#เรื่องสั้นตอนเดียวจบ#•พ่อบ้าน 24/10/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: #เรื่องสั้นตอนเดียวจบ#•พ่อบ้าน 24/10/59  (อ่าน 11487 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



♥♥♥♥♥♥♥


สามารถตามหานิยายเก่าๆเราได้ที่ https://www.facebook.com/Mukmaoynovel/
Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

•พ่อบ้าน•๑•






ชายหนุ่มวัย29ปีในชุดสีฟ้าเข้มทั้งตัว บนหลังปกเสื้อเชิ้ตมีผ้าเช็ดหน้าทรงสี่เหลี่ยมผืนหนาพาดไปตามแนว  ร่องรอยความเปียกชื้นเห็นได้ชัด กับกลิ่นอับจากตัวที่ไม่น่าพิสมัยนักเมื่อเทียบกับคนในร้าน
'เขา' มีอาชีพเป็นพนักงานทำความสะอาด หรือเรียกโดยทั่วไปว่าแม่บ้าน แต่สำหรับผู้ชาย หากใช้ 'พ่อบ้าน' ก็น่าจะดูดีกว่า
เขายกมือขึ้นมาโบกทักคนสำคัญแค่ระดับเอว รอยยิ้มที่เหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม ดูแล้วขัดสายตา ใครคนนั้นจึงกวักมือให้เดินไปหาเร็วๆ

"มาช้า"

น้ำเสียงกระเง้ากระงอดไม่เข้ากับหน้าตา หน้ายาวได้รูป สันกรามชัด จมูกกว้างแต่โด่ง คิ้วเข้มจัด ขนตาหนา รวมๆแล้วหล่อเหลาเอาการ
พอมาเทียบกับเขาที่หน้าตาจืดๆก็รู้สึกอายขึ้นมานิดๆ

"ก็นักเรียนไม่ยอมกลับกัน เตือนรอบที่ห้ามั้งว่าจะปิดห้องถึงได้ยอมกลับบ้าน"

เขาบอกเหตุผล ดีดนิ้วเรียกพนักงานเสิร์ฟมาสั่งอาหาร

"ต้องเข้าใจหน่อย จะมีงานกีฬาคณะเดือนหน้านี่นา"

"งั้นภาคก็อย่างอนเราสิ รู้เหตุผลนี่"

ภาคภูมิเลิกคิ้ว นัยว่า 'ต้องหายงอนด้วยเหรอ?'

"กวนตีน!"

"หึๆ"

เขาเลิกคิ้วถามกลับ
คนถูกด่าแล้วยังหัวเราะจึงเอ่ย

"เราว่าเราถึงวัยที่จะต้องหาคู่จริงๆจังๆแล้วแหละ"

เขากระพริบตาปริบๆ สมองกำลังประมวลผล

"ติ๊กก็รู้ว่าเราอยากมีครอบครัวมาตลอด"

'ติ๊ก' หรือ รติกร ยังคงนั่งนิ่งๆ สายตาเริ่มไม่จับโฟกัส

"ติ๊กว่าเราจะแต่งตอนไหนดี มีลูกกี่คน นี่เราตั้งชื่อลูกเตรียมไว้แล้ว"

ภาคพูดพร้อมกับหยิบสมุดโน้ตคู่ใจออกมาเปิดหน้ากระดาษรกๆให้ดู  มันเต็มไปด้วยชื่อประหลาด ตามประสาอาจารย์สอนเคมี

"เรเดียม?  นีออน? อะตอม?"
".....อะตอมคงจะธรรมดาสุดนะ.."

เขาพึมพำ หากแต่อีกฝ่ายกลับได้ยิน

"งั้นเหรอ? งั้นเอาอะตอมเนาะ"

ท่าทางกระตือรือร้นจากภาคทำให้เขาหมดสนุก  ดวงตาหลุบต่ำมองตักอันว่างเปล่า

เฉกเช่นความสัมพันธ์อันว่างเปล่า....คงต้องถึงเวลาหยุดเสียที



.
.
.
.




เป็นเช้าของปีที่สามของอาชีพพนักงานทำความสะอาดประจำบริษัทซีเอซี
รติกรตื่นตั้งแต่ตีห้า ทำธุระส่วนตัวทั้งหมดภายในหนึ่งชั่วโมง พอหกโมงเช้าตรงจึงขึ้นรถเมล์มายังมหาวิทยาลัยที่ตัวเองประจำอยู่

คณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมี ชั้นสอง เขาไล่ไขกุญแจห้องทุกห้องจนครบ ก่อนจะลงมือเก็บกวาดอีกครั้งหลังจากที่เมื่อเย็นวานทำไปแล้ว
น่าปลื้มใจที่นักศึกษาบางคนมาถึงห้องแต่เช้า ช่วยเขาเปิดไฟเปิดแอร์ แต่เด็กพวกนี้ก็คงง่วงเหมือนกัน ถึงไม่ยักทักทายเขาสักที ถึงแม้จะเห็นหน้ากันจนจำได้ก็ตาม


"แกเห็นครูใหม่ป่ะ สอนไบโอ หล่อโคตรร"
เด็กสาวปีหนึ่งกรี๊ดกร๊าด พลางเปิดมือถือเล่น ให้เดาก็คงจะเปิดรูปครูหนุ่มคนใหม่ให้เพื่อนดู

รติกรกวาดมุมห้องที่จำได้ว่าเมื่อวานเพิ่งกวาดไปหยกๆ แต่วันนี้กลับเละตุ้มเป้ะ ยกมือไหว้เจ้าที่เจ้าทางว่าอย่าแกล้งกันเลย
แน่นอนประสบการณ์สามปีที่ผ่านมาทำให้เขาเรียนรู้เรื่องราวสิ่งลี้ลับของตึกนี้มากมายเหลือเกิน

แอ๊ด....
ทั้งพ่อบ้าน ทั้งนักศึกษาพากันชะงัก  ใจชายหนุ่มวัยย่างเลขสามเต้นระรัว ดูท่าท่านเจ้าที่จะรับคำเขาเสียแล้ว

แอ๊ดดดด
ประตูสุดหลอนเปิดออกกว้างกว่าเดิม  ดวงตานักศึกษาสองคนเบิกโพลง

"อร๊ายยย"

"เงียบสิครับเด็กๆ เช้าตรู่ขนาดนี้ เกรงใจคนอื่นด้วยนะครับ"

ฟู่ววว
รติกรโล่งอก  หันกลับไปดูครูหนุ่มคนใหม่ที่มาสำรวจห้องที่ต้องสอนวันนี้  แค่เสียงก็หล่อแล้ว เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเด็กๆถึงได้ปลื้มกัน

"เฮ่ย!"
ครูหนุ่มสูงโย่งตัวหนาล่ำสะดุ้งสุดขีด ชี้นิ้วมาที่เขาราวเห็นผี

"ภาค..."
เป็นเขาที่เอ่ยก่อน  อาจารย์ไบโอพยักหน้ารับ

"ติ๊กใช่มั้ย?"
ภาคภูมิถามเพื่อความแน่ใจ  เมื่อติ๊กในตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ไม่เหลือคราบคุณหนูไฮโซสุดสดใสที่ใครๆต่างรุมกันจีบ

รติกรยิ้มแหย  สายตาภาคภูมิบอกทุกอย่าง คงสงสัยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ในสภาพนี้ได้

"พักเที่ยงคุยกันหน่อยสิ"

คนฟังจำต้องตกลงเมื่อเห็นสายตาดุอย่างวันเก่าหวนคืน



ย้อนกลับไปเมื่อสมัยมัธยมปลาย ตอนนั้นพ่อแม่ยังไม่ล้มละลาย รติกรได้เรียนโรงเรียนชายล้วนที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยหน้าตาผิวพรรณน่ารักกว่าเด็กผู้ชาย จึงมีหนุ่มหล่อมาจีบอยู่เรื่อย
ตอนแรกรติกรก็เฉยๆ พออยู่ไปอยู่มาชักชินกับคู่รักชาย-ชายที่อยู่ทั่วโรงเรียน เขาเลยเปิดใจให้เพื่อนร่วมห้องอย่างภาคภูมิ
ภาคภูมิเป็นเด็กผู้ชายตัวใหญ่เกือบอวบ มันบ้าพลังและชอบเล่นกล้ามเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นไอ้ที่ใครๆว่าอวบ แท้จริงแล้วคือกล้ามเนื้อทั้งนั้น
ตอนนั้นภาคภูมิไม่หล่อเท่าตอนนี้  ด้วยหุ่นตันๆกับร่างที่คนทั่วไปมองว่าอวบระยะสุดท้ายนั้น ทำให้ไม่ยักมีใครสนใจนัก  จะมีก็แต่เขานี่แหละที่ตกลงปลงใจ ด้วยเห็นว่าภาคภูมิคุยสนุกดี และรสนิยมหลายๆอย่างเข้ากันได้

หนึ่งเทวดากับหนึ่งยักษาจึงคบกันตั้งแต่นั้น

ก็เหมือนกับแฟชั่น...วัยรุ่นเป็นวัยคึกคะนอง อยากมีแฟนไปตามเรื่องตามราว

ชั่วขณะหนึ่งรติกรจริงจัง  วาดภาพเขากับภาครับปริญญาด้วยกัน อยู่บ้านเดียวกัน
ทว่าอีกชั่วขณะ ...เขาก็อยากมีชีวิตเหมือนคนทั่วไป อยากลองคบผู้หญิง อยากเลี้ยงเด็กตัวเล็กๆ
มันคือความสับสนที่รติกรไม่ค่อยเข้าใจนัก เขากับภาคภูมิจึงคบกันไปเรื่อยๆ เล่นๆ เหมือนเพื่อนกัน 
อาจไม่เหมือนสักหน่อยตรงที่เขาเป็นฝ่ายรับให้ภาคภูมิปู้ยี่ปู่ยำหลายครั้งนับไม่ถ้วน

กระทั่งเข้ามหาลัย  ทั้งสองสัญญาดิบดีว่าจะติดต่อกันตลอด ....แต่ไม่มีสิ่งใดคงอยู่ไปตลอดกาล....
ความสัมพันธ์ค่อยๆห่างกันไปเรื่อยๆ เหมือนกับระยะทาง 
ภาคภูมิสอบติดมหาลัยทางภาคอีสาน  ส่วนเขา...พ่อแม่ล้มละลาย หนีไปใช้แรงงานที่ซาอุฯ ทิ้งลูกไว้กับเงินก้อนหนึ่ง  รติกรสมัครเรียนที่มหาลัยเปิด ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ต้องปากกัดตีนถีบอยู่คนเดียว ช่วงแรกเขานอนร้องไห้ทุกวัน เด็กไร้เดียงสาคนหนึ่ง...หวาดกลัว...ไร้ที่พึ่ง  จนถึงทุกวันนี้รติกรก็ยังคงนอนผวาเหมือนเด็กทารก
เพราะมัวแต่ทำงานหาเงิน เขาจึงไม่เคยติดต่อเพื่อนเก่าหรือแฟนเก่าอีกเลย  พอเรียนจบมาหางานทำได้เพียงไม่กี่เดือนก็ถูกไล่ออก เพราะมีคนเห็นเขากำลังกอดจูบอยู่กับหัวหน้าแผนกที่มีเมียอยู่แล้ว  ทั้งๆที่วันนั้นเขาถูกลวนลามต่างหาก!
รติกรเพียรหางานจนมาจบลงที่บริษัทรักษาความสะอาด  รายได้ตามมาตรฐาน หากแต่สวัสดิการดี  มีคูปองกินข้าวฟรี มีหอพักให้  เขาวางแผนไว้ว่าปลายปีนี้จะซื้อมอเตอร์ไซค์สวยๆสักคัน เบื่อรถเมล์เต็มที






มือหยาบกร้านบรรจงตักข้าวเข้าปาก รู้ตัวว่าถูกมอง จึงก้มหน้าซ่อนความเขิน
อย่างว่าล่ะนะ คนเคยๆ กัน รู้ทุกซอกทุกมุมของกันและกันมาตั้งไม่รู้กี่ครั้ง  แล้วต้องจากกันแบบคลุมเครือ  รติกรไม่รู้จะพูดอะไร จึงรอให้ภาคภูมิเป็นฝ่ายเอ่ยก่อน

ภาคภูมิพิจารณาคนที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เมื่อก่อนสมัยเรียน ...รติกรฮอตมาก ดวงตาหวานเยิ้มยั่วยวน หลอกล่อหมู่ภมรให้เข้าหา ผิวขาวเนียนอย่างกับนีออน ยิ่งเวลาโดนแดด แก้มกลมนิ่มนั้นจะขึ้นสีแดงระเรื่อ  จนคนบ้ากล้ามที่ไม่สนใจโลก เกือบจะเรียกว่าเป็นเด็กเนิร์ดอยู่รอมร่อต้องตกหลุมรัก  แล้วก็เหมือนฝันจริงๆ...เขาได้กกกอดร่างนิ่ม ได้ทำทุกอย่างเท่าที่ใจต้องการ ใช้ชีวิตวัยรุ่นได้โคตรคุ้มค่าเพราะรติกรแท้ๆ
แต่ดูตอนนี้สิ....คนเคยน่ารักผิวคล้ำหยาบกร้าน หน้าขึ้นฝ้าจางๆ ริมฝีปากไม่ชมพูเหมือนก่อน ดวงตาไร้แววสดใส ...มันเศร้า..หม่นหมอง  ตัวอาจจะเตี้ยเหมือนเดิม เพียงแต่มันไม่ใช่ความเตี้ยที่เรียกร้องหนุ่มๆให้เข้าหาอีกแล้ว 
ภาคภูมิเคยเรียกรติกรว่า 'ตัวเล็ก' ทว่าตอนนี้...เขาจำต้องพูดตรงๆ ว่ารติกรไม่เหมาะกับคำนี้เลย

"ไม่เจอกันตั้งหลายปี..."
อาจารย์หนุ่มเอ่ย ตักข้าวคำโตเข้าปาก
"ติ๊กเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ..."

"อืม..."
รติกรกลืนข้าวก่อนเอ่ยต่อ พยายามไม่พูดดังมากด้วยกลัวนักศึกษารอบๆจะแอบฟัง  เอาจริงเขาก็อาย...ไม่เคยเล่าชีวิตคุณหนูตกอับให้ใครฟัง ...ไม่อยากรื้อฟื้น
"ภาคก็เปลี่ยนไปเยอะนะ ตัวสู้งสูง เท่ขึ้นเยอะ"

"เมื่อก่อนเราไม่เท่?"

"เปล่าๆ หล่อจะตาย แค่ตอนนี้หล่อมากกว่าเดิม....ไม่เหมือนเราใช่มั้ยล่ะ"

"ติ๊กก็เหมือนเดิมแหละ ไม่งั้นเราจะจำได้ยังไง"

รติกรยิ้ม ภาคภูมิก็แค่พูดปลอบใจเขา
"ตอนปลายๆปีหนึ่ง พ่อแม่เราล้มละลายอ่ะ เราเลยไปเรียนราม ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย ก็ค่อยๆเปลี่ยนล่ะนะ"

"อ่อ..."
คนฟังจับน้ำเสียงสั่นเครือนั่นได้ จึงไม่อยากถามอะไรต่อ

"ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว พ่อแม่เราทำงานอยู่ซาอุ ส่งเงินมาให้อยู่ ไม่ลำบากเหมือนตอนแรก"

"อืม...ก็ดีแล้ว"
ภาคภูมิไม่เคยรู้รสชาติแห่งความจนจึงไม่เข้าใจ  กอปรกับปลอบใครไม่เป็น

"เลิกงานกี่โมงวันนี้"
กะว่าอยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อด้วยแอลกอฮอล์ ภาคภูมิจึงวางแผนในใจถึงร้านเหล้าดีๆ

"ปกติเราเลิกห้าโมง"

"งั้นเย็นนี้ไปแฮงเอาท์สักหน่อยมั้ย ไม่เจอเพื่อนสมัยมัธยมมาตั้งนาน นะๆ"
รติกรเกือบหลุดขำเมื่อเห็นมาดอาจารย์ค่อยๆถูกนิสัยเด็กกระเทาะเปลือกออก
ภาคภูมิเป็นคนขี้อ้อน ขี้งอแงมาก ซึ่งขัดกับลุคโหดๆของเจ้าตัว ตอนคบกันเขาดูเป็นผู้ใหญ่กว่าด้วยซ้ำ

"เราไม่กินเหล้าว่ะ"

"ไม่ต้องกินก็ได้ แค่นั่งชิลๆคุยกัน"
เขาหมายความตามนั้นจริงๆ แค่อยากคุยสารทุกข์สุขดิบตามประสาคนเคยคุ้น โดยเอาเหล้ามาเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ จะได้ไม่ต้องเขินอายต่อกัน ถึงรติกรจะไม่ดื่ม แต่ก็จะยัดเยียดให้ได้









.
.
"อึก"
รติกรดื่มน้ำตามหลายอึก หวังให้หายสะอึก เขาเผลอเชื่อภาคภูมิที่ว่าถ้าแค่จิบๆจะทำให้อารมณ์ดี ที่ไหนได้ ...รติกรรู้สึกหัวโคลงเคลง สะอึก แถมยังพูดจ้อไม่หยุด

"เรา...กลัวความจน..อึก! เราแทบอยากตายเลยตอนนั้น"

"ทำไมไม่ติดต่อเราล่ะ"

"เราไม่มีเวลาสนใจคนอื่นหรอก อึก! แล้วก็อาย....เราขี้เหร่ใช่มั้ยตอนเนี้ย ใครจะไปคิดว่าคุณหนูรวยๆจะมีสภาพทุเรศแบบนี้ ...ภาคแหละ อึก...ไม่ติดต่อเรา มีแฟนใหม่ล่ะสิ"

"อืม...ก็เรานึกว่าเราเลิกกันแล้ว เลยคบผู้หญิง"

"ฮือออ ชีวิตภาคดีขึ้น แต่เราแย่ลง เป็นไงอ่ะ เอากับผู้หญิงมันป้ะ"
รติกรนั่งโงนเงน เริ่มพูดคำหยาบ เขารู้ตัวนะว่าพูดอะไรแต่ควบคุมปากไม่ได้เลย เกิดมาก็เพิ่งเคยเมาด้วย ...ยังดีที่ภาคภูมิไม่โมโหรำคาญเขา  คนขี้เหร่คนนี้ไม่มีเครดิตอะไรให้หนุ่มๆเอ็นดูอีกแล้วด้วยสิ

"ก็คล้ายๆกันนะ จริงๆผู้หญิงก็เอาข้างหลังได้ถ้าเขายอม"

"อึก!...อยากเอากับเราอีกป่าว~ ตูดเราฟิตนะ ไม่โดนมาตั้งนาน ดุ้นอันล่าสุดก็ของภาคนั่นแหละ จู๋ใหญ่ๆ ..คิกๆ"

"เอ่อ...เบาหน่อยติ๊ก คนมองกันใหญ่แล้ว"

"อื้มมม...เราอยากโดนเอาจังเลยภาค เงี้ยนเงี่ยนนนน"
ตอนนี้หัวรติกรฟุบลงกับโต๊ะ ปากงึมงำแต่เรื่องลามก ภาคภูมิจึงเช็คบิล ก่อนแบกร่างเล็กกระทัดรัดออกมาจากร้าน

พอเทียบกันใกล้ชิดแบบนี้แล้ว รติกรก็ยังคงตัวเล็กแค่ราวนมเขาเช่นเดิม  เหมือนหนูแฮมสเตอร์ตัวกลมๆเกาะติดยักษ์ปักหลั่น



 อาจารย์ไบโอวางอดีตแฟนลงบนเตียงขนาดคิงไซส์โดยไม่มีอาการหอบ เดาว่าน้ำหนักของอีกฝ่ายคงแค่ห้าสิบ ขณะที่เขาหนักเกือบร้อยกิโลกรัม
รติกรหลับไปแล้ว  ใบหน้ายามหลับไม่ได้น่าดึงดูดชวนมอง ภาคภูมิจึงทำธุระของตัวเองตามปกติ ไม่มีความรู้สึกโหยหาเหมือนพระเอกในละครยามเจอคนรักเก่า จึงทึกทักเอาว่าเขากับตุ๊กติ๊กเป็นเพียงคนที่ผ่านมาแล้วผ่านไป  ก็แค่ปั๊บปี้เลิฟธรรมดาๆ ไม่จำเป็นต้องบิ๊วท์อารมณ์น้ำเน่าออกมาให้ใจขุ่นมัว

"หึๆ"
หลุดหัวเราะ เมื่อเห็นท่านอนขดตัวจนกลมดิก

ร่างหนาเหมือนนักกล้ามทิ้งตัวลงข้างกัน ปิดไฟหัวเตียงแล้วหลับตานอน

"ฮึก..."
ภาคภูมิกำลังเคลิ้มหลับก็ต้องสะดุ้งตื่น  ร่างข้างๆเหมือนจะกระตุกหรือทำอะไรสักอย่างที่ทำให้เตียงเด้งเบาๆ
ร่างหนาเปิดไฟหัวเตียง พลิกตัวหาอดีตปั้บปี้เลิฟตน
เวทนา....
ภาคภูมิส่ายหน้าเบาๆ นิ้วโป้งกรีดเช็ดน้ำตาจากใบหน้าหมองคล้ำออก
รติกรกำลังร้องไห้ตัวสั่นเทิ้ม สักพักก็กระตุกอีก  ร่างหนาจึงคว้าตัวเข้ามากอดแน่น พลางลูบหัว
"ไม่เป็นไรนะ ภาคอยู่นี่ เราอยู่นี่นะ"

รติกรได้ยินเสียงปลอบไกลๆจึงลืมตาขึ้น พบว่าตัวเองจมอยู่ในอกแน่นอันแสนคุ้นเคย เขาบ่อน้ำตาแตก ดึงรั้งเสื้ออีกฝ่ายอย่างคนไร้ที่พึ่ง

"ฮือ..."
เสียงร้องไห้ระงม หัวที่ปวดอยู่แล้วกลับปวดมากขึ้น รติกรสูดหายใจให้จมูกโล่ง พยายามกลั้นน้ำตา กลัวว่าพรุ่งนี้เช้าจะไปทำงานไม่ได้

"เราขอโทษนะที่ตอนนั้นไม่ได้อยู่เคียงข้าง"

"กอดเราแน่นๆนะ ..."
อดีตคุณหนูสั่ง


ร้องไห้ได้สักพักแล้วแอลกอฮอล์ไหลย้อนหรืออย่างไรไม่รู้  ร่างกายเล็กถึงเริ่มร้อนผ่าว ยามได้กลิ่นชายอกสามศอกแล้วกลับมีความต้องการขึ้นทวีคูณ
รติกรเลิกร้องไห้ คิดว่าตัวเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เขาไม่เคยถูกกอดถูกเอาใจแบบนี้มานานเท่าไหร่ พอได้ลิ้มรสแล้วจึงต้องการมากกว่าแค่การกอด  ร่างเล็กดันตัวออกมาเล็กน้อย พอให้เห็นหน้าภาคภูมิได้ถนัด แล้วจึงฉกจูบเรียวปากสวยได้รูป ขบเม้มเนื้อหยุ่นนุ่มตามใจตน กระทั่งภาคภูมิเปิดปากออกแล้วส่งลิ้นเข้าหา ร่างสองร่างจึงกอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนงูผสมพันธุ์

มือแกร่งลูบไล้ผิวกร้านด้วยแรงตัณหา  กดร่างเล็กลงกับเตียง ขบเม้มทุกตารางนิ้ว หยอกลิ้นเล่นกับตุ่มเม็ดทับทิมบนหน้าอก ส่ายลิ้นระรัวขึ้นลง จนคนถูกกระทำแอ่นตัวเกร็ง
รติกรส่งเสียงครางไม่ได้ศัพท์เมื่อพบความหฤหรรษ์อันเริดร้างไปนาน  เขาเปิดทางให้ร่างหนาเต็มที่  จำได้ไม่เคยลืมว่ารสรักของภาคภูมินั้นเยี่ยมยอดแค่ไหน  แค่คิด...ส่วนนั้นก็ตั้งขึ้นแล้ว

ทั้งสองเปล่าเปลือย โรมรันพันตู เรียวลิ้นฉกชิมความหวานทุกจุด ดูดกัดจนเกิดรอยแดงเข้ม สีผิวใต้ร่มผ้าของอดีตคุณหนูนั้นยังคงขาวนวล หากแต่ไร้ออร่าตามวัย 
ภาคภูมิเลียริมฝีปาก ยกขาสั้นแยกออกจากกัน ใช้หมอนรองใต้ก้น ก่อนจะจ่อลิ้นตรงรอยจีบสีสด

"อ๊าาาา"
สองขาดีดดิ้นไปมา รติกรหายใจหอบ ความเสียวสะท้านเหมือนจะตาย
เขายอมตายก็ได้หากมีความสุขแบบนี้

จ๊วบ...

"อือ...อืมมม.."

เสียงลามกนั้นเปล่งออกมาราวกับว่ามันอร่อยมา  รติกรตัวสั่นเกร็ง สมองถูกสาดภาพอดีตเข้ามาไม่หยุด
ตอนที่ภาคอุ้มเขากระทั้นกระแทกเหมือนแม่อุ้มลูก
ตอนที่เขาถูกอ้าขาออกกว้าง ช่วยตัวเองโชว์แฟนในห้องน้ำหลังโรงเรียน
ตอนที่แอบจูบกันในห้องสมุด
ตอนที่เขาเล่นบทเป็นแม่บ้าน แล้วถูกโจรภาคข่มขืนในบ้านหลังใหญ่ของตัวเอง
หรือตอนที่คาวีจับนางเอกโยนลงสระว่ายน้ำแล้วตามไปปล้ำ ...
ทุกอย่างมันช่างตื่นเต้น คึกคะนอง บ้าคลั่ง ..ไม่ต้องคิดเรื่องอื่น ไม่ต้องกลัวใคร

รติกรโหยหาช่วงเวลานั้นเหลือเกิน


"อะ...อ๊าา ไม่ไหวแล้ว ๆ..."
มือหยาบดันหัวทุยออก น้ำตาแห่งความสุขนองหน้า

"เอาเราที ใส่มาเลย...อ๊า!"
ภาคภูมิหายใจแรง เลียปากหลายที ส่วนกลางลำตัวแข็งขึง น้ำใสไหลปริ่ม  ค่อยๆดันส่วนหัวใหญ่เข้าไปทีละนิด

"อื้อ..."
รติกรไม่ยอมบ่นว่าเจ็บให้ภาคภูมิเสียอารมณ์  เขาทนได้ ใส่เข้ามาเถอะ เหมือนกับสิ่งที่ขาดหายถูกเติมเต็ม  รติกรอยากให้มันค้างอย่างนั้นตลอดไปด้วยซ้ำ

"แฮ่ก"
แน่นเหลือเกิน...ภาคภูมิกัดฟัน
ตั้งแต่เลิกกับรติกร เขาก็มีสาวๆเข้ามาไม่ขาด แต่ผู้หญิงพวกนั้นไม่ชอบถูกเอาข้างหลังเหมือนคนตัวเล็กนี่สักคน ทำไปก็ไม่มัน
ดีเหมือนกันที่เจอรติกร ถึงจะไม่น่ารักเหมือนเก่า แต่ก็นิสัยดี คบง่าย เอาง่ายด้วย ปิดไฟสักหน่อยก็สามารถใส่ไม่ยั้งยันเช้าได้

"อ้ะ..อ้ะ..อ้ะ"
รติกรครางตามจังหวะที่ถูกกระแทก  ร่างเล็กตัวเล็กมาก ตัวของภาคภูมิจึงต้องค้อมหลังลงมา หน้าถึงจะพอดีกัน  เขาบดจูบปากคล้ำบวมอย่างไม่ปรานี ฟันกัดริมฝีปากจนยืด ปล่อยให้เด้งกลับ แล้วก้มลงกัดใหม่

"อึก.."
พอเบื่อก็กัดแก้มกลม  ภาคภูมิชอบคนหน้าเกลี้ยง เนียนนุ่ม เขาจึงหลับตาไม่มองรอยฝ้าสีดำบนแก้มยามกัดด้วยความหมั่นเขี้ยว
สะโพกโยกไหวไปมา ชักส่วนยาวใหญ่เข้าออกช้าๆในตอนแรก  ก่อนค่อยๆเร่งเครื่องจนเหงื่อผุดตามไรผม
รติกรครางเสียงแหบแห้ง  เมามันในอารมณ์ เกาะแขนใหญ่เป็นหลักยึด เชิดหน้าเมื่อใกล้ถึงจุดสุดยอด

"อย่าเพิ่ง..."

"อึก..!"
รติกรทุบแผ่นหลังหนาต่อต้าน  ภาคภูมิปิดส่วนปลายจิ๋วหลิวไว้ บดจูบริมฝีปากปลอบขวัญให้หลงลืมไปชั่วขณะ แล้วพลิกตัวร่างเล็กคว่ำลง ดึงก้นโด่งล้อแสงไฟแวววาว  จ้องสักครู่ก่อนสวนสะโพกตัวเองเข้าไป

"อ๊าาา"
ท่านี้ทำให้สัมผัสได้ลึกกว่าเก่า รติกรกรีดร้องเสียงแทบแตก
ร่างหนาจับขาสั้นสองข้างให้ยืดตรงแยกขนานกับลำตัว เปลี่ยนท่าตัวเองเป็นนั่งคุกเข่าตัวตรง จับขาสองข้างไว้มั่นแล้วดันเข้าออกเหมือนชาวนาจับคันไถ

"โอ...อือออ..."
รติกรในยามนี้แทบไม่นับรู้อะไรแล้ว สมองมึนเบลอ ด้วยฤทธิ์เหล้าผสมรสราคะ  ลำตัวโยกไหวไปมา หน้าถูไถหมอนนิ่ม ในคอเปล่งเสียงระบายความอัดอั้น ทำเท่าที่จะทำได้...

เขาเหมือนขึ้นสวรรค์
เขาตายแล้วเกิดใหม่
น้ำขาวขุ่นแตกเยิ้มไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ
มันคือน้ำทิพย์ชโลมร่างอันเคยฟอนเฟะให้ผุดผ่องเปล่งปลั่ง




"รักอีก ...รักเราอีก"

"ภาคไม่ไหวแล้วตัวเล็ก ตีห้าแล้ว"
ร่างหนาคลอเคลียกอดก่าย  ปากกระซิบตอบข้างหู เป่าลมฟู่ๆแกล้ง ทั้งที่ปากบอกไม่ไหว

"อยากทำอีก"

"นอนนะตัวเล็ก เดี๋ยวจะทำให้ทุกวันเลย"
รติกรคงเหงามาก จนเกือบจะสิ้นหวัง  ภาคภูมิรู้สึกดีใจที่ตัวเองมีอิทธิพลกับชีวิตของอีกคน
เขาเข้าใจรสชาติการที่ไม่มีใครสนใจดี แต่แล้วก็เหมือนฟ้ามาโปรด ตัวเล็กของเขามาขอคบ ตอนนั้นจึงหลงใหลรติกรมาก แทบอยากจะขังไว้ในห้องด้วยซ้ำ
ภาคภูมิจึงเข้าใจรติกรในตอนนี้ที่สุด

"อย่าน่าตัวเล็ก"
รติกรแสนดื้อลูบไล้พวงสวรรค์ของภาคภูมิไปมา มันฉ่ำเยิ้มเหนอะหนะ แต่เขาไม่รังเกียจ
ถ้าภาคภูมิขี้เกียจทำ เขาก็จะทำให้เอง
ร่างบางเลื่อนตัวลงต่ำ ปากครอบแท่งยาวที่อ่อนตัวแล้ว กลืนกินอย่างเอาแต่ใจ.....




.
.
.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2016 21:14:35 โดย mukmaoY »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
•พ่อบ้าน•๒•





"ติ๊ก..."
รติกรหยุดเช็ดกระจกตามเสียงเรียกผู้อาวุโสหัวหน้าตน

"ครับป้า"

"อาจารย์ศราเขาเรียกประชุมนะรู้เปล่า ตอนบ่าย เขาฝากให้ป้ามาบอก"
ป้านาสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ราวกับรู้ว่ารติกรจะถูกติเรื่องอะไร
ร่างเล็กเช็ดกระจกต่อเงียบๆ แสร้งตีหน้าซื่อกลบเกลื่อน


ตกกลางวันพักทานข้าว รติกรสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเจ้าอร่อยที่กินมาได้ห้าปีอย่างไม่นึกเบื่อ  หยิบคูปองราคาสามสิบห้าบาทยับๆส่งให้แม่ค้า  เลือกหาโต๊ะนั่งเงียบๆ นักศึกษาบางโต๊ะเจี๊ยวจ๊าวเหลือเกิน เขาไม่มีสมาธิในการคีบเส้นเสียเลย
ขณะที่พยายามคีบเส้นเล็กนวลขาวเขาปาก ก็มีร่างหนาล่ำบึ้กวางจานข้าวราดแกงตรงข้ามกัน  ดวงตาเรียวมองเชิดขึ้น แล้วก้มกินต่อ
ทั้งสองไม่คุยกันให้เป็นที่สงสัย เคยถูกเตือนมาครั้งหนึ่งแล้วจากอาจารย์ศราคนเดิมตั้งแต่สมัยเจอกันแรกๆ  อาจารย์ท่านเหมือนคนมีเซ้นส์ รู้ไปเสียทุกเรื่อง จับผิดไปเสียทุกอย่าง  หรือบางทีท่านอาจเลี้ยงสิ่งลี้ลับไว้คอยเป็นหูเป็นตาก็ได้ ไม่อย่างนั้นรติกรจะรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่ถูกอาจารย์สอนวิชาเคมีบดเบียดริมฝีปากเข้ามายามอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ยังไง 
ทว่าเรื่องนั้นมันก็นานมากแล้ว อาจารย์ท่านหัวสมัยใหม่พอและรับได้หากแอบจูบกันในที่ลับ เพียงแค่ต้องตักเตือนให้กันไว้ดีกว่าแก้เท่านั้น  รติกรเคารพอาจารย์หัวหน้าภาคก็ตรงนี้

“กินอะไรอีกมั้ย”
เสียงคนตรงข้ามเอ่ยเบาๆ   รติกรเหล่ตามองนักศึกษากลุ่มข้างๆก่อน เมื่อไม่มีใครสนใจจึงตอบ
“ไม่ล่ะ เราไม่ค่อยหิวเลยวันนี้”

“ไม่ต้องคิดมากนะตัวเล็ก คงแค่เรียกไปตักเตือนเหมือนคราวก่อนนั่นแหละ”

“ภาคจะไปด้วยมั้ย”

“ไปสิ  แต่ว่าพาเราไปซื้อโค้กหน่อย อยากกินของหวาน”

“เดี๋ยวเราซื้อให้ ภาคไปรอที่ห้องประชุมเถอะ”
อดีตคุณหนูแสนใจดียิ้มหวาน ลุกขึ้นหยิบจานข้าวของอีกฝ่ายซ้อนกับชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง แล้วเอาไปเก็บ
ภาคภูมิอดปลื้มใจไม่ได้  เวลาที่รติกรเอาอกเอาใจเขา เขาก็อยากจับคนตัวเล็กมาเขย่าๆ หรือไม่ก็แกว่งไปรอบๆด้วยความหมั่นเขี้ยว  ยิ่งตอนนี้รติกรหน้าใสขึ้น ผิวสวยขึ้น เพราะเขาดันซื้อครีมราคาแพงมาให้ใช้ ...รู้สึกว่าตัวเองคิดผิดอยู่เหมือนกันยามเห็นนักศึกษาหนุ่มๆทักทายพ่อบ้านของเขาหรือส่งสายตาหวานให้  อยากจับมาตีก้นเสียให้เข็ด แต่ก็ทำไม่ลงเพราะรติกรเคยเปรยว่าชอบที่ถูกทักทาย ถูกทำให้มีตัวตน  เจ้าตัวเปิดห้องเรียนมาตั้งนาน แต่เพิ่งจะมีคนมาทักก็ช่วงนี้แหละ เลยดีใจ และห้ามให้เขาว่านักศึกษาด้วยสิ
ภาคภูมิพยักหน้าตกลงไปตามเรื่องตามราว เห็นอนาคตตัวเองแว่บๆ......เพจพ่อบ้านใจกล้าจะไปไหนเสีย....




“เข้าเรื่องเลยนะ  ตอนนี้ดูเหมือนว่านักศึกษาภาคเราจะรู้ว่าอาจารย์ภาคภูมิคบอยู่กับพนักงานทำความสะอาดของบริษัทซีเอซี  ถ้าแค่รู้...ดิฉันไม่สนใจหรอก  แต่นี่เด็กๆถึงกับเปิดเพจคู่ของอาจารย์ขึ้นมา”
อาจารย์ศรากดฉายเครื่องโปรเจ็คเตอร์  บนหน้ากระดานสีขาวปรากฏภาพเพจของเว็บไซต์ชื่อดัง ชื่อเพจว่าPTcouple@L รูปหน้าปกเป็นรูปข้างหลังของชายร่างยักษ์ หรือภาษาชาวบ้านคือหุ่นหมี เดินคุยกระหนุงกระหนิงกับเจ้าของร่างที่สูงเพียง150ซม.  ส่วนรูปโปไฟล์เป็นเพียงรูปหัวใจสีรุ้ง ราวกับว่าตั้งใจให้เพจนี้เป็นความลับ เพจตั้งเป็นกลุ่มลับ มีสมาชิกเพียงห้าสิบกว่าคน  และหนึ่งในนั้นคืออาจารย์ศรา ที่รติกรเดาว่าน่าจะสมัครแอคเคาท์ปลอมไปสืบ

“ถ้าเป็นกลุ่มลับก็ไม่น่ามีปัญหานะครับอาจารย์”
ภาคภูมิพยายามหาข้ออ้าง เขาคิดว่ามันไร้สาระมากที่จะมาจับผิดกัน กลัวรติกรคิดมากด้วย

“ก็ใช่ เพียงแต่ดูรูปพวกนี้สิ  มันชัดเจนมากว่าพวกคุณสองคนคบกัน ดิฉันไม่ได้ห่วงภาควิชาของเราหรอกนะคะ ดิฉันห่วงชื่อเสียงพวกคุณมากกว่า  โดยเฉพาะคุณ...อาจารย์ภาคภูมิ ถ้าผู้ปกครองหัวโบราณรู้เข้าจะว่ายังไงคะ คุณอาจจะมีเรื่องให้ปวดหัวเพิ่มขึ้นก็ได้นะ”

“คนอื่นทำให้ผมปวดหัวไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับ ผมกลัวชีวิตคู่ของผมไม่ราบรื่นมากกว่า”

“ก็นั่นแหละค่ะ ถ้าพวกเขารู้ มันจะไม่ราบรื่น”

“อาจารย์ว่ามาดีกว่าครับว่าอยากให้พวกผมทำอะไร”
ภาคภูมิไม่รู้ตัวว่าสีหน้าตนนั้นเหมือนจะต่อยหัวหน้าภาคเข้าไปทุกที รติกรที่นั่งข้างกันจึงลูบต้นขาแน่นให้ใจเย็นลง สำหรับเขาแล้ว....มันพูดยากมากๆ ต้องโทษที่ตัวเองเรียนมาน้อยด้วยหรือเปล่า สมองถึงแทบไม่ประมวลผลอะไรเลย

“ดิฉันอยากให้พวกคุณห่างกัน”

“อะไรนะครับ?”

“ใจเย็นค่ะ ห่างกันแค่ในมหาลัย ออกจากมหาลัยแล้วคุณจะไปทำอะไรก็ได้ตามสบายเลย”

“แค่เดินคุยกันก็ไม่ได้เหรอครับ?”
เป็นประโยคแรกที่น้ำเสียงสั่นๆของรติกรเอ่ยถาม  ร่างเล็กก้มหน้าลง พยายามคิด....ได้แค่พยายาม
ภาคภูมิจิ๊ปาก คิ้วขมวดมุ่น ลูบหลังอ่อนแอที่เขาเชื่อว่าเกิดมาเพื่อให้เขาปกป้อง

“คือถ้าแค่ทักทายก็ได้อยู่ค่ะ แต่ถึงกับคุยแช่จนเด็กๆถ่ายรูปลงเพจได้นี่ ดิฉันว่าไม่ควร”

“อาจารย์ก็น่าจะเข้าใจนะว่าเวลาของอาจารย์อย่างเราๆมันแทบไม่มีเลย แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ เห็นหน้าแฟนตัวเองทุกวันแต่คุยกันไม่ได้ กว่าจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก็ตอนดึกๆ คือ...ผมก็อยากทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้างนะครับอาจารย์ศรา ไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง”

“ภาค! พูดแรงไปหรือเปล่า”
รติกรเขย่าแขนเตือนสติคนกำลังโมโหควันออกหู ภาคภูมิไม่ฟัง ...เขาเป็นลูกคนใหญ่คนโต ถูกตามใจมาแต่เด็กเหมือนรติกร  ถ้าเรื่องใดที่คิดว่าไม่ถูกต้องก็จะค้านหัวชนฝา

“แต่ดิฉันอยากจะบอกว่าถ้าคุณไม่ทำตามกฎของดิฉัน ซึ่งคุณ....เป็นผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของดิฉัน ดิฉันก็คงต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด คือส่งคุณรติกรไปทำงานที่อื่น”

ได้ยินดังนั้นร่างใหญ่ก็ลุกพรวด เก้าอี้ล้มหงายหลัง ยังดีที่รติกรมือไว คว้าชายเสื้อภาคภูมิให้ใจเย็น ซึ่งถ้าเขาคว้าไม่ทัน ....ไม่อยากนึกเลยว่าอาจารย์ศราจะโดนอะไรบ้าง
“จริงๆแล้วคุณไม่ได้ห่วงผมหรอก  พูดมาตรงๆเถอะ ...ห่วงหน้าตัวเองนั่นแหละ อายมากสินะที่มีคู่เกย์ในที่ทำงาน”

“คุณต้องเข้าใจว่าเราอยู่ในสถาบันการศึกษานะคะ”

“แล้วกะอีแค่คุยกันมันผิดตรงไหน”

“คุณอย่าชวนฉันทะเลาะได้มั้ย”

“ภาค....พอแล้ว ที่อาจารย์พูดมามันก็ถูกนะ เราต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กๆ”

“ตัวเล็กเข้าข้างอาจารย์เหรอ?”
ภาคภูมิปัดมือคนรักออก ใบหน้าเคียดขึงทำให้รติกรผวา
สายตาของภาคภูมิยามโมโหนั้นน่ากลัว ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่เคยทำอะไรรุนแรง แต่มันก็ฆ่าเขาได้ทุกครั้ง ร่างเล็กจึงลุกขึ้น น้ำตาเอ่อคลอปิดไม่มิด

“จะร้องทำไม! หรือว่าไม่อยากอยู่กับเราตั้งแต่แรก”

รติกรไม่ใช่คนเข้มแข็งนัก อาจเพราะตั้งแต่เจอภาคภูมิ เขาก็ใช้ชายหนุ่มเป็นที่พึ่งตลอด เริ่มไม่รู้จักการอยู่คนเดียว ไม่รู้จักความเข้มแข็งอันเกิดจากความเหงา  เมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกภาคภูมิปฏิเสธ เขาจึงกัดปากกลั้นน้ำตา ...แต่มันก็ไหลจนได้

ห้องทั้งห้องเงียบกริบ มีเพียงเสียงสูดน้ำมูกจากรติกรเท่านั้น 
น่าอายเหลือเกิน....
รติกรก้าวออกมาจากบรรยากาศเคร่งเครียด เจอป้านานั่งรออยู่หน้าห้องจึงยิ้มให้
“ร้องไห้ทำไมลูก โธ่....อายุยี่สิบกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ ขี้แยไปได้”
หนุ่มวัยยี่สิบแปดปีซุกหน้าเข้ากับไล่ป้านาที่สูงกว่าเขาตั้งหลายเซนต์ หมางเมินอีกคนที่เปิดประตูออกมา

“เย็นนี้กลับเองนะ”
ภาคภูมิไม่ใช่คนยอมคนเท่าไหร่นัก จึงประชดด้วยการพูดแบบนั้นออกไป  เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมรติกรต้องฟังอาจารย์ศราด้วย ก็แค่คนรักกันมันผิดตรงไหน ก็แค่เด็กเปิดเพจลับๆขึ้นมา  คนอื่นรู้ไปก็เท่านั้น มันไม่ได้มีภาพอนาจารระหว่างเขากับรติกรเสียหน่อย  ร่างหนาหัวเสีย เดินตึงตังกลับห้องพักอาจารย์  ทิ้งคนที่ตัวเองบอกว่ารักนักรักหนาไว้ โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือการทำร้ายจิตใจอีกคนมากแค่ไหน

ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นล่ะมั้งที่ภาคภูมิเปลี่ยนไป ชอบหว่านเสน่ห์ เต๊าะคนอื่นไปเรื่อย ทีแรกรติกรคิดว่าแค่เล่นๆ แต่ก็ต้องเปลี่ยนความคิดเมื่อพบภาคภูมิยืนคุยกับอาจารย์สาวคนอื่น พอเห็นเขาก็รีบทำเป็นหลบ
อย่าว่าแต่ภาคภูมิเลย  รติกรก็เปลี่ยนเหมือนกัน  เขาเย็นชาขึ้น ไม่เอาใจเหมือนเก่า ภาคภูมิบอกให้ทำอะไรก็ทำ ไม่บอกก็ไม่ทำ
ทั้งคู่ไม่เหมือนคนคบกัน ....ใช้คำว่าเซกส์เฟรนด์ยังดูดีเกินไปเสียด้วยซ้ำ
 เขารู้....ว่ามันคือทิฐิที่ไม่ยอมวาง เป็นเกมๆหนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างมีกติกาของตน แต่มีจุดหมายเดียวกันคือ ใครทำดีก่อน...คนนั้นแพ้

.
.
.
.


นั่นเป็นหนึ่งปีที่แล้ว
ย้อนกลับมาปัจจุบัน....บรรยากาศระหว่างรติกรกับภาคภูมิก็ยังเหมือนเดิม ไม่ค่อยได้คุยกัน แต่ก็ไม่ใช่คนเกลียดกัน  นอนด้วยกันบ้างตามความกำหนัดที่มากกว่าคนปกติ
รติกรนิ่งเงียบไป ....คงสิ้นสุดความอดทนแล้วสินะ
ภาคภูมิเบื่อเขาแล้ว คงอยากมีลูกกับอาจารย์วาริณีเต็มแก่
รติกรเสแสร้งไม่เก่ง รอยยิ้มดีใจจึงโคตรน่าเกลียด ภาคภูมิเห็นดังนั้นก็ตกใจ รีบจับมือหยาบขึ้นมา
“เป็นอะไรหรือเปล่า?”

คนตัวเล็กส่ายหน้า
“ทำไมภาคไม่เรียกเราว่าตัวเล็กแล้วล่ะ”
เขาเปลี่ยนเรื่อง ก่อนที่ตัวเองจะเบะ ผู้ชายวัยยี่สิบเก้ามานั่งเบะปากเป็นเด็กๆ มันคงไม่น่าดูเท่าไหร่

“ก็เราเห็นว่าอายุไม่ใช่น้อยๆ มาเรียกตัวเล็กแล้วมันเขินๆไงไม่รู้ อีกอย่างเอาไว้เรียกลูกดีกว่า”
อาจารย์ไบโอเคมีแจกแจง พลางเกาท้ายทอยอย่างคนที่เขินจริงๆ ....นั่นทำให้รติกรยิ้มได้เต็มปาก
รวบรวมพลังใจทั้งหมดถามสิ่งที่ต้องการคำตอบที่สุด
“ภาคจะเลิกกับเราแล้วใช่มั้ย?”
เสียงสั่นเครือน่าสงสาร
ภาคภูมิหลับตา นึกอยากให้เสียงนั่นอยู่บนเตียงมากกว่า

ร่างหมีขยับตัวอย่างคนนั่งไม่ติด  รติกรยิ่งเครียดหนัก  คนมีชนักติดหลังก็เป็นแบบนี้กันทุกคน
ร่างเล็กก้มหน้าไม่อยากมองอีกต่อไป ลำคอฝืดเฝื่อน แม้จะเพิ่งกระดกน้ำอัดลมไปหลายอึก

“ฮัลโหล....เออกูเอง ....จัดการเลย...เออนั่นแหละ....ตอนนี้แหละ ไอ้ห่าถามเซ้าซี้.....เออขอบใจ”

“ไปกัน...”

“ไปไหน?”
รติกรเงยหน้าถาม เผยดวงตากลมที่เต็มไปด้วยน้ำตา

“ขี้แยจริงๆ...ไปกับเรา เดี๋ยวบอกเองแหละ”

“ไปไหนอ่ะ มันดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ทำงานอีก”
ร่างเล็กขืนตัวเมื่อถูกอีกฝ่ายฉุดแขนขึ้น

“แค่สองทุ่มมันดึกตรงไหนเนี่ย ลุกเร็วๆ...ไม่พาไปฆ่าหรอกน่า”

“ก็ได้”
รติกรตอบแผ่วเบาโรยแรง ค่อยๆลุกขึ้นเช็ดน้ำตา
เมื่อแรงจะเข้มแข็งได้เหมือนภาคภูมินะ  ตั้งแต่คบกันมาเขายังไม่เคยเห็นน้ำตาสักหยด จนบางครั้งยังคิดไปว่าภาคภูมิเคยรักเขาจริงๆหรือเปล่า  ตอนห่างกันเคยคิดถึงกันบ้างไหม ตอนทะเลาะกันเคยเศร้าใจจนไม่เป็นอันทำงานเหมือนกันไหม
รติกรอยากรู้จริงๆ


.
.
.
เมื่อรถยุโรปราคาแพงเลี้ยวเข้าถนนส่วนบุคคลเขาก็จำได้ทันทีว่านี่คือทางมาบ้านภาคภูมิ  พลันคิดถึงตอนถูกโยนลงน้ำ วันนั้นเขานึกบ้าอะไรขึ้นมาสักอย่าง บอกให้ภาคภูมิเป็นนายคาวี ลงโทษเขาให้สาสม แต่อย่าทำแรงเพราะรติกรว่ายน้ำไม่เป็น มันจึงเป็นเซ็กส์ที่ตลกและทะลักทุเลที่สุด  แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของความสุขในชีวิตรันทดของคุณหนูตกอับเช่นกัน

“พาเรามาทำไม”

“เดี๋ยวก็รู้”
ภาคภูมิยักคิ้วอย่างเป็นต่อ แต่ใจรติกรไม่ดีเลย  เขากลัวว่าคนรักจะเปิดตัวอาจารย์วาริณีแล้วขอร้องให้เขาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว


ร่างเล็กกลั้นใจเปิดประตูรถหรู  ก้าวขาอย่างช้าๆเหมือนเด็กหัดเดิน มันแข็งเกร็งตั้งแต่ส่วนล่างขึ้นมา  ปากกัดเม้มอย่างคนไร้ความมั่นใจ
ร่างหนาเห็นว่าอีกคนท่าทางจะไม่ไหวจึงจับมือหยาบอันเป็นเอกลักษณ์ไว้

“มาสิ”
คนเอาแต่ใจสั่ง
รติกรคิดว่าเขายอมตายก็ได้ ไม่ว่าเหตุการณ์ในอีกสามนาทีนี้จะเป็นอย่างไร แม้อาจโดนฆ่าทั้งเป็น เขาก็จะอโหสิกรรมให้ภาคภูมิ  ในเมื่อร่างหนาคือคนที่เข้ามาจุดไฟชีวิตอันมอดดับให้ติดใหม่ ดังนั้นภาคภูมิจะทำอะไร จะตัดสินใจอะไร...เขาไม่ว่าหรอก

ภายในบ้านหลังใหญ่ตามประสาคนรวยปรากฏว่ามีครอบครัวของภาคภูมินั่งกันครบ
ห้องรับแขกเต็มไปด้วยเสียงเด็กเจี๊ยวจ๊าว กับพี่ชายของภาคภูมิรวมภรรยาแปดคน เขาดีใจที่ไม่มีอาจารย์วาริณีมานั่งให้ช้ำใจ
รติกรยกมือไหว้พ่อแม่ว่าที่อดีตคนรักก่อน แล้วจึงไหว้บรรดาพี่ชายพี่สะใภ้ตามลำดับอาวุโส ทุกคู่มีลูกคู่ละสองคน เด็กตัวเล็กๆอายุไม่เกินห้าขวบกันทั้งนั้น แต่พอพ่อแม่สั่งให้เงียบ ก็เงียบได้อย่างน่าอัศจรรย์

“มาสักที โชคดีที่วันนี้เรารวมตัวกันกินข้าวอยู่แล้ว ทุกคนเลยได้เห็นหน้าน้องติ๊ก”
รติกรหัวเราะแหะๆ เมื่อคุณแม่เรียกเขาแบบนั้น

“นั่งเลยลูก”

ภาคภูมิดึงร่างเล็กให้นั่งลงยังเก้าอี้ว่าง  ยังไม่ยอมปล่อยมือตั้งแต่ลากเขามาจากลานจอดรถ
รติกรเหล่ซ้ายทีขวาที ทุกคนมองหน้าเขาเหมือนตัวประหลาด หากแต่ยิ้มให้ด้วยสายตาเอ็นดู

“ไม่น่าเชื่อนะว่าเราจะได้เจอกันอีก”
พี่พิเภก พี่ชายคนโตที่รติกรเคยเห็นหน้าบ่อยๆสมัยเด็กทักขึ้น เขาจึงยิ้มตอบ

“ทำไมน้องติ๊กตัวเล็กจังอ่ะพี่”
คนนี้น่าจะเป็นพี่ภาม เขาไม่เคยเจอตัวจริง พอมาเห็นแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ พี่ภามก็ตัวเล็กพอๆกับเขานั่นแหละ

“น้องคลอดก่อนกำหนดเหมือนมึงไงไอ้ภาม แต่น้องคลอดตอนหกเดือนใช่ป่ะถ้าพี่จำไม่ผิด?”

“ครับ”

“พูดน้อยจังไม่ต้องเขินพวกพี่หรอก ยังไงๆเราก็จะดองกันแล้ว”

“ดอง? ดองอะไรครับ?”

“อ้าวก็—“

“เดี๋ยวสิพี่ ยังสไกป์หาพ่อแม่เขาไม่ติดเลย”
รติกรหันไปมองพี่ชายคนที่สาม หรือพี่ภพ ที่เขาลืมสังเกตไปว่าพี่แกกำลังก้มหน้าก้มตาเล่นแท็บเล็ตอยู่

ร่างเล็กยังไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่พอจะเห็นภาพลางๆ เพียงเท่านั้นจิตใจขุ่นมัวก็สว่างขึ้น แต่เขาต้องไม่กระโตกกระตากดีใจ เพราะถ้าเกิดผิดหวังขึ้นมา ...ต้องร้องไห้ต่อหน้าเด็กๆแน่

“ติดละ”
พี่ภามตั้งแท็บเล็ตขึ้น รติกรตาค้าง สองผัวเมียแก่ๆที่จำแทบไม่ได้คือพ่อแม่แท้ๆของเขาเอง!
ไม่ใช่ว่าไม่เคยติดต่อกัน เพียงแต่ไม่เคยเห็นหน้าแบบนี้ เขาไม่มีเงินซื้อมือถือสมาร์ทโฟนยี่ห้อดีๆ ไม่มีเงินซื้อแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตเจ๋งๆ เพื่อติดต่อพวกท่าน ที่ทำบ่อยสุดก็คือการส่งอีเมลหากัน ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดเงินที่สุดแล้ว
รติกรน้ำตาเอ่อ กลืนน้ำลาย สั่งตัวเองไม่ให้ร้องไห้

“ครบองค์แล้วนะ งั้นเรามาคุยธุระวันนี้ดีกว่า”
คุณพ่อผู้เป็นประมุขของบ้านเอ่ยด้วยเสียงกังวาน  รติกรสูดลมหายใจลึกรับฟัง

“ไอ้ภาคพูดสิ”
เสียงพี่เภกเตือนสติน้อง  ภาคภูมิสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมัวแต่เป็นห่วงกลัวรติกรร้องไห้ถึงได้เหม่อไป

“ติ๊ก....”
ร่างหนาใจเต้นรัวดั่งกลอง  ภาคภูมิกุมมือหยาบกร้านแสนรักแน่น  เขาไม่รู้ว่าการคุกเข่าคืออะไร คิดว่าการแสดงสีหน้าให้ตระกูลเขาเห็นชัดๆมันโรแมนติกกว่า

“แต่งงานกับเรานะ”

“......แต่ง..งาน?”

“นะๆ แต่งกับเรา  ย้ายมาอยู่กับเรา ออกจากงานมาทำงานกับพ่อแม่เรา”

“ทำงานอะไร....”
รติกรลืมที่เรียนมาหมดแล้ว

“เป็นแม่บ้านไง นะๆ แต่งงานกับเรานะ”

“มันไม่ดูแปลกๆเหรอ”

“ไม่แปลกหรอก แปลกไหมน้องมิ้นต์”

“ไม่แปลกค่ะ”

“เห็นมั้ยหลานยังบอกไม่แปลกเลย แล้วติ๊กคิดมากอะไร”

“ฮึก......”
คนเจ้าน้ำตาเริ่มเปิดการแสดงอีกครั้ง  รติกรซบหน้าลงกับโต๊ะ เนื้อตัวสั่นด้วยแรงสะอื้น
“เรานึกว่าภาคไม่รักเราแล้ว”

“ทำไมคิดงั้น เราแค่รักษาระยะห่างตามที่อาจารย์ศราบอก แต่เราก็ไม่ได้ห่างขนาดนั้นนี่เห็นมั้ย เรากับติ๊กยังเหมือนเดิม.....อ๋อ....ที่ติ๊กงอนๆเงียบๆช่วงนี้เป็นเพราะเรื่องนี้ใช่มั้ย คิดเองเออเองน่า  ถ้าเราทำอะไรผิด เราขอโทษนะ ภาคขอโทษนะครับ”

“ฮึก...”

“ตกลงจะแต่งกับเรามั้ย สไกป์มันเริ่มแล็คแล้วนั่น”
ภาคภูมิชวนให้คนรักดูหน้าพ่อแม่ที่กลายเป็นภาพนิ่ง แต่กลับมีเสียงเชียร์เย้วๆดังลอดออกมา  รติกรขำทั้งน้ำตา  พอมองไปรอบๆโต๊ะก็เห็นสายตาคาดหวังมากมาย โดยเฉพาะบรรดาพี่สะใภ้แสนสวยที่เหมือนจะช่วยยืนยันว่ามาอยู่บ้านนี้แล้วจะสบาย

“แต่งนะครับ”
ดวงตากลมเปื้อนน้ำตาหันไปมองคนรักอย่างพินิจ 
ภาคภูมิเป็นคนดี เป็นคนตลก  เป็นคนที่ทำให้เขายิ้มได้
เป็นคนบ้าที่พร้อมจะบ้าไปกับเขา
รติกรจึงพยักหน้า

“เย่!!!!!”
ร่างเล็กเปลี่ยนจากร้องไห้ตัวสั่นเป็นขำตัวสั่นแทน  สี่ครอบครัวปล่อยลูกตัวเองให้วิ่งมาหาเขา เด็กๆทุกคนกระโดดโลดเต้น ต่างอวยพรให้เขามีความสุขกับคุณอาภาค บางคนมีการ์ดเป็นของขวัญให้ด้วย

“แม่ขอต้อนรับหนูอย่างเป็นทางการนะ เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่นึกเลยว่าเขาจะเกิดมาคู่กัน”
ประโยคแรกคุณแม่บอกรติกร ส่วนประโยคหลังพึมพำกับพ่อ สายตาอ่อนโยนของทั้งคู่ส่งมาให้เขา 

“เอ้าๆ ทุกคนเงียบก่อน  อาจะถ่ายรูปท่าสวมแหวน”
ภาคภูมิหยิบแหวนเพชรเม็ดเป้งออกมา ชวนเขาถ่ายรูปท่าทางบ้าๆบอๆ โดยมีเด็กๆเป็นพร็อพข้างหลัง

“ภาครักติ๊กนะ/เรารักภาคนะ”
“อ่ะ! ฮ่าๆๆ”


น่าเสียดาย....
ทั้งเขาและภาคภูมิ  ไม่มีใครชนะในเกมนี้สักคน


............




จบ----


ขอบคุณค่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-10-2016 22:00:30 โดย mukmaoY »

ออฟไลน์ Coffeeblack

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 316
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
โอ้ยยย นำตาซึมเลย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อ่านช่วงแรก คิด... เอ๊ะ หรือจะจบเศร้า แต่ก็เดินหน้าอ่านต่อไป ฮา

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ซึ้ง YvY

แอบดีใจกะติ๊กนะ ว่าแต่ภาคไปหาสไกป์ของพ่อแม่ติ๊กได้ไงหนอ??

(ในที่สุดก็เปลี่ยนกลับมาเป็นแม่บ้านอยู่ดี 5555555)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ซึ้ง YvY

แอบดีใจกะติ๊กนะ ว่าแต่ภาคไปหาสไกป์ของพ่อแม่ติ๊กได้ไงหนอ??

(ในที่สุดก็เปลี่ยนกลับมาเป็นแม่บ้านอยู่ดี 5555555)

เขาวางแผนจะเซอร์ไพรส์นานแล้วค่ะ แต่ว่าแผนต้องเปลี่ยนกะทันหัน ตอนที่ภาคโทรหาใครบางคนตอนติ๊กนั่งก้มหน้าเศร้าอยู่ค่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: นึกว่าจะ UnHappy ดีใจที่สุดท้ายก็ได้แต่งงานกลายเป็นแม่บ้านแทน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
อ่านไปได้แป๊บนึงคิดว่าต้องเศร้าแน่ๆ เตรียมร้องไห้เต็มที่เลยล่ะ

อ่านจบถึงกับถอนหายใจ โล่งอก ฮาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ puiiz

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-4

ออฟไลน์ Cloudnine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 730
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0
สนุกกกกก น้ำตาซึมเลย ชีวิตรันทดจริงๆตัวเล็ก

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ซึ้งอ่ะ ดีที่จบแฮปปี้ นึกว่าจะน้ำตาท่วมซะแล้ว :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ larynx

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 821
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
นึกว่าจะจบเศร้าเหมือนกัน ดีใจที่ไม่ได้เป็นแบบที่คิด ติ๊กนี่ชีวิตรันทดจริงๆค่ะ ภาคนี่คือจะเนียนตีห่างก็น่าจะบอกกันบ้างนะ ใจแป้วเลยติ๊ก 55555555555555 :katai5:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โล่งงง ลงเอยกันด้วยดี  :mew1: :mew1: :mew1:
มาต่ออีกนะ ชอบบบบบบ :katai2-1:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
ย้อนไปมา งงนิดหน่อย เดี๋ยวอ่านใหม่อีกรอบ ตอนแรกนึกว่าดราม่าซะแล้ว ดีใจค่ะแฮปปี้ :กอด1:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
สนุกกกก อยากอ่านต่ออีกค่ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ประทับใจค่ะ ถึงจะไม่ได้รู้ในมุมของภาคมากจนคาดไม่ถึงว่าจะรักติ๊กจนขอแต่งงาน ดีใจกับติ๊กจังงง  :katai2-1:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
น้ำตาซึมไปกับติ๊กด้วยเลย นึกว่าจะไม่ได้กันซะแล้ว

ออฟไลน์ Honeyhoney

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
 :katai4: สนุกมาก ๆ ค่ะ ชอบมาก ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2

โล่งอก อ่านไปก็ลุ้นว่าจะเสียน้ำตามั้ย
ดีใจกับติ๊กด้วยจ้า

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ

ออฟไลน์ yunjae123

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
คิดว่าภาคเปลี่ยนไป สงสารติ๊กมากกกกก
แต่อ่านมาเรื่อยๆ นี่ภาควางแผนล่วงหน้าไว้นี่เอง~~
ดีใจกับติ๊กที่ได้กลับมาเจอภาคอีกครั้ง
อยากอ่านตอนพิเศษหลังจากทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันจังค่าา  :mew2:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
โอ้ยยย คนอ่านนี่ใจเสียพอๆกับติ๊กเลย  :hao7:
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เกือบร้องไห้ตามติ้กละ

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
ดีใจกับติ๊กด้วย  :mew4:

ออฟไลน์ MSeraph

  • This too shall pass
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1751
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
นึกว่าจะ bad ends ซะแล้วว
อ่านจบนี่โล่งงงเลย
อยากรู้ว่าภาคโทรหาใครอะ
มีตอนพิเศษมั้ยคะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
นึกว่าจะ bad ends ซะแล้วว
อ่านจบนี่โล่งงงเลย
อยากรู้ว่าภาคโทรหาใครอะ
มีตอนพิเศษมั้ยคะ

ภาคโทรหาพี่ๆให้เตรียมตัวค่ะ เพราะแผนที่วางไว้(ซึ่งดีกว่านี้ อลังการกว่านี้)ดันล่ม เนื่องจากติ๊กเข้าใจผิดไปไกล เลยรีบขอดีกว่า ไม่อยากให้ติ๊กเสียใจข้ามวันค่ะ
ส่วนตอนพิเศษ ณ ตอนนี้ยังไม่มีค่ะ

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
อยากอ่านตอนพิเศษต่อค่ะ

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
น้ำตาซึมเลย

ออฟไลน์ tear0313

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด