Re: Hot Café รัก ร้อน ลับ >>incest<< #ตอนที่31บทสรุป P.4 [25/02/17]**จบแล้วค่า**
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: Hot Café รัก ร้อน ลับ >>incest<< #ตอนที่31บทสรุป P.4 [25/02/17]**จบแล้วค่า**  (อ่าน 21905 ครั้ง)

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ขอบคุณคอมเม้นท์นะคะ จะปรับปรุงแก้ไขให้น๊า

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอนที่ 10 ชู้…

พอสแปลกใจในคำพูดของตาน้ำที่บอกว่าจะพาน้ำนิ่งไปซื้อของกับทิม เพราะยังไม่รู้ว่าน้ำนิ่งคิดยังไงกับอีกฝ่าย จึงพาตัวเองตามทั้ง 3 คนมา เมื่อเห็นตาน้ำหันหน้าคุยกับน้ำนิ่ง แล้วสวมกอด นั่นก็ทำให้พอสมั่นใจว่าฝาแฝดคนพี่จะจับคู่น้ำนิ่งกับทิมแน่ แต่ที่สงสัยคือ ทำไมตาน้ำถึงตัดสินใจปล่อยฝาแฝดไว้กับทิม แล้วมันจะไปไหน?

ตัดสินใจกลับไปที่รถจึงเพื่อขับตาม

ดักรออยู่ไม่นานก็เห็นอีกฝ่ายเรียกแท็กซี่อยู่  ขับตามไปเรื่อยๆ แท๊กซี่ก็จอดส่งคนที่นั่งมา

พอสก็เริ่มแปลกใจหนักขึ้น เพราะที่ที่ตาน้ำมาคือ ‘คอนโดของเพียว’

หากเพียงไม่แน่ใจ ตาน้ำอาจจะมีเพื่อนวิศวะอยู่ที่นี่ก็ได้!

สมองสั่งการให้ขาก้าวขึ้นไปหน้าห้องที่ตัวเองเคยมา หากใจภาวนาคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ แต่สุดท้ายเค้าก็เห็นในสิ่งที่ใจเค้าปฏิเสธ ‘ตาน้ำยืนอยู่หน้าห้องเพียว’


 “คุยกันหน่อยสิน้ำ”
   

พอสเดินนำอีกฝ่ายมายังรถตัวเอง ที่ลานจอดรถ  เปิดประตูรถด้านหลังให้อีกคนขึ้นไปนั่ง แล้วพาตัวเองตามขึ้นไป
นั่งเงียบกันอยู่ไม่นาน พอสก็เริ่มพูดขึ้นก่อน

“นานเท่าไหร่แล้ว?”

“ช่วงติวเข้ามหาลัย มันช่วยกูติว” ตาน้ำเลือกจะตอบความจริงเพียงครึ่งเดียว

เพราะอีกฝ่ายเรียนสายวิทย์มาเหมือนตาน้ำ แต่เลือกสอบเข้าบริหาร พอสจึงพอเข้าใจสถานการณ์

“เงียบมาก ทำไมกูไม่เคยรู้เลย”

“กูไม่อยากให้ใครรู้ ไม่อยากให้น้ำนิ่งรู้ด้วย” ได้ยินแล้วก็สงสัย แต่มันก็ไม่แปลก เค้าเองก็ยังไม่รู้เลย

“ทำไมวะ?”

“มันมีบางอย่างที่กูบอกมึงไม่ได้ ขอโทษนะพอส” คำขอโทษพร้อมสายตาอ่อนโยนส่งกลับมา  เห็นแล้วก็ทำให้ใจสั่น
พอสได้ยินแล้วก็ถอนหายใจ เอื้อมมือไปแตะที่รอยช้ำมุมปาก

“ขอโทษกูทำไม”

“ก็มึง….”

“อืม…กูชอบมึง แล้วยังไง?”

“มึงไม่…?” ได้ยินแบบนั้น พอสก็ขยับตัวเองขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักของอีกฝ่าย ตาน้ำตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ดันตัวพอสออก

“มึงรู้อะไรมั๊ยน้ำ บางทีเรื่องยากๆ มันก็ไม่ได้ยากแบบที่เราคิดหรอก”

“มึงหมายถึง?”

“หมายถึงมึงกับกู เราสองคน”  พูดแล้วก็ยกนิ้วจิ้มเข้าไปที่แผงอกของอีกฝ่าย

“มึงจะเอาอะไร” พอสยิ้มที่มุมปาก ขยับใบหน้าตัวเองให้ปลายจมูกแตะกับอีกฝ่าย หน้าผากแนบชิดกัน พร้อมจ้องตา
นิ้วที่จิ้มอยู่ลากไล้ลงตามสาบเสื้อ

“เอามึงไง”

“หือ…”

“ก็ไม่ยาก แค่มึงกับกู มาเป็นชู้กัน!”  ตาน้ำได้ยินแล้วก็นิ่งไปเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าเรื่องของตัวเองกับอีกฝ่ายจะมาถึงเร็วขนาดนี้

นอกแผนของฝาแฝดแล้ว ของตัวเองยังหลุดแผนไปด้วย

“นั่นพี่มึงนะพอส  ทำไมมึงถึง….”

“แล้วยังไง ทำไมต้องแคร์ ขนาดมันอยู่แบบนี้กะมึง ยังแสดงออกว่าชอบไอ้นิ่งเลย แล้วมันก็รู้ว่ากูชอบมึงมันยังทำ ทำไมกูจะทำบ้างไม่ได้ อีกอย่างกูก็คิดว่า กูรู้ความลับของมึงกับไอ้นิ่ง ถ้าจะให้ปิดความลับนี้อยู่ กูก็ต้องมีความลับของกูกับมึงที่บอกมันไม่ได้เหมือนกัน แต่แล้วแต่มึงนะ”
พูดถึงท้ายประโยคตัวเองก็ทำท่าจะลงจากตักของฝ่าย ทว่าตัวเองโดนรั้งเอวไว้ก่อน

“มึงแน่ใจนะพอส” พูดพลางจ้องตาอีกฝ่าย มือไล่บีบเข้าที่สะโพก พอสส่งยิ้มกลับ มือไล่แกะกระดุมเสื้อช๊อปของอีกคน

“กูทำขนาดนี้แล้ว มึงยังไม่…. อื้อ….”
ไม่ทันจบประโยค ตาน้ำก็รั้งคอคนที่นั่งคร่อมอยู่ลงมาจูบ หากเพียงยังทันไม่ได้สัมผัสริมฝีปากกันเท่าไร ลิ้นร้อนของอีกฝ่ายก็ส่งเข้ามาในโพรงปากของตัวเองเกี่ยวพันกันอย่างดูดดื่ม แล้วต่างคนก็ผลัดกันส่งลิ้นร้อนเข้าไปดูดซับความหวานในโพรงปากของอีกฝ่าย ยาวนานเจนจะขาดอากาศหายใจ ก็ผละออก จ้องตากันเพียงครู่แล้วก็พาริมฝีปากแนบกันอีกครั้ง ราวกับเติมเต็มความต้องการที่โหยหากันมานาน


‘สัมผัสและความรู้สึกที่ตาน้ำไม่เคยได้รับและให้ใครบางคน’


‘สัมผัสและความรู้สึกที่พอสรอที่จะได้รับมาแสนนาน’


ตาน้ำซุกไซร้เข้าที่ซอกคอของอีกฝ่าย มือเริ่มไล่ปลดกระดุมเสื้อ พอสยกมือขึ้นจับแล้วเอ่ยถาม

“จะเอาในรถจริงใช่มั๊ย?” ตาน้ำยิ้มที่มุมปาก พร้อมดันอีกฝ่ายลงแล้วขึ้นคร่อม

“มึงรู้อะไรมั๊ยพอส คนเป็นชู้กัน ที่ไหนก็เอาได้” สายตา 2 คู่ยังคงจ้องกันอย่างไม่ยอมแพ้ ก่อนพอสจะพูดขึ้นต่อ

“ถุงยางอยู่ในช่องเก็บของ”





เพียวเปิดประตูขึ้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้คนที่อยู่ด้านนอกหายไปแล้ว

หันตัวเองกลับมาในห้อง ปิดประตูแล้วทรุดลงร้องไห้ 

เพียวรู้ ว่าเรื่องระหว่างตาน้ำกับตัวเอง เขาก็เป็นคนเริ่มก่อน สร้างข้อแม้ขึ้นมาก่อน ถึงมันจะชดเชยความผิดที่เพื่อนตัวเองเคยทำไว้กับน้ำนิ่งไม่ได้ ยิ่งเพียวแสดงออกว่าชอบน้ำนิ่งมากเท่าไร ตาน้ำเองยิ่งแสดงอาการใกล้ชิดกับน้ำนิ่งต่อหน้าเค้ามากขึ้นราวกับไม่ใช่คนเป็นฝาแฝดกัน

ก็รู้ว่ารัก หวง และ ห่วงน้อง แถมสิ่งที่เพื่อนตัวเองทำไว้มันก็หนักเอาการ!

แม้อยากได้รับความรู้สึกนั้นบ้าง แต่ก็รู้ว่าตัวเออยู่ในฐานะที่เรียกร้องอะไรไม่ได้

จริงอยู่ที่อยากให้ตาน้ำหึง และ หวง ตัวเองบ้าง แต่ก็ไม่เคยได้รับอะไรกลับมานอกจากเซ็กซ์

เซ็กซ์ที่เป็นแค่ข้อตกลงของเขาสองคน!


‘สัมผัสและสายตาที่อ่อนโยนที่ตาน้ำมีให้น้ำนิ่งนั้น มันทำให้เค้ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าในสายตาของอีกฝ่ายเลย’


ภาพที่เค้าที่ตาน้ำจูบซับที่นิ้วของน้ำนิ่ง พร้อมทั้งดันนิ้วของอีกฝ่ายเข้าไปในโพรงปากตอนนั้น
ทำให้เพียว ยืนตัวแข็งถื่อ รู้สึกตัวเองจะหมดแรงลงทันที หากสมองยังคงคิดว่าทั้ง 2 คนเป็นพี่น้องกัน
แต่ใจกลับยอมรับภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ได้

พยายามหลบเลี่ยงไม่ออกไปเจอใคร เพื่อปรับสภาพจิตใจของตัวเอง

แต่วันนี้ใครอีกคนตามกลับมายืนอยู่ที่หน้าห้อง ไม่รู้ว่าโมโห หรืออะไรก็เผลอไปต่อยมัน

ก็นั่นละ เขา 2 คนมันเริ่มจากการต่อยตี และจบด้วยเซ็กซ์มาก่อน

มันไม่ได้เริ่มจากความชอบและความรัก

แต่หากเพียงครั้งนี้ เพียวอยากจะขอโทษและปรับความใจ แต่ก็ไม่ทัน
โทรไปก็ไม่รับ ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ
ไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ทิ้งตัวร้องไห้อย่างนี้ เพราะรู้ความรู้สึกของตัวเองแน่ชัด


‘เขาไม่ได้ชอบน้ำนิ่งอีกแล้ว เขารักตาน้ำต่างหาก’





เบาะหลังของรถยี่ห้อ Porsche Macan ถูกปรับให้เอนจนสุดเพื่อรองรับบทรักที่ร้อนแรงของคน 2 คน เสียงร่างกายกระทบกันครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนกับทั้งคู่โหยหากันมานาน


“โอ๊ย…เหี้ยน้ำ”

“มึงแม่ง…ตอดดีชิบหาย อ๊า…พอส”

“ บ…เบา  ไอ้เหี้ย ตายอด ตายอยาก มาจากไหน อ๊า…” พอสพูดไป ครางไปทุกจังหวะที่ได้รับแรงกระแทกมา

ก็เพราะกับน้องตัวเองมันรุนแรงได้ไม่มาก ส่วนกับเพียวมันก็แค่เซ็กซ์ที่มีไว้ระบายอารมณ์ พอเจอคนที่ตอบสนองได้ทั้งร่างกายและจิตใจมันก็ทำให้รู้สึกดี

ดีมากจนอยากใส่ทุกอย่างลงไปให้สุด!

“ก็มึง… อ๊า…โคตรเด็ด” พูดไปก็ครางไป แรงที่มีก็กระแทกลงไปที่ร่างของอีกคนอย่างเต็มที่

“อ๊า…น้ำเบา ไอ้เหี้ย เดี๋ยวกูระบมหมด อื๊อ” เมื่ออีกฝ่ายร้องท้วง หน้าที่ซุกไซร้อยู่ที่ซอกคอหันมาจ้องหน้าคนที่อยู่ด้านล่าง
รอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปาก

“มึงแน่ใจ?” พูดแล้วก็หยุดร่างกายอยู่เฉยๆ

“ซี๊ด… เหี้ยน้ำ อย่ามากวนตีนตอนนี้ อ๊า” ก็อีกคนหยุดอยู่เฉยๆ ข้างในร่างกายมันก็อัดแน่ ทำให้อึดอัดไปหมด บิดไปมาอยู่ใต้ร่างที่คร่อมอยู่ ตาน้ำเห็นอาการนี้ก็ขยับหมุนอีกคนให้มาอยู่ด้านบน จนเสียงครางเกิดขึ้นพร้อมกัน

“อ๊า...” “อ๊า….พอส”

“มึงทำเองเลย จะเอาแรง เอาเบา ตามใจมึงเลย โอ๊ย เหี้ยพอส”  พูดยังไม่ทันจบ พอสก็ขยับยกตัวขึ้นสูงแล้วดันตัวเองลงจนสุด มือตาน้ำจับเข้าที่เอวเป็นแรงส่งให้ยกตัวขึ้นลงแรงๆ

“อ๊า….พอส พอส เหี้ย เสียว ไม่ไหวแล้ว”

“อื้อ น้ำ กูไม่ไหวแล้ว อ๊ะ….” ตาน้ำจับตัวพอสขยับขึ้นลงอีกไม่กี่ทีก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน พอสหมดแรงซบลงที่แผงอกของคนด้านล่าง

ยังไม่ทันจะถอนร่างกายออกจากกัน ของข้างในตาน้ำที่อยู่ในร่างกายพอสก็ลุกสู้อีกครั้ง

“อ๊ะ…น้ำ”

“เหี้ย พอส แบบนี้ 3 รอบแล้วนะ มึงแม่ง” ต่างฝ่ายต่างจ้องตากันพร้อมส่งยิ้ม ก่อนที่พอสจะพูดต่อ

“มึงอยากต่อรอบ 4 ป่าวละ กูมีถุงยางให้มึงพอนะ” ได้ยินแบบนั้นตาน้ำก็จับอีกฝ่ายที่เพิ่งอ่อนแรงเอนตัวนอนลง

“ไม่ยากหรอกพอส มึงให้ กูก็เอา” คำพูดที่พอสเคยพูดให้อีกฝ่ายฟัง ตอนนี้มันวนกลับมาหาตัวเขาเอง



‘หากตาน้ำไม่หันไปเห็นพอสที่ห้าง แล้วเห็นเพียวที่กำลังจะเดินหนีอีกที คงไม่ตัดสินใจพาตัวเองมาถึงที่นี่ เพราะรู้ดีว่าพอสต้องตามมา และรู้อารมณ์ของเพียวในช่วงนี้ ก็เดาไม่ยากว่าตัวเองจะโดนต่อย จะทำไงได้ อยากได้คะแนนสงสาร  มันก็ต้องยอมเจ็บตัวกันบ้าง ตาน้ำรู้ดี คำตอบของตัวเองวันนี้ ไม่ใช่เพียว แต่เป็นพอส และในใจก็คิดว่า Porsche Macan มันกว้างดีนะ ติดฟิล์มดำก็เท่ดี บอกแม่เปลี่ยนเป็นแบบนี้มั่งดีกว่า ’




----------------------------------TBC----------------------------------------------


ฮือออออ แซ่บ ปน หน่วง กับ 2 พอพาน

ตอนนี้เขียนเป็นวัน แก้แล้ว แก้อีก หวังว่าคงชอบกันนะคะ

ตอนหน้าน้ำนิ่งขึ้นห้องทิม ฟรุ้งฟริ้ง มาจริงๆ ละ

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด ขอบคุณคอมเม้นท์และคนอ่าน ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ

-------------------------------------------

ป.ล.เรื่องสรรพนาม

ที่มีคนแนะนำ คำว่า 'เขา' กับ 'เค้า' นั้น
ตอนแรกไรท์คิดเองว่า  แทนตัวเอง จะใช้ 'เค้า'
พูดถึงคนอื่นจะเป็น 'เขา'
แต่พอได้คำปรึกษามาแล้ว สรรพนามกล่าวถึง 'เขา' เหมือนกันทั้ง 2 คำ

ส่วนตาน้ำกับน้ำนิ่งนั้น 2หนุ่มจะถูกเลี้ยงมาแบบมารยามดีงาม
กู-มึง จะใช้กันเฉพาะช่วงดาร์ก แบบบิ้วอารมณ์ แต่กับเพื่อนพูดกู-มึงปกติค่ะ

เพื่อความสุขของคนอ่าน ย้อนไปแก้สรรพนามให้เรียบร้อยแล้วค่า
ขอบคุณทุกคนที่แนะนำนะคะ จะปรับปรุงแก้ไขต่อไปคะ



ออฟไลน์ 3 words 8 letters

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกนะคะ ติดตามอยู่ค่า  :mew1:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ทำไมตาน้ำเป็นคนแบบนี้ 
พอสเห็นแก่ตัวเกินไป
เพียว น่าสงสาร แต่ก็เข้มแข็งมากๆ
น้ำนิ่งล่ะ กับทิมไว้ใจได้แค่ไหน?

มันจะเป็นความลับอย่างนี้ต่อไปไหม? หากล่วงรู้ความลับกันและกัน มีอันต้องเสียน้ำตาทุกคนเป็นแน่

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
งงกับสถานะ ณ จุดนี้
สรุปเป็นเรื่องของแฝด หรืออะไร
เพียว พอส น้ำนิ่ง ตาน้ำ ทิม
5p เหรอ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o22. โอ้วววว. อึ้งแรงมากอ่า ตอนแรกนึกว่าจะหวานๆกันระหว่างแฝดเท่านั้น
งานดาร์กก็มา สรุปแล้วแค่ชู้ใช่ป่าวอะ. แอบอยากรู้จักน้ำนิ่งมากกว่านี้อะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Hot Café  รัก ร้อน ลับ
เอิ่ม.......สมชื่อจริงๆ   :z1: :pighaun: :haun4:
ตาน้ำ  ชอบความร้อนแรงของพอส
กับเพียว ก็ชอบแค่เซ็กส์
พอส ชอบตาน้ำ เป็นกิ๊กก็ยอม
อยากรู้ความในใจของตาน้ำ จริงๆ ชอบใคร?
ตาน้ำยอมให้ทิม จีบน้ำนิ่ง ทั้งที่หวง
เพราะทิม ชอบน้ำนิ่งจริงๆ
และน้ำนิ่ง ก็มีท่าทีพิเศษจากการสัมผัสกับทิม
น้ำนิ่ง เคยเจอคนทำไม่ดี จนมีความหวาดผวาตามมาสินะ
เพราะอย่างนี้หรือเปล่า ที่ทำให้ตาน้ำ ดูแล อ่อนโยนกับน้ำนิ่ง
กับน้ำนิ่ง เพราะอยู่ด้วยกัน ผูกพันใกล้ชิด ทำให้เลยเถิด
แค่ช่วยกันระบายความใคร่เท่านั้นหรือ :katai1: :katai1: :katai1:
รอ NC ทิม น้ำนิ่ง :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
Special  Father Day : ฝาแฝด & Daddy และคุณตา

เสียงวิ่งตึ่งๆๆ จากบ้านเรือนไทย '

“เอ๊าๆ ลูกลิง เดี๋ยวยายจะเคาะตาตุ่ม เดี๋ยวเถอะ”

“แม่ Dad !!!” ตาน้ำเริ่มจะออกวิ่งอีกที หากน้ำนิ่งรั้งเสื้อไว้ เพราะคุณยายสายตาดุมา
ฝาแฝดจึงค่อยๆย่องๆ เหมือนจะแซวคุณยาย
พ้นกรอบประตูได้ ก็วิ่งลงบันไดเหมือนเดิม

ตึ่ง!...ตึ่ง!....ตึ่ง!

“เอ๊ะ! เจ้า 2 คนนี้” คุณยายยังคงดุไม่เลิก คุณตายังนั่งขำอยู่ข้างๆ

พอถึงพื้นได้ ก็กระโจนกอดทั้งพ่อและแม่ สลับกัน

“เอ๊าๆ เดี๋ยวแม่ล้ม ตัวไม่ใช่เล็กๆ แล้วนะ”

“ทำไมไม่เห็นบอกก่อนเลยครับว่าจะมา” พอพูดขึ้นพร้อมกัน ไอ้น้องมันยื่นมือไปผลักพี่ หาว่าพูดเลียนแบบ

“บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิครับ หืม”

“โธ่ Dad ถ้าพวกผมไม่กลับมาก็ไม่ได้เจอใช่มั๊ย?”

“ไม่กลับมา แม่กับ Dad ก็พาคุณตาคุณยายไปหาอยู่ดี”

พูดแล้ว Dad กับ แม่ก็โอบฝาแฝดจะเดินขึ้นเรือน 2 คนชะงักเท้า หันมามองหน้ากัน

“แม่กับ Dad ขึ้นไปก่อนนะครับ”

“จะไปไหนกันละลูก”

“เซอร์ไพรส์ครับ!!” พูดพร้อมกัน แถมยังหันไปหอมแก้ม แม่ละ Dad พร้อมกันอีกต่างหาก
ว่าแล้วฝาแฝดก็วิ่งไปทางเรือนครัว

“ลูกลิงนี่ ไม่โตกันจริงๆเลยนะคะ ป่วนยังไงก็อย่างนั้น”

“ก็คุณอยากมีลูกเป็นผู้ชายเองนี่ หืม” แม่กับ Dad ก็พากันขึ้นบ้าน สวัสดีคุณตาคุณยาย แล้วก็นั่งคุยกันไปพลางๆ
เห็นฝาแฝด ถือถาดขึ้นมาวางใกล้ๆ ในถาดมีพวงมาลัย 7 พวง

“สงกรานต์รึยังละลูก”

“โธ่ แม่ อย่าแซวสิครับ กว่าน้ำจะตกลงทำได้ นิ่งนะกล่อมแล้วกล่อมอีก”

“ตลกละๆ อย่ามาแฉ!” บ่นน้องพร้อมมือที่ผลักหัวอีกที คนน้องก็ยกมือลูบหัวป้อยๆ

“เอ๊าๆ ตีกันอีกแล้ว ลูกลิงเนี่ย พร้อมรึยังคะ เดี๋ยวพวงมาลัยเฉาหมด”

ว่าแล้วฝาแฝดก็หยิบพวงมาลัย ขยับไปกราบที่ตัก Dad พร้อมพวงมาลัย

“ขอให้ Dad แข็งแรง มีความสุขมากๆ ขอบคุณที่เลี้ยงดูพวกผมมาอย่างดีครับ” Dad ยกมือลูบหัวฝาแฝดน้ำตาคลอ

“ Dad ก็ขอบคุณที่ลูกเป็นเด็กดีนะครับ” ฝาแฝดสบตากันเล็กน้อย กราบแล้วก็ขยับตัวเข้าไปกอดซ้ายขวา

แล้วก็ขยับมากอดแม่

“ขอบคุณลูกมากนะครับ ที่ช่วยดูแลคุณตาคุณยายแทนแม่”

“ก็แม่กับ Dad ต้องทำงานนี่ครับ” แม่กอดฝาแฝด ลูบไปตามตัวขึ้นลง

“โอ๊ะ! ของแม่กับDadครับ” น้ำนิ่งพูด พร้อมขยับมือหยิบพวงมาลัยให้แม่กับ Dad

แม่ขยับเข้าไปกราบคุณตา

“ขอให้คุณพ่อแข็งแรง อยู่กับลูกและหลานไปนานๆ นะคะ ขอบคุณที่เลี้ยงดูลูกหลานเป็นอย่างดี” คุณตายกมือลูกหัวแม่

“ขอบคุณลูกที่เป็นคนดี มีลูกลิง 2 ตัว มาให้พ่อปวดหัวทุกวัน”

“โธ่… คุณตา” แล้ว Dad ก็ขยับกราบคุณตา

“ขอให้คุณพ่อแข็งแรง และก็ขอบคุณคุณพ่อมาก ที่เมตตาผม และลูกๆ”

ฝาแฝดขยับกราบคุณตาอีกครั้ง พูดขึ้นพร้อมกัน

“ขอบคุณคุณตาที่เลี้ยงดูพวกผมนะครับ ขอให้คุณตาแข็งแรง อยู่กับพวกผมไปนานๆ “

“โอ๊ย! ปวดหัวตายเลย ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ ตาปวดหัวทุกวัน สงสัยจะปวดหัวจนตาย เป็นเด็กดีนะลูก ตาขอบคุณที่หลานเป็นเด็กดี” เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นจากทุกคน ฝาแฝดขยับไปกอดคุณยาย

“เอ๊า! พวงมาลัยอีก 2 พวงละลูก”

“โอ๊ะ!!” ฝาแฝด คลายอ้อมกอดคุณยาย แล้ววิ่งถลาไปตามแม่เพ็ญ กับแม่ภามา พร้อมเสียงโวยวาย

“ดู๊ ดู ลูกลิงนี่ เพิ่งจะดุอยู่เมื่อกี้ วิ่งบนเรือนอีกแล้ว เรือนจะพังเอา”

“โอ๊ยๆ คุณหนู ช้าๆ ผ้าถุงจะหลุด”

ส่งพวงมาลัย ให้ แม่เพ็ญ และแม่ภา

“ขอบคุณคุณท่านที่เมตตาเรา 2 คนนะคะ”  หากแม่เพ็ญ และแม่ภา กราบลงที่พื้น แต่คุณตาเอามือรองรับไว้

“ขอบคุณทั้ง 2 คนที่ช่วยคุณยายดูและบ้าน และฝาแฝดนะ”

“อาศัยอยู่บ้านคุณท่าน ก็ต้องปวดหัวเหมือนคุณท่านนั่นละคะ”

สุดท้ายฝาแฝดก็หันหน้าหากัน น้ำนิ่งพูดขึ้นก่อน

"ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันนะ"

"อื้อ ขอบคุณเหมือนกันนะ แต่ถ้าเบื่อมากๆ จะหนีออกจากบ้านละ"

จบคำ เสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีกครั้ง

บ้านเรือนไทย มีเสียงหัวเราะที่มีความสุข เมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าในวันครอบครัว

‘หากแต่วันครอบครัวของฝาแฝดนั้น ไม่ใช่วันที่บอกรักกัน แต่เป็นวันขอบคุณที่ทุกคนยังอยู่ด้วยกัน



-----------------------------TBC-------------------------------------------------
สุขสันต์วันพ่อนะคะ :mew1:




สำหรับใครที่ติดตามเรื่องพาร์ทปกติอยู่ มีคนทายถูกด้วย คนเขียนดีใจมาก อิอิ

ระหว่าง เพียว และ ตาน้ำ มีเงื่อนไขข้อตกลง ตามที่เกริ่นไว้ ว่าเพียวเป็นคนสร้างข้อเสนอเอง
 
ส่วน พอส และ ตาน้ำ คือ พอสชอบตาน้ำ แต่ตัวเองก็ไม่อยากที่จะขยับใกล้เพราะกลัวกระทบกับใจของน้ำนิ่งที่เห็นเพื่อนตัวเองเป็นแฟนกับฝาแฝด กลัวว่าน้ำนิ่งจะคิดว่าตัวเองโดนทิ้งอยู่คนเดียว แต่พอรู้ว่าเพียว มีอะไรกับตาน้ำ แถมยังแสดงออกว่าชอบน้ำนิ่ง พอสจะออกแนวเคือง คือทำกับตาน้ำแบบนี้ไม่ได้ ไม่ยอม ตัวเองก็เลยทำตามใจตัวเองบ้าง

ตาน้ำชอบใคร  มาลุ้นกันเถอะ

ส่วนน้ำนิ่ง กับทิม
น้ำนิ่งได้ยากคะ บอกเลย พี่ทิมไม่เริ่มก่อน อดทนอดกลั้นกันน้องมาก เพราะตาน้ำสั่งไว้ ต้องให้น้ำนิ่งปรับสภาพตัวเองให้ได้ก่อน

ส่วนเรื่องของฝาแฝดที่มีอะไรกัน เดี่ยวมีเฉลยในตอนต่อๆไปว่าเพราะอะไรคะ


อยากให้ติดตามกันไปเรื่อยๆนะคะ ทุกคนมีแผน ฮ่าๆ
นี่ไม่ได้สปอยเลยนะ ><"

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด ขอบคุณคอมเม้นท์ และคนอ่าน ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-12-2016 10:37:26 โดย kiiro »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไร้ท ต่อไว ดีใจมากๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ครอบครัวแฝดเปี่ยมสุขจริงๆ
แม้แต่แม่เพ็ญ แม่ภา คนในบ้าน ก็ได้รับความรักถ้วนทั่ว
แสดงว่าแฝด มีจิตใจอ่อนโยน ได้รับการอบรมมาดี
รอตอนต่อไป  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ mintmiko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หึ........ อ่านแล้วเดาได้ไม่ยากเลยว่าแฝดน้องจะรู้สึกยังไง ถ้ารู้เข้า แล้วแฝดคนพี่จะโดนน้องเทหรือไม่



ก็นะ โดนทั้งแฝดทั้งเพื่อนทรยศขนาดนี้แล้วอ่ะนะ พูดได้คำเดียว..... ทั้งคนพี่ ทั้งเพื่อนคือเห็นแก่ตัว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
ทุกคนมีแผนหมด ...แผนร้ายสินะ!!!!!!!


เรายังคงชอบฝาแฝดอยู่แม้ว่าตาน้ำจะทำให้ผิดหวังไปแล้วกับความสัมพันธ์ลับๆนั่น




ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
          แฝดพี่แฝดน้อง           ปรองดองสุขสันต์
พี่น้องร่วมกัน                        ทำร้านกาแฟ
          ร้านแฝดฮอตนัก          คนรักตามแห่
มากินกาแฟ                          แชร์ถ่ายส่งไลน์
          ขนมมีหลายหลาก        ฝากขายได้ใจ
น้ำนิ่งเพิ่มใหม่                       ขนมไทยก็มี
          เพียวพอสพี่น้อง          พ้องรักแฝดพี่
ตาน้ำยินดี                            เซ็กส์มีทั่วถึง
          ทิมมองน้ำนิ่ง              รักจริงลึกซึ้ง
ตาน้ำคำนึง                           ให้ทิมดูแล             
                     :L1: :L1: :L1:
                :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 11 รอยยิ้ม

ทิมเดินนำน้ำนิ่งขึ้นมาจนถึงห้องตัวแล้วเปิดประตูให้อีกฝ่ายเดินเข้าไปก่อน
น้ำนิ่งยืนนิ่งอยู่สักพัก แล้วหมุนตัวซ้าย ขวา ราวกับสำรวจห้อง พร้อมๆ กันสร้างความเคยชินให้ตัวเองว่าอะไรอยู่ตรงไหน
จนเจ้าของห้องต้องเอ่ยปากบอก

“โทษทีนะ ห้องเล็กไปหน่อย” น้ำนิ่งส่ายหน้าเป็นคำตอบ ราวกับจะบอกว่าไม่เป็นไร

ห้องของทิมไม่ใหญ่มาก เพราะคิดว่าอยู่คนเดียว เดินเข้ามาขวามือเจอโซฟา ตั้งตรงข้ามกับทีวี อยู่ริมประตู เยื้องไปด้านซ้ายเป็นห้องนอน เยื้องไปด้านขวา เป็นส่วนของครัว และออกไปจนถึงระเบียงที่เดินยาวจนถึงฝั่งห้องนอนได้
ทิมเคยคิดว่ามันก็อยู่ได้ หากแต่ตอนนี้มีอีกคนมานั่งอยู่ ทิมกำลังคิดว่ามันเล็กไปรึป่าว ก็คอนโดของฝาแฝดนะหรูจะตาย
เอาจริงๆ ที่บ้านเค้าก็ซื้อได้ แต่ไม่รู้จะเอามาทำไมใหญ่โต ขี้เกียจทำความสะอาด

“เอ่อ… น้ำนิ่งหิวมั๊ย มีขนมนะ” น้ำนิ่งมองคนพูดแล้วยิ้มกลับ

ทิมเริ่มคิดว่า ตัวเองเริ่มอ่านอาการของอีกคนได้อย่างเข้าใจ หากเพียงยิ้มตอบ พยักหน้า หรือส่ายหัว นั่นคือการตอบรับ หากคิ้วขมวดนั่นคือสงสัยและไม่แน่ใจ

น้ำนิ่งนั่งลงบนโซฟาที่ติดกับกำแพงริมประตู ทิมส่งจานขนมมาวางให้ เห็นขนมแล้วก็เงยหน้ามองอีกฝ่าย ‘ขนมไทย’

“ เอ่อ… ทิมชอบกินอะ อร่อยดีนะ แถมที่อร่อยๆก็หากินก็ยากมากๆ”   ทิมเห็นอาการสงสัยก็เลยรีบตอบอย่างเขินๆ  แล้วนั่งลงที่ริมโซฟาอีกฝั่ง ยืนรีโมททีวีส่งให้อีกคน ก็ได้รอยยิ้มกลับ

“อ่ะ! กะทิ ” เจ้าของห้องเอ่ยทักแมวพันธุ์ บริติช ชอร์ตแฮร์ ของตัวเอง ที่เดินมาแล้วปีนขึ้นไปนอนเอาหัวพาดบนตักของน้ำนิ่งราวกับอยากจะทำความคุ้นเคย ทิมอยากจะพุ่งไปคว้าตัวมาแต่ก็ชะงักไว้เพราะกลัวน้ำนิ่งจะตกใจอีก แต่คนที่เป็นแขกตกใจกับแมวเพียงเล็กน้อยแล้วก็อุ้มขึ้นมาไว้บนตักแล้วลูบเล่นอย่างเบามือ

“ชื่อ ‘กะทิ’ หรอ “ เพราะไม่รู้ว่าพูดกับคนหรือแมว ทิมจึงไม่ได้ตอบ จนอีกฝ่ายเงยหน้าหันมามอง  จึงรู้ว่าเสียงที่เอ่ยมาเบาๆนั้นถามตัวเอง

“เอ่อ…. ใช่ๆ ชื่อกะทิ จะได้เข้ากับทับทิม”

น้ำนิ่งไม่เข้าใจคำตอบของอีกคนชัดเจน จึงยังคงมองหน้าด้วยความสงสัย

“คือ… คือว่า ชื่อทิมอะ มาจากทับทิมกรอบ แม่ทิมชอบกิน แล้วทับทิมกรอบมันใส่น้ำกะทิใช่มั๊ย ก็นั่นละที่มา”

เห็นอีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจในคำตอบของตัวก็โล่งใจ น้ำนิ่งนั่งลูบเจ้ากะทิไปมาอย่างแผ่วเบา พร้อมรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า


รอยยิ้มที่ทิมเฝ้ามองมาตลอด หากเพียงวันนี้ไม่คิดว่าจะได้มองเห็นใกล้ๆ มากกว่าการเดินสวนกัน


ครั้งแรกที่ได้เจอตั้งแต่ปี 1 คือเดินสวนกันที่โรงอาหารกลาง ทิมชอบไปกินข้าวที่นั่น เพราะมันมีขนมไทย
เดินเจอคนหน้าเหมือนเพื่อนตัวเองก็ตกใจ เพราะตอนนั้นยังไม่รู้ว่ามันมีฝาแฝด ครั้งแรกๆ ทิมก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปเจอหรอก แต่การที่กลับจากโรงอาหารกลางจะเดินไปคณะนั้น ก็สวนกันตลอด หลังจากที่น้ำนิ่งรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนของตาน้ำ ทิมก็ตั้งใจไป
ทุกๆวันที่เดินสวนกัน ทิมก็ได้รับรอยยิ้มจางๆ กลับมาเป็นการทักทาย ไม่มีการหยุดคุยใดๆ ทิมก็ได้แต่ส่งยิ้มตอบกลับ
 
หากแต่ทิม ไม่กล้าที่จะขยับเข้าไปใกล้ ด้วยเพราะอีกคนเป็นฝาแฝดของเพื่อนตัวเอง และกลัวจะโดนมองว่าคบตาน้ำเพราะเข้าหาน้ำนิ่ง จึงได้แต่เฝ้ามองรอยยิ้มนั้นตลอดมา

พร้อมคำถามที่ทิมเคยคิดหาคำตอบมานาน ‘ คนอะไรวะ อยู่กับพี่ อยู่กับเพื่อนตัวเอง โลกโคตรสดใส แต่พออยู่คนเดียว สายตาสดใสนั้น กลับประหม่า เหมือนโลกเป็นสีเทา ไม่พูดคุยกับคนอื่น คล้ายกลับหวาดกลัวคนรอบข้างอย่างนั้นนะ ‘ แต่คำตอบนี้ทิมก็ได้รู้แล้ว แม้ว่าตัวเองจะยังไม่รู้แน่ชัดในที่มาของอาการนี้ แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร เขาจะทำให้น้ำนิ่งหายจากอาการแบบนี้สักวัน

ใจนึกย้อนไปถึงครั้งแรกที่ได้คุยกันยาวๆ คือวันที่น้ำนิ่งมาสอบเทสแทนตาน้ำ เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายชอบไปโรงอาหารกลาง ทิมจึงเข้าไปชวน ตอนนั้นทิมเองก็จำได้ว่า เห็นน้ำนิ่งตัวสั่น แต่คิดเองว่าอาจจะหนาว หรือไม่สบาย ไม่คิดว่าจะเป็นความสั่นที่ต้องตอบคำถามเขา


‘ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องพูดกับใคร เป็นแบบนี้ก็น่ารักดีนะ’


“แล้ว…กะทิ อยู่ยังไงอะทิม” เสียงเล็กๆ ส่งมากระทบโสตประสาทอีกครั้ง

“ห๊ะ! ห๊ะ? ว่าไงนะ”

“เราถามว่า ตอนทิมไปเรียน กะทิอยู่ตัวเดียวหรอ?”

“อ๋อ… ใช่ๆ ให้ข้าว ให้น้ำไว้ นั่นไง ดีหน่อยกะทิมันไม่ค่อยซน เลยไม่ค่อยหนีออกไปเที่ยว” พูดพลางมือชี้ไปยังอุปกรณ์แมว

“โหย น่าสงสารจัง” ทิมงงในคำพูดของอีกคน นี่บ่นกับคนหรือบ่นกับแมวละ ว่าแล้วก็แหย่เล่นไปสักหน่อย

“สงสารก็มาเล่นด้วยบ่อยๆสิ ดูท่ากะทิจะชอบน้ำนิ่งนะ” น้ำนิ่งเงยหน้ามองทิม สายตา 2 คู่ส่งประสานกัน เพียงแป๊ปเดียว น้ำนิ่งก็เป็นฝ่ายหลบตาลง

“เดี๋ยวไว้ลองขอน้ำดูนะ” คำนี้เอ่ยขึ้นมาเพียงแผ่วเบา แต่ทว่าทั้งห้องมันเงียบมาก ทิมจึงได้ยินชัดเจน พร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

“ถ้าน้ำไม่ให้มา ทิมพากะทิไปเล่นด้วยก็ได้นะ”  คนฟังเงยหน้าขึ้นมามองอีกที พร้อมส่ายหัว

“ทำไมละ”

น้ำนิ่งถอนหายใจเบาๆ ก็ไม่รู้ว่าจะให้พาไปที่ไหน ไปที่ร้านมันก็ไม่ค่อยดีเพราะขายของกิน จะไปที่คอนโดก็กลัวตาน้ำบ่น

“มาเล่นที่นี่ละ ทิมจะได้ไม่ต้องขนอุปกรณ์ไป” ก็รู้ ว่าคนเลี้ยงแมวมันอุปกรณ์เยอะแยะ ไม่เหมือนเลี้ยงหมานี่หน่า

“ขอบคุณนะ” ทิมตอบพร้อมส่งรอยยิ้มที่กว้างขึ้นกลับ น้ำนิ่งพยักหน้า

“อือ”


นั่งมองแขกผู้มาเยือนเล่นกับแมวตัวเองไปพลางๆ เดี๋ยวลูบหัว ลูบหาง  เกาคาง ก็พาลจะหมั่นไส้ อิจฉาแมวขึ้นมาซะงั้น
ก็ดูเอาเถอะ ขนาดเจ้าของแมวมองมาตั้งนาน ยังไม่เคยได้เข้าใกล้ แตะนิ้วโดนไปคราวก่อนก็ตัวสั่น ยิ่งไอ้เพื่อนรักมันสั่งไว้ ก็ยิ่งไม่กล้าเข้าใกล้ไปอีก  นั่งมันกันคนละมุมโซฟาอยู่เนี่ยละ


หมั่นไส้แมวจริงเว้ย อดข้าวซะดีมั๊ยกะทิ!


หลับตาแกล้งนอนดีกว่า นั่งมองนานๆ กลัวใจจะทนไม่ไหว ต้องเข้าไปสัมผัสรอยยิ้มนั้นเข้าให้ ไอ้เพื่อนคงตีหัวแตก!
ว่าแล้วทิมก็ไถลตัวเอนลงกับโซฟา กึ่งนั่งกึ่งนอนหลับตา


เมื่อกะทิเห็นเจ้าของเอนตัวนอน ก็กระโดดลงจากตัวน้ำนิ่งไปนอนบนตัวเจ้าของแทน ด้วยความเผลอหรืออะไรก็ตาม น้ำนิ่งขยับตัวเข้าไปหาคนเอนตัวนอนบนโซฟา โดยมือข้างนึงเท้าลงกับเบาะที่เว้นว่างของโซฟา ขยับหน้าเข้าไปมอง ไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ห่าง มืออีกข้างนั้น ยกไล้ไปตามกรอบหน้า เหมือนจะสัมผัสโดน แต่ก็ไม่โดน อย่างที่ทำกับฝาแฝด

ตัวเองกำลังสั่นเล็กๆ จึงรู้ถึงจังหวะลมหายใจที่ไม่ปกติ  ตื่นเต้นเพราะกลัวคนหลับจับได้ว่าแอบเข้าใกล้  และก็กลัวว่าจะตัวเองโดนรังเกียจ  ในใจพลางคิด   


‘รอยยิ้มที่เคยเห็น มาจากใบหน้านี้ รอยยิ้มที่มีไม่ได้ทำให้ใบหน้าคมดูหวานขึ้น เพียงแต่มันทำให้ดูอบอุ่นมากกว่า หูที่เจาะใส่จิวยิ่งทำให้เข้ากับใบหน้านั้น คนอะไร ขนาดหลับ ยังมีความสุข หน้าตาดูเหมือนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ดีจังเลยนะ’


แอบมองคนแอบหลับอยู่นาน โทรศัพท์สั่นขึ้น ก็ตกใจจนสะดุ้ง

ทิมได้ยิน ก็ลืมตาขึ้นมามอง น้ำนิ่งหันหน้าหนีไปอีกด้าน จึงไม่เห็นรอยยิ้มของคนแอบหลับส่งยิ้มตามมา แต่คนแอบหลับเห็นคนหันหน้าหนีหูแดง

คุยเสร็จก็หันหน้ามาบอก

 “น้ำจะเอาของไปเก็บห้องก่อน เดี๋ยวจะมารับ” นี่ก็อีกคน อยากจะรู้จริงๆ ไอ้เพื่อนตัวดีมันหายไปไหนมา 3-4 ชั่วโมง

“อาห๊ะ! จะรอมั๊ย? ถ้าไม่อยากรอทิมไปส่งมั๊ย” น้ำนิ่งส่ายหน้าก่อนตอบ

“เดี๋ยวทิมจะกลับลำบาก” ได้ยินแล้วก็ยิ้ม ไม่คิดว่าน้ำนิ่งจะเป็นห่วงตัวเอง

“แล้วแต่นะ อยู่นี่ไม่อึดอัดใช่ป่าว” คนฟังส่ายหน้า แล้วส่งยิ้มแทนคำตอบ



แอบมองเจ้าของห้องแล้ว น้ำนิ่งได้แต่คิด ‘ทำไมทิมไม่นอนต่อแล้วละ’






ตาน้ำให้พอสขับรถมาส่งที่คอนโด เพื่อขึ้นไปอาบน้ำ แล้วไปส่งที่คอนโดทิม ได้ยินดังนั้น พอสก็แปลกใจ

“เพื่อนมึงนะ จมูกไวยังกับหมา ถ้ารู้ว่ากูไปฟาดกะใครมา มันเอากูตายแน่”

“แล้วที่ผ่านๆมามึงทำไงว่ะ”

“ก็กลับบ้าน มาอาบน้ำก่อนมันจะกลับมาจากร้าน”

“เคยไม่ทันมั๊ย”

“ไม่เคยหรอก กูเทพ”

“โธ่… พ่อเทพ กูจะคอยดูเหอะ แล้วนี่มึงจะยังไง จะปล่อยมันแล้ว มันยังไม่หายดีเลยนะเว้ย”

“ทิมเป็นคนดี มึงก็รู้ว่ากูจะคบใครกูต้องมั่นใจ อีกอย่างกูว่าน้ำนิ่งมันก็สนใจทิมอยู่ มึงต้องช่วยกูนะพอส” พูดจบก็ส่งมือเอื้อมไปจับมือของพอสที่จีบเกียร์อยู่ พอสหันไปสบตา เพราะงงกับอาการนี้เล็กน้อยปากอยากจะเอ่ยด่า


‘เป็นชู้กันนี่มันต้องหวานซึ้งขนาดนี้มั๊ยละมึง’ ทำไมต้องทำให้หวั่นไหววะ


“อ…เออ จะให้ช่วยอะไรละ” มือที่ยังคงจับอยู่ลูบไปมา ทำให้พอสหน้าขึ้นสี ตาน้ำเห็นอาการแล้วก็ต้องแอบยิ้ม


 ‘เด็กน้อยเอ๊ย เมื่อกี้ผ่านมากี่รอบแล้วยังเขิน”


“ไม่รู้วะ กูก็แค่คิดว่า พามันมาเจอกันมากขึ้น น้ำนิ่งจะให้หายประหม่าทิม”

“อืม… กูเข้าใจละ”

ถึงคอนโดทิมก็เข้าจอดที่จอดรถ ให้ตาน้ำลง ก่อนลงผู้โดยสารก็ขยับมาหอมแก้มคนขับ

ฟอด!

“เฮ้ย!! ไอ้เหี้ยนี่”

“เขิน หรอ เมีย…. แค่นี้เขิน ที่เมื่อกี้ 4-5 รอบไม่เห็นจะเขิน”

“มึงรีบๆลงไปเลย”

ฟอด! ว่าแล้วก็คว้าคอมาหอมอีกที

“ถึงห้องแล้วบอกกูด้วย” ก่อนตาน้ำจะลงจากรถ ก็ได้เห็นรอยยิ้มของคนที่เขาชอบมองมากนาน รอยยิ้มที่ทำให้โลกของเขาสดใส พร้อมสีหน้าขึ้นสีแดงถึงใบหูของอีกคน

“เออ! ไปได้แล้ว”

“ขอจูบอีกที” ว่าแล้วก็คว้าคอมาจูบ ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสัมผัสความหวานในโพรงปากของอีกฝ่าย

“อื้อ…..” เสียงครางของพอส พร้อมมือที่ยกมือขึ้นทุบที่แผงอกของอีกคน

“ไปจริงๆแล้วนะ” ถอนปากออกหากเพียงปลายจมูกยังคงแนบชิดกัน

“อือๆ … ไปได้แล้ว ไอ้นิ่งรอนาน เสร็จทิมกูไม่รู้ด้วยนะ”

“หึ! คนที่จะเสร็จนะ มึงกับกูต่างหาก ไปละนะเมีย” พูดจบก็เปิดประตูลงไป ก่อนที่คนขับรถจะด่าอีกรอบ


 ‘ไม่รู้ทำไม กับพอสแค่วันนี้วันแรก เขากับรู้สึกไม่พอ แต่กับอีกคน คิดแล้วก็เซ็ง’

อาจจะเป็นเพราะ พอสมีรอยยิ้มแบบที่เขาชอบ เวลามันอยู่กับน้ำนิ่งที่ไร โลกมันสดใสตลอด เหมือนพยายามจะทำให้น้ำนิ่งหายกลัวคนแปลกหน้า เห็นแล้วก็พลอยทำให้ยิ้มตาม มีความสุขไปด้วย


‘ต่างกับคนพี่ราวฟ้ากะเหว’


เพราะแบบนี้เมื่อพอสเข้ามาเสนอ เขาเองก็ไม่รอที่จะตอบสนองความต้องการ หากพียงมันผิดจากที่เค้าตั้งใจมากไปหน่อย
แต่ก็ช่างเหอะ พอสเข้ามาเองแบบนี้ก็ดี จะได้ไม่ต้องปวดหัวคิดวางแผนต่อๆไป เพียงแต่จะเหนื่อยกายมากขึ้นเท่านั้นเอง
เดินผิวปากไปพร้อมรอยยิ้มไปอย่างสบายใจ



‘หากครั้งนั้นพอสไม่ได้วิ่งเข้ามาช่วยน้ำนิ่งไว้พร้อมๆกัน ตาน้ำคงคิดว่าพอสเกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น และคงทำกับพอสแบบที่ทำกับเพียว’




-------------------------------------TBC----------------------------------------------

มาส่งยิ้มน้อยๆ รับต้นสัปดาห์ มีคนอิจฉาเจ้ากะทิซะแล้ว

ช่วงนี้คนเขียนอึนๆ สมองเบลอเล็กน้อย อาจจะไม่ละมุน
หรืออัพช้าบ้าง รอกันก่อนนะคะ อย่าเพิ่งทิ้งเค้านะ
เพิ่งเขียนเรื่องแรก มันอาจจะไม่ดีมากนะ แต่ได้กำลังใจมาเพียบเลย


ขอบคุณพื้นที่บอร์ด ขอบคุณคอมเม้นท์และคนอ่าน ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตอนน้ำนิ่งมีเรื่องร้าย
ตาน้ำ กับ พอส วิ่งเข้าไปช่วยน้ำนิ่งพร้อมกัน
ใครนะ ที่ทำร้ายน้ำนิ่งเป็นโรคจิตหรือเปล่านะ
รอ  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เปลี่ยนใจเชียร์ทิมดีไหม ? แต่ก็กลัวแฝดพี่น้อยใจ55

ยิ่งทิมเลี้ยงกะทิด้วย มันดูอบอุ่น ฉันแพ้ผู้ชายอบอุ่น

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 12 ครั้งต่อไป

“ครั้งหน้าขอไปห้องทิมอีกได้รึป่าว”

ฝาแฝดคนน้องนอนซบอยู่กับแผงอกพี่พูดขึ้น นอนกองกันอยู่ที่พรมหน้าทีวี หลังเอนพิงโซฟา ได้ยินคำที่น้องชายฝาแฝดพูดก็ถึงกับต้องถามกลับ

“หืม อยู่ได้หรอ โอเคใช่มั๊ย” น้ำนิ่งพยักหน้า

“อยากไปเล่นกับกะทิ” ได้ยินคำนี้ก็ต้องหันไปมองหน้าคนพูด เพราะต้องอยู่กัน 2 คน ก็เลยย้ายจากบ้านที่เคยอยู่ตอนมัธยม มาอยู่คอนโด แม่เพ็ญกับแม่ภา มาช่วยทำความสะอาดให้บ้าง แถมยุ่งๆเรื่องร้าน ก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน น้องก็คงเหงา

“ได้สิ น้ำให้ไปรึป่าว?”

“ได้สิ แล้วน้ำไปด้วยได้รึป่าว?” คนน้องขำ คนพี่ยกมือลูบไหล่ขึ้นลงไปเรื่อยๆ อย่างเคยชิน

“ได้สิ กะทิน่ารักนะ เชื่องด้วย เล่นได้สบายมาก”

จริงๆแล้ว เค้าเองมีคีย์การ์ดห้องทิม ทิมอยู่คนเดียว เขาขอไว้เพื่อทิมมีเหตุฉุกเฉิน หรือไม่สบายจะลงมาเปิดประตูคอนโดให้ไม่ไหว ไม่เหมือนกับอีกคนที่พยายามให้เขา

หากแต่วันนี้ ตาน้ำเลือกที่จะรอที่รถ เพื่อให้ทิมใช้เวลากับน้ำนิ่งในช่วงที่ต้องเดินลงมาส่ง

“อืม…ดีใจนะที่ชอบกะทิ” แต่จะชอบเจ้าของรึยัง เขาเองยังไม่กล้าถาม คงต้องรอให้เจ้าตัวพูดเองจะดีกว่า

“นิ่งว่า น้ำก็ต้องชอบเหมือนกัน”

“งั้นไปหาแมวมาเลี้ยงกันมั๊ย?”  คนน้องส่ายหน้า

“ไม่มีเวลาดูแลก็สงสารมัน ขนาดทิมทิ้งกะทิอยู่ที่ห้องยังน่าสงสารเลย” 2 ครั้งแล้วที่ได้ยินชื่อเพื่อนรักตัวเองออกจากปากฝาแฝด
ได้ยินอย่างนี้ ตัวเองก็ก็เริ่มใจหาย แม้ว่าตาน้ำเองจะมีสัมพันธ์ทางกายกับเพียว แต่ก็ไม่เคยเอาใจไปผูกไว้ แต่วันนี้ เขาทั้งคู่กำลังรู้สึกดีกับคนอื่น






นึกย้อนกลับไปถึงในช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น
อยากรู้ อยากลอง อยากที่จะเรียนรู้ในหลายๆเรื่องของผู้ใหญ่
ใครๆก็บอก ว่าเขาสองคนเป็นฝาแฝดที่เหมือนจนแทบจะหาความต่างไม่เจอ นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนสนิทที่แยกออก
แต่พวกเขาคิดว่า เขาไม่เหมือนกันเลย

เมื่อครั้งปิดเทอม พวกเขาต้องย้ายจากบ้านที่ กทม. กลับไปอยู่ที่ อยุธยา เพราะคุณตาคุณยายอยากให้กลับไปใช้ชีวิตที่นั่นบ้าง
ชีวิตปิดเทอม ก็อยู่กัน 2 คน มีเพื่อนเล่นแถวๆนั้นบ้าง ก็ไม่ได้สนิทกันมากมาก นอนเล่นริมน้ำ ขลุกกันอยู่ในสวน ชีวิตที่เรียบง่าย
ขณะที่สองคนกำลังเดินเล่นในสวน ก็ได้ยินเสียงๆ นึง ที่ไม่คุ้น ดังมาจากสวนอีกฟากที่ติดกัน
เดินตามเสียงไป ก็เห็นหนุ่มสาวกำลังพลอดรักกันที่โคนต้นไม้  ยืนจ้องมองกันอยู่ซักพัก ก็พากันวิ่งกลับขึ้นบ้าน เข้ามาในห้องของตัวเอง นั่งหายใจหอบกันทั้งคู่ แล้วก็หัวเราะใส่กัน จนกลายเป็นจ้องตาใส่กัน คนพี่ก็พูดขึ้น


“น้ำอยากรู้ ว่าร่างกายเราเหมือนกันมั๊ย นิ่งอยากรู้บ้างป่ะ” น้ำนิ่งแม้จะสงสัยในคำพูดของฝาแฝดตัวเอง แต่ก็พยักหน้าเพราะอยากรู้เหมือนกัน

“อือ อยากรู้เหมือนกัน โตมาแล้วคนเรามันต่างกันยังไง แถมฝาแฝดแบบเราด้วย ตั้งแต่ขึ้นประถมมาก็ไม่ได้อาบน้ำด้วยกันเลย”

“งั้นถอดเสื้อ” บอกน้อง แล้วตัวเองก็ขยับถอดตาม ต่างคนต่างมองร่างกายของอีกฝ่ายสลับกับร่างกายของตัวเอง

“ถอดกางเกงมั๊ย” คนน้องพูดพลางขยับถอดกางเกงออกเหลือแต่กางแกงใน

“อืม...ก็ไม่เห็นจะต่างกันยังไง งั้นถอดกางเกงใน” ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือร่างกายเปลือยป่าว

เมื่อต่างคนต่างเห็นร่างกายที่เปลี่ยนไปของอีกฝ่าย ก็ขยับเข้าหากัน ขาที่นั่งขัดสมาธิอยู่ก็อ้ากว้างยกขาน้องมาพาดซ้อนขาตัวเอง มือยกขึ้นสัมผัสร่างกายกันและกัน ไล้ตั้งแต่กรอบหน้า ลงไปแผงอก เลื่อนลงไปจนถึงจุดกลางลำตัว เมื่อมือของอีกฝ่ายเข้ากอบกุมของตัวเองต่างคนก็ต่างรู้สึกได้ถึงความวาบหวาม

“ทำมั๊ย?” ตาน้ำเป็นฝ่ายพูดขึ้น เมื่อคนน้องเห็นพี่อยากทำก็ทำตาม

“อือ เอาดิ” มือนึงยับขึ้นลงตามแก่นกายของอีกฝ่าย อีกมือยกบีบเข้าที่ไหล่ตามความเสียว

“อ๊ะ! น้ำ”

“อื๊อ… อย่าดัง”

“ก…ก็มันเสียว อ๊ะ! น้ำ เบาๆ”

“อื๊อ…น้ำนิ่ง อ๊า…”  ใช้มือช่วยกันอยู่ไม่นาน ต่างคนก็ต่างปลดปล่อยออกมา จ้องตาพร้อมส่งยิ้มให้กัน

ก้มหน้าซบลงที่บ่าของอีกคน พลางหายใจหอบ ก่อนคนพี่จะพูดขึ้น

“ดีป่ะ”  ได้ยินคำถาม น้ำนิ่งก็พยักหน้า

“ครั้งหน้าทำแบบนี้กันอีกมั๊ย?” 

“ได้หรอ?”

“ทำไมจะไม่ได้ละ เราเป็นพี่น้องกันนิ ไม่ใช่คนอื่นซักหน่อย แต่อย่าบอกใครนะ เดี๋ยวน้ำโดนดุหาว่ารังแกนิ่ง” น้ำนิ่งขำ

 “ถ้าน้ำรังแกเรา เราก็คงรังแกน้ำด้วยละ”


แล้วความต้องการปลดปล่อยของฝาแฝดครั้งต่อๆไป ต่างฝ่ายก็ต่างใช้มือช่วยกัน






“น้ำ… วันนี้นอนด้วยได้ป่าว” ตาน้ำสะดุ้ง พาตัวเองกลับมาจากเรื่องที่นึกถึงเมื่อครู่  ขยับตัวขึ้นคร่อมอีกฝ่าย

“เป็นไรตัวแสบ หืม ปกติไม่เห็นจะเคยถาม” พูดแล้วก็ก้มหน้าเอาปลายจมูกชิดกับของอีกคน ส่ายไปมา

“ก็ถาม เห็นวันนี้เหนื่อยๆ กลัวว่าเดี๋ยวจะกวน นอนไม่สบาย” ตาน้ำชะงักเล็กน้อยกับคำพูดที่ได้ยิน ใจกลัวว่าน้องจะมองร่างกายของตัวเองออก

“รู้ได้ไงว่าเหนื่อย หืม….” พูดแล้วก็จูบไซร้เข้าไปที่ใบหู ส่งลิ้นร้อนไล้วน จนคนโดนสัมผัสได้ยินเสียงเปียกอย่างเคย

“ก็เห็นวุ่นๆ นี่ ไปมหาลัย ไปซื้อของ ต้องวนกลับไปมหาลัยอีก แล้วงานเสร็จรึยัง ” ได้ยินแล้วก็ขำ พลางโล่งใจ มือที่สอดเข้าไปในชายเสื้อลูบขึ้นมาจนเสื้อเปิดมาถึงแผงอก เลื่อนริมฝีปากตัวเองสัมผัสกับตุ่มไตที่แข็งขึ้น

“อื๊อ…น้ำ อย่าแกล้งสิ”

“ไม่ได้แกล้งซะหน่อย ทำเลยต่างห่าง” พูดแล้วก็เกี่ยวกางเกงของอีกฝ่ายลงมา พร้อมสอดนิ้วเข้าไปทางช่องทางด้านหลัง

“อ๊ะ...น้ำ”

“ว่าไง  อื๊มม….”

“รอบเดียวนะ เดี๋ยวน้ำเหนื่อย”

ได้ยินแล้ว ตาน้ำก็รั้งขาฝาแฝดตัวเองขึ้นมาเกี่ยวไว้กับแขนพร้อมดันร่างกายตัวเองเข้าจนแนบสนิท

“อ๊า….น้ำ” “อ๊า…..นิ่ง” เสียงครางดังขึ้นพร้อมกับขาที่เกี่ยวพันกันของทั้งคู่

ไม่รู้ทำไมตาน้ำไม่รู้สึกเหนื่อย ทั้งที่มีอะไรกับพอสตั้งหลายรอบ จะว่าเค้าไม่อิ่มจากพอสก็ใช่ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะมาทำกับน้ำนิ่งต่อ ก็มันเหมือนกันที่ไหนละ คนละคนกันชัดๆ ร่างกายก็คนละแบบ คนละอารมณ์ น้ำนิ่งกับพอสให้ความรู้สึกต่างกันมากมาย
คนนึงคือร่างกายที่เค้าเคยชินมานานด้วยความรัก อีกคนคือร่างกายที่เค้าโหยหาและเฝ้ามองมาตลอด


แต่หากครั้งนี้ คงจะเป็นเพราะในใจคิดว่า  “ครั้งหน้าจะไม่มีอีกแล้ว”




น้ำนิ่งเริ่มรู้สึกว่าตัวเองปรับตัวเข้ากับทิมได้บ้างแล้ว ความกลัวและความอึดอึดที่เคยมีกับทิมก็ลดลงบ้าง
จากที่เคยเดินสวนกันทุกวันที่แถวโรงอาหารกลาง ก็นั่นแหละเขาเคยแปลกใจว่าทำไมทิมถึงมาที่นี่ วันนี้ก็ได้รู้คำตอบว่าทิมชอบมากินขนมไทย น้ำนิ่งก็แค่รู้สึกแปลกที่ได้ยิน

‘ทิมชอบขนมไทยเหมือนกันเลย’

รอยยิ้มที่คอยมองหาตลอด หากเพียงวันนี้ไม่คิดว่าจะได้มองเห็นใกล้ๆ มากกว่าการเดินสวนกัน
แม้ไม่กล้าที่จะเข้าหาอีกฝ่าย ด้วยความรู้ว่าตัวเองไม่ปกติกับคนแปลกหน้า แต่ครั้งที่ไปสอบเทสแทนตาน้ำแล้วได้คุยกัน พยายามประคองตัวเองให้ไม่สั่นเทา ตอบคำที่อีกฝ่ายนึงถามมาให้เป็นปกติที่สุด

น้ำนิ่งก็แค่คิดว่า ครั้งนั้นก็ดีมากพอแล้ว ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้อยู่กับทิมสองต่อสอง

เขาขอตาน้ำไปห้องทิมครั้งต่อไปๆ เพราะอยากจะไปเล่นกับกะทิ ตาน้ำเองก็ดูไม่แปลกใจมากต่างจากที่เขาคิดไว้
นอนกองคุยกันอยู่หน้าทีวี ก็โดนอีกคนขยับขึ้นคร่อม  ตอนที่เขาขอนอนด้วยที่ชั้นล่าง

“เป็นไรตัวแสบ หืม ปกติไม่เห็นจะเคยถาม” ก็เห็นช่วงนี้มันเหนื่อยๆ ไหนจะช่วยเพื่อนทำงาน ไหนอาจารย์จะให้เข้าไปช่วยอีก
เรียนเก่งก็ปวดหัวแบบนี้ละ

“ก็ถาม เห็นวันนี้เหนื่อยๆ กลัวว่าเดี๋ยวจะกวน นอนไม่สบาย” ก็พูดไปตามที่ตัวเองคิดนั่นละ เพราะไม่ใครก็ใครจะต้องกวนกันก่อนสักคน มันคงกวนกันจนเป็นความเคยชินแต่เด็ก

“รู้ได้ไงว่าเหนื่อย หืม….” ได้ยินเสียงพูดแป๊ปเดียว ลิ้นร้อนเปียกชื้นก็มาสัมผัสที่หูให้ได้ยินเสียง จนต้องบิดหน้าหนี

“ก็เห็นวุ่นๆ นี่ ไปมหาลัย ไปซื้อของ ต้องวนกลับไปมหาลัยอีก แล้วงานเสร็จรึยัง ”  พูดไปตัวก็เบี่ยงหลบอีกฝ่าย รู้ตัวอีกทีเสื้อก็ถกขึ้นมาพร้อมปากที่แนบเข้าแผงอกตัวเอง เสียวจนต้องบิดตัวหนี

“อื๊อ…น้ำ อย่าแกล้งสิ”

“ไม่ได้แกล้งซะหน่อย ทำเลยต่างห่าง” รู้สึกตัวอีกที กางเกงก็ถูกถอดออก พร้อมนิ้วของฝาแฝดที่ส่งเข้ามาทางช่องด้านหลังให้รู้สึกอัดแน่น

“อ๊ะ...น้ำ”  แล้วก็หลุดคราง ไปกับความรู้สึกที่ร่างกายได้รับ

“ว่าไง  อื๊มม….” เสียงครางที่คุ้นชินก็ทำให้เผลอตัวไปกับสัมผัสของฝาแฝดอีกครั้ง

“รอบเดียวนะ เดี๋ยวน้ำเหนื่อย” พูดแบบนี้ก็เพราะว่าเป็นห่วงอีกคนจริงๆ

รู้สึกตัวอีกที ขาของตัวเองก็ถูกมือของตาน้ำเกี่ยวขึ้นมารั้งไว้ พร้อมร่างกายที่ดันเค้ามาแนบสนิท

“อ๊า….นิ่ง” “อ๊า…..น้ำ” เสียงครางดังขึ้นพร้อมกับขาตัวเองเกี่ยวพันกันกับขาของฝาแฝด

ฝาแฝดเสพติดร่างกายของกันและกันตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้น ครั้งที่ตาน้ำเอาร่างกายตัวเองเข้าปลอบโยนตัวน้ำนิ่ง

แต่ใจของน้ำนิ่งวันนี้ไม่ได้อยู่กับร่างกายของตาน้ำเพราะมัวแต่คิดถึงรอยยิ้ม และสายตาอ่อนโยนที่ได้รับมา จึงทำให้เลี่ยงการลุกล้ำของฝาแฝดตัวเองได้ยาก



ครั้งนี้ หากอยากจะปฏิเสธตาน้ำมากเพียงใด ในใจก็คิดว่า  “ครั้งหน้าจะไม่มีอีกแล้ว”



---------------------------TBC---------------------------------------------------

พาฝาแฝดคนพี่ที่ร้อนตัวกลัวน้องจับได้ว่าทำความผิดมาส่งสั้นๆก่อนหยุดยาวค่าาาาา

บางตอนสั้นบ้าง ยาวบ้าง อย่าว่ากันนะ บางตอนที่ยาวเนื้อเรื่องมันไม่จบจริงๆ



ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คอมเม้นท์ คนรอ และคนอ่านนะคะ

ช่วงนี้คิดว่าสมองยังไม่ปกติพอที่จะเขียนให้เนื้อเรื่องละมุนได้
เพราะบางตอนมันซับซ้อน กลัวคนอ่านจะ งง หรือ เรียบเรียงไม่ถูก
ขอใช้เวาลานานสักนิด แต่ไม่ทิ้งกันแน่นอนคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ตาน้ำ ชอบพอส ชอบมานานแล้วสินะ
น้ำนิ่ง ก็ชอบทิมเหมือนกัน
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
น้ำนิ่ง-ทิม คู่กันจริงๆหรือคะ

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ให้เค้าไปมีคู่กันเถอะนะ ><
อย่าทำให้คนเขียน เขียนดราม่าเลย คนอ่านจะเศร้า แฮ่!

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
พี่น้องคู่นี้เหมือนจะทำทุกอย่างตามความเคยชินนะ กิจกรรมยามค่ำคืนของแฝดนั้น   :hao6: 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 13.1 ความทรงจำของครั้งแรก

ตาน้ำหลับไปแล้ว น้ำนิ่งนั่งมองตาน้ำ ยกมือไล้ตามกรอบหน้า พลางคิดถึงเรื่อราวของตัวเองที่เกิดขึ้น อยากจะทำให้ตัวเองหายกลัวคนแปลกหน้า อยากให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น ตาน้ำจะได้ไม่ต้องมาคอยดูแล แต่ทำยังก็ไม่หายซะที จะมีดีขึ้นบ้างก็แค่กับคนที่คุ้นเคยแล้ว

เกรด 11 น้ำนิ่งเดินเข้าห้องน้ำที่โรงเรียนคนเดียว เพราะพอสเจอกับเพียว จึงหยุดคุยกัน
ครั้งนั้นมีคนตามเข้ามาคุย

“น้ำนิ่ง … พี่ชื่อเจ๋งนะ ”

“ครับ พี่มีอะไรหรือป่าว”

“คือ พี่ชอบน้ำนิ่งนะ ลองคุยกันได้มั๊ย”

“เอ่อ… พี่ คือนิ่งยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ละ ขอโทษด้วยนะครับ” พูดแล้วก็หันตัวเดินหนี แต่กับโดนอีกคนดึงตัวไว้

“ทำไมละ หรือน้ำนิ่งชอบพอส?”

“ป่าวครับ ผมกับ พอสเป็นเพื่อนกันไม่ได้คิดอะไร”

“หรือว่าชอบเพียว?” น้ำนิ่งส่ายหน้าอีกครั้ง

“พี่เพียวเป็นพี่ผม”

“’งั้น…น้ำนิ่งให้โอกาสพี่ได้มั๊ย ” อีกฝ่ายพูดพลางยกแขนขึ้นมากั้นตัวน้ำนิ่ง

“อ… อย่าเลยครับพี่ ผมยังไม่คิดเรื่องนี้จริงๆ” พูดแล้วก็ขยับตัวจะหนี หากคนที่รั้งอยู่ดึงตัวกลับมาแล้วต่อยเข้าที่ท้องอย่างแรง


‘พลั๊ก!’ น้ำนิ่งทรุดลงทันที มือกุมเข้าที่ท้อง

“ขอดีๆ  ไม่ให้ก็ต้องใช้กำลัง” น้ำนิ่งหน้านิ่วด้วยความเจ็บปวด อีกฝ่ายขึ้นคร่อมยกมือแกะกระดุมเสื้อ

“พี่…. อย่าทำผมเลย ปล่อยผมไปเถอะ” น้ำนิ่งร้องขอเสียงสั่น พยายามดันตัวเองหนี มือปัดป่ายป้องกันตัวเองไปทั่ว

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลองดูกันหน่อยนะ เผื่อน้ำนิ่งจะเปลี่ยนใจ”  มืออีกฝ่ายดึงกางเกงนักเรียนลง แล้วเริ่มสัมผัสที่ตัว น้ำนิ่งดิ้นหนี แต่ยังคงจุกอยู่ที่ท้อง จึงทำให้แรงที่มีลดลง
มือนั่นแตะเข้าที่กึงกางลำตัวของน้ำนิ่ง เจ้าตัวก็ถอยหนีจนหลังชนกำแพง น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม ตัวสั่นเทาเพราะความกลัว มือของฝ่ายตรงข้ามเริ่มข้ามาสัมผัสปากช่องทางด้านหลัง  ในช่วงที่สมองหาทางหนีไม่เจอ ประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออก


พร้อมเสียงที่คุ้นเคย

“น้ำนิ่ง!” “ไอ้นิ่ง!”

ตาน้ำกระชากอีกฝ่ายมาต่อยไม่ยั้งจนสลบ พอสเข้าจับน้ำนิ่งแต่งตัวให้เรียบร้อยพร้อมสวมกอด น้ำนิ่งยังคงช๊อค ตัวสั่น น้ำตาไหลไม่หยุด สมองไม่รับรู้กับเหตุการณ์ทีเกิดขึ้นตรงหน้าอีกต่อไป

พอเกิดเสียงดังโวยวาย อาจารย์ก็มา
พี่เจ๋งสารภาพ ว่าทำร้ายร่างกายจริงหากไม่ได้ตั้งใจทำแต่แรก
ตาน้ำยืนยัน ว่าเป็นการตั้งใจ ทำร้ายร่างกาย และพยายามล่วงละเมิด เพราะขณะที่เข้าไปเจอ น้ำนิ่งเสื้อผ้าหลุดออกหมดแล้ว ต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และไม่ยอมความ

พอสให้การตรงกันกับตาน้ำ เสร็จแล้วตาน้ำให้พอสพาน้ำนิ่งออกไปที่ห้องพยาบาลก่อน

สิ่งที่ทั้ง 2 คนไม่รู้คือ ตาน้ำให้การว่า ‘เพียวสมรู้ร่วมคิด’

แม้มิตรภาพระหว่างครอบครัวจะยาวนานเพียงใด แต่บทสนทนาที่ตาน้ำบังเอิญได้ยินเพียวคุยกับเจ๋งนั้น ก็ส่งผลมาถึงครั้งนี้

“เพียว … กูชอบน้ำนิ่งวะ น่ารักชิบหาย”

“ชอบก็ไปบอกสิว่าไอ้เจ๋ง บอกกูทำไมละ”

“บอกให้มึงช่วยกู เกรด 12 เดี๋ยวก็จบแล้ว หมดโอกาส”

“ช่วยเหี้ยไรละ กูยังเอาตัวไม่รอด” เพียวแค่คิดว่าเพื่อนตัวเองชอบน้ำนิ่ง และกล้ามากพอที่จะบอก ก็ยอมหลีกทางให้อีกฝ่ายได้สารภาพ

“ก็น้องมึงอ่ะ อยู่กะน้ำนิ่งตลอด กูจะเข้าไปคุยยังไงละ กันออกไปทีสิ”

“เออๆ ไว้จะบอกให้” แต่การรับปากเพื่อนส่งๆไปครั้งนั้น เพียวก็ไม่คิดว่าจะทำให้ตาน้ำเข้าใจไปแบบนั้น

ตาน้ำเริ่มจับตามองความเคลื่อนไหวของเพียวและเจ๋ง บังเอิญอีกครั้งเมื่อเขาเดินตามหาน้ำนิ่งเพราะโทรหาแล้วไม่รับ เจอเพียวหยุดคุยกับพอส นั่นก็ทำให้ตาน้ำสงสัยว่าน้องตัวเองอยู่กับเจ๋ง สองต่อสอง 

จริงๆ ก็ไม่ได้จะหวงอะไร หากน้องชอบใคร เขาก็โอเค แค่จะเดินไปแอบฟังว่ามันจะทำยังไงกับคนที่มาบอกรัก

เดินจะไปเข้าห้องน้ำปกติ พอถึงห้องน้ำกลับได้ยินเสียงร้องของน้องตัวเอง

ประตูล็อค จนต้องพังเข้าไป!

พอสเอ๊ะใจ ที่น้ำนิ่งเข้าห้องน้ำนานกว่าปกติ จึงวิ่งมาดู!

สิ่งที่เพียวไม่รู้ คือเพื่อนตัวเองจะเข้าหาน้ำนิ่งวันนี้! บทสนทนาที่ตาน้ำได้ยินจึงเป็นหลักฐานมัดตัวเอง

หากทาง ร.ร. จะไม่ทำตามที่ฝ่ายผู้เสียหายต้องการก็ไม่ได้ เพราะเงินบริจาคที่ทั้ง 2 ครอบครัวให้มันสูงอยู่
เพื่อนของเพียวโดนไล่ออกทันที เพียวโดนพักการเรียน แต่ขอย้าย ร.ร. แทน

ตาน้ำโดนพักการเรียนในข้อหาทะเลาะวิวาท แม้จะเป็นการช่วยเหลือนักเรียนด้วยกัน ร.ร.ก็มองว่าควรจะแจ้งอาจารย์มากกว่า

เขาและน้ำนิ่งขอย้าย รร. ด้วย หากแต่ทาง รร. ขอไว้ น้ำนิ่งจึงได้พักจนกว่าสภาพจิตใจจะปกติดี รวมถึงตาน้ำ ทาง รร. จะไม่ตัดคะแนนการขาดเรียน เพียงแต่ให้ทำงานส่ง เพื่อทบทวนบทเรียน

เรื่องนี้ตาน้ำขอให้แม่ไม่บอกคุณตาคุณยาย โดยช่วงที่หยุดเรียนจะบอกแค่ รร. มีกิจกรรมกับ รร. อื่น อาจารย์จึงปิดให้หยุดชั่วคราว

พอสให้รถที่บ้าน มารับฝาแฝดกลับ น้ำนิ่งยังคงตัวสั่น และน้ำตาไหลไม่หยุด ตาน้ำและพอสต้องโอบกอดลูบเนื้อลูบตัวตลอด
โชคดี ที่วันนี้คุณตาคุณยายไม่อยู่บ้านเพราะมีธุระ บ้านเดี่ยวชานเมืองใกล้โรงเรียนหลังนี้ ฝาแฝดจึงอยู่กัน 2 คน

ตาน้ำเครียดแทบสติหลุด จนจะเผลอต่อยกำแพง แต่พอสก็เข้ามายั้งไว้ พร้อมๆกันดึงอีกฝ่ายมากอดเรียกสติ

“ใจเย็นๆมึง นิ่งไม่เป็นไรแล้วนะ กูขอโทษแทนเพื่อนไอ้เพียวมันด้วย “

“ขอบใจมากนะพอส ขอบใจ” พอสยังคงกอดปลอบตาน้ำ

“เออ ดูแลกันดีๆ มีไรโทรหากูละกัน แล้วนี่มีข้าวกินกันใช่มั๊ย ” ตาน้ำพยักหน้าตอบรับ

 พอสกลับไปแล้ว ตาน้ำพาน้ำนิ่งที่ตัวสั่น และน้ำตายังคงไม่หยุดไหล  ไปอาบน้ำ

จับน้องนั่งลงในอ่าง  2 มือ ยกวางแนบหน้าน้องตัวเอง

“น้ำนิ่ง ไม่เป็นไรแล้วนะ”

“น้ำ น้ำ มัน มัน แตะตัวเรา มันจับ จับไปทั้งตัวเลย เรากลัว ฮือ” พูดแล้วก็ร้องไห้หนักขึ้น ตาน้ำดึงฝาแฝดเข้ามากอด สะกดให้ตัวเองใจเย็น  น้ำนิ่งขืนตัวออก

“น้ำอย่า อย่ามาจับ ไม่ๆ น้ำอย่ามาแตะเรา อย่ามาโดนเรา มันโดนคนอื่นจับมาแล้ว เราน่ารังเกียจ สกปรก” ได้ยิ่งคำที่น้ำนิ่งพูดออกมาพลางทำให้ตาน้ำชะงักไป จับน้องถอดเสื้อผ้าออก

“อาบน้ำกัน” จับน้องอาบน้ำ ถูสบู่ หากแต่น้ำนิ่งยังคงขืนตัวหนี พยายามไม่ให้ตาน้ำแตะต้อง

“อะ สะอาดยัง”

“ไม่ๆ มันยังรู้สึกโดนจับอยู่เลย น้ำอย่ามาโดนเรา ออกไปๆ ออกไปไกลๆ ” ได้ยินแบบนี้ ตัวเองก็ยกมือน้องจับที่แผงหน้าอกฝั่งซ้ายของตัว พร้อมๆกับมือของตัวเองที่สัมผัสน้อง ให้ได้ยินเสียงหัวใจเต้น

น้ำนิ่งที่เกิดอาการช็อค ไม่รับรู้สิ่งใด เมื่อได้ยินเสียงหัวใจของฝาแฝดก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง

“น้ำนิ่ง นี่น้ำนะ ตาน้ำ พี่น้ำนิ่งไง” เสียงหัวใจและเสียงที่เรียกทำให้หันกลับมาจ้องตา ตาน้ำพูดขึ้นต่อ

“โดนจับตรงไหนบ้าง ไหนบอกสิ” จับมือของน้องมาจับที่มือของตัวเอง แล้วลากมือไปทั่วตัว

“ตรงนี้ใช่มั๊ย ตรงนี้ใช่มั๊ย ตรงนี้ใช่มั๊ย” ปากพูดขณะที่มือลากสัมผัส ลากไปจนจึงแก่นกางลำตัว

“ตรงนี้ด้วยใช่มั๊ย” น้ำนิ่งพยักหน้า

“ข้างหลังด้วยใช่มั๊ย” พยักหน้าอีกที พร้อมน้ำตาที่คลอ

คนพี่ก้มลงใช้ปากครอบครองแก่นกาย ให้น้องรู้ว่าตัวเองไม่ได้รังเกียจ หากแต่น้องยังคงขืนตัวหนี

“น้ำอย่า เราน่ารังเกียจ สกปรก ไม่เหมือนที่น้ำเคยจับอีกแล้ว มันโดนคนอื่นจับไปแล้ว” ได้ยินแล้วก็ถอนปากออกขึ้นมาพูด

“น้ำนิ่ง เราเป็นฝาแฝดกัน เราเป็นพี่น้องกัน เราจะรังเกียจกันได้ยังไง ถ้าหากน้ำนิ่งคิดว่าตัวเองน่ารังเกียจ ไม่เหมือนเดิมเพราะคนอื่น พี่จะทำให้รู้ว่าพี่ไม่ได้รังเกียจ  น้ำนิ่งยังเป็นน้องพี่คนเดิม” พูดจบ ก็ใช้ปากจูบซับไปทั่วร่างกายน้อง หากครั้งนี้ส่งนิ้วมือไล้วนไปตามช่องทางด้านหลัง อีกมือกอบกุมอยู่ที่แก่นกายน้องเหมือนอย่างที่เคยช่วยกัน

“นี่พี่น้ำนะ ไม่ต้องกลัว ” น้ำนิ่งเริ่มได้สติ ยกมือแตะสัมผัสที่ตัวตาน้ำ คนพี่ส่งนิ้วตัวเองเข้าไป ขยับเข้าออก จนร่างกายน้องปลดปล่อย

“อือๆ” ตาน้ำรู้ว่า แค่นี้มันคงยังไม่พอที่จะทำให้น้ำนิ่งลบความรู้สึกที่โดนสัมผัสอันเลวร้ายไปได้  จึงตัดสินใจจับตัวน้องมานั่งคร่อม พร้อมดันแก่นกายของตัวเข้าไปในตัวน้อง

“อ๊า..” “พ...พี่น้ำ”  เกิดเป็นเสียงครางขึ้นพร้อมกัน

“อืม…น้ำเอง พี่เอง ตาน้ำไง นี่ร่างกายพี่อยู่ในตัวน้ำนิ่งแล้วนี่ไง น้ำนิ่งไม่ต้องกลัวนะ เห็นมั๊ย น้องไม่ได้น่ารังเกียจเลย”  ร่างกายที่แนบกันสนิท พาให้เกิดความต้องการ จนทั้งคู่ขยับร่างกายเข้าหากันเป็นจังหวะ

“อื๊อ...น้ำ พี่น้ำ”

แล้วบทรักครั้งแรกของฝาแฝดก็เกิดขึ้น

มันต่างจากครั้งอื่นๆที่ใช่มือช่วยกัน แต่ครั้งนี้ตาน้ำเพียงแค่คิดว่า จะทำให้น้ำนิ่งหายรังเกียจร่างกายตัวเอง และหายรังเกียจความรู้สึกที่โดนแตะต้องมาอย่างไม่เต็มใจ ก็เอาร่างกายของตัวเองไปอยู่ในตัวน้อง ให้น้องรู้สึกว่ามีร่างกายของพี่อยู่ และเค้าไม่ได้รังเกียจ


หากแม้จะเป็นการกระทำที่ดูโง่ ตาน้ำก็คิดว่ามันช่วยให้น้องเค้าดีขึ้นจากอาการหลอนที่โดนสัมผัสอย่างหยาบคาย เพราะการได้รับสัมผัสจากครอบครัวด้วยความรัก คือสิ่งที่แสดงความรักได้ดีที่สุด


แต่ครั้งนั้นเอง น้ำนิ่งก็รู้ว่า มันทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ไม่รังเกียจตัวเองที่โดนสัมผัสจากคนที่ทำร้าย แต่กลายเป็นการประหม่าคนแปลกหน้าแทน แม้ไม่รู้จะหายจากอาการนี้ได้อย่างไร หรือเขาต้องเลิกคิดว่าคนแปลกหน้าจะรังเกียจตัวเองก่อน เพราะเขาเองก็อยากที่หายเป็นปกติ อยากให้ตาน้ำมีชีวิตที่ปกติเหมือนคนอื่น



'ผ่านครั้งนั้นมาได้ ครั้งต่อๆมาก็กลายเป็นการสนองความต้องการของกันและกัน เพราะเหมือนจะเสพติร่างกายของอีกฝ่ายไปแล้ว'








----------------------TBC-------------------------------------------

กลับมาแล้วค่าาาาา หลังจากพยายามที่จะเกลาตอนนี้เป็นอย่างมาก
ถ้ามันไม่ละมุนหรือแปลกๆ ขอโทษไว้ล่วงหน้าเลยน๊า

ตอนนี้ใช้สมองอย่างสูง แฮ่

เอาเป็นว่า FC ฝาแฝดรู้ความเป็นมากันแล้วเนอะ

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด ขอบคุณคนรอ คนอ่าน และทุกคอมเม้นท์นะคะ

ขอบคุณมากๆค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2016 08:23:51 โดย kiiro »

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 13.2ความทรงจำครั้งแรก

หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่น้ำนิ่งโดนเพื่อนตัวเองทำร้าย เพียวขอย้ายตัวเองมาอยู่คอนโดที่ซื้อเตรียมไว้ตอนเข้ามหาลัย
หากเคยคุยกับพอสว่า พอสจะเรียนที่อื่น คอนโดแห่งนี้ จึงมีเพียงห้องนอนเดียว แต่แม่ก็แวะมาหาอยู่ตลอด
เหตุการณ์นั้นทำให้เขาขอแม่ย้าย ร.ร. ค่าเฉลี่ยของคะแนนที่เคยมีก็ลดลง เพราะกว่าจะย้ายได้ต้องให้หมดช่วงเวลาพักการเรียนไปก่อน

พอย้ายไปเพียวก็ไม่ได้มีสมาธิเรียนได้ดีเหมือนเดิม เพราะเรื่องนั้นมันฝังใจ แม้รู้ว่าตัวเองแทบไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ก็ผิดที่ไว้ใจเพื่อนมากเกินไป ใกล้ช่วงสอบเข้ามหาลัย ทำให้จากที่ตั้งใจจะสอบเข้าวิศวะ จึงเปลี่ยนมาเป็นบริหารแทน

พอสอบได้ แม่ก็ให้มาทำงานงานที่ร้าน ก็เหมือนจะควบคุมความประพฤตินั่นและ แม้แม่จะเข้าใจ
เรื่องราวที่เกิด แต่ตัวเองก็รู้สึกผิดอยู่ดี

หมดช่วงรับน้องเข้าสู่ช่วงการเรียนปกติ ก็มีคนปรากฏตัวขึ้นที่หน้าคอนโด

เพียวตกใจกับคนที่มาหา เพราะเขาตัดการติดต่อจากทุกคนไปแล้ว กับพอสก็บอกแค่ว่าอยากออกไปอยู่คอนโด เพราะถ้าน้ำนิ่งมาเที่ยวที่บ้าน เขาก็รู้สึกไม่ดีอยู่ดี

“ไม่คิดจะชวนกูขึ้นไปนั่งพักหน่อยหรอ” คำว่าพี่ไม่มีให้เพียวอีกต่อไปสำหรับตาน้ำ

“อืม.. ไปดิ” พูดแล้วก็เดินนำอีกคนเข้ามาในลิฟท์

พอถึงห้อง เจ้าของห้องก็เปิดประตูเดินนำเข้าไป แขกจึงเดินตาม

“อยู่สบายดีนี่มึง”   ได้ยินคำพูดกระแทกตัวเองก็ต้องหันไปเผชิญหน้า

“น้ำ! เรื่องนั้นกูขอโทษไปแล้ว มึงจะให้กูทำยังไงอีก” ตาน้ำเดินก้าวเข้ามาหา หากเขาไม่ได้ถอยหนี

“ขอโทษ? ทำยังไง? ถามมาได้ว่าทำยังไง มึงรู้มั๊ย น้ำนิ่งทรมานแค่ไหน มันนอนฝันร้าย นอนร้องไห้ ละเมอถึงเรื่องนั้นแทบทุกคืน กลายเป็นคนหวาดระแวง กลัวคนแปลกหน้า กลัวคนจะเข้ามาทำร้ายมัน กว่าที่กูจะทำให้มันกล้าไปร.ร.ไปเจอคนที่โรงเรียนได้ ตัวมันทรมานแค่ไหน” ได้ยินแล้วก็ก็เม้มปากกลั้นความรู้สึกตัวเอง


เขารู้ เขารู้ทุกอย่าง เพราะพอสเป็นคนเล่าให้ฟัง นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกผิด


“มึงคิดออกหรือยังว่าต้องทำยังไง กับความทรมานที่น้ำนิ่งได้รับ และความลับเรื่องที่มึงช่วยเพื่อนทำร้ายน้ำนิ่ง” ได้ยินแล้วก็ตกใจ หันมองหน้าคนพูด

“มึงหมายถึง…..”

“ใช่เรื่องนี้กูไม่ได้บอกใคร ไม่ได้บอกน้องมึง ให้มันรู้ว่ามีพี่เลวๆแบบมึง ไม่ได้บอกน้ำนิ่งให้มัน เสียใจกับความนับถือที่มีให้พี่ชายอีกคน พ่อแม่กูก็ไม่ได้บอก”

ความกดดันนั้นทำให้เพียวตวาดอีกฝ่ายกลับเสียงดังพร้อมน้ำตา

“แล้วมึงจะให้กูทำยังไง อยากให้กูโดนแบบน้ำนิ่งใช่มั๊ย มึงถึงจะหายแค้นกู”

“มึงพูดเองนะเพียว” ว่าแล้วก็โดนอีกฝ่ายลากเข้าห้องนอน เพียวโดนเหวี่ยงลงไปที่เตียง ตาน้ำขึ้นคร่อมร่างนั้นทันที หากเพียว พยามจะดิ้นหนีอย่างทุรนทุราย

“มึงยังคิดหนีอีกหรอเพียว อย่าหนีกูเลยจนถึงตอนนี้ ที่กูมาถึงที่นี่ มึงก็รู้ว่าหนีกูไม่พ้น รวมทั้งความจริงด้วย” พูดไปตาน้ำก็จับแขนทั้ง 2 ข้างเพียวผูกไว้ที่หัวเตียง เพียวเริ่มมีอาการตกใจ

“น้ำ มึง…กูยอมแล้ว จะทำอะไรกับกูก็ได้”

“มึงกลัวหรอเพียว มึงกลัวตัวเองเจ็บ กลัวตัวเองทรมาน แล้วน้ำนิ่งละมึงคิดมั๊ยว่ามันจะเป็นยังไง” พูดจบก็มีหมัดมากระทบหน้าตัวเอง

เพียวเริ่มรับรู้ความต้องการของอีกฝ่าย เพราะเสื้อผ้าของตัวเองกำลังถูกปลดออก เหลือแค่ขาที่ยังไม่โดนพันธนาการ ก็ยังพยามขืนจะดิ้นหนี แต่อีกฝ่ายกลับขึ้นคร่อมกดไว้ มือลูบไล้ร่างกายเขาไปทั่ว

“ไหนมึงบอกว่ายอมไง ยอมแล้วดิ้นหนีกูทำไม” ก็เพราะนิ้วมือของคนตรงหน้าส่งเข้าในช่องทางด้านหลัง มันทำให้เค้ารู้สึกเสียวซ่านจนอยากจะดิ้นหนีให้ลุ้นความทรมานนี้  แต่ก็รู้ว่ายังไงมันก็หนีไม่พ้น

“ได้!! กูยอม ถ้ามึงจะไม่บอกเรื่องนี้ให้พอสกับน้ำนิ่งรู้”

“อย่าคิดว่ามึงยอมกูแค่ครั้งนี้แล้วมันจะจบ เพราะกูจะทำให้มึงทรมานกว่าที่น้องกูได้รับเป็นร้อยเป็นพันเท่า และถ้าน้ำนิ่งหายเป็นปกติดีเมื่อไร กูจะปล่อยมึงไปเอง”

“จนกว่าน้ำนิ่งจะหายเป็นปกติมึงจะทำอะไรกับกูก็เชิญ ให้มึงหายโกรธแค้นกู ให้พอสกับน้ำนิ่งไม่รู้เรื่องนั้นก็พอกูขอ”

“ตกลง!!”
   
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่เพียวยิน ก่อนที่เขา 2 คนจะมีพันธะกันทางร่างกาย ตามข้อตกลงที่เกิดขึ้น
มันไม่ได้เกิดจากความรู้สึกดี หรือความต้องการร่างกายของอีกฝ่าย แต่หากมันเกิดจากความแค้น

เพียวรู้แล้วว่าสิ่งที่น้ำนิ่งได้รับมันเป็นยังไง ความสัมพันธ์ที่เกิดจากการบังคับข่มขืนจิตใจ มันทำให้ทรมานไปหมดทั้งร่างกายและจิตใจ

ตอนนี้เขาได้รับมันกลับคืน แม้คนทำจริงๆจะไม่ใช่เขา เพราะมันย้ายไปอยู่ต่างประเทศ แต่เขาก็เข้าใจดีว่าเพราะตาน้ำเสียความไว้ใจที่เคยมีให้เขาไปหมด ตอนนี้มันเหลือแต่ความแค้น ความโกรธ ความเกลียด และความต้องการที่ให้เขาได้รับความทรมาน


แม้ว่าพยายามจะทำดีกับน้ำนิ่งเพื่อไถ่โทษ แต่หากอีกคนนึงกับกันออกทุกทาง เพราะกลัวเหตุการ์เดิมจะเกิดซ้ำ เขาก็เข้าใจดี



ตาน้ำยังคงมาหาเพียวที่คอนโดเรื่อยๆ หากถามว่าทำไมน้ำนิ่งไม่ได้สงสัยอะไร นั่นเพราะช่วงเวลาไปเรียนพิเศษ 2 คนนี้แยกกันติว


'เวลาที่คุยกันดีมันก็มี แต่คุยดีได้ไม่เท่าไหร่ เพียวก็โดนลากไปที่เตียง โดนมัดแขนบ้าง มัดขาบ้างตลอด  จนร่างกายและจิดใจเริ่มด้านชากับความทรมานที่ตัวเองได้รับไปแล้ว'




-------------------------------TBC-----------------------------------------------

ความลับของตาน้ำกับพี่เพียว

ฮือๆ พี่เพียวน่าสงสารจังเลย อิแฝดพี่มันโหดร้าย
 :sad11:

ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนรอ คนอ่าน และคนเม้นท์นะคะ


ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เพียวน่าสงสาร ตาน้ำก็ทำเกินไป

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 14 คนที่แวะมา

ฤดูฝนผ่านไป จนกลายเป็นฤดูหนาว เพียวกลับมาดูแลร้านปกติ พร้อมๆกับน้ำนิ่งและพอสเหมือนเดิม
จะไม่เหมือนเดิมก็แต่ ตาน้ำขอให้น้ำนิ่งเลิกใช้บิ๊กไบค์เพราะด้วยอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย กลัวตากแดดตากลมจะไม่สบาย
เช้าจึงออกไปพร้อมกัน มาร้านพร้อมๆกับพอส และเย็นกลายเป็นทิมมารับกลับ แล้วพาแวะหากะทิ ส่วนตาน้ำก็บอกเพียงช่วงนี้ต้องช่วยอีกกลุ่มทำงาน เป็นกลุ่มที่อาจารย์เลือกไว้ช่วยงาน


กีฬาคณะกำลังจะเริ่มขึ้น แก๊งค์ทะโมนวิศวะ ลงแข่งด้วย พร้อมๆกับ พอสและต้าร์ คนที่ไม่ชอบเล่นกีฬาแบบน้ำนิ่งก็ได้แต่มานั่งรอเพื่อนซ้อม จริงๆแล้วกับต้าร์ น้ำนิ่งก็ใช้เวลาอยู่นานกว่าที่จะปรับตัวคุยปกติได้ ต้าร์เข้ามาขอเป็นเพื่อนเขา 2 คน เพราะบอกว่าเพื่อนตัวเองไปเรียนคณะอื่น พอสจึงเป็นคนขอดูพฤติกรรม หากต้าร์เองเมื่อรู้ว่าน้ำนิ่งกลัวคนแปลกหน้าก็พอจะเข้าใจ ก็ช่วยดูแลกันไป ตาน้ำเองก็คอยตามดูจนรู้ว่าต้าร์ไว้ใจได้

วันนี้ทั้งบริหารและวิศวะมีซ้อม พร้อมๆกับคณะอื่น หมุนเวียนขอซ้อมผลัดกันไป
น้ำนิ่งจึงมานั่งรอยู่ในโรงยิมด้วย เดินเข้ามาก่อนเพราะเพื่อนเปลี่ยนเสื้อ เจอคนที่เคยส่งยิ้มให้กันทุกวัน ก็ยิ้มให้ พร้อมกับได้รอยยิ้มกลับคืน

โรงยิมชั้นนี้ ไม่มีเก้าอี้นั่งเป็นตัวๆ แต่ที่นั่งเป็นไม้ยาวๆ แบ่งเป็นชั้นๆ เหมือนแสตนด์ทั่วไป
พอสเดินตามเข้ามา ก็ลงไปวิ่งวอร์ม น้ำนิ่งนั่งหันหลังให้สนาม สอดตัวเข้ากับช่องว่างของที่นั่ง ใช้ชั้นที่สูงกว่าเป็นโต๊ะทำงานส่งอาจารย์เตรียมให้เพื่อนลอก

ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝาแฝด โวยวายใส่เพื่อน หันไปก็เห็นตาน้ำมันล็อคคอพอส ก็ต้องส่ายหัวให้ แกล้งกันแต่เด็กยันโต

“ไอ้เหี้ยน้ำ ปล่อยกูเลย แม่งกวนตีน” พอสโวยวาน มือก็ตุบ อั๊กๆ ไปที่คนที่ล๊อคคอตัวเองอยู่

“มึงกวนตีนกูก่อน แม่งแป้นมีไม่ชู๊ตใส่ เสือกชู๊ตใส่กู ถ้ากูเจ็บมึงจะทำไงห๊ะ”

“เรื่องของมึงไอ้เหี้ย มายืนขวางลูกบาสกูเอง”

“กูไม่ได้ขวาง แต่มึงมันเตี๊ย ชู๊ตไม่ลงห่วง เสือกจะมาลงแข่ง แพ้แล้วไม่อายเค้ารึไง”

“เออ ไอ้คนหล่อ ไอ้คนเก่ง ไอ้คนฮอต” หากตาน้ำอยากจะก้มลงหอมคนที่ตัวเองล๊อคคออยู่มากแค่ไหน ก็ต้องกลั้นใจ ปล่อยตัวให้ไปซ้อมต่อ

จากวันที่มีอะไรกันครั้งแรก พอสก็ยังคงทำตัวกับเค้าเหมือนเดิม จนเค้าเองก็แปลกใจ  ไม่เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ลดลง ราวกับว่าวันนั้นไม่เคยเกิดอะไรขึ้น

น้ำนิ่งหันกลับมามองงานที่ทำก็ได้ยินเสียงคนมานอนเอนตัวอยู่ข้างๆ

“เหนื่อย!” มองแล้วก็น่าจะเหนื่อย ตัวเปียกเหงื่อมาขนาดนี้ หมุนตัวหันหน้าออกมายังสนาม มองฝาแฝดที่มันบ้าพลังซ้อมกับเพื่อนไม่ลดละ หยิบน้ำที่วางข้างตัวให้คนที่นอนหอบอยู่

“ขอบคุณครับ” ได้ยินก็ส่งยิ้มกลับ

นั่งทำงานก็เมื่อย เลยเอนตัวนั่งแบบคนข้างๆบ้าง พร้อมๆกับท้าวมือลงไปยังข้างตัว ทำให้นิ้วก้อยของทั้ง 2 คนอยู่ติดกัน
รู้สึกถึงการสัมผัส แต่ครั้งนี้ น้ำนิ่งไม่ได้ดึงมือออก หันหน้าไปมองอีกคนนึง พร้อมกับคนที่ตัวเองมองหันมาสบตาพอดี ก็ต้องหันหน้าหนีไป

รอยยิ้มน้อยๆเกิดขึ้นกับคน 2คน

นั่งกันอยู่อย่างนั้นจนนาน หากทิมขยับตัวจะลุก ด้วยความเผลอหรืออะไรอีกนั่นละ น้ำนิ่งขยับนิ้วก้อยไปทับกับนิ้วก้อยของทิมไว้แค่ช่วงปลายเล็บ ราวกับจะบอกว่าไม่อยากให้ลุก
ทิมก้มมองสัมผัสนั้น แล้วขยับนั่งต่อ น้ำนิ่งจึงเอ่ยถาม

“ไม่ไปซ้อมแล้วหรอ” ได้ยินเสียงพูดก็ต้องเงยหน้ามองคนถาม

“พักก่อน ปล่อยพวกบ้าพลังมันซ้อมไป”  พูดแล้วก็เอนตัวหลับตา เหมือนที่เคยทำเวลาน้ำนิ่งไปหากะทิ

ก็มองคนที่นั่งข้างๆ นานๆใจชักจะทนไม่ไหว หลับตาไปไม่นานก็ได้ยินเสียงคนมาใหม่

“อ้าว…หวัดดีน้ำนิ่ง” นิ้วก้อยที่ทับไว้หลุดออกเพราะมือนั้นยกขึ้นทักคนมาใหม่ กลุ่มวิศวะหยุดซ้อมยืนนิ่งเพราะตาน้ำหยุดขยับ

“นี่นั่งรอไม่พอ ทำงานให้พวกมันลอกด้วยหรอ ทำไมน่ารักอย่างงี้ มาทำให้บ้างสิ” ทิมเห็นคนนั่งข้างๆ ขำน้อยๆก็แปลกใจ กับปฏิกิริยาที่มีให้คนที่มาใหม่ แต่หากคนที่มาใหม่โดนต้าร์ตบหัว แล้วรั้งเสื้อไว้เพราะจะเดินเข้ามาหาน้ำนิ่ง

“ไอ้เหี้ยนี่ ที่นี่สนามบาส ไม่ใช่ร้านชาบูอย่ามานั่งหน้าหม้อ”

“หม้อเหี้ยไร กูออกจะจริงใจ จริงจัง” ได้ยินแบบนั้น ทิมก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งตรงๆ ส่งสายตาไปให้คนที่คุยกับน้ำนิ่งอยู่ทันที พร้อมๆ กับเสียงดังมาจากกลางสนาม

‘ตึ่ง!!!” ตาน้ำปาลูกบาสใส่ฝั่งแสตน เฉียดต้าร์ และเพื่อนที่ยืนอยู่ไปไม่มาก พร้อมส่งเสียง

“ต้าร์ มึงจะซ้อมมั๊ย ให้พวกกูมาซ้อมด้วยแต่เสือกมาช้าไม่ซ้อมก็ออกไปข้างนอก เกะกะกู” ต้าร์รู้แล้วว่าตาน้ำโวยวายพราะเพื่อน
ตัวเองที่ออกอาการกับน้ำนิ่ง ไม่ดูตาม้าตาเรือ ว่าฝาแฝดสุดโหดมันก็อยู่ หากผู้มาใหม่พยายามลดความตึงเครียดด้วยการส่งเสียงทักทาย

“อ้าวว่าไงหนุ่มฮอต” สายตาคมดุยังคงจ้องกลับอย่างไม่ลดละ ต้าร์ลากเพื่อนตัวเองลงสนาม น้ำนิ่งได้แต่ทำหน้าแหย่ๆเพราะฝาแฝดตัวเองอาละวาดใส่เพื่อน

“ทิม!! ” ได้ยินเสียงเรียกแบบนั้น คนข้างๆก็ลุกไป ก็มันไม่ใช่แค่เพื่อนน้ำนิ่งเถอะ มันอาละวาดยันเพื่อนตัวเองด้วย  ได้ยินเสียงต้าร์เดินเข้าไปคุย ลูบหลังลูบไหล่ฝาแฝด สายตาคมของตาน้ำยังคงส่งไปหาต้าร์แบบดุๆ
ซ้อมกันอยู่ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนล้มลงบนพื้น


ตึ่ง!!

น้ำนิ่งหันหน้าจากงานไปมองดู หากเป็นคนที่มากับตาร์ล้ม ก็หมุนตัววิ่งลงไปที่สนาม ก่อนจะเข้าถึงที่เกิดเหตุ ก็โดนตาน้ำรั้งแขนไว้ จนต้องหันกลับไปมองค้อน

“น้ำ!!” ก็ไอ้พี่นะ เวลาไม่ได้ดังใจ มันก็ฟาดงวงฟาดงาไปเรื่อย

“ป่าวทำอะไรเลย มันล้มเอง”

ส่งสายตามองทุกคนที่ยืนอยู่ในสนาม พอสกับตาร์พยักหน้ายืนยันเช่นนั้น น้ำนิ่งก็ได้แต่ถอนหายใจ

จะเดินเข้าไปหาคนที่ล้ม หากเสื้อตัวเองก็โดนฝาแฝดรั้งอยู่

คนล้มลุกขึ้นยืนได้ ตาน้ำก็เข้าไปคุยแทน

“ไม่ไหวก็ไปพัก” ว่าแล้วก็โวยใส่เพื่อนให้ไปพัก พร้อมลากฝาแฝดตัวเองออกมาที่ห้องพักนักกีฬา


ห้องพักนักกีฬา ทะลุกับห้องอาบน้ำ
ตาน้ำเดินเข้าห้องพักนักกีฬาแล้วล็อคประตู ลากน้ำนิ่งเดินทะลุถึงห้องอาบน้ำ แล้วล๊อคประตูอีกเหมือนกัน
เดินไปเปิดฝักบัวให้น้ำไหล แล้วจับฝาแฝดหมุนตัวเผชิญหน้า

“ไปทำเค้าทำไม นั่นเพื่อนไอ้ต้าร์มัน”

“ก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร มันหมุนตัวล้มเอง” น้ำนิ่งยังคงจ้องฝาแฝดอย่างไม่ลดละ

“ไม่ได้ทำ แล้วร้อนตัวลากเรามาถึงนี่เนี่ยนะ” ตาน้ำถอนหายใจ

“มันเรียกร้องความสนใจ จากน้ำนิ่งไม่รู้หรอ” น้ำนิ่งส่ายหน้า ยกมือ 2 ข้าง ลูบหัว ลูบไหล่ตาน้ำ

“นั่นมันเพื่อนไอ้ตาร์ รู้จักกันตั้งแต่ปีนึง ต้าร์ก็บอกว่ามันนิสัยดี มันเป็นคนเฟรนลี่ ไม่ได้น่ากลัวอะไรหรอก”

ตาน้ำหันหน้าหนี ทำให้น้ำนิ่งโผลเข้ากอด มือลูบทีหลัง เหมือนกับบอกว่าให้ใจเย็นๆ

“ก็มันทำเหมือนมันชอบน้ำนิ่ง” เสียงบ่นพึมพำ ลอยมาจากคนที่ตัวเองกอด

“ชอบก็ชอบ เราระวังตัวเองอยู่ น้ำอย่าคิดมาก เราไม่อยากให้เครียด อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด คนเรามันกำหนดเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตไม่ได้หรอกนะ เรารู้ว่าน้ำเป็นห่วง” ได้ยินแล้วก็หมุนตัวน้ำนิ่งเข้ากำแพง มือเลื่อนปลดเข็มขัดและกางเกงนักศึกษาออก


น้ำนิ่งลูบที่แผงอกแล้วไล้มือลง ขยับเข้าไปในกางเกงกีฬาของฝาแฝดแล้วรั้งลงเหมือนกัน

มือของตัวเองอยู่ที่แก่นกายของอีกฝ่าย  ขยับมือเข้าออกพร้อมๆกันเป็นจังหวะ

ตาน้ำไซร้เข้าที่ซอกคอ เหมือนอย่างที่เคยทำ มือน้ำนิ่งที่จับอยู่ไหล่พี่ ขยำเกร็งกับเสื้อกีฬา เพราะมือตาน้ำอีกข้างบีบเคล้นอยู่ที่สะโพก

ได้ยินเสียงแหบพร่ากระซิบอยู่กับหูที่โดนเลียจนเปียกชุ่ม จนต้องเบี่ยงหน้าหนี

“รู้ว่าเป็นห่วงก็ทำตัวดีๆหน่อย อย่าให้ต้องทำโทษแบบนี้อีก”

“อื๊อ…น้ำ รู้แล้ว อื๊อ” คำตอบดังพร้อมเสียงคราง ไม่นานมือก็หยุดขยับเพราะน้ำคาวปลดปล่อยออกมาทั้งคู่
จับน้องล้างมือ ทำความสะอาด ก็ลากออกมาที่สนาม

ลงไปซ้อมเหมือนปกติ หากก็แต่ ตาน้ำอารมณ์ดี และใจเย็นขึ้นกว่าเมื่อครู่ คนที่มากับต้าร์ ส่งสายตามองน้ำนิ่งพร้อมรอยยิ้มเมื่อน้ำนิ่งยิ้มกลับ ก็หันไปซ้อมต่อ


'เพื่อนทั้ง 2 กลุ่มรู้ดี หากตาน้ำอารมณ์ไม่ดี ก็มีแค่น้ำนิ่งที่ทำให้หายได้ แต่หากคนที่แวะมาที่ยังไม่ค่อยรู้อะไรดีก็ได้แต่สงสัยรอยยับบนเสื้อของฝาแฝด'



-----------------------------------------TBC------------------------------------------

มาสั้นๆ คนมาใหม่เป็นใคร เดี่ยวรู้กันแน่ๆ

ว่าแต่ แฝดน้องแตะตัวทิมก่อนแล้วเนี่ยสิ

จะอ่อยใช่มั๊ยๆๆๆ


ส่วนแฝดพี่ทำโทษน้องได้ลงคอ ฮือๆ


ขอบคุณคอมเม้นท์ คนรอ คนอ่าน ทุกคนนะคะ



ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 15.1 วันสำคัญกับคนสำคัญ
   
สุดสัปดาห์นี้ ฝาแฝดต้องกลับบ้าน หากแต่อากาศดีๆ จึงคิดว่าจะขับบิ๊กไบค์ไปกัน แต่เนื่องจากมหาลัยหยุดแล้ว เพื่อนๆไม่รู้จะไปไหน จึงหาเรื่องร้องตามไปด้วย

“กูไปด้วย” พอสรีบพูดขึ้นก่อนในวงโต๊ะที่ร้าน จนน้ำนิ่งหมั่นไส้ต้องเอื้อมมือไปตบหัวเบาๆ

“จ้า พ่อหลานคนเล็กของบ้าน งานนี้ขาดมึง กูต้องโดนยายบ่นไปสามวันแปดวัน”

“งั้นกูไปด้วย” ต้าร์ร้องตามบ้าง

“งั้นทิมไปด้วย” คนพูดไม่ใช่ทิมหรอก หากแต่เป็นตาน้ำนั่นละ จนทำให้เจ้าของชื่อตกใจ

“แต่กูต้องเอากะทิไปด้วยสิ” พอสเริ่มมองเห็นเคล้ารางของปัญหาที่จะเกิด จึงจ้องรีบถามต่อ

“จะไปยังไง กูเอารถไปมั๊….”     

“ไม่ได้!” พอสยังพูดไม่จบ ตาน้ำก็หันไปแหวใส่ พลางจ้องหน้าพอส ทำให้พอสหน้าแดง เข้าใจความหวงพื้นที่ของฝาแฝด
เพราะนึกถึงเหตุการณ์ที่ทั้ง 2 คนเคยมีอะไรกันบนรถ จึงเข้าใจตาน้ำได้อย่างดี

“รถมึงเด่นเกินไปที่จะขับ ต่างจังหวัด จอดข้างทางกูว่ามันอัตราย” หากน้ำนิ่งตีความออกมาแบบนั้น

“เออๆ งั้นกูเอาคันอื่นไปก็ได้”




เช้าวันเดินทาง ฝาแฝดอยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับรถบิ๊กไบค์ยืนรอพอสต้าร์มารับที่หน้าคอนโดทิม ที่เป็นจุดนัดเจอ
ไม่นานพอสก็มารับด้วยรถเบนซ์ 5 ประตูที่เป็นรถของที่บ้านพร้อมเสียงบ่น

“ชิบหาย…แม่กูเกือบจะให้เอารถตู้พร้อมคนขับมาแล้ว”

เสียงหัวเราะเกิดขึ้น เพราะทุกคนเข้าใจในความจัดเต็มของบ้านพอสเป็นประจำ

นั่งที่กันเรียบร้อย ก่อนออกพอสก็เปิดกระจกแซวฝาแฝดอีกครั้ง

“ช้าๆนะมึง 2 คนนะ เดี๋ยวกูหลง”

“โง่ไปไม่ถูกก็เรื่องมึงเลย ถึงที่หลังเลี้ยงข้าว” ตาน้ำพูดแล้วก็ออกรถที่มีน้ำนิ่งซ้อนอยู่ไป

“ไอ้เหี้ยนี่”




เบนซ์ขับตามบิ๊กไบค์ไม่ห่างมากนัก เข้าตัวจังหวัด ก็จอดซื้อของ

น้ำนิ่งก็แวะซื้อโรตีสายไหมอย่างเดิม แต่ครั้งนี้มันดูเยอะมากจนน่าตกใจ

“นี่มันเหมาไปเลี้ยงคนทั้งตำบลหรอว่ะ” พอสเปิดกระจกรถคุยกับตาน้ำที่คร่อมรถอยู่

“เดี๋ยวมึงก็รู้”

ไม่นาน น้ำนิ่งเดินกลับมาพร้อมเหวี่ยงโรตีสายไหม่เข้าไปในกระจกที่พอสเปิดอยู่ 1 ถุง

“เอาไปกิน จะได้เงียบปาก”



ซื้อของเสร็จ ก็ออกเดินทางต่อ จากเมืองเข้าสู่บริเวณธรรมชาติ ทุ่งนาเขียวขจี บิ๊กไบค์ขับช้าลงเพื่อรับสัมผัสบรรยากาศ รถคันใหญ่ลดกระจกลงเหมือนกัน จอดแวะถ่ายรูปเล่นกันข้างทางบ้าง ไม่นานก็ถึง




เลี้ยวรถเข้าบ้านจอดก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างบน พร้อมเสียงเดินลงมาของแม่

ทิมมองผู้หญิงตรงหน้าที่ดูไม่แก่ หน้าตาดูผิวพรรณดูได้รับการบำรุงอย่างดี แต่หากใส่ผ้าถุงและเสื้อธรรมดาเดินลงมา

“มากันแล้ว” แฝดฝาลงรถ ปลดชุดนิรภัยออก เดินเข้าไปกอดแม่
   
“แม่สวัสดีครับ” พอสเอ่ยทักผู้ใหญ่ก่อนที่ต้าร์และทิมจะทำตาม

“เดี๋ยวๆ ขอแม่ดูก่อน คนนี้ ทิม คนนี้ต้าร์ ใช่มั๊ย”    

“โหยยยย แม่ทายถูกด้วย เก่งจังเลย” พอสร้องแซว

“อ้าว นี่ใครคะ นี่แม่นะ ไปๆ เล่นกันเสร็จแล้วตามไปนะลูก”


ยืนคุยกันสักพัก 5 หนุ่มก็ได้ยินเสียงวิ่งควบมาอย่างเร็ว เห็นอีกทีน้ำนิ่งก็โดนตัวที่วิ่งมากระโจนใส่จนลงไปอยู่ใต้ร่าง

"ลูกชุบ! ไปแช่น้ำมาอีกแล้วใช่มั๊ย” หมาพันธุ์โกลเด้นท์ที่มองยังไงมันก็ดูไม่ออก เพราะเนื้อตัวเปื้อนน้ำท้องร่องสีดำเต็มไปหมด กำลังเลียหน้าเลียตัวเจ้านายคนเล็กอย่างคิดถึง

“เฮ้ย ลูกชุบหรอเนี่ย แข็งแรงแล้วสินะ” พอสร้องเอ่ยทักขึ้น

ระหว่างที่ฝาแฝดฟัดกับหมา พอสก็หันไปที่มาของลูกชุบให้เพื่อนอีก 2 คนฟัง

เจ้าหมาโกลเด้นท์ฟัดเจ้านายคนเล็กอยู่อย่างนั้น ตาน้ำก็เดินไปอุ้มออกมา จนเจ้าหมาหันมาเห็นเจ้านายคนโต ก็เปลี่ยนเป้าหมาย ยกขาหน้า ไล่ตะปบที่เท้าของตาน้ำ แต่ไม่โดน เพราะตาน้ำเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ เจ้าลูกชุบก็เดินเข้าหายกเท้าซ้ายขวาไล้ตะปบ ราวกับต้องการจะจับให้ได้ แล้วตาน้ำก็ออกวิ่งนำ มีลูกชุบวิ่งไล่ตาม


น้ำนิ่งลุกขึ้นได้ ก็เดินไปหาทิมที่อุ้มกะทิ ส่งมือของตัวเองให้กะทิดม มืออีกข้างก็ลูบหัว พยายามให้กะทิคุ้นชินกับกลิ่นของลูกชุบ เพราะตอนนี้ต้องอยู่ร่วมกัน


ไอ้หมานะ อ่อนโยน ใจดี น่ารักเหมือนเจ้าของคนเล็ก แต่ไอ้แมวเนี่ย มันก็ยังเป็นแมว กลัวจะตะปบหมาจนหน้าแหก

ลูบอยู่นาน จากที่กะทิขยับตัวหนีขู่ฟ่อๆ เพราะกลัวกลิ่น ก็เริ่มคุ้นชิน


“ได้ยัง” ได้ยินเสียงตาน้ำตะโกนมา พร้อมเสียงวิ่งที่ไม่หยุด

“ลองดูก่อน” น้ำนิ่งตะโกนกลับ แป๊ปเดียวตาน้ำก็วิ่งนำเจ้าลูกชุบกลับมาทีเดิม

น้ำนิ่งอุ้มกะทิมาจากทิม ค่อยๆขยับให้เข้าใกล้ลูกชุบที่มีตาน้ำล็อคคออยู่ เพื่อนทุกคนต่างก็นั่งลงตามพร้อมดูเหตุการณ์ว่าฝาแฝดมันจะทำอะไรกัน

“ลูกชุบ นี่กะทินะ กะทิ นี่ลูกชุบนะ เป็นเพื่อนกันนะ” ได้ยินคนแนะนำ หมา กับ แมว ให้รู้จักเป็นเพื่อนกัน ทิมถึงกับยิ้ม


‘คิดได้ยังไงเนี่ย’


น้ำนิ่งจับขาหน้าของกะทิยื่นไปข้างหน้าลูกชุบ  เจ้าหมาดมๆ เหมือนจะได้กลิ่นคล้ายของตัวเองก็ก็เข้าเลียที่ขานั้น และก็ที่หน้าแมว เจ้าแมวร้อง ประท้วงหากแต่ไม่กลัวเหมือนที่ได้กลิ่นครั้งแรก ตาน้ำปล่อยมือที่ล๊อคคออยู่ แล้วลุกขึ้น ลูกชุบก็งั๊บเข้าที่ปลอกคอของกะทิ

“ก็แค่นี้ อย่าพากะทิไปลงท้องร่องละ พ่อมันมาตีหัวกูตายแน่” ตาน้ำบ่น ฝาแฝดออกเดินนำเพื่อนไป มีลูกชุบที่คาบเจ้ากะทิอยู่เดินตาม พร้อมๆกับเพื่อน

เดินเข้ามาอีกฝั่งของพื้นที่ในบ้าน ที่อยู่ห่างจากเรือนไทยไม่มานะ จะเจอบ้านตึกแถว 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องโถ่งโล่ง หากแต่ยังคงเป็นบ้านทรงสมัยก่อน ที่ดูเข้ากับเรือนไทยเป็นอย่างดี

ทิมดูงงกับสถาปัตย์ตรงหน้า จนพอสต้องเอ่ยแซว

“ wonderland มั๊ยละ”

“มากๆ” คำตอบทำให้พอสขำไปอีก

เดินเข้าไปในตัวบ้าน เห็นผู้ใหญ่นั่งอยู่กันมากหน้าหลายตา เด็ก 3 คนก็ยกมือ ทำความเคารพ หากแต่ตาน้ำ เดินเข้ากราบที่เท้าแม่ และ แด๊ด


“สุขสันต์วันเกิดนะลูกชายคนโต มีความสุขมากๆ แข็งแรงๆ  ขอบคุณที่เกิดมาอยู่กับแม่และแด๊ดนะครับ”

ฝาแฝดคนโตโผลกอด แด๊ด และแม่พร้อมกัน

“ขอบคุณที่ให้ชีวิตผมนะครับ”

“เอ๊า! โตจะแย่ ยังจะร้องไห้อยู่อีก เอ๊…นี่แม่เริ่มไม่แน่ใจว่ามีลูกชายหรือป่าว”

ตาน้ำนะแค่น้ำตาซึม แต่น้ำนิ่งนะมันร้องไปแล้ว

“น้ำนิ่ง มาหาแม่มาลูก” น้ำนิ่งเดินเข้าไปกอดแม่ ตาน้ำก็ขยับกราบที่ตักคุณตา คุณยาย รวมถึงปู่ย่า ที่บินมาหา และแม่นมทั้ง 2 คนไปเรื่อยๆ

แต่หากน้ำนิ่งที่นั่งกับแม่เฉยๆ ทำทิมคิ้วขมวด จนพอสแอบขำกับคนที่ชอบเพื่อนตัวเองไม่ได้

“มันเกิดคนละวันกัน รู้ป่ะ”

“ยังไง มีแบบนี้ด้วยหรอ” พอสพยักก่อนตอบออกมา

“ไอ้น้ำเกิด 24 ธันวา ตอน 5ทุ่ม 58 ไอ้นิ่งเสือกไปเกิด เที่ยงคืน 3 นาที มันก็เลยเป็นวันที่ 25 เพราะงั้น ไอ้นิ่งมันเลยเกิดพรุ่งนี้แทน ก็โชดดีที่มันเกิดที่ไทย ถ้าเกิดที่บ้านปู่นะ ยากแน่ๆ ช่วงเทศกาลประเทศเค้าหยุดยาว นี่ปู่ย่ามันก็เลยได้บินมาหา”

ทิมที่พอจะนึกอะไรออกมา ก็ร้องอ๋อ

“ถึงว่า เห็นปีก่อนลงรูป HBD คนละเวลากัน ตอนแรกก็งงว่าทำไม มันเป็นแบบนี้เอง ไม่ได้สังเกต”

หากตาน้ำไหว้แม่เพ็ญแม่และแม่ภาเสร็จ ก็เดินกลับมาหาน้ำนิ่ง

“ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันนะ”

คำขอบคุณซ้ำๆที่ฟังกันทุกวันสำคัญ แต่คนฟังก็ไม่เคยเบื่อ ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกดีที่ได้ฟัง เพราะมันยิ่งทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้นทุกครั้ง


ผละจากน้ำนิ่งก็ก็เดินไปหากลุ่มเพื่อน พอสโดนคว้ามากอดแบบไม่ทันตั้งตัว ตาน้ำกดจูบเบาๆ ข้างที่ไม่มีใครมองเห็น

“ขอบคุณนะพอส ขอบคุณทุกอย่าง” คำนี้พอสก็ได้ยินมันทุกปีที่งานวันเกิดฝาแฝดเนี่ยละ หากปีนี้ไอ้คนกอดมันแถมจูบเบาๆมาให้ หน้าแดงไปอีก ผละจากพอส ก็เป็นทิม

ตาน้ำกอดทิมตบเบาๆที่หลัง

“ขอบคุณที่เป็นเพื่อนกูนะทิม”

“อืม ขอบคุณมึงเหมือนกัน”

แล้วก็เป็นต้าร์ ตาน้ำยกมือ 2 ข้างตบที่ไหล่

“ขอบคุณที่ช่วยกูดูแลน้ำนิ่งนะ”  ต้าร์พยักหน้า ตบไหล่กลับคืน

“เอ๊าๆ เด็กๆ ไปพักผ่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าไปลูก เดี๋ยวบ่ายมาทานของว่างกัน นี่กินข้าวกันมาแล้วใช่มั๊ย”

“ครับแม่ พาไปกินในเมืองมา” น้ำนิ่งตอบ

"เดี๋ยวเด็กๆ ไปนอน เรือนรับรองนะลูก หรือจะนอนที่นี่"

“นอนหลังเล็กก็ได้ครับ นอนนี่เสียงดัง เดี๋ยวรบกวนปู่กับย่า” พอสตอบ

ปู่กับย่ายังคงคุยกับหลานชายทั้ง 2 ไม่ได้เจอตัวเป็นๆมานาน จะมีเห็นหน้าก็แค่ วีดีโอคอลคุยกันประปราย

เวลาของว่าง แก็งค์เด็กลงไปนอนเล่นที่เรือนแพ ด้านบนเป็นของผู้ใหญ่ จัดคล้ายทานอาหารอยู่ในสวนอังกฤษ
น้ำนิ่งเห็นทิมมองดูบรรยากาศรอบตัว ก็เดินเข้าไปคุยด้วย

“อยู่ได้มั๊ย?”

“ได้สิ แค่มองว่าเหมือนในหนังเลยอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะได้เห็นของจริงสวยๆแบบนี้”

“ดีใจที่ชอบนะ” หากทิมอยากจะบอกว่าชอบเจ้าของบ้านด้วยก็ต้องหยุดไว้ก่อน

โรตีสายไหมที่น้ำนิ่งซื้อมาถูกแจกจ่ายให้กับบ้านของเด็กๆที่มาช่วยทำงานในบ้านเป็นประจำจนหมดตั้งแต่ช่วงบ่าย

 
มื้อค่ำของปู่ย่านั้น กลายเป็นมื้อสำคัญที่อยู่กับครอบครัวที่ไม่ได้เจอกันนานเป็นประจำทุกปี
ในบ้านตึกแบ่งเป็นโต๊ะเด็กและโต๊ะผู้ใหญ่ มีต้นคริสต์มาสประดับไฟ รวมทั้งป้ายตกแต่ง Merry Christmas
และ Happy Birthday     บ้านไทยๆที่มีงานฉลองวันนี้ ไม่ได้ทำให้คนแถวนั้นแปลกใจมากนะ เพราะมันเป็นเรื่องปกติของบ้านนี้ทุกปีอยู่แล้ว

กลุ่มเด็กเล่นเกมส์แข่งกันกินขนมกันอย่างสนุกสนาน

ลูกชุบที่ถูกจับอาบน้ำ ก็แต่งตัวหล่อเป็นซานต้าเข้ากับกะทิที่มีที่คาดผมหมวกแดงอยู่บนหัว

ดึกมากแล้ว ผู้ใหญ่แยกย้ายกันขึ้นนอน เด็กๆช่วยกันเก็บของ เสร็จแล้วก็เดินไปที่เรือนรับรอง
เรือนรับรองนี้มีไว้ให้แขกที่เป็นญาติมาพัก เป็นเรือนไทย สำเร็จรูปที่มีขายกันทั่วไป ตัวเรือนยกสูงไม่มาก มีนอกชานทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน ด้านในเป็นโถ่งนั่งเล่น และห้องนอน 2 ห้อง

ฝาแฝดอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็ออกมานอนดูดาวกันที่นอกชาน

ใกล้ถึงเวลา 5 ทุ่ม 58 นาที น้ำนิ่งก็หยิบกล่องส่งให้ตาน้ำ

“สุขสันต์วันเกิด”

“หืม”

“แกะดิ”

“ขอทายก่อน” ให้กันทุกปี ก็ต้องทายกันทุกปี   

“เสื้อ” น้ำนิ่งส่ายหน้า

“กระเป๋า” เห็นคนให้ส่ายหน้าก็เลยแกล้งกระซิบกลับ

“กางเกงใน” ก็โดนตบไปที่อกเบาๆ 1 ที

“ไม่แกะเราแกะเองละนะ” ส่งมือไปคว้าของ หากคนรับหมุนตัวหนี

“อะไรเนี่ย ให้คนอื่นมีการแกะเองด้วย”

“แกะสักที”

แกะออกมาก็เป็นรองเท้ากีฬาแบบที่คนพี่ชอบ หากแต่มันเป็นแบบและสีที่หากยากเกินกว่าในไทยจะมี

“โหยยยยย ไปหามาจากไหน”

“ไม่ยากเลย บอกแม่ จบ ฮ่าๆ” ได้ยินแล้วก็ล็อคคอน้องมาหอมแก้ม ฟัดกันไปมา

“ตกลงใครซื้อหืมๆ”

“โอ๊ยๆ พอ ก็ให้แม่หาให้แต่ตังค์เรานะ”

“แล้วไป” พูดจบ ก็กดจูบไปที่หน้าผากของน้ำนิ่งเบาๆ ขอบคุณนะ

น้ำนิ่งหยิบกล้องโพลารอยด์แล้วก็ถ่ายรูปคู่กันพร้อมของขวัญที่อีกคนยังถือในมือ   
แล้วเอาโทรศัพท์นั้นถ่ายรูปจากกล้องโพลารอยด์อีกที   
ไม่บ่อยนักที่ฝาแฝดจะมีรู้คู่กัน ถ้าจะมีก็มีแค่วันสำคัญๆแบบนี้

เวลาล่วงเลยถึง เที่ยงคืน 1 นาที เพื่อนๆที่ฝาแฝดคิดว่าหลับไปแล้ว ก็เดินถือเค๊กออกมาร้องเพลง HBD ให้ โดยพอสเป็นคนถือ
เที่ยงคืน  3 นาที เทียนที่อยู่บนเค๊กก็ดับลง พร้อมคำอธิฐานของน้ำนิ่ง

ลืมตามาก็เจอกล่องของขวัญจากตาน้ำยื่นให้

“แกะ”

“ทายก่อน”

“เสื้อ” ตาน้ำส่ายหน้า

“รองเท้า” คนให้ก็ยังส่ายหน้าอยู่

น้ำนิ่งตกใจกลัวตัวเองจะได้รับของแบบที่คนพี่ทายไว้ก่อนหน้าก็ต้องรีบแกะ
หากเป็นกระเป็นเป้ยี่ห้อเดียวกับรองเท้าที่ซื้อให้ตาน้ำ

"รู้ได้ไง"

“แม่บอก”

“โหยยย ถ้าแม่ไม่บอกก็รู้ใช่ม่ะ”

“ป่าวเลย รู้ก่อนอีก เราฝากแม่ดู แล้วแม่มาบอกก็เลยบอกว่านิ่งฝากดู  เราเลยบอกแม่ว่าของน้ำนิ่งเดี๋ยวซื้อเอง”

น้ำนิ่งมองหน้าฝาแฝดทียักคิ้วให้จึกๆ

“แน่ใจนะ”

“โหยยยยยยย ระดับนี่แล้ว” เพื่อนขำกับความดักทางถูกของฝาแฝด

ตาน้ำหยิบกล้องโพลารอยด์มาถ่ายรูปเหมือนที่น้ำนิ่งทำเหมือนกันแล้ว

พอสส่งของขวัญให้น้ำนิ่งและตาน้ำ

ของน้ำนิ่งเป็นสมุดโน้ตแบบที่เจ้าตัวชอบ

ส่วนของตาน้ำเป็นเสื้อกีฬายี่ห้อเดียวกับรองเท้า

ก็เพราะตาน้ำชอบแบรนด์นี้จนใส่ตลอด มันก็สังเกตได้ง่าย

“โหยพอส ทำไมของน้ำมันดูดี ไฮโซกว่าของกูละ”

“ไฮโซไร มาจากญี่ปุ่นทั้งคู่ละ ของมึง Midori เลยนะเว้ย ทำมาบ่น”

“แต่หนังมัน Made in Thailand มั๊ยละ”

“ก็เหมาะกับมึงแล้วไอ้ลูกครึ่ง กูรู้มึงชอบแบรนด์นี้ อย่ามางอแงน่า”

ได้ยินคำเที่เพื่อน 2 คนคุยกัน ทิมก็เริ่มหวั่นใจกับของขวัญที่เตรียมมาให้
ก็ไม่รู้อีกคนจะชอบรึป่าวนะสิ

ต้าร์ส่งของให้น้ำนิ่ง เป็นเซ็ตอุปกรณ์ทำขนมเล็กๆ ส่วนของตาน้ำไม่มี ต้าร์ให้เหตุผลว่า

“มึงก็กินขนมที่น้ำนิ่งทำ เนี่ยมึงก็ได้ของขวัญจากกูละ” ฉลาดมากมึง

ทิมส่งของให้ฝาแฝด

เป็นปากกาสลักชื่อของทั้งคู่ ต่างกันที่สี

“เชื่อได้ ไอ้นิ่งไม่ใช้”

ทิมมองหน้าเจ้าของชื่อที่ขำกับความรู้ทันของเพื่อน ก็เอ่ยตอบทิมไป

“เราเสียดายเวลาไส้มันหมดอะ”

“เห้ย หมดก็บอก เดี๋ยวเราซื้อให้”

“หร๋า ทิม งั้นมึงต้องซื้อให้กูด้วยแล้วละ”

“มึงซื้อทีเป็นโหลไอ้น้ำ กูรู้ มึงแบ่งน้ำนิ่งใช้เลย”

เสียงหัวเราะดังขึ้นยามขำคืน จนล่วงเข้าวันใหม่ไปหลายชั่วโมง ฝาแฝดไล่เพื่อนไปนอน เพราะต้องตื่นเช้าใส่บาตร


---------------------------TBC-----------------------------

พรุ่งนี้จะขอต่อ 15.2 วันเกิดของน้ำนิ่งนะคะ
ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนอ่าน คนเม้นท์ คนรอ และทุกกำลังใจคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-12-2016 22:09:18 โดย kiiro »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
 :HBD2: ตาน้ำของพี่  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ kiiro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
บทที่ 15.2 วันสำคัญวันกับคนสำคัญ   

“น้ำตื่น” น้ำนิ่งลุกขึ้นนั่งแล้วร้องปลุก แต่ตาน้ำคว้าตัวมากอดแล้วก็ขยับเอาตัวเองคร่อมร่าง ทำให้คนปลุกมีท่าทางเหมือนลงไปนอนเหมือนเดิม

“เอ๊า นิ่งตื่น”  น้ำนิ่งส่งสายตามองค้อนควับ

“ตื่นสิ ลุก” ก็จะไปลุกได้ยังไง ไอ้พี่มันนอนทับอยู่
 
น้ำนิ่งขืนตัวเองให้ดันคนที่คร่อมอยู่ลงไปลงไปนอนใต้ร่าง พอตัวเองขึ้นไปอยู่ข้างได้ ก็ดันตัวยืนขึ้นทันที หากแต่คนพี่จับมือรั้งไว้ไม่ให้เดินหนี

“เร็วๆ เดี๋ยวสาย” น้ำนิ่งส่งสายตาดุมองคนที่รั้งแขนตัวเองไว้ แล้วออกแรงดึง พอตาน้ำลุกขึ้นมาได้ ก็คว้าเอวน้องเข้ามากอด

“สุขสันต์วันเกิดนะ” พูดจบก็หอมไปที่แก้มเบาๆ คนน้องหอมก็หอมตอบ ทำให้อ้อมกอดนั้นคลายลง คนโดนปล่อยตัวเลยวิ่งหนีไปอาบน้ำ

อันที่จริง พาเพื่อนมานอนบ้าน ก็ควรจะนอนกับเพื่อนนั่นละ แต่กับฝาแฝดนั้นไม่ใช่ 2 คนจึงแยกกลับมานอนที่เรือนไทย ส่วนเพื่อนๆ ก็จัดสรรให้นอนกันไปคนละห้องที่เรือนรับรอง

สมาชิกพร้อมหน้ากับที่เรือนแพ รอใส่บาตร เป็นบรรยากาศที่หาดูได้ยาก ที่ยังมีพระบิณฑบาตรทางเรือ

ฝาแฝดช่วยกันใส่บาตร พร้อมแม่และแด๊ด

ใส่เสร็จผู้ใหญ่ก็ขึ้นเรือนไปก่อน เด็กๆช่วยกันเก็บของ

เดินกลับมาที่บ้านตึก ผู้ใหญ่ก็นั่งกันพร้อมหน้าเหมือนเมื่อวาน

น้ำนิ่งเดินเข้าไปกราบที่เท้าแม่ และแด๊ด อย่างที่ตาน้ำทำ คำอวยพรที่เหมือนกันถูกส่งมาให้

“สุขสันต์วันเกิดนะลูกชายคนเล็ก มีความสุขมากๆ แข็งแรงๆ  ขอบคุณที่เกิดมาอยู่กับแม่และแด๊ดและครอบครัวเรานะครับ”

น้ำนิ่งกอดแม่และแด๊ดร้องไห้ สะอื้นไปด้วย

“ขอบคุณ….อึก….ที่ให้ชีวิตผมนะครับ”

แล้วก็ขยับกราบคุณตาคุณยายที่ช่วยเลี้ยงดู ปู่ย่า และแม่นมทั้ง 2 คน ผู้ใหญ่ทุกคนน้ำตาคลอกันภาพตรงหน้า เหมือนเช่นเมื่อวาน

แล้วก็เดินมาหาฝาแฝดตัวเอง

ตาน้ำดึงน้ำนิ่งเข้ามากอดน้องจนแน่น

“ขอบคุณที่เกิดมาอยู่ด้วยกันนะ” แต่คนที่พูดนั้น ดันไม่ใช่เจ้าของวันเกิด แต่เป็นฝาแฝดคนพี่ ทำให้น้ำนิ่งน้ำตาไหลออกมาอีก

น้ำนิ่งเดินออกไปหาพอส

“มึงนี่ จะร้องทำไมเนี่ย วันเกิดนะ ขี้แยเหมือนพี่มึงเลย” พอสดุขณะที่กอดก็ลูบหลัง ลูบไหล่ไปเรื่อยๆ 

“ขอบคุณที่เป็นเพื่อนที่ดีของกูนะพอส”

แล้วก็ปล่อยตัวเพื่อนรักออก น้ำนิ่งขยับไปหาต้าร์ กอดกันเบาๆ ไม่นาน  แล้วก็หันไปหาทิม

ก็เขินเกินกว่าจะขยับตัวไปหา ทำให้ทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยังมีรอยยิ้มส่งไปให้ ทิมที่ดูอาการออก ก็ส่งยิ้มกลับมา

'ไม่ต้องพูดอะไรก็เข้าใจกันดี'



“อ้าว ไปกันเถอะลูก เดี๋ยวจะสาย” เห็นกลุ่มเด็กคุยเล่นกัน ผู้ใหญ่ก็ต้องเอ่ยปากเตือนถึงเวลาเพราะกลัวจะล่าช้า

รถ 3 คันเคลื่อนตัวออกจากบ้าน ตายา ปู่ย่า และแม่นมทั้ง 2 ไปรถตู้ ตาน้ำและน้ำนิ่งไปกับแด๊ดและแม่ ส่วนพื่อน 3 คนไปด้วยกันเหมือนเดิม


ถึงจุดหมาย ก็เจอกลุ่มทะโมนอีก 3 คนของวิศวะมาจัดข้าวของที่ตาน้ำฝากให้เอามารออยู่แล้ว    


“สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า”

ฝาแฝดรู้ว่าตัวเองมี และโชคดีกว่าเด็กเหล่านี้มากนัก จึงอยากที่จะช่วยเหลือ และแบ่งปัน ความรู้สึกของฝาแฝดนี้เพื่อนๆเองก็รับรู้และชอบใจ จึงกลายเป็นธรรมเนียมกันทุกปีตั้งแต่รู้จักกันมา

กลุ่มเด็กวิศวะ เฮฮากันราวกันว่าไม่ได้เจอกันมานานปี

ยืนคุยเล่นกันไม่นาน รถตู้อีกคันก็เข้ามาจอด พอสร้องทักขึ้น

“ พ่อ แม่” คนที่ตามพ่อแม่ของพอสมานั้น ก็หนีไม่พ้นเพียว

ไม่อยากมาก็ไม่ได้หรอก มันเป็นมารยาทที่บ้านฝาแฝดเชิญบ้านนี้มาร่วมทำบุญกันทุกปี

ตาน้ำหน้านิ่งทันที หากแต่น้ำนิ่งกระตุกแขนเตือน เพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

การแจกอาหารและของเล่นให้แก่เด็กๆ เป็นไปอย่างสนุกสนาน  เหล่าทะโมนวิศวะที่ผ่านค่ายอาสาและการรับน้องมาอย่างเต็มที่ก็ส่งความบันเทิงให้แก่น้องๆ ที่สถานสงเคราะห์เป็นอย่างดี


เสร็จจากสถานสงเคราะห์ ก็ย้ายกันไปที่ร้านอาหารริมน้ำ

แบ่งเป็นโต๊ะ ผู้ใหญ่ และเด็กเช่นเคย หากแต่เพียวขอนั่งกับพ่อและแม่แทน

“พี่เพียว ไม่มานั่งด้วยกันหรอ” น้ำร้องถาม

“ไม่เป็นไร เผื่อแม่จะเรียกใช้ จะได้ไม่ต้องตะโกน”

จบจากร้านอาหารก็ล่วงเลยเข้าช่วงเย็น กลุ่มเพื่อนแยกย้ายกลับกรุงเทพก่อน ฝาแฝดก็กลับไปเอารถที่บ้านอยุธยาแล้วตามไป

ผู้ใหญ่รู้ดี วัยรุ่นเนี่ยมันก็อยากมีงานฉลองกับรุ่นเดียวกัน สมัยนี้น้อยคนนักที่จะกลับมาหาครอบครัวและพ่อแม่ก่อนแต่สำหรับฝาแฝดนั้นไม่ใช่เลย

จุดนัดหมายก็เป็นร้านส้มเหมือนเดิม หากแต่มีโต๊ะของ 5 หนุ่มวิศวะเพิ่มเข้ามา

นั่งกินนั่งเล่นกันอยู่ไม่นาน เสียงตาร์บนเวทีก็ดังขึ้น

“สวัสดีครับ ก็วันนี้วันเกิดเพื่อนผม เดี๋ยวขอร้องเพลงให้เพื่อนผมหน่อยนะครับ”

เสียงเพลง Happy BirthDay ดังขึ้นให้ฝาแฝดได้ยินอีกครั้ง หากไม่ใช่นักร้องประจำวงของต้าร์ เพราะต้าร์ขอร้องเอง
เสียงเพลงอวยพรจบลง น้ำนิ่งเดินไปส่งแก้วให้ต้าร์ หากไฟหน้าเวทีก็ดับลง ขณะทีเวทีกำลังวุ่นวาย เสียงของพี่ส้มเจ้าของร้านก็ดังขึ้นก่อน


“ค่ะ ก็เป็นธรรมเนียมของร้านนี้นะคะ หากว่าเจ้าของวันเกิดได้รับเพลงอวยพรจากทางร้าน ก็ร้องเพลงให้ฟังคืน 1 เพลง แล้วจะได้เหล้าฟรี 1 ขวด” จบเสียงเจ๊ส้มคนสวย เสียงดนตรีก็ดังขึ้น

เพราะกลุ่มวิศวะคุยกันเสียงดังแทบไม่ได้ยินเสียงเจ๊ส้ม พอสจึงส่งสัญญาณมือไปให้ทิมที่นั่งอยู่ตรงข้าม บอกให้หันไปดูที่หน้าเวที เสียงร้องเพลงจากคนที่ปกติไม่ค่อยพูดก็ดังขึ้น

“เธอ เธอเป็นสีชมพู เธอมีโลกของเธออยู่

ที่ฉันไม่อาจล่วงรู้และไม่เคยเข้าไป

ส่วนฉันเป็นสีเทา มีแต่ความเหงารอบๆ กาย

ไม่รู้เลยในความหมายอะไรมากกว่านี้


แต่เธอและฉันก็เดินเข้ามาชิดใกล้

มาทำให้ฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่

เมื่อชีวิตของเราไหลปนกัน

โลกของฉันก็ดูจะเปลี่ยนสีไป


อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน

เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน

โลกของฉันและเธอก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น

เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา


เราผลัดกันเดินเข้าไป สู่โลกคนละใบ

สุดท้ายก็ต่างไม่รู้ ว่าโลกของใครเป็นของใคร

เมื่อในวันนั้นเธอเข้ามาใกล้ๆ

มาทำตัวฉันแปรเปลี่ยนเป็นสีใหม่

และเมื่อสีของเราไหลรวมกัน

โลกของฉันก็ค่อยๆเปลี่ยนไปทั้งใบ


อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน

เมื่อเราต่างเทสีผสมละลายเข้าด้วยกัน

โลกของฉันและเธอก็สดใส กว้างใหญ่ขึ้นกว่าวันนั้น

เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา


โอ้ เมื่อเธอได้เข้ามา ฉันก็ได้เห็นอะไรที่มากกว่า

จากนี้และเรื่อยไป จากนี้ทั้งหัวใจ

ก็คงจะไม่มีอะไรเหมือนเดิมใช่ไหม


อะไรเป็นของเธอ ก็กลายเป็นอะไรของฉัน

เมื่อเราต่างเทสี ผสมละลายเข้าด้วยกัน

ก็คงจะเป็นไปตามทฤษฏีที่เขาบอกไว้ว่ามัน

เมื่อสีทั้งสองผสมกันนั้น


ก็คงไม่มี อะไรที่จะเป็นเหมือนเดิมได้อย่างวันนั้น

เมื่อสีทั้งสองผสมกัน เมื่อนั้นมันก็จะเป็นสีของเรา


*ทฤษฎีสีชมพู – แสตมป์ อภิวัช

เสียงเพลงจบลงพร้อมกับเสียงปรบมือยาวนานจากคนในร้าน

ทิมตกอยู่ในภวังค์ตั้งแต่ได้ยินเสียงน้ำนิ่งร้องเพลง

หากตาน้ำและพอส ดันทิมที่ถือดอกกุหลาบที่หยิบจากบนโต๊ะให้เดินไปหน้าเวที

นักร้องของวงต้าร์เดินออกมาส่งแก้วเหล้าให้น้ำนิ่ง ‘คนที่เจอที่สนามบาส’ ทิมเห็นแล้วหยุดชะงักไป

แต่ต้าร์ที่มองมาเห็นทิมพอดี ก็ออกไปรับแก้วนั้นจากเพื่อนตัวเอง แล้วบอกให้กลับไปนั่ง

น้ำนิ่งจะหมุนตัวลงมา แต่ต้าร์รั้งไว้ ส่งสัญญาณให้มองไปยังคนที่กำลังเดินมา เห็นแค่นั้น น้ำนิ่งก็หน้าขึ้นสีอ่อนๆ

ทิมเดินมาจนถึงหน้าเวที ส่งดอกไม้ให้น้ำนิ่ง กระซิบให้ได้ยินกัน 2 คน

“ร้องเพราะนะเนี่ย ครั้งหน้าร้องให้ฟังอีกนะ” ก็หยอดไปแค่นี้แล้วก็เดินกลับไป หากนักร้องจำเป็นหน้าแดงก่ำเหมือนกับเมา

พี่ส้มเดินออกมา พร้อมเหล้าในมือ 2 ขวด

“โอ๊ย..น้ำนิ่งร้องดีขนาดนี้พี่ให้ 2 ขวดเลย มาร้องให้ฟังบ่อยๆนะ จะไล่ไอ้โอมมันออกละ”

“อ้าว…เจ๊ อย่าทำกับน้องตัวเองแบบนี้” เสียงโวยวายดังขึ้นข้างเวที

น้ำนิ่งเดินกลับมานั่งข้างฝาแฝด ส่งเหล้าในมือให้กลุ่มเพื่อนตาน้ำ เอียงหัวพิงไปที่ไหล่

ตาน้ำยกไหล่ขึ้นคล้ายแกล้ง

“ร้องเพลงแค่นี้เหนื่อย อ่อนวะ” พูดแล้วก็ส่งแก้วน้ำป่าวให้ดื่ม


วันสำคัญของชีวิตแบบนี้ฝาแฝดไม่กินเหล้าหรอก เพราะถือว่าเป็นวันดีของชีวิต ไม่ควรมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ที่มานะมาแค่สนุกกับเพื่อนๆ แค่นั้นละ
   


‘แต่วันเกิดปีนี้ น้ำนิ่งได้รู้แล้ว มากกว่าการได้ให้ ได้รับ นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนแล้ว ก็มีคนที่ตัวเองรู้สึกดีด้วยเพิ่มเข้ามา แค่นี้ก็พอแล้วที่ทำให้ตัวเองรู้สึกมีค่า เลิกกลัวว่าคนแปลกหน้าจะรังเกียจตัวเอง เพราะการได้รัก และได้รับความรักคือยารักษาที่ดี และวิเศษที่สุด’



-----------------------------------------TBC------------------------------------------


HBD ฝาแฝดครบแล้ว อบอุ่น อบอวนไปด้วยความรักจริงๆ


ขอบคุณพื้นที่บอร์ด คนเม้นท์ คนรอ คนอ่านทุกคนนะคะ

ที่ลงช้า เพราะคนเขียนอยากลงตรงวันเกิดขอฝาแฝดตามที่ตั้งใจ


 :กอด1:

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
เพียวกับตาน้ำนี่จะมีดีกันไหมอ่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด