❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33  (อ่าน 431886 ครั้ง)

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
(ต่อ)

     “พอไหวไหม” กานต์รักเอ่ยถามพนักงานใหม่พร้อมรอยยิ้มละมุนจนคนมองนั้นยิ้มตาม มินเช็ดเหงื่อตามกรอบหน้าของตัวเองก่อนจะพยักหน้ารับหงึกหงัก

     “สบายมากครับ”

     “งั้นก็ดีแล้ว วันนี้เอาแค่นี้พอ เดี๋ยววันเสาร์เราค่อยมาเริ่มงานจริงนะ” วันนี้นั้นเป็นเพียงการเรียนรู้งาน กานต์รักสอนคนที่เด็กกว่าแค่พอให้รู้ว่างานที่ร้านนั้นจะเป็นประมาณไหนอะไรยังไง

     “เดี๋ยวผมขออยู่ช่วยไปเรื่อยๆจนร้านปิดแล้วกันครับ สนุกดี ร้านพี่รักสวยมาก มินชอบ”

     เมื่อได้ยินดังนั้นคนฟังก็แย้มยิ้มออกมาด้วยความปลื้มใจ ทุกๆอย่างกานต์รักตั้งใจทำมันด้วยความรัก ไม่ใช่แค่การทำขนมหากแต่รวมถึงการตกแต่งร้าน ทั้งหมดถูกเลือกและคัดสรรโดยผู้เป็นเจ้าของทั้งสิ้น บรรยากาศรอบๆจึงเต็มไปด้วยความอบอุ่นในสิ่งที่รัก ทั้งคนที่เข้ามาและพนักงานทุกคนจึงสัมผัสมันได้ในทุกอณูพื้นที่

     “ตามใจเรา หรือจะไปช่วยพี่แพรวรับออร์เดอร์ก็ได้ เดี๋ยวพี่ต้องไปดูหน้าเคาท์เตอร์ก่อน”

     “ครับ” กานต์รักผละตัวออกมาจากเด็กหนุ่มรุ่นน้องไปยังหน้าเคาท์เตอร์ ตรงนี้กำลังวุ่นได้ที่จนร่างบางต้องขยับไปช่วยชงชา

     นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่กานต์รักหลงใหล เขาหลงใหลในความหอมอ่อนๆของใบชา แค่เพียงได้กลิ่นก็ทำให้รู้สึกสบายใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     ร้านThe Belovedจึงไม่ได้ขายกาแฟคู่กับขนมต่างๆเช่นร้านอื่น หากแต่เป็นน้ำชาที่ส่งกลิ่นคละเคล้าอบอวลไปทั่วร้านอย่างลงตัว

     กริ๊ง

     เสียงโมบายหน้าร้านกระทบกันยามมีผู้มาใหม่เปิดประตูเข้ามาดังขึ้นให้ได้ยินไกลๆ ราวกับเป็นเสียงดนตรีที่ผสมผสานบรรยากาศรอบๆอย่าลงตัว

     “รับอะไรดีครับ” ร่างบางก้มหน้าวางแก้วชาใส่ถุงให้ลูกค้าเอ่ยต้อนรับผู้ที่เข้ามาใหม่โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าหวานแย้มยิ้มอย่างอ่อนโยน

     “...”

     กระทั่งมือบางจัดการทุกอย่างเรียบร้อยจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อวางออร์เดอร์ลงบนเคาท์เตอร์ แต่ทว่าเรือนร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏตรงหน้ากลับทำให้กานต์รักรู้สึกเหมือนร้านกำลังจะถล่มอยู่ลงมา

     “คะ คุณแพทริก”

     “เอาทุกเมนูที่มีช็อกโกแลต ให้เจ้าของร้านไปเสิร์ฟเท่านั้น”

     คนเอาแต่ใจพูดเพียงสั้นๆก่อนจะเดินเข้าไปนั่งยังโต๊ะตัวสุดท้ายที่อยู่ในสุด กานต์รักนั้นยังยืนช็อกนิ่งสนิทเมื่อคนที่ใจโหยหาทั้งอาทิตย์ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าราวกับกำลังฝัน ยามเห็นใบหน้าคมคร้ามที่นั่งอยู่น้ำตาก็พลันไหลมาเอ่อคลอ

     ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะคิดถึงคุณแพทริกมาก กระทั่งเห็นอีกคนอยู่ตรงหน้า

     “คุณรักคะ” เสียงเอ่ยเรียกจากคุณไหมรั้งให้คนที่สติปลิวหายไปรู้สึกตัวอีกครั้ง กานต์รักหันไปหาคนเรียกอย่างเชื่องช้า ก่อนจะเอ่ยบอกให้ผู้จัดการดูแลส่วนที่เหลือต่อจากตน

     ร่างบางขยับไปยังตู้ขนม เอื้อมมืออันสั่นเทาไปหยิบทุกเมนูช็อกโกแลตใส่จานแล้วจึงนำไปเสิร์ฟ

     ทุกย่างก้าวที่เดินนั้นขาเล็กรู้สึกเหมือนพร้อมจะทรุดลงทุกเมื่อ มันสั่นไหวเสียจนแทบไม่มีแรงหากแต่ใจดวงน้อยก็เรียกร้องให้ทำตามคำสั่งนั้นอย่างว่าง่าย

     “ขะ ขนมที่สั่งครับ” จานขนมสี่อย่างวางลงตรงหน้า แพทริกค่อยๆไล่สายตามองตั้งแต่ใบหน้าหวานลงไปเรื่อยๆ เก็บทุกรายละเอียดว่าหนึ่งอาทิตย์นั้นอีกคนมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม

     ใบหน้าหวานที่ไม่ได้เจอกว่าเจ็ดวันเศษยามได้เห็นตรงหน้าแบบนี้มันทำให้แพทริกรู้สึกเหมือนของที่หายไปกำลังวางอยู่ข้างหน้า บางอย่างในใจร้องเตือนว่าอยากจะเอาสิ่งนี้กลับคืนไปอยู่ที่เดิม

     “คะ คุณแพทริกจะรับอะไรอีกไหมครับ” กานต์รักรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นโรคพูดติดอ่าง เสียงหวานเอ่ยสั่นเพราะใจนั้นก็สั่นจนควบคุมไม่ได้ พาให้แม้แต่การออกเสียงยังพลอยเป็นไปด้วย

     “เจ้าของร้าน

     “O_O”

     ดวงตากลมโตทั้งสองข้างเบิกขึ้นอย่างตระหนก มือที่ถือถาดอยู่แทบปล่อยมันร่วงลงกับพื้น สายตาคมกริบคู่นั้นเรียบนิ่งจนกานต์รักเดาไม่ออกว่าอีกคนตั้งใจแกล้งหรือว่าอย่างไร

     “เจ้าของร้าน...มีอะไรจะแนะนำไหม” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยออกมาหากแต่ประโยคหลังนั้นช่างทิ้งช่วงนานเหลือเกิน

     กานต์รักรู้สึกว่าหัวใจตัวเองทำงานหนักจนรู้สึกเหนื่อยหอบไปหมดทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร แค่เห็นหน้าคุณแพทก็เป็นเอามากขนาดนี้แล้วหรือไงกัน

     “ร้านเราการันตีได้ว่าอร่อยทุกเมนูครับ อยู่ที่ว่าลูกค้าชอบอะไรเสียมากกว่า” แม้จะยังใจสั่นหากแต่พอพูดถึงเรื่องร้านกานต์รักพูดได้ไม่มีติดขัด ทุกเมนูนั้นออกมาจากความรักและตั้งใจ ถ้าไม่อร่อยเขาไม่มีทางนำออกมาให้ลูกค้าทานแน่นอน

