[END]แรกพบสบรัก-สบตา ครั้งพิเศษ: คืนสู่วงการ[10-05-60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [END]แรกพบสบรัก-สบตา ครั้งพิเศษ: คืนสู่วงการ[10-05-60]  (อ่าน 80771 ครั้ง)

ออฟไลน์ Fasai25448

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
คชา หึ่ยหมั่นไส้
แต่ชอบมากชอบในความหลงตัวเองของคชา555555

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
คชา นี่คือความเนียนใช่มั่ย :hao3:

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คชาเป็นคนตลก บ้าบอและหลงตัวเองมาก
 :hao7:

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 10: เหล้าร้อน...ร้อนเร่า[1]

ผมแทบไม่ได้หลับทั้งคืน โชคดีที่พี่ชิณณ์ตื่นมาแล้วไม่ได้เห็นสภาพผมถูกคชากอดรวบหัวรวบหางเพราะพอเข้าเช้ามืด คชามันก็นอนดิ้น ถีบผมออกจากอ้อมแขน กลิ้งตกเตียงไปนอนแอ้งแม้งบนพื้นเป็นที่เรียบร้อย พอตื่นขึ้นมา ผมก็ทำตัวไม่ถูกด้วยไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงดีตอนคุยกับคชา อย่าว่าแต่วางตัวเลย ปั้นหน้าก็ไม่ถูกด้วยเถอะ

แต่คชาก็คือคชา มันเป็นผีบ้า เคยคิดอะไรมากมายเสียที่ไหน มันทำตัวเป็นปกติ อ้อร้อเต๊าะพี่ชิณณ์เหมือนเดิมราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปล่อยให้ผมมองมันแล้วก็ถอนหายใจยาว

เออ มีแต่ผมที่คิดบ้าบอไปคนเดียว ไอ้ที่หวั่นไหวเมื่อคืนไปชั่วขณะเป็นอารมณ์ชั่ววูบโคตรๆ

ถึงอย่างนั้นก็ดีแล้วที่ลงเอยอย่างนี้ เพราะถ้ามันมาชอบผมเหมือนพี่ชิณณ์อีกคน นอกจากผมจะอึดอัดกับสถานการณ์ที่เผชิญอยู่แล้ว ผมต้องสับสนกับรสนิยมทางเพศของตัวเองอย่างรุนแรงแน่นอน

มึงไม่ได้ชอบผู้ชายไอ้มาวิน...

ได้แต่ย้ำเตือนตัวเองอย่างนี้ และก็ค่อนข้างมั่นใจเสียด้วยเพราะถ้าชอบจริงๆ ผมคงจะยินดีปรีดากับการสบตาผู้ชายแล้วเห็นงวงช้างไปตั้งนานนมแล้ว

และพอมันลงเอยอย่างนี้ ทุกอย่างก็กลับมาวนลูปเดิม คชาเอาใจพี่ชิณณ์ พี่ชิณณ์มาเอาใจผม ผมเป็นนกต่อให้คชา วนเวียนวนไปเป็นลูกโซ่ประหนึ่งวงจรอุบาทว์ เป็นอย่างนี้ทุกวันเข้า ผมก็ชักจะเบื่อ หลายวันให้หลังผมจึงเลี่ยงที่จะไม่เจอพี่ชิณณ์ อ้างว่าทำงานวิชาอื่นจนยุ่งบ้าง มีสอบควิซบ้าง เลยไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์ ส่วนคชาก็มีตอแยเรื่องผมไม่ไปสืบข่าวคราวพี่ชิณณ์นิดหน่อย ทว่าพอผมให้ไอดีโปรแกรมแชทของพี่ชิณณ์ไป มันก็หุบปากสนิท ไปแอดพี่ชิณณ์คุยแล้วก็กลิ้งบ้าอยู่คนเดียวบนเตียงเพียงเพราะพี่ชิณณ์ส่งสติ๊กเกอร์รูปตัวการ์ตูนยิ้มกลับมาตอนมันส่งข้อความไปทักทาย

ปล่อยมันบ้าไป ไม่งั้นมันมาวุ่นวายกับผมเรื่องพี่ชิณณ์ไม่รู้จบแน่

พอสลัดพี่ชิณณ์กับคชาหลุดแล้ว ผมจึงกลับมาทำงานพิเศษในตำแหน่งพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำที่ห้างแถวมหาวิทยาลัยอีกครั้งด้วยสำนึกได้ว่าเริ่มไม่มีเงินจะยาไส้ จากการที่หยุดงานไปหลายวันโดยไม่บอกกล่าว แน่นอนว่าผมโดนหัวหน้าพนักงานทำความสะอาดดุเสียยกใหญ่ เกือบจะโดนไล่ออกอยู่แล้วเชียวถ้าผมไม่อ้างว่าช่วงนี้เรียนหนักอะไรประมาณนั้น แล้วก็เคราะห์ดีที่หัวหน้าพนักงานใจดีเลยให้โอกาสผมได้ทำงานต่อ มีตักเตือนตบท้ายอีกเล็กน้อยว่าถ้าจะหยุดก็ให้แจ้งล่วงหน้าก่อน

เอาตรงๆ นะ ที่ผมหยุดทำงานไปไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้านี่เป็นเพราะไอ้คชากับพี่ชิณณ์ล้วนๆ แต่ไม่โทษสองคนนั้นหรอก ถ้ามาคิดดูดีๆ แล้ว ความผิดทั้งหมดมันเกิดจากการที่ผมบริหารจัดการเวลาไม่ถูกเองมากกว่า ดังนั้นหลังจากโดนดุด่าจนหัวหน้าแม่บ้านเป็นที่พอใจแล้ว ผมก็ไปเปลี่ยนชุดนักศึกษาออกเป็นชุดพนักงานทำความสะอาด คว้าอุปกรณ์ก้าวเข้าห้องน้ำก่อนจะลงมือทำงานอย่างเคย

วันนี้เป็นวันธรรมดา คนไม่ค่อยเยอะ ผมเลยจัดการล็อกประตูห้องน้ำเพื่อที่จะทำความสะอาดอย่างเคย ทว่าปิดประตูได้ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากด้านนอก

“เฮ้ย ล็อกทำไมวะ คนจะใช้ห้องน้ำเนี่ย!”
ผมย่นคิ้ว กะจะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินอยู่แล้วจนกระทั่งได้ยินเสียงคนข้างนอกพวกนั้นดังขึ้น
“กูว่ามึงโทรรายงานห้างเลยว่าแม่บ้านที่นี่ล็อกห้องน้ำไม่ให้ลูกค้าเข้า แม่งจะได้โดนไล่ออก”
“เออ กูก็ว่างั้น คนปวดเยี่ยวก็ไม่ให้เข้า กวนฉิบหาย”

สารพัดคำหยาบและสัตว์เลื้อยคลานดังมาให้ได้ยินเรื่อยๆ ผมจะไม่อะไรเลยถ้าหากพวกมันไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผมอย่างนั้น การที่ถูกลูกค้ารายงาน ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ผมก็ต้องถูกตำหนิไว้ก่อนอยู่แล้ว ดีไม่ดีผมจะโดนไล่ออกด้วยเพราะยังมีคดีเก่าติดตัวอยู่ อีกอย่าง ที่นี่ไม่มีนโยบายล็อกห้องน้ำเพื่อทำความสะอาดเป็นรอบๆ อย่างที่ผมทำ ไอ้ที่ผมทำอยู่คือผมตัดสินใจทำเองล้วนๆ
การถูกไล่ออกเป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้เกิด ผมเลยจัดการเดินไปเปิดประตูออก ก่อนจะปะทะเข้ากับพวกเด็ก...แว้น

เออ เด็กแว้นจริงๆ ทั้งทรงผม ทั้งเสื้อผ้าและหน้าตาท่าทาง ยกโขยงกันมาเป็นกลุ่มอีกต่างหาก ผมเคยเห็นอยู่บ่อยๆ ว่าเด็กพวกนี้เป็นพวกวัยรุ่นที่ชอบมานั่งเล่นหลีสาวอยู่ที่ชั้นบนตรงหน้าโรงหนัง

พอผมเปิดประตูปุ๊บ เด็กแว้นคนหนึ่งที่กำลังจิ้มกดโทรศัพท์อยู่ก็มองหน้าผมด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เอ้า เปิดละ ปวดเยี่ยวจะตายห่า ปิดทำไมวะ”
โดนมันด่าอีก น้ำเสียงกระด้าง หยาบคายด้วย ทั้งที่ดูแล้วเด็กพวกนี้น่าจะอายุน้อยกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนักนอกจากจะเลี่ยงหลบตาพวกมันแล้วว่าเร็วๆ
“ขอโทษด้วยครับ”
“ขอโทษก็ถอยไปสิวะ ยืนขวางทำบ้าอะไร”

หนึ่งในนั้นผลักผมออกไปด้านข้าง ผมเซถลาไปเล็กน้อย พลันมองตามหลังพวกมันที่พากันกรูเข้ามายืนเรียงรายฉี่กันเป็นทิวแถว

มากันสามคน... เอาเถอะ ปล่อยให้พวกมันทำธุระให้เสร็จ มันจะได้ไปๆ กันสักที

ผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ก้มหน้าก้มตาไปทำความสะอาดที่ห้องสุขาทีละห้อง ก่อนที่หูจะได้ยินเสียงของพวกมันคนหนึ่งว่าเหน็บเข้าให้

“ก้มหน้าก้มตา แหยฉิบหาย”
ผมถึงกับกัดฟันกรอด

กูไม่ได้แหย กูแค่ไม่อยากสบตาแล้วเห็นเจี๊ยวพวกมึง!

ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรหรอก รู้ดีว่าไม่ควรตอบโต้เพราะเหตุผลอะไร แต่การที่ผมทำเฉย พวกมันก็ยิ่งได้ใจ เดินผ่านหน่อย พวกมันที่เดินไปล้างมือก็แกล้งเอามือวักน้ำที่ก๊อกใส่ผมจนโดนเสื้อผ้าเปียก

“เป็นลูกหมาตกน้ำเลยนะมึง”
ผมยืนนิ่ง สูดหายใจเข้าปอดอย่างขุ่นเคือง บอกตัวเองอยู่ว่าไม่ควรตอบโต้ ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ หากแต่ยิ่งนิ่ง พวกมันก็ยิ่งได้ใจมากขึ้นไปอีก หัวเราะกันร่า ก่อนจะแกล้งไปเดินเตะถังขยะที่เต็มไปด้วยทิชชูล้มระเนระนาด
“โทษทีว่ะ ไม่ได้ตั้งใจ ตีนมันไปเอง”

ต่ำสุดอะไรสุด!

ผมเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าโกรธถึงขนาดอยากฆ่าคนตายมันเป็นยังไง ทว่าก็ยังเงียบ ตรงไปคว้าเก็บเอาถังขยะขึ้นตั้ง ก่อนจะใช้มือที่สวมถุงมือยางเก็บทิชชูที่เกลื่อนกลาดบนพื้นขึ้นมาทีละชิ้น แล้วแทนที่เด็กแว้นพวกนั้นจะหยุดก็ดันไม่หยุดด้วยนะ หัวเราะใส่ผมแล้วก็เตะถังขยะล้มไปอีกที

คราวนี้ผมหมดความอดทน เงยหน้าขึ้นมองพวกมันทันใด ตาสบตา เห็นจู๋เรียบร้อยแต่ก็ไม่ใส่ใจแล้ว มีแต่ความหัวร้อน
“อะไรมึง มองหน้า อยากมีเรื่องหรือไง”
เห็นผมจ้องเขม็ง หนึ่งในพวกมันก็ร้องท้าเหย็งๆ ผมอยากจะคว้าเอาถังขยะฟาดหน้าพวกมันเรียงตัวนัก แต่ไม่เป็นผลดีเลยถ้าผมทำอย่างนั้นจึงได้แต่เฉย เก็บขยะใหม่อีกรอบ พวกมันก็ปรี่เข้ามาเตะอีกรอบเช่นกัน ตอนนี้ผมถึงกับลุกพรวด
“คุณครับ”
“อะไร”

ก็อะไรล่ะ มึงจะมาหาเรื่องกูหาพระแสงอะไร!

อยากจะพูดประโยคนี้นะ ทว่าสุดท้ายกลับพูดว่า

“อย่าหาเรื่องกันเลยครับ ถ้าใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วก็ออกไปเถอะ ผมจะได้ทำความสะอาด”
“ถ้าพวกกูไม่ออก แล้วมึงจะทำไม ห้องน้ำนี่พ่อมึงสร้างเหรอ”

โอ้โห ห้าวเป้งระดับสิบ ยียวนไม่พอ เตะถังขยะกระจายอีกระลอก ผมสูดหายใจเข้าปอดเต็มแรง พยายามสะกดอารมณ์เต็มที่ แต่
แทบจะไม่มีประโยชน์เพราะนอกจากจะเตะถังขยะแล้ว มันยังเตะกระดาษทิชชูกระจุยกระจาย ดีนะที่เป็นทิชชูสำหรับเช็ดมือ ถ้าเป็นทิชชูที่เช็ดอย่างอื่น ผมคงคลั่งตายแน่นอน

“ถ้าพวกคุณไม่ออกไป ผมจะไปเรียก รปภ.มานะ”
ในที่สุดผมก็โพล่งขู่ออกมาจนได้ พวกมันมองหน้าผม ไล่ต้อนไปจนหลังชิดข้างฝา พลางเอียงคอถามอย่างกวนโอ๊ย
“ถ้ามึงคิดว่าจะรอดไปเรียกมาได้ก็เอาเลย”

พูดมาอย่างนี้ก็รู้เลยว่าพวกมันคิดจะรุมยำผมแน่ ผมได้แต่ก่นด่าโชคชะตาของตัวเองในใจ

อะไรของมันวะเนี่ย มาทำงานเฉยๆ ก็โดนหาเรื่องเสียอย่างนั้นอะ เมื่อไหร่ชีวิตจะวินสมชื่อบ้างวะ!

ดีนะที่จังหวะนั้นมีใครบางคนโผล่เข้ามาในห้องน้ำพอดี
ไม่สิ ไม่ใช่ใครบางคน อีกสี่ซ้าห้าคนเลย ซ้ำหนึ่งในนั้นก็ร้องเรียกชื่อผมด้วย
“เอ้า ไอ้เอ๋อ”

โอเค ไม่ใช่ชื่อ เป็นฉายาที่คชาเรียกจนติดปาก และคนที่โผล่หัวเข้ามาก็คือคชากับเพื่อนทูตกิจกรรมของมันนั่นแหละ

มาได้ถูกจังหวะพอดีเลยไอ้คชา ช่วยกูด้วย!

ไม่ต้องร้องบอก จากสถานการณ์ที่มันเห็นก็คงพอจะเดาได้ว่าผมตกที่นั่งลำบากอยู่ เท่านั้นสีหน้าระรื่นของมันที่มาจากการเดินคุยโขมงโฉงเฉงกับเพื่อนเข้ามาในห้องน้ำก็แปรเปลี่ยนไปเป็นตึงเครียดทันทีขณะที่ผมก็เห็นงวงช้างเพิ่มอีกเป็นโขลง

มาแล้วจ้า บรรยากาศหนัง GV แบบ Gang Raped มาแล้วจ้า!

แสร้งทำเป็นมองไม่เป็นไป ตอนนี้ควรสนใจกับเหตุการณ์ที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่มากกว่า
“ยุ่งอะไรกับเพื่อนกูวะ”

คชาร้องถาม สีหน้าดูหาเรื่องและสงสัยสุดฤทธิ์ไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่แค่คชา พวกเพื่อนๆ มันที่เคยร่วมหัวกันกับคชาแกล้งผมก็มีสีหน้าไม่ต่างกันนัก

ด้วยจำนวนคนที่มากกว่าและร่างกายที่สูงใหญ่กว่า ทำให้เด็กแว้นพวกนั้นถอยหางจากผมอย่างรวดเร็ว
“เพื่อนเฮียเหรอครับ”
“เออ กูก็ถามพวกมึงอยู่นี่ไง”
คชาว่า พลันเดินเข้ามายืนจังก้าตรงหน้า เด็กแว้นพวกนั้นหน้าซีดเผือดก่อนที่จะแก้ตัวหน้าด้านๆ
“พวกผมก็แค่มาเข้าห้องน้ำเฉยๆ”
“เข้าห้องน้ำเฉยๆ แล้วทำไมถังขยะกระจายแบบนี้” เหมือนจะเดาได้ว่าไอ้พวกเด็กเวรพวกนี้ทำอะไร

พอไม่ได้คำตอบ คชาก็จัดการตบกบาลเด็กพวกนั้นทีละคน
“กูบอกแล้วใช่ไหม แมนๆ น่ะเขาไม่รังแกคนอื่น”

เด็กแว้นพวกนั้นรีบยกมือไหว้คชาเป็นการขอโทษทันที ส่วนผมมองภาพนั้นแล้วก็อึ้งงันไป

ไอ้คชา อย่าบอกนะว่ามึงเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแว้นพวกนี้น่ะ!?

ใช่อย่างแน่นอนเพราะเด็กพวกนั้นดูจะเกรงใจคชาเป็นอย่างมาก พากันไหว้พร้อมกับเอ่ยคำว่าขอโทษเป็นพัลวัน ก่อนคชาจะร้องบอก
“ไม่ต้องมาขอโทษกู โน่น หันไปขอโทษเพื่อนกูโน่น” แล้วก็ตบหัวพวกมันไปอีกคนละที
เด็กแว้นพวกนั้นหันมายกมือไหว้ขอโทษขอโพยผมเป็นการใหญ่
“ขอโทษครับพี่”

ผมยังคงงงๆ กับเหตุการณ์อยู่ได้แต่พยักหน้ารับไหว้ไป ก่อนที่คชาจะสั่งสอนเด็กพวกนั้น
“จำได้เลยนะพวกมึง ถ้าอยากหล่อล่ำดูดีเหมือนพวกกู นอกจากพวกมึงจะต้องดูแลตัวเองแล้ว พวกมึงต้องรู้จักวางตัวให้ดีด้วย รังแกคนอื่นแบบนี้ พวกมึงก็ไม่ต่างอะไรจากกุ๊ยข้างถนนหรอก”

เด็กพวกนั้นเหมือนจะฟังคชานะ พยักหน้ารับทราบกันเป็นทิวแถว แต่ผมก็ยังงงอยู่
มึงไปเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแว้นได้ยังไง แล้วมึงมาชมตัวเองหน้าด้านๆ อย่างนี้หมายความว่าไงวะ!

ไม่รู้จะหันไปถามใครเลย ดูเหมือนพวกเพื่อนๆ คชาก็จะรู้เห็นกันด้วย มีแต่ผมคนเดียวที่ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของคชากับเด็กพวกนั้นคืออะไร ทว่าไม่ทันที่จะได้ถาม คชาก็อธิบายออกมาแล้ว

“ไอ้พวกนี้อยากหล่อเหมือนกูน่ะ มาเรียนรู้วิธีการเป็นคนหล่อจากกู เจอกันหน้าโรงหนังบ่อยๆ เลยสนิทกัน”
ฟังแล้วผมก็นิ่งไปเลย

มึงกล้าชมตัวเองโดยไม่สะทกสะท้านใดๆ อย่างนี้ได้ไง สตรองเกินไปแล้ว!

แถมพวกเพื่อนคชาก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นดีเห็นงามกับความหลงตัวเองของคชาอีกด้วยนะ ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกมันคบกันได้

แม่งหลงตัวเองกันทั้งก๊ก!

พวกมันก็หล่อดูดีกันจริงๆ แหละ แต่ผมไม่สนแล้ว นอกจากจะเอ่ยขอบคุณมันไป
“อือ เสร็จธุระแล้วก็ออกไปเถอะ เราจะได้ทำงานต่อ” ผมว่า ก้มตัวลงหยิบถังขยะมาวางตั้งเหมือนเดิม
เพื่อนของคชาพากันออกไปข้างนอกพร้อมกับเด็กแว้นหัดหล่อพวกนั้น เหลือแต่คชาที่ยืนมองผมนิ่งๆ ก่อนจะโพล่งออกมา
“ยังทำอยู่อีกเหรอวะ”
ผมหันไปเลิกคิ้วสูง “อะไร”
“กูหมายถึงไอ้งานทำความสะอาดเนี่ย ยังทำอยู่อีกเหรอวะ นึกว่ามึงเลิกไปแล้ว”
“ไม่ได้เลิก ที่ไม่เห็นมาทำก็เพราะเรายุ่งๆ น่ะ”

ยุ่งเรื่องมึงกับเรื่องไอ้พี่ชิณณ์เนี่ย!

อยากจะบอกไปอย่างนี้ชะมัด แต่ก็ช่างมันเถอะ ก้มหน้าก้มตาทำความสะอาดต่อไป พลันก็ต้องชะงักเมื่อคชาทิ้งตัวลงมานั่งยองๆ ข้างๆ
“กูว่ามึงเลิกเถอะ”
ผมหันไปมอง “ทำไมอะ”
“งานไม่เหมาะกับมึงเลยว่ะ”

ผมรู้ว่าคชาคิดอะไร อย่างว่าแหละ คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่างานแบบนี้มันเป็นงานใช้แรงงาน งานสกปรก แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ว่าจะอาชีพอะไร ถ้าเป็นงานสุจริตก็ล้วนแต่มีเกียรติทั้งสิ้น และผมก็ไม่สนด้วยตราบใดที่มันสร้างเม็ดเงินให้ผมได้
ผมไม่ตอบโต้อะไรคชาไป ทำให้มันพูดขึ้นมาอีก

“ลาออกเถอะ”
“ถ้าเราออก แล้วเราจะเอาเงินที่ไหนใช้ล่ะ”
“มึงก็ไปทำงานอื่นที่ไม่ใช่งานนี้แทนสิวะ”
พูดง่ายมากเลยนะไอ้คชา ถ้ากูไม่สบตาชาวบ้านแล้วเห็นจู๋เขาไปทั่ว คิดเหรอว่ากูจะมาทำงานใช้แรงให้เหนื่อยอย่างนี้น่ะ!
“เราทำงานอื่นไม่ได้” ผมว่า

คชาคงจะรู้ว่าเพราะเหตุผลอะไรเลยพูดขึ้นมา
“เพราะมึงสบตาคนอื่นแล้วเห็นเจี๊ยวน่ะเหรอ”
ผมพยักหน้า คชามองหน้าผมนิ่งๆ แล้วถอนหายใจยาว
“มึงนี่น้า งานอื่นมันก็มีเว้ยที่ไม่ต้องเจอหน้าผู้คนบ่อยๆ น่ะ มึงคิดเหรอว่างานทำความสะอาดไม่ต้องเจอหน้าคนอื่น เผลอๆ แม่งจะเห็นเจี๊ยวบ่อยกว่างานอื่นอีก คนที่เดินเข้ามานี่ก็พร้อมจะรูดซิปกางเกงลงทั้งนั้นแหละ เผลอๆ มึงจะเห็นโดยที่ไม่ต้องสบตาด้วย”
ที่คชาพูดก็ถูก แต่มันเลี่ยงที่จะไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้ไง ผมเลยเลือกงานนี้ หากแต่พอผมไม่ตอบ คชาก็ย้ำขึ้นมาอีกครั้ง

“ลาออกไปไป๊”
“ออกแล้วจะทำอะไรกิน”
“เออน่า เดี๋ยวกูพาไปหางานใหม่ ไม่ต้องห่วง”
“งานอะไรอะ” ผมทำหน้าสงสัยฉับพลัน
“ติวเตอร์” คชาตอบ “กูทำอยู่ แต่ของกูเป็นสอนติวตามโรงเรียน ถ้ามึงไม่เคยทำ เดี๋ยวกูจะพาไปเรียนรู้” คชาว่า ก่อนจะเอามือมายีหัวผมแล้วดันตัวลุกขึ้นยืน “ใช้ความรู้มึงให้เป็นประโยชน์ ถนัดวิชาไหนค่อยบอกกูแล้วกัน”
แล้วมันก็ทำหน้าหล่อโคตรๆ ส่งมาให้ ผมก็เห็นว่ามันหล่อโคตรๆ ในวินาทีนี้เหมือนกัน

โอ... คชา พ่อพระของมาวิน ถึงจะเพี้ยนๆ บ๊องๆ แต่นิสัยแม่งดีใช่ได้เลยว่ะ

หากแต่ความคิดเมื่อครู่ก็มลายหายไปเมื่อจู่ๆ จมูกผมก็ได้กลิ่นตุๆ ยังไม่ทันได้คิดว่าเป็นกลิ่นอะไร เสียงคชาก็ดังมาให้ได้ยิน
“เดี๋ยวมึงรอกูแป๊บ กูไปเข้าส้วมก่อน อั้นมาตั้งนานละ เดี๋ยวมาคุยรายละเอียด”

อย่าบอกนะว่ากลิ่นเมื่อกี้...

มึงตดเหรอ!

ใช่อย่างแน่นอน มันเดินแท่ดๆ ไปเข้าส้วมแล้วก็กดชัดโครกกลบเสียง

โถไอ้คชา ที่กูเห็นมึงหล่อเมื่อกี้นี้นี่หมดกัน...




 
คชาก็มาคุยรายละเอียดเรื่องการเป็นติวเตอร์หลังออกมาจากส้วมจริงๆ แต่มันวางเงื่อนไขว่าผมจะต้องไปลาออกจากงานที่ทำอยู่เสียก่อน แล้วก็ต้องตามมันกับพวกเพื่อนๆ มันไปที่ผับด้วยเพราะวันนี้มาเลี้ยงหลังจากทำกิจกรรมในฐานะทูตกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเสร็จสิ้นลงด้วยดี

ผมก็อยากได้งานไงเลยตามมันมาที่ผับอย่างว่าง่าย พร้อมกับความไม่เข้าใจว่ามันจะเลี้ยงอะไรกันนักหนา ก่อนหน้านี้ที่พวกมันไปห้างก็ไปกินปิ้งย่างฉลองกันมาแล้ว ยังจะไปต่อกันอีก บอกตามตรงว่าผมไม่เข้าใจเรื่องการเข้าสังคมของกลุ่มเพื่อนอะไรนี่สักเท่าไหร่หรอก

ใช่สิ คนไม่มีเพื่อนเป็นผู้เป็นคนอย่างผมมันจะไปเข้าใจอะไร

แต่ถึงจะไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจในตอนนี้เมื่อคชากับพวกเพื่อนมันลากผมมาที่ผับเป็นที่เรียบร้อย คชาให้ผมซึ่งอยู่ในชุดนักศึกษาสวมเสื้อยีนแจ็กเก็ตของมันเพื่อที่จะได้เข้าผับได้โดยไม่ถูกการ์ดลากตัวออกไป แน่นอนว่าผมยังคงทำตัวไม่ถูกกับการเข้าสังคม เหตุผลก็เพราะพลังวิเศษบ้าๆ ของผม แต่โชคดีที่ผับแห่งนี้มืดเสียจนผมไปสบตาใครไม่ได้ จะมีก็แต่พวกเพื่อนของคชาที่ผมเริ่มจะชินกับการเห็นกระเปี๊ยวพวกมันแล้วเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก

คชากับพวกเพื่อนๆ วางแผนกันว่าจะกลับก่อนเที่ยงคืน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่รอช้าที่จะสั่งเครื่องดื่มมาอย่างรวดเร็วและเริ่มออกลีลายักย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลงที่เปิด กระทั่งใครคนหนึ่งโพล่งขึ้นมากลางวงเมื่อเห็นว่าการดื่มกับเต้นเลื้อยไปมาเป็นกึ้งกือโดนน้ำร้อนลวกเริ่มน่าเบื่อ

“เฮ้ยพวกมึง รู้จัก B-52 หรือเปล่าวะ”
“คืออะไรวะ” ใครอีกคนถามกลับ

คนถามไม่ตอบ นอกจากทำหน้ากระหยิ่มยิ้มที่เพื่อนไม่รู้
“มันเรียกว่าเหล้าร้อนเว้ย พวกมึงต้องลอง อร่อยโคตร เดี๋ยวกูจัดมาให้ลอง” จากนั้นก็เดินไปสั่งพนักงาน

ไม่นานนัก เหล้าร้อนอะไรนั่นก็มาเสิร์ฟให้ทุกคน คนละช็อต ก่อนที่เจ้าคนตัวการจะเริ่มอธิบาย ผมพอจะจับใจความได้ว่ามันเป็นเหล้าที่มีส่วนผสมหลักๆ อยู่สามอย่าง จัดเรียงเป็นสามชั้น ชั้นล่างสุดคือเหล้ากาแฟ KAHLUA ชั้นกลางเป็นเหล้า BAILEY’s ไอริสวิสกี้ครีม ส่วนชั้นบนสุดเป็นเหล้าหวานรสส้มที่เรียกว่า TRIPLE SEC

เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้จักหรอกว่าเหล้าอะไรเป็นเหล้าอะไรบ้าง แต่วิธีกินก็คือจะต้องจุดไฟที่เหล้าก่อน พอไฟติดก็ใช้หลอดปักแล้วดูดเอาให้หมดในคราวเดียว ว่ากันว่ามันแรงมาก ดูดไปสามช็อตคือจอด

ผมก็ไม่เชื่อหรอกนะตอนแรก แต่พอได้ลองไปช็อตนึงแล้ว โลกของคนที่แทบไม่เคยแตะเหล้าอย่างผมก็หมุนคว้างทันที ตอนแรกก็กะจะไม่ดื่มหรอก แต่ถูกคะยั้นคะยอเยอะๆ เข้าก็เลยต้องดื่ม มันเป็นนิสัยเสียของผมน่ะไอ้เรื่องปฏิเสธใครไม่ค่อยเป็น
ผมวางแก้วได้ก็เซแท่ดๆ ไปนิดหน่อย ทำเอาคชาถึงกับร้องถามเสียงดัง

“เฮ้ยไอ้เอ๋อ ไหวไหมมึงน่ะ”
“วะ...ไหว” ผมว่าทั้งที่มึนหัวนิดๆ ซึ่งก็ไหวจริงอย่างที่ปากพูดเพราะผมยังคงมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน
เพื่อนของคชาที่เป็นคนสั่งเหล้านี่มาถึงกับหัวเราะ ก่อนที่คนอื่นๆ จะชมกันเปลาะว่าอร่อย ก่อนที่ตั้งท่าจะสั่งมากันอีกจนคนต้นเรื่องต้องรีบร้องปราม

“ดื่มเยอะเกิน เดี๋ยวก็กลับอย่างหมาหรอก มาอย่างหล่อ อย่าให้กลับแบบเสียคนสิวะ”
ผมรีบพยักหน้าเห็นด้วยถึงมันจะฟังดูหลงตัวเองไปหน่อยก็เถอะ แต่ไอ้เหล้าบ้านี่มันแรงจริง ทว่าการที่ผมพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อครู่เป็นการกระทำที่เสียพลังงานโดยเปล่าประโยชน์มาก หลังจากประโยคนั้น เพื่อนของคชาก็พูดขึ้นมาอีก
“แต่ถ้าพวกมึงอยากดื่มจริง งั้นเอางี้ โอน้อยออก ใครออกต้องดื่มช็อตนึง ใครไม่ดื่มถือว่าอ่อน เคปะ จะได้ไม่ต้องเป็นหมากันทั้งหมด เดี๋ยวไม่มีคนเก็บศพ”

เท่านั้นทุกคนก็เห็นด้วยกันอย่างพร้อมเพรียงไม่เว้นแม้แต่คชา แล้วผมจะไปทำอะไรได้ล่ะนอกจากจะยอมให้พวกมันทำตามใจ อะไรไม่ว่า ต้องร่วมเล่นเกมกับพวกมันด้วย แล้วพอโอน้อยออก คนที่โดนออกก็เป็นผมด้วยเถอะ
“โดนว่ะมาวิน จัดไปหนึ่งช็อต!”

เสียงเฮโลโห่ฮาดังตามมา ก่อนที่เพื่อนของคชาจะส่งแก้วเหล้าที่มีไฟลุกโชนให้ผม ผมมองแล้วก็กลืนน้ำลายเอื้อก

ถ้าไอ้ช็อตนี้ไหลลงคอผมไป รับรองเลยว่าผมทรุดลงไปกองกับพื้นอย่างแน่นอน

คชาที่อยู่ข้างๆ เหมือนจะมองผมออก แค่เห็นผมทำท่าจะเอาหลอดปักดูด มันก็มาแย่งแก้วเหล้าในมือไปพลันว่า
“เดี๋ยวไอ้เอ๋อมันเมา กูขี้เกียจแบกมันกลับ” แล้วก็ดูดเองหน้าตาเฉย ทำเอาเพื่อนๆ มันหัวเราะกันใหญ่
“แล้วถ้ามึงเมา มันไม่ต้องแบกมึงกลับเหรอวะ”
“กูไม่คออ่อนขนาดนั้นว่ะ” คชาว่าอย่างอวดดี
“อย่าดื่มเยอะนะคชา” ผมไม่เชื่อใจเลยเตือนไป

คชาเลยหันมายีหัวผมเล็กน้อย
“คนคออ่อนอย่างมึงนั่งนิ่งๆ ไปซะ พี่จะโชว์ให้ดูเองไอ้น้อง คนจริงอย่างกูไม่เมาง่ายๆ ว่ะ”

ผมมองหน้าคชาที่ดูกรึ่มๆ แล้วก็ขอภาวนาให้เป็นอย่างนั้น หากแต่ไอ้ที่คชาพูดมาเมื่อกี้ไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่น้อย พอเกมดำเนินไปอีกครั้งและคชาก็โดนดื่มอีกช็อต เท่านั้นมันก็ร่วงลงพื้นไปเลยในวินาทีนั้น

ไหนมึงบอกว่าไม่ได้คออ่อนขนาดนั้นไง!

เพื่อนมันพากันแบกขึ้นมายืนแทบไม่ทัน คชายกมือเป็นสัญญาณว่า ‘กูยังไหว’ ก่อนที่เกมจะดำเนินต่อไป ทว่าดำเนินต่อไปได้ไม่นาน คชาก็ขอตัวไปห้องน้ำด้วยจู่ๆ ก็เกิดคลื่นไส้ขึ้นมา ผมมองมันอย่างเป็นห่วง เห็นจากการที่มันเดินเซไปชนโต๊ะข้างๆ เต็มแรงแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่ามันไม่น่ารอดไปถึงห้องน้ำ

“ไหวไหมคชา ให้เราพาไปไหม”
“กูหวาย... มึงไปนั่งเลยไอ้เอ๋อ กูไปเอง” ว่าเสียงยานคาง โบกมือไล่ผมแล้วก็เดินเซตุปัดตุเป๋ไปที่ห้องน้ำ

ผมมองตาม เห็นมันหายเข้าห้องน้ำไปแล้วก็สบายใจ แต่ก็สบายใจได้เพียงครู่เดียวเท่านั้นแหละเพราะเกิดสำเหนียกขึ้นมาได้ว่ามันเข้าห้องน้ำนานเกินไป

นานมาก... เกือบชั่วโมงแล้วยังไม่โผล่หัวออกมาเลย พวกเพื่อนมันก็เริ่มเมาเรื้อนไปเรื่อย ไม่ได้สนใจเลยว่าคชาหายหัวไปไหนต่อไหนแล้ว

ผมเลยปลีกตัวออกมาจากกลุ่ม เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อไปดูว่าคชาทำอะไรอยู่ ก่อนจะเจอมันในสภาพกอดโถชักโครกอยู่บนพื้น เอาหน้าทิ่มอยู่ในนั้น

มึงมานอนทำบ้าอะไรที่นี่!

ผมปรี่เข้าไปพยุงมันขึ้นมา หากแต่ตัวใหญ่กว่า ทำให้พยุงได้ไม่ถนัดนัก
“เฮ้ย อย่ามานอนตรงนี้สิ” ผมว่า
ดีนะที่คชาไม่ได้หลับหมดสติ พอผมเรียกก็ผงกหน้าขึ้นมาจากโถส้วม หันมามองผมตาปรือ
“เอ้า ไอ้เอ๋อ...”

เออกูเอง

“อ้วกหรือเปล่าเนี่ย ให้เราช่วยลูบหลังไหม” ผมถาม
คชาส่ายหน้าพรืด “อ้วกเอิ้กอะไร กูไม่เมา...อุ้ก แหวะ!”

พูดยังไม่ทันจบประโยคเลยก็หันไปอ้วกหน้าดำหน้าแดงเป็นที่เรียบร้อย ผมพ่นลมหายใจอย่างระอา ก่อนจะลูบหลังมันให้

“เราก็บอกแล้วไงว่าอย่าดื่มเยอะ เมาหมดสภาพเลยเนี่ย” ผมอดบ่นไม่ได้ เตือนแล้วแท้ๆ บ่นไป มือก็ลูบหลังคชาป้อยๆ
คชาเงยหน้าขึ้นจากชักโครก เหลือบมองมาทางผมเล็กน้อย
“เอาน่า...นิโหน่ย”

นิดหน่อยบ้าอะไร มึงเมาหัวทิ่มขนาดนี้แล้วกูจะแบกมึงกลับหอยังไงไหว

“ไม่ต้องมาพูดเลย ลำบากเราเลยเนี่ยเห็นไหม” บ่นขึ้นมาอีกแล้ว

ปกติผมเคยได้ยินแต่พวกเพื่อนในคณะเล่าให้ฟังนะว่าการแบกสังขารเพื่อนที่เมาหัวทิ่มกลับหอมันนรกแค่ไหน แต่ไม่คิดว่ามันจะหนักหนาสักเท่าไหร่นัก ทว่าพอได้เจอกับตัวเองแล้ว ผมก็เข้าใจสิ่งที่คนพวกนั้นพูดมาทันที

แค่คิดว่าจะต้องแบกมันกลับในสภาพอย่างนี้ ผมก็เหนื่อยแล้ว

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลากมันกลับไปให้ได้ เพราะยังไงเสีย วันนี้มันก็ทำดีกับผมหลายอย่าง ทำให้ผมรอดจากการถูกหาเรื่อง ทำให้ผมได้เจอสังคมใหม่ๆ แม้ว่าจะต้องเห็นกระปู๋เพื่อนมันละลานตาก็ตาม มันก็ไม่ใช่วิถีชีวิตที่ผมชอบสักเท่าไหร่หรอก ทว่าก็ต้องขอบคุณมันที่ใส่ใจผมถึงขนาดนี้

และการที่ผมบ่นไปเมื่อครู่ก็ทำให้คชายิ้มพร้อมกับดวงตาปรือๆ
“อดทนหน่อยน่า เพื่อพลังแห่งมิดตะพาบ...” พูดเสียงยานคาง หัวเราะร่วนอะไรของมันก็ไม่รู้
ผมถอนหายใจ ไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับคนเมาอย่างมันแล้ว ก่อนจะลูบหลังมันต่ออีกหน่อย
“แล้วอ้วกพอหรือยังเนี่ย ถ้าพอแล้วจะได้ไปล้างหน้าล้างตา”

คชาพยักหน้ารับ ผมเลยจัดการเอาแขนมันมาพาดคอ พยุงให้มันลุกขึ้นจากพื้นห้องน้ำ เดินตรงไปที่อ่างล้างมือเพื่อที่จะให้มันได้ล้างหน้าล้างตา ยังดีที่มันพอยืนด้วยตัวเองได้ ผมเลยปล่อยให้มันเกาะขอบอ่างล้างมือไว้ ส่วนตัวเองก็เปิดน้ำแล้ววักมาล้างหน้าให้คชา

“อาวอีก ร้อน อาวมาอีก...” คชาส่งเสียงยานคาง โยกตัวไปมา หัวเราะร่าอย่างกับคนบ้า
ผมที่ล้างหน้าให้อยู่ทำอะไรไม่ถนัดเลยต้องออกปากดุ
“อยู่เฉยๆ สิ”

ไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้มันเริ่มเต้นแล้วด้วยเมื่อได้ยินเสียงเพลงจากด้านนอกลอยเข้ามาในห้องน้ำ ผมมองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ผละออกไปดึงกระดาษทิชชู กะว่าจะเอามาซับหน้าให้มัน ทว่าก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคชาที่ยืนโยกไปมาวักน้ำชโลมร่างกายตัวเองพร้อมกับเริ่มถอดเสื้อ

“อยู่ในปาร์ตี้ร้อนดั่งกะไฟเออร์...วู้!”

ไม่เต้นอย่างเดียว แหกปากร้องตามเพลงเสียงดังด้วย เสื้อที่ถอดออกตอนนี้ก็เอามาสะบัดควงรอบหัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไอ้ร้องกับเต้นเพราะเมายังพอเข้าใจได้ แต่...

มึงจะแก้ผ้าทำไม! ถอดเสื้อหาเตี่ยมึงเหรอไอ้คชา!

เมาแล้วแก้ผ้า... เคยแต่ได้ยินเขาเล่ากันมาขำๆ เพิ่งจะเคยเจอะเคยเจอกับตาตัวเองเป็นครั้งแรกในชีวิตก็ตอนนี้

แค่เสื้อคงยังไม่สาแก่ใจ แม่งปลดเข็มขัดกางเกงแล้ว ทำเอาผมรีบเข้าไปห้ามมันแทบไม่ทัน
“แก้ผ้าทำบ้าอะไร อย่าถอด!” ผมโวยวาย
คชาหัวเราะร่วน มองหน้าผม “ไม่อยากเห็นเหรอมึง เถาวัลย์อันเท่าแขน”

มึงพิการเหรออันเท่าแขนเนี่ย!

เออ ของมันก็มหึมาจริง แต่มันใช่เวลามาพูดเรื่องนี้หรือเปล่าวะ!

“อันเท่าไหนก็ช่างเถอะ เอาเป็นว่าอย่าถอด ห้ามถอดที่นี่”
“แต่ถอดที่ห้องได้ใช่ป้ะ” ถามด้วยน้ำเสียงยียวน ตัวโงนเงนไปมาขณะที่ผมพยายามจะใส่เข็มขัดมันให้เข้าที่เหมือนเดิม
“เออ จะถอดที่ไหนก็ถอดไป แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่” บ่นแล้วก็จับมันใส่เสื้ออีก

กูนี่พี่เลี้ยงคนบ้าชัดๆ เลย!

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 10: เหล้าร้อน...ร้อนเร่า[2]

กว่าจะพาคชาที่เมาได้ที่ออกจากห้องน้ำได้ก็ทุลักทุเลมากทีเดียว ดีที่เพื่อนๆ ของคชาพอเห็นว่ามันเมาหมดสภาพก็อาสาช่วยผมพาคชาขึ้นแท็กซี่กลับมาส่งที่หอ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับหอใครหอมันบ้าง ผมเพิ่งรู้ในตอนนี้แหละว่าพวกเพื่อนมันไม่มีใครขับรถมาเองสักคน อารมณ์แบบว่าเตรียมพร้อมเมากันเต็มที่มาก เมาไม่ขับอะไรอย่างนั้น

แต่มันไม่ได้สำคัญเลยแม้แต่น้อยเมื่อผมปรายตามองคชาที่นอนแผ่หลาบนเตียง หัวเราะบ้าบอคอแตกประหนึ่งเมากัญชาแล้วก็ต้องถอนหายใจ

เลอะเทอะเละเทะ... พูดได้เต็มปากเลย

สภาพของคชาในตอนนี้นี่ ความหล่อหดหายไปหลายเท่า คือมันก็ยังหล่อแหละ แต่มันดูไม่เป็นผู้เป็นคนน่ะ
ตอนมันยังสติสมบูรณ์ยังบ้าๆ บอๆ ตอนเมานี่ไม่ต้องพูดเลย

แล้วก็ตกเป็นหน้าที่ผมอีกจนได้ที่ต้องจับมันเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะไม่ต้องการให้มันใส่ชุดเหม็นเหล้าเหม็นบุหรี่มานอนบนเตียง
“คชา ลุกขึ้นมาก่อน เดี๋ยวเราเปลี่ยนเสื้อให้” ผมพูดพลางตรงไปรั้งตัวมันขึ้นนั่ง
คชาลุกขึ้นนั่งโงนเงน ดวงตาเหลือบมองผมที่กำลังแกะกระดุมเสื้อมันออกอยู่
“ฮั่นแน่ กูหล่อลากน่าปล้ำล่ะสิ จะทำมิดีมิร้ายกูเหรอไอ้เอ๋อ”

ใครมันจะไปปล้ำมึงวะ กูก็กลัวจะติดเชื้อบ้าเป็นนะเว้ย!

“หุบปากแล้วนั่งนิ่งๆ ไปเลย” ผมขมวดคิ้ว บอกเสียงแข็ง
ถอดเสื้อมันมาได้ก็โยนทิ้งไปบนพื้น ก่อนจะจัดการถอดเข็มขัด ปลดตะขอกางเกงมัน กะเปลี่ยนกางเกงให้ด้วยเพราะขากางเกงเปียกน้ำในห้องน้ำที่ผับไปหมด

หากแต่การที่ผมทำอย่างนั้น ทำให้คชามันยิ้มเจ้าเล่ห์
“จะปล้ำกูจริงๆ ด้วย โอ๊ย เสียตัวแล้ว เสียตัว”
ร้องอย่างนั้นแล้วก็ดีดดิ้นดุ๊กดิ๊ก ทำเอาผมกระชากเข็มขัดมันออกมาแล้วฟาดลงไปบนตัวมันไม่แรงนักทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้
พอถูกผมฟาด คชาก็ทำหน้าเจ็บปวดสะดีดสะดิ้ง
“โหดร้าย”

กูจะโหดร้ายกว่านี้ด้วยถ้ามึงไม่หยุดพูดพล่ามไปเรื่อย

แต่คชาสนไหมล่ะ...หึ ไม่ ทำเป็นเอนตัวลงนอนบนเตียงแผ่หลา
“ฟาดอีกสิขอรับท่านเจ้าคุณ”

เอาหวายแช่เยี่ยวไหมมึง จะฟาดให้ไม่เลี้ยง!

ผมสูดหายใจลึกๆ สงบสติอารมณ์ ก่อนจะตรงไปเข้าห้องน้ำ เอาผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาดแล้วเอาออกมาเช็ดตัวให้ คชาก็หัวเราะเมากัญชาในสภาพที่มีบ็อกเซอร์ตัวเดียวติดตัว เห็นอย่างนั้นแล้วผมก็สาบานกับตัวเองเลย

จะไม่ดื่มเหล้าร้อนอีกเป็นอันขาดถ้าดื่มแล้วบ้าเหมือนมันอย่างนั้นน่ะ
“นอนเฉยๆ เราเช็ดตัวให้ไม่ได้” ผมแหวเมื่อคชาเอาแต่ดิ้นไปดิ้นมา
คชาหยุดนิ่งไปจังหวะหนึ่ง ผมเลยเอาผ้าไปเช็ดที่หน้ามัน คชาปรือตามองผมพลางอมยิ้ม
“ดูแลกูดีจังวะ”
“เป็นรูมเมทเรานี่นา มันช่วยไม่ได้” ผมว่าส่งๆ
คชายิ้มกว้างกว่าเดิมอีก ก่อนที่จะพึมพำอะไรบางอย่าง
“ทำตัวน่ารัก เดี๋ยวกูจับกินนะมึง”
ผมชะงักพลัน “เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”

อันนี้ไม่ได้ยินจริงๆ เลยถามซ้ำ ทว่าคชาไม่ตอบแล้ว มันยื่นมือข้างหนึ่งมารั้งท้ายทอยผมหน้าตาเฉย ส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มมาให้ ก่อนที่ริมฝีปากหนาจะยกยิ้ม วินาทีนั้นผมรู้สึกทะแม่งๆ ขึ้นมาทันที ซึ่งลางสังหรณ์ของผมก็เป็นจริงเสียด้วยเมื่อจู่ๆ มันก็ดึงผมเข้าไปหา และ...

และจูบ!

โอ๊ยไอ้คชา! มึงทำแบบนี้กับกูได้ยังไง!

ไม่ใช่แค่จูบแบบธรรมดาด้วยนะ จูบแบบดูดดื่มหื่นกระหาย บดเบียดขบขยี้ อู๊ยยย มึงไปตายอดตายอยากจากที่ไหนมา!
ลิ้นอ่อนนุ่มถูกสอดเข้ามาในปากผม ผมก็ขืนตัวสุดแรงเกิด แต่ด้วยความที่ผมเองก็กรึ่มๆ และคชาก็แรงเยอะ ผมเลยสู้อะไรไม่ไหวสักเท่าไหร่นัก ไปๆ มาๆ จึงกลายเป็นว่าถูกมันจับกดลงนอนบนเตียงเสียอย่างนั้น ส่วนมันก็ขึ้นมาคร่อมผมไว้

ผมเบิกตาโต มองหน้ามันที่อยู่ใกล้เพียงคืบอย่างตกใจทันใด

“คะ...คชา เรารูมเมทนายนะ มาวินไงมาวิน จำเราไม่ได้เหรอ ไม่ใช่พี่ชิณณ์นะเว้ย”

รีบร้องเตือนสติ แต่คชาเมาปลิ้นไม่พอ ความหื่นยังเข้าครอบงำอีก ตอนนี้พรมจูบไปที่ซีกหน้าผมก่อนจะไต่ระดับต่ำลงไปยังใบหูและซอกคอ สัมผัสอ่อนโยนและแปลกใหม่สร้างความร้อนรุ่มในกายผมขึ้นมาทีละนิด ทวีมากขึ้นไปอีกเมื่อคชามันล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อ ใช้ปลายนิ้วรุกรานยังจุดอ่อนไหวบนหน้าอกของผม

อยู่ในปาร์ตี้ร้อนยังกับไฟร์เออร์ที่แท้จริง

มึงหยุดหื่นเดี๋ยวนี้เลย!

ดูท่าจะหยุดไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่แค่มือ หน้าก็เริ่มไต่ลงต่ำไปด้วย ปลายลิ้นละเลงลงมา ปลุกเร้าให้คนไม่ประสาเรื่องทางเพศอย่างผมต้องผวาเฮือก แอ่นหน้าอกตอบสนองการรุกล้ำของมันเสียอย่างนั้น

ตอบรับหนักหน่วงมากไปอีกเมื่อคชามันเริ่มล้วงเข้าไปในขอบกางเกง

ขอบกางเกง!?

ไอ้คชา! มึงต้องสร่างเดี๋ยวนี้!

ไม่ทันแล้ว เอื้อมมือห้ามมันก็ไม่ทัน ผมเองก็ไม่ได้ห้ามมันอย่างจริงจังด้วยแหละเมื่อส่วนกลางลำตัวถูกกอบกุมไว้ในมือใหญ่ ความรู้สึกแปลกใหม่ประดังประเดเข้ามาจนร่างกายผมอ่อนระทวยไปหมด แทบจะไม่สามารถควบคุมความต้องการทางธรรมชาติของตัวเองได้เลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังประคองสติไว้แทบไม่อยู่อีก ยิ่งปล่อยให้คชาทำอย่างนั้น ผมก็ยิ่งรู้สึกเหมือนใจจะขาดมากขึ้น
ลมหายใจหนักหน่วงหลุดออกมาจากปาก ก่อนที่จะต้องเกร็งจนมือเท้าจิกลงไปบนที่นอนเมื่อความวาบหวามอย่างรุนแรงเข้าเล่นงาน

ปะ...ไปแล้ว

เสียตัวให้ไอ้คชาแล้ว!

ยังหรอก ยังไม่เสีย แค่มือๆ

ผมได้แต่ปลอบใจตัวเองอย่างนั้น ก่อนจะต้องขมวดคิ้วหงุดหงิดทันควันเมื่อเห็นว่าพอผมถึงจุดสิ้นสุดปุ๊บ ไอ้คชามันก็หลับคาอกผมปั๊บราวกับว่ามันไม่รับรู้สิ่งที่มันทำไปเมื่อครู่เลยแม้แต่น้อย

มึงนี่เมาแล้วเนียนหื่นหน้าด้านๆ เลยนี่หว่า!

ผมจับมันพลิกตัวไปข้างๆ พอเห็นบริเวณกลางตัวของตัวเองเปียกชื้นก็ต้องยกขาถีบไอ้คนตัวการไปที ก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าประหนึ่งว่าเสียสาวเป็นที่เรียบร้อย

มีมลทินแปดเปื้อนไปแล้ว...

ไอ้คชา...มึง!
----------------------------------------
เป็นการเขียนฉากเลิฟซีนที่หาความโรแมนติกไม่เจอ 555
วงวารนุ้งมาวินมาก มีซะมีเป็นคนบ้า คช้าาา รับผิดชอบน้องด้วยนะแกรรร๊ ก๊ากกา
ความจริงแล้วลังเลมากว่าเรื่องนี้ควรจะมีเลิฟซีนดีไหม หรือตัดเข้าโคมไฟเหมือนช่างใจรักดีเพราะเป็นแนวใสๆ (เหรอ?) แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเขียนแล้วกัน แต่คงไม่ได้เยอะเหมือนเรื่องแนวอื่นๆ แค่กรุบกริบพอเป็นกระษัยนะคะ
ฝากฟีดแบ็กไว้ให้หน่อยจ้า พรุ่งนี้จะมาต่อให้ค่ะ

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
เป็นพระเอกที่จะเรียกพระเอกก็พูดไม่เต็มปาก แต่ให้เรียกอีบ้าถนัดมากค่ะ 5555555555555555  :hao7:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
คชา. อิผีบ้า. โอ้ยยยย ปวดหัว ถ้าเจ้เป็นน้อง เจ้คงประสาทกิน 555

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตามไปช่วยนายเอกตอนมีอันตรายได้ทันเวลา !!!!  ได้จับกระเปี้ยว เปิดซิงนายเอกเป็นคนแรก !!!!!!   โอ๊วววววววว!!!!!!!!!!!!!'!!!! คชา นายนี่มันพระเอกชัดๆ :laugh: :laugh:                                                                                               

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
อ่านแล้วฮา
คชาบ้าบอเกินไปนิดแต่มีเสน่ห์ (แบบล้นๆ) ดีค่ะ :hao6:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ somakimi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
 :pigha2: สนุกค่ะพระเอกน่ารักมาก555

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
55555. มาต่อๆ ไม่เคยเจอพระเอกแบบไหนแบบคชาเลย

ออฟไลน์ yotisssa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คชานี่มันคชาจริงๆเลยยย
ติดงอมแงมกับป่วงของคชาเลยนะเนี่ยย
เป็นคู่ที่เคมีเข้ากันลงตัวสุดๆอ่ะ
ชอบๆ เรานี่ตั้งใจรอทุกวันเลย
รีเฟรชหน้าวันละห้าหกรอบ ด้วยความหวังว่าเผื่อไรต์จะใจดี งุงิ
 :katai4: สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
อิคช๊าาาา จะได้กินวินมั้ยเนี่ย โอ้ย 555

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 11: รหัสรักนักศึกษา[1]

ความอัปยศที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคชาเมื่อคืนนี้ทวีมากขึ้นไปอีกเมื่อผมเอาผ้าชุบน้ำมาทำความสะอาดมือที่เปรอะเปื้อนของคชาและถอดเสื้อผ้า เหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์เป็นที่เรียบร้อย พลันก็ดันหลับไปโดยไม่รู้ตัวทั้งที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำ กลับมามีสติอีกทีก็ตอนเช้าของวันใหม่

ไม่...ไม่ใช่เช้า เกือบจะเที่ยงแล้วเถอะ กลายเป็นโดดเรียนคาบเช้าไปโดยปริยายเลย

ผมคว้าโทรศัพท์มาดูก่อนจะสบถหยาบคายออกมาคำหนึ่ง แล้วก็ต้องนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยยังคงมึนหัวจากฤทธิ์ของเหล้าร้อน B-52 อะไรนั่น

ไม่เป็นไร ไว้ค่อยไปเข้าคาบบ่ายก็ได้ ผมไม่ค่อยได้ขาดเรียนวิชาคาบเช้าวันนี้สักเท่าไหร่ ขาดสักครั้งคงไม่เป็นไร

คิดอย่างนั้นแล้วก็หลับตาลงไปอีกครั้ง กะว่าจะนอนอีกสักงีบเพื่อให้อาการเมาค้างบรรเทาลง หากแต่ยังไม่ทันจะได้หลับก็ต้องลืมตาตื่นอีกครั้งทันทีที่คนข้างกายผมรู้สึกตัวตื่นขึ้น

“อะ...อะไรวะเนี่ย”

ผมหันไปมองตามต้นเสียงทันที ก่อนจะเห็นคชาดึงผ้าห่มที่คลุมกายตัวเองอยู่ขึ้นดูร่างกายด้านใน สีหน้างุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ให้ผมเดานะ มันคงจะงงว่ามันมาอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย ทั้งตัวมีบ็อกเซอร์อย่างนี้ได้ไง จากนั้นก็เหลือบมามองทางผม พอเห็นผมนอนมองมันอยู่ มันก็อ้าปากค้างทันที

“ระ...หรือว่าเมื่อคืนนี้มึงกับกูจะ...”

รู้เลยว่ามันคิดอะไร ผมเลยดันตัวขึ้นนั่ง รีบออกปากอธิบาย

“คชาฟังเราก่อน มันไม่ใช่อย่างที่นายคิด เมื่อคืนนี้นายเมามาก เราก็เมา มันก็เลย...”

“กรี๊ดดด!”
พูดยังไม่ทันจบเลย คชาก็กรี๊ดออกมา กรี๊ดจริงๆ กรี๊ดเสียงแหลมเป็นเปรตเลย แถมใช้แขนทั้งสองข้างมาไขว้ที่หน้าอกปิดนมล่ำๆ เป็นมัดๆ ของมันด้วย

มึงจะกรี๊ดทำบ้าอะไร คนที่ควรกรี๊ดน่ะกูต่างหากเว้ย!

เท่านั้นยังไม่พอ เห็นผมยกมือขึ้นทำท่าจะบอกให้มันฟังก่อน มันก็ร้องโวยวายออกมา
“เสียตัวแล้ว! โอ๊ย เสียตัวให้มึงแล้ว!”

กูต่างหากที่เสียตัวให้แม่นางทั้งห้าของมึงเนี่ย!

“เราไม่ได้ทำอะไรนายเลยเว้ย!” ผมเสียงดังกลับไปบ้าง

คชาชะงักไปนิด พลันถามผมด้วยสีหน้าไม่มั่นใจนัก
“จริงนะ?”
“จริง มีแต่นายนั่นแหละที่ทำเรา”
พอพูดไปอย่างนั้น หัวคิ้วของคชาก็ย่นยู่
“ทำอะไร”
“ก็...” ผมหน้าร้อนวาบขึ้นมาเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปดีไหมเพราะไม่อยากจะคิดถึงมันเลยแม้แต่น้อย

แต่ไม่พูดก็เท่านั้น เพราะคชาเหมือนจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้กะทันหัน พลันดึงมือที่ปิดนมตัวเองอยู่มาตรงหน้า
“อย่าบอกนะว่า...” มองมาทางผมอย่างขอคำตอบประมาณว่า ‘มือนี่ใช่ไหม’

ผมพยักหน้ารับ เท่านั้นคชาก็ดึงมือเข้าไปดม

มึงจะดมทำซากอ้อยอะไร!

ห้ามก็ไม่ทัน อะไรก็ไม่ทันทั้งนั้น คชาทำหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจริง พลันถลาเข้ามาหาผมพร้อมกับยื่นมือนั่นมาจ่อที่จมูกผมอย่างรวดเร็ว

“มึงช่วยดมหน่อยสิไอ้เอ๋อ กลิ่นแบบนี้กูไม่แน่ใจ”

มึงจะบ้าหรือไง!

ผมปัดมือคชาทิ้งทันที โวยวายใส่มันด้วย
“ไม่ต้องดมมันก็ใช่เว้ย เมื่อคืนนี้นายปล้ำเรา แล้วก็ทำเราเสร็จ นึกอะไรขึ้นมาได้ในหัว มันใช่หมดเลย!”

คชาชะงักไป ยังคงดูไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ดี แต่ก็ไม่หยุดพิสูจน์กลิ่นด้วยการดมฟุดฟิดที่มือไม่หยุด ผมเห็นแล้วก็หน้าร้อนวูบขึ้นมา

ร้อนวูบเพราะมันทำแบบนั้นกับคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนน่ะ นึกโกรธตัวเองขึ้นมาเหมือนกันที่เผลอเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของคนบ้าอย่างไอ้คชาอย่างนั้น แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่ามันรู้สึกดี

รู้สึกดีจริง...แต่มึงต้องไม่รู้สึกกับผู้ชายด้วยกันอย่างนั้น!

ผมยีหัวตัวเองโดยอัตโนมัติ คชาที่มัวแต่ดมมืออยู่หันมามองผมทันใด ก่อนจะถามย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ทำจริงๆ เหรอวะ”
“พูดจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว เออ ทำจริง” ผมว่าส่งๆ หัวเสียขึ้นมาหน่อยๆ พอสติสัมปชัญญะกลับคืนมาเต็มร้อยดี

คชาเองก็คงจะอึ้งงันกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน ก็แน่ล่ะ มันก็คงไม่คาดคิดเหมือนกันว่าผมกับมันจะมาทำอะไรกันอย่างนี้ อีกอย่าง มันคงจะรู้สึกผิดกับพี่ชิณณ์ด้วยที่เผลอไผลกับผม ขนาดผมเองยังรู้สึกผิดกับคชาเลย
“เรื่องเมื่อคืนนี้เราขอโทษนะ”

เพราะรู้สึกผิดก็เลยพูดอย่างนั้นออกไป ทำเอาคชาถามกลับทันใด
“ขอโทษทำไมวะ”
“ก็นายชอบพี่ชิณณ์ กำลังจีบพี่ชิณณ์อยู่ พอมาทำอะไรแบบนี้กับเรา นายคงรู้สึกผิด” ผมว่าไปตามที่คาดการณ์ไว้

หากแต่การที่ผมคิดอย่างนั้นเป็นการคาดหมายที่ผิด คชาไม่ได้รู้สึกผิดกับพี่ชิณณ์แต่อย่างใด หรืออาจจะรู้สึกผิดแต่ไม่แสดงออกก็ได้ เพราะตอนนี้มันขยับมานั่งข้างๆ ผมแล้วพูดปลอบแทน

“ไม่เป็นไรหรอกไอ้เอ๋อ ผู้ชายด้วยกันไม่เสียหาย แล้วตอนนี้พี่ชิณณ์ก็ไม่ได้เป็นแฟนกูด้วย ทำไมต้องรู้สึกผิด”
ผมหันไปมองหน้า ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างมันจะพูดอะไรแบบนั้น แต่แล้วก็ต้องชะงักงันไปอีกเมื่อมันเอามือมาวางไว้บนหัวผมก่อนออกแรงเขย่าเบาๆ

“กูต่างหากที่ต้องขอโทษมึงน่ะ เมื่อคืนนี้เมามากไปจริงๆ ว่ะ เลยทำอะไรไม่ทันได้คิด ไม่โกรธกูนะ”

ผมพยักหน้า ไม่รู้ทำไมถึงตอบรับไปง่ายๆ แถมตอนนี้ยังไม่กล้าสบตาคชาที่มองหน้าผมนิ่งอีกต่างหาก

ในใจมัน...เต้นตึกตักรุนแรงเลยทีเดียว

เออ เอาเป็นว่าผมตื่นเต้นกับการกระทำของคชา อาจจะเป็นเพราะถูกมันสัมผัสตัวหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นก็ได้เลยตื่นเต้นอย่างนี้ พลันผมก็สลัดความรู้สึกนั้นทิ้งไป แล้วเอ่ยถามมันออกมา

“แล้วนายจะเอาไงต่อ”
“เรื่อง?” ตอนนี้มันดึงมือออกจากหัวผมแล้ว
“เรื่องพี่ชิณณ์น่ะ เอายังไงต่อ จะบอกพี่ชิณณ์ไหมว่าเราทำอะไรกัน” ผมถามอย่างนี้ก็เป็นเพราะอย่างที่บอกในตอนแรกว่ากลัวมันจะรู้สึกผิดต่อพี่ชิณณ์

ทว่าคชากับทำหน้าตาไม่รู้สึกรู้สา
“ก็ไม่เอาไงอะ ถ้ามึงอยากบอกก็บอก ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก กูบอกแล้วไงว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกัน กูจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่แล้ว”

ได้ยินอย่างนี้ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร

คชาอาจจะไม่อยากทำให้ผมรู้สึกแย่กว่าเดิมก็เป็นได้ หรือไม่งั้นมันก็ไม่อยากจะรู้สึกผิดเพราะเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเป็นคนเริ่ม มันเลยหาเหตุผลมาสนับสนุนการกระทำของตัวเองอะไรประมาณนั้น

ขณะที่ผมคิดวิเคราะห์การกระทำของมันอยู่ มันก็พูดแทรกเรื่องอื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น
“แล้วนี่มึงจะไปเรียนปะ เที่ยงกว่าแล้วเนี่ย”
“ไม่รู้สิ” ผมตอบไปตามตรง

คชาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเหมือนเดิมพลางพูด “กูว่ากูจะไม่ไปละ ถ้ามึงไม่ไป ก็นอนกับกู”
ผมหันขวับไปทันที มันเลยรีบแก้คำพูด
“นอนเฉยๆ คิดอะไรของมึงเนี่ย ลามก”

มึงนั่นแหละที่ลามกน่ะไอ้หื่น!

ผมไม่พูดอะไร ครุ่นคิดว่าจะเอายังไงดี ก่อนคชาจะเอ่ยเสริมขึ้นมาอีกเพื่อให้ผมได้ตัดสินใจง่ายๆ
“ถ้ามึงไม่ไปเรียน เดี๋ยวเย็นๆ ก็ออกไปพร้อมกับกูเลย”
“ไปไหน” ผมเลิกคิ้วสูงขึ้นฉับพลัน
“ไปทำงาน กูบอกแล้วไงว่าจะพามึงไปหางานติวเตอร์ จำไม่ได้หรือไงว่ากูบอกว่าทำงานพิเศษอะไรน่ะ”

คำพูดของคชาที่บอกกับผมในห้องน้ำห้างเมื่อวานนี้ลอยเข้ามาในหัวทันที ก่อนจะพยักหน้ารับหงึกหงักให้คชาได้พูดต่อ
“กูเป็นติวเตอร์ที่รับงานจากสถาบันติวเตอร์อีกที ที่นี่จะส่งพวกติวเตอร์ไปสอนตามโรงเรียน ถ้ามึงอยากทำแบบกู มึงจำเป็นต้องมีประสบการณ์ก่อน กูเลยกะว่าจะพาไปเป็นผู้ช่วยกูอะไรแบบนี้ ถ้ามึงไม่อยากถูกหักเปอร์เซ็นต์ อยากหางานเองก็ลุยเดี่ยวไป แต่ถ้าทำแบบกูก็สบายดี มีงานป้อนให้ตลอด จะเอาแบบไหนล่ะ”
“เราไม่รู้เรื่องวงการนี้เลย คงต้องพึ่งนายดูแลไปก่อน” ผมตอบ
คชาพยักหน้ารับ จากนั้นก็ปิดเปลือกตาลง
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวกูดูให้ แล้วเดี๋ยวจะช่วยพูดกับพี่ที่ป้อนงานให้รับมึงเข้าสถาบันด้วย ถือว่าไถ่โทษเรื่องเมื่อคืน”

คชาพูดมาอีก ผมก็หน้าร้อนมากขึ้นไปอีก ไม่อยากจะคิดถึงสักเท่าไหร่หรอกนะ แต่มันก็อดไม่ได้ ทั้งสัมผัส ทั้งรสจูบของคชา มันฝังติดหัวผมชนิดหยั่งรากลึกลงไปเรียบร้อยแล้ว หากแต่คชาดูไม่ใส่ใจเท่าไหร่ นอนนิ่งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือเรื่องที่เกิดมันเป็นเรื่องธรรมดาเสียเหลือเกิน ผมเลยแสร้งทำเฉยเพราะไม่รู้ว่าจะแพนิกไปให้มันได้อะไร

ก็อย่างว่า มันคงจะเป็นเรื่องธรรมดาของคชาแหละ มันเป็นเกย์นี่นาถึงจะไม่ได้เปิดเผยตัวก็เถอะ ดูแล้วน่าจะทำเรื่องอย่างนี้มาบ่อย ไม่อย่างนั้นมันคงโวยวายที่ทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายด้วยกันไปแล้วแม้ว่าจะเป็นแค่ภายนอกก็ตาม
ทว่าการที่ผมนั่งนิ่งไปทำให้คชาถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“เรื่องระหว่างมึงกับกูเมื่อคืนนี้น่ะ มึงเสียใจเหรอวะ”

เสียใจเหรอ... ก็ไม่นะ แค่รู้สึกแปลกๆ แต่ก็ไม่ได้ดีใจอะไรสักเท่าไหร่

ผมไม่รู้ตอบว่ายังไงดีเลยพยักหน้ารับไป คชาเม้มปากแน่นไปครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำออกมา

“แต่กูไม่เสียใจหรอกนะ”
“อะไรนะ” ถามไปอย่างนั้นเพราะได้ยินไม่ชัด

คชาสบตาผมนิ่งเล็กน้อยก่อนหันหน้าไปด้านข้าง ว่าเสียงเบา “ไม่มีอะไร”

ท่าทางแปลกๆ ของคชาทำเอาผมต้องจ้องมันอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าซีกหน้าของคชาแดงเรื่อขึ้นมา เห็นได้ไม่ชัดสักเท่าไหร่ แป๊บเดียวคชาก็รีบเอาผ้าห่มคลุมโปงแล้ว

“กูจะนอนแล้ว ยังเมาค้างอยู่ เดี๋ยวตอนเย็นไปสอนไม่ไหว ถ้าออกไปข้างนอกก็ฝากซื้อข้าวมาให้กูด้วย เอาอะไรก็ได้”

ร่ายยาวออกมาเชียว ผมเลยเลิกสนใจมัน รับปากเออออไปก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำอาบท่า กลับมานอนเล่นอีกครู่หนึ่งก่อนจะออกไปหาอะไรกินพร้อมกับจัดการซื้อกลับมาฝากมัน แล้วรอจนกว่าจะถึงเวลาที่คชาต้องไปสอนหนังสือ



 
สักบ่ายสาม คชาก็ให้ผมเตรียมตัวแล้ว มันบังคับให้ผมใส่ชุดนักศึกษาเนื่องจากว่าสถานที่ที่จะไปสอนเป็นโรงเรียน ดังนั้นความสุภาพเรียบร้อยจึงเป็นสิ่งสำคัญ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ทำตามมันแต่โดยดี รำคาญนิดหน่อยตรงที่มันเสนอหน้ามาเซ็ทผมให้ผมทั้งที่ผมไม่ต้องการ

“ไม่ต้องแล้วคชา เราไม่ชอบ” ผมร้องท้วง หากแต่ไม่ได้ทำให้คชาหยุดมือที่กำลังใส่แว็กซ์ได้เลยแม้แต่น้อย
“ไม่ชอบก็ต้องทน กูไม่ยอมให้ผู้ช่วยกูดูเฉิ่มหรอกนะ มันทำให้ราศีความหล่อของกูดร็อป”

ผมเบ้ปาก ไม่อยากจะด่ามันหรอกว่าหลงตัวเองเพราะมันก็หลงตัวเองทุกวันจนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว แต่มันก็หล่อจริงๆ แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย เซ็ทผมเต็มยศราวกับว่าจะไปทำหน้าที่ทูตกิจกรรมของมหาวิทยาลัยอะไรอย่างนั้น

ตกลงมึงจะไปสอนพิเศษหรือทำอะไรกันแน่...

อยากจะถามมันอย่างนี้ชะมัด ทว่าคชาก็ดันจัดแต่งทรงผมให้ผมเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว ส่งกระจกดูดิ”

ผมเดินไปส่องกระจกที่ตู้เสื้อผ้าอย่างไม่มีทางเลือก แล้วก็ต้องรู้สึกว่าตัวเองดูแปลกตาไปนิดหน่อยจากทรงผมที่เปลี่ยนไป คชาจับผมแต่งตัวให้ดูดีขึ้นได้ราวกับมีเวทมนตร์จริงๆ ทว่าผมกลับไม่ค่อยชอบเอาเสียเลย แบบว่ามันทำให้ผมประหม่าน่ะถึงมันจะดูดีก็ตาม

“เราว่าเราทำผมธรรมดาไปดีกว่า”
เพราะประหม่า ผมเลยตัดสินใจอย่างนั้น ตั้งท่าจะเข้าไปล้างแว็กซ์ที่ห้องน้ำด้วย ทว่าคชากลับมาดักหน้าไว้เสียก่อน

“ตลกละ กูอุตส่าห์เสียเวลาตั้งนาน ไม่ให้ไปเว้ย”
“แต่เราไม่ชินนี่” ผมท้วงอีก

คชาเลยจับไหล่ผมทั้งสองข้างหมับเข้าให้
“ไม่ชินแต่หล่อ น่ารัก ดูดี สดใส ไร้ที่ติ สติก็ไม่มี เอาเป็นว่ากูชอบ”

พูดบ้าอะไรของมันก็ไม่รู้ จากนั้นก็จับผมให้หันหน้าไปทางประตู

“กูไม่มีเวลาให้มึงไปล้างหัวล้างหูแล้วด้วย จะสี่โมงแล้ว คลาสเริ่มห้าโมง รีบไป เดี๋ยวสายแล้วถูกหักตังค์”
แล้วก็ดันหลังผมออกจากห้องไปเลยโดยไม่ฟังคำทัดทานของผมเลยแม้แต่น้อย ผมก็เหนื่อยจะเถียงกับมันแล้วเลยปล่อยให้เลยตามเลย




 
คชาพาผมขับรถมายังโรงเรียนแห่งหนึ่ง ตอนแรกผมก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะเป็นโรงเรียนแบบไหนเพราะถ้าเป็นโรงเรียนสหฯ ผมจะต้องได้พบเจอกระเปี๊ยวเด็กอีกมากมายอย่างแน่นอน ทว่าเห็นป้ายชื่อโรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงเรียนหญิงล้วน ผมก็หายใจโล่งอกโล่งคอทันควัน

สายตากูปลอดภัยจากดงแตงกวาแล้วล่ะสินะ

ตอนนี้ความกังวลในตอนแรกคลายตัวลงทันที พลันหูก็ได้ยินเสียงคชาร้องถามขณะที่เราเดินไปที่ห้องเรียนของนักเรียนชั้นมอหกที่จะต้องสอนในวันนี้

“มึงลาออกจากงานเก่าแล้วใช่ไหม”
“งานทำความสะอาดน่ะเหรอ ยังหรอก”
พอผมบอกไปอย่างนั้น คชาก็หยุดเดินกึก หันมามองหน้าผมอย่างไม่พอใจ
“ทำไมยังไม่ลาออกอีกวะ กูบอกให้ลาออกไง”
“เรายังหาเหตุผลในการลาออกไม่ได้น่ะ” ผมยอมรับซื่อๆ

นอกจากจะเป็นคนเข้าสังคมไม่เก่ง ปฏิเสธคนไม่ค่อยเป็นแล้ว ยังจะกังวลกับความรู้สึกคนอื่นมากเกินไปอีกด้วย
นิสัยอย่างนี้น่าจะไม่เป็นที่ชอบใจของคชาสักเท่าไหร่ พอมันได้ยินผมพูดอย่างนี้ก็ยื่นมือมาแบตรงหน้าผมทันที
“เอามา”
“เอาอะไร”
“โทรศัพท์มึงน่ะ เอามา”
“จะเอาไปทำไม”
“เดี๋ยวกูโทรไปลาออกให้”

ผมไม่อยากจะให้มันเลย กลัวว่ามันจะพูดอะไรแปลกๆ แต่พอผมยืนนิ่ง มันก็ขู่ออกมา
“ถ้าไม่ให้ คืนนี้กูปล้ำนะ”

ป้ามึงเถอะ!

“ตลกละ ใครจะไปยอม”
“ไม่ยอมก็ต้องยอม ไม่อยากเป็นเมียกูก็เอาโทรศัพท์มา”

ผมก็ดันบ้าจี้ไปกับคำขู่นั้นด้วยนะ ยื่นโทรศัพท์ให้มันหน้าตาเฉย แบบว่าผมไม่อยากจะเอาความบริสุทธิ์ผุดผ่องของตัวเองไปเสี่ยงกับความบ้าของคชาน่ะ แค่เห็นมันสะสมหนังโป๊เกย์ แล้วทำเรื่องนั้นกับผมเมื่อคืน ผมก็เชื่อเลยว่าถ้ามันคิดจะทำขึ้นมา มันไม่สนใจอะไรอย่างแน่นอน

พอได้โทรศัพท์จากผมไป มันก็เข้าไปที่สมุดรายชื่อ ปากร้องถามไปด้วย
“หัวหน้างานมึงชื่ออะไร”
“ไม่ได้เมมชื่อน่ะ เมมแค่ว่าพี่หัวหน้า” ผมตอบเสียงแผ่ว

คชากดโทรศัพท์โทรออก ผมมองตามอย่างลุ้นระทึกเลยเพราะไม่รู้ว่ามันคิดจะทำอะไร พออีกฝ่ายรับ มันก็แกล้งเก๊กเสียงหล่อเสียอย่างนั้น

“สวัสดีครับ ใช่หัวหน้ามาวินหรือเปล่าครับ พอดีผมจะขอแจ้งว่ามาวินจะลาออกน่ะครับ”
อีกฝ่ายพูดอะไรมาก็ไม่รู้ น่าจะถามเหตุผลเพราะคชามันตอบว่า...
“อ๋อ คือมาวินไปทำงานอย่างนั้น ผมกลัวว่ามาวินจะป่วยน่ะครับ เลยจะเอากลับมาเลี้ยงดูเอง”

พูดอย่างกับว่ากูเป็นหมาอย่างนั้นแหละ

ผมก็ไม่พูดอะไร ยืนมองว่ามันจะว่ายังไงต่อ หัวหน้าน่ะไม่มีปัญหาหรอกถ้าผมจะลาออก เขามีคนพร้อมที่จะเข้ามาทำงานแทนที่ผมเยอะแยะ แต่ดูท่าจะขอข้อมูลไปประกอบในการทำเอกสารลาออกเพื่อแจ้งไปทางผู้บริหาร แล้วก็ดูเหมือนจะถามคชาด้วยว่าเป็นอะไรกับผมเพราะเห็นมันอึกอักไป

“ผมน่ะเหรอ... อ๋อ เป็นผัวมาวินครับ”

ไอ้คชา! มึงพูดอย่างนั้นไปได้ยังไง!

อ้าปากค้างไปเลย คชาพูดอีกสองสามประโยคก็วางสาย ตอนนี้แหละที่ผมได้โอกาสแหวใส่มัน
“พูดบ้าอะไรของนายน่ะ เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจเราผิดหมดหรอก ทำไมไม่บอกว่าเป็นอย่างอื่น”
“แล้วจะให้กูบอกว่าเป็นพ่อมึงหรือไง เสียงหล่อขนาดนี้ เป็นผัวยังเข้าเค้ากว่า”

เป็นเพื่อนก็ได้ไหมไอ้คชา! โอ๊ย สมองมึงเนี่ยนะ

“แต่เขาจะเข้าใจเราผิด”
ผมสวนคืน หากแต่คชาทำท่าไม่ยี่หระ

“เข้าใจผิดก็เข้าใจผิดสิวะ ต้องแคร์ด้วยหรือไง ยังไงมึงก็ลาออกมาแล้ว ไม่เห็นต้องสน”

มันก็พูดถูก ลาออกมาแล้วไม่เห็นจำเป็นต้องสนใจ แต่ผมไม่โอเคไงที่จู่ๆ มันก็เที่ยวบอกคนอื่นว่าเป็น...ผะ...ผัวของผม

กระดากปากก็กระดาก อิหลักอิเหลื่อก็ใช่ รู้ชัดเจนในตอนนี้เลยว่านอกจากมันจะบ้าแล้ว คชายังเป็นคนไม่ค่อยสนใจว่าใครจะมองตัวเองยังไงสักเท่าไหร่ เว้นเพียงเรื่องเดียวคือเรื่องที่มันบ้าพระเอกหนัง GV ที่ต้องปิดไว้เป็นความลับด้วยเรื่องหน้าที่ทูตกิจกรรมหนุ่มหล่อสุดเพอร์เฟ็กต์ของมัน ถ้าคนอื่นรู้ มีหวังคะแนนความนิยมของมันตกแน่นอน แต่ถ้ามันไม่ต้องทำหน้าที่นี้ ผมก็เชื่อเลยว่ามันก็คงจะไม่สนใจเหมือนกันถ้าใครจะรับรู้เรื่องนี้

“เสร็จเรื่องแล้วก็ไปสอนสักที ใกล้จะได้เวลาแล้ว”

คชาขัดความคิดของผมด้วยการโพล่งขึ้นแล้วส่งโทรศัพท์คืน ผมรับมาแล้วรีบกดบล็อกเบอร์หัวหน้าและเพื่อนที่ทำงานเก่าทันทีด้วยต้องการเป็นบุคคลหายสาบสูญจากการที่คชาพูดไปแบบนั้น ก่อนจะเดินตามร่างสูงที่ก้าวฉับๆ นำไปก่อนอย่างรวดเร็ว

ออฟไลน์ NooDangzz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-8
สบตา ครั้งที่ 11: รหัสรักนักศึกษา[2]

การเรียนการสอนของคชาเป็นไปอย่างราบรื่น คชาที่ว่าผีบ้า พอมือจับปากกาไวท์บอร์ดก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน ดูวิชาการ แถมหล่อล่ำมาดแมนแฮนด์ซัมอย่างไม่น่าเชื่อ ไร้คราบคนบ้าอย่างสิ้นเชิง แล้วดูนักเรียนสาวๆ จะชอบมันเสียด้วย เอะอะแซว เอะอะกรี๊ดกร๊าด

กรี๊ดกร๊าดแค่มันยังไม่พอ ลามมาถึงผมด้วย มีชมว่าน่ารักอีก ผมที่เกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยมีใครมาพูดอย่างนี้ใส่ก็ไปต่อไม่ถูก มีแต่คชาเท่านั้นที่รับมือกับเด็กพวกนั้นได้อย่างไม่มีติดขัด ผมเลยแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรมันนอกจากหยิบของแล้วก็ช่วยเขียนกระดานให้เป็นบางครั้งเท่านั้น

เอ้อ ผมเพิ่งรู้ในตอนนี้ด้วยว่ามันเก่งวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งพูด ทั้งเขียนปร๋อเชียว เห็นมันเรียนวารสารฯ ไม่ยักคิดว่ามันจะภาษาดีด้วย เห็นความสามารถมันแล้ว ผมต้องมองมันใหม่เลยทีเดียว

สอนแค่ชั่วโมงครึ่งก็เป็นอันเสร็จสิ้น ยอมรับเลยว่าผมเองก็สนุกไม่น้อยกับการเป็นผู้ช่วยติวเตอร์อย่างนี้ ดูเป็นงานที่ง่ายสำหรับเด็กนักศึกษาอย่างผม คชาเลยโทรไปบอกคนป้อนงานให้ว่ามีเพื่อนอยากจะได้งานวิชาสังคมเพราะผมบอกมันไปว่าผมถนัดวิชานี้เนื่องจากเรียนนิติฯ ทางพี่คนป้อนงานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร รับปากแล้วนัดผมเข้ามาสัมภาษณ์ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่จะถึง ระหว่างนี้ก็ให้ผมช่วยคชาสอนไปก่อนเพื่อเป็นการเรียนรู้ เพียงแต่ไม่ได้เงินก็เท่านั้น

ผมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ในตอนนี้ยังพอจะมีเงินเหลือติดกระเป๋ากับบัญชีมากพอที่จะเลี้ยงตัวเองไปทั้งอาทิตย์ ถึงจะไม่พอ คชาก็บอกมาแล้วว่า...
“เดี๋ยวกูเลี้ยง แต่มึงต้องรับหน้าที่ทำความสะอาดห้องกับซักผ้าให้กูนะ”

ผมเลยตกปากรับคำอย่างไม่มีข้อแม้

แค่ทำงานบ้านนิดๆ หน่อยๆ ไม่ตายหรอก กลัวอดตายมากกว่า

ยังไม่ทันจะได้ทำงานบ้านให้มันด้วยซ้ำ คชาก็พาผมไปเลี้ยงข้าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันบอกว่าเป็นค่าจ้างที่วันนี้ไปช่วยมันสอน เอาจริงๆ ผมแทบไม่ได้ช่วยมันเลยนะ แต่ในเมื่อมันอยากจะเลี้ยง ผมก็ไม่ปฏิเสธ

ระหว่างที่ใช้เวลาร่วมกับคชาทั้งวัน ผมก็ได้เรียนรู้มันมากขึ้นว่ามันเป็นคนที่รักเพื่อนอย่างที่พี่ชิณณ์เคยว่าจริงๆ บอกตรงๆ ว่าผมซาบซึ้งกับน้ำใจของมันไม่น้อย

มันโคตรดีกับผมเลยเถอะ ดีจนผมไม่รู้เลยว่าจะตอบแทนมันยังไงดี

จนกระทั่งใกล้เวลาที่พวกเราจะเข้านอน…

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมก็มานอนกลิ้งบนเตียง อ่านทวนสมุดจดโน้ตย่อเงียบๆ ด้วยจำได้ว่าพรุ่งนี้จะมีสอบควิซวิชานี้ ขณะที่คชาก็นั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆ ก่อนที่มันเอนตัวลงนอน แล้วก็พลิกตัวกระสับกระส่ายไปมาจนผมรำคาญ ผมเกือบจะถามมันออกไปแล้วว่าเป็นบ้าอะไร ทว่ามันก็ทำลายความเงียบออกมาเสียก่อน

“มาวิน กูขอร้องอะไรมึงอย่างนึงดิ”
“ว่า?” ผมตอบรับโดยยังไม่ละสายตาจากสมุดจด
“กูอยากได้ยินเสียงพี่ชิณณ์ก่อนนอนว่ะ”

คำพูดนั้นทำให้ผมต้องวางสมุดในมือลง หันไปย่นคิ้วใส่มันทันที
“อยากได้ยินเสียงก็โทรไปหาผม บอกฝันดีสิ”

เรื่องง่ายๆ แค่นี้ก็คิดไม่ได้ วุ้ย!

“ถ้ากูกล้าโทร กูก็คงไม่มาบอกมึงว่าขอร้องหรอก กูเขิน”
 “งั้นก็อัดเสียงส่งไปแทน”
“ก็บอกว่ากูเขินๆ มึงไม่เข้าใจเหรอวะ”

คชาเสียงดังใส่ผมเล็กน้อย ทำท่าดีดดิ้นเหมือนเด็กถูกขัดใจ ผมหันไปมองแล้วโคตรจะรำคาญมันเลย ตอนนี้พอจะเข้าใจละว่ามันอยากให้เป็นนกต่อให้ ความจริงผมไม่อยากทำเลยเพราะพอได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา แต่เพราะวันนี้มันทำดีกับผมมาทั้งวัน สุดท้ายผมก็คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาพี่ชิณณ์เพื่อถามว่าเขานอนหรือยัง พอเขาตอบกลับมา ผมถึงได้ถามคชา

“เราจะบอกให้พี่ชิณณ์อัดเสียงส่งมาให้ อยากให้พี่ชิณณ์พูดอะไรล่ะ”
คชายิ้มร่า พลันนิ่งคิดไปครู่ก่อนจะพูด
“บอกให้พี่ชิณณ์ครางรหัสนักศึกษากูหน่อยดิ”

มึงจะบ้าเหรอไอ้คชา ไปกินยาก่อนนอนเดี๋ยวนี้! ไป!

“บอกเองเถอะถ้างั้นอะ” ผมวางโทรศัพท์กระแทกลงบนฟูกเตียงทันควันพร้อมกับพึมพำ “ครางรหัสนักศึกษา ใครจะไปครางได้วะ”

ได้ยินอย่างนั้น คชาก็เด้งตัวขึ้นมานั่งทันที “ทำไมจะครางไม่ได้ ง่ายจะตาย ไม่เชื่อมึงเอาบัตรนักศึกษามึงมา เดี๋ยวกูทำให้ดู”
พูดมาอย่างนี้ แล้วผมจะเอาให้มันเหรอ บอกปฏิเสธอย่างรวดเร็วเลย
“ไม่ต้องเลย นอนลงไป”

แต่คชามันสนใจไหมล่ะ หึ! ไม่สนใจไม่พอ ยังจะพุ่งตัวมาทำท่าจะคว้ากระเป๋าตังค์ผมที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงด้วย ผมรู้ทันเลยรีบพุ่งเข้าไปแย่งก่อน แต่ไม่ทันละ คชาไววกว่า แถมแรงก็เยอะกว่าด้วย แวบเดียวมันก็เอาบัตรนักศึกษาของผมออกจากกระเป๋าตังค์เป็นที่เรียบร้อย

“เอาคืนมาเลยนะคชา” ผมว่าเสียงแข็งก่อนที่มันจะได้ทำอะไรบ้าๆ
คชาไม่ให้คืน ไม่ให้ไม่พอ เอาบัตรนักศึกษามาดูแล้วออกปาก
“มาวิน...อื้อ...รักคุณากร...อ๊า ห้าแปด...ฮื้ม คิมูจิ...ห้าสี่...อิไตๆ...หกห้า...อิคึๆ...”

มึงหยุดเดี๋ยวนี้เลย กูขยะแขยง!

ไม่เคยนึกเกลียดชื่อนามสกุลกับรหัสนักศึกษาตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย ผมรีบแย่งบัตรนักศึกษาจากมือมันคืนอีกครั้ง แต่คชาโยกตัวหนี ผมเลยต้องมานั่งเอามืออุดหูแทน

ไม่ฟัง! กูไม่ฟัง!

คชาเห็นท่าทางนั้นก็หัวเราะใส่ผมเสียงดังลั่น
“หน้าแดงทำไมวะ เขินเหรอ”

ไม่รู้ตัวหรอกว่าหน้าแดงไหม แต่ที่รู้ๆ คือหน้าผมในตอนนี้ร้อนผะผ่าวไปหมด พอเห็นมันหัวเราะเยาะผมเป็นบ้าเป็นหลัง ผมก็เกิดหมั่นไส้ขึ้นมา คว้าเอาหมอนเหวี่ยงใส่มันไปทีหนึ่ง
“หยุดเลย เอาคืนมาด้วย!”

เข้าไปแย่งบัตรนักศึกษามาอีกที คราวนี้คชายอมคืนแต่โดยดี
“อายอะไรของมึงวะ ทำอย่างกับไม่เคยดูหนังโป๊”

หนังโป๊น่ะเคยดู แต่ในชีวิตกูยังไม่เคยมีคนมาครางรหัสนักศึกษาเว้ย!

ผมไม่อยากจะสนใจมันแล้ว คว้าโทรศัพท์มาอีกทีแล้วรีบบอกมันเร็วๆ
“เดี๋ยวเราบอกให้พี่ชิณณ์บอกว่าฝันดีก็แล้วกัน จะได้จบๆ แล้วเลิกกวนเราสักที พรุ่งนี้เรามีควิซ!”
ว่าพร้อมกับพิมพ์ตัวหนังสือลงไปนิ้วรัวเลย พอส่งข้อความหาพี่ชิณณ์เสร็จปุ๊บ คชาก็เข้ามาแย่งโทรศัพท์ออกจากมือแล้วแกล้งผมต่อ

“กูไม่อยากฟังเสียงพี่ชิณณ์ละ ตอนนี้กูอยากฟังมึงครางรหัสนักศึกษากูมากกว่า”

มึงยังไม่จบอีกเหรอไอ้คช้า!

พูดอย่างเดียวไม่พอ ยังมาจับแขนผมด้วย ผมก็สะบัดเต็มแรงเลยทีนี้
“ไม่เอา!”
“นิดเดียวน่า ครางชื่อกูก็ได้...’คชา อื้อ...หล่อจังเลย แฮ่กๆ’ อะไรแบบนี้”

ใครจะไปทำกันวะ!

ผมรู้ว่ามันไม่ได้พูดจริงหรอกเพราะตอนที่มันพูด มันหัวเราะลั่นไปด้วย ผมก็ดิ้นหนีสุดพลัง ดิ้นไปดิ้นมา ถูกมันกดลงบนเตียงเสียอย่างนั้นโดยมีมันคร่อมตัวผมเอาไว้อยู่ ผมเบิกตาโต รีบโวยวายทันควัน
“คะ...คชา ปล่อย”

กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนอีก ทว่าคชาไม่สน ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
“มึงก็ครางประโยคเมื่อกี้ก่อนดิ”

มึงนี่มันเป็นคนยังไงวะ!

แล้วถามว่าผมทำไหม?... จุดนี้ก็ต้องยอมแล้วล่ะครับ ไม่อย่างนั้นต้องถูกมันทำอะไรบ้าๆ มากกว่าเดิมแน่นอน

“อื้อ...คชา...หล่อจังเลย”
ว่ามุบมิบอุบอิบ พูดไปแล้วก็ขนลุกซู่แต่หน้าร้อนวูบเลยทีเดียว ส่วนคชาก็นิ่งค้างไปครู่หนึ่ง พลันปล่อยมือออกจากผมไปนั่งดีๆ แล้วยื่นแขนที่เต็มไปด้วยตุ่มหนังไก่ออกมาตรงหน้า
“ขนลุกฉิบหาย”

กูก็ขนลุก! ทั้งขนลุก ทั้งแขยงเลยเนี่ย!

แทบจะเอาหัวโขกกำแพงตายกับการกระทำของตัวเองเมื่อกี้ โชคดีที่เสียงข้อความเข้าดังขึ้นมาเสียก่อน ผมเลยรีบเบนความสนใจไปคว้าโทรศัพท์มาถือ พอเห็นว่าใครส่งมาก็ร้องบอกมัน
“พี่ชิณณ์ส่งข้อความเสียงมาแล้ว จะฟังไหม”
“ไม่ล่ะ ไม่อยากฟังแล้ว”
“เอ้า ทำไมอะ” ผมถามอย่างสงสัย
คชายิ้มมุมปากขึ้นมา “กูฝันดีแล้ว แค่นี้แหละ”

แล้วมันก็ทิ้งตัวลงนอนหันหลังให้พร้อมกับคลุมโปงทันที ปล่อยให้ผมมองมันอย่างงุนงง แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนอกจากหมั่นไส้เสียมากกว่าเมื่อนึกถึงตอนที่ถูกมันแกล้งเมื่อครู่ ก่อนจะลุกออกจากเตียงไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ

ทว่าการปลีกตัวมาก็ไม่ได้ทำให้หัวผมเลิกคิดวุ่นวายได้เลยแม้แต่น้อย ภาพใบหน้าของคชาที่ยื่นเข้ามาใกล้เมื่อครู่ยังคงติดตาอยู่จนผมต้องเอาโทรศัพท์มากดเล่นเพื่อหาอะไรดูล้างตา พอมองจอโทรศัพท์ก็นึกขึ้นได้ว่าพี่ชิณณ์เพิ่งส่งข้อความมาเลยลองกดฟังดู

การตัดสินใจทำอย่างนั้นเป็นการกระทำที่ผิดมหันต์เลยทีเดียวเมื่อเสียงนุ่มทุ้มของพี่ชิณณ์ดังออกมาให้ได้ยินเบาๆ

[ฝันดีนะมาวิน เราไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว พี่...เอ่อ...คิดถึงมาวินนะครับ]

วะ...ว็อท!?

ขนลุกชัน เสียววูบวาบไปทั่วสันหลังเป็นระลอกที่สอง

มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!
---------------------------------------------
ยิ่งเขียนยิ่งรู้สึกว่าคชาผีบ้ามากขึ้นทุกทีๆ เอ็งเป็นพระเอกจริงเหรอ 555

เรื่องนี้เป็นแนวรักสามเส้าที่ไม่ดราม่าค่ะ ปกติไม่ค่อยชอบเขียนดราม่าสักเท่าไหร่ แต่ไม่รู้จะอธิบายยังไงดีว่าไม่ดราม่ายังไง เอาเป็นว่ามันก็อารมณ์ประมาณนี้ทั้งเรื่องน่ะค่ะ อ่านแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เน้นคลายเครียดเนอะ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่มีปมอะไรซับซ้อนสักเท่าไหร่ อยากเขียนคอมเมดี้แบบอ่านง่ายๆ ให้อ่านกันเพราะตอนเขียนช่างใจรักนี่ ใส่มุกห้าบาทสิบบาทเต็มเหนี่ยวมากเลยรู้สึกว่ามันเป็นคอมเมดี้ที่เต็มที่ที่สุดเท่าที่เคยเขียนมาแล้ว เรื่องนี้เลยอยากจะพยายามทำลายมิชชันเดิม แต่ไม่แน่ใจว่าจะเล่นมุกได้แพรวพราวเหมือนเรื่องนั้นมั้ยนะคะ เพราะเรื่องนี้ตัวละครหลักที่บรรยายไม่ได้ลั้นลาแบบเรื่องนั้น

หนูแดงมาอัพทุกวันนะคะ แต่ส่วนใหญ่จะมาดึกๆ ดังนั้นนอนก่อนเลยแล้วค่อยตื่นมาอ่าน ถ้าวันไหนเห็นอัพไวหรืออัพหัววัน แสดงว่าเขียนตอนใหม่สต็อกเอาไว้แล้วเน้อ XD

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ชอบบบบ เขียนสนุกมากๆค่ะ ติดตามๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
โอเค คชา

ชัดมาก...ชัดว่าสติไม่สมประกอบมาก

นี่นายโตมาถึงขนาดนี้ได้ไง?

คิดถึงพี่ชิณณ์

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ 205arr

  • เราคงอยู่ไกลกันเป็นพันหมื่นลี้
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
คชา นี่ตั้งใจอ่อยมาวินจริงจังใช่มั้ย
 o13

ออฟไลน์ Bronc

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
คชา บอกไม่คิดอะไร แต่ลวนลามไปเยอะมากล่ะ มากกว่านี้ก็....ไหม

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
คิดได้ไงครางรหัสนักศึกษา55555

ออฟไลน์ ommanymontra

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3433
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-0

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
คชา...................
นี่ มันเบี่ยงเบนแล้วนะ เบรมาทางมาวินอะ :ruready

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
เอิ้ม คชานายก็อินดี้เกิ๊นน

ออฟไลน์ Himbeere20

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ยกมือขึ้นมาดม !!!!  ฟังมาวินครางรหัสนักศึกษาแล้วนอนหลับฝันดี ???? คชานี่เป็นมิติใหม่ของวงการพระเอกนะ.  พระเอก = หล่อ+บ้าบอไร้สติ :laugh: :laugh:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
แหน่ะะะะ คชาชอบมาวินแล้วแน่ๆ  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด