ภารกิจที่ 6 : เข้าถ้ำเสือ“น้องเขียวสุดสวย จะรีบไปไหน” จุนชะงักเมื่อได้ยินเสียงแซวเขียวจากรุ่นพี่ปีสี่คณะเดียวกันที่ยืนอยู่เป็นกลุ่มสามสี่คน
“ช่างแม่งเหอะจุน” เขียวถอนใจ จะบอกว่าโดนจนชินเขาก็ไม่เคยชินกับมันสักนิด แต่ถ้าจะให้มีเรื่องทุกครั้งสักวันคงโดนไล่ออก
จากมหาลัย
“ช่างได้ไงวะ ไอ้กายมันปากหมา” จุนเลิกเรียกกายว่าพี่มานานแล้ว เพราะอีกฝ่ายจ้องแต่จะหาเรื่องเพื่อนเขา กายขึ้นชื่อเรื่องดูถูก
เพศที่สาม ถึงแม้เขียวจะไม่ใช่เกย์แต่กายไม่เคยเชื่อ
“เฮ้ยแชมป์มึงเพิ่งเลิกกับเมียไม่ใช่เหรอวะ สนใจรับน้องเขาไปแก้ขัดหน่อยไหม ฮ่าๆ”
“กูไม่เคยลองข้างหลังแต่หน้าตาแบบนี้กูหยวนให้ สนใจไหมน้องพี่ลองให้ฟรี” เสียงแซวกันสนุกปากของกลุ่มที่นั่งอยู่ทำให้จุน
ที่คิดจะเดินผ่านไปเฉยๆ ทนไม่ไหว ปากอย่างนี้มันควรถูกฟาดสักที
“อยากลองมากก็เสียบกันเองสิพี่ หน้าอย่างพี่ถึงจะเถื่อนไปหน่อยแต่แก้ขัดกันเองคงพอไหว ปากว่างมากก็อมของเพื่อนไว้”
“ไอ้จุน!!” จุนผงะหลบหมัดที่พุ่งเข้าหา เขาเอาตัวรอดได้ทันแต่เพราะไม่ได้ตั้งตัวจึงเซไปปะทะกับบางอย่างด้านหลัง จุนรับรู้ถึง
แรงกระแทกแต่กลับไม่รู้สึกเจ็บสักนิด เมื่อหันไปดูจึงพบว่าเขาชนเข้ากับร่างสูงของทิเบต ได้มือของอีกฝ่ายช่วยประคองเอา
ไว้เขาถึงไม่ล้ม
“จุน!!” เขียวรีบเข้าไปหาเพื่อน ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากถ้าไม่ได้ทิเบตรับไว้จุนคงล้มกระแทกพื้นไปแล้ว
“พี่เบต..พี่..” เขียวอุทานเบาๆ เมื่อเห็นเลือดที่ซึมออกจากริมฝีปากของทิเบต เขาหน้าซีดลงทันตา แย่แล้วตอนทิเบตเข้ามารับจุน
ไว้คงโดนหัวของเพื่อนเขากระแทกเข้า
“มึงมานี่ไอ้จุน” เพียงคนเดียวที่ยังไม่ยอมเลิกราคือกาย เขาต้องได้ต่อยไอ้เด็กเวรจุนสักหมัดถึงจะพอใจ
“ไปก็โง่สิวะ” จุนตะโกนตอบ เรื่องอะไรเขาจะเดินไปให้อีกฝ่ายต่อยฟรีๆ สู่หลบอยู่กับทิเบตปลอดภัยกว่าเยอะ นี่เป็นครั้งแรกที่จุน
นึกพิศวาสทิเบตขึ้นมา
“ก่อเรื่องอะไรอีก” ทิเบตก้มมองตัวจุ้นที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เด็กอะไรขยันหาเรื่องให้ตัวเองได้ตลอดเวลา
“ใครก่อเรื่อง โน้นไอ้พี่กายมายุ่งกับพวกผมก่อน ” จุนหน้าง้ำเขาไม่ชอบใจที่ทิเบตทำเสียงเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กที่ไปเล่นซนมา
“มึงด่ากู” กายชี้หน้าอาฆาตจุน
“แล้วที่พี่พูดกับเพื่อนผมมันต่างกันตรงไหน เป็นรุ่นพี่เสียเปล่าปากส้นตีน”
“ไอ้จุน!!” กายหมายจะโถมเข้าหาจุนอีกครั้งแต่ต้องชะงักเมื่อประสานสายตาเข้ากับแววตาแข็งกร้าวของทิเบต
“เบต นี่เรื่องของกูกับไอ้เด็กนี่มึงไม่เกี่ยว” กายไม่เคยชอบทิเบตแต่เขาก็ไม่โง่พอจะมีเรื่องกับกลุ่มซุปตาร์
“แต่เด็กนี่เกี่ยวกับผม” ทิเบตยกมือขึ้นวางบนหัวของจุน เจ้าตัวจุ้นเงยหน้าขึ้นมองเขาแต่กลับไม่ขยับหนี ฉลาดเสียด้วย
“เกี่ยวกับมึง?”
“กาย ไอ้เด็กในคลิปไง” กายหันไปมองเพื่อนที่ก้าวเข้ามายืนข้างๆ ใช้เวลาคิดสักครู่จึงนึกถึงคลิปอันลือลั่นออก เขาลืมไปว่า
ไอ้เด็กจุนมีความสัมพันธ์กับทิเบต
“นึกออกแล้วใช่ไหม” ทิเบตยิ้มเย็นประสานสายตาเข้ากับรุ่นพี่ที่ยืนฮึดฮัดเหมือนอยากเข้ามาจัดการแต่ไม่กล้าพอ
“มึงก็ดูแลเด็กของมึงให้ดีอย่าให้มาลามปรามพวกกู”
“พี่ก็ดูแลปากพี่ด้วยอย่าเห่าให้มันมากนัก”
“ไอ้จุน!”
“เรียกอยู่ได้” จุนลอยหน้าลอยตาตอบโต้แต่ตัวกลับขยับเข้าใกล้เกาะกำบังอีกนิด
“พอเหอะมึง” เสียงห้ามดังมาจากคนในกลุ่มของกาย เสียงพูดต่อมาเบาจนจุนจับใจความไม่ได้
“คราวนี้กูเห็นแก่มึงกูยกให้ อย่าให้มีคราวหน้าไม่งั้นมึงเจอดีแน่” กายพูดกับทิเบตแต่ท้ายประโยคหันไปอาฆาตคู่กรณี
“พี่กำลังขู่เด็กผม” รอยยิ้มเย็นของทิเบตทำเอากายหวั่นใจ เขาเคยเห็นทิเบตชกคนคว่ำทั้งรอยยิ้มแบบนี้มาแล้ว
“กูไม่ได้ขู่กูแค่เตือน เด็กมึงล้ำเส้นกู”
“ไม่ต้องห่วง มันจะไม่เกิดขึ้นอีกถ้าพี่ไม่ล้ำเส้นผมเหมือนกัน” ดวงตาที่สื่อความหมายมากกว่าคำพูดทำให้กายรู้ว่าทิเบตกำลัง
ห้ามไม่ให้เขายุ่งหรือแตะต้องเด็กของตัวเอง
“ได้แต่มึงต้องให้ไอ้เด็กเวรนี่ขอโทษกูก่อน”
“พวกพี่ก็ต้องขอโทษเพื่อนผมแล้วผมจะยอมขอโทษพี่”
“กาย กูว่าครั้งนี้ให้มันแล้วไปเถอะ แยกย้ายดีกว่า” แชมป์สะกิดแขนเพื่อน ทิเบตมาคนเดียวหากมีเรื่องวันนี้พวกเขาอาจชนะแต่ผล
ที่ตามมาหลังจากนั้นไม่คุ้มกันแน่นอน
“กูเห็นแก่มึงนะเบต ดูแลเด็กมึงด้วย” กายหันไปพยักหน้าให้เพื่อน เขารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยจึงไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้อีกต่อไป
“มึงไม่น่าปล่อยมันไป” เสียงเพื่อนบางคนในกลุ่มกายยังลอยมาเข้าหูจุนและทุกคนที่ยืนอยู่
“ช่างแม่ง กูไม่อยากยุ่งกับไอ้พวกเกย์”
“มันว่าพี่เป็นเกย์ไม่โกรธเหรอ” จุนถามคนที่ยืนสงบอยู่ข้างๆ สายตาที่มองตามหลังไปนิ่งจนเขาจับความรู้สึกไม่ได้
“ทำไมต้องโกรธ”
“จิ๊” จุนทำเสียงจิ๊กจั๊กอยู่ในคอ เมื่ออีกฝ่ายไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ได้ดั่งใจเขาสักนิด
“ถ้าจะโกรธ โกรธคนที่ทำร้ายร่างกายฉันดีกว่าไหม” ทิเบตโยกมือที่ยังวางอยู่บนศีรษะเจ้าตัวจุ้น เดาว่าเดี๋ยวมันคงโวยวายไม่
ยอมรับผิด แต่เขาต้องแปลกใจเมื่อจุนเงยหน้าขึ้นมอง ก่อนยื่นมือขึ้นมาแตะที่ปากเขาเบาๆ
“ขอโทษ เจ็บไหม” เด็กที่ให้ตายก็ไม่ยอมพูดคำว่าขอโทษเมื่อครู่หายไป มีแต่เด็กสีหน้ากังวลที่พูดคำขอโทษออกมาได้อย่าง
ง่ายดาย
“หือ?” ทิเบตเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจไม่คิดว่าคำขอโทษจะหลุดจากปากเจ้าตัวจุ้นง่ายๆ
“แปลกใจอะไรเล่าคนทำผิดก็ต้องขอโทษ”
“นายไม่ชอบหน้าฉันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ชอบก็ส่วนไม่ชอบ ไม่ชอบแล้วทำร้ายร่างกายคนอื่นได้หรือไง ไม่ชอบแล้วไม่ต้องรู้ผิดชอบเหรอ ผมแยกแยะเป็นน่าโตแล้ว
การศึกษามี”
“หึหึ” ทิเบตนึกทึ่งในความคิดของจุน ยอมรับว่าเจ้าตัวจุ้นทำให้เขาแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“ผมขอโทษที่ทำให้พี่เจ็บตัว แล้วก็..ขอโทษที่ต้องเข้ามาออกหน้ายุ่งวุ่นวายกับเรื่องนี้ด้วย” เด็กเขียวที่ยืนอยู่ข้างๆ เจ้า
ตัวจุ้นยกมือไหว้เขาเสียนอบน้อม สีหน้ายังคงซีดเผือด
“ไม่เป็นไรฉันแค่ผ่านมาพอดี”
“เลือดไหลแล้วหาที่นั่งก่อนเดี๋ยวทำแผลให้” จุนมองปากที่ขยับไปมาของทิเบต ยิ่งอีกฝ่ายพูดเลือดก็ยิ่งซึมออกมา
“ไม่ต้อง” ทิเบตส่ายหน้าเพราะเขาแทบไม่รู้สึกอะไร
“ไม่ได้” จุนมองไปรอบๆ ก่อนลากแขนทิเบตให้เดินตามไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่ ผลักอีกฝ่ายให้นั่งลงก่อนก้มหน้าลงมาชิด
“เลือดออกเยอะเหมือนกัน เขียวมีทิชชู่ไหมวะขอหน่อย” จุนถามเพื่อนรักที่เดินตามมาไม่ห่าง
“มี” เขียวรีบเปิดกระเป๋าเป้ที่สะพายอยู่หยิบซองทิชชู่ออกมาส่งให้จุน โชคดีที่เขามีติดมาด้วย
“แตกเยอะไหมวะ” เขียวมองเพื่อนที่ยื่นหน้าเข้าไปมองแผลที่ปากทิเบต พร้อมกับค่อยๆ ซับเลือดออกให้อย่างเบามือ
“พอสมควร ตัวก็สูงไม่รู้กระแทกได้ยังไง” จุนอดบ่นไม่ได้ เพราะเขาสูงแค่บริเวณคางของทิเบตจึงงงอยู่ไม่น้อยที่กระแทกปากอีก
ฝ่ายแตกได้
“พี่เบตเขาก้มลงมารับมึงไง” เขียวผู้เห็นเหตุการณ์ตอบแทนเจ้าของบาดแผล ทิเบตเตรียมตั้งรับคำว่ายุ่งไม่เข้าเรื่องเต็มที่
“ขอบคุณ” เสียงพูดลอยๆ ไม่ระบุว่าพูดกับใคร เจ้าของเสียงไม่มองหน้าเขาแต่ทิเบตรู้ว่าเจ้าตัวจุ้นหมายถึงเขา
“ยิ้มอะไร เอามือกดไว้” จุนดึงมือทิเบตขึ้นมากดบนทิชชู่แทนมือของตัวเอง
“พี่นั่งรอผมตรงนี้เดี๋ยวไปหาอะไรมาประคบให้จะได้ไม่บวม” ทิเบตอดขำไม่ได้ ไอ้เด็กนี่ทำเสียเขาดูอ่อนแอ
“ไม่ต้อง” ทิเบตขยับตัวลุกขึ้นแต่ถูกจุนกดบ่าเอาไว้ทั้งสองข้าง
“ไม่ได้” ทิเบตหลุดหัวเราะออกมา ดูหน้าง้ำของเจ้าตัวจุ้นแล้วเขาชักงงว่าใครที่บาดเจ็บกันแน่
“เขียวอยู่นี่นะเดี๋ยวกูมา” จุนไม่ฟังเสียงคัดค้านของทิเบต เขามองซ้ายมองขวาก่อนตัดสินใจวิ่งไปยังซุ้มขายน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด
“จุนมันเป็นแบบนี้แหละพี่ ปล่อยๆ ให้มันทำไปเถอะ ถึงจะดูว่ามันทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปนิดแต่ถ้าไม่ทำเดี๋ยวมันนอนไม่
หลับ” เขียวลงนั่งข้างทิเบต ช่วยอธิบายเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองตามหลังเพื่อนเขาไป
“หึหึ เป็นขนาดนั้นเลยเหรอ”
“จริงนะพี่” เขียวพยักหน้ารับรอง เขารู้จักนิสัยเพื่อนดี
“เป็นแบบนี้ที่ว่ารวมไปถึงเรื่องชอบหาเรื่องใส่ตัวตลอดเวลาด้วยหรือเปล่า”
“ฮ่าๆ ไม่ขนาดนั้นพี่ แต่ก็เพราะมีจุนนี่แหละผมถึงอยู่รอดปลอดภัยดี มันไม่เคยให้ใครรังแกผม เห็นมันปากร้ายแบบนั้นมันไม่เคย
หาเรื่องใครก่อน เอ่อ..เว้นพี่” เขียวหลบตาทิเบต
“ฉันควรดีใจใช่ไหมที่ได้รับสิทธิพิเศษ”
“พี่อย่าถือโทษโกรธมันเลยนะ บางทีจุนมันก็มีความคิดเพี้ยนๆ แต่มันไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้ายพี่หรอก รู้จักกันไปพี่จะรู้เองว่ามันนิสัยดี”
“เราถึงได้ยอมเพื่อนตลอด” เขียวสบตากับคนพูด เขายิ้มออกมาก่อนพยักหน้า
“ครับ ก็เพื่อนกัน”
“เขียว”
“ครับ?”
“ช่วยอะไรฉันหน่อยสิ โทรบอกอินทรีย์ให้ทีว่าให้มาหาฉันที่นี่แทน”
“ให้ผมโทร?” เขียวชี้หน้าตัวเอง เขาเกือบหยุดออกไปแล้วว่าทำไมพี่ถึงไม่โทรเองแต่นึกได้ว่าอีกฝ่ายเจ็บตัวอยู่จึงไม่ได้ทักท้วง
ออกไป
“ใช่ ช่วยทีแล้วกันฉันชักปวดแผล เดี๋ยวบอกเบอร์ให้”
“อ่า..ครับ” เขียวหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าตัวเองแบบงงๆ กดเบอร์ตามที่ทิเบตบอก ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายไม่หยิบ
โทรศัพท์ออกมา
“สวัสดีครับพี่อินหรือเปล่าครับ พี่เบตให้โทรบอกพี่ว่าให้มาหาที่โต๊ะแถวลานกลางตึก”
“มีอุบัติเหตุนิดหน่อยแต่ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ ผมเหรอครับ?” เขียวงงเมื่ออินทรีย์ถามถึงตัวเขาเอง
“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ สบายดี”
“หึหึ” เขียวมองหน้าทิเบต ทำไมเขารู้สึกทะแม่งๆ กับเสียงหัวเราะของอีกฝ่าย
“ครับ เดี๋ยวผมบอกให้ครับ” เขียวตอบรับก่อนกดวางสาย เขาซุกโทรศัพท์ลงกระเป๋าก่อนถ่ายทอดข้อความที่อินทรีย์ฝากมา
“เดี๋ยวพี่อินมาครับ”
“บอกแค่นั้นเหรอ”
“บอกให้ผมอยู่รอเป็นเพื่อนพี่จนกว่าพี่อินจะมา”
“หึหึ อินมันคงเป็นห่วงแผลฉันมาก”
“ครับ” เขียวเกาศีรษะ แผลแค่นี้เขาไม่คิดว่าทิเบตจะต้องให้คนนั่งเป็นเพื่อน แต่เอาเถอะอย่างไรความผิดก็มาจากพวกเขา ส่งต่อ
ให้ถึงมือคนดูแลคนต่อไปก็แล้วกัน
“มาแล้ว” จุนวิ่งกลับมาพร้อมกับแก้วน้ำอัดลมสีเข้มด้วยท่าทางกระหืดกระหอบ
“แป๊บนะ” จุนยกแก้วน้ำขึ้นดูดอย่างรวดเร็วเพราะต้องการหยิบน้ำแข็งภายใน
“ทำไมไม่สั่งน้ำแข็งเปล่า” ทิเบตมองคนที่พยายามดูดน้ำอัดลมอย่างเอาเป็นเอาตายที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ผมเกรงใจแม่ค้ามันแก้วไม่กี่บาท”
“ก็สั่งมาพร้อมน้ำเปล่าสิ”
“ฉิบ แฮะๆ ผมตกใจไปหน่อยลืมคิด” จุนยกมือลูบท้ายทอยแก้เก้อ เรื่องแค่นี้ทำไมเขาคิดไม่ถึงวะ
“วิ่งไปถึงก็สั่งเลย สั่งแล้วก็วิ่งกลับมาเนี่ย” จุนแก้ตัว ทุกคนควรเห็นแก่ความพยายามของเขา
“ก็มึงไม่ชอบกินน้ำเปล่าไง สั่งแต่น้ำอัดลมจนเคยมึงถึงนึกไม่ออก” เขียวบ่นอุบ เขาบอกเพื่อนแล้วว่ากินเยอะๆ มันจะกัดกระเพาะ
เคยฟังเขาที่ไหน
“เอาน่าๆ กูได้มาแล้ว” จุนล้วงน้ำแข็งออกจากแก้ว เขาใช้มือข้างหนึ่งดันคางของทิเบตขึ้น ค่อยๆ ประคบน้ำแข็งลงไปบนริม
ฝีปาก
“ทันหรือเปล่าก็ไม่รู้ กูก็วิ่งฉิบหายแล้วนะ”
“พูดกับฉันเหรอ” ทิเบตแสร้งทำเป็นไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดกับเพื่อน
“ไม่ใช่ ผมพูดกับเขียว ผมจะพูดกูพูดวะกับพี่ทำไม แล้วนี่รู้สึกว่ามันบวมหรือเปล่า” จุนย้อนถามทิเบต เขาไม่รู้ว่าประคบ
ตอนนี้ทันหรือเปล่า
“ฉันมองไม่เห็น นายต้องเป็นคนดูให้”
“อืม” จุนยกน้ำแข็งออกก้มหน้าลงไปพิจารณาริมฝีปากของทิเบตใกล้ๆ เมื่อยังไม่แน่ใจเขาจึงใช้นิ้วไล้ลงไปเบาๆ
“เจ็บไหม” จุนถามเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากใต้นิ้วเขาบวมขึ้นมานิดๆ
“ไม่”
“มันจะไม่เจ็บได้ยังไง” จุนขมวดคิ้ว ไม่ชอบใจคำตอบของทิเบต
“แล้วนายจะมาเถียงฉันทำไม”
“ก็ผมเคยแตกแล้วมันเจ็บนี่”
“ถ้ารู้ว่าเจ็บก็รับผิดชอบด้วย”
“แล้วที่ทำอยู่นี่มันเรียกอะไรวะ” จุนเบะปาก คนอะไรไม่อยู่กับร่องกับรอย บอกไม่เจ็บแต่จะให้รับผิดชอบ
“พูดวะกับใคร”
“พูดวะกับเขียว ว่าไงเขียวที่ทำอยู่นี่เรียกอะไรวะ”จุนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่รับเสียอย่างจะทำไม
“กูเรียกว่ามึงเถียงพี่เขา”
“ไอ้เขียวหวาน!”
“ตกลงชื่อเขียวหวานจริงๆ” เสียงทุ้มปนเสียงหัวเราะดังมาจากด้านหลัง ถึงเขียวไม่หันไปดูเขาก็รู้ว่าเป็นเสียงของใคร
“เป็นไงวะเกิดอะไรขึ้น” อินทรีย์ลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับทิเบต เขามองสำรวจเพื่อนเพื่อดูให้แน่ใจว่าสบายดี
“ปากแตกโดนเด็กแถวนี้กระแทก แต่เกิดอะไรขึ้นยังไม่ได้ถามรอนายมา”
“ว่าไงตัวเล็กเกิดอะไรขึ้น” เขียวหันซ้ายหันขวาแล้วยืนเงียบเม้มปากสนิท เขาไม่ได้ชื่อตัวเล็กเรื่องอะไรจะตอบ
“เขียวหวาน” เสียงทุ้มที่ลงน้ำหนักราวกับเอ็นดูเขาหนักหนาทำเอาเขียวหวานอดหน้าแดงไม่ได้ ผู้ชายเหมือนกันทำไมต้องมาใช้
เสียงโทนนี้ด้วยวะ
“ผมชื่อเขียว” เขียวจะพูดว่าเขาไม่ได้ชื่อเขียวหวานมันก็ไม่ถูกต้องเพราะแม่เขาตั้งชื่อให้ว่าเขียวหวานจริงๆ
“มึงเล่าๆ ไปเหอะอย่ามัวแต่เถียงเรื่องชื่อ กูหลุดปากไปแล้วเอาคืนไม่ทันว่ะขอโทษที” เขียวส่งค้อนให้เพื่อน จุนก็พูดได้สิไม่ได้
ชื่อพิลึกเหมือนเขาเสียหน่อย
“ไม่มีอะไรมาก กลุ่มพวกพี่กายมันแซวผม...” เขียวเริ่มจากตรงนั้นและเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ถูกเล่าประโยคต่อประโยค
ตั้งแต่ต้นจนจบ
“โทษเด็กมันไม่ได้ที่สวนกลับแรง ทำตัวโคตรไม่น่านับถือ” อินทรีย์ลงความเห็นเมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด
“ใช่ไหมสมควรแล้ว” จุนได้ทีเมื่อมีคนเข้าข้าง
“อย่าประมาท” ทิเบตหันไปมองหน้าเอาเรื่องของเจ้าตัวจุ้น
“พี่กายเป็นพวกใจร้อนจะทำอะไรต้องรู้จักระวัง”
“รู้แล้ว” จุนทำหน้ามุ่ยเหมือนไม่รับฟัง แต่กลับตามมาด้วยเสียงอ่อยๆ ราวกับเจ้าตัวกำลังรู้สึกผิด
“ขอโทษอีกทีแล้วกันที่ทำให้ต้องเจ็บตัว แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้ ไม่ลืมหรอก”
“หือ?”
“บอกว่าไม่ลืมหรอก จะจำเอาไว้” จุนเคาะนิ้วลงบนหัวของตัวเองให้รู้ว่าเขาจะจำความช่วยเหลือนี้เอาไว้
“แต่ไม่ชอบหน้าก็ยังไม่ชอบนะอย่าเข้าใจผิด”
“หึหึ เอาตามที่นายสบายใจเถอะ แต่บอกใช่ไหมว่าจะรับผิดชอบ”
“ใช่” จุนยืดอก ถึงเขาตัวเล็กกว่ามากแต่ก็แมนพอ
“เอาเบอร์มา”
“เบอร์? จะเอาไปทำไม” จุนมองทิเบตด้วยสายตาหวาดระแวง จะเอาเบอร์เขาไปทำอะไรวะยิ่งไม่ชอบหน้ากันอยู่
“เกิดพรุ่งนี้ฉันกินข้าวไม่ได้นายต้องไปซื้อโจ๊กมาให้” ทิเบตพูดไปอย่างนั้นเอง แต่ต้องกลั้นหัวเราะเมื่ออีกฝ่ายทำท่าคิดตามเป็น
จริงเป็นจัง
“เออจริง ตายห่าลืมคิดไปเลย มาๆ พี่เอาโทรศัพท์มาเดี๋ยวผมพิมพ์ให้ มีอะไรก็โทรมาถ้ามันบวมมากพูดไม่ได้ก็พิมพ์มาบอก ผม
ส่งข้าวส่งน้ำเอง อ๊ะ!” ความคิดบางอย่างสว่างวาบขึ้นมาในหัวของจุน เขาพยายามฝืนไม่ให้ตัวเองเผลอทำหน้าเจ้าเล่ห์ออกมา
“เอางี้ มันเป็นความผิดผมล้วนๆ จนกว่าปากพี่จะหายดีผมจะตามดูแลพี่เอง”
“ใจดีขนาดนั้น”
“โห แหงสิพี่ บอกแล้วผมแยกแยะถูกผิดได้เดี๋ยวรับผิดชอบเอง” จุนหันไปสบตาเขียว ดวงตาเขาเต้นระยิบระยับ โอกาสเข้ามาหา
โดยไม่รู้ตัว หึหึ ไม่เข้าถ้ำเสือจะได้ลูกเสือหรือ ตีเนียนเข้าไปเป็นกลุ่มเดียวกัน นอกจากรอดจากการล้างแค้นของไอ้พี่กายแล้ว
ยังได้โอกาสใกล้ชิดสาวในดวงใจ งานนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
“จะดีหรือมึง” เขียวพูดลอดไรฟัน หวังให้เพื่อนรักที่ยืนใกล้ๆ ได้ยินแค่คนเดียว
“ดีเชื่อกู” สองเพื่อนซี้กระซิบกระซาบกันเบาๆ เพราะมัวแต่สนใจส่งซิกให้กันจึงไม่เห็นประกายที่สว่างวาบขึ้นในดวงตาของทิเบต
“เอ้านี่เบอร์ผม” จุนพิมพ์เบอร์ลงในโทรศัพท์ที่ทิเบตยื่นให้ด้วยความเต็มใจ
“เลือดหยุดแล้ว พวกผมขึ้นไปเรียนก่อนมีอะไรก็โทรมา”
“อืม”
“ไปเขียว”
“สวัสดีครับ” เขียวก้มหัวให้กับทิเบตและอินทรีย์ ก่อนเดินเร็วๆ ตามหลังเพื่อน เสียงสองหนุ่มคุยกันเบาๆ ค่อยๆ ดังห่างออกไป
“มึงคิดอะไร” อินทรีย์มองหน้าเพื่อนยิ้มๆ เขามองเห็นความสนุกในแววตาของทิเบต
“เด็กนั่นอยากจีบมิ้น”
“มึงเลยอยากจีบเด็กมันแทน”
“ไม่ล่ะกูยังไม่อยากลองของใหม่”
“แล้วมึงไปแกล้งเด็กมันทำไมวะ”
“กูไม่ได้แกล้งกูแค่เล่นด้วย ว่าแต่มึงเถอะเอาจริงหรือแค่นึกสนุก เด็กนั่นน่ารักเหมือนผู้หญิงแต่ยังไงก็ไม่ใช่ผู้หญิง”
“แต่มึงก็คิดเหมือนกูว่าเด็กมันน่ารักใช่ไหมล่ะ ในเมื่อมึงยังไม่เคยกูยังไม่เคยใครจะรู้กูอาจชอบก็ได้”
“ระวังมึงจะหลวมตัว”
“ถ้ามันดีก็ไม่แน่ ไปเถอะอิฐกับสิงห์รออยู่” อินทรีย์ลุกขึ้นยืน เขาไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือเพื่อนเพราะดูก็รู้ว่าทิเบตสบายดี
“เออเบต”
“หือ?”
“ขอบใจสำหรับเบอร์ว่ะ”
“หึหึ ไม่เป็นไร กูรู้ว่ามึงอยากได้”
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>TBC<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
Darin ♥ FANPAGE Twitter :
primdarin