ตอนพิเศษ น้ำตาลคนบื้อ!
ลิ้งก์ข้างล่างเป็น gif เผื่อใครมองภาพน้องน้ำตาลไม่ออกนะคะ~ (แต่แอบกระซิบว่า 18+ นะเจ้าคะ)
“ก้อง ไอ้ก้องตื่น! ไอ้เชี่ยก้องเลิกคลาสแล้วเฮ้ย!!” เจ้าของชื่อมันสะดุ้งตื่นลุกขึ้นมาสุดตัว แต่ไม่ใช่เพราะเสียงเรียกนะครับ เสียงกระทบของหัวกับฝ่ามือต่างหาก ไอ้คนตบนี่หัวเราะสะใจเดินนำออกไปละ
“อ่าว หมดเวลาแล้วเหรอวะ กำลังได้เลยแม่ง แจ๊บ ๆ” อุบาทว์ชิบหาย แม่งเคี้ยวน้ำลายด้วยนะ เสียดายหน้าตามึงจริง ๆไอ้ก้อง
“พวกมึงเดี๋ยวกูไปคุยกับสโมแปบนะ กินกันไปก่อนเลย” ไอ้เดือนภาคก็อีกคน ทำหน้าง่วงเดินออกไปอีกทางกับไอ้โรคจิตที่ชอบหยิกผมแล้วครับ
“เออ ๆ” ไอ้ก้องโบกมือไล่ แล้ววาดแขนควาย ๆของมันมาวางบนไหล่ผม “รีบเดิน กูหิวจะตายแล้วเนี่ย ป่านนี้ไอ้แคนแม่งถึงโรงอาหารแล้วมั้ง” ไอ้แคนที่ว่านี่คือคนที่ชอบหยิกผมครับ
แต่ยังไม่ทันถึงโรงอาหารตาขวาผมก็กระตุกครับ พอเงยหน้ามองไปชัด ๆแล้วก็เหมือนเห็นภาพหลอนเป็นไอ้ธัส แต่คาดว่าไม่น่าจะใช่เพราะคณะมันอยู่นอกบ้านนอกเมืองนู่น ไกลจากคณะผมชนิดขับรถยนต์ยังเหนื่อย อีกอย่างก็ไม่เห็นว่าจะมีเหตุผลอะไรที่มันต้องมาที่นี่ด้วย มันไม่ได้ลงวิชาคณะผมสักตัว(แอบไปดูตารางเรียนมาแล้วเรียบร้อย)
ตื่อดึง~
‘น้ำตาล’
‘มองกูแล้วหลบทำไม’
‘สติ๊กเกอร์กระต่ายโมโห’
ห๊ะ?! หลบเหี้ยอะไรอีก อยู่ดี ๆก็ไลน์มารื้อฟื้นกับกูเนี่ยแล้วจะจำได้มั้ยว่ากูไปหลบมึงตอนไหน ไอ้ธัสมันส่งไลน์มาหาผมรัว ๆเลยครับ ถึงจะคุยกันในนี้เป็นปกติแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดเมายาอะไรขึ้นมาแล้วของขึ้นใส่ผม
ตื่อดึง~
‘ยืนงงห่าไร’
‘กูรอจนเหงื่อท่วมแล้ว’
“ตาล ไอ้นั่นเพื่อนมึงเหรอวะ” แขนหนัก ๆของไอ้ก้องกระชับตัวผมเข้าไปถาม “กูเห็นมันจ้องมึงตั้งแต่เดินเข้ามาละ หรือเพื่อนรัก?”
คำว่าเพื่อนรักของไอ้ก้องไม่ได้แปลว่าเพื่อนสนิทหรือความสัมพันธ์ทางด้านบวกหรอกครับ แต่มันหมายถึงศัตรูอะ คู่อริที่ไม่ถูกกับเราหรือกำลังเขม่นกันนั่นเอง แต่มึงเดี๋ยว..หน้าอย่างกูนี่จะไปมีปัญหาอะไรกับใครวะ ทะเลาะพี่สาวตัวเองกูยังไม่กล้าเถียงเลยสักคำ
“ก็...อืม” พอจบประโยคไอ้นั่นที่ไอ้ก้องพูดถึงก็เดินดิ่ง ๆมาหาเราสองคนที่กำลังเดินเข้าไปในโรงอาหาร หน้าแม่งบ่งบอกว่าอารมณ์ไม่ดีชัดเจนมาก
ผมมองตามมันตั้งแต่ก้าวแรกที่ไอ้ธัสเดินมาทางนี้จนมันมาหยุดอยู่หน้าผมกับไอ้ก้อง มันยิ้มแบบเป็นมิตรหรือที่ผมตั้งฉายาให้ว่ายิ้มการค้า ไอ้ก้องก็พะหงกหัวแล้วยิ้มรับ
“มึงเพื่อนไอ้ตาลเหรอ ดีเว้ย” ไอ้ก้องทักทายตามประสาคนมนุษย์สัมพันธ์ดี
“หวัดดี กูธัส” ไอ้หล่อของผมก็ไม่แพ้กัน มันคุยท่าทางสบาย ๆกับเพื่อนผมแบบไม่มีอึกอักสักนิด
เออ พอมึงสองคนมาอยู่ใกล้กันแล้วกูรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้จัดการส่วนตัวดาราเลยว่ะ แข่งกันเปล่งแสงชิบหายไอ้เปรตสองตัวนี่
“ไอ้อ้วนนี่ก็ยืนนิ่งเลย ไม่ชวนเพื่อนไปกินข้าวบ้างสัด” ไอ้ก้องด่าผมไปขำไป แต่มันก็พะหงกหน้าชวนไอ้ธัสให้เดินตามมาด้วย
ไอ้หน้าหล่อคณะนิติเดินตามพวกผมมาจนถึงโต๊ะ ไอ้แคนนั่งกินข้าวรออยู่ก่อนแล้ว แม่งเร็วชิบหาย ผมคลาดกับผมไปแปบเดียวเอง วันนี้มันกินข้าวผัดอเมริกันด้วยเห็นแล้วอยากเลย เปลี่ยนเมนูบ้างดีกว่าว่ะ
“ใครวะ” ไอ้แคนเอาช้อนชี้คนที่นั่งตรงข้ามมันซึ่งผมก็ยืนอยู่ข้างไอ้ธัสอีกที
“เพื่อนไอ้ตาล” ไอ้ก้องตอบแทนให้ มันเดินไปนั่งข้างไอ้แคนที่พยักหน้ารับแล้วแดกต่อไปอย่างไม่แยแส ดูจากรูปการณ์แล้วไอ้ก้องน่าจะใช้ผมไปซื้อข้าวให้เพราะแม่งเป็นประเภทที่นั่งแล้วติดโต๊ะ ไม่ยอมลุกด้วย ดูความขี้เกียจของแม่งนะ
ผมเดินไปซื้อข้าวผัดอเมริกันสองจานเพราะไอ้ก้องมันกินง่าย แต่ก็อนุมานได้ว่ามันขี้เกียจคิดได้ด้วยเหมือนกัน ส่วนไอ้ธัสมันไม่กิน ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรถึงจะงงนิดหน่อยว่าแล้วมันมาทำเหี้ยอะไรที่โรงอาหารวิศวะ
“แต้งกิ้วเว้ย” ทันทีที่รับข้าวไปไอ้ก้องก็เริ่มโซโล่ ผมหันไปมองไอ้แคน มันกินอิ่มเรียบร้อยแล้วครับกำลังแทะน้ำแข็งในแก้วเล่น ส่วนไอ้คนข้างผมนี่นั่งกดโทรศัพท์ไปเรื่อยแต่ก็มีเหลือบมองผมบ้างตอนเดินมาถึงโต๊ะ
“มึงธัสใช่ป้ะ” ไอ้แคนเริ่มแล้วครับ “เรียนคณะไรวะ”
“นิติ” คนถามพยักหน้ารับพลางเคี้ยวน้ำแข็งไป
“แล้วสนิทกะไอ้ตาลมานานยัง กูอยู่กับมันมาเทอมกว่ายังไม่เคยเห็นเพื่อนมันเลยสักคนนอกจากพวกกูเนี่ย”
บางเรื่องนี่ไม่ต้องพูดก็ได้มั้งห่า ไม่มีคนคบนี่มันเป็นเรื่องตลกของพวกมึงเท่านั้นแหละแต่สำหรับกูไม่ใช่เว้ย เอาจริง ๆก็มีเพื่อนอยู่นะแต่ไม่ได้สนิทกันมากขนาดจะตามมาเรียนด้วย แล้วเพื่อนในห้องก็เลือกเรียนแพทย์กันเกือบหมดด้วย จะแหกมาวิศวะอย่างผมนี่มีไม่ถึงห้าคน
“ก็ไม่นานเท่าไหร่” ไอ้ธัสวางโทรศัพท์ไว้กับโต๊ะแล้วเคาะนิ้วไปเรื่อย แต่เชื่อมั้ยว่าขนาดดูเบื่อโลกแบบนี้มันยังโคตรเท่ “เกือบ ๆสองเดือนได้มั้ง”
แล้วแม่งก็เท้าคางหันมามองหน้าผม ไอ้เหี้ย! เกือบสำลักข้าว
“อ้าวว งี้ก็เป็นเพื่อนใหม่ไอ้ตาลดิ” แล้วมึงต้องทำเสียงตื่นเต้นขนาดนั้นมั้ยไอ้แคน “เหยด มึงมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้ด้วยเหรอวะ ฮ่า ๆๆๆๆ” คราวนี้ทั้งไอ้แคนไอ้ก้องแม่งแข่งกันหัวเราะใส่หน้าผมเลยครับ ขำแม่งต่อหน้าไอ้ธัสเนี่ยแหละ กูอายจนร้อนหน้าไปหมดแล้วพวกเวร นี่ดีนะที่ไอ้เดือนภาคมันไม่มาร่ว--
“แม่งโคตรหิวเลยสัด” เอ่ยถึงไม่ทันจบประโยค ไอ้คนที่ว่าเดินมาตบบ่าไอ้ก้องแล้วทรุดลงนั่งตรงกลางระหว่างไอ้แคนกับไอ้ก้องแล้วครับ
“หืม?” ไอ้แคนที่อ่านสัญญาณคนข้างตัวมันออกก็แนะนำไอ้ธัสไป เดือนภาคพยักหน้ารับแล้วหันมาทำหน้าเหลือเชื่อใส่ผม
“นี่มึงเป็นเพื่อนกับไอ้อ้วนนี่จริง ๆป้ะวะ ฮ่า ๆๆๆๆๆ กูไม่อยากจะเชื่อ” ไอ้ก้องพอได้กินข้าวจนอิ่มแล้วก็เริ่มสุมไฟครับ แม่งแดกเร็วมากกูกินได้ยังไม่ครึ่งจานเลย
“เปล่า” ห๊ะ....มึงหมายความว่าไงไอ้ธัส นี่จะใจร้ายขนาดหักหน้ากูอีกคนเลยเหรอ “ไม่ได้เป็นเพื่อนกับมัน เป็นแฟน”
!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!
!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เรียงลำดับความตกใจของแต่ละคนเลยครับ และอันสุดท้ายคือกูเอง แม่งคือเหี้ยอะไรเนี่ย!!! ไอ้แคนแม่งวางแก้วน้ำเลยอะ ส่วนไอ้เดือนภาคก็มองผมสลับกับไอ้ธัสตาเหลือก ๆ ยกเว้นไอ้ก้องที่ผมไม่ทันมองเพราะไอ้ธัสมันเอาแต่ใจซะก่อน
“เสร็จจากกินข้าวแล้วมึงไม่มีเรียนแล้วใช่มั้ย รีบ ๆกินแล้วไปดูหนังกับกูตอนบ่าย” มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อน ๆแล้วชูให้ผมดู “ไหนมึงชวนกูไปดูเรื่องนี้”
โอ้โห เอาหนังภาคต่อในดวงใจกูมาล่อซะด้วย แล้วแม่งเข้าโรงตั้งแต่เมื่อไหร่วะทำไมกูไม่รู้เนี่ย! ไม่ได้เข้าเฟซอาทิตย์เดียวโลกไปไวขนาดนี้แล้วเหรอวะ เกือบแล้วมึงไอ้ตาล เกือบชวดเรื่องนี้อีกแล้ว ดีนะที่ไอ้ธัสมันช่วยเตือนความจำ เออ ๆตอนบ่ายก็ไม่มีเรียนแล้วด้วย แต่นัดว่าจะไปหน้ามอกับพวกไอ้ก้องนี่หว่า อืม...ช่างแม่งเหอะ ไม่มีกูสักคนพวกมันไปกันเองได้
“เฮ้ออ~ กูว่าแล้ว” ไอ้แคนถอนหายใจและพยักหน้าของมันคนเดียว แม่งเป็นห่าอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย “เอาหน่ามึง ทนเอาหน่อย”
มันบอกใครวะ?
“กูบอกแล้วใช่มั้ยไอ้ควาย” ไอ้เดือนภาคมันทำหน้าเห็นอกเห็นใจ สักพักก็หันไปหาไอ้ก้องแล้วลูบบ่า “มัวแต่ย่ามใจ เป็นไงล่ะ โดนคาบไปแดกต่อหน้าต่อหน้า”
“เอาจริง ๆเหมือนแม่งโดนเยี่ยวรดหน้าบ้านอะ กูสงสาร” ไอ้แคนอีกคน มันเอื้อมมือไปตีไหล่ไอ้ก้อง ส่วนเจ้าตัวแม่งเฉยมาก ซึ่งกูประหลาดใจ ไอ้ก้องนี่ญาติ ๆกับเห็บหมาเลยนะ อยู่นิ่ง ๆไม่ค่อยได้ แต่ตอนนี้มันอย่างกับหิน
และหลังจากมื้อนั้นเสร็จไอ้ธัสก็ลากผมขึ้นรถมันเลยครับ ดูเหมือนรีบชิบหายอะผมยังไม่ทันยกเลิกนัดหน้ามอกับเพื่อนเลย แต่ไอ้แคนมันก็พยักหน้าเหมือนเข้าใจนะ ผมแค่มองหน้ามันไม่ทันพูดอะไรสักคำเลยด้วย
ทุกคนแม่งเป็นอะไรกันไปหมด
“คิดอะไรอยู่ ทำไมไม่หลับ” ไอ้ธัสว่า
ตอนนี้ผมอยู่ในรถกับมันแล้วครับ กำลังไปห้างใกล้ ๆมอเนี่ยแหละ เพราะแค่ใกล้ ๆนี่กว่าจะถึงผมก็หลับได้ตื่นนึงละครับ ปกติผมก็จะหลับไงไอ้ธัสมันคงเห็นจนชินครั้งนี้พอผมไม่หลับมันคงประหลาดใจ
ก็กูกำลังคิดอยู่นี่หว่าจะหลับได้ไง
“หรือคิดถึงเพื่อน? จะให้กลับไปส่งป้ะ” คำพูดมึงเหมือนจะใจดีนะแต่หน้ามึงเนี่ยเมธัส มึงไปโกรธอะไรใครมา
เออ ลืมบอกเลยว่าไอ้ธัสชื่อจริงมันคือเมธัสครับ ผมแอบไปดูมาพร้อมกับตารางเรียนมันนั่นแหละ ชื่อยังหล่ออะ ชีวิตมันดีจังวะ
“อะไร..” จะถามว่าเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยก็เกินไปน่ะครับ ยังเกรงใจมันอยู่
“ก็ว่าอยู่ทำไมหลัง ๆมานี่ตอบไลน์ช้า”
“เรียนอยู่..” ก็กูเขินมึงอะ! จะตอบทีก็ต้องคอยหลบพวกมันด้วย เดี๋ยวมาขอดู แถมอ่านไลน์ไอ้ธัสทีไรแม่งเขินหน้าแดงตลอดไม่รู้ทำไม บางทีแค่ไลน์ขึ้นเป็นชื่อมันหูผมก็ร้อนแล้วอะ
เออ! แล้วที่มึงไปบอกเพื่อนว่าเป็นแฟนกูยังไม่เคลียร์เลยนะประเด็นนี้!!
แต่ก็เป็นแฟนกันจริง ๆนี่หว่า...
อิ้~ เขินสัด
“ไม่รู้เว้ย” ไอ้ธัสยื่นมือข้างนึงมาดันหัวผม(จริง ๆคือผลักแต่ไม่แรง) “ก็กูอยากคุยอะ อยากคุยกับมึง”
เหมือนกันป้ะ! กูก็ไม่ได้ไม่อยากคุยนี่หว่า
ไอ้ธัสพาผมไปดูหนังฟอร์มยักษ์ภาคต่อที่กินเวลาไปสองชั่วโมงกว่าต่อด้วยเดินดูนู่นดูนี่ วนอยู่ในห้างเป็นสิบ ๆรอบได้ พอเสร็จมันก็ลากไปกินข้าว รู้ตัวอีกทีออกมาจากห้างฟ้าก็มืดแล้ว แต่ไม่เป็นไรครับ หอผมปิดตั้งสี่ทุ่ม
“พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง” พอออกรถได้มันก็ถามผม ไอ้ธัสอยู่ในสภาพเสื้อปลดกระดุมเม็ดบน เนคไทหาย ชายเสื้อหลุด หน้าเป็นสีเข้มนิด ๆเพราะความมัน
แต่ก็ยังหล่ออยู่ดี
“เก้าโมงครึ่ง..” วิชาภาษาอังกฤษด้วย อาจารย์ฝรั่งเข้าเร็วมาก ช้าไม่ได้แม้แต่นาทีเดียว
“อืม เดี๋ยวจะไปส่งที่คณะ พรุ่งนี้กูเรียนสิบเอ็ดโมง” หว่ายย กูรู้อยู่แล้วว่ามึงเรียนสิบเอ็ดโมง เรียนรัดสาดด้วยใช่ป้ะ กูจำได้
“ไม่ เดี๋ยวเดินไปเอง ไม่ไกล..” คณะผมกับหอมันใกล้กันมาก ๆเลยครับ แต่คณะผมกับคณะมันอะ โคตรไกล
“เดินจากคอนโดกูไปมออะนะ? หึหึ”
ห๊ะ?!
ไม่ทันได้ถามอะไรมันก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าแยกหน้าแล้วครับ ซึ่งต้องตรงไปไงถึงจะเป็นมหาลัยผม มันจะพาผมไป..คอนโดมัน? แล้วก็ไม่ถงไม่ถามกูซ้าก~คำ
นี่ถ้ามึงไม่หล่อนะ
“....”
“....”
ก่อนหน้านี้จำได้ว่าเราต่างคนก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรไปตามประสา แต่ตอนนี้ดันมานั่งอึนกันอยู่ที่โซฟาเฉยเลยครับ โทรทัศน์ก็ไม่เปิดนะ
แต่แปลก ไม่เห็นรู้สึกอึดอัดเลยวะ ดันรู้สึกอย่างอื่นแทน นี่กูขยับตัวแปดร้อยรอบได้แล้วเนี่ย
“หนังสนุกป้ะ” ไอ้ธัสพูดขึ้น มือมันก็สางผมตัวเองที่หมาด ๆไปด้วย
“โคตรดีเลย สนุกมาก นี่ยังจำฉากนั้นได้ติดตาอยู่เลย ตอนจบอะ จำได้มั้ย?”
เออ กูก็ถามไปนะ พูดไปเถอะ ไอ้ธัสแม่งนั่งยิ้มหวานแล้วกูได้ยินนะว่ามึงขำกูด้วย
“เออ~ จำได้ดิ ก็นั่งดูอยู่ด้วยกัน มึงจะกัดปากตัวเองทำไม” มันเข้ามายีหัวผมแล้วก็เอานิ้วดันปากให้คลายออก “ถ้าจะกัด มากัดกูนี่ ยอม”
กูจะกัดมึงทำไมล่ะ กูไม่ใช่หมาปั๊กนะ! ไม่ ๆกูอ้วนนี่ งั้น..กูไม่ใช่บูลด็อกนะเว้ย!
“แหนะ มึงโดนแย่งของกินรึไง ดูทำหน้าเข้า ฮ่า ๆๆๆ” คราวนี้แม่งโอบตัวเข้าไปล็อคคอแล้วขยี้ผมใหญ่เลย
โว้ยย หน้ากูโดนซิกแพคมึงแล้วเนี่ย!
“หิวป้ะ?” พอมันขยี้จนเมื่อยมือแล้วก็กุมหน้าผมไว้สองมือ อย่านะ มึงอย่าหยิกกูเหมือนไอ้แคนนะ กูขอล่ะไอ้ธัส
ผมส่ายหน้ารัว ๆเลย ในที่นี้ความหมายคืออย่าหยิกกูนะ
“ใช่เหรอ ปกติมึงต้องกินช็อคนมข้นทุกเย็นไม่ใช่ไง?” นั่นกูไปหามึงหรอกไอ้โง่
“ไม่หิวจริงอะ” หิวไม่หิวแล้วเกี่ยวอะไรกับที่มึงต้องเอาหน้ามาใกล้กู “ให้ตอบอีกที”
“ไม่!” ช่วยด้วย T_T ผมแม่งใจสั่นอะ รู้เลยว่าแขนก็สั่นด้วย ไอ้ธัสเวอร์ชัน HD เป็นอะไรที่หล่อสัด ๆอะ มันเกิดมาเพื่อใช้หน้าฆ่าคนชัด ๆ ตาแม่งโคตรคม โคตรเจ้าเล่ห์เลย ขนาดผมเปียก ๆแม่งยังหล่อ
“ตอบไม่ถูกใจ” มันก้มหน้าลงมาจูบปากผมเร็ว ๆทีนึง “ให้โอกาสเพิ่ม แต่ต้องแลกเปลี่ยน”
ไอ้เหี้ย T_T ปกติมึงแค่กอดไหล่ กอดเอว แอบดม ๆแก้มกูเองไม่ใช่เหรอ แล้ววันนี้เป็นเหี้ยอะไรขึ้นมา! ปากกูอะ แม่งงงงง
“ม..ไม่รู้”
จุ๊บ!
“ตอบใหม่ :-)” ไม่ต้องมายิ้มเลยแม่ง! กูร้อนหน้าไปหมดแล้ว
“ธัส.. ไม่รู้จริง ๆแค่ไม่หิว” กูจะร้องไห้... เรียนแคลแม่งคำถามยังไม่ประสาทขนาดนี้
จุ๊บ!
“อะไร! ยังไม่ได้ตอบเล--”
OxO
อ.ไอ้ธัส..มึง มึงดูดปากกูทำไม!
ผมรู้สึกเหมือนตัวเองลืมทุกอย่างไปหมดแล้วบนโลกใบนี้ รู้อยู่อย่างเดียวว่ากำลังโดนจูบและจูบแบบโคตรลามกด้วย ไอ้ธัสมันทั้งดูด เอาปากดึงแล้วก็ปลอบด้วยการจุ๊บซ้ำ ๆตรงที่มันทำไป แล้วหน้ามันก็ขยับซ้าย หมุนขวา ชิดเข้ามาจนมองไม่น่าออกแล้วว่าอันไหนจมูกผม อันไหนปากผม แต่ทั้งหมดที่ผมพูดนี่คือผมหลับตาอยู่ตลอดเลยครับ ก็ไม่กล้ามองหน้ามันอะ! แม่งหล่อไปกูเขิน!
พอมันจูบผมได้สักพักจนผมคิดว่าตัวเองน่าจะลองกดปากลงไปบนปากมันแบบที่ไอ้ธัสทำกับผมบ้าง แต่อยู่ ๆมันก็เอาลิ้นเข้ามาในปากผมเฉยเลยครับ! ไอ้ที่ผมคิดไว้นี่ต้องหยุดชะงักทั้งหมด ผมลืมตาโพลงขึ้นมาเลยแล้วก็เห็นไอ้ธัสระยะประชิดที่กำลังละเมียดละไมกับปากผมอยู่ ตามันหลับพริ้มทำสีหน้าฟินสุด ๆจนผมอยากถีบ
แม่ง..ตอนดูหนังเอวีมันทำไมไม่ถ่ายให้ดูวะว่าตอนจูบกันกูต้องอยู่ใกล้กับมันขนาดนี้ แล้วลิ้นมันจะต้องสอดเข้ามาในปากกูลึกแบบนี้ ก็นึกว่าจะแค่แตะ ๆดูด ๆกันข้างนอกนี่หว่า แม่งเอ๊ย
ไอ้ธัสขยับตัวมันเข้ามาใกล้ผมแล้วก็ไล้มือไปตามหลัง วนไปวนมาจนต้องขยับตัวนั่งหลังตรง แล้วมันก็เข้ามาลูบข้างในเสื้อ ผมสะดุ้งจนเผลอผละออกมาจากมัน
“อ-เอ่อ ง่วง... ง่วงแล้วอะ” ผมงงไปหมด ไม่รู้ตัวด้วยว่าพูดอะไรออกไป รู้แค่ไม่กล้ามองไอ้ธัสแบบเต็มตาเท่าไหร่เพราะมือมันยังอยู่ในเสื้อผมอยู่เลย
“อือ เดี๋ยวพาไปนอน” พอมองก็เห็นว่ามันกำลังยิ้ม
ไหนบอกพาไปนอนวะ! มึงเข้ามาจูบกูอีกทำไม!!
คราวนี้มันไม่สอดลิ้นเข้ามาแล้ว แค่ดูดดึงปากข้างนอก แต่เป็นผมเองที่ทนไม่ไหวเพราะมันนั่นแหละใส่ลิ้นเข้ามาจนชิน ผมก็เลยเป็นฝ่ายส่งลิ้นเข้าไปหามันบ้าง แต่ทำไม่เป็นหรอกผมเคยจูบที่ไหนล่ะ ถึงจะเคยมีแฟนแต่อย่างมากก็ทำแค่หอมแก้มเท่านั้นแหละครับ
ผมพยายามเลียนแบบมันด้วยการขยับลิ้นเข้าไปแตะกับลิ้นมันแล้วก็ขยับไปเรื่อยข้างในนั่นแหละ แต่อยู่ ๆไอ้ธัสมันก็ดึงลิ้นผมไปดูด! แถมยังดันหัวผมให้ขยับเข้าไปอีกพร้อมกับเอียงหน้า คราวนี้ลิ้นมันก็เลยเข้าไปได้ลึกขึ้นและผมก็โดนดูดมากขึ้นด้วย T_T ทีตอนมึงเอาลิ้นเข้ามาในปากกูไม่เห็นรู้เลยว่าต้องดูดของมึงด้วย แม่งขี้โกง
หลังจากนั้นผมก็ไม่ค่อยมีสติรับรู้อะไรมากแล้วครับ แต่เสื้อหลุดไปพร้อม ๆกับกางเกงบอล ที่รู้เพราะหนาวไง แอร์สาดมาโดนตัวเต็ม ๆไอ้เหี้ยแม่งโคตรหนาว
แต่ถามว่าไอ้ธัสมันหยุดมั้ย ก็ไม่ไง มันเมามันต่อไปไม่รู้เหี้ยไรหรอก มือมันก็ลูบขึ้นลูบลงอยู่บนตัวผมนั่นแหละ แต่มันจะรู้มั้ยว่าผมอายมาก ผมไม่อยากให้มันเห็นร่างกายผมเลย ก็เพราะผมไม่ได้หุ่นนักกีฬาแบบมัน ผมไม่เคยเล่นกีฬาเลยตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย แถมผมยังเป็นไอ้อ้วนที่มีแต่ไขมันแล้วก็ไม่ได้มีอะไรเหมือนผู้หญิงเลยด้วย
ผมกลัว...ว่ามันจะรังเกียจ กลัวมันจะไม่ชอบผม
.................
ผมไล้ปลายนิ้วไปตามแนวแก้มเรื่อยลงมาถึงต้นคอของน้ำตาล คนตรงหน้าหลับตาพริ้มแต่ตัวยังสั่นด้วยความกลัวอยู่นิด ๆแต่ผมรับรู้ได้เพราะผิวกายเราสัมผัสกัน ตอนที่ผมปลดเสื้อนักศึกษาของน้ำตาลออกแล้วเห็นผิวเนื้อที่ถูกซ่อนไว้อย่างมิดชิดมาตลอดนั่นเต็มตาครั้งแรกผมถึงกับอึ้งค้าง
น้ำตาลผิวเนียนมาก ดูนุ่มไปทั้งตัว น่าฟัด น่าขยำแรง ๆให้ขึ้นรอยมือ
ตั้งแต่แรกที่ผมเห็นน้ำตาลที่ร้านขนมปังผมรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าเนื้อและดูไม่ค่อยสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ผมไม่เคยคาดหวังอะไรกับน้ำตาล ที่ผมขอเขาเป็นแฟนเพราะผมรู้สึกดีเวลาได้ใช้เวลาอยู่กับเขาจริง ๆ มันน่าแปลกที่ผมเคยเคยหวังว่าแฟนของผมจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ต้องสวยไปทุกกระเบียดนิ้วหรือดูน่ารักสุภาพอย่างที่ผมต้องการ และสุดท้ายผมผิดหวัง แต่กับน้ำตาลคนที่ผมไม่ได้คาดหวังอะไรนอกจากค่อย ๆมอบความรู้สึกดี ๆให้กันเจ้าตัวมีสิ่งที่ผมเคยต้องการมากเสียอย่างนั้น
“อ..อือ-”
ผมก้มลงจูบน้ำตาลอีกครั้งและสัมผัสกับก้อนตูม ๆข้างหนึ่งอย่างแผ่วเบา พยายามทะนุถนอมมากที่สุดเมื่ออีกคนเผลอเชื่อใจผมก็บีบขยำแรง ๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้ชายจะมีหุ่นแบบนี้เพราะผมคิดมาตลอดว่าน้ำตาลก็คงเหมือนผม เป็นผู้ชายเหมือนกัน อะไร ๆก็ต้องเหมือนกัน แต่ผมลืมเอะใจไปว่าน้ำตาลเป็นคน’อวบ’
เพราะอย่างนั้น น้ำตาลไม่มีซิกแพคแบบผมแต่มีผิวหน้าท้องที่เรียบเนียนและมีน้ำมีนวลเหมือนมีน้ำเต็มอยู่ในทุกเซลล์ของร่างกาย เหมือนกับเด้งได้อย่างเจลลี่
และผมใช้มือกับนิ้วสัมผัสมันเพื่อพิสูจน์ แต่คงหนักมือไปหน่อยจนเกิดรอยแดงตามไปทุกที่ที่มือผมไปถึง
“อือ...” หน้าผมคลอเคลียอยู่ใต้ใบหูและต้นคอ เพราะอย่างนั้นผมถึงได้ยินเสียงน้ำตาลชัดเจนแม้เจ้าตัวจะเพียงแค่หอบหายใจผิดจังหวะไปนิดเดียวก็ตาม
น้ำตาลไม่หน้าอกแน่น ๆแข็งเป็นหินอย่างผมแต่น้ำตาลมีก้อนเนื้อนุ่มน่าจับสีขาวนวลและจุดเต่งสีชมพูเข้มที่กำลังชูชนตามแรงอารมณ์ ผมใช้นิ้วชี้เกลี่ยมันไปมาให้เจ้าของมันอ้าปากหอบหนัก ๆ น้ำตาลได้รางวัลจากใบหน้าที่เซ็กซี่ด้วยจูบของผม.... บนยอดอกที่อยู่ในอุ้งมือและมันกำลังจะแดงช้ำเหมือนต้นคอหรือหน้าท้องที่ผมเคยไปพิสูจน์มาแล้ว
อา.. ผมชอบหน้าอกของน้ำตาลจัง มันไม่เหมือนหน้าอกของผู้หญิงหรอก..ไม่เหมือนเป๊ะ แต่ก็คล้ายกับอกของผู้หญิงแบบไข่เจียว ถึงจะไม่กลมเต่งตึงใหญ่โตแต่แบบนี้มันน่าขยำมากกว่าเสียอีก แถมยังกำรอบได้หมดในมือเดียว และผมละปากจากการดูดดึงยอดอกที่สีเข้มกว่าเดิมแล้วใช้ปลายลิ้นชิมรสมันแทน
น้ำตาลซนมาก เอามือคอยดันไหล่ผมสองครั้งแล้วครับ
...และผมจะไม่บอกหรอกว่าเสียงร้องอย่างทรมานในเซ็กส์ของน้ำตาลมันดังบ่อยแค่ไหน
ผมวนเวียนชิมร่างกายด้านบนของน้ำตาลไปอย่างเอื่อยเฉื่อยบนโซฟาที่คับแคบแต่มันดีตรงที่ตัวเราชิดกันไปเกือบทุกส่วน แต่ผมเริ่มเลื้อยมือลงมาเล่นกับข้างล่างของน้ำตาลให้เจ้าตัวได้ตัวกระตุกสั่นแล้วกอดผมแน่น ๆ ผมถอดกางเกงน้ำตาลไปแล้วแต่ยังเหลือชั้นในอยู่ ดังนั้นผมเลยร่นมันลงมารวดเดียวให้หลุดออกจากตัว และน้ำตาลไม่รู้ตัวหรอก..
ผมกดจูบและเม้มบางส่วนที่น่าหมั่นเขี้ยวลงไปเรื่อยจนถึงหน้าท้องอีกครั้ง พอก้มลงเห็นน้ำตาลน้อย ๆก็ต้องอึ้งอีกครั้ง
ผมเดาว่าน้ำตาลต้องได้เชื้อจากที่บ้านมาเยอะมากแน่ ๆ ตัวของน้ำตาลแทบจะไม่มีขนเลย ขนาดที่รักแร้ยังไม่มีขน ผมเพิ่งเคยเห็นผู้ชายที่ไม่มีขนรักแร้แบบชัด ๆครั้งแรกนี่แหละยกเว้นเด็กนะครับ และตรงนี้ของน้ำตาลก็ไม่มีขน อาจจะเห็นเป็นขนอ่อน ๆบ้างแต่ที่แน่ ๆไม่ได้ใกล้เคียงกับผมเลย
ผมจับขาน้ำตาลตั้งขึ้นแล้วอ้าออกแต่เจ้าตัวขัดขืนคอยแต่จะหุบเข้า ผมเลยปล่อยไปตามนั้นแต่ไม่ให้เอาขาลง ทันทีที่ผมจับน้ำตาลน้อยสีอ่อน ๆออกไปทางสีเดียวกับยอดอกของเจ้าตัวน้ำตาลก็ปล่อยเสียงครางออกมา ก่อนหน้าเจ้าตัวพยายามกัดปากไม่ยอมให้ผมให้ยินอะไรนอกจากเสียงหอบเลยแต่ครั้งนี้คงทนไม่ไหวจริง ๆ คงไม่ได้ช่วยตัวเองบ่อย ๆมั้งครับ หนังหุ้มปลายยังปิดเกือบมิดอยู่เลย แต่น่ารักดี
ก่อนหน้านี้ผมเคยคิดนะว่าถ้ามีอะไรกับน้ำตาลขึ้นมาสักวันแล้วต้องจับไอ้นั่นของผู้ชายที่เหมือนกับของตัวเองผมจะทำยังไง แต่พอมาเห็นของน้ำตาลแล้วผมคิดว่าผมชอบมันนะ ไม่เคยรู้สึกว่าไอ้นั่นของใครน่ารักแบบนี้เลยครับ 55
ผมจูบและเลียชิมตามตัวน้ำตาลไปเรื่อย ๆส่วนมือก็ยังรูดขึ้นรูดลงไม่หยุด พอได้ยินเสียงน้ำตาลครางถี่ขึ้นก็ผละออกจากผิวนุ่มนิ่มมาเล่นกับน้ำตาลน้อยแบบจริงจัง น้ำตาลเขินหน้าแดงคอแดงตั้งแต่ผมจูบต่ำกว่าคอครั้งแรกแล้วครับ แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่ยอมมองหน้าผม คงจะเขินมากจริง ๆ
จนถึงจุดที่น้ำตาลจะเสร็จผมก็รูดให้เร็วขึ้น พอเห็นน้ำขุ่น ๆไหลเยิ้มออกมาก็บังคับมือบีบแน่น ๆเน้น ๆ น้ำตาลน้อยหดลงเรื่อย ๆตามจำนวนน้ำขุ่นที่ไหลออกมาอย่างกับปล่อยลมออกจากลูกโป่ง ขาสองข้างที่ไม่ได้เล็กเรียวเหมือนผู้หญิงแต่ขาว เนียนมาก ๆแล้วก็แน่นนุ่มมือกำลังสั่นระริก ผมคิดว่าน้ำตาลคงไม่ตัวหรอกว่าตัวเองกำลังขาสั่นพั่บ ๆเพราะเล่นหลับตาปี๋เสียขนาดนั้นแต่ปากก็ปล่อยเสียงน่ารักน่าฟัดออกมาไม่ขาด
ผมป้ายน้ำที่เลอะเปื้อนมือไล้ลงไปตามน้ำตาลน้อยเรื่อยลงถึงรูจีบเล็ก ๆไม่ไกลกัน น้ำตาลเอื้อมมือจับข้อแขนผมทันทีที่ผมแตะแล้วค่อย ๆสอดนิ้วเข้าไปข้างใน
“ธ-ธัส..ไม่เอา ไม่เอาจริง ๆ”
ผมยิ้ม
เอื้อมตัวไปจูบหน้าผากที่เหมือนจะเหม่งนิดหน่อยเหนือแว่นกลม เราจูบกันอีกครั้งพร้อมกับนิ้วของผมที่สอดเข้าไปเรื่อย ๆจากหนึ่งไปสองไปสาม แต่ความจริงใช้เวลานานอยู่พอสมควรเลยล่ะครับ ก็ผมไม่อยากให้น้ำตาลเจ็บมากนี่
ตั้งแต่ที่ผมเป็นแฟนกับน้ำตาลผมก็ศึกษาเรื่องอย่างว่าระหว่างผู้ชายมาพอสมควรเหมือนกัน เพราะผมรู้ตัวเองดีว่ายังไงก็ต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแน่ ๆและผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับด้านนี้เลย ถึงจะเป็นเซ็กส์เหมือนกันกับผู้หญิงแต่ก็ไม่แน่ใจนักหรอกครับว่าจะใช้ประสบการณ์นั้นกับน้ำตาลได้ จนตอนนี้ผมเป็นงานแล้วนะครับ น้ำตาลจะต้องชอบมันมากแน่นอน
“อ.อะ..เจ็บ ธัสจูบหน่อย” ผมจูบปลอบน้ำตาลอีกครั้งและอีกครั้ง มันไม่ได้น่าเบื่อเลยสักนิดที่จะได้จูบน้ำตาลไปแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
“น้ำตาลครับ” นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่ผมพูดเพราะกับเขาขนาดนี้
น้ำตาลสบตาผม เขาทำหน้าเลื่อนลอยแต่ตาเยิ้ม
“ชอบมั้ย ชอบธัสมั้ย” ผมขยับเอวให้มันเข้าไปจนสุดลำ น้ำตาลเบ้หน้าแต่สุดท้ายก็ยกแขนขึ้นกอดผมไว้
“ชอบ.. “ ผมก้มลงจูบขมับน้ำตาลแล้วแนบตัวลงให้เราสัมผัสกันให้มากที่สุด
ผมรู้นะว่าน้ำตาลชอบมองหน้าผม ชอบที่ผมหล่อ ชอบแอบหูแดงเวลาผมตัวเปียกเพราะไปเล่นบาส หรือชอบเวลาผมเรียกเขาว่าน้ำตาล แต่ผมกลัวว่าน้ำตาลอาจจะชอบแค่ที่ผมหล่อผมเลยโมโหน้ำตาลเมื่อตอนกลางวัน
ตอนแรกผมกะจะไปหาน้ำตาลเพราะเจ้าตัวตอบไลน์ช้ามากจริง ๆบางทีก็หายไปเลย อีกเหตุผลคือน้ำตาลชอบอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิม ๆคนเดิม ๆ ถึงผมจะไม่คิดอะไรนักแต่ก็อยากมาเห็นว่าน้ำตาลกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ พอผมเห็นว่ามากับเพื่อนผมก็โล่งไปเปราะหนึ่งแต่ตอนที่เพื่อนน้ำตาลทำหน้าสิ้นหวังตอนที่รู้ว่าผมกับน้ำตาลเป็นแฟนกัน แล้วที่สำคัญคือเพื่อนน้ำตาลคนนั้นมันก็หล่อเหมือนกันน่ะสิ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้งั่ง เพราะผมไม่ได้รู้จักกับน้ำตาลมาตั้งแต่แรก และผมมาทีหลังพวกนั้น ผมกลัวว่าน้ำตาลจะไม่เลือกผม
ผมคิดว่า...ผมคงติดกับดักน้ำตาลเข้าจัง ๆแล้วล่ะครับ
แต่ผมไม่ยอมหรอกนะ ผมจะทำให้คนที่กำลังทำหน้าสุขสมอยู่ใต้ตัวผมตอนนี้ติดกับดักของผมให้ได้เหมือนกันครับ :-)