Love pill - เรื่องของพวกน้อง ๆ – เรื่องเข้าใจผิดกัน (25/5/2019) จบก่อนนะจ๊ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love pill - เรื่องของพวกน้อง ๆ – เรื่องเข้าใจผิดกัน (25/5/2019) จบก่อนนะจ๊ะ  (อ่าน 6857 ครั้ง)

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

************************************************************


:mc4:  หวัดดีค่ะ เรื่องใหม่ ไหม? ไม่ใช่อ่ะ เคยลงแล้วถูกลบไป เพราะขาดการอัพตอนใหม่นานไปหน่อย
ยังไงสำหรับหลายคน นี่ก็คงเป็นเรื่องใหม่ให้ได้ช่วยติดตามเป็นกำลังใจกันนะคะ
ขอบคุณคะ   :pig4:


ชอบอกชอบใจ ก็ฝากแวะไปดูเรื่องอื่น ๆ ด้วยนะคะ
แผนลวง บ่วงรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40340.0

ใครคนนั้น ที่เกิดมาเพื่อเป็นของฉัน
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44491.0




***************************************


Love pill





เสียงฝีเท้าที่วิ่งผ่านระเบียงภายในโรงพยาบาลXXXX ทำให้บรรดาคนไข้ ญาติผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล หันมามองกันเป็นแถว
“อย่าวิ่งในโรงพยาบาลซิค่ะ” พยาบาลรุ่นป้า ตะโกนเตือนเจ้าของฝีเท้า แต่ก็หาได้ลดความเร็วลงไม่

“ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมรีบ สายแล้ว ๆ”

ปัญญา หรือ เป้ วิ่งไม่คิดชีวิต เพราะเขานัดฝ่ายจัดซื้อของทางโรงพยาบาลไว้ แต่เขาดันตื่นสาย เนี๊ยะก็เลยมากว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว คุณเบญจมาส ฝ่ายจัดซื้อก็เฮี้ยบซะ ป่านนี้ถ้าไม่โกรธอยู่ก็คงไม่รอเขาแล้วมั้ง แต่ยังไงก็ต้องไปดูก่อน อ่า ถึงแล้ว หยุดหอบหายใจเข้าปอดเรียกพลังเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเลื่อนบานประตูฝ่ายจัดซื้อ

“ขอโทษที่มาสายครับคุณเบญจมาส”
ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็ต้องชะงัก อ่ะ ไอ้หมอนี่มันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงว่ะ

“ไม่ต้องรีบก็ได้จ๊ะ คุณปัญญา” คุณเบญจมาส หันมามองด้วยสีหน้าระอา
“เอ่อ ...ครับ” เดินตัวลีบ ๆ เข้ามายืนข้าง ๆ แต่หันไปมองหน้าไอ้คนที่นั่งอยู่ต่อหน้าคุณเบญจมาส ด้วยสายตาพิฆาต

“ใช่ครับพี่เป้ ไม่ต้องรีบแล้วครับ คุณเบญจมาส เพิ่งเซ็นต์รับยาของบริษัทผมแล้วครับ” ไอ้หมอนั่นไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน ซ้ำยังส่งยิ้มการค้ามากวนตีนอีก

ไอ้เชี่ย ตอนนี้มีแต่คำนี้เด้งขึ้นมาในหัว ในขณะที่ผมมองหนังสือสัญญาในมือคุณเบญจมาสอย่างเซ็ง ๆ










“ไอ้คิด มึงแย่งลูกค้ากูอีกแล้วนะ” พอพ้นออกมาจากห้องได้ ผมก็สาดคำหยาบใส่ไอ้แมวขโมยทันที
“แย่ง? ไม่นะครับ เค้ายังไม่เซ็นต์สัญญากับพี่เป้เลย จะหาว่าผมแย่งพี่ได้ยังไง” แล้วดูมันตอบเซ่ กลัวที่ใหน

สวัสดีครับ แนะนำตัวนิ๊ดนึง ผมชื่อ ปัญญา ลีละวิทย์ครับ อายุ 28 ปี ครับ อะไรนะ ถามว่าหน้าตาผมเป็นยังไงงั้นเหรอ?.... ก็เห็นมีแต่คนบอกว่า หน้าตาดี (ไม่ได้หลงตัวเองนะครับ) ฮะ ๆ ๆ จริง ๆ ก็ เพราะมีเชี้อจีน เลยขาว ๆ หน้าตาก็ตี๋ ๆ ตาชั้นเดียวดีว่าไม่ตี่เท่านั้นเอง แต่เรียกผมว่าเป้ ดีกว่าครับ ง่ายดี ผมทำงานเป็นเซลขายเวชภัณฑ์ตามโรงพยาบาล และคลินิกทั่ว ๆ ไป ของบริษัทSSSSS 

ส่วนไอ้คนที่มันเดินตามมากวนประสาทผมต่อที่ทางเดินระเบียงโรงพยาบาลเนี๊ยะ ชื่อ ไอ้คิด ครับ ผมไม่รู้ขื่อจริงมันหรอก มันก็เป็นเซลบริษัท JJJJJJJJ คู่แข่งกันกับบริษัทผม อ้อ อย่าพึ่งคิดว่าผมรูปร่างแบบบาง อ้อนแอ้น น่าทะนุถนอมนะครับ ไม่ใช่เลย ผมกับไอ้คิด ก็รูปร่างพอ ๆ กันนั่นแหล่ะ ผมว่าขาวแล้ว ส่วนไอ้บ้านี่มันก็ขาวกว่าอีก มันเป็นเด็กทางเหนืออะเจ้า


แล้วก็ไม่ได้รู้จักมักจี่อะไรกับมันมากนักหนา แค่ต้องทนเจอหน้ามันมาตลอด 2 ปีนี้ มันอายุอ่อนกว่าผม 3 ปี ที่เจอกันบ่อย เพราะเราส่งของ อยู่ในแถบจังหวัดเดียวกัน ขนาดย้ายไปอีกจังหวัด แม่งยังเสือกเจอมันอีก เวรจริง ๆ

“โห้ย ไม่เอาหน่าพี่เป้ อย่าเครียดดิ เดี๊ยวแก่ไว ไปกินข้าวเที่ยงกันไป ผมเลี้ยงเอง” ไอ้คนไม่รู้สึกรู้สา ว่ากูเหม็นขี้หน้ามึง ยังจะตามมาตอแย แถมตีซี้เอาแขนมาพาดบ่ากูอีก รำคาญเลยปัดออก

“ไม่ต้องมาตบหัวแล้วลูบหลังนะ ไม่ใช่เพื่อนเล่นโว้ย ขอบอก กูยังมีนