❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❀✽ผู้เป็นที่รัก✽❀ :: รายละเอียดการจองหนังสือรอบสต็อก 26/11/2560 p.33  (อ่าน 431937 ครั้ง)

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
รักอย่าตามใจคุณแพทให้มากนัก

ออฟไลน์ whistle

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-4
เรื่องนี้อ่านแล้วยิ้มทั้งเรื่องเลย.......

ออฟไลน์ beerby-witch

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เกือบดีละคุณแพททท
 :hao6:
อย่างนี้น้องรักจะไหวมั้ย :o8:

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาตามอ่าน

ยังอ่านไม่ทัน

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
คือฟิน
คือชอบค่ะ

ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
เอากำลังใจมาส่งคับ

รอๆ

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

ตอนที่ 12

     “เปล่า...แต่อย่างน้อยก็จะทำเบาลง”

     ประโยคที่ไม่ได้ยาวนักทว่ากลับทำให้ใจดวงน้อยเต้นแรงจนคนป่วยได้แต่เบือนหน้าแดงซ่านหนีไปอีกทางด้วยความขัดเขิน ฝ่ามือที่จับกันอยู่พลันรู้สึกอุ่นร้อนจนเหงื่อไหลซึมตามข้อนิ้ว

     “นายต้องกินข้าวเพราะต้องกินยา จะออกไปทานข้างนอกหรือว่าจะทานที่นี่”

     แพทริกเองก็ไม่คิดที่จะพูดเรื่องนั้นต่อให้อีกคนต้องเขินอายไปมากกว่าเดิม เสียงทุ้มจึงเอ่ยไปอีกเรื่องซึ่งสำคัญกว่า

     “ทานข้างนอกดีกว่าครับ” ใบหน้าหวานที่ยังคงซับสีเลือดอยู่จางๆเบือนกลับมาสบกันอีกครั้งก่อนจะเอ่ยตอบ

     “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวฉันออกไปบอกให้คนจัดโต๊ะให้”

     ร่างสูงเอ่ยก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นแล้วรีบเดินออกจากห้องไป ดวงตากลมโตมองตามแผ่นหลังกว้างของอีกคนกระทั่งลับสายตา

     เมื่ออยู่ในห้องคนเดียวกานต์รักจึงกวาดตามองไปรอบห้องที่คุ้นเคย นาฬิกาพรายน้ำบนผนังบอกให้รู้ว่าขณะนี้เป็นเวลาเกือบจะสามทุ่ม ก่อนร่างเล็กจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้จึงลองมองหาโทรศัพท์มือถือของตัวเองแล้วพบว่ามันถูกวางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง

     นิ้วมือเล็กวางทาบลงบนปุ่มสแกนก่อนโทรศัพท์จะปลดล็อคเรียบร้อย กานต์รักกดเข้าไปยังแอพลิเคชั่นสีเขียวที่ถูกปิดแจ้งเตือนเอาไว้ก่อนจะพบว่าไลน์กรุ๊ปของครอบครัวกำลังมีการเคลื่อนไหว

     เมื่ออ่านบทสนทนาล่าสุดร่างบางจึงขยับนิ้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไปก่อนจะโดนทั้งพ่อ แม่ และพี่ ถามกลับมาชุดใหญ่ แต่พอได้รับการยืนยันว่าเขานั้นสบายดีทุกคนจึงเบาใจลงได้

     แกร๊ก

     ไม่นานนักเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้นให้คนที่จดจ่ออยู่กับโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าร่างสูงกำลังเดินเข้ามากานต์รักจึงไลน์บอกครอบครัวว่าจะโทรไปรายงานตัวในวันพรุ่งนี้ก่อนจะกดล็อคหน้าจอ

     “ทำอะไรอยู่” คนตัวโตขยับมาทรุดตัวลงนั่งที่เดิม สายตาคมเหลือบมองโทรศัพท์ที่อยู่ในมือบางนิ่ง

     “รักคุยกับครอบครัวครับ...พ่อกับแม่เห็นว่ารักเงียบไปก็เลยเป็นห่วงนิดหน่อย” ใบหน้าหวานระบายยิ้มบางๆพร้อมกับเอ่ยตอบให้คนถามพยักหน้ารับ

     “ยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า”

     “นิดหน่อยครับ แต่ว่าดีขึ้นมากแล้ว”

     “อยากจะเข้าห้องน้ำรึเปล่า ล้างหน้าซะหน่อยก่อนออกไปกินข้าว”

     “ก็ดีเหมือนกันครับ”

     กานต์รักยิ้มตอบก่อนจะค่อยๆขยับตัวหย่อนขาลงข้างเตียง ทันทีที่คนป่วยหยัดตัวลุกขึ้นยืนตรงเรือนร่างสูงใหญ่ของคนที่นั่งอยู่ก็ขยับเข้ามาโอบประคอง

     “อ๊ะ ไม่เป็นไรครับคุณแพท รักเดินได้”

     แม้ความใกล้ชิดอันรวดเร็วนั้นจะพาให้ใจดวงน้อยเต้นรัวและอุ่นวาบด้วยความปลื้มปริ่มทว่ากานต์รักก็ยังเกรงใจ อีกอย่างตัวเขานั้นก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว แค่เดินเหินด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร

     “ห้ามดื้อ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันราวกับจะดุเด็กน้อย กานต์รักเบิกตาขึ้นนิดๆกับคำกล่าวนั้น

     “รักไม่ได้ดื้อนะครับ”

     “เด็กอะไรดื้อแล้วยังชอบเถียง”

     “รักไม่ใช่เด็ก” คนถูกกล่าวหาเผลอโต้ตอบโดยไม่ได้คำนึงเลยว่าท่าทางเช่นนี้ยิ่งทำให้ดูเหมือนตัวเองนั้นเป็นเด็กเข้าไปใหญ่

     “เด็ก”

     “...” ปากเล็กๆยู่เข้าหากันอย่างไม่รู้ตัวเมื่อจนใจที่จะเถียง กานต์รักเงียบเสียงลงโดยไม่ได้ตอบอะไรกลับไปอีก ไม่ได้ไม่พอใจทว่าถ้าคุณแพททริกจะว่าอย่างนั้นเขาก็จะยอมรับก็ได้

     “เด็กดื้อของฉัน”

     เสียงทุ้มที่เอ่ยอยู่เหนือหัวทำให้กานต์รักได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ สมองที่ทำการประมวลผลเหมือนช็อตไปทันทีหลังจากได้ยินคำนั้น

     เมื่อกี้คุณแพทริกพูดว่าอะไร?

     เด็กดื้อของฉัน อย่างนั้นเหรอ...

    กานต์รักทำได้เพียงยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองคนที่กำลังโอบประคองตัวเอง กระทั่งได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะในลำคอสติที่หลุดลอยจึงค่อยๆกลับมาอีกครั้ง

     “หึ ยังจะไปห้องน้ำหรือเปล่า ทำไมยืนนิ่งเชียว”

     คนขี้แกล้ง

     รู้ทั้งรู้ว่าที่เขายืนนิ่งอยู่อย่างนี้เป็นเพราะอะไรยังกล้าเอ่ยถามกันด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ กานต์รักเงยหน้าแดงๆขึ้นมองคนตัวสูงก่อนจะเม้มปากเข้าหากันราวกับเด็กที่ถูกผู้ใหญ่รังแก

     ใบหน้าเล็กแดงอย่างกับลูกตำลึงสุก แพทริกมองภาพนั้นด้วยความอารมณ์ดี

     “ไปครับ”

     เสียงหวานเอ่ยติดเง้างอนก่อนจะค่อยๆก้าวเดินโดยมีอ้อมแขนแข็งแรงช่วยพยุงกระทั่งถึงห้องน้ำ พอจัดการล้างหน้าล้างตาจนเรียบร้อยแพทริกก็ทำท่าจะขยับเข้ามาประคองอีกรอบแต่กานต์รักยืนยันเสียงแข็งว่าไม่เป็นอะไรแล้วร่างสูงจึงต้องยอมผละออกไป

     “ยำหมูยอ~”

     กานต์รักลากเสียงเบาๆเมื่อเดินมาจนถึงโต๊ะอาหารแล้วพบว่ามีเมนูโปรดนั้นวางอยู่ เพราะอาการป่วยจึงทำให้ความอยากอาหารลดลงกว่าเคย มีเพียงอย่างเดียวที่นึกอยากและอีกคนก็ทำราวกับว่ารู้ใจ

     หวังว่ารสชาติของมันจะได้ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง

     “กินเยอะๆ จะได้กินยา” แพทริกเดินอ้อมมาทรุดตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วเอ่ยบอก

     “ครับ”

     รับคำอย่างอารมณ์ดีก่อนที่ต่างฝ่ายจะลงมือทานอาหารโดยกานต์รักนั้นก็คอยตักอาหารให้แพทริกเป็นระยะด้วยความเคยชิน ยามทานข้าวด้วยกันร่างเล็กมักจะทำอย่างนี้เสมอ ปกติแล้วการถูกเอาใจมากก็ไม่ใช่สิ่งที่นึกชอบนักแถมยังให้ความรู้สึกน่ารำคาญเสียมากกว่า แต่กับกานต์รักแล้วแพทริกไม่เคยรู้สึกอย่างนั้นกลับชอบด้วยซ้ำไป

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

      “วันนี้มีดาวด้วยนะครับ”

     คนที่นั่งให้อีกคนใช้ตักต่างหมอนเอ่ยขึ้นเมื่อทั้งสองกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวโปรดหลังจากทานข้าวเสร็จเรียบร้อย ท้องฟ้ามืดมิดที่มีแสงจากไฟทั่วเมืองหลวงทำให้ไม่ค่อยได้มีโอกาสเห็นดาวมากนักทว่าก็ยังคงมีอยู่ดวงหนึ่งที่มักส่องสว่างอยู่เสมอ

     ไม่รู้ว่าทำไมพอได้นั่งดูดาวแบบนี้แล้วก็อดคิดเปรียบเทียบกับตัวเองไม่ได้เลย

      “มีอยู่ดวงเดียวนั่นนะ” เปลือกตาหนาเปิดขึ้นก่อนจะมองตามสายตาของกานต์รักไป

     “แสดงว่ามันต้องสว่างมากเลยเพราะแสงไฟมากมายก็ยังไม่สามารถกลบตัวมันได้...เก่งจังเลยว่าไหมครับ” ริมฝีปากบางแย้มยิ้มน้อยๆขณะมองไปยังดาวดวงที่กำลังพูดถึง

     กานต์รักชอบมองดูท้องฟ้าและหมู่ดาว ยามปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปกับความกว้างใหญ่นั้นมันทำให้สมองไม่ต้องนึกคิดอะไรให้วุ่นวายใจ

     “คนไทยเรียกว่าอะไรนะ?...ดาวประจำเมืองใช่ไหม”

     “ครับ”

     “มันส่องสว่าง สดใส...เหมือนนาย”

     เสียงทุ้มนั้นทำให้คนฟังดึงสายตากลับมายังใบหน้าคมบนตักซึ่งกำลังหลับพริ้ม กานต์รักไม่รู้ว่าคนพูดหมายความไปลึกซึ้งแค่ไหนแต่สำหรับเขาแล้วมันมีความหมายต่อใจดวงน้อยมากเหลือเกิน

     ไม่เคยคิดเทียบเท่าว่าตัวเองเป็นดาวเพราะมันช่างสูงเกินไป อีกอย่างกานต์รักก็ไม่ได้เจิดจรัสเช่นนั้นจึงไม่อาจคิด

     แต่คุณแพทริกกลับบอกอย่างนั้นมันจึงส่งผลต่อความรู้สึกให้สั่นไหว

     “ไม่หรอกครับ...ถ้าจะเป็นดาวรักก็คงเป็นดาวพลูโต”

     ดาวที่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มาก ก่อนจะถูกตัดออกจากวงโคจรในที่สุด

     “ทำไมคิดว่าตัวเองเป็นดาวพลูโต?” คนที่ยังคงหลับตาเอ่ยถาม แปลกที่แม้จะไม่ได้ลืมตาขึ้นมองหากแต่แพทริกกลับจับความรู้สึกบางอย่างของคนใกล้ตัวได้ เหมือนมันมีอะไรที่ไม่แจ่มใสอยู่ในนั้น

     “ก็...ห่างไกล เพราะว่ามันห่างไกลเหลือเกินครับ” กานต์รักเอ่ยตอบเสียงแผ่ว ดวงตาโตที่มีแววเศร้ามองคนบนตักอย่างโหยหา

     “ห่างไกลจากอะไร”

     “ดวงอาทิตย์ครับ”

     “ห่างไกลแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สำคัญ

     ดวงตาคมลืมขึ้นมาสบกับกานต์รักนิ่งยามเอ่ยประโยคนั้น นัยน์ตาที่เคยสุกใสมีแววสั่นไหว ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันอย่างไม่มั่นใจในความรู้สึก ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นหมายถึงอะไรแน่

     “ไม่ว่านายจะเป็นดาวอะไร แต่นายมีแสงสว่างในตัวเอง...แบบที่ฉันชอบ

     หากเปรียบกานต์รักเป็นดาวแพทริกก็ไม่แน่ใจนักว่าควรจะเป็นดาวอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่รู้นั่นคือดาวดวงนั้นมีแสงสว่างในตัวเอง ประกายของมันไม่ได้เจิดจ้า สว่างไสวจนแสบตาแต่กลับเป็นแสงนุ่มนวลที่ทำให้คนมองอุ่นใจ

     “คะ คุณแพริกชอบดาวเหรอครับ”

     กานต์รักคงไม่กล้าจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าชอบที่อีกคนเอ่ยขึ้นนั้นจะหมายถึงตัวเอง น้ำเสียงไม่มั่นคงจึงเอ่ยไปถึงอีกสิ่ง

     “เปล่า”

     “...”

     “ฉันหมายถึงชอบนาย”

     เปลือกตาสีอ่อนเบิกขึ้นอย่างไม่คาดฝันกับคำตอบนั้น กานต์รักนิ่งอึ้งจนแทบหยุดหายใจขณะที่คนพูดไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับตัวเองเลยแม้แต่น้อย

     แพทริกยอมรับว่าชอบกานต์รัก...ชอบที่จะอยู่ด้วย ชอบการถูกเอาใจใส่ ชอบท่าทางนุ่มนวล และเขาคิดว่ามันจะต้องกลายเป็นความรักเข้าในซักวัน

     ร่างสูงที่นอนทอดเต็มโซฟาขยับตัวลุกขึ้นนั่งตรงแล้วหันหน้าเข้าหาร่างเล็กที่ดูเหมือนว่าสติหลุดไปแล้ว

    “ยังไม่สามารถพูดคำว่ารักได้ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ชอบ”

     “...”

     “ฉันสบายใจเวลาอยู่กับนาย” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยอย่างจริงจัง

     ครั้งแรกที่เจอกันเมื่อครั้งในผับความสบายตาก็เป็นสิ่งที่ทำให้แพทริกสะดุด ท่าทางหวานละมุนที่แทบจะไม่เข้ากับสถานที่แบบนั้นยิ่งทำให้แปลกใจเข้าไปใหญ่ จำได้ว่าตัวเองจับจ้องเพียงร่างบางซึ่งนั่งคุยอยู่กับใครซักคนนิ่ง กระทั่งสั่งคนให้เข้าไปติดต่อโดยที่แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป

     ตอนนั้นมันเป็นเพียงความถูกใจ ทว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็นความชอบ

     ทั้งที่ไม่ว่าเขาจะใจร้ายใส่ยังไงกานต์รักก็ยังคงแสดงออกอย่างบริสุทธิ์ ความอ่อนโยนนั้นไม่เคยหายไปเลยซักนิด

     “คะ คุณแพทว่ายังไงนะครับ”

     คนที่แทบไม่มีสติเอ่ยขึ้นเสียงสั่นพร่า ราวกับทุกอย่างเป็นความฝันจนอยากได้ยินมันอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองฟังไม่ผิด

     “ฉันสบายใจเวลาอยู่กับนาย”

     “ไม่...ไม่ใช่ครับ ก่อนหน้านั้น”

     “ฉันชอบนาย”

     “...อีกทีได้ไหมครับ”

     “หึ ฉันชอบนาย...ชอบกานต์รัก...ชอบรัก ได้ยินชัดหรือยัง”

     ไม่พูดเปล่ามือหนายังรั้งเอวบางของอีกคนให้ขยับเข้าหากระทั่งขาเรียวแนบชิดกับท่อนขาแกร่ง สองสายตาสบกันด้วยระยะที่ไม่ได้ห่างมากนัก

     หมับ

     “พูดอีกได้ไหมครับ...พูดอีกร้อยรอบเลยได้ไหมรักอยากฟัง”

     กานต์รักโถมกายเข้าหาจนคนไม่ทันได้ตั้งตัวได้แต่รีบตวัดแขนโอบร่างเล็กเอาไว้ตามสัญชาตญาณ เสียงหวานติดสั่นเอ่ยกระซิบข้างหู ท่อนแขนเรียวก็รัดอยู่รอบคอแกร่งแน่น

     แพทริกมองไม่เห็นว่าคนในอ้อมกอดนั้นมีสีหน้าอย่างไร แต่น้ำเสียงนั้นก็เต็มไปด้วยความสุขจนแม้แต่คนพูดยังยกยิ้มตาม

     ไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดแค่ไม่กี่คำจะทำให้กานต์รักดีใจขนาดนี้

     “ฉันชอบรัก...ถ้าอยากฟังคืนนี้จะพูดให้ฟังทั้งคืน”

     สรรพนามที่ถูกเอ่ยเรียกพาให้กานต์รักใจเต้นรัวเสียจนน้ำตาไหล ความรู้สึกนั้นทั้งตื่นเต้น ตื้นตันและดีใจ ผสมปนเปกันไปหมดจนแยกไม่ออก     

     ยิ่งกว่าฝันเสียอีก...คำที่เขารอคอยมาเกือบครึ่งชีวิต ไม่ต้องมากมายถึงคำว่ารักแต่แค่นี้กานต์รักก็ดีใจมากมายเหลือเกิน

     “รักก็ชอบคุณ ชอบมากจนไม่ใช่แค่ชอบแล้ว”

     กานต์รักเอ่ยพูดทั้งที่กอดคนตัวสูงเอาไว้แน่น ใบหน้าเล็กก็ซบเข้ากับลาดไหล่แกร่งอยู่อย่างนั้นพร้อมกับหลับตาลงซึมซับทุกอย่างทุกความรู้สึก

     “ดีแล้วกานต์รัก รู้สึกกับฉันให้มากๆ มากจนไม่สามารถรู้สึกกับใครได้อีก”

     คนขี้หวงเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบแผ่นหลังเล็กไปมาแผ่วเบา

     กานต์รักทำได้เพียงแต่พยักหน้ารับหงึกหงักเพราะตื้นตันจนแทบพูดออกมาไม่ได้

     “ย้ายมาอยู่ที่นี่นะ...อยู่กับฉัน”

     ประโยคที่ได้ยินทำให้กานต์รักค่อยๆผละออกมา แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังคงใกล้ชิดเมื่อร่างเล็กแทบจะนั่งเกยอยู่บนตักของอีกคน มือบางถูกยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลซึมด้วยความปิติออกจากใบหน้า

     ประโยคที่เอ่ยพูดราวกับกำลังอ้อนขอทำให้กานต์รักหัวใจพองโตไปหมดแต่ว่าก็ยังไม่อาจตกลงรับคำได้ในทันที

     “รักอยากอยู่กับคุณแพทนะครับ แต่ว่าตอนนี้...ยังไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ รักขอเวลาอีกซักพักได้ไหมครับ”

     ใบหน้าหวานมีแววลำบากใจอยู่ในนั้นจนคนมองขมวดคิ้วเข้าหากัน เรื่องที่ไม่สะดวกหลักๆแล้วคือเรื่องของพร้อม จะให้เขาทิ้งพี่ชายมาอยู่กับคุณแพทก็ยังไงๆอยู่

     “ทำไม” น้ำเสียงนั้นเข้มขึ้นจนกานต์รักต้องเอ่ยต่อด้วยเสียงติดจะอ้อน

     “รักยังต้องจัดการอีกหลายอย่าง แต่ว่าระหว่างนี้จะมาหาเท่าที่คุณแพทต้องการเลย”

     “...”

     “...นะครับ” เพราะอีกคนยังคงนิ่งไม่ยอมตอบอะไรกานต์รักจึงเพิ่มเลเวลความอ้อนที่มักใช้กับพี่ชายบ่อยๆขึ้นมาอีกนิด

     “ฉันจะให้เวลา แต่ต้องไม่นานนัก...ไม่อย่างนั้นฉันจะจับรักขังเอาไว้ไม่ต้องออกไปไหน”

     สุดท้ายแล้วแพริกก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเมื่อใจแกร่งนั้นอ่อนยวบลงกับเสียงออดอ้อนของร่างเล็ก มันช่างน่าหมั่นเขี้ยวเสียจนอยากจับคนตรงหน้ามาฟัดแรงๆซักทีสองที

     “ครับ รักยอมทุกอย่างเลย...ละ แล้วก็ คุณแพทเรียกรักเหมือนเดิมก็ได้ครับ พอคุณแพทพูดอย่างนี้แล้ว มัน...แปลกๆ”

     บอกตรงๆว่ากานต์รักไม่ชินซักนิด ยามได้ยินแล้วหัวใจมันจักกะจี้แปลกๆ ใบหน้าก็พลันเห่อร้อนไปหมด ขัดเขินจนเกินกว่าจะกล้าสบตากับอีกคน ลิ้นนั้นก็พลอยสั่นไปด้วย แบบนี้ให้คุณแพทพูดอย่างเดิมน่าจะดีกว่า

     “ทำไม ไม่ชอบหรือไง ฉันชอบนะ นายยังเรียกฉันว่าคุณแพทเลย”

     แพทริกรู้ว่าอีกคนเขินอายเพียงใดแต่เขาก็ยังอยากเหย้าแหย่ และอีกอย่างก็ชอบมากกว่าอย่างที่บอกไปจริงๆ คำว่านายมันดูห่างเหินกันไปซักหน่อย

     “มะ ไม่ได้ไม่ชอบครับ แต่มันฟังแล้วไม่ค่อยชินเท่าไหร่เลย”
     
     กานต์รักไม่ได้ซีเรียสว่าอีกคนต้องพูดหรือเรียกตัวเองอย่างไร เพราะฉะนั้นไม่ว่าคำไหนขอแค่คุณแพทเอ่ยด้วยก็ยินดีทั้งหมด แต่พอยามเสียงทุ้มและใบหน้าหล่อเหลาพูดอย่างนี้นี้มันทำให้รู้สึกเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก

     “ฟังบ่อยๆเดี๋ยวก็ชิน”

     “คุณแพทแกล้งรักอีกแล้ว”

     เพราะสายตาคมนั้นวาววับเสียจนกานต์รักอดเอ่ยออกมาไม่ได้ อีกคนดูอารมณ์ดียามพูดทั้งที่ปกติไม่ได้เป็นเช่นนี้ ไม่พ้นว่าคงกำลังแกล้งเขาอยู่ อีกหนึ่งนิสัยที่กานต์รักพึ่งค้นพบยามอยู่ด้วยกัน

     “หึ แต่ฉันชอบพูดแบบนั้นมากกว่าจริงๆ”

     ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอยากแกล้งแต่อีกส่วนก็เพราะว่าพอใจที่จะแทนตัวอีกคนด้วยอย่างนั้นมากกว่าเรียกว่านาย

     “เรียกแบบเดิมเถอะนะครับ” มันก็ไม่ใช่คำที่ไม่ดีอะไร แต่เพียงแค่ดีมากจนพาให้ใจสั่นเท่านั้น

     “ตามใจนายแล้วกัน” แพทริกก็ไม่ได้คิดจะขัดใจอีกคนจึงยอมตามใจในที่สุด

     “คุณแพทน่ารัก”

     ใบหน้าหวานยิ้มออกมาเต็มหน้าก่อนจะหลุดคำพูดให้คนฟังนั้นต้องเลิกคิ้ว อย่างเขานี่นะหรือจะใช้คำว่าน่ารัก แพทริกคิดพร้อมกับทำหน้าประหลาดใจ

     “ฉันน่ะนะ”

     “ครับ เพราะคุณแพทใจดี” กานต์รักตอบ แม้ใบหน้าคมจะติดดุทว่าความจริงแล้วนั้นคุณแพทก็ใจดีไม่น้อย

     “ฉันไม่เห็นรู้ตัว”

     “จริงๆนะครับ”

     “เอาเถอะ...พรุ่งนี้ฉันว่าง นายก็ว่าง อยากจะไปไหนหรือเปล่า”

     เพราะพรุ่งนี้เป็นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันที่ร้านปิด กานต์รักว่างเพราะไม่ต้องเข้าร้านแต่อีกคนนั้นตั้งใจทำตัวให้ว่างเพื่อจะได้มีเวลาขลุกอยู่กับร่างเล็ก

     “ดีจังเลยครับที่คุณแพทว่าง...อืม ไปห้างได้ไหมครับ รักไม่ได้ไปเดินห้างนานแล้วเหมือนกัน ว่าจะไปดูพวกของใช้ซักหน่อย”

     “ก็ดี ฉันเองก็ไม่ได้ไปนานแล้ว”

     เพราะปกติเวลาว่างนั้นแทบไม่มีเรื่องจะไปเดินห้างนั้นจึงไม่ต้องพูดถึง ถ้าอยากจะได้อะไรแพทริกก็แค่ให้คนไปจัดการไม่จำเป็นต้องไปถึงที่ ถ้าไปส่วนมากก็ไปแค่เพื่อทานข้าวเท่านั้น

     “งั้นเราไปห้างกันนะครับ”

     “อืม แต่ว่าตอนนี้นายควรจะไปอาบน้ำแล้วก็เข้านอนซะ เดี๋ยวจะได้ป่วยยิ่งกว่าเดิม”

     คนโดนสั่งยิ้มกว้างก่อนใบหน้าเล็กจะขยับเข้ามาใกล้ แพทริกยังคงนิ่งกระทั่งความนุ่มหยุ่นทาบทับลงมา ริมฝีปากได้รูปยกยิ้มอย่างพึงพอใจในการกระทำนั้นก่อนจะปล่อยเลยตามเลย กานต์รักหลับตาลงแน่นแนบปากบางไว้อย่างนั้นให้ทุกความรู้สึกโอบล้อมร่างกายและหัวใจ

     “ขอบคุณนะครับ” ร่างเล็กผละออกแล้วเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มบาง พวงแก้มนุ่มขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ามอง

     “...”

     “ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง”

     “ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ...นายต้องอดทนกับคนอย่างฉันไม่น้อย”

     มือหนายกขึ้นลูบแก้มนิ่มไปมาอย่างแผ่วเบา สายตาคมที่มักนิ่งเรียบมีแววอ่อนโยนเสียจนคนมองรู้สึกขัดเขิน ยามคนตรงหน้านิ่งนั้นก็มีเสน่ห์อันตรายน่าค้นหา แต่พอแววตาคมอ่อนลงก็ทำให้ใจแทบจะละลาย

     “ไม่เลยครับ รักไม่ได้ใช้ความอดทนอะไรเลย”

     “กานต์รัก” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่อ มือหนาวางนิ่งข้างกรอบหน้าเล็กค้างอยู่อย่างนั้น

     “ครับ?”

     “ชื่อนายแปลว่าอะไร”

     แพทริกพอจะรู้ว่ามันมีความหมายเกี่ยวกับความรัก แต่เขาอยากรู้ละเอียดมากกว่านั้น เพราะคนตัวเล็กตรงหน้าถึงทำให้อยากรู้ขึ้นมา

     “กานต์แปลว่าผู้เป็นที่รักครับ ส่วนรักก็คือความรัก”

     แม้จะไม่เข้าใจนักที่อยู่ดีๆอีกฝ่ายก็ถามถึงความหมายชื่อแต่กานต์รักก็ตอบออกไปพร้อมรอยยิ้มหวานละมุน รู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่เอ่ยถึงชื่อของตัวเองเพราะชื่อนั้นมาจากความรักของผู้เป็นพ่อแม่

     “มิน่าล่ะ”

     “มิน่าอะไรครับ?”

     “นายถึงได้เป็นคนอย่างนี้...เป็นที่รักและเต็มไปด้วยความรัก”

     แพทริกพูดออกไปด้วยความรู้สึก แม้ไม่รู้ว่าครอบครัวของอีกฝ่ายเป็นอย่างไรแต่เขาก็รับรู้ได้เลยว่ากานต์รักเติบโตมาในครอบครัวที่แสนอบอุ่น มันแสดงออกผ่านตัวตนของคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน

     คำพูดของแพทริกราวกับหมัดฮุคให้คนฟังนิ่งไปด้วยความเขินอาย อีกหนึ่งอย่างที่กานต์รักค้นพบในตัวร่างสูงคือแพทริกชอบพูดประโยคชวนสั่นไหวขณะที่ใบหน้าคมยังคงความนิ่งซึ่งต่างจากคนฟังโดยสิ้นเชิง

     กานต์รักถูกทำให้เขินด้วยคำพูดเป็นรอบที่นับไม่ได้แล้ว

     “ปะ เป็นคำชมใช่ไหมครับ” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันด้วยความประหม่าเนื่องจากอาการเขิน

     “แน่นอน” แพทริกพยักหน้ารับ

     “..ขอบคุณครับ”

     เสียงหวานเอ่ยตอบแผ่วเบาพร้อมกับหลบสายตาคมไปอีกทาง ปกติกานต์รักก็เป็นคนเขินง่ายอยู่แล้ว ยิ่งถ้ากับแพทริกนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง อีกฝ่ายก็ช่างขยันทำให้เขาขัดเขินเหลือเกิน

     “หึ จะไปอาบน้ำได้หรือยัง หรือต้องให้ฉันจูบคืน

     แพทริกหัวเราะในลำคอก่อนจะเอ่ยถามคนตัวแดงตรงหน้า คนอะไรเขินไปหมดซะทุกอย่างทั้งที่ควรจะชินได้แล้ว

     “ไปแล้วครับ”

     คำพูดชวนให้อายหนักยิ่งกว่าเดิมทำให้กานต์รักเอ่ยตอบเสียงรัวแล้วรีบขยับตัวลงจากโซฟา ดวงตาโตเหลือบมองแพทริกเล็กน้อยก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองอยู่ก่อนแล้ว

     “ไปแล้วนะครับ”

     กานต์รักพูดรัวๆก่อนจะรีบเดินออกไปจนแพทริกได้แต่มองตามแล้วหัวเราะกับท่าทางนั้น ใบหน้าคมส่ายน้อยๆกับตัวเองก่อนจะหันมองไปยังท้องฟ้ากว้าง จ้องมองดวงดาวที่ส่องสว่างอยู่เพียงดวงเดียวแล้วยกยิ้ม

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

     “ง่วงแล้วก็นอน”

     แพทริกนั่งลงข้างๆคนบนเตียงที่นอนตาปรือจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่แล้วลูบหัวทุยนั้นอย่างแผ่วเบา หลังจากที่กานต์รักเข้าไปอาบน้ำร่างสูงก็ลงไปตรวจเอกสารเล็กน้อยก่อนจะกลับขึ้นมา ฤทธิ์ยาที่ทานไปก่อนหน้าคงจะเริ่มทำงานร่างเล็กเลยง่วงเต็มแก่

     “รักรอคุณ” กานต์รักพยายามถ่างตาอันหนักอึ้งของตัวเองเอาไว้ไม่ให้ปิดลง อยากจะรอคนตรงหน้าเสียก่อน

     “หลับไปเถอะ ฉันยังต้องอาบน้ำอีก”

     “ไม่เป็นไรครับ รักจะรอ”

     “ดื้ออีกแล้วนะ” แพทริกแกล้งเอ่ยเสียงเข้ม

     “รักไม่ดื้อ”

     “นี่แหละดื้อ...เอาเถอะ อยากจะรอก็รอ แต่ถ้าทนไม่ไหวก็หลับไปได้เลยเข้าใจไหม”

     กานต์รักพยักหน้ารับหงึกหงักให้แพทริกต้องรีบขยับตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปทางห้องน้ำเพื่อจัดการตัวเองให้เร็วที่สุด พอเดินกลับมาที่เตียงอีกครั้งก็พบว่าคนรอนั้นยังไม่ยอมหลับแม้ดูท่าว่าใกล้จะไม่ไหวแล้วก็ตาม

     ดื้อจริงๆ

     “นอนได้แล้ว” ร่างสูงขยับไปนอนอีกฝั่งก่อนจะรั้งคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด

     “อื้อ ฝันดีนะครับ” เสียงเล็กเอ่ยติดยานคางจนคนฟังได้แต่ส่ายหน้า ง่วงขนาดนี้ก็ยังอุตสาห์รอ

     “ฝันดีกานต์รัก” สัมผัสหนักๆกดลงบนหัวเล็กก่อนคนทนความง่วงไม่ไหวจะปิดเปลือกตาลงแล้วหลับไปทันที แพทริกไล้ฝ่ามือไปตามไหล่บางเบาๆขณะที่ยังลืมตาในความมืด ร่างสูงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะค่อยๆหลับตามไป

❋❋❋❋❋❋❋❋❋❋

ออฟไลน์ ex-soulL

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 202
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-6

     (ต่อ)

     เปลือกตาสีอ่อนเปิดขึ้นก่อนจะต้องกระพริบถี่ๆเพื่อปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสงสว่าง อ้อมแขนแข็งแรงที่โอบล้อมตัวเอาไว้ทำให้รู้สึกอุ่นๆในใจจนต้องยิ้มออกมา กานต์รักมองหน้าคนที่ยังหลับสนิทก่อนจะขยับตัวกดริมฝีปากลงบนแก้มสาก ก่อนจะได้มีโอกาสสังเกตใบหน้าคมในระยะใกล้

     หนวดคุณแพทเริ่มขึ้นแล้ว

     มือเล็กไล้ไปตามกรอบหน้าแกร่งเบาๆก่อนจะผละออกแล้วค่อยๆขยับตัวลุกขึ้น ตอนนี้พึ่งจะเป็นเวลาหกโมงเช้า กานต์รักคิดว่าจะเริ่มต้นด้วยการทำอาหารให้คนที่ยังไม่ตื่นทาน

     ขาเรียวก้าวพาตัวเองไปยังห้องน้ำก่อนจะจัดการตัวเองจนเรียบร้อย กานต์รักเดินไปยังห้องครัวก่อนจะเปิดตู้เย็นแล้วนิ่งคิดกับตัวเองว่าควรจะทำอะไร

     เมื่อคิดได้มือบางก็จัดการหยิบทุกอย่างออกมาด้วยความรวดเร็ว

     “ทำอะไร”

     สัมผัสที่สอดรัดเอวรอบบางจากด้านหลังทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งตัวสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเห็นผมชี้ฟูของคนพึ่งตื่นซุกซบอยู่ข้างกรอบหน้าจึงผ่อนอาการตกใจลง

     “ข้าวต้มกุ้งครับ คุณแพทไม่นอนต่ออีกหน่อยล่ะครับ ยังเช้าอยู่เลย”

     กานต์รักหมุนนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ตอนนี้พึ่งจะเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งเท่านั้น

     “นอนไม่หลับ”

     พอคนข้างตัวหายไปไม่กี่นาทีแพทริกก็ค่อยๆรู้สึกตัว แม้อีกฝ่ายจะเอาหมอนข้างวางไว้ให้ทว่ามันก็ยังไม่อาจทดแทนร่างนุ่มนิ่มได้ กระทั่งทนนอนต่อไม่ไหวจึงต้องลุกขึ้นมาในที่สุด

     “หืม ทำไมล่ะครับ” กานต์รักเอ่ยถามพร้อมกับหรี่แก๊สให้เบาลง

     “นายไม่อยู่ นอนไม่หลับ” คำตอบตรงๆนั้นทำให้คนฟังถึงกับชะงักไป กานต์รักโดนอีกฝ่ายเล่นงานด้วยคำพูดตั้งแต่เช้าเลย

     “งั้นเดี๋ยวรักนอนเป็นเพื่อนครับ”

     ร่างเล็กหมุนตัวกลับมาก่อนจะเจอใบหน้าคมที่หลับตานิ่งพร้อมด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง คงเพราะอยากนอนต่อไม่น้อย

     “อืม” คนง่วงได้แต่รับคำในลำคอ กานต์รักยิ้มออกมากับมุมเด็กๆของนักธุรกิจผู้มีอำนาจก่อนจะหันไปปิดแก๊สแล้วรั้งมือหนาให้เดินกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง

     พอร่างสูงนอนลงเรียบร้อยอ้อมแขนแข็งแรงก็ตวัดร่างเล็กเข้าไปในอ้อมกอด ลมหายใจร้อนรินบนหัวทุยซึ่งกานต์รักก็กอดตอบอีกคนแล้วลูบแผ่นหลังกว้างไปมาอย่างที่อีกคนชอบทำเป็นการกล่อมนอน กระทั่งลมหายใจหนักแน่นนั้นถูกผ่อนเข้าออกสม่ำเสมอจึงรู้ว่าแพทริกหลับไปแล้ว

     กานต์รักได้แต่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนเมื่อเวลาผ่านไปราวๆหนึ่งชั่วโมงอีกคนจึงตื่นขึ้นมา

     “ตื่นแล้วหรือยังครับ” เพราะร่างสูงขยับตัวทว่ากลับซุกหน้าเข้าหาแล้วนิ่งไปอีกครั้งกานต์รักจึงถามออกมาด้วยความไม่แน่ใจ

     “อืม แต่ไม่อยากตื่นเลย” เสียงอู้อี้เอ่ยตอบ

     “วันนี้คุณแพทไม่ได้มีธุระอะไร จะนอนต่อก็ได้นะครับ”

     “ไม่อยากนอนแล้ว แต่อยากกอดนายอยู่อย่างนี้ไม่ต้องลุกไปไหน”

     “กะ ก็กอดสิครับ รักไม่ได้ว่าอะไรซักหน่อย”

     แม้จะขัดเขินแต่กานต์รักก็อดเอ่ยออกไปไม่ได้ เขาเองก็ชอบความรู้สึกนี้เหลือเกิน ยามได้อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงอบอุ่นนี้ก็มีความสุขจนไม่อยากจะทำอะไร

     “แล้วกอดมากกว่านี้ได้หรือเปล่า”

     “...ตามใจคุณแพทสิครับ” ใบหน้าเล็กซุกเข้ากับอกแกร่งมากกว่าเดิมอย่างเขินอายเมื่อเข้าใจดีว่าคำว่ากอดนั้นหมายถึงอะไร

     กานต์รักนั้นก็ไม่เคยอยากจะขัดใจคุณแพทอยู่แล้ว

     “หึ นายยังไม่หายดี เอาไว้ก่อนแล้วกัน”

     “...”

     “ถ้าหายเมื่อไหร่ก็เตรียมตัวไว้ได้เลย”

     กานต์รักรู้สึกว่าเลือดทั้งตัวไหลมารวมกันอยู่บนใบหน้าจนราวกับมันกำลังจะระเบิด ภาพความร้อนแรงมากมายไหลเข้ามาในหัวจนต้องสะบัดให้ภาพเหล่านั้นหลุดออกไป

     คิดอะไรน่าอายเชียวกานต์รัก ทำไมเป็นคนทะลึ่งอย่างนี้นะ

TBC.

     กลับมาแล้วค่ะ :กอด1: หลังจากฮีลตัวเองอยู่พักใหญ่แล้วก็มีสอบอีกก็เลยนานหน่อย คิดถึงกันหรือเปล่าเอ่ย มาพร้อมกับความหวานอีกแล้ว :mew3: ใครไม่ชอบแนวนี้ก็ต้องขออภัยนะคะ นิยายเราเน้นที่ความฟิน(และหื่นนิดๆ)เป็นหลัก อาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรซักเท่าไหร่ :mew2: 
    ขอบคุณคนอ่านแล้วก็ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์มากๆค่ะ แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ :mew1:



พูดคุยกัน : https://www.facebook.com/Writer-Ex-SoulL-713126712164342/
Follow me : @exsoull_ หรือจะติดแฮ็ชแท็ก #ผู้เป็นที่รัก เป็นกำลังใจให้กันก็ได้นะคะะะะะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

มาทั้งโรงงานน้ำตาล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-10-2016 01:19:55 โดย Billie »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เบาหวานขึ้นนน  :katai1:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
หนูรักลูกกกกก อย่าไปยอดอิตาคุณแพทขนาดนั้นสิลูกกกก

หมั่นไส้อิตาคุณแพทนิดนึง 5555

ออฟไลน์ goosongta

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1521
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-6
แบบนี้ไม่ใช่แค่ชอบแล้วมั้งคุณแพท ตัวติดกันซะขนาดนี้

ออฟไลน์ A_Narciso

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 879
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-2
คุณแพทหลง(รัก)น้อง มากขึ้นทุกวัน

ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
รักน่ารักกก
คุณแพทอ้อนจังเลย 5555

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ฮอล!!! หวานมาก น่ารักมากกกกกก ^////^

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยยยย จะน่ารักไปไหนเนี่ยทั้งคู่ หวานซะเบาหวานขึ้นแล้วเนี่ย เราจะตายเพราะเบาหวานแล้วววววว

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
อุ๊ยๆๆ มดกัดๆๆ :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DeShiWa

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-9
มาให้กำลังใจจ้า

ออฟไลน์ tiew93

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
รักน่ารักจังเลยยย คุณแพทก็อบอุ่น  :-[

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
หวานมากกกกกกกก

ออฟไลน์ dilokrittisak

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หวานน่ารักมากอ่ะ
แพทริกมีมุมมุ้งมิ้งงี้ด้วยอ่อ  :o8: :-[ :impress2:
แต่ชอบ :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ เอมมี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 572
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
แน่ใจเหรอคุณแพทว่าแค่ชอบ

ออฟไลน์ cchompoo

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1402
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-4
เหมือนโดนมดตลอดเวลา พออ่านตอนนี้   :hao7:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
น่ารักดีค่ะ เหมือนได้เติมความหวานให้ชีวิต5555

ออฟไลน์ นางฟ้าเชียงชุน

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
โอ้ยยยยย ทำไมรักตามใจคุณแพทขนาดนี้ อิจฉาๆ

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
มดขึ้นจอ

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด