Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก [ตอนที 16 ] 8/08/2560 [The End]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้าเรื่อง Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มคุณจะซื้อหรือไม่

ซื้อแน่นอน
2 (28.6%)
ไม่ซื้อ ไม่สนใจ
0 (0%)
ดูก่อน ดูปก ดูราคา ดูช่วงเวลา และดูเงินในกระเป๋าก่อน
5 (71.4%)
ยังตัดสินใจไม่ได้ ถามแฟนก่อนว่าจะให้ซื้อไหม
0 (0%)
อยากได้เป็น E-book มากกว่า อ่านที่ไหนก็ได้ อิอิ ฟินได้ทุกที่ ทุกเวลา
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 6

ผู้เขียน หัวข้อ: Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก [ตอนที 16 ] 8/08/2560 [The End]  (อ่าน 21383 ครั้ง)

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เรื่องน่าสนใจ ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ
ค่อนข้างอืด ตัวละครเยอะ
เป็นการบรรยายเป็นส่วนใหญ่
การพูดจาสนทนาค่่อนข้างน้อย
เป็นกำลังใจให้ไรท์ นะ  :mew1: :mew1: :mew1:
ธีรภัทร เทนนิส  :mew1:
ปาลภัทร วีร์  :mew1:
เป็นเอก สนใจเทนนิส
ปืน เหมือนจะชอบธาร
แพรพรรณ แสดงความเป็นเจ้าของปืน
แถมทำกิริยาน่าเกลียดใส่เทนนิส
ทั้งที่ยังไม่ได้หมั้นหมาย
ริต้า แสดงออกว่าชอบปาลภัทรเต็มที่
เปรียว เป็นน้องสาวปีนหรือเปล่า
ล่าผู้ชายไม่อายเลย อ่อยธีรภัทรเต็มที่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล. คำผิดเยอะมาก ก่อนลงทวนอีกครั้งนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-01-2017 09:49:33 โดย ♥►MAGNOLIA◄♥ »

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
เรื่องน่าสนใจ ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ
ค่อนข้างอืด ตัวละครเยอะ
เป็นการบรรยายเป็นส่วนใหญ่
การพูดจาสนทนาค่่อนข้างน้อย
เป็นกำลังใจให้ไรท์ นะ  :mew1: :mew1: :mew1:
ธีรภัทร เทนนิส  :mew1:
ปาลภัทร วีร์  :mew1:
เป็นเอก สนใจเทนนิส
ปืน เหมือนจะชอบธาร
แพรพรรณ แสดงความเป็นเจ้าของปืน
แถมทำกิริยาน่าเกลียดใส่เทนนิส
ทั้งที่ยังไม่ได้หมั้นหมาย
ริต้า แสดงออกว่าชอบปาลภัทรเต็มที่
เปรียว เป็นน้องสาวปีนหรือเปล่า
ล่าผู้ชายไม่อายเลย อ่อยธีรภัทรเต็มที่
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ปล. คำผิดเยอะมาก ก่อนลงทวนอีกครั้งนะ


ขอบคุณมากสำหรับความคิดเห็น........
ดีใจมากที่มีคนอ่านแสดงความคิดเห็นยาวอย่างนี้.....ชอบอ่ะ
ใช่เนื้อเรื่องค่อนข้างอืด....เป็นความตั้งใจของคนแต่ง..อิอิ
บอกชื่อตัวละคนแถมนิสัยอย่างนี้ ...อ่านอย่างละเอียดจริงๆ...ปลื้มมาก
ว่างๆ..เข้ามาอ่านเรื่อยๆนะ..............

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

แจ้งข่าว
ขออนุญาติหายไปสักพัก.........ติดสอบจ้า..........(สอบตกเดี๋ยวจะโดนดุ)
หลังสอบเสร็จจะมาลงให้ต่อจ้า....ไม่มีหนีหายแน่นอนจ้า....
ขออภัยในควาใไม่สะดวกมาณที่นี้ด้วย

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ตอนที่ 9
[/size]

   ในห้องทำงานกว้างชายหนุ่มร่างสูงสวมเสื้อสีเขียวอ่อนกำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวโต เขาอ่านแผนงานที่พนักงานส่งเข้าประกวด โดยมีเลขาหนุ่มอีกคนนั่งอยู่ตรงข้ามช่วยดู แผนงานหนึ่งหน้ากระดาษตามฟอร์มที่บริษัทแจกให้เป็นกระดาษสรุปย่อให้เข้าใจง่ายเขียนด้วยลายมือ แต่ไม่ได้เขียนชื่อเจ้าของมีเพียงหมายเลขเขียนไว้ที่มุมกระดาษ ธีรภัทรรู้สึกว่ายุติกรรมกับทุกฝ่ายไม่ต้องคิดว่าเป็นลูกคนนั้นคนนี้เป็นพนักงานเก่าหรือใหม่ เขาเปิดอ่านแผนงานทีละแผ่นจนมาหยุดสนใจแผนงานหนึ่ง บอกรักแบบทะเล้น บอก ขอโทษแบบทะเล้น และบอกขอบคุณแบบทะเล้น ความคิดง่ายๆแต่อ่านเข้าใจความหมาย แผนงานเหมาะที่จะใช้ทำกิจกรรมร่วมสนุกถ่ายรูปเหตุการณ์ที่ บอกรัก บอกขอโทษ และบอกขอบคุณแบบทะเล้นไม่เหมือนใครแล้วในภาพถ่ายนั้นต้องมีผลิตภัณฑ์ของทะเล้นอยู่ด้วย สามารถทำเป็นโฆษณา หรือใช้คำพวกนี้พิมพ์ลงในแพคเก็ตสินค้าได้ เจ้าของความคิดนี่ใช้ได้ ธีรภัทรแยกกระดาษแผ่นนั้นออกมาจากกอง
“เป็นไงบ้างครับพี่ธีร์มีอันไหนบ้างน่าสนใจบ้าง”เบสนั่งดูเอกสารเงียบช่วยเจ้านายถามขึ้นมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายเหมือนจะเจอแผนงานที่ถูกใจแล้ว
“เยอะเหมือนกัน มีสองสามแผ่นที่ถูกใจ คณะกรรมการคนอื่นดูแล้วรึยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ เหลือพี่ธีร์เป็นคนสุดท้าย ผมจะรวบรวมคะแนนจากกรรมการแต่ละคนให้มาแล้วจะประกาศทาง อินทราเน็ตให้ทุกคนรู้”
“อืม แล้วหมายเลขไหนได้คะแนนเยอะที่สุด”
“ความลับครับ ห้ามบอกใครประธานบริษัทก็ห้ามบอก”
“ฮึ ฮึ ได้ไม่อยากรู้แล้ว นี่สามคนที่พี่เลือกส่วนคะแนนพี่เขียนไว้ตรงนี้”
“ขอบคุณครับ”เลขาหนุ่มรับแผนงานนี่ให้คะแนนเรียบร้อยแล้วมาดู เขายิ้มอย่างพอใจที่ผลงานที่เขาชอบมีคณะกรรมการหลายคนชอบเหมือนเขา”ใกล้เลิกงานแล้วพี่ธีร์ก็พักบ้างเถอะครับเหนื่อยมาทั้งวัน อีกอย่างก็ไม่มีงานอะไรแล้วด้วย”
“อืม ก็ดีเหมือนกัน”ร่างสูงหลับตานวดหว่างคิ้วผ่อนคลายความเมื่อยล้า”แล้วงานสงกรานต์ที่จะจัดเป็นยังไงบ้าง”
“เรียบร้อยครับ ทำหนังสือเชิญไปที่วัดแล้วพระท่านก็ตอบแล้วเรียบร้อย วันนั้นลุงชมจะขับรถตู้ไปรับพระ อาหารที่ใช้เลี้ยงพนักงานก็ได้แม่บ้านช่วยทำเป็นอาหารง่ายๆ ส่วนผู้ใหญ่รดน้ำดำหัวก็จะเป็นพนักงานที่อายุเยอะและคณะผู้บริหาร“ธีรภัทรฟังเลขาบอกความคืบหน้าของงานก็รู้สึกหายกังวล พนักงานทำงานหนักมาหลายเดือนได้ผ่อนคลาย มีเวลาสนุกบ้างก็ดี “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับไปทำงานต่อก่อนนะครับ”เจ้านายพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับ
   อีกไม่ถึง 15 นาทีจะถึงเวลาเลิกงานนาฬิกาดิจิตอลตัวใหญ่บอกเวลาบนผนัง พนักงานหลายคนรีบเร่งทำงานวันนี้ให้เสร็จก่อนเวลาเลิกงานและไม่อยากให้งานค้างไปจนถึงพรุ่งนี้ กิตวางงานในมือที่นั่งทำมาตลอดทั้งบ่าย เขารู้สึกเบื่อกระดาษเอสี่สีขาวที่มีตัวหนังสือเต็มไปหมด วันนี้ปลายสัปดาห์เขาอยากออกไปหาอะไรดื่มแต่ยังหาเพื่อนไม่ได้ มองออกไปด้านนอกที่แผนกทั่วไปเขารู้แล้วว่าจะชวนใครไปดี ปิดแฟ้มงานบนโต๊ะให้เรียบร้อย เดินตรงไปแผนกทั่วไป
“เทนนิสเลิกงานไปกินเหล้ากันพี่เลี้ยง”
ฮืม ชายหนุ่มเจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองเจ้านายที่ชอบเอางานเอกสารมาให้ช่วยทำบ่อยๆเกาะฉากกั้นส่งยิ้มหวานมาให้ เทนนิสก้มหน้าลงมองหน้าจอคอมที่มียังมีงานค้างอยู่นิดหน่อย แล้วปฏิเสธออกไปว่า”พี่ผมอายุยังถึงไปชวนพี่กวินทร์กับปอนโน่น”เขาชี้ไปรุ่นพี่อีกสองคนนั่งหน้ายุ่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่ถัดไปอีกสองสามโต๊ะ
“ไอ้เทนนิสแกจะบอกว่าฉันกับพี่ปอนแกแล้วใช่ไหม”กวินทร์ได้ยินชื่อตัวเองถูกพาดพิงก็เลื่อนเก้าอี้ล้อชะโงกหน้าออกมาจากฉากกั้น เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีเจตนาว่าเขาอย่างนั้น
“เปล่าพี่”ตะโฏนปฏิเสธออกไป แล้วหันไปบอกคนที่ยังเกาะฉากกั้นไม่ไปไหน”พอดีเย็นนี้ผมมีนัดแล้ว เอาไว้โอกาสหน้านะพี่กิต แต่ช่วยกรุณาบอกผมก่อนล่วงหน้าหลายวันก็ดี”ไม่ใช่นึกจะชวนก็ชวน
“พี่กิตไปกับผมกับพี่ปอนก็ได้พวกผมว่างตลอด”กวินทร์ลุกขึ้นเดินมาคุยกับหัวหน้าที่บอกว่าอยากไปดื่ม
“วันนี้แกไม่กลับไปดูบอลหรอกวินทร์”
“วันนี้ไม่มีบอลเตะพี่ ไปได้”
“ถ้ามี มันคงจะไปกับพี่หรอก แล้วเราจะไปที่ไหนพี่”ปอนเดินเข้ามาร่วมวงคุยด้วย
“ไปกับพวกแกไม่เลี้ยงนะโว้ย กินเหล้าเหมือนกินน้ำเปล่าเปลืองชะมัด”
“โถ่พี่ นานๆครั้งเลี้ยงน้องเลี้ยงนุ่งจะเป็นไรไป”
“พี่พี่คุยอะไรกันอยู่กัน จะพากันไปเที่ยวที่ไหน”วีร์ได้ยินเสียงคุยกันคุ้นๆ ชะเง้อมองเห็นรุ่นพี่หลายคนยืนคุยเกาะฉากกั้นโต๊ะที่เพื่อนนั่งอยู่ เขาสนใจเข้าไปคุยด้วย
“ไปกินเหล้ากัน ไปด้วยกันไหม เทนนิสก็ไปนะ”คนที่นั่งอยู่กำลังจะอ้าปากปฏิเสธว่าตัวเองไม่ไป เพื่อนคนตัวเล็กเห็นก็รู้ว่าเพื่อนจะพูดอะไร
“พวกผมไม่ว่าง วันนี้ต้องไปเป็นเพื่อนผมทำธุระ”
“เห็นไหมพี่ผมบอกแล้วว่าไม่ว่าง เอาไว้มันหลัง”
เสียงสัญาณเลิกงานดังแว่วมาพนักงานที่ทำงานเสร็จเรียบร้อยเก็บของ เปิดคอมพิวเตอร์บอกลาเพื่อนๆไปสแกนลายนิ้วมือก่อนกลับ ออฟฟิตที่ปกติเงียบอยู่แล้วก็เงียบลงไปอีกไฟที่ไม่ได้ใช้ก็ปิด ส่วนเครื่องปรับอากาศปิดแล้วเมื่อถึงเวลาเลิกงานแต่ก็ยังรู้สึกเย็นอยู่ มันเป็นนโยบายประหยัดพลังงานของบริษัท เทนนิสนั่งทำงานต่อจนเสร็จ เปลี่ยนมาเข้าอินเตอร์เน็ตอ่านข่าวออนไลน์รอเวลาอย่างน้อยเจ้านายก็ยังไม่ออกมาจากห้องทำงาน กลับห้องพักตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำข้างนอกตอนเย็นๆอากาศร้อน ปลายสัปดาห์หลายคนชวนกันไปดื่ม เที่ยว ไปดูหนัง ดูหนังไม่รู้ว่าช่วงนี้มีหนังเรื่องอะไรน่าสนใจเข้าฉายบ้าง ว่าแล้วเขาก็เปิดดูเฉกรอบหนังและรายชื่อหนังที่เข้าฉาย เลื่อนเมาส์ดูแล้วค้นหารายละเอียดของหนัง ดูไปสองสามเรื่องรู้สึกมีคนมียืนอยู่ข้างๆทำให้เขารีบเงยหน้าขึ้นมอง
“หนังเรื่องนี้น่าดู ไปดูหนังกันไหม”ธีรภัทรเดินออกจากห้องตรงมาหาเพื่อนร่วมห้องจะชวนกลับเร็ว แต่เห็นอีกฝ่ายกำลังตั้งใจดูตัวอย่างหนังเรื่องหนังอย่างตั้งจนไม่รู้ว่าเอามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ คงเป็นหนังสนุกมากถึงได้ตั้งใจดูขนาดนั้น
“ครัย”คำพูดของร่างสูงที่ยืนมองหน้าจอทำให้เทนนิสแปลกใจ วันนี้อากาศร้อยเกินไปรึเปล่าคนบ้างานไหนชวนเขาไปดูหนัง แต่ก๋ดีกลับห้องพักก็ว่างไม่มีอะไรทำ ยังไงแวะซื้อนิยายเล่มใหม่ดีกว่า เขาตอบตกลงอีกฝ่ายรีบปิดคอมพิวเตอร์ปิดไฟ เดินตามร่างสูงไปที่ลานจอดรถที่มีรถจอดอยู่ไม่กี่คัน ช่วงนี้รู้สึกตัวเองเหมือนคุณหนูมีคนขับรถหรูหรูให้นั่ง ได้นั่งบนเบาะนุ่มสบายเอนหลังได้ แอร์ก็เย็นฉ่ำ มีเพลงจังหวัดฟังสบายแบบที่เขาชอบให้ฟังด้วย แต่ถ้าเจ้าสองล้อคู่หูรู้ความคิดนี้เข้าต้องน้อยใจแน่เลย นั่งฟังเพลงจบไปหลายเพลงในที่สุดก็มาถึงห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด ทั้งสองขึ้นไปชั้นบนดูรอบหนัง เรื่องที่ต้องการดูรอบที่ฉายเร็วที่สุดอีกสองชั่วโมง เป็นหนังเข้ามาแล้วสองสัปดาห์ทำให้รอบหนังห่างกัน เข้าแถวซื้อตั๋วเรียบร้อยกลับลงมาหาอะไรกินรอเวลา อีกอย่างเทนนิสก็เริ่มหิวแล้วด้วย ช่วงเย็นปลายสัปดาห์ร้านอาหารชื่อดังหลายร้านยังเป็นที่นิยม และมีหลายร้านต้องถึงขนาดถือบัตรคิวรอหน้าร้าน นี่มันร้านอาหารหรือโรงทานกันแน่ คนทั้งสองเดินหาร้านอาหารที่คนไม่เยอะเกินไปตัดสินใจเข้าร้านสเต๊ก สั่งสเต๊กจานใหญ่คนละจานกับน้ำอัดลมแก้เลี่ยน
“นี่ถ้าผมมีเงิน ผมจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น เกาหลี”ชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นร้านอาหารทั้งหมดแต่ส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นกับร้านอาหารเกาหลี ส่วนร้านอาหารไทยมีไม่ถึงสองร้านและที่สำคัญอาหารจานหนึ่งราคาร้อยกว่าบาททำให้เทนนิสคิดถึงกับข้าวที่คณะอร่อยแถมไม่แพง
“ไม่แน่ใจว่าเป็นกับเรื่องความชอบของรสชาติหรือค่านิยม คนไทยชอบของที่นำเข้าจากต่างประเทศ”
ใช่เทนนิสก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันเพราะของบางอย่างที่นำเข้าจะมาตรฐานหรือคุณภาพที่มากกว่าในบางอย่าง “ร้านอาหารไทยผมว่าน่าจะเปิดขายให้ชาวต่างชาติมากกว่า คนไทยส่วนใหญ่จะนั่งกินอาหารตามสั่งข้างทางมากกว่าหรือร้านอาหารบรรยากาศดี และอีกอย่างอาหารไทยคนไทยกินบ่อยแล้วและใครก็ทำเป็น อาหารญี่เป็นอาหารทางเลือกเป็นอะไรแปลกใหม่และรสชาติไม่จัด”แต่สเต๊กหมูกับสเต๊กปลาพริกไทยดำนี่อร่อยเหมือนกัน “ยังไงอาหารไทยก็อร่อยที่สุด อืม คุณป้าทำกับข้าวได้อร่อยมากเลย”
ธีรภัทรยิ้มเมื่ออีกฝ่ายชอบฝีมือทำกับข้าวแม่ของเขา“เราก็ทำกับข้าวเก่งนะ”นึกถึงกับข้าวหลายอย่างที่คนตรงหน้าทำให้กินทุกวันแทบไม่ซ้ำกัน บางวันยังมีขนมคุกกี้ให้กินอีก
“มันจำเป็นถ้าไม่ทำก็ไม่มีใครทำให้กิน ไม่อย่างนั้นผมก็ต้องพึ่งอาหารแช่แข็งในร้านสะดวกซื้อ”ถ้าเป็นอย่างนั้นคงเป็นโรคไตหรือเป็นโรคขาดสารอาหารตายกันพอดี
“อืม มิน่าทำกับข้าวอร่อย”
“ผมไม่ดีใจหรอกครับที่คนกินง่ายอย่างพี่บอกว่ากับข้าวฝีมือผมอร่อย”กับข้าวอร่อยหรือไม่อร่อยก็กินได้หมดไม่มีบ่นสักคำ
ธีรภัทรได้ยินตรงหน้าพูดแล้วอยากเถียงแต่มันก็เป็นความจริงที่เขาไม่ค่อยเรื่องมากกับของกินเท่าไหร่
“สงกรานต์นี้ไปเที่ยวไหนรึเปล่า”
“ยังไม่รู้เลย ทำไมจะชวนผมไปเที่ยวที่ไหน”
“ใช่ พี่ธิมกับคุณแม่ไม่ว่างแต่สองแฝดอยากไปเที่ยว คุณแม่เลยให้มาชวนเราไปด้วยพาเด็กๆไปเที่ยววัดเหมือนทุกปี”
เทนนิสยิ้มให้อีกฝ่ายเขายังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ อืม ไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กนี่เอง
หลังจากกินสเต๊กจนอิ่มทั้งสองออกไปเดินย่อยชั้นล่าง จนไปแวะเข้าร้านหนังสือทั้งสองเดินแยกไปมุมหนังสือที่ตนเองชอบ เทนนิสไปมุมนวนิยายดูว่ามีเรื่องไหนออกมาใหม่น่าสนใจบ้าง อ่านชื่อหนังสือที่อยู่บนสันเรียงอยู่เต็มชั้นแยกตามประเภทของนิยาย หยิบโน้นเล่มนี้ขึ้นมาอ่านมองดูเวลาอีก 15 นาทีจะถึงเวลาหนังฉายทั้งสองกลับนั่งรอหน้าโรงหนัง
ซื้อข้าวโพดคั่วกับน้ำอัดลมชุดประหยัด ชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนนั่งรอหน้าโรงหนังสาวๆหนุ่มๆหลายคนแอบมองทั้งคู่
“พวกแกดูผู้ชายสองคนนั้นซิ”
“อือ กำลังเล่นเกมส์มันมันเลย ไหนไหนแกอยากให้ฉันดูอะไร”หญิงสาวที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นแล้วหันไปมองตามที่เพื่อนบอก ส่วนอีกคนก็เหลียวมองไปตามสายตาเพื่อน
“นั่นไงนั่งอยู่ใกล้ทางเดินคนหนึ่งก็สูงหล่อเข้มตาสวยเหมือนลูกครึ่งเลยแต่งตัวเหมือนเพิ่งเลิกงาน อีกคนก็สูงหล่อเหมือนเกาหลีเลยใส่ชุดนักศึกษาด้วย”
“แกมองซะเขาจะทะลุแล้ว รู้จักเช็ดน้ำมูกน้ำลายบ้าง”
“ว่าไปนั่น ว่าแต่มันมีจริงๆหรอ”
“แกว่าเขาเป็นแฟนกันเปล่าวะ ดูเหมาะกันดี”
“ไม่หรอกมั้งแค่ผู้ชายหน้าตาดีสองคน มาดูก็จะเป็นแฟนกันแล้วหรอ ถ้าฉันมาเพื่อนผู้หญิงสองคนบ่อยไม่เป็นเลสแล้วรึไง”
“เรื่องแบบนี้ไม่แน่หรอก แต่เขาเป็นแฟนกันก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนี่นา”
“เกือบเดินเข้าขอเบอร์แล้วไหมล่ะ”
“ฉันว่าแกเดินไปขอเขาก็ไม่ให้หรอก ถ้ามีแฟนแบบแกฉันขอเป็นโสดดีกว่า”
“อ้าว พูดอย่างนี้มาด้วยกันรึเปล่าเนี่ย”
“ไม่ต้องเถียงกันแล้วเข้าไปข้างในดีกว่า ประตูเปิดแล้ว”
สามสาวเลิกสนใจหนุ่มหล่อเดินตามกันเข้าไปในโรงหนัง
   ในโรงหนังมืดสลัวอากาศเย็นสบายทุกสายตากำลังจดจ้องไปจอหนังขนาดใหญ่ เสียงหนังที่กำลังฉายอยู่บนจอดังขึ้นเป็นระยะ เสียงดนตรีระทึกขวัญดังขึ้นสลับกับเสียงเงียบ หลายครั้งทำให้คนที่ตั้งใจดูต้องสะดุ้งตกใจ บางคนถึงกลับส่งเสียงกรี๊ดออกมาเมื่อมีผีหน้าตาน่ากลัวโผล่มาจากใต้เตียงบ้าง ในห้องน้ำบ้าง ก็มันน่ากลัวอย่างนี้ซิเทนนิสถึงไม่กล้านอนเตียงที่มีใต้เตียงโล่งเวลาดึกกลัวมีตัวอะไรคลานออกมาหรือมีมือโผล่ออกมาจับข้อเท้า แล้วไอ้เสียงดนตรีกระตุ้นอารมณ์ให้รู้สึกกลัวสลับกับเงียบน่าขนลุกนี่ ทำให้เขาต้องเกาะที่พักแขนไว้แน่น ข้าวโพดคั่วกับน้ำอัดลมก็แทบกลืนไม่ลง
“เฮ้ย”เขาตกใจเมื่อเห็นผีโผล่มา จนต้องรีบใช้มือข้างหนึ่งปิดปากไว้ ส่วนมืออีกข้างเกาะแขนคนนั่งข้างๆอย่างไม่ตั้งใจ คนถูกเกาะแขนก็ตกใจเหมือนกันเมื่ออยู่เฉยมีมือมาเกาะที่แขน เขาหันหน้ามามองคนนั่งข้างๆนั่งจ้องหน้าจอปิดปากนั่งหลังติดผนักเก้าอี้ หัวเอียงมาเกือบชิดไหล่ขวาของเขา จนได้กลิ่นแชมพูอ่อนอ่อนกลิ่นน้ำหอมจางจางของคนข้างๆที่เขาได้กลิ่นบ่อยๆ เขาหันไปมองเส้นผมสีดำอย่าลองใช้มือลูบจะนุ่มเหมือนที่เขาไว้รึเปล่า ขณะที่กำลังคิดอะไรบ้าบ้าหัวของอีกฝ่ายก็ชิดเข้ากับจมูกจนได้กลิ่นหอม
เทนนิสนั่งเกรงอยู่นานจนรู้สึกว่าตนเองนั่งผิดท่า และเหมือนว่ามือข้างหนึ่งจับแขนใครอยู่ ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมองก็รู้ว่าเป็นแขนของใคร“ขอโทษครับ”เขารีบปล่อยมือที่เกาะคนนั่งข้างๆออก ทำยังไงได้คนมันตกใจนิ
คำขอโทษเบาเบาของเทนนิสทำให้ธีรภัทรได้สติขึ้นมาเบือนหน้าหนีและหัวใจที่หยุดเต้นเมื่อครู่กลับมาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะโดยที่เขาเองหาสาเหตุไม่ได้ จนต้องเลื่อนมือมาวางที่หน้าอกตัวเอง นี่เขาเป็นอะไรไปทำงานเยอะจนเป็นโรคหัวใจแล้วรึเปล่า
“เฮ้อ จบแล้วในที่สุดพระเอกกับนางเอกก็ปราบผีนั่นได้”ไฟในโรงหนังสว่างขึ้น บนจอดำมีแต่ตัวหนังสือวิ่งขึ้นเรื่อย คนดูทยอยเดินออกไปตรงประตูทางออก คนดูบางคนยังพูดถึงหนังที่พึ่งจบไป
 “ไม่รู้ว่าคืนผมนอนหลับสนิทรึเปล่า ภาพที่ผีผู้หญิงมันคลานออกมาจากใต้เตียงติดตาผมอยู่เลย ยิ่งคิดยิ่งสยอง”
“คนเขาถึงบอกว่าผีไทยน่ากลัว ไม่แพ้ผีชาติใดในโลก”
“ฟังดูแล้วเหมือนจะดูดี”แต่ไม่น่าภาคภูมิใจเลยที่ประเทศตัวเองมีสิ่งลี้ลับชวนขนหัวลุกอยู่”พี่เป็นอะไรรึเปล่าดูหน้าแดงแดง"เขามองหน้าอีกฝ่ายที่แดงเห่อเล็กน้อย เขาคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นไข้เพราะช่วงนี้อากาศร้อนขึ้นทุกวัน ธีรภัทรถูกทักก็เข้าใจว่าตนเองอาจจะป่วยจริงๆ บางทีได้เขาได้นอนพักสักงีบอาจจะดีขึ้นก็ได้ อืม แค่นอนพักก็จะหาย
   
   ฟ้าใหม่แล้วละนะน้อง สงกรานต์เราร้อง ทำนองเพลงโทน โน่นไงจ๊ะ โทนป๊ะโทนๆ
ทั้งโยกทั้งโยนเย้ายวนยั่วใจ .........เสียงเพลงเริงสงกรานต์ของวงสุนทราภรณ์ถูกเปิดขึ้นในตอนสายของวันที่ทางบริษัทจัดงานสงกรานต์ให้พนักงานได้มีส่วนร่วมกับวัฒนธรรมประเพณีของไทย กลิ่นน้ำอบไทยกลิ่นดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอ่อนไปทั่วงาน วันนี้ทุกคนสวมเสื้อลายดอกสีฟ้าขาวที่ทางบริษัทแจกให้และประแป้งที่แก้มเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศรื่นเริง พนักงานที่ได้รับมอบหมายหน้าที่กำลังเร่งมือตรวจความเรียบร้อยงานของตัวเองก่อนที่จะถึงเวลางานเริ่ม บริเวณชั้นหนึ่งของสำนักงานถูกจัดให้เป็นสถานที่จัดงานบรรยากาศคล้ายงานวัด เสื่อที่ยืมมาจากวัดถูกปูยาวเป็นแถวหลายแถวให้พนักงานได้นั่งร่วมประกอบพิธีทางศาสนา อาสนะและสิ่งของอื่นๆทางบริษัทซื้อถวายวางไว้พอดีกับจำนวนพระสงฆ์ที่นิมนตร์มา ภัตราหารเพลเตรียมพร้อมพระสงฆ์ 9 รูป เมื่อพระสงฆ์มาถึงพนักงานประเคนอาหารคาวหวานให้พระภิกษุสงฆ์ เสร็จสิ้นพิธีสงฆ์ ต่อมาพนักงานสูงอายุและคณะผู้บริหารของบริษัทถูกเชิญให้นั่งบนเก้าอี้ให้พนักงานเข้าแถวรดน้ำดำหัวขอพร   
“ขนมจีนน้ำยาแกงไก่อร่อยดีนะ”เทนนิสกำลังนั่งกินขนมจีนหลังจากที่เข้าแถวรดน้ำผู้ใหญ่เสร็จ บางคนก็ตักกับข้าวขึ้นไปกินที่ห้องครัว
“ฉันยังไม่ได้ลองกินเลย แล้วนี่ตกลงได้ยังว่าสงกรานต์จะไปเที่ยวไหน”วีร์ถามเพื่อนที่ยังไม่ตอบตกลงว่าช่วงวันหยุดจะไปเที่ยวที่ไหน
“พรุ่งนี้ว่าจะไปกับพี่ธีร์”
“ถ้าอย่างนั้นอีกสองวันที่เหลือพวกเราไปเล่นน้ำแถว Happy Mall กันนะปีนี้ก็ปิดถนนให้เล่นน้ำเหมือนเดิมมีเวทีแสดงดนตรีด้วย”เขาอยากไปเล่นน้ำกับเพื่อนเพื่อน เอื้อมกับเหรียญสิบก็ตกลงแล้วว่าไป ที่จริงเขาน่าจะชวนพี่ปาลไปด้วยไปหลายคนจะได้สนุก
“อากาศร้อนๆ อยากไปเที่ยวทะเลแต่ถ้าไปช่วงนี้คงไม่มีที่พักแถมคนเยอะด้วย ทำงานทั้งวันทำให้รู้เลยว่าวันหยุดมีค่าแค่ไหน ถ้ามีเวลาก็อยากไปเที่ยว ทะเล ภูเขา แล้วกระเพาะปลาอร่อยไหม”เขามองถ้วยชานอ้อยที่ไม่มีอะไรเหลืออยู่ในนั้น
“อร่อยดี”เขาเลื่อนถ้วยเปล่าให้เพื่อนดู”เครื่องเยอะมีทั้งเห็ดหูหนูขาว แคบหมู ปีกบนไก่ ไข่นกกระทา เครื่องในไก่และเลือดไก่ด้วยฉันก็เพิ่งกินกระเพาะปลาสูตรคุณป้าแม่บ้าน นี่ฉันลองแอบไปถามสูตรมาแล้วด้วย ไว้จะทำให้กิน”
เทนนิสเลิกคิ้วขึ้นหันไปมองเพื่อนที่มั่นใจว่าจะทำกระเพาะปลาได้อร่อย เขาลุกขึ้นไปตักกระเพาะปลาที่โต๊ะ วีร์เดินตามเพื่อนไป
“ตักต้มยำให้ด้วยดิ”เขายื่นถ้วยใบเล็กให้เพื่อน”ดีจะได้ไม่ต้องทนกินแต่ข้าวผัด”ไม่ใช่ว่าไม่อร่อยแต่ทำบ่อยเกินไปก็เบื่อ”แล้วเคยทำข้าวผัดให้พี่ปาลกินบ้างไหม เอาเห็ดฟางเยอะๆ อร่อยดี”
“ทำสองสามครั้งแล้ว พี่แกคงเบื่อหรอกแต่ไม่พูด ฉันทำอย่างอื่นไม่เป็นนี่นาทำไง หยิบขนมจีนใส่ถ้วยให้หน่อยเอาสองชิ้นพอ เหลือท้องไว้กินอย่างอื่นด้วย”ของหวานกับผลไม้สดก็น่ากิน และยังมีไอติมกะทิด้วย
“กับข้าวฝีมือป้าแม่บ้านอร่อยไหม”เบสเดินเข้ามาเปิดหม้อดูกับข้าวว่ามีอะไรบ้าง กับข้าวที่เกือบเต็มหม้อใบขนาดกลางเมื่อเช้าตอนนี้เหลือครึ่งหม้อ ถ้าไม่หมดคงต้องให้ป้าแม่บ้านห่อกลับไปกินที่บ้าน วิ่งวุ่นทั้งเช้าหิวแล้วด้วย เบสหยิบจานเล็กเล็กหยิบผลไม้ใส่สองสามชิ้นรองท้องก่อน
“อร่อยสมคำล่ำลือ พี่เบสกินอะไรแล้วยังครับเห็นวิ่งวุ่นทั้งเช้าเลย”เห็นแล้วเหนื่อยแทน
“ยังเลย กำลังหากับข้าวให้เจ้านายก่อน”อืม ฝรั่งนี่กรอบหวานดีด้วย แตงโมนี่ก็หวาน
“เทนนิสพัดไทด้วยไหม พี่เบสจะไปกินกันข้างบนกับเจ้านายหรอครับ”
“ไม่ล่ะ เอาไก่ทอดกับทอดมันดีกว่า”เขาชี้ที่ถาดของทอดหลายอย่างอยู่ในนั้น
“กินข้างล่างนี่แหล่ะพอดีมีหัวหน้าโรงงานมาด้วย”
“เดี๋ยวพวกผมช่วยพี่เบส เอากับข้าวทุกอย่างใช่ไหม”
“ใช่ งั้นพี่ไปเตรียมโต๊ะก่อนนะ”เบสเดินไปเตรียมโต๊ะให้เจ้านาย เทนนิสและวีร์เดินถือถาดกับข้าวตามไป และช่วยจัดโต๊ะ
“เทนนิส วีร์กินข้าวยัง มานั่งกินข้าวด้วยกันสิ”
“ไม่เป็นไรพี่กิต พวกผมได้ที่นั่งแล้ว”
“มานั่งกินด้วยกันสิ กับข้าวเยอะแยะกินไม่กี่คนกินไม่หมดหรอก”ธีรภัทรเพิ่งเดินมาได้ยินทั้งสองคุยกัน เจ้านายออกปากชวนทั้งสอง ทั้งสองก็ไม่กล้าปฏิเสธเดินไปหยิบกับข้าวกลับมาที่โต๊ะ นั่งกินข้าวกับผู้ใหญ่หลายคนเงียบเงียบและรู้สึกเกร็ง และกับข้าวไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ กิตแนะนำนักศึกษาฝึกงานทั้งสองให้รู้จักกับหัวหน้าดูแลฝ่ายของโรงงานที่นานครั้งจะโผล่เข้ามาที่สำนักงานใหญ่ คนหนึ่งคือปรัญชายหนุ่มตัวสูงผิวขาวเหลืองสวมเสื้อลายดอกสีฟ้าขาวส่วนอีกคน ทนาชายหนุ่มที่มีความสูงไล่เลี่ยกันแต่สีผิวเข้มกว่า ทั้งสองปกติจะอยู่ประจำที่โรงงานดูแลเครื่องจักร สินค้าการผลิตและขนส่งสินค้า นานทีเข้ามาที่บริษัทแต่วันก่อนเพื่อนโทรไปบอกว่าคืนนี้จะพาเลี้ยงเหล้าพวกเขาไม่อยากขัดใจเพื่อน ที่จริงวันนี้โรงงานก็หยุดให้คนงานกลับบ้านเพราะโรงงานมีลูกจ้างมาจากต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ ปรัญมองเด็กฝึกงานทั้งสองที่พนักงานสาวหลาย

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
คนบอกว่าหล่อ ใช่คนหนึ่งหล่อแต่อีกคนน่าจะเรียกว่าน่ารักมากกว่า ธีรภัทรมองเทนนิสปกติเห็นใส่ชุดนักศึกษาไม่งั้นก็ชุดนอนเสื้อยืดคอเปื่อยกับกางขายาวเอวย้วยแต่วันนี้ใส่เสื้อยืดสีขาวสวมทับเสื้อลายดอกและสวมกางเกงยีนต์เข้ารูปทำให้ดูดีไปอีกแบบ เขาหันไปคุยกับอีกฝ่ายถามว่ากับข้าววันนี้อร่อยไหม อีกฝ่ายตอบกลับมาว่าอร่อยเขาก็ดีใจ ตั้งแต่วันที่หัวใจของเขาเต้นแรงไม่รู้สาเหตุ จากนั้นก็เกิดขึ้นอีกหลายครั้งแต่มันจะเกิดเฉพาะเวลาที่เขาอยู่ใกล้เทนนิส บางทีน้องสาวเขาอาจพูดถูกเขาชอบรุ่นพี่ของเธอเข้าแล้ว 
“ปลายเดือนที่แล้วเครื่องที่เราสั่งซื้อมาแทนตัวเก่าจะมาถึงแล้ว ทางบริษัทส่งทีมวิศวกรมารับเอาเครื่องเก่าไปและติดตั้งตัวใหม่ให้เราแล้วเรียบร้อย ลองเช็คเครื่องหลายครั้งไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องที่เจ้าหน้ามาตรวจคุณโรงงานที่มาตรวจประเมินเดือนไหนหนังสือน่าจะมาถึง”
“ได้รับแล้วแจ้งหัวหน้าคนอื่นแล้ว ส่วนคนที่จะไปยังไม่ลงตัว”
“นี่ไงเอาเด็กสองคนนี่ไง จะได้ไปช่วยงานเบสมันด้วย มาฝึกงานอย่าอยู่แต่ในออฟฟิต พาน้องไปดูโรงงานด้วยเวลาไปคุยกับเพื่อนได้”
“ไงเทนนนิส วีย์อยากไปดูโรงงานไหม”
“ครับ/ครับ”ทั้งสองตอบพร้อมกัน แล้วมองหน้ากันพวกเขาอยากไปดูความลับความอร่อยมันฝรั่ง
“ตามนี้เบจเพิ่มชื่อน้องทั้งสองคนเข้าไปด้วย เอาไปเป็นเพื่อนกินหล้าด้วย”
กินข้าวไปด้วยคุยไปด้วยเปลี่ยนหัวข้อสนทนาจากเรื่องงานเปลี่ยนเป็นเรื่องชวนกันไปดื่มคืนนี้ กิตโทรชวนเพื่อนหลายคนไว้แล้วนานทีได้มีโอกาสเจอกัน แต่บางคนก็มาไม่ได้ต้องไปเที่ยวต่างจังหวัดต่างประเทศกับคนรักกับครัวครอบในช่วงวันหยุดยาว คนที่ว่างมาก็เป็นชายโสด กินข้าวเสร็จ นัดเวลาสถานที่เรียบร้อยแล้วทุกคนแยกย้ายกันในตอนบ่าย
   พรุ่งนี้วันหยุดยาววันแรกตั้ง ตอนบ่ายถนนขาออกการจราจรเริ่มติดขัด  ผู้คนกำลังเดินทางออกต่างจังหวัดกลับบ้านบางคนไปเที่ยว แต่เทนนิสกลับมานั่งอ่านการ์ตูนฟังเพลงกินขนมตั้งแต่บ่ายสี่โมง หลังจากที่ช่วยทุกคนเก็บสถานที่จนเรียบร้อย เขาปิดหนังสือการ์ตูนเล่มที่สิบลง มองไปรอบรอบห้องที่มีเสียงดนตรีบรรเลงแล้วเหลือบมองนาฬิกา เกือบจะหกโมงเย็นแล้วมิน่าเขาถึงรู้สึกหิว นั่งอ่านการ์ตูนมาเกือบสองชั่วโมงปวดแขนไปหมด ใกล้ถึงเวลานัดธีรภัทรเดินออกมาจากห้องทำงานบอกให้เทนนิสไปอาบน้ำเตรียมตัว เทนนิสเก็บหนังสือบนโต๊ะให้เรียบร้อยเดินเข้าห้องนอน เขาหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัว กลับออกมาเห็นเจ้าของห้องนั่งดูข่าวอยู่ที่โซฟา
“ว้าว วันนี้พี่ธีร์ดูดีมากเลย แต่งตัวแบบนี้ดูดีดูเด็กขึ้นเป็นกอง สาวสาวเห็นต้องมองตาเป็นมัน เหลียวหลังจนคอเคล็ด”เขาชมคนที่สวมเสื้อยืดกางเกงยีนเข้ารูปสบายสบายแทนใส่เสื้อเชิ้ตสวมสูทหรู
คนถูกชมทำตัวไม่ค่อยถูก ตื่นเต้นดีใจนิดนิดที่ถูกอีกฝ่ายชม”ทำไมทุกวันพี่ดูไม่ดีหรอ”ชักไม่แน่ใจที่ถูกอีกฝ่ายชม 
“เปล่า ผมชอบที่พี่แต่งตัวแบบนี้มากกว่าดูสบายสบาย มากกว่าเสื้อเชิ้ตกับสูทราคาแพง”แล้วทำหน้าตาไร้อารมณ์ จนคนรอบข้างเดาไม่ถูกว่าเจ้านายอยู่ในอารมณ์ เป็นคนที่เข้าใจยากคนหนึ่งแต่พอได้รู้จักจริงจริงแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็เป็นคนดีคนหนึ่งแต่แค่เป็นคนพูดน้อยและแสดงอารมณ์ความรู้สึกทางสีหน้าไม่เก่งก็เท่านั้น
คำตอบของคนตรงหน้าทำให้คนฟังยิ้มได้“เราก็ดูดีนะ ดูดีกว่าเสื้อคอเปื่อยกับกางเกงเอวย้วย”
“ไม่ต้องแซวผมหรอก ผมไม่อายเพราะมันใส่แล้วสบาย”
“ฮึ ฮึ รีบไปกันเถอะปล่อยให้คนอื่นรอมันไม่ดี”เขาเตือนอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี เทนนิสเดินตามอีกฝ่ายไปที่ลานจอดรถ และบอกธีรภัทรให้แวะรับวีร์ไปด้วย ผู้โดยสารครบรถคันหรูวิ่งไปตามถนนปลายทางคือบ้านกิตตามที่นัดกันไว้ ข่าวทางวิทยุออกอากาศให้ผู้ใช้รถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการจราจรติดขัด พวกเขามาถึงก่อนเวลานัดเล็กน้อย ทางเข้าหมู่บ้านมีเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยคอยตรวจ เมื่อเจ้าหน้าปล่อยให้เข้าไปข้างในบ้านจัดสรรหลังใหญ่เรียงเป็นแนวยาวเกือบทุกบ้านปิดเงียบมีเพียงแสงไฟหน้าบ้านริมรั้วเปิดทิ้งไว้ เข้าไปลึกมากก็เจอบ้านกิต หน้าบ้านมีรถจอดอยู่แล้วสองคัน บ้านสองชั้นหลังใหญ่ดูแล้วน่าจะไล่เลี่ยกับบ้านธีรภัทร หน้าบ้านเปิดไฟสว่างมีเสียงคนคุยกันแว่วออกมาจากในบ้าน ธีรภัทรกดออดสองสามครั้งเจ้าของก็วิ่งออกมาเปิดประตูให้ เข้าไปในบ้าน ปรัญและทนากำลังช่วยยกกับข้าวออกมาจากครัว เทนนิสเข้าไปช่วยยกของที่เหลือ   
   ยำวุ้นเส้น ปลาหมึกย่างกุ้งเผาหอยแครงนึ่งถาดใหญ่พร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ด ปีกลางทอดและกับแกล้มอีกสองสามอย่าง เทนนิสกินทุกอย่างลองท้องเพราะกับข้าวกินตั้งเที่ยงย่อยหมดแล้ว กับข้าวทุกอย่างเจ้าของบ้านซื้อจากข้างนอกไม่บ่อยครั้งจะกินกุ้งตัวใหญ่กับน้ำจิ้มอร่อย จนทุกคนแซวว่าต้องเก็บเงินค่ากุ้งเผาเพราะดูจากเปลือกกุ้งแล้วเขาน่าจะกินเยอะสุด เขาไม่แก้ตัวแค่หัวเราะแก้เขินและไม่สนใจ ปล่อยให้เจ้านายและเพื่อนจิบเหล้านอกขวดเหลี่ยมฝาสีดำข้างขวดคาดฉลากสีดำไปคุยกันไป กับข้าวหมดเขาก็ไปตักมาเพิ่ม นั่งกินเงียบๆคุยกับคนอื่นบ้าง ฟังเจ้านายคุยกันว่าทุกคนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยมัธยมเรียนโรงเรียนเดียวกันและมหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะ คนแก่เอาเรื่องเก่ามาพูด คนที่ถูกพูดถึงมาที่สุดเป็นกิตหนุ่มเพลบอยที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าจนเจอดีไปเจอสาวประเภทสองเข้า
“ชีวิตวัยรุ่นลูกผู้ชายอย่างเราสิ่งที่สำคัญ ก็คือ เหล้า เที่ยว รถ และก็ผู้หญิง”กิตพูดแล้วยกแก้วขึ้นจิบ เขายอมรับสมัยเรียนมหาวิทยาลัยใช้ชีวิตเต็มที่ แต่ก็เคยทิ้งการเรียนทิ้งเพื่อน หลังเรียนจบก็ปรับเปลี่ยนนิสัย มีบ้างที่เที่ยวดื่มแต่ก็ไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อนเพราะมีหน้าที่การงานความรับผิดชอบที่ต้องผิดชอบ
“เจ้านายนี่ก็ใช่ย่อย”กิตพูดแล้วหยุดมองไปที่เพื่อนนั่งนิ่งไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ไหน คนถูกพูดถึงไม่รู้แปลกใจแต่อยากรู้ว่าจะถูกพูดถึงเรื่องอะไร เขามองไปที่เทนนิสกำลังทำท่าทางสายตาอยากรู้อยากเห็น จนเขายิ้มออกมาบางบางดีใจที่อีกฝ่ายสนใจในตัวเขา ที่จริงเรื่องแบบนี้ถ้าอีกฝ่ายอยากรู้เรื่องในสมัยเรียนถามเขาเขาก็จะบอก แต่เอาเถอะให้เพื่อนเพื่อนบอกก็คงไม่เสียหายอะไร
“เล่าเลยพี่ เจ้านายอนุญาตแล้ว”เขาอยากรู้เจ้านายทำหน้าตาไร้อารมณ์อย่างนี้ตั้งแต่สมัยก่อนรึเปล่า
“เห็นมันหน้าตาไร้อารมณ์อย่างนี้สาวสาวเยอะอย่าบอกใคร แต่มันก็ไม่เคยคบใครได้นาน ชอบมีคนมาหาเรื่องมันบ่อยบ่อยด้วย”
“มันเรื่องมาก คิดว่าตัวเองหล่อเลือกได้”
ธีรภัทรฟังเพื่อนพูดเรื่องตัวเองแล้วคิดถึงภาพตัวเองตอนนั้นไปด้วย เจอหน้ากันครั้งแรกต่างคนต่างไม่มีใครชอบขี้หน้ากันเกือบจะตีกันก็หลายครั้งแต่สุดท้ายไม่รู้อะไรทำไมถึงได้มาเป็นเพื่อนกันจนถึงตอนนี้ เพื่อนในขวดเริ่มปริมาณลงจนเหลือแค่ก้นขวด น้ำแข็งในถึงเริ่มละลาย ทนา ปรัญก็แสดงอาการเมาออกมา เทนนิสมองหน้าจอโทรศัพท์มีสายเข้าเขาต้องออกไปคุยข้างนอก เป็นปาลภัทรโทรมาถามว่าจะกลับตอนไหน อย่าปล่อยให้วีร์กินจนเมา ไม่รู้จะเป็นห่วงอะไรกันนักกันหนา โทรมาได้ทุกหนึ่งชั่วโมงนี่ห่วงเกินเป็นพี่น้องรึเปล่าพี่ปืนยังไม่ยังขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเพื่อนของเขาน่ารักมีหนุ่มหนุ่มเข้ามาจีบบ่อยบ่อย จนเขาต้องสวมรอยว่าเป็นแฟนเพื่อตัดความรำคาญจนกลายเป็นข่าวลือถึงทุกวันนี้ บางทีที่เคยคิดว่าปาลภัทรคิดกับเพื่อนเขามากกว่าพี่น้องอาจจะเป็นจริงก็ได้ แต่เพื่อนเขาคิดยังไงเดาใจไม่ถูก เจ้าตัวยังไม่รู้ใจตัวเองแล้วเขาเป็นแค่คนนอกจะไปรู้ใจเพื่อนได้ไง ถ้าเขาลองกระตุ้นให้เพื่อนคิดและกระตุ้นให้ฝ่ายโน้นชัดเจนมากขึ้นทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้ ......ไม่เอา ไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้านให้พวกเขาไปจัดการกันเอง ห้าทุ่มกว่าแล้วอากาศข้างนอกไม่ร้อนมากเพราะมีต้นไม้และลมพัดมาเบาๆ คุยโทรศัพท์เสร็จเขายังไม่กลับเข้าไปในบ้านเขานั่งเล่นบนโต๊ะหินอ่อนมองท้องฟ้าโปร่งแต่มองไม่เห็นดาวสักดวง
“ออกมานั่งทำอะไรข้างนอกมืดมืดคนเดียว”ธีรภัทรนั่งลงข้างข้างคนที่แหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าจนได้กลิ่นน้ำหอมจางจางผสมกลิ่นแอลกอฮอล์เวลาลมพัดมาเบาจนทำให้หัวใจเต้นแรงจนต้องขยับให้ห่างอีกฝ่าย เขามองซีกหน้าข้างหนึ่งที่ถูกแสงไฟเขาชอบมองแก้มใสๆไม่รู้ว่ากดจมูกลงไปจะหอมและนุ่มเหมือนที่คิดเอาไว้รึเปล่า เฮ้อ นี่เขาคงดื่มเยอะไปหน่อยเลยคิดอะไรบ้าบ้า หรือเขาควรจะไปหาหมอดีช่วยตรวจรักษาอาการไม่ให้มีความคิดไม่เข้าท่าแบบนี้ ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าเขาคิดบ้าบ้าแบบนี้คงรังเกียจเขาแน่แน่ ใช่เขาต้องเก็บความรู้สึกที่มันเพิ่มขึ้นทุกวันให้มิดชิด มันเป็นความคิดที่ผิดที่เขาชวนอีกฝ่ายมาอยู่ด้วยความหวังดีความเป็นห่วงอีกฝ่ายทำให้เขาเป็นบ้าอยู่ทุกวันนี้ นี่ถ้าวันดีคืนดีเขาหน้ามืดควบคุมตัวเองไม่อยู่ทำอะไรบ้าบ้าลงไปมันต้องแย่แน่แน่
“มาดูดาวครับ วันนี้ฟ้าโปร่งน่าจะมองเห็น”นิ้วเรียวหันหน้าไปยิ้มให้คนตรงหน้า ไม่รู้ว่าเขาตาฝาดเห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งยิ้มให้เขาอยู่ รึว่าพี่ธีร์จะเมาแล้ว ตายละแล้วจะกลับยังละเนี่ยพี่ปาลไม่อยากให้ค้างด้วย รึจะปิดเครื่องทำเป็นโทรศัพท์แบตหมดดี
“พี่ยังไม่เมาไม่ต้องห่วง แล้วนับได้กี่ดวงละ”ธีรภัทรยื่นไปลูบแก้มอีกฝ่าย ทำให้เทนนิสตกใจ”ข้าวติดแก้ม”คำอธิบายของคนตรงหน้าทำให้เทนนิสรีบใช้มือลูบแก้มตัวเองหาเศษอาหาร ไม่รู้ว่ามีข้าวติดอยู่อีกรึเปล่า“เอ่อ นับไม่ได้สักดวง สงสัยดาวไปพักร้อนกันหมด”เขาพูดทำลายบรรยากาศที่เงียบลง และรู้สึกอายที่มีข้าวติดแก้ม มิน่าละทำไมถึงรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังจ้องหน้าเขาอยู่
“อาจจะจริง”เขามองใบหน้าขาวเริ่มสีเลือดขึ้นมา คงเพราะอายที่เขาโกหกว่ามีข้าวติดแก้ม คนที่ปกติไม่ค่อยใส่ใจภาพลักษณ์ตัวเองก็มีอารมณ์ความรู้สึกแบบนี้เหมือนกันดูแล้วน่ามองไปอีกแบบ แต่ตอนที่ได้สัมผัสแก้มเมื่อครู่ แก้มนุ่มอย่างที่เขาคิดจริงจริง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาหาจะเรื่องฉวยโอกาสอีกฝ่ายจนได้
“แล้วพี่ธีร์ไม่กินต่อหรอครับ ถึงได้ออกมา”
“สองคนนั้นเริ่มเมาแล้ว อีกอย่างดึกแล้วด้วยกลัวผู้ปกครองวีร์เป็นห่วง”
“แล้ววีร์ละครับ”เขามองหาเพื่อน คงไม่ได้เมาหลับไปแล้วนะ
“ช่วยกิตเก็บของอยู่”
เทนนิสกลับเข้าบ้านไปช่วยเพื่อนเก็บของจะได้รีบกลับ กวาดเศษอาหารลงถุงดำกับข้าวที่เหลือใส่ถุงเก็บไว้ในเย็น ถ้วยจานแช่ไว้ในอ่างเจ้าของบ้านบอกจะจัดการที่เหลือเอง พวกเขาลาเจ้าของบ้านกลับ
   รถจอดที่ลานจอดรถวีร์เดินไปหาปาลภัทรที่ยืนยิ้มอยู่ที่รถเขาหันหน้ามาโบกมือบ๊ายบายให้เพื่อน แล้วตะโกนบอกว่ามะรืนไปเล่นน้ำกันจากนั้นก็ขึ้นรถไป เทนนิสมองตามไปมีความรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนขึ้นมา คิดแล้วใบหน้าก็ปรากฏร่องรอยความไม่สบายใจขึ้น ใครใครก็รู้ว่าความรักแบบนี้สังคมไม่ยอมรับและไม่มั่นคง ถ้าเป็นเขาล่ะ เขาแก้ปัญหานี้อย่างไรเลือกที่จะรักต่อไปหรือจะให้มันจบตั้งแต่เนิ่นเนิน บางทีเขาอาจจะเข้าใจผิดความรักไม่ใช่ปัญหามีความรักต้องมีความสุขสิถึงจะถูก
   เช้าวันแรกของวันหยุดยาวถนนที่มุ่งหน้าออกต่างจังหวัดที่ติดมาตั้งแต่ตอนบ่ายของเมื่อวานตอนนี้การจราจรเริ่มคล่องตัวมากขึ้น แต่ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ้าง ข่าวอุบัติเหตุของเมื่อวานสรุปตัวเลขออกมาอุบัติเหตุทางมอเตอร์ไซด์ยังเป็นอันดับหนึ่ง เสียงข่าวจากโทรทัศน์ดังแว่วมาจากนอกห้อง มือหนาเลื่อนไปหยิบนาฬิกาที่วางอยู่บนตู้หัวเตียงขึ้นมาดู 7.45 ธีรภัทรซุกหน้าลงบนหมอนนุ่มกอดผ้าห่มผืนหนาไว้ อากาศในห้องยังเย็นสบายเพราะเครื่องปรับอากาศ วันนี้วันหยุดขี้เกียจตื่นแต่เช้าแต่ร่างกายก็ตื่นโดยอัตโนมัติเพราะความเคยชิน เขาลุกขึ้นนั่งมองไปรอบห้องมีแสงสว่างจากข้างนอกลอดเข้ามา เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าแดดยังแรงขนาดนี้ เขาเปิดประตูออกมาเห็นเทนนิสยังอยู่ในชุดนอนกำลังจ้องจอสี่เหลี่ยมอย่างตั้งใจ เขาเดินเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็นหยิบกระปุกน้ำออกมาเทใส่แก้วแล้วเดินไปนั่งดูโทรทัศน์
“ตื่นแล้วหรอครับ”
“อืม ดูอะไรอยู่”
“ข่าวอุบัติเหตุน่ะครับ”แค่คิดถึงตอนที่เขาและครอบครัวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เท่านั้น อุบัติเหตุตอนนั้นทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง แต่ก็โชคดีสามารถผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนั้นมาได้โดยที่ไม่เป็นบ้าไปก่อน
“เปลี่ยนช่องเถอะ”ธีรภัทรมองใบหน้าที่เรียบเฉย แววตามีร่องรอยเศร้าอยู่บ้าง เขาพอรู้มาบ้างว่าอีกฝ่ายเสียครอบครัวไปเพราะอุบัติเหตุ จึงไม่อยากให้อีกฝ่ายดูอะไรที่สะเทือนจิตใจ
เทนนิสเปลี่ยนช่องสาระคดี แล้วเข้าไปอาบน้ำเตรียมตัวไปบ้านธีรภัทร ตามที่ตอบตกลงว่าจะเที่ยวด้วย ปิดไฟล็อกห้องให้เรียบร้อย
ทั้งสองเดินออกจากคอนโดตอนแปดโมงครึ่ง ธีรภัทรเลี้ยวรถเข้าจอดในบ้าน สองแฝดกับสายไหมก็รีบวิ่งออกมารับ สองแฝดอาบน้ำปะแป้งจนหอมแต่งตัวใส่เสื้อลายดอกวิ่งมาจับมือพี่ชายข้างบ้าน ถามถึงขนมว่ามีขนมมาฝากรึเปล่า สายไหมก็เบียดตัวเล็กๆของมันเข้าถามด้วยว่ามีขนมมาฝากมันด้วยไหม พี่ชายไม่กลับบ้านมันไม่มีขนมอร่อยให้กิน แต่มันก็เป็นเด็กดีช่วยดูแลบ้านให้พี่ชายด้วย บู้ตึ้งดันเจ้าขนฟูออกแล้วถามอีกว่าพี่เทนนิสจะเที่ยวด้วยกันไหม วันนี้คุณยายบอกว่าอาธีร์จะพาไปไหว้พระทรงน้ำพระ บู้ตึ้งบอกว่าอยากไปเล่นน้ำด้วยแต่ยังไม่มีปืนฉีดน้ำสองแฝดรีบอ้อนขอให้พี่ชายพาไปซื้อ เด็กๆบอกว่าคุณแม่ให้เงินมาแล้วบู้ลิ้มควักเงินแบงค์สีเทาหนึ่งใบออกมา บอกว่าคุณแม่คนละใบไปซื้อปืนฉีดน้ำกับขนม ธิมย์รินทร์เดินออกมาจากบ้านเห็นสองแฝดเกาะพี่ชายสุดหล่อ จึงเรียกเข้าบ้านไปกินข้าวก่อนออกไปเที่ยว เธอบอกสองแฝดว่าเดี๋ยวไม่มีแรงเล่นน้ำแล้วหันบอกให้เทนนิสไปตามธีรภัทรเข้าไปกินข้าวเดี๋ยวสายกว่านี้อากาศจะร้อน สองแฝดรีบวิ่งเข้าบ้านบอกให้พี่ชายรีบตามเข้าไป เทนนิสเดินไปตามคนตัวสูงกำลังเก็บของในรถ เขาช่วยถือกระเป๋าเอกสารและโน้ตบุ๊กเดินนำเข้าไปข้างใน
ข้าวต้มปลากับข้าวมื้อเช้ารองท้องก่อนออเดินทาง ธารรพีที่พึ่งกลับมาจากเที่ยวเมื่อวาน เอาของมาฝากพี่รหัสกับพี่ชายเป็นถุงเครื่องรางที่เธอกับเพื่อนซื้อตอนไปไหว้พระ เธอก็ไม่รู้จะซื้ออะไรเป็นของฝาก ขนมเครื่องสำอางเสื้อผ้าจากที่โน่นที่เมืองไทยมีขายให้เกลื่อน ขนมาเยอะก็เป็นน้ำหนักอีก ช่วงที่เธอไปอากาศหนาวยังมีหิมะอยู่บ้างและซากุระกำลังบานมีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะโดยเฉพาะคนไทย เดินไปที่ไหนก็เจอจนนึกว่าอยู่ประเทศไทย ตอนแรกพวกเธอจะไปกับบริษัททัวร์ แต่ฟังจากคนที่เคยไปมาก่อนและดูจากในอินเตอร์เน็ตศึกษาข้อมูลแล้วจึงได้ตัดสินใจไปกันเอง ขึ้นรถไฟใต้ดินครั้งแรกตื่นเต้นกว่าได้เจอผู้ชายหน้าตาดีเดินเข้ามาขอเบอร์อีก หนึ่งเดือนกว่าในต่างประเทศของเธอกับเพื่อนเพื่อนสนุกอย่าบอกใคร กับข้าวที่โน่นรสชาติอร่อยแต่ยังคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่คิดถึงร้านส้มตำข้างมหาวิทยาลัย ร้านอาหารไทยก็เยอะแต่แพงมาก นี่ถ้าไม่ติดว่าช่วงสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะจนพวกเธอไม่มีพักไม่อย่างนั้นก็ไม่กลับ เมื่อวันก่อนยังได้สัมผัสหนาวใส่เสื้อผ้าหนาแต่พอลงมาจากเครื่องร้อนตับแลบแล้ววันนี้แม่ยังบอกให้ออกไปเที่ยวกับสองแฝด เธอต้องขอผ่านยังเหนื่อยกับการเดินทาง เธอมองดูพี่ชายหน้าตายด้านของเธอไม่ได้เจอแค่เดือนกว่าดูท่าทางเปลี่ยนไปเหมือนจะดูมีวิตชีวาขึ้น อะ อะ นี่อย่าบอกนะพี่ชายเธอรู้ใจตัวเองแล้ว ต้องอย่างนี้สิไม่เสียแรงที่ช่วยผลักดัน คริคริ ข้าวต้มเช้าวันนี้อร่อยดีไม่เสียแรงตื่นมาแต่เช้า
รถจอดสนิทที่ลานจอดรถวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิบโมงเช้าลานจอดรถกว้างยังมีที่ว่างคนมาเที่ยววัดยังบางตา ร้านค้าแผงลอยที่ตั้งเรียงเป็นแนวยาวตรงทางเข้าวัดคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวซื้อของฝาก เสียงประกาศตามสายทางวัดให้นักท่องเที่ยวรู้ว่าทางวัดจัดงานบริเวณไหน และเชิญชวนให้ทุกคนร่วมทำบุญสร้างศาลาหลังใหม่ ภายในวัดบรรยากาศคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเป็นครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ บริเวณลานวัดมีคนกำลังช่วยกันก่อกองทรายเป็นรูปเจดีย์และใช้ธงปักหลากสีปักตกแต่งให้สวยงาม เทนนิสอุ้มบู้ลิ้มขึ้นเพราะกลัวจะหลงทางเพราะเจ้าตัวเล็กมัวแต่เหลียวมองโน่นมองนี่ บู้ลิ้มตัวเล็กถูกอุ้มก็ยิ้มดีใจเพราะสามารถมองเห็นรอบรอบชัดเจนกว่าเดิมแล้วก็ไม่ต้องกลัวหลงด้วย ตากลมเล็กมองไปเห็นอะไรก็สงสัยไปหมดเลยต้องกระซิบถามพี่ชายข้างบ้าน เทนนิสเดินคู่ไปกับธีรภัทรบู้ตึ้งที่ถูกคุณอาอุ้มเรียกน้องชายให้ดูตรงโน้นตรงนี้ ทั้งสองเดินตามทางที่มีป้ายเขียนบอกไว้จนมาถึงทางเข้าโบสถ์มีรองเท้าวางไว้เต็มหน้าประตู เทนนิสจูงมือแฝดเข้าไปข้างในหาที่วางนั่ง เขาบอกให้เด็กเด็กก้มกราบพระประธาน และอธิษฐานในใจ กราบพระเสร็จเรียบร้อยแล้วออกมาด้านนอก ข้างโบสถ์ทางวัดยกพระพุทธรูปมาไว้ให้พุทธศาสนิกชนมาสรงน้ำ ธีรภัทรอุ้มหลานชายขึ้นจับมือเล็กให้ถือขันตักน้ำสำหรับสรงน้ำพระ แล้วสรงน้ำพระพุทธรูปทีละรูป มีเทนนิสอุ้มบู้ลิ้มเดินตามมาด้านหลัง จากนั้นเทนนิสชวนทุกคนไปก่อกองทราย ทุกคนเห็นด้วยแล้วตรงไปลานวัดมีกองทรายที่ทำก่อเสร็จแล้วหลายกอง บู้ตึ้งบู้ลิ้มเห็นคนอื่นทำอยากทำบ้างรีบเดินไปหาที่ว่าง สองแฝดสนุกกับการก่อกองทราย มีเทนนิสช่างถ่ายรูปจำเป็นเก็บรอยยิ้มของสองแฝดไว้ ส่วนธีรภัทรช่วยเด็กๆก่อกองทรายสายตาก็มองเทนนิสไปด้วย เขารู้สึกวันหยุดสงกรานต์ปีนี้ไม่รู้สึกเหงาเหมือนปีก่อนๆ เป็นวันหยุดที่สนุกอีกวัน 
“พี่ธีร์ผมวว่าพวกเรากลับดีกว่า ดูสองแฝดเหงื่อเต็มตัวแก้มแดงหมดแล้ว ผมกลัวว่าจะป่วยเอา”ไม่อยากใช้เวลาวันหยุดที่เหลือกับไข้หวัด เขาหยิบทิชชู่เปียกออกมาจากกระเป๋าสะพายเช็ดหน้าให้บู้ลิ้มบู้ตึ้ง ขนาดผู้ใหญ่ยังร้อนแต่เด็กสองคนยังเล่นทรายอย่างสนุกโดยไม่บ่นว่าร้อนสักคำ สงสัยจะห่วงเล่นจนลืมร้อน พี่ธีร์อีกเหงื่อจะท่วมตัวอยู่แล้วยังเล่นกับหลานเฉยเลย”ทิชชู่เช็ดเหงื่อครับ”เขายื่นทิชชู่ให้คนตัวโต ธีรภัทรขอบคุณแล้วรับมาเช็ดเหงื่อรู้สึกสบายขึ้น
“หิวกันรึยัง ไปหาอะไรกินกัน”ธีรภัทรมองใบหน้าขาวที่มีเหงื่อเกาะอยู่ที่หน้าผากและไรผมชื้นไปด้วยเหงื่อ
“ปืนฉีดน้ำ ปืนฉีดน้ำ อาธีร์ซื้อปืนฉีดน้ำ”บู้ตึ้งเดินมาเกาะขาคุณอาเตือนคำสัญญาที่บอกก่อนหน้านี้ว่าพาไปซื้อ
“ไปกินข้าวที่ห้างแถวนี้ไหมครับ จะได้ซื้อปืนฉีดน้ำด้วย”
สองแฝดได้ยินว่าจะไปซื้อปืนฉีดน้ำก็ดีใจเลิกสนใจกองทราย เทนนิสช่วยปัดทรายอยู่บนเสื้อผ้าเด็กเด็กแล้วพาไปขึ้นรถ
บ่ายโมงกว่าทั้งสี่คนเข้าไปในร้านไก่ทอด ปกติคนจะเต็มร้านแต่วันนี้คนบางตา เทนนิสอาสาไปซื้อไก่บู้ตึ้งอาสาไปด้วยธีรภัทรหยิบเงินเทนนิสแต่เขาปฏิเสธ ตั้งแต่ไปพักกับธีรภัทรเขาแทบไม่ได้ใช้เงินแค่ซื้อไก่ทอดไม่อยากรบกวน เขาจูงมือบู้ตึ้งไปที่เค้าเตอร์ที่ว่างอยู่ บู้ตึ้งบู้ลิ้มอยากกินไก่ทอดกับเฟรนฟราย เขาสั่งไก่ทอดสำหรับกินสองคน ชุดข้าวสองชุดให้ธีรภัทรกับตัวเองและของกินเล่นสองสามอย่าง อาหารครบจ่ายเงินเรียบร้อยเขาถือถาดกลับมาที่โต๊ะ สองแฝดก็ลงมือกินไก่จนแก้มเลอะท่าทางจะหิวมาก เทนนิสช่วยฉีกไก่ให้สองแฝดและตักข้าวป้อนด้วยจะได้ไม่เจ็บท้อง ธีรภัทรมองคนตรงหน้ากับเด็กเด็กที่อ้าปากให้พี่ชายข้างป้อนข้าวแล้วยิ้มความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวยังไงไม่รู้ เขาหยิบไก่ทอดให้คนที่ป้อนข้าวเด็กเด็ก เทนนิสขอบคุณแล้วหยิบไก่ทอดใส่จานให้ธีรภัทรกลัวอีกฝ่าย กินไก่ทอดจนอิ่มธีรภัทรก็พาสองแฝดไปซื้อปืนฉีดน้ำตามที่สัญญา แต่เดินออกจากร้านไม่นานมีสาวสวยเดินเข้ามาทัก
“คุณธีรภัทร สวัสดีค่ะ บังเอิญจังเลยมาเที่ยวหรอคะ”ปรีญารัตนเดินยิ้มเข้ามาชายหนุ่ม เธอรีบเดินตามหลังอีกฝ่ายมาตั้งแต่หน้าร้านไก่ทอด
“ครับ”รู้สึกช่วงนี้เขาจะเจอผู้หญิงคนนี้บ่อยมาก ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่ร้านอาหาร
“เปรียวโทรไป คุณไม่ค่อยว่างรับโทรศัพท์เลย ช่วงนี้คงยุ่งเพราะสินค้าตัวใหม่รีเปล่าคะ”
“ครับ”เขาไม่รู้ว่าเธอได้เบอร์ติดต่อเขามาได้ยัง ถึงจะเป็นเบอร์ใช้สำหรับติดต่องานก็ตาม
เทนนิสเห็นอีกฝ่ายกำลังคุยกับสาวสวยเขาจึงจะรีบขอตัวจูงสองแฝดไปถ้าอยู่ด้วยกลัวจะรบกวนทั้งสอง แต่ธีรภัทรจับต้นแขนเขาไว้ห้ามไม่ให้ไป เขาจึงได้ยืนฟังทั้งสองคุยกัน แต่สายตาของหญิงสาวมองมาที่เขาเหมือนจะบอกว่าเขาไม่มีมรรยาทที่ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้เป็นอะไรกัน เป็นแฟนกันรึเปล่าแต่ไม่เคยเห็นธีรภัทรออกไปกับผู้หญิงคนไหนและไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนมาที่ห้อง ในห้องก็ไม่มีรูปผู้หญิง แล้วเธอคนนี้เป็นใครแต่ดูท่าทางของเธอที่แสดงออกใครก็รู้ว่าเธอชอบผู้ชายไร้อารมณ์คนนี้
ปรีญารัตนมองเทนนิสที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆธีรภัทร ไอ้เด็กนี่เป็นใครแล้วเลื่อนสายตาไปเด็กแฝดหน้าตาคล้ายธีรภัทร“นี่หลานของคุณหรอคะ หน้าตารักน่าเอ็นดู ชื่ออะไรกันบ้างคะ”เธอยืนมือไปจับแก้มบู้ลิ้ม บู้ลิ้มถอยหนีไม่ชอบให้คนที่ไม่รู้จักมาจับตัว ปรีญารัตนรู้สึกเสียหน้าที่เด็กไม่ชอบเธอแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่แอบด่าในใจว่าไอ้เด็กบ้านี่ถ้าไม่ใช่ฉันชอบอาแกฉันก็ไม่สนใจแกหรอกนะ
ธีรภัทรรู้นิสัยหลานชายทั้งสองดี โดยเฉพาะบู้ลิ้มที่ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ใครง่ายง่าย”ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับจะพาหลานหลานไปซื้อของ”   
“เอ่อ...”เธอยังไม่ทันพูดต่อธีรภัทรก็จูงมือบู้ตึ้งจับแขนเทนนิสเดินไปไม่ฟังเธอ ให้ตายเถอะผู้ชายคนนี้โง่หรือบ้ากันแน่เธอแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ยังไม่สนใจเธออีก ผู้ชายเฮงซวยเธอกระทืบเท้าลงพื้นระบายอารมณ์ไม่พอใจ เอาเถอะคราวหน้ายังมี เธอเชิดหน้ารูปหน้ารูปไข่ขึ้นหันหลังกลับแล้วเดินกลับไปที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่เดินนั่งอยู่เมื่อครู่   



********************************************
โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ธีรภัทร เริ่มหลงเสน่ห์เทนนิส แล้ว
แต่เด็กๆ บู๊ลิ้ม บู๊ตึ๊ง หลงมานานแล้ว
เปรียวปรีญารัตน ตื๊อจัง น่าเบื่อ
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ตอนที่ 10
[/size]

เช้าวันจันทร์หลังวันหยุดยาวห้าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว พักผ่อนอย่างเต็มที่ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมาเผชิญกับปัญหารถบนท้องถนนกลับมาติดเหมือนทุกวัน เผชิญกับความเร่งรีบแข่งกับเวลา หลายบริษัทหลายร้านค้าก็กลับมาเปิดทำการตามปกติ แต่หยุดงานไปนานหลายวันทำให้วันแรกของการทำงานหลายคนรู้สึกเบื่อหน่าย หลายคนบ่นอยากหยุดต่ออีกสองสามวัน เทนนิสเข้าไปในห้องครัวกดน้ำดื่มเย็นใส่กระบอกน้ำ พนักงานหลายคนกำลังเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวช่วงวันหยุดกับครอบครัว กับคนรักจนคนฟังต้องอิจฉา บางคนมีของฝากติดไม่ติดมือมาฝากเพื่อนร่วมงานด้วย นึกถึงบู้ตึ้งบู้ลิ้มบอกว่าคุณครูให้การบ้านให้วาดรูปว่าวันหยุดสงกรานต์ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง เขานั่งดูเด็กๆวาดรูปตามจินตนาการก็แอบยิ้มหัวเราะภาพหน้าตาประหลาดที่ทั้งสองวาดออกมา วันสงกรานต์วันที่สองตอนบ่ายๆเขาและเพื่อนเพื่อนออกไปเล่นน้ำที่ถนนในเมือง สองช่วงไฟแดงถนนถูกปิดไมให้รถผ่านมีตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำทางเข้าคอยอำนวยความสะดวกป้องกันมิจฉาชีพเข้าไปปะปนกับนักท่องเที่ยวล้วงกระเป๋ากรีดกระเป๋า ทุกปีเป้าหมายจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จึงได้มีป้ายประกาศเตือนติดไว้ตรงทางเข้า พวกเขาเดินตั้งแต่ต้นถนนเข้าไปแบกปืนฉีดน้ำเข้าไปคนละกระบอก สองข้างทางเป็นร้านค้าแผลงลอยบนฟุตบาทที่เช่าที่ขายของและบางบริษัทเช่าที่จำหน่ายสินค้า ยิ่งเย็นคนออกมาเล่นน้ำยิ่งเยอะ กว่าจะเดินถึงทางออกตัวเปียก หนาวจนสั่น มือเปื่อยปากเขียวกันหมด สภาพแต่ละคนดูไม่ได้ กลับถึงบ้านต้องกินยา เทนนิสที่ปกติร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเช้าวันต่อมามีไข้ ตกลงสงกรานต์สามวัน วันแรกไปไหว้พระ วันที่สองไปเล่นน้ำ วันที่สามนอนป่วย ส่วนวันหยุดอีกสองวันนอนอ่านนิยาย ดูหนังดูการ์ตูนอยู่บ้านสบายใจโดยมีบู้ตึ้งบู้ลิ้มสายไหม มาป่วนกับเจ้านายมาเล่นเป็นเพื่อนที่บ้านพร้อมของกินอร่อย เสียดายเหมือนกัน ไม่ได้เล่นน้ำวันสุดท้ายแต่เอาไว้ปีหน้ารับรองไม่พลาดแน่นอน เขาเดินกลับที่โต๊ะดูงานบนโต๊ะมีอะไรบ้าง หยุดงานไปหลายวันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นแว่วมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นพูด
“ไม่ชอบวันจันทร์เลย”กวินทร์วางกระเป๋าเอกสารลงบนโต๊ะทำงาน แล้วเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เตรียมทำงาน
“หวัดดีพี่ วันหยุดไปเที่ยวที่ไหนมาพี่”เทนนิสโผล่หน้ามาจากฉากกั้น ทักทายรุ่นพี่ทำหน้าอารมณ์ไม่ดีแต่เช้า
“แถวนี้แหล่ะ ไม่ได้ไปไหนไกลหรอก ตอนแรกว่าจะไปทะเลแต่ที่พักถูกจองเต็มหมด ไม่พอที่ยังเหลือก็แพง ไม่อยากกลับมาต้มมาม่า แล้วแกล่ะ ไปเที่ยวกันที่ไหน”
“ถนนหน้าห้างพี่ คนเยอะมากเลย”
“อ้อ เห็นออกข่าวเหมือนกัน”
ทั้งสองคุยกันสักพักสัญญาณเข้างานก็ดังขึ้น เทนนิสกลับไปทำงาน ไม่ใช่พนักงานประจำงานที่ทำส่วนใหญ่จะช่วยงานตามแผนกต่างต่างมากกว่า เข้าแผนกนั้นออกแผนกนี้ตลอดเช้า ในออฟฟิตนักงานหลายคนยังคุยเรื่องที่แต่ละคนไปเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุดยาว บางคนบ่นว่าไปเที่ยวทะเลจนแดดเผาครีมกันแดดราคาแพงก็เอาไม่อยู่ตอนเย็นต้องไปคลินิกหมอซื้อครีมมาทา รุ่นพี่หลายคนเรียกเทนนิสไปเอาของฝากเป็นของตอบแทนที่ช่วยทำงาน ใกล้ถึงเวลาพักเที่ยงเขากลับมาพักที่โต๊ะเห็นวีร์นั่งรออยู่
“ได้ของฝากเพียบเลย แบ่งบ้างดิ”
“ไปนั่งกินในครัวเถอะ”เขาเดินเข้าไปในห้องครัวมีพนักงานเข้ามานั่งพักสองสามคน”หยุดไปหลายวันกลับมาทำงานแล้วเป็นขี้เกียจยังไงไม่รู้ ตอนทีร้านไก่ทอดแทบไม่ได้หยุด”
“อันนั้นก็เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย แล้วไม่สบายหายแล้วหรอ”มองหน้าเพื่อนอย่างเป็นห่วง
“นอนพักวันสองวันก็ดีขึ้นแหล่ะ เป็นไงวันสุดท้ายไปเที่ยวเป็นไงบ้าง”
“ไม่ได้ไปเหมือนกัน ของฝากจากใครบ้างอร่อยดี”
“ไม่รู้เหมือนกันพี่พี่เขาให้มา เที่ยงแล้วไปหากินเถอะเดี๋ยวคนจะเยอะไปกินข้าวไก่มันร้านเดิมได้เยอะดี”
ทั้งสองเดินออกจากออฟฟิตตรงไปร้านข้าวมันไก่เจ้าประจำ ช่วงกลางเดือนร้านอาหารราคาถูกเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับพนักงานออฟฟิต ยิ่งกลับมาจากเที่ยวหลังวันหยุดยาวสภาพคล่องทางการเงินในกระเป๋าต้องคำนวณให้ดี ร้านข้าวมันไก่วันนี้คนในร้านแน่กว่าเดิมแต่ก็ยังพอมีที่นั่งเหลืออยู่ ได้ที่นั่งแล้วทั้งสองสั่งแบบพิเศษคนละจานแล้วลุกไปตักน้ำซุปคนละถ้วย ไม่นานข้าวมันไก่เนื้อเยอะๆข้าวน้อยน้อยก็มาวางอยู่บนโต๊ะ อืม ไม่ได้กินนานแล้วรสชาติยังอร่อยเหมือนเดิม
“คุยกับพี่ปาลหรอ”เทนนิสมองเพื่อนก้มหน้าจิ้มตัวหนังสือส่งข้อความกลับ อ่านข้อความที่ส่งมาแล้วยิ้มท่าทางเพื่อนเขาจะเป็นเอามาก คงจะยังไม่รู้ใจตัวเอง
“อืม”
“เป็นอะไรรึเปล่า เห็นคุยกันตลอดยังกะไม่ได้เจอหน้ากัน”
“หมายความว่ายังไง”วีร์เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมองเพื่อน ไม่เข้าใจที่เพื่อนพูด
เทนนิสเลิกขึ้นคิ้วแล้วยิ้มความรู้สึกช้า อย่างนี้มันต้องกระตุ้นซะหน่อย“รู้ตัวรึเปล่าว่าพี่ปาลชอบแกมากกว่าน้องชาย”พูดแล้วสังเกตดูสีหน้าท่าทางเพื่อนจะแสดงสีหน้ายังไง
คนได้ฟังหัวเราะออกมาเบาเบาอย่างไม่ใส่ใจคิดได้ยังไงว่าปาลภัทรจะชอบเขา“ไม่มั้ง มีผู้หญิงหน้าสวยสวยเข้ามาตลอดจะมาสนใจผู้ชายทำไม” เพื่อนเขานี่คิดอะไรแปลกแปลกไปได้
“ถ้าลองสังเกตดูหลายๆอย่างฉันคิดว่าใช่ พี่น้องกันคงไม่ส่งข้อความมาถามหรอกนะว่า ทำอะไร กับใคร ที่ไหน กินข้าวรึยัง...จริงไหม”
“ไม่รู้เหมือนกัน”วีร์วางมือถือลง สงสัยว่าเพื่อนรู้ได้ไงว่าปาลภัทรส่งข้อความมาถามประมาณนี้
“คนตาบอดก็ดูออกพี่ปืนก็ไม่เห็นเป็นอย่างนี้เลย” จะบอกว่าเพื่อนเขาน่ารักแล้วพี่ชายหวงแต่มันผู้ชายนะ ไม่ได้อ่อนแอเหมือนหน้าตา วันหลังต้องพาไปกินก๊วยเตี๋ยวปลาร้านข้างๆแล้ว เผื่อจะได้ฉลาดขึ้นบ้าง
“แล้วฉันต้องทำยังไง”เขาที่ไม่เคยเข้าใจเจตนาอีกฝ่ายก็รู้สึกว่าปาลภัทรรู้สึกเหมือนที่เพื่อนบอก เขาไม่ได้รู้สึกรำคาญ มีความสุขทุกครั้งได้อยู่ใกล้ๆ ชอบเมื่ออีกฝ่ายดูแลใส่ใจเห็นความสำคัญ รู้สึกไม่พอใจบ้างที่เห็นผู้หญิงคนอื่นเข้าใกล้แสดงท่าทีว่าชอบปาลภัทร แบบนี้เขาเรียกว่าหวงรึเปล่า
“ทำยังไง ถามใจตัวเองดิ แกชอบเขารึเปล่าถ้าไม่ชอบก็ปฏิเสธ ถอยออกมาก็เท่านั้นไม่เห็นยาก”
“ละ..ละ..แล้ว แล้ว ถ้าชอบล่ะ”
“ฮึ ฮึ มันก็ไม่ยาก”คำพูดนี่แหล่ะเขาอยากได้ยิน ถ้าเพื่อนชอบเขาก็พร้อมสนับสนุน พี่ปาลก็เป็นคนดีคนหนึ่งหวังว่าจะไม่ทำให้เพื่อนเขาเสียใจ 

   เดือนเมษายนที่ร้อนที่สุดในรอบปีผ่านไปเข้าสู่ต้นเดือนมิถุนายนฝนเริ่มตกมาบ้าง แต่อากาศก็ยังร้อนอบอ้าวเหมือนทุกวัน โรงเรียนเปิดเรียนแล้วตามปกติตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมาทำให้รถติดมากกว่าเดิมในช่วงเช้าและช่วงเย็น โฆษณาเปิดตัวสินค้าของบริษัทออกอากาศในเดือนที่ผ่านมา หลังจากนั้นเทนนิสและวีร์ออกไปช่วยแผนกการตลาดออกสำรวจข้อมูลสินค้าตัวใหม่ ผ่านการแจกแบบสอบถามตามโรงเรียน หน้าห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย และแบบสอบถามระบบออนไลน์ ผลการรวบรวมผลสำรวจเบื้องต้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ผลสะท้อนจากลูกค้าหลังจากได้ลองกินสินค้าใหม่จากผลสำรวจของบริษัทกลุ่มอายุ 17 -25 ทั้งชายหญิงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ารสชาติดีถูกปาก สอดคล้องกับยอดจำหน่ายสินค้าในร้านสะดวกซื้อ ผลสำรวจที่ออกมาออกมาทำให้คนทำงานยิ้มได้ หลายคนแอบคิดว่าถ้ายอดขายยังพุ่งขึ้นจะมีผลต่อโบนัสปลายปีแต่ก็ยังเอาแน่เอานอนกับเศรษฐกิจไทยไม่ได้ ที่ทำได้คือตั้งใจทำงาน
ผลการประกวดแผนงานฉลองเข้าสู่ปี่ที่ 6 ประกาศผ่านทางอินทราเน็ตของบริษัท เทนนิสได้รับรางวัลที่หนึ่งหลายคนประหลาดใจที่แผลงานนี้เป็นของนักศึกษาฝึกงาน หลายคนอิจฉาบ้าง แต่เทนนิสก็เงียบไว้ไม่นานคนก็เลิกสนใจ ทำงานมาได้ระยะหนึ่งเขาก็เริ่มเข้าใจในบริบทของบริษัทเริ่มคุ้นเคยการทำงานหลายรูปแบบที่ไม่มีสอนในห้องเรียนจนบางครั้งทำให้รู้ว่าสิ่งที่เรียนในห้องเรียนนำมาใช้ได้ในชีวิตแค่ส่วนหนึ่งอีกส่วนหนึ่งคือประสบการณ์หรือสิ่งที่เรารู้ได้จากชีวิตจริงเป็นความรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
เทนนิสยังพักอยู่กับเจ้านายช่วยทำกับข้าวทำความสะอาดห้องหรือช่วยทำอะไรที่พอช่วยได้ แทนการจ่ายค่าเช่าห้องเพราะเจ้าของห้องไม่รับ เว็บไซด์ขายของออนไลน์ของเป็นเอกเปิดตัวแล้วโดยมีเป้และเทนนิสช่วย แต่ยังไม่ที่รู้จักมากเท่าไหร่ เลยต้องอาศัยพลังของการโฆษณาผ่านทางสื่อออนไลน์เข้ามาช่วยผลออกมายังไงต้องรออีกสักพัก อีกห้านาทีเที่ยงตรงเทนนิสปิดหน้าจอลงเตรียมออกไปพัก 
“เทนนิสเย็นวันศุกร์ไปดูบอลไหม พี่ได้บัตรมาหลายใบ”กวินทร์เกาะที่ฉากกั้น วางบัตรเข้าดูฟุตบอลหลายใบลงบนโต๊ะยืนยันว่าเขาได้มาหลายใบจริง
“โห พี่ไปเหมาเขามาหรอ”เห็นบัตรดูฟุตบอลหลายใบแล้วหยิบขึ้นมาดู นี่ได้พี่แกจะซื้อมาขายต่อรึไง
“เปล่าหรอกเพื่อนมันถูกขอให้รับมา มันขอให้ช่วยซื้อก็เลยช่วยช่วยกัน แต่จะให้เอามาขายต่อไม่กล้าอีกอย่าในออฟฟิตคงไม่มีใครสนใจอยากจ่ายเงินไปเชียร์ติดขอบสนามเหมือนพี่หรอก”
“มีกี่ใบพี่ ใบละเท่าไหร่เดี๋ยวผมสวมวิญญาณเป็นเซลแมน ไปขายให้พี่พี่แถวนี้เอง”
“จริงหรอช่วยได้มากเลย ถ้าขายได้พี่จะให้แกฟรีเลยสองใบราคาตามบัตรเลย”
“บัตรอะไรพี่กวินทร์”
“นี่ไงพี่ลูกค้าคนแรกมาแล้ว สนใจไปดูฟุตบอลทีมชาติไทยกับทีมชาติญี่ปุ่นไหมน้องชายบัตรใบละ 300”
“แพงอะ ใครให้เอามาขาย”
“นี่ไง ยืนหล่ออยู่นี่ไงเจ้าของ”
เทนนิสบอกให้วีร์ช่วยซื้อวันศุกร์ตอนเย็นจะได้ไปดูบอลด้วยกัน อาจจะไม่สนุกเหมือนดูคอนเสิร์ตแต่หาโอกาสสักครั้งไปดูก็น่าจะดี ช่วงบ่ายหลังจากพักเทนนิสถามพี่พี่มีใครสนใจบ้าง “มีสาวสาวหนุ่มหนุ่มคนไหนอยากซื้อบัตรไปดูกับคนรักรึเปล่าครับ” ประสบการณ์ขายของมาหลายปีช่วยให้เขาขายบัตรเกือบยี่สิบใบหมดก่อนเลิกงาน เขามองซ้ายมองขวาถ้าเจ้านายรู้ว่าเอาเวลางานมาขายของนี่ต้องถูกเขียนรายงานไปที่มหาวิทยาลัยแน่นอน แต่อย่างน้อยก็ได้บัตรมาฟรีสองใบว่าแต่อีกใบชวนใครไปดีนะ กำลังนั่งคิดอยู่ก็เห็นน้องรหัสคนสวยเดินยิ้มมาหา
“น้องธารเย็นวันศุกร์ไปดูฟุตบอลกับพี่ไหม”
“เย็นวันศุกร์ ธารไม่ว่างมีนัดแล้วค่ะ”
“ให้ได้อย่างนี้สิ เห็นแฟนดีกว่าพี่รหัสจำไว้เลย”
 ธารรพีหัวเราะท่าทางน้อยใจของพี่รหัส แต่ก็คิดได้ว่าพี่รหัสสุดหล่อของเธอน่าจะชวนใครไปดูฟุตบอลด้วย พี่ชายตายด้านของเธอถ้าได้ไปดูฟุตบอลต้องรู้สึกขอบใจเธอแน่นอน มีโอกาสทำคะแนนดีขนาดนี้อย่าพลาดละพี่ชาย
เสียงสัญญาณเลิกงานพนักงานทยอยกลับธารรพีขอตัวกลับก่อนวันนี้มีคนมารับมากินข้าว เทนนิสฟังแล้วก็เข้าใจว่าเป็นใคร พี่ชายที่รัก น้องชายมาฝึกงานที่นี่ทั้งคนไม่สนใจมาหา มีแต่โทรมากับส่งข้อความมา ว่าแต่ไปชวนเจ้านายไปดูบอลแล้วเขาจะไปหรอ เอาเถอะลองดูก็เสียไม่หลาย เขาเดินไปเคาะประตูห้องท่านประธานถ้าเป็นเวลาทำงานเขาไม่อยากจะมาเหยียบที่ห้องนี้เลยให้เดินผ่านเฉยเฉยยังไม่อยาก เคาะประตูสองสามครั้งเสียงคนข้างในบอกให้เข้าไปได้ ธีรภัทรเห็นคนเคาะประตูห้องเปิดประตูเดินเข้ามาเขาวางกระเป๋าเอกสารลง”มีอะไรรึเปล่า”
“เอ่อ เย็นวันศุกร์นี้ผมว่าจะชวนพี่ธีร์ไปดูบอล พอดีว่าได้บัตรมาฟรีสองใบ”เขาสังเกตท่าทางอีกฝ่ายยังเงียบแล้วพูดต่อ “ไปเปิดหูเปิดตาบ้างทำงานเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์”
“ไปสิ”ธีรภัทรยิ้ม นี่เด็กนี่ชวนเขาออกเดตหรอ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนมาชวนออกเดตแต่ครั้งนี้รู้สึกดีใจ รีบตอบตกลงเกือบทันที เป็นการออกเดตที่แมนมากดูฟุตบอลที่สนามกีฬาแห่งชาติ
   หลังเลิกงานสวนสาธารณะเป็นอีกทางเลือก ให้ชีวิตคนเมืองหลวงออกมาเดินเล่นออกกำลังกายเป็นเรื่องดี บางคนออกเต้นแอโรบิคตามจังหวะเสียงเพลงมีคนเต้นนำอยู่บนเวที บางคนออกมาเดินสูดอากาศจูงหมามาเดินเล่นหรือปั่นปั่นจักรยานละลายไขมันส่วนเกิน เครื่องออกกำลังหลายเครื่องในสวนสาธารณะก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ธีรภัทรชวนเพื่อนร่วมห้องออกมาวิ่งออกกำลังกาย นานแล้วที่ไม่ได้ออกมาวิ่งสูดเอาอากาศบริสุทธิ์ตอนเย็น เขาวิ่งรอบสระน้ำครบสามรอบเดินเข้าไปหาคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ที่ม้านั่งมองไปที่ลานเต้นแอโรบิค
“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียว”
“คือผมเห็นหลายคนเต้นตามไม่ทัน บางคนเต้นไม่เข้าจังหวะคิดว่ามีแค่ผมคนเดียวที่เป็นอย่างนั้น ที่แท้ก็มีคนอื่นที่เป็นเหมือนกัน”
“อืม”
เทนนิสเดินรอบสระแค่รอบเดียวก็เหนื่อยแล้ว นี่เจ้านายวิ่งตั้งสามรอบเก่งมาก เห็นเจ้านายกลับมาพร้อมเหงื่อเต็มหน้าเขายื่นผ้าเช็ดตัวผืนเล็กกับน้ำเปล่าให้ “ขอบคุณ”ธีรภัทรรับผ้าเช็ดหน้ากับน้ำเย็นมาเช็ดเหงื่อเขาจำได้ว่าผ้าเช็ดหน้าไม่ใช่ของเขา เขาไม่ได้หยิบมาด้วย ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กนี่หอมมีกลิ่นเจ้าของติดมาด้วย มีคนมาออกกำลังกายเป็นเพื่อนนี่ก็ดีไปอีกแบบ มองดูท้องฟ้าเริ่มมืดแล้วมีลมเย็นเย็นพัดมา ทั้งสองกลัวฝนจะตกจึงรีบกลับห้อง
   บ่ายแก่กลางสัปดาห์อากาศร้อนอบอ้าวมองไปนอกหน้าต่างท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆสีเทา ช่วงนี้กำลังเปลี่ยนฤดูอากาศเอาแน่เอานอนไม่ได้เมื่อเช้าท้องฟ้ายังโปร่งแดดแรงเหมาะแก่การตากผ้า แต่ตอนนี้กลับมืดครึ้มไม่แน่อีกไม่ถึงสองชั่วโมงฝนอาจจะตกลงมา ตอนนี้เทนนิสทำงานเสร็จแล้วนั่งเบื่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จ้องหน้าจอจนหน้าจะเป็นสี่เหลี่ยมอยู่แล้ว วันนี้ทั้งวันเจ้านายกับคุณเลขาออกไปประชุมข้างนอกเกี่ยวกับเรื่องจะมีคณะกรรมการจากส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุขเข้าตรวจเยี่ยมโรงงาน เขาช่วยทำข้อมูลเอกสารเสร็จแล้วเรียบร้อยเหลือแต่รอให้เจ้านายมาดูว่าพอใจรึเปล่า ขณะกำลังนั่งคิดอะไรเพลินโทรศัพท์มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา ใครโทรมาเบอร์นี้ไม่คุ้นเลยด้วยความอยากรู้เขากดรับ
“สวัสดีครับ”พูดแล้วรอฟังเสียงปลายสายตอบกลับมาไม่กี่ประโยคก็รู้ว่าใครโทรมา นี่วันนี้พายุจะเข้าเมืองหลวงหรือใกล้วันสิ้นโลกกันแน่ เขากดวางสายแล้วเดินออกบริษัท ไปที่ร้านกาแฟที่อยู่ห่างไปสองช่วงตึก Wizard หน้าร้านตกแต่งได้เหมือนชื่อร้าน อืม จะว่ายังไงดีเลือกร้านได้เข้ากับคนจริงจริง ผลักประตูเข้าไปข้างในคนที่เรียกเขาออกมากำลังนั่งอยู่และมองมาที่เขา
“สวัสดีครับ”เขานั่งฝั่งตรงข้ามชายสูงอายุ สวมสูทราคาแพงนั่งหน้านิ่งสายตามองมาที่เขาอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“อืม ไม่ได้เจอกันนาน แกยังเหมือนเดิมไม่ใช่สิต้องบอกว่าแกเหมือนพ่อกับแม่แกมาก”
“ก็ผมลูกพ่อแม่ลูกแม่นิครับ คุณก็ยังเหมือนเดิม”ยังดูเป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนเดิม ทั้งคำพูดและท่าทาง เขายังจำได้ว่าเจอกับผู้ชายคนนี้กันครั้งล่าสุดคงเป็นหลังงานศพพ่อกับแม่ จากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีก ที่จริงก็ต้องพูดว่าอย่าเจอกันอีกเลยน่าจะถูก
“ยังปากดีไม่เปลี่ยน”ไอ้เด็กเหลือขอนิสัยแย่เหมือนพ่อกับแม่แกไม่มีผิด ทำไมใครถึงได้ชอบแกนัก
“ขอบคุณครับ ยังไงผมขอสั่งเครื่องดื่มหน่อยนะครับพอดีเดินมาไกล อากาศร้อนด้วย”เทนนิสลุกขึ้นจากโต๊ะไปที่เคาเตอร์สั่งเครื่องดื่มเย็นเย็นแล้วกลับมานั่งที่โต๊ะเดิม
“เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ ที่คุณต้องการพบผม คงไม่ได้ต้องการมาดูว่าผมสบายดีหรือเปล่า”
“ฉันอยากให้แกเลือกยุ่งกับลูกชายของฉัน”
“แต่นั่นพี่ชายผม ผมแค่อยากช่วยให้เขามีโอกาสเลือกความสุขของเขาเองเท่านั้น”
“โดยการที่ทำให้แพรพรรณคิดว่าพี่ชายแกชอบผู้ชายด้วยกันอย่างนั้นหรอ”
“แล้วแต่คุณจะคิด”แสดงว่าผู้หญิงคนนั้นเอาเรื่องนั้นไปฟ้องผู้ใหญ่จริงจริงด้วย แผนของเขาได้ผลเกินคาด
“Happy Mall กำลังจะแย่ครอบครัวของแพรพรรณจะทำให้มันดีขึ้น”
“โดยการบังคับให้ลูกชายไปแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก คุณก็ยังเห็นแก่ตัวเหมือนเดิม”
“ใช่ ถ้าพ่อแกไม่ไปคว้าผู้หญิงที่ไหนไม่รู้อย่างแม่แกมา Happy Mall ก็จะไม่เป็นเหมือนทุกวันนี้”
“อ้อ”ทุกอย่างเป็นความผิดของครอบครัวเขานี่เอง ขอบคุณที่ความกระจ่าง ความเป็นคนนี่เขาวัดจากฐานะทางการเงินกันนี่เอง เขายิ้มเยาะให้โชคชะตาของตัวเองและก็ดีใจที่พ่อของเขาเลือกความรักนั่นทำให้รู้ว่าพ่อมีหัวใจ
“หุ้น 5% ฉันจะให้แก แลกกับอย่ายุ่งเรื่องนี้”
“ ฮึ ฮึ ผมว่าคุณคงเข้าใจอะไรผิด หรือบางที่ใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง คุณต้องใช้คำว่า คืน ไม่ใช่คำว่า ให้ เพราะมันเป็นของพ่อผม“อติพจน์กำมือแน่นควบคุมอารมณ์ไว้
“ผมว่าแทนที่คุณจะมาเสียเวลากับคนอย่างผม เอาเวลาไปหาตัวการคอยปล่อยข่าวไม่ดีในบริษัทหรือเที่ยวไปเสนอขายหุ้น บางคนที่คุณไว้ใจมาตลอดอาจจะแว้งกัดได้ แก่แล้วสายตาอาจจะฟ้าฝางเลอะเลือนไปบ้างผมเข้าใจแต่อย่าเละเลือนนานจนสุดท้ายบริษัทที่คุณห่วงนักหวงหนาจะหายไป“
ไอ้เด็กนี่มันพูดบ้าอะไรของมัน ที่มันพูดหมายความว่ายังไง“แก..”ยังพูดไม่ทันจบอีกฝ่ายก็รีบพูดขึ้น
“ขอตัวนะครับ นาฬิกานี่ดังแล้วผมต้องไปรับเครื่องดื่มก่อน”เขาลุกขึ้นยิ้มให้คนสูงอายุที่ยังนั่งนิ่งไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เดินไปไม่กี่ก้าวเขาหันกลับมาพูดอีกว่า”อ้อ พี่ชายผมเขามีคนที่ชอบแล้วและอุ่นใจผู้หญิงที่เขาชอบไม่ใช่ผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า”เขาเดินไปรับเครื่องดื่มที่สั่งไว้แล้วเดินออกจากร้านด้วยความรู้สึกแย่ ใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจสับสนมีเรื่องราวมากมายให้คิด
มองนาฬิกาข้อมือเลยเวลาเลิกงานมาแล้วสิบห้านาที เจ้านายจะกลับมาแล้วรึยังนะไม่รู้ว่าเห็นงานที่เขาวางไว้บนโต๊ะแล้วถูกใจรึเปล่าหรือมีอะไรที่แก้ไข คิดได้แล้วเทนนิสรีบกลับขณะที่ใกล้จะถึงออฟฟิต ฝนก็เทลงมาแบบไม่ตั้งตัว ถึงที่ทำงานได้เขาก็ตรงเข้าห้องน้ำใช้ทิชชู่เช็ดหน้าเช็ดผมที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ ส่วนเสื้อเขาถอดออกสะบัดสองสามครั้งแล้วอังเสื้อเปียกกับเครื่องเป่ามืออัตโนมัติ เสียงเครื่องเป่าดังจนไม่ได้เสียงใครเดินเข้ามา
ธีรภัทรเดินเข้ามาในห้องน้ำเห็นเทนนิสใช้เครื่องเป่ามือเป่าเสื้ออยู่ เท่านั้นไม่พออีกฝ่ายไม่สวมเสื้อ“ทำอะไรอยู่”
“เฮ้ย ตกใจหมด พอ...พอดีผมออกไปข้างนอกเปียกฝนนิดหน่อย”เขาตกใจไม่นึกว่าจะเห็นเจ้านายที่เดินเข้ามาในห้องน้ำ รู้สึกอายที่ถูกเจอในสบายที่แย่มองตามหลังอีกฝ่ายที่เดินหายเข้าในห้องน้ำห้องในสุด เขารีบพลิกเสื้อบริเวณที่เปียกให้ถูกลมร้อน ธีรภัทรกลับออกมาหยุดยืนอยู่หน้ากระจกเปิดน้ำล้างมือแต่สายคอยมองตามผิวขาวเหลืองที่ดูเนียน บริเวณต้นคอไหล่ไหปลาร้าไล่ลงมาถึงหน้าอกแบน เขาอยากใช้มือลูบไปผิวเนียนเนียนนั่นไม่รู้จะรู้สึกยังไงบ้าง แล้วสายตาของเขาเลื่อนต่ำลงจ้องตุ่มไตเล็กเล็กที่มีสีเข้มกว่าผิวเล็กน้อย ไม่ได้มีขนาดใหญ่เหมือนของผู้หญิงแต่ก็อยากใช้ปลายนิ้วสะกิด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสถานการณ์ไม่สวมเสื้อโดยไม่ได้คิดมาก่อน พักอยู่คอนโดเดียวกันได้สักพักก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อน หัวใจเต้นแรงขึ้นมาในใจก็อดคิดเรื่องอกุศลขึ้นมาไม่ได้ จนรู้สึกว่าร่างกายของเขาตื่นตัวเล็กน้อยที่เห็นเทนนิสเปลือยครึ่งตัว นี่เขาถ้าจะเป็นเอามากถึงขนาดมีอารมณ์กับผู้ชายด้วยกัน  คนถูกมองรู้สึกอากาศเย็นจนขนลุกจึงรีบสวมเสื้อติดกระดุมให้เรียบร้อยส่องดูตัวเองในกระจกอีกครั้ง เขาหันไปคุยเจ้านายที่อยู่ข้างข้างแต่หลบสายตา ถามอีกฝ่ายว่าเห็นงานที่เขาวางไว้บนโต๊ะรึเปล่า อีกฝ่ายบอกขอบใจงานไม่มีปัญหา ธีรภัทรเห็นผมอีกฝ่ายยังชื้นอยู่กลัวว่าจะไม่สบายเหมือนช่วงสงกรานต์ครั้งก่อนเลยชวนอีกฝ่ายกลับ เขาเองก็รู้สึกเพลียเล็กน้อยกับเรื่องที่ไปประชุมเกี่ยวกับคณะกรรมการจะเข้าไปตรวจโรงงาน

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ฝนตกลงมาอย่างหนักได้สักพักตอนนี้เริ่มซาลงแล้ว อากาศที่ร้อนระอุมาทั้งวันสายฝนทำให้เย็นลงได้บ้าง แต่ก็มีเสียงบ่นของหลายคนตามมา ในวันที่ฝนตกทำให้รถติดท้องถนนเต็มไปน้ำสีดำและเศษขยะที่ลอยเกลื่อนข้างทาง น้ำท่วมขังเพราะท่อระบายน้ำไม่ทัน บางคนต้องขับรถมอเตอร์ไซด์ตากฝนกลับบ้าน ฝนที่ตกลงมาทำให้พ่อค้าแม่ค้าตามตลาดนัดต้องหยุดขายของ ส่วนคนที่กลับถึงบ้านแล้วอย่างเทนนิสก็รีบเข้าครัวทำอาหารเย็นเป็นอย่างแรกถามเจ้านายว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า อีกฝ่ายบอกว่าอะไรก็ได้ เทนนิสยิ้มให้เจ้านายที่ตอบก็เหมือนไม่ได้ตอบ
เขาสวมผ้ากันเปื้อนเปิดดูตู้เย็นมีของสดอะไรบ้าง เมื่อวาน เมื่อวันก่อนทำกับข้าวอะไรไปบ้าง กวาดสาดตาไปทั่วตู้เย็นก็คิดออกมาจะทำอะไรดี รู้แล้วเขาหยิบวัตถุดิบที่ต้องการใช้ออกมา เปิดน้ำใส่หม้อพอประมาณตั้งบนเตาเปิดไฟกลางกลาง เขาแกะฟักเขียว หัวไชเท้า และแครอทที่หั่นมาแล้วจากห้างสรรพสินค้าออกมาจากถุงพลาสติกล้างให้เรียบร้อย น้ำในหม้อเริ่มร้อนเขาเติมเกลือลงไปเล็กน้อยจากนั้นแกะซี่โครงหมูอ่อนออกจากแพ็คออกมาล้างให้สะอาดแล้ววางลงในหม้อที่เริ่มเดือด ระหว่างปล่อยให้ซี่โครงอ่อนสุก เขาตั้งกระทะก้นแบนใช้ไฟปานกลาง รอจนกระทะร้อนใส่น้ำมันเล็กน้อย น้ำมันร้อนได้ที่วางปลาซาบะที่ล้วงใส้ออกสับครึ่งบั้งตัวปลาแล้ววางลงไป ซี่โครงอ่อนสุกแล้วเขาวางหัวไชเท้าที่สุกลงไปก่อน สักพักตามด้วยฟักเขียวสุดท้ายเป็นแครอท
ทำกับข้าวเสร็จแล้วเพิ่งจะหกโมงเจ้าออกมาจากห้องครัวเจ้าของห้องยังนั่งทำงานเงียบอยู่ในห้องทำงาน เขาถอดผ้ากันเปื้อนแล้วเข้าไปอาบน้ำสระผมกลับออกมานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว หยิบโลชั่นทาผิวแล้วนั่งเป่าผมที่เริ่มยาวจนแห้งสวมเสื้อผ้าเป็นชุดใหม่ออกมาจากห้อง
เสียงน้ำฝนตกใส่กันสาดดังป๊อกแป๊กเขาเปิดประตูระเบียงออกไปลมเย็นชื้นพัดเข้ามากระทบผิว ที่จริงเขาชอบฤดูฝนนะเพราะทุกอย่างดูมีชีวิตชีวาโดยเฉพาะต้นไม้สีเขียว พลูด่าง ต้นไม่แคระที่อยู่ระเบียงก็คงคิดเหมือนกันกับเขา เทนนิสปิดประตูเดินไปที่ห้องเห็นเจ้าของห้องนั่งดูข่าว
“พี่ธีร์กินข้าวไหมครับ ผมหิวแล้ว”
“อืม พี่ก็หิวแล้วเหมือนกัน วันนี้ทำอะไรกินบ้าง”
เทนนิสเข้าครัวส่วนธีรภัทรเดินตามเข้าไปช่วยตักกับข้าวใส่ถ้วยใส่จานไปวางบนโต๊ะ ต้มจืดซี่โครงหมูอ่อน ปลาซาบะทอดเหลืองน่ากินกับน้ำจิ้มซีฟู้ด
เทนนิสเห็นเจ้านายทำหน้านิ่งตั้งแต่กลับมา ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ หรือว่าเรื่องที่ไปประชุมวันนี้“ไปประชุมวันนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
ธีรภัทรยิ้มได้กับคำถามแสดงเป็นห่วงเป็นใยอีกฝ่าย“ของว่างอร่อยดี เบสกับธารบอกว่ากับข้าวอร่อย ปลานี่กินกับน้ำจิ้มอร่อยดีนะ”คนรอฟังคำตอบยิ้มออกมา ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้มีอะไรกังวลใจอย่างที่คิด กินข้าวเสร็จทั้งสองช่วยกันเก็บถ้วยจานจนล้างเรียบร้อย
 ธีรภัทรหายเข้าไปในห้องอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยกลับมาชวนเทนนิสดูหนังที่เพิ่งซื้อแผ่นมา วันนี้ผ่านร้านขายซีดีแต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบหนังแบบไหนแต่ที่ไปดูด้วยกันครั้งก่อนเป็นหนังผี วันนี้เลยหยิบมาหลายเรื่อง เขาหยิบแผ่นหนังเรื่องที่เทนนิสเลือกเข้าเครื่องเล่น ส่วนคนเลือกแผ่นหนังเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องถือหมอน ผ้าห่มและขนมออกมาจากห้องนั่งรอดูหนังสบายใจ ธีรภัทรปิดไฟในห้องกลับมานั่งข้างเทนนิส หนังเริ่มเล่นเสียงดนตรีชวนขนหัวลุกก็ดังขึ้น ชวนให้น่าติดตาม หนังเล่นผ่านไปได้เกือบสามสิบนาที ผียังไม่โผล่แต่เทนนิสรู้สึกหนักที่ไหล่ขวา หันมาดูเห็นคนที่ชวนดูหนังหลับไปแล้ว ไม่พอยังยืมไหล่เขาเป็นที่พิงสบายใจเชียว สงสัยจะทำงานเหนื่อยจะให้ยืมไหล่สักครู่ แล้วค่อยปลุกให้เข้าไปนอนข้างใน แต่ก่อนพ่อของเขาก็เป็นแบบนี้ตื่นไปทำงานแต่เช้ากลับมาบ้านยังต้องหอบงานมาทำ ยังดีที่มีเวลาว่างให้เขากับแม่ เสียงหายใจเบาเบากับกลิ่นแชมพูอ่อนอ่อนจากผมนุ่มที่อยู่บนไหล่ทำให้เขาใจเต้นแรงขึ้นมา นี่เขากำลังตื่นเต้นอะไรอยู่ ขณะกำลังคิดอะไรอยู่คนนอนหลับก็ขยับตัวเล็กน้อยเหมือนรำคาญอะไร เทนนิสเห็นอีกฝ่ายนอนไม่สบายเหมือนกำลังฝันร้ายเขาจึงหยิบหมอนมารองที่ตักแล้วดันศีรษะที่อยู่บนไหล่ลง ใช้มือข้างหนึ่งลูบศีรษะเบาเบาให้คนที่นอนหลับรู้สึกผ่อนคลาย คงจะเป็นความเครียดจากการทำงาน เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เปิดเสียงดนตรีบำบัดสอดหูฟังเข้ากับหูคนนอนหลับ แต่ก่อนเวลาที่เขาฝันร้ายเสียงดนตรีก็สามารถช่วยได้ คนที่คิดว่าหลับไปแล้วริมฝีปากหนาโค้งขึ้นอย่างพอใจแล้วหลับต่อ
   หนึ่งชั่วโมงผ่านไปหนังจบ ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว เทนนิสหยิบรีโมทเปลี่ยนเป็นช่องรายการปกติ แต่คนที่นอนหนุนตักไม่มีท่าทีว่าจะตื่น รู้สึกแปลกแปลกยังไงไม่รู้ที่มีผู้ชายตัวโตนอนหนุนตักแทนที่จะเป็นผู้หญิงสาวสวยตัวเล็กเล็ก
“พี่ธีร์ครับ ตื่นเถอะหนังจบแล้วเข้าไปนอนในห้องเถอะ”
“อือ อืม”คนถูกปลุกครางในคอ ค่อยค่อยลืมตาขึ้นในห้องมืดมีแสงสว่างจากจอหน้าโทรทัศน์ อ้อ จำได้ว่ากำลังนั่งดูหนังอยู่แล้วเผลอหลับไป เพิ่งรู้ว่าตักเจ้าเด็กนี่หนุนแล้วหลับสบายอย่างนี้“นี่พี่หลับไปหรอ ขอโทษนะรู้สึกเพลียนิดหน่อย”เขาลุกขึ้นนั้งบีบต้นคอตัวเอง มองใบหน้าคนอยู่ข้างข้าง แล้วหยุดมองที่ริมฝีปากบาง เขาอยากจูบริมปากบางเป็นการขอบคุณที่ให้เขายืมตัก 
“ไม่เป็นไรครับแค่เหน็บกินเฉยเฉย”พูดแล้วก็นวดขาที่กำลังชาบาเบา ธีรภัทรเห็นอีกฝ่ายกำลังนวดขาเขาอยากดึงขานั่นมามานวดบ้าง
“ไปนอนเถอะครับเดี๋ยวผมปิดไฟแล้วก็จะเข้านอนแล้ว”มองคนหัวฟูที่เพิ่งตื่นนอนนั่งอยู่ข้างข้าง
“เป็นอะไรมากไหม ถ้าเดินไม่ไหวให้พี่พาไปที่ห้องไหม”ธีรภัทรเป็นห่วงที่ทำให้อีกฝ่ายต้องมานั่งนวดขา
“เอ่อ ก็ได้ครับ”เขาง่วงแล้วเหมือนกัน ยอมให้อีกฝ่ายช่วยพยุงกลับเข้าห้อง
ธีรภัทรออกมาจากห้องนอนข้างข้างแล้วรู้สึกมีความสุข ปิดไฟล้มตัวลงนอนแล้วยังคิดถึงมือที่ลูบศีรษะเขาเบาเบา ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้จะทำให้เขาชอบไปถึงไหน แค่นี้เขาก็ค่อยๆจมไปในหลุมที่อีกฝ่ายขุดไว้จนหาทางขึ้นยังไม่เจอเลย

หลังจากหมดเวลาช่วงพักเที่ยง เทนนิสกลับเข้ามาที่ทำงานในมือมีผลไม้ช่วยย่อยมาด้วย เพราะมื้อเที่ยงกินเข้าไปเยอะ ร้านอาหารอีสานเปิดใหม่หลายคนบอกว่าอร่อยเขาเลยไม่อยากพลาดชวน วีร์ กวินทร์ เบส กิต ธารรพีและเจ้านายไปลองชิม ลาบหมู ต้มแซ่บกระดูกหมู ซุปหน่อไม้ ส้มตำ ไก่ย่าง และข้าวเหนียว กับข้าวอร่อยเหมือนที่หลายคนบอก เทนนิสแปรงฟันบ้วนปากเรียบร้อยกลับมานั่งทำงานต่อที่โต๊ะ
กำหนดการเข้าตรวจโรงงานออกมาแล้วเป็นช่วงสัปดาห์หน้า ส่วนรายชื่อคณะกรรมการที่เข้าตรวจเยี่ยมจะแจ้งมาอีกทีคงป้องกันการการทุจริต จากที่ฟังมาคณะกรรมการมาจากหลายหน่วยงาน เทนนิสทำเรื่องแจ้งจำนวนพนักงานที่ต้องไปต้อนรับดูแลช่วยงาน ส่วนทางโน้นจะทำเรื่องจองที่พักหารถตู้อำนวยความสะดวกให้ทุกคน เขาช่วยคนอื่นๆรวบรวมข้อมูลเอกสารสำคัญส่งให้ฝ่ายโรงงาน รวบรวมคำถามข้อมูลเก่าย้อนหลังไปสองสามปี เพื่อให้พนักงานประจำที่โรงงานต้องเตรียมตัวตอบคำถามและให้ข้อมูลที่ทางคณะกรรมการต้องการได้ถูกต้องครบถ้วน ก่อนเลิกงานไม่ถึงสิบนาทีเขาส่งเอกสารไฟล์สุดท้าย และส่งให้ซ้ำอีกสองครั้งส่งเข้าเมล์ส่วนตัวป้องกันข้อมูลหาย ในที่สุดงานด่วนก็เสร็จสักที สัปดาห์หน้าต้องไปช่วยต้อนรับคณะกรรมการที่โรงงาน ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง นี่เป็นการตรวจรอบแรกถ้าไม่มีปัญหาหรืออะไรผิดพลาดรอบต่อมาก็จะง่ายขึ้น เสียงสัญญาณเลิกงานดังขึ้นพนักงานทยอยกลับ พรุ่งนี้วันหยุดหลายคนยังอยู่ทำงานต่อ เคลียร์งานที่ยังค้างอยู่
“เทนนิสพี่กลับก่อนนะ เจอกันเย็นนี้”กวินทร์เก็บของปิดคอมพิวเตอร์เดินมาบอกอีกฝ่าย วันนี้ต้องไปดูฟุตบอลไทยเตะกับทีมชาติญี่ปุ่นที่สนามกีฬาแห่งชาติ
“หวัดดีครับพี่แล้วเจอกัน”คนเยอะขนาดนั้นคงจะเจอกันหรอก ไม่รู้ว่าเจ้านายทำงานเสร็จแล้วรึยังหรือมีงานอะไรให้เขาช่วยรึเปล่า วันนี้ท่าทางรถจะติดถ้าจอดรถไว้ที่คอนโดแล้วนั่งรถไฟฟ้าไปน่าจะสะดวกกว่า ครืน ครืน ข้อความในไลน์เข้ามาเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู พี่ชายส่งข้อความมาทักทายวันนี้คงว่างมารับน้องรหัสเขาไปกินข้าวแน่เลย เขาเล่าเรื่องที่อติพจน์มาพบ เพื่อให้พี่ชายรู้ไว้ว่าผู้ชายคนนั้นไม่ยอมล้มเลิกการแต่งงานไปง่ายง่าย เขารู้สึกกังวลใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งสองอยู่บ้าง ถ้าผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยพี่ชายเขาจะทำยังไงจะเลือกความรักหรือธุรกิจครอบครัวโดยยอมเสียสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเอง เขาส่งข้อความกลับไปว่าวันนี้จะไปดูฟุตบอล วันหลังไปเลี้ยงหน่อยสิ รอไม่นานข้อความตอบกลับมาว่าแน่นอน นั่งคุยไม่นาน มีสายโทรเข้าเป็นธีรภัทรโทรตามให้เขาเข้าไปหาที่ห้อง สงสัยว่าจะทำงานยังไม่เสร็จเลยให้เข้าไปรอหรือช่วยงาน เขาเก็บงานบนโต๊ะให้เรียบร้อยปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เดินไปเคาะประตูห้องประธาน แล้วผลักประตูเข้าไป เห็นเจ้าของห้องเก็บของเรียบร้อยแล้ว อ้าว นึกว่ายังทำงานไม่เสร็จ ธีรภัทรยิ้มให้คนเปิดประตูเข้ามา ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแค่เห็นแก้มใสๆก็สดชื่นขึ้นมาทันที วันหยุดสองวันไม่ได้เจอหน้าไม่ได้ยินเสียงเขาต้องคิดถึงอีกฝ่ายแน่แน่เลย วันนี้ตอนเย็นมีนัดไปดูฟุตบอลเขาจำได้เพราะเขียนไว้บนปฏิทิน ทั้งคู่เดินลงไปที่ลานจอดรถเทนนิสเสนอความคิดให้จอดรถไว้ที่คอนโดใช้บริการรถไฟฟ้าเพื่อหลีกเลี่ยงรถติดและหาที่จอดรถลำบาก   
ประตูทางเข้าเปิดเวลา 18.00 ก่อนเวลาฟุตบอลเตะหนึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ประจำจุดทางเข้าทั้งสี่ทางที่ตั้งประตูสแกน และเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิดและอาวุธ แฟนบอลเข้าแถวยาวรอผ่านเข้าประตู เทนนิสเห็นคนยังเยอะอยู่เขาชวนธีรภัทรหาซื้ออะไรกิน ก่อนทางเข้ามาเขาเห็นมีรถเข็นขายของกินหลายอย่าง วันนี้อาการร้อนแต่ไม่มีท่าทีฝนจะตก เขาหยุดอยู่หน้าร้านเครป ถามคนข้างๆเอาด้วยไหม ธีรภัทรพยักหน้าบอกว่าสั่งให้ด้วยเอาแบบไม่หวาน ได้เครปมาเรียบร้อย ทั้งสองเดินไปด้วยกินไปด้วย ธีรภัทรรู้สึกดี นานแล้วไม่ได้ทำตัวสบายสบายแบบนี้ เขาลองกัดเครปของกินเล่นที่เห็นเด็กวัยรุ่นหลายคนชอบกินกันบ่อยบ่อย อืม อร่อยดี เทนนิสเห็นอีกฝ่ายกินได้ก็ดีใจแล้วยื่น ไส้กรอกที่ซื้อมาจากร้านข้างๆให้ ธีรภัทรรับมาชิมดู รสชาติเหมือนกะเพราเลยเพิ่งเคยกินไส้กรอกรสนี้ ทั้งสองเดินกินจนอิ่มแล้วเดินไปเข้าแถวเข้าไปข้างใน
เสียงปรับมือโห่ร้องดังจากคนดูเมื่อนักฟุบอลเริ่มเขี่ยบอล เสียงกองเชียร์ในสนามดังสนั่น ธงชาติไทยปลิวไปตามแรงลมดูสวยกว่าทุกวัน บวกกับเสื้อสีน้ำเงินของกองเชียร์ทำให้เห็นความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน นักฟุตบอลศูนย์หน้าทีมชาติไทยลากลูกบอลไปหน้าประตูฝ่ายตรงข้ามยิ่งเรียกเสียงเชียร์จากคนดูให้ดังขึ้น แต่ก็จบลงด้วยความเสียดายที่ผู้รักษาประตูรับลูกบอลไว้ได้ แล้วก็เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
“ถ่ายรูปไหมครับ ผมจะเอาลงโซเชียลเอฟ”เทนนิสหยิบโทรศัพท์ออกมาเปิดกล้องมองหามุมสวยๆ เปลี่ยนบรรยากาศ ตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว แต่ในสนามยังสว่างเพราะแสงสปอร์ตไลน์ ถ้าใช้กล้องถ่ายรูปตอนนี้คงออกมาสวย
“ให้พี่ถ่ายให้ไหม”ธีรภัทรไม่ได้สนใจฟุตบอลในสนามแต่สนใจคนตรงหน้า ที่กำลังหามุมถ่ายรูป เขาชอบมองอีกฝ่าย เทนนิสเป็นคนที่ทำให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกสบายใจ แต่ก็ทำให้เขานอนไม่หลับได้เหมือนกันเมื่อคิดถึงอีกฝ่ายเปลือยครึ่งตัว คืนก่อนเขายังเก็บเอาไปฝัน ฝันว่าได้นอนกอดอีกฝ่าย มันคงเป็นเรื่องที่แปลกพิลึกผิดปกติที่ฝันถึงผู้ชายที่มีอะไรเหมือนเหมือนกันแทนที่จะฝันถึงผู้หญิงสาวสวย หน้าอกโต หุ่นดี ก้นงอน แต่มันก็เป็นไปแล้ว
“ถ่ายด้วยกันดีกว่า พี่ธีร์มาอยู่ตรงนี้ถือโทรศัพท์ไว้”เทนนิสให้อีกฝ่ายมานั่งข้างๆ ถือกล้องไว้แล้วถ่ายรูป เมื่อได้รูปที่ต้องการเขาโพสต์ลงโซเชียลเอฟแล้วส่งให้อีกฝ่าย ธีรภัทรมองรูปถ่ายที่ส่งมา เป็นรูปคู่รูปแรก เขามองคนในรูปถ่ายกำลังส่งรอยยิ้มหวานมาให้เขา หนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์สาวเห็นก็ชอบมอง รู้สึกหวงบ้างบางครั้งที่ไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนแล้วมีผู้หญิงหรือผู้ชายมองมาด้วยสายตาที่เขามอง แต่คนถูกมองกลับไม่สนใจบางครั้งก็แค่มองผ่านหรือยิ้มให้ จนไม่รู้ว่าอีกฝ่ายชอบหรือสนใจคนแบบไหน เป็นคนที่เข้าใจยาก
เก้าสิบสามนาทีรวมเวลาทดบาดเจ็บในที่สุดทีมชาติไทยสามารถเอาชนะทีมชาติญี่ปุ่นได้หนึ่งประตูต่อศูนย์ในครึ่งหลังก่อนหมดเวลา เสียงโห่ร้องดีใจขององเชียร์ที่เข้ามาชมดังก้องไปทั่วสนาม เทนนิสกับธีรภัทรรีบออกมาจากสนามกีฬาขึ้นรถไฟฟ้ากลับ
เทนนิสอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมานั่งดูโทรทัศน์ เห็นเจ้าของห้องนั่งอยู่ก่อนแล้ว“ฟุตบอลวันนี้สนุกดี ทีมชาติไทยทำได้ดีมาก ในตอนแรกยังคิดว่าทีมชาติไทยจะแพ้แล้ว เพราะทางญี่ปุ่นบุกหนักและดูเหมือนว่าเขาจะเก่งกว่าไทยมาก”
“ชอบดูฟุตบอลหรอเรา”เมื่อก่อนฟุตบอลก็เป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่เขาชื่นชอบ วิ่งออกกำลังกลางแจ้งวิ่งไล่ตามลูกกลมแย่งกับทีมตรงข้ามสนุกไปอีกแบบ
“นิดหน่อย แต่ก่อนฟุตบอลเป็นกีฬาส่วนตอนนี้มีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องมากเกินไป เสน่ห์ความสนุกของฟุตบอลเลยลดลง แต่ผมก็มีความฝันอยากไปดูฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศแบบติดขอบสนามอะไรประมาณนี้เหมือนกัน”
“อืม”เป็นความฝันปกติที่คนส่วนใหญ่ที่ชอบฟุตบอลจะมีความฝันแบบนี้
“แล้ววันอาทิตย์พี่ต้องเข้าไปโรงงานมีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่า”หยุดอยู่เฉยๆก็ไม่รู้จะทำอะไรกลับบ้านพรุ่งนี้ก็คงไปซักเสื้อผ้าทำความสะอาดบ้าน บางทีอาจจะเดินห้างซื้อครีมอาบน้ำ ซื้อโฟมล้างหน้าขวดใหม่ขวดเก่าก็หมดแล้วอยากเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ครีมบำรุงผิวด้วยก็ดี
“อืม ไม่แน่ใจเราว่างพอจะไปกับพี่ได้ไหมล่ะ”
“ได้ครับ ยังไงเดี๋ยวตอนเย็นพรุ่งนี้ผมจะเข้ามา”
“เอาอย่างนี้แล้วกันพรุ่งนี้พี่ก็จะกลับบ้าน แล้วเข้าโรงงานวันอาทิตย์สายๆ”
ดึกแล้วทั้งสองแยกย้ายกลับห้อง เทนนิสปิดห้องนอนปีนขึ้นเตียงเหนื่อยมาทั้งวันได้นอนบนที่นอนนุ่มห่มผ้าห่มผืนโตแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว หลับตาลงไม่นานก็หลับสนิท
   เที่ยงวันเสาร์หลังจากกินข้าวเรียบร้อย เทนนิสกลับมาถึงบ้านทิ้งเสื้อผ้าลงเครื่องซักผ้าแยกชนิดผ้าขาวผ้าสีออกจากกัน ทิ้งให้เครื่องทำงานเองอัตโนมัติแล้วเข้าไปทำความสะอาดในบ้าน ไม่ได้อยู่บ้านเกือบสัปดาห์พื้นบ้านเริ่มมีฝุ่นเกาะ เขากวดถูพื้นจนสะอาดเก็บขยะ เดินเข้าห้องครัวเปิดดูตู้เย็นมีแค่เพียงน้ำเปล่า นมไม่กี่กล่อง น้ำอัดลมกระป๋องสามสี่กระป๋อง เสียงเครื่องซักผ้าดังขึ้นบอกว่าเครื่องทำงานเสร็จแล้ว เขาเอาเสื้อผ้าออกมาตาก จากนั้นออกไปข้างนอก ไปที่ห้างสรรพสินค้าแถวบ้านซื้อของใช้ที่จำเป็น เขาเดินไปที่แผนกเสื้อผ้าอุปกรณ์กีฬา เขาอยากได้กระเป๋าสะพายหลังใบใหม่เดินดูหลายยี่ห้อจนเจอแบบที่ถูกใจ เทนนิสใช้เวลาว่างสองสามชั่วโมงตอนบ่ายเดินหาซื้อของที่อยากได้ และแวะเข้าร้านหนังสือหานิยายเรื่องใหม่ กลับมาถึงบ้านค่ำแล้ว หลังจากตรวจความเรียบร้อยรอบบ้านแล้วขึ้นห้อง เก็บเสื้อผ้าของจำเป็น จัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วรีบเข้านอนเพราะดึกมาแล้ว   
         
รถวิ่งตามถนนหลวงด้วยความเร็วปกติเกือบสองชั่วโมง ในที่สุดมาถึงหน้าโรงงานขนาดกลางมีป้ายชื่อบริษัทติดไว้ชัดเจนตอนบ่ายสามโมงเย็น ก่อนเข้าไปด้านในมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำอยู่ด้านหน้า เมื่อรู้ว่าเป็นใครเจ้าหน้าที่เปิดประตูให้ ธีรภัทรตรงไปที่สำนักงานเพื่อดูความเรียบร้อยของเอกสารสองปีย้อนหลังที่ถูกเตรียมไว้หลายแฟ้มบนโต๊ะห้องประชุมเพื่อให้คณะกรรมการที่มาตรวจได้ดู บนปกแฟ้มติดหัวข้อตามเนื้อหาข้างใน เขานั่งดูความเรียบร้อยสักพักแล้วปิดแฟ้มลง เงยหน้าขึ้นเห็นคนที่มาด้วยนั่งเงียบที่โซฟา มองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือใกล้จะหกโมงเย็นอีกฝ่ายคงจะหิวแล้ว ก่อนอื่นต้องเช็กอินเข้าที่พักก่อนและค่อยไปหาอะไรกิน ธีรภัทรปิดไฟล็อคสำนักงานแล้วขับรถออกมา ตรงไปโรงแรมที่จองไว้ เขาแจ้งชื่อที่โทรมาจอง ทางโรงแรมให้กุญแจห้อง 
“พี่ธีร์มาพักที่นีบ่อยไหมครับ”เทนนิสถามแล้วมองไปรอบทางเดิน รู้สึกกลัวนิดหน่อยเพราะเคยฟังเรื่องเล่าเกี่ยวกับโรงแรมมาเยอะยิ่งโรงแรมเก่าแล้วด้วย
“ทำไม”ธีรภัทรสังเกตอีกฝ่ายที่เหมือนจะกำลังกังวลอะไรอยู่
“คือ มันมีผีไหมครับ”
อีกฝ่ายได้ยินคำตอบแทบจะระเบิดหัวเราะออกมา คนชอบดูหนังผีแต่กลับกลัวผีซะเอง ผิดกับเขาที่กลัวคนมากกว่า เทนนิสเห็นอีกฝ่ายเงียบทำหน้าตาเหมือนจะหัวเราะออกมา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำไมเขากลัวผีแล้วทำไม มันน่าหัวเราะมากนักรึไงเปิดประตูเข้าไปในห้องพัก ห้องเตียงเดี่ยว อ้าว ไม่ใช่เตียงคู่หรอ
“นอนด้วยกันบนเตียงนี่แหล่ะ”ธีรภัทรพูดเหมือนอ่านใจอีกฝ่ายออก ผู้ชายเหมือนกันนอนด้วยกันไม่เห็นแปลกเขากับไอ้กิตก็เคยนอนด้วยกัน หมายถึงนอนจริงๆ
“อ้อ ครับ”เขากลัวอีกฝ่ายจะไม่ชอบมากกว่า กลัวว่าจะนอนดิ้นทำให้คนที่นอนด้วยรำคาญ เขาลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กไปไว้มุมห้อง เดินไปดูห้องน้ำมีผ้าเช็ดตัวผ้าเช็ดหน้าสีขาวเตรียมไว้อย่างละสอง สบู่เหลวยาสระผม ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำและตู้อาบน้ำ ออกมาจากห้องน้ำ เดินไปเลื่อนม่านออก ข้างนอกมืดแล้ว มองเห็นแสงไฟจากหลอดไฟไกลๆ เขาหยิบเสื้อผ้ามาแขวนไว้ในตู้ และช่วยอีกฝ่ายหยิบเสื้อผ้าราคาแพงออกมาแขวน มองดูเสื้อผ้าในตู้ดูแล้วราคามันช่างแตกต่างกัน จัดของเรียบร้อยแล้วธีรภัทรชวนอีกฝ่ายออกไปหาอะไรกิน สอบถามจากพนักงานโรงแรมบอกว่ามีตลาดโต้รุ่งใกล้ๆ เดินไปก็ถึง ทั้งสองเดินตามทางที่พนักงานบอกไม่ถึง 300 เมตร ก็เห็นตลาดโต้รุ่งที่มีของกินขายเต็มไปหมด ธีรภัทรไม่ได้โทรบอกให้ทนากับปรัญออกมากินข้าวด้วย เพราะเขาอยากใช้เวลาส่วนตัวอยู่กับเทนนิสมากกว่า เพื่อนเจอกันบ่อยแล้ว แถบนี้มีโรงงานอยู่หลายโรงงานทำให้มีคนมาจากหลายที่มาทำงานแถวนี้ รวมทั้งคนต่างด้าว กับข้าวที่นี่จึงค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่เดินเข้ามามีหลายคนมองพวกเขาคงเพราะพวกเขาเป็นคนแปลกหน้า ธีรภัทรรู้สึกเป็นห่วงคนที่มาด้วยอยู่บ้างพยายามเดินเข้าไปใกล้อีกฝ่าย เขาไม่อยากให้อยู่นานกลัวเกิดเรื่องขึ้นระหว่างเดินกลับที่พัก เทนนิสสังเกตเห็นสายตาหลายคู่มองมาที่เขาเหมือนกัน รู้สึกกลัวอยู่บ้างเพราะอยู่ต่างถิ่น จึงหาอะไรกินง่ายๆกับน้ำผลไม้และซื้อของกินติดไม้ติดมือกลับไปกินที่ห้องด้วย
   ธีรภัทรอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยออกมาจากห้องน้ำ ส่วนอีกคนหลับไปแล้ว ในห้องมีแค่ไฟหลอดเล็กๆเปิดอยู่ เกือบเที่ยงคืนแล้วเขาก็เหนื่อยมาทั้งวันเหมือนกัน นั่งบนเตียงอีกฝั่งมองคนที่นอนหันหลังให้ท่าทางจะหลับสบายแต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้นยังไงไม่รู้ ปิดโครมบนหัวเตียงลง เหลือไว้ไฟหลอดเล็กๆ เขานอนมองแผ่นหลังต้นคอขาวที่ไม่ไกลจนบางครั้งอยากยื่นมือไปลูบ ถอนหายใจเบาๆกับความคิดบ้าๆของตัวเองแล้วหลับตาลง ไม่นานเขาหลับตามคนที่หลับไปก่อนหน้านี้   




**********************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/
ตอนที่ 11


เช้าวันแรกของการเข้าตรวจเยี่ยมของคณะกรรมการจากส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข เทนนิสช่วยเตรียมความพร้อมห้อง

ประชุม โปรเจคเตอร์ โน้ตบุ๊กและอุปกรณ์ต่างๆ คณะกรรมการตรวจเยี่ยมมาถึง เจ้าหน้าและผู้บริหารพร้อม เก้าโมงเช้าการประชุม

เริ่มขึ้น เทนนิสและวีร์อยู่ด้านนอกช่วยพนักงานคนอื่นเตรียมของว่างและเตรียมห้องติดกันเป็นห้องกินข้าว สักพักเบสเปิดประตู

ออกมาเรียกให้พนักงานเอากาแฟของว่างเข้าเสิร์ฟด้านใน

ด้านในยังประชุมกันอยู่เงียบไม่มีเสียงดังมาจากด้านใน พลอยให้คนนั่งอยู่หน้าห้องรู้สึกเครียดไปด้วย เทนนิสเหลือบมองประตู

ห้องบ่อยครั้งเผื่อเบสอยากได้อะไรจะเปิดออกมาบอก แต่เพื่อนที่นั่งหน้าหงอยอยู่ข้างๆนี่ก็หน้าเป็นห่วง ไม่รู้เป็นอะไรเห็นเป็น

อย่างตั้งแต่เช้า ไม่สบายตรงไหนรึเปล่าช่วงนี้ก็ไม่ค่อยมาเวลาได้คุยกันด้วยสิ เขาขี้เกียจนั่งเดา สู้ถามอีกฝ่ายดีกว่าว่าเป็นอะไร

“ทำไมหน้าตาเป็นอย่างนั้น มีเรื่องอะไรไม่สบายใจรึเปล่า”

“หน้าฉันมันแสดงออกขนาดนั้นเลยหรอ”

“ชัดมาก ความคมชัดระดับ HD เลย”     

“บ้า หน้าคนไม่ใช่จอโทรทัศน์”

“แล้วจะบอกได้รึยังว่าเป็นอะไร”อีกฝ่ายยังลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะเปิดปากพูดความในใจ

“วันก่อนฉันเห็นว่าดึกแล้วพี่ปาลยังไม่กลับ”วีร์หยุดพูดคิดถึงเหตุการณวันนั้น”ปกติถ้ากลับถึงหรือมีธุระพี่ปาลจะโทรมาบอก.... แต่

วันนั้นฉันนั่งรอโทรศัพท์จนดึก และรู้สึกเป็นห่วงด้วยเลยโทรไป”เขาเงยหน้ามองเพื่อนที่กำลังตั้งใจฟัง”ผู้หญิงเป็นคนรับ”

คงฟังหน้าตึงขึ้นมา อยู่กับผู้หญิงจนดึกอาจเป็นเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงาน แต่สนิทถึงขั้นให้อีกฝ่ายรับโทรศัพท์ให้“แกคิดมากไปเอง

รึเปล่า ไม่มีอะไรหรอกเขาคงทำงานจริงๆ”ทำไมความรักทำให้คนเราเปราะบาง อ่อนไหว อ่อนแอ ได้ถึงขนาดนี้นะ

“เธอบอกว่าพี่ปาลกำลังนอนอยู่”

เทนนิสเงียบลงเม้มปาก เข้าใจความรู้สึกของเพื่อนทันที ถ้าคนที่เขารักอยู่กับคนอื่นก็คงรู้สึกแย่และอาจจะมานั่งทำหน้าเศร้าอย่าง

นี้เหมือนกัน แต่ที่แย่กว่านั้นทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วรออะไรกันอยู่ทำไมไม่บอกความในใจของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้

ทำไมความรักนี่มันเข้าใจยากชะมัด

“ฉันจำเสียงผู้หญิงคนนั้นได้ ฉันเคยเจอเธอ เธอเป็นนางแบบสวยด้วย”วีร์พูดเสียงเบาลง เขาไม่ไกล้าบอกความรู้สึกออกไปกลัว

ว่าอีกฝ่ายจะคิดไม่เหมือนกัน เขากลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ ถ้าไม่รักก็หึงไม่หวง ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมา

นั่งคิดมาก วันทั้งวันก็ไม่ต้องคิดถึงแต่เขาคนเดียว

“อ้าว แล้วไงมันมีที่มาเลยทำให้รู้สึกสบายใจ ผู้หญิงสวยแล้วยังไง เป็นนางแบบแล้วไง ถ้ารักใครสักคนคนที่เรารักต้องดีที่สุดไม่

ใช่รึไง แล้วได้ถามพี่เค้ารึเปล่าว่าความจริงเป็นยังไง กินนี่ซะจะได้อารมณ์ดีขึ้น”เทนนิสหยิบช็อกโกแลตแท่งออกมาจากกระเป๋าส่งให้เพื่อน

“ขอบใจ แต่เปล่าหรอก ไม่ได้ถาม ไม่กล้า กลัวว่าสิ่งที่กลัวมันจะเป็นความจริง”ขอเวลาหน่อย แต่เอาเถอะอะไรจะเกิดมันก็ต้อง
เกิด

“เลยมานั่งคิด มานั่งเศร้า คิดไปเองอย่างนี้”

“ใช่”

“เอาเถอะไม่ได้เจอกันสักวันสองวันเผื่ออะไรจะดีขึ้นมาบ้าง กลับไปยังไงก็คุยกันให้มันรู้เรื่อง”

“จะพยายาม”กินขนมไปแล้วรู้สึกหิวข้าวขึ้นมา เมื่อวานไม่ได้กินอะไรเลย กลับไปบ้านไปก็ไม่ดีขึ้น ที่จริงพี่ปาลโทรมาหานะแต่ไม่

ยากคุย เหมือนที่เทนนิสว่าห่างกันบ้างก็ดี เทนนิสวางมือบนไหล่เพื่อนเป็นการปลอบ

“อีกชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาพัก แถวหน้าโรงงานมีของกิน ไปหาอะไรกินรองท้องก่อน ส่วนหน้าห้องฝากพี่ๆเขาไว้ก่อน”

“อืม”


   แถวหน้าโรงงานมีร้านกับข้าวตามสั่ง ร้านข้าวแกง ร้านขายของชำ และรถเข็นมาจอดอยู่หลายคัน ทั้งสองไม่อยากเดินไป

ไกลเลยเลือกซื้อขนมจีบซาลาเปา กับลูกชิ้นปิ้ง พนักงานโรงงานบางส่วนเริ่มทยอยออกมาพัก สาวสาวบางคนหยุดยืนมองชาย

หนุ่มแปลกหน้าทั้งสองคนกำลังซื้อขนมจีบซาลาเปา

“ดูนั่นสิผู้ชายสองคนนั้น ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”

“อ๋อ สงสัยมากับทีมงานสำนักงานใหญ่ สองสามวันนี้มีคนมาตรวจโรงงาน”

“ถึงว่าไม่เคยเห็นหน้า ว่าแต่พวกแกชอบคน ฉันชอบคนตัวสูง”

“ปล่อยเขาไปเถอะ ยังเป็นนักศึกษาฝึกงานอยู่เลย ปล่อยให้เขามีอนาคตต่อไป”

“ทำไมก็แค่ฝันไม่ได้รึไง แกแกเขาหันมายิ้มให้ฉันด้วยแหล่ะ ดูซิ”

เทนนิสเห็นคนกำลังมองมาเขาทำได้คือยิ้มให้คนที่มองแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน ทั้งสองกลับเข้าไปข้างในแอบนั่งกินขนมจีบ

ซาลาเปากับลูกชิ้นปิ้งในห้องครัวพนักงานจนอิ่ม แล้วกลับมานั่งที่เดิม เทนนิสมองหน้าเพื่อนรู้สึกจะดีขึ้นมาก กินอะไรได้และได้

ระบายออกมาบ้างแค่นี้ก็ไม่มีน่าเป็นห่วงแล้ว แต่คอยดูเถอะเจอหน้าคนที่ทำให้เพื่อนเขาเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่ จะต่อยให้คว่ำเลย

ไม่รู้ว่าจะทำได้ไหมเพราะพี่ปาลมันตัวโต นั่งคิดอะไรเพลินประตูห้องประชุมเปิดออกมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมา

“เอ่อ ขอโทษนะครับห้องน้ำอยู่ตรงไหนครับ”อาทิตย์เดินเข้าไปถามเด็กหนุ่มสองคนสวมชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยนั่งคุยกันอยู่

หน้าห้อง

“อ้อ ทางนั้นเลยครับเดินตรงไป ห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือ”

“ขอบคุณครับ”

“เขาเป็นคณะการมาตรวจหรอ”วีร์มองตามหลังคนที่เดินเข้ามาถามหาห้องน้ำอย่างแปลกใจคณะกรรมการไม่ใช่มีแต่คนแก่หรอแต่

คนเมื่อกี้ยังดูเหมือนอายุสามสิบกว่ากว่าเท่านั้น

“ใช่ เมื่อเช้าเห็นตอนออกไปต้อนรับ ว่าแต่ถามทำไม”

“แค่นึกว่าจะมีอายุกว่านี้ซะอีก แล้วนี่รู้ว่ามีใครบ้าง”

“อยากรู้ไปดูรายชื่อในใบลงรายชื่อดิ”

วีร์เดินไปอ่านรายชื่อคนในห้องประชุม ไม่รู้จักใครสักคน แขกที่มามีแต่เป็นด็อกเตอร์รองศาสตราจารย์ก็มี อาทิตย์กลับออกมา

จากห้องน้ำ อยากดื่มกาแฟสักแก้วเขาขอรบกวนให้พนักงานแม่บ้านที่นั่งอยู่ช่วยชงให้ ได้กาแฟกับของว่างชิ้นสองชิ้น มองหาที่

นั่งเห็น นักศึกษาฝึกงานนั่งอยู่หน้าห้อง เขาเดินเข้าไปขอนั่งข้างๆนักศึกษาฝึกงานทั้งสองคน อาทิตย์ทักทายและแนะนำตัว พูด

คุยสักถามทั้งสองคนเรื่องทั่วไป เขาเบื่อที่นั่งอยู่ในห้องประชุมเป็นเวลานาน แค่อยากออกมาสูดอากาศข้างนอกบ้าง ข้างในแต่ละ

คนทำหน้าเคร่งเครียดเกินไป ดูจากที่ทางบริษัทส่งเอกสารเบื้องต้นไปที่หน่วยงานก็ไม่มีปัญหาอะไรให้เป็นกังวล ที่พวกเขามาแค่

มาตรวจตามปกติเท่านั้น ผิดกับบางโรงงานที่ส่งเอกสารไปไม่ครบหรือมีปัญหา ถ้าไม่ใช่เรื่องร้ายแรงมากก็ไม่ถึงขนาดปิดโรงงาน

หรอก ก็แค่มีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลให้คำปรึกษาให้โรงงานได้มาตรฐานเท่านั้น เมื่อโรงงานได้มาตรฐานจะได้สร้างความเชื่อมั่น

ให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุน ถึงจะประเทศเกษตรกรรมแต่อุตสาหกรรมก็สำคัญไม่แพ้กัน

“ข้างในห้องประชุมน่าเบื่อมาก นั่งฟังจนเบื่อ เอกสารก็เยอะ”

“ปกติต้องไปตรวจบ่อยแค่ไหนครับ”

“อืม อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ กรรมการที่ไปตรวจแต่ละชุดจะไม่เหมือนกัน และชุดเดิมจะไม่ค่อยได้ตรวจซ้ำ ประมาณว่าเขา

สลับสับเปลี่ยนหมุนกันไปเรื่อย ของว่างนี่อร่อยดี อิ่มแล้วผมขอกลับเข้าไปข้างในก่อน ขอบคุณที่นั่งคุยเป็นเพื่อน”เทนนิสกับวีร์

มองหน้ากันเมื่ออาทิตย์เดินกลับเข้าไปในห้องประชุม   

กับข้าวสำหรับมื้อเที่ยงที่สั่งมาจากร้านอาหารมาส่งแล้ว พนักงานของร้านกำลังจัดโต๊ะ กับข้าวสามสี่อย่างถูกเทใส่ถาดตั้งใว้บน

โต๊ะยาว มีของหวานและผลไม้สด ในห้องประชุมเหมือนจะหิวแล้วเบสโผล่หน้าออกมาถามว่ากับข้าวเตรียมพร้อมยัง เทนนิสบอก

ไปว่าใกล้เสร็จแล้วพนักงานเหลือจัดถ้วยจานเท่านั้น เบสพยักหน้ารับรู้บอกว่าอีกสิบนาทีด้านในจะออกมาพักแล้ว


   เที่ยงสิบนาทีประตูห้องประชุมเปิดออก บางคนขอตัวเข้าห้องน้ำ ธีรภัทรใส่สูทหล่อเดินคู่มากับผู้หญิงสวยคนหนึ่ง เป็นหนึ่ง

ในคณะกรรมการ เขาพาธนิตาไปนั่งที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้เรียบร้อย แต่สายตาก็มองหาคนที่ไม่ได้เห็นหน้าตลอดทั้งเช้าคนที่ทำให้

เขานอนหลับไม่สนิท ไม่พอ ไม่รู้นอนยังไงลืมตาขึ้นถึงได้เห็นใบหน้าคนนอนข้างๆอยู่ใกล้แค่คืบ เขานอนจ้องใบหน้าคนที่นอน

หลับสนิท ครั้งแรกในชีวิตที่เคยนอนมองผู้ชายเหมือนกัน สาบานได้ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงตกใจถีบอีกฝ่ายตกเตียงไปแล้ว แต่

ทำไมคนคนนี้ทำให้เขาอดหยุดมองไม่ได้ เขาอยากเลื่อนไปสัมผัสที่แก้มใส จมูก ปาก ยิ่งมองยิ่งทำเอาหัวใจเต้นแรงไม่หยุด จน

อดคิดไม่ได้ว่าอยากให้วันนี้เป็นวันหยุด เป็นเช้าที่ไม่อยากตื่นเป็นเช้าที่ไม่อยากลุกจากที่นอน เขามองคนขยันช่วยคนโน้นคนนี้

ทำงานไม่หยุด แต่ก็ต้องไม่พอใจเมื่อเห็นเทนนิสคุยกับใครสักคนที่เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจเยี่ยม ท่าทางเหมือนสนิทกัน

“กับข้าวอร่อยดีนะคะ คุณธีรภัทรลองกินนี่ดูสิคะ”ธนิตาตักกับข้าวใส่จานให้อีกฝ่าย และส่งยิ้มบางๆให้ ยิ้มที่ใครหลายคนบอกว่ามี

เสน่ห์ใครเห็นใครต้องชอบ ตั้งแต่ที่รู้ว่าจะมาตรวจเยี่ยมที่นี่เธอก็รู้สึกสนใจนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงแถมโสดที่สามารถทำให้มันฝรั่ง

ของกินเล่นยี่ห้อ ทะเล้น ครองอันดับต้นต้นของตลาดหลายปีซ้อนโดยไม่ต้องเข้าตลาดหุ้น ยิ่งได้มาเห็นตัวจริงเธอยิ่งถูกใจ หนุ่ม

หล่อ บุคลิกที่เป็นผู้นำ ดูเป็นผู้ใหญ่ดูอบอุ่นถึงอายุจะน้อยกว่าเธอนั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าเธอต้องการสานความสัมพันธ์ต่อหลังเสร็จ

งาน เธอไม่เชื่อหรอกว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธเธอ

“ขอบคุณครับ”ธีรภัทรหันกลับมาสนใจกับข้าวบนโต๊ะ คงไม่มีอะไรหรอกเทนนิสเป็นคนเขากับคนง่าย เขานั่งฟังเพื่อนๆชวนแขก

คุยเรื่องทั่วๆไป มีบ้างที่ธนิตาถามเรื่องราวเกี่ยวกับเขา อะไรบอกได้ก็บอกอะไรไม่อยากบอกก็เลี่ยงไปเพื่อไม่ให้ดูเสียมารยาท

บางครั้งสายตาเหลือบมองเทนนิสกำลังคุยกับน้องสาวตัวเองอยู่หน้าห้องไม่รู้คุยอะไรกัน ดูเหมือนทั้งสองจะสนุกคุยไปด้วยยิ้มไป

ด้วยจนน่าอิจฉา 

“ตอนบ่ายคุณธีรภัทรจะพาพวกเราเข้าตรวจเยี่ยมภายในโรงงานใช่ไหมคะ”

“ครับ ตามกำหนดการที่เราแจ้งไว้ก่อนหน้านี้”

“คุณธนิตารับอะไรเพิ่มไหมครับ”เบสถามหญิงสาวที่เหมือนกำลังอยากกินเจ้านายเขา บางทีเธออาจจะยังกินข้าวไม่อิ่มหรือบางที

อาจคิดว่าเจ้านายเขาเป็นของหวาน โธ่ เจ้านายที่เสน่ห์แรงของเขามีผู้หญิงจ้องจะจับกินอยู่แล้วยังไม่สนใจอีก คงไม่ได้คิดว่าเธอ

แก่แล้วหนังเหนียวเกินไปรึเปล่า

“ไม่เป็นไรขอบคุณคะ”

เบสลุกขึ้นไปหาอะไรกินเขาหยิบผลไม้สดสองสามช่วยย่อย กับข้าวร้านนี้อร่อยพนักงานที่นี่หาร้านอาหารได้ถูกปาก กำลังชิมผล

ไม้อยู่ เทนนิสเดินเข้าไปถามมีอะไรให้ช่วยไหมตอนบ่าย พวกเขาต้องทำอะไรบ้างต้องเข้าไปในโรงงานด้วยไหม

เบสหยุดคิดแล้วถามอีกฝ่ายอยากเข้าไปดูข้างในไหม เทนนิสพยักหน้า เบสยิ้มเป็นการอนุญาต


   หลังมื้อเที่ยงทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้าโรงงานไปดูขั้นตอนการผลิต โดยมีเจ้าหน้าที่เดินนำและคอยให้ข้อมูลตอบข้อสงสัย ทุก

คนที่เข้าข้างในสวมเสื้อทับสวมหมวกให้ถูกหลักอนามัย เจ้าหน้าที่พาไปดูตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการป้อนวัตถุดิบเข้าเครื่อง

วัตถุดิบหลักของโรงงานคือมันฝรั่งสดที่คัดด้วยมือ มีพนักงานมีประสบการณ์ทำหน้าที่นั่งคัดมันฝรั่งที่ได้ขนาดและน้ำหนักตามที่

ต้องการ จากนั้นพนักงานจะนำมันฝรั่งที่คัดเสร็จแล้วไปล้างให้สะอาดและปอกเปลือกให้เรียบร้อย และล้างผ่านเครื่องอีกครั้ง

เครื่องจะลำเลียงมันฝรั่งที่ล้างจนสะอาดแล้วเข้าเครื่องแปรรูป มันฝรั่งสดจะออกมาเป็นแผ่น หรือเป็นแท่ง จากนั้นเครื่องลำเลียง

เข้าเครื่องทอด เมื่อได้มันฝรั่งทอดแล้วต่อไปเป็นการปรุงรสในถังผสม เครื่องจะคลุกเคล้ามันฝรั่งกับผงปรุงรสให้เข้ากันส่วนขั้น

ตอนสุดท้ายคือบรรจุลงในซองตามขนาดปิดผนึกและชั่งน้ำหนัก พนักงานจะซุ่มหยิบซองขนมออกมาจากเครื่องมาตรวจสอบ

คุณภาพของรสชาติ เจ้าหน้าที่ให้ความรู้หยุดทีละจุดคณะกรรมการที่เข้าชมต่างตั้งใจฟัง ในมือถือเอกสาร ฟังไปด้วยเขียนอะไร

สักอย่างลงในกระดาษไปด้วย บาทีก็ทำเครื่องหมายถูกลงในช่องว่าง หลังจากฟังแล้วบางคนมีคำถามซักถามบ้างบางจุดที่สงสัย

เจ้าหน้าที่ที่พาชมโรงก็สามารถตอบข้อสงสัยได้จนกรรมการทุกคนพอใจในคำตอบ การเข้าตรวจวันแรกผ่านไปได้ด้วยดี เอกสาร

วันแรกถูกเก็บออกจากห้องประชุมเปลี่ยนเป็นเอกสารของวันต่อไป เจ้าหน้าที่ทุกคนถูกเรียกเข้าประชุมเพื่อฟังผลสะท้อนแต่ละ

ฝ่าย ทุกคนได้รับคำชื่นชมว่าทำงานได้ดีและคำขอบคุณที่ทำให้งานผ่านไปได้ด้วยดี จากหลังประชุมเสร็จทุกคนช่วยจัดเตรียม

ทุกอย่างอย่างจนเรียบร้อย หกโมงเย็นทุกคนต่างแยกย้ายกลับ หลายคนถอนหายใจออกด้วยความโล่งใจที่ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยดี

ส่วนของวันพรุ่งนี้ก็ต้องพยายามทำให้ดีอีก


   เทนนิสนอนแผ่บนเตียงเดี่ยวในห้องใหม่ วันนี้เขาเข้าพักกับวีร์ เจ้านายพาทุกคนไปแวะกินข้าวก่อนเข้าที่พักกลับมาถึงห้อง

เขาอาบน้ำรู้สึกเหนียวตัว ออกมาจากห้องน้ำก็กระโดขึ้นเตียงรู้สึกสบายจนอยากหลับ มองไปเตียงข้างๆวีร์หลับไปแล้วน้ำก็ไม่

อาบแต่ยังดีที่เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาลุกขึ้นไปปิดไฟเห็นโทรศัพท์ของเพื่อนวางอยู่บนโซฟาหน้าโทรทัศน์สั่นอยู่สองสามครั้งแล้วมี

ข้อความเข้า ไม่ต้องบอกก็เดาได้ว่าใครเป็นคนส่งมา แต่ก็แปลกใจที่อีกฝ่ายไม่โทรมาหาเขา ช่างเถอะมันเป็นเรื่องของคนสองคน

เขาไม่อยากก้าวก่ายเกินไป ปล่อยให้พวกเขาทั้งสองจัดการกันเอง นี่เป็นแค่เริ่มต้นยังผ่านมันไปไม่ได้ไม่ต้องพูดถึงอนาคต ต้อง

เจอเรื่องราวต่างๆตามมาแน่นอน เทนนิสเลิกสนใจโทรศัพท์เพื่อนแล้วปีนขึ้นเตียง มองคนที่หลับสนิท ท่าทางจะไม่ได้นอนมา

หลายวัน อดทนไว้เพื่อนเข้มแข็งไว้เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มแล้วหลับตามเพื่อนไป


   วันที่สองของการเข้าตรวจ ช่วงเช้าคณะกรรมการยังอยู่ในห้องประชุมเหมือนเดิมตรวจสอบเอกสาร ส่วนช่วงบ่ายเป็นการ

เยี่ยมชมโรงงาน คณะกรรมการตรวจสอบความสะอาด ปริมาณฝุ่นในโรงงาน และอากาศภายในโรงงานถ่ายเทได้สะดวกรึเปล่า

สังเกตการแต่งกายของพนักงาน เครื่องจักรปลอดภัยต่อผู้ใช้งานหรือไม่ มีการตรวจเช็คเป็นระยะรึเปล่า ไฟในโรงงานที่ติดตั้งให้

แสงสว่างเพียงพอ เสียงเครื่องจักรไม่ดังเกินมาตรฐานกำหนด ในโรงงานมีทางหนีไฟไหม ป้ายทางหนีไฟติดไว้เห็นชัดเจนรึเปล่า

และมีทางหนีไฟกี่ทาง แล้วอุปกรณ์ที่ใช้ดับเพลิงเบื้องต้นพร้อมใช้งานตลอดหรือไม่ การเข้าตรวจวันที่สองผ่านไปแล้ว ส่วนวัน

สุดท้ายเป็นการตรวจสอบเอกสารที่เหลือและสรุปผล



   หลังจากสินสุดการตรวจเยี่ยมเจ้านายพาทุกคนที่ทำงานหนักมาหลายวันมาเลี้ยงผ่อนคลาย ผลออกมาเบื้องต้นคือผ่าน ทุก

คนที่ทำงานหนักแทบจะตะโกนร้องไชโย โยนเอกสารที่กองอยู่เต็มห้องขึ้นฟ้า แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มออกตามตามกันเท่านั้น กับข้าว

หลายอย่างวางอยู่เต็มโต๊ะ บางคนทำงานจนเครียดกินอะไรไม่ลงไปหลายวันหวังจะกินวันนี้ชดเชย เทนนิสก็พลอยติดโรคเครียด

กับเพื่อนร่วมงานไปด้วย เจ้านายหน้าเครียดมาหลายวัน วันนี้ก็มีรอยยิ้มปรากฏให้เห็น แต่คนที่นั่งข้างๆนี่สิหน้ายังเศร้าไม่เปลี่ยน

นึกว่าห่างกันแล้วจะดีขึ้นดูเหมือนจะยิ่งแย่ แล้วยังกินเหล้าเข้าไปอีก ที่จริงอยากจะห้ามช่างเถอะกินเข้าไปเผื่อจะได้สบายใจขึ้น

มาบ้างชั่วคราวก็ยังดี

“..เทน..เทนนิสพาไปเข้าห้องน้ำหน่อย”วีร์นั่งดื่มมาสักพักก็เริ่มมึนๆ อยากเข้าห้องน้ำแต่ไปไม่ไหวเขาเรียกเพื่อนนั่งอยู่ข้างๆให้พา

ไปห้องน้ำ ใครใช้ให้เขาคออ่อนกินเข้าไปแค่นิดหน่อยก็มึนมึนแล้ว เขาลุกขึ้นไปห้องน้ำรู้สึกพื้นมันโครงไปโครงมาจนมาถึง

ห้องน้ำ เขาเข้าไปด้านในทำธุระให้เรียบร้อยนั่งหลับอยู่บนชักโครกสักครู่ ทำงานนี่ว่าเหนื่อยแล้วแต่รู้สึกคิดถึงใครสักคนนี่มัน

เหนื่อยยิ่งกว่า ไม่ได้เจอหน้ากันหลายวันไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะคิดถึงเขาบ้างไหม ตอนนี้เขาอยากเห็นหน้าอยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายมาก

หยิบโทรศัพท์ออกมาดูอ่านข้อความทางไลน์ที่เคยคุยกัน แล้วยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ความคิดถึงนี่มันทรมานจังเลย เห็นทีเขาต้อง

เผชิญหน้ากับความจริงไม่ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไงกับเขาก็ต้องยอมรับมันให้ได้ หลายครั้งที่คิดว่าอีกฝ่ายรู้สึกแบบเดียวกับเขา

บางทีเขาอาจจะเข้าข้างตัวเองเกินไป ปาดน้ำตาที่อยู่บนแก้มแล้วออกมาจากห้องน้ำ เห็นเพื่อนยืนยิ้ม“ล้างหน้าหน่อยจะได้ดี

ขึ้น”เขาพยักหน้าเป็นคำตอบ


   กลับมาที่โต๊ะมีเจ้านายนั่งรอคนเดียว เทนนิสถามถึงคนอื่น เจ้านายบอกว่ากลับไปพักเพราะพรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงานแต่เช้า

อืม ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็ต้องกลับไปพักบ้างเหมือนกันโดยเฉพาะเพื่อนเขา

   เทนนิสพยุงเพื่อนขึ้นมานอนบนเตียง บอกขอบคุณเจ้านายที่ช่วย ดีที่ไม่ใช่เวลางานไม่อย่างนั้นต้องโดนตำหนิแน่นอน แล้ว

เมาอย่างนี้พรุ่งนี้จะตื่นไปทำงานไหวไหมเนี่ย ธีรภัทรเดินออกจากห้องบอกว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอกไม่ต้องเกรงใจ เขาขอบคุณแล้ว

หันกลับมามองเพื่อน ทันทีที่หัวถึงหมอนก็หลับไม่รู้เรื่องแต่ก่อนจะหลับยังเรียกชื่อคนคนหนึ่งไม่หยุด นานแล้วที่ไม่เห็นเพื่อนเมา

อย่างนี้ เขาจัดการถอดเสื้อผ้าคนเมาออกใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ จะได้นอนสบาย คนถูกเช็ดตัวครางออกมาอย่างรำคาญที่ถูก

รบกวนเวลานอน เช็ดตัวเสร็จ เขาหยิบเสื้อตัวเองออกมาสวมให้คนที่นอนอยู่ จัดการเพื่อนเสร็จแล้วกำลังจะหยิบผ้าเช็ดตัว เสียง

โทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขามองดูแล้วตัดสินใจกดรับ ปลายสายบอกว่าตอนนี้อยู่หน้าโรงแรม โทรหาวีร์แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ เทนนิส

บอกอีกฝ่ายให้รออยู่ข้างล่างเดี๋ยวเขาลงไปหา เขาวางสายแล้วหันไปมองเพื่อนอย่างขอโทษ เป็นเขาที่โทรตามอีกฝ่ายให้มา

เป็นเขาเองที่ยุ่งไม่เข้าเรื่อง แต่ขอให้การยุ่งไม่เข้าเรื่องของเขาครั้งนี้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นด้วยเถอะ

“เทนนิส ทางนี้”

“พี่มาช้า วีร์มันเมาหลับแล้ว”

“เมาด้วยหรอ วีร์โกรธอะไรพี่ ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์พี่เลย”

“อยู่กับมันทุกวันยังไม่รู้ แล้วผมจะรู้ได้ยังไง”ถามไม่คิด

“คือ ช่วงนี้พี่มีงาน......”

“พี่ทำงาน แล้วคนอื่นเขาไม่ทำงานรึไง ทำงานเยอะทำงานยุ่งแล้วทำไมไม่โทรไปบอก ปล่อยให้มันอยู่ห้องคนเดียวไม่ห่วงความ

รู้สึกมันบ้างรึไง บางทีก็ทำเป็นหวงไปไหนไม่ได้ ทีตัวเองกลับไม่โทรไปบอกมัน”พูดทุกอย่างออกไปแล้วเห็นใบหน้าอีกฝ่ายสลด

ลง จนคิดว่าตัวเองพูดเกินไปรึเปล่า ช่างเถอะถือว่าเอาคืนที่ทำให้เพื่อนเขาคิดมากไม่สบายใจ

“พี่ขอโทษ”

“คนที่พี่ต้องขอโทษ โน่นเมาหลับอยู่บนห้องโน่น ผมถามพี่พี่คิดยังไงกับเพื่อนผมกันแน่”เอาสิแน่จริงพูดมาสิ รอฟังอยู่

อีกฝ่ายเม้มปากยืนเงียบ

“พี่ไม่ต้องตอบผมหรอก ผมไม่อยากรู้แต่แค่อยากบอกว่าคิดอะไรก็ให้บอก ผมคิดว่าเพื่อนผมก็รู้สึกกับพี่เหมือนพี่รู้สึกกับมันนั่นแห

ล่ะ”แค่มันไม่พูอออกมาเท่านั้น



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/



ปาลภัทรได้ยินคำพูดคงตรงหน้าถึงกับแปลกใจ นี่วีร์ชอบเขาหรอ

“ รู้ไหมว่าพี่ทำให้เพื่อนผมเสียใจมาก มันบอกว่าโทรไปหาพี่คืนวันก่อนที่พี่กลับบ้านดึกเป็นเสียงผู้หญิงรับ”เขาหยุดมองหน้า

ใบหน้าคนตรงหน้าว่าจะแสดงท่าทางยังไง แต่อีกฝ่ายยังดูนิ่งเดาไม่ออก”แล้วเธอบอกว่าพี่กำลังนอนอยู่ ส่วนเรื่องราวทั้งหมดพี่

คงรู้ดีอยู่แก่ใจ”

“คือ...”

“พี่เก็บคำแก้ตัวไปบอกเพื่อนผมดีกว่า นี่กุญแจห้องผมให้เวลาพี่คุยกับมัน รู้สึกยังไงก็พูดกันให้รู้เรื่อง ถ้ามันงี่เง่าก็ปล้ำมันเลยผม

อนุญาต ถ้ามันลุกจากเตียงไม่ได้ผมจะลางานกับเจ้านายให้”

“ขอบใจนะ”

เทนนิสพยักหน้ามองตามหลังร่างสูงเข้าไปในลิฟต์โดยสาร เรื่องต่อจากนี้จะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับทั้งสองคนแล้ว เขาคงทำได้เท่า

นี้ ว่าแต่คืนนี้เขาจะไปนอนที่ไหน


   ปาลภัทรเปิดประตูเข้าไปในห้องเห็นคนที่ไม่เจอหน้าหลายวันนอนหลับสบายอยู่บนเตียง เขาไม่รู้เรื่องราวที่เทนนิสบอกว่า

วีร์โทรมาหาวีร์ไม่ได้บอก ดูในโทรศัพท์ย้อนหลังก็ไม่มีเบอร์โทรเข้า อาจมีคนกำลังเล่นตลกกับเขา ช่วงนี้วิ่งวุ่นอยู่กับทำงานให้

ลูกค้าจนดึก กลับถึงห้องอีกคนที่อยู่ห้องข้างๆก็ปิดไฟนอนหลับไปแล้ว เขาตื่นมาตอนเช้าก็ไม่เห็น ตอนแรกยังไม่เอะใจว่ามันเกิด

อะไรขึ้น จนเขาโทรหาอีกฝ่ายแต่ไม่ยอมรับ ไม่รับโทรศัพท์ไม่ได้เจอหน้าเขาแทบจะบ้า เขาทำอะไรผิดไปรึเปล่า ถ้าผิดก็พร้อม

จะขอโทษแต่ขอแค่ให้คุยกันให้รู้เรื่องเท่านั้น เขาไม่มีอารมณ์ทำงาน รู้สึกหงุดหงิด จนในที่สุดสายวันนี้เทนนิสโทรมาถามเขาว่า

เกิดอะไรขึ้น นั่นยิ่งทำให้เขางงเข้าไปใหญ่ ช่างเถอะแค่ไปถามอีกฝ่ายก็คงรู้เองเขารีบเคลียร์งานให้เสร็จแล้วขับรถตรงมาที่

โรงแรมที่เทนนิสส่งที่อยู่ไปให้ เพิ่งเห็นคนตัวเล็กกินเหล้าจนเมา เขาเข้าห้องน้ำอาบน้ำทำธุระให้เรียบร้อยกลับมานอนลงข้างๆ

คนที่หลับอยู่ก่อน


   ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นธีรภัทรลุกขึ้นเดินไปที่หน้าประตู เห็นคนที่คิดถึงยืนยิ้มในชุดเดิมอยู่หน้าประตูและพูด

ประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน

“เอ่อ คืนนี้ผมขอมานอนห้องนี้ด้วยได้ไหมครับ”

“ได้ เข้ามาก่อนสิ”เขาตอบโดยไม่ต้องคิด แต่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทะเลาะกับเพื่อนมาหรอ ช่างเถอะถ้าอีกฝ่ายอยากบอกก็คงเล่า

ออกมาเอง เขาบอกให้อีกฝ่ายไปอาบน้ำและหยิบเสื้อผ้าให้ยืม


   ได้อาบน้ำแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะเลย ไม่รู้ว่าสองคนนั้นจะเป็นยังไงบ้าง ธีรภัทรเห็นคนที่ออกมาจากห้องน้ำนั่งนิ่งไม่พูดไม่

จาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ รู้สึกเป็นห่วงอยู่บ้าง ยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามอีกฝ่ายก็พูดขึ้นมา

”ความรักนี่เข้าใจยากจังเลยนะครับ”

“ฮืม อารมณ์ไหนนิ พูดเหมือนคนกำลังมีความรัก”

“ก็ไม่เชิง พี่ธีร์คิดว่าผู้ชายกับผู้ชายรักกันเป็นยังไงบ้าง”

ธีรภัทรแปลกใจอยู่บ้างที่ได้ยินอีกฝ่ายถามคำถามนี้ขึ้นมา“หลายคนยังรับไม่ได้ สังคมยังไม่เปิดกว้างเรื่องแบบนี้เท่าไหร่”เขาตอบ

แล้วสังเกตท่าทีอีกฝ่าย

“อืม หรืออาจจะใช้เป็นข้ออ้าง ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์แบบ ถ้าผู้ชายคนหนึ่งมีแฟนหน้าตาไม่ดีเพื่อนของ

เขาอาจไม่ชอบและอยากให้ทั้งสองเลิกกัน เวลาเดินไปไหนมาไหนด้วยคนอื่นก็จะมองแอบนินทาว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาไม่ดีมี

แฟนหน้าตาดี โดยที่ไม่คิดว่าที่จริงแล้วนั่นเป็นเพียงภายนอกเท่านั้น หรือผู้หญิงคนหนึ่งมีแฟนแต่แฟนมีฐานะไม่ดีทางบ้านก็ขัด

ขวาง ให้เหตุผลหน้าตาทางสังคมเป็นที่ตั้ง สรุปแล้วความรักน่าจะเป็นเรื่องของคนสองคน เพื่อน ครอบครัว และสังคมไม่ได้เป็น

ตัวตัดสินหลักคนสองคนต่างหาก ”

“อาจะใช่ หรือไม่ใช่ แล้วถ้าเป็นเราล่ะ“   

“ถ้าเป็นผมเป็นใครก็ได้ที่ ไม่ต้องหน้าตาดี ไม่ต้องรวย ไม่ต้องเรียนหนังสือเก่งหรือฉลาด ขอแค่มีคนคนนั้นอยู่ด้วย เหนื่อยจาก

ข้างนอกมาทั้งวัน กลับมาเจอคนที่เรารักและรักเท่านั้นที่ผมต้องการ”    

“อืม ฟังแล้วดูดีคนเราไม่เหมือนกัน ความคิดก็แตกต่างกันไปด้วย ไม่อย่างนั้นจะมีการหย่าร้างหรอ ชีวิตคู่ไม่ได้เรียบง่ายไม่ได้โรย

ไปด้วยกลีบกุหลาบ มันมักจะมีบททดสอบเข้ามาให้เราต้องเผชิญอยู่ตลอด แล้วคนทั้งสองคนต้องฝ่าฟันมันไปด้วยกัน คนสองคน

ที่ต้องปรับตัวเข้าหากันเรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่เหมือนนิยายวัยรุ่นเล่มละร้อยกว่าบาทที่ขายอยู่ในร้านหนังสือ"

รู้หรอน่าว่านั่นคือนิยาย ไม่ใช่เรื่องจริง“ครับ ผมว่าดึกแล้วผมไปนอนดีกว่า”ธีรภัทรเห็นว่าดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องกลับไปทำงานตาม

ปกติ ไม่รู้ว่ามีงานกองอยู่เต็มโต๊ะหรือเปล่าแค่คิดก็เหนื่อยขึ้นมา ปิดไฟในห้องลงหน้าจอโทรโทรศัพท์แสดงชื่อคนที่โทรเข้ามา

ธนิตาเป็นผู้หญิงสวยคนหนึ่ง มีการงานมั่นคง เป็นคนฉลาด โสด แต่ไม่ใช่คนที่เขาชอบ นี่คงเป็นคำตอบของคำถามเมื่อครู่ถึงจะ

สมบูรณ์แบบแค่ไหนแต่ไม่ได้รักไม่ได้ชอบก็ไม่ใช่สินะ ริมฝีปากหนาโค้งขึ้นเล็กน้อยอย่างพอใจคำตอบที่เขาค้นพบ ขอบคุณ

สำหรับคำถามที่ทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น ธีรภัทรพลิกตัวนอนตะแคงมองใบหน้าที่หลับสนิทแล้วหลับตามอีกฝ่าย


   เช้าวันใหม่คนที่หลับสบายทั้งคืนเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ค่อยๆลืมตาขึ้นเห็นใบหน้าคนที่คิดถึงมาหลายวันอยู่แค่คืบ นี่เขา

ยังไม่สร่างเมาอีกหรอหรือฝันไป ช่างเถอะนอนต่อดีกว่ายังไงก็ฝันดีแล้ว เขาหลับตานอนต่อขยับเข้าซุกอ้อมอกคนที่นอนหลับอยู่

นี่คงเป็นฝันแบบ HD ฝันเหมือนจริงมากเลย

“ตื่นแล้วหรอตัวเล็ก”

นั่นได้ยินแม้กระทั่งเสียง เขารู้สึกเหมือนถูกใครกอดอยู่จนต้องลืมตาขึ้น

“พ...พี่ปาลมาได้ไง”เขาลุกขึ้นนั่งมองคนที่นอนยิ้มหล่ออยู่บนเตียง แต่เดียวก่อนนี่มันห้องนอนที่คอนโดนี่ไม่ใช่โรงแรม เขากลับ

มาได้ยังไง

“ไม่ต้องแปลกใจหรอกพี่เป็นคนพากลับมาเอง ปลุกยังไงก็ไม่ตื่นเลยอุ้มขึ้นรถมา”

“เอ่อ อุ้ม แล้วงานงานใช่ต้องไปทำงาน นี่กี่โมงแล้ว”เขาเพิ่งนึกได้ว่าวันต้องไปทำงาน มองหาโทรศัพท์เพื่อดูเวลา

“10 โมงเช้าแล้ว”คนนอนอยู่บนเตียงพูดอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน

“หา! อย่างนี่ก็สายสิ”

“ไม่สายหรอกพี่บอกเทนนิสให้ลางานให้แล้วเรียบร้อยสองวัน ”

“สองวัน”ทำไมต้องสองวัน

“ใช่ สองวัน”

“แล้วพี่ไม่ไปทำงานหรอ”

“ลาเหมือนกันสองวัน”

“โกรธอะไรพี่ ทำไมไม่บอก ทำไมไม่คุยกัน”

“โกรธใครโกรธ โกรธเรื่องอะไรไม่มี แล้วก็เลิกกอดได้แล้ว เป็นอะไรทำงานเยอะจนเพี้ยนไปรึเปล่า”เขาดันหน้าอกคนตัวโตให้ไป
ห่างๆ

“อยากกอด อยากกอดมาตั้งนานแล้ว”เขาดึงตัวคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด

“ป่วยรึไง หรือกินอะไรผิดสำแดง”ปากพูดไปอย่างนั้นแต่ในใจกำลังเต้นแรงเพราะความดีใจ รู้สึกดีที่ได้อยู่อ้อมกอดของอีกฝ่าย

“พี่รักวีร์นะ”ปาลภัทรกระซิบบอกรักคนในอ้อมกอด ตอนนี้เขาไม่มีอะไรต้องลังเลอีกแล้ว เขาคิดทบทวนตลอดเรื่องราวทุกอย่าง

ตลอดทั้งคืน เขาไม่อยากปล่อยมือจากคนคนนี้ไป ถ้าอีกฝ่ายปฏิเสธเขาก็พร้อมที่จะทุกวิถีทางที่จะผูกมัดไว้

“หา!”นี่เขานอนหลับยังไม่ตื่นดี หรือเหล้าที่กินเมื่อวานหมดอายุ วีร์ยื่นมือไปวางบนหน้าผากคนตรงหน้าแล้ววางที่หน้าผากตัวเอง

ก็ตัวไม่ร้อนทั้งคู่

“นี่ผมไม่ฝันไปใช่ไหม พี่ปาลตัวจริงรึเปล่า ที่พูดเมื่อกี้หมายหมายความว่าอย่างนั้นจริงๆใช่ไหม”

“ใช่ พี่รู้สึกอย่างนั้นกับเราจริงๆ รู้สึกมาตั้งนานแล้วกลัวว่าเราจะปฏิเสธ”เขาพูดความในใจให้คนในอ้อมกอดได้รับรู้ ใช้มือหนาลูบ

แผ่นหลังไปมาเบาๆ

“ต...แต่ พี่ไม่ได้คบอยู่กับผู้หญิงที่เป็นนางแบบคนนั้นหรอ”วีร์พูดเสียงเบาลง”คืนก่อนที่ผมโทรไปเธอรับโทรศัพท์บอกว่า”เขา

หลบหน้าอีกฝ่ายไม่อยากพูดต่อ

ชายหนุ่มคลายคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอด แล้วจ้องใบหน้าที่กำลังแสดงออกมาว่ากังวลใจ“พี่ขอโทษนะที่ปล่อยให้เราเป็นห่วง

แต่พี่ไม่ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้นแค่สองคน และพี่กับเธอไม่เคยมีอะไรกัน มากกว่าเพื่อนร่วมงาน”เขายืนยันคำพูดด้วยท่าทางที่

จริงจังและน้ำเสียงที่หนักแน่น

“อืม ผมเชื่อก็ได้”คนตัวเล็กยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ รู้สึกดีใจที่ยินคำพูดอีกฝ่าย แต่หุบยิ้มลงเมื่อนึกถึงความเป็นจริง”มันไม่

แปลกหรอที่ผู้ชายชอบกันแบบนี้ ที่...ที่บ้านถ้าพ่อกับแม่รู้ต้องว่าแน่แน่ ไหนจะเพื่อน ไหนจะที่ทำงานอีก”

“ไม่ ไม่แปลกหรอก เรื่องแบบนี้ไม่ได้มีแค่เรา ส่วนที่บ้านแม่พี่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก”เขาเข้าใจคำถามและเข้าใจความกังวลของอีก

ฝ่าย ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นเพราะถ้าตอบว่าไม่ก็คงโกหก แต่เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของคนสองคนถ้าพวกเขาหนักแน่นพอ คำตอบคือเรา

ทั้งสองรักกันแค่นี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว

เขาเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่แปลกถ้าแปลกคนเขาคงจับไปเผา จับไปถ่วงน้ำหรือจับไปขังออกงานวัดแล้ว แต่แม่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรก
หมายความว่ายังไง

“แม่พี่รู้เรื่องนี้นานแล้ว ท่านถึงไม่เร่งให้พี่มีแฟนแต่งงาน”พยายามอธิบายอีกฝ่ายให้เข้าใจ

“อยู่ที่โน่นคงมีแฟนเยอะละซิ ดูก็รู้ว่าเสน่ห์แรง ขนาดพวกนางแบบที่ร่วมงานด้วยแต่ละคนมองทีน้ำลายหก บางคนก็แทบจะวิ่ง

ตามอยู่แล้ว”พูดแล้วก็หมั่นไส้

“ฮึ ฮึ พูดอย่างนี้เหมือนจะหึงเลย”คนพูดหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ที่อีกฝ่ายแสดงอาการหึงหวงออกมา”อยู่ที่โน่นก็มีบ้างตามประสา

ผู้ชายโสด หน้าตาดี แต่ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะพี่ไปเรียนไม่ได้ไปหาแฟน”เขายอมรับที่มีคนเข้ามาบ้าง ก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่

คนตรงหน้ายังอยู่ในใจตลอด

“ผู้ชายไม่ได้น่ากอดเหมือนผู้หญิงหรอกนะ”

“มันไม่เกี่ยวว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย มันเกี่ยวที่ว่าคนที่พี่กอดเป็นคนที่พี่รักและรักพี่มากกว่า แล้วตัวเล็กคิดยังไงกับพี่ รักพี่

ไหม”คำถามง่ายๆแต่ทำให้อีกฝ่ายเงียบลง วีร์ถูกคำถามตรงๆเล่นงานจนหัวใจเต้นแรงอดหน้าแดงขึ้นมา ไม่รู้จะตอบยังไงดีได้แต่

พยักหน้าช้าๆเป็นคำตอบ แต่อีกฝ่ายไม่ยอม ปาลภัทรยังรอฟังคำตอบออกจากปากคนตรงหน้ามากกว่า

“อื้อ รักเหมือนกัน”ตอบไปแล้วก็โผเข้ากอดคนตรงหน้าทันที ให้ตายไม่มีเคยมีแฟนไม่พอ ดันต้องมาบอกรักผู้ชายคนแรกอีก แต่

รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พูดความในใจออกไป

ปาลภัทรมองเวลาเห็นว่าสายมากแล้วจึงชวนอีกฝ่ายเข้าไปอาบน้ำก่อนออกไปหาอะไรกิน แต่ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธ เขาเสียดายเล็ก

น้อยแต่ก็เข้าใจ ยอมเข้าไปอาบน้ำคนเดียวก่อนครั้งต่อไปต้องหาวิธีให้อีกฝ่ายยอมให้ได้ วีร์นั่งนิ่งบนเตียงคิดเรื่องราวที่เกิดต่อ

จากนี้ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เขาอยากทำทุกวันให้มีความสุขที่สุด ในใจนึกขอบคุณเพื่อนคงเป็นเทนนิสที่บอกเรื่องของ

เขาให้ปาลภัทรรู้

   

   ออกเดินทางจากโรงแรมตอนตีสามกว่ามาถึงคอนโดตีสี่ยังมีเวลาพัก เทนนิสรีบรักษาเวลาอันมีค่าทันทีโดยการนอน รู้สึก

ตัวอีกทีตอนนาฬิกาปลุกดังลั่นห้อง งัวเงียลืมตาตื่นขึ้นมาดูนาฬิกาเจ็ดโมงเช้าแล้วยังง่วงอยู่เลย วันนี้ไม่อยากไปทำงาน เขาลกุ

ขึ้นจาดเตียงเข้าห้องน้ำอาบน้ำทำธุระส่วนตัวถ้าช้ากลัวเจ้านายจะรอ เขาเปิดน้ำจากก๊อกล้างหน้ารู้สึกสดชื่นมองตัวเองใน

กระจกเงาหน้าเต็มไปด้วยฟอง ส่วนมือก็ลูบไปทั่วหน้าเขารู้สึกว่าสิวเม็ดเล็กบนหน้าผากไม่ค่อยมีแล้ว เปลี่ยนโฟมล้างหน้าแล้วดี

ขึ้นจริงๆ เสียงฝนข้างนอกยังดังอยู่เมื่อคืนตอนกลับมาฝนก็ตกอากาศชื้นๆอย่างนี้แหล่ะหลับสบายว่าแล้วก็อยากกลับไปนอน


   อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยออกมาจากห้องแต่ยังไม่ได้ยินเสียงโทรทัศน์ อ้าว พี่ธีร์ยังแต่งตัวไม่เสร็จอีกหรอ สงสัยจะตื่นสาย

คงจะเหนื่อยเพราะเมื่อวานต้องขับรถกลับมาอีก มองออกข้างนอกเห็นฝนยังตกอยู่ จากที่ดูข่าววันก่อนพยากรณ์อากาศบอกว่า

สองสามวันนี้จะมีฝนตก ฤดูฝนนี่นะ ฝนก็ต้องตกเป็นธรรมดา เทนนิสมองดูเวลาถ้าช้ากว่านี้จะสาย เขาจึงตัดสินใจไปเคาะประตู

เรียกเจ้าของห้อง เรียกอยู่ครั้งสองครั้ง ไม่มีเสียงตอบรับรึว่าออกไปก่อนแล้ว ไม่หรอกถ้าจะออกไปก็น่าจะบอกกันบ้าง รึว่าเขา

นอนขี้เซาจนไม่ได้ยินเสียงปลุก ไม่แน่ถ้าอย่างนั้นก็ต้องมีข้อความเขียนติดไว้บ้างซิ เขาลองหมุนลูกบิดแล้วผลักเข้าไป ในห้อง

มืดเพราะในห้องปิดม่านกั้นแสง เขาลองเรียกเจ้าของห้องอีกครั้ง ไม่มีเสียงตอบกลับ เขาเข้าไปข้างใน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามา

เหยียบห้องนอนธีรภัทร ในห้องเปิดแอร์ซะเย็น เดินตรงไปที่เตียงเห็นเจ้าของห้องนอนอยู่ นี่เป็นอะไรรึเปล่าเรียกขนาดนี้ยังไม่ตื่น

“พี่ธีร์ พี่ธีร์ ตื่น”เขาเรียกคนนอนอยู่เบาๆ เหมือนคนนอนอยู่จะรู้สึกตัว”เป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน”ถามแล้วอีกฝ่ายยังเงียบ

เขาวางมือบนหน้าแก้มซอกคออีกฝ่าย”ตัวร้อนมากเลย เป็นไข้แน่แน่”

“อืม ปวดหัว”

“วันนี้ไม่ต้องไปทำงานหรอกตรับ ไปสภาพนี้ก็ทำอะไรไม่ได้ นอนนิ่งนิ่งนะผมจะโทรไปบอกพี่เบสให้”เทนนิสสั่งอีกฝ่ายแล้วเดิน

ไปปิดเครื่องปรับอากาศเปลี่ยนเป็นผัดลมแทน เลื่อนม่านออกให้มีแสงเข้ามาในห้องบ้าง แล้วโทรหาคุณเลขาบอกว่าเจ้านายป่วย

ไม่สบาย ตัวร้อน ปวดหัว คุณเลขาก็บอกให้เทนนิสไม่ต้องมาทำงานดูแลเจ้านายไม่ให้ดื้อลุกขึ้นมาทำงานบังคับให้กินข้าวกินยา

และนอนเยอะๆ ลองดูอาการก่อนถ้าไม่ดีขึ้นค่อยถ้าไปหาหมอ เทนนิสรับทราบคำสั่งของคุณเลขา ไม่รู้ว่าคนที่ป่วยเป็นเจ้านาย

หรือลูกน้องกันแน่ เดินกลับเข้าห้องดูอาการคนป่วยยังนอนอยู่แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้ ปลดกระดุมออกทีละเม็ด เปิดเสื้อออก

เห็นผิวขาวกับหุ่นใต้เสื้อที่ดูแล้วน่าอิจฉา ผ้าชื้นสัมผัสกับผิว คนที่นอนอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาเห็นคนคุ้นหน้ากำลังเช็ดตัวให้ ธีรภัทรรู้สึก

สบายตัวขึ้นมาก อาจจะเครียดเรื่องงานพักผ่อนไม่เพียงพอบวกกับอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้เช้านี้เกิดไม่สบายขึ้นมา เขามองมือ

ขาวที่ใช้ผ้าเช็ดไปตามตัวเขา เทนนิสหยิบเสื้อตัวใหม่ออกมาเปลี่ยนให้คนป่วย บอกให้คนป่วยนอนก่อนเขาจะไปทำข้าวมาให้

และจะได้กินยา คนป่วยนอนรออย่างว่าง่าย เทนนิสลงไปร้านสะดวกซื้อข้างล่างซื้อยาพาราเซตามอล แผ่นเจลลดไข้ ยาอม

มะแว้งรสบ๊วยกับผลไม้สด ฝนหยุดตกแล้วอากาศเย็นสบายถนนเปียกข้างทางมีน้ำท่วมขัง พยาบาลจำเป็นกลับขึ้นมาบนห้องเข้า

ครัวทำข้าวต้มปลาใส่กระเทียมเจียวสำเร็จรูปกับต้นหอมเยอะๆ กลิ่นหอมของข้าวต้มปลุกคนป่วยให้ตื่น เทนนิสให้คนป่วยเอนหลัง

พิงกับหัวเตียง และนั่งเฝ้าคนป่วยกินข้าวต้มให้หมด ธีรภัทรกินข้าวต้มจนหมด กินยาและติดแผ่นเจลลดไข้อย่างว่าง่ายแล้วพัก
ผ่อน


   ไม่รู้ว่านอนหลับไปนานเท่าไหร่ตื่นขึ้นมาอาการปวดมึนที่หัวรู้สึกดีขึ้น คอไม่เจ็บเหมือนเมื่อเช้า ตามเนื้อตัวเหนียวเพราะ

เหงื่อ เขาลุกขึ้นจากเตียงอยากเปลี่ยนชุดที่ชื้นไปด้วยเหงื่อ สายตามองไปที่โซฟาเห็นคนเฝ้าไข้ เมื่อเช้าวุ่นวายดูแลเขาเพิ่งรู้ว่า

เวลาไม่สบายแล้วมีคนคอยดูแลมันดีอย่างนี้เอง เขาก้มลงจูบลงบนหน้าผากของคนที่นอนหลับแทนการขอบคุณ อีกฝ่ายคงจะ

เหนื่อยเหมือนกัน ไม่รู้ว่าเขาทำงานมากเกินไปรึเปล่า น่าจะหาความสุขให้เองบ้างเหมือนที่เพื่อนของเขาชอบพูดกรอกหูบ่อยบ่อย

หาช่วงวันหยุดยาวไปเที่ยวที่ไกลๆก็ไม่เลวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าคนนอนฝันดีอยู่บนโซฟาอยากไปกับเขารึเปล่า เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่

เสร็จคนนอนอยู่บนโซฟาก็ตื่นขึ้นมา

“หายปวดหัวแล้วรึยังครับ”เขาลุกขึ้นแนบหลังมือที่หน้าผากแก้มอีกฝ่าย”ตัวไม่ร้อนเหมือนเมื่อเช้า”ค่อยยังชั่วรู้สึกโล่งขึ้นเพราะไม่

ต้องพาเจ้านายไปหาหมอ คงเป็นไข้หวัดธรรมดาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เอาไว้ตอนเย็นค่อยโทรไปบอกคุณเลขา

“ดีขึ้นมากแล้ว ขอบใจที่ช่วยดูแล”

“ไม่เป็นครับ ว่าแต่หิวไหมครับผมจะหาอะไรให้กิน”ห้าว หลับไปตอนไม่รู้เห็นเรื่องเลย ฝนตกลงมาอีกแล้วหรอเนี่ย

“ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”แต่คนที่ถามน่าจะหิวมากกว่านะ

“อยากกินอะไรครับ พิซซ่าหรือไก่ทอดดี”

“หือ”ให้คนป่วยกินอาหารแบบนี้จะดีหรอ

“ล้อเล่นครับ”ขืนสั่งอาหารแบบนั้นมาให้เจ้านายกิน คุณเลขารู้เข้าคงโดนด่าตาย

นอนมาทั้งวันแล้วรู้สึกเบื่อๆธีรภัทรออกมานั่งดูโทรทัศน์และกินแอปเปิ้ลกับสาลีรองท้อง ที่เทนนิสปอกใส่จานให้ วันนี้เป็นวันหยุด

ที่สบายที่สุดไม่ต้องคิดกังวลเรื่องงาน ไม่มีเสียงโทรศัพท์คอยกวนใจ แถมยังมีพยาบาลส่วนตัวคอยดูแลอีก เสียงแว่วดังมาจาก

ในครัวเทนนิสกำลังทำกับข้าวมื้อเย็นเป็นข้าวต้มหมูสับ ใส่หมูยอ ไข่ต้ม โรยหน้าด้วยคึ่นไช่ต้นหอมกระเทียมเจียว เป็นอะไรที่กิน

ง่ายสำหรับคนป่วย

คนป่วยกินข้าวได้เยอะกว่าเดิม คนทำก็ดีใจ ไม่มีอาการอ่อนเพลีย แต่ก็ยังมีไข้ขึ้นสูงตอนเย็นให้เห็นอยู่บ้าง เทนนิสโทรไปบอก

คุณเลขาว่าเจ้านายอาการดีขึ้นไม่ต้องพาไปหาหมอ คุณเลขาก็หายห่วง ฝากให้เทนนิสหยุดงานอยู่เฝ้าเจ้านายอีกวันและบอกเจ้า

ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องงาน เพราะมันไม่หนีไปไหนแน่นอนรับรอง หลังกินยาเสร็จ เทนนิสช่วยเช็ดตัวให้ รู้สึกแปลกอยู่บ้างที่ต้องมา

เช็ดตัวให้ผู้ชายด้วยกัน เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้ดูแลใครจริงจังอย่างนี้ เขารู้จักกับอีกฝ่ายได้ไม่นานแต่กลับรู้สึกสนิทคุ้นเคย

ขึ้นเรื่อยๆภายใต้สถานการณ์แปลกๆ พบกันบ่อยครั้ง จนในที่สุดถึงขั้นได้มาพักอยู่ด้วยกัน เขามองสายตาอีกฝ่ายที่จ้องเขาอยู่อด

จ้องกลับไม่ได้ ชั่วครู่ที่มองอยู่นั้นเหมือนถูกไฟช็อต กระแสไฟอ่อนๆวิ่งไปทั่วตัวจนหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ จนเขาต้องหลบ

สายตาอีกฝ่ายที่มองมา หลังจากเช็ดตัวให้คนป่วยเสร็จเขาก็ปล่อยให้คนป่วยได้นอนพัก

เทนนิสฟังเพลง นอนเล่นเน็ตบนเตียงอ่านข้อความที่หลายคนโพสต์ลงไป มีทั้งโฆษณาขายของอวดสรรพคุณสินค้า ใช้แล้วขาว

ภายใน 1-3 วัน พร้อมทั้งมีรูปถ่ายประกอบ บางคนโพสต์เรื่องทั่วไป หลายข้อความอ่านไม่ทันจนตาลาย ตั้งแต่กลับมาถึงห้องรู้สึก

หัวใจของเขาที่เต้นแรงกลับมาเป็นปกติแล้วความรู้สึกเมื่อครู่มันคืออะไรกันแน่ ช่างเถอะนอนพักเดี๋ยวก็หาย เขาวางโทรศัพท์ไว้

บนหัวเตียงและปิดไฟในห้อง ไม่นานก็หลับไป



********************************************************************


โปรดติดตามตอนต่อไป




ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ปาลวีร์ :-[ :-[ :-[ :-[
รอคู่เทนนิสอ่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
สปาร์คแล้ว เย้ๆๆ

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ตอนที่ 12
[/size]

   เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในวันทำงาน รถยังติดเหมือนเดิม ถึงจะมีโครงการบริการรถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าลอยฟ้าเพิ่มขึ้นอีก

สองสามสาย และเมื่อต้นเดือนที่แล้วรถไฟเส้นทางใหม่เปิดทดลองให้บริการฟรีสองเดือนตลอดเส้นทางแล้ว มีผลสะท้อนกลับมา

คนที่ใช้บริการบอกว่าพึงพอใจ แต่ก็ยังมีปัญหาในชั่วโมงเร่งด่วน รถมาช้าบ้าง สัญญาณเตือนตอนประตูเปิดปิดเสียงเบา ทีม

วิศวกรช่างต่างเข้าไปแก้ไข ส่วนรถไฟฟ้าสายเก่าก็ขยายเส้นทางออกไปเพื่อให้ครอบคลุมจังหวัดใกล้เคียง แต่ก็ไม่ช่วยแก้ปัญหา

เรื่องรถติดในเมืองได้ถึงจะเปลี่ยนรัฐบาลไปแล้วหลายชุด เปลี่ยนผู้ว่าไปแล้วหลายคน

หลายคนยังบ่นว่าเกลียดวันแรกของสัปดาห์ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ พนักงานทุกคนต่างตั้งใจทำงาน บนโต๊ะมีแฟ้ม

เอกสารหลายแฟ้มวางไว้ เริ่มทำงานไปทีละอย่างสักพักงานก็ลดน้อยลง พนักงาน หัวหน้า หลายคนเดินเข้าออกห้องประชุม

หลายคนเดินผ่านหน้าห้องที่เงียบรู้สึกสนใจว่าข้างในประชุมเรื่องอะไรกัน อาจจะเป็นเรื่องที่คณะกรรมเข้าตรวจโรงงาน ต่างคน

ต่างคาดเดาต่างกัน 

เทนนิสเดินส่งเอกสาร ถ่ายเอกสาร พิมพ์ช่วยงานตามแผนกต่างๆเหมือนทุกวันกลับมานั่งพัก สายตาแอบมองเพื่อนที่นั่งทำงาน

อย่างมีความสุข เท่านี้ก็ไม่ต้องถามแล้วว่าช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ต้องให้ได้อย่างสิเขาลงมือช่วยเหลือแล้วทุกอย่าง

ต้องสำเร็จ ความรักนี่เข้าใจยากจริงๆ กวินทร์เห็นรุ่นน้องกลับมาที่โต๊ะเดินเข้ามาถามว่าไปต้อนรับคณะกรรมการตรวจเยี่ยมเป็นยัง

ไงบ้าง ได้ยินข่าวว่าถึงกับโทรมาลาป่วย เทนนิสเล่าทุกอย่างให้รุ่นพี่ฟัง คนฟังเข้าใจอยู่ว่าหลายคนต้องงานหนัก แต่ก็ดีใจที่ผลอ

อกมาเบื้องต้นว่าผ่าน 

กินข้าวเที่ยงเสร็จเทนนิสและวีร์กลับขึ้นมานั่งกินขนมที่ห้องกินข้าว เทนนิสถามอีกฝ่ายเป็นยังไงบ้างช่วงวันหยุด วีร์บอกว่าคุยกันรู้

เรื่องแล้วขอบใจที่เป็นห่วง แต่ก็กังวลในหลายเรื่องไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงบ้าง เทนนิสเข้าใจความกังวลของเพื่อนเขา

อยากให้เพื่อนเชื่อใจในความรักและทำทุกวันให้มีความสุข คนฟังต้องหัวเราะเพราะมันเหมือนญาติผู้ใหญ่ให้คำอวยพรในวัน

แต่งงานยังไงไม่รู้ เทนนิสเลยต้องถามขึ้นมาอีกว่าปาลภัทรยังไม่ได้จัดการอีกหรอ ปล่อยให้วันหยุดยาวดีดีผ่านไปได้ยังไง คนฟัง

หน้าแดงขึ้นมาด้วยความอายแกไอ้เพื่อนบ้า กล้าเอาเรื่องของเขาไปบอกพี่ปาล์มยังไม่คิดบัญชีเลย แล้วยังมาพูดจาแบบนี้อีกเพิ่ง

เป็นแฟนได้ไม่กี่วันเรื่องแบบนี้เอาไว้ก่อนต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนตอนนี้เขาสงสัยอยู่บ้างว่าแต่คนเป็นแฟนกันต้องทำยังไงแล้ว

ยิ่งผู้ชายกับผู้ชายแล้วด้วย วีร์ลองถามเพื่อนดูเผื่อจะได้คำแนะนำที่ดี

“ไปดูหนังด้วยกัน เที่ยวด้วยกัน กินข้าวด้วยกัน อยู่ด้วย อะไรประมาณนี้ละมั้งเหมือนคู่รักทั่วไป ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันเรื่องแบบ

นี้”น่าปวดหัวกว่าทำข้อสอบอีกแฮะ มาถามคนไม่เคยมีแฟนนี่เหมือนกำลังถูกเยอะเย้ยไม่มีผิด

“ตอบแบบนี้เหมือนไม่ได้ตอบ”

“ก็อย่าคิดว่ากำลังคบกับผู้ชาย แต่กำลังเรียนรู้คนที่เรารักสิ”

“อือ อาจจะใช่”ต้องคิดแบบสินะถึงจะถูกไม่ต้องกังวลเรื่องเพศ คบกันเพราะความรัก คิดได้แล้วก็ยิ้มออกมา”นี่ฉันจะลองทำต้มยำ

กุ้งวันก่อนพี่ปาล์มพาไปกินอร่อยมาก”

“วีร์นี่ทำตัวเหมือนคนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ไม่มีผิดเลย”

“จริงดิ”วีร์แปลกใจอะไรที่ทำให้เพื่อนมองอย่างนั้น ทั้งที่คิดว่าตัวเองทำตัวปกติ แค่คิดถึงอีกคนมากขึ้น มากขึ้น ทุกวันเท่านั้น

“อืม ปกติจะพูดแต่เรื่องเกมส์ เรื่องหนัง เรื่องเพลง ชวนไปเดินห้าง หรือไปหาของกิน แต่วันนี้มาแปลกอยากทำกับข้าว”

คนถูกแซวอดหัวเราะออกมาไม่ได้ที่รู้นิสัยตัวเอง นั่งกินขนมเล่นเกมส์ในโทรศัพท์ไม่นานก็ถึงเวลาเข้างาน ทั้งสองแยกย้ายกลับ

โต๊ะทำงานของตัวเองต่อ


   ตอนบ่ายทางบริษัทแจ้งเรื่องประชุมช่วงเช้าให้พนักงานได้รับทราบ ผ่านทางอินทราเน็ตของบริษัท ทางบริษัทขอบคุณ

พนักงานทุกคนที่ทำให้การเข้าตรวจเยี่ยมจากคณะกรรมการจากส่วนกลางของกระทรวงสาธารณสุข ผ่านไปได้ด้วย ทางบริษัท

ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าผลการตรวจเบื้องต้น ผ่าน 

“อ่านอะไรอยู่”วีร์ถามเพื่อนที่ดูเหมือนกำลังตั้งใจอ่านอะไรอยู่

“นี่ไงเรื่องที่หัวหน้าประชุมกันเมื่อเช้า ลองอ่านดูสิ”เทนนิสหันหน้าจอมาให้เพื่อนเห็นถนัด วีร์ไล่สายตามอ่านตามตัวหนังสือบน

หน้าจอสี่เหลี่ยม แผนกบุคคลแจ้งประกาศวันตรวจสุขภาพประจำปี และมีโครงการรักษาสุขภาพสำหรับพนักงาน ถ้าผลตรวจ

สุขภาพพนักงานคนไหนมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน มีแนวโน้มเป็นโรคอ้วนต้องเข้าโครงการเพื่อลดน้ำหนัก

“มีตรวจสุขภาพประจำปีด้วยเราจะได้ตรวจไหม อันนี้แปลกดีน้ำหนักเกินต้องลดน้ำหนักด้วยเหมือนบริษัทต่างชาติเลย ดูเหมือน

พนักงานจะเห็นด้วยพนักงานหลายแสดงความเห็นในห้องสนทนาเห็นด้วย ดูความคิดนี่สิเขาบอกว่าเป็นการแสดงให้เห็นว่าบริษัท

ให้ความสำคัญพนักงาน”

“อาจจะเหมือนที่รัฐบาลรณรงค์ให้คนไทยออกกำลังกาย ลดพุง กินอาหารที่มีประโยชน์ลดแป้งลดมัน แต่ก็อยู่ได้ไม่นาน”

”เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องส่วนตัว ใครอยากมีสุขภาพดีห่างไกลโรคอ้วนก็ต้องเริ่มทำด้วยตัวเอง”

“ไม่งั้นก็เอาอย่างนี้สิ ใครอ้วนไม่มีสิทธิ์เลื่อนขั้นขึ้นเงินเดือนเป็นไง”

“ฟังดูดีนะ เอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย”

วีร์ไม่สนใจคำพูดเพื่อนอ่านเนื้อหาบนหน้าจอต่อแผนกบุคคลยังแจ้งเรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานคนไหนที่ยังไม่สมัคร

หรือรายชื่อตกหล่นให้ไปแจ้งที่ฝ่ายบุคคล  “เรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคงไม่เกี่ยวกับเรา แต่เรื่องของแผนกการตลาดน่าสนใจ

เป็นแผนงานเข้าสู่ปีที่ 6 ของบริษัท มติในที่ประชุมจะจัดกิจกรรม แบ่งเป็นสามกิจกรรม กิจกรรมแรกส่ง SMS รหัสลุ้นโชคในซอง

กิจกรรมที่สอง ตัดมุมซองที่สัญลักษณ์เหมือนกัน 10 ชิ้น แลกมันฝรั่งทะเล้นขนาดปกติได้หนึ่งซอง และกิจกรรมที่สาม ถ่ายคลิป

เฟ้นหา บอกขอบคุณที่ทะเล้นที่สุด บอกรักทะเล้นที่สุดและขอโทษที่ทะเล้นที่สุด โดยเปิดโอกาสให้คนที่กินมันฝรั่งทะเล้นทุก

ขนาดทุกแบบทุกรสถ่ายคลิปเข้าประกวด คณะกรรมการจะเลิกคลิปที่ดีที่สุดอย่างละสามคลิป จากนั้นโพสต์ลงโซเชียลเอฟของ

บริษัทให้คนเข้าไปกดถูกใจของใครมีคนถูกใจมากที่สุดชนะ พวกเราส่งบ้างได้ไหม”

“ได้แต่คงไม่มีใครเข้ากดถูกใจให้หรอก”

“พูดซะเห็นภาพเลย คงมีคนหลงผิดเข้าไปกดถูกใจบ้างแหล่ะ”

“ท่าทางต่อจากนี้บริษัทจะยุ่งอีกนาน”

“ทำงานที่นี่มาสักพักเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่เลย ถ้าพวกเราเรียนจบแล้วที่นี่จะรับพวกเราเข้าทำงานไหม”

“แน่ใจว่าจะทำงานที่นี่ ไม่ใช่บริษัทพี่ปาล์ม”

“อือ นั่นก็อยากทำเป็นแฟนกันทำงานที่เดียวกันมันเป็นยังไงไม่รู้ แล้วไม่รู้ว่าพี่ปาล์มอยากให้ไปทำรึเปล่า”

“ใช่ไหนจะต้องระวังไม่ให้คนในบริษัทรู้ งั้นเรามาทำบริษัทของเราเองดีไหม ไม่ต้องใหญ่เอาเล็กๆ”

“ถ้ามีบริษัทเป็นของตัวเองแล้วต้องทำงานหนักไม่มีเวลาพัก สู้เป็นลูกจ้างไปตลอดชีวิตดีกว่า”

“พูดซะมองไม่เห็นอนาคตอันสดใสเลย อาจารย์มาได้ยินแกพูดต้องน้ำตาตกแน่ๆ”

ทั้งสองคุยกันต่อสักพักแล้วแยกย้ายกลับไปทำงานตัวเองต่อ เทนนิสยังคิดเรื่องอนาคตของตัวเองในอีกหนึ่งปีข้างหน้าหลังจาก

เรียนจบเขาจะทำอะไรดี ขายของออนไลน์ต่อไป หาสมัครเข้าทำงานบริษัทสักที่ ตอนนี้ยังหาคำตอบให้กับชีวิตตัวเองไม่ได้เอา

ไว้ก่อน ทำงานตรงหน้านี้ก่อนถ้างานไม่เสร็จเดี๋ยวจะไม่มีอนาคต

   ในห้องทำงานธีรภัทรกำลังดูเอกสารเกี่ยวกับภาพแพ็คเกจผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่จะใช้ร่วมกิจกรรมเข้าสู่ปีที่ 6 เขาดูหลายภาพ

แล้วเก็บลงในแฟ้มตามเดิมมีหลายแบบที่เขาชอบ ร่างกายที่เพิ่งหายป่วยรู้สึกเพลียขึ้นมาจนต้องหยุดทำงานนั่งมองออกไปข้าง

นอก การประชุมช่วงเช้าผ่านได้ด้วยดีกำหนดกิจกรรมแรกจะเริ่มในต้นเดือนหน้า ทางบริษัทจะเริ่มทำการประชาสัมพันธ์ผ่านทาง

เว็บไซด์ของบริษัท โซเชียลมีเดีย และสื่อสิ่งพิมพ์ ส่วนโฆษณาที่จะใช้ลงโฆษณาในโทรทัศน์จะเริ่มถ่ายทำได้ในปลายสัปดาห์นี้

ขณะกำลังไล่เรียงความคิดเงียบๆ ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นทำให้เข้าต้องหันไปมอง

คุณเลขาก็โผล่หน้าเข้ามา“พี่ธีร์ว่างไหมครับ ผมขอเวลาสักครู่จะคุยเรื่องรายละเอียดโฆษณาตัวที่ใช้ประชาสัมพันธ์”เบสยื่นแฟ้ม

เอกสารให้เจ้านายแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ ข้างในเป็นกำหนดการสถานที่ที่ใช้ในถ่ายโฆษณาและอื่นๆ

“อืม ว่ามา”เขารับแฟ้มเอกสารมาแล้วเปิดดูรายเอียดข้างใน

“ตามกำหนดการเดิมคือปลายสัปดาห์จะเริ่มถ่ายทำ พี่ธีร์จะดูไหมครับเผื่อมีอะไรต้องแก้ พาเด็กๆไปดูด้วยก็ดีเห็นธารอยากไปดู

ต้นไม้ พาเด็กๆไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดี”

คนฟังเลิกคิ้วขึ้นไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิด“นั่นชื่อคนหรอ”หรือต้นไม้จริงๆ

“พี่ธีร์ไม่รู้อะไร เด็กสมัยนี้ชื่อเล่นต้องมีสองพยางค์และต้องแปลกแปลกด้วย”

“ฮึ ฮึ แล้วเราจะไปด้วยรึเปล่า”

“แน่นอนครับผมอยากไปดูน้องเซนะ”เขาจะไปถ่ายรูปคู่เอาลงโซเชียลให้พนักงานคนอื่นอิจฉาเล่นๆ

“ใครอีกล่ะนั่น”

“ตอนที่เลือกพรีเซ็นเตอร์ พี่ธีร์หลับตาจิ้มเอารึเปล่า ถึงไม่รู้จักใครเลย”

“อาจจะใช่ เลือกตามหน้าตาบุคลิก ดูคณะกรรมการหลายคนก็ชอบด้วยไม่ใช่หรอ ทางบริษัทโฆษณาก็แนะนำมาไม่กี่คน”

“ครับ สองคนนี้กำลังดังเป็นดาราวัยรุ่นหน้าใหม่ น้องต้นไม้เขาเป็นแบบหล่อทะเล้น น้องเซนะลูกครึ่งญี่ปุ่นเป็นแบบน่ารักทะเล้น

ส่วนอีกคนน้องน้ำตาลสวยแบบทะเล้นนี่เขาเป็นนางแบบสวยมาก ช่องฟรีเพิ่มขึ้น รายการใหม่ก็เยอะละครก็เพิ่มขึ้น ดาราหน้าใหม่

ในวงการก็เยอะขึ้นด้วย”ธีรภัทรนึกถึงคนหล่อทะเล้นอีกคน ว่าไปแล้วยังไม่ได้เจอหน้าเลยตั้งแต่เช้า หยุดงานไปหลายวันเขาเลย

ต้องนั่งเคลียร์งานเก่าให้เสร็จ

“จะไปดูสาวๆ เมียที่บ้านเป็นไงบ้างแม่ฝากมาถาม”

“ใกล้คลอดแล้วครับ เดี๋ยวสองแฝดจะมีน้องสาวแล้ว”พูดไปแล้วก็คิดถึงลูกกับเมียตอนนี้ไปอยู่บ้านแม่ยายเตรียมคลอด

”แล้วพี่เมื่อไหร่จะมีแฟนกับเขาบ้าง รึว่ามีแล้วไม่ยอมบอกัน”

“ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกแล้วก่อน พี่จะให้หยุดงานสักอาทิตย์สองอาทิตย์ ช่วงนั้นก็ทิ้งงานให้คนอื่นดู”

เบสยิ้มดีใจที่จะหยุดดูแลลูกกับเมีย“ช่วงนี้พี่ธีร์ไปเจออะไรดีดีมารึเปล่า”นี่เขาไม่ได้จะจับผิดนะ แต่เจ้านายแปลกไปนะช่วงนี้

แปลกไปในทางที่ดีขึ้น

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น”เขามีอะไรเปลี่ยนไป แค่รู้สึกว่าช่วงนี้ตัวเองมีสุขกว่าแต่ก่อน ไม่ได้ทำงานไปวันๆ เร่งอยากให้เลิกงานเร็วๆ

อยากใช้เวลาว่างอยู่กับเพื่อนร่วมห้องก็เท่านั้น

“ผมรู้สึกพี่เปลี่ยนไป แบบยิ้มบ่อยขึ้น หัวเราะด้วยคือมีอารมณ์ขันขึ้นกว่าแต่เก่า จะว่ายังไงดี ดูเป็นคนมากว่าหุ่นยนต์ที่ป้อน

โปรแกรมให้ตื่นเช้าตรงมาทำงาน เที่ยงพักกินข้าว เลิกงานแล้วก็กลับบ้าน”

“ไม่มีอะไรหรอก แต่ถ้ายังไม่ออกไปจะไม่ได้หยุดแม้แต่วันเดียว”

“โหย ถามแค่นี้ทำเป็นจริงจังไปได้ ถ้ายังไงอย่าลืมพาคนคนนั้นมาแนะนำบ้างนะครับ ผมไปทำงานก่อน”เบสพูดแล้วรีบเดินออก
ไป 

ธีรภัทรนั่งทวนคำพูดลูกพี่ลูกน้อง ให้พาคนนั้นมาแนะนำ แนะนำว่าอะไรแค่ความรู้สึกของเขาที่มีกับอีกฝ่ายยังไม่ได้บอก ไม่รู้ว่า

อีกฝ่ายจะตอบรับหรือปฏิเสธ จะให้มาแนะนำยังเร็วเกินไป เอาเถอะวันนี้พอแค่นี้ก่อน ออกไปหากาแฟแถวนี้กินแก้ง่วงดีกว่า


   ช่วงบ่ายข่าวที่ทางบริษัทได้นักแสดงนางแบบวัยรุ่นกำลังมีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซนเตอร์คนใหม่ดังไปทั้งตึก ยิ่งได้ยินมาว่า

เจ้านายจะเข้าไปดูการถ่ายทำโฆษณาพนักงานหลายคนอยากไปติดสอยห้อยตามไปถ่ายรูปดารากันทั้งนั้น หลายคนไม่รู้จักส่วน

คนที่รู้จักก็เปิดหาข้อมูลรูปภาพประวัติเบื้องต้นให้เพื่อนร่วมงานดู


   หลังจากทำงานช่วงบ่ายเสร็จเทนนิสแอบหลบมานั่งเล่นในห้องครัว นั่งกินชาเย็น แถวนี้มีร้านกาแฟหลายร้านจึงได้มีบริการ

ส่งถึงที่ฟรีถ้าโทรสั่งห้าแก้วขึ้นไป เขาชอบชาเย็นร้านนี้ที่ใช้นมสดเป็นส่วนผสม แทนที่จะใช้นมผงกับครีมเทียมเป็นส่วนผสม

เหมือนร้านชื่อดังหลายหลายร้าน เขารู้สึกรสชาติของนมสดอร่อยกว่า เขามองออกไปด้านนอกท้องฟ้าสีฟ้ามีเมฆสีขาวสลับสีเทา

อยู่เต็มท้องฟ้า ดูท่าว่าวันนี้ฝนคงตกลงมาอีก

“เทนนิส พักหรอแล้วเพื่อนเราไปไหนซะละถึงได้มานั่งเงียบๆคนเดียว”หมวยกดน้ำเปล่าใส่กระปุกลายการ์ตูนน่ารัก

“ยังทำงานไม่เสร็จครับ พี่หมวยมานั่งด้วยกันสิครับ”

“ขอบใจจ๊ะ เป็นไงอร่อยอร่อยไหมชาเย็นร้านพี่”

“ฮืม”เขาแปลกใจกับคำถามของอีกฝ่าย

“นี่ไม่รู้มาก่อนละสิ ว่าเป็นร้านของพี่”เธอยิ้มอย่างภูมิใจเมื่อพูดถึงร้านกาแฟของเธอ

“ครับ ไม่เห็นมีใครบอก”ถึงว่าพนักงานที่นี่ถึงบอกให้อุดหนุนร้านนี้

“ไม่กี่คนหรอกที่รู้เรื่องนี้”

“อร่อยดีครับ ผมชอบไม่หวานมากด้วย”

“ใช้นมสดไขมันต่ำด้วยนะ สาวสาวเขาชอบกัน”

“พี่หมวยได้สูตรมาจากไหนครับ”

“ความลับ ถึงเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาดี พี่ก็ไม่ยอมใจอ่อนบอกหรอก”เธอพูดทีเล่นทีจริง จนคนฟังรู้สึกเขินขึ้นมา

“อย่างนี้ไหนทำงานไหนเปิดร้านกาแฟเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหน”

“ไม่หรอก เห็นอย่างนี้แต่ก่อนพี่เคยซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟมาก่อน ลงทุนไม่กี่หมื่นแรกๆก็ขายดีนะ เพราะมันยังใหม่อยู่ คนไทย

ชอบอะไรใหม่ใหม่ ชอบตามกระแส แต่นานไปก็เบื่อ ร้านกาแฟแถวนี้ก็เยอะขึ้นลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น ในขณะคู่แข่งเราเยอะขึ้น

หลายร้านพยายามเอาตัวรอดโดยมีอะไรใหม่ๆเข้ามา แต่ร้านของเรากลับปรับเปลี่ยนอะไรก็ไม่ได้ พี่เลยเลิกทำ มาทำร้านของตัว

เองเอาประสบการณ์ตรงนั้น บวกกับเป็นคนชอบกิน และเข้าออกร้านกาแฟบ่อยๆ แอบหยิบไอเดียตรงนั้นมาใส่ตรงนี้บ้าง ในที่สุด

ก็ได้สูตรเครื่องดื่มเย็นที่หลายคนถูกปาก และราคาที่พนักงานออฟฟิตจ่ายได้”

“ธุรกิจกาแฟกำลังเติบโตได้ดี โอกาสขายตัวสูง ไทยเป็นเมืองร้อนเครื่องดื่มเย็น ราคาไม่สูง เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภค”

“เอ่อ ไหนไหนก็ไหนไหนแล้ว พี่ขอปรึกษาอะไรหน่อยสิ”

“ครับ”

เธอมองไปรอบห้องไม่มีใครอยู่ เธอเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่าย พูดเบาเสียงลง“ไม่เกรงใจนะ คือพี่คนกับแฟนมาได้สักพักแล้วแต่ยัง

ไม่เคยเปลือยหน้าให้เขาเห็นมาก่อน”เธอหยุดพูดแล้วสังเกตหนุ่มหล่อที่ตั้งใจฟังเธอพูด ให้ตายเถอะแฟนเธอน่าจะหล่อใสได้

อย่างนี้ก็ดี แต่เธอไม่ชอบเด็กนี่สิ ช่างเถอะเธอพูดต่อว่า”พอดีเขาชวนไปเที่ยว แล้วต้องไปค้างคืนพี่กลัวว่าเขาจะรับหน้าจริงพี่ไม่

ได้”เธอรู้สึกกังวลอยู่บ้างไม่รู้จะเรื่องนี้ปรึกษากับใครดี ถ้าเป็นพนักงานผู้ชายคนที่อื่นที่สนิทต้องเรื่องเธอไปล้อหรือบอกให้เธอทำ

อะไรบ้าๆแน่นอน

“เหมือนข่าวที่มีผู้ชายคนหนึ่งเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์คเห็นรูปที่ผู้หญิงเอาลงก็หลงรักคุยกันอยู่เกือบปี นัดเจอกันพอเจอตัวจริงผู้หญิง

ที่ตัวเองคุยด้วยแล้วรับความจริงไม่ได้ เลยฆ่าตัวตายนั่นนะหรอครับ”เห็นออกข่าวบ่อยๆ มันคงเป็นข้อเสียของเทคโนโลยีสมัย

ใหม่

“ไม่ขนาดนั้นพี่ก็ดูไม่ได้ขี้เหล่ใช่เปล่า”

“พี่หมวยสวยครับ”คำพูดตรงๆอีกฝ่ายทำให้คนฟังหน้าแดงและเกิดอาการเขิน

“อย่าพูดอย่างนั้นพี่มีแฟนแล้ว เดี๋ยวพี่ก็ตกหลุมรักเราหรอก ผู้หญิงสมัยนี้มีอะไรหลอกตาเยอะ แบบคิ้วไม่มีไม่สวยก็ไปทำ อยาก

ได้ปากชมพูก็ทำได้ อยากสวยแต่งหน้าก็ช่วยได้ หรือจะศัลกรรมก็มีออกเยอะ”

“พี่พูดให้ผมกลัวเลย แต่ผมว่าพี่เป็นตัวเองดีที่สุด ถ้าเขาชอบก็ต้องชอบที่พี่เป็นพี่ ไม่ได้คบกับพี่เพราะหน้าตา วันนี้ยังสวยแต่นาน

ไปก็ต้องแก่ สำหรับผมหน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าไหร่สำคัญที่เราเข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ปรึกษาปัญหาช่วยเหลือ

ดูแล”เอ๊ะ ทำไมที่พูดมาแวบหนึ่งถึงได้นึกถึงหน้าเจ้านายขึ้นมาได้ เขาท่าจะบ้าไปแล้ว

“เทนนิสพูดคำว่าแก่กระแทกหน้าพี่จนแป้งเกาะบนหน้าพี่เกือบแตกเลย ขอบใจนะได้ผลยังไงพี่จะมาเล่าให้ฟังพร้อมของฝาก ไป

ก่อนออกมานานแล้วเดี๋ยวหัวหน้าถามหา พี่ยังเมาส์ไม่ครบทุกแผนกเลย”

เทนนิสมองคนอารมณ์ดีเดินออกไปจากห้องกินข้าว นี่เขาดูเหมือนคนที่เข้าใจความรักขนาดนั้นเลยหรอ ชาเย็นในแก้วหมดพอดี

เขาก็ต้องกลับทำงานต่อได้แล้ว


   ธีรภัทรพาเทนนิสแวะหาอะไรกินก่อนกลับเขาคอนโด ไม่อยากกวนอีกฝ่ายทำงานเหนื่อยมาทั้งวันช่วงที่ไม่สบายก็ต้องแล

เขาอีก จึงอยากชวนอีกฝ่ายออกมากินข้าวนอกบ้านเดินเล่นซื้อของเปลี่ยนบรรยากาศแทนที่จะกลับไปอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม เขา

เลือกไปห้างสรรพสินค้าใกล้ใกล้ ชวนคนที่มาด้วยไปซื้อของใช้เข้าห้องและของสดด้วย เทนนิสชวนอีกฝ่ายกินปิ้ง ย่าง เพราะไม่

ได้กินมานานแล้ว ธีรภัทรเห็นด้วยกับอีกฝ่ายเขาไม่อยากขัดใจ เข้าไปในร้านพนักงานแนะนำโต๊ะริมกระจกที่สามารถมองเห็นด้าน

นอก ได้ที่นั่งแล้วทั้งสองเริ่มสั่งอาหารสองชุด เมื่อกระทะร้อนเทนนิสเอาเนื้อหมูสไลด์วางลงไปทีละชิ้น ตามด้วยผักสดเต้าหู้เห็น

วุ้นเส้นและลูกชิ้นลงไปต้ม ทั้งสองกินไปด้วยคุยไปด้วย ธีรภัทรคีบเนื้อหมูสไลด์สุกแล้ววางใส่จานคนตรงข้าม เขามองเทนนิสกิน

ด้วยอย่างอร่อย เขาเพิ่งเข้าใจคำว่าเปลี่ยนไปของคุณเลขา ปกติแล้วเขาคงไม่สนใจที่ตักหรือคีบอาหารให้ใคร ไม่มานั่งสนใจว่า

ใครที่กินข้าวด้วยจะอร่อยหรือไม่ ไม่เคยสนใจว่าใครชอบหรือไม่ชอบกินอะไร เขาเปลี่ยนไปเยอะจริงจริง หลังจากกินเสร็จทั้งสอง

เดินย่อยดูโทรศัพท์ออกใหม่ตามร้าน เทนนิสสนใจเข้าไปดูร้านขายคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เขาเห็นรุ่นพี่ที่ทำงานมีไว้ใช้ส่วนตัว

ถ้าเขาทำงานก็คงต้องมีไว้ เทนนิสดูโน้ตบุ๊กตัวใหม่ออกมา เขาอยากได้ตัวที่น้ำหนักเบาขนาดพอดี ความจุเยอะ แต่ดูไปแล้วก็

แพงไปหน่อย ธีรภัทรมองอีกฝ่ายเงียบเงียบวัยรุ่นนี่คงชอบเดินเล่น เที่ยวห้าง ดูหนัง เป็นปกติ เขาที่อยู่ในวัยทำงานเลยลืมช่วง

เวลานั้นมาแล้ว เดินดูโน่นดูนี่สักพักทั้งสองเดินไปที่ Super Market ซื้อของใช้และของสดที่จำเป็น

ธีรภัทรช่วยเข็นรถเข็นส่วนอีกคนช่วยเลือกหยิบของลงรถเข็น เข็นรถไปด้วยมองอีกฝ่ายไปด้วย ทำให้คิดถึงเหมือนพวกเขาเป็น

คนรักกัน มาซื้อของเข้าบ้านยังไงยังงั้น เทนนิสไม่รู้ว่าเจ้านายจะพามาซื้อของเขาไม่ได้จดรายการที่ต้องมาด้วยแต่ก็พอจะจำได้

เขามองดูชั้นวางเต็มไปด้วยขวดซอสยี่ห้อและขนาดต่างๆ เขาเลือกหยิบซอสปรุงรสขวดเล็กยี่ห้อเดิมเอาไว้กินกับไข่ดาวตอนนี้

หมดแล้ว หยิบถุงแป้งทำขนมขึ้นมาแล้วคิดขึ้นมาได้ว่า อีกไม่นานจะถึงวันคล้ายวันเกิดเจ้านายแล้วนี่นา เขาจำได้น้องรหัสคนสวย

เป็นคนบอกเมื่อวันก่อน เขาน่าหาของขวัญให้เจ้านายสักชิ้น ว่าแต่เป็นอะไรดีน้า




ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


        กลับถึงห้องฝนตกลงตามคาด ตกหนักอยู่สักพักจนตอนนี้เริ่มซาลง เทนนิสนั่งเล่นหน้าโทรทัศน์อ่านข้อความผ่านโซเชียล

เอฟ มีเพื่อนหลายคนเล่าประสบการณ์ทำงานในหลายเดือนที่ผ่านมาต้องเรียกบ่นมากกว่า บริษัทใหญ่มีงานให้ทำเยอะมีเพื่อน

จากต่างมหาวิทยาลัยก็เยอะ การแข่งขันก็ต้องเยอะตามไปด้วย แต่ทุกคนก็เริ่มต้นทำงานง่ายๆ อย่างถ่ายเอกสาร ส่งแฟ็กซ์ เดิน

เอกสาร อออกไปซื้อข้าวกับกาแฟให้หัวหน้าหรือรุ่นพี่เหมือนกันหมด สาวสาวบางคนบ่นว่าพนักงานผู้ชายเข้าจีบบ่อยๆจนน่า

รำคาญ และห้ามแต่งตัวสวยใช้ของราคาแพงเดี๋ยวจะโดนเขม่น อ่านข้อความไปแล้วเทนนิสก็อดหัวเราะไม่ได้ในสถานการณ์

แปลกๆของเพื่อน ธีรภัทรนั่งดูโทรทัศน์อยู่เห็นอีกฝ่ายหัวเราะขึ้นมาก็อดถามไม่ได้”หัวเราะอะไร”

“เปล่าครับ แค่อ่านข้อความที่เพื่อนเพื่อนแต่ละคนบ่นให้ฟังว่าไปฝึกงานเจออะไรกันบ้าง”

“แล้วเรากับเพื่อน รู้สึกยังไงบ้างมาฝึกงานที่นี่”

“ถ้าผมตอบไม่ถูกใจเจ้านาย จะฝึกงานผ่านรึเปล่า”

“ไม่หรอก”

ถึงเจ้านายจะพูดออกมาอย่างนั้นเขาก็ยังไม่กล้าพูดอะไรออกมา แค่ยิ้มให้อีกฝ่ายเป็นคำตอบแล้วอ่านข้อความของเพื่อนๆต่อ จาก

ที่อ่านข้อความของหลายคนทำให้รู้ว่าทุกคนคิดถึงชีวิตนักศึกษาอยากกลับไปเรียนปีหนึ่งใหม่ สนุกกับชีวิตนักศึกษาไม่ต้องคิด

อะไรมาก ปรบมือร้องเพลง หันซ้ายหันขวา วิ่งไปโน่นมานี่ตามคำสั่งรุ่นพี่เท่านั้น พูดไปแล้วเขาก็คิดถึงเหมือนกัน ว่ากันคนที่

คิดถึงอดีตส่วนมากเป็นคนแก่ แสดงว่าเขาคงแก่แล้วแน่ๆ เป็นนักศึกษาเรียนเข้าสายได้ออกก่อนเวลาได้ ทำงานไม่เสร็จขอเลื่อน

ได้ ลืมทำการบ้านขอเพื่อนลอกได้ เรียนเสร็จชวนกันไปดื่ม แต่ชีวิตทำงานไม่สนุกต้องเข้าออกงานตรงเวลา ทำงานไม่เสร็จต้อง

นั่งทำจนดึกวันหยุดก็ต้องเข้ามาทำ ทำงานห้ามผิดพลาดต้องแล้วตรวจอีก ไม่มีใครช่วยได้ ลอกเพื่อนก็ไม่ได้ เทนนิสวาง

โทรศัพท์ชวนเจ้าของห้องไปนอนดึกแล้ว เดี๋ยวจะไปไม่สบายเอา ธีรภัทรปิดโทรทัศน์กลับเข้าห้องนอนตัวเอง นอนคิดด้วยความ

กังวลหลายอย่างถ้าอีกฝ่ายฝึกงานเสร็จแล้วจะมีโอกาสได้เจอกันบ่อยๆอย่างนี้รึเปล่า คิดได้อย่างนั้นแล้วรู้สึกแย่ขึ้นมา เขาไม่

อยากให้ทุกอย่างจบลงแค่นี้ ช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนที่เหลือเขาต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว   

   
วันทำงานอีกวัน หลังจากเข้าบริษัทสแกนลายนิ้วมือทำงานช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อยตอนบ่ายบ่าย เทนนิส วีร์ และธารรพีออกจาก

บริษัทมาดูการถ่ายทำโฆษณาตัวใหม่ในห้องสตูดิโอแห่งหนึ่งกับคุณเลขาและเจ้านาย

เข้าไปในตึกสูงด้านในถูกแบ่งห้องหลายหน้าห้องมีชื่อติดไว้ บางห้องมีไปสีแดงขึ้นว่า on air เดินผ่านห้องนั้นมีเสียงปรบมือเสียง

หัวเราะแว่วออกมาจากข้างใน เดินตามเจ้านายไปเรื่อยจนมาถึงห้องห้องหนึ่งมีคนเดินเข้าออกแบกถือของวุ่นวายเหมือนกำลัง

เตรียมทำอะไรสักอย่าง เข้าไปด้านในเป็นห้องกว้างคนงานกำลังรื้อฉากออกและมีเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งกำลังจัดสถานที่อยู่มุมหนึ่ง

ถ้าเดาไม่ผิดคงจะใช้เป็นฉากถ่ายโฆษณา ยืนมองไปรอบไม่นานมีชายหนุ่มแต่งตัวดีสองคนกับผู้หญิงแต่งตัวสวย สามคนเดิน

ออกมาต้อนรับเจ้านายกับคุณเลขา พูดคุยทักทายสักครู่ใหญ่ จากนั้นผู้ชายทั้งสองขอตัวไปทำงาน ส่วนผู้หญิงพาพวกเขาไปพัก

ด้านนอกที่ถูกเตรียมไว้เหมือนเป็นที่พัก เพื่อคนงานจะได้ทำงานได้สะดวก ชายหนุ่มแต่งตัวที่แยกขอกลับไปทำงานสั่งให้คนจัด

โน่นนี่นั่น สักพักมีแม่บ้านเอาเครื่องดื่มขนมมาเสิร์ฟให้ เทนนิสตื่นเต้นอยู่บ้างเขาไม่เคยเห็นการเบื้องหลังมาก่อน แต่คนอื่นจะไม่

ค่อยสนใจเท่าไหร่ เขาหันมองเบสกำลังคุยโทรศัพท์กับเมียเสียงหวานเชียวผิดกับเวลาปกติที่คุยกับพวกเขาสองมาตรฐาน น้อง

รหัสคนสวยก็ถ่ายรูปตัวเองหลายรูปแล้วรีบส่งรูปถ่ายให้ใครดูนั้นเดาได้ไม่ยาก ส่วนวีร์กำลังเล่นไลน์คุยกับคนรักอยู่คนน่าอิจฉา

เขาทำหน้าเซ็งๆเดินเข้าไปนั่งข้างๆเจ้านายตามประสาคนโสด ธีรภัทรเห็นอีกฝากทำหน้าเซ็งเข้าใจว่าคงรอดูดารานานเลยเบื่อ จึง

บอกให้รู้ว่าอีกไม่นานจะเริ่มถ่ายแล้ว

“นั่น เข้าเริ่มถ่ายกันแล้ว”เทนนิสเห็นด้านในตั้งกล้องมีดาราวัยรุ่นทั้งสามคนบอกว่าเป็นพรีเซนเตอร์อยู่หน้าฉากที่พนักงานหลาย

คนช่วยกันเตรียมเกือบชั่วโมง

“คุณธีรภัทรสนใจเข้าไปข้างในไหมคะ”ผู้หญิงสวยหุ่นดีในชุดกระโปรงสีขาวดำ ผมยาวสีน้ำตาลหยักศก สวมรองเท้าส้นสูงพูด

เสียงหวาน ที่แยกไปเมื่อครู่เดินกลับมา เทนนิสดูสายตาเธอมองเจ้านายแล้วรู้สึกว่าเจ้านายของเขาคงโสดได้อีกไม่นาน

“ไม่ดีกว่าครับ ตามสบายเลยผมแค่พาเด็กๆมาเปิดหูเปิดตาเท่านั้น”ธีรภัทรบอกปัดอีกฝ่าย ตรงนี้มีอะไรน่าสนใจเขาจะไปตรงโน้น

ทำไม อีกอย่างเขาไม่อยากไปรบกวนการทำงานของทีมงาน

โรสรินทร์ยิ้มให้ชายหนุ่มแต่ไม่ยอมแพ้ธีรภัทรเป็นลูกค้าที่ดีไม่เรื่องมากและยัง หล่อ รวย โสดผู้ชายในอุดมคติของผู้หญิงหลาย

คน รวมถึงเธอด้วย

ธารรพีเงยหน้าขึ้นจากจอโทรศัพท์หลังจากคุยกับคนรักแล้ว เธอมองหญิงสาวที่ชื่อโรสรินทร์มองพี่ชายด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจ

ตั้งแต่เข้ามาแล้ว ไม่ได้การเธอต้องกันผู้หญิงคนนี้ออก พี่ชายของเธอมีไว้ให้คู่กับพี่รหัสสุดหล่อของเธอเท่านั้น ดูนั่นสิพี่ชายกับพี่

รหัสยืนอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันอย่าบอกใคร ยิ่งเวลาคุยกันดูกระหนุงกระหนิงน่ารักถึงจะเป็นแค่เพียงมโนของเธอเท่านั้น

ก็ตาม อยากรู้ว่าเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนพี่ชายตายด้านของเธอจะเป็นยังไงบ้าง ในที่สุดก็มีคนช่วยให้พี่ชายมีชีวิตชีวา แต่ก่อนว่า

หล่อแล้วตอนนี้ยิ้มง่ายขึ้นพูดมากขึ้นยิ่งหล่อกว่าเดิม สังเกตได้จากมีสาวๆพยายามเข้ามาใกล้ เธอเดินเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า

เข้าไปนั่งคุยกับคนทั้งสาม


   การถ่ายทำโฆษณาผ่านไปได้ด้วยดี เสียงปรบมือดังขึ้นเป็นสัญญาณให้รู้ว่างานวันนี้เสร็จแล้ว เจ้าหน้าที่เริ่มทยอยเก็บของ


เบสลากเทนนิสวีร์และธารรพีเข้าไปขอถ่ายรูปกับดาราทั้งสามคน ดาราทั้งสามคนเห็นว่าเป็นแฟนคลับต่างยินดีให้ถ่ายรูป เบสถ่าย

รูปจนพอใจแล้วรีบโพสต์รูปลงโซเชียลเอฟ หกโมงเย็นทุกคนกลับไปที่บริษัท

ปลายสัปดาห์หลังจากทำงานเสร็จปืนขับรถออกมารอรับธารรพีหน้าบริษัท วันนี้เขาชวนอีกฝ่ายไปกินข้าว และไปดูหนัง เลี้ยวรถ

เข้าจอดลานจอดรถ โทรหาอีกฝ่ายปลายสายบอกว่ากำลังเก็บของอยู่ ให้รอก่อน ปืนวางโทรศัพท์ออกมายืนรอหญิงสาวข้างนอก

รถ มองไปที่ประตูทางเข้าบริษัทเห็น คนหน้าตาคุ้นเดินยิ้มเข้ามาหา

“ช่วงนี้ไม่ว่างมาเลี้ยงข้าวน้องเลยนะ เอาแต่เลี้ยงสาว”เทนนิสเก็บของเรียบร้อย ลงมารอเจ้านายข้างล่าง กำลังจะไปหาขนม

หวานกับนมเย็นสักแก้วในร้านกาแฟแถวนี้แต่เดินออกมากลับเจอพี่ชายยืนหล่ออยู่ลานจอดรถ

“น้องเลี้ยงบ่อยแล้ว เอาไปเลี้ยงสาวบ้าง”

คนฟังแทนที่จะน้อยใจกลับยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายพูดเล่น“แล้วเมื่อไหร่จะพร้อมบอกที่บ้าน”

“พร้อมเสนอแหล่ะ แต่บอกหรือไม่บอกก็มีค่าเท่ากัน”เห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาไม่สบายใจก็พอจะเข้าสถานการณ์ เขาเป็นแค่เด็กคน

หนึ่งคงช่วยอะไรไม่ได้ ปล่อยให้เป็นเรื่องผู้ใหญ่เขาจัดการกันเอง

“น้องรู้เรื่องที่พี่จะถูกจับแต่งงานรึเปล่า”ถามอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่

“รู้ ไม่มีอะไรเป็นความลับ พี่จริงใจ”

“ว่างๆหาเวลาไปกราบผู้ใหญ่ฝ่ายผู้หญิงบ้างก็ดีนะ เขาจะได้รู้ว่าพี่จริงใจ”

“ไม่ได้เจอกัน แค่แปบเดียวกลายเป็นคนเชี่ยวชาญเรื่องความรักไปแล้ว”อดไม่ได้ลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู ตัวโตขึ้นตั้งเยอะแต่

ก่อนยังเท่าเอวเขาอยู่เลย

“ว่าไปนั่น อีกนานธารจะลงมา ไปเลี้ยงขนมน้องสิ”

“ได้ น้องชายที่รัก”เขาแพ้ลูกอ้อนน้องชายคนนี้เสมอ เขาเคยคิดหลายครั้งแล้วเทนนิสไม่น่าโต น่าจะเป็นน้องชายตัวเล็กที่คอย

เดินตามหลังเขาเหมือนแต่ก่อนก็คงจะดี ใครจะรู้เด็กชายตัวเล็ก สุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง จะกลายเป็นหนุ่มหล่อเหมือนทุกวันนี้

ไม่รู้ว่าสาวสาวคนไหนตกหลุมเสน่ห์น้องชายของเขาไปแล้วบ้าง   

ทั้งสองเข้าไปในร้าน ได้กลิ่นหอมกาแฟอ่อนๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เทนนิสตรงเข้าไปดูเค้กในตู้ มีเค้กหลายแบบทางร้านตกแต่ง

เค้กได้น่ากินจนเขาตัดสินใจเลือกไม่ถูก ยังไงวันนี้ลูกชายเจ้าของ Happy Mall ให้เกียรติเป็นคนเลี้ยงคงต้องเลือกแบบที่แพง

หน่อยน่าจะดี เขาเลือกเป็นเค้กผลไม้รวม บราวนี่ชาเขียว บลูเบอร์รี่มัฟฟิน ช็อกโกแลตเค้กและนมสดเย็นสองแก้ว ขนมที่เลือกไม่

หวานมากซื้อไปฝากเจ้านายด้วย เอาไว้กินกับนมสดหรือโกโก้อุ่นๆตอนเช้าแทนกาแฟก็น่าจะดี ออกจากร้านธารรพีออกมาพอดี

เทนนิสขอบคุณพี่ชายที่ช่วยเลี้ยงขนม

ธีรภัทรเห็นเทนนิสยืนยิ้มโบกมือให้รถที่ขับออกไปไม่รู้ว่าเป็นใครแต่ดูแล้วไม่ใช่รถของพนักงานในบริษัท เทนนิสเห็นเจ้านายเดิน

หน้ายุ่งมาอยู่ข้างๆ เขายื่นนมสดเย็นซื้อมาฝากให้อีกฝ่าย ทำงานมาเหนื่อยๆกินอะไรเย็นๆจะได้รู้สึกสดชื่นขึ้น ธีรภัทรรับแก้วนม

สดมา อารมณ์ไม่ดีเมื่อครู่หายไปแทบทันที นี่เขาแพ้ทางอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ขนาดยังไม่ได้เป็นแฟนกันเขายังยอมได้ขนาดนี้

ไม่อยากนึกว่าเป็นแฟนกันเขาคงว่านอนสอนง่ายเหมือนสองแฝดแน่ๆ

ตอนสายของเช้าวันเสาร์หลังจากกลับมาถึงบ้าน เทนนิสทำความสะอาดเหมือนทุกครั้ง ดีที่บ้านหลังไม่ใหญ่มากไม่อย่างนั้น

ทำความสะอาดทั้งวันก็คงไม่เสร็จ เทนนิสฉีดน้ำยาดันฝุ่นให้ทั่วผ้าถูพื้น แล้วเริ่มทำความสะอาดชั้นบนทีละห้อง

 ทำความสะอาดจนเหนื่อยเขานั่งพักเปิดโทรทัศน์ดูรายการช่วงวันหยุดตอนใกล้เที่ยง เห็นรายการโฆษณาขายสินค้าทางทีวีขาย

สินค้าหลายอย่าง ส่วนมากเป็นของใช้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นชุดทำความสะอาด ชุดกระทะหม้อ ชุดมีด เตาแก็ส ฟังจากที่พิธีกรนำ

เสนอสินค้าผ่านมาสองสามชิ้นขนาดมีแต่ของที่เขาไม่ได้ใช้ ฟังดูแล้วเขายังอยากรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรไปสั่งซื้อเลย ส่วน

มากเป็นสินค้าราคาไม่สูงเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศส่วนใหญ่ ให้ตายเดี่ยวนี้ธุรกิจขายตรงกำลังมาแรง แต่ก่อนเป็นแบบไป

เคาะประตูหน้าบ้าน ทำให้มีพวกมิจฉาชีพแฝงตัว สร้างความรำคาญ ตอนนี้ปรับเปลี่ยนมาเป็นขายแบบออนไลน์ โฆษณาผ่าน

โทรทัศน์ ทำให้มีความน่าเชื่อถือขึ้น บริษัทที่รับส่งของก็ได้มาตรฐานหรือสามารถออกไปรับของที่ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านได้

ตากผ้าเสร็จเรียบร้อยท้องก็เริ่มหิว แต่จำได้ว่าของสดในตู้เย็นไม่มี มีแค่น้ำเปล่า น้ำอัดลมและนมไม่กี่กล่อง ถ้าอย่างนั้นคงต้องขี่

เจ้าเพื่อนยากไปออกไปหาอะไรกินหน้าปากซอยแล้ว

อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย หนึ่งชั่วโมงต่อมาเทนนิสก็อยู่ในตลาดสดหน้าปากซอยแล้ว โชคดีที่ตลาดสดนี้มีตลอดทั้งวัน ข้างๆตลาด

ยังมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านส้มตำ ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ เขาแวะไปกินก๋วยเตี๋ยวชามหนึ่ง และเดินดูเนื้อผักสดเอาไว้ทำกับข้าวของเย็น

นี้กับพรุ่งนี้ เขาเลือกหยิบคะน้า ใบกะเพรา ต้นหอมผักชีผักอีกสองสามอย่า เนื้อหมูเต้าหู้ปลาและไข่ไก่ เดินจนทั่วตลาดได้ของ

ครบได้ของกินเล่นมาหลายอย่างกับผลไม้สดเขาตัดสินใจกลับ



ธีรภัทรกลับมาถึงบ้านช่วงสายๆ ไม่นานสองแฝดมาถึง เด็กๆเรียกสายไหมออกวิ่งเล่นที่สนามหญ้าหลังบ้านจนเนื้อตัวมอมแมม

เพราะฝนตกทำให้หญ้าในสนามเปียก เด็กๆถูกคุณยายดุเรียกให้เข้าบ้านจับน้ำอาบทั้งคนทั้งหมา จนเรียบร้อยนั่งเล่นตัวต่ออยู่ใน

บ้าน สายไหมอาบน้ำเสร็จเป่าขนจนฟูนอนสบายมองเจ้านายทั้งสองเล่นของเล่นอยู่ ส่วนเจ้านายอีกคนก็นั่งทำงานอยู่หน้าจอ

สี่เหลี่ยมไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่แต่ดูเหมือนว่ามีความสุขเพราะเจ้านายยิ้มใหญ่เลย บู้ตึ้งกำลังต่อตัวต่ออยู่เงยหน้าขึ้นเห็นคุณน้านั่ง

ทำงานอยู่ที่โต๊ะแต่บางทีก็ยิ้มอยู่คนเดียวไม่รู้เป็นอะไร เด็กชายเรียกน้องชายให้ดูว่าคุณน้าเป็นอะไรรึเปล่า บู้ลิ้มส่ายหัวไม่รู้

เหมือนกัน ทั้งสองคนหันหน้าไปถามเจ้าขนฟูตัวโต สายไหมได้แต่ใช้ขาหน้าทั้งสองปิดตาไว้บอกว่ามันไม่รู้ไม่เห็นอะไร

คนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่หน้าจอตอนนี้จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวกำลังคิดถึงอีกคนที่ข้างบ้านอย่างอารมณ์ดี เมื่อเช้าหลังจากแยก

กันกลับบ้าน ธีรภัทรขึ้นไปแอบมองอีกฝ่ายว่าช่วงวันหยุดอยู่คนเดียวทำอะไรบ้าง เขาเห็นอีกฝ่ายเอาขยะออกมาทิ้ง และเอา

เสื้อผ้าออกมาตาก ที่สำคัญมีกางเกงในบอกเซอร์ด้วย เขานิยิ่งนับวันเขายิ่งรู้สึกตัวเองหรือโรคจิตเข้าไปทุกวัน นั่งทำงานตลอด

ทั้งเช้าไม่สมาธิคอยแต่คิดถึงคนอีกคน เสียงเปิดประตูรั้วข้างบ้านแสดงว่าเจ้าของบ้านกลับมาแล้ว คงออกไปหาอะไรกิน ที่จริงน่า

จะมาชวนเขาด้วย ธีรภัทรกำลังคิดอะไรเพลินอยู่รู้สึกมีคนกำลังจ้องอยู่ เขาหันไปมองเห็นเด็กๆนั่งจ้องส่งยิ้มมาให้ ธีรภัทรถาม

เด็กๆอยากได้อะไร เด็กๆบอกว่าอยากไปเล่นกับพี่ชายข้างบ้าน ได้ยินเสียงประตูรั้วบ้านเปิดแสดงว่ากลับมาแล้ว สายไหมได้ยินว่า

เจ้านายน้อยจะเที่ยวข้างบ้านหูของมันก็ยกขึ้นอย่างตั้งฟัง มันก็อยากไปด้วยเหมือนกัน อยากไปกินขนมเบื่ออาหารเม็ดแล้ว คุณ

น้าเห็นเด็กๆอยากไป เขาหยิบโทรศัพท์โทรหาพี่ชายข้างบ้านว่าว่างรึเปล่า ถ้าว่างจะพาสองแสบกับสายไหมไปซนที่บ้าน ปลาย

สายตอบกลับมาว่าวาง พอดีซื้อขนมมาฝากเด็กๆด้วย ธีรภัทรวางสายแล้วรู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง ทำไมมีแต่ของสองแสบแล้วเขาล่ะ

สายไหมส่งสายตาเศร้าไปให้เจ้านายบอกไม่ต้องน้อยใจของสายไหมก็ไม่มีเหมือนกัน

กลับมาจากข้างนอก เทนนิสเก็บของสดเข้าตู้เย็น วางขนมของกินเล่นที่ซื้อมาฝากเด็กๆไว้บนโต๊ะเดี๋ยวตอนเย็นค่อยแวะเอาไปให้

กลับขึ้นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากะว่าจะนอนอ่านหนังสือการ์ตูนออนไลน์สักหน่อย ทิ้งนอนลงบนที่นอนที่พึ่งเปลี่ยนผ้าปูปลอกหมอน

หอมกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มอ่อนๆ กำลังนอนสบายเสียงโทรศัพท์เรียกเข้าดังขึ้น เขาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง อ้าว

เจ้านายโทรมาวันหยุดมีอะไรรึเปล่า เทนนิสเลื่อนปุ่มรับปลายบอกว่าจะพาบู้ตึ้งบู้ลิ้มกับสายไหมมาเล่นด้วย เขาตอบรับเจ้านาย

วางสายแล้วมองไปที่ของขวัญบนโต๊ะที่ซื้อมาให้เจ้านาย ในวันคล้ายวันเกิด

เด็กๆไม่ได้มาตัวเปล่าหอบของเล่นมาด้วย แต่ก็ทิ้งของเล่นทันทีเมื่อเห็นขนมที่พี่ชายข้างบ้านใส่จานยกออกมาครัว เทนนิสเอา

กระดูกปลอมที่ซื้อไว้โยนให้เจ้าตูบขนปุย สายไหมกระดิกหางด้วยความดีใจที่ได้ของกินมันเดินวนรอบตัวเองสองรอบแล้วนอนลง

แทะกระดูกอย่างมีความสุข เทนนิสปล่อยให้เด็กๆนั่งกินขนมบนโต๊ะ กลับเข้าครัวเอาชาเย็นนมสดใส่เฉาก๊วยใสแก้วที่เขาทำไว้

ออกมาเจ้านายลองกิน ธีรภัทรลองกินแล้วรสชาติอร่อยไม่หวานมาก และไม่เคยได้กินมาก่อน เขามองพ่อครัวหัวป่าที่ชอบหา

อะไรใหม่มากิน ลองคิดว่าจะดีแค่ไหนถ้าเขาได้คนตรงหน้ามาอยู่ด้วยทั้งชีวิต เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนขอแค่ตอนนี้มีอีกฝ่ายอยู่ข้างๆก็มี

ความสุขแล้ว


บ่ายของวันอาทิตย์ธีรภัทรพาเด็กๆออกมาเที่ยวกินไอติม คุณน้าพาเด็กๆเดินเที่ยวรอบห้างดูนั่นดูโน่นไปเรื่อย แวะดูของเล่นเสริม

สร้างพัฒนาการเด็กดีกว่าให้นั่งจ้องหน้าจอสี่เหลี่ยมวันละหลายชั่วโมง บู้ตึ้งเห็นสีเทียนกล่องใหม่บอกให้คุณน้าซื้อให้ ส่วนบู้ลิ้ม

อยากได้ดินน้ำมัน คุณน้าพยักหน้าเห็นด้วยเป็นของราคาไม่แพงมาก สองแฝดได้ของที่ถูกใจแล้วรีบเร่งให้คุณน้าพาไปกินไอติม

หลายคนเห็นชายหนุ่มกับเด็กแฝดมักเข้าใจว่าคุณพ่อพาลูกมาเที่ยว ธีรภัทรไม่ได้ใส่ใจรีบเดินตามทั้งสองไปที่ร้าน ทั้งสองสั่งไอ

ติมถ้วยเล็กคนละถ้วย ไอติมมาเสิร์ฟเด็กๆก็ลงมือทันที ธีรภัทรช่วยเช็ดปากให้ลิงน้อยทั้งสองแล้วมองออกไปนอกร้าน เห็นคนที่

เขาไปชวนออกมาข้างนอกเดินยิ้มหายเข้าไปร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่ง มิน่าละเขาไปหาที่บ้านถึงไม่เจอ ที่แท้ก็ออกมากับคนอื่น

ว่าแต่ผู้ชายคนนั้นคนที่มากับเทนนิสเป็นใคร ดูแล้วเหมือนสนิทกัน ยังไม่ทันจะบอกรักอีกฝ่ายก็มีศัตรูหัวใจโผล่มาเรื่อยๆซะแล้ว



ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูสองสามครั้งธีรภัทรวางรีโมทย์ไว้เดินไปที่ประตู เปิดออกเห็นคนที่อยากเจอมาทั้งวันยืนยิ้มหล่อ
อยู่หน้าห้อง

“พี่ธีร์ กินข้าวยังผมซื้ออาหารญี่ปุ่น สเต็ก ขนมมาฝาก”เทนนิสชูของกินที่ถืออยู่เต็มสองมือขึ้นให้อีกฝ่ายดู

“ยังเลย ไม่มีคนทำให้กิน”ไม่ใช่หรอกต้องบอกว่า เขากำลังรออีกฝ่ายต่างหากถึงจะถูก กินข้าวคนเดียวไม่อร่อยทั้งที่เมื่อก่อนกิน

คนเดียวมาตลอด และก็คิดเรื่องที่เห็นอีกฝ่ายหายเข้าไปร้านอาหารญี่ปุ่นกับใครไม่รู้ ท่าจะเป็นเอามากก็แค่กินข้าว หายเข้าไปใน

โรงแรมหรือม่านรูดนั่นน่าจะเก็บเอาคิดมากกว่า

“พอดีวันนี้รุ่นพี่ที่ผมงานให้ เลี้ยงข้าวเลี้ยงหนัง เลยซื้อของกินมาด้วย”

อ้อ ที่แท้ก็รุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แต่รุ่นพี่นี่แหล่ะตัวดี“เลี้ยงข้าวเลี้ยงหนัง นั่นค่าจ้างหรอ”เขาช่วยอีกฝ่ายจัดกับข้าวใส่จาน

“ครับ”เขายิ้มให้อีกฝ่าย เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันเป็นธรรมดา

“เลี้ยงง่ายดีนะ”อย่างนี้มันน่าเอามาเลี้ยงซะจริง จะให้เลี้ยงไปตลอดชีวิตก็ยังได้

“พี่ธีร์กินอะไรดีครับ”เทนนิสถามความคิดเห็นอีกฝ่าย

“พี่เอาอันไหนก็ได้”อันไหนอีกฝ่ายก็ซื้อมาให้เขาเหมือนกัน

ทั้งสองนั่งลงกินข้าว ธีรภัทรเล่าที่ตนเองพาหลานๆออกไปเที่ยวกินไอศกรีม ส่วนเทนนิสก็ตั้งใจฟังอีกฝ่ายเล่า กินข้าวเสร็จทั้ง

สองต่างแยกย้ายเข้าห้องพักผ่อนพรุ่งนี้ไปทำงานแต่เช้า ธีรภัทรอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยนั่งลงบนเตียงหยิบปฏิทินขึ้นมาดู อืม

ถ้าจำไม่ผิดพรุ่งนี้วันคล้ายวันเกิดเขานี่นา ทำงานเพลินจนลืมวันเกิดตัวเองไปได้ ไม่รู้ว่าเทนนิสจะรู้รึเปล่า ช่างเถอะยังไงเขาก็

ไม่ใช่คนที่เห็นคนสำคัญเฉพาะวัน   


   เริ่มเช้าวันใหม่วันแรกของการทำงานด้วยสายฝน เทนนิสนั่งมองไปนอกรถเห็นสายฝนหล่นเป็นสาย ข้างถนนมีคนกาง

หลากร่มสี สวมเสื้อกันฝนสีต่างต่าง ที่ปัดน้ำฝนทั้งสองข้างทำหน้าที่สลับกันขึ้นลงเป็นจังหวะพร้อมเพียงจนตาลาย แต่คนที่ขับยัง

นั่งนิ่งหน้าตาเฉยเหมือนเคย จนเดาอารมณ์ไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงกับฝนตกแล้วรถติดแหง็กอยู่อย่างนี้ สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสี

เขียวรถทุกคนค่อยเคลื่อนตัวออกไป ในที่สุดรถก็เลี้ยวเข้าที่จอดรถ เทนนิสลงจากรถกางร่มออกไปยืนรอคนขับ ธีรภัทรรู้สึกชอบ

หน้าฝนขึ้นมาทันที เขาเปิดประตูรถออกเข้าไปอยู่ใต้ร่มกับอีกฝ่ายจนได้กลิ่นน้ำหอม เขาตัวสูงกว่าเทนนิสจึงได้อาสาถือร่มและให้

เทนนิสช่วยถือกระเป๋า เป็นครั้งแรกที่ธีรภัทรได้มีโอกาสอยู่ได้สัมผัสความโรแมนติกเหมือนในนิยาย เขาถือร่มโอบไหล่คนข้างๆ

เดินฝ่าสายฝนที่ตกลงปรอยๆ เขาพึ่งรู้ว่าฤดูฝนก็มีข้อดีเหมือนกัน


   ช่วงเช้าผ่านไปพร้อมกับสายฝนหอบเอาอากาศร้อนอบอ้าวไปด้วย ทิ้งไว้แต่ความชุ่มชื่น เชอะแชะ พนักงานหลายคนบ่น

บอกว่าอากาศอย่างนี้น่านอนวันนี้น่าจะเป็นวันหยุดอีกวัน ช่วงก่อนพักเที่ยงพนักงานแต่ละแผนกช่วยกันออกเงินซื้อของขวัญวัน

เกิดให้เจ้านาย ส่วนเค้กวันเกิดคุณเลขาสั่งไว้แล้ว

“วีร์ ทำไมวันนี้เดินแปลกแปลก”

“เปล่านิ”ปฏิเสธเพื่อนไปแล้วก็รู้ว่ากำลังโดนอีกฝ่ายแกล้ง

“อ้าว หรอดูผิดขอโทษด้วย”คนพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เพื่อน

“ไม่ต้องเลย เทนนิส”

“อย่าเพิ่งยอมแหล่ะดีแล้ว ให้พี่ปาล์มทรมานไปนานๆสมกับที่เก็บความในใจไว้หลายปีไม่ยอมบอก มีโอกาสต้องแก้แค้นคืนบ้าง”

“ไม่หรอก ที่บ้านเราห้ามพี่ปาล์มไว้บอกว่าเรียนจบก่อน”

“เออ ดีดีแล้วได้บอกไหมว่าเรียนจบตรีหรือจบโท”

แซวเพื่อนพอหอมปากหอมคอก็กลับมาทำงานต่อ เสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดแว่วออกมาจากห้องเจ้านาย เทนนิสลุกขึ้นเดินไป

ชะเง้อมองตามคนอื่นเห็น หัวหน้า พนักงานปรบมือหลังจากที่เจ้านายเป่าเค้ก ก้อนใหญ่สี่ก้อนเสร็จเรียบร้อย เจ้านายพูดอะไรสอง

สามประโยค ตัวแทนแต่ละแผนกมอบของขวัญ เค้กก็ถูกส่งไปที่ห้องครัวในแต่ละชั้นให้พนักงานให้กิน


   หลังเลิกงานเจ้าของวันเกิดมองของขวัญวันเกิดบนโต๊ะที่พนักงานแต่ละแผนกออกเงินช่วยกันซื้อ ปีนี้เขาจะมีโอกาสได้ของ

ขวัญที่พิเศษกว่าทุกปีรึเปล่าน้า ช่างเถอะแค่อีกฝ่ายอยู่กับเขาทุกวันแค่นี้ก็เป็นของขวัญที่พิเศษกว่าทุกทุกปีแล้ว เขาเก็บของ

เตรียมกลับ กิตก็เดินเข้ามาห้องชวนไปดื่ม ธีรภัทรปฏิเสธวันนี้วันแรกของสัปดาห์เอาไว้โอกาสหน้า กิตรู้ว่าเพื่อนต้องปฏิเสธเขา

ไม่บังคับแล้วขอตัวกลับก่อน

   กลับถึงห้องพักเทนนิสช่วยเจ้านายถือของขวัญหลายกล่องไปวางไว้ในห้องทำงาน แล้วกลับออกมาเตรียมทำมื้อเย็นและ

ไม่ลืมถามเจ้านายว่าอยากกินอะไรเป็นพิเศษในวันพิเศษไหม ธีรภัทรยืนคิดสักครู่แล้วบอกว่าอยากกินสปาเก็ตตี้ คนฟังเลิกคิ้วขึ้น

อยากกินของทำยากซะด้วย เขาเดินไปเปิดตู้เย็น มองหาวัตถุดิบที่สามารภใช้ได้แต่ดูเหมือนว่าไม่มีของที่ใช้ทำได้ และของ

จำเป็นอย่างเส้นต้องลงไปซื้อที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่าง


   กลับขึ้นห้องมาพร้อมของที่ต้องใช้ครบ พ่อครัวก็รีบลงมือทำ เริ่มจากต้มเส้นสปาเก็ตตี้ก่อน สักพักก็ได้เส้นเหนียวนุ่มน่ากิน

จากนั้นนำเส้นลงไปผัดกับแฮมไส้กรอกเพิ่มรสชาติที่ชอบลงไป ใช้เวลาไม่นานสปาเก็ตตี้แฮมไส้กรอก หน้าตาน่าอร่อยก็อยู่ใน

จานเรียบร้อย มื้ออาหารอร่อยของทั้งสองก็จบลงด้วยความอิ่มอร่อยเหมือนทุกวัน

   อาบน้ำเสร็จธีรภัทรสวมกางเกงนอนเดินเปลือยอกออกมาจากห้องน้ำ แล้วหยิบใช้ผ้าเช็ดตัวอีกผืนเช็ดผมที่ยังเปียกอยู่

เสียงเคาะหน้าประตูดังขึ้น ทำให้เขาแปลกใจเปิดประตูออกไปเห็นเพื่อนร่วมห้องยืนยิ้มอยู่ แล้วยืนกล่องของขวัญมาให้

“สุขสันต์วันเกิดครับ ครบรอบสามสิบปี”

ธีรภัทรรับของขวัญที่รอมาทั้งวันแล้วหรี่ตาลงมองคนตรงหน้า“อืม ขอบใจนะคงเร็วไปหลายปี”แหมไอ้เด็กนี่พูดจาแบบนี้มันน่าจับ

มาจูบให้เข็ด เขาจ้องริมฝีปากบางที่ขยับขึ้นลงอยากลองชิมว่าจะหวานเหมือนที่คิดไว้รึเปล่า

“ล้อเล่นครับ”แก่ก็ยังไม่เท่าไหร่ไม่น่าน้อยใจ

“แกะเลยได้ไหม”เขาดีใจที่ได้ของขวัญจากที่รอมาทั้งวัน นึกว่าจะไม่ได้ซะแล้ว คนอะไรไม่รู้ใจร้ายปล่อยให้เขารอทั้งวัน คอยดูมี

โอกาสจะเอาคืนบ้าง

“ครับ ตามสบาย”เทนนิสรู้สึกสายตาที่อีกฝ่ายมองมาวันนี้ดูแปลกๆ จนรู้สึกขนลุกขึ้นมา แล้วเป็นครั้งแรกที่เห็นเจ้านายใส่กางเกง

ตัวเดียวเปลือยท่อนบนมีผ้าเช็ดตัวคล้องคอกับผมเปียกที่มีน้ำหยดน้ำลงมาปลายจากผม ทำให้เขามองแล้วรู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ

และอดรู้สึกเขินอีกฝ่ายไม่ได้

“ของขวัญนี่เหมือนคนให้มากเลย”คนพูดมองอีกฝ่ายที่แก้มมีสีเลือดขึ้น ธีรภัทรเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย แต่

ยิ่งเห็นอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาที่เขาเปลือยยิ่งอยากแกล้ง

“ผมไม่รู้จะให้อะไร พอดีเห็นมันน่ารักความหมายดีด้วย”กังวลอยู่บ้างกลัวเจ้าของวันเกิดไม่ชอบ

ที่จริงอีกฝ่ายให้อะไรเขาก็ดีใจหมดนั่นแหล่ะ แค่คนที่เราแคร์จำวันเกิดของเราได้แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้ว“แมวกวักตัวอ้วน นี่กวักอะไรได้

บ้าง”ธีรภัทรถามเจ้าของแมว มองเจ้าแมวเซรามิคอ้วนยิ้มจนตาหยีให้เขาบนคอมีเชือกแดงห้อยกระดิ่งสีทอง มือข้างหนึ่งตั้งท่า

กวักส่วนอีกข้างเหมือนถืออะไรไว้ดูไม่ค่อยออก”กวักความรักได้ไหม”

“ไม่เคยได้ยินมาก่อน คิดว่าน่าจะได้มั้งครับ”

คนฟังเหมือนคิดอะไรได้หันหน้าแมวอ้วนไปหาคนตรงข้าม ในใจท่องให้มันกวักอีกฝ่ายให้รักให้หลงเขา

เทนนิสเห็นอีกฝ่ายจ้องอยู่จนต้องถามอีกฝ่ายว่า“ครับ มีอะไรรึเปล่า”

“เปล่า ดึกแล้วไปนอนเถอะ”ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวฉุดอีกฝ่ายเข้าไปนอนด้วย”ขอบใจสำหรับของขวัญนะ ชอบมากเลย”โดย

เฉพาะคนให้ เขามองอีกฝ่ายเข้าห้องปิดประตู แล้วเข้ามาในห้องวางเจ้าแมวอ้วนบนโต๊ะหัวเตียง วันเกิดปีนี้พิเศษกว่าทุกปีอย่างที่

เขาคิดไว้จริงๆด้วย




********************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป





ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/


ตอนที่ 13

          ภาพโฆษณาดาราวัยรุ่นหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งสามเป็นพรีเซนเตอร์ใหม่ของบริษัท กำลังอธิบายกติกาการเข้าร่วมสนุก

กิจกรรมส่ง SMS ลุ้นโชค ปรากฏอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เป็นโฆษณาโปรโมทตัวแรกที่ถูกปล่อยออกมา กิจกรรมครั้งนี้ทาง

บริษัทเปลี่ยนแพ็คเกจจิ้งผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรม หลังจากออกอากาศไม่นานก็ได้รับเสียงตอบรับ

มากกว่าที่คาด คนที่ทำงานหนักยิ้มออกเมื่อผลของงานออกมาดี เทนนิสเพิ่งได้มีโอกาสดูเต็มๆโดยไม่ตัด จำได้ว่าวันที่ไปดูการ

ถ่ายทำไม่เห็นมีอะไรมากที่เหลือคงเป็นเทคนิคคอมพิวเตอร์กราฟิกเข้ามาช่วย ในแต่ละวันมีคนส่ง SMS รหัสเข้ามาร่วมสนุก

จำนวนมาก เขาช่วยพนักงานเก็บรวบรวมรหัสและเบอร์ติดต่อกลับในแต่ละวัน เพื่อเก็บข้อมูลที่รวบรวมเป็นอ้างอิงผลตอบรับของ

กิจกรรม 


หน้าจอคอมพิวเตอร์โปรแกรมพิมพ์งานแบบตารางถูกแบ่งเป็นหลายช่อง หลายเลขรหัส หมายเลขโทรศัพท์ ผลรวมจำนวนผู้ที่ส่ง

รหัสมาแต่ละวัน ผลรวมจำนวนผู้ที่ส่งรหัสมาแต่ละสัปดาห์ ตัวเลขจำนวนผลรวมในแต่ละวันสูงขึ้นเรื่อยๆจนน่าดีใจ ผลประกอบ

การไตรมาสที่สามของปีต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน 


ตอนบ่ายปลายสัปดาห์ เทนนิสบันทึกงานลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เรียบร้อย แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจเปลี่ยนท่าทางหลังจากที่นั่ง

ทำงานจ้องหน้าจอมาหลายชั่วโมงเขารู้สึกปวดเมื่อยไหล่ไปหมด มองไปรอบๆแต่ละคนยังก้มหน้าก้มตาทำงาน ปลายสัปดาห์ก็

อย่างนี้ต้องเร่งทำงานให้เสร็จพรุ่งนี้ก็วันหยุดแล้วคงไม่มีใครอยากมานั่งทำงานหรอก วันนี้ที่แผนกบุคคลยังมีคนเข้ามาสมัคร

เหมือนทุกวัน จะว่าไปแล้วที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน แต่กว่าจะเข้ามาทำงานบริษัทนี้ได้แผนกบุคคลก็เข้มงวดน่าดู มันก็เป็น

ผลดีในระยะยาวมีพนักงานเข้าออกบ่อยทำให้งานมีปัญหาได้ วันนี้วันศุกร์แห่งชาติเทนนิสชะโงกหน้าไปมองโต๊ะของเพื่อน แต่ไม่

เห็นใคร ไปช่วยงานฝ่ายเลขาแน่เลย อิจฉาพี่เบสได้หยุดไปเลี้ยงลูก คงมีความสุขละสิเห็นถ่ายรูปลงโซเชียล ไม่เว้นแต่ละวัน

ตอนแรกทางบริษัทจะส่งตัวแทนไปเยี่ยมแต่ก็ต้องเบรกไว้เพราะเมียพี่เบสคลอดลูกที่ต่างจังหวัด เทนนิสทำงานของวันนี้เสร็จ

เรียบร้อยแล้วขอพักหน่อยแล้วกัน เขาเดินไปบอกพี่ฟ้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลสอนงานให้รู้ว่าจะออกไปหาอะไรกินข้างล่าง อีก

ฝ่ายพยักหน้ารับรู้แล้วก้มหน้าทำงานต่อ พูดถึงพี่ฟ้าก็เข้มงวดน่าดูเห็นหน้าแล้วนึกถึงอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยขึ้นมาทันทีแต่คนที่

จะมาดูแลสอนงานเด็กใหม่เจ้าระเบียบหน่อยก็ดี ไม่รู้ว่าทางมหาวิทยาลัยส่งเอกสารให้ทางบริษัทประเมินรอบแรกจะเป็นยังไง

บ้าง ช่างเถอะอย่างน้อยเขาก็รู้ว่าการที่ต้องมานั่งทำงานจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องสี่เหลี่ยมทั้งวันไม่เหมาะกับเขาจริงๆนั่น

แหล่ะ


วีร์กลับมาที่โต๊ะทำงานหลังจากทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาเพิ่งรู้ว่าเป็นเจ้านายต้องทำงานเยอะขนาดนี้ กว่า

จะทำงานเสร็จถึงเวลาเลิกงานพอดี กวาดสายตามองหาเพื่อนที่น่าจะนั่งกรอกข้อมูลอยู่ที่โต๊ะ ไปไหนนะ มองหาไม่เจอเขาหยิบ

โทรศัพท์โทรหา ปลายสายรับเขาถามว่าอีกฝ่ายอยู่ไหน ปลายสายตอบกลับมาว่าลงไปหาอะไรกิน วีร์บอกให้เพื่อนซื้อโกโก้เย็น

เย็นมาฝากด้วย


ไม่ถึงยี่สิบนาทีเทนนิสกลับขึ้นมาวางแก้วโกโก้บนโต๊ะเพื่อน วีร์ขอบใจเพื่อน ได้กินอะไรหวานเย็นๆหลังจากทำงานมาเหนื่อยๆ

รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ

“ยังไม่กลับอีกหรอเลิกงานแล้วนะ”

“รอของฟรีอยู่”

“ยังไม่ได้บอกว่าฟรีเลย”

“ติดไว้ก่อน เอกสารประเมินพวกเรามาแล้วนะ ตอนบ่ายพึ่งเอาเข้าไปให้แผนกบุคคล”

“ก็แค่ประเมินรอบแรก เข้างานไม่เคยสาย ทำงานตัวเป็นเกรียวหัวเป็นน็อตขนาดนี้ประเมินว่ามีปัญหานี่มีเคือง”เทนนิสพูดอย่างไม่

ใส่ใจ ด้วยน้ำเสียงออกเคืองเล็กน้อย

“เบาๆ เดี๋ยวใครมาได้ยินมันจะดี”ห้ามเพื่อนให้พูดเบาเสียงลง แล้วมองไปรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้บ้าง

“พนักงานบนชั้นนี้กลับเกือบหมด เหลือแค่หัวหน้าแผนกในห้อง เลขาและผู้ช่วยบางคนที่ยังทำงานอยู่ก็อยู่ตั้งไกล เราไม่ได้พูด
อะไรเสียหาย ทุกอย่างเป็นความจริง”

คนตัวเล็กชะเง้อดูรอบๆแล้วไม่มีใครอยู่ เขาก็กลับมาคุยกับเพื่อนต่อ“ตอนนี้เริ่มคิดถึงมหาวิทยาลัย นี่ก็จะเปิดเรียนแล้วด้วย อีกตั้ง

หลายเดือนกว่าจะฝึกงานเสร็จ”

“บ่นเป็นคนแก่ไปได้ เดี๋ยวทุกวันศุกร์ยังไงก็ต้องเข้าไปเรียน”ว่าไปแล้วเขาก็คิดถึงเหมือนกัน

“เออใช่ ลืมไปเลย”

“ได้เจอเพื่อนรับรองได้คุยไหยุดแน่ ไม่รู้ว่าแต่ละคนไปเจออะไรกันมาบ้าง”

“ว่าไปแล้วเข้าไปอ่านที่เพื่อนแต่ละคนเขียนไว้ในห้องฝึกประสบการณ์ แต่ละคนก็เจออะไรมาเยอะเหมือนกัน”

“เขาถึงได้บอกว่าประการณ์ชีวิตถ้าไม่ลองเปิดประตูไปเจอด้วยตัวเองก็ไม่รู้ เรื่องแบบนี้ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่มีสอนใน

ห้องเรียน”

วีร์พยักหน้าเข้าใจได้ดี พวกเขาที่เคยทำงานพิเศษมาก่อนจึงปรับตัวทำงานได้ง่ายกว่าคนอื่น มาแรกๆก็ต้องเจอความจู้จี้ขี้บ่น

หัวหน้าเพื่อนร่วมงาน บางคนก็สั่งงานไม่รู้เรื่องทำอย่างกับเราทำงานที่นี่มาเป็นสิบปี และบอกไห้ทำอย่างหนึ่งแต่จะเอาอีกอย่าง

เจอแบบนี้ตอนแรกก็แทบบ้า และก็ได้แอบด่าหัวหน้าเพื่อนร่วมงานในใจไปหลายครั้งเหมือนกัน ไม่นานก็เริ่มชิน “ไม่รู้ว่าน้องใหม่

ปีนี้จะเป็นยังไงบ้าง รู้สึกเหมือนตัวเองแก่ยังไงไม่รู้”

“ไม่เหมือนหรอก แก่จริงๆและก็จะแก่ไปเรื่อยๆ”

“ขอบคุณ เป็นคำพูดที่ช่วยให้กำลังได้ดีมาก” 

“เทนนิส”เสียงเรียกทำให้ทั้งสองหันไปมอง เห็นเจ้านายถือกระเป๋ายืนมองมาทางนี้

เทนนิสรีบลุกขึ้นหยิบกระเป๋า“เฮ้ย เจ้านายเรียกแล้ว คืนนี้ต้องไปงานกับเจ้านายแทนพี่เบส ไปแล้ว เจอกัน”ที่จริงก็อยากปฏิเสธ

แต่ได้ยินมาว่าของกินในงานเยอะเท่านั้น เขาตอบรับเกือบไม่ทัน อยากรู้เหมือนกันงานสังคมผู้ดีคนมีเงินของกินในงานจะอร่อย

ถูกปากคนเดินดินธรรมดาอย่างเขารึเปล่า หันกลับมามองเพื่อนที่กำลังโทรศัพท์หาใครสักคนอยู่ คงโทรให้คนรักมารับ เขาเดิน

ตามคนตัวสูงลงด้านล่าง ลานจอดรถเหลือรถจอดอยู่ไม่กี่คัน


   ขึ้นชื่อว่าออกงานสังคมแน่นอนต้องแต่งให้ดูดีไม่น้อยหน้าเจ้านาย เทนนิสอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเช็ดตัวให้แห้งยืนมองชุด

สูทที่ลงทุนซื้อด้วยความเสียดาย เพิ่งรู้ว่าสูทราคาแพงอย่างนี้ยิ่งสูทออกงานแล้วด้วยดีที่เจ้านายช่วยสมทบทุนในครั้งนี้ ไม่รู้

ทำไมต้องให้เขาไปเป็นเพื่อนด้วยถึงจะบอกว่าเป็นประสบการณ์ก็ตาม ยังดีที่เจ้านายบอกว่าซื้อสูทครั้งเดียวใช้ได้หลายงาน แต่

ถ้าจะให้ดีต้องใช้ได้ตลอดชีวิต เริ่มสวมเสื้อตัวในสวมทับด้วยสูทสีเข้มตัดด้วยผ้าเนื้อดีสวมแล้วไม่รู้สึกร้อนเหมือนที่คิด จัดหู

กระต่ายให้ตรงมองตัวเองในกระเงา เพิ่งรู้ว่าตัวเองสวมสูทแล้วดูดีอย่างนี้เหมือนคุณชายมาเอง ชายกลางนะไม่ใช่ชายน้อย

สำรวจความเรียบร้อยตัวเองอีกครั้งหน้ากระจก หยิบสเปรย์ฉีดผมบนโต๊ะฉีดใส่ผมจัดแต่งทรงให้ดูอยู่ทรง แค่นี้ทุกอย่างก็พร้อม
แล้ว


งานแฟชั่นโชว์การกุศลนำเงินรายได้ทั้งหมดในงานเป็นทุนการศึกษาให้เด็กผู้ด้วยโอกาส ป้ายหน้างานขนาดใหญ่ติดไว้จนเห็น

ชัดหน้าห้องประชุมจัดเลี้ยง ส่องเข้าไปด้านในสิ่งที่สะดุดตาที่สุดสำหรับทุกคนเป็นเวที catwalk ขนาดใหญ่มีคนแต่งตัวสวยหล่อ

เดินอยู่นั้น แต่สำหรับเทนนิสเป็นของกินแบบบุฟเฟ่ต์ตั้งเป็นโต๊ะยาวมีพ่อครัวยืนประจำอยู่ นั่นคือเหตุผลที่เขายอมมางานคืนนี้

เทนนิสยืนรอเจ้านายลงชื่อรับเข็มกลัด สักพักเจ้านายเดินเข้ามายื่นเข็มกลัดอีกอันให้เขา พร้อมบอกว่าถ้าไม่มีเข็มกลัดนี้เข้างาน

ไม่ได้ เขาพยักรับทราบรีบรับไปกลัดมุมกระเป๋าบริเวณหน้าอกทันที เข้าไปในเสียงดนตรีเป็นจังหวะดังขึ้น บนเวทีนายแบบนาย

แบบเดินออกมาโชว์เสื้อผ้า ทำให้รู้งานงานเริ่มก่อนที่พวกเขาจะมาถึง


ทั้งสองเดินไปนั่งที่โต๊ะตามที่เจ้าภาพของงานได้จัดเตรียม เทนนิสมองคนที่นั่งร่วมโต๊ะท่าทางเหมือนจะมีฐานะกันทั้งนั้นและมีที่

นั่งหลายที่ยังวางอยู่ เขาแอบกระซิบถามเจ้านายว่าค่าบัตรร่วมงานราคาเท่าไหร่ ธีรภัทรไม่ตอบบอกแต่ว่าก็แพงอยู่ คนที่ได้รับคำ

ตอบพยักหน้าเหมือนพอจะเดาได้ แล้วใช้สายตาแอบมองดูโต๊ะข้างๆบ้าง มีผู้หญิงสาวสวยแต่งตัวดีหลายคนแอบมองมาที่เจ้า

นายของเขา เทนนิสนึกว่าตัวเองใส่สูทออกงานแล้วดูดีที่ไหนได้เทียบเจ้านายไม่ได้เลย ตั้งแต่เข้ามาในงานสาวๆก็มองกันใหญ่

บางคนก็เดินเข้ามาทักทาย เจ้านายก็ทักทายตามมรรยาท จนเขาอดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงแบบไหนนะที่ทำให้เจ้านายสนใจได้

การแสดงแฟชั่นโชว์บนเวทีชุดแรกผ่านไปอย่างเรียบร้อย ชุดที่สองพร้อมเดินขึ้นเวที นางแบบนายที่เดินเสร็จชุดแรกต้องเตรียม

ใส่ชุดต่อไป ด้านหลังเวทีทีมงานแต่ละคนต่างวิ่งวุ่นเพื่อไม่ให้งานออกมาดี ปรีญารัตนกอดอกมองเข้าไปในงานเห็นคนที่ต้องการ

เจอนั่งอยู่ที่โต๊ะ เธอเห็นชายหนุ่มตั้งแต่เข้ามาในงาน ขณะที่กำลังมองอีกฝ่ายอย่างดีใจทีมงานก็เรียกให้เธอเข้าไปเตรียมตัวเดิน

แฟชั่นชุดต่อไป แพรพรรณกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเห็นเพื่อนเดินกลับมาด้วยหน้าตายิ้มแย้มอดถามไม่ได้ว่าเจอผู้ชายที่เธออยากเจอรึ

เปล่า เธอไม่ตอบคำถามเพื่อนแต่ยิ้มให้อีกฝ่ายแทน


กับข้าวหลายอย่างถูกวางใส่ถาดเรียงเป็นแถว กลิ่นหอมเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี เทนนิสคิดว่าคิดถูกแล้วที่ได้ตอบตกลงมางาน

นี้ ยังไงเขาต้องกินให้มันคุ้มกับค่าสูทที่ต้องจ่ายไป เขาเริ่มตักกับข้าวไปหลายอย่างและหยิบของกินเล่นไปอีกจาน ธีรภัทรมอง

คนที่สนใจอาหารตรงหน้ามากว่าตัวเขา รู้สึกมันน่าน้อยใจยังไงไม่รู้เขาตักกับข้าวใส่จานสองสามอย่างเดินตามเทนนิสกลับไปนั่งที่โต๊ะ

“คุณธีรภัทร สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้ว”ปรีญารัตนถือจานอาหารมานั่งลงข้างๆชายหนุ่ม และยิ้มให้อีกฝ่าย

“สวัสดีครับ”ธีรภัทรเลิกคิ้วขึ้นแปลกใจไม่นึกว่าหญิงสาวอีกครั้งที่นี่

“เปรียวไม่นึกว่าคุณจะมางานนี้ด้วย”ไม่รู้สิแปลกเธออุตส่าลงทุนล็อคที่นั่ง ให้เธอได้ได้นั่งร่วมโต๊ะกับอีกฝ่าย แค่นี้เขาก็หนีเธอไป

ไหนไม่ได้แล้ว

“คุณปรีญารัตนเดินแบบด้วยหรอครับ”เขาเห็นชุดที่เธอใส่เหมือนที่นางแบบบนเวทีใส่เดินแบบ

“ค่ะ ทำไมดูไม่ดีหรอคะ”เธอยิ้มพอใจกับคำถาม เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายทักเรื่องชุดที่เธอสวม

“เปล่าครับ สวยดีครับ”มันเหมาะที่ใช้จะเดินบนเวทีมากกว่า เขาต้องการที่พูดแบบนั้นมากกว่า

“นี่ก็เพิ่งเดินเสร็จรู้สึกหิวเลยออกมาหาอะไรกิน ถ้ากินก่อนก็กลัวใส่ชุดไม่ได้”

เทนนิสมองสาวสวยในชุดกระอกราตรียาวสีแดงเพลิงมีประกายระยิบระยับ ขับให้ขาวของเธอดูเด่นโดยเฉพาะที่นูนขึ้น ไม่รู้ว่าของ

จริงรึเปล่า ว่าไปแล้วผู้หญิงคนนี้หน้าตาคุ้นๆเหมือนเคยเจอที่ไหน ผู้หญิงที่เข้ามาหาเจ้านายมีสาวสวยทั้งนั้น อ้อ จำได้แล้วว่าเคย

เจอที่ไหนเหมือนเธอเคยเข้ามาทักครั้งหนึ่งตอนที่ไปเดินห้าง โลกกลมจริงๆ เทนนิสมองคนที่บอกว่ามาหาของกิน เธอคงไม่ได้

หมายกับข้าวในจานใช่ไหมเพราะสายตาที่เธอมองเจ้านายเหมือนอยากจะกินเจ้านายมากกว่า เห็นทีเจ้านายจะรอดยาก เอาเถอะ

เรื่องของคนอื่นไม่ยากยุ่ง เขากลับมาสนใจกับข้าวที่ตักมาดีกว่า

“ยัยเปรียว ออกมาทำไมไม่รอฉัน ถ้าไม่รู้ว่านั่งที่ไหนฉันคงหาเธอไม่เจอหรอกนะ”

“อุ้ย คุณธีรภัทร สวัสดีค่ะ บังเอิญจังเลยนะคะ”พอพูดเสร็จก็หันไปมองเพื่อน จอมวางแผน

“สวัสดีครับ”

แพรพรรณมองชายหนุ่มที่เพื่อนของเธอชอบ ลงทุนสืบว่าอีกฝ่ายเป็นใคร โทรศัพท์ไปหาและลงทุนให้ได้มานั่งร่วมโต๊ะ แต่ดูไป

แล้วฝ่ายชายจะไม่ได้สนใจใยดีเลย ถามคำตอบคำ ช่างเถอะมันเป็นเรื่องของเพื่อนเธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งให้มาก แค่เรื่องตัวเอง

ก็ปวดใจจะแย่แล้ว เธอหยิบแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มมองไปรอบๆโต๊ะ สายตาไปหยุดที่ชายหนุ่มหน้าใสใส่สูทผูกหูกระต่ายกำลังก้มหน้า

ก้มตากินไม่สนใจใคร เธอพยายามจ้องอีกฝ่ายให้ชัดๆ คนที่กำลังกินอยู่รู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่จนเงยหน้าขึ้น “แกมาอยู่นี่ได้

ไง”เสียงพูดไม่ดังมาก แต่ปรีญารัตนนั่งข้างๆได้ยินจนหันมามองเพื่อน หมายถึงใคร เทนนิสจำได้ว่าผู้หญิงที่กำลังจ้องเขาคือใคร

ไม่ลืมส่งยิ้มหวานให้ทีหนึ่งแล้วกินต่อ คนที่ถูกเมินไม่สนใจแทบอยากร้องกรี๊ดออกมา ยังไงเธอจะไม่ยอมปล่อยมันไปแน่ วันนี้พี่

ปืนไม่มาด้วยแล้วมันมากับใคร เธอมองผู้ชายที่นั่งหน้านิ่งไม่สนใจใคร คงไม่ได้กับผู้ชายที่เพื่อนเธอชอบหรอกนะ ยังไงเธอต้อง

เตือนเพื่อนไว้หน่อยดีกว่า

“นั่นแก ไอ้เด็กนั่นที่ฉันเคยบอกว่าเห็นมันไปไหนมาไหนกับพี่ชายแกบ่อยๆ”แพรพรรณกระซิบบอกเพื่อน สายตาจะมองไปเทนนิส

“พี่ชายฉันไม่มา แล้วมันมากับใคร....”เธอหันมามองเพื่อนเหมือนคิดอะไรได้ อย่าบอกนะว่าไอ้เด็กนั่นมากับผู้ชายของเธอ แพร

พรรณพยักหน้าให้เพื่อนเป็นคำตอบ ปรีญารัตนกำมือแน่น นี่มันยุ่งกับพี่ชายเธอไม่พอยังมายุ่งกับผู้ชายของเธออีก คิดหรอว่าเธอ
จะยอม



   การเดินแบบบนเวทีชุดสุดท้ายเสร็จแล้ว นักออกแบบเสื้อผ้าเดินออกมาพร้อมนางนายแบบรับเชิญโค้งให้กับแขกผู้มีเกียรติ

ทุกคนที่ซื้อบัตรราคาแพงเข้ามาชม แขกบางส่วนทยอยกลับ บางคนยังอยู่ถ่ายรูปกับนายนางแบบที่รับเชิญมา ชุดแต่ละชุดที่ขึ้น

แสดงบนเวทีมีหลายคนให้ความสนใจและสั่งจองเป็นจำนวนมาก เทนนิสออกมายืนรอเจ้านายด้านนอก ธีรภัทรแวะไปทักทายผู้

หลักผู้ใหญ่ที่รู้จัก เทนนิสมองตามแขกที่แต่งตัวดีใส่เสื้อผ้าราคาแพงเดินออกมาจากงาน ต่างพูดอวดอ้าวว่าลูกหลานของตัวเอง

เดินแบบแล้วดูหล่อดูสวยจนน่ารำคาญ เขาเคยเห็นแต่ในละครไม่นึกว่าจะมีโอกาสได้เห็นจริงๆ ขณะที่กำลังมองบรรยากาศรอบๆ

เพลินๆ สองสาวสวยที่นั่งร่วมโต๊ะเดินตรงเข้ามาหา

“นี่แก กำลังยืนอ่อยใครอยู่”

“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่แกจะมาหากินนะ”ทั้งสองพูดไปแล้วก็หัวเราะ

คำพูดของสาวสวยแต่งตัวดีทั้งสองพูดออกมาไม่ค่อยจะเข้ากับหน้าตาของพวกเธอเลย แล้วที่บอกว่าอ่อย กับหากินนี่หมายถึง

ใครกัน อยู่เฉยๆเดินเข้ามาหาเรื่องนี่ป่วยทางจิตรึเปล่า มิน่าเจ้านายถึงไม่สนใจเธอไม่แปลกใจเลย“ขอโทษนะครับ พวกเรารู้จักกัน

ด้วยหรอ”เขาถามเสียงเรียบ

“ฮึ อย่างพวกฉันจะลดตัวไปรู้จักคนอย่างแกหรอก”ปรีญารัตนยิ้มเยอะอีกฝ่าย อย่าว่าแต่รู้จักเลยแค่คุยด้วยยังไม่ยากเลย ถ้าไม่ติด

ว่าจะเดินเข้าสั่งสอนให้รู้ว่าของใครเป็นของใครเธอไม่อยากจะยุ่งกับคนชั้นต่ำ

“ผมก็ว่างั้น โชคดีแค่ไหนที่ไม่รู้คนอย่างพวกคุณ”เทนนิสพูดเสียงเบาลงเรื่อยๆ ไม่อยากให้ทั้งสองได้ยิน

แต่ก็ไม่เบาพอ ทำให้ปรีญารัตนได้ยินรู้สึกไม่พอใจในคำพูดที่เธอได้ยิน“แกพูดอย่างนี้หมายความว่ายัง คนอย่างพวกฉันเป็นยังไง

แน่จริงพูดออกซิ”ปรีญารัตนก้าวเข้ามาไปใกล้เทนนิสกำลังจะใช้มือข้างหนึ่งฟาดไปที่หน้าอีกฝ่ายแต่มีคนจับข้อมือของเธอไว้ก่อน

“ไม่ทราบว่าพวกคุณมีธุระอะไรกับคนของผม”ธีรภัทรปล่อยข้อมือหญิงสาว ที่เดินเข้ามาพยายามจะทำร้ายเทนนิส เขายืนมองดู

เหตุการณ์อยู่ได้สักครู่ เห็นสองสาวเข้ามาคุยกับอีกฝ่าย แต่ไม่ใช่อย่างที่คิดสองสาวน่าจะเข้ามาหาเรื่องมากกว่า ไม่รู้ว่าทั้งสาม

คนเคยรู้จักกันมาก่อนรึเปล่า

“เปล่านะคะ ไอ้เด็กนี่มันว่าเปรียวกับเพื่อน”เธอลูบข้อมือที่รู้สึกเจ็บเบาๆและปรับน้ำเสียงท่าทางให้ดูน่าเห็นใจ จนเทนนิสมองแล้ว

อยากหัวเราะเมื่อกี้ไม่ใช่ท่าทางแบบนี้นี่นา คนสวยปากไม่ดีหายไปแล้วนะ

“ผมว่าไม่ใช่หรอก เท่าที่เห็นเป็นพวกคุณสองคนที่เข้ามาหาเรื่องเขาก่อน”เขาเริ่มเบื่อผู้หญิงคนนี้แล้ว ไม่มีความจริงใจเลย

“นี่คุณธีรภัทรเข้าข้างมันหรอคะ“เธอหน้าเสียที่อีกฝ่ายเลือกเข้าข้างคนแบบนั้นแทนที่จะเป็นเธอ

“ผมไม่ได้เข้าข้างแต่ผมพูด และเชื่อในสิ่งที่เห็นมากกว่า”

แกไอ้เด็กบ้า เธอพยายามระงับอารมณ์มองเทนนิสด้วยสายตาบอกว่าไม่พอใจ “คุณธีรภัทรไม่น่าไปหลงเชื่อมันเลย คุณคงไม่รู้

อะไร ไอ้เด็กนี่มันมั่ว ครบผู้ชายไปทั่ว”ปรีญารัตนมองหน้าธีรภัทรแล้วยิ้ม“ตาสว่างได้แล้วไอ้เด็กนี่ไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด”

แพรพรรณที่เงียบอยู่นานเปิดปากพูดออกมาในที่สุด“ไอ้เด็กผู้ชายคนนี้มันแย่งแฟนฉัน”เอาสิพวกเธอก็อยากรู้ ว่าอีกฝ่ายจะยัง

ปกป้องไอ้เด็กนี่อยู่อีกไหมเมื่อรู้ว่ามันไม่ได้ใสซื่อเหมือนหน้าตา หน้าแบบนี้มันคงไปหลอกคนมาเยอะ

หา! เอาแล้วไงท่าทางจะไปกันใหญ่ สงสัยเขาจะเล่นละครเก่งเกินไป ทำให้เจ๊แกเชื่อว่าพี่ปืนชอบผู้ชายด้วยกันจริงๆ พูดตอนไหน

ไม่พูดดันมาพูดตอนเจ้านายอยู่ด้วยเดี๋ยวก็เข้าผิดกันไปใหญ่ คงเข้าใจผิดเขากับเจ้านายอยู่แน่แน่ผู้หญิงสองคนนี้นี่มีพลังมโนแรง

กล้ามาก เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนแต่ตอนนี้เขาต้องทำยังไง แม้แต่หน้าเจ้านายยังกล้าหันไปมอง

ธีรภัทรคิ้วกระตุก หรี่ตามองผู้หญิงทั้งสองบอกว่าเทนนิสไปแย่งแฟนของเธอ เขาอยากรู้ว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นมันมีดีขนาดนั้นถึง

ทำให้เทนนิสต้องไปแย่งมา”ขอบคุณพวกคุณทั้งสองที่บอก แต่คงเข้าใจผิดเทนนิสเป็นคนรักของผม”เขาพูดจบทั้งสามคนก็มอง

เขาเป็นเป็นตาเดียว เทนนิสตกใจมากพูดไม่ออกแต่ดูแล้วเจ้านายคงโกรธอยู่ ปรีญารัตนแทบอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ

“คุณหมายความว่ายัง ที่บอกว่าคนรัก ฉันไม่เชื่อ มันจะเป็นไปได้ยังไงผู้ชายกับผู้ชาย”เธอไม่ยอมรับผู้ชายคนนี้เธอเจอเขาก่อน

เขาต้องเป็นของเธอซิ

ชายหนุ่มเงียบไม่ตอบคำถามเธอในสมองกำลังคิดทำเรื่องร้ายๆขึ้นมา เขาแต่เดินเข้าไปหาคนที่ยืนอึ้งกับคำพูดของเขาอยู่ ใช้มือ

จับใบหน้าที่ยังงงนั้นหันมาแล้วจูบลงฝีปากบาง เทนนิสที่ยังอยู่ในอาการงงอยู่ ยิ่งตกใจอีกรอบที่เจ้านายโน้มใบหน้าลงแล้วทาบ

ริมฝีปากลงฝีปากเขา สองสาวที่ยืนดูตกใจไม่แพ้กัน



ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ต่อจากด้านบน

          ในห้องผู้โดยสารบรรยากาศในรถเงียบไม่มีใครพูดอะไร เทนนิสยังงงไม่หาย สิ่งที่เกิดกับเขาเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเป็นความ

ฝันใช่ไหม เขาเหลือบไปมองเจ้านายเห็น ใบหน้าอีกฝ่ายเรียบเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นั่นมันเป็นจูบแรกของเขาเลยนะ เขา

เผลอยกมือขึ้นลูบริมฝีปากตัวเองเบาๆเขายังจำความรู้สึกนั้นได้ ใบหน้าของเขาเห่อแดงขึ้นมาด้วยความอาย นั่นเจ้านายแค่ช่วย

ไม่ให้ผู้หญิงสองคนมายุ่งกับเขาตั้งหากคิดมากไปได้ คนที่กำลังขับรถดูภายนอกไม่มีอะไรแต่ในใจกำลังมีความสุขแทบอยาก

ตะโกนออกมาอยู่แล้ว ตอนนี้เขานึกถึงแต่ริมฝีปากบางนุ่มๆที่เขาใช้สถานการณ์ไม่คาดคิดช่วยให้สมหวัง เขาอยกรู้เหมือนกันว่า

ไอ้ผู้ชายที่บอกคนของเขาไปแย่งมาเป็นใคร คนของเขาเขาชอบคำนี้ ธีรภัทรเหลือบมองคนข้างๆที่ยังนั่งนิ่งอยู่ในอาการงงๆ


   ได้อาบน้ำแล้วอารมณ์ความรู้สึกที่คอยรบกวนมาตลอดทางก็ค่อยๆหายไป ถามว่าเขาโกรธหรือไม่พอใจไหมที่เจ้านายทำ

ลงไปแบบนั้น เขาตอบไม่ได้เพราะตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้ขัดขืน ชั่งเถอะยังไงทุกอย่างก็ผ่านไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ ลืมลืมไปซะ

เดี๋ยวก็ดีเอง แต่เขาจะมองหน้าเจ้านายติดได้ยังไงกัน เทนนิสแขวนสูทกลับเข้าที่เดิม เดินออกมาจากห้องด้วยใจตุ้มๆต่อมๆกลัว

เจอเจ้าของห้อง หันซ้ายหันขวาไม่มีใครอยู่รู้สึกโล่งอกอยู่บ้าง เขารีบเดินไปในครัวเปิดตู้เย็นหยิบนมสดออกมาอุ่นกินสักแก้ว

“ยังไม่นอนอยู่หรอเรา”เสียงเจ้าของห้องดังขึ้นอยู่ด้านหลัง แก้วอยู่มือเกือบตกแตกแจ่หัวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว

“ย..ยังครับออกมาอุ่นนมดื่ม พี่ธีร์จะเอาด้วยไหมครับ”เขาพูดไม่มองหน้าอีกฝ่าย แก้มรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้จนได้แต่

สงสัยทำไมเจ้านายถึงไม่ได้รู้สึกอะไรเลย

“อืม ก็ดีเหมือนกัน” ธีรภัทรเดินไปนั่งลงที่โซฟาเปิดโทรทัศน์เลื่อนหาช่องรายการดูรออีกฝ่าย ไม่นานเทนนิสถือถ้วยเซนามิคสี

ขาวข้างในมีนมอุ่นๆยื่นให้เจ้าของห้อง เขาดื่มนมไปด้วยดูโทรทัศน์ไปด้วย โดยไม่รู้ว่ามีคนมองเขาอยู่

ดวงตาสีอ่อนจ้องมองคนตรงหน้าที่ไม่ยอมหันมาหรือคุยกับเขาเลย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ธีรภัทรไม่พอใจอยู่บ้างเหมือนถูก

อีกฝ่ายเมินเขาลุกขึ้นไปนั่งข้างๆอีกฝ่าย รู้สึกเหมือนมีคนมานั่งข้างๆเทนนิสหันไปมอง ธีรภัทรกอดอีกฝ่ายไว้แล้วก้มลงจูบริม

ฝีปากบาง ไม่ยอมให้อีกฝ่ายขัดขืน ริมฝีปากหนากดลงอย่างตามใจบดเบียด ชิม ลิ้มรส คนถูกจูบรู้สึกชาเหมือนถูกกระแสไฟฟ้า

ไหลผ่าน ร่างกายไม่มีแรง ธีรภัทรล่วงล้ำเข้าไปโพรงปาก เขาสัมผัสได้ถึงลิ้นนุ่มๆลื่นๆและรสชาติหวานๆนิดนิด ธีรภัทรเริ่มควบคุม

ตัวเองไม่ได้เขากดริมฝีปากลงซ้ำแล้วเน้นย้ำอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดหายใจไม่ออก

คนตัวโตปล่อยคนในอ้อมกอดออก มองหน้าที่เห่อแดง เทนนิสหอบหายใจเข้าปอด เช็ดปากแดงเจ่อมองคนตรงหน้าตัวการที่

ทำให้ต้องมีสภาพอย่างนี้ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายทำไมต้องทำอย่างนี้จนต้องถามออกมาว่า”พ..พี่จูบผมทำไม”เขาเกือบหาเสียงตัวเอง

ไม่เจอ ถูกผู้ชายด้วยกันจูบครั้งเดียวไม่พอนี่ตั้งสองครั้ง ครั้งที่สองนี่เขาถึงกับจูบตอบด้วยยิ่งคิดยิ่งหน้าอาย

“พี่ชอบเรา”คำสารภาพสั้นๆ ที่ทำให้คนฟังต้องเงียบ คนสารภาพความในใจสังเกตว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไงกับคำพูดที่เขาบอกไป กว่า

จะพูดออกมานี่เขาอุส่ารวบรวมความกล้าตั้งนาน มองดูริมฝีปากบางเจ่อที่ถูกเขาจูบอย่างเอาแต่ใจ

“ไม่ตลก ผมไม่ขำ”จะให้เชื่อได้ยังไงว่าเจ้านายชอบผู้ชายด้วยกัน อีกฝ่ายไม่เคยแสดงท่าทีอะไรมาก่อนว่าชอบผู้ชายด้วยกัน ถ้า

จะหลอกก็ไปหลอกเด็กดีกว่า”ปล่อยผมเถอะ”ไม่รู้ใจคอจะกอดไปถึงไหน

ธีรภัทรยอมปล่อยอย่างว่าง่าย เขาไม่ชอบสายตาที่อีกฝ่ายมองมา นี่สิ่งที่เขาทำมันดูเชื่อเถือไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรอ“พี่ชอบเรา

จริงๆนะ”เขาจ้องเข้าไปในดวงตาสีเข้มทั้งคู่ ที่บอกว่าไม่เชื่อเขา

เทนนิสตั้งสติถามอีกฝ่าย“ทำไมถึงชอบผม ทำไมไม่เป็นคนอื่น ล..แล้วพี่เป็นเกย์หรอ”เขารัวถามคำถามอีกฝ่าย บอกว่าชอบเขา

จะดีหรอเขาเป็นผู้ชายนะ คิดดีแล้วหรอ

“ไม่รู้เหมือนกันมันรู้สึกไปเอง อธิบายไม่ได้ พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นนอกจากเรา”

“เป็นผมจะดีหรอคือ....”

“ดีสิ เชื่อพี่”เขารวบตัวอีกฝ่ายที่กำลังรู้สึกสับสนเข้ามากอด ลูบแผ่นหลังเบาๆ  คนถูกปลอบรู้สึกแปลกผู้ชายสองคนนั่งกอดกันบน

โซฟาหน้าโทรทัศน์ ในคืนวันศุกร์หลังจากที่จูบกันเสร็จแล้ว นี่เขากำลังฝันอยู่รึเปล่า หรือเจ้านายทำงานเยอะเกินไปแล้วเครียด
จนป่วย

“พี่ชอบเรา เป็นแฟนกันนะ”เขากระซิบข้างหูคนในอ้อมกอด แล้วฉวยโอกาสกดจมูกลงบนแก้มนุ่ม

“หะ ม..มันไม่เร็วไปหรอเราพึ่ง..”

“เราพึ่งจูบกัน ถ้าพี่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้มันอาจจะมากกว่านั้น”ลองปฏิเสธสิเขาจะปล้ำให้ดู

เทนนิสมองสายตาอีกฝ่ายที่ส่งมาข่มขู่“พี่ชอบผมจริงหรอ ไม่ได้หลอกกันนะ”เขาถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และใช้มือยัน

หน้าอกคนตรงหน้าไว้ คนอะไรมือไม้เป็นหนวดปลาหมึก ถ้าไม่จับก็ลูบ แต่ก่อนไม่เคยรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นแบบมาก่อนเลย ตอนนี้เขา

อยากร้องไห้

อีกฝ่ายไม่ตอบแต่พยักหน้าแทน

“ก...ก็ได้”เขาตอบได้ไม่เต็มปาก แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วให้คนตัวโตยิ้มออก“วันนี้ดึกแล้วไปนอนกันเถอะ”เทนนิสลุกขึ้นอย่างว่า

ง่ายเดินเข้าห้อง แต่ก็ตกใจเมื่อเห็นอีกคนตามมา เขาไล่คนตามเข้ามาในห้อง แถมบ่นให้ว่าห้องตัวเองมีทำไมไม่ไปนอนจะมา

นอนเบียดบนเตียงแคบทำไมคิดว่าตัวเองตัวเล็กนักรึไง ที่จริงเขากลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายล่วงเกินอีก ห้ามไปก็เท่านั้นเมื่อคนตัวโตไม่

สนใจเดินไปนอนบนเตียงเฉย เขาไม่รู้จะทำยังไงต้องปล่อยเลยตามเลย เป็นผู้ชายนอนด้วยกันไม่มีอะไรเสียหายหรอก....มั้ง

ธีรภัทรนอนตะแคงมองคนนอนหันหลังให้แล้วถามว่า ไปทำอะไรมาทำไมผู้หญิงสองคนนั้นถึงได้เข้าไปหาเรื่อง เทนนิสหันหน้า

กลับมามองคนถาม เขาเล่าเรื่องที่ทำให้ผู้หญิงชื่อแพรพรรณเข้าใจผิดทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟัง

ธีรภัทรได้คำตอบที่พอใจแล้วก็ยิ้มนอนหลับอย่างสบายใจ


   เช้าวันใหม่ที่มาพร้อมกับสายฝนโปรยปราย เย็นสบายจนคนที่นอนหลับสบายบนเตียงไม่อยากลุกไปไหน ส่วนคนที่ตื่นแล้ว

กำลังนอนคะแคงมองใบหน้าคนนอนอย่างมีความสุข เทนนิสมองใบหน้าหล่อมีเสน่ห์ขนาดเวลานอนยังดูดี อย่างนี้สิสาวๆถึงชอบ

วิ่งตามกันเป็นพรวนแล้วทำไมถึงมาชอบเขาได้ รึว่าชอบของแปลก ว่าไปแล้วเขาก็ไม่นึกรังเกียจเขาเลื่อนมือขึ้นไปวางไปแก้มอีก

ฝ่ายเพื่อนยืนยันว่าเขาไม่ได้หลับและฝันอยู่

คนที่คิดว่ากำลังหลับอยู่ อยู่ดีดีก็ลืมตาขึ้นแล้วพูดว่า“อรุณสวัสดิ์ ที่รักเมื่อคืนหลับสบายดีไหม”คนเพิ่งตื่นนอนกุมมือขาวที่วางไว้

บนแก้มไว้ ไม่พอยังดึงอีกฝ่ายเข้าไปกอด

“อ..อรุณสวัสดิ์ ตื่นนานแล้วหรอครับ”ตื่นแล้วก็ไม่บอกปล่อยให้นอนมองอยู่ได้ตั้งนาน เขารู้สึกตัวเองใจง่ายยังไงไม่รู้ เป็นแฟนกัน

ยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ไม่ถึง แต่ยอมให้อีกฝ่ายนอนกอด

“เพิ่งตื่น วันนี้ฝนตกอากาศน่านอน ทำไมตื่นเร็วหิวแล้วหรอ”โห ถามคำถามนี้เหมือนคนรู้ใจกันเลย

“เป็นอะไรดูเงียบเงียบ”คนนอนตะแคงใช้มือเท้าศีรษะถามอย่างเป็นห่วง

“เปล่า แค่ยังช๊อค เอาพี่ธีร์คนเดิมของผมกลับมา”

“ฮึ ฮึ เป็นเพราะเราที่ทำให้พี่เป็นแบบนี้ รับผิดชอบด้วย”เขาเองยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นได้ขนาดนี้

ทั้งสองนอนคุยกันสักครู่แล้วหลับต่อ


   ไม่รู้ว่ากี่โมงแล้วคนที่กำลังนอนสบายรู้สึกตัวใช้มือควานหาคนที่นอนอยู่ข้างแต่ไม่เจอ ธีรภัทรเปิดตาขึ้น คนที่นอนอยู่ข้างๆ

เมื่อคืนหายไป  สงสัยจะหิวแล้วเลยออกไปหาอะไรกิน ตอนนี้กี่โมงแล้ว เขานอนหงายมองเพดานสีขาวในห้องคิดทบทวนเรื่องที่

เกิด มันอาจจะดูเร็วไปสำหรับอีกฝ่าย ว่าไปแล้วเขาก็เพิ่งได้เห็นใบหน้าท่าทางหลากหลายอารมณ์ของอีกฝ่าย แล้วไหนริมฝีบาง

ที่ทำให้ควบคุมอารมณ์เกือบไม่อยู่นั่นอีก หัวใจของเขาลงความเห็นว่าเทนนิสเป็นคนที่อันตรายและน่าเข้าใกล้มาก

เขาคิดถึงเรื่องที่เทนนิสเล่าให้ฟังเมื่อคืนถึงสาเหตุที่ทำให้สองสาวเข้าใจผิดเพิ่งรู้ว่าอีกฝ่ายมีพี่ชาย ทำให้เขารู้ว่าเขายังรู้จักคน

ของเขาไม่ดีพอ ยังไงซะยังมีเวลาเรียนรู้กันอีกมาก ในห้องนี้มีแต่กลิ่นเจ้าของห้องเต็มไปหมด เหมือนฝันเลยที่ได้อีกฝ่ายมานอน

กอด เขาซบหน้าลงหมอนสูดกลิ่นหอมอ่อน ขณะกำลังดมกลิ่นจากหมอนอยู่ร่างกายบางส่วนก็ตื่นตัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ตื่นนอนขึ้นมารู้สึกหิวเห็นคนนอนข้างกำลังหลับสบายไม่อยากกวน เทนนิสลุกจากเตียงเข้าไปในครัวเปิดตู้เย็น กวาดสายตาไปทั่ว

มี กุ้ง ปลาหมึก และปูอัด ทำข้าวต้มทะเลรวมน่าจะได้ เขาหยิบวัตถุออกมาล้างหั่นให้เรียบร้อย เติมน้ำใส่ในหม้อตั้งไฟรอจนเดือด

เติมเกลือลงไปเล็กน้อย ใส่กุ้งที่แกะเปลือกเรียบร้อยแล้วปลาหมึกหั่นแล้วและปูอัด ทุกอย่างสุกเติมข้าวสวยลงไปพอประมาณ ใส่

ผงปรุงรสลงไปเล็กน้อย ใส่ต้นหอมซอย คึ่นไช่และผักซีลงไปเป็นอันเสร็จ

เปิดประตูเข้าไปในห้องบนตียงไม่มีคนนอนอยู่ คงกลับห้องไปแล้ว เทนนิสหยิบเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัวหายเข้าไปในห้องน้ำ ตอนนี้ฝน

หยุดตกแล้ว สักพักเขาน่าจะกลับบ้านได้



                      บนเตียงกว้างคนนอนบนเตียงยุกยิกไปมาแล้วลืมตาขึ้น นี่เช้าแล้วหรอ ปรีญารัตนมองไปรอบๆห้องให้ชัด นี่มัน

ไม่ใช่ของเธอนี่นาแล้วห้องใคร เธอยันตัวเองให้ลุงขึ้นนั่งบนเตียงทำให้เห็นมีคนผู้ชายอีกคนนอนหลับอยู่ข้างๆ รู้สึกปวดหัวนิด

หน่อยคงเพราะเมื่อคืนดื่มเหล้าเยอะไปหน่อย คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเธอกำผ้าห่มแน่นด้วยความแค้น ไอ้เด็กผู้ชายคนนั้นมันดีกว่า

เธอตรงไหน ทำไมผู้ชายถึงได้ชอบมันนักคอยดูเถอะ เธอไม่มีทางปล่อยให้มันมีความสุขแน่แน่เธอขอสาบาน มองหาโทรศัพท์

กดโทรออกหาเพื่อน ไม่นานปลายสายก็มีคนรับ

“แพรตัดสินใจแล้วฉันไม่ปล่อยไอ้เด็กนั่นไป หาคนให้ฉัน ฉันจะไปให้คนไปจัดการมัน ถ้ามายุ่งกับคนของฉันก็อย่างหวังว่าชีวิตจะ

ได้อยู่สบาย”พูดไปแล้วภาพที่เห็นผู้ชายสองคนจูบกันก็ทำให้อยากอาเจียนขึ้นไม่ได้

“อย่าทำอะไรรุนแรงนะ ยังไงเรื่องก็ผ่านไปแล้ว”ปลายสายมีน้ำเสียงกังวลใจ

“เรื่องนี้แกไม่ต้องยุ่ง แค่นี้ก่อนนะ”เธอกดวางมองหน้าจอที่มืดลง ฮึ เธอไม่ทำอะไรรุนแรงหรอก ถ้าไม่ทำก็ไม่ใช่เธอนะสิ หน้าโง่

เหมือนเพื่อนของเธอสิถึงปล่อยให้มันแย่งแฟนไปได้ แต่เธอไม่ใช่

“อืม ทำไมตื่นเร็วจังเลยที่รัก แล้วคุยกับใครอยู่”

“เปล่าค่ะ”

เธอปฏิเสธเสียงหวาน ชายหนุ่มที่พึ่งตื่นดึงเธอนอนลงบนเตียงนุ่มแล้วขึ้นทาบทับ ไม่นานทั้งสองก็กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

 

                   มือขาวเปิดประตูห้องน้ำออกมาเห็นร่างสูงนั่งยิ้มอยู่บนเตียง เทนนิสก้าวขาไม่ออกเมื่อเห็นสายตาที่อีกฝ่ายมองมอง

“พี่มาชวนไปกินข้าว”คนพูดนั่งบนเตียงมองคนเกิดอาการตกประหม่า ทำอะไรไม่ถูก

“ค..ครับ”ยังไม่ชิน ไม่รู้จะทำยังไง

จนคนมองรู้สึกสงสารเดินเข้าไปโอบกอดอีกฝ่ายไว้”ทำตัวเหมือนเดิมก็พอ ค่อยเป็นค่อยไป”เขาไม่อยากรีบเร่งอีกฝ่าย เทนนิส

หน้ามุ่ยคนอะไรเอะอะจะกอดก็กอด คนเขามีพ่อมีแม่นะ 

ทั้งสองนั่งกินข้าวเช้ามื้อแรกของการเปลี่ยนสถานะ ธีรภัทรชวนอีกฝ่ายคุยคลายความกังวล ดูเหมือนจะได้ผลเทนนิสลืมไปชั่ว

ขณะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม บรรยากาศแบบเดิมๆกลับมาแล้ว

“เหมือนคู่แต่งงานใหม่เลย”

คำพูดของธีรภัทรทำให้คนที่กำลังกินอย่างอร่อยเกือบสำลัก“เหมือนที่ไหนปกติก็เป็นอย่างนี้ไม่ใช่รึไง”ไม่มีอะไรเปลี่ยนหรือ

แปลกไปซะหน่อย

“เรารู้สึกยังไงกับพี่บ้าง เคยชอบพี่บ้างไหม”คนถามเท้าแขนมองคนนั่งตรงข้าม อยากรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกกับเขายังไง ที่แน่แน่ไม่ได้

รังเกียจและน่าชอบเขาอยู่บ้าง

“ไม่รู้เหมือนกัน เรื่องแบบนี้มันตอบกันได้ง่ายๆที่ไหน”

“ไม่ต้องทำหน้าเครียดเหมือนกำลังสัมภาษณ์เข้าทำงาน”

เขาว่ามันเครียดกว่านั้นเยอะ เพราะสัมภาษณ์งานไม่ผ่านยังไปสมัครที่อื่นได้ แต่เรื่องความรักมันไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถมา

แทนที่ใครได้“แล้วคนเป็นแฟนกันต้องทำยังไง”ถามคนที่น่าจะตอบคำตอบนี้ได้ดี

“ไม่ต้องทำอะไรมาก รักพี่ ห่วงพี่ หวงพี่ คิดถึงพี่ให้มากๆก็พอ”ตอบแล้วยิ้มอย่างพอใจ แค่มีความตรงหน้าอยู่ด้วยกันแค่นี้เขาก็

พอใจแล้ว

“อ้อ แล้วถ้ามีคนเข้ามายุ่งผมสามารถบอกเขาได้ไหมว่าพี่เป็นแฟนผม”ถามไปแล้วดูท่าทางคนตรงหน้า จะตอบยังไง

“ไม่มีปัญหา ออกจะดีใจด้วยซ้ำไป”ตอนนี้อีกฝ่ายยังไม่เชื่อความรู้สึกที่เขามีให้ ที่ทำได้คือต้องแสดงออกเท่านั้น เขายิ้มให้คนที่

นั่งนิ่งมองตรงมาหาเขาเหมือนต้องการมองให้ทะลุถึงหัวใจ


   กลับมาถึงบ้านตอนสาย เทนนิสทำงานบ้านเหมือนทุกครั้งแต่ครั้งนี้มีแขก นั่งทำงานอยู่หน้าโทรทัศน์เงียบๆ เขาทำความ

สะอาดบ้านไปด้วย อดเหลือบมองคนขยันไปด้วยไม่ได้ ที่เขารู้สึกดีกับอีกฝ่ายไม่รู้เป็นเพราะความใกล้ชินความเคยชินหรือเปล่า

ถ้าห่างกันไปแล้วความรู้สึกจะเปลี่ยนแปลงไปรึเปล่า เทนนิสวางเครื่องดื่มเย็นๆวางไว้บนโต๊ะให้คนขยันให้พักบ้างเห็นนั่งทำหน้า

เครียดมาหลายชั่วโมงแล้ว

“ทำงานทั้งวันพักบ้างนะครับ”นั่งลงข้างๆ มองคนที่ทำหน้าเครียด จ้องหน้าจอสี่เหลี่ยม หน้าตาแบบนี้สิที่เขาเห็นบ่อยๆ ไม่ค่อยชิน

กับอีกเวอร์ชั่นที่เจอเมื่อคืน แต่ก็ให้ความรู้สึกไปอีกแบบ

คนตัวโตเลิกสนใจงานหันมาสนใจเครื่องดื่มเย็นๆ กับคนที่นั่งข้างๆ ตามเนื้อตัวมีฝุ่นเกาะอยู่ ไรผมชื้นไปด้วยเหงื่อ“ดีเหมือนกัน

ขอบใจนะ”ไม่อยากกับไปนั่งทำงานที่บ้านคนเดียว และอยากรู้ด้วยว่าช่วงวันหยุดอีกฝ่ายทำอะไรบ้าง”เราก็พักบ้างกลับมาเห็นทำ

โน่นทำนี่ไม่หยุดเลย จนหน้ามอมแมมเหมือนกัน”เขาเอนหลังพิงโซฟา มองอีกฝ่ายด้วยสายตาพราว ยืนมือไปเช็ดคราบฝุ่นที่ติด

อยู่บนแก้มใสเบาๆ แก้มนี้เขาแอบขโมยหอมแล้วเมื่อคืนทั้งนุ่มทั้งหอมเหมือนที่เคยคิดไว้จริงๆ

เทนนิสยิ้มเขินๆให้อีกฝ่าย“อย่าเข้าใกล้ผม ผมมีแต่เหงื่อเหม็นด้วย”เขาดันคนที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ออก กวาดบ้าน ทำโน่นทำนี่

ไม่มีอะไรมากทำเป็นประจำจนชินแล้ว อีกอย่างทำแค่สัปดาห์ละครั้ง อยู่กับพี่ธีร์เขาก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากทำกับข้าว

”มีงานด่วนหรอครับเห็นนั่งทำงานตั้งนานแล้ว”ถามเผื่อว่าจะมีอะไรที่เขาพอจะช่วยได้

ปิดโน้ตบุ๊คลง แล้วหันมาสนใจอีกฝ่าย“ไม่หรอก ก็เรื่อยๆ เช็คโน่นดูนี่”

“วันนี้เด็กๆไม่มาหรอครับ”ถามหาเด็กๆที่ปกติจะชอบมาเล่นด้วยบ่อยๆ

“ใช่ ไม่มีใครอยู่บ้านเลย”ตอบด้วยน้ำเสียงเนือยๆ

“อยากงีบหน่อยไหมครับ เดี๋ยวผมเอาหมอนมาให้”เห็นหน้าตาอีกฝ่ายเหมือนจะเพลีย

“นอนด้วยกันไหม”คนถามยิ้มหวานยื่นมือมากุมมือขาวไว้ เป็นคำถามง่ายๆแต่ก็ให้คนฟังต้องเขินหน้าแดง

นั่นไงโผล่ออกมาอีกแล้วพี่ธีร์เวอร์ชั่นใหม่ เทนนิสปฏิเสธบอกว่ายังเหลืองานต้องทำอีก อีกฝ่ายบอกเอาไว้พรุ่งนี้ค่อยทำต่อ เขา

บอกอีกว่าทำเสร็จแล้วจะมานอนเป็นเพื่อน ธีรภัทรถึงได้ยอมอย่างว่าง่าย เขากลับไปรีดเสื้อผ้าที่ยังค้างอยู่ ส่วนด้านนอกสายฝนก็

โปรยปรายลงมาไม่หยุด อากาศเย็นสบายทำให้เขารู้สึกง่วงไปด้วย รีดเสื้อผ้าเสร็จแล้ว เขาขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับลงมา

นั่งมองคนที่นอนหลับสบายอยู่บนที่นอนปิคนิค เขามองออกข้างนอกมองสายฝนที่ยังโปรยปรายไม่หยุด ต้นไม้ที่ถูกน้ำฝนเป็นสี

เขียวสวย คนนอนหลับลืมตาขึ้นเพราะกลิ่นหอม เขายิ้มให้อีกฝ่ายขยับให้นอนลงข้างๆทั้งสองนอนฟังเสียงน้ำฝนหยดลงบน

หลังคาแล้วหลับไปด้วยกัน





***************************************************************************


 ช่วงนี้ฝนตกบ่อยดูแลสุขภาพด้วยน้า (คนแต่งก็เกือบลอยไปตามน้ำฝนแล้วเชียว)

โปรดติดตามตอนต่อไป


ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ชะนีจะทำอะไรเทนนิส :katai1: :katai1: :katai1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ชมรดา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ขอบคุณค่ะ  ยาวมากกกก  ชอบจ้า
เป็นแฟนกันแล้วจ้า  พี่ธีร์น้องเทนนิส 

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

ตอนที่ 14
[/size]

   มหาวิทยาลัยเปิดเรียนตามปกติได้หนึ่งสัปดาห์แล้ว ช่วงสัปดาห์แรกของการเปิดเรียนนักศึกษาหลายคนยังยุ่งวุ่นวายกับ

การ เพิ่ม ถอน ลด รายวิชาตามที่ประกาศมหาวิทยาลัยประกาศออกมา และทุกอย่างกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังเงียบเหงาไป

นานหลายเดือน เสียงเพลงประจำมหาวิทยาลัยแว่วมาตามเสียงตามสายเพื่อให้นักศึกษาน้องใหม่คุ้ยเคยกับบทเพลง นักศึกษา

น้องใหม่แต่งตัวถูกระเบียบติดป้ายชื่อเดินขึ้นห้องเรียนเตรียมตัวเรียนในชั่วโมงต่อไป


   ห้องเรียนที่เคยเงียบเหงามานานหลายเดือนกลับมาคึกคักเหมือนเดิม หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เจอกันครั้งที่แล้ว

พวกเขายังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ตอนนี้กลายเป็นนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายและอีกไม่ถึงปีพวกเขาจะจบการศึกษาไปเป็นน้องใหม่ใน

ชีวิตการทำงาน วันแรกของการกลับมาเรียนหลังได้ใช้ประสบการณ์ฝึกงานมาหลายเดือน หลายคนตื่นแต่เช้าเข้ามานั่งรออาจารย์

ในห้องเรียนทั้งที่เมื่อก่อนเข้าเรียนพร้อมอาจารย์ ทุกคนเติบโตขึ้นมากจากการที่ได้ออกไปเรียนรู้ประสบการณ์ด้วยตนเอง เสียง

หัวเราะพูดคุยจากนักศึกษาจับกลุ่มคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่แต่ละคนไปประสบพบเจอช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน ท้ายที่สุดของบท

สนทนาของแต่ละคนก็คือคิดถึงเพื่อนคิดถึงชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย

   อาจารย์ประจำวิชาเข้าก่อนเวลาเล็กน้อย พรนำพาเริ่มจากการแนะนำตัวเบื้องต้นและแนะนำเนื้อหาวิชาเศรษกิจไทย ที่

นักศึกษาจะได้เรียน เธอแจกเอกสารเกี่ยวกับเนื้อหาที่ต้องเรียน เกณฑ์การทดสอบ เก็บคะแนน และการเข้าเรียน นักศึกษาทุกคน

เงียบตั้งใจฟัง ยกมือขึ้นถามบ้างในหัวข้อที่สงสัย ส่วนหนังสือที่ใช้ประกอบการเรียนเธอเรียกให้หัวหน้าและตัวแทนอีกสองสาม

คนไปเอามาจากโต๊ะของเธอมาแจกเพื่อนๆ เป็นวันแรกของการเริ่มเรียนวิชานี้แต่นักศึกษามาครบทุกคนตามใบรายชื่อที่ลง

ทะเบียนกับทางมหาวิทยาลัย นั่นทำให้เธอดีใจ หัวหน้าห้องและตัวแทนกลับมาพร้อมกับหนังสือเล่มหนา ทุกคนลุกขึ้นจากที่ เข้า

แถวออกมารับหนังสือเรียนพร้อมลงชื่อเป็นหลักฐาน ได้หนังสือเรียนเศรษฐกิจไทยไปแล้วหลายคนเปิดดูข้างใน

“เพิ่งรู้ว่ามาเรียนหนังสือนี่มันดีก็วันนี้”เหรียญสิบเปิดดูเนื้อหาในหนังสือเรียนแล้วบ่นขึ้นมาเบาๆ

“ฝึกงานไม่สนุกรึไง ได้ยินข่าวว่ามีสาวๆมาชอบเยอะเลยนิ”ชายหนุ่มตัวเล็กอดแหย่เพื่อนไม่ได้หลังได้ยินจากเอื้อมเล่าให้ฟัง

“ใครบอก”พูดแล้วหันไปมองเพื่อนอีกคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เกิดอาการตั้งใจอ่านหนังสือเรียนใหม่อย่างร้อนตัว”อย่าไปเชื่อไอ้

เอื้อมให้มาก”

“แล้วเป็นไงไปฝึกงานหลายเดือนแล้วไม่เคยเห็นพวกแกสองคนเขียนบ่นอะไรเลย”หนุ่มแว่นเงยหน้าจากหนังสือถามเพื่อนทั้ง

สองที่ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องอะไรให้หนักใจ

“ก็ไม่ต่างจากคนอื่นหรอก แค่คนบ่นไปหมดแล้วก็เลยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอีก อีกอย่างเอาเรื่องที่เกิดในที่ทำงานไปเล่าให้คนอื่นฟัง

มันดูไม่ดีเท่าไหร่”

เพื่อนๆพยักหน้ารับรู้กับคำพูดของเทนนิส ทุกคนได้หนังสือเรียนครบ อาจารย์ปล่อยนักศึกษาที่คุยกันให้หายคิดถึง

หัวหน้าห้องจึงถือโอกาสประกาศเรื่อง กิจกรรมรับน้อง ให้ทุกคนให้ความร่วมมือแต่งงกายถูกระเบียบเป็นตัวอย่างให้น้องๆ ใครที่

อยากเจอหน้าน้องวันนี้ตอนเย็นจะมีกิจกรรมเข้าห้องเชียร์ไปส่องดูได้ ส่วนกิจกรรมอื่นตามกำหนดการที่ทางคณะประกาศ

หมดเวลาคาบแรกของวัน ทุกคนทยอยออกจากห้องเตรียมตัวเข้าเรียนในชั่วโมงต่อไป เหรียญสิบมองดูรุ่นน้องที่เดินตามกันเป็น

กลุ่ม พูดคุย หัวเราะ ยอกล้อ เข้าห้องเรียน รู้สึกดีกว่าที่นั่งทำงานหน้าจอเดินส่งเอกสารตามโต๊ะมีคนทำหน้าเครียด หน้าบึง
 เสียงดุ

บรรยากาศในที่ทำงานก็เงียบจนง่วงนอน ผิดกับที่นี่ลิบลับ คิดแล้วก็ไม่อยากกับฝึกงานแล้ว เขาเลิกคิดแล้วเดินตามเพื่อนเข้าห้องเรียน

หมดเวลาเรียนช่วงเช้าเป็นเวลาบ่ายโมง โรงอาหารยังเต็มไปด้วยนักศึกษาเดินขวักไขว่เหมือนทุกวัน หลายคนเห็นแล้วแทนที่จะ

บ่นว่าคนเยอะแต่กลับพูดออกมาว่าอย่างนี้สิชีวิตนักศึกษา เสียงดังไปหน่อยดีกว่าไปนั่งกินเงียบๆกับเพื่อนร่วมงานไม่กี่คน เวลา

กินก็ต้องรักษามรรยาท กรงใจเพื่อน กลัวเจ้านาย เทนนิสพยักหน้าเห็นด้วยไม่มีที่ไหนกับข้าวอร่อยเท่าที่คณะอีกแล้ว ไม่มีกับข้าว

ถูกกว่า ได้เยอะกว่าที่คณะอีกแล้ว เป็นครั้งแรกที่เขาไม่รู้สึกรำคาญเสียงดังในโรงอาหาร นี่ขนาดยังไม่จบไปเขายังเป็นได้ขนาดนี้

ถ้าจบไปไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง  เดินวนหาที่นั่งจนเจอที่ว่าง พวกเขาขึ้นเรียนอีกทีตอนบ่ายสามมีเวลาพักสองชั่วโมงจึงไม่รีบมาก
นัก เทนนิสนั่งเฝ้าโต๊ะให้เพื่อนไปซื้อกับข้าวมาให้ นั่งไปสักพักโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาเดาได้ไม่ยากว่าเป็นใคร เมื่อเช้าก็มาส่งแล้ว

นี่ยังจะโทรมาหาอีก

“ครับ”รีบรับโทรศัพท์ไม่ยากให้ปลายสายคอยนาน ปลายสายถามกลับมาเป็นยังไงบ้างเปิดเรียนคิดถึงคนที่ทำงานรึเปล่า เขายิ้ม

หันซ้ายหันขวาแล้วตอบไปว่าคิดถึง ปลายสายบอกว่าคิดถึงเหมือนกัน คนฟังอดยิ้มกับคำพูดง่ายๆไม่ได้ บอกปลายสายให้คุย

ผ่านออนไลน์จะได้ไม่เปลืองและบอกปลายสายว่าตั้งใจทำงาน วางสายไปแล้วเขากดเข้าไปในโปรแกรมคุยออนไลน์ รู้สึกว่าไม่

ได้เจอ ยิ่งรู้สึกคิดถึงทั้งที่อยู่ไม่ห่างกันกี่สิบกิโล

   ทุกคนกลับที่โต๊ะมาพร้อม ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว และน้ำปั่น วีร์หยิบนมปั่นเจ้าประจำขึ้นมาดูดอย่างคิดถึง กินทุกวันก็รู้สึก

เบื่อ นานทีได้กินก็รู้สึกคิดถึง”ยังอร่อยเหมือนเดิม”สมกับที่คิดถึง ถ้าเจ้าของร้านน้ำปั่นได้ยินคงจะดีใจ

   นักศึกษาน้องใหม่นั่งกันเป็นกลุ่มมองดูรุ่นพี่ในคณะ จับกลุ่มกินขนมหลังกินข้าวเสร็จสายตาก็สอดสายมองโต๊ะรอบๆ ผู้หญิง

หลายคนหันมามองโต๊ะที่เทนนิสและเพื่อนๆนั่งอยู่

“นี่แกนั่นรุ่นพี่คณะเรารึเปล่าวะ”น้องใหม่คนหนึ่งชี้ไปที่โต๊ะอยู่ไม่ไกลมีรุ่นพี่นั่งกินข้าวกันอยู่

น้องใหม่คนที่สองชะเง้อมองตามปลายนิ้วที่เพื่อนชี้ไป“อือ ไม่แน่ใจผูกไทด์มหา’ลัยแต่ไม่เคยเห็นที่โรงอาหารมาก่อน”

“ไหนคนไหน”น้องใหม่คนที่สามหยิบผลไม้ขึ้นมากินแล้วถามเพื่อน

“มีแต่คนหล่อ สเปคฉันทั้งนั้นเลย”น้องใหม่คนที่สี่เห็นรุ่นพี่ที่เพื่อนบอกมีแต่หน้าตาทั้งนั้นเลย

“พี่เขาอยู่คณะเราจริงหรอ”น้องใหม่คนที่ห้า ถ้าเป็นรุ่นพี่ในคณะจริงเปิดเรียนมาตั้งสัปดาห์ หน้าตาดีอย่างทำพวกเธอไม่เคยเห็นมาก่อน

“ว่าไงสาวๆคุยอะไรกันอยู่”ขณะที่สาวๆน้องใหม่กำลังคุยกันอยู่รุ่นพี่ก็เดินเข้าทัก

“สวัสดีค่ะพี่เติม/พี่อาร์ม/พี่เก้า”พวกเธอยกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่ทั้งสามคนพร้อมกัน และเขยิบที่ว่างให้พี่ๆนั่ง

“พวกพี่มาพอดี พวกหนูมีอะไรจะถาม พี่ๆที่นั่งหล่ออยู่โต๊ะนั้นเป็นใครคะ อยู่คณะเรารึเปล่า”

“ไหน ในคณะจะมีใครหล่อกว่าพวกพี่ไม่มีอีกแล้ว”เติมมองไปทิศทางที่สาวๆชี้”...อ้อพวกพี่เทนนิส”ไม่แปลกใจเลยที่เป็นกลุ่มนั้น

“ใครหรอพี่”สาวๆน้องใหม่ถามเกือบพร้อมกัน ด้วยความสนใจอยากรู้จัก

“รุ่นพี่ปี 4 คณะเรานี่แหล่ะ แต่อย่าไปยุ่งกับเขาเลย”เบรกความคิดของสาวไว้เพียงเท่านี้ ไม่อยากให้ฝันไปมากกว่านี้

“ทำไมพี่ พี่เขาเป็นคนไม่ดีหรอ”น้องใหม่คนที่หนึ่งขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ที่บอกว่าอย่าไปยุ่งพี่เขาเป็นมาเฟียหรือโจรปล้นหัวใจสาวๆรึ
ไง

“เปล่า ปล่อยให้พวกพี่อยู่ที่ดีๆของเขาอย่าไปดึงพวกพี่เขาลงมาเลย”

“อ้าว พี่เติมพูดอย่างนี้ได้ไง”สาวๆทำหน้ามุ่ยไม่ชอบใจกับคำพูดของรุ่นพี่ขี้เล่น

“ล้อเล่นครับสาวๆ”

“พี่เติมคนที่หล่อใสออกเกาหลีหน่อยอ่ะ นั่งฝั่งโน้นพี่เขาชื่ออะไร”น้องใหม่คนที่สามถามชื่อรุ่นพี่ที่สนใจ

“พี่เทนนิส เล่นของสูงนะเรา ของรักของหวงของคณะเลยนะนั่น ตัดใจเถอะน้อง สวย น่ารัก กว่าน้องก็อกหักมาแล้ว”

“ทำไมพี่”

“ก็ไม่ทำไม พี่เขาหล่อเรียนเก่ง นิสัยดี ฐานะดี”ชายหนุ่มหยุดเว้นวรรคให้สาวๆได้เพ้อแล้วกระชากความคิดสาวๆลงเหว”แต่พี่เขา

เป็นเกย์”

“เฮ้ยทำไมพูดอย่างนี้”

“ใช่ ทำไมพูดจาใส่ร้ายกันแบบนี้”

“พี่รู้ได้ไง”

“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เขาพูดต่อๆกันมา นั่นเห็นคนตัวเล็กๆน่ารักไหม คนนั้นแฟนพี่เขา”

ทุกคนมองไปชายหนุ่มตัวเล็กแทบเป็นตาเดียวกัน“ไม่จริงมั้ง มั่วแล้ว มีคนปล่อยข่าวแกล้งรึเปล่า”

“นี่พวกน้องครับเป็นอะไรกับพี่เขาครับ ทำไมถึงช่วยออกตัวแทนพี่เขาจริง พี่เขาไม่เห็นร้อนตัวเลย ก็บอกแล้วไงว่าเขาพูดต่อๆกัน

มา แต่พวกสาวๆในคณะมีแต่คนเชียร์ให้สองคนนี้เป็นแฟนกันจริง พี่ก็อีกคน”เขายิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา

“ทำไมอะพี่”

“ถ้าหล่อ เพอร์เฟคอยู่ในคณะสาวๆที่ไหนจะมองพวกพี่วะ”อาร์มเฉลยให้น้องๆเข้าใจหัวอกของคนไม่มีหญิงแลเหลียว

“โฮ ไม่คุยกับพวกพี่แล้ว”สาวๆโห่ผิดหวังกับคำพูดของรุ่นพี่

“เออ พี่เขาสองคนก็ดูเข้ากันดี ดูเหมาะกันยังไม่รู้”น้องใหม่คนที่ห้ามองรุ่นพี่ทั้งสองคุยกันยิ้มให้กันดูแล้ว จิ้นมาก

“นั่น ๆ พวกพี่เขายิ้มมานี้เหมือนรู้ว่าเรามองอยู่เลย หล่อน่ารัก”กลุ่มรุ่นพี่ที่พวกเธอมองอยู่ดีดีก็หันมาส่งยิ้มให้สาวๆแทบใจละลาย

“น้องๆครับ เล่นมองพี่เขาทั้งโต๊ะขนาดนี้ไม่รู้ก็ควายแล้วครับ”เติมพูดเสร็จ สาวๆทั้งกลุ่มก็หันขวับมามองเขาทันที



   คนที่นั่งทำงานในห้องทำงานทั้งวันใบหน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาบ้างหลังจากได้ยินเสียงนุ่มจากปลายสาย วางสายไปแล้วแต่

หัวใจมันลอยไปหาอีกคนนี่ซิ ไม่มีอารมณ์อยากทำงานเลย นั่งทำงานทั้งวันรู้สึกว่าวันนี้ทำไมถึงผ่านไปอย่างช้าๆ ทั้งที่อยากให้มัน

ถึงตอนเย็นเร็วๆ

วันนี้เขามีโอกาสได้ไปส่งอีกฝ่ายที่หน้าคณะคิดไปแล้วเหมือนเสี่ยแก่ๆรับเลี้ยงเด็กนักศึกษายังไงไม่รู้ เขามองตามแผ่นหลังที่เดิน

ลงจากรถหลังจากขอบคุณที่มาส่งถ้าจะให้ดีเขาอยากให้เปลี่ยนเป็นหอมแก้มสักฟอด มีสาวๆมองตามคนเขาเยอะเลย เคยได้ยิน

น้องสาวเล่าให้ฟังหลายครั้งว่าคนของเขาเสน่ห์แรง มาเห็นกับตาก็อดหวงไม่ได้

ช่วงเช้าของวันนี้เขาประชุมเกี่ยวกับการวางแผนเปิดตัวโฆษณาตัวที่สอง เพื่อเริ่มกิจกรรมร่วมสนุกกิจกรรมที่สอง ก่อนกิจกรรมที่

หนึ่งจะปิดลง จากนั้นเป็นประชุมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวประจำปีของบริษัท ดูเหมือนหลายคนกำลังรอช่วงเวลานี้อยู่ ส่วนสถานที่

ท่องเที่ยวพนักงานเข้าไปร่วมโหวตได้ในเว็บไซด์ของบริษัท และรวมไปถึงไปเรื่องการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งขึ้นเงินเดือนในช่วง

ปลายปีที่จะมาถึง



ตึงตะตึงตึง ตึงตะตึงตึง เสียงกลองตีเป็นจังหวะพร้อมด้วยเสียงร้องเพลงปรบมือเป็นจังหวะในห้องห้องสโลปขนาดใหญ่สามารถจุ

นักศึกษาน้องใหม่ได้หลายร้อยคนที่นั่งแยกตามสาขาวิชา ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นสบายแต่บรรยากาศไม่ได้ชวนให้

รู้สึกอย่างนั้นเลย เมื่ออยู่ดีๆประธานเชียร์จอมเผด็จก็เดินขึ้นไปบนเวทีสั่งให้น้องใหม่ทุกคนหยุดร้อง เพราะดูเหมือนบางคนไม่

ตั้งใจร้องเพลง ร้องไม่พร้อมเพรียงกันและดูเหมือนจะจำเนื้อเพลงไม่ค่อยได้ ทั้งที่ได้สมุดเนื้อเพลงไปแล้ว ประธานหน้านิ่งบอก

ให้พี่เลี้ยงน้องใหม่สอนร้องเพลงถ้าวันนี้ร้องเพลงที่สอนไม่ได้พี่ๆจะโดนลงโทษ ข้างหน้าของทุกคนคือเวทีกว้างประธานเชียร์ยืน

เด่นสั่งด้วยน้ำเสียงเข้มใบหน้านิ่งมองกวาดสายตามองนักศึกษาน้องใหม่ นักศึกษาน้องใหม่ชายหลายคนเห็นแล้วหมั่นไส้อยาก

วิ่งลงไปต่อยปากนั่นดูสักครั้ง เข้าใจว่าเป็นการแสดงเป็นกิจกรรมหนึ่งของคณะ สาวๆหลายคนมองประธานด้วยสายตาชื่นชม ใน

ใจพวกเธอคิดว่าพี่ประธานนี่หล่อ เข้ม ดุ

ด่าพอหอมปากหอมคอประธารเชียร์หลีกทางให้พี่เลี้ยงน้องพาน้องๆร้องเพลงตามเดิม แต่เสียงดังขึ้น พร้อมเพรียงขึ้น ส่วนคนที่

ยืนดูเหตุการณ์นอกห้องกลั้นหัวเราะแทบไม่ได้ที่เห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันวางมาด พูดจากวนส่วนล่าง

“พี่เทนนิส พี่วีร์ พี่เอื้อม พี่เหรียญสิบ สวัสดีค่ะ มาดูน้องๆหรอคะ”หนึ่งในพี่เลี้ยงน้องใหม่เดินเข้ารับของจากรุ่นพี่ที่แวะซื้อขนมมาฝากน้องๆ

“อยากมาย้อนรอยว่าเมื่อก่อนตอนปีหนึ่งทำอะไรบ้าง”เสียงเพลงประจำคณะดังก้องอยู่ในห้อง แว่วออกมาข้างนอก

“แล้วนี่อีกนานไหมถึงจะรู้ว่าใครเป็นพี่รหัส”เหรียญสิบอยากรู้ว่าสายรหัสจะผู้หญิงหรือผู้ชาย

“อีกไม่นานค่ะ”

ยืนดูน้องทำกิจกรรมไม่นานโทรศัพท์ของวีร์ดังขึ้นเขาตัวกลับก่อน เอื้อมกับเหรียญก็กลับก่อน เทนนิสมานั่งรอคนที่บอกจะมารับ

หน้าคณะหยิบหนังสืออ่านเล่นออกมารอเวลา ให้สาวๆที่นั่งเล่นจับกลุ่มคุยกันนั่งมองกันเป็นบุญตา สักพักคนที่รอก็มารับกลับ

พรุ่งนี้วันหยุดธีรภัทรพาอีกฝ่ายกลับบ้าน ก่อนกลับแวะซื้ออะไรเข้าไปกิน เพราะดูจากตารางเรียนของอีกฝ่ายแล้วไม่อยากให้

เหนื่อยทำกับข้าว เทนนิสเห็นด้วยเท่าที่จำได้ในตู้เย็นไม่มีสดอยู่เลย ทั้งสองจึงตกลงแวะตลาดนัดก่อนกลับบ้าน

ขับรถมาไม่นานก็ถึงตลาดนัดตอนเย็น วันนี้ฝนไม่ตกพ่อค้าแม่ค้าตั้งแผงขายของเต็มตลาด ท้องเริ่มมืดแสงสว่างจากหลอดนีออน

ในตลาดก็เปิดขึ้นจนสว่าง ช่วงเย็นวันศุกร์กลับจากทำงานผู้คนออกมาเดินซื้อของ ซื้อกับข้าว ตลาดจึงคึกคักกว่าทุกวัน ทั้งสอง

เดินเข้าไปในตลาดมองหาของกิน เดินไปหยุดซื้อไปเรื่อยๆ เทนนิสหันมองดูร้านขายกับข้าว แต่ละร้านมีแต่กับข้าวน่ากินทั้งนั้น

นานครั้งได้เปลี่ยนบรรยากาศออกมาเดินเที่ยวตลาดนัดก็ดี เดินดูโน่นนี่ซื้อของกับข้าวไปหลายอย่างสักพักท้องก็เริ่มหิว เขาหยุด

ซื้อลูกชิ้นปิ้งแล้วหันไปถามคนข้างๆที่ช่วยถือถุงกับข้าวเต็มไม้เต็มมือว่ากินลูกชิ้นไหม อีกฝ่ายไม่ปฏิเสธติดว่ามีของเต็มไม้เต็มมือ

อยากให้อีกฝ่ายป้อน เทนนิสก็ป้อนว่าง่าย ธีรภัทรพอใจที่อีกฝ่ายยอมป้อน

กลับมาถึงบ้านมองเข้าไปข้างในเหมือนจะไม่ใครอยู่ในบ้าน บ้านปิดไฟเงียบ มีแค่ไฟหน้าบ้านเปิดอยู่ ธีรภัทรเลี้ยวรถเข้าจอดใน

บ้าน มีแค่สายไหมวิ่งออกมารับ เข้าขนฟูเห็นเจ้านายกับพี่ชายก็ดีใจ ธีรภัทรหยิบกระเป๋าและของออกมาจากรถ เดินตามหลัง

เทนนิสไปที่บ้าน


เทนนิสเอาของไปเก็บในครัวแล้วพาแขกขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกห้อง ส่วนเขาใช้ห้องน้ำอีกห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า อีก

คนยังอาบน้ำยังไม่เสร็จ เขาลงมาข้างล่างอุ่นกับข้าวรอ ธีรภัทรอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยเดินตามเจ้าของบ้านลงมาได้ยินเสียงออกมา

จากครัว เขาเดินตามเสียงเข้าไปเห็นเทนนิสอุ่นกับข้าวเสร็จแล้ว เขาอดคิดไม่ได้ว่าเหมือนคู่แต่งใหม่ภรรยาทำกับข้าวให้สามีกิน

หลังจากกลับมาทำงาน เขาช่วยอีกฝ่ายยกกับข้าวออกมาวางที่โต๊ะจนเสร็จ

“ไปเรียนวันนี้เป็นยังไงบ้าง”นั่งกินข้าวไปด้วยถามอีกฝ่ายไปด้วย

“ถามเหมือนพ่อถามลูกไปเรียนวันแรกเลย”ตักกับข้าวให้คนถามอย่างเป็นห่วง หรือหวงไม่แน่ใจ

“เปลี่ยนเป็นแฟนไม่ได้หรอ พ่อแก่เกินไป”

“ฮึ ฮึ ดีครับ เพื่อนแต่ละคนคุยไม่หยุด วันนี้ยังไม่ได้เรียนอะไรมาก ส่วนน้องใหม่ก็น่ารักเยอะแยะเลย”

ธีรภัทรที่นั่งฟังอย่างตั้งใจ ใบหน้าบึ้งลงแล้วพูดกับอีกฝ่ายว่า“น่ารักก็ช่างเขา แต่อย่ามายุ่งกับคนของพี่ก็แล้วกัน”

คนฟังรู้สึกขนลุกกับน้ำเสียงเรียบแต่ติดดุนั้นไม่ได้”ขี้หึง ขี้หวง”คบกันไม่นานก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง

“แฟนพี่หล่อไง ก็ต้องห่วง หวง เป็นธรรมดา”มีแฟนหน้าตาดีใครไม่หวงก็บ้าแล้ว

“คร๊าบบบ แล้ววันนี้ที่บริษัทเป็นยังไงบ้างครับ ผมกับวีร์ไม่อยู่ช่วยงานมีใครบ่นคิดถึงไหมครับ”

“ไม่รู้หรอกใครบ่นคิดถึง แต่พี่คิดถึงเราทั้งวันเลย”แทบไม่เป็นอันทำงาน เขาส่งยิ้มหวานให้คนตรงหน้า

อืม ไม่บอกก็พอจะรู้เล่นโทรหาบ่อยขนาด ส่งข้อความคุยออนไลน์มาอีก เมื่อก่อนไม่เคยคิดว่าจะเห็นอีกด้านของอีกฝ่าย ผู้ชายที่

ดูเงียบๆทำหน้าหน้าตาไร้อารมณ์ แต่พอรู้จักกับเป็นคนดีคนหนึ่ง ใจดี จริงจังกับงาน มีความรับผิดชอบ และตอนนี้ก็เป็นผู้ชาย

อบอุ่น เอาใจเก่ง ปากหวาน และขี้หวง

   หลังกินข้าวอิ่มแล้วเจ้าของบ้านชวนแขกนั่งย่อยโดยการดูหนังแอ็คชั่นไซไฟที่เพิ่งลาโรงภาพยนตร์เมื่อไม่นานมานี้ สายฝน

ข้างนอกเริ่มโปรยปรายลงมาทำให้อากาศเย็นสบาย

“ประชุมวันนี้เป็นยังไงบ้างครับ ที่ว่าจะท่องเที่ยวประจำปี”เห็นพี่ๆที่ทำงานพูดกันใหญ่เลยว่าปีนี้จะเที่ยวทะเล

“ที่ประชุมเห็นด้วย สถานที่เวลาจะแจ้งอีกที และปีนี้จะไปมอบของบริจาคพอดีมีคนเสนอมา”

“แล้วอย่างนี้พวกผมจะได้ไปด้วยไหม”ถามอย่างความมีหวัง 

“อืม ให้ไปด้วยดีไหมน้า ถ้าทำตัวน่ารักจะให้ไปด้วย”คนตัวโตฟังน้ำเสียงอีกฝ่ายก็รู้ว่าอยากไปด้วย แต่เขาจะเที่ยวกับอีกฝ่ายแค่

สองคนมากกว่า

“ถ้าอย่างนั้นผมคงไม่ได้ไป ทำตัวหล่อว่าไปอย่าง”

พูดกวนไม่พอ ยังยักคิ้วใส่อีก แหมพูดจาอย่างนี้มันน่าจริงๆ”พี่จูบได้ไหม”ธีรภัทรถามเสียงนุ่ม จ้องใบหน้าที่เริ่มแดง ดวงตาสีเข้ม

หลบไม่กล้ามองคนถาม เขาถืออีกฝ่ายเงียบเป็นคำอนุญาต ทาบปากลงริมฝีปากนุ่ม

“เฮ้ย”เทนนิสร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆก็ถูกกระชากไปข้างด้านหลังอย่างแรง จนไปอยู่ในอ้อมกอดใครสักคน จากนั้นก็มีเสียงใคร

ถูกชก”พลั๊วะ”และเสียงร้องตามมา“โอ๊ย”

“แกทำอะไรน้องฉัน”ปืนยืนชี้หน้าผู้ชายที่เขาชกไปเมื่อครู่ วันนี้ว่างไม่มีธุระที่ไหนเขาเลยตรงมาหาน้องชายที่บ้าน เปิดประตูเข้า
มาใครจะรู้ว่าจะเจอผู้ชายที่ไหนกำลังจูบน้องชายของเขาอยู่ ถ้าไม่เข้ามาเห็นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถูกชกไปแค่หมัดเดียวมันยัง

ไม่พอหรอก“เทนนิสไอ้หมอนี่เป็นใคร”หันมาถามน้องชายทียืนเงียบอยู่

คนที่กำลังยืนงงอยู่หันหน้าไปมองพี่ชายที่ทำหน้าดุจนน่ากลัว เขาไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของพี่ชายเลยสักครั้ง แล้วจะให้เขา

ตอบว่าไง”ฟ..แฟนผมเอง”เขาตอบเสียงเบาไม่กล้ามองหน้าพี่ชาย

“หะ”คนถามทำหน้าตกใจหันมามองหน้าน้องชายอีกครั้ง นี่เขาหูฝาดหรือเสียงฝนข้างนอกมันดังจนได้ยินเพี้ยนไป

“แฟนผมเอง”ยืนยันคำตอบเดิม

“แฟน นั่นมันผู้ชายไม่ใช่รึไง”แถมตัวโตอีกตั้งหาก นี่น้องชายเขาเพี้ยนไปแล้วหรือถูกไอ้หมอนั่นมันหลอกเอา

“แล้วคุณเป็นใครมายุ่งอะไรกับแฟนผม”คนที่เงียบอยู่นานจับมุมปากที่ถูกชกเข้าเต็มแรง เขายังอยู่ในอาการงง เพราะอยู่ดีดีก็ถูก

ชกจนรู้สึกมึนนิดๆ เขาจ้องผู้ชายที่อยู่ๆก็เข้ามาโวยวาย อย่างไม่ชอบขี้หน้า

“พี่ปืน พี่ชายผมเอง”เทนนิสบอกคนที่ทำหน้านิ่งไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ“ส่วนนั่นพี่ธีร์พี่ชายน้องธาร”เขาพูดเสียงเบาลงจนได้ยิน
แค่สองคน

ปืนหันหน้ามาน้องชายถามอีกครั้งว่าใช่อย่างที่เข้าใจรึเปล่า เทนนิสรีบยักหน้ายืนยันว่าใช่อย่างที่คิด

“สวัสดีครับ”คนที่อารมณ์ร้อนเมื่อครู่ยกไหว้คนที่ถูกชกหน้าตาเฉย เล่นเอาธีรภัทรยิ่งงงไปใหญ่ไม่รู้ว่าคนของเขาพูดอะไรแต่

สามารถทำให้อีกฝ่ายอารมณ์เย็นขึ้นมานิดหน่อย

“เป็นแฟนกัน คบกันมานานรึยังทำไมพี่เห็นรู้มาก่อน”เดี๋ยวนี้มีอะไรไม่บอกพี่ชายคนนี้เลย มันน่าน้อยใจยังไงไม่รู้

“สนใจด้วยหรอ”พูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ”รู้จักกันมาได้สักพักแล้ว แต่เพิ่งคบกันเป็นแฟนไม่นาน”

“ใช่คนที่บอกว่าไปพักด้วย เจ้านายเรานะหรอ”นี่นะหรอเจ้าของมันฝรั่งทะเล้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับสอง ได้ข่าวว่ามี

นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาร่วมลงไม่น้อยทีเดียว และบริษัทกำลังขยายตลาดไปลงทุนต่างประเทศ วันนี้เพิ่งได้เจอตัวจริงหล่อ

เหมือนที่เขาว่ากันจริงๆ ไม่คิดว่าจะยังหนุ่มนึกว่าแก่กว่าซะอีก ธารรพีก็ไม่เคยเล่าเรื่องพี่ชายคนนี้ให้ฟัง เคยแต่บอกว่าไปทำงาน

ช่วยพี่ชายช่วงปิดเทอม เขาที่เคยไปรับเธอหน้าบริษัทหลายครั้งก็ไม่เคยได้เจอ คงไม่ใช่ว่าเธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่หรอก
นะ

“อืม”

“เลิกกับเขาซะ คบกันแบบนี้มันคบกันได้ไม่นานหรอก อีกอย่างทางบ้านเขาก็รับเรื่องแบบนี้ไม่ได้หรอกเชื่อพี่”ใครมันจะรับเรื่อง

แบบนี้ได้ ที่นี่เป็นประเทศไทยสังคมยังไม่ได้เปิดกว้างเหมือนต่างชาติ

เฮ้ย!! พี่ภรรยาทำไมพูดจาแบบนี้ เขารักของเขาอยู่ๆจะบังคับให้น้องมาเลิกได้ไง ไม่เผด็จการไปหรอ“ผมว่าเรื่องนี้ให้ผมสองคน

เป็นคนตัดสินกันเองดีกว่า คุณเป็นคนนอก”เรื่องแบบนี้ใครจะไปยอม เขาอุส่าได้น้องมาแล้วเรื่องอะไรจะปล่อยไป

“ผมจะเชื่อว่าคุณจริงใจกับน้องผมได้แค่ไหน ใครจะการันตีว่าคุณว่าคุณจะไม่ทำให้น้องผมเสียใจ”

“ไม่มีใครการันตี มีแต่ผมคนเดียวที่พิสูจน์ความจริงใจกับน้องได้”เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แล้วหันไปมองอีกคนที่ยืนหน้าแดง

เห็นแล้วอยากจับมาหอมแก้มจริงๆ

“นั่นมันก็เรื่องของคุณ ยังไงผมก็ยังไม่เห็นด้วยที่จะให้คุณคบกับน้องผม”เลิกสนใจแล้วหันไปมองน้องชายสำรวจตามตัวไม่รู้ว่าถูก

ไอ้ผู้ชายบ้ากามทำอะไรรึไป”แล้วเขาทำอะไรเรารึเปล่า”

“เปล่า”

“ดีแล้ว ดึกแล้วขึ้นไปนอนได้แล้ว วันนี้พี่จะนอนด้วย ส่วนคุณนอนห้องรับแขกไปเดี๋ยวให้น้องเอาหมอนผ้าห่มลงมาให้”พูดเสร็จ

แล้วจูงมือน้องชายเดินขึ้นข้างบนไม่หันไม่กลับมาปล่อยให้ธีรภัทรนั่งเม้มปากข่มอารมณ์ไม่พอใจอยู่คนเดียว

“เฮ้ย พี่ธีร์เป็นแขกทำอย่างนี้ไม่ดีนะ แล้วนี่คิดไงมานอนด้วย”ถามพี่ชายที่อยู่ดีๆก็โผล่มาไม่บอกมากล่าว เขาเดินไปหยิบที่นอน

ปิกนิก ผ้าห่มและหมอนออกมาจากตู้วางไว้ที่ปลายเตียง

“ถ้าบอกจะได้เห็นเราหรอว่าทำอะไรอยู่ รักผู้ชายคนนั้นหรอ”ปืนถามน้องชายแล้วสังเกตท่าทางน้องชาย

“อืม ไม่งั้นจะปล่อยให้ทำอย่างนั้นได้ไง”ถามไม่คิด เขาไม่ได้ใจง่ายอย่างนั้นนะ

“พี่ไม่อยากตัดสินอะไรหรอกนะ เพราะคนที่จะตัดสินใจเรื่องทุกอย่างคือเรา และไม่มีสิทธิ์ห้ามด้วย”เขาไม่อยากเหมือนพ่อของ

เขาคอยที่ขัดขวางความรักโดยไม่ฟังเหตุผลใครนอกจากตัวเอง เรื่องความรักของใครก็ต้องให้คนนั้นได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง
ถึงจะถูก

“ขอบคุณครับ”เทนนิสเดินเข้าไปสวมกอดพี่ชาย แล้วหอบที่นอนลงไปให้คนข้างล่าง




ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

        เช้าทำงานวันแรกของสัปดาห์สายฝนที่โปรยปรายช่วงวันหยุดที่ผ่านมาหยุดแล้ว ต้อนรับวันใหม่ด้วยแสงแดดอ่อนๆและ

เมฆสีเทาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ในห้องทำงานมีชายหนุ่มร่างสูงนั่งไม่ติดเที่ยวมองออกไปข้างนอกว่าคนที่ต้องการเจอมาถึงแล้วรึ

ยัง คืนนั้นในบ้านคนรัก ธีรภัทรต้องนอนที่ห้องรับแขกคนเดียว ไม่พอตื่นเช้ามาก็ถูกไอ้พี่ชายหวงน้องไล่กลับบ้าน ไม่ได้เจอหน้า

น้องทั้งวันเพราะไอ้พี่ชายพาน้องออกไปข้างนอกจนค่ำถึงกลับเข้ามาเป็นอย่างนี้ทั้งสองวัน แล้วเมื่อวานน้องก็ไม่ได้กลับมาที่คอน

โด ไม่ได้เจอหน้าไม่พอแม้แต่เสียงก็ยังไม่ยิน ทำให้นอนไม่หลับคิดถึงอีกฝ่าย

“พี่ธีร์มานานแต่เช้าเลยนะครับ”เสียงที่คิดถึงดังขึ้นทำให้คนที่นั่งคิดถึงยิ้มขึ้นมา ธีรภัทรเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายแล้วกอด

“คิดถึง แล้วเราเป็นยังไงบ้าง”นี่แค่ไม่เจอหน้าแค่สองยังเป็นเอามากขนาดนี้ ร่างสูงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น กดจมูกลงผมนุ่ม

คนที่ถูกกอดก็ลูบแผ่นหลังหนาเป็นการปลอบโยนพี่ชายเขาคงเล่นแรงไปทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ ไม่รู้ว่าถ้าพี่ธีร์รู้ว่าน้องสาวเป็นแฟน

กับพี่ชายเขาจะเอาคืนยังไงบ้าง

“คิดถึงเหมือนกันครับ ขอโทษเรื่องพี่ชายด้วยนะครับ”สูดกลิ่นน้ำหอมจากคนตัวโต

“ไม่เป็นไรหรอก เขาเป็นพี่ชายห่วงน้องก็สมควรแล้ว เขาอาจจะพูดถูกว่าพี่ควรทำอะไรให้ชัดเจน มันถือเป็นการให้เกียรติเรา

ด้วย”แต่อย่าให้ถึงที่เขาบ้างแล้วกันอย่าหาไม่เตือน ที่ยอมทุกอย่างแค่ไม่อยากให้น้องต้องลำบากใจเท่านั้น

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะครับ กินอะไรมารึยังผมซื้อของกินมาฝาก”มือขาวชูของกินที่ซื้อติดไม้ติดมือมาฝาก อีกฝ่ายไม่ตอบเดิน

จูงมือเข้าไปในครัว

   ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนวันทำงานทุกทุกวัน ธีรภัทรนั่งทำงานในห้องเงียบๆ อารมณ์ไม่คงที่ในช่วงวันหยุดกลับมา

เป็นปกติแล้ว เขากำลังศึกษาเกี่ยวการลงทุนในกลุ่มอาเซียน มีรายชื่อบริษัทยักใหญ่หลายบริษัทเข้าร่วมลงทุนไปก่อนหน้านี้ ไม่

ว่าจะเป็นการลงทุนเกี่ยวอุปกรณ์ไฟฟ้าอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศจีน ด้านการสื่อสารและประกันชีวิตจากประเทศ

เกาหลี อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น และอาหารจากประเทศไทย เมื่อมีเขตการค้าเสรีเกิดขึ้นสามารถ

เรียกนักลงทุนต่างชาติเข้ามาได้มาก บริษัทยังสามารถเติบโตได้เรื่อยๆแต่ต้องก้าวไปทีละก้าวอย่างมั่นคง


   เทนนิสกำลังช่วยกวินทร์สรุปข้อมูลแบบสอบถาม แต่ก็มีข้อความส่งเข้ามา เขาหยิบโทรศัพท์มาดู กวินทร์แซวว่าเป็นสาวๆ

ที่ไหนคิดถึงส่งข้อความมาหา เขาไม่แก้ตัวแค่ยิ้มให้อีกฝ่าย มือขาวเปิดอ่านข้อความที่ถูกส่งมา อย่างที่คิดเป็นข้อความแบบเดิม

อีกแล้ว เขาได้รับข้อความข่มขู่แบบคล้ายกันนี้มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่ง โทรกลับเบอร์ที่ส่งข้อความมาโทรติดแต่

กลับไม่มีคนรับ ไม่รู้ว่าคนส่งส่งผิดรึเปล่า ไม่แค่นั้นในโซเชียลเอฟของเขายังมีคนมาปล่อยข่าวว่าเขากับเพื่อนเป็นคู่รักกัน ไม่รู้ว่า

ไปเผลอเหยียบเท้าใครเข้าถึงมีคนมาลอบกัด วันก่อนเขาลองปรึกษาพี่ชายดูแล้วและบอกว่าจะช่วยดูให้ ไม่รู้ว่าคนที่ก่อกวน

ต้องการอะไรแต่ที่แน่ๆไม่ได้มาดีแน่

   มื้อเที่ยงเทนนิสและเพื่อนฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารตามสั่งแถวที่ทำงาน ก่อนจะเข้าที่ทำงานเขาชวนเพื่อนเดินซื้อขนมกิน

ก่อน เดินผ่านแผงร้านหนังสือพิมพ์เห็นเจ้าของร้านกำลังจัดหนังสือบนแผง เขาเหลือบไปเห็นนิตยสารเล่มหนึ่งเขียนข้อความไว้

บนหน้าปกน่าสนใจ เขาหยิบขึ้นพลิกอ่านข้างในแล้วจ่ายเงิน ขณะที่เดินออกจากร้านเขาอยู่รู้สึกเหมือนมีคนคอยจ้องอยู่เขาหัน

หลังกลับไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนมองมาทางเขาแล้วหันไปทางอื่น ไม่รู้ว่าคิดไปเองรึเปล่า

“เป็นอะไรเทนนิส ทำไมหน้าซีดซีด”

“เปล่า”

“แล้วมองอะไร”

“ไม่มีอะไร”ปฎิเสธเพื่อนไปแล้ว เดินต่อไปร้านขายวาฟเฟิลเจ้าอร่อย” พี่ครับเอาวาฟเฟิล ช็อกโกแลต สตอเบอรี่และ.. ”

“บลูเบอรี่กับลูกเกดด้วยครับ”คนตัวเล็กรีบพูดแทรกขึ้นมาเหมือนรู้ใจเพื่อนว่าชอบกินอะไร

ยืนรอหน้าร้านไม่นานวาฟเฟิลสีน้ำตาลร้อนๆส่งกลิ่นทั้งสี่ไส้ก็มาอยู่ในมือ 

เข้าทำงานตอนบ่ายหลังพักเติมพลังจนเต็มกระเพาะ ทั้งของคาวของหวาน เทนนิสนั่งประจำที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตามเดิม

จัดการกรองข้อมูล แยกตามประเภทที่บริษัทต้องการ ดึงข้อมูลจากแฟ้มงานที่ได้มา ไม่นานก็ได้ข้อมูลที่ต้องการ

เขาปรับหน้ากระดาษให้สวยงามแล้วสั่งพิมพ์ข้อมูลเบื้องต้นออกมาให้กวินทร์ บันทึกข้อมูลทุกอย่างในเครื่องและส่งเมล์บริษัทให้

กวินทร์ ในที่สุดงานของวันนี้ก็เสร็จไปอีกชิ้น

   เสียงบอกเวลาเลิกงานดังขึ้น พนักงานต่างทยอยกลับเพราะดูจากท้องฟ้าตอนนี้กลัวว่าฝนจะตกลงมาอีก ช่วงหน้าฝนยิ่ง

เอานาเอาแน่นอนกับอากาศไม่ได้

   กลับถึงห้องเทนนิสสวมผ้ากันเปื้อนเข้าครัวทำหน้าที่เป็นพ่อครัวเหมือนทุกวันแต่วันนี้พิเศษตรงที่มีผู้ช่วยตัวโต มาช่วย เป็น

ครั้งแรกที่เขาได้เห็นอีกฝ่ายสวมผ้ากันเปื้อน อืม ดูดีไปอีกแบบ

ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเมื่อถูกคนรักมองสำรวจ เห็นอย่างนี้ตอนอยู่ที่เมืองนอกเขาก็เคยเข้าครัวทำกับข้าวเหมือนกัน แต่เป็นอาหารง่ายๆ

ไม่ได้ทำยุ่งยากเหมือนกับอาหารไทยทีกำลังเริ่มทำ ตอนนี้เขามองพ่อครัวสุดหล่อเริ่มหุงข้าว แล้วเปิดดูตู้เย็นมองของสดที่มีใช้

ทำอะไรได้บ้าง พ่อครัวหันมาถามผู้ช่วยว่าอยากกินเป็นพิเศษรึเปล่า ชายหนุ่มยืนคิดแล้วตอบไปว่าอะไรก็ได้ พ่อครัวหนุ่มบอกว่า

จะทำผัดผักรวม กับต้มยำกุ้ง ธีรภัทรพยักหน้าเห็นด้วย พ่อครัวหยิบกุ้งแช่แข็งออกมา เขาบ่นนิดหน่อยว่าไม่มีโอกาสได้กินกุ้งสด

ตัวโตโตตอนนี้ทนกินกุ้งแช่แข็งไปก่อน และหยิบผักออกมาให้ผู้ช่วยตัวโตล้างให้สะอาด เทนนิสเหลือบมองคนล้างผักอย่างตั้งใจ

แค่ล้างผักทำหน้าตาจิงจังเหมือนนั่งอยู่ในห้องประชุมไปได้ เตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยจากนั้นเขาเติมน้ำใส่หม้อตั้งไฟรอจนน้ำเดือด

เติมเกลือลงไปเล็กน้อยตามด้วยข่าตะไคร้ใบมะกรูดพริกและมะเขือเทศ น้ำในหม้อเดือดเติมกุ้งลงไปตามด้วยผักชีต้นหอมและ

ปรุงรสแค่นี้ก็เรียบร้อย เทนนิสปรุงรสชาติแล้วให้ผู้ช่วยที่ยืนกอดอกดูเขาทำกับข้าวลองชิมรสชาติดู คนตัวโตชิมรสชาติแล้วพยัก

หน้าแล้วยกนิ้วโป้งขึ้นการันตี จากนั้นก็เป็นผัดผักรวม 

   กินข้าวจนอิ่มทั้งสองช่วยกันล้างจาน แล้วนั่งย่อยดูข่าวเตือนของศูนย์ภัยพิบัติแห่งชาติเตือนพายุใต้ฝุ่นระดับ5 และอาจจะ

อ่อนกำลังเมื่อเคลื่อนที่เข้าประเทศในอีกสองสามวันข้างหน้า ภาคเหนือภาคอีสานตอนบนจะได้ผลกระทบมากที่สุด ให้ระวังดิน

โคลนถล่ม บ้านเรือนพังเสียหายและต้นไม่หักด้วยแรงพายุ หลังข่าวจบฝนก็ตกลงมา

   นั่งดูรายการโทรทัศน์สักครู่ทั้งสองแยกย้ายกลับห้อง เทนนิสอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเรียบร้อย นั่งลงบนที่นอนเปิดกระเป๋าเป้

สะพายหยิบนิตยสารที่เขาซื้อมาเมื่อตอนเที่ยงออกมาดู เป็นนิตยสารเกี่ยวข่าวความไหวเศรษฐกิจ ปกติเขาก็ไม่ได้อ่านอะไรที่มัน

น่าเบื่ออย่างนี้หรอกถ้าไม่เห็นว่าหน้าปกเขียนว่ามีบทสัมภาษณ์ธีรภัทร เขาแค่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Thailand

Business ว่ายังบ้าง มือขาวเปิดดูไปเรื่อยๆ มีทั้งข่าวความเคลื่อนไหวเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ  เส้นทางการลงทุน

แนะนำธุรกิจแบบ SME ที่ประสบความสำเร็จ จนมาถึงเป้าหมายหลักที่เขาตัดสินใจซื้อนิตยสารเล่มนี้  ภาพถ่ายนักธุรกิจหนุ่มหล่อ

ยืนอยู่หน้าป้ายชื่อบริษัท ในห้องทำงาน ในร้านกาแฟก็มี ฮือ แต่ละรูปหล่อไม่เบาเลย ดูรูปถ่ายจนพอใจแล้วอ่านบทสัมภาษณ์อยู่

หน้าถัดไป

Q : ความลับของสำเร็จของคุณคืออะไร?

A : ความซื่อสัตย์ ความตั้งใจ ความรับผิดชอบ

อ่านไปแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ตอบเหมือนนักการเมืองเลย คำถามหลายคำถามที่ถามส่วนมากจะเกี่ยวกับงานที่ทำจนมาถึง

คำถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว

Q : มีคนรู้ใจรึยัง?

A : มีแล้วครับ(ตอบแบบยิ้มยิ้ม แถมยิ้มหล่อด้วย)

Q : ตอบอย่างนี้สาวๆอกหักกันเยอะ แล้วไม่ทราบเมื่อไหร่จะมีข่าวดี

A : คนรักผมยังเรียนอยู่ คณะเศรษฐศาสตร์ ปี 4

Q : อย่างนี้จบมาน้องคงมาช่วยงานที่บริษัท

A : ผมยังไงก็ได้ ตามใจน้อง

Q : ขออีกคำถามนะคะ อะไรที่ทำให้เขาชนะใจคุณได้ (แหมถามเหมือนคำถามในงานแต่งงานเลย)?

A : เขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดีเข้ากับคนง่าย ทำกับข้าวเก่ง อย่างข้าวกล่องวันนี้เขาก็เป็นคนทำให้

คนอ่านบทสัมภาษณ์ไปแล้วอดมีรอยยิ้มไม่ใช่

“อ่านอะไรอยู่ที่รัก ตั้งใจเชียว”คนพึ่งอาบน้ำเสร็จแอบย่องเข้าห้องอีกฝ่าย ปีนขึ้นมาบนเตียงหนุนตักอย่างไม่เกรงใจเจ้าของตัก

เทนนิสยกหนังสือขึ้นมองหน้าคนบนตักแล้วมองรูปในหนังสือ คนคนเดียวกันแต่หล่อคนละแบบ

“หืม หนังสือออกแล้วหรอเป็นไงตัวจริงกับในรูปใครหล่อกว่ากัน”

ก็อยากจะโกหกอยู่หรอกว่าไม่หล่อ แต่เป็นคนโกหกไม่เก่ง“หล่อทั้งสองแบบนั่นแหล่ะ แบบไหนผมก็ชอบหมด”

“แล้วบทสัมภาษณ์ พี่ตอบได้ดีไหม”

“ก็ดีครับ”ใบหน้ามีรอยยิ้มเมื่อคิดถึงบทสัมภาษณ์ตรงไปตรงมาไม่ปิดบังของอีกฝ่าย แต่ก็แอบกังวลอยู่บ้างถ้ามีคนรู้ความจริง

เหมือนที่พี่ชายเขาบอกเรื่องแบบนี้ใช่ว่าทุกคนจะรับได้

“พูดได้ถูกใจ อย่างนี้ต้องให้รางวัล”พูดเสร็จเขาก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ เลื่อนมือหนาเข้าในเสื้ออีกฝ่ายกอดเอวบางไว้ซุกหน้าเข้าสูด

กลิ่นหอมๆของหน้าท้องแบนๆ

“เฮ้ย พี่ธีร์อย่าลูบสิมันจักจี้นะ”ดึงมือปลาหมึกอีกฝ่ายออก ไม่รู้จะลูบอะไร ลูบหาหวยรึไง

“นอนเถอะดึกแล้วเดี๋ยวไม่สบาย”มองคนที่ยังสนใจนิตยสารในมือ มากกว่าเขา ไม่ได้เจอหลายวัน วันนี้อยากนอนกอดทั้งคืนให้

หายคิดถึงเลย

“นอนก่อนเลยครับ ผมยังเด็กร่างกายแข็งแรงไม่ป่วยง่ายๆ”

ฮือ ทำไมที่รักพูดจาไม่น่ารักอย่างนี้”ร่างกายพี่ก็แข็งแรงเหมือนกัน ตอนนี้แข็งจนปวดแล้ว”ไม่พูดเปล่าดึงมืออีกฝ่ายจับยืนยัน

ความแข็งแรงของตัวเอง

“เฮ้ย พี่ธีร์ทะลึ่งเล่นอะไร”เทนนิสตกใจสัมผัสเมื่อครู่รีบดึงมือกลับคืน

“ให้จับแค่นี้เองไม่เห็นทะลึ่งตรงไหน ไม่จับตอนนี้อีกหน่อยก็ได้จับ”

“ไม่พูดด้วยจะนอนแล้ว ปล่อยได้แล้วคนจะนอน”เขาดันศีรษะที่หุนตักอยู่แล้วดึงผ้าห่มขึ้นนอนหันหลังอีกฝ่าย

“ดี พี่ก็ง่วงแล้วเหมือนกัน”ธีรภัทรเขยิบเข้าไปใกล้อีกฝ่าย“โกรธพี่หรอ พี่ขอโทษต่อไปไม่แกล้งแล้ว”เขากระซิบข้างหูคนที่กำลัง
งอล

“ไม่ต้องมากอดเลย คนทะลึ่ง”คนกำลังงอลปัดแขนที่กอดไว้ออก แต่คนกอดหรือจะยอมเขานอนคนเดียวมาหลายวัน คนหนึ่งปัด

ออกอีกคนกลับมากอดเหมือนเดิมเป็นอย่างนี้อยู่หลายครั้ง จนทั้งคู่หลับไปพร้อมกัน



   ประกาศจากบริษัทติดไว้บนบอร์ดแจ้งข่าวสาร พนักงานหลายคนหยุดอ่านเกี่ยวสถานที่และกำหนดการเบื้องต้นท่องเที่ยว

ประจำปี ณ อ.หัวหิน จ.ประจวบ  ใครที่จะไปให้ลงชื่อกระดาษที่ติดไว้บนบอร์ด ประกาศเพิ่งติดไว้เมื่อวันก่อนตอนเย็นยังมีคน

ลงชื่อไม่มาก อีกประกาศรับบริจาคเงินและสิ่งของที่สามารถใช้ได้จะนำไปบริจาคให้น้องผู้ด้อยโอกาส เทนนิสยืนอ่านประกาศรอ

เพื่อนที่กำลังเข้าห้องน้ำก่อนไปพักเที่ยง เขามองภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงภายในจังหวัด พี่พี่หลายคนบอกไปเที่ยว

กับบริษัทสนุก ตกกลางคืนมีปาร์ตี้

“พวกเราไปเที่ยวด้วยได้ไหม”

“พึ่งไปเที่ยวมาไม่ใช่หรอ”

“ยังไปไม่หมดเลย มีหลายที่ยังไม่เคยไป อีกอย่างไปไม่เสียตังต์ใครบ้างไม่อยากไป”

“เห็นพี่พี่เขาบอกว่า ไปเที่ยวนี่ใช้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งขึ้นเงินเดินด้วยนะ”

“อืม แล้ววันไปกินอะไรดี”

“ตามสั่งไหม อยากกินกระเพราปลาหมึก กับปลาหมึกชุบแป้งทอด”ทั้งสองตกลงกันได้ รีบออกจากบริษัทไปร้านอาหารตามสั่งถ้า

ไปช้ากว่านี้คนจะแน่นร้านไม่มีที่นั่ง

ขณะที่เดินออกจากบริษัทรอจะข้ามถนนไปอีกฝั่ง อยู่อยู่ก็มีรถเก๋งที่ขับมาอย่างเร็วเฉี่ยวทั้งคู่เข้าอย่างแรง

“โอ้ย”คนตัวเล็กที่ล้มลงแรงรีบลุกขึ้นตะโกนตะโกนด่าตามหลังรถคันดังกล่าว “ขับรถภาษาอะไรวะ แม่งจะรีบไปตายที่ไหนวะ

เฉี่ยวแล้วหนีไม่สนใจจอดลงมาดูนิสัยว่ะ”

”เทนนิสเป็นไงบ้าง”วีร์รีบเข้าไปหาเพื่อนที่นั่งกองอยู่พื้นกุมแขนข้างหนึ่งอยู่

“ไม่เป็นไรมากหรอ แค่รู้สึกปวดปวดข้อมือ”ลองขยับข้อมือดูรู้สึกเจ็บแปลบ ลุกขึ้นสำรวจตามเนื้อตัว”แล้วก็แผลถลอกนิดหน่อย”

“น้องเป็นอะไรรึเปล่า”คนที่เหตุการณ์เดินเข้ามาถามอย่างเป็นห่วงเพราะรถเก่งคันดังกล่าวขับมาเร็วมาก

“ไม่เป็นไรมากครับ ขอบคุณมากพี่”

“น้องคนนี้มีแผลนิเลือดออกด้วย พี่ว่าไปหาหมอให้หมอตรวจเถอะ”

“คนเรานี่มันยังไงนี่ทางม้าลายเห็นคนยืนรอข้ามถนนยังขับรถเฉี่ยวมาได้”

“ไปหาหมอเถอะ มีเลือดด้วย ปวดข้อมือด้วยไม่ใช่หรอ ปล่อยไว้เดี๋ยวเป็นอะไรมากกว่าเดิม”

“อืม ก็ได้”

   แทนที่พักเที่ยงจะได้นั่งกินข้าวแต่ต้องมานั่งอยู่ในโรงพยาบาลหน้าห้องยารอเพื่อน วีร์หลังจากที่เช็คร่างกายเรียบร้อยออก

มารอรับยาและใบรับรองแพทย์ แต่เพื่อนยังไม่ออกมาจากห้องตรวจไม่รูว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ตอนนั่งแท็กซี่มาด้วยกันยังดีดีอยู่

นี่นา ระหว่างทางมาโรงพยาบาลเขาโทรเข้าไปหาฝ่ายบุคคลบอกว่าเกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉียว พี่แผนกบุคคลถามอย่างเป็นห่วงถาม

ว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า เขาบอกไปว่ามีแค่แผลถลอกตามร่างกายเท่านั้น ปลายสายรับทราบบอกให้ให้เอาใบเสร็จและขอใบรับ

รองมาเบิกค่ารักษาที่การเงินได้ แล้วจะแจ้งหัวหน้าให้รู้ เลยเวลาพักมาเกือบชั่วโมงแล้วตอนนี้เขารู้สึกหิวแล้วด้วยสายตากำลัง

มองหาของกิน จนมองไปเห็นร้านกาแฟ เขาตัดสินใจไปรอเพื่อนที่ร้านกาแฟ

“พี่ครับโกโก้ปั่นแก้วหนึ่ง”นั่งลงหน้าร้านมีคุณหมอสวมชุดกาวออกมาพักดูดกาแฟคุยกัน เขาหยิบโทรศัพท์ส่งข้อความถึงคนรักว่า

ทำอะไรอยู่ว่างรึเปล่า วันนี้ไม่ต้องมารับจะนั่งแท็กซี่เข้าไปหาส่งข้อเสร็จไม่นานอีกฝ่ายก็ส่งข้อความรับทราบตอบกลับมาอ่าน

ข้อความแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ ขอล่ะตอนนี้ปวดตามเนื้อตัวไปหมดเขาไม่ขอกลับไปทำงานแน่นอนใครจะว่ายังไงก็ช่าง คิดไป

แล้วก็โกรธรถเก่งคันนั้น อยู่ๆก็ขับมาเฉี่ยวพวกเขาอย่างนั้นเหมือนตั้งใจ ช่างเถอะบางทีเขาอาจคิดมากไปเอง มันคงไม่มีอะไร
หรอก

   ร่างสูงก้าวเท้าลงจากรถหรูทันทีที่รถสนิทบนลานจอดรถโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใบหน้าหล่อแสดงความกังวล เขาเดิน

เข้าไปในตัวตึกตรงไปที่เจ้าหน้าประชาสัมพันธ์ถามเส้นทางไปห้องตรวจ วันนี้เขาออกไปทำธุระตั้งแต่เช้ากลับเข้ามาเกือบบ่าย

โมงกำลังนั่งทำงานเอกสาร แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นบอกว่าคนรักถูกรถเฉี่ยวตอนนี้อยู่โรงพยาบาล เขารีบวางงานตรงหน้าขับ

รถออกมาทันที ไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ธีรภัทรรีบเดินจนมาถึงหน้าห้องตรวจมองหา

“พี่ธีร์ทางนี้ครับ”เทนนิสยืนขึ้นเรียกอีกฝ่าย

“เป็นยังไงบ้าง”

“ยังครบสามสิบสอง และก็ยังหล่อเหมือนเดิม”

ร่างสูงไม่เชื่อรีบสำรวจตามตัวอีกฝ่าย”แต่มีแผลตามตัวกับข้อมือใช่ไหม”ชายหนุ่มส่งสายดุอีกฝ่าย

“ครับ”แค่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเป็นห่วงก็เท่านั้น

“แล้ววีร์ล่ะ”มองหาอีกคน

“กลับไปแล้วเห็นบ่นว่า ปวดตามเนื้อตามตัว”

ร่างสูงพยักหน้ารับรู้ แล้วจูงมือคนป่วยไปที่รถ ขับรถออกจากโรงพยาบาล เขาเหลือบมองคนป่วยเป็นระยะและถุงยาที่มียาแก้ปวด

แก้อักเสบสองสองซองขึ้นมาดู ธีรภัทรถามคนป่วยว่ากินยารึยัง อีกฝ่ายส่ายหัวบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย เขาตัดสินใจแวะ

ห้างสรรพสินค้าก่อนกลับไปที่ห้อง

บ่ายวันปกติธีรภัทรพาคนป่วยแวะกินข้าว และหาซื้อกับข้าวเข้าไปพร้อมคิดว่าวันนี้คงไม่กลับออกมาแล้ว อีกอย่างข้อมือซ้ายเจ็บ

อย่างนี้คงทำอะไรไม่สะดวก ส่วนงานที่บริษัทปล่อยให้คนอื่นทำไปคนตรงหน้าสำคัญกว่า ทั้งสองเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น สั่งอาหาร

เรียบร้อย พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟคนป่วยก็ลงมือทันทีโดยไม่ต้องบอก เห็นคนป่วยกินข้าวได้ปกติอีกฝ่ายก็ยิ้มได้

“แล้วข้ามถนนกันยังไงให้รถเฉี่ยวได้ ดีนะยังแค่เฉี่ยวไม่ชนเอา”

“ยังไม่ได้ข้ามเลยแค่ยืนอยู่ข้างถนน รถเก๋งคันนั้นมาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆก็เฉียวผมกับวีร์เฉยเลย ไม่สนใจจอดรถมาดูด้วยซ้ำ”สงสัย

จะรีบไปตายเหมือนที่เพื่อนเขาบอกจริงๆ ไม่รู้ว่าป่านนี้ถึงที่ชอบแล้วรึยัง

“ทีหน้าทีหลังก็ระวังแล้วกัน”

“อือ ผมเป็นผู้ชายนะครับ แข็งแรงจะตายไม่ต้องห่วงขนาดนั้นก็ได้”

“เรื่องแบบนี้ไม่เกี่ยวกับผู้หญิงหรือผู้ชายนะ ผู้ชายแข็งแรงแค่ไหนก็ตายได้เป็นคนเหมือนกัน มีหนึ่งหัวใจ หนึ่งชีวิต เจ็บปวด

เหมือนกัน พี่เป็นห่วง”

“ขอโทษครับ คราวหน้าจะวังตัวให้มาก”เลื่อนมือข้างหนึ่งไปกุมมือคนตรงหน้าไว้

“ก็แค่นั้น นี่หมูชุปแป้งทอดกินเยอะๆ ไม่อิ่มสั่งเพิ่มได้”

“ขอบคุณครับ แค่นี้ก็พอเดี๋ยวไม่ได้กินขนม”

“แล้วข้อมือเมื่อไหร่จะหาย”มองข้อมือที่มีผ้าคาดรัดพยุงข้อมืออยู่

“ประมาณ 3-4 สัปดาห์”อีกฝ่ายพยักหน้ามองคนที่เพิ่งถูกรถเฉี่ยวมา เสื้อผ้าเลอะไปหมด แถมยังมีคราบเลือดติดมาด้วยไม่รู้ว่าใคร

ใจร้ายขับรถเฉี่ยว ไม่พอเฉี่ยวแล้วยังหนีอีกอย่าได้เจอตัวนะ ถ้าเจอเรื่องไม่จบง่ายๆแน่



********************************************************************

ใกล้จะจบแล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ warin

  • รถไฟขบวนนั้น ได้แล่นผ่านไปแล้ว
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1938
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
    • -
ใครคือผู้ประสงค์ร้ายคนนั้น
ใกล้จบแล้วเหรอ  ไวจังนะ

ออฟไลน์ knxiiviii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ครบสูตรนางร้ายจริงๆ --"

ออฟไลน์ iamtsubame

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เทนนิสเอ๊ยยยย :เฮ้อ:
ไม่ได้สงสัยอะไรเลยเรอะ!!! ไหนจะข้อความข่มขู่อีก :z3:

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

                                                      Glad to meet LoVe.ยินดีที่ได้รู้จัก...ความรัก

                                                                         ตอนที่ 15


            กิจกรรมรับน้องจบลงด้วยเสียงหัวเราะและน้ำตาของความตื้นตันที่รุ่นน้องมีต่อรุ่นพี่ ต่อจากนั้นเป็นช่วงเวลาเลี้ยงสาย

รหัส เทนนิสและเพื่อนตัดสินใจรวมกลุ่มเลี้ยงสายรหัสที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง

อีกไม่ถึงสามสิบนาทีจะถึงเวลานัดเทนนิสพึ่งออกจากคอนโดมาได้ครึ่งทาง โดยมีธีรภัทรทำหน้าที่คนขับรถมาส่ง ที่จริงต้องบอก

ว่ามาเฝ้าน่าจะถูก ระหว่างที่กำลังเดินทางเพื่อนๆต่างโทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว จนคนรับสายรู้สึกรำคาญ ธีรภัทรมองคนรักที่วันนี้

แต่งตัวหล่อเป็นพิเศษจนน่าเป็นห่วงว่าจะมีคนเข้ามาจีบ วันนี้เลยออกมาเปลี่ยนบรรยากาศชวนเพื่อนสนิทออกมากินข้าว

ขับรถผ่านไฟแดงมาเรื่อยจนมาถึงร้านอาหารที่นัดกันไว้ สบายสบาย ชื่อร้านอาหาร ธีรภัทรเลี้ยวรถเข้าไปจอดในลานจอดมีรถ

หลายคันอยู่ ทั้งสองเข้าไปในร้าน แยกไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ธีรภัทรเดินไปหากิตที่กำลังนั่งดื่มคนเดียว

“ไง มาช้านะเจ้านาย นัดออกมาแท้ๆ”

“โทษทีรถติด สั่งอะไรแล้วยัง”นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนแล้วมองกับข้าวบนโต๊ะ

“จะเหลือหรอ แค่รอเจ้ามือมาจ่าย”เขาชงเครื่องดื่มบางๆให้เพื่อน

“ใครบอกว่าจะเลี้ยง”รับเครื่องดื่มมาจิบแล้วเหลือบมองโต๊ะที่คนรักเดินไปอย่างสนใจ อยากรู้ว่าอีกฝ่ายเวลาอยู่ในกลุ่มเพื่อนจะ

เป็นยังไงบ้าง น้องสาวเขาถึงบอกว่าเป็นขวัญใจสาวๆ

“อ้าวชวนออกมาก็ต้องเลี้ยงซิ แล้วนั่นเทนนิสมากินกับเพื่อนๆหรอ มีสาวๆน่ารักด้วย”สาวนักศึกษานี่เขาชอบ

“อื้อ จะไปเลี้ยงเหล้าสาว แต่ให้ฉันเลี้ยงข้าวแกเนี่ยนะ ไอ้คนขี้งก”

“เอ่อน่า ยังไงปีหน้าแกก็ช่วยขึ้นเงินเดือนให้ฉันสิ ใช้งานยังกะทาสเงินเดือนนิดเดียว”ที่จริงก็บ่นบ่นไปงั้นแหล่ะ ไม่มีที่ทำงาน

ที่ไหนทำแล้วมีความสุขเท่าที่นี่อีกแล้ว ทุกคนอยู่กันเป็นแบบครอบครัว ถึงจะไม่ใช่บริษัทใหญ่โต มีต่างชาติเข้ามาร่วมหุ้นแต่ก็
มั่นคง

“เดี๋ยวให้เงินเงินเดือนล่วงหน้าพร้อมซองขาวด้วยเป็นไง”

“โหดวะ”

“ไม่ต้องบ่น ปีหน้าจะหาคนมาช่วยงานสองสามคน เบื่อนั่งทำงานทั้งวันแล้วเหมือนกัน ทำงานมาหลายปียังไม่เคยลาพักร้อนยาวๆ

กับเขาเลยสักครั้ง”

“เพิ่งคิดได้หรอครับ เมียก็ไม่มี เที่ยวก็ไม่เที่ยว ดื่มก็ไม่ดื่ม เงินเยอะแยะเก็บไว้ทำไม”รู้สึกว่าช่วงนี้เพื่อนของเขาเปลี่ยนไป อาจจะ

มีความรักเหมือนที่คุณเลขาเบสบอกก็ได้

แล้วรู้ได้ไงว่าไม่มีธีรภัทรอยากเถียงอีกฝ่ายออกไปอย่างนั้นให้ตกใจ แต่คนของเขานี่สิ บอกว่ายังไม่อยากให้ใครรู้


   ร้านอาหารกึ่งบาร์ตกแต่งในสไตล์ทรอปิคอลบรรยากาศร้านให้ความรู้สึกเหมือนมาพักร้อน ในร้านยังมีดนตรีดนตรีสดจังหวะ

เบาๆฟังสบายที่เข้ากับบรรยากาศของร้าน คืนก่อนวันหยุดมีคนออกมากินข้าวจิบเครื่องดื่มเบาๆในบรรยายผ่อนคลายหลังทำงาน

เหนื่อยมาทั้งสัปดาห์

เทนนิสเข้ามาในร้านทุกคนมาครบกันทุกคนแล้ว โต๊ะถูกนำมาต่อกันให้เท่ากับจำนวนคนที่มา ดูไปแล้วเหมือนจะเป็นกลุ่มใหญ่

ที่สุดในร้าน กับข้าวเครื่องดื่มหลายอย่างทยอยมาเสิร์ฟจนเต็มโต๊ะ เป็นการเลี้ยงสายครั้งแรกของน้องๆปีหนึ่ง น้องๆเริ่มทักทายรุ่น

พี่ทำความรู้จัก รุ่นพี่แนะนำตัวเองแลกเบอร์ติดต่อเวลามีเรื่องต้องการให้ช่วยเหลือ จากนั้นให้ของที่ระลึกกับน้อง

“มะปราง เข้ามาเรียนที่นี่คนเดียวหรือมากับเพื่อน”รุ่นน้องสาวเหนือกำลังถูกรุ่นพี่ถามอย่างสนใจ อะไรที่ทำให้เธอต้องเรียนไกล
ถึงที่นี่

“มากับเพื่อนค่ะ แต่เรียนคนละคณะ”

 “แล้วพักที่ไหนกัน”ธารรพีถามอย่างเป็นห่วงในฐานะรุ่นพี่และผู้หญิงเหมือนกัน

“พักหอพักกับเพื่อน หอแถวๆมหา’ลัยนี่เองค่ะ”เธอมองหน้าตาสายรหัสเธอแต่ละคนหน้าตาหล่อสวยทั้งนั้น โดยเฉพาะปู่รหัสของ

เธอที่สาวๆหลายคนในคณะแอบชอบกันไม่เว้นเธอที่เห็นครั้งแรกไกลไกลยังอดใจสั่นน้ำลายไหลในความหล่อใสและรอยยิ้ม

อบอุ่นกระชากวิญาณไม่ได้ แต่ก็ได้ข่าวมาอีกว่าเป็นพี่เขาเกย์ แฟนของพี่เขาก็คือพี่วีร์ผู้ชายตัวเล็กหน้าตาน่ารักนั่งอยู่ข้างๆกัน

นี่เอง แทนที่จะรู้สึกไม่ดีที่เห็นสองคนนี้อยู่ด้วยกันกลับรู้สึกมีความสุขไปด้วยอย่างบอกไม่ถูก

“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่พี่แล้วกันนะ”

“ขอบคุณค่ะ”


   ทุกคนพูดคุยกับน้องใหม่สร้างความคุ้ยเคยระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง สี่ทุ่มกว่าทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ บางคนชวนกันไปเที่ยว

ต่อ เทนนิสขอตัวกลับก่อนเพราะมีคนรออยู่ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เขาเดินเข้าไปหาธีรภัทรที่ตอนนี้นั่งอยู่เดียว อีกฝ่ายเห็นเขา

เดินเข้าไปหาก็ยิ้มให้ทันที

“พี่กิตกลับแล้วหรอครับ”

“สาวโทรมาตาม มันเลยรีบไป”

“น่าสงสารถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว กลับเลยไหมครับ ง่วงแล้ว”

“เดี๋ยวพี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน เราไปที่รถ”ยืนกุญแจให้อีกฝ่าย แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ


   เทนนิสเดินออกจากร้านไปรอที่รถ โดยที่เขาไม่ทันสังเกตว่ามีคนยืนรอแถวนั้นอยู่ก่อนแล้ว ชายแปลกหน้ารูปร่างสูงใหญ่

สวมหมวกปกปิดใบหน้ามองเห็นเป้าหมายที่มันรออยู่หลายชั่วโมงเดินออกมาจากร้านคนเดียว ชายแปลกหน้ามันกดหมวกลงต่ำ

เหลียวมองรอบๆว่ามีใครอยู่แถวนี้รึบ้างรึเปล่า เมื่อไม่เห็นใครมันรีบเดินเข้าไปหาเหยื่อ ที่หยุดยืนอยู่ข้างข้างรถหรู กำลังกดรีโมท

เพื่อจะเปิดประตูเข้าไปในรถ มันรีบเดินเข้าไปประชิดตัวด้านหลังของเหยื่อ ใช้มีดจี้ไปที่เอวแล้วบอกเหยื่อของมันว่า“ยกมือ

ขึ้น”มันสั่งเทนนิสให้ยกมือขึ้น ชายหนุ่มตกใจเมื่ออยู่เฉยๆก็มีคนเดินเข้าประชิดตัวทางด้านหลังแล้วใช้มีดจี้ที่เอว เขาพยายามจะ

ขัดขืนหันไปมองหน้าคนที่ใช้มีดขู่ให้ชัด แต่มันไม่ยอม คนร้ายดันเขาไปจนติดด้านข้างของรถจนขยับไม่ได้ ในใจเริ่มรู้กลัวไม่รู้ว่า

มันต้องการอะไรกันแน่ ลานจอดรถนี่ก็ไม่ได้เปลี่ยวจนมีพวกมิจฉาชีพมาดักรอ เขาพยายามตั้งสติมองไปรอบๆดูว่ามีใครอยู่แถวนี้

บ้างแต่ก็ไม่มี จ้องมองไปที่กระจกรถ ที่มีเงาคนร้ายปรากฏอยู่เขาเพ่งสายตามองแต่แสงสว่างจากหลอดไฟในลานกว้างไม่เพียง

พอที่จะเห็นหน้าคนร้าย อีกอย่างมันสวมหมวกปิดหน้าอย่างมิดชิด แต่เท่านี้ก็ทำให้รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ได้มาดีอย่างแน่นอน 

”อยู่นิ่งๆนะมึงถ้าไม่อยากตาย”เหมือนมันจะรู้คิดของเทนนิส มันขู่เขาอีกครั้ง แล้วมองไปรอบอีกครั้งกลัวคนจะมาเห็น

“ยอมแล้ว ยอมแล้ว อยากได้อะไรเอาไปเลย กระเป๋าตังค์อยู่กระเป๋าหลัง”มันได้ยินแล้วลูบคลำคลำไปที่กระเป๋าหลังของเขา

ขณะนั้นเองคนที่เสร็จธุระจากห้องน้ำ เดินออกมาจากร้านเห็นใครสักคนทำอะไรน่าสงสัยอยู่ข้างๆรถเขา รู้สึกเหมือนจะไม่ใช่เรื่อง

ดีเขาจึงได้ตะโกนออกไป”เฮ้ย นั่นทำอะไรวะ”เสียงดังขึ้นด้านหลังเทนนิสจำได้ว่าเป็นเสียงใคร เขารีบตะโกนบอกอีกฝ่ายให้

ช่วย”พี่ธีร์ช่วยด้วย มีคนจะทำร้ายผม”ตะโกนออกไปแล้วคนร้ายหันไปมองคนมาใหม่

“อย่าเข้ามานะถึงไม่อย่างนั้นไอ้หมอนี่ไว้ไส้ทะลักแน่”เทนนิสเห็นคนร้ายกำลังเผลอ เขารีบหันกลับมา แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

เมื่อคนร้ายใช้มีดแทงลงมาที่ท้องของเขา

“โอ๊ย”

”กูบอกมึงแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ”มันแค่ต้องการข่มขู่อีกฝ่ายตามคำสั่งนายจ้าง แต่อีกฝ่ายดันขัดขืนมันเลยต้องลงมือจริงๆ มันตั้งสติ

ได้รีบดึงมีดออกแล้ววิ่งหนีไปทางหน้าร้านที่มีรถจอดรออยู่ก่อนแล้ว

คนที่กำลังยืนอยู่เลือกที่จะวิ่งเข้าไปดูร่างที่ร่วงอยู่บนพื้นแทนที่จะวิ่งตามคนร้ายไป“เทนนิสเป็นยังไงบ้าง”เขาเรียกอีกฝ่ายรีบ

สำรวจร่างกายคนรักว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า“เลือด เลือดออกทำใจดีดีไว้นะ”

“เจ็บ เจ็บ”คนที่ถูกแทงพูดออกมาได้แค่นั้น มองดูเลือดในมือแล้วทุกอย่างตรงหน้าก็ค่อยๆพร่ามัว

ธีรภัทรเห็นท่าทางอีกฝ่ายไม่ค่อยดีเขารีบอุ้มขึ้นรถ ตรงไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด


   รถเก่งไม่มีป้ายทะเบียนขับออกมาจากที่เกิดเหตุได้สักพัก ก็มาจอดอยู่ที่จุดนัดหมายแถวนอกเมือง ที่พวกมันนัดพบกับ

นายจ้าง จอดรถรอไม่นานก็มีรถเก่งมาจอดด้านหลังและมีหญิงสาวเดินลงมาจากรถ พวกมันทั้งสองเห็นก็ดีใจรีบเดินลงจากรถ

เข้าไปหานายจ้าง เพื่อไปรายงานผลว่าพวกมันทำงานเสร็จแล้วตามที่สั่ง

“หวัดดีครับนาย”

“เป็นไง งานสำเร็จไหม”

“เรียบร้อยครับนาย แต่ไอ้เจตมันดันแทงไอ้หน้าอ่อนไปจริงๆ ไม่รู้ว่ามันตายแล้วรึยัง”

“ดี ให้มันตายได้ยิ่งดี ตอนแรกกะแค่ขู่ ถ้ามันตายก็ยิ่งดี”

พวกมันสองคนหันหน้ามองกันแล้วยิ้มเมื่อเจ้านายถูกใจในผลงาน

“เอ่อ นายว่าแต่ค่าจ้างพวกผมละครับ”

“นี่ แสนหนึ่งตามที่สัญญาและอีก ห้าหมื่นให้ค่าทำงานได้ถูกใจ”

“ขอบคุณครับนาย”

“พวกแกสองคนแน่ใจนะว่า จะไม่มีใครสาวมาถึงฉันได้”

“แน่นอนครับนาย พวกผมทำงานมาหลายปีรับรองได้”

หลังจากที่ได้เงินครบเรียบร้อยตามที่ตกลงแล้วพวกมันก็ต้องหนีไปหาที่กลบดาน ส่วนคนว่าจ้างก็ยืนยิ้มมีความสุขกับสิ่งที่เกิดขึ้น

เธอบอกว่าแล้วมันไม่มีทางมีความสุขได้ ครั้งนี้แค่เตือนแต่ครั้งหน้ามันต้องตาย เธอคิดแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งรูปดอกไม้

จันทน์ในกล่องข้อความให้คนเจ็บอวยพรขอให้ตายเร็วๆ แค่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังจะตายเธอก็แทบจะสำลักความสุขแล้ว


   เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงในที่สุดคนป่วยก็ถูกเข็นออกมาจากห้องฉุกเฉินไปที่ห้องพิเศษที่จองไว้ ธีรภัทรนั่งมองหน้าคนป่วย

ยังนอนหลับไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ยา ใบหน้าคนป่วยขาวซีดเพราะเสียเลือดมาก หมอบอกว่าอีกชั่วโมงก็จะรู้สึกตัว เขาไม่รู้ว่ามัน

เกิดอะไรขึ้นทุกอย่างมันเกิดเร็วมาก รู้แค่ว่าอีกฝ่ายถูกคนทำร้ายแต่ไม่รู้ว่าคนร้ายคือใครต้องการอะไร หากต้องการของมีค่า

กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ นาฬิกาก็ยังอยู่ครบ


   เขารีบโทรแจ้งตำรวจหลังจากที่มาถึงโรงพยาบาลได้ไม่นาน เพราะคิดว่าคนร้ายน่าจะยังไปได้ไม่ไกลและทางตำรวจขอ

ความร่วมมือกับทางร้านอาหารเปิดกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในลานจอดรถ ประกอบกับคำให้การเบื้องต้นของเขา ระหว่างที่นั่งเป็น

กังวลกับอาการของคนรักเสียงข้อความเข้าของโซเชียลเอฟในโทรศัพท์คนป่วยก็ดังขึ้น ทำให้เขาหันไปมองแล้วหยิบขึ้นมาดู สิ่ง

แรกที่ได้เห็นในกล่องข้อความก็คือ ดอกไม้จันทน์ ดวงสีอ่อนหรี่ลงเลื่อนดูข้อความเก่าอีกสองสามข้อความ นี่มันคืออะไร คงที่ส่ง

มานี่ไม่ปกติรึเปล่า บางทีเขาพอจะเดาได้แล้วว่าคนร้ายต้องการอะไร ธีรภัทรขบกรามบีบโทรศัพท์ในมือแน่น มีคนต้องการทำร้าย

คนรักของเขา ไม่รู้ว่ามันเป็นใครแต่เขาไม่เอาไว้แน่

“อือ อืม”เสียงคนบนเตียงดังขึ้น พร้อมทั้งขยับตัวเล็กน้อย ธีรภัทรวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมหันมาสนใจคนป่วยที่รู้สึกตัวแล้ว

“ที่รัก เป็นยังไงบ้าง”เสียงทุ่มคุ้นเคยดังขึ้นใกล้พร้อมรู้สึกมือถูกอีกฝ่ายกุมไว้ ทำให้คนป่วยที่ลืมตาขึ้นมาเห็นคนรักนั่งยิ้มให้อยู่

ข้างเตียงอดยิ้มตอบไม่ได้ เทนนิสมองไปรอบๆห้องสีขาวและมีสายยางห้อยอยู่เหนือศีรษะ ในห้องมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจางจาง

เออ ใช่สิเขาถูกคนทำร้ายนี่นา เขามองไปที่บริเวณหน้าท้องตอนนี้เริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมา ส่วนคนที่ช่วยเขาไว้ก็คงเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ

เตียงนี่เอง

“เจ็บแผลนิดหน่อย แล้วนี่ผมอยู่ที่โรงพยาบาลใช่ไหม”

“ใช่ หมอบอกว่าเราเสียเลือดไปเยอะ แผลลึกด้วยแต่โชคดีที่โดนอวัยวะสำคัญ”

“แล้วคนร้าย”อยากรู้ว่ามันเป็นใคร

“พี่โทรแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว ไม่นานก็คงจะได้ตัว”

คนป่วยพยักหน้า”คือผมไม่รู้ว่าคนร้ายต้องการอะไร”เขาหยุดพูดพยายามเรียบเรียงความคิด”ผมคิดว่ามันต้องการทำร้ายผม”เขา

มองหน้าอีกฝ่าย เหมือนมีคำถามขึ้นมาว่าเขารู้ได้ยัง”ช่วงนี้ผมได้รับข้อความแปลกๆ ก็เลยคิดว่า”ไม่รู้ว่าใครต้องการทำอย่างนั้น

เพราะเขาไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน”ขอโทษผมไม่ได้ตั้งใจจะปิด แต่คิดว่าเป็นแค่....”

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก เดี๋ยวให้ตำรวจจัดการ”กุมมือคนป่วยไว้แน่นเข้าใจความรู้สึกอีกฝ่ายว่าไม่ต้องการให้เขากังวลใจ แค่

ทำงานมาทั้งวันก็เหนื่อยอยู่แล้ว 

“ครับ”คนป่วยรับคำและเริ่มง่วงอีกแล้วเพราะเสียเลือดมาก ธีรภัทรบอกให้คนป่วยนอนพัก เขาปรับเตียงให้นอนสบายเลื่อนผ้าห่ม

ให้ ส่วนเขาจะกลับไปที่ห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเก็บของมาเฝ้า คนป่วยพยักหน้ารับรู้แล้วหลับไป ร่างสูงกดจมูกลงบนหน้าผาก

แล้วเดินออกจากห้องไป


   เสียงคนคุยกันเบาๆดังอยู่ข้างเตียงทำให้คนป่วยนอนบนเตียงรู้สึกตัว เทนนิสขยับตัวเล็กน้อยมองหาเสียงที่รบกวนเวลา

นอนของเขา เห็นคุณหมอพยาบาลกำลังยืนคุยกันอยู่

“เป็นไงครับคนป่วย ตื่นแล้ว ปวดแผลรึเปล่าครับ”คุณหมอสูงอายุสวมแว่นหน้าตาใจดีถามอาการเบื้องต้นคนป่วยหลังเข้ารับการ

รักษาว่ามีอาการอะไรที่ผิดปกติรึเปล่า

“ครับ ปวดนิดนิด”

“อาการไม่น่าเป็นห่วง กินยาที่หมอสั่ง นอนพักอีกวันสองวันก็กลับบ้านได้”คุณหมอบันทึกข้อมูลลงในแผ่นชาร์ตหลังสอบถาม

อาการคนป่วย

“ครับ”

คุณหมอคุยกับคนป่วยอีกสักครู่ก็ขอตัว คุณพยาบาลเขียนรายงานบนแผ่นชาร์ตหลังจากถอดสายน้ำเกลือ ถอดสายเลือดวัด

อุณหภูมิร่างกายและความดัน จากนั้นเลื่อนผ้าม่านเตรียมเช็ดตัวให้ผู้ป่วย


   เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยพยาบาลก็ยกข้าวต้มร้อนๆเข้ามาวางบนโต๊ะค่อมเตียง ท้องว่างมาหลายชั่วโมงแต่ไม่มีความ

ยากยิ่งอาหารคนป่วยหน้าตาไม่น่ากินเอาซะเลย เทนนิสตักข้าวต้มกินสองสามคำแล้วกินยา หมดหน้าที่พยาบาลปล่อยให้คนป่วย

นอนดูทีวี คนป่วยนอนรอคนที่บอกว่าจะกลับมาเฝ้า ตั้งแต่ตื่นมายังไม่เห็นหน้าเลย ไม่รู้ไปไหนของเขาไม่รู้รึไงว่าแฟนป่วยทำไม

ไม่มาดูแล

“คนป่วยเป็นไงบ้าง กินข้าวยัง”ธีรภัทรเปิดประตูเข้ามาเห็นคนป่วยหน้างอนอนจ้องโทรทัศน์ หันมามองเขาตาขวาง เอาแล้วไง ตื่น

มาไม่เห็นเขาเลยโกรธแน่นแน่เลย

“ไปไหนมาครับ มาช้า”เหลือบมองคนที่พึ่งเข้ามาในห้อง ในมือถือของกินมาหลายอย่าง

คนตัวโตรีบวางของบนโต๊ะเดินไปนั่งข้างเตียงง้อคนป่วยอารมณ์ไม่ดีทันที“ขอโทษ”เขากุมมือขาวที่ขาวซีดลูบเบาๆ ทำหน้าสำนึก

ผิด”พอดีพี่แวะเข้าไปคุยกับตำรวจ ไม่นึกว่ามันจะนานขนาดนี้”

คนป่วยลึกคิ้วขึ้นรีบหันกลับมาถามอีกฝ่าย“แล้วเป็นไงครับ มีอะไรคืบหน้ารึเปล่า”

“ยังเลยครับ ให้เวลาตำรวจบ้างสิครับ เรื่องเกิดยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย”

“ครับ”ไม่มีอะไรเขาแค่กลัวว่าคนที่จ้องทำร้ายจะไม่จบแค่นี้

“กินอะไรแล้วรึยัง พี่ซื้อของกินมาฝากเยอะเลย”

“เรียบร้อยแล้วครับ พี่ธีร์กินเถอะครับแล้วนอนพักสักงีบ”ใช้มือข้างหนึ่งวางไว้บนแก้มอีกฝ่าย ใบหน้ามีร่องรอยอดนอน ดูไปแล้ว

น่าสงสารวันหยุดทั้งที กลับต้องมาอยู่ที่โรงพยาบาล

อีกฝ่ายยิ้มตอบรับความเป็นห่วง ใครกันแน่น่าเป็นห่วงกว่ากัน เขากินกาแฟกับขนมปังรองท้องก่อนเข้ามา ตอนนี้ยังไม่หิวเอาไว้

นอนหลับสักงีบแล้วค่อยตื่นมากินแล้วกัน เขาเดินไปเปิดตู้หยิบผ้าห่มหมอนออกมาแล้วขึ้นไปนอนบนโซฟา สักพักก็หลับไป คน

ป่วยเบาเสียงโทรทัศน์ลง หยิบหนังสือนิยายที่ธีรภัทรเอามาจากห้องมาอ่าน


   ไม้รู้ว่านานเท่าไหร่คนที่นอนโซฟาเปลี่ยนไปนั่งทำงานจ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กบนโต๊ะกินข้าวแล้ว คนป่วยตอนนี้เริ่มหิวแล้ว

เพราะตอนเช้ากินแค่เข้าต้มไปไม่กี่ช้อน เขาลุกขึ้นจากเตียงเดินขโยกเขยกมือกุมแผลไปนั่งข้างๆคนตัวโต พอนั่งลงอีกฝ่ายก็ส่ง

สายดุดุมาให้ทันที “อยากได้อะไรทำไมไม่บอกพี่”คนป่วยยิ้มหวานไม่สนใจสายตาดุดุนั้นแล้วบอกว่า”หิวแล้วครับ”

ธีรภัทรดูเวลาแล้วสายมากแล้ว เห็นอีกฝ่ายบอกว่ากินข้าวต้ม แค่นั้นคงไม่พอ เขาลุกขึ้นไปหยิบเค้กที่ซื้อมาจากข้างล่างออกมา

จากตู้เย็น เลือกแอปเปิ้ล สาลีออกมาปลอกให้คนป่วยสองสามลูก

“เอาเป็นรูปกระต่ายนะครับ”

“ฮือ ดูการ์ตูนมากเกินไปนะเรา แค่ปลอกแบบธรรมดาก็แย่อยู่แล้ว”

คนป่วยดูผลไม้สับเป็นชิ้นปลอกเปลือกวางอยู่ในจาน เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยถนัดแบบนี้และต้องพยายามน่าดู ผู้ชายตัวโตปกติมือ

จับแต่กระดาษปากกา แต่ตอนนี้มาจับมีดปลอกผลไม้ดูแล้วไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ รสชาติไม่ได้ตัดสินแค่เพียงภายนอกเท่านั้น

เขาหยิบผลไม้ชิ้นหนึ่งขึ้นมากินถึงหน้าตาไม่ดีเท่าไหร่“อร่อย”เป็นคำพูดง่ายๆคนฟังกลับรู้สึกดีจนต้องยิ้มออกมา เห็นอีกฝ่ายกิน

ได้โดยไม่บ่นก็ดีใจแล้ว เทนนิสเห็นคนตัวโตยังไม่ได้กินอะไรเขาถือโอกาสหยิบผลไม้ป้อนอีกฝ่าย ธีรภัทรเห็นผลไม้ที่ปลอกให้

คนป่วยยืนมาให้เขาก็รีบงับทันที อืม อร่อยจริงจริง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนป่วยกันแน่

ก๊อก ก๊อก กินกันไปได้ไม่กี่คำเสียงเคาะหน้าห้องก็ดังขึ้น ยังไม่ได้เดินไปเปิดประตูก็เปิดออก เห็นเพื่อนสนิทกับคนรักของเพื่อน

เข้ามาในห้อง

“พี่ธีร์หวัดดีครับ เทนนิสเป็นไงบ้าง”ชายหนุ่มตัวเล็กทักทายเจ้านายแล้วเดินไปนั่งข้างเพื่อนถามอาการเพื่อนอย่างเป็นห่วง ตอน

แรกที่โทรไปบอกว่าถูกคนทำร้ายร่างกาย เขายังไม่นึกว่าจะถึงต้องนอนโรงพยาบาล

“ดีขึ้นมากแล้วล่ะ พรุ่งนี้น่าจะออกจากโรงพยาบาลได้”

“คุณธีรภัทรสวัสดีครับ”ปาลภัทรทักทายผู้ชายอีกคนนั่งปลอกผลไม้ให้ป่วยกิน

“สวัสดีครับเชิญตามสบาย”

“พี่ปาลหวัดดีครับ”

“สวัสดีครับ ไปทำอีท่าไหนทำไมถึงได้มานอนโรงพยาบาลได้”ถามคนป่วยที่ไม่น่าจะไปมีเรื่องกับใครได้ ทำไมถึงมานอนโรง

พยาบาลได้

“ไม่รู้เหมือนกันครับ บางทีอาจจะเป็นคราวซวยก็ได้ใครจะไปรู้ ว่าแต่วีร์แล้วไหนของฝากที่บอกให้ซื้อมาฝาก”คนป่วยทวงของที่

บอกให้เพื่อนซื้อมาให้

“แล้วหมอเขาให้กินได้หรอ”ถามอย่างกังวล แล้วไม่ลืมมองไปที่เจ้านาย ตอนแรกที่รู้ว่าทั้งสองคบกันก็ตกใจอยู่บ้างไม่นึกว่าคนไร้

อารมณ์อย่างเจ้านายจะมาตกหลุมรักเพื่อนเขาจริงๆ แต่เห็นที่เจ้านายปกติทำหน้านิ่งไร้อารมณ์วันนี้กลับนั่งปลอกผลไม้ให้เพื่อน

เขา เห็นเพื่อนมีคนคอยดูแลอย่างดีเท่านี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลแล้ว


                                                            มีต่อข้างล่าง

ออฟไลน์ jaengsRU

  • ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนิยาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-1
    • https://www.facebook.com/jaengsruchengschan/

                                                                     ต่อจากข้างบน

         บ่ายของวันต่อมาหมอก็อนุญาตให้คนป่วยกลับบ้านบ้าน แผลไม่มีอาการอักเสบหรือติดเชื้อ แต่ก็ต้องพยายามรักษาความ

สะอาดและไม่ให้ถูกน้ำ ธีรภัทรหยุดงานอีกวันดูแลคนป่วย ส่วนคนป่วยหยุดงานไปสามสี่วันอยู่ในห้อง นอนเล่นอ่านหนังสือ

การ์ตูน อ่านนิยาย ดูหนัง แผลเริ่มดีขึ้นเขากลับไปเรียนและเริ่มทำงานได้ตามปกติในสัปดาห์ต่อมา


   ข่าวความเคลือบหน้าตามหาคนร้ายที่ทำร้ายร่างกายเขายังไม่มี ธีรภัทรก็ยิ่งเป็นห่วง กลัวว่าคนร้ายจะกลับมาทำร้ายคนรัก

ของตัวเองอีก ทำให้วันไหนว่างตอนเที่ยงเขาจะไปกินข้าวด้วยหรือไม่ก็เรียกเข้าไปนั่งกินที่ห้อง ส่วนเวลาเลิกงานให้อีกฝ่ายรอที่

โต๊ะหรือเข้าไปรอในห้องไม่เดินไปไหนคนเดียว

เวลาผ่านไปเรื่อยในที่สุดก็มาถึง วันท่องเที่ยวประจำปีของบริษัทพนักงานแต่ละคนต่างดีใจ ได้ไปเที่ยวพักผ่อน เป็นรางวัลที่

บริษัทมอบให้ รถบัสท่องเที่ยว 32 ที่นั่ง 4 คันจอดรอรับทุกคนอยู่หน้าบริษัท แต่ละคันติดป้ายหมายเลขไว้หน้ารถมีเจ้าหน้าที่

ประจำรถตรวจเช็ครายชื่อสมาชิกของรถแต่ละคน เวลานัดหมายคือเจ็ดโมงเช้า ล้อหมุนเจ็ดโมงครึ่ง ตอนนี้หกโมงเกือบเจ็ดโมง

คนก็เริ่มทยอยมาเกือบครบแล้ว บางคนลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กลงมาจากรถแท็กซี่ เข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อน พนักงานสาวๆ

ต่างแต่งตัวสวยไปเที่ยว บางคนเริ่มเก็บภาพประทับใจกับเพื่อนตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกเดินทาง ระหว่างที่จับกลุ่มถ่ายรูปอยู่นั้นพวก

เธอเหลือบไปเห็นเจ้านายยืนหล่อกอดอกมองพนักงานทุกคนอยู่

“พี่หมวยดูนั่นซิ ดูเจ้านายของเราวันนี้หล่อ ดูดีมาก”

“ไหน... เออหล่อจริงจริงแก ไม่เคยเห็นท่านใส่ชุดลำลองมาก่อน ดูเด็กลงตั้งเยอะ”

“แหมพี่เจ้านายเราก็ยังแก่สักหน่อย

“แล้วนั่นใช่ลูกลูกท่านไหมน่ะพี่ หน้าตาน่ารักเชียว”

“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะใช่ ดูคล้ายๆเหมือนกัน”

“พอพออย่าไปยุ่งเรื่องเจ้านายเดี๋ยวตกงานกันเปล่า มาถ่ายกันต่อดีกว่า เอ้า แกยิ้มหน่อยรูปนี้ฉันจะเอาลงโซเชียลเอฟ”

ธีรภัทรยืนดูสตาฟเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง และคอยดูว่ามีอะไรขาดเหลือบ้าง จำนวนพนักงานที่ลงชื่อไปท่องเที่ยว

ประจำปีของปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าทุกคนจะชอบทะเล โดยเฉพาะสาวๆดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ ดวงตาสีอ่อนมองคนรัก

ในชุดลำลองกำลังช่วยงานสตาฟทำงานอยู่ แผลหายแล้วก็เริ่มซนทันที เทนนิสช่วยพี่ๆขนน้ำเปล่าขึ้นรถ ขนมของว่าง และข้าว

เหนียวหมูทอดกับข้าวเช้าที่จะแจกให้ทุกคน

“เทนนิสวางไว้ตรงนั้นแหล่ะ แล้วไปดูให้พี่หน่อยว่ารถคันไหนของไม่ครบบ้าง”พี่สตาฟวานให้น้องไปดูรถคันอื่นๆ

“ครับพี่”เทนนิสรับคำอย่างว่าง่ายเดินไปสำรวจดูของตามรถ และไปบอกพี่สต๊าฟว่าของครบทุกคันแล้ว

เจ็ดโมงสิบห้าสตาฟเรียกให้ทุกคนขึ้นรถตามที่แจ้งไว้ พนักงานต่างรีบขึ้นรถไปหาที่นั่งไว้ ไม่นานรถบัสทั้งสี่คันก็พร้อมออกเดิน

ทาง ทันทีที่รถออกตัวเสียงปรบมือโห่ร้องก็ดังขึ้น สตาฟทำหน้าที่เช็คจำนวนผู้โดยสารอีกรอบ และเริ่มแจกข้าวแจกน้ำและขนม

“ไปเด็กๆขึ้นรถได้แล้ว”ธีรภัทรบอกเด็กทั้งสามคน นั่งตากลมมองรถบัสทั้งสี่คันเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถหน้าบริษัท

“ได้ครับคนแก่ ปะบู้ตึ้งบู้ลิ้ม เราไปขึ้นรถกัน เดี๋ยวคนแก่จะดุเอา”เด็กๆเดินจับพี่ชายข้างบ้านตรงไปที่รถ ทั้งสองยิ้มดีใจที่จะได้ไป

เที่ยว เทนนิสไม่ได้ขึ้นรถไปพร้อมกับคนอื่นส่วนวีร์กับคุณแลขาเบสมาไม่ได้เพราะป่วยไม่รู้ว่าป่วยจริงหรือเปล่า อย่าให้รู้ว่าโกหก

นะ ถ้ารู้ไม่ต้องเอาของฝาก

“ปากเก่งนะครับที่รัก รับรองคืนนี้ไม่รอดแน่”แกล้งขู่ให้อีกฝ่ายกลัว

“เสียใจคืนนี้ผมนอนกับแฝด”ยังไม่ได้บอกสักคำเลยว่าจะนอนด้วย

“นอนกับพี่เทนนิส เย้/เย้”แฝดดีใจ ไม่ได้ดูคุณน้าที่หน้าคล้ำลง ในใจก็ได้แต่คิดว่าไม่น่าเอาก้างมาเลย

“อ้าว แล้วน้าธีร์จะนอนกับใครเด็กๆไม่สงสารน้าหรอที่ต้องนอนคนเดียว”คุณน้าทำเสียงเศร้าให้หลานๆเห็นใจ

บู้ลิ้มสงสารน้าธีร์“นอนด้วยกัน พี่เทนนิสให้น้าธีร์นอนด้วย”

“นั่นไง มันต้องอย่างนั้นหลานน้า พูดจาน่ารักเดี๋ยวเลี้ยงไอติมคนละถ้วยเลย”ธีรภัทรยิ้มอย่างผู้ชนะ เขาลืมบอกไปว่าแฝดนอนแต่

หัวค่ำ

แฝดไม่มีใครดูแล ธีรภัทรเลยต้องรับหน้าที่คุณน้าแสนดี รับมานอนที่ห้องตั้งแต่เมื่อคืนจะได้สะดวกตื่นแต่เช้า และเหตุนี้ธีรภัทร

เลยต้องขับรถส่วนตัวมา ให้เทนนิสคอยมานั่งเป็นพี่เลี้ยงดูแลเด็กๆไปด้วย แหมช่างเป็นข้ออ้างที่ดีเหลือเกิน แค่นี้ก็เหมือนไป

เที่ยวแบบครอบครัว พ่อแม่ลูกแล้ว คิดได้อย่างนี้ริมฝีปากหนาก็โค้งขึ้นมา

เดินทางออกจากเมืองหลวงใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม สองข้างทางผ่านบ้านเรือน ทุ่งนา เด็กๆเกาะขอบหน้าต่างมองออกไป

นอกหน้าต่างเห็นวัวควาย เย็นแกว่งหางปากเคี้ยวหญ้ามองมา เด็กชายทั้งสองก็ชี้นิ้วให้พี่ชายข้างบ้านดู ธีรภัทรขับนำรถบัสท่อง

เที่ยวเพื่อจะได้มีเวลาแวะเที่ยวตามข้างทาง เขามองกระจกหลังเห็นหลานๆมีความสุขกับถามโน่นถามนี่พี่ชายข้างบ้าน สักพัก

เทนนิสชวนเด็กๆนั่งดูการ์ตูนกินขนมไปด้วย

ขับออกมาได้สักพักใหญ่ใหญ่ ธีรภัทรเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันให้เด็กๆได้เข้าห้องน้ำ ซื้อขนมดูเหมือนว่าขนมที่ซื้อมาจะหมดแล้ว เขา

จูงมือเด็กๆเข้าห้องน้ำ ส่วนเทนนิสไปซื้อเครื่องดื่มเย็นเย็นให้ทุกคน หลังจากทำธุระเรียบร้อยเด็กๆก็บ่นบอกว่าหิวข้าวเลยต้องแวะ

ที่ศูนย์อาหารหาอะไรกินก่อน

“บู้ตึ้ง บู้ลิ้มเอาข้าวมันไก่ไหมพี่จะไปซื้อให้”

“เอาครับ/ครับ”เด็กๆนั่งบนโต๊ะดูดน้ำเย็นสบายใจ พูดเกือบพร้อมกันเพราะตอนนี้หิวมาก ถึงจะกินขนมไปแล้วก็ตามเทนนิสไม่ลืม

ถามคุณน้าของเด็กๆว่าอยากกินอะไร ตอนเช้าได้กินแค่ข้าวต้มกับแซนวิซไม่กี่ชิ้นที่เขาป้อนตอนอยู่บนรถ

“เอาเหมือนกันนั่นแหล่ะ”ไม่อยากให้อีกฝ่ายยุ่งยาก”ให้พี่ไปช่วยไหม”

“ไม่เป็นไรครับขับรถมาเหนื่อยๆ นั่งพักกับเด็กๆดีกว่า”ยิ้มให้อีกฝ่ายแล้วตรงไปที่ร้านข้าวมันไก่


          จอดพักกินข้าวเกือบชั่วโมง มาถึงโรงแรมที่พักก็บ่ายสองโมงกว่า รถบัสทั้งสี่คันมาถึงก่อนหน้านี้นานแล้ว ตอนเที่ยง

พนักงานกินข้าวที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็แยกย้ายเข้าที่พักตามที่สตาฟจัดไว้หากใครไม่พอใจสามารถสลับสับเปลี่ยน

กับเพื่อนได้ ห้องพักแบ่งเป็นโซนของชายหญิงแยกจากกันชัดเจน หลังจากเข้าห้องพักเรียบร้อยบางคนชวนกันออกไปเดินเล่น

สำรวจชายหาด บางคนชวนกันออกไปเดินเล่นตลาดหาซื้อของฝาก บางส่วนนัดรวมตัวกันที่ห้องหนึ่งเตรียมการแสดงสำหรับ

ปาร์ตี้คืนนี้

เทนนิสจูงมือแฝดไปที่ห้องพักโดยมีธีรภัทรช่วยถือกระเป๋าเดินตามหลัง ห้องพักบังกะโลแยกออกมาห่างจากพนักงานคนอื่น ดู

แล้วเป็นส่วนตัวมาก เปิดประตูเข้าไปด้านใน แบ่งออกเป็นสองห้องนอน มีระเบียงหน้าห้องยื่นออกไป เลื่อนประตูกระจกใสออก

ไปเห็นหาดทรายสีขาว ทะเลสีคราม กลิ่นเค็มของเกลือและลมพัดเย็นสบาย จนคนยืนมองต้องสูดอากาศดีๆเข้าปอด

“เป็นไงห้องสวยไหม ถูกใจไหม”ร่างสูงเดินมาซ้อนข้างหลังกอดเอวอีกฝ่ายไว้ กดจมูกลงบนซอกคอขาว มองออกไปด้าน

นอก”เสียดายได้พักแค่คืนเดียว”

“สวยครับ พาสาวๆมาพักบ่อยละซิ”

หืม ทำไมที่รักพูดจาหาเรื่องอย่างนี้ละครับ“ไม่เคยครับ ไม่เคยปกติก็ทำแต่งาน เที่ยวประจำปีก็นอนคนเดียว ปีนี้ปีแรกที่มีคนมา

นอนด้วย”ว่าไปแล้วก็ขอหอมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ”ฟอด”ชื่นใจ คนถูกฉวยโอกาสหอมแก้มได้แค่ยืนยิ้มหน้าแดงอายที่อีกฝ่าย

แสดงความรักไม่กลัวว่าใครจะมาเห็น นี่มันไม่ใช่ในห้องนะถ้ามีพนักงานของบริษัทเดินมาล่ะจำทำยังไง เขาเป็นคนห่วงแทนอีก

ฝ่ายไม่ได้ แต่เรื่องความรักห้ามไม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้ “มาเหนื่อยๆ นอนพักไหมครับกว่าจะถึงเวลาปาร์ตี้เริ่มคงอีกนาน”

“อืม หลับสักงีบก็เหมือนกัน ไปนอนด้วยกันนะ”ยังไม่ทันที่จะตอบรับหรือปฏิเสธ ก็มีเสียงเล็กๆใสๆ และเสียงวิ่งตึกตึกเข้ามาใน

ห้อง พร้อมกับเด็กๆส่งยิ้มหวานมาให้ทั้งคู่ ธีรภัทรเลยต้องปล่อยคนในอ้อมกอดเป็นอิสระอย่างไม่เต็มใจ

“พี่เทนนิส พี่เทนนิส ไปเล่นน้ำกันครับ”บู้ตึ้งจับมือพี่ชายข้างบ้านชวนออกไปเล่นน้ำ

“ไปกัน ไปกัน”บู้ลิ้มแหงนหน้าส่งยิ้มหวานให้พี่ชาย

“ผมว่าคงไม่ได้แล้วแหล่ะ”ดูเด็กๆเปลี่ยนเสื้อผ้าใส่ชุดเล่นน้ำเรียบร้อยแล้ว”พี่นอนเถอะเดี๋ยวผมดูแฝดให้”

“โอ้ โดนทิ้งซะงั้นเศร้าเลย”

“งั้น ไปเล่นด้วยกันทั้งหมดนี่แหล่ะ แต่พี่กับน้าธีร์ขอเปลี่ยนชุดก่อน”บอกทั้งสองให้รอก่อน แล้วอุ้มทั้งคู่นั่งบนเตียง เทนนิสเปลี่ยน

เสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสำหรับเล่นน้ำ

เปลี่ยนเสื้อเรียบร้อยออกมาเล่นน้ำเล่นทรายที่ชายหาด เด็กๆสนุกมาก นานแล้วที่ไม่ได้มาเล่นน้ำทะเล ถึงจะว่ายน้ำเป็นแต่ก็ไม่น่า

วางใจเทนนิสบอกทั้งสองใส่ห่วงยางด้วย แฝดทำตามว่าง่ายเพราะถ้าปฏิเสธจะไม่ได้ลงน้ำ โชคดีที่หาดหน้าบังกะโลมีร่มเย็น

สบาย เล่นน้ำสักพักเทนนิสก็ขึ้นมาที่นั่งเช็ดตัวอยู่เก้าอี้ชายหาด แต่ก็ยังเป็นห่วงเด็กๆจนต้องตะโกนบอกไม่ให้ไปเล่นไกล คนตัว

โตนอนหลับไปแล้วบอกให้เข้าไปนอนข้างในก็ไม่ไป ลมทะเลแรงขนาดนี้เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะป่วย เขามองใบหน้าคนนอนหลับ

สงสัยจะขับรถจนเหนื่อย เข้าไปหยิบผ้าห่มผืนบางออกมาห่มให้คนนอนหลับ กลัวว่าจะไม่สบาย เขาดีใจที่อีกฝ่ายถึงจะทำงาน

หนักแต่ก็ยังหาเวลาที่อยู่ด้วยกัน ดูแลเขาเวลาที่ไม่สบาย ไม่หวานเหมือนคู่อื่น ไม่ได้หวือหวาจนเกินไป เรื่อยเรื่อย เรียบง่าย

สบายสบายอย่างนี้แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว   

“พี่เทนนิส พี่เทนนิส”แฝดวิ่งขึ้นมาจากน้ำ มาหาคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ชายหาด

“เป็นไงเล่นเสร็จแล้วหรอ”หน้าตามอมแมมเชียว เทนนิสหยิบเช็ดตัวผืนเล็กเช็ดตัวให้ทั้งสอง

“ครับ บู้ลิ้มหิวแล้ว”

“บู้ตึ้งด้วยหิวหมือนกัน”

เออ ใช่ลืมนึกไปว่าเด็กๆได้กินข้าวไปตั้งแต่เที่ยงตอนนี้ก็น่าจะหิวแล้ว ว่าแต่จะกินที่โรงแรมหรือออกไปกินข้างนอกดีละ

“โทรสั่งมากินที่กินห้องดีกว่า ตอนนี้ยังมีแดดอยู่ออกไปข้างนอกเดี๋ยวไม่สบายเอา”คนนอนอยู่เมื่อครู่ ลุกขึ้นนั่งอุ่มบู้ลิ้มไปนั่งตัก

“ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปอาบน้ำ พี่จะโทรสั่งข้าวผัดทะเลมาให้”

“เย้/เย้”แฝดดีใจรีบวิ่งเข้าไปในห้อง โดยที่ไม่ต้องบอกอีกรอบ เทนนิสชวนคนเพิ่งตื่นเข้าห้อง


   หกโมงเย็นพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบท้องทะเล หลายคนไปยืนดูช่วงเวลาที่โรแมนติกนี้และไม่ลืมเก็บภาพความ
ประทับใจไปด้วย

เมื่อถึงเวลาทุกคนมารวมตัวที่ชายหาด ทางโรงแรมเตรียมโต๊ะอาหารไว้ และมีเวทีทำการแสดง นักแสดงออกมาหาอะไรกินรอง

ท้องก่อนคนอื่นเพื่อไปแต่งตัว ทุกคนนั่งตามแผนกตามป้ายที่สตาฟตั้งไว้ ทำให้โต๊ะผู้บริหารมีคนมานั่งร่วมโต๊ะไม่กี่คน

“ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกทรายได้นะคะ”หญิงสาวเจ้าของโรงแรมลงมาร่วมงานปาร์ตี้ตามคำเชิญ เธอได้ยินมาว่ามีบริษัทมันฝรั่ง

ทะเล้นมาจองที่พักเที่ยวประจำปี ไม่นึกว่าเจ้าของบริษัทจะหล่อถูกใจเธอขนาดนี้ รู้อย่างนี้เธอคงรีบมาต้อนรับด้วยตัวเองตั้งแต่
แรก

“ขอบคุณครับ คุณทรายต้อนรับได้ดีมาก”

“ดีใจค่ะ ที่ได้ยินอย่างนี้”

บู้ตึ้งอยากกินกุ้งเผาตัวโตแต่อยู่ไกลเกินไป พี่เทนนิสก็กำลังป้อนปูให้น้องชายอยู่ แล้วผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงชวนน้าธีร์คุยไม่หยุด

เลย สงสัยอยู่บ้านไม่คนคุยด้วยรึไง คุณครูเคยสอนว่าเวลากินข้าวห้ามคุยกัน ตอนอยู่โรงเรียนเขาเคยคุยกับเพื่อนยังโดนคุณครูดุ

บ่อยๆ ผู้หญิงคนนี้ต้องนิสัยไม่ดีไม่เชื่อฟังที่คุณครูสอน เอ่อ คุณแม่เคยบอกว่าถ้ามีผู้หญิงนิสัยไม่ดีเข้ามาคุยกับน้าธีร์ต้องขัดขวาง

เพราะพวกเธอจะมาหลอกน้าธีร์ให้เสียใจ ร้องไห้“น้าธีร์ บู้ตึ้งอยากกินกุ้ง ป้อนหน่อยครับ”

“ป้อนบู้ลิ้มด้วย”

“ได้ครับ น้าแกะกุ้งให้เยอะๆเลย”

“ให้พี่เทนนิสด้วย”

“ครับได้ครับให้พี่เทนนิสด้วย”ธีรภัทรแกะเปลือกกุ้งวางใส่จานหลานชายทั้งสองและไม่ลืมวางใส่จานอีกคนที่นั่งนิ่ง ไม่สนใจเขา

ตั้งแต่ที่มีผู้หญิงที่ชื่อทรายมานั่งข้างๆ คงจะไม่ได้หึงอยู่หรอกนะ   

“หลานคุณธีรภัทรหรอคะ ดูน่ารักทั้งคู่เลยนะคะ”เธอมองเด็กชายหน้าตาน่ารักกำลังกินกุ้งที่คุณอาแกะให้อย่างอารมณ์ดี

แต่โตแล้วน่าจะกินเองได้แล้วนะเด็กพวกนี้ ไม่เห็นรึไงว่าผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน สงสัยจะถูกตามใจจนนิสัยเสีย

“คุณธีรภัทรลองกินนี่ดูสิคะ ผัดฉ่าทะเลรวมของเราขึ้นชื่อมากนะคะ”เธอตักกับข้าวใส่จานชายหนุ่ม”ต้มยำกุ้งที่นี่ก็อร่อยเหมือนกัน

อาหารทะเลของเราสดมาก”

“เอ่อ ขอบคุณครับ ไม่เป็นไรครับ ผมไม่รบกวน เชิญคุณกินตามสบาย”เดี๋ยวแฟนเขาเข้าใจผิด หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้ชายหนุ่ม

แล้วชวนคุยต่อ ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าลำบากใจ 

“เด็กๆเอากุ้งอีกไหม”ปากถามเด็กๆแต่สายตามองอีกคนที่นั่งทำหน้ามุ่ย ธีรภัทรแกะกุ้งให้เพราะว่าอีกฝ่ายชอบกิน 


   งานปาร์ตี้เริ่มขึ้นการแสดงของพนักงานแต่ละแผนกทยอยขึ้นไปบนเวที เสียงหัวเราะ โห่ร้อง เสียงปรบมือ ดังขึ้นตลอดที่มี

การแสดงบนเวที อาหารบนโต๊ะทยอยเสิร์ฟเรื่อยๆ จากของคาวเปลี่ยนของหวาน จนงานจบลงบางส่วนก็กลับห้องไปพักผ่อน บาง

ส่วนจับกลุ่มกินเหล้าริมชายหาดของโรงแรม

“บู้ตึ้งบู้ลิ้ม มาแปรงก่อนเร็ว ดึกแล้วจะเข้านอน”เทนนิสเรียกเด็กชายทั้งสองที่อยู่ในชุดนอนนั่งดูโทรทัศน์

“ครับ/ครับ”ทั้งสองรีบวิ่งตามคนเรียกเข้าไปในห้องน้ำ ถือแปรงสีฟันอันเล็กของตัวเองไว้ในมือรอพี่ชายข้างบ้านบีบยาสีฟันให้

“หือ กลิ่นยาสีฟันสตรอเบอร์รี่นี่หอมมากเลย”

“อร่อยด้วยครับ บู้ลิ้มชอบ”

“เฮ้ย มันกินไม่ได้นะบู้ลิ้ม”

“คุณครูบอกแล้วครับ บู้ลิ้มไม่ได้ตั้งใจกลืน”

เทนนิสช่วยเด็กๆแปรงฟันจนเสร็จแล้วไปส่งที่เตียง

“ที่รักดึกแล้วไปนอนกันเถอะ”ธีรภัทรเดินเข้ามากอดคนรัก

“หึ ชวนผิดคนรึเปล่า ไม่ไปชวนคุณทรายอะไรนั่นมานอนด้วยละ เห็นคุยกันถูกคอนิ จนเธอไม่ยอมลุกไปไหนขนาดงานปาร์ตี้เลิก

แล้วยังทำท่าจะตามมาถึงห้องซะงั้น” ดูสายตาผู้หญิงคนนั้นก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ 

นั่นไงซื้อหวยทำไมถูก กำลังหึงอยู่จริงอย่างที่คิด เห็นนั่งเงียบตั้งแต่อยู่ในงาน “ไม่ได้รักคนนั้น แต่รักคนนี้ ไม่ชอบเธอด้วยแค่คุย

ตามมารยาทเท่านั้นไม่ได้มีอะไร”ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะยอมไปไหน เล่นเอาที่รักเขาเข้าผิดซะได้

ไม่เชื่อหรอก สวย อึ๋ม ขนาดนั้นไม่คิดอะไรได้ไง“ไม่เอาคืนนี้จะนอนกับแฝด สัญญาแล้วด้วย”ทำตัวไม่ดีอย่าคิดว่าจะไปนอนด้วย

เลย ก็ใครใช้ให้มีแฟนหน้าตาดี ใครเห็นก็ต้องชอบเป็นธรรมดา

“หึงหรอ”ดึงคนรักมานั่งที่โซฟา แล้วมองหน้าอีกฝ่ายที่บอกว่ากำลังอารมณ์ไม่ดี

ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง“อืม หึงแล้วจะทำไม หึงไม่ได้หรอ”

“ไม่ได้บอกว่าหึงไม่ได้”กุมมือคนรักไว้แน่น ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเขาชอบผู้หญิงคนนั้น คุยด้วยก็แทบจะนับคำได้ เป็น

เธออีกที่มานั่งข้างเขาชวนคุยโน่นคุยนี่ไม่ยอมหยุด เทนนิสมองหน้าคนรักที่กำลังยิ้มดีใจอะไรสักอย่าง”ยิ้มอะไรไม่ทราบ”ยิ่งเห็น

อีกฝ่ายยิ้มยิ่งรู้สึกหงุดหงิด   

“ดีใจมีคนหึง เขาบอกว่ายิ่งหึงมากกยิ่งรักมาก”ดึงคนรักเข้าไปกอดไว้ ใช้มือหนาลูบแผ่นหลังเบาๆ”ไม่โกรธนะ ดีกันนะ ดีกัน พี่ไม่

ได้คิดอะไรกับเธอจริงๆ”

“รู้ แล้วก็ไม่ได้โกรธด้วย แค่รู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นไปนอนกันเถอะจะได้หายหงุดหงิด”

“อืม”พยักหน้าเดินตามแรงดึงอีกฝ่ายไปที่เตียง เพราะรู้ว่าปฏิเสธยังไงอีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้เขาไปนอนที่อื่นแน่ๆ

   
                 เช้าวันใหม่พระอาทิตย์ค่อยๆโผล่ขึ้นมาจากทะเล เทนนิสออกมาเดินเล่นรับอากาศสดชื่นตอนเช้า เขากำลังยืน

กอดอกมองน้ำทะเลที่เป็นคลื่นเล็กๆ ยืนอยู่สักพักชายหนุ่มร่างสูงวิ่งเหงื่อท่วมตัวเข้ามาหา

“นึกว่าหายไปไหน นึกว่าแอบหนีตามผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว”

“ตื่นออกมาวิ่งกำลังกายแต่เช้า พี่เห็นเรานอนหลับสบายไม่อยากกวน”

“อืม”ที่จริงก็รู้อยู่แล้วเห็นรองเท้ากับเสื้อผ้าออกกำลังหายไป เลยออกมายืนรออยู่เนี่ย”เช็ดเหงื่อครับเดี่ยวไม่สบาย”ส่งผ้าเช็ดหน้า

ฝืนเล็กให้”ขอบใจนะ”

“เข้าไปข้างในเถอะครับ เด็กๆตื่นแล้วจะไม่เห็นใคร ใกล้ถึงเวลากินข้าวแล้วด้วย”ทั้งสองกลับเข้าห้องพัก เด็กชายทั้งสองตื่นแล้ว

นั่งหัวฟูดูการ์ตูนอยู่หน้าโทรทัศน์ แหมเป็นเด็กเลี้ยงง่ายกันทั้งคู่เลย“บู้ตึ้งบู้ลิ้มหิวข้าวกันรึยัง”เทนนิสนั่งลงลูบหัวทั้งสองอย่าง

เอ็นดู”ยังคับ/ยังคับ” ปล่อยให้เด็กทั้งสองนั่งดูการ์ตูนสักครู่แล้วเรียกออกไปกินข้าวเช้าที่ทางโรงแรมเตรียมไว้พร้อมกับพนักงาน
คนอื่น 


   เสร็จจากมื้อเช้า สตาฟให้ทุกคนกลับไปเก็บของมาไว้ที่รถบัสเตรียมเช็คเอาท์ออกจากที่พัก เทนนิสช่วยเด็กๆแต่งตัว
เรียบร้อยเก็บของลงกระเป๋า

“แหม วันนี้หลานน้าหล่อกันทั้งคู่เลย”เด็กๆถูกชมต่างแย้มแป้นโชว์ฟันขาวกันใหญ่

“จะบอกว่าหล่อเหมือนน้าว่างั้น”แหมพูดจาได้น่าหมั่นไส้มาก

“ครับ”ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธที่ถูกชมว่าหน้าตาดี เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ออกเดินทางทุกคนปรึกษากันว่าออกจากที่นี่จะไปที่ไหนกัน

ธีรภัทรบอกถ้าอยากไปเที่ยวที่ไหนเขาจะพาไป “ไปเที่ยว น้าธีร์บู้ลิ้มอยากเที่ยว อยากไปเล่นน้ำ อยากไปเล่นเครื่องเล่น”บู้ลิ้ม

ตะโกนบอกบอกคุณน้า อืม แล้วที่ที่ว่าอยู่ไหนละครับบู้ลิ้ม ช่างเถอะยังไงวันนี้ก็ว่างทั้งวัน ขับรถไปเรื่อยก็คงจะเห็นเอง ใช้เวลาวัน

หยุดให้เต็มที่แล้วกัน เย็นๆค่อยเดินทางกลับ คิดได้อย่างนั้นแล้วมองไปที่กระจกมองหลังยิ้มให้คนที่นั่งอยู่เบาะหลังเล่นกับ

หลานๆของเขาอยู่


*****************************************************************

โปรดติดตามตอนต่อไป





ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด