บทที่ 12 (12.2)
...ความลับ…
ที่วางอยู่เงียบๆภายในห้องนอนของเขา
จันทร์เจ้าหยิบกล่องไม้ใบกลางๆขึ้นมาจากใต้เตียงหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยกำลังจะเตรียมไปมหาลัย เขาไม่ลืมที่จะเตรียมข้าวกล่องไว้เรียบร้อยแล้วด้วย จะเอาไปให้เปเปตอนเที่ยงๆก่อนเข้าเรียนบ่าย
มือเล็กเปิดฝากล่องไม้ออกมา ข้างในไม่ใช่เงินหรือของมีค่าใดๆทั้งสิ้น
...โพสอิสหลายสิบใบ…
ถูกแปะไว้ทั่วกล่องจนเต็มเหยียดไม่เห็นเนื้อไม้ของตัวกล่องเลย เป็นโพสอิสที่ได้มาพร้อมๆกับข้าวกล่องที่ว่างเปล่าทุกวัน
ไล่ไปตั้งแต่โพสอิสใบแรก…
...สวัสดี คุณคือใคร? แต่ยังไงก็ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆ…โพสอิสใบแรกที่ได้รับมาครั้งแรกมันทำให้เขาหุบยิ้มแทบไม่ได้เลยเหมือนกล้ามเนื้อมันค้างอยู่อย่างนั้น
...ขนมโตเกียวบานาน่า หวังว่าคุณจะชอบ…โพสอิสใบต่อๆมาเป็นโพสอิสที่แนบมาพร้อมขนมอร่อยๆ บางอย่างเขาไม่เคยกินด้วยซ้ำ ตอนแรกเขาไม่ได้กินขนมเพราะนึกว่าพี่เขาลืมเอาไว้เฉยๆแต่พอวันต่อมาเขาก็ได้ขนมเพิ่มขึ้นเยอะกว่าเดิม บางครั้งมีทั้งน้ำผลไม้เอย นมเอย
แม้พี่นาฏยจะแค่ให้เพราะตอบแทนอาหารกล่องที่เขาทำให้แต่มันทำให้เขายิ้มได้ตลอดเลย
จากแค่แผ่นเดียวกลายมาเป็นหลายสิบแผ่นแปะเรียงอยู่ในกล่องอย่างเรียบร้อย
...ความสุขเล็กๆของคนแอบรัก…
สุดท้ายจันทร์เจ้าปิดกล่องไม้ใบนั้นลงก่อนจะดันกลับเข้าไปใต้เตียง
...ให้ความลับของเขานอนสงบเงียบอยู่ใต้นี้ต่อไป…
“มึงพวกไอ้เอกมันชวนไปสวนน้ำที่...ไปมั้ย?” อชิระที่นั่งดูดน้ำปั่นในมือถามขึ้นขณะที่พวกเขากำลังนั่งอยู่หน้าโรงอาหารกลางของมหาลัย
“อืม ดูก่อนนะ อาจจะต้องช่วยที่บ้าน” จันทร์เจ้าไม่แน่ใจ
ตอนนี้กำลังนั่งรอเปเปสาวดิลิเวอรี่ข้าวกล่องมารับของไปส่งให้พี่นาฏย
“อือ ยังไงก็บอกกูละกัน” อชิระยักไหล่ “เมื่อไรเปจะมาละเนี่ย”
จันทร์เจ้าขมวดคิ้วตาม วันนี้เพื่อนสาวออกจะมาช้ากว่าปกติ ทุกทีไม่เคยรอนานขนาดนี้ เขากลัวว่าเวลาพักของพี่นาฏยจะหมดก่อนที่จะได้กินข้าวเที่ยง เมื่อเช้าคนตัวโตมีแค่ข้าวต้มอ่อนๆรองท้องเท่านั้น แถมพี่นาฏยกินจุตามขนาดตัว แค่ข้าวต้มสองชามไม่น่าจะทำให้อยู่ท้องหรอก
เขาเลยทำข้าวผัดน้ำพริกลงเรือแกล้มด้วยไข่เค็มและหมูทอด จริงๆอยากทำหมูหวานแต่เพราะพาพี่นาฏยไปสถานีตำรวจทำให้เขาทำไม่ทัน เลยจัดการทอดหมูที่หมักไว้ในตู้เย็นมาแก้ขัดไปก่อน
เสียงโทรศัพท์ดังทำให้จันทร์เจ้าละความสนใจมามอง สายเข้าจากเพื่อนสาสที่กำลังถูกพูดถึงอยู่พอดี
“ว่าไงเป อยู่ไหนแล้ว”
[เจ้า โทษที แกเอาของมาให้ที่ตึก...หน่อยได้ไหม?”
“ได้ๆ” เขาตอบรับก่อนวางหูไป
เปเปให้เขาเอาของไปให้ที่อีกตึกหนึ่งซึ่งไกลจากตรงนี้พอสมควร แต่ไม่เป็นไร ยังไงก็เดินไปได้
“เจ้า มาแล้วๆ” เสียงของเพื่อนต่างสาขาดังมาก่อน เห็นร่างเล็กกว่านิดหน่อยวิ่งเข้ามาหา
“ใจเย็นๆ”
“โทษที วันนี้ติดธุระนิดหน่อย” เปเปหอบแฮ่ก เอื้อมมือไปรับกระเป๋าผ้าใบประจำมาถือไว้ “วันนี้พวกพี่เตน่าจะอยู่ที่โรงอาหารคณะ เดี๋ยวเราเอาไปให้”
“รบกวนด้วยนะ”
“เจ้า เราถามไรหน่อย” เสียงจริงจังของอีกฝ่ายทำให้จันทร์เจ้ามองใบหน้าเพื่อนตัวเอง
เขาพยักหน้า
“เจ้าจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไร?” เธอเห็นเพื่อนทำแบบนี้มาได้หลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีส่าจะถอดใจหรือใจกล้าไปสารภาพบอกพี่นาฏยเสียที
ดวงตากลมโตหลุบตาลง รู้สึกสะท้อนในใจเหมือนกัน...นั่นสิ...เขาจะทำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนนะ… เมื่อไรถึงจะกล้าที่จะบอกอีกฝ่ายกัน
“เราขอเวลาอีกหน่อยนะ” รู้แต่ว่ายังอยากยืดเวลาไปอีกสักพัก ถึงพี่นาฏยจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่อย่างน้อยก็อยากให้พี่นาฏยได้นึกถึงคนทำข้าวกล่องส่งบ้างก็ยังดี
“เราอยากให้เจ้าลองกล้าบอกพี่เขาดูนะ” เปเปไม่ได้รังเกียจความรักของเพื่อนสักนิด แม้จะเพื่อนจะชอบผู้ชายก็เถอะ และต่อให้พี่นาฏยอาจจะไม่ได้คิดเหมือนจันทร์เจ้าแต่เธอมั่นใจว่าคนอย่างพี่นาฏยก็ไม่ได้รังเกียจจันทร์เจ้าเช่นกัน
“อือ แล้วเราจะลองดู” แต่ก็ไม่รู้อีกเหมือนกันล่ะ ว่าจะกล้าบอกเมื่อไร บางทีเขาอาจจะปล่อยมันเป็นแบบนี้ต่อไปจนอีกฝ่ายเรียนจบออกไปเลยก็ได้มั้ง
“งั้นเดี๋ยวเราไปส่งก่อนนะ เดี๋ยวหมดพักกลางวัน” เปเปชูถุงผ้าพร้อมกับยิ้ม เขาพยักหน้าขอบคุณ
“ทำอะไรกันน่ะ?!”
!!
จันทร์เจ้าและเปเปสะดุ้งเฮือกอย่างตกใจเมื่อได้ยินคำถามเสียงเข้ม ยิ่งจันทร์เจ้าขนลุกเฮือก! เขาหลับตาปี๋ด้วยความกลัว
ค่อยหันไปเผชิญหน้ากับความจริงที่มาเร็วกว่าที่เขาคาดคิดไว้
...บางทีเรื่องทั้งหมด…
...อาจจะจบลงตรงนี้ก็เป็นได้...
TBC.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใครกันๆ คนนั้นคือครายยยยยยยย มาทายกันเถอะะะะะ ใครทายถูกกกก เขาไม่มีของให้ ฮ่าๆๆๆ แต่อยากให้มาทายกันเยอะๆเลย
(ตอนนี้สั้น ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆทั้งสิ้นค่า )
รักน้องเจ้าบวกเป็ด ปลื้มพี่นาฏยคอมเม้นโลดค่า
ปล. วณิพกพเนจรก็มานะค่า ไปตามได้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55317.0
ปล.สอง. แวะเวียนไปคุยกันได้นะค่า
https://www.facebook.com/airin.arpo/?fref=ts
ปล.สาม. เรื่องรักตามสั่งเป็นเรื่องสบายๆคลายเครียด ฟีลกู๊ด น่ารักๆ การดำเนินเรื่องอาจจะเรื่อยๆเอื่อยๆไปบ้าง ขอต้องขออภัย
คนอ่านที่ชอบความตื่นเต้นหรือเรื่องที่ซับซ้อนนะค่า เรื่องนี้เราตั้งพลอตไว้แบบเป็น สไลด์ออฟไลฟ์ อยากให้ทุกคนได้สัมผัสถึง
ชีวิตตัวละครจริงๆ เวลาเขียนเราค่อนข้างใส่ความรู้สึกของมนุษย์จริงๆเข้าไป
คืออยากให้ลองนึกว่าพี่นาฏย น้องเจ้าและตัวละครทุกตัวเป็นคนจริงๆ ใช้ชีวิตอยู่เหมือนพวกเรานี่ละค่ะ เวลาเราเขียนเรานึกถึงว่าถ้าพี่นาฏยเป็นเพื่อนเรา น้องเจ้าเป็นน้องชายเรา เขาจะรู้สึกแบบไหนกันนะตอนนี้ เราเขียนให้ตัวละครเราค่อนข้างเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่กับเรา เพราะฉะนั้นเนื้อเรื่องเลยจะเป็นการดำรงชีวิตของคนคนหนึ่งนะค่า
ปล.สี่. อยากจะให้ทุกท่านติดตามชีวิตของพี่นาฏยกับน้องเจ้าไปด้วยกันกับเรานะค่า