【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: 【 ♕ Elven Almanac ♕ 】♰ ราชันพันธนาการ ♰ ตำนานเทพีจันทร์ แจ้งข่าวหน้า 35  (อ่าน 237690 ครั้ง)

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
เอิ่ม ใครมาระเบิดปล่อยคว้นอีกละนะ เห้อ

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 18 : สยายปีก (6)

มอร์นเพนดีดตัวไปหาทาราเธียล กาตาร์สองมือถูกชักออกมาโดยไม่ลังเล มุ่งคุ้มกันเจ้านาย

ส่วนโคลด์พุ่งหาอิลมาเร กดให้หมอบแล้วชักอาวุธออกมาเช่นกัน

มาลแกธสะบัดมือสองข้าง ใบมีดซึ่งซ่อนอยู่ในแขนเสื้อดีดออก ขณะที่ทาราเธียลดึงดาบสั้นคู่จากเอว เอลฟ์ตะวันออกกระชับอาวุธพร้อมรับมือกับอะไรก็ตามในควันทึบ

มาลแกธฟังเสียงควันหนาสีเทา เอ่ยภาษาควาร์เพื่อสั่งให้มันกลับไปหานาย ทว่ามันไม่ทำตาม มันเป็นอาวุธของ ‘นักเวท’ ซึ่งภักดีกับนาย โดยเฉพาะนายที่เข้มแข็ง

ภายในพื้นที่ปิดอย่างโกดัง ควันไร้ทางออกรมผู้คนซึ่งตื่นตระหนกให้ล้มสลบ ร่างร่วงลงพื้นไปทีละคน

“แหมๆ ควันของข้ามีฤทธิ์ทำให้หมดสติทันที แต่ดูเหมือนจะมีนักรบกระดูกแข็งเคี้ยวยากเหลืออยู่ตั้งสี่คน” เสียงสตรีเอ่ยอย่างหยอกเย้าและผยองมาจากทางประตูโกดัง ซึ่งเป็นทางเข้าออกเพียงจุดเดียว

โคลด์ได้ยินแล้ว แต่เขาแตะเส้นชีพจรข้างลำคอของอิลมาเรและเลิกเปลือกตาดูอยู่ เมื่อเห็นว่าดวอร์ฟสาวสลบไปเฉยๆ ไม่ได้ถูกพิษก็ถอนใจด้วยความโล่งอก

“คนสวย” มาลแกธเอ่ยทัก “นอกจากสวยแล้วยังโหดด้วยหรือ”

“ยังไม่เห็นหน้าค่าตากันเลยนะเจ้าคะ ท่านราชองครักษ์” นางตอบ ค่อยๆ ก้าวออกมาจากกลุ่มควันที่จางลง

“ข้าฟังจากเสียงก็ทราบแล้วว่างามแค่ไหน” มาลแกธหัวเราะ

“และท่านทูตจากตระกูลล็องธู” คราวนี้ ‘คนสวย’ หันร่างมาทางทาราเธียล พวกเขาเห็นแล้วว่านางยืนอยู่ระหว่างนักดาบสตรีอีกสองคน

นักเวทหนึ่ง นักดาบสอง ขวดที่ระเบิดเองกับตะเกียงที่ถูกทำลายเมื่อสักครู่…

โคลด์เดาว่า น่าจะมีผู้ใช้อาวุธระยะไกลอยู่อีกคน

สี่คน...สี่ต่อสี่พอดีรึ

“ไง” ทาราเธียลเลียริมฝีปาก เขาจะหายเบื่อก็คราวนี้กระมัง

สตรีผู้ใช้เวทควันเป็นนางเอลฟ์สวยยั่วยวน แต่งกายอย่างนางระบำ ผมหยักศกสีเทาอ่อนสยายเต็มแผ่นหลัง

มาลแกธและทาราเธียลไม่เคยเห็นนางผู้นี้ แต่นักดาบอีกสองคนคือองครักษ์หญิงผมสีฟ้าและองครักษ์หญิงผมสีดำผู้ติดตามใกล้ชิดท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์

“ดีราน การาซีน อิซิลดาร์?” มาลแกธจุปาก “เหมือนได้รบบนสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น”

“ข้าขอการาซีน” ทาราเธียลจอง “ข้าชอบการาซีนใจกล้า”

สิ้นคำ ลูกธนูพุ่งมาปักตรงด้านหน้าของทาราเธียลอย่างอำมหิต ถ้าเอาให้ชัด คือด้านหน้าตรงกลางระหว่างขา เฉียดความเป็นชายของทาราเธียล ล็องธูไปนิดเดียว

ผู้ใช้อาวุธระยะไกลเผยตัวโดยการลุกยืน นางอยู่บนนั่งร้านสูงอีกฟากของโกดัง นั่งร้านนี้มีไว้ให้หน่วยเฝ้ายามดวอร์ฟมองภาพรวมของสถานที่และคอยดูแลความสงบได้ทั่วถึง และเป็นจุดยิงธนูชั้นดีด้วย

“อย่าล้อเล่นกับจามิลลา ล็องธู” เอลฟ์สาวผมสีเขียวอ่อนผู้เคยยิงโคลด์ตกจากต้นไม้บอก นางยังง้างคันธนูค้างไว้ ใกล้เท้ามีร่างยามดวอร์ฟนอนคว่ำหน้าอยู่สองสามคน

“ไม่เป็นไร เวเรด้า” จามิลลาผมสีฟ้ายกมือให้เพื่อนองครักษ์ลดธนูลง

“ตระกูลดาเอียร์…” มาลแกธโค้งให้มือธนู

ดีรานที่ยิ้มแย้ม ดาเอียร์และการาซีนที่เงียบขรึม ดูเหมือนเชื้อสายสตรีตะวันออกที่ไปอยู่อิซิลดาร์จะต่างจากสตรีตะวันออกบนเกาะมากโข

ที่มีเหมือนกันคือศักดิ์ศรีของนักรบกระมัง

“ควันสลบกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไป ทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้น หรืออาจทำให้การเจรจาง่ายขึ้น” จามิลลาเอ่ย

“นี่ๆ อย่าเพิ่งเข้าเรื่องซีเรียสสิ ข้าเพิ่งเคยเห็นล็องธูใกล้ๆ ขนาดนี้ ก็ท่านหญิงไม่ยอมให้ข้ามาดูพวกเขาเลย” เอลฟ์สาวผมสีเทายื่นหน้าอย่างกระตือรือร้น

มาลแกธถอดฮู้ดออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา และผมสีทองแดงซึ่งไร้เปียสงคราม

...รวมถึงรอยยิ้มขี้เล่นที่ยังมีแก่ใจเผื่อแผ่ให้นักรบสตรีทุกนาง

ทาราเธียลถึงกับกลอกตาอยู่ใต้ฮู้ด ท่านแม่ขอรับ ท่านมีพี่ชายแบบนี้ไม่หนักใจบ้างหรือ

“หล่อจัง” นางเลียริมฝีปาก “ได้ยินว่าพวกบนเกาะชอบเอาผมเอลฟ์ตระกูลอื่นมาถักเล่น ป่าเถื่อนเสียจริง แต่ข้าชอบสีผม--”

“พอแล้วซิลเวีย” จามิลลาเตือน ถ้าไม่เพราะต้องใช้นักเวทและท่านหญิงสั่งให้ดำเนินการโดย ‘ไม่เอิกเกริก’ นางคงไม่เลือกซิลเวียที่อายุยังน้อยและเกิดที่อิซิลดาร์มาเผชิญหน้ากับบุรุษจากตระกูลล็องธู

ซิลเวียม้วนผมสีเทาของตนแบบงอนๆ “ก็ข้าไม่เคยเห็น...บุรุษตระกูลดีรานอะไรนั่นก็ด้วย ที่ว่าผมสีเทาเหมือนข้า”

“การาซีน” มาลแกธหันไปทางจามิลลา “เจ้าเอ่ยว่า ‘ทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้น หรืออาจทำให้การเจรจาง่ายขึ้น’ ใช่หรือไม่ เจ้าจะเจรจาเรื่องใดเล่า”

“หน่วยอสรพิษได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังไปแล้ว พวกเรามารับตัว ‘โคลด์ สตาร์’ ในเมื่อเขาอาจเป็นคนที่จอมทัพทมิฬตามหาอยู่ ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์จึงมีประสงค์จะได้ตัวเขา” จามิลลาตอบเย็นชาเหมือนมาลแกธกำลังคุยกับรูปปั้นหิน

“ข้าทำงานให้ราชา ข้าไม่เห็นทราบว่าพระองค์รับสั่งให้ข้ามอบตัวโคลด์ สตาร์แก่ท่านหญิง”

“ราชาของท่านเพิ่งถูกอบรม” ซิลเวียหัวเราะคิก เห็นได้ชัดว่านางเป็นสตรีที่ไม่เกรงบุรุษ แต่มองในฐานะเท่าเทียมกัน

“ไม่แปลกใจ” มาลแกธขยิบตาให้นาง แล้วคุยกับจามิลลาต่อ “คงไม่อาจมอบให้ท่านหญิงได้ เว้นเสียแต่ราชามีพระประสงค์”

เขากันโคลด์ไว้ ไม่ให้ตอบโต้อะไรตอนนี้ แต่ดูเหมือนควรกันหลานชายตัวเองมากกว่า แววตาของทาราเธียลเป็นประกาย พร้อมรบทุกวินาที

“ท่านรับใช้ราชาของท่าน ข้ารับใช้ราชินีของข้าเช่นกัน” จามิลลาตั้งปลายดาบจรดพื้นตรงหน้าด้วยท่วงท่าอย่างอัศวิน

ในที่นี้ นักรบที่มาลแกธเคยเห็นฝีมือมาแล้วคือ นักดาบจามิลลาผมสีฟ้า กับนักธนูเวเรด้าผมสีเขียว ทั้งสองรอดมาจากวันสังหารคิงริวอร์นอร์ในขณะที่องครักษ์หญิงของเอริแอดเน่อีกหลายนางสละชีวิตห้ำหั่นกับองครักษ์ของอดีตราชา

ลือกันว่า องครักษ์คนสนิทของคิงริวอร์นอร์ที่จามิลลาสังหารไปนั้น...เป็นชายคนรักของนางด้วยซ้ำ

สตรีเหล่านี้มิใช่นักรบผู้แสวงหาความท้าทายแบบเอลฟ์จากแดนตะวันออก แต่เป็นอัศวินผู้สาบานตนว่าจะอุทิศทั้งชีวิตจงรักภักดีต่อราชินีของตน

“แม้พวกนางจะฆ่าเจ้า แต่เจ้าห้ามฆ่าพวกนาง” มาลแกธเอ่ยกับทาราเธียล “นี่เป็นคำสั่ง”

“ขอรับ” ทาราเธียลกำอาวุธตบอก “แล้วถ้า--”

“ห้ามตัดแขนตัดขา หรือทำให้พวกนางไม่สามารถยึดอาชีพเดิมได้เช่นกัน” มาลแกธโหดเหี้ยมในบางครั้ง เมตตาในบางหน “ถ้าทำแบบนั้น ฆ่าพวกนางเสียจะดีกว่า”

“แต่ท่านไม่ให้ฆ่า…”

“ประโยคหลังข้ารำพึง” มาลแกธระบายลมหายใจ “ตกลงเจ้าหัวดีหรือหัวทึบ หลานชาย”

“รับทราบ ท่านมาลแกธ” มอร์นเพนตอบแทนทาราเธียลขณะตั้งท่าคุ้มกันอยู่ด้านหน้า งานของมันคือคุ้มกันชีวิตนายน้อยเป็นอันดับหนึ่ง รับคำสั่งจากท่านมาลแกธเป็นอันดับสอง และอันดับสาม...ด้วยนิสัยส่วนตัว...มันมักปรานีกับเด็กและผู้หญิง

“ส่วนเจ้า...ที่รัก” มาลแกธเรียกโคลด์ “ข้ารู้ว่าสั่งอะไรเจ้าไม่ได้ พยายามอย่าถูกฆ่าหรือถูกจับตัวไปละ”

โคลด์เอาอิลมาเรหลบใต้โต๊ะอยู่ แล้วเลื่อนลังแข็งแรงมาบัง ที่เขาระวังที่สุดตอนนี้คือการโจมตีจากนักธนู เขาเคยลิ้มรสความร้ายกาจของนางมาแล้ว

“ข้าคนเดียวหนีทัน ฝากดูอิลดีกว่า” โคลด์เข้ามากระซิบอย่างเยือกเย็น

มาลแกธพยักหน้า “เชื่อใจข้าเถิด”

บุรุษตะวันออกไม่ลงมือก่อน ให้สตรีเป็นฝ่ายบุก แต่พวกนางเยือกเย็น รอคอยเหมือนนางสิงห์ล่าเหยื่อ

มาลแกธนึกวิธีรับมือกับเวทของดีราน สมัยก่อนเขาสังหารหัวหน้าตระกูลดีรานได้ และนำเปียสงครามเปี่ยมไอเวทของมันถักเข้ากับด้ามดาบเล่มหนึ่ง เส้นผมจำเวทถนัดของเจ้าของได้ มันเพิ่มกำลังให้แก่ดาบ ยามฟาดฟันจะทำให้เลือดของศัตรูไม่หยุดไหล

แม้ตัวจะตาย ทว่าไอเวทตกค้างยังคงร้ายกาจ ตระกูลดีรานเคี้ยวยากถึงขนาดนั้น

มาลแกธไม่คิดใช้เวทของควาร์ เขาถนัดเรียกใช้ไฟ แต่ไฟเอาศัตรูถึงตาย (และอันตรายมากในที่ปิด หากควบคุมไม่ดี ไฟอาจคลอกชาวบ้านทุกคนในที่นี้) เอลฟ์ตะวันออกจับสายตาที่ใบหน้าอ่อนเยาว์ของสตรีตระกูลดีราน ประกายตาเช่นนั้นบ่งบอกว่านางอายุน้อยเหลือเกิน

ควรเห็นโลกมากกว่านี้


ซิลเวียผู้มีผมสีเทาอ่อนวัยที่สุดในบรรดาเอลฟ์สตรีทั้งสี่นาง ด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปีทำให้นางไม่อยากอยู่นิ่ง แต่นางเชื่อฟังจามิลลา จึงได้แต่ขยับนิ้วลอบร่ายเวทเตรียมพร้อมไว้ก่อน

ส่วนเอลฟ์สตรีผมดำเชื้อสายอิซิลดาร์ ตั้งแต่เข้ามานางยังไม่พูดสักคำ

โคลด์ประเมินสถานการณ์ คนที่ดูมีฝีมือพอสู้กับมาลแกธได้คือจามิลลา ส่วนนักฆ่าหน้ากากดำคงรับงานคุ้มกันหลานชายของมาลแกธ (เขาเพิ่งทราบว่ามาลแกธมีหลานชายก็วันนี้)

เอ๊ะ… เมื่อเห็นท่าร่างเอาจริงของนักฆ่าหน้ากากดำชัดๆ และเห็นว่าเขาตอบรับคำสั่งจากมาลแกธ โคลด์จึงนึกออกว่าตนเคยพบคนผู้นี้มาก่อน...แต่แค่แวบเดียวจนเกือบลืมไปแล้ว

หน้ากากดำคือนักฆ่าที่เขาพบริมลำธารและเป็นคนบอกให้เขาเอาศีรษะควาร์ไปฝังได้นั่นเอง

“อืม” มาลแกธหรี่ตา “ทาราเธียลเลือกการาซีน เพราะฉะนั้นเจ้ารู้ใช่ไหมว่าต้องจัดการใครเพื่อคุ้มกันหลานชายข้า มอร์นเพน”

จามิลลากับเวเรด้ามีความสัมพันธ์กันบางอย่าง นักธนูไม่พอใจที่เพื่อนถูกลดค่าให้กลายเป็นเหยื่อ แม้นางสามารถคุ้มกันคนอื่นๆ ได้จากระยะไกล และแม้ซิลเวียน่าจะอยู่ในตำแหน่งที่สำคัญที่สุด แต่หากต้องเลือก นางคงพะวักพะวงถึงอัศวินผมสีฟ้า

“ได้ ท่านมาลแกธ--”

ขณะที่มอร์นเพนตอบรับคำสั่งให้ไปจัดการนักธนู ซึ่งถ้าเป็นมันที่รวดเร็วที่สุดก็ถือว่าเหมาะสม จามิลลาก็กระโจนตวัดดาบเข้าหามัน!

ดาบปะทะกาตาร์ มอร์นเพนโดนกระแทกถอยหลังทั้งที่ยังตั้งท่ากัน วิชาดาบเสริมพลังเวทของอิซิลดาร์ทำให้สตรีโจมตีได้หนักหน่วงรุนแรงไม่แพ้กำลังบุรุษ ลูกธนูสามดอกถูกยิงมาพร้อมกัน คุ้มกันจามิลลาจากทาราเธียล ส่วนนักรบสตรีผมดำฟาดดาบเป็นคู่มือกับมาลแกธ

นางผู้นี้แกร่ง!

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ซ่อนไพ่ตายไว้หลายใบ ไม่ให้เอลฟ์ตะวันออกเห็น

โคลด์วัดระดับฝีมือแล้ว เอลฟ์สตรีผมดำใช้ดาบสองมือเหมือนมาลแกธ แถมเวทเสริมกำลังเป็นเวทธาตุน้ำเรืองแสงสีฟ้าเข้ม คู่ปรับกับเวทธาตุไฟ

ส่วนคู่มือของเขา...คือซิลเวียผมสีเทางั้นหรือ

โคลด์สะบัดบีฟอร์ซ น้ำแข็งเคลือบใบมีดเป็นแง่งๆ เขาไม่เข้าใจ เขาเองก็ใช้อาวุธเสริมพลังเวท แม้อีกฝ่ายไม่ทราบว่าเขาเป็นชาแมน เหตุใดจึงจับคู่นักเวทกับเขา

นักเวทกับแอสซาสซิน แอสซาสซินย่อมได้เปรียบ

นักธนูกับแอสซาสซิน ในระยะไกล นักธนูย่อมได้เปรียบ

แผนการต่อสู้ของเอลฟ์สตรีเหล่านี้ดูไม่รอบคอบ


—————————————————————————

A/N ฉากต่อสู้เขียนยากจังเลยค่ะ ;w;



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
แอดรักนางนะแต่นางคิดจาทำอะไร
 :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จะเอาอีกกกก!! กำลังมันเลย ชะนีทั้งหลายดูมีอะไรซ่อนอยู่

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
สงสารอาเลธที่สุด

อำนาจที่คนอื่นควบคุม
ชีวิตที่คำสาปชักนำ
เพื่อนที่หลุดลอย
รักที่ไม่ได้มา

ไร้คนไว้ใจได้ ไร้อำนาจ ไร้อิสระ ไร้รัก

เรือปริ่มน้ำเหลือทน
-------------------------
ใครมาขัดขวางการค้าของอิลเนี่ย ช่างไม่กลัวตายเอาซะเลย

ปล. มอร์นเพนน่ารักเกินไปแล้ว! ทาราเธียลหล่อเหลาจนใจละลาย

มีสมองที่เฉียบแหลมโคตร อิลมาเร
มาลแกธ  ก็สะสมของสุดยอด นี่มาจากฝีมือล้วนๆ
ทาราเธียล จะต้อนลุงมาลแกธ
แต่ถูกต้อนด้วยคำถามของตัวเองซะและ
ตลาดมืดถูกถล่มโดยใครกันนะ
เอริแอดเน่ หรือนายพลเบเลธ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ระวังเป็นกับดักนะโคลด์

รอตอนต่อไปแทบไม่ไหวแล้ววววว

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 18 : สยายปีก (7)



ทว่ามาลแกธยิ้มเมื่อเห็นว่าพวกนางพุ่งไปหาใคร พวกนางถูกจัดตำแหน่งมาแล้ว ท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์เป็นเสนาธิการที่หลักแหลมน่าชมเชย สมแล้วที่ประวัติศาตร์จารึกนามของนางไว้ร่วมกับบุรุษตระกูลรูเมเรียร์ ในฐานะจอมเวทสงครามซึ่งมีชัยเหนือกองทัพจากแดนทมิฬ

มอร์นเพนอ่อนด้านกำลัง ทาราเธียลร้ายกาจหากประลองดาบซึ่งๆ หน้า ทว่าอ่อนด้านความไว ส่วนเขาต้องถูกรบกวนให้ยุ่งที่สุด ไม่ให้เอื้อมไปถึงโคลด์ สตาร์

นักเวทไม่ได้จะสู้กับโคลด์…อาจมีแผนการอื่น

“อย่าสู้! หนี!”

“หนีทางไหน ทางออกมีทางเดียว ยังไงก็ต้องผ่านนาง” โคลด์วิ่งผ่านมาลแกธไปหาซิลเวียที่ยืนขวางหน้าประตู “แต่ข้าจะไม่ฆ่าแล้วกัน” ถ้าเขาพยายามปีนออกทางหน้าต่าง เกรงว่าจะกลายเป็นเป้านิ่งของลูกธนู...นักธนูฝีมือระดับนี้ แม้โคลด์ยังไม่เห็นนางยิงธนูเสริมพลังเวท แต่คิดว่ามีแน่ๆ

“อา! โคลด์!” มาลแกธเปลี่ยนอาวุธจากใบมีดเป็นดาบ เขารับดาบต่อเนื่องของนางสิงห์ผมดำ นางรู้การเคลื่อนไหวแบบตะวันออก ทำให้เวลาเขาบุก นางสามารถอ่านท่าแล้วรับได้ทัน

ซ้ำนางไม่พูดจา ใบหน้าก็ไร้อารมณ์ ไม่แสดงออกว่าวางแผนอะไรไว้หรือคิดอะไรอยู่

เอริแอดเน่ส่งคนที่มาลแกธจะหยอกเล่นไม่ได้มาเป็นคู่

ขณะมาลแกธสู้กับนักดาบ ทาราเธียลซึ่งหวังจะได้ประดาบบ้างกลับหงุดหงิดที่ต้องคอยปัดลูกธนู

“ลงมาเซ่!” ทาราเธียลถอดหน้ากากทูตสันถวไมตรีผู้เงียบขรึมและมีวาจาไพเราะน่าฟังทิ้ง

จังหวะนั้นเอง ลูกธนูสี่ดอกถูกยิงออกมาพร้อมกัน ทว่าไม่ได้หวังผลที่ทาราเธียลซึ่งเปิดช่องว่างจากความใจร้อน มันพุ่งผ่านหลังโคลด์ไปปักบนพื้นสี่ทิศรอบซิลเวีย

ซิลเวียร่ายเวทในจังหวะเดียวกัน ม่านเวทคุ้มกันครอบทั้งตัวนางและปิดกั้นทางออก

ฝนธนูกลับมายิงใส่ทาราเธียล ไม่มีคำพูดใดจากเวเรด้า

โคลด์ไม่ได้ชะงักเพราะม่านเวท เขาเห็นแล้วว่ามันคือการใส่พลังเวทผ่านอาวุธเวทมนตร์เพื่อขยายพลังเวทคุ้มกัน

ซิลเวียอ่อนแอที่สุดจริงๆ จึงต้องมีม่านเวทคุ้มกัน

แต่นั่นก็ยิ่งแปลก ความสงสัยทำให้โคลด์เร่งลับประสาทให้เฉียบคม เขาคิดว่าต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ แค่ยังมองไม่ออก แต่ถ้าทำลายลูกธนูบนพื้นที่เป็นสื่อขยายพลังเวทได้แม้สักอัน ม่านเวทคุ้มกันของเอลฟ์สาวผมสีเทาก็น่าจะอ่อนกำลังลง

โคลด์ลองซัดอาวุธลับใส่ลูกธนูซึ่งปักอยู่บนพื้นดอกหนึ่ง

เปรี้ยง!

อาวุธลับของเขาถูกริ้วสายฟ้าฟาดกลับมา สายฟ้าช็อตเหล็กจนไหม้เกรียม นี่ไม่ใช่ม่านเวทคุ้มกันธรรมดาแล้ว

ไม่ทันที่เสียงอาวุธลับปะทะม่านเวทจะจางลง ธนูอีกสี่ดอกถูกยิงมาอีกครั้ง

ทาราเธียลนึกในใจว่า จบเรื่องวุ่นวายนี่ข้าจะตั้งใจเรียนเวทศาสตราวุธ!

เอลฟ์หนุ่มพยายามอ่านว่าลูกธนูของอีกฝ่ายมีกลอะไรซ่อนอยู่ แต่พยายามคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก จนลูกธนูกำลังจะปักหน้าอยู่รอมร่อ ทาราเธียลจึงสรุปว่าตนคิดเยอะเกินไป เพราะฉะนั้นควรเลิกคิดแล้วใช้สัญชาตญาณนำ

ทาราเธียลซัดดาบสั้นมือซ้ายไปยังเวเรด้า พลังและความแรงไม่ธรรมดา เสียแค่ขาดความแม่นยำ นางหลบได้ ทว่าชั่ววินาทีถัดมา ทาราเธียลซัดดาบสั้นมือขวาดักทางที่นางหลบ ใบดาบคมกริบถากแขนนักธนู

ใช้สัญชาตญาณนี่มันดีจริงๆ


“มัวยิ้มอะไรทาราเธียล! จัดการลูกธนู!” ผู้มีศักดิ์เป็นลุงตะคอก มาลแกธไม่อยากออกหมัดออกเท้ากับสตรี แต่อิซิลดาร์นางนี้แกร่งทั้งฝีมือดาบและร่างกาย ทั้งที่ร่างเล็กเพรียวสูงไม่ถึงไหล่เขา ไม่น่าจะมีแรงเยอะ แต่ลมหายใจของนางยังไม่สะดุดเลย

ถ้าออมมือมากไป เขานี่แหละจะเป็นฝ่ายโดนหมัดโดนเท้าจนกระอักเสียเอง

“ล็องธูไร้ปัญญาหรือ ถึงขว้างอาวุธมาหมด” เวเรด้าเอ่ยขณะยิงธนูอีกชุดใส่ทาราเธียลที่วิ่งไต่นั่งร้านข้างโกดัง ตรงขึ้นมาหานาง

ส่วนจามิลลาฟาดมอร์นเพนกระเด็นจังหวะที่มันพะวงกับนายน้อย

“ล็องธูไม่พกอาวุธชนิดเดียว”

ทาราเธียลแสยะยิ้ม แผลเป็นบนแก้มซ้ายรั้งขึ้น เขาชักมีดสั้นในรองเท้าขณะเข้าประชิดเวเรด้า

นางใช้คันธนูรับได้ทัน!

“อืม” นางเอลฟ์ผมสีเขียวอ่อนคลี่ยิ้ม แรงนางน้อยกว่าทาราเธียลอย่างเห็นได้ชัด แต่คล่องแคล่วไม่แพ้มอร์นเพน “แต่ก็ไร้ปัญญาอยู่ดี”

ดาเอียร์ ผมสีเขียวอ่อน ตระกูลชั้นรองบนเกาะเล็กๆ ของแดนตะวันออกกำลังเอ่ยวาจาดูถูกหนึ่งในสามตระกูลใหญ่อย่างล็องธูอยู่

“เจ็บปวดสุดๆ” ทาราเธียลยิ้ม ก่อนคำรามแล้วเข้าโรมรัน ความจริงชาวตะวันออกไม่แบ่งแยกชายหญิงในสนามรบ เพราะสตรีน่ากลัวไม่แพ้บุรุษเลย

โคลด์เห็นซิลเวียหัวเราะ นางยังเด็ก เก็บสีหน้าท่าทางไม่เก่ง จึงอนุมานได้ว่าหัวเราะออกมาเพราะมีอะไรสมใจจริงๆ

ซิลเวียประสานฝ่ามือแล้วลากเป็นวงกลม วงเวทแปลกตาวาบขึ้น ไม่ใช่เวทมนตร์สร้างม่านคุ้มกันอย่างเมื่อสักครู่

โคลด์เร่งซัดอาวุธลับอาบเวทน้ำแข็งเพื่อทำลายลูกธนูกั้นอาณาเขตเวทคุ้มกัน ไม่ว่าซิลเวียร่ายเวทอะไรอยู่ เขาควรรีบหยุดมัน

“ข้ายิงธนูไปหลายดอก” เวเรด้ายังถอยหนีไปเรื่อยๆ ภาพรวมขณะนี้ การต่อสู้ของแต่ละคู่ถูกแยกออกไปคนละทาง

“ข้ารู้น่ะ” ทาราเธียลหงุดหงิด แต่หากหลานชายอ่านใจผู้เป็นลุงได้ จะพบว่ามาลแกธหงุดหงิดยิ่งกว่า

‘จัดการลูกธนู!’ ท่านลุงสั่งว่าอย่างนั้น

แต่เขาไม่ได้ทำตาม

“เจ้าปัดไปกี่ดอก” แพขนตาสีเขียวพริ้มลง คันธนูไม่ละการปัดป้องจุดตาย

“จะทำอะไรก็ทำเถิด ดาเอียร์” ทาราเธียลใช้มีดสั้นคล่องมือ เปลี่ยนมือจากซ้ายไปขวาได้อย่างลื่นไหล ทว่าการสู้ที่ไม่ให้อีกฝ่ายตายหรือบาดเจ็บร้ายแรงยากกว่าที่คิด

“ขอบคุณ” เวเรด้ายิ้มน้อยๆ นางมีรอยยิ้มแบบท่านหญิงของนาง...แบบสตรีอิซิลดาร์ ลึกลับ ไว้ตัว ผิดจากสตรีตะวันออก

แม้ต้นกำเนิดมาจากดินแดนอื่น แต่พวกนางเป็นคนของอิซิลดาร์ แม้นต้องฆ่าฟันเอลฟ์ผมสีเดียวกันจากแดนตะวันออกก็ทำได้โดยไม่รู้สึกผิด

“ที่เจ้าไร้ปัญญาจริงๆ”

แสงสว่างวาบขึ้นในจุดที่ไม่มีใครคาด จากลูกธนูที่ปักอยู่บนพื้นเสมือนไร้ความหมาย ตั้งแต่การยิงธนูครั้งแรกที่ทำลายขวดน้ำมันหอม ตามด้วยการยิงธนูนับครั้งไม่ถ้วนโดยไม่นับลูกธนูที่สร้างม่านคุ้มกันให้ซิลเวีย

เวเรด้ามีเป้าหมายหลักที่แน่นอนอยู่สี่จุด

 

“เวเรด้า เจ้ารับมือทาราเธียล ล็องธู ให้พูดจายั่วยุเข้าไว้ เอลฟ์หนุ่มอายุยังเยาว์มีความถือดีเช่นเขายั่วอารมณ์ได้ง่ายที่สุด”

ท่านหญิงเอริแอดเน่สั่งไว้เช่นนี้


 

จุดที่แสงสว่างจากม่านเวทสี่ทิศวาบขึ้นคือบริเวณรอบโต๊ะตัวหนึ่ง

ตอนที่เห็นแสงนั้น โคลด์ซัดอาวุธลับจนเกือบทำลายลูกธนูกั้นอาณาเขตเวทคุ้มกันได้แล้ว และตระหนักว่าตนอยู่ห่างเกินไป

“มาลแกธ!”

ทว่าสายเกินไป พวกเขาทั้งหมดถูกล่อออกจากจุดจุดหนึ่ง และอยู่ไกลจากจุดนั้นพอกัน ย่อมไม่ทันเวทที่ร่ายเสร็จแล้วของซิลเวีย

ธนูอาณาเขตอีกสี่ดอกปักรอบโต๊ะที่โคลด์ซ่อนอิลมาเรไว้ เมื่อซิลเวียพลิกวงเวทในมือเธอ มันกระจายออกเป็นแสงจ้า บอลเวททรงกลมกินพื้นที่ส่วนนั้นหายไปในพริบตา

องครักษ์หญิงที่เหลือดีดตัวออกจากคู่ต่อสู้ของพวกนาง

“ท่านหญิงสั่งว่า เอาตัวดวอร์ฟไป เดี๋ยวดาร์กเอลฟ์ก็ตามมาเอง!” ซิลเวียบอกร่าเริงแล้วส่งจูบ ร่างของนางและเพื่อนๆ วาบหายไป

เวทเคลื่อนย้ายในพริบตาเช่นนี้ พลังเวทของซิลเวียคนเดียวทำไม่ได้แน่ ธนูเวทที่ใช้ปักปันเขตไม่ใช่สื่อสำหรับพลังเวทของซิลเวียเพียงคนเดียว

ซิลเวียเป็นนกต่อ มาแสดงให้เห็นว่าร่ายเวท ขณะเดียวกันนางก็เป็นสื่อกลางให้กับจอมเวทที่อยู่สูงกว่านางหลายสิบขั้น

‘จอมเวทสงคราม’ ท่านหญิงเอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์

ทาราเธียลถึงกับสบถลั่น ไม่ระวังกิริยาต่อหน้าหญิงสาว และไม่กล้าหันไปทางท่านลุง

“อย่าวู่วาม” มาลแกธบอกโคลด์ “ข้าอ่านสถานการณ์ไม่ขาด ขออภัย”

โคลด์กำบีฟอร์ซในมือแน่น แขนสั่นระริก เขาเงยหน้ามองมาลแกธ ไม่รู้ตัวว่าน้ำตาไหลอยู่ “เจ้าอ่านแผนของนางไม่ออก ข้าก็เช่นกัน”

ชั่วขณะที่อิลมาเรหายไป โคลด์เห็นภาพแผ่นหลังของเกวนโดลินวิ่งล่อมังกรเกราะเหล็กดำไปอีกทาง

แล้วเธอก็ไม่ได้กลับมา


เขาขยุ้มคอเสื้อมาลแกธ บอกเสียงกร้าว

“ข้าจะไปตามอิลมาเร อย่าห้าม แต่จงช่วยข้า!”

มาลแกธพยักหน้า เขาวางมือบนแก้มของโคลด์เพื่อปลอบโยน

โคลด์ซบหน้ากับฝ่ามือนั้น

มอร์นเพนเข้าไปดูทาราเธียล แขนของมันยังชาจากการรับดาบของจามิลลา มันกับอีกฝ่ายสู้กันได้สูสี แลกแผลกันไปหลายรอบ แต่มันแบ่งสมาธิดูนายน้อยไปด้วย จนไม่ได้คิดว่าท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์จะวางแผนแยบยลเช่นนี้ไว้แต่แรก

ทั้งทำให้เป้าหมายสลบเพื่อกำหนดจุดปักอาณาเขตเวทเคลื่อนย้ายที่แน่นอน การใช้ลูกธนูสร้างม่านเวทสายฟ้าป้องกันทางออก ลวงให้ลืมนึกถึงเวทมนตร์บทอื่น

องครักษ์แต่ละนางทำทีมาต่อสู้จับกุมตัวดาร์กเอลฟ์ แต่แท้จริงแล้วมาลักพาตัวดวอร์ฟ

...อาจรวมถึงการคำนวณนิสัยของท่านมาลแกธ ที่บางครั้งก็มีเมตตาแบบลมเพลมพัดด้วย

“ข้าขอโทษ นายน้อย...ข้าน่าจะมีประโยชน์มากกว่านี้” มอร์นเพนเอาเสื้อคลุมปิดแผลทั่วร่างของตน มันไม่อยากให้ใครเห็นผิวเนื้อสีน่าเกลียดใต้เสื้อผ้าขาดวิ่น

“ไม่ต้องขอโทษมัน” มาลแกธเอ่ยกับมอร์นเพน ก่อนจะมองหลานชายอย่างดุดัน “ถ้าข้ากลับมาแล้วเห็นว่าฝีมือและอารมณ์ของเจ้ายังไม่พัฒนา คนได้รับโทษคือมอร์นเพน”

ทาราเธียลขบกราม ก้มหน้า

“ได้ยินข้าหรือไม่!”

“ได้ยินขอรับ!” ทาราเธียลกำอาวุธแล้วตบอก

“ตั้งใจ ทาราเธียล เจ้าทราบดีว่าข้ามีชื่อเสียงด้านการลงโทษ”

มอร์นเพนไม่คัดค้าน มันเสียใจที่นายน้อยโดนต่อว่าเพราะมันฝึกฝนการควบคุมอารมณ์ของนายน้อยได้ไม่ดีมากกว่า

โคลด์ปาดหน้าเมื่อรู้ตัวว่าน้ำตาไหล เขาโกรธ แต่เป็นความโกรธหนักอึ้งผสมความหวาดกลัว สิ่งที่เขารัก...สิ่งที่ฮีมเดียร์รัก ถ้าไม่พังทลายก็มักหายไป เช่นเผ่าจันทร์ เช่นกวินีเวียร์...

อิลมาเรเป็นเพื่อนคนสำคัญ...เธอทำให้เขายิ้มออกในวันแย่ๆ มานับครั้งไม่ถ้วน ก่อนหน้านี้มาลแกธใช้เธอเป็นจุดอ่อนของเขา ตอนนี้เหมือนโดนแทงซ้ำแผลเดิม...แค่เปลี่ยนคนแทง

เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์ไม่มีเหตุผลให้ปรานีโคลด์ สตาร์ ทาสดาร์กเอลฟ์ที่ทำให้ราชาเอลฟ์ตามืดบอด

นางจึงน่ากลัวยิ่งกว่ามาลแกธ

“ต้องไปหาซิกฟรีด” โคลด์พึมพำกับมาลแกธ “ฟังจากที่พวกอิซิลดาร์บอก เอริแอดเน่กับเขาน่าจะทะเลาะกัน...ต้องไปหาเขาก่อน...”

เสียงของดาร์กเอลฟ์ลอดไรฟัน ดวงตาสีม่วงเข้มจัดเหมือนถูกกลืนด้วยก้นบึ้งของนรก

“ก่อนที่ข้าจะฆ่าคู่หมั้นของเขา”


—————————————————————————

A/N เสือปะทะสิงห์ เราคิดว่า...ด้านความร้ายกาจแล้ว โคลด์กับเอริแอดเน่กินกันลงยากค่ะ

ป.ล. เรามีงานและธุระสำคัญเข้ามา จะว่างอีกทีวันที่ 1 เมษายน 60

ขออนุญาตกลับมาลงนิยายต่อวันนั้นนะคะ ขอบคุณมากค่า (-3-)


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมากๆเลยค่ะ ขอบคุณคนแต่งมากๆ :katai4: รอติดตามตอนต่อไปค่ะ o13

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โคลด์ คนอ่านอนุญาตให้ฆ่าคู่หมั้นซิกฟรีด
เอรีแอดเน่ ร้ายนักนะ วางแผนหลอกสำเร็จ
จะจับ แต่แสร้งปล่อย วางแผนใหญ่โต
ทำทีท่าจะจับโคลด์ ต่อสู้วุ่นวาย
แต่จับอิลมาเร เพื่อให้โคลด์ไปช่วย
แล้วจับโคลด์อีกที ชิส์.....นางมารร้าย
ขนาดได้ตัวราชา เพื่อสืบพันธ์ุมีลูก แล้วแท้ๆ
แต่ใจราชาอยู่ที่โคลด์  นางเลยยอมไม่ได้
เพราะเสียหน้าที่สวยซะเปล่า หุ่นดีก็เท่านั้น
ได้แต่ตัวราชา ไม่ได้ใจ ยอมไม่ได้สินะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ฆ่าทีเดียวแมร่งก้อตายหมดละ. แต่มันก้อไม่ใช่นิยายอีกถ้าฆ่า

ห่วยย!! ลำอีลุง แก่จะตายแระ อ่านเกมชะนีไม่ขาด

ออฟไลน์ แม่มดน้อย

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
จริงๆเราสงสารนางนะ คนที่รักที่สุดตายไป
พอจะเริ่มต้นใหม่กับคนที่อุตสาห์ทุ่มเทให้เค้าก็ดันไปรักคนอื่นอยู่แล้ว
แต่ก็อย่างว่ารักคนที่เค้ารักเราดีกว่าเอริแอดเน่
เสือปะทะสิงห์ น่าชมมมมมม :mew1:

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
เพราะสำคัญถึงกลายเป็นจุดอ่อนสินะอิลมาเร
สู้ๆนะโคลด์

ออฟไลน์ พิศตะวัน

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 496
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-3

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ความร้ายเริ่มกลับมาสำแดงเดชอีกครั้ง หลังถูกกลืนหายไปกับบทย้อนอดีต

อันที่จริงก็เกลียดนางมาตั้งแต่บทแรกๆ แล้ว  แม่ราชินี 3 ผัว

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 19 : คำสาป (1)



ค่ำวันเดียวกัน

ราชาเอลฟ์ไม่ไปร่วมทานอาหารค่ำกับท่านหญิงเอริแอดเน่ ทั้งยังไม่อยู่ในหอสมุดหลวง ทว่าอิลราลานผู้เป็นราชองครักษ์ตามหาพระองค์จนพบ ราชาเอลฟ์ทรงประทับอยู่ในวิหารของท่านหญิงคาลิเธียล พระพักตร์หมองเศร้าสะท้อนในสระรูปวงกลมกลางวิหาร พระองค์ทรงประทับนิ่งเช่นรูปสลัก มองดูแล้วไร้ชีวิตโดยสิ้นเชิง

ปกติแล้วอิลราลานจะไม่เข้าไปรบกวน ไม่เคยเตือนอย่างคนสนิทว่าหากพระองค์หายไปโดยไม่บอกกล่าว หัวของราชองครักษ์คงหนาวๆ ร้อนๆ อยู่บนบ่า แต่ค่ำนี้ต่างออกไป เขาก้าวเข้าไปหาราชาหนุ่ม ทำความเคารพ แล้วเอ่ยว่า

“ข้าพระองค์ขออนุญาต ถวายคำตอบถึงความแข็งแกร่งของรูเมเรียร์ให้พระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

ซิกฟรีดเงียบ แววตาเหม่อลอย กระทั่งดวงตาสีส้มเงินข้างขวายังด้านชา

อิลราลานถือเอาว่าได้รับอนุญาตแล้ว “รูเมเรียร์ได้รับพรจากบิดามารดา ได้รับภูมิปัญญาอันเก่าแก่ จึงมีปราชญ์เช่นควาร์และพิลกริมเช่นท่านหญิงคาลิเธียล นักรบรูเมเรียร์แข็งแกร่งไม่แพ้อิซิลดาร์และเผ่าทมิฬ หากนักรบรูเมเรียร์อ่อนแอ พวกเราคงไม่มีแผ่นดินไปเนิ่นนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

“ตอนนี้รูเมเรียร์อ่อนแอ” ซิกฟรีดเอ่ยโดยไม่ได้หันมา

“รูเมเรียร์เพียงบอบช้ำจากการสูญเสียกษัตริย์ติดต่อกันถึงสองพระองค์ และเหนื่อยหน่ายกับสงครามเต็มทนจนไม่อยากจับดาบสู้--”

“เจ้าไม่ปฏิเสธว่ารูเมเรียร์อ่อนแอ”

อิลราลานน้อมศีรษะรับ เขาไม่ปฏิเสธจริงๆ

“พระองค์ทรงทิ้งปริศนาไว้ ‘สิ่งใดกันเล่าแข็งแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ สิ่งใดกันเล่าใช้ต่อรองกับปีศาจได้’ ”

“ใช่…”

“ ‘ความเชื่อใจ’ พ่ะย่ะค่ะ” อิลราลานวางมือบนอกของตน “สำหรับข้าพระองค์ ความเชื่อใจที่มีต่อพวกพ้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าคมดาบ ความเชื่อใจแข็งแกร่งจนล้มปีศาจได้ ในสนามรบ ไม่มีผู้ใดสู้เพียงลำพัง ในการปกครอง ไม่มีผู้ใดพาแผ่นดินให้รุ่งเรืองได้เพียงลำพังเช่นกัน”

คำพูดของอิลราลานทำให้ซิกฟรีดหันมาตั้งใจฟัง

“ข้าพระองค์ขอบังอาจพูดถึงเฮลร็อธ ผู้มีศักดิ์เป็นท่านอาของข้าพระองค์พ่ะย่ะค่ะ”

ซิกฟรีดอนุญาต ตอนที่ยังเล็กเขาเคยพบเฮลร็อธมาก่อน มันเป็นราชองครักษ์ของพี่เฟรธูริน

“ท่านอาของข้าพระองค์จงรักภักดีต่อแผ่นดิน และจงรักภักดีต่อคิงเฟรธูรินยิ่งกว่าชีพตน ข้าพระองค์ถามท่านอาว่า ‘เหตุใดท่านจึงอุทิศตนทำงานหนักเช่นนี้’ ท่านอาตอบข้าพระองค์ว่า ‘อิลราลาน...หากได้พบเจ้านายที่ไว้ใจเจ้า เชื่อมั่นในตัวเจ้า และให้ใจแก่เจ้าเช่นพี่น้อง เจ้าจะไม่ทำงานถวายหัวหรือ’ ”

แววตาของอิลราลานเฉียบคม เยือกเย็นและแกร่งกล้า

“ข้าพระองค์เชื่อมั่นในรูเมเรียร์ และเชื่อมั่นในตัวกษัตริย์ที่ยังเยาว์ทว่าอุทิศตนเพื่อสิ่งที่ยิ่งใหญ่ พระองค์จะทรงมอบความวางพระทัยให้แก่ข้าพระองค์ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

ราชองรักษ์คุกเข่า อิลราลานบังอาจเอ่ยแนะนำ ทั้งยังเอ่ยสั่งสอนราชาแห่งรูเมเรียร์ หากเป็นคิงริวอร์นอร์ หัวบนบ่าควรรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ทว่าตรงหน้าเป็นราชาหนุ่มผู้ยังมีจิตใจอ่อนโยน แม้จะแสดงท่าทีกราดเกรี้ยวเพียงใด แต่อิลราลานมองทะลุไปถึงความสับสน ความไม่มั่นใจ และความโดดเดี่ยวภายใน

ซิกฟรีดรู้สึกจุกในอกและลำคอ ไม่สามารถตอบคำถามได้เดี๋ยวนั้น เขาเพิ่งตระหนักว่าตนเองไม่กล้าที่จะไว้ใจใครอีก หลังจากทราบว่าพี่ริวอร์นอร์สังหารพี่เฟรธูริน หลังจากที่พยายามส่งสารไปถึงพี่หญิงคาลิเธียลแต่ไม่ได้รับการตอบกลับ หลังจากเหตุการณ์ทั้งหลายในอาศรม หลังจากได้พบนักรบตะวันออกที่จ้องแสวงหาผลประโยชน์

หลังจากโคลด์ สตาร์…

“พระองค์ควรทำแผลก่อนพ่ะย่ะค่ะ” อิลราลานลุกขึ้น เขาเห็นตั้งแต่เข้ามาแล้วว่าราชามีบาดแผลฉกรรจ์ ชายแขนเสื้อด้านซ้ายที่ถูกถกขึ้นเผยให้เห็นท่อนแขนซึ่งเต็มไปด้วยรอยกรีด...

อักขระทมิฬ

เลือดสีดำหยดลงพื้นวิหาร ทั้งยังหยดลงในสระน้ำ แปดเปื้อนนทีอันควรบริสุทธิ์สูงส่ง

“แผลนั่น ข้ารักษาให้เอาไหม” ผู้ที่เพิ่งมาถึงเดินเข้ามา ทว่าก่อนที่อิลราลานจะชักอาวุธก็เห็นว่าข้างกายแอสซาสซินดาร์กเอลฟ์คือคนคุ้นหน้า--ราชองครักษ์มือขวา--มาลแกธ ล็องธู

“อิลมาเร…” ซิกฟรีดเอ่ยขึ้นแทนคำทักทาย “ออกไปก่อน อิลราลาน มาลแกธ”

โคลด์เลิกฮู้ดลง มองซิกฟรีดเต็มตา ดวงตาสีม่วงเข้มจัดที่ไหวระริกบ่งบอกว่าดาร์กเอลฟ์กดอารมณ์ของตัวเองอยู่ เขารอจนมาลแกธที่ใช้เส้นสายพาตนเข้ามาและอิลราลานออกไปแล้ว จึงเข้าไปหาซิกฟรีด

“ยื่นแขนมา” โคลด์เอ่ยเรียบๆ

“มันจะหายเอง” ซิกฟรีดมองรอยแผล ก่อนเอาแขนเสื้อลง

“มีอะไรให้ข้าทำสักครู่จะดีกว่าให้ข้าเริ่มพูดโดยไร้สติ” โคลด์ดึงแขนราชาเอลฟ์ เลิกแขนเสื้อขึ้น แล้วหยิบผ้าจากในเสื้อคลุมมาชุบน้ำในสระ

เขาพบว่ามันเป็นอักขระเวทพลีวิญญาณ เขียนโดยสมบูรณ์แล้ว

โคลด์เช็ดแผลให้อย่างค่อนข้างเบามือ “ไปเรียนเวททมิฬมาจากไหน”

“ใบหน้าด้านซ้าย”

“เจ้าพลีอะไรไป แลกอะไรมา”

“วิญญาณ กับการกางปีกปกป้องได้ทั่วแผ่นดิน”

“ก็ดีกว่าเอาวิญญาณเจ้ามากักขังข้า” โคลด์เลือกขวดยาจากเข็ดขัดคาดเอว โรยผงสมานแผลให้ วิชาแพทย์ผสานเวทมนตร์ของเอลฟ์อยู่ในระดับสูงล้ำ ไม่ต้องเป็นชาแมนเวทโลหิตอย่างเขา อาศัยแค่เวทรักษาก็น่าจะทำให้รอยแผลจากอักขระทมิฬเหล่านี้หายไปได้ “แต่เจ้าต้องระวัง ถ้าใช้มากไป มันจะสลักลงวิญญาณของเจ้า แล้วจะลบไม่ออก”

“ข้าจะไปขออิลมาเรคืนให้” ซิกฟรีดกล่าวต่อว่า เขามองเห็นเหตุการณ์ผ่านเวททมิฬที่ตนใช้

“นางลงมือขนาดนี้แล้ว เจ้ายังเชื่อหรือว่านางจะตามใจเจ้า”

ซิกฟรีดไม่ปฏิเสธ “นางอาจมีข้อเสนอให้ข้า”

โคลด์หัวเราะ แบบคนเลวชั่วช้าหัวเราะใส่หน้าคนซื่อโง่เขลา “เจ้าบอกข้ามาก่อนดีกว่าว่าเจ้าทะเลาะอะไรกับนาง”

“ข้าเอ่ยความจริงกับนาง”

“จริงถึงขั้นไหน”

“เป็นความจริงทุกประการ”

ซิกฟรีดเล่าให้โคลด์ฟังเท่าที่เล่าได้ ว่าเขาใจดำขนาดที่เอ่ยกับนางว่านางจะไม่เสียตำแหน่งราชินีไป และจะมอบบุตรชายบุตรสาวให้ตามประสงค์

แต่เขาไม่อาจรักนาง

“ข้าบอกแล้วว่าข้าอยากสมเพชนาง แต่สมเพชไม่ลง อาจอยากสงสารนางด้วย แต่นางก็ร้ายกาจพอจะลบความสงสารของข้า” โคลด์สูดหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าข้าเป็นนาง ข้าจะไม่อยู่ในราชวังแล้ว แต่ออกเดินทางส่งอิลมาเรไปชายแดนเพื่อให้เหยื่อของข้าไล่ตามไป เจ้าลองตรวจสอบดูว่าเอริแอดเน่อยู่ที่ไหนอย่างเร็วได้หรือไม่”

ซิกฟรีดเอ่ยเวทควาร์ สั่งมาลแกธผ่านตุ้มหูไฟ ให้ตรวจสอบว่าท่านหญิงเอริแอดเน่ยังอยู่ในราชวังหรือไม่

ก่อนจะได้คำตอบกลับมา โคลด์เอ่ยเรื่องเขาได้พบกับมารดานทีตอนที่ซิกฟรีดหายตัวไปแล้วตนเป็นคนพากลับมา

“ข้าโกหกว่าพบเจ้าในป่า แต่จริงๆ แล้วพบที่น้ำตก นางกล่าวว่า ‘ต่อจากนี้...พวกเจ้าจะเผชิญชะตากรรมอันหนาหนัก ข้ามาเพื่ออวยพร’ แต่ดูเหมือนเราจะไม่ได้รับพรอะไร น่าจะเป็นคำสาปเสียมากกว่า”

ซิกฟรีดยิ้มขำ แต่ดูคล้ายสมเพชตัวเอง “ข้าเคยได้ยินเสียงของบิดามารดา แต่ตอนนี้ไม่ได้ยินอะไรเลย” เขาสารภาพอีกว่า “แม้แต่จะร่ายเวทควาร์ ข้ายังไม่สามารถร่ายได้เหมือนเคย บางครั้งต้องร่ายบทเดิมถึงสามครั้ง” ซิกฟรีดลูบลำคอของตนผ่านคอเสื้อปกตั้ง เขาโดนพี่ชายแท้ๆ ใช้หมัดกระแทกจนเส้นเสียงเสียหาย

“ซิกฟรีด ข้าบอกได้เลยว่า เอริแอดเน่จะไม่เลิกราจนกว่านางจะกำจัดข้าออกไปจากชีวิตเจ้าได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง นางเปลี่ยนใจไม่ฆ่าข้าเพราะเห็นว่าอาจใช้ประโยชน์ได้เท่านั้น นางอาจปรานีเจ้า แต่ไม่มีทางปรานีข้า ฉะนั้นข้าก็จะไม่ปรานีนาง แต่ข้าจะถามเจ้า หากข้าต้องฆ่านาง เจ้าจะเสียใจแค่ไหน”

“ข้าไม่ให้นางฆ่าเจ้า เช่นเดียวกัน...ข้าจะไม่ให้เจ้าฆ่านาง” คำพูดของซิกฟรีดหนักแน่น

“เจ้าคิดจะเปลี่ยนใจไปขอโทษนาง ลองรักนางและตัดข้าทิ้งไปบ้างไหม ทางนั้นจะดีกับเจ้ามากกว่า”

“นางเป็นพี่หญิงของข้า ส่วนเจ้าเป็นคนที่ข้ารัก และข้าจะรับผิดชอบความรู้สึกทั้งหมดของตัวข้าเอง โคลด์ สตาร์”

“ข้าตัดสินใจลองให้โอกาสตัวเองกับมาลแกธแล้ว” โคลด์เอ่ย แต่ก็ใจหายในตอนที่คำพูดหลุดออกมา ทว่าเขาจำเป็นต้องพูดให้ชัดเจน

ใช่ว่าซิกฟรีดจะไม่ระแคะระคาย แต่พอได้ยินจริงๆ เขาก็ชา

“อืม” และทั้งหมดที่เขาสามารถตอบกลับได้มีเท่านี้เอง

“แต่ข้าจะอยู่จนกว่าคำสาปของเจ้าจะหาย” โคลด์คิดว่าความชัดเจนเป็นสิ่งที่เข้าใจง่าย...และโหดร้ายในเวลาเดียวกัน

เหมือนที่ซิกฟรีดโหดร้ายกับเอริแอดเน่

และเขาโหดร้ายกับซิกฟรีด

“เจ้าไม่สมเพชข้าบ้างหรือ” ซิกฟรีดมองโคลด์ที่ยังอุตส่าห์เหลือเยื่อใยไว้ให้


—————————————————————————

A/N กลับมาแล้วค่ะ :) พาราชามาด้วย (*0*) ใครคิดถึงราชายกมือขึ้น \(*0*)/ เย้!

ป.ล. ตอนแรกว่าจะลงสัก 3-4 ตอน แต่ไม่ไหวจริงๆ ค่ะ เหนื่อยมาก o<-<

เดี๋ยวพรุ่งนี้บ่ายๆ ถ้าว่างแล้วจะมาลงต่อนะคะ ;)



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ไร้ทุกสิ่งแม้กระทั่งมนตรา

ราชาผู้ยากไร้ยิ่งกว่าใคร ๆ

มันคือขอนไม้ผุ มิใช่เรือราชา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจ้านายแบบนี้สิ ที่ลูกน้องทำงานถวายหัว
"...เจ้านายที่ไว้ใจเจ้า เชื่อมั่นในตัวเจ้า
และให้ใจแก่เจ้าเช่นพี่น้อง เจ้าจะไม่ทำงานถวายหัวหรือ”
สุดยอดเจ้านาย และสุดยอดลูกน้อง

ซิก โดดเดี่ยว อ่อนแอ รูเมเนียร์ก็ไม่เข้มแข็ง
คนรักก็ให้โอกาสมาลแกธ มนตราก็ไม่สมบูรณ์
ซิกฟรีดโหดร้ายกับเอริแอดเน่
และโคลด์โหดร้ายกับซิกฟรีด
มาลแกธ เป็นตาอยู่กินเนื้อพุงปลามันๆของโคลด์
ลุงมาล ได้หมด ถ้าสดชื่นจริงๆ / หมั่นไส้อีลุง  :z6: :z6: :z6:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-04-2017 12:45:21 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 19 : คำสาป (2)

โคลด์ดึงซิกฟรีดมาดูเงาสะท้อนของพวกเขาในสระน้ำ หนึ่งเอลฟ์ หนึ่งดาร์กเอลฟ์ บุตรที่รักและบุตรที่ถูกสาป “เจ้าเป็นราชาแล้ว…” เขาจับมือซิกฟรีด บีบมือนั้น “ข้าคิดว่าข้าผูกพันกับเจ้า แต่ข้ามีสติมากกว่า...หรือไม่ก็ขี้ขลาดกว่า ข้าเลือกทางที่ปลอดภัย”

เวลาอยู่ใกล้ซิกฟรีด โคลด์รู้สึกถึงความอ่อนแอของตัวเองได้ชัดเจน แต่เขาไม่สามารถอ่อนแอได้ ไม่...ต่อหน้าราชาแห่งเอลฟ์

“ถ้าข้ายังอยู่ เจ้าอาจไม่ปลอดภัย” ซิกฟรีดมองโคลด์ผ่านเงาสะท้อนในสระน้ำ “เจ้าเห็นแล้วว่าข้าคงสติได้ยากเหลือเกิน”

ซิกฟรีดรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลอยู่ภายใน ท่ามกลางเสียงหัวเราะสมเพชของปีศาจ

“ซิกฟรีด ข้าจะไม่ไปไหน…” โคลด์ไม่อยากย้ำว่า ‘จนกว่าคำสาปของเจ้าจะหาย’

“ถ้าเจ้าจะตัดข้า ได้โปรด...ตัดให้ขาด”

“ข้าไม่อยากให้เจ้าเป็นบ้า” โคลด์ได้ยินเสียงของตนสั่นพร่า

“นั่นเกินความสามารถของเจ้าแล้ว”

“ความรัก ซิกฟรีด เจ้าชิงเอาได้ แต่เจ้าจะได้แค่ส่วนที่เจ้าชิงไป ไม่ได้ส่วนที่อีกฝ่ายมอบให้”

ราชาหนุ่มหันมาทางดาร์กเอลฟ์ เขามองอีกฝ่ายนานราวกับจะจดจำใบหน้านี้ไว้

“ข้ารักเจ้า แต่ข้าให้เจ้าได้เท่านี้” โคลด์หลับตา เขาเศร้าใจ แต่ไม่อยากร้องไห้

สัมผัสอุ่นประทับบนหน้าผากดาร์กเอลฟ์ “ขอบใจ” ซิกฟรีดเอ่ย ตอนนั้นเอง มาลแกธรายงานกลับมาว่า เอริแอดเน่ได้หายตัวไปพร้อมกับองครักษ์คนสนิททั้งหมดของนาง

ซิกฟรีดบอกโคลด์ตามที่ได้ยินจากมาลแกธ “ไปทำหน้าที่ของเจ้าเถิด ดาร์กเอลฟ์ที่ข้ารัก” เขากอดอีกฝ่ายแล้วลูบหลังเบาๆ

“ครั้งนี้ข้าได้บอกลาเจ้าดีๆ สักที”

“เจ้าจะรอฟังผลว่ามีใครตายบ้างงั้นหรือ” โคลด์ไม่เข้าใจ เขาตัวแข็ง ขืนตัวไว้

“ไม่ใช่อย่างนั้น” ซิกฟรีดแก้ “เมื่อใดที่เจ้าได้ตัวอิลมาเรกลับมาแล้ว เจ้าก็ไม่มีเหตุผลให้กลับมาที่นี่อีก”

“อา!” โคลด์สบถ เขาเพิ่งบอกไปว่าจะอยู่ “เจ้าฟังที่ข้าพูดบ้างไหม!”

“ข้าได้ยินชัดว่าเจ้าจะอยู่กับข้าจนกว่าใบหน้าข้างนี้จะหายดี” ซิกฟรีดวางมือบนแก้มโคลด์ “ใจดี...แต่ก็ใจดำเหลือเกิน หากตัดข้า จะตัดให้ขาดในครั้งเดียวไม่ได้หรือ”

“แล้วถ้าข้าไปจริงๆ เจ้าแน่ใจว่าเจ้าจะไม่เป็นบ้า?” โคลด์ยังจำสีหน้าและแววตาตอนซิกฟรีดใช้ตราทาสเรียกเขามาได้ดี “เจ้าไม่ไหวหรอก ข้าถึงต้องใจดำแบบนี้”

“ข้าจัดการได้” ซิกฟรีดยืนยัน “ข้าจะจัดการให้ได้”

“ไม่ เจ้าจัดการไม่ได้” โคลด์อยู่กับซิกฟรีดมาสิบปี เขามั่นใจว่ามองไม่ผิด “เจ้าแค่อยากหนีจากความช้ำใจตรงหน้า ถึงไล่มันไป”

“ความช้ำใจที่อาจทำให้ข้าเป็นบ้าได้เร็วขึ้น” ราชาหนุ่มลูบนิ้วบนริมฝีปากของอีกฝ่าย

“เจ้าต้องเลิกเอาแต่ใจตัวเองแล้ว เจ้าชาย” โคลด์ไม่เรียกซิกฟรีดว่าราชา เพราะรู้สึกเหมือนกำลังสนทนากับเจ้าชายซิกฟรีดในอดีตมากกว่า

“เจ้าเพิ่งตัดสินใจเอาแต่ใจเมื่อครู่ โคลด์ สตาร์...และข้าตระหนักได้เมื่อครู่เช่นกันว่าคงต้องปล่อยให้เจ้ากลับมา ให้เจ้าได้ทำตามประสงค์”

เช่นเดียวกับหลังจากปะทะคารมกับเอริแอดเน่ ซิกฟรีดก็ให้พี่หญิงได้ระบายอารมณ์ของนาง ให้นางว่ากล่าวโดยยอมรับทุกประการ

ซิกฟรีดรับมือกับทั้งคู่ด้วยการถอยยามที่ควรถอย หากเป็นคนอื่นเขาจะไม่ประนีประนอมเช่นนี้

“เจ้าแยกแยะสิ ข้าว่าเจ้าแยกแยะได้ แต่เพราะคำสาปนั้นกัดกินเจ้า...จริงๆ เจ้าแยกแยะได้ใช่หรือไม่”

“แยกแยะอะไร โคลด์ สตาร์...แยกแยะว่าเจ้าจะช่วยข้าได้หรือ”

“แยกแยะว่าเจ้ารักข้าไม่ได้”

“เช่นนั้นข้าจึงให้เจ้าไปอย่างไรเล่า เพราะข้ารักเจ้าไม่ได้ และการที่เจ้าอยู่ มันทำให้ข้าเจ็บเจียน ‘บ้า’ ”

“งั้นกลับเข้าเรื่องก่อนหน้า ข้าจะตามเอริแอดเน่ไป ถ้านางกับข้าเป็นคนประเภทเดียวกันจริง ข้าย่อมหยุดนางด้วยวิธีการที่เด็ดขาดแน่นอนที่สุด คือสังหารเสีย เจ้าจะทำอย่างไร”

“ข้าจะหาทางจัดการไม่ให้เป็นอย่างนั้น เจ้าต้องการคำตอบว่าอะไร ให้ข้าตัดเจ้าหรือ--ไม่ ให้ข้าตัดพี่หญิงหรือ--ไม่ ข้าจะช่วยเหลือให้เจ้าได้ตัวอิลมาเร และจะช่วยพี่หญิงให้พ้นคมมีดของเจ้า โคลด์ สตาร์...ข้าไม่เข้าใจคำถามของเจ้าเลย สำหรับเจ้า ต้องมีใครสักคนตาย แต่สำหรับข้า ไม่จำเป็นต้องมีใครตาย”

โคลด์โกรธจนไม่รู้จะพูดอย่างไร ถึงไม่นับความเข้าใจผิดในอดีต เขากับซิกฟรีดก็เข้ากันไม่ได้อยู่ดี

เขาขยุ้มคอเสื้อซิกฟรีด “ก็บอกวิธีมาสิ! ข้ามาหาเจ้าก่อนเพราะอะไร คิดหน่อย! มาขอความช่วยเหลือหรือ ไม่ใช่ ข้ามาถามว่าเจ้าจะเอายังไง!”

“คิดหรือ ตั้งแต่ข้าเห็นเจ้า ข้าไม่คิดว่าเจ้ามาขอความช่วยเหลือ แต่ข้ากำลังให้ เจ้าถามข้าว่า หากเจ้าฆ่าพี่หญิง ข้าจะรู้สึกอย่างไร โคลด์ สตาร์ เจ้าทำให้ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้าต้องการอะไร ให้ข้าห้ามเจ้าหรือ ข้าทำได้หรือ ให้ข้าห้ามพี่หญิงหรือ ข้าทำได้หรือ หากพวกเจ้าอยากฆ่ากัน ข้าห้ามได้หรือ ข้าทำได้เพียงช่วยให้เจ้าได้ตัวอิลมาเรอย่างที่ต้องการ และช่วยให้พี่หญิงไม่ถูกเจ้าสังหาร”

“แล้วจะช่วยยังไง” โคลด์ถามสั้นๆ

“ข้าตอบเจ้าแต่แรกแล้วว่าข้าจะไปขออิลมาเรคืนให้ แต่เจ้าไม่พอใจวิธีการนี้”

“ก็มันเห็นชัดๆ ว่าไม่ได้ผล” โคลด์ผลักอกซิกฟรีด “ถ้านางเห็นแก่หน้าเจ้า นางคงไม่ลงมือถึงขั้นนี้”

“นางอาจฟังข้าหรือไม่ฟังข้า แต่มันคือวิธีสันติวิธีแรกที่ควรลองไม่ใช่หรือ ข้าจะคุยกับนาง และให้มาลแกธเป็นกำลังเสริมเพื่อชิงตัวอิลมาเร ตอนนี้กอห์นดีเอนใกล้ถึงชายแดนอิซิลดาร์แล้ว ข้าให้เขาลงไปสืบราชการพอดี กอห์นดีเอนจะช่วยส่งข่าวที่เป็นประโยชน์มาให้ เขามีเส้นสายกับพวกทหารรับจ้างในป่า”

ซิกฟรีดเอ่ยอย่างใจเย็นที่สุด

“เจ้าคิดว่าข้าวางแผนชั้นเดียวอย่างนั้นหรือ โคลด์ สตาร์ เจ้าเข้ามาพร้อมความไม่เชื่อใจข้า และพูดว่าจะฆ่าพี่หญิงของข้าก่อนสิ่งใด เจ้าต้องการทดสอบอะไร”

“ข้ามาดูว่า ถ้านางตายเจ้าจะเสียใจไหม เพราะถ้าไม่ ข้าก็ไม่มีเหตุผลให้ปรานีนาง” โคลด์ตอบด้วยแววตาดำมืด “ข้ามาแค่นี้แหละ แต่เพราะเจ้าพูดไม่รู้เรื่องเสียที ทำให้เราวกวนไปมา”

“เจ้ามาเท่านี้…” ซิกฟรีดข่มอารมณ์ “และข้าตอบว่าข้าจะไม่ให้ใครฆ่าใคร นั่นตอบได้ทุกอย่างแล้ว”

“แล้วเจ้าจะให้ข้าพูดอะไรได้อีก” เป็นโคลด์ที่เริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่

“เจ้าถามข้า ข้าตอบเจ้า มันเป็นเช่นนี้ไม่ใช่หรือ” ราชาหนุ่มเสียงอ่อนลง

“ตอนแรกเจ้าบอกให้ข้าไปเฉยๆ โดยไม่คิดจะอธิบายอะไร!” หางตาเรียวแหลมแบบดาร์กเอลฟ์ชี้ขวาง

“ข้าขอโทษ” ซิกฟรีดถอยจากการถกเถียง

“ข้าขอให้มาลแกธไปกับข้า แต่ถ้าเจ้าสั่ง เขาย่อมทำตามที่เจ้าสั่งก่อน แปลว่าข้าอาจไปถึงช้ากว่า ถ้าข้าไปถึงช้ากว่าแล้วอิลมาเรเป็นอะไรไปแล้วล่ะ”

“เจ้าต้องการให้ข้าทำอย่างไร เสนอมาเถิด”

โคลด์หลับตา ตั้งสติ เขาต้องตั้งสติ ทุกนาทีที่เสียไปกับการถกเถียงหมายถึงการเสียเวลาช่วยอิลมาเร

‘สันติวิธี’ ที่ซิกฟรีดพูดก็ใช่ว่าไม่มีเหตุผล ถึงเขาจะไม่เชื่อในวิธีการ แต่เขาควรเชื่อใจซิกฟรีดใช่หรือไม่...

“เจ้าไปกับข้า” เมื่อตัดสินใจได้ โคลด์ก็สรุปอย่างสั้นที่สุด “ข้าจะให้เจ้าคุยกับนางก่อน แต่ข้าต้องได้เห็นการเจรจา ถ้าผลลัพธ์ออกมาไม่ดี ข้าจะไม่รออะไรอีก”

“ได้ยินไหม มาลแกธ ล็องธู” ซิกฟรีดเอ่ยผ่านตุ้มหูไฟ “ไม่ต้องจัดขบวนเอิกเกริก ขอคนที่มีฝีมือในกรณีต้องชิงตัวดวอร์ฟ”

หลังจากนั้นเขาจึงติดต่อกับกอห์นดีเอน ให้กระจายข่าวไปยังทหารรับจ้างในป่าเพื่อสืบหาเส้นทางของท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์

—————————————————————————

A/N เรือราชาแล่นช้านิดนึงค่ะ เขามีหลายอย่างต้องเคลียร์ตัวเองเลย ถ้าหากแค่รักกันแล้วปัญหาทุกอย่างจบได้ก็ดีสิคะ ;w; ซิกฟรีดเองก็ไม่พร้อมสละเอริแอดเน่ (ในฐานะพี่หญิง) ก็คงอารมณ์เหมือนโคลด์ไม่สามารถสละเกวนโดลินค่ะ


ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม่เข้าใจอารมณ์ซิก ดูมันผันผวน
เหมือนไม่สามารถเด็ดเดี่ยว โหดเหี้ยมได้กับเอรีแอดเน่
ทั้งที่นางหยามเหยียด ดูถูก ราชา ลงโทษแบบต่ำๆ
ถึงแม้ซิกจะรักนางไม่ได้ แต่ให้ลูกได้ จะดูทรยศต่อนาง
แต่ซิกก็ไม่เคยสัญญา ตกลงว่าจะรักนางเลย
พอโคลด์ บอกจะฆ่านาง ก็ไม่ยอมอีก เฮ้ออ....งง
ทั้งที่รู้ว่านางอยากจะฆ่าโคลด์
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 19 : คำสาป (3)

“ซอนย่า ดวอร์ฟฟื้นได้สักพักแล้ว” ซิลเวียผู้มีผมสีเทาเข้ามาบอกองครักษ์หญิงผมดำ นางหนีบตระกร้าใส่อาหารไว้ที่เอว เนื่องจากท่านหญิงสั่งว่าจะขังดวอร์ฟอย่างไรก็ได้ แค่ไม่ให้หนีได้ก็พอ ซิลเวียจึงมัดมือมัดเท้าดวอร์ฟด้วยเชือกเวท รับหน้าที่เฝ้าดูและนำอาหารมาให้

ซอนย่าพยักหน้าให้ซิลเวีย นางเฝ้ายามกะนี้ อัศวินลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปตรวจสอบดวอร์ฟ

“เดี๋ยว เจ้าล่ะ หิวหรือยัง กินอะไรไหม” ซิลเวียเปิดตระกร้าอาหาร ยิ้มตามแบบของนางซึ่งมีความยั่วยวนตามธรรมชาติ

“ยังอยู่ในหน้าที่” ซอนย่าปฏิเสธ นางไม่สนิทกับใคร มักเว้นระยะห่างจากคนอื่นเสมอ

“ข้าขอโทษที่พูดมาก” ซิลเวียรู้ตัวว่าตอนชิงตัวดวอร์ฟ นางเล่นกับบุรุษเหล่านั้นมากไปหน่อย แต่ท่านหญิงไม่ได้ตำหนิ เลยไม่มีใครตำหนินาง

ซอนย่ามองซิลเวียสลับกับตะกร้า “ออกเวรค่อยกิน” ถือเป็นการผูกสัมพันธ์อย่างยิ่งแล้วสำหรับนาง

เอลฟ์สาวยิ้มตอบ ซิลเวียเป็นนักเวทเปี่ยมพรสวรรค์ ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมหน่วยองครักษ์สตรีตั้งแต่อายุเจ็ดขวบปี แต่นางแทบไม่เคยออกจากอิซิลดาร์ แม้ฝึกการรบจริงมานับครั้งไม่ถ้วนก็ยังขาดประสบการณ์อยู่อีกมาก ที่เอริแอดเน่เลือกใช้นางเพราะพลังเวทในตัวนางมีคุณสมบัติเป็นสื่อกลางที่ดี ใช้เป็นนกต่อเพื่อทำตามแผนการได้

ซอนย่าหันหน้าหนีรอยยิ้มเปี่ยมไมตรีของซิลเวียผู้ร่าเริง นางเข้าไปดูดวอร์ฟตามหน้าที่

อิลมาเรกินขนมปังทั้งๆ ที่มือถูกมัด จากนั้นก็หยิบถุงหนังมาดื่มน้ำ ผมทรงทวินเทลหลุดรุ่ย เธอพอเข้าใจสถานการณ์จากเอลฟ์สาวผมสีเทาว่าตนถูกจับมาทำไม พอนางเอลฟ์ผมสีดำเข้ามาเลยถอยกรูด

ซิลเวียพูดมากเกินไปอีกแล้ว

ซอนย่าเข้ามาใกล้ดวอร์ฟ นางบีบกรามเล็กๆ ของอีกฝ่ายแล้วจับใบหน้าหันไปมา ตรวจสอบบาดแผลและการตอบสนอง ดวอร์ฟควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ อย่างน้อยต้องแข็งแรงจนวันที่ดาร์กเอลฟ์มาถึง

“เจ็บ” อิลมาเรบอก นิ่วหน้า เอลฟ์ที่แนะนำตัวว่าชื่อซิลเวียเป็นมิตรร่าเริง แต่คนนี้น่ากลัว

“ข้ารู้จักวิธีต่อลิ้น” ซอนย่าพูดเรียบๆ “ถ้าเจ้ากัดลิ้นฆ่าตัวตาย ให้รู้ว่าเจ้าจะไม่ตาย แต่ทรมานยิ่งกว่านั้น”

อิลมาเรผงะ แล้วรีบพยักหน้าไวๆ เธอกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรอีก

โคลด์...ฮือ…! มาช่วยข้าที ;w;


สถานที่ที่เอลฟ์จากอิซิลดาร์กักตัวดวอร์ฟไว้เป็นป้อมปราการหินเก่ารกร้าง ไม่ได้ใช้งานมาเกือบสองร้อยปี ตั้งอยู่ระหว่างทางจากเอวา เธมาร์ไปยังอิซิลดาร์

ท่านหญิงเอริแอดเน่ไม่ได้พาดวอร์ฟลงใต้ทันที แต่ตั้งรับอยู่ในป้อมปราการที่นางรู้จักทุกซอกมุมเป็นอย่างดี

...ป้อมปราการที่นางเคยมาพักอยู่ระยะเวลาหนึ่งกับอดีตราชา--คิงริวอร์นอร์

ซอนย่าตรวจดูดวอร์ฟเสร็จค่อยออกไปเฝ้ายามต่อ นางยืนขึงขังด้านนอกประตูที่เปิดค้างไว้ และเข้าไปดูความเรียบร้อยทุกๆ สิบห้านาที ไม่ให้ดวอร์ฟวางแผนหนีได้ (หรือทำร้ายตัวเอง) ซอนย่ารอบคอบ แม้กระทั่งกับดวอร์ฟไร้พิษสง

ครั้งนี้ นางคิดว่ามีการสูญเสียแน่ ดวอร์ฟเป็นเพื่อนกับแอสซาสซิน แอสซาสซินมีความสัมพันธ์กับมาลแกธ--ราชองครักษ์มือขวา และคิงซิกฟรีด--ราชาแห่งรูเมเรียร์ จะประมาทการเคลื่อนไหวของฝั่งตรงข้ามไม่ได้เลย

แต่ท่านหญิงไม่ได้เรียกกำลังเสริมจากอิซิลดาร์ ซอนย่าเดาใจท่านหญิงไม่ออก ที่พวกนางได้ข่าวคือราชาออกเดินทางมาด้วยพระองค์เอง...หากเรียกกำลังเสริมมาจะถือว่าเป็นการกบฏต่อราชาหรือไม่นะ

แค่ดาร์กเอลฟ์เพียงคนเดียว สำคัญกว่าคู่หมั้น สำคัญกว่าราชินีในอนาคต สำคัญกว่าสตรีที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของอิซิลดาร์อย่างนั้นหรือ

ซอนย่าเป็นพยานตอนที่ท่านหญิงเดินออกมาหลังการพูดคุยกับราชาในห้องทรงงาน แววตาของท่านหญิงกลับไปเย็นชาคล้ายเมื่อครั้งคิงริวอร์นอร์ยังมีชีวิตอยู่

ไม่ว่าทั้งสองจะสนทนาสิ่งใด ก็คงเป็นการหักหาญน้ำใจอย่างร้ายกาจ

เวเรด้าติดต่อมาหาซอนย่าผ่านตุ้มหูเวทซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารระยะใกล้ แม้ไม่ดีเท่าตุ้มหูเวทของควาร์ที่ไกลแค่ไหนก็ติดต่อกันได้ แต่ถือว่าดีสำหรับการตั้งรับอยู่ในป้อมปราการ และไม่ต้องเป็นนักเวทก็ใช้งานได้

“ทางนี้ยังเงียบ” เวเรด้ารายงาน

“ดวอร์ฟฟื้นแล้ว” ซอนย่าตอบกลับ “แต่ไม่มีความเคลื่อนไหวน่าเป็นห่วง”

“ทางนี้ยังเงียบเช่นกัน” จามิลลาเอ่ยแทรก

“ท่านหญิงดื่มไวน์อยู่” ซิลเวียพูดในลำดับต่อมา

พวกนางสวมตุ้มหูเวทนี้ตลอดเวลา มันพิเศษตรงที่เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ท่านหญิงเอริแอดเน่สร้าง มอบให้แก่องครักษ์ที่นางไว้ใจ

“ข้าดื่มเพียงเล็กน้อย” เอริแอดเน่เอ่ยเสียงนุ่มนวล นางเองก็สวมตุ้มหูเวทเช่นกัน

ซอนย่าเงียบไปกับความคิดของตน ท่านหญิงแปลกไปจริงๆ

หากจะมีใครที่ซอนย่าผูกพันมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ผู้เดียว

“ข้าคิดอยู่ว่าเขาจะมากับดาร์กเอลฟ์ ข้ารอเขาอยู่” เอริแอดเน่บอกเหล่าองครักษ์ นางวนปลายนิ้วในแก้วไวน์อย่างไม่รีบร้อน แล้วเลียของเหลวสีแดงเข้มที่ติดชุ่มปลายนิ้วขึ้นมา

เงียบ ไม่มีใครกล้าตอบ

กระทั่งจามิลลาเริ่มพูด “ท่านหญิง เราไม่เดินทางต่อไปอิซิลดาร์จริงหรือเจ้าคะ”

จามิลลาอยู่กับเอริแอดเน่มานานที่สุด เติบโตมาพร้อมกัน อายุใกล้เคียงกับท่านหญิงของนาง จึงกล้าเอ่ยปากถาม

“ข้ายังให้โอกาสซิกฟรีดอยู่” นั่นคือคำตอบ เงียบไปอีกสักครู่ นางเอ่ยต่อว่า “แต่อนุญาตให้ฆ่าคนอื่นๆ หากจำเป็น รวมถึงดาร์กเอลฟ์”

ไม่มีทางจบด้วยดี ซอนย่าคิด แต่ไม่ว่าท่านหญิงจะเลือกหนทางไหน สั่งอะไร นางจะทำตามโดยไม่ตั้งคำถาม ความภักดีของนางมีเพื่อท่านหญิงจนถึงที่สุด

นางจะน้อมรับใช้ท่านหญิงไปจนชีวิตจะหาไม่

จามิลลา เวเรด้า ซิลเวีย...หรือแม้กระทั่งตัวนางเอง คงจบชีวิตที่นี่ อีกฝ่ายมาเพื่อชิงไปทั้งหมด ขณะท่านหญิงจะริบไว้ทั้งหมด

“อย่ากังวล” เอริแอดเน่ปลอบ “ข้าไม่ให้พวกเจ้าเป็นอะไรหรอก”

จามิลลาและเวเรด้ายิ่งกังวลหนักกว่าเดิม ปกติท่านหญิงไม่เอ่ยอะไรเฉกนี้ พวกนางอยากติดต่อไปที่อิซิลดาร์เหลือเกิน แต่ไม่สามารถขัดคำสั่งท่านหญิงได้

คงมีแค่ซิลเวีย...ที่รู้สึกสนุกสนานกับสงครามแรกของนาง

------------------------------------------------------

ซิกฟรีดสั่งให้ตั้งค่ายพักแรมเมื่อตะวันราแสง กอห์นดีเอนส่งข่าวมาว่าเอริแอดเน่ไม่ได้ลงใต้ และอิซิลดาร์ไม่มีความเคลื่อนไหว ซิกฟรีดค่อนข้างมั่นใจว่าเอริแอดเน่อยากจัดการแบบ ‘เป็นส่วนตัว’ เช่นเดียวกับเขาที่จัดกำลังทหารมาแค่สิบนาย รวมโคลด์และเขาด้วยก็มีเพียงสิบสองคน

กำลังทหารแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มละห้านาย โดยกลุ่มแรกมีเดเนธอร์ รองหัวหน้าหน่วยกาลาฮาน เป็นผู้นำทหารแกะรอยท่านหญิงแห่งอิซิลดาร์ เมื่อพบเบาะแสก็จะส่งข่าวกลับมายังกลุ่มที่สองซึ่งนำโดยมาลแกธ ล็องธู

ความจริงแล้วซิกฟรีดหนักใจ เป็นไปได้มากว่าการเจรจาจะไม่เป็นผล อาจไม่มีการเจรจาเสียด้วยซ้ำ แต่เขาต้องจัดการให้มันเกิดขึ้น

ใช่ว่าซิกฟรีดจะตามืดบอด พิจารณาความเป็นจริงไม่ออก โคลด์กล่าวได้ถูกต้องว่าจะไม่มีใครยอมใคร แต่หากเขายอมจำนนโดยไม่มองหาหนทางอื่นเลย นั่นสิจึงเรียกว่าตามืดบอดโดยแท้จริง

แต่จะทำอย่างไรเล่า


ซิกฟรีดครุ่นคิดอยู่ในกระโจมพัก หากเขาคิดว่าตนรู้ใจพี่หญิงดี เช่นนั้นแล้วอะไรที่จะทำให้นางยอมเจรจา

เขาต้องคิดให้ออกโดยเร็ว ก่อนที่โคลด์และพี่หญิงจะประจันหน้ากัน

 

โคลด์ซ้อมมือกับมาลแกธ แต่ทำไปเพื่อสงบสติอารมณ์มากกว่า เขามีเรื่องให้คิดหลายเรื่อง...แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของอิลมาเร

นี่เป็นปัญหาระหว่างเขา ซิกฟรีด และเอริแอดเน่ จะองครักษ์ของนางหรือคนของซิกฟรีดล้วนเกี่ยวข้องเพราะนายบัญชา แต่อิลมาเรไม่ใช่...เธอไม่เกี่ยวอะไรเลย

...นอกจากเป็นเพื่อนของเขา

 

“โลกไม่มีเหตุผลให้เราเสมอหรอก จำแค่ว่า ‘มีกำลัง เจ้าอยู่รอด’ ”

 

โคลด์หรี่ตาให้กับเสียงจากอดีต คำสอนของจอมทัพทมิฬผู้เป็นบิดาบุญธรรม

เห็นจะจริงอย่างที่ท่านว่า...ท่านพ่อ

“อย่าเหม่อ” มาลแกธปัดอาวุธของโคลด์ออก ก่อนยกดาบพาดคออีกฝ่าย

“อา” โคลด์มองบีฟอร์ซที่หลุดไถลจากมือ มันหมุนติ้วแล้วหยุดดังปึก! เมื่อกระแทกโคนต้นไม้ “ข้าตายหนึ่งครั้งแล้ว” เขาหัวเราะแบบไร้ความหมาย

“ตั้งใจหน่อย เจ้าตาย อิลมาเรอาจตาย” มาลแกธให้โคลด์ไปหยิบบีฟอร์ซมา

“ข้าตาย เจ้าก็พาอิลมาเรให้รอด เจ้าสัญญาแล้ว” โคลด์นั่งลงเนือยๆ ไม่มีแก่ใจทำอะไรอีก

“ข้าเปลี่ยนใจดีไหม ถ้าเจ้าตาย นางตาย”

“เจ้าเปลี่ยนใจไม่ได้” โคลด์เอ่ยเรียบๆ แต่เหมือนออกคำสั่งเด็ดขาด

“ใจข้า ข้าเปลี่ยนได้” มาลแกธถอนหายใจ “โคลด์…”

“อือ”

“อยากกอดไหม” มาลแกธวางอาวุธของตนลง

“ไม่ ซิกฟรีดอยู่ในกระโจม” โคลด์ตอบตามตรง

“เจ้าคอยระวังความรู้สึกของเขาแบบนี้ เขาจะไม่โตสักที”

“ข้ากอดเจ้าให้เขาดูแล้วเขาจะโตยังไงหรือ” โคลด์เงยหน้าถาม “บอกเหตุผลดีๆ มาสักข้อ”

“เขาไม่โตหรอก แต่เจ้าจะรู้สึกดีขึ้น”

โคลด์พยักหน้า “ใช่ ข้าจะรู้สึกดีขึ้นถ้าเจ้ากอด ข้าสังเกตตัวเองมานานแล้ว” แล้วส่ายหน้า “แต่ไม่ ซิกฟรีดอยู่ในกระโจม”


—————————————————————————

A/N ซวยสุดในเรื่องก็อิลมาเรละนะ ;w; (ถ้าเป็นนิยายนอร์มัล ก็เป็น 'เพื่อนนางเอก' ที่มีดวงอยู่กับนางเอกแล้วซวยสุดๆ ละมั้งคะ :P แน่นอนว่า นางเอก = ก้อนโคลด์)



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
มีแต่คนรักที่จะรักษาคนสำคัญทั้งนั้น
ทำไมไม่คุยกันดีๆ
ไม่เข้าจายยยยยยยย!

คนเขียนสู้ๆนะ รอค่ะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
ซิกเป็นราชาเด็กน้อยมาก แถมค่อนข้างจะโลกสวย  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ลอยเท้งเต้งต่อไปกับราชา

ออฟไลน์ Hello01

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อนุญาติเม้นท์ย้อนหลังเจ้าค่ะ :katai4:
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (1)
อั่ยย่ะเผ่ามนุษย์ บรรยากาศโรงเหล้าครึ้นเครง อิลมาเรเป็นเจ้โหดไปแล้ว ขำชื่อเหล้าสูตรพิเศษ ผมดำผมแดงนี่กวนพอกันเล้ยยย /เบะใส่อิป๋า
คำตอบมาลแกธมีความติสท์ สมกับที่เป็นนักรัก(แต่ก็แพ้รัก) /จ้องตาราง Battle *Q*
บทที่ : 17  โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (2)
กรี๊ดดดเอลฟ์กับมนุษย์ ชอบตอนแมดส์พูดหยาบคายใส่สามี อิอิ
นายเป็นเคะที่ดุและเฟี้ยวมาก ทำเอาโวรอนเรากลายเป็นหมีเชื่องๆไปเลย ส่วนโคลด์กับอิป๋า..   :angry2:
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (3)
จอมทัพทมิฬมาแว้วว ลุงแกดูผ่านโลกมาเยอะ เอลฟ์กับมนุษย์ขายข่าวกันร้อนแรงต่อเนื่อง~
อ่านเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแล้วหยักหน้าหงึกๆ แดนทมิฬดีงาม แต่งเมียชายได้เลย /เก็บข้าวของย้ายไปแดนทมิฬ
บ่าวแอบหวังให้รวมเล่มมาตั้งแต่เริ่มอ่านเลยเจ้าค่ะ ฮรื่อออ
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (4)
สงสารโคลด์ของบ่าววว /แย่งกันกอดกับอิป๋า
อดีตคืนชีพจอมทัพทมิฬเป็นปมใหญ่ในใจโคลด์เลยเนอะ
เชื่อว่าเรื่องนี้มีคนอ่านเยอะน้าา เป็นกำลังใจให้ได้อีก
หายไปนานยังไงก็จะกลับมาเม้นท์เจ้าค่ะ  o13
บทที่ : 17 โรงเตี๊ยมตุ่นเก็บทอง (5)
โอ้โหตอนนี้ทำอิบ่าวช็อค  :z3: :z3:
อยู่เรือซิกเจอแบบนี้มีสตั้น ยังเชื่อว่าซิกเป็นเบอร์1น้าาา (โคลด์เจ้าขาแก้เผ็ดซิกเรื่องแอรี่ใช่มั้ยนาย /นี่ยังไม่ยอม)
โคลด์กับป๋าล่อแหลมกันมาหลายตอน แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ทุกตอน จนถึงตอนนี้แล้วอิป๋าก็วิน คืออิป๋าโคตรจะวินนนน  :angry2:

ปล. ทยอยอ่านต่อมันส์มาก คนเขียนสู้ๆเจ้าค๊าาาา :fire:

ออฟไลน์ ILLREI

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
    • ILLREI
บทที่ 19 : คำสาป (4)

“ให้เขาเรียนรู้ ว่าเขาไม่มีวันได้ทุกสิ่งที่ปรารถนา นั่นก็เป็นการเติบโต” มาลแกธดึงโคลด์มากอดแล้วลูบศีรษะ “ดีขึ้นไหม” เขาจูบกลุ่มผมสีเงินนุ่มนิ่ม โคลด์ไม่เคยไว้ผมยาวเลย ถ้ายาวกว่านี้หน่อยคงพันนิ้วเพลิน

โคลด์ใจเต้น เขาตัวแข็งทื่อในตอนแรก แล้วพยักหน้ากับบ่าของมาลแกธ “ดีขึ้น...”

ฮีมเดียร์ผู้ดื้อรั้นยอมซบบ่าของเอลฟ์ตะวันออก

...ผู้ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยได้

“นอนสักตื่นจะรู้สึกดีขึ้นมากกว่านี้ เจ้าช่วยอิลมาเรไม่ได้ถ้าร่างกายไม่พร้อม” มาลแกธจูบใบหูของโคลด์ไวๆ “กินอะไรสักหน่อยแล้วพักผ่อนเสีย”

“อืม” โคลด์ตอบรับอย่างว่าง่าย

...ภาพทั้งหมดหาได้รอดพ้นสายตาของราชาเอลฟ์

            ซิกฟรีดกลับเข้ากระโจม เขาคิดจะออกไปสูดอากาศ แต่พอเห็นภาพโคลด์กอดเอลฟ์ตะวันออกแล้วรู้สึกว่าอากาศน่าจะเป็นพิษ

หากถอดคำว่าราชา ซิกฟรีดก็เป็นเพียงเอลฟ์หนุ่ม ความรักในวัยเยาว์บ้าคลั่งไร้เหตุผล อันที่จริง...ไม่ว่าจะเติบใหญ่เพียงใด อายุเท่าไหร่ ทุกชีวิตบนโลกก็สามารถพังพาบศิโรราบให้แก่ความรักได้

ซิกฟรีดกำหมัด ขบฟัน เขาบอกโคลด์ว่าจะรับผิดชอบความรู้สึกทั้งหมดของตัวเอง ทั้งรัก หึง โกรธ เสียใจ คิดถึง ต้องการ...ทุกๆ ความรู้สึกที่เกิดขึ้น เป็นตัวเขาเองทั้งนั้นที่ต้องรับผิดชอบ

“หุบปาก” ซิกฟรีดคำรามลอดไรฟัน เสียงยั่วยุหนวกหูไม่เคยหยุดพ่นพูด เขาสูดลมหายใจลึก นั่งลงแล้วเขียนสารถึงอิลราลานผู้เป็นราชองครักษ์มือซ้าย ถามสถานการณ์ในเอวา เธมาร์ที่ฝากให้ดูแลก่อนออกมา หลังจากนั้นค่อยติดต่อกับกอห์นดีเอน ทราบว่าเงาสังหารกำลังควบม้าเร็วขึ้นมาสมทบจากทางใต้

“ข้ายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ” ผ้าปิดทางเข้ากระโจมถูกเลิกขึ้น โคลด์ยื่นหน้าเข้ามา ดูเหมือนเขาสังเกตเห็นราชาเอลฟ์ จึงตามมาดูเมื่อบอกขอตัวกับมาลแกธ

            ซิกฟรีดกำลังผูกสารถึงอิลราลานเข้ากับขาของนกสีน้ำเงินตัวเล็ก เขาเหลือบมองโคลด์นิดหนึ่ง ก่อนปล่อยให้นกบินไปทำหน้าที่ของมัน

            “มีอะไรหรือ” ซิกฟรีดถามโคลด์

“มี” โคลด์มองตามนกส่งสารที่บินผ่านหน้าตน มันกระพือปีกคู่เล็กอย่างรวดเร็ว แวบเดียวก็ลับสายตาไปในท้องฟ้าสีม่วงแดง

            ซิกฟรีดผายมือ เชิญโคลด์ที่ยังเลิกผ้ากระโจมค้างอยู่ให้เข้ามาด้านใน

            “ว่ามา” ภาพซิกฟรีดในชุดทะมัดทะแมงคล้ายนายพรานดูแปลกตา ภายในกระโจมก็เรียบง่าย ไม่มีเครื่องเรือนของใช้แบบกษัตริย์ แต่เพราะการเดินทางครั้งนี้เป็นเรื่องลับเร่งด่วน โคลด์จึงไม่เห็นว่าแปลกแต่อย่างใด

ความคล่องตัวสำคัญที่สุด

โคลด์เข้ามายืนมองราชา ผู้ที่เมื่อก่อนเป็นเจ้าชาย และก่อนหน้านั้นก็เป็นเจ้าเด็กเอลฟ์จอมโยเย เขาเอามือเท้าเอว ถอนหายใจ “เราไม่ได้พูดกันดีๆ เลย ข้าเลยคิดว่าเราควรพูดกันดีๆ บ้าง”

การปลอบของมาลแกธทำให้โคลด์ใจเย็นลง และส่งผลต่อเป็นทอดๆ ทำให้ดาร์กเอลฟ์มายืนต่อหน้าราชาเอลฟ์ด้วยเจตนาที่ดีกว่าก่อนหน้านี้

“ข้าคิดว่าจะกินอะไรสักหน่อยแล้วค่อยนอนพักเอาแรง ระหว่างกินเลยมาคุยกับเจ้า” โคลด์หาที่นั่งให้ตัวเอง ในกระโจมไม่มีเก้าอี้ เขาจึงนั่งบนพื้น

ซิกฟรีดพยักหน้า ตอนแรกที่เขาคิดจะออกไปสูดอากาศ เขากะว่าจะออกไปคุยกับโคลด์ด้วย อาจปลอบใจ หรือให้กำลังใจ...แต่เขารู้ว่าพออยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายจริงๆ คงพูดไม่ออก

ราชาหนุ่มสามารถเจรจากับทูตต่างแดนได้อย่างลื่นไหล ถกกับขุนนางโดยไม่สะดุด ทั้งยังเล่าเรื่องได้มากมายในงานเลี้ยง ทว่ากับความรู้สึกแท้จริงของตัวเอง เขากลับพูดไม่ออกสักคำ

“ดูเหมือนเวลาที่เจ้ากับข้าเข้ากันได้ดี ส่วนมากจะเป็นเรื่องของกิน” ดาร์กเอลฟ์ล้วงห่ออาหารอัดเม็ดของแอสซาสซินออกมา หยิบเม็ดหนึ่งเข้าปาก เคี้ยว และยื่นห่อผ้าให้ซิกฟรีด “รสชาติไม่เลว มีรสเนื้อด้วยนะ”

ซิกฟรีดปฏิเสธด้วยการขมวดคิ้วใส่อาหารอัดเม็ด

“ไม่กินเดี๋ยวก็หิวหรอก” โคลด์หยิบอาหารยามฉุกเฉินเข้าปากอีกเม็ด รสเนื้อที่ชุ่มฉ่ำอยู่ในปากนั้นไม่เลวเลย

“แอสซาสซิน...กินอาหารลาหรือ”

“ลากินเนื้อหรือ ข้าเพิ่งทราบ ข้านึกว่ามันกินแต่หญ้า”

“ข้าก็เพิ่งทราบว่าแอสซาสซินกินอาหารลา” บางทีการต่อปากต่อคำที่ซิกฟรีดคิดว่า ‘ไร้สาระ’ อาจเป็นวิธีช่วยให้โคลด์ไม่คิดถึงเรื่องหนักๆ

ทว่ามันไม่ได้ผล

“ข้าควรตอบเจ้าว่าเพราะ ‘ข้าโง่’ หรือ ‘ข้าไม่ฉลาด’ ดีล่ะ” โคลด์เก็บห่ออาหารอัดเม็ดของตนอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเขาอุตส่าห์มาชวนคุยดีๆ

ซิกฟรีดหลับตา เม้มปาก แม้เขาอยากพูดปลอบใจโคลด์ แต่พออ้าปาก คำพูดปลอบใจไม่เคยออกมา มีแต่เรื่องชวนทะเลาะ “อา…ช่างมันเถิด” เขาถอนหายใจหนักๆ

ที่ข้าคิดจะพูดคือ ‘ขอโทษ’ ไม่ใช่ ‘ช่างมันเถิด’ ทำไมยากนักเล่า


โคลด์มองไปที่ผนังกระโจม เขาไม่ได้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป แสดงว่ายังอยากคุยกับซิกฟรีด แต่ไม่รู้จะต่อบทสนทนาว่าอะไร...ซิกฟรีดทำให้เขาอึดอัดใจ

ถ้าซิกฟรีดมีศิลปะการพูดกับคนที่ตัวเองชอบได้สักครึ่งของมาลแกธ ผลลัพธ์ในอดีตของพวกเขาอาจออกมาดีกว่านี้

“อย่ากังวล” ซิกฟรีดเอ่ย “เจ้าอาจไม่เชื่อใจข้า แต่ทราบเถิดว่าข้าไม่ได้นิ่งนอนใจ”

โคลด์เงียบ ไม่ขยับตัวจากที่เดิม เขากอดอก ภาษาร่างกายยังบอกว่า ‘ไม่พอใจ’

ซิกฟรีดอ้าปากแล้วหุบปาก

ก่อนจะอ้าปากอีก…

“ขอ...” คำพูดหลุดออกมาคำหนึ่ง

และอีกอึดใจค่อยต่อว่า

“...โทษ”

“อึดอัดกว่าเดิมอีก” โคลด์ยอมตอบ “ถ้าการพูดจาดีๆ กับข้ามันยากนักละก็--”

“ข้าอยากคุยกับเจ้าดีๆ” ซิกฟรีดหน้าแดง เขาพูดเร็ว เมื่อรวมกับเสียงแหบพร่าก็เกือบฟังไม่รู้เรื่อง

โคลด์หันขวับมาพอดี จึงได้เห็นใบหน้าแดงฉ่าที่ไม่คาดว่าจะได้เห็น

“อันที่จริง…” ซิกฟรีดแตะกระเป๋าคาดสะโพกของตัวเอง ท่าทางลังเลอยู่บ้าง แต่สุดท้ายก็ล้วงมือเข้าไปควานหาบางอย่าง

“กินซะ มันน่าจะช่วยให้รู้สึกดีขึ้น”

ช็อกโกแลต...ซิกฟรีดยื่นห่อช็อกโกแลตให้โคลด์

เขาไม่ชอบกินของหวาน ดังนั้นจึงหมายความว่านำติดตัวมาให้โคลด์โดยเฉพาะ

“ทำไมทุกคนคิดว่าข้าชอบกินของหวาน” แม้ปากพูดอย่าง แต่มือพูดอีกอย่าง โคลด์รับห่อขนมมาแกะกิน พอรสหวานละลายในปาก ดวงตาของดาร์กเอลฟ์ก็ปรือ ใบหูลู่ลง

โคลด์กินอย่างอารมณ์ดีขึ้น

            ซิกฟรีดยิ้มมุมปากน้อยๆ “รู้ไหม ในวังข้าปฏิเสธของหวานไม่ได้” เขาลองชวนคุย “หัวหน้าครัวของหวาน...นางอ่อนไหว บางครั้งข้าได้ยินเสียงกระซิบตัดพ้อเบาๆ ‘ไม่อร่อยหรือเพคะ’ ‘ชิมสักคำนะเพคะ’ ‘เมื่อก่อนพระองค์ชอบรสมือหม่อมฉันแท้ๆ’ ”

“ข้ารู้จักนางหรือเปล่า” โคลด์กินช็อกโกแลตหมดไปครึ่งแท่งแล้ว เขาถามเพราะคำว่า ‘เมื่อก่อน’ น่าจะหมายถึงตอนซิกฟรีดยังเป็นเจ้าชายน้อยตัวเล็ก ก่อนเดินทางไปอาศรมควาร์

            “ตอนนั้นข้าอายุเท่าไหร่เอง ข้าจำไม่ได้หรอก”

“ข้าจำตอนเจอเจ้าครั้งแรกได้ เจ้ากระทืบเท้า บอกว่า ‘ข้าเป็นเจ้าของแผ่นดินนี้ เจ้าดาร์กเอลฟ์!’ ” โคลด์หัวเราะ คิดว่าน่าจะเป็นแม่ครัวชาวมนุษย์ มนุษย์มักดีกับเขามากกว่าเอลฟ์ (แต่ก็บางคนเท่านั้นแหละ)

            ซิกฟรีดเหมือนชะงักไปเล็กน้อย “พี่เฟรธูรินคงดุข้าถ้าท่านทราบว่าข้าพูดอย่างนั้น”

“ใช่ เจ้ามันเด็กยโส” โคลด์ได้ทีขี่แพะไล่

            “ไหนจะคุยดีๆ” รอยยิ้มมุมปากของซิกฟรีดยกขึ้นอีก เขากอดอก เกือบหัวเราะออกมา

“นี่ก็เริ่มดีแล้ว” โคลด์ยิ้มเมื่อกินช็อกโกแลตหมด ช็อกโกแลตบางส่วนติดตรงมุมปาก ดูหน้าก็รู้ว่าผ่อนคลายแล้ว

            ซิกฟรีดขำในลำคอ เขาใช้นิ้วโป้งเช็ดมุมปากให้โคลด์ “อร่อยขนาดนั้นเลยหรือ”

“ข้ากินได้ทุกอย่างที่กินได้”

            “ความสามารถพิเศษของเจ้ารู้กันทั่วอาศรม” ราชาหนุ่มยิ้ม

“ทุกคนก็กินทุกอย่างที่กินได้นั่นแหละ คงไม่มีใครอยากอดตายหรอก” โคลด์มองนิ้วที่แตะมุมปากของเขาค้างไว้ “เมื่อกี้เจ้าบอกให้ใครหุบปาก เสียงคำสาปในหัวเจ้าอีกแล้วหรือ”

ซิกฟรีดละนิ้วออก “อีกแล้ว? ไม่...ไม่ใช่ มันพูดกับข้าตลอดเวลา ไม่ใช่หยุดแล้วค่อยพูด ‘อีกแล้ว’ ”

“ตอนนี้มันก็พูด?”

“อืม” ซิกฟรีดสวมหน้ากากหนังปิดใบหน้าซีกซ้ายเหมือนตอนที่ออกล่ามังกร แม้จะร่ายเวทสกัดคำสาปและใช้ยาบรรเทาคำสาปของเอริแอดเน่ แต่ดูเหมือนนานวันจะไม่ช่วยอะไรนัก

“มันเป็นเสียงของคิงริวอร์นอร์? คอยสาปเจ้า?”

“อืม...สาป ยั่วยุ สบถด่า มันพูดทุกอย่างที่จะทำให้เจ้าหงุดหงิด อารมณ์เสีย ไม่มีกระทั่งอารมณ์หลับตานอน”

“พี่ชายเจ้าเป็นคนปากหมาหรือ ถึงลงคำสาปแบบนี้ไว้” โคลด์เงยหน้า เขานั่งขัดสมาธิ ยิ้มแบบทองไม่รู้ร้อน


—————————————————————————

A/N เขาก็คุยกันดีๆ ได้นะ คู่นี้อะ XD



ติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy

♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/

♰ Twitter : @VinzeSchwarz

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด