

.

.


“บ้านนี้มีใครจะลงเล่นน้ำไหมครับผม!” เสียงตะโกนที่เดือนสิบจำได้ว่าน่าจะเป็นไอ้ตู่ดังโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน หลังกลับมาจากตลาดแล้วแยกย้ายกันมาพักผ่อนได้ไม่นาน


“จะลงไปเล่นด้วยกันไหม” ไอ้ปืนที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขากสั้นตัวเดียวเดี่ยวๆโชว์ผิวขาวๆและซิกแพคเนียนๆยืนเท้าเอวถามอยู่ปลายเตียง เดือนสิบมองแล้วได้แต่ย่นจมูกใส่เพราะนึกอิจฉาหุ่นงามๆของมัน ขนาดว่าเขาทำงานอยู่ในอู่มียกนั่นจับนี่หนักๆบ้างยังไม่ได้เหมือนมัน จะมีก็แต่กล้ามแขนบ้างประปรายเท่านั้นที่ขึ้นมาให้ได้ใจชื้น


“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวจะไปช่วยไอ้จอมเตรียมอาหาร” เห็นมันบ่นๆว่าไอ้พวกนี้นัดแนะกันจะลงเล่นน้ำตั้งแต่อยู่บนรถ หน้าที่จัดเตรียมอาหารเลยถูกยัดเยียดให้ไอ้จอมที่แม่มันเปิดร้านอาหารเป็นคนจัดการ


“แม่บ้านแม่เรือนขนาดนี้ผัวรักผัวหลงแน่ๆ” ไอ้ปืนแซวยิ้มๆ ทว่าคนถูกแซวกลับหน้าร้อนวาบรีบกลบเกลื่อนความรู้สึกแล้วมองเพื่อนตาขวาง


“ห่าปืน! ผัวเผออะไรของมึง จะลงไปเล่นน้ำก็รีบไปเลยไป๊”


“ฮั่นแน่ะ! เขินๆ แก้มแดงแล้ว ว้าย หูก็แดงอ่ะ ว้ายๆ ฮ่าๆๆ”


“ไอ้ปืน! ไอ้บ้า! จะไปไหนก็รีบไปเลยไป๊!”


“ว้ายๆ เขิน ฮ่าๆๆ”


“ไอ้สัด!”


ปัง!


ไอ้ปืนไปแล้วไปพร้อมกับหนังสือการ์ตูนในมือที่เขาขว้างใส่ แถมมันยังปิดประตูดังลั่นไม่เกรงใจคนที่นั่งหน้าดำหน้าแดงอยู่บนเตียงอีกต่างหาก เดือนสิบได้แต่บ่นขมุบขมิบตามหลังเพื่อนสนิท ทั้งโกรธทั้งอายที่โดนมันล้อ สองข้างแก้มยังรู้สึกร้อนวาบไม่จางหายจนต้องเลื่อนมือมากุมไว้เพราะหวังว่ามันจะช่วยคลายความร้อนให้หายไป




********


 :katai5:
มาทะเล = เหล้า = เมา = ?
นุ้งปืนยังคงความหวงเพื่อนค่ะ อารมณ์นางจะแบบอยากเห็นคนขี้เก๊กหลุดฟอร์มงี้
แต่บังเอิญอิพี่มันฟอร์มหนา(ต่อหน้าคนอื่น) เพราะฉะนั้น กวนวนไปค่ะ 555555
 :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 03-02-2017 20:55:50
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 03-02-2017 21:40:31
ปืนกับพี่พีทรึเปล่า? ใช่ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ปูเสื่อรอ 55555
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 03-02-2017 22:37:22
ได้กลิ่นปืนพีท
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 03-02-2017 23:08:51
ชอบมากๆๆช
ชอบไปหมดเลยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2017 23:13:11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-02-2017 23:14:22
ได้กลิ่นปืนพีท
คิดเหมือน
หรือ พีท ปืน :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 03-02-2017 23:24:21
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-02-2017 00:25:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 04-02-2017 10:55:05
งานนี้ปืนพีทรึเปล่าา ฮาาา
ชอบน้องสิบอ่ะอยากได้มาเลี้ยงดูที่บ้านน
 :L1: :L1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 04-02-2017 11:45:21
เหมือนว่าถ้ามีเมาจะมีอีกคู่เกิดอ่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ijuney ที่ 04-02-2017 12:15:25
สนุกมาก รอสิบกับพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 04-02-2017 20:27:33
เมานี้จะมีเฮไหม
พีทปืน? รึเปล่า ฮาา
 :L1: :L1:  :L1:
:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-02-2017 21:40:44
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 10 Up. [03/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 05-02-2017 13:22:02
งานนี้มีฟอร์มหลุด 5555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 05-02-2017 17:34:58

11


   “ไม่ไปหาน้องมันหรอวะ หมาไม่อยู่เฝ้าแล้วนะทางสะดวก”


ไอ้ป้องที่นั่งจิบเบียร์อยู่ข้างๆกันเอ่ยขึ้น ตามองไปยังกลุ่มเด็กวิศวะสี่ห้าคนที่กำลังเล่นน้ำทะเลอยู่ห่างไปไม่ไกล ซึ่งหนึ่งในนั้นมีไอ้เด็กปีหนึ่งที่ช่วงหลังๆมานี้ชอบทำตัวเป็นหมาหวงก้างคอยกันท่าเขากับแฟนตัวเองให้ได้หงุดหงิดเล่นอยู่บ่อยครั้ง


   “ไปตอนนี้ก็เกะกะเปล่าๆ” ตอนเดินออกมาจากบ้านเห็นว่ากำลังนั่งแกะกุ้งแกะปูจนหน้ายุ่ง อยากเข้าไปแหยเหมือนกันแต่เห็นว่าอยู่กับกลุ่มเพื่อนเลยคิดว่าไม่เอาดีกว่า ไม่ใช่ว่ากลัวคนอื่นจะรู้ว่าคบกันเพราะเขาเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอยู่แล้ว เพียงแต่กลัวว่าน้องจะทำตัวไม่ถูกเวลาโดนเพื่อนแซวมากกว่า
       

        …เวลาเขินแล้วแก้มแดงเป็นริ้วๆน่ะมันน่ารักน้อยซะเมื่อไหร่ สู้เก็บไว้แกล้งเองมองเองดีกว่าเป็นไหนๆ


“สรุปนี่คือพวกมึงคบกันยังวะ” ศิลาถามขึ้นบ้าง เพราะช่วงหลังๆมานี่มัวแต่หัวหมุนอยู่กับหนังสือกองโตเลยไม่มีเวลาได้ถามไถ่ชีวิตรักของเพื่อนเท่าไหร่


“อืม คบแล้ว” ยุทธนาครางรับ ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องปิดบัง ในเมื่อพวกมันก็รู้อยู่แล้งว่าเขาคิดยังไงกับน้อง จริงๆต้องบอกว่ารู้มาตั้งแต่ที่เขาเริ่มมองน้องต่างหาก


“หมายถึงเป็นแฟนกัน?”


“อือฮึ..”


“แล้วเรื่องแฟนเก่า.. มั่นใจแล้วหรอวะว่าน้องมันลืมได้แล้วจริงๆ” ไอ้พีทออกความเห็น ตัวมันเปียกโชกเพราะก่อนหน้านี้ลงไปรบกับไอ้พวกทโมนทั้งหลายมา


ได้ยินอย่างนั้นยุทธนาก็ชะงักไป นั่นสิ… เขาไม่เคยออกปากถามน้องเรื่องแฟนเก่าเพราะไม่อยากให้น้องคิดมากและไม่อยากสะกิดใจให้ต้องไปนึกถึง แต่ก็ไม่เคยถามเหมือนกันว่าน้องคิดยังไงกับเขา นอกจากสังเกตเอาจากท่าทีเขินอายหรือปฏิกิริยาต่างๆเวลาอยู่ด้วยกัน และน้องก็ยอมให้เขาจูบ.. แค่นั้นมันก็เพียงพอแล้วรึเปล่าที่จะบอกว่าน้องเองก็ชอบเขาเหมือนกัน หรือไม่ใช่?


“มึงก็ไปถามอะไรแบบนั้นวะห่าพีท ดูดิเพื่อนแม่งเครียดหมดแล้วเนี่ย”


“โทษทีเว้ย กูแค่อยากให้มึงเคลียร์ให้ชัด กลัวว่าจะมีปัญหาเหมือนที่กูเคยเจอ คบกันแต่เขายังรักคนอื่นแม่งไม่ใช่เรื่องสนุกเลยจริงๆ” ไอ้พีททิ้งท้ายไว้แค่นั้น มันยิ้มจางทว่านัยย์ตากลับดูหม่นๆลง ตบบ่าเขาปุๆก่อนจะวิ่งลงทะเลไป


“กูก็ลืมไปว่ามันเคยเจ็บ” ปกรณ์มองตามแผ่นหลังเล็กของเพื่อน กระทั่งมันกระโจนเข้าใส่แผ่นหลังของรุ่นน้องซักคนแล้วพยายามกดลงน้ำเหมือนแกล้งๆ แต่เพราะมันตัวเล็กกว่าเลยกลายเป็นว่าถูกฝ่ายนั้นสลัดลงน้ำซะเอง พอแกล้งรุ่นพี่ได้ไอ้พวกนั้นก็พากันหัวเราะครื้นเครงชอบอกชอบใจกันใหญ่


“แล้วมึงนี่ยังไงวะ ขอคบเป็นแฟนนี่เอาจริงๆแล้วใช่ไหม” ปกรณ์ละสายตาจากภาพตรงหน้าแล้วหันกลับมามองเพื่อนอีกคนที่นั่งจิบเบียร์เงียบๆ


“อืม.. มึงก็รู้ว่ากูมองมันมานาน” รู้สิ รู้ว่ามันเอาแต่มองจนสุดท้ายก็ถูกไอ้เด็กปีหนึ่งนิสัยหน้าม่อนั่นคาบไปแดก แต่จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง เพราะกว่าเพื่อนเขาจะเจออีกฝ่าย จะรู้สึกถูกใจกระทั่งเริ่มมองหาไอ้นุก็ยิงคะแนนนำไปหลายแต้มแล้ว


“แล้วเป็นไง น่ารักเหมือนตอนที่มองอยู่ห่างๆไหม” ถึงไอ้ยุทธจะเป็นคนเงียบๆแต่ก็มีบ่อยครั้งที่มันเผลอหลุดปากเรื่องของเดือนสิบให้ได้ยิน ยิ่งตอนมันเมาๆนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ถามอะไรบอกหมดไม่มีเหลือ แต่กว่าจะมอมมันให้เมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน แม่มคอแข็งกว่าเขาอีก


“น่ารักดิ น่ารักมาก” ดูจากแววตาอ่อนลงเวลาที่มันพูดถึงน้องไม่ต้องบอกเขาก็พอจะรู้ จริงๆแล้วไอ้ยุทธมันก็ไม่ใช่คนเฉยชาขนาดไม่สนโลกอย่างที่แสดงออกเวลาอยู่กับคนหมู่มากหรอก เพียงแต่มันมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้มันเปลี่ยนจนต้องกลายเป็นคนแบบนั้นมากกว่า…


.

.


“ขึ้นมาได้ก็แดกเลยนะสัด ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีๆก่อนไป๊ อุจาดตาชิบหายแต่ละคน” ไอ้จอมผู้รับหน้าที่เป็นพ่อครัวสำหรับปาร์ตี้ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในคืนนี้วาดตะหลิวชี้หน้าไอ้พวกที่กำลังยืนจิ้มปลาหมึกย่างเข้าปากทั้งที่เนื้อตัวเปียกโชก


“ก็มันหิวนี่หว่า ขอรองท้องก่อนไม่ได้ไง” ไอ้ตู่โอด เมื่อจานปลาหมึกย่างถูกฉกไปต่อหน้าต่อตา


“นั่นดิ กูหิวจนไม่มีแรงเดินแล้วเนี่ยขอแดกก่อนไม่ได้หรอ” ไอ้มอสที่ยืนปากสั่นทั้งที่มือกำส้อมไม่ยอมปล่อยอยู่ข้างๆกันสมทบ


“ไม่ได้! เดี๋ยวหวัดแดกขึ้นมาก็ลำบากพวกกูอีก”


“กูหัวแข็งน่า เล่นน้ำทะเลแค่นี้หวัดไม่ได้แดกกูหรอก”


“แต่มึงจะได้แดกตีนกูแน่ถ้ายังไม่รีบไปอาบน้ำ ไป๊”


“แม่งดุเหมือนหมา ตกลงนี่เพื่อนหรือแม่วะ” มันบ่นๆแต่สุดท้ายก็ยอมเดินกลับเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้าน


“สิบจะเข้าไปอาบน้ำก่อนไหม” พอไอ้พวกนั้นไปไอ้จอมก็หันมาถามคนที่รับหน้าที่นึ่งปูอยู่ไม่ไกล เดือนสิบวางที่คีบลงพลางพยักหน้า


“อื้อ งั้นเราไปอาบน้ำก่อนแล้วเดี๋ยวรีบออกมาเปลี่ยน”


“เฮ้ยไม่เป็นไร เหลือแค่รอปูสุกก็เสร็จแล้ว เดี๋ยวเรื่องเตรียมเตาย่างปล่อยเป็นหน้าที่ไอ้เบ้นมัน”


“โอเค”


เดือนสิบพยักหน้ารับ พอเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าไอ้ปืนอาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วเรียบร้อยกำลังนอนแผ่สองสลึงกดโทรศัพท์ยิกๆอยู่บนเตียง ด้วยความหมั่นไส้เลยเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนแผ่นหลังมันแรงๆ


ตุบ!


“เชี่ย! ไอ้สิบเล่นไรเนี่ย เจ็บ!”


“หมั่นไส้!”


“ลุกเลยมึง ตัวไม่ใช่จะเล็กๆทับมาได้” เดือบสิบย่นจมูก แทนที่จะลุกตามที่เพื่อนขอกลับยิ่งทิ้งน้ำหนักลงไปทั้งตัวจนไอ้ปืนโวยลั่น


“จุกไอ้ห่า! ลุกๆๆ”


“ขอโทษกูก่อนแล้วบอกด้วยว่าจะไม่ล้ออีก” กอดอกฉับพลางยื่นข้อเสนออย่างผู้เหนือกว่า


“ล้อเรื่องมึงกำลังจะมีผัวอ่ะนะ”


“เชี่ยปืน!”


ตุบ!


“โอ้ย!! โอเคๆกูไม่ล้อแล้วๆ จะไม่ล้อว่ามึงมีผัวอีกแล้ว” มันตบที่นอนปุๆเหมือนนักมวยปล้ำเวลายอมแพ้ แต่คำพูดคำจาเล่นเอาคนฟังหน้าร้อนจนต้องทิ้งตัวใส่มันแรงๆอีกรอบเพราะอดใจไม่ไหว


“ไอ้สัด!” ด่าทิ้งท้ายก่อนจะรีบวิ่งไปคว้าผ้าขนหนูแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไปด้วยความเร็วแสงเพราะกลัวว่าจะถูกเพื่อนสนิทเอาคืน ถึงมันจะไม่เคยแกล้งเขาแรงๆแต่ก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ ไอ้ปืนยิ่งชอบเล่นอะไรแผลงๆอยู่ด้วยถ้าเกิดมันเอาคืนขึ้นมามาเขาสู้แรงมันไม่ได้อีก


เกือบหนึ่งทุ่มตรงเป็นเวลาที่ทุกคนออกจากบ้านมาพร้อมกันตามเวลาที่ได้นัดแนะ สถานที่จัดปาร์ตี้ถูกจัดง่ายๆบริเวณหน้าบ้านพักโดยการเอาโต๊ะตัวยาวจากบ้านแต่ละหลังมาตั้งต่อๆกันจนพอสำหรับจำนวนคน ไอ้มอสกับไอ้ตู่รับหน้าที่ต่อแมคที่มันอุตส่าห์ยัดใส่กระเป๋ามาด้วยเข้ากับลำโพงที่ลุงเจ้าของบ้านพักใจดียกมาให้ แถมมันยังเปิดเพลงเสียงดังสนั่นไม่เกรงใจใคร โชคดีที่สถานที่พักของพวกเขาค่อนข้างอยู่ห่างไกลความเจริญเลยไม่ต้องกลัวว่าเสียงดังแล้วจะมีคนด่า เบียร์สองลังถูกตั้งไว้หัวโต๊ะทั้งสองด้านรวมถึงเหล้าและมิกเซอร์อีกไม่ยั้ง ไหนจะเบียร์เป็นตั้งที่วางอยู่ในบ้านนั่นอีก เรียกได้ว่างานนี้เมาไม่นับหลับเป็นแพ้เลยทีเดียว


“หูยย หอมว่ะ” ไอ้พวกทโมนทั้งหลายพากันปาดน้ำลายทันทีหลังจากเคลื่อนย้ายของกินขึ้นโต๊ะ เหล้าเบียร์เริ่มถูกแจกจ่ายจนครบทุกคน ใครชอบแบบไหนเรียกร้องได้กับไอ้เบ้นมือชงเจ้าเก่า งานนี้พี่พีทกับพี่หินรับอาสาทำหน้าที่ย่างบาบีคิวเพราะเพิ่งสำนึกได้ว่าตัวเองเอาแต่กินแรงรุ่นน้องตั้งแต่มาถึง


“ขอเข้มๆเลยเชี่ยเบ้น งานนี้ไม่เมาไม่เลิก” ไอ้อิฐออกปาก มองขวดเหล้าในมือเพื่อนตาวาว


“มึงจะรีบเมาไปไหนเชี่ยอิฐ รู้จักคำว่าเรื่อยๆชิลล์ๆไหมไอ้ห่า”


“จะแดกเร็วแดกช้าแม่งก็เมาเหมือนๆกันอ่ะ”


“เอาบรรยากาศไงครับเพื่อน รู้จักบรรยากาศไหม จะแดกเหล้าให้อร่อยมันต้องพึ่งบรรยากาศ ยูโนว?”


“โอเคครับ เอาบรรยากาศก็เอาบรรยากาศ”


ถึงจะพูดแบบนั้นแต่พอเอาเข้าจริงๆพวกมันก็พากันเขมือบอย่างกับห่าลงอยู่ดี ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงเบียร์ลังแรกก็อันตรธานหายไปเป็นที่เรียบร้อย พอเริ่มเข้าลังที่สองที่สามจากที่คุยกันสียงดังอยู่แล้วก็ยิ่งดังเข้าไปใหญ่ และคนที่ดูเหมือนจะไปก่อนใครเพื่อนก็คงไม่พ้นไอ้อิฐ เพราะมันเล่นยกเอาๆไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมเรียกได้ว่าเหล้าทั้งกลมมันแทบจะกินคนเดียวเลยก็ได้


“ไอ้สิบไปย่างกุ้งมาเพิ่มดิ” ไอ้ปืนที่นั่งอยู่ข้างๆกันเริ่มออกปากใช้ สังเกตเห็นว่าแก้มมันเริ่มแดงหน่อยๆเพราะซัดเบียร์เข้าไปไม่น้อย เดือนสิบเดินแยกออกมาย่างกุ้งให้มันอย่างว่าง่าย เพราะยังไงงานนี้เขาก็ฟรีจะทำดีบริการคนออกตังค์อย่างมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว


“เดี๋ยวพี่ช่วย” เสียงทุ้มคุ้นเคยของคนที่ไม่ได้คุยกันมาตั้งแต่เย็นดังขึ้นจากทางด้านหลัง พอหันไปมองก็เห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มละไมมาให้


“เมารึเปล่าครับเนี่ย”


“ไม่เมาหรอก รอเก็บศพพวกที่เหลือดูแต่ละคนกินแล้วไม่น่ารอด” เดือนสิบยิ้มกว้าง ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆแล้วเขยิบให้อีกฝ่ายเข้ามายืนเคียงข้างกันอยู่หน้าเตา


“แล้วเราไม่กินหรือไง เห็นยกแต่โค้ก”


“ไม่ครับ รอเก็บศพพวกนั้นช่วยพี่ไง” ว่าแล้วก็ยิ้มตาหยีใส่จนอีกฝ่ายทนไม่ไหวต้องเลื่อนมามาโยกหัวเบาๆ


“ยิ้มหวานใส่กันแบบนี้ใจพี่สั่นหมด”


“หยอดอีกแล้ว” ทำใจกล้าจ้องสบตาคมอ่อนเชื่อม แต่แค่ครู่เดียวก็ต้องเลื่อนมาจดจ้องอยู่ที่แผ่นอกกว้างแทนเพราะสู้สายตาไม่ไหว …มองนานๆแล้วใจมันหวิวไปหมด


“เขินแล้วน่ารักว่ะ ไหนมาฟัดทีดิ” ไม่ว่าเปล่า พี่มันยังคว้าตัวเขาเข้าหาแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ก่อนจะปล่อยออกเร็วๆจนไม่ทันได้ตั้งตัว พอรู้ตัวอีกทีฝ่ายนั้นก็ยืนกอดอกดวงตาพราวระยับหัวเราะร่วนไปซะแล้ว


“เฮ้ย! พี่ยุทธทำไรเนี่ย เดี๋ยวเหอะ” คนถูกชโมยหอมแก้มโวย ตากลมลอกแลกมองกราดไปยังกลุ่มเพื่อนที่นั่งกินเหล้าอยู่ไม่ไกล ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าไม่ทันมีใครได้หันมาสนใจ


 “ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ” ไม่วายหันกลับมาดุใส่คนเป็นพี่เสียงเข้ม


“รังเกียจหรอ”


“เปล่าครับ ผมแค่ตกใจนิดหน่อย อีกอย่างพวกเพื่อนๆก็อยู่เยอะ” ถ้าถูกล้อขึ้นมาเขาก็ไม่รู้ว่าจะปั้นหน้ายังไงแค่นั้นเอง


“สิบไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าเราคบกันหรอ” แต่ดูเหมือนอีกคนจะคิดไปคนละทาง


ถามว่ากลัวไหมถ้าพวกนั้นจะรู้ว่าเขากับรุ่นพี่คนนี้เป็นอะไรกันก็คงตอบได้เลยว่าไม่ แต่เขาแค่ไม่ชอบความรู้สึกเวลาโดนล้อเท่านั้นเอง มันทำให้วางตัวไม่ถูกจนเผลอๆจะกลายเป็นอึดอัดกันไปเสียเปล่าๆ …เป็นนิสัยที่แก้ไม่หายเลยจริงๆ


“เปล่าครับ.. ผมแค่กลัวว่าพวกมันจะล้อ”


“โทษที แต่เมื่อกี้มันอดใจไม่ไหวจริงๆ”


“ไม่เป็นไรครับ”


“คราวหน้าพี่จะระวัง”


“ครับ.. เอ้ยไม่ดิ! ไม่มีคราวหน้าแล้วครับ ห้าม ห้ามเด็ดขาดเลย” ไม่ว่าเฉยแต่ถึงขั้นทำไม้ทำมือเป็นรูปกากบากอีกต่างหาก


“ไม่รู้ไม่ชี้” ทว่าคนถูกห้ามกลับตีมึน แกล้งทำเป็นหน้านิ่งไม่สนใจทั้งที่ดวงตาพราวระยับดูเจ้าเล่ห์


“พี่ยุทธ!”


“ก็ชอบมาทำน่ารักใส่” คนฟังย่นคิ้ว เริ่มคิดว่านั่นมันไม่ใช่เหตุผลรึเปล่า


“ผมเปล่า”


“ทำ”


“เปล่า”


“เนี่ย ที่กำลังเถียงนี่ก็น่ารักจนอยากจับมาฟัดอีกรอบแล้ว”


“โอ้ย พอเลยครับ กลับไปนั่งที่เลยไม่ต้องมาช่วยผมแล้ว” พอเถียงไม่ได้ก็เริ่มเอาเสียงเข้มขึ้นข่ม แล้วทำหน้าตาขึงขังทั้งที่แก้มแดงแปร๊ดแบบนั้นคิดว่ามันน่ากลัวนักหรือไง …น่ารักจะบ้า!


“ขนาดตอนโมโหก็ยังน่ารัก”


“ทำไมถึงได้เป็นคนแบบนี้เนี่ย”


“แกล้งโมโหก็น่ารัก” ได้ทีไอ้คนชอบแกล้งก็หยอดไม่ยั้ง ยิ่งเห็นตากลมกรอกลิ้งทำอะไรไม่ถูกก็ยิ่งอยากจะจับมาฟัดให้มันรู้แล้วรู้รอด


“กวนประสาท”


“ตอนด่าก็ยังน่ารัก”


“โอ้ยพี่ยุทธ! พอแล้วครับ เลิกแกล้งได้แล้วไม่งั้นผมจะโกรธจริงๆแล้วนะ” ทำหน้าขึงขังแถมยังกอดอกฉับจ้องเขม่ง ท่าทางเอาจริงจนคนขี้แกล้งหลุดหัวเราะอย่างอารมณ์ดี อดใจไม่ไหวจนต้องเลื่อนมือไปขยี้กลุ่มผมนุ่มด้วยความเอ็นดู บ่งบอกว่าตาขวางๆนั่นไม่ได้ทำให้เขาเกรงกลัวเลยซักนิด


.

.


“มีแอบหอมกงหอมแก้ม อย่าคิดว่ากูไม่เห็นนะสัด” กลับมานั่งที่ได้ไม่เท่าไหร่ไอ้หินที่นั่งอยู่ข้างๆกันก็เข้ามากระแซะทันที ยุทธนาเหล่มองเพื่อนสนิทก็เห็นว่ามันมองมาอย่างล้อๆ แต่ถามว่ามีอารมณ์เขินอายไหมก็คงตอบได้เลยว่าไม่


“ตาดี” มันหัวเราะในลำคอ ยื่นเหล้าที่ไอ้เบ้นเพิ่งชงเสร็จมาให้


แกร๊ง!


เสียงแก้วกระทบกันเบาๆก่อนที่ตาคมจะหันไปมองคนที่ถือกุ้งจากใหญ่เดินเข้ามา ยุทธนาซ่อนรอยยิ้มภายใต้แก้วเหล้าที่ถืออยู่ หากแต่แววตาพราวระยับกลับจับจ้องไม่ปิดบัง …ยิ่งเห็นเจ้าตัวเขินจนหวิดจะสะดุดขาตัวเองล้มก็ยิ่งนึกอยากแกล้ง


“เป็นไรวะ ทำหน้าเหมือนอั้นขี้” เสียงของไอ้ปืนทำเอาคนหน้าง้ำเพราะกำลังกลั้นเขินจาการถูกจ้องจนเดินขาแทบขวิดหันมามองตาขวาง กระแทกกุ้งจานใหญ่ไว้ตรงหน้าเพื่อนสนิทก่อนจะทิ้งตัวลงข้างมันแรงๆอย่างระบายอารมณ์ ..หมายถึงอารมณ์เขินของตัวเองเนี่ย


“ไอ้สัด” ด่าใครไม่ได้ก็ลงที่มันนี่แหละ


“เอ้า กูถามดีๆโดนด่าเฉย”


“เฮอะ!”


“น่ะ! สรุปเป็นไรไหนเล่าให้พี่ปืนฟังสิครับ” มันไม่ว่าเปล่า ยังวาดแขนมาล็อกคอเขาเข้าหาอีกต่างหาก


“ห่าปืน! กูจะตายก่อนเพราะมึงนี่แหละ ล็อกมาได้แรงควายขนาดนี้”


“อื้อหือ.. ปากคอช่างเราะร้าย เดี๋ยวปั๊ดจับจูบ” มันโน้มหน้าเข้ามาใกล้ กลิ่นเหล้าเหม็นหึ่งจนต้องดันหน้าออก จังหวะที่เผลอไปสบเข้ากับตาวาวๆของคนที่เพิ่งเดินกลับมานั่งที่ก่อนหน้านี้ อยู่ดีๆก็รู้สึกเสียวสันหลังวูบจนต้องสะบัดตัวออกจากเพื่อนสนิทแรงๆ


“ก็เหี้ยละ! ปล่อยดิ๊ อึดอัด”


“ตกลงเป็นไร หรือโกรธที่กูใช้ไปย่างกุ้ง” ไอ้ปืนคลายแขนออกแต่ก็ยังไม่วานพาดไว้บนบ่าเขาอยู่ดี แต่ไอ้ที่ไม่ดีคือตัวเขาเองนี่
แหละ ไม่รู้จะกังวลอะไรนักหนากับอิแค่ตาคมๆที่มองมาราวกับไม่ชอบใจคู่นั้น…


ไหนจะประโยคที่ดังขึ้นซ้ำๆในหัวนี่อีก


‘หึง หึงมาก หึงจนจะบ้าอยู่แล้ว’ แค่คิดก็หน้าร้อนแทบจะไหม้แล้ว เดือนสิบสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่าน เลิกสบตาคมที่ชอบทำให้รู้สึกร้อนๆหนาวๆแล้วหันมามองเพื่อนสนิทแทน …อย่างน้อยมองหน้าไอ้ปืนก็ไม่ทำให้รู้สึกหน้าร้อนจนแทบไหม้ล่ะนะ


“อือ จริงๆแล้วกูอยากไปญี่ปุ่นมากกว่า”


“…ห่ะ?” ไม่รับมุขเขาอีก


“วุ้ยย เบื่อมึงว่ะ” ไอ้ปืนทำหน้างงแต่เขาเลิกสนใจ พาลใส่มันเสร็จก็คว้าแก้วเหล้ามันมายกด้วยซะเลย ถือเป็นการหลบเลี่ยงตาคมๆของใครบางคนไปด้วยแบบเนียนๆ รสขมเฝือนของเหล้าที่เรียกได้ว่าถ้าจะแดกเข้มขนาดนี้ไม่ต้องชงดีกว่าทำเอาต้องเบ้หน้า ไอ้ปืนพอเห็นท่าทางของเพื่อนสนิทก็หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี คว้าแก้วตัวเองคืนก่อนจะร้องบอกไอ้เบ้นเอาเบียร์มาให้


“อ่อนๆอย่างมึงแดกแค่เบียร์ก็พอ” คนถูกปรามาสว่าอ่อนถึงกับย่นจมูก แต่จะเถียงก็เถียงได้ไม่เต็มปากเพราะที่เพื่อนว่ามามันก็จริง


แกร๊งๆๆๆ


เสียงช้อนกระทบแก้วจากรุ่นพี่ปีสามอย่างปกรณ์เรียกให้ทุกคนบนโต๊ะหันไปจับจ้อง พอเห็นว่าทุกคนสนใจหมดแล้วพี่มันก็เริ่มออกปาก


“เนื่องในวาระที่พวกเราสอบเสร็จและมีโอกาสได้มาร่วมฉลองด้วยกัน..”


“มึงจะอารัมภบททำไมเชี่ยป้อง รีบๆพูดมาได้แล้วเสียเวลาพวกกูแดกเหล้า” คนตั้งใจจะสร้างบรรยากาศถึงกับมองเพื่อนตาขวาง เรียกเสียงโห่ฮาจากคนเริ่มเมาทั้งโต๊ะ


“สัดหินแม่งชอบขัด” บ่นให้เพื่อนเสร็จก็กลับมาทำหน้าระรื่น “คืองี้เว้ย นานๆทีพวกกูจะมีโอกาสได้มากินเหล้ากับรุ่นน้องใช่ป่ะ..”


“ไม่อ่ะพี่ ก่อนสอบพี่ยังไปนั่งก๊งกับพวกผมอยู่เลย”


“เชี่ยตู่! ไอ้ห่า ใครขัดอีกทีกูโดดขาคู่ใส่จริงๆนะแม่ง” พี่มันบ่นหน้ายุ่งๆเรียกเสียงโห่ฮาจากคนทั้งโต๊ะได้อีกครั้ง ด้วยความสงสารที่พี่มันต้องตะโกนพูดแข่งกับทั้งเสียงคนและเสียงเพลงที่เปิดดังสนั่น ไอ้มอสที่รับหน้าที่เป็นคนคุมเครื่องเสียงเลยหรี่เสียงเพลงลงให้


“งั้นเชิญพี่ป้องพูดต่อเลยครับ”


“คือเทอมหน้าพวกกูก็ต้องออกไปฝึกงานแล้วใช่ม่ะ อาจจะยุ่งจนไม่มีเวลามานั่งแดกเหล้ากับพวกมึงอีก กูเลยคิดว่าเราน่าจะหาเกมอะไรที่มันจะช่วยให้พูดถึงความรู้สึกที่มีต่อกันได้โดยไม่ต้องมีความเขินอายมาเล่น”


“ไม่เห็นต้องเล่นให้ยุ่งยากเลยพี่ ผมบอกตอนนี้ก็ยังได้ไม่เขินด้วย”


“มันไม่ได้อารมณ์ไงไอ้ห่า มันต้องลุ้นๆแบบเกมหมุนขวดไรงี้ แบบขวดตกที่ใครคนนั้นก็มีสิทธ์ถาม”


“เออน่าลุ้นดีงั้นผมเอาด้วย”


“เออเอาด้วยๆ”


มีต่อ

.
.
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 05-02-2017 17:35:53
.

.

เมื่อหลายเสียงเห็นพ้องต้องกันก็เริ่มเคลียร์ของกินบนโต๊ะให้ว่างโล่งเพื่อจะได้มีพื้นที่สำหรับเล่นเกมหมุนขวด จากตอนแรกที่ต่อโต๊ะเป็นแนวยาวก็ขยับเข้ามาเป็นสี่เหลี่ยมเพื่อที่จะได้เล่นกันอย่างทั่วถึง เดือนสิบนั่งข้างไอ้ปืนถัดไปเป็นไอ้จอม พี่พีท ไอ้ตู่ ไอ้อิฐ พี่ป้อง ไอ้มอส ไอ้เบ้น ไอ้อ๋อง พี่หิน และพี่ยุทธที่ถือโอกาสตอนขยับที่ทางเปลี่ยนมานั่งข้างๆเขาจากที่ตอนแรกนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม


“งั้นเริ่มที่กูเป็นคนหมุน กติกาคือขวดชี้ใครคนนั้นมีสิทธิ์ถาม และคนที่โดนถามก็ต้องตอบห้ามมีบิดพริ้ว”


“แล้วถ้าใครไม่อยากตอบอ่ะพี่”


“วันช็อต!” พี่มันยกแจ็คแดเนียลที่ไม่รู้ว่าแอบไปเอามาจากไหนขึ้นมาตั้งเด่นเป็นสง่าไว้กลางโต๊ะ เรียกความสนใจจากพวกทโมนที่ห่างหายจากเหล้าราคาแพงมองตามตาวาว


“หูยย พี่ป้องแม่งซุ่มว่ะ”


“ซุ่มห่าไร กูเตรียมไว้เพื่อนงานนี้โดยเฉพาะโว้ย”


เมื่อตกลงกติกากันได้ปกรณ์ที่เป็นตัวตั้งตัวตีก็เริ่มหมุนขวดและผู้โชคดีคนแรกคือไอ้อิฐที่เริ่มตาปรือเพราะซัดแสงเข้าไปไม่น้อย มันยิ้มเผล่ก่อนจะเริ่มกวาดสายตามองไปรอบๆวงเพื่อนหาเป้าหมาย กระทั่งสายตาไปหยุดอยู่ที่รุ่นพี่ปีสามหนึ่งในพี่ว๊ากที่เคยเล่นงานมันไว้เจ็บแสบ


“พี่หิน”


“กู?” คนโดนเรียกชี้นิ้วเข้าหาตัวเองแล้วเลิกคิ้วมองไอ้เด็กหัวเกรียนอย่างขำๆ ตาแทบจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้วมันยังอุตส่าห์นั่งคอแข็งแดกต่อได้ …นับถือ


“พี่เคยจูบกับผู้ชายไหมครับ”


“เชี่ย..” แค่คำถามแรกก็เรียกเสียงโห่ฮาจากพวกทโมนทั้งหลายได้อย่างครื้นเครง คนถูกถามหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทที่กำลังหัวเราะเป็นบ้านเป็นหลังตาขวาง


“ถามแบบนี้ก็ได้หรอวะเชี่ยป้อง ไหนมึงบอกเอาเรื่องความรู้สึกที่มีต่อกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องไง”


“ได้หมดถ้าสดชื่นครับเพื่อน ถามอะไรก็ได้ไม่มีเกี่ยงแล้วมึงก็ต้องตอบตรงๆแบบจริงๆห้ามโกหกด้วย ไม่งั้นหมา ฮ่าๆๆ”


“ห่าเอ้ย”


“เอ้ารีบๆตอบมาดิพี่ หรือถ้าป๊อดจะวันช็อตก็ได้นะผมไม่ถือ” ไอ้เด็กหัวเกรียนได้ทีเร่งยิกๆ


ฮิ้ววว วู้วๆๆ


“พี่หินยอมหรอพี่”


“เออกูเคย!”


ฮุ้วววววว


“ไม่ธรรมดาๆ ฮ่าๆ” ไอ้อิฐหัวเราะร่าอารมณ์ดีทันทีเมื่อได้คำตอบสมใจ และเพราะพี่หินเป็นคนถูกถามรอบนี้พี่มันเลยได้รับโอกาสให้เป็นคนหมุนขวด


“เชี่ย!” ไอ้จอมถึงกับอุทานหน้าตื่นเมื่อปากขวดไปหยุดลงต่อหน้ามัน


“มึงจะตกใจทำไมเชี่ยจอม มึงเป็นคนถามมึงต้องดีใจไอ้ห่า”


“โทษๆ เมื่อกี้ลุ้นเยอะไปหน่อยจนเผลอจำสลับกัน” มันว่ายิ้มๆ ก่อนจะเริ่มกวาดสายตาหาเป้าหมายบ้าง ซึ่งแต่ละคนที่มองกลับมาล้วนแล้วแต่ส่งสายตาประมาณว่า ‘อย่าถามกูนะมึงๆ’ แทบทั้งนั้น


“ไอ้ปืน”


“ไอ้ห่า! มึงก็เล่นใกล้จังเนาะ” ไอ้คนตกเป็นจำเลยบ่นๆแต่ก็รอฟังคำถามอย่างตั้งใจ


“เอาเลยครับเพื่อนจอม มึงอย่าให้คำถามน้อยหน้าไอ้อิฐครับ จัดหนักๆ”


“มึงคิดยังไงตอนถูกพี่พีทจูบวะ”


ไอ้สัด! แทบสำลักน้ำลายเมื่อได้ยินคำถาม


 “เชี่ยจอม!.. ถามห่าไรของมึงเนี่ย ไม่มีจูบเจิบห่าอะไรทั้งนั้นแหละ มันเป็นแค่อุบัติเหตุเฉยๆโว้ย”


“กูไม่สนครับ ที่สนคือความรู้สึกมึงตอนนั้นต่างหาก ตอบมาครับอย่าลีลา ให้ไวๆ”


“เอ้าตอบไปครับเพื่อนปืน เราชายชาติทหารกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ฮ่าๆๆ”


“ไม่ตอบนี่หมาเลยนะเชี่ยปืน” ไอ้พวกนี้ก็บิวท์จัง เดือนสิบเหล่มองเพื่อนสนิทพลางสะกิดให้มันรีบตอบยิกๆเพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน ถึงจะนึกเคืองมันอยู่บ้างนิดหน่อยที่ไม่ยอมเล่าให้ฟังก็เถอะ แต่ไม่เป็นไรเขาค่อยไปซักมันเอาทีหลับก็ได้ ไอ้ปืนถอนหายใจยาวก่อนจะยอมตอบออกมาทั้งที่หน้าแดงก่ำ


“…ดี”


“อะไรนะ พูดดังๆหน่อยดิวะ มึงเห็นไหมว่าเพื่อนนั่งหน้าสลอนรอเสือกอยู่เนี่ย”


“กูบอกว่าก็นุ่มดีไงไอ้เหี้ย!”


ฮิ้วววววววววว วู้วววๆๆๆ


“พี่พีทอย่าไปยอมๆ สู้มันกลับหน่อยพี่ สู้มันๆ” ไอ้ปืนได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกราดมองเพื่อนตาขวาง กระทั่งสายตาไปปะทะเข้า
กับคนที่ตกเป็นจำเลยร่วมกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ ฝ่ายนั้นยกมุมปากขึ้นนิดๆ ไม่ได้มีท่าทีขวยเขินหรือไม่พอใจอะไร


“ถ้าอยากได้แบบไม่ใช่อุบัติเหตุก็ไปหากูที่ห้องคืนนี้ละกัน”


“ฮิ้ววววววววววว เอาเว้ยๆๆ”


“เชี่ยปืนแม่งโดนน ยอมหรอครับ ยอมหรอๆๆ“


“พอเลยพวกมึงหุบปากได้แล้ว รอบต่อไปตากูหมุนใช่ไหม เชี่ยจอมเอาขวดมา”


“หู้ยย มีโมโหกลับเกลื่อนว่ะ”


“มึงก็ยังจะเป็นไปกับพวกมันด้วยเนาะ” ไอ้ปืนผลักหัวเพื่อนสนิทที่กำลังหัวเราะจนตาหยี ด้วยความที่ไม่ทันได้ยั้งแรงเลยส่งผลให้ร่างเล็กกว่าเอนไปหาใครอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ จนหัวกระแทกเข้ากับไหล่กว้างดังโป๊ก


“เชี่ยปืน! ผลักมาได้ …เจ็บ”


“สม” มันไม่สนใจแล้วยังกลับไปหมุนขวดต่อหน้าตาเฉย เดือนสิบหน้าง้ำก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือเย็นๆมาแตะบริเวณหน้าผากที่โดนโขกไปเมื่อกี้ จริงๆมันไม่ได้เจ็บมากมายขนาดนั้นแต่รู้สึกตกใจมากกว่า พอหันไปมองก็เห็นว่าตาคมๆกำลังจ้องอยู่พอดี เล่นเอาหน้าร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุจนต้องหลุบตามองแผ่นอกกว้างแทน


“เอ้าๆ มัวแต่สวีทกันอยู่นั่น ขวดชี้ไปหามึงแล้วครับเชี่ยยุทธ กรุณาสนใจเกมกูด้วย” เสียงจากรุ่นพี่ตัวเล็กทำเอาเดือนสิบสะดุ้งอีกรอบ ตากลมลอกแลกอย่างตื่นๆก่อนจะหลุบต่ำหลบสายตานับสิบคู่ที่จ้องมา


เสียงกระแอมจากคนข้างตัวดังขึ้นเบาๆก่อนที่มือหนาจะผละออกไปช้าๆ ไม่มีแววเก้อเขินหรือประหม่าใดๆนอกจากใบหน้านิ่งสนิทและตาคมที่มองกราดหาเป้าหมาย จริงๆเขาไม่ได้มีคำถามอะไรที่อยากจะถามใครเป็นพิเศษ ส่วนกับคนที่มีก็คิดว่าถามตรงนี้คงไม่เหมาะ


“เปลี่ยนจากคำถามเป็นคำสั่งได้ไหมวะ”


“เรื่องเยอะนะมึงอ่ะ” ไอ้ตัวต้นคิดบ่น ทว่าสายตากลับมองเพื่อนสนิทอย่างรู้ทัน


“สรุปได้ไม่ได้?”


“เออ ได้ครับ เอาที่มึงสบายใจเลยอยากสั่งอะไรใครก็เอาตามนั้น”


“โหยย แบบนี้ก็ได้หรอวะพี่ เกิดมีใครสั่งให้ไปทำอะไรแผลงๆงี้ก็แย่ดิ” ไอ้ตู่โอด โดยมีซาวเสียงจากอีกหลายๆคนโห่รับเป็นลูกคู่


“ถ้าไม่ทำพวกมึงก็วันช็อตไงครับ ง่ายจะตาย เอ้าไอ้ยุทธต่อเลย มึงอยากสั่งใครให้ทำอะไรจัดเลยเพื่อน”


“งั้นกูขอสั่งให้ไอ้พีท… สลับห้องนอนกับเดือนสิบ”


“เฮ้ย! ได้ไงอ่ะพี่” เป็นไอ้ปืนที่ลุกขึ้นโวยวายหน้าตั้ง ขณะที่เพื่อนสนิทเองก็อ้าปากหวอเพราะช็อคค้างกับคำสั่งที่มีชื่อตัวเองเข้าไปเอี่ยวด้วยอย่างตั้งใจ ทุกคนในกลุ่มคล้ายจะยังงงๆกับคำสั่งแปลกๆ แต่นั่นก็ไม่สู้คำตอบรับจากคนที่ถูกสั่งโดยตรง


“กูตกลง!”

.

.


เวลาล่วงมาจนเกือบถึงตีหนึ่ง ไอ้พวกที่แค่กรึ่มๆในตอนแรกก็เริ่มพากันเลื้อยระเนระนาด ข้าวของบนโต๊ะถูกทยอยเก็บกวาดจากคนที่ยังพอมีสติอยู่บ้าง อันได้แก่ตัวเขาเอง พี่ยุทธ พี่พีท พี่หิน และไอ้อ๋อง ส่วนพวกที่เหลือไม่ต้องถาม โต๊ะเก้าอี้คืออะไรไม่สนใจเพราะพวกมันได้ลงไปกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นแล้วเรียบร้อย ไอ้ปืนเองก็ไม่ต่างเพราะตั้งแต่เล่นเกมหมุนขวดแล้วเถียงไม่ชนะมันก็ยกเอาๆจนในที่สุดก็สติหาย เลื้อยไปกองอยู่ข้างๆไอ้จอมแล้วแหกปากร้องเพลงกันเสียงดังลั่น


“เอาไงดีครับพี่” ไอ้อ๋องหาวหวอดปรือตามองสภาพเพื่อนแต่ละคนแล้วได้แต่ส่ายหัวอย่างอนาถใจ


“เริ่มจากไอ้พวกบ้านใกล้ก่อนแล้วกัน” ศิลาบอกก่อนจะเข้าไปช่วยพยุงไอ้อิฐขึ้น มันส่งเสียงอ้อแอในลำคอฟังไม่ได้ศัพท์มือก็ฟาดสะเปะสะปะไปตลอดทาง เห็นแบบนั้นเดือนสิบเลยเข้าไปช่วยพยุงไอ้ปืนขึ้นมาบ้างโดยมีพี่ยุทธเข้ามาช่วย เพราะไอ้ปืนตัวใหญ่กว่าเขาเยอะให้แบกมันคนเดียวก็คงเอาไม่ไหว กระทั่งแบกเพื่อนเข้าห้องจนหมดทุกคนรายต่อมาที่ต้องคิดหนักก็คงไม่พ้นเดือนสิบ คิ้วเรียวสวยขมวดยุ่งจนคนที่ยืนอยู่ข้างๆกันสังเกตได้


“เครียดอะไรฮึ?” ไม่ว่าเปล่าแต่ยังเลื่อนมือมานวดๆระหว่างคิ้วหวังให้มันคลายลงอีกต่างหาก


“เปล่าครับ” เดือนสิบตอบสั้นๆ ก่อนจะเผลอเม้มปากเข้าหากันอย่างไม่ตั้งใจ จะให้บอกได้ไงว่าเขากำลังเครียดเรื่องที่พี่มันออกคำสั่งไว้เมื่อตอนเล่นเกม


“เปล่าก็ไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าได้แล้วครับ ป่ะ เดี๋ยวพี่เดินไปเป็นเพื่อน” นี่ก็รีบไปอีก จะทำเป็นลืมๆไปหน่อยก็ไม่ได้ แล้วอะไรคือมองเขาตาพราวขนาดนั้น …ที่สำคัญคือตัวเขาเนี่ย หน้าร้อนอีกแล้ว


“ไม่เป็นไรครับ อยู่ใกล้แค่นี้เดี๋ยวผมไปเองก็ได้พี่เข้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ” อย่างน้อยๆถ้าไปคนเดียวก็ยังมีเวลาเตรียมใจล่ะว่ะ ทว่า..


“สิบจะไปเก็บของหรอ พอดีเลยเดินไปพร้อมพี่ ป่ะ!” พี่พีทที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพอดีเดินออกมาพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ท่าทางดูไม่ทุกไม่ร้อนที่ต้องไปนอนกับรุ่นน้องที่เพิ่งผ่านการจูบ? ไม่สิ ต้องเรียกว่าปากกระแทกปากกันมาอย่างไอ้ปืนเลยซักนิด
ผลสุดท้ายเขาก็ต้องเดินมาเก็บเสื้อผ้าพร้อมพี่พีท เปิดประตูเข้ามาได้ก็เจอร่างควายๆของไอ้ปืนนอนแผ่หมดสภาพ เสื้อผ้าถูกถอดทิ้งระแกะระกะเหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวเดียวติดกาย


“อุจาดตาจริงๆ” คนที่เดินเข้ามาด้วยกันบ่นเบาๆก่อนจะเดินไปคลี่ผ้าห่มโยนคลุมให้มันลวกๆ จากนั้นก็เดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงอีกหลังที่อยู่ข้างๆกัน “เก็บของตามสบายเลยนะ ออกตอนไหนก็ล็อกห้องให้พี่ด้วยละกัน” สั่งเสร็จก็ล้มตัวลงนอนคลุมโปงทันที เล่นเอาไอ้คนที่ตั้งใจไว้ว่าจะใช้เวลาเก็บของเพื่อทำใจเป็นต้องรีบยัดของใส่กระเป๋ารีบๆเพราะกลัวว่าถ้าอยู่นานจะกลายเป็นรบกวนเวลานอนของพี่มัน


ยืนทำใจอยู่หน้าบ้านพักหลังสุดท้ายก่อนจะค่อยๆผลักประตูเข้าไปในที่สุด แต่พอเดินเข้ามาเจอประตูห้องนอนเดือนสิบก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่ ความประหม่าเกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ เพียงแค่คิดว่าคืนนี้ต้องนอนร่วมห้องกับพี่มันใจเจ้ากรรมก็ดันเต้นผิดจังหวะขึ้นมาซะอย่างนั้น


ก็อกๆๆ


เงียบ…


พอลองเคาะอีกทีแล้วเห็นว่าคนข้างในยังเงียบอยู่เขาเลยถือวิสาสะค่อยๆเปิดประตูเข้าไป ไม่เห็นร่างสูงคุ้นตาอยู่ในนั้นทว่าเสียงน้ำกระทบพื้นที่ดังลอดออกมาก็พอจะทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้หน่อย เดือนสิบวางกระเป๋าไว้บนเตียงอีกหลังที่ว่างอยู่แล้วเริ่มเอาของที่ยัดไว้ลวกๆออกมาจัดเข้าตู้เสื้อผ้า สภาพห้องนี้ไม่ต่างกันกับห้องของเขากับไอ้ปืนนัก คือมีสองเตียงเดี่ยวหนึ่งตู้เสื้อผ้าแล้วก็อีกหนึ่งโต๊ะเครื่องแป้ง


แกร๊ก!


เสียงกลอนประตู้ลั่นทำให้มือที่กำลังจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ชะงัก เขาเผลอเม้มปากเมื่อหางตาเหลือบไปเห็นว่าร่างสูงกว่ากำลังเดินออกมา ยิ่งเสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้เท่าไหร่ก้อนเนื้อในอกก็คล้ายจะยิ่งทวีจังหวะมากขึ้นเท่านั้น


กึก!


เดือนสิบแทบจะกลั้นหายใจเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายมายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง …ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รินรดต้นคอ


“ไปอาบน้ำได้แล้วครับ” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ก่อนที่สัมผัสเย็นชืดจะเฉียดผ่านทำให้ร่างเล็กกว่าหันมามองอย่างตกใจ แต่เมื่อหันมาแล้วเจอกับใบหน้าคมคายในระยะประชิดเดือนสิบก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด


ปึก!


ตากลมเบิกกว้าง เมื่อเสียงประตูตู้เสื้อผ้าถูกปิดลงด้วยน้ำมือของคนตัวสูง แขนแข็งแรงอยู่ห่างจากหน้าเขาไปแค่คืบขณะที่ใบหน้าคมคายโน้มต่ำเข้าหาจนเหลือพื้นที่ว่างระหว่างกันไม่ถึงฟุต และดูเหมือนว่าระยะห่างจะถูกย่นเข้ามาเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด


“พะ.. พี่ยุทธ”


“หืมม..” เดือนสิบเผลอกลืนน้ำลายอย่างฝืดๆ อยากผลักไสอีกฝ่ายให้ออกห่างแต่เมื่อสบเข้ากับตาคมวาววับเรี่ยวแรงก็คล้ายว่าจะหายไปเสียดื้อๆ กระทั่งระยะห่างร่นลงมาเหลือเพียงแค่คืบถึงได้ทำให้กล้ายกมือขึ้นมาดันแผ่นอกแกร่งไว้ ทว่าผิวเนื้อเปลือยเปล่าและเย็นเฉียบก็ทำเอาต้องหลับตาปี๋ ตัวสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้


ยุทธนาลอบยิ้มร้าย มองคนในอ้อมกอดกลายๆที่เหมือนจะตัวสั่นนิดๆหากแต่มือยังดันอกเขาไว้แน่น กลีบปากสีสดเม้มเข้าหากันในขณะที่เรียวคิ้วสวยขมวดยุ่ง ยิ่งเขาขยับเข้าใกล้ แกล้งผ่อนลมหายใจอุ่นๆรินรดแก้มใสมากเท่าไหร่รอยย่นระหว่างคิ้วก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น…. ตาคมกวาดมองทั่วใบหน้าเนียน แพขนตาหนาขยับยุกยิกทาบทับผิวแก้มใสดูไม่เป็นสุข กลีบปากแดงเรื่อที่เขาเคยสัมผัสมาแล้วครั้งหนึ่งกำลังเม้มแน่นจนต้องเลื่อนมือไปแตะแล้วคลึงเบาๆให้คลายออกเพราะกลัวว่ามันจะช้ำไปซะก่อน ผลที่ได้คือน้องสะดุ้งเฮือกเผลอจิกเล็บลงบนอกเขาจนเจ็บจี้ด


“เจ็บนะ..” เขาแกล้งกระซิบชิดใบหูขาว เฉียดริมฝีปากผ่านบางเบาหากแต่เรียกขนกายอีกฝ่ายให้ลุกฮือ


ยุทธนาถึงกับลมหายใจสะดุดเมื่อน้องเผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างประหม่า ก้อนเนื้อในอกสั่นไหวรุนแรงจนต้องผ่อนลมหายใจยาวเพื่อระงับสติอารมณ์ …เป็นคนอยากแกล้งน้องแท้ๆ แต่ทำไมรู้สึกเหมือนผลกรรมมันมาตกที่ตัวเอง ยิ่งตากลมค่อยๆเปิดปรือขึ้นทีละน้อย จ้องสบตากับเขาอย่างกล้าๆกลัวๆ หัวใจก็คล้ายว่าจะหยุดเต้น ในสมองขาวโพลนไปชั่วขณะ


 “จูบได้ไหม”


“พี่ยุทธ…”


“นะครับ..”


“คือ.. อ๊ะ อื้อ!” ความอดทนขาดสะบั้นเพียงแค่เห็นน้องเผลอแลบเลียริมฝีปากอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาสอดแขนรอบเอวบางแล้วดึงรั้งเข้าหา ก่อนที่อีกข้างจะสอดเข้าประคองท้ายคอยสวยจับให้ใบหน้าแหงนเงยแล้วกดแนบริมฝีปากเข้าทาบทับ สัมผัสเพียงแผ่วเบาในทีแรกก่อนจะค่อยๆไล่เล็มความนุ่มละมุนช้าๆ ขบกัดสลับดูดดึงเบาๆอย่างปลอบประโลม เดือนสิบไม่ได้ผลักใสหากแต่ก็ไม่ได้ตอบรับในทีเดียว น้องหลับตาปี๋ มือบางเกร็งแน่นอยู่บนต้นแขนเขาก่อนที่ยุทธนาจะเป็นคนจับให้มันพาดผ่านรอบลำคอแกร่ง


“ฮื้ออ..” เสียงครางแผ่วหลุดรอด เมื่อปลายลิ้นชื้นเริ่มรุกล้ำเข้าหา กลีบปากอิ่มถูกดูดกลืนซ้ำๆโดยไม่มีทีท่าว่าอีกคนจะยอมถอยห่าง ปลายลิ้นชื้นสอดลึก เกี่ยวกระหวัดเข้ากับลิ้นเล็กไม่ประสาอย่างเอาแต่ใจคล้ายไม่อาจควบคุม ยิ่งรับรู้ว่าปลายลิ้นเล็กขยับตอบสนองอย่างเก้กังก็ยิ่งกระตุ้นสัญชาตญาณดำมืดให้ลุกฮือ


“สิบ..” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชิดริมฝีปากเมื่อผละออกให้น้องได้หายใจ พร้อมๆกับที่จมูกโด่งได้รูปกดลงมาขโมยความนุ่มนิ่มอย่างอดใจไม่ไหว รั้งกายเล็กเข้าแนบชิดก่อนจะเข้าดูดกลืนความหวานล้ำที่เพิ่งผละห่างอีกครั้ง และอีกครั้ง ไม่รู้เบื่อ


“อื้ออ..” เผลอจิกเล็บเข้าที่ลำคอหนายามรู้สึกถึงสัมผัสอุ่นร้อนที่ละลาบละล้วงเข้ามาลูบไล้ผิวเนื้อด้านใน ก้อนเนื้อในอกสั่นระรัวเมื่อฝ่ามือสากระคายเคลื่อนผ่านสะโพกสวย บีบคลึงสลับลากไล้แผ่วเบาสะเปะสะปะคล้ายคนทำเริ่มสติเลือนหาย เดือนสิบหน้าตื่นเมื่ออีกคนจงใจเบียดสะโพกเข้าหา อีกทั้งกลีบบางยังถูกดูดกลืนอย่างเอาแต่ใจพยายามขยับกายหนีสัมผัสร้อนระอุที่เคลื่อนผ่าน หากแต่แขนแกร่งกลับล็อกไว้แน่นหนา


“ฮ้า! ..พี่ยุทธ อย่ะ!..อื้อ!” แรงจิกทึ้งบริเวณไหล่กว้างเปลือยเปล่าคล้ายไม่ช่วยอะไรเมื่ออีกฝ่ายเริ่มหน้ามืด มือหนาจับช้อนใบหน้าเนียนให้แหงนหงายเพื่อรับจูบร้อนแรงที่เขาป้อนให้อย่างถนัดถนี่ บดเคล้าเอาแต่ใจไม่สนแม้กระทั่งแรงจิกข่วนรุนแรง เสียงสะท้อนในหัวมีเพียงความต้องการที่ตะโกนก้องร้องหาทางปลดปล่อย มือหนาลากผ่านผิวเนื้อเนียน ฟอนเฟ้นหนักหน่วงอย่างเอาแต่ใจคล้ายไม่ไอ้สติ จูบซับกลีบปากบางที่เริ่มบวมช้ำ ผิวแก้มเนียน และกำลังจะเลยเถิดไปยังซอกคอขาว ….ยุทธนาไม่รู้เลยว่าเขาควรจะหยุดมันที่ตรงไหน


“อย่าครับ! ไม่เอาแบบนี้!!”


หากแต่เดือนสิบรู้


น้องตัวสั่นเทิ้มทั้งที่ควรจะผละออกแต่กลับโอบกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าน่ารักซุกแนบเข้ากับอกกว้างเปลือยเปล่าหลบหนีการรุกรานเอาแต่ใจ แผ่นอกยังคงสะท้อนขึ้นลงหนักหน่วงเพื่อกอบโกยเอาอากาศที่ถูกช่วงชิงเนิ่นนานกลับมา เสียงสั่นพึมพำด้วยประโยคเดิมซ้ำๆว่าไม่เอา ไม่ทำแบบนี้ดังก้องสะท้อนในหัว ก่อนที่มันจะซึมลึกเข้าไปกระตุกใจคนฟังให้ได้สติ ท่าทางหวาดกลัวหากแต่กอดรัดเขาไว้แน่นราวกับเป็นที่พึ่งสุดท้าย …นี่เขาทำอะไรลงไป


“ขอโทษ พี่ขอโทษ..” กอดรัดคนในอ้อมแขนแน่นขึ้นพลางเอ่ยบอกซ้ำๆ ฝ่ามือที่เคยรุกรานให้ได้หวาดกลัวก่อนหน้ากำลังลูบไล้แผ่วเบาที่กลุ่มผมนุ่มเพื่อปลอบประโลม ยอมรับความผิดทุกอย่างที่ทำให้น้องต้องหวาดกลัวเพียงเพราะความไม่รู้จักหักห้ามใจของตัวเอง เป็นแบบนี้ทุกครั้ง ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งอยากสัมผัส และพอได้สัมผัสก็ยิ่งทวีความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด..


“อย่าทำแบบนี้อีกได้ไหมครับ อย่าบังคับผม” เสียงหวานเอ่ยอู้อี้เพราะยังไม่ยอมเงยหน้าจากอกกว้าง น้ำเสียงยังคงสั่นพร่าหากยิ่งตอกย้ำว่าเขาเองที่เป็นฝ่ายบังคับน้อง เป็นเขาเองที่ทำให้น้องหวาดกลัว


“พี่ขอโทษ.. จะไม่ทำแล้ว จะไม่บังคับ”


“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่ยังฟังผม” อ้อมแขนเล็กกระชับกอดแน่นขึ้น แนบหน้าเข้าหาอกกว้างตามแรงรั้งหลับตาซึมซับเสียงหัวใจที่คล้ายจะเต้นแผ่วลง


.
.


เวลาเกือบชั่วโมงในห้องน้ำคล้ายจะไม่ได้ช่วยอะไรเมื่อเปิดประตูออกมาแล้วเจอคนที่นั่งทำหน้าเครียดอยู่บนเตียง ตาคมฉายแววสำนึกผิดเงยขึ้นสบกันเมื่อเห็นว่าเขาเดินออกมา รู้สึกประหม่านิดหน่อยกับการจับจ้องทุกย่างก้าวหากแต่ความอุ่นใจก็มากขึ้นเหมือนกันเมื่อเห็นว่าอย่างน้อยคนตรงหน้าก็ยังฟังคำขอของเขาอยู่บ้าง…


“เช็ดผมให้หน่อยได้ไหมครับ” เพราะแววตาสำนึกผิดและท่าทางเหมือนไซบีเรียนตัวโตที่กำลังหูลู่หางตก เดือนสิบเลยเลือกที่จะเดินไปทิ้งตัวลงข้างๆอีกฝ่าย ยกขาขึ้นนั่งขัดสมาธิแล้วหันหลังให้ ใบหน้าคมคายฉายแววแปลกใจในทีแรกหากเสี้ยวต่อมาก็กลายเป็นยิ้มกว้าง แล้วรีบกุลีกุจอซับผมให้เขาอย่างเบามือ


“พี่ขอโทษนะ” ประโยคเดิมเมื่อเกือบชั่วโมงก่อนหน้าถูกเอ่ยออกมาอีกครั้ง เดือนสิบยิ้มจางก่อนจะส่ายหัวไปมาเบาๆ


“ไม่เป็นไรครับ แล้วก็เลิกขอโทษผมได้แล้ว”


“ขอโทษ..”


“ฮื้ออ พอแล้วครับ ถ้าขอโทษอีกทีจะโกรธจริงๆแล้วนะ” ตากลมหันมาจ้องเขม่ง เล่นเอาร่างสูงถึงกับถอนหายใจเฮือกอย่างอ่อนใจ …ก็เพราะชอบทำตัวน่ารักแบบนี้ไง เขาถึงได้สติหลุดทุกครั้งที่เข้าใกล้


“ครับ.. ไม่พูดแล้วครับ” ยุทธนาบรรจงเช็ดผมให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ ปล่อยให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบพลางลอบสังเกตเสี้ยวหน้าเนียนใสเป็นระยะ เจ้าตัวเปิดปากหาวอยู่หลายครั้งขณะที่ดวงตาเริ่มปรือปรอยเมื่อเขาเช็ดผมให้จนหมาดแล้วเปลี่ยนมาเป็นนวดขมับให้เบาๆ


รอยยิ้มอ่อนโยนถูกจุดขึ้นที่มุมปากได้รูปแทบทุกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายอ้าปากหาวหวอด ร่างเล็กที่เริ่มสติหลุดลอยถูกเขาดันให้เอนมาพิงอกกว้าง ก่อนจะวาดแขนโอบรอบเอวบางไว้หลวมๆ เจ้าตัวเองก็ว่าง่ายจับให้อยู่ท่าไหนก็อยู่ท่านั้น ปล่อยให้เขาได้บีบนวดตามสบาย ผ่านไปซักพักพอก้มมองอีกทีก็เห็นว่าเปลือกตาปิดสนิทลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอไปแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นคนหลับง่ายหรือง่วงมากๆกันแน่ แต่ดูท่าแล้วน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า


ยุทธนาจับให้น้องนอนดีๆ ก่อนจะลงมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงเพื่อจ้องมองใบหน้าเนียนใสที่ดูเหมือนจะนวลกว่าปกติ เพราะถูกแสงจันทร์สาดลอดผ่านผืนผ้าม่านตกกระทบ เรียวคิ้วสวยไม่หนาไม่บางหากแต่รับกันดีกับโครงหน้าเรียว ขนตาหนายาวเป็นแพยิ่งพอหลับตาพริ้มแบบนี้เลยมองเห็นเป็นเงาตกกระทบผิวแก้ม จมูกที่แม้จะไม่ได้โด่งมากนักแต่กลับดูเหมาะเจาะเข้ากับรูปหน้าเรียวเล็ก กลีบปากอิ่มรูปกระจับสีอ่อนจางที่มักจะเผลอเม้มเข้าหากันทุกครั้งเมื่อรู้สึกประหม่าหรือเขินอาย …ใบหน้าที่เขานึกถูกใจตั้งแต่แรกเห็นเมื่อครั้งเข้าเป็นพี่ว๊าก เดือนสิบไม่ใช่เด็กกิจกรรม น้อยครั้งมากที่เขาจะเห็นน้องมาเข้าห้องเชียร์ มีรุ่นพี่หลายคนจ้องจะเอาเรื่องแต่เพราะเขาขอไว้พวกนั้นเลยไม่ติดใจ เจ้าตัวถึงได้รอดพ้นการถูกลงโทษมาจนทุกวันนี้


และถึงแม้ว่าจะทำงานหนัก แต่ผิวเนื้อทุกส่วนกลับดูนุ่มนิ่มไม่ต่างจากคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี จะมีก็แต่มือเล็กๆที่หยาบกร้านจนสัมผัสได้ และผิวเนื้อตามแขนขาที่มีรอยแผลเป็นเล็กๆอยู่ประปรายที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเจ้าตัวผ่านการทำงานมาอย่างหนัก แล้วไหนจะนิสัยที่ดูเหมือนใจอ่อนง่ายจนน่าอ่อนใจนี่อีก ทั้งที่เขาดึงดันเอาแต่ใจตัวเองจนเกือบจะหน้ามืดจับเจ้าตัวปล้ำแล้วแท้ๆ แทนที่จะโกรธกลับเป็นฝ่ายเข้ามาออดอ้อนเสียเอง เฮ้ออ.. ไม่รู้จะทำให้หลงไปถึงไหน


…นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เขาเอาแต่นั่งจ้องหน้าน้องอยู่อย่างนั้น กระทั่งอีกฝ่ายครางฮือขยับปากจนเกิดเสียงดังจ๊อบแจ๊บเบาๆแล้วขยับเปลี่ยนท่านอนให้สบายขึ้น หลุดยิ้มขำกับท่าทางน่าเอ็นดูนั่นก่อนจะยื่นมือไปเกลี่ยแก้มใสเบาๆเพราะอดใจไม่ไหว เลื่อนตัวขึ้นกดจูบเบาๆบนหน้าผากเนียนส่งท้าย ก่อนจะหักใจผละออกมาล้มตัวนอนลงบนเตียงอีกฝ่ายแทน และเป็นอีกครั้งที่เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เขาเอาแต่นอนจ้องหน้าน้องจนเผลอหลับไป…


******


  :กอด1: :กอด1:


หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Duangjai ที่ 05-02-2017 18:49:54
ฝากกอดด้วยยยยย

 :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 05-02-2017 18:50:10
 :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 05-02-2017 19:35:31
พี่ยุทธทำตามที่น้องสิบขอตลอดเลย
ดีค่ะ o13 o13
รักน้องสิบให้มากๆ นะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 05-02-2017 19:59:21
น่ารักทั้งน้อง
น่ารักทั้งพี่
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 05-02-2017 21:29:52
พี่ยุทธดีมากกอ่ะ คนน้องก็น่ารัก
 :กอด1: :กอด1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 05-02-2017 21:40:55
เป็นเอามากนะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 05-02-2017 22:15:40
 :-[ :o8: :m1: :m3:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-02-2017 22:32:27
แหมๆ......พี่ยุทธ ฉลาดนะ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เล่นสั่งให้พีท สลับห้องนอนกับเดือนสิบ
พี่ยุทธ น่ารัก ยังฟังเดือนสิบ
ไม่เอาแต่ใจตัวเอง
ว่าแต่พี่พีท กับปืน จะเป็นไงนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 05-02-2017 22:42:43
พี่ยุทธคือหลวน้องหนักมากอ่ะ ดีนะเดือนสิบไม่โกรธ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 05-02-2017 22:54:12
คู่นี้ไม่โดน รอคู่โน่นดีกว่า น่าจะไม่รอ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 05-02-2017 23:01:12
ใจเย็นค่ะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-02-2017 23:17:47
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 05-02-2017 23:51:55
เกือบไปแล้ว,,,
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 06-02-2017 07:00:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-02-2017 10:08:44
 :-[

มีง้อกันเล็กๆด้วย
พี่ยุทธจะททนได้ไหม

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 06-02-2017 10:48:48
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 06-02-2017 15:51:06
พี่ยุทธใจเย็นนนน
น้องน่ารักมากก มีง้อเองด้วยวุ่ยย  :o8:
เฝ้าจอรอบ้านโน้นค่ะ
  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: XVIII.88 ที่ 06-02-2017 22:43:10
อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะพี่ยุทธ
ตอนสุกน่ะผลมันจะหวานม๊ากกกกกกกกกกก มากกกกกกกกก  :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 07-02-2017 02:00:36
ใจเย็นๆค่ะพี่ยุทธธธ
อดเปรี้ยวไว้กินหวานดีกว่า คิคิ
รอคู่ปืนกับพี่พีท
 :o8: :o8:
:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 07-02-2017 08:47:05
ดีแล้วน้องสิบ อย่าไปยอมง่ายๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 08-02-2017 13:53:58
รอติดตามมมมมม
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 09-02-2017 00:26:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 11 Up. [05/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 09-02-2017 00:47:35
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 09-02-2017 16:50:17

12


แสงแดดอ่อนจางลอดผ่านผ้าม่านพลิ้วไหวตกกระทบร่างหนาบนเตียง เปลือกตาเริ่มขยับยุกยิกก่อนจะเปิดปรือขึ้นในที่สุด เขากลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ อาการปวดตุบๆในหัวจนต้องขมวดคิ้ว กรอกตามองเหดานสีเหลืองอ่อนไม่คุ้นตา แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนอนอยู่ที่ไหนก็ค่อยๆปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง พลิกตัวหนีแสงแดดกะว่าจะงีบต่ออีกสักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิดก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่ามีใครบางคนนั่งอยู่บนเตียงข้างๆ


“พี่พีท!!” ไอ้ปืนยันตัวขึ้นนั่งด้วยความเร็วแสงโดยไม่คำนึงว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันชวนวาบหวิวขนาดไหน ผิดกับอีกฝ่ายที่มีท่าทีสบายๆไม่ทุกข์ร้อน แถมยังอาบน้ำอาบท่าแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วอีกต่างหาก


“ตกใจห่าไรของมึง” พูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆอย่างปกติ ก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวแล้วกลับมานั่งเท้าคางจ้องรุ่นน้องเต็มๆตา ถึงหน้าจะดูง่วงๆหากแต่แววตากลับดูเต้นระริกเป็นประกายแปลกๆ เล่นเอาไอ้คนถูกจ้องชักร้อนๆหนาวๆ พอก้มมองสารร่างตัวเองก็พบว่ามีเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวติดกาย …ถึงว่าล่ะ แม่งเย็นไข่วาบเลย


“ก็ใครบอกให้พี่มานั่งจ้องผมแบบนี้ล่ะ” ไอ้ปืนคว้าผ้าห่มมาคลุมช่วงล่างไว้แล้วเงยหน้าเถียง ทว่าฝ่ายนั้นกลับไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ


“หุ่นมึงน่าฟัดดี”


“ห๊ะ!?” คนฟังตาเหลือกแทบถลน กระถดเข่าขึ้นมาปิดบังร่างกายปานสาวน้อย …แต่เดี๋ยวนะ! ถ้าพี่มันมาอยู่ที่นี่งั้นก็แสดงว่าเพื่อนเขา… ชิบหายละ!


“ไอ้สัด ทำตัวเป็นสาวน้อยไปได้ ลุกไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้วไป๊ เห็นสภาพมึงนานๆเดี๋ยวกูทนไม่ไหว” ดวงตาเรียวสวยปรายมองไล่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเล่นเอาไอ้ปืนถึงกับผวามือกุมผ้าห่มแน่น จำต้องสลัดความคิดเรื่องเพื่อนสนิทออกไปก่อนเพราะตอนนี้ต้องหันมาห่วงสวัสดิภาพ(ใจ)ของตัวเองซะก่อน …ไหนจะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จุดขึ้นที่มุมปากสวย ก่อนที่อีกฝ่ายจะผุดลุกขึ้นยืนกอดอกแล้วเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ รังสีคุกคามแผ่กระจายจนเผลอกลืนน้ำลายเอื๊อก


“พี่จะทำอะไรวะ” เขามองพี่มันอย่างระแวงมือกำผ้าห่มแน่นขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆเหมือนจะเกร็งขึ้นมาซะเฉยๆ ทั้งๆที่พี่มันก็ตัวเล็กนิดเดียวไม่ได้ดูมีพิษสงอะไรให้ต้องหวั่นใจเลยซักนิด ..ถ้าไม่นับรวมตาสวยๆนั่นน่ะนะ


“มึงคิดว่ากูควรจะทำอะไรดีล่ะ อยู่กันสองคน ในห้องสองต่อสอง ในสภาพ..” พี่มันยิ้มร้าย วางเข่าข้างหนึ่งพาดขึ้นมาบนเตียงแล้วหรี่ตามองทั่วร่างกายส่วนบนที่เปลือยเปล่าของเขา ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่? “ล่อแหลมแบบนี้”


“เชี่ย.. พี่อย่าเข้ามานะโว้ย ผมสู้จริงๆนะ!” ไอ้ปืนถึงกับอกสั่นขวัญแขวน มือนึงกุมผ้าห่มไว้แนบอกแน่นขณะที่อีกมือยกขึ้นมาตั้งการ์ดพร้อมสู้?


“หืมมอะไรกัน.. มึงจะทำร้ายกูได้ลงคอจริงๆน่ะหรอ” ไอ้ปืนอยากจะทึ่งหัวตัวเองตายก็วันนี้แหละ อะไรคือการยื่นหน้าง่วงๆนั่นเข้ามาใกล้ อะไรคือมาทำตาแบ๊วใส่ คิดว่าตัวเองน่ารักมากหรือไงวะ! ห่าเอ้ยยย


…แต่ประเด็นคือน่ารักมากไง! น่ารักจนใจสั่นหมดละเนี่ย!


“พี่ถอยไปเลยนะเว้ย” ไอ้ปืนบอกเสียงสั่น พยายามไม่มองตาสวยๆคู่นั้นเพื่อเป็นการบังคับจิตใจไม่ให้เผลอสั่นไหวเป็นสาวน้อยไปมากกว่านี้ ท่องไว้ไอ้ปืน มึงชอบผู้หญิง มึงชอบผู้หญิง ต่อให้น่ารักขนาดไหนก็ไม่เด็ดขาด ไม่เต็ด…ขาด


“ทำไมอ่ะ.. รังเกียจกูหรอ กูไม่น่ารักพอรึไง หืมม?” ว่าอย่างเดียวไม่พอยังมาเอียงคอสี่สิบห้าองศาพร้อมยิ้มละมุนละไมส่งมาให้ในระยะประชิดอีกต่างหาก


อยากจะระเบิดตัวเองตาย อ้ายสาดดดดด! กูโดนมนุษย์ง่วงแอทแทค!


ไอ้ปืนได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ ไม่คิดว่าคนหน้าง่วงๆที่เห็นเอาแต่ลอยไปลอยมาในคณะดูไร้แก่นสารจะมีพลังทำลายล้างหนักมากขนาดนี้ แต่ไอ้ที่หนักสุดก็คงจะเป็นใจเขานี่แหละ จะเต้นอะไรเบอร์แรงขนาดนี้วะ!


“พี่เป็นเกย์รึไงวะถึงได้มาอ่อะ… เอ่อ มาทำแบบนี้ใส่ผมอ่ะ”


“นี่มึงหาว่ากูกำลังอ่อยมึงอยู่หรอ” พี่พีททำหน้าขึงขัง


“แล้วแบบนี้บ้านพี่ไม่ได้เรียกว่าอ่อยรึไง”


“เออ ก็อ่อย” เอ้า!


“นี่พี่เป็นเกย์จริงๆใช่ไหมวะ” ฝ่ายนั้นทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ก่อนจะโดดขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเตียงเดียวกัน เล่นเอาไอ้ปืนถึงกับสะดุ้งโหยงถดตัวห่างไปจนชิดหัวเตียง ไอ้เหี้ย.. ตกใจจนไข่สั่น..


“กูกำลังคิดอยู่” ตอบออกมาหลังจากเงียบไปชั่วครู่ จนไอ้คนที่แอบไข่สั่นอยู่เงียบๆถึงกับงง


“ห๊ะ?”


“ก็กำลังคิดอยู่ไงว่าจะเป็นเกย์ดีไหม” พี่มันว่าพลางทำหน้าครุ่นคิด


“แบบนี้ก็ได้หรอวะพี่” ถามไปแล้วก็แทบสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเล่นตบเข่าฉาด ไม่พอยังขยับเข้ามาใกล้จนตัวแทบจะเกยขึ้นมาอยู่บนเท้าเขา นี่ถ้าไม่ได้นั่งถดเข่าไม่แน่ว่าพี่มันอาจจะถึงขั้นโดดขึ้นมานั่งบนตักก็เป็นได้… ถุ้ย!


“เอ้ามึงนี่! มันก็แหงสิวะ จะเป็นทั้งทีกูก็ต้องคิดให้มันเยอะๆหน่อย ต้องดูด้วยว่าถ้าเป็นแล้วกูจะได้คุ้มกับที่เสียไหม” พี่มันทำหน้าจริงจัง แต่ไอ้คนฟังชักเริ่มมึน


“แล้วสรุปพี่เป็นป่ะเนี่ย?” พี่พีทเงียบไปชั่วครู่พลางไล่สายตามองไอ้ปืนตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกรอบ นิ้วชี้เคาะกับปลายคางเบาๆขณะครุ่นคิด เล่นเอาไอ้ปืนชักใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองจะลุ้นไปด้วยทำไมทั้งๆที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับพี่มันด้วยเลย สนิทกันรึก็ไม่


“ถ้าเป็นแล้วได้งานดีแบบมึงมันก็น่าเป็นอยู่นา”


“ห๊ะ!?” ไอ้ปืนถึงกับร้องเสียงหลง เขามองพี่มันอย่างอึ้งๆ


“ตกใจห่าไร คิดว่าหล่อแล้วจะทำหน้าเหี้ยๆแบบนี้ก็ได้หรอ” ไม่ว่าเปล่ายังจิ้มจึกๆลงมาบนหน้าเขาอีกต่างหาก


“เอ้า!”


“เอ้าKไรอีก” ไอ้ปืนได้แต่เกาหัวแกรกๆมองคนตรงหน้างงๆ ชักเริ่มไม่เข้าใจว่าในหัวพี่มันกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ กล้าพูดอะไรแบบนั้นออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยกับคนที่ไม่สนิทกันนี่คือพี่มันยังปกติดีอยู่หรือเปล่าวะ


 “วุ้ย! คุยกับพี่แล้วปวดหัวว่ะ ผมไปอาบน้ำดีกว่า” ว่าแล้วก็ชิ่งกระโดดลงจากเตียงด้วยความเร็วแสง จริงๆคืออยากอยู่ให้ห่างจากพี่มันมากกว่า เผลอจ้องตาทีไรเป็นต้องเผลอใจสั่นทุกที ..แต่ยังไม่ทันพ้นสามก้าวก็ต้องเบรกเอี๊ยดเพราะประโยคที่หลุดมาจากปากคนที่นั่งเท้าคางอยู่บนเตียง


“ให้กูไปช่วยถูหลังไหม”


“ห๊ะ!?” ไอ้ปืนถึงกับหันขวับตาแทบถลนอีกรอบ ทว่าฝ่ายนั้นกลับทำแค่กรอกตาแล้วทำหน้าเซ็งๆ มองเขาราวกับกำลังเอือมระอานักหนา แต่ขอโทษเถอะเมื่อกี้พี่มันเพิ่งบอกว่าจะเข้าไปช่วยถูหลังให้เขาอยู่รึเปล่า


“นี่มึงหูตึงหรอ?”


“ผมเปล่า”


“แล้วมึงจะห๊ะๆอะไรตั้งหลายรอบ หรือกูพูดไม่เคลียร์ตรงไหน”


“ก็พี่บอกว่าจะเข้าไปช่วยถูหลังให้ผมอ่ะ”


“ก็ใช่ไง บ้านมึงรวยดี” คนฟังแทบจะร้อง ‘ห๊ะ!’ ขึ้นมาอีกรอบเมื่อได้ยินหัวข้อใหม่ที่ถูกลากเข้ามาอย่างงงๆ


“เดี๋ยวนะพี่ แล้วไอ้ถูหลังนี่มันเกี่ยวอะไรกับบ้านผมรวยไม่รวยวะ” อันนี้หาแกทเชื่อมโยงไม่ได้จริงๆ ให้ตายเถอะ


“ก็เผื่อถูๆไปมึงอดใจไม่ไหวจับกูปล้ำทำเมียขึ้นมากูก็จะได้สบายไง แบบอยู่ดีๆก็มีผัวรวยเฉย ฟังดูแล้วคลูโคตรๆอ่ะ เอามะ?”


ก็ดีนะพี่.. ดีห่าอะไรล่ะครับ แหม!


อยากจะถอนหายใจเป็นจังหวะสามช่า สาบานทีว่าไอ้ปืนกำลังคุยกับคนจริงๆไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวจากโลกไหนใช่ไหม ทำไมยิ่งคุยมันยิ่งไปกันใหญ่แบบนี้วะ แล้วอะไรคือมาทำตาใสๆใส่ คิดว่าตัวเองคัพเวอร์เป็นปิกัสอยู่รึไง …ดูดิแอบใจสั่นเลยเนี่ย!


“โอ้ยย! พี่แม่มโคตรบ้าเลยว่ะ ผมไม่คุยด้วยละแม่ง ประสาทจะกิน” ไอ้ปืนทึ่งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่งบ่นพึมพำฟังไม่ได้ศํพท์ก่อนจะหักใจหลบตาใสๆนั่น แล้วเดินกระแทกเท้าตึงตังเข้าห้องน้ำไป เป็นการจบบทสนทนาที่หาแก่นสารอะไรไม่ได้ …ส่วนไอ้ที่ได้ก็มีแต่จังหวะเต้นที่แปลกไปของหัวใจเขานี่แหละ อาเมน!


…แต่ถึงอย่างนั้น เสียงบ่นเบาๆจากคนข้างนอกก็ยังไม่วายเล็ดลอดเข้ามาให้ได้ยินอยู่ดี


“กูคิดการไกลเฉยๆก็ผิดด้วย”


ไอ้ปืนอยากจะบ้า


.
.


“ไอ้สิบ!” ปืนแทบจะถลาเข้าไปหาเพื่อนสนิทเมื่อเดินออกจากห้องมาแล้วเห็นมันนั่งจุ้มปุกอยู่หน้าบ้าน มันเหลือบตามองเขานิดๆก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามทำนองว่า ‘เป็นห่าไรของมึง’ แทนปากที่ไม่ว่างเพราะกำลังติดพันกับหลอดดูดน้ำมะพร้าวตรงหน้า “มึงโอเคไหมวะ ไม่บุบสลายตรงไหนใช่ไหม ยังไม่ตกเป็นเมียพี่มันใช่ป่ะ ไหนให้กูจับดูดิ ตรงนี้เจ็บไหม” ว่าจบมันก็คว้าหมับเข้าที่สะโพกสวยด้วยความเร็วแสงเล่นเอาอีกคนโวยลั่น


“โอ้ย! ห่าปืน อะไรของมึงเนี่ย กูโอเค กูสบายมาก ไม่ได้เจ็บปวดตรงไหนเลย เอามือมึงออกไปดิ๊ แล้วก็ขยับออกไปด้วยเบียดจนกูจะตกเก้าอี้อยู่ละเนี่ย” เดือนสิบบ่นยาว พลางปัดมือหนาๆของมันที่ถือวิสาสะเข้ามาจับนั่นจับนี่เยอะไปหมดออก


“แน่นะ” ไอ้ปืนกวาดสายตามองเพื่อนสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้าอีกรอบ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อไม่พบร่องรอยใดๆที่น่าสงสัย โยกหัวทุยสวยของมันไปมาสองสามทีแล้วถึงได้ยอมขยับห่างออกมาในที่สุด


“เออสิ มีแต่มึงนั่นแหละ เมื่อคืนเมาเป็นหมาเลยรู้ป่ะ ทั้งคลานสี่ขาแถมยังเห่าบ็อกๆไปทั่วหาดเลย สภาพโคตรอนาถอ่ะ”


“เวอร์ละๆ” ไอ้ปืนผลักหัวเพื่อนสนิทที่เห็นท่าว่าเช้านี้จะดูสดใสเป็นพิเศษเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำเอาอีกคนถึงกับเซถลาจนหลอดที่คาบอยู่ในปากหลุดออก เดือนสิบหันมามองเพื่อนสนิทตาขวาง ตอนแรกก็ว่าจะแค่แกล้งพูดให้มันอายตัวเองเล่นๆนะถึงมันจะคลานจริงก็เถอะ แต่ตอนนี้ชักเริ่มหมั่นไส้.. ขอกูแกล้งต่ออีกหน่อยเถอะ


“จริ๊งง ไม่เชื่อมึงลองไปถามพี่พีทดิ กูเห็นถ่ายทั้งคลิปถ่ายทั้งรูปไว้เต็มเลย” เดือนสิบทำหน้าจริงจัง ไม่รู้หรอกว่าพี่มันถ่ายไว้จริงรึเปล่า แต่ก็แอบเห็นว่าเมื่อคืนพี่พีทมียกโทรศัพท์ขึ้นมาจดๆจ้องๆไอ้พวกที่เมาเป็นหมาอยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน


“ว่าไงนะ!” ตกใจเบอร์แรงมาก ทว่าอีกคนก็ใช้สกิลหน้านิ่งตอบโต้ได้แบบไม่มีพิรุธ


“รูปกับคลิปไง เต็มเลย”


“ไม่ใช่ดิ มึงว่าใครเป็นคนถ่ายนะ”


“พี่พีทไง มึงตื่นมาไม่เจอหรอก็เมื่อคืนนอนด้วยกัน”


“ก็เจอ แต่ไม่เห็นว่าพี่มันจะพูดถึงเรื่องนี้นี่หว่า …แม่งเอาพูดแต่เรื่องอะไรก็ไม่รู้” ประโยคหลังได้แต่พึมพำกับตัวเองเบาๆ


“ป่านนี้เอาไปลงเฟสบุ๊คหมดแล้วม้าง” ลงจริงไม่จริงรึเปล่าเดือนสิบไม่รู้หรอก แต่เห็นหน้าเครียดๆของไอ้ปืนแล้วตลกดีเลยอดแหย่ไม่ได้


“ก็เหี้ยละ” เดือนสิบหัวเราะร่า เมื่อเห็นว่าไอ้ปืนหน้าตาตื่นรีบกุลีกุจอล้วงโทรศัพท์ออกมาเช็ดความเคลื่อนไหวบนเฟสบุ๊ค คิ้วมันขมวดยุ่งปากก็บ่นขมุบขมิบไม่หยุดขณะเลื่อนดู


“ไหนดูด้วยดิ” เห็นมันสบถคำหยาบออกมาหลายรอบจนอดใจไม่ไหวต้องชะโงกหน้าเข้าไปดูหน้าจอสี่เหลี่ยมในมือมันด้วย พอเห็นเท่านั้นแหละ เดือนสิบแทบจะปล่อยก๊ากอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะว่าพี่มันถ่ายไว้และเอาลงจริงๆด้วย


“อื้อหือ รูปนี้โคตรน่าเกลียดอ่ะ ฮ่าๆๆ” เจ้าตัวว่าพลางชี้หน้าจอโทรศัพท์ที่ตอนนี้เป็นรูปไอ้ปืนกับไอ้จอมกำลังคลานสี่ขาหันหน้าเข้าหากัน แถมไอ้จอมยังทำท่าแยกเขี้ยวอีกต่างหาก เดือนสิบหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีขณะดูรูปที่ไอ้ปืนมันเลื่อนเปิดไปเรื่อยๆ
ผิดกับไอ้คนที่เป็นส่วนหนึ่งในรูปที่ตอนนี้หน้าดำหน้าแดงจนแทบจะพ่นไฟได้ มันไม่ได้มีแค่รูปเดียวไง แต่พี่พีทแม่งเล่นลงไว้เป็นอัลบั้มเลยสาด แล้วภาพลักษณ์หล่อๆเท่ห์ๆที่เขาอุตส่าห์สั่งสมมานี่คืออะไร?


“โอ๊ะ!” ไอ้คนที่กำลังหัวเราะร่วนถึงกันอุทานออกมาเบาๆ เมื่อมีมือปริศนาจากไหนไม่รู้ยื่นมาจับหน้าผากแล้วรั้งให้ออกห่างจากเพื่อนสนิทจนหัวทุยสวยแนบไปกับหน้าท้องแกร่ง ส่วนไอ้ปืนพอเห็นว่าเป็นใครก็หันไปยกมือไหว้เงียบๆก่อนจะกลับมาเลื่อนอ่านคอมเม้นในโทรศัพท์ต่อ พลางคร่ำครวญในใจว่า ‘ชิบหายแล้วภาพลักษณ์กู’


“ทำอะไรกัน” เสียงคุ้นเคยทว่าตอนนี้กลับฟังดูดุกว่าทุกครั้งดังขึ้นเหนือหัว เดือนสิบเลยโคลงหัวเล็กน้อยให้อีกฝ่ายคลายมือออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นว่าเป็นใครก็หลุดยิ้มกว้าง จนคนมองอดใจไม่ไหวต้องแกล้งขยี้กลุ่มผมนุ่มให้หายหมั่นเขี้ยว …ดูสดใสจริงนะ


“ดูรูปเมื่อคืนครับ พี่พีทเอาลงเต็มเลยโคตรตลก” เอ่ยตอบเสียงใสก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปดูใหม่ ทว่าอีกคนกลับไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้น มือหนาแนบเข้าที่หน้าผากเนียนอีกครั้งก่อนจะรั้งให้เอนซบกับหน้าท้องแกร่งไม่ยอมปล่อย


“อะไรครับ?” ไอ้คนน้องก็ไม่รู้เรื่อง เงยหน้ามองพี่ตาแป๋ว จนไอ้ปืนที่อุตส่าห์ทำเป็นนั่งเงียบ(จริงๆคือกำลังหัวร้อน)ต้องส่งสีเยงกระแอมเบาๆ เหล่ตามองก็เห็นว่ารุ่นพี่ปีสามยืนหน้านิ่วคิ้วขมวด ดูก็รู้ว่าไม่ชอบใจที่เห็นเขาใกล้ชิดกับไอ้สิบเกินจำเป็น โธ่ ก็แค่หัวชนกันเบาๆเองเปล่าว้า.. ผิดกับเพื่อนเขาที่ยังทำหน้างงๆ เห็นแล้วก็อยากแกล้งให้คนมาดหลุดอยู่เหมือนกันติดแต่ตอนนี้ไม่มีอารมณ์


“พวกที่เหลือไปไหนกันหมดวะ” ไอ้ปืนเก็บโทรศัพท์ก่อนจะถามถึงเพื่อนคนอื่นๆเพราะตั้งแต่ออกมาก็ไม่เห็นใครซักคน มีแต่ลูกมะพร้าวสองสามลูกที่เหลือวางไว้ให้ดูต่างหน้า


“โน่นอ่ะ คึกอะไรไม่รู้ตื่นมาก็พากันโดดลงทะเลเลย” เดือนสิบพยักพเยิดไปทางกลุ่มเพื่อนที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่ไกลๆ เขาไม่ลงไปด้วยเพราะอาบน้ำแล้ว อีกอย่างคือพวกนี้เล่นกันแรงมากกลัวว่าถ้าลงไปเล่นด้วยแล้วจะโดนแกล้งแรงๆ แต่อีกเหตุผลจริงๆคือเดือนสิบว่ายน้ำไม่เป็นต่างหาก


“ไปกันหมดเลยหรอวะ”


“ฮึ มีไอ้จอม ไอ้ตู่ ไอ้อ๋อง พี่ป้อง แล้วก็พี่พีทเพิ่งตามไปก่อนหน้ามึงจะออกมานี่เอง” ไอ้ปืนพยักหน้าตามก่อนจะหลุดขมวดคิ้วเมื่อได้ยินชื่อสุดท้าย


“แล้วพวกที่เหลืออ่ะ”


“โดนพี่หินลากไปตลาด เห็นบอกว่าอยากทำกับข้าวกินเอง”


“อ่อ งั้นกูไปหาพวกไอ้จอมดีกว่า ไปนะพี่” ว่าจบมันก็เดินจ้ำออกไปทันที ปล่อยให้เพื่อนสนิทได้แต่มองตามงงๆ กระทั่งคนที่ยืนเงียบมานานทรุดตัวนั่งลงข้างๆ แถมยังจ้องเอาๆไม่พูดไม่จาจนเดือนสิบอดไม่ได้ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถาม


“อะไรครับ?”


“ตื่นก่อนก็ไม่ยอมปลุกกันเลยนะ” ไม่ว่าเปล่า ยังยื่นมือมาโยกหัวเขาไปมาอีกต่างหาก …แล้วถามมาได้ ใครมันจะไปกล้าปลุกกัน เล่นนอนหลับตาพริ้มแถมมีอมยิ้มนิดๆราวกับกำลังฝันหวานขนาดนั้น ไหนจะเรื่องเมื่อคืนอีก แค่คิดก็หน้าร้อนแล้ว


“ก็เห็นกำลังนอนสบายเลยนี่ครับ ไม่รู้ว่ากำลังฝันถึงสาวที่ไหนอยู่รึเปล่าเลยไม่อยากปลุก” ยุทธนามองคนที่ทำใจกล้าเอ่ยแซวแต่กลับไม่ยอมหันมามองหน้ากันแล้วก็ได้แต่ยิ้มบาง แซวเองเขินเองก็ได้เนอะคนเรา


“สาวที่ไหนกันฮึ ถ้าฝันถึงคนนี้ก็ว่าไปอย่าง” มือวางลงบนกลุ่มผมนุ่ม ก่อนจะขยี้เบาๆ “ไม่ใช่ฝันธรรมดาด้วยนะ”


“หือ?” คนที่แสร้งดูดน้ำมะพร้าวซ่อนรอยยิ้มเขินเหล่มอง


“ฝันเปียก” ทว่าคำตอบกลับนิ่งๆของอีกฝ่ายเล่นเอาเดือนสิบถึงกับสำลักน้ำมะพร้าว ไอโขลกหน้าดำหน้าแดงจนคนขี้แกล้งต้องรีบเข้าไปช่วยลูบหลังลูบไหล่แทบไม่ทัน ทั้งขำทั้งสงสารระคนเอ็นดู


“โอ้ยยพี่ยุทธ.. ทะลึ่งแล้วครับ” คนที่เพิ่งไอเสร็จหันมามองค้อนทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ ยิ่งเห็นตาวาวๆของอีกฝ่ายหน้าก็ยิ่งแดงขึ้นไปอีก


“หึๆ ก็มันจริง”


“ยังไม่หยุดอีก พอเลยครับแล้วก็ไม่ต้องมายิ้มแบบนี้เลย”


“ยิ้มยังไงฮึ?” ถามไปแต่ปากก็ยังไม่ยอมหุบยิ้ม


“ก็ยิ้มแบบนี้อ่ะ โคตรจะผู้ร้ายเลย” เดือนสิบย่นจมูกใส่ หมั่นไส้จนเผลอจิ้มปลายจมูกอีกคนไปเบาๆ กระทั่งสบเข้ากับตาวาวๆนั่นแหละถึงได้รีบชักมือกลับ หน้าร้อนไปหมด


“ก็ไม่ได้อยากจะเป็นพระเอก” ว่าพลางจ้องคนที่เอาแต่หลุบตาต่ำไม่ยอมเงยขึ้นมามองหน้ากัน “จะไม่ถามหน่อยหรอว่าทำไม” เดือนสิบส่ายหน้า เดาว่าคงเป็นอะไรที่ทำให้เขาได้หน้าร้อนอีกแน่ๆ “แต่พี่อยากบอกนะ”


“ฮื้อ! ไม่เอาครับ ไม่อยากฟัง”


“หึๆ โอเคครับไม่อยากฟังก็ไม่อยากฟัง แล้วนี่หิวข้าวรึยัง” เดือนสิบย่นจมูกอย่างเคยตัว ก่อนจะก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบ


“ยังครับ เดี๋ยวรอพวกนั้นก่อนก็ได้ พี่ยุทธหิวแล้วหรอครับ”


“เปล่า นึกว่าหิวจะได้ชวนไปกินกันสองคน”


“อื้อหืออ.. เอางี้เลย” ถึงจะยังเขินไม่หายแต่ก็ยังไม่วายทำใจกล้าจ้องสบตาคมวาววับ


“จริงๆอยากเอามากกว่านี้อีก”


“โอยพี่ยุ๊ทธธธธ พูดอะไรเนี่ย” เดือนสิบแทบจะเอาหัวโขกโต๊ะเมื่อได้ยินคำพูดสองแง่สองง่าม ไอ้คำพูดไม่เท่าไหร่แต่สายตาเจ้าเล่ห์นี่มันอะไรกัน น่าจิ้มให้บอดชะมัด


“ก็ชอบมาทำตัวน่ารักใส่ทำไมล่ะ”


“ผมเปล่าซักหน่อย”


“น่ารัก”


“บ้าแล้ว”


“น่ารัก”


“กวนประสาท”


“น่ารัก”


“ฮื้ออ พอเลยครับ ไม่ต้องพูดแล้ว” แค่นี้เดือนสิบก็แทบจะระเบิดตัวเองตายอยู่แล้ว ไหนจะตาคมๆที่จ้องเอาๆไม่หยุดหย่อนนี่อีก ใจคอจะไม่เปิดโอกาสให้เขาได้หายใจหายคอโล่งๆบ้างเลยหรือไงนะ


“ครับๆไม่พูดก็ไม่พูด งั้นไปเดินเล่นกันไหม” เดือนสิบหรี่ตามองอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มจางมาให้ นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง


“ก็ได้ครับ” ยุทธนาหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วดึงอีกฝ่ายให้ลุกตาม เมื่อเช้าเขาลองเดินสำรวจรอบๆหาดบริเวณใกล้ๆดูบ้างแล้ว เห็นว่ามีหลายจุดเหมือนกันที่ดูสวยสะดุดตาและน่าเก็บภาพ จะขาดก็แต่นายแบบ..


เดือนสิบแปลกใจนิดหน่อยเมื่อเดินมาถึงหน้าบ้านพักหลังสุดท้ายแล้วคนพี่บอกให้ยืนรอ ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งเข้าไปในบ้าน แล้วก็ต้องแปลกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าร่างสูงเดินกลับออกมาพร้อมกล้องถ่ายรูปในมือ


“ไปครับ” มือหนาอีกข้างเลื่อนมาจับมือเขาอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะพาเดินเลียบมาทางชายหาดอีกด้านซึ่งอยู่คนละฝั่งกับที่พวกนั้นกำลังเล่นน้ำกัน


“ไม่ยักรู้ว่าพี่ยุทธชอบถ่ายรูปด้วย”


“งานอดิเรกน่ะ เมื่อก่อนถ่ายบ่อย แต่หลังๆมาไม่ค่อยมีเวลาเลยไม่ได้เอาออกมาใช้เท่าไหร่ไม่รู้สนิมเกาะหมดรึยัง” ว่าขำๆก่อนจะปล่อยมือที่จับกันอยู่ออกแล้วเปลี่ยนมาจับกล้องหันเข้าหาอีกฝ่ายแทน คนน้องพอเห็นแบบนั้นเลยได้แต่มองเขินๆ


“ทำอะไรครับเนี่ย”


“ซ้อมมือไง เอ้าไหนนายแบบยิ้มหน่อยซิ” ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่มือก็ลั่นชัตเตอร์ไปก่อนแล้วหลายภาพ


“ฮื้อ ไม่เอาครับ” พูดไปแล้วก็ได้แต่เอามือปิดหน้าปิดตา แต่ถึงอย่างนั้นคนพี่ก็ยังรัวชัตเตอร์ใส่ไม่หยุด เรียกได้ว่าเก็บทุกเม็ดเลยทีเดียว


“นิดเดียวครับ เร็วเข้า” เอ่ยเร่งแต่ก็ไม่ยอมลดกล้องลง


“ไม่เอาครับพี่ยุทธ.. ผมไม่ชอบถ่ายรูป”


“โอเคงั้นไม่ถ่ายก็ไม่ถ่าย” ว่าพลางลดกล้องลงปุบปับจนคนน้องถึงกับหน้าเหลอ แถมยังมาทำหน้านิ่งๆใส่แล้วไม่ยอมสบตาอีกต่างหาก ..หรือว่าจะโกรธ?


“โกรธรึเปล่าครับ” เอ่ยถามอ้อมแอ้มอย่างไม่มั่นใจนัก


“พี่จะไปโกรธเราเรื่องอะไรกันฮึ?” ยุทธนายิ้มจางให้ ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่กล้องในมือ


“ก็.. ที่ผมไม่ยอมถ่ายรูป”


“ไหนมานี่มา” ยุทธนาเอ่ยเรียก เขาลดกล้องลงพลางยื่นมืออีกข้างให้น้องจับ กระทั่งอีกคนเดินเข้ามาหาแล้ววางมือลงบนฝ่ามือเขาตาคมถึงได้เบนขึ้นมาสบมอง จ้องลึกเข้าไปในม่านตากลมใสที่กำลังไหวระริก


“พี่ไม่โกรธหรอก เราไม่ชอบอะไรก็บอกน่ะถูกแล้ว พี่ไม่อยากบังคับ ไม่อยากทำให้เรารู้สึกไม่ดี”


“ผม..” ยิ่งได้ยินแบบนั้นแทนที่จะรู้สึกดีขึ้นเดือนสิบกลับยิ่งรู้สึกผิด พูดไม่ออกจนได้แต่หลุบตาต่ำหลบแววอ่อนแสงที่จ้องมอง


“ไหนเป็นอะไรครับหันหน้าขึ้นมาให้พี่ดูหน่อยเร็ว หลบตาทำไมฮึ?” น้ำเสียงอ่อนโยนก่อนที่ปลายนิ้วจะเลื่อนมาแตะที่ปลายคางสวยเบาๆ


“ผมแค่กำลังคิดว่าตัวเองเห็นแก่ตัว” เดือนสิบเอ่ยเสียงเบาคล้ายไม่มั่นใจนัก


“ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ”


“ก็พี่ยุทธยอมให้ผมทุกอย่างเลย มีแต่ผมที่เอาแต่คิดถึงตัวเอง” ยุทธนายิ้มจาง เลื่อนมือเข้าประคองข้างแก้มนิ่มกระทั่งน้องยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน เขามองคิ้วสวยขมวดมุ่นก่อนจะใช้ปลายนิ้วเกลี่ยเบาๆจนมันเริ่มคลายออกจากกัน


“แต่เราก็ไม่ได้เป็นคนบังคับให้พี่ทำซักหน่อยนี่ครับ ที่ทำเพราะพี่เต็มใจทำให้เอง ไม่คิดมากสิ คิ้วขมวดยุ่งหมดแล้วเห็นไหม”


“ทำไมถึงได้ดีกับผมขนาดนี้ล่ะครับ” ตากลมสั่นไหวจ้องลึกเข้าไปในม่านตาคมอ่อนแสง มองลึกลงไปจนถึงความรู้สึกลึกล้ำภายในที่อีกฝ่ายเองก็ไม่เคยคิดปิดบัง


“เพราะพี่ชอบสิบ ชอบมอง ชอบแหย่ ชอบเห็นเรายิ้ม ชอบเวลาเราเขิน ชอบที่ได้เป็นฝ่ายดูแล แล้วก็ชอบตัวเองเวลาที่ได้อยู่กับเรา ชอบมานานจนอาจจะกลายเป็น.. รัก” ความแน่วแน่ที่ส่งผ่านทั้งสัมผัสอุ่นและแววตาจริงจังทำให้เดือนสิบเชื่อสนิทใจว่าอีกฝ่ายรู้สึกแบบนั้นกับเขาจริงๆ พี่ยุทธรักเขา.. แต่ตัวเขาเองล่ะ?


“พี่ยุทธ… ผม..”


“สิบยังไม่ต้องตอบอะไรพี่ตอนนี้ก็ได้ เอาไว้ให้แน่ใจในความรู้สึกของตัวเองก่อนเพราะถึงยังไงพี่ก็จะอยู่ตรงนี้ จะรอจนกว่าเราจะรู้สึกแบบเดียวกัน” รอยยิ้มบางและสัมผัสอบอุ่นที่ส่งมาให้ช่วยปัดเป่าความหนักอึ้งในใจได้ชะงัด  เดือนสิบยิ้มกว้างก่อนจะโผเข้าหาอ้อมกอดอุ่นเมื่ออีกฝ่ายอ้าแขนรับ สัมผัสบางเบาแนบลงบนขมับซ้ำๆยิ่งตอกย้ำความรู้สึกดีๆให้ซึมลึกลงกลางใจ ถึงตอนนี้จะพูดว่ารักอีกฝ่ายได้ไม่เต็มปากแต่ก็มีหลายเรื่องที่เขามั่นใจ เขาชอบอ้อมกอดนี้ ชอบความอบอุ่นที่ได้รับ ชอบสัมผัสแผ่วที่ทำให้รู้สึกร้อนไปทั้งหน้า ชอบรอยยิ้ม ชอบสายตา และชอบคำว่ารักที่ทำให้รู้สึกอุ่นซ่านไปทั้งใจ


“ขอบคุณนะครับ ขอบคุณจริงๆที่รักผม”


“ถ้าอยากตอบแทนก็รีบรักพี่เร็วๆแล้วกัน เข้าใจไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยชิดข้างขมับเนียน ไม่วายวนเวียนกดจูบซ้ำๆ


“อื้อ..” เดือนสิบพยักหน้ากับบ่ากว้างรัว กระชับแขนกอดรอบเอวสอบแน่นขึ้น ไม่แพ้อีกฝ่ายที่โอบรัดเขาไว้ทั้งตัวราวกับจะบอกว่า
อ้อมกอดนี้เป็นของเขา แค่ของเดือนสิบ..






 :กอด1: :กอด1:
รอดดด 55555
แวะมาลงก่อนไปเรียนค่ะ สามทุ่มยาวไป...



หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 09-02-2017 17:24:29
ดูท่าปืนจะถูกพี่พีทล่อลวงแล้ว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 09-02-2017 17:47:01
 :-[แอบมาหวานกันสองคน

พี่พีทเก็ยปืนไปเลย o18
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-02-2017 18:44:15
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-02-2017 18:58:47
เชียร์ปืนพีท ชอบพีทอ่ะ ดูมึนๆดี  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 09-02-2017 19:02:13
 จ้าาาาาอ้อมกอดของเดือนสิบคนเดียวจ้าาา
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-02-2017 19:06:20
พี่ยุทธน้องสิบ ละมุนๆ
อีกนิด รออีกนิดนะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 09-02-2017 19:19:02
ขอกอดพี่ยุทธด้วยได้บ่อ? :กอด1:
ผู้ชายอะไรอบอุ่น ฮือออออ หรือมันเป็นหลุมที่พี่ยุทธขุดไว้นะ 5555 คิดมากไปเน้อะ
คู่พี่พีทกะปืนนี่ตกลงเป็น ปืนพีทหรอ ตอนแรกนึกว่า พีทปืน 55555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 09-02-2017 19:41:30
ถ้ายังไม่ชัดเจนแบบนี้ เดี๋ยวก็มีปัญหากับแฟนเก่าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 09-02-2017 20:05:18
พี่พีทไม่อ่อยเลยนะ รถอ้อยคว่ำขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 09-02-2017 21:19:25
หวานมากกกกกก อิจฉาอย่างแรงงง^^
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 09-02-2017 21:41:01
ปืน พีท  :mew1:
พีท กวนปืน เยี่ยมมาก  :katai2-1:
ยุทธ สิบ  :mew1:
พี่ยุทธ หวงสิบมาก
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 09-02-2017 22:31:46
ทะเลหวานหมดแล้วค่ะะะะ อิพี่ไม่ธรรมดาจริงๆ

คู่พี่พีทปืนก็ดี เชียร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 09-02-2017 22:45:57
ชอบเรื่องนี้มาก ละมุน แต่กลัวดราม่าอินังนุจัง
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 09-02-2017 23:12:01
 :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 09-02-2017 23:29:58
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 10-02-2017 00:07:03
คู่แรก แนวหวานๆ. คู่รองนี่น่าลุ้นมากๆๆๆ

ปืนพีท
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 10-02-2017 11:45:36
อบอุ่นนนนน
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 10-02-2017 12:57:45
ง้อวปืนพีท คือดีอ่ะ
 :katai5: :katai5:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 11-02-2017 01:57:28
ขอแบบพี่ยุทธซักคนนนน  :กอด1:
หวานมากกกก ส่วนอีกคู่ก็ดูมึนมากกก 5555
ชอบพี่พีท รอปืนพีท
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 11-02-2017 09:21:17
 :z13:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-02-2017 17:50:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 12 Up. [09/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 12-02-2017 13:26:39
คู่แรกอบอุ่น คุ่รองนี่สายมึนสินะ 555
:-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 12-02-2017 18:31:20

13


เสียงหัวเราะครื้นเครงจากพวกที่เล่นน้ำอยู่ดังแจ่มชัดขึ้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ ภาพที่ใครบางคนกำลังถูกรุ่นน้องรวมหัวกันแกล้งโดยการลากลงน้ำทั้งที่ไม่เต็มใจตกอยู่ในกรอบสายตา พี่พีทโวยวายเสียงดังลั่นแต่มีหรือทโมนพวกนั้นมันจะฟัง ยิ่งด่ายิ่งได้ใจล่ะไม่ว่า ไอ้พวกนั้นพอเห็นรุ่นพี่ยิ่งดีดดิ้นก็ยิ่งได้ใจใหญ่พอลากลงทะเลได้ก็พากันหัวเราะเฮฮา


“ไอ้พวกเหี้ย! นี่กูพี่มึงนะ!” พี่พีทโวยลั่นขณะลูบหน้าลูบตาพลางไอคอกแค่กหน้าแดงก่ำ สภาพเปียกม่อลอกม่อแลกไม่ต่างจากลูกหมาตกน้ำ ยิ่งท่าทางที่กำลังโวยลั่นแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะพวกนั้นมีมากกว่าก็ยิ่งทำให้คนที่แอบมองอยู่นึกขำ ท่าทางไม่ต่างจากแมวขู่ ถึงจะเป็นรุ่นพี่ก็เถอะ แต่ไหนความน่าเกรงขามครับ?


“เพิ่มความสดชื่นยามเช้าไงพี่ ไม่เอาไม่งอนน่า ไหนๆก็เปียกแล้วมาเล่นกับพวกผมดีกว่า” ไอ้ตู่หัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดี แถมมันยังเข้าไปเล่นพันแข้งพันขาไม่กลัวสายตาดุๆของรุ่นพี่ปีสามอีกต่างหาก


“สดชื่นกับผีสิ กูหนาวไอ้สัด!” พีทแหวลั่น ก่อนจะเดินหน้าง้ำขึ้นฝั่ง นึกเคืองยันเพื่อนตัวเองที่เอาแต่หัวเราะงอหงายไม่สนใจห้ามปรามไอ้เด็กเวรพวกนี้เลยซักนิด เชี่ยป้องนะเชี่ยป้อง! ก็รู้อยู่ว่าเขาไม่ถูกโรคกับน้ำทะเลตอนเช้าๆ ไม่น่าเดินมาหาพวกแม่งเลยจริงๆ


“อ้าวเฮ้ย! พี่พีทท โกรธอ่อพี่!”


“เชี่ยพีทท มึงโกรธจริงอ่ออ”


“เออไอ้พวกเหี้ย!” ด่าเสร็จก็เดินตุปัดตุเป๋กลับขึ้นฝั่งไม่สนใจเสียงขอโทษขอโพยดังระงมจากไอ้พวกด้านหลังเลยซักนิด เดินก้มหน้าก้มตาปากสั่นตัวสั่นไม่สนแม้กระทั่งว่ากำลังจะเดินมาชนใครเข้า กระทั่งไอ้ปืนส่งเสียงกระแอมขึ้นเบาๆนั่นแหละพี่มันถึงได้เบรกเอี๊ยดแล้วเงยหน้ามอง


 “เชี่ยไรมึงเนี่ย” มองตาเขียวปั๊ดผิดกับเมื่อตอนอยู่ในห้องลิบลับ ไอ้ปืนมองคนที่ยืนกอดอกตัวสั่นแถมริมฝีปากที่เคยสีสดก็ดูซีดขึ้นถนัดตา ถึงสภาพจะดูน่าสงสารแต่บอกเลยว่างานนี้ไอ้ปืนจะไม่ยอมใจอ่อนเด็ดขาด


“พี่นั่นแหละทำอะไรของพี่วะ” ไอ้ปืนกอดอกมองอย่างเอาเรื่อง


“อะไรของมึง” พี่มันย่นคิ้ว มองเขาอย่างไม่เข้าใจ


“ก็พี่เอารูปผมไปลงอ่ะ”


“เรื่องแค่เนี้ย? ไร้สาระว่ะ หลบดิ๊กูหนาวจะตายห่าละเนี่ย” ไม่ว่าเปล่าเจ้าตัวยังเดินกระแทกไหล่เขาอีกต่างหาก แต่เพราะขนาดตัวที่แตกต่างเยอะพอสมควรเลยทำให้ฝ่ายที่เซไปเล็กน้อยกลายเป็นพี่มันซะเอง ไอ้ปืนมองคนที่ทำท่าฮึดฮัดแล้วได้แต่นึกขำ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยืนปั้นหน้านิ่งไม่ยอมหลุด


“พี่ยังไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นแหละ จนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง” คว้าแขนเล็กไว้แต่คงเผลอออกแรงมากไปอีกฝ่ายเลยถึงกับเซเข้ามาปะทะอก และด้วยสัญชาตญาณหรืออะไรก็แล้วแต่เพราะมันทำให้เขาเผลอรวบตัวอีกฝ่ายไว้ด้วยเกรงว่าจะล้มคว่ำไปทั้งคู่ เนื้อตัวเย็นชืดสั่นนิดๆที่ได้สัมผัสทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายคงหนาวมากจริงๆ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรออกมาพี่พีทสะบัดตัวออก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาจ้องเขาตาวาว ริมฝีปากสีซีดสั่นนิดๆเมื่อร่างกายเปียกปอนปะทะเข้าสายลมที่พัดผ่าน


“กูต้องคุยอะไรอีกวะ!” แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายมองเขาตาขวาง ไอ้ปืนพอเห็นอีกฝ่ายตาแข็งใส่ก็ชักไม่พอใจบ้าง ทีแรกก็ว่าจะสงสารอยู่หรอก…


“ก็เรื่องรูปไง พี่จะรับผิดชอบยังไงผมเสียหายนะเว้ย” เกิดเรตติ้งตกหมดจะทำไงวะ ไหนจะสาวๆที่เต๊าะไว้ด้วยมาดคลูๆอีกตั้งมากมายก่ายกองนั่นอีก เกิดมาเห็นรูปทุเรศๆแบบนี้พวกเธอจะมองเขายังไง ไม่ได้ ยังไงงานนี้ไอ้ปืนก็ไม่ยอม จะปล่อยให้ภาพลักษณ์เสียหายฟรีๆไม่ได้เด็ดๆเลย!


“กูลงแค่ขำๆ มึงจะคิดอะไรเยอะแยะวะทีไอ้พวกนั้นมันยังไม่ว่าอะไรเลย”


“แต่ผมไม่ขำด้วย”


“นี่มึงซีเรียส?”


“เออดิพี่ ภาพลักษณ์ผมเสียหายนะเว้ย ไหนจะสาวๆในสต็อกของผมอีกอ่ะ” คนฟังส่งเสียงเหอะในลำคอ


“โอเค๊ งั้นเดี๋ยวกูลบให้ก็ได้” ว่าจบก็หันหลังเดินกลับไปทางบ้านพักแบบง่ายๆเล่นเอาไอ้ปืนถึงกับไปไม่เป็น


 “ได้ไงวะ ถึงพี่จะลบแต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ ภาพลักษณ์ของผมมันป่นปี้ไปหมดแล้ว” เรียกร้องปานสาวน้อยถูกเปิดซิงเลยทีเดียว ไอ้ปืนวิ่งมาดักหน้าอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะหัวเสียขึ้นอีกเป็นเท่าตัวที่เขาไม่ยอมจบ พี่มันหน้าหงิกงอก่อนจะเท้าสะเอวมองอย่างเอาเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วายปากสั่นกึกๆเพราะความหนาวให้ได้สงสารอยู่ดี


“มึงนี่เรื่องเยอะว่ะ จะเอาไงไหนว่ามาดิ๊”


“ก็…” เออว่ะ แล้วเขาจะให้พี่มันชดใช้ยังไงวะ แต่เอาจริงเขาก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรพี่มันมากมายนักหรอก มันคล้ายจะเป็นความรู้สึกเสียหน้าเหมือนเวลาโดนเพื่อนขุดรูปเก่าๆช่วงที่เรายังอยู่ในยุคมืดมาโพสอะไรแบบนั้นมากกว่า แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะมาแหกปากเรียกร้องอะไรจากพี่มันนัก ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องการเรียกร้องจะเอาอะไร วุ้ย! หงิดตัวเองชิบ


“ลีลาไอ้สัด กูหนาวนะเนี่ย” พี่มันว่าอย่างหงุดหงิด แต่ถึงไม่บอกเขาก็พอจะรู้อยู่ ในเมื่อพี่มันเล่นตัวสั่นฟันขบกันกึกๆขนาดนั้น แต่เขายังคิดไม่ได้ว่าจะเรียกร้องเอาอะไรจริงๆนี่หว่า ไอ้ตอนมาก็แค่คิดว่าจะหาเรื่องเฉยๆ แต่พอพี่มันยอมง่ายๆแบบนี้เลยไม่รู้จะหาเรื่องอะไรไง วุ้ย!! หงิดตัวเองคูณสอง


“ผมยังคิดไม่ออกอ่ะ ให้พี่ติดไว้ก่อนละกัน เอาไว้คิดออกตอนไหนเดี๋ยวไปทวง” พอพูดจบคนที่หนาวจนปากสั่นก็หรี่ตามอง สายตาไม่น่าไว้ใจจนไอ้ปืนชักเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวๆขึ้นมาตงิดๆ เผลอกลืนน้ำลายอย่างฝืดๆเมื่ออยู่ดีๆหน้าใสๆนั่นก็ยื่นเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆจากอีกคน


“จริงๆที่แกล้งมาหาเรื่องนี่เพราะเริ่มสนใจกูแล้วอ่ะดิ”


“พูดอะไรของพี่วะ”


“จริงๆแล้วเริ่มตกหลุมรักกูก็บอก”


“พี่นี่ท่าจะบ้า”


“จริงๆที่ไม่ยอมสบตากูนี่กำลังเขินสินะ”


“ผมเปล่า!” ก้อนเนื้อในอกเต้นตึกตักจนอยากจะปฏิเสธว่าสิ่งที่พี่มันพูดมาไม่เป็นความจริง


“จริงๆที่ทำเป็นโมโหกลบเกลื่อนนี่กำลังใจเต้นกับกูอยู่ใช่ไหม”


“พี่นี่ท่าจะประสาท”


“เสียงต่ำมางี้เริ่มหลงกูแล้วแน่ๆ”


“โว้ว!! อะไรของพี่วะ ไปกันใหญ่แล้ว จะกลับที่พักไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็รีบไปเลยไป”


“เป็นห่วงกูด้วยอ่ะ คึคึ”


กลายเป็นไอ้ปืนที่แข็งค้างไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นรอยยิ้มสว่างสดใสในระยะประชิด ถึงหน้าจะซีดไปบ้างเพราะความหนาวแต่นั่นมันก็ไม่สามารถบดบังความคิ้วท์ของพี่มันไปได้เลย ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามัวแต่ยืนนิ่งจนปล่อยให้อีกฝ่ายแนบริมฝีปากเย็นชืดทว่านุ่มนิ่มลงมาบนผิวแก้มได้ยังไง มือหนายกขึ้นมาลูบแก้มตัวเองอย่างเหม่อลอย สมองหมุนคว้างคล้ายจะหยุดสั่งการชั่วขณะราวกับถูกน็อคค้างกลางอากาศ รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังเล็กๆก็เดินจากไปแล้ว โดยทิ้งไว้แต่ประโยคที่ดังก้องซ้ำๆในหัว


“จริงๆแก้มมึงก็นุ่มดีนะ ไว้มีโอกาสจะมาใช้บริการใหม่”


เข้!…



.
.


“ไหนบอกไม่ชอบถ่ายรูป” ยุทธนามองคนที่เร่งให้เขายกกล้องขึ้นมาถ่ายยิกๆ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังบอกว่าไม่ชอบถ่ายรูปอยู่หยกๆ


“ก็ตอนนี้เปลี่ยนใจอยากถ่ายแล้วนี่ครับ” 


“เอาใจยากว่ะ” เขาโยกหัวอีกฝ่ายไปมา เดือนสิบย่นจมูกก่อนจะเอ่ยเร่ง


“เร็วครับ ถ่ายรูปกัน”


“แล้วอยู่แบบนี้พี่จะถ่ายได้ยังไงฮึ?” มองคนเป็นน้องที่เกาะติดไม่ยอมปล่อย แขนเรียวโอบรอบเอวเขาในขณะที่ใบหน้าอยู่ห่างไปไม่ถึงฟุตจนเห็นริ้วแดงจางๆบนผิวแก้ม


“ถ่ายคู่ไงครับ เร็วเข้า” ว่าแล้วก็ฉีกยิ้มให้จนตาแทบปิด ยุทธนาหัวเราะเบาๆขยี้กลุ่มนุ่มไปทีอย่างอดใจไม่ไหว ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาเตรียมถ่ายอย่างที่เจ้าตัวร้องขอ รู้สึกแปลกๆนิดหน่อยเพราะไม่บ่อยนักที่เขาจะหันเลนส์เข้าหาตัวเอง ครั้งสุดท้ายที่ทำอะไรแบบนี้มันนานแค่ไหนแล้วก็จำไม่ได้เหมือนกัน


“หึๆโอเคครับ ถ่ายคู่ก็ถ่ายคู่” เขาโอบบ่าน้องเข้ามาใกล้ค่อมตัวลงเล็กน้อยเพื่อให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกันก่อนจะลั่นชัตเตอร์


แชะ! แชะ!


“ทำไมพี่ยุทธไม่มองกล้องล่ะครับ” เดือนสิบบ่นหน้ายุ่งขณะมองรูปที่อีกฝ่ายยื่นมาตรงหน้า ในรูปพี่ยุทธหันมาจ้องหน้าเขาแทนที่จะหันไปมองกล้องอย่างที่ควรจะเป็น จึงทำให้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าคมคายที่ติดจะยิ้มน้อยๆเท่านั้น มีแต่ตัวขาที่ยิ้มใส่กล้องจนตาปิด


“ก็คนข้างๆมันน่ามองกว่ากล้อง” อีกฝ่ายตอบกลับยิ้มๆ


“หึยย ไม่เอาสิ ถ่ายใหม่เลยครับมองกล้องด้วย” ยุทธนาหัวเราะในลำคอ มองแขนที่เลื่อนมาโอบรอบเอวเขาไว้เหมือนเดิมด้วยท่าทางที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีท่าทีเขินอายอย่างที่เจ้าตัวมักเป็น เขาทำเหมือนเดิมคือโอบบ่าน้องเข้ามาใกล้ โน้มตัวเข้าหาจนใบหน้าห่างกันแค่คืบ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากแก้มใส เพียงแต่ครั้งนี้ตาคมจับจ้องไปที่เลนส์กล้องแทนที่จะเป็นหน้าใสๆของคนข้างๆ เหมือนครั้งก่อน


แชะ! แชะ!


พอถ่ายเสร็จกำลังจะเลื่อนภาพดูคนที่ยืนข้างๆกลับยึดข้อมือไว้ซะอย่างนั้น ยุทธนาเลิกคิ้วมอง ทว่าอีกฝ่ายกลับเสหลบตาไปทางอื่น ฟันคมกัดเม้มริมฝีปากอิ่มเบาๆ ขณะที่แก้มใสขึ้นริ้วแดงจางๆ


“กลับกันดีกว่าครับ ป่านนี้พวกที่ไปตลาดคงมากันแล้ว” เดือนสิบว่าเร็วๆก่อนจะหันหลังเดินลิ่วนำไปก่อน ปล่อยให้คนพี่ได้แต่มองตามงงๆ ยุทธนาได้แต่โครงหัวเบาๆกับท่าทางแปลกๆของน้องก่อนจะยอมจ้ำเท้าตามไป


เมื่อเดินกลับมาถึงบ้านพักก็ไม่ผิดจากที่อ้างไว้เท่าไหร่ พวกที่ไปตลาดกลับกันมาแล้วรวมถึงกลุ่มที่เล่นน้ำก็ด้วย พวกมันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแถมยังเริ่มตั้งวงกันแล้วอีกต่างหาก


“ไปไหนมาวะ” ไอ้ปืนที่ยืนจิบเบียร์อยู่หน้าบ้านเอ่ยถาม แต่ยังไม่ทันได้ตอบมันก็เลื่อนสายตาไปยังใครอีกคนที่เดินตามหลังเขามา สายตาล้อเลียนถูกส่งมาให้ เดือนสิบเลยย่นจมูกใส่ เขาไม่ได้ตอบอะไรมันเพราะกลัวว่าจะถูกล้อให้ได้อายอีก เลยเลือกเดินไปหาไอ้มอสกับไอ้จอมที่กำลังทำอะไรซักอย่างอยู่หน้าเตาแทน


หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จไอ้พวกทโมนทั้งหลายก็เลือกที่จะนั่งกินเหล้าอยู่ในบ้านแทนที่จะออกไปเที่ยวอย่างที่ควรทำ พี่ป้องที่ไม่รู้ว่าแอบไปเอาไพ่มาจากไหนเริ่มชักชวนรุ่นน้องตั้งวงซึ่งแต่ละคนก็ไม่ปฏิเสธแถมยังดี้ด้ากระดิกหางเข้าใส่อีกต่างหาก แววอนาคตของชาติ


“สิบไม่เล่นด้วยกันอ่อ” ไอ้จอมเอ่ยชวน


“ไม่เอาล่ะ ตามสบายเลย” อันที่จริงคือเดือนสิบเล่นไม่เป็นเลยต่างหาก ถึงจะเคยเห็นพวกพี่ๆที่อู่ซ่อมรถแอบเล่นกันอยู่บ่อยๆมองดูก็น่าสนุกดี แต่ถ้าให้เล่นด้วยเขาคงไม่เอา เห็นเสียกันมาแต่ละทีต้องเดือดร้อนเบิกเงินล่วงหน้ายกใหญ่ สุดท้ายก็โดนเฮียโหน่งด่าเสียหมา แถมเฮียโหน่งก็ย้ำกับเขานักหนาว่าการพนันมันไม่ดีมีแต่จะพาเสียกับเสีย ถึงจะเล่นเอาสนุกเฉยๆก็เถอะ แต่ถ้าติดมาแล้วมันก็ไม่สนุกเหมือนกัน


เดือนสิบยกเบียร์ขึ้นจิบก่อนจะเดินปลีกตัวออกมานั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ปลายเท้าหยุดชะงักเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างของใครบางคนกำลังนั่งอยู่ตรงนั้น


“ทำอะไรครับ” เดือนสิบเอ่ยทัก ก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ เรียกให้ใบหน้าคมคายที่ติดจะอมยิ้มน้อยๆเงยขึ้นมามอง


“ดูรูป” กล้องถ่ายรูปที่ไม่ทันได้สังเกตเห็นในทีแรกถูกยกขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เรียกให้หน้าร้อนวูบ


เดือนสิบจะไม่อะไรเลยถ้ารูปนั้นจะไม่ใช่รูปที่เพิ่งถ่ายไปเมื่อชั่วโมงก่อน และยังเป็นรูปที่เขากำลังฉีกยิ้มกว้างดวงตาเป็นประกาย หากแต่แทนที่จะมองกล้องดวงตากลมโตกลับกำลังจับจ้องอยู่ที่เสี้ยวหน้าด้านข้องของอีกคนในรูป เสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากคนข้างๆก่อนที่กล้องจะถูกเก็บกลับไป


“น่ารักเนอะ” สัมผัสอบอุ่นวางลงที่กลุ่มผมนุ่ม แถมยังโยกไปมาเบาๆอีกต่างหาก


“….” เดือนสิบยังคงเงียบเพราะพูดอะไรไม่ออก ที่รู้สึกตอนนี้คือเขินชะมัด


“บอกให้เขามองกล้องแต่ตัวเองกลับเป็นฝ่ายจ้องหน้าเขาตาเป็นประกาย” ได้ทีคนพี่ก็แซวไม่หยุด


“พอเลยครับ ไม่ต้องมาล้อเลย”


“หึๆ” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะขยี้ผมอีกฝายเบาๆ “เบื่อไหมมาทะเลทั้งทีไอ้พวกนั้นก็เอาแต่กินเหล้า” เดือนสิบส่ายหัว


“ไม่ครับ พี่ยุทธเบื่อหรอ” ว่ายิ้มๆ ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายหรือไม่ชอบใจอะไรทั้งนั้น จริงๆเดือนสิบเองก็ไม่ใช่คนชอบเที่ยวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว วันหยุดพักผ่อนก็มักจะนอนอยู่ห้องอ่านหนังสือการ์ตูนมากกว่า ที่มาด้วยนี่เพราะไอ้ปืนมันคะยั้นคะยอเฉยๆหรอก


“ไม่หรอก แต่กลัวว่าเราจะเบื่อมากกว่า อุตส่าห์ได้มาเที่ยวทะเลด้วยทั้งทีแต่กลับต้องมาติดแหงกอยู่แต่ในบ้านพัก”


“สบายดีออกครับ ไม่ต้องไปเดินเที่ยวให้เหนื่อยด้วย อีกอย่างที่นี่ก็บรรยากาศดีแถมยังอยู่ติดทะเลอีกต่างหาก ได้ฟิลพักผ่อนสุดๆ เสียดายที่ผมไม่ได้เอาหนังสือการ์ตูนติดมาด้วย” ว่าทั้งที่ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ลมพัดเอื่อยๆทำให้ยิ่งรู้สึกผ่อนคลาย นานมากแล้วเหมือนกันที่เขาไม่ได้มาเที่ยวทะเลยกับเพื่อนแบบนี้ อาจจะซักสามหรือสี่ปีก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน


“อุตส่าห์ว่าจะชวนไปเดินเที่ยวซะหน่อย หมดมูทเลย” ยุทธนาแกล้งบ่น เรียกให้อีกฝ่ายหันมามอง


“พี่ยุทธอยากไปหรอครับ” สัมผัสอุ่นแถวท้ายทอยทำให้เดือนสิบเผลอย่นคอก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อคนพี่แกล้งโยกมือไปมา


“ถ้าสิบอยากไปพี่ก็จะพาไป”


“หื้อ! ไม่ใช่สิสิครับผมถามว่าพี่ยุทธอยากไปรึเปล่าต่างหาก” เดือนสิบแย้ง แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้ตอบอะไรก็มีเสียงขัดขึ้นจากทางด้านหลังซะก่อน


 “มีความสุขกันจังนะ ถึงว่าล่ะเบียร์กูหว๊านหวาน” พวกเขาหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทตัวเองยุทธนาก็ได้แต่ทำหน้าเหม็นเบื่อ ผิดกับอีกคนที่ดูเหลอหลาทำตัวไม่ถูก


"มีอะไรวะ" ยุทธนาถามเสียงเรียบ ศิลาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อเห็นท่าทางหน่ายๆของเพื่อน


“ไม่มีอ่ะ หมั่นไส้คนสวีทกันเลยออกมาขัดจังหวะเฉยๆ”


“สัด”


“อู้วว ด่ากูนี่กำลังเขินถูกม่ะ?” มันทำหน้ายียวน


“กวนตีนละเชี่ยหิน จะไปไหนก็ไปเลยมึง”


“กับเพื่อนกับฝูงนี่โหดจังนะสัด พี่ไปก่อนนะครับน้องสิบ ดูซิเนี่ยเขินแก้มแดงหมดแล้ว ไหนมาฟัดซักทีซิ” ไม่ว่าเปล่าพี่มันยังทำท่าจะเข้ามาหอมแก้มเขาอย่างที่ปากว่าจริงๆ เพียงแต่ถูกใครอีกคนเบรกไว้ก่อน


“ลามปามละเชี่ยหิน เดี๋ยวได้แดกตีนกู”


“อู้ววว โหดร้ายอะไรเบอร์นี้ เพื่อนพี่มันเป็นพวกหึงโหดน่ะครับถ้าจับได้ว่าแฟนมีกิ๊กนี่มันเอาถึงตายเลย” ไม่วายประโยคสุดท้ายหันมาพูดกับเดือนสิบ แถมยังทำท่าทางกระซิบกระซาบประหนึ่งคุยกันอยู่สองคนทั้งที่พูดซะเสียงดังฟัดชัด …กวนตีน


“….” เดือนสิบได้แต่กระพริบตาปริบๆเพราะไม่รู้จะตอบโต้ยังไง แค่นี้เขาก็รู้สึกหน้าเห่อร้อนไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนแค่นั้นจะยังไม่สาแก่ใจ


“ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะตายคาตีนนะแต่พี่รับรองว่าถ้าเป็นสิบนี่ไม่มีทางครับ ไม่โดนตีนมันอย่างแน่นอน แต่อาจจะเป็นหมดแรงคาเตียงแทน ไม่อยากจะแซดว่าไอ้ยุทธนี่ลีลาดีสุด..”


“สัดหิน!!” คนที่ทนฟังเพื่อนพล่ามต่อไม่ไหวกลายเป็นคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนหึงโหด ยุทธนาลุกขึ้นจะไปเตะมันซักป้าบทว่าอีกฝ่ายกลับรู้ทันวิ่งหัวเราะร่าอ้อมไปอยู่หัวโต๊ะอีกฝั่ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังไม่วายกวนตีน


“อู้วววกลัวจุง ไปแล้วนะครับ ระวังอย่าทำให้เพื่อนพี่หึงล่ะ จุ๊บๆ”

.

.

มีต่อ

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 12-02-2017 18:40:30
ศิลาไปแล้ว เหลือแต่เดือนสิบที่ยังคงนั่งแข็งค้างอยู่ที่เดิม รู้สึกเห่อร้อนไปทั้งหน้าจนไม่อาจขยับเขยื้อนไปไหน ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยซ้ำ


ยุทธนามองน้องที่ดูเหมือนจะสติหลุดไปแล้วนึกอยากจะขำแต่ก็ขำไม่ออก นึกคาดโทษเพื่อนตัวเองในใจที่มาทำให้อีกฝ่ายเขินหนักขนาดนี้ แล้วแก้มแดงขนาดนั้นจะระเบิดไหมนั่น


“จะระเบิดไหมนั่น” สงสัยจะคิดดังไปหน่อยเลยเผลอหลุดออกมาจนเรียกคนน้องให้เงยหน้ามอง


“อะ อะไรครับ” เดือนสิบกระพริบตาปริบๆ มองตามมือหนาที่ยื่นมาแตะแก้มเบาๆ


“กลัวว่าจะระเบิดตัวเองไปซะก่อน ดูซิเนี่ยเขินจนแก้มแดงไปหมดแล้ว” ไม่ว่าเปล่ายังจิ้มแก้มนิ่มๆของน้องจนมันยุบลงไปอีกต่างหาก ไอ้คนโดนล้อพอได้สติก็เริ่มตีหน้ายุ่ง เอียงแก้มหลบมือที่แกล้งจิ้มแก้มไม่หยุดก่อนจะมองค้อนคนพี่ตาคว่ำ


“เวอร์แล้วครับ ไม่ขนาดนั้นซักหน่อย” ถึงจะเถียงไปแบบนั้นแต่ก็ยังไม่วายยกมือขึ้นมากุมแก้มตัวเองอยู่ดี แล้วก็รู้ว่ามันร้อนจนแทบระเบิดอย่างที่อีกคนว่าจริงๆ


“ก็มันจริง ดูดิเนี่ย แดงขนาดนี้ได้ยังไง” ว่าแล้วก็ไม่วายจิ้มเข้าให้อีก ไม่รู้พ่อแม่ให้กินอะไรผิวถึงได้ใสขนาดนี้ แก้มแดงขึ้นมาทีนึกว่าใครเอามะเขือเทศมาทา


“อื้อ!.. พอเลยครับ ใครจะไปหน้าดำเหมือนพี่ยุทธกัน” เดือนย่นจมูกใส่พลางปัดมือคนพี่ออก


“เขาเรียกผิวแทนหรอก หล่อเข้มไงไม่ชอบหรอ”


“ฮึ! ไม่ชอบหรอก พี่ยุทธชอบแกล้ง”


“น้อยใจนะเนี่ย รีบง้อเลย”


“อื้อหือ.. เอาใหญ่เลยนะครับ” อดหมั่นไส้ไม่ไหวเลยเผลอต่อยเข้าที่ต้นแขนแกร่งเบาๆ แล้วเขารึเปล่าที่ต้องเป็นฝ่ายงอนน่ะ


“ไม่รู้ล่ะ พี่น้อยใจอยู่ ง้อเร็ว”


“ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย” เดือนสิบบ่น


“….” ทว่าอีกคนกลับปิดปากเงียบแถมยังกอดอกฉับอีกต่างหาก แล้วหน้าดุๆแต่มาทำท่าทางแบบนี้นี่คิดดีแล้วใช่ไหมเนี่ย


“ไม่ต้องมาแกล้งทำเลยครับ”


“….” ก็ยังคงเงียบ


“พี่ยุทธ”


“พี่ก็ลืมไปว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง เป็นแค่คนที่รักเราข้างเดียวนี่” อื้อหือ.. ตัดพ้อเบอร์แรงมาก ไหนจะยังมาแกล้งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดแล้วสะบัดหน้าหนีอีก แทบจะหลุดขำถ้าไม่ใช่เพราะตาดุๆที่มองมา


“หน้าตาไม่น่าขี้น้อยใจเล้ย ทำไมถึงทำไปได้เนี่ย” เดือนสิบว่าติดตลก พลางยื่นมือไปจิ้มแก้มคนพี่อย่างแกล้งๆ แต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ยังตีหน้านิ่งใส่ไม่เลิก ดูก็รู้หรอกว่าแกล้งทำ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้วเห็นแก่ความพยายามเล่นบทงอนเขาจะยอมเล่นบทง้อให้ก็ได้


“หายงอนได้แล้วครับ” ว่าเสียงอ่อนพร้อมกับเลื่อนมือไปแตะที่แขนอีกฝ่ายแล้วเขย่าเบาๆ


“….” ทว่าอีกคนยังคงเงียบ แต่แอบเห็นหรอกว่าเมื่อกี้เกือบหลุดยิ้มอ่ะ


“จะไม่หายจริงๆหรอ” เอียงคอใส่ด้วย กระพริบตาปริบๆสำทับไปอีกต่างหาก ..ถึงจะงงใจว่าตัวเองมาอยู่จุดนี้ได้ไงก็เถอะ


“…..” แต่คนพี่ก็ยังแกล้งทำเมินไม่เลิก เห็นอย่างนั้นเดือนสิบเลยผละออกมาก่อนจะแกล้งตีหน้าหงอยลงบ้าง


“สงสัยคืนนี้จะได้หอบผ้าไปนอนกับไอ้ปืนแน่ๆเลย..”


“ใครจะยอม” ยังไม่ทันได้จบประโยคคนที่แกล้งงอนอยู่ก็ถึงกับหันขวับจนเดือนสิบหลุดขำ


“ก็แฟนงอน” พูดเองก็ได้แต่เขินเอง เผลอยกมือขึ้นมาเกาแก้มพลางมองเมินไปทางอื่นเพราะไม่กล้ามองตอบแววตาพราวระยับที่อีกฝ่ายจ้องมา ทีอย่างนี้ล่ะไวจริงเชียว


“ก็ต้องง้อรึเปล่าฮึ? มีอย่างที่ไหนจะหอบผ้าหอบผ่อนไปนอนที่อื่น”


“ก็ง้อแล้วไงครับ” ว่าพลางยิ้มใส่ตาคนพี่อย่างประจบ


“ไม่ต้องมาพูดดีเลยเรา เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่” สุดท้ายคนพี่ก็อดใจไม่ไหวเลยต้องเอาคืนโดยการโยกหัวอีกฝ่ายไปมา ถ้าไม่ติดว่า
อยู่ที่แจ้งคงได้จับมาฟัดให้รู้แล้วรู้รอด คนอะไรขยันทำให้ความอดทนเขาสั่นไหวจริงๆ


“ผมไม่ได้ทำอะไรซักหน่อย” ยังมาเถียงคอตั้งใส่อีก


“ต่อปากต่อคำเก่งขึ้นขนาดนี้ยังกล้าพูดว่าไม่ได้ทำอะไรอีก มันน่าจับมาฟัดให้จมเขี้ยวจริงๆ” ไม่ว่าเปล่ายังแกล้งยื่นมือไปบีบแก้มนิ่มๆจนมันยับยู่อีกต่างหาก


“อื้อ! อี้อุดด เอ็บ!” อีกฝ่ายท้วงเสียงอู้อี้ ยุทธนาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือออกเมื่อได้แกล้งคนช่างเถียงจนพอใจ


“หมั่นไส้” แต่ก็ยังไม่วายจิ้มแก้มแดงๆนั่นไปที มองน้องที่ทำปากขมุบขมิบแถมยังค้อนใส่จนตาคว่ำ


มันน่าจับมาฟัดให้เข็ด


.
.


บรรยากาศยามเย็นริมทะเลเป็นอะไรที่เดือนสิบเพิ่งได้เห็นกับตาครั้งแรก และก็อดชื่นชมไม่ได้ว่ามันสวยมากจริงๆ สายลมเอื่อยๆ เคียงคู่กับเสียงคลื่นกระทบฝั่งฟังรื่นหู ยิ่งฉากหลังเป็นภาพพระอาทิตย์ดวงโตที่กำลังเคลื่อนคล้อยลงทีละน้อย แสงทองทอประการระยิบระยับ เป็นภาพที่สวยมากจริงๆ ไม่บ่อยนักที่เขาจะได้มานั่งจิบเบียร์ชิลล์ๆและคิดอะไรเพลินๆคนเดียวแบบนี้


เดือนสิบแยกออกมานั่งคนเดียวได้ซักพักแล้ว ตั้งแต่ที่วงเหล้าเริ่มแยกย้ายเพราะต่างคนต่างเมาจนไม่สามารถดื่มต่อไหว พี่ยุทธกับพี่หินที่มีสติครบถ้วนเป็นคนอาสาออกไปซื้ออาหารเย็น เพราะดูท่าแล้วกว่าพวกที่เหลือจะฟื้นก็คงดึก หรือไม่ก็อาจจะยิงยาวไปจนถึงเช้าวันพรุ่ง จริงๆเขาเองก็รู้สึกมึนหน่อยๆเหมือนกัน จากที่ตอนแรกว่าจะไม่กินแต่สุดท้ายก็ถูกพวกนั้นคะยั้นคะยอให้ไปนั่งร่วมวงจนได้


“สิบ”


“หือ” เดือนสิบขานรับเพื่อนสนิทที่เดินมาทิ้งตัวลงข้างๆ ท่าทางไอ้ปืนดูหงุดหงิดนิดหน่อยจนเขาอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยถาม “เป็นอะไร”


“หงุดหงิดว่ะ”


“เรื่อง?”


“ไม่รู้สิ แต่กูรู้สึกหงุดหงิดตัวเองชิบหาย หงุดหงิดจนเห็นอะไรก็อยากจะพาลไปหมดจนต้องออกมาหามึงเนี่ย” มันบ่นยาว ก่อนจะยกเบียร์ที่หยิบติดมือมาด้วยขึ้นจิบ ไม่วายส่งอีกขวดมาให้เขาด้วย


“เล่าได้นะ” ไม่รู้จะพูดยังไงให้มันรู้สึกดีขึ้นเพราะตัวเขาเองก็ไม่ใช่พวกช่างพูด ยิ่งเรื่องปลอบใจคนยิ่งแล้วใหญ่ แต่ถ้าให้นั่งฟังเงียบๆนี่งานถนัดเขาล่ะ ไอ้ปืนถอนหายใจพรู.. เหม่อมองท้องทะเลยกว้างหากคิ้วก็ยังขมวดมุ่น


“กูไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้… ตั้งแต่จำความได้กูก็คบผู้หญิงมาตลอด กูไม่เคยมองผู้ชายคนไหนแล้วใจเต้นแรงแม้แต่มึงที่กูมองว่าน่ารัก… แต่กูไม่เข้าใจว่ะ ทำไม่กูต้องรู้สึกทำตัวไม่ถูกเวลาอยู่ใกล้ๆพี่มันด้วยวะ ทำไมต้องรู้สึกใจเต้นแรง ทำต้องรู้สึกไม่พอใจเวลาเห็นพี่มันทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่น… ทำไมกูต้องรู้สึกดีเวลาพี่มันเข้ามาแหย่ มาทำตัววุ่นวายอยู่ใกล้ๆ ทำไมวะ..”


ไอ้ปืนซัดเบียร์เข้าไปอีกอึกใหญ่ มันทำหน้าเหยเกก่อนจะเอนตัวลงนอนแผ่ไปกับหาดทรายขาว ดวงตาปิดปรือ แก้มมันแดงหน่อยๆและดูจากท่าทางแล้วมันคงจะเมาอยู่ไม่น้อย ไหนจะความในใจที่มันพรั่งพรูออกมานี่อีก เดือนสิบไม่รู้และเดาไม่ออกว่าไอ้ปืนมันจะไปตกหลุมรักผู้ชายคนไหน แต่ที่แน่ๆคือคนๆนั้นเป็นรุ่นพี่ แต่แล้วใครล่ะ? ในเมื่อก่อนจะมาเที่ยวมันยังควงสาวไปดูหนังอยู่แท้ๆ


เดือนสิบเอนตัวนอนลงข้างๆมัน ปรือตามองแสงสุดท้ายที่ใกล้จะลาลับขอบฟ้า เสียงถอนหายใจยาวจากคนข้างๆทำให้ต้องหันไปมองมันอย่างเป็นห่วง ไอ้ปืนไม่ได้ลืมตาขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังขมวดคิ้วไม่หาย


“ทุกอย่างมันดูเร็วไปจนกูคิดว่ามันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ” มันพูดทั้งที่ยังหลับตา คล้ายรำพันกับตัวเองมากกว่าจะขอความเห็น


“ถ้าไม่แน่ใจทำไมไม่ลองพิสูจน์ดูล่ะ”


“จะให้กูพิสูจน์ยังไงวะ แล้วถ้าเกิดพิสูจน์แล้วผลมันออกมาว่ากูชอบผู้ชายขึ้นมาจริงๆกูจะทำยังไง” มันเปิดตามอง แววตาที่สะท้อนกลับมาดูสับสนและไม่มั่นใจ ผิดกับไอ้ปืนที่เดือนสิบรู้จัก คนที่มักจะมั่นใจในตัวเอง และไม่คิดอะไรเล็กๆน้อยๆแบบนี้ หรืออาจเป็นเพราะตอนนี้มันกำลังเมา


“มึงรังเกียจที่จะชอบผู้ชายด้วยกันหรอ” ไอ้ปืนหลบตา


“กู.. ไม่รู้ว่ะ กูแค่สับสน กูไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมารู้สึกอะไรแบบนี้กับผู้ชายด้วยกัน มึงเข้าใจกูใช่ไหมสิบ” มันพูดรัว เอื้อมมือมาเขย่าแขนเขาเบาๆ


“มึงใจเย็นๆก่อนนะ อย่าเพิ่งไปคิดอะไรเยอะ เอาแค่ว่าตอนนี้ เวลานี้ มึงอยากจะรู้จริงๆรึเปล่าว่าที่จริงแล้วตัวมึงเองรู้สึกยังไง” เดือนสิบพูดอย่างใจเย็น ไอ้ปืนเงียบไปก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “คนที่มึงชอบเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ที่มาเที่ยวกับเราด้วยใช่ไหม” ไม่มีอะไรให้ต้องคิดเป็นอื่น เพราะก่อนมามันยังความสาวไปเที่ยวอยู่เลย


“….”


“….”


“อืม”


“พี่ป้อง?” เลือกถามออกไปแบบนั้นเพราะเห็นว่าในบรรดารุ่นพี่ทั้งหมดพี่มันดูจะสนิทใจกับไอ้ปืนที่สุดแล้ว แต่เอาเข้าจริงพี่มันก็สนิทกับทุกคนเลยนี่หว่า หรือไม่ใช่? คำตอบของเดือนสิบถูกยืนยันเมื่อไอ้ปืนส่ายหน้ารัว คิดไปถึงคนที่เหลือแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว พี่ยุทธไม่ใช่แน่ๆ หรือจะเป็นพี่หิน? แต่ก็ไม่น่าใช่ งั้นก็เหลืออีกแค่คนเดียวที่น่าสงสัย


“พี่พีท?” คราวนี้ไอ้ปืนเงียบไปนาน นานจนเดือนสิบคิดว่ามันจะไปตอบซะแล้ว แต่สุดท้ายมันก็ยอมพยักหน้า


“อือ..”


“ตั้งแต่เมื่อไหร่?”


“วันนี้”


“เอาจริงดิ”


“เออดิ ไม่งั้นกูจะมานั่งเครียดอยู่แบบนี้ทำไม… อยู่ดีๆความรู้สึกมันก็เกิดขึ้นเร็วมากจนกูสับสนไปหมด ไม่รู้ว่ะ แต่กูรู้สึกดีเวลาพี่มันมาวอแวอยู่ใกล้ๆ มาทำหน้ามึนๆใส่ แล้วกูก็ไม่พอใจที่พี่มันไปวอแวกับคนอื่นด้วย… แต่มึงก็รู้ใช่ไหมว่ากูแม่งไม่เคยชอบผู้ชายอ่ะ แต่กูแม่งก็ไม่อยากหลอกตัวเองไง… รู้ทั้งรู้ว่าอาการแบบนี้มันคือชอบชัดๆ แต่กูก็ไม่อยากยอมรับอยู่ดีอ่ะ แม่งง ปวดหัวโว้ยย” ไอ้ปืนดีดดิ้นไปมาพลางทึ้งหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้จิตใจอ่อนไหวง่ายจนอยากจะทึ้งหัวตัวเองซ้ำๆ ไม่คิดว่าคนที่รู้จักกันผ่านๆ เจอหน้าก็ทักทายตามประสารุ่นพี่รุ่นน้อง จะทำให้เขารู้สึกฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้


“ถ้าเป็นขนาดนี้กูว่ามึงคงจะชอบพี่เขาจริงๆนั่นแหละ”


“แต่มันไม่เร็วไปหน่อยหรอวะ”


“ถ้าเป็นเรื่องของความรู้สึกมันไม่มีอะไรที่เร็วไปหรือช้าไปหรอก มันขึ้นอยู่ที่ว่าตอนนี้มึงรู้สึก และเชื่อในความรู้สึกของตัวเองมากกว่า”


“แหมม ตั้งแต่มีผัวใหม่นี่ช่างพูดช่างจานะ”


“ไอ้สัด” กำลังจะเครียดตามมันก็ดันมากวนตีนใส่ซะงั้น


“เขินอ่ะดิ กิ้วๆ”


“บ้านมึงสิ” ไอ้ปืนหัวเราะอย่างอารมณ์ดี มองเสี้ยวหน้าของเพื่อนสนิทที่ติดจะยิ้มน้อยๆ รู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อได้ระบายความในใจที่อัดแน่นอยู่เต็มอก ถึงแม้จะยังสรุปไม่ได้ว่าควรทำยังไงต่อไปดี แต่ตอนนี้เขาไม่อยากคิดอะไรแล้ว เอาไว้เจอหน้าพี่มันอีกทีค่อยว่ากันใหม่ก็แล้วกัน


“ตอนนี้มึงมีความสุขดีใช่ไหมวะ” คนถูกถามขมวดคิ้วหน่อยๆกับหัวข้อสนทนาที่วกกลับเข้ามาหาตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นหันมายิ้มบาง เป็นรอยยิ้มเล็กๆที่ทำให้ไอ้ปืนเผลอยิ้มตามได้ไม่ยาก แล้วก็เป็นรอยยิ้มที่ช่วงหลังๆมานี้ไอ้ปืนได้เห็นมันอยู่บ่อยๆ เดือนสิบดูหัวเราะง่ายขึ้น ยิ้มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้เพื่อนสนิทอย่างเขาพลอยรู้สึกดีตามไปด้วย เพราะไม่บ่อยนักที่จะเห็นมันเป็นอย่างนี้ แม้กระทั่งตอนที่มันคบอยู่กับไอ้นุก็ตาม


“ดีสิ… ดีมากๆเลย”


“รู้ใช่ไหม ไม่ว่ายังไงกูก็อยู่ข้างมึง” ไอ้ปืนเลื่อนมือมากุมมือเขาไว้


“รู้น่า.. ไม่ต้องมาทำซึ้งเลยมึง” เดือนสิบหัวเราะเบาๆ


“หึๆ กับพี่ยุทธโอเคใช่ไหม พี่มันดูแลมึงดีใช่รึเปล่า” ไอ้ปืนถามจริงจัง


“อื้ม… โอเคมากๆ พี่มันดีกับกูมากจริงๆว่ะปืน ดีเกินไปจนบางทีกูก็แอบกลัว”


“….”


“กลัวว่าตัวเองจะยึดติดกับความรู้สึกดีๆที่พี่มันมีให้จนเคยตัว แล้วถ้าวันหนึ่งมันไม่เหมือนเดิมขึ้นมาล่ะ.. กู กูไม่รู้ว่ะ ถึงพี่มันจะบอกว่าเต็มใจทำทุกอย่างให้แต่กูก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี… กูแม่งเหมือนคนเห็นแก่ตัวอ่ะ กูต้องการความรักจากพี่มันแต่กูกลับไม่เคยให้อะไรกลับไปเลย กู..”


“ใจเย็น สิบ ใจเย็นก่อน” ปืนกระชับมือเพื่อนสนิทแน่นขึ้น เรียกสติมันด้วยประโยคเดียวกัน มองม่านกลมใสที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความสับสนและไม่มั่นใจ เขารู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง เดือนสิบก็แค่กำลังกลัว กลัวว่าถ้าให้ใจไปเต็มร้อยแล้วจะกลับไปเจ็บอย่างก่อน


“พี่ยุทธไม่ใช่ไอ้นุนะสิบ กูเชื่อว่าพี่มันจะไม่มีทางทำให้มึงเสียใจ” ปืนย้ำ จ้องลึกเข้าไปในหน่วยตาของเพื่อนสนิท


ถึงเขาจะแอบหมั่นไส้ที่พี่มันดูขี้เก็กไปหน่อย แต่ถ้าดูจากทั้งการกระทำและแววตาที่แสดงออกกับเดือนสิบเขาก็มันใจว่าพี่มันคงจะรักเพื่อนเขาจริง และตัวเขาเองก็คงได้แต่หวังว่าพี่มันจะไม่ทำให้เพื่อนเขาต้องเสียใจล่ะนะ


“แต่เอาจริงนะ.. มึงลืมไอ้นุได้แล้วจริงๆใช่ไหมวะ” ทำถามของไอ้ปืนทำให้เดือนสิบชะงัก


มันเป็นคำถามที่เขาไม่เคยคิดถามกับตัวเองมาก่อน  เอาจริงๆถ้าถามว่าลืมมันได้ไหมเขาก็คงตอบว่าไม่ แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่องของความรู้สึก เดือนสิบก็ตอบได้อย่างมั่นใจว่าเขาไม่ได้มีความรู้สึกดีๆให้มันแล้ว ถึงจะเคยรักมาก แต่ในเมื่อมันเลือกที่จะทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดีเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปอาลัยอาวรณ์อะไรมันอีก ถึงตอนนี้เขาจะยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเต็มร้อยนัก แต่เขาก็รู้ดีว่าต้องแคร์ความรู้สึกใครมากกว่ากัน…


“กูไม่ลืมหรอก.. แต่ก็มั่นใจว่าจะไม่กลับไปรู้สึกอะไรกับมันอีกแน่ๆ”


เดือนสิบยิ้มให้เพื่อนสนิท ไอ้ปืนยิ้มตอบ ก่อนจะขยี้ผมเขาเบาๆ


“กูดีใจนะ ที่เห็นมึงมีความสุข”


“อื้อ.. มึงก็รีบๆเข้าใจตัวเองซักที จะได้มีความสุขเหมือนกูไง”


**********


อิปืนมันซึนน 555555
แต่ก็ต้องเข้าใจเขาหน่อยล่ะเนอะ มาโดนรุกปุปปับแถมยังเผลอใจเต้นแรงไปอีกมันก็ต้องมีสับสนกันบ้าง
ส่วนในเรื่องความรู้สึกของพี่พีทน้านน....

 :กอด1:


หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-02-2017 19:16:35
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-02-2017 19:31:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 12-02-2017 20:48:35
 :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 12-02-2017 20:51:04
เป็นใครก็กลัว พึ่งเจ็บมาหมาด ๆ ใจมันก็ต้องระแวง
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-02-2017 21:05:24
ยุทธนา เดือนสิบ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
ปืน พี่พีท  :mew1:
     
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 12-02-2017 21:19:31
พี่พีทรุกซ้าาาาา แอบแต๊ะอั๋งตลอดดด
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-02-2017 21:53:04
 :L2: o18สมน้ำหน้าปืน
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 12-02-2017 22:22:28
นึกถึงตอนที่เจอพี่ยุทธครั้งแรกน้านนน.... อื้อหือ คนละคนป่ะเนี่ย จากนิ่งนี่เจ้าเล่ห์แพรวพราว กระเง้ากระงอด ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 12-02-2017 23:07:59
ปืนไม่น่ารอด

5555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 12-02-2017 23:15:29
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Nae_Nae ที่ 13-02-2017 01:27:38
โอยยยยยยยยยยยย ฟินนน ชอบคู่ปืนพี่พีทททท เอาอีกกกก งือออ ขอแบบมีแทรกมาในคู่หลักทุกตอนแบบนี้นะจะกราบคนแต่งงามๆ สามที งือออออ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 13-02-2017 06:53:28
เข้าใจปืนนะมันก็คงต้องมีสับสนกันบ้างแหล่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 13-02-2017 08:47:41
เป็นไรไหมถ้าบอกว่าชอบคู่รองมากกว่า 5555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 13-02-2017 13:08:02
พี่พีทนี่คิดยังไง มาทำปืนของเราสับสนแล้วต้องเอานางให้ตลอดรอดฝั่งนะ  :hao7:
พี่ยุทธนี่ก็ขยันทำให้สิบเขินตลอดเลย
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-02-2017 19:48:08
พี่ยุทธรุกเร็วๆ น้องกะลังจะตกหลุมแล้วววว
พี่พีทอ่อยหนักมากกก เล่นเอาปืนไปไม่เปนเลยจร้า 555555555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 13-02-2017 20:00:13
มาสมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ค่า
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 13-02-2017 23:22:37
พี่พีทรุกแรงง  :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 13 Up. [12/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 14-02-2017 21:06:00
ปืนจะมีแฟนแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 15-02-2017 20:04:55

14


ยุทธนาชะงักเท้า เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเจอใครอีกคนกำลังนั่งหน้ายุ่งอยู่บนเตียง เสียงเปิดปิดประตูเรียกให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนเสียงทุ้มห้าวจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือความเป็นห่วง


“พี่ยุทธ หายไปไหนมาครับ” ยุทธนายิ้มบาง ก่อนจะชูกล้องถ่ายรูปในมือให้อีกฝ่ายดูแทนคำตอบ เขาเดินเข้าไปในห้อง วางกล้องถ่ายรูปไว้บนเตียงก่อนจะเดินมานั่งลงข้างๆอีกคน


“เป็นห่วงรึไง” ถามยิ้มๆ มองอีกคนที่ยังขมวดคิ้วไม่เลิก


“ห่วงสิครับ ถามพี่หินก็บอกไม่รู้ไม่เห็น โทรศัพท์ก็ไม่พกไป เกิดเป็นอะไรขึ้นมาแล้วจะติดต่อคนอื่นได้ยังไงล่ะครับ”


“ขี้บ่นว่ะ” ว่าพลางหัวเราะเบาๆ ทว่าอีกคนกลับไม่ขำด้วย


อันที่จริงเขาบอกไอ้หินแล้วว่าจะแวะไปถ่ายรูปสักหน่อย ฝากให้มันเอากับข้าวกลับมาที่บ้านพักก่อน แต่ดูเหมือนสารที่ฝากมันส่งให้คนทางนี้จะไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ อีกอย่างเขาก็ไม่คิดว่าจะเพลินมือจนค่ำมืดขนาดนี้ด้วย


“ไม่ต้องมาพูดดีเลย แล้วนี่กินอะไรมารึยังครับ”


“ยังเลยครับ หิวมาก”


“ทำไมไม่รู้จักหาอะไรกินรองท้องก่อนล่ะครับ ปวดท้องมาจะลำบากเอานะ…”


“ขี้บ่นจริงๆด้วย” ยุทธนาว่ายิ้มๆ พลางโยกหัวอีกฝ่ายไปมา เดือนสิบเบี่ยงตัวออกก่อนจะหันมาย่นจมูกใส่คนเป็นพี่


น้องบ่นให้เขาอีกนิดหน่อยก่อนจะไปยกเอากับข้าวที่แบ่งไว้มาให้ พอกินเสร็จก็ถูกสั่งให้ไปอาบน้ำ ออกมาอีกทีก็เห็นว่าอีกฝ่ายนอนตาแป๋ว จ้องเขม็งมาทางประตูห้องน้ำอยู่บนเตียง แต่พอเห็นว่าเขาพันผ้าเช็ดตัวออกมาผืนเดียวเจ้าตัวก็หน้าตาตื่นรีบเบือนหน้าหนีเป็นพลันวัน แถมยังเอาผ้าห่มคลุมโปงอีกต่างหาก ยุทธนาหัวเราะในลำคอมองลูกแมวที่ตอนนี้กลายเป็นเต่าหดหัวเข้ากระดองไปซะแล้ว


กระทั่งแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยอีกคนก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม ยุทธนาสาวเท้าเข้าไปใกล้ก่อนจะนั่งลงบนเตียงเดียวกัน แรงยวบของเตียงทำให้คนแกล้งหลับถึงกับเผลอเกร็งตัวไปชั่วขณะ เดือนสิบหลับตาปี๋ยึดผ้าห่มไว้แน่นเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังดึงมันออก


“แฟนพี่กลายเป็นดักแด้ไปซะแล้ว ไหนออกมาคุยกันก่อนเร็ว” เสียงทุ้มเจือหัวเราะดังใกล้หู ยิ่งส่งผลให้อีกคนยื้อแย่งผ่าห่มไว้แน่น เดือนสิบครางฮือ ส่ายหัวปฏิเสธอยู่ในผ้าห่มเอาเป็นเอาตาย แต่คนเป็นพี่ก็ไม่คิดยอมให้


“ถ้าไม่ออกมาพี่จะมุดเข้าไปแล้วนะ” ไม่ว่าเปล่าแต่ยังทำเหมือนจะมุดเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันจนเดือนสิบถึงกับหน้าตาตื่น สุดท้ายก็ต้องยอมโผล่หน้าออกมาจนได้ ยุทธนาหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสภาพผมเผ้ายุ่งเหยิงของอีกฝ่าย หน้าตายับยู่มองเขาอย่างค้อนๆ


“ทำไมถึงกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้เนี่ยพี่ยุทธ” บ่นพลางกระชับผ่าห่มในมือแน่น ไม่วายคนพี่ยังตามมายื้อยุดจนสุดท้ายก็ต้องมานั่งหน้างอเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยไร้ปราการผ้าห่มขวางกั้นจนได้ แล้วตาพราวๆนั่นอีก มันน่าจิ้มให้บอดนัก เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นอย่างนี้เลย


“เป็นยังไงครับ หืมม?”


“หึยย.. ไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้เลย” ว่าพลางดันหน้าคนเป็นพี่ออก ทว่าอีกคนกลับไม่ยอมถอยห่าง มือหนาเลื่อนมาจับมือเขาออกแล้วกุมเอาไว้หลวมๆ


“อยากจูบ” คำพูดโต้งๆเล่นเอาเดือนสิบถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากหวอตาเหลือกมองคนเป็นพี่อย่างอึ้งๆ ยุทธนามองแก้มใส
ที่ค่อยๆปรากฏริ้วแดงขึ้นจางๆ อย่างน่ารักน่าชัง ก่อนจะฉวยจังหวะนี้กดริมฝีปากแนบเข้ากับกลีบปากอิ่มโดยที่น้องไม่ทันตั้งตัว เขาไม่ได้รุกล้ำเพียงแค่จูบเบาๆแล้วผละออก มองน้องที่กำลังจ้องกลับมาไม่ต่างกัน


“ถ้าจ้องนานกว่านี้พี่ไม่รับประกันความปลอดภัยแล้วนะ” เขาว่ายิ้มๆ เกลี่ยผิวแก้วใสเบาๆ กระทั่งดวงตากลมโตเริ่มกระพริบปริบคล้ายเพิ่งได้สติ แต่ยังไม่ทันจะได้ละมืออกเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อน้องเป็นฝ่ายขยับเข้ามาชิดจนแทบเกยขึ้นมาบนตัก ซ้ำลำแขนเรียวยังเลื่อนขึ้นมาเกาะเกี่ยวอยู่ที่บ่ากว้าง ม่านตากลมจ้องสบกับเขา มีทั้งแววไม่มั่นใจและแน่วแน่สลับผสมปนเปกันไปหมด และเหนือสิ่งอื่นใดคือใบหน้าเนียนใสที่ค่อยๆเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่รินรดกันและกัน


“สิบ..”  เขาเรียกน้องเสียงแผ่ว ก้อนเนื้อในอกเริ่มเต้นกระหน่ำไม่เป็นจังหวะ ยิ่งน้องขยับเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ใจเขาก็ยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเท่านั้น อดยอมรับไม่ได้จริงๆว่ากำลังรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาไม่รู้ว่าน้องกำลังคิดจะทำอะไร แต่ต่อให้รู้ เขาก็แน่ใจว่าจะไม่มีทางหยุดมัน


ชั่วขณะที่ยุทธนาเผลอกลั้นลมหายใจยามม่านกลมไหวระริกซ้อนมอง เสี้ยวนาทีที่เปลือกตาบางปิดลง ก่อนที่ริมฝีปากสีสดจะค่อยๆกดแนบลงมา เพียงแค่แตะค้างไว้อย่างนั้นโดยไม่มีการรุกล้ำใดๆ แต่น่าแปลก ที่มันกลับทำให้เขาอุ่นซ่านไปทั่วทุกอณูของร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายที่กำลังลิงโลดด้วยความยินดี


ครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่น้องเป็นฝ่ายเริ่มจูบเขาก่อน ท่าทีที่ค่อยๆรุกเข้าหาอย่างกล้าๆกลัวๆทำให้ยุทธนาต้องข่มใจไม่ให้ตัวเองสติหลุดและเผลอรุกน้องกลับไปซะก่อน กลีบปากที่เริ่มขยับช้าๆเร่งให้อัตราการเต้นของหัวใจสั่นไหวรุนแรง ในเมื่อน้องอยากลองเป็นฝ่ายริเริ่ม เขาก็จะปล่อยให้เจ้าตัวได้ทำตามใจ แม้จะไม่รู้เหตุผลว่าอะไรทำให้เดือนสิบกล้ารุกเขาถึงขนาดนี้ก็ตาม


สัมผัสเชื่องช้าดำเนินไปเรื่อยๆโดยที่ยุทธนาเป็นฝ่ายรอคอยอย่างใจเย็น เขาวางฝ่ามือไว้ที่แผ่นหลังเล็ก ลูบเบาๆเพื่อให้น้องรู้สึกผ่อนคลาย ก่อนจะเผลอกลั้นลมหายใจเป็นครั้งที่สอง เมื่อความนุ่มหยุ่นของปลายลิ้นเล็กค่อยๆแตะลงที่กลีบปาก สัมผัสเชื่องช้าแต่กลับเรียกความรู้สึกร้อนรุ่มยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่าท่าทางเงอะงะดูไม่มั่นใจของอีกฝ่ายเริ่มดึงสติเขาให้ขาวโพลน เสี้ยวนาทีต่อมาที่ความอดทนขาดสะบั้น เมื่อปลายลิ้นแตะกันเบาๆ ไม่ปล่อยให้อีกคนได้มีโอกาสผละออกเขาก็รวบกายเล็กเข้าหาแล้วเป็นฝ่ายมอบจูบร้อนแรงกลับไป


 “อื้อม!” ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกรั้งจนขึ้นมานั่งเกยอยู่บนตักแกร่ง สัมผัสบางเบาที่ตนเป็นฝ่ายริเริ่มถูกสนองคืนด้วยความร้อนแรงอีกเป็นเท่าตัว เดือนสิบไม่ได้ขัดขืน หากแต่ฝ่ามือเล็กกลับเกร็งแน่นอยู่ที่บ่ากว้าง เขาหลับตาปี๋ เอียงหน้ารับสัมผัสจาบจ้วงตามที่อีกฝ่ายมอบให้อย่างกล้าๆกลัวๆ ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่จูบกัน แต่ครั้งนี้กลับดูจะร้อนแรงกว่าครั้งไหนๆ ก้อนเนื้อในอกเต้นระส่ำยามเมื่อเรียวลิ้นถูกกวาดต้อนให้จนมุม เกี่ยวกระหวัดพัวพันอย่างชำนาญจนความคิดในหัวเริ่มพล่าเบลอ


“สิบ..” ร่างสูงเอ่ยเสียงพร่าชิดกลีบปากมันวาว กดจูบซ้ำๆทั่วใบหน้าเนียนของคนที่ยังหอบหายใจจนทั้งร่างไหวสะท้าน เขากอดกระชับร่างเล็กเข้าหา สัมผัสแนบสนิทจนไม่เหลือพื้นที่ว่างระหว่างกัน จับแขนน้องให้เกี่ยวรอบลำคอ สบตากลมวาวไหวก่อนจะเป็นฝ่ายแนบริมฝีปากเข้าหาอีกครั้ง เสียงจูบดังก้องขึ้นในหูก่อนที่เดือนสิบจะขย้ำเสื้อยืดตัวบางของอีกฝ่ายเอาไว้เพื่อระบายความรู้สึกปั่นป่วนที่เกิดขึ้น


ยุทธนายกร่างเล็กขึ้นเล็กน้อย จัดแจงให้นั่งคร่อมตักเขาโดยที่ริมฝีปากไม่ยอมผละห่าง ฝ่ามือสากระคายลูบไล้ไปตามแผ่นหลังเนียน ชอนไชผ่านเนื้อผ้าบางเบาเข้าสัมผัสผิวเนื้อนิ่ม มอมเมาให้น้องลุ่มหลงไปกับจูบร้อนแรงที่เฝ้าป้อนให้ไม่ขาด เปิดโอกาสให้หายใจเพียงเล็กน้อย ก่อนจะเข้าสานต่อด้วยความหนักหน่วงจนอีกฝ่ายเริ่มอ่อนระทวย ลิ้นร้อนกวาดต้อนทุกความหวานล้ำในโพรงปาก ก่อนจะหยอกล้อเกี่ยวพันเข้ากับลิ้นเล็กที่พยายามตอบสนองกลับมาอย่างน่ารักน่าชัง


“อื้ออ! พะ พี่ยุทธ!” เป็นเดือนสิบที่แทบขาดใจหากร่างหนาไม่ยอมผละริมฝีปากออกมา ร่างเล็กหอบหายใจหนักหน่วงจนตัวโยน มือเล็กเกาะเกี่ยวอยู่ที่บ่ากว้าง โดยมีสายตาล้ำลึกของอีกฝ่ายเฝ้ามองอยู่ตรงหน้า มือแกร่งลูบไล้อยู่ที่เอวบาง เค้นคลึงหนักเบาสลับกันตามห้วงอารมณ์ที่กำลังปะทุ ขนกายลุกเกรียว เมื่อสัมผัสได้ถึงความต้องการของอีกฝ่ายที่ตัวเองกำลังนั่งทับ ร่างเล็กกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เผลอกลั้นหายใจยามที่ลมหายใจอุ่นๆเคลื่อนเข้ามารินรดผิวแก้ม


“หยุดพี่ที” เสียงสั่นพร่าไม่ต่างกันเอ่ยชิดกลีบปากที่เริ่มบวมเจ่อ เดือนสิบเอียงหน้าหนีก่อนที่มันจะได้ประกบลงมา มือเล็กขย้ำอกเสื้ออีกฝ่ายแน่นยามที่ริมฝีปากร้อนผ่าวเปลี่ยนเป้าหมายจากริมฝีปากเขาเคลื่อนผ่านทั่วใบหน้า แนบจูบซ้ำๆราวกับหลงใหลนักหนา เผลอสะดุ้งเฮือก เมื่อจุดที่โดนสัมผัสกลายเป็นช่วงลำคอขาว ฟันคมขบกัดลงไปแผ่วเบา แนบริมฝีปากร้อนผ่าวสร้างรอยรักเจือจาง เดือนสิบครางแผ่ว ก้อนเนื้อในอกไหวกระหน่ำราวกับจะหลุดออกมาเสียให้ได้ อยากเอ่ยห้ามอีกฝ่ายหากเสียงที่เปล่งออกมากลับแผ่วเบาราวกระซิบ


“พี่ยุทธ…” มือบางจิกเข้าที่แผ่นหลังกว้างไม่เบานัก ยิ่งกลีบปากร้อนแนบเข้าหาผิวเนื้อมากเท่าไหร่ร่างกายก็ยิ่งสั่นไหวอย่างไม่อาจควบคุม


ยุทธนารับรู้ว่าน้องกำลังตัวสั่นและตัวเขาเองก็กำลังรู้สึกไม่ต่างกัน เพียงแต่น้องสั่นเพราะกำลังกลัว ผิดกับเขาที่สั่นเพราะกำลังต้องการ… เขาลูบแผ่นหลังเล็กไปมาอย่างปลอบประโลม กดจูบซ้ำๆที่ลำคอขาว ขบกัดแผ่วเบาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะซบหน้าลงกับลาดไหล่เล็ก สูดเอากลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมกลิ่นแป้งเด็กเข้าจนเต็มปอด หวังให้มันช่วยคลายอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นมาอย่างหนักหน่วง


“พี่ยุทธ” มือบางทาบลงที่ต้นแขนแกร่ง ร่างสั่นสะท้านและลมหายใจหอบหนักอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ของคนเป็นพี่ทำยิ่งให้เดือนสิบรู้สึกผิด ทั้งๆที่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการเขามากแค่ไหน แต่เพราะความกลัวไม่เข้าเรื่องก็ทำให้เขาเลือกที่จะหยุดมัน หยุดทั้งๆที่ตัวเองเป็นฝ่ายริเริ่ม


 “พี่… พี่โอเค” น้ำเสียงกะท่อนกะแท่นขัดกับถ้อยประโยคที่เอ่ยออกมา ยุทธนาลูบแผ่นหลังเล็กไปมา พรมจูบซ้ำๆลงบนลาดไหล่แคบ ข่มตาหลบซ่อนความต้องการมากมายที่ปะทุจวนจะระเบิด


ขนาดแค่ได้สัมผัสเพียงภายนอกเขายังเป็นมากขนาดนี้.. ถ้ามากกว้านี้เขาคงได้สำลักความสุขตาย


“ผมขอโทษ… พี่อย่าโกรธผมนะ อย่าเพิ่งเบื่อผม” น้ำเสียงทุ้มห้าวเจือแววสำนึกผิดดังขึ้นข้างหู ก่อนที่น้องจะกอดรัดแผ่นหลังเขาไว้แน่น ซุกหน้าเข้าหาบ่ากว้างไม่ต่างกัน ยุทธนาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่นึกโกรธที่น้องเลือกจะหยุดทั้งๆที่เป็นฝ่ายเริ่มมันขึ้นมาเอง เขารู้ว่าน้องยังกลัวและยังไม่เชื่อใจในตัวเขาร้อยเปอร์เซ็น ยอมให้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว..


“พี่จะโกรธเราทำไมฮึ แค่นี่ก็รักจะแย่อยู่แล้ว” ถึงแม้ว่าร่างกายจะต้องการมากขนาดไหนแต่ในเมื่อน้องไม่พร้อมเขาก็ไม่อยากฝืน …แต่จะให้ทนอยู่แบบนี้ต่อไปเขาก็ชักทนไม่ไหวเหมือนกัน ไอ้ที่คิดว่าจะสงบลงง่ายๆแต่ยิ่งมาได้สัมผัสกันแนบชิดแบบนี้กลับยิ่งเตลิดไปใหญ่


คิดได้ดังนั้นยุทธนาก็ค่อยๆดันตัวอีกฝ่ายออก น้องมองเขาอย่างไม่เข้าใจนัก ม่านตากลมใสยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดเต็มเปี่ยม เขาเลยลูบกลุ่มผมนุ่มเบาๆ ยกยิ้มให้น้องสบายใจ บอกเพียงสั้นๆว่าเดี๋ยวมา ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการกับอะไรๆที่กำลังเกรี้ยวกราดให้มันสงบลง เดินกลับออกมาก็เห็นว่าน้องยังคงนั่งกอดเข่าหน้าเครียดอยู่ที่เดิม เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ รั้งเอวบางเข้าแนบชิดจับให้พิงกับแผ่นอกกว้าง เจ้าตัวดูจะตกใจหน่อยๆก่อนจะโอนอ่อนผ่อนตามในเสี้ยวนาทีถัดมา


 “เครียดอะไรฮึ?” เอ่ยถามพลางลูบหัวทุยสวยไปด้วยอย่างเคยมือ เดือนสิบส่ายหัว เอนหลังพิงกับอกกว้างอย่างผ่อนคลาย จับมือหนาอีกข้างของคนพี่มากอดไว้แนบอก หลับตาพริ้มรับสัมผัสอ่อนโยนที่เลื่อนมาเกลี่ยเล่นที่ผิวแก้มนุ่ม ท่าทางออดอ้อนเหมือนลูกแมวทำให้ยุทธนาหลุดยิ้ม บีบมือเล็กของน้องที่กุมมือเขาไว้เบาๆ


“อย่าเพิ่งเบื่อผมนะครับ” เอ่ยเสียงเบาราวกระซิบ หากแต่ระยะห่างไม่ถึงฝ่ามือกั้นจึงทำให้ยุทธนาได้ยินมันชัดเจน เขากระชับกอดแน่นขึ้น กดจูบหนักๆลงที่ข้างขมับเนียน เน้นย้ำคำตอบด้วยสัมผัสและคำพูดที่เต็มไปด้วยความรู้สึก


“พี่รักสิบ พี่รอได้”


เสียงพึมพำขอบคุณดังขึ้นให้ได้ยิน นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เขานั่งกอดน้องอยู่ในท่านั้น กระทั่งคนในอ้อมกอดผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ มือที่เคยจับกุมมือเขาเอาไว้แน่นเริ่มคลายออก ยุทธนาหลุดยิ้มเอ็ดดู ค่อยๆขยับให้อีกฝ่ายนอนดีๆ แต่ในจังหวะที่กำลังจะลุกกลับไปนอนที่เตียงตัวเองมือของคนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับยึดชายเสื้อเขาเอาไว้แน่น เลื่อนขึ้นไปมองหน้าก็เห็นว่าน้องกำลังมองมาที่เขาตาแป๋ว กลีบปากอิ่มเม้มเข้าหากันน้อยๆ คล้ายจะพูดอะไรแต่เหมือนยังลังเล เขายิ้มให้ ลูบหัวน้องเบาๆ


“อยากได้อะไรครับ” เอ่ยถามไปแบบนั้น แต่ถ้าหากไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปก็พอจะรู้ว่าน้องต้องการอะไร เพียงแค่เดือนสิบเอ่ยปาก..


“….”


“….”


“นอนด้วยกัน.. ได้ไหมครับ” ยุทธนาแทบจะหลุดยิ้มกว้าง ดีที่สะกดกลั้นความดีใจจนออกนอกหน้าไว้ได้ทันจึงมีเพียงยิ้มน้อยๆเท่านั้นที่หลุดออกมาให้อีกฝ่ายได้เห็น เขาแกะมือน้องออกก่อนจะเดินผละออกมา แอบเห็นว่าอีกฝ่ายหน้าเสียไปเล็กน้อย ตากลมมองตามแผ่นหลังกว้างละห้อย ดูน่าสงสารระคนเอ็นดูจนทนใจแข็งแกล้งต่อไม่ไหว


กดปิดไฟก่อนจะเดินเร็วๆมาหาคนตอนนี้นอนหันหลังให้กันไปซะแล้ว แรงยวบเบาๆทำให้เดือนสิบหันมามอง พอเห็นว่าเป็นใครก็เผยยิ้มจาง ดวงตาเป็นประกายสะท้อนแสงจันทร์ไหวระริกหมดคราบท่าทางเหงาหงอยเมื่อครู่ไปเสียสิ้น ยุทธนาไม่ได้พูดอะไร เขายิ้มตอบก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆน้อง สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกันที่อีกฝ่ายใจดีแบ่งให้ซะเกินครึ่ง กอดกระชับเอวบางเข้าหาอย่างถือวิสาสะจนใบหน้าน่ารักซุกแนบเข้ากับอกกว้าง


ความกว้างของเตียงไม่ได้มีมากนัก ผู้ชายสองคนมานอนเบียดกันแบบนี้อาจทำให้รู้สึกอึดอัด แต่เชื่อเถอะ ว่าต่อให้แคบกว่านี้ถ้ามีร่างเล็กอยู่ในอ้อมกอดยุทธนาก็เต็มใจ…


“ขอบคุณครับ” เดือนสิบพำพำกับอกกว้าง หลับตาพริ้ม ฟังเสียงก้อนเนื้อในอกที่เต้นระรัวอยู่ข้างหู รู้สึกดีจนเผลออมยิ้มเล็กๆออกมาโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว


“อ้อนบ่อยๆแบบนี้ใจพี่จะแย่เอานะ” เอ่ยชิดกระหม่อมบาง


“ใจดีบ่อยๆแบบนี้ใจผมจะแย่เอานะ” ตอบกลับอู้อี้อยู่กับอกกว้าง เล่นเอาคนฟังถึงกับเหวอค้างไปไม่เป็น ไม่คิดว่าน้องจะตอบกลับมาในรูปประโยคแบบเดียวกัน ซ้ำยังมีออฟชั่นเสริมเป็นหัวทุยที่ส่ายไปมาอย่างอ้อนๆอยู่กับอกเขาอีกต่างหาก ถ้อยเจรจาน่าเอ็นดูจนอดใจไม่ไหวต้องกอดรัดร่างของอีกฝายแรงๆ ทั้งหมั่นเขี้ยวและถือเป็นการลงโทษที่กล้ามาทำตัวน่ารักใส่โดยไม่เกรงใจความอดทนอดกลั้นกันแบบนี้ ไม่รู้จะทนไปได้อีกนานแค่ไหน


“น่ารักเกินไปแล้วเดือนสิบ”


.
.


“เอาไงเชี่ยปืนจะแดกต่อหรือจะนอน กูง่วงแล้วนะเนี่ย” ปกรณ์บ่นใส่รุ่นน้องหน้ายุ่ง ก่อนจะอ้าปากหาวหวอดยืนยันความง่วงของตัวเอง ไม่รู้มันคึกอะไรนักหนาถึงได้ชวนเขามานั่งดื่มจนดึกดื่นขนาดนี้ ไอ้พวกที่เหลือก็ดันพากันสลบเหมือดแยกย้ายเข้าห้องใครห้องมันไปหมดแล้ว


“ผม… เครียดว่ะพี่” ไอ้คนเมาที่เอาแต่ซดน้ำเมาเงียบๆมาตลอดพูดพึมพำในลำคอ แต่ไม่วายคนหูดีอย่างเขาก็ได้ยินมันชัดเจนอีก


“เครียดห่าไรมึง นกเขาไม่ขัน?” คำถามกวนอวัยวะเบื้องล่างของรุ่นพี่ตัวเล็กเล่นเอาไอ้ปืนถอนหายใจพรืด


“ไม่ใช่ดิ… เพื่อนพี่..” มันเงียบไป ยกเบียร์ขึ้นซดอีกอึกใหญ่ “เพื่อนพี่แม่ง.. คิดยังไงกับผมกันแน่วะ” คำถามของมันเล่นเอาปกรณ์ขมวดคิ้ว


“ใครวะ”


“อึก.. พี่พีท” มันซดเบียร์อีกอึกใหญ่


“ไอ้พีท? มันทำไมวะ” ปกรณ์เกาหัวแกรก มองหน้าแดงๆของรุ่นน้องอย่างงงๆ ไม่เข้าใจว่ามันไปมีเรื่องอะไรกับเพื่อนตัวเองตอนไหน เพราะเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมายังนั่งดื่มด้วยกันอยู่ดีๆ ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะขอตัวไปอาบน้ำนอนเมื่อยี่สิบนาทีก่อน


“ทำให้.. หงุดหงิด ทำไมต้องไป.. อึก อ้อร้อกับคนอื่น..” ไอ้ปืนพูดอ้อแอ้จนคนฟังฟังแทบไม่ได้ศัพท์


“เดี๋ยวๆเชี่ยปืน มึงตั้งสติดีๆดิไอ้สัด กูฟังไม่รู้เรื่อง อ้าวเฮ้ย! แล้วนั่นมึงจะไปไหน” เป็นอีกครั้งที่ปกรณ์ได้แต่เกาหัวงงๆ มองตามหลังรุ่นน้องที่อยู่ดีๆมันก็ลุกขึ้นปุบปับ เดินบ่นพึมพำตลอดทางจนหายลับเข้าไปในห้อง


“แม่ง.. ชวนกูมาแดกแต่เสือกทิ้งกูไปไม่ลาซักคำอีก” ปกรณ์บ่นตามหลังรุ่นน้องอย่างเซ็งๆก่อนจะเดินเซๆกลับเข้าห้องตัวเองไป

.
.

“พี่พีท.. อึก พี่จะเอายังไงกันแน่วะ… ชอบนักหรือไง… ที่ได้ปั่นหัวคนอื่นเล่นแบบนี้ อึก! คิดว่าน่ารักแล้วจะทำอะไรก็ได้หรอ!”


“เป็นห่าอะไรของมึงเนี่ยเชี่ยปืน”


พีท หรือพีระ ที่กำลังเช็ดผมของตัวเองอยู่หันมามองรุ่นน้องตัวสูง ที่อยู่ดีๆก็เดินเซๆเข้ามาหาเขาก่อนจะพ่นคำพูดยืดยาวด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ ใบหน้าหล่อเหล่าแดงก่ำหนักกว่าตอนที่เขาแยกออกมาบ่งบอกว่าหลังจากนั้นตัวมันคงดื่มไปไม่น้อย คาดว่าอาจถึงขั้นสติไม่เต็มเต็ง มันถึงได้ทำใจกล้าแบกหน้าหล่อๆเข้ามาหาเรื่องเขาแบบนี้


“ที่มาแกล้งมาแหย่… อึก นี่จริงๆแล้วชอบผมใช่ไหม หรือแค่เพราะคิดว่า… ตัวเองน่ารักแล้วจะเที่ยวไปทำให้ใครหวั่นไหวง่ายๆก็ได้หรอ พี่แม่ง… นิสัยไม่ดีชิบหาย ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ… ทำไม.. อึก ต้องมายุ่งกับผม! ทำไมต้องมาทำให้หงุดหงิด!” ไอ้ปืนสาวเท้าเข้ามาใกล้แต่ด้วยสติไม่เต็มร้อยมันถึงได้เซไปเซมาจนต้องยึดเสาเตียงไว้ ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำ ม่านคมปรือปรอยจ้องเขม่งมาที่เขาไม่ลดละ


พีทสูดหายใจลึก ความรู้สึกดีใจระคนตื่นเต้นเล็กๆเกิดขึ้น เมื่อได้ยินคำพูดที่คนเมาพร่างพรูออกมาหมดสิ้น เขาโยนผ้าเช็ดผมไว้บนเตียงลวกๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายสาวเท้าเข้าไปหามันแล้วผลักร่างสูงโย่งไม่เบานัก จนไอ้ปืนนอนหงายไปกับเตียง เขาขึ้นคร่อมมันไว้ทั้งตัว ก่อนจะจับประคองใบหน้าเห่อแดงจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ให้มองกัน มันดูตกใจเล็กๆแต่ไม่ได้ผลักเขาออก


“กูชอบมึง” ตาปรือๆของมันเบิกขึ้นเล็กน้อย


เขาไม่ได้โกหก ที่บอกว่าชอบคือชอบมันจริงๆ อย่างที่บอกว่าไอ้ปืนมันดูดี มันยิ้มง่าย มันคุยเก่ง มันทำให้เขาละสายตาจากมันไปไหนไม่เคยได้นาน และเหนือสิ่งอื่นใดคือมันตรงสเป็คเขาทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหน้าตาหรือบุคลิกนิสัย


เขาเจอมันครั้งแรกในผับ มันเมามากหากแต่ความเป็นสุภาพบุรุษกลับเต็มเปี่ยม วันนั้นเขาไปเที่ยวกับเพื่อนตามปกติ หากแต่โชคไม่ดีเพราะดันไปมีเรื่องกับแฟนเก่าที่จบกันไม่สวย แต่จะเรียกว่าจบกันได้หรือเปล่า ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่เคยแม้แต่จะออกปากเลยซักครั้งว่าเราเป็นอะไรกัน


 ‘รังแกคนไม่มีทางสู้แบบนี้ได้ไงวะพี่’ น้ำเสียงอ้อแอ้ของใครสักคนดังขึ้นด้านหลัง เรียกให้ทั้งเขาและ’พี่โต้ง’ที่กำลังยื้อยุดกันอยู่หน้าห้องน้ำหันไปมอง ใบหน้าหล่อเหลาของผู้ชายคนนั้นแดงก่ำ ดวงตาคมกริบหากแต่ปรือปรอยหรี่มองมาที่ข้อมือเขาที่กำลังถูกพี่โต้งยื้อไว้แน่น


‘เรื่องของผัวมึงเสือกเหี้ยไรวะ!’ คนที่มีสภาพเมามายไม่ต่างกันสวนกลับ ถ้อยคำเรียกขานทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสถานะนั้นแล้วทำให้พีทปฏิเสธกลับไปเสียงแข็ง


‘ไม่ใช่นะ!’ เขาพยายามยื้อแขนกลับหากแต่อีกฝ่ายฉุดรั้งไว้แน่น


‘ก็เห็นอยู่ว่าน้องเขาไม่เต็มใจ ผมว่าพี่ปล่อยเขาไปดีกว่า’ ผู้ชายคนนั้นพูดดีๆ หากแต่อีกคนกลับตอกกลับด้วยโทสะที่เริ่มเดือดดาล


‘เสือกไอ้สัด!’


“อ้าว นี่ผมคุยด้วยดีๆนะ คนไม่เต็มใจยังจะไปบังคับเขา นี่พี่ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่รึเปล่าวะ”


“แล้วมึงเสือกเหี้ยไร จะเอาหรอไอ้สัด!!”


“เอาก็เอาดิวะคิดว่ากูกลัวหรอไอ้เหี้ย!”


พลั่ก!


โครม!


“เฮ้ย!” เขาได้แต่อุทานอย่างตกใจ เมื่อคนมาใหม่ที่ดูเหมือนจะเป็นคนอารมณ์เย็นในทีแรกเป็นฝ่ายเปิดฉากกระโจนเข้าต่อยพี่โต้งก่อนจนพี่มันล้มโครมลงไปกระแทกพื้น เท่านั้นไม่พอมันยังเข้าไปเตะอัดซ้ำๆเข้าที่ชายโครงจนแฟนเก่าเขาถึงกับร้องโอดโอยยกมือยอมแพ้และเป็นฝ่ายถอยออกไปในที่สุด


‘ขอบคุณนะ’ เขาว่าพลางลูบข้อมือตัวเองที่แดงเถือกไปหมดเพราะแรงกระชาก แต่ก็ต้องตกใจเมื่อคนที่มีแรงเตะอัดคนอื่นป้าบๆอยู่เมื่อครู่เซแท่ดๆทำท่าจะล้มลงไปจนต้องเข้าไปช่วยประครอง กระทั่งฝ่ายนั้นยืนตัวตรงด้วยตัวเองได้แล้วยกมือขึ้นทำท่าบอกว่าไม่เป็นอะไร เขาเลยถอยออกมา


‘ไม่เป็นไร คราวหน้า… คราวหลังก็ระวังตัวหน่อย ดูดิ หน้าตายิ่งดูล่อเสือล่อตะเข้อยู่ด้วย แล้วทีหน้าทีหลัง… มาเที่ยวที่แบบนี้จะมาเข้าห้องน้ำต้องพาเพื่อนมาด้วยรู้เปล่า… เกิดเจอแบบเมื่อกี้อีกจะแย่เอา ตัวก็ผอมบางแค่นี้… อึก จะเอาแรงที่ไหนไปสู้ ดูดิเนี่ย… ผิวช้ำหมด’ เขาได้แต่พยักหน้าหงึกหงักยอมรับ ทั้งที่นิสัยจริงๆไม่ใช่พวกที่จะยอมอยู่นิ่งให้คนอื่นมาชี้นิ้วสั่งสอน ยิ่งกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันยิ่งแล้วใหญ่ แต่กับคนๆนี้กลับต่างออกไป ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายเข้ามาช่วยเขาไว้ หรือเป็นเพราะสัมผัสอ่อนโยนที่แตะลงบนผิวเนื้อแดงเถือกและตาคมๆที่จ้องมาดุๆนี่กันแน่ ที่ทำให้เขาเผลอนิ่งไปจนยอมให้อีกฝ่ายสั่งสอนราวกับเด็กน้อยอยู่แบบนี้


‘ไป.. กลับโต๊ะไปได้แล้ว กลับเองได้ใช่ไหมหรือต้องให้ไปส่ง’ อีกฝ่ายปล่อยข้อมือเขา เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงห้วนๆแต่กลับเจือความเป็นห่วงเล็กๆอยู่ในนั้น


‘ไม่เป็นไรครับผมกลับได้เองได้ แล้วก็ขอบคุณมากๆที่เข้ามาช่วย’ เขายิ้มให้ อีกฝ่ายโบกมือพึมพำบอกว่าไม่เป็นไร ก่อนจะรุนหลังเขาเบาๆให้เดินกลับมาที่โต๊ะ ส่วนตัวเองก็เดินหันหลังเข้าห้องน้ำไป ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่เขายืนจับจ้องแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายอยู่ตรงนั้น


เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกดีๆกับใครซักคนโดยไม่ต้องมีเรื่องเซ็กเข้ามาเกี่ยวข้อง


เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกวูบไหวไปกับความเป็นห่วงเป็นใยจากคนที่ไม่รู้จัก


เป็นครั้งแรกที่เขานึกโทษตัวเองที่ไม่หาทางติดต่อกับคนอื่นจนต้องมานั่งเสียดายทีหลัง


เป็นครั้งแรก… ที่เขารู้สึกดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง


และเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเหมือนอกหักทั้งๆที่ยังไม่แม้แต่จะเริ่มจีบ…


เขาเจอไอ้ปืนอีกครั้งที่ห้องเชียร์คณะในวันสุดท้าย ด้วยความที่เป็นรุ่นพี่ปีสามและไม่มีหน้าที่อะไรในส่วนนั้นให้ต้องรับผิดชอบเขาเลยไม่เคยแม้แต่จะย่างกรายเข้าไปในห้องเชียร์ แต่เพราะวันนั้นเป็นวันสุดท้ายของการว้าก เป็นวันที่รุ่นพี่จะส่งมอบธงรุ่นต่อให้รุ่นน้อง จากความเบื่อหน่ายที่ต้องมานั่งฟังเพื่อนตัวเองตะคอกจนคอแทบแตกพลันเปลี่ยนเป็นความรู้สึกตื่นเต้นระคนดีใจปนประหลาดใจผสมมั่วไปหมด เมื่อเห็นร่างสูงของใครบางคนที่ติดอยู่ในห้วงความทรงจำจนยากจะสลัดให้หลุดปรากฏขึ้นในคลองสายตา


เขาคนนั้นยังคงดูดี ท่าทางอกตั้งตัวตรงยามตอบคำถามรุ่นพี่ดูสง่าผ่าเผย ‘N’ปืน’ เป็นชื่อที่เด่นหราอยู่บนอกเสื้อนักศึกษา ทำให้เขารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นรุ่นน้อง เผลอหลุดหัวเราะออกมาเบาๆยามนึกไปถึงสภาพของอีกฝ่ายในคืนนั้นที่ช่างแตกต่างกับตอนนี้ลิบลับ


‘สวัสดีครับผมชื่อนายธงรบ เกียรติบริภักดิ์ รหัส 0220 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ขอลายเซ็นหน่อยครับ’ เสียงทุ้มชัดถ้อยชัดคำดังขึ้นก่อนที่สมุดลายเซ็นจะถูกยื่นมาจ่อตรงหน้า ท่าทีนิ่งสงบของอีกฝ่ายทำให้เขามั่นใจว่ามันคงจำเขาไม่ได้ เผลอๆอาจจะจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ และแน่นอนว่าเขาเองก็ไม่คิดที่จะรื้อฟื้น…


หลังจากวันนั้นเขาก็เฝ้ามองมันมาเรื่อยๆ ไม่ได้ถึงกับเข้าไปตีสนิทแต่ก็คอยวนเวียนไปให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างที่บอกว่าไอ้ปืนมันเป็นคนอัธยาศัยดี เที่ยวคุยกับคนโน้นคนนี้ไปทั่วจนคนอื่นเขารู้จักมันเกือบทั้งคณะ และอีกเห็นผลที่ทำให้เขาไม่กล้าเข้าใกล้มันมากเกินไปคือไอ้ปืนไม่ได้ชอบผู้ชาย มันเป็นคนเจ้าชู้ คารมณ์มันดีไม่แพ้หน้าตาจึงทำให้สาวๆจากหลายคณะเข้ามาติดพันธ์ ไหนจะมีแบคอัพเสริมเป็นนามสกุลดังของนักธุรกิจใหญ่ที่พ่วงท้ายชื่อเท่ห์ๆของมันมานั่นอีก แค่ได้ยินก็คร้านว่าใครต่อใครจะรีบวิ่งเข้าหา



มีต่อ
.
.
.
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 15-02-2017 20:12:29
.
.

และเพราะแบบนั้น เขาถึงได้เลือกที่จะยืนอยู่ในจุดที่เป็นเพียงแค่รุ่นพี่มาตลอด แต่ถึงจะทำตัวเหมือนเดิม กิน เที่ยว และคบกับคนอื่นไปเรื่อยตามปกติที่เคยเป็นมา แต่ลึกๆในใจเขารู้ดีว่ามันไม่ปกติ เขามักจะมองหาร่างสูงโย่งของมันอยู่บ่อยๆ และสายตาก็มักจะไปหยุดอยู่ที่มันแทบทุกครั้ง ซึ่งนั่นมันทำให้เขาหงุดหงิด และพาลทะเลาะกับคนที่คบด้วยจนสุดท้ายก็ไปกันไม่รอด


ไอ้ปืนมีอิทธิพลกับเขามากเกินไป มากจนทำให้จากตอนแรกที่คิดจะตัดใจต้องเปลี่ยนมาลองไฟท์ดูซักครั้ง เขาเลือกเข้าหามันด้วยวิธีแกล้งตีมึนใส่แทนการเข้าหาแบบปกติและพูดคุยกันดีๆ เพราะคิดว่าถ้ามันรังเกียจจะได้ตีเนียนห่างออกมาโดยไม่ต้องเสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่าย แต่ในเมื่อตอนนี้มันเป็นฝ่ายพูดออกมาเองว่าคิดยังไง เขาก็ไม่จำเป็นต้องปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองอีกต่อไป


“พี่.. พูดว่าไงนะ” ไอ้ปืนครางแผ่ว คล้ายไม่เชื่อหูกับเรื่องที่ได้ยิน เขาก้มหน้าลงไปใกล้มัน ให้ระยะห่างเหลือเพียงฝ่ามือกั้น


“กูชอบมึง ชอบมานานแล้ว ที่แกล้งที่แหย่ก็เพราะว่าชะ อื้อ!” คำพูดถูกกลืนหายเมื่อคนที่อยู่ใต้ร่างเป็นฝ่ายกดท้ายทอยเขาเข้าหาแล้วประกบริมฝีปากลงมา ขบกัดสลับดูดดึงไม่เบานัก ก่อนที่ปลายลิ้นชื้นจะผลักดันกลีบปากเขาให้เผยออ้าแล้วสอดแทรกเขามาอย่างเอาแต่ใจ เสียงจูบดังก้องในหู รสฝาดเฝื่อนของแอลกอฮอล์ผสมกลิ่นบุหรี่จางๆยิ่งเพิ่มความดิบเถื่อนของจูบให้ร้องแรงขึ้นไปอีก ปลายลิ้นของมันเกี่ยวกระหวัดอย่างเอาแต่ใจ เรียกร้องให้ตอบสนองด้วยสัมผัสร้อนแรงไม่ต่างกัน


จาบจ้วง… แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าหลงใหล



พรึ่บ!


เขาถูกพลิกให้เป็นฝ่ายตกอยู่ใต้อาณัติโดยที่กลีบปากร้อนไม่ยอมผละห่าง จูบคร่าลมหายใจยังคงดำเนินไปอย่างไม่มีทีท่าว่าจะจบ ผลัดกันบดเบียดสลับดูดดึงอย่างกระหายราวกันต่างฝ่ายต่างโหยหาช่วงเวลานี้มาเนิ่นนาน ฝ่ามือร้อนผ่าวเลื่อนผ่านเสื้อยืดเนื้อบางเข้ามาสัมผัสผิวเนื้อภายใน ลูบไล้สลับฟอนเฟ้นหนักหน่วงสะเปะสะปะ


“อ๊ะ!” เผลอสะดุ้งสุดตัวเมื่อยอดอกถูกรุกรานด้วยปลายนิ้ว บดขยี้หนักหน่วงจนแผ่นอกสะท้อนขึ้นลงตามแรงหายใจหอบกระเส่า ไอ้ปืนเป็นฝ่ายผละจูบออกไป หอบแฮกไม่ต่างกัน เขาเลื่อนมือเข้าประคองใบหน้าหล่อเหลาของมันไว้ จ้องลึกลงไปในม่านตาคมที่กำลังแสดงออกถึงความต้องการอย่างไม่ปิดปัง ฝ่ามือร้อนผ่าวของมันยังคงบีบขย้ำอยู่บริเวณเหนือสะโพก ทุกสัมผัสหนักหน่วง เรียกร้องขนกายให้ลุกชัน


“มึงกำลังเมามาก” เขาเอ่ยเสียงพร่า สูดหายใจเข้าลึก ทั้งบอกมันและอยากเตือนสติตัวเอง ไอ้ปืนเมามากและมันกำลังขาดสติ


“ผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และต้องการอะไร” มันตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าไม่ต่างกัน ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงมาใกล้ หน้าผากแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่แทบจะกลายเป็นจังหวะเดียวกัน ดวงตาคู่คมของมันดูแน่วแน่ ฝ่ามืออีกข้างของมันเลื่อนมาประคองข้างแก้มเขา เกลี่ยเบาๆด้วยสัมผัสอ่อนโยน


“เป็นของผมนะ” ก้อนเนื้อในอกสั่นไหวรุ่นแรงยามที่เสียงทุ้มพร่าเอ่ยกระซิบชิดริมฝีปากบาง ก่อนที่มันจะเป็นฝ่ายกลืนกินลมหายใจของเขาอีกครั้ง และอีกครั้ง โดยไม่ปล่อยให้เขาได้มีโอกาสปฏิเสธ หรือถ้ามี …เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าจะเอ่ยมันออกมา…


ทุกสัมผัสที่แตะต้องผิวกายเต็มไปด้วยความร้อนแรงจนทั่วร่างสะท้านไหว หากแต่เป็นความร้อนรุ่มที่ต่างฝ่ายต่างเต็มใจรับมันไว้ด้วยความยินดี ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาภรณ์ติดกายถูกถอดทิ้งไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้ปืนมอมเมาเขาด้วยจูบร้อนแรง เรียกร้องเอาแต่ใจจนต้องตอบสนองกลับไปไม่แพ้กัน


“อึก..ก” ร่างเล็กกัดริมฝีปาก เก็บกลั้นเสียงครางหวาน ยามที่อีกคนแทรกกายเข้ามาอยู่ระหว่างขา วางมือลงกลางลำตัวแล้วนวดคลึงเบาๆ ริมฝีปากร้ายกาจผละออกไปแล้ว หากแต่ยังไม่ทันได้หายใจหายคอคล่องก็ต้องไหวสะท้าน เมื่ออีกฝ่ายแนบปากลงบนลำคอขาว ขบกัดไม่เบานักเรียกเสียงครางเครือ ไอ้ปืนสานต่อทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว เขาจึงทำได้เพียงแค่เชิดหน้าแหงนมองเพดานและกัดปากสะกดกลั้นความปั่นป่วน


“อื้อ.!” เผลอครางออกมายามที่ฟันคมขบกัดลงบนผิวเนื้อ ฝากรอยแดงจางทั่วทุกพื้นที่ที่ริมฝีปากร้อนเคลื่อนผ่าน สะดุ้งสุดตัวเมื่อยอดอกถูกกระตุ้นด้วยปลายลิ้น ร่างกายบิดเร่าไปมายามที่อีกฝ่ายบดขยี้เข้าหาและดูดกลืนหนักหน่วง เส้นผมสีดำสนิทถูกแทรกผ่านก่อนจะขยุ้มมันเพื่อช่วยระบายความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจนช่วงท้องบิดมวล ความรู้สึกคล้ายกับว่าตัวจะลอย แต่กลับถูกกระชากลงมาอย่างแรงด้วยความรู้สึกเจ็บแปลบยามที่อีกฝ่ายแทรกกายเข้ามาโดยไม่บอกกล่าว


“เจ็บ! ปืน เจ็บ!” เขาจิกเล็บลงบนบ่ากว้าง ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่เพราะห่างหายจากเรื่องอย่างว่ามานาน ซ้ำมันยังไม่คิดเบิกทางให้ จึงรู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่แทนที่จะผละออกไอ้ปืนกลับก้มลงมาดูดกลืนเสียงประท้วงของเขาแทน ปลายลิ้นชื้นถูกดันเข้าหาเกี่ยวกระหวัดระรัวสลับดูดดึงเบาๆคล้ายปลอบประโลม สะโพกสอบแช่ค้างอยู่อย่างนั้น กระทั่งเขาเริ่มผ่อนคลายมันถึงได้เริ่มขยับอีกครั้ง


“..ก.. อึก..”


“ชู่ว..” ไอ้ปืนจูบซับน้ำตาแผ่วเบา ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบ้ขณะแทรกผ่านความคับแคบเข้ามาจนสุด มันพรมจูบทั่วใบหน้าเขา กดจูบซ้ำๆลงบนกลีบปากบวมเจ่อ ทุกการกระทำไม่ได้อ่อนโยนนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันทำให้เขารู้สึกอุ่นไปทั้งใจ ถึงแม้ว่าตื่นมาแล้วมันจะจำเรื่องทั้งหมดไม่ได้ แต่เขาจะไม่เสียใจที่ปล่อยให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น


ทุกอย่างเริ่มดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อเขาเป็นฝ่ายเกาะเกี่ยวเอวสอบไว้ ไอ้ปืนกดจูบลงบนกลีบปากนุ่ม ดูดแรงๆอย่างอดใจไม่ไหว ก่อนจะเร่งจังหวะเข้าหาจนทั้งร่างไหวคลอน ความเจ็บปวดในทีแรกแปรเปลี่ยนเป็นความสุขสม จากทั้งแรงอารมณ์และความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มจนแทบล้น ราวกับโลกทั้งใบตอนนี้เป็นของเขา เมื่อร่างกายถูกโอบกอดจากคนที่เฝ้ามองมาเนิ่นนาน ทุกอย่างดีไปหมดจนแทบจะสำลักความสุขอันล้นปรี่ ทั้งร่างเกร็งกระตุกก่อนที่ความสุขมากมายจะทะลักทลายออกมาเมื่อหมดแรงจะต้านไหว


“พีท..”


เสียงสุดท้ายผะแผ่วหากแต่แทรกลึกจนอุ่นไปทั้งใจ ก่อนที่อีกฝ่ายจะทาบทับร่างลงมาทั้งตัว ลมหายใจหอบกระเส่าดังอยู่ข้างหู ก่อนที่ชั่วขณะต่อมาจะกลายเป็นจังหวะเข้าออกสม่ำเสมอ…


ไอ้ปืนหลับไปแล้ว เหลือแต่เขาที่ยังลืมตาโพลง จับจ้องเพดานสีอ่อน ความรู้สึกสุขล้นจนไม่กล้าหลับตาลงเพราะกลัวว่าตื่นมาแล้วทั้งหมดจะกลายเป็นความฝัน


.
.


ร่างบนเตียงพยายามพลิกตัวหนีแสงแดดที่สาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตา แต่กลับทำไม่ได้อย่างที่ใจคิดเพราะแรงกอดรัดแน่นหนาที่พาดผ่านอยู่บริเวณช่วงเอวคอด เสื้อยืดตัวใหญ่ที่คว้ามาใส่ไว้เมื่อคืนร่นขึ้นมาจนถึงโคนขา เรียกความรู้สึกวูบโหวงเหมือนไม่ได้ใส่อะไร เปลือกตาสีน้ำนมขยับยุกยิก ก่อนจะลืมขึ้นในที่สุดเมื่อทนความอึดอัดที่รัดแน่นอยู่ไม่ไหว


“อื้มม” เสียงครางแผ่วจากคนที่นอนกกกอดกันมาทั้งคืนทำให้เขาเผลอชะงักมือที่กำลังยกแขนอีกฝ่ายออก ดวงตาเรียวสวยปรายมอง พอเห็นว่าอีกคนยังคงหลับตาพริ้มเลยค่อยๆขยับตัวอีกครั้งจนในที่สุดก็ลงมายืนอยู่ข้างเตียง หลุดครางออกมาเบาๆเมื่อความปวดปร่าแล่นริ้วยามที่ปลายเท้าสัมผัสพื้น คว้าผ้าเช็ดตัวที่วางทิ้งอยู่บนเตียงอีกหลังลวกๆ ก่อนจะพาร่างกายที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักเข้าห้องน้ำไป


เสียงเปิดปิดประตูไม่เบานักเรียกให้คนที่นอนอยู่งัวเงียตื่นขึ้นมา คิ้วเข้มขมวดยุ่ง มือหนายกขึ้นบีบนวดขมับขับไล่อาการปวดตุบๆในหัว ตาคมที่ยังดูมึนงงกรอกกลิ้งมองเพดานห้องที่เริ่มคุ้นตา ผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจเมื่อภาพเหตุการณ์ต่างๆไหลย้อนเข้ามาในหัว ก้อนเนื้อในอกเต้นระส่ำด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยายเมื่อกวาดสายตามองจนทั่วห้องแล้วกลับไม่เห็นใครอีกคน ร่างสูงคว้ากางเกงบ๊อกเซอร์ที่ตกอยู่ข้างเตียงมาใส่ลวกๆ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรไปมากกว่านั้นเสียงน้ำในห้องน้ำก็ดังลอดออกมาให้คลายใจ ไอ้ปืนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทรุดตัวลงบนเตียงก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆกับความบ้าบอของตัวเอง


นั่งรออยู่ไม่นานนักร่างที่กกกอดมาทั้งคืนก็เดินออกมาพร้อมหยดน้ำที่เกาะพราวอยู่ทั่วตัว ทั้งกายขาวเนียนมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเล็กปกปิดส่วนล่างเอาไว้ ผิวเนื้อช่วงบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นรอยแดงจางประปรายที่เขาเป็นคนฝากไว้เองกับมือ ไม่สิ ต้องเรียกว่ากับปากถึงจะถูก พอคิดมาถึงตรงนี้ภาพเมื่อคืนก็ฉายชัดพาเอาก้อนเนื้อในอกเต้นระส่ำไร้การควบคุม ความรู้สึกอิ่มเอมระคนตื่นเต้นแปลกๆแทรกซึมไปทั่วทุกอณูของร่างกาย มันเป็นความรู้สึกดีแบบที่ตัวเขาเองก็ไม่เข้าใจนัก …ไม่รู้นานเท่าไหร่ที่ไอ้ปืนเอาแต่จ้องมองร่างกายของใครอีกคนอยู่อย่างนั้น กระทั่งอีกฝ่ายส่งเสียงกระแอมขึ้นเบาๆ


“ไม่ไปอาบน้ำรึไง วันนี้กลับกรุงเทพนะ” พี่พีทเอ่ยบอกทั้งที่ไม่ยอมสบตา ร่างเล็กไม่สนใจเขา เดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าก่อนจะคว้าเสื้อยืดสีอ่อนมาใส่ลวกๆ ท่าทางเฉยเมยจากอีกฝ่ายทำให้เขาเผลอขมวดคิ้วไม่ชอบใจ ไอ้สัด เมียเมิน


 ไม่รู้อะไรดลใจให้ไอ้ปืนทำตัวใจกล้าหน้าด้านถึงขนาดเดินเข้าไปสวมกอดพี่มันจากทางด้านหลัง พี่พีทอุทานเบาๆก่อนจะหันขวับกลับมามอง ใบหน้าหวานบิดเบ้เล็กน้อยคงก่อนจะกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็วจนไอ้ปืนไม่ทันสังเกต


“อะไร” พี่มันเอ่ยถาม


“พี่นั่นแหละเป็นอะไร”


“กูเปล่า” ไอ้ปืนจิ๊ปาก


“ก็เห็นๆอยู่ว่าเมินกันอ่ะ ได้ผมแล้วจะทิ้งหรอ”


“ก็เหี้ยละ ถอยไปดิ๊จะแต่งตัว” พีทว่าพลางดันตัวอีกฝ่ายออก แต่ไอ้ปืนไม่ยอม มันคว้าเอวเขาไว้แล้วดึงรั้งเข้าแนบชิด แรงกระแทกไม่เบานักจนเผลอเบ้หน้าด้วยความเจ็บ


“โทษๆ ผมกะแรงพลาดไปหน่อย เจ็บตรงไหนไหม” ไอ้เด็กไม่รู้ความหน้าตาตื่นก่อนจะคลายอ้อมแขนออกหลวมๆ จับเนื้อจับตัวเขามั่วซั่วไปหมดจนต้องสั่งให้มันหยุด


“กูโอเคๆ ไม่ต้องเว่อขนาดนี้ก็ได้ไอ้สัด เข้าไปอาบน้ำได้แล้วไปจะได้รีบเก็บของ หรือมึงอยากจะอยู่ต่ออีกคืนก็แล้วแต่นะ แต่ตอนนี้ช่วยปล่อยกูได้แล้ว”


“โหยไรว้า.. ทีเมื่อวานยังมาบอกว่าอยากจับผมทำผัวเพราะอยากรวยทางลัดอยู่เลย ทีตอนนี้ได้แล้วทำมาเป็นผลักไสไล่ส่ง น้อยใจนะเนี่ย” พีททำหน้าละเหี่ยใจ มองไอ้คนที่แสร้งทำเป็นน้อยอกน้อยใจแต่ไม่ยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระซักทีอย่างหน่ายๆ ถึงในใจลึกๆจะรู้สึกดีใจที่ตื่นเช้ามาแล้วมันยังจำเรื่องทุกอย่างได้ แถมยังเข้ามาวอแวด้วยท่าทางที่ดูจะปัญญาอ่อนไปซักหน่อยแบบนี้ แต่เรื่องอะไรเขาจะแสดงออกให้มันได้ใจ


“เยอะละไอ้สัด ไปๆ เข้าไปอาบน้ำได้แล้ว ดื้อนักเดี๋ยวกูตบคว่ำ” เขาโบกมือไล่ ผลักแผ่นอกเปลือยเปล่าของมันให้ออกห่าง


“หูย… เมียดุว่ะ” ไอ้ปืนทำหน้ากวนๆ ก้มลงมาหอมแก้มนุ่มอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะยอมผละห่างแล้วเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี เขามองตามหลังมันยิ้มๆ รู้สึกดีจนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ




********



 :-[
ทีแรกว่าจะตัดเข้าโคมไฟ แต่เอาซักหน่อยเพราะคันไม่คันมือจากอิคู่หลักมาก  :laugh:
ปลิง.ไอ้ปืนไม่ซื่อและพี่พีทไม่ใสผลที่ได้เลยออกมาเป็นฉะนี้ ฮาา.
 :L2:

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 15-02-2017 20:27:13
ไปเร็วกว่าคู่หลักแบบก้าวกระโดดเลย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 15-02-2017 20:31:44
อ้าว คู่รองนำไปแล้วววว อิพี่ยุทธยังไม่ได้กินเลยจ้า ฮ่าๆๆ พี่ยุทธสู้ๆ รออย่างอดทนนะพี่นะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 15-02-2017 21:00:28
ว้ายยยยย เขาได้กันแล้ว  :katai2-1: แย่งซีนคู่หลักเบาๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 15-02-2017 21:08:31
พี่ยุทธ สิบ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เดือนสิบ เปิดใจให้พี่ยุทธแล้ว
ปืน พี่พีท  :mew1:
ปืน เปิดใจกับพี่พีทแล้ว ทั้งคู่ชอบกัน  :ling1: :ling1: :ling1:
ท่าทางก้าวหน้ากว่ายุทธ สิบ ละนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-02-2017 21:18:23
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-02-2017 21:20:31
 :L2: :pig4: :katai1:

พี่ยุทธกำลังจะเป็นพญานก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 15-02-2017 21:35:17
ดีงามน้องปืน
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-02-2017 23:10:00
เฮ้ยยยยยย ได้กันเฉยเลย ปืนพีท!!!
ในขณะที่พี่ยุทธของเราเข้าสำนักปฏิบัติธรรม ยุบหนอยุบหนออยู่ 5555555555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... *ยุทธนาxเดือนสิบ* ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 15-02-2017 23:13:49
โอ๊ย  ปืนว่อบไวปานกามนิตหนุ่ม     ส่วนพี่ยุทธหอยทากชัดๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-02-2017 07:02:53
อ้าว แบบนี้คู่หลักจะยอมได้ไง คู่รองนำไปแล้วนะ อย่าไปยอม รีบๆ ตีตื้นได้แล้ว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 16-02-2017 09:04:38
สิบจะยอมเพื่อนไม่ได้นะ
จะให้ปืนนำไปก่อนไม่ได้นะ

พี่ยุทธๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 16-02-2017 10:04:01
พี่ยุทธกับน้อสฝงสิบนี่ก็หวานซะ :katai2-1: ส่วนปืนนั้น... :haun4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 16-02-2017 10:59:19


เพราะพี่ยุทธแท้ ๆ ที่มัวแต่แผ่เมตตาให้สัตว์โลกจนไม่เป็นอันทำอะไร
ดูซิปืนกับพี่พีทเลยต้องออกแรงแทนเลยเห็นไหมเนี่ย ฮ่า ๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 16-02-2017 12:46:25
ได้กันแล้วววว 555
ต้องให้เดือนสิบดูเพื่อนเป็นตัวอย่าง มาเร็วเคลมเร็ว
ส่วนพี่ยุทธก็คงต้องเข้าวัดฟังธรรมต่อปายยย 555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-02-2017 15:34:37
อื้อหือ พอรู้ตัวว่าชอบ แกรีบข้ามจั้นเอาพี่เค้าเป็นเมียเลยนะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 16-02-2017 20:24:35
ปืนพีท  :haun4:
ส่วนพี่ยุทธน้านนน ยุบหนอพองหนอวนไปค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-02-2017 20:47:55
คู่พี่ยุทธเรือล่มกลางทางแต่คู่ปืนพี่พีทนี่ถึงฝั่งกันเลยทีเดียวววววววว :z1: :z1: :z1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 16-02-2017 23:11:02
แซงหน้าไปไกลแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-02-2017 23:17:45
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-02-2017 01:52:08
รวดเร็ว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 17-02-2017 15:51:39
พี่ยุทธกับเดือนสิบนี่ควรดูเพื่อนเป็นตัวอย่างนะ
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 17-02-2017 17:37:00
วันนี้มาป่าวคะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 17-02-2017 20:00:50
คู่รองมาแรงแซงทางโค้ง :m25:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 17-02-2017 23:12:40
สิงห์ปืนไว มาทีหลังแซงไปแล้ว พี่ยุทธอย่ายอมเก็บแต้มด่วน
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 14 Up. [15/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 18-02-2017 01:21:50
พี่ยุทธโดนนำซะแล้ว
 :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 18-02-2017 21:51:42

15


หลังกลับมาจากเที่ยวทะเลเดือนสิบก็เข้ามาทำงานที่อู่ซ่อมรถเฮียโหน่งเหมือนเดิม เขาโทรบอกแม่แล้วว่าจะอยู่ทำงานต่อที่นี่แล้วค่อยกลับบ้านช่วงใกล้เปิดเทอม ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพี่ยุทธก็ดีขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่ได้ใช้เวลาด้วยกันบ่อยขึ้น อีกฝ่ายดูแลเขาดีสม่ำเสมอ คอยมารับมาส่งแม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นไรก็ตาม และด้วยความที่อีกฝ่ายใจดี จึงทำให้เขารู้สึกสบายใจเสมอเวลาได้อยู่ใกล้ ทำให้เขากล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น กล้าพูด กล้าเถียง หรือแสดงกิริยาที่เรียกว่าออดอ้อนยามอีกฝ่ายให้ความสนใจกับอย่างอื่นมากกว่า


เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อนแม้กระทั่งไอ้นุ ไม่เคยแสดงออกถึงความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ อาจเพราะมันเป็นรุ่นเดียวกันและเขาก็มองว่ามันเป็นเพื่อนมาก่อนจึงไม่ได้แสดงออกมากนัก ผิดกับอีกคนที่ใจดีด้วยมาตลอดจึงทำให้เขากล้าที่จะเรียกร้องด้วยการเอาแต่ใจแบบเด็กๆ


ยอมรับว่ากำลังเสพติดความเอ็ดดูที่อีกฝ่ายมีให้ จนบางทีก็หลงลืมไปว่าในขณะที่เขาทำทุกอย่างไปด้วยความสบายใจ อีกฝ่ายกลับต้องใช้ความอดทนกดกลั้นอย่างมากเพื่อจะไม่ทำอะไรเกินเลยนอกจากการกอดจูบเล็กๆน้อยๆ แต่เพราะเชื่อว่าพี่จะหยุดถ้าเขาไม่ยอม เลยทำให้กล้าที่จะเรียกร้อง ยอมรับว่าเขาวางความไว้เนื้อเชื่อใจไว้บนมือของอีกฝ่ายไปเกือบเต็มร้อย


“สิบ เดี๋ยวเสร็จจากตรงนี้แล้วไปช่วยพวกไอ้กล้ามันดูเครื่องทางโน้นนะ แม่งมัวแต่โม้จนงานการไม่เป็นอันทำ อ่อ! ถ้าถึงเวลาเลิกก็กลับไปได้เลยนะ ฝากบอกไอ้ชาติปิดร้านให้เฮียด้วยว่าจะออกไปหาลูกค้าซะหน่อย” เฮียโหน่งที่กำลังตีหน้ายุ่งกับเอกสารในมือเงยหน้าขึ้นมาสั่ง


“ครับ” เขาเก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋า ปิดฝากระโปรงรถที่เพิ่งเปลี่ยนเครื่องเสร็จก่อนจะเดินไปหาพี่กล้าที่อยู่ทางโซนรถนอก แต่ไปได้ไม่ถึงสองก้าวเสียงของเฮียโหน่งก็รั้งไว้ซะก่อน


“ครับ?”


“ฝากเบิร์ดกะโหลกพวกมันด้วยถ้าเอาแต่คุยจนไม่ทำงาน” เดือนสิบทำหน้าเหลอ ก่อนจะยิ้มรับแกนๆ ไม่รู้พูดจริงหรือพูเล่นเพราะเฮียโหน่งชอบทำหน้านิ่งๆ แต่ถึงพูดจริงเขาก็คงไม่กล้าทำหรอก รุ่นพี่พวกนั้นแก่กว่าเขาตั้งหลายปี แถมแต่ละคนที่ตัวอย่างใหญ่ ตบทีโดนสวนกลับมาเขาคงได้สลบเหมือดคาที่


“พี่กล้าพี่ชาติมีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” สองนายช่างที่กำลังเม้ามอยกันอย่างเมามันเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนที่พี่ชาติ หนุ่มหน้าคมฉบับคนใต้แท้ๆจะกวักมือเรียกยิกๆให้ไปนั่งลงข้างๆ


“งานทางโน้นเสร็จหมดแล้วหรอวะ” พี่มันถาม วางประแจตัวสุดท้ายลงในกล่อง


“ครับ เฮียโหน่งบอกให้ผมมาช่วยทางนี้ แล้วก็ฝากพี่ปิดร้านให้ด้วยเพราะเฮียจะออกไปหาลูกค้าข้างนอก” พี่มันพยักหน้ารับ


“ทางนี้ก็ไม่มีอะไรแล้ว เหลือแค่แยกน็อตลังนี้ก็เรียบร้อย เอ็งกลับไปก่อนก็ได้เดี๋ยวพวกพี่ทำเอง”


“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมช่วย”


“กูก็ลืมไปว่าเดี๋ยวนี้น้องเรามีราชรถมาเกยถึงที่แบบตรงเวลาเป๊ะๆ จะกลับก่อนไม่ได้” พี่ชาติแซวยิ้มๆ


เป็นภาพคุ้นตาเพราะช่วงหลังๆมานี้มักจะมีออดี้คันงามเข้ามาจอดเทียบหน้าอู่ซ่อมรถในเวลาหกโมงเย็นของทุกวัน จะเว้นก็แต่วันที่ไอ้เด็กตัวขาวนี่ไม่ได้มาทำงานเท่านั้น และถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็นคนที่อยู่ในรถซักครั้ง แต่จากหน้าแดงๆเวลาถูกแซวเกือบทุกครั้งของเดือนสิบก็ทำให้เดาได้ไม่ยาก ว่าคนที่คอยมารับมาส่งเกือบทุกวันเป็นอะไรกันกับเด็กน้อยของพวกเขา


“มีแฟนรวยขนาดนั้นทำไมเอ็งยังมาทำงานงกๆอยู่อีกวะสิบ เป็นพี่นี่เกาะแฟนกินสบายพุงไปละ” พี่กล้า นายช่างหน้าหล่อประจำอู่ ที่มีงานเสริมคือเป็นโฮสอยู่ในคลับว่าขึ้นบ้าง


“ก็เพราะน้องมันไม่ได้เป็นแมงดาอย่างมึงไงไอ้กล้า คนเขารู้จักทำมาหากินแต่เล็กแต่น้อย มึงก็หัดดูน้องมันเป็นตัวอย่างบ้าง ไม่ใช่ศักดิ์เอาแต่หน้าหล่อๆไปล่อให้สาวหลงแล้วหลอกแดกเขา” คนอาวุโสสุดสวนกลับแทน


“พี่ก็พูดเกินไป นั่นมันงานไหมล่ะแหม พูดซะผมดูเลวเลย”


“ไม่รู้แหละ กูหมั่นไส้ กูจะด่าว่ามึงมันเลวใครจะทำไม”


“เอาที่พี่สบายใจเลยครับ”


เดือนสิบได้แต่นั่งฟังพวกพี่มันเถียงกันไปมาอย่างขำๆ พอหมดคำจะเถียงก็พากันเปลี่ยนเรื่องมาเป็นนินทาชาวบ้าน ซึ่งอันนี้เขาก็ได้แต่เออออไปตามน้ำรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง มีหลุดขำบ้างเป็นบางครั้งกับท่าทางที่ใส่อารมณ์จนโอเว่อของพวกพี่ๆ พอนินทาคนอื่นจนไม่มีใครจะให้นินทาพี่ชาติผู้ซึ่งมีเมียเป็นตัวเป็นตนเลยหยิบยกเอาคนใกล้ตัวนั่นล่ะขึ้นมานินทา


 “อีอ้อยนี่มันน่าเบื่อจริงๆ รู้งี้กูไปแต่งกับน้องเปรี้ยวซะก็ดีหรอก เอาใจเก่งกว่าเป็นไหนๆ แถมยังว่านอนสอนง่ายบอกซ้ายไปซ้ายบอกขวาก็ไปขวา แถมลีลาบนเตียงยังสุดยอดอย่าบอกใคร”


“เลือกเมียผิดชีวิตเปลี่ยนไงพี่ชาติ ผมบอกแล้วก่อนเอาให้ดูดีๆ แล้วเป็นไงล่ะได้เมียมาทั้งที แต่ก็ยังต้องพึ่งแม่นางทั้งห้าให้พาขึ้นสวรรค์” พี่กล้าซ้ำเติมพลางหัวเราะเยาะรุ่นพี่ตัวเองหน้าระรื่น


“มีเมียหวงเนื้อหวงตัวนี่มันน่าเบื่อจริงๆโว้ย จะเอาก็ไม่ให้เอา เงี่ยนนักเดี๋ยวกูก็หนีไปเยกะ-รี่แม่ม” ว่าอย่างมีอารมณ์ ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ไม่เคยทำได้ซักที เมียมาทีไรเป็นต้องจ๊ะจ๋าพูดคะพูดขาให้เด็กในอู่ได้ทำหน้าเหม็นเบื่อตลอด


และหลังจากนั้นก็เป็นมหากาพย์ที่พี่ชาติสันหาเรื่องความหวงเนื้อหวงตัวของเมียมาเล่า แต่จะพูดให้ถูกต้องบอกว่าระบายมากกว่า พี่มันดูอดกลั้นมานานถึงกับเล่าหมดเปลือกแถมยังใส่อารมณ์เป็นระยะ โดยมีพี่กล้าตอบรับเป็นลูกคู่แถมยังยุแยงให้ครอบครัวเขาแตกแยกอยู่ข้างๆ ผิดกับคนมีอายุน้อยสุดที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดไปตั้งแต่ประโยคแรกที่ได้ยินพี่มันเริ่มนินทาเมียแล้ว สมองน้อยๆพานคิดไปถึงใครอีกคนที่ไม่รู้ว่าจะมีความรู้สึกเบื่อหน่ายแบบนี้อยู่ในหัวบ้างรึเปล่า


“สิบ.. ไอ้สิบ!”


“ห๊ะ! ครับพี่” คนถูกเรียกสะดุ้งสุดตัว หน้าตาเหลอหลาทำเอาอีกสองคนหลุดขำ


“นิ่งไปเลยเอ็ง เป็นอะไรวะ”


“เปล่าครับ ผมแค่คิดอะไรเพลินๆ” เดือนสิบยิ้มแห้ง


“อย่าบอกนะว่าเมียเอ็งก็หวงเนื้อหวงตัวเหมือนกัน น่าเบื่อใช่ไหมล่ะผู้หญิงแบบนี้ เอาไว้พี่พาไปเปิดหูเปิดตา รับรองว่าถ้าได้แจ่มๆซักคนเอ็งจะลืมเมียที่บ้านไปเลย” พี่ชาติตบไหล่เล็กปุๆราวกับเข้าอกเข้าใจเด็กมันนักหนา แต่ยังไม่ทันที่เดือนสิบจะได้ปฏิเสธรุ่นพี่อีกคนก็พูดขึ้นซะก่อน


“พูดดีไปพี่ชาติ ผมนี่ชวนพี่จนปากจะฉีกถึงหูไม่เห็นว่าพี่จะไปจริงๆซักที มึงอย่าไปเชื่อพี่ชาติให้มากไอ้สิบ เรื่องนี้กูเซียนเดี๋ยวกูจัดหาให้เอง อยากได้แบบไหนบอก จะเอาแบบลีลาเด็ดๆหุ่นน่าฟัด หรือมึงอยากได้แบบคิขุน่ารักแบ๋วๆ ชอบแบบไหนบอกมาได้เลยน้อง เดี๋ยวพี่จัดให้ คืนนี้เลยเป็นไง ฟงแฟนอะไรมึงไม่ต้องไปสนใจมันละ น่าเบื่อนักก็ปล่อยมันนอนกอดหมอนข้างไป” เดือนสิบฟังแล้วได้แต่ขมวดคิ้ว


“ไม่ดีมั้งครับพี่ เรามีแฟนก็ต้องซื่อสัตย์กับแฟนสิ ทำแบบนั้นเดี๋ยวเขาเสียใจแย่” ขนาดแค่คิดตามเขายังรู้สึกแย่เลย


“ดีสิวะ! เราแค่นอกกายแปปๆไปหาความสุขให้ตัวเอง ในเมื่อขะ โอ้ย! พี่ชาติตบหัวผมทำไมเนี่ย”


“กูไม่ถีบเข้าให้ก็บุญหัวมึงแล้วไอ้กล้า เสี้ยมสอนน้องแต่อย่างดีๆทั้งนั้นนี่ เอ็งไม่ต้องไปฟังมันให้มากนะสิบ ไอ้นี่มันไม่เคยรักใครจริงๆมันก็พูดอย่างนั้นได้ คนเราถ้ารักกันจริงเรื่องแค่นี้มันไม่เป็นปัญหาหรอก เห็นพี่บ่นๆว่าอ้อยมันน่ารำคาญอย่างนั้นน่าเบื่ออย่างนี้แต่เอาเข้าจริงๆถ้าให้ไปหาคนใหม่พี่ก็ไม่ทำหรอก”


“สาบานว่าพี่ไม่เคยคิดจริง” พี่กล้าเบรก คนกำลังทำซึ้งเลยจิ๊ปากใส่


“มึงนี่! มันก็ต้องมีแอบคิดจริงบ้างสิวะ แต่แค่แวบๆไง พอกลับไปเจอหน้าเมียที่บ้านอารมณ์นั้นมันก็หายไปเองนั่นแหละ”


“หูย… พ่อคนดี”


เขานั่งฟังพวกพี่ๆเถียงกันต่ออยู่พักใหญ่ จวบจนเวลาหกโมงเย็นซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน ออดี้คันสวยที่เริ่มเป็นแขกคุ้นหน้าคุ้นตาก็เข้ามาจอดเทียบหน้าอู่ เขาไหว้ลาพวกพี่ๆก่อนจะเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูท่ามกลางเสียงแซวที่ไม่ว่าจะได้ยินเกือบทุกวันแต่ก็ยังอดเขินไม่ได้อยู่ดี ทุกคนคิดว่าเจ้าของออดี้คันนี้เป็นแฟนเขาและเป็นผู้หญิง ซึ่งเดือนสิบเองก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไร ปล่อยให้พวกพี่ๆเข้าใจไปแบบนั้นก็ดีแล้ว


“เบื่อเมียเมื่อไหร่มาหาพี่นะโว้ยไอ้สิบ เดี๋ยวพาไปจัดหนักๆเลย” ไม่วายเสียงพี่กล้าตะโกนตาหลังมาให้ได้ยินอีก


“เหนื่อยไหม” คนที่นั่งอยู่หลังพวกมาลัยเอ่ยปากถามไถ่ทันทีที่เดือนสิบก้าวเข้ามาในรถ วันนี้พี่ยุทธก็ยังดูเนี๊ยบเหมือนเดิม เสื้อเชิ้ตสีอ่อนสวมคู่กับกางเกงสแล็คสีเข้มสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเดียวกัน ใบหน้าคมเข้มมีไรหนวดสีเขียวครึ้มขึ้นจางๆ ยิ่งขับให้เจ้าตัวดูเป็นผู้ใหญ่ ยอมรับว่าเขาชอบพี่ในลุคนี้มาก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่มองแล้วมันให้ความรู้สึกอุ่นใจแปลกๆ


“ไม่เหนื่อยครับ พี่ยุทธล่ะ” เขาถามกลับ ช่วงปิดเทอมอีกฝ่ายบอกว่าต้องไปช่วยงานที่บ้าน เดือนสิบไม่รู้ว่าพี่ทำอะไรเพราะไม่เคยถาม แต่เห็นแต่ตัวดีออกไปเกือบทุกวัน จะเว้นก็แต่เสาร์อาทิตย์ที่เป็นวันหยุดและเจ้าตัวบังคับให้เขาหยุดไปด้วยเพื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน


“เห็นหน้าเราก็หายเหนื่อยแล้ว” เจ้าตัวว่าพลางหันมายิ้มน้อยๆให้เขา ซึ่งมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้พี่ยุทธดูดีขึ้นอีกเป็นกอง ดีเกินไปจนเขาคิดว่าหากพี่ต้องการใครซักคนก็คงจะหาได้ง่ายๆ


ยุทธนาเหลือบมองคนที่อยู่ดีๆก็เงียบไป จากระยะเวลาที่คบกันมาเกือบสองเดือนทำให้เขาได้รู้นิสัยอะไรหลายๆอย่างของเดือนสิบ น้องแสดงออกมากขึ้นในเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ท่าทีเขินอายถึงจะไม่ได้มีมากมายเท่ากับตอนแรกๆแต่ก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งยามถูกเขาแหย่เขาแกล้ง อย่างประโยคที่เขาหยอดไป อย่างน้อยๆถ้าไม่ใช่ริ้วแดงๆบนผิวแก้มก็น่าจะเป็นค้อนวงโตๆที่ถูกส่งมาให้
แต่สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนที่สุดตั้งแต่คบกันมาคือนิสัยชอบอ้อนชอบเข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆเหมือนลูกแมวติดเจ้าของ แต่จะเรียกว่าอ้อนหรือยั่วดียุทธนาก็ไม่มั่นใจนักเพราะเขาแทบจะตบะแตกทุกครั้งที่น้องทำแบบนั้น เดือนสิบมักจะเข้ามาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เวลาที่เขาให้ความสนใจกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไปในเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน


อย่างหลายวันก่อนหน้านี้ ตอนที่เขาแวะรับเจ้าตัวหลังเลิกงานแล้วพามานั่งเล่นด้วยกันที่ห้อง หาอะไรกินง่ายๆจนอิ่มท้องเขากับน้องก็มานั่งดูทีวีด้วยกันที่ห้องนั่งเล่น เดือนสิบนั่งอ่านการ์ตูนอยู่บนพื้นพรมส่วนเขาก็นั่งดูฟุตบอลที่วันนี้มีทีมโปรดลงแข่ง เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้ดูเวลาเพราะกำลังใจจดใจจ่อรอลุ้นให้ทีมโปรดยิงประตูได้ซักที พอรู้ตัวอีกทีก็มีก้อนอะไรหนักๆมาพิงอยู่ที่ขา ดวงตากลมแป๋วจับจ้องมาที่เขาไม่วางตา แต่พอถามว่าอยากได้อะไรเจ้าตัวกลับส่ายหน้า เขาเลยกลับมาสนใจกับเกมส์ที่กำลังดุเดือดตรงหน้าต่อ ทว่าผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ ก้อนหนักๆที่ว่าก็เริ่มก่อกวนโดยการเลื้อยมาซบอยู่บนตัก หัวทุยถูไปมาอย่างออดอ้อนจนจิตใจที่จดจ่ออยู่กับหน้าจอแอลซีดีเริ่มไม่คงที่ แต่พอถามว่าต้องการอะไรเจ้าตัวก็เอาแต่ส่ายหน้าเหมือนเดิม


เป็นอยู่อย่างนั้นสองสามรอบจนสุดท้ายก็เป็นเขาเองที่อดใจไม่ไหวจนได้รวบตัวลูกแมวช่างอ้อนเข้ามากอดรัดไว้จนเต็มอ้อมแขน น่าแปลกที่พอทำแบบนั้นเจ้าตัวก็สงบลงและยอมอยู่นิ่งๆในท่านั้นดีๆ กระทั่งดูฟุตบอลจบไปไอ้คนที่เข้ามาคลอเคลียอยู่เมื่อตอนก่อนหน้าก็ร้องแง่วๆจะกลับห้อง


ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เดือนสิบไม่ยอมให้เขาเลยจริงๆ เขาเคยพูดเปรยๆว่าอยากให้น้องย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันทว่าเจ้าตัวก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียว ยุทธนาเหลือบมองน้องอีกครั้งเมื่อเลี้ยวรถเข้ามาจอดในคอนโด เดือนสิบดูเคร่งเครียด คิ้วสวยขมวดยุ่งแทบจะตลอดเวลา ขนาดว่าขึ้นมาถึงห้องแล้วคิ้วก็ยังไม่คลายออก


“เป็นอะไรฮึ?” เจ้าตัวสะดุ้งหน่อยๆตอนที่เขาดึงตัวเข้ามากอด แถมยังทำตาโตเหมือนตกอกตกใจนักหนายามที่เขาฉวยโอกาสหอมแก้มใสๆนั่น เหมือนอย่างที่ทำอยู่ทุกวันจนแทบจะกลายเป็นชีวิตประจำวันก็ว่าได้ 


“เปล่าครับ” ปฏิเสธแต่กลับไม่ยอมสบตา มันไม่ใช่อาการหลบตาแบบเขินอายอย่างทุกครั้ง แต่มันเหมือนกับน้องกำลังหลบตาเขาเพราะมีเรื่องปิดบังมากกว่า


“ถ้าไม่บอกพี่จับปล้ำนะ” ไม่ว่าเปล่าแต่เขายังพลิกตัวน้องเข้าหาแล้วดันลงให้นอนราบไปกับพื้นโซฟาก่อนจะตามไปคร่อมทับไว้ทั้งตัว ถึงจะทำเหมือนแกล้งแต่เอาเข้าจริงเขาก็อยากทำอย่างที่พูดให้รู้แล้วรู้รอด อยากทำให้น้อยกลายเป็นของเขาจริงๆซักที เดือนสิบไม่ได้มีท่าทีตระหนกอย่างที่คิด แต่เหมือนเดิมคือน้องยังคงมีสีหน้าเคร่งเครียด ม่านกลมใสมองเขา คล้ายมีแววสับสนระคนไม่แน่ใจส่งผ่านออกมา


“พี่ยุทธ… อยากมี.. เอ่อ มีอะไรกับผมมากเลยหรอครับ” ถ้อยคำของน้องไม่ได้ดูประชดประชัน แต่เหมือนเจ้าตัวกำลังถามเพราะอยากรู้จริงๆ ซึ่งท่าทางของน้องทำให้เขามั่นใจมากว่าเจ้าตัวต้องไปเจอใครเขาพูดอะไรกรอกหูมาแน่ๆถึงได้กล้าถามเขาแบบนี้


“มากที่สุด” แกล้งตอบไปแบบนั้นเพราะอยากดูท่าทีของอีกฝ่าย ถึงมันจะเป็นความต้องการจริงๆของเขาก็เถอะ


“….!” ตาโตๆเบิกขึ้นหน่อยๆเมื่อได้ยินคำตอบชัดเจน


“แต่ถ้าเราไม่พร้อมพี่ก็ไม่บังคับ เคยบอกแล้วไงว่ารอได้ ยังจะคิดอะไรมากอีกฮึ?” เขาเกลี่ยแก้มนิ่มเบาๆ ยิ้มบางหวังให้น้องคลายใจ


“ถะ ถ้าพี่ยุทธต้องการ.. ผม.. ผมยอมก็ได้ครับ” ว่าจบเจ้าตัวก็โอบกอดเขาแน่น เขินอายจนต้องซุกหน้าเข้าหาลำคอแกร่ง ยุทธนาโอบรอบตัวอีกฝ่ายไว้หลวมๆเพราะยังคงอึ้งกับประโยคเมื่อครู่ไม่หาย ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอก แต่อะไรกันล่ะที่ทำให้น้องเป็นได้ขนาดนี้ คิดได้ดังนั้นเขาก็เลยดันตัวน้องออกเพื่อจะได้คุยกันดีๆให้รู้เรื่อง ทว่าเจ้าตัวกลับไม่ยอม โอบกอดเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยจนสุดท้ายเขาเลยต้องยอมแพ้ พอเห็นเขานิ่งไปเจ้าตัวเลยยอมคลายแรงแขนออกนิดหน่อย เขาเลยฉวยโอกาสนั้นพลิกตัวเองไปนอนอยู่ข้างใต้แล้วให้น้องนอนทับอยู่ด้านบนแทน


“เล่าให้พี่ฟังหน่อยว่าวันนี้ได้ทำอะไรบ้าง” เขาเปลี่ยนเรื่องทันที น้องดูแปลกใจแต่สุดท้ายก็ยอมซบหน้าลงกับอกเขาอย่างผ่อนคลาย ก่อนจะเริ่มพูดเจื้อยแจ้วถึงเรื่องที่เจ้าตัวทำวันนี้ให้ฟัง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องราวที่ไม่ต่างจากทุกวันนัก ตรวจเช็คสภาพรถ ซ่อมรถ เปลี่ยนถ่ายเครื่องยนต์ หรือแม้แต่งานง่ายๆอย่างการแยกน็อต แต่น่าแปลกที่มันทำให้เขารู้สึกดีไปด้วยทุกครั้งที่น้องเล่าให้ฟัง


“แล้ววันนี้ไม่มีเรื่องตลกมาเล่าให้ฟังหรอ” บ่อยครั้งที่เจ้าตัวจะเอามุขขำๆที่ได้ยินจากพนักงานในอู่คนอื่นๆมาเล่าให้ฟัง บอกว่าคนนั้นคนนี้พูดเรื่องอะไร แต่น่าแปลกที่วันนี้ไม่เอ่ยถึงใครคนไหนซักคน และพอเขาถามอย่างนั้นเจ้าตัวก็ส่ายหน้า


“แล้วที่บอกว่าจะยอมนี่พูดจริงหรือเปล่า” เขาเปลี่ยนเรื่องอีกครั้ง แกล้งพูดจาขึงขังขึ้นเพื่อดูท่าทีของอีกฝ่าย และดูเหมือนจะได้ผล เพราะน้องดูเกร็งตัวขึ้นมาทันทีที่เขาแกล้งถาม ผ่านไปไม่นานเจ้าตัวก็พยักหน้ากับอกเขาเบาๆ ท่าทางของน้องทำให้เขาหลุดถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เดือนสิบเงยหน้าขึ้นมอง เขาเลยดันตัวน้องเบาๆเป็นเชิงให้ลุกขึ้น ซึ่งครั้งนี้เจ้าตัวทำตามอย่างว่าง่าย อาจเป็นเพราะสีหน้าจริงจังของเขา


“ไหนเล่ามาซิว่าใครมาพูดอะไรให้ฟัง” เดือนสิบหลุบตาต่ำ น้องนิ่งไปชั่วขณะกว่าจะยอมเปิดปาก ซึ่งเขาก็รออย่างใจเย็น


“พี่ชาติ…” พูดได้แค่นั้นก็นิ่งไป แต่พอเห็นว่าเขามองอยู่ก็สูดหายใจลึกแล้วพูดต่อ “บอกว่าไม่ชอบเวลาแฟนหวงตัว ไม่ยอมมีอะไรด้วย บอกว่ามันน่าเบื่อ”


“….” เขานิ่งฟัง


“ผมกลัวว่าพี่จะเบื่อ ก็เลย.. เลย”


“เลยจะยอม” เขาต่อให้เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวไปต่อไม่ถูก เดือนสิบค่อยๆพยักหน้าลง แววตาติดจะออดอ้อนที่ส่งมาอย่างไม่ตั้งใจทำให้เขาอดจะเอ็นดูไม่ได้ อยากรวบตัวอีกคนมากอดแรงๆซักทีให้หายหมั่นเขี้ยวกับความน่ารักน่าชังนั่น แต่เพราะความอยากแกล้งมันมีมากกว่าเลยยังต้องเก๊กนิ่งเอาไว้ก่อน


“งั้นคืนนี้ก็ต้องนอนที่นี่นะ” แกล้งทำเสียงนิ่ง


“ครับ” น้องตอบรับอย่างว่าง่าย ตากลมหลุบต่ำก่อนจะก้มหน้างุดไม่ยอมสบตา ยุทธนาลอบยิ้ม มองท่าทางน่าเอ็นดูก่อนจะลุกไปโทรสั่งอาหารเพราะวันนี้พวกเขาไม่ได้แวะซุปเปอร์ และของสดที่ซื้อมาตุนไว้ในตู้เย็นก็หมด อีกเรื่องที่เขารู้คือเดือนสิบชอบทำอาหารมาก แถมยังทำอร่อยอีกต่างหาก ยิ่งอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนืออย่าพวกแกงอ่อมหรือน้ำพริกต่างๆนี่อร่อยเด็ดขนาดว่าเพื่อนเขายังต้องยกนิ้วให้


เวลาเกือบสองทุ่มหลังจากกินข้าวเสร็จเขากับน้องก็ออกมานั่งดูทีวีอย่างทุกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ลูกแมวของเขาดูจะมีท่าทีหลุกหลิกเป็นพิเศษ ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ไม่นิ่งจนเขาเกือบจะหลุดขำอยู่หลายรอบ แต่ก็ยังต้องนิ่งไว้เพราะอยากรู้ว่าน้องจะทำยังไงหากเขาคิดจะเอาจริงขึ้นมา เขาบอกให้น้องไปอาบน้ำหลังดูข่าวจบ เดือนสิบทำตามอย่างว่าง่าย น้องเดินเข้าห้องน้ำไปเงียบๆและใช้เวลาอยู่ในนั้นนานจนเขากลัวว่าตัวน้องจะเปื่อยไปซะก่อนถึงได้ไปเคาะเรียก


“ใกล้เสร็จแล้วครับ” นานทีเดียวกว่าเสียงห้าวจะตอบกลับมา เขาหลุดยิ้มใส่ประตู ก่อนจะเดินมานั่งรออีกฝ่ายอยู่บนเตียง รออยู่ไม่นานร่างขาวในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ที่เขาตั้งใจเลือกให้เป็นพิเศษก็เดินออกมา เรียวขาขาวโผล่พ้นกางเกงขาสั้นที่แทบจะเสมอกับชายเสื้อตัวใหญ่ เขามองน้องตาวาว เหมือนเป็นความจิตเล็กๆ ที่เฝ้าคิดว่าอยากเห็นแฟนอยู่ในชุดเสื้อผ้าของตัวเอง และพอได้มาเห็นจริงๆแบบนี้ก็อดยอมรับว่าเขาคิดดีไม่ได้เลย ห้องของเขา เสื้อของเขา กางเกงของเขา แม้กระทั่งคนตัวขาวๆนั่นก็ต้องเป็นของเขา!


“มานี่มา เดี๋ยวพี่เช็ดผมให้” ถึงจะดูกล้าๆกลัวๆแต่เจ้าตัวก็ยอมนั่งหันหลังให้เขาเช็ดผมบนเตียงกว้าง เขาซับน้ำจากเส้นผมสีดำขลับไปเรื่อยๆจนมันเริ่มหมาด จรดปลายจมูกสูดดมความหอมของแซมพูราคาแพง น่าแปลกที่ตัวเองก็ใช้แบบเดียวกันแต่ไม่ยักจะรู้สึกว่ามันหอมมากมายขนาดนี้ เดือนสิบสะดุ้งเล็กๆตอนที่เขาแตะนิ้วลงบนผิวแก้ม ค่อยๆเลื่อนไปถึงปลายคางมนแล้วดันให้น้องเอียงหน้ามา


แกล้งปล่อยลมหายใจรินรดแก้มใสจนอีกฝ่ายเผลอหลับตาปี๋ มือเล็กข้างหนึ่งยึดแขนเขาไว้ส่วนอีกข้างก็กำชายเสื้อยืดตัวใหญ่แน่น กลีบปากสีเรื่อในระยะประชิดช่างเรียกเลือดลมในกายได้ดี ไหนจะผิวเนื้อขาวๆที่โผล่พ้นคอเสื้อตัวใหญ่ออกมานี่อีก ยอมรับว่าทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้ากระตุกใจเขาจนมันสั่นไหวไปหมด ความคิดด้านดีที่มีอยู่น้อยนิดตั้งแต่ได้เห็นอีกฝ่ายเดินออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อผ้าของตัวเองเริ่มร่อยหรอ จะดูเห็นแก่ตัวไปไหมถ้าเขาเลือกใช้โอกาสนี้ทำให้น้องกลายเป็นของเขาจริงๆซักที…


มีต่อค่ะ
.
.
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 18-02-2017 22:04:25
.
.

“สิบ” เขากระซิบเรียก ใช้นิ้วคลึงเล่นที่มุมปากสวยเบาๆ กระทั่งดวงตากลมโตเปิดปรือขึ้น แววสั่นไหวจ้องมองกลับมา ม่านตาดำขลับสะท้อนภาพของเขาชัดเจน มีแค่เขาที่อยู่ในสายตาของเดือนสิบ


“พี่อยากให้เรายอมเพราะมันเป็นความต้องการของเราเอง ไม่อยากให้ยอมเพราะฟังคนอื่นพูดมา พี่เคยบอกไปแล้วว่ารอดะ.. อื้ม!” ถ้อยคำถูกเก็บกลืนเมื่อน้องเป็นฝ่ายแตะริมฝีปากลงมา มือเล็กเลื่อนประคองสองข้างแก้มสากก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นฝ่ายยกตัวขึ้นมานั่งคร่อมลงบนตักเขา กลีบปากนุ่มนิ่มผละออก ก่อนที่ป้านนิ้วโป้งจะเขามาแทนที่ เกลี่ยเบาๆขณะที่ม่านกลมเลื่อนขึ้นมาสบกัน


“ผมเชื่อใจพี่” กลีบปากเย็นชืดแตะลงมาเบาๆแล้วผละออก ความน่ารักของอีกฝ่ายทำให้เส้นความยับยั้งชั่งใจขาดสะบั้น ในหัวพร่าเบลอยามริมฝีปากประกบเข้าหากันอย่างนุ่มนวล


สัมผัสบางเบาราวปุยนุ่นพาจิตใจให้สั่นไหวค่อยๆ ทวีความหนักหน่วงเพิ่มมากขึ้นตามแรงอารมณ์ที่ปะทุอยู่ในอก เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นมาประคองข้างแก้มน้องเพื่อให้ตอบรับปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้าไปได้อย่างถนัดถนี่ บดเคล้าเกี่ยวกระหวัดสลับดูดดึงเอาความหวานละมุนของรสชาติที่ลิ้มลองเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ มันทำให้เขาอยากได้อีก และอยากได้มากกว่านี้


“อื้อม.. พะ พี่ยุทธ” เสียงครางเครือดังรอดออกมาให้ได้ยินยามกลีบปากผละห่าง ความอุ่นชื้นไล่จูบซับทั่วใบหน้า ก่อนจะกลับมามอบความหอมหวานผ่านรสจูบร้อนแรงอีกครั้ง เดือนสิบโอบรอบลำคอแกร่งแน่นยามแผ่นหลังแตะลงกับที่นอนนุ่ม ผิวเนื้อถูกฟอนเฟ้นหนักหน่วงโดยเฉพาะช่วงสะโพกเพรียวที่เจ้าของมือใหญ่ดูจะชอบใจมากกว่าที่ไหนๆ เสื้อนอนตัวใหญ่ถูกเลิกขึ้นสูงก่อนจะหลุดออกไปเมื่อร่างสูงไม่ต้องการให้มันอยู่เกะกะ แววตาคมกริบที่กำลังกวาดมองทั่วร่างขาวเกือบเปลือยเต็มไปด้วยความต้องการมากมายจนจวนระเบิด


“อ๊ะ! พะ พี่ยุทธ อึก” หลุดครางเสียงหลงยามที่ส่วนกลางลำตัวถูกโจมตีด้วยฝ่ามือหนา ลืมตาขึ้นมองก็เห็นว่านัยน์ตาคมกริบกำลังจ้องมาที่เขาไม่ต่างกัน ก่อนที่ใบหน้าคมคายจะเคลื่อนเข้ามาชิดจนเดือนสิบเผลอหลับตาปี๋


“สิบ..”


“….” คนถูกเรียกเสียงอ่อนเสียงหวานเอาแต่หลับตาแน่น


“สิบครับ..”


“ฮื้ออ.. ไม่เอา ..อึก อย่าเรียก” เดือนสิบงอแง ปิดหูปิดตาหวังหลบหนีน้ำเสียงแหบพร่าและนัยน์ตาคมกริบเต็มไปด้วยความปรารถนาที่กำลังลุกโชน มันโหมกระพือเข้ามาปลุกปั่นความรู้สึกของเขาให้ปั่นป่วนจนแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเอง


“เด็กดี.. มองพี่” เสียงทุ้มเต็มไปด้วยความอ่อนโยนทำให้เดือนสิบลืมตาขึ้นมอง นัตน์ตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววอ่อนโยนที่ได้เห็นอยู่บ่อยครั้งกำลังจับจ้องมาที่เขา เพียงแต่ครั้งนี้มันดูแน่วแน่มากกว่าครั้งไหนๆ จ้องลึกราวกับจะบอกย้ำให้เขาเชื่อใจ.. มือหนาบีบกระชับมือเล็กแน่นเข้า ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปากแล้วจูบลงมาเบาๆ


เพียงเท่านั้นเดือนสิบก็รู้สึกโล่งไปทั้งใจ ความกลัวที่เคยมีถูกปัดเป่าด้วยจุมพิตบางเบาแต่แสนอ่อนโยน เขาจ้องสบกับความแน่วแน่ที่ส่งมา ย้ำชัดกับตัวเองว่าเขารู้สึกปลอดภัยยามที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้


เดือนสิบหลับตาลงอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายกดจูบลงมา มันอ่อนโยนแต่ก็เต็มไปด้วยความปรารถนาลึกล้ำ ทั่วกายโล่งวูบเมื่ออาภรณ์ชิ้นสุดท้ายถูกถอดออกไปอย่างไม่ใยดี ก่อนที่อีกฝ่ายจะแทรกกายเข้ามาอยู่ระหว่างขา เนื้อตัวเปลือยเปล่าที่เข้าสัมผัสกันแนบแน่นจนรับรู้ถึงความร้อนรุ่มที่แนบอยู่กับรอยแยกด้านหลังทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก


“อ๊ะ!” เดือนสิบแทบจะระเบิดตัวเองเป็นผุยผงซะเดี๋ยวนั้น ทั้งตัวสั่นคลอนยามยามอีกฝ่ายแกล้งขยับกายเร่งเร้าเข้าหาเป็นจังหวะเนิบช้าอย่างแกล้งๆ เสียงหัวเราะในลำคอหนาแว่วให้ได้ยินยิ่งเพิ่มความร้อนให้มากระจุกรวมบนใบหน้าอีกเป็นเท่าตัว เดือนสิบได้แต่หลับตาหอบถี่ เขาคงต้องระเบิดตัวเองตายจริงๆแน่ถ้าอีกฝ่ายยังไม่หยุดแกล้งกันซักที


“อึก.. อย่าแกล้ง.. พียุทธ อยะ.. อื้อ!” เสียงประท้วงถูกดูดกลืน แขนเรียววาดโอบรอบลำตัวอีกฝ่ายแน่นยามจุมพิตร้อนแรงกดแนบลงมาซ้ำๆ ครางแผ่วในลำคอยามที่ฝ่ามือหนาลากผ่านผิวเนื้อ ฟอนเฟ้นสลับบีบคลึงเบาๆให้ได้หอบสะท้าน


“อ.. อึก..” เสียงสะอื้นแผ่วหลุดรอดถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะพยายามกลั้นมันไว้แค่ไหน ยุทธนาจูบซับไปทั่วทั้งผิวเนียน ฝากรอยรักเอาไว้ทุกพื้นผิวยามที่ริมฝีปากเคลื่อนผ่าน เดือนสิบผวาเฮือกขาเรียวกระตุกเกร็งอย่างตกใจเมื่อริมฝีปากร้อนกดแนบลงบนซอกขาอ่อนด้านใน ม่านกลมเปิดปรือขึ้นมองอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่ก็แทบจะหลับปี๋ลงในทันที เพราท่วงท่าตอนนี้ช่างชวนให้ใจกระตุกเหลือเกิน ใบหน้าแดงซ่านเชิดแหงน เสียงดูดดึงผิวเนื้ออ่อนดังชัดเรียกเลือดในกายให้พลุ่งพล่าน จนเดือนสิบต้องสะบัดหน้าร้อนผ่าวไปมาอย่างหาที่ระบาย


“สิบ..” ยุทธนาเงยหน้ามองน้อง ท่าทางของอีกฝ่ายตอนนี้ช่างกระตุ้นความต้องการของเขาเหลือเกิน แก้มใสแดงระเรื่อเพราะแรงอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ ดวงตาฉ่ำน้ำค่อยๆเปิดปรือขึ้นอย่างช้าๆ ดูออดอ้อนและเรียกร้องให้กระทำอยู่ในที เขาจับขาเรียวให้แยกออกกว้างเมื่อส่วนกลางลำตัวปวดหนึบจนไม่อาจทนไหว เฝ้ากระซิบถ้อยคำปลอบประโลมยามปลายนิ้วค่อยๆแทรกผ่านความอ่อนนุ่มเพื่อเบิกทาง เดือนสิบหลับตาปี๋กลั้นเสียงสะอื้นโดยการกัดริมฝีปากไว้แน่นจนน่ากลัวว่ามันจะช้ำไปเสียก่อน


“อย่ากัดปาก” เขากระซิบเสียพร่า จูบเบาๆลงบนกลีบปากบวมช้ำ ฟันคมขบกัดเบาๆที่ริมฝีปากล่างอย่างหยอกล้อ แกล้งขยับปลายนิ้วที่เพิ่มจำนวนเป็นสามเข้าออกเร็วๆ จนใบหน้าน่ารักสะบัดส่าย ปลายหางตามีหยาดน้ำใสคลอเคลีย ยิ่งเห็นแผ่นอกเนียนที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยจูบสะท้อนขึ้นลงไม่เป็นจังหวะตามแรงอารมณ์ที่เขาเป็นคนปลุกปั่น ส่วนกลางกลายที่แม้ไม่ได้แตะต้องก็ยิ่งขยายใหญ่เพราะความต้องการที่มากมายจวนเจียนระเบิด


“อึก.. ก อื้อ..” ก้มลงดูดกลืนกลีบปากสวยอีกครั้ง เกี่ยวกระหวัดสลับดูดดึงเข้ากับปลายลิ้นเล็กอย่างหยอกล้อ เสียงครางอื้ออึงในลำคอเล็กสลับกับเสียงจาบจ้วงยามริมฝีปากสวยถูกดูดกลืนยิ่งกระตุ้นความปรารถนาให้โหมกระพือ เขาแยกเรียวขาขาวให้กว้างขึ้นเมื่อเริ่มทนไม่ไหว จับให้พาดผ่านช่วงเชิงกรานก่อนจะจ่อความต้องการร้อนผ่าวลงบนปากทางเข้า


“พี่จะอ่อนโยน” เขากระซิบชิดริมหู ขบกัดเบาๆเรียกแรงสะดุ้งเล็กๆจากอีกคน


“ฮึก” เดือนสิบหลับตาแน่น มีเพียงเสียงสะอื้นตอบกลับมา ก่อนที่เส้นความอดทนของเขาจะขาดผึงยามเมื่อน้องยอมพยักหน้าลงเบาๆเป็นเชิงอนุญาต


“พี่รักสิบ”


เสียงทุ้มเอ่ยชิดกลีบปากสวย ยุทธนาจูบน้องอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆกดแทรกความต้องการแข็งขืนเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม และเพียงแค่เริ่มอีกฝ่ายก็แสดงท่าทีเจ็บปวดออกมาให้ได้เห็น ใบหน้าอ่อนใสแดงเรื่อบิดเบ้ หยดน้ำใสปริ่มที่หางตาจวนเจียนจะไหล
เดือนสิบผวาเฮือก มือไขว่คว้าหาที่พึ่งจนเขาต้องรวบเอามากุมไว้ จูบซับหยาดน้ำใสก่อนจะเข้าดูดกลืนเสียงสะอื้นแผ่วอีกครั้งอย่างปลอบประโลม


“ฮึก อย่าทิ้งผมนะ ..อย่าทิ้งผม” เสียงแหบพร่ำบอกยามที่กลีบปากบวมช้ำถูกปล่อยให้เป็นอิสระ


“ชู่ว.. เด็กดี ไม่ทิ้ง ไม่ทิ้งครับ เชื่อใจพี่นะ” เขาจูบลงบนหน้าผากเนียน ขบกรามข่มความต้องการมหาศาลที่ตีตื้นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งเพื่อไม่ให้เผลอกระทำรุนแรงตามใจอยาก ยุทธนาคำรามต่ำในลำคอ ผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆยามแทรกผ่านความแข็งขืนเข้าไปในช่องทาองอ่อนนุ่ม เขาทำมันด้วยความอ่อนโยนค่อยๆผลักดันอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งสุดความยาว ยุทธนาหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ความอ่อนนุ่มที่โอบรัดอย่างบ้าคลั่งจนต้องคำรามต่ำในลำคอ


“อย่าเกร็งสิเด็กดี.. ผ่อนคลายหน่อยนะ” เอ่ยชิดใบหูขาวสะอาดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ขบกัดเบาๆก่อนจะไล่จูบซับทั่วขมับเนียนชื้นเหงื่อ


“ฮึก.. ผมรักพี่ยุทธ อย่าทิ้งผมนะ อย่าทิ้งนะ” เดือนสิบโอบกอดเขาไว้แน่น ใบหน้าน่ารักบิดเบ้เพราะความเจ็บจุกซุกซบเข้ากับบ่ากว้าง พร่ำบอกซ้ำๆด้วยน้ำเสียงแหบพร่าราวกับจะร้องไห้ออกมาว่าไม่ให้ทิ้งกัน


“สิบ..” ยุทธนาคำรามชื่ออีกฝ่ายในลำคอ ก้อนเนื้อในอกพองโตจนเขากลัวว่ามันจะระเบิดไปเสียก่อนเพียงเพราะได้ยินคำรักหวานหู …น้องจะรู้หรือเปล่าว่าการบอกรักเขาทั้งที่อยู่ในสถานการณ์แบบนี้มันยิ่งเพิ่มดีกรีความร้อนรุ่มขึ้นอีกเป็นไหนๆ ยิ่งเจ้าตัวเกร็งร่างโอบกอดเขาไว้แน่นแบบนี้ช่องทางเบื้องล่างก็ยิ่งตอดรัดถี่ๆจนเขาเสียวซ่านไปหมด ยุทธนาดันตัวน้องออกเพียงเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆหยัดกายขึ้น เขาวางท่อนแขนแกร่งท้าวลงกับพื้นที่นอนนุ่ม ตาคมกวาดมองทั่วทั้งเนื้อตัวขาวเนียนของร่างใต้อาณัติอย่ารักใคร่


“เด็กดี..” มือหนาสอดเข้ากับฝ่ามือเล็กของน้อง ก่อนที่กลีบปากนุ่มจะถูกเขาครอบครองอีกครั้ง ยุทธนาบีบมือเล็กเบาๆ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกช้าๆเมื่อเห็นว่าน้องพรั่งพร้อมและตัวเขาเองก็เริ่มทนไม่ไหว เดือนสิบได้แต่ส่งเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอเพราะเขาไม่ยอมปล่อยให้ริมฝีปากน้องเป็นอิสระ จูบเชื่องช้าค่อยๆทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามอารมณ์ที่พุ่งสูง พอๆกับช่วงล่างที่เริ่มสาวเข้าออกเร็วขึ้นไม่แพ้กัน


“อ๊ะ.. อ๊า!” เสียงครางกระท่อนกระแท่นดังขึ้นเมื่อเขาผละจูบออกมา กายเล็กสั่นคลอนยามเขาเร่งจังหวะเสือกไสความต้องการเข้าไปในช่องทางคับแคบ ยุทธนาเกี่ยวกระชับเอวบางแน่น ก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วอัดสะโพกเข้าหาอย่างหนักหน่วงเมื่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เดือนสิบหวีดร้องลั่นยามเมื่อส่วนปลายร้อนผ่าวบดขยี้เข้าโดนจุดกระสันภายในซ้ำๆ และอีกคนก็เหมือนจะรู้ว่าตรงจุดไหนที่ทำให้น้องรู้สึกดีถึงได้จงใจกดขยี้เข้าหาแต่ตรงจุดนั้นซ้ำๆ ราวกับจะแกล้งกันให้ได้ขาดใจตาย


“อืมม.. สิบ” ยุทธนาคำรามต่ำในตอนที่ม่านตาคมกวาดมองทั่วใบหน้ายั่วยวนของคนรัก ยิ่งอีกฝ่ายแสดงออกทางสีหน้ามากเท่าไหร่ก็ยิ่งสุมไฟแห่งความปารารถนาของเขาให้ลุกโชนมากขึ้นเท้านั้น อดคิดไม่ได้ว่าท่าทางของน้องตอนที่ถูกเขากระแทกกายเข้าหาอย่างเร่าร้อนแบบนี้มันกระตุ้นอารมณ์ได้ดีจนอยากจะทำซ้ำๆ


นัยน์ตากลมโตปรือมองร่างใหญ่ที่กำลังเสือกกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง ขาเรียวถูกแยกออกกว้างกว่าเดิม ก่อนที่ยุทธนาจะรั้งมันพาดไว้บนบ่ากว้าง ส่วนอีกข้างก็จับให้พาดผ่านช่วงแขนแกร่ง กระชับช่วงสะโพกเพรียวไว้มั่นแล้วขยับกายเสือกไสเต็มอัตรา


“อ๊า! พะ อึก พี่ยุทธ!” เดือนสิบหวีดลั่น สะบัดหน้าไปมากับหมอนหนุน ขณะที่มือไขว่คว้าหาหลักยืดก่อนจะจิกทึ่งลงกับผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่เพื่อระบายความเสียวซ่าน ทั่งร่างไหวคลอนตามแรงส่งที่อัดกระหน่ำเข้ามาซ้ำๆ ลมหายใจสะดุดจนแทบขาดห้วงยามอีกคนจงใจบดขยี้เข้าหาจุดเดิมซ้ำๆ เดือนสิบหอบถี่ มือเล็กข้างหนึ่งวางลงบนอกกว้างก่อนจะเลื่อนลงต่ำเพื่อดันหน้าท้องแกร่งที่เสือกเข้าหาให้ลดจังหวะลง แต่แทนที่เจ้าของแรงส่งจะทำตามคำอ้อนวอน ยุทธนากลับรวบมือน้องมากุมไว้แน่น และเร่งจังหวะเร็วขึ้นไปอีกจนร่างเล็กหวีดลั่น


“พียุทธ.. ช้า อ๊า! ช้าหน่อย ไม่ไหว อึก! ไม่ไหวแล้ว” เดือนสิบสะบัดหน้าไปมาอย่างกระสับกระส่าย ความเสียดเสียวพุ่งโจมตีหนักหน่วงทั่วทั้งร่างจนแทบระเบิดเป็นจุน ช่องท้องบิดมวนอย่างบ้าคลั่งเมื่ออีกฝ่ายจงใจอัดกระแทกลงมาซ้ำๆไม่ปราณี เขาหอบถี่ แหงนหงายใบหน้าครางกระเส่าไม่แพ้อีกคนที่คำรามต่ำและเอาแต่โยกกายเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง


“สิบ.. เรียกชื่อพี่ ซี้ดด สิบ”


“อ๊ะ! ยุทธ พี่ยุทธ.. อื้ออออ!”


สุดท้ายเมื่อร่างกายไม่อาจต้านความเสียวกระสันที่ถาโถม ร่างเล็กก็บิดเกร็งและปลดปล่อยความสุขสมออกมาหมดสิ้นจนเต็มหน้าท้องแบนราบไปจนถึงหน้าท้องแกร่ง เดือนสิบหอบถี่ราวกับคนที่กำลังขาดอากาศหายใจ มือทั้งสองข้างจิกทึ้งลงบนบ่าแกร่งของคนเบื้องบนที่ยังเสือกกายเข้าหาไม่หยุด


“อ่าาา!”


ได้ยินเสียงคำรามต่ำก่อนจะถูกเชยคางให้แหงนรับจูบลึกล้ำที่บดเบียดลงมา รับรู้ได้ว่ากล้ามเนื้อของคนเป็นพี่ขมวดเกร็งก่อนที่อีกฝ่ายจะปลดปล่อยความอุ่นร้อนเข้ามาจนเต็มช่องทางที่ยังขมิบรัดไม่หยุด ยุทธนาพรมจูบทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อแดงระเรื่อของน้องอย่างหลงใหล จูบย้ำๆลงไปบนกลีบปากบวมเจ่ออย่างรักใคร่ ก่อนจะทาบทับกายแกร่งซุกหน้าเข้าหาซอกคอหอมๆแล้วสูดเอาอ๊อกซิเจนเข้าปอดถี่ๆไม่แพ้กัน


“พี่รักเรานะเดือนสิบ” เอ่ยจบก็กดจูบลงบนลาดไล่ขาว “ขอบคุณที่ไว้ใจพี่ ขอบคุณครับ”


คนฟังยิ้มจาง ฝ่ามือเล็กยกขึ้นลูบไล้แผ่นหลังกว้างชื่นเหงื่อไปมาก่อนจะโอบรัดเอาไว้จนเต็มอ้อมแขน “ผมก็รักพี่ อย่าทิ้งผมนะ อย่าเบื่อผม” เดือนสิบตอบรับเสียงพร่า ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาปัดปอยผมชื้นเหงื่อออกจากใบหน้าคมคาย แล้วกดจูบลงไปเบาๆบนขมับชื้นเหงื่อของคนเป็นพี่อย่างรักใครไม่ต่างกัน


ยุทธนาเงยหน้ามองคนที่กำลังคลี่ยิ้มจางส่งมาให้อย่างอึ้งๆ สัมผัสอุ่นที่แนบลงมาเมื่อครู่ยังคงแจ่มชัดในความรู้สึกถึงแม้ว่าอีกคนจะผละออกไปแล้วก็ตาม ไม่คิดว่าแค่น้องสัมผัสเพียงบางเบาจะทำให้เขารู้สึกดีได้มากมายขนาดนี้ เขายิ้มตอบ ก่อนจะก้มลงไปมอบจูบหวานล้ำให้เป็นรางวัลกับการกระทำน่ารักนั่น และน้องเองก็หลับตาพริ้มยอมรับสัมผัสอย่างยินดี


…ลูกแมวของเขาชักจะน่ารักเกินไปแล้ว


.

.


นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เดือนสิบเอาแต่นอนจ้องมองใบหน้าคมคายของคนที่เฝ้ากกกอดเขาไว้แบบนี้ทั้งคืน คลี่ยิ้มบางเบายามที่ปลายนิ้วลากผ่านสันจมูกโด่งของคนที่กำลังหลับใหลไม่รู้เรื่องแล้วอีกฝ่ายครางฮือ แต่พอเผลอเลื่อนสายตาลงต่ำแล้วพบกับแผ่นอกกว้างที่กำลังสะท้อนลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะก็พลันหน้าเห่อร้อนขึ้นมาซะอย่างนั้น เดือนสิบหัวเราะเบาๆให้กับอาการบ้าบอของตัวเอง ยอมรับว่าตอนนี้เขากำลังมีความสุขมากจริงๆ มีความสุขที่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้ อ้อมกอดของคนที่เขากล้าพูดได้เต็มปากว่า ‘รัก’


“อืมม” เสียงครางฮือจากคนที่กำลังหลับใหลก่อนที่อ้อมแขนแกร่งที่พาดผ่านอยู่บนช่วงเอวจะกระชับแน่นเข้า ยุทธนาขมวดคิ้วยุ่งเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่รบกวนเวลานอน เขาเปิดเปลือกตาขึ้นมองเพียงเล็กน้อย พอเห็นใบหน้าน่ารักของคนที่เฝ้ามอบความสุขให้กันมาตลอดทั้งคืนอยู่ใกล้แค่คืบก็คลี่ยิ้มให้


“ขี้เซา..” คนตื่นก่อนลากเสียงยาว ก่อนจะทำให้คนเมาขี้ตาใจเต้นตึกตักรับอรุณโดยการยกตัวขึ้นมาจุ๊บเบาๆที่ปลายคางสาก


“ใครสั่งใครสอนให้ทำตัวน่ารักแบบนี้ฮึ!?” เอ่ยจบก็รวบร่างขาวเข้ามาจนเต็มอ้อมแขนก่อนจะเพิ่มแรงรัดแน่นขึ้นเพราะความหมั่นเขี้ยว ทว่าอีกฝ่ายกลับอุทานเสียงหลง ซ้ำใบหน้ายังบิดเบ้เพราะความเจ็บแล่นริ้วตั้งแต่ช่วงสะโพกเพรียวมาจนถึงบั้นเอวที่ถูกร่างสูงกอดรัดแน่น ยุทธนารีบคลายแขนออกโดยอัตโนมัติเมื่อพอจะมองออกน้องเป็นอะไร


“เจ็บมากรึเปล่า พี่ขอโทษ” เขาว่าอย่างรู้สึกผิด น้องส่ายหน้าแล้วยิ้มจางให้ น่ารักน่าใคร่จนอดใจไม่ไหวต้องเอ่ยเย้า “คราวหน้าสัญญาว่าจะไม่ทำให้เจ็บ” เอ่ยจบก็โดนฝ่ามือเล็กๆเข้าตะครุบปากแทบไม่ทัน


“ใครจะยอมให้มีครั้งหน้ากัน” ยุทธนาหัวเราะในลำคอ แกล้งตวัดปลายลิ้นลงบนฝ่ามือขาวจนเดือนสิบถึงกับทำหน้าแตกตื่นชักมือกลับแทบไม่ทัน ตากลมๆมองค้อนใส่อย่างเอาเรื่อง แต่มองยังไงก็ลูกแมวหัดขู่ชัดๆ


“ไม่ยอมก็จับปล้ำ จะเอาทั้งวัน ทั้งคืนไม่ให้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันเลยคอยดู”


“ฮื้ออ! พี่ยทธธธ อย่าแกล้ง” คนขี้อายปิดหน้าหนี ส่ายหัวไปมาจนผมที่ยุ่งอยู่แล้วยุ่งเหยิงเข้าไปอีก


“ว่าแล้วก็จัดอีกซักรอบดีไหมฮึ? หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ทำบ่อยๆจะได้หายเจ็บไง” เขาว่าอย่างอารมณ์ดีพลิกตัวขึ้นคร่อมน้องไว้ก่อนก้มลงไปฟัดร่างขาวๆจนเต็มเม็ดเต็มหน่วย


“พี่ยุ๊ทธธธ ไม่เอาาาาา” ยิ่งอีกคนโยนวายมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะถูกใจจากลำคอหนาได้มากเท่านั้น


กระทั่งกอดรัดจนพอใจ ยุทธนาถึงได้ยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้มองหน้าแดงๆของน้องได้ถนัด เดือนสิบหอบถี่ กลีบปากเผยออ้าเล็กๆยามกอบโกยออกซิเจนเข้าปอด แก้มใสแดงเรื่อ ดวงตาฉ่ำน้ำปรือปรอยด้วยความเหนื่อยอ่อนเพราะออกแรงดิ้นหนีริมฝีปากร้ายกาจของเขา หากแต่ประกายความสุขที่สะท้อนออกมากลับไม่จางหายไป เขาขยับตัวลงนอนข้างๆรวบน้องมากอดไว้จนเต็มอ้อมแขน  ริมฝีปากแทบจะแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา …มีความสุขจนอยากจะหยุดเวลาไว้แค่นี้


.

.


“ไม่ต้องมาจับ!” ปืนมองคนตัวเล็กกว่าที่สะบัดแขนออกจากมือเขาไปอย่างไม่ใยดี พีทกอดอกฉับ ใบหน้าสวยบึ้งตึงบ่งบอกอารมณ์ไม่พอใจระดับสิบ ปืนถึงกับถอนหายใจพรืดด้วยความอ่อนใจ มันจะไม่อะไรเลยถ้าเรื่องที่ ‘แฟน’ กำลังโกรธเคืองจะไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจผิดกันน่ะ


ใช่ เขากับพี่พีทตกลงคบหาดูใจกันมาได้ซักระยะแล้ว จริงๆก็ตั้งแต่กลับมาจากทะเลนั่นแหละ แต่จะพูดว่าเป็นแฟนกันก็พูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะพี่มันบอกว่าขอดูพฤติกรรมเขาก่อน ซึ่งตรงนี้ไอ้ปืนงงมาก เป็นคนมาอ่อยเขาก่อนแท้ๆแต่พอเขาขอคบด้วยกลับมาทำยึกยัก แต่เอาเถอะ ถึงพี่มันจะว่าอย่างนั้นแต่ทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ไม่ได้ต่างจากคนเป็นแฟนกันนักหรอก


ส่วนไอ้เรื่องที่ทะเลาะกันอยู่ตอนนี้ก็เป็นปัญหาเดิมๆซึ่งตัวต้นเหตุก็เขาเองนี่แหละ ก็แหม.. เวลาเห็นเมียฟึดฟัดไม่พอใจแล้วมันก็รู้สึกดีนี่หว่า ปกติพี่มันแสดงออกที่ไหน ไม่ทำหน้าง่วงๆใส่ก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ ไม่มีหรอกที่จะมาอ้อร้อใส่เหมือนเมื่อตอนก่อนจะได้กัน แล้วใครเซ็งล่ะครับ ก็ไอ้ปืนไงจะใครล่ะ ว่าแล้วก็ขอบ่นหน่อยเถอะ เอาจริงตั้งแต่ได้กันครั้งแรกที่ทะเลพี่มันก็ไม่ยอมให้เขาอีกเลยอ่ะ ถึงจะลากมานอนด้วยกันบ่อยๆแต่มากสุดก็ได้แค่ดูดๆเลียๆไง ไม่รู้จะเล่นตัวอะไรนักหนา แต่เอาเข้าจริงก็อดยอมรับไม่ได้เหมือนกัน ว่าพอพี่มันทำแบบนี้ก็เหมือนกำลังกระตุ้นให้เขาอยากเอาชนะ คือวันไหนตะล่อมเอาพี่มันได้นี่คือมิชชั่นคอมพลีทอ่ะ


 “โถ่พีท.. ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ เขาเป็นแค่รุ่นน้องที่โรงเรียนเก่า” คนฟังส่งเสียงเฮอะขึ้นจมูก ตวัดมองเขาตาขวาง ดูก็รู้ว่าไม่เชื่อเรื่องที่เขาพูด เดียวนี้ไม่มีแล้วพี่ๆผมๆอ่ะเพราะมันไม่อิน หึ! จริงๆก็อยากเรียกเมียนั่นแหละ แบบเรียกพีทมันไม่เคลียร์ ขอเรียกเมียได้หรือเปล่า!


บอกเลยว่าหลงเมีย(ครั้งเดียว)หนักมาก นี่ยืดอกยอมรับแบบตรงๆเลยนะว่าได้หลังแล้วลืมหน้าอ่ะ แต่จะทำไงได้ ก็พี่มันน่ารัก 


“แล้วรุ่นน้องนี่มันจำเป็นต้องกอดกันแนบแน่นขนาดนั้นเลยรึไง! ถ้ากูไม่ไปเจอก่อนมึงคงพาน้องเขาไปขึ้นสวรรค์ชั้นไหนแล้วสิท่า! ชอบนักนี่หมวยๆขาวๆน่ะ! ชอบนักก็ไปเลย ไปเอากับเขาโน่นไม่ต้องมายุ่งกับกูแล้ว! มึงแม่งเหี้ย! อึก! ไม่ต้องมาจับกูเลย!”


ไอ้ปืนถึงกับร้องชิบหายอยู่ในใจ เมื่อเห็นน้ำใสๆเริ่มเอ่อคลอเต็มหน่วยตาเรียวสวย พี่มันกลั้นสะอื้นพลางยกมือขึ้นปากน้ำตาออกลวกๆ ก่อนจะสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้ยากหน่อยเพราะเขายึดไว้แน่น เจ้าตัวเลยทำได้แต่ถลึงตาแดงๆนั่นใส่ ยอมรับว่าเมื่อกี้นี่ใจเสียเลย ถึงจะเคยทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้หญิงที่เข้ามาวอแวกับเขาอยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่พี่มันจะร้องไห้ออกมาแบบนี้ เห็นแล้วก็อดสงสารได้ สงสัยคราวนี้จะแกล้งแรงไปจริงๆว่ะครับ


“ใจเย็นๆก่อนดิพีท มันไม่มีอะไรจริงๆ น้องหมวยเขาแค่จะล้มปืนเลยเข้าไปช่วยพยุง ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้นจริงๆครับ สาบาน” เขาพูดดีๆ ชูสามนิ้วขึ้นตรงหน้าอีกฝ่าย


“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดีเลย มึงมันเหี้ย” คนตัวเล็กว่าแล้วสะบัดหน้าหนี ไอ้ปืนเห็นช่องเลยเข้าไปรวบกอดอีกคนจากทางด้านหลังไว้แน่น เจ้าตัวขัดขืนในทีแรกแต่พอสู้แรงคนอายุน้อยกว่าไม่ได้เลยต้องยอมปล่อยให้มันกอดอยู่อย่างนั้น


“ครับ เหี้ยก็เหี้ย” ไอ้ปืนตอบรับเสียงหวาน แอบยิ้มกริ่มเมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มสงบลง


“มึงมันเลว”


“ครับ เลวครับ” ว่าแล้วก็รวบกอดพี่มันแน่นขึ้น ชอบนักล่ะเวลาต้องง้อแบบถึงเนื้อถึงตัวเนี่ย แล้วไอ้คนนี้ก็จะน่ารักไปไหน ปากด่าแต่ก็ยอมยืนนิ่งให้กอดให้หอม เพราะแบบนี้ไงเขาถึงได้ชอบแกล้งอีกฝ่ายนัก


“มึงมันเจ้าชู้หลายใจ!”


“เลิกหมดแล้วครับ ตอนนี้มีแค่คนนี้คนเดียว มีแค่พีท หลงจะตายอยู่แล้ว” ไม่ว่าเปล่ายังฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มๆนั่นไปอีก


“เฮอะ” พีทฮึดฮัด ขัดใจที่ด่าอะไรไปไอ้ตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเสียน้ำตาด้วยความคับแค้นใจก็ตอบรับกลับมาด้วยความยินดี ซ้ำร้ายมันยังฉวยโอกาสเข้ามากอดมาจูบอย่างหน้าด้านๆ ทั้งๆที่มีความผิดติดตัวอีกต่างหาก แต่จะโทษมันฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้คิดขัดขืนจริงจังตั้งแต่แรก ถึงจะโกรธจะน้อยใจแค่ไหน แต่พอมันเข้ามาง้อมาพูดด้วยดีๆทีไรเป็นต้องโอนอ่อนผ่อนตามให้ตลอด เกลียดตัวเองจริงๆ



***********



 :katai5: ถึงกับหอบเลยทีเดียว เป็นตอนที่ปาดเหงื่อไปหลายรอบมากจริงๆค่ะ
ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วคงไม่ได้มาบ่อยๆ (พูดเหมือนปกติมาบ่อย) ฮาา แต่ก็จะพยายามไม่ทิ้งช่วงนานค่ะ กลัวคนอ่านจะหายไปซะก่อน อิอิ
ตอนที่แล้วมีคนเม้นว่าอิปืนไวว่องปานกามนิตหนุ่ม นี่ถึงกับไปเสิร์จกูเกิลเลยทีเดียว
มันแปลว่าคนที่ทำอะไรคนที่ทำอะไรได้สำเร็จในเวลาอันรวดเร็วรึเปล่าคะ  :z1:
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกๆคนที่หลงเข้ามาอ่านมากๆเลย ทุกๆคอมเม้นและทุกๆยอดวิวเป็นกำลังใจให้เรามากจริงๆค่ะ  :L1:



หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 18-02-2017 22:12:04
ชอบปืนอ่ะ 5555

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 18-02-2017 22:21:09
เย้ยยยย คู่หลักเขาตามมาติดๆเลย คู่รองก็ไม่เบา #ทีมหลงเมียหนักมาก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-02-2017 22:27:24
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-02-2017 22:34:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 18-02-2017 22:54:59
 :jul1: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 18-02-2017 23:04:04
 :pig4: :pig4:
สิบน่ารักกก
ชอบปืนพีทด้วยยย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 18-02-2017 23:05:39
พี่ยุทธมิชชันคอมพลีทจ้าาาาาา
ผู้ชายอะไรอบอุ่นมากกกกกกก

น่ารักทั้งพี่ทั้งน้อง....
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 18-02-2017 23:05:57
แหมไม่น้อยหน้าคู่เพื่อนสนิทเลย  :heaven
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-02-2017 23:14:56
จัดเต็มเลยทีเดียวค่ะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 19-02-2017 00:10:55
 :fox2:
:mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-02-2017 00:13:15
 :mew1:หัวใจลอยเต็ม
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 19-02-2017 00:21:14
ชอบพี่ยุทธ ในที่สุด  :mc4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-02-2017 00:33:49
ทำไมคู่รองเหมือนจะหวาน ไม่ซิพ่อแง่แม่งอนกันจัง
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 19-02-2017 01:01:26
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2017 02:17:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 19-02-2017 07:46:42
น่ารักมากไม่ไหวแล้วพี่ยุทธอ่อนโยนกับน้องมาก  :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: BABYBB ที่ 19-02-2017 09:18:43
ยุทธสิบน่ารัก เค้าได้กันแล้วเหว้ยแกรรรรร  :katai2-1: ส่วนปืนพีทนั้นพ่อแง่แม่งอนสุดๆ 5555555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 19-02-2017 12:26:17
พี่ยุทธคอมพลีทแล้วว   :mc3: :mc3:
เดือนสิบน่ารักมากก อิปืนนี่กวนสุด  :give2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 19-02-2017 16:56:47
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 19-02-2017 20:57:04
ทำไมรู้สึกชอบคู่ปืน
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 19-02-2017 22:56:33
แอร๊ยยย เขาได้กันแล้ว
พี่ยุทธจัดเต็มเลยทีเดียว
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 15 Up. [18/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 20-02-2017 01:50:41
หลงน้องสิบบบบ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 21-02-2017 13:59:32

16


“เฮ้อ…” เดือนสิบมองเพื่อนสนิทที่ฟุบหน้าลงกับเตียงเขาแล้วเอาแต่ถอนหายเฮือกๆ อย่างหมดอะไรตายอยาก ก่อนจะยื่นมือไปสะกิดมัน


“เป็นไรของมึงวะไอ้ปืน มาถึงก็เอาแต่ถอนหายใจเฮือกๆรดที่นอนกูเนี่ย”


“กูเครียด” มันตอบอู้อี้


“เรื่อง?”


“เมียไม่ให้เอา”


พอได้ฟังเหตุผลก็ถึงกับหัวเราะลั่นจนไอ้ปืนหันมามองตาขวาง เรื่องที่มันคบกับพี่พีทเขารู้ดีเพราะไอ้ปืนชอบมาเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ บอกพี่พีทไม่สนใจมันงั้นงี้ เดือนสิบฟังแล้วก็ได้แต่สมน้ำหน้ามันอยู่ในใจ เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่จะได้เห็นคนเจ้าชู้ควงสาวเป็นว่าเล่นอย่างมันมานั่งบ่นเป็นหมีกินผึ้งว่าเมียไม่สนใจ


“มึงว่ากูควรทำไงดีวะ” ไอ้ปืนลุกขึ้นมานั่งดีๆ มันเงยหน้ามองเขาที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง


“ไม่รู้สิ”


“ได้ไงวะ แล้วตอนพี่ยุทธขอเอามึงนี่พี่มันขอยังไงอ่ะ” คนฟังถึงกับหน้าร้อนวาบเมื่อเจอคำพูดตรงๆของเพื่อนสนิท ไอ้ปืนไม่ได้ถามเชิงล้อเลียนหรือแซวให้เขิน แต่มันถามด้วยสีหน้าจริงจังเพราะอยากรู้จริงๆ


“ถามบ้าอะไรของมึงเนี่ย” แต่เดือนสิบก็อดเขินไม่ได้อยู่ดี จะบอกยังไงล่ะ ก็ในเมื่อเขาเป็นฝ่ายยอมพี่มันเอง.. หึยย แค่คิดก็หน้าร้อนวูบแล้ว ไอ้ปืนนะไอ้ปืน ไม่น่ามาถามเลย อุตส่าห์ทำเป็นลืมๆไปแล้วแท้ๆ


“เอ้า นี่กูจริงจัง หรือพี่มันยังไม่ได้แอ้มมึงวะ แต่ดูจากแก้มแดงๆนี่กูว่าไม่น่ารอด เป็นไง พี่มันเด็ดป่ะ?”


“ไอ้สัด”


“โดนไปกี่รอบวะ หมดแรงเลยดิ”


“เชี่ยปืน!”


“ฮ่าๆๆ มึงแม่งเขินน่ารักว่ะ ไหนมาให้กูฟัดทีดิ” ไม่ว่าเปล่ามันยังกระโจนขึ้นเตียงมากอดรัดฟัดเหวี่ยงเขาอย่างที่ปากว่าจริงๆอีกต่างหาก


“พอ.. แฮก พอเลยห่าปืน เล่นเชี่ยไรมึงเนี่ยลุกออกไปดิ หนัก!” เดือนสิบหอกแฮก แก้มแดงปลั่งจากการสู้รบปรบมือกับเพื่อนสนิท ผิดกับไอ้ปืนที่ยังมีแรงหัวเราะร่า มันขยี้ผมเขาไม่เบานักจนพอใจถึงได้ยอมถอยกลับไปนั่งดีๆ


“แล้วนี่พี่มันไปไหนวะ ถึงได้ปล่อยให้มึงมาเอ้อระเหยอยู่กับกูได้ ปกติวันเสาร์ต้องกกกันอยู่ในห้องไม่ใช่ไง?” คนฟังย่นจมูก


“เขาก็ต้องมีธุระบ้างสิ ใครจะมาว่างได้ตลอดเหมือนมึง งานการมีก็ไม่รู้จักไปทำ”


“ตั้งแต่มีผัวนี่ปากคอเราะร้ายไม่พอ มึงยังเห็นผัวดีกว่าเพื่อนอีกหรอห๊ะ” ไอ้ปืนผลักหัวเพื่อนสนิทไม่เบานัก เดือนสิบเลยหันมามองมันตาขุ่น


“มึงแม่งนิสัยไม่ดี สมน้ำหน้าที่พี่พีทไม่ยอม หึ!” ว่าแล้วก็กอดอกฉับ ซ้ำยังมองไอ้ปืนอย่างเยาะเย้ยอีกต่างหาก


“หนอย..” ไอ้ปืนถึงกับขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ดูท่าว่าตั้งแต่มีผัวเป็นตัวเป็นตนนี่เพื่อนเขาซักจะเอาใหญ่ เมื่อก่อนนี่มีอะไรก็ปืนจ้ะปืนจ๋า พอเดี๋ยวนี้มีคนใหม่ให้ออดให้อ้อนล่ะมาถีบหัวส่ง มันน่านักเชียว


Rrrrrr


แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเสียงโทรศัพท์ของเดือนสิบก็ดังขึ้นมาซะก่อน เจ้าตัวหันมอง ก่อนจะรีบโดดผลุงลงจากเตียงไปคว้าเครื่องมือสื่อสารมาถือไว้ แต่ก็ยังไม่วายหันมาแลบลิ้นใส่เพื่อนสนิทอีกต่างหาก …มันน่าตบให้หัวหลุดจริงๆ


“ครับ”


‘ทำอะไรอยู่’ เสียงทุ้มดังมาจากปลายสาย เรียกรอยยิ้มเล็กๆของคนทางนี้จนไอ้ปืนที่มองอยู่ถึงกับเบ้ปากใส่ ด้วยชักหมั่นไส้ขึ้นมาตงิดๆ


“คุยโทรศัพท์กับพี่ยุทธ”


‘กวนนะ เดี๋ยวจะโดน’ เสียงขู่ไม่จริงจังนักตอบกลับมา


“เปล่าซักหน่อย พี่ยุทธโทรมามีอะไรรึป่าวครับ”


‘ไม่มีอะไรหรอก กลับมาที่ห้องไม่เจอเลยโทรหา’


“ผมอยู่ห้องตัวเองครับ พี่ยุทธกลับมานานแล้วหรอ”


‘อื้ม..สักพัก มาหาได้ไหม ..คิดถึง’


“บ้าแล้ว ฮะๆ เพิ่งแยกกันเมื่อเช้านี้เอง” คนฟังหลุดยิ้มกว้าง มืออยู่ไม่นิ่งจนต้องยกขึ้นมาเกาแก้มเกาคอแก้เขิน ไม่บ่อยนักที่จะได้พูดคุยกันผ่านโทรศัพท์แบบนี้ มันเลยทำให้รู้สึกขัดเขินแปลกๆ


‘ก็อยากอยู่ด้วยตลอด อยากกอด อยากหอม อยาก…’


“บิดเข้าไป บิดจนเสื้อจะขาดหมดแล้วนั่น” เสียงของเพื่อนสนิทที่เดือนสิบหลงลืมไปชั่วขณะ ว่ามันยังอยู่ในห้องนี้ด้วยพาเอามือที่ไม่รู้ว่าเผลอมาบิดชายเสื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ชะงักค้าง


‘อยู่กับใคร’ เสียงปลายสายดังขึ้นมาอีกครั้ง เรียกให้เดือนสิบละความสนใจจากเพื่อนสนิทที่มองมาอย่างล้อๆ เขาย่นจมูกใส่มันก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาที่ระเบียง


“กับไอ้ปืนครับ มันมาหา”


‘สองคน?’


“อื้อ”


‘…...’


“พี่ยุทธ เป็นอะไรนึป่าวครับ” เดือนสิบถามขึ้นเมื่อเห็นว่าปลายสายเงียบไป


“……”


“……"


‘พี่กำลังห้ามไม่ให้ตัวเองหงุดหงิด’


“…..”


‘แต่มันห้ามไม่ได้เลย’


“พี่ยุทธ.. ผมกับไอ้ปืนเป็นแค่เพื่อนกันนะครับ ไม่เห็นต้องคิดมากเลย” เขาบอกเสียงอ่อน แต่ริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มกว้าง เหมือนก้อนใจมันฟูๆเมื่อรู้ว่าสาเหตุที่ทำให้พี่หงุดหงิดคืออะไร


‘ถึงอย่างนั้นมันก็อดหวงไม่ได้อยู่ดี สิบเป็นของพี่นะ’


“ครับ ผมรู้.. ”


‘บอกมันกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปรับ’


“ไม่ต้องครับ ไม่ต้อง”


‘ทำไม’ เป็นอีกครั้งที่เดือนสิบหลุดหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินเสียงดุๆของคนเป็นพี่ ให้เดาตอนนี้คงกำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่แน่ๆ


“เดี๋ยวผมไปหาเองก็ได้ ใกล้แค่นี้เอง”


‘พี่จะรอ..’


“ครับ”


‘เร็วๆนะ’


“ฮ่ะๆ ครับผม”


พี่ยุทธวางสายไปแล้วแต่เดือนสิบยังคงมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วยิ้มอยู่อย่างนั้น กระทั่งเสียงประตูบานเลื่อนดังขึ้นด้วยฝีมือของไอ้ปืน เขาหันมามองมันซึ่งมันเองก็กำลังยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองเขาอยู่เหมือนกัน แล้วมาทำหน้ากวนตีนใส่แบบนั้นคิดว่าตัวเองหล่อนักรึไง เหอะ!


“ทำหน้าแบบนั้นใส่กูหมายความว่าไง” มันเปิดประเด็น


“มึงนั่นแหละ มองกูแบบนั้นหมายความว่าไง”


“หมั่นไส้ไง เบื่อพวกมีผัวแล้วลืมเพื่อน” มันว่ากวนๆ


“กูเปล่าซักหน่อย”


“ถ้าไม่ใช่งั้นวันนี้มึงก็ต้องอยู่เล่นเกมส์เป็นเพื่อนกู เพราะเมียไม่อยู่ กูเหงา!”


ได้ไง!! เดือนสิบได้แต่เถียงมันอยู่ในใจ


“แต่..”


“ทำไม หรือมึงจะทิ้งกูไปหาผัวจริงๆ ใช่ซี้กูมันก็เป็นได้แค่คนที่ถูกลืมนี่ เมียเมินไม่พอ ยังไม่มีค่าพอให้เพื่อนมาสนใจอีก ชีวิตไอ้ปืนนี่มันช่างไร้ค่าจริงๆ”


“เล่นใหญ่ไปละสัด” เขาเบรก กรอกตามองมันอย่างเอือมๆ


“กูน้อยใจ! กูมันไม่สำคัญ กูมันคนไม่จำเป็น มึงอยากจะไปอยู่กับผัวนักก็ไปเลย ปล่อยกูไว้ตรงนี้ ปล่อยมือฉัน.. ถูกแล้ววว เมื่อเธอเลือกเขา..”


เดือนสิบได้แต่เกาหัวแกรกๆ มองเพื่อนสนิทอย่างหน่ายๆ ไอ้ปืนทิ้งตัวนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงเขา แหกปากร้องเพลงลั่นไม่เกรงใจคนข้างห้องเลยซักนิด มันลืมไปรึป่าวว่าห้องเขาไม่ได้เก็บเสียงเหมือนคอนโดมัน เกิดโดนปาเปลือกทุเรียนมาใส่นะ พ่อจะฟาดซ้ำให้


“พอๆ กูอยู่กับมึงก็ได้ เลิกหอนซักทีรำคาญหู”


“อ้อหออ.. ปากคอมึงนี่นะ ทำไมถึงได้ร้ายกาจขึ้นขนาดนี้ห๊ะ!” เดือนสิบอยากจะบอก ว่าเขาก็กล้าแค่กับมันนี่แหละ ไม่รู้สิ เหมือนมันมีความสุขปนความสะใจลึกๆเวลาได้เห็นท่าทางฟึดฟัดของไอ้ปืน ยิ่งทำมันเถียงไม่ได้นี่นับว่ามิชชั่นคอมพลีท


สุดท้ายเดือนสิบก็ต้องโทรกลับไปบอกคนที่เพิ่งวางสายไปว่าเขายังไม่สามารถไปหาได้ตอนนี้ พี่ยุทธไม่ได้ซักไซ้อะไรมากก็จริง แต่ไอ้ท่าทีตอบรับง่ายดายด้วยน้ำเสียงอ่อยๆนี่ก็ทำเขาใจแป้วไปเหมือนกัน


“หงอยไอ้สัดหงอย” ไอ้ปืนที่กำลังจัดแจงพื้นที่เล่นเกมอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นกลางห้องเงยหน้าขึ้นมามอง มันยักคิ้วกวนๆ เขาเลยเดินไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะส่งเสียงเหอะขึ้นจมูกใส่มัน


ไอ้ปืนหัวเราะคิกคักอย่างน่าหมั่นไส้ มันหันไปค้นอะไรซักอย่างในกระเป๋าก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาจ่อตรงหน้าเขาแล้วลั่นชัตเตอร์   ไอ้ปืนถ่ายรูปเขาอีกแล้ว


“ประสาท” เดือนสิบบ่นเมื่อเห็นมันนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว ไอ้ปืนหันมามอง ก่อนจะเขยิบมาใกล้จนชิด มันยื่นโทรศัพท์มาตรงหน้า


“ประสาทที่ไหน มึงดูนี่ โพสยังไม่ถึงห้านาทีไลค์เกือบพัน เพื่อนกูฮอตสัดๆ” เขารับโทรศัพท์มาจากมัน จริงอย่างที่ไอ้ปืนว่า โทรศัพท์ในมือเขาสั่นครืดคราดพอๆกับจำนวนคอมเม้นที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว


“นี่ยังจิบๆ” มันเอาโทรศัพท์กลับไปถือไว้ กดอะไรอยู่ชั่วครู่แล้วยื่นมาตรงหน้าเขาอีกครั้ง


ไอ้ปืนค่อยๆเลื่อนให้เขาดูทีละภาพอย่างช้าๆ เป็นรูปเขาทั้งหมดในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งแต่ละรูปมีจำนวนคนกดไลค์ไม่ต่ำกว่าพัน
“ไอจีกูแท้ๆแต่มีรูปมึงเยอะกว่ารูปกูอีก” ไอ้คนข้างๆบ่น แต่มือยังเลื่อนให้เขาดูรูปไปเรื่อยๆ


“ทำไมถึงมีคนถูกใจเยอะขนาดนั้นล่ะ” ไอ้ปืนยิ้ม มองเพื่อนสนิทที่กำลังจับจ้องหน้าจอมือถือไม่วางตาอย่างเอ็นดู


“เพราะเขาชอบมึงไง” ม่านตากลมเหลือบมอง


“ชอบกูเนี่ยนะ?”


“อือฮึ.. ไม่เชื่อดูนี่” ปืนว่าแล้วกดช่องคอมเม้นให้เพื่อนดู เดือนสิบรับโทรศัพท์จากเพื่อนสนิทมาถือไว้ ก่อนจะเลื่อนอ่านคอมเม้นที่ไอ้ปืนมันเปิดค้างไว้ให้


MaY_kannika พี่สิบน่ารักมากกกก พี่ปืนเอารูปพี่สิบมาลงเยอะๆนะคะ


KUKKAI_00 น้องสิบน่ารักมากจริงๆ รูปนี้มีแอบยิ้มเล็กๆด้วยอ่ะ แอร๊ยยย


LalitaSiTa น้องสิบของเจ้ อยู่ที่มหาลัยนิ่งมากเจ้ไม่กล้าเขาไปคุยด้วยเลย นิ่งมาก น้องปืนช่วยลากเพื่อนมาเล่นไอจีทีค่ะ


SAISOCUTE ยิ้มทีโลกสดใส พี่ปืนปารูปมาอีกค่ะ ปามาเยอะๆเลย ฮื่อออ คนอะไรทำไมน่ารัก


KRISSADAo1 เพื่อนมึงมีแฟนยังวะปืน จีบได้ไหม คนอะไรน่ารักเหี้ยๆ


Fasai_eiei ค่ะ พี่ปืนช่วยเอาเพื่อนมาเล่นไอจีที เฟสบุคก็ได้ อะไรก็ได้ หนูไหว้ล่ะ // กราบ


POKPONG_PUNIG @KRISSADAo1 คนนี้เพื่อนพี่จองแล้วครับ @YUTTANA



มือที่กำลังเลื่อนอ่านคอมเม้นชะงักกึก เมื่อเห็นชื่อคุ้นตาปรากฏอยู่ในนั้น เดือนสิบหันมามองไอ้ปืน สะกิดมันเบาๆให้ละจากหน้าจอคอมหันมาสนใจ


“ว่า?”


“ดูยังไง” เขายื่นโทรศัพท์ไปตรงหน้ามัน


“ดูอะไร” มันทำหน้างง


“ดูคนที่มาเม้นไง”


“อ่ออ จะดูใครล่ะ”


“นี่” เขาชี้ไปที่ชื่อของใครคนนั้น คนที่ไม่คิดว่าจะมีไอจีกับคนอื่นเขาด้วย


“จะส่องผัวว่างั้น” เดือนสิบย่นจมูกใส่ เลยโดนมันบีบจมูกกลับมา ไอ้ปืนหัวเราะชอบใจที่ทำให้เพื่อนสนิทตีหน้ายุ่งได้ ก่อนจะจิ้มลงไปที่แอคเคาท์นั้น จริงๆแล้วเจ้าของแอคตั้งเป็นไพรเวท มีคนติดตามแค่ไม่กี่สิบคนซึ่งไอ้ปืนเป็นหนึ่งในนั้นที่โชคดีมีโอกาสได้ติดตามพี่มัน


“ไม่เห็นมีอะไรเลย” ร่างเล็กบ่น พลางขมวดคิ้วมองหน้าจอว่างเปล่า



มีต่อค่ะ
.
.
.
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 21-02-2017 14:05:00
ต่อตรงนี้
.
.


“ทีเด็ดมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น” ไอ้ปืนว่าก่อนจะกดลงตรงช่องที่มีคนแท็กรูปมา มันยิ้มกริ่มเมื่อเห็นตากลมๆนั่นเบิกขึ้นนิดๆ เมื่อได้เห็นแกลลอรี่ภาพขนาดย่อมที่มีตัวเองเป็นนายแบบแทบทุกรูป


POKPONG_PUING คนอะไรน่ารักได้ทั้งวี่ทั้งวัน @YUTTANA
เป็นรูปของเดือนสิบที่กำลังยืนกอดอกตีหน้ายุ่ง



ถ้าจำไม่ผิดเหตุการณ์นั้นน่าจะเป็นตอนที่ยืนรอไอ้ปืนซื้อน้ำอยู่ใต้ตึกคณะ เพิ่งเรียนแคลเสร็จทั้งเหนื่อยทั้งหิวหน้าถึงได้หงิกงอขนาดนั้น


TON_tossapol ใจละลายยยยยย @YUTTANA
เป็นรูปเดือนสิบที่กำลังตั้งอกตั้งใจจดแลคเชอร์อยู่ในห้องเรียน ในรูปติดเสี้ยวหน้าที่กำลังนอนหลับพริ้มของไอ้ปืนมาด้วย


POKPONG_PUING ระวังหมาจะคาบไปแดก @YUTTANA
เป็นรูปที่เดือนสิบกำลังถูกไอ้ปืนล็อกคอไว้อย่างแน่นหนา มือข้างหนึ่งของมันวางอยู่บนหัวเขา


YOSITA025 ดูซิวันนี้กูเจอใคร @YUTTANA
เป็นรูปเดือนสิบในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นกำลังยืนดูดน้ำเต้าหู้ทำหน้าง่วงๆ ข้างกันมีไอ้ปืนที่กำลังยืนจ่ายตังแปะคนขาย



ถ้าจำไม่ผิดรูปนี้น่าจะตั้งแต่เทอมที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงสอบที่ไอ้ปืนลากเขาไปนอนด้วยที่คอนโดมันเพื่อให้ช่วยติวหนังสือ


YOSITA025 น่ารักจนมือสั่นค่ะบอกเลย @YUTTANA
เป็นรูปที่อยู่ในช่วงเวลาเดียวกันกับรูปก่อนหน้า ต่างแต่รูปนี้เดือนสิบกำลังยิ้มกว้างมือข้างหนึ่งยื่นไปรับถุงปาท่องโก๋ที่แปะคนขายแถมให้



และมีอีกหลายรูปในหลายๆช่วงเวลาที่ถูกแท็กมาเป็นร้อย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือคนในรูป เป็นรูปของเดือนสิบทั้งหมด เจ้าของไอจีไม่ได้คอมเม้นรูปไหนทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีรูปไหนเลยที่พลาดจากการกดถูกใจจากแอคเคาท์ของ @YUTTANA


“อึ้งไปเลยดิ” ไอ้ปืนว่ายิ้มๆ โยกหัวเพื่อนสนิทที่เอาแต่เลื่อนดูรูปอย่างใจจดจ่อ


“อื้อ” แต่ก็ไม่วายครางรับ


“กูก็เพิ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่าพี่มันเล่น ไม่คิดว่าหน้าโหดๆอย่างนั้นจะมีไอจีกับเขาด้วย ถึงจะเป็นไอจีโล่งๆก็เถอะ” เดือนสิบหัวเราะเบาๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเห็นตามที่เพื่อนพูดทุกประการ


“เพิ่งรู้ว่าพี่มันตามไอจีกูก็ตอนเห็นพี่ป้องแท็กนั่นแหละ แต่จะพูดให้ถูกต้องเรียกว่าตามกูเพื่อดูมึงมากกว่า”


“อื้อ” ได้แต่ครางรับ เพราะตอนนี้เดือนสิบกำลังกลั้นยิ้มจนปวดแก้มไปหมด


ไม่ใช่เรื่องโกหกที่พี่บอกว่าชอบเขามานานแล้ว รูปที่หลายๆคนแท็กมาส่วนมากจะเป็นรูปตั้งแต่ช่วงที่เขาอยู่เทอมแรก ส่วนเทอมที่ผ่านมาก็มีบ้างประปราย ถึงจะไม่เยอะมาก แต่ก็มีมาเกือบทุกวัน มีหลายรูปจากหลายแอคเคาท์ อย่างนี้ก็แสดงว่าคนที่รู้ว่าพี่ยุทธชอบเขาก็ไม่ได้มีแค่พี่ป้องกับพี่หินน่ะสิ


“อยากยิ้มก็ยิ้มไอ้สัด ทำหน้าเหมือนคนอมขี้” ถึงจะโดดไอ้ปืนด่า และผลักหัวจนแทบหงาย แต่เดือนสิบก็ยังยิ้มกว้างและไม่คิดโกรธเคืองมันซักนิดเดียว เขากำลังมีความสุข มีความสุขมากจริงๆ


.

.


ไอ้ปืนกลับไปแล้ว กลับไปแทบจะทันทีที่ได้รับโทรศัพท์จากใครคนนั้นของมัน ท่าทางรีบร้อนไม่เอาแม้แต่แมคบุคเครื่องหรูที่เปิดค้างไว้ ป้อมที่กำลังจะยึดได้มันก็ไม่สนใจ คว้ากุญแจรถได้มันก็รีบวิ่งออกไปเลย เดือนสิบได้แต่ส่ายหัวระอา ปิดเครื่องแมคของมันแล้วเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะพาตัวเองมายืนอยู่หน้าคอนโดหรูที่เริ่มคุ้นหน้าคุ้นตากับพี่ๆประชาสัมพันธ์เป็นอย่างดี


คีย์การ์ดที่เจ้าของห้องให้ไว้แต่ไม่เคยได้ใช้งานถูกนำมาใช้ เขาเปิดประตูแล้วค่อยๆแทรกตัวเข้าไปอย่างเงียบเชียบ ทั้งห้องเงียบฉี่ มีเพียงเสียงแว่วจากทีวีจอใหญ่กลางห้องนั่งเล่น เดือนสิบถอดรองเท้า ก่อนจะย่างฝีเท้าแผ่วเบาเข้าไปใกล้ๆโซฟาที่มีร่างของคุ้นตานอนอยู่ตรงนั้น เขาทรุดตัวนั่งลงกับพื้น รอยยิ้มเล็กๆจุดอยู่ที่มุมปากเมื่อเห็นว่าพี่กำลังหลับสบาย


นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่เอาแต่นั่งจ้องหน้าอีกคนแล้วยิ้มเหมือนคนบ้าอยู่แบบนั้น กระทั่งเปลือกตาที่ปิดสนิทเริ่มขยับก่อจะเปิดปรือขึ้นช้าๆ ตาคมหรี่มอง ก่อนพี่จะคลี่ยิ้มจางส่งมาให้เขา


“มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงทุ้มเอ่ยถาม


“ซักพักแล้วครับ”


“ทำไมไม่ปลุก”


“ก็เห็นกำลังหลับสบาย”


“กอดหน่อย” คนที่ตอนนี้กลายร่างเป็นหมียักษ์ลุกขึ้นนั่งพลางอ้าแขนกว้าง เดือนสิบหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นยืน กำลังจะนั่งลงข้างๆทว่าแข่นแกร่งกลับคว้าไว้ทั้งตัวแล้วรั้งให้นั่งลงบนตัก


“หนักแย่เลย” ถึงจะว่าอย่างนั้นแต่ก็ยอมนั่งนิ่งๆให้อีกคนกอดได้ตามใจ


“หนักกว่านี้ก็ยอม” เสียงหัวเราะหึๆดังอยู่ใกล้หู ก่อนที่อีกฝ่ายจะฉวยโอกาสหอมแก้มเขาฟอดใหญ่


“ทำไมพี่ยุทธถึงชอบผมล่ะครับ” คนถูกถามชะงัก มองน้องที่กำลังเขี่ยฝ่ามือเขาเล่นไปมา เมื่อเห็นเขาเงียบไปไม่บอกซักทีม่านกลมใสถึงได้เหลือบขึ้นมอง ยุทธนาอาศัยจังหวะนั้นล็อกปลายคางเรียวไว้ ก่อนจะก้มลงจูบเบาๆบนกลีบปากอิ่ม ขบเม้มเรียกเสียงอื้ออึงในลำคอขาว แล้วแทรกลิ้นเข้าดูดกลืนความหวานภายใน รสจูบนุ่มละมุนค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งมือเล็กเลื่อนมาผลักที่อกกว้างเมื่อเริ่มทนไม่ไหว


เขาถึงได้จูบแรงๆลงบนกลีบปากนิ่มเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะผละออกมาเพื่อจ้องมองใบหน้าเนียนชัดเจน เดือนสิบหอบจนตัวโยน ดวงตากลมโตค่อยๆเปิดปรือขึ้นช้าๆ เป็นช่วงเวลาที่ยุทธนาแทบหยุดหายใจ เมื่อม่านกลมใสค่อยๆช้อนขึ้นมองกัน ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจงใจหรือเผลอตัวกันแน่ ยามปลายลิ้นเล็กค่อยๆแลบเลียกลีบปากอิ่ม ก้อนเนื้อในอกเขาสั่นไหว ความต้องการมากมายตีรวนเป็นละรอกก่อนจะรวมตัวเป็นกระจุกที่จุดกึ่งกลางลำตัว เหมือนอีกคนจะรับรู้ถึงความต้องการนั้น เดือนสิบหน้าตื่น ตากลมล่อกแล่กดูน่าขัน


“ยังอยากรู้อยู่ไหมว่าทำไมพี่ถึงชอบสิบ” เขาแกล้งกดตัวน้องลงให้สัมผัสถึงความต้องการมากขึ้น คนถูกถามส่ายหน้ารัว แก้มใสแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู ยุทธนาหลุดยิ้มจางกับท่าทางนั้น ก่อนจะอาศัยความได้เปรียบทางสรีระร่างกายพลิกอีกฝ่ายให้นอนหงายไปบนโซฟาแล้วตามลงไปทาบทับในทันที อารามตกใจทำให้เดือนสิบเผลอเกี่ยวคอคนพี่ไว้แน่น


“พี่ยุทธ.. อื้มม!”


กลีบปากนิ่มถูกดูดกลืนอีกครั้ง ยุทธนาเลื่อนมือเข้าประคองข้างแก้มใส จับให้แหงนเงยเพื่อรับจูบได้ถนัดถนี่ ดูดดึง กวาดต้อนเอาความหอมหวานตรงหน้าอย่างตะกระตะกราม ในขณะที่ฝ่ามือหนาไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ผิวเนื้อนิ่มช่วงเอวบาง ไปจนถึงบั้นท้ายกลมกลึงจนคนเป็นน้องครางฮือ


“พะ พี่ยุทธ.. เดี๋ยวครับ” เดือนสิบหอบแฮก ดันไหล่คนพี่ที่กำลังซุกไซร้ซอกคอขาวให้ออกห่าง แต่แทนที่จะฟังกัน อีกฝ่ายกลับเม้มริมฝีปากลงมาจนต้องเบ้หน้าเพราะความเจ็บจี๊ด


“ลงโทษที่กล้าปล่อยให้พี่หงุดหงิดอยู่คนเดียวตั้งนานสองนาน” เอ่ยชิดลำคอขาว


“อ๊ะ! พี่ยุทธ อื้อ! เดี๋ยว” มือปลาหมึกสอดผ่านเนื้อผ้าบาง ฟอนเฟ้นหนักหน่วงไปตามส่วนโค้งบนกายเล็กก่อนจะหยุดลงตรงติ่งไตสีหวาน ป้านนิ้วบดขยี้อย่างเอาแต่ใจพากายเล็กไหวสะท้าน เดือนสิบหอบถี่ กายเล็กหยัดแอ่นไม่รู้ตัวยามริมฝีปากร้อนครอบลงบดเคล้าอย่างไม่ปราณี ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่อาภรณ์หล่นจากกายจนทั้งร่างเย็นวาบ เรียวขาถูกแยกกว้างก่อนจะถูกเติมเต็มเมื่ออีกฝ่ายแทรกกายเข้ามา


“อึก.. เดี๋ยว พี่ยุทธ.. จะทำจริงๆหรอ” เอ่ยถามเสียงสั่น


“ครับ.. ได้ไหม?” ตากลมหลุบต่ำ แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไรคนด้านบนก็เริ่มเข้าคลุกวงในอีกครั้ง “นะครับ” เอ่ยอ้อนชิดแก้มใส จูบซ้ำๆอย่างออดอ้อนเอาใจ มือไม้เองก็ไม่อยู่นิ่ง แตะโน่นจับนี่จนเดือนสิบร้อนไปหมด เพิ่งรู้ตัวว่ายอมพยักหน้ารับคำก็ตอนที่เห็นอีกฝ่ายยิ้มกว้างนั่นแหละ


“พี่ขอนะ ขอนะครับคนดี” ขยับเลื่อนมือไปจับยึดปลายคางเรียวสวยของน้องไว้มั่น ก่อนจะบดริมฝีปากอุ่นลงเคล้าคลึงอย่างใจเย็น พร้อมกันนั้นมือหนาก็ไล่ไปตามแนวกระดูกสันหลังช้าๆ สลับบีบคลึงอย่างเอาใจราวกับจะทำให้อีกฝ่ายขาดไจซะเดี๋ยวนั้น


“อื้อออ..อ!” เดือนสิบหอบถี่ สองแขนเรียวโอบกอดคนรักแน่น ยามสัมผัสอ่อนโยนเริ่มทวีความเร่าร้อนขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เขาทำได้เพียงแค่กลั้นเสียงครางประหลาด ยามที่อีกฝ่ายแตะต้องตามจุดอ่อนไหวของร่างกายจนเสียวสะท้าน ขาขาวถูกแยกกว้าง หลับตาแน่นยามรู้สึกถึงการรุกรานที่ค่อยๆแทรกเข้ามาอย่างช้าๆ


“อะ…อ๊ะ!” กระทั่งหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว


“รัก” จุมพิตบางเบาลงบนกลีบปากที่เริ่มบวมช้ำ นัยน์ตาคมทอดมองดวงหน้าชื้นเหงื่อที่กำลังขึ้นสีระเรื่อชวนให้หลงใหลของคนรักอย่างอธิบายไม่ถูก นานเท่าไหร่แล้ว ที่เขาไม่ได้รู้สึกคล้ายกำลังหลงใหลในบางสิ่งบางอย่างมากขนาดนี้ คล้ายน้องเป็นสิ่งเสพ
ติด ที่ยิ่งได้ลิ้มรสก็ยิ่งรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ เขาอยากได้อีก อยากได้มากกว่านี้ และกำลังติดใจจนอยากได้ไปเรื่อยๆ

.
.

“พี่ยุทธ ฮึก.. ไม่ไหว” เสียงแหบพร่าปนสะอื้นพร่ำบอกพลางส่ายหน้าไปมาชิดอกกว้าง ยามอีกฝ่ายขยับกายเข้าหาไม่หยุดทั้งๆที่ตนปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สาม อยากประท้วงให้อีกคนพอได้แล้ว แต่กลับทำได้แค่นอนนิ่งให้อีกฝ่ายกระทำตามใจเพราะหมดแล้วซึ่งเรี่ยวแรงจะต่อต้าน


“เด็กดี.. อีกนิด อืมมม”  กายแกร่งกอดรัดร่างเล็กแน่น ขณะที่สะโพกยังคงดันเข้าออกไม่หยุด ข้างในของน้องร้อนมาก ร้อนไปหมดจนแทบจะหลอมละลายเขาให้สลายกลายเป็นจุล มันโอบรัดเขาแน่นยามจงใจแทรกลึกเข้าหาจุดนั้นซ้ำๆ …กระทั่งความเชี่ยวกราดของอารมณ์ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย เขาผละกายห่าง คว้ามือเล็กที่ผวาไขว่คว้าหาที่พึ่งไว้ แล้วกดแนบลงกับที่นอนนุ่ม


“ซี้ดดดด สิบ!” เสือกไสความรุ่มร้อนจวนเจียนระเบิดเข้าหาความอ่อนนุ่มที่กำลังโอบรัดรุนแรง ไม่นานเมื่ออารมณ์ดำเนินมาถึงจุดสูงสุดร่างสูงก็กระแทกตัวลึกเป็นครั้งสุดท้าย กายแกร่งบิดเกร็งก่อนจะปลดปล่อยเข้าไปในช่องทางอุ่นนุ่มทุกหยาดหยด…


เสียงหอบแฮกจนแยกไม่ออกว่าของใครเป็นของใครก้องสะท้อนในหู ยุทธนาพลิกตัวลงด้านข้าง ไม่วายรั้งร่างชื้นเหงื่อของคนเป็นน้องมากอดก่ายไว้ในอ้อมแขน จูบซับทั่วใบหน้าเนียน วนเวียนซ้ำอยู่กับกลีบปากนุ่มนิ่มราวกับหลงใหลนักหนา กระทั่งน้องเป็นฝ่ายดันเขาออกเบาๆ ม่านกลมใสปรือมองคล้ายจะหลับมิหลับแหล่


“พอแล้วครับ” เสียงแหบพร่าเอ่ยห้าม วางมือลงบนอกเขาแล้วเริ่มหลับตาลงอีกครั้ง


“พี่รักสิบนะ” เขาเอ่ยชิดขมับเนียนจูบลงไปซ้ำๆอย่างอดใจไม่ไหว ได้ยินเสียงครางแผ่วตอบกลับมา ก่อนจะเห็นว่าคนในอ้อมแขนเข้าสู่ห้วงนิทราไปซะแล้ว ยุทธนาอมยิ้มกับตัวเอง ก้มลงจูบปากนิ่มเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหักใจผละห่างร่างขาวแล้วเข้าห้องน้ำไปชำระกาย เสร็จแล้วก็กลับมาทำความสะอาดให้น้อง คนถูกรบกวนครางฮือ ตากลมเปิดมองยามเขาแนบผ้าชื้นน้ำลงบนร่างกาย แต่สุดท้ายเพราะต้านความอ่อนเพลียไม่ไหวน้องถึงได้ปิดเปลือกตาลงไปอีกครั้ง


เขากลับมานอนลงข้างกายน้องอีกครั้งหลังจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น รั้งร่างเล็กกว่าเข้ามาในอ้อมกอด ก่อนจะจับเรียวขาขาวมาเกี่ยวพาดเอวตัวเองไว้ จับให้แขนเล็กโอบกอดเขาไว้ทั้งตัว ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาแผ่นอกบาง กดจูบเบาๆผ่านเนื้อผ้า รู้สึกดีจนอดจะอมยิ้มเล็กกับตัวเองไม่ได้ ยามที่ถูกเดือนสิบโอบกอดเอาไว้แบบนี้มันทำให้เขารู้สึกดีมากจริงๆ เหมือนว่าทุกอย่างของเขาเป็นของน้อง อย่างที่ทุกอย่างของน้องเป็นของเขา เหมือนเราเป็นของกันและกัน…


.

.


“จะไปทำไมล่ะครับ บ้านผมมีแต่ทุ่งนาป่าเขาไม่มีที่ให้พี่ยุทธเที่ยวเล่นหรอก”


“ก็ไม่ได้บอกว่าจะไปเที่ยว แต่บอกว่าจะไปด้วย” ยุทธนาประสานมือลงบ่นเข่าจ้องมองคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นพรม แล้วไอ้ที่บอกว่าไม่มีที่ให้เที่ยวเล่นนี่คืออะไร น้องเห็นเขาเป็นเด็กหรือไงกัน


“ทำไมพี่ยุทธดื้อจัง”


“เรานั่นแหละทำไมดื้อ”


สุดท้ายก็กลายเป็นคนอายุน้อยกว่าที่ถอนหายใจพรืด ตากลมกลอกกลิ้งไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อคนเป็นพี่เข้ามาสวมกอดจากทางด้านหลังอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว พอเป็นแบบนี้ทีไรเดือนสิบก็ชักจะเริ่มเห็นอนาคตเรือนราง ว่าคงไม่พ้นต้องหอบหิ้วไซบีเรียนยักษ์ตัวนี้ไปด้วยแน่ๆ เดี๋ยวนี้ชักจะทำตัวร้ายกาจเข้าไปทุกวัน อะไรไม่ได้อย่างใจก็ชอบเข้ามาคลอเคลียเข้ามาออดอ้อนถึงเนื้อถึงตัวตลอด จนสุดท้ายคนที่ต้องเป็นฝ่ายใจอ่อนมันแทบทุกครั้งก็กลายเป็นเขาซะงั้น ร้ายกาจจริงๆ


“ผมไปอยู่เป็นอาทิตย์เลยนะ”


อย่างที่บอกว่าเขาจะกลับไปอยู่บ้านซักอาทิตย์ก่อนเปิดเทอม แล้วนี่ก็เหลืออีกตั้งสองอาทิตย์เผลอๆอาจจะอยู่ยาวไปจนปิดเทอมวันสุดท้ายเลยก็ได้ แต่ดูเหมือนระยะเวลาจะไม่เป็นอุปสรรค์ต่อคนอยากไปเที่ยวบ้านแฟนเท่าไหร่


“งั้นก็ต้องเอาเสื้อผ้าไปเยอะหน่อย จะไปมะรืนนี้ใช่ไหม งั้นไปซื้อของฝากให้พ่อตาแม่ยายพี่กัน”


“เดี๋ยวๆ เวอร์แล้วพี่ยุทธ นั่งลงก่อน” เดือนสิบหัวเราะเบาๆ รั้งแขนอีกฝ่ายที่ปุบปับลุกขึ้นยืนให้นั่งลงอีกครั้ง แล้วพ่อตาแม่ยายอะไรกัน พ่อจะรับได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย


“ไม่ต้องหรอกครับ ของฝากผมซื้อไว้แล้ว”


“ได้ไง ของเราก็ส่วนของเราของพี่ก็ส่วนของพี่สิ จะไปเจอพ่อแม่เมียทั้งทีพี่ไม่ยอมเสียคะแนนหรอก” คนฟังถึงกับย่นจมูก แอบเขินนิดหน่อยกับสรรพนามที่เดี๋ยวนี้อีกฝ่ายชักจะหลุดมาใช้อยู่บ่อยครั้ง


“พ่อผมดุมากนะ”


“นี่ขู่?” คิ้วเข้มเลิกสูง


“พูดจริงๆครับ ดุมากกก” ไม่วายทำหน้าจริงจังให้อีกฝ่ายได้ขมวดคิ้วหนักกว่าเก่า แต่ก็แค่ชั่วขณะเดียว


“คิดว่าพูดแบบนี้แล้วพี่จะยอมเปลี่ยนใจไม่ไปหรือไง คิดผิดแล้วเด็กน้อย” มือหนาโยกหัวเขาไปมา ตาคมพราวระยับราวกับกำลังนึกสนุก


สุดท้ายเดือนสิบก็ถูกลากออกมาซื้อของฝากเป็นเพื่อนอีกฝ่ายจนได้   แต่นี่เดินจนขาลากแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนพี่จะได้อะไรติดไม้ติดมือซักอย่าง จริงๆก็จะได้หลายอย่างแล้วนั่นแหละแต่พอดีโดนเขาเบรกไว้ซะหมดเลยต้องมาเดินต๊อกๆกันอยู่แบบนี้ แต่มันก็สมควรห้ามไหมล่ะ น้ำหอมขวดละตั้งหลายพันงี้ นาฬิกาเรือนเกือบหมื่นงี้ นี่ยังไม่นักรวมแอคเซสเซอร์รี่อีกหลายๆอย่างที่ราคาเหยียบหลายพันอีกนะ เดือนสิบอยากจะบ้า ต้องมาเถียงกับพี่ตั้งนานกว่าอีกคนจะเข้าใจว่าบ้านเขามันอยู่ในป่าในเขา ถึงจะซื้อไปพ่อกับแม่ก็ไม่ได้ใส่หรอก ขนาดนาฬิกาเรือนละพันกว่าบาทที่เขาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองปีก่อนพ่อยังไม่เคยหยิบมาใส่เลย เก็บไว้ในตู้อย่างดีจนป่านนี้ไม่รู้ถ่านหมดไปหรือยัง


“ผมว่าถ้าพี่ยุทธอยากเอาใจพ่อจริงๆแค่ซื้อผลไม้หรือไม่ก็ของเล็กๆน้อยๆติดไม้ติดมือไปก็พอครับ” เดือนสิบพูดให้กำลังใจเมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่เริ่มตีหน้าเคร่ง


“แล้วไม่มีอะไรที่พ่อกับแม่เราชอบเป็นพิเศษหรอ อย่างเสื้อผ้า รองเท้า”


“ไม่มีหรอกครับ วันๆก็เข้าแต่ไร่จะเอาเวลาที่ไหนไปแต่งตัว” เสื้อผ้าใหม่ๆที่เขาซื้อให้ส่วนมากพ่อจะหยิบมาใส่ก็แค่ตอนมีงานเท่านั้น ซึ่งมันก็นานๆครั้งไง


“งั้นไปซื้ออุปกรณ์ทำไร่กัน” ว่าแล้วก็คว้าแขนน้องเดินจ้ำออกจากห้างทันที


“เดี๋ยวๆพี่ยุทธ เอาจริงดิ” เดือนสิบระร่ำถาม เห็นท่าทางกระตือรือร้นของคนเป็นพี่แล้วอยากจะขำก็ขำไม่ออก


“จริง”





************




พี่ยุทธนี่มัน..  :laugh:

หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Mura_saki ที่ 21-02-2017 14:41:29
พี่ยุทธมันร้ายยยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: โอ ที่ 21-02-2017 14:45:25
พี่ยุทธน่ารักน้องสิบก็น่ารัก :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-02-2017 14:51:52
หาทางทำคะแนนใหญ่เลยนะ เบิกทางไว้ตอนไปขอลูกเขาล่ะสิ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-02-2017 15:23:30
พี่แม่งร้ายยยยยยยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 21-02-2017 16:44:18
 :-[
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 21-02-2017 16:51:16
ขี้เต๊าะ ตลอดเลยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 21-02-2017 17:16:43
ต้องทำให้พ่อตาแม่ยายประทับใจ :laugh:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 21-02-2017 17:30:49
พี่ยุทธตลกไปไหมเนี่ยยยย
น้องน่ารัก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-02-2017 17:45:20
จะเอาแบบนี้หาได้ที่ไหนคะ
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 21-02-2017 18:00:40
พี่ยุทธน่าเอ็นดูมากๆเลยอ่ะ 5555555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 21-02-2017 18:52:34
พี่ยุทธมันร้าย
ขอให้ผ่านด่านพ่อตาแม่ยายนะ 5555
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 21-02-2017 18:56:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 21-02-2017 19:51:51
ซื้ออุปกรณ์ทำไร เอาจริงเร๊อะพี่ยุทธ  :m20:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 21-02-2017 20:24:42
ซื้อน้ำหอม นาฬิกา ให้คนเข้าไร่เข้านาทุกวัน
พี่ยุทธ คิดเป็นปะเนี่ย
ซื้ออุปกรณ์ ทำไร่ ก็เข้าท่าดี
อาจทำให้พ่อเดือนสิบถูกใจก็ได้
เดือนสิบ ฮอตเหมือนกันนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ShadeoftheMoon ที่ 21-02-2017 21:06:52
แบกความจริงใจไปฝากสิพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2017 21:35:01
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 21-02-2017 23:09:11
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ซื้ออุปกรณ์ทำไร่ไปฝากพ่อตาแม่ยายเนี่ยนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 21-02-2017 23:33:21
โอ้ยยยยยยยยยยยยยน่ารักมากเลย คนพี่นี่พอได้กินน้องนี่ก็กินบ่อยเลยนะ ถนอมน้องบ้าง :-[
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 21-02-2017 23:49:19
พี่ยุทธ รักจริงหวังแต่งเลยกะเอาใจพ่อตาแม่ยายเต็มที่เลยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-02-2017 00:03:24
เอาพ่อตาแม่ยายนะคะ  ไปหาก่อนค่ะ เอาของเล้กๆน้อยๆไปแล้วก้พาท่านไปช็อปค่ะ  ใส่ใจกับงานที่ท่านทำ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 22-02-2017 13:20:09
อ้อน เบอร์แรงมากค่ะพี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 22-02-2017 20:03:25
พี่ยุทธนี่พอได้กินน้องแล้วเอาหญ่เลยนะ ถนอมหน่อยเซ่เดี๋ยวน้องก็ช้ำหมด
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 23-02-2017 08:22:55
ตลกพี่ยุทธ5555555
สายเปย์ที่แท้จริง
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 23-02-2017 10:43:02
คิดถึงละอ่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 23-02-2017 21:49:38
พี่ยุทธสายเปย์หรอ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 23-02-2017 23:04:01
ร้ายกาจ ซื้ออุปกรณ์ทำไร่ไปฝาก พ่อตา แม่ยาย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-02-2017 23:24:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 28-02-2017 17:37:33
เข้ามารอ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Bk borz. ที่ 28-02-2017 21:19:27
หายง่ะคิดถึงแล้วนะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 28-02-2017 22:48:48
รอค่าาา :katai5:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 01-03-2017 21:02:00


รอด้วยคนค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ปิกาจู1234 ที่ 04-03-2017 10:08:38
 :katai1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Bk borz. ที่ 05-03-2017 19:09:37
เมื่อไหร่จะมาต่ออ่าาาารอนานละน๊าาาา
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 16 Up. [21/02/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Bk borz. ที่ 08-03-2017 19:05:42
มาต่อด้วยนะครับพอดีผมรออยู่
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 19-03-2017 23:33:31
17


“เอาไรเพิ่มอีกป่าว?” ปืนเอ่ยถามคนที่ตักไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปาก ท่าทางมีความสุขของคนตรงหน้าทำให้เผลอยิ้มตาม


“ฮึ.. แต่อยากไปเดินดูของ น้ำหอมกูใกล้หมดแล้วอ่ะ” ร่างเล็กกว่าส่ายหน้าตอบพลางยกน้ำขึ้นจิบ


หลังจ่ายเงินเสร็จไอ้ปืนก็เดินตามตูดคนอายุมากกว่าต้อยๆเข้ามาในร้านน้ำหอมแบรนด์ดัง มองอีกฝ่ายคุยกับพนักงานหนุ่มที่ออกมาแนะนำสินค้าและลองน้ำหอมกลิ่นนั้นกลิ่นนี้อยู่หลายนาทีก็ไม่มีทีท่าว่าจะเลือกได้ แล้วไอ้ท่าทางกะลิ้มเกลี่ยของพนักงานนั่นมันอะไรกัน มองเมียกูจนตาจะหลุดอยู่แล้วชิบหาย! ไอ้ปืนตีหน้ายุ่ง เดินดุ่มๆเข้าไปยืนซ้อนหลังคนที่กำลังฟังพนักงานคุยจ้อแล้วยกข้อมือขาวข้างที่อีกฝ่ายเพิ่งจะพรมน้ำหอมลงไปขึ้นมาจรดกับปลายจมูก สูดหายใจดังฟอดไม่สนสายตาหลายคู่ของลูกค้าในร้านและพนักงานอีกสองชีวิตที่มองมาแม้แต่น้อย


“ทะ ทำอะไรของมึงเนี่ย” ดวงตาเรียวสวยเบิกขึ้นอย่างตกใจ ที่อยู่ดีๆก็ถูกคนที่มาด้วยกันเข้าประชิดอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว พีทดึงมือออกจากการเกาะกุมของร่างสูงกว่าซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมปล่อยโดยดี ไม่ชินเท่าไหร่กับการทำอะไรเปิดเผยในที่สาธารณะแบบนี้ ถึงจะไม่แคร์แต่มันก็อดรู้สึกแปลกๆไม่ได้ ไหนจะสายตาหลายคู่ที่กำลังมองมานั่นอีก ผิดกับอีกคนที่ดูจะไม่สนใจอะไรเท่าไหร่


“กลิ่นนี้แรงไป” ไอ้ปืนไม่ได้ตอบคำถาม มันว่าก่อนจะฉวยเอาน้ำหอมขวดที่อยู่ในมือขาวมาเก็บ แล้วหยิบเอาอีกขวดที่พนักงานคนเดิมแนะนำตะกุกตะกักว่ากลิ่นอ่อนกว่ามาฉีดเข้าที่ข้อมือขาวอีกข้าง จากนั้นก็ทำเหมือนเดิมโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสปฏิเสธ เล่นเอาคนเป็นพี่ถึงกับเบิกตากว้างปั้นหน้าไม่ถูกอีกรอบ “อืม.. กลิ่นนี้กำลังดีเลย หอมเย็นๆได้กลิ่นแล้วผ่อนคลายดี ปืนชอบ …พีทชอบรึเปล่า” ประโยคสุดท้ายไม่ว่าเปล่ามันยังก้มลงมาถามซะชิดอีกต่างหาก


“อืม ชอบ” ได้แต่ครางรับในลำคออย่างว่าง่าย ผิดกับไอ้ปืนที่ยิ้มหน้าระรื่น มันยอมผละห่างในที่สุดแล้วยื่นขวดน้ำหอมไปให้พนักงานคิดเงินอย่างสบายใจเฉิบ


“พีทแม่งขี้อ่อย” เดินออกจากร้านมาได้ไอ้คนตัวสูงก็เริ่มเปิดปากหาเรื่อง เล่นเอาอีกคนหันขวับมามองตาขวาง เรื่องอะไรมาว่าเขา!


“อ่อยห่าไร! มึงนั่นแหละทำไรประเจิดประเจ้อ”


“อ่อยไอ้พนักงานนั่นไง ยืนคุยกับมันอยู่ตั้งนานสองนานดูไม่ออกหรอว่ามันแม่งกำลังม่อพีทชัดๆอ่ะ” ไอ้ปืนเถียงกลับเสียงขุ่น พอ
จะรู้แล้วว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไงเวลาเห็นเขาแกล้งทำเป็นเจ๊าะแจ๊ะกับคนอื่น นี่ถ้าพีททำบ้างเขาคงได้อกแตกตายไปจริงๆแน่ แค่นี้ก็หัวร้อนจะบ้า


แต่ดูเหมือนท่าทางหงุดหงิดของไอ้ปืนจะทำให้อีกคนอารมณ์ดีขึ้นมาซะอย่างนั้น คนอายุมากว่ากอดอกฉับหรี่ตามองคนหงุดหงิดไม่หายตรงหน้ายิ้มๆ


“เขาก็แค่แนะนำไปตามหน้าทีไหมล่ะ อย่าคิดมากดิวะ อีกอย่างกูจะไปอ่อยคนอื่นทำไม มีอยู่แค่ตัวเดียวนี่ก็เหนือยเหลือจะรับแล้ว!” ว่าแล้วก็ขยี้หัวมันไปที มองหน้าเอ๋อๆของไอ้ปืนอย่างขำๆ ก่อนจะเดินลิ่วนำมันไปที่ลานจอดรถ


“พีทแม่ง..” ไอ้คนถูกทำตัวน่ารักใส่ถึงกับไปไม่เป็น ได้แต่โคลงหัวไปมายิ้มๆแล้วเดินตามแผ่นหลังเล็กไป พอเข้าถึงตัวก็ยกแขนพาดบ่าอย่างถือวิสาสะ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่ว่าอะไรไอ้ปืนก็ยิ้มร่ากระซับแขนแน่นเข้าจนสุดท้ายก็ถูกเจ้าของร่างเล็กหันมาถลึงตาใส่ แต่มีหรือที่คนอย่างเขาจะสะทกสะท้าน …แอบเห็นหรอกนะว่าเมื่อกี้มีหลุดยิ้มอ่ะ หึๆ


“พีท!!”


เสียงเรียกจากบุคคลที่สามดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้พวกเขาทั้งสองคนหันไปมองพร้อมกัน ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะเป็นฝ่ายชะงัก เมื่อเห็นว่าใครเป็นเจ้าของเสียงนั้น …คนที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนจนเขาแทบจะลืมเลือนไปแล้วว่าเคยมีคนๆนี้เป็นคนสำคัญในชีวิต


“พี่พงษ์..” เสียงพึมพำจากคนข้างตัวเรียกให้ปืนหันกลับมามองซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ใครคนนั้นเดินแกมวิ่งเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาทั้งสองคน ใบหน้าหล่อเหลาฉีกยิ้มกว้าง


“ดีใจจังที่เจอพีทที่นี่ พี่โทรหาเราตั้งหลายรอบทำไมไม่รับสายกันบ้างล่ะ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ พี่คิดถึงพีทมากเลยนะ เป็นห่วงเรามากด้วย” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดก่อนที่อีกฝ่ายจะยื่นมือเข้ามาหมายจะจับมือคนที่ยืนอยู่ข้างๆทำเอาไอ้ปืนถึงกับคิ้วกระตุก และก่อนที่ฝ่ายนั้นจะทันได้แตะต้องคนตัวเล็กฝ่ามือหนาก็ปัดเข้าที่มืออีกฝ่ายจนเกิดเสียงดัง เล่นเอาคนถูกขัดถึงกับตวัดมองตาขวาง พอๆกับไอ้ปืนที่จ้องหน้าอีกฝ่ายกลับด้วยสายตาขุ่นขวางไม่แพ้กัน


 “ผมไม่มีอะไรต้องคุยกับพี่อีก ไปเถอะ” พีทที่เห็นท่าไม่ดีพูดขัดขึ้น ก่อนที่ประโยคหลังจะหันมาพูดกับคนข้างตัวพลางดึงต้นแขนแกร่งให้ออกเดิน


“เดี๋ยวสิพีท!” แต่อีกคนก็ยังตามไม่เลิก ปืนมองคนที่เดินเข้ามาดักหน้าตาขวาง ถึงไม่มีใครบอกก็พอจะเดาได้ว่าคนทั้งคู่น่าจะเคยมีความหลังกันมาก่อนและบางทีอาจจะจบกันไม่ดีนัก


แต่แล้วยังไงในเมื่อตอนนี้พีทเป็นของเขา!


“หลบไป” พีทบอกเสียงแข็ง มือที่กำลังจับแขนคนข้างตัวกระชับแน่นขึ้น ทว่าไอ้ปืนกลับบิดแขนออก เรียกให้ร่างเล็กหันขวับมามองอย่างตกใจ กลีบปากบางเผยอขึ้นคล้ายจะพูดอะไร แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปากก็ต้องหุบฉับเมื่ออีกฝ่ายวาดแขนโอบรอบเอวแล้วดึงเข้าประชิดตัวอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ปืนยกยิ้มมุมปากให้คนข้างกาย ก่อนตาคมจะหันกลับไปจ้องสบกับบุคคลที่สามซึ่งกำลังมองมาที่พวกเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก


 “ที่หายหน้าหายตาไม่ยอมคุยกันนี่เพราะมีคนใหม่งั้นสิ ไม่ยักรู้ว่าพีทจะลืมพี่ได้เร็วขนาดนี้ ทั้งๆที่ตอนนั้นยังร้องไห้จะเป็นจะตายไม่ยอมให้พี่ไปอยู่แท้ๆ” อีกฝ่ายละสายตาจากไอ้ปืนไปมองร่างเล็กข้างกัน พีทเม้มปากแน่น เหลือบมองเสี้ยวหน้าของคนตัวสูงข้างกาย ดวงตาเรียวสวยสบเข้ากับหน่วยตาคมของไอ้ปืนที่มองมาอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก เขาสูดหายใจลึก จ้องสบตาคมแน่วแน่ ก่อนจะหันกลับไปจ้องหน้าร่างสูงของผู้ชายอีกคนด้วยแววตาแน่วแน่ไม่แพ้กัน


“ใช่ครับ…” พีทหยักยิ้ม “แต่อย่าลืมสิว่าพี่เป็นคนออกปากไล่ให้ผมออกมาเองนะ แล้วตอนนี้จะมาเรียกร้องเอาอะไร หวงก้าง? อยากให้ผมกลับไปหา? อยากให้ผมกลับไปสนใจ? หรือแค่เพราะใครคนนั้นของพี่ทิ้งไปอีกแล้วล่ะ?”


“พีทพี่..”


“พอเถอะครับ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เราสองคนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก ผมถอยออกมาแล้วตามที่พี่ต้องการ เพราะฉะนั้นตอนนี้พี่ก็ควรจะถอยบ้าง ตามที่ผมต้องการ”


 “โอเค.. พี่ขอโทษ พี่ยอมรับว่าพี่ผิด แต่พีทให้โอกาสพี่อีกครั้งไม่ได้หรอ ให้พี่ได้อธิบายความรู้สึกที่มีต่อเรา พี่รู้ตัวแล้วนะว่าพี่รักพีท พี่คิดถึงพีทจริงๆนะ” อีกฝ่ายมีสีหน้าสลดลง แววตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและขอความเห็นใจ …แต่เขาก็เลือกที่จะมองข้าม


แรงกระชับที่เอวเรียกให้ต้องหันกลับมามอง ไอ้ปืนคิ้วขมวดยุ่งเขาเลยยิ้มให้เพื่อให้มันคลายใจ บอกผ่านสายตาว่าไม่มีอะไรให้ต้องห่วง เพราะตราบใดที่มันยังอยู่ข้างเขา เขาก็จะยังอยู่ข้างมัน และตราบใดที่มันยังต้องการเขา เขาก็จะไม่หนีห่างไปไหน


“ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้นแหละครับ พี่ก็เห็นว่าผมมีคนใหม่แล้ว ผมรักเขามาก แล้วผมก็ไม่อยากทำให้เขาต้องผิดหวังเสียใจเหมือนที่พี่ทำกับผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง


“แต่พีทรักพี่!” น้ำเสียงและท่าทางมั่นอกมั่นใจของอีกคนเล่นเอาไอ้ปืนถึงกับคิ้วกระตุกขึ้นมาอีกรอบ แต่เพราะประโยคต่อมาของคนตัวเล็กข้างกันก็ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวเย็นลงได้อย่างชะงัด มุมปากได้รูปยกยิ้มเย้ย ตาคมมองหน้าเจื่อนๆของผู้ชายตรงหน้าอย่างผู้เหนือกว่า …งานนี้ข่มได้กูข่มอ่ะบอกเลย


“เคยครับ ผมแค่เคยรักพี่ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว”


“พีท..”


“กลับไปตามง้อคนของพี่เถอะครับอย่ามาเสียเวลากับผมเลย หมดเรื่องแล้วผมขอตัวนะครับ” และไม่ทันให้อีกคนได้พูดอะไร พีทก็ลากแขนคนตัวสูงข้างกายให้ก้าวฉับๆตามมาขึ้นรถโดยไม่หันกลับไปสนใจอีกคนที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น


“ไม่ถามหรอ” บรรยากาศเงียบเชียบในรถตั้งแต่ขับออกมาจากห้างสรรพสินค้าถูกทำลายลงด้วยคำถามของคนตัวเล็กกว่า


“ถามอะไร” พีทถอนหายใจเฮือกใหญ่ ละสายตาจากถนนเบื้องหน้าแล้วหันมาจ้องคนที่กำลังบังคับพวงมาลัยแทน ไอ้ปืนเลิกคิ้วพลางยิ้มนิดๆเมื่อเห็นว่าเขาขมวดคิ้วยุ่ง ...กวนตีน รู้ทั้งรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร


“ก็เรื่องเมื่อกี้ คนที่เข้ามาหาเรื่อง”


“อือฮึ” ไอ้ปืนพยักหน้า


“ไม่โกรธรึไง”


“ทำไมต้องโกรธ?” คนถูกย้อนถามคิ้วกระตุก พอเห็นว่าคนเป็นพี่เริ่มหน้าตึงไอ้ปืนก็หัวเราะออกมาเบาๆ พีทมองมันตาขุ่น ชกเข้าที่ไหล่กว้างไม่เบานัก ไอ้ปืนเลยแสร้งร้องโอดโอยทว่าใบหน้าหล่อเหลากลับระบายยิ้มกว้าง


“กวนตีน” ไอ้ปืนชอบเป็นอย่างนี้ตลอดเลย พอเขาจริงจังก็ชอบมาทำเป็นเล่น


“หรืออยากให้โกรธล่ะ” มันหัวเราะในลำคอ ตามองถนนตรงหน้าพลางเหลือบมองเขาเป็นระยะ


“….” พีทไม่ตอบ


“จริงๆก็ไม่พอใจแหละ” ปืนเกริ่นขึ้นเมื่อเห็นว่าคนข้างๆเงียบไป “แต่พอได้ยินว่าพีทรักปืนมากกกกก แถมยังสัญญาว่าจะไม่ทำให้ปืนเสียใจอีก มันก็เลยพอจะหยวนๆกันได้” ว่าพลางไหวไหล่ด้วยท่าทีสบายๆ จนคนที่มองอยู่ชักเริ่มหมั่นไส้มันขึ้นมาตงิดๆ


“เหอะ!”


“พีท”


“อะไร”


“รักเหมือนกันนะ”


“….”


“สัญญาว่าจะรักเดียวใจเดียว ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่เจ้าชู้”


“….”


“ยอมให้ซักที แล้วปืนสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีเลย”


“ไอ้สัด!”


พีทที่ก้มหน้าก้มตาซ่อนริ้วแดงบนผิวแก้มถึงกับหันขวับ ไม่วายปล่อยหมัดลงบนไหล่แกร่งของคนอายุน้อยกว่าไปทีด้วยความหมั่นไส้ในความกวนโอ้ยของมัน


“รุนแรงตลอดๆ”


“อีกซักทีดีไหมห๊ะ”


“พอแล้วจ้า พอแล้ว” ไอ้ปืนพูดกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ถึงตาจะต้องคอยมองถนนแต่ก็ไม่วายเหลือบมองคนชอบใช้ความรุนแรงข้างกายเป็นระยะ ซึ่งอีกฝ่ายพอหันมาสบตากับเขาก็มองค้อนใส่บ้าง เบะปากใส่บ้าง แต่แอบเห็นนะว่าพีทแม่มแอบยิ้มด้วยอ่ะ กิ้วๆ


มีแฟนน่ารักนี่มันกร๊าวใจจริงๆ!


.

.


เกือบหกโมงเย็นหลังพาคนเป็นพี่ไปหาซื้อของฝากจนได้ตามที่เจ้าตัวต้องการ ร่างสูงก็ดูจะอารมณ์ดีขึ้นเป็นกอง ยุทธนาไม่ได้ซื้ออุปกรณ์ทำไร่ทำสวนอย่างที่ตั้งใจเพราะถูกคนเป็นน้องเบรกไว้ซะก่อน แต่ของฝากที่ได้ติดไม้ติดมือมาก็ถือว่าถูกใจเขามากทีเดียว ที่เหลือก็ได้แต่หวังว่ามันจะถูกใจคนรับล่ะนะ


กลับมาถึงคอนโด หลังทำอะไรง่ายๆทานกันเสร็จเจ้าของห้องก็ไล่ให้เขาไปอาบน้ำ ส่วนเจ้าตัวก็นั่งทำอะไรไม่รู้อยู่หน้าคอมพ์ กระทั่งเดือนสิบอาบเสร็จถึงได้บอกให้คนเป็นพี่เข้าไปอาบบ้าง ซึ่งคนเป็นพี่ก็ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำไปก็ยังไม่วายฉวยโอกาสหอมแก้มนิ่มๆจนคนเป็นน้องเผลอค้อนเข้าให้ เดือนสิบโคลงหัวเบาๆ ก่อนจะเดินมานั่งเช็ดผมบนเตียงกว้าง ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มบาง มองไปทางประตูห้องน้ำที่ใครบางคนเพิ่งเข้าไปได้ไม่นานแล้วก็ได้แต่สายหัวไปมา เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่ มือไม้ไวเป็นปลาหมึกห้ามไม่เคยทัน


ฟึบ!


“อื้ออ พี่ยุทธ! ทำอะไรเนี่ย หนัก” เดือนสิบโวย เมื่อนอนอ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ดีๆคนเป็นพี่ก็ทาบทับลงมาทั้งตัว แถมยังฉวยโอกาสแนบปากเย็นๆไปทั่วใบหน้าเขาอีกต่างหาก


“หมั่นเขี้ยว” ว่าแล้วก็ฟัดแก้มนิ่มๆนั่นอีกซักทีโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจเสียงโวยวาย ก่อนจะพลิกร่างคนเป็นน้องให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้วกอดเอวไว้หลวมๆ เดือนสิบอยู่ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขาเหมือนเดิม ซึ่งมันทำให้เขาอดใจไม่ได้ทุกทีที่ได้เห็น อยากหอม อยากฟัด อยากกอดรัดเอาไว้ทั้งตัวไม่ให้ไปไหน


“ฮื้อ! พอแล้ว” พอโวยไม่ได้ก็เริ่มมาออดอ้อน หัวทุยส่ายไปมาบนไหล่เขา ยุทธนายิ้มเอ็นดูกับท่าทางนั้น อดยอมรับไม่ได้ว่าตัวเองกับน้องมีนิสัยเหมือนกันก็ตรงนี้ ชอบเข้ามาออดอ้อนคลอเคลียยามอยากได้ในสิ่งที่ต้องการ


“จูบก่อน” ยื่นข้อเสนออย่างเจ้าเล่ห์ ทว่าครานี้ลูกแมวน้อยกลับไม่ตกหลุมพราง เจ้าตัวเอาแต่มุดหน้ากับไหล่กว้างราวกับรู้ดีว่าถ้าหากได้เริ่มจูบคนเจ้าเล่ห์ก็ยากที่จะหยุด “ไม่จูบจับปล้ำนะ” ไม่ว่าเปล่าแต่ยังพลิกตัวคนเป็นน้องลงมาอยู่ใต้ร่างอีกต่างหาก เดือนสิบแทบจะทุบเข้าให้


“โอ้ยย ไม่ต้องเลยพี่ยุทธ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ ลุกออกไปเลยครับ ผมหนัก” เดือนสิบทำเสียงเข้ม มองคนพี่ตาเขม่งแต่อีกคนกลับยิ้มระรื่น


“ใจร้าย” ตัดพ้อด้วยแววตาพราวระยับ ดูน่าหมั่นไส้จนอยากจะทุบให้ซักที


“ไม่ต้องมามองด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะ” จ้างให้ก็ไม่ใจอ่อนหรอก เดือนสิบส่งเสียงหึขึ้นจมูกแล้วเบือนหน้าหนี แต่ถึงอย่างนั้นคนพี่ก็ยังไม่วายตามมารุกรานแก้มใสอย่างแกล้งๆอีก โวยวายเท่าไหร่ก็ไม่ยอมปล่อยกระทั่งเขาหมดแรงหอบแฮกนั่นแหละเจ้าตัวถึงได้ยอมผละห่างแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี มันน่าทุบซักทีไหมเนี่ย


“ทำหน้าให้มันดีๆหน่อย ดูซิเนี่ยยับยู่หมดแล้ว”


“เบื่อพี่ยุทธว่ะ ขี้แกล้ง” เดือนสิบย่นจมูกพลางส่ายหน้าหนีมือคนเป็นพี่ที่ยื่นมาบีบแก้มนุ่มจนมันยุบลงไป ยุทธนาหัวเราะ ปล่อยมือจากแก้มน้องแล้วเปลี่ยนมาจับรวบมือเล็กเอาไว้


“ก็แกล้งแค่คนนี้คนเดียว”


“ตลอดเลย”


เสียงหัวเราะหึๆดังอยู่ในลำคอ ก่อนที่คนเป็นพี่จะล้มตัวลงนอนแล้วเกี่ยวเอาร่างน้องลงไปด้วย ยุทธนารั้งขาขาวให้พาดติดกับช่วงเอวสอบก่อนจะรวบเอวบางเข้าหาจนแนบชิดไปทุกสัดส่วนเล่นเอาคนเป็นน้องถึงกับหน้าร้อนวาบ


“พี่ยุทธ” เรียกชื่ออีกคนเสียงเบายามริมฝีปากร้อนแตะลงเบาๆบนแผ่นอก


“ชู่วว.. แค่นอนกอดเฉยๆ” เสียงทุ้มกระซิบ พลางคลายแขนออกเล็กน้อยเป็นกอดหลวมๆเพื่อให้น้องนอนได้สบายตัวขึ้น เดือนสิบพอได้ยินแบบนั้นก็เริ่มผ่อนคลายแล้วเป็นฝ่ายวาดแขนโอบรอบตัวคนเป็นพี่ไว้บ้าง


“เล่าเรื่องครอบครัวพี่ยุทธให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ” นิ่งไปซักพักเดือนสิบถึงได้เอ่ยขึ้น ฝ่ามือที่เทียวไล้วนอยู่บนแผ่นหลังทำให้เขารู้ว่าพี่ยังไม่หลับ


“ทำไม่จู่ๆถึงอยากรู้?” ถามทั้งที่ยังซุกหน้าอยู่กับอกน้อง แนบริมฝีปากเข้าหาซ้ำๆจนเจ้าของร่างเผลอแขม่วหน้าท้องไม่เป็นจังหวะเพราะความรู้สึกหวิวแปลกๆ


“ก็แค่อยากรู้… ไม่ได้หรอครับ?”


“ได้ครับ…” ยุทธนายิ้มจาง มือหนาไล้วนอยู่บนผิวเนื้อเนียนผ่านช่วงเอวบางก่อนจะเริ่มเอ่ยปาก “พ่อกับแม่พี่แต่งงานกันเพราะธุรกิจ พ่อค่อนข้างเป็นคนเจ้าชู้.. แต่งงานกับแม่แล้วก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคน สุดท้ายแม่ทนไม่ไหวเลยขอหย่า…”


“พี่ยุทธ” เดือนสิบครางแผ่ว ผละห่างจากคนเป็นพี่เล็กน้อย ก่อนจะประคองใบหน้าคมคายให้เงยขึ้นมาสบตา “ขอโทษนะครับ”


“พี่ไม่เป็นไร อีกอย่างเรื่องมันก็ผ่านมานานจนแทบจะไม่มีผลอะไรต่อความรู้สึกไปแล้ว” เขายิ้มให้น้อง กุมมือเล็กกว่าไว้แนบอก
“พอหย่ากันแม่ก็เอาพี่ชายไปอยู่ด้วย ส่วนพี่ก็อยู่กับพ่อ นานครั้งถึงจะได้เจอแม่บ้างเพราะท่านย้ายไปอยู่กับสามีใหม่ที่อิตาลี ส่วนพี่ชายก็เจอกันอยู่เรื่อยๆ จำได้ใช่ไหมร้านอาหารที่พาไปกินคราวนั้น”


“ครับ จำได้” เดือนสิบพยักหน้า


“พี่โอเคจริงๆ ตอนนี้ก็กำลังมีความสุขมากด้วย” เอ่ยย้ำแล้วกอดรัดตัวคนเป็นน้องแน่นขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงทำหน้าหงอยๆป


“ผมไม่น่าถามเลย”


“ไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าอยากไถ่โทษจริงๆก็ต้องรักพี่ไปนานๆรู้เปล่า?”


“อื้อ …รักพี่ยุทธ” อ้อมแขนเล็กกระชับแน่นเข้า ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะมอบสัมผัสบางเบาลงบนหน้าผากเนียนของคนเป็นพี่ ทำอยู่
อย่างนั้นสามสี่ครั้งราวกับต้องการปลอบประโลม


“พี่ก็รักเรา เดือนสิบ”


*********





หายไปนานเลย ขอบคุณทุกคนที่ยังรอนะคะ  :กอด1:
เดือนที่แล้วปัญหาเราเยอะมากจริงๆ ทั้งเรื่องสอบทั้งกิจกรรม ไหนจะปัญหาทางบ้านอีก
แต่ตอนนี้ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้วคงได้มาต่อบ่อยๆเหมือนเดิม
ขอโทษที่ปล่อยให้รอนานนะคะ แถมยังมาสั้นอีก ฮาาา
ตอนหน้าพี่ยุทธจะไปเจอพ่อตาแม่ยายแล้ววว
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-03-2017 23:44:09
ดีใจที่กลับมาต่อนะ
น่ารักทั้งสองคู่เลย
พี่ยุทธจะไปฝากตัวกะพ่อตาแล้ว เอาใจช่วยพ่อตารักแม่ยายหลง
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 19-03-2017 23:57:27
ดีใจ กลับมาแล้ว เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ลุ้นๆตอนหน้าพ่อตาแม่ยายจะหวงลูกชายหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 20-03-2017 00:38:03
 :L2: :pig4:

ดีใจที่คนเขียนกลับมา
หวานนะตอนนี้ :-[
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 20-03-2017 06:22:13
ตอนนี้นี่กลับมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจคนอ่านแท้ๆๆ >\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 20-03-2017 07:58:35
พี่ยุทธซื้ออะไรไปฝากพ่อตาแม่ยายกันนะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 20-03-2017 08:03:51
ปืน พี่พีท  :L2: :L2: :L2:
ดีมาก ปืนแสดงความเป็นเจ้าของพีท
พี่ยุทธ เดือนสิบ มุ้งมิ้ง น่ารัก  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 20-03-2017 10:18:46
ยังไงก็ยังรอออออ
นิยายดีๆแบบนี้จะทิ้งได้ไงๆๆๆ
รีบมาต่ออีกน้าาาาา
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 20-03-2017 10:37:59
เอาใจช่วยพี่ยุทธชนะใจพ่อตาแม่ยาย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 20-03-2017 11:12:51
เอาใจช่วยนะพี่ยุทธ หวังว่าจะชนะใจพ่อตาแม่ยายได้นะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Ouizzz ที่ 20-03-2017 14:40:04
กลับมาแล้ววววววว น่ารักเหมือนเดิม :hao3:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 20-03-2017 20:36:55
รักกันนานๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 20-03-2017 20:42:04
น่ารักเหมือนเดิม  :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: kiolkiol ที่ 21-03-2017 00:53:54
 :hao7:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 21-03-2017 22:52:11
น่ารักทั้ง 2 คู่เลยครับ,,,
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 23-03-2017 18:26:45
 :L2: :L2: :L2:
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-03-2017 22:17:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 17 Up. [19/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 29-03-2017 16:36:45
กร๊าวใจมากค่า ฮือออ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 30-03-2017 20:02:32
18


ซีอาร์วีป้ายทะเบียนกรุงเทพมหานครเลี้ยวเข้ามาจอดที่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ในเขตรั้วบ้านสีขาวเหลือง บ้านของเดือนสิบเป็นบ้านไม้สองชั้นหลังไม่เล็กไม่ใหญ่ทาสีขาวทั้งหลัง บริเวณรอบบ้านเต็มไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับหลากชนิดที่เยอะจนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสวนดอกไม้ขนาดย่อม แต่ที่เห็นเด่นชัดสุดๆคงเป็นต้นกุหลาบขาวที่ปลูกเรียงกันอยู่ราวๆสี่ห้าแปลงใหญ่ซึ่งกำลังเริ่มออกดอกชูช่อ เยื้องไปทางด้านหลังอีกหน่อยจะเห็นกุหลาบหินหลายสิบต้นหรืออาจจะเป็นร้อยต้นที่ตั้งเรียงกันอยู่บนชั้นไม้ทาสีขาวเรียบๆ รวมถึงกระบองเพชรและไม้พันธุ์แคระชนิดอื่นๆอีกประปราย


“บ้านน่ารักดีจัง” เสียงทุ้มเอ่ยชมหลังจากลงรถมาแล้วกวาดสายตามองบริเวณโดยรอบอย่างคร่าวๆ เขาสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปวดเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินมาช่วยคนเป็นน้องขนของลงจากหลังรถ


“ขอบคุณครับ” เดือนสิบยิ้มรับ ก่อนจะเดินนำพี่เข้าไปในบ้าน เขาบอกให้อีกฝ่ายนั่งรอที่โซฟาก่อนจะเดินเข้าครัวไปเอาน้ำเย็นๆมาให้ ดวงตาเป็นประกาย ยามเปิดตู้เย็นแล้วเห็นขันน้ำใบใหญ่ที่ข้างในลอยดอกมะลิแช่เอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆของมันเรียกรอยยิ้มถูกใจขึ้นมาประดับอยู่บนริมฝีปากได้รูป


“ทำไมบ้านเงียบจัง” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อกวาดสายตามองโดยรอบแล้วไม่เห็นใครซักคน


“สงสัยเข้าไร่กันมั้งครับ พี่ยุทธดื่มน้ำก่อน” เดือนสิบว่าพลางยื่นขันน้ำลอยดอกมะลิไปตรงหน้าคนพี่ ยุทธนาเลิกคิ้ว มองของที่อยู่ในมือน้องก่อนจะรับขึ้นมาจิบเมื่อเจ้าตัวพยักพเยิดให้ลอง กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกมะลิบวกกับน้ำเย็นๆทำให้เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ความปวดเมื่อยจากการขับรถยาวนานกว่าหกชั่วโมงคล้ายจะค่อยๆจางไปทีละนิด


“เป็นไงครับ” มองคนเป็นน้องที่กำลังมองมาด้วยดวงตาเป็นประกาย เขายิ้มตอบแล้ววางขันน้ำลงตรงหน้า


“ชื่นใจ”


ได้ยินดังนั้นเจ้าบ้านก็ยิ้มกว้าง


“แม่ชอบน่ะครับ แช่ไว้ก่อนออกไปทำงานกลับบ้านมาจะได้มีน้ำหอมๆเย็นๆไว้ดื่มแก้เหนื่อย บางทีก็เอาน้ำยาอุทัยทิพย์มาหยดใส่มันจะกลายเป็นสีแดงๆดื่มแล้วเย็นๆแถมยังแก้ร้อนในได้อีกด้วยนะ พี่ยุทธเคยกินรึเปล่าครับ”


“ไม่หรอก แต่ฟังที่เราพูดแล้วชักอยากจะลองเหมือนกัน” คนเป็นน้องได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะร่วน ก่อนจะผุดลุกเดินหายเข้าไปในครัวชั่วครู่แล้วกลับออกมาพร้อมกับขวดอะไรซักอย่างในมือ


“นี่ครับน้ำยาอุทัยทิพย์ แต่อันนี้เป็นแบบสกัดเองตามภูมิปัญญาชาวบ้านนะ หอมชื่นใจกว่าซื้อจากตลาดเป็นไหนๆ” พรีเซ้นต์สรรพคุณเสร็จสรรพเจ้าตัวก็เหยาะมันลงไปในน้ำ กลั้วขันให้มันกระจายจนกลายเป็นสีแดงอ่อนๆแล้วถึงได้ยื่นมาตรงหน้าเขาอีกครั้ง ตากลมเป็นประกายจ้องสบมาราวกับจะบอกว่าให้เขาชิมมันเดี๋ยวนั้น ยุทธนาหัวเราะออกมาเบาๆกับท่าทางกระตือรือร้นจนชวนให้รู้สึกเอ็นดูนั่น ก่อนจะยกขันน้ำขึ้นจิบอีกครั้ง กลิ่นหอมเย็นๆถึงจะแปลกไปหน่อยแต่ก็ช่วยให้สมองรู้สึกผ่อนคลายจนลืมตัวดื่มไปเสียหลายอึก


"อื้มม หอมมาก" เอ่ยปากชมเปาะ เรียกสีหน้าภูมิอกภูมิใจนักหนาจากคนเป็นน้อง


“บอกแล้ว ขวดนี้แม่ผมสกัดเองกับมือด้วย เน้นกลิ่นดอกสารภีมากหน่อยเพราะแม่ชอบมากเป็นพิเศษ ที่หลังบ้านมีปลูกไว้ตั้งหลายต้นแน่ะ พี่ยุทธเคยเห็นรึเปล่าครับ” ยุทธนาส่ายหน้ายิ้มๆ ปล่อยให้คนเป็นน้องพูดนั่นเล่านี่ให้ฟังไปเรื่อยๆ น้ำเสียงห้าวต่ำบวกกับท่าทางดูมีชีวิตชีวากว่าครั้งไหนๆชวนให้ฟังไม่รู้เบื่อ เดือนสิบดูเหมือนจะร่าเริงขึ้นมากตั้งกลับมาถึงบ้าน ไม่สิ เรียกว่าตั้งแต่ตื่นเช้ามาเลยต่างหาก ตอนนั่งรถมาด้วยกันก็ชวนเขาคุยนั่นคุยนี่ไม่หยุด


“โอ๊ะ! ลืมไปเลย พี่ยุทธหิวรึยังครับ” อยู่ดีๆคนที่เอาแต่พูดจ้อก็กลับมาทำหน้าตกใจราวกับเพิ่งนึกได้ว่าลืมเรื่องสำคัญไปยังไงอย่างนั้น


“นิดหน่อย” เขาตอบ จริงๆก็หิวมาซักพักแล้วแต่เห็นว่าน้องกำลังเล่าเรื่องเพลินๆเลยไม่อยากขัด นานๆทีเดือนสิบจะพูดมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่เถียงว่าชอบฟังเสียงห้าวๆนั่นพูดเจื้อยแจ้วแบบนี้ เจ้าตัวพอได้ยินคำตอบก็หัวเราะแหะๆ เอ่ยขอโทษขอโพย


“ผมก็ลืมไปเลย พี่ยุทธรอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวผมไปดูกับข้าวในครัวก่อนไม่รู้ว่าแม่ได้ทำไว้ให้รึเปล่า” ว่าจบก็รีบเดินแกมวิ่งเข้าไปในครัวอีกรอบ ทิ้งให้ร่างสูงได้แต่มองตามยิ้มๆ รออยู่ไม่นานใบหน้าน่ารักก็โผล่ออกมาจากหลังประตูอีกครั้ง


“พี่ยุทธ มีแกงเลี้ยงผักหวานกับผัดยอดฟักแม้วแหละ ทานได้รึเปล่าครับ” เสียงใสเอ่ยถาม ยุทธนาพยักหน้ายิ้มๆ คนน้องเลยผลุบหายเข้าไปในครัวอีกครั้ง เขาเดินตามไปหยุดยืนอยู่หน้าประตู เห็นน้องกำลังสาละวนอยู่กับการอุ่นกับข้าว


“อยากได้อะไรเพิ่มรึเปล่าครับ” เจ้าตัวเอ่ยขึ้นเมื่อหันมาเห็นเขา ยุทธนาเลยส่ายหน้า


“มีอะไรให้พี่ช่วยไหม”


“ช่วยไปนั่งรอเฉยๆก็พอครับ เดี๋ยวที่เหลือผมจัดการเอง” ว่าพลางยักคิ้วกวนๆแล้วหันไปยกหม้อที่มีควันหอมฉุยพวยพุ่งออกมาลงจากเตา


“เดี๋ยวพี่ช่วยยก”


“ไม่ต้องๆ พี่ยุทธไปนั่งรอเลย บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวผมจัดการเอง” เจ้าตัวทำหน้าขึงขังก่อนจะเดินมารุนหลังเขาให้เดินออกจากห้องครัว ยุทธนาได้แต่โคลงหัวยิ้มๆแล้วเดินมานั่งลงบนโซฟาตัวเดิม แต่ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่งเสียงคุยกันที่แว่วมาจากหน้าบ้านก็ทำให้เขาชะงักอยู่กับที่ซะก่อน


“เพราะแม่เลยมัวแต่โม้ไม่หยุด”


“ใครจะไปรู้ล่ะพ่อ ปกติเห็นมารถประจำทางกว่าจะถึงก็เกือบเย็นโน่น โอ๊ะ!”


“เอ่อ.. สวัสดีครับ” ยุทธนายกมือไหว้สองสามีภรรยาที่คาดว่าน่าจะเป็นพ่อแม่ของคนที่เตรียมกับข้าวอยู่ในครัว รอยยิ้มเล็กๆถูกส่งไปให้เมื่อถูกผู้อาวุโสกว่าทั้งสองชะงักมองเขาอย่างแปลกใจ ก่อนที่ผู้เป็นภรรยาจะเป็นฝ่ายยิ้มหวานแล้วเดินเข้ามาใกล้


“ไหว้พระเถอะพ่อคุณ มากับเดือนสิบใช่ไหม”


“ครับ ผมชื่อยุทธนาครับ เรียกยุทธเฉยๆก็ได้ ยังไงต้องขอรบกวนคุณลุงกับคุณป้าด้วยนะครับ” รีบเอ่ยแนะนำตัวพร้อมฝากเนื้อฝากตัวไปด้วยไม่ให้เสียโอกาสซะเสร็จสับ ถึงจะรู้สึกเกร็งๆนิดหน่อยในทีแรกแต่พอได้รับรอยยิ้มกว้างๆละม้ายคล้ายกับคนเป็นน้องใจมันก็ชื้นขึ้นมาบ้าง


“รบกงรบกวนอะไรกันฮึ เพื่อนเจ้าสิบก็เหมือนลูกแม่อีกคน ยังไงก็ให้คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองนะ ไหนมาให้แม่ดูใกล้ๆหน่อยซิ หน้าตาหล่อเหลาหน่วยก้านก็ดี ดูซิเนี่ยสูงกว่าพ่อตั้งเยอะแน่ะ” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักจนคนถูกพาดพิงทั้งที่ยืนมองนิ่งๆอยู่ทีแรกต้องเอ่ยปรามอย่างไม่จริงจังนัก


จากที่ได้สังเกตบุพการีทั้งสองคนของน้องคร่าวๆ ยุทธนาก็สรุปได้ทันทีว่าเดือนสิบถอดแบบจากคนเป็นพ่อมาแทบจะทุกระเบียดนิ้ว หน้าตาละหม้ายคล้ายคลึงจนแทบจะเป็นพิมพ์เดียวกัน จะมีก็แต่ดวงตากลมโตคู่นั้น และรอยยิ้มสดใสที่ถอดแบบผู้เป็นแม่มาไม่มีผิดเพี้ยน พ่อของเดือนสิบเป็นคนตัวเล็ก อาจจะสูงกว่าน้องบ้างนิดหน่อยแต่พอมาเทียบกับเขาก็ยังเรียกได้ว่าตัวเล็กกว่ามากอยู่ดี ส่วนคนเป็นแม่ก็เหมือนกัน ส่วนสูงอยู่แค่ระดับอกของเขาเท่านั้น หน้าตาก็ยังดูไม่แก่มาก กะจากสายตาคร่าวๆน่าจะอยู่ที่ประมาณสามสิบปลายๆ หรือไม่ก็สี่สิบต้นๆ ผิวขาวสะอาดด้วยกันทั้งคู่ดูไม่เหมือนคนทำไร่ทำสวนเลยซักนิด เห็นแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเดือนสิบถึงได้ผิวสวยขนาดนั้น เพราะถอดแบบจากทั้งคนเป็นพ่อและแม่มานี่เอง


“ก็มันจริงนี่พ่อ ว่าแต่เจ้าสิบไปอยู่ไหนซะล่ะ” ว่าพลางชะเง้อหาลูกชายที่โทรมาบอกตั้งแต่เช้าว่าจะกลับมาหาวันนี้


“แม่!” เสียงใสดังออกมาก่อนตัวทันทีเมื่อได้ยินชื่อตัวเองอยู่ในบนสนทนา ก่อนที่ร่างเล็กในมือมีถาดอาหารจะเดินแกมวิ่งตึกตักออกมาจากในครัว วางกับข้าวลงบนโต๊ะได้ก็โผเข้ากอดคนเป็นแม่เสียเต็มรัก “คิดถึง”


“ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” คนเป็นแม่ยิ้มรับจนเต็มแก้ม กอดลูกชายไว้เต็มอ้อมแขนพลางลูบหัวลูบไหล่ให้พรไม่ขาดปาก ความอบอุ่นคุ้นเคยที่ถึงแม้จะห่างหายไปนานทำให้เดือนสิบกระชับกอดแน่นขึ้น สูดเอากลิ่นหอมของดอกมะลิอ่อนๆจากไหล่เล็กที่กำลังซุกซบอยู่จนเต็มปอด ความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมานานคล้ายจะปลิวหายไปเพียงแค่ได้อยู่ในอ้อมกอดนี้


“พ่อ..” กอดแม่จนเต็มอิ่มถึงได้ค่อยๆผละออกแล้วขยับมายืนอยู่ตรงหน้าบุพการีอีกคนที่กำลังกางแขนรอท่าอยู่ก่อนแล้ว เดือนสิบยิ้มให้พ่อ ที่ทำเพียงคลี่ยิ้มจางๆส่งมาก่อนจะโผเข้าหาอ้อมกอดที่ห่างหายไปนานจนเต็มรัก


“ขวัญมานะเอ็ง”


คำอวยพรสั้นๆแต่เรียกความรู้สึกสุขล้นได้มากโข เดือนสิบกอดกระชับคนเป็นพ่อแน่น ใบหน้าน่ารักเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มจนเต็มแก้ม ไม่ต่างจากผู้เป็นพ่อที่นานครั้งจะได้เผยรอยยิ้มกว้างๆแบบนี้ซักที


“พ่อผอมลงอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย” เดือนสิบเอ่ยขึ้นหลังจากผละห่างออกมาแล้วไล่สายตาสำรวจพ่อทั้งตัว ใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงกันดูซูบตอบลงไปนิดหน่อยจากครั้งสุดท้ายที่เจอกัน


“ผอมอะไรของเอ็ง น้ำหนักข้าขึ้นตั้งสองกิโล” คนเป็นพ่อเถียงพลางลูบหัวลูบไหล่ลูกชายไม่ขาด ใบหน้าแม้ติดจะนิ่งเรียบตามความเคยชินทว่าแววตาที่มองลูกชายคนโตกลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและคิดถึง ขนาดยุทธนาที่เป็นคนนอกมองอยู่ห่างๆยังสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอบอุ่นที่แผ่ออกมาจากดวงตาคู่นั้นไปด้วย


“ไม่จริงหรอก พ่อทำงานหนักอีกแล้วใช่ไหม สิบบอกแล้วไงว่าให้พักบ้าง”


“ขี้บ่นเหมือนแม่เอ็งไม่มีผิด”


“ก็มันจริงนี่ พ่อน่ะชอบรั้น เนอะแม่เนอะ” เดือนสิบย่นจมูกใส่เมื่อถูกพ่อโยกหัวไปมา แต่ถึงอย่างนั้นรอยยิ้มกลับไม่จางหายไปจากใบหน้า ยิ่งผู้เป็นแม่เออออรับคำไปตามน้ำเจ้าตัวก็ยิ่งหัวเราะออกมาอย่างชอบอกชอบใจ


“เข้ากันดีจริงๆ นะพวกเอ็ง แล้วนี่มาถึงกันนานรึยังล่ะ” ผู้อาวุโสสุดในบ้านว่าพลางหันไปมองแขกไม่คุ้นตาที่กำลังมองมาหน้าสลอน เล่นเอาคนที่อยู่ดีๆก็ถูกสามคนพ่อแม่ลูกจ้องมาเป็นตาเดียวถึงกับนิ่งชะงักไปชั่วขณะ


“ถึงซักพักแล้วครับ” ยุทธนาตอบ เขารู้สึกเกร็งขึ้นมานิดหน่อย แต่พอเห็นน้องคอยส่งยิ้มให้กำลังใจมาอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งสายตาที่คอยส่งมาถามไถ่อยู่ตลอดว่าเขาอึดอัดไหม โอเครึเปล่า เพียงแค่นั้นยุทธนาก็ยิ้มออกแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร เพียงแต่เกร็งนิดหน่อยเพราะยังไม่คุ้นชินเท่านั้น


คนฟังพยักหน้ารับก่อนจะรุนหลังลูกชายที่ยังยืนเกาะเป็นลิงให้เข้าไปนั่ง


“งั้นก็กินข้าวกินปลากันซะก่อน ว่าแต่อาหารบ้านๆอย่างนี้พอกินได้ไหมล่ะไอ้หนุ่ม”


“ได้ครับ ตอนอยู่ที่กรุงเทพน้องก็ทำให้ทานบ่อยๆ” คนแก่กว่าชะงักนิ่งไปชั่วขณะ แววตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมองสำรวจคนหนุ่มกว่า


“สนิทกันมากรึ”


“ครับ ผมกับน้อง เอ่อ เดือนสิบอยู่หอพักใกล้ๆกัน เลยไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ” ยุทธนามองตอบอีกฝ่ายอย่างฉะฉาน ก่อนจะรีบเปลี่ยนสรรพนามเมื่อเห็นว่าคนเป็นหัวหน้าครอบครัวหลุดคิ้วกระตุก
จากสายตาที่มองเขาเหมือนจะจับผิดนี่แล้ว ดูท่าคนเป็นพ่อเขาจะหวงลูกชายไม่เบาเลยทีเดียว


 “เป็นพี่เป็นน้องกันมันก็ดี มีอะไรจะได้ช่วยเหลือช่วยดูกัน เจ้าสิบไปอยู่ที่โน่นก็ตัวคนเดียวแม่เขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ …นี่ยังแปลกใจกันไม่หายเลยนะตั้งแต่ที่โทรมาบอกว่าจะมีเพื่อนมาด้วย ปกติก็ไม่เห็นว่าจะพาใครที่ไหนมาเที่ยวบ้านเที่ยวช่องซักที” คนเป็นพ่อบ่นยาว เดือนสิบเลยย่นจมูกใส่


 “มีแต่แม่ห่วง แล้วพ่อไม่ห่วงสิบบ้างหรอ”


“ข้าก็ห่วงหมดนั่นแหละ ทั้งเอ็งทั้งเจ้าอ้ายมันด้วย” โดยเฉพาะเดือนอ้าย เจ้าลูกชายคนเล็กที่เหมือนจะแสบจะซนกว่าพี่มันเป็นไหนๆ


 “เอ้อ แล้วนี่อ้ายมันอยู่ไหนอ่ะแม่ ตั้งแต่มาสิบยังไม่เห็นเลย” เดือนสิบตักข้าวใส่จานส่งให้คนเป็นพ่อ พลางเอ่ยถามถึงน้องชายวัยไล่เลี่ยกันที่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาตั้งแต่ก้าวเข้ามาในบ้าน


“ไร่ลุงพงษ์โน่น แกมาตามตั้งแต่เช้า เห็นว่าเจ้าเพชรมันไม่อยู่เลยให้อ้ายมันไปช่วยขับรถให้”


เดือนสิบพยักหน้ารับหงึกหงัก ถามโน่นถามนี่กับบุพการีทั้งสองอีกนิดหน่อยระหว่างที่ทานข้าวไปด้วย บ่อยครั้งที่เขาเห็นพ่อเอาแต่จ้องมองคนที่นั่งอยู่ข้างกัน ขนาดพูดกับเขาสายตาก็ยังเอาแต่จับจ้องอยู่ที่พี่ยุทธไม่ไปไหน


 “แล้วนี่จะมาอยู่กันซักกี่วันล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม มองลูกชายที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆด้วยรอยยิ้ม แถมยังเผื่อแผ่ไปยังชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆลูกชายเธออีกด้วย


“จนกว่าจะเปิดเทอมโน่นอ่ะ สิบอยากอยู่กับแม่นานๆ” คนเป็นลูกก็ว่าพลางยิ้มอ้อนซะเต็มแก้ม


“แล้วแม่บอกให้กลับตั้งแต่ปิดเทอมก็ไม่ยอมกลับ มันน่าตีนักเชียว”


“ก็ทำงานไงแม่ เนี่ยได้มาตั้งสองหมื่นเชียวนา” ว่าอย่างอวดๆ คนเป็นแม่เห็นท่าทางภูมิอกภูมิใจของเจ้าตัวก็อดเอ็นดูไม่ได้


“ได้มาก็เก็บไว้ อย่าเอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เอาไว้ใช้ยามจำเป็น เข้าใจไหม” ว่าพลางยื่นมือไปลูบหัวทุยของลูกชายไปด้วย เดือนสิบเป็นคนเก่ง เป็นเด็กขยันและไม่เคยทำให้เธอกับสามีผิดหวังเลยซักครั้ง


“รับทราบ” เจ้าตัวทำท่าตะเบะรับ ซึ่งคนเป็นแม่ก็ได้แต่โคลงหัวไปมาด้วยความเอ็นดู ก่อนจะหันไปพูดกับอีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังมองลูกชายเธอยิ้มๆ


“แล้วนี่ยุทธจะอยู่ซักกี่วันล่ะลูก หรือจะอยู่ยาวเหมือนน้องเลย” คนถูกถามยิ้มค้าง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อเผลอสบตากับผู้อาวุโสสุดในบ้าน ที่ถึงแม้จะนั่งฟังอยู่เงียบๆแต่ก็พอจะรู้ว่ากำลังเก็บทุกรายละเอียดไม่ปล่อยให้คลาดสายตา


สงสัยเขาจะโดนหมายหัวเข้าแล้วจริงๆสินะ


“คงกลับพร้อมเดือนสิบนั่นแหละครับ ยังไงก็ต้องขอรบกวนคุณลุงคุณป้าด้วย” ว่าแล้วก็ส่งยิ้มละไมเรียกคะแนนซักหน่อย


“ตามสบายนะลูก คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเองอยากอยู่นานเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้น” แม่น้องว่าแล้วยิ้มตอบเขา แววตาที่กำลังมองมาดูอ่อนโยน


“ขอบคุณครับ” ยุทธนายิ้มรับ บรรยากาศอบอุ่นที่ลอยฟุ้งอยู่รอบตัวผู้หญิงคนนี้พลอยทำให้เขารู้สึกอุ่นไปด้วย มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นแบบที่เขาก็ไม่แน่ใจว่าห่างหายจากมันมานานแค่ไหนแล้ว


“แล้วนี่ไปรู้จักกันได้ยังไงล่ะ” คนที่นั่งเงียบมานานเอ่ยถามบ้าง ยุทธนาหันมาสบตากับเดือนสิบ แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรคนเป็นน้องก็ชิงตอบขึ้นซะก่อน


“พี่ยุทธเป็นรุ่นพี่ที่คณะไงพ่อ มาช่วยติวหนังสือให้เลยรู้จักกัน พี่ยุทธเรียนเก่งมากเลยนะ สอนก็เข้าใจง่าย นี่ถ้าไม่ได้พี่ยุทธช่วยติวนะสิบแย่แน่ๆ ข้อสอบย้ากยาก”


คนเป็นพ่ออือออรับคำ ตักข้าวเข้าปากพลางลอบสังเกตท่าทางของลูกชายไปด้วย ไม่บ่อยนักที่เดือนสิบจะพูดคุยเรื่องของคนอื่นให้ฟัง เวลาโทรมาหาก็เพียงแต่ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ ว่าเป็นยังไงบ้าง ทานข้าวหรือยัง ส่วนนอกจากนั้นก็จะเป็นฝ่ายแม่เขานั่นล่ะที่เล่าโน่นเล่านี่ให้ลูกชายฟังไม่หยุด


“เพราะเราหัวไวด้วยต่างหาก” ยุทธนาขัดขึ้นยิ้มๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปยีผมน้องเบาๆด้วยความเคยชิน


ซึ่งท่าทางนั้นก็ไม่ได้เล็ดรอดไปจากสายตาของผู้อาวุโสทั้งสองคน


.
.


หลังจากทานข้าวเสร็จเดือนสิบก็พาคนเป็นพี่เอาของขึ้นมาเก็บบนห้องตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ เดินเข้ามาในห้องได้เจ้าตัวก็ทิ้งตัวกลิ้งเกลือกลงบนฟูกนอนทันทีด้วยความคิดถึง แม้ห้องนี้จะไม่ได้ใช้งานเลยตั้งแต่ที่เขาไปเรียนกรุงเทพแต่มันก็ยังสะอาดสะอ้านเพราะแม่บอกว่าเข้ามาทำความสะอาดให้อยู่บ่อยๆ ยิ่งพอรู้ว่าเขาจะกลับมาก็ถึงกับหอบผ้าห่มผ้าปูไปซักให้ซะหอมฟุ้ง


ยุทธนาที่เดินตามหลังเข้ามาวางกระเป๋าไว้หน้าตู้เสื้อผ้า ยิ้มขำกับท่าทางของคนเป็นน้องจนถูกเจ้าตัวย่นจมูกใส่อย่างที่ชอบทำ ก่อนจะเดินไปหยุดยืนอยู่ริมระเบียงที่ยื่นห่างไปจากตัวห้องราวๆหนึ่งเมตร บ้านของเดือนสิบบรรยากาศดีมากจริงๆ ถึงจะมีแดดออกแต่มันก็ไม่ได้ร้อนจนแสบเหมือนที่กรุงเทพ แถมรอบๆตัวบ้านยังมีต้นไม้ใหญ่หลายต้นคอยให้ความร่มรื่นอีกต่างหาก


“พอจะนอนได้ไหมครับ” กลิ้งเกลือกเอาสัมผัสคุ้นเคยที่ห่างหายไปนานจนพอใจแล้วก็เดินไปหยุดยืนอยู่ข้างกายสูงของคนเป็นพี่


 “มันก็ได้ แต่สิบนอนกับพี่ไม่ได้หรอ” ยุทธนาหันมามองคนเป็นน้อง ส่งสายตาออดอ้อนแต่กลับถูกเจ้าตัวยิ้มขำซะอย่างนั้น


“แน่ะ! ไม่ได้ยินที่พ่อบอกหรอครับว่าให้พี่ยุทธนอนห้องผม ส่วนผมก็ต้องไปนอนกับอ้าย” เดือนสิบยักคิ้ว


แน่นอนล่ะว่ายุทธนาได้ยินมันเต็มสองรูหู แต่เขาก็อยากนอนกับน้องนี่ อุตส่าห์ได้มาเที่ยวบ้านแฟนทั้งทีแต่กลับถูกพ่อตากีดกันตั้งแต่ยังไม่ทันได้เริ่มแบบนี้มันใช่ที่ไหน นี่มันไม่ใช่อย่างที่คิดไว้เลยซักนิด


“นี่พี่เผลอทำอะไรผิดไปจนพ่อเราไม่ชอบรึเปล่า” คิ้วเข้มขมวดมุ่น


“ไม่หรอกครับ พ่อคงอยากให้พี่ยุทธนอนสบายๆมากกว่า อีกอย่างที่นอนผมมันเล็กนอนสองคนคงไม่สบายตัวเท่าไหร่ พี่ยุทธนอนคนเดียวน่ะดีแล้ว ห้องอ้ายมันก็อยู่ข้างๆนี่เองไม่ได้อยู่ไกลกันซักหน่อย” เอ่ยปลอบใจ พลางใช้ปลายนิ้วเขี่ยรอยย่นบนหน้าผากคนเป็นพี่ให้คลายออก


“อยู่ใกล้แค่ไหนก็ไม่เท่าอยู่ในอ้อมกอดของพี่อยู่ดี”


“หึ่ยย เลี่ยนอ่ะ ฮ่าๆๆ”


“เดี๋ยวจะโดน” ยุทธนาว่าพลางทำท่าจะเคาะมะเหงกลงบนหัวคนเป็นน้องซักที แต่เจ้าตัวรู้แกวเลยเอียงตัวหลบไปแล้วหัวเราะร่วน แน่นอนว่าท่าทางสดใสของเดือนสิบทำให้เขายิ้มตามได้ไม่ยาก


.
.


หลังจัดของช่วยคนเป็นพี่เสร็จเดือนสิบก็พาอีกฝ่ายออกมาเดินเล่นสำรวจบริเวณรอบๆบ้าน ตกเย็นพ่อกับแม่เขาก็ต้องออกไปข้างนอก เพราะวันนี้ที่บ้านของลุงชอบญาติห่างๆที่อยู่ถัดไปอีกหมู่บ้านมีงานบุญเลยต้องไปช่วย เดือนสิบไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่บ่นเสียดายนิดหน่อยที่กลับมาบ้านวันแรกพ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกัน กระทั่งหกโมงเย็นน้องชายที่ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันมาหลายเดือนก็กลับมาบ้านซักที เดือนอ้ายโผกอดเขาที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้านเต็มรักด้วยความคิดถึง โชคดีที่เขากับมันตัวพอๆกัน ไม่อย่างนั้นคงได้ล้มพับไปทั้งคู่


“ปล่อยเลยๆ ดูดิเนื้อตัวมอมแมมขนาดนี้มากอดได้ไง” เดือนสิบว่ายิ้มๆ มองสำรวจทั่วร่างของน้องชายที่ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เพียงแต่เดือนอ้ายจะมีหน้าตาติดหวานเหมือนแม่ซะมากกว่า


“คิดถึงอ่ะ” มันอ้อน กระพริบตาปริบๆ นั่งแหมะลงข้างกันแล้วเกาะแขนเขาหนึบไม่ยอมปล่อย


“เออ คิดถึงเหมือนกัน”


เดือนสิบยีผมยุ่งฟูของคนเป็นน้องไปมา ก่อนจะนึกขึ้นได้จึงหันมาเอ่ยแนะนำคนที่นั่งเงียบอยู่ข้างกันให้น้องชายได้รู้จัก


“พี่ยุทธนี่เดือนอ้ายครับน้องชายผมเอง ส่วนนี่พี่ยุทธ รุ่นพี่ที่มหา’ลัย”


“สวัสดีครับ แต่สิบแน่ใจนะว่าเป็นแค่รุ่นพี่เฉยๆอ่ะ” เดือนอ้ายยกมือไหว้คนโตกว่า ก่อนประโยคหลังจะหันกลับมาเอ่ยถามคนเป็นพี่ชาย


“ทำไมถามงั้นอ่ะ”


“ทำไมอ่ะ ถามไม่ได้หรอ หรือจริงๆแล้วไม่ใช่แค่รุ่นพี่ธรรมดา” มันย้อน หรี่ตาลงมองเขาสลับกับพี่ยุทธที่เอาแต่นั่งยิ้มมุมปากราวกับจะจับผิดสลับกันไปมา


นี่ก็ไม่คิดจะช่วยกันเล้ย!


 “บ้าดิ ก็ไม่ทำไม ก็เป็นรุ่นพี่ที่สนิท” เขาเลือกที่จะตอบไปแบบนั้น เพราะตัวเองก็ยังไม่แน่ใจนักว่าพร้อมหรือยังที่จะให้คนในครอบครัวรับรู้ เขาก็แค่กังวน กลัวว่าถ้าทุกคนรู้แล้วเกิดรับไม่ได้ขึ้นมาคงเป็นตัวเขาเองนี่แหละที่จะแย่


“สนิทมากป่ะ” เดือนอ้ายซักต่อ แววตาหรี่ลงมองพี่ชายด้วยท่าทีที่เห็นแล้วต้องบอกว่าโคตรน่าถีบ


“ก็มาก แล้วจะมาซักอะไรนักหนาเนี่ย เข้าไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้วไป เหม็นเหงื่อ” เขาบอกปัด ขืนปล่อยให้มันซักต่อมีหวังได้หลุดบอกออกไปจริงๆแน่ ถึงจะเตรียมใจมาบ้างแล้วตอนที่อยู่กรุงเทพ แต่พอมาถึงบ้าน ได้เห็นหน้าพ่อหน้าแม่แล้วมันก็ทำใจกล้าให้บอกออกไปได้ยากจริงๆ ยิ่งมาถูกเดือนอ้ายมองด้วยสายตาจับผิดแบบนี้อีก


เฮ้ออ!


ขอเวลาอีกนิดเถอะ ให้เขาพร้อมกว่านี้ก่อนรับรองว่ามันได้รู้สมใจอยากแน่ แล้วพอถึงตอนนั้นก็หวังว่ามันจะรับได้และเข้าใจเขาก็แล้วกันนะ


“แค่นี้ทำมาโมโห โด่! เดี๋ยวคอยดูเหอะ” มันส่งเสียงฮึขึ้นจมูกใส่เขา ก่อนจะยื่นหน้าออกมามาส่งยิ้มให้กับอีกคนแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าไปในบ้านเพื่ออาบน้ำอาบท่า


เดือนสิบมองตามหลังน้องชายแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่


“คิดมากอะไรฮึ” เสียงทุ้มเอ่ยถาม ยิ้มบางๆให้คนเป็นน้องที่ยังขมวดคิ้วไม่เลิก


“พี่ยุทธว่าอ้ายจะรู้ไหมครับว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน” แววตาจ้องตอบคนเป็นพี่ดูเป็นกังวล


“ไม่รู้สิ แต่ถ้าเขารู้สิบจะทำยังไงล่ะ”


“ไม่รู้สิครับ ก็คงต้องยอมรับไปตามความจริง” เพียงแต่ตอนนี้เขายังใจกล้าไม่พอเท่านั้นเอง


“ลำบากใจหรอ” เดือนสิบส่ายหน้ารัว ไม่อยากให้พี่รู้สึกแย่กับความขี้ขลาดของเขาเลย


“เปล่าครับ มันแค่รู้สึกกลัวแปลกๆน่ะ ไม่รู้สิผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน คงกลัวว่าพวกเขาจะรับไม่ได้ล่ะมั้ง”


“พี่อยู่ข้างเรานะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพี่จะอยู่ตรงนี้ ถ้าสิบไม่สบายใจที่จะบอกพวกเขาตอนนี้ก็ยังไม่ต้องบอกก็ได้” เขาเลื่อนมือไปกอบกุมมือเล็กของน้องเอาไว้ ส่งถ่ายความรู้สึกที่ยังคงเดิมให้อีกฝ่ายสบายใจ


“ขอบคุณนะครับพี่ยุทธ เฮ้อ! ทำไมถึงได้ดีกับผมขนาดนี้เนี่ย” ดีจนเขากลายเป็นแฟนที่ไม่เอาไหนไปเลย


“คนดีๆอย่างพี่หายาก เพราะงั้นต้องรักษาไว้ดีๆรู้ป่าว” ยุทธนาโยกหัวคนเป็นน้องไปมา


เดือนสิบฟังแล้วได้แต่ย่นจมูกใส่คนเป็นพี่อย่างที่ชอบทำ ช่างเป็นคนที่ขยันพูดให้เขานึกหมั่นไส้ได้บ่อยจริงๆเลย แต่มันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่าล่ะนะ ดีขนาดนี้จะไปหาได้อีกจากที่ไหน


“ครับ ผมจะจับไว้ให้แน่นเลย”




 :katai5: :katai5:
ขอให้พี่ยุทธรอดปลอดภัย  :m12:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: LoveRead ที่ 30-03-2017 20:27:27
พ่อตาเซนส์ไวมาก
พี่ยุทธต้องสู้นะ 55555555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 30-03-2017 21:07:33
เจอพ่อ(ตา)หวงลูกเสียแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 30-03-2017 21:34:29
โดนพ่อตามองแรงซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 30-03-2017 22:55:50
เราว่า โดนว่าที่พ่อตาเพ่งเล็งแล้วล่ะ 555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 30-03-2017 23:10:36
พ่อตาคิ้วกระตุกละค่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 30-03-2017 23:36:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 30-03-2017 23:55:34
ผ่านด่านให้ได้น้าาาา
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-03-2017 23:55:59
 :L2: :pig4:

งานหนักละ พี่ยุทธ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-03-2017 01:32:18
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 31-03-2017 03:06:54
พ่อตาเซนท์ดีเว่อร์
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 31-03-2017 05:02:22
ทั้งพ่อ ทั้งน้อง ไวมาก จับได้ทันที
พ่อ หวงเดือนสิบแบบไม่ออกอาการ
ให้พี่ยุทธ นอนคนเดียวซะเลย
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 31-03-2017 06:39:14
 คุณพ่อน้องสิบอย่าโหดกับว่าที่ลูกเขยมากนะ :hao3:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 31-03-2017 09:45:04
พ่อตาจัดหนักๆ ให้พี่ยุทธซักทีสองทีซิ ข้อหาไม่มาบอกกล่าวขอกันก่อนก็ได้น้องไปซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 31-03-2017 10:39:26
คุณพ่อตาอย่าโหดกับพี่ยุทธมากนะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-03-2017 13:43:26
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 31-03-2017 16:40:35
น่าร้าคคคคคค
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-03-2017 19:50:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 31-03-2017 23:21:11
อิพี่โดนมองแรงซะแล้วว เดือนสิบน่ารักกก
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Sky ที่ 01-04-2017 00:38:19
บ้านนี้นี่เซนส์แรงกันหมดเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 01-04-2017 17:51:11
หุ้ยอ่านตามทันแล้วสนุกดีชอบมาก
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 01-04-2017 23:28:38
สงสัยงานนี้จะโดนพ่อตาแกล้ง(,,,,
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 02-04-2017 22:15:52
งานหนักแล้วพี่ยุทธ เจอพ่อตาหมายหัว
 สู้ๆนะ o13 o13
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 02-04-2017 22:25:36
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 03-04-2017 16:46:37
โอ้ยย หวานเว่อออ หมันไส้
พี่ยุทธก็ดีย์มาก เดือนสิบก็น่ารักกกก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: monkey_saru ที่ 04-04-2017 20:29:46
 o13 o13 o13

เพิ่งมาเจอเรื่องนี้ได้ไงเนี่ย น่ารักมากกกก  อ่านวันเดียวตามให้ทันเลย ฮ่าๆ

พี่ยุทธ์รุกแรงมาก น้องตั้งตัวไม่ทัน
ตอนฉากโคมไฟครั้งแรก รู้สึกว่าน้องกลัวจริงๆ แต่พี่ปลอบน้องให้น้องรู้สึกว่าเชื่อใจพี่ได้จริงๆนะ โอยยย  :heaven

ตอนนี้เอาใจช่วยพี่แกให้รอดพ้นคุณพ่อตาไปด้วยดีแล้วกัน โดนจ้องขนาดนี้ 55555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-04-2017 09:18:26
สู้ๆ พี่ยุทธ เอาใจพ่อตาเข้าไว้  :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 18 Up!!. [30/03/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 19-04-2017 12:59:00
คนแต่งหายไปไหนคะ จะครบเดือนแล้วน้าาา คิดถึงพี่ยุทธกับเดือนสิบบบ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 28-05-2017 21:55:57

19


“สิบบบบบบ หิววววว”

“เออๆ ใกล้เสร็จแล้วรอแปปนึง”



เดือนสิบตะโกนตอบกลับน้องชายที่กำลังนั่งเช็ดผมอยู่บนโซฟาข้างๆกับร่างสูงของคนเป็นพี่ที่กำลังดูสารคดีอะไรซักอย่าง ออกจากห้องน้ำมาได้เดือนอ้ายก็เอาแต่ร้องเย้วๆ เรียกหาของกินไม่หยุด พอบอกจะทอดไข่เจียวง่ายๆ ให้กินก่อนดันบอกไม่เอาจะรอ ร่างเล็กได้แต่โคลงหัวไปมาอย่างเอือมๆ เมื่อเจ้าน้องชายยังส่งเสียงตะแง่วๆ มาไม่หยุด กระทั่งกับข้าวเสร็จหมดทุกอย่าง เขาถึงได้เรียกให้อีกสองคนมาช่วยกันจัดโต๊ะ



“เอ้า หิวนักก็กินเข้าไปเยอะๆเลยนะ” เขาผลักหัวกลมๆของน้องชายไม่แรงนัก เจ้าตัวเลยเงยหน้าขึ้นมาค้อนใส่

“กับน้องกับนุ่งนี่รุนแรงตลอด” เดือนอ้ายทำปากขมุบขมิบบ่นให้พี่ชาย ก่อนจะเริ่มตักข้าวส่งให้คนอื่นๆ ส่วนอีกคนที่นั่งว่างๆ อยู่ก็รับหน้าที่รินน้ำใส่แก้ว

“โคตรคิดถึงกับข้าวฝีมือสิบเลยอ่ะ”

 “แล้วอยู่หอไม่ได้ทำกับข้าวกินเองหรือไง” คนฟังไหวไหล่

“ขี้เกียจอ่ะ อีกอย่างไปช่วยงานจารย์โป้กว่าจะกลับก็ค่ำล่ะ”

“ตกลงเรียนต่อที่นี่เหมือนเดิมใช่ไหม” เมื่อเดือนที่แล้วเดือนอ้ายโทรไปหาเขาบอกว่าจะเรียน ปวส อยู่ที่เดิม เขาไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่ถามย้ำก็แค่อยากรู้ว่าน้องมั่นใจแล้วจริงๆ

“คงงั้นแหละ หัวไม่ดีไม่อยากไปไกลอ่ะ กลัวไม่จบ” เดือนอ้ายว่าติดตลก แต่เขารู้ดีว่าอีกเหตุผลหลักที่น้องไม่อยากไปไกลก็เพราะว่าอยากอยู่ดูแลพ่อกับแม่

“ว่าไปนั่น เกรดก็ไม่เคยต่ำกว่าสามไม่ใช่หรือไง” จริงๆมันก็หัวดีไม่ได้ต่างจากเขาหรอก เพียงแต่เจ้าตัวขี้เกียจเรียนทฤษฎีและเน้นเอาแต่ปฏิบัติมากกว่า

“โชคช่วยไง”

“เฮอะ! แล้วพ่อกับแม่ว่าไงมั่ง”

“สิบก็รู้ว่าถ้าเป็นเรื่องเรียนพ่อกับแม่ไม่ขัดหรอก มีแต่กลัวว่าอ้ายจะมีเรื่องจนไม่ได้เรียนต่อนั่นแหละ”

“นี่ยังไม่เลิกมีเรื่องอีกหรือไง?” เดือนสิบขมวดคิ้ว จ้องหน้าน้องชายที่รีบหลบตาวูบราวกับกำลังหนีความผิด



เดือนอ้ายเป็นคนหัวรั้น แถมยังอารมณ์ร้อนกว่าเขามาก แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่เคยยอมลงให้ใครถ้าคนพวกนั้นไม่ใช่คนในครอบครัว และเพราะไอ้นิสัยไม่ยอมคนที่ขัดกับหน้าหวานๆของเจ้าตัวนี่แหละมันถึงได้เป็นปัญหา เข้าโรงเรียนช่างไปเจอไอ้พวกหัวโจกมันแซวเข้าหน่อยก็ของขึ้นจนมีเรื่องมีราวกับเขาไปทั่ว เห็นตัวเล็กๆแบบนี้มันกลัวใครที่ไหน เห็นว่าตัวเองเป็นมวยเข้าหน่อยนี่ท้าเขาตีเขาต่อยไม่ยั้ง จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่อริมันมาหาเรื่องเขาจนถึงขั้นเข้าโรงบาลนั่นแหละเจ้าตัวถึงได้เริ่มเพลาๆลงมาบ้าง นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเด็กกิจกรรมแถมยังชอบวิ่งช่วยงานอาจารย์ในสาขาจนเขาเอ็นดูนะ โดนไล่ออกตั้งแต่เข้าปีหนึ่งแล้ว



“ก็ไม่ได้มีบ่อยแล้วไง นี่ถ้าพวกมันไม่มาหาเรื่องก่อนอ้ายก็ไม่อยากมีหรอกเรื่องอ่ะ” เจ้าตัวเถียง ซ้ำยังกอดอกทำหน้าทำตาจริงจังใส่เขาอีกด้วย

“เลี่ยงได้มันก็ดี ยิ่งขึ้น ปวส ยิ่งต้องระวังตัวรู้ป่าว ยิ่งพวกไอ้อู๊ดไฟฟ้าอ่ะตัวอันตรายเลย ไม่ต้องไปยุ่งกับพวกมันรู้ไหม”



ไอ้อู๊ดมันเป็นนักศึกษารุ่นเดียวกับเขา ถ้าเทียบกันก็เท่ากับว่ามันกำลังจะขึ้น ปวส2 ซึ่งเป็นพี่โตสุดในวิท’ลัย ไอ้อู้ดมันเป็นประธานสาขา ข่าวในทางไม่ดีก็มีไม่น้อย ทั้งเรื่องชกต่อยทั้งเรื่องยา ถ้าไม่ติดว่าพ่อมันเป็นตำรวจใหญ่คงโดนซิวไปนานแล้ว แถมมันยังเรียนสาขาไฟฟ้ากำลังที่เป็นศัตรูคู่แค้นกับพวกเด็กช่างกลอีกต่างหาก แล้วน้องชายเขามันเป็นพวกยอมใครที่ไหน ถึงจะเพื่อนเยอะยังไงก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี



“รู้น่า บ่นมาตั้งหลายปีแล้วยังไม่เบื่ออีกรึไง สิบขี่บ่น เนอะพี่ยุทธเนอะ” ว่าแล้วก็พยักพเยิดหาพักพวก

คนที่อยู่ดีๆก็ถูกลากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบทสนทนาเลยได้แต่พยักหน้ารับยิ้มๆ เดือนสิบมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ กับคนที่ขึ้นชื่อว่าสำคัญแล้วจะคิดโน่นคิดนี่เยอะไปหมด จะต่างก็แค่วิธีการแสดงออกก็เท่านั้น

“ที่บ่นก็เพราะเป็นห่วงไง ถ้าเป็นคนอื่นจะมานั่งบ่นแบบนี้หรอ ทำไม? หรือเดี๋ยวนี้เป็นห่วงไม่ได้?”

เดือนอ้ายถึงกับร้องอื้อหือเมื่อเห็นว่าพี่ชายเริ่มหน้าตึง

“อื้อหือ.. ตรวจพบคนน้อยใจหนึ่งอัตรา ว่าแต่จะง้อยังไงดีน้า” แต่แทนที่จะสำนึกกลับยิ่งทำเป็นลอยตา ซ้ำยังมีร่างสูงอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆกันหัวเราะหึๆเป็นลูกคู่อีกต่างหาก



ทีงี้ล่ะเข้ากันดีจังนะ



“พูดมากไม่ต้องกินต่อแล้วมั้งข้าวเนี่ย” ว่าแล้วก็กอดอกฉับ ชักเริ่มเคืองขึ้นมาตงิดๆ

“ได้ไงอ่ะ หูยย พี่ยุทธดูดิ คนอะไรไม่รู้ขี้น้อยใจชะมัด ขี้น้อยใจแบบนี้ระวังแฟนไม่รักนา” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคัก แววตาพราวระยับราวกับกำลังสนุกนักหนา จนสุดท้ายก็เป็นเดือนสิบเองนั่นแหละที่ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับความกวนประสาทของน้องชาย

“พอเลยๆ ไหนบอกว่าหิวนักหิวหนาไง รีบๆกินเข้าไปเลย”

“แน่ะ! ไม่ปฏิเสธด้วยว่าไม่มีแฟน งี้ก็แสดงว่าสิบมีแฟนแล้วอ่ะดิ ไม่เห็นเคยเล่าให้ฟังเลย” เดือนอ้ายยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่อยากเล่าไง”

“หูยไรวะ ที่อ้ายคบกับใครยังเล่าให้สิบฟังหมดเลยอ่ะ แบบนี้มันโกงกันนี่หว่า” เจ้าตัวว่าแล้วก็กอดอกฉับ กระแทกหลังพิงลงไปกับพนักเก้าอี้พลางส่งเสียงเหอะขึ้นจมูกใส่เขาอีกต่างหาก

“ช่วยไม่ได้ดิ ไม่ได้ขอให้เล่าซักหน่อย” คนพี่ก็ใช่ว่าจะง้อ ได้ทีตัวเองบ้างก็ลอยหน้าลอยตากลับใส่คนเป็นน้องซะอย่างนั้น

“โห่ สิบอ่ะ ได้… จำไว้เลยนะ” เดือนอ้ายมองหน้าพี่ชายอย่างเคืองๆก่อนจะตักข้าวคำโตใส่ปาก แถมยังเคี้ยวตุ้ยๆราวกับมันเป็นที่ระบายอารมณ์ชั้นดีอีกต่างหาก




“เป็นไงบ้างครับ” หัวเราะเยาะน้องชายอย่างผู้ชนะจนมันชักดิ้นชักงอแล้วถึงได้หันมาเอ่ยถามคนเป็นพี่ที่เอาแต่นั่งยิ้มฟังเขากับน้องเถียงกันอยู่เงียบๆ ไม่รู้ว่าพี่จะนอยด์รึเปล่าที่เขาเอาแต่คุยกับน้องชายจนไม่ค่อยได้สนใจเท่าที่ควร

 “อร่อยมาก สิบทำอะไรพี่ก็ว่าอร่อยหมดนั่นแหละ” เดือนสิบหัวเราะออกมาเบาๆกับถ้อยคำช่างพูดของคนเป็นพี่ จะว่าไปตั้งแต่รู้จักกันมาพี่ยุทธก็ยังไม่เคยว่าหรือติติงอะไรเขาซักครั้ง อาจมีบ้างที่ดุนิดๆหน่อยๆเวลาเขาเล่นเกมกับไอ้ปืนเพลินจนบางทีก็เลยเวลา แถมยังเอาใจเก่งจนเขาจะกลายเป็นเด็กติดสปอยล์อยู่แล้ว






หลังจากทานข้าวเสร็จพวกเขาทั้งสามคนก็พากันมานั่งกองอยู่หน้าทีวี ดูรายการนั่นนี่ไปเรื่อยจนกระทั้งเกือบๆ สี่ทุ่มเดือนอ้ายก็เริ่มตาปรืออ้าปากหาวหวอด เดือนสิบเลยไล่น้องชายไปนอน เข้าใจว่าเจ้าตัวคงเพลียจากที่ไปช่วยขับรถให้ลุงมาทั้งวัน แต่ไอ้คนที่ตาจะปิดไม่ปิดแหล่กลับงอแงเป็นเด็กๆจะให้เขาไปนอนด้วยกันเดี๋ยวนั้นให้ได้ เดือนสิบมองน้องชายอย่างอ่อนใจ ลูบผมนุ่มที่เอนลงมาซบไหล่อย่างอ้อนๆ นั่น ก่อนจะหันมามองคนเป็นพี่ก็เห็นว่าตาเริ่มปรือแล้วเหมือนกัน คงเพราะเหนื่อยจากการขับรถ


“ขึ้นไปนอนเลยไหมครับ ดึกป่านนี้แล้วพ่อกับแม่คงไม่กลับ”

“ยังไม่ถึงสี่ทุ่มเลยนะ”

“แถวนี้แค่สามทุ่มก็เข้านอนกันหมดแล้วครับ”

“งั้นขึ้นนอนเลยก็ได้ แต่สิบจะไม่มานอนกับพี่จริงๆ น่ะหรอ” เดือนสิบถึงกับตาโตเมื่อได้ยินคนเป็นพี่ออดอ้อน แต่พอหันกลับไปมองน้องชายที่กำลังหายใจเข้าออกสม่ำเสมอถึงได้ผ่อนลมหายใจออกมา

“โตแล้วอย่างอแงสิครับ ไม่ได้ดูน่ารักเลยนะ”

“ร้าย” มือหนาบีบปลายจมูกเขาเบาๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะฉกวูบลงหอมแก้มเขาฟอดใหญ่แล้วรีบผละออก เดือนสิบได้แต่อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าคนเป็นพี่จะกล้าทำแบบนี้

“ไปครับขึ้นนอนกัน” ร่างสูงว่า ตาคมพราวระยับดูมีความสุขจนน่าหมั่นไส้ อยากจะด่าก็ด่าไม่ออกเลยได้แต่ค้อนใส่อย่างเคืองๆ ก่อนจะหันมาปลุกน้องชายให้ลุกขึ้นไปนอนดีๆ ซึ่งครั้งนี้เดือนอ้ายยอมทำตามอย่างง่ายดาย คงเพราะง่วงมากแล้วจริงๆ แต่ดินสะโหลสะเหล่ขึ้นบันไดไปได้แค่สามขั้นก็หันกลับมากวักมือเรียกคนเป็นพี่ชายให้เดินตาม เดือนสิบเห็นแล้วก็ได้แต่ยิ้มขำ หันมามองหน้าคนเป็นพี่ก็เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าเซ็งๆ

“ไปครับ ขึ้นนอนกัน” ว่าจบก็ตบไหล่หนาปุๆ แล้วรีบเดินแกมวิ่งตามหลังน้องชายขึ้นบันได้ไป กลัวว่าถ้าอยู่นานกว่านี้คงได้ถูกอีกฝ่ายจับทำโทษที่บังอาจไปหัวเราะเยาะเจ้าตัวเข้า แต่หน้าของพี่ยุทธตอนที่มองเขาสลับกับเดือนอ้ายมันดูตลกมากจริงๆ นี่นา


“แสบจริงนะคนบ้านนี้”

คนถูกทิ้งได้แต่บ่นงึมงำกับตัวเอง ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินเสียงคนเป็นน้องเรียกบอกให้ขึ้นไปนอนได้แล้วเพราะเจ้าตัวจะปิดไฟ







20%






กลับมาแล้วววว มาสั้นด้วย // ตบบบ
ฮาร์ดดิสพังค่ะ ข้อมูลหายเกลี้ยงเลย ฮืออออ อย่าว่าเค้าา
ไม่รู้ว่าทุกคนลืมไปหมดหรือยัง แต่ใครที่ยังรออยู่ก็ขอขอบคุณมากๆ นะคะ ต่อไปนี้คาดว่าจะได้มาต่อเรื่อยๆ มากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่เวลาว่างเลย เพราะเราต้องทำงานไปด้วย รื้อพล็อตใหม่ด้วย ฮ่อลลล
 :L2:

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-05-2017 22:24:33
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-05-2017 22:49:36
มาต่อเร็วๆน้า
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: angelhani ที่ 28-05-2017 23:00:06
ดีใจมากค่ะที่มาต่อ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 28-05-2017 23:16:43
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-05-2017 23:23:48
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 29-05-2017 07:38:29
นึกว่าจะเท ดีใจมากมาย
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-05-2017 09:10:09
เดือนอ้าย แกล้งพี่ยุทธหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-05-2017 10:58:51
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

 :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up 20% [28/05/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 31-05-2017 23:59:24
สนุกดีครับ,,,
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 11-06-2017 22:08:55

ตอนที่ 19 ครบ



ปึก! ปึก!


เดือนสิบยืนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไงดี เมื่อเห็นว่าต้นเสียงที่ดังปึงๆ ลั่นไปถึงในครัวจนต้องออกมาดูคือคนตัวสูงที่กำลังตอกตะปูลงบนกิ่งต้นกัลปพฤกษ์อยู่บนบันไดอลูมิเนียมทรงเอ โดยมีน้องขายของเขาเป็นคนจับตัวบันไดให้มันนิ่งๆ อยู่ด้านล่าง เยื้องไปอีกหน่อยจะเห็นคนอายุมากสุดกำลังชื่นชมกล้วยไม้และไม้ดอกนานาพันธุ์ที่วางกระจายอยู่บนพื้นข้างรถของคนที่ปีนอยู่บนบันได ท่าทางถูกอกถูกใจแบบไม่เหลือมาดทำเอาคนมองอย่างลูกชายคนโตถึงกับส่ายหัว


“ทำอะไรกันน่ะพ่อ” เดือนสิบเดินเข้าไปใกล้ เสียงของเขาทำให้ทั้งสามคนหันมามอง


“มาพอดีเลยเอ็ง ช่วยเอานี่ไปแขวนไว้ตรงนั้นให้พ่อที” คนเป็นพ่อไม่ได้ตอบคำถามแต่ยื่นของในมือมาให้เขา เดือนสิบรับเอาเอื้องเขากวางอ่อนที่ถูกพันติดกับท่อนไม้จากคนเป็นพ่อมาถือไว้ ตากลมมองกล้วยไม้หลากพันธุ์หลายสิบต้นที่วางเรียงกันอยู่กับพื้นก่อนจะหันไปมองคนซื้อซึ่งอีกฝ่ายก็กำลังมองมาทางเขาอยู่พอดี ยุทธนายกยิ้มอ่อน คิ้วเข้มข้างหนึ่งยกขึ้นเหมือนกับจะอวดว่าของฝากที่ตนลงทุนขนมาเป็นที่ถูกอกถูกใจพ่อของเขาแค่ไหน


“พ่ออย่างเห่ออ่ะสิบ นี่ลงทุนเข้าไร่ตั้งแต่เช้ามืดไปขนเอาไม้มาเลยนะ น้ำเนิ้มก็ไม่ยอมอาบ” ท่อนไม้น้อยใหญ่ที่วางเกลื่อนอยู่โดยรอบยืนยันคำพูดของน้องชายได้เป็นอย่างดี เดือนสิบหัวเราะออกมาเบาๆ นั่งลงไม่ไกลจากผู้เป็นพ่อหลังเอากล้วยไม่ไปแขวนไว้ตามที่อีกฝ่ายบอก มือเรียวจับกระถางกล้วยไม้ต้นหนึ่งขึ้นมาดู อันที่จริงเขาไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับพวกไม้ดอกไม้ประดับมากนัก แต่เพราะพ่อกับแม่ชอบมากเลยเคยหาข้อมูลไว้บ้าง เจ้าต้นที่อยู่ในมือถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นรองเท้านารี แต่ไม่แน่ใจว่าสายพันธุ์ไหน เพราะตอนที่พี่ซื้อเขาไม่ได้ดูด้วย เจ้าต้นนี้ที่บ้านมีอยู่หลายพันธุ์เหมือนกันเพราะแม่ชอบมาก เรียกได้ว่าแทบจะเป็นนักสะสมเลยก็ได้


“ต้นนี้พันธุ์เหลืองกาญจน์ แม่เอ็งเขาบ่นว่าอยากได้นานแล้วแต่พ่อไม่มีเวลาพาไปหาซื้อซักที นี่ถ้าออกมาเห็นคงดีใจ” พ่อพูดไปมือก็พันลวดอ่อนรอบเอื้องสายเพื่อให้มันยึดติดกับท่อนไม้ไปด้วย “ต้องขอบคุณรุ่นพี่เอ็ง” พ่อเงยหน้าขึ้นมาพูดยิ้มๆ ดวงตาที่ผ่านอะไรมาเกือบห้าสิบปีมองไปทางลูกชายคนเล็กและชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ไม่ไกล


“แล้วนี่กำลังทำอะไรกันเหรอครับ” เดือนสิบมองตาม เห็นคนเป็นพี่กำลังรับโซ่เส้นใหญ่จากน้องชายของเขาขึ้นไปพันรอบกิ่งไม้ที่เพิ่งตอกตะปูกันสายโซ่เคลื่อนลงไป เขาเพิ่งสังเกตเห็นว่าชิงช้าตัวเก่าที่เคยห้อยอยู่ตรงนั้นถูกเอาออกไปแล้ว


“แม่เอ็งอยากได้ซุ้มชิงช้าใหม่ ไปเห็นที่บ้านยายแจ่มมาคราวก่อนบ่นกรอกหูข้าอยู่ทุกวันแต่ก็ไม่มีเวลาทำให้ซักที” เดือนสิบรู้ เพราะพ่อทำงานหนัก


“ไม่มีเวลาแต่เตรียมของไว้หมดแล้วเนี่ยนะพ่อ” ลูกชายคนเล็กที่หูดีได้ยินบทสนทนาว่าขึ้นเหมือนจะล้อ คนเป็นพ่อหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วพึมพำว่ารู้มาก


ของที่เตรียมไว้หมดแล้วของเดือนอ้ายก็คือชิงช้าตัวใหม่ที่ทำจากไม้สักทาสีย้อมไม้และลงแลคเกอร์เคลือบอย่างดี ใกล้กันเป็นเถาวัลย์ไม้เลื้อยขนาดกว้างประมาณสองนิ้วยาวเท่าไหร่ไม่แน่ใจ ที่เอาไว้เชื่อมระหว่างกัลปพฤกษ์สองต้นเพื่อทำเป็นซุ้ม ประจวบเหมาะกับของฝากที่ได้มาจากคนต่างถิ่นเป็นไม้ประดับพอดี ที่เหลือก็แค่ประกอบให้เข้าที่เข้าทาง


“ก็เตรียมไว้ให้เอ็งกับพี่กลับมาช่วยกันทำไงเจ้าอ้าย ข้าทำคนเดียวไหวที่ไหนชิงช้านั่นก็ได้ไอ้เจ้าเพชรมันมาช่วยเลื่อยไม้ให้ สีมันก็ช่วยทา ไม่อย่างนั้นคนแก่อย่างข้าเจอกลิ่นฉุนๆ ได้เป็นลมเป็นแล้งกันพอดี …เอาคีมตรงนั้นมาให้พ่อที” ประโยคหลังหันมาบอกลูกชายคนโต เดือนสิบยื่นคีมตัดลวดให้พ่อ


“แล้วนี่แม่ไม่รู้เลยเหรอพ่อ” คนถูกถามหัวเราะในลำคอ วางคีมตัดลวดลงพลางเอ่ยกับลูกชาย


“รู้สิ แต่แม่เอ็งเขาแกล้งไม่รู้”


สองพ่อลูกหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขเรียกความสนใจจากชายหนุ่มอีกสองคนที่เพิ่งทำสายห้อยชิงช้าเสร็จ ยุทธนาปีนลงจากบันไดก่อนที่เดือนอ้ายจะพับมันแล้วเอาไปพิงไว้กับต้นไม้ ช่วยกันเก็บเครื่องมือลงกล่องก่อนจะเดินมาหาสองพ่อลูกที่นั่งคุยกันอย่างถูกรส


“แอบนินทาแม่กันอยู่ใช่ไหม อ้ายจะฟ้อง” ไอ้คนตัวเล็กนั่งลงได้ก็ทำตัวน่าหมั่นไส้ในสายตาพ่อมันขึ้นมาทันที เลยถูกเขกกะบานจนต้องร้องโอดโอย  “โอ้ย พ่ออ่ะ!”


“เอ็งมันรู้มาก” โดนเขกแค่เบาๆ แต่มันดันร้องซะลั่น เดือนอ้ายหน้างอ เบียดกระแซะเข้าไปใกล้พี่ชายมากกว่าเดิม


“สิบดูพ่อดิ ยิ่งแก่ยิ่งชอบใช้กำลังอ่ะ ไม่น่ารักเล้ย …โอ้ยพ่อ! มันเจ็บนะ” ประโยคท้ายแทบจะร้องเสียงหลงเมื่อโดนคนถูกนินทาในระยะเผาขนลงมือซ้ำที่เดิม


“เนี่ย พูดยังไม่ทันขาดคำเลยอ่ะ สิบดูพ่อดิ” แทนที่จะรู้สึกสงสารเจ้าของหัวทุยที่กำลังเกลือกกลิ้งอยู่บนไหล่ เดือนสิบกลับแกล้งผลักมันออกอย่างไม่ใยดี


“สมควรโดน”


คำพูดเหมือนจะไร้เยื่อใยของพี่ชายทำเอาเดือนอ้ายอ้าปากหวอ ท่าทางเศร้าอกเศร้าใจอย่างที่ใครก็ดูออกว่าแกล้งทำก่อนที่เจ้าตัวจะขยับห่างจากพี่ชายไปนั่งเบียดชายหนุ่มอีกคน ไม่เบียดเปล่าแต่มันยังทิ้งตัวพิงไหล่ของคนที่เอาแต่นั่งยิ้มไปด้วยทั้งตัว


“พี่ยุทธช่วยด้วย” หน้ามนช้อนมองรุ่นพี่ที่ตนทึกทักเอาเองแล้วว่าสนิทหลังคุยกันได้ไม่นาน ด้วยท่าทางที่ถ้าคนไม่รู้จักเห็นก็คงต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าเอ็นดู ทว่าพ่อกับพี่ชายที่เห็นกันมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกนอกจากจะเอ็นดูแล้วยังมีความรู้สึกหมั่นเขี้ยวระคนหมั่นไส้ปนมาด้วย โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อที่ถึงกับส่ายหัวระอา


“พอเลยเอ็ง พี่เขาทำงานมาเหนื่อยๆ อย่าไปกวน” ตั้งแต่ขนกล้วยไม้ลงจากรถ แล้วเข้าไร่ไปช่วยเขาขนพวกท่อนไม้รากไม้ตั้งแต่เช้าตรู่ ไหนจะอาสาช่วยรื้อและทำสายห้อยชิงช้าให้จนมาถึงตอนนี้เพิ่งจะได้พัก แม้อากาศบนเขาจะเย็นแต่ใบหน้าคมก็มีเหงื่อซึมออกมาให้เห็น


“ผมกวนเหรอพี่ยุทธ”


คนถูกถามก้มมองเจ้าของใบหน้าหงอยๆ ทว่านัยน์ตาพราวระยับอย่างเด็กซนแล้วส่ายหัว เขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับแค่ต้องเป็นโซฟากิตติมศักดิ์ให้ไอ้ตัวเล็กนี่ทิ้งน้ำหนักใส่แบบไม่เกรงใจ ดีเสียอีกที่คนในครอบครัวของเดือนสิบเริ่มเปิดใจให้ และมองเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัว


โดยเฉพาะคนเป็นพ่อที่ถึงแม้ต่อหน้าลูกชายจะไม่ได้พูดคุยอะไรกับเขามากนัก แต่เมื่อเช้าตอนเข้าไร่ด้วยกันก็ซักประวัติเขาซะแทบขาวสะอาด ถึงจะทำเหมือนคุยเรื่องทั่วไปแต่เขาก็รู้สึกได้ว่ากำลังถูกอีกฝ่ายซักประวัติอยู่แน่ๆ ยุทธนาไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือมองว่ามันเป็นการละลาบละล้วงอะไร ดีเสียอีกที่พ่อน้องอยากรู้เรื่องของเขา ถึงอีกฝ่ายจะทำทีเหมือนถามไปงั้นๆ ก็เถอะ


“เห็นไหมพ่อ พี่ยุทธยังไม่ว่าอะไรซักคำ”


“เอ็งมันมึน” บ่นใส่ลูกชายที่ยิ้มร่ารับก่อนจะมองขึ้นไปสบสายตาไอ้หนุ่มคราวลูกอีกคน “อย่าไปตามใจมันให้มากนัก เห็นหน้ามันซื่อๆ อย่างนี้แต่ดื้ออย่าบอกใคร”


“โหยพ่อ ทำไมว่าแต่อ้ายคนเดียวอ่ะ สิบมันก็ดื้อเหมือนกันนะ” บุ้ยปากใส่พี่ชาย ไม่ยอมถูกว่าคนเดียว


“พอกันทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละพวกเอ็ง” ไอ้คนน้องดื้อโผงผางไม่ยอมใคร ส่วนไอ้คนพี่ก็ไม่น้อยหน้า ถึงปากจะรับคำครับๆ เหมือนยอมแต่ก็แอบดื้อเงียบ ดื้อตาใสให้เอาผิดไม่ลง รู้จักโอนอ่อน รู้ว่าทำยังไงถึงจะผ่อนผิดตัวเองให้กลายเป็นเบา ผิดกับน้องชายที่ดื้อแพ่งหัวชนฝา นิสัยมุทะลุขัดกับหน้าตาจนเขากับภรรยาต้องคอยเป็นห่วง


ช่วยกันประกอบชิงช้าอยู่ไม่นานร่างเล็กของผู้หญิงคนเดียวในบ้านก็เดินออกมาเรียกให้เข้าไปทานข้าว อย่างที่พ่อบอกว่าแม่ทำเป็นไม่รู้เรื่องที่พ่อแอบทำชิงช้าให้ ตอนออกมาเรียกถึงจะเห็นว่าพวกเขาสี่คนทำอะไรกันอยู่แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากทักท้วง ดวงตาเป็นประกายอีกทั้งใบหน้าเปื้อนยิ้มขณะพูดชักชวนไปเรื่องอื่น สองพี่น้องลอบสบตาแล้วยิ้มให้อย่างรู้กัน เพราะแม่น่ารักอย่างนี้พ่อถึงขัดใจไม่ได้ซักที


ครอบครัวชาวสวนใช้ชีวิตเรียบง่าย ข้าวปลาอาหารทำเองจากวัตถุดิบที่หาได้จากไร่จากสวน ทั้งปลาที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อประกอบอาหารและส่งขาย พืชผักปลูกกินเองและเผื่อแผ่เพื่อนบ้าน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารอบอวลไปด้วยความสุขแม้ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่มีทุกอย่างช่วยอำนวยความสะดวก ถึงจะไม่ได้ตกเป็นหัวข้อสนทนาบ่อยนัก แต่ยุทธนาก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนอื่น ทั้งน้องและครอบครัวเอาใจใส่เขา พ่อที่ถึงจะไม่ค่อยพูดอะไรเหมือนแม่ แต่การที่เลื่อนจานอาหารมาตรงหน้าเขาแล้วบอกให้ลองชิมก็เป็นการแสดงออกที่สัมผัสได้ว่าเอาใจใส่มากแล้ว






ตกเย็น สายลมเอื่อยพัดปะทะหน้าบางเบา สองร่างกำลังเดินทอดฝีเท้าอย่างไม่เร่งรีบไปตามคันดินซึ่งเป็นทางเท้า สองข้างทางขนาบด้วยไม้ผลยืนต้นที่ให้ผลตามฤดูกาล ในมือของคนเป็นน้องถือลำไยพวงใหญ่ที่ทั้งคอยปลิดกินเองและยื่นให้คนเป็นพี่ที่ถือคันเบ็ดตกปลาเดินเคียงข้าง สองฝั่งพื้นที่ยาวสุดสายตาเป็นทุ่งนากว้าง ต้นกล้าสีเขียวขจีเอนไหวตามแรงลมให้ความรู้สึกสบายตาสบายใจจากคนที่ได้พบเห็น


“เพราะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ดีแบบนี้หรือเปล่า ผิวถึงได้ดีแบบนี้” ดีแบบนี้ของคนตัวสูงคือผิวขาวเนียนละเอียดของคนเป็นน้องที่กำลังยื่นลำไยที่ถูกแกะเปลือกออกครึ่งหนึ่งมาให้ ยุทธนาจับข้อมือเล็กไว้แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยไปมา


“อยากลองมาอยู่ดูไหมล่ะครับ บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องทนรถติดทั้งเช้าสายบ่ายค่ำ บ้านเรา ที่เรา อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องกลัวสายตาคนอื่น ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกใครมองเป็นตัวตลกหรือแปลกประหลาด”


เสียงพูดเอื่อยๆ พอๆ กับสองเท้าที่ผ่อนจังหวะการก้าวเดินจนในที่สุดก็หยุดลง เดือนสิบยิ้มให้คนเป็นพี่ที่กำลังยกยิ้มตาม มือใหญ่กระชับมือเขาแน่นขึ้นแล้วแกว่งมันเบาๆ ขณะออกเดินอีกครั้ง ตาคมละจากใบหน้าเนียนของคนเป็นน้องแล้วทอดมองไปยังหนทางเบื้องหน้า รอยยิ้มยังไม่จางหายไป กลับกันมันยิ่งคลี่ออกกว้างขึ้นเรื่อยๆ ยามฟังเสียงคนข้างตัวพูดไปเรื่อยแล้วนึกภาพตาม


“ตื่นเช้า เข้าไร่ ปลูกผัก เลี้ยงปลาไว้ทำอาหารกินเองง่ายๆ ตกเย็นก็กลับบ้านพักผ่อนกับครอบครัว นั่งล้อมวงกินข้าวพร้อมหน้า พูดคุยสัพเพเหระ”


สายลมเอื่อยพัดเอาปอยผมปลิวไปด้านหลัง เดือนสิบแหงนมองเสี้ยวหน้าเปื้อนยิ้มของคนตัวสูง คล้ายรู้ตัวว่าถูกจับจ้องรอยยิ้มนั้นถึงได้กลับมาเป็นของเขาอีกครั้ง


“เอาไว้แก่ตัวลง หรือให้อะไรเข้าที่เข้าทางกว่านี้แล้วเรามาอยู่ที่นี่กันดีไหม ปลูกบ้านอีกหลังอยู่ใกล้ๆ พ่อกับแม่ ทำไร่ทำสวน ปลูกผักเลี้ยงปลากินกันง่ายๆ ถ้าสิบอยากมีลูกซักคนเราก็รับเด็กมาเลี้ยง หรือจะขอจากพี่ยิมกับพี่นาวมาซักคนก็ได้ถ้าสิบไม่สบายใจจะเลี้ยงลูกคนอื่น”


คิดไปถึงพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่ถึงจะแต่งงานกันมาเกือบสองปีแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมมีลูกซักที อันที่จริงคือพี่เขาน่ะอยากมีเต็มแก่ ติดก็แต่พี่สะใภ้ที่อ้างว่าอายุยังน้อยบออกว่าอยากทำงานก่อน แต่มันก็จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่าเพราะพี่สะใภ้เขาเพิ่งจะยี่สิบห้าเท่านั้นผิดกับพี่ชายที่ใกล้จะสามสิบอยู่รอมร่อ หน้าที่การงานก็มั่นคงเป็นถึงรองประธานบริษัทอยากมีลูกก็คงไม่แปลก


ยุทธนาพูดไปเรื่อยตามความคิดที่หลั่งไหลเข้ามาในหัวทว่าคนฟังนิ่งไปแล้ว ก้อนเนื้อในอกคล้ายทำงานผิดจังหวะ ถึงจะเคยคิดเผื่ออนาคตไว้บ้างแต่เขาก็ไม่เคยมองกาลไกลถึงขนาดนี้ แม้ไม่ได้มองถึงวันที่ต้องเลิกรากันแต่ก็ไม่ได้คิดไปถึงยามที่คบกันจนแก่เฒ่า เดือนสิบมองเสี้ยวหน้าเปื้อนยิ้มของคนเป็นพี่ ความรู้สึกมากมายตีรวนอยู่ภายในจนบอกไม่ถูก มันทั้งอึ้ง ตื่นเต้น แปลกใจระคนดีใจจนยากจะแยกแยะ


“ดีไหม” เสียงทุ้มเอ่ยย้ำ มาพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาจริงจังที่สบมอง เดือนสิบค่อยๆ ยิ้มตอบคนเป็นพี่ มือเล็กกว่าสอดประสานเรียวนิ้วเข้าด้วยกันกับมือใหญ่แล้วบีบกระชับ เหมือนเป็นการย้ำคำพูด


“ครับ แล้วเราจะมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน”





 :katai5:


หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 11-06-2017 23:00:37
 :L2: :pig4:


เหมือนจะหวานนะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-06-2017 23:15:32
 :-[ :-[ :-[ :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 11-06-2017 23:16:12
พี่ยุทธมาถูกทาง  :hao3:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-06-2017 01:59:05
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-06-2017 02:18:41
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-06-2017 08:16:31
พี่ยุทธ เข้าหาพ่อตาได้เนียน  :hao3:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 12-06-2017 10:22:09
อบอุ่นหัวใจจัง
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 12-06-2017 10:44:58
ดูละมุนจังเลย ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 12-06-2017 10:54:02
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: PYonG ที่ 12-06-2017 16:38:48
งื้ออ ละมุนน
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: silverrain ที่ 12-06-2017 17:23:34
บรรยากาศฟุ้งๆนี่คืออะไร
อิจฉางือ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 12-06-2017 20:52:27
รักพี่ยุทธเลยๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 13-06-2017 06:59:42
มาต่อแล้วว
หวานเหมือนเดิม :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 13-06-2017 18:20:56
พี่ยุทธเข้ากับครอบครัวน้องสิบได้ดีเชียวนะ  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 19 Up [11/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 13-06-2017 22:29:34
อยอุ่นมาก,,,
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 29-06-2017 14:08:20

20

   
เช้านี้อากาศค่อนข้างเย็นกว่าสามวันที่ผ่านมาเนื่องจากเมื่อคืนมีฝนตกปรอย ยุทธนากระชับเสื้อกันหนาวตัวใหญ่แน่นขึ้นเพิ่มความอบอุ่น ขายาวก้าวตามหลังคนตัวเล็กที่เดินนำอยู่ข้างหน้า เดือนสิบหันกลับมามองคนเป็นพี่อยู่บ่อยครั้ง อาจเพราะความที่ไม่ชินกับการต้องเดินขึ้นเขาตั้งแต่เช้ามืดและไม่ชินทางเหมือนเจ้าถิ่นจึงทำให้ร่างสูงค่อนข้างล่าช้า


“ไหวป่าววัยรุ่น” คนที่ยืนอยู่ห่างไปเกือบสองเมตรร้องถาม ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้มขำเมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่เริ่มมีอาการหอบ


“เหนื่อยแล้ววัยรุ่น อีกไกลไหมกว่าจะถึง” ร่างสูงพูดพลางหอบอยู่ในที เกือบครึ่งชั่วโมงหรืออาจจะนานกว่านั้นที่น้องพาเขาเดินขึ้นเขาตั้งแต่ออกจากเขตหลังบ้าน เดือนสิบไม่ได้บอกว่าจะพาไปไหน คนตัวเล็กโทรปลุกเขาตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างแล้วบอกแค่ว่าจะพาไปดูฐานลับของเจ้าตัว ยุทธนาไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร เอาจริงตอนนั้นเขาง่วงมากอยากนอนต่อใจจะขาด แต่เพราะเห็นท่าทางกระตือรือร้นของคนเป็นน้องแล้วมันปฏิเสธไม่ลง


“เกินครึ่งทางแล้วครับ อีกไม่นานก็ถึง พี่ยุทธไหวป่าวนั่งพักก่อนไหม” เดินแกมวิ่งเหยาะๆ ย้อนกลับมาหาคนเป็นพี่ เห็นท่าทางเหนื่อยหอบแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองพาอีกฝ่ายมาลำบากหรือเปล่า ทว่ายุทธนากลับสายหัว


“เดินต่อเถอะ พี่อยากไปเห็นฐานลับของเราแล้ว แต่ถ้าเห็นแล้วไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยนะ โดนแน่” ปลายจมูกรั้นถูกบีบแล้วส่ายไปมาตรงประโยคท้าย เดือนสิบย่นจมูกใส่คนเป็นพี่หลังอีกคนละมือออกแล้วว่าทั้งตาเป็นประกายอย่างมั่นอกมั่นใจ


“รับรองว่าเห็นแล้วต้องร้องว้าว”





ไม่ผิดไปจากคำพูดคนเป็นเจ้าบ้านนักเมื่อมาถึงที่หมาย ยุทธนาเดินตามหลังน้องที่ไปหยุดยืนอยู่หลังรั้วไม้สีขาว ความเหนื่อยล้าจากที่เดินขึ้นเขามาเกือบชั่วโมงคล้ายจะหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นภาพตรงหน้า มือหนายกกล้องที่คนเป็นน้องกำชับบอกให้เอาติดมาด้วยขึ้นเก็บภาพแสงแรกของวันที่กำลังโผล่พ้นเส้นขอบฟ้าตัดกับท้องทุ่งนาสีเขียว สายลมยามเช้าพัดเอื่อยๆ จนต้นกล้าเอนไหวทำให้มองดูคล้ายกับคลื่นทะเลสีเขียวที่ทอดยาวไปจนสุดลูกหูลูกตา


“เมื่อก่อนเวลาน้อยใจพ่อกับแม่ ผมกับน้องชอบหนีขึ้นมาเล่นกันอยู่บนนี้ อันที่จริงต้องบอกว่าเราแอบใช้มันเป็นที่วางแผนเอาคืนพ่อกับแม่มากกว่า” เดือนสิบหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อคิดไปถึงวีรกรรมของตัวเองกับน้องชายสมัยยังเด็ก จากคนไม่เคยห่างบ้าน นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสกับบรรยากาศคุ้นเคยแบบนี้ ร่างเล็กสูดหายใจลึกทั้งที่ยังหลับตาซึมซับเอาบรรยากาศ แสงสีส้มอ่อนจากดวงอาทิตย์ที่ค่อยเคลื่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ ขับให้ใบหน้าเนียนดูนวลผ่อง


กระทั่งได้ยินเสียงชัตเตอร์จากคนที่ขึ้นมาด้วยกันดวงตาคู่นั้นถึงได้ลืมขึ้น


“แน่ะ มาแอบถ่ายกันเฉยๆ ได้ไง ค่าตัวผมแพงนะ” เดือนสิบว่ายิ้มๆ พลางเอียงคอมองช่างภาพกิตติมศักดิ์ที่ลดกล้องลงเพียงเล็กน้อยขณะเอ่ยตอบ


“ไม่เป็นไรหรอก พี่รวย” คนรวยว่าแล้วก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายอีก คราวนี้กดถ่ายรัวจนนายแบบค่าตัวแพงต้องร้องห้าม


“จริงๆ เลยพี่ยุทธนี่ เดี๋ยวก็ได้หมดตัวจริงๆ หรอก” แกล้งดุไม่จริงจัง เรียกแววตาพราวระยับจากคนเป็นพี่


“ไม่กลัว เพราะถ้าหมดตัวจริงๆ คนแถวนี้ก็คงไม่ใจร้ายปล่อยให้พี่ต้องอดตายหรอก ใช่ไหม”


เดือนสิบส่งเสียงหึขึ้นจมูก มือเรียวแบออกเป็นเชิงขอกล้องจากคนเป็นพี่ พออีกฝ่ายวางมันลงบนมือ เขาถึงได้เป็นฝ่ายยกขึ้นถ่ายคนตัวสูงบ้าง


“เล่นอะไรเรา” ตาคมหรี่มองคนที่ได้ทีก็รัวชัตเตอร์ใส่เขาไม่หยุด เดือนสิบลดกล้องลงหลังถ่ายอีกฝ่ายจนพอใจ แล้วส่งกล้องคืนให้คนเป็นพี่ กลีบปากสวยเผยยิ้มซุกซน


“จะได้หายกันไงครับ แค่นี้พี่ยุทธก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหมดตัวแล้ว” ว่าแล้วก็ยักคิ้วข้างเดียวให้เป็นการปิดท้าย


ยุทธนาเผยยิ้มเอ็นดู มือหนายื่นไปยีผมนุ่มของคนที่ยังยิ้มไม่หยุด ไม่รู้ว่าห่วงเขาหรือห่วงตัวเองที่ต้องรับดูแลคนไม่กลัวว่าจะหมดตัวอย่างเขากันแน่



“พี่ยุทธ” เงียบกันไปซักพักเดือนสิบก็เอ่ยขึ้น ยุทธนาลดกล้องลงอีกครั้งแล้วหันกลับมามองคนข้างตัว เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่คนที่เอ่ยเรียกกลับมีท่าทีอึกอักจนเขาต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามย้ำ


“มีอะไรรึเปล่า”


“คือ ..พี่ยุทธ ..ชอบผู้ชายมานานรึยังครับ” เดือนสิบถามอย่างไม่มั่นใจนัก เขาไม่แน่ใจว่ามันเป็นคำถามที่ควรถามหรือเปล่า แต่ก็นั่นแหละ มันเป็นคำถามที่ค้างคาใจเดือนสิบมานาน


“อืม… ถ้าเอาแบบที่คบจริงจังก็น่าจะตอนอยู่ ม.ปลายปีสุดท้าย หลังจากนั้นก็คบมาเรื่อยๆ และไม่ได้มองผู้หญิงอีก” ยุทธนาตอบเรียบเรื่อย วางมือลงบนหัวคนขี้กังวลแล้วโยกไปมา ยุทธนาเป็นเกย์ เขารู้ตัวเองตั้งแต่อายุสิบห้า แต่เพิ่งมายอมรับตัวเองจริงๆ ก็ตอนสิบแปด ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและอยากรู้อยากลอง


“พูดแบบนี้แสดงว่าต้องเคยมีแฟนมาแล้วหลายคนแน่เลย ใช่ไหมพี่ยุทธ” ยุทธนายกยิ้ม มองคนเป็นน้องที่ดูเหมือนอยากจะรู้จริงๆ มากกว่าประชดประชันหรือหาเรื่อง


“สามคน” ไม่รวมกับพวกที่ลองคบเล่นๆ น่ะนะ ประโยคท้ายยุทธนาคิดว่าเขาไม่ควรพูดออกไปจะดีกว่า “คนแรกตอน ม.ปลาย คนที่สองตอนปีหนึ่ง และคนสุดท้าย …คือคนนี้” เขาใช้นิ้วจิ้มแก้มนิ่มๆ ของน้องตอนที่พูดว่า ‘คนนี้’


เดือนสิบกลั้นยิ้ม ปัดมือคนเป็นพี่ออกเบาๆ แล้วหันหน้าหนี แต่ดูเหมือนคนช่างแกล้งจะยังไม่พอใจเพราะคราวนี้เสียงทุ้มๆ ถึงกับมาดังอยู่ข้างหู


“แล้วพี่ ..พอจะเป็นคนสุดท้ายของสิบได้ไหม”


ฉ่า..
เดือนสิบเคยคิดว่าอาการพวกนี้จะหายไปเมื่อเขาคุ้นเคยกับคนเป็นพี่มากขึ้น แต่เปล่าเลย ไอ้อาการมือไม้เกะกะและวางหน้าไม่ถูกมันยังไม่หายไปไหน กลับกันมันยิ่งดูเหมือนจะหนักขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคนขี้แกล้งได้ทีก็แกล้งเอาๆ อยู่อย่างนี้


“ไม่รู้ครับ ต้องดูไปยาวๆ ก่อน” แกล้งตีหน้าเข้มทั้งที่ก้อนเนื้อในอกเต้นตูมตาม เมื่อไหร่จะชินกับไอ้ตาวาวๆ นี่ได้ซักทีเดือนสิบก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน


“ขนาดนี้แล้วยังไม่ไว้ใจกันอีกเหรอ พี่มันดูไม่น่าเชื่อถือขนาดนั้นเลยหรือไง” ยุทธนาแกล้งโอด ใบหน้าคมเข้มหงอยลงอย่างที่ใครดูก็รู้ว่าแกล้งทำจนคนเป็นน้องนึกหมั่นไส้


“โว๊ะ พี่ยุทธนี่ …ถ้าไม่ไว้ใจจะยอมให้ขนาดนี้ไหมเล่า” ประโยดหลังเจ้าตัวบ่นอุบอิบ แต่มีหรือที่คนอยู่ห่างไปไม่ถึงไม้บรรทัดจะไม่ได้ยิน เพียงเท่านั้นยุทธนาก็ยิ้มกว้าง ฉวยโอกาสหอมแก้มเนียนเน้นๆ แบบไม่บอกกล่าวขนาดนี่คนโดนหอมยังตกใจ


“มัดจำไว้ก่อน กลับกรุงเทพเมื่อไหร่จะจับกินทั้งตัว”
แล้วไหนจะคำพูดสองแง่สองง่ามชวนให้หน้าร้อนนี่อีก เดือนสิบอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด คนอะไรนับวันยิ่งร้ายยิ่งเจ้าเล่ห์ แต่คิดอีกทีพี่มันก็ไม่ใสมาตั้งแต่แรกแล้วนี่หว่า


“บ้าแล้วพี่ยุทธ ใครจะยอม” แม้จะเขินจนหน้าแดงไปหมดแต่ก็ไม่วายเก็กตอบเสียงขรึม ยุทธนาตาพราว อยากรู้นักว่าอีกฝ่ายจะเก็กทำหน้านิ่งๆ ไปได้ซักแค่ไหน


“มั่นใจว่าขัดพี่ได้ก็ลองดูสิ” ระยะห่างระหว่างกันลดลงไปอีก เมื่อคนช่างแกล้งโน้มหน้าลงไปหาแทบชิดจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ตาคมพราวระยับสื่อความหมายบางอย่างจ้องลึกเข้าไปในม่านตากลมของอีกฝ่าย


“พอเลยๆ พี่ยุทธ เลิกพูดเรื่องนี้ครับ ไม่เอาแล้ว เปลี่ยนๆๆ” แล้วก็เป็นเดือนสิบที่ทนถูกแกล้งต่อไม่ไหว ขาเรียวก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติยามริมฝีปากร้ายกาจของคนเป็นพี่เฉียดเข้าใกล้กลีบปากของตัวเอง พลางโบกมือโบกไม้เป็นพลันวันหวังให้อีกฝ่ายเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นที่ไม่ทำให้เขาหน้าร้อนไปกว่านี้ซักที ผิดกับคนพี่ที่ตาพราวระยับอย่างชอบใจที่แกล้งน้องได้


“ฮึ่ม หมั่นเขี้ยวว่ะ ไม่อยากทนเลย อยากจับฟัดแล้วเนี่ย” คนอยากไม่อยากเปล่า วาดแขนแกร่งโอบเอาคนเป็นน้องเข้าไปฟัดจนทั้งหน้าทั้งหูที่แดงอยู่แล้วยิ่งแดงขึ้นไปอีก


“พี่ยุทธธธ ฮ่าๆๆ พอแล้วๆ พอแล้วครับ กลับกรุงเทพก่อนเดี๋ยวค่อยฟัด เนอะๆ” เดือนสิบพูดพลางหอบ ทั้งเจ็บทั้งจักจี้เพราะไรหนวดแข็งๆ ของคนเป็นพี่ทิ่มเอา ยุทธนาพอเห็นอีกฝ่ายหอบจนหน้าแดงหูแดงก็ฟัดแก้วขาวหนักๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยอมปล่อยออก แล้วไอ้คำพูดคำจานั่นก็ไม่รู้ว่าใครสอน น่ารักจนเขารักแทบบ้า!


“จำที่ตัวเองพูดไว้ให้ดีนะตัวแสบ กลับกรุงเทพเมื่อไหร่โดนแน่”


เดือนสิบส่งเสียงหึขึ้นจมูกใส่คนที่ใช้นิ้วจิ้มปลายจมูกเขา ในใจชักเริ่มหวั่นกับท่าทีเอาจริงของคนเป็นพี่ที่ดูยังไงคนพูดก็ไม่น่าพูดเล่น เอาเถอะ พอถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที เผลอๆ กว่าจะกลับกรุงเทพคนเป็นพี่อาจลืมไปแล้วก็ได้ว่าเขาพูดอะไร






“ไปไหนกันมาตั้งแต่เช้า”


คำทักทายแรกของวันจากเจ้าของบ้านทำให้ทั้งสองคนที่เพิ่งเดินเข้ามาในเขตรั้วชะงักฝีเท้าโดยอัตโนมัติ เดือนสิบเหลือบมองคนเป็นพี่เล็กน้อย ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปประจบคนเป็นพ่อ


“สิบพาพี่ยุทธไปดูวิวบนเขาหลังบ้านมา พ่อตื่นเช้าจัง”


“ข้าก็ตื่นเวลานี้อยู่ทุกวัน” บอกกับลูกชาย ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับอีกหนึ่งหนุ่มที่ยกมือไหว้ “แล้วเป็นไงล่ะเอ็ง ชอบไหมบรรยากาศบ้านนอกคอกนา มองไปทางไหนก็เจอแต่ป่าแต่เขา”


“ชอบมากครับสวยมาก บรรยากาศก็ดีมากด้วย” ยุทธนาตอบอย่างจริงใจ เขาชอบบรรยากาศแบบนี้จริงๆ มันทั้งสงบและให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก


ชายสูงวัยกว่าพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงรับรู้ “ดีแล้วที่ชอบ มาแล้วก็พากันขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าได้แล้วไป เดี๋ยววันนี้แม่เอ็งจะพาไปวัด ปลุกเจ้าอ้ายมันด้วยนะ”


“มีงานเหรอพ่อ” เดือนสิบถามอย่างแปลกใจ ปกติแม่จะใส่บาตรเอาเพราะมันสะดวกมากกว่า จะไปวัดก็แต่วันพระหรือช่วงที่มีงานบุญเท่านั้น


“ก็วันเกิดเอ็งนั่นแหละ ลืมอีกแล้วหรือไง ไปๆ ไปอาบน้ำอาบท่ากันได้แล้วเดี๋ยวจะสาย”


คนที่ลืมไปว่าวันนี้เป็นวันเกิดตัวเองเดินเข้าบ้านตามแรงรุนหลังของคนเป็นพ่ออย่างมึนๆ แต่ในขณะที่เดือนสิบยังดูงงๆ ใครอีกคนที่เดินตามหลังมาก็เริ่มขมวดคิ้ว ยุทธนาเองก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเดือนสิบ เขาไม่เคยถามและน้องก็ไม่เคยบอก ในหัวคนอยากทำคะแนนเริ่มครุ่นคิดว่าจะทำอะไรให้อีกฝ่ายดีขณะเดินตามแผ่นหลังเล็กไปติดๆ


เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบนเดือนสิบก็บอกให้พี่ไปอาบน้ำก่อน ส่วนตัวเองก็แยกเข้าห้องไปปลุกน้องชาย ก่อนจะลงไปอาบน้ำบ้างหลังคนเป็นพี่อาบเสร็จ จากนั้นก็กลับขึ้นมาแต่งตัวแล้วบอกให้เดือนอ้ายที่ยังเมาขี้ตาลงไปอาบบ้าง ไม่ถึงเจ็ดโมงดีเขากับพี่ยุทธก็ลงมาช่วยแม่เตรียมของและขนขึ้นรถ ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาทีเดือนอ้ายที่ยังสะลึมสะลือแม้จะอาบน้ำแล้วก็ตามลงมา


“ง่วงชะมัด” เดือนอ้ายบ่นอุบอิบขณะยืนพิงข้างรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ พลางอ้าปากหาววอด เดือนสิบที่เดินยกสังฆทานมาขึ้นรถเห็นเข้าพอดีเลยโยกหัวฟูๆ ของน้องชายไปมา ก่อนจะจัดมันให้เข้าทรง


“ก็มัวแต่เล่นเกมไง บอกให้นอนไม่ยอมนอน”


“ทีพี่ยุทธก็เล่นจนดึกเหมือนกันอ่ะ สิบไม่เห็นว่า” เดือนอ้ายหน้ามุ่ย ดวงตาที่ยังดูสะลึมสะลือมองไปยังอีกหนึ่งผู้ร่วมกระบวนการที่เช้านี้ดูจะสดใสเป็นพิเศษ ทั้งที่เมื่อคืนก็นั่งเล่นเกมด้วยกันจนดึกดื่นแท้ๆ


“ก็ว่าให้หมดทุกคนนั่นแหละ แต่เคยฟังกันบ้างไหมล่ะ” เดือนสิบบ่นบ้าง สองคนนี้เข้าคู่กันทีไรเดือนสิบเหมือนโดนรุม ไอ้คนเป็นพี่ก็น่าตีนัก น้องเขาพูดอะไรบอกอะไรก็อือออด้วยหมด ไม่รู้อยากทำคะแนนหรืออยากแกล้งเขากันแน่


“สิบนี่ขี้บ่นเหมือนพ่อชะมัด”


“เดี๋ยวจะฟ้องพ่อ” เดือนสิบยกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย


“ตลอดๆ ขี้บ่นไม่พอยังขี้ฟ้องด้วย ไม่คุยด้วยแล้ว ไปช่วยแม่ดีกว่า” ว่าแล้วเจ้าตัวก็ก้าวเร็วๆ ไปหาคนเป็นแม่ที่กำลังเดินถือขันดอกไม้ออกมาจากบ้าน แต่ก่อนไปก็ยังไม่วายแกล้งเดินกระแทกไหล่คนเป็นพี่ชายไม่เบานัก จนอีกฝ่ายเซไปชนกับร่างสูงที่เดินเข้ามารับไว้แบบได้จังหวะพอดี


“เป็นอะไรไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อคนเป็นน้องผละออกไปยืนดีๆ เดือนสิบส่ายหัวให้คนเป็นพี่ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่น้องชายที่กำลังหัวเราะร่าขณะรับเอาขันดอกไม้จากแม่มาถือไว้เอง


“เล่นอะไรกันสองหน่อ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีแปลกๆ ของลูกชายทั้งสอง ไอ้คนพี่ก็แง่งๆ ไอ้คนน้องก็หัวเราะร่าราวกับอารมณ์ดีนักหนา


“อ้ายแกล้งสิบอ่ะแม่” เดือนสิบชิงฟ้องก่อนพลางเดินเข้าไปกอดแขนคนเป็นแม่ เดือนอ้ายได้ยินอย่างนั้นก็หน้ามุ่ย ฝากขันดอกไม้ให้คนตัวสูงที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลถือไว้ก่อนจะเดินเข้ามากอดแขนอีกข้างของคนเป็นแม่แล้วแก้ความไม่ยอมแพ้


“สิบเริ่มก่อนต่างหากแม่”


“แม่เห็นสิบเป็นคนขี้แกล้งเหรอ อ้ายนั่นแหละเริ่มก่อน” ไอ้คนพี่ก็ใช่จะยอมลงให้ เถียงกลับคอเป็นเอ็นไม่แพ้กัน


“สิบนั่นแหละตัวดีเลย แม่ต้องเชื่ออ้ายนะ อ้ายเป็นน้อง”


“พอเลยทั้งสองคน โตแล้วยังเถียงกันเป็นเด็กๆ ไม่อายพี่เขาหรือไง” คนเป็นแม่ว่ายิ้มๆ มองลูกชายทั้งสองที่เอาแต่แง่งๆใส่กันสลับกันไปมา ก่อนสายตาอ่อนโยนจะมองเลยไปยังอีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังมองมาทางพวกเขาสามคนแม่ลูก พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ ที่ประดับบนใบหน้าอยู่เหมือนกัน


“เอาของขึ้นรถกันหมดแล้วใช่ไหมแม่” สองพี่น้องเป็นอันต้องสงบศึกเมื่อคนเป็นพ่อเดินออกมา แม่รับคำแล้วบอกให้พวกเขาช่วยกันสำรวจดูของท้ายรถอีกรอบ พอเห็นว่าไม่ได้ลืมอะไรแล้วก็พากันขึ้นรถเพราะกลัวว่าถ้าช้ากว่านี้จะไปไม่ทัน



วัดที่พ่อเดือนสิบพามาทำบุญเป็นวัดป่าเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเกือบยี่สิบกิโลเมตร พระในวัดมีเพียงห้ารูป และหนึ่งในนั้นคือหลวงตาของเดือนสิบ ครอบครัวชาวสวนกับอีกหนึ่งหนุ่มจากเมืองกรุงช่วยกันขนของลงรถ ก่อนเดือนสิบจะแยกไปช่วยแม่จัดกับข้าวใส่จาน เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาชาวบ้านจึงนิยมใส่บาตรมากกว่ามาวัด นอกจากคนเฒ่าคนแก่สี่ห้าคนก็มีแต่ครอบครัวของเดือนสิบเท่านั้นที่มาทำบุญในวันนี้


 “เข้าไปถวายกับน้องสิลูก” คนเป็นแม่เอ่ยบอกร่างสูงที่นั่งพนมมืออยู่ข้างๆ เมื่อถึงคราวถวายสังฆทาน คนไม่ค่อยได้เข้าวัดทำบุญบ่อยนักหันซ้ายแลขวาอย่างเก้กังจนหญิงวัยกลางคนเอ่ยย้ำอีกรอบ ยุทธนาขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ กับสองพี่น้องแล้วเอื้อมมือไปแตะสังฆทานที่คนเป็นน้องใจดีขยับแบ่งมาใกล้เพื่อให้เขาได้จับอย่างถนัด

…สงสัยกลับกรุงเทพคราวนี้เขาคงต้องชวนน้องเข้าวัดบ่อยๆ ซะแล้ว ยุทธนาหมายมาดในใจ


หลังถวายสังฆทานเสร็จยุทธนาและสองพี่น้องก็ออกมาช่วยกันเก็บกวาดลานวัด รวมถึงทำความสะอาดห้องน้ำ และกุฏิขนาดไม่ใหญ่ที่มีเพียงสี่หลัง เพราะอีกหลังยังสร้างไม่เสร็จ ในตอนที่ขึ้นไปทำความสะอาดกุฏินั่นเองที่ทำให้ยุทธนารู้ว่าวัดป่าแห่งนี้ไม่มีไฟฟ้าใช้ เขาเห็นตะเกียงที่คล้ายตะเกียงโบราณแขนอยู่ตามทางเดินและทางขึ้นกุฏิหลายอัน พอเอ่ยถามคนเป็นน้อง เดือนสิบบอกว่าตอนนี้ชาวบ้านกำลังทำเรื่องต่อไฟฟ้าเข้ามา แต่เพราะปัจจัยยังมีไม่ถึงเลยต้องรอไปก่อน หนุ่มเมืองกรุงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะเดินไปช่วยเด็กวัดที่มีเพียงคนเดียวยกตู้เก็บของออกมาทำความสะอาด



“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับแม่” คนที่กำลังเช็ดชามกระเบื้องเคลือบอยู่ในครัวชะงักมือเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองชายหนุ่มรุ่นลูกแล้วยิ้มให้ ยุทธนาเดินเข้าไปหยุดตรงซิงค์ล้างจานข้างเจ้าของร่างที่เล็กกว่าเขาอยู่มาก และโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธมือหนาก็หยิบผ้าอีกผืนที่วางอยู่แถวนั้นมาช่วยอีกฝ่ายเช็ดจานที่เหลือ


“ขอบใจจ่ะ แล้วนี่อีกสองหน่อไปไหนกัน”


“ไปดูสระบัวกับหลวงตาครับ” คนเป็นแม่พยักหน้ารับรู้ พลางรับจานกระเบื้องจากเขาไปเก็บเข้าตู้


“แล้วยุทธไม่ไปกับน้องล่ะลูก”


“ผมอยู่ช่วยพ่อรื้อแปลงดอกไม้น่ะครับ เพิ่งเสร็จเมื่อกี้ เอ่อ แม่ครับ” ยุทธนายื่นจานใบสุดท้ายให้ผู้หญิงตรงหน้า ใบหน้าคมคายฉายแววลังเลเล็กน้อย


“จ้ะ?”


“แถวนี้มีร้านขนมหวานไหมครับ”


“หืม” คนถูกถามฉายแววแปลกใจเล็กน้อย ยุทธนาเลยได้แต่ยิ้มแห้งส่งให้ “…ในหมู่บ้านเราไม่มีหรอกลูกต้องขับรถเข้าไปในเมืองโน่น ประมาณสิบห้าสิบหกกิโล ถ้ายุทธจะไปเดี๋ยวแม่บอกให้น้องพาไปไหม”


“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปเองดีกว่า เอ่อ แม่ครับ”


“จ้ะ?”


“คือ ..อย่าบอกเดือนสิบนะครับ ที่ผมถาม” เขาบอกอย่างไม่มั่นใจ ทว่าคนเป็นแม่กลับยิ้มให้อย่างใจดี


“ได้สิจ้ะ ถ้ายุทธไม่อยากให้เดือนสิบรู้ลองชวนพ่อเขาให้พาไปก็ได้นะลูก เห็นว่าอยากเข้าเมืองไปซื้อปุ๋ยอยู่พอดี”


“ครับ เดี๋ยวผมจะลองชวนดู”





ตกบ่าย หลังกลับมาถึงบ้านและช่วยกันเก็บของลงจากรถ พี่น้องสองเดือนก็ถือถังน้ำและเบ็ดตกปลาคนละคันปั่นจักรยานเข้าไร่ เป็นเดือนอ้ายที่กระตือรือร้น เพราะตั้งแต่รถเคลื่อนตัวออกจากวัดก็เอาแต่พูดถึงเรื่องฉลองวันเกิดคนเป็นพี่ แล้วเมนูก็ไม่พ้นปลาเผาที่เจ้าตัวคุยโวไว้ว่าฝีมือทำน้ำจิ้มของตัวเองดีนักหนา


คล้อยหลังสองพี่น้องไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ยุทธนาก็เอ่ยชวนคนอายุมากกว่าเรื่องที่จะเข้าไปในเมือง ทีแรกเขานึกว่าจะถูกปฏิเสธเพราะอีกฝ่ายเพียงฟังนิ่งๆ แต่กลับกันพ่อของเดือนสิบกลับยอมตกลงอย่างง่ายดาย ลงมาถึงในเมืองยุทธนาก็เอ่ยถามว่าพ่อน้องจะซื้ออะไร พออีกฝ่ายบอกจะแวะซื้อปุ๋ยและยาฆ่าหญ้าเขาก็จอดแวะให้ ก่อนตัวเองจะขอตัวแล้ววิ่งข้ามถนนไปอีกฝั่งเมื่อเห็นร้านขายขนมหวานอยู่ไม่ไกล


“คือ ..ผมฝากถือนี่หน่อยได้ไหมครับ” ยุทธนาออกปากอย่างเกรงใจเมื่อพวกเขากลับขึ้นมาบนรถ คนสูงวัยรับกล่องในมืออีกฝ่ายมาถือไว้ พลางมองสำรวจ


“เค้กวันเกิดเจ้าสิบมันรึ”


“ครับ”


“ที่ตั้งใจเข้ามาในเมืองก็เพราะเรื่องนี้งั้นเรอะ” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยถาม ยุทธนาไม่รู้ว่าคนข้างตัวทำหน้ายังไง เพราะตอนนี้เขาเริ่มออกรถแล้ว แต่ก็รับคำอีกฝ่ายอย่างฉะฉาน


“ใช่ครับ”


คนสูงวัยกว่าไม่ได้พูดอะไรอีก ยุทธนาก็เช่นกัน พวกเขานั่งเงียบๆ ปล่อยให้บรรยากาศอึดอัด (ที่ยุทธนาคิดไปเองคนเดียว) ปกคลุมทั่วห้องโดยสาร กระทั่งมาถึงบ้าน เขาช่วยพ่อน้องยกปุ๋ยลงจากรถ ก่อนจะเอาเค้กและของขวัญที่แอบซื้อมาขึ้นไปเก็บไว้บนห้อง เกือบสี่โมงเย็นเดือนสิบกับเดือนอ้ายก็กลับมา แต่นอกจากปลาตัวใหญ่ที่ตกได้ยังมีผักอีกสองสามชนิดที่สองพี่น้องเก็บกลับมาด้วย


หนนี้เดือนอ้ายออกปากว่าจะเป็นคนโชว์ฝีมือเองเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดแก่เขา เดือนสิบยิ้มขำกับท่าทางเอาจริงเอาจังของน้องชายพลางเอ่ยปากถามย้ำ เพราะไม่บ่อยนักหรอกที่จอมขี้เกียจอย่างเดือนอ้ายจะเข้าครัว


“เชื่อมือเถอะน่า” คนเป็นน้องออกปากย้ำอย่างมั่นอกมั่นใจ เขาเลยแยกไปช่วยแม่ที่กำลังล้างผักอยู่หน้าซิงค์

.
.
.
มีต่อ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: เล็กต้มยำ ที่ 29-06-2017 14:12:47

.
.
.

หน้าบ้าน ยุทธนากำลังช่วยคนสูงวัยกว่ายกโต๊ะไม้ตัวยาวและเก้าอี้ออกมาตั้งเพื่อเตรียมสถานที่ เห็นนิ่งๆ แบบนี้แต่ดวงตาเป็นประกายของคนสูงวัยก็ฉายชัดขนาดที่เขายังมองออก ไหนจะเบียร์เป็นลังที่บอกให้เขาแวะซื้อตอนผ่านร้านค้าในหมู่บ้านและกำชับว่าอย่าเพิ่งยกลงจากรถนั่นอีก เผลอๆ อาจจะดูตื่นเต้นกว่าเจ้าของงานอย่างลูกชายด้วยซ้ำไป


เกือบหกโมงเย็น พ่อครัวกิตติมศักดิ์ก็เริ่มลำเลียงปลาเผาและน้ำจิ้มรสเด็ดที่คุยโวเอาไว้ว่าอร่อยนักหนาออกมาเสิร์ฟโดยมียุทธนาที่อาบน้ำเสร็จแล้วคอยช่วย ส่วนเจ้าของวันเกิดและพ่อกับแม่หลังเตรียมอะไรเสร็จก็ถูกไล่ให้ไปอาบน้ำและลงมานั่งรอกินอย่างเดียว สามพ่อแม่ลูกมองดูไอ้ตัวเล็กของบ้านจัดโน่นจัดนี่จนเสร็จ ก่อนมันจะวิ้งปรู๊ดขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าแล้ววิ่งกลับลงมาด้วยเวลาไม่ถึงสิบห้านาที ใบหน้าสดใสแย้มยิ้ม ขณะเอ่ยนำเสนอเมนูเด็ดที่เจ้าตัวภูมิอกภูมิใจนักหนา


“Happy birthday to you
Happy birthday to you
Happy birthday Happy birthday
Happy birthday to you…..”



เสียงที่ดังขึ้นจากทางหน้าบ้านเรียกให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกัน เดือนสิบตาโต มองร่างสูงของคนมาใหม่ที่กำลังยิ้มกว้าง ขณะเดินเข้ามาในบ้านโดยถือเค้กก้อนใหญ่ไว้ในมือ


“พี่เพชร!!” สองพี่น้องประสานเสียงออกมาพร้อมกัน


“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ไอ้แสบ” เดือนสิบหน้ามุ่ยกับสรรพนามที่อีกฝ่ายใช้เรียก แต่เพียงไม่นานใบหน้าน่ารักก็เปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างอย่างยินดี


“มาได้ยังไงเนี่ย ไหนลุงพงษ์บอกกลับเชียงใหม่ไปแล้วไง”


“วันเกิดน้องชายทั้งทีนี่หว่า แล้วข่าวว่าวันนี้มีปลาเผาฝีมือไอ้แสบสองด้วยใครจะพลาด” คนมาไหมว่าทั้งรอยยิ้ม วางเค้กลงตรงหน้าเจ้าของวันเกิดแล้วยกมือไหว้ผู้อาวุโสทั้งสอง ก่อนสายตาจะเลื่อนไปสบกับอีกหนึ่งหนุ่มแล้วยิ้มให้ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มน้อยๆ ตอบกลับมาไม่ต่างกัน


“ที่แท้ก็เห็นแก่กินนี่หว่า โด่วว” ไอ้แสบสองได้ยินอย่างนั้นก็อดแขวะออกมาอย่างไม่จริงจังไม่ได้


“ฮะๆๆ เอาน่า แต่ตอนนี้เจ้าของวันเกิดเป่าเทียนก่อน” เดือนสิบพยักหน้ารับแล้วประนมมือขึ้นพลางหลับตาอธิฐาน ไม่นานก็ลืมตาขึ้นแล้วก้มลงเป่าเค้กท่ามกลางรอยยิ้มและเสียอวยพรจากทุกคน


“ใช้ชีวิตให้ดี ใช้ให้มีสติ โดยเฉพาะเอ็ง เจ้าอ้าย อย่าห้าวให้มากนัก จะทำอะไรคิดให้ดี คิดถึงใจคนที่รออยู่ข้างหลัง เข้าใจไหม …เล่นได้เที่ยวได้ แต่อย่าให้มันมากเกินไปจนละเลยหน้าที่ มีความสุขมากๆ นะพวกเอ็ง” คนเป็นพ่อว่าพลางลูบหัวลูกชายทั้งสองคนที่นั่งคุกเข่าลงกับพื้นแล้วก้มลงไหว้แทบตัก


“พ่อก็เหมือนกัน มีความสุขมากๆ นะครับ” ลูกชายอวยพรคืน ก่อนจะขยับไปไหว้ลงแทบตักบุพการีอีกคนที่รอท่าอยู่ก่อนแล้ว


“เป็นเด็กดีนะลูก มีหน้าที่เรียนก็ตั้งใจเรียน ทำอะไรพูดอะไรให้ใช้สติ ใช้ความคิด อย่าใจร้อนวู่วาม โตๆ กันแล้วคิดเองตัดสินใจเองได้แล้ว อะไรที่ว่าดีก็ทำ อะไรไม่ดีหรือนำความเดือดร้อนมาให้ก็เลี่ยงๆ มันไป ใช้ชีวิตให้ดี เห็นพวกเอ็งมีความสุขพ่อกับแม่ก็มีความสุข” พี่น้องสองเดือนยิ้มกว้าง แล้ววาดแขนโอบรอบเอวคนเป็นแม่


“สิบกับอ้ายก็เหมือนกัน เห็นพ่อกับแม่มีความสุขพวกเราก็มีความสุข”






“โห… นี่ของพ่อเหรอ พ่อเลี้ยงจริงอ่ะ” เดือนอ้ายตาวาว เมื่อเห็นลังเบียร์ที่ยุทธนาแบกลงจากรถมาวางอยู่ตรงหน้า เดือนสิบเองก็ดูจะมีอาการไม่ต่างจากคนเป็นน้องชายเท่าไหร่ แน่ล่ะ ..ปกติพ่อใชคนกินเหล้ากินยาที่ไหน จะกินก็แต่เวลามีงานสำคัญๆ ที่เลี่ยงไม่ได้เท่านั้น ไม่แปลกที่สองพี่น้องจะตาโตเหมือนไม่เชื่ออย่างที่เห็นแบบนี้


ส่วนคนอยากเอาใจลูกชาย แม้จะแอบคิ้วกระตุกไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรนอกจากนั่งนิ่งๆ มองพี่น้องสองเดือนที่ทำตาวาวอย่างชอบอกชอบใจจนน่าเพ่นกะบาลซักที แต่เอาเถอะ นานทีจะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เห็นลูกๆ มีความสุขแบบนี้คนเป็นพ่อก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว


เกือบสองทุ่มพ่อกับแม่ก็พากันกลับเข้าไปดูละครในบ้าน ปล่อยให้วัยรุ่นทั้งสี่คนนั่งกินนั่งดื่มกันตามประสา เดือนสิบเอ่ยแนะนำยุทธนาให้ลูกพี่ลูกน้องของตัวเองรู้จัก ลูกชายลุงพงษ์ที่เป็นคนอัธยาศัยดีอยู่แล้วพอรู้ว่าอีกฝ่ายอายุเท่ากันก็ชวนคุยเป็นต่อยหอย ยิ่งแอลกอฮอล์เข้าเส้นก็ยิ่งพูดมาก ชวนคุยโน่นนี่จนยุทธนาที่คิดว่าเพื่อนตัวเองอย่างไอ้ป้องเป็นคนพูดมากแล้ว ยังไม่เท่าลูกพี่ลูกน้องของเดือนสิบคนนี้


เกือบสี่ทุ่มคนที่เกือบลืมไปแล้วว่าแอบซื้อเค้กเอาไว้ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ไม่ลืมลากเดือนอ้ายออกมาด้วยท่ามกลางสายตางุนงงของเดือนสิบและเพชร ยุทธนาวิ่งขึ้นไปเอาเค้กบนบ้าน ก่อนจะกลับลงมาหาเดือนอ้ายที่ยืนถือไฟแช็กรอตามคำบอกของเขาอย่างมึนๆ เนื่องจากเบียร์ที่ดื่มเข้าไปไม่น้อย เขาไม่ได้เป็นคนถือเค้กออกไปเอง แต่ให้พ่อกับแม่ของน้องที่ยังไม่นอนเป็นคนถือออกไป ส่วนตัวเองกับเดือนอ้ายก็ช่วยกันปรบมือ และร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์อีกครั้งเป็นรอบที่สองของวัน


“แอบไปเตี๊ยมกันตอนไหนเนี่ย” เดือนสิบว่าน้ำตาคลอ มองหน้าพ่อกับแม่ผ่านแสงเทียนจากเค้กก้อนโตที่ส่งยิ้มละไมมาให้


“อธิฐานแล้วเป่าเทียนสิเอ็ง” คนเป็นพ่อบอกทั้งรอยยิ้ม เดือนสิบทำตามอย่างว่าง่าย อธิฐานแล้วเป่าเทียนจากเค้กก้อนที่สองของวัน ก่อนจะโผเข้ากอดพ่อกับแม่หลังจากที่ทั้งสองคนวางเค้กลง


“ขอบคุณนะครับ พ่อกับแม่ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลย แค่นี้สิบก็มีความสุขจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดขึ้นหลังผละออกจากอ้อมกอดอุ่น มีมือของแม่คอยเช็ดน้ำตาแห่งความสุขออกให้อย่างอ่อนโยน


“ไปขอบคุณรุ่นพี่เอ็งโน่น ลงทุนขับรถเข้าเมืองไปซื้อเค้กตั้งแต่บ่าย” พ่อบอกยิ้มๆ ทั้งน้ำเสียงและแววตาดูอ่อนลงจนใครก็มองออก


“จริงเหรอพี่ยุทธ” เดือนสิบตาโต ดวงตาเป็นประกายมองคนเป็นพี่ที่พยักหน้ารับน้อยๆ แล้วยิ้มละมุนส่งมาให้


“สุขสันต์วันเกิด..”


“ไหนของขวัญผมล่ะ” เดือนสิบว่าทีเล่นทีจริง พลางยิ้มกว้างแล้วแบมือไปตรงหน้าร่างสูง ทว่ายุทธนากลับส่ายหน้ายิ้มๆ เจ้าตัวเลยแกล้งทำหน้ามุ่ย แต่ไม่นานก็กลับมายิ้มสว่างสดใสเหมือนเดิม “ให้ติดไว้ก่อนก็ได้ แต่ต้องให้นะ” กำชับเสร็จเจ้าตัวก็ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี คนเป็นพ่อโยกหัวลูกชายคนโตส่งท้ายพลางกำชับว่าอย่าพากันเลิกดึกนัก ก่อนจะจูงมือแม่กลับเข้าไปในบ้าน


เกือบเที่ยงคืน เมื่อเบียร์หมดทั้งสี่คนก็ช่วยกันเก็บของเข้าที่ ก่อนลูกพี่ลูกน้องของเดือนสิบจะขอตัวกลับ เดือนอ้ายที่นั่งตาปรือเหมือนจะหลับไม่หลับแหล่ถูกพี่ชายไล่ไปอาบน้ำ จึงเหลือแค่เดือนสิบกับยุทธนาที่อยู่ช่วยกันล้างจาน


“พี่ยุทธไปอาบน้ำนอนเลยก็ได้นะ เดี๋ยวผมล้างเอง” เดือนสิบบอก ขณะยื่นจานให้อีกฝ่ายนำไปล้างน้ำสะอาด ความจริงเขาค่อยตื่นมาล้างพรุ่งนี้ก็ได้แต่กลัวว่าจะไม่ทันคนเป็นแม่


“ไม่เป็นไร ช่วยกันจะได้เสร็จเร็วๆ” คนเป็นพี่บอกอย่างใจดี แต่ใครจะรู้ว่าที่ยุทธนาไม่ยอมหนีไปนอนก่อนเพราะกำลังหาโอกาสเหมาะๆ


จวบจนล้างจานเสร็จเดือนสิบก็ออกปากให้คนเป็นพี่ไปอาบน้ำอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้คนตัวสูงทำตามอย่างว่าง่าย เมื่ออาบเสร็จก็บอกให้เดือนสิบที่นั่งสัปหงกรออยู่บนโซฟาตัวยาวไปอาบบ้าง 


“ยังไม่ขึ้นไปนอนอีกเหรอครับ” เดือนสิบเลิกคิ้วถาม เมื่ออาบน้ำกลับมาแล้วเห็นคนเป็นพี่ยังนั่งเช็ดผมอยู่บนโซฟา


“ไปสิ” ยุทธนาว่ายิ้มๆ ไม่ได้ขยายความอะไรต่อแล้วเดินไปรุนหลังคนเป็นน้องให้เดินขึ้นบันไดไปก่อน เดือนสิบดูงงๆ กับท่าทางของคนเป็นพี่แต่ก็ไม่ได้ซักไซ้อะไร ตอนนี้เขาง่วงมากจนตาจะปิดอยู่รอมร่อ ทว่าในจังหวะที่เดินมาถึงหน้าห้อง แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตูก็ต้องชะงักเพราะถูกเสียงทุ้มเรียกเอาไว้เสียก่อน 


“สิบ”


“ครับ?” เดือนสิบมองคนที่ยืนพิงกรอบประตูห้องตัวเองซึ่งตอนนี้กลายเป็นห้องนอนของคนตัวสูงชั่วคราวอย่างงงๆ


“มากับพี่ก่อน”


“ไปไหน”


“มาเถอะ” ไม่รอให้คนเป็นน้องได้ปฏิเสธ ยุทธนาก็ดึงอีกฝ่ายให้เดินเข้ามาในห้องด้วยกัน แถมยังปิดประตูลงกลอนเสร็จสรรพ


“พี่ยุทธจะทำอะไร” เดือนสิบหน้าตาตื่น เอ่ยถามเสียงกระซิบเพราะกลัวว่าใครจะได้ยินเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกคนเป็นพี่รวบเข้าไปกอดทั้งตัว เขาไม่ได้ผลักไส แต่ก็ไม่ได้กอดตอบเพราะยังไม่แน่ใจกับท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่ายดีนัก


“เฉยไว้ …พี่แค่กอด” ยุทธนากระซิบชิดใบหูขาว กดจูบย้ำไปตามแก้มเนียนและขมับเย็นชื้นหอมกลิ่นครีมอาบน้ำอ่อนๆ เขาเพิ่มแรงรัดหนักๆ เป็นครั้งสุดท้ายแล้วปล่อยออกอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะจูงคนเป็นน้องไปนั่งลงบนฟูก อดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าตื่นๆ ของคนตัวขาว “เลิกมองเหมือนพี่เป็นตาแก่โรคจิตซักที พี่ไม่ทำอะไรหรอก …ถ้าสิบไม่ยอม”


“พี่ยุทธนี่ ..ผมเปล่าซักหน่อย” เดือนสิบหลบตาคมพราวระยับที่มองมาเหมือนจะล้ออย่างเขินๆ แต่ยิ่งได้ยินคนเป็นพี่หัวเราะในลำคอไม่หยุดก็เริ่มทำหน้ามุ่ย “แกล้งผมสนุกนักหรือไง”


“พี่ชอบเวลาสิบเขิน แก้มแดงๆ เห็นแล้วอยากฟัด”


“ไม่ต้องเลยพี่ยุทธ ถ้าเรียกมาเพราะแค่อยากแกล้งผมจะไปนอนแล้ว ง่วง” ยุทธนามองกลีบปากบางอย่างแสนเสียดาย ถ้าไม่ติดว่าคนเป็นน้องรู้ทันยกมือขึ้นมาปิดปากเขาเอาไว้ก่อน เขาคงได้สัมผัสมันแล้ว


แต่ก็นั่นแหละ เดือนสิบเป็นของเขา จะช้าหรือเร็วยังไงก็หนีไม่พ้น ตาคมมองริมฝีปากที่เจ้าของมันเม้มน้อยๆ อย่างหมายมาด เขาดึงมือน้องออก สั่งให้หลับตา แต่เดือนสิบก็อิดออดจนต้องสั่งย้ำและยืนยันทั้งตาวาวๆ ว่าจะไม่ทำอะไร เจ้าตัวบ่นอุบอิบแต่สุดท้ายก็ยอมทำตามจนได้


เมื่อเห็นคนเป็นน้องหลับตาแล้ว ยุทธนาก็เอาของที่ซ่อนไว้ใต้หมอนออกมา สัมผัสเย็นๆ ที่พาดไปตามช่วงลำคอขาวทำให้เดือนสิบลืมตาขึ้น แต่ยังไม่ทันได้จับดูอย่างที่ใจคิดก็ถูกคนเป็นพี่รวบตัวเข้าไปกอดอีกครั้ง พลางได้ยินเสียงทุ้มอบอุ่นกระซิบข้างหู


“สุขสันต์วันเกิดและ …มีความสุขมากๆ พี่รักสิบ” ยุทธนากดจูบหน้าผากเนียนอย่างรักใคร่ ก่อนผละออกเพื่อปล่อยให้คนเป็นน้องได้สำรวจของขวัญวันเกิดอย่างเอาใจ


“นี่มัน …พี่ยุทธ…” เดือนสิบตาโตเมื่อเห็นว่าของขวัญของคนเป็นพี่คืออะไร


“มันกะทันหันจนพี่เตรียมอะไรไม่ทันเลย สิบชอบไหม” มือหนาไล้ไปตามความยาวของสร้อยคอทองคำหนักหนึ่งบาทที่เขาแอบซื้อตอนเข้าไปในเมือง ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ตัวจี้ “หลวงพ่อทบ ย่าให้พี่ใส่ไว้ตั้งแต่เด็กบอกว่าจะช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย”


“พี่ยุทธผมว่า..”


“แต่พี่จะสบายใจกว่าถ้าสิบใส่เอาไว้ อย่าคิดมาก ที่ให้เพราะพี่อยากให้ พี่เต็มใจและไม่ได้เดือดร้อน แต่ถ้าสิบลำบากใจจะรับไว้พี่ก็คงเสียใจมาก” เขามัดมือชก ไม่ยอมให้น้องปฏิเสธจึงยกเอาความสบายใจของตัวเองมาเป็นข้ออ้าง


“มันไม่มากไปเหรอพี่ยุทธ ผมแค่พูดเล่นเองนะเรื่องของขวัญ”


“สิบ” ยุทธนาเอ่ยเสียงนิ่ง ท่าทางดูเคร่งขึ้นจนเดือนสิบปรับอารมณ์ตามไม่ทัน


“ครับ”


“เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าพี่รวย” เดือนสิบอ้าปากหวอ มองคนพี่ที่จ้องมาด้วยดวงตาพราวระยับอย่างอึ้งๆ ทั้งที่เมื่อกี้ยังดึงหน้าใส่กันอยู่แท้ๆ “ไม่ต้องคิดมาก เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้ มากกว่านี้ก็ให้ได้” ว่าจบก็ฉวยโอกาสหอมแก้มนุ่มๆ ไปอีกฟอด และเกือบจะได้อีกฟอดถ้าคนเป็นน้องไม่ได้สติเสียก่อน น่าเสียดาย…


“โอเค้ …ไม่เกิดมารวยบ้างให้มันรู้ไป” เดือนสิบบ่นอุบหน้ายุ่ง ทว่าคนตัวโตกลับหัวเราะในลำคออย่างชอบใจ พลางยื่นมือไปยีกลุ่มผมนุ่ม


“เป็นเด็กดี แล้วพี่จะหาเงินให้ใช้”






 :katai5:
มาแล้วว ขอบคุณทุกคนที่ยังรอค่ะ  :กอด1:
เรื่องนี้ใกล้จบแล้ว อีกไม่กี่ตอน ...ไม่กี่ตอน 5555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-06-2017 14:35:27
สายเปย์นี้น่า
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: zabzebra ที่ 29-06-2017 15:01:27
อ่านตอนนี้แล้วพี่ยุทธเหมือนตาแก่เลี้ยงอิหนูเลยค่ะ
ดูพูดเข้าสิคะ เขินมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 29-06-2017 15:04:45
โอ้โห พี่ยุทธป๋าเปย์มากทองตั้ง 1 บาทเลยอ่ะ o13 o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-06-2017 15:23:33
พี่ยุทธสายเปย์มากค่ะ 55555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 29-06-2017 15:25:46
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Januarysky ที่ 29-06-2017 15:47:44
พี่ยุทธป๋าอ่ะ
สเต็ปต่อไปต้องคอนโด หมาคอร์กี้และไอแพดนะป๋า
ถึงจะปัง
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-06-2017 17:19:24
ชอบจังสายเปย์เนี่ยะ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: utamon ที่ 29-06-2017 18:49:11
พี่ยุทธอย่างเสี่ยอ่ะ เปย์หนักมากกก :hao7:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 29-06-2017 19:19:37
เมียคนเดี่ยใพี่เลี้ยงได้
เดี๋ยวจะหาเงินให้ใช้
พี่ยุทธสายเปที่เเท้จริง ทำไมผู้ชายคนนี้ดีอย่างนี้ๆๆอบิุ่นมาก
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 29-06-2017 20:25:42
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
จากพี่ยุทธ
กลายเป็นเสี่ยยุทธ สายเปย์ หุหุ
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Papangtha ที่ 29-06-2017 20:58:46
 :o8:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-06-2017 21:10:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: onlyplease ที่ 29-06-2017 21:57:58
สายเปย์แบบนี้ มีอีกมั้ยยยยยยยย :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 29-06-2017 22:31:05
สายเปย์หนักหน่วง~~~~
อยู่ในโอวาทนะจ๊ะ เด๋วป๋าหาเงินให้ใช้ 5555555
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: nolirin ที่ 29-06-2017 22:35:21
พี่ยุทธสายเปย์ :laugh:
หัวข้อ: Re: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: crazydoii ที่ 29-06-2017 23:16:16
ยุทธนา. ส่ยเปย์ของจริง,,,
หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 30-06-2017 10:35:18
 :L2: :L1: :pig4:

หัวข้อ: Re: ★★defeated heart แพ้ใจ★★..... [ยุทธนาxเดือนสิบ] ตอนที่ 20 Up [29/06/60]
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 02-07-2017 08:14:07
พี่ยุทธสายเปย์

 :z1: