。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 。◕‿◕。❤ เอื้อมใจให้รัก ❤ 。◕‿◕。 >>>UP side story:เรื่องราวของโจม (จบแล้ว) 10/06/10  (อ่าน 77202 ครั้ง)

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
น่ารัก
อ่านแล้วอยากไปเที่ยวแถวบ้านน้องปูนเลย

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เข้าใจนะว่าเอื้อน่าจะชอบปูนมานานแล้ว แต่ยังไม่เคลียร์ประเด็นซุกมิ้มต่อหน้าปูนที่ร้านเหล้านะ แถมพอขึ้นรถมายังซุกไซร์ต่ออีก ชอบปูนไม่ชอบมิ้มแล้วที่ทำนี่คือไร

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ว้าวววว แสดงว่าพี่เอื้อคงแอบชอบปูนมานานแล้วล่ะซิ
การเริ่มต้นลงมือก็คือกันคนที่ปูนสนใจออกไปก่อน

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
พี่เอื้อ เป็นเอามาก  :hao7:

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :mew1: 
สนุก ปักๆ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
แกมันร้ายเอื้อ

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
เหอ ๆ แค่นี้ก็เอาบาทสองบาทเอื้อเอย

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 11
เมื่อน้องปูนรู้สึกสงสัย?


ไอ้เอื้อนี่มันปัญหามากจริงๆ ครับ ขนาดจะกลับกันอยู่แล้วมันยังไม่วายเรื่องมากเลย มันมีปัญหาเรื่องอะไรอีกอ่ะเหรอ เรื่องงี่เง่ามากครับ เรื่องที่ว่าคือ…

มันไม่ยอมให้พี่ฟิ้งนั่งข้างมัน

ไอ้ประสาท!!

“มึงก็มานั่งกับกูเนี่ยฟิ้งจะอะไรมากมาย” พี่เดียวที่ทนมานานกับปัญหาซึ่งตกลงกันไม่ได้สักที ตอนนี้เราก็เลยยังไม่ได้ออกรถไปไหน ติดอยู่ที่ปั๊มน้ำมันในจังหวัด ทั้งๆ ที่ตอนออกมาจากไร่ก็ไม่เห็นมีปัญหา เอื้อขับ พี่ฟิ้งนั่งด้วย ผมกับพี่เดียวนั่งข้างหลัง (พี่เดียวหลับมาซบผมด้วยครับ น้ำลายเกือบยืดลงเสื้อผมแน่ะ) แต่จู่ๆ มันก็ไม่ยอมขึ้นมาซะงั้น

“ไม่เอา กูไม่อยากนั่งข้างหลัง ตอนมากูนั่งแล้วอ่ะ” พี่ฟิ้งก็ไม่ยอมท่าเดียวเลยครับ

“เอื้อ มึงก็ขับๆ ไปเถอะแปบเดียวก็ถึงมอแล้ว” คราวนี้พี่เดียวหันไปเจรจากันคนขับแทน ซึ่งคนอย่างมันน่ะเหรอจะยอมง่ายๆ แต่มันไม่ตอบครับ แม่งเดินหนีไปเลย

ขับรถกลับแล้วทิ้งมันไว้เลยดีป่ะวะ มันว่าผมว่าดื้อกับมัน มันก็ดื้อไม่แพ้ใครเหมือนกัน

“เอ้าไอ้นี่ เดินหนีกูเฉย”

“เดี๋ยวผมไปคุยเองครับพี่เดียว”

“ไม่ต้อง พี่ไปเองปูน” พี่ฟิ้งเสนอตัว

“มึงอยู่นี่เลยไอ้ฟิ้ง” พี่เดียวดันตัวพี่ฟิ้งให้กลับเข้าไปนั่งในรถตามเดิม

ผมเดินตามร่างสูงที่ตรงไปยังร้านกาแฟชื่อดัง อ่า แอร์เย็นจริงๆ ข้างนอกอากาศร้อนจนตับแตกเลยครับ เพราะแบบนี้หรือเปล่าเมื่อกี้เอื้อเลยดูอารมณ์เสียนิดๆ

“คาปูชิโน่สองแก้ว ลาเต้แก้วนึงครับ”

“แล้วก็ช็อกโกแลตเย็นด้วยครับ” ผมสั่งตามหลัง ให้ไอ้คนขี้เก็กหันมาเหลือบตามองแล้วหันกลับไปไม่สนใจผม

อะไรวะ

“เป็นไรอ่ะมึง ไม่พอใจอะไรอีก”

“...” เงียบครับ มันไม่ตอบแต่หันไปจ่ายเงิน

“เดี๋ยวกูจ่ายคืนนะ” ผมพยายามยิ้มให้กับไอ้คนที่ทำหน้าบึ้งราวกับไปกินรังแตนมา อะไรวะ แค่นี้ต้องโกรธกันด้วยเหรอ “เอื้อ”

“อะไร” เสียงห้วนสุดอะไรสุด

“มึงก็ยอมๆ พี่ฟิ้งหน่อยดิ พี่เขาก็อยากนั่งหน้าบ้างไง ตอนมาพี่เดียวได้นั่งไม่ใช่เหรอ สลับกันงี้”

“ตอนมามันก็นั่งหลังได้ ทำไมตอนกลับมันจะนั่งไม่ได้ล่ะ” มันตอบกลับด้วยเสียงนิ่งๆ

“ไม่สงสารพี่เขาเหรอ”

“สงสารคนขับอย่างกูป่ะ กูต้องขับนะ ตามใจกูบ้างดิ มึงอ่ะอะไรๆ ก็ตามใจไอ้เดียวหมดเลย ” อ้าว ไหงกลายมาเป็นเรื่องนี้ได้

“กูไม่ได้ตามใจพี่เขา”

“เมื่อกี้ตอนเดินเซเว่นมึงก็ถามมันว่าจะเอาอะไรมั้ย ตอนเช้าก็ยังไปตักข้าวต้มให้มันอีก ไม่เห็นถามกูเลย” เอื้อมันเป็นเด็กหรือไงวะ ทำไมขี้น้อยใจจัง

“มึงดูหน้าพี่มันดิ ปล่อยให้เดินไปเองอาจจะเกิดอุบัติเหตุก็ได้ นี่กูช่วยเพื่อนมึงอยู่นะ”

“นั่นแหละตามใจมัน” มันหันไปถือกาแฟ ก่อนจะยื่นคาปูชิโน่แก้วหนึ่งมาให้ผม “เอาไปให้ไอ้เดียวด้วยเลย”

อ้าว! หนีกูอีกล่ะ

“เอื้อๆ มึงก็กินคาปูชิโน่ป่ะวะ”

“เออ”

“งั้น…”

สูดดดดด

ผมจัดการดูดกาแฟในแก้วเข้าไปเต็มๆ จนมันพร่องไปจนเห็นได้ชัด

“มึงทำอะไรเนี่ยไอ้ปูน ของไอ้เดียวนะเว้ย”

“มึงก็เอาแก้วนั้นไปให้พี่เดียวแล้วกัน เดี๋ยวกูถือแก้วของมึงให้เอง” ผมยิ้มให้มัน “แค่นี้ก็กลายเป็นกูมึงถือกาแฟให้มึงแล้วนะ นี่กุอุตส่าห์ถือให้มึงเลยนะ ตามใจมึงสุดๆ (เกี่ยวเหรอวะ) เลิกน้อยใจได้แล้ว”

“กูไม่ได้น้อยใจเว้ย แล้วแม่ง...แดกกาแฟกูไปอีก” มันบ่นหงุงหงิงอะไรอีกก็ไม่รู้ครับ ก่อนจะเดินนำไปที่รถ

“อ้าว พี่เดียวขับเหรอ” ผมถามพี่เดียวซึ่งตอนนี้นั่งประจำที่หลังพวงมาลัยรถเรียบร้อยแล้ว ส่วนพี่ฟิ้งก็นั่งข้างๆ

“อือ ก็ไอ้เอื้อมันจะไม่ขับถ้าไอ้ฟิ้งไม่นั่งหลัง พี่ก็จะขับแทน”

แล้วกูจะฝากชีวิตไว้ได้มั้ยเนี่ย

“อ่ะ กาแฟของพวกมึง” ไอ้เอื้อมันส่งกาแฟทั้งสองแก้วให้กับพี่ฟิ้งถือไว้ ก่อนจะขึ้นรถไปนั่งข้างหลังด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “มึงจะยืนอีกนานป่ะวะ”

อะไรของมันวะ!

“เออๆ ไปเดี๋ยวนี้แหละ”

แล้วผมก็ขึ้นไปนั่งกับมันที่เบาะหลัง รถเอื้อไม่ใช่แนวที่พระเอกนิยายชอบใช้กันครับ ไอ้ที่แบบนั่งได้แค่สองคนอะไรนั่นอ่ะ รถมันเป็นแนวรถครอบครัว ที่นั่งได้มากกว่าสี่คน กว้างขวาง นั่งสบาย แถมนอนได้ด้วย

ตุบ

เชี่ยยยย!

ไอ้เอื้อมันเอาอีกแล้วอ่ะ มันทำเรื่องอีกแล้วครับ!

“อยู่เฉยๆ” นั่น มาดุกูอีก ก็มึงกำลังนอนหนุหตักกูจะให้กูอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรได้ไงวะ

“ยกหัวหล่อๆ ของมึงออกไปเลย” ผมขยับหนี มันก็ขยับตามมาหนุน

“กูขอนอนแปบเดียว”

มึงจะมาหลับตาใส่กูแบบครั้งที่แล้วไม่ได้นะ กูจะไม่…

“ให้มันนอนไปเถอะปูน เมื่อวานมันก็ต้องนอนดึกเพราะเก็บซากพวกพี่สองคนแล้วยังตื่นเช้าเพราะพี่คณิตต้องรีบออกไปทำงานอีก สงสารมันหน่อยนะ”

สิ่งที่พี่เดียวพูดทำเอาผมไม่กล้าจะเถียงต่อเลยครับ ถึงมันจะไม่แสดงออกว่ามันง่วงมากเท่าพี่เดียวแต่มันก็เป็นคนที่นอนดึกที่สุดแล้วตื่นเช้าที่สุดในพวกผมจริงๆ

งั้นเห็นแก่พี่เดียว ผมยอมก็ได้ครับ…

“เออ อยากนอนก็นอนไปเลย”

“หึ เชื่อฟังไอ้เดียวจังนะ”

“มึงว่าไงนะเอื้อ” เมื่อกี้ฟังไม่ชัดครับ มันพูดเสียงเบามาก แล้วพอถามอีกครั้งมันก็ไม่ตอบ นี่มึงกวนตีนกูอยู่ป่ะวะ!

พี่เดียวขับไปสักพักไอ้คนที่นอนตักผมอยู่ก็หลับไปจริงๆ ครับ มันกรนเบาๆ ด้วยอ่ะ อยากถ่ายเก็บไว้ชะมัด แล้วเอาไปประจานมันในโซเชียลมีเดียให้มันได้อายเล่น ฮ่าๆ แค่คิดผมก็อารมณ์ดีแล้วครับ

“ไอ้เดียว มึงไปส่งไอ้เอื้อที่ไหนวะ หอมันหรือหอเด็กมัน” พี่ฟิ้งถามเพื่อนตัวเองขณะที่ผมกำลังถ่ายรูปไอ้เอื้ออยู่ ผมว่ารูปมันเบาไป เอาเป็นวีดิโอเลยแล้วกัน มีเสียงมันกรนด้วยตลกดี

“อะไรของมึงเนี่ย ก็ต้องหอมันดิวะ”

“เหมือน แต่เมื่อเช้ากูได้ยินมันคุยโทรศัพท์ว่าจะไปหอมิ้มอะไรเนี่ยแหละ”

ผมชะงักมือที่กำลังกดชัตเตอร์โทรศัพท์ ไอ้เอื้อมันจะไปหอมิ้มอีกแล้วเหรอ ก็ไหนว่าจะเลิกยุ่ง…

“จริงดิ รอมันตื่นมาแล้วถามมันแล้วกันยังไงนี่ก็รถมันอยู่แล้ว” พี่เดียวสรุปเองเสร็จสรรพ

“มึงว่ากับมิ้ม ไอ้เอื้อมันจะคบนานป่ะวะ คนก่อนๆ เดือนเดียวเอง” พี่ฟิ้งก็ยังชวนพี่เดียวคุยเรื่องไอ้เอื้อต่อไป “เห็นว่านอกจากมิ้มแล้วมันคุยกันคนอื่นด้วยนี่”

“มึงจะมาพูดกับกูทำไม ก็ถ้ามันตื่นมึงก็ถามมันเลยครับ”

“ถามก็ไม่ยอมบอกหรอก ไอ้นี่มันเป็นเสือซุ่ม”

ผมก้มลงมอง ‘เสือซุ่ม’ ที่ตอนนี้หลายเป็น ‘เสือหลับ’ ไปเรียบร้อยแล้ว หน้าตามันก็ไม่ได้ดูเจ้าชู้เลยนะเอาจริงๆ แสดงว่าผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ให้มันเลิกยุ่งกับมิ้ม แต่มันกลับ…

เอาไว้ถ้ามันตื่นผมจะถามมันอีกทีแล้วกันว่าจะเอายังไงกันแน่

“มันเจ้าชู้มากเลยเหรอพี่ฟิ้ง”

“อ้าวปูน ฟังอยู่เหรอ”

“แหะๆ ก็นิดๆ ครับ” ผมส่งยิ้มแห้งๆ ให้พี่ฟิ้งที่หันหลังมาคุยด้วย

“มากครับ มันไม่เคยหรอกคบใครทีละคน ไอ้นี่มันชอบหลายๆ คนในครั้งเดียว”

ผมอดรู้สึกสงสารมิ้มขึ้นมาไม่ได้ มิ้มชอบมันมากมองผมก็รู้แล้ว สายตาเวลาที่มิ้มมองไอ้เอื้อแต่ละครั้งก็เต็มไปด้วยประกายแห่งความชื่นชม ถึงไอ้เอื้อมันจะคอยบอกผมเสมอจนผมเริ่มเชื่อว่ามันไม่ได้เป็นอะไรกับมิ้มจริงๆ แต่ความรู้สึกของมิ้มที่ให้มันคงเกินกว่า ‘ไม่ได้เป็นอะไรกัน’

มิ้มจะรู้เรื่องนี้หรือเปล่าวะ…

พอเลยไอ้ปูน มิ้มจะรู้หรือเปล่าก็ไม่ใช่เรื่องของมึงเว้ย! มึงขอร้องไอ้เอื้อไปแล้วและมันก็บอกจะทำตาม มึงต้องเชื่อคำพูดมันดิวะ แค่มันเลิกยุ่งกับมิ้มก็พอ แล้วจบ! เลิก!

อย่าๆ อย่าสับสน อย่าไขว้เขวด้วย!

“มึงก็พูดไปฟิ้ง มึงตัวติดกับมันหรือไงถึงได้รู้ว่ามันทำอะไรแบบนั้น” พี่เดียวขมวดคิ้วเข้าหากันแล้วหันมามองผมแปบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองถนน “ปูนอย่าไปเชื่อมันอยากรู้อะไรถามกับไอ้เอื้อเอา”

“มึงนี่ยังไง กูเป็นเพื่อนมันนะ กูก็ต้องรู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับมันดิวะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวแค่ไหน มึงมาทีหลังอย่ามาทำเป็นพูดได้เดียว”

“เออ กูมาทีหลัง แต่กูก็รู้ว่าสิ่งที่มึงพูดอ่ะคือการใส่ร้ายมันทั้งที่มันไม่ได้อธิบายอะไร”

อ้าว...ทำไมกลายเป็นพี่สองคนจะทะเลาะกันแล้วล่ะ

“กูไม่ได้ใส่ร้าย! กูพูดความจริง!”

“มึงใส่ร้าย” พี่เดียวพูดอย่างไม่ยอมแพ้ ซึ่งพี่ฟิ้งก็เช่นกัน ผมละกลัวเสียงของพี่เขาจะปลุกเอื้อให้มันตื่นขึ้นมาจริงๆ

“กูเปล่า ความจริงทั้งนั้น!”

เอื้อมันตื่นแล้วครับ! มันลืมตามองผมพลางขมวดคิ้ว คงไม่ชอบใจที่มีคนส่งเสียงดังรบกวนการนอนของมัน ตอนแรกมันคงอยากลุกขึ้นมาด่า (หน้ามันเอาเรื่องมาก) แต่แล้วมันก็นอนเฉยๆ ผมใช้มือทั้งสองข้างผิดหูเอื้อไว้ ไม่รู้ว่ามันจะช่วยได้มากหรือเปล่า แต่ผมไม่อยากให้มันได้ยินสิ่งที่เพื่อนๆ มันกำลังจะพูดกันต่อไป

“มึงจะมารู้อะไรเรื่องมันไอ้เดียว มึงมาทีหลัง เมื่อก่อนมันก็เป็นแบบนี้ มันเป็นมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วกูรู้!”

“แม่งอ้างเรื่องมาทีหลังอีกแล้ว มาก่อนแล้วไง มาทีหลังแล้วไง ก็เพื่อนเหมือนกันนั่นแหละ!”

เอื้อยกมือขึ้นมาแนบกับมือผมที่หูมันแล้วหลับตาลงด้วยแววตาเศร้าๆ มันก็คงไม่อยากได้ยินเรื่องที่เพื่อนสองคนของมันทะเลาะกันอีกแล้ว

“ไม่เหมือน มึงผูกพันธ์กับไอ้เอื้อเท่ากูหรือเปล่าล่ะ มึงหวังดีกับไอ้เอื้อได้เท่ากูมั้ย ไม่! มึงมันก็แค่เพื่อนมหา’ลัย กูเพื่อนมันมาทั้งชีวิต!”

“มึงแม่ง...ใจแคบกว่าที่กูคิดอีกว่ะฟิ้ง” พี่เดียวลดเสียงลงในที่สุด “ไอ้เอื้อคงดีใจนะ ที่มีเพื่อนดีๆ แบบมึง”

“แน่นอน กูอยู่กับไอ้เอื้อมานาน กูรู้ว่ามันเป็นยังไง มึงอยู่เฉยๆ เหอะ ทุกเรื่องเลยเดียว เรื่องไอ้เอื้อกูจัดการเอง”

และหลังจากการทะเลาะกันครั้งยิ่งใหญ่ของพี่ฟิ้งและพี่เดียว รถทั้งคันก็เงียบสนิท ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์จนพี่เดียวทนไม่ได้ต้องเอื้อมือไปกดเปิดเพลง พี่เขาเหลือบมามองกระจกหลัง

“ไอ้เอื้อยังหลับอยู่หรือเปล่าปูน”

“คะ ครับ ยังหลับครับ หลับสนิทเลย” ผมตอบกลับยิ้มๆ แล้วดึงมือออกจากหูคนที่นอนอยู่ แต่มันกลับจับมือข้างหนึ่งที่มันแนบมือตัวเองก่อนหน้านี้เอาไว้ บีบเบาๆ แล้วคลายออก ก่อนเปลี่ยนเป็นกุมไว้แทน

ผมจะเข้าใจว่ามันต้องการกำลังใจก็แล้วกันครับ

“ขอโทษนะ ที่ต้องให้มานั่งฟังอะไรไร้สาระ”

ผมแอบรู้สึกกลัวพี่เดียวแล้วสิ เมื่อกี้ตอนทะเลาะกับพี่ฟิ้งหน้าตาพี่เดียวน่ากลัวมาก มันทั้งดุ ทั้งเครียด แล้วเสียงพี่เดียวก็ดังด้วย ขึ้นเสียงทีผมเผลอสะดุ้งไปหลายครั้งเลย ตอนนี้ก็ยังโหดอยู่ครับ แม้ว่าพี่มันจะพยายามผ่อนคลายเวลาคุยกับผมแล้วก็เถอะ

ส่วนพี่ฟิ้งก็ใช่ย่อย หน้าพี่ฟิ้งดูอารมณ์เสียสุดๆ แต่ผมเห็นไม่ถนัดหรอกครับ เพราะผมนั่งอยู่ข้างหลังพี่ฟิ้ง สังเกตเอาจากเอาสะท้อนของกระจก

“แล้วพี่ขอย้ำ มีอะไรถามไอ้เอื้อเอา ไม่ต้องฟังใคร”

“มึงจะไม่จบเหรอเดียว”

“กูจบแล้วฟิ้ง จบทุกอย่าง...แม้แต่กับมึงด้วย”

“ผมว่าพวกพี่ใจเย็นๆ นะครับ” ผมรีบบอก เห็นใจไอ้เอื้อเลยครับ มันต้องเป็นคนกลางระหว่างสองคนนี้ และถ้าพวกพี่เขาคบกันอยู่สามคนนี่ไอ้เอื้อวางตัวลำบากมากอ่ะ จะเข้าข้างใครก็ต้องทิ้งอีกคนไว้ข้างหลัง

เสียงของผมเหมือนจะลอยผ่านพวกพี่สองคนเขาไปเลย เพราะหลังจากนั้น พี่เดียวกับพี่ฟิ้งก็ไม่พูดกันไปตลอดทาง…

♣♣♣♣♣

ถึงมอล่ะครับ

ไชโยยยยยยยยย!!! ต้องขอขอบพระคุณพี่เดียวเอ็นอย่างมากที่ควบคุมอารมณ์และความง่วงจนเฃพวกเรากลับถึงมองอย่างปลอดภัย

พี่เดียวสุดยอด!!

ที่ผมบอกพี่แกเหมือนไอ้กล้าขอถอนคำพูดครับ พี่เดียวไม่ได้ไร้สาระเหมือนไอ้กล้า พี่แกเป็นส่วนผสมอันลงตัวระหว่างไอ้โจมกับไอ้กล้าต่างหาก มีความเป็นผู้ใหญ่บวกขี้เล่นนิดๆ พี่ปูนปลื้ม~

ตอนนี้เรากำลังอยู่กับหน้าหอพี่ฟิ้งกับพี่เดียว สองคนนี้ไม่ได้อยู่หอเดียวกันครับ แต่อยู่ตรงข้ามกัน หลังจากเหตุการณ์ทะเลาะกันในรถพี่มันก็ยังไม่พูดกันเลยอ่ะ พาผมรู้สึกไม่ดีไปด้วยเลย นั่งรถกลับมาด้วยความอึดอัดภายใต้บรรยากาศอึมครึม แต่ไอ้คนที่เป็นตัวต้นเหตุนี่ดิ ดันหลับไปเฉย เนี่ยมันเพิ่งตื่น

แล้วอะไรไม่เท่ามันนอนหนุนตักผมทั้งทาง บอกเลยว่าชา!

ขากูไร้ความรู้สึกแล้วแม่ง T^T

“ปูนอยู่หอไหนอ่ะ ถ้าแถวนี้พี่เอามอ’ไซค์ไปส่งให้เปล่า ไวดี” พี่เดียวคนดีเอ่ยขึ้นอย่างมีน้ำใจตอนที่พี่แกอยู่หน้าหอเรียบร้อยแล้ว ผมนี่ปลื้มปริ่ม ถ้ามีพี่ชายก็อยากมีอย่างพี่เดียวนี่แหละครับ

“ไม่เป็นไรพี่ ผม…”

“ปูนอยู่หอเดียวกับกู” มนุษย์ชอบขัดพูดขึ้นก่อนผมจะพูดจบครับ

“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง” หน้ามึงแลดูเจ้าเล่ห์มากครับพี่เดียว จะไม่ชอบพี่มันก็ตรงนี้แหละ “งั้นพวกมึงไปเถอะ ขอบใจมากที่มาส่งถึงกูจะขับมาเองก็เถอะ ขอบใจมากนะปูนทริปนี้พี่ชอบมาก ได้ขี่ม้าด้วย”

“ไม่เป็นอะไรครับ หวัดดีครับพี่” ผมส่งยิ้มให้พี่เดียวแล้วยกมือไหว้ พี่มันก็พยักหน้ารับแล้วเดินขึ้นหอไป

เหลือก็แต่พี่ฟิ้ง

“อ้าวมึงยังอยู่เหรอฟิ้ง”

ไอ้เชี่ยเอื้อ!! มึงนี่พูดไม่ดูหน้าพี่ฟิ้งเลยนะ เขาจะแดกหัวมึงอยู่แล้วเว้ย!

“เออ!”

อย่างเสียงดังพี่ปูนกลัว~

“แล้วมึงอยู่ทำไมอ่ะ”

“ก็อยู่ขอบใจมึงเนี่ย! ขอบใจที่มาส่ง แล้วก็ปูนด้วย”

“ครับพี่ หวัดดีครับ” ผมยกมือไหว้ แต่พี่ฟิ้งคงไม่เห็น เพราะพี่แกไม่แม้แต่พยักหน้ารับเลย

“ฟิ้งน้องมันไหว้” มึงจะปล่อยๆ ไปก็ได้นะเอื้อ

“โทษทีพี่ไม่เห็นอ่ะ ไปแล้วนะมึง”

“อือๆ” ไอ้เอื้อพยักหน้าหรับ ก่อนที่มันจะเดินกลับมาขึ้นรถ ในขณะที่พี่ฟิ้งข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม “ขึ้นมาสิครับมึง จะยืนอีกนานป่ะ”

ไอ้นี่แม่ง...พูดดีๆ ก็ได้หรอก

ผมเดินขึ้นรถไปนั่งข้างมัน พอนั่งแล้วมันก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษตรงไหน ทำไมพี่ฟิ้งกับพี่เดียวถึงแย่งกันนั่งจังวะ

แทนที่เอื้อมันจะตรงไปที่หอ มันกลับขับพาผมไปยังร้านอาหารใกล้ๆ มอ ตอนนี้เวลาเกือบๆ จะบ่ายแล้ว คนกำลังเยอะเลย

“มึงหิวข้าว?”

“เออสิวะ มึงคิดว่าข้าวต้มจะอยู่ท้องตลอดวันหรือไง”

“มึงอารมณ์เสียอะไรอีกเนี่ย” หน้าตามันหาเรื่องผมมากๆ อ่ะ สงสัยจังว่าผมไปทำอะไรให้มัน

“เปล่า กูแค่...เซ็งๆ เรื่องเดียวกับฟิ้ง”

โอเคพอเข้าใจได้ เป็นผมก็คงเซ็งครับ เพื่อนสนิททั้งคู่มาทะเลาะกันเอง

“ไม่เป็นอะไรน่ามึง เดี๋ยวเขาก็ดีกัน”

“นี่มึงปลอบกู?”

“เปล่า กูแค่พูดให้กำลังใจเฉยๆ”

“มันก็เหมือนกันแหละน่า” ว่าเสร็จมันก็คว้าคอผมเข้าไปกอดแล้วลากให้เดินเข้าไปในร้านด้วยกัน ทำไมมันชอบถึงเนื้อถึงตัวนักวะ ผมก็โวยวายมากไม่ได้ด้วย อายคนในร้าน แค่เดินเข้ามาเขาก็มองกันเกือบทุกโต๊ะแล้ว

อ้อ ลืมไป...ผมมากับไอ้เอื้อนี่นา

“พี่เอื้ออออ คนอะไรหล่อวัวตายความล้ม”
“อ๊าย พี่เอื้อจริงๆ ด้วยอ่ะ มึงๆ โทร.ตามอียุ้ย อีย้อย อีเย็นเลย”
ชื่อเพื่อนแต่ละคนนี่แบบ...
“พี่เอื้อมากับใครอ่ะ หน้าตาน่าเอ็นดูเชียว”

หมายถึงผมใช่มั้ย อิอิ

“น้องปูนเกษตรไงมึงงง ไปอยู่ไหนมาเนี่ย น้องน่ารักกว่าเดือนคณะอีกนะ”

อ้าว รู้จักพี่ปูนด้วยเหรอครับสาวๆ

“แล้วทำไมเขามาด้วยกันวะ กอดคอกันด้วย ”
“นั่นสิ ทำไมนะ เขาสนิทกันเหรอ”

พี่ปูนก็สงสัยครับ

“หาที่นั่งเหอะมึง กูเมื่อย” ไอ้เอื้อกระซิบอยู่ข้างหูผม

ไอ้เชี่ยใกล้ไป!!!

“เขาหอมแก้มกันด้วยมึง!”
“หรือเขากิ๊กกัน!!”

ไม่ใช่ครับ!! ไม่ได้หอมแก้มครับแค่กระซิบ! แล้วก็ไม่ได้กิ๊กกันด้วยครับ!

ผมอยากจะอธิบายสาวๆ แทบขาดใจ แต่ไอ้คนต้นเรื่องมันไม่ยอมปล่อยให้ทำอย่างนั้นได้ มันลากผมไปยั่งโต๊ะหนึ่งซึ่งอยู่มุมสุดของร้าน พอนั่งได้ไม่นานพนักงานก็มารับออร์เดอร์

“อ้าวพี่เอื้อหวัดดีพี่” เขายกมือไหว้ไอ้เอื้อที่พยักหน้าตอบรับ “วันนี่เอาแบบเดิมป่ะ”

สงสัยเอื้อมันจะเป็นลูกค้าประจำนะ ดูคุ้นเคยกับพนักงานและร้านนี้ดีเหลือเกิน

“ไม่อ่ะ วันนี้เป็นกับข้าวดีกว่า” มันบอกก่อนจะเปิดเมนูอาหาร “เอาไข่เจียวหมูสับ ต้มยำกุ้ง แล้วก็ผัดผัก มึงเอาอะไรป่ะปูน”

ขอบคุณครับที่ถาม นึกว่าจะลืมไปแล้วว่ามีกูมาด้วย

“กูเอา… เอา… เอาข้าวเปล่าอ่ะ”

“...”

“อะไร ก็ข้าวเปล่าไง”

“กูหมายถึงกับข้าว”

“อ๋อออ แล้วก็ไม่บอก กูไม่เอาอะไรอ่ะ แค่ที่มึงสั่งเนี่ยแหละ” เอื้อถอนหายใจแล้วทำหน้าแบบเอือมโลก อะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้น พี่ปูนทำอะไรผิด!

“ฮ่าๆ เพื่อนพี่ฮาดีอ่ะ” ขนาดพนักงานยังหัวเราะเลยครับ “ผมชื่อใหม่นะ ปีหนึ่ง วิทยาศาสตร์”

“ผมปูนครับ ปีหนึ่ง เกษตร”

“อ้าวเราเพื่อนกันเหรอ นึกว่าเป็นเพื่อนพี่เอื้อซะอีก เห็นพูดกูมึงกัน” ใหม่ทำหน้าแบบอึ้งๆ ใส่ผมด้วย ทำไมวะ พูดกูมึงกับไอ้เอื้อมันแปลกตรงไหน

“อ๋อ มันกวนตีนอ่ะ เลยไม่อยากนับถือเท่าไหร่” สิ่งที่ผมตอบเล่นเอาใหม่ทำหน้าช็อกโลกไปอีกเท่าตัว  มันเหลือบมองไปยังไอ้เอื้อด้วยสีหน้าแบบเดียวกับที่มองผม

“กะ กวนตีน…?”

“เออ โคตรกวนตีนเลย”

“เงียบไปเลยไอ้ปูน” ไอ้เอื้อทำหน้าโหดอีกแล้วครับ คิดว่าพี่ปูนจะกลัวเหรอ

จริงๆ ไม่ได้กลัวนะครับ แค่พี่ปูนไม่อยากมีเรื่อง ไม่ได้กลัวจริงๆ...

“เอ่อ สั่งอาหารเรียบร้อยแล้วนะครับ รอสักครู่นะครับ” อยู่ๆ ใหม่ก็พูดขึ้นแล้วเดินไปทางเคาท์เตอร์ทันที เห็นมั้ย ใหม่เขากลัวเลย

ผมละสายตาจากหน้าโหดๆ ของไอ้เอื้อ ไปมองร้านที่ตกแต่งอย่างน่ารักลงตัวแล้วก็ต้องชะงักกับจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว เมื่อกี้คนก็เยอะอยู่แล้วนะ นี่แทบจะขี่คอกันแล้วมั้ง! พ่อแก้วแม่แก้ว คนทำไมเยอะขึ้นผิดหูผิดตาอย่างงี้วะ

หรือเพราะ…

“พี่เอื้อตัวเป็นๆ จริงๆ ด้วย แม่จ๋าหนูรักเขา!”
“เป็นบุญสุดๆ ที่ได้เกิดมา”
“จะเอา จะเอา จะเอาผู้ชายคนนี้!”

เหอะ เพราะไอ้หน้าหล่อตรงหน้าผมจริงๆ ด้วย

หมั่นไส้ครับ ดูมัน...นั่งไขว่ห้างเล่นโทรศัพท์มือถือ แม่งคิดว่าตัวเองเท่นักไง คิดว่าดูดีเหรอ… เออ! โคตรดูดีเลยแม่ง ผมทำแบบนี้จะดูดีบ้างป่ะวะ หรือผมจะกลับไปใช้วิธีแช่งมันดี แบบ...ขอให้หน้ามึงหมดหล่อ ไม่เอาๆๆ ไม่ปูนจะไม่ทำปาบ พี่ปูนจะไม่แช่งมัน

“อะไร...หน้ากูมีอะไรติดเหรอจ้องขนาดนั้น” มันเหลือบตาขึ้นมามองผมก่อนจะเก็บเครื่องมือสือสารลงประเป๋าแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ “อ่อ...หรือว่ามึงอยากมองหน้าหล่อๆ ของกู อ่ะ...เอาเลยเต็มที่”

อี๋~ ไอ้หลงตัวเอง! อะไรทำให้มึงเป็นคนมั่นหน้าแบบนี้วะ

“กูไม่ได้อยากมองเว้ย แค่สงสัยเฉยๆ”

“สงสัยว่า…?

“มึง...ทำจมูกมาหรือเปล่า ทำไมมันโด่งจัง” ผมควรลุกขึ้นแล้วเดินออกไปจากร้านตอนนี้เลยครับ นี่ผมทำอะไรลงไปปปป ผมพูดอะไรออกไป!! สงสัยว่าทำจมูกหรือเปล่าเหรอ โอ๊ยยยยย โคตรไม่เมคเซ้นท์เลย!

“หึหึหึ”

ห้ามหัวเราอย่างนั้นนะไอ้เอื้อออออ

เอื้อหยุดหัวเราะแล้วยืดตัวขึ้นตั้งตรง ผมมองมันด้วยความหวาดระแวงว่ามันจะทำอะไรของมันอีก อย่านะมึง...คราวนี้กูกรี๊ดจริงๆ นะเว้ย

เอ่อะ ไม่ใช่ล่ะ

“ถ้าสงสัยมากก็เอามือข้างนึงมาวางไว้บนโต๊ะ” เอามือข้างนึงวางบนโต๊ะ? ทำแค่นี้มันจะรู้เลยเหรอครับว่าจมูกนั่นเป็นของจริงหรือเปล่า อะไรของมันวะ จะเล่นอะไรเนี่ย “เร็วดิ ไม่อยากรู้เหรอ”

ก็ไม่ได้อยากรู้แต่ต้นแล้วไง

ผมยื่นมือข้างหนึ่งไปวางบนโต๊ะอน่างที่เอื้อบอก ผมไม่ได้อยากรู้นะว่าจมูกมันของจริงหรือปลอม แต่แค่อยากรู้ว่ามันจะทำอะไรแค่นั้น

“ดี...งั้น…” 

แล้วผมก็ได้รู้ว่าการทำตามที่มันบอกเป็นสิ่งที่พลาดที่สุด!!

ไอ้เวรเอื้อ (อัพเวล) มันยื่นหน้าใกล้เข้ามาแล้วคว้ามือผมที่วางอยู่ไว้ ก่อนจะดึงแรงๆ ให้ตั้งผมทั้งตัวเข้าไปใกล้มัน จนอกผมนี่ชิดกับโต๊ะเลยครับ กระแทกเบาๆ ด้วย จุกอ่ะ

“เล่นไรของมึงเนี่ย แขนกูจะหลุด!!!”

ผมถามอย่างอารมณ์เสีย ซึ่งหน้าอย่างมันก็ไม่มีสลดอ่ะ กลับยิ้มระรื่นอีก

“วิธีที่จะรู้ได้ก็คือ มึงต้องจับเองเลยครับ” ว่าแล้วมันก็จับมือของผมวางลงบนจมูกมัน “เอาเลย จะบีบ จะบี้ จะโยก จะลูบ จะคลำก็ตามสบาย”

สาบานนะว่ามันพูดถึงจมูก ทำไมผมถึงคิดว่าเป็นอย่างอื่นไปได้เล่า!!

ต่อไปผมจะไม่สงสัยอะไรเกี่ยวกับหน้ามันอีกแล้ว!!!!!

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
ฟิ้งนางชอบเอื้อหรอ น่ารำคาญมากเลยมีเพื่อนแบบนี้ รู้จักมาทั้งชีวิตนี่หมายความว่า รู้แม้แต่เพื่อนคิดยังไงหรอฟิ้ง เอาจริงนะ พ่อแม่บางที ยังไม่รู้จักลูกตัวเองทั้งหมดเลย ตัวเองก็ยังไม่รุ้จักตัวเองดีเลย ฟิ้งน่ารำคาญ

เดา เอื้อชบอปูนมานานแล้วแหง๋ เดียวต้องรู้ชัวร์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ฟิ้งนางชอบเอื้อหรอ น่ารำคาญมากเลยมีเพื่อนแบบนี้ รู้จักมาทั้งชีวิตนี่หมายความว่า รู้แม้แต่เพื่อนคิดยังไงหรอฟิ้ง เอาจริงนะ พ่อแม่บางที ยังไม่รู้จักลูกตัวเองทั้งหมดเลย ตัวเองก็ยังไม่รุ้จักตัวเองดีเลย ฟิ้งน่ารำคาญ

เดา เอื้อชบอปูนมานานแล้วแหง๋ เดียวต้องรู้ชัวร์


เห็นด้วยทุกประการ

ออฟไลน์ mareya.no7

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ฟิ้งนี่ยังไงวะ ใส่ร้ายเพื่อน เถียงข้างๆคูๆ มาก่อนมาหลังน่ารำคาญมาก คือพูดซะเอื้อเสียเลย เดียวพูดถูกมีไรควรถามเจ้าตัว หรือจะกั๊กไว้กินเอง แต่ว่าก็ว่าเถอะ เป็นเราตบหัวคว่ำแล้วไม่เสียเวลาเถียงหรอก รำคาญ!!

ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
ฟิ้งนี่ยังไง นิสัยไม่ดีเลยบอกว่ารู้จักเพื่อนมาทั้งชีวิตแต่พูดจาใส่ร้ายเพื่อนหน้าตาเฉย :m16:
ฟิ้งจะมารู้จักพี่เอื้อดีไปกว่าตัวพี่เอื้อเองได้ยังไง หรือว่านางชอบพี่เอื้อ
แล้วเหมือนรู้ว่าพี่เอื้อชอบน้องปูนเลยพูดเรื่องแย่ๆของพี่เอื้อให้น้องปูนเกลียดพี่เอื้อ
ตอนท้ายยังมาทำนิสัยไม่ดีใส่ปูนอีกนะ เพื่อนอย่างนี้เลิกคบเถอะ
สงสารพี่เดียว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ทำไมเพื่อนเอื้อแปลกๆหว่าาาาา  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ฟิ้งชอบเอื้อ เดียวชอบฟิ้ง แน่ ๆ เลย

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รักกี่เศร้าละเนี่ย =_= เออะ.... พี่เอื้อร้อยเมียกะหน่องปูนคนดี 55555

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ yangpah

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ฟิ้งชอบเอื้อแน่ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เดียวปูนดีกว่า

ออฟไลน์ เจเจจัง

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ฟิ้งชอบเอื้อแน่นอน  และรู้ว่าเอื้อชอบปูน หึงปูนเลยพยายามพูดให้เอื้อไม่ดีในสายตาปูน  ดูท่าเดียวจะชอบฟิ้งด้วยแ แต่เดียวนิสัยดี ไม่เหมือนฟิ้งที่เห็นแก่ตัวสุด ๆ ใจแคบ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ถ้าฟริ้งรู้จักเอื้อดี
แล้วไม่รู้เหรอว่าเอื้อน่าจะสนใจปูน
เรื่องนี้ถ้าฟริ้งจะทำเป็นมองไม่เห็น
เพราะฟริ้งชอบเอื้อก็ไม่เป็นไรหรอก
แต่ที่คิดว่าเดียวเรื่องมาคบเป็นเพื่อนกันทีหลัง
มันใช่เรื่องที่สมควรพูด สมควรคิดเหรอ
เครียดแทนเอื้อ แทนเดียว

ออฟไลน์ pui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +177/-3

ออฟไลน์ MeWeaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จริงๆแล้วฟริ้งไม่ได้ชอบเอื้อหรอกใช่ไหมฟริ้งก็แค่อารมณ์หวงเพื่อนเพราะเป็นเพื่อนกันมานานแล้วทีนี้เอื้อให้ความสำคัญกับน้องปูนคนดีมากกว่าเลยเกิดความน้อยใจและหวงเพื่อน
คนอ่านเคยเป็นคนอ่านเข้าใจความรู้สึกฟริ้งดี :hao3: :hao3:

ออฟไลน์ Maitre

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บทที่ 12
เมื่อน้องปูนห่างหาย


“อยากให้รักคืนมาหา จะตามรักคืนมาสู่หัวใจ
แต่ไม่รู้จะได้เจอเมื่อไหร่ เธอเคยรู้บ้างไหม
ไม่มีวันไหนที่คนนี้ จะไม่คิดถึงเธออออ”

หลังจากเสียงเหมือนควายออกลูกของหนูนาจบลง กองเชียร์ที่นั่งอยู่ก็พากันส่งเสียงให้กำลังใจมันดังกึกก้อง ฟังแล้วผมรู้สึกปลื้มจริงๆ ครับ

“โอ๊ยอีหนูนา เมื่อไหร่มึงจะเลิกร้อง!”

“อีนี่ เสียงก็ไม่ได้ดี มึงคิดว่ามึงเป็นหนูนา หนึ่งธิดาหรือไง”

บอกแล้วว่ามีแต่คนให้กำลังใจ ฮาๆ

“ไม่เว้ย กูคือหนูนาแห่งตามรักคืนใจ มีใครสนใจจะเป็นนายสิงห์ของกูมั้ย เพื่อนโจมว่าไง สนใจหรือเปล่าจ๊ะ” หนูนาหันมาส่งสายตาปิ๊งๆๆ ให้เพื่อนโจมของพวกเรา

โอ๊ยยย โคตรฮาา

“ขอบาย แต่กูว่าไอ้บอยน่าจะอยาก” ว่าแล้วมันก็ยิ้มมุมปากมองไปยังไอ้บอกที่ตอกไม้อยู่

“โอ๊ยยย อย่างไอ้หนูนาเนี่ยนะ กูก็ขอบาย”

“กูก็ไม่เอามึงหรอกโว้ยอีบอยย!”

ฮาๆๆ นี่แหละสีสันในชีวิตครับ การมีเพื่อนเพี้ยนๆ มันก็สนุกดีนะ

สงสัยหรือเปล่าวว่าทำไมเราถึงมารวมตัวกันอยู่ที่นี่

ตอนนี้ผมกำลังเตรียมงานแฟร์กันอยู่ที่คณะ สาขาพวกผมได้รับมองหมายจากพี่ปีสูงว่าให้ออกบูธขายพืชผลทางการเกษตรที่คณะปลูก ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกผักสวนครัวออร์แกนิก ไร้สารพิษ ไร้สารปนเปื้อน พวกเราส่วนหนึ่งแบ่งกันไปดูแลผัก อีกส่วนก็มาทำบูธขายของกัน ส่วนสาขาอื่นๆ ก็แยกไปขายของๆ แต่ละสาขาไปครับ อย่างสัตวิทยาก็ขายพวกไข่ไก่ นมวัว นมแพะ ประมาณนี้

แต่ความพินาศมันไม่ได้อยู่แค่นั้น…

ทางมหา’ลัยคิดอะไรอยู่ก็ไม่ทราบครับ งานแฟร์นั้นจะจัดในอีกหนึ่งวันข้างหน้า...ใช่แล้วครับ พรุ่งนี้นั่นเอง (คนที่คณะเต็มเลย) เต็มๆ หนึ่งอาทิตย์ แล้วระหว่างนั้น (ในสองวันสุดท้ายของงานแฟร์) ก็จะเป็นการแข่งขันกีฬาภายในมหาวิทยาลัย พวกคนที่ไม่ได้เป็นนักกีฬานี่ไม่เท่าไหร่ครับ แต่พวกนักกีฬาเนี่ยสิหัวหมุนเลย ไหนจะต้องเตรียมงาน ไหนจะไปซ้อม ที่ผมส่งสารที่สุดก็ไอ้พี่บุ๊คนั่นแหละครับ พี่มันเป็นโต้โผงาน แล้วยังต้องไปคุมทีมฟุตบอลคณะอีก ล่าสุดเดินสวนกับพี่บุ๊คผมแทบจำพี่มันไม่ได้อ่ะ หน้าโทรมไปอีก

ที่จริงเพื่อนผมก็เป็นนักกีฬาเหมือนกันนะ ไอ้โจมกับไอ้กล้าครับ มันลงแข่งฟุตบอลแล้วก็บาสเก็ตบอลกันทั้งคู่เลย แต่บาสเก็ตบอลมันเป็นแค่ตัวสำรอง ส่วนผมกับไอ้ฟ้าอ่ะเหรอ...ขอบายครับ บอกแล้วเรื่องกีฬาผมไม่ถนัด ไอ้ฟ้าก็เช่นกัน เพราะงั้นขอเป็นแค่กองเชียร์ก็พอ

แน่ะ ผมได้ยินใครถามถึงไอ้เอื้อเหรอครับ

ช่วงนี้ไม่ได้เจอหรอก จริงๆ ก็ตั้งแต่ที่มันไปบ้านผมนั่นแหละ มันก็ผ่านไปหลายวันแล้วเหมือนกัน ชุดที่ยืมใส่วันนั้นก็ยังไม่ได้คืนเลยครับ ล่าสุดที่เจอนี่ก็...โรงอาหารกลางนะ เดินสวนกันมั้งถ้าจำไม่ผิด อ้อ มันไม่ได้ยุ่งกับมิ้มแล้วนะครับ ทุกครั้งที่ผมเจอมิ้ม (ซึ่งช่วงนี้เจอบ่อย) ผมก็ไม่เห็นเอื้ออยู่ข้างๆ เธออีกแล้ว ซึ่ง...ขอบใจที่มันรักษาคำพูด แล้ววันนั้นที่พี่ฟิ้งบอกว่าเอื้อมันจะไปหามิ้มมันก็ไม่ได้ไปหานะ พอกินข้าวเสร็จ (เป็นมื้อที่ผมอับอายที่สุด) มันก็ตรงกลับหอ แล้วเราก็แยกกันเลย

ส่วนเรื่องพี่ฟิ้งกับพี่เดียวนั้น...พี่เขาทะเลาะกันจริงจัง เวลาผมเห็นเอื้ออยู่กับพี่ฟิ้งก็ไม่มีพี่เดียว เวลามันอยู่กับพี่เดียวพี่ฟิ้งก็จะหายไป มันคงตัดใจเลือกใครไม่ได้ เพราะก็เพื่อนมันทั้งคู่ เลยเลือกทั้งสองคนแล้วแต่โอกาส แต่ส่วนใหญ่เอื้อจะอยู่กับพี่เดียวมากกว่า พี่ฟิ้งเขาก็มีเพื่อนในคณะของเขาด้วยแหละ ผมเคยเห็นเขาไปกับเพื่อนคนอื่นนอกจากไอ้เอื้อเหมือนกัน

ทว่าพี่เดียวนี่สิ… ผมไม่ได้ว่าพี่มันไม่มีคนคบนะครับ ฮ่าๆๆ (อย่าไปบอกพี่มันนะโอเค?)

ล้อเล่นครับ

“ไอ้ปูนส่งคัตเตอร์ให้กูดิ” ผมส่งคัตเตอร์ให้ไอ้กล้าตามคำที่มันขอ มันเลือบมองผมแบหนึ่งก่อนหันไปทำงานต่อ “เออ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมึงคร่ำครวญเรื่องมิ้มนะ”

“อ้าว พวกมึงบอกให้กูปล่อยมิ้มไปไม่ใช่เหรอ” ผมมองพวกมัน “กูก็ปล่อยมิ้มไปแล้วนี่ไง ให้มิ้มไปตามทางของเขา”

“ก็จริงว่ากูบอก แต่ไม่คิดว่ามึงจะยอมง่ายๆ นี่หว่า” ฟ้าขมวดคิ้วสงสัย “แล้วช่วงนี้ไอ้พี่เอื้อมันควงหญิงใหม่ป่ะวะ ทำไมกูเห็นมิ้มเดินคนเดียวบ่อยจัง”

“ใช่ๆ วันนั้นกูเห็นพี่เอื้อเดินกับพี่น้ำปีสอง” แล้วไอ้กล้าขี้เสือกก็ยกมือขึ้นขอตอบทันที

“พี่น้ำดาวคณะเราอ่ะนะ” ไอ้ฟ้าถามย้ำ

“เยสสสสส”

เหอะๆ นี่เขาเรียกกันว่าไงนะ เสือไม่ทิ้งลายหรือเปล่า ห่างจากมิ้มได้ไม่นานก็มีหญิงคนใหม่เสียแล้ว แถมยังเป็นดาวคณะผมอีกด้วย พี่น้ำนี่สวยมากเลยนะ ถึงจะไม่สวยเท่าหนูนา (บอกแล้วหนูนามันสวยครับ แต่เพราะความสถุลของมันไง) แต่ก็จัดว่ามีสเน่ห์เลยล่ะ

ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเหมือนมีคนจ้องอยู่ ซึ่งก็มีจริงๆ ครับ...ไอ้โจมนั่นเอง

“มึงมีอะไรป่ะวะโจม”

“เปล่า…” แล้วมันก็หันกลับไป อะไรของมึงวะครับ

ช่างมันแล้วกัน ทำงานของผมดีกว่า

ระหว่างที่ทำงานอยู่โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ใครมันโทร.หาผมตอนนี้วะ คนที่บ้านนี่ไม่น่าใช่เพราะเพิ่งคุยกันไปตอนหัวค่ำ อ้อ ตอนนี้ประมาณเกือบๆ สี่ทุ่มแล้วครับ

‘พี่สาม’

“ครับพี่สาม”

[“ปูนนนน มึงว่างป่ะวะ”] พี่สามถามด้วยน้ำเสียงระโหยโรยแรง

“ว่างครับพี่”

[“แล้วตอนนี้มึงอยู่ไหน”] ปลายสายถามมาอีกครั้ง

“อยู่คณะพี่ พี่มีอะไรป่ะครับ”

[“ดีเลยยย มึงมาหากูหน่อยดิ ซื้อของกินมาให้พวกกูด้วยนะมีกันหลายคนเลย ตอนนี้กูอยู่ที่ตึกกลาง เร็วๆ นะเว้ย อีกนิดกูจะไส้กิ่วตายแล้ว เออ ไอ้พี่บุ๊คก็อยู่ด้วยนะ รีบมาเดี๋ยวพี่มันสั่งซ่อม”]

อะไรของพี่มันวะครับ แล้วมีมาขู่กันอีก คิดว่าพี่ปูนจะยอมมั้ยครับ คิดว่าคนอย่างผมจะยอมเหรอ!

“แล้วพี่ๆ อยากกินอะไรกันอ่ะครับ” เอ้อ ยอมก็ได้เห็นเป็นพี่หรอกนะ T-T

[“อยากกินหูฉลามอ่ะ หาให้ได้ป่ะ”]

กวนตีนแล้วครับพี่ =_=

“งั้นเอาของเซเว่นแล้วกันนะครับ ซื้ออะไรพี่ๆ ก็กินไปนะ”

[“เอ้า ไม่เล่นกับกูอีก เออๆ อะไรก็ได้เอามาเลยกูหิวสุดๆ แค่นี้แหละ บาย”]

หลังจากพี่สามวางสายไปผมก็ลุกขึ้นยืน มองหาเหยื่อที่จะไปหาพี่มันเป็นเพื่อนผม นั่นไง ไอ้โจมกำลังนั่งว่างๆ อยู่พอดีครับ

เสร็จพี่ปูนล่ะ!!

“โจมมมม มึงไปกับกูหน่อยดิ พี่สามบอกให้ไปหาที่หน้าตึกกลางอ่ะ” ผมเดินเข้าไปเกาะแขนมันแล้วเขย่าๆ ทำท่าอ้อน แบบที่ใช้ทีไรก็ได้ผล “นะๆๆๆๆ ไปกับกูหน่อยนะๆๆๆ”

“มึงคิดว่าน่ารัก?” เสียงนิ่งๆ กับหน้านิ่งๆ ถามกลับมา

น่ารักเหรอ ไม่เคยคิดอ่ะ แต่คิดว่าใช้ไม้นี้แล้วได้ผลทุกครับ

“ไม่รู้ แต่รู้ว่าอยากให้ไปด้วยกัน นะๆๆๆๆ”

“โอ๊ยยยยย ไอ้ปูน มึงไปฝึกท่าทางแบบนั้นมาจากไหนตอบกู!!” หนูหาสุดสวยถามผมจากอีกฝากนึงของลานหน้าคณะ เสียงมันดังมากครับ ดังพอจะทำให้คนอื่นหันมามอง

“ทำไมอ่ะ มันน่าเกลียดมากเหรอมึง”

“ไหนมึงลองทำอีกทีดิ”

ผมมองมันอย่างลังเล ถ้าทำแล้วน่าเกลียดจริงๆ กูจะโคตรอายเลย เพราะเพื่อนๆ นี่หยุดมือมองผมกันทุกคน ไม่ใช่แค่ในสาขานะ เกือบทั้งคณะ

“เร็วดิวะ!!!” โอ๊ย มึงจะโหดไปไหน

“ทำดิเดี๋ยวกูไปด้วยเลย” เอ๊ะ ไอ้โจมนี่ก็อีกคน

เออๆๆ ทำก็ได้วะ

“โจมมม ไปหาพี่สามเป็นเพื่อนกูหน่อยนะ นะๆๆๆๆๆ”

“เหยดด ไอ้ปูนกู”

“มึงทำไมมันน่ารักอ่ะ”

“เหี้ยเล่นเอากูเคลิ้ม!”

ไอ้บอยมึงจะมาเคลิ้มอะไร!!!

“เนี่ย!! มึงไปหัดมาจากไหนมาสอนกูเลย เวลากูมีผัวกูจะเอาไว้อ้อนผัวกูบ้าง แม่งร้อยทั้งร้อยก็ต้องยอมมึงเชื่อกู” หนูนามันบอกจุดประสงค์ที่แท้จริงซึ่งเล่นเอาหน้าผมร้อนผ่าว

“อ๋อออ ผัวมึงนี่หมายถึงไอ้บอยอ่ะเหรอ แต่กูว่าทำยังไงมึงก็สู้ไอ้ปูนไม่ได้หรอกครับ ฮ่าๆๆ”

“อ๊ายไอ้กล้า ปากมึงเหรอที่พูด!!”

เอ่อะ นี่ผมจะภูมิใจดีมั้ยเนี่ย!!!

“ไงเนี่ยมึง ให้กูทำอะไรน่าเกลียดๆ แล้วจะไปได้ยัง” อารมณ์เสียครับ ล้อกันอยู่ได้

“ไม่เห็นน่าเกลียดเลย ได้พวกนี้ก็บอกอยู่ว่าน่ารัก” ไอ้โจมยิ้มมุมปากก่อนจะลุกขึ้น เหอะ ผมเชื่อปากไอ้พวกนี้ตายล่ะ ปากมันอยากกับเพาะหมาไว้ข้างในเป็นฟาร์ม “ไปๆ ไม่ต้องหน้างอหรอก”

“ก็มันล้อกูนี่”

โจมมันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมา ผมก็เลยไม่สนใจ เดินนำมันตรงไปที่ลานจอดรถของคณะ

“เอารถมึงไปนะโจม แวะเซ่เว่นด้วย ไอ้พี่สามมันบอกให้ซื้อของกินไปให้”

“มึงอาจจะต้องเหมานะ”

กูก็ว่างั้นครับเพื่อน

..
.
หลังจากที่พวกผมสองคนทำการเหมาเซเว่นกันเรียบร้อยแล้วนั้น ผมล้อเล่นครับ ไม่ได้เหมาหรอก แค่หยิบอะไรที่กินได้มาเกือบหมดเท่านั้นเอง ตอนแรกก็คิดว่ามันเยอะไป คงอาจจะต้องแบ่งกับไอ้โจมเอากลับหอ แต่พอมาเห็นคนที่ทำงานกันอยู่ตรงนี้ถึงได้รู้ว่าที่ซื้อมามันไม่น่าจะพอ

บอกคำเดียวว่า...สะพรึง!!

พวกพี่จะเยอะไปไหนครับ แล้วดูท่าทางแต่ละคนหิวโซทั้งนั้น มองที่ถุงอาหารตาเป็นประกายเลย

“เห้ย ของกินมาแล้วโว้ยยยย!!!” พี่ปีสองคนนึงตะโกนบอกทำให้คนที่เหลือวิ่งกรูกันเข้ามาหาพวกผม ผมกับไอ้โจมยกถุงขนมนั้นให้พวกพี่มันเลยครับ แต่ผมเก็บใบเสร็จไว้ล่ะ เอาไว้เบิกกับพี่บุ๊คอีกที ฮาๆ

ผมเดินไปหาพี่บุ๊คกับพี่สามที่นั่งอยู่หน้าเวที โอโหพวกพี่มันโคตรเก่งอ่ะ จากลานว่างๆ ที่ไม่มีอะไรเลยตอนนี้กลายเป็นเวทีขนาดย่อมๆ เอาไว้ใช้เปิดงานแล้วทำพิธีอะไรต่างๆ มากมายแล้วครับ

“พี่บุ๊ค พี่สาม พี่มิว พี่อ้น (เพื่อนอีกคนของพี่บุ๊ค) พี่โก้ (เพื่อนพี่สาม) หวัดดีครับพี่”

ผมกับโจมยกมือไหว้พี่ๆ แต่ละคนเรียงตัว ก่อนจะส่งถุงของกินที่ผมแยกจากถุงใหญ่ให้พี่มันสำหรับพี่ๆ พวกนี้ผมให้เป็นข้าวกล่องเลยครับ รู้ว่าขนมเอาพวกพี่มันไม่อยู่ท้องหรอก

“อ้าวพี่วันไม่อยู่เหรอ อย่างนี้ก็ซื้อข้าวมาเกินดิ”

พี่วันหรือพี่วันนา เป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวในกลุ่มพี่บุ๊ค และเป็นแฟนพี่โก้ (พี่เขากินเด็ก) พี่วันนี่ไม่ใช่ผู้หญิงห้าวเป้งแบบไอ้หนูนานะครับ พี่แกโคตรเรียบร้อยเลย ผมสงสัยมากอ่ะว่าแกมาอยู่กับพี่บุ๊คได้ไง แต่ที่สงสัยมากกว่าคือเหตุไฉนพี่เขาเลือกพี่โก้เป็นแฟน (ผมว่าพี่โก้ทำของใส่พี่วันแน่เลยอ่ะ)

“วันไปดูแลเรื่องสาวๆ ที่จะรำเปิดงานพรุ่งนี้อ่ะ โน่นซ้อมกันอยู่ด้านในนั่นน่ะ” พี่โก้เป็นคนตอบ

“เดี๋ยวเถอะมึงปีนเกลียวนะไอ้โก้ เรียกรุ่นพี่แบบนั้นได้ไง” พี่อ้นแกล้งทำขรึมครับ คือพี่มันอ่ะเต๊าะพี่วันมานานแล้ว แต่สุดท้ายก็เสร็จพี่โก้ มันเลนเขม่นกับพี่โก้นิดๆ แต่ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โตนะ ตอนนี้พี่เขาก็คบกับสาวบริหารอยู่ พี่อ้นก็แค่หมั่นไส้พี่โก้เฉยๆ

“เรียกได้สิครับ ถ้ารุ่นพี่คนนั้นดันเป็นคนเดียวกับแฟนผม”

อูย พี่โก้วินครับ ปรบมือ!

“ไม่ซื้อมาเสียเปล่าหรอกปูน มีเพื่อนอีกคนแต่มันไปเข้าห้องน้ำอ่ะ นั่นไงมาแล้ว”

ผมหันไปตามมือพี่สามที่ชี้ไปยังทางเดิน ตอนแรกก็ดูไม่ออกหรอกว่าใครเพราะแสงมันมืดๆ แต่พอเห็นหน้าชัดๆ เท่านั้นแหละ…

มาอยู่ที่นี่ได้ไงวะครับ

แน่ะ คิดว่าไอ้เอื้ออ่ะดิ

ถ้าคุณคิดว่าเป็นมันคุณคิด…

ถะ ถะ ถะ...ผิดครับ!!!!

ไม่ใช่มันหรอกมันจะมาอยู่ที่นี่ได้ไง ฮ่าๆๆ

“ไอ้ว่านนี่ปูนน้องกู แล้วไอ้นี่ก็ไอ้โจม ไอ้ปูนไอ้โจมนี่ไอ้ว่านเพื่อนกูเอง”

“หวัดดีครับพี่ว่าน” ผมกับไอ้โจมก้มหัวไหว้กันอีกครั้ง

บังเอิญมากครับ ไม่คิดว่าจะได้เจอพี่ว่านที่นี่เลยจริงๆ นะ รู้ว่าเราอยู่มหา.ลัยเดียวกัน แต่ไม่นึกว่าพี่ว่านจะเป็นเพื่อนของพี่สามพี่รหัสผม

“หวัดดีครับโจม...หวัดดีครับปูน เจอกันจนได้นะ” พี่ว่านส่งยิ้มให้ผม

“อะไรของมึง รู้จักกันเหรอ” พี่สามถาม

“อือ เคยเจอกันที่ร้านพี่หมีอ่ะ น้องเขาไปซื้อแคคตัส แล้วกูก็เลยไปช่วยน้องเขาเลือก”

ขอบคุณพี่ว่านที่บอกว่า ‘ช่วยผมเลือก’ แคำว่า ‘เลือกให้ผม’ ครับ มิเช่นนั้นผมคงโดนพี่บุ๊คเชือดคอโทษฐานหลอกพี่มันว่าผมเป็นคนเลือดเอง แหะๆ

“ถึงว่าไอ้ปูนถึงเลือกได้ถูกใจกู เพราะมึงช่วยมันนี่เอง”

“ปูนเลือกไปให้พี่เหรอ ถ้ารู้ว่าเป็นพี่ผมคงตั้งใจเลือกมากกว่านี้แล้ว”

“แค่นี้ก็คงตั้งใจจนไม่รู้จะตั้งใจยังไงแล้วม้างงงง” อะไรของพี่ครับพี่โก้ ทำเสียงแบบนั้นรวมกับท่าทางแบบนี้มันหมายความว่าไง

“กูว่าข้าวกล่องนี่คงหวานน่าดูเลยนะ” พี่สามพูดพร้อมส่งข้าวให้พี่ว่าน “อ่ะ น้องมันซื้อมาให้”

“หยุดครับพี่สาม ผมไม่ได้ซื้อมาให้นะ ผมมีใบเสร็จมาเบิกพี่ด้วย” ว่าแล้วผมก็หยิบใบเสร็จขึ้นมา “แล้วผมจะเบิกกับใครได้ครับ”

“โน้น พี่บุ๊คเลยน้องพี่”

ผมหันไปมองพี่บุ๊ค พี่มันโคตรกวนตีนอ่ะ ลอยหน้าลอยตาใส่ผมเฉย

“พี่บุ๊คครับของเงินด้วยครับ” ไม่ต้องมาหลบหรือเลี่ยงครับพี่ ส่งเงินมาซะดีๆ เรื่องแบบนี้ถึงเป็นพี่ผมก็ไม่ยอม!

“มิวมึงจ่ายไปดิ ถือว่าเลี้ยงน้องมัน” ทีอย่างนี้นี่เสียงเบาเลยนะครับ

พี่มิวผู้แสนดีควักแบงค์สีม่วงออกมาจากกระเป๋าแล้วยื่นให้ผมโดยไม่ดูใบเสร็จ พี่แม่งโคตรป๋าอ่ะ เท่มากเลยครับ  แต่มันติดอยู่ตรงที่…

“พี่มิวครับ มันไม่พออ่ะ”

เพล้งงง ได้ยินเสียงอะไรแตกป่ะครับ ก็หน้าพี่มิวไง ฮาๆๆๆ

“เอ่อ...มันเท่าไหร่เหรอปูน”

“ทั้งหมดเจ็ดร้อยห้าสิบแปดบาทยี่สิบห้าสตางค์ครับ แต่คนกันเองเจ็ดร้อบหกสิบแล้วกันเนาะเลขกลมจะได้จ่ายง่ายๆ”

“อ่ะๆ เอาไปเลยไม่ต้องทอน” พี่มิวส่งแบงค์ร้อยให้ผมอีกสามใบเลย เสร็จพี่ปูนล่ะ “ไอ้บุ๊คไอ้อ้น หารกับกูด้วยนะพวกมึง”

“เออๆ ติดไว้ก่อน” รู้ล่ะว่าเรื่องอะไรจะทำให้พี่บุ๊คมันเสียงเบาได้

“งั้นพวกผมกลับก่อนนะครับ”

“เฮ้ยๆ อย่าเพิ่งดิ อยู่ด้วยกันก่อนเว้ย” พอผมพูดจบพี่สามมันก็โพล่งขึ้นมาเสียอย่างนั้น ผมหันไปมองไอ้โจม (มึงยังอยู่เหรอวะ) มันก็เลยพูดตอบพี่เขาไป

“เดี๋ยวเพื่อนว่าครับพี่”

“ถ้าใครว่าให้มาบอกพี่บุ๊คเลย เดี๋ยวพี่บุ๊คเคลียร์ให้” โห แมนมากพี่สาม ให้พี่บุ๊คเคลียร์ด้วย

“เกี่ยวอะไรกับกูวะไอ้สาม!” นั่นไง พี่มันกลับมาเสียงดังอีกแล้ว สบายหูได้แปบเดียวจริงๆ

“เอาน่าพี่ ถือว่าช่วยน้องนุ่ง”

พี่สามมันมีปัญหาอะไรกับตาหรือเปล่า ทำไมมองพี่บุ๊คแล้วต้องกระพริบถี่ปานนั้นอ่ะ หรือว่าลืมหยอดน้ำตาเทียมตอนใส่คอนเทคเลนส์

“อ่อ เอ้อ อยู่ก่อนดิมึง ถ้าเพื่อนมึงว่าให้มาบอกกู” วันนี้มาแนวใจดีเหรอพี่บุ๊ค

“แต่…”

“อยู่ก่อนก็ได้มึง กูจะไปหาพี่รหัส” ไหนเมื่อกี้บอกกลัวเพื่อนว่าไงโจม ทำไมตอนนี้ถึงอยากไปหาพี่รหัสได้วะ

“เอางั้นเหรอ”

“อือ เอางี้แหละ”

ไอ้โจมก็เดินไปหาพี่รหัสของมัน ทิ้งผมไว้กับพวกพี่ๆ ที่น่ารักน่าหยิก แล้วดูแต่ละคน ให้ผมอยู่แต่หันไปคุยกันเองหมดเลย แล้วพวกพี่ๆ จะให้ผมอยู่ตรงนี้ทำไมวะครับ แต่มีอยู่สองคนที่ไม่ได้คุย คือพี่มิวที่นั่งเงียบก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียวกับพี่ว่านที่กำลังหาที่นั่ง

“นั่นด้วยกันดิปูน”

โอเคครับ พี่ปูนเด็กดีอยู่แล้ว เชื่อฟังผู้ใหญ่

ผมเดินไปนั่งที่ว่างข้างๆ พี่ว่าน ปกติผมไม่ค่อยคุยอยู่แล้ว ยิ่งกับคนเพิ่งรู้จักยิ่งไม่ค่อยมีอะไรจะพูดใหญ่ ผมก็รู้แหละว่าแบบนี้มันทำให้คนที่อยู่ข้างๆ อึดอัด แต่ช่วยไม่ได้ครับ ผมแก้ไขอะไรไม่ได้ด้วย

แต่ทำไมตอนอยู่กับไอ้เอื้อแล้วผมกลายเป็นคนพูดมากไปซะได้ ทั้งที่ก็เพิ่งรู้จักมันได้ไม่เท่าไหร่เอง หรือเพราะมันชอบกวนตีนผม?

อือ ก็เป็นไปได้

“ปูนเรียนสาขาเดียวกับไอ้สามป่ะ” และท้ายสุดพี่ว่านคงทนความเงียบไม่ไหวเลยถามผมก่อน

“ครับ แล้วพี่ว่านอ่ะเรียนอะไร ผมไม่เคยเห็นพี่ที่คณะเลย”

“พี่เรียนวิศวะน่ะ ไม่ได้เรียนคณะเดียวกับปูน”

“อ้าว แล้วมาช่วยได้ไงอ่ะครับ”

“อ๋อ พี่เป็นรูมเมทไอ้สามมัน มันเห็นพี่อยู่ว่างๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยลากมาช่วยมันที่นี่” พี่สามนี่เป็นเพื่อนที่เลวมากครับ ไปลากเพื่อนมาเดือดร้อนทั้งที่ไม่ใช่ธุระของพี่ว่านเลย

“เอ้า ก็มึงบอกว่าเบื่อๆ อ่ะ กูเลยพามาหาไรทำ” มีการเถียงครับๆ ทีเมื่อกี้หันไปคุยกับเพื่อนอย่างเดียวเลยนะ

“เออ เล่นเอากูหายเบื่อเลยไอ้เวร” พี่ว่านยิ้มมุมปากขำๆ พี่มันมีเสน่ห์มากเลยนะ สาวๆ น่าจะชอบ

จะว่าไปรอบตัวผมมีแต่คนหน้าตาดีนะ แต่ดีที่สุดคงเป็นผม อิอิ

“แล้วปูนขายของหรือเปล่า”

“ขายครับขายบูธผมอยู่หน้าคณะเลยนะ ขายพวกผักออร์แกนิก พี่ว่านอ่านลืมไปอุดหนุนผมนะครับ”

“มีแถมมั้ย ถ้าไม่แถมพี่ไม่ซื้อนะ”

“แถมไม่ได้หรอกครับ เพราะเงินเข้าสโมฯ คณะ ขาดทุนพี่บุ๊คเอาผมตายเลย” ท้ายประโยคนี่ผมต้องก้มลงไปกระซิกพี่ว่าน ถ้าพี่บุ๊คได้ยินพี่มันเล่นผมแน่

“ฮ่าๆ งั้นก็ไม่ซื้อล่ะ พี่ชอบของแถม”

“โห่~ พี่ว่านใจร้าย”

“โอ๋ๆ พี่ล้อเล่น เดี๋ยวพี่ช่วยปูนอุดหนุนนะ”

“พี่ว่าสัญญาแล้วนะครับ ผมเฝ้าบูธงานวันที่สามกับวันสุดท้ายนะ มาได้ทั้งสองวัน วันอื่นก็ซื้อได้แต่ถ้าซื้อวันที่ผมเฝ้าร้านก็ดี ของจะได้ขายหมดแล้วผมจะได้กลับหอไวๆ”

เป็นไง แผนของผมเจ๋งมั้ยล่ะ

“โอเคครับ วันที่สามกับวันสุดท้าย พี่จะไปนะ”

นี่แหละครับเทวดามาโปรดของผม!!

“ไวนะมึงได้ลูกค้าเลย” ที่จริงถ้าพี่สามไม่พูดก็ไม่มีใครว่าอะไรนะเนี่ย แต่ช่างพี่สามครับ ตอนนี้ผมอารมณ์ดีอยู่ ใครจะว่าอะไรพี่ปูนไม่โกรธ

ผมนั่งคุยกับพี่ว่านไป รอเวลาที่ไอ้โจมมันจะชวนกลับแต่ไร้วี่แววโดยสิ้นเชิงครับ ตอนนี้มันไปช่วยพี่เขาขึ้นฉากหลังของเวทีอยู่ ทีงานชั้นปีตัวเองมันนั่งอู้นะ สมน้ำหน้าโดนพี่ๆ เขาใช้เลย

ส่วนพวกพี่บุ๊คกับพี่สามเขาก็กลับไปทำงานกันแล้ว พี่ว่านก็เหมือนกัน แต่เนื่องด้วยโครงสร้างเวทีเสร็จเกือบหมดแล้วงานที่เหลือเลยเหลือแค่เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างพวกจัดตกแต่งหน้าเวที วางของโน้นนี่ให้เข้าที่ ขนเก้าอี้สำหรับให้แขกนั่งชมการเเสดงและร่วมกิจกรรมเปิดงานแฟร์

ตอนนี้ผมกำลังช่วยพี่ว่านขนกระถางต้นไม้ตามคำสั่งพี่อ้นอยู่ครับ พี่อ้นมันจัดสวนสวยมาก ไอเดียร์บรรเจิดสุดๆ มีน้ำตกเล็กๆ ด้วยอ่ะ

“ไหวหรือเปล่าปูน”

ผมพยักหน้าพร้อมยิ้มให้กับพี่ว่าน พี่เขาก็มีน้ำใจมาถามผมนะ ขนาดตัวเองยกของหนักกว่าผมตั้งหลายเท่า พอผมจะยกบ้างก็ห้ามไว้ซะหมด ผมเลยต้องมานั่งยกกระถางเล็กๆ แล้วก็วางรั้วไม้ที่ใช้กั้นบริเวณสวน

“อ้าววัน เลิกซ้อมแล้วเหรอ”

ผมเหลือบมองไปตามเสียงของพี่โก้ พี่วันนำทีมบรรดานักแสดงและนางรำทั้งหลายเดินออกมาจากด้านในดึก แต่ละคนนี่สวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ แต่ห่างได้เป็นดีพวกนนี้เอาเรื่องทั้งนั้น

“อือ ทุกคนกลับกันได้เลยนะคะกลับกันดีๆ พรุ่งนี้แสตนบายสี่โมงเย็นนะลูก สามโมงต้องถึงคณะแล้วนะคะ ห้ามสายนะคะ”

โอ้โห งานเริ่มหกโมง นัดก่อนตั้งสามชั่วโมงแน่ะ โหดจริงๆ

“เหนื่อยป่ะวัน”

“อื้อ นิดหน่อยอ่ะ”

“อ่ะนี่ชาเขียวที่วันชอบอ่ะ โก้เก็บไว้ให้” อ้อ ถึงว่าพี่สามจะกินพี่โก้ไม่ให้ เพราะแบบนี้นี่เอง

“ขอบใจนะ” พี่วันรับชาเขียวไปถือพร้อมยิ้มหวานให้พี่โก้ โอ๊ย แสงสีชมพูนี่มันอะไร ไฟมันก็สีขาวธรรมดานี่ครับ

“มดครับมด มีมดมาขายเป็นรังเลยใครสนใจจะซื้อมั้ยครับ!!”

พี่อ้น มึงอิจฉาเขาสองคนใช่มั้ยตอบ!!

“อ้าวน้ำ ไม่กลับเหรอ” พี่วันที่ยืนหน้าแดงกับคำแซวของเพื่อนหันไปถามพี่น้ำที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงโต๊ะใกล้ๆ

“รอเพื่อนมารับค่ะ”

“แอ่ะ ใช่คนที่มาส่งหรือเปล่า เพื่อนแน่เหรอ”

“พี่วันก็…”

ผมไม่ได้ตั้งใจฟังหรอกครับ มันแค่ผ่านเข้ามาในหูเฉยๆ ตอนนี้ต้องรีบกลับไปทำงานเพราะพี่อ้นมันพาลคู่รักสองคนนั้น หันมาทำตาเขียวใส่พวกผมใหญ่เลย และสวนของพวกเราก็เสร็จในยี่สิบนาทีตอนมา

เยส!!!

“โคตรเหนื่อย!”

พี่ว่านทิ้งตังลงนั่งข้างผมที่ฟุตบาทหน้าตึกกลาง หน้าพี่มันมีแต่เหงื่อ แถมยังเปื้อนดินเต็มไปหมดเลย ส่วนผมดีหน่อยไม่ค่อยเปื้อนเท่าไหร่ ก็บอกแล้วว่าพี่ว่านไม่ค่อยให้ผมขนของ

“พี่ว่านหน้าเปื้อนครับ”

“จริงดิ ตรงไหน พี่ว่าพี่ล้างหมดแล้วนะ…”

“อย่าๆๆ พี่ เดี๋ยวเสื้อเปื้อน” ร้องห้ามพี่ว่านแทบไม่ทัน พี่มันยกแขนขึ้นมาเตรียมจะใช้เช็ดหน้าอยู่แล้วครับ โอ๊ย ไม่เสียดายเสื้อเลยพ่อคุณ

“พี่ไม่มีผ้าเช็ดหน้า”

“ของผมก็ได้ครับ” ผมส่งผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าให้พี่ว่าน “ยังไม่ได้ใช้เลย ไม่ต้องกลัวสกปรก”

“ถึงใช้แล้วก็ไม่เป็นไรหรอก” ว่าแล้วพี่ว่านก็ลงมือเช็ดหน้าตัวเอง แต่เช็ดยังไงก็ไม่โดยตรงที่เปื้อนสักที ขัดใจครับ เฉียดไปเฉียดมาอยู่นั่นแหละ

“ผมเช็ดให้ดีกว่าพี่”

“อ้อ เอาสิ”

ผมหยิบผ้าเข็ดหน้าคืนมาจากพี่ว่าน ตรงที่เปื้อนดินมันคือช่วงหว่างคิ้วทั้งสองข้าง กับแก้มซ้าย แต่ทุกครั้งที่พี่ว่านเช็ดก็จะเลยจุดนี้ไปทุกที ผมเช็ดให้พี่ว่านอย่างตั้งใจโดยไม่รู้เลยว่าอยู่ใกล้พี่ว่านมากแค่ไหน

และไม่รู้เลยว่าใกล้กันนั้น มีใครบางคนยืนมองพวกผมอยู่จากทางด้านหลัง



===============================================
=====================================
ฮัลโหลลลล ทุกคนนนน มาพบกันอีกแล้ววว  :mew1:
ขอเปิดตัว 'พี่ว่าน' ค่าาาา
ว่าที่พระรองแสนดีแต่ไม่ค่อยมีบท
พี่เขาดูละมุนเนาะ
ส่วนพี่เอื้อของเราน้านน มีสาวใหม่ด้วย น่าตบจริงๆ
ก็ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :pig4:
ปล.ตอนหน้าเรามาเจอกับพี่เอื้อกันบ้างเนาะ  :z2:



ออฟไลน์ angelhani

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
ตบนังเอื้อ ปูนอย่าหวั่นไหวกับนางง่ายๆนะคะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ใกล้กันแล้วไงอะ มีสิทธิ์โกรธด้วยหรือคนที่เห็น

ออฟไลน์ MeWeaw

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนหน้าเจอเอื้อแกไม่ต้องมาบอกฉันนะว่าแกนะแอบชอบน้องปูนคนดีที่ทำกับน้องนางฟ้าของปูนแบบนั้นก็เพราะเป็นแผนเพื่อให้น้องปูนคนดีตัดใจเพราะตอนนี้แกก็ควงสาวใหม่อีกแล้วฉันทีมพี่ว่าน #ทีมว่าน

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
มาหญิงก็ไปกับหญิง มายืนดูอะไรคนเค้าจะจีบกันอีพี่เอื้อ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด