วาแค่นเสียงเหอะ "แล้วไงวะ? กระต่ายน้อยของมึงเขารักกู ไม่งั้นจะยอมให้กูเอาเหรอวะ"
สีหน้าของกระต่ายบิดเบี้ยวขบกรามกรอดเอื้อมมือไปหยิบมีดที่ซ่อนไว้ใต้อ่างล้างหน้าออกมากระโจนเข้าใส่วาทันที
"เพราะมึงทำแบบนั้นไง!! มึงถึงต้องตาย!"
กระต่ายตะคอกดังลั่นเสียสติม่านตาเบิกกว้างจ้องมองคนที่กล้ามาแย่งคนที่เขารักและหวงที่สุดไป! ข้อมือเล็กกำด้ามมีดแน่นแล้วฟันใส่หมานรก
แน่นอนว่าบาดแผลมากมายบนหน้าท้องเป็นบทเรียนชั้นดีให้กับวา
"มึงคิดว่าถ้ามึงไม่เล่นทีเผลอ มึงจะทำอะไรกูได้เหรอ" วาหัวเราะดังลั่นอย่างสะใจเมื่อร่างสัตว์ร้ายฟันพลาดและเซจนเกือบล้มไปกองบนพื้น
เดิมทีร่างกายของกระต่ายก็ไม่ได้แข็งแรงอะไรนักหนาอยู่แล้ว การจะฆ่าหมาป่าจึงจัดเป็นเรื่องยากขึ้นมาทันตา แต่วาก็ไม่คิดจะสนใจเรื่องนั้นพุ่งตัวเข้าหากระต่ายทีเผลอและกดอีกฝ่ายให้นอนบนพื้นได้อย่างง่ายดาย
"มึงไม่ใช่กระต่าย มึงเป็นใครกันแน่วะ" วาถามเสียงเย็น
"กระต่ายไง" ถึงแม้ว่าตัวเองจะตกเป็นรองแต่กระต่ายก็ยังหัวเราะหึๆ ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ "กระต่ายก็คือกู กูก็คือกระต่าย แต่กระต่ายไม่รู้จักกูก็แค่นั้น"
อาจจะฟังดูน่าเจ็บปวดแต่เขาไม่เคยคิดจะเจ็บปวด
ในเมื่อมีแค่เขาเท่านั้นที่ครอบครองกระต่ายตลอดเวลา เวลากลางวันเป็นเวลาของกระต่ายส่วนเวลากลางคืนที่กระต่ายหลับจะเป็นของเขา แต่ส่วนใหญ่เขาก็ออกมาไม่บ่อยนักเพราะอยากให้กระต่ายที่น่ารักของเขาได้พักผ่อน
แต่ถ้าหากว่าตอนไหนที่เขาอยากออกมาเขาก็สามารถทำได้
เพื่อปกป้องกระต่ายน้อยที่น่ารักของเขา!
ดวงตากลมลอบเหลือบมองมีดที่อยู่ที่ปลายนิ้วและวางแผนในใจด้วยท่าทีเมินเฉย
เขาไม่ต้องการให้ไอ้หน้าไหนมาแย่งความรักของกระต่ายไปจากเขาทั้งนั้นต่อให้พวกมันจะเป็นแค่สัตว์ก็ตาม โดยเฉพาะไอ้สัตว์หน้าขนที่กำลังใช้เท้าเหยียบหลังเขาอยู่ตอนนี้
"แล้วมึงจะทำไปทำไมวะ" วาถามอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าไอ้เวรนี่มันต้องการอะไรจากเขากันแน่ ความตายงั้นเหรอ? ตลกแล้ว ต่อให้เขาตาย คนน่ารักอย่างกระต่ายยังไงก็ต้องมีคนมาชอบต่ออยู่ดี
"กระต่ายเป็นของกู" ใบหน้าน่ารักเหยียดยิ้ม "ไม่ใช่ของพวกมึง"
หูสองข้างตั้งชันขึ้นพร้อมกับเลิกคิ้วยียวน
"แล้วไงวะ ยังไงคนที่เลือกกูก็คือกระต่าย ตอนกูเอาก็เอากระต่ายคนนั้น ไม่ใช่มึง"
สำหรับหมาป่าวัยเจริญพันธุ์อย่างวา การสรรหาคำด่ามาตอกกลับนั้นเป็นเรื่องง่ายมากเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกคนอื่นด่า ฉะนั้นในหัวของวานี่บรรจุคำด่าไว้เป็นร้อย
อีกอย่างสิ่งที่วาสงสัยคือ ไอ้เวรนี่รึเปล่าที่ทำให้กระต่ายร้องไห้มาตลอดตั้งแต่เด็ก เพราะกระต่ายเคยเล่าให้ฟังว่าพอเลี้ยงอะไรได้ไม่นานก็ชอบตาย เหมือนกับเป็นคำสาปยังไงยังงั้น
แต่น่าเสียดายที่มันไม่ใช่คำสาป
"กระต่ายเป็นของกูคนเดียว ไอ้สัตว์!!!" ฉับพลันร่างที่ถูกพันธนาการไว้ก็ขัดขืนอย่างรุนแรงแล้วพุ่งตัวเข้าไปคว้ามีดมาถือได้สำเร็จ
แต่เป็นอีกตัวตนหนึ่งที่หลงรักกระต่ายสุดหัวใจ
"เมื่อกี้มึงรอด แต่ตอนนี้มึงไม่รอดแน่" หัวเราะเสียงต่ำน่าขนลุกจ้องมองวาด้วยตาลุกวาวและชี้ปลายมีดไปยังวา
มันเกิดขึ้นตอนไหนไม่มีใครทราบ อาจจะตอนที่กระต่ายอ่อนแอมากๆ จนสร้างอีกตัวตนขึ้นมาปกป้องตัวเองและหลงลืมมันไป แต่ตัวตนของมันก็ยังคงอยู่ซุกซ่อนลึกอยู่ในจิตใจของกระต่าย เฝ้ามองกระต่ายอย่างเอ็นดูและริษยาคนที่เข้ามารัก
"มึงทำแบบนี้ไม่สงสารต่ายมั้งเหรอวะ"
ไม่ใช่เพราะอยากทำตัวเป็นคนดีหรืออะไร ที่เลือกที่จะไกล่เกลี่ยแทนที่จะปะทะกันอย่างที่ควรเป็น ทำยังไงได้ในเมื่อร่างตรงหน้าของเขาก็คือกระต่ายเหมือนกัน
ร่างตรงหน้าชะงักเมื่อยั้งคิดแต่ก็ไม่มีผลอะไร ยังคงชี้คมมีดไปยังหมาป่า
"กูไม่สนว่ะ ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมามีแค่กูเท่านั้นที่ยังอยู่กับกระต่าย มีแค่กูที่ซื่อสัตย์กับกระต่าย มีแค่กูที่รักกระต่าย มีแค่กู.."
ประโยคหลังๆ กลับเบาลงเรื่อยๆ
ช่วยไม่ได้ ทั้งๆ ที่รักที่สุดแต่กลับไม่เคยอยู่ในครรลองความคิดเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว ไม่เคยจริงๆ ราวกับว่าหลงลืมตัวตนที่เคยดีใจนักหนาที่สามารถใช้ปกป้องตัวเอง
ทำไมกระต่ายถึงได้หลงลืมเขาไปได้อย่างหมดจดถึงขนาดนั้น
ทำไม..?
เขากัดฟันกรอด แม้แต่ชื่อของตัวเองก็ยังไม่มีด้วยซ้ำไป เขาไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองยังมีตัวตนอยู่ทั้งๆ ที่ถูกทอดทิ้งไปแล้ว กระต่ายลืมเขาแล้ว ทุกอย่างมันจบแล้ว
"ไม่รู้ว่ะ ถ้ามึงตาย กูก็คงมีความสุข"
สิ่งที่ยังคงทำให้เขายังคงอยู่ก็คงจะเป็นความรักอันบ้าคลั่งล่ะมั้ง?
เขาเสพติดการ 'ฆ่า' ไปแล้ว
"มึงคิดบ้างไหม ว่ามึงจะไม่มีปัญญาฆ่ากูแต่กลายเป็นมึงที่โดนฆ่าแทน" วาค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเองสามารถรับมือกับกระต่ายได้ ถึงแม้เมื่อกี้จะเผลอไปนิดๆ ก็เถอะ
ใบหน้าน่ารักยิ้มแต่หากกลับเป็นยิ้มที่เศร้าเกินทน
"กูไม่สนใจหรอกว่ะ ในเมื่อร่างกายนี่มันไม่ใช่ของกูด้วยซ้ำ"
เขาจะอยู่หรือตายก็ไม่มีใครสนใจหรอก
“งั้นมึงก็คืนให้กระต่ายไปสิ ส่วนตัวมึงก็หายๆ ไปซะ” วาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ แต่ถ้าลองคาดเดาก็คงเป็นอีกบุคลิกหนึ่งของกระต่ายที่แม้แต่เจ้าตัวยังไม่รู้จัก
หากแต่กระต่ายกลับไม่ตอบแต่พุ่งคมมีดเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง วาถอนใจนิดๆ แล้วหลบอย่างง่ายดาย ถึงแม้จะมีบาดแผลบนท้องแต่กับหมาที่เคยโดนไล่ยิงมาแล้วอย่างวา แค่นี้ถือว่าสบายๆ มาก
วาจ้องกระต่ายที่เหมือนกลายเป็นคนบ้า แม้จะแทงไม่โดนแต่ก็พยายามแทงต่ออย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทั้งๆ ที่กำลังหอบจนตัวโยน แต่สิ่งที่ทำให้วาขนลุกที่สุดก็คือแววตากระหายเลือดนั่น
ทำไมเขาจะไม่เคยเห็น ในเมื่อหลายชั่วโมงที่แล้วเพิ่งถูกกระต่ายเวรนี่แทงไม่ยั้งจนหมดสติ ไม่รู้จะเรียกว่าโชคดีดีไหมที่แทงไม่โดนจุดสำคัญ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้มายืนยั่วโมโหมันตรงนี้แน่ๆ
"มึงฆ่าคนไปกี่คนแล้ววะ" วาถามเสียงหดหู่ ขนาดเขาที่เป็นมนุษย์หมาป่าที่สามารถฆ่าคนได้ง่ายๆ ยังไม่เคยคิดที่จะฆ่าคนเลย ถึงจะเกลียดมากแค่ไหนก็ตาม
"มึง.. แฮ่ก คนแรก" ในที่สุดกระต่ายก็หยุดยืนหอบแฮ่กเท้ามือข้างนึงกับผนังเพราะขาที่สั่นจนแทบยืนไม่อยู่ แววตามาดร้ายยังคงมองวาไม่ลดละ
"พอเหอะว่ะ ถ้ามึงฆ่ากูได้ กระต่ายก็ต้องติดคุก"
แววตากลมกระตุกวูบ ลึกๆ แล้วเขาก็ยังคงรักกระต่ายอยู่ดี
"แล้วไง ดีซะอีก กูจะได้อยู่กับกระต่ายตลอดไป"
แต่การเห็นกระต่ายนั่งร้องไห้ในคุกโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำผิดอะไรก็ชวนให้รู้สึกแย่เหมือนกัน แต่จะเขาอยู่เฉยๆ เฝ้าดูกระต่ายไป
ตลอดชีวิตงั้นเหรอ เขาทำไม่ได้หรอก เขาก็เป็นอีกตัวตนนึงมีสิทธิ์ใช้ร่างกายนี้
"แล้วมึงคิดเหรอว่ากระต่ายจะรับได้ถ้าตัวเองติดคุก"
สิ่งที่วากำลังพูดถึงคือการฆ่าตัวตาย คนเปราะบางอย่างกระต่ายถ้ากระทบกระเทือนจิตใจมากๆ โอกาสการฆ่าตัวตายสูงมาก
แน่นอนว่าอีกตัวตนหนึ่งของกระต่ายก็รู้ถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน
แกร้ง
มือที่จับมีดอยู่ปล่อยลงกะทันหัน
"งั้นมึงก็ช่วยลบตัวตนของกูออกไปที กูทนไม่ไหวแล้ว ฮึก" ยกมือข้างที่เคยถือมีดปิดหน้าตัวเองแล้วสะอื้น "กูรักเขาแต่เขาจำกูไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าจะให้กูทนไม่ฆ่ามึง กูทำไม่ได้หรอก วันใดวันหนึ่งกูก็จะออกมาฆ่ามึงอยู่ดี"
วาพยักหน้า "กูจะพากระต่ายไปหาหมอ" จ้องมองกระต่ายในอีกหนึ่งบุคลิกด้วยความรู้สึกพิลึกพิลั่น แววตาที่มองมานั้นเจ็บปวดเกินทนราวกับว่าตัวเองไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆ ทั้งหมดขึ้นมา
แต่คิดในอีกมุมหนึ่ง การมีถูกสร้างขึ้นมาแล้วถูกลืมไปอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าใครก็สามารถกลายเป็นตัวตนที่บิดเบี้ยวทั้งนั้น
กระต่ายไม่สิ.. กระต่ายอีกคนนึงยิ้มให้วา
"ถ้ามึงยังไม่อยากตาย ก็รีบๆ ลบกูออกแล้วกัน"
หากการมีชีวิตอยู่คือความเจ็บปวดความตายคงจะเป็นสิ่งที่เมตตาที่สุด
"อืม" วารับคำก่อนจะรีบถลาเข้าไปรับร่างของกระต่ายที่ทรุดฮวบลงกับพื้นอีกรอบ
คนเป็นมนุษย์หมาป่าถอนหายใจเซ็งๆ ไม่รู้จะบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ยังไงดี เพราะที่กลับมาหากระต่ายก็แค่รู้สึกคิดถึงขึ้นมานิดหน่อยก็เท่านั้น ทีแรกกะจะกอดกระต่ายสักรอบสองรอบแล้วค่อยกลับไปใช้ชีวิตเพลย์บอยต่อ
แต่นี่ดูเหมือนจะทำไม่ได้แล้วล่ะมั้ง เขาไม่ค่อยไว้ใจให้คนอื่นมาดูแลกระต่ายที่มีตัวอันตรายซุกซ่อนข้างในเท่าไหร่ ดีแค่ไหนที่เป็นเขาที่เป็นคนเจอตัวตนนี่คนแรกไม่ใช่คนอื่น ไม่อย่างนั้นคงจะต้องเกิดเรื่องสลดขึ้นมาอีกเยอะแน่ๆ
เอาเถอะ กระต่ายของเขาก็น่ารักน้อยซะที่ไหน สิ่งที่กระต่ายไม่รู้คือเขาอยู่กับกระต่ายนานที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับคนอื่นที่อยู่ไม่ถึงสัปดาห์เขาก็ร่อนไปหาคนใหม่
วาก้มลงหอมกระต่ายเบาๆ แล้วอุ้มขึ้นห้องพอจัดผ้าห่มให้เสร็จตัวเองก็ไปทำแผลที่หน้าท้องบ้าง ระหว่างทำแผลก็รู้สึกเบื่อๆ เลยเปิดทีวีเพื่อดูข่าว
"ซี้ดดดดด" หางข้างหลังตั้งฟููขึ้นมาทันควันเมื่อเผลอกดสำลีแรงไปหน่อย
แต่จะไม่ให้ตกใจก็คงไม่ได้เพราะไอ้ข่าวที่อยู่ในทีวีมันคือข่าวการหายไปของเขา!
'ข่าวด่วนค่ะ ศพที่ทางตำรวจตั้งใจจะเอามาชันสูตรที่โรงพยาบาลได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้ตายเป็นบุคคลร่างใหญ่ อายุยี่สิบเจ็ดปี ชื่อนายวาสิต พิทักษ์ราชันย์ค่ะ ใครพบเห็นเบาะแส สามารถโทรแจ้งได้ที่เบอร์ 09x-xxxxxxx ค่ะ'
"เวรเอ้ย" วาสบถเซ็งๆ หูลู่ลงไม่ต่างจากหมาหงอย "หน้าเหี้ยมาก"
นอกจากช่วงนี้เขาจะออกไปไหนไม่ได้แล้วยังต้องอับอายการหน้าตาอุบาทว์ๆ ที่ออกอากาศอีก ถ้าคนอื่นเห็นคนรู้สึกสงสารเขามากที่นอกจากจะตายแล้วยังถูกซ่อนศพแต่สำหรับเขา ไม่เลยหน้าเหี้ยขนาดนั้นอับอายเพื่อนฝูงชะมัด
"เฮ้อ"
วากลอกตาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นโทรหาครอบครัวเพื่อยืนยันว่าตัวเองยังไม่ตายและให้ส่งคนมาทำแผลให้ด้วย พอบอกกล่าวและฟังคำด่าจนหูชาเสร็จ วาก็เก็บโทรศัพท์แล้วเหลือบมองมีดที่เปรอะเลือดนิดๆ วางอยู่บนโต๊ะ
"จะพยายามแล้วกัน"
พูดกับอากาศราวกับว่ามันจะส่งไปถึงคนๆ นั้น
ทันทีที่กระต่ายฟื้นขึ้นมาก็โถมตัวเข้ากอดพี่วาทันที หัวทุยๆ ที่ไม่เคยออดอ้อนใครนอกจากพี่วา ไถพี่วาไม่หยุด
"พี่วา ฮึก พี่ยังไม่ตาย" กระต่ายยิ้มจนปวดแก้ม
"ต่าย" วาโอบเอวกระต่ายหลวมๆ "พี่รู้แล้วนะ คำสาปของเรามันมาจากไหน"
กระต่ายมองหน้าพี่วาด้วยความงุนงง
"คำสาปอะไร"
วาจ้องแววตาซื่อๆ รู้สึกสงสารอีกตัวตนที่ซ่อนอยู่ในตัวกระต่าย
"ที่ต่ายเคยเล่าให้พี่วาฟังว่าพอรักอะไรแล้วมันก็จะตาย"
จากแววตาใสซื่อกลายเป็นเศร้าสลด
"พี่ก็โดนใช่ไหม เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมพี่ถึงถูกแทง" กระต่ายพูดเสียงเครือ
วายิ้มจางลูบหัวกระต่ายเบาๆ
เห็นได้ชัดว่ากระต่ายจำอะไรไม่ได้เลยสักนิด จนทำให้อดนึกถึงอีกตัวตนนึงไม่ได้ ตอนนี้ก็คงจะร้องไห้อยู่หรือไม่ก็มองเขาด้วยความอิจฉาล่ะมั้ง?
"อืม"
เอาล่ะ งั้นเขาจะช่วยลบตัวตนของนายออกไปแล้วกัน
เพื่อที่จะไม่ต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้
หลังจากที่กระต่ายไปหาหมอผลวินิจฉัยก็ออกมาว่ากระต่ายเป็นคนสองบุคลิก ทีแรกกระต่ายไม่เคยแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำว่าตัวเองมีสองบุคลิกจึงพยายามขัดขืนไม่ยอมไปหาหมอ แต่ในที่สุดก็ต้องไปเพราะมีดที่เปรอะเลือดในห้องน้ำกับรอยแผลบนหน้าท้องของพี่วา
กระต่ายกินยาควบคู่กับการพบจิตแพทย์อยู่หลายสัปดาห์ ถึงแม้ว่าจะรู้สึกไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสักนิดแต่ก็ถูกพี่วาในสภาพผู้ชายเงียบขรึมเรียบร้อยผมดำปรกใบหน้าดุให้กินยาตลอด
จนกระทั่งวันหนึ่งที่กระต่ายหลับและฝัน
ร่างโปร่งกำลังยืนอยู่ในห้องมืดสีดำที่ไม่มีอะไรนอกจากความมืดและแสงไฟที่สลัวมากจนสามารถมองเห็นแค่ตัวเองแต่อย่างอื่นรอบกายกลับมองไม่เห็นสักนิด
"ที่นี่มันที่ไหนวะเนี่ย" กระต่ายสบถออกมาพลางลูบแขนตัวเองที่เริ่มขนลุก ความหวาดกลัวจากความไม่รู้ทำให้กระต่ายกลืนน้ำลายเอือก "..พี่วา" และเอ่ยเรียกคนที่ตัวเองคุ้นเคยที่สุด
แต่ไม่มีเสียงตอบรับไม่มีอะไรทั้งนั้น
กระต่ายค่อยๆ สาวเท้าเดินไปข้างหน้าพร้อมกับยกมือขึ้นกวาดไปข้างหน้าป้องกันการเดินชนผนังหรือต้นไม้หรืออะไรสักอย่างที่สามารถทำให้ชนได้
"กระต่าย"
กระต่ายสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกเรียกด้วยเสียงของตัวเองและหันขวับมองอย่างหวาดระแวง น่าแปลกที่ห้องมืดค่อยๆ สว่างขึ้นมาจนเห็นคนที่เรียกได้ชัด
คนถูกมองยิ้มแม้ว่าจะรู้สึกปวดหนึบในใจ
"จำเราได้ไหม"
กระต่ายส่ายหัวเป็นพัลวันงุนงงที่ได้คุยกับตัวเอง "ทำไมถึงมีฉันสองคน?"
เขาอีกคนยิ้มรู้สึกน้ำตาจุกในลำคอ "จำไม่ได้เลยสินะ"
ความรู้สึกเจ็บปวดเจียนตายมันเป็นอย่างนี้เองงั้นเหรอ?
"แต่เอาเถอะ เราก็แค่มาลาเท่านั้น" ค่อยๆ เดินเข้าหากระต่ายแต่ปฎิกิริยาตอบรับของกระต่ายคือถอยกรูดหนี
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจึงหายไปและแทนที่ด้วยสีหน้าเจ็บปวดแทน
"กระต่ายหลังจากนี้ดูแลตัวเองดีๆ นะ"
จ้องมองคนที่ตัวเองรักและสร้างตัวเองขึ้นมาด้วยน้ำตานองหน้า
"เราไม่อยู่แล้ว"
เฮือก
กระต่ายสะดุ้งตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งคู้ตัว พยายามเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบใบหน้า
เขาจำได้แล้ว
แต่พอกระต่ายกลับไปค้นหาตัวตนนั้นอีกครั้งกลับหาไม่เจอราวกับว่าไม่มีเคยมีตัวตนอยู่ ทำให้กระต่ายรู้สึกเศร้าไปพักใหญ่ก่อนที่จะจำตัวตนได้เลือนลางจากความรักอันมั่นคงของพี่วา
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าหมาเพลย์บอยอย่างพี่วา จู่ๆ ก็กลายเป็นคนที่จริงจังในความรัก กลายเป็นหมาขี้หวงขี้ห่วงแทบจะขู่แง่งใส่คนที่มาเจ๊าะแจ๊ะกับเขา และแน่นอนว่ากระต่ายยินดีกับการเปลี่ยนไปครั้งนี้มาก
"พี่วา อึก อย่าทำรอยตรงคอสิ" กระต่ายเอ็ดไม่จริงจังนัก "แค่นี้พี่ที่ทำงานก็แทบจะดักตบผมอยู่แล้ว"
คนโดนเอ็ดหัวเราะตอบแต่ไม่หยุดทำ
ช่วยไม่ได้ตอนนี้เขารักกระต่ายยังกับอะไรดี
วาคิดขำๆ ก่อนที่เศร้าลงนิดๆ
แต่คงไม่ได้ถึงครึ่งของคนๆ นั้นล่ะมั้ง
----------------------------
ขอโทษนะคะที่เรื่องนี้ต่อช้ามาก แต่คิดว่าถ้าต่อจากตอนนั้นเลยคงไม่ได้แบบนี้ พลอตตอนนั้นวาน่าจะตายและจบคนละแบบ แต่พอมาแต่งต่ออีกทีนี่รู้สึกสนุกแล้วก็ชอบเรื่องนี้มาก ไม่เคยเขียนแนวแบบนี้มาก่อน 5555 ตัวเองที่หลงรักตัวเอง ฟังแล้วเศร้ามากยิ่งกว่านกอีก
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบนะคะ