
อ่านเข้าไปๆๆ
-------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 13 (1)ร่างสูงใหญ่ยืนพิงกรอบประตู สายตาที่จ้องมองตรงมาทำให้รู้สึกขนลุก รอยยิ้มยียวนแกมหยอกเย้าไม่ได้ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้เลย
“.......นุล่ะครับ”
“อาบน้ำอยู่ เข้ามาก่อนมั้ย”ลำแขนหนาเหยียดกว้างเพื่อเปิดประตูออกจนมองเห็นด้านใน
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยว....”
“เข้ามาข้างในเถอะ จะได้ไม่ต้องไปตาม”ผมยังพูดไม่จบเขาก็พูดแทรกขึ้นมา แล้วเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้อง ผมเลยต้องเดินตามเข้าไป
“หายไปไหนมาเหรอครับ มาไม่เคยเจอเลย”
“มีสอบเลยไปติวกับเพื่อนน่ะครับ แล้วนี่พี่จะพานุไปไหนหรือเปล่า ถ้ายังไงผมมาหานุใหม่วันหลังก็ได้”
“ก็ว่าจะพาไปกินข้าวแถวๆ นี้ ไปด้วยกันนะ”ท่านั่งสบายๆ บนเตียงนอนแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
“ไม่ดีกว่าครับ งั้นฝากบอกนุ..”
“อ้าวพาย มาแล้วเหรอ”นุเดินออกมาจากห้องน้ำในเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ผมไม่เคยเห็น ที่รู้ว่ามันใหม่ไม่ใช่เรื่องแปลก เสื้อผ้าแบรนด์ยี่ห้อดังที่ไม่ใช่สไตล์ของคนใส่ทำให้รู้ได้ว่า.....มีคนซื้อให้ และคนซื้อ....ดูจะพอใจเมื่อมันถูกสวมบนเรือนร่างบอบบางนี้
“นุมีนัดแล้ว ไว้วันหลังค่อยไปด้วยกันนะ”ผมพูดจบก็เตรียมเดินกลับเลยครับ
“ทำไมล่ะ ไปด้วยกันสิ”นุคว้ามือผมเอาไว้ ผมปฏิเสธยังไงนุก็ไม่ยอม........สุดท้ายก็ต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ ยังดีนะครับที่แค่มากินสุกี้ ผมคิดว่าเขาจะพานุไปร้านอาหารหรูๆ ซะอีก ถ้าเป็นแบบนั้นผมได้ถูกไล่ออกจากร้านแน่ๆ แต่งตัวโทรมๆ อย่างนี้มานั่งตรงข้ามเขาสองคนแล้วรู้สึกแปลกครับ เหมือนเป็นส่วนเกินเลย.....ความจริงก็ใช่นี่นา นั่งมองเขาสวีทกัน รู้สึกละลายใจเหมือนกันครับ มาขัดจังหวะความสุขคู่รักแบบนี้
“ไม่อร่อยเหรอครับน้องพาย ไม่เห็นกินเลย”พี่ตั้มตักสุกี้ใส่ถ้วยให้นุเสร็จ ก็คีบเป็ดย่างมาใส่จานผมอีก
“ขอบคุณครับ ก็อร่อยดีครับ แต่เริ่มอิ่มแล้ว”
“กินน้อยจัง มิน่าตัวเล็กนิดเดียว ขนาดสูงกว่านุแต่....ตัวบางพอๆ กันเลย”ผมไม่ค่อยชอบสายตาเวลาที่เขามองผมเลย รู้สึกเหมือนถูกสำรวจทั่วทั้งตัว
“เอ่อ..นุ ใกล้เวลาเข้างานแล้วน่ะ พายไปก่อนนะ ไปก่อนนะครับพี่ตั้ม ขอบคุณที่พามาเลี้ยงครับ”ผมยกมือไหว้พี่เขาแล้วก็รีบเดินออกมาเลย เสียมารยาทก็ไม่สนแล้วครับ ยิ่งนั่งนานๆ ยิ่งรู้สึกกลัวๆ ยังไงไม่รู้ ถึงเขาจะคอยเอาใจนุ แต่ทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นมาก็จะเห็นสายตาเขามองผมอยู่ แล้วที่สำคัญ...สิ่งที่ผมเกือบลืมไปแล้ว...น้ำเสียง...ที่น่ารังเกียจ
“เป็นอะไรพาย นั่งเหม่อเชียว”พี่ธารเดินมายืนข้างหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ วันนี้ไม่ค่อยมีสติทำงานเลยจริงๆ
“เอ่อ..ขอโทษครับ พี่ธารมีอะไรจะใช้พายหรือเปล่า”
“ก็ไวน์ที่พายเคยเอามาให้พี่น่ะ พี่ว่ารสชาดดีนะ ของที่นี่ค่อนข้างขึ้นชื่ออยู่แล้ว แต่เพื่อนพายขายถูกกว่าเจ้าอื่น พี่เลยว่าจะสั่งมาลงที่ร้าน พายบอกเพื่อนให้โทรมาคุยกับพี่อีกทีแล้วกันนะ”พี่ธารบอกข่าวดีกับผมมากเลยครับ ไม่รู้สิ เวลาที่ผมได้ช่วยใครสักคน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ มันก็ทำให้ผมภูมิใจ ดีใจแทนนุนะครับ จะได้มีเงินส่งไปให้ที่บ้านเยอะๆ
“พรุ่งนี้ทิวมารับนะ”ทิวบอกผมก่อนที่ผมจะปิดประตูรถ วันนี้ทิวก็มาส่งผมเหมือนเดิม
“วันหยุดไม่รู้จักหยุดนะทิว”
“พรุ่งนี้มีพนักงานใหม่มาน่ะ จ้างมาเปิดแผ่นในร้าน”
“พี่ธารจ้างเหรอ ก็ดีนะ ทิวจะได้พักเยอะๆ หน่อย ควบทั้งดีเจ ทั้งร้องนำ เห็นแล้วเหนื่อยแทน”
“แค่พายเป็นห่วง ทิวก็หายเหนื่อยแล้ว”
“....ไอ้บ้า ไปไหนก็ไปเลย”ผมปิดประตูแล้วเดินหนีมันเลย เดี๋ยวนี้ชอบพูดจาหวานๆ ใส่ผมตลอด เข้าใจเลยครับว่าเวลาแกล้งนุ แล้วมันอายน่ะ เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง
ผมเดินผ่านห้องนุ เห็นแสงไฟลอดออกมา คิดว่าคงยังไม่หลับ ผมตัดสินใจเคาะเรียกเพื่อจะบอกข่าวดีเรื่องงานให้นุรู้ พรุ่งนี้นุจะได้รีบโทรไปหาพี่ธารแต่เช้า
ผมยืนรอสักพักก็ไม่เห็นนุออกมาเปิดเลย บางทีนุคงหลับแล้วลืมปิดไฟแน่ๆ แต่.....พอจะก้าวเท้าเลยไปห้องตัวเอง ประตูห้องนุก็เปิดออก คนที่มาเปิด...คือคนเดิม....คนที่ผมไม่อยากอยู่ใกล้
“เพิ่งกลับเหรอครับน้องพาย”
“ครับ นุไม่อยู่เหรอครับ”
“...หึหึ....หลับน่ะ...งานเขาหนัก”เสื้อเชิ๊ตสีฟ้าที่ปลดกระดุมออกกว้างจนเห็นร่องรอยที่บ่งบอกถึงที่มา ถึงไม่ตั้งใจมอง แต่คนตรงหน้าเหมือนตั้งใจให้เห็น
“....เหรอครับ...งั้นผมเข้าห้องก่อนนะครับ”ผมยกมือไหว้แล้วรีบเดินไปไขกุญแจห้องตัวเอง รู้สึกมือมันสั่นๆ ยิ่งรีบก็ยิ่งลน สายตาที่ยังจับจ้องมาทำให้รู้สึกขนลุก พอประตูเปิดออกได้ก็แทรกตัวเข้าไปในห้อง มือที่ดันประตูปิดถูกดันกลับ และตัวผมก็เซไปด้านหลังเพราะแรงผลักจากด้านนอก ร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเข้ามายืนในห้องเต็มตัวพร้อมล็อคประตูและปิดกั้นทางออกเดียวของผม
“.......ไม่เจอกันนาน...ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอครับ.....
น้องพาย”
---------------------------------------------------------------------------------------
สั้นๆแต่ได้ใจความ
