บทที่ 15 ผมอยู่นี่..
ตอนนี้เข้าสู่บรรยากาศใกล้สอบปลายภาคของเทอมหนึ่ง นักศึกษาเริ่มจับกลุ่มอ่านหนังสือกันจนดึกดื่น หลายชมรมงดกิจกรรมแม้แต่ชมรมว่ายน้ำที่จะมีแข่งช่วงธันวาคมเองยังลดเวลาการซ้อมชั่วคราว ที่นั่งเกือบทุกที่ถูกจับจอง แม้แต่ร้านคาเฟ่ในเขตมหาวิทยาลัยยังเต็มเกือบหมด แน่นอนว่ากลุ่มของภามเองก็ต้องหาที่นั่งอ่านหนังสือเช่นกัน
น้ำแข็งในแก้วตรงหน้าเริ่มละลาย เด็กปี1คณะเศรษฐศาสตร์สามคนและหนึ่งสาวคณะอักษรนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในร้านกาแฟเปิด24ชั่วโมงหน้ามหาวิทยาลัย วันนี้พวกเขามีเรียนถึงแค่บ่ายสองโมง พอเรียนเสร็จเลยตัดสินใจมาหาที่นั่งอ่านหนังสือด้วยกันอย่างที่เห็น
“ไม่เห็นเข้าใจเลยโว๊ย!!” ทีมขยี้หัวแล้วลบโจทย์เลขในสมุดจนมันยับย่น สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้ฟุบหน้าลงกับโต๊ะโอดครวญ
“โชคดีที่คณะเดลไม่เน้นเลข” อักษรหนึ่งเดียวทำท่าโล่งใจ แต่ก็ตาละห้อยมองหนังสือเรียนเล่มหนาที่เธอต้องท่องจำ
ภามเพิ่งอ่านหนังสือจบไปเมื่อกี้เลยพักสมองด้วยการเล่นมือถือ เขาเหลือบมองเพื่อนซี้ขำๆ ก่อนจะกลับมาให้ความสนใจข้อความจากใครบางคนต่อ ถึงช่วงนี้จะยุ่งแต่ภาพของเขากับพี่ดีนยังมีประปรายออกมาให้เซฟเก็บแถมเมื่อเร็วๆ นี้ยายมะนาวลากเขาเข้ากลุ่มห้องลับดีนภามซะงั้นแต่ไม่ได้บอกสมาชิกในห้องว่าเขาคือภามตัวจริง เลยทำให้ได้อ่านอะไรสารพัดแถมได้เห็นรูปฉบับเอ็กคลูซีฟที่แม้แต่เขาเองยังตกใจว่าไปหามาจากไหน วันไหนเบื่อๆ เขาก็เนียนเข้าไปคุยในกลุ่มนี้เหมือนกันทำให้รู้ว่าสมาชิกไม่ได้มีแค่ผู้หญิง แต่มีผู้ชายหลายคนอยู่ในห้องนี้ด้วย
ต้องบอกว่าโชคดีที่ไม่มีใครออกมาแอนตี้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับพี่ดีนเพราะถึงจะไม่ได้พูดหรือประกาศตัวชัดเจนแต่หลายคนก็เดาออกว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ยกเว้นไว้คนนึง
“อ้าว ติวหนังสืออยู่เหรอ”
เสียงทักทายมาพร้อมแรงกอดที่ไหล่จนภามตัวเอียง ทีมหยุดอ่านหนังสือแล้วมองคนมาใหม่เขม็ง
“พี่อเล็กซ์” ภามถอนใจพลางหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดูดเพื่อหลีกเลี่ยงการสนทนา รุ่นพี่คนนี้ตื้อมากตื้อทุกเวลาที่มีโอกาส มะนาวเล่าให้ฟังว่าตอนอยู่ชมรมพี่อเล็กซ์เป็นรุ่นพี่ที่ดีคนหนึ่งเลยทำให้เขาปฏิบัติตัวด้วยไม่ค่อยถูก
“เมื่อไหร่พี่จะเลิกตามเพื่อนผมวะ” ทีมเท้าคางมองตาขวาง
อเล็กซ์ยักไหล่ เขาหันไปยิ้มให้สาวๆ ในร้านที่ยกมือถือขึ้นถ่ายรูปโดยโอบกระชับคนที่ตัวเองตามจีบให้ชิดใกล้ และโดยไม่ทันระวังทำให้น้ำในมือน้องกระฉอกเลอะเสื้อนักศึกษา
“เฮ้ย โทษๆ” อเล็กซ์รีบหยิบทิชชู่มาเช็ดให้ แต่ภามกลับดันมือเขาออกแล้วรับทิชชู่มาเช็ดเอง
“ไม่เป็นไรครับ”
สร้อยที่ถูกซุกซ่อนอยู่ใต้เสื้อนักศึกษาโดนดึงออกมาเช็ด ด็อกแท็กสีเงินสองประกายวับวาว อเล็กซ์ขมวดคิ้วมองก่อนจะคว้าด็อกแท็กพลิกดูให้เต็มตา
D-E-A-N
เด็กหนุ่มดึงสร้อยคืนแล้วรีบสอดเข้าในเสื้อ แก้มร้อนขึ้นมากับสายตาที่จับจ้อง มันไม่ใช่แค่สายตาของพี่อเล็กซ์แต่มีสายตาของเดลที่กำลังปิดปากทำตาโตตอนเห็นด็อกแท็ก
ดาราหนุ่มลูกครึ่งถอนใจ เขาสนใจภามจริงๆ ยิ่งตามตื้อก็ยิ่งชอบนิสัย เขารู้ว่าน้องปฏิเสธ เขารู้ว่าน้องชอบใคร แต่เขาก็หวังโอกาสอันน้อยนิดเหมือนกัน พอมาเห็นหลักฐานเต็มตานี่โคตรจี๊ดที่ใจ
“ภาม..”
เจ้าของชื่อเงยมองเขาตาปริบๆ
“ตกลงเป็นแฟนกับดีนมันแล้วเหรอ”
เสียงของอเล็กซ์ไม่เบานักและในร้านเองก็เปิดแค่เพลงคลอเสียงเบา บรรดานักศึกษาต่างอ่านหนังสือกันเงียบๆ ทำให้เสียงของอเล็กซ์ดังพอที่จะทำให้ทุกคนหันขวับมามองที่โต๊ะของภามเป็นตาเดียวกัน
“ผมเคยตอบพี่แล้ว”
“แต่มันไม่เคลียร์” อเล็กซ์บีบไหล่จนน้องขมวดคิ้ว “เป็นแฟนกับดีนแล้วใช่ไหม” เขาย้ำอีกครั้ง
“เฮ้ย! พี่” ทีมลุกพรวด ไม่พอใจที่เพื่อนโดนคุกคาม ก่อนจะโดนใครบางคนกดให้นั่งลงที่เดิม
“ถ้าฉันเป็นแฟนน้องแล้วนายจะทำไม” เสียงทุ้มต่ำปนหงุดหงิดดังขึ้นด้านหลัง ดีนเพิ่งเดินเข้ามาในร้านเพราะนัดน้องเอาไว้และมาทันได้เห็นฉากเด็ดพอดี
ดวงตาสีเทาอมเขียวดุดันมองใบหน้าเพื่อนร่วมคณะเขม็ง ภามรีบลุกขึ้นไปยืนข้างๆคนมาใหม่ เขากระตุกชายเสื้อพี่ดีนเบาๆเพราะกลัวจะมีเรื่อง
“พี่วิน ปล่อยสิวะ” ทีมฟึดฟัดแต่แรงกดที่ไหล่ทำให้เขาลุกขึ้นไม่ได้
“อยู่เฉยๆ” วินปรามเสียงเข้ม “อเล็กซ์ไม่ใช่คนไร้เหตุผล ดีนมันก็ไม่ใช่คนชอบใช้กำลังถ้าไม่จำเป็น”
อเล็กซ์แบมือสองข้างแล้วยักไหล่ “กูไม่ชอบแย่งของๆใคร ถ้าเป็นแฟนกันจริงก็คงต้องยอมถอย” เขาก็แค่ต้องการความชัดเจน
ดีนพ่นลมหายใจฉิวๆ เขาโอบไหล่น้องดึงเข้าหาตัวแล้วมองเพื่อนร่วมคณะด้วยสายตาจริงจัง
“งั้นมึงคงต้องถอย” คำเรียกเปลี่ยนไปพร้อมเสียงทุ้มต่ำดังชัด “เพราะกูไม่ชอบให้ใครมายุ่งคนของตัวเอง”
เสียงฮือฮาของคนที่ฟังอยู่ในร้านดังขึ้นมาทันที ภามก้มหน้างุดไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาคงหน้าแดงไปถึงหูมือก็กำชายเสื้อพี่ดีนแน่น มันเป็นเรื่องที่รู้อยู่แก่ใจแต่ก็อดหวั่นไหวไม่ได้เมื่อได้ยิน
อเล็กซ์สบถอุบ “แม่ง ตอนไหนวะเนี่ย”
“พักนึงแล้ว” สัมผัสที่ไหล่ร้อนผ่าวและนั่นยิ่งทำให้ภามเขินหนักไปกันใหญ่
ดาราหนุ่มมองน้องที่หน้าขึ้นสีระเรื่อ ถึงจะเสียดายแต่เขาก็ไม่ชอบแย่งของใครจริงๆ
“ถ้าไม่ใช่มึงกูคงไม่เชื่อ” อเล็กซ์เดินเข้าไปหาแล้วตบลงบ่นไหล่ดีนหนักๆ จนอีกฝ่ายขมวดคิ้ว
“บอกไว้เลย ทำน้องเสียใจกูรอเสียบ” พูดจบก็โบกมือให้ไม่รอคำตอบ เขาเดินออกจากร้านพร้อมเสียงบ่นดังแว่วเข้ามาให้ได้ยิน “แม่ง อกหักโว้ย”
“ไอ้เหี้ยนี่” ดีนสบถดังทำเอาภามสะดุ้งโหยง
ก็ไม่เคยเห็นพี่ดีนเวอร์ชั่นนี้นี่นา...
ดีนและวินนั่งร่วมโต๊ะกับน้องๆ หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย ชายหนุ่มเปลี่ยนมาจับมือน้องไม่ปล่อยแถมไม่สนใจสายตาของสมาชิกร่วมโต๊ะที่อยากถามใจจะขาด
“พี่...พี่คบกับภามแล้วจริงๆเหรอคะ” เดลเป็นคนแรกที่ถามขึ้นมาก่อนซึ่งก็ได้คำตอบเป็นการพยักหน้าจากพี่ชาย หญิงสาวกลั้นเสียงกรี๊ดหันไปตบมือกับมะนาวที่มือไม้สั่นหน้าแดงแข่งกัน
“แล้วหมอนั่นมันจะยังมาตื้อภามอีกไหม” ทีมที่ยังแอบกรุ่นอยู่เอ่ยถามด้วยความกังวล
“ไม่หรอก อเล็กซ์มันบอกว่าถอยก็คือถอย” วินเป็นคนตอบแทน
“มันจะเชื่อว่าพี่ดีนเป็นแฟนภามจริงเหรอพี่ ผมเห็นภามปฏิเสธไปตั้งหลายทียังไม่เห็นเลิกตื้อ”
“เชื่อดิ” วินหัวเราะร่วน “ถ้าไอ้ดีนพูดแสดงว่าจริง เรื่องแบบนี้มันไม่พูดเล่น ใครๆก็รู้”
พอได้รับคำยืนยันจากพี่วิน ภามก็บีบมือใหญ่แรงขึ้นพลางหันไปมองอีกฝ่ายตาปรอย แต่พอเห็นดวงตาฉ่ำวาวมองกลับมาก็หน้าร้อนผ่าวก้มหน้าหลบสายตาแทบไม่ทัน
ดวงตาพี่ดีนมันชัดเจนยิ่งกว่าคำบอกรักใดๆ เสียอีกครืด ครืด ครืด
โทรศัพท์มือถือสั่นระรัวไม่หยุดโดยมีเจ้าของมันนั่งมองตาปริบๆอยู่บนเตียง ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อบ่ายเฟซบุ๊คแทบแตก กลุ่มไลน์แทบพัง ภามนึกไม่ออกเลยว่าในคาเฟ่นั้นมีกี่คนที่เอามือถือมาถ่ายเหตุการณ์เอาไว้เพราะมันไม่ได้มาแค่รูป
แต่มาเป็นคลิป
ห้องลับดีนภาม (499)
- พวกแก๊ ฉันได้ของดีมา อ๊ากกกกกกกกกกกกกก
- ได้อะไร ไหนส่งมา
- เพื่อนฉันเว้ย อยู่ในคาเฟ่แล้วเจอของดีมันถ่ายคลิปไว้
- คลิปไร คลิปพี่กะน้องเขาเดทกันป่ะ
- ยิ่งกว่านั้นๆ แกดู๊ *ส่งคลิป*
...
...
- @%^#&*($#&*%^)&*(
- กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!
- มึงๆๆๆๆๆๆๆๆ สรุปแม่งเรียล ไอ้เชี่ยย คู่เรียล
- แม่ขาหนูตายตาหลับแล้วววว!!!!
- “งั้นมึงคงต้องถอยเพราะกูไม่ชอบให้ใครมายุ่งคนของตัวเอง” ฟิน แฮ่กๆๆๆๆ เอาไปแปะเฟซล่ะ
- มึงดูน้อง มึงดูน้องเขิน น่ารักสัส
- หน้าแดงหูแดงไม่กล้ามองพี่ โอ๊ยยยยย
- โอบ ไม่ดิ กอดน้องแน่นเลย งือออ เลือดกำเดา...
- เชี่ย กูเอาไปแชร์ในเฟซได้ป่ะ
- ช้าไปแล้ว ในเฟซแชร์กันว่อนแล้วเว้ย
- บอร์ดมหาลัยก็มีมึง ถึงกับมีตั้งกระทู้ดีนภาม *กราบ*
- มึง เพื่อนกูอยากเข้ากลุ่มไลน์ด้วย
- กลุ่มเต็มวะ เฮ้ยไปเปิดเพจเหอะ
ภามมือสั่นตอนเปิดคลิป ทั้งภาพทั้งเสียงคมชัดจนน่าโมโหเทคโนโลยีสมัยนี้ แถมมีซูมมือพี่ดีนที่โอบเขาไว้ด้วย! โอ้ยยยย จะไปสู้หน้าคนในคณะยังไงละเนี่ย
ตึ่ง ไลน์ยังคงเด้งอย่างต่อเนื่อง ภามเบิกตากว้างเมื่อเห็นข้อความของเพื่อนสาวโผล่มาในห้องลับ
- ภาม เราขอเปิดเพจนะ (มะนาว)
- เดี๋ยวๆๆๆ แอดมะนาวถามใคร
- ถามน้องภาม?? น้องอยู่ในห้องด้วยเหรอเฮ้ย
- อย่าบอกนะว่าคนที่เพิ่งเข้ามาเมื่ออาทิตย์ก่อน!!!
- น้องภาม!! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด พี่รักหนู
- รักกับพี่ดีนนานๆนะคะน้องภาม
- อยากกินขนมฝีมือภามจังครับ
เด็กหนุ่มตั้งรับไม่ทัน รีบเอามือถือยัดใส่ใต้หมอนแล้วซุกหน้างุดร้องโวยวาย มือก็ขยำขยี้ทุบเตียงระบายอารมณ์จนหอบแฮ่ก เขาพลิกตัวนอนหงายยกมือขึ้นปิดหน้า
ทั้งเขินทั้งมีความสุขจะตายแล้ว
มือถือเครื่องเดิมสั่นและส่งเสียงร้องดังลั่น ทำให้คนที่กำลังเพ้อรีบคว้าขึ้นมารับสาย เสียงใสๆ หัวเราะแว่วเข้ามาให้ได้ยิน
(ภามเห็นในเฟซรึยัง)
“เดล เราไม่กล้าเปิดเฟซเลย” พูดพลางมุดเข้าในผ้าห่ม
(ตอนนี้เพจดีนภามเปิดเรียบร้อยแล้วจ้า แถมมะนาวลากเราไปเป็นแอดมินร่วมด้วย ฮ่าๆ)
“โอ้ย มะนาววววววววว” ภามลากเสียงยาว เพื่อนตัวดีขายกันไม่ไว้หน้าเลย “อย่าบอกนะว่าเดลโทรมาหาเราเพื่อให้ไปกดไลค์”
(แหมรู้ได้ไง ฮ่าๆ ล้อเล่น เราจะโทรมาขอความช่วยเหลือน่ะ)
“หือ มีอะไรหรือเปล่า”
(คือ..เร็วๆนี้พ่อแม่เราจะกลับมาไทยแหละ ก็เลยอยากทำขนมเซอร์ไพรส์ท่านหน่อย)
คราวนี้คนฟังถึงกับดันตัวขึ้นนั่งตั้งใจฟัง “คุณพ่อคุณแม่เหรอ”
(ใช่ๆ เราอยากทำขนมไทย เอาแบบทำง่ายๆกินอร่อย ภามพอมีความคิดอะไรดีๆไหม)
คุณพ่อคุณแม่ของพี่ดีน...
ริมฝีปากบางเม้มแน่น อยู่ๆ ความกังวลใจก็แว่บขึ้นมา
“อะ อือ ก็พอมี” เสียงตอบแผ่วลงเหมือนไม่มั่นใจ
(ดีเลย!! วันอาทิตย์นี้ภามว่างไหม มาสอนที่บ้านเราหน่อย)
“ที่บ้าน!?” ภามร้องเสียงหลง
(ใช่ๆ เดี๋ยวเราชวนทีมกับมะนาวมาด้วย มาแต่เช้าเลยจะได้กินข้าวด้วยกัน)
“แล้วอ่านหนังสือสอบ..”
(ฮื้อ กลัวอะไร มีทั้งพี่ดีนพี่ดอน คงพอมีใครสอนได้แหละน่า)
ภามจับอกตัวเองหายใจลึกๆ สงบสติ ยังไม่ทันไรเขาก็ตื่นเต้นขนาดนี้แล้ว
“อือ...ได้ เดี๋ยวเราไปสอนให้วันอาทิตย์นี้”
เสียงร้องเย้ดังขึ้นมาจนภามหัวเราะ เขาจัดการนัดแนะเวลากับเดลแล้วแยกย้ายกันโทรหาเพื่อนอีกสองคนเพื่อชวนไปด้วยกัน
บ้านพี่ดีน บ้านพี่ดีน บ้านพี่ดีน
“สู้เว้ย!!!!!!” คนขี้อายตะโกนลั่นห้องเรียกกำลังใจตัวเอง
ฟู่ว์
ควันบุหรี่สีเทาลอยอ้อยอิ่งท่ามกลางความมืด เจ้าของห้อง801ยืนพิงระเบียงขยับร้อยยิ้มกับเสียงตะโกนของน้องห้องข้างๆ
เด็กมันน่ารัก
(อย่างที่ผมบอก เดี๋ยวส่งรายละเอียดให้อีกที ฝากด้วยนะพี่ศิลป์....ฟังผมอยู่รึเปล่า?)
เสียงทุ้มต่ำของรุ่นน้องดังจากมือถือที่แนบหูอยู่ ศิลป์ขยี้บุหรี่ลงที่เขี่ยข้างตัวพลางทอดสายตามองท้องฟ้ายามค่ำคืน
“เออ ให้หาคนนะ” เขาเดินกลับเข้ามาในห้องแล้วหยิบกระดาษที่จดข้อมูลเบื้องต้นเอาไว้ขึ้นมาดู
(ครับ คงต้องพึ่งพี่จริงๆ ผมลองหาเองแล้วแต่ไม่พบ)
“คงไม่รับปาก เพราะข้อมูลมันน้อยมากแต่จะลองให้คนของพ่อหาให้” ศิลป์โคลงหัว ไหนๆ แล้วคงต้องใช้สิทธิ์การเป็นลูกของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ช่วยเหลือกันบ้าง อีกอย่าง..การทำให้เจ้าดีนติดหนี้บุญคุณไว้ก็ไม่แย่สักเท่าไหร่
(ไม่เป็นไรครับ ขอแค่ให้ตีวงแคบลงมาได้อีกนิดผมก็ยินดี)
“อาฮะ ถ้าได้แล้วจะโทรหา”
(ขอบคุณครับ)
สัญญาณโทรศัพท์ขาดไปแล้ว ศิลป์รออีกฝ่ายส่งข้อมูลมาแล้วจัดการติดต่อลูกน้องพ่อให้ช่วยหาข้อมูลเพิ่มให้ คาดว่าไม่นานคงรู้ผล
“กรณ์กับอินทัช..” เขาวางกระดาษลงแล้วย้ายตัวเองไปห้องน้ำ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าแล้วก้าวสู่สายน้ำชุ่มฉ่ำ
ยิงตัวตายงั้นเหรอ....
ดีนมันกำลังหาใครกัน?
วันอาทิตย์มาถึงเร็วจนตั้งตัวแทบไม่ทัน ภามยืนมองบ้านสามชั้นตรงหน้าด้วยความสนใจ ถึงจะเป็นบ้านในโครงการขนาดใหญ่ แต่บ้านทุกหลังดูจะมีเอกลักษณ์ของตัวเองชัดเจน ดังบ้านพี่ดีนที่เต็มไปด้วยสีเขียวสดชื่นและมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างเพราะเป็นบ้านหลังริม
“คุณแม่ชอบต้นไม้น่ะ เลยต้องมีพี่คนสวนช่วยดูแล” เดลนำทางเพื่อนๆ เข้ามาในบ้าน ด้านในตกแต่งค่อนข้างทันสมัย บรรยากาศโปร่งสบายเพดานสูง ห้องแรกที่เจอคือห้องรับแขกที่ตกแต่งสวยงามดูเหมือนจะไม่ค่อยใช้งานเท่าไหร่ เดลพาพวกเขาเดินถัดเข้าไปห้องที่สอง
“นี่ห้องนั่งเล่น อ้าว พี่ดอนตื่นเช้าจัง”
เจ้าบ้านอีกคนกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟามือถือรีโมททีวี เขาโบกมือทักทายทุกคน ยักคิ้วให้ภามหยอกเย้า
“ตื่นมาดูบอลน่ะ มาทำอะไรกันละเนี่ย” เขาขยับตัวนั่งให้ดีๆ แล้วกวักมือให้แขกมานั่งที่โซฟา
“วันนี้ให้ภามมาสอนทำขนมค่ะ อยากหัดไว้เซอร์ไพรส์คุณพ่อคุณแม่”
ดอนเลิกคิ้ว
“เอาภามมาทำให้พ่อกับแม่กินเลยไม่ง่ายกว่าเหรอ” เขาแกล้งแซวหากภามรีบส่ายหัวพรืดๆ
ผมยังไม่พร้อมเจอ!!
“เอ๊ะ นั่นสิ” เดลชักไขว้เขว
“อุ้ย มาเจอพ่อแม่” มะนาวหัวเราะคิกคัก ส่วนทีมก็ยิ้มมุมปากให้เพื่อน
ภามเบะปาก “ไปเลยเดล ห้องครัวอยู่ไหน” เขารีบเปลี่ยนเรื่อง
เดลหัวเราะร่วน เธอรีบพาเพื่อนๆ มาที่ครัวด้านหลังซึ่งเป็นครัวฝรั่งค่อนข้างกว้าง มีหน้าต่างเปิดให้ลมโกรกและระบายกลิ่นอาหารได้ดี ตรงกลางห้องมีโต๊ะกลางยกขึ้นเป็นที่เตรียมอาหาร ทีมและภามช่วยกันยกของที่ซื้อมาจากตลาดเช้าออกมาจัดเรียง พวกเขาตั้งใจจะทำขนมช่วงบ่ายส่วนตอนเช้านั้นจะอ่านหนังสือกันก่อน ที่นัดกันแต่เช้าเพราะตั้งใจไปตลาดเพื่อซื้ออุปกรณ์มาทำขนมไทย
มะนาวจัดแจงหยิบปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ ขนมครกมาจัดใส่จาน เพื่อกินรองท้อง ส่วนเดลวันนี้จะโชว์ฝีมือข้าวต้มกระดูกหมูให้อาจารย์ตัวเองเสียหน่อย ภามนั่งเก้าอี้ทรงสูงในครัว ดูสาวๆช่วยกันเตรียมอาหารเช้าในขณะที่ทีมเดินไปเม้ามอยเรื่องบอลกับพี่ดอน เด็กหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่างถึงตอนเช้าอากาศจะสบายแต่ท่าทางวันนี้ช่วงบ่ายอากาศคงร้อนน่าดู เขามองซ้ายมองขวาแล้วเขาก็พบกับลำไยกระป๋องที่วางเอาไว้บนตู้ พลันความคิดบางอย่างก็โผล่แวบขึ้นมาในหัว
“เดลขอใช้ลำไยกระป๋องได้ไหม”
“อื้อ ได้มาตั้งนานแล้วเนี่ย เดี๋ยวปีใหม่คงมีคนเอากระเช้ามาให้อีก กินไม่ทันแล้ว”
“แล้วมีผงวุ้นหรือเยลลี่อะไรไหม สีผสมอาหารด้วย” ภามยังคงสอดส่ายสายตาหาของเพิ่ม
“มีแต่เยลลี่ในตู้เย็น ผงวุ้นกับสีผสมอาหารไม่มี บ้านนี้ไม่มีคนใช้เป็นจ้ะ” เดลหัวเราะดูท่าทางภามจะเข้าใจว่ามันเป็นของสามัญติดบ้านคนทั่วไป
ภามหัวเราะพลางเกาหัวเขินๆ เขาเดินไปหยิบเยลลี่ออกมาแล้วเดินไปลากเจ้าทีมที่นอนขี้เกียจมาช่วย
“เอาลำไยออกมา ไม่เอาน้ำเชื่อมนะ”
ทีมทำตามอย่างว่าง่าย จัดการแงะเอาลำไยกระป๋องออกมาเรียงใส่ถ้วย เรียงไปกินไปจนต้องเปิดกระป๋องเพิ่มให้โดนดุ พอจัดลำไยเสร็จภามก็เอาเยลลี่ที่ละลายในไมโครเวฟส่งให้พร้อมหลอดดูดน้ำ
“เอาหลอดหยอดเยลลี่ลงในลำไยนะ” งานคราวนี้ไม่ยากและดูน่าสนุก ทีมตั้งอกตั้งใจหยอดสารพัดสีเยลลี่ ดูแล้วเหมือนลูกแก้วสีพาสเทลเรียงตัวกันเต็มไปหมด
“เสร็จแล้วก็แช่เย็นไว้ให้วุ้นแข็งตัวก็เสร็จแล้วล่ะ กินเย็นๆอร่อยดี” ภามพยักหน้าให้ทีมยกถ้วยลำไยใส่ตู้เย็น
“ทำออกมาแล้วน่ารักจังเรียกว่าอะไรเหรอภาม” มะนาวมองตามตาละห้อยอยากกิน แต่วุ้นยังไม่แข็งตัวเลยได้แต่มอง
“ลำไยอัญมณี” เด็กหนุ่มหัวเราะ “เรียกหรูมากจริงๆก็ลำไยเยลลี่นั่นแหละ ตอนเด็กๆแม่ทำให้กินบ่อยของชอบเราเลย”
ฟังแล้วเพื่อนๆ ก็ได้แต่ถอดถอนใจ พวกเขาจะหาคนอย่างภามได้อีกทีไหนจะได้เอามาแต่งงานด้วยให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
แปดโมงอาหารทุกอย่างเตรียมเสร็จเรียบร้อย ข้าวต้มส่งกลิ่นหอมฉุยจนทำให้คนหน้าทีวีเดินมาที่โต๊ะกินข้าวโดยไม่ต้องเรียก
“หอมมาก วันนี้อาหารเช้าอย่างอลัง” ดอนอุทานตอนเห็นสารพัดกับข้าวบนโต๊ะ “พี่ดีนยังไม่ตื่นเลย ไปปลุกเหอะ” เขาพูดลอยๆ แต่จงใจเน้นคำหลังกับเด็กหนุ่มที่สะดุ้งโหยง
“เดลไม่ว่างไปปลุกด้วยสิ ฝากหน่อยนะภาม” เดลรีบเดินหนีไปเอาน้ำในครัวในขณะที่ดอนนั่งกอดอกยิ้มๆ ดวงตาแวววาว
ทีมคว้าขนมครกเข้าปากแล้วยักไหล่ “หน้าที่แฟน คนนอกไม่เกี่ยว”
“ชั้นสามห้องด้านซ้ายมือครับ” คนกวนประสาทผายมือไปทางบันได ทุกสายตามองมาทางภามที่ยืนกระอักกระอ่วนใจ รู้สึกร้อนๆที่แก้มชอบกล
“ก็ได้ๆ ไปปลุกก็ได้” ภามบ่นอุบแล้วยอมไปตามแรงยุ
เอี้ยด..
บันไดไม้สีเข้มให้สัมผัสที่รู้สึกดี บรรยากาศเงียบสงบแต่อบอุ่นกระจายไปรอบๆ ถึงจะมีสมาชิกไม่ครบแต่บ้านหลังนี้ยังคงความเป็นบ้านได้อย่างสมบูรณ์
ภามเงยหน้ามองด้านบน สูดลงหายใจลึกแล้วก้าวขาช้าๆ
ทีละขั้น
ทีละขั้น
นิ้วเรียวแตะไล้กำแพงเย็นเฉียบ มาสะดุดที่ภาพถ่ายบนกำแพงซึ่งจัดเอาไว้เล่นระดับตามบันได เด็กหนุ่มยิ้มกับภาพเด็กน้อยท่าทางซนๆ กำลังรังแกเด็กหญิง เด็กสองคนในภาพโตขึ้นตามลำดับจาก อนุบาล ประถม มัธยม
ไม่มีพี่ดีน
แต่เมื่อมาถึงชานพักบันไดเล็กๆ เขาก็ต้องคลี่ยิ้มอีกครั้ง กรอบรูปมากมายประดับเอาไว้เป็นกลุ่ม เด็กชายตัวน้อยหน้าดุยืนจ้องกล้องถ่ายรูปเขม็งและดูเหมือนเป็นรูปเดียวจากทั้งหมดที่มองตรงมา แต่ภาพถ่ายอื่นๆ แม้แต่ตอนรับรางวัลแข่งว่ายน้ำ ดวงตาสีเทาอมเขียวกลับมองไปทางอื่นราวกับหาอะไรสักอย่าง ล่องลอยไปตามฟ้ากว้างเหมือนกันทุกภาพ จวบจนถึงภาพที่ใกล้เคียงปัจจุบันที่สุด
คนตัวโตในชุดนักศึกษายืนอยู่ริมสระว่ายน้ำ สายตาทอดมองไปด้านข้าง ดูเหม่อลอยและ..เศร้าสร้อย จนคนมองใจกระตุก ภาพวันแรกที่เจอพี่ดีนวนเวียนกลับมาให้นึกถึง
ประธานชมรมว่ายน้ำบนเวทีที่ยืนเงียบๆแต่กลับกวาดสายตาไปทั่วห้องประชุม มองหาใครสักคนที่รอมานานแสนนาน..
หัวใจของเขาเต้นแรงสั่นระรัว
ภามแตะนิ้วลงบนแก้มคนในกรอบรูปแล้วขยับรอยยิ้มอ่อนโยน
“ผมอยู่นี่”เสียงเรียกราวกับกระซิบ เหมือนบอกให้คนในกรอบรูปหันกลับมา
ไม่ต้องมองหาอีกแล้วนะ.. หลายนาทีกว่าภามจะละสายตาจากรูปถ่ายคนรัก ใบหน้าขาวสะอาดเงยมองขึ้นไปอีกชั้น รู้สึกเขินแปลกๆเมื่อนึกว่าห้องพี่ดีนอยู่ข้างบน ริมฝีปากบางเม้มแน่นแล้วก้าวต่อไปที่ชั้นสาม รูปถ่ายยังคงเรียงรายแต่ทว่าเป็นภาพของชายหญิงที่มองก็รู้ว่าเป็นใคร
“พ่อแม่พี่ดีน?”
ชายวัยกลางคนใบหน้าคมคาย คิ้วเข้มเฉียงดุบอกชัดว่าเป็นคนแบบไหน ดวงตาที่มองตรงมาฉายแววมุ่งมั่นแว้บแรกที่เห็นทำให้ภามรู้ได้ทันทีว่าสายตาของพี่ดีนเหมือนใคร เด็กหนุ่มมองถัดมาที่หญิงสาวข้างๆ ดวงหน้าสดใสผมยาวหยักศกถึงกลางหลังและรอยยิ้มกว้าง โครงหน้าบอกชัดว่าเป็นลูกครึ่งโดยเฉพาะสีตาเทาอมเขียวต้นแบบของลูกๆทุกคนของเธอ ภามหยุดยืนจ้องภาพนั้นเหมือนโดนตรึงเอาไว้
สวย..เหมือนตุ๊กตา
“หลานน้าอินเหมือนตุ๊กตาฝรั่งเลย น่ารักแก้มแดง” “อึก” เด็กหนุ่มมุ่นหัวคิ้วเมื่อเจ็บจี๊ดขึ้นมาที่ขมับ
“น้าอินไปธุระค่ะ เดี๋ยวกลับมา ฝากอลินดูแลคุณแม่ด้วยนะคะ”“พี่อัน!!คลอดแล้วเหรอ โอ้ยน่ารักจังๆหลานน้าอิน”“โตไวๆนะคะ เด็กดี น้าอินรักหนูมาก รักมากๆเลย” แหมะ“เอ๊ะ”
น้ำตาอุ่นๆไหลออกมา ในอกมันตื้อไปหมด ภามลูบแก้มที่เปียกชื้นอย่างงุนงง
“อ....อลิน?”
ใคร
ใครกัน
ความเจ็บปวดทำให้ดวงตาของเขาพร่าพรายเหมือนดาวกระจัดกระจายเต็มไปหมด ภามหลับตาแน่นนวดขมับแรงๆ พยายามปรับลมหายใจเพื่อไม่ให้อาการป่วยกำเริบ แต่แล้วอยู่ๆ ความเจ็บปวดก็จางหายเหมือนเมื่อกี้เป็นแค่ความฝัน
ถึงจะไม่เข้าใจ แต่สัญชาตญาณและความกลัวก็บอกภามให้รีบเดินออกไปจากตรงนี้ เขารีบจ้ำจนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนเป้าหมาย ภามลองเคาะประตูเรียกแต่ก็มีเพียงความเงียบตอบกลับมา สุดท้ายเขาก็ใส่ลูกฮึดผลักประตูห้องนอนเข้าไป พร้อมเสียงบางอย่างแว่วไหวผ่านมาในสมอง
“พี่อัน...หลานตาสวยจังสมเป็นลูกครึ่ง สีเหมือนพลอยเลย..."...
...
“..สีเทาอมเขียว...”---------------
Talkมีการตัดฉับเกิดขึ้น (ฮา) จริงๆเขียนไปจนถึงน้องเข้าห้องพี่ดีน ทำขนมไทยไปแล้วค่ะ แต่หลังจากพิจารณาแล้วถ้าเอาลงจะทำให้เนื้อเรื่องยืดยาวอ่านไม่สนุกเลยจับยกออกทั้งยวงไปใส่บทหน้า เพราะฉะนั้นบทนี้กินแค่วุ้นไปก่อนนะคะ ^^
ส่วนภาพประกอบคนวาดเพิ่งบินมาจากภูเก็ตเมื่อตอนสิบโมงเช้าจากนั้นก็ตรงดิ่งหิ้วคอมพ์มาเคาะห้องคนเขียน (ฮา) #แค่ไหนเรียกจริงจัง มีความสดใหม่จากเตา กร๊ากกก
อ้อ ลำไยวุ้นในบทนี้ คนเขียนเอาปีโป้มาเวฟ 20-30วิให้ละลายแล้วเอามาหยอด แช่เย็นทิ้งไว้อร่อยดีค่ะ เอาเงาะมาทำก็เวิร์คลองไปทำดูนะคะ
เนื้อเรื่องจะค่อยๆตามหาความจริงไปทีละบท อาจจะตรงกับที่หลายคนคิด (เก่งมาก!) ขอให้สนุกกับนิยายนะคะ
มีของแถมรีพลายถัดไปค่ะ ^^