ตอนพิเศษ: สวัสดีปีใหม่แล้ว ผองไทยจงแคล้วปวงภัย
เช้าตรู่ของวันจันทร์ วันใหม่แห่งการเริ่มต้นของสัปดาห์ใหม่ แต่วันนี้มันพิเศษกว่าวันจันทร์อื่นๆเพราะมันเป็นมากกว่าวันจันทร์
วันจันทร์ที่ 1 มกราคม
วันแรกของเดือนแรก
วันแรกของปีใหม่
ภายในห้องครัวของบ้านช่วงชัชวาลย์มีคนเดินไปเดินมา ยายน้อมที่กำลังจัดสำรับอาหารเป็นชุด พี่แม่บ้านที่กำลังยืนผัดกุ้งกระเทียมพริกไทยอยู่หน้าเตา กลิ่นหอมฉุยฟุ้งไปทั่วห้องครัว ยังมีผัดหมี่ของขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ตอีกด้วย
ร่างขาวกำลังขะมักเขม้นกับการพยายามห่อใบตองข้าวเหนียวหน้าสังขยาและหน้าปลาแห้ง
“เจ้าขาไปตามพี่เขาลงมาได้แล้วจ่ะ” คุณแม่ที่กำลังยืนกำกับงานต่างๆ
จันทร์เจ้าพยักหน้า ละมือจากใบตองหอมๆมาล้างมือให้สะอาดพลางขอตัวออกมา
ครอบครัวของพี่นาฏยเอ่ยปากชวนครอบครัวเขาให้ลงใต้มาเที่ยวปีใหม่ที่ภูเก็ต มากันหมดเลยทั้งป๊าม้าเจ้าเอย
เดินผ่านห้องน่ั่งเล่นเจอป๊าม้ากับคุณพ่อกำลังคุยอะไรกันอยู่เลยเดินไปหาก่อน
“สวัสดีปีใหม่ครับ” กอดป๊าม้าแน่นๆ ท่านทั้งสองก็กอดเขาแน่น
“สวัสดีปีใหม่ลูก” คุณพ่อพี่นาฏยก็ลูบหัวเขาพร้อมทั้งอวยพร “พี่เขายังไม่ลงมาหรือ?”
“ครับ เจ้าขากำลังไปตามครับ” เมื่อคืนพี่นาฏยนั่งดื่มกับพวกเฮียเนตรแล้วก็เฮียนโมจนดึกดื่น ส่วนเขานะเหรอ? พี่นาฏยไม่ให้กินไม่ให้แตะของมึนเมาเลยด้วย ได้กินแต่น้ำอัดลม ส่วนเจ้าเอยโดนพี่นโมกวนมากๆเลยหนีเข้าห้องไปนอนไม่ยอมกลับออกมาอีกเลย
เดินขึ้นมาถึงชั้นสองเจอนโมกับเจ้าเอยพอดี เหมือนกำลังจะลงไปข้างล่าง
“เอยน้อย”
“ก็บอกว่าชื่อเอยครับ” จันทร์เอ๋ยปวดหัวตุบๆ เมื่อคืนก็กวนเขาจนต้องหนีไปนอนไม่อยากนั่งต่อ เช้ามานี้ยังมาปะกันหน้าห้องอีก
“ลงข้างล่างกันเถอะ เฮียหิว”
“ก็ไปสิครับ ผมไม่ได้ล่ามเฮียไว้นี่”
“ไปด้วยกันสิ เอยน้อย”
“เฮียยยย”
จันทร์เจ้าหัวเราะเบาๆ จนแฝดหันมามองค้อน
“มาหัวเราะอะไรเราน่ะ ตัวเอาเฮียไปเก็บเลย”
เดี๋ยวนี้ทั้งเขาและเจ้าเอยสนิทกับเฮียเนตรเฮียนโมมากขึ้น จากเรียกพี่ก็เปลี่ยนเป็นเรียกเฮียตามพี่นาฏยไปด้วยเลย บางครั้งเฮียนโมก็ชอบมากินข้าวที่บ้านเวลามาทำธุระที่กรุงเทพฯแถมมาแบบให้เจ้าเอยทำให้กินด้วยทั้งที่โดนเจ้าเอยไล่ให้ไปกินที่ร้านขอข้าวขอแกงก็ไม่ยอมไป
“ไปๆ ลงไปกินข้าวกับเฮียเร็ว เดี๋ยวเขาจะไปกันแล้ว”
“ผมจะไปช่วยงานในครัว” จันทร์เอ๋ยพูดเสร็จปุ๊บก็วิ่งหนีลงบันไดลงไปเลย
จันทร์เจ้าสบตานัยน์ตาคมของเฮียนโมที่ฉายแววขบขันเหมือนได้ของเล่นถูกใจ ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินไล่ตามลงไป
ร่างเล็กเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของพี่นาฏย ลมเย็นๆจากหน้าต่างทำให้ห้องโปร่งขึ้น พี่นาฏยไม่ได้เปิดแอร์แล้ว เสียงน้ำไหลทำให้รู้ว่าเจ้าของห้องกำลังอาบน้ำอยู่ จันทร์เจ้าเลยเดินไปนั่งแหมะอยู่ที่เตียงหลังใหญ่ กลิ่นหอมกรุ่มของผ้านวมผืนนิ่มทำให้อดไม่ได้ที่จะซุกตัวลงขลุกกับความนุ่มนิ่ม
จากที่แค่นอนเล่นกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงกลับกลายเป็นว่าเริ่มจะง่วงขึ้นมาจริงๆบวกกับที่เขาตื่นเช้าวันนี้ด้วยเลยเริ่มตาปรือๆ
ตอนที่กำลังเคลิ้มๆร่างสูงใหญ่ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี พี่นาฏยใส่แต่กางเกงขายาวออกมาแต่ยังไม่ได้ใส่เสื้อ บนหัวยังมีผ้าเช็ดผมที่เจ้าตัวเดินขยี้ผมให้แห้ง
เตียงหลังใหญ่ยวบลงเพราะน้ำหนักตัวของพี่นาฏย นัยน์ตากลมโตปรือขึ้นมาสบกับอีกฝ่ายที่กำลังเลิกคิ้วขึ้น
“นี่มาเรียกพี่หรือว่ามานอนเอง?” เขาพอเดาได้ว่าน้องคงขึ้นมาตามเขาลงไปข้างล่างแต่ว่าที่เห็นนี่คือเด็กน้อยกำลังจะหลับไปอีกรอบแล้ว
“มาเรียกครับ” แต่อ้าปากหาวหวอดอีกครั้งจนคนมองส่ายหัวด้วยความเอ็นดู สงสารก็สงสาร แต่เจ้าตัวก็ตื่นแต่เช้าวิ่งแจ้นลงไปในครัวด้วยตัวเองในขณะที่ปล่อยให้เขานอนอยู่คนเดียว
ริมฝีปากได้รูปของร่างสูงจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากเล็ก แขนขาวเลยคล้องคอหนาลงมาหาตัวเองเพื่อเป็นหลักยึดก่อนจะจุ๊บคนพี่คืนไป
“ลุกเร็วเด็กขี้เซา” โดนดึงแก้มจนยืดเป็นโมจิด้วยความมันเขี้ยว
“คร้าบบบบ” ร้องเสียงยานคางแต่ก็ยอมลุกมานั่งบนเตียงดีๆ พลางจัดทรงผมให้เข้าที่
นาฏยผละออกไปแต่งตัวเองให้เรียบร้อย
“กว่าจะลงมาได้นะพ่อคุณ” คุณหญิงเหน็บด้วยรอยยิ้มหลังจากที่ส่งเด็กหนุ่มขึ้นไปตามแต่กว่าจะลงมาเล่นเอาอาหารจัดเกือบเสร็จหมดแล้วโดยมีเรี่ยวแรงจากจันทร์เอ๋ยคอยช่วยด้วย
ลูกชายคนที่สามแห่งช่วงชัชวาลย์ยอมรับความผิดโดยดุษฏีไม่มีข้อโต้แย้ง
สมาชิกของบ้านทั้งหมดก็มาครบทั้งประมุขและคุณหญิงของบ้าน ป๊าม้า เฮียเนตรและพี่สะใภ้ รวมถึงเฮียนโมที่เหมือนยังแกล้งกวนประสาทจันทร์เอ๋ยด้วยการกระตุกผมเบาๆหลายครั้ง จากที่เจ้าตัวเหมือนจะทำระอาปล่อยผ่านกลายเป็นว่าเริ่มรำคาญจนอยากจะเตะเฮียแกถ้าไม่ติดว่ามีผู้ใหญ่
“เฮีย เล่นอะไรไม่สมอายุเลย” แฝดพี่แขวะ
“ก็จะได้อายุเท่าๆกัน” ยังๆ เฮียยังไม่เลิกอีกนะ จนคุณหญิงมาหยิกจนเนื้อเขียวนั่นแหละถึงได้เลิก
รถตู้คันใหญ่ถูกอุ่นเครื่องรอไว้เรียบร้อยแล้ว วันนี้เฮียนโมจะเป็นคนขับเพราะว่าคนขับรถและคนงานบางส่วนกลับไปเยี่ยมครอบครัว คนที่เหลืออยู่คือคนที่ไม่ได้กลับหรือไม่สะดวกที่กลับ ที่บ้านนี้ไม่ได้เคร่งเครียดมาก แค่อยากไปไหนให้มาบอกล่วงหน้าเพื่อให้คุณหญิงของบ้านได้จัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงได้สะดวกขึ้น
ร่างสููงใหญ่ของลูกชายคนที่สองของบ้านโหนตัวขึ้นไปที่นั่งคนขับส่วนนาฏยก็โหนขึ้นที่นั่งข้างคนขับเช่นกัน เขาปล่อยให้น้องไปนั่งกับแฝดตัวเองที่ด้านหลังสุด แถวกลางเป็นป๊ากับม้าส่วนแถวหน้าสุดเป็นเจ้าของบ้าน ด้านเฮียเนตรกับภรรยาจะขับรถยนต์อีกคันตามไป
พวกเขามาวัดที่ไม่ไกลมากจากบ้าน เป็นขนาดกลางๆแต่พอเป็นวันขึ้นปีใหม่ประชาชนคนไทยก็หลั่งไหลเข้าาทำบุญขอพรรับวันปีใหม่
บ้านช่วงชัชวาลย์ตั้งใจจะถวายเพลพระร่วมกับครอบครัวอื่นๆ มีคนมาทักทายคุณพ่อคุณแม่บ้างเพราะว่าท่านค่อนข้างเป็นที่รู้จักในจังหวัด
บรรยากาศค่อนข้างคึกคัก หลายครอบครัวทำอาหารมามากมาย หลังจากถวายเพลเสร็จก็ถึงเวลาให้พระฉันอาหาร ผู้ใหญ่ก็นั่งรอกันในอุโบสถ จันทร์เจ้า จันทร์เอ๋ยเลยหลบออกมาให้อาหารปลากันที่บ่อปลา
“พี่นาฏยเจ้าขาเอาขนมปังนะ” สะกิดเสื้อร่างสูงที่ยืนต่อแถวซื้ออาหารปลาอยู่ มันมีทั้งอาหารเม็ดแล้วก็ขนมปังแถว
“โอเค” ร่างสูงหันไปพยักเพยิดกับพี่ชายเป็นเชิงถาม
“เอาเหมือนกันแหละ แฝดเขาต้องมีของเหมือนๆกัน”
“ผมเอาอาหารเม็ดครับ” คนตัวเล็กแทรกขึ้นนิ่งๆ นัยน์ตากลมโตถลึงจ้องมองคนโตกว่าอย่างไม่เกรงกลัว
“ขนมปังสองแถว” นโมก็ไม่ยอมแพ้ เอาสิๆ สู้ได้สู้ไป
สุดท้ายขนมปังสี่แถวก็ถูกซื้อมา จันทร์เอ๋ยคว้าแขนน้องชายฝาแฝดตัวเองเดินดุมๆไปที่บ่อปลา
ร่างสูงสองคนเดินถอดน่องช้าๆตามไปทีหลัง
“แกล้งเด็ก”
“หึ” นโมเลิกคิ้วให้น้องชายตัวเอง “ก็เด็กมันน่าแกล้ง”
“พี่นาฏยมาเร็วครับ ปลาตัวอ้วนมาก” เด็กน้อยของเขากระโดดเรียกเหยงๆ แต่สงสัยไม่ทันใจเจ้าตัววิ่งมาดึงเสื้อเขาให้เดินเร็วขึ้น เลยแกล้งถ่วงขาให้เดินช้าลงจนเจ้าตัวหันมามองค้อน
“ปลาไม่ไปไหนหรอก”
หลังจากขนมปังหมดเรียบร้อยก็ได้เวลากลับไปที่อุโบสถเพราะพระฉันเพลจบแล้ว บรรดาคนมาถวายเริ่มจะเก็บกวาดสถานที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มารับประทานอาหารต่อ
คนเริ่มต่อแถวตักอาหารที่หลายครอบครัวนำมาถวาย แต่ละบ้านก็มีของเด็ดของอร่อยคละกันไป จันทร์เจ้าตักข้าวบริการคนสูงอายุอยู่กับจันทร์เอ๋ย เด็กๆให้คนสูงวัยกว่าได้ตักก่อน
“มา พี่ทำให้” นาฏยเห็นน้องทำมาสักพักเลยมาเปลี่ยนมือ
“ขอบคุณครับ” ร่างเล็กก็สลับมาให้พี่ยืนแทนแล้วเจ้าตัวลงไปนั่งเก้าอี้พลาสติกข้างๆ
จันทร์เจ้าเดินไปหยิบน้ำเย็นๆแก้วหนึ่งมาเจาะหลอด แต่ยังไม่กิน เขายกให้พี่นาฏยกินก่อน
“น้ำเย็นๆครับ”
ร่างสูงก้มมาดูดน้ำในแก้วโดยที่ปล่อยให้อีกฝ่ายถือให้ เสร็จน้องก็เอามากินต่อจนหมด
พอเห็นว่าทุกคนได้รับจานข้าวหมดแล้ว นาฏยก็ตักข้าวสองจานพร้อมราดกับมาให้เรียบร้อย แน่นอนว่าของเขาเป็นแกงไตปลาและคั่วกลิ้ง แต่ของเด็กน้อยเป็นแค่หมูทอดกับไข่เจียวเพราะอาหารหลายอย่างน้องคงกินไม่ได้แน่นอน
“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มยิ้มตาหยีขอบคุณพี่
นาฏยไปลากเก้าอี้พลาสติกอีกตัวมานั่งข้างๆกัน กินไปกินมาก็ต้องเอาน้ำมาให้เด็กตัวเล็กเพราะริอาจจะกินแกงไตปลาในจานเขา ร้องงอแงเพราะแสบปาก หน้าตาหูจมูกแดงจนน่าสงสาร
“ฮือ เผ็ด” อาหารใต้ที่กรุงเทพฯก็ว่าเผ็ดแล้ว พอมาถึงถิ่นเขายิ่งไปกันใหญ่เลย
“สม น่าตีจริงๆ” นาฏยพูดเสียงนิ่ง แต่นัยน์ตาขบขัน
บรรยากาศแห่งความสุขยังคงอบอวลในสถานที่ต่างๆบนโลกใบนี้
.
.
.
เป็นหนึ่งวันที่ธรรมดาที่ทำให้วันธรรมดาของหลายๆคนเป็นวันพิเศษ
๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑
------------------------------------------------ จบ -----------------------------------------------------
สวัสดีค่า
วันนี้เอาตอนพิเศษของพี่หมีกับกระต่ายแคระมาลงให้นะคะ ถึงจะหมดเทศกาลไปแล้ว แต่ตั้งใจจะลงให้ทุกคนได้อ่านกันค่า ขออภัยที่มาช้านะคะ งานเยอะมากเลยค่า ไม่สามารถมาลงทันช่วงวันปีใหม่ตามที่หวัง
ตอนนี้เป็นแค่วันธรรมดาแต่พิเศษของทุกๆคนค่า เลยอยากเอาชีวิตเรียบง่ายของพี่หมีกับกระต่ายแคระมาให้อ่านค่า
ขอบคุณที่สนับสนุนกันมาตลอดปีนะคะ
ปัใหม่นี้และถัดไปก็ขอฝากพี่นาฏยและเจ้าขาไว้ด้วยค่า
คอมเม้นมาคุยกันได้ หรือจะติดแท็คที่ #รักตามสั่ง ได้เหมือนเดิมเลยนะคะ