     “งั้นก็เอามาทุกเมนู”

     “คุณแพทจะทานหมดเหรอครับ” เจ้าของร้านหน้าหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัย ลืมตัวเผลอพูดมากกว่าคำว่าลูกค้ากับคนขายโดยไม่อาจห้าม

     “ไม่หมดแต่อยากชิม” แพทริกเองก็อยากรู้ว่าจะอร่อยทั้งหมดอย่างที่เจ้าของนั้นโฆษณาขายหรือไม่ นอกจากเมนูช็อกโกแลตที่เขาได้ทานทุกวันแล้วก็อยากลองทานเมนูอื่นบ้าง

     “วันหลังค่อยชิมอันอื่นๆก็ได้นี่ครับ” เพราะความเสียดายกานต์รักจึงแนะนำออกไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่าประโยคที่ตนพูดนั้นมันกำลังสื่อถึงอะไรบางอย่างได้อีก

     “พูดอย่างนี้แสดงว่าอยากให้ฉันมาหาบ่อยๆสินะ”

     “ปะ เปล่านะครับ!” กานต์รักรีบปฏิเสธเสียลิ้นแทบพันกัน ใบหน้าหวานซับสีระเรื่อจนคนมองยกยิ้มมุมปาก พึ่งรู้ว่าอีกคนน่าแกล้งขนาดนี้ ยิ่งเห็นกานต์รักทำอะไรไม่ถูกก็ยิ่งอยากแกล้ง

     “ผมแค่รู้สึกเสียดายถ้าคุณแพทริกแค่อยากลองชิมแล้วก็ต้องทิ้งเพราะทานไม่หมด”

     “รีบปฎิเสธเพราะไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นเลยหรือไง” คนพูดแสร้งทำหน้าขรึมจนกานต์รักต้องรีบละล่ำละลักบอก

     “เปล่านะครับ”

     “งั้นแสดงว่าอยากเจอ” คราวนี้ใบหน้าคมแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์จนกานต์รักรู้ตัวแล้วว่าโดนแกล้ง

     “ฮื่อ คุณแพท” คนตัวเล็กร้องออกมาราวกับเด็กงอแงยามถูกแกล้งแล้วทำอะไรไม่ได้จนคนตัวโตหลุดเสียงหัวเราะในลำคอ กานต์รักทำหน้าจะร้องไห้อยู่รอมร่อเมื่อรู้กว่าอีกคนกำลังสนุก

     ความตื่นเต้น ความโหยหา ความคิดถึง ทุกอย่างนั้นค่อยๆทำให้เกิดความคุ้นชินขึ้นโดยการหยอกล้อในแบบที่ไม่เคยทำ จนเผลอแสดงความเป็นตัวเองระหว่างกันออกมา

     อีกคนไม่เคยรู้เลยว่าคุณแพทเป็นคนขี้แกล้ง ขณะที่อีกคนไม่เคยเห็นท่าทางเหมือนเด็กของกานต์รักแบบนี้มาก่อน

     มันน่ารักเสียจนคนมองอยากยิ้มตาม

     “ถ้าไม่อยากให้เหมาหมดร้านก็มานั่งเป็นเพื่อนฉันซะ” มันดูเป็นข้ออ้างที่ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกันเลยซักนิด

     “คุณแพทว่างเหรอครับ” คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยเมื่อคนอย่างแพทริก เบรนเนแกนมีเวลามานั่งทานขนมเช่นในตอนนี้

     “ถามมาก”

     “ขอโทษครับ” คนพึ่งรู้ตัวรีบเอ่ยขอโทษเสียงแผ่วก่อนจะก้มหน้าลงนิดๆเมื่อรู้ตัวว่าตนนั้นทำตัวละลาบละล้วง แพทริกมองภาพนั้นก่อนจะดึงแขนเล็กลงมาจนคนไม่ทันได้ตั้งตัวถลาปะทะเข้ากับอกแกร่ง

     “อ๊ะ!”

     “...”

     “...”

     “ต่อให้ไม่ว่างฉันก็จะมาอยู่ดี...

TBC.

*สเวน คือกลุ่มคนตระกูลหนึ่งนะคะ
    อิ๊ววววว คุณแพทมีความอ้อยมีมากค่าาาา หยอดน้องตลอดเลยๆ  :impress2:
     อธิบายนิดนึงนะคะ ตอนแรกคืออารมณ์คุณแพทเหมือนในเมื่อไม่มีอะไรติดค้างกันเขาก็เลยลองกลับมาใช้ชีวิตปกติของตัวเอง คือถ้าไม่ได้สนใจก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะพยายามรั้งไว้ทำไม(คือยังไม่รู้ตัวเท่าไหร่) แต่ที่นี้ใจมันเริ่มไม่ปกติแล้วอ่ะค่ะ พอมันเริ่มไม่ปกติเนี้ยแหละทีนี้ก็จะไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากเอาน้องรักคืนมาให้ได้ ต่อไปคุณแพทจะจีบน้องแล้วนะ มาดูกันว่าผู้ชายโหดๆที่ไม่เคยจีบใครเขาจะทำยังไง อิอิ
     มาดึกเลย คนเขียนหายไปนานเพราะมีสอบค่ะ พยายามจะมาให้เร็วเท่าที่จะทำได้ ขอบคุณทุกๆคอมเมนต์มากๆนะคะ ตอนที่แล้วมากกว่าทุกตอนเลย อ่านหมดเลยน๊า คอมเมนท์มาพูดคุยและให้กำลังใจกันได้นะคะ เยิฟ
     ปล.เรื่องของน้องรักจะค่อยๆเฉลยมาเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้คงพอเดาออกกันแล้วแหละเนอะ แต่เดี๋ยวจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ยังมีเรื่องที่เขาเข้าหาคุณแพทอีกเรื่องนึงนะคะ ว่าเพราะอะไรยังไง


จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/ (ทวงกันมาเยอะก็จะพยายามทิ้งหนังสือมาปั่น><)
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-09-2016 01:48:07 โดย ex-soulL »

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ติดใจคน หรือติดใจขนม
ทำเป็นปากแข็งนะคุณแพท อยากได้เขาไปอยู่ด้วยก็บอกไป (เดี๋ยวเจ้าของร้านจะห่อ(ตัวเอง)กลับบ้านให้ ฮา)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คุณแพทติดใจคนทำขนมซินะ ว่าแต่รักข่าวเรื่องคุณแพทกับเดซี่รักยังไม่เคลียร์ไม่ใช่เหรอ
ถามคุณแพทด้วยนะอย่าลืม 

:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
คุณแพทมาแจกอ้อยถึงร้าน ฟิน
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :ling1:

หนูรัก จะเล่าให้คุณพี่เขาฟังไหมคะ คุณพี่เขาจะได้ปกป้องหนูเองไง  :hao7:

ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
แพทริกอ่อยแรงงว~ :hao7:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

ดึงออกมาให้รู้ใจตังเองเนาะ
แพทเป็นคนขี้แกล้งนี่เอง

ออฟไลน์ nijikii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มีความซึนนะคะคุณแพท

ออฟไลน์ imvodka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 252
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-4
 :กอด1: ดีงาม

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:   อีแพทริกรู็ตัวช้าจริงนะ แต่ก็มาแล้ว อิอิ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอาๆๆๆๆ รู้ใจตัวเองรึยังจ๊ะ!!!คุณแพทริก

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
แอร๊ยยยยย คุณแพทมีความอ้อยยยย ฮาาาา

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
จริงๆแล้วคุณแพทอยากกินเจ้าของร้านมากกว่าขนมใช่ม๊า  บอกมานะ  55555

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
คิดถึงรักมากล่ะสิคุณแพท

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
อ่านตอนแรก ๆ แอบคิดว่ากานต์รักอ่อยแพททริกนะเนี่ย แอบรักแต่ไม่รู้จะบอกยังไง สงสารรักอ่ะโดนเข้าใจผิดอีก

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ฮื่อออ ฟินนนน ได้เจอกันในรูปแบบอื่นสักที  :katai2-1:

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
คุณแพทไม่เป็นแล้วแหละนักธุรกิจอะไรนั่น

เปลี่ยนอาชีพเป็นปลูกไร่อ้อยแทน

อะไรจะอ่อยจะอ้อยน้องได้ขนาดนี้

แบบนี้รักจะไปไหนรอด

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ติดขนมหรือคิดเจ้าของร้านขนมกันแน่คะคุณแพท คึคึ

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
คุณแพท ตอนนี้ทำได้ดีมาก o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
ฮือออ อ มีความน่ารักกก 55555
ชอบค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
ชอบมากเรื่องนี้

อ่านทีเดียวรวดดดดเลย

เพราะชอบมากๆๆ

พระเอกไม่รู้ใจตัวเอง

แต่ทำตามใจ....ตัวเอง(งงปะ)

ผู้ชายแบบนี้หายาก

ส่วนนายเอก น่าจะเป็นคนตระกลูใหญ่โต

และมีอำนาจมากๆ

ตอนแรกคิดว่านายเอกเป็นเจ้าชายซะอีก

ปล รอๆอ่านตอนต่อไป

ออฟไลน์ rcha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ซึนไม่เบาเลยนะคะคุณแพท 5555555

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
คุณแพทจอมขี้อ่อย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
รออย่างใจจดจ่อค่ะ ^^

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 8

     “ต่อให้ไม่ว่างฉันก็จะมาอยู่ดี...”

     เสียงเอ่ยที่ดูเหมือนจะทุ้มนุ่มกว่าเคยสะกดให้กานต์รักนิ่งงันอยู่ในอ้อมแขนของอีกคนราวกับต้องมนต์ ในหัวลืมไปซึ่งทุกสิ่ง ลืมแม้กระทั่งว่าที่นี่คือร้านของตนซึ่งมีคนอยู่รอบๆไม่น้อย

     แม้โต๊ะนี้จะอยู่มุมสุดหากแต่มันก็ยังเสี่ยงต่อการมองเห็น เมื่อสติค่อยๆกลับมาร่างบางจึงขยับตัวออกโดยที่อีกคนก็ยินยอมคลายอ้อมกอดอย่างง่ายดาย

     “นายทำให้ฉันติดขนม” คนพูดทอดมองใบหน้าหวานของคนที่นั่งอยู่ข้างตัว มือบางบีบถาดขนมบนตักแน่นจนเกรงว่านิ้วเล็กๆนั่นจะเจ็บ ความประหม่าที่กานต์รักเก็บเอาไว้ไม่มิด

     “...ขอโทษครับ” กานต์รักเอ่ยเสียงแผ่วทั้งยังไม่กล้าสบนัยน์ตาคมตรงๆ ประโยคก่อนหน้านั้นยังคงดังไปมาในหัว แม้จะพยายามบอกตัวเองว่าที่คุณแพทริกมาที่นี่เพราะติดขนมผีมือตัวเองทว่าใจดวงน้อยกลับยังอดเต้นแรงด้วยความสั่นไหวไม่ได้

     แพทริกมองร่างบางนิ่งก่อนจะหันกลับไปหยิบช้อนเล็กๆแล้วตักขนมที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมาชิม หากเขายังคงจับจ้องที่อีกคนอยู่อย่างนี้กานต์รักคงนั่งเกร็งไม่ยอมหันมาคุยกันง่ายๆ

     “อร่อย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อลองทานขนมชิ้นแรก คำที่ได้ยินเรียกให้คนทำค่อยๆหันกลับมามอง

     “อันนี้เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านเราครับ มีขายวันละจำกัดแล้วก็เป็นขนมที่พรีเมียมมาก...เราใช้ช็อกโกแลตที่ทำจากผงโกโก้ซึ่งขึ้นชื่อว่าดีที่สุด รสชาติจึงไร้ที่ติและหาทานที่ไหนไม่ได้อีก”

     กานต์รักเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ หลงลืมความขัดเขินจนหมดสิ้นยามกล่าวถึงสิ่งที่ทำด้วยความรักและความตั้งใจของตน ใบหน้าหวานทอประกายอ่อนโยนเสียจนคนมองไม่อาจละสายตา

     กานต์รักไม่อยากบอกเลยว่าขนมชิ้นนี้นั้นเขาตั้งใจเก็บไว้ให้พี่ชายซึ่งจะแวะเวียนมาเยี่ยมในคืนวันนี้ เพียงแค่เห็นคนตัวโตปรากฏอยู่ตรงหน้าก็อดใจอยากให้ลองทานไม่ได้

     “โชคดีที่ฉันได้กินสินะ...แล้วทำไมไม่ทำขายให้มันเยอะๆ”

     “เพราะต้นโกโก้ที่ใช้ทำช็อกโกแลตหลงเหลืออยู่จำนวนไม่มากแล้วครับ ในแต่ละต้นก็มีอายุเป็นร้อยๆปีจึงต้องเก็บเกี่ยวผลโกโก้ไว้ในจำนวนจำกัด ช็อกโกแลตเลยมีจำนวนจำกัดมากขึ้นไปอีก”

     คนฟังพยักหน้ารับให้กับความรู้ใหม่ที่ไม่เคยรู้มาก่อน การจะทำขนมแต่ละชิ้นต้องคัดสรรถึงขนาดนั้นเชียวหรือ พอได้ฟังแล้วจึงเข้าใจว่าทำไมร้านของกานต์รักถึงมีชื่อเสียง เพียงแค่ส่วนผสมก็พิถีพิถีถันกันขนาดนี้แล้วขั้นตอนอื่นๆคงไม่ต้องพูดถึง

     “แล้วชิ้นอื่นล่ะ”

     “อันนี้...” เสียงอ่อนหวานค่อยๆพูดเรื่องราวของขนมทั้งหมดตรงหน้าไปเรื่อยๆ ดวงตาใสทอประกายจนแพทริกสัมผัสได้ชัดเจนว่าอีกคนมีความสุขและรักในสิ่งนี้แค่ไหน

     “มีชิ้นเดียวแหละครับที่ราคาสูงหน่อย ที่เหลือเราเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมียมซึ่งราคาสามารถจับต้องได้ เพื่อให้ไม่ว่าใครก็สามารถทานขนมอร่อยๆในราคาที่ไม่แพงมากนัก”

     เสียงหวานเอ่ยเจื่อยแจ้วให้ฟังอย่างรื่นหู เมื่อบรรยายขนมทุกชิ้นเรียบร้อยก็ตบท้ายด้วยรอยยิ้มกว้าง

     “อะ...ขอโทษนะครับ ผมลืมหยิบน้ำมาให้เสียสนิทเลย คุณแพทจะรับเป็นน้ำเปล่าหรือน้ำชาดีครับ” ตอนเห็นอีกคนยืนอยู่ตรงหน้านั้นสมองมันมึนเบลอไปหมดจนแทบไม่ทำงาน คนตัวสูงก็ไม่ได้สั่งจึงลืมไปว่าต้องนำมาเสิร์ฟ

     “น้ำชา”

     “รับชาอะไรดีครับ”

     “แล้วแต่นายแล้วกัน” กานต์รักพยักหน้ารับเบาๆก่อนจะเดินกลับมายังเคาท์เตอร์แล้ววางถาดในมือลง พนักงานทั้งหลายที่แอบดูเจ้านายอยู่จึงต้องรีบสลายตัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่มินเองยังต้องแสร้งไปรับออร์เดอร์เพราะกลัวโดนจับได้

     ทุกอย่างระหว่างทั้งสองนั้นตกอยู่ในสายตาของคนโดยรอบทั้งสิ้น แน่ล่ะเมื่อผู้ชายตัวโตเดินเข้าร้านขนมมาแบบนี้จะไม่ให้เป็นที่สนใจได้อย่างไร

     ใบหน้าคมหล่อเหลาเสียจนคนมองใจสั่น ยิ่งยามเจ้าของร้านหน้าหวานเดินเอาขนมไปเสิร์ฟยิ่งเพิ่มความสนใจมากขึ้นไปอีก บรรยากาศระหว่างทั้งสองนั้นแม้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน

     “มีอะไรกันหรือเปล่าครับ” ใบหน้าหวานของกานต์รักเอียงลงน้อยๆอย่างสงสัยเมื่อทุกคนมองมาที่ตนอย่างไม่วางตา

     “ปะ เปล่าค่ะ/ครับ” พนักงานทุกคนเอ่ยตอบระรัวอย่างมีพิรุธ ยามกานต์รักหันไปหาผู้จัดการร้านอีกคนก็ยิ้มแหยๆส่งมาให้

     “ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณรัก...แล้วนี่คุณรักเดินมาจะทำอะไรหรือเปล่าคะ” ผู้จัดการร้านแสร้งเบี่ยงความสนใจไปยังประเด็นอื่น

     “อ้อ รักจะมาชงชาครับ” กานต์รักเอ่ยตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนจะขยับตัวเข้าไปยังที่สำหรับชงน้ำชา พนักงานหลายคนได้แต่เมียงมองมาอย่างอยากรู้แต่เรื่องของเจ้านายใครจะกล้าละลาบละล้วง

     แต่ถึงกระนั้นภาพนักธุรกิจที่หล่อล่ำสุดๆดึงรั้งคนตัวเล็กให้ถลานั่งลงข้างตัวก็บ่งบอกความใกล้ชิดเสียต่อมความอยากรู้ทำงาน

     เมื่อกานต์รักชงชาเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินกลับมายังโต๊ะตัวเดิม ขนมที่นำมาเสิร์ฟก่อนหน้าถูกจัดการจนหมดเกลี้ยง

     “น้ำชาครับ” มือบางวางแก้วลงตรงหน้าก่อนจะขยับไปนั่งฝั่งตรงข้ามด้วยกลัวว่าจะถูกรั้งให้ลงไปนั่งข้างๆอีก ไม่ใช่อะไรหากแต่เป็นเพราะขัดเขินจนกลัวจะแสดงท่าทีแปลกๆออกไป แค่ได้นั่งมองอีกคนอย่างนี้กานต์รักยังแทบทำตัวไม่ถูก ทั้งตื่นเต้นและดีใจผสมปนเปกันไปหมด

     แพทริกยกแก้วขึ้นจรดริมฝีปากจนกลิ่นหอมอ่อนของใบชาลอยเข้าจมูก รสชาติหอมละมุนที่ได้รับทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่อ

     “อีกซักหน่อยฉันคงต้องกลับแล้ว” แค่นี้ก็ถือว่าอู้งานมาหลายชั่วโมง แซมและโจเซฟส่งสัญญาณมาตามให้รีบกลับจนนึกรำคาญใจหากแต่จะให้ทิ้งงานก็เป็นไปไม่ได้

     กานต์รักชะงักไปชั่วครู่ยามได้ยินว่าอีกคนจะต้องกลับ ใจดวงน้อยวูบโหวงเสียจนต้องสูดหายใจเข้าลึกเพื่อทำให้มันสงบลง
 
     มันเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไรนะ...อาลัยใช่ไหม

     กานต์รักกำลังรู้สึกอย่างนั้น แม้รู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธ์จะดึงรั้งหรือร้องขอให้อีกคนมาหาทว่าใจยังเรียกร้องอยากเจอ หากแต่ก็ทำได้เพียงรู้สึกอยู่ในใจเท่านั้น แค่วันนี้คุณแพทริกแวะมาทานขนมที่ร้านเขาก็ดีใจมากแล้ว

     อยากให้คนตัวสูงมาอีกแต่ว่าอีกคนคงไม่ได้ว่างขนาดนั้น แล้วคนระดับแพทริกไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เองเลยด้วยซ้ำไป 

     “นี่ค่าขนม” บัตรเครดิตที่มีเพียงไม่กี่ใบในโลกถูกวางลงตรงหน้ากานต์รัก เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยพกเงินสดนักจึงไม่มีธนบัตรติดตัว ทั้งตัวแพทริกมีแค่บัตรใบนี้ใบเดียวเนื่องจากออกมาด้วยความความรีบร้อน

     “ซักครู่นะครับ” เรือนร่างบางส่งยิ้มฝืดเฝื่อนให้คนตรงข้ามก่อนจะหยิบบัตรแล้วนำไปทำรายการตรงเคาท์เตอร์ แพททริกมองตามกระทั่งอีกคนเดินกลับมานำสลิปให้เซ็นต์ มือหนาจับปากกาแล้วตวัดเขียนลงไปอย่างรวดเร็ว

     “โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ” กานต์รักเอ่ยบอกอย่างที่เคยพูดกับลูกค้าทุกคน หากแต่ครั้งนี้ทำไมกลับรู้สึกว่ามันพูดยากกว่าทุกครั้ง

     แพทริกขยับตัวลุกขึ้นยืนจนคนเตี้ยกว่ามากโขต้องเงยหน้าขึ้นมอง ร่างสูงก้าวเท้าหนึ่งก้าวมายืนตรงหน้า ก่อนจะทันได้เอ่ยถามอะไรริมฝีปากร้อนก็ฉกวูบลงมาอย่างรวดเร็วแล้วผละออก

     “แล้วฉันจะมาใหม่” ริมฝีปากได้รูปขยับยกยิ้มเมื่อเห็นเจ้าของร้านแน่นิ่งไปสนิท แพทริกอยากจะกดจมูกลงไปบนแก้มนุ่มอีกซักทีหากแต่เพราะสายตาของคนทั้งร้านที่กำลังมองมาทำให้ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึก ดวงตาคมกวาดมองใบหน้าหวานอีกครั้งก่อนจะขยับตัวเดินออกไป

     “คุณแพทครับ!” ร่างเล็กที่พึ่งได้สติวิ่งตามออกมาขณะมือหนากำลังจะเปิดประตูรถ แพทริกหันกลับมาตามเสียงเรียกจากทางด้านหลังก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อเห็นอีกคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า

     “สัญญาแล้วนะครับ”

     “?”

     “แล้วมาอีกนะครับ...รักจะรอ” กานต์รักหลับหูหลับตาพูดรัวเร็วก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันทีที่พูดจบ แพทริกมองตามแผ่นหลังเล็กนั้นนิ่งก่อนหัวใจที่เคยเต้นอย่างสงบจะเต้นถี่รัวขึ้น

     ให้ตายเถอะ...ต่อให้พรุ่งนี้ไม่ว่างยังไงเขาก็ต้องมาให้ได้สินะ

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     นึกไปถึงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งแพทริกพยายามใช้ชีวิตอย่างที่เคย อยากจะแน่ใจว่าตัวเองรู้สึกยังไงกับกานต์รักระหว่างแค่หลงใหลหรือมากกว่านั้น เวลาเพียงเท่านี้แปรเปลี่ยนหัวใจที่ไม่เคยสั่นไหวกับใครได้จริงๆหรือ

     กระทั่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่เขากลับยิ่งพบว่าความรู้สึกบางอย่างในใจที่มีต่ออีกคนนั้นมันไม่เป็นปกติ แม้จะพยายามไม่นึกถึงแต่กลับยิ่งนึกถึง ใบหน้าหวาน รอยยิ้มอ่อนละมุน ท่าทางเรียบเรื่อยอ่อนโยน ทุกอย่างสลักอยู่ในห้วงความคิดอย่างไม่อาจลบเลือนได้

     จนกระทั่งโจเซฟชี้นำจึงได้รู้ความรู้สึกของตัวเองชัดเจนขึ้นและรู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน ที่หงุดหงิด ที่เบื่อทุกอย่างนั้นมันมากจากกานต์รักทั้งสิ้น จวบจนวินาทีนี้แพทริกไม่สนใจแล้วว่าอีกคนจะเป็นใครมาจากไหน ยังไงเขาจะต้องทำให้กานต์รักมาเป็นของเขาให้ได้

     “ได้กินขนมแล้วดูอารมณ์ดีนะครับ...เป็นเพราะขนมหรือว่าเป็นเพราะคนทำกันแน่”

     “ไม่ต้องมาแซวฉันหรอกโจเซฟ เพราะมันเป็นความจริงฉันไม่เถียง”

     “ว๊าว นายยอมรับหน้าตาเฉยเลยว่ะเจฟ” แซมแสร้งทำหน้าประหลาดใจพร้อมทั้งส่งสายตาล้อเลียนมาให้ผู้เป็นนาย

     “อยากจะตัดภาพไปเมื่อสองสามวันก่อนจริงๆ” แม้แพทริกจะทำเป็นไม่สนใจไม่พูดถึงหากแต่ยังสั่งให้คนไปจับตามองที่ร้านตลอด ยิ่งพอรู้ว่ากานต์รักกลับมาดูแลร้านแล้วยิ่งสั่งให้รายงานข่าวบ่อยๆ ถึงอย่างก็ยังทำเป็นปากแข็งว่าไม่ได้คิดอะไรจนตัวเองทนไม่ไหว

     ทุกคนเขารู้ไปถึงไหนต่อไหนแล้วมีแต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่รู้

     “ออกไปกินขนม กลับมาแล้วหน้าตาดูอิ่มเอิบเหลือเกิน” คนโดนแซวยังคงทำเพียงนั่งนิ่ง มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดีโดยไม่สนว่าลูกน้องทั้งสองจะเอ่ยแซวอะไร อยากแซวนักก็ปล่อยให้แซวไป

     “ทำมาเป็นอยากกินขนม อยากกินคนทำน่ะสิไม่ว่า”

     “ฉันว่าที่บอกเลิกแม่ดาราสาวนั่นก็ไม่ใช่เพราะเธอให้ข่าวหรอก แต่เป็นเพราะใครบางคนต่างหาก”

     “นั่นน่ะสิ”

     “แซม โจเซฟ!” เสียงเรียกที่เอ่ยขึ้นทำให้คนทั้งสองต้องเงียบลงเมื่อเจ้านายทำหน้าจริงจังเสียคิดว่าไม่ควรล้อเล่นอีกต่อไป

     “พวกแกสองคนว่ากานต์รักจะเห็นข่าวไหม” หากแต่ประโยคที่เอ่ยออกกลับทำให้แซมและโจเซฟหันมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ

     “อะไรนะครับ”

     “ข่าวที่เดซี่ให้สัมภาษณ์ แกว่ากานต์รักจะเห็นไหม” แพทริกเอ่ยด้วยเสียงเครียดๆเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าดริกาเป็นถึงนางเอกแถวหน้าของเมืองไทย เขาไม่ได้สนใจอะไรซักนิดแต่พอนึกขึ้นได้ว่าอีกคนอาจจะรู้ใจมันก็พลันกังวลแปลกๆ เด็กนั่นยิ่งเป็นคนชอบคิดมาก

     “ผมว่าไม่น่ารอดนะครับ สื่อโหมข่าวหนักมาก” โจเซฟแสดงความคิดเห็น

     “ผมคิดเหมือนกันครับ..แต่ว่าเจ้านายไปเจอคุณกานต์รักมาแล้วเขาก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรไม่ใช่เหรอครับ” แพทริกเคาะนิ้วลงบนโต๊ะทำงานอย่างใช้ความคิด ไม่แน่ใจนักว่ากานต์รักเห็นข่าวแล้วหรือยัง หรือถ้าเห็นคนตัวเล็กควรจะมีท่าทีอย่างไรบ้าง

     “แต่ว่าเรื่องนี้เอาไว้ค่อยไปเคลียร์กันนะครับ เพราะตอนนี้ถึงเวลานัดกับท่านโสภณแล้ว” แพทริกพลิกข้อมือเพื่อดูเวลาบนนาฬิกาเครื่องหรู ตอนนี้เป็นเวลากว่าหนึ่งทุ่ม เขามีนัดเจรจาเรื่องธุรกิจกับท่านโสภณตอนสองทุ่มตรง
 
     “อืม เตรียมรถหรือยัง”

     “เรียบร้อยแล้วครับ”

     แพทริกพยักหน้ารับ เรือนร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะต้องสลัดเรื่องของคนหน้าหวานออกจากหัวไปก่อน มือหนาเอื้อมไปหยิบสูทขึ้นมาสวม จัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อลงไปขึ้นรถ

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     หลังจากที่เมื่อวานกานต์รักวิ่งตามคนร่างสูงออกไปแล้วเอ่ยพูดประโยคนั้นรัวเร็วพอกลับเข้าร้านมาก็ถูกพนักงานเอ่ยแซวและยิ้มล้อเลียนเสียจนต้องหลบเข้าไปจัดการงานภายในห้องเนื่องจากอายเกินกว่าจะสู้หน้าทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ได้

     ตอนคุณแพทริกแนบริมฝีปากลงมาคนเห็นไม่น้อยแถมมินยังเก็บภาพไว้ได้อีกต่างหาก

     วันนี้กานต์รักจึงมาทำงานด้วยอาการขัดเขิน ยิ่งทุกคนจงใจยิ้มให้เท่าไหร่ยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนมือไม้มันขวางหูขวางตาไปหมด

     “วันนี้ขนมจะหวานกว่าทุกวันหรือเปล่าคะ” แม้แต่คุณไหมเองก็ไม่เว้นเอ่ยแซว

     “วะ หวานอะไรกันครับ”

     “หน้าแดงขนาดนี้ไม่ต้องปฏิเสธหรอกค่ะ”

     “คุณไหมอย่าแกล้งรักสิครับ” กานต์รักเอ่ยเสียงเง้างอจนผู้จัดการร้านหลุดหัวเราะ

     “ไม่แกล้งแล้วค่ะ เชิญคุณรักทำขนมตามสบายนะคะ เดี๋ยวไหมไปดูหน้าร้านก่อน”

     “ครับ...อ้อ เดี๋ยวซักเที่ยงพี่ชายรักจะมานะครับ ถ้ามีคนมาถามหาก็ให้เขาเข้ามาได้เลย” เสียงหวานใส่เอ่ยบอก เมื่อวานตอนดึกกานต์รักไปรับพี่ชายที่สนามบิน ตอนนี้อีกคนมีอาการเจ็ทแล็คอยู่ยังคงปรับตัวกับเรื่องของเวลาไม่ได้

     “ได้ค่ะ” กานต์รักพยักหน้ารับแล้วหันกลับมาตกแต่งขนมต่อ ไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มห้าวเอ่ยเรียก

     “ตัวเล็ก” พร้อมกานต์ส่งยิ้มให้ผู้เป็นน้องชายก่อนจะเดินเข้ามาหา คนที่ง่วนกับการทำขนมจึงวางมือลงจากสิ่งที่ทำอยู่เมื่ออีกคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า

     “พร้อมเป็นยังไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นไหม” เสียงหวานเอ่ยถามพี่ชายอย่างเป็นห่วง กว่าที่อีกคนจะหลับได้ก็เห็นว่าเกือบรุ่งเช้าเข้าไปแล้ว

     “โอเคแล้วล่ะ แต่คงต้องปรับตัวเรื่องของเวลานอนหน่อย...ว่าแต่รักทำอะไรอยู่”

     “ตกแต่งขนมอยู่น่ะ พร้อมรอก่อนนะอีกหน่อยก็เสร็จแล้ว เดี๋ยวรักพาไปทานข้าว” คนเป็นน้องเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มหวาน พี่ชายที่ซึ่งรูปลักษณ์ไม่เหมือนกันนักจึงขยับไปนั่งรออยู่ด้านข้างแล้วมองคนตัวเล็กทำขนมไปพลางๆ

     พร้อมหรือพร้อมกานต์ ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นั้นเป็นพี่ชายแท้ๆของกานต์รัก หากแต่คนพี่กลับได้เชื้อพ่อมาเต็มๆส่วนอีกคนนั้นก็ได้แม่มาเต็มๆ แม้จะมีบางส่วนคล้ายคลึงกันแต่รูปร่างแตกต่างอยู่มาก พร้อมกานต์ตัวเกือบเท่าแพทริกแต่ยังถือว่าเล็กกว่านิดหน่อย ส่วนกานต์รักไม่ต้องพูดถึง มองผ่านๆนั้นไม่ต่างจากผู้หญิงเลยซักนิด

     “เสร็จแล้ว~ ไปทานข้าวกัน”

     “อย่าลืมขนมของพี่ด้วย เมื่อวานเอาไปให้คนอื่นทานยังงอนไม่หายนะ” พร้อมกานต์แสร้งพูดเสียงเข้มทั้งที่ใจไม่ได้นึกโกรธน้องชายซักนิด เรื่องแพทริกนั้นทุกคนในครอบครัวรู้หมด ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับกานต์รักแล้วคนในบ้านจะไม่รู้

     ผู้ชายคนนั้นที่น้องชายเขาแอบรักมานานแสนนาน

     “รักขอโทษ...หายงอนนะ วันนี้เก็บไว้ให้พร้อมคนเดียวสามชิ้นเลย” ใบหน้าหวานส่งยิ้มอ้อนจนคนเป็นพี่ชายหลุดยิ้มออกมาจนได้

     “เรานะเรา ไปยอมเขาง่ายๆได้ยังไง แค่เห็นหน้าเขาก็ลืมพี่ซะแล้ว”

     “ไม่ได้ลืมนะ~ เดี๋ยวรักไถ่โทษ วันนี้พร้อมอยากทำอะไรอยากกินอะไรรักจะตามใจทุกอย่างเลย ดีไหม?”

     “พี่จะเอาให้เราหมดตัวเลยคอยดู”

     “ได้ เพื่อพร้อมรักยอม...งั้นไปกันเลยเนอะ” คนมีความผิดติดตัวรีบเปลี่ยนเรื่องก่อนจะโดนพี่ชายงอนไปมากกว่านี้ พร้อมกานต์ส่ายหัวให้น้องชายเล็กน้อยก่อนจะยอมเดินตามคนตัวเล็กที่จับจูงไปอย่างง่ายดาย

     สองพี่น้องมาถึงห้างใจกลางกรุง ความหล่อและความอ่อนหวานนั้นดูลงตัวเสียจนหลายคนมองตามด้วยความอิจฉา หากมองผ่านๆแล้วเหมือนทั้งคู่เป็นคู่รักกันไม่มีผิด

     “ทานอะไรดี”

     “เราอยากกินอะไร พี่ไม่ได้กลับไทยนานจำไม่ค่อยได้แล้วว่ามีอะไรบ้าง”

     “งั้นไปร้านอาหารไทยนะ รักอยากกินยำ”

     “ตามใจเราเลย”

     กานต์รักพาพี่ชายเดินตรงไปยังร้านอาหารไทยร้านโปรด พนักงานนั้นต้อนรับอย่างยิ้มแย้มเมื่อเห็นลูกค้าประจำเดินเข้ามา ร่างเล็กและร่างสูงที่เดินเคียงข้างกันมาใหม่เรียกสายตาจากคนในร้านได้เป็นอย่างดี

     ไม่เว้นแม้กระทั่งแพทริก เบรนเนแกน...

     ยามทั้งสองเดินเข้าไปนั่งยังโต๊ะที่อยู่อีกฟากดวงตาคมก็มองตามจนสุดสายตา ก่อนคิ้วเข้มจะขมวดมุ่นเมื่อเห็นคนที่กานต์รักมาด้วย

     ใครกัน?

     “มีอะไรหรือเปล่าครับคุณแพทริก” เสียงของคู่ค้าคนสำคัญเอ่ยขึ้นทำให้แพทริกจำต้องละสายตากลับมา

     “เปล่าครับคุณสมเกียรติ เรื่องสัญญาทุกอย่างเรียบร้อยนะครับ”

     “ครับ เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไร...ขอโทษด้วยที่ผมต้องเสียมารยาทไม่ได้ทานข้าวกับคุณแพทริกเนื่องจากมีธุระที่อื่นต่อ ไว้โอกาสหน้านะครับ ส่วนเรื่องสัญญาถ้ามีอะไรเพิ่มเติมโทรหาเลขาผมได้ทันที”

     “ได้ครับ”

     ทั้งสองล่ำลากันอีกเล็กน้อยก่อนคนที่แพทริกมาคุยงานด้วยจะเดินออกไปพร้อมกับลูกน้อง สายตาคมรีบเบนมองไปยังโต๊ะซึ่งมีคนตัวเล็กนั่งอยู่ รอยยิ้มหวานและท่าทางสดใสร่าเริงที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทำให้ความรู้สึกบางอย่างตีรวนขึ้นมาในอก

     ไอ้คนหล่อน้อยกว่าเขาคนนั้นมันเป็นใคร!

     ความจริงหลังจากคุยงานแล้วเขากะว่าจะไปหากานต์รักที่ร้านอยู่แล้ว หากแต่มาเจออีกคนที่นี่เสียก่อนไม่อย่างนั้นถ้าแวะไปก็คงเสียเที่ยวเปล่า

     “นายครับ ช้อนจะหักแล้ว” แซมที่ยืนอยู่ข้างตัวเอ่ยเตือนผู้เป็นนายเมื่อมือหนากำช้อนในมือแน่น

     “ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร” แพทริกไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไร ไม่แน่ใจว่าไอ้ความรู้สึกร้อนๆในอกยามเห็นอีกคนยิ้มและหัวเราะกับคนอื่นนั้นเรียกว่าอย่างไร

     ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งถึงตอนนี้เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลยซักครั้ง

     “พวกเราไม่ทราบครับ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นพี่ชายคุณกานต์รัก” โจเซฟเอ่ยขึ้นอย่างพยายามให้คนเป็นนายไม่อารมณ์เสีย

     แม้จะได้ยินดังนั้นทว่าใจที่ร้อนรุ่มกลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยซักนิด ต่อให้เป็นพี่ชายจริงแพทริกกลับยังไม่พอใจที่กานต์รักยิ้มให้คนอื่นอย่างนั้น

     รอยยิ้มสดใสร่าเริงแบบที่เขาไม่เคยได้รับ...

     จนกระทั่งทนไม่ไหว มือหนาจึงล้วงโทรศัพท์เครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาแล้วกดโทรออกอย่างรวดเร็ว

     (สวัสดีครับ)

     “มากับใคร” เสียงทุ้มเอ่ยห้วนจัดโดยไม่มีการเกริ่นนำใดๆทั้งสิ้น เขาอยากรู้แทบบ้าว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร

     (เอ๊ะ นี่ใครครับ) ปลายสายถามขึ้นอย่างงงงวย

     “แพทริก เบรนเนแกน”

     (คุณแพท!) เสียงหวานเอ่ยเรียกอย่างแตกตื่น ดวงตาใสกวาดมองไปทั่วร้านกระทั่งพบเข้ากับร่างสูงที่มองมา กานต์รักกำลังจะเอ่ยตอบว่ามากับพี่ชายหากแต่พร้อมกานต์ส่งสายตาให้ว่าอย่าบอกอะไรง่ายๆ

     “ฉันถามว่ามากับใคร”

     (อะ เอ่อ...เพื่อนครับ)

     “เพื่อนคนไหน รู้จักกันนานหรือยัง”

     (นานแล้วครับ...เอ่อ คุณแพทมีอะไรหรือเปล่าครับ)

     “ถ้าไม่มีแล้วโทรหาไม่ได้หรือไง”

     (ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะครับ)

     “เดินมาหาฉันเดี๋ยวนี้”

     (...)

     “เดี๋ยวนี้...กานต์รัก” สายโทรศัพท์ถูกตัดไปหากแต่สองสายตายังคงสบกันนิ่งจากระยะซึ่งห่างกันพอสมควร พร้อมกานต์มองหน้าน้องชายแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6
 
     (ต่อ)

     “พร้อม คุณแพทบอกให้รักไปหาที่โต๊ะ” คนตัวเล็กเอ่ยบอกพี่ชายเสียงแผ่วอย่างกังวล กลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าเห็นคุณแพทริกสำคัญกว่า

     “หึ รักอยากไปไหม...ไม่สิ คงไม่ต้องถามแล้ว พี่ให้ไปได้แต่รักห้ามบอกเด็ดขาดว่าพี่เป็นพี่ชาย โอเคไหม?” พร้อมกานต์เอ่ยย้ำกับน้องชายอีกที มาคอยดูกันว่าอีกฝ่ายจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง

     “ทำไมล่ะ” คนรู้ไม่เท่าทันเอ่ยถามด้วยความสงสัย

     “เอาน่า รีบไปได้แล้วก่อนเขาจะเดินมากินหัวเราถึงที่” พร้อมกานต์หันหลังกลับไปมองพบว่าอีกฝ่ายมองมาก่อนแล้วอย่างไม่วางตา “อ้อ แล้วก็ถ้าไม่ได้กลับมาก็ไม่เป็นไร พี่กลับเองได้ เจอกันที่ร้านเลย”

     “รักคงไปแป๊บเดียว” คนเป็นพี่หัวเราะในลำคอก่อนจะโบกมืออย่างบอกว่าให้รีบไป กานต์รักขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปหาคนตัวโตซึ่งอยู่อีกฟาก ลูกน้องทั้งสองค้อมหัวให้คนที่มาใหม่ก่อนจะเดินออกไปนอกร้านอย่างรู้งาน

     “ทำไมมาอยู่นี่” เมื่อคนร่างเล็กปรากฏตัวตรงหน้าแพทริกก็เอ่ยถามขึ้นทันที กานต์รักทรุดตัวนั่งลงก่อนจะยิ้มบางๆส่งให้คนที่ดูเหมือนกำลังอารมณ์ไม่ดีซักเท่าไหร่

     “ผมมากินข้าวกับเพื่อนครับ”

     “รัก”

     “ครับ?”

     “แทนตัวเองว่ารัก” เสียงทุ้มเอ่ยเรียบทว่ามันกลับสั่นไหวหัวใจคนฟังอย่างร้ายกาจ ริมฝีปากบางถูกเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่า แม้จะแทนตัวเองอย่างนี้กับคนอื่นเป็นเรื่องปกติแต่พอต้องคุยกับคุณแพทริกแล้วมันกลับรู้สึกมากกว่านั้นหลายเท่า

     “คะ ครับ”

     “นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนหน่อย”

     “ครับ?” กานต์รักรู้สึกเหมือนตัวเองพูดเป็นอยู่คำเดียว สมองนั้นมึนเบลอไปหมดจนไม่รู้จะตอบอะไรกลับไป แค่เห็นหน้าคุณแพทริกใจก็สั่นเกินกว่าจะนึกอะไรออกได้แล้ว

     “นั่งกินข้าวเป็นเพื่อนฉัน”

     “แต่ว่า...”

     “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น” กานต์รักกำลังจะพูดว่าแต่เขามากับเพื่อนเป็นอันต้องเงียบเสียงลงทันทีเมื่อถูกเอ่ยแทรกด้วยประโยคที่แสนเอาแต่ใจ แถมยังถูกมัดมือชกด้วยการที่แพทริกส่งสัญญาณเรียกพนักงานมาเพื่อให้สั่งอาหาร

     “อยากกินอะไรก็สั่ง” คนฟังทำได้เพียงมองหน้าพนักงานเหรอหราเมื่อไม่ทันได้ตั้งตัวกับอะไรซักอย่าง

     หากแต่กานต์รักรู้ดีว่าต่อให้ปฏิเสธแพทริกก็บังคับให้ต้องทำตามจนได้ ตัวเขาเองนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไร กลับดีใจมากเสียอีกที่ได้นั่งทานข้าวด้วยกันอย่างนี้

     เพียงแต่ก็ยังอดเป็นห่วงพี่ชายไม่ได้ ดวงตาใสมองไปยังอีกคนที่อยู่อีกฟากก่อนจะต้องหันกลับมาสนใจเมนูในมือเมื่อเสียงทุ้มเอ่ยย้ำอีกครั้ง

     “เอายำหมูยอ ยำวุ้นเส้น ยำรวมมิตรทะเล ทุกอย่างไม่เผ็ดแล้วก็ข้าวเปล่าที่นึงครับ”

     เสียงหวานเอ่ยสั่งพนักงานพร้อมรอยยิ้มบาง กานต์รักสั่งเมนูเดียวกันกับที่สั่งก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น อาหารมากมายบนโต๊ะนั้นพร้อมกานต์ต้องจัดการเพียงคนเดียวหากเขานั่งทานข้าวเป็นเพื่อนคุณแพทริก ไม่รู้ว่าพี่ชายจะจัดการมันอย่างไร

     แพทริกสั่งอาหารเพิ่มอีกสามอย่างก่อนจะส่งเมนูคืนให้กับพนักงาน

     “คุณแพทชอบมาทานข้าวที่นี่เหมือนกันเหรอครับ” กานต์รักเอ่ยขึ้นอย่างพยายามหาเรื่องคุย

     “ก็มาบ้างแต่ไม่ได้บ่อย วันนี้ฉันมาคุยงาน”

     “อ๋อ...ครับ”

     “ร้านนี้ร้านประจำหรือไง”

     “ครับ ผม...เอ่อ รักชอบมาร้านนี้เพราะอาหารอร่อย” กานต์รักเกือบหลุดพูดอย่างเคยหากไม่โดนสายตาคมมองมาราวกับเตือนว่าควรพูดอย่างไร

     “นอกจากยำแล้วกินอย่างอื่นเป็นบ้างไหม”

     “เป็นสิครับ แต่รักชอบนี่นา” แพทริกส่ายหน้าให้กับประโยคนั้นเบาๆก่อนจะเหลือบสายตาไปมองทางโต๊ะซึ่งมีเพื่อนของกานต์รักนั่งอยู่ ดูเหมือนว่าอีกคนจะสั่งให้พนักงานห่ออาหารทั้งหมดกลับบ้านแทนการทานที่ร้านซะแล้ว

     “อ้าว” เสียงเล็กอุทานขึ้นเมื่อโทรศัพท์ในมือแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า สิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอซึ่งถูกส่งมาจากพี่ชายทำให้อดขมวดคิ้วเข้าหากันไม่ได้

     ‘พี่กลับก่อนนะ เดี๋ยวจะเอาอาหารพวกนี้กลับไปทานที่คอนโด แล้วจะแวะไปหาที่ร้านอีกที’

     “มีอะไร” แพทริกอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนมองหน้าจอโทรศัพท์นิ่ง

     “พร้อม เอ่อ...เพื่อนของรักเขาบอกว่าจะกลับแล้วครับ” กานต์รักเอ่ยตอบพร้อมกับมองไปทางโต๊ะของพี่ชายซึ่งกำลังโบกมือส่งให้

     “ก็ให้เขากลับไปสิ”

     “แต่ว่าเขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศรักกลัวว่าเขาจะหลงทาง”

     “โตขนาดนั้นแล้วไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” แพทริกเอ่ยบอกเสียงห้วนเสียจนคนฟังรู้สึกตัวลีบเล็กลงเนื่องด้วยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นโมโหอะไรขึ้นมา ก่อนจะกังวลไปมากกว่านั้นเสียงเตือนจากโทรศัพท์ว่ามีข้อความเข้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    ‘พี่กลับได้ สบายมาก’

     พร้อมกานต์โบกมือให้น้องชายอีกครั้งก่อนจะถือถุงอาหารทั้งหลายเดินออกจากร้านไป

     “ถ้าเป็นห่วงนักก็กลับไปด้วยกันเลยสิ” กานต์รักดึงสายตากลับมามองคนตรงหน้าก่อนใบหน้าหวานจะฉายแววฉงนเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าราวกับว่ากำลังโกรธใครอยู่

     มีกันอยู่สองคนแค่นี้แสดงว่าคุณแพทริกโกรธเขาอย่างนั้นหรือ

     ยังไม่ทันจะได้เอ่ยถามอะไรพนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟจนต้องเงียบเสียงลงเสียก่อน กระทั่งอาหารทุกอย่างถูกวางลงบนโต๊ะเรียบร้อยพนักงานจึงเดินออกไป

     “รักทำอะไรให้คุณแพทริกไม่พอใจหรือเปล่าครับ” คนตัวเล็กเอ่ยถามเสียงเบาเนื่องด้วยกลัวเกรงคนที่นั่งหน้าทะมึงอยู่

     “...”

     “ถ้ารักทำ...รักขอโทษนะครับ” แพทริกจ้องมองคนที่ทำหน้าสำนึกผิดนิ่งทั้งที่ใจข้างในมันอ่อนยวบไปหมด

     ให้ตายเถอะ เด็กนี่รู้ใช่ไหมว่าถ้าทำแบบนี้แล้วเขาจะหายหงุดหงิด ไอ้หน้าตาอ้อนๆสำนึกผิดแบบนี้ไปหัดทำมาจากที่ไหนกัน

     “ช่างมันเถอะ...กินข้าวได้แล้ว” ใครจะอยากบอกว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะความรู้สึกงี่เง่าของตัวเองล้วนๆ ขืนถ้าคนรู้มีหวังได้ขายขี้หน้าเป็นแน่

     กานต์รักก้มหน้าลงแทบชิดอกเมื่อไม่รู้ว่าทำอะไรให้แพทริกไม่พอใจ ไม่ว่าจะด้วยเพราะอะไรหากแต่การที่อีกคนไม่พอใจหรือโกรธอะไรซักอย่างมันทำให้รู้สึกไม่สบายใจเลยซักนิด และมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าจะต้องเอ่ยคำขอโทษหรือทำให้คนตัวสูงรู้สึกดีขึ้นแม้ว่าตัวเองจะไม่ผิด

     มันไม่สำคัญว่าตัวเองจะถูกหรือไม่ แต่ความรู้สึกแย่ต่อกันไม่ได้ก่อให้เกิดผลดีอะไร ถ้าทำให้มันหายไปได้อย่างรวดเร็วย่อมเป็นสิ่งที่ดีซึ่งกานต์รักก็ไม่รีรอที่จะเป็นฝ่ายทำเลยซักนิด

     “ฉันไม่ได้ไม่พอใจอะไรทั้งนั้น เลิกทำหน้าเศร้าแล้วกินข้าวได้แล้ว” มือใหญ่เอื้อมมาลูบหัวเล็กอย่างแผ่วเบาจนกานต์รักเงยหน้าขึ้นด้วยความรู้สึกที่หัวใจพองโต ใบหน้าคมลดความทะมึงลง ริมฝีปากได้รูปของคนตรงหน้ายกขึ้นนิดๆจนคนมองเริ่มเบาใจ

     คุณแพทริกอารมณ์ดีแล้ว

     “ถ้าไม่อยากให้ฉันไม่พอใจ...อย่าเห็นใครสำคัญมากกว่าฉัน”
     .

     .

     .
     กานต์รักจำได้เพียงว่าตัวเองนั้นพยักหน้ารับอย่างมึนงง สติหลุดลอยไปเพราะประโยคชวนสั่นไหวจนระบบประมวลผลทำงานได้ไม่ดีนัก ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินไปพร้อมกับใจที่เต้นแรงตลอดมื้ออาหาร
 

TBC.

    ใครมาสร้างโรงงานน้ำตาลอยู่แถวนี้หรือเปล่าคะ :-[ :-[ กานต์รักช่างน่ารักอะไรขนาดนี้~ ยอมคุณแพทไปซะหมดเลยยยย พอจะรู้สาเหตุที่กานต์รักยอมคุณแพทง่ายๆแล้วเนอะ ส่วนจะแอบรักมานานอะไรยังไงต้องติดตามน๊าาา
     ขอโทษที่มาช้าค่ะ คนแต่งยุ่งมาก>< นี่ก็ยังไม่ได้นอน อัพนิยายแล้วต้องอาบน้ำไปเรียนเลย :mew6: :mew6: หลังจากสอบก็มีโปรเจ็คมากมายรออยู่ แต่คงได้หายใจหายคอขึ้นมาบ้างแล้ว ยังไงก็จะพยายามมาต่อให้เร็วขึ้นนะคะ ขอบคุณทุกคอมเมนท์มากๆค่ะ :pig4: :pig4:



จิ้มแฟนเพจ : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/ (ทวงกันมาเยอะก็จะพยายามทิ้งหนังสือมาปั่น><)
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ขนาดบอกว่าอาจเป็นพี่ชายคุณแพทก็ยังไม่ชอบที่รักจะยิ้มให้
ขี้หวงขี้หึงมากกกกกกก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ chaichan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 106
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เข้ามาดูทุกวันเลยคร่า
เค้ารออออ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
โอ้โห้ พอรู้ใจตัวเองนี่ ขี้หวงขี้หึงมากมายคุณแพท

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด