จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จอมใจจ้าวหมาป่าหน้า12 15/9/60 แจ้งข่าวเปิดจอง ตัวอย่างตอนพิเศษ  (อ่าน 72795 ครั้ง)

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
รวดเร็วทันใจ จบศึกภายใน1ตอน สนุกค่าาา รอๆ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
ตายง่ายเกิน

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แล้วถ้ารางวัลเป็นของที่ราชาและรัชทายาทให้ได้ แต่ไม่อยากให้ล่ะ...อีกอย่างอเล็กเซียน้อย...ไม่ใช่สิ่งของน่ะสิ

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
พ่อมดทำไมนายกากอย่างนี้ :pig4:

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่8

             

  หมู่นี้อเล็กเซียวนเวียนอยู่ในสวนของปราสาททุกวันเพียงเพราะว่าต้องการที่จะได้พบกับเจ้าหมาป่าตัวใหญ่สีดำนั่นอีกครั้ง คืนวันนั้นเด็กหนุ่มอุตส่าห์หลอกล่อท่านพ่อจนอนุญาตให้เขาเลี้ยงหมาในปราสาทได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอกความจริงเรื่องที่มันเป็นหมาป่ายักษ์ก็ตามที

           

   ในใจลึกๆอเล็กเซียยังคงสงสัยในที่มาที่ไปของเจ้าหมาป่าสีดำ แต่จากการที่บังเอิญได้เจอมันถึงสองครั้งเด็กหนุ่มเข้าใจว่าเจ้าสัตว์หน้าขนตัวนี้จะไม่ทำอันตรายเขา เดาได้จากพฤติกรรมของมันจึงทำให้คลายความหวาดระแวงไปบ้าง

       

       หลังจากได้เจอมันคืนนั้น อเล็กเซียไปยังห้องสมุดของปราสาท พยายามค้นหาเอกสารที่เล่าถึงเจ้าหมาป่าสีดำ ข้อมูลที่ได้เกี่ยวกับเจ้าหมาป่าดำตัวยักษ์นั้นมีอยู่สองประการ อย่างแรกคือเจ้าหมาป่าตัวนั้นคือพวกวูฟ อย่างที่สองอาจเป็นคนที่ถูกสาป บางทีคงเป็นพ่อมดที่คำสาปย้อนมาทำร้ายตนเองหรือจะเป็นใครซักคนที่ถูกพ่อมดสาปเพื่อเอาไว้ใช้งาน อเล็กเซียโอนเอนไปยังข้อสันนิษฐานอย่างหลัง

         

     เหตุผลที่เชื่อเช่นนั้นเพราะเล็กเซียแค่ต้องการให้มันเป็นเช่นนั้นนะสิ เนื่องจากไม่อยากให้เจ้าหมาตัวนั้นเป็นพวกวูฟ ไม่ได้เกลียดพวกวูฟเป็นพิเศษแต่แค่ไม่อยากเข้าไปใกล้ชิด การที่เจ้าหมาป่าตัวนั้นพูดไม่ได้เขาจึงเข้าข้างตัวเองว่ามันต้องไม่ใช่พวกวูฟอย่างแน่นอน

         

      หากว่าเป็นคนที่ถูกสาปจริงก็นับว่าน่าสงสาร การที่เจ้าหมาป่าตัวนั้นเคยเป็นคนมาก่อนทำให้ท่าทีสนิทสนมคุ้นเคยกับมนุษย์อย่างเขาดูไม่แปลกอะไร แต่ก็แอบสงสัยไม่ได้ว่ามันอาจจะเป็นนักฆ่าของมอร์โด ลาปิสที่เข้ามาหลอกล่อเขาหรือเปล่า

         

     ถ้าอย่างนั้นแล้วทำไมถึงช่วยเขาเอาไว้เมื่อครั้งที่เจอหน้ากันที่ป่าดำล่ะ? นอกจากนั้นการที่มันผลุบโผล่มายังปราสาทที่เขาอาศัยอยู่ยิ่งไม่น่าแปลกขึ้นไปอีกหรือ มันตามเขามา?หรือว่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่นะ?

         

      หากสันนิษฐานว่าเจ้าหมาป่าตัวนั้นมีวงจรความคิดเหมือนมนุษย์มันก็น่าจะมีเหตุผลที่เข้ามาใกล้ชิดกับเขา

ยิ่งคิดอเล็กเซียก็ยิ่งสับสน ระหว่างที่ยืนเพียงลำพังบริเวณมุมลับในสวนซึ่งเคยพบกับเจ้าหมาป่าตัวนั้น ต่อหน้าต่อตาเด็กหนุ่มเห็นเจ้าหมาป่าสีดำตัวใหญ่โดดข้ามกำแพงปราสาทเข้ามา

           

   “อ๊ะ...เจ้าหมา” เนื่องจากเริ่มไม่ไว้ใจมันเสียแล้วจึงอดตกใจต่อการปรากฏตัวของมันไม่ได้ เจ้าหมาป่าสีดำตัวนั้นเดินเข้ามาหาเขาในปากคาบดาบเล่มหนึ่งเมื่อเข้ามาประชิดตัวมันวางดาบเล่มนั้นลงตรงหน้าก่อนจะขยับตัวนอนลงอย่างเกียจคร้าน

         

      “เจ้าให้ข้าหรือ” เจ้าหมาป่าเห่าเบาๆแทนคำตอบ อเล็กเซียลังเลที่จะหยิบดาบเล่มนั้นขึ้นมาแต่พอถูกเจ้าหมาเห่าอีกครั้งเป็นเชิงเร่งเร้าเด็กหนุ่มจึงหยิบมันขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้

         

      “สวย” ทันทีที่ชักดาบออกจากฝัก อเล็กเซียก็ตกตะลึงในความงามของคมดาบ ตัวด้ามดาบถูกฝังด้วยอัญมณีสีแดงซึ่งหาได้ยาก เพื่อทดสอบความคมเด็กหนุ่มเหวี่ยงดาบฟันเข้าที่กิ่งไม้หนาใกล้ๆทันที

         

      กิ่งไม้หนาถูกตัดด้วยการฟันเพียงครั้งเดียวแถมอเล็กเซียไม่ได้ออกแรงอะไรมากอีกด้วย การกระทำของเขาเป็นการการันตีว่าดาบเล่มนี้มีความคมมากแค่ไหน

           

    “เจ้าเอามาจากไหนเจ้าหมา” หมาป่าสีดำไม่ตอบอเล็กเซียตอนนี้มันกำลังเริ่มต้นเลียขนตามตัวของมันโดยไม่สนใจต่อคำถามของเด็กหนุ่ม ในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะเห็นตรงบริเวณเนินไหล่ของมันมีบาดแผลที่ยังไม่สมานตัวกันดี         “เจ้าหมาขอข้าดูหน่อยสิ” เจ้าหมาป่าสีดำมองหน้าเขา มันปล่อยให้อเล็กเซียเข้าใกล้และสำรวจบาดแผลโดยไม่ขัดขืน เป็นรอยแผลถูกแทงดูแล้วยังสดใหม่คิดว่าคงโดนมาเมื่อไม่นาน

       

       “ข้าจะไปเอายารักษาแผลมาให้เจ้านะ” คิดถึงเรื่องการรักษาแผลมากเสียยิ่งกว่าเรื่องที่เจ้าหมาได้แผลมาเพราะเหตุใดขณะที่ขยับเคลื่อนกายลุกขึ้นจากท่านั่งก็รู้สึกได้ถึงแรงกระตุกเบาๆ เมื่อหันไปมองก็พบว่าเจ้าหมาป่าใช้ฟันกัดชายเสื้อของเขาเอาไว้

         

      “ปล่อยข้าก่อนสิเจ้าหมา” เจ้าหมาป่าไม่ยอมปล่อยชายเสื้อของเขามันส่งสายตามองจ้องมาราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง

     

