"เลไม่ได้งอน"
"เหรอ" ริมฝีปากร้อนไล่ไปตามโหนกแก้มก่อนมันจะเลื่อนต่ำลงไปที่ลำคอ ผมถูกผลักให้ลงไปนั่งบนโซฟาโดยมีร่างสูงตามมาทาบ ฮิมไม่ยอมละริมฝีปากออกจากผมจนต้องใช้มือทุบๆ ที่บ่าแกร่งเบาๆ เขาถึงยอมละออกไป แต่ละออกจากคอมาทาบริมฝีปากแทน ผมต้องหันหน้าหลบแล้วรีบยกมือขึ้นมาบังเอาไว้ ฮิมถึงหยุดแล้วนั่งลงข้างผมดีๆ เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หายงอนพี่นะ ”
“เลไม่ได้งอน”
นัยน์ตาคมมองผมก่อนฮิมจะยิ้มแล้วพยักหน้าเหมือนยอมแพ้ “งั้นโกรธพี่เหรอ”
“…”
“ขอโทษ”
ตุบ!
“ฮิมบ้า!!” ผมตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายพร้อมกับใช้มือทุบไปบริเวณอก ไหล่ จนมือหนาต้องมารวบข้อมือของผมเอาไว้แน่น
“เจ็บ”
“เลตีให้เจ็บ”
“โกรธพี่เรื่องอะไร”
“ทุกเรื่อง!!” ผมไม่ได้งอน ผมเลยไม่ได้ตอบ แต่ผมโกรธน่ะคือเรื่องจริง “โดยเฉพาะผู้หญิง!!”
!!!!!!!!!!
อ้า! หลุดอีกแล้ว!
“ผู้หญิง ?” เขาทวนคำ “ทำไม”
“ก็เขามองพี่ฮิม!!”
“แต่พี่ไม่ได้มองเขา”
“ไม่รู้!! ก็เลเห็นแล้ว เลไม่ชอบอะ”
“…”
“ฮิมยิ้มทำไม” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเห็นคนตรงหน้ายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เลหวง”
“ใช่! เลหวงฮิม หวงแม้กระทั่งรอยยิ้มฮิมนั่นแหละ อย่ายิ้ม! เลไม่ให้ยิ้ม!”
“แต่พี่ยิ้มให้เล”
ผมเงียบลง พลางมองหน้าอีกฝ่ายตรงๆ ก่อนจะพักหน้า “งั้นก็ได้ แต่ออกไปห้ามยิ้มนะ”
“อือ” ฮิมครางรับก่อนจะปล่อยมือผมลง เป็นจังหวะเดียวกันที่มีคนเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
พี่เกียร์ยืนอยู่หน้าห้อง ฮิมละตัวออกจากผมก่อนจะเดินไปเปิด อีกฝ่ายว่าเสียงเรียบ
“มากันครบแล้ว” ว่าจบพี่เกียร์ก็เดินจากไปทันที พ่อเดินมาจับตัวผมให้ลุกขึ้น มือหนาเลื่อนมาโอบที่ไหล่ก่อนจะพาเดินออกไปจากห้อง ผมแอบสังเกตใบหน้าหล่อเหลา ฮิมไม่ยิ้มอย่างที่ผมบอกจริงๆ ด้วย ไม่ได้หน้าบึ้งนะแค่ทำหน้าธรรมดาเฉยๆ พอใกล้เดินถึงโต๊ะใบหน้าหล่อเหลาก็โน้มลงมากระซิบข้างหูผม
“ไปนั่งกับพี่นะ” ผมพยักหน้า แล้วฮิมก็พาผมเดินผ่านโต๊ะที่เคยนั่ง ผมส่งสายตาไปขอโทษพี่รหัส แต่พี่นนท์นี่ก็ส่ายหน้าประมาณว่าไม่เป็นไรพร้อมกับปัดมือเหมือนไล่ให้ผมไปนั่งกับฮิมแทน ร่างสูงให้ผมนั่งข้างๆ เขา โดยที่ทั้งโต๊ะมีแต่พี่ๆ ในบ้าน ส่วนรอบๆ นั้นเป็นโต๊ะอื่นๆ ที่มีใครไม่รู้มากหน้าหลากตามานั่งกันจนเต็ม นี่ผมไปคุยกับฮิมในห้องแปปเดียวเองออกมาอีกทีเต็มทุกเกือบหมดทุกโต๊ะแล้ว
ผมก้มหน้าเข้ากับอกฮิม ถึงจะมีอยู่หลายโต๊ะแต่ยังรู้สึกว่าโต๊ะพวกผมน่ะเด่นมากๆ สังเกตจากสายตาคนอื่นนะ แต่จะเด่นก็ไม่แปลก อาจจะเป็นเพราะพวกพี่ๆ เขาเป็นสายรหัสที่อาวุโสสุดในนี่ด้วยล่ะมั้ง
“เล น้ำ” ผมรับแก้วน้ำอัดลมจากพี่ไทด์มาดื่ม หลังจากนั้นก็เอนศีรษะซบฮิมรอ ประมาณสิบห้านาทีผ่านไปขณะที่ทุกคนเริ่มที่จะมึนๆ กับแอลกอฮอล์บ้างแล้ว จู่ๆ พี่คนหนึ่งที่นั่งห่างจากโต๊ะพวกผมไม่ไกลก็ยืนขึ้นแล้วผันตัวเป็นพิธีกรประจำวันนี้ไป
“ทุกคนครับถึงเวลาเล่นเกมกันแล้ว ก่อนอื่นพี่ชื่อแก้วนะ ชื่อเหมือนผู้หญิงแต่จริงๆ เป็นผู้ชายนะครับ!!”
“โห่!!!!” เสียงโห่ดังรอบทิศ แม้กระทั่งพวกพี่ๆ ในบ้านยังทำ สงสัยพวกเขาจะสนิทกันพอสมควร ผมหัวเราะนิดหน่อยกับท่าทีที่มีอารมณ์ขันนิดๆ ทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง บังเอิญตอนนี้เสียงเพลงในคลับลดลงไปมากด้วย คนที่เคยเต้นอยู่ด้านล่างก็กลับที่นั่งไปดื่มแทน พี่แก้วเลยไม่ได้ใช้เสียงมาก ถือว่าเป็นจังหวะที่ดีสำหรับการเล่นเกมอย่างที่พี่นนท์นี่เคยบอก
“ไหนใครอยู่ปีหนึ่งยกมือขึ้นครับ”
พรึบ*!*
มีคนยกเกือบสิบคนได้ หนึ่งในนั้นมีผมด้วย ผมกวาดสายตามองคนที่ยกมือไม่มีอิน เหมือนอินจะไม่มา ดีแล้ว!!
พรึบ!
“ผมมาทันไหมครับ” แต่ในจังหวะนั้นเอง คนที่ทำให้ผมอารมณ์ดีเพราะไม่มาก็ปรากฏด้วยขึ้นด้วยท่าทีติดหอบนิดๆ ผมเบ้ปากพลางมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า “อินมาทันไหม”
จะมาทำไม!!
“ทันครับน้องอิน โห ชุดที่น้องใส่นี่เหมือนเปลี่ยนแนวตัวเองเลยนะครับ” พี่แก้วพูด จุดรวมสายตาตอนนี้เปลี่ยนไปอยู่ที่อินแล้ว อีกฝ่ายปรากฏตัวด้วยชุดที่เหมือนจะเปลี่ยนแนวแบบที่พี่แก้วว่า ปกติอินจะอยู่ในลุคน่ารักแต่วันนี้เหมือนจะไม่ ร่างเล็กใส่เสื้อที่บริเวณไหล่มันกว้าง ทำให้เห็นไหล่เล็กขาวเนียนที่บริเวณคอเสื้อมันร่นลงไปต่ำจนเกือบจะเห็นอก เสริมด้วยสร้อยสีเงินทำให้บริเวณนั้นมันดูน่ามองขึ้นไปอีก กางเกงสกินนี่แนบรัดรูปไปกับขาเรียวยิ่งเสริมให้ดูน่าค้นหา ทุกสิ่งทุกอย่างที่อินใส่มาวันนี้มันเหมือนจะออกไปทางเซ็กซี่มากกว่า ก็เหมือนเปลี่ยนลุคอย่างที่พี่แก้วว่าจริงๆ
ผมมองเสื้อผ้าก่อนจะหันหน้ามาหาฮิมแล้วแอบเบ้ปาก เหมือนพ่อจะรู้ใจ แขนแกร่งที่โอบเอวผมอยู่จู่ๆ ก็แน่นขึ้นกว่าเดิม อารมณ์เลยดีขึ้นมาหน่อยแต่ก็วูบลงเหมือนเดิมเมื่ออินเดินมาที่โต๊ะที่ผมและพี่ๆ นั่งอยู่
“สวัสดีครับพี่ๆ” ผมปรายตามองอีกฝ่ายที่กำลังยกมือไหว้พวกพี่ๆ ในโต๊ะ “สวัสดีครับพี่ฮิม”
ทำไมต้องเจาะจงฮิมด้วย! ผมถอนหายใจเฮือกก่อนจะปรายตามองอินที่กำลังไหว้พี่ฮิม เป็นจังหวะเดียวกันที่อินมองมาหาผมพอดี อีกฝ่ายทำท่าเหมือนแปลกใจนิดหน่อยที่เห็นผม แต่ก็เอ่ยปากทักทาย “หวัดดีเล มาด้วยเหรอ”
“อือ” ผมครางรับก่อนจะหันไปซุกหน้ากับฮิมต่อ
รีบๆ ไปซะที!
คำอธิฐานของผมเป็นจริงเมื่ออินโดนพี่รหัสตัวเองเรียกไปนั่งด้วย
“มาต่อกันเถอะ ปีหนึ่งทุกคนที่มาวันนี้ต้องเล่นเกมทายสายรหัสของตัวเองนะครับ โดยพวกพี่จะมีคำใบ้มาให้หนึ่งคำใบ้ ไม่จำกัดจำนวนที่ทาย ทายได้จนกว่าจะถูก” ผมพยักหน้ารับดูแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไรยาก ทว่า… “แต่ถ้าทายผิดหนึ่งครั้ง น้องต้องดื่มหนึ่งช็อตนะครับ น้องเลพี่ก็ไม่เว้นนะ!”
เหมือนพี่แก้วจะรู้ว่าผมมีพ่อคุ้มกะลาหัวอยู่ใครก็ทำอะไรไม่ได้จึงบอกเอาไว้ก่อน ผมหันไปถามฮิม
“เลดื่มได้ไหม” ร่างสูงที่กำลังจรดแก้วใส่น้ำสีอำพันธ์จ่อที่ริมฝีปากพยักหน้า เป็นอันว่ายินยอมเห็นดังนั้นพี่แก้วจึงแจกกระดาษคำใบ้ให้แต่ละคน ยกเว้นอิน อินได้พี่ฮิมเป็นสายรหัสอย่างที่เคยขอพี่สินจริงๆ ด้วย ผมเปิดคำใบ้อ่านก่อนจะเม้มปากเพราะมันแทบไม่บอกอะไรเลย
‘สายรหัสเป็นพี่ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกันกับน้องเล’
ตัดฮิมออก ก็เหลือทั้งพี่วิน พี่ผา พี่เกียร์ พี่รพ พี่ไทด์ ตั้งห้าคน!!
“น้องเลเริ่มก่อนครับ”
“พี่ผา” ผมสุ่มไปมั่วๆ ก่อนจะรับมาหนึ่งช็อตเป็นอันว่าผิด! ผมยกขึ้นดื่มลงไปครั้งเดียวหมด รสชาติมันแปลกๆ จนต้องคว้าน้ำอัดลมขึ้นมาดื่มตาม อาการมึนๆ แปลกๆ เข้ามาครอบงำจนผมต้องส่ายหน้าแรงๆ สองที ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าแต่เหมือนได้ยินเสียงฮิมร้องหึหึในลำคอ พอผมทายผิด พี่แก้วก็เปลี่ยนคนไปเรื่อยๆ จนมาถึงผมอีกครั้งหนึ่ง
“ทายใหม่ครับน้อง”
“พี่ไทด์”
“ผิด!”
ดื่ม
“พี่รพ”
“ผิด!”
ดื่ม
“พี่เกียร์”
“ผิด!”
“ฮืออ เลดื่มไม่ไหวแล้วอะ” ผมซบอกแกร่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นขอร้องร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ “ฮิมจ๋า ดื่มแทนเลหน่อยนะ”
“เลต้องให้รางวัลพี่นะ” ผมพยักหน้า จะเอาอะไรก็เอาไปเถอะตอนนี้มึนมากๆ เลย พ่อรับเหล้าเพียวๆ ซึ่งถ้าผมดื่มมันจะเป็นช็อตที่สี่ขึ้นไปดื่ม ดื่มเสร็จร่างสูงก็ยังเหมือนเดิมไม่มีท่าทีมึนเมาอะไรทั้งนั้น
“ครั้งที่ห้าแล้วน้องเลทายให้ถูกนะครับ”
“พี่วิน”
“ถูกต้อง!!” แหม… ก็เหลือคนเดียวอะ สติผมหยุดอยู่ตรงนั้น เพราะหลังจากทายพี่รหัสเสร็จผมก็ฟุบหลับคาอกแกร่งทันที
23.22 น.
ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเพลงในคลับมันดังขึ้นอีกครั้ง แต่คนที่นั่งข้างๆ หายไปในก็ไม่รู้
“ฮิมไปไหน” ผมหันหน้าไปถามพี่วินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไปสูบบุหรี่” พอได้คำตอบก็พยักหน้าก่อนจะยืนขึ้น “มึงจะไปไหน”
“เลจะไปเข้าห้องน้ำ” ผมยืนโงนเงนอยู่กับที่สักพักเพราะรู้สึกเหมือนโลกมันเอียง
“ให้ไอ้เกียร์พาไป”
“ไม่ต้องก็ได้”
ผมปฏิเสธ ยอมรับว่ายังกลัวพี่เกียร์อยู่ เลยรีบเดินออกมา แต่เดินออกมาไม่นานจู่ๆ ผมก็โดนใครบางจับเข้ามาจับแขน หันกลับไปมองก็เจอผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง
“คนสวยพึ่งมาคลับครั้งแรกเหรอ ทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย”
“ปล่อยเลนะ”
“แทนตัวว่าเลด้วย ชื่อเลเหรอ น่ารักจังนะเรา แต่งตัวก็น่ารักเหมือน… เด็ก”
“ปล่อยนะ”
“พี่ชอบกินเด็กนะรู้ไหม”
“ปล่อย!!!”
“เฮ้ย!! ทำไรวะ อัก!!” พอผมตะโกนใครสักคนก็มาจับคนตรงหน้าทุ่มลงพื้น กดร่างสูงเอาไว้แล้วล็อกกุญแจมือใส่ทางด้านหลัง “จับกูหาพ่อมึงสิ ไอ้สัส!!”
จบประโยคนั้นอีกฝ่ายก็โดนลากออกไปจากพื้นที่ ในขณะที่ผมยังยืนงง เลยหันไปขอบคุณคนที่เข้ามาช่วยทุ่มคนตรงหน้าลงพื้นแทน “ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับน้องบอส” หือ ? เรียกแปลกๆ “จะไปไหนครับ”
“เลจะไปเข้าห้องน้ำ”
“เดี๋ยวไปส่งครับ” นี่ก็อีกคนที่อาสา เพราะไม่ได้สนิทมากผมเลยพยักหน้าไปงั้นๆ ก่อนอีกฝ่ายจะพาไปส่งที่ห้องน้ำจริงๆ ผมใช้เวลาไม่นานกระทั่งออกมาจากห้องน้ำกำลังจะกลับโต๊ะ สายตามันก็พลันไปเห็นสองร่างที่กำลังยืนสูบบุหรี่ห่างจากผมไม่ไกลนัก
ผมเปลี่ยนทิศ แล้วเดินตรงดิ่งไปยังสองคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่สุดทางเดิน มือเริ่มกำหมัดโดยที่ไม่รู้ตัว เกือบจะไม่สนใจแล้วเชียว ถ้าสองคนที่ว่านั่นมันไม่ใช่พี่ฮิมกับอิน!!
“พี่ฮิม!!” ผมตะโกนเรียกร่างสูงก่อนจะเดินเข้าไปกอด ฮิมคีบเอาบุหรี่ออกก่อนจะดับแล้วทิ้งลงไปในที่เขี่ยบุหรี่ใกล้ๆ แขนแกร่งกอดผมกลับแล้วถามเสียงเข้ม
“มาคนเดียว ?”
“พี่คนนั้นมาส่ง” ผมหันหน้าไปทางพี่คนที่ว่าแต่กลับไร้วี่แวว “สงสัยจะไปแล้ว ฮิมทำอะไร”
“สูบบุหรี่” ผมส่งเสียงร้องอือในลำคอก่อนจะหันหน้าไปทางอินที่กำลังยืนพิงกำแพง อีกฝ่ายส่งรอยยิ้มมาให้ แต่ผมหน้าบึ้งกลับ “อยากกลับบ้านหรือยัง”
“เลมึนหัว” ผมตอบเลี่ยงๆ แต่เป็นอันเข้าใจว่าอยากกลับแล้ว ฮิมไม่ได้พูดอะไรต่อเขาโอบเอวผมเดินกลับทันที แต่ในจังหวะที่เดินนั่นเองที่ผมพึ่งนึกอะไรออก เมื่อกี้ตอนที่อินกำลังยืนพิงกำแพง…
ขวับ!
ผมหันหน้าไปมองด้านหลัง ร่างเล็กยังยืนอยู่ที่เดิม มือบางโบกมือมาให้ทันทีที่ผมหันหน้าไปมอง แต่ที่สำคัญคือในมือนั้นคีบบุหรี่ หมายความอินสูบบุหรี่เหรอ ?
ไม่เห็นเข้าเลย…
(70%)
ขอโทษที่อัพช้าเน้อออ
#วิศวะแดนแฟนมีเกียร์