เอามาให้อ่านตอนเย็นย่ำ..

*************************************************************************
ตอนที่ 51ผมกวาดสายตามองไปบนกระดาษทุกแผ่นที่วางอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างมีค่าถึงแม้จะอยู่ในรูปของกระดาษ แต่นี่เป็นสิ่งที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าไม่มีชื่อผมรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะสลักหลังหรือโอนสิทธิ์ ผู้รับคือผมทั้งนั้น เจ้าของกรรมสิทธิ์และพยานถูกเซ็นต์ชื่อกำกับไว้แล้ว รอเพียงแค่ลายเซ็นต์ของผม ทุกอย่างก็เสร็จสมบูรณ์ ทรัพย์สินตรงหน้าจะกลายเป็นของผมทันที
แม่หยิบสมุดบัญชีธนาคารมาวาง ไว้ตรงหน้าพร้อมด้วยเช็คที่ลงลายเซ็นต์ไว้พร้อม เหลือเพียงกรอกตัวเลขลงไปเท่านั้น สมุดบัญชีที่ไม่ต้องจำเป็นต้องเปิดดูก็รู้ว่าใครเป็นเจ้าของ ผมมองของตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ แม่หยิบถุงพลาสติกในลิ้นชักข้างเตียงมาวางไว้ตรงหน้า แล้วเปิดปากถุงกว้างๆ จนมองเห็นด้านใน ถึงผมจะไม่ใช่คนที่มีความรู้เชี่ยวชาญเรื่องคอมพิวเตอร์ แต่ก็รู้ว่าของในถุงคือแผ่นซีดีที่ถูกหักทิ้ง เมมโมรี่การ์ดและฮาร์ดดิสของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเผา ผมรู้ดีเลยล่ะว่าอะไรอยู่ในนั้น แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมหลักฐานทุกอย่างถึงถูกทำลายแล้วมาอยู่ที่แม่
"ตั้มน่ะเขาเคยไปหาแม่ที่บ้าน ก่อนที่พาแม่จะมาอยู่ที่นี่"
"มันทำอะไรแม่หรือเปล่า"
" ถ้าทำอะไรจริงแม่จะมานั่งให้เราซักอยู่แบบนี้เหรอ"แม่หัวเราะพร้อมลูบหัวผม ไปด้วย ความจริงผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ผมว่ามันค่อนข้างดีกับแม่ผมมากเลยเชียวล่ะ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าที่ดีน่ะตัวมันหรือเพราะพี่นพกันแน่ แม่นั่งถ่ายทอดเรื่องราวเมื่อครั้งที่พบกับมัน ให้เดาก็รู้ว่าจงใจไปบ้านผมแน่ๆ คำพูดของแม่ผมไม่ค่อยอยากเชื่อ คนอย่างนั้นน่ะเหรอจะไปนั่งพื้นกินข้าวบ้านผม ช่วยแม่ล้างชาม นึกยังไงก็นึกไม่ออก ถ้าไม่ติดว่าคนเราคือแม่ล่ะก็คงไม่มีวันเชื่อแน่ๆ ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งแปลกใจ การกระทำของมันกับแม่ ต่างจากที่ทำกับผมเหลือเกิน แล้วยังคำพูดของมันเมื่อตอนมอบเอกสารเหล่านี้ให้อีก ผมไม่แน่ใจว่าใครถูกหลอกกันแน่....ผมหรือแม่
"ตอนแรกก็ยังมีไม่กี่ อย่างหรอก เห็นว่าจัดการไม่เรียบร้อย แต่ก็ทยอยเอามาให้แม่เก็บไว้เรื่อยๆ ของพวกนี้ก็เหมือนกัน ส่วนเช็คนี่ก็ไว้ให้แม่ซื้อของที่อยากได้ มีบัตรเครดิตให้แม่ด้วยนะ แม่กับป้าภาหัวเราะกันจนท้องแข็งเลย"
"แล้วมันขอเหลืออะไรไว้เหรอ"ถ้าผมลงชื่อในเอกสารทั้งหมดเมื่อไหร่ มันก็เหมือนคนล้มละลาย อะไรที่มันขอเหลือไว้
"พายไม่รู้เหรอลูก"
"พายไม่ได้นั่งคุยด้วยแล้วพายจะรู้ได้ไงล่ะ"
"เจ้าตัวเขาก็ไม่ได้พูดออกมาซะด้วย เพียงแต่แม่เดาได้เท่านั้น"
"อะไรล่ะครับ"
"..... ถ้าตั้มไม่พูด แม่ก็คงไม่มีสิทธิ์ พายน่าจะนึกออกนะลูก ว่าตอนนี้...เขาเหลืออะไร"แม่พูดไปยิ้มไป ถ้าบอกว่ามันเป็นลูกอีกคนของแม่ผมคงเชื่อ ดูท่าทางจะถูกใจกันเหลือเกิน
ผม ปล่อยให้แม่นอนพักแล้วก็ออกมาขับรถเล่นรอบๆ รีสอร์ทคนเดียว ของทั้งหมดผมให้แม่เก็บไว้เหมือนเดิม ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยเดาความคิดมันออก ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทำไมต้องเอาเงินทองมากมายมาให้ ชดใช้งั้นเหรอ เหมือนกันคอนโดที่มันจะให้ผมน่ะเหรอ เป็นวิธีการชดใช้ความผิดของมันใช่มั้ย การเอาตัวเข้ามาวุ่นวายกับผมนี่เพราะอยากชดใช้ความเลวตัวเองเท่านั้นเหรอ แค่ไปห่างๆ ชีวิตผม แค่นั้นผมก็พอใจแล้ว ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้เลย
"มาทำอะไรแถวนี้"เสียงเรียกข้างตัวทำเอาสะดุ้ง ไม่รู้ตัวเลยว่าเหม่อถึงขนาดนี้
"ขับรถเล่นเฉยๆ"
"หน้าบ้านพี่เนี่ยนะ"มันพูดจบผมรีบมองไปรอบๆ นี่ผมมาจอดอยู่ใกล้บ้านพักมันตั้งแต่เมื่อไหร่
".......ข้าวเสร็จแล้ว แม่ให้มาบอก"ผมพูดจบแล้วรีบสตาร์ทรถเตรียมขับออกไป แต่มันยังจับหลังคารถไว้ผมเลยหันมามองอีกที
"...... รอก่อน เดี๋ยวไปล็อคบ้านก่อน"มันพูดแล้วก็เดินหันหลังไป ผมนั่งรอสักพักมันก็เดินกลับมา ผมน่าจะหาข้อแก้ตัวอื่นที่ดีกว่านี้ มันจะได้ไม่ต้องตามผมกลับ
ผมขับรถกลับมาที่บ้านแล้วก็เดินเข้ามาก่อน แต่มันก็รั้งผมไว้อีก
"แล้วไม่กินหรือไง"
"กินกับแม่แล้ว เมื่อเช้าไปใส่บาตรที่ตลาดกับแม่มา"
"....แปลกไปนะ มีอะไรหรือเปล่า"
"เปล่านี่ แปลกยังไง"
"ปกติไม่เห็นอยากจะคุยด้วย ถามคำตอบคำ แต่นี่..."
"ก็แค่พูดให้ฟัง จะได้ไม่ต้องถามอีก"
"....อืม เห็นทำหน้าเหมือนอยากถามอะไร เลยคิดว่าแปลกๆ"
"...... แม่บอกว่าคุณแอบขโมยรูปผมไป ผมขอคืน"ผมไม่รู้ว่ามันรู้รึเปล่าว่าแม่ผมรู้เรื่องรูป แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมผมถึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด
".....หายไปตั้งนานแล้ว สงสัยหายไปตอนย้ายห้อง"มันมีสีหน้าตกใจวูบหนึ่งให้เห็น ก่อนจะกลับมานิ่งเฉยเหมือนปกติ
"งั้นก็ไม่เป็นไร"ผมเดินกลับเข้าห้องนอน ปล่อยให้มันเดินเข้าไปในครัวคนเดียว
นุ ยังคงหลับไม่ตื่น สงสัยว่าเมื่อคืนคงดื่มหนักเหมือนกัน ผมล้มตัวลงนอนข้างๆ อยากหลับแต่กลับหลับไม่ลง เสียงพูดคุยดังจากด้านนอก คงมีใครตื่นมาแล้วแน่ๆ อาจเป็นพี่หน่อย เพราะพี่นพคงไปนอนต่อ ผมเองก็นอนไม่หลับ ถ้าออกไปนั่งคุยกับพี่หน่อยคงจะดีกว่า
เสียงพูดคุยเบาๆ จากห้องห้องนั่งเล่นทำให้ค่อนข้างแปลกใจ คนที่พูดคุยกับมันอีกคนคือพี่นพ ความคิดที่จะเดินกลับเข้าห้องก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินชื่อตัวเองลอดจากบท สนทนาของคนในห้อง
"รู้ได้ไงว่าพายรู้แล้ว"
"ก็เห็นท่าทางแปลกๆ ไป น้าพิมพ์คงบอกแล้วล่ะ ผมคิดว่านะ"
"ก็อาจจริง แล้วน้องเขาว่าไงมั่งล่ะ"
" ไม่ได้ว่าไร ไม่ได้พูดถึง ทวงแต่รูป แต่บอกไปว่าหายแล้ว เชื่อด้วย เดินกลับเข้าห้องไปเลย"มันพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ ผมคิดอยู่แล้วว่ามันอาจจะโกหก แต่ไม่เข้าใจว่าโกหกทำไม อยากได้รูปผมเหรอ
"โกหกจนเคย เดี๋ยวเขาก็ไม่รู้อะไรจริงอะไรไม่จริงพอดี"
"งั้นมั้ง ไม่รู้สิ แล้วแต่เขา ผมว่าป่านนี้คงคิดล่ะมั้งว่าผมกำลังหลอกน้าพิมพ์อยู่"
"ไม่หรอกมั้ง คิดมากไปได้"
" หรือพี่นพว่าไม่จริง เด็กนั่นเคยคิดกับผมในแง่ดีด้วยเหรอ ขนาดไปช่วยตอนโดนมอมยังไม่มีขอบคุณเลย ทำอะไรก็เลวไปหมด เหนื่อยแล้วเหมือนกัน"มันพูดถูก ผมไม่เคยขอบคุณที่มันช่วยผมไว้เลย
" ก็เรามันทำกับเขาไว้เยอะนี่ เคยพูดดีๆ กันหรือไง พี่เห็นด่ากันกัดกันตลอด"พี่นพพูดจบ ผมก็ไม่ได้ยินมันพูดอะไรกลับมาอีก ได้ยินแต่เสียงหัวเราะจากคนทั้งสอง พอผมจะหันหลังกลับก็เห็นนุยืนอยู่ด้านหลัง รอยยิ้มล้อเลียนทำให้รู้เลยว่ามายืนข้างหลังผมนานแล้ว และก็คงได้ฟังเหมือนๆ กับผม
นุแตะข้อมือผมเบาๆ แล้วพาเดินกลับเข้าไปในห้อง ผมรู้สึกอายๆ ที่ถูกจับได้ว่าแอบฟังคนอื่นคุยกัน แต่นุก็ไม่ได้พูดล้ออะไร ยกเว้นสีหน้ายิ้มๆ นี่ล่ะที่ทำให้อึดอัด
"ยิ้มอะไรนุ"ผมแกล้งทำเสียงดุให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามกลัว
"ยิ้มให้เด็กไม่ดี แอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน"
"ก็นินทาพายอยู่ พายมีสิทธิ์ฟัง"ผมเถียงเข้าข้างตัวเองเต็มที่
"ใช่ที่ไหน นินทาเขาใช้เวลาคนที่พูดกับเราไม่ดีลับหลัง พี่ตั้มไม่เห็นพูดไม่ดีเลย"
"เข้าข้างกันล่ะสิ ก็นุชอบมันนี่"ผมเอนหลังพิงหัวเตียงแล้วกอดหมอนไว้บนตัก นุเองก็ทำแบบเดียวกันแต่นั่งประจันหน้าผม
" พายเนี่ยคิดเล็กคิดน้อยเหมือนกันนะ ไม่รู้จะคิดอะไรให้มันซับซ้อนทำไม นุกับพี่ตั้มไม่มีอะไรกันแล้วจริงๆ นะ ตั้งแต่วันนั้นนั่นล่ะ เจอกันยังนับครั้งได้เลย"
"นุจะเจอไม่เจอพายไม่เห็นสนเลย ไม่ต้องมาบอกพายหรอก"ผมไม่สนใจจริงๆ นะ
"รู้ครับว่าไม่สน แต่นุอยากบอก สงสารพี่ตั้ม"
"สงสารทำไม ต้องสงสารพายสิ"
" สงสารพี่ตั้ม พายไม่สนใจ ทำไมพายไม่พูดดีๆ กับพี่ตั้มบ้างล่ะ"สีหน้าแววตานุเต็มไปด้วยความสงสารอย่างที่พูด แต่มันเจือด้วยความรักปนอยู่ในนั้นด้วย
"กับคนแบบนั้นเนี่ยนะ"
"แบบไหน"
"....เลวไง"คำนิยามสั้นๆ แต่ผมว่าตรงกับมันที่สุดแล้ว
"ยังไง"
"เอ๊ะ! นุจะหาเรื่องกวนพายเหรอ"
"เปล่า ถามจริงๆ พี่ตั้มเลวยังไง"นุทำหน้านิ่งถามอีกครั้ง
"มันข่มขืนพาย นุก็รู้ แล้วยังเรื่องอื่นอีกที่ทำกับพาย"
" แล้วเขาตั้งใจรึเปล่า พี่ตั้มก็ขอโทษพายแล้วนี่ แล้วเขาก็ยอมรับผิดนี่นา พายจะเอาอะไรอีกล่ะ อยากให้เขาทำยังไงเหรอ แล้วทิวล่ะ นั่นก็จะข่มขืนพายเหมือนกัน มอมยาด้วย สองครั้งนะไม่ใช่ครั้งเดียว ทำไมยังให้อภัยเลย"
"พายไม่ได้ให้อภัยทิวนะ"
"พายให้ นุดูออก พายไม่เกลียดทิวเหมือนเกลียดพี่ตั้ม พายแค่โกรธ นุไม่เห็นสองคนนี้จะต่างกันตรงไหน ทำผิดเหมือนๆ กัน เพียงแต่พี่ตั้มทำสำเร็จ แต่ทิวไม่ พี่ตั้มไม่ได้ตั้งใจให้เป็นพาย แต่ทิวตั้งใจทำกับพาย สองคนนี้ต่างกันตรงไหนเหรอ นุยังดูไม่ออกเลย หรือพายรักทิว"
"เปล่านะ!! ทิวเป็นเพื่อน"ผมเถียงทันทีที่นุพูดจบ
"เพราะเป็นเพื่อนเหรอถึงได้ให้อภัยง่ายๆ เพราะพี่ตั้มเป็นคนอื่นพายเลยไม่ให้อภัยเหรอ"
" มันไม่ใช่อย่างที่นุคิด ไม่ใช่ครั้งเดียวที่มันทำร้ายพาย นุไม่รู้หรอกว่าพายต้องเจอกับอะไรบ้าง"สำหรับผมครั้งแรกก็เจ็บจนเกือบตาย แล้ว แล้วการเจอมันในครั้งต่อๆ มาอีก
"ก็คงจะจริง นุไม่รู้เลยเข้าข้างพี่ตั้มได้ ทั้งๆ ที่ถูกทิ้งก็ยังเชียร์พี่ตั้มอีก แล้วพายล่ะ รู้อะไรบ้าง พี่ตั้มทำอะไรกับพาย พายคิดแค่นี้เองเหรอ ไม่หาคำตอบบ้างเหรอว่าพี่ตั้มทำเพราะอะไร หรือไม่ว่ายังไงพี่ตั้มก็จะเลวสำหรับพายเสมอ พายไม่ยุติธรรมเลย ถ้าเป็นนุ นุจะเกลียดทิวจนไม่อยากมองหน้า เพื่อนกันแท้ๆ ยังทำกันได้ แต่...พายไม่คิดอย่างนี้สินะ"
"........."ผมอึ้งกับสิ่งที่นุพูด ผมไม่เคยคิดกับทิวเหมือนอย่างที่นุคิดจริงๆ ผมไม่ยุติธรรมงั้นเหรอ
" อย่าโกรธที่นุพูดมากเลยนะ นุสงสารพี่ตั้มจริงๆ ที่พี่ตั้มส่งนุเรียน ให้งานนุทำ ก็เพราะนุเป็นเพื่อนพาย พี่ตั้มบอกนุอย่างนี้ ตอนที่ได้ฟัง มันทำให้นุรู้สึกเกลียดพายขึ้นมาเลยล่ะ ที่พี่ตั้มทำทุกอย่าง...มันเกินกว่าคำว่ารับผิดชอบไปแล้ว"
*********************************************************************
พึ่งเห็นนุมีประโยชน์ก็วันนี้แหล่ะ
กร้ากกกกกก