         “ไม่อยากให้ข้าไปหรืออย่างนั้นจะให้ทำอย่างไร” เจ้าหมาปล่อยชายเสื้อของอเล็กเซียแล้ว ตอนนี้เจ้าหมาเริ่มเอาตัวใหญ่ยักษ์ของมันเข้ามาถูไถออดอ้อนเด็กหนุ่มราวกับเป็นหมาตัวเล็ก สร้างความขบขันและลำบากใจให้อเล็กเซีย

         

      “ทำไมถึงขี้อ้อนเช่นนี้นะ” อเล็กเซียยิ้มอ่อนใจเมื่อเจ้าหมาพยายามเกยหัวอันใหญ่โตเข้ากับหน้าตักของเขา ให้ตายเถอะตัวก็ออกจะใหญ่ยักษ์ยังทำตัวเหมือนลูกหมาอยากจะนอนเกยตักเขาเสียอย่างนั้น อดเอ็นดูไม่ได้อเล็กเซียกอดรัดและซุกไซ้ใบหน้าเข้ากลุ่มขนสีดำอันแสนหนานุ่ม

           

    “ตัวนุ่มมากเลยชักชอบขึ้นมาแล้วสิ” พึมพำกับตัวเองเบาๆขณะฝังหน้าลงไปด้วยความหมันเขี้ยว เจ้าหมาป่าสีดำดูจะชอบใจมันแกว่งหางของมันไปมาอย่างบ้าคลั่งและเริ่มต้นหยอกเด็กหนุ่มด้วยการขึ้นคร่อมก่อนจะเลียตามเนื้อตัวจนเขาชักจะเปียกแฉะ

           

   “พอพอแล้ว” อเล็กเซียหัวเราะเสียงดัง ในตอนนั้นจู่จู่เจ้าหมาป่าก็หยุดเลียมันผละจากเขาแล้วกระโจนข้ามกำแพงหายไปอย่างกระทันหัน ทำเอาเด็กหนุ่มงงไปหมด

       

       “ท่านอเล็กเซียเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”

       

        ที่แท้แล้วก็ทหารยามนี่เอง อเล็กเซียเดาว่ามันคงได้ยินฝีเท้าของคนแปลกหน้า เจ้าหมาป่าดำจึงรีบหลบหนีไป

นี่ยิ่งไม่เป็นการยืนยันว่าเจ้าหมาป่าตัวนั้นชื่นชอบเขามากเป็นพิเศษหรอกหรือ การที่มันหลีกหนีผู้คนและเข้ามาตีสนิทแค่เพียงเฉพาะเขา ถึงแม้ว่าลึกๆจะระแวงอยู่บ้าง กระนั้นยังอดดีใจที่ได้รับความรักจากสิ่งมีชีวิตที่อาจเรียกได้ว่าเป็นสัตว์อันตรายไม่ได้ เขานี่มันช่างสมกับเป็นเด็กไม่รู้จักโตตามที่ท่านพี่เคยปรามาสเอาไว้เสียจริงๆ

         

     “ไม่มีอะไรหรอก ข้าจะกลับไปที่ห้องแล้วเจ้าจะทำอะไรก็ไปทำเถอะ” อเล็กเซียออกจากบริเวณนั้นและไม่ลืมหยิบดาบที่ได้รับมาจากหมาป่าสีดำกลับไปที่ห้องด้วย

               สองวันต่อมากองทัพที่ออกไปรบรวมทั้งท่านพี่ก็กลับมาถึง อเล็กเซียตื่นเต้นดีใจจนถึงกับออกไปรับที่หน้าประตูเมือง

         

      “ท่านพี่” เมื่อเห็นท่านพี่บังคับม้าเดินนำขบวนทหารมา อเล็กเซียก็ควบม้าเข้าไปหา ข้างๆของท่านพี่ยังมีคนที่เขาไม่ถูกชะตาเคลื่อนม้าตามเคียงคู่กัน

         

      “สบายดีหรือเอเดรียน เฟลเวเธอร์” ทักออกไปตามมารยาท คนถูกทักยิ้มกว้างมาให้อเล็กเซีย

         

     “สบายดีครับ ขอบคุณที่เจ้าชายอุตส่าห์มีน้ำใจเป็นห่วงข้า” อเล็กเซียอดเชิดหน้าขึ้นแล้วมองดูอีกฝ่ายด้วยสายตากดต่ำไม่ได้ อย่าสำคัญตัวผิดไปนักเลยใช่ว่าเขาจะเป็นห่วงคนผู้นี้จริงๆเสียหน่อย มันก็แค่...ตามมารยาทเท่านั้น

         

      “เจ้าดูจะเป็นห่วงเอเดรียนเสียเหลือเกินนะ เจ้าถามว่าเขาเป็นอย่างไรก่อนที่จะถามพี่เสียอีก”

           

    “ท่านพี่ก็...อย่าหยอกกันสิครับ” รู้ได้ในทันทีว่าถูกสัพยอก ก็ท่านพี่เล่นส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้

         

      “เอ้าเจ้าจะไม่ถามบ้างหรือว่าพี่คนนี้สบายดีหรือไม่”

       

       “ท่านพี่นี่ละก็...ข้าก็ไม่เห็นท่านมีแผลตรงไหนเสียหน่อย”

         

     “ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงสังเกตเห็นแผลภายใต้เสื้อผ้าของเอเดรียนได้อย่างนั้นสิ” อเล็กเซียเลิกคิ้วอดไม่ได้ที่จะมองสำรวจตามเนื้อตัวของเอเดรียน แต่คิดดูอีกทีเขาไม่อยากจะสนใจว่าอีกฝ่ายจะบาดเจ็บแค่ไหนจึงมองเมินแทบจะในทันที

         

      “ข้าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรหรอกครับท่านพี่ แค่คิดว่าในสงครามใครๆก็อาจจะบาดเจ็บกันได้ ข้าก็แค่ถามไปตามมารยาทเท่านั้น” เพื่อไม่ให้บทสนทนาเป็นไปในทางที่ทำให้ลำบากใจ หากว่ายังจับกลุ่มสนทนาโดยมีเอเดรียน เฟลเวเธอร์อยู่ในกลุ่มด้วยเช่นนี้ก็ไม่รู้ว่าจะถูกหยอกเย้าอะไรอีก ดังนั้นอเล็กเซียจึงขอล่วงหน้าไปยังปราสาทก่อน

       

       หลังจากท่านพี่กลับมาถึงก็ถูกเรียกให้เข้าพบที่ท้องพระโรงทันที ตอนนี้อเล็กเซียยืนอยู่ข้างท่านพ่อที่นั่งอยู่บนบัลลังค์ ท่านพี่ยืนอยู่ที่พื้นด้านล่างและกำลังรายงานเกี่ยวกับการรบที่ผ่านมาทั้งหมด เนื้อหาที่ท่านพี่เล่านั้นส่วนใหญ่เป็นการกล่าวชมเชยเอเดรียน เฟลเวเธอร์และพวกวูฟไปมากกว่าครึ่ง

         

      “ข้าคิดว่าท่านพ่อสมควรจะให้รางวัลตามที่เขาปรารถนาหนึ่งอย่างนะท่านพ่อ” เจ้าชายรัชทายาทเสนอ อเล็กเซียเห็นว่าท่านพ่อเองก็เห็นด้วยถึงแม้ว่าจะมีขุนนางบางคนแสดงความเป็นห่วงใยต่อคำขอที่ดูจะกว้างมากเกินไป แต่ก็เป็นเพียงเสียงซุบซิบที่พอจะให้เขากับท่านพ่อได้ยินเท่านั้น

           

   “ถ้าอย่างนั้นก็เบิกตัวเอเดรียน เฟลเวเธอร์เข้ามา” หลังจากราชาพูดจบ เอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็ถูกนำตัวเข้ามา ท่าทางการเดินอันองอาจทำให้อเล็กเซียคิดแปลกใจว่านี่นะหรือท่าทางเดินของคนเจ็บ ชายผู้นี่เดินเหินไม่เหมือนกับคนที่บาดเจ็บมาเลยซักนิด เกี่ยวกับเรื่องนี้ทำให้เด็กหนุ่มเลื่อมใสอีกฝ่ายขึ้นมานิดหน่อย

           

    “ข้าได้ข่าวว่าเจ้าทำได้ดีในสนามรบ ทั้งยังเป็นผู้ปลิดชีพมอร์โด ลาปิสให้ข้าอีกด้วยจริงหรือไม่”

           

   “จริงครับ” เอเดรียนไม่พูดเปล่ายังเปิดห่อผ้าที่บรรจุหัวของมอร์โด ลาปิสให้คนในท้องพระโรงดู อเล็กเซียผงะไปเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าชายหนุ่มจะนำหัวของศัตรูมาเป็นหลักฐานด้วย

         

      “โอ้...นี่นะหรือมอร์โด ลาปิส เป็นชายที่หน้าตาธรรมดากว่าที่ข้าเคยคาดเอาไว้นะ” กล่าวจบราชาก็ส่งสัญญาณบอกมหาดเล็กให้นำหัวของมอร์โดออกไป

           

    “ข้าพิจารนาดูแล้วว่าเจ้าทำได้เยี่ยมสมกับที่ข้าตั้งหวังไว้ดังนั้นข้าจะทำตามคำสัตย์ให้รางวัลตามที่เจ้าปรารถนาหนึ่งอย่าง”

           

   อเล็กเซียอดตกใจกับคำพูดของท่านพ่อไม่ได้ นอกจากท่านพี่แล้วท่านพ่อเองก็ลั่นวาจาไปว่าจะให้เอเดรียน เฟลเวเธอร์ในสิ่งที่ปรารถนาหนึ่งอย่างด้วยหรือ เหตุใดท่านพ่อและท่านพี่จึงพูดจาออกไปเช่นนั้น ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจ สำหรับท่านพี่นั้นเขาพอรู้อยู่บ้างว่าเลื่อมใสและชื่นชมเอเดรียน เฟลเวเธอร์อยู่มาก แต่ท่านพ่อนี่สิคิดไม่ออกว่าท่านคิดเห็นเป็นอย่างไร

         

     “ข้าต้องการให้พระองค์ประทานเจ้าชายอเล็กเซียให้มาเป็นภรรยาของข้าครับ”

         

      “อะไรนะ”



ราชากับอเล็กเซียร้องถามออกมาพร้อมกัน รัชทายาทยิ้มค้างด้วยไม่รู้ว่าที่เอเดรียนพูดนั้นคือเรื่องจริงหรือล้อเล่น ตอนนี้เด็กหนุ่มขบฟันเข้าที่ริมฝีปากจ้องมองชายหนุ่มผู้อุกอาจตาแถบถลน อย่างจะสับอีกฝ่ายเป็นชิ้นๆนักไม่รู้ว่ากล้าดีอย่างไรถึงคิดขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ต้องการให้เขาไปเป็นภรรยาหรือ ถึงเขาจะเป็นเจ้าหญิงก็ใช่ว่าท่านพ่อจะยกตัวเขาให้อีกฝ่ายง่ายๆ นี่ยิ่งเขาเป็นผู้ชายด้วยแล้ว ท่านพ่อไม่มีวันทำตามที่อีกฝ่ายขออย่างแน่นอน

       

        “เจ้าล่อเล่นอะไรอยู่นี่ เอเดรียน เฟลเวเธอร์” ราชาถามเสียงดุดัน

         

     “ใช่ๆแล้วท่านพ่อข้าว่าเอเดรียนแค่ล่อเล่นนะครับ..ใช่ไหมเอเดรียน” รัชทายาทหันไปถามเอเดรียน แต่คำตอบที่ได้ชายหนุ่มยังหน้าด้านยืนยันคำขอเดิม อเล็กเซียกำหมัดแน่นอยากจะเข้าไปชกอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ เริ่มจะเข้าใจว่าทำไม

เอเดรียนถึงกล้าขอจูบจากเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้แล้วก็เห็นเขาเป็นดั่งเช่นอิสตรีผู้หนึ่ง

         

     “เจ้าดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะ เอเดรียน เฟลเวอเธอร์ เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นผู้ชายยังจะกล้าขอข้าจากท่านพ่อให้ไปเป็นภรรยาเจ้าอีกหรือ..นี่เจ้าตั้งใจจะดูถูกเหยียดหยามข้าใช่หรือไม่” อเล็กเซียตวาดออกไปด้วยความเดือดดาล ไม่คาดว่าคำตอบที่ได้รับจะกลายเป็นการบอกรักต่อหน้าผู้คนมากมาย

           

   “เจ้าชายอเล็กเซียข้าหาได้ดูถูกท่านไม่ แต่ข้ามีใจให้ท่านตั้งแต่วินาทีแรกที่พบท่าน ท่านเป็นคู่ฟ้าลิขิตเพียงหนึ่งเดียวของข้า”

         

     “คู่ฟ้าลิขิตอย่างนั้นหรือ” ท่านพ่อพึมพำซ้ำไปมากับตัวเอง อเล็กเซียไม่เข้าใจว่าคู่ฟ้าลิขิตหมายถึงอะไร แต่จากสีหน้าของท่านพ่อกับท่านพี่แล้วคิดว่าทั้งคู่คงจะรู้อะไรบางอย่าง

         

     “ถึงเจ้าจะอ้างว่าอเล็กเซียเป็นคู่ฟ้าลิขิตของเจ้า แต่หาใช่ข้ออ้างที่จะทำให้ข้ายกบุตรชายของข้าให้เจ้าได้ เจ้ากลับไปยังเผ่าของเจ้าเสียเจ้าผู้อุกอาจ เพื่อเป็นการตอบแทนที่เจ้าช่วยเหลืออาณาจักร ข้าจะไม่ลงโทษเจ้าไปให้พ้นจากที่นี่เสียแล้วอย่าได้เรียกร้องอะไรจากข้าอีก”

         

     อเล็กเซียเห็นเอเดรียน เฟลเวเธอร์กระตุกยิ้มร้าย รอยยิ้มร้ายกาจนั้นทำให้อเล็กเซียหนาววูบเกิดความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าชายผู้นั้นจะลาจากไปโดยไม่ได้โวยวายใดใดทั้งนั้น แต่วินาทีที่เผลอสบตากันเด็กหนุ่มก็เข้าใจว่าเอเดรียน เฟลเวเธอร์ไม่ได้ยอมตัดใจจากเขาแต่อย่างใด



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:



                                    เนื่องจากติดธุระอาจจะไม่ได้ลงนิยายสองถึงสามวันนะจ๊ะ



                                     รู้สึกว่านิยายตัวเองเริ่มเขียนยาก มีหลายฉากที่คิดไม่ตก



                                    อันนี้ไม่ได้หายไปคิดพล๊อตแต่อย่างใด แต่คนเขียนไม่ว่างจริงๆจ้า



                                    ขอลาไปทำธุระส่วนตัวสักหน่อย



                                     เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างน้า ขอบคุณ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:  โอ๋ๆ มีความหวงลูกสาวนะ
เอาใจช่วยนะคะ ค่อยๆคิดค่ะ

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
อ้าวกษัตริย์ตรัสแล้วคืนคำซะงั้น

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ้าวววว กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำสิ (ถึงเราจะคิดว่าอเล็กเซียไม่ใช่สิ่งของที่ควรยกให้กันง่ายๆก็เหอะนะ)

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อุต๊ะ! คิดจะทำอะไรรรร หืม?

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ราชาาาาาา ต้องทำตามคำพูดสิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: จอมใจจ้าวหมาป่า บทที่8 หน้า3 8/11/59
« ตอบ #69 เมื่อ: 09-11-2016 07:22:43 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ YADA

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ก็ว่าทำไมพ่อมดตายง่าย เพราะจริงๆแล้วว่าที่พ่อตาไม่ได้ยอมง่ายๆนี่เอง เรื่องสนุกกำลังจะเริ่มสินะ 


:hao6: :hao6:


เอ้ยๆๆ.. ว่าที่พ่อตาก็อนุญาตแล้วนี่ ให้เลี้ยงหมาแล้วนี่หน่า คริๆ  o13

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
 :katai1: :katai1:อยากอ่นต่อแบบรัวๆๆเลยอ่าสนุกมาก

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
สนุกกกกกมากก รอตอนต่อปายยย
ป.ล.หมาป่าเป็นสัตว์ที่ไม่ชอบเห่านะคะ มันจะเห่าเบาๆในลำคอมากกว่า ส่วนมากจะหอนเป็นกิจวัตร

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
รอด้วยใจจดจ่อ

ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่9

             

  เวลานี้คนในเผ่าวูฟทั้งหมดรู้กันแล้วว่าเจ้าชายอเล็กเซียคือคู่ฟ้าลิขิตของใคร ทว่าก็ไม่ได้ต่อต้านชายหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องนี้แต่พากันแสดงความเห็นใจทั้งยังไม่พอใจต่อราชาธีโอดอร์ที่ผิดสัญญาต่อเอเดรียน การที่ถูกปฏิเสธกลายเป็นเรื่องน่าเห็นอกเห็นใจจนแม้แต่เด็กตัวเล็กๆยังต้องเอ่ยปลอบโยนตัวเขา

         

      ตอนแรกเอเดรียนยังหวั่นเกรงอยู่บ้างเรื่องแรงต่อต้านจากคนในเผ่า แต่การที่คนในเผ่าแสดงออกถึงความเข้าใจทั้งยังกรุ่นโกรธแทนเขาเช่นนี้ มันทำให้ชายหนุ่มคล้ายเหมือนมีแรงผลักดันทำให้เดินหน้าต่อไปได้โดยไม่พะวักพะวง

         

      เกือบเดือนหนึ่งแล้วที่เอเดรียนไม่ได้พบหน้าของอเล็กเซีย ที่ยังพอทนอยู่ได้เพราะตนเองนั้นแอบดอดไปแอบดูเด็กหนุ่มอยู่เป็นพักๆราวกลับเป็นพวกโรคจิต หากไม่ทำเช่นนั้นก็รู้สึกเหมือนประหนึ่งใจจะขาดรอนๆ ครั้นจะกลายร่างเป็นหมาป่าเข้าไปเล่นด้วยก็พบว่าอเล็กเซียไม่ค่อยได้อยู่ตามลำพังทำให้ไม่สามารถแอบเข้าไปออเซาะในร่างหมาป่าได้ดั่งที่ใจต้องการ

           

    “เอเดรียน...เอเดรียน...เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่” เอเดรียนเลิกกระหวัดถึงอเล็กเซียแล้วกลับมาให้ความสนใจต่อเจ้าของเสียง ตรงหน้าชายหนุ่มมีอาน้องสาวของไนเจลทำท่าทางกระเง้ากระงอดดูเหมือนว่าจะไม่พอใจที่เขาไม่ให้ความสนใจเท่าที่ควร

         

     “ตกลงว่าข้าใส่ชุดนี้แล้วสวยไหม” หญิงสาววัยสิบแปดในชุดกระโปรงหรูหรา เสื้อผ้าชุดนี้เอเดรียนเป็นผู้สบทบทุนให้มีอาไปซื้อด้วยตัวเอง เนื่องจากมีอาเอาแต่พูดกับเขาทำนองน้อยอกน้อยใจว่าตนเองไม่มีเสื้อผ้าหรูหราดั่งเช่นพวกสตรีในเมืองดังนั้นจึงไม่งามน่ามองจนไนเจลและเขาเลิกให้ความสนใจ

           

    เอเดรียนได้ฟังแล้วอดขำขันไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตนเองนั้นไม่รู้ตัว นอกจากจะรู้ตัวดีแล้วไนเจลยังเป็นผู้ย้ำเตือนกับเขาเอง มีอาน้องสาวตัวน้อยในสายตาเขาคนนี้มีใจให้ตนแบบชู้สาวไม่ผิดแน่

         

      แต่ถึงอย่างนั้นเอเดรียนไม่เคยเห็นมีอาเป็นอื่นนอกจากน้องสาวมาก่อน โดยปกติก็มักถูกรุกเร้าอย่างเอาแต่ใจอยู่เป็นนิจ ยิ่งพอรู้ว่าเขาพบคู่ฟ้าลิขิตแล้วยิ่งหนักข้อมากกว่าเก่า ถึงแม้จะเคยบอกออกไปแล้วว่าเห็นเป็นน้องสาวเพียงแค่นั้น แต่มีอากลับทำเป็นบ้าใบ้ไม่สนใจคำพูดของเขาเอาเสียเลย



เมื่อเห็นว่าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนเท่าไหร่ บวกกับว่าถูกข้อร้องจากไนเจลให้อย่าทำร้ายจิตใจน้องสาวคนนี้นัก นอกไปจากนั้นสำหรับเอเดรียนแล้วการที่ไม่ทำร้ายจิตใจกันมากไปกว่านี้นั่นเป็นเพราะเขาเอ็นดูมีอาในฐานะน้องสาวคนสนิท ก็ทำไงได้ล่ะเขาเห็นหล่อนมาตั้งแต่จำความได้             



“นี่คู่ฟ้าลิขิตของเจ้าสวยไหม” ถูกล้วงลึกเข้าให้ แต่หากไม่ตอบก็รำคาญเวลาที่ถูกเซ้าซี้



“สวยสิ”



“แต่ก็เป็นผู้ชายไม่ใช่หรือ จะสู้พวกผู้หญิงอย่างเราได้ที่ไหน”



“นั่นสิ หากแค่สวยข้าคงไม่สนใจ อเล็กเซียนอกจากจะงามรูปแล้วนิสัยของเขาข้าก็ชอบด้วยเหมือนกัน ทั้งความ



เหย่อหยิ่งที่มี ความกล้าหาญอันน่าจับตามองล้วนแล้วแต่ชวนให้ข้าอยากเข้าใกล้”



“กล้าหาญอะไรกัน เอเดรียนมองเจ้าชายนั่นดีเกินไป เจ้าแค่พบหน้ากับเจ้าชายนั่นแค่กี่ครั้งกันเชียวฮึ”



 มีอากระทืบเท้าเบาๆอย่างไม่พอใจ เอเดรียนได้แต่ยิ้มกริ่ม อาจจะจริงอย่างที่มีอาว่าเขาอาจจะรู้จักอเล็กเซียน้อยเกินไป แต่สำหรับเขาแล้วหาใช่ปัญหาไม่ เวลานี้เขาพร้อมทุกอย่างที่จะเข้าหาและเรียนรู้เกี่ยวกับอเล็กเซีย



 มีอาคงไม่เข้าใจเพราะยังไม่เคยเจอคู่ฟ้าลิขิต วินาทีแรกที่เขาพบและได้กลิ่นกายหอมหวานจากเด็กหนุ่มผู้นั้นเขาก็เหมือนถูกแรงดึงดูดมหาศาลไม่อาจไม่สนใจหรือเมินเฉยต่อการคงอยู่ของเด็กนั่นได้อีกต่อไป



“เอเดรียน...” เสียงตะโกนเรียกดังมาแต่ไกล คนที่เรียกเขาเข้ามาในระยะใกล้ทุกทีและคนผู้นั้นคือไนเจล



“แอบมาเที่ยวเล่นกับตัวปัญหาในที่แบบนี้นี่เอง” ไนเจลบ่นพึมพำแต่มันดังพอที่จะให้เขากับมีอาได้ยิน หญิงสาวแสดงอาการไม่พอใจทันที



“ตัวปัญหาอะไรกันท่านพี่ กล้าพูดอย่างนี้กับเลดี้ได้อย่างไร” เป็นอีกครั้งที่มีอาขยี้เท้าอย่างไม่พอใจ



“เอเดรียนคงไม่เห็นว่าข้าเป็นตัวปัญหาอย่างที่ท่านพี่ว่าใช่หรือไม่”



เอเดรียนได้แต่ส่งยิ้มละไมให้มีอาแทนคำตอบ หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจเธอคงตีความเข้าข้างตนเอง แต่จริงๆแล้วเอเดรียนแค่ไม่ยินดียินร้ายหากมีเวลาว่างเขาก็สามารถเจียดเวลาให้น้องสาวผู้นี่ได้อยู่ ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นเขาก็ไม่ใช่คนใจดีถึงขนาดจะให้ผู้อื่นรบกวนในเวลาสำคัญ ซึ่งข้อนี้เขาคิดว่ามีอาน่าจะรู้อยู่แก่ใจหากแต่แสร้งทำเป็นไม่รู้



“ตัวปัญหาเห็นๆ” ไนเจลยังไม่หยุดพูดจาร้ายๆ มีอาชกหมัดขวาเข้าที่สีข้างของไนเจลเข้าเต็มแรงก่อนจะวิ่งหนีออกห่างไปไกล



“เด็กบ้านี่” ไนเจลโหวกเหวกโวยวาย มีอาหันมาแลบลิ้นปริ้นตาใส่ก่อนจะวิ่งหายไป เอเดรียนและไนเจลเดาว่าน่าจะกลับหมู่บ้านไปก่อนดังนั้นจึงไม่ห่วง แน่นอนว่าไม่มีอะไรน่าห่วงสำหรับหญิงสาวของเผ่าที่กลายร่างเป็นวูฟตัวโตได้



“มีอะไรหรือไนเจล”



“สายของเราบอกว่าพวกไซปรัสยกกองทัพมาระลอกที่สองนะสิ”



เหล่าผู้คนในท้องพระโรงต่างตึงเครียดกันอีกครั้ง เนื่องจากสายสืบของอาณาจักรเข้ามารายงานว่าพวกไซปรัสยกกองทัพเคลื่อนมาเป็นระรอกที่สอง



“พวกมันมาเท่าไหร่”



“ประมาณหนึ่งหมื่นคนได้พระองค์”



อเล็กเซียได้ฟังแล้วค่อนข้างโล่งใจหากเพียงแค่หมื่นคน นับว่ากองกำลังในอาณาจักรของเขานั้นมีมากกว่า จากที่ได้ฟังที่ท่านพี่เล่า เนื่องจากการรบในครั้งที่แล้วแทบไม่ได้เสียเลือดเนื้อ ดังนั้นทหารของอเล็กซานเดรียจึงอยู่ในสภาพพร้อมรบมากกว่าสองหมื่นคน



คิดถึงตรงนี้แล้วอดนึกถึงเอเดรียน เฟลเวเธอร์ไม่ได้ การที่เหลือทหารพร้อมรบมากมายขนาดนี้เป็นความดีความชอบของคนผู้นั้นกับเผ่าวูฟโดยแท้จริง หากว่าเจ้าผู้ชายบ้านั่นไม่สติฟั่นเฟือนขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เสียก่อน สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ คนผู้นั้นอาจได้เข้าร่วมรบและผลที่ได้รับอาจทำให้ชายหนุ่มมีสิทธิกลายเป็นขุนนางระดับสูงของอาณาจักร



คู่ฟ้าลิขิต



หลังจากได้ยินคำคำนี้อเล็กเซียก็ค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที สิ่งที่ได้รู้มานั้นทำให้เขาแปลกใจอย่างบอกไม่ถูก คู่ฟ้าลิขิต สิ่งนั้นหมายถึงความรักที่เกิดขึ้นโดยเฉียบพลันตามสัญชาติญาณ เป็นความรักครั้งเดียวของพวกวูฟที่จะเกิดขึ้นและรับรู้ในทันทีที่พบหน้า



ฟังดูแล้วช่างไร้สาระ อเล็กเซียเกิดความสงสารพวกวูฟที่มีชะตากรรมที่เหมือนต้องคำสาป หากว่าตัวเขาต้องพบรักเฉียบพลันกับคนที่พบหน้าครั้งแรกอย่างอธิบายเหตุผลไม่ได้อย่างนี้ คงมีแต่ความทุกข์จนหาความสุขไม่ได้



ไม่รู้ว่าเอเดรียน เฟลเวเธอร์คิดเห็นเป็นเช่นไร แต่ตามที่ได้อ่านจากหนังสือเก่าเก็บในหอสมุดจึงรู้ว่าพวกวูฟต้องทุกข์ทรมานแค่ไหนหากต้องอยู่ห่างคู่ฟ้าลิขิต



ชายผู้นั้นก็ทรมานด้วยเช่นกันหรือเปล่านะยามที่ไม่ได้พบหน้าเขาเช่นนี้?



ยิ่งคิดยิ่งสงสัย อเล็กเซียไม่เคยมีความรักมาก่อนดังนั้นจึงไม่ค่อยเข้าใจความลุ่มหลงที่เอเดรียนพยายามสื่อให้เขาเห็น เพราะว่าลุ่มหลงในตัวเขามากถึงได้เรียกร้องจูบไปเสียทุกครั้งหรอกหรือ ใบหน้าของเด็กหนุ่มเริ่มร้อนขึ้นทีละนิด ได้แต่ตำหนิตัวเองที่เอาแต่นึกถึงจูบของเอเดรียน เฟลเวอเธอร์ ทั้งยังแปลกใจที่ตนเองนั้นต้องร้อนวูบไปทุกครั้งที่นึกถึงจูบบ้าๆนั่น



“เจ้าชายรัชทายาทจงฟัง เจ้าจงนำทัพหนึ่งหมื่นนายไปจัดการกับพวกทหารของไซปรัส” รู้สึกตัวอีกทีท่านพ่อก็ออกคำสั่งกับท่านพี่เสียแล้ว อเล็กเซียส่งยิ้มตอบให้ท่านพี่ที่ส่งยิ้มมาให้ เด็กหนุ่มเข้าใจว่าสงครามครั้งนี้คงไม่ยากอย่างที่คิด เพราะตัวปัญหาอย่างมอร์โด ลาปิสก็ถูกกำจัดไปแล้วโดยง่าย



“ในที่สุดเหล่าทหารที่แท้จริงก็จะได้แสดงฝีมือกันเสียที” ไอแซคพูดในสิ่งที่ตนคิดขณะนั่งดื่มชากับอเล็กเซียในสวนของปราสาท สำหรับเด็กหนุ่มนั้นรู้สึกดีใจอยู่ไม่น้อยที่เพื่อนสนิทกลับมาคบกับเขาและเลิกงอนโดยไร้เหตุผลไปได้เสียที



“จริงๆนะอเล็กเซียข้าตื่นเต้นจนรอไม่ไหวแล้วที่จะได้ออกไปสู่สนามรบ จริงๆการรบครั้งก่อนถึงไม่มีไอ้พวกวูฟ กองทัพของเราก็สามารถชนะสงครามได้โดยง่ายอยู่แล้ว”



“ตอนเจ้าไปยังค่ายศัตรู เจ้าได้พบมอร์โด ลาปิสตอนเป็นๆหรือไม่” ไอแซคยักไหล่ก่อนจะตอบคำถาม



“ไม่เห็น แต่เดาว่ามันน่าจะเป็นพ่อมดกระจอกหรือไม่ก็พวกลวงโลก ไม่อย่างนั้นแค่ไอ้เจ้าเอเดรียนจะจัดการมันอย่างง่ายๆได้อย่างไร”



“อย่างนั้นหรอกหรือ” อเล็กเซียพึมพำ รู้สึกไม่เห็นด้วยนิดๆเพราะได้ประสบความร้ายกาจของพ่อมดนั่นมากับตา คิดในทางกลับกันหากว่าพ่อมดนั่นเก่งจริงนั่นไม่ได้หมายความว่าเอเดรียน เฟลเวเธอร์มีฝีมือเก่งกาจมากหรอกหรือ เนื่องจากตนเองไม่ได้อยู่ในสนามรบจึงพูดอะไรไม่ได้มากและได้แต่เก็บการอนุมานเอาไว้กับตัว



“ต้องอย่างนั้นสิ เจ้ามอร์โด ลาปิสอะไรนั่นประกาศศักดาไปทั่ว แต่ก็ไม่รู้นะว่าเป็นแค่คำลือหรือเปล่า แต่ก็ช่างเถอะพรุ่งนี้ข้าจะออกไปสู่สนามรบแล้ว เจ้าไม่มีอะไรที่จะพูดกับข้าหน่อยหรือ”



“ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยแล้วกัน”



อวยพรออกไปด้วยหวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น แต่ไอแซคกลับทำหน้าเหมือนไม่พอใจ จู่จู่ร่างสูงก็เข้ามาประชิดก่อนจะใช้มือเกี่ยวปลายคางของเขาให้เงยหน้าไปสบตา



ไม่เข้าใจทำอย่างนี้ทำไม แถมยังส่งสายตาหวานซึ้งมาให้อีก ได้แต่ปลอบใจว่าสิ่งที่แอบคิดเอาไว้คงจะไม่ใช่เรื่องจริง ไอแซคหรือว่าเพื่อนคนนี้จะคิดกับเขาแบบชู้สาว



เริ่มรู้สึกถึงอันตรายเมื่ออีกฝ่ายหลับตาลง ผลักออกไปน่าจะดีที่สุดเขาไม่ต้องการจูบกับไอแซคถึงอีกฝ่ายจะโกรธก็เถอะ จังหวะที่อเล็กเซียผลักออกเป็นจังหวะเดียวกับที่หญิงรับใช้โผล่หน้าเข้ามาพอดี



นับว่าช่วยได้มาก ไอแซคเข้าใจว่าที่เขาผลักออกเป็นเพราะหญิงรับใช้ ดังนั้นเพื่อนของเขาจึงแยกเขี้ยวใส่หญิงรับใช้แทนเสียอย่างนั้น



“มีอะไรหรือ” อเล็กเซียถาม



“รัชทายาทเรียกให้เจ้าชายไปทานขนมที่ห้องของรัชทายาทเจ้าค่ะ” นับว่าโอกาสเหมาะทีเดียว เวลานี้เขาไม่กล้าอยู่ตามลำพังกับไอแซคเสียแล้ว หากอยู่กันตามลำพังอีกก็ไม่รู้ว่าไอแซคจะสานต่อจูบเมื่อครู่อีกหรือไม่



“เจ้าจะไปด้วยหรือไม่ไอแซค” ถามออกไปตามมารยาท แต่ถึงไอแซคอยากจะตามไป คนใจดีอย่างท่านพี่คงไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว



“ไม่ล่ะข้าว่าข้ากลับไปเตรียมตัวเดินทางในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า”  ไอแซคจากไปแล้วอเล็กเซียโล่งใจจนต้องระบายลมหายใจออกมา



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                                                หายไปสามวันกลับมาละน้า จะบอกว่ายิ่งเขียนยิ่งเขียนยาก



                                               ประมานว่ามีพล๊อตเต็มหัวแต่เวลาเขียนมันออกมาไม่ดีไง



                                              เม้นเป็นกำลังใจกัยบ้างนะคะ

                                               ป.ล. พล๊อตเราไม่ได้ยิ่งใหญ่อลังการชวนตื่นเต้นเล๊ย หวังว่าคนอ่านจะไม่เบื่อก่อนนะ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอาใจช่วยพ่อพระเอกหมาป่าของเราค่ะ
น้องอเล็กเซียคิดถึงทั้งคนทั้งหมาล่ะสิ อิอิ

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
ไอแซคนี่มีความเป็นเด็กเอาแต่ใจอยู่นะ

คิดถึงพี่หมาตัวโตแล้ววววว

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ไม่เบื่อๆ ชอบๆๆๆ มาต่อไวๆน้าา

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ไอแซคดูมั่นใจเว่อร์ รอตอนต่อไปค่ะ
 +1  :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Silvan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 266
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนที่10



เป็นเวลาเกือบจะสองอาทิตย์แล้วที่เจ้าชายรัชทายาทเดินทางไปออกรบพร้อมกับกองทัพ เป็นสองอาทิตย์ที่

อเล็กเซียไม่ได้ยินแม้แต่ข่าวสารใดใดจากท่านพี่เนื่องจากว่าไม่มีทหารคนใดถือสารลับกลับมาแม้แต่คนเดียว



เวลานี้อเล็กเซียเริ่มจะกังวลพอพอกับที่ท่านพ่อเป็นกังวล พวกขุนนางเองพอขาดการติดต่อกับรัชทายาทนานๆเข้าก็เริ่มจะอยู่ไม่ติดที่ ทั้งราชาและสภาขุนนางต่างมีความลังเลที่จะส่งทหารอีกหนึ่งหมื่นคนไปสมทบดีหรือไม่ นั่นก็เพราะไม่มีผู้ใดส่งสารกลับมาหรือแม้แต่ผู้ส่งสารที่ส่งไปก็ไม่กลับมาเช่นกัน



แต่แล้วในที่สุดฝันร้ายของอเล็กเซียและราชาธีโอดอร์ก็มาถึง เมื่อเจ้าชายรัชทายาทถูกไอแซคกับทหารอีกไม่กี่คนนำตัวกลับมาในสภาพบาดเจ็บ ธีโอมีแผลถูกไฟไหม้ที่แขนซ้ายดูแล้วช่างน่ากลัวเวลานี้ถึงจะถูกหามกลับมาถึงปราสาทแต่ก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ



“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไอแซค บาร์ตันไหนรายงานข้าสิ” ราชาธีโอดอร์ถาม ไอแซคเล่าถึงเหตุการณ์ในสนามรบที่กองทัพของอเล็กซานเดรียแตกพ่ายเพราะไม่อาจต่อกรกับกองทัพของไซปรัสที่เต็มไปด้วยผู้ใช้มนต์ดำ อเล็กเซียและราชาตกใจอย่างมากด้วยไม่คิดว่าจะมีผู้ใช้เวทย์มนต์นอกไปจากมอร์โด ลาปิสเข้าร่วมสงครามอีก



“แล้วแม่ทัพโรแลนล่ะเป็นอย่างไรบ้าง”  ราชาถามถึงโรแลน หัวหน้าแม่ทัพของอาณาจักร คนคนนี้เป็นผู้ที่มีฝีมือในการรบเป็นอย่างมาก ไอแซครายงานว่าโรแลนยังพยายามใช้ทหารที่เหลืออยู่คอยต้านการเคลื่อนทัพของไซปรัสแม้ว่าจะไม่เห็นผลชนะ

         

     ถึงตรงนี้แม้แต่อเล็กเซียยังเข้าใจว่าจะต้องส่งกองหนุนอีกหนึ่งหมื่นไปช่วย แต่หลังจากได้ฟังความร้ายกาจของพวกพ่อมดกับสถานการณ์ของอาณาจักรซึ่งขาดแคลนผู้นำทัพที่ดี การที่อาณาจักรอเล็กซานเดรียขาดบุคลากรทางทหารที่ดีแบบนี้เป็นเพราะท่านพ่อเอาแต่สนใจทางด้านการค้าและเกษตรกรรมเป็นเวลานาน

         

     เกี่ยวกับทางด้านการทหารของอาณาจักรที่เพิ่งกลับมาเข้ารูปเข้ารอยจนสามารถมีจำนวนทหารพร้อมรบในมือมากถึงสองหมื่นนั้น ความดีความชอบต้องยกให้รัชทายาทที่พยายามอย่างยิ่งยวดมาตลอดหลายปีจนมีทุกวันนี้

         

      หลังจากไอแซครายงานสถานการณ์แล้วก็พากันลากลับไปพักรักษาตัว อเล็กเซียนอกจากจะเป็นห่วงท่านพี่แล้วยังคิดเผื่อไปถึงเพื่อนสนิท ไอแซคดิ้นรนพาท่านพี่ฝ่าสมรภูมิกลับมายังปราสาททั้งที่แขนของตัวเองก็หักเช่นกัน เด็กหนุ่มรู้สึกขอบคุณเพื่อนของเขาอยู่ไม่น้อยที่ไม่ทิ้งท่านพี่เอาไว้เพียงลำพัง

         

      จากนั้นราชาธีโอดอร์เรียกประชุมขุนนางอย่างเร่งด่วน อเล็กเซียไม่ได้เข้าประชุมขุนนางครั้งนี้ด้วยเนื่องจากต้องคอยดูอาการของท่านพี่ที่ยังไม่ฟื้น แผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายของท่านพี่ช่างดูน่ากลัว แต่หมอหลวงบอกว่าแขนของท่านพี่จะยังคงใช้ได้ เด็กหนุ่มโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก หากยังใช้แขนต่อไปได้ย่อมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ถึงแม้ว่าแขนซ้ายของท่านพี่จะมีรอยแผลเป็นติดตัวไปตลอดชีวิตก็ตาม

       

       ค่ำวันนั้นได้ยินเสียงซุบซิบของพวกขุนนางว่าท่านพ่อจะบากหน้าไปขอให้พวกวูฟช่วยอีกครั้ง อเล็กเซียสงสารท่านพ่อเหลือเกินเพราะไม่รู้ว่าการไปขอร้องอีกฝ่ายครั้งนี้จะต้องแลกด้วยความอัปยศอะไรบ้าง

         

      คนผู้นั้นจะยอมช่วยอาณาจักรของเขาอีกครั้งหรือ? ในเมื่อท่านพ่อผิดคำพูดที่ได้ให้ไว้ อเล็กเซียยังจำรอยยิ้มร้ายๆของเอเดรียน เฟลเวเธอร์ได้ดี ผู้ชายคนนั้นโกรธมากถึงขนาดนั้นคงจะไม่ยอมทำตามคำขอร้องของท่านพ่ออย่างแน่นอน

           

    แล้วมันก็เป็นไปตามที่อเล็กเซียคาด พวกวูฟส่งสารปฏิเสธคำขอความช่วยเหลือของอาณาจักร แต่กระนั้นยังมีข้อแม้ที่ทำให้ราชาต้องปวดหัวแนบกลับมาด้วย เนื้อหาที่ว่าคือหากอยากให้ร่วมรบต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ ต้องมอบอเล็กเซียให้เป็นภรรยาของเอเดรียน นอกจากนั้นยังต้องงดเว้นภาษีและยกระดับชนชั้นของเผ่าวูฟให้เท่าเทียมกับผู้คนในอาณาจักร

         

      สำหรับอเล็กเซียการของดเว้นภาษีกับยกระดับฐานะย่อมไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับขุนนางของอาณาจักรนั้นไม่สามารถทำใจยอมรับได้โดยง่าย พวกเขาเอาแต่โต้เถียงกันต่อหน้าราชาที่เอาแต่นิ่งเงียบ เด็กหนุ่มเข้าใจว่าท่านพ่อคิดเรื่องอะไรอยู่

         

      เรื่องที่ทำให้ท่านพ่อเก็บไปคิดมากขนาดนี้ น่าจะเป็นเรื่องของเขาไม่ผิด การโต้เถียงของขุนนางไม่จบลงง่ายๆสุดท้ายจึงต้องเลิกประชุมทั้งที่ยังไม่ได้บทสรุป หลังประชุมขุนนางอเล็กเซียกลับมายังห้องพักเพื่อดูแลท่านพี่ เจ้าชายรัชทายาทยังคงนอนสลบไม่มีท่าที่ว่าจะฟื้นง่ายๆ

         

     แต่อเล็กเซียเข้าใจว่าอีกไม่นานท่านพี่ก็คงจะตื่นจากการหลับเพราะหมอหลวงยืนยันเป็นมั่นเหมาะเรื่องที่ท่านพี่จะต้องฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอนในเวลาไม่นาน

         

     ขณะที่มองดูใบหน้าของท่านพี่ยามหลับ อเล็กเซียครุ่นคิดถึงหน้าที่ของเจ้าชายพระองค์หนึ่งของอาณาจักร คิดถึงหน้าที่ของผู้เป็นลูก หน้าที่ของผู้เป็นน้องชาย และคุณค่าของการคงอยู่ของตนเอง

         

     เด็กหนุ่มทราบว่าหากตนเองเอาแต่เห็นความสุขของตนจนปล่อยให้อาณาจักรล่มสลาย ตัวเขาคงไม่สามารถให้อภัยตัวเอง หากว่ามีหนทางสามารถช่วยเหลืออาณาจักรท่านพ่อและท่านพี่ได้ ตัวเขาย่อมจะไม่ปฏิเสธสิ่งนั้นถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาไม่มีความสุขก็ตาม

         

      “ท่านพ่ออยู่ข้างในหรือไม่” อเล็กเซียพูดกับทหารองครักษ์ที่อยู่หน้าห้องอักษรเมื่อได้รับคำตอบ เด็กหนุ่มเคาะประตูห้องสามครั้งแล้วยืนรอให้ท่านพ่ออนุญาตให้เข้าไป

           

    “เข้ามาได้” เมื่อได้รับอนุญาตเด็กหนุ่มก็ผลักประตูเข้าไปในห้องอักษร แวบแรกที่สบตา ราชามีสีหน้าเคร่งเครียดเสียจนอดเป็นห่วงไม่ได้แต่ในเวลาถัดมาท่านพ่อก็ปั้นยิ้มส่งมาให้เขา

           

    “มีอะไรหรืออเล็กเซีย” อเล็กเซียไม่ยอมเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเขาพูดในสิ่งที่ตั้งใจไว้ในทันที

         

     “ท่านพ่อข้าจะยอมทำตามคำขอของเอเดรียน เฟลเวเธอร์” ราชาธีโอดอร์เปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธขึ้งในเฉียบพลัน

         

     “เจ้าอย่าพูดไรสาระ เจ้าเด็กโง่”

           

    “ข้าไม่ได้ไร้สาระท่านพ่อ” อเล็กเซียคุกเข่าลงต่อหน้าราชา เด็กหนุ่มคว้าจับมือของท่านพ่อเอาไว้พลางส่งสายตาอ้อนวอนไปให้

           

   “หากข้าไม่ยอมเสียสละสิ่งใดไปบ้าง ข้าย่อมไม่มีคุณค่าในฐานะเจ้าชายพระองค์หนึ่ง” สิ้นคำพูดของอเล็กเซียราชาก็หลั่งน้ำตาออกมา ท่านพ่อใช้มือลูบศีรษะเขาเบาๆราวกับจะปลอบโยน

           

    “เจ้าไม่ควรจะเสียสละเพื่อใครถึงเพียงนี้ ต้องโทษพ่อเองที่ไร้ความสามารถในการปกครองจึงทำให้อาณาจักรต้องเป็นเช่นนี้”

           

   “ท่านพ่ออย่าได้โทษตัวเอง ข้าภูมิใจในการเสียสละของตัวเอง ท่านพ่ออย่าได้กังวล ท่านพ่อทำตามที่ข้าขอเถอะ เราจะรอช้าไม่ได้แล้วนะครับ” ราชาธีโอดอร์กอดรัดอเล็กเซียเอาไว้แน่นแทนคำตอบ เขากับท่านพ่อกอดรัดกันอยู่เช่นนั้นยาวนานเมื่อผละจากกัน ผู้เป็นพ่อก็เริ่มเขียนสารฉบับใหม่อีกครั้งเพื่อส่งข้อความให้กับเผ่าวูฟ

         

      สารตอบตกลงจากเผ่าวูฟรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ พวกขุนนางแม้จะไม่พอใจการตัดสินใจของราชาอยู่บ้างแต่

อเล็กเซียรู้ดีว่าพวกขุนนางเหล่านั้นพากันถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าพวกวูฟจะทำให้ชนะสงครามได้หรือไม่แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

           

    อเล็กเซียมีความหวังว่าจะได้เข้าร่วมสงครามครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะต้องไปกับพวกวูฟ แต่ก็ถูกท่านพ่อทำลายความฝันไปเสียอีกครั้ง สำหรับท่านพ่อแค่ยกเขาให้กับเอเดรียน เฟลเวเธอร์ก็เป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากอยู่แล้ว หากว่าต้องส่งเขาไปลำบากในสนามรบเห็นทีว่าจะทนรับไม่ได้ ดังนั้นจึงได้แต่เฝ้ารอผลของสงครามจากในปราสาทด้วยความรู้สึกที่ว่าตนยังทำประโยชน์ให้อาณาจักรไม่เพียงพอ

         

      “อเล็กเซีย” เสียงโหวกเหวกโวยวายของไอแซคดังมาแต่ไกล เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันนึกรำคาญเพื่อนสนิทที่ทำลายความสงบในการจิบชาของตน

         

     “มีอะไรหรือไอแซค เจ้าหายดีแล้วหรือ”

         

     “ก็ยังไม่หายดีเท่าที่ควร” ไอแซคยักไหล่แต่อารมณ์รุนแรงของเพื่อนสนิทยังคงไม่ลดลงง่ายๆ อเล็กเซียไม่เข้าใจจริงๆว่าหมู่นี้เพื่อนของเขาคนนี้เป็นอะไรจึงได้อยู่ในภาวะอารมณ์ร้ายเช่นนี้ตลอดเวลา

           

   “ข้าเพิ่งรู้จากท่านพ่อว่าเจ้ายอมรับข้อเสนอของไอ้เจ้าวูฟนั่น จริงหรือที่เจ้าจะไปเป็นภรรยามันหลังจากชนะสงคราม” อเล็กเซียสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาไม่สบายใจขึ้นมาเสียแล้วเกี่ยวกับคำถามและท่าทีของไอแซค

         

     “เจ้ารู้ช้าไปหน่อยนะ” พยายามปั้นยิ้มให้นุ่มนวลที่สุดไม่อยากให้ใครเห็นสีหน้าหวาดกลัวและอ่อนแอของตนยามที่สะกิดเรื่องนี้เข้า

           

    “เจ้ากับองค์ราชาวางแผนจะปฏิเสธมันอีกครั้งหลังสงครามจบใช่หรือไม่” ได้แต่ถอนหายใจ ไม่เข้าใจไอแซคคิดอะไรอยู่กันแน่ แค่ผิดสัญญาครั้งแรกยังพอทำเนาหากแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน เป็นพวกเขาเองที่หน้าด้านไปขอให้พวกวูฟช่วยดังนั้นสัญญาในครั้งที่จะบิดพริ้วไปไม่ได้อีกแล้ว

           

    “เห็นแก่พระเจ้าเถอะไอแซคข้าว่าเจ้าน่าจะเข้าใจดีว่าเราจะผิดสัญญากับพวกวูฟอีกไม่ได้”

           

   “ทำไมจะไม่ได้ พวกมันแทบไม่มีค่าหรือสิทธิเสียงใดใดในอเล็กซานเดรียอยู่แล้ว” ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคำพูดแสนยโสของไอแซค ถึงแม้ตนเองนั้นจะไม่ได้ดีไปกว่า ทว่าเวลานี้อเล็กเซียไม่อาจทำตัวหยิ่งยโสแบบเดิมๆได้อีกต่อไป เด็กหนุ่มเลือกที่จะไม่พูดแล้วเดินหนีอีกฝ่าย

           

    ขี้เกียจจะเถียงหรืออธิบายด้วย คนอย่างไอแซคเขารู้ดีว่าลองได้ยึดถืออะไรแล้วจะไม่เปลี่ยนใจไปง่ายๆ

           

    “อย่าหนีหน้ากันสิอเล็กเซีย...ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงยอมรับข้อเสนอ” ก้าวเดินต่อไปโดยไม่หันหลังไปมอง

           

   “อย่าบอกนะว่าเจ้าอยากจะเป็นเมียของไอ้พวกหมานั่นเสียเต็มประดา” หยุดชะงักด้วยคาดไม่ถึงว่าจะถูกด่าว่าเช่นนั้น อเล็กเซียอดที่จะหันไปมองดูไอแซคไม่ได้

           

   “ใช่ไหมล่ะ...เจ้ามันไม่ใช่ลูกผู้ชายใช่ไหม..ถึงได้ยอมไปเป็นเครื่องบำเรอกามของผู้ชายด้วยกันง่ายๆแบบนี้”

         

      โกรธจนเลือดขึ้นหน้า อเล็กเซียใช้กำปั้นชกเข้าที่แก้มซีกขวาของไอแซคจนสะบัดหันไปอีกทาง เขาไม่เคยชกหน้าเพื่อนคนนี้มาก่อนแต่มันเหลืออดจริงๆ เวลานี้ความโกรธเกรี้ยวอัดแน่นไปทั่วทั้งร่างกาย



 คิดหรือว่าเขาจะอยากไปเป็นนางบำเรอของผู้ชายด้วยกัน ทว่าขณะที่คิดจะชกอีกหนึ่งหมัดก็คิดได้ ไอแซคเป็นคนปากเสียแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ความโกรธจึงลดระดับลงเด็กหนุ่มหันหลังกลับแล้วค่อยๆเดินจากมา

       

       “อเล็กเซียเจ้าฟังข้านะ เจ้าจะปฏิเสธไปก็ไม่มีใครว่าอยู่แล้ว ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องรักษาคำพูดกับพวกป่าเถื่อนนั่น เจ้าได้ยินไหม”

       

       เบื่อที่จะฟัง ไม่อยากได้ยินเสียงของไอแซคจึงสาวเท้าหนีอย่างรวดเร็ว เกลียดและไม่เข้าใจเหตุใดตนเองถึงต้องเป็นคู่ฟ้าลิขิตของเอเดรียน เฟลเวเธอร์ด้วย ถ้าหากว่าเขากับคนผู้นั้นไม่มีโอกาสได้พบหน้ากันเลยซักครั้ง หากเลี่ยงได้ผลที่คงจะไม่ออกมาในรูปแบบนี้

         

      ก็ได้แต่คิดเท่านั้น อเล็กเซียรู้ดี อะไรที่ลงมือทำไปแล้วย่อมไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อีกไม่กี่วันกองทัพของอาณาจักรก็จะเคลื่อนทัพไปพร้อมกับเผ่าวูฟอีกครั้ง เขาทำให้แค่รอและภาวนาขอให้พวกทหารที่ไปรบได้ชับชนะกลับมาถึงแม้จะต้องเอาตัวของเขาเข้าแลก



 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:


                                                                        ตอนนี้ดูเครียดๆเนอะ 55555

   

                                                                      หวังว่าคนอ่านจะชอบ



                                                                       เม้นเป็นกำลังใจกันบ้างนะคะ



                                                                      ตอนนี้กำลังแต่งตอนใหม่อยู่จ้า


ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
รำคาญไอแซค

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
เอาล่ะสิ เริ่มจะเข้มข้นแล้ว สุดยอดเลย

ออฟไลน์ cheezett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
รำคาญไอแซค เอาตัวเองให้รอดก่อนมั้ย พูดจาน่าตบ  :beat: :beat: :z6:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
คือไอแซคคะ ถ้ายังเป็นคนที่มีทัศนคติแบบนี้อยู่นี่ไม่โอเคมากๆเลยนะ ถ้าจะเป็นหัวหน้าทหารหรืออะไรที่ใหญ่โตแล้วเป็นคนแบบนี้เนี่ย เห็นจะมีแต่ผลเสียนะคะ...เฮ้อออออ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ไอแซคนี่ปากไม่บันยะบันยังเลย น่ารำคาญ ใจแคบนะเราเนี่ย หนุ่มน้อย เห็นแก่ตัวอ่ะ 

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
เง้อ ค้างง่ะ ตอนนี้น้องหมาเราไม่มีบทเลยอิอิ :katai5:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ไอแซคเหมือนเด็กเกเรหลังห้องอ่ะ ไม่น่ารักเลยยยย

ออฟไลน์ เป็ดอนุบาล

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2

ออฟไลน์ คนคิ้วท์คิ้วท์

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ไอแซคนี่ปากสุนัขมากเลยค่ะ อยู่เงียบๆไป๊

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด