บทที่ 20 : แตกหัก (2)
เอริแอดเน่สะบัดมือ ซิกฟรีดจึงได้เห็นว่านางยกดาบเวท ก่อนนี้เขาไม่เห็นนางพกอาวุธเพราะกำแพงบังช่วงล่างของนาง
“เจ้ากับข้า ใครเล่นถ่วงเวลาอยู่”
ดาบเวทอันวิจิตรบอบบางเรืองแสงสีแดง บ่อน้ำแห้งกรังสี่มุมลานเกิดน้ำพุเลือดพวยพุ่งสูง ละอองโลหิตสร้างอาณาเขตเวทมนตร์กักขังซิกฟรีด
นี่คือเวททมิฬ
ซอนย่าหายไปจากที่แห่งนั้นแล้ว แต่อิลมาเรยังขยับตัวไม่ได้ ของเหลวหนืดเหมือนเลือดข้นๆ ซึมขึ้นมาจากรอยต่อของพื้นหินใต้เท้า ยึดลำตัวท่อนล่างของเธอไว้
“ข้าจะบอกอะไรให้ ซิกฟรีด เจ้าให้สิ่งที่ข้าต้องการไม่ได้ และข้าไม่มีสิ่งที่ต้องการจากเจ้า แต่ข้าจะสอน…องครักษ์ของข้าจะฆ่าผู้ติดตามทั้งหมดของเจ้ารวมถึงดาร์กเอลฟ์ และหากข้าเสียองครักษ์หนึ่งคน ข้าจะตัดแขนขาของดวอร์ฟออกทีละข้าง ที่เจ้าทำได้คือยืนดู!”
เอริแอดเน่ยิ้มเหี้ยมเกรียม นางตวัดแขนเบาๆ ดาบเวทก็ฟันขอบกำแพงหินขนาดใหญ่ขาดเป็นรอยตัดเรียบกริบ
ชิ้นส่วนที่ถูกตัดร่วงกระแทกพื้นดังตึงใหญ่!
ราชาหนุ่มค่อยๆ ปลดหน้ากากออก พร้อมเอ่ยภาษาควาร์ถึงมาลแกธ ล็องธู
‘ต่อจากนี้ไม่มีหน่วยกาลาฮาน’
เอลฟ์ตะวันออกซึ่งอยู่ด้านนอกแตะตุ้มหู ก่อนเอ่ยทวนคำสั่งอีกครั้ง
‘ท่านไล่ข้าออกทั้งหน่วยหรือ ราชา’
ซิกฟรีดมองเอริแอดเน่...มองการตัดสินใจอันเด็ดขาดของนาง มองราคาที่เขาต้องจ่าย
‘ใช่...ต่อจากนี้เจ้าจะทำอะไร จะตัดสินใจอย่างไร ทั้งหมดไม่ขึ้นกับข้า’ ราชาหนุ่มย้ำช้าๆ ขณะถกแขนเสื้อข้างซ้ายขึ้น รอยแผลที่ซิกฟรีดเคยกรีดเป็นอักขระทมิฬแห้งแล้ว แต่ยังไม่หายดี
‘ปกป้องโคลด์เถิด ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำ หากข้าจะตัดแขนขาเขา จงหยุดข้า แม้เจ้าจะต้องตัดแขนขาข้าก็ตามที’
มาลแกธกดตุ้มหูให้แนบขึ้น พลางเหลือบมองไปทางโคลด์
‘ส่วนตัวข้า...จะปกป้องพี่หญิงจากเจ้าและโคลด์เอง’
จุดแตกหักมาถึงแล้ว…
ถึงกระนั้นซิกฟรีดก็ไม่เลือกทางใดทางหนึ่ง--ซึ่งหมายถึงเลือกให้ฝ่ายหนึ่งรอด อีกฝ่ายหนึ่งตาย
หรือเลือกเก็บฝ่ายหนึ่งไว้ ทิ้งอีกฝ่ายหนึ่งไป
เขาเลือกที่จะช่วยทั้งคู่
...เท่าที่กำลังจะช่วยได้
โดยปฏิเสธที่จะทำร้ายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เขาฝากโคลด์ไว้กับมาลแกธ และพยายามยึดพี่หญิงไว้ด้วยตัวเอง
ในมุมมองของโคลด์หรือพี่หญิง การตัดสินใจครั้งนี้อาจดูไม่เด็ดขาด เหยาะแหยะ
ให้เขาคิดไปเถิด อาเลธ...เขามีสิทธิ์ตัดสินเจ้า ชื่นชมเจ้า หรือกระทั่งดูแคลนเจ้า เขามีสิทธิ์รักเจ้า ขณะเดียวกันก็สามารถชังเจ้า
เจ้าไม่อาจบังคับความคิดหรือความรู้สึกใครได้ น้องชายข้า
แต่เจ้าต้องรู้ใจตัวเอง…
หากเจ้าคิดว่ามันดีแล้วก็จงทำ
และหากเจ้าทำแล้วก็จงรับผลที่ตามมา
ภูผาต้องรับได้ทั้งแรงประโลมของลม
...และแรงโหมของพายุเสียงในมโนสำนึกซ้อนขึ้น แม้จะแผ่วเบา...ทว่ากลบเสียงกราดเกรี้ยวของคำสาปได้ เขาเริ่มได้ยินเสียงนี้หลังบทสนทนาอันแสนสั้นกับโคลด์ สตาร์
“บางที เจ้าอาจไม่เคยสั่งให้มันหุบปากอย่างจริงจัง แบบคนที่เหนือกว่า คนที่เอาชนะใจตัวเองได้” เจ้ารู้แล้วว่าควรทำอย่างไร อาเลธและมันชัดเจนอย่างถึงที่สุดในตอนนี้
‘ข้ารักเขา...ฝากเจ้าด้วย มาลแกธ ล็องธู’
จบการติดต่อ ซิกฟรีดร่ายเวททมิฬ
ทุกๆ คำที่เขาเปล่งออกมาทำให้ท่อนแขนซ้ายปริแตกเป็นรอยอักขระทมิฬ เลือดสีดำเหนียวข้นผุดจากรอยแผล แล้วแปรสภาพเป็นไอทมิฬคลุมร่างด้านซ้ายของราชาหนุ่ม
ไอหมอกสีดำสนิทแผ่ออก มันสยายจนกลายเป็นปีกขนาดใหญ่ ร่างกายด้านซ้ายของซิกฟรีดพร่าเลือนเหมือนเงา คล้ายเนื้อหนังระเหิดออกเป็นวิญญาณ ปีกทมิฬกระพืออย่างบ้าคลั่ง มันอยากฉีกร่างออกอาละวาด แต่ซีกร่างกายด้านขวาไม่ยอมให้มันเป็นอิสระ
“ข้าจะไม่ทำแค่ยืนดู พี่หญิง…” ซิกฟรีดเอ่ย ขณะที่ใบหน้าด้านซ้ายคำรามเหมือนสัตว์ป่า “ร่างทมิฬของข้าไม่น่ามองนัก ไม่นานนี้ข้าสิ้นหวังที่ไม่อาจปกป้องใครได้แม้แต่ตัวเอง จนกล้าพลีวิญญาณแลกกับการที่สามารถกางปีกปกป้องได้ทั่วแผ่นดิน”
ราชาหนุ่มสืบเท้าเข้าไปทางอิลมาเรช้าๆ ปีกทมิฬกระพือแรงขึ้นจนพัดละอองโลหิตคลุ้ง
“ข้าตัดสินใจโดยไม่ยั้งคิดในคราแรก ร่างทมิฬจะค่อยๆ กลืนกินข้า แต่ในเมื่อข้าลงมือทำไปแล้ว ข้าก็คิดจะใช้ประโยชน์จากพลังของมันสักหน่อย”
ก่อนหน้าที่โคลด์จะมาพบเขาในวิหารของพี่หญิงคาลิเธียล ซิกฟรีดเพิ่งได้รับร่างทมิฬ ปีกใหญ่แทบฉีกร่างเขาออกเป็นสองส่วน มันอาละวาด ยากจะควบคุม เขาจึงปล่อยให้มันโผบิน ให้มันเสาะหาโคลด์ ในที่สุดมันก็พบ มันส่งต่อภาพที่เห็นมาสู่ดวงตาข้างซ้ายของเขา เป็นเหตุการณ์ในโกดังช่วงที่ดวอร์ฟนามอิลมาเรถูกลักพาตัวพอดี
แต่ซิกฟรีดทำได้แค่เห็น ร่างทมิฬปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งอื่นๆ ของเขา
น่าหวั่นใจว่าแม้แต่ครั้งนี้...มันก็จะไม่ยอมทำตามเจ้าของร่างอย่างซิกฟรีดเช่นเคย
กำแพงเวทของเอริแอดเน่แน่นหนา มันกักขังซิกฟรีด แต่ผู้ร่ายเวทอย่างนางก็ตึงมือเช่นกัน ไอเวททมิฬบนร่างซิกฟรีดเป็นไอเวทที่เอริแอดเน่คุ้นยิ่งกว่าคุ้น
“ริวอร์นอร์” นางรำพึง “ข้าคิดแล้วว่าเจ้าไม่ยอมตายง่ายๆ เจ้าฝังส่วนหนึ่งของเจ้าไว้ในตัวซิกฟรีด”
เอริแอดเน่ยิ้มกว้าง นัยน์ตาเบิกโพลง นางร่ายสายฟ้าสีเลือดฟาดใส่ซิกฟรีดเหมือนลงแส้ให้สัตว์ร้ายในกรงขังเจียมตัว
หากนางรู้ว่าซิกฟรีดเลือกนาง
...แล้วอย่างไร
หรือซิกฟรีดไม่เลือกนาง
...แล้วอย่างไร
เอริแอดเน่แห่งอิซิลดาร์มีคำตอบให้ตัวเองมานานแล้ว นางฝากหัวใจไว้กับคนอื่นไม่ได้ หากมอบใจไป มันจะไม่ใช่ของนาง แต่เป็นสิ่งที่ผู้ได้รับบดขยี้ได้ตามแต่ใจ!
นางไม่เชื่อคำพูดของซิกฟรีด และจักไม่เชื่อใจใครอีก
-----------------------------------------------
“มาลแกธ…”
โคลด์ได้ยินคำประกาศของเอริแอดเน่ตั้งแต่ท่อน
‘องครักษ์ของข้าจะฆ่าผู้ติดตามทั้งหมดของเจ้ารวมถึงดาร์กเอลฟ์ และหากข้าเสียองครักษ์หนึ่งคน ข้าจะตัดแขนขาของดวอร์ฟออกทีละข้าง ที่เจ้าทำได้คือยืนดู!’
เสียงของนางก้องไปทั่วอย่างไม่ใช่การพูดธรรมดา แต่เป็นการใช้เวทมนตร์ให้คนที่อยู่ข้างนอกได้ยิน และรู้ว่าอะไรจะตามมาหากคิดต่อสู้ขัดขืนคนของนาง
เอริแอดเน่ส่งสารนี้ถึงโคลด์โดยตรง เพราะโคลด์เป็นคนเดียวที่เห็นความปลอดภัยของอิลมาเรสำคัญที่สุด และเป็นคนเดียวที่มาลแกธจะฟัง
ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวของโคลด์คือ
‘นางฉลาดและอำมหิต’
เพราะสิ่งที่เอริแอดเน่ทำอยู่ เขาเองก็ทำได้อย่างเลือดเย็นเฉกกัน หากสถานการณ์กลับกัน เขาสามารถจับคนสำคัญของนางมาขู่แบบเดียวกันโดยไม่ลังเล
นางฉลาดและอำมหิตอย่างไม่สมควรเป็นเอลฟ์ผู้สูงศักดิ์และเมตตา
เนื้อแท้ของเอลฟ์ไม่ต่างจากดาร์กเอลฟ์เลยไม่ใช่หรือ...ท่านพ่อบุญธรรม
“ซิกฟรีดยกเลิกหน่วยกาลาฮาน” มาลแกธเล่าทั้งหมดที่ได้ฟังจากซิกฟรีดกับโคลด์ ขณะเดียวกันก็เคาะตุ้มหูไฟเป็นรหัสข้อความ ส่งถึง ‘อดีต’ หน่วยกาลาฮานทุกนาย “หมายความว่าข้าเป็นเอลฟ์ตะวันออกที่ไม่มีเจ้านาย และกำลังคิดอย่างหนักว่าจะบุกอย่างไร”
มาลแกธสังเกตปฏิกิริยาของโคลด์ แปลกใจที่โคลด์นิ่งหลังจากได้ฟังว่าซิกฟรีดเลือกเอริแอดเน่ แต่คิดอีกทีก็ไม่น่าแปลกใจขนาดนั้น เพราะนี่เป็นสิ่งที่โคลด์ต้องการมาตลอด
...จนถึงกับยอมรับไมตรีจากเขา ให้เขามีโอกาสได้ ‘รัก’ บ้าง
“จากคำประกาศของเอริแอดเน่เมื่อครู่กับคำพูดของซิกฟรีดข้าสรุปได้สองทาง หนึ่ง นางหมายชีวิตข้าจริง สอง นางยังหมายจับตัวข้าอยู่ นางยอมรับได้ทั้งสองทาง”
“ซิกฟรีดอาจกำลังหาทางทำให้นางหมดกำลัง พร้อมๆ กับปกป้องอิลมาเร” มาลแกธขมวดคิ้วอย่างหนักใจ “แต่เราไม่ควรหวังกับคนที่เพิ่งบอกว่าจะเข้ากับอีกฝ่าย”
เขาเสริมอีกว่าตอนนี้ตนไม่ได้ยินเสียงอะไรผ่านตุ้มหูเวทนอกจากเสียงคำราม
“เหมือนเสียงสัตว์...แต่ไม่แน่ใจว่าตัวอะไร ข้าไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน”
“เจ้าทราบว่าซิกฟรีดใช้เวททมิฬได้ใช่ไหม”
“ระแคะระคาย ไม่ถึงกับทราบ” มาลแกธตอบ
โคลด์พยักหน้าเป็นการยืนยัน “เขาคงกำลังใช้อยู่ แต่ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องใช้มัน แค่กำลังของเขาไม่พอหรือ แสดงว่าเอริแอดเน่เก่งกาจ...ไม่สิ เขาไปเข้ากับนางแล้ว เขาใช้เพื่อรับมือเรา”
“โคลด์...ข้าไม่ได้จะอวดตัวเอง แต่ฝีมือของซิกฟรีดทำได้แค่สูสีกับข้า และสูสีในที่นี้คือต้องพยายาม ‘แทบเป็นแทบตาย’ ” มาลแกธพูดตรงๆ “อีกอย่าง ทั้งท่านหญิงและข้ามีประสบการณ์มากกว่าเขา นางเป็นจอมเวทสงคราม ผ่านสมรภูมิมานับไม่ถ้วน ส่วนข้าเคยเป็นหัวหน้าตระกูลล็องธู...ไม่ว่าเขาคิดจะรับมือกับใคร ก็หนักทั้งนั้น”
“เพิ่งรู้ว่าเจ้าเคยเป็นหัวหน้าตระกูลกับเขาด้วย”
ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลของเอลฟ์ตะวันออกเทียบได้กับตำแหน่งหัวหน้าเผ่าของดาร์กเอลฟ์ วัดตามความแกร่งกล้า ตระกูลล็องธูเทียบได้กับเผ่าใหญ่ๆ ในแดนทมิฬอย่างเผ่าเหยี่ยวของนายพลเบเลธ หรือในรูเมเรียร์ก็ใกล้เคียงกับตระกูลอิซิลดาร์
“ข้ามีบลัดแมจิก ซิกฟรีดมีเวททมิฬเสริมกำลังงั้นสินะ” โคลด์เริ่มเข้าใจความลำบากและความกดดันของซิกฟรีดแล้ว การเป็นราชาอายุน้อยท่ามกลางเอลฟ์ที่เก่งกาจระดับตำนานคือนรกแท้ๆ “เจ้าบอกจะช่วยข้า” เขาจ้องมาลแกธ “ในเมื่อซิกฟรีดยกเลิกหน่วยกาลาฮาน แปลว่าเจ้าไม่มีลูกน้องแล้ว”
“ไม่เสมอไป” มาลแกธเคาะตุ้มหูไฟส่งรหัสบอกเดเนธอร์และลูกน้องคนอื่นๆ ว่า
‘พวกเจ้าทราบพระประสงค์ขององค์ราชาให้ยกเลิกหน่วยกาลาฮานแล้ว เพราะฉะนั้นข้าไม่ใช่หัวหน้าของพวกเจ้าอีกต่อไป แต่อย่างไรข้าก็จะทำงานนี้ให้เสร็จ หากใครยังอยู่กับข้า ให้ตอบกลับมา’
รอเพียงชั่วอึดใจ อดีตหน่วยกาลาฮานทุกนายก็เคาะตุ้มหูเวท ส่งรหัสกลับมาโดยพร้อมเพรียงกัน
‘พวกเราจะอยู่ข้างท่านขอรับ ท่านมาลแกธ’
มาลแกธยืนยันคำตอบนั้นกับโคลด์
“พวกนั้นยินดีเป็นศัตรูกับราชาของตนหรือ เราวางแผนกันไว้หลายแบบ แต่ไม่คิดว่าซิกฟรีดจะลอยแพหน่วยกาลาฮาน ถึงขั้นนี้ข้าไม่อยากพูดมาก แต่เขามุทะลุ ทำอะไรไม่ปรึกษา ไม่เชื่อใจใครกระทั่งคนของตัวเอง”
“พวกมันคงลำบากใจกว่าข้า แต่ในเมื่อพวกมันตัดสินใจจะตามข้า ก็ให้เป็นอย่างนั้น” มาลแกธบีบไหล่โคลด์ “จัดการตรงหน้าให้เสร็จก่อน เรื่องอื่นค่อยคิด รวมถึงเรื่องที่เจ้าอยากเขย่าคอซิกฟรีดด้วย”
โคลด์คิดอยู่อีกอึดใจ
“กำลังรบของเราเทียบกับฝ่ายนั้นล่ะ ทางเราเจ้าเก่งที่สุด รองลงมาคือ?”
“เดเนธอร์” มาลแกธแทบไม่ต้องคิด
“เดเนธอร์พอรับได้ เพราะข้ายังไม่เคยเห็นฝีมือมัน แต่เจ้าคงไม่บอกว่าข้าจะแพ้กระทั่งเนอร์ดาเนลนะ” โคลด์ทำหน้าคล้ายถูกดูถูก
มาลแกธส่ายหน้า “เนอร์ดาเนลอายุยังน้อย ฝีมือพอใช้แต่ไหวพริบดี ข้อเสียคือมันมุทะลุแบบเด็กๆ”
“เจ้ารู้ใช่ไหมว่าข้ายินดีสละแขนขาของเดเนธอร์หรือเนอร์ดาเนล แต่ไม่ยินดีสละแขนขาของอิลมาเร”
“ลูกน้องข้าพร้อมจะสละแขนขาเพื่อข้า” มาลแกธจ้องมองโคลด์ สายตาหนักแน่น เด็ดขาด “ข้าเคยใช้คนเหมือนหมากทิ้งได้ ที่รัก...แต่ตอนนี้ ข้าหวังว่าจะไม่ต้องเสียใครไป”
“รูเมเรียร์ทำเจ้าเปลี่ยนไปกระมัง และเจ้าทำข้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย คงได้เวลาที่ข้าต้องเอาจริงบ้าง” โคลด์ยิ้มอย่างเคร่งเครียด เขามีความปลอดภัยของอิลมาเรเป็นเดิมพัน
“ข้าจะประลองปัญญากับเอริแอดเน่” โคลด์เค้นสมองอย่างใจเย็น เขาต้องอ่านสถานการณ์ให้ขาด สู้กับเอริแอดเน่นั้นใช้กำลังอย่างเดียวไม่ได้ เขามีบทเรียนมาแล้ว “จากแผนที่ที่เราดูกันเมื่อวาน ป้อมปราการนี้มีทางเข้าออกอยู่สามทาง ประตูหน้าที่ซิกฟรีดเข้าไป ประตูด้านข้าง ประตูด้านหลัง...”
ทั้งสองอยู่บนต้นไม้เพื่อดูสถานการณ์โดยรวม พวกเขาไม่เห็นลานกลางป้อมที่ซิกฟรีดอยู่ แต่เห็นแสงสีแดงเรืองโรจน์จากจุดนั้น
“เห็นแสงสีแดงนั่นไหม ไอเวทเป็นเวททมิฬไม่ผิดแน่ ถึงจะคล้ายบลัดแมจิก แต่ไม่ใช่” โคลด์อธิบาย “เอริแอดเน่เป็นจอมเวทวารี นางผสานเวทควบคุมนทีกับฝนเลือดที่ซึมลงแผ่นดินนี้มาเนิ่นนาน ตอนนี้ทั้งป้อมปราการอยู่ในกำมือนาง”
“ถ้ากอห์นดีเอนมาอาจง่ายกว่านี้ มันถนัดทำให้หินสลายเป็นฝุ่น เราจะเข้าชิงพื้นที่ได้ง่ายขึ้น”
“อาจจะ...แต่กอห์นดีเอนมาไม่ทันแล้ว เราไม่มีเวลารอมันด้วย”
โคลด์บอกแผนให้มาลแกธสั่งการลูกน้อง
“เจ้าปรับแผนได้ตามสถานการณ์โดยยึดความปลอดภัยของอิลมาเรเป็นอันดับแรก ส่วนความปลอดภัยของลูกน้องเจ้า ถ้าพวกมันทำตามแผนของข้าได้ อย่างน้อยถึงพิการก็ยังมีชีวิตกลับบ้าน”
มาลแกธตกลง เลียริมฝีปาก เขาชอบการต่อสู้ดีๆ ถ้าไม่ติดว่าฝ่ายตนเสียเปรียบเพราะถูกจับตัวประกันอยู่ละก็…
น่าเสียดาย...
น่าเสียดายจริงๆ—————————————————————————
A/N ลงนิยายมา 3 เดือนกว่าๆ แล้ว ดีใจที่ได้นำมาลงนะคะ ปกติเราไม่ค่อยลงในเว็บที่คนรู้จักกันเท่าไหร่ มักจะลงแค่ในกลุ่มปิดหรือเว็บเมืองนอก (เพราะเขียนนิยายเฉพาะทางเป็นส่วนมาก) มีเรื่องเอลฟ์นี่แหละที่เฉพาะทางน้อยหน่อย
พอมาลงที่ใหม่ๆ ก็ดีใจที่นักอ่านที่รักทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ให้โอกาสและติดตามผลงานนะคะ จึงขอมอบของขวัญในช่วงสงกรานต์ นิยายเรื่องนี้จะลงต่อเนื่องให้ทุกท่านได้ฟินกันเช่นเดิมค่ะ!
ตอนนี้อยู่ในช่วงลงวันเว้นวัน กำหนดการลงครั้งต่อไปคือวันที่ 12 เมษายน 60 ค่ะ XDติดตามผลงานของเราได้ที่ I L L R E I ♰ Boy Love Fantasy
♰ Facebook : https://www.facebook.com/ILLREI/
♰ Twitter : @VinzeSchwarz