{{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: {{ Prince's Room }} ระวัง...เขตอันตราย!! [3P] - ตอนพิเศษ : ครบรอบ1เดือน - P.29 -  (อ่าน 263101 ครั้ง)

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
คิดถึงพี่เอกอ่าาา
#ว่าแล้วก็กลับไปอ่านเอกนายอีกรอบ  :hao6:

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:ตอนต่อไปจะเกิดอะไรกับรัณนะรอค่าาา

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
ชีวิตนายดับ(อนาด) แน่ๆรัญเอ๋ย  :laugh:
ปล. กรจ๊ะ น้อยต่ายยังคงความน่า(ลัก) อยู่รึเปล่าเอ่ย  :really2:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'
ตอนที่ 24 : โอกาส

หลังทำแผลเสร็จ คีรีกับราเชนทร์ก็ยืนรอผมอยู่หน้าห้องตรวจอยู่แล้ว

เห็นพวกเขายืนมองไม่พูดอะไรสักคำผมก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เพราะตอนโทรไปบอกว่าตัวเองบาดเจ็บ ทั้งคู่ต่างนิ่งจนเป็นผมเองที่ใจเสีย

คนเดียวที่รู้เรื่องครอบครัวไม่สามารถขู่ผมได้อีกแล้ว ทั้งที่ควรจะโล่งอก แต่ทำไมผมถึงโดนคาดโทษเหมือนทำอะไรผิดกันนะ ผมนึกว่าจะเห็นคีรีกับราเชนทร์เข้ามาช่วยปลอบใจ คอยดูแลเป็นห่วงเหมือนอย่างเคยซะอีก

แต่พวกเขาไม่แม้แต่จะถามถึงแผลของผมด้วยซ้ำ

“ไม่มีอะไรจะพูดกับพวกเราหน่อยเหรอรัญ”

...ประโยคนี้อีกแล้ว


“ผมทำภารกิจให้กับคลับ แต่พลาดท่าก็เลยบาดเจ็บ...เป็นแผลโดนกระสุนถากครับ”

“ไม่ใช่เรื่องนี้” คีรีเอ่ยเสียงเข้ม ทำเอาผมถึงกับเผลอหดคอเหมือนเด็กโดนดุ พวกเขาต้องการอะไร ผมก็อธิบายไปหมดแล้วนี่นา

“พวกคุณไม่ห่วงผมเลยเหรอครับ” ผมถามอย่างอัดอั้นเมื่อไม่มีใครพูดต่อ อย่างกับจะเค้นให้ผมสารภาพออกมาเองอย่างนั้นแหละ นี่มันอะไรกัน ผมเองก็อยากจะอ้อนคนรักหลังผ่านมรสุมมาเหมือนกันนะ แต่พวกเขายืนเว้นระยะห่าง แถมยังจ้องเขม็งอยู่ได้

ผมไม่ใช่นักโทษสักหน่อย!

“แล้วทำไมฉันต้องห่วงคนที่ไม่ห่วงตัวเองด้วย”

“คุณพูดอะไรน่ะคีรี นี่เป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้ตั้งใจจะเจ็บตัวนะ” ผมเอ่ยพลางขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจพวกเขาสองคนเอาซะเลย จบเรื่องวุ่นวายแล้วพวกเราควรจะกลับห้อง นอนกอดนอนเคียงข้างกันสิ 

“แล้วพวกฉันล่ะ...” ขนาดราเชนทร์ยังไม่ยิ้มแย้มเหมือนเคย เวลาเห็นเขาเป็นแบบนี้แล้วใจผมโหวงยิ่งกว่าถูกเค้นคอซะอีก

“พวกคุณทำไมเหรอครับ” ผมถามกลับ “ผมทำภารกิจให้คลับ ตามติดเรวันต์จนไปที่ห้องเขาเพื่อเอาปืน ผมก็เล่าทุกอย่างให้พวกคุณฟังหมดแล้วนี่ แล้วยังต้องการอะไรจากผมอีก ในเมื่อเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกคุณสักหน่อย!”

“ไม่เกี่ยวกับพวกฉันแน่เหรอ” คีรีเอ่ยถามเสียงเรียบ ไม่รู้สึกอะไรที่ผมกระแทกเสียงใส่อย่างหาได้ยากคล้ายอยากตัดบทเต็มทน “ถ้าอย่างนั้นเธอเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ทำไมต้องตกลงรับทำด้วย เรื่องนี้เองก็ไม่เกี่ยวกับคลับโดยตรงไม่ใช่รึไง”

“เพราะเรวันต์เป็นแฟนเก่าผม ถ้าผมร่วมมือด้วยจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น”

“แต่นี่ไม่เกี่ยวกับคลับ”

“ผมแค่อยากช่วย...”

“ในเมื่อไม่เกี่ยวกับคลับ แล้วเธอจะเสนอตัวเสี่ยงตัวเองขนาดนี้เพื่ออะไร”

“ก็บอกว่าเพราะเรวันต์เป็นแฟนเก่าผมไง พวกคุณต้องการอะไรจากผมกันแน่วะ!” ผมตะโกนอย่างทนไม่ไหวเมื่อโดนท้วงถามวกไปวนมา เรียกสายตาจากผู้ป่วยรอบข้างและนางพยาบาลให้มองมาเป็นตาเดียว

ผมมองอย่างตัดพ้อ ไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมต้องบีบผมด้วย ทั้งที่ปัญหาของผมผมก็จัดการเองได้แล้ว ไม่เคยสร้างเรื่องลำบากใจอะไรให้พวกเขาต้องมาช่วยแก้สักนิด แล้วยังต้องการอะไรจากผมอีก

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคลับ และต่อให้เรวันต์เป็นแฟนเก่า ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะเสนอตัวช่วย”

“ก็เพราะว่า...”

“หรัญญ์ สิ่งที่พวกฉันต้องการ คือเรื่องนี้ ‘เกี่ยวกับเธอ’ ได้ยังไง”

เกี่ยวกับผมยังไงงั้นเหรอ

ก็เรื่อง...


ผมเม้มปาก ได้แต่เรียกชื่อเขาซ้ำๆ ในใจด้วยความอึ้งตะลึง

คีรี...คีรี

ผมพูดอะไรไม่ออกนอกจากเรียกชื่อเขาซ้ำๆ ในใจด้วยความอึ้งตะลึง ท่านประธานช่างวิเคราะห์ได้เก่งเหมือนเคย เขาสามารถไล่ต้อนมาถึงจุดที่ผมพยายามปกปิด เรื่องที่ผมเก็บงำพวกเขาและไม่คิดจะพูดออกมา

“มันเป็นเรื่องส่วนตัว” ผมตอบเลี่ยงๆ ขณะหลบตา

“งั้นเราเลิกกันเถอะ”

...ว่าไงนะ!?


ผมเงยมองคีรีอย่างไม่อยากเชื่อ ทำไมเขาถึงพูดคำนั้นออกมาง่ายๆ แบบนี้ ทำไมถึงไม่เคารพในตัวผมบ้าง คนทุกคนต้องมีเรื่องที่ไม่อยากบอกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ผมเอง...ก็ไม่เคยจะคาดคั้นอะไรพวกเขาเลยสักครั้ง

“คุณ...”

คุณทำกับผมแบบนี้ไม่ได้!


“ทั้งฉันและราเชนทร์ไม่มีอะไรปกปิดเธอแม้แต่เรื่องเดียว ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ช่วยกันประคับประคอง ทุกอย่างที่เธอขอ พวกเรายินดีปรับยินดีแก้ไข พวกเราทำทุกอย่างเพื่ออยู่กับเธอ หรัญญ์” คีรีเอ่ยเสียงเรียบแต่หนักแน่นคล้ายกับหมุดที่ตอกลึกกลางใจ ผมย้อนนึกถึงวันแรกที่เราคบกันสามคน จนถึงวันนี้...พวกเขาสองคนต้องปรับตัวกันมากเพื่อผมจริงๆ แม้จะทุลักทุเล แอบทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ยอมลงเพื่อไม่ให้ผมต้องลำบากใจ

“ฉันยอมรับ ตอนแรกทั้งฉันทั้งราเชนทร์ต่างก็ตั้งกำแพงไม่อยากยุ่งกับอีกคน แต่ตอนนี้กำแพงนั้นไม่มีแล้ว...เหลือแค่เธอแล้วหรัญญ์” คีรีกล่าว “เมื่อไหร่ถึงจะทำลายกำแพงที่กั้นขวางเราสักที”

คำพูดของคีรีช่างแทงใจ และมันทำให้ผมถึงกับสู้หน้าไม่ได้ ระหว่างพวกเราสามคน...เปรียบเสมือนมุมสามมุมที่ต่างมี ‘เส้นแบ่ง’ กำหนดชัดไม่ให้ก้าวข้าม เมื่อไหร่กันนะที่ขอบเขตเหล่านั้นค่อยๆ หายไป คงตั้งแต่ที่ผมเริ่มสบายใจกับความสัมพันธ์แบบสามคน ไม่ได้อึดอัดหรือปวดหัวอย่างเคย

คีรีกับราเชนทร์พยายามมาก ผมรู้ แต่ไม่ทันรู้ตัวสักนิดว่าเหลือแค่ตัวผมคนเดียวที่ยังขีด ‘เส้นแบ่ง’ ล้อมกรอบตัวเองไว้

มันคงเป็นความเคยชิน และความยึดติดในตัวเองที่คิดว่าสามารถจัดการทุกอย่างได้ และใช่ ผมทำได้จริงๆ แต่นั่น...คงไม่เพียงกับสำหรับคนอีกสองคนที่พร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกัน

คงเพราะผมไม่เคยคิดว่าระหว่างพวกเราจะไปรอดได้ยืดยาว

แม้จะคาดหวัง แต่ลึกๆ ในใจก็ยังมี ‘เขตหวงห้าม’ อย่างหนึ่งที่คอยรั้งไว้ คอยปิดกั้นใจไม่ให้ผมพึ่งพาพวกเขามากเกินไป

“เราเลิกกันเถอะ”

และเมื่อคีรีพูดคำนั้นออกมาอีกครั้ง ผมก็ได้แต่เงยหน้ามองเขาด้วยสมองที่ขาวโพลน

 “รัญ ฉันเองก็คงเป็นของตายให้นายไม่ไหวหรอกนะ ลาก่อน”

และยิ่งเหมือนถูกค้อนทุบใส่แรงๆ เมื่อราเชนทร์เอ่ยออกมาในความหมายไม่ต่างกัน ผมมองพวกเขาสองคนที่หันหลังกลับ ซ้อนทับกับภาพตัวเองที่เคยบอกเลิก พลันในใจนึกหวาดกลัวขึ้นมา

ผมจะรั้งพวกเขาไว้ได้มั้ย ผมควรจะทำยังไง ผม...


สองมือเอื้อมออกไปโดยไม่รู้ตัว

จับชายเสื้อของทั้งคู่ไว้ทั้งที่ตัวยังสั่นเทาและเจ็บแผลตรงต้นแขนขวา แต่ถึงอย่างนั้น...ผมแทบลืมไปแล้วว่าโดนยิง เพราะในใจตอนนี้เจ็บยิ่งกว่าจนแทบพูดอะไรไม่ออก

จริงอยู่ว่าในใจผมไม่เคยคาดคิดว่าเราจะคบกันได้นาน แต่ที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่า คือไม่เคย...ไม่แม้แต่จะฉุกคิดสักเสี้ยวนาทีว่าจะเป็นฝ่ายถูกพวกเขาบอกเลิก!

คนสองคนที่รักผมมาก คนสองคนที่ยอมถึงขนาด...


ขอบตาชื้นไปหมด แต่ผมยังฝืนกลั้น

เป็นเพราะข้อเสียของตัวเองที่ไม่รู้จะปรับยังไง ผมเคยชินกับการเอาตัวรอดคนเดียวมานานเหลือเกิน และไม่มั่นใจสักนิดว่าจะทำอย่างที่พวกเขาต้องการได้ ถ้าอย่างนั้น...ผมควรจะปล่อยพวกเขาไปใช่มั้ย

“ผม...”

ในใจคัดค้านไม่ยอมรับ ทั้งสองมือเองก็กำชายเสื้อพวกเขาแน่น หากเป็นผมที่บอกเลิก...จะไม่มีวัน...ไม่มีทางฟังข้อแก้ตัวใดๆ เด็ดขาดด้วยรู้ดีว่ายังไงก็แก้ข้อเสียข้อนี้ไม่ได้ในเร็ววันแน่นอน

งั้นผมก็ควรจะให้พวกเขาไป เพราะยังไงก็คงคบกันไม่รอด...

“คีรี ราเชนทร์!”

แต่ถึงรู้ผมก็ทำไม่ได้!

“พวกคุณจะคบกับผมอีกครั้งมั้ย”

“...พูดอะไรน่ะรัญ”

“ผมขอโอกาส” ผมรีบพูดออกมา กำมือแน่นขึ้นเมื่อราเชนทร์ทำท่าจะสลัดหนี “ผมเคยให้โอกาสพวกคุณสองครั้ง เพื่อความยุติธรรม พวกคุณก็ควรให้โอกาสครั้งที่สองกับผมบ้าง”

“พูดอะไรเป็นเด็กเล่นไปได้”

ผมกัดฟัน ไม่สนใจคำของคีรี

“คบกับผมนะ” ผมยังกำชายเสื้อพวกเขาไม่ปล่อย และไม่ยอมปล่อยจนกว่าทั้งคู่จะยอมตกลง

ได้ผล เพราะสุดท้ายทั้งคีรีและราเชนทร์ก็ยอมหันหน้ากลับมา ชวนให้ใจชื้น แต่พอเห็นสีหน้าไร้รอยยิ้ม กับแววความโกรธขึงไม่ยอมยกโทษให้ง่ายๆ ผมก็มือสั่น พยายามอย่างมากที่จะไม่หลบสายตา

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือการลองใจ ผมยอมแพ้แล้วทุกประตู

“เข้าใจสิ่งที่ฉันบอกแล้วใช่มั้ย”

“ครับ”

“จะคิดเองตัดสินใจเองอีกมั้ย จะยังเห็นหัวพวกฉันรึเปล่า”

ผมคิดมานานแล้วว่าคำพูดของคีรีมีพลังทำลายล้างสูง และนี่ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าผมคิดถูก

“ผมจะปรับตัว...”

ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดว่าถ้าคอยเอาใจใส่ ดูแลพวกเขาดีก็คงไม่มีปัญหา ด้านเซ็กซ์เราเข้ากันได้ ทุกอย่างเองก็ลงตัวโดยไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของกันและกันแม้แต่น้อย ขนาดคีรีจัดการกับธาราธารยังไงก็ไม่คิดจะถาม ผมไม่สนรายละเอียด คอยฟังแต่ผลลัพธ์เท่านั้น

อยู่กับคีรีและราเชนทร์ ผมสบายใจ แต่ใครเลยจะรู้ว่าระหว่างที่ผมกำลังมีความสุขนั้น พวกเขาอาจจะกำลังอึดอัดกับผมก็ได้

ปัญหาสำคัญที่สุดสำหรับคนรัก ไม่ใช่เรื่องนิสัย หรือเวลาหรอก

แต่อยู่ที่การเปิดใจ

จะยอมรับข้อเสียได้มั้ย หรือจะสลัดหนีจากปัญหานั้นเอาดื้อๆ พร้อมจะรอคอย เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงนั้น หรือปล่อยให้ต่างคนต่างจัดการเรื่องตัวเอง

พอเห็นพวกเขาเริ่มฟังด้วยสีหน้าที่ดูดีขึ้น ผมก็เอ่ยขอร้องออกไปอย่างยอมลงให้ทั้งตัวและหัวใจ ขออย่างเดียวเท่านั้น...

“อย่าทิ้งผม...”


พลันทั้งร่างถูกราเชนทร์ดึงเข้าไปกอด พออยู่ในอ้อมอกอบอุ่นพร้อมสัมผัสลูบเบาๆ ที่ศีรษะจากคีรีสื่อว่าตอบรับคำของผมแล้วก็น้ำตาไหลอย่างสุดกลั้น เหมือนกับระบายความอัดอั้นทั้งหมด ทั้งเรื่องที่ปกปิดพวกเขาและครุ่นคิดเองแทบบ้าคนเดียวออกมาในครั้งเดียว

“ผมรักพวกคุณนะ”

“ฉันก็รักรัญ”

“ฉันก็รักเธอ”

ผมตัดสินใจแน่วแน่ในตอนนั้น

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมจะไม่ยอมแยกจากพวกเขาเด็ดขาด!




อายเป็นบ้า!

นั่นคือความรู้สึกต่อมาหลังพวกเราเดินจับมือไปรอรับยาที่ชั้นหนึ่งพร้อมสายตามองจากคนอื่นๆ ถ้าเป็นปกติผมคงไม่สนใจ แต่พอนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ก็อดคิดไม่ได้ว่าในบรรดาสายตาเหล่านี้มีใครที่เห็นบ้างรึเปล่านะ ที่คุยกันนั้นคุยเรื่องผมตะโกนโวยวายรึเปล่า โอ๊ย...อายจริงๆ

“รัญ!”

หลังนั่งบนโซฟารับแขกระหว่างรอถูกเรียกชื่อได้ไม่ทันไร ชื่อผมก็โดนเรียกจากอีกหนึ่งคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ

“คะ...ควีน”

ครับ ควีนกับบอสเดินโอบกันมาได้ไม่แคร์สายตาคนอื่นยิ่งกว่าพวกผมซะอีก แถมควีนยังกระแซะราเชนทร์ให้เว้นที่เพื่อจะได้นั่งข้างๆ ผมโดยสะดวก แม้คุณชายอยากจะโวยวายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะบอสเองก็มาทิ้งตัวนั่งข้างๆ ควีนอีกต่อ แถมยังแผ่รังสีพร้อมมีเรื่องอย่างโฉด

ราเชนทร์เลยต้องเดินอ้อมไปนั่งข้างคีรีที่ประกบด้านซ้ายผมแทน

“ยังไม่ได้จ่ายเงินใช่มั้ย” ควีนถามพลางกวาดสายตามองว่าผมถือถุงยาอยู่รึเปล่า ท่าทางสนิทสนมปานพวกเรารู้จักกันมานานจนสองหนุ่มมองมาด้วยสายตาแปลกๆ เอ่อ...พวกเขาคงไม่รู้ว่าถ้าควีนอยากสนิทด้วยก็สามารถคุยจ้อกับทุกคนได้ทั้งนั้นแหละ

“ยังครับ”

“ดีแล้ว ฉันมาจัดการเรื่องค่ารักษาให้ ค่าตรวจแผลดูแผลหลังจากนี้ก็มาเบิกได้ตลอดนะ” ควีนว่าอย่างใจกว้าง แม้คิงส์คลับจะไม่มีประกันเป็นลายลักษณ์อักษร แต่พนักงานสามารถเบิกค่ารักษาได้อยู่แล้ว เห็นว่าแต่ก่อนถ้าเจ็บเล็กน้อยจะไม่ค่อยมีคนกล้าทำเรื่องให้บอสพิจารณาเท่าไหร่ แต่พอควีนเข้ามาคุมก็ทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นเยอะ

“ขอบคุณครับ”

“ส่วนเรื่องคลับก็ไม่ต้องห่วง ฉันให้นายหยุดงานจนกว่าจะหายดี มีแผลที่แขนขวาคงจะทำงานบาร์เทนเดอร์ไม่ค่อยถนัดใช่มั้ยล่ะ ฉันจะให้คนช่วยหยิบของส่งของให้ตรงบาร์แทนตำแหน่งแก้ขัดไปก่อน ถือเป็นความรับผิดชอบที่ปล่อยให้คนที่ไม่ได้มีตำแหน่งต่อสู้ไปเสี่ยงอันตราย”

“แต่ว่า...” ผมค่อนข้างกังวล แผลโดนกระสุนถากแค่นี้ถ้าหยุดนานเกินไปเกรงจะโดนมองว่าสำออย แถมคนที่เสนอตัวทั้งที่ควีนบอกว่าไม่ต้องลงทุนลงแรงขนาดนั้นก็เป็นตัวเองซะด้วยสิ

“ฉันตัดสินใจแล้ว ออกคำสั่งแล้วด้วย รีบหายดีไวๆ ล่ะจะได้กลับมาทำงานต่อ ฉันจะรอนะ” ควีนเอ่ยพร้อมยิ้มหวานไม่ปล่อยโอกาสให้ผมแก้ตัว เจอดักขนาดนี้ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากตอบว่า...

“ขอบคุณครับควีน”

“เรื่องจิ๊บจ๊อยน่า” ควีนยิ้มหวานน่ารัก สองหนุ่มที่คอยเฝ้าระวังจ้องตาไม่กะพริบเลยพลอยโล่งอก หันไปคุยกันเองว่าควีนของคิงส์คลับนั้นดูเข้าหาง่ายกว่าที่คิด

ซึ่งต้องดูว่าเขาอยากจะเข้าหาด้วยรึเปล่าน่ะนะ...

“หืม ทำไมตาแดงแบบนี้ล่ะ” จู่ๆ ควีนก็ชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ ผมถึงกับสะดุ้งเพราะไม่เคยเห็นเขาในระยะประชิดแบบนี้มาก่อน
ได้แต่หลุบตาลงเพราะไม่รู้จะตอบเรื่องร้องไห้ยังไง

“ตาแดงแบบนี้เหมือนหนูเลย...”

ทั้งตัวแข็งค้างเมื่อควีนแตะนิ้วโป้งกดเบาๆ ตรงหางตาของผม

“ฉันคิดมานานแล้วว่ารัญน่ะไว้ผมยาวแล้วน่ารัก”  ควีนยังพูดไปเรื่อย ปลายนิ้วยังคงลูบแถวๆ หางตาผมแผ่วเบา “พอตาแดงๆ แบบนี้แล้วยิ่ง...”

ยิ่งอะไร?

ผมโดนคำพูดที่ค้างไว้จนเผลอเงยหน้าช้อนตาขึ้นมา ก่อนจะแทบตาพร่าเมื่อเห็นรอยยิ้มทรงเสน่ห์และดวงตาจ้องตรงที่มองผมระยิบระยิบอย่างกับดวงดาว

ราวกับถูกสะกด ผมขยับตัวไม่ได้เลยเมื่อเห็นใบหน้านั้นโน้มใกล้ขึ้นเรื่อยๆ...เรื่อยๆ...

พลันทุกอย่างกลายเป็นสีดำพร้อมตัวที่ล้มหงายไปด้านหลัง ผมดิ้นขลุกขลักแกะมือที่ปิดตาออก เป็นมือของคีรี...ที่แท้เมื่อครู่คีรีกับราเชนทร์ก็รั้งตัวผมให้ผละห่าง คนหนึ่งปิดปาก อีกคนปิดตา

ด้านควีนเองก็อยู่ในสภาพทุลักทุเลไม่แพ้กัน เพราะโดนบอสล็อคคอไว้อย่างฮาร์ดคอร์เลยทีเดียว

“ต่อหน้าต่อตาเลยนะเมีย” เสียงของบอสอย่างกับสัตว์ร้ายขู่คำราม

“กูล้อเล่น แค่ล้อเล่น!”

ผมมองควีนที่โดนบอสพากลับโดยทิ้งบัตรเครดิตไว้หนึ่งใบแล้วแต่ได้อึ้งทึ่ง ไม่รู้ว่าไว้ใจว่าผมคงไม่เอาไปรูดซี้ซั้วแน่ หรือเพราะเห็นว่าสมควรพาควีนกลับไปทำโทษกันนะ

“รัญหน้าแดงทำไม”

“ผมเปล่า...” รีบปฏิเสธทั้งที่ยังรู้สึกร้อนๆ ตรงใบหน้า ช่วยไม่ได้นี่นา! ควีนเป็นคนหน้าตาดีมาก  ถ้าเทียบกับผมแล้วเรียกว่าหนังคนละม้วนเลย เจอคนสวยที่ยิ้มทำตาวิบวับในระยะประชิดแบบนั้นใครจะไม่เขินบ้างล่ะ! ผมเองก็เป็นผู้ชายนะ!

“มานี่เลย” ราเชนทร์กลับมามานั่งประกบด้านขวาของผม ก่อนจะแตะเปลือกตาที่โดนควีนลูบอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ

“นี่ของพวกเรา”

คีรีซึ่งนั่งประกบด้านซ้ายยกมือแตะริมฝีปากของผมที่เกือบจะโดนฉกชิงไป พร้อมเอ่ยย้ำน้ำเสียงเคร่งขรึมจริงจังไม่ต่างกัน

“นี่ก็ของพวกเรา”

“จำไว้แล้วอย่าให้ใครยื่นหน้าเข้าใกล้อีกล่ะรัญ!”

ผมมองสองหนุ่มที่หึงหวงคนละแบบแล้วได้แต่นึกขำในใจ ดูสิ คนนึงแสดงออกชัดกึ่งจะโวยวาย อีกคนพูดน้อยแต่ก็ย้ำคำชัดเจน

“ผมจำได้หรอกน่าว่า...”

“ว่า?” คีรีถามเสียงเค้นไม่ยอมให้เฉไฉ

“ ‘ทั้งตัว’ ผมเป็นของพวกคุณไง” ผมพูดพลางจับมือพวกเขาขึ้นกุม ก่อนจะยิ้มบางอย่างสบายใจออกมา

“รอหายดีก่อนเถอะ...” คุณชายพึมพำประโยคเป็นความนัย

“ครับ หายดีเมื่อไหร่ก็ช่วยรัก ‘ตัวผมของพวกคุณ’ ให้มากๆ แล้วกัน”

“ยั่วกันหรือ” คีรีถามยิ้มๆ แต่ดวงตาท่านประธานเอาจริง สองมือของพวกเราเกาะเกี่ยวปลายนิ้วหยอกเล่นกันไปมา

“แต่ถ้ามากเกินไป งดอีกหนึ่งอาทิตย์นะครับ”

ทั้งคู่ชะงักครู่หนึ่ง พากันสบตากันเหมือนส่งสัญญาณเทเลพาทีอะไรสักอย่าง ก่อนจะตอบตกลงด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยักมั่นใจนัก

“พวกเราจะพยายาม”

--------------------------------------------

น้องนิลชอบทำอะไรเหนือคาดตลอด งวดนี้ล่อซะเหวอเป็นแถบๆ 5555 แต่น้องไม่ได้คิดอะไรนะคะ แค่เห็นว่ารัญตาแดงๆ แล้วน่ารักเฉยๆ นิลชอบอะไรน่ารักๆ อยู่แล้ว ดูอย่างกระต่ายสิ เอ็นดู๊เอ็นดู

ส่วนสามหนุ่มสามมุม ในที่สุด...ก็เรียกได้ว่าคบกันอย่างเปิดตัวเปิดใจกันจริงๆ สักที นับว่าคีรีกับราเชนทร์พยายามได้ถูกทาง เล่นเอาฝ่ายบอกเลิกอย่างรัญจนแต้มกันเลยทีเดียว เรื่องนี้อีกสองตอนจะจบแล้ว ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ ^ ^


ขอฝากพรีออเดอร์หนังสือด้วยน้า

-> Pre-order : Prince's Room


เพจนักเขียนที่แอบอยากเห็นว่าถ้าน้องนิลจุ๊บจริงจะเป็นยังไง

ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4
อย่างฮาเลยอะ   :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
แง้ว น้องรัญ เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ เปิดใจๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
น้องนิลน่ารักมาก. น้ำตาซึมนิดๆตอนกำชายเสื้อ. งื้อ
คิงเบามือนิดนึงนะ. อิอิ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เพิ่งจะรู้ว่านิลสวย  o13

ออฟไลน์ flimflam

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
โอ๊ยยยยย นิลลลล นิลจ๋าาาาา
พี่คิงเอาไปเก็บที ทำซะหึงกันหมด 5555555

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
แอบสงสารหนูรัญโดนสองสามีดัดนิสัย หวิดเลิกอะ...


ควีนก็น๊าาาา..หนูรัญโดนยิงก็เจ็บพอแรงยังจะมาล้อเล่นให้คิงหึงเดี๋ยวหนูรัญก็เจอศึกหนักหรอก เอิ๊กกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ที่ผ่านมามองนิลหล่อ เอ่อ.....ที่แท้ ทั้งหล่อ ทั้งสวยหรือนี่
มิน่าคิง หลงใหล ไม่ใช่ลีลา เร่าร้อนเคมีตรงกันแค่นั้น
ควีน ยั่วทีเดียว วุ่นกันหมด ไม่เว้นคิง
ขำ "ต่อหน้าต่อตา เลยนะเมีย" กร๊ากกกกกก
รัญ ก็มีจุดอ่อน และอยากอ้อนนะ
ตอนนี้คีรี ราเชนทร์เข้มแข็งมาก
แท็กทีมกันกับรัญเลยนะ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
 :laugh: ต่อหน้าต่อตาเลยนะเมีย

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ต่อหน้าต่อตาเลยนะเมียย โอ้ยยย คิงงงงง
เขินมากกก
55555

เหมือนจะดีแล้ว ก้เลยจะจบแล้ว แง้ๆๆๆๆ รัญจะกลับบ้านไม๊อ่า

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
น้องนิลแค่ชอบของน่ารัก  ไม่ได้กะจะยั่วให้คิงโกรธชิมิ    :hao3:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
งื้อออ จะจบซะแล้วอ่ะะ  :hao5:

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นิลเล่นอะไรเนี่ย หนุ่มๆเขาหึงน้าาา :hao7:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอเพ้อๆเป็นนิยายสักหนึ้งประโยค

ฉันคิดถึงเธอเหลือเกิน นิลกาฬ

ออฟไลน์ ชมพูพาล

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนนี้ดีมากเลยค่ะ ชอบที่เชื้อรากับคีรีขันใจเเข็งกับรัญได้
ส่วนนิล... :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ว่าจะจบแล้วก็แย่นะซิ :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ reverofjs

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อ่าาาาา จะจบแล้วเหรอคะ  :hao5:
ชอบความลงตัวของเรื่องนี้มากๆเลย

ออฟไลน์ เมื่อนั้นฝันว่า

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 323
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งเห็นว่าจะจบแล้ว ฮือออ

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
อ่านรัญแต่คิดถึงนิลกาฬ  :ling1: สายอ่อยต้องนิลกาฬแรงแต่น่ารัก

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :impress3: ว๊าว ได้เจอทั้งบอสทั้งควีนและก้อกรด้วย ดีจังเลย  :mew1: งานนี้ควีนก้อมาทิ้งลายให้ใคร ๆ ได้ปลื้มกันเป็นแถว จะได้รู้แล้วว่าบ้านของรัญเป็นยังไงบ้าง  :z1: สั่งจองหนังสือไปแล้วจ้า  :mew3:

ออฟไลน์ มาจะกล่าวบทไป

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +666/-7
    • เพจ 'มาจะกล่าวบทไป'

ตอนที่ 25 : เปิดใจ


คืนนั้นพวกเราตกลงกันไปนอนที่บ้านของราเชนทร์ เพราะเขามีหมอประจำตัว ถ้าผมไข้ขึ้นหรืออาการหนักตอนกลางดึกก็สามารถเรียกหาง่ายและมีของกินเหมาะสำหรับคนป่วย...เห็นพวกเขาห่วงขนาดนี้แล้วผมไม่อยากจะบอกเลยว่าตอนโดนจับพลิกซ้ายพลิกขวาเซ็กซ์ยันเช้ารอบนั้นยังหนักกว่าโดนยิงอีก!

ยังไงก็ตาม...ตอนนี้ผมไม่ค่อยกล้ามีปากเสียงเท่าไหร่เพราะเพิ่งสารภาพออกมาหมดเปลือกว่าหนีออกจากบ้านตอนอายุสิบแปด และที่ยอมไปช่วยจับเรวันต์ก็เพราะโดนขู่เรื่องนี้

“ง่ายจะตาย รัญกลับบ้านซะสิ แค่นี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะโดนขู่แล้ว”

นั่นไง ผิดจากที่คิดซะที่ไหน ราเชนทร์น่ะมองเรื่องยากเป็นเรื่องง่ายตามประสาคนไม่ค่อยคิดเยอะ

“ถ้ากลับง่ายขนาดนั้นผมคงไม่หนีมาเจ็ดปีหรอกครับ”

“ทำไม บ้านของรัญอยู่ไกลมากเลยเหรอ ฉันออกค่าเครื่องบินให้ได้นะ”

...อยากจะกุมขมับ

“ถ้าเธอไม่กล้ากลับไปคนเดียวก็พาพวกเราไปด้วยสิ”

คีรีเองก็เอากับเขาด้วย ผมอยากจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ ที่ไม่อยากกลับก็เพราะไม่กล้าสู้หน้า และสาเหตุหลักๆ ที่ไม่กล้าสู้หน้าก็เพราะว่าควงสามไง! ขืนพาพวกเขาไปด้วยมีหวังโดนไล่ตั้งแต่หน้าประตูพอดี!

“เธอคิดมากไปรึเปล่า” คีรีจับคางบังคับให้ผมเงยหน้าขึ้นสบตา ตอนนี้พวกเรานั่งกองกันบนเตียง ราเชนทร์ประกบขวา คีรีประกบซ้าย “ถ้าคิดอยู่แต่ว่ากลับไปแล้วจะโดนด่า กลับไปแล้วจะโดนบังคับ โดนมองอย่างดูถูกไม่ยอมเข้าใจ แล้วตัดสินว่าควรอยู่เฉยๆ ดีกว่า แบบนี้ก็ไม่ต่างกับการหนีเลยนะ”

ทำไมท่านประธานถึงได้ปากคอเราะร้ายขนาดนี้

“พ่อแม่ยังไงก็รักลูกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ราเชนทร์ถามงุนงง มองผมกับคีรีที่นั่งหน้าเคร่งอย่างไม่เข้าใจ “ก็ยอมให้ด่า ยอมให้ดุไปไม่เห็นจะเป็นเรื่องใหญ่เลย ถ้ารัญอยากร้องไห้ค่อยมาซบอกฉันก็ได้นี่”

...แล้วทำไมราเชนทร์ถึงได้ไม่คิดให้มันลึกซึ้งกว่านี้นะ

“ยังไงพวกคุณก็จะให้ผมกลับใช่มั้ยครับ”

“แล้วทำไมเธอถึงไม่กลับล่ะ มันมีประโยชน์ตรงไหนกับการคิดเองแล้วก็ตัดทิ้งดื้อๆ ทั้งที่ไม่เคยลอง ถ้ารู้อยู่กับอกก็เตรียมใจแล้วเผชิญหน้าไปเลยสิ”

ถ้าคีรีจะพูดได้พระเอกขนาดนี้ก็เอาตำแหน่งนำเรื่องไปจากผมก็ได้นะ ผมยอมยกให้เลย ท่านประธานช่างไม่กลัวอะไรเลยจริงๆ

“ใช่ มีพ่อแม่ให้กลับก็กลับๆ ไปเถอะรัญ ยอมโดนด่านิดเดียวเอง ไม่เห็นจะมีอะไรน่ากลัว” เอ่อ...ไอ้คนที่โดนเลี้ยงดูอย่างคุณชายยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเคยรู้จักการโดนกดดันจากครอบครัวบ้างมั้ยเถอะ!

ผมมองพวกเขาแล้วเบือนหน้าหนี

“พวกคุณไม่เข้าใจผม”

“เอาอีกแล้ว” ราเชนทร์นอนเลื้อยมาแปะบนตัก พร้อมเอาซุกหน้ากับเอวของผมเกาะหนึบไม่ปล่อย “เปิดใจให้กว้างๆ หน่อยสิจ๊ะที่รัก นายเพิ่งรับปากพวกเราเองนะ”

“ก็พวกคุณไม่เข้าใจผมจริงๆ นี่ ผมต้องอดทนแค่ไหนตอนเป็นเด็กพวกคุณไม่รู้หรอก”

ไม่เป็นไรบ้างล่ะ เรื่องเล็กน้อยบ้างล่ะ เผชิญหน้าบ้างล่ะ คิดว่าทุกอย่างมันง่ายอย่างปากพูดรึไง แค่นึกว่าจะไปเจอพ่อแม่ผมก็สั่นไปหมดแล้ว นกที่บินหนีออกมาแล้วรอบหนึ่งไม่ว่ายังไงก็ไม่อยากกลับไปกรงขังเดิมหรอก!

“เธอมักตัดสินใจทั้งที่ยังไม่ทันลองให้ถึงที่สุดสักครั้งเลยนะ”

คีรีโอบตัวผมให้พิงกับบ่าแข็งแกร่ง พร้อมกับลูบศีรษะเบาๆ น้ำเสียงเองก็อ่อนลงจนฟังคล้ายกับการกล่อมเกลาปลอบโยน

“ความจริงพวกเราไม่ควรจะกลับมาคบกันด้วยซ้ำ แต่เพราะเธอให้โอกาสถึงอยู่ด้วยกันได้ แม้จะทุลักทุเลจนเกือบจะล่มแต่ก็ยังประคองไหวไม่ใช่เหรอ พวกฉันเองก็ให้โอกาสเธอ ไม่งั้นวันนี้คงต่างแยกย้ายไปแล้ว”

“ใช่ๆ” ราเชนทร์ช่วยเสริม เปิดโอกาสให้คีรีเทศนาผมต่อ

“ถ้าเอาแต่คิดว่ายังไงก็ไม่ได้ผลแล้ววันไหนจะประสบความสำเร็จล่ะ ค่อยๆ คิดค่อยๆ ตัดสินใจสิ ใช่ว่าทุกอย่างจะเลวร้ายอย่างที่เธอคิดสักหน่อย” คีรีกล่าวพลางดันศีรษะผมออกเล็กน้อย ก่อนจะจับประคองใบหน้าให้หันมาสบตาพร้อมยิ้มบางอบอุ่นที่ชวนให้ในใจได้รับการเติมเต็ม “ลองให้โอกาสพ่อแม่ของเธอบ้างเถอะนะ”

เขาพูดมาถึงขนาดนี้ถ้าผมยังปฏิเสธอีกก็คงโดนด่าว่าโง่เง่าแล้ว

“ผมจะ...ลองคิดดูอีกครั้งแล้วกัน”

คีรีมอบจูบหวานเป็นรางวัล ส่วนราเชนทร์เองก็สบโอกาสจับผมแก้ผ้าทันที

“คนละครั้ง” ผมรีบพูดเมื่อโดนคุณชายดันตัวให้นอนลงแล้วขึ้นคร่อมด้วยสายตาหื่นกระหายเต็มที่

“รัญจ๋า...”

“ผมเจ็บตัวอยู่นะ แผลอาจจะอักเสบไข้ขึ้นด้วย พวกคุณจะฝืนร่างกายผมเหรอครับ”

“งั้นถ้าเกิดฉันเข้าไปในตัวเธอพร้อมราเชนทร์ จะนับเป็นคนละครั้งยังไง”

ผมมองคีรีหน้าเหวอ นานครั้งจะได้ยินเขาพูดเรื่องใต้สะดือด้วยสีหน้าจริงจังขนาดนี้

“อย่าแม้แต่จะคิดเลย พวกคุณจะให้ผมอักเสบที่ก้นแทนแขนหรือไง หยุดคิดอะไรแผลงๆ เดี๋ยวนี้เลยนะ”

“รัญจ๋า...เรามองลองกันเถอะ คนละครั้ง ถ้าสองคนเข้าพร้อมกันก็สองครั้งไง...”

ผมชักกลัวจริงๆ แล้ว พวกเขาจะสามัคคีเกินไปหน่อยมั้ย!

พอเห็นสองหนุ่มเริ่มตั้งท่าย่องจะจับกินผมเลยรีบตะโกนสุดเสียง

“ถ้าไม่หยุดก็อดไปเลย!”






สรุปว่าคืนนั้นผมโดนราเชนทร์กับคีรีผลัดกันคนละครั้งครับ รอดตายอย่างหวุดหวิด เลยตื่นขึ้นมาส่งท่านประธานไปบริษัทไหว เห็นว่าธาราธารเลิกยุ่งถาวรนับจากการเจรจาครั้งที่สาม...ซึ่งผมก็คิดว่าสมควรอยู่หรอก คีรีน่ะเห็นนิ่งๆ แต่คำพูดหนักไม่แพ้หมัดเลย ธาราธารยันได้ถึงยกที่สามผมก็นับถือแล้ว

ราเชนทร์ยังนอนอืดอยู่บนห้อง ผมเลยถือโอกาสอยู่คนเดียวนั่งคิดทบทวนเรื่องครอบครัวอีกครั้งที่ห้องรับแขกพลางเปิดโทรทัศน์แก้เหงาไปด้วย

“รับข้าวเช้าเลยมั้ยจ๊ะ”

ก่อนจะสะดุ้งเมื่อหัวหน้าแม่บ้านเข้ามาถาม ปกติแล้วเราแทบไม่คุยกันหรือเข้าใกล้กันขนาดนี้ เพราะราเชนทร์มักจะคอยกันท่าตลอด แถมในสายตาของพวกเธอน่าจะมองเห็นผมเป็นตัวปัญหามากกว่า แม้ว่าหลังพาคีรีเข้าบ้าน...และทำอะไรๆ กันจนไม่ต่างกับการป่าวประกาศว่าพวกเราคบกันอย่างราบรื่นจนเป็นภาระต่อร่างกายผมขนาดไหน ท่าทางของพวกเขาและเธอจะอ่อนลง เปลี่ยนมามองผมด้วยสายตาเห็นใจแทน

“เอ่อ...ยังดีกว่าครับ ผมจะรอให้ราเชนทร์ตื่นก่อน” ผมพูดตะกุกตะกัก นึกไม่ออกว่าทำไมจู่ๆ หัวหน้าแม่บ้านถึงเข้ามาคุยกับผม แล้วยังถามด้วยน้ำเสียงเอ็นดูคล้ายสนิทสนมกันอีกต่างหาก

“งั้นอยากทานอะไรเป็นพิเศษมั้ย เดี๋ยวป้าไปบอกพ่อครัวเตรียมไว้ให้”

เรียกตัวเองว่า ‘ป้า’ ซะด้วย!

“ไม่มีหรอกครับ ที่นี่อาหารอร่อยทุกอย่าง ไม่ว่าจะทำอะไรผมก็กินหมดเกลี้ยงทุกที...” ผมรีบตอบด้วยกลัวว่าจะเสียมารยาท แต่พูดไปก็รู้สึกเก้อเขินอย่างบอกไม่ถูก คันยุบยิบในใจยังไงไม่รู้เมื่อถูกมองด้วยสายตาเอ็นดูเหมือนมองลูกมองหลานคนหนึ่ง

“คือ...”

“จ๊ะ?”

“คุณไม่ได้เกลียดผมอยู่เหรอครับ”

ถามตรงไปมั้ยนะ แต่ผมเองก็ไม่ใช่คนทำอะไรอ้อมค้อมซะด้วยสิ หัวหน้าแม่บ้านเองก็ตะลึงไปเหมือนกัน แต่เพราะเห็นว่าผมทำหน้าอยากรู้จริงๆ ไม่ได้หาเรื่องเลยยอมตอบ

“ก่อนหน้านี้ก็ไม่ชอบใจบ้าง ป้าไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเรื่องความรักของคุณชาย แต่คบกันสามคนมันออกจะแปลกเกินรับไหวจริงๆ ถ้าทำให้หนูรู้สึกแย่ก็ขอโทษด้วยนะ”

เห็นคนอายุมากกว่าพูดโพล่งมาแบบนี้ผมก็รีบผงกหัวปลกๆ

“ผมก็ขอโทษด้วยครับ” ตอบออกไปทั้งที่ยังงงงวยไปไม่เป็น

“เฮ้อ เห็นพวกหนูกับคุณชายอยู่ด้วยกันได้ป้าก็ดีใจแล้วล่ะ ถึงจะแปลกแต่พอเห็นกับตาว่าเข้ากันได้พวกเราก็ไม่มีอะไรติดใจแล้ว อย่างที่คุณคีรีบอกนั่นแหละ คนนอกจะมาตัดสินใจแทนคนในได้ยังไง ถ้าคุณชายบอกว่าดี พวกเราก็ต้องเชื่อตามนั้นไม่ใช่คิดไปเอง บอกตามตรงเลยนะ พวกเราเองก็กังวลว่าคุณชายจะขึ้นคานเหมือนกัน” หัวหน้าแม่บ้านพูดยิ้มๆ “โดนตามใจแต่เด็ก แถมยังนิสัยเสียขนาดนั้น จะหาคนอยู่ด้วยก็ยากใช่มั้ย พวกเราตั้งใจจะดูแลคุณชายจนถึงที่สุดแทนคุณท่านกับคุณนายที่เสียไป แต่ก็คงอยู่กับคุณชายตลอดไม่ได้ พวกหนูช่วยดูแลก็ดีแล้ว”

“เอ่อ...” ผมพูดไม่ออกเมื่อหัวหน้าแม่บ้านเล่นด่าคุณชายของบ้านเต็มปากขนาดนี้

“ถึงรู้ว่าเลี้ยงดูผิดวิธี แต่พอเห็นคุณชายก็อดใจอ่อนไม่ได้ทุกครั้ง เฮ้อ...พวกเราแก่แล้วจริงๆ” หัวหน้าแม่บ้านรำพึงรำพัน ก่อนจะหันมามองผมยิ้มๆ อีกครั้ง “ก่อนหน้านี้คิดว่าจะต้องตั้งแง่กับหนูไปตลอดซะอีก แต่สุดท้ายมาลองคุยกันแบบนี้ก็ตลกดีเหมือนกันนะ เพราะพวกเราก็ไม่ได้โกรธเกลียดกันแต่แรกสักหน่อย”

พูดอีกก็ถูกอีก

“ผมขอโทษด้วยนะครับ ถ้าผมเข้าหาก่อนก็คงไม่เป็นแบบนี้ แถมสุดท้ายคุณป้ายังต้องเป็นฝ่ายเข้ามาคุยกับผมอีก...”

“คุณชายเป็นคนบอกป้าน่ะ”

ว่าไงนะ! ผมไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดว่าคนอย่างราเชนทร์จะคิดอะไรละเอียดอ่อนแบบนี้ได้! ไม่มีวัน! ไม่มีทางเลย!


“ป้าเองก็ประหลาดใจเหมือนกัน ปกติคุณชายใส่ใจคนรอบข้างที่ไหน” หัวหน้าแม่บ้านพลางยกมือทาบแก้ม “ตอนแรกก็คิดว่าต่างคนต่างอยู่ไม่ก้าวก่ายกันก็ไม่เป็นไรหรอก แต่คุณชายมาพูดขนาดนี้ป้าเองก็ต้องทำตาม ย้ำคำชัดเจนมากว่าต้องรักและดูแลหนูรัญให้ดี แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าเข้าใกล้เกินหนึ่งเมตรเหมือนเดิม”

เชนทร์นะเชนทร์...จะดีก็ดีไม่สุด ผมล่ะพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย


“แต่ป้าดีใจนะที่ตัดสินใจเข้ามาหาหนู เมื่อก่อนนึกว่าเป็นคนไร้มารยาทซะอีก แต่พอได้คุยได้มองใกล้ๆ ก็เป็นเด็กน่ารักนี่นา”

ผมหลุบตาปกปิดความกระดากอาย ไม่เคยเจอผู้หญิงอายุมากกว่าพูดด้วยความเอ็นดูเหมือนแม่ทูนหัวขนาดนี้มาก่อนเลย ไปไม่เป็นจริงๆ ครับ

“โอ๊ะ ใกล้ได้เวลาคุณชายจะตื่นแล้ว รีบขึ้นไปเถอะ ถ้าไม่เห็นหนูเดี๋ยวก็โวยวายอีก”

ผมยิ้มเมื่อได้ยินหัวหน้าแม่บ้านพูดด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่น่ารัก มิน่าล่ะราเชนทร์ถึงได้ยิ้มแย้มอารมณ์ดีตลอดเวลา เป็นเพราะถูกเอาใจใส่อย่างนี้นี่เอง

“คุณชายถ้ามีแฟนก็จะติดมาก อย่าถือสาเลยนะ เพราะเสียพ่อแม่แต่เด็ก คงเป็นปมในใจว่าถ้าห่างสายตาไปจะไม่เจอกันอีกน่ะ”

“ผมเข้าใจครับ”

“ไปเถอะ ป้าเองก็จะไปทำงานแล้วเหมือนกัน”

“ขอบคุณครับ...ผมหมายถึง ขอบคุณมากจริงๆ ครับ” ผมเอ่ยพร้อมยกมือไหว้จากความรู้สึกจริงๆ การได้คุยกับเธอทำให้ผมเข้าใจหลายอย่าง ทั้งเรื่องของราเชนทร์ และเรื่องที่...ผมเองก็เคยคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้ญาติดีกับพวกเธอ แต่ที่ไหนได้ พอมาลองคุยกันกลายเป็นผมคิดไปเองทั้งนั้น

ต่างคนต่างไม่กล้าเข้าหา เอาแต่ตั้งแง่ครุ่นคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ตัดสินจากการกระทำโดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคืออะไร จนกลายเป็นการสร้างกำแพงอคติขึ้นมา

กับพ่อแม่เองก็คงเหมือนกันใช่มั้ย

ผมขบปาก...หวนนึกถึงสมัยยังเด็กที่จมน้ำ ตอนนั้น...พ่อกับแม่ห่วงผมมาก นั่งเฝ้าไม่ห่าง เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นพวกเขาแสดงความเป็นห่วงจริงๆ นอกจากดุด่า

แม้หลังจากนั้นจะยิ่งเข้มงวดก็เถอะ

แต่ว่านั่นหมายถึงพวกเขารักผมมากรึเปล่านะ

รัก ‘มาก’ เกินไปเหมือนกับที่ราเชนทร์เป็น จนกลายเป็นการแสดงออกที่ชวนให้อึดอัดใจจนทนไม่ไหว ถ้าอย่างนั้น ผมก็ควรจะ...พยายามทำความเข้าใจมากกว่าหลีกหนีหรือสลัดทิ้งเอาดื้อๆ ใช่มั้ย

‘ลองให้โอกาสพ่อแม่ของเธอบ้างเถอะนะ’

เลิกตัดสินผลลัพธ์เอาเอง

และให้โอกาสพวกท่านอีกสักครั้ง




หลังคีรีเลิกงาน ผมก็โทรให้เขาไปเจอกันที่หน้าหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ในความทรงจำของผมที่นี่ค่อนข้างคึกคัก มีร้านรวงตั้งเต็มสองข้างทาง แต่พอมาอีกครั้งกลับดูโทรมกว่าที่คิด หน้าปากทางก็กลายเป็นเพิงร้าง พอถามยามก็รู้ว่าเป็นเพราะช่วงหลังมานี้มีน้ำท่วมทุกปี เลยมีคนย้ายออกไปเกือบครึ่ง กิจการค้าขายก็พลอยปิดไปด้วย

“เอ่อ...บ้าน xxx/xxx ที่ชื่อ xxx สกุล xxx ยังอยู่รึเปล่าครับ”

“อยู่ครับ”

ผมถอนหายใจ ถ้ามาแล้วเก้อนี่ผมคงไม่รู้จะติดต่อยังไงเลยเพราะผมจำเบอร์พ่อกับแม่ไม่ได้แล้ว ก็ตอนหนีผมไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วยเพราะกลัวโดนตามนี่นา

“ผมเป็นลูกชายครับ” ผมยื่นบัตรประชาชนให้ยามเพื่อตรวจสอบนามสกุล แต่ถึงอย่างนั้นคีรีกับราเชนทร์ก็ต้องแลกบัตรเข้าไปเป็นการรักษาความปลอดภัย

ในที่สุดรถบีเอ็มสีขาวก็จอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง

ผมถอนหายใจเข้าออกหลายครั้ง ไม่กล้าเปิดประตูลงไปสักที

“ให้ฉันลงไปแนะนำตัวก่อนดีมั้ย”

“ไม่ต้องครับ พวกคุณรอก่อนนะ ผมขอเข้าไปก่อน” ผมรีบห้ามราเชนทร์ที่ออกจะกระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษประหนึ่งมาฝากตัวเป็นเขยโดยไม่รู้กาลเทศะแล้วลงไปกดกริ่งหน้าบ้าน

ไม่นาน...ผู้หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินออกมา ดูจากชุดสุภาพกระโปรงสอบแล้วน่าจะยังทำอาชีพครูเหมือนเดิม และน่าจะเพิ่งเลิกงานแล้วกลับถึงบ้านเหมือนกัน

“ใครน่ะ” ผมใจหายวาบเมื่อได้ยินเสียงนั้นตะโกนถามข้ามรั้ว จะโทษแม่คงไม่ได้ในเมื่อผมยาวปรกบ่าขนาดนี้ ให้มองผ่านๆ คงจำไม่ได้หรอก

“ผม...”

“รัญ...รัญใช่มั้ยลูก คุณคะ! ลูกกลับมาแล้ว ลูกกลับมาหาเราแล้ว!” แม่รีบหันไปตะโกนบอกคนในบ้าน ก่อนจะรีบเปิดรั้วให้ผมเข้ามาทันที พอไม่มีอะไรขวางกั้นแม่ก็กอดผมทั้งตัว ไม่ยักมีคำด่าต่อว่าอย่างที่คิดสักนิดเดียว “แม่นึกว่ารัญจะโกรธจนไม่มาหากันซะแล้ว ดีจริงๆ ที่ยังตัดสินใจอยู่ที่นี่ รอลูกของแม่...”

ถึงตอนนี้ผมก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่ กอดแม่ตอบพร้อมสะอื้นเบาๆ

“กลับมาแล้วเหรอไอ้ลูกทรพี!”

ก่อนอารมณ์ซึ้งจะปลิวหายเมื่อได้ยินเสียงตะโกนอย่างกับฟ้าผ่า พ่อของผม...ในชุดอยู่บ้านถือไม้เท้ายืนอยู่หน้าประตู

แค่ดูผมก็รู้ว่าพ่อทำงานในอาชีพที่พ่อรักและอยากให้ผมเป็นไม่ได้แล้ว เขาดูแก่กว่าวัยมาก แทบยังผอมโกรก หน้าตอบ ราวกับมีโรครุมเร้าจนต้องรักษาตัวกับบ้าน

“มานี่สิ!” แต่ถึงอย่างนั้นพ่อก็พูดจากระโชกโฮกฮากแกมออกคำสั่งเหมือนเดิม ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินเข้าไปใกล้กับพ่อ หากเป็นแต่ก่อนคงตัวสั่นเกรงจะโดนตี แต่พอมายืนเทียบแบบนี้แล้วเห็นว่าตัวเองสูงกว่าเกือบคืบ ก็อดนึกทบทวนไม่ได้ว่าพ่อของผมตัวเล็กขนาดนี้เลยเหรอ

ดูบอบบาง...ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด

“ผมขอโทษครับ” พอเห็นคนที่หวาดกลัวมาตลอดชีวิตในสภาพนี้ ผมก็รู้สึกผิดเต็มอก แววตาของพ่อที่มองผม มีทั้งความโกรธ ความน้อยใจ และความปลงตกที่ไม่คิดบงการชีวิตผมแล้ว “ผมขอโทษครับ...”

พ่อไม่พูดอะไร เพียงตบบ่าผมหนักๆ เป็นการตอบรับ

“กินข้าวมารึยัง”

“ยังครับ”

“งั้นก็เข้าไปในบ้าน แม่แกกำลังเตรียมอาหารพอดี” น้ำเสียงยังติดจะดุเป็นเชิงบังคับเหมือนเดิม “ไม่ต้องปฏิเสธล่ะ ฉันรู้ว่าแกไม่อยากจะมาเหยียบบ้านนี้หรอก รีบๆ กินแล้วก็ไสหัวไป ไว้นึกได้เมื่อไหร่ค่อยมาให้เห็นหน้าว่าแกยังไม่ตายก็พอ”

“คุณนี่ก็...”

“พ่อครับ แม่ครับ” ผมเอ่ยด้วยรอยยิ้มบาง รู้สึกโล่งใจและดีใจที่ตัดสินใจถูก “ผมมีคนอยากแนะนำให้รู้จัก”

“ใคร ผัวแกเรอะ”

พ่อนะพ่อ

“ครับ” ผมตอบชัดถ้อยชัดคำ เริ่มทำใจให้ชินกับการพูดจาเชิงสอดเสียดประชดประชันนั้น “คนรักของผมเอง”

“ผัวก็บอกผัว ดูตัวเองสิ ไว้ผมยาวอย่างกับผู้หญิง ดูไม่ได้เลยจริงๆ เอาเถอะ จะพาใครก็พามา ฉันบังคับแกไม่ได้แล้วนี่”

”ครับ” ผมหันไปส่งสัญญาณมือให้คนในรถเดินลงมา พ่อที่ทำทีเป็นเดินเข้าไปในบ้านก่อนแต่ไม่วายแอบชะเง้อหน้ามองถึงกับชะงัก

“คนไหนผัวแก”

“...ทั้งคู่นั่นแหละครับ”

“!!!”

---------------------------

คิดว่าอาจมีบางคนที่ประสบพบเจอแบบรัญ คือมีผู้ปกครองที่ปากไม่ตรงกับใจ พูดจาประชดประชันกดข่มลูกอยู่เสมอจนกลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจไม่กล้าทำอะไร เพราะทำอะไรก็ผิด กับพ่อแม่เด็กจะสู้ไม่ขึ้นเลย แถมยังโดนบังคับว่าสิ่งที่พวกท่านเลือกถูกอีกแหน่ะ เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ (แต่ไม่หนักขนาดรัญนะ) ซึ่งพอมีเรื่องให้ต้องแยกออกมาบ้าง แล้วลองมองย้อนไปใหม่ตอนโต คิดว่าท่านซึนเดเระก็กลายเป็นทำใจได้ซะงั้นอ่ะ!

ตอนหน้าจะจบแล้วนะคะ ใจหายอีกแล้ว ไหนๆ เรื่องก็จะจบแล้ว และในเรื่องนี้คงไม่มีโอกาสได้กล่าวถึง แต่...คนที่นายแมลงวัน เอ๊ย เรวันต์ทิ้งไปหาตอนคบกับรัญ เราตั้งใจว่าเป็นธาราธารค่ะ อะแฮ่ม แม่นแล้ว ธาราธารก็เป็นเกย์ ก็เลยพยายามทำทุกวิธีทางไม่ให้คีรีคบกับรัญ เพราะรู้ว่าตัวเองยังไงก็ไม่มีทายาทค่ะ!!  อันที่จริงความตั้งใจลึกๆ คือถ้าโอกาสหน้ายังมี แล้วแต่ง 3P ต่อ จะเป็นคู่(คี่)หัวหน้าแกงค์ที่จับเรวันต์ไปxเรวันต์xธาราธาร ค่ะ คือไม่รู้ว่าจะได้แต่งเมื่อไหร่ เฉลยเลยแล้วกัน! 55555 เพราะจบเรื่องนี้เราจะไปต่อตอนพิเศษคิงส์คลับที่แปะโป้งค้างไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ^ ^

เพจนักเขียนที่ไปปั้มหัวใจให้พ่อหนูรัญที่คงช็อกไปแล้ว

ออฟไลน์ monalism

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เจอพ่อแม่แล้วก็จัดขันหมากนะคะคุณชายทั้งสองท่านนนนนน  :mc4:

ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ห๊าาา คนที่นายแมงวันทิ้งไปหาคือธาราธารขี้เผือก(เรื่องชีวิตคู่ชาวบ้าน)นี่เอง แหม่! นี่คืออยากจะใช้ตัวละครให้เป็นประโยชน์ใช่ไหมคะ 5555 โลกมันจะกลมเกินไปแล้ว!

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
พ่อแม่คงตกใจน่าดูได้เขยทีเดียวสองคน 555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด