คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: คำทำนาย ทายว่าต้องรัก > ตอนพิเศษ ความสุข < [P.21] // [02/10/60]  (อ่าน 214267 ครั้ง)

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************




{คำทำนาย ทายว่าต้องรัก}


สารบัญ




ตอนพิเศษ





************************************************************************************************

แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือค่ะ


ชื่อเรื่อง : คำทำนาย ทายว่าต้องรัก
ผู้แต่ง : AiaeaAiaea
ปก : iizesketch
จำนวน : 455+ หน้า
ราคา : 490.-
ตอนพิเศษที่ลงเว็บ : 3 ตอน
ตอนพิเศษไม่ลงเว็บ : 5 ตอน (รวม 8 ตอน)
ของแถม : ที่คั่นหนังสือ 1 ใบ + POSTCARD 1 ใบ + เปเปอร์การ์ตูนจิบิ 4 ช่อง 1 แผ่น (โปสการ์ดและเปเปอร์การ์ตูนจิบิแถมรอบพรีออเดอร์เท่านั้น)
ระยะเวลา : วันนี้ - 31 มีนาคม 2560

ขอฝากพี่ใหญ่กับน้องอัดด้วยนะคะ
รักน้อยๆ แต่รักนานๆ จองเยอะๆ ด้วยก็ยิ่งดี อั๊ยยะ >w<




***** สถานที่และตัวละครเรื่องนี้เกิดจากการสมมติขึ้น ไม่มีบุคคลจริงในเรื่อง *****
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-10-2017 21:39:57 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
คำทำนาย ทายว่าต้องรัก : บทนำ


      “ชีวิตของลูกชายสองคนของดิฉันเป็นยังไงบ้างคะพ่อหมอ” เสียงคล้ายเป็นกังวลหลังจากคำทำนายเกี่ยวกับชีวิตและครอบครับได้ผ่านไปเรียบร้อย ยังเหลืออีกสองคนที่ยังเด็ก แม้ไม่อยากได้ยินล่วงหน้า แต่เพราะความเป็นห่วง เนื่องจากสามีเธอต้องมาเสียชีวิตกะทันหัน ทำให้ต้องดิ้นรนทำไร่ ทำสวนเพียงลำพังจนมาถึงทุกวันนี้ แม้ใครๆ จะบอกหมอดูมักคู่กับหมอเดา แต่การได้รู้อะไรก่อนก็ไม่เสียหายอะไร เพราะจะได้หาทางเดินที่ไม่ต้องลำบาก


   “อืม ลูกชายทั้งสองคนของคุณนาย” หมอดูสูงวัยไว้หนวดเคราสีขาวจ้องมองเด็กชายตัวเล็กสองคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอยู่สนามหน้าบ้าน “โตขึ้นมาทั้งคู่จะเป็นเจ้าคนนายคน”


   “จริงหรือคะ” พอได้ยิน คนเป็นแม่ก็รู้สึกโล่งอก ก่อนจะตระหนกเมื่อเรื่องต่อไปที่ถูกคำนายทายทัก


   “แต่เรื่องชีวิตคู่นั้นยากนักแล” หมอดูวัยชราส่ายหน้าช้าๆ “ต้องพลัดพรากทั้งเป็นและตาย”


   “แล้วดิฉันต้องทำยังไงบ้างคะ ถึงจะไม่ให้ลูกต้องมีชีวิตคู่แบบนั้น” ถามอย่างร้อนรนเพราะคงทนไม่ได้ที่เห็นลูกต้องเจอเรื่องราวร้ายๆ เช่นนั้น


   “หนึ่งในสอง ต้องมีคู่ ที่ผิดแปลก หากจำแนก คงจะแยก นั้นลำบาก แต่หากหนึ่ง ในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม ความสุข จะพบพาน กันด้วยดี” ดูจบหมอดูวัยชราก็ปิดตำราลงก่อนจะลุกขึ้นยืน “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณนาย”


   “ดะ เดี๋ยวสิคะ คู่ผิดแปลกยังไง คุณหมอคะ” แม้จะร้องเรียก แต่หมอดูกลับไม่เหลียวกลับมามอง “แล้วฉันจะเชื่อคำทำนายนี้ได้ไหม” คุณพิกุลมองไปยังลูกชายทั้งสองที่หันมายิ้มให้กับมารดา คนไหนกันนะ ที่ต้องพบเจอรักที่ผิดแปลก ในตอนนี้เธอยังมองไม่ออก


   ก่อนใบหน้าสวยจะคลายความตึงเครียดเมื่อลูกชายทั้งสองวิ่งเข้ามาหา พร้อมหอมแก้มมารดาคนละฟอดสองฟอด


   “แม่ครับ ใหญ่หิวแล้ว”


   “เล็กด้วย”


   “ครับๆ เดี๋ยวแม่จะสั่งให้ป้าจันทร์รีบทำกับข้าวเลยนะจ๊ะ”


   คุณพิกุล เจ้าของไร่ดอกไม้พิกุลจันทร์หอม จากหญิงสาวธรรมดาที่แต่งงานกับลูกชายเจ้าของสวนดอกไม้ที่ปลูกไม่ถึงสิบไร่ ด้วยความขยันบวกกับความเฮงทำให้ทั้งคู่ได้ส่งออกดอกไม้ออกต่างประเทศจนสามารถขยายสวนได้อีกเป็นร้อยๆ ไร่


   แต่การทำงานหนักโดยไม่พักผ่อน อีกทั้งโรคประจำตัวพรากเจ้าของไร่ไป ภรรยาเลยต้องก้าวขึ้นมาแทนที่ แม้ตอนแรกงานจะหนักจนแทบไม่มีเวลาพัก แต่เพื่อลูกทั้งสอง คุณพิกุลก็สามารถผ่านพ้นไปได้ จนเป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัด


   ด้วยความสวยสะพรั่งแม้จะเป็นหม้าย ยังมีบรรดาแมลงภู่ทั้งแก่ทั้งหนุ่มบินเข้ามาตอม แต่คุณพิกุลปฏิเสธเนื่องจากห่วงลูกชายทั้งสองจะน้อยใจ เธอจึงเลือกจะครองตัวเป็นหม้ายแบบนี้


   “คุณพิกุลคะ เรื่องคำทำนาย” แม่บ้านคนสนิทกล่าวขึ้นอย่างกังวล


   “ฉันจะทำยังไงดีล่ะแม่อิ่ม”


   “ตอนนี้มันยังไม่เกิด ดังนั้นเราอย่าเพิ่งวิตกเลยค่ะ มันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ อย่างที่เขาว่า หมอดูมักคู่กับหมอเดา”


   “ขอให้เป็นแบบนี้ทีเถอะ”


   เจ้าของไร่คนสวยได้แต่ภาวนาขอให้คำทำนายไม่เกิดขึ้นกับลูกชายทั้งสอง หากมีรักที่ผิดแปลก เธอยังคิดไม่ออกว่าลูกเธอจะเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วไปได้ ยิ่งตอนนี้ไม่มีพ่อคอยดูแล มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน


.....TBC

เรื่องที่ 2 ในเล้าแห่งนี้ ก็ยังหวนคิดถึงความตื่นเต้นเหมือนเฉกเช่นเรื่องแรกที่ได้ลง ^^

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ หากตรงไหนติดขัด รับทุกความคิดเห็นค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2017 21:30:48 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เจิมเรื่องใหม่ ด้วยคน  :mew1: :mew1: :mew1:
หนึ่งในสอง ต้องมีคู่ ที่ผิดแปลก
หากจำแนก คงจะแยก นั้นลำบาก
แต่หากหนึ่ง ในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม
ความสุข จะพบพาน กัน
ใหญ่ หรือเล็ก กันนะ ที่มีคู่ ที่ผิดแปลก? :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
คำทำนายเรื่องคู่ที่ผิดแปลกยังไม่น่าห่วงเท่าคำทำนายที่ว่า
หนึ่งในสอง ครองกาย ด้วยใจงาม
ความสุข จะพบพาน กัน
คงไม่เกิดการอิจฉาหรือแย่งคนรักกันระหว่างพี่น้องใช่ไหม

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ปูเสื่อรอล่ะ

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
รอค่าาาาา

ออฟไลน์ darinsaya

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
ก็จับทั้งใหญกับเล็กแต่งงานกันแก้เคล็ดไปเลย 555
รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
คำทำนาย ทายว่าต้องรัก : 1


       เมื่อถูกความรักหักหลังทำให้ไม่อาจอยู่เจอหน้าได้ เด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบจำเป็นต้องหอบข้าวของหนีกลับบ้านเพื่อไปรักษาบาดแผลในหัวใจ รอวันที่จะกลับมาเข้มแข็งและยืนหยัดได้อีกครั้ง

   สถานีขนส่งผู้คนพลุกพล่าน บางคนก็เพิ่งมาแต่บางคนก็กำลังจะกลับ อย่างเช่นเขา ที่กำลังจะเดินทางออกจากจังหวัดที่มาอาศัยอยู่เกือบสิบปี ตั้งแต่มัธยมจนเรียนจบมหาวิทยาลัย

   ‘อัษฎา’ หรือเรียกสั้นๆ ว่าอัด เด็กหนุ่มที่ย้ายมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาเรียนในตัวเมืองใหญ่ เขาอาศัยอยู่กับพี่สาวของพ่อที่เสียไปตั้งแต่ยังเด็ก ป้ารักอัดราวกับลูกชายคนหนึ่ง อาจเพราะป้ามีแต่ลูกสาวทำให้เธอรักอัดจริงๆ

   คุณป้าเอมอรยืนน้ำตารื้นมองหลานรักที่กำลังจะจากอ้อมอกไป เธอรู้ว่าถึงจะไม่ใช่วันนี้ แต่สักวันอัษฎาก็คงต้องกลับไปหาแม่แท้ๆ ของเขา แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะใจหาย

   “มาหาป้าบ้างนะลูก” ป้าเอมอรกอดอัษฎาเป็นครั้งสุดท้าย เด็กหนุ่มยกมือไหว้คนที่เลี้ยงดูมาตลอดอย่างป้า ก่อนหันไปยกมือไหว้พี่สาวที่แสนดีที่รักเขาเหมือนน้องชายแท้ๆ

   “เดินทางปลอดภัยนะอัด ไว้พี่หยุดเมื่อไหร่จะไปเที่ยว”

   “ครับ อย่าลืมมานะ” อัษฎายิ้มให้กับพี่สาว ก่อนหันไปหอมแก้มคุณป้าฟอดใหญ่ “อัดไปก่อนนะครับ ป้าอย่าลืมทานยาด้วยนะ” ส่งเสียครั้งสุดท้ายก่อนมองไปรอบๆ ตัวอย่างอาลัย ร่างสมส่วนก้าวขาขึ้นบนรถทัวร์ เหมือนหัวใจจะแตกสลายอยู่ตรงท่ารถ ลาก่อนความรักที่แสนเจ็บปวด

   อัฎษาแทบนอนไม่หลับเมื่ออยู่บนรถ แม้เวลาจะเข้าสู่วันใหม่ แต่ดวงตาเขาก็ยังไม่ยอมปิด เพราะในสมองกลับฉายภาพเก่าๆ ซ้ำไปซ้ำมา ตั้งแต่แรกรักที่เขาถูกแฟนหนุ่มมาจีบ ด้วยความที่ยังเด็กทำให้ไม่คิดอะไรมาก แต่คำสอนของแม่ยังคงเตือนใจเสมอว่า อย่ายอมมอบกายมอบใจให้ใครโดยง่าย ดังนั้น เขาจึงตกลงกับแฟนหนุ่มเรื่องการหลับนอน และนั่นกลับเป็นเรื่องที่ทำให้ทั้งคู่เริ่มระหองระแหงมาตลอด

   ผ่านไปห้าปีที่เขาคบกับแฟน ทั้งคู่มักอยู่กันฉันเพื่อนมากกว่า และอัษฎาไว้ใจเขามาตลอด ไม่คิดว่าวันหนึ่งจะต้องมาเห็นแฟนกำลังมีร่วมรักกับคนอื่นในห้องของตัวเอง และบนเตียงที่ใช้นอนทุกวัน ครั้งแรกพยายามไม่คิดอะไร แต่พอมีครั้งที่สองที่สามมันก็เริ่มทนไม่ไหว จึงระเบิดออกมาด้วยการบอกเลิก ซึ่งคำตอบจากอีกคนก็บอกตกลงโดยไม่ยอมนึกคิดอะไร
 
   เวลาห้าปีคือเวลาที่อัษฎาทุ่มใจลงไปทุกนาที ไม่คิดว่ามันจะเสียเปล่า ถึงแม้จะพยายามนึกถึงความดี ความสุขที่อยู่ด้วยกันมา แต่เรื่องร้ายๆ มันกลบทุกอย่างไว้หมด จนต้องกลับไปหาแม่เพื่อรักษาหัวใจและจะได้อยู่ไกลจากคนพวกนั้น

   ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าคือคนที่แฟนพามานอนด้วย เป็นคนที่ทำงานบริษัทเดียวกันกับพวกเขา ไม่คิดเลยว่าจะเอาคนที่มีข่าวเสียหายเรื่องชู้สาวมาหลับนอน หรือเป็นเพราะเรื่องเซ็กที่ให้ไม่ได้ถึงถูกหักหลังแบบนี้

   Rrrrrrr

   เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้นเรียกสติที่เหม่อลอยกลับมา อัษฎาหยิบขึ้นมาดูพร้อมกับรอยยิ้มที่ถูกจุดขึ้นมา

   “ครับแม่” เสียงนุ่มกรอกลงไป

   (ถึงไหนแล้วอัด) เสียงมารดาสอบถาม ตอนนี้เวลาเกือบจะหกโมงเช้า ใกล้เวลที่รถจะเทียบท่าทุกที

   “น่าจะใกล้ถึงแล้วนะครับ แล้วแม่มารอแล้วเหรอ” แม้จะรู้สึกเกรงใจที่แม่ต้องตื่นเช้ามารอ แต่เพราะไร่ที่แม่อาศัยอยู่ไม่มีรถผ่านแน่นอน ถึงมีก็คงไม่วิ่งเข้าไปถึงในไร่

   (จ้า พอดีคุณเล็กมารับของ แม่เลยขอติดรถมาด้วยพอดี) คุณเล็กที่แม่บอก เขาเคยเห็นเมื่อสมัยยังเด็ก ตอนนั้นพ่อเสีย แม่จึงพาเขามาอยู่ที่ไร่ คุณเล็กเป็นเด็กยิ้มแย้ม แต่ข้อเสียคือเอาแต่ใจ และมักจะหาเรื่องแกล้งอัดอยู่เสมอ

   “ครับ”

   (เดี๋ยวเจอกันนะอัด แม่คิดถึงลูกมาก)

   “ผมก็คิดถึงแม่ครับ”

   หลังจากวางสาย อัดรีบผงกหัวขอโทษที่เสียงดังปลุกสาวสวยข้างๆ เธอหันมายิ้มพร้อมกับบอกว่าไม่เป็นไร ดวงตากลมเหม่อมองไปนอกรถ ภูเขาสูงปกคลุมด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจีที่ในเมืองกรุงไม่มี หากได้ออกไปอยู่ด้านนอกหรือเปิดประจกได้ อากาศยามเช้าแบบนี้คงจะรู้สึกดีไม่น้อย

   รถทัวร์โดยสายจอดเทียบท่ารถ อัษฎาเดินไปรอกระเป๋าที่พนักงานยกลงมาให้ ชายหนุ่มยิ้มขอบคุณก่อนเดินลากกระเป๋าสองใบและสะพายเป้ใบโปรดออกจากห้องพัก

   ยามเช้าที่ถึงแม้จะมีคนมายืนรอมากมายแต่คนที่อยู่ในความทรงจำยังคงโดดเด่นอยู่เสมอ ปากแดงยิ้มกว้างเมื่อเห็นแม่เดินเข้ามาหา เขารีบทิ้งข้าวของที่ถือแล้วโอบกอดร่างของแม่อย่างคิดถึง

   “อัดคิดถึงแม่ที่สุด” หอมแก้มแม่อีกสองฟอดจนคนที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวเราะ “อ่าว คุณ...” ดวงตากลมมองคนด้านหลังอย่างงงๆ

   “อ่อ นี่คุณเล็กจ๊ะ จำได้ไหม” เมื่อแม่แนะนำคนที่ยืนยิ้มอยู่ อัดก็หน้างอนิดๆ ก่อนจะยกมือไหว้เพราะอีกคนอายุเยอะกว่า
อยากบอกว่าจำได้แม่น คนที่เคยแกล้งเอาหนอนตัวใหญ่มาใส่ฝ่ามือ
 
   “สวัสดีครับ”

   “นี่ลูกนมอิ่มเหรอครับเนี่ย โตจนจำไม่ได้แล้วนะ” คุณเล็กโปรยยิ้มหวานมาให้ พอมองดีๆ ตาหน้าผิดจากตอนเด็กลิบลับ เพราะตอนเด็กคุณเล็กดูตัวเล็กสมชื่อ แถมตัวยังแห้งเหมือนเป็นโรค แต่ตอนนี้กลับตัวโตกว่าเขาเสียอีก แถมยังดูคมเข้มเหมาะกับตำแหน่งหนุ่มในฝันที่แม่โทรมาเล่าให้ฟัง

   “ค่ะ ตัวโตขึ้นเยอะ สูงกว่าแม่ซะแล้ว” นมอิ่มที่คุณเล็กเรียกยิ้มหวาน มือที่เริ่มเหี่ยวย่นตามกาลเวลาลูบใบหน้าลูกชายเพียงเดียวที่จำเป็นต้องส่งไปอยู่ที่อื่นเพื่ออนาคตที่ดี

   “แม่ยังสวยไม่เปลี่ยนเลยนะ” อัดกอดเอวมารดาแล้วซบหัวกับไหล่เล็กอ้อน

   “ขี้อ้อนไม่เปลี่ยน ดูสิคะคุณเล็ก ทำตัวเหมือนเด็กไม่มีผิด” แล้วคุณเล็กก็หัวเราะจนอัดหน้างอ

   “รีบกลับเถอะครับ เดี๋ยวถึงไร่ช้าอากาศจะร้อน” ร่างสูงใหญ่เดินกลับไปที่รถ โดยมีอัษฎาเดินลากกระเป๋าตาม

   รถกระบะแวนคันใหญ่ด้านข้างติดสติ๊กเกอร์ชื่อไร่ พิกุลจันทร์หอม มุ่งหน้าออกนอกตัวเมือง อัดมองรอบๆ ข้างที่เริ่มเปลี่ยนจากตึกรามบ้านช่องเป็นต้นไม้สีเขียวเต็มสองข้างทาง

   “เอ่อ ผมขอเปิดกระจกได้ไหมครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยขออนุญาตเจ้าของรถ คุณเล็กหันหน้าไปมองคนที่นั่งด้านข้างก่อนพยักหน้า “ขอบคุณครับ”

   เมื่อได้รับคำอนุญาต มือเรียวสวยยิ่งกว่าผู้หญิงกดเลื่อนกระจกลง ทันทีที่ลมเย็นด้านนอกปะทะกับหน้าขาว ความรู้สึกสดชื่นก็พัดความทุกข์ให้ปลิวหาย ยิ่งได้ยื่นหัวออกไปรับลมตรงๆ ยิ่งทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย มิน่า แม่ถึงไม่อยากได้อยู่ที่กรุงเทพ เพราะบรรยากาศที่นี่มันดีแบบนี้นี่เอง

   “ระวังหัวชนต้นไม้นะลูก” นมอิ่มเตือนพลางขำเมื่อเห็นลูกตัวเองตื่นตาตื่นใจกับอากาศค่อนข้างเย็นเมื่อใกล้เข้าสู่เขตไร่ อาจเพราะมีต้นไม้ เทือกเขาสูงรายล้อม ทำให้อากาศที่นี่จะเย็นสบาย ยิ่งตอนเช้ามืดหรือตอนดึกจะหนาวจนไม่ต้องเปิดแอร์หรือพัดลม
 
   “เด็กกรุงก็แบบนี้แหละครับ” คำพูดติดขำนิดๆ ทำเอาอัดรีบดึงตัวให้เข้ามานั่งพลางยู่หน้า

   “เมื่อก่อนผมก็เป็นเด็กบ้านนอกเหมือนกัน” อัดว่า ยิ่งเรียกเสียงหัวเราะสองเสียงดังขึ้น “หัวเราะเข้าไป โธ่” ใบหน้าหวานง้ำงอจนคุณเล็กต้องชำเลืองมองอยู่หลายรอบ และอดคิดไม่ได้ว่า ลูกชายนมอิ่มได้แม่มาทุกสัดส่วน ทั้งหน้าตา ผิวพัน แต่นิสัยคงจะห่างกันไกลโข


   ไม่นานรถที่นั่งมาก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่โกดังเก็บของ อัษฎาลงไปช่วยเจ้าของไร่ยกกล่องเครื่องมือที่ซื้อใหม่ลงไปเก็บ แม้จะมีคนงานวิ่งเข้ามาช่วย ความแข็งแรงขัดกับท่าทางที่ดูอ้อนแอ่นสร้างความแปลกใจให้กับเจ้าของไร่พอดู พอกล่องหลังรถถูกจัดเก็บเข้าที่ คุณเล็กก็เรียกลูกนมอิ่มขึ้นรถ

   “แข็งแรงไม่เบาเลยนะ” พอขึ้นมาบนรถ คนตัวใหญ่ก็ออกปากชมจนคนที่ได้รับคำชมยิ้มแก้มปริ นมอิ่มมองลูกชายตัวเองกับลูกชายคนเล็กของเจ้าของไร่นิ่งๆ ก่อนเสหน้ามองออกนอกหน้าต่าง


   คำทำนายที่ทำให้หวนนึกถึง


   อัษฎาลากกระเป๋าเสื้อผ้าตามแม่ตัวเองไปที่เรือนพักหลังบ้านไม้หลังใหญ่ บ้านที่แม่อยู่แยกออกจากบ้านพักคนงานคนอื่นๆ นั่นเพราะนมอิ่มเป็นแม่นมที่ดูแลลูกๆ ของเจ้าของไร่เมื่อครั้งยังเด็ก อีกทั้งยังเป็นคนสนิทของคุณนายพิกุล ไม่แปลกที่จะได้บ้านพักต่างหาก

   “บ้านหลังใหญ่ยังสวยอยู่เลยนะแม่” อัษฎาเก็บเสื้อผ้าใส่ไม้แขวนเสื้อที่แม่เตรียมไว้ให้ ตอนเดินผ่านบ้านไม้ที่น่าจะเป็นไม้สักทอง ตัวบ้านยังคงสร้างแบบคนภาคเหนือแต่ก็มีความทันสมัยกลิ่นอายโมเดิร์นทางตะวันตกปนมา

   “ก็คุณใหญ่กับคุณเล็กเขาช่วยกันออกแบบใหม่ตอนปรับปรุงน่ะ” แม่ว่า พลางเก็บเสื้อที่มีไม้แขวนใส่ตู้

   “แล้วคุณนายพิกุลเขาไม่อยู่ที่นี่เหรอฮะ” อัษฎาเอ่ยถามแม่

   “คุณนายต้องไปดูแลกิจการส่งออกที่อยู่เมืองในนู้น นานๆ จะมาพักที่นี่ที” นมอิ่มบอกกับลูกชาย เพราะจากที่นี่ไปนาน ครั้งตอนยังเล็ก สมัยที่สามีเสียก็ได้คุณนายพิกุลพามาทำงานที่นี่และยังพาลูกชายเพียงคนเดียวมาพึ่งใบบุญ จนพี่สาวของสามีส่งจดหมายอยากได้หลานไปอยู่ด้วย ตนเห็นว่า หากไปอยู่ทางนู้นโอกาสด้านการศึกษาน่าจะดีกว่า เลยตัดสินใจส่งลูกชายไป

   “แบบนี้นี่เอง” อัษฎาพยักหน้า

   ก๊อก ก๊อก

   เสียงเคาะประตูไม้เนื้อหนาดังขึ้น สองแม่ลูกละความสนใจไปมอง ก่อนคนเคาะจะแง้มบานประตูแล้วโผล่หน้ามาเสี้ยวหนึ่ง

   “นมอิ่มจ๋า มีอะไรให้ลูกเจี๊ยบช่วยไหมจ๊ะ” คนที่ยื่นหน้าเข้ามาเป็นเด็กสาวน่าจะอายุไม่เกินสิบห้าปีแน่นอน อัษฎาส่งยิ้มให้เมื่อเด็กสาวเหลือบมาตามอง “อุ้ย ลูกนมอิ่มเหรอจ๊ะ”

   “อืม เข้ามาสิลูกเจี๊ยบ” คำชวนของนมอิ่มลูกเจี๊ยบก็รีบเดินเข้ามา ขาสั้นเดินมาตรงหน้าอัษฎา ดวงตารีจ้องหน้าคนแปลกหน้าอย่างสนใจ “มองพี่เขาทำไมน่ะเรา”

   “ก็ลูกนมอิ่มหน้าตาเหมือนนมอิ่มเลย สวยด้วย” ลูกเจี๊ยบเอ่ยปากชมตามที่เห็นจนถูกนมอิ่มตีแขนเบาๆ “นมอิ่มตีลูกเจี๊ยบทำไมเนี่ย”

   “ก็พี่เขาเป็นผู้ชาย ไปชมว่าสวยได้ยังไงกัน” นมอิ่มดุเด็กสาวคราวหลาน ที่จริงคำว่าสวยก็คงเหมาะกับลูกชายตัวเอง แต่ติดตรงที่ว่าเป็นผู้ชายไม่ค่อยเหมาะกับคำๆ นี้เท่าไหร่

   “แหม ลูกเจี๊ยบก็พูดตามที่เห็นเอง สวัสดีค่ะ หนูชื่อลูกเจี๊ยบ อายุสิบสามกำลังจะสิบสี่อีกห้าเดือนข้างหน้า พี่ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ” คำแนะนำตัวยาวเหยียดเรียกเสียงขำขันจากอัษฎาได้เป็นอย่างดี ชายหนุ่มมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างเป็นมิตร ยิ่งดวงตาใสซื่อไร้พิษสงอย่างที่เขาต้องประสบพบเจอมามากในเมืองกรุง

   “พี่ชื่ออัดครับ” ตอบพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ลูกเจี๊ยบถึงกับยิ้มตาม

   “พี่ยิ้มสวยจัง เห็นมั้ยจ๊ะนมอิ่ม พี่เขาสวยจริงๆ” ลูกเจี๊ยบมองดวงหน้าขาวใสไร้สิวเสี้ยน เส้นผมสีน้ำตาลแดงยิ่งช่วยเสริมความขาว คิ้วดำเรียงเป็นเป็นแพสวย นัยน์ตาดำกลมโตราวกับตุ๊กตา จมูกโด่งนิดๆ พอน่ารัก ริมฝีปากก็ดูบางสวย รวมๆ มันเรียกว่าสวยก็ถูกแล้ว

   “เอาเถอะๆ ว่าแต่เรามาทำอะไร” นมอิ่มส่ายหน้าอย่างระอา

   “อ๋อ ก็ป้านีเรียกจ๊ะ” นมอิ่มพยักหน้ารับรู้ แต่เด็กลูกเจี๊ยบกลับยังไม่ออกไป “พี่อัดชอบน้ำตกไหมจ๊ะ”

   “น้ำตกเหรอ ก็ชอบนะ” อัดตอบเด็กสาวไป ดวงตารีหยีตามรอยยิ้มดูน่ารัก

   “งั้นพอพี่เก็บของเสร็จลูกเจี๊ยบจะพาไปเที่ยว น้ำตกของไร่เราสวยมากเลยนะ”

   “เอาสิ” อัษฎาตอบตกลงเมื่อเห็นความกระตือรือร้นของเด็กสาว ดูท่าจะสวยจริงๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่คะยั้นคะยอแบบนี้

   “อย่าพาพี่เขาไปไกลมากนะเรา แล้วก็รีบกลับก่อนมื้อกลางวันด้วย เข้าใจไหม” นมอิ่มสั่งหนักแน่นก่อนขอตัวไปดูป้านีซึ่งเป็นแม่ครัว คงจะมีเรื่องอะไรสักอย่าง

   ลูกเจี๊ยบช่วยอัษฎาเก็บเสื้อผ้าและของใช้จนเสร็จเรียบร้อย เด็กสาวกวักมือเรียกให้ซ้อนท้ายจักรยาน แต่ดูแล้วเขาน่าจะเป็นคนปั่นมากกว่า เด็กผู้หญิงตัวเล็กกว่าคงพาเขาไปไม่ไหว

   “พี่ปั่นเองมา” อัษฎาหัวเราะก่อนสลับที่นั่งเปลี่ยนให้ลูกเจี๊ยบซ้อนท้าย นิ้วเล็กชี้ตามทางไปเรื่อย

   “พี่อัดมาจากกรุงเทพเหรอจ๊ะ ที่นั่นสนุกไหม” คำถามเจื้อยแจ้วดังตลอดทาง

   “ไม่สนุกหรอ” ตอบกลับไปพร้อมกับการใส่กำลังปั่นมากขึ้นเมื่อถึงเนินเขา “อีกไกลไหมลูกเจี๊ยบ” เพราะเริ่มเหนื่อยเต็มที ขอให้สวยทีเถอะ อุตส่าห์เอากล้องถ่ายรูปห้อยคอมาด้วย

   “อีกเดี๋ยวก็ถึง” อีกเดี๋ยวตั้งแต่เมื่อกี้ก็ยังไม่ถึงสักที

   “ลูกเจี๊ยบอยู่ไร่นี้มานานแล้วเหรอ” อัษฎาถามกลับไปบ้าง เพราะบางทีเขาก็ต้องรู้เรื่องราวไร่นี้

   “นานแล้ว ตั้งแต่เกิดเลยด้วย” แสดงว่านานจริงๆ

   “แล้วรู้จักเรื่องไร่นี้ดีไหม”

   “ทุกเรื่องเลย ถามมาได้”

   “งั้นเรื่องเจ้าของไร่ล่ะรู้จักไหม” เมื่อเช้าเจอเจ้าของไร่ไป ท่าทางดูจะเป็นมิตรไม่ใช่น้อย

   “คนไหนล่ะจ๊ะ คุณเล็กหรือคุณใหญ่” อ่า นั่นสินะ ตอนนั้นเขาก็เคยเห็นว่าลูกเจ้าของไร่มีสองคน

   “ทุกคนนั่นแหละ” ตอบแบบกลางๆ เด็กสาวด้านหลังครางอืมในลำคอก่อนพูดต่อ

   “คุณเล็กเป็นลูกชายคนเล็กของคุณนายจ้ะ” อันนั้นก็พอรู้ดูจากชื่อ “เธอมีลูกด้วยนะ แต่ไปอยู่กับคุณนายที่ในเมือง”

   “คุณเล็กมีลูกแล้วเหรอ” อัษฎาเหลือบไปมองเด็กสาวด้านหลังจนเกือบชนต้นไม้

   “พี่อัดปั่นดีๆ สิ” เด็กสาวตกใจรีบบอก

   “โทษทีๆ ต่อเลย แล้วภรรยาคุณเล็กล่ะ” เกือบหน้าล้มแล้วไหมล่ะ

   “เมียคุณเล็กเหรอ” เขาอุตส่าห์ใช้คำสุภาพ แต่ลูกเจี๊ยบดันเรียกเมียซะเต็มปากเต็มคำ “เมียคุณเล็กหนีไปเกือบจะสองปีแล้วจ้ะ”

   “หนีไปเหรอ ทำไมล่ะ”

   “ก็สาวชาวกรุงใครล่ะจะชอบมาอยู่ในป่าในเขา ตอนนั้นคุณเล็กตามไปที่กรุงเทพแต่ก็ไม่เจอ กลับมากลายเป็นคนขี้เมาจนคุณใหญ่ต่อยซะเลือดออกเต็มไปหมด คุณเล็กถึงกลับมาเป็นคนเหมือนเดิม” ลูกเจี๊ยบเล่าเรื่องตามที่เห็นและแม่บอก

   “แล้วคุณใหญ่ล่ะ” พอรู้เรื่องคุณเล็ก อัษฎาก็ไม่อยากถามต่อ เพราะเรื่องที่เขาต้องรู้คงไม่ได้ลงลึกแบบนี้

   “คุณใหญ่เป็นคนดุมาก เมื่อก่อนใจดีนะ แต่พอเมียตายก็เลยเป็นคนเงียบๆ” ลูกเจี๊ยบเบาเสียงพูดลงพร้อมย่นหน้า “ลูกเจี๊ยบเคยเห็นพี่ศรีเลขาไร่ถูกตวาดจนร้องไห้เลยด้วย แค่ทำบัญชีผิดเอง” อัษฎาเลิกคิ้ว ที่จริงมันก็น่าโมโหนะ บัญชีผิดไปก็เท่ากับเงินสูญไปด้วย

   “น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ”

   “ท่าเราไม่ทำผิดคุณใหญ่ก็ไม่ดุหรอกจ้ะ”

   คำบอกเล่าเรื่องราวของเจ้าของไร่ทั้งสองแม้จะไม่ได้ละเอียดมากแต่ก็มากพอที่จะไม่เผลอพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูด ยิ่งถ้าต้องเจอคุณใหญ่ที่ลูกเจี๊ยบว่าดุ เขาคงต้องยอมหลีก

   ทางรถถึงจุดสิ้นสุด อัษฎาต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าลึกอีก บรรยากาศรอบๆ ดูสดชื่น ต้นไม้นาๆ ชนิดขึ้นเต็มไปหมด เขาไม่ลืมยกกล้องขึ้นบันทึกความงามครั้งนี้ เพราะมัวแต่ถ่ายรูป ลูกเจี๊ยบเลยออกเดินนำหน้าไปไกล อัษฎารีบสาวเท้าให้ไวขึ้นเพื่อจะได้ทันเด็กสาวที่จะพาขึ้นไปชั้นบนของน้ำตก

   น้ำตกใสซะจนเห็นโขดหินด้านล่าง น้ำคงจะเย็นน่าดู อัษฎายกกล้องแพนไปรอบๆ ก่อนสะดุดตากับชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนยาวลายสก็อตเก่าๆ นั่งอยู่ริมลำธาร ข้างๆ มีคันเบ็ดวางอยู่ มันน่าแปลก น้ำตกที่น้ำไหลขนาดนี้จะมีปลาอาศัยอยู่

   ด้วยความอยากรู้ อัษฎาเลยเดินข้ามฝั่งไปหาโดยการเหยียบก้อนหินที่โผล่ขึ้นมา พอเดินเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เห็นถังน้ำมีปลาตัวใหญ่อยู่ ไม่น่าเชื่อจริงๆ

   “เอ่อ คุณลุงฮะ ในน้ำตกมีปลาด้วยเหรอฮะ” กล้องถ่ายรูปยกขึ้นมาถ่ายปลาในถังที่กำลังว่ายวนไปมา แต่คนที่ถูกถามไม่ตอบอะไรเพราะมัวแต่สนใจดูปลายเส้นเอ็นที่เริ่มกระตุก ปลาคงติดแน่ เขาเลยรีบเตรียมกล้องเพื่อถ่ายรูป

   มือใหญ่รีบยกคันเบ็ดขึ้นจากน้ำเมื่อส่วนลูกเล็กๆ ที่ลอยเหนือน้ำจมลงไป อัษฎาสังเกตเบ็ดไม้ที่ไม่เคยเห็นตามร้านขาย คงจะทำเอง ปลาตัวโตกำลังดิ้นไปมาอยู่ปลายเอ็น มือใหญ่รีบจับปลาแล้วเอาตะขอออกจากปาก มันจะดูทรมานไปหน่อยก็เถอะ แต่เขาก็ชอบกินปลามากที่สุด

   “ว้าว ปลาตัวโตมากเลย” อัษฎามองปลาตัวโตอย่างตื่นเต้น ปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ

   “ไม่ใช่คนไร่นี้ใช่ไหม” เสียงทุ้มดังขึ้นจากคนที่กำลังพันสายเอ็นเข้ากับตัวไม้เบ็ด “ไม่ใช่คนไร่นี้แล้วเข้ามาในนี้ได้ยังไงกัน” น้ำเสียงดุดันจนอัษฎาต้องรีบก้มหน้า

   “เอ่อ ขอโทษฮะ พอดีผมเพิ่งมาจากกรุงเทพ”

   “ฉันถามหรือยังว่ามาจากไหน” เสียงเข้มพูดขัด

   “อะ เอ่อ ผมเป็นลูกของนมอิ่มครับ” หลังจากบอกไป คนตรงหน้าก็เงียบ อัษฎาเหลือบตาสังเกตคนตรงหน้า ใบหน้าที่ถูกหมวกใบลานใบใหญ่บังไว้ซะมิดทำให้มองไม่เห็นอะไรนอกจากเครื่องแต่งกายที่ดูเก่าและโทรม

   “ก็แล้วไป” คนตัวใหญ่ว่าก่อนจะยกถังที่มีปลาขึ้นแล้วเหยียบโขดหินข้ามกลับอีกฝั่งและเดินหายเข้าไปในป่า

   คนอะไรดุเกิน กินร็อตไวเลอร์เป็นอาหารหรือเปล่า

   อัษฎาค่อนขอดก่อนลูกเจี๊ยบจะเดินย้อนมาตะโกนเรียกให้กลับไปอีกฝั่ง ยอดน้ำตกสวยงามดั่งที่ถูกกรอกหูตลอดการเดินทาง กล้องตัวแพงยกกดชัตเตอร์แม้แต่ลูกเจี๊ยบยังอยู่ในเฟรมด้วย และนาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบจะเที่ยง เขาต้องรีบกลับตามที่แม่บอก

   “วันหลังเราค่อยมาอีกเนอะ” อัษฎายืนอยู่ริมหน้าผาน้ำตกสูง เขายิ้มให้กับธรรมชาติที่สวยงามแม้จะดูน่าหวาดเสียวหากก้มมองลงไป

   “ไร่นี้ยังมีที่สวยๆ อีกเยอะเลย วันหลังลูกเจี๊ยบจะพาพี่อัดไปจ้ะ”

   รถจักรยานเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านพักของมรดา อัษฎาขยี้ศีรษะเล็กของเด็กสาวอย่างรักใคร่ รู้สึกถูกชะตาก็ว่าได้ เมื่อลูกเจี๊ยบไปแล้วอัษฎาก็เดินไปหาแม่ที่ห้องครัวตามทางที่ลูกเจี๊ยบบอก

   ทางเดินที่มีต้นไม้ขึ้นเต็มสองข้างทาง บางต้นมีกล้วยไม้เกาะเป็นกาฝาก ลัดเลาะไปเรื่อยๆ จนมาถึงโรงครัวที่สร้างด้วยปูน เขาเห็นคนในนั้นกำลังวิ่งวุ่น สงสัยจะทำอาหารกัน อัษฎารีบเดินเข้าไปเผื่อจะช่วยอะไรได้ และพอแม่หันมาเห็นก็รีบเรียกลูกชายเข้าไปหา

   “ไหว้ป้านีสิอัด” ป้านีที่แม่บอกรูปร่างอ้วนแต่ใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างใจดี เด็กหนุ่มยกมือไหว้พร้อมรอยยิ้มสวย

   “ลูกนมอิ่มนี่งามแต้เน้อ หน้าเหมือนแม่เป๊ะเลย (ลูกนมอิ่มหน้าสวยเหมือนแม่เลย)” สำเนียงไทยปนคำเมืองดูแปลกๆ จนทุกคนขำ

   “พูดคำเมืองก็ได้ครับ ผมพอฟังรู้เรื่อง” อัษฎาบอก ที่ฟังรู้เรื่องเพราะบางครั้งแม่ก็หลุดพูดคำเมืองตอนโทรไปหา

   “ดีเน้อ ฟังฮู้เรื่องนา คุณใหญ่เปิ้นไค้หื้อกู้คนอู้กำเมือง เป๋นก๋านฮักษากำเมืองตวย ละอ่อนสมัยนี้อู้บ่จ๊างกั๋น (ดีนะที่ฟังรู้เรื่อง คุณใหญ่ท่านอยากให้พูดคำเมือง เป็นการรักษาคำเมืองด้วย)” คำเมืองพ่นเหมือนแร็บจนอัษฎาหน้าเหวอ เขาหันไปหาแม่ที่ยิ้มขำอย่างขอความช่วยเหลือในการแปล

   “ป้านีบอกว่าเด็กสมัยนี้ไม่ยอมพูดคำเมืองกันน่ะ” แม่แปลคร่าวๆ ให้ฟัง

   “อ๋อครับ ผมว่าคำเมืองก็น่ารักดีนะครับ” อัษฎาบอกก่อนชะโงกหน้ามองของบางอย่างในถังน้ำที่คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นที่น้ำตก “ปลานี่มาจากน้ำตกใช่ไหมครับ”

   “แม่นแล้ว คุณใหญ่เปิ้นไปตกมา (ใช่แล้ว คุณใหญ่ไปตกมาเอง)” ป้านีบอกก่อนจะสั่งให้พี่อีกคนเอาปลาไปทุบ

   “คุณใหญ่อยากกินต้มส้มปลาน่ะ ลูกรู้จักไหม” ส่ายหน้าเป็นพัลวันแต่สิ่งที่กำลังคิดอยู่คือคนที่เจอคือคุณใหญ่ ตาแก่ปากร้ายนั่นคือคุณใหญ่เหรอ ไม่เหมือนคุณเล็กที่เป็นมิตรสักนิด

   ยืนมองเหตุการณ์ชุลมุนในโรงครัวอยู่นานในที่สุดกับข้าวทุกอย่างก็เรียบร้อย อัษฎาช่วยแม่ยกขึ้นไปบนเรือนใหญ่เพราะจะได้แนะนำให้กับเจ้าของไร่ได้รู้จักอย่างเป็นทางการ


   บนเรือนที่อัษฎาขึ้นไปดูสวยกว่าด้านนอก ข้าวของทุกอย่างทำมาจากไม้ทั้งหมด ทั้งโต๊ะ ตู้ ม้านั่ง แถมยังมีชานยื่นออกไปด้านนอก หากฝนดาวตกไปนอนดูตรงชานนั้นคงจะดีไม่น้อย ขายาวก้าวตามแม่มาติดๆ จนสะดุดสายตากับเด็กผู้ชายตัวเล็กที่กำลังวิ่งเล่นเครื่องบินกระดาษ เด็กที่ไหน

   “นมอิ่ม น้องต้นคิดถึง” เด็กตัวเล็กนั่นทิ้งเครื่องบินกระดาษแล้ววิ่งมากอดนมอิ่มหรือแม่ของเขา

   “นมก็คิดถึงคุณต้นมากค่ะ” นมอิ่มยิ้มให้กับเด็กตัวเล็กแล้วเงยหน้าโค้งศีรษะให้กับผู้หญิงที่เดินออกมาจากด้านใน “คุณนายมานานแล้วหรือคะ”

   “เพิ่งมาเอง ต้มส้มปลาหรือนี่ ไม่ได้กินตั้งนาน” คุณนายที่นมอิ่มว่าเดินเข้าไปใกล้ ดวงตาสวยเหลือบมองไปด้านหลังที่อัษฎายืนอยู่ “นั่นลูกนมอิ่มเหรอ”

   อัษฎารีบเดินเอาจานผัดผักมาวางที่โต๊ะก่อนยกมือไหว้ “สวัสดีครับ” รอยยิ้มสวยจนคุณนายมองค้าง

   “เหมือนนมอิ่มมากเลยนะ” คำชมที่ได้ยินตั้งแต่ลงรถทัวร์ คุณนายละความสนใจคนยิ้มสวยเมื่อลูกชายสองคนเดินออกมา “ตาเล็ก ตาใหญ่ มานั่งเลยมา ต้มส้มปลานี่น่าอร่อยเสียจริง”

   คุณเล็กอัษฎาเคยเห็นแล้ว แต่คุณใหญ่ที่น้ำตกไม่ได้เป็นตาแก่แบบที่คิด ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ใบหน้าเรียบเฉยแต่คมเข้มกว่าคนน้อง ดวงตาดุเหลือบมามองคนแปลกของที่นี่แวบหนึ่งก่อนเลื่อนเก้าอี้นั่งลง

   รู้สึกไม่น่าอยู่ใกล้ อัษฎาคิด คนๆ นี้สมกับที่ลูกเจี๊ยบว่า

   พอทุกคนนั่งบนโต๊ะ สาวใช้ร่างเล็กก็เริ่มตักข้าวให้กับทุกคน เด็กตัวเล็กที่เกาะแม่เขาเป็นลิงนั่งลงข้างคุณเล็ก หรือว่านี่จะเป็นลูกชายที่ลูกเจี๊ยบว่า ดีที่ได้ยินมาก่อน ไม่อย่างนั้นคงคิดนานพอดู

   “เอาล่ะ ก่อนจะกินข้าว ไหนเราลองแนะนำตัวหน่อยสิ” คุณนายเจ้าของไร่หันมามองหน้าอัษฎา เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบๆ ก่อนโค้งศีรษะแนะนำตัว

   “สวัสดีครับ ผมชื่ออัษฎา เรียกสั้นๆ ว่าอัดฮะ” หลังจากแนะนำตัวเสียงเข้มๆ ก็ดังขึ้น

   “พูดคำเมืองเป็นหรือเปล่า” คนพูดเอนหลังพิงกับพนักเก้าอี้ยกมือกอดอกจ้องมาทางเด็กหนุ่มจนคนถูกมองทำตัวไม่ถูก

   “ไม่เป็นครับ” ตอบแบบเกร็งๆ เมื่อยังถูกดวงตาดุจ้อง นี่เขาทำผิดขนาดนั้นเลยหรือไง

   “ไม่เอาน่าพี่ใหญ่ เขามาจากกรุงเทพจะพูดเป็นได้ยังไง” น้องชายแก้ตัวแทนให้เมื่อเห็นคนถูกถามยืนเกร็ง

   “นั่นสิ จะอะไรนักหนากับคำเมืองน่ะเรา เอาล่ะๆ กินข้าวๆ” มารดาเจ้าของไร่ตัดชับเพราะดูเหมือนลูกชายจะเริ่มหาเรื่องอีกแล้ว

   การกินข้าวของครอบครัวเจ้าของไร่เป็นไปอย่างเรียบง่าย ไม่ได้มีพิธีรีตองเหมือนกับในละครที่เคยเห็น แต่ที่แน่ๆ คุณใหญ่ไม่ชอบเขาอย่างแน่นอนอัษฎาคิด เพราะดูตั้งแง่กับเรื่องการพูดคำเมืองซะเหลือเกิน ดังนั้นต่อไปต้องอยู่ให้ไกลซะแล้ว

   เด็กหนุ่มแปลกหน้ายืนก้มมองพื้นเพราะไม่กล้าสบตา ยิ่งกำลังถูกดวงตาดุจ้องอยู่ตลอดยิ่งทำให้เกร็งไม่รู้จะทำตัวอย่างไร และยังมีดวงตาอีกคู่ที่กำลังจ้องโดยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่



         ไร่นี้คงไม่ใจร้ายกับคนหัวใจบอบช้ำมาแบบอัษฎาหรอก หวังว่าแบบนั้น   


.....TBC

ตอน 1 ค่าาา ทำไมเรื่องนี้รู้สึกยากกว่า Just you and I หรือว่าเพราะเราไม่ได้เกรียน ฮ่าๆๆ

รับคำติทุกอย่างค่าาาา  :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2017 21:32:00 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ชอบทั้ง2เรื่องเลยมาต่อไวๆนะรออ่านเป็นกำลังใจให้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
คนหนึ่งเมียตายอีกคนเมียทิ้ง อัดเราจะได้คู่เป็นคนพี่หรือคนน้อง :3123: :3123:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ benzdekba

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2
ชอบบบบบ

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รออ่านเรื่องนี้อยู่น๊า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
คุณใหญ่ อัด คุณเล็ก 3p หรือเปล่านะ
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รอรอ รอ

ออฟไลน์ leemmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-6
เรื่องใหม่มาอีกแล้ว ถึงน้องอัษจะไม่เกีรยนเมือนกลอย และต้อม แต่เรื่องนี้สนุกอะ คุณใหญ่อย่าใจร้ายกับอัษนักสิ แล้คุฯใหญ่ต้องรักอัษจนลิมเมียตัวเองที่ตายไปเลย :z2: :z2: :z2:

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
รออ่านอยู่นะ

ออฟไลน์ ป้ากิ่งkingkarn

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 308
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตามมาจากน้องกลอย มาให้กำลังใจเรื่องใหม่ต่อค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ lllittled

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 97
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อย่ามาแบบทั้งพี่ทั้งน้องรักอัด คนนึงได้รักอีกคนนึงเจ็บเพราะมันไม่ใช่3Pนะ 555555
ปล.ถ้ามีประโยคไหนที่ใช้ภาษาท้องถิ่นแปลเป็นภาษาไทยกลางให้ด้วยก็ดีเนอะ

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
อย่ามาแบบทั้งพี่ทั้งน้องรักอัด คนนึงได้รักอีกคนนึงเจ็บเพราะมันไม่ใช่3Pนะ 555555
ปล.ถ้ามีประโยคไหนที่ใช้ภาษาท้องถิ่นแปลเป็นภาษาไทยกลางให้ด้วยก็ดีเนอะ

ได้ค่าา จะแก้ไขให้อย่างด่วน ขอบคุณมากๆ ค่าาา  :pig4: :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :L1: :pig4:

เราชอบอะะะะะะ เดาว่าคู่คุณใหญ๋ ฮื่มมมมลุ้นๆเดี๋ยวไปอ่านคำทำนายอีกที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2016 00:11:21 โดย Billie »

ออฟไลน์ arij-iris

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
เชียร์พี่ใหญ่เป็นพระเอกล่ะ เหมาะกับอัดดีนะ อิอิๆๆ :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Siran

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เชียร์พี่เล็ก เอ๊ะ หรือเชียร์พี่ใหญ่ดี เลือกไม่ถูกขอสองเลยได้ไหม 5555 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: รอออออ เมื่อไรจะมาต่อน้าาาาาาา

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ยังรออ่านเรื่องนี้อยู่นะ :call:

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3333
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :o12:คุฯนักเขียนจะไม่เทเรื่องนี้ใช่ไหมมม

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
ขอโทษค่า เพิ่งเห็นจริงๆว่าเปิดเรื่องใหม่ บทนำน่าสนใจดีค่ะ คำทำนายนี่เราก็ยังเดาไม่ออก แต่อย่าเป็นดราม่าแบบพี่น้องชิงรักกันเองเลยนะคะขอล่ะ

ปล.ถึงเรื่องนี้จะไม่เกรียนเท่าเรื่องนังกลอยแต่เราก็จะติดตามน้า อย่าเทนะค้าา

ออฟไลน์ โอ

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ยังรออยู่นะ :monkeysad:

ออฟไลน์ aiaea83

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 676
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +494/-5
2




       เช้าวันแรกของการอยู่ในไร่ดอกไม้ เมื่อคืนเด็กหนุ่มนอนหลับเป็นตาย อาจเพราะเดินทางมาเหนื่อย อีกทั้งบรรยากาศยามค่ำคืนช่างเย็นสบายคลายร้อนโดยไม่ต้องพึ่งแอร์หรือพัดลม อัษฎาออกมายืดเส้นยืดสาย ดวงตากลมมองไปยังเรือนพักคนงานที่ผู้คนเริ่มหยิบจอบ หยิบเสียมออกไป

   “พวกเขาเข้าไปทำงานในไร่เหรอฮะ” เขาถามแม่ที่ยิ้มทักทายตอนเช้า

   “ใช่จ้ะ กลุ่มนั้นเข้าไปไร่องุ่นท้ายไร่นู้นแหน่ะ” อัษฎาเบิกตากว้าง ที่นี่มีไร่องุ่นด้วยเหรอ ทำไมเขาเห็นไม่รู้ อย่างตอนเด็กๆ เขาเห็นแค่ไร่ดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่ไกลลิบๆ แค่นั้น

   “มีไร่องุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ”

   “ก็นานแล้วล่ะ คุณใหญ่แกไปศึกษามา แล้วให้เพื่อนที่เป็นฝรั่งมาช่วยดูให้” บอกไปมือก็คอยหยิบจานข้าววางไว้บนโต๊ะ “มากินข้าวก่อนตาอัด”

   “ถ้าผมจะลงไปช่วยในไร่บ้าง ได้หรือเปล่าครับ” เพราะการมากินนอนอยู่เฉยๆ มันคงจะดูไม่ดี

   “ทำเป็นหรือเรา” มารดาเลิกคิ้วถามลูกชายอย่างสงสัย ดูจากรูปร่างแล้ว ผอมแห้งแบบนี้คงไม่มีแรงแบกหามได้เหมือนคนอื่นๆ

   “ได้สิฮะ ตอนอยู่กรุงเทพ ผมช่วยแบกฉากบ่อย” ทำงานอยู่ในบริษัทอีเว้นต์ แม้จะเป็นงานแบกหามก็ต้องช่วยกัน งานจะได้เสร็จโดยเร็ว

   “งั้นเข้าไปช่วยลุงเหมือนในไร่ดอกดาวเรืองแล้วกันนะ เดี๋ยวแม่จะไปบอกแกให้” อัษฎายิ้มพร้อมกับตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ จนมารดาหัวเราะร่วน “ค่อยๆ กินก็ได้ลูก เดี๋ยวติดคอกันพอดี”

   “ก็มันอร่อย” เด็กหนุ่มยิ้ม แก้มเนียนป่องเมื่อตักข้าวเข้าปากเรื่อยๆ

   “ก๊อกๆ มีใครอยู่ไหมจ๊ะ” ลูกเจี๊ยบยื่นหน้าเข้ามาทักทายจนอัษฎาขำ เด็กสาวยิ้มตาหยีมองคนที่เพิ่งรู้จักแต่กลับรู้สึกรักเหมือนคนในครอบครัว

   “มาแต่เช้าเลยนะเรา” นมอิ่มทักทายลูกสาวของคนงานที่สนิท

   “ลูกเจี๊ยบว่าจะพาพี่อัดไปเที่ยวในไร่จ๊ะนมอิ่ม”

   “แต่พี่ต้องไปช่วยเขาทำงานแล้วน่ะสิ” อัษฎาบอกอย่างเสียดาย ใบหน้าของเด็กสาวย่นลง

   “โหย ไหนนมอิ่มบอกพี่มาเที่ยวไง แล้วทำไมถึงไปทำงานล่ะจ๊ะ”

   “มาเที่ยวก็จริง แต่อยู่เฉยๆ กินข้าวเขาฟรีๆ เดี๋ยวโดนดุเอา” ชายหนุ่มว่า ลูกเจี๊ยบพยักหน้าเข้าใจ

   “บางทีลูกเจี๊ยบก็ต้องทำงานเหมือนกัน แม่ชอบใช้ให้ไปช่วยในไร่” เด็กหญิงยู่หน้าดูไม่ค่อยชอบใจจนถูกนมอิ่มตีแขนเบาๆ
 
   “ก็เราโตขนาดนี้ก็ต้องช่วยพ่อกับแม่ทำงานสิ”

   “รู้แล้วค่า แต่บางทีมันก็ขี้เกียจ เมื่อไหร่จะเปิดเทอมก็ไม่รู้” อัษฎามองลูกเจี๊ยบอย่างแปลกใจ นั่นสินะ เด็กแบบนี้น่าจะยังเรียนอยู่

   “ลูกเจี๊ยบเรียนชั้นไหนแล้วล่ะ”

   “ม.สองจ้ะ เปิดเทอมมาก็จะขึ้นม.สามแล้ว” เด็กหญิงยิ้มแป้นจนคนมองต้องยิ้มตาม

   “ขยันเรียนเข้าไว้นะ จบมาจะได้ทำงานดีๆ มีเงินเยอะๆ”

   “ลูกเจี๊ยบก็คิดแบบนั้นแหละ อยากพาพ่อกับแม่ไปอยู่ในเมือง แต่พวกท่านไม่ยอมไป บอกจะอยู่ที่นี่”

   นมอิ่มส่ายหน้าให้กับความคิดของเด็กรุ่นหลาน ก็ถึงว่า ไม่มีใครอยากมาอยู่ในที่ๆ แม้แต่อินเตอร์เน็ตยังหาสัญญาณลำบาก แถมไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าในเมือง มองไปทางไหนก็มีแต่ไร่แต่สวน ก่อนดวงตาที่เริ่มฝ้าฟางจะมองไปที่ลูกชายเพียงคนเดียว ไม่รู้จะอยู่ที่นี่ได้นานหรือเปล่า คนกรุงมักจะไม่ชอบที่นี่เท่าไหร่ แรกๆ อาจจะตื่นเต้น พอนานๆ ไปก็เบื่อกัน

   อัษฎาทานข้าวเสร็จก็ตามแม่ไปหาลุงเหมือน บ้านพักคนงานถูกปลูกติดกันเป็นแถว แม้จะหลังเล็กแต่ก็กว้างพอสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว

   “ลุงเหมือนจ๊ะ” นมอิ่มตะโกนเรียก เจ้าของชื่อเดินออกมา ในมือกำผ้าขาวม้าไว้ก่อนยกพันรอบคอ

   “ว่าไงครับนมอิ่ม” ลุงเหมือนอายุราวๆ สักห้าสิบกว่าๆ ท่าทางยังดูแข็งแรง คงเพราะทำงานทุกวันคล้ายกับการออกกำลังกาย แถมอากาศที่นี่ยังดีขนาดนี้

   “พอดีฉันอยากจะฝากลูกชายไปช่วยทำงานในไร่ด้วยจะได้ไหมจ๊ะ” ลุงเหมือนจ้องมายังหนุ่มร่างผอมบางที่ยืนข้างๆ ดวงตากำลังประเมินเรี่ยวแรงก่อนส่ายหน้าจนคนถูกมองขมวดคิ้ว

   “ไม่ไหวหรอกมั้งนมอิ่ม ตัวผอมกระร่องแบบนั้น ยกกระสอบปุ๋ยไม่ไหวหรอก”

   “ผมทำไหวครับ” อัษฎาหน้าบึ้งนิดๆ เมื่อถูกดูถูก คนเราไม่ควรประเมินความสามารถคนอื่นแค่เพียงมองเห็น
 
   “แน่ใจเรอะพ่อหนุ่ม”

   “ครับ”

   การยืนยันหนักแน่นทำให้คนแก่กว่าพยักหน้าลง อัษฎาหันไปยิ้มให้มารดาก่อนจะเดินตามลุงเหมือนไป มือก็ช่วยถืออุปกรณ์ที่ต้องใช้ในไร่ดอกไม้อย่างจอบ เสียบ พลั่ว ก่อนมาแม่ได้ให้สวมเสื้อแขนยาวกันแดดไว้แล้ว แม้จะไม่ค่อยกลัวแดดอย่างเช่นคนกรุงทั่วไป แต่แดดแรงแบบนี้ต้องกันไว้ก่อน

   เส้นทางลัดเลาะมาไร่ต้องลงเนินเขาเตี้ยๆ ไปอีกหน่อย พอเดินเข้าใกล้ก็รู้สึกถึงกลิ่นของดอกไม้ ดอกดาวเรืองมีกลิ่นฉุน หลายคนมักจะไม่ค่อยชอบ แต่สีสันและชื่อของมันช่างสวยขัดกัน ดวงตากลมเบิกกว้างมองไร่ที่ไกลสุดลูกหูลูกตามีแต่สีเหลืองทองของดอกดาวเรือง จนอดที่จะชื่นชมไม่ได้

   “ทุ่งดอกดาวเรืองสวยจังครับ” อัษฎาพูดออกมา ดวงตายังคงจ้องภาพตรงหน้าอย่างตะลึง

   “ก็กว่าจะได้ขนาดต้องทำงานหนักทุกวัน แต่มันก็คุ้มค่าละนะ” ลุงเหมือนว่า

   “แล้วดอกไม้พวกนี้เราส่งไปขายที่ไหนเหรอครับ” ชายสองวัยเริ่มเดินลงจากเนินเขาเพื่อเข้าไปในไร่

   “ก็มีร้านค้าที่เขามาซื้อเองบ้าง เราเอาไปลงตามร้านบ้าง แต่ตอนนี้คุณใหญ่ติดต่อจากต่างประเทศ เห็นว่าจะส่งออกน่ะ” อีกคนที่ชื่นชมคุณใหญ่อย่างออกนอกหน้าจนคนฟังรู้สึกหมั่นไส้นิดๆ ไม่ได้

   “ดีจังเลยนะครับ ส่งออกนอกด้วย” 

   “ดีมากเลยล่ะ คุณใหญ่ท่านมีแผนการอีกเยอะ ท่านเป็นคนพัฒนาที่นี่ ทุกคนเขาก็รักท่านกันทุกคน” ลุงเหมือนหันมายิ้มให้เด็กรุ่นลูกก่อนจะเดินนำหน้าพาเด็กหนุ่มไปในไร่ดอกไม้ที่ดอกสีเหลืองอ่อนกำลังบานสะพรั่งพร้อมให้เก็บ

   ลุงเหมือนพาเด็กใหม่มาแนะนำกับทุกคน อัษฎายกมือไหว้ผู้สูงวัยทุกคน และพอทุกคนรู้ว่าเป็นลูกชายของนมอิ่มผู้ที่มีไมตรีจิตและโอบอ้อมอารีต่างก็พากันรักและเอ็นดู

   ไร่ดอกดาวเรืองที่ปลูกสุดลูกหูลูกตาสวยงามจนอดที่จะถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ไหว อัษฎาหยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วกดถ่ายรูปสามถึงสี่รูป และรูปสุดท้ายดันติดหน้าใครบางคนที่แทบจะเห็นรูขุมขน ใบหน้าทะมึนตึงอย่างกับยักษ์จ้องหน้ายามที่ลดมือถือลง เด็กหนุ่มเม้มปากผลุบสายตามองเท้าตัวเอง

   “ที่นี่เขามีแต่คนที่ทำงาน อยากจะถ่ายรูปหรือเที่ยวเล่นเชิญไปที่อื่น!” เสียงเข้มตวาดดังลั่นทำเอาคนงานใกล้ๆ ถึงกับสะดุ้ง ไม่บ่อยนักที่จะเห็นคุณใหญ่ของไร่โมโหรุนแรงขนาดนี้

   “ขอโทษครับ” อัษฎาบอกอย่างลุแก่โทษ แต่ก็ใช่ว่าเรื่องจะใหญ่โตราวกับเป็นเรื่องต้องห้ามขนาดนี้ แค่การถ่ายรูปไร่ คุณใหญ่จ้องคนที่ตัวเล็กกว่าด้วยแววตาตำหนิ แม้จะได้ยินคำโทษแล้วก็ตาม ทำไมเขาถึงหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นหน้า แบบนี้ละมั้ง ที่เรียกว่าเหม็นขี้หน้า

   “เออ รู้แล้วก็ออกไป อย่ามายืนเกะกะ คนอื่นเขาจะทำงานกัน” อัษฎาเงยหน้าสบตากับคนที่ออกปากไล่ ดวงตากลมโตจ้องอย่างไม่ค่อยจะพอใจในคำพูดและน้ำเสียงสักเท่าไหร่

   “ผมมาช่วยงานลุงเหมือน ไม่ได้มายืนเกะกะ” ใบหน้าขาวราวกับเคลือบน้ำนมมองอย่างหาเรื่อง ยิ่งจมูกรั้นเข้ากับปากอวบนั่นอีก ยิ่งเห็นยิ่งหงุดหงิด

   “มาช่วยงานแล้วมายืนเฉยๆ ทำไม นู้น ไปยกกระสอบปุ๋ยนู้น รถจอดรอตั้งนานแล้วเห็นไหม” แขนยาวชี้ไปที่รถกระบะขนถุงปุ๋ย อัษฎาอยากเถียงใจแทบขาดว่าเขาเห็นว่าคุณใหญ่เพิ่งขับรถปุ๋ยเข้ามา แบบนี้จะเรียกว่ามานานแล้วได้ยังไงกัน ดวงตาเรียวเลยส่งค้อนขวับก่อนปลีกตัวไปหาลุงเหมือนที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างลงสมุด

   “ให้ผมช่วยอะไรหรือเปล่าครับ” ไม่ใช่คุณใหญ่คนเดียวที่เหม็นขี้หน้า อัษฎาก็รู้สึกเช่นเดียวกัน ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงเลือกจะมาช่วยงานคนอื่นแทน ส่วนถุงปุ๋ยใครขับมาก็ให้ยกเอง

   “อ๋อ งานของลุงไม่มีอะไรหรอก แค่จดรายละเอียดนิดๆ หน่อย” ลุงเหมือนพูดพร้อมรอยยิ้ม “จะมีก็แค่ยกปุ๋ยลง พ่อหนุ่มช่วยหน่อยได้หรือเปล่า”

   “อ่าครับ”

   อัษฎาเดินตามลุงเหมือนมาที่รถกระบะคันเก่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อุตส่าห์จะหลบหน้าได้อยู่แล้วเชียว ยังต้องกลับมาเจอกันอีก คุณใหญ่ของไร่กำลังลากถุงปุ๋ยลงจากรถลงมาที่พื้น พอเห็นว่าหัวหน้าคนงานเก่าแก่ของที่นี่เดินมาก็ยิ้มให้นิดๆ ก่อนจะปั้นหน้ายักษ์ตามเดิมเมื่อเห็นคนเดินตามหลัง

   “ลูกนมอิ่มเขาขอมาทำงานครับคุณใหญ่” ลุงเหมือนรายงาน “ยกไหวไหมล่ะพ่อหนุ่ม”

   “น่าจะไหวครับ” อัษฎาไม่มองหน้าเจ้าของไร่ เด็กหนุ่มพยายามทำเมินมองคนตัวใหญ่หน้าโหดเป็นธาตุอากาศ

   “ใช้คำว่าน่าจะ คงไม่ไหวหรอก ผอมกระร่องแบบนี้” คล้ายคำดูถูกจะกระตุ้นความอยากเอาชนะ อัษฎาเดินเข้าไปคว้ากระสอบถุงปุ๋ยบนพื้นก่อนยกขึ้นพาดไหล่ แม้แรกเริ่มตัวผอมๆ จะเซไปหน่อยเพราะความหนัก แต่พอตั้งหลักได้เขาก็เดินได้สบายๆ

   “ท่าจะไหวอยู่นะครับ” ได้ยินเสียงลุงเหมือนแว่วๆ แต่นาทีนี้ คนที่กำลังยกกระสอบปุ๋ยคงสนใจอะไรไม่ได้ นอกจากหาที่วาง เพราะมันหนักเหลือเกินไปจะหันไปต่อล้อต่อเถียงเช่นทุกครั้ง

   กองถุงปุ๋ยที่วางเรียงเป็นชั้นๆ ในโรงเก็บ อัษฎารีบเร่งฝีเท้าแล้วโยนลงพื้น แม้จะเดินไม่ไกลแต่ความหนักของปุ๋ยก็ทำให้เหมือนเดินมาหลายสิบกิโล

   “วางตรงนั้นได้ยังไง เอาวางเรียงกันสิ เห็นไหม” มาอีกแล้วเสียงสั่งแบบนี้ เจ้าของไร่ตวาดเสียงดังชี้

   “เดี๋ยวสิ คนมันเหนื่อยไม่เห็นเหรอ” คนยืนหอบตวาดกลับอย่างเหลืออด ไม่สนแล้วว่าจะใหญ่มาจากไหน
 
   “นี่กล้าตวาดฉันเหรอ” คุณใหญ่ที่ใครๆ เรียกสาวเท้าเข้ามายืนตรงหน้า อัษฎารีบยืดตัวยืนตรง แม้จะสูงไม่เท่าแต่ก็ไม่มีทางยอมอีกแน่ พอยืนประชันหน้ากันตรงๆ สายตาคมสบกับดวงตากลมโต จ้องกันอยู่แบบนั้นอยู่ครู่ใหญ่ก่อนเจ้าของไร่ตัวโตจะหลบตาแล้วยกถุงปุ๋ยขึ้นวางเรียงเอง

   “นึกว่าจะแน่” เสียงพึมพำของเด็กหนุ่มทำให้คนขี้โมโหหันขวับมามองอย่างเอาเรื่อง

   “นายว่าอะไรนะ” เพราะความขี้โมโหเป็นทุนเดิม ยิ่งได้ยินเสียงพูดข้างๆ หูยิ่งเพิ่มความขุ่นของอารมณ์ มือใหญ่คว้าคอเสื้อเด็กตรงหน้าแล้วดึงขึ้น “เมื่อกี้ว่าอะไรลองพูดอีกทีสิวะ”

   “คุณใหญ่ครับ” ลุงเหมือนกับคนงานคนอื่นๆ รีบถลาเข้ามาหลังจากได้ยินเสียงเอะอะ พอเดินมาใกล้เห็นเหตุการณ์ก็ยิ่งรีบวิ่งเข้ามาห้าม ดูเหมือนว่า คนตัวเล็กกว่าจะตายได้หากมีเรื่องกันจริงๆ

   “ฝากไว้ก่อนเถอะ” พอถูกห้าม ก็รีบผลักคนปากดีไปด้านหลัง ก่อนเดินหนีไป ระหว่างทางก็พยายามคิดหาเหตุผลว่าอะไรทำให้เขาขาดสติแทบจะต่อยไอ้เด็กนั่น

   แต่ที่แน่ๆ เพราะความปากดีและความอวดดีของมันทำให้เขาไม่ชอบขี้หน้า

   ด้านอัษฎาที่กำลังถูกคนงานคนอื่นๆ สำรวจความเสียหายของร่างกาย แต่เด็กหนุ่มส่ายหน้าบอกไม่เป็นอะไรเพราะคุณใหญ่ของพวกเขาแค่คว้าคอเสื้อไว้เฉยๆ

   “วันแรกก็ถูกคุณใหญ่เขม่นซะแล้ว อยู่ยากแล้วพ่อหนุ่มเอ้ย” ลุงเหมือนส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ พลางนึกถึงช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่มา ไม่เคยมีใครถูกคุณใหญ่เขม่นไม่ชอบขี้หน้าแบบนี้สักคน ขนาดคนงานที่เคยขโมยของยังโดนแค่ด่าแล้วไล่ออก

   “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ คุณใหญ่ของลุงเขาคงไม่ชอบขี้หน้าผม” อัษฎาเบ้ปากเมื่อภาพใบหน้าโกรธจัดนั่นแวบออกมา “ผมก็ไม่ชอบขี้หน้าเขาเหมือนกันนั่นแหละ”

   คนแก่กว่าถอนหายใจอย่างอ่อนใจ คนหนึ่งก็แรง อีกคนก็ไม่ยอม ขิงก็ราข่าก็แรงคงเปรียบแบบนั้นได้ พอเรื่องทุกอย่างยุติ อัษฎาก็เดินตามหัวหน้าคนงานเพื่อหางานที่คาดว่าจะเหมาะ ขืนให้มาเจอหน้าคุณใหญ่ข้างๆ เขาคงเห็นจะไม่เหมาะ เดี๋ยวมีเรื่องต่อยตีกันเข้าสักวัน

   ลุงเหมือนพาอัษฎาเดินลัดเลาะมาตามร่อง จนมาโผล่ที่ด้านข้างที่มีโกดัง ด้านในมีผู้หญิงจำนวนหนึ่งกำลังคัดดอกไม้ตามขนาดและออเดอร์ที่สั่งเข้ามา

   “ทำกับแม่พวกนี้แล้วกันนะ ไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย” ลุงเหมือนว่า คนงานสาวๆ พอเห็นคนแปลกหน้าแถมยังเป็นหนุ่มหน้าตาดีเข้ามาก็พากันร้องวี๊ดว๊าย บางรายถึงกับออกมาคล้องแขนจนเด็กหนุ่มยิ้มแห้งๆ “อย่าเกาะแกะเขาให้มาก เป็นสาวเป็นนางนะ”

   “แหมลุง นานที เนอะ” คนที่ลุกมาเกาะแขนหันไปค้อนหัวหน้าคนงานนิดๆ ก่อนหันไปขอความคิดเห็นจากสาวๆ คนอื่นก็ได้เสียงหัวเราะพร้อมพยักหน้าตอบ

   “เออๆ ดูแลเขาด้วยล่ะ สอนงานดีๆ ล่ะ”

   “ได้ค่า ลุงเหมือนไม่ต้องเป็นห่วง”

   อัษฎามองตามลุงเหมือนที่ส่ายหัวอย่างระอาให้กับแม่พวกสาวๆ กลุ่มนี้ ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานตรงหน้า ดอกดาวเรืองสีเหลืองถูกวางกองโต

   “ดอกไม้พวกนี้เอามาคัดกับพื้น ดอกมันไม่ช้ำเหรอครับ” ถามออกไปด้วยความสงสัย สาวเจ้าที่นั่งติดหันมายิ้มพร้อมส่ายหน้าช้าๆ

   “ดอกพวกนี้ไม่ได้ส่งร้านใหญ่ๆ หรอกค่ะ ส่งแถวๆ ตลาดเอง เพราะราคาไม่แพง”

   “แต่ดอกไม้พวกนี้ก็ยังสวยสดอยู่ แม้ราคาจะไม่มากเท่าที่คัดอยู่อีกที่หนึ่ง” ผู้หญิงวัยกลางคนพูดพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร

   “มีอีกที่ด้วยเหรอครับ”

   “ใช่จ้า อีกที่เป็นห้องเย็นน่ะ คัดส่งออกนอกไม่ก็ออร์เดอร์ร้านใหญ่ๆ”

   จากการพูดคุยแบบเกร็งในช่วงแรกๆ เริ่มสนุกสนานมากขึ้น สร้างบรรยากาศน่าอยู่ น่าร่วมงานกว่าที่เคยผ่านมา อัษฎามองย้อนกลับไปถึงงานเก่าที่ลาออกมา แม้จะได้เงินเยอะ แต่หาความสุขแบบนี้ยากนัก น้อยครั้งถึงจะได้หัวเราะ ส่วนมากจะเป็นคิ้วขมวดแทนเพราะต้องคิดงานบ้าง แก้งานบ้างตามที่คนจ้างต้องการ

   “พูดถึงคุณเล็กฉันละสงสารแกจริงๆ” เสียงพูดคุยถึงน้องชายของเจ้าของไร่เรียกให้อัษฎาหันมาฟังอีกครั้ง

   “ทำไมเหรอนังแก้ว แกไปได้ยินอะไรมาอีก” ผู้หญิงสูงวัยที่สาวๆ เรียกป้าจันนั่งตรงข้ามอัษฎาเอ่ยถามอย่างอยากรู้

   “ก็ฉันเดินผ่านตอนคุณนายคุยกับนมอิ่มน่ะสิ” นังแก้วหรือพี่แก้วมองซ้ายมองขวาก่อนจะยื่นหน้าไปกลางวงจนทุกคนต้องยื่นหน้าเข้าตาม รวมทั้งอัษฎาด้วย “คุณนายว่า เมียคุณเล็กโทรมาขอลูกไปเลี้ยงเอง”

   “จริงเหรอวะ”

   “จริงสิพี่น้อม”

   “แบบนั้นก็สงสารจริงๆ นั่นแหละ”

   “เอ่อ...ภรรยาคุณเล็กเธอหนีไปเหรอครับ” แม้จะพอรู้มาจากลูกเจี๊ยบบ้าง แต่ก็ยังไม่ครบถ้วน

   “ใช่จ้ะ หนีความลำบาก” พี่แก้วที่อัษฎาเรียกบอก “ก็ใครล่ะจะมาทนลำบากลำบนแบกหามได้จริงไหม คนกรุงเขาทำไม่ไหวหรอก”

   “สมัยก่อนตอนไร่นี้ยังไม่ใหญ่เท่านี้น่ะนะ พวกคุณๆ ต้องทำทุกอย่างเอง ขนาดเมียคุณใหญ่ยังต้องตัดดอกดาวเรืองเป็นวันๆ แทบไม่ได้พักเลยนะ” ป้าน้อมดูน่าจะอยู่มานานเล่าเรื่องเก่าๆ “แต่เพราะแกมีโรคประจำตัวทำให้ต้องตายไปตั้งแต่ยังสาว”

   “จากตายยังดีกว่าจากเป็นนะพี่น้อม”
 
   แล้วคำบอกเล่าเกี่ยวกับชีวิตของลูกชายเจ้าของไร่ก็ถูกเล่าเป็นฉากๆ อัษฎาที่ฟังบ้างเหม่อบ้าง ไม่ค่อยอยากจะรู้มากมายเท่าไหร่ เพราะปัญหาตัวเองก็มากพออยู่แล้ว ขืนเอาเรื่องคนอื่นมาคิดอีกคงระเบิดพอดี

   กว่าจะคัดแยกดอกไม้กองโตเสร็จก็กินเวลานานจวบเที่ยง แม้สาวๆ จะชวนทานข้าวด้วยแต่อัษฎาก็เลือกจะปฏิเสธ นั่นเพราะไม่อยากรบกวน อีกทั้งทุกคนต้องทำงานหนัก ขืนเขาไปแย่งมีหวังกินไม่อิ่มพอดี เด็กหนุ่มเดินแยกไปเพื่อจะกลับบ้านพัก ระหว่างทางดันเจอกันคนที่ไม่อยากพบซะได้ แต่จะหลบก็ทำไม่ได้อีก

   “มาผมช่วย” อัษฎาเดินไปช่วยคุณใหญ่ถือตะกร้าใส่ดอกไม้ที่ตัดจากต้น ท่าทางทุลักทุเลของเจ้าของไร่ทำให้เดินหนีไปไม่ได้

   “ไม่ไปกินข้าวหรือไง” ใหญ่เหล่ตามองลูกชายของนมอิ่ม แม้จะไม่ชอบใจนักแต่การที่มีคนมาช่วยถือก็ดีกว่าเขากระเตงไปเอง ตอนแรกก็คิดจะรอหลังพักเที่ยง แต่วันนี้แดดแรงนัก ขืนช้าดอกพวกนี้อาจจะเฉาทำให้เสียราคาได้

   “เดี๋ยวค่อยไปก็ได้” แม้จะไม่ชอบน้ำเสียงที่ถูกถาม แต่อัษฎาก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “คุณใหญ่ล่ะ ไม่ไปกินข้าวเหรอครับ”

   “ถ้าฉันไปจะเห็นฉันไหมเล่า ไม่น่าถาม” คำตอบทำเอาความอดทนอดกลั้นของอัษฎาแทบหมดลง แต่เพราะคนข้างๆ คือเจ้าของไร่ อีกทั้งยังเป็นเจ้านายของแม่ ขืนทำอะไรลงไปมีหวังแม่ของเขาจะถูกไล่ออก

   “ผมตาบอดเอง ขอโทษ” ตอบกลับกึ่งประชดจนมีเสียงจิ๊จ๊ะขึ้นคอจากคนฟัง “ผมทำอะไรให้คุณใหญ่ไม่พอใจหรือเปล่า ทำไมจ้องแต่จะหาเรื่องผมอยู่เรื่อย” เมื่อทนไม่ได้ก็ต้องถามให้รู้ดำรู้แดงกันไป คนถูกถามชะงักมือที่กำลังจะตัดก้านดอก ดวงตาคมดุตวัดมามองนิ่ง

   “ก็ไม่ได้ทำอะไร”

   “ไม่ได้ทำแล้วโมโหใส่ผมทำไม”

   “ไม่รู้โว้ย”

   “เอ๊ะ คุณใหญ่....”

   อัษฎากำลังจะโวยวายหากมีเสียงคนอื่นนอกจากเขาและคุณใหญ่ดังเล็ดลอดมาอีกทางทำให้ต้องเงียบลง ใหญ่วางกรรไกรไว้ในตะกร้าก่อนสาวเท้าไปทางเสียงที่ได้ยินโดยมีคนเดินตามมาด้วย

   ภาพที่เห็นคือน้องชายของตัวเองกำลังโทรศัพท์คุยกับใครสักคน หากให้เดาคงจะเป็นภรรยาที่หอบเสื้อผ้าหนีไปจนทำให้น้องชายของเขาเป็นบ้าไปพักใหญ่

   “ไม่นะแคท ผมไม่ให้ลูกกับคุณ คุณหนีผมไปแล้วยังจะมาเอาลูกผมไปอีกเหรอ ผมไม่ยอมแน่” เสียงโวยวายดังลั่น แม้ตอนนี้จะพักเที่ยง แต่หากมีคนงานผ่านมาได้ยินก็อาจจะเก็บไปนินทาได้ คนเป็นพี่ชายเดินคิ้วขมวดเข้าไปหาน้องชายทันทีจนคนที่คุยโทรศัพท์สะดุ้งโหยง “พี่ใหญ่”

   “จะคุยเรื่องพวกนี้ทำไมไม่ไปหาที่อื่นคุย หากพวกคนงานมาได้ยินจะทำยังไง” พูดกึ่งตวาดใส่น้องชายเพียงคนเดียว ที่ต้องตวาดนั่นเพราะเรื่องแบบนี้มันจะดูไม่ดีและอาจถูกนำไปพูดต่อจนเสียหาย

   “ผมขอโทษ พอดีทำงานค้างไว้” เล็ก หรือคุณเล็กที่คนงานในไร่เรียกเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตารีมีรอยแดงนิดๆ คงกลั้นน้ำตาเอาไว้เมื่อตอนคุยโทรศัพท์ “อ่าว นายก็มาด้วยเหรอ” คนอ้ำอึ้งรู้สึกได้ว่ามีคนกำลังจ้องนอกจากพี่ชาย พอหันไปมองก็สบตากับลูกชายคนสนิทของแม่พอดี

   “อ่าครับ ผมมาช่วยงานในไร่” อัษฎายิ้มนิดๆ ก่อนจะหุบหน้าลงเมื่อถูกสายตาดุตวัดมอง “ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเล็ก ขืนไปทานข้าวช้าแล้วกลับมาเข้างานสายจะถูกคนแถวนี้ว่าให้อีก” พูดจบก็รีบเดินหนีทันที ขืนอยู่มีหวังหูชาเป็นแน่ ขนาดรีบเดินยังได้ยินเสียงสบถด่าเขาอยู่เลย




 
   “พี่ใหญ่เข้มงวดเกินไป ยังไงเขาก็มาใหม่” เล็กพูดขึ้นหลังจากอัษฎาเดินไปจนลับสายตา

   “มาใหม่แล้วไง จะอยู่ก็ต้องช่วยกันทำงาน จะมาอยู่ฟรีให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำทำไม” ใหญ่พูดเสียงเรียบ เขาไม่ชอบคนที่ไม่ทำงาน ถ้าไม่ขยันก็อยู่ด้วยกันลำบาก

   “พี่ดูผิดปกติไปนะครับเนี่ย” คนเป็นน้องลอบมองพี่ชายที่เอาแต่มองเส้นทางที่คนมาใหม่เพิ่งเดินไป ความเครียดที่สะสมมาเมื่อกี้หายไปเมื่อเริ่มรู้สึกสนุกกับสิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวพี่ชาย

   “อะไรของแกวะ” พอถูกทักว่าผิดปกติ ใหญ่ก็รีบหันมามองน้องชายพร้อมขมวดคิ้ว

   “ก็ดูสนใจอัษฎามากกว่าคนอื่น” ดวงตาพราวระยับอย่างขบขันเมื่อเห็นท่าทางลุกลี้ลุกลนของพี่ชาย 

   “แกเอาอะไรมาพูด ฉันไปสนใจมันตอนไหน”

   “อ่าวเหรอ ผมคงคิดมากไปเอง งั้นพี่ก็ถือว่าผมไม่ได้พูดแล้วกันนะ” รอยยิ้มล้อเลียนทำให้ใหญ่ยกขาจะเตะน้องชาย ปากก็เอ่ยไล่อย่างรำคาญ

   “ไปไกลๆ เลยไป”

   ใหญ่มองน้องชายที่เดินหัวเราะผ่านหน้าไปอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้สนใจเด็กนั่นมากกว่าคนอื่นสักนิด เด็กนั่นก็เหมือนลูกคนงานคนอื่นๆ แต่ที่ต้องบ่นต้องดุก็เพราะเพิ่งมาใหม่ ความขยันที่เห็นวันนี้จะเห็นได้อีกกี่วันเชียว ไม่แน่ อีกอาทิตย์สองอาทิตย์อาจจะนอนตากแอร์อยู่ในห้องเฉยๆ ก็เป็นได้ หากเป็นแบบนั้น เขาจะไล่มันกลับไปที่เดิมคอยดู


   แล้วทำไมต้องสนใจมันด้วยวะ


..................................

เรื่องนี้ไม่ได้อัพนานมว๊ากกกกก แต่ไม่ได้เทนะคะ ตอนนี้กลับมาแล้ว ฟื้นคืนชีพหลังจากไปกอบกู้งานและอิสระภาพของตัวเอง

ฝากคุณใหญ่ไว้ในอ้อมกอด และอัษฎาไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-01-2017 21:33:02 โดย aiaea83 »

ออฟไลน์ TachibanaRain

  • มาโกโตะเทนชิ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-3
เอิ่มม สเตรปซิลสักแผงไหมคะคุณใหญ่เห็นขยันตวาดทุกฉากเลยเจ็บคอแทน อ่านๆไปบางทีก็สงสัยว่าคุณใหญ่แกเคยใช้เสียงโมโนโทนบ้างรึเปล่านะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด