ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปราบซ่า® ตอนปราบครั้งที่35 ปราบครั้งสุดท้าย [จบบริบูรณ์]:: 7/1/2018 P.24  (อ่าน 202295 ครั้ง)

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ดีใจ ไรท์มา  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ปราบ ชอบเห็นซ่ามีความสุข ยิ้มได้อย่างกว้างขวาง
ก็ได้เห็นแล้ว
แถมซ่ายังอ้อนพี่ปราบกินอาหารทะเล
อ้อนขอเล่นบานาน่าโบ้ท

ปราบ ยังได้ใส่ชุดคู่กับซ่าอีก
กับเพื่อน ปราบก็บอกความจริงเรื่องซ่าด้วย

ถ้าซ่า ฉุกใจคิดได้ ต้องแปลกใจ
รถที่ไม่ยอมให้ใครขับนอกจากคนในครอบครัว แต่ทำไม ซ่าได้ขับ

ชอบที่ปราบแม้ทำเพื่อจีบซ่า
แต่ปราบก็สอนไปด้วย ให้ตั้งใจเรียนเพื่อตัวของซ่าเอง
ไม่ใช่เพื่อของรางวัล ต่อไปสามารถช่วยตัวเองให้อยู่ในสังคมได้ สุดยอดดดดด  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชอบพระเอกเรื่องนี้จัง มันให้ความรู้สึกแตกต่าง เพราะที่เคยๆอ่านมีแต่ไม่ชอบขี้หน้ากันแล้วค่อยกลายมาเป็นรัก เราชอบตรงที่มีสอนแทรกอยู่ตลอด ไม่ใช่เอะอะถูกใจก็ปล้ำ // ติดตามคับ แต่ตอนนี้อยากให้ซ่าจบๆกับพลอยซะทีอ่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
คิดถึงพี่ทราฟน้องเค้ก พี่ครามน้องริช
ปราบอยู่กับครอบครัวขี้อ้อนนะ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เลิกกับชะนีเถอะ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่14


[ปราบ]
วันต่อมาในช่วงบ่าย ผมบังคับให้ซ่าพาผมมาดูห้องพักของมัน พอมาถึงผมก็อยากจะหาห้องพักให้มันเสียใหม่ ถึงซ่าจะเป็นผู้ชายที่ดูแล้วไม่ได้บอบบางน่าทะนุถนอม หรือน่าล่อลวงให้จับไปกระทำชำเรา แต่มันก็เป็นเด็กหน้าตาดี ที่ผมเป็นห่วงก็คือกลัวมันจะถูกทำร้าย แถมสภาพห่อพักก็ทรุดโทรม มีรอยแตกรอยร้าว ดูยังไงๆก็ไม่ปลอดภัย

“มันจะอยู่ได้เหรอวะ” ผมถาม

“อยู่ได้ดิพี่ ทำไมจะอยู่ไม่ได้ อ่อ รู้แล้ว พี่มันคุณชายนี่น่า คนอย่างพี่อยู่ไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอก”

“ไม่ใช่ว่ากูเป็นคุณชาย แต่มึงดู ขนาดกลางวันในซอยยังเปลี่ยว ตรงข้ามหอก็เป็นป่า มึงดูนั่น รอยร้าวยาวลงมาขนาดนี้ ความปลอดภัยอยู่ตรงไหนวะ” ผมเงยหน้าชี้ให้มันดูรอยร้าวบนผนังตึก

“อยู่ได้น่าพี่” ซ่ายังคงยืนยันในสิ่งที่มันคิด

“พากูขึ้นไปดูข้างบนดิ มึงหาที่ๆดีกว่านี้ไม่ได้แล้วหรือไง” ผมบ่นมัน ดันหลังไอ้ซ่าให้เดินนำทาง จนมาถึงห้องเกือบริมสุดชั้นที่สาม แค่สังเกตจากประตู ลูกบิดสนิมขึ้นและจะพังแหล่มิพังแหล่

มันเปิดห้องออกให้ผมดู สภาพภายในไม่ต่างจากภายนอกนัก ผนังที่ทาสีไว้ทั้งผุกร่อนร่อนเป็นแผ่นๆ มีความสกปรกตามร่องพื้นและฝาผนัง เอาจริงๆคือผมไม่โอเคกับหอพักนี้

ห้องมันไม่มีอะไรเลย ที่นอนก็เป็นฟูกบางๆเท่านั้น หมอนใบ ผ้าห่มหนึ่งผืน มุมหนึ่งของห้องมีตะกร้าจานชามมีดวางไว้ใช้สอย ข้างที่นอนมีโต๊ะญี่ปุ่นวางอยู่ ด้านบนเต็มไปด้วยหนังสือเรียนของมัน ตู้เสื้อผ้าไม่มี มีแค่กระเป๋าเสื้อผ้าของมันที่วางไว้ข้างๆโต๊ะญี่ปุ่น

ผมอยากหันไปถามมันเหลือเกินว่าทำไมสภาพมึงถึงได้น่าสงสารขนาดนี้ แต่เท่าที่สังเกตสีหน้าของซ่า ดูมันจะไม่อินังขังขอบสักเท่าไหร่

“ย้ายไหม เดี๋ยวกูหาให้ กูว่าบางทีจ่ายเพิ่มอีกสักหน่อย แต่ดูปลอดภัยกว่าและมีข้าวของเครื่องใช้มากกว่านี้” ผมหันไปถามและเสนอความคิดเห็นที่ผมว่าดี และผมจริงจังมากกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าอยู่ที่สกปรกไม่ได้ แต่มันมีเรื่องของความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง

“หาที่ไหนพี่ ผมขี่รถดูหมดแล้ว ไม่มีที่อื่นที่ได้ราคานี้หรอก เดือนละพันห้าเอง ที่อื่นสองพันห้า สามพันทั้งนั้น มันแพงไปผมจ่ายไม่ไหวหรอก”

“เดี๋ยวกูจ่ายค่าหอให้เอาไหม” ผมหลุดปากออกไป ไอ้ซ่าขมวดคิ้วติดกัน

ผมรู้ว่ามันออกจะตลกไปสักหน่อยที่พูดว่าจะจ่ายค่าหอพักให้ แต่ซ่าคือเด็กที่ผมชอบและถูกใจ ผมที่เลยวัยเรียนมาแล้ว ทำงานมีรายได้แบบเต็มตัว ผมคิดว่าผมจ่ายให้มันได้ถ้ามันต้องการ แต่ติดที่ว่ามันไม่รู้ว่าผมชอบมัน และตอนนี้ผมยังไม่คิดจะแสดงตัวในขณะที่มันยังมีแฟนเป็นตัวเป็นตน

“พี่จะมาจ่ายให้ผมทำไม บ้าเปล่า”

เออ กูบ้า แต่แม่ง กูเป็นห่วงมึงเข้าใจไหม!

“ไม่ว่ายังไงมึงก็ยืนยันที่จะอยู่ที่นี่

“อืม ก็แค่ไว้นอนเอง ผมไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว”

ผมยืนนิ่งๆ ทิ้งสายตามองรอบห้องมันอยู่ร่วมห้านาที ในเมื่อมันยืนยันว่าจะอยู่ที่นี่ ผมก็ต้องช่วยมันเท่าที่ช่วยได้ และต้องไม่กระโตกกระตากเกินไป เกิดไก่ตื่นรู้ตัวขึ้นมา ไอ้ที่ลงทุนลงแรงตะล่อมไปมันจะศูนย์เปล่า

“ข้าวของเครื่องใช้มีแค่นี้?”

“ครับ จะซื้อเพิ่มก็เสียดายตัง แค่นี้ก็พอแล้ว”

อนาถาไปไหมเด็กกู ถ้ามันชอบผู้ชายเรื่องคงง่ายกว่านี้

“เอาอย่างนี้แล้วกัน ที่บ้านกูมีเฟอร์นิเจอร์บางอย่างที่ไม่ได้ใช้แล้ว แต่ไม่ได้เอาไปทิ้งไหนยังเก็บไว้อยู่ เดี๋ยวกูจะพาไปดู”

“ไม่เป็นไรพี่ ไม่ต้องหรอก แค่นี้ผมอยู่ได้”

“ไม่ต้องแย้ง กูบังคับไม่ได้ถามความเห็น” ผมไม่รอให้มันปฏิเสธอีกรอบ เดินเข้าไปคว้าข้อมือมันพาเดินออกจากห้องพัก

ระหว่างทางมันเอาแต่ถามไม่หยุด ว่าผมจะให้มันยืมเฟอร์นิเจอร์เหรอ แล้วทำไมบ้านผมถึงมี ทำไมผมไม่ใช้ แล้วคนที่บ้านผมจะไม่ว่าเหรอถ้าจะให้มัน ถามจนกระทั่งผมขับรถมาถึงบ้าน

เวลานี้เป็นเวลาสี่โมงเย็น พี่ริชน่าจะอยู่ที่อู่รถ พี่เค้กก็อยู่ที่โรงเรียนสอนดนตรี ป๊าน่าจะเข้าบริษัทไปดูงาน ที่อยู่บ้านก็คงจะเป็นพ่อ

“เดี๋ยวเข้าไปหาพ่อกูก่อนแล้วกัน” ผมบอก

“ครับ” ไอ้ซ่ารับคำ มองบ้านผมอย่างสนอกสนใจ

บ้านของผมแต่งสไตล์ลอฟท์ที่ดูทันสมัย แต่กว่าจะลงตัวได้พวกพ่อๆก็ตีกันหลายรอบ ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่ทีแรกซื้อมาแล้วสุดท้ายมันไม่เข้ากับบ้านก็ต้องระเห็จไปอยู่ในโรงเก็บของ ย้ำว่าไม่ใช่ห้องเก็บของ แต่เป็นโรงเก็บของถึงจะถูกต้อง
 
ทันทีที่ก้าวเข้าบ้าน ไอ้หมาแสบของผมทั้งสองตัวก็โกยเท้าวิ่งเข้ามาหาผม กระโจนเข้าใส่ผมจนแทบหงายหลัง

“ไอ้ก้า ไอ้ซ่า หยุด!” ผมรีบสั่งให้ไอ้หมาบ้าพลังหยุด กว่าจะเชื่อฟังยอมนั่งลงดีๆก็ต้องดุไปอีกสองรอบ

“พี่เรียกหมาพี่ว่าอะไรนะ” ไอ้ซ่าถาม ผมงงๆในทีแรก แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อตะกี้ผมเรียกชื่อหมาบ้าสองตัวในฉบับสั้น ก็เลยไปเหมือนกับชื่อของมัน

“ไอ้ก้า กับไอ้ซ่า” ผมบอก

“นี่พี่เอาชื่อผมไปตั้งชื่อหมาเหรอ” ไอ้ซ่าทำหน้ายุ่ง ไม่ชอบใจ

“ชื่อเต็มมันชื่อซู่ซ่า กับปาปิก้า มันอยู่กับกูมาก่อนกูจะรู้จักมึงอีก”

“งั้นพี่ก็อย่าเรียกมันว่าซ่าเฉยๆสิ”

“สั่งกูเหรอ หึหึ” ผมยื่นหน้ายื่นตากวนตีนใส่ไอ้เด็กที่แสดงอาการเอาแต่ใจเรื่องชื่อ

 “อย่ายื่นหน้าเข้ามาดิพี่” มันดันไหล่ผมออก เพราะอีกนิดเดียวจมูกผมจะชนกับจมูกมันอยู่แล้ว

“ไปๆเข้าบ้าน ไอ้ลูกหมา มึงอยู่ข้างนอกนะ ไม่ต้องเข้าไป” ผมพูดกับซ่า จากนั้นก็หันไปสั่งหมาสุดที่รักสองตัวของผม ปาปิก้ากับซู่ซ่าก็เห่ารับคำก่อนจะหมอบรอนิ่งๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย

ผมพาซ่าเดินเข้าบ้าน แวะดูที่ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวก็ไม่เจอพ่อ เลยคิดว่าน่าจะนั่งอยู่ในสวนหลังบ้าน ที่จัดทำระแนงไม้เลื้อยด้วยดอกกุหลาบแบบที่พี่เค้กชอบ วันว่างที่พ่อกับพี่เค้กอยู่ด้วยกัน ก็ชอบออกไปจู๋จี๋กันหลังบ้านเสมอ

“พ่อครับ” ผมเรียกพ่อทราฟที่กำลังนั่งเช็คหุ้นสบายใจ รายได้ทั้งหมดแกก็ให้เมียแกหมด สักวันผมก็อยากจะเจริญรอยตามพ่อ ฮ่าๆๆๆ

“สวัสดีครับ” ไอ้ซ่ายกมือไหว้พร้อมโค้งตัวอ่อนน้อม

“อืม สวัสดีๆ” พ่อผมรับไหว้หน้างงๆ คงเพราะแปลกใจว่าซ่าเป็นใคร ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกกับอายุที่ดูน้อยกว่าผมอยู่หลายปี
“ชื่ออะไรล่ะเรา”

“ซ่าครับ”

พอไอ้ซ่าบอกชื่อ พ่อมองจ้องมันนิ่งๆก่อนจะยิ้ม พ่อจะดูเป็นผู้ชายอ่อนโยนอบอุ่น แต่มองอะไรค่อนข้างขาด

“ก็คงจะซ่าสมชื่อนะ”

เด็กที่โดนแซวยิ้มแหะๆ มือยกเกาท้ายทอยแก้เขิน

“พ่อครับ พอดีซ่ามันย้ายของเข้าหอ แต่ว่าหอมันไม่มีเลย ปราบเลยพามันมาดูเฟอร์นิเจอร์ในโรงเก็บของที่บ้านเราไม่ใช้”

“อ่อ ไปดูสิไปดู อะไรใช้ได้ก็เอาไปเลย เก็บเอาไว้ก็เสียเปล่า” พ่อเห็นด้วย พวกท่านอยากให้มีคนมาช่วยเอาไปใช้บ้าง เพราะอะไรที่ไม่ใช่บิ้วท์อิน บ้านผมจะเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์บ่อยตามแต่ว่ามีอันไหนออกมาใหม่แล้วสวย

“ขอบคุณครับคุณน้า” ซ่ารีบยกมือไหว้อีกครั้ง

“เรียกพ่อเหมือนปราบนั่นแหละ” พ่อผมพูด สบตากับผมแล้วยิ้ม ทำไมทุกคนในบ้านจะต้องรู้ทันผมไปหมด

หลังจากขออนุญาตพ่อพอเป็นพิธี ผมก็พาซ่าเดินไปที่โรงเก็บของ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างอยู่ในสภาพดี ประกอบเรียบร้อยพร้อมใช้งาน นั่นเพราะตอนเอามาเก็บไม่ได้ถอดแยกส่วน

“ของพวกนี้มึงเลือกเอาไปไว้ที่ห้องได้เลย”

“จะดีเหรอพี่ ของมีราคาทั้งนั้น” ซ่าเดินสำรวจดูของ แตะๆลูบๆด้วยความสนใจ

“ของมีราคา แต่ตอนนี้มันไร้ค่ามาก ให้มึงเอาไปใช้มันจะได้เป็นประโยชน์”

“ก็จริง”

สุดท้ายมันก็ได้เตียงนอนหนึ่งหลัง ตู้เสื้อผ้าหนึ่งตู้ โต๊ะเขียนหนังสือ และทีวีพร้อมโต๊ะวางที่ผมต้องบังคับอยู่นานกว่ามันจะยอม

“มันไม่เยอะไปเหรอพี่ปราบ” ไอ้ซ่าถามขณะที่มองเด็กในบ้านยกของขึ้นรถกระบะเตรียมขนไปไว้ที่ห้องมัน นอกจากนั้นผมยังเตรียมสีทาห้องและอุปกรณ์ไปด้วย

“ไม่เยอะหรอก มึงไม่เห็นหรือไงว่าในโรงเก็บของยังเหลือของอีกตั้งเยอะแยะ มึงมาช่วยแบ่งๆไปใช้น่ะดีแล้ว ป๊ากูออกจะชอบ เวลาจะซื้ออะไรใหม่พี่ริชจะได้ไม่ด่าว่าเสียดายของเก่า”

“ผมโคตรเกรงใจเลยอ่ะ”

“กูกับมึงไม่ใช่คนอื่น ไม่อยากให้มึงมานั่งเกรงใจ เข้าใจไหม” ผมโอบไหล่มันเข้ามากอดแบบเนียนแล้วก็ปล่อยออกอย่างรวดเร็ว มันจะได้ไม่รู้สึกผิดสังเกต

“ขอบคุณมากเลยนะครับ”

“ไม่เป็นไร ไปๆ เอาของไปเก็บที่ห้องมึงกัน เดี๋ยวจะเย็นซะก่อน”

ผมกับซ่านั่งลูกรักของผมกลับไปที่หอพักของมัน แล้วให้รถขนของของที่บ้านขับตามหลัง มาถึงผมก็ให้คนที่บ้านทาสีห้องใหม่เป็นอันดับแรก จากนั้นพอสีเริ่มแห้งนิดๆก็เอาเฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นเข้าห้องจนเรียบร้อยลงตัว ดูน่าอยู่มากกว่าครั้งแรกที่เห็น แต่ขัดใจอยู่อย่างเดียวคือห้องมันไม่มีแอร์ เพราะผมค่อนข้างขี้ร้อน มันเองก็ขี้ร้อน คิดว่าถ้าอยู่ห้องตอนกลางวันได้เหงื่อโซมกายอย่างไม่ต้องสงสัย

“ผมกลับก่อนนะครับคุณปราบ”

“ครับ”

คนงานในบ้านขอตัวกลับเมื่อทำงานเสร็จ ซ่ายกมือไหว้ขอบคุณและเอ่ยลา ผมทิ้งตัวนั่งในห้อง ควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อที่ไหลเป็นสายน้ำ ในขณะที่เจ้าของห้อง ยกชายเสื้อยืดสีเลือดหมูขึ้นเช็ดหน้าแบบลวกๆ เผยให้เห็นหน้าท้องขาวแห้งๆจนเห็นชายโครงกระดูกอยู่ตรงหน้า ผมคิดว่าถ้ามันมีกล้ามเนื้อมากกว่านี้อีกสักหน่อยคงเหมาะมือไม่น้อย

“มึงไปเก็บเสื้อผ้าไป คืนนี้ไปนอนค้างที่บ้านกูก่อน กลิ่นสีหึ่งแบบนี้มึงนอนไม่ได้หรอก”

“เห้ย ไม่เป็นไรพี่ ผมนอนได้” ปากพูดว่านอนได้ แต่มาทำจมูกฟุดฟิดแล้วเบ้หน้าให้เห็นนี่คืออะไรวะครับ

“กูบอกว่านอนไม่ได้ก็นอนไม่ได้ เลือกเอาว่าจะไปนอนบ้านกูหรือจะไปนอนบ้านแม่” ผมเชื่อว่าถ้ายื่นตัวเลือกแบบนี้มันจะต้องตอบตกลงร้อยเปอร์เซ็นต์

“โหพี่ปราบอ่ะ ผมไปนอนบ้านพี่ก็ได้ แต่เลี้ยงเหล้าด้วยดิ อยากกินเหล้าอ่ะ”

“เออ อยากได้อะไรอีกไหม”

พอเห็นผมตามใจก็ยิ้มแฉ่ง “ผมโทรชวนพวกไอ้หวายด้วยได้ไหมพี่ ผมอยากลั้นลาก่อนเปิดเทอมอ่ะ”

“เออ มึงก็โทรหาเพื่อนมึงแล้วกัน เดี๋ยวกูโทรหาเพื่อนกู”

“ขอบคุณครับ”





ตกเย็น ลานหญ้าหน้าบ้านผมก็ถูกปูทับด้วยเสื่อและข้าวของสำหรับตั้งวงเหล้า ผมกับซ่ามีหน้าที่เตรียมสถานที่หลังจากที่โทรเรียกพรรคพวกให้มาร่วมสังสรรค์กันแล้ว และหน้าที่ซื้อของกินกับเครื่องดื่มทั้งมึนเมาไม่มึนเมาเป็นหน้าที่ของไอ้พวกเพื่อนทั้งหลายที่จะต้องแวะซื้อก่อนเข้ามา

“อยากได้กับแกล้มอะไรอีกใหม่น้องซ่า เดี๋ยวพี่เค้กจะได้ทำให้” พี่เค้กถาม

“ไม่แล้วครับ แค่นี้ก็เยอะแล้ว” ไอ้ซ่ารีบยิ้มประจบ

ผมกับซ่ากลับมาถึงบ้าน คนอื่นๆในบ้านก็กลับมาก่อนพวกผมแล้ว และเมื่อรู้ว่าวันนี้ผมและเพื่อนๆจะมากินข้าวกันที่บ้าน พี่เค้กก็รีบเข้าครัวทำทั้งกับข้าวและกับแกล้มให้ โดยคอยถามตลอดว่าจะเอาอันนั้นไหม จะกินอันนี้หรือเปล่า ซ่ามันก็ตอบรับครับๆ ตอนนี้เลยได้กับแกล้มมาแกล้มเหล้าหกอย่าง 

“ปราบ ป๊าเรียกให้ไปหาในห้องทำงานอ่ะ” พี่ริชเดินเขามาเรียกผมในครัว ผมเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะกระซิบถาม

“เรื่องอะไรอ่ะพี่ริช” ถามไว้ก่อน จะได้เตรียมตัวเตรียมใจถูก

“เรื่องน้องซ่า” พี่ริชทำหน้าเครียดขึ้นมาทันที

“จริงดิ”

“ไม่จริง ฮ่าๆๆ”

“โหยพี่ริช ปราบตกใจหมด”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร แต่ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก ดูจากสีหน้าแล้วอารมณ์ดีอยู่”

“งั้นเดี๋ยวผมมานะครับ ฝากเด็กด้วย” ผมปรายตามองไปทางซ่าที่กำลังเป็นลูกมือให้พี่เค้กอยู่ พูดให้ถูกคือลูกมือช่วยชิม

“ไปเถอะ”

ผมเดินขึ้นชั้นสองตรงไปยังห้องทำงานของป๊า ซึ่งอยู่ข้างๆห้องนอนที่มีประตูเชื่อมเข้าหากัน ยังจำได้ว่าตอนเด็กๆหากคืนไหนผมนอนกับป๊าและพี่ริช แล้วป๊าต้องทำงานจนถึงดึก ผมจะงอแงหากป๊าไม่ยอมมานอนด้วย สุดท้ายป๊าก็ต้องเปิดประตูที่เชื่อมกับห้องทำงานไว้ แล้วผมกับพี่ริชก็จะนอนมองป๊าทำงานจนกระทั่งผมผล็อยหลับไป

ผมเคาะประตูห้องทำงานเพื่อบอกให้คนข้างในรู้ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป พ่อที่สวมแว่นตานั่งอ่านเอกสารในมือเงยหน้าขึ้น

“ป๊าเรียกผมมีอะไรเหรอ” ผมทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามโต๊ะทำงาน

ป๊าวางเอกสารในมือลง ถอดแว่นที่ทำให้หน้าป๊าดูเป็นผู้ชายอบอุ่นขึ้นออก

“พรุ่งนี้ไปดูงานที่โครงการคอนโดThe legendsตรงสาทรให้ที เห็นช่างบอกว่าจะมีปรับแบบบางส่วน เขาแจ้งมาแล้วแหละ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมีฝ่ายสถาปนิกไปดูงานที่นั่นด้วย” ป๊าเข้าเรื่องงานแบบไม่ต้องมีการเกริ่นนำก่อน

“กี่โมงอ่ะป๊า พรุ่งนี้เช้าผมต้องเข้าไปเซ็นเอกสารที่ตึกใหญ่”

“ช่วงบ่าย แต่กี่โมงเสร็จกูบอกไม่ได้ แต่คงไม่น่าจะนาน”

“ถ้าช่วงบ่ายผมก็โอเคอยู่ เดี๋ยวเข้าไปดูให้แล้วกัน แล้วป๊าโอเคกับแบบแล้วใช่ไหม”

“อืม ไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ส่งผลเรื่องโครงสร้างและความมั่นคงได้ดีกว่า”

“ป๊าไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจัดการให้”

คุยเรื่องงานจบป๊าก็เงียบไป ใช้เพียงสายตามองจ้องผมราวกับจะเค้นหาความจริง คนมั่นใจอย่างผมจะแพ้ก็กับป๊าเนี่ยแหละ

“มองผมแบบนี้ทำไมป๊า” เริ่มร้อนๆหนาวๆ

“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนแนวแล้ว”

ไม่ต้องเดาเลยว่าป๊าหมายถึงเรื่องอะไร

“ทำไมทุกคนชอบถามแบบนี้ ผมก็ไม่ได้มีสเป็คตายตัวอยู่แล้วป่ะ”

“งั้นกูถามใหม่ เล่นๆหรือจริงจัง”

“ตอบยากว่ะป๊า ยังไม่รู้ว่าควรแค่เล่นๆหรือจริงจังดี เด็กมันยังไม่รู้เลยว่าผมคิดไม่ซื่อ และมันก็ไม่ใช่เกย์ พี่ริชเล่าให้ฟังบ้างยังล่ะ”

ป๊าพยักหน้า “ก็เล่านิดหน่อย แต่พอมาเห็นเองกับตา มึงนี่ทำกูทึ่งจริงๆ”

“มันน่ารักนะป๊า แค่ดูแข็งกระทื่อไปหน่อย”

“กูก็ไม่เถียงว่ามันหน้าตาน่ารัก แต่มึงคิดว่าเอาอยู่หรือไง นั่นอาจจะยิ่งกว่าม้าพยศก็ได้”

“ยังไม่แน่ใจ”

“กากวะ อย่าไปบอกใครนะว่าเป็นลูกกู”

“อ่ออ ใช่ซี้ กว่าจะได้พี่ริชมาป๊าก็ปราบไปเยอะนิ”

“เออ เพราะฉะนั้น ปราบม้าพยศไม่ได้ มึงดีดตัวเองออกจากสำมะโนครัวไปเลย บ้านกูไม่มีคนกากๆ”

“ป๊าคอยดูแล้วกัน”

จะมาดูถูกกันอย่างนี้ได้ยังไง คิดว่าผมโตมาด้วยการเลี้ยงดูจากผู้ชายห้าคนที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอย่าง ป๊าคราม พ่อทราฟ อาเจ ลุงสอง และป๋าคาร์ลได้นั้น ผมจะห่วยแตกเรื่องจีบหญิงจีบชายงั้นเหรอ ไม่มีทางหรอก

ยังไงผมก็ต้องทำให้ซ่ารักผม ยอมรับผมให้ได้ในวันใดวันหนึ่ง

ไม่เชื่อก็คอยดู






หกโมงเย็นทั้งเพื่อนผมและเพื่อนไอ้ซ่าก็มาถึงที่บ้าน พวกมันเข้าไปไหว้ทักทายผู้ใหญ่ในบ้าน ก่อนจะออกมาช่วยกันปิ้งย่างคอหมูไว้เป็นกับแกล้ม

“มึงมากับพี่ปราบก่อนได้ไงไอ้พัช” ทุกคนนั่งล้อมเป็นวงกลมกันอยู่ ไอ้หวายที่มองจิกผมกับไอ้ซ่าตั้งแต่มาถึงก็ถามโผงขึ้นกลางวง

“นั่นดิ ทำไมมึงมาถึงก่อนพวกกูวะ” และตามมาด้วยฝั่งเพื่อนผมอย่างไอ้บีทบ้าง มันยักคิ้วกวนตีนใส่ผม ตามมาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ของไอ้กี่ที่มองมาอย่างรู้ทัน จะมีก็แต่ไอ้ธีร์ที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว

“ก็มากับพี่ปราบไง” ไอ้ซ่าตอบพาซื่อ คือมันไม่คิดหรอกว่าคนที่ถามมันนะต้องการสื่อถึงอะไร เพราะสิ่งที่ไอ้ซ่าให้ความสนใจในตอนนี้ก็คือคอหมูย่างและเบียร์วุ้นเย็นๆมากกว่า

“ก็นั่นแหละ แล้วมาด้วยกันได้ไงละ” ไอ้หวายไม่หยุดซักถาม

“เรื่องของกู เนอะพี่ปราบเนอะ” ไอ้ซ่าถือวิสาสะโอบไหล่ผมแหย่ไอ้หวาย ผมก็เลยเล่นด้วยโดยการโอบไหล่มันคืนบ้าง

“เออ พวกกูสนิทกัน มึงจะทำไมไอ้หวาย มีปัญหา” ผมเลิกคิ้วแกล้งมัน

“ไม่ได้มีปัญหาสักหน่อย พี่บีทยังสงสัยเลยเหอะ” ไอ้หวายเริ่มหาพวก

“กูก็ถามไปงั้นๆแหละ”

“อ้าว พี่บีท ไหงงั้นล่ะ”

“แล้วมึงจะไปสนใจมันทำไมวะไอ้หวาย” เพื่อนมันที่ชื่อนุ๊กถามอย่างสงสัย

“ก็กูอยากรู้” ไอ้หวายยู่ปากใส่เพื่อนมัน

“บ้านกูเรียกเสือก” แล้วไอ้กี่ก็ด่าต่อทันที

“พี่กี่นิสัยไม่ดี ไปนั่งไกลๆเลยไป”

“กูนั่งตรงนี้ของกูอยู่แล้วมึงนั่นแหละไปไกลๆ”

“ไม่ไป ผมไม่ไป พี่จะทำไม”

ไอ้หวายกับไอ้กี่เถียงกันอย่างกับคู่ผัวเมียละเหี่ยใจ

ผมส่งสายตาให้ไอ้กี่จัดการกับไอ้ตัวแสบของมันซะ อย่าได้จุดประเด็นโต้งๆขึ้นอย่างนี้อีก มาถามนอกรอบได้ จะตอบความจริงให้ แต่ตอนนี้ผมคิดว่าอย่าเพิ่งให้ไอ้ซ่ารู้จะดีกว่าว่าผมคิดยังไงกับมัน

จากทีแรกที่นั่งกินเหล้ากินเบียร์เคล้ากับแกล้ม ก็เริ่มดีดกีตาร์ร้องเพลงกัน มีพ่อกับป๊ามาร่วมแจมด้วยแปบๆ ก่อนจะกลับเข้าบ้านไปอยู่กับเมีย

และคราวนี้ผมได้รู้ว่า ไอ้ซ่าเป็นคนที่ร้องเพลงได้ห่วยแตกที่สุด จนไอ้ธีร์ต้องรีบประเคนแก้วเบียร์ใส่ปากมัน เพื่อที่มันจะได้หยุดร้องเสียที แก้วหูจะแตก

ยังไม่ทันเลยสี่ทุ่ม ก็เริ่มมีคนนอนเลื้อยเป็นงูไปกับพื้น แต่ก็ยังคงสนุกสนานเฮฮากันอยู่

“ไอ้ปราบ เกิดเรื่องแล้ว ป๊ามึงกับพี่ริชทะเลาะกัน” ไอ้บีทเดินมากระซิบกับผม ผมเลิกคิ้วสูง ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปดูว่าสถานการณ์โอเคหรือไม่ ป๊าผมหัวแตกไปยัง

“เกิดอะไรขึ้นอ่ะพ่อ พี่เค้ก” ผมถามสองคนที่ยืนคุมเชิงอยู่หน้าประตูห้องนั่งเล่น

“ยังไม่มีอะไร แค่เถียงๆกัน” พี่เค้กหันมาบอก

“แต่ใครจะชนะอันนี้ยังบอกไม่ได้” พ่อพูด

ผมมองเข้าไปในห้อง พี่ริชยืนกอดอกจ้องหน้าป๊านิ่ง ในขณะที่ป๊าทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“แต่พี่ครามก็ไม่ควรส่งลูกน้องไปขับรถชนเขาไหมละ”

“อย่ามากล่าวหากูได้ไหม กูทำที่ไหน มันเป็นอุบัติเหตุ”

“คิดว่าริชจะเชื่อพี่เหรอ”

“แล้วมึงไม่เชื่อกู แต่มึงเชื่อมันว่างั้น”

“ก็เพราะริชรู้นิสัยพี่ดีไง ไม่พอใจอะไรเขานักหนาถึงต้องทำขนาดนี้”

“เหอะ” ป๊าสะบัดหน้ามองไปทางอื่น

“ยอมรับมาเถอะว่าพี่ทำน่ะ” พี่ริชพูดเสียงอ่อนลงเล็กน้อย ดูก็รู้ว่าพยายามหลอกล่อให้ป๊าสารภาพความผิด

สุดท้ายป๊าก็ยอมรับ “เออ กูทำ พอใจยัง”

“แล้วพี่ทำไปทำไม” พี่ริชถึงกับถอนหายใจแรง

“ถ้ามีรถขับดีๆแล้วใช้รับส่งเมียชาวบ้าน ก็อย่าขับมันเลยรถน่ะ และต่อไปนี้กูจะไปรับไปส่งมึงเองริช”

“แน่ใจว่าทำได้”

“เออ กูทำได้ เมียกูกูไปรับไปส่งเองได้ ไม่ต้องยืมมือคนอื่นหรอก”

“ริชจะคอยดู”

“เออมึงคอยดูได้เลยริช คนอย่างสงครามพูดคำไหนคำนั้นเว้ย”

“เอาที่พี่ครามสบายใจเลยครับ”

เอาเป็นว่าจบเรื่องกันไป ไม่ได้มีฝ่ายใดเลือดตกยางออกอย่างที่คิดเป็นห่วง

“พี่ครามทำเกินไปหน่อยนะเค้กว่า” พี่เค้กให้ความเห็นกับเรื่องสองคนนั้น พี่เค้กน่ะจิตใจดี ย่อมมองว่าป๊าทำเกินไปแต่สำหรับผู้ชายอย่างพวกผมแล้ว ผมคิดว่าที่ป๊าทำก็นับว่าสมควร

“แต่พี่ว่ามันทำดี เพราะถ้ามีเห็บหมัดตัวไหนมาเกาะแกะเค้กละก็ พี่ไม่ปล่อยไว้เหมือนกัน” แม้แต่พ่อที่ดูเป็นผู้ชายอบอุ่นก็ยังเห็นด้วย

“ไม่ต้องเลยนะ เค้กไม่ชอบอันธพาล” พี่เค้กทำหน้าไม่ชอบใจ หยิกพ่อเข้าให้

“อู้ยย ครับผม ไม่ชอบก็ไม่ชอบครับ ฟอดด”

เอาเป็นว่า ผมออกไปอยู่ข้างนอกตามเดิมดีกว่า เพราะขืนยังอยู่ตรงนี้ต่อ ก็ไม่วายต้องทนมองป๊ากับพี่ริชจูบคืนดีกัน และยังต้องมาทนเห็นพี่เค้กกับพ่อเพิ่มความหวานใส่กันอย่างไม่มีวันจบสิ้น

“แสบสุดนี่ไม่มีใครเกินไอ้พัชแล้วผมบอกเลย วีรกรรมมันเยอะมากกกกกก”

“อย่าไปเชื่อมันพี่” ไอ้ซ่าโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน แต่หน้ามันยิ้มตามันเยิ้ม เมาหนักแล้วอาการแบบนี้

“ต้องเชื่อพวกกูนี่ อยู่กับมึงมาจนพวกกูแทบจะยกให้เป็นท่านอาจารย์แล้ว”

“ไอ้สัดกาน” ไอ้ซ่าชี้หน้าเพื่อนมัน แต่ถูกปัดมือทิ้ง

ผมเดินมาทิ้งตัวนั่งลงข้างไอ้ซ่า ก่อนจะส่งสายตาให้ไอ้ธีร์ชงเหล้าแก้วใหม่ให้ผม พอยกขึ้นดื่มเท่านั้น ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้พวกเด็กๆมันเมาเร็ว พอเบียร์หมด พวกมันก็ต่อด้วยเหล้าทันที

“ไหนมึงเล่ามาสิ ว่าวีรกรรมของไอ้พัชมีอะไรบ้าง”

“ผมๆ ผมขอเล่า” ไอ้นุ๊กรีบยกมือขอพูด

“เออ มึงเล่าไอ้นุ๊ก ไอ้นี่ไม่โกหกเชื่อมันได้” ไอ้ตูนเด็กหน้าหล่อรีบสนับสนุนเพื่อนมันเลย แต่ไอ้นุ๊กก็ดูเป็นเด็กที่เรียบร้อยสุดแล้วในบรรดาพวกมัน

“อะไรของพวกมึงเนี่ย” ไอ้ซ่าแหวเสียงใส่เพื่อนมัน

“ผมเล่าแล้วนะ ไอ้พัชเนี่ย ทีแรกบ้านมันแม่มันอยากให้มันเรียนต่อมอ4แล้วเข้ามหาวิทยาลัย มันอยากเรียนเทคนิคแต่แม่มันไม่ยอม ทะเลาะกันบ้านแทบแตก ผมที่ไปหามันที่บ้านแทบหาทางกลับไปถูกเลย”

“อ้าว แล้วทำไมมึงกลายมาเป็นเด็กช่างได้เนี่ย” ไอ้ธีร์หันไปถามไอ้ซ่า ผมเองก็อยากรู้เหมือนกัน ซ่าไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้และผมก็ไม่เคยถาม

“ไม่มีอะไร ก็ผมอยากเรียนช่าง” ตอบได้ไม่ตรงคำถามสุดๆ

“โธ่ไอ้พัช มึงไม่บอกเขาไปล่ะว่าแม่มึงให้ไปสอบเข้าเรียนต่อมอสี่ แต่มึงไปสอบแต่ไม่ทำข้อสอบเลยอ่ะ” ไอ้หวายตะโกนใส่หน้าไอ้ซ่าที่แค่ยักไหล่เบาๆ

“พี่คิดดูนะมันกวนตีนขนาดไหน แม่มันส่งไปสอบสามที่ มันทำหมดทั้งสามที่ แม่มันก็สงสัยนะว่าทำไมมันไม่ได้เลยสักที่ มันดันเสือกตอบแม่มันว่ามันโง่” ไอ้กานเล่าต่อพร้อมใส่อารมณ์ในน้ำเสียงเต็มที่

“แล้วทุกวันนี้แม่มันไม่รู้เหรอ” ไอ้กี่ถามบ้าง

“รู้แล้วพี่ แม่มันไปถามอาจารย์เลยว่าลูกตัวเองสอบตกไปกี่คะแนน เขาถึงได้รู้ว่ามันไม่ทำข้อสอบเลย เข้าไปนั่งหลับแล้วก็ออกมา หลังจากนั้นเขาก็ไม่พามันไปสอบที่ไหน ยอมให้มันมาเรียนช่างอย่างทุกวันนี้” ไอ้นุ๊กเฉลย

“มึงนี่สุดยอดจริงๆว่ะไอ้พัช” ไอ้ธีร์ยกแก้วเหล้าให้ไอ้พัชแล้วกระดกดื่มจนหมดแล้ว

“ก็ผมไม่อยากเรียนต่อสายสามัญ ผมรู้ว่าผมไม่ชอบ ให้ผมเข้าเรียนช่างตั้งแต่แรกก็จบแล้ว ผมก็ไม่ได้บอกว่าจะไม่เรียนต่อหรือเปล่าวะ อนาคตผม ผมต้องได้เลือกเองไง”

“ธรรมดาเว้ย วัยกำลังต่อต้าน ไอ้บีทก็เคยเป็นตอนเข้ามหาวิทยาลัย พ่อแม่จะให้เรียนหมอ ไอ้เหี้ยนี่แอบไปสอบบริหารเฉย ทุกวันนี้ก็เลยกลายเป็นเจ้าของร้านเหล้าส่งคนไข้หาหมอด้วยโรคตับแข็ง

“ก็นี่มันความฝันกูไง” ไอ้บีทยักคิ้วหลิ่วตากวนตีน

หลังจากนั้นพวกมันก็พากันแฉเรื่องความแสบความชั่วของคนรอบข้างกันสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ก็ร่วมวงด้วย

จนกระทั่งเลยเข้าวันใหม่ พวกเพื่อนผมก็ขอตัวกลับบ้านพร้อมหิ้วปีกไอ้พวกเด็กแสบกลับไปด้วย เนื่องจากผมสั่ง เหลือเพียงไอ้ซ่าคนเดียวเท่านั้นที่ผมบอกกับเพื่อนว่าจะจัดการเอง พวกมันก็พอรู้ว่าผมสนใจไอ้ซ่า เลยร่วมด้วยช่วยกันหิ้วเพื่อนของไอ้ซ่าออกจากบ้านผม

“อื้อ พี่ปราบ เพื่อนผมอ่ะ” ซ่าที่นอนแผ่หลาอยู่บนโซฟากลางบ้านผงกหัวทำตาปรือๆมองหาเพื่อนมัน ก่อนจะหลับตาลงแล้วทำหน้าพะอืดพะอม

“มันกลับไปแล้ว” ผมตอบ เก็บกวาดด้านล้างเสร็จพอดี และกำลังจะพามันขึ้นไปนอนกับผม

“อ้าว แล้วผมกลับไง” พูดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา เสียงก็ยานคางเหลือเกิน

“จะกลับทำไม นอนนี่ดิ กูบอกแล้วไงว่าคืนนี้ให้มึงนอนบ้านกู” กูไล่เพื่อนมึงกลับไม่ใช่เพื่อการนี่เหรอวะซ่า

“นอนนี่ นอนไหนอ่ะ” ดวงตากลมที่ปิดสนิทค่อยๆลืมขึ้นข้างหนึ่ง

“นอนกับกูไง เตียงนุ่มๆ แอร์เย็นๆ ดีไหม” ผมก้มหน้าลงไปถามใกล้ ถึงซ่าจะสูบบุหรี่ แต่ปากมันก็ยังมีความอมชมพูอยู่บ้าง มันน่าเอาปากลงไปแนบด้วยจริงๆ

“ดีๆ ผมอยากนอนแล้วครับ” พูดเพราะขึ้นมาเชียวไอ้เด็กนี่

“หึหึ งั้นก็ขึ้นไปนอนกันครับ”

ไอ้ซ่าชูมือขึ้นทั้งสองข้างให้ผมช่วยดึงมันขึ้น ผมพยุงบวกประคองมันขึ้นมาที่ห้องนอนของผม ซ่าทำท่าจะพุ่งเข้าหาเตียงนอนอย่างเดียว

“เดี๋ยวมึงได้นอนบนเตียงกูแน่ แต่ตอนนี้มึงต้องไปอาบน้ำให้ตัวหอมๆก่อน เข้าใจไหม”

“อื้ออ ผมง่วง”

“อาบน้ำก่อน” ผมบอกมันอย่างใจเย็น

“พี่ปราบอาบให้หน่อย ผมยืนไม่ไหว แม่งจะล้ม”

จะไหวก็เกินไปแล้ว เล่นดื่มเหล้ายังกับน้ำเปล่า ได้ทีกระดกใหญ่

“มึงแน่ใจนะว่าจะให้กูอาบให้ มึงไม่อาย” ผมถามความสมัครใจก่อน เดี๋ยวหาว่าล่อลวงเด็ก แต่นี่เด็กมันเสนอมาเองเลย ผมต้องอยากสนองอยู่แล้ว

“อายไร ไม่อายหรอก มีเหมือนกัน เร็วๆดิพี่ พาผมไปอาบน้ำ ผมง่วง”

กูถือว่ากูถามแล้วนะ หลังจากนี้จะมาหาว่ากูลวนลามไม่ได้แล้วนะ แต่ผิวมันลื่นมือดีนะ ถ้ามันมีเนื้อกว่านี้อีกนิดหน่อย ตอนหอมแก้มมันน่าจะนุ่มกว่านี้ และส่วนที่จะนุ่มมากที่สุดก็น่าจะเป็นก้นของมัน



..................................................
สวัสดีค่า วันนี้มาลงให้ต่อเนื่องจากเมื่อวานเลย
แอบกระซิบว่า รีบเสพความสุขจากตอนนี้ไว้นะคะ เพราะตอนหน้าและต่อไปอีกนิดหน่อยจะเข้าสู่ดราม่าแล้ว
ใครที่รอให้ซ่าเลิกกับพลอยอยู่ เวลานั้นกำลังจะมาถึงแล้วค่า และพี่ปราบก็จะเริ่มรุกเต็มที่ มาติดตามร่วมกันต่อว่า น้องซ่าจะรับมือกับปัญหาต่างๆที่ถาโถมเข้ามาได้ยังไง
ขอบคุณนักอ่านที่แสนจะน่ารัก ที่ยังคงรออ่านพี่ปราบน้องซ่านะคะ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและกำลังใจด้วย อ่านแล้วชื่นใจที่สุดเลยค่า  :o8:
เจอกันตอนหน้านะคะ ว่าแต่วันไหนดีเอ่ยยยยยย   :katai2-1:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ปราบลวนลามน้อง !!!

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
พี่ปราบน้องซ่าาา คิดถึงมากๆเลย
พี่ปราบรุกเลยค่ะ รอน้องรู้ตัวน่าจะอีกนานแน่นอน  :hao7:

ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
คิดถึงพี่ปราบกับซ่า มาแล้ววรอตอนต่อไปคะ

ออฟไลน์ เสพศิลป์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 277
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
นี้หายไปนานมาก เหมือนคนแต่งหนีไปแต่งงาน ฮ่ๆๆๆ แซวๆ

คือซ่าควรเลิกพลอยนานแล้ว ดูยึดติดเกิน มีปัญหามาเข้ามา แต่ซ่ามันยังมีพี่ปราบ

พระเอกแบบพี่ปราบนี้จะว่าดีก็ดี จะว่าเจ้าเล่ห์ก็นะ เพราะพี่ปราบกำลังเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของซ่า
เอาเถอะ ขอหวานๆไห้พี่ปราบด้วย เห็นใจนาง เห็นใจป้านี้ด้วยฮ่าๆๆๆ

ออฟไลน์ B_SRIKHUNLA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 13
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
จะว่าไรมั้ยถ้ารอซ่าเลิกกับพลอย
 :mew4:

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld
ปราบซ่า
ตอนที่15


[ซ่า]
 เช้าวันศุกร์ที่ผมต้องตื่นไปเรียน ปกติผมจะตื่นตอนใกล้จะแปดโมง อาบน้ำแต่งตัวใช้เวลาไม่นานแล้วค่อยไปโรงเรียน ก็ทันเข้าเรียนตลอด แต่เช้าวันนี้ผมโดนปลุกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าด้วยสายโทรศัพท์จากที่บ้าน

“ฮัลโหล ว่าไงแม่”

“กว่าจะรับสายนะมึง กูโทรไปหากี่รอบแล้วห๊ะ แม่ง ไม่มีใครได้ดั่งใจกูสักคน” รับสายไม่ทันถึงวินาที เสียงแม่ก็สวดยับมาแต่เช้า นี่ขนาดผมออกมาอยู่หอยังโดนขนาดนี้ ถ้ายังอยู่บ้านนี่ไม่รู้ว่าจะขนาดไหน

“เสียงดังอะไรอ่ะซ่า” พลอยบ่นแล้วก็พลิกตัวนอนหันหลังให้ผม เมื่อคืนพลอยขอมาค้างด้วย ตั้งแต่ผมย้ายออกมาอยู่หอ พลอยก็มานอนกับผมที่ห้องแทบจะวันเว้นวัน

“มึงฟังกูอยู่ไหมไอ้ซ่า เย็นนี้เลิกเรียนแล้วมาช่วยงานที่บ้านด้วย” แม่สั่งมาเสียงห้วน คงมีใครที่บ้านทำให้หงุดหงิด

“คืนนี้ผมเข้างานอ่ะแม่ ตอนเย็นจะนอน”

เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ และวันนี้ผมก็เลิกเรียนเย็น ช่วงเวลาทำงานเลยเป็นห้าทุ่มถึงหกโมงเช้าแทน เลิกเรียนแล้วผมอยากกลับห้องมาทำการบ้านแล้วนอนพักเอาแรงมากกว่า

“แล้วมึงมาช่วยที่บ้านก่อนได้ไหมละ ของต้องเอาไปขายเยอะแยะ มึงมาช่วยกันขนก่อน”

“ที่บ้านก็มีคนอยู่ตั้งหลายคนไม่ใช่เหรอแม่ ผมต้องทำการบ้านด้วย”

“มึงไม่ต้องมาหาเรื่องโกหกกู คนอย่างมึงเหรอจะทำการบ้าน หาข้ออ้างจะไม่มาช่วยกูล่ะไม่ว่า”

“...” ผมเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรดี 

“เอาเป็นว่ากูบอกให้มาช่วยก็มา” แม่รีบสั่งแล้วก็รีบวางสาย ผมมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยความเซ็ง

 คนอย่างผมนี่มันยังไงวะ มันน่าแปลกมาสินะที่คนอย่างผมจะหันมาเริ่มทำการบ้านไปส่งอาจารย์บ้าง มีอ่านหนังสือบ้าง แม้ว่าจะแค่วันละไม่กี่สิบนาทีก็ตาม

ผมไม่อยากได้คำชมหรอก เพราะไม่เคยคาดหวังอยู่แล้ว แต่ทำไมต้องมาหาว่าผมโกหกด้วย

“ซ่า อยากกินโจ๊กที่ตลาดอ่ะ พาไปกินหน่อยดิ” พลอยลุกขึ้นนั่งขยี้ตา

“อืม ไปอาบน้ำแต่งตัวไป” ผมบอก พลอยมองหน้าผมเหมือนจะรู้และเข้าใจว่าอารมณ์ผมตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และก็รู้ด้วยว่าต้องเป็นเรื่องที่บ้าน  เลยไม่ได้พูดอะไร เพราะรู้ว่าปัญหาคนในบ้านผมไม่ยอมช่วยทำงานนั้นมันแก้ไม่หาย แม่มักทำได้แค่บ่นลับหลัง งานไม่ทำแต่ก็ได้เงินกัน แล้วใครมันจะไปอยากทำ สุดท้ายผมก็ต้องเป็นคนทำทุกที อยู่ที่ไหนถ้าโดนโทรตามก็ต้องกลับไปทำ

พลอยอาบน้ำแต่งตัวพร้อมไปเรียนเสร็จ ผมก็เข้าไปอาบต่อ ระหว่างนั้นผมได้ยินเสียงโทรศัพท์พลอยดังข้างนอกแว่วๆ ก่อนที่เสียงพลอยจะตะโกนบอกว่าจะลงไปรอที่ข้างล่างหอพัก

ผมมองตัวเองในกระจก บอกไม่ถูกว่าตอนนี้รู้สึกยังไง ผมคิดว่าสายที่โทรเข้าเบอร์พลอยเมื่อตะกี้ จะต้องเป็นไอ้คนที่ชื่อปาร์ค เมื่อคืนตอนที่พลอยอาบน้ำ ผมก็เห็นเบอร์มันโทรเข้ามา ตอนที่ผมตัดสินใจว่าจะรับแทนดีไหม พลอยก็รีบพรวดพราดออกมาจากห้องน้ำแล้วแย่งโทรศัพท์กลับไป

ผมอยากจะถามว่าคนที่โทรมาเป็นใคร แต่มันไม่ได้จังหวะสักที และต่อให้ถามผมก็ไม่รู้ว่าพลอยจะบอกความจริงไหม หรือต้องรอให้จับได้แบบคาหนังคาเขาก่อนหรือเปล่า

ผมรีบล้างหน้าอาบน้ำให้เสร็จ ตอนที่กำลังจะแต่งตัว โทรศัพท์ผมก็ดังอีกรอบ เพียงแค่เห็นชื่อคนที่โทรมาผมก็รู้สึกว่า วันนี้มันคงไม่แย่เท่าไหร่

“ฮัลโหล” ผมรับสายพี่ปราบ กดเปิดลำโพงไว้แล้วเดินไปหยิบเสื้อกับกางเกงมาใส่

“ตื่นหรือยัง” พี่ปราบถาม

“ตื่นแล้วพี่ กำลังจะออกไปกินโจ๊กก่อนไปโรงเรียน”

“มึงมีอารมณ์ตื่นไปกินโจ๊กด้วยเหรอ”

“พลอยมันอยากกินน่ะพี่”

พี่ปราบเงียบไปสักพักก่อนจะถามต่อ “เมื่อคืนแฟนมานอนด้วยเหรอ”

“ครับ อยู่ดีๆพลอยก็บอกจะมานอนด้วยโดยที่ผมไม่ต้องชวน อย่างแปลก” ผมคุยไปแต่งตัวไปจนเสร็จ หยิบกระเป๋ามาสะพายข้าง คว้าโทรศัพท์บนเตียงมากดปิดลำโพงแล้วเอาแนบหู

“เย็นนี้อยากกินไรไหม ก่อนไปทำงานคืนนี้”

พี่ปราบรู้ตารางเรียนและตารางงานผมทุกวัน เพราะพี่แกบังคับให้ผมถ่ายรูปส่งไปให้ทางไลน์ หากวันไหนที่ผมต้องเข้างานกะดึก พี่ปราบจะพาไปหาอะไรกินก่อนเสมอ

“เย็นนี้คงไม่ได้อ่ะพี่ แม่โทรตามกลับไปช่วยงานที่บ้าน กว่าจะเสร็จก็คงทุ่มสองทุ่มนู่น” ผมใส่รองเท้าเสร็จพอดี ยังไม่ทันคุยกับพี่ปราบเสร็จ ก็มีสายซ้อน เป็นพลอยที่โทรมา

“พี่ปราบ รอสายแปบนะพี่ สายซ้อนอ่ะ” ผมบอกกับพี่ปราบแล้วก็กดสลับสายไปรับสายพลอย

“ว่าไงพลอย กำลังจะลงไป รอแปบ” ผมรีบบอกเพราะคิดว่าพลอยน่าจะโทรมาตาม

“ไม่ใช่ จะโทรมาบอกว่าเดี๋ยวไปโรงเรียนเองนะ ไม่ไปกินโจ๊กแล้ว” พลอยรีบพูดรีบบอก

“งั้นก็รอสิ เดี๋ยวไปส่ง” ผมบอก ไม่เข้าใจว่าจะไปเองทำไม

“ไม่ต้องๆ พลอยจะไปเองแค่นี้นะ” พลอยพูดอย่างร้อนรนแล้วก็วางสายไป ผมยืนงงอยู่ที่หน้าประตู ก่อนจะรีบวิ่งไปดูที่ระเบียงหลังห้องที่ตรงกับถนนฝั่งหน้าหอพัก

ผู้หญิงในชุดมัธยมคนหนึ่งนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของผู้ชายสักคนที่ไม่ใช่คนขับวิน และผู้หญิงคนนั้นก็คืนคนๆเดียวกับคนที่เพิ่งจะวางสายจากผม และไอ้ผู้ชายที่เป็นคนขับผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นใคร จะใช่ไอ้คนที่ชื่อปาร์คหรือเปล่า ผมว่าเวลานั้นที่ผมรอคงอีกไม่นาน

เพราะเรื่องพลอย ทำให้ผมลืมไปเลยว่าติดสายพี่ปราบไว้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนถึงโรงเรียนแล้ว ผมก็เลยส่งข้อความไปขอโทษแทน

ตกเย็นผมไปช่วยงานที่บ้าน พอผมไปถึง สิ่งแรกที่เห็นคือพ่อกับลุงคนงานและน้าๆอีกสองคนช่วยกันขนของขึ้นรถ แม่นั่งดูอยู่ข้างๆ เมียน้าตั้มก็นั่งกินน้ำแข็งไสอยู่ข้างแม่ ผมไม่เห็นน้าตั้ม ส่วนไอ้มิวนี่ไม่ต้องพูดถึง มันไม่เคยมาช่วยงานในบ้านอยู่แล้ว เป็นเกย์ที่โคตรจะสำอาง ผมล่ะเซ็งมันมาก เพราะมันไม่ยอมช่วยงานแล้วแม่ก็ไม่เคยว่ามันเลยสักครั้ง

“ไอ้ซ่ามาก็ดี ไปช่วยขนของสิ แม่งจะหกโมงเย็นแล้วยังไม่เสร็จเลย”

“แล้วน้าตั้มไปไหนอ่ะแม่” ผมถาม

“ไปขับวินมอไซค์แล้ว แม่ง ช่วยงานกูแปบๆก็หายหัว กูไม่เข้าใจเลยว่างานที่บ้านเยอะแยะไม่ทำ อยากจะไปขับวิน”

“มันจะทำทำไม่เล่า ไม่ทำมันก็ได้เงิน ออกไปขับวินก็ได้เงินอีกต่อ สบายจะตายมันน่ะ” พ่อบ่นมาจากบนรถหกล้อ

ผมฟังแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ก็อย่างนี้ทุกที ถ้าพ่อกับแม่จะบ่นน้าตั้มตรงๆ หรือไม่ก็ไม่ต้องให้เงินจริงๆบ้าง น้าตั้มก็จะปรับปรุงตัว แต่ก็เพราะทำได้แต่ด่าตอนที่เจ้าตัวไม่อยู่ และยังให้เงินค่าแรงเต็มจำนวน มันจะไปมีประโยชน์อะไร

ผมกระโดดขึ้นรถหกล้อ บอกให้พ่อไปพัก แล้วก็ช่วยพ่อทำงาน ผมรีบขนพวกโครงเหล็กขึ้นรถเตรียมเอาไปขายที่โรงเหล็กในวันพรุ่งนี้ ทุ่มกว่าๆถึงได้เสร็จ ทีแรกผมกะว่าจะกินข้าวที่บ้าน แต่วันนี้แม่ไม่ได้ทำกับข้าว พอจะให้ไอ้มิวไปซื้อมันก็เกี่ยงให้ผมไปแทน บอกว่าจะอ่านหนังสือ ผมเลยเดินออกมาจากบ้านเลย ถ้าผมไม่อยู่ที่บ้านซะ ยังไงไอ้มิวมันก็ต้องไปซื้อกับข้าวให้พ่อกับแม่อยู่แล้ว เขาสองคนไม่มีทางอดมื้อเย็น แต่ถ้าผมยังอยู่ ผมคงได้ตีกับไอ้มิวจนบ้านแตกแน่

กลับมาถึงหอผมก็นั่งกินบะหมี่ที่ซื้อติดมือกลับมา ก่อนจะไปอาบน้ำแล้วล้มตัวนอนพักบนเตียง ได้หลับสักสองชั่วโมงก็ยังดีวะ ไม่งั้นคืนนี้ผมต้องทรมานเพราะความง่วงทั้งคืนแน่ๆ

เมื่อได้เวลาต้องตื่นไปทำงาน นาฬิกาก็ดังปลุก ผมแทบไม่อยากลุกออกจากเตียงเพราะว่าเหนื่อยมากๆ เมื่อเย็นก้มๆเงยๆขนเหล็กขึ้นรถจนปวดไปทั้งร่าง แต่ผมจะขาดงานไม่ได้ ไม่งันรายได้ผมจะหายไป

กว่าจะขุดตัวเองมาทำงานได้ผมก็เกือบสาย จะดีก็แค่ว่าพอเป็นกะดึกลูกค้าจะไม่ค่อยเยอะและไม่วุ่นวาย ส่วนมากผมก็เติมของนับของบ้าง ก่อนจะไปยืนหาวที่หน้าเคาน์เตอร์แคชเชียร์ พวกพี่ผู้หญิงในร้านก็คุยเม้าท์กันไป ส่วนผมก็ยืนแคะเล็บแก้เบื่อระหว่างรอลูกค้า

ตื้อดึง

“เซเว่นอีเลฟเว่นสวัสดีครับ/ค่ะ”

ลูกค้าที่มาใหม่สามคนเดินเข้ามาในร้าน มองแล้วก็เป็นเด็กวัยรุ่นอายุพอๆกับผม มันคงจะดีกว่านี้ถ้าหากว่าหนึ่งในพวกมันผมไม่รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน และที่มากไปกว่านั้นก็คือมันจ้องผมด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

“น่ากลัวอ่ะ เด็กสมัยนี้นี่ชอบวางท่าเป็นอันธพาลให้คนกลัว” พี่ผู้หญิงที่ทำงานกะเดียวกับผมบ่นขึ้นเบาๆ

พวกมันสามคนเดินวนไปวนมา ไม่ซื้อของอะไรสักอย่าง แต่หนึ่งในนั้นที่ผมคุ้นหน้า มันคอยแต่จะมองมาทางผม จนผมรู้สึกคิ้วกระตุกอยากเข้าไปถามมันมากๆว่าจะมองเหี้ยอะไรนักหนา แต่ก็ทำไม่ได้เพราะตอนนี้ผมกำลังทำงาน

“พัชๆ พี่วานไปยกลังกล่องนมมาเติมที่ชั้นให้หน่อยสิ พี่ลากมาเตรียมไว้ให้แล้ว”

“ได้ครับ เดี๋ยวผมทำให้” ผมบอกกับพี่เขา ด้วยความที่ว่าพี่ผู้หญิงสองคนเขาตัวเล็ก ผมก็เลยบอกไว้ว่างานหนักๆให้มาบอกผม เดี๋ยวผมทำให้ ส่วนงานอื่นที่ไม่ต้องใช้แรงมาก พวกพี่เขาก็จะช่วยผมทำ

 ผมเดินเข้าไปยกกล่องน้ำหลังร้านมาทีเดียวสามกล่อง ตรงไปยังชั้นที่วางพวกนมกล่อง จังหวะที่ผมกำลังจะวางกล่องในมือลงบนพื้น ตัวของผมก็ถูกถีบอย่างแรงจนตัวผมเซไปข้างหน้าพุ่งเข้าหาชั้นวางของ ด้วยน้ำหนักตัวผมและลังนมกล่อง ชั้นวางของที่ตั้งอยู่ก็เอียงล้มลงไปกับพื้น ข้าวของระเนระนาดกระจัดกระจาย

และผมที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวดี ก็ถูกไอ้พวกเวรรุมกระทืบพร้อมเสียงกร่นด่าผม

“วันนี้กูจะกระทืบมึงให้เละ ไอ้สัด กล้ามายุ่งกับเมียกู”

นั่นคือสิ่งที่ผมฟังและจับใจความได้ ผมรีบยันตัวลุกขึ้นถีบคนหนึ่งออกจากตัวผม ก่อนจะต่อยคนที่มันเอาแต่จ้องหน้าผมตั้งแต่เข้ามาในร้าน

“ไอ้เหี้ยเอ้ย! หาเรื่องกูหาพ่อมึงเหรอวะ!” ผมด่ามันกลับพร้อมทั้งถีบมันไปอีกที ก่อนที่ตัวของผมจะถูกพวกมันล็อคจากข้างหลังให้เพื่อนมันต่อยผม เสียงพี่ๆในร้านร้องกรี๊ดเสียงดัง ก่อนจะออกไปตะโกนเรียกคนมาช่วยผม

“ด่าถึงพ่อกูเหรอห๊ะ ครั้งนี้กูจะสั่งสอนมึงให้รู้สึกนึกว่าอย่ามายุ่งกับเมียชาวบ้าน” มันต่อยผมไม่ยั้ง ผมสะบัดตัวให้หลุดออกจากเพื่อนมัน แล้วก็พุ่งเข้าใส่มันจนไม่สนใจว่าข้าวของจะพังเสียหายแค่ไหน ตอนนี้สติผมถูกความโกรธเข้าครอบงำโดยสมบูรณ์

“กูไม่ได้ยุ่งกับเมียมึงไอ้เหี้ย!”

“ไม่ได้ยุ่งเหรอไอ้สัด! เมื่อคืนมึงพาเมียกูไปกกที่ห้อง อย่าคิดว่ากูไม่รู้ กูตามดูพวกมึงมาสักพักแล้ว!”

มือของผมที่กำลังจะต่อยหน้ามันหยุดชะงักทันที หมายความว่าไงว่าเมียมันนอนกับผมเมื่อคืน

“พลอยเป็นเมียกู ไม่ใช่เมียมึง!” ผมตะคอกใส่หน้ามัน มือที่ชะงักเมื่อกี้ถูกปล่อยออกไปเต็มแรง ให้เท่ากับใจที่ผมเจ็บในตอนนี้

“พลอยเป็นเมียกู มันเอากับกูมากี่ท่าแล้ว มึงมันแย่งเมียกู แอบลอบกินลับหลังกู!” มันพลิกตัวผมนอนลงกับพื้นแล้วปล่อยหมัดมาไม่ยั้ง

“ได้ ไหนๆมึงก็ยอมรับแล้วว่าเป็นชู้กับเมียกู งั้นวันนี้มึงตาย” มันควักมีดออกมาจากกระเป๋ากางเกงข้างหลังเตรียมแทงใส่ผม

“ตำรวจๆๆ ตำรวจมาๆ” พี่ๆในร้านร้องเรียกตำรวจ จากนั้นก็มีเสียงวอของรถตำรวจดังเข้ามาใกล้

“เฮ้ยไอ้ปาร์ค พอก่อนมึง ไอ้เหี้ย ตำรวจมาแล้ว”

“เร็วมึง ลุกเร็ว”

“กูจะฆ่ามัน”

“เดี๋ยวค่อยจัดการ มึงต้องหนีก่อนไอ้ปาร์ค!”

“เออ ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”

พวกมันยอมล่าถอย แต่ก่อนไปไอ้คนที่ชื่อปาร์คยังหันกลับมาเตะผมเข้าที่สีข้างอีกหนึ่งที จากนั้นพวกมันก็วิ่งหนีไป

“พัชๆ เป็นอะไรมากไหม เจ็บหรือเปล่า โอ๊ยย เลือดออกหัวแตกด้วยแก”

พี่ที่ร้านตรงเข้ามาถามไถ่อาการบาดเจ็บของผม ก่อนจะมีคนมาช่วยผมให้ลุกขึ้น พวกเขาทำอะไรกับบ้างผมแทบไม่รู้สึกตัว ผมรู้แค่ว่าความเจ็บปวดจากที่ถูกคนรักหักหลังและทรยศมันทรมานมากกว่าความเจ็บปวดบนร่างกาย

สุดท้ายสิ่งที่ผมหลีกหนีมาตลอดวันนี้มันก็ปรากฏให้เห็นตรงหน้า

ทุกครั้งที่เพื่อนบอกว่าพลอยมีคนอื่น บอกว่าพลอยกำลังคบชู้จับปลาสองมือ ผมไม่เคยเชื่อและไม่อยากเชื่อ เพราะผมรักพลอยมาก ถ้าไม่เห็นตำตาผมก็พยายามที่จะหลอกตัวเองว่าพลอยไม่มีทางทำแบบนั้น เพราะรักผมจึงอยากจะรั้งพลอยไว้

มันคงดีกว่านี้ถ้าหากว่าพลอยจะทนอยู่กับคนเหี้ยที่ไม่มีอนาคตอย่างผมไม่ได้ แล้วขอเลิกผมไปซะ ผมอาจจะโวยวายบังคับไม่ให้มันทิ้งผมไป แต่มันก็ยังดีกว่าการที่มันทำเหมือนรักผมและต้องการผม แล้วมานอกใจกันแบบนี้

ผมจะต้องถูกหักหลังจากคนที่รักอีกสักกี่ครั้ง

แม่ที่ไม่เคยเชื่อใจ

พี่แนนที่กล่าวหาว่าผมเป็นขโมย

และพลอยผู้หญิงที่ผมรักสวมเขาให้ผม

ชีวิตนี้ยังมีใครบ้างที่รักผมจริง

คำตอบคือไม่มี คนที่รักผมมันไม่เคยมีมาแต่ต้น และมันคงจะไม่มีตลอดไป




หลังจากตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้วสอบปากคำผมและพี่ๆในที่ทำงานจนเสร็จเรื่องเสร็จราว ตำรวจบอกจะตามติดพวกมันมาดำเนินคดีทำร้ายร่างกาย วันต่อมาผมก็ถูกผู้จัดการร้านเรียกเข้าไปคุย และเพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมถูกอริเข้ามาก่อกวนในร้าน แต่ก่อนหน้านี้จะเป็นทางคำพูด หรือไม่ก็ต่อยตีกันนอกร้าน ผู้จัดการเขาเลยยังละเว้นผมไว้ แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าที่เขาจะทน ผมจึงถูกไล่ออกจากงาน ส่วนค่าเสียหายคงต้องรอให้ตำรวจจับพวกมันได้ก่อน

และที่บ้านผมก็ดันรู้เรื่องด้วย เนื่องจากพอผู้จัดการโทรหาผมไม่ติดในสองสายแรก เขาก็โทรไปหาเบอร์แม่ผม จากนั้นแม่ก็โทรไปฟ้องพี่แนน ผมที่นอนเซ็งอยู่ที่ห้องจึงถูกโทรตามให้มาฟังคำด่าที่บ้านแม่

"โดนเขาไล่ออกจากงาน มึงนี่นะซ่า ไม่ได้เรื่องได้ราวจริงๆ ก็บอกแล้วว่าไม่ให้เรียนช่างๆ มึงก็อยากจะไปเรียนเป็นนักเลง เลือดพ่อมึงนี่มันแรงจริงๆ กูละเบื่อ พ้นจากพ่อมึงมาได้ก็ยังต้องมาเจอมึงอีก"

"อะไรเล่าพี่แนน" ผมถามสวนอย่างไม่พอใจในสิ่งที่พี่แนนเอ่ยขึ้นมา

"ชีวิตมึงจะเอาอะไรรอด นิดหน่อยก็ตีต่อยหาเรื่อง อย่าหาความเดือดร้อนมาให้คนในบ้านจะได้ไหม"

“ผมไม่ได้ทำอะไรมันเลยนะ มันมาหาเรื่องผมเอง” ผมอธิบาย

“มึงอย่ามาแก้ตัว ก็ถ้ามึงไม่ไปเรียนช่างมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ไหม”

ผมเม้มปากแน่น ผมคิดว่าเรื่องนี้ผมไม่ผิด ผมไม่ได้เป็นคนเดินไปหาเรื่องมันก่อน และผมก็ไม่ได้อยากจะโดนไล่ออกจากงานด้วย

“กูไม่ไหวแล้ววะเนี่ย ลูกมึงแม่งหาแต่เรื่องมาให้กูปวดหัว” แม่ก็ส่ายหัวทำหน้าหนักใจใส่ผม “ให้ไปอยู่กับมึงก็มีปัญหา พอย้ายไปอยู่คนเดียวไม่มีใครดูก็ไปมีเรื่องต่อยตี กูจะทำยังไงมันดีวะเนี่ย โอ๊ย ปวดหัว”

“คอยดูนะแม่ ไอ้ซ่ามันโดนไล่ออก พอมันไม่มีเงินจ่ายค่าหอ เดี๋ยวมันก็ต้องมาแบมือขอเงินแม่อีก” ไอ้มิวชอบอยู่แล้วเหยียบซ้ำเวลาผมล้ม

“ไม่รู้เรื่องอะไรมึงก็หุบปากไปเลยไอ้มิว”

“ทำไม กูพูดผิดตรงไหนไอ้ซ่า”

“ไอ้สัด” ผมเตรียมปี่เข้าไปกระชากคอเสื้อไอ้มิว แต่น้าตั้มเข้ามาดึงตัวผมแล้วเหวี่ยงออก ตัวผมกระแทกเข้ากับเสากลางบ้าน

“มึงจะอย่ามาต่อยตีคนในบ้านนะไอ้ซ่า ทำตัวอันธพาลน่ะมึงน่ะ”

ผมกัดฟันตัวเองแน่น มองคนทุกคนที่กำลังรุมด่าผมอยู่ในตอนนี้ ผมพยายามที่จะควบคุมลมหายใจตัวเองที่เข้าออกอย่างแรงจากความโกรธ

“ไม่ต้องห่วงหรอก ผมดูแลตัวเองได้ จะไม่มาเดือดร้อนแม่หรือพี่แนนหรอก” สิ่งเดียวที่ผมจะพูดได้ในตอนนั้น ถ้าผมมันตัวปัญหาของที่นี่มากนัก ผมก็จะอยู่ด้วยตัวของผมเอง

“มึงจะไปไหนไอ้ซ่า กลับมา เดี๋ยวมึงก็ไปมีเรื่องอีก ไอ้ซ่า” พี่แนนตะโกนเรียกผม

“ไอ้ตั้ม มึงไปตามมันมาสิ”

“แม่คิดว่าผมไปตามแล้วมันจะกลับเหรอ ปล่อยๆมันไปเหอะ เรื่องไร้สาระ”


เสียงตะโกนเรียกของแม่และพี่แนนค่อยๆเบาลงตามจังหวะฝีเท้าที่เร่งเร็วขึ้น ริมฝีปากเม้มแน่น ก้มหน้ามองแต่พื้น เมื่อน้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากเบ้าตาผมรีบปาดมันทิ้ง เมื่อความเสียใจถูกกดเก็บเอาไว้ภายในไม่ได้รับการปลดปล่อยก็กลายเป็นความโกรธโมโห อยากหาที่ลงที่ระบายให้หายอึดอัด

ใช่ว่าผมอยากถูกคนรักหักหลังแล้วสวมเขาให้

ใช่ว่าผมอยากโดนไล่ออกจากงาน เพราะถูกชู้ของแฟนมารุมกระทืบถึงที่

ใช่ว่าผมอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้

ทำไมผมจะต้องถูกดุด่าอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องนี้ผมผิดอะไร ทำไมทุกคนจะต้องรุมด่าผมด้วย

ผมเป็นตัวปัญหามากนักเหรอ เป็นภาระนักใช่ไหม ถ้างั้นให้ผมเกิดมาทำไม  ทำไมผมไม่ตายๆไปตั้งแต่ที่เขาคิดจะทำแท้ง

“ทำไมกูต้องรอดมาด้วยวะ ตายไปตั้งแต่แรกก็คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้”

ผมเดินแล้วต่อรถมาที่บ้านพลอยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ผมยืนอยู่ที่หน้าบ้านของคนที่ได้ชื่อว่าแฟน คนที่ผมเคยวิ่งมาหาได้ทุกครั้งที่ผมทะเลาะกับที่บ้าน คนที่คอยบอกให้ผมใจเย็นเสมอ แต่แล้วคนๆนี้ก็เป็นอีกคนที่ทำร้ายผม

ผมกดกริ่งหน้าบ้านพลอยอยู่สองครั้ง รอจนพลอยเดินออกมาเปิดประตูรั้ว แวบแรกที่เห็นผม พลอยมีท่าทีตกใจและทำท่าจะหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน

“พลอย จะหนีไปไหน มาคุยกันหน่อย” ผมเปิดประตูรั้วเข้าไปหาพลอยในบ้าน ที่ไม่เปิดเข้าไปตั้งแต่แรกก็เพราะว่ายังมีมารยาทอยู่ ทั้งๆที่ใจผมมันร้อนรนไม่ต่างจากมีไฟสุมอยู่ในอก

“ซ่าจะเข้ามาทำไม ออกไปก่อน” พลอยเปลี่ยนมาไล่ผมแทนที่จะเดินหนีเข้าบ้าน

“ทำไมต้องไล่ ไม่มีใครอยู่บ้านไม่ใช่เหรอไง หรือซ่อนใครเอาไว้” ผมหรี่ตามองพลอยอย่างจับผิด เบนสายตามองไปในบ้าน ผมรู้ว่าเวลานี้ยังไม่มีใครกลับมา พ่อแม่พลอยออกไปทำงานกันหมด

“เปล่า จะซ่อนใครไว้ ไม่มี”

“งั้นเข้าไปคุยกันในบ้าน” ผมเป็นคนนำพลอยเข้าไปในบ้านแทน คือทีแรกก็ว่าพอจะสงบสติอารมณ์ได้แล้วนะ แต่พอมาเจออาการของพลอยที่ดูไม่ค่อยอยากจะเจอหน้าผมแล้วอารมณ์มันก็ขึ้น

ผมมองสำรวจทั่วบ้านพลอย ไม่มีใครอยู่ แต่ข้างบนบ้านผมไม่รู้ และไม่คิดจะขึ้นไปค้น

“มานี่มีอะไรหรือเปล่า” พลอยเปิดปากถามผม เธอทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟา แต่ไม่ยอมสบตากัน

“ไอ้คนที่ชื่อปาร์คนี่เป็นใคร” ผมยิงคำถามไปตรงๆ พลอยฟังแล้วก็ตวัดตามองผม อีกนิดหนึ่งตาก็จะถลนออกมาล่ะ

“อะไร”

“ถามว่าไอ้คนชื่อปาร์คคือใครก็ตอบดิ ทำหน้าตกใจทำไม” ผมเริ่มขึ้นเสียงมากขึ้น

“ก็...เพื่อน” พลอยตอบอึกๆอักๆ ผมแสยะยิ้มให้กับคำตอบที่ได้

“เพื่อนเหรอ”

“ใช่ ก็เพื่อนไง” พลอยยังยืนยันที่จะโกหก

“เพื่อนหรือผัว เอาให้แน่ๆ มันอาจจะออกเสียงใกล้ๆกัน แต่ไม่เหมือนกันแน่ๆ” ผมจี้ถามอีก จนกว่าผู้หญิงคนนี้จะยอมรับ

“พูดบ้าอะไรซ่า อย่ามาหาเรื่องกันนะ”

“หาเรื่องเหรอพลอย มึงเห็นรอยบนหน้ากูไหม ไอ้ปาร์คผัวมึงมันมาต่อยกูถึงในร้าน จนตอนนี้กูโดนไล่ออกไม่มีงานทำแล้ว นี่เหรอที่มึงบอกว่าเรื่องบ้าๆน่ะ”

“อะไรนะ” พลอยครางเสียงเหมือนไม่อยากจะเชื่อหู

“มึงยอมรับมาเถอะพลอย ว่ามึงมีคนอื่น”

“...” พลอยเงียบ และความเงียบก็เป็นคำตอบได้อย่างดีว่าสิ่งที่ผมคิดมันถูก

“ทำไมวะ! พลอยทำแบบนี้ได้ไง นอกใจแล้วไปนอนกับคนอื่น หรือกูเอาไม่ถึงใจ ถึงต้องเร่ไปให้คนอื่นเอาเหมือนผู้หญิงขายตัว ทำไมวะ!” ผมเดินย่างเข้าใกล้ตัวพลอยทีละก้าวๆ

เพี๊ยะ!

พลอยตบหน้าผมและผลักผมออกห่าง

“อย่ามาพูดจาดูถูกกันนะ”

“ไม่ให้ดูถูกแล้วทำแบบนี้ทำไมพลอย กูมีมึงคนเดียว รักมึงคนเดียว กูไม่เคยไปนอนกับผู้หญิงอื่นด้วยหรือแม้แต่จะคุยกับใครเลยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่กูน่าจะเหี้ยกว่ามึง แต่ดูมึงทำกับกูนะ” ผมหยุดพูดเพราะรู้สึกว่าตัวเองปากสั่นใจสั่นเกินไป มือทั้งสองข้างกำหมดเข้าหากันแน่น

“ก็เพราะที่มีอยู่มันไม่ดีไง ถึงได้ต้องไปหาคนไหมนะ ซ่าไม่รู้ตัวเองเลยหรือไง มึงไม่มีเวลาให้กู เดี๋ยวก็ทำงาน เดี๋ยวก็กลับบ้าน กูจะมีแฟนไปทำไมถ้าไม่มีเวลาจะอยู่ด้วยกันน่ะ”

“แค่นี้เหรอเหตุผลที่มึงคบชู้น่ะ!”

เหตุผลแม่งฟังไม่ขึ้นวะ

“เออ อาทิตย์ๆหนึ่งมึงว่างอยู่กับกูกี่วัน ไม่กลับบ้านก็อยู่กับเพื่อน กูเหงามึงเข้าใจไหม มึงเข้าใจไหมว่ากูเหงา!”

“งั้นมึงก็เลิกกับกูไปเลยดิ กูไม่ดีแล้วแล้วมึงทนทำไม! กูขอมึงเหรอ ขอให้มึงอยู่กับกูแล้วสวมเขาให้กูงั้นเหรอ มึงต้องการอะไรทำไมมึงไม่บอกกูล่ะห๊ะ! มึงหักหลังกูทำไม!!! มึงทำแบบนี้ทำไม!”

“ถ้ากูขอในสิ่งที่กูต้องการแล้วมึงทำให้กูได้เหรอ แค่ที่บ้านมึงโทรมามึงก็รีบแจ้นไปแล้ว คนที่บ้านมึงเพื่อนมึงสำคัญกว่ากูทั้งนั้นแหละ ไม่งั้นมึงไม่ทิ้งขว้างกูหรอก ขอเลิกงั้นเหรอ มึงจะยอมเลิกกับกูไหมละ”

“ถ้ามึงพูดว่าเลิก กูก็เลิก มึงจะลองไหมละ!” ผมพุ่งตัวเข้าหาพลอย พูดประชดประชันด้วยน้ำเสียงดังลั่น มือทั้งสองข้างกระชากเข้าที่ไหล่เล็กแล้วเขย่าอย่างแรง น้ำตาของผมไหลออกจากตา หมดแล้วซึ่งความอดทน

เพราะสิ่งที่ผมรอมาตลอดก็คือ ถ้าใจไม่อยู่ที่ผมแล้ว ก็บอกกันมาเลย แต่ถ้ามันไม่พูดผมก็ไม่คิดจะปล่อยมือมันไป ถึงแม้ผมจะเป็นคนที่ไม่มีอนาคต แต่ถ้ามันยังไม่คิดจะเลิกกับผม ผมก็ไม่คิดจะปล่อยมือ

“พูดออกมาดิ ว่ามึงไม่รักกูแล้วน่ะ”

“...” พลอยเงียบ จนกระทั่งตอนนี้มันก็ไม่ยอมพูดออกมา

“เสียดายอะไรอยู่วะพลอย” ผมกระซิบถาม หมดเรี่ยวแรงที่จะรั้งเอาไว้ ผมพยายามที่จะทำตัวให้ดีขึ้น พยายามที่จะปรับปรุงตัวเพื่อตัวเองและคนรอบข้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่จำเป็นอีกแล้ว

“ตัดสินใจได้เมื่อไหร่ก็มาบอกแล้วกัน กูจะให้เกรียติมึงเป็นครั้งสุดท้ายในการพูดมันออกมา” ผมยอมเปล่ามือออกจากไหล่ของพลอย ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะก้มหน้าแล้วเดินออกมา

กลับไปบ้านก็ไม่มีใครต้อนรับผม คนรักก็ไม่มีใจจะรักกันแล้ว บนโลกใบนี้มีที่ไหนที่ผมจะยืนได้บ้าง

มีใครที่จะรักผมจริงๆบ้างไหม

ทำไมทุกคนต้องทำให้ผมรู้สึกว่า ความผิดมันเกิดมาจากผม ทุกความผิดมันมาจากผมคนเดียว




ต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ RiRi

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 568
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +595/-8
    • RiRiWorld


ผมไม่มีที่ไป เลือกที่จะมาหาเพื่อน กินเหล้าจนเมามาย อัดบุหรี่ใส่ปอดมวนต่อมวน พวกมันได้แต่นั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนผมหลังจากที่ผมบอกพวกมันว่าผมโดนไล่ออกจากงาน แต่ไม่ได้เล่าเรื่องที่บ้านและเรื่องพลอยให้พวกมันฟัง

ผมอยากโทรหาพี่ปราบ แต่ผมก็กลัวว่าจะทำให้เขาผิดหวังเหมือนคนที่บ้าน กลัวเขาจะรู้สึกแย่กับความไม่เอาไหนของผม พี่ปราบมีภาระมากมายที่ต้องดูแล ผมไม่อยากให้คนที่หวังดีกับผมต้องมาทุกข์ใจเพราะผมอีก

ส่วนเพื่อนผม พวกมันรุมถามรุมด่าจนเหนื่อยและหยุดไปเอง สิ่งที่พวกมันทำก็คือนั่งอยู่ข้างๆผมและดีดกีตาร์ร้องเพลงเบาๆ ผผมไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่คนที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเหลือเพียงตัวคนเดียว

ผมตัดสินใจปิดโทรศัพท์เพราะไม่ต้องการติดต่อกับใคร ตอนนี้ผมต้องการที่จะลืมทุกอย่างไม่อยากรับรู้และคิดอะไรทั้งนั้น

ผมไม่เคยคิดจะเลิกรักพลอย แม้จะรู้ว่ามันทำร้ายผม แต่ผมยังรับความจริงไม่ได้ไหว

ผมไม่เคยลืมว่าทุกครั้งที่ผมทุกข์ใจ ผมหาไปหาใครได้ และใครที่คอยปลอบผมเสมอตั้งแต่ที่เราคบกันมา ผมไม่รู้ว่าพลอยคนนั้นหายไปไหนแล้ว

ฤทธิ์ของเหล้าช่วยทำให้ผมลืมเลือนความเสียใจและหลับไป ขอให้ในความฝัน ผมไม่ต้องถูกตามหลอกหลอนด้วยความที่พร้อมจะทำร้ายผม

"ว่าไงเฮีย โทรมามีอะไร ไปไม่ได้”

“ใครโทรมาวะ”

“เฮียกี่ จะชวนออกไปกินข้าวต้ม”

“แล้วจะไปยังไงล่ะ ไอ้ซ่านอนเมาเละเทะอยู่เนี่ย”

“เออ มึงเงียบๆก่อนดิไอ้ตูน กูคุยกับเฮียกี่แปบ”

“เพื่อนมึงเป็นอะไรไอ้หวาย” คนในสายได้ยินสิ่งที่พวกเด็กๆคุยกันเลยถามด้วยความสงสัย

“ก็ไอ้ซ่าแม่งเป็นไรไม่รู้ พวกผมต้องเฝ้ามันไม่ให้มันคลุ้มคลั่งและตอนนี้มันก็เมาหลับไปแล้ว"

“ตอนนี้พวกมึงอยู่ไหน” คนในสายถามต่อ

“อยู่หอมันเนี่ย”

“เออ มึงรอพวกกูแปบ เดี๋ยวกูกับไอ้ปราบไปหา”

“เอ๊ะ เฮีย แล้วเฮียจะมาทำไม อ้าว เฮียกี่วางสายไปและ อะไรของเขาวะ”

ไม่นานหลังจากที่หวายวางสายจากเฮียกี่ ชายร่างสูงใหญ่ของคนก็มาถึงห้องพักเก่าๆ คนแรกที่เดินเข้ามาในห้องก็คือปราบ ตามมาด้วยกี่

“ซ่ามันเป็นอะไร” ปราบถามพวกเด็กที่อยู่ในห้อง ก่อนจะมองไปยังร่างโปร่งที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง บนใบหน้าซีดเซียวมีร่องรอยเขียวช้ำ มีผ้าพันแผลปิดไว้ที่หน้าผากลวกๆ

“พวกผมก็ยังไม่รู้เรื่องครับ ไม่รู้มันไปมีเรื่องกับใครมาถึงได้สะบักสะบอมแบบนี้ ตามตัวมันก็มีรอย เมื่อกี้พวกผมแอบเปิดดู แต่กลัวมันตื่นเลยปล่อยมันไว้ก่อน” นุ๊กเล่าให้พี่ทั้งสองฟัง

“และมันก็เล่าว่ามันถูกไล่ออกจากงาน แต่พวกผมคิดว่าเรื่องมันต้องมากกว่านี้ น่าจะเป็นเรื่องที่บ้านมันนั่นแหละ น่าจะโดนด่ามาด้วย แต่ปกติโดนที่บ้านด่ามันก็ไม่เป็นแบบนี้นะ แต่ถามแล้วอะไรแล้วมันไม่ยอมปริปากบอก ผมนี่โมโหอยากจะหาคีมมาง้างปากมันมาก”

“โอ๊ย ง้างปากไอ้ซ่ายากยิ่งกว่าง้างปากจระเข้เสียอีก มีเรื่องทุกข์ใจชอบเก็บไว้คนเดียว”

ปราบมองเด็กที่ตัวเองชอบพอด้วยความรู้สึกหนักใจระคนเป็นห่วง และรู้สึกผิดหวังลึกๆที่ยามมีปัญหามันไม่นึกถึงเขาเป็นคนแรก

“ไอ้กี่ มึงพาพวกมันไปกินข้าวก่อนไป แล้วขากลับฝากมึงซื้อของกินเข้ามาให้กูด้วย เดี๋ยวกูดูแลมันเอง” ปราบหันไปบอกเพื่อน ซึ่งกี่ก็ทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว  ลากพวกเพื่อนๆของซ่าออกจากห้อง ทิ้งไว้แค่คนสองคนให้อยู่ด้วยกัน

ปราบเดินไปยืนใกล้ๆเตียงนอนก่อนจะทิ้งตัวนั่งลง ลูบมือเสยผมที่หน้าผากคนหลับออก ซ่าขยับตัวพลิกหันมาให้ปราบได้เห็นชัดๆ

“ใครทำอะไรมึงเนี่ย ทำไมถึงได้เจ็บตัวมาแบบนี้” ปราบถามโดยไม่รู้ว่าจะได้คำตอบกลับมาไหม

“เด็กซ่าของกูทำไมดูสิ้นฤทธิ์ขนาดนี้วะ หืม” ปราบได้แต่ลูบหัวปลอบคนที่นอนขมวดคิ้ว ก่อนที่ดวงตาบวมช้ำจะค่อยๆลืมขึ้นเล็กน้อย

“พี่ปราบเหรอ”

“อืม พี่เอง...นอนซะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก”

“พี่ปราบ อยู่กับผมนะ” เสียงที่เอ่ยขอ ฟังดูไร้เรี่ยวแรงจนน่าใจหาย

“พี่อยู่กับซ่าตรงนี้ นอนซะนะ”

มือแห้งไม่มีเนื้อคว้าจับที่มือของปราบ ดึงไปซุกไว้กับแก้ม ก่อนที่น้ำตาจะไหล่ลงช้าๆ แล้วตามมาด้วยเสียงสะอื้น

“ฮึก พี่ปราบ”

“ไม่ต้องร้อง พี่อยู่นี่แล้ว พี่จะปกป้องซ่าเอง”







…………………………………………………..
วันนี้มาลงแล้วค่า เมื่อวานติดธุระเลยไม่ได้มาลง
ถ้าไม่ติดบินหรือติดธุระ ริริจะพยายามมาลงให้อ่านต่อเนื่องกันนะคะ จะได้ไม่ขาดตอนเมื่อที่หายหน้าไป มีคนมาแอบแซวว่าคนแต่งแอบหนีไปแต่งงานมาหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆ อยากแต่งอยู่นะ แต่ยังไม่มีผู้เป็นของตัวเองเลยตอนนี้ นี่กะว่าจะขโมยพี่ปราบมาจากน้องซ่าแล้วเนี่ย
ตอนนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนหลักในชีวิตซ่าเลยก็ว่าได้ แต่จะมีอีกจุดที่เกิดจากพี่ปราบโดยตรง เนื้อเรื่องจะอึมครึมแต่ไม่ถึงกับดราม่าหนักนะคะ อยากให้ค่อยๆเห็นพัฒนาการของตัวละคร ริริไม่ค่อยถนัดสร้างความสัมพันธ์แบบรวดเร็ว แต่พยายามจะไม่ทำให้มันอืดจนเกินไป หากมีข้อมูลส่วนหน้าไม่ถูกต้องสามารถบอกและพูดคุยกันได้เลยนะคะ
ขอบคุณทุกคอมเม้นและทุกคนที่ยังกลับมาอ่านนะคะ คนอ่านหายไปเยอะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ริริกลับมาแล้ว ลงต่อจนจบแน่นอนค่า ใครใจดีอ่านแล้วก็แสดงตัวให้เขารู้ด้วยน้าว่าตัวเองอ่านอยู่ ขอๆกำลังใจนี้ดนึง  :mew1:
เลิฟๆ  :L1:


ออฟไลน์ NuNam

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
รออ่านจร้า เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
ประโยคสุดท้ายของซ่าทำเอาน้ำตาร่วงเลย ซ่าเจออะไรมาเยอะจริงๆ พี่ปราบช่วยน้องด้วย อยู่ข้างๆน้องเป็นกำลังใจให้น้องนะ  :m15: :กอด1:

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ตื่นได้แล้วคับซ่า ใครไม่รักก็รักตัวเอง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ชีวิตซ่าจะรันทดอะไรขนาดนี้ แต่เดี๋ยวคงดีจนน่าอิจฉาเพราะว่ามีพี่ปราบ :hao6:

ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น้องซ่า หงอยเลย พี่ปราบโอ๋น้องก่อนเร็ว
ว่าแต่จุดเปลี่ยนจากพี่ปราบเองคืออะไรนะ อย่าให้น้องเสียใจไปกว่านี้เลย บอบช้ำไปหมดทั้งกายใจแล้ว :hao5:

ออฟไลน์ helpmeiiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เมื่อไรซ่าจะหลุดพ้นสักที พี่ปราบปลอบน้องหน่อย

ออฟไลน์ ceylon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่ปราบอย่าทิ้งซ่าเชียว

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
น้องซ่าโคตรน่าสงสาร

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ชีวิต... ขนาดนี้ยังจะให้เกียรติผู้หญิงแบบนั้นอยู่เนอะ  :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ขอบคุณริริค่ะ
ประสบการณ์จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นนะ
พี่ปราบต้องช่วยซ่าได้แน่

นี่เบื่อครอบครัวซ่ามากอ่ะ บอกเลย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
เมื่อไหร่จะถึงช่วงฟ้าหลังพายุ(ฝน)ของซ่าหนอ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ครอบครัวซ่า ก็เหลือเกิน
แม่ พ่อ พี่แนน(แม่) ตั้ม(น้า) มิว(น้า) ล้วนแล้วแต่หลอกใช้กำลังแรงงาน
ได้แต่ใช้ กับด่า ส่วนตั้ม มิว ไม่ทำงานแต่ได้เงิน
 ซ่า ต้องหลุดจากตรงนี้ด้วย

พลอย รักซ่าจริงหรือ
ถ้ารัก ต้องไม่นอกใจ ไม่สวมเขาสิ
บอกว่าเหงา ซ่าไม่มีเวลาให้
ก็มีปาร์ค แก้เหงาให้แล้ว ก็เลิกกับซ่าซะสิ
แปลกๆนะ พลอยจับปลาสองมือ คงมีความสุข
ที่ให้ซ่ากับปาร์ค เป็นบ้าเพราะตัวเอง

พี่ปราบช่วยซ่า ให้หลุดจากวังวนของครอบครัว กับพลอย ไปเลย
ซ่าจะได้มีความสุขซักที
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด