Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก [ตอนที 16 ] 8/08/2560 [The End]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าเรื่อง Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มคุณจะซื้อหรือไม่

ซื้อแน่นอน
2 (28.6%)
ไม่ซื้อ ไม่สนใจ
0 (0%)
ดูก่อน ดูปก ดูราคา ดูช่วงเวลา และดูเงินในกระเป๋าก่อน
5 (71.4%)
ยังตัดสินใจไม่ได้ ถามแฟนก่อนว่าจะให้ซื้อไหม
0 (0%)
อยากได้เป็น E-book มากกว่า อ่านที่ไหนก็ได้ อิอิ ฟินได้ทุกที่ ทุกเวลา
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 6

ผู้เขียน หัวข้อ: Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก [ตอนที 16 ] 8/08/2560 [The End]  (อ่าน 21425 ครั้ง)

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2017 10:47:21 โดย jaengsRU »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
 
เธอ..คือหนึ่งในไม่กี่คน http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=51171.0

เริ่มต้นเรื่องร้าย ลงท้ายเรื่องรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=54740.msg3422192#msg3422192

Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก
มีในรูปแบบ E-book แล้วจ้า

+++ ปรับปรุงเนื้อหา
+++ ส่งพิสูจน์อักษร จัดหน้า
+++ ขนาด A5 จำนวน 500+ หน้า
+++ ตอนพิเศษ 3 ตอน
+++ ไฟล์ pdf , epub

[/size]


size=36pt]
มีเพจแล้วฝากติดตามด้วยจ้า
https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
[/size]



*******************************************************************************************
 

Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก

 รู้จักรักครั้งที่ 1
[/b]

            อากาศช่วงบ่ายในปลายฤดูฝนยังคงร้อนอบอ้าวแต่มีเมฆสีเทาลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า นั่นช่วยบดบังลดทอนความแรงของแสงดวงอาทิตย์อยู่บ้าง

             ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยต้นสูงใหญ่ปลูกไว้เพื่อให้ร่มเงากำลังแตกกิ่งออกใบใหม่หลังจากช่วงก่อนหน้านั้นได้ถูกตัด

ทิ้ง สายลมพัดมาเบาๆพัดใบไม้สีเขียวเสียงดังขึ้นไปถึงบนตึก อาคารเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ ห้องเรียนที่ตอนนี้นักศึกษาเกือบ

ครึ่งร้อยกำลังตั้งฟังอาจารย์บรรยายหน้าอยู่ชั้นเรียน เนื้อหาขยับเปลี่ยนพร้อมกับพอยเตอร์ชี้ไปบนหน้าจอที่อาจารย์กำลังเน้น

อธิบาย มือขาวเรียวรีบจดเนื้อหาลงไปในเอกสารที่อาจารย์แจกให้ก่อนหน้านั้น พร้อมใช้ปากกาเน้นข้อความขีดทับลงไป

แล้วสายตามองออกไปนอกหน้าต่างที่มีลมพัดเย็นสบายพัดเข้ามา เสียงใบไม้ถูกลมกระทบดังแว่วมาทำลายสมาธิอันมีน้อยนิด

ของ เทนนิส ทินณัติ ชายหนุ่มรูปร่างดี ผิวขาวเหลืองแบบคนเอเชียดวงตาสีน้ำตาลเข้ม มองที่มาของเสียง

เขามองไปที่เมฆที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า วันนี้ฝนคงจะตกอีก ทำยังไงได้ก็มันเป็นฤดูฝนนี่นาแต่ยังไงก็ขอให้ตกหลังจากที่เขากลับถึง

บ้านเรียบร้อยเสียก่อน ชายหนุ่มยังมองเมฆสีเทาที่ลอยต่ำ ส่วนสายลมยังพัดกิ่งไม้ไหวอยู่เป็นระยะ

“นักศึกษาวันนี้พอแค่นี้ก่อน อย่าลืมไปคิดเรื่องที่จะฝึกงานด้วยนะ”เสียงอาจารย์ดังมาจากหน้าห้องเรียนทำให้คนที่กำลังเหม่อลอยหันกลับไปสนใจเจ้าของเสียง

“ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ”นักศึกษาต่างแยกย้ายออกจากห้อง

เทนนิสและเพื่อนๆออกจากห้องเรียนหลบร้อนมานั่งบริเวณข้างๆตึกที่มีต้นไม้ให้ร่มเงา ม้าหินอ่อนสีขาวตั้งไว้เรียงยาวเป็นแถว“ที่

ฝึกงาน ยังไม่รู้ว่าจะฝึกงานที่ไหนดี”ชายหนุ่มตัวเล็กมีใบหน้าน่ารัก วีร์ วีรวัฒน์  ถอนหายใจใช้มือข้างหนึ่งเท้าคางพูดขึ้นมาแล้ว

หันหน้าไปมองเพื่อนที่นั่งข้างๆอีกสองคน

“ฉันกับไอ้เอื้อมก็ยังไม่รู้ว่าจะไปฝึกงานที่ไหน”เหรียญสิบหนุ่มตี๋พูดขึ้นด้วยท่าทางเกียจคร้าน

“แต่ดูจากที่รุ่นพี่แนะนำมามีหลายที่น่าสนใจ”เอื้อม หนุ่มแว่นกระตือรือร้นหยิบรายชื่อบริษัทออกจากกระเป๋าที่เขาได้มาจากรุ่นพี่

ให้เพื่อนดู เพื่อจะช่วยเป็นอีกทางเลือกในการตัดสินใจ

“อืม ดูแล้วมีแต่บริษัทชื่อดัง และบริษัทใหญ่ทั้งนั้นแล้วคิดว่าส่งชื่อไปเขาจะรับแกรึไงถ้าอย่างเทนนิสก็ว่าไปอย่าง”เพื่อนๆในกลุ่ม

ต่างมองไปที่ชายหนุ่มที่กำลังใช้นิ้วเรียวเลื่อนบนหน้าจอสี่เหลี่ยมอย่างตั้งใจ เขาเงยหน้าจากหน้าจอแล้วหันไปยิ้มให้เพื่อนๆ

“แล้วพวกนายรู้ได้ยังว่าเขาจะรับฉัน อีกอย่างฉันไม่ไปบริษัทพวกนั้นหรอกถึงบริษัทใหญ่อาจจะได้งานทำดีๆหลังเรียนจบ แต่ก็

ต้องไปแข่งกันคนเก่งๆอีกเยอะ น่าเบื่อด้วย สู้ไปอยู่บริษัทที่เปิดได้ไม่นานใต้องใหญ่มาก น่าจะมีโอกาสที่พัฒนาตัวเองและได้ใช้

ความสามารถของตัวเองด้วย”ทุกคนฟังแล้วต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อน

“เทนนิส นั่นน้องเขามาหาแกรึเปล่า”หนุ่มตี๋เห็นหญิงสาวที่มาพบเพื่อนเขาบ่อยๆกำลังมองมาทางนี้อย่างอายๆ

“เออ ฟ้าใสทางนี้ครับ”ชายหนุ่มเรียกหญิงสาวที่มีท่าทางยืนลังเลอยู่  เขาลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเธอ

“สวัสดีค่ะ พี่เทนนิส”

“สวัสดีครับ ของที่สั่งได้ครบตามส่งมาทางไลน์”

หญิงสาวรับถุงกระดาษมาจากชายหนุ่ม“ขอบคุณค่ะ ถ้ายังขอตัวนะคะฟ้าใสมีเรียนต่อ”หญิงสาวพูดอย่างอายๆเมื่อถูกผู้ชายหลาย
คนกำลังมองเธออยู่

“เทนนิส นั่นน้องเขาป่วยรึเปล่า”วีร์มองตามสาวสวยที่เดินห่างออกไป

“ทำไมถึงถามอย่างนั้น”อะไรที่ทำให้เพื่อนของเขาคิดอย่างนั้น

“ก็ดูสิน้องเขาขาวซีดขนาดนั้น แถมยังผอมอีกตะหากเหมือนคนป่วยไม่มีผิด”

“เฮ้อ ดูเหมือนว่าผู้หญิงจะเป็นแบบเดียวกันหมด”หนุ่มแว่นถอนหายใจเขารู้สึกว่าผู้หญิงสมัยแทบจะไม่เห็นความแตกต่างหรือ

เรียกอีกอย่างว่าไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง

“เห็นในเน็ตขายพวกครีมหน้าขาว ผิวขาวยุบยับเต็มไปหมด โฆษณาทางเน็ตนี่ช่วยได้มาก”

“พวกผู้หญิงเขาคงได้ค่านิยมความขาวมาจากคนที่พวกเธอชื่นชอบ”

“แล้วนี่อาหารเสริมของแก เป็นไงบ้าง”หนุ่มตี๋หันไปถามเพื่อนที่ขายอาหารเสริมนำเข้ามาหลายปี

“ก็เรื่อยๆ คนสมัยสมัยนี้เขาแข่งกันขาว ผิวสวย ผอม อาหารเสริมนำเข้าก็เลยยังพอขายได้”แต่ก็มีคู่แข่งมากขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

ผู้บริโภคมีหลากหลายทางเลือก ยิ่งมีพรีเซนเตอร์เป็นดารานักแสดงสาวๆสวยด้วยแล้ว คนยิ่งให้ความสนใจแต่ก็เป็นเพียงกระแส

ชั่วคราวเท่านั้น เพราะเขาอยู่ในวงจรแบบนี้มานาน สินค้าถ้าไม่ดีจริงก็อยู่ได้ไม่นานหรือถ้าตัวเก่าไปตัวใหม่ก็มาแทน ตามกระแส
แทบไม่ทัน

“แล้วนี่จะเล่นหุ้นด้วยรึไง”หนุ่มแว่นมองหนังสือที่หยิบยืมมาจากร้านหนังสือข้างๆมหาวิทยาลัย

“เปล่าหรอก ว่างๆหาอะไรอ่านแก้เบื่อ”

“เห็นมีรุ่นพี่หลายคนเล่นหุ้นได้เงินมาเยอะเลยนะ”

“แล้วก่อนหน้านั้นขาดทุนมาเท่าไหร่แล้วหล่ะ ถ้าเล่นแล้วรวยทุกคนคงไม่มีคนจนแล้ว”

“ว่าแต่อาหารเสริมของแกมีแบบกินแล้วหล่อๆ บ้างไหม แกขายกินบ้างรึเปล่า”เอื้อมถามแล้วมองหน้าหล่อๆของเพื่อนแฃ้วอด
สงสัยไม่ได้

“ก็กินบ้างจะได้ตอบลูกค้าได้ หล่อๆอย่างสาววิ่งตามอย่างนายยังต้องการอะไรอีกรึอยากให้มีหนุ่มๆวิ่งตามแทน”

“ตามกระทืบดิ ฉันไม่ได้น่ารักไอ้วีร์จจะได้มีหนุ่มๆมาตามจีบ”พูดแล้วหันไปมองเพื่อนที่ถูกพาดพิงทำหน้าตาไม่พอใจ

               สายลมพัดเอาอากาศร้อนไป หอบเอากลิ่นฝนโชยมาแต่ไกลทำให้ทุกคนคิดว่าถึงเวลาต้องแยกย้ายกันเทนนิสและวีร์เดินมาหยุดที่ลานจอดรถของคณะที่มีรถมอเตอร์ไซด์หลายยี่ห้องจอดเรียงรายเต็มหมด เวสป้าสีเทาเบาะสีดำแบบเครื่องสี่จังหวะ

ราคาหกหลักจอดเด่นอยู่ลนลานจอด “รีบไปกันก่อนฝนดูท่าว่าจะตกลงมา”หนุ่มตัวเล็กพูดแล้วแหงนหน้ามองฟ้าที่มืดครึ้มลง

เพราะเมฆฝน ให้ตายเถอะเมื่อครู่ท้องฟ้ายังสว่างอยู่เลย เทนนิสเปิดใต้เบาะหยิบหมวกกันน็อคยื่นให้เพื่อนและสวมให้ตนเอง“ก็

หน้าฝนนี่นาไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฝนจะตก ฝนไม่ตกสิถึงแปลก”ขับเพื่อนคู่ใจออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เลี้ยวเข้าสู่ถนนใหญ่ได้ไม่

นานลมก็เริ่มพัดแรงขึ้นฝนเจ้ากรรมที่เทลงมาทำให้ทั้งคู่ต้องจอดรถรอให้ฝนหยุดที่ป้ายรถเมล์

“พูดยังไม่ทันขาดคำฝนนี่ก็ใจร้อนรีบตกมาได้ ดีนะอีกนานกว่าจะถึงเวลาเข้างาน”ชายหนุ่มตัวเล็กบ่นทันทีที่เข้ามายืนหลบฝนใน
ป้ายรถเมล์ที่คนยืนหลบฝนอยู่เกือบเต็ม

“ก็ดีแล้วฉันจะได้ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำล้างรถ”คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาทำให้เพื่อนยิ้มขึ้นมาได้ เทนนิสมองท้องฟ้าสีหม่นและสาย

ฝนที่โปรยปรายลงมาจนมองเห็นภาพข้างนอกไม่ชัด เขาอยากยื่นมาออกไปสัมผัสสายฝนแต่ติดที่ชั้นบรรยากาศในมหานครที่เต็ม

ไปด้วยฝุ่นละอองเยอะเกินไป สายลมพัดมาอย่างแรงพัดเอาละอองฝนสาดเข้ามาในป้ายรถเมล์ทำให้เขาที่ยืนอยู่แถวนอกต้อง

เขยิบเข้าไปด้านในโดยอัตโนมัติ

“อ๊ะ  ขอโทษครับ”เขารู้สึกว่าถอยหลังไปชนกับหน้าอกใครสักคน จนได้กลิ่นน้ำหอมผู้ชายราแพง ทำให้เขาต้องรีบหันกลับไป
ขอโทษ

“ไม่เป็นไรครับ”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นแต่ยังไม่หันที่เทนนิสจะมองไปที่ใบหน้า

“เทนนิส ไปกันเถอะฝนเริ่มซาแล้ว”

“อืม”ชายหนุ่มรีบเดินตามเพื่อนไปที่รถคู่ใจที่จอดไว้ข้างทาง

           ชายหนุ่มร่างสูงสวมชุดสูทหรูราคาแพงมองตามชายหนุ่มร่างบางสวมชุดนักศึกษาที่เดินออกไปแล้วขับเวสป้าออกไป

ถ้าวันนี้ไม่มีประชุมเขาคงไม่มีโอกาสได้มาติดฝนที่นี่ เขาเดินออกมาจากโรงแรมเพื่อมารอรถที่จะมารับแต่ฝนก็เทลงมาทำให้เขา

วิ่งเข้ามาหลบฝนที่นี่ ขณะที่กำลังอารมณ์เสียพายุฝนที่เทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตากับมีเสียงนุ่มๆใกล้ๆพูดขึ้นมา“ก็ดีแล้วฉันจะได้

ไม่ต้องเปลืองค่าน้ำล้างรถ”ทำให้เขาคิดอยากเห็นคนใบหน้าคนที่คิดในแง่ดีว่าจะมีหน้าตายังไง ชายหนุ่มสวมชุดนักศึกษาสะพาย

กระเป๋าเป้ไว้ข้างหลังส่วนมืออีกข้างถือหมวกกันน็อกไว้ ส่วนดวงตาสีน้ำตาลนั่นกำลังมองออกไปที่ท้องฟ้าที่มองเห็นไม่ชัดเพราะ

ถูกสายฝนกั้นไว้ แต่ริมฝีปากบางเหมือนมีรอยยิ้มจางๆ ไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ

ทำให้เขาอดมองไปที่ใบหน้านั่นไม่ได้ ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลินๆอีกฝ่ายก็ถอยหลังมาชนเขา ทำให้ได้กลิ่นแชมพูหอมอ่อนๆ

บรี๊น บรี๊น เสียงแตรรถดังขึ้นดึงสายตาของชายหนุ่มเปลี่ยนทิศให้หันไปมอง รถยุโรปสีดำคันหรูเข้าจอดเทียบฟุตบาตร ชายหนุ่ม

ร่างสูงรีบเดินออกจากศาลาไปที่รถทันที

   “หึย หนาวมากเลยเปียกฝนแล้วถูกแอร์เย็น”ถ้าเป็นอย่างนี้มีหวังเป็นไข้ไม่สบายแน่เลย ในห้องพักพนักงานที่มีพื้นที่อยู่

อย่างจำกัด กระจกเงาบานใหญ่ เก้าอี้สำหรับนั่งพักหลายตัว วีร์เปิดล็อกเกอร์ที่ตั้งชิดผนังหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาสวม

“เฮ้ย เด็กๆสองคนนี้ไปเล่นน้ำฝนที่ไหนมาทำไมสภาพเป็นอย่างนี้”สาวสวยผมยาวรวบมัดไว้เป็นหางม้ายาวสวมหมวกกอล์ฟสวม

เสื้อฟอร์มของร้าน chicken café กางเกงเข้ารูปสีดำและรองเท้าสีดำหุ้มส้น ติดป้ายชื่อและตำแหน่งผู้จัดการร้านไว้ที่หน้าอกเธอ

กำลังยืนกอดอกมองดูชายหนุ่มทั้งสองอยู่หน้าประตู

“โห พี่เท็นไปเล่นน้ำที่ไหนพวกผมนั่งมอเตอร์ไซด์ตากฝน”

“ล่อเล่นน่าน้องวีร์ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะเดี๋ยวไม่สบาย น้องเทนนิสของพี่เท็นวันนี้มาลงเคาร์เตอร์ให้พี่หน่อยนะ”

“อ้าว แล้วงานผมล่ะ”เทนนิสสวมเสื้อฟอร์มของร้านสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อนแล้วหันมาถามสาวสวยผู้จัดการร้าน “ไม่มีปัญหาวันนี้มี

คนเยอะแล้ว”เธอยิ้มให้ชายหนุ่ม

“ได้ครับ ไปวีร์ไปลงเครื่องกัน”

              เดินออกมาจากห้องพักพนักงานผ่านห้องครัวพนักงานอยู่ประจำตำแหน่งกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง เสียงดังเอะอะ

พนักงานกำลังเดินวุ่นทำงานแข่งกับเวลาเสียงสัญญาณดังขึ้นเป็นระยะเตือนให้รู้ว่ามีออเดอร์จากลูกค้า เดินตรงมาหน้าร้านมี

พนักงานยืนประจำอยู่ด้านหน้าจอสี่เหลี่ยมกำลังรับออเดอร์ลูกค้าที่ยืนเข้าแถวสั่งอาหาร“พี่บีมสวัสดีครับพี่เท็นให้ผมมาช่วยลง

เครื่อง”ชายหนุ่มทักทายรุ่นพี่ทั้งสอง

“ดีเลย พี่จะได้ไปพักส่วนอีกเครื่องให้วีร์ลงนะ ปลิวเราไปพักกันเถอะมีน้องมาแทนแล้ว”

“ได้ ฝากด้วยนะเด็กๆเดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝาก”

“ครับพี่”

“สั่งอาหารเครื่องนี้ได้นะครับ”ชายหนุ่มเรียกลูกค้าที่กำลังยืนต่อแถวเครื่องอื่น แล้วส่งยิ้มหวานให้

“เอาชุดเบอร์เกอร์หมูครับ”เทนนิสกดลงไปบนบนหน้าจอเครื่องสั่งอาหาร

“กลับบ้านหรือทานที่นี่ครับ”

“ที่นี่ครับ”มือขาวหยิบถาดอาหารที่ปูกระดาษรองวางไว้เคาเตอร์ หยิบแก้วเครื่องดื่มตักน้ำแข็งใส่พอประมาณแล้วกดปุ่มเครื่องดื่ม

ให้ไหลอัตโนมัติลงในแก้วแล้วหันกลับมาที่เครื่อง

“ทั้งหมด.....”เทนนิสรับเงินมาจากลูกค้าหยิบใบเสร็จพร้อมเงินทอนให้ลูกค้า วางอาหารเครื่องดื่มลงบนถาดที่เตรียมไว้

               
                เป็นเอกเดินถือถาดหาที่นั่งเงียบๆ เพราะต้องเรียนทั้งวันจึงอยากกินอะไรรองท้องและที่ร้านอาหาร chicken caféนี้ก็

เงียบพอให้เขานั่งเช็คเมลล์รอให้ฝนที่ตกลงมาผ่านไปก่อน กลิ่นแฮมเกอร์หมูที่แกะออกมากระดาษยังร้อนหอมจนเขารีบจัดการ

หมดไม่กี่คำ มองออกไปด้านนอกร้านผ่านกระจกใสรถอยู่ท้องถนนยังติดอยู่ มองไปรอบๆร้านไม่ใช่แต่เพียงเขามีหลายคนเลือกที่

นี่เป็นที่หลบฝนชั่วคราว เสียงใสทักทายลูกค้าตรงเคาเตอร์ดังขึ้นเป็นระยะเรียกสายตาให้เขาหันไปมองอย่างสนใจ ท่าทางการ

ทำงานคล่องแคล่วว่องไวใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ยิ่งมองยิ่งรู้สึกเพลิน

ครืน ครืน มีสายโทรเข้ามา

“ว่าไง คืนนี้แกจะชวนฉันไปเมาที่ไหนอีก...วันนี้ขอผ่านนะต้องทำงานส่งอาจารย์ทั้งวันเหนื่อยอยากพัก...เออเที่ยวให้สนุกแล้ว

เจอกัน”เขากดวางสายไปแล้ว ที่จริงเขาก็อยากไปผ่อนคลายเหมือนกันแต่ก็อยากพักบ้างเหนื่อยเพราะต้องเร่งทำงานส่งอาจารย์

ทำให้นอนดึกมาหลายวัน ชายหนุ่มมองดูเวลาบนนาฬิกาเรือนหรู เป็นเวลาเย็นมากแล้วเขาจึงรีบเดินออกไปจากไปร้าน

   “เทนนิสกับวีร์ไปพักได้แล้ว”เสียงเตือนจากผู้จัดการร้านสาวเรียกให้ชายหนุ่มทั้งสองไปพักหลังจากที่ทำงานมาหลาย
ชั่วโมง

“ครับพี่เท็น วีร์ไปหาอะไรกินเถอะหิวแล้ว”

“อืม”

ชายหนุ่มทั้งสองเดินออกมาจากที่ทำงานเพื่อหามื้อเย็นกิน ออกมาข้างนอกก็สัมผัสได้ถึงอากาศอุ่นชื้นที่ลอยขึ้นมาจากพื้น

ซีเมนต์สัมผัสกับผิวจนรู้สึกเหนียวตัว พายุฝนผ่านพ้นไปแล้วทิ้งร่องรอยน้ำที่ขังไว้ตามพื้นและข้างถนน ส่วนน้ำฝนที่เหลือค่อยๆ

ไหลลงไปท่อระบายน้ำ เศษกิ่งไม้ใบไม้แห้งที่ปลิวตกลงจากต้นหล่นลงเต็มพื้น ท้องฟ้าไม่มีเมฆฝนแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถไว้ใจ

ได้ว่าดึกๆจะไม่ตกลงมาอีก แสงสว่างหลอดไฟข้างทางกับแสงสว่างจากร้านแผงลอยทำให้มองเห็นข้างทางได้ชัดขึ้น ตอนเย็น

ของทุกวันจะมีแผลงลอยขายของขายอาหารตั้งเรียงรายบนฟุตบาตรแถวหน้าร้านที่พวกเขาทำงาน

“ป้า เอาหมี่ขาวพิเศษ 2 ชาม”ทั้งสองหยุดที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าประจำ

“จ้า”

“วันนี้ดูเหมือนลูกค้าจะเยอะนะ”เทนนิสมองเข้าไปไปที่ร้านที่เขาทำงานมานานหลายปี ไฟสีอุ่นในร้านมองเข้าแล้วรู้สึกสบายตายัง

มีลูกค้าเดินเข้าออกร้านแม้จะเลยช่วงเวลาเร่งด่วนแล้ว

“น่าจะเป็นเพราะเขามาหลบฝนกัน ไม่รู้ว่าคืนจะตกลงมาอีกรึเปล่า”คนตัวเล็กพูดแล้วแหงนหน้ามองไปบนท้องฟ้าในฤดูฝนที่เอา

แน่เอานอนไม่ได้ พร้อมทั้งยังมีลมอุ่นๆพัดมาไม่ขาดสาย

“ก็หน้าฝนนี่นา เรายังโชคดีทำงานในร้านแต่แม่ค้าแผงลอย หน้าฝนนี่นรกเลยพวกเสื้อผ้าเจอแค่ความชื้นก็ขึ้นราแล้ว”

“วันหลังเราไปกินส้มตำร้านนั้นไหม”วีร์ชี้ไปร้านรถเข็นที่มีคนนั่งอยู่เต็ม แม่ค้าร่างท้วมกำลังตำส้มตำเสียงครกดัง ตึก ตึก กลิ่น

ปลาร้า กลิ่นพริกกระเทียมโชยชวนน้ำลายสอมาแต่ไกล

เทนนิสหันหลังกลับไปมองตามนิ้วที่เพื่อนชี้ไป“เพิ่งมาใหม่หรอ”ทำไมรู้สึกไม่คุ้นหน้าไม่เคยเห็นมาก่อน

“พี่เท็นบอกว่าร้านนี้อร่อย”

“ก็น่าก็ใช่”ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปรอบๆที่มีร้านอาหารตั้งเป็นแนวยาว มีคนออกมาเดินซื้ออาหารและนั่งกินที่ร้าน ถึงแม้จะไม่

คึกคักเหมือนช่วงกลางวันเพราะแถบนี้เป็นที่ตั้งของตึกออฟฟิตหลายบริษัท เขาละสายตาเลิกมองไปรอบหันกลับมาสนใจ

ก๋วยเตี๋ยวไก่เส้นหมี่ขาวในชาม


   ยิ่งดึกคนยิ่งออกมาเดินเล่นซื้อของหาของกิน ผู้คนเดินสวนกันไปมาบนฟุตบาตรแคบๆ บางคนมากันเป็นคู่เดินจูงมือถือ

แขนหยุดยืนดูของบนแผลงลอย บางคนมาเป็นครอบครัวออกมาหาอะไรกิน ก๋วยเตี๋ยวในชามหมดทั้งสองเดินกลับเข้าที่ทำงาน

เพราะหมดเวลาพัก    

“เทนนิสคิดโปรเจคไปถึงแล้ววะ”วีร์ถามเพื่อนสนิทที่กำลังช่วยกันเก็บกระดาษเศษอาหารบนโต๊ะ ส่วนอีกคนกำลังกวาดทำความ

สะอาดพื้นอยู่ไม่ไกล

“ยังไม่ไปไหนเลย ยังไม่รู้ว่าจะหัวข้ออะไร ยังดีที่เป็นงานกลุ่ม”มือขาวถือไม้กวาดกวาดพื้นใส่ที่โกยผง แล้วคิดเกี่ยวกับโปรเจคที่

อาจารย์ให้ทำไปด้วยด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย

“ไม่รู้ว่าทำหัวข้ออะไรออกมาถึงจะดี เท่าทีเห็นกลุ่มอื่นทำก็มีพวก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า”นึกถึงเพื่อนกลุ่มอื่นที่เริ่มมีความ

เคลื่อนไหวกันบ้างแล้วแต่กลุ่มของตัวเองยังนิ่งสนิท ยิ่งคิดก็รู้สึกกังวล

“เราต้องหาอะไรที่มันแตกต่าง แล้วอาทิตย์กลับบ้านไหมนิ”

“คงต้องกลับ”เพราะทำงานพิเศษเลยตองกลับดึกวีร์จึงต้องพักบ้านเพื่อน เขาไม่มีปัญหาเรื่องเงินแต่ที่บ้านต้องการให้เขาเรียนรู้

ชีวิตการทำงาน ถึงแม้ว่าตอนแรกจะไม่ค่อยชอบให้คนอื่นออกคำสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ไม่ชอบต้องปั้นหน้ายิ้มแย้มพูดเพราะๆกับ

ลูกค้าแต่นานวันก็กลายเป็นความสนุกและรักในการทำงาน ที่ได้เจอลูกค้าแปลกๆไม่ซ้ำกันแต่ละวัน

“ดีแล้วกลับไปให้ที่บ้านเห็นหน้าบ้าง”คำพูดที่เหมือนธรรมดาออกมาริมฝีปากแต่แววตาที่สื่อออกมาคือความ เศร้าและรู้สึกอิจฉา

เพื่อนอยู่ลึกๆที่มีครอบครัวที่อบอุ่น เมื่อครั้งหนึ่งเขาก็เคยมีแต่เพราะอุบัติเหตุทำให้พ่อแม่จากไปโดยไม่มีวันกลับ ทิ้งให้เขาเผชิญ

โลกใบนี้เพียงลำพังแต่ก็เพื่อนสนิทอย่างวีร์และครอบครัวของวีร์ที่ทำผ่านมันมาได้

“ก็ว่างั้น พื้นนี่เลอะมากเลยช่วงหน้าฝน”วีร์มองพื้นร้านที่ปูด้วยกระเบื้องสีทึบสะท้อนกับแสงไฟนวลจนเห็นเป็นเงาตอนนี้เปื้อนไป

ด้วยคราบโคลนและรอยรองเท้าของลูกค้าเต็มพื้นมองแล้วไม่ค่อยน่าดู

“ไปเติมของดีกว่า อยากกลับแล้ว”

“อืม”



    “ท่าทางคืนนี้ฝนคงจะตกลงมาอีก”เทนนิสจอดเวสป้าคู่ใจแล้วลมเย็นชื้นๆก็พัดมากระทบผิว

“อืม ดูท้องฟ้าฝั่งโน้นเป็นสีแปลกฝนน่าจะกำลังตกแถวนั้น”วีร์ปิดประตูหน้าบ้านแล้วเดินมายืนมองท้องฟ้าข้างๆเพื่อน

“เข้าบ้านกันเถอะ เหนียวตัวชะมัด”รู้สึกชื้นๆอับไม่สบายตัวเพราะเสื้อเปียกฝน ไฟในบ้านสว่างขึ้นทำให้เห็นห้องรับแขกเป็นห้อง

แรก มีโซฟารับแขกกับโทรทัศน์จอใหญ่ และโต๊ะกินข้าวที่อยู่ด้านหลังโซฟา ชายหนุ่มเดินไปสำรวจห้องนั่งเล่นที่มีชั้นวางหนังสือ

ตั้งไว้ แล้วเดินเข้าไปในครัวเปิดดูตู้เย็นหยิบน้ำออกมาดื่ม เสร็จแล้วเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน

“ฝนตกกลางคืนก็ดีนะจะได้หลับสบาย ยิ่งมีเรียนสายๆด้วย”พูดแล้วคิดถึงที่นอนอุ่นๆขึ้นมาทันที เขาบิดตัวไปมาผ่อนคลายอาการ

เมื่อยล้าทั้งวัน แล้วเดินตามเพื่อนขึ้นไป

แก๊ก เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก วีร์เห็นเพื่อนกำลังหน้านิ่วหน้าจอคอมพิวเตอร์

“ดูอะไร ทำหน้าตาเหมือนดาราเลิกกันอีก”ถามเพื่อนแล้วนั่งบนเตียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อมูลข่าวสาร

“หึ หึ ประมาณนั้น”

“ใครเลิกกันอีกล่ะ”เงยหน้าขึ้นจาหน้าจออย่างไม่เชื่อหู

“เปล่า แค่ดูข่าวบริษัทเทแอร์เพ กำลังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่”ภาพข่าวบริษัทสัญชาติไทยอยู่ในหน้าข่าวเศรษฐกิจ

“บริษัทที่ขายมันฝรั่งยี่ห้อ ทะเล้น ที่อร่อยๆน่ะนะ”วีร์ลุกจากเตียงเดินมาหยุดยืนมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีตัวหนังสือเกือบต็มหน้าจอ

“อืม”

“แล้วจะออกอะไร”

“น่าจะเป็นเครื่องดื่ม ไม่อย่างนั้นก็เป็นมันฝรั่งรสชาติใหม่”

“ดูไปแล้วบริษัทนี้ก็น่าไปฝึกงานนะ ถ้าเราฝึกที่นี่ต้องได้กินมันฝรั่งทุกวันแน่นอนเลย”วีร์กำลังคิดภาพที่ได้กินมันฝรั่งที่ตนเองชอบ

ทุกวันแค่คิดก็มีความสุข คนตัวเล็กเดินกลับไปนอนฝันที่เตียงนุ่ม

“ถ้านายไปฝึกที่โรงงานก็จะได้กินถ้าโชคดีคงได้ไปถึงสวนที่ชาวไร่เขาปลูก แต่ถ้าไปสำนักงานก็คงมีแต่กระดาษ พูดไปแล้วก็น่า

สนใจดีนะเดี๋ยวฉันจะลองหารายละเอียดดู ถ้าเขารับพวกเรานะ”ถึงจะเป็นบริษัทที่เปิดได้ไม่นานก็มีสินค้าที่สามารถแย่งส่วนแบ่ง

ทางตลาดคู่แข่งได้อย่างสวยหรู 

“หาเลยลองดู ไม่ได้ยังไงจะได้ที่อื่น นี่ถ้าเขาให้เงินค่าฝึกงานด้วยยิ่งดี”

“ถ้าเป็นบริษัทอย่างนั้นเขาคงใช้งานให้คุ้ม”

“แต่ก็ดีจะได้อารมณ์เหมือนกับว่าเราพนักงาน”

“อืม”รับปากเพื่อนแล้วเปิดหน้าต่าง google สำหรับค้นหาข้อมูลมาพิมพ์ชื่อบริษัทเทแอร์เพ ลงไปในช่อง ไม่นานข้อมูลที่

เกี่ยวข้องไล่เรียงตามสำคัญก็ปรากฏเต็มหน้าจอ

             ครื้น ครื้น แว่วเสียงฟ้าร้องมาแต่ไกล ลมเย็นชื้นพัดเข้ามาทางหน้าต่างลูกกรางติดมุ้งลวดผ้าม่านปลิวไปตามแรงลม นั่น

ทำให้เขาต้องละสายตาจากหน้าจอ ตัดสินใจปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เหนื่อยมาทั้งวันแล้วน่าจะพักผ่อนได้แล้ว หันกลับไปมอง

เตียงข้างๆเพื่อนตัวเล็กก็หลับไปแล้ว มือขาวดึงผ้าห่มผืนบางลายการ์ตูนขึ้นห่มให้เพื่อนรักอย่างเป็นห่วงเพราะอากาศ

เปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน ปิดไฟในห้องนอนปีนขึ้นเตียงนอนของตัวเองแล้วหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า 


                                                                มีต่อด้านล่าง



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2018 23:32:34 โดย jaengsRU »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

                                                                                 ต่อจากด้านบน

   จิ๊บ จิ๊บ เสียงนกร้องยามเช้า พวกมันกำลังพูดคุยทักทายกันเสียงใส ไม่พอยังกระโดดไปตามกิ่งไม้เล็กอย่างชำนาญ

อากาศเย็นสบายข้างนอกถูกลมพัดเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ทั้งคืน ทำให้คนที่นอนอยู่เตียงนุ่มรู้สึกสบายจนทำให้มีรอยยิ้ม

บนริมฝีปากบาง

ติ๊ด ตี๊ด ตี๊ด   เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์ดังขึ้นทำคนที่กำลังมีความสุขกับการนอนรู้สึกหงุดหงิดเพราะถูกรบกวน มือขาว

ควาญหาเสียงที่ทำลายบรรยากาศความสุข

“กี่โมงแล้วเทนนิส”เสียงอู้อี้จากอีกเตียงถามขึ้น

“9 โมงแล้ว”

“โอ๊ยไม่อยากตื่นเลยกำลังนอนสบาย”คนตัวเล็กนอนกอดหมอนข้างลายการ์ตูนกลิ้งไปมาบนเตียงอย่างเกียจคร้าน

“วันนี้วันพุธเจออาจารย์สมร ตื่นเถอะ”เทนนิสปลุกเพื่อนแล้วเดินหายเข้าในห้องน้ำ

“อาจารย์สมรหรอ แค่ได้ยินชื่อก็ตาสว่างแล้ว”อาจารย์อะไรไม่รู้เจ้าระเบียบเป็นบ้า คิดถึงหน้าอาจารย์แล้วก็ต้องถอนหายใจ

หลังฝนตกลงมาตลอดทั้งคืนเพิ่งจะมาหยุดช่วงใกล้เช้า ท้องฟ้าวันใหม่ก็แจ่มใสขึ้นมาก เทนนิสและวีร์มาถึงมหาวิทยาลัยก่อน

เวลา เพื่อมาหาอะไรกินตอนเช้า

“ป้าเอาผัดเผ็ดเครื่องในไก่กับไข่พะโล้อีกจานเอาไก่ทอดกับแกงเผ็ด”เทนนิสสั่งข้าวราดแกงร้านประจำแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะที่มี

เพื่อนตัวเล็กอาสาไปซื้อน้ำดื่มนั่งรออยู่

“เอื้อมกับเหรียญสิบยังไม่มาหรอ”

“โทรไปแล้วนะ บอกว่ากำลังมาให้นั่งที่โรงอาหารนี่แหล่ะ”

“แล้วนี่น้ำอะไรทำไมมันสีแปลกๆ”เทนนิสหยิบน้ำดื่มสีฟ้าแกมม่วงขึ้นมาดื่ม

“มะพร้าวอัญชัน อร่อยเปล่า”เขาเห็นมีนักศึกษาหลายคนซื้อเลยอยากลองกินดูบ้าง

“อืม ไม่หวานมากอร่อยดี”

“เฮ้ย มากันนานแล้วหรอวะ”เหรียญสิบนั่งลงบนเก้าอี้ยาวมองจานข้างแกงที่หมดไปเกือบครึ่ง

“โทษทีตื่นสายนึกว่าจะมาไม่ทันแล้ว ยังไม่อิ่มใช่ไหมรอก่อนหิวข้าวมากเลย กินไรไหมวะเหรียญสิบ”เอื้อมวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ

แล้วมองไปที่ร้าอาหาร

“เดียวไปด้วยกัน”   

ทั้งสองไปซื้อกับข้าวไม่นานก็กลับมานั่งที่โต๊ะ

“ไม่มีกับข้าวที่ไหนจะถูกเท่าที่นี่อีกแล้ว กับข้าวอร่อยแถมได้เยอะอีกตะหาก”

“โธ่คุณชายเอื้อมที่บ้านรวยขนาดนี้ยังขี้เหนียวอีกรึไง”

“ไม่ใช่ แค่เปรียบเทียบให้ฟังวันก่อนได้ยินข่าวว่าราคาสินค้าขึ้นราคาไง ภาษีก็ขึ้น ร้านอาหารตามสั่งแถวบ้านก็ขึ้นราคานะ”

“ใช่แม่ก็บ่นเหมือนกันว่าของขึ้นราคา”

“อย่างนี้ค่าแรงเราขึ้นเปล่าเทนนิส”วีร์หันหน้ามาถามเพื่อนที่นั่งฟังเงียบๆ

“แค่พนักงาน past-time ร้านนี้ให้ค่าชั่วโมงแพงที่สุดแล้ว สวัสดิการอะไรก็ดีกว่าที่อื่นๆ”

“น้อง ๆคุยอะไรกันให้พี่คุยด้วยคนสิ”

“สวัสดีครับพี่ปริม พี่ภาพ พี่พงษ์”ทั้งสี่สวัสดีรุ่นพี่ทั้งสามที่เดินเข้ามานั่งลงโต๊ะข้างๆ

“สวัสดีหนุ่มๆ รวมตัวกันแต่เช้าวันนี้มีเรียนอาจารย์สมรละสิ”ปริมสาวสวยผมยาวหยักโศกทักทายรุ่นน้อง ทั้งสี่คนแปลกใจที่รุ่นพี่รู้
ได้ยังไง

“เรื่องนี้พวกพี่ผ่านมาก่อนแล้ว เจอมาทุกอย่างแต่ผ่านมาได้เมื่อไหร่จะนึกขอบคุณอาจารย์เชียวล่ะ เพราะเวลาไปฝึกงานทั้งรุ่นพี่

เจ้านายไม่ต่างจากอาจารย์”ภาพหนุ่มรุ่นพี่เจ้าสำอางพยายามพูดให้น้องเห็นด้านดีของอาจารย์

“พวกแกอาทิตย์หน้าไปเมากัน”

“ฟรีเปล่าพี่พงษ์”

“ไม่ฟรี”

“อ้าว”

“ล้อเล่น ฟรีอยู่แล้ว เดี๋ยวใกล้ถึงวันพี่จะบอก พวกแกแค่ทำตัวให้ว่างก็พอ”ทุกคนพยักหน้ารับรู้ให้รุ่นพี่มาดเซอร์ แล้วเปลี่ยนเรื่อง
คุย เทนนิสและเพื่อนๆเห็นว่าไม่นานจะถึงเวลาเข้าก็ได้ขอตัว


   อีกไม่ถึง 5 นาทีจะถึงเวลาเข้าเรียนแต่ในห้องเรียนกลับเงียบไม่มีเสียงคุยเพราะมีอาจารย์สมรที่ขึ้นชื่อของความเจ้าระเบียบ

ยืนอยู่หน้าห้องสายตามองนักศึกษาชายหญิงผ่านแว่นหนาไร้กรอบ ด้วยสายตาที่ทุกคนต่างเกรงใจ กระดาษลงรายชื่อเข้าเรียน

ถูกส่งไปเรื่อยๆ ส่วนอาจารย์เริ่มเปิดเนื้อหาบทเรียนผ่านหน้าจอโปรเจคเตอร์ เทนนิสเปิดหนังสือเรียนตามเนื้อหาที่อาจารย์กำลัง

สอนสายตาเหลือบมองเพื่อนคนอื่นที่ดูเหมือนจะตั้งใจเรียนกว่าปกติ จะตั้งเรียนได้นานเท่าไรกันสามชั่วโมงเชียวนะ

                 เวลาค่อยผ่านไปเรื่อยๆอาจารย์ทำหน้าที่ผู้สอนต่อไป จากเนื้อหาที่เป็นตัวหนังสือบางครั้งมีรูปภาพประกอบและ

วีดีทัศน์เกี่ยวกับเนื้อหาทีเรียนทำให้ดึงสมาธินักศึกษาหลายคนที่กำลังจะหลุดลอยไปให้กลับคืนมาได้บ้าง

“วันนี้อาจารย์มีงานให้ทำ ให้นักศึกษาจับกลุ่มให้เรียบร้อยแล้วให้ตัวแทนออกมารับเอกสาร”นักศึกษาต่างรีบรวมกลุ่มแล้วส่งตัว

แทนออกมารับเอกสารหน้าห้อง

“อาจารย์ให้ทำอะไรวะ”

“จากที่อ่านโจทย์น่าจะให้ทำการตลาด โรงพยาบาล”

“โรงพยาบาล ทำไมได้หัวข้อยากจังเลย เอื้อมลองถามกลุ่มดิว่าเขาได้หัวข้ออะไรกัน”เอื้อมเดินเข้าไปถามกลุ่มอื่นๆ ที่กำลังนั่ง

อ่านคำสั่งในกระดาษไม่นานก็กลับมานั่งที่เดิม

“ไม่เหมือนกัน มีห้องสมุด ร้านอาหาร โรงหนัง ร้านค้าปลีก ประมาณนี้แหล่ะ”

“แล้วในคำสั่งอาจารย์ให้ทำยังไงบ้าง”

“ทำเป็นเล่มรายงานแล้วออกไปนำเสนอ”

“นักศึกษากรุณาเงียบสักครู่หัวข้อแต่ละกลุ่มจะไม่เหมือนกันหรืออาจจะซ้ำกันบ้างบางกลุ่ม ให้พวกคุณทำเป็นเล่มรายงานแล้ว

ออกมานำเสนอหน้าห้อง มีอะไรสงสัยถามได้รูปเล่มให้เขียนโดยใช้ลายมือทุกคนในกลุ่ม ส่วนกำหนดส่งต่อจากนี้อีกสามอาทิตย์

อาทิตย์ต่อมานำเสนออาจารย์จะไม่บอกว่ากลุ่มไหนได้นำเสนอก่อนแต่ให้ทุกกลุ่มเตรียมมา ถ้ากลุ่มไหนไม่พร้อมจะถูกตัดคะแนน

ทันที”นักศึกษาทุกคนฟังอาจารย์พูดผ่านไมโครโฟนต่างทำสีหน้าหนักใจกับงานงานที่รับมอบหมาย แต่ก็ไม่มีข้อโต้แย้งหรือข้อ

สงสัยใดใด หลังจากหมดชั่วโมงนักศึกษาต่างทยอยเดินออกจากห้องเรียน เทนนิสและเพื่อนๆลงมานั่งเล่นม้าหินอ่อนบริเวณโรง

อาหารเหมือนเช่นทุกวัน

“ช่วงนี้มีแต่รายงานเต็มหัวไปหมด เหมือนอาจารย์นัดกันมาเลย”คนตัวเล็กอดบ่นขึ้นมาไม่ได้ “กำหนดเวลาส่งงานก็ไล่เลี่ยกัน”

“รายงานนี่ไม่เท่าไหร่ แต่สอบย่อยนี่สิเทนนิสช่วยฉันด้วย”หนุ่มตี๋หันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่นั่งเล่นโทรศัพท์ไม่อารมณ์

ทุกข์ใดๆ

“ไม่ละขี้เกียจ”เทนนิสรีบตอบโดยไม่รักษาน้ำใจ

“เฮ้ยได้ไงนี่เพื่อนนะ แกไม่คิดจะช่วยหน่อยรึไงเดี๋ยวฉันพาไปเลี้ยงหนัง”

“ถ้าเทนนิสช่วยติว เราจะเลี้ยงข้าวด้วย”ข้อเสนอของเพื่อนตัวเล็กทำให้เทนนิสรู้สึกสนใจ ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์และมอง

หน้าเพื่อนในกลุ่มที่กำลังรอคอยคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ

“ฉันเลี้ยงไอติมด้วยเป็นไง”เอื้อมช่วยให้เพื่อนที่มีสีหน้าลังเลตัดสินใจง่ายขึ้น

“อืม เดี๋ยวจะทำสรุปเนื้อหาให้ แล้วสงสัยอะไรก็ถามมาละกัน”เขาเก็บโทรศัพท์ลงแล้วหยิบแผ่นกระดาษเอสี่ที่เป็นคำสั่งให้ทำ

รายงานขึ้นมาดูอีกครั้ง

คำตอบของเพื่อนทำให้วีร์ยิ้มออกมาได้อย่างหมดห่วงไปหนึ่งอย่าง ก็ใครทำให้เขาเรียนไม่ค่อยเก่งเหมือนกับเพื่อนทั้งๆที่เขาไม่

เห็นเพื่อนจะอ่านหนังสือเรียน เห็นก็อ่านปกติเหมือนคนอื่นแต่เวลาที่คะแนนออกมาทไม่รู้ทำไมถึงได้เยอะกว่าคนอื่น

“วันนี้ว่างไปเดินห้างเปล่า ไปหาอะไรกินด้วย”เอื้อมที่นั่งจิ้มโทรศัพ์อยู่เกือบชั่วโมงหันมาถามความเห็นเพื่อน

“แกไม่มีนัดกับสาวรึไง ทำไมว่างได้”

“สาวที่ไหนจะมาเอาฉันวะ แค่นี้ยังเอาตัวเองไม่รอด”หนุ่มตี๋คิดแล้วก็หงุดหงิด ไอ้อยากเที่ยวก็อยากไปแต่เรื่องเรียนก็สำคัญและ

เขาไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วงเรื่องผลการเรียน

“ไปกินอาหารญี่ปุ่นกันเถอะ ไม่ได้กินนนานแล้ว”

“เออ ใช่มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่ใกล้ๆม. ตอนนี้มีโปรโมชั่น มา 4 จ่าย 3 ว่าไงสนใจไหม”ทุกคนมองหน้ากันเห็นด้วยกับข้อ

เสนอของเหรียญสิบ

“งั้นฉันเสียสละเป็นคนที่สี่เอง”

“ได้ไงวะไอ้เอื้อมออกกันดิ”

ทั้งสี่คนเก็บของเรียบร้อยตรงไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ว่าทันที



********************************************************************************************

 ขอฝากเรื่องใหม่ด้วยจ้า

โปรดติดตามตอนต่อไป




ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก

ตอนที่ 2

              ลำแสงอันอบอ้าวจากดวงตะวันจากไปนานแล้วตรงขอบฟ้ามีเพียงดวงจันทร์ครึ่งดวงลอยเด่นอยู่ระดับสายตาบนฟ้า

พร้อมกับเมฆสีดำเทารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนกระจายอยู่ทั่วท้องฟ้าสีเข้ม แสงสว่างจากหลอดไฟข้างทางทอดเป็นแนวยาวตาม

ท้องถนนสายหลักของมหานครเมืองใหญ่ รถยนต์หลายสัญชาติวิ่งแซงรถสองล้อคู่ใจแต่นั่นก็ไม่ทำให้คนขับเร่งความเร็วแต่อย่าง

ใด รถสองล้อวิ่งด้วยความเร็วแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้มองเห็นภาพวิวยามค่ำคืนได้ชัดเจน เทนนิสและวีร์กำลังมุ่งหน้าไป

ร้านอาหารตามที่ได้ตกลงกับรุ่นพี่ไว้ก่อนหน้านี้ ใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึง

“ร้านบรรยากาศน่านั่งมากเลย”

“เพิ่งรู้ว่าแถวนี้มีร้านอาหารแถวนี้ด้วย ว่าไปแล้วเขาก็ไม่ค่อยได้มีโอกาสผ่านมาทางนี้เท่าไหร่”

“เทนนิสเข้าไปข้างในกันเถอะ ไม่รู้ไอ้เอื้อมกับเหรียญสิบมันจะบ่นอะไรบ้าง”เขาขี้เกียจฟังพวกนั้นบ่น

                ร้านอาหารกึ่งผับบนทำเลดีมองภายนอกเหมือนร้านอาหารหรูทั่วไปที่มีต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ขนาดกลางปลูกไว้เป็นแนว

แทนรั้ว ลานกว้างมีโต๊ะเก้าอี้จัดวางไว้บริการลูกค้าประดับด้วยไฟสีโทนอุ่น มองเข้าไปด้านในเป็นตึกสองชั้นที่ตกแต่งด้วยกระจก

ใส ทำให้มองเห็นบรรยากาศด้านนอก เทนนิสเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดรถรู้สึกเป็นห่วงรถสองล้อคู่ใจที่ต้องมาจอข้างๆรถหรู

ที่อยู่เต็มลานจอด เดินเข้าไปร้านที่บรรยากาศของคนมีเงินรู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ถ้าไม่เพราะรุ่นพี่ชวนมาเขาคงไม่เข้ามาในร้าน

อาหารแบบนี้ ตั้งแต่ที่ทั้งสองเดินเข้ามามีสายตาหลายคู่มองพวกเขาอย่างสนใจ ทั้งสองกำลังมองหารุ่นพี่

“เทนนิส วีร์ ทางนี้”เหรียญสิบตะโกนเรียกเพื่อนทั้งสองที่ยืนเป็นจุดสนใจอยู่หน้าร้าน

“พี่พี่หวัดดีครับ”คนมาใหม่ทั้งสองทักทายรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ บนโต๊ะกว้างมีอาหารเครื่องดื่มแอลกอร์ฮอหลากหลายยี่ห้อปริมาณดีกรี

แตกต่างกันไปวางอยู่

“อ้าวน้องรหัสที่รักกับน้องวีร์ที่น่ารักมาแล้วเชิญนั่งเลยครับ กว่าจะมีโอกาสได้เจอหน้าแก ฉันว่าแกยุ่งกว่านายกอีกนะเนี่ย”เป้ที่พี่

รหัสของเทนนิสทักทายทันทีที่เห็นรุ่นน้องทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะ

”ฮ่า ฮ่า ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่เป้”ถึงพี่รหัสของเขาจะปากร้ายแต่ที่จริงเป็นคนดีกว่าที่เห็น พอได้ที่นั่งเขาเริ่มลงมือกินกับข้าวที่

ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่สนใจ

“ไม่ต้องมาหัวเราะกลบเกลื่อน เอานี่ดื่มเข้าไปมาช้ากว่าเพื่อนน้องวีร์คนน่ารักของพี่ด้วย”เป้ส่งเครื่องดื่มให้รุ่นน้องทั้งสอง

“ขอบคุณครับ”วีร์รับเครื่องดื่มจากรุ่นพี่

เอื้อมขยับเข้ามานั่งใกล้ๆเพื่อนแต่ก็อดพูดประชดขึ้นไม่ได้“มาช้าว่ะ ไม่มาซะร้านปิด”

“รีบที่สุดแล้ว”ไม่รู้จะเร่งอะไรกันนักกันหนาไม่ได้อยากมาด้วยสักหน่อยเรียนเหนื่อยทั้งวันแล้วอยากนอนดูหนังฟังเพลงอ่าน

หนังสือการ์ตูนอยู่ที่บ้าน 

“เชื่อโทรไปตั้งแต่ทุ่มหนึ่ง นี่แกโผล่มาเกือบสี่ทุ่มเนี่ย”หนุ่มแว่นใช้สายตาไม่พอใจมองเพื่อนทั้งสองคน

“พอดีว่ารถมันติดไง บ้ารึไงตอนนี้มันแค่สองทุ่มกว่าเท่านั้น”

“มากันตั้งนาน ว่าแต่เมากันแล้วรึไง”คนตัวเล็กมองหน้าเพื่อนทั้งสองที่เริ่มแดง ท่าทางคนจะโดนรุ่นพี่บังคับให้ดื่มเลยอารมณ์เสีย

เหลือบไปเห็นขวดเหล้ายี่ห้อดังตั้งเรียงอยู่บนโต๊ะหมดไปหลายขวด

“เทนนิสพวกแกเตรียมวิชาอาจารย์สุขใจไปถึงไหนแล้ว กลุ่มอื่นฉันเห็นเขามาปรึกษารุ่นพี่กันแล้วทำไมพวกแกดูเงียบๆ”

“ครับพี่โอ๋ กลุ่มผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยยังไม่รู้ว่าจะหาอะไรมาขายในงาน”มันเป็นงานออกร้านของคณะที่จัดขึ้นทุกปี คิดไปแล้วก็

พอจะนึกออกว่ารุ่นพี่กำลังเป็นห่วง ก็ทำไงได้ก็มันยังคิดไม่ออกนี่นาไหนจะรายงานไหนจะเรียนไหนจะงานอีกล่ะโอ๊ยแค่คิดก็ปวด
หัวขึ้นมา

“ขายอะไรก็ได้ ที่มันใช้เนื้อหากลยุทธ์การตลาดที่พวกแกเรียนมาเข้ามาช่วย ทำไมพวกฉันไม่เคยคิดมากเลยวะ”

“รึว่าพวกแกจะขายขนมครก ก็ไม่ใช่ปัญหาแค่เอาไอ้เทนนิสกับไอ้วีร์ยืนขายแล้วให้ไอ้เอื้อมกับไอ้เหรียญสิบคอยเรียกลูกค้าอยู่

หน้าแค่นี้พวกแกก็ได้ยอดแล้ว”

“ฮ่า ฮ่า พี่ทัณฑ์พูดเหมือนให้พวกผมขายหน้าตาเลย”หนุ่มแว่นหัวเราะที่ถูกรุ่นพี่แนะนำ ว่าแต่ขายขนมครกนี่ก็น่าสนใจ

“ถึงฉันไม่ได้อยากหมายถึงอย่างนั้น ก็ช่วยไม่ได้พวกแกมันดูดีนี่นา”ไอ้เด็กแว่นนี่กวนประสาทจริงๆ

“พูดไปแล้วพี่โอ๋ก็อยากเห็นน้องวีร์ใส่ผ้ากันเปื้อนเหมือนกัน”ชายหนุ่มลองจินตนาการรุ่นน้องตัวเล็กสวมผ้ากันเปื้อนคงน่ารักไม่
เบา

“ต้องใส่หูแมวหรือหูกระต่ายอะไรประมาณนี้ด้วยไหมพี่โอ๋”คนถูกพาดพิงอดพูดแทรกขึ้นมาไม่ได้

“ถ้าได้พี่จะพาเพื่อนไปเหมาร้าน”ฟังคำตอบของรุ่นพี่ไม่จริงจังทำให้วีร์ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือร้องไห้ดี

“แล้วเรื่องฝึกงานพวกแกได้ที่ฝึกงานกันแล้วรึยัง”

“ผมกับไอ้เอื้อมได้แล้ว ฝึกงานกับบริษัทของญาติๆ”

“แล้วแกไอ้น้องรหัสที่รัก”

อุ๋ย พี่รหัสอย่าจ้องด้วยความรักและความห่วงใยอย่างนั้นสิเขาเขินนะ“ยังเลยครับแต่ผมกับวีร์ส่งจดหมายไปแล้ว เหลือแค่เขาตอบ
รับมา ว่าไปแล้วผมก็พึ่งส่งไปเมื่อวานนี้เอง คงต้องรออีกสักระยะถึงจะได้คำตอบ”

“อืม ให้มันได้อย่างนี้น้องรหัสที่รัก”

          จบบทสนทนาอันน่าปวดหัวทุกคนก็กลับมาสนใจเครื่องดื่มเย็นๆในแก้วใสที่รอบๆแก้วถูกเกาะไปด้วยหยดน้ำ เครื่องดื่ม

แอลกอฮอล์ดีกรีหนักถูกผสมจนมีรสชาติที่นุ่มลงกว่าเดิม บทสนทนาเปลี่ยนเป็นเรื่องทั่วๆไปสลับกับเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ

เสียงดนตรีสดในร้านทั้งเพลงไทยสากลและเพลงสากลจังหวะฟังสบายสลับสับเปลี่ยนกันบนเวทียังดึงดูความสนใจให้ลูกค้า

หลายคนหันไปมองบนเวทีอยู่เป็นระยะ ไม่บ่อยครั้งนักที่เทนนิสกับเพื่อนจะได้มีโอกาสออกมากินข้าวในช่วงเวลานี้ซึ่งปกติแล้ว

เขายังต้องทำงานพิเศษที่ร้านอาหารchicken café ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินแต่การทำงานพิเศษก็ช่วยเขาในหลายๆเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม หรือก็ทำให้เขาไม่ต้องคิดมากเรื่องการจากไปของของพ่อแม่ ทำตัวยุ่งๆเข้าไว้จะไม่เหงาไม่คิดถึง ไม่

ต้องร้องไห้เพราะไม่มีเวลา นานวันเข้าการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยก็เริ่มเคยชิน เปลี่ยนเป็นสนุกกับงาน และรักในงานที่ทำใน

ที่สุด ถึงจะเป็นแค่งานพิเศษรายชั่วโมงไม่กี่สิบบาทแต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากมากมายเกินความสามารถ มือขาวหยิบเครื่องดื่ม

แอลกอฮอล์ดีกรีต่ำขึ้นมาจิบสลับกับกินกับแก้มไปด้วย ร้านอาหารหรูอาหารรสชาติอร่อยทำเลที่ตั้งดียังมีลูกค้าทยอยเข้ามาใน

ร้านเรื่อยๆ ลูกค้าแต่ละคนที่เข้ามาในร้านการแต่งกายบ่งบอกถึงฐานะทางบ้านได้เป็นอย่างดี เวลาผ่านไปนานชั่วโมงกว่าทุกคน

ต่างแยกย้ายออกจากร้าน

“เทนนิสแกไม่ไปต่อไหมกับพี่หรอ”

“ไม่ดีกว่าพี่เป้ เอาไว้โอกาสหน้าพรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าด้วย”

“อื้อ แล้วพวกแกไปต่อกับพวกพี่ไหม”

“ขอผ่านครับพี่ แค่นี้ยังไม่รู้ว่าจะตื่นไปเรียนไหวรึเปล่า”หนุ่มตี๋รีบปฏิเสธเพราะแค่นี้ก็ทำท่าว่าจะไม่ไหวแล้ว

“ตามใจ ถ้าอย่างนั้นพากันกลับดีๆแล้วกัน”

“ขอบคุณครับพี่ๆ ที่เลี้ยงพวกผมวันนี้ คราวนี้อย่าลืมชวนอีกนะครับ แต่ขอเป็นของฟรีด้วยนะครับ”

“เอ้อ แล้วเจอกัน”


                ทั้งสี่คนลารุ่นพี่แล้วรีบแยกย้ายออกจากร้าน เทนนิสและวีร์กลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่ม บ้านหลังใหญ่สองชั้นในห้องนอนไฟถูกเปิดขึ้น

“ฮื้อ เหนื่อยเป็นบ้าเลยวันนี้”ทันทีที่เดินเข้าห้องเขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนนุ่ม ปากก็บ่นขึ้นมาเบาๆ

“ดูพี่พี่เขาจะเป็นห่วงพวกเรามาก ถึงเอาเรื่องเลี้ยงข้าวมาอ้าง แกว่าบริษัทนั้นจะรับพวกเราเข้าฝึกงานรึเปล่า”วีร์เดินไปเปิดตู้

เสื้อผ้าออกมาเปลี่ยนชุดใหม่แล้วเดินไปนั่งที่ขอบเตียง มองเพื่อนที่สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นนอนหลับตาอยู่อีกเตียง

เทนนิสขยับตัวนอนตะแคง“ก็ช่วยไม่ได้ เดี๋ยวหยุดสุดสัปดาห์ค่อยคิด ว่าแต่แกอยากใส่ผ้ากันเปื้อนไหม”พูดแล้วลืมตามองหน้า

เพื่อนที่ทำหน้าเบื่อหน่าย

“ง่วงนอนแล้ว จะอาบน้ำไหมถ้าไม่อาบจะปิดไฟนอนแล้วนะ”

“ไม่ละ ง่วงแล้วเหมือนกัน ฮ้าว”

“อื้อ”แสงสว่างในห้องถูกปิดลงชายหนุ่มทั้งสองก็เข้าสู่นิทราด้วยความเหนื่อย



   อีกไม่ถึง 10 นาทีถึงเวลาเข้าเรียนนาฬิกาบนข้อมือบอกเวลา แต่เทนนิสและวีร์ยังไปไม่ถึงห้องเรียนเพราะเมื่อเช้าตื่นสาย

“เทนนิส วีร์ ทางนี้”เสียงเรียกของเหรียญสิบตะโกนเรียกทั้งสองก่อนขึ้นอาคารเรียน

ทั้งสองเดินไปนั่งลงบนม้าหินอ่อนที่เพื่อนทั้งสองนั่งอยู่ก่อนแล้ว“พวกแกไม่เข้าเรียนกันหรอหรือว่าจะโดด”

“อาจารย์งดคลาส”เหรียญสิบรีบพูดตัดบทเมื่อดูเหมือนว่าเขาถูกเพื่อนเข้าใจผิด

เทนนิสพยักหน้ารับรู้เรื่องที่ได้ฟังอย่างไม่แปลกใจเท่าไหร่ในคำตอบ“แล้วคราวนี้ไปไหน ไปเป็นวิทยากร อบรมสัมมนา หรือว่าไปเมืองนอก”

“เห็นเพลินมันบอกว่าไปเมืองนอก ไม่รู้จะไปบ่อยอะไรกันนักกันหนา”

เทนนิสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนหน้าจอเล่นอย่างอารมณ์ดี สาตุคงเพราะไม่ได้เข้าเรียนนั่นแหล่ะแต่ก็รู้สึกกังวลบ้างที่ไม่ค่อยได้

เรียนแต่มันก็เรื่องที่ช่วยไม่ได้“แล้วทำไมแกไม่โทรบอกฉันเสียเวลา นี่ก็อุตสารีบมา”

“เพลินมันบอกว่ามีงาน นี่พึ่งได้มา”หนุ่มแว่นส่งเอกสารให้เพื่อน

วีร์เปิดดูเอกสาร“เฮ้ย ทำไมงานมันเยอะอย่างนี้นี่อาจารย์คิดจะไปเป็นปีเลยรึไง”

“ให้เวลาสองสัปดาห์ก็ไม่เยอะนะ สำหรับแบบฝึกหัดหนึ่งร้อยข้อ”

“ไหนไหนก็ว่างแล้วหาอะไรกินกันเถอะ แล้วค่อยมาคุยกันเรื่องรายงานและงานออกร้านของกลุ่มเรา”

“ก็ดีเหมือนกันฉันก็หิวแล้ว”

วีร์ เหรียญสิบและเอื้อมไปซื้อข้าวปล่อยให้เทนนิสนั่งเฝ้าโต๊ะ เขามองไปบนเอกสารที่เพื่อนให้มา เปิดอ่านเนื้อหาข้างในที่เป็น

แบบฝึกหัด ทำไมคำถามแต่ละข้อถึงได้ยากอย่างนี้ เขาหยิบปากกาขึ้นมาลองเขียนคำถามลงไปบนเส้นบรรทัดที่เหลือพื้นที่ไว้ให้

เขียนคำตอบ เนื้อหาที่เอาใช้เป็นทั้งเรื่องเก่าเพื่อทบทวนความรู้และเรื่องใหม่ที่พึ่งเรียนไปในชั่วโมงที่แล้ว นั่งตอบคำถามในแบบ

ฝึกไม่นานทุกคนก็กลับมานั่งที่โต๊ะพร้อมจานข้าว

“ดูจากแผนผังของงาน ร้านเราน่าจะตั้งอยู่ที่ล็อคนี้”นิ้วเรียวชี้ไปบนช่องสี่เหลี่ยมมีหมายเลขสองหลักเขียนไว้บนนั้น

“จากที่ดูแผนผัง กลุ่มอื่นเขาลงรายชื่อของที่ขายในงานกันเกือบจะครบแล้ว”เอื้อมมองดูด้านล่างของแผงผังที่เขียนบอกไว้ว่าจะ

แต่ละร้านจะขายสิค้าอะไรในงาน

เหรีญสิบอ่านดูรายชื่อร้านค้าแล้วออกมาคิดเห็น“ขายเครปเปล่า ช่วงที่เปิดร้านน่าจะเป็นหน้าหนาว ส่วนอุปกรณ์ไปเช่าเอา ส่วน
เรื่องวิธีทำลองเปิดดูในยูทูปน่าจะช่วยได้”

“อืม ก็น่าสนใจยังไม่มีกลุ่มไหนเปิด ควันไม่เยอะด้วย อากาศเย็นกินอะไรอุ่นๆก็น่าดี”เอื้อมลองนึกภาพความเป็นไปได้ถ้าจะขายเครปขึ้นมาจริงๆ

“ฉันก็เห็นด้วยที่จะขายของกินที่สามารถเดินกินได้ แต่น่าจะมีจุดเด่นแตกต่างจากเครปทั่วๆไป”ความยุ่งยากก็คือต้องหาจุดเด่นของตัวสินค้าที่ต้องนำเสนอมาให้คนเห็นนี่แหล่ะ วีร์ลองเปิดดูภาพเครปบนมือถือเพื่อลองหาไอเดียร์

“แล้วงบที่กำหนดไว้เท่าไหร่”นิ้วเรียวเขียนเป็นเนื้อหาโดยคร่าวลงแผ่นกระดาษเปล่า

“ไม่ได้กำหนดอะไร แต่เสร็จแล้วทำเป็นรูปเล่มตั้งแต่แรกจนถึงสรุปผล”คนตัวเล็กหันไปตอบคำถามเพื่อน

“ถ้าอย่างนี้จะเขียนโกหกลงในรายงานยังไงก็ได้สิ บอกว่าลงทุนน้อยได้กำไรอะไรประมาณนี้ โอ้ ฉันมองเห็นอนาคตประเทศล่มจมมาแต่ไกลเลย”

“คิดมากไปแล้วเหรีญญสิบ ฉันว่าอาจารย์น่าจะมองที่การทำงานเป็นส่วนประกอบ อาจารย์คงต้องการให้นักศึกษาใช้ทฤษฎีที่

เรียนมา มาใช้ในกิจกรรมมากกว่า”ทุกคนแลกเปลี่ยนความคิดอยู่ซักพักแล้วก็ได้ข้อสรุปโดยคร่าวจากนั้นต่างแบ่งหน้าที่ความรับ
ผิดชอบ 


   เมฆสีดำหายไปจากท้องฟ้าหลายวันทำให้อุณหภูมิพลอยสูงไปด้วย ดวงอาทิตย์ที่เคยส่องแสงในช่วงหลายวันตอนนี้เริ่ม

ถูกเมฆสีเทาดำบดบังเอาไว้ และมีลมเย็นๆพัดโชยมาแต่ก็ไม่ได้รู้สึกมากนักเพราะโดยรอบมีตึกอาคารสูงเสียดฟ้าคอยขวางทาง

ลมเอาไว้ บนท้องถนนมหานครยังเต็มไปด้วยยานพาหนะที่จอดนิ่งรอให้สัญญาณจากไฟแดงเป็นเขียวอย่างใจจดใจจ่อ ทันทีที่

สัญญาณไฟเขียวปรากฎขึ้นยานพาหนะต่างพยายามเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว เทนนิสขับสองล้อคู่ใจด้วยความเร็วปกติไม่

นานเขาก็มาถึงห้างสรรพสินค้าตึกสูงห้าชั้นติดถนนสายหลัก ที่รายล้อมไปด้วยตึกออฟฟิตสำนักงานของบริษัทต่างๆ ช่วงเวลา

หลังเลิกงานบนท้องถนนเส้นออกจากเมืองรถกำลังติด ผิดกับเส้นเข้าเมืองที่โล่ง

“สวัสดีครับพี่เท็น/สวัสดีครับ“

“ดีจ้าเด็กๆ อ้อ เทนนิสมีพนักงานใหม่มาฝึกงานพี่ให้คนอื่นช่วยสอนงานให้ ยังไงเราก็ช่วยๆดูด้วยนะ”

“มาฝึกงานในส่วนของร้านกาแฟหรอครับ”ที่นี่เป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ตและมีส่วนของร้านกาแฟเพิ่มเข้ามาไว้บริการด้วย สาขานี้

เป็นอีกสาขาที่มีไว้สำหรับฝึกอบรมพนักงานใหม่ก่อนที่จะส่งไปประจำที่สาขาอื่น จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมากทั้งคนไทย

ชาวต่างชาติทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับใช้ฝึกพนักงาน

“ใช่จ๊ะ น่าจะเป็นรุ่นน้องเรานะ แล้วอาจจะมีมาเพิ่มอีกพี่จะรบกวนช่วยสอนงานด้วย”

“ก็สอนแบบเดิมใช่ไหมครับ ไม่น่าจะมีปัญหา”

“ใช่แล้ว ไปวีร์ไปลงเครื่องกับพี่”

“ครับ”วีร์รับคำแล้วเดินตามผู้จัดการร้านออกไปหน้าร้านปล่อยให้เทนนิสยืนสำรวจความเรียบตัวเองผ่านกระจกเงาอีกครั้ง เทนนิส

เดินออกไปหน้าร้านกลิ่นกาแฟหอมๆจากเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติที่กำลังทำงาน

“พี่แชมป์ พี่ตาลสวัสดีครับ”ชายหนุ่มทักทายรุ่นพี่

“เทนนิสมาแล้วหรอ นี่น้องปลามาฝึกงานที่นี่สักระยะ ก่อนจะกลับไปประจำที่ต่างสาขา”แชมป์ชายหนุ่มผิวขาวเชื้อสายจีนส่งยิ้ม

หวานทักทายมาให้เขา

“สวัสดีครับพี่ชื่อเทนนิส”เขาทักทายหญิงสาวตัวเล็กความสูงไม่น่าจะเกินร้อยหกสิบมีใบหน้าน่ารัก มัดผมติดกิ๊ปอย่างเรียบร้อย

“สวัสดีดีค่ะชื่อปลาค่ะ”เธอยกมือไหว้และยิ้มหวานให้รุ่นพี่มาใหม่ เธอคิดว่าพี่แชมป์หล่อแล้วมาเจอเทนนิสเข้าทำให้เธอต้องเปลี่ยนความคิดใหม่

“ถ้าอย่างนั้นเทนนิสช่วยสอนน้องต่อนะเดี๋ยวพี่ต้องไปที่สำนักงานใหญ่ ให้พี่ตาลช่วยดูลูกค้าให้”

“ครับไม่มีปัญหา”

“เทนนิสตามสบายเลยนะเดี๋ยวพี่ดูลูกค้าให้”ตาลเดินไปยืนประจำเครื่อง

“ขอบคุณครับพี่ตาล”ขอบคุณเพื่อนร่วมงานแล้วกลับมาสนใจหญิงสาวที่ยืนแหงนหน้ามองป้ายรายชื่อเครื่องดื่ม ขนาดและราคาที่

ติดอยู่บนกำแพงส่วนในมือกำลังจดอะไรสักอย่างลงไปในสมุดเล่มเล็กอย่างตั้งอกตั้งใจ”พี่แชมป์สอนอะไรเราไปแล้วบ้าง”

“กำลังสอนชื่อเครื่องดื่มที่ติดอยู่บนป้ายค่ะ”เธอพูดยิ้มๆ แล้วสังเกตใบหน้าหล่อๆของเทนิสที่ทำให้เธอชอบตั้งแต่เดินเข้ามา

“ถ้าอย่างนั้นเรามาเริ่มตั้งแต่พื้นฐาน พวกเราไปหลังร้านดีกว่า”เทนนิสเดินนำพนักงานใหม่เข้าไปหลังร้านที่เป็นห้องเก็บของที่จัด

เรียงไว้บนชั้นวางของขนาดใหญ่อย่างเป็นระเบียบ เทนนิสหยิบแก้วพลาสติกสีใสลงสำหรับเครื่องดื่มขนาดต่างๆกันออกมาพร้อม

ฝาครอบปิดลงมาจากชั้นพร้อมกับอธิบายให้ฟัง จากนั้นเป็นแก้วกระดาษขนาดต่างๆสำหรับใส่เครื่องดื่มร้อน วัตถุดิบต่างๆรวมถึง

เมล็ดกาแฟที่บรรจุไว้ในซองสีเงินอย่างมิดชิด

“ทำไมพี่เทนนิสถึงมาทำงานพิเศษที่นี่ละคะ”

“หมายความว่ายังไงครับ”

“ขอโทษค่ะที่ทำให้เข้าใจผิด แต่ปลาคิดว่าพี่เทนนิสน่าจะเป็น ดารา ถ่ายแบบ อะไรประมาณนั้นมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า

พี่ไม่เหมาะกับที่นี่เพียงแต่พี่ดูดีเกินไป”

“ไม่หรอกเพื่อนๆพี่หล่อกว่าพี่มีออกเยอะ”มันค่อนข้างยุ่งอยากถ้าต้องไปอยู่จุดนั้นเพราะยังอยากมีชีวิตปกติไปไหนมาโดยไม่ต้อง
เป็นจุดสนใจหรือมีคนคอยจับผิด และระแวง ระวัง ในหลายๆเรื่อง

“นั่นก็ใช่ที่คนหน้าตาดีมีเยอะแต่คนที่ดูดีแล้วมีเสน่ห์อย่างพี่เทนนิสมันอีกเรื่องใช่ไหมคะ”เธอพูดออกไปสังเกตท่าทางรุ่นพี่ยังยิ้ม

น้อยๆแสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจความหายที่เธอพูด เธอเข้าใจว่าคนหน้าตามีเยอะแต่คนที่มีบรรยากาศรอบๆตัวน่าเข้าใกล้ มีรอย

ยิ้มที่มีชีวิตชีวา เวลาที่พูดด้วยแล้วรู้สึกเป็นกันเองมันมีกันแบบนี้ทุกคนซะเมื่อไหร่

“ขอบคุณนะ พี่จะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน เรากำลังเรียนอยู่ที่ไหน”

“ปลาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเปิดค่ะค่าเทอมถูกดี ที่มาทำงานที่นี่อยากทำงานพิเศษส่งตัวเองไม่อยากกวนพ่อแม่และเท่าที่ดูมางาน

พิเศษที่นี่ให้รายชั่วโมงเยอะกว่าที่อื่น”

“เป็นเด็กดีมากเลย ที่มีความคิดอย่างนี้”ถ้าเขาไม่ได้สูญเสียพ่อแม่ไปอาจจะไม่ได้มีอยู่ตรงนี้คงใช้ชีวิตสนุกไปวันๆกับเพื่อนๆโดย

ไม่ได้รับรู้ว่าการทำงานนั้นมันเหนื่อยยังไงบ้าง เขาพาเธอกลับที่หน้าร้านอีกครั้งพร้อมกับช่วยตาลต้อนรับลูกค้า
   


   มีเสียงดังขึ้นในห้องครัวพร้อมกับหม้อขนาดกลางที่มีน้ำอยู่ข้างในพอประมาณถูกตั้งลงบนเตาไฟฟ้า รอไม่นานนักน้ำใน

หม้อเริ่มร้อนจนเดือด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในซองสีเงิน ซองสีเขียวถูกแกะออกมาจากซองแล้ววางลงในหม้อที่กำลังเดือดตามด้วย

ผักลูกชิ้นและไข่ไก่ รอจนสุกแล้วใส่เครื่องปรุงตามลงไป

“ทำอะไรกลิ่นหอมน่ากินมากมาย ทำเผื่อด้วยดิ”วีร์เดินหัวยุ่งลูบท้องเข้ามาในครัว ยืนมองพ่อครัวสวมผ้ากันเปื้อนสีเข้มยืนหน้ามัน

แต่ยังหล่ออยู่หน้าเตาไฟฟ้า คนมันดูดีทำยังไงก็ดูสินะ คนตัวเล็กชะเง้อมองไปที่หม้อบนเตาส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง กลิ่นหอมน่า

กินนี่เองที่ทำให้เขาตัดสินใจเดินเข้ามาในครัวอย่างไม่ลังเล

“ต้มมาม่าเอาเปล่า”เทนนิสเปิดตู้หยิบชามเซรามิคก้นลึกสีขาวออกมาสองใบ แล้วตักแบ่งต้มมาม่าออกเป็นสองชามอย่างรู้ใจ

เพื่อนว่าจะไม่ปฏิเสธคำชวนของเขาแน่นอน

“เอา ใส่ไข่ด้วยใช่ไหม อะมีลูกชิ้นน่ากินมากเลยขอบใจนะ”วีร์ยิ้มอย่างพอใจที่เพื่อนรู้ใจแล้วหยิบชามรีบเดินออกจากครัว ไปนั่ง

หน้าโทรทัศน์เครื่องใหญ่หยิบรีโมตเลื่อนหารายการประจำวันหยุดที่ชอบ

“บริเวณภาคกลางตอนบนท้องฟ้าแจ่มใส ภาคกลางตอนล่างอุณหภูมิลดลงท้องฟ้ามีเมฆมากและอาจมีฝนเป็นแห่งๆ ส่วน

กรุงเทพฯท้องฟ้ามีเมฆมากและอาจจะมีฝนตกในบางพื้นที่....”นักข่าวสาวกำลังรายงานข่าวพยากรณ์อากาศประจำวันผ่านช่อง

โทรทัศน์ช่องใหม่ในระบบสัญญาณดิจิตอล

“วันนี้ฝนจะตกหรือ”เทนนิสนั่งลงข้างๆเพื่อนแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เมฆสีเทายังกระจายอยู่เต็มท้องฟ้าแสงแดดยังพอมีอยู่

อากาศไม่ได้ร้อนมาก ฝนตกหรออาจจะใช่ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ก็คงต้องงดซักผ้ารึว่าจะซักดีนะอย่างน้อยถ้าซักตอนนี้ก็น่าจะแห้ง

“อืม น่าจะใช่พยากรณ์อากาศเขาบอกไว้อย่างนั้น อร่อยมากเลยมาม่าใส่ไข่”ฝีมือเพื่อนเขานี่ไม่ตกเลยทำอะไรก็อร่อยไปหมด คิด

แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ไม่ต้องทำกับข้าวกินเอง เพราะเขาเป็นคนที่ไม่มีความสามารถทางนี้

“แล้วสองคนนั้นจะมากันกี่โมง”มองดูนาฬิกาที่แวนไว้บนผนังห้องนั่งเล่น

“น่าจะสักสิบโมง”ตอนนี้ก็แปดโมงกว่าแล้ว ถ้ามาไม่ถูกก็คงโทรมานั่นแหล่ะ

“ของใช้หมดแล้ว พรุ่งนี้ฉันว่าจะไปซื้อของเข้าบ้าน”

“ซื้อแยมเปลือกส้มมาให้ด้วยนะ เอายี่ห้อเดิมแล้วก็..”

“รถมอเตอร์ไซไม่ใช่รถบรรทุก”เทนนิสรีบหยุดความคิดของเพื่อนไว้เท่านั้น

“เออ ลืมไปวันหลังค่อยไปซื้อก็ได้”

ทั้งสองนั่งกินมื้อเช้าไปด้วยดูรายการโทรทัศน์ไปด้วยแต่ยังเช้าอยู่ยังไม่มีรายการอะไรน่าสนใจ เทนนิสกลับเข้าไปในครัวทำความ

สะอาดล้างถ้วยจานเสร็จแล้วขึ้นห้องเอาเสื้อผ้าลงมาซัก แยกผ้าขาวผ้าสีเสร็จเติมน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้าลงในช่องแล้วกดปุ่ม

เครื่องซักผ้าให้ทำงานอัตโนมัติ สามสิบห้านาทีคือเวลาที่ปรากฏอยู่บนเครื่อง เทนนิสกลับเข้าไปในบ้านนั่งดูโทรทัศน์รอเวลา

“เดี๋ยวจะออกไปซื้อของมาทำกับข้าวที่ตลาดหมู่บ้าน สองคนนั้นมาจะไม่มีอะไรกิน ไปด้วยกันไหมหรือจะเฝ้าบ้าน”เทนนิสบอกคน

ที่กำลังดูรายการเหมาะสำหรับเด็กอย่างตั้งใจ

“เดี๋ยวดิไปด้วย อยากกินขนมพอดี”บอกเพื่อนแล้วรีบวิ่งกลับขึ้นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่พร้อมหยิบกระเป๋าเงินกับโทรศัพท์

ติดมือลงด้านล่าง

“ล็อกบ้านเลยนะเอากุญแจออกมาแล้ว”เทนนิสตะโกนบอกคนที่วิ่งลงจากชั้นบนอย่างเร่งรีบ

“พร้อมแล้วไปเลย”คนตัวเล็กจัดการล็อกประตูในบ้านและหน้าแล้ววิ่งกระโดดขึ้นซ้อนท้าย ท่าทางที่เหมือนเด็กๆทำให้อีกฝ่ายถึง

กับส่ายหน้า

หมู่บ้านที่เทนนิสอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านใหญ่กินพื้นที่กว้างและยังมีหมู่บ้านจัดสรรหลายโครงการใกล้ๆทำให้มีปากซอยทางเข้ามี

ห้างสรรพสินค้าขนาดกลาง ตลาดสดหมู่บ้านที่มีของสดขายทั้งวัน ขับมอร์เตอร์ไซด์ออกมาถตลาดไม่ถึง 600 เมตรก็ถึง

ตลาดสดขนาดใหญ่ถูกแบ่งจัดโซนไว้อย่างเป็นระเบียบหน้าตลาดทางเข้ามีรถสามล้อ รถสองแถว มอเตอร์ไซด์รับจ้างคอยไว้

บริการ หลังคายกสูงมีพัดลมระบายอากาศ แผลงลอยตลาดสดยกพื้นสูงและดูสะอาดอย่างถูกสุขลักษณะ

“จะทำอะไรกินดี”

เทนนิสหยุดคิดแล้วหันกลับไปถามเพื่อน“แล้ววีร์อยากกินอะไร พวกนั้นไม่มีปัญหาหรอกกินอะไรก็ได้”

“อืม ขนมจีนแกงเขียวหวาน ไก่ทอดแล้วก็ผัดผักรวมก็ได้”เขาเสนอรายการกับข้าวที่เขาอยากกิน

“ยังไม่เบื่อรึไงไก่ทอด ทำงานร้านไก่ทอดทุกวัน”แค่มองเห็นร้านก็รู้สึกเบื่อจะแย่อยู่แล้ว

“ไม่อะ ทำงานแต่ไม่ได้กินซะหน่อยช่วงนี้ก็ไม่ได้เบรกไก่หรือแฮมเบอร์เกอร์เลย อีกอย่างไก่ทอดมันก็คนแบบกัน”

อืม จะว่าไปแล้วก็จริงนะ“งั้นก็ตามนั้นไปดูแผงผักสดก่อนแล้วค่อยไปดูแผงเนื้อสัตว์”เทนนิสเดินนำคนตัวเล็กเข้าไปในตลาด

บริเวณแผงผักสด เลือกซื้อผักสดที่ต้องการสองสามอย่างแล้วเดินไปต่อที่แผงขายเนื้อสัตว์

“เทนนิสขนมไทยร้านนั้นอร่อยมากเลย วีร์เลยซื้อมาเผื่อ ผลไม้ด้วยนะ”เทนนิสมองดูมือเพื่อนตัวเล็กที่เต็มไปของกิน   

“จะซื้ออะไรอีกไหม ถ้าไม่มีจะได้กลับ”

“อืม ใกล้เวลาสองคนนั้นจะมาแล้วด้วย”


                                                                                  มีต่อข้างล่าง

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
                                                                    ต่อจากข้างบน

                กลับถึงบ้านทั้งสองแยกย้าย เทนนิสกลับเข้าครัวเตรียมของไว้ทำกับข้าว แล้วเดินไปข้างบ้านที่มีราวตากอยู่เขาวาง

ตะกร้าลง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองผ่านช่องรั้วกั้นเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ที่อยู่หลังสวนถูกตกแต่งไว้อย่างร่มรื่นสวยงาม เมื่อไม่นาน

มานี้เขาจำได้ว่าที่ตรงนี้ยังเป็นที่ดินเปล่าแต่ไม่ได้สังเกตว่ามีบ้านหลังใหญ่อยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ เพื่อนบ้านคนใหม่เป็นใครกันนะ

เพื่อนบ้านหรอทั้งๆที่เขาอยู่ที่นี่มาหลายปีเกือบจะเป็นบ้านหลังแรกๆด้วยซ้ำแต่กลับไม่รู้จักใครสักคน คงเพราะไม่ค่อยอยู่บ้าน

กลับมาก็ดึกและต้องออกเรียนก็เป็นเวลาสายแล้ว อี๊ด อี๊ด เสียงแปลกๆดังขึ้นอยู่ใกล้กำแพงทำให้เทนนิสมองหาที่มาของเสียง

“เฮ้ย ตกใจหมดเลย แกทำอะไรอยู่เจ้าตูบ”เซนต์เบอร์นาร์ดโผล่หัวลอดมาทางช่องรั้วทำให้เทนนิสตกใจ ดูแล้วมันน่าจะยังเด็กอยู่

“อี๊ด อี๊ด”เจ้าตูบแลบลิ้นครางออกมาเบาๆ พร้อมกับมองหน้าเทนนิสอย่างเป็นมิตร

“แกอย่ากัดฉันนะ ยังไม่อยากไปหาหมอ”เขายื่นมือออกไปลูบหัวของมันเบาๆ เสียงครางของมันก็เบาลง ดูแล้วมันคงชอบที่เขา

ลูบหัวมัน ริมฝีปากบางปรากฏเป็นรอยยิ้มกว้างโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว ถ้าเป็นไปได้เขามีเวลาคงอยากเลี้ยงหมาไว้สักตัว แต่เขาก็ไม่

อยากเลี้ยงไว้แล้วปล่อยให้มันเหงา

“ว่าไงเจ้าตัวโตเจ้านายแกไม่อยู่บ้านแล้วเหงาละซิ อยากมาเล่นที่บ้านฉันไหมล่ะ บ้านฉันมีขนมให้แกกินเยอะแยะเลยนะ “ว่าไป
นั่น“

“พี่จายรู้จักกับเจ้าฉายไหมของบู้ตึ้งหยอ”

“เฮ้ย ตกใจหมดนึกว่าเจ้าตูบพูดได้”ที่แท้ก็เป็นเด็กผู้ชายกำลังยืนอยู่ข้างๆเจ้าตูบตัวโตส่งยิ้มให้เขา เด็กคนที่บอกชื่อบู้ตึ้งหน้าตา

น่ารักแต่ตามเนื้อตัวมอมแมมมีเศษดินเศษหญ้าเกาะตามเนื้อตัวท่าทางจะซนไม่เบา

“เจ้าตัวโตนี่ชื่อสายไหมใช่ไหม เป็นหมาของบู๊ตึ้งหรอครับ”

“ไม่คับ ฉายไหมเป็นหมาของคุณยายคับ”

“บู๊ตึ้งชอบกินขนมไหม รออยู่ตรงนี้นะเดี๋ยวพี่ไปเอาขนมมาให้”เทนนิสพูดแล้วรีบเดินกลับเข้าไปในบ้านหยิบกล่องขนมไทยที่วีร์

ซื้อติดมือมาจากตลาดแล้วเดินกลับไปที่ข้างรั้วที่เขาเจอบู๊ตึ้งและเจ้าสายไหม

“คุงแม่ไม่ให้รับของจากคนแปลกหน้า คนหล่อก็ไม่ให้รับเหมือนกัน”

เอายังดีวะ“พี่ชื่อพี่เทนนิส บ้านพี่อยู่ข้างๆบ้านคุณยายของบู๊ตึ้งนี่เองที่สำคัญเป็นเพื่อนบ้านไม่ใช่คนแปลกหน้า”พูดไปแล้วก็

เหมือนกำลังหลอกเด็กอยู่ยังไงไม่รู้

“ให้บู๊ลิ้มด้วย”

เทนนิสมองหน้าเด็กผู้ชายอีกคนที่มาใหม่สลับกับบู๊ตึ้ง“ฮึ ฝาแฝด”แต่คนที่มาใหม่ดูตัวเล็กกว่านิดหน่อยท่าทางดูเรียบร้อยและขี้

อายไม่เหมือนบู๊ตึ้งเลยถ้าเดาไม่ผิดคนที่มาใหม่น่าจะเป็นน้อง

“พี่จายให้บู๊ลิ้มด้วย”เด็กชายตัวเล็กบอกพี่ชายสุดหล่อว่าน้องชายเขายังไม่ได้ขนมเลย

“เป็นพี่น้องกันต้องแบ่งสิบู๊ตึ้งเป็นพี่ต้องแบ่งน้อง”ตัวแค่นี้ยังรู้จักห่วงน้อง

“ครับ”เด็กชายรับคำแล้วรีบแกะขนมออกจากกล่องใช้ช้อนเล็กๆป้อนขนมเข้าปากน้องชาย เจ้าตัวเล็กอีกคนเห็นพี่ชายเอาช้อนมา

จ่อที่ปากก็รีบอ้าปากกว้างทันที เทนนิสยืนดูสองพี่น้องกินขนมกันอย่างอร่อยปล่อยให้เจ้าตูบนั่งมองน้ำลายไหลสักครู่ แล้วเขาก็

กลับไปจัดการตากเสื้อผ้าในตะกร้าให้เรียบร้อย


“อ้าว บู๊ตึ้งบู้ลิ้มแอบมาอยู่นี่เอง ยายนึกว่าหายไปไหน แล้วปากเลอะอะไรกันมา”หญิงสูงวัยเห็นหลานนั่งเล่นอยู่ข้างบ้าน

“กินหนมพี่จายข้างบ้านให้มา อร่อยบู๊ตึ้งป้อนน้องด้วย”เด็กชายรีบบอกคุณยาย

“พี่จายหล่อใจดีให้หนมอร่อย”บู๊ลิ้มรู้สึกชอบพี่ชายเพราะแบ่งขนมอร่อยให้เขาและบู๊ตึ้ง

“พี่ชายข้างบ้าน”หญิงสูงอายุแปลกใจกับคำพูดของเด็กๆที่ว่าพี่ชายข้างบ้าน เธอมองไปที่ข้างรั่วมองเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ที่

ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้และศาลานั่งเล่นไม้เลื้อยหลังใหญ่ เท่าที่จำได้บ้านข้างๆน่าจะไม่มีคนอยู่เพราะตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ก็เห็นบ้าน

ปิดไว้ตลอด รึว่ามีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่

“ยายบอกแล้วใช่ไหมลูกว่าอย่ารับของจากคนแปลกหน้า”

“พี่เทนนิสบอกว่าเป็นเพื่อนบ้านกันไม่ได้แปลกหน้า อีกอย่างฉายไหมก็ชอบพี่ชายด้วย”คำพูดที่ไร้เดียงสาของหลานชายทำให้

เธอต้องยิ้มออกมาไม่ได้

“เอาเถอะ เด็กๆเข้าบ้านไปล้างหน้าล้างตากันเถอะ มอมแมมเหมือนเจ้าสายไหมเลย”หญิงสูงวัยรีบจูงเด็กแฝดทั้งสองคนเข้าไปบ้าน
   


   ในศาลาไม้เลื้อยขนาดใหญ่มีไม้เลื้อยทนแดดกำลังออกดอกสีสวยเป็นพุ่มส่งกลิ่นหอมอ่อนๆเวลาลมพัดมา พุ่มไม้หนาจน

สามารถบังแสงแดดไม่ให้ลอดลงมาในศาลาได้ จนทำให้คนที่นั่งทำงานไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าแล้ว เทนนิสและเพื่อนๆกำลัง

ช่วยกันทำรายงานกว่าสามชั่วโมงแล้ว รายงานถูกแบ่งออกเป็นหัวข้อให้แต่ละคนรับผิดชอบ นิ้วเรียวกำลังเขียนเนื้อหาลงบน

กระดาษรายงาน เสร็จไปแล้วหลายแผ่น เขามองเนื้อหาที่เหลืออีกไม่เยอะแล้วไปมองเพื่อนแต่ละคนที่เริ่มแสดงเบื่อหน่ายออกมา

แต่ไม่มีใครพูดออกมา

บ่ายโมงกว่าเหรีญญสิบมองดูนาฬิกาข้อมือ เขารู้สึกหิวแล้วแต่ดูเหมือนว่าเพื่อนๆจะยังตั้งหน้าตั้งตาสนใจงานตรงหน้าเขาเลยไม่
สามารถพูดอะไรได้

”บ้านแกนี่ร่มรื่นดีนะต้นไม้เยอะด้วย”เอื้อมมองไปรอบๆเห็นต้นไม่สีเขียวเย็นสบายตา

“พ่อชอบปลูกต้นไม้ และชอบหาต้นไม้มาลง”เมื่อคิดถึงคนที่ล่วงลับไปแล้วแววตาของเขาก็มีร่องรอยความเศร้าขึ้นมาแต่ก็เพียง

เล็กน้อย เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้นอกจากต้องยอมรับและเดินไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งเท่านั้น

รอบๆตัวทุกอย่างเปลี่ยนเป็นความเงียบขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจเอื้อมรีบเปลี่ยนเรื่อง“แต่แถวนี้เงียบมากเลย ตั้งแต่หน้าปากซอยมา

ถึงบ้านแกมีแต่บ้านหลังใหญ่รั้วสูงๆสวยๆทั้งนั้น ท่าทางแถวนี้จะมีแต่คนมีฐานะ”

“ก็อาจจะใช่”แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาที่ต้องไปยุ่ง”หิวข้าวแล้วเข้าบ้านไปกินข้าวเถอะ”

“ฮื้อ ในที่สุดก็ได้พักที”วีร์พูดแล้วรีบเดินนำเพื่อนเข้าไปในบ้านก่อนใคร


   ขนมจีนแกงเขียวหวาน ไก่ทอด และผัดผักรวมถูกนำมาวางบนโต๊ะ ทุกคนรีบลงมือโยไม่ต้องรอให้เจ้าของบ้านบอก กินจน

อิ่มแล้วทุกคนกลับมานั่งทำรายงานต่อ

“เราว่าเหรียญสิบดูแปลกๆๆไปนะ”วีร์กระซิบข้างหูเทนนิส รู้สึกว่าช่วงนี้เพื่อนดูแปลกๆไปเหมือนมีเรื่องสบายใจ

เทนนิสหันไปมองเหรียญสิบตามที่คนตัวเล็กสงสัยแต่ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกไปจากเดิมเท่าไหร่“แปลกยังไง รึว่าวันนี้มันมีสามตา
สองหัว”

“เปล่า ดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ ชอบขมวดคิ้วเหมือนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ รึว่ามันไปทำผู้หญิงท้อง”

ก่อนที่คนตัวเล็กจินตนาการไปมากกว่านี้เทนนิสจึงต้องถามเพื่อนออกไปตรงๆอย่างไม่เกรงใจ“ว่าไงเหรียญสิบมีอะไรไม่สบายใจรึ

เปล่า วีร์เป็นห่วง”เขาวางมือรายงานแล้วมองหน้าใบเพื่อนที่ทำหน้าเบื่อหน่าย

“ไม่มีอะไรหรอก แค่ม๊าจะให้มั่นกับลูกสาวเพื่อนแม่ ก็เท่านั้น”

“เฮ้ย จริงดิสวยไหม”เอื้อมนั่งฟังอยู่นานอดแปลกใจกับคำตอบที่ได้ยินไม่ได้ “นี่มันยุคไหนแล้วยังมีเรื่องบังคับให้มั่นให้แต่งงาน
อยู่อีกรึไง”

เหรียญสิบขมวดคิ้วกับคำถามเพื่อน“ไม่รู้ ไม่เคยเห็นหน้า แต่บอกว่าเป็นรุ่นน้องมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่ต่างคณะ”

“แกแอบไปดูหน้ามายังวะ”

“ไม่ ไม่ได้สนใจเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ตกลงกันเองฉันไม่เกี่ยว”เขายังไม่อยากกังวลเรื่องที่ยังมาไม่ถึง

เทนนิสส่ายหัวเพราะรู้เหตุผลที่ครอบครัวของเพื่อนทำอย่างนั้น“ก็เที่ยวบ่อยจนที่บ้านเป็นห่วงไง ถึงขั้นหาผู้หญิงมาให้หมั่นด้วย

ท่าทางคราวนี้จะจริงจัง”ถึงจะเป็นคำขู่แต่คนที่รักอิสระอย่างเหรียญสิบต้องไม่อยู่เฉยๆแน่ มิน่าช่วงนี้ดูขยันเรียนผิดปกติจนน่า

แปลกใจ

ก็จริงตามที่เพื่อนว่า ที่เขาช่วงก่อนหน้านี้เที่ยวบ่อย ผลการเรียนค่อนข้างมีปัญหา“ใช่ ถ้าเกรดเทอมนี้ไม่ขึ้นต้องมั่นจริงๆนั่นแหล่ะ”

“อ้อ เข้าใจแล้วทำไมช่วงนี้คุณชายไม่ไปตระเวนราตรีที่ไหนที่แท้ก็เจอลงดาบนี่เอง ดีแล้วจะได้รู้ว่าที่บ้านเขาเป็นห่วงแค่ไหน โต

แล้วก็น่าจะทำให้เลิกเป็นห่วงได้แล้ว”วีร์เริ่มเห็นด้วยกับที่บ้าน

“ครับ ผมจะพยายามปรับปรุงตัวพวกคุณคุณกรุณาช่วยผมด้วยนะครับ ไม่งั้นผมต้องแย่แน่ๆ”พอเหรียญสิบพูดจบทุกคนก็ระเบิด

หัวเราะออกมาแทบจะพร้อมกันไม่รู้ว่าจะเห็นใจหรือสมน้ำหน้าดี
   

   เช้าวันอาทิตย์อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่ง บนท้องถนนยังสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก ชายหนุ่มคนตัวเล็ก

กำลังนั่งอยู่ด้านหลังรถมองออกไปด้านนอกผ่านกระจกใสของรถที่กำลังแล่นไปเรื่อยๆ ใบหน้ามีร่องรอยอิดโรยเพราะเขานั่ง

ทำงานส่งอาจารย์ทั้งคืน มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาเกือบแปดโมงเช้าแล้ว ถ้าเทนนิสไม่ไล่กลับบ้าน เขาตอนนี้คงกำลัง

นอนหลับสบายบนเตียงนุ่มๆนั่นแล้ว เฮ้ย ว่าไปแล้วเมื่อคืนก็เคลียงานไปแค่ไม่กี่ชิ้นยังมีอีกหลายชิ้นยังไม่ทำแล้วไหนจะสอบย่อย

อีก มัวคิดเรื่องนั้นเรื่องนี่ไปเรื่อยในที่สุดรถแท็กซี่ก็จอดสนิทหน้ารั้วบ้านหลังใหญ่

“แม่สวัสดีครับ”วีร์ไหว้หญิงสูงวัยแต่ยังดูสวยที่กำลังนั่งทำอะไรสักอย่างที่ห้องนั่งเล่นเพียงลำพัง แล้วเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆเธอ

วารีเงยหน้าจากเอกสารตรงหน้าแล้วส่งยิ้มให้ลูกชายที่เพิ่งกลับบ้านในรอบหลายสัปดาห์ “กลับมาแล้วหรอลูกทำไมหน้าตาหน้า

ซีดอย่างนั้น”เธอมองใบหน้าลูกชายอย่างเป็นห่วงแต่ไม่มีกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่เธอก็รู้สึกเบาใจอยู่บ้าง

“เมื่อคืนทำรายงานส่งอาจารย์ครับ นี่ยังไม่ได้นอนเลย”

“เหนื่อยก็นอนก่อนแล้วสายๆค่อยลงมากินข้าว”

“แล้วพ่อละครับ”คนตัวเล็กถามหาอีกคนที่น่าจะอยู่บ้านแต่กลับไม่เห็น

“ออกไปกับเพื่อนๆของเขาเหมือนเดิม”

“แล้ววันนี้แม่ไม่ออกไปไหนหรอครับ”

“ไม่ดีกว่าลูก แม่ก็อยากพักเหมือนกัน”

วีร์เดินขึ้นห้องนอนที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าอ่อน เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายแล้วปีนขึ้นเตียงเพราะความง่วงกำลังโจมตีอย่าง

ไม่ปราณี เปลือกตาค่อยๆปิด วางหัวบนหัวแล้วดำดิ่งสู่นิทรา

   ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่แต่ได้ยินเสียงแว่วเหมือนคนเรียกอยู่หน้าประตูห้องทำให้คนรู้สึกสบายเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เขา

ฝืนลืมตามองหาต้นเสียงไปรอบๆห้อง“ก๊อก ก๊อก น้องวีร์คุณแม่ให้มาตามไปกินข้าวค่ะ”เสียงแม่บ้านเคาะประตูเรียกเขาอยู่หลังประตู 

“ครับ เดี๋ยวผมตามลงไป”ตอบรับเสียงเรียกไปแล้วมองหานาฬิกาบนตัวเตียงที่บอกเวลาที่เที่ยงตรง ยังรู้สึกง่วงอยู่ยังไม่อยากตื่น

เลย เฮ้อ เขาถอนหายใจตัดใจลุกขึ้นจากเตียงเพราะท้องเจ้ากรรมเริ่มส่งเสียงประท้วง เดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย

มองใบหน้าที่เมื่อเช้าดูอิดโรยเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอแต่ตอนนี้ไม่มีร่องรอยนั้นให้เห็นแล้ว

วีร์เดินลงมาจากชั้นบนเขาได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังพูดคุยกันดังมาจากโต๊ะกินข้าวหรือว่าพ่อกลับมาแล้ว

“อ้าว น้องวีร์ตื่นแล้วหรอมานี่สิลูก น้าเอมกับพี่ปาลมาเยี่ยม”วารีเรียกลูกชายที่เดินตรงมาที่โต๊ะกินข้าวทำหน้าตาแปลกใจเมื่อถูก

เธอเรียกให้มาเข้ามา แต่ใบหน้าเล็กๆกำลังบอกว่าแปลกใจที่เห็นใครนั่งร่วมโต๊ะกินข้าว

“สวัสดีครับน้าเอม”ชายหนุ่มไหว้ทักทายหญิงสูงวัยที่ชื่อว่าน้าเอม และสายตาเหลือบไปมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งส่งยิ้มเป็นมิตรมา
ให้เขา

“สวัสดีจ๊ะ ไม่ได้เจอตั้งนานยังน่ารักเหมือนเดิมเลย น่ารักกว่าในรูปที่พี่ปาลเอาให้ดูอีก”หญิงสูงวัยส่งยิ้มให้ วีร์กำลังไม่ค่อยพอใจ

ที่ถูกชมว่าน่ารักแต่สายตาก็เหลือบไปมองผู้ชายตาดีที่นั่งหัวเราะเบาๆแล้วส่งรอยยิ้มบางๆมา

“สวัสดีครับพี่ปาล”วีร์ทักทายชายหนุ่มที่นั่งส่งยิ้มมาให้เขา แล้วไม่สนใจท่าทีของอีกฝ่ายแต่กลับสนใจกับข้าวบนโต๊ะมากกว่า

นอนไปหลายชั่วโมงตอนนี้รู้สึกว่าน้ำย่อยในกระเพราะเริ่มทำงานทันทีที่เขาตื่นขึ้นมา ต้มยำกุ้งน้ำข้นที่น้ำเป็นสีแดงจากเครื่องแกง

จนน่ากิน ไหนจะส้มตำปลาร้าเจ้าประจำหน้าปากซอย ไก่ย่างเต็มตัวที่ถูกสับเป็นชิ้น หมูแดดเดียวทอดกำลังเรียกร้องสนใจวีร์อยู่

“สวัสดีครับนึกว่าวีร์จะไม่สนใจพี่ซะแล้ว”คำทักทายของคนตรงหน้าทำให้ชายหนุ่มได้สติกลับคืนมา

“มาพร้อมกันก็กินข้าวกันดีกว่า แล้วนี่เอมจะกลับมาอยู่ที่เมืองไทยถาวรเลยรึเปล่า”เธอถามเพื่อนที่ย้ายไปอยู่ต่างๆประเทศหลายปี

ระหว่างที่ผู้ใหญ่คุยกันวีร์ก็ลงมือตักกับข้าวตรงหน้าทันทีไม่สนใจสิ่งรอบข้าง มือเล็กตักต้มยำเข้าปากก็ปรากฏรอยยิ้มบนมุมปากที่

แสดงถึงความพอใจในรสชาติกับข้าว จากนั้นเปลี่ยนไปสนใจกับข้าวในจานต่อไปอย่างไม่ลังเล

“คงจะกลับมาอยู่ที่นี่ คุณจอร์นก็จากไปหลายปีแล้ว อีกอย่างตาปาลก็อยากกลับมาอยู่ที่เมืองไทย”คำตอบของเอมทำวีร์เงยหน้า

ขึ้นมาจากกับข้าวลดจังหวะกินข้าวให้ช้าลงแล้วเหลือบไปมองชายร่างสูงอย่างสนใจ

“น้องวีร์อย่ากินอย่างเดียวสิชวนพี่ปาลคุยด้วยสิ งอลอะไรพี่เขารึเปล่า”วารีมองท่าทีลูกชายที่นั่งเงียบไม่สนใจปาลภัทรไม่รู้ว่ากำ

ลังงอลอะไร

“พี่ปาลก็อีกคนตักกับข้าวให้น้องบ้างสิ”คำพูดของหญิงสูงอายุทั้งสองทำให้คนตัวเล็กแทบสำลักไก่ย่าง ให้ตายนี่เขาอุตส่าอยู่

เงียบๆแล้วนะ เสียงหัวเราะเบาๆแว่วมาจากคนตัวโตนั่งยิ้มแสดงสีหน้าบอกว่ากำลังดีใจอย่างหน้าหมั่นไส้

“ครับ”ปาลตักไก่ย่างลงจานคนตัวเล็กที่กำลังกินอย่างอารมณ์ดีจนไม่ยอมสนใจเขา

“ขอบคุณครับ”ริมฝีปากเล็กขยับมีเสียงออกมาเบาๆ 

กินข้าวไม่นานเขาก็รู้สึกอิ่มรวบช้อนส้อมไว้บนจานแล้วดื่มน้ำ ยังไม่ทันที่จะขอตัวลุกจากโต๊ะวารีก็พูดขึ้น“น้องวีร์กินข้าวอิ่มแล้วพา

พี่ปาลไปเดินย่อยไหมลูก”

“ครับ”


   วีร์พาแขกออกมาย่อยอาหารที่บริเวณสวนหน้าบ้านที่ถูกตกแต่งไปด้วยต้นไม้สีเขียวและดอกไม้กำลังออกดอกสีสวย ตอน

เที่ยงแดดตรงหัวแต่มีร่มไม้และลมเย็นๆที่ช่วยให้อากาศไม่ร้อนอบอ้าวเท่าไหร่ ทั้งสองหยุดนั่งเล่นในศาลาใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่ง

ก้านสาขาให้ร่มเงา

“โกรธอะไรพี่รึเปล่า”เป็นชายหนุ่มตัวโตที่พูดทำลายความเงียบและบรรยากาศที่น่าอึดอัด

คนตัวเล็กหันหน้ามองใบหน้าคนตัวโตที่ยังส่งยิ้มบางๆมาให้ ยิ้มทำไมคิดว่าตัวเองดูดีมากเลยรึไงถึงยิ้มได้ทั้งวัน“กลับมาไม่เห็น

บอกสักคำ”เขาพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจที่อีกฝ่ายกลับมาเมืองไทยโดยไม่ยอมบอกเขาสักคำ

ปาลภัทรได้ยินคำตอบอีกฝ่ายแล้วยิ่งทำให้รู้สึกดีใจมากขึ้น“พี่อยากให้วีร์ประหลาดใจไง”บอกความคิดของตนเองให้อีกฝ่ายได้รู้

ถึงสาเหตุที่ปิดเรื่องที่กลับมาเมืองไทย “แล้วไม่ดีใจหรอที่เจอพี่”เขาถามคำถามออกไปทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว

“อืม ก็ดีใจ แต่ก็แปลกใจที่อยู่ดีๆก็โผล่มาที่บ้าน”แต่ยังรู้สึกน้อยใจอยู่บ้างจะกลับมาก็ไม่บอกสักคำ

“พี่จะกลับมาอยู่ที่นี่”ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย แต่ริมฝีปากเล็กมีรอยยิ้มบางๆที่แสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาดีใจมาก ที่คนที่เคยอยู่อีก

ฟากโลกกลับมาอยู่ใกล้ๆเขาเหมือนแต่ก่อน




*************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2016 11:29:46 โดย jaengs »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก

ตอนที่ 3

             ช่วงเวลาบ่ายสี่โมงอากาศกำลังเปลี่ยน ในช่วงฤดูฝนเวลานี้จะเป็นเวลาที่ฝนมักจะตกลงบ่อยๆ แต่วันนี้ดูเหมือนจะไม่

เป็นอย่างนั้นเพราะท่าทีอากาศยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เมฆสีเทาบนฟ้ายังลอยเคลื่อนไปมาบดบังแสงอาทิตย์ แต่ก็ไม่มีอะไร

เป็นหลักประกันว่าฝนจะไม่เทลงมา มือเรียวกดล็อกกุญแจประตูรั้วหน้าบ้านหลังใหญ่ มองเข้าไปในบ้านอีกครั้งเพื่อสำรวจอีกครั้ง

ว่าเขาไม่ได้หลังลืมอะไรแล้วรีบสต๊าทสองล้อคู่ใจตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยเพื่อไปซื้อของเข้าบ้าน ขี่ออกมา

ไม่นานก็ถึงห้างสรรพสินค้าสายตามองหาที่จอดรถที่ว่างอยู่แล้วเลี้ยวเข้าไปจอด

                 ทันทีที่เข้าไปด้านในความเย็นของเครื่องปรับอากาศกระทบกับผิวสีขาวเหลืองทำให้เขารู้สึกเย็นสบาย วันหยุดสุด

สัปดาห์มีผู้คนเข้ามาเลือกซื้อของเป็นจำนวนไม่น้อย ในร้านอาหารหลายร้านที่นั่งถูกจับจองเกือบเต็มร้าน ทั้งที่มาเป็นครอบครัว

มาเป็นคู่ เดินวนจากชั้นหนึ่งขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสอง นิ้วเรียวหยิบโทรศัพท์ที่บันทึกรายการที่ต้องการซื้อออกมาดู เข็นรถเข็นไป

ตามแผนกต่างๆ เลือกซื้อของที่ต้องการ วันหยุดเสาร์อาทิตย์สินค้าภายในห้างสรรพสินค้าจะถูกเป็นพิเศษมีทั้งสินค้าซื้อหนึ่งแถม

หนึ่ง ที่ถูกจัดเรียงไว้กระบะตรงกลางทางเดินพร้อมป้ายสีแดงขนาดใหญ่ รวมไปถึงสินค้าลดราคากว่าวันปกติ เท้าที่สวมรองเท้า

ผ้าใบยี่ห้อดังเดินไปเรื่อยจนมาหยุดที่ชั้นวางขนมขบเคี้ยวที่วางอยู่เต็มชั้น สายตาเขามองหาขนมขบเคี้ยวยี่ห้อที่เขากินเป็นประจำ

เจอแล้วอยู่นี่เอง

“พี่จาย”มีเสียงเล็กดังขึ้นใกล้ๆทำให้เขาต้องหันไปมอง เด็กชายตัวกลมที่เขาเจออยู่ข้างบ้านกำลังแหงนหน้ายืนยิ้มให้เขาอยู่

“บู้ตึ้ง”เรียกชื่อเด็กชายตัวเล็กอย่างแปลกใจ ส่วนสายตามองไปรอบๆด้วยความสงสัยว่าน้องมากับใคร

“พี่จาย เอาหนมหน่อย”บู้ตึ้งชี้ไปที่ซองขนมยี่ห้อหนึ่งที่วางอยู่บนชั้นแต่สู่งเกินไปที่เด็กตัวเล็กจะเอื้อมถึง

“อันนี้หรอ”ชายหนุ่มถามเด็กชายอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “ครับ”เด็กชายพยักหน้าและยิ้มดีใจที่จะได้ขนมที่เขาต้องการ เทนนิสส่ง

ถุงขนมให้เด็กน้อยที่กำลังยิ้มแก้มปริ“บู๊ตึ้งมากับใครยังไม่ตอบพี่เลย แล้วทำไมถึงมาเดินคนเดียวได้”ชายหนุ่มถามเด็กชายอย่าง

เป็นห่วงที่ไม่เห็นวี่แววผู้ปกครอง

“ผมมากับ..”เด็กชายยังไม่ทันตอบคำถามพี่ชายข้างบ้าน ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง“บู๊ตึ้ง”เด็กชายหันไปมองเจ้าของเสียง

“น้าธีร์ บู๊ตึ้งได้หนมแล้ว”เด็กชายรีบวิ่งไปหาน้าธีร์ที่เดินจูงมือน้องชายฝาแฝดบู้ลิ้มมาด้วย

ผู้ชายตัวโตใบหน้าหล่อเหลากำลังยืนทำหน้าดุ สายตามองมาเทนนิส แล้วคิ้วหนาก็ขมวดขึ้นเหมือนเขาเคยเห็นเด็กคนนี้ที่ไหน

มาก่อนรู้สึกคุ้นๆหน้า”น้าธีร์ บู๊ลิ้มอยากได้หนม”เสียงเล็กๆของหลานแฝดทำให้เขาต้องละสายตาจากคนตรงหน้า

“บู้ลิ้มกินกับพี่ ถุงหญ่ายพี่ป้อน”บู้ตึ้งรีบบอกน้องชาย น้อยชายพอพี่ชายบอกจะป้อนก็ยิ้มดีใจ และไม่ลืมหันไปยิ้มหวานให้พี่ชาย

ข้างบ้าน

“ขอโทษที่บู้ลิ้มมารบกวนนะครับ”ธีรภัทรขอโทษที่หลานชายจอมซนมารบกวนคนตรงหน้า ทั้งที่บอกว่าจะพามาหยิบแต่แอบหนี

มาจนได้เล่นเอาเขาต้องเดินตามหาอยู่ตั้งนานดีที่มาเจอคนใจดี

“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ”เทนนิสตอบอย่างเกรงใจเพราะกลัวว่าบู๊ตึ้งจะโดนอีกฝ่ายดุเอา พร้อมส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้

“พี่จายขอบคุณคับ”บู๊ตึ้งหันมาขอบคุณพี่ชายข้างบ้านก่อนคุณน้าจูงมือไป ส่วนบู้ลิ้มไม่ลืมหันมาโบกมาบ๊าย บาย ทำให้เทนนิสยิ่ง

รู้สึกว่าเด็กทั้งสองคนน่าเอ็นดู

   ธีรภัทรจูงมือเด็กแฝดทั้งสองกลับมาแผนกของสดที่มีหญิงสูงอายุกำลังเลือกซื้อของสดอยู่   

“ไปเจอที่ไหนละตาธีร์”ทิพวรรณถามลูกชายที่กำลังจูงหลานๆกลับมา

“แผนกขนมครับ”

เป็นคำตอบที่ไม่เหนือความคาดหมาย“ไหนได้อะไรมาขอยายดูหน่อย”หญิงสูงวัยถามหลานชายจอมซน

“หนมครับ คุณยายพี่เทนนิสหยิบให้”เด็กชายชูถุงขนมถุงใหญ่ให้คุณยายดู

“หืม คนที่บอกว่าเอาขนมให้นะหรอ”

“ครับ พี่จายใจดี”ทิพวรรณขมวดคิ้ว พี่ชายข้างบ้านอีกแล้ว เธอเริ่มกังวลว่าจะเป็นคนไม่ดีรึเปล่า แล้วหันมองลูกชายเป็นเชิงถาม

“ดูแล้วไม่น่าเป็นคนไม่ดีครับ”ธีร์ตอบไปตามที่มองด้วยตา


   กลับมาถึงบ้านท้องฟ้าก็มืดแล้ว พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปได้สักพัก เทนนิสจัดของแห้งที่ซื้อมาเข้าตู้แล้วเดินสำรวจบ้าน

ชั้นล่างก่อนขึ้นห้อง เท้าไปหยุดยืนที่ริมหน้าต่างสายตามองทอดออกไปลมเย็นพัดกิ่งไม้โยกไปมาแว่วเสียงหัวเราะและคนคุยกัน

มาแต่ไกล นั่นเสียงบู้ตึ้งบู้ลิ้มรึเปล่านะ เขามองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่ยังเปิดไฟสว่างอย่างอิจฉา เมื่อก่อนบ้านเขาก็ไม่ได้เงียบอย่าง

นี้นะแต่ช่างเถอะ เขาเลิกสนใจแล้วไปเปิดคอมพิวเตอร์ดูหน้าเว็บไซด์ขายของออนไลน์ที่เขาเปิดมาหลายปี เป็นอาหารเสริมที่นำ

เข้ามาจากต่างประเทศ เปิดเข้าไปดูระบบร้านค้ามีข้อความสั่งซื้อสินค้าหลายรายการจนอดดีใจไม่ได้เขาคงต้องเตรียมแพ็คของ

ไปส่งที่ไปรษณีย์แล้วสิ เทนนิสหันไปมองที่ชั้นที่วางสินค้าสำรวจสินค้าที่วางอยู่บนชั้นด้วยสายตา ดูเหมือนว่าเขาต้องสั่งสินค้า

เพิ่มแล้ว ถึงจะขายไม่ดีเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีคู่แข่งที่เป็นร้านค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเป็นดอกเห็ด อาหารเสริมยี่ห้อใหม่ๆที่

เทียวออกมาโฆษณาอวดสรรพคุณเกินจริงผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คโดยใช้ดาราเซเลบชื่อดังเป็นตัวดึงดูดลูกค้าและรวมไปถึงสภาพ

เศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มือเรียวเลื่อนเมาส์เปิดหน้าต่างใหม่ขึ้นมาเข้าไปดูความเคลื่อนโซเชียลเน็ตเวิร์คเอฟที่มีคนคนเข้า

มาโพสต์ข้อความสาธารณะต่างๆ ทั้งอวดว่าได้ไปเที่ยวไปกินกับเพื่อนกับแฟนผ่านรูปถ่ายมีหลายคนเข้าไปเข้าไปพิมพ์แสดง

ความคิดเห็นใต้รูป บางคนก็โพสต์ข้อความกำลังอยู่ในอารมณ์เหงา เบื่อ เศร้า เสียใจ ดูเหมือนที่นี่จะเป็นที่ระบายอารมณ์และเป็น

วิธีคลายเครียดอีกวิธีหนึ่งได้เป็นอย่างดี เทนนิสนั่งอ่านข้อความที่ปรากฏอยู่หน้าจอไปเรื่อย แล้วเปลี่ยนไปอ่านข่าวดูผลฟุตบอลที่

เตะกันไปเมื่อคืนพร้อมทั้งดูตารางลำดับชั้นของแต่ละทีม นั่งคลิกเมาส์จ้องหน้าคอมพิวเตอร์อยู่หลายชั่วโมงเขาก็เริ่มรู้สึกเพลีย

ปรับเปลี่ยนท่านั่งสลับบีบนวดที่ไหล่เบาๆเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า ดวงตาสีน้ำตาลจ้องเวลาที่แสดงอยู่มุมล่างด้านขวาของ

คอมพิวเตอร์ ฮ้าว มิน่าถึงง่วงอย่างนี้ดึกถึงขนาดนี้แล้วหรอ เทนนิสรีบปิดคอมพิวเตอร์แล้วปีนขึ้นบนเตียงกว้างแล้วหลับไป



   เหรียญสิบ เอื้อม และวีร์กำลังมองเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีหลังจากที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งอยู่สักพัก

เสียงถอดหายใจ แววตา ท่าทางที่แสดงออกว่าไม่พอใจให้เห็นเป็นระยะจนเพื่อนๆแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“แกเป็นอะไรของแกเทนนิสนั่งถอนหายใจมาตั้งนานแล้ว”เหรียญสิบที่นั่งเล่นเกมส์อยู่นานอดไม่ได้จึงต้องเอ่ยปากถาม

“เปล่า”เทนนิสตอบคำถามอย่างไม่สบอารมณ์เป็นเพราะผลพวงมาจากข่าวที่เขาอ่านเจอในหนังสือพิมพ์

“อ่านข่าวอะไรของแกทำไมต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้น”

“ไม่มีอะไร แค่หุ้นบริษัทHappy Mall ร่วงนิดหน่อยไม่รู้บริหารกันยังไงให้เป็นอย่างนี้”เทนนิสปิดหนังสือพิมพ์เศรษฐกิจฉบับหนึ่ง

ลงแล้ววางลงบนโต๊ะหินอ่อน เพื่อนๆต่างมองไปตาเดียวกันด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่มีใครถามคำถามต่อ

“ช่างเถอะเข้าเรียนดีกว่า”เทนนิสพูดแล้วเดินขึ้นห้องเรียน ปล่อยให้ทุกคนนั่งมองหน้าปรับอารมณ์แทบไม่ทัน

   ผลักประตูเข้ามาในห้องเรียนนักศึกษาแต่ละกลุ่มกำลังจับกลุ่มพูดคุยกันเรื่องที่พบเจอมาในช่วงวันหยุด บางคนกำลังชวน

เพื่อนออกไปเที่ยวคืนนี้ เทนนิสเดินไปด้านหลังที่ยังพอเหลือที่ว่างอยู่ ส่วนเพื่อนๆของเขาก็นั่งลงข้างๆ นั่งรอไม่นานอาจารย์สมร

เดินถือกระเป๋าเอกสารสีดำเข้ามาในห้องพร้อมกับเสียงในห้องที่เงียบลง และเจ้าหน้าที่โสตฯเข้ามาเตรียมสื่อการเรียนอยู่หน้า
ห้อง

“วันนี้ตามที่ตกลงกันไว้เราจะมีการนำเสนองานอาจารย์คิดว่าทุกกลุ่มคงพร้อมแล้ว”อาจารย์สมรพูดเสร็จนักศึกษาก็รู้สึกตื่นเต้นไป

ตามๆกัน อาจารย์หันกลับไปหยุดที่โต๊ะเธอกำลังทำฉลากสุ่มเลือกกลุ่มที่จะออกมานำเสนอหน้าห้อง

“ตื่นเต้นดีวะ เรียนวิชานี้ตื่นเต้นเหมือนเรียนภาษาอังกฤษเวลาอาจารย์ชาวต่างเรียกชื่อให้ตอบคำถามเลย ดูดิไม่ใครกล้าหลับสัก

คน”เหรีญสิบมองไปรอบห้องเห็นเพื่อนๆแต่ละกลุ่มเตรียมเอกสารพร้อมออกไปนำเสนอหน้าชั้น

“ลองหลับดิจะได้รู้ว่านรกมีจริง”

“เฮ้ย นั่นมันกลุ่มเราเปล่าวะกลุ่มแรก”เอื้อมเรียกเพื่อนๆให้มองหมายเลขกลุ่มบนจอสีขาวหน้าห้อง ว่าเขามองผิดไปรึเปล่าอะไรจะ

โชคดีขนาดนั้นถึงได้เป็นกลุ่มแรก

“อืม ใช่ออกไปกันเถอะ”ไม่ต้องให้อาจารย์เรียกเทนนิสและเพื่อนๆก็รีบเดินออกไปหน้าห้อง

   เทนนิสกำลังยืนนำเสนองานหน้าห้องเรียนตามหัวข้อที่กลุ่มเขาได้รับมองหมายโดยมีเพื่อนในกลุ่มช่วยแจกเอกสาร

ประกอบ “เรื่องการทำตลาดโรงพยาบาล”และแบบประเมิน นิ้วเรียวกำลังเลื่อนพ้อยเตอร์ให้ข้อความที่กำลังบรรยายตรงกับสไลน์
บนจอ

“ข้อแรก คือ กลยุทธ์การสร้าง "ตัวตน" ของแบรนด์โรงพยาบาล บางโรงพยาบาลที่มีจุดยืนชัดเจน เช่น โรงพยาบาล A เป็นโรง

พยาบาลที่มีชื่อเสียงของเรื่องความสวยความงาม มีทั้งแพทย์ที่เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย.......”อาจารย์สมรพยักหน้า

ขยับแว่นสายตากำลังตั้งใจฟังเนื้อที่ลูกศิษย์ของเธอกำลังตั้งใจนำเสนอ สมกับเป็นลูกศิษย์ที่ได้คะแนนทดสอบย่อยวิชาของเธอ

เยอะที่สุดสามารถสรุปเนื้อหาออกมาเป็นคำพูดได้กระชับและเข้าใจง่าย

   เสียงปรับมือดังขึ้นสมาชิกทุกคนในกลุ่มโค้งเป็นการขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่ตั้งใจฟัง พวกเขาเดินกลับมานั่งที่ให้กลุ่มต่อ

ไปออกไปนำเสนอ

“เสร็จไปอีกงาน”เทนนิสถอนลมหายใจออกอย่ารู้สึกโล่งแล้วหันไปมองเพื่อนๆที่ดูเหมือนจะโล่งอกเหมือนกันเขา แต่คะแนนจะ

ได้เท่าไหร่นั้นต้องมาลุ้นกันอีกที จากนั้นพวกเขาตั้งใจฟังกลุ่มนำเสนอเพราะแต่ละกลุ่มได้เนื้อหาไม่เหมือนกันและเนื้อที่นำเสนอ

อาจจะเป็นอยู่ในข้อสอบ



“ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าทำงานที่นี่ต้องตัดเล็บสั้นและห้ามทาเล็บ ผู้หญิงต้องรวบผมแต่งหน้าบางๆ”เทนนิสกำลังบอกกฎระเบียบ

พื้นฐานของร้านกาแฟให้ปลาฟัง “ค่ะ”หญิงสาวยิ้มพยักหน้าตอบรับให้รุ่นพี่อย่างเข้าใจ

“สวมกางเกงสีดำห้ามเดฟ ห้ามยีน ขากระบอกเล็กใส่ได้ เอ่อ นั่นดูพี่ตาลเป็นตัวอย่าง”ปลามองดูการแต่งกายของรุ่นพี่แล้วก็พอจะเข้าใจ

“น้ำหอมนี่ก็น่าจะห้ามนะ เอาไว้เดี๋ยวเข้าออฟฟิตใหญ่พี่เขาจะบอกอีกที พี่จะบอกแค่เบื้องต้นก่อน”

“สาขานี้มีผู้ใหญ่มาตรวจงานบ่อยไหมคะ”ที่เธอสงสัยเพราะได้ยินว่าที่ร้านนี้ได้ดาวและได้รับการประเมินการทำงานของพนักงาน

อยู่ในระดับที่ดี น่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบบ่อยๆ หญิงสาวมองไปรอบๆร้านที่มีดูเหมือนจะมีพนักงานออฟฟิตมานั่งดื่ม

กาแฟอยู่หลายโต๊ะ

“พี่ไม่รู้หรอก”เพราะจะให้มานั่งจำว่าใครเป็นใครก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว “แค่เราบริการลูกค้าให้ดีก็ไม่ปัญหา แต่ลูกค้าต่างชาติก็มี

ปัญหาเยอะ”

“ยังไงคะ”ปลารู้สึกกังวลของคำว่ามีปัญของรุ่นพี่ เทนนิสเห็นสีหน้ากังวลใจแล้วรีบอธิบายต่อ“แบบว่าสั่งอย่างหนึ่งแล้วอยากได้

อีกอย่างประมาณนี้ แต่พี่ยังไม่เคยเจอนะและไม่ยากเจอด้วย เราไม่ต้องกังวลไปนะถ้ามีปัญหาให้เรียกพี่แชมป์หรือผู้จัดการนะ”

“ค่ะ”

“อย่างแรกที่เรามาถึงให้เช็คที่ communication book”เทนนิสเลื่อนลิ้นชักออกมามีสมุดเล่มใหญ่ปกแข็งสีน้ำเงินเขียนว่า สมุด

สื่อสาร ไว้บนหน้าปก มือขาวหยิบสมุดนั้นออกจากลิ้นชัก“สมุดเล่มนี้เอาไว้สื่อสารกัน ประมาณว่าเราจะสื่อสารกันผ่านสมุดเล่มนี้

เพราะบางทีการสื่อสารเป็นคำพูดอาจลืมหรือตกหล่น เช่น เมื่อวานนี้มีนมสดมาส่งต้องมีคนหนึ่งคนลงรับของเช็คของ วันผลิตวัน

หมดอายุ จำนวนและอุณหภูมิของนม อะไรประมาณนี้ จากนั้นก็แจ้งผู้จัดการและเขียนลงในสมุดนี้ให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆที่ได้รับ

รู้ว่ามีของมาส่ง”ชายหนุ่มอธิบายแล้วเปิดหน้ากระดาษที่เคยเขียนบันทึกพร้อมลงวันที่ไว้รุ่นน้องดู หญิงสาวค่อยๆดูอย่างสนใจ

“จากนั้นเราก็มาดูเครื่องทำกาแฟมันจะมีช่องใส่กาแฟตรงนี้”ชายหนุ่มชี้ไปที่ช่องเก็บกาแฟที่อยู่บนสุดของเครื่อง

“เห็นค่ะ”หญิงสาวตอบรับแล้วมองไปช่องที่เมล็ดกาแฟสีดำอยู่ในนั้น

“ถ้าใกล้หมดแล้วเราก็ต้องเติม เปิดตรงนี้แล้วเทเม็ดกาแฟลงไป”เทนนิสหยิบเม็ดกาแฟออกมาสองสามเม็ดวางบนฝ่ามือขาว

“สังเกตว่าถ้าเป็นเม็ดกาแฟที่ดีสีจะสวยผิวของมันจะมันๆเงา กลิ่นจะหอมไหม้ แต่ถ้าถูกอากาศเก็บไว้ไม่ดีหรือนานแล้วสีก็จะไม่

สวยผิวจะแห้ง”

ปลาพยักหน้ารับรู้”แต่ไม่ต้องห่วงนะที่ร้านนี้ไม่มีเม็ดกาแฟที่เปิดจากซองนานเกินสองวัน เพราะร้านเราขายดีมาก”

“เทนนิส ตอนนี้กาแฟเราเหลือกี่ซอง”แชมป์เดินเข้ามาถามเทนนิสในขณะที่กำลังสอนงานน้อง

“น่าจะเหลือแค่ 1 โหลครับ พี่แชมป์จะสั่งของหรอครับ”ถามรุ่นพี่ที่มีตำแหน่งเป็นถึงเทรนเนอร์คนเก่งของบริษัทที่นานๆทีจะได้

กลับเข้าร้านเพราะส่วนใหญ่แชมป์จะประจำที่ออฟฟิตใหญ่

“ใช่ เทนนิสช่วยพี่เช็คของอย่างอื่นด้วยนะว่ามีอะไรหมดแล้วบ้าง พอดีพี่ต้องทำเรื่องให้ผู้ใหญ่ดูด้วยว่าสาขาเรากาแฟและเบเกอร์

รี่ตัวไหนขายดี ขายไม่ได้บ่าง”

“ถ้าดูจากที่ผ่านมาขนมสาขาเราน่าจะทิ้งบ่อยอยู่นะครับ ที่จริงคนที่ดื่มกาแฟเป็นวัยทำงาน ผมว่าน่าจะไม่เหมาะกับเบเกอร์รี่ ถ้ายัง

ไงผมจะลองสอบถามกับลูกค้าให้นะครับว่าชอบขนมแบบไหนกัน”ถ้าเป็นร้านแถวมหาวิทยาลัยไม่ได้ไม่มีเหลือแน่นอน

“ขอบใจนะ แต่ยังไงก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ ยังไงเวลาลูกค้าสั่งกาแฟก็อย่าลืมแนะนำเบเกอร์รี่ด้วยแล้วกัน”แชมป์พูดแล้วถือ

เอกสารกลับไปหลังร้าน

“มีสินค้าต้องทิ้งด้วยหรอคะ”

“อืม ใช่ถ้าเบเกอรรี่หมดอายุเวลาทิ้งก็จะจดลงในสมุดอีกเล่ม”ว่าแต่อยู่ไหนนะ เทนนิสเดินไปเปิดลิ้นชักค้นหาสมุด”เจอแล้ว นี่ใน

นี้จะบอกให้เรารู้ว่าเราทิ้งขนมไปเยอะแค่ไหน”ปลารับสมุดมาเปิดดูเป็นการบันทึกวันเวลาชื่อละจำนวนของขนมที่ทิ้งไปแต่ละ

สัปดาห์ นี่ขนาดว่าเป็นร้านที่มีลูกค้าเยอะขนาดนี้“ทิ้งเยอะแบบนี้ยอดขายไม่มีปัญหาหรอคะ”

“ไม่หรอกถ้ามีปัญหาทางผู้ใหญ่ก็คงหาวิธีกันเอง เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอ”ชายหนุ่มบอกปัดให้รุ่นน้องไม่ต้องกังวลใน

สิ่งที่สามารถแก้ไขได้เพราะปัญหานี้เป็นมานาน ถึงจะมีร้านกาแฟแต่อาหารฟาสฟูตก็ยังขายดีที่สุด บุกเบิกตลาดใหม่ก็ต้องลอง

ผิดลองถูกบ้างเป็นเรื่องปกติของการค้าขาย

“เรามาดูประเภทเครื่องดื่มกันต่อ ร้านเรามีแบบ ร้อน เย็นและปั่น เครื่องดื่มร้อนเราจะใช้เครื่องกาแฟอัตโนมัติตัวนี้ทำเป็น

หลัก”ชายหนุ่มชี้ไปที่เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติให้รุ่นน้องดูอีกครั้ง “ส่วนเครื่องดื่มเย็นง่ายสุดอุปกรณ์จะอยู่ตรงนี้ ส่วนตรงนี้แค่เห็น

เครื่องปั่นก็น่าจะรู้”

“แล้วถ้ามีลูกค้ามาสั่งเครื่องดื่มทั้งสามอย่างเราต้องอะไรก่อนคะ”

“ถามได้ดีมาก เราจะเสิร์ฟเครื่องดื่มปั่น เย็น ร้อน ขณะที่เครื่องดื่มปั่นกำลังทำงานเราสามารถทำเครื่องดื่มเย็นได้ และท้ายสุดจะ

เป็นเครื่องดื่มร้อน เพราะกาแฟที่ออกมาเครื่องใหม่ๆรสชาติจะอร่อย เพราะถ้าปล่อยเครื่องดื่มร้อนไว้นานเกินรสชาติจะแย่ ส่วนวิธี

ทำต้องรอเวลามีลูกค้ามาลองสังเกตพี่ๆดูก่อน”

“ค่ะ”ปลาพยักหน้ารับทราบ


   ยืนทำงานหลายชั่วโมงก็ถึงเวลาพัก ด้านนอกร้านเริ่มคึกคัก เพราะร้านค้าตามทางเดินเริ่มมาตั้งร้านจนเกือบเต็ม เทนนิส

เดินออกจากที่ทำงานพร้อมเพื่อนและรุ่นน้องพ่วงท้ายมาด้วยเหตุผลเพราะเขาเป็นคนฝึกงาน ทั้งสามคนยืนตกลงกันอยู่สักครู่

สุดท้ายก็ได้มานั่งที่ร้านส้มตำเพราะน้องปลาผู้หญิงคนเดียวบ่นอยากกิน

“พี่วีร์ยิ่งมองใกล้ๆน่ารักมากเลยค่ะ ปลาเห็นเวลาที่พี่ยืนอยู่เคาเตอร์แอบมองอยู่บ่อยๆ”หญิงสาวพูดอย่างเปิดเผยว่าเธอแอบมอง

รุ่นพี่น่ารักบ่อยๆ

คนตัวเล็กไม่แน่ใจว่าที่น้องกำลังพูดเป็นคำชมรึเปล่าแต่ก็ยิ้มรับ“ขอบคุณครับ ที่ชมว่าพี่หล่อ”

“ตอนแรกปลานึกว่าพวกพี่เป็นแฟนกัน เหมาะกันมากเลย”คำพูดของรุ่นน้องทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะ

พวกเขาได้ยินเรื่องแบบนี้จนชินแล้ว นั่งคุยกันได้ไม่นาน ส้มตำลาว ส้มตำปูปลาร้าถาดใหญ่ หมูยอนึ่งหั่นเป็นชิ้น ไข่ต้ม แคปหมู

และขนมจีนน้ำยาแกงไก่ถูกนำวางบนโต๊ะ ทั้งสามคนมองหน้ายิ้มๆอย่างพอใจกับข้าวตรงหน้าแล้วรีบลงกินก่อนหมดเวลาพัก


   กลับถึงบ้านก็ดึกมากเทนนิสคลานขึ้นเตียงด้วยอาการเหนื่อยมาทั้งวัน ส่วนคนตัวเล็กรีบเข้านอนเพราะมีคนโทรมาบอกว่า

จะมารับออกไปเที่ยวข้างนอกในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะเข้านอนวีร์ตั้งนาฬิกาปลุกแล้วไม่ลืมอ่านข้อความบอกฝันดีจากคนตัวโตที่ส่งเหมือนเช่นทุกวัน


   ตี๊ด ตี๊ด ตี๊ด เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องทำให้คนที่นอนหลับฝันดีอยากตื่นสายในหยุด ต้องฝันสลายมีอันต้องสะดุดลง

เทนนิสลุกขึ้นนั่งบนเตียงมองไปที่นาฬิกาที่แขวนบนผนังเก้าโมงเช้าแล้ว ห้าว แต่ยังง่วงอยู่เลยเมื่อคืนกว่าจะกลับมาถึงบ้านก็ดึก

มากแล้วอยากนอนต่อแต่ท้องก็หิวแล้ว เสียงนาฬิกายังดังลั่นแต่คนที่เป็นเจ้าของนาฬิกายังนอนหลับไม่รับรู้อะไร เทนนิสต้องส่าย

หัวกับความขี้เซาของเพื่อน แล้วนี่เห็นบอกว่ามีนัดไม่ใช่รึไงทำไม่ตื่น

“ตื่น วีร์ ตื่นได้แล้ว มีนัดกับพี่ปาลไม่ใช่หรอ”เขานั่งลงข้างเตียงเขย่าคนที่นอนหลับสบายอยู่สักครู่

“อืม”เสียงครางเบาๆออกมาจากลำคอเป็นคำตอบรับว่าคนตัวเล็กตื่นแล้ว วีร์ควานหาโทรศัพท์ กดปิดเสียงแล้วมองเวลาบนหน้า

จอสี่เหลี่ยม เก้าโมงเช้าแล้วหรอเนี่ยทำไมเหมือนเพิ่งนอนไม่ครู่นี่เอง ห้าว คนตัวเล็กมองไปรอบๆห้องเทนนิสไม่อยู่ในห้องแล้ว

สงสัยลงไปหาอะไรกินในครัว เขาลุกจากเตียงเข้าห้องน้ำแล้วรีบทำธุระส่วนตัวอีกหนึ่งชั่วโมงปาลภัทรจะมารับออกไปข้างนอกที่

จริงวันหยุดเขาก็ยากนอนเล่นเกมส์ อ่านการ์ตูน เล่นเน็ต แต่เอาเถอะ คิดได้เขาก็รีบอาบน้ำแต่งตัว

“แต่งตัวเสร็จแล้วหรอ พี่ปาลมารอแล้ว”เทนนิสกำลังจะขึ้นไปตามแต่อีกฝ่ายเดินลงก่อน

คนตัวเล็กแปลกใจเพราะยังไม่ถึงเวลานัดทำไมรีบมา เดินเข้าไปในห้องรับแขกเห็นผู้ชายตัวโตกำลังนั่งดูโทรทัศน์อีกฝ่ายเห็นคน

ตัวเล็กเดินเข้ามาก็ส่งยิ้มให้“ไหนว่าจะมารับ 10.00 โมง นี่เหลืออีกตั้งสามสิบนาที”เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียเวลามานั่งรอ

“พี่ยังกะเวลาไม่ได้ แล้วกลัวเราจะรอ”ชายหนุ่มรีบบอกเห็นผลเมื่อคนตัวเล็กทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจ

“ครับ ไปกันเลยไหมเดี๋ยวแดดจะร้อน”

“ครับ เทนนิสพี่ไปก่อนนะ”


                                                                                มีต่อด้านล่าง

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
                                                                               
                                                                    ต่อจากด้านบน

“เทนนิส ออกไปข้างนอกนะกลับเย็นๆเดี๋ยวซื้อหนมมาฝาก”วีร์ตะโกนบอกเพื่อนที่ยืนกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน ก่อนที่มุด

เข้าไปรถยุโรป เทนนิสมองรถยุโรปที่ค่อยๆเคลื่อนที่ออกไป แล้วกลับเข้าบ้านหาอะไรกิน

   ขับรถฝ่าการจราติดขัดมาเกือบสองชั่วโมงก็ถึงตลาดน้ำ สถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่ใครหลายคนชอบออกมาเที่ยว

วิถีชีวิตริมแม่น้ำแบบดั้งเดิมที่ยังคงรักษาไว้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาที่นี่อย่างไม่เคยขาดสาย

ร้านอาหารขึ้นชื่อ รสชาติอร่อย ของที่ระลึกแปลกตา และเป็นตลาดที่มีพ่อค้าแม่ค้าพายเรือเอาผักผลไม้สดในท้องถิ่นและของกิน

รสชาติดีประจำท้องถิ่นมาขาย เรือพายหลายลำกำลังจอดเทียบท่าขายของให้นักท่องเที่ยว พ่อค้าแม่ค้าบางคนพายเรือไปด้วย

เรียกลูกค้าไปด้วย เป็นภาพที่มองแล้วรู้สึกดีจนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายคนอดใจไม่ไหวหยิบกล้องดิจิตอลขึ้นมาบันทึกภาพ

ความประทับใจเหล่านี้ไว้ เริ่มสายอากาศยิ่งร้อนมากขึ้นรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวหนาตาขึ้น

“พี่ปาลร้อนไหม”คนตัวเล็กถามคนที่นั่งตรงข้ามใช้พัดพลาสติกที่ได้รับแจกก่อนเข้ามาในตลาดโบกไปมาไม่หยุด ส่วนใบหน้าเต็ม

ไปด้วยเม็ดเหงื่อ แก้มจมูกเริ่มมีสีขึ้นเหมือนคนต่างชาติเวลาเจอกับอากาศร้อน แต่อย่างนั้นก็ยังดูดีจนสาวๆตลาดแอบมองบ่อยๆ
จนเขาอิจฉา

“อากาศร้อนจริงๆด้วย แต่น้ำแข็งใสนี่ก็อร่อย วีร์อยากกินอะไรอีกไหมเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้”คนตัวโตถามคนที่ตั้งแต่เดินเข้ามาในตลาด

ยังไม่หยุดกิน ซื้อของกินแทบทุกร้าน เขารู้สึกดีได้ออกมาเที่ยววันหยุดที่ตลาดน้ำ จำได้ว่าเคยมาเที่ยวตอนเด็ก ไปอยู่ต่างบ้าน

ต่างเมืองหลายปีแต่ที่นี่ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนไปเท่าไหร่ ถึงอากาศจะร้อน รถจะติดแต่ก็ไม่มีที่ไหนน่าอยู่เท่าเมืองไทยอีกแล้ว เพราะที่

นี่มีคนที่เขาคิดถึงอยู่ด้วย มองหน้าคนตรงหน้าให้ชัดนานแล้วที่ไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดเจนอย่างนี้

“อยู่นานไปเดี๋ยวก็ชิน พี่ปาลหิวข้าวแล้วอะ”พูดแล้วก็ลูบท้องตัวเองที่แบนราบเหมือนไม่ได้กินอะไร

“อ้าว แล้ว ลอดช่องรวมมิตร ขนมครก ลูกชิ้นนึ่งและน้ำแข็งไสไปไหนแล้ว”ปาลภัทรขมวดคิ้วสงสัยว่าที่กินทั้งหมดน้องเอาไปไว้
ไหน

“อันนั้นแค่รองท้อง เราเดินมาตั้งไกลมันก็ย่อยไปตามทางหมดแล้ว”คนตัวเล็กอยากหัวเรากับคนตรงหน้าที่หน้าตาแปลกใจ ไม่ใช่

เขากินเยอะแต่ของที่กินแต่ละอย่างมันไม่อยู่ท้องต่างหาก

“หึหึ แล้วอยาจะกินอะไรละ”

“ก๊วยเตี๋ยวไหมครับ ก๊วยเตี๋ยวเรือ”

   ทั้งสองเดินตามหาร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่นานในที่สุดก็เจอร้านที่ถูกใจ ทั้งคู่เลือกเข้าไปนั่งในร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำ ลมเย็นๆพัดมา
เบาๆช่วยคลายความรู้สึกร้อนได้บ้าง

“ตกลงพี่ปาลกลับมาอยู่ที่เมืองไทยจริงๆหรอครับ”ถามคนตัวโตที่กำลังตักน้ำซุปก๊วยเตี๋ยวขึ้นมาชิม ส่วนตัวเองก็ตักเครื่องปรุงลง

ในถ้วยก๋วยเตี๋ยวเรือหมูเส้นใหญ่พิเศษ

“ใช่ พี่ย้ายของเข้าบ้านแล้วแต่บ้านไม่ได้อยู่นานต้องซ่อมแซม ปรุงปรุงหลายอย่าง ตอนนี้ก็ไปอยู่คอนโดก่อนสัปดาห์หน้าคง

เรียบร้อย แล้วเราพักอยู่กับเพื่อนไม่กลับบ้านหรอ”

“กลับช่วงวันหยุด วันปกติวีร์ต้องทำงานพิเศษ จะให้ลากสังขารกลับตอนดึกๆก็ขี้เกียจ”

“ขยันจริง แม่ให้เงินไม่พอใช้รึไงถึงไปทำงานพิเศษ”ถามไปแล้วก็สังเกตบนตัวอีกฝ่ายก็ไม่เห็นมีของฟุ่มเฟือย หรือว่ามีแฟน

“เปล่าครับ ตอนแรกไปทำเพราะเทนนิสชวน ที่บ้านก็เห็นด้วยอยากให้ลองทำ แต่ตอนนี้สนุกดี”ตอบคำถามคนตัวโตแล้วใช้

ตะเกียบคืบเนื้อหมูนุ่มๆเข้าปากเคี้ยวอย่างมีความสุข

ท่าทางกินอย่างมีความสุขของคนตรงหน้าทำให้ปาลภัทรลองกินดูบ้าง“ไม่ได้กินอาหารไทยจริงๆ นานมากแล้ว ยังไงอาหารไทย
ก็อร่อยที่สุดแล้ว”

“พูดเหมือนคนแก่ไปได้ แล้วกลับมาอยู่ที่นี่แฟนแหม่มพี่ไม่ว่ารึไง”

“หึหึ ไม่ว่าหรอกเพราะพี่ยังไม่มีแฟนยังอยู่กวนเราอีกนาน ว่าแต่เราเถอะ”

“วีร์ไม่มีแฟนหรอก มีแต่คนมาจีบ”พูดแล้วกลับไปสนใจก๋วยเตี๋ยวในถ้วยที่สอง ทำให้คนตัวโตอดยิ้มดีใจไม่ได้ที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่


   วันหยุดใช่วันนี้เป็นวันหยุดแล้วทำไมเขาต้องมาขี่มอเตอร์ไซด์คู่ใจบนท้องถนนที่เต็มไปด้วยรถ เทียวตระเวนส่งไก่ให้ลูกค้า

ด้วย มันไม่ใช่งานที่เขาทำประจำ คิดแล้วก็ถอนหายใจออก มาคงไม่มีใครโชคร้ายไปกว่าเขาแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้พี่เท็นผู้

จัดการร้านโทรมาตาม ขอร้อง แกมบังคับ ให้เข้าไปช่วยงาน เขาก็เต็มใจ แต่เข้ามาแล้วทำไมถึงกลายเป็นว่าพนักงานส่งไก่เกิด

ป่วยและด้วยเหตุผลที่เขามีรถมอเตอร์ไซด์และกำลังว่าง จึงต้องมาส่งไก่แข่งกับเวลา แข่งกับรถบนท้องถนนที่ปกติก็เยอะอยู่แล้ว

แต่วันหยุดยิ่งเยอะกว่าเดิม และอากาศที่ร้อนอบอ้าว ว่าแต่ลูกค้ารายที่สิบของเขาอยู่ที่คอนโดVXY แล้วคอนนี้มันอยู่ไหนไหนบอก

ว่าห่างจากร้านสามสี่ไฟแดง เขาลดความเร็วลงมองไปที่ตึกสูงสังเกตหาป้ายชื่อสักพักก็เจอ

“พี่ครับมาส่งไก่ ห้อง 5303”

“แลกบัตรแล้วขึ้นไปได้เลยค่ะ”

เทนนิสแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์เดินขึ้นลิฟต์ไปชั้น 5 เข้าด้านในมองดูสภาพตัวเองแทบผวาเมื่อเห็นใบหน้าเต็มไป

ด้วยเหงื่อผมเผ้ารุงรัง แก้มที่แดงเพราะอากาศร้อน คิดแล้วนึกถึงหน้าเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ทำหน้าแปลกใจ ดีนะที่เธอไม่เรียก

ตำรวจ มือขาววางกระเป๋าไก่ทอดลงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อจัดผมให้เรียบร้อย อย่างนี้สิค่อยดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย

มองดูนาฬิกาที่ข้อมือเหลืออีก 10 นาทีจะถึงเวลาเขามาทัน ลิฟต์เปิดออกเทนนิสรีบเดินหาห้อง 5303 ทันที

ติ๋ง ติ๋ง ติ๋ง กดออดหน้าห้องไม่นานก็มีคนเปิดประตูออกมา

“คุณเป็นเอกใช่ไหมครับ ผมมาจากร้าน chicken café ….”เทนนิสทวนรายการอาหารให้ลูกค้าฟังแจ้งยอดที่ต้องชำระแล้วยื่นใบ

เสร็จให้ลูกค้า

“รอก่อนนะน้อง เฮ้ยเป็นเอกเขาเอาไก่มาส่งแล้วเอาเงินมาจ่ายดิ”อ้าว ไม่ใช่คุณเป็นเอกหรอปล่อยให้เขาพูดอยู่ได้ตั้งนาน

“ไอ้เป็นเอกสั่งอะไรมากินวะไอ้ทิว”กำปั้นตะโกนถามเพื่อนแล้วเดินตามเอกออกมา ส่วนเพื่อนอีกสองคนยังนั่งทำงานกันอยู่

“เออ เออ เท่าไหร่ครับ”

“ทั้งหมด 1,240 บาทครับ”เป็นเอกหยิบเงินออกมาให้และรับอาหารที่สั่งมา

“นี่เราใช่น้องเทนนิส econ รึเปล่า”กำปั้นที่ยืนมองอยู่นานว่าคนตรงหน้าหน้าคุ้นๆแต่ไม่นึกว่าจะทักถูกคน

“เอ่อ ครับ เงินทอน”เทนนิสยิ้มให้เป็นเชิงขอโทษและแปลกใจที่ผู้ชายทั้งสามคนบอกว่ารู้จักเขาแต่เขากลับไม่รู้จักใครเลย

“พวกพี่เรียนบริหารน้องไม่รู้จักพี่หรอก แต่พวกพี่รู้จักน้องเทนนิส econ”ทิวช่วยแก้ข้อสงสัยให้คนตรงหน้า

“ทำงานพิเศษที่ chicken café หรอครับ”เป็นเอกที่เงียบอยู่นานถามขึ้นด้วยความสงสัยเพราะเขาสั่งไก่ร้านนี้หลายครั้งแล้วแต่

ทำไมไม่เคยน้องมาก่อน แต่เคยได้ยินเพื่อนๆพูดถึงน้องหลายครั้งแล้วแต่เขาเพิ่งเคยเจอตัวจริงและก็ดีดูเหมือนที่เพื่อนๆเคยบอก
ไว้

“ครับ พอดีผมมาส่งแทนพนักงานที่ป่วยนะครับปกติจะอยู่ในร้าน”ชายหนุ่มทั้งสามคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ขอบคุณที่ใช้

บริการ”เทนนิสบอกขอบคุณลูกค้าแล้วรีบกลับไปรอส่งลูกค้ารายต่อไป 

“มองขนาดนี้ไม่ตามไปเลยวะ”

“ฮึ”เป็นเอกไม่ตอบแต่เลือกเดินเข้าไปในห้อง

เทนนิสส่งของให้ลูกค้าแล้วรีบเดินไปรอลิฟต์ นิ้วเรียวกดปุ่มหน้าลิฟต์รอสักพักประตูก็เปิด เท้าในรองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังก้าว

เข้าไปในลิฟต์ แต่สายตายังมองอยู่ที่จอสี่เหลี่ยมเขากำลังดูเส้นทางของลูกค้ารายต่อไปที่เขาจะต้องไปส่ง พอเงยหน้าขึ้นมาต้อง

เจอกับดวงตาสีอ่อนกำลังจ้องเขาอยู่

“สวัสดีครับ มาส่งของลูกค้าหรอครับ”ชายหนุ่มร่างสูงทักทายคนตรงหน้า

“อ่อ เอ่อครับ คุณ”คือใครหน้าคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหน

“ผมธีรภัทร เรียกธีร์เฉยๆก็ได้”ชายหนุ่มแนะนำตัวเอง

“อ้อ คุณนั่นเองน้าธีร์ของจอมยุทธน้อย ผมชื่อเทนนิสหรือพี่ชายข้างบ้านที่เด็กๆเรียกกัน”

เทนิสยิ้มให้ชายหนุ่มที่ทำหน้าตาเรียบเฉยและออกจะไปทางบึ้งตึงด้วยซ้ำ ที่วันนี้สวมชุดสูทดูภูมิฐานในมือถือกระเป๋าเอกสารสีดำไว้

“ทำงานวันหยุดนี่ไม่ค่อยดีเลยนะครับ แต่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผมคนเดียวเพราะคุณก็คงไปทำงานเหมือนกัน”เขามีเพื่อนร่วมชะตา

กรรมแล้ว

“หึหึ ผมมีประชุมนะ”ประตูลิฟต์เปิดออกทั้งสองต่างรีบเดินออกมา แต่ยังเดินไปไม่ถึงรถก็มีเสียงหนึ่งดังแว่วมา

“เด็กๆจะไปเยี่ยมคุณยายทุกวันหยุดถ้าคุณว่างก็เล่นกับเด็กๆได้พวกเขาคงดีใจที่พี่ชายข้างบ้านไปเล่นด้วย”ร่างสูงพูดแล้วก็

เข้าไปในรถ เทนนิสยิ่งยืนงงอยู่ในมือยังถือหมวกกันน็อกใบโตไว้แล้วมองตามรถยุโรปขับผ่านหน้าไป


   ผ้าเช็ดหน้าสีเทามีคราบสีดำจนเทนนิสแปลกใจ มิน่าทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายเพราะหน้าเต็มไปด้วยฝุ่นนี่เอง เห็นสภาพตัว

เองแล้วรู้สึกแย่ เทนนิสหยิบผ้าเช็ดตัวหายเข้าห้องน้ำถอดเสื้อผ้าออกมองใบหน้าตัวเองผ่านกระจกเงาบานอีกครั้ง ใบหน้ายังแดง

เพราะอากาศร้อน นี่ยังดีที่เขาทาครีมกันแดดด้วยไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ตื่นมาหน้าลอกแน่ๆ พี่เท็นนะพี่เท็นใจร้ายทำกับเขาได้วันหลัง

จะไม่รับปากช่วยงานพี่เท็นอีกแล้ว เทนนิสเดินเข้าตู้อาบน้ำร่างกายได้สัมผัสกับน้ำเย็นทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น

   อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเดินลงมาก็เห็นเพื่อนสนิทกำลังนั่งดูโทรทัศน์

“กลับมานานแล้วหรอ พี่ปาลละ”ถามหาอีกคนที่น่าจะอยู่ด้วยกัน

“สักพัก ดึกแล้วเราเลยให้กลับ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว หน้าไปโดนอะไรมา”

“แดดเผา เลยเอาอโลเวร่าพอกไว้”

“ไปทำอะไรมา”

“ไปส่งไก่แทนพนักงานป่วย พี่เท็นโทรมาตามต่อไปไม่ไปแล้วร้อนก็ร้อนเหนื่อยก็เหนื่อย”พูดแล้วยังโกรธพี่เท็นไม่หาย

“กินข้าวยัง เราซื้อของมาฝากเต็มเลยวางอยู่บนโต๊ะกับข้าว”

“ยังเลย เหนียวตัวเลยรีบกลับมา”เทนนิสรีบเดินไปโต๊ะที่มีของฝากเพื่อนวางอยู่ “อืม มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย แล้ววันนี้ไปเที่ยว

ที่ไหนมาบ้าง”เขาหยิบลูกชิ้นนึ่งมานั่งลงดูโทรทัศน์ข้างๆเพื่อน

“ไปหลายที่เหมือนกัน อากาศวันนี้ร้อนมากเลย”

“นั่นข่าวดาราเลิกกันอีกแล้วหรอ”เทนนิสมองภาพดาราสาวสวยชื่อดังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมทั้งแสงแฟลตสาดใส่ดารา

สาวที่กำลังสวมบทบาทนางเอกถูกพระเอกทิ้ง แก้มขาวของคนในจออาบไปด้วยคราบน้ำตาดูแล้วน่าสงสาร

“อืม เห็นว่าเพิ่งเปิดแถลงข่าวเมื่อตอนเย็นนี่เอง เลิกกับแฟนแต่ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ”

“เลิกกับแฟนไม่ได้โลกแตก ว่าไปดูข่าวอย่างนี้แล้วรู้สึกดีกว่าฟังข่าวว่า เศรษฐกิจชะลอตัว สินค้าไทยถูกส่งกลับ และรัฐบาลขึ้น

ภาษีอีก”ฟังดูแล้วอาจจะเห็นแก่ตัวไปบ้างที่คิดอย่างนั้น แต่ข่าวบันเทิงก็เป็นข่าวที่ช่วยผ่อนคลายความรู้สึกได้ดีจริงๆ

“ดูไปก็สงสารผู้หญิงนะ เธอร้องไห้ใหญ่เลย ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเธอกำลังเล่นละครอยู่ก็ตาม”

“ไม่หรอก ถึงเธอจะเลิกกับแฟนแต่เธอก็ได้คะแนนสงสารจากแฟนๆ เธอกำลังโปรโมทตัวเองผ่านสื่อ ดารากับข่าวเป็นเรื่องคู่กัน

ต่อไปนี้รับรองคงมีงานวิ่งเข้าหาเธอแน่นอน เธอคงคำนวณสถานการณ์มาก่อนแล้วว่าถ้าแถลงข่าวแล้วแล้วมีแต่ผลดีมากกว่าเสีย”

ครืน ครืน โทรศัพท์สั่นมือขาวหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมาตอนเย็นในช่วงวันหยุดอย่างนี้ เบอร์แปลกๆไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ก็ตัดสิน
ใจรับสาย

“ครับ”

“เทนนิส เทนนิสพี่ปืนเองนะ”

“พี่ปืน เอาเบอร์ใครโทรมาเนี่ย”แปลกใจที่ปลายสายติดต่อมาปกติจะคุยผ่านอินเตอร์เน็ตมากกว่า

“เบอร์สาธารณะ แต่ช่างมันก่อนตอนนี้พี่อยู่สนามบินแล้ว พี่จะขอไปพักด้วย แค่นี้ก่อนนะมีคนอื่นรอใช้โทรศัพท์”

“เดี๋ยว เอ่อ..”ยังไม่ทันตอบรับปลายสายก็วางไปเสียแล้ว เทนนิสได้แต่มองหน้าจอโทรศัพท์แล้วถอนหายใจเบาๆของความ

เอาแต่ใจของปลายสาย

“ใครหรอเทนนิส”

“พี่ปืนนะ บอกว่าจะมาขอพักด้วย”

“อืม”วีร์พยักรับรู้

   รอไม่ถึงสองชั่วโมงคนที่โทรมาบอกว่าจะเข้ามาพักก็ลากกระเป๋าเดินทางใบไม่ใหญ่มากเข้ามาในบ้าน

“เมืองไทยนี่ยังรถติดเหมือนเดิม อากาศก็ร้อน”ปืนถอดเสื้อคลุมออกนั่งลงโซฟาอย่างอ่อนเพลียเพราะเจอความแตกต่างของ

อากาศเล่นงาน

“มาถึงก็บ่นเลยนะ กระเป๋าใบแค่นี้จะมาอยู่”

“ถาวร”เขารีบตอบน้องชายที่รักทันที

“ฮืม ได้หรอ”เทนนิสถามด้วยความสงสัยไม่รู้ว่าแอบหนีกลับมาเมืองไทยรึเปล่าถึงได้มาขอพักที่บ้านเขา

“ได้สิ ที่บ้านโทรตามให้กลับ นี่ยัยเปรียวก็กลับมาเหมือนกัน”

เทนนิสรู้สึกแปลกใจคำตอบที่ได้รับ“ทำไมไม่กลับบ้านละ”

“ยังไม่อยากกลับคิดถึงน้องชายมากกว่า ไม่เจอตั้งนานหล่อขึ้นนะเรา”ปืนมองน้องชายที่เขาอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแต่หลังจาก

คุณอาทั้งสองเสีย เขาก็ถูกพ่อส่งไปเรียนต่อเมืองนอก เขาก็เสียใจไม่น้อยที่ต้องทิ้งน้องชายไว้ที่นี่เพียงลำพักแต่นั่นเพราะไม่มี

ทางเลือก เขาได้แต่ติดต่อพูดคุยกับน้องอินเตอร์เน็ตส่งเงินมาให้น้องในช่วงแรกๆที่น้องยังไม่ได้เงินชดเชย ถึงแม้จะรู้ว่าสิ่งน้อง

ต้องการคืออ้อมกอดของครอบครัวไม่ใช่เงินก็ตาม

“ไม่บ้อยอ ไหนของฝาก”เขาชะเง้อมองออกไปนอกบ้าน

“หาอะไร”

“เปล่า ดูเผื่อจะหนีบเมียแหม่มกลับมาด้วย”

“ไม่มีหรอก แล้วจะให้พี่พักที่ไหน”

“ห้องเดิมแหล่ะ ขึ้นไปทำความสะอาดให้แล้วถือกระเป๋าไปที่ห้องได้เลย เดี๋ยวเอานมไปให้ยังไม่กินอะไรมาใช่ไหม”

“ครับ แล้วเพื่อนเราละตั้งแต่มายังไม่เห็นเลย”

“ไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ก็ได้เจอ”

ปืนยิ้มให้น้องชายอย่างเอ็นดูแล้วลากกระเป๋าขึ้นข้างบนตรงไปที่ห้องนอนที่เขาอยู่ประจำตั้งแต่เด็ก เดินเข้าไปในห้องข้าวของทุก

อย่างยังเหมือนเดิม พ่อกับแม่ของเขาทำแต่งานไม่มีเวลาให้ เขามีน้องสาวอีกคนแต่ถูกส่งไปอยู่เมืองนอกกับญาติ เขาจึงได้สนิท

กับเทนนิส ร่างสูงเดินไปหยิบเสื้อผ้าออกจากกระเป๋าแล้วเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว

   ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นแก้วนมอุ่นๆวางอยู่บนโต๊ะ มือหนาหยิบขึ้นมาดื่มแล้วคลานขึ้นเตียงหลับไปเพราะเหนื่อยจากการ
เดินทาง



************************************************************

โปรดติดตามต่อไป


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1937
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก

ตอนที่ 4
[/size]

                     เช้าวันใหม่ได้เยือนมหานครอีกครั้ง ไฟฟ้าบนท้องถนนปิดลงโดยอัตโนมัติเมื่อมีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ขึ้นมา

แทน หลายชีวิตตื่นจากการหลับใหลเพื่อเผชิญวันใหม่ที่มาเยือน แต่บางชีวิตก็พึงกลับมาจากการทำงานทั้งคืนเพราะชีวิตเลือกเกิดไม่ได้

ติ๊ดดดดดด เสียงนาฬิกาดังลั่นห้องทำให้ร่างหนาที่นอนเปลือยท่อนบนสวมเพียงกางเกงขายาวตัวเดียว ในห้องนอนที่ตกแต่งด้วย

โทนสีทึบปิดม่านกันแสงและเปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็น กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงกว้างค่อยๆขยับตัว มือหนาเลื่อนหา

ต้นเสียงแล้วกดปุ่มปิดทันที อือ เสียงครางออกมาเบาๆรู้สึกขัดใจที่เสียงดังทำให้เขาต้องตื่นอย่างไม่เต็มใจนัก ดวงตาสีอ่อนลืม

ขึ้นมองดูเวลาบนหน้าปัด เข็มนาฬิกาที่ยังขยันเดินอย่างไม่หยุดพัก หกโมงเช้าแล้วหรอเนี่ยทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนพึ่งหลับไปไม่

นานนี่เอง เช้าวันแรกของสัปดาห์นี่มันน่าเบื่อหน่ายจริงๆ มือหนาเสยผมขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วลุกขึ้นเดินออกไปหยุดยืนมองภาพ

มหานครอันวุ่นวายยามเช้า รถยนต์บนท้องถนนหลายสายกำลังแล่นไปมาแต่อีกไม่นานก็จะแน่นจนขยับไปไหนไม่ได้ มองดูภาพ

ข้างนอกสักพักเขาก็เดินเข้าไปในครัวหาอะไรรองท้อง ถึงจะบอกครัวแต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรกินเลยของที่ใช้บ่อยที่สุดก็คงเป็น

ไมโครเวฟและเครื่องทำกาแฟมากกว่า มือหนากดลงไปปุ่มเครื่องทำกาแฟอัตโนมัติไม่นานเมล็ดกาแฟคั่วก็ถูกบดผสมกับน้ำร้อน

ไหลลงมาในแก้ว กลิ่นกาแฟหอมอบอวนไปทั่วครัวจนทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ธีรภัทรหยิบนมสดจากตู้เย็นเติมลงไปในกาแฟเล็ก

น้อยเพื่อไม่ให้รสชาติเข้มเกินไปและเติมน้ำตาลทรายแดงเพิ่มรสหวานนุ่มๆให้กาแฟ 

   เสียงนักข่าวสาวจากโทรทัศน์ดังมาจากห้องรับแขกกำลังรายงานข่าวเช้าประจำวัน ธีรภัทรกำลังจิบกาแฟในถ้วยส่วนมืออีก

ข้างกำลังเลื่อนดูข่าวผ่านไอแพด อ่านได้สักพักก็ต้องหยุดเพราะดูตารางงานแล้ววันนี้มีประชุม วางกาแฟที่เหลือครึ่งถ้วยลงแล้ว

เดินเข้าไปห้องน้ำทำธุระส่วนตัว กลับออกหน้ากระจกเงาก็มีภาพชายหนุ่มรูปหล่อร่างสูงยืนติดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนอยู่ ชาย

หนุ่มสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้งแล้วไม่ลืมหยิบสูทที่ใส่วันนี้ออกมา

   ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงรถยุโรปคันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของบริษัทเทแอร์เพ ตึกสูงสี่ชั้นรูปแบบโมเดิลแปลกตา

ร่างสูงเดินเข้าไปด้านในตึกมีพนักงานหลายคนเข้าทักทายเหมือนเช่นทุกวัน ขึ้นมาถึงชั้นบนมือหนาผลักประตูเข้าในห้องทำงาน

ส่วนตัว เขาวางกระเป๋าเอกสารลงบนโต๊ะทำงานมองดูแฟ้มเอกสารที่ลงชื่อหลายเล่ม มองนาฬิกาบนโต๊ะเหลือเวลาอีกเกือบ

ชั่วโมงจะถึงเวลาประชุมประจำเดือนของบริษัท

ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูหน้าห้องไม่ต้องรอให้เขาบอกชายหนุ่มในชุดสุภาพสวมแว่นสายตาเดินเข้ามาในห้องพร้อมถือเอกสาร
ในมือ

“สวัสดีครับดีตอนเช้าครับพี่ธีร์”เบสทักทายเจ้านายที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง

“สวัสดี วันนี้ประชุมมีหัวข้ออะไรบ้าง”

“เรื่องเกี่ยวกับสำรวจตลาดของผู้บริโภค ความคืบหน้าวางแผนของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ของแผนกการตลาด รับสมัครพนักงานใหม่

ของแผนกบุคคล อ้ออีกเรื่องครับมีนักศึกษามหาวิทยาลัย A คณะเศรษฐศาสตร์สองคนส่งจดหมายมาขอฝึกงาน”

“สองคนหรอ ให้ฝ่ายบุคคลรับเรื่องไว้แล้วกัน”ธีรภัทรนั่งฟังเลขาแจ้งหัวข้อประชุมไปด้วยลงชื่อเอกสารในแฟ้มไปด้วย

“ครับ แล้วก็มีเรื่อง.......”คุณเลขาหนุ่มรายงานหัวข้อประชุมให้เจ้านายฟังทีละเรื่องก่อนเข้าประชุม หลังจากรับทราบหัวข้อประชุม

เลขาหนุ่มขอตัวกลับไปทำงาน ส่วนธีรภัทรก็นั่งทำงานของตัวเองต่อไป ไม่นานก็ถึงเวลาประชุมหัวหน้าและตัวแทนของแต่แผนก

ก็เข้าไปนั่งรอในห้องประชุม ประธานบริษัทนั่งลงประจำที่ การประชุมประจำเดือนก็เริ่มขึ้น

   แผนกการตลาดกำลังสรุปผลสำรวจตลาดบนจอโปรเจกเตอร์ ต่อมาแสดงความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ “ช่วงเวลาที่

สินค้าของเราจะออกวางจำหน่าย จะมีสินค้าของบริษัทคู่แข็งออกมาไล่เลี่ยกัน”กิตหัวหน้าแผนกการตลาดแจ้งให้ที่ประชุมทราบ

“อืม ผมเห็นแล้วบริษัทACB ก็กำลังจะเปิดตัวสินค้าตัวใหม่อีกสามเดือนข้างหน้า แต่ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะของเราเป็นมันฝรั่ง

รสชาติใหม่กับเครื่องดื่ม แต่เราอาจจะชะลอการออกเครื่องดื่มไว้ก่อน เพราะมีบริษัทต่างชาติสนใจร่วมทุนกับเรา ส่วนเรื่องราย

ละเอียดนั้นผมยังไม่ได้รับแจ้งมาถ้ายังผมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งเมื่อทราบรายละเอียดที่ชัดเจนอีกที”ธีรภัทรแจ้งให้ทุกคนในที่

ประชุมทราบ ถึงจะพูดไปอย่างนั้นเขาได้ปฏิเสธการร่วมลงทุนจากต่างชาติมาหลายราย และไม่พร้อมที่จะเข้าตลาดหุ้น ถึงที่นี่จะ

เป็นบริษัทไม่ใหญ่มากเปิดมาไม่กี่ปีแต่ผลประกอบการก็ดีขึ้นเรื่อยและสามมารถแย่งส่วนแบ่งการตลาดอันดับมาสองมาครอง แต่

กว่าจะมาถึงจุดนี้เขาต้องผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกัน พนักงานในบริษัทส่วนใหญ่เข้าทำงานมาตั้งแต่ที่เริ่มเปิดบริษัทใช้ทุนจด

ทะเบียนจากพ่อไม่กี่ล้าน เพิ่มจำนวนพนักงานขึ้น ย้ายออฟฟิตในตึกสูงที่ต้องเช่ารายปีจนมีตึกเป็นของตนเอง

“ตอนนี้ทางเรากำลังสำรวจความต้องของผู้บริโภค ส่วนฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กำลังเร่งมือทำไม่เกินสามสี่เดือนเราหน้าจะทำเรื่อง

ออกจำหน่ายได้”ทุกคนในที่ประชุมรับทราบและอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเอกสารที่แผนกเลขาฯแจกให้ หัวข้อประชุมหนึ่งจบ

ลงเปลี่ยนเป็นเรื่องต่อไป

“แผนกบุคคลขอแจ้งเรื่องรับนักศึกษาฝึกงาน สองคนค่ะ”

“ถ้าเป็นผู้หญิงแผนกผมรับถ้าไม่ใช่เอาไปที่อื่น”กิตพูดแทรกขึ้นอย่างไม่เกรงใจเพราะตอนนี้ในห้องเปลี่ยนอารมณ์เป็นผ่อนคลาย

กันมากขึ้น ถึงกิตพูดมาอย่างนั้นทุกคนในที่ประชุมรู้ว่ากิตพูดเล่น

“งั้นก็ต้องเสียใจกับคุณกิตด้วยคะเพราะน้องเป็นผู้ชายทั้งคู่”แอ๋วหัวหน้าแผนกบุคคลบอกให้กิตทราบ การประชุมค่อยๆดำเนินไป

เรื่อยๆ ในที่สุดการประชุมเกือบสามชั่วโมงก็จบลง ทุกคนต่างทยอยเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทางอ่อนเพลียเหมือนถูกดูด

วิญญาณไป

ธีรภัทรกลับเข้าห้องทำงาน กินข้าวเที่ยงที่เลยเวลาเกือบชั่วโมงโดยมีเบสเลขาและกิตหัวหน้าแผนกการตลาดนั่งกินเป็นเพื่อน

กับข้าวมื้อเที่ยงง่ายๆจัดวางบนโต๊ะกลาง กระเพราทะเลรวม พะแนงหมู ต้มยำซี่โครงกระดูกอ่อน พร้อมข้าวสวย อาหารง่ายๆกับ

บรรยายที่เป็นกันเองทำให้กับข้าวมื้อเที่ยงอร่อยยิ่งขึ้น

“พี่ธีร์ดูเพลียนะครับ”เบสทักพี่ชายที่ใบหน้ามีร่องรอยความเหนื่อยล้าปรากฏอยู่บนใบหน้าจนน่าเป็นห่วงเพราะพี่ชายเขาชอบ

ทำงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองเข้าใจว่างานก็สำคัญ แต่ก็น่าหาความสุขให้ตัวเองบ้าง บางทีพี่ชายเขาน่าจะหาแฟนสักคน

“เมื่อคืนนั่งทำงานเพลินไปหน่อย”ต้องบอกว่าทำงานจนลืมเวลาซะมากกว่า มันเป็นหนึ่งในนิสัยเสียของเขา

“แกจะร่วมทุนกับต่างชาติจริงๆหรอ”กิตหัวหน้าแผนกการตลาดและเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กถามชายหนุ่มอีกครั้งเพื่อความ

แน่ใจ ไม่ว่าเพื่อนจะตัดสินใจยังไงเขาก็แค่มีหน้าสนับสนุนเท่านั้น

“ไม่หรอกฉันกำลังศึกษาช่องทางขยายตลาด และก็คุณวินัยมาเสนอขายหุ้นบริษัทHappy Mall”คำตองของร่างสูงทำให้ในห้อง
เงียบลง

“ถ้าอย่างนั้นHappy Mall ก็มีปัญหาจริงตามที่ได้ยินข่าวมา”กิตไม่แปลกใจเท่าไหร่เพราะตั้งแต่ที่เปลี่ยนมือผู้บริหาร บริษัทก็เริ่มมี

ปัญหาเรื่อยๆถึงจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ก็ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นได้ไม่น้อย แต่ก็ไม่น่าถึงกับปล่อยหุ้นเลย

“ฉันก็ไม่แน่ใจปัญหาว่ามันเป็นปัจจัยภายในหรือภายนอก แต่คุณวินัยบอกHappy Mall กำลังจะเปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่ มีแนวโน้ม

ว่าหุ้นจะร่วงลงอีก”

“อืม อย่างนี้อาจจะมีผลกระทบกับเราอยู่บ้างถ้าสินค้าเราไม่ได้วางที่Happy Mall”นักการตลาดหนุ่มขมวดคิ้วหนักใจขึ้นมาเมื่อ

คิดถึงปัญหาจะตามมาในอนาคต เห็นทีต้องเตรียมรับมือ

“นี่...เวลากินข้าวเวลาพักนะครับ พวกพี่เลิกคุยเรื่องชวนปวดหัวซักที คุยซะผมเริ่มเครียดไปด้วย”เบสโวยวายขึ้นเพราะพี่ชายทั้ง

สองทำหน้าเครียดจนเขากินข้าวไม่ลง

“โห กินข้าวไม่ลงแต่เรากินคนสองจานเลยนะ

“ก็มันหิวนี่นา พี่ธีร์ตอนบ่ายไม่มีอะไรกลับไปพักผ่อนเถอะครับ ส่วนพี่กิตวันนี้ต้องออกมาไปพบลูกค้าไม่ใช่หรอมัวนั่งทำอะไรอยู่”

“เออ ใช่ถ้างั้นไปเลยแล้วกัน ขอบใจสำหรับข้าวเที่ยงนะเบสพี่รอดตายไปอีกวัน”

“ครับ รวยจะตายไม่รู้เก็บเงินไว้ทำไม”

“ส่วนเรื่อง Happy mall เดี๋ยวฉันจะสืบมาให้”

“ขอบใจ”


   หลังมื้อเที่ยงธีรภัทรนั่งเคลียเอกสารสักครู่แต่ก็โดนความง่วงเข้าโจมตีทำให้ต้องตัดสินกลับไปพัก เดินออกมาจากตึกรู้สึก

อยากดื่มกาแฟ สองเท้าไม่รอช้าเดินไปที่ร้าน chicken café ที่อยู่ห่างบริษัทพอสมควร เมื่อเข้าไปข้างในมองหามุมกาแฟที่เบส

แนะนำว่าที่นี่มีกาแฟรสชาติดี

“สวัสดีครับ chicken café ยินดีต้อนรับครับ”เทนนิสทักทายลูกค้า แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าลูกค้าเป็นใคร

ร่างสูงเลิกคิ้วแปลกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นใบหน้าคนที่กำลังยิ้มทักทายเขาอยู่ ตอนแรกยังคิดว่าพี่ชายข้างบ้านของเด็กๆเป็น

พนักงานส่งไก่แต่วันนี้กลับกลายเป็นพนักงานขายกาแฟไปแล้ว“สวัสดีครับ ผมอยากได้กาแฟร้อนสักแก้วดื่มที่นี่ แต่ยังไม่เคยดื่ม

ของที่นี่มาก่อน”

“ผมขออนุญาตแนะนำนะครับ ปกติลูกค้าชอบดื่มกาแฟแบบเข้มหรือนุ่มๆครับ”เทนนิสให้คำแนะนำลูกค้าอย่างชำนาญพร้อมรอย

ยิ้มที่เป็นธรรมชาติประดับอยู่บนใบหน้า

“แบบนุ่มๆดีกว่าผมกลัวนอนไม่หลับ”

“ไม่ต้องกังวลนะครับกาแฟของเราเป็นกาแฟอาราบีกาที่คาเฟอีนแค่ 1%”

อืม น่าสนใจคาเฟอีนต่ำด้วย“ครับ”

“ถ้าชอบแบบรสชาตินุ่มๆผมขอแนะนำเป็น ลาเต้ คาราเมลแมคคีอาโต้หรือมอคค่า”

“ผมขอเป็น ลาเต้ร้อน size M ดื่มที่ร้านดีกว่า”ชายหนุ่มรู้สึกสนใจอยากดื่มกาแฟสัมผัสบรรยากาศในร้านที่ตกแต่งได้น่านั่ง

“ครับ รับช็อคโกแลต มัฟฟินทานคู่กับกาแฟไหมครับ”

“เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับ”ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะเขายังรู้สึกอิ่มจากมื้อเที่ยงอยู่

“ลูกค้ารับเป็นลาเต้ร้อน size M ดื่มที่ร้าน ทั้งหมดราคา 110 บาทครับ”เทนนิสรับเงินจากลูกค้าแล้วยื่นเงินพร้อมใบเสร็จให้ลูกค้า

เขาเทกาแฟจากแก้วช็อตลงในถ้วนเซรามิคสีขาวตามด้วยนมสดที่ผ่านการสตรีม วางบนถาดเสิร์ฟพร้อมน้ำตาลทรายแดงให้

ลูกค้าที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะ

“ขออนุญาตเสิร์ฟครับ”

“ขอบคุณครับ ผมไม่รู้ว่าคุณทำงานที่นี่ เพราะก่อนหน้านี้ผมยังเห็นคุณส่งไก่อยู่เลย”

“ปกติผมจะทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟพอดีวันนั้นคนไม่พอ”

มือหนายกกาแฟขึ้นจิบรู้สึกถึงรสชาติที่แตกต่างจากที่อื่น“อืม กาแฟอร่อยมากครับ”

คนถูกชมยิ้มแก้มปริกับคำชมง่ายๆ“ขอบคุณครับ ผมขอตัวนะครับ”

เทนนิสเดินกลับมาหลังเคาเตอร์ ปลากำลังเปิดดูวีโอที่บันทึกการชงกาแฟของเขาไว้ดู ที่จริงมันผิดระเบียบแต่ปลาถ่ายให้เห็นแค่

มือ แล้วขณะที่ถ่ายเธอก็หลบกล้องวงจรปิดของร้าน

“พี่เทนนิสลูกค้าคนเมื่อกี้หล่อมากเลย ปลาชอบ”หญิงสาวแอบมองไปที่ลูกค้าหน้าหล่อกำลังนั่งดื่มกาแฟ

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังร้านแล้วไปขอเบอร์เขาสิ นั่นเขากำลังเล่นไอแพ็ดรอให้เราไปขอเบอร์อยู่”ชายหนุ่มรีบแนะนำรุ่นน้องที่

แสดงว่าชอบอย่างชัดเจน

“บ้าพี่เทนนิส ปลาชอบแบบเวลาเห็นเขาคุยกับพี่เทนนิสแล้วดูสนิทกันดีรู้จักกันหรอคะ”จะบอกว่าเธอกำลังแอบจิ้นก็กลัวรุ่นพี่ดุ

เอาเลยต้องตอบแบบเลี่ยงๆ

“นั่นๆพี่ลูกค้าสุดหล่อไปแล้ว น่าจะอยู่ให้เป็นกำลังใจทำงานนานกว่านี้”

“เขาคงรำคาญที่ปลาไปมองเขาบ่อยเกินไปไง เอาเถอะเรามาเรียนต่อดีกว่าตอนนี้ลูกค้ายังไม่มี เคยลองใช้เครื่องสั่งอาหารยัง”

“ยังค่ะ”

“งั้นมาดูกัน เครื่องนี้จะเหมือนร้านใหญ่ทุกอย่าง”มือเรียวไล่กดลงปุ่มเมนูต่างให้รุ่นน้องดู

“แต่ของเราจะเป็นเมนูตรงนี้ ก่อนอื่นเราต้องถามลูกค้าก่อนว่าจะดื่มที่ร้านที่กลับบ้าน ระบบจะแยกให้เราชัดเจน ถ้าดื่มที่ร้านเลือก

เป็นเครื่องดื่มร้อนจะเป็นรูปถ้วยกาแฟร้อน กดเข้าไปจะเป็นชนิดของเครื่องดื่ม และก็จะมีขนาดสามขนาดให้เลือกพร้อมกับราคา

ถ้าลูกค้าสั่งอย่างเดียวก็กดรวมได้เลยแต่ถ้าลูกค้าเลือกขนมหรือเครื่องดื่มเพิ่มเราก็กดเข้าเครื่องดื่ม”ชายหนุ่มกำลังสอนวิธีใช้

เครื่องสั่งเครื่องดื่มให้รุ่นน้อง

“ค่ะ แล้วถ้าโปรโมชั่นแบบเพิ่มไซรัปหรือไม่เอาวิปครีมละคะ”

“อันนั้นจะแยกออกมาอีกเมนู ปลาลงกดออกไปที่เมนูตั้งแต่แรกก็จะเจอ” พอกดเข้าไปเรื่อยเธอก็เจอตามที่รุ่นพี่บอก

“ปลาลองกดเล่นไปก่อนจะได้คุ้นเคยเดี๋ยวพี่ไปหยิบไม้มาถูพื้น”เทนนิสมองดูพื้นที่เริ่มมีรอยรองเท้าเต็มพื้น เขาเดินเข้าไปหลัง

ร้านหยิบมาถูพื้นกลับมาถูพื้น จากนั้นเดินไปเช็ดโต๊ะเก็บถ้วยกาแฟเข้าเครื่องล้างถ้วยอัตโนมัติ



   ช่วงบ่ายของกลางสัปดาห์นักศึกษาในห้องกำลังตั้งใจฟังอาจารย์สอนอยู่หน้าห้องผ่านไปแล้วเกือบสองชั่วโมง บางคน

กำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ คุยออนไลน์แก้เบื่อ อากาศข้างนอกร้อนอบอ้าวเหมือนฝนกำลังตกเมฆสีดำบนฟ้ายังลอยต่ำ

ลงเรื่อยๆ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลียวมองออกไปหน้าต่างใบไม้ปลิวไปตามแรงลม ฝนกำลังจะตกแล้วหรอเนี่ย

“นี่เทนนิสงานที่อาจารย์ส่งคืนมาได้คะแนนเท่าไหร่ เอามาดูหน่อย”เหรียญสิบสกิตเรียกคนที่กำลังใจลอยมองออกไปนอกห้อง

“ไม่รู้เหมือนกันยังไม่ได้ดูเลย”ตอบเพื่อนด้วยท่าทางขี้เกียจแล้วยื่นงานที่อาจารย์ส่งคืนให้เพื่อน

“โห เกือบเต็มเลยทำไมของฉันได้คะแนนแค่นิดเดียว ทำไมพวกแกได้คะแนนเยอะกว่าฉัน”

“อ้าวแล้วพวกนายได้คะแนนไม่เท่ากันหรอ”เทนนิสมองคะแนนตัวสีแดงถูกวงกลมไว้บนกระดาษแผ่นแรกของทุกคนอย่างแปลก
ใจ

“เออดิ ฉันได้คะแนนน้อยที่สุด”เหรียญสิบบ่นน้อยใจที่คะแนนตัวเองได้น้อยที่สุด 

“งานเดี่ยวมีแค่ไม่กี่ชิ้นเองที่เหลืองานกลุ่มทั้งนั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกน่า”วีร์ให้กำลังเพื่อนที่ทำหน้าตาไม่พอใจ

“ห้าว แล้วเมื่อไหร่จะหมดชั่วโมงสักทีง่วงแล้วนะ แต่ดูเหมือนว่าข้างนอกฝนตกแล้วด้วยคงยังไปไหนไม่ได้”

“ตกซะแล้ว อากาศอย่างนี้น่าจะกลับไปนอนที่สุด”เทนนิสกำลังคิดถึงที่นอนนุ่มๆ

   ฝนตกลงมาเกือบชั่วโมงยังไม่มีท่าทางจะหยุดถึงแม้จะซาลงบ้าง หลังหมดชั่วโมงเรียนเพื่อนๆต่างแยกย้ายกลับส่วนวีร์พี่

ปาลภัทรมารับไปทำธุระ ปล่อยให้เทนนิสยืนรอให้ฝนหยุดในโรงอาหาร ไม่ว่าธุระอะไรแต่รู้สึกเหมือนพี่ปาลกำลังแย่งเพื่อนสนิท

ของเขาไปแต่ก็ช่างเถอะ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแต่เขาที่มาอาศัยโรงอาหารหลบฝน มีคู่รักกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลมากนักทั้ง

สองคนพูดไปยิ้มไปหัวเราะไปทำให้เขาต้องเบือนหน้าหนีด้วยความรู้สึกอิจฉา แต่ก็สายตาหลายคู่มองมาที่เขาบ้าง รึพวกนั้นจะ

รู้จักเขาเหมือนพี่ๆที่เขาไปส่งไก่ มือขาวหยิบหูฟังออกมาจากกระเป๋าสะพายแล้วเปิดเพลงบนมือถือฟังฆ่าเวลา ส่วนสายตามอง

ไปบนท้องฟ้าสีหม่น ไฟฟ้าในโรงอาหารเปิดขึ้นพร้อมกับบริเวณรอบๆ


ครืน ครืน มีสายเรียกเข้าทำให้เพลงที่กำลังฟังต้องหยุด“ครับ เทนนิสพูดครับ”

“พี่ปืนนะกลับบ้านรึยัง”

“ยังครับผมติดพี่ฝนอยู่ไปไหนไม่ได้ พี่ปืนมาหน่อยซิ”

“ได้สิ เดี๋ยวพี่ไปรับ”

“จริงดิ ผมแค่พูดเล่น”

“รอพี่ก่อน สามนาทีน่าจะถึงไปหาอะไรกินด้วย”

“เอ่อ อ้อ ครับ”ปลายสายวางไปแล้วหน้าจอโทรศัพท์กลับมาเป็นเสียงเพลงเหมือนเดิม อีกฝ่ายก็ยังเหมือนเดิมเป็นพี่ชายที่แสนดี

ดูแลเขามาตั้งแต่เด็กจนเขาโตก็ยังดูแลเขาเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำขอร้องครั้งสุดท้ายของพ่อกับแม่ที่ขอร้องให้พี่ปืนดูแล

เขารึเปล่า รึเป็นความรู้สึกผิดอยากชดเชยให้ใครบางคนที่ทำกับครอบครัวกันแน่ แต่ไม่ว่าเพราะอะไรเขาก็ต้องขอบคุณพี่ชายคนนี้

ที่ดูแลเขามาตลอด


                                                                มีต่อข้างล่าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


                                                                        ต่อจากข้างบน

                   ออกจากมหาวิทยาลัยขับผ่านถนนเส้นหลักที่ยังมีรถติดเพราะทัศนวิสัยไม่ค่อยดี ที่ปัดน้ำฝนขยับโยกไปซ้ายทีขวา

ทีสลับไปมาเป็นจังหวะช้าๆ อากาศข้างนอกเย็นกว่าข้างในรถจนกระจกเริ่มเป็นฝ้า รถยนต์บนท้องถนนยังค่อยๆขยับต่อท้ายกันไป

เทนนิสเริ่มรู้สึกง่วงเพลงจังหวะฟังสบายในรถก็ดังขึ้น

“ปีสามแล้วหาที่ฝึกงานได้รึยัง”ปืนเห็นน้องชายทำท่าเหมือนตาจะปิดก็เริ่มชวนคุย

“ไม่ต้องห่วงคนมีความสามรถที่ไหนก็อยากรับเข้าฝึกงานทั้งนั้น”ชายหนุ่มพูดแล้วยิ้มให้พี่ชายที่ถามด้วยความเป็นห่วง

“นั่นซินะทำไมจะไม่รู้ว่าน้องชายของพี่เรียนเก่ง มีความสามรถแค่ไหน”

“มีอะไรรึเปล่าหน้าพี่ปืนดูเหมือนมีอะไรสบายใจเลย”เทนนิสถามคนขับที่เงียบลงพร้อมมีสีหน้าเหมือนกำลังมีเรื่องไม่สบายใจอยู่

“นิดหน่อย”ปฏิเสธออกไปก็ไม่ยังอดถอนหายใจไม่ได้

“มีเรื่องอะไรก็เล่าให้น้องชายคนนี้ฟังได้นะ ไม่คิดค่าปรึกษา”เขาคิดว่าไม่ใช่เรื่องเล็กที่อยู่ดีพี่ชายเขาต้องกลับมาเมืองไทย แล้ว

ต้องเข้าไปงานในบริษัทที่มีข่าวออกมาว่ากำลังมีปัญหา

“อืม เราได้ยินข่าวใช่ไหมว่า Happy Mall มีปัญหา”ชายหนุ่มหันหน้าไปถามคนนั่งข้างๆ

“ครับ”คนฟังตอบรับด้วยเสียงแข็ง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววฉายความเบื่อหน่ายออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับเบือนหน้าหนีมอง

ออกไปนอกกระจกที่มีหยดน้ำฝนเกาะอยู่เต็ม

“คุณพ่อเรียกพี่กลับมาจะให้พี่ขึ้นบริหารงานต่อจากท่าน”

คำพูดของพี่ชายทำให้เขาต้องเลิกคิ้วขึ้น“หึ หึ ผมไม่แปลกใจหรอกครับ แต่ดูเหมือนพี่จะเจอเรื่องลำบากใจน่าดู”

“ผู้ถือหุ้นรายใหญ่หลายคนกำลังจะปล่อยหุ้นในมือ ทำให้บริษัทมีปัญหานิดหน่อย”

“ปล่อยไปหุ้นแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นไม่เป็นไรหรอกครับ ในเมื่อหุ้นส่วนใหญ่อยู่ในมือคนคนนั้น และผมเชื่อว่าพี่จะแก้ปัญหาได้ เพราะพี่

ชายของผมเก่งถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ก็บอกได้”

“ขอบใจนะ”

“ช่างเถอะผมหิวข้าวแล้วแวะหาอะไรกินกันก่อน ไปกินต้มยำกุ้งดีกว่า”

ชายหนุ่มยิ้มเป็นคำตอบเหมือนน้องชายของเขายังจำได้ว่าเขาชอบกินต้มยำกุ้ง นานแล้วที่ไม่ได้กิน อยู่ที่โน่นกินแต่นมแต่ชีส


   เสียงเพลงดังอึกทึกเป็นจังหวะพร้อมแสงสว่างสลัว เหล่านักท่องราตรีกำลังโยกย้ายไปตามเสียงดนตรี ดีเจหนุ่มหล่อสาว

สวยขึ้นสลับสับเปลี่ยนเปิดเพลงมอบความสนุกให้หนุ่มสาวที่สนุกจนไม่สนว่าใครเป็นใคร เหล่าบริกรเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอ

ฮอลให้ลูกค้าที่ดื่มอย่าไม่กลัวเมาเพราะยิ่งดื่มยิ่งกระตุ้นให้สนุกกับเสียงเพลงมากขึ้น

“แพรแกเป็นอะไร ฉันพามาเที่ยวไม่ได้มานั่งหน้าเศร้า”ปรีญารัตนสาวสวยในชุดเกาะอกสีดำถามเพื่อนสนิท

แพรยกเครื่องดื่มในแก้วขึ้นดื่มแล้วมองหน้าเพื่อนสนิทที่กำลังโยกย้ายไปตามเสียงดนตรี ส่วนมือข้างหนึ่งก็ถือเครื่องดื่มไป

ด้วย“เฮ้อ ก็พี่ปืนไม่สนใจฉันเลยไม่รู้จะทำยังไงดี”เธอชอบพี่ชายของเพื่อนตั้งแต่ที่ได้เจอครั้งแรกเมื่อหลายเดือนก่อนแต่อีกฝ่าย

กลับไม่สนใจ

“เอาน่าเชื่อมือฉันเดี๋ยวฉันช่วยแกเอง ยังไงพี่ชายฉันก็ไม่มีทางหลุดจากมือแกไปได้ มาสนุกกันดีกว่า”

“อืม ก็ได้”หญิงสาวเดินตามเพื่อนไป เครียดไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ชั่วโมงนี้ขอสนุกก่อนแล้วกัน

“ต้องอย่างนี้สิ พี่สะใภ้”

“ย่ะ”สาวสวยทั้งสองออกไปสนุก จนสายตาของปรีญารัตนมองไปที่โต๊ะ VIP เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งกำลังนั่งดื่มกับเพื่อน

ด้วยท่าทางเรียบเฉย ทำให้เธอสนใจอยากเข้าไปทำความรู้จัก นาทีนั้นเธอตัดสินใจดึงเพื่อนเดินผ่านนักเต้นคนอื่นมาที่โต๊ะของ

ชายหนุ่มที่เธอสนใจ แพรอยากถามเพื่อนว่าจะพาเธอไปที่ไหนจนเพื่อนของเธอหยุดที่บริเวณโซน VIP มีชายหนุ่มสี่คนกำลังนั่ง

ดื่มเธอก็สามารถเดาความต้องการของเพื่อนได้

“สวัสดีค่ะ”เสียงหวานๆของหญิงสาวดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มทั้งสี่คนต้องหันไปมอง สาวสวยในชุดเกาะอกสองคนยืนยิ้มให้พวกเขา
อยู่

“สวัสดีครับ”ทนาทักทายสองสาวสวยที่เดินเข้ามาทักทาย แต่สายตาของหญิงสาวกำลังมองไปธีรภัทรเพื่อนของเขาอย่างเปิด

เผยจนเขาต้องหลีกทางให้ ปรัชได้หัวเราะเบาๆที่ชายหนุ่มอย่างทนาถูกเมิน นับว่าผู้หญิงคนนี้สายตาดีที่เลือกสนใจธีรภัทรไม่ใช่
ทนา

“ขอเปรียวกับเพื่อนนั่งดื่มด้วยคนได้ไหมคะ”

“เชิญครับ”กิตรีบเชิญสาวสวยทั้งสองคน ปรีญารัตนเลือกนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับชายหนุ่มที่เธอหมายตา แพรเลือกนั่งที่ว่างที่

เหลืออยู่ข้างๆกิตอย่างเกรงใจ

“มาเที่ยวไม่สนุกหรอคะ สนใจออกไปสนุกกับเปรียวไหมคะ”หญิงสาวถามชายหนุ่มที่นั่งเงียบไม่สนใจเธอ แต่เรื่องอะไรเธอจะ

ปล่อยไปเมื่อเธอสนใจแล้ว กิตมองหญิงสาวที่แสดงความสนใจเพื่อนเขาอย่างชัดเจนก็รู้สึกเสียดายเพราะเพื่อนเขาใช้ความหล่อ

ไม่คุ้ม เมื่อก่อนเห็นมันเอาแต่เรียนกับทำกิจกรรม ถึงอย่างนั้นก็มีสาวๆเข้ามาไม่เคยขาด แต่ก็ไม่เคยเห็นเพื่อนคบใครเป็นตัวเป็น

ตนสักคน พอเรียนจบก็ไปเรียนต่อเมืองนอก กลับมานึกว่าจะหนีบแฟนแหม่มกลับมาแต่กลับเป็นโปรเจคชวนเพื่อนมาช่วยทำ

บริษัทของมันตั้งแต่นั้นก็เห็นมันทำแต่งาน ส่วนคืนนี้ก็กว่าจะลากออกมาจากคอนโดได้ก็แทบแย่ ตั้งแต่ที่พวกเขาเข้ามาในร้านก็มี

สาวๆหนุ่มเทียวมาจีบส่วนเพื่อนเขาก็ยังนั่งนิ่งไม่สนใจใครสักคน ดูเหมือนว่ารายนี้จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

“เปรียวค่ะ คุณชื่ออะไรคะ”หญิงสาวแนะนำตัวเองอีกครั้ง

“ธีรภัทรครับ”ชายหนุ่มแนะนำตัวพอเป็นมารยาท แต่ไม่ได้รู้สึกชอบผู้หญิงนั่งหวานยิ้มแววตาแสดงออกว่าอยากจะขย้ำเขาซะเต็ม

ประดา ถ้าน้องสาวเขาแต่งตัวออกมาเที่ยวกลางคืนและเข้าหาผู้ชายอย่างนี้เขาคงต้องเป็นห่วงไม่น้อย ธีรภัทรหันไปมองเพื่อนทั้ง

สามคนกำลังหัวเราะเห็นเขาลำบากใจเป็นเรื่องสนุกโดยเฉพาะกิตที่ลากเขาออกมาดื่มคืนนี้

“คุณธีรภัทรมาเที่ยวที่นี่บ่อยไหมคะ”

“ไม่บ่อยครับ ผมไม่ชอบค่อยมีเวลาออกมาเที่ยวกลางคืนเท่าไหร่ ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนคนรักโทรตามแล้วด้วย”ธีรภัทรรู้สึกไม่

ชอบใจเมื่อถูกหญิงสาววางมือไว้บนหน้าขาแล้วลูบไปมา เขาจึงต้องโกหกว่ามีคนรักแล้วและเป็นการปฏิเสธที่สุภาพ

“เฮ้ย แกจะกลับแล้วหรอ”กิตกำลังสนุกที่เห็นสีหน้าลำบากใจของเพื่อนอยู่เลย แล้วอีกอย่างนี่ก็ยังไม่ดึกเลย

“อืม พรุ่งนี้ยังมีงาน ทนา ปรัชกลับก่อนแล้วเจอกัน”บอกเพื่อนแล้วรีบออกไปจากร้าน

“เอ่อ คุณธีรภัทรคะ”หญิงสาวกำลังจะตามไปถูกมือหนาของทนารั้งตั้งแขนไว้ เธอจึงต้องนั่งลงที่เดิมแต่สายตายังชะเง้อมองตาม
ธีรถัทร

“คุยกับไอ้ธีร์จะไปสนุกอะไร คุยกับพวกผมดีกว่า ผมชื่อ ทนา นี่ปรัช แล้วนั่นกิต”ทนารีบดึงความสนใจหญิงสาวไว้ไม่ให้ตามเพื่อน

ของเขาไป ถึงจะยากให้เพื่อนมีช่วงชีวิตที่ผ่อนคลายเหมือนคนปกติแต่ธีรภัทรก็ดีเกินไปไม่เหมาะกับผู้หญิงที่แสดงความต้องการ

ที่ชัดเจนจรเกินพอดี ถึงขนาดที่ทำให้ธีรภัทรคนที่มีความอดทนสูงเดินหนีไปได้โดยไม่หันหลังกลับความรู้สึกของเขาบอกว่าผู้

หญิงคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว

“เปรียวค่ะ นั่นแพรเพื่อนฉันยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”หญิงแนะนำตัวเองแต่ในใจยังรู้สึกหงุดหงิดถูกผู้ชายที่เธอหมายตาปฏิเสธ ไม่พอยัง

เดินหนีเธอเหมือนเธอเป็นเชื้อโรคน่ารังเกียจ แล้วไหนจะเพื่อนๆที่คอยกันท่าไม่เธอตามไปนี่อีก คอยดูเถอะเธอจะตามจับเทพ

บุตรของเธอให้ได้


   สนามบาสเกตบอลคณะเศรษฐศาสตร์ข้างโรงอาหารช่วงเย็นจะมีนักศึกษามาเล่นบาสเกตบอล วันนี้ก็เช่นกันนักศึกษา

จำนวนหนึ่งถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่ายกำลังแข่งกันยื้อแย่งลูกบาสเพื่อนำไปชู๊ตลงห่วงของอีกฝ่าย เมื่อฝ่ายหนึ่งถือครองบอลอีก

ฝ่ายหนึ่งต้องทำหน้าที่ตั้งรับป้องกันและหาวิธียื้อแย้งลูกบอลกลับคืนมา ทั้งสองฝ่ายยื้อแย้งอยู่ไม่นานเสียงลูกบอลกระทบแป้นก็

ดังขึ้นพร้อมกับเสียงเชียร์รอบๆสนาม ทำให้คนที่นั่งอยู่ม้าหินอ่อนริมสนามละสายตาจากรายงานที่เขาและเพื่อนกำลังช่วยกันทำ

มองเข้าไปในสนามด้วยความสงสัยว่าใครที่กำลังเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆได้ขนน่าอิจฉา

“เทนนิส”เสียงเรียกดังมาจากในสนามทำให้เขาสอดส่ายสายตาหาคนที่ตะโกนเรียก จนเห็นพี่เป้พี่รหัสวิ่งเหงื่อชุ่มออกมาจาก

สนามตรงมาหาเขาที่โต๊ะ

“สวัสดีพี่เป้ เล่นบาสหรอพี่”เทนนิสทักทายพี่รหัสที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอ

เป้นั่งลงบนม้าหินอ่อนฝั่งตรงข้ามรุ่นน้อง มองบนโต๊ะมีหนังสือวางอยู่หลายเล่มรวมถึงกระเป๋าสะพายหลายใบ“หวัดดี คลายเครียด

แล้วทำไมได้มานั่งคนเดียวเพื่อนๆไปไหนหมด”

“ไปพบอาจารย์กันครับเห็นว่างานมีปัญหา”ตอบคำถามรุ่นพี่แต่มือก็เขียนไปด้วย”น้ำครับ”เขายื่นน้ำเปล่าให้คนนั่งข้ามที่มีเหงื่อ

ท่วม”ขอบใจนะ”มือหนารับน้ำเปล่าที่ยังเหลือความเย็นอยู่บ้างด้วยความยินดี

“เป็นไงบ้างช่วงนี้”

“เรื่อยๆพี่ แล้วพี่ใกล้จบเป็นไงบ้าง”

“กำลังหางานไปเรื่อย ถ้าไม่มีที่ไหนทำก็คงเข้าไปทำบริษัทที่ไปฝึกงาน นักศึกษาจบพร้อมกันเป็นแสนงานก็หายากต้องแข่งกับ

มหาวิทยาลัยที่ดังๆอีก ไหนจะเส้นสายอีก” เขาพูดแล้วก็เผลอถอนหายใจออกมาเบาๆ

“บ่นเป็นคนแก่เลยพี่ ถ้าหางานไม่ได้ก็เป็นเถ้าแก่ เป็นนายตัวเอง ขายของออนไลน์ไม่ต้องเช่าที่ ไม่ต้องหนีเทศกิจ และไม่ต้อง
หลบฝน”

“ไปทำงานออฟฟิตไปนั่งดูสาวๆใส่สั้นๆ ใส่เสื้อฟิตๆดีกว่า อย่างน้อยเรียนมาทางนี้ตั้งสี่ปีก็ใช้ความรู้ที่อาจารย์สอนใช้ให้คุ้มก่อน

อย่างอื่นค่อยว่ากัน”

ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นกับคำพูดของพี่รหัสที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ผิดกับเมื่อก่อนชวนแต่เขาไปเที่ยวไปเลี้ยงสาย“ถ้าอาจารย์ได้ยิน

คงจะร้องให้ ฟูมฟาย ว่าที่อาจารย์สอนไปมีประโยชน์”

“ก็ใครจะเก่งเหมือนน้องรหัสพี่ละ อาจารย์แต่คนชมไม่ขาดปาก....”

“เป้ ทำอะไรวะ”มือหนาจับลงมาที่บ่าเป้ทำให้เขาต้องหันไปมองเจ้าของมือ

“มาคุยกับน้องรหัสสุดหล่อ แล้วแกไม่เล่นต่อ”

“ไอ้ทิวมันเหนื่อย เล่นเสร็จแล้วว่าจะชวนกันไปหาอะไรกินไปด้วยกันไหม”ตอบคำถามเพื่อนแต่สายตามองไปที่อีกคนที่ใช้นิ้วเรียว

เลื่อนไปบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือไม่สนใจคนมาใหม่จนรุ่นพี่ต้องเรียกให้เงยหน้าขึ้น

“เออ เทนนิสนี่เพื่อนพี่ เป็นเอกอยู่คณะข้างๆนี่หล่ะ”เป็นเอกยิ้มให้คนเงยหน้าขึ้น เขาเห็นเทนนิสนั่งคนเดียวอยู่ข้างสนามนานแล้ว

อยากเข้ามาทัก พอดีกับที่เป้เดินเข้ามาคุยกับเทนนิสเขาจึงทำทีเดินมาหาเพื่อน 

“สวัสดีครับ”เทนนิสทักทายยิ้มให้คนที่เคยเจอก่อนหน้านี้ ที่พวกพี่เขาบอกว่าอยู่คณะข้างๆก็เป็นความจริงแถมเป็นเพื่อนกับพี่รหัส

ก็คงไม่แปลกที่จะไม่รู้จักเขา

“ดีใจที่ได้พบกันอีก ไปหาอะไรกินกับพวกพี่ไหม”เป็นเอกออกปากชวนอีกฝ่าย จนเป้รู้สึกแปลกใจ เพราะเป็นเอกไม่ได้เป็นมิตร

กับคนไปทั่วเรียกว่าไม่ค่อยสนใจคนอื่นเลยด้วยซ้ำ แต่ทำไมถึงออกปากชวนคนที่พึ่งรู้จักกัน

“พอดีผมรอเพื่อนอยู่เอาไว้โอกาสหน้าครับ เอาไว้โอกาสหน้า ผมจะอดข้าวตั้งแต่เที่ยงไว้รอให้พี่เลี้ยง”ปฏิเสธรุ่นพี่ทั้งสองอย่าง
สุภาพ

“อืม ไปกันเถอะเดี๋ยวพวกนั้นรอนาน พวกพี่ไปก่อนนะ” 

“ครับ”เทนนิสตอบรับ มองตามรุ่นพี่ทั้งสองคนเดินคู่กันกลับไปที่สนามบาสเกตอีกฝากที่มีเพื่อนๆของพวกเขายืนรออยู่

ครืน ครืน เสียงเตือนส่งข้อความทักมาผ่านทางระบบพูดคุยออนไลน์ เทนนิสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นข้อความเข้าเป็นพี่ชายที่

ส่งมาบอกว่าจะมารับ รอยยิ้มบางๆปรากฏขึ้น พร้อมกับรีบส่งข้อความกลับว่าตกลงกลับไป แล้วรีบทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จรอ
เพื่อนๆ


   รถยนต์เชื้อสายยุโรปเลี้ยวเข้ามารั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง เจ้าของรถกำลังมองหาที่จอดรถที่ว่าง ชายหนุ่มเลี้ยวเข้าจอดลาน

จอดรถที่วางอยู่ มือหนากดโทรศัพท์โทรหาน้องชายที่ส่งข้อความคุยออนไลน์กลับมามาบอกว่าตกลง รอไม่นานปลายสายก็กด
รับ

“พี่มาถึงแล้ว เราอยู่ไหนให้พี่ไปรับไหม”

“รอก่อนพี่ปืน ผมทำงานใกล้เสร็จแล้ว ยืนมองเหล่สาวๆแถวนั้นไปก่อน”

“อืม เดี๋ยวพี่รอ”

วางสายจากน้องชายแล้วออกมาจากรถสูดอากาศนอกรถ เดินไปหาที่นั่งรอ เข้ามาในมหาวิทยาลัยแล้วคิดถึงวันเก่าที่เขายังเป็น

นักศึกษาใช้ชีวิตไปวันๆยังไม่ต้องคิดอะไรมาก ใช้ชีวิตสนุกได้เต็มที่ ปืนกวาดสายตามองรอบๆเห็นนักศึกษาสาวๆน่ารักที่กำลังนั่ง

เล่นคุยกันเป็นกลุ่มอยู่ที่ม้าหินอ่อนใกล้ลานจอดรถ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่สนใจอยากมีคนมีคนรู้ใจ ทั้งๆที่มีผู้หญิงเข้ามา

เรื่อยรวมทั้งเพื่อนสนิทน้องสาวที่แสดงออกว่าชอบเขาอย่างชัดเจนจนบางทีก็รู้สึกอึดอัด

บรี๊ดๆๆๆ เสียงแตรรถยนต์ดังขึ้นจนทำให้ชายหนุ่มหันไปมอง เห็นนักศึกษาสาวคนหนึ่งกำลังนั่งตกใจอยู่บนพื้น

“เป็นอะไรไหมน้อง เดินระวังหน่อยสิคนยิ่งรีบรีบอยู่”คนขับเลื่อนกระจกลงแล้วตะโกนออกมาอย่างหัวเสีย

หญิงสาวตกใจนั่งกองอยู่บนพื้นข้าวของหล่นอยู่บนพื้น“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ ขอโทษค่ะ”ถึงเธอจะผิดแต่นี่มันในมหาวิทยาลัยทำไม

ต้องขับรถเร็วขนาดนี้ด้วย 

“เออ เออ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”

หญิงสาวมองตามท้ายรถยนต์ค่อยๆเลื่อนออกไป ในใจกำลังคิดว่าเป็นนักศึกษามีการศึกษาความคิดน่าจะมีมากกว่านี้ มีน้ำใจกับ

เพื่อนร่วมสถาบันเปิดประตูลงมาดูบ้างก็ยังดี คนเราไม่ได้วัดจากการศึกษา การแต่งกายและรถที่ขับจริงๆด้วย หญิงสาวได้แต่ส่าย

หัว แล้วรีบเก็บข้าวของที่หล่นอยู่ตามพื้น

“นี่ของคุณ”ปืนยื่นสมุดเล่มที่หล่นให้หญิงสาวที่กำลังตั้งใจเก็บข้าวของตัวเอง

“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”ธารรับสมุดเล่มเล็กมาจากมือหนา

“เป็นอะไรมากรึเปล่า”เขามองที่หัวเข่าหญิงสาวมีรอยถลอก

ธารมองหัวเข่าที่ถลอกไม่มีเลือดออกแต่ก็รู้สึกแสบขึ้นมานิดๆหลังจากที่ถูกชายหนุ่มตรงหน้าทัก“อ้อ ถลอกนิดหน่อยไม่เป็นไร

มากค่ะ แค่ตกใจนิดหน่อยเพราะคิดว่าดูดีแล้วถึงข้ามถนน แต่ก็ไม่รู้ว่ารถคันเมื่อครู่โผล่มาได้ยังไง” เธอยิ้มให้ชายหนุ่มแปลก

หน้าที่แต่งตัวเหมือนคนที่เพิ่งกลับมาจากทำงานคงจะมารับน้องหรือแฟน ดูเขาไม่ได้มีหน้าตาดีอย่างเดียวแต่ยังเป็นคนน้ำใจอีก

ด้วย หญิงสาวหนยุดความคิดตัวเองแล้วรีบลุกขึ้น

“ขอบคุณนะคะ”

“ไม่เป็นไรครับ คนไทยด้วยกัน”ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ

“พี่ปืน พี่ปืน”เสียงตะโกนเรียกชายหนุ่มดังมาก่อนตัว ไม่นานเจ้าของเสียงวิ่งเข้ามาใกล้

“ทำงานเสร็จแล้วหรอ”

“อืม เสร็จแล้ว อ้าว ธารเป็นอะไรทำไมเสื้อผ้าดูเลอะอย่างนี้”เทนนิสถามรุ่นน้องที่ยืนคุยกับพี่ชายอย่างแปลกใจ

“พอดีธารเพิ่งเรียนเสร็จจะรีบไปหาพี่เทนนิสที่ข้างสนามบาส ไม่ทันระวังเลยหกล้มนะคะ”ไม่อยากบอกว่าเกือบถูกรถชนกลัวรุ่นพี่

เป็นห่วง

“หือ แล้วเป็นอะไรมากรึเปล่า”เขาถามอย่างเป็นห่วง

“เป็นอะไรมากค่ะ พอดีได้พี่คนนี้มาช่วย”

“อ้อ นี่พี่ชายพี่เองพี่ปืน แล้วนี่น้องรหัสผมน้องธาร”เทนนิสแนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกัน

“ขอบคุณอีกครั้งนะคะพี่ปืน”ไม่มีคำตอบรับมีเพียงรอยยิ้มและการพยักหน้าอีกฝ่าย

“แล้วธารอยากเจอมีอะไรรึเปล่า”

“พอดีธารอยากได้ตัวอย่างรายงานของอาจารย์ชาญวิทย์ อาจารย์บอกว่าของพี่ทำได้ดี”

“เป็นรูปเล่มคงต้องใช้เวลาหา ไม่รู้ว่าถูกปลวกกินไปแล้วรึเปล่า ถ้าเป็นไฟล์เอกสารยังพอจะหาได้เดียวพี่ส่งให้”

“ขอบคุณค่ะเป็นไฟล์ก็ได้ค่ะเพราะต้องใช้ด่วน”หญิงสาวยิ้มออกมาด้วยความดีใจ”ถ้าอย่างนั้นธารขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“อืม เดินระวังๆละ”

ชายหนุ่มทั้งมองตามหลังหญิงสาวที่เดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล ด้วยความเป็นห่วง จนรถคันนั้นขับออกไปทั้งสองถึงเดินไปขึ้นรถ

“พี่สนใจน้องธารหรอ”เทนนิสทำลายความเงียบในรถขึ้น

“ทำไมถึงถามอย่างนั้น”

“ก็ไม่เคยเห็นพี่สนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อน นี่ขนาดมีน้ำใจไปช่วยคนไม่รู้จักด้วย”

“ฮึ ฮึ น้องเขาก็น่ารักดีนะ”

“น้องธารเป็นคนดี มีหนุ่มมาจีบเยอะ ถ้าพี่สนใจจริงจังผมจะช่วยแต่ถ้าคิดเล่นๆก็หยุดความคิดนั้นไว้ซะ ถึงเป็นพี่ผมก็ไม่

ช่วย”เทนนิสพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จนคนฟังต้องหันไปมองใบหน้า



**************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ใครคู่ใครกันนะ :hao4: :hao4: :hao4:
ปาลภัทร ธีรภัทร เป็นเอก ปืน ใครเป็นพระเอก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ใครคู่ใครกันนะ :hao4: :hao4: :hao4:
ปาลภัทร ธีรภัทร เป็นเอก ปืน ใครเป็นพระเอก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ต้องติดตามจ้า อิอิ

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ตัวละครเยอะ แอบเดาไม่ถูกว่าใครคู่ใครกันแน่
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ตัวละครเยอะ แอบเดาไม่ถูกว่าใครคู่ใครกันแน่
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ


ขอบคุณจ้า  :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก
ตอนที่ 5
[/size]

เสียงแป้นพิมพ์สลับกับเสียงเปิดเอกสารในห้องทำงานที่ถูกตกแต่งไว้อย่างลงตัว โต๊ะทำงานขนาดใหญ่มีเอกสารและแฟ้มวางอยู่

บนโต๊ะ ร่างสูงที่นั่งทำงานเอกสารจ้องจออยู่หน้าคอมพิวเตอร์ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แต่กาแฟในถ้วยและน้ำเปล่าในแก้วหมดแล้ว ธีร

ภัทรขยับตัวเพื่อคลายความเมื่อยล้า วางเอกสารในมือไว้บนโต๊ะเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วหลับตาพักสายตาสักครู่ 

ครืน ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมือหนาควานหาโทรศัพท์ที่ยังร้องไม่หยุด เขามองดูหมายเลขคุ้นเคยปรากฏหน้าจอ“ครับ”

“ตาธีร์ ตอนเย็นพี่รบกวนไปรับแฝดให้พี่ได้ไหม วันนี้ไม่ใครว่างเลย”เสียงพี่สาวกำลังขอร้องแกมบังคับผ่านปลายสาย

“ครับ”ชายหนุ่มตอบรับอย่างปฏิเสธไม่ได้

“ขอบใจนะ เสาร์อาทิตย์ว่างๆกลับไปเยี่ยมคุณแม่บ้างนะ ท่านบ่นคิดถึง โอ๊ะ แค่นี้นะพี่ต้องขึ้นเครื่องแล้ว อย่าลืมไปรับหลาน

นะ...”ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงรีบเร่งเหมือนกำลังจะเดินไปไหนสักที่พร้อมกับเน้นย้ำจุดประสงค์ที่เธอโทรมาแล้วสายถูกตัดไป

อย่างรวดเร็ว มองดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาข้อมือตอนนี้เกือบบ่ายสามโมง ธีร์กดโทรศัพท์บนโต๊ะติดต่อเลขาบอกให้รู้ว่าวันนี้เขา

ต้องรีบออกไปรับหลานแล้วจะกลับมาเข้าเคลียร์งานที่เหลือถ้ามีอะไรด่วนให้วางไว้บนโต๊ะได้เลย เลขาคนสนิทตอบรับแล้ววาง
สายไป


   รถยุโรปคันหรูเลี้ยวเข้าลานจอดรถโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ร่างสูงเดินตรงไปที่ศูนย์รับเลี้ยงและพัฒนาเด็กเล็ก(DAY

CARE) ที่ถูกแยกตึกออกจากโรงพยาบาลอย่างชัดเจน บริเวณโดยรอบมีต้นไม้สวนสวยและรั้วโปร่งรอบๆศูนย์ ด้านหน้ามีรูปปั้นตัว

การ์ตูนหลายตัวยืนยิ้มพนมมือไหว้ทักทายต้อนรับเด็กๆและผู้ปกครอง เดินผ่านซุ้มลอดเข้าไปมีตู้เก็บรองเท้าของเด็กๆที่ติดป้าย

ชื่อไว้และแบ่งตามห้องเรียน มือหนากดออดหน้าประตูกระจกบานใสรอไม่นานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เปิดประตูออกมาต้อนรับ

“ผมมารับแฝดบู๊ตึ้งบู๊ลิ้มครับ”ชายหนุ่มบอกชื่อเด็กทั้งสองกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่สาวยิ้มแล้วรีบให้คนไปรับเด็กทั้งสอง ธีรภัทรลง

ลายมือชื่อในสมุดบันทึกประจำวันว่ามีผู้ปกครองมารับ

“คุณธีรภัทรสวัสดีค่ะ มารับเด็กๆแทนคุณธิมย์รินทร์หรอคะ”หมิวเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์เดินเข้าทักทายชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม 

“สวัสดีครับ พอดีพี่ธิมย์ไม่ว่างผมเลยมาเป็นธุระให้”

หมิวมองชายหนุ่มด้วยสายตาที่เป็นประกาย ดีใจที่ได้เจอชายหนุ่มที่เธอหมายปอง แฝดถูกพามาเข้าเรียนที่ศูนย์ตั้งแต่อายุได้สอง

ขวบกว่าโดยมีคุณน้าสุดหล่อเทียวมารับมาส่งสลับกับธิมย์รินทร์แม่ของเด็กๆ คุณน้าหน้าตาดีทั้งใจดีกับเด็กๆทำให้เธอหลงรัก

ทันทีที่เห็น แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยแสดงออกเกินเลย เป็นเธอที่คอยทอดสะพานให้อีกฝ่าย“ค่ะเธอโทรมาแจ้งกับคุณครูประจำห้อง

แล้ว ระยะนี้หมิวไม่เห็นคุณธีรภัทรมารับเด็กๆเลยนะคะ”ที่จริงเธออยากจะบอกออกไปว่าคิดถึง

“ครับ”

“น้าธีร์ น้าธีร์ บู๊ตึ้งอยากกินไก่ทอด”เด็กชายตัวเล็กสะพายกระเป๋าเป้ลายการ์ตูนวิ่งออกมาเกาะขาคุณน้า และเด็กชายอีกคนหน้า

เหมือนกันวิ่งตามพี่ชายออกมาจากห้องเรียนหน้าขาวไปด้วยแป้งมีกลิ่นหอมอ่อนๆจากแชมพูเด็ก“น้าธีร์ บู๊ลิ้มอยากกินติม”

“เดี๋ยวน้าพาไป วันนี้เป็นเด็กรึเปล่า”มือหนาลูบหัวเล็กๆของเด็กแฝดทั้งสอง อย่างรอคำตอบ

“บู๊ตึ้งเป็นเด็กดี”

“บู๊ลิ้มด้วย”เด็กๆทั้งสองแย่งกันตอบเพราะกลัวไม่ได้กินไก่ทอดไอติม ภาพเด็กแฝดทั้งสองกำลังอ้อนคุณน้าสุดหล่อทำให้เจ้า

หน้าที่หลายคนอดเอ็นดูไม่ได้

   ขับรถออกมาจากโรงพยาบาลกลับมาที่ทำงาน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกเพราะจำ

หมายเลขทะเบียนได้ รถหรูเลี้ยวเข้าจอดลานจอดรถที่ประจำ แล้วพาเด็กๆไปที่ร้านไก่ทอดไม่ไกลจากที่ทำงานตามที่สัญญาไว้

ก่อนหน้านั้น คุณน้าจูงมือเล็กๆเข้าไปในร้านchicken café ที่มีลูกค้ายืนต่อแถวสั่งอาหารอยู่หลายคน เด็กๆหลายคนสั่งชุดอาหาร

ที่มีของเล่น แต่ไอศกรีมก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ร่างสูงมองไปที่พนักงานประจำเคาเตอร์กำลังแนะเมนูอาหารให้ลูกค้าอย่าง

ชำนาญช่วยให้การตัดสินใจของลูกค้าเร็วขึ้น ยืนต่อแถวไม่นานก็ถึงคิว

“สวัสดีครับ ลูกค้ากินที่นี่หรือกลับบ้านครับ”เทนนิสถามลูกค้าร่างสูงหน้าตาคุ้นๆที่มีเด็กแฝดสองคนยืนขนาบซ้ายขวา

“ท่าทางร้านนี้เขาใช้งานคุณได้คุ้มมาก”ธีรภัทรยิ้มทักทายพนักงานคนขยันที่เปลี่ยนหน้าที่อีกแล้ว ทำให้พนักงานหนุ่มยิ้มออกมา

เพราะเจออีกฝ่ายทีไรเขาแทบทำงานไม่ซ้ำกัน

เด็กชายทั้งสองเห็นคุณน้าคุยกับใครก็จำได้ว่าเป็นพี่ชายใจดีข้างบ้านนั่นเอง“สวัสดีพี่จายบู๊ตึ้งอยากได้ไก่ทอด”เด็กชายตัวเล็ก

เขย่งเท้าโผล่หน้าเล็กๆขึ้นมาจากเคาเตอร์พูดกับพี่ชายข้างบ้านอย่างดีใจที่ได้เจอพี่ชายอีกครั้ง”เอาติมให้บู๊ลิ้มด้วย”น้องชายตัว

เล็กไม่ยอมพี่ชายเขย่งเท้าสั่งไอศกรีม 

“รับเป็นชุดไหนดีครับ ให้พี่แนะนำดีกว่า”เขาช่วยแนะนำเมนูอาหารกับลูกค้าตัวเล็ก คุยกับได้สักครู่เจ้าตัวเล็กไม่ค่อยเข้าใจนักเลย

ได้หันไปถามคุณน้า ชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มเห็นด้วยกับพนักงานหนุ่ม เด็กชายก็ตัดสินใจเลือกเมนูที่พี่ชายแนะนำพร้อมกับไอศก

รีมเย็นๆถ้วยใหญ่อีกถ้วย รอไม่นานเมนูอาหารก็ถูกจัดเรียบร้อยใส่ถุง เด็กชายรีบรับไก่ทอดมาถือเอง ส่วนบู๊ลิ้มยิ้มแก้มปริที่เห็น

ถ้วยไอศกรีม

“ขอบคุณครับ โอกาสหน้าเชิญใหม่” คุณน้าจูงมือเด็กๆออกจากร้าน

กลับเข้าที่ทำงาน ตอนนี้เลยเวลาห้าโมงเย็นมาเกือบครึ่งชั่วโมงพนักงานต่างตอกบัตรทยอยกลับไปบ้างแล้ว ธีรภัทรพาเด็กๆ

เข้าไปในห้องทำงาน เด็กๆได้ของกินที่ต้องการแล้วต่างนั่งกินเงียบๆ มีบ้างแว่วเสียงพี่ชายอยากกินไอศกรีมจากน้องชาย เจ้าตัว

เล็กก็ไม่หวงป้อนไอศกรีมเข้าปากพี่ชายจนปากเลอะ ส่วนพี่ชายก็ป้อนไก่ทอดให้น้องชายจนอิ่มจากนั้นทั้งสองหยิบสมุดขึ้นมา

ทำการบ้านวาดรูประบายสี

   ความมืดค่อยๆโรยตัว แสงจากดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แสงสว่างในห้องทำงานยังเหมือนเดิม ธีรภัทรเงยหน้าขึ้นมา

เพราะเสียงหัวเราะเด็กๆยังนั่งอยู่ที่โซฟาแต่ตอนนี้มีเบสกำลังช่วยสอนคำศัพท์เด็กๆ คุณเลขากำลังแฟลชการ์ดให้เด็กๆอ่าน ทั้ง

สองแย่งกันอ่าน แย่งกันตอบ เพราะตอบถามถูกจะได้ของรางวัล เป็นลูกอมขนมชิ้นเล็กๆเป็นของรางวัล ธีรภัทรวางปากกาลง หัน

ออกไปมองด้านนอกถึงรู้ว่าน่าจะกลับได้แล้ว ดูท่าคืนนี้เด็กๆคงต้องค้างกับเขาเหมือนเคยเป็นอย่างนี้บ่อยครั้งเมื่อพี่สาวไม่ว่าง

สงสารสองแฝดไม่ค่อยได้อยู่กับแม่ ตั้งแต่ที่พี่สาวหย่าขาดกับสามีเธอก็ทำแต่งานเขาไม่รู้สาเหตุของการหย่าร้างและเคารพการ

ตัดสินใจของพี่สาว ทุกคนจึงช่วยกันดูแลแฝดรวมถึงเขาด้วย จนบางครั้งมีคนเข้าใจผิดว่าเด็กๆเป็นลูกของเขา

“เบส ช่วยแฝดเก็บของได้แล้วพี่จะพากลับ”

“วันนี้แฝดไปนอนกับพี่หรอ”

“อืม พี่ธิมย์ไปสัมมนาต่างจังหวัดคงต้องอยู่กับพี่หลายวัน”

“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เราค่อยเล่นต่อ น้าจะแวะซื้อขนมมาฝากด้วย”เด็กชายทั้งสองได้ยินว่าขนมต่างดีใจเข้าไปกอดคุณน้าจนเกือบ

ลงไปนอนกับพื้น


   เสียงพูดคุยดังไปทั่วบริเวณลานกิจกรรมคณะเศรษฐศาสตร์ นักศึกษากำลังช่วยกันช่วยกันจัดสถานที่สำหรับงานออกร้าน

ประจำปีเนื่องในวันก่อตั้งคณะตามที่ได้รับมอบหมายโดยมีคณะกรรมการจากสโมสรนักศึกษามาช่วย ลานกว้างถูกแบ่งเป็นล็อก

เล็กๆให้นักศึกษาตั้งร้านค้าหันหน้าเข้าหากันเป็นแนวยาว เวทีถูกตกแต่งให้สวยงามสำหรับพิธีเปิดและการแสดง ป้ายผู้สนับสนุน

งานกิจกรรมถูกนำมาตั้งไว้

เช้าพรุ่งนี้คือกำหนดการเปิดงาน แสงสว่างจากสปอร์ตไลน์สาดไปทั่วลานทำให้ทุกคนสามารถทำงานต่อหลังจากแสงดวงอาทิตย์

ลาลับขอบฟ้า ซุ้มทางเข้างานหลายซุ้มถูกตกแต่งไปด้วยดอกไม้สด ลูกโป่งและผ้าอย่างสวยงาม ลมเย็นเวลากลางคืนพัดโชยมา

เป็นระลอก

ท้องฟ้ามืดเร็วขึ้นอากาศเริ่มเย็นลงมาหลายวันแล้วทำให้รู้ว่าตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว บริเวณจัดงานเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา

ด้วยความร่วมมือของทุกคนอีกไม่นานก็เสร็จ หลังจากทุกคนช่วยกันทำงานเหนื่อยมาหลายชั่วโมงตอนนี้ก็ถึงเวลาพัก นักศึกษา

จับกลุ่มนั่งกินข้าวกล่องที่คณาจารย์ซื้อมาแจกจ่ายให้ทุกคนที่มาช่วยเตรียมงานจนล่วงเวลา

“เป็นไงบ้างทางโน้นยังมีอะไรให้ช่วยรึเปล่า”เทนนิสถามเหรียญสิบที่เดินมานั่งกินข้าวกับเพื่อน

“เอาโต๊ะออกมาตั้งเตรียมไว้ให้ทุกล็อกตามที่ขอมาแล้วไม่มีอะไรแล้ว”

“พวกซุ้ม เวที ป้ายก็ไม่มีอะไรต้องเตรียมแล้ว”

“แล้วร้านพวกเราคงต้องมาเตรียมของพรุ่งนี้แต่เช้า ป้าเจ้าของร้านเตรียมของให้แล้ว”พักกินข้าวเสร็จทุกคนกลับไปทำงานต่อ

หลายกลุ่มตกแต่งร้านเสร็จต่างแยกย้ายกัน เทนนิสและเพื่อนนัดเวลากันเรียบร้อยต่างแยกย้ายกลับเหมือนกลุ่มอื่น

   เช้าวันงานมาถึงนักศึกษาต่างตื่นเต้นรีบมาเตรียมงานตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่ บางคนกำลังทดสอบไฟเครื่องเสียงบน

เวที ซุ้มร้านต่างๆถูกตกแต่งเสร็จแล้วไปแล้วหลายร้าน แต่ละกลุ่มหยิบโทรศัพท์ออกมาบันทึกภาพหน้าร้านของตัวเองที่ถูก

ตกแต่งไว้อย่างสวยงามอีกไม่ถึงชั่วโมงงานจะเริ่มเป็นทางการ

 โคมไฟกระดาษสาหลายสีรูปร่างแปลกตาห้อยเป็นแนวอยู่ด้านบนเวลาลมพัดมาทำให้มันปลิวไปแรงลมดูแล้วสวยงาม เทนนิส

และเพื่อนกำลังช่วยกันจัดร้านพร้อมทั้งดูความเรียบร้อยอีกครั้ง

ล็อกขนาดเล็กถูกดัดแปลงให้เป็นร้านขายเครปด้วยโทนสีชมพูขาวหวานจนน่ากิน ส่วนหน้าร้านด้านบนมีป้ายชื่อร้านติดไว้ และมี

ป้ายสามเหลี่ยมรายการอาหารตัวใหญ่ตั้งไว้จนเห็นเด่นชัด

เสียงเพลงประจำคณะถูกเปิดขึ้นพร้อมเสียงสวัสดีทักทายจากพิธีกรชายหญิงที่เดินออกมาบริเวณหน้าเวที มีนักศึกษาทยอยเข้า

มาร่วมเป็นจำนวนมาก งานครั้งนี้คณะบดีให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน เสียงปรบมือดังไปทั่วบริเวณ เป็นอันว่าพิธีการเปิด

งานดำเนินไปอย่างเรียบร้อย หลังจากงานถูกเปิดอย่างเป็นทางการท่านประธาน คณาจารย์เดินเที่ยวชมงานตามซุ้มต่างๆ พอเป็น
พิธี

สายมากแล้วนักศึกษาจากหลายคณะเข้ามาร่วมชมงานถ่ายรูปเก็บภาพบรรยายรอบๆที่ถูกตกแต่งไว้สำหรับเอาใจคนชอบถ่ายรูป

พื้นที่ในงานถูกแบ่งไว้หลายโซนเริ่มตั้งแต่เข้างานในงานจะเป็นบริเวณที่จัดไว้สำหรับจัดนิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาผล

งานที่สร้างชื่อเสียงและอื่นๆที่น่าสนใจของคณะ ต่อมาเป็นโซนที่มีสำหรับบริษัทมาเปิดร้านขายของราคาถูกและแจกสินค้า

ทดลองเล่นเกมส์แจกของรางวัล ต่อด้วยร้านขายของสโมสรขายที่ระลึกของคณะประมูลของบนเวทีกลางเพื่อนำเงินมาใช้

สนับสนุนกิจกรรมนักศึกษาและร้านค้าต่างๆ 

“เทนนิสเป็นไงบ้าง”เป้เดินเข้าทักรุ่นน้องสวมผ้ากันเปื้อนสีหวานเข้ากับร้านแต่ก็ดูดี ที่กำลังวุ่นวายกับเก็บเงินลูกค้า

“สวัสดีพี่เป้ ก็เรื่อยๆ”เทนนิสทักทายรุ่นพี่หันมารับเมนูจากลูกค้าคิดเงินประทับตาลงในกระดาษเมนูแล้วส่งคืนให้ลูกค้าไปยื่นกับ

เหรียญสิบที่อยู่ช่องรับเมนูจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของวีร์และพี่เจ้าของร้านที่ไปเช่าอุปกรณ์กำลังช่วยกันทำเครปให้ลูกค้าสุดท้ายจะ

เป็นเอื้อมจะเรียกลูกค้ามารับเครปตามเมนู

เป็นเอกเดินตามหลังเพื่อนต่างคณะเข้ามาร้าน สายตามองไปทั่วร้านก็เห็นคนที่มองหากำลังยืนคิดเงินลูกค้าอย่างอารมณ์ดีจนลูก

ค้าสาวๆยิ้มแทบหุบไม่ลง“สวมผ้ากันเปื้อนสีหวานได้ดูดีมากเลย”เขาอดแซวคนที่สวมอะไรก็ดูดีขึ้นมาไม่ได้

“เฮ้ย แกอย่าไปชมมันเดี๋ยวมันเหลิง”

“ไม่หรอกพี่เป็นเอกผมเป็นคนดี พี่เป้ชอบว่าผมอยู่เรื่อย”ชายหนุ่มยิ้มให้เพื่อนของรุ่นพี่

“อ้าว ใส่ร้ายฉันอีกแล้วไอ้เด็กนี่”ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงไม่จริงจัง พอเป้พูดเสร็จทุกคนก็หัวเราะออกมาแทบพร้อมกัน

“พี่โอ๋ไม่มาหรอ ไหนว่าจะมาดูวีร์ใส่ผ้ากันเปื้อนพวกผมอุตส่าเลือกลายหวานเข้ากับร้าน”

“เดี๋ยวพวกมันก็ตามมา”

“แล้วเป็นไงพี่ในงานของกินเยอะไหม”

“เยอะนะ มีแต่ร้านลูกค้าเยอะๆทั้งนั้น แล้วนี่กินอะไรกันรึยัง”

“ยังเลยพี่พากันยุ่งไปไหนไม่ได้เลย พี่เป้ใจดีซื้อมาน้องหน่อยสิ”เสียงพูดขอร้องปนอ้อนหน่อยๆ

ทำให้เป็นเอกอดยิ้มไม่ได้ ไม่คิดว่าเทนนิสจะมุมแบบนี้ด้วย แต่เขาก็รู้สึกชอบถ้าชายหนุ่มอ้อนเขาอย่างนี้บ้าง

“ตลอดเลยแกเทนนิสให้ฉันเลี้ยงตลอด แล้วอยากินอะไร”

“ผมขอลูกชิ้น นะพี่เป้”เหรียญสิบยืนฟังอยู่นานตะโกนบอกรุ่นพี่

“ผมขอน้ำอัดลมเย็นๆสักแก้วก็พอ”วีร์ยืนร้อนหน้าเตามือกำลังใส่ใส้ลงไปบนแผ่นแป้งสีเหลืองสวยตะโกนบอกอีกคน

“พอๆเลยพวกแกใช้อย่างกะเป็นทาส เออ เดี๋ยวซื้อมาให้ไปเป็นเอกไปด้วยกัน”เป้ส่ายหัวอ่อนใจเดินออกจากร้านไป เป็นเอกยิ้ม

กับท่าทางรุ่นพี่แสนดีที่แกล้งทำเป็นบ่นของเพื่อน“ขอบคุณครับ/ขอบคุณครับ”เสียงขอบคุณดังไล่ตามหลังมาเป้อยากหันกลับไป

ด่าแต่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทน

ลูกค้าเดินเข้าออกร้านเรื่อยๆจากที่หนาตาก็เริ่มบางตาลงเพราะเลยเวลาเที่ยงไปแล้วโชคดีที่อากาศวันนี้ไม่ร้อนอบอ้าวเท่าไหร่

ลูกค้าน้อยลงก็เริ่มได้พักบ้าง เทนนิสหยิบขนมเข้าปากที่มีรุ่นน้องซื้อมาให้อย่างอร่อย มองดูคนเดินผ่านไปมาบางคนหยุดยืนถ่ายรูป

“พี่เทนนิสหวัดดีค่ะ/สวัสดีค่ะ/สวัดีค่ะ”สาวๆเดินเข้ามาทักทาย

“ไงสาวๆ มาอุดหนุนร้านพี่หน่อยสิ”ชายหนุ่มเรียกสาวๆเข้ามาในร้าน

“ร้านพี่เทนนิสสีหวานมากเลยนะคะ”ฟร้องมองไปรอบร้านที่ตกแต่งได้อย่างน่ากิน เจ้าของร้านทั้งสี่หนุ่มก็น่ากินไม่ต่างกัน โดย

เฉพาะคนที่กำลังยิ้มให้เธออยู่ตอนนี้ยิ่งสวมผ้ากันเปื้อนสีหวานแล้วด้วย รู้สึกว่าเข้ากันเข้ากันเธอคิดได้อย่างนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้น

มาแอบบันทึกภาพที่คิดว่าชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้เห็น แอบถ่ายรูปรุ่นพี่จนพอใจแล้วรีบโพสต์ลงโซเชียลมีเดียพร้อมเพิ่มคำพูด

เล็กๆน้อยลงไป เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับผลงานตนเองโพสต์ภาพพร้อมข้อความลงไปไม่ถึงห้านาทีมีคนเข้ามากดถูกใจ แสดง

ความคิดเห็นใต้ภาพหลายคน

“พอดีมีคนมาช่วยออกแบบทำร้านให้เขาบอกว่าแบบนี้น่ารักดี ของฟรีก็เลยตกลง”

“พี่เป้ไลน์บอกแล้วค่ะให้มาอุดหนุน ว่าแต่ของขายดีไหมคะ”ธารมองไปรอบที่ตอนนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าแล้ว

“ก็เรื่อยๆ แล้วรายงานที่พี่เอาวันก่อนใช้ได้ไหม”

“ใช้ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลย ธารเอาไส้กรอกพริกเผามายองเนส ฟร้องกับแบนด์นเนมเอาอะไร”หญิงสาวเขียนเครื่องหมาย

กากบาทลงบนช่องบนกระดาษแล้วหันไปเพื่อนทั้งสองที่กำลังสนุกกับการถ่ายรูป

หญิงสาวทั้งสองหยุดสนใจมือถือหันมาดูในกระดาษที่เพื่อนยื่นให้“เอากล้วยนมช็อก”

“แบนด์นเนมเอาหมูหยองพริกเผามายองเนสนะสั่งให้ด้วย”

สาวๆเดินออกจากร้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเพราะเครปในมือได้ไส้เยอะเป็นพิเศษจนทะลักออกมาจากแป้งสีเหลืองกรอบ   

แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้วความมืดกำลังมาแทน นักศึกษาต่างช่วยกันเก็บร้านเคลียสถานที่เพราะต่อจากนี้

จะเป็นกิจกรรมสุดท้ายของงาน งานแสดงคนตรีเป็นรายการสุดท้าย ลานกิจกรรมกลับมาโล่งอีกครั้งบนเวทีนักดนตรีกำลังเตรียม

พร้อมแสดง นักร้องรับเชิญจากต่างคณะขึ้นบนเวทีเสียงกรี๊ดจากสาวๆและเสียงปรบมือโห่ก็ดังขึ้น นักร้องหนุ่มหน้าตาดีดรีกรีเป็น

ถึงเดือนมหาวิทยาลัยกำลังยืนเด่นกลางเวทีในมือถือไมโครโฟนแสงสปอร์ตไลน์สาดส่องไปทั่วบริเวณ เพลงแรกก็ดังขึ้นเริ่มต้น

ด้วยเพลงจังหวะช้าๆน่าฟังแต่พอให้สามารถโยกตามจังหวะได้ จากนั้นเปลี่ยนจังหวะเพลงไปเรื่อย สุดท้ายคอนเสิร์ตจบลงใน

เวลายี่สิบนาฬิกา จากนั้นทุกคนต่างแยกย้ายกลับ


เช้าวันหยุดแต่พระอาทิตย์ไม่ได้หยุดยังทำหน้าที่ของตนเองเหมือนเดิม มันกำลังส่องแสงสว่างปลุกสิ่งมีชีวิตให้ตื่นขึ้นรับวันใหม่

ในห้องนอนที่เปิดเครื่องอากาศจนเย็นสบายคนที่นอนอยู่บนเตียงยังนอนหลับสบาย แต่อีกเตียงไม่มีคนอยู่บนนั้นแล้ว เทนนิสตื่น

ลงมาสูดอากาศตอนเช้าหน้าบ้าน เก้าโมงกว่าบิดตัวไปมาด้วยความรู้เมื่อยตามตัวเพราะงานออกร้านทำให้เขาต้องยืนเกือบทั้งวัน

แบกของไปมาแถมยังกลับบ้านดึกอีกแต่ก็ดีที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ที่เหลือก็คงเป็นส่งรายงานการปฏิบัติงานเพื่อเอาคะแนน

ร่วมกิจกรรมของคณะเท่านั้น เขาเดินเข้าไปในครัวเปิดดูตู้เย็นไม่รู้ว่ามีอะไรเหลืออยู่บ้าง เปิดดูช่องชิลมีของสดเหลืออยู่ และผัก

สดสองสามอย่างน่าจะพอทำอะไรง่ายๆกินได้บ้างเดี๋ยวค่อยออกไปซื้อของสดมาไว้ติดตู้ มือขาวหยิบกระปุกน้ำเย็นออกมาเทใส่

แก้ว อากาศวันนี้เย็นสบาย ถ้าเย็นกว่านี้อีกสักหน่อยเขาคงต้องเอาเสื้อกันหนาวมาซัก

   เช้าวันหยุดที่เทนนิสกำลังนั่งดูโทรทัศน์รายการทั่วไปอยู่นั้นมีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น เขาลุกขึ้นมองออกหน้าประตูรั้วเห็น

แขกคนสำคัญของเพื่อนยืนยิ้มอยู่ เขาไหว้ทักทายแขกที่เทียวแวะมาหาเพื่อนเขาบ่อยๆจนกลายเป็นแขกประจำไปแล้ว เขาทำ

หน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเชิญปาลภัทรเข้ามาในบ้าน ชายหนุ่มตัวโตหน้าตาออกไปทางยุโรป เขาเคยเจอผู้ชายคนนี้ก่อนหน้านั้นเมื่อ

หลายปี ก่อนที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศ

“วีร์ยังไม่ตื่นเลยพี่ปาล นั่งรอก่อนนะ”

“พี่โทรหาแล้วบอกว่ากำลังแต่งตัวอยู่”ชายหนุ่มตอบเจ้าของบ้านที่แสดงการต้อนรับเป็นอย่างดีทุกครั้งที่มารบกวน เขาพิจารณา

ชายหนุ่มตรงหน้าต้องบอกได้เลยว่าคนเป็นคนที่มีบุคลิกดูดีจนอยากชวนไปร่วมงาน 

“พี่ปาลมาเช้า เมื่อคืนกว่าจะได้นอนไม่อยากตื่นเลย”คนตัวเล็กแต่งตัวเรียบร้อยอ้าปากฮ้าวน้อยๆเดินลงมาจากชั้นบ่นไม่ค่อย

พอใจที่เห็นอีกฝ่ายมาแต่เช้าทั้งที่เป็นวันหยุดเขาก็อยากตื่นสายๆ แต่ก็เข้าใจว่านัดกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

“บ่นเป็นคนแก่ไปได้ ไปเถอะเดี๋ยวพี่ต้องไปแวะทำธุระก่อน”

“อืม เทนนิสออกไปข้างนอกนะ ถ้าอยากได้อะไรโทรมานะ”

“เย็นๆพี่พาวีร์มาส่ง”

“ครับ”   



ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

รถยนต์เลี้ยวเข้าจอดลานจอดหน้ารถตึกสูง มีรถยนต์หลายคันจอดอยู่บนลานกว้าง ปาลภัทรเดินนำคนตัวเล็กที่ทำหน้าสงสัยแต่

ไม่ได้เอ่ยปากถามเข้าไปในตึก แล้วเข้าไปในลิฟต์โดยที่ค่อยๆเคลื่อนขึ้นไปทีละชั้น แม้จะเป็นวันหยุดแต่ก็ผู้คนพลุกพล่านพอ

สมควร วีร์เดินตามหลังคนตัวโตออกมาจากลิฟต์เรื่อยๆผ่านห้องหลายห้อง มองผ่านกระจกใสเข้าไปข้างในมีโต๊ะทำงานอยู่ และ

ฉากกั้นแต่ละโต๊ะไว้ จนมาถึงห้องสุดท้ายเดินเข้าไปข้างในเป็นห้องทำงานที่ถูกตกแต่งไว้อย่างดี

“ที่นี่ออฟฟิตพี่หรอ”มองไปรอบๆห้องทำงานอย่างสนใจ จำได้ว่าคนตรงหน้าเคยบอกว่าเปิดบริษัทอะไรสักอย่างเกี่ยวกับโฆษณา

เขาไม่แน่ใจ

“ใช่ เป็นไงสวยไหม”

“พี่เช่าทำสำนักงานทั้งชั้นเลยรึเปล่า”

“ไม่แค่ฝั่งนี้ครึ่งหนึ่ง ยังเป็นแค่บริษัทเล็กๆมีพนักงานไม่เท่าไหร่ ถ้าหิวตู้เย็นอยู่ตรงนั้นมีน้ำอัดลมกับน้ำผลไม้อยู่”

“ไม่อะยังอิ่มก๊วยเตี๋ยวไก่กับข้าวมันไก่อยู่ พี่ทำงานเถอะผมจะนั่งเล่นเกมส์อยู่โซฟานี่แหล่ะ”บอกเจ้าของห้องให้รีบไปทำงานไม่

ต้องเป็นห่วง ปาลภัทรยื่นมือหนาไปลูบหัวเล็กๆแล้วไปนั่งที่โต๊ะทำงานปล่อยให้คนถูกลูบหัวจนผมยุ่งนั่งทำหน้ามุ่ยเล่นเกมส์อยู่

คนเดียว เขาเปิดคอมพิวเตอร์ดูงานด่วนที่ถูกส่งมาเมื่อคืน แล้วหยิบงานในแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่านดูรายละเอียดของงานที่

ต้องแก้ไขเพิ่มเติมหลังจากที่นำไปเสนอลูกค้า

   ตัวกลมๆหลากสีกำลังเด้งดึงไปบนจอมือถือ มือเล็กเลื่อนจับลูกกลมๆเด้งไปมาเพื่อให้อยู่แนวเดียวกันสีเดียวกันให้ครบห้า

ลูกแล้วจะได้คะแนน ในด่านที่หนึ่งต้องได้คะแนนอย่างต่ำหนึ่งหมื่นคะแนนในช่วงเวลากำหนดสามนาที ในด่านต่อไปคะแนนจะ

เพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่เวลาจะลดลงเรื่อยในแต่ละด่าน คนตัวเล็กนั่งขมวดคิ้วเมื่อแต่ละด่านเพิ่มความอยากขึ้นเขาสามารถแพ้ได้อีกสอง

ครั้งหลังจากนั้นต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ มือเล็กหยุดเกมส์ไว้แล้วหยิบขนมขึ้นมากินคลายเคลียด เขาไม่นึกว่าเกมส์ที่ดูเหมือนง่าย

จะเล่นได้ยากอย่างนี้ยังดีที่เป็นเกมส์ให้โหลดเล่นฟรี ความนิยมก็สี่ดาวมีคนเขียนแสดงความคิดเห็นว่าเกมส์สนุก นั่นเขาก็เห็น

ด้วยเล่นง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน เขาวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะกลางเอนหลังพิงผนักโซฟา มองไปรอบห้องที่เงียบ หันไปมองอีกคนที่

กำลังตั้งใจทำงานด้วยสีหน้าจริงจังมาเกือบชั่วโมง เขาไม่เคยได้เห็นพี่ชายที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กคนนี้ในมุมนี้มาก่อน หลัง

จากที่ห่างกันไปหลายปีคุยกันผ่านอินเตอร์เน็ตกันแทบทุกวันก็รู้สึกหายคิดถึงไปบ้างและดีใจที่อีกฝ่ายไม่ลืมสัญญาที่ให้ว่าจะกลับ
มา   


   วีร์วางแก้วน้ำเย็นๆไว้บนโต๊ะทำงานที่ว่างอยู่ คนที่กำลังทำงานเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้คนใจดีเอาน้ำดื่มเย็นๆมาให้เขาบอก

ขอบคุณก่อนหยิบน้ำขึ้นมาดื่ม สายตามองคนตัวเล็กกลับไปนั่งที่โซฟาเล่นเกมส์กินขนมเงียบๆ

“ปาลคะ ริต้าคิดถึงคุณจังเลย”ประตูห้องทำงานเปิดออกพร้อมกับหญิงสาวหุ่นเพรียวในชุดกระโปรงเข้ารูปสวมรองเท้าส้นสูงวิ่ง

เข้าไปหาชายหนุ่มที่กำลังนั่งทำงาน

“ริต้า คุณเข้ามาทำไม”ชายหนุ่มถามเสียงแข็งเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะเข้ามาใกล้

ริต้าเกือบหุบยิ้มหวานลงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดไม่สนใจและเย็นชาใส่เธอเหมือนเช่นทุกครั้งที่เห็นหน้า ผู้ชายที่ได้ยากอย่างนี้สิถึง

ถูกใจเธอ“แหมปาลทำไมต้องพูดห่างเหินกันอย่างนี้ละคะ”เธอยังไม่ละความพยายามต่อไป

“ริต้า ทำตัวดีๆหน่อยผมมีแขก ผมไม่อยากให้คนของผมเข้าใจผิด”ชายหนุ่มเตือนหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบให้เธอหยุดท่าทาง

ยั่วยวนนั้น และเหลือบตามองคนตัวเล็กที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกจนรู้สึกไม่สบายใจกลัวว่าอีกฝ่ายจะ

เข้าใจผิดเรื่องของเขากับริต้า

“โอ๊ะ โทษทีริต้าไม่ทันเห็น  ไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีน้องชาย”หญิงสายปรายตามองเด็กหนุ่มตัวเล็กนั่งมองมาทางเธอด้วยท่าทีเฉยชา

เธอรู้สึกไม่ถูกชะตากับเด็กคนนี้เลยไม่รู้ว่าเป็นอะไรกับผู้ชายที่หมายปอง แต่สายตาที่ปาลภัทรมองเด็กคนนั้นเป็นสายตาที่เธอไม่

เคยถูกมองมาก่อน

วีร์มองหญิงสาวลูกครึ่งหน้าตาสวยที่เข้ามาในห้องกำลังพูดจาจีบปากจีบคอใสผู้ชายอย่างไม่อายเขา แล้วหน้าอกนั่นจะใหญ่ไป

ไหน ยังไงก็ไม่เกี่ยวกับเขา แต่ไม่รู้ทำไมเห็นคนทั้งสองอยู่ใกล้กันแล้วรู้สึกไม่พอใจยังไงไม่รู้ หงุดหงิด ขวางหูขวางตา นี่พี่ชาย

เขาชอบผู้หญิงแบบนี้หรอ ไม่มีดีกว่านี้แล้วรึไง ผู้หญิงคนนี้สวยแต่ไม่ผ่านไม่เหมาะจะมาเป็นพี่สะใภ้ ไม่เหมาะเลยไม่เหมาะเลย
จริงๆ

“ผมว่าคุณกลับไปเถอะผมทำงานเสร็จก็กำลังจะกลับเหมือนกัน”ชายหนุ่มวางเอกสารปิดคอมพิวเตอร์ออกปากไล่อีกฝ่ายอย่าง
สุภาพ

“ถ้าอย่างนั้นเราไปกินข้าวกันนะคะ ริต้าออกมาคนเดียวไม่มีเพื่อนกินข้าว”เธอพยายามอ้อนอีกฝ่ายให้ใจอ่อน

“คงไม่ได้ผมมีธุระต้องทำต่อ แล้วก็ไม่ได้มาคนเดียวด้วย”เขารีบปฏิเสธหญิงสาวที่แสดงท่าทางไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ และเน้นคำ

พูดที่เขาไม่ได้มาคนเดียวให้อีกฝ่ายเข้าใจ ทั้งๆที่เขาแสดงออกชัดเจนขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงเป็นผู้หญิงที่น่ารำคาญอย่างนี้ ถ้าเธอ

ไม่ใช่นางแบบที่ทางบริษัทต้องร่วมงานด้วย ออฟฟิตเขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามาเหยียบ

ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธอย่างไม่รักษาน้ำใจ เธอก็สึกหน้าตึงขึ้นมาไม่ได้“งั้นวันนี้ริต้ากลับก่อน แล้วหลังจะมากินข้าวด้วย”พูดจบหญิง

สาวลูกครึ่งเดินสบัดก้นลงส้นเสียงดังตึกตึกออกจากห้องทำงานไป ส่วนคนที่เล่นเกมส์ยังต้องเงยหน้ามองตามเธอออกไป

   ออกจากออฟฟิตทั้งสองไปกินข้าวที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ขึ้นบันไดไปชั้นบน เดินดูมองหาร้านอาหารที่ต้องการ เลยเวลา

เที่ยงได้สักพักร้านอาหารที่เต็มไปด้วยลูกค้าก็ว่าง พวกเขาเลือกเข้าไปนั่งในร้านอาหารญี่ปุ่น สั่งเมนูอาหารแบบเซตคนละเซตไม่

นานพนักงานก็นำมาเสิร์ฟ

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนพี่หรอ..”ถามยังไม่ทันจบอีกฝ่ายรีบตอบโดยไม่ต้องคิด

“ไม่ใช่”ชายหนุ่มชอบคำถามแบบสั้นๆดูเหมือนว่าจะยังไม่ชัดเจนจึงอธิบายให้อีกฝ่ายฟัง”เธอเป็นนางแบบที่ร่วมงานกับทางบริษัท

ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”อธิบายไปแล้วสังเกตสีหน้าอีกฝ่ายที่ยิ้มพอใจกับคำตอบของเขา ชายหนุ่มรู้สึกพอใจที่คนตรงหน้าสนใจ

อยากรู้เรื่องส่วนตัวของเขา ไม่รู้ว่าคิดเป็นเองหรือกำลังเข้าข้างตัวเองเหมือนกับว่าคนตรงหน้าไม่พอใจที่เขาอยู่กับริต้า

“เธอก็ดูสวยดีนะครับ”พูดขึ้นมาลอยๆแล้วคีบไก่ทอดเข้าปากไม่สนใจรอฟังความคิดเห็นอีกฝ่าย

ริมฝีปากได้รูปโค้งขึ้นอย่างพอใจเหมือนเขาได้ยินเสียงคำพูดที่แสดงออกมาว่าไม่ค่อยพอใจริต้ามายุ่งกับเขา“พี่ไม่ชอบดูคนที่

ภายนอก”อีกอย่างเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ถึงคนคนนั้นจะยังไม่รู้และเขาไม่เคยบอกออกไปก็ตามเพราะยังไม่ใจว่าอีกคนจะรู้สึก

แบบเดียวกันกับเขารึเปล่าหรือเห็นเขาเป็นแค่พี่ชายแสนดีเท่านั้น       

   มือขาวสลัดผ้าสองสามครั้งแล้วหยุดลงเปลี่ยนเป็นหยิบไม้แขวนขึ้นมาแทน เสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายถูกแวนไว้บนราวตากผ้า

เทนนิสมองผลงานตัวเอง ยิ้มแล้วถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกโล่งที่สามารถจัดการงานตรงหน้าได้เสร็จขณะที่กำลังจะเดิน

กลับเข้าบ้านมีเสียงเล็กๆคุ้นเคยเรียกเขาไว้

“พี่จาย พี่จาย ฉายไหมอยากกินหนม”บู้ตึ้งโผล่หน้าเล็กๆอยู่ข้างรั้วเรียกพี่ชายข้างบ้านไว้ บอกให้รู้ว่าเจ้าสายไหมตัวโตน้ำลายเริ่ม

ยืดกำลังหิวขนม ถ้าสายไหมพูดได้คงต้องพูดออกมาแน่ๆว่ามันไม่ได้อยากกินเพราะแม่บ้านเอาอาหารเม็ดและขนมรูปกระดูกให้

มันแทะจนอิ่มที่มันน้ำลายยืดอยู่นี่เป็นเพราะธรรมชาติของมันเอง แต่จะให้มันทำยังไงได้เจ้านายน้อยของมันอุส่าลากมันมาจาก

หน้าบ้านเพื่อมาหาพี่ชายข้างบ้านใจดีที่ให้ขนมเนื้อไก่บดเป็นแท่งให้มันกินบ่อยๆเวลาที่มันโผล่หน้าหล่อๆมาข้างรั้ว   

“หวัดดีจอมยุทธ์น้อยทั้งสอง สายไหมด้วย”ชายหนุ่มเดินกลับมายืนข้างรั้ว มือขาวจับที่แก้มนุ่มของเด็กชายทั้งสองและลูบหัวเจ้า

ตูบตัวโตเบาๆอย่างเอ็นดู

“สวัสดีคราบ/สวัสดีคราบ/โฮ่ง”สามเสียงตอบรับคำทักทายของเทนนิสแทบพร้อมกัน

“ไม่รู้ว่าสายไหมหรือจอมยุทธน้อยทั้งสองอยากกินขนมกันแน่”เขาพูดอย่างรู้ทัน

“คิก คิก”เด็กๆหัวเราะเสียงใสเมื่อถูกจับได้ว่าเอาสายไหมมาอ้าง พวกเขาแค่อยากมาเล่นกับพี่ชายข้างบ้านวันนี้คุณยายออกไป

วัดแต่เช้าส่วนคุณน้ายังไม่ตื่นพี่ๆแม่บ้านหลังจากให้พวกเขากินข้าวเช้าเสร็จก็กลับไปทำงานปล่อยให้พวกเขาออกมาวิ่งเล่นรอบ

บ้านกับสายไหม จนมาเจอพี่ชายข้างบ้านกำลังยืนตากผ้าอยู่คนเดียวเลยอยากชวนมาเล่นด้วยกัน ไม่รู้ว่าที่บ้านพี่ชายมีอะไรเล่น

บ้างเพราะบ้านคุณยายพวกเขาวิ่งสำรวจทั่วจนเบื่อแล้ว

“หืม อยากมาเล่นที่บ้านพี่รึเปล่า”เทนนิสถามเด็กๆเหมือนรู้พวกเขาว่าต้องการอะไร

“ยากครับ/ยากครับ”จอมยุทธน้อยทั้งสองตอบพร้อมกันใบหน้าแววตาแสดงออกว่าดีใจจากคำเชิญของพี่ชาย   

“จะพากันไปซนที่ไหนอีก”เสียงทุ้มดังขึ้นจากด้านหลังเด็กๆ ชายหนุ่มร่างสูงสวมกางเกงนอนขายาวกับเสื้อยืดสีขาวในมือข้าง

หนึ่งถือถ้วยกาแฟไว้ยืนหล่อมองมาที่ทุกคน

“น้าธีร์ บู้ตึ้งกับน้องอยากไปเที่ยวบ้านพี่จาย”เด็กชายตัวเล็กทั้งสองวิ่งไปเกาะขาคุณน้า คุณน้ายืนเงียบแต่ยิ้มบางๆให้ชายหนุ่มอีก

คนที่ยืนยิ้มอยู่หลังรั้ว เขารู้สึกลำบากใจกลัวเด็กๆจะสร้างให้ปัญหาเพื่อนบ้าน

“ใกล้จะเที่ยงแล้ว น้าว่าเราน่าจะชวนพี่ชายมากินข้าวบ้านเราดีกว่า”ชายหนุ่มลูบหัวเล็กของหลานชายแล้วมองไปที่เพื่อนบ้าน

“ได้หรอฮะ”เด็กๆที่กำลังวิ่งไปรอบร่างสูงเงยหน้าถามอย่างดีใจ

“ได้ครับ”

“พี่จาย มากินข้าวบ้านบู้ตึ้งไหม”

“กับข้าวอาหย่อย”บู้ลิ้มช่วยพูดให้พี่ชายตัดสินใจง่ายโดยเอากับข้าวมาล่อ

“มาเถอะ เด็กๆอยากให้คุณมา พวกเราอยากจะทำความรู้จักกับเพื่อนบ้าน”ธีรภัทรออกปากชวน

เทนนิสยิ้มออกมาอย่างแปลกใจเมื่อเห็นทุกคนอยากชวนเขาไปกินข้าวที่บ้าน“ครับ ได้ครับ”เขาตอบรับคำชวน

   บ้านหลังใหญ่บริเวณพื้นที่กว้าง สวนถูกจัดได้อย่างร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทางเดินจากประตูรั้วยาวจนถึงหน้าบ้าน

เทนนิสตอบรับคำชวนจากเพื่อนบ้าน เขากลับเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินเข้ามาในบ้านหลังข้างๆตามคำชวน

“พี่จาย พี่จาย นั่งข้างๆบู้ลิ้ม”เด็กชายรีบวิ่งเข้าไปหาพี่ชายข้างบ้านแล้วจูงมือชายหนุ่มมานั่งเก้าอี้ข้างๆ

“สวัสดีครับคุณป้า ผมอนุญาติเรียกอย่างนั้น”เทนนิสไหว้หญิงสูงวัยท่าทางใจดีที่นั่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เขา และเด็กๆเรียกว่าเธอ

ว่าคุณยายแต่ใบหน้าหญิงสูงวัยยังดูอ่อนกว่าวัยมาก

“สวัสดีจ๊ะ เรานี่เองที่เด็กๆชอบพูดถึงบ่อยๆในที่สุดก็ได้เจอตัวจริงสักที”ทิพวรรณยิ้มให้เด็กหนุ่มหน้าตาดี ดูแล้วเธอรู้สึกว่าเด็กคน

นี้ดูเหมือนจะเป็นคนดี

“ขอบคุณนะครับที่ชวนผมมากินข้าว”เขาอยากบอกว่าชอบของฟรี สายตากำลังมองกับข้าวบนโต๊ะหลายอย่างที่กำลังส่งกลิ่นหอม

ต้มจืดเต้าหู้หมูสับ แกงส้มชะอมไข่ใส่กุ้ง ผัดผักรวมใส่หมู ไข่เจียวกุ้งสับ ปูอัดชุปแป้งทอด

“ดูเด็กๆจะดีใจมากพี่ชายข้างบ้านมากินข้าวด้วย กินเยอะๆนะแล้วพี่เทนนิสเขาจะเล่นด้วย”หญิงสูงวัยหันไปบอกกับเด็กที่กำลังนั่ง

กินข้าวทำตาแป๋วมองผู้ใหญ่คุยกัน

“ครับ/ครับ”

“กับข้าวอร่อยไหม กินเยอะๆนะลูกนานทีบ้านนี้จะมีโอกาสได้ต้อนรับแขก ธีร์ก็เหมือนกันช่วงนี้ผอมไปนะ”

“ขอบคุณครับ”ธีร์ขอบคุณที่แม่ตักกับข้าวใส่จาน

“ขอบคุณครับ”เทนนิสขอบคุณร่างสูงที่ตักกับข้าวใส่จานของเขา

“แล้วหนูอยู่ที่บ้านกับใคร”

“ผมอยู่กับเพื่อน”เขาคำตอบถามแล้วหยุดก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า”คือพ่อกับแม่ผมเสียไปแล้ว”คำตอบของเขาทำให้ในห้องเงียบลง

“เอ่อ ป้าเสียใจด้วย”

“ไม่เป็นไรครับ”เพราะเขาทำใจได้แล้ว เทนนิสยิ้มให้หญิงสูงวัยที่ทำหน้าเสียใจที่ตั้งคำถามนี้กับเขา

“บู้ตึ้งกับน้องอิ่มแล้วพี่เทนนิสเล่นกัน”เด็กชายตัวเล็กวางช้อนลงบอกทุกคนในโต๊ะอาหารให้รู้

“เด็กๆอย่าเพิ่งกวนพี่สิ ให้พี่เขากินให้อิ่มก่อน”

“ไม่เป็นไรครับ ผมอิ่มแล้วครับ”

เด็กๆทั้งสองได้ยินคำตอบแล้วรีบปีนลงจากเก้าอี้เดินไปจูงมือพี่ชายข้างไปเข้าไปในห้องนั่งเล่น ทิพวรรณหันไปมองหน้าลูกชาย

ที่กำลังยิ้มมองตามทั้งสามคนไป

   ของเล่นในกล่องพลาสติกใบใหญ่สองกล่องถูกลากออกมา บนพื้นห้องนั่งเล่นที่ปูไปด้วยพรมนุ่ม เด็กๆต่างเอาของเล่นของ

ตัวเองมาโชว์ให้เทนนิสดู ว่าพวกเขามีอะไรบ้าง เขาเห็นตัวต่อหลายขนาดหลากสีจึงได้ชวนเด็กๆสร้างปราสาทขึ้น ก่อนอื่นเขาให้

เด็กวาดภาพออกมาว่าต้องการสร้างปราสามเป็นแบบไหน กระดาษเปล่าขนาดเอสี่ถูกเด็กๆวาดความคิดจินตนาการลงไปทีละรูป

พร้อมทั้งอธิบายว่ามันคืออะไร ภาพวาดของเด็กไม่กี่ขวบทำให้ชายหนุ่มต้องขมวดคิ้วมองบางครั้งต้องหัวเราะออกมาเมื่อเฉลยว่า

มันภาพอะไร เมื่อได้ภาพที่ต้องการแล้วเด็กทั้งสองคนช่วยต่อเติมส่วนเทนนิสคอยให้ความช่วยเหลือข้างๆ เสียงหัวเราะเสียงพูด

คุยของทั้งสามคนอยู่ในสายตาธีรภัทรที่นั่งมองอยู่ไม่ไกล เขาดีใจที่หลานชายทั้งสองได้เพื่อนใหม่ แล้วรู้สึกชอบเพื่อนบ้านคนนี้

เหมือนที่เด็กๆชอบ

“เด็กๆถึงเวลานอนกลางวันแล้ว”ทิพวรรณเดินเข้ามาในห้องพร้อมพี่เลี้ยงบอกให้หลานชายทั้งสองไปนอน จอมยุทธทั้งสองออก

อาการงอแงเล็กน้อยยังไม่อยากไปนอนเพราะพวกเขากำลังสนุกอยู่

“ไปนอนเถอะเดี๋ยววันหลังพี่จะมาเล่นด้วย”บู้ลิ้มนั่งอยู่บนตักพี่ชายข้างบ้านหันมองหน้า

“สัญญานะ”บู้ลิ้มวางมือจากของเล่นถามพี่ชายข้างบ้าน

“สัญญาครับ”

หลังจากทำสัญญาเกี่ยวก้อยพี่เลี้ยงจูงมือเด็กๆเดินขึ้นบ้านไป เทนนิสมองเห็นหญิงสูงวัยกำลังถือถาดอาหารว่างออกมาจากครัว

“ให้ผมช่วยไหมครับ”

“ขอบคุณจ๊ะ ยังไงป้ารบกวนช่วยเอาของว่างไปให้พี่เขาหน่อย”ทิพวรรณชี้ออกไปด้านนอกที่มีศาลาขนาดกลางในสวนใต้ต้นไม้

“ครับ”

เทนนิสเดินเข้าไปในสวนด้านหลังบ้านที่มีต้นสูงหลายต้น สวนสีเขียวถูกดูแลอย่างดี เขาเดินตามทางเดินที่ปูด้วยตัวหนอนหิน

กรวด เขาเดินเข้าไปในศาลาเห็นชายหนุ่มกำลังนั่งจ้องจอโน๊ตบุ๊คอยู่

“พักก่อนไหมครับ”มือขาววางถาดอาหารว่างลงบนโต๊ะ

เสียงนุ่มดังขึ้นทำให้ธีรภัทรที่กำลังนั่งอ่านข้อความบนหน้าจอเงยหน้าขึ้นมองไม่นึกว่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่ยกของว่างมาให้“เอ่อ

อ้อ ขอบคุณครับ คุณจะกลับแล้วหรอ”มองเพื่อนบ้านที่ยืนมองออกไปรอบๆสวน

“ครับ พี่เลี้ยงพาเด็กๆไปนอนกลาวันแล้ว”

“เหมือนเด็กๆจะชอบคุณมาก”

“ใช่ เพราะผมหน้าตาดี”ชายหนุ่มตอบแล้วมองหน้าอีกคนที่ทำเหมือนจะยิ้มออกมา

“คุณยิ้มแล้ว”

“หึ”

“ผมเห็นคุณดูเครียดๆเลยพูดให้คุยสบายใจขึ้น”

“คุณคงลำบากมาก”

“แต่ไม่ลำบากเท่าคุณ เพราะอย่างน้อยผมก็มีวันหยุดตั้งสองวันทุกๆสัปดาห์ส่วนคุณต้องมานั่งทำงานในวันหยุด”เทนนิสมองหน้า

อีกกฝ่าย เหมือนจะเถียงหรือที่เขาพูดไม่จริง เขาไม่รู้ความหมายของคำว่าลำบากอีกฝ่ายแต่สำหรับเขาไม่มีคำคำนั่นในสมอง

“ฮึ ฮึ อาจจะจริงดูเหมือนว่าผมจะลำบากกว่าคุณ”คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขาต้องหัวเราะออกมา เด็กคนนี้มองโลกต่างจากเขา

เป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ



************************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป



ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
เราว่า ปาลภัทรคู่วีร์
ส่วนเทนนิสนี่รอลุ้นระหว่าง ธีรภัทรกับเป็นเอกว่าใครจะเข้าวินเป็นพระเอก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก
ตอนที่ 6
[/size]

หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดกลางชื่อดัง บริเวณประตูทางเข้าที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา พนักงานประจำร้าน chicken caféสองคน

กำลังยืนแจกใบปลิวแนะนำเมนูอาหารใหม่

“เบอร์เกอร์ปลาแซวม่อนกับซอสเปรี้ยว”เทนนิสพลิกอ่านกระดาษใบปลิวสำหรับโฆษณา รูปภาพแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นโตถูกตกแต่ง

จนสวยและน่ากิน

“น่าอร่อยดี ราคาเปิดตัวแค่ 59 บาท”วีร์ที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามเดินมาหยุดข้างๆเพื่อน เมนูใหม่โฆษณาออกทางโทรทัศน์มาได้หลาย

วันแล้ว พวกเขาเลยทำหน้าที่นำใบปลิวมาแจก ยืนทำงานมาเกือบชั่วโมงมองเข้าไปในร้านลูกค้าเยอะเป็นปกติเหมือนทุกวัน เมนู

ใหม่น่าจะเรียกลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ ใบปลิวในมือหมดแล้ว จากนั้นพวกเขากลับเข้าร้านแยกย้ายทำงานของตัวเอง

“พี่เทนนิส สวัสดีค่ะ”เสียงหญิงสาวดังมาก่อนตัว

ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวที่เดินตรงเข้ามาหาเขาด้วยรอยยิ้ม“สวัสดี เป็นไงบ้างไปเข้าอบรมหลายวันได้อะไรมาเยอะเลยสิ”เทนนิส

หยิบถ้วยกาแฟออกจากเครื่องล้างอัตโนมัติจัดถ้วยกาแฟสีขาวไว้บนชั้นตามขนาดของมัน

“สนุกดีค่ะ ได้กินกาแฟฟรีจนตอนกลางเกือบนอนไม่หลับและได้เจอเพื่อนต่างสาขาด้วย”ปลาเล่าเรื่องที่ได้มีโอกาสเข้าไปฝึก

อบรมที่ออฟฟิตหลัก เธอรู้สึกสนุกกับมัน

“ใครเป็นคนสอนชงกาแฟ”

“พี่แชมป์ค่ะ แกสอนเก่งมากเลย”ทั้งๆที่ปกติเธอเห็นแต่พี่แชมป์ถือเอกสารเดินไปเดินมาและนานทีจะเห็นเข้าร้าน ไม่นึกว่าจะชง

กาแฟเก่งขนาดนี้

“อืม ได้อาจารย์ดีถ้าอย่างนั้น  วันนี้ก็พร้อมแสดงฝีมือได้แล้วซิ”

“ปลาคิดว่าน่าจะทำได้”เธอรู้สึกกังวลอยู่บ้างถ้าต้องทำจริงๆ

“วันนี้เอาเอกสารที่ไปอบรมมาไหม”

“ค่ะ นั่นปลาวางไว้บนเคราเตอร์ด้านหลัง”เธอชี้ไปมุมด้านหลังบริเวณหลบมุมกล้องวงจรปิด

“เอกสารเหมือนตอนที่พี่เข้าอบรมเลย ผ่านมาหลายปีแล้วยังใช้แบบเดิมอยู่อีก”เขาเปิดเอกสารข้างในอธิบายวิธีชงกาแฟหลาย

แบบ”แล้วจำสูตรกาแฟในนี้ได้ไหมดแล้วรึยัง”

“ยังไม่แม่น แต่ที่แน่ใจที่สุดคงเป็น Espresso และ Americano”

“ใช่กาแฟดำและกาแฟดำผสมน้ำร้อน ตอบอย่างนี้คนสอนคงช้ำใจตาย อย่าลืมนะพี่แชมป์ประจำสาขานี้”

“พี่เทนนิสอย่าขู่หนูสิ พี่แชมป์ยิ่งหน้ากลัวอยู่ด้วย”

“พี่ไม่ได้ขู่ แต่เดี๋ยวพี่เขาจะเรียกทดสอบหลังการอบรม ประมาณเทนเนอร์ติดตามผลนะ”มันเป็นการรักษามาตรฐานของพนักงาน

รวมไปถึงพนักงานที่ทำงานมานานอย่างเขาก็ต้องถูกทดสอบเหมือนกัน เขายิ้มให้รุ่นน้องเพื่อไม่ให้เธอต้องเป็นกังวลแล้วกลับไป

ทำงานตัวเองต่อ เทนนิสเช็คจำนวนนมสดในตู้เย็นก่อนเดินไปที่ห้องเย็นเอานมสดออกมาเพิ่ม นำแก้วสำหรับใส่เครื่องดื่มร้อน

เครื่องดื่มเย็นฝาปิด น้ำตาล ช้อนคน ออกมากห้องเก็บของด้านหลังร้านออกมาเติม จากนั้นเขาล้างถ้วยกาแฟที่แช่อยู่ในอ่างล่าง

จานแล้วคว่ำถ้วยที่ล้างเสร็จใส่ในเครื่องล้างจานอัตโนมัติปล่อยให้เครื่องทำงานเอง ปลาและพนักงานคนอื่นอยู่ประจำหน้าเคา

เตอร์ เขามองรุ่นน้องทำหน้าที่ชงกาแฟอย่างตั้งใจถึงบางครั้งจะช้าไปบ้างแต่ก็ได้พนักงานคนอื่นคอยช่วยให้คำแนะนำ ทำงานอยู่

หลายชั่วโมงในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน เขากลับเข้าไปหลังร้านเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพักพนักงาน

“เทนนิส ถามหาพี่มีอะไรรึเปล่า”เท็นผู้จัดการร้านเดินเข้ามาชายหนุ่ม

“เรื่องที่ผมเคยบอกก่อนหน้าว่าจะเลิกทำงานที่นี่”

“ทั้งเทนนิสและวีย์ใช่ไหม”เท็นถามชายหนุ่มทั้งสองที่กำลังยืนเปลี่ยนเสื้อในห้องพักของพนักงาน

“ครับ”

“ได้ไม่มีปัญหา แต่พี่ขอเวลาสักพักนะถ้าออกตอนนี้พี่หาคนมาแทนไม่ได้ ยิ่งร้านกาแฟมันเป็นอะไรที่ยุ่งยากอย่างที่รู้”

“ได้ครับผมกับวีร์ไม่มีปัญหา”

“ขอบคุณจ้า กลับบ้านดีๆล่ะเด็กๆ”พูดเสร็จแล้วเธอเดินกลับออกไป

“โอ๊ย ปวดขาชะมัดยืนมาทั้งวัน”วีร์บ่นแล้วนั่งลงบนเก้าอี้หยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่นเบาๆออกมาดูทำให้รู้ว่าคนที่โทรศัพท์มาบอกว่า

จะมารับหลังเลิกงานมาถึงแล้ว เขาปล่อยให้โทรศัพท์สั่นอยู่สักครู่แล้วส่งข้อความตอบกลับให้อีกฝ่ายรอก่อน

”วันนี้ร้านใหญ่คนลาเยอะเลย ฉันวิ่งวุ่นเลยตอนบ่าย แล้วผู้จัดการคนใหม่เหมือนจะมีปัญหากับฉันด้วย”วีร์ตัดสินใจพูดเรื่องที่เกิดขึ้น

“หืม ยังไง”เทนนิสรู้สึกแปลกใจที่มีคนมีปัญหากับเพื่อนของเขา

“ไอ้นั่นมันตะโกนว่าฉันไม่ยอมกดลบเมนูที่ complete แล้วฉันอยู่หน้าเคาเตอร์ต้องรับลูกค้าคิดเงินแล้วต้องจัดอาหารอีก”เขา

พยายามพูดช้าๆเพื่อระงับอารมณ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ พูดแล้วก็รู้สึกโมโหเรื่องเล็กแค่นี้ต้องตะโกนว่าเขาเสียงดังด้วยมันไม่ใช่เรื่อง
เลย

“แล้วนายไม่ตะโกนกลับไปบ้างว่าแทนที่เอาเวลาตะโกนว่านาย ทำไมไม่ลบมันออก”

“ฉันทำไปแล้ว รู้ไหมมันว่ายังไงต่อ”เขาถามอีกฝ่าย เทนนิสส่ายหน้าไม่อยากเดาเป็นคำตอบ “มันว่าฉันเป็นแค่พนักงานมันเป็นผู้

จัดการร้าน”เทนนิสมองหน้าเพื่อนเงียบๆอย่างเข้าใจความรู้สึก คงหมายถึงพวกเขาเป็นพนักงาน Past-time ไม่ใช่พนักงานประจำ

หรือมีความรู้แค่มัธยมปลายคงเทียบไม่ได้กับคนที่จบปริญญาตรีและเป็นผู้จัดการร้าน ก็ไม่ใช่ลูกจ้างอย่างพวกเขารึไงที่ทำงานให้

วันหยุดไม่มีคนก็ต้องมาช่วย ถ้ามีคนพูดกับเขาอย่างนี้เป็นเขาคงเดินหนีหรือทำอะไรมากกว่านั้น เพื่อนของเขาระงับอารมณ์ได้ดี

มาก ไม่รู้ว่าเรื่องเกิดตอนไหน เพราะร้านใหญ่จะตะโกนหรือเสียงดังเป็นปกติ เขามองแววตาเพื่อนยังหลงเหลือร่องรอยความไม่

พอใจปรากฏอยู่ มิน่าตอนที่พี่เท็นเข้ามาวีร์ถึงไม่มองหรือไม่สนใจเลย

“ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้วันหยุดแล้วพักให้หายเหนื่อยแล้วค่อยมาลุยกันต่อ”เขาพูดให้เพื่อนลืมทำงานเหนื่อยมาหลายชั่วโมงได้พัก

ผ่อนบ้างมันอาจจะดีขึ้น

“อืม ต่อไปพวกเราลดเวลางานดีไหม ฉันไม่อยากเจอหน้ามันบ่อย”ฟังจากน้ำเสียงอีกฝ่ายทำให้เทนนิสรู้ได้ว่าเพื่อนเขาไม่พอใจผู้

จัดการคนใหม่มากๆ

“ได้ตามนั้น ไม่มีปัญหาใกล้สอบแล้วด้วย รายงานก็เยอะเดี๋ยวก็จะสอบย่อยอีก”เทนนิสยอมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อน ไหนๆก็

ต้องออกอยู่แล้วลดเวลาทำงานที่แน่นให้เหลือน้อยลงบ้างก็ดี เพราะถ้าไม่มีคนทำงานอยากรู้ว่าผู้จัดการจะทำอย่างไร แต่ยังไง

เขาก็อยากให้ทุกอย่างจบด้วยดีทั้งสองฝ่าย

“ขอบใจนะ อาจจะงี่เง่าไปหน่อยแต่ฉันรู้สึกแย่กับมันจริงๆ”

“ไม่เป็นไร สบายใจขึ้นแล้วใช่ไหมกลับเถอะ พี่ปาลรอนานแล้ว”

วีร์มองหน้าจอที่มีคนโทรเข้ามา พี่ปาลคงรอนานแล้ว“นายก็กลับดีๆล่ะ”เขาเก็บของลงกระเป๋าแล้วรีบเดินออกจากร้าน เทนนิส

มองเพื่อนที่เดินออกไปแล้ว เอาละดึกแล้วเขาก็คงต้องกลับแล้วเหมือนกัน พรุ่งนี้วันหยุดเขาจะนอนตื่นสายๆแค่คิดก็มีความสุขจะ
แย่แล้ว



   ในบ้านหลังใหญ่หญิงสูงวัยและแม่บ้านกำลังช่วยกันจัดโต๊ะอาหารสำหรับมื้อเช้า อาหารถูกนำมาเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย

สมาชิกทุกคนในบ้านทยอยมานั่งรวมที่โต๊ะ

“ปืนตื่นเช้าเลยวันนี้มีธุระหรอลูก”ปรีญาวรรณถามลูกชายที่เดินลงมาจากชั้นบนมานั่งลงบนเก้าอี้ เธอมองลูกชายคนโตที่แต่งตัว

เหมือนกำลังจะออกไปข้างนอก

“ครับ ผมว่าจะออกไปทำธุระสักหน่อย”ชายหนุ่มตอบแล้วลงมือกินข้าว

“พักผ่อนบ้างนะลูก ตั้งแต่กลับมาแม่เห็นปืนทำงานตลอดเลย”เธอพูดกับลูกชายอย่างเป็นห่วงเพราะตั้งแต่กลับมาจากต่าง

ประเทศก็ถูกบังคับให้เข้าไปเรียนรู้งานในบริษัท

“ลูกมันต้องเรียนรู้งานคุณก็รู้เรากำลังมีปัญหา แล้วเปรียวยังไม่ตื่นอีกหรอ”อติพจน์ถามถึงลูกสาวอีกคนที่ควรจะมานั่งกินข้าวด้วย
กัน

“เมื่อคืนแจ่มบอกว่ากลับดึกค่ะ”เธอช่วยแก้ตัวให้ลูกสาว

“กลับดึกหรือกลับเช้า ผมได้ยินเสียงตอนตี 3 นี่เอง”เขาพูดอย่างรู้นิสัยลูกสาวคนนี้ดี ไม่รู้ว่าที่นิสัยเป็นแบบนี้เพราะส่งไปอยู่เมือง

นอกตั้งแต่เด็กๆหรือเป็นเพราะคนเลี้ยง

“ลูกต้องมีเพื่อนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวบ้าง”เธอก็รู้สึกเป็นห่วงลูกสาวเหมือนกัน ตั้งแต่กลับมาก็เที่ยวกลางคืนตลอด

กลับมาบางวันก็สว่าง

“เอาเถอะ คุณก็ช่วยช่วยดูแล้วกัน เพราะช่วงนี้ผมยังยุ่งเรื่องบริษัท”

“ผมอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะครับ”ชายหนุ่มรวบช้อนส้อมไว้ ถึงกับข้าวตรงหน้าจะอร่อยแค่ไหนแต่บรรยากาศมันไม่เหมือนบ้านก็

ทำให้ความยากอาหารลดลง พ่อที่ไม่สนใจลูกนอกจากตัวเองบังคับเขาในทุกๆเรื่อง แม่ที่ฟังแต่พ่อเถียงอะไรไม่ได้ น้องสาวที่ถูก

ส่งไปอยู่เมืองนอกตั้งแต่เด็กไม่สนใจเรียนเอาแต่เที่ยว เขาน่าจะชินได้แล้วครอบครัวที่เหมือนจะมีครบทุกอย่างที่จริงไม่มีอะไร
เลยซักอย่าง

“ทำไมกินน้อยจังเลยหรือกับข้าวไม่อร่อย”ปรีญาวรรณถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นลูกชายกินเข้าไปไม่กี่คำ

“ไม่ครับกับข้าวฝีมือแม่อร่อยที่สุดเลยแต่ผมมีนัดเลยต้องรีบไป”ชายหนุ่มพยายามพูดให้มารดาไม่เป็นกังวล

“ไม่รู้ว่าจะรีบไปไหน”

“จะไปไหนได้ถ้าไม่ไปหาไอ้เด็กนั่น”อติพจน์พูดขึ้นมาอย่างรู้ดี

“คุณคะ นั่นหลานชายคุณนะคะ”

“ฉันไม่เคยคิดว่ามันเป็นหลาน”เขาเกลียดมันเหมือนที่เขาเกลียดพ่อของมัน ที่จริงมันน่าจะตายไปกับพ่อกับแม่มันในอุบัติเหตุ

รถยนต์นั่น ไม่น่าให้มันมานั่งถือหุ้นในบริษัทอย่างสบายใจได้เหมือนทุกวันนี้

   ปืนขับรถออกมาจากบ้านตรงไปหาคนที่เขาส่งข้อความไปหาเมื่อคืนว่าจะไปหา เขาเข้าไปเรียนรู้งานในบริษัทตลอดหลาย

สัปดาห์เขารู้สึกเหนื่อยเบื่อหน่ายที่ต้องไปเจอสายตาของคณะผู้บริหาร พนักงานที่ดูถูกว่าเขาใช้ชื่อของพ่อเข้าไปทำงาน ระบบ

การทำงานในบริษัทค่อนข้างจะมีปัญหา คนในองค์กรขาดความสามัคคี คงเป็นเพราะผู้นำพ่อของเขามีความน่าเชื่อถือไม่มากพอ

ปัญหามันคงเกินจะแก้ไขพ่อจึงต้องเตรียมรับมือ

ขับรถออกมาได้สักพักก็ถึงหน้าบ้านคนที่เขานัดไว้ ไม่รู้ว่าจะตื่นรึยังเพราะตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมง เขาจอดรถไว้หน้าบ้านแล้วใช้

กุญแจสำรองที่ได้มาเปิดเข้าไปในบ้านที่ยังเงียบอยู่เท่านี้ก็เดาได้ไม่ยากว่าเจ้าของยังหลับอยู่ชั้นบน เขาเดินขึ้นไปชั้นบนบ้านที่

เขาเคยอยู่ก่อนที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศ บ้านที่ให้ความรักและความอบอุ่นในขณะที่เขาไม่เคยได้รับจากครอบครัวของเขา

ผ่านห้องนอนของคุณอาทั้งสองที่ปิดประตูไว้สนิท ห้องนอนเก่าของเขาที่แอบหนีความวุ่นวายกลับมาที่นี่บ่อยๆ จนมาหยุดเท้าที่

หน้าห้องนอนน้องชาย มือหนาหมุนลูกบิดแล้วผลักประตูเข้าไปข้างใน

ในห้องอากาศเย็นสบายเพราะเครื่องปรับอากาศยังทำงานอยู่ ชายหนุ่มเดินสำรวจห้องกว้างที่มีโต๊ะทำงานมีชั้นวางหนังสือสอง

สามหลังตั้งไว้รอบๆกั้นไว้เหมือนเป็นห้องทำงานเล็กๆ เขาเดินไปหยุดที่เตียงเดี่ยวที่ว่างอยู่นั่งลงมองคนนอนหลับสบายอยู่อีก

เตียง บ้านหลังนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายไม่ต้องคอยคิดหรือกังวลเรื่องต่างๆ ชายหนุ่มนั่งคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยจนคนที่นอน

บนเตียงขยับตัวแล้วลืมตาตื่น

“อ้าว พี่ปืนมาแต่เช้าเลย มีอะไรรึเปล่า”เทนนิสมองเห็นว่าเป็นคนใครก็ขยับตัวนอนตะแคงมองหน้าพี่ชายที่หายไปหลายสัปดาห์

อยู่ๆก็โผล่มาแต่เช้า ไม่ใช่ซิเมื่อวานส่งข้อความบอกว่าจะเข้ามาหา ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรแต่ดูจากสีหน้าทำให้รู้ได้ว่าคงเป็นเรื่องที่

ทำให้คนตรงหน้ารู้สึกลำบากใจ

“ไม่เช้าแล้วสายแล้ว ตื่นเถอะไปหาอะไรกินกัน”ปืนบอกคนที่ยังไม่ยอมลุกจากเตียง นอนหัวฟูส่งยิ้มมาให้ ถ้าเขาเป็นผู้หญิงคน

หลงเสน่ห์น้องชายเขาไม่ยาก ฉลาด ขี้เล่นนิดๆ มองโลกในแง่ดี หน้าตาดี

“เป็นอะไร มีเรื่องไม่สบายใจอะไรอีก”เทนนิสถามคนที่ท่อสังขารมาปลุกเขาชวนไปกินข้าวแต่เช้า บ้านไม่มีข้าวให้กินรึไงเดือด

ร้อนคนจะหลับจะนอน

“ฮึ ทำเป็นรู้ดีไม่มีอะไรหรอก”

“ฮ้าว ไม่รู้รึไงว่าวันนี้มันวันหยุด“คนบนเตียงลุกขึ้นนั่งมองอีกคนที่ทำหน้าไม่ทุกข์ที่มารบกวนคนอื่นแต่เช้า”เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็

ดึกแล้ว”เทนนิสลุกจากเตียงไปหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำปากก็บ่นไปด้วย ปืนนั่งยิ้มกับท่าทางของน้องชายถึงปากจะบ่นแต่ก็
ยังรีบตื่น

เขาลุกเดินไปที่โต๊ะทำงานหยิบกรอบรูปอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ในนั้นมีคุณอาทั้งสองน้องชายและเขาทุกคนกำลังยิ้มให้กล้อง วันเวลา

ของความสุขมันมักผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่เราไม่เคยคาดคิด เขาจ้องมองภาพในความทรงนั้นอยู่สักพักจนได้ยินเสียงเรียกเขา

วางรูปลงที่เดิมแล้วออกไปจากห้อง

   วันหยุดเทนนิสอยากอยู่บ้านแทนที่จะต้องนั่งเผชิญกับรถติด ควันพิษ และฝูงคนออกมาเดินห้างสรรพสินช่วงวันหยุด ห้าง

สรรพสินค้ามักจะมีโปรโมชั่นเรียกให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยช่วงวันหยุดมันเป็นการสนับสนุนให้คนไทยใช้เงินมากกว่าการ

อดออมนั่นเป็นเหตุผลที่คนไทยยังยากจนและมีหนี้สินภาคครัวเรือนเป็นอันดับแรก

เข้ามาในห้างสรรพสินกลางมหานครนานครั้งจะได้มีโอกาสมาสักครั้งคนยังเยอะเหมือนเดิม เทนนิสกวดสายตาไปรอบๆลานโปร

โมชั่นของห้างสินค้าลดราคา ป้ายสีแดงเขียนว่า SALE 50- 70% ตัวขนาดใหญ่พร้อมเชิญชวนให้คนเดินเข้าไปชมสินค้า ทำให้

หลายคนอดใจไม่ไหวเดินเข้าไปข้างใน

“อยากกินอะไร”เสียงของคนที่ยืนอยู่ข้างๆทำให้เทนนิสรู้ถึงจุดประสงค์ของการมาอยู่ที่นี่

“ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู สุกี้ทะเล ก๋วยเตี๋ยวไก่ แล้วก็”เทนนิสกำลังจะพูดชื่อกับข้าวต่อก็ถูกพี่ชายหยุดไว้

“พอก่อน นี่ไปอดยากมาจากไหน มิน่าทำไมถึงผอมอย่างนี้”ปืนยิ้มให้ท่าทางขี้เล่นของน้องชาย

“พูดเล่นไปกินหม้อร้อนบุพเฟ่ดีกว่า มีอะไรให้เลือกกินเยอะเลย”

“ได้ไม่มีปัญหา ตามใจเจ้ามือเลย”ชายหนุ่มพูดแล้วมองหน้าคนอายุน้อยกว่าทำสีหน้าไม่ค่อยพอใจ

เทนนิสกอดอกหรี่ตามองพี่ชายที่สูงกว่าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่“ถ้าตามใจเจ้ามือก็คงต้องกลับบ้านไปต้มบะหมี่กินคนละซอง

อ้อมีไข่ไก่ให้ด้วยสนใจปะ”เอาสิพี่ชายคุณจะหาอะไรกินที่นี่หรือจะกลับไปกินบะหมี่เลือกเอา

“ล้อเล่นน่า พี่พามาก็ต้องเลี้ยงสิ”

“พูดอย่างนี้ ให้สมกับที่แหกขี้ตาตื่น ฝ่ารถติดมาด้วยหน่อย”เทนนิสยิ้มอย่างผู้ชนะ คอยดูเถอะรบกวนเวลานอนในวันหยุดของเขา

เรื่องไม่จบแค่ที่ร้านอาหารบุพเฟ่นี่แน่นอน เขาเดินนำเจ้ามือเข้าไปในร้านอาหารที่ยังว่างอยู่หลายที่เพราะห้างสรรพสินค้าเพิ่งเปิด

ได้ไม่ถึงชั่วโมง ทั้งสองเลือกที่นั่งได้แล้วต่างแยกย้ายไปตักอาหาร เทนนิสเดินรอบเคาเตอร์อาหารที่มีของสดอยู่เต็มจนเลือกไม่

ถูก เขาเลือกหยิบอาหารใส่ถาดจนพอใจกลับมานั่งที่โต๊ะมีหม้อที่เต็มไปด้วยน้ำซุปตั้งอยู่บนเตาไฟฟ้าที่ถูกพนักงานเปิดไว้ให้แล้ว
เรียบร้อย

หนึ่งชั่วโมงสี่สิบห้านาทีเป็นเวลาที่ทางร้านกำหนดเขาต้องกินให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนด น้ำซุปในหม้อเริ่มเดือดเทนนิสใส่

เบคอนที่สไลด์เป็นชิ้นบางๆ เนื้อหมูเนื้อไก่หมักด้วยเครื่องปรุงพิเศษทางร้าน เนื้อปลาที่ถูกแล่ออกมาเป็นชิ้นๆวางอยู่บนถาดคอน

โดที่เรียงเป็นชั้นไว้ ตามด้วยปลาหมึก กุ้ง ข้าวโพดอ่อน ผักบุ้ง ผักกาดขาววุ่นเส้นและไข่ไก่ รอไม่นานผักและเนื้อสัตว์ในหม้อก็สุก

“จะบอกได้ยังว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ”เทนนิสลดปุ่มที่เตาให้ไฟเบาลงแล้วเริ่มตักเนื้อสัตว์ผักออกมาใส่จานไว้ เขาตักพริก

กระเทียมสับและบีบมะนาวลงในถ้วยน้ำจิ้ม จากนั้นคนทุกอย่างให้เข้ากัน

“ทำไมถึงคิดว่าพี่มีเรื่องไม่สบายใจ”

”เมื่อเช้าออกจากบ้านมาส่องกระจกบ้างรึเปล่า อืม เบค่อนกับหมูหมักอร่อย”

ปืนเลิกคิ้วขึ้นกับคำถามของน้องชาย“ทำไมมันดูแย่ขนาดนั้นนั้นเลยหรอ”

“ไม่หรอกแค่คิ้วแทบผูกโบว์ หน้าตาเหมือนคนอดนอน แล้วก็”

“พอเถอะ เรานี่ไม่น่าโตเลยตอนเด็กๆออกจะน่ารัก เดินตามพี่ตลอด”

“โตแล้วไม่น่ารักแต่ก็หล่อนะ แล้วก็ยังเป็นห่วงพี่ชายเหมือนเดิมเหมือนที่พี่เป็นห่วงผม”เขายิ้มให้พี่ชายที่บอกว่าหิวแต่นั่งกินผัก
จากหม้อไม่กี่ชิ้น

“ถ้าวันหนึ่งพี่ไม่สามารถรักษา Happy Mall ไว้ได้..”

“ช่างมันไม่เป็นไร ผมคิดว่าพี่ทำดีที่สุด ในขณะที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย”เขาตอบอย่างไม่ใส่ใจเพราะถ้าพี่ชายไม่ช่วยเขาแม้แต่ที่

ซุกหัวนอนก็จะไม่มี 

“พี่อยากจะทำ Mini Martหรืออะไรทำนองนั้น”ชายหนุ่มพูดความคิดของตัวเองออกมา เทนนิสหยุดกินแล้วมองหน้าพี่ชายรอฟัง

คำอธิบายเพิ่มเติม ถ้าลองพูดขึ้นมาพี่ชายเขาคงแน่ใจอะไรในหลายๆอย่าง

“ร้านสะดวกซื้อ ที่พ่อเคยคิดจะทำนะหรอ ผมว่าร้านกาแฟก็สนใจนะ”ถ้าจะเริ่มต้นทำอะไร ทำแบบเล็กๆเป็นความคิดที่ดี

“ใช่ พี่ลองศึกษาดูแล้วตั้งแต่ที่อยู่ที่โน่น และมีเงินก้อนหนึ่งได้จากเสี่ยงดวง”เขาไม่อยากเสียเวลาให้บริษัทนี้อีกแล้ว และรู้สึกดีที่

น้องชายเห็นด้วยกับความคิดของเขาแม้ทุกอย่างกำลังอยู่ในขั้นเริ่มต้นแต่ก็มีแนวโน้มจะเป็นไปได้ด้วยดี

“หมายความว่า Happy Mall คงต้องเปลี่ยนเจ้าของใช่ไหม”ไม่รู้สึกแปลกใจเลย เพราะคนที่บริหารเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวคนนั้น

และมักคิดว่าตัวเองรู้เก่งไปซะทุกอย่างแต่ที่จริงไม่ใช่       

“ตอนนี้มีผู้ถือหุ้นหลายคนกำลังจะปล่อยถ้ามันตกไปกว่านี้ แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของพวกเขา”

“พี่อยากได้คนร่วมหุ้นบริษัทใหม่ละสิ แต่ตอนนี้ผมมีแค่ 10 บาทที่เหลือติดไว้ก่อน”เทนนิสพูดติดตลกให้พี่ชายหายกังวล

“ได้”

“ถ้ามีอะไรที่ผมพอจะช่วยได้ก็บอก แต่กองทัพเดินด้วยท้อง ของในหม้อยังเหลืออยู่เยอะผมกินคนเดียวไม่หมด หรือจะเอาของ

หวานไหมกินแล้วจะได้หายเครียด”การได้พูดอะไรออกมาบ้างทำให้ชายหนุ่มสบายใจขึ้น ปืนคิดถูกที่ออกมาหาอะไรกินข้างนอก

กับน้องชาย ทั้งสองกลับมาสนใจอาหารในหม้อต่อเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเป็นเรื่องทั่วไป สีหน้าเคร่งเครียดเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม

และอารมณ์ที่ผ่อนคลาย หลังจากกินจนอิ่มแล้วทั้งสองเดินย่อยดูเสื้อผ้า

“พี่เทนนิส”เสียงหญิงสาวดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มทั้งสองหันมาสนใจเธอ หญิงสาวในกางเกงยีนสามส่วนเสื้อยืดสีขาวพิมพ์ลายกับ

รองเท้าผ้าใบสะพายกระเป๋าเป้เดินเข้าไปหาชายหนุ่ม

“ธาร มาเที่ยวหรอ”

“ค่ะ พอดีมาดูหนังกับเพื่อนๆเพิ่งแยกกันเมื่อกี้ พี่เทนนิสมาเที่ยวหรอคะ สวัสดีค่ะพี่ปืน”เธอทักทายพี่ชายของพี่รหัส

“สวัสดีครับ”ปืนทักทายน้องรหัสคนสวยของน้องชาย

“ยังไงธารขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีนัดต่อ”เธอขอตัวแล้วเดินลงไปชั้นล่าง ปืนยังมองตามร่างหญิงสาวจนลับตาไปในฝูงคน

“ไม่ตามไปล่ะตอนนี้ยังทันนะ”เขายิ้มให้พี่ชายอย่ารู้ทัน

   หลังจากเดินย่อยได้สักพักพวกเขาตัดสินใจซื้อตั๋วเข้าไปดูหนังต่างประเทศที่กำลังเป็นที่นิยม ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เขาไม่

เข้าโรงหนัง หนังเข้าโรงฉายมาแล้วสองสัปดาห์รอบฉายถูกลดจำนวนลง คนในโรงหนังก็น้อยลง ฉากซุปเปอร์ฮีโร่กำลังต่อสู้กับ

เหล่าร้ายด้วยพลังเหนือธรรมชาติ ต่อสู้กันอยู่นานสุดท้ายซุปเปอร์ฮีโร่ก็ชนะ หนังจบลงพวกเขากลับออกมาจากโรงหนัง

“หนังแอ๊คชั่นจริงๆ สู้กันทั้งเรื่องเลย”

“บ่นเหมือนเงินตัวเองเลย”

“ผมชอบไม่ได้บ่น มันคุ้มกับค่าตั๋วมากเลย สนุกจนลืมกินป๊อปคอนนี่เลย”เทนนิสยื่นป๊อบคอนที่เหลืออยู่เต็มกล่องให้พี่ชาย “ยิ่ง

ฉากพระเอกกระโดดตีลังกาลงมาจากตึกสูงมายืนหน้าโจร อย่างมัน”ชายหนุ่มพูดถึงฉากในหนังที่ทำให้เขาตื่นเต้นจนต้องพูดให้

คนที่ดูด้วยกันฟังอีกครั้ง ปืนทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีรับกล่องป๊อปคอนมาไว้ในมือแล้วป้อนให้น้องชายที่บ่นบอกว่าหนังสนุกจนลืม

กิน คนถูกป้อนมองหน้าพี่ชายอย่างเคืองๆเขารู้ว่าถูกพี่ชายแกล้ง

“ก็เห็นบ่นบอกว่าไม่ได้กินพี่เลยป้อนไง”ปืนพูดยิ้มให้อีกฝ่ายแต่ก็ได้รับสายตาเคืองกลับมาแทน

เดินลงมาจากชั้นของโรงหนังเทนนิสชวนอีกฝ่ายไปเดินดูของใช้ เขาจำได้ว่าโฬมล้างหน้าใกล้จะหมดแล้ว ไหนๆวันนี้ก็ออกมา

ห้างใหญ่กลางเมืองน่าจะซื้อไว้ เข้าไปในร้านขายยาตรงเคาเตอร์เวชสำอาง เทนนิสกำลังยืนอ่านรายละเอียดสินค้าด้านหลังโฬ
มล้างหน้า

“พี่ปืน สวัสดีค่ะ”

“สวัสดีครับ น้องแพร”

“ดีใจจังเลยค่ะได้เจอพี่ปืน”แพรยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอดีใจที่ได้เจอคนตรงหน้าเพราะหลายสัปดาห์ไม่มีโอกาสได้เจอไปหาที่ทำงาน

อีกฝ่ายก็ทำแต่งานจนไม่มีเวลาว่างให้เธอ วันนี้เธอรู้สึกเบื่อๆจึงได้ออกมาเดินซื้อของเดินเลือกดูเสื้อได้สักพักเห็นอีกฝ่ายมาที่ร้าน

ขายยาเธอถึงได้รีบตามเข้ามา

“น้องแพรมาซื้อของหรอครับ”

“ค่ะ พี่ปืนมาซื้อของกับใครคะ”แพรมองชายหนุ่มหน้าตาดียืนอยู่ข้างๆคนที่เธอชอบอย่างไม่เป็นมิตร เธอเห็นทั้งสองเดินเข้ามาใน

ร้านขายยาด้วยกันและท่าทางที่สนิทสนมทำให้เธอไม่ค่อยชอบใจ

“น้องชายพี่เอง”ปืนบอกอีกฝ่ายสั้นๆ

หญิงสาวมองเทนนิสตั้งแต่หัวจรดเท้า“เท่าทีรู้พี่ปืนไม่มีน้องชายนี่คะ แล้ว..”ยังพูดไม่ทันจบประโยคคนที่ถูกพากพิงก็พูดขึ้น

“พี่ปืน น้องเลือกของเสร็จแล้วเราไปเดินดูของร้านอื่นกันดีกว่า”เทนนิสหยิบของที่ต้องการใส่ตระกร้าแล้วเดินมาควงแขนพี่ชาย

พูดจาออดอ้อนเสียงหวาน ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวที่มองเขาด้วยท่าทางเหมือนกำลังตกใจที่เห็นเขาควงแขนปืน คนที่ถูกน้อง

ชายเดินเข้ามาควงแขนแปลกใจอยู่บ้างกับท่าทีและคำพูดของอีกฝ่ายแต่ก็พอจะเดาสถานการณ์ออกและให้ความร่วมมืออย่าง
โดยดี

“เอ่อ ครับ”ปืนยิ้มเกือบหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทีของน้องชายแกล้งผู้หญิงตรงหน้า

“พี่ปืนนี่มันอะไร นี่..นี่.พี่อย่าบอกนะว่าพี่ชอบผู้ชายคนนี้”แพรมองชายหนุ่มสองคนสลับกันไปมา ไม่พอทั้งสองยังกุมมือกันต่อ

หน้าเธอเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา เธอโกรธมากและรู้สึกขยะแขยงการกระทำของคนทั้งคู่ แต่เธอไม่ยอมปล่อยผู้ชายที่ชอบไป

หรอก ไม่รู้ว่าพี่ปืนไปหิ้วไอ้เด็กนี่มาจากไหน แต่เธอมาก่อนยังไงก็ไม่ยอมให้ใครมาแย่งได้

ปืนยังไม่ตอบคำถามฝ่ายหญิงก็ถูกน้องชายลากมาที่แคชเชียร์ เทนนิสจ่ายเงินแล้วไม่ลืมหันมามองหญิงสาวที่กัดริมฝีปากแน่น

ระงับอารมณ์โกรธมองมาที่เขาเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ ใครบอกให้เธอแสดงท่าทีดูถูกเขาก่อนเขาก็แค่อยากแกล้งเล่นๆ

เท่านั้น ทั้งสองเดินออกจากร้านขายยา หญิงสาวเดินตามมาติดๆกระชากแขนเทนนิส

“แกไอ้วิปริต ไม่มีปัญหาหาแฟนแล้วรึไงถึงได้มาแย่งแฟนคนอื่น”แพรหมดความอดทนด่าอีกฝ่ายออกไป ทั้งสองคนยืนเผชิญกับ

เธอก้าวเข้าไปพยายามจะตบอีกฝ่าย แต่มีคนมายืนขวางเธอไว้

ปืนดึงน้องชายให้มายืนด้านหลัง ไม่อยากทั้งสองมีเรื่องกัน“พี่ว่าแพรเข้าใจอะไรผิดไปแล้วละ พี่กับแพรเราไม่ได้เป็นอะไรกัน”เขา

พูดให้อีกฝ่ายเข้าใจ

“แต่เรากำลังจะมั่นกันนะคะ”แพรตัดสินใจพูดออกมาให้อีกคนตาสว่างเลิกยุ่งกับแฟนของเธอสักที พร้อมกับเตือนความจำของปืน

คำพูดของเธอทำให้เทนนิสแปลกใจอยู่บ้าง แต่คิดว่ามันคงไม่ใช่เรื่องสำคัญพี่ชายเลยไม่คิดที่เล่าให้เขาฟัง

“นั่นเป็นข้อตกลงของใหญ่ พี่ยังไม่ได้รับปาก”พูดจบปืนรีบดึงน้องชายออกมาก่อนที่มีอะไรมากกว่านี้ ปล่อยที่หญิงสาวยืนกระทบ

ส้นสูงกำมัดแน่นไม่พอใจอยู่คนเดียว

   ในห้องผู้โดยสารมีเพียงเสียงเพลงช้าจังหวะเบาๆ

“พี่ขอโทษ ที่น้องแพรพูดกับเราไม่ดี”ปืนตัดสินใจพูดออกมาเมื่อมองซีกหน้าน้องชายที่กำลังแสดงออกว่าไม่พอใจที่อยู่เฉยๆมีคน

มาหาเรื่อง

“ยายป้านั่นเป็นใคร”เทนนิสตัดสินใจถามพี่ชาย

“พ่อจะให้พี่มั่นกับเธอ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ ไม่ได้เกิดจากความรัก”เขาเคยบอกปัดพ่อไปแล้วหลายครั้งแต่พ่อไม่เคยฟัง นี่

มันคือความสุขชั่วชีวิตของเขานะเขาต้องเป็นคนเลือกเองสิ เขายอมพ่อมามากแล้ว

“ถูกบังคับอีกแล้วละสิ”

“อืม”ชายหนุ่มพยักเป็นการยืนยันว่าเขาไม่ได้ชอบน้องแพรเห็นว่าเป็นน้องสาวเท่านั้น

“แล้วจะทำยังไง ไม่ใช่ป่านนี้โทรไปฟ้องพ่อพี่แล้วมั้ง”เทนนิสพูดแล้วหยุดก่อนที่จะคิดอะไรได้”เออแต่ก็ดีนะ”ถ้าเธอโทรไปฟ้อง

ว่าพี่ชายเขาชอบผู้ชาย บนใบหน้าใสมีรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นมา จนคนที่กำลังขับรถอยู่อดทักขึ้นมาไม่ได้“คิดอะไรแผลงๆนะเรา”เขา

เดาความคิดน้องชายได้ว่ากำลังคิดทำอะไรแน่ๆ

“ทำไม ก็อยากมาทำท่าทางดูถูกแกล้งนิดหน่อยไม่เห็นเป็นไรเลย”

“หึหึ”ชายหนุ่มส่ายหัวกับน้องชาย

“เธอไม่เหมาะกับพี่ ผมว่าน้องธารน่าจะเหมาะกว่า”

ปืนเลิกคิ้วหนาขึ้นอย่างแปลกใจคำพูดของน้องชาย“พูดเหมือนจะเป็นพ่อสื่อให้อย่างนั้นแหล่ะ”

“ใช่ แต่พี่ต้องบอก่อนว่าชอบน้องธารรึเปล่า”เทนนิสหันหน้ามาพูดกับพี่ชายด้วยท่าทางดูจริงจัง



ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


         เอกสารประการเรียนรู้เย็บมุมด้านขวาด้วยลวดเย็บกระดาษวางอยู่บนโต๊ะเลคเชอ อาจารย์แจกเอกสารให้นักศึกษา ก่อน

สรุปเนื้อหาที่จะใช้สอบในสัปดาห์หน้า ตารางสอบของมหาวิทยาลัยประกาศออกมาเป็นทางการแล้ว นักศึกษาต่างตั้งใจฟัง

อาจารย์เพื่อให้รู้แนวข้อสอบให้มากที่สุด ปากกาเน้นข้อความถูกเน้นลงบนหัวข้อที่อาจารย์บอกว่าออกไปแล้วให้อ่านเพิ่มเติม ฟัง

อาจจะดูเหมือนง่ายที่จริงแล้วไม่ใช่ อาจารย์บอกแนวข้อสอบคงคิดว่าข้อสอบคงไม่ง่าย เกือบสองชั่วโมงที่อาจารย์ช่วยนั่ง

ทบทวนบทเรียนก่อนวัน จากนั้นสอบไม่กี่วันอาจารย์ปล่อยนักศึกษาพร้อมอวยพรให้โชคดีในการสอบและเที่ยวอย่างวันเทศกาลปี

ใหม่ที่ใกล้จะมาถึงอย่างสนุก นักศึกษาพนมมือรับคำอวยพรแล้วทยอยเดินออกจากห้องเรียน

ช่วงกลางสัปดาห์หลายวิชาได้ปิดคอร์สไปหมดแล้วที่เหลือเป็นตามส่งงานที่ยังค้างบ้างตามแก้งานบ้าง ส่วนคนที่เรียบร้อยแล้ว

ทุกอย่างต่างจับกลุ่มอ่านหนังสือสลับกับติวในวิชาที่ตัวเองถนัด ขอถ่ายเอกสารสมุดเลคเชอร์ของเพื่อนที่จดได้ละเอียดลายมือ

อ่านง่าย เอกสารประกอบการเรียนหลายวิชาวางอยู่บนโต๊ะยาวเทนนิสกำลังทำความเข้าใจกับเนื้อหาในแต่ละวิชาที่จะใช้สอบ นิ้ว

เรียวใช้ปากกาเน้นข้อความสลับใช้ปากกาสีแดงขีดเส้นใต้เพื่อให้เห็นข้อความสำคัญได้ชัดเจนมากขึ้น รายงานสอบย่อยเขาทำ

คะแนนได้ดีถ้าสอบสัปดาห์หน้าทำคะแนนได้ดีจะช่วยให้สอบปลายภาคสบายขึ้น

“เทนนิส เสาร์ อาทิตย์ไปอ่านหนังสือที่บ้านแกนะ”เหรียญสิบวางปากกาลงบิดขี้เกียจพูดกับเพื่อนที่

“บ้านนายไม่มีรึไง”

“ติวไง ที่เคยบอกจะช่วย”เหรียญสิบทวงคำพูดที่เพื่อนเคยบอกไว้ก่อนหน้านั้น

“ใช่ เทนนิสบอกว่าจะติวให้พวกเรา”เอื้อมเตือนความจำอีกคน

“อืม”เทนนิสตอบรับเพื่อนแล้วกลับไปสนใจเอกสารตรงหน้าต่อ

ช่วงก่อนสอบไม่กี่วันมหาวิทยาลัยค่อนข้างเงียบ กิจกรรมต่างๆถูกยกเลิกทางมหาวิทยาลัยให้ความสำคัญกับการสอบ และตาม

ห้องสมุดของคณะมีนักศึกษาเข้าไปนั่งอ่านหนังสือมากกว่าปกติ ใต้อาคารเรียนก็มีนักศึกษาจับกลุ่มอ่านหนังสือ เดือนสุดท้าย

ของปีอากาศก็เย็นสบายบวกกับต้นไม้ที่ปลูกไว้เต็มคณะทำให้มีลมเย็นพัดตลอดทั้งวัน หลังจากเทนนิสช่วยสรุปเนื้อหาจาก

เอกสารได้แล้วทุกคนต่างยกย้ายกันกลับ

   มาถึงวันหยุดตามที่ตกลงไว้เหรียญสิบ เอื้อมมาที่บ้านเทนนิสตอนสาย เทนนิสเดินออกเปิดประตูให้เพื่อน ส่วนวีร์นอนเพิ่ง

ตื่น เทนนิสมองเพื่อนที่หอบเสื้อผ้ามาค้างคืนเพราะวันจันทร์เป็นวันแรกของการสอบ พวกเขามีเวลาอ่านหนังสือแค่สองวันก่อน

สอบ เป็นเรื่องปกติถ้าไฟไม่ลนก้นก็ไม่อ่านหรอกหนังสือ ตอนเช้าทุกคนต่างคนต่างแยกกันอ่านหนังสือไปก่อน สงสัยหรือไม่เข้า

ให้ทำเครื่องหมายไว้

   หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จทุกคนมานั่งพร้อมกันในศาลาไม้เลื้อย เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศเป็นวิชาแรกที่เทนนิสช่วย

เพื่อนๆสรุปเนื้อหาย่อๆ จากนั้นทบทวนแบบฝึกหัด และดูงานที่อาจารย์ส่งคืน บ่ายแล้วอากาศเริ่มอุ่นขึ้นแต่ก็ยังเย็นสบาย อ่าน

หนังสือไม่ถึงสองชั่วโมงสมาธิของเหรียญสิบก็หมดลง เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คกดกดจิ้มจิ้มไปบนหน้าจอ

โฟกัสกล้องโทรศัพท์ไปที่เพื่อนที่กำลังตั้งใจอ่านหนังสือ ไม่ถูกสิตอนนี้เอื้อมกำลังเล่นเกมส์ วีร์กำลังอ่านหนังสือการ์ตูน มีแต่

เทนนิสที่กำลังนั่งเขียนอะไรไม่รู้ยุกยิกอยู่คนเดียว ถ้าเขาคิดไม่ผิดน่าจะแนวข้อสอบ อย่างนั้นต้องถ่ายรูปคนขยันคนอื่นจะได้รู้ว่า

พวกเขามาอ่านหนังสือกัน ได้รูปที่พอใจแล้วเขาโพสต์ลงไปในโซเชียลเอฟพร้อมข้อความบนภาพ สักครู่ก็คนเข้ามากดชอบ มีทั้ง

รุ่นน้องเพื่อนรุ่นพี่เพื่อนๆเขียนแสดงความคิดเห็น มีหลายข้อความที่ทำให้เขาสามารถยิ้มได้ พักสมองได้สักพักทุกคนก็กลับมา

สนใจอ่านหนังสือเรียนต่อ     

   
   วันสอบวันแรกมาถึงลานจอดรถเต็มแน่นไปด้วยรถตั้งแต่เช้า นักศึกษาส่วนใหญ่นั่งอยู่ในโรงอาหารกินข้าวไปด้วยติว

หนังสือครั้งสุดท้ายไปด้วย นักศึกษาบางกลุ่มยังคุยเรื่องไปเที่ยวหลังสอบเสร็จ บางคนมีสภาพเหมือนนอนไม่พอไม่ใช่เรื่องแปลก

เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มีสอบ เทนนิสและเพื่อนกำลังนั่งกินข้าวก่อนเข้าห้องสอบ ส่วนมือกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์ผ่อนคลายสมองไป

ด้วย เมื่อคืนเขาเข้านอนไม่ดึกเท่าไหร่เพราะจะได้รู้สึกสดชื่นไม่ต้องมาหลับในห้องสอบ และได้แต่หวังว่าอ่านหนังสือก่อนสอบ

สองวันที่ผ่านมาจะมีประโยชน์อะไรบ้าง เสียงออดดังขึ้นพร้อมเสียงตามสายประกาศให้นักศึกษาเตรียมเข้าห้องสอบได้ในอีกสิบ

นาที ให้นักศึกษาทุกคนเตรียมบัตรนักศึกษา แต่งกายให้เรียบร้อย เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการสอบ ปิดเครื่องมือสื่อสาร

“ไปกันเถอะใกล้ถึงเวลาแล้ว”เทนนิสเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วชวนทุกคนขึ้นห้องสอบ ทุกคนเก็บของลงกระเป๋าหยิบ

จานข้าวไปเก็บให้เรียบร้อย เทนนิสเดินไปซื้อน้ำแล้วตามหลังเพื่อนขึ้นห้อง ห้องสอบอื่นกำลังยืนเข้าแถวตรวจบัตรนักศึกษาก่อน

เข้าห้องสอบ ขึ้นมาถึงชั้น 3 ห้อง 2 อาจารย์กำลังเรียกทุกคนเข้าห้อง นักศึกษานั่งประจำที่บนโต๊ะเลคเชอร์ติดรายชื่อและเลข

ประจำตัวไว้พร้อมทั้งกระดาษคำถามคำตอบคว่ำไว้ เสียงตามประกาศให้นักศึกษาให้ลงมือทำข้อสอบได้ เทนนิสเปิดดูกระดาษ

คำถามแบบอัตนัย 80 ข้อ 5 ตัวเลือก และปรนัย 20 ข้อ อ่านคำสั่งแล้วลงมือทำให้ทันกับเวลากำหนด 1 ชั่วโมง 30 นาที

   เสียงออดดังขึ้นอีกครั้งต่อมาเป็นเสียงตามสายประกาศให้นักศึกษาที่ทำข้อสอบเสร็จแล้วออกจากห้องสอบได้ เวลาผ่าน

ไปแล้ว 45 นาที ทันทีที่ประกาศเสร็จนักศึกษาที่ทำข้อสอบเสร็จแล้วแต่ละห้องต่างคว่ำข้อสอบไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมแล้วเดิมออก

จากห้องสอบเงียบๆ เสียงพูดคุยหลังจากทำข้อสอบเสร็จดังอยู่หน้าห้อง ทั้งเสียงหัวเราะที่ทำได้เสียงบ่นที่ทำไม่ได้สักพักเสียงก็

เงียบลงทุกคนที่นั่งในห้องกลับมามีสมาธิข้อสอบตรงหน้าอีกครั้ง

   เทนนิสเขียนคำตอบสุดท้ายลงไปแล้วกวาดสายตาดูคำตอบโดยรวมข้อสุดท้ายอีกครั้ง แล้วเหลือมองนาฬิกาข้อมือที่บอก

ว่าอีก 30 นาทีจะหมดเวลายังพอมีเวลาให้เขาทวนคำตอบอีกครั้ง โดยรวมแล้วข้อสอบไม่ยากไม่ง่ายแต่หลังจากที่ตรวจออกมา

เขาได้คะแนนเท่าไหร่นั่นก็อีกเรื่อง เขาคว่ำกระดาษคำตอบไว้บนโต๊ะแล้วเดินออกมาหน้าห้องเห็นวีย์กำลังก้มหน้าเล่นเกมส์

โทรศัพท์ในมือ

“คนอื่นกลับแล้วหรอ”

“อ้าว เสร็จแล้วหรอ สองคนนั้นกลับแล้ววันนี้สอบแค่ตัวเดียว บอกว่าจะกลับไปนอน”วีร์หยุดเกมส์ไว้แล้วเงยหน้าพูดกับเพื่อนแล้ว

ยื่นกระเป๋าให้

“เพราะเราสอบนอกตารางไปหลายตัวเลยสบายหน่อย แล้วไปไหนอีกไหม”เทนนิสเก็บของลงกระเป๋า แล้วทั้งสองคนเดินลงไป
ข้างล่าง

“กลับดีกว่ามะรืนมีสอบยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย ทำข้อสอบได้ไหม”วีร์ถามคนที่ไม่มีแววกังวลใจหลังทำข้อสอบ เขาคิดว่าเพื่อน

ทำข้อสอบแน่นอน

“น่าจะได้”เทนนิสตอบเพื่อนอย่างไม่มั่นใจ

“ข้อสอบแค่สี่ตัวเลือกก็เยอะแล้ว นี่ ห้าตัวเลือก ยังดีที่ข้อสอบเขียนไม่ยากเท่าไหร่”วีร์อดบ่นขึ้นมาไม่ได้

“แล้วสองคนนั้นเป็นยังไงบ้าง”

“บ่น บ่นเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าจะทำได้อยู่นะ อ้อเห็นบอกว่าพรุ่งนี้จะมาอ่านหนังสือด้วย”

ตึง เสียงข้อความเข้าวีร์หยุดพูดหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาเปิดดู อ่านข้อความที่ถูกส่งมาแล้วยิ้ม จนทำให้เทนนิสแปลกใจอด

ถามขึ้นมาไม่ได้”มีอะไรรึเปล่า”

“พี่ปาลบอกว่าเย็นนี้จะมากินข้าวด้วย ได้ไหม”วีร์ถามความคิดเห็นเจ้าของบ้าน เพราะคนที่ทำกับข้าวยังไงก็เป็นเพื่อนถ้ารบกวน

มากเกินไปออกมากินแถวหน้าปากซอยก็ได้

เทนนิสพยักหน้าแล้วยิ้มเป็นคำตอบ สายตาสังเกตท่าทางที่เพื่อนกำลังพิมพ์ข้อความกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่รู้ว่า

คิดไปเองรึเปล่าที่ดูเหมือนสองคนนี้ดูแปลกๆ แต่แปลกยังไงเขายังไม่แน่ใจเท่าไหร่“พี่ปาลทำบริษัทเกี่ยวกับโฆษณาใช่ไหม”

“ใช่ ทำไม”

“พี่เขาให้นามบัตรไว้ พอดีว่าพี่ปืนชวนลงทุนทำอะไรเล็กๆน้อยๆ เลยถามเผื่อไว้ไปใช้บริการ คนกันเองน่าจะดีกว่า”

“จะทำอะไร แล้ว Happy Mall ล่ะ”วีร์ถามด้วยความแปลใจก็ไหนข่าวออกมาว่าพี่ปืนจะได้เป็นผู้บริหารไม่ใช่หรอ เปลี่ยนใจแล้ว
หรือว่ายังไง

“ทำอะไรยังไม่รู้พี่ปืนกำลังดูหลายอย่าง ส่วนอะไรมันจะเกิดมันต้องเกิด”เทนนิสพูดอย่างไม่ใส่ใจในสิ่งกำลังจะเกิดขึ้น “อีกอย่าง

ใกล้จะเรียนจบแล้วเลยมองอนาคตตัวเองไว้บ้างก็ไม่น่าเสียหาย”เขาพูดขึ้นมาแล้วเดินนำไปที่ลานจอดรถที่โล่งกว่าปกติ สอบ

เสร็จไปอีกวันหายห่วงไปอีกวิชายังเหลือที่ต้องสอบอีกสองวัน

   สอบวันที่สองวิชาสุดท้ายตอนบ่าย แดดยังร้อนเหมือนทุกวันแต่ก็ยังมีลมพัดเย็นๆเป็นระยะ เริ่มเวลาสอบได้สักพักแล้วแล้ว

แต่เพราะกินมากเกินไปทำให้เทนนิสรู้สึกง่วงขึ้นมา เขาพักสายตาจากหน้าหระดาษเอสี่ที่ตัวหนังสืออยู่เต็มมองออกไปนอก

หน้าต่างแทน ในห้องเงียบมากจนได้ยินเสียงคนตะโกนพูดกันแว่วมากจากโรงอาหาร เขาเอนหลังพิงพนักเพื่อให้นั่งสบายมากขึ้น

แล้วกลับมาทำข้อสอบ เมื่อเช้าเขาทำข้อสอบผ่านไปได้ด้วยดี คงเป็นเพราะใช้วันหยุดอ่านหนังสือ ข้อที่ 59.เขาอ่านโจทย์ที่มีอยู่

สองบรรทัดแล้วเลื่อนมาดูคำตอบให้เลือกห้าตัวเลือก คิดไม่นานตัดสินใจฝนคำตอบลงบนกระดาษ


“วันนี้สอบไปสองวิชาเหนื่อยกว่าเรียนปกติอีก”วีร์บ่นทันทีที่นั่งลงบนม้าหินอ่อนข้างตึกสอบ เขานั่งเท้าคางมองนักศึกษาคนอื่น

ทยอยลงมาจากห้องสอบ

“ข้อสอบเมื่อเช้ายังง่ายกว่า”เหรีญสิบทำหน้าเครียดใส่หน้าจอมือถือ กดเล่นเกมส์

“เฮ้ย นั่งทำอะไรกันอยู่”เสียงทักดังขึ้นทุกคนหันไปมอง

“พี่เป้สวัดีครับ /สวีสดีครับ”ทุกคนทักทายรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาทัก

“สวัสดี ทำไมเหรียญสิบทำหน้าเหมือนกำลังคนจะสอบตกอย่างนั้นวะ”เป้ทักรุ่นน้องที่นั่งหน้าเครียดกดจิ้มโทรศัพท์อยู่

“โฮ พี่เป้คนเพิ่งสอบเสร็จพูดเป็นลาง”

“อ้าว หรอโทษทีไม่ได้ตั้งใจ”

“แล้วนี่สอบเสร็จแล้วหรอพี่”เทนนิสถาม

“ใช่ ว่าจะมาชวนไปเที่ยวหลังสอบเสร็จ วันศุกร์นี้ห้ามปฏิเสธโดยเฉพาะน้องรหัสที่รัก”เป้พูดอย่างรู้ทันน้องรหัสว่าอีกฝ่ายต้องหา
เรื่องปฏิเสธ

“โห รู้ทัน”ก็คนไม่ชอบไปเที่ยวที่แบบนั้นทำไงได้

“ไปที่ไหนพี่”เหรีญสิบหันมาถามอย่างอารมณ์ดี นานแล้วไม่ได้ไปเที่ยว

“ที่ไหนกำลังดูอยู่ เดี๋ยวจะโทรมาบอก แค่นี้แหล่ะแล้วเจอกัน”พูดกับน้องเสร็จเป้ก็เดินกลับหาเพื่อนๆที่ยืนรออยู่




*************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
รอค่ะ ชอบเทนนิสจัง

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ตอนที่ 7

   คืนก่อนปีใหม่อุณหภูมิลดลงตามที่พยากรณ์อากาศประกาศเตือน อากาศจะหนาวเย็นอยู่เกือบสัปดาห์เป็นข่าวดีสำหรับ

ผู้คนในมหานครที่จะได้สัมผัสอากาศหนาว โดยไม่ต้องขับรถท่อไปไกลถึงภาคเหนือ เสื้อกันหนาวแฟชั่นก็ขายดีกว่าทุกปี ถนน

เส้นหลักในเมืองโล่งกว่าปกติเพราะคนเริ่มเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดตั้งแต่สองวันก่อน สองข้างทางถนนถูกตกแต่งไปด้วย

หลอดไฟหลากสี ถนนหลายสายถูกปิดเพราะมีการตั้งเวทีจัดกิจกรรมนับถอยหลังต้อนรับปีใหม่

ผู้คนต่างทยอยออกมาดูไฟที่ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามตามสถานที่ต่างๆที่ทางราชการและเอกชนร่วมมือกันจัด และประกาศให้

ประชาชนรู้ทางป้ายโฆษณาอินเตอร์เน็ตและวิทยุ พร้อมทั้งประกาศลดค่าโดยสารรถไฟลอยฟ้าและรถไฟใต้ดินในวันส่งท้ายปีเก่า

กับวันปีใหม่เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนที่อยู่ในเมืองหลวง เทนนิสสอบผ่านมาแล้วสองวันสอบวันสุดท้ายผ่านไปได้ด้วยดี เขา

นอนขึ้นราอยู่บ้านเพราะเหนื่อยจากการใช้สมองการสอบ วันนี้ต้องออกมาเที่ยวตามที่พี่รหัสได้ออกมาปากชวนเป็นรวบยอดฉลอง

สอบเสร็จและปีใหม่ ทำไมคืนก่อนใหม่อากาศหนาวอย่างนี้เขาต้องขับมอเตอร์ไซด์ฝ่าลมหนาวออกมาเที่ยวด้วย ทำไมไม่นอนดู

ทีวีซุกตัวใต้ผ้าห่มอุ่นๆแล้วกินบะหมี่ถ้วยรสต้มยำกุ้ง พูดไปแล้วก็อยากเลี้ยวรถกลับแต่ก็กลัวโดนพี่รหัสด่าและเพื่อนรุม

ประชาทัณฑ์ ว่าแต่ทำไมร้านที่จะไปเที่ยวไม่ปิดร้านให้พนักงานหยุดไปเที่ยวพูดแล้วคิดถึงตัวเองเมื่อก่อนก็ไม่เคยได้หยุดกับคน

อื่นเหมือนกันเพราะไม่รู้ว่าหยุดแล้วจะไปเที่ยวกับใครในเมื่อไม่มีใครอยู่บ้านสักคน

เมื่อปีที่แล้วเวลานี้เขาต้องทำงานอยู่ chicken café ยืนมองไฟกระพริบที่ต้นคริสต์มาสที่ถูกตั้งไว้อยู่หน้าห้างสรรพสินค้ามันถูก

ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม อากาศหนาวทำให้เขารู้สึกชาที่มือขึ้นมาจนต้องซุกมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกง ขี่รถมาสักพักก็ถึง

ร้านอาหารที่นัดกันไว้ เลี้ยวเข้าจอดที่สำหรับมอเตอร์ไซด์ แล้วหยิบมือถือโทรหาเพื่อนให้ออกมารับ

“อยู่ไหน มาถึงแล้ว ออกมารับหน่อย รอที่ลานจอดรถนะ”เทนนิสมองไปรอบๆลานจอดรถมีรถหลายคันจอดอยู่ สองทุ่มกว่าแต่

รู้สึกเหมือนดึกมากแล้ว หน้าร้านถูกตกแต่งด้วยไฟกระพริบเสียงดนตรีจังหวะสบายๆดังแว่วมาจากในร้าน ตึกแถวร้านค้าบริเวณ

รอบๆปิดเงียบ นานๆทีจะมีรถขับผ่านมาสักคัน ตอนนี้เวทีคอนเสิร์ตหน้าห้างดังจะเริ่มแล้วรึยังแล้วจะมีศิลปินคนไหนขึ้นแสดงบ้าง

อยากไปดูแต่ก็ไม่ค่อยชอบคนเยอะ ไม่รู้ว่าวันพี่ชายเขาออกไปเที่ยวฉลองที่ไหนโทรมาชวนเขาตั้งแต่เที่ยงถ้าไม่ติดว่ารับปากพี่

รหัสไว้ก็คงได้ไปด้วย กรุงเทพยังอากาศขนาดนี้บนภูเขาคงจะหนาวมาก รอไม่นานเหรียญสิบออกมารับ เขาเดินตามเพื่อนเข้าไป

ด้านในมีคนนั่งเกือบเต็มร้าน มองรอบๆในร้านอาหารกึ่งผับที่ตกแต่งไปด้วยสายรุ้งหลากสีกำลังกระทบกับแสงไฟ พนักงานสาว

สวยแต่งตัวเป็นซานตี้สุดเซ็กซี่ส่วนพนักงานชายแต่งตัวปกติเพิ่มแค่เพียงใส่หมวกสามเหลี่ยมสีแดง ตั้งแต่เข้ามาในร้านสายตา

หลายคู่มองตามเทนนิสอย่างสนใจแต่เจ้าตัวไม่ได้สนใจตามหลังเพื่อนเข้าไปจนถึงโต๊ะ โต๊ะสองโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่เต็ม มีทั้งรุ่นพี่ที่

เขารู้จักและเพื่อนๆหลายคนรวมถึงเพื่อนของเขาที่มาแล้วทุกคน นี่เขามาเป็นคนสุดท้ายรึเปล่า เขาทักทายรุ่นพี่ทุกคน วีร์เรียก

เขาให้นั่งข้างๆ สอบเสร็จแล้ววีร์ก็กลับไปอยู่บ้านเห็นบอกว่าที่บ้านจะพาไปเที่ยวแต่ไม่รู้ที่ไหน

“มาช้า หนาวละซิแก้มแดงมาเชียว”

“หนาวมากเลย แล้วไม่เที่ยวกับที่บ้านแล้วหรอ”เทนนิสเบียดเข้ามานั่งข้างๆ นั่งเบียดกันอย่างนี้รู้สึกอุ่นขึ้นมาก

“ไปพรุ่งนี้เช้า ไปเที่ยวกาจนบุรี ว่าแต่ไม่สนใจไปเที่ยวด้วยกันหรอเปลี่ยนใจตอนนี้ยังทัน แม่กับพ่อก็บอกให้มาชวน”

“ไม่ล่ะ เอาไว้โอกาสหน้า ซื้อขนมมาฝากก็พอเอาเยอะๆนะ”เขาอยากอยู่บ้านอ่านหนังสือการ์ตูนที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ ยังมีนิยาย

กำลังภายในลดราคาที่ซื้อมาจากงานสัปดาห์หนังสืออีกยี่สิบเล่มที่ยังไม่ได้อ่าน ไหนจะต้องทำความสะอาดบ้านอีกอันหลังนี่ดู

เหมือนจะมีสาระที่สุด

“ได้ ถ้าอยากได้อะไรเป็นพิเศษก็โทรบอกแล้วกัน กินนี่รองท้องก่อนเดี๋ยวเมา”

เทนนิสกินยำที่เพื่อนเลื่อนมาไว้ตรงหน้า และมองกับข้าวน่ากินหลายอย่างอยู่บนโต๊ะ เขาจิบกับเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์บางๆ

แทบจะเหมือนน้ำเปล่า ที่เขาขอเป็นพิเศษ ทำไงได้เขายังไม่อยากเมา มองไปรอบๆโต๊ะเห็นคนมองเขามองชัดๆถึงรู้ว่าเป็นใคร พี่

เป็นเอกเพื่อนของพี่รหัสถึงว่าทำไมมีรุ่นพี่ที่เขาไม่รู้จักหลายคน เขายิ้มให้อีกฝ่ายแล้วกินกับข้าวต่อ บนเวทีมีการแสดงดนตรีสด

เสียงรุ่นพี่คุยกันอย่างออกรส ส่วนเขานั่งฟังเพื่อนๆคุยกันเงียบๆ อีกไม่ถึงสองชั่วโมงจะเข้าสู่วันใหม่ของปีใหม่ ในร้านลูกค้าเริ่ม

แน่น บางคนเริ่มมึนบ้างแล้ว ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาว เทนนิสลุกไปเข้าห้องน้ำ ทางไปห้องน้ำมีหลายคนกำลังยืนสูบบุหรี่บางคนมา

ยืนโทรศัพท์อวยพรปีใหม่ให้กับคนอยู่ไกล บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์บอกว่าสัญญาณ 4G แรงไม่รู้ว่าจะแรงขนาดสามรถโทรไป

อวยพรพ่อกับแม่เขาที่อยู่ไกลถึงบนฟ้าได้รึเปล่า อีกไม่นานจะเข้าปีใหม่แล้วเขายังไม่รู้ว่าในหนึ่งปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น จะเจอ

เรื่องดีหรือร้าย ยังไงพรุ่งนี้เขาน่าจะตื่นแต่เช้าทำบุญตักบาตร เดินเข้าไปในห้องน้ำทำธุระเรียบร้อยมองหน้าที่แดงนิดๆเพราะฤทธิ์

แอลกอฮอล์

“ไงเรา เมาแล้วรึหรอถึงแอบมาเข้าน้ำห้อง”เป็นเอกทักคนที่ยืนส่งกระจกอยู่นาน

“อ้อ ยังไม่เมาครับ”

“พรุ่งนี้ไปเที่ยวกับไอ้เป้เปล่า”

“ไม่ได้ไปครับ พี่ก็ไปหรอครับ”

“ใช่ เราน่าจะไปไปหลายคนสนุกดี”เป็นเอกอยากให้คนตรงหน้าไปด้วย เขามองหน้าใสๆที่เริ่มแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ เป็น

เขาเองที่เดินตามอีกฝ่ายมาเพราะอยากหาโอกาสคุยด้วย

“ผมมีนัดแล้วเลยไปไม่ได้ เอาโอกาสดีกว่า”เทนนิสปฏิเสธอีกฝ่าย รู้สึกช่วงหลังๆนี้จะเจอเพื่อนของพี่รหัสบ่อยจนเกินความจำเป็น

ทั้งสองออกจากห้องน้ำกลับไปที่โต๊ะเทนนิสมองนาฬิกาดิจิตอลขนาดใหญ่ที่ตั้งบนเวทีบอกเวลาอีกชั่วโมงกว่าจะเข้าปีใหม่แต่

ตอนนี้เขาง่วงแล้ว อีกอย่างพี่เท็นโทรบอกให้เขาไปเอาเงินเดือนเดือนสุดท้ายเลยต้องขอตัวกลับก่อน ขี่มอไซด์ออกมาจากร้าน

ผ่าอากาศหนาวไปบนเส้นทางที่ไม่มีด่านตรวจเพราะไม่รู้ว่าแอลกอฮอล์ในเลือดเขาเกินกำหนดรึเปล่า ค่อยๆขี่ช้าๆจนถึง

ร้านchicken café หน้าร้านถูกตกแต่งด้วยตุ๊กตาหิมะและซานตาครอสหนวดขาวสวมชุดสีแดงส่งยิ้มให้เขา  ผลักประตูเข้าไปข้าง

ในอากาศในร้านอุ่นสบายและมีเสียงเพลงที่เข้ากับเทศกาล ในร้านมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะช่วงในคืนวันหยุดยาว แต่ดูแล้วบริการส่ง

ถึงบ้านจะได้รับความนิยมมากกว่า เขาเดินตรงไปที่ร้านกาแฟ

“พี่เทนนิส สวัสดีปีใหม่”

“อีกตั้งชั่วโมงกว่าจะเข้าปีใหม่”

“แหม ก็ใกล้แล้วนิคะ”

“ปลาพี่ขอลาเต้ร้อนไม่เข้มมากแก้วกลางกลับบ้านนะ”

“ได้ค่ะ เดี๋ยวทำพิเศษให้ แล้วไปเมาที่ไหนมาคะ ไม่ชวนน้องเลยใจร้าย แล้วพี่วีร์ของหนูไม่มาด้วย”

“ไปกับรุ่นพี่ที่มหาลัยกับวีร์นั่นแหล่ะแต่ดึกแล้วขี้เกียจอยู่เลยขอกลับก่อน แล้วทำไมเราไม่ได้หยุดกับคนอื่นเขาล่ะ”

“ปลาเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ สอบเสร็จแล้วก็สะพายเป้ขึ้นเชียงใหม่ต่อด้วยเชียงราย กลับมาไม่มีเงินกินข้าวเลยมา

ทำงาน”ปลาตอบไปหัวเราะไปเมื่อคิดว่าไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกแค่ไหน นี่ขนาดไม่จ่ายเงินค่าห้องพักกับค่ารถแต่ทุกอย่างหมดไป

กับของกินแถมน้ำหนักเพิ่มอีกสองสามกิโลตามมา

“ได้แล้วค่ะ ลาเต้พิเศษสำหรับพี่เทนนิส”

“ขอบใจนะ”

“พี่เทนนิสมาเอาเงินเดือนใช่ไหมคะ เดี๋ยวปลาไปตามพี่เท็นให้”ปลาเดินหายเข้าหลังร้านตามผู้จัดการ

เทนนิสหามุมนั่งติดกระจกที่หันหน้าออกไปทางถนน เก้าอี้หัวโล้นตัวสูงวางเรียงยาว ปกติเป็นมุมที่ลูกค้าชอบมานั่งแต่วันนี้กลับ

ว่างมีเพียงเขาคนเดียวที่นั่งอยู่ ถนนข้างนอกโล่งกว่าทุกวัน มองขึ้นไปด้านบนตรงนี้สามารถมองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งอยู่บนลาง ดึก

ขนาดนี้แล้วหลายคนจูงมือครอบครัว คนรักออกเที่ยว เตรียมตัวนับถอยหลังเข้าสู่วันใหม่กันอย่างมีความสุข

“เทนนิส ทำไมวันนี้ว่างมารับเงินเดือนได้ รับของวีร์ไปด้วยนะ”

“ขอบคุณครับ”

“นับดูก่อนก็ได้ ไม่ได้ทำงานที่นี่แล้วพี่คงคิดถึงถ้ามีเรื่องอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ได้เลยนะ”เท็นนึกถึงเวลาที่เธอมีเรื่องเดือดร้อนก็ได้

เทนนิสกับวีร์ช่วยบ่อยๆ หายากที่จะมีเพื่อนร่วมงานที่ขยันทำงาน ซื่อสัตย์และเข้ากับทุกคนได้ ที่สำคัญน้องหล่อ

“พี่ไม่มีอะไรให้เป็นของขวัญปีใหม่ เอานี่ไปกินชุดปาร์ตี้ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพี่ให้เอาไปกินกับเพื่อนๆ”

“โฮ พี่เท็นมันไม่เยอะไปหรอครับ”

“ไม่หรอกรับไปเถอะ

“เอ่อ ขอบคุณครับ สวัสดีปีใหม่”


   ไฟในห้องทำงานปิดลงร่างสูงถือเอกสารลงจากชั้นบนตรงไปที่รถจอดอยู่ บนลานที่มีรถเขาแค่คันเดียวจอดอยู่ ธีรภัทรเปิด

ประตูด้านหลังวางเอกสารไว้ แล้วขับออกไป ทำงานติดต่อกันมาหลายชั่วโมงทำให้ปวดตึงที่ไหล่ทั้งสองข้างและรู้สึกหิวตอนเย็น

กินแค่กาแฟแก้วเดียวไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี

เขาเหลือบมองเวลาในรถนี่ดึกขนาดนี้แล้วหรอนี่มองข้างทางปกติแถวนี้จะครึกครื้นมีร้านขายกับข้าวอยู่เต็ม ตอนนี้เขารู้สึกเพลียๆ

เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านวันนี้กลับไปนอนที่คอนโดก่อนดีกว่า ได้แช่น้ำอุ่นคงทำให้สบายขึ้น ไม่รู้ว่าเพื่อนๆเขาคืนนี้ออกไปเที่ยว

ดื่มฉลองกันที่ไหนบ้าง นานแล้วเหมือนกันที่ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวช่วงเทศกาลเพราะคงทำแต่งาน

เมื่อตอนบ่ายเพื่อนของเขาก็โทรเข้ามาชวนแต่ปฏิเสธไป คืนก่อนปีใหม่สองข้างทางประดับประดาไปด้วยไฟหลากสี ดูแล้วสวย

เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น รถที่ขับมาดีดีก็มีท่าทีแปลกแปลก จนเขาต้องตีไฟเลี้ยวเข้าจอดข้างทางแล้วก็ดับไป โชคดีที่ไม่มีรถตามมาถ้า

ไม่อย่างนั้นเขาคงโดนด่าไปแล้ว ธีรภัทรพยายามสตาร์ทเครื่องอีกครั้งแต่เงียบ พยายามอีกครั้งแต่ก็เงียบ พยายามอยู่หลายครั้ง

เช็คดูปริมาณน้ำมันตรงหน้าปัด น้ำมันไม่ได้หมด ธีรภัทรมองรอบๆเห็นแค่ตึกแถวร้านค้าปิดเงียบ ดึกขนาดนี้แล้วอีกอย่างเป็นช่วง

วันหยุดยาวไม่ใช่เรื่องแปลก เขาหยิบโทรศัพท์ออกโทรหาเพื่อนที่พอจะช่วยได้

   หมดธุระที่ร้าน chicken café เทนนิสก็รีบออกมาจากร้าน เขาขี่มาเรื่อยลาเต้อุ่นๆทำให้รู้สึกดีขึ้นไม่ง่วงเท่าไหร่ก่อนกลับ

บ้านเขาน่าจะไปแวะนับถอยหลังที่ไหนสักที่ดีกว่าไหมนะ ขณะที่ขี่อยู่เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ไฟท้ายทั้งสองข้างกระพริบท่าทางจะ

มีปัญหา เขาชะลอความเร็วลงแล้วถอยหลังกลับมาจอดให้ห่างมีชายคนหนึ่งที่กำลังยืนมองรถอยู่ ส่วนชายอีกคนน่าจะเป็นช่าง

กำลังก้มลงใช้ไฟฉายส่องเข้าไปดูเครื่องยนต์

“นี่คุณรถเป็นอะไรรึเปล่า มีอะไรให้ผมช่วยไหม”เทนนิสตะโกนถาม จอดรถอยู่ค่อนข้างห่างแต่ก็เห็นหน้าผู้ชายแต่งตัวดีน่าจะเป็น

เจ้าของรถมองมาที่เขา “อ้าว คุณนั่นเองนึกว่าโจรขโมยรถที่ไหน”

ธีรภัทรยิ้มให้คนที่ทักว่าเขาเป็นโจรขโมยรถ นี่สภาพตอนนี้เขาดูแย่ขนาดนั้นเลยหรอ“รถมีปัญหานิดหน่อย ช่างกำลังดูอยู่ เดี๋ยว

เขาคงลากไปที่อู่”พูดแล้วหันไปคุยกับช่างที่ตรวจเครื่องยนตร์อยู่

“ต้องหลังปีใหม่นะครับถึงจะได้รถคืน ถ้ายังไงผมจะติดต่อกลับ”ชายหนุ่มแต่งตัวเหมือนช่างยื่นเบอร์ติดต่อให้เจ้าของรถ เดินกลับ

ไปที่รถลาก แล้วรถยุโรปคันหรูไป

“คุณไม่ตามไปหรอครับ”เทนนิสถามอย่างเป็นห่วงที่รถราคาแพงถูกลากไป ถ้าเป็นเขาคงเป็นห่วง

“เขาไว้ใจได้”

“ก็ดี จะไปไหนต่อให้ผมไปส่งไหม 200”เทนนิสมองสภาพผู้โดยสารที่เลอะไปด้วยคราบน้ำมันแล้วยิ้มให้อีกฝ่าย เจอกันบ่อยครั้ง

แต่ไม่เคยเห็นสภาพนี้มาก่อนแต่ดูแล้วก็ดูดีไปอีกแบบ เขามองไปรอบๆถึงแถวนี้จะมีรถผ่านไปมาบ้างมีไฟสว่างแต่ก็ไม่ค่อย

ปลอดภัยเท่าไหร่สำหรับผู้ที่แต่งตัวดีสะพายเอกสาร”ผมไม่แน่ใจว่าจะมีแท็กซี่มาแถวนี้ ไปเถอะผมไปส่งดึกมากแล้ว”

ธีรภัทรอยากปฏิเสธอีกฝ่ายด้วยความเกรงใจแต่ก็ดีที่อีกฝ่ายมีน้ำใจ อีกอย่างมันก็ดึกแล้วไม่อยากรบกวนคนอื่น“ขอบคุณ”เขายอม

ขึ้นซ้อนท้ายโดยดี

   เทนนิสเดินตามคนประสบภัยรถเสียขึ้นมาคอนโดเมื่ออีกฝ่ายชวนให้มาพักด้วยกัน เขาอยากปฏิเสธแต่ก็ง่วงอากาศหนาว

กลัวกลับไม่ถึงบ้านนี่ก็ใกล้เที่ยงคืนแล้วขอรบกวนสักครั้งเถอะ คอนโดหรูที่เขาเคยมาส่งอาหารก่อนหน้านั้นเพิ่งได้สังเกตอย่างชัด

ชัด ขึ้นลิฟต์มาชั้นแปด โถงทางเดินตกแต่งเรียบๆมีต้นไม้กระถางวางไว้ตามทางเดินมีกล้องวงจรปิดติดตั้งตามมุมอับ เดินมา

เรื่อยๆจนมาถึงหน้าห้อง เจ้าของห้องใช้การ์ดเสียบเข้าในช่องกดรหัสเจ็ดแปดตัวแล้วผลักประตูเข้าไป ข้างในห้องกว้างที่ถูกแบ่ง

สัดส่วนอย่างลงตัวและถูกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบเรียบเป็นระเบียบแต่ดูดีเหมือนเจ้าของ

“ทำตัวสบายนะ ไม่ต้องเกรงใจ”คำพูดเป็นกันเองของเจ้าของห้องคลายความกังวลได้บ้าง กลิ่นสเปรย์ปรับอากาศหอมเย็นอ่อนๆ

ของยูคาลิปตัสทำให้รู้สึกสดชื่น เขาวางชุดไก่ทอดและของกินที่แวะซื้อมาจากร้านข้างทางบนโต๊ะกินข้าวแล้วมองสำรวจไปรอบ

รอบ เมื่อก่อนเคยคิดไว้ว่าอยากมีห้องแถวบนตึกสูงอย่างนี้ไว้เป็นของตัวเองสักห้อง แต่ราคาแต่ละที่แพงเกินความจำเป็นถึงแม้ว่า

บ้านจะไกลจากมหาวิทยาลัย

ของใช้ในห้องยังดูใหม่เจ้าของห้องคงดูแลรักษาเป็นอย่างดี ที่นี่คงจะแพงน่าดูถึงจะไม่ใกล้ทางด่วน รถไฟลอยฟ้า รถไฟใต้ดิน

หรือห้างสรรพสินค้าแต่ยังสะดวกสบายในการเดินทาง เจ้าของห้องบอกให้เขานั่งดูโทรทัศน์รอก่อนหายเข้าไปในห้องน่าจะ

เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก็น่าอยู่หรอกเลอะคราบน้ำมันขนาดนั้น

เทนนิสไม่เกรงใจเดนนั่งบนโซฟาตัวใหญ่และนุ่ม เปิดโทรทัศน์เลื่อนดูรายการถ่ายทอดสดนับถอยหลังเข้าปีใหม่ ผู้สื่อข่าวนอก

สถานที่กำลังสัมภาษณ์คนที่ไปเที่ยวในงานมีทั้งมาเป็นครอบครับ คู่รักและกลุ่มเพื่อน บรรยากาศในการดูครึกครืนมีประชาชน

จำนวนมากเข้าไปร่วมงาน เจ้าที่รักษาความปลอดภัย ตำรวจนอกในเครื่องแบบเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวก จากนั้นตัดภาพไป

ที่การเฉลิมฉลองของต่างประเทศ มีหลายประเทศเข้าสู่วันใหม่ไปแล้วภาพงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ จุดพลุผลาญเงินภาษี

ประชาชนหลายล้านเพียงไม่กี่นาที

ในสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำน่าจะมีวิธีเฉลิมฉลองประหยัดกว่านี้ เป็นแบบแนวคิดที่ว่า สวย ประหยัด อะไรประมาณนี้ ว่าไป

แล้วเขาก็อยากเห็นพลุเหมือนกันเขาลุกขึ้นเดินไปหยุดหน้ากระจกใสมองออกข้างนอก จากตรงนี้คงมองเห็นพรุ

“โทษทีนะที่ปล่อยให้รอ แต่สภาพผมมันค่อนข้างแย่”ธีรภัทรเดินออกจากห้องสภาพที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อย ผม

ที่สระยังชื้นนิดๆ กว่าจะล้างคราบน้ำมันและกลิ่นออกได้เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน เขาขอโทษอีกฝ่ายที่กำลังยืนมองออกไปข้าง

นอก ทั้งสองนั่งกินข้าวมื้อดึกด้วยกัน”คืนนี้คุณไม่ไปเที่ยวกับเพื่อนๆหรอ”ธีรภัทรถามอีกฝ่ายที่นั่งกินไก่ทอดกล่องโตเหมือนจะซื้อ

ไปฉลองที่ไหน

“ผมเพิ่งกลับจากฉลองกับรุ่นพี่เพื่อนๆที่มหาลัย มีธุระเลยกลับก่อน “จนมาเจอคุณกำลังรถเสีย คุณคงไม่ได้กลับจากที่ทำงาน

หรอกนะ”เขาถามอีกฝ่าย เหมือนคนไม่เหมือนที่กลับมาจากปาร์ตี้ อย่างน้อยเขาก็ยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์ติดตัวมา

“ปึง ปึง ปึง สวัสดีปีใหม่ Happy New Years..”ยังไม่ทันที่จะตอบคำถามเสียงพรุเสียงอวยพรในวันขึ้นปีใหม่ในโทรทัศน์ก็ดังขึ้น

ทั้งสองมองออกไปข้างนอกเห็นพรุที่แตกกระจายเป็นรูปดอกไม้หลากสีอยู่บนท้องฟ้าทางด้านบริเวณที่จัดงาน

“สวัสดีปีใหม่ครับ ปีที่แล้วผมก็ทำงานข้ามปีเหมือนคุณนี่แหล่ะ”เทนนิสยิ้มให้ฝ่ายอย่างเข้าใจ

“สวัสดีปีใหม่ นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมกินข้าวข้ามปี”ธีรภัทรพูดเสร็จทั้งสองก็หัวเราะขึ้นมาแทบพร้อมกัน

   เช้าวันใหม่วันแรกของปี หลายคนกำลังนอนหลับสบายหลังจากที่ดื่มกินฉลองกับเทศกาลส่งท้ายปี และยังเป็นเช้าวันหยุด

ผักผ่อน ถนนหน้าคอนโดยังโล่งว่างนานทีมีรถผ่านมาสักคัน แต่มีรถที่จอดนิ่งสนิทอยู่ข้างถนนหลายคัน ไฟข้างทางไฟหน้า

ตึกแถวยังเปิดสว่างอยู่ อากาศตอนเช้าเช้ายังหนาวและมีหมอกลงบางบาง เทนนิสยืนถือถาดใส่ของแห้งสำหรับใส่บาตร ถามจา

กรปภ.บอกว่ามีพระเดินบิณฑบาตผ่านหน้าคอนโดทุกวัน เขาจึงชวนเจ้าของห้องแหกขี้ตาตื่นมารอใส่บาตร เมื่อคืนหลังจากกิน

ข้าวเสร็จขอใช้ห้องน้ำเจ้าของห้องและยังขอยืมเสื้อผ้าอีกเขาก็นอนอยู่บนโซฟารับแขกหลับสบายจนถึงเช้า  สาเหตุที่ต้องชวน

เจ้าลงมาด้วยเพราะไม่มีกุญแจห้อง ยืนรอไม่นานก็เห็นพระภิกษุถือบาตรใกล้เข้ามา

“นิมนตร์ครับ”ทั้งคู่ถอดรองเท้ายกของใส่บาตรเหนือศีรษะแล้วอธิษฐานในใจ ธีรภัทรหยิบนมสด บะหมี่ ขมปัง ลงในบาตรพระ

ภิกษุและสามเณรจากนั้นนั่งยองๆรับพร ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ไม่มีโอกาสได้ตื่นเช้ามาใส่บาตรเมื่อก่อนได้มีโอกาสไปวัดกับแม่

บ่อยๆ ตอนนี้มีเหตุผลอย่างทำให้เขาไม่มีโอกาส ใส่บาตรเสร็จทั้งสองกลับขึ้นห้อง เทนนิสช่วยเจ้าของห้องทำความสะอาดเก็บ

หมอนผ้าห่มแล้วอาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดเดิมที่เขาโยนลงเครื่องซักผ้าเมื่อคืน ทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มที่เขาใช้เป็นที่นอนตลอด

ทั้งคืนก็รู้สึกหิวขึ้นมา เดินไปมองหาของกินไม่รู้ว่ามีอะไรพอจะกินได้บ้างเหลือไก่ทอดที่เคยกรอบชิ้นหนึ่ง แฮมเบอร์เกอร์เย็นเย็น

และมันฝรั่งทอดเหี่ยวๆ เห็นแล้วไม่อยากกินเมื่อคืนกินจนเอียนแล้ว ธีรภัทรมองคนขยันชวนเขาไปใส่บาตรตั้งแต่เช้าไม่พอยัง

อาสาทำความสะอาดห้องที่ปกติจะมีแม่บ้านของคอนโดทำอยู่แล้ว เดินก้มๆเงยๆอยู่ในครัว ดูแล้วท่าทางจะหิว ดูเวลาแล้วก็สาย

มากแล้ว

“หิวข้าวแล้วหรอ”

“อ้อ ครับ”เขาหัวเราะออกมาอย่างอายๆ

“ไปหาอะไรข้างนอกกินกัน แต่เป็นรถคุณนะ”

ไม่ต้องให้อีกฝ่ายพูดซ้ำเทนนิสรีบหยิบกุญแจรถเดินนำเจ้าของห้องออกจากห้อง ขี่ไปที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆโชคดีร้านอาหารใน

ห้างไม่ปิดไม่อย่างนั้นเขาคงต้องเพิ่งอาหารแช่แข็งในร้านสะดวกซื้อแน่นอน เดินเลือกสักพักสุดท้ายก็เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่การัน

ตีความสดใหม่ของวัตถุดิบ ห้างเพิ่งเปิดได้ชั่วโมงกว่าลูกค้ายังไม่ค่อยมีพวกเขาเลือกนั่งติดกระจกที่สามารถมองเห็นข้างนอก

พนักงานทักทายต้อนส่งเมนูให้และยังแนะนำเมนูประจำเทศกาลของร้านเป็นราเมง ทั้งคู่สั่งอาหารชุดคนละชุด ของกินเล่นสอง

สามอย่าง รอสักพักก็ได้อาหารน่าตาอร่อยบนกระทะร้อน

“วันนี้คุณธีร์กลับบ้านรึเปล่าครับ”เทนนิสถามคนตรงหน้า เพราะจะได้ถือโอกาสไปไหว้คุณป้าตั้งแต่ที่ได้รู้จักเธอจะมักมีของมาฝา

กบ่อยๆจนเกรงใจ

“เรียกพี่ว่าพี่ธีร์ก็ได้นะ แต่ไม่ต้องเรียกว่าน้าธีร์เหมือนเด็กๆก็พอ”

“ครับ”

“คงจะเป็นสายๆหน่อย คุณแม่บอกว่าจะจัดปีใหม่ให้เด็กๆเราก็ไปด้วยสิ”

“คุณป้าบอกแล้วครับ เกรงใจยังไงไม่รู้วันก่อนคุณป้าก็แบ่งกับข้าวมาให้”

“คุณแม่ชอบทำกับข้าว ถ้าว่างๆก็ไปเล่นกับท่านสิ”

“อย่างนี้ผมว่าน่าจะซื้อของไปไหว้คุณป้า กับของไปฝากเด็กๆ”

ทั้งคู่กินไปด้วยคุยเรื่องทั่วไปไปด้วยนี่คงเป็นไม่กี่ครั้งที่ธีรภัทรยิ้มหัวเราะบ่อยขนาดนี้ถึงจะเรื่องทั่วไปแต่คุยด้วยกลับไม่น่าเบื่อ

แถมคุยด้วยแล้วสนุกมีความคิดแปลกในหลายๆเรื่อง และเป็นคนเก่งที่สามารถประคับประคองชีวิตที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ข้างๆไม่ให้ออก

นอกลู่นอกทาง ปกติมื้อเช้าของเขาจะอะไรง่ายๆนานแล้วที่ไม่ได้กินอะไรจริงจังอย่างข้าวมื้อนี้ เขามองดูคนที่เจริญอาหารกินข้าว

ในถ้วยหมดแล้วกับบนกระทะร้อนก็หายไปหมด ยังต่อด้วยเกี๊ยวซ่ากับกุ้งเทมปุระ ดูเหมือนอีกฝ่ายกำลังมีความสุขในการกินส่วน

เขากินได้นิดหน่อยก็เริ่มอิ่ม

กินข้าวเสร็จแล้วจากนั้นเทนนิสชวนอีกฝ่ายไปซื้อของขวัญปีใหม่ให้คุณป้าเขาเลือกเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ ส่วนเด็กๆเลือกหุ่น

ยนตร์ คิดว่าจอมยุทธ์น้อยทั้งสองต้องชอบแน่นๆ หลังจากซื้อของเรียบร้อยร้อยทั้งสองแยกกัน 

หลังจากที่แยกจากธีรภัทร เทนนิสกลับเข้าบ้านเริ่มจากทำความสะอาดห้องนอนกวาดถูจัดการรื้อผ้าปูปอกหมอนผ้าห่มลงไปซัก

ล้างห้องน้ำ เก็บขยะใส่ถุงดำลากไปทิ้งถังขยะหน้าบ้าน มองตามถนนคอนกรีตดูเหมือนหลายๆบ้านจะไม่มีคนอยู่คงออกไปเที่ยว

ในช่วงวันหยุด คุณนายตำรวจหน้าบ้านก็บอกว่าจะไปเยี่ยมลูกชายอยู่ต่างจังหวัดเหมือนกัน จากแถวนี้ที่เงียบอยู่แล้วยิ่งเงียบกว่า

เดิม เขากลับเข้าบ้านทำความสะอาดห้องอื่นๆที่อยู่ชั้นบนต่อ เปิดดูห้องนอนใหญ่ที่ถูกตกแต่งห้องเหมือนเจ้าห้องยังอยู่ รูปถ่าย

อัดใส่กรอบอย่างดีวางอยู่บนชั้นวาง มือขาวหยิบกรอบรูปขึ้นมาดูในรูปถ่ายพ่อแม่ยืนคู่กัน เขาเป็นตากล้อง เป็นรูปถ่ายใบแรกใน

ชีวิตภาพไม่ชัดเพราะมือยังสั่นและยังดูแสงองค์ประกอบของภาพไม่เป็นรูปออกมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ของทุกอย่างในห้องยัง

เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน สิ่งที่เปลี่ยนคือเจ้าของห้องนอนนี้ไม่อยู่แล้ว เขาวางพวงมาลัยและการ์ดปีใหม่วางไว้หน้ารูปถ่ายบนโต๊ะ

หัวนอน กราบสวัสดีปีใหม่ผู้ให้กำเนิด จัดการปัดกวาดทำความสะอาดแล้วถอยหลังออกจากห้องนั้นเงียบๆ จากนั้นลงชั้นล่างแวะ

ทำความสะอาดห้องครัวล้างตู้เย็น ต่อด้วยห้องโถง ห้องรับแขก

กว่าจะสามารถจัดการกวาดถูพื้นเสร็จ ใช้เวลาอยู่หลายชั่วโมง เทนนิสยืนชื่นชมผลงานการทำความสะอาดของตัวเองอย่างภาค

ภูมิใจ ใบหน้าตามตัวเต็มไปคราบฝุ่นและหยากไย่ เนื้อตัวเหนียวไปด้วยเหงื่อ เขาดึงผ้าปิดจมูกออกเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด

บ้านให้เรียบร้อย แล้วนอนแผ่นบนโซฟารับลมเย็นๆที่ห้องรับแขกอย่างสบาย จนมีเสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ไม่รู้ว่าใครมาหาเขา

ตอนนี้ ไม่รู้รึไงว่าวันนี้เป็นวันหยุดเขาอยากตะโกนออกไปว่าไม่ใครอยู่ เงยหน้าดูนาฬิกาตอนนี้บ่ายสามโมงเย็นแล้วนี่เขาทำความ

สะอาดจนเพลินจนลืมกินข้าวเที่ยงมิน่าทำไมถึงหิวอย่างนี้ เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นอีกครั้ง เทนนิสตัดสินใจลุกขึ้นเดินไปหน้า

บ้านอย่างจำใจ มาถึงประตูรั้วเห็นร่างสูงกับเด็กฝาแฝดส่งยิ้มให้

“พี่เทนนิส/พี่เทนนิส”บู้ตึ้งบู้ลิ้มเรียกพี่ชายอย่างดีใจ ยืนเกาะประตูรั้วยื่นมือเข้ามากวักเรียกเขาให้เข้าไปหา

“อ้าว พี่ธีร์ว่างหรอครับถึงพาเด็กๆกดออดบ้านผมเล่น”เทนนิสแปลกใจที่เห็นเพื่อนบ้านทั้งสามมากดออด

ธีรภัทรมองเจ้าของบ้านใส่เสื้อสีซีดคอเปื่อย กางเกงขายาวเก่าเก่าเดินลากรองเท้า ผมยุ่งใบหน้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นไม่รู้ว่าไปทำ

อะไรมา“เป็นไรเราไปตกถังฝุ่นที่ไหนมาทำหน้าตาเป็นอย่างนั้น”เขาถามอย่างแปลกใจ

 ถังฝุ่นบ้าที่ไหนกันเขาเพิ่งทำความสะอาดบ้านเสร็จ“เข้าบ้านก่อนไหมครับ”เทนนิสเปิดประตูรั้วเชิญเพื่อนบ้านเข้าข้างใน

สองแฝดเข้ามาในบ้านได้รีบวิ่งมาจับมือพี่ชาย เดินเข้าบ้านคนละข้าง เขาพาทั้งสามคนเข้าไปนั่งที่ห้องรับแขก เดินเข้าไปในครัว

หาน้ำมารับแขก กลับออกมาเห็นเพื่อนบ้านนั่งเรียบร้อยอยู่บนโซฟาแต่สายตากำลังมองไปที่ตู้โชว์ อ้อ นั่นรูปครอบครัวเขาที่เขา

ใส่กรอบตั้งไว้

“บ้านน่าอยู่ดีนะ”ธีรภัทนมองไปรอบๆห้องที่ตกแต่งเรียบง่ายเหมือนแบบที่เขาชอบ

“ขอบคุณครับ มีอะไรรึเปล่าหอบกันมาหาผมเนี่ย”

“บอกไปสิเจ้าตัวเล็ก”

“บู๊ตึ้งกับน้องมาชวนพี่เทนนิสไปแต่งต้นคริสต์มาส”

“ได้ครับ แต่ขอเวลาพี่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”

“ครับ/ครับ”ทั้งสองดีใจที่พี่ชายไปช่วย





ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


        ต้นคริสต์มาสต้นขนาดกลางถูกแกะออกจากล่อง มีบู้ตึ้งบู้ลิ้มและสายไหมช่วยหยิบโน่นยื่นนี่ช่วยเทนนิสประกอบขึ้นจนเป็น

รูปร่างตามแบบที่แถมมาให้ในกล่อง เด็กชายทั้งสองดีใจที่ได้เห็นต้นคริสต์มาสที่คุณอาสัญญาจะซื้อมาให้ บู้ตึ้งบู้ลิ้มสายไหมและ

พี่ชายข้างบ้านช่วยกันตกแต่งให้สวยงาม เอากล่องของขวัญจิ๋ว ลูกบอล ดาวและสายรุ้งประดับรอบๆ

จากนั้นเทนนิสวางกล่องของขวัญไว้รอบๆ ธีรภัทรนั่งดูหลานๆกำลังช่วยพี่ชายข้างบ้าน จับโน่นส่งนี่ ไม่รู้ว่ากำลังช่วยหรือกำลัง

ป่วน สายไหมอีกตัวเห็นลูกบอลกลมหน่อยก็แอบคาบเอานอนแทะมันคงสงสัยว่ามีอะไรอยู่ในลูกบอลกลมๆ บู้ตึ้งเห็นสายไหม

กำลังนั่งแทะลูกบอลก็รีบแย่ง แต่เรื่องอะไรสายไหมจะยอม มันก็รีบคาบลูกบอลวิ่งหนี ลูกตากลมเล็กของมันเหลือบมองเจ้านาย

น้อยอย่างไม่สนใจ บู้ลิ้มเห็นเหตุการณ์เลยเข้าไปช่วยพี่ป่วนอีกคน สองคนวิ่งไล่หนึ่งหมาตัวโตน้ำลายยืดเพื่อแย่งลูกบอลคืน แต่

ด้วยสายไหมตัวโตจึงทำอะไรไม่ได้เด็กๆจึงเปลี่ยนแผนการรีบวิ่งไปขอความช่วยเหลือพี่ชายข้างบ้าน ที่นั่งดูเหตุการณ์ยิ้มๆไม่พอ

ยังส่ายหัวอีก

เทนนิสเดินเข้าไปพูดสายสองสามคำเจ้าหมาตัวย้วยก็ยอมคืนลูกบอลผสมน้ำลายให้แต่โดยดี บู๊ตึ้งเห็นไม่ค่อยพอใจเข้าไปดุเจ้า

สายไหมใหญ่ว่าทำตัวเป็นกบฏ “แกเป็นหมาของข้าต้องเชื่อฟังข้าสิ” สายไหนเอียงคอมองเจ้านายน้อยที่กำลังทำหน้าหน้าตาน่า

รักดุมันอยู่ ยากจะเถียงออกไปบ้างว่าถ้าพี่ชายข้างบ้านไม่พอใจไม่เอาขนมอร่อยให้มันกินเจ้านายจะรับผิดไหม ช่างเถอะมันลุก

ขึ้นไม่สนใจไปคาบสายรุ้งที่วางอยู่บนพื้นขึ้นมาแทน มันกำลังแปลกใจว่ามันคืออะไรทำไมมีขุนปุกปุยเหมือนมัน แต่สายไหมคาบ

สายรุ้งไปไม่ได้ไกลบู๊ตึ้งก็รีบคว้าปลายอีกข้างไว้ ทำให้เกิดการชักเย่อคนกับหมาขึ้น คราวนี้บู้ลิ้มไม่ได้เข้าไปช่วยพี่ชายแต่กลับ

ไปนั่งบนตักเทนนิสนั่งส่งเชียร์พี่ชายแทน  สุดท้ายเชือกสายรุ้งเล็กเล็กก็ขาดแบ่งกันละครึ่ง

สายไหมอารมณ์ดีที่เห็นเจ้านายตัวน้อยล้ม ส่วนบู้ตึ้งก็หัวเราะดีใจที่แย่งสายรุ้งมาได้แล้วรีบเอามาอวดน้องชายกับเทนนิส ทำให้

เทนนิสต้องอดหัวเราะไม่ได้ ส่วนธีรภัทรที่นั่งมองอยู่นานก็ต้องยิ้มออกมา

“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวตาธีร์”ธิมย์รินทร์พี่สาวเดินถือจานไก่ทอดของโปรดสองแฝดออกมาวาง เห็นน้องชายตายด้านของตัวเองนั่ง

ยิ้มอยู่คนเดียว

“เปล่า ครับตลกเด็กๆ”ชายหนุ่มบอกพี่สาว ธิมย์รินทร์มองไปที่ลูกชายฝาแฝดจอมซนกำลังวิ่งไล่สายไหมอย่างสนุกสนาน เห็น

ลูกชายมีเพื่อนยิ้มหัวเราะคนเป็นแม่ก็มีความสุขแล้ว ในตอนแรกที่เธอเลิกกับสามียังกังวลแต่ดูเหมือนทุกอย่างไม่เลวร้ายอย่างที่เธอคิด

“นี่ถ้ารู้ว่ามีเพื่อนบ้านหน้าตาหล่อเกาหลีอย่างนี้ ฉันกลับมาเยี่ยมแม่บ่อยๆแล้ว”เธอพูดแล้วหันมาส่งยิ้มให้น้องชาย ธีรภัทรส่าย

หน้าคำพูดเล่นๆของพี่สาว เขาก็คิดว่าเทนนิสหล่อแบบเกาหลี ตัวผอม บางๆแต่เห็นอย่างนี้ก็กินเยอะเหมือนกัน

ธิมย์รินทร์หยิบโทรศัพท์เดินไปหาเด็กๆที่แต่งต้นคริสต์มาสเสร็จแล้ว“บู้ติ้ง บู้ลิ้มเก่งมากเลยลูกไหนไปยืนใกล้ๆต้นคริสต์มาส ทำ

หน้าตาหล่อด้วยพี่เทนนิสด้วย ตาธีร์มาเร็วมาถ่ายรูปเอาสายไหมเข้าไปด้วย”ธีรภัทรเดินมายืนข้างๆเพื่อนบ้านที่มีความสูงอยู่แค่

ไหล่”ตาธีร์เขยิบเข้าไปใกล้ๆน้องหน่อยเดี๋ยวภาพออกมาไม่สวย ฉันจะเอาไปลงโซเชียวเอฟ เพื่อนๆฉันต้องอิจฉาแน่ๆผู้ชายบ้าน

นี้มีแต่คนหล่อหน้าตาดี”ตากล้องบ้าอำนาจสั่งจนพอใจแล้วกดชัดเตอร์ เธอรีบเลือกรูปที่ชอบโพสต์ลงโซเชียลเอฟ แล้วยิ้มน้อย

ยิ้มใหญ่เมื่อมีเพื่อนเข้ามากดถูกใจและแสดงความคิดเห็นอิจฉา

“พี่เทนนิส ไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่วีร์หรอคะ”ธารรพีออกมาจากห้องครัวไปนั่งลงข้างๆพี่รหัส เธอถามอย่างแปลกใจเพราะทั้งสองตัว

แทบติดกันตลอดอดน่าอิจฉา

“พอดีช่วงนี้อยู่ในภาวะเงินฝืดเคือง”ธารรพีมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่เชื่อ ไหนจะทำงานพิเศษ ขายของออนไลน์ ไม่เที่ยวไม่

ดื่มแฟนก็ไม่มีขี้เหนียวจะตายเธอไม่เชื่อเด็ดขาด เธอมองหลานแฝดทั้งสองที่ติดพี่รหัสแจก็ใครบ้างได้รู้จักพี่รหัสเธอแล้วไม่ชอบ

บ้าง บู้ลิ้มยิงฟันเล็กๆใส่คุณน้าสาวคนสวย ธารพีมองหลานตัวเล็กนั่งบนตักรุ่นพี่ นี่ถ้าสาวๆมาเห็นต้องอิจฉาหลานตัวน้อยของเธอ

ที่ได้นั่งตักหนุ่มหล่อ

รุ่นพี่ของเธออัธยาศัยดีเข้ากับคนง่าย หล่อ ยิ้มเก่ง เป็นที่หมายปองของสาวๆในคณะไม่เว้นเพื่อนๆของเธอ บ่อยครั้งที่เธอถูก

เพื่อนร่วมชั้นปีวานเอาให้ขนมไปให้ แต่ถึงจะรู้จักกันมาหลายปีแต่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องของพี่เทนนิสเท่าไหร่เช่น มี แฟนแล้วรึยัง กำลัง

คบกับใครอยู่รึเปล่า จนบางคนคิดพี่วีร์กับพี่เทนนิสคบกันอยู่ไม่รู้ว่าข่าวลือเป็นความจริงไหมเพราะไม่เห็นทั้งสองเดือนร้อนที่จะรับ

หรือปฏิเสธแถมยังใช้ชีวิตปกติไม่สนใจข่าวลือ ข่าวลือก็คือข่าวลือไม่ได้ทำให้พี่รหัสของเธอลดความเป็นที่นิยมของสาวได้แค่มี

หนุ่มๆมานิยมมากขึ้นเท่านั้น ขนาดพี่ชายตายด้านของเธอยังแอบมองพี่รหัสเธออยู่หลายครั้ง เธอแอบเห็นนะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีพี่

ชายของเธอจะได้เลิกทำหน้าตายด้านบ้างานสักที

“ธารเป็นอะไรหน้าตาเหมือนคิดอะไรไม่ดีอยู่”เทนนิสมองรุ่นน้องที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ เขาพูดเสียงเบาลง

ปิดหูบู้ลิ้มที่อยู่บนตักไม่ให้ได้ยินถามน้องรหัสว่า”แล้วพี่ปืนไม่ชวนออกไปเที่ยวที่ไหนหรอ”เขาถามเผื่อเอาไว้แซวพี่ชาย

ธารรพีได้ยินคำถามก็ยิ้มคิดถึงพี่ปืนผู้ชายอบอุ่นตั้งแต่เข้ามาสารภาพว่าชอบเธอก็โทรเทียวมาจีบแทบทุกวัน“ไปมาแล้วเมื่อวาน

ไปเดินดูไฟดูพลุแถวในเมืองมา”พูดไปแล้วเดตข้ามปีนี่ก็ดีไปอีกแบบ

“อืม”พี่ชายเขานี่ไวไฟน่าดูเพิ่งเปิดไฟเขียวให้ไม่นานก็ชวนน้องรหัสเกเรเที่ยวกลางคืนแล้ว

“เด็กๆ มากินข้าวได้แล้ว”ทิพวรรณเรียกทุกคนมารวมที่โต๊ะอาหาร

“ไก่ทอด/ไก่ทอด”สองแฝดวางของเล่นแล้ววิ่งไปที่โต๊ะอาหารทันที

ธิมย์รินทร์รีบเข้ามาห้ามสองแสบก่อนที่หยิบไก่ทอดไปกิน“อะ อะ คุณแม่เคยบอกว่าว่ายังไง คุณครูที่โรงเรียนบอกไว้ว่ายังไงครับ

จำได้ไหม”

สองแสบมองหน้าแม่ตาแป๋วแล้วคิดไปด้วย“ต้องล้างมือก่อนกินข้าว”สองแสบตอบพร้อมกันเสียงดัง

“รู้แล้วก็รีบไปอย่าช้า”

“เดียวผมพาน้องไปเองครับ”เทนนิสจูงเด็กๆเข้าไปในห้องน้ำ สองแฝดเหยียบตั่งขึ้นไปล้างมือด้วยสบู่เหลวจนสะอาดเทนนิสให้

ผ้าสะอาดเช็ดมือเล็กๆจนแห้งกลับมานั่งพร้อมหน้าที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีกับข้าวน่ากินหลายอย่างกลิ่นหอมเรียกน้ำย่อยเขาได้

อย่างดี วันนี้ทำความสะอาดบ้านจนเพลินลืมกินข้าวเที่ยงแต่ไม่เป็นไรเขาจะชดเชยด้วยมื้อเย็น เสียงพูดคุยสลับเสียงหัวเราะ

เสียงของเด็กๆเรียกแม่ให้หยิบโน่นหยิบนี่ดังเป็นระยะ ทำให้เทนนิสรู้สึกอิจฉาอยู่บ้างแต่ก็มีธารรพีและธีรภัทรชวนคุยด้วย งาน

เลี้ยงในครอบครัวจบลงเกือบสองทุ่มเด็กๆถูกพาไปอาบเตรียมเข้านอน เทนนิสขอตัวกลับเพราะรบกวนมาตั้งแต่ตอนบ่าย


   ท้องฟ้าสีดำในคืนปีใหม่ท้องฟ้ายังมีดาวให้เห็น พระจันทร์ดวงกลมโตยังดูสวย คืนนี้อากาศยังหนาวมีลมพัดมาเรื่อยๆทำให้

ธีรภัทรที่ยืนรับลมที่ระเบียงรู้สึกผ่อนคลาย นานครั้งได้หยุดคิดเรื่องงานที่ต้องแข่งขันวุ่นวาย วิ่งตามกระแสสังคมทั้งวัน พักมองดู

รอบๆข้างบ้างก็ดีเหมือนกัน ดวงตาสีอ่อนมองผ่านความมืดไปที่บ้านข้างๆชั้นบนที่ไฟเพิ่งสว่างขึ้น

“อะ แฮ่ม พึ่งรู้ว่าพี่ชายของธารเป็นพวกถ้ำมอง”เธอมองตามสายตาพี่ชายมองไปที่บ้านหลังข้างๆ ชั้นบนตอนนี้มีห้องหนึ่งเปิดไฟ

อยู่และมีเสียเพลงสากลฟังสบายแว่วมา

ธีรภัทรเลิกคิ้วขึ้นมองน้องสาวที่บอกว่าเขาเป็นพวกถ้ำมอง“ทำไมถึงว่าอย่างนั้น”

“ถ้าไม่ใช่จะมายืนแอบมองพี่รหัสธารหรอคะ”

“ก็ระเบียงห้องพี่อยู่ตรงนี้ เดินออกมารับลมไม่ได้รึไง”ส่วนเรื่องอื่นนั้นเป็นผลพลอยได้

“ได้ค่ะ พี่รหัสธารน่ารักใช่ไหม”เธอถามพี่ชายแล้วยิ้ม เหมือนมีอะไรแอบแฝง

“เขาดูเป็นคนดี เข้ากับคนง่าย กินเก่ง คุยเก่ง...”

“จีบเลย”

“ฮึ! อะไรนะพูดอีกทีสิ”คำพูดของน้องสาวคนสวยทำให้เขาแทบตกระเบียง

“ธารบอกให้พี่ธีร์จีบพี่เทนนิสเลย”

“นี่ธารเป็นอะไรพูดจาแปลกๆ”เขายืนไปวางบนหน้าผากน้องสาววัดอุณหภูมิ”ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา รึกินอะไรผิดสำแดงมารึ

เปล่า”คำถามของพี่ชายทำให้เธอหน้ามุ่ย”พี่รหัสเราเป็นผู้ชายนะ”ธารรพีอยากเถียงพี่ชายว่าผู้ชายแล้วทำไมเดี๋ยวนี้โลกเปิดกว้าง

ที่มหาวิทยาลัยของเธอเขาคบกันออกเปิดเผย เรื่องของความรักไม่มีเลือกเพศ เลือกอายุหรอก แค่คนสองคนอยู่ด้วยกันมีความ

สุข คุยกันรู้เรื่อง ดูแลซึ่งกันและกัน ถึงเธอจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ก็ตาม“ช่างเถอะ เดี๋ยวพี่ก็รู้ใจตัวเองหล่ะ”

“อืม พูดอะไรแปลกๆนะเราวันนี้ ที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยคงไม่ใช่เรื่องนี้หรอกนะ”

“ไม่ใช่”เรื่องนั้นเป็นผลพลอยได้”ธารจะมาขอเงินพี่ธีร์ สามหมื่น”

“เอาไปทำอะไรเยอะขนาดนั้น เงินเก็บไม่มีหรอ”

“มี แต่ไม่พออยากได้เพิ่ม”

“ได้ พี่จะให้สี่หมื่นแต่ปิดเทอมฤดูร้อนเข้าไปช่วยงานพี่บริษัท”ให้เงินน้องสาวไม่ใช่ปัญหาแต่แค่อยากให้รู้ค่าของเงิน

“ได้ ไม่มีปัญหาค่ะ”ขอสามหมื่นได้สี่หมื่นคิดถูกมาที่มาขอพี่ธีร์

“แล้วจะบอกได้รึยังว่าจะเอาเงินไปทำอะไร”

“ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปกับเพื่อนคิดว่าจะซื้อทัวร์ไป”

“อืม ก็ดีปลอดภัยดีแม่จะได้ไม่เป็นห่วง”

“ถ้าอย่างนั้นไม่รบกวนพี่ชายแล้วเชิญถ้ำมองต่อไปได้เลยนะคะ”พูดแล้วเธอรีบเดินออกจากห้อง ปล่อยให้เจ้าของห้องคิดว่าตัว

เองเป็นถ้ำมองจริงจึงหันหลังกลับเข้าห้อง

   อาบน้ำอุ่นๆหลังจากที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันรู้สึกสบายตัว เทนนิสผึ่งผ้าเช็ดตัวไว้บนราวแล้วทิ้งตัวนอนลงเตียงที่เปลี่ยน

ผ้าปูผ้าห่มใหม่ยังได้กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มอ่อนๆรู้สึกสดชื่น หยิบของขวัญปีใหม่ที่ธีรภัทรให้ เป็นปากกากับสมุดโน้ตเล่มเล็กลาย

แปลกตาเป็นของขวัญง่ายๆเหมืนคนให้เลยเขาก็ให้อีกฝ่ายเป็นปากกากับสมุดโน้ตเล่มเล็กเหมือนกัน นอนมองสมุดโน้ตสักพัก

ความง่วงเข้าโจมตี ลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วเข้านอน


       หลังจากหมดช่วงวันหยุดช่วงปีใหม่เทนนิสกับเพื่อนกลับมาเรียนตามปกติ เขาไม่ต้องทำงานพิเศษมีเวลาเพิ่มขึ้นใช้ชีวิต

เหมือนนักศึกษาปกติ เรียนบ้าง เล่นบ้าง มีกิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่ต้องมีส่วนร่วมบ้างแต่เสร็จจากกิจกรรมก็เข้าเตรียมตัวสู่ช่วง

สอบปลายภาค นักศึกษาชั้นปีสุดท้ายต้องขยันเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่งงานหรืออ่านหนังสือสอบแล้วยังเตรียมตัวหางาน

หรือเรียนต่อ ส่วนนักศึกษาชั้นปีอื่นๆก็ต้องเร่งทำงานอ่านหนังสือไม่ได้เกรดตกจนถูกไล่ออก

ช่วงก่อนสอบปลายภาคไม่กี่สัปดาห์เป็นช่วงที่รุ่นพี่ที่จบไปแล้วกลับรับพระราชทานปริญญาบัตรถือโอกาสนี้พบปะรุ่นน้องเล่าเรื่อง

ราวประสบการณ์ที่ออกไปเรียนรู้นอกรั้วช่วงหนึ่งปีว่าเจออะไรมาบ้างบางคนแนะรุ่นน้องให้ไปสมัครงานที่ตนเองทำงานหรือบริษัท

อื่นที่มีคนแนะนำมา บางคนแนะให้รุ่นน้องเรียนต่อ ทำให้ร้านอาหารรอบมหาวิทยาลัยถูกจองล่วงหน้าบางร้านยังมีส่วนลดสำหรับ

พี่บัณฑิตเพื่อเรียกลูกค้าเข้าร้านอีกด้วย งานพระราชทานปริญญาบัตรรุ่นน้องต้องรวบรวมเงินซื้อของที่ระลึกแสดงความยินดี เสียง

หัวเราะ เสียงร้องเพลงบูมจากรุ่นน้อง ภาพรุ่นพี่หอบหิ้วตุ๊กตาตัวโตและช่อดอกไม้ช่อโตถ่ายรูปกับน้องๆ ผ่านพ้นไปด้วยดีก็เข้าสู่

สัปดาห์การสอบปลายภาคสัปดาห์ตัดสินอนาคตของใครหลายคน

ปลายเดือนกุมภาพันธ์มาถึงในที่สุดเวลาการสอบก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อย เหลือแค่เกรดออก หรือรอประกาศสอบแก้ตัวครั้งที่

1และ 2 ปิดเทอมภาคฤดูร้อนมาถึงคนที่ไม่มีปัญหากับผลการเรียนเตรียมออกเที่ยวกับครอบครัว คนรักหรือกลุ่มเพื่อน แต่เทนนิส

กับเพื่อนต้องเตรียมตัวเข้าฝึกงาน


***************************************************************
โปรดติดตามตอนต่อไปจ้า

ลืมไปเลย

 .......ตอนนี้เข้ากับเทศมาก..............อ่านให้สนุกนะคะ............สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้า

ขอให้ทกคนมีความสุข.....สมปรารถนาทุกสิ่งอย่าง........และก็รวย รวย รวย จ้า


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
พี่ธีรจะรู้ใจตัวเองง่ายไหมหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
พี่ธีรจะรู้ใจตัวเองง่ายไหมหนอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


มาเอาใจช่วยกันนะคะ

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ตอนที่ 8

   เสียงดนตรีจังหวะสนุกดังไปทั่วบริเวณห้องประชุมกว้างที่ตอนนี้ถูกตกแต่งไปด้วยซุ้มดอกไม้ซุ้มลูกโป่งตรงทางเข้าลง

ทะเบียนเข้างาน และบริเวณลานหน้าเวทีที่มีรถยนต์รุ่นใหม่สามคันสัญชาติญี่ปุ่นกำลังจอดอยู่ด้านล่างเวที มีแสงไฟหลอดเล็ก

ส่องไปรอบรถและพริตตี้สาวสวยหกคนกำลังยืนประจำรถแต่ละคันให้ข้อมูลเกี่ยวกับรถสำหรับผู้ที่สนใจ

แต่บางคนก็สนใจถ่ายรูปพริตตี้คู่กับรถมากกว่า รถเก่งสปอร์ตคันหรูรุ่นใหม่ประหยัดน้ำมันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ราคาเปิดตัวล้าน

ต้นๆสำหรับรุ่นมาตรฐาน แต่ตัวที่นำมาแสดงในงานทั้งสามคันถูกแต่งไว้อย่างสวยงามทั้งภายนอกภายใน แต่สำหรับผู้ที่เข้ามาร่วม

งาน จองรถจะได้ส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมาย งานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของบริษัทนำเข้ารถญี่ปุ่นรายใหญ่

ภาพโฆษณารถยนต์คันใหม่ที่เปิดฉายในโทรทัศน์ถูกเปิดขึ้นแขกที่มาร่วมงานต่างหันไปสนใจบนเวที พร้อมการปรากฏตัวของพรี

เซนเตอร์คนล่าสุด มีข่าวออกมาว่าค่าเซนต์สัญญาครั้งเธอได้รับค่าตัวเจ็ดหลัก ดาราสาวแสนสวย เดินออกมาจากหลังเวทีด้วยลุค

สวย ฉลาด สมาร์ทและสตรอง

            หลังจากนั้นประธานบริษัทวัยกลางคนขึ้นกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการแสงแฟลตดังรัวพร้อมกับเสียงปรบมือของผู้

ร่วมงาน พิธีเปิดเสร็จสิ้นประธานเดินลงจากเวทีมีนักข่าวหลายสำนักเข้าไปขอถ่ายรูปขอทำข่าวสัมภาษณ์ เจ้าของบริษัทนักธุรกิจ

หลายคนถูกเชิญมาร่วมงานเปิดตัวสินค้าครั้งนี้ นักร้องวัยรุ่นชื่อดังสลับสับเปลี่ยนขึ้นเวทีแสดงดนตรีให้ความบันเทิงแขกภายในงาน

   ธีรภัทรกำลังยืนดื่มเครื่องดื่มและหาอะไรกินรองท้องหลังจากประธานกล่าวเปิดงาน มีเบสเลขาช่วยเลือกกับข้าวให้เจ้านาย

กับข้าวในงานดูน่ากินหลายอย่างแต่ดูเหมือนคนจะสนใจรถกับพริตตี้ซะมากกว่ากับจึงได้เหลือเยอะ

“คุณธีรภัทร สวัสดีค่ะ บังเอิญจังเลยที่มาเจอกันที่นี่”

เสียงผู้หญิงเดินเข้ามาทักพี่ชายทำให้เบสเงยหน้าจากของกินเล่นขึ้นมามองเจ้าของเสียง

“สวัสดีครับ เอ่อ..”ธีรภัทรจำไม่ได้คนที่เข้าทักเป็นใคร แต่ก็พยายามนึก

“เปรียวค่ะ ดีใจจังเลยค่ะที่ได้เจอคุณที่นี่”เธอบอกชื่อให้คนตรงหน้ารู้ ให้มันรู้ไปว่าผู้หญิงสวยอย่างเธอเขาจะจำไม่ได้

“ครับ”เขานึกออกแล้วผู้หญิงคนนี้เขาเจอเธอที่ผับแห่งหนึ่ง

“คุณธีรภัทรมากับใครค่ะ”เธอมองหาผู้หญิงที่คิดว่าจะเป็นคู่ควงของผู้ชายตรงหน้า”พอดีว่าเปรียวมากับคุณพ่อ ท่านไปคุยกับ

เพื่อนเปรียวไม่รู้จักใคร”

เบสยืนฟังทั้งสองคุยกันอยู่นานดูก็รู้ว่าพี่ชายเขาไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ เธอไม่รู้ มองไม่ออกหรือแกล้งโง่กันแน่

“พี่ธีร์มากับผมครับ”เบสเดินอยู่ข้างพี่ชายแล้วส่งยิ้มให้เธอ”ผมตักอาหารให้แล้วเราไปนั่งกินที่โต๊ะตรงนั้นดีกว่า”เขาชี้ไปที่โต๊ะที่

เตรียมไว้สำหรับให้แขก

“ผมขอตัวนะครับ”ธีรภัทรเดินไปที่โต๊ะที่ว่าง

ปรีญารัตนเม้มปากเป็นเส้นมองตามหลังชายหนุ่มที่ไม่สนใจเธอเลย นี่เธอไม่มีเสน่ห์หรือสวยไม่พอให้เขาสนใจเลยรึไง มองไป

รอบงานก็มีผู้ชายหลายคนแอบมองเธอบางคนก็เดินเข้ามาทัก แต่ทำไมเธอเจอเขากันทีไรถึงเป็นแบบนี้ทุกที แล้ววันนี้ยังมีไอ้

ผู้ชายหน้าอ่อนที่นั่งข้างๆนั่นทำท่าทางสนิทสนมจนน่าตบนั่นอีก คอยดูเถอะเธอไม่ยอมให้มันจบแค่นี้หรอก

“พี่ธีร์ผู้หญิงคนนั้นใครหรอ”เบสหันกลับไปมองผู้หญิงในชุดกระโปรงสั้น ยืนสวยแสดงท่าทีไม่พอใจ แถมยังส่งสายตาพิฆาตมอง

มาที่เขา “เวลาเธอมองพี่เหมือนจะกินลงท้องอย่างนั้นแหล่ะ”

“เคยเจอในผับ ไอ้กิตลากไปเที่ยว”เขาพูดด้วยท่าทางไม่สนใจ แล้วกินต่อ

“ฮือ เด็กนั่งดริ้งรึเปล่าดูแต่งตัว”ที่จริงก็สวยอยู่หรอก ไม่อย่างนั้นผู้ชายในงานคงไม่มองตาม “พี่ธีร์ระวังไว้นะผมไม่อยากได้พี่

สะใภ้แบบนี้”เขาเตือนพี่ชายอย่างเป็นห่วง

“แล้วเราว่าแบบไหนดี”เขามองลูกพี่ลูกน้องที่ทำหน้าตาเป็นห่วง เหมือนเขาเป็นเด็ก

“แบบไหนหรอ เอาเป็นแบบที่ทำให้พี่ชายผมหันไปสนใจได้มากกว่างาน”แล้วมันแบบไหนกันนะ เบสยังคิดไม่ออกเลย

“ขอโทษนะคะ ขอเปรียวนั่งด้วยคน”เธอไม่รอให้คนที่นั่งอยู่อนุญาต เธอนั่งลงข้างๆธีรภัทร แล้วมองเบสด้วยหางตา

“เชิญครับ”

“คุณธีรภัทรไปเดินดูรถรึยังคะ”เธอชวนพยายามชวนอีกฝ่ายคุย

“ยังเลยครับ”เขาเข้าในงานพิธีเปิดก็เริ่มแล้ว พอเปิดงานเสร็จทักทายผู้ใหญ่ที่รู้จักไม่กี่คนเบสก็ชวนเขามาหาอะไรกิน

“เปรียวก็เหมือนกัน ถ้ายังไงกินเสร็จแล้วเราเดินไปดูไหมคะ”พูดแล้วหันไปมองเบสที่นั่งข้างๆ เหมือนจะบอกให้รู้ว่าเธอชวนแค่ธีร

ภัทรส่วนคนอื่นไปที่อื่น

“เปรียว”แพรพรรณถือจานอาหารวางลงข้างเพื่อนด้วยสีหน้าไม่พอใจ”ขอนั่งด้วยคนนะคะ” หันไปขออนุญาตกับเพื่อนร่วมโต๊ะ

“แพร มาได้ไงพี่ชายฉันล่ะ”เธอหันไปมองก็ไม่เห็นพี่ชายตัวดี ที่เธออุส่าปลีกตัวอกมาให้ได้อยู่สองต่อสอง

“ไม่รู้เดินมาด้วยกันอยู่ดีๆก็หายไป เดินตามหาอยู่ตั้งนานก็ไม่เห็น แต่ก่อนจะออกไปเห็นโทรหาใครไม่รู้ ฉันว่าต้องเป็นไอ้เด็กคน

นั้นแน่ๆ”ไม่รู้ว่าเด็กนั่นมีดีอะไร ทำไมเธอถึงสู้ไม่ได้

ขณะที่สองสาวกำลังคุยกันเบสสะกิดพี่ชายให้ลุกขึ้น เดินออกมาจากเงียบๆ

“ไอ้เด็กผู้ชายที่เธอเคยบอกฉันก่อนหน้านี้รึเปล่า”จำได้ว่าเพื่อนเคยเล่าให้ฟังก่อนหน้านี้ ว่าพี่ชายเลี้ยงเด็กผู้ชายไว้ถึงจะเป็นเรื่อง

ปกติเพราะตอนที่ต่างประเทศชายรักชายก็มีให้เกลื่อน คิดว่าพี่ชายของเธอน่าจะจริงจังเท่าไหร่พอเบื่อก็ทิ้ง แต่ถึงขนาดทิ้งเพื่อน

เธอไว้คนเดียวแล้วออกไปหานี่ชักไม่ดี เธอคิดว่าน่าจะบอกพ่อให้จัดการตัดไฟแต่ต้นลม

“ใช่ น่าจะเป็นคนนั้นแหล่ะ”

“ใจเย็นก่อน อ้าวคุณธีรภัทร คุณธีรภัทรหายไปไหนแล้ว”เธอมองหาคนที่นั่งอยู่ข้างๆเธอเมื่อครู่หันไปคุยกับเพื่อนแปบเดียวหาย

ไปแล้ว อะไรกันเบอร์ติดต่ออะไรก็ไม่ได้ ใช่ว่ากรุงเทพแคบซะเมื่อไหร่

“ผู้ชายที่นั่งข้างเธอนะหรอเขาไปตั้งนานแล้ว ถ้าอยากรู้ว่าเขาเป็นใครก็ไปสอบถามจุดลงทะเบียนซิ ชื่อธีรภัทรมันจะมีสักกี่คนกัน
เชียว”

“ใช่แล้วทำไมฉันไม่คิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ถ้าอย่างนั้นไป อิ่มได้แล้ว กินไปก็มีแต่อ้วน ไปช่วยฉันหาว่าเขาเป็นใคร”ปรีญารัตนลุกขึ้น

ลากเพื่อนตรงไปจุดลงทะเบียน คอยดูเธอจะรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใครและจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปได้


   เช้าวันใหม่วันแรกของสัปดาห์บนท้องถนนยังเต็มไปด้วยรถที่สัญจรไปมา หนึ่งเดือนแล้วที่เทนนิสและวีร์เข้าฝึกงานบริษัท

เทแอร์เพ วันแรกที่เข้ามาบริษัทฝ่ายบุคคลแจ้งให้ทราบกฎระเบียบของบริษัท สวัสดิการที่จะได้รับพวกเขาได้รับเงินค่าฝึก

ประสบการณ์ ทราบกฎระเบียบแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลพาทั้งสองเดินไปแนะนำตามแผนกต่างๆ พนักงานแต่ละคนเป็นกันเอง

ยินดีต้อนรับนักศึกษาฝึกงาน ตั้งแต่เข้าฝึกงานพวกเขาต้องตื่นแต่เช้า เพื่อมาให้ทันเข้างาน เทนนิสเลี้ยวรถเข้าจอดรถสำหรับมอร์

เตอไซด์แล้วรีบไปแสกนลายนิ้วมือที่เครื่อง 8.10 นาทียังไม่สาย ฝึกงานมาได้เดือนหนึ่งยังไม่ค่อยชินที่ต้องแต่เช้าเท่าไหร่

“เทนนิสเราไปพักกับพี่ปาล ตื่นแต่เช้าอย่างนี้ไม่ไหว”วีร์นึกถึงพี่ชายชวนให้ไปพักที่คอนโดไม่ไกลจากที่เขาฝึกงานนัก น่าจะดี

กว่าที่รีบตื่นแต่เช้า

“เดี๋ยวค่อยว่ากัน ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”เขารีบดินเข้าห้องน้ำส่องกระจกดูสภาพตัวเองที่รีบมาแต่เช้า เสื้อผ้ายับยู่ยี่อยู่บ้างแต่ก็ไม่

ได้ดูน่าเกียจเท่าไหร่ เฮ้อ ถอนหายใจเหนื่อยตั้งแต่เช้า ที่จริงก็อยากหาที่พักแถวนี้เหมือนกันจะได้สะดวกในการเดินทางยิ่งช่วงที่

มีงานด่วนพี่ๆบอกว่าต้องทำงานดึก แต่ค่าที่พักแถวนี้ถูกซะเมื่อไหร่ จะให้ไปพักพี่ปาลก็เกรงใจ

“เป็นอะไร ทำไมทำหน้ายุ่งแต่เช้า งานหนักหรอ”

“เอ่อ เปล่าครับ”นี่ก็อีกคนตอนรู้ว่าธีรภัทรเป็นเจ้าของบริษัทเขาก็ตกใจไม่รู้ว่าโลกจะกลมไปไหน เขาพยายามทำตัวไม่สนิทอีก

ฝ่ายจนเกินไปกลัวจะถูกพนักงานคนอื่นจะว่าได้

“ยังไม่ถึงเวลางานเข้าไปคุยพี่ในห้องก่อนดีกว่า”เขาเดินนำอีกฝ่ายเข้าไปในห้องทำงาน

“เจ้านายมาทำงานแต่เช้าเลยหรอครับ”

ธีรภัทรไม่ค่อยชอบให้อีกฝ่ายเรียกเจ้านายแต่เพื่อให้เกิดความสบายใจก็ต้องยอม“รีบออกมากลัวรถจะติด ทำงานมาได้เดือนหนึ่ง

แล้วที่นี่เป็นยังไงบ้าง”ได้ยินเพื่อนร่วมงานหลายคนบอกว่าเด็กฝึกงานนิสัยดี ขยันทำงาน ว่านอนสอนง่าย มองออกไปนอกห้องที

ไรเห็นแต่นักศึกษาฝึกงานเทียวเดินถ่ายเอกสาร ส่งเอกสารตามโต๊ะ บางครั้งยังเห็นลงไปซื้อกาแฟข้างล่างช่วยแม่บ้าน 

“ดี ครับพี่ๆทุกคนใจดี”มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเป็นธรรมดา แต่แค่ไม่ต้องไปสนใจเท่านั้นก็พอและงานก็ไม่ได้หนักมากถ้าเทียบ

กับที่ทำงานร้านอาหาร

ธีรภัทรยิ้มพอใจกับคำตอบที่อีกฝ่ายไม่มีท่าทางไม่พอใจงานที่พนักงานคนอื่นๆสั่งให้ทำ“ได้ยินว่าเราเทียวกลับบ้านทุกวัน ไม่

เหนื่อยรึไง ถ้ายังไงชวนเพื่อนมาพักกับพี่ไหม”

“จะดีหรอครับ ผมเกรงใจ”แต่ก็น่าจะเกรงใจน้อยกว่าไปอยู่กับปาลภัทร  เขาไม่อยากเป็นก้างสองคนนั้นแค่คิดก็วางตัวลำบาก แต่

ยังไงเรื่องนี้ปรึกษากับวีร์ก่อนก็ดี

เห็นท่าทางอีกฝ่ายกำลังคิดอยู่เลยถามออมาว่า“รึอยากจะพักกับแฟนแค่สองคน”

“หา!นี่เจ้านายก็เชื่อว่าผมกับวีร์เป็นแฟนกันเหมือนคนอื่นหรอครับ”ในมหาวิทยาลัยไม่เท่าไรแม้แต่ที่ทำงานก็เป็นกับเขาด้วย

“ไม่หรอก แค่ดูเหมือนแค่นั้นเอง”เขายิ้มนึกถึงในที่ทำงานสาวๆพูดว่าทั้งสองเป็นคนรัก ดูเหมือนสาวๆในบริษัทจะชื่นชอบอยากให้

ทั้งสองเป็นคนรักกันออกหน้าออกตา

“ผมกับวีร์เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก คือ แม่ของพวกเราเป็นเพื่อนกัน”

“ไม่ต้องคิดมาหรอก พี่เคยได้ยินจากยัยธารมาบ้าง”

“ครับ แล้วธารจะเข้ามาทำงานเมื่อไหร่ครับ”

“น่าจะหลังจากกลับมาจากญี่ปุ่น ถ้ายังไงตอนเย็นให้คำตอบพี่นะ”

“ครับ ผมขอตัวไปงานก่อน”

ธีรภัทรพยักหน้าตอบรับ มองตามหลังคนเดินออกจากห้องไป แล้วกลับมาทำงานของตัวเอง ทำงานมาหลายปีไม่รู้ทำไมช่วงนี้

ทำไมทำงานแล้วมีความสุขผิดปกติ ตื่นแต่เช้าอยากมาทำงาน หยิบแฟ้มที่วางอยู่บนโต๊ะเปิดอ่านข้างในแต่ตอนนี้จิตใจไม่ได้อยู่ที่

งานมันตามแผ่นหลังบางๆที่เดินออกจากห้องเมื่อครู่ไปด้วย

“พี่กวินทร์ สวัสดีครับ”

“หวัดดี หล่อแต่เช้าเชียวนะน้องรัก”

“ทำอะไรอยู่พี่ หน้าตาเครียดเชียว”

“ไม่มีอะไรหรอก เมื่อคืน บางกอกซิตี้แพ้คาบ้าน 1-2 พูดแล้วก็หงุดหงิดอุตส่าตั้งใจเชียร์ กลับแพ้ซะได้ทั้งที่ครึ่งแรกเป็นฝ่ายนำก่อน”

“แพ้อีกแล้วหรอพี่ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็แพ้”เขาเดินไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ดูภาพข่าวกีฬานักเตะชื่อดังยิงประตูเข้าอย่างสวยงาม

“ก็ใช่สิ นี่ถ้าแต่ก่อนมีฟุตบอลไทยลีกส์พี่ได้ไปคัดตัวพวกนี้ไม่มีทางได้เกิด”

“อ้อ พี่เมาค้างรึเปล่า”

“เมื่อคืนไม่ได้กิน นี่ถ้าพี่มีเงินจะตั้งสโมสรทีมฟุตบอล”

“ถ้าอย่างนั้นที่ผมฝันว่าจะได้เห็นทีมชาติของเราเตะกับทีมชาติบราซิลในศึกชิงแชมป์ฟุบอลโลกก็น่าจะเป็นจริงได้สิ”

“พี่ว่าแกกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะเถอะ ก่อนที่พี่จะตกงานแล้วไปนอนฝันที่บ้าน”

   เทนนิสกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะ มีเอกสารที่ต้องพิมพ์ เอกสารที่ต้องถ่ายเอกสารเดินแจกตามแผนกต่างๆ เขาเดินไปหยิบ
กระดาษตรงไปที่เครื่องถ่ายเอกสาร

เมื่อก่อนเคยได้ยินรุ่นพี่หลายคนบ่นว่าเรียนจบปริญญาตรีทำไมต้องไปถ่ายเอกสารส่งแฟกซ์ เดินเอกสารหรือยกของหนักๆ ต้อง

นั่งทำงานในห้องแอร์เย็นๆสบายๆสิถึงจะถูก เขาว่าก่อนที่จะถึงจุดนั้นน่าจะเรียนหรือรู้เริ่มต้นสิ่งเล็กๆน้อยๆ บริษัทยังไม่เชื่อใจคน

ที่จบใหม่ไม่มีประสบการณ์การทำงาน ไม่กล้ามอบหมายให้ทำงานสำคัญ ทุกคนต่างต้องพิสูจน์เรียนรู้งานให้ได้รับความเชื่อใจ

นิ้วเรียวกดจำนวนเอกสารแล้วกดปุ่มถ่ายเอกสาร กลับมานั่งที่โต๊ะใช้ลวดเย็บกระดาษเย็บมุมให้เรียบร้อย เดินไปส่งไปส่งเอกสาร

ตามแผนกต่างๆ แล้วกลับมานั่งพิมพ์งานค้างอยู่ มองดูพนักงานหลายคนเปิดเน็ตเล่นโซเชียลเอฟผ่านโทรศัพท์มือถือ เทนนิส

หยิบหนังสือเวียนแจ้งหัวข้อประชุมที่สำคัญคือเกี่ยวกับสินค้าตัวใหม่ กิจกรรมที่มีในช่วงสงกรานต์และกิจกรรมเข้าสู่ 6 ปีของ

บริษัทขึ้นมาอ่านดู

“ทำอะไรอยู่”กิตเดินมาหยุดที่โต๊ะทำงานเทนนิส มองคนกำลังตั้งใจทำงาน

“เอ่อ พิมพ์งานอยู่ครับพี่กิตมีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า”

“วันนี้ประชุมอีกแล้วน่าเบื่อ”

“แล้วทุกปีช่วงสงกรานต์ทำอะไรกันบ้างครับ”ในฐานะนักศึกษาประการณ์อยากรู้ว่าบริษัทมีกิจกรรมอะไรบ้าง

“อือ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก ตอนเช้าเลี้ยงพระ จากนั้นก็มีรถน้ำดำหัว เลี้ยงข้าวอะไรประมาณนั้น แต่ปีนี้ว่าจะไปเปิดบู๊ทแจกสินค้า

ตัวใหม่ด้วย”

“ออกนอกสถานที่ช่วงวันหยุดนี่ได้ค่าแรงพิเศษไหมครับ”เทนนิสรู้สึกสนใจ

“ได้สิ อยากไปรึไงเรา”พนักงานคนอานมีแต่อยากหยุดไปเที่ยว แต่เด็กนี่อยากทำซะงั้นนี่เป็นโรคบ้างานเหมือนเพื่อนรึเปล่า

“ได้ไหมครับ”

“ไม่รู้สิ”ชายหนุ่มบอกปัดไม่สนใจ”แล้วส่งแผนงานเข้าประกวดไหมนักศึกษาก็ส่งได้นะ”กิตชอบเทนนิสที่ขยันมีความคิดแปลก

ใหม่เรื่องที่มีการเปิดให้มีการประกวดแผนงานเด็กหนุ่มนี่ก็เป็นคนออกความคิดเห็น ทำงานมีหลายปีเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วน

ร่วม ให้รางวัลเป็นตัวกระตุ้นให้พนักงานแสดงความสามารถออกมาก็ดีไปอีกแบบ

“แน่นอนครับ เงินรางวัลเยอะขนาดนั้นใครจะไม่สน”

“ดีๆ พี่ก็อยากเห็นแผนงานเราเหมือนกัน วันนี้เงินเดือนพี่ออก”

“ครับ เงินเดือนพี่ออก เงินเดือนผมก็ออกครับ ว่าแต่พี่จะมาบอกผมทำไม”

“เที่ยงนี้ไปกินข้าวพี่เลี้ยง”

“พี่กิตเลี้ยงผมด้วย”กวินทร์เดินเข้ามาส่วนร่วม

“เลี้ยงน้องใหม่ เทนนิสกับวีร์วันก่อนมันช่วยพี่ทำงานให้พี่”เขามองนาฬิกาข้อมือแล้วบอกกับอีกฝ่ายว่า”อีก 15 นาทีเจอกัน”กิต

เดินกลับเข้าห้องทำงาน

   ถึงเวลาพักเที่ยง บริษัทมีนโยบายประหยัดพลังงาน ไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์ และเครื่องปรับอากาศในออฟฟิตถูกปิด

พนักงานจับกลุ่มเดินเข้าร้านอาหารที่เปิดอยู่ใกล้ๆบริษัท แถบนี้มีตึกสูงอาคารสำนักงานตั้งอยู่เยอะทำให้มีร้านค้าร้านอาหาร รถ

เข็น อยู่เต็มไปหมด ร้านอาหารหลายร้านที่เงียบมาตลอดเช้าเที่ยงตรงภายในร้านเริ่มคึกคักเต็มไปด้วยพนักงานออฟฟิตหลาก

หลายบริษัทออกมาพักกินข้าว ตอนเที่ยงต้นเดือนเมษายนอากาศร้อนมาก เทนนิสกับวีร์คิดไว้ว่าจะมากินข้าวมันไก่เจ้าอร่อยร้าน

อยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนักโดยมีกิตทำหน้าที่เป็นเจ้ามือ ขณะที่จะออกมากินข้าวเจอคุณเลขาและเจ้านายกำลังจะไปกินข้าว

กิตชวนทั้งสองไปกินข้าวด้วยกัน ธีรภัทรและเบสไม่ปฏิเสธ

พวกเขาเดินเข้าไปในร้านข้าวมันไก่ห้องแถวสองคูหาก็ได้กลิ่นของน้ำซุปทันที ด้านในร้านตกแต่งโล่งให้อากาศระบายเหมือนร้าน

อาหารทั่วไปมีพัดลมติดบนเพดานและพัดลมไอน้ำช่วยให้ไม่ค่อยร้อนอบอ้าวเท่าไหร่ เลือกที่นั่งได้แล้วพนักงานรีบเดินมารับออ

เดอร์ ข้าวมันไก่ร้านนี้พิเศษตรงที่น้ำซุปจากซีโครงไก่ ใส่รากผักชี ฟักเขียว หัวไชเท้าและเลือดไก่ ต้มใส่หม้อใบใหญ่ตั้งบนไฟ

อ่อนๆสามารถเติมได้ตลอด เนื้อไก่ต้มที่นุ่มและก๊วยเตี๋ยวไก่น้ำซุปอร่อยไม่ต้องปรุงเพิ่ม

ในร้านมีพนักงานสาวออฟฟิตบางโต๊ะกำลังพูดคุยเรื่องเสื้อผ้าที่พึ่งซื้อมาใหม่บนว่าใส่ไม่ได้เพราะว่าน้ำหนักขึ้น บางคนพูดเรื่อง

ละครน้ำเน่าที่ดูเมื่อคืนกำลังถึงตอนสนุกระหว่างที่กินข้าวไปด้วย บางคนก็เหลือบมามองชายหนุ่มทั้งห้า หันกลับไปพูดกับเพื่อน

ให้หันไปมองถามกันเองเล่นว่าใครหล่อกว่าใครแล้วชอบใครมากที่สุด

“ฉันชอบคนนั้นที่ใส่เชิตสีครีม หล่อ ขรึมๆดูเป็นผู้ใหญ่”

“ท่าทางจะดุ อยากได้แฟนไม่ได้อยากได้พ่อ ของฉันต้องหนุ่มน้อยใส่ชุดนักศึกษาแบบเกาหลีคนนั้น สูงหุ่นบางๆ กำลังดีกรุบ

กรอบ น้องคนที่ใส่ชุดนักศึกษาอีกคนก็น่ารักนะ แต่น่ารักเกินไปหน่อย”

“ไม่ชอบเด็ก ถึงจะขี้อ้อนหรือกินแล้วเป็นอมตะก็ขอผ่านฉันชอบผู้ชายใส่แว่น โอ๊ะฉันแพ้ผู้ชายใส่แว่น”

“พวกเธอไม่รู้อะไรซะแล้วผู้ชายต้องเจ้าชู้นิดๆ สายตาแพรวพราวกรุ้มกริ่ม ผู้ชายมันต้องร้าย เลวนิดๆถึงจะมีเสน่ห์”สาวๆมองไปที่

ชายหนุ่มอีกคนที่มีลักษณะที่เพื่อนบอก แล้วพยักเห็นด้วยแต่ในใจก็ได้แต่เถียงว่าพวกเธอไม่ชอบแบบนั้น พวกเธอนั่งหน้าเครียด

มาตลอดทั้งเช้าออกมากินข้าวเจออะไรที่ดูดี สาวๆก็มองบ่อยให้เป็นอาหารตา บางคนก็อยากรู้ว่าชายหนุ่มกลุ่มนั้นทำงานที่บริษัท

ไหน

ตึกสูงที่เปิดให้เช่าซื้อทำสำนักงานมีทั้งนักลงทุนคนไทยต่างชาติเข้ามาเช่าซื้อแต่บางบริษัทเจอพิษเศรษฐกิจปิดกิจการไปก็

หลายบริษัท ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนเก่าไปคนใหม่มาเรื่อยๆ

กิตแปลกใจที่วันนี้เพื่อนลงมากินข้าวข้างล่างปกติเห็นแต่อยู่ในห้องทำงานกินข้าวกับคุณเลขา มองไปรอบๆร้านเห็นสาวๆมองมา

ที่กลุ่มพวกเขาสายตาพวกเธอมองมาที่เพื่อนของเขา และมองตามเทนนิสกำลังช่วยเพื่อนตักน้ำซุปใส่ถ้วยมาวางที่โต๊ะ เด็กนี่มัน

เสน่ห์แรงจริงๆ นั่งรอไม่นานข้าวมันไก่พิเศษข้าวน้อยๆเนื้อไก่เยอะๆไม่เอาหนังของเทนนิสก็ถูกนำมาเสิร์ฟตามด้วยของคนอื่น 

“อืม ข้าวมันไก่ร้านนี้อร่อยดีนะ น้ำจิ้มรสไม่เหมือนร้านอื่น น้ำซุปนี่ก็อร่อย”เบสออกปากชมปกติไม่ค่อยชอบกินข้าวมันไก่เพราะไม่

ชอบน้ำจิ้มบางร้านใส่ซีอิ้วเยอะ บางร้านใส่ขิงมากเกินไป

“อร่อยใช่ไหมครับ ผมก็ชอบน้ำจิ้มกับน้ำซุปร้านนี้เหมือนกัน”เทนนิสกินข้าวมันไก่มาหลายร้านเขาก็ชอบน้ำจิ้มร้านเหมือนกัน

“พี่ธีร์ สงกรานต์น่าจะเหมาข้าวมันไก่ก๊วยเตี๋ยวไก่ไปเลี้ยงพนักงานนะครับ”เบสเสนอเมนูอาหาร

“ลองเอาลองเว็บแล้วให้พนักงานเข้าไปโหวตสิ”เขาอยากให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของบริษัทจัดขึ้น เขาเป็นคนกิน

ง่าย ไม่ค่อยเลือกกินเท่าไหร่

“ก็ดีนะครับ พี่เบสคิดเมนูอาหารไว้แล้วให้คนเข้าไปโหวต ว่าแต่เลี้ยงข้าวฟรีนี่กี่อย่างครับเจ้านาย”เทนนิสถามอย่างสนใจ

ทุกคนได้ยินคำถามของเทนนิสก็พากันอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ ทำให้เจ้าของคำถามนั่งงงว่าเขาพูดอะไรผิดไปรึเปล่า



ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

         กินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วเทนนิสแวะซื้อผลไม้ตามรถเข็น น้ำมะพร้าวปั่นเย็นๆ กับขนมสองสามอย่างไปฝากพี่กวินทร์ที่วันนี้ไม่

ได้ลงมากินข้าวด้วยเพราะต้องออกไปทำธุระที่ธนาคาร กลับเข้าที่ทำงานเขากับเพื่อนไปช่วยกันเตรียมห้องประชุม เตรียมโน๊ตบุ๊ค

เช็คโปรเจคเตอร์ เตรียมเอกสารสำหรับผู้เข้าร่วมประชุม พนักงานแผนกเลขาลากรถเครื่องดื่มและของว่างเข้ามาในห้อง ผู้เข้า

ประชุมทยอยลงชื่อรับเอกสารแล้วนั่งอ่านเอกสารทบทวนหัวข้อที่ประชุมวันอีกครั้งรอท่านประธาน

   การประชุมเริ่มขึ้นที่ประชุมกำลังดูโฆษณาเปิดตัวของสินค้าตัวใหม่ จะลงฉายในโทรทัศน์ในช่วงก่อนสงกรานต์ เป็นเครื่อง

ดื่มชาเขียวผสมนม โฆษณาใช้เวลาไม่ถึงสามนาทีจบลงในที่ประชุมปรบมือยินดีพร้อมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจเมื่อคิดว่า

พวกเขาใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้สินค้าตัวนี้ออกมา ต่อจากนี้ต้องมาลุ้นกันว่าสินค้าจะขายดีเหมือนกับมันฝรั่งรึเปล่า พนักงาน

แจกสินค้าตัวอย่างที่พร้อมจำหน่ายในแพ็คเก็ตสวยน่ากินให้ทุกคนในที่ประชุมได้ลองชิม จากนั้นเริ่มพูดคุยเรื่องจำนวนสินค้า

ทดลองที่จะแจกในช่วงสงกรานต์บริเวรจุดพักแรกถนนเส้นทางไปภาคอีสานและลงใต้ ได้จำนวนที่แน่นอนแล้วผู้จัดการฝ่าย

โรงงานรับเรื่องไป ส่วนแผนกบุคคลรับเรื่องหาคนไปแจกสินค้า เทนนิสช่วยเบสบันทึกการประชุมเงียบๆเหลือบมองหัวหน้าแต่ละ

คนสีหน้าจริงจัง เขาหยิบเครื่องดื่มเท่ใส่แก้วที่มีน้ำแข็งอยู่ อืม อร่อยดีรสชาตินุ่มดี ไม่ขมฝาดจืดและไม่หวานมากกำลังดี กินกับ

เค้กก็หวาน ไม่เลี่ยน ธีรภัทรเหลือบมองคนที่กำลังกินผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ของบริษัทด้วยท่าทางอร่อยจนเขาอยากลองกินดูบ้าง

และรสชาตินี้น่าจะถูกใครหลายคน

“เทศกาลสงกรานต์ที่บริษัทจะจัดขึ้นก่อนวันหยุดหนึ่งวัน เราจะทำเหมือนทุกปี ตอนเช้าเลี้ยงพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ กินข้าวเที่ยง

ด้วยกัน ตอนบ่ายฟรี กำหนดการทุกคนคงได้รับแล้ว และจะแจ้งทราบอีกทีทางอินทราเน็ต”เบสแจ้งรายละเอียดให้ที่ประชุมทราบ 

   สามชั่วโมงกว่าในที่สุดการประชุมก็เสร็จทุกคนทยอยเดินออกจากห้องประชุม เทนนิสช่วยเก็บโน้ตบุ๊ก ปิดโปรเจคเตอร์

เก็บแก้วน้ำและขยะ เขาเดินถือบันทึกรายงานไปให้คุณเลขาหน้าห้องเจ้านาย เบสหยิบแฟ้มรายงานการประชุมอันเก่าเป็น

ตัวอย่างให้เทนนิสลองทำสรุปรายงานการประชุมมาส่งพรุ่งนี้ ได้งานทำแล้วเขากลับไปที่โต๊ะทำงานมองนาฬิกาแขวนผนังอีกไม่

นานจะเลิกงานแล้ว มีเพื่อนร่วมงานหลายคนแวะมาคุยด้วยถามเรื่องที่ประชุมว่าเป็นยังไงบ้าง วีย์เห็นเพื่อนกลับมานั่งโต๊ะชวนไป

นั่งพักในห้องครัว เข้าไปในครัวมีพนักงานหลายคนมานั่งพักจับกลุ่มคุยกันว่าเลิกงานจะไปที่ไหนกันต่อ บางคนชวนกันไปดูหนัง

ซื้อของ ไปร้องคาราโอเกะ คุยไปคอยระวังไปด้วยว่าเจ้านายจะเดินเข้ามารึเปล่า แต่ละชั้นจะมีห้องครัวให้พนักงานเข้ามานั่งพัก

กินข้าวดื่มน้ำ ดื่มกาแฟหรือมานั่งพัก ชั้นนี้มีไม่กี่แผนกพนักงานไม่เยอะและอยู่ใกล้เจ้านายทำให้ต้องระวังตัวตลอด แต่หลายคน

เลือกเดินลงไปนั่งพักคุยเล่นกับเพื่อนชั้นล่างมากกว่า ส่วนคนที่อยู่มานานก็เคยชินกับเจ้านายขอแค่ไม่ทำอะไรผิดมากมายก็ไม่

ถูกตำหนิ หมวยพนักงานแผนกบัญชีกำลังนั่งคุยกับเพื่อนเรื่องชวนกันไปเดินซื้อเครื่องสำอางค์ลดราคา เธอเห็นชายหนุ่มทั้งสอง

เดินเข้ามาเรียกเข้ามานั่งด้วย

“นี่เทนนิสวีร์ใช้ครีมอะไร ทำไมหน้าใสบอกพี่บ้างสิ”หมวยถามชายหนุ่มทั้งสองหน้าใสกว่าผู้หญิงบางคน ส่วนเธอต้องอาศัยทา

แป้งผสมรองพื้นหน้าถึงได้ออกมาดูดีอย่างนี้ คำถามของเธอทำให้เพื่อนร่วมงานหลายคนมองแก้มใสๆอย่างรู้สึกอิจฉา

“หรือว่าจะเป็นครีมที่กำลังดังในอินเตอร์เน็ตอยู่ตอนนี้เพื่อนหวานก็แนะนำมาเหมือนกัน”

“ผมใช้ครีมพวกเวชสำอางก์ ครีมในเน็ตผมไม่กล้าใช้ไม่รู้ว่าใส่อะไรลงไปบ้าง”แต่ก็มีคนหลงเชื่อโฆษณาว่าใช้แล้วขาว สวย และ

ยิ่งมีดารานักแสดงหรือวัยรุ่นหน้าตาดีออกมาบอกว่าใช้แล้วได้ผลยิ่งทำให้คนตัดสินใจเชื่อง่ายขึ้น

“จริงๆนั่นแหล่ะแค่เอากระปุกครีมมาถ่ายรูปด้วยก็บอกว่าใช้แล้วสวยเหมือนดารา เป็นอย่างนั้นจริงครีมเคาเตอร์แบรนด์ก็ขายไม่

ออกพอดี”เพื่อนร่วมงานหลายคนฟังแล้วรู้สึกไม่กล้าเสี่ยง ถ้าเกิดอาการแพ้ขึ้นมาจะไม่คุ้ม

“กินอาหารเสริมสิครับ ทาครีมได้บำรุงแค่ผิวหน้าแต่กินอาหารเสริมได้บำรุงได้ดีกว่าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วย”สาวๆได้ฟัง

แล้ว ต่างก็บอกว่าพวกเธอเคยกินแล้วแต่นานไปก็ขี้เกียจกิน เดี๋ยวนี้เห็นมีหลายยี่ห้อแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง เทนนิสแนะนำให้อ่าน

บทความเกี่ยวกับอาหารเสริมหลายตัวให้รู้ว่าต้องเลือกกินชนิดไหนให้เข้ากับสภาพผิวแต่ละคน คุยได้ไม่นานเสียงสัญญาณเลิก

งานก็ดังขึ้น หมวยและเพื่อนของตัวกลับก่อนเพราะพวกเธอต้องไปทำธุระต่อ ในห้องครัวที่ตอนแรกมีพนักงานอยู่หลายคนตอนนี้

มีแค่เทนนิสกับวีร์กำลังเล่นคุยกันอยู่ เทนนิสคุยเรื่องที่วันนี้ได้เข้าไปช่วยจดบันทึกรายงานการประชุม เป็นครั้งแรกที่เข้าไปในห้อง

ที่ทุกคนดูจริงจัง และเขาได้ลองกินชาเขียวนมสินค้าตัวใหม่ที่จะวางขายกลางเดือนนี้ วีร์บอกว่าเหรียญสิบกับเอื้อมส่งข้อความมา

ชวนไปเล่นน้ำช่วงสงกรานต์ แต่เขายังไม่รับปากเพราบางทีแม่อาจจะพาไปเที่ยว เพื่อนทั้งสองคนฝึกงานกับบริษัทญาติบอกว่า

ไม่ค่อยทำอะไรได้แต่ไปช่วยคนโน้นทีคนนี้ที วีร์ได้แต่บอกไปว่าพวกเขาก็เป็นเหมือนกัน แต่รอให้ผ่านไปสักระยะอาจจะได้รับ

โอกาสจากผู้ใหญ่ แล้วเรื่องที่พักจะเอายังไงวีร์ถามเพื่อน เทนนิสคิดก่อนแล้วพูดขึ้นว่าจะไปพักกับเพื่อนรุ่นพี่แถวๆนี้ให้วีร์ไปพัก

กับปาลภัทรได้เลย เขาตอบตกลงธีรภัทรไปแล้วว่าจะขอไปพักด้วย ได้ฟังคำตอบเพื่อนแล้ววีร์ก็เข้าใจว่าเพื่อนเกรงใจเจ้าของ

ห้อง เป็นเพื่อนกันมานานเขาเข้าใจ เขาส่งข้อความไปหาปาลภัทรให้รู้ว่าเขาจะเข้าไปขอพักด้วย อีกฝ่ายได้รับข้อความก็ส่ง

ข้อความกลับว่าดีใจว่าเขาตอบตกลงจะเข้ามาพักด้วย

“อ้าว สองคนนี้ยังไม่กลับอีกหรอ”กวินทร์เข้าหาน้ำกินเห็นสองหนุ่มกำลังนั่งคุยกันอยู่

“สักหน่อยพี่ แล้วพี่ไปไหนต่อ”

“รีบกลับบ้านสองทุ่มทีมชาติไทยมีนัดอุ่นเครื่องกับญี่ปุ่น”

เทนนิสเลิกคิ้วขึ้นเหมือนนึกอะไรขึ้นได้“อืม จริงด้วยลืมไปเลยว่าคืนนี้ ฝากเชียร์ด้วยนะพี่”กวินทร์นี่ชอบฟุตบอลเอามากๆนี่ถ้าคืนนี้

มีเตะที่ไทยแล้วแกคงรีบไปจองที่นั่งแล้ว

“ได้ พี่กลับก่อนละ พี่กลับก่อนนะวีร์”ทิ้งแก้วกระดาษลงในถังขยะแล้วแล้วรีบเดินออกไป กลัวถ้ากลับช้ากว่านี้รถติดจะพลาดไม่

ได้ดูฟุตบอล

“ครับ เจอกันพรุ่งนี้”

ทั้งสองคนมองเวลาว่าเย็นแล้วก็ตัดสินกลับไปเก็บของที่โต๊ะแล้วกลับบ้าน ช่วงเวลาหลังเลิกงานทั้งสองแวะหากินก่อนเข้าบ้าน

ไม่ลืมซื้อของไปกินรอบดึก กลับมาถึงบ้านท้องฟ้าก็มืดสนิทไฟในซอยก็เปิดสว่าง แต่ทุกบ้านยังเงียบเหมือนทุกวัน เปิดประตูรั้ว

เข้าไป สายไหมก็โผล่หัวโตๆและน้ำลายยืดๆของมันมาทักทาย เทนนิสเดินเข้าบ้านหยิบขนมรูปกระดูกให้เจ้าตูบและลูบหัวมัน

อย่างเอ็นดู

วีร์อาบน้ำเรียบร้อยตากผ้าเช็ดตัวบนราว เห็นเพื่อนกำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายที่บอกว่าซื้อจากสัปดาห์หนังสืออย่างตั้งใจ ทำ

หน้าตาเหมือนกับอ่านหนังสือสอบซะมากกว่า เห็นอ่านมาหลายวันแล้วเป็นหนังสือซื้อมาตั้งแต่ที่แล้ว เดือนที่แล้วเขาก็พาไปซื้อ

มาอีกหลายเล่มเป็นพวกหนังสือลดราคา มองดูบนชั้นหนังสือที่เพิ่มขึ้นทุกปี ให้เขามานั่งอ่านหนังสือเล่มหนามีแต่ตัวหนังสือเต็ม

หน้ากระดาษฝันไปเถอะที่เขาจะอ่านแค่เห็นก็ง่วงแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมส์ช่วงนี้ทำงานไม่มีเวลาเล่นเกมส์เหมือน

แต่ก่อน บอกว่าไม่มีเวลาก็ไม่ถูกแต่ไม่กล้าเอาขึ้นมาเล่นมากกว่า เห็นเวลาทำงานมีพนักงานบางคนแอบเล่นเกมส์เล่นโซเชียล

เอฟ เขาไม่กล้าเสี่ยงกลัวโดนดุ

“คิดแผนงานแล้วรึยัง”

“อืม คิดแล้ว”

“จริงดิ ทำเสร็จยังขอดูหน่อย”เขามองหน้าเพื่อน เทนนิสยิ้มให้แล้วชี้ไปที่หัวตัวเองบอกว่าทุกอย่างอยู่ในหัวเขาหมดแล้วเหลือแค่

เขียนออกมาเท่านั้น วีร์รู้ว่าเพื่อนเก่งขอให้เพื่อนช่วย เทนนิสถามว่าต้องการจะทำแบบไหน เขาแนะนำเพื่อนให้ทำเกมส์แต่ก็ยุ่ง

ยากเกินไปเปลี่ยนเป็นสติกเกอร์ไลน์ช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ผลิตภัณฑ์องบริษัทมากขึ้นน่าจะดี โดยใช้มันฝรั่งหรือซองขนมมัน

ฝรั่งแสดงอารมณ์คำพูดต่างๆ วีร์ได้ฟังความคิดเห็นเพื่อนรีบลุกขึ้นดูตัวอย่างการเขียนแผนงานผ่านหน้าจอโทรศัพท์อย่างตั้งใจ

เทนนิสเห็นเพื่อนกำลังตั้งใจบอกว่าพรุ่งนี้จะช่วยคิดแต่ตอนนี้นอนก่อน

   เช้ากลางสัปดาห์ อากาศตอนเช้ายังสดชื่นเหมือนเดิม ปืนยืนอยู่หน้ากระจกกำลังสวมเสื้อแต่งตัวให้เรีบร้อยออกไปทำงาน

เขาหันซ้ายขวามองความเรียบร้อยอีกครั้งแล้วหยิบกระเป๋าเอกสารเดินลงไปชั้นล่าง เฆ้นแม่กำลังช่วยแม่บ้านจัดเตรียมมื้อเช้าให้

ทุกคน พ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ เขานั่งลงที่เดิมวันนี้มีข้าวต้มปลาเป็นมื้อเช้าก่อนออกไปทำงานทุกคนนั่งกินข้าวเงียบๆเป็น

ปกติเหมือนทุกวัน ปรีญารัตนเดิน อ้าปากหาว มานั่งข้างๆพี่ชาย เธอกระซิบบอกพี่ชายว่าเธอบอกเรื่องที่พี่ชายแอบออกไปหาเด็ก

ผู้ชายคนนั้นกับพ่อแล้วเตรียมตัวโดนพ่อด่าได้เลย ปืนนั่งนิ่งเหลือบมองชายสูงอายุ

“ฉันส่งแกไปเรียนเมืองนอก ไม่นึกว่าแกจะมีความคิดวิปริตชอบผู้ชายด้วยกัน”

“เพล้ง”เสียงช้อนหล่นกระทบจานเสียงดัง”ขอโทษค่ะ”ปรีญาวรรณตกใจที่สามีบอกว่าลูกชายของเธอชอบพออยู่กับผู้ชายด้วยกัน

นี่มันเรื่องอะไรกันเธอไม่อยากเชื่อ เธอมองไปที่ลูกชายยังนั่งกินข้าวไม่สนที่แก้ตัวเรื่องที่สามีเธอพูด

“ผมไม่ได้ชอบแพรพรรณ”เขาพูดเสียงเรียบ ไม่สนใจท่าทีของพ่อจะรู้สึกอย่างไร

“แต่ชอบผู้ชายด้วยกัน”ปรีญารัตนพูดขึ้นมาจ้องหน้าพี่ชายแสนดี เธออยากเห็นพี่ชายถูกพ่อดุบ้าง

อติพจน์วางช้อนลง หันหน้าไปมองลูกชายที่แต่ก่อนพูดอะไรก็เชื่อฟังตลอดแต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ลูกชายคนนั้นถึงกล้าขัดใจเขา

ลูกสาวอีกคนที่เอาแต่เที่ยวไปวันๆ

“แล้วแต่จะคิด พ่อบังคับผมมามากแล้ว แต่นี่มันความสุขทั้งชีวิตของผม ผมขอเถอะให้ผมได้มีสิทธิ์เลือกเองบ้าง”เขาพูดสิ่งที่

อยากพูดออกมา ที่จริงเขาน่าจะพูดอย่างนี้ตั้งนาน

“เด็กนั่นเป็นใคร”ถามอีกครั้งเพื่อแน่ใจ

“ผมไม่ได้มีใครทั้งนั้นแหล่ะ ถ้าพ่อจะเชื่อคำพูดใครก็ควรที่สืบให้รู้ก่อน ผมอิ่มแล้วขอตัวนะครับ”ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจาก
บ้านไป

“ฮึ”ทำเป็นโกรธกลบเกลื่อนคอยดูเถอะเธอจะขัดขวาง ปรีญาวรรณมองตามหลังลูกชายรู้สึกสงสารที่ไม่มีอิสระในการใช้ชีวิต

แม้แต่จะความรักก็ต้องให้พ่อหามาให้

“ผมอิ่มแล้ว”แค่นี้ก็ทำให้อติพจน์เดาได้ว่าผู้ชายที่ลูกชายสนิทด้วยมีคนเดียว เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาให้เลขาสืบเกี่ยวกับหลาน

ชายของเขาถ้ามีข่าวว่าลูกชายเขาไปชอบเด็กผู้ชาย แผนการที่เคยคิดจะไห้ลูกชายแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนคงต้องมีปัญหา เขา
คงต้องไปหาเด็กนั้นสักครั้ง

   เสียงดนตรีบำบัดดังแว่วมาจากห้องรับแขก ธีรภัทรเงยหน้าขึ้นจากเอกสารหันไปมองหน้านาฬิกาเกือบจะหนึ่งทุ่มแล้ว

ท้องฟ้าด้านนอกยังมีแสงพระอาทิตย์อยู่บ้างช่วงหน้าร้อนพระอาทิตย์จะตกช้ากว่าปกติ เขาวางปากาลงบนโต๊ะใช้มือนวดคลึง

หว่างคิ้ว รู้สึกหิวน้ำเดินออกจากห้องทำงานผ่านห้องรับแขกที่ตอนนี้มีเพื่อนร่วมห้องกำลังนั่งอ่านหนังสือด้วยหน้าตาเคร่งเครียด

เขาสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังอ่านอะไรอยู่ นั่งลงโฟซาอีกตัวหยิบหนังสือที่วางอยู่หลายเล่มขึ้นมาเปิดดู นวนิยายหรอ เขาเลิกคิ้วขึ้น

ด้วยความแปลกใจ

“ผมเปิดเพลงเสียงดังรบกวนพี่รึเปล่า”เทนนิสถามเจ้าของห้องที่นั่งลงบนโซฟาเงียบๆ เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่หลายวันแล้วตอนแรก

ก็เกรงใจอยู่บ้าง เขาไม่ต้องทำความสะอาดเพราะมีแม่บ้าน แต่เจ้าของห้องก็อนุญาตให้ทำกับข้าวง่ายๆ นอกจากนั้นเจ้าของห้อง

ก็ขลุกอยู่แต่ในห้องทำงาน มีบ้างออกมานั่งดูโทรทัศน์รายการสารคดี ใช้ชีวิตเหมือนหุ่นยนต์ยังไงไม่รู้ คนที่สร้างขึ้นมาคงตั้ง

โปรแกรมไว้ไม่กี่อย่าง เมื่อวานเขาเลยชวนอีกฝ่ายแวะซื้อของใช้ที่ห้างสรรพสินค้า กินข้าวข้างนอก เห็นอีกฝ่ายชอบเขาก็ดีใจ

อย่างน้อยก็คงไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายลำบากใจเท่าไหร่

“เปล่าหรอก แค่หิวน้ำ แล้วอ่านอะไรอยู่ท่าทางจะสนุก”ลองเปิดอ่านเนื้อหาข้างใน นานแล้วที่ไม่ได้อ่านหนังสือประเภทนี้

สนุกกับผีนะสิ”นิยายจีนแปลครับ แต่อ่านไปแล้วเหมือนไม่ได้แปลยังไงไม่รู้ อ่านแล้วไม่ค่อยรู้เรื่อง ดีนะเป็นหนังสือลดราคาไม่

อย่างนั้นผมคงเสียดายเงินมากกว่านี้”พูดไปแล้วก็มองหนังสือหลายเล่มที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาน่าจะคิดได้ถ้ามันสนุกคงไม่เอามาลด

ราคาหรอก คนแต่งก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน

“นิยายจีนแปลหรอ พี่นึกว่าเราจะชอบอ่านพวกแฟนตาซีมากกว่า”

จะบอกว่าเขาเป็นพวกเพ้อฟันอะไรปะมาณนี้รึเปล่า“ฮึ ฮึ ผมอ่านแบบแฟนตาซีไม่รู้เรื่อง อ่านแล้วไม่ชอบรู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไม่มีจินตนการหรือจินตนาการไปไม่ถึงก็รู้”

“แล้วเรื่องที่อ่านเกี่ยวกับอะไร”

“เกี่ยวกับราชวงศ์หนึ่งของจีน ประมาณว่าตัวเอกเป็นคนธรรมดาใช้ความสามารถจนได้ดีเป็นถึงแม่ทัพใหญ่อะไรประมาณนี้ นี่มี

หลายเรื่องเลยครับถ้าผมลงเรียนประวัติศาสตร์จีนอ่านนิยายพวกนี้ไปสอบผมต้องได้ A แน่นอน”

“ประวัติศาสตร์จีนมีวัฒนธรรมที่ยาวนาน ไม่แปลกที่พวกเขาจะรักและภูมิใจ แต่ก็สอนดีนะที่บอกว่าคนธรรมดาใช้ความสามารถจะ

เป็นกลายเป็นใหญ่เป็นโตได้ มันทำให้เห็นความพยายามของคน”

“จะทุ่มหนึ่งแล้วหรอนี่ ผมจะลงไปหาของหวานกินแก้ปวดหัว พี่ธีร์จะเอาอะไรไหมครับ กับข้าวผมทำเสร็จแล้วอยู่บนโต๊ะหิวก็ได้

เลยไม่รอผม”พูดแล้วก็คิดว่าตัวเองทำเหมือนเจ้าของห้องไปทุกวัน โชคดีที่ธีรภัทรเป็นคนกินง่าย ห้องในคอนโดไม่ค่อยสะดวก

ทำกับข้าวเพราะปัญหาเรื่องกลิ่น เขาเลือกทำอาหารง่าย วันก่อนได้ไปกินอาหารญี่ปุ่นเลยมีความคิดอยากลองทำดู ครัวที่มี

อุปกรณ์ครบทุกอย่างปล่อยไว้เฉยๆก็น่าเสียดายตายเลย ถือเป็นค่าตอบแทนเจ้าของห้องให้มาอาศัยอยู่ด้วย

“ไม่ล่ะ อย่ากลับดึกนะ”

“ถ้าอยากได้อะไรโทรบอกผมนะ”

เทนนิสรีบเดินออกจากห้องพัก กลัวว่าร้านกาแฟแถวนี้จะปิดก่อนจะได้กินเค้กอร่อยๆ ใช้สมองไปเยอะตอนนี้รู้สึกหิว ทำงานนี่สนุก

ว่าเรียนเป็นไหนๆ ไม่ต้องรีบเข้าห้องเรียนให้อาจารย์เช็คชื่อ ทนนั่งฟังอาจารย์วันละหลายชั่วโมง ไม่ต้องรีบทำรายงานการบ้านส่ง

อาจารย์ ที่สำคัญไม่ต้องอ่านหนังสือจนดึกก่อนไปสอบ ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันอย่างน้อยก็ได้พักสมองบ้าง แต่ทำไมเขาเห็นพี่ธีร์

ทำงานตลอดเป็นเจ้านายลำบากอย่างนี้อย่าเป็นมันเลยดีกว่า ติ๋ง เสียงลิฟต์เปิดมีคนเดินเข้าในลิฟต์

“อ้าว เทนนิส มาทำอะไรที่นี่”เป็นเอกทักรุ่นน้องที่ยืนอยู่ในลิฟต์ก่อนแล้ว

“สวัสดีครับ พอดีว่าผมมาขอพักกับเพื่อน กำลังจะหาของหวานกิน”

“พอดีเลย พี่ว่างไปด้วยคนสิ”เป็นเอกยิ้มให้รุ่นน้อง รอสักครู่ลิฟต์มาหยุดชั้นล่างทั้งสองเดินไปที่ร้านกาแฟแถวคอนโด ป้ายหน้า

ร้านบอกเวลาปิดสามทุ่ม เข้าไปในร้านยังมีคนนั่งอยู่หลายโต๊ะ ทั้งสองเดินไปสั่งเครื่องดืมที่เคาเตอร์ เทนนิสมองตู้แช่เค้กที่มีเค้ก

หลายแบบอยู่ข้างในหน้าตาน่ากินทั้งนั้น ราคาไม่แพงเท่าไหร่ เห็นแล้วคิดถึงร้านกาแฟแถวๆมหาวิทยาลัย เป็นเอกอาสาจ่าย

ทั้งหมด เทนนิสก็ไม่ขัดใจ

“ฝึกงานเป็นยังไงบ้าง ดูผอมไปนะเรางานหนักหรอ”

เอ๊ะ นี่เขาน้ำหนักลดอีกแล้วหรอ มันไม่เหมือนตอนเรียนอยากกินตอนไหนก็แค่วิ่งไปโรงอาหาร แต่เวลาทำงานก็กลัวถูกหัวหน้า

ว่า“ไม่หนักครับ วันๆทำแต่ถ่ายเอกสาร ส่งแฟกซ์ เดินเอกสาร พิมพ์ กรอกข้อมูล และทำงานช่วยๆพี่ๆเขา”

“คิดได้อย่างนั้นก็ดี”

“แล้วพี่ตอนนี้ทำอะไรอยู่”

“ทำงานช่วยที่บ้าน พอดีที่บ้านทำ Import-Export เล็กอยู่ เดี่ยวว่าจะแยกออกมาทำของตัวเอง”

“ฮือ”

“ทำเป็นแบบฝากขายของผ่านทาง Web เหมือนต่างประเทศ อย่างเกาหลีมีเว็บไซด์ขายของเขาเองที่ขายพวกเครื่องสำอาง

เสื้อผ้าแฟชั่นของเขา แล้วก็แผ่นซีดีเพลงของศิลปินเกาหลี วัยรุ่นไทยชอบซื้อ แต่ของพี่จะทำแบบเป็นสินค้าจุดเด่นของไทย

พวกสินค้า Otop สินค้าโครงการหลวง ของขึ้นชื่อแต่ภาคอะไรประมาณนี้”

“ฟังดูแล้วน่าสนใจมาก ขายของทางอินเตอร์เน็ตในอนาคตมีแนวโน้มตลาดจะขยายตัว เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น”

“เป็นไงสนใจมาทำการตลาดให้พี่ไหม ไม่เกินปลายปีนี้ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย”

“อืม เร็วขนาดนั้นเลย แล้วไม่ชวนพี่เป้”

“พอดีถูกหวยได้เงินมาก้อนหนึ่งเลยอยากรีบทำ ส่วนไอ้เป้มันกำลังติดสาวอยู่ มันไม่สนใจเพื่อนหรอก”

“จริงดิ พี่ผมเป็นเอามากถึงว่าไม่รู้โพสต์อะไรลงไปในโซเชียลเอฟบ้าง เอางี้ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยได้ก็บอกเพื่อนพี่เป้ผมยินดี

ช่วย”ไหนบอกว่าจะตั้งทำงานเก็บเงิน เจอสาวสวยไม่เท่าไหร่ ไม่ไหวไม่ไหวเดี๋ยวต้องส่งข้อความไปตอนสติซะหน่อย

“ขอบใจล่วงหน้า เดี๋ยวกลับก่อน ว่างๆ เราค่อยไปหากินกัน ไปละ”

“โชคดีครับ”

   ข้างนอกท้องฟ้ามืดสนิทเทนนิสนั่งกินนมอุ่นๆกับเค้กส้มชิ้นใหญ่มองออกไปข้างนอกรถยังบนถนนใหญ่ยังติดเป็นระยะ เดิน

ไปเลือกหยิบนิตยสารที่วางอยู่บนชั้นเลือกหยิบนิตยสารเพิ่งออกใหม่กลับมานั่งอ่านที่โต๊ะ เปิดอ่านไปเรื่อยๆมองดูเวลาไม่ถึง

ชั่วโมงร้านจะปิด เก็บหนังสือไว้บนชั้นไม่ลืมซื้อขนมเค้กขึ้นไปฝากเจ้าของห้องไม่รู้ตอนนี้กินข้าวไปแล้วรึยัง




***************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป


 :katai4: :katai4:


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

เรามาติดตามด้วยคน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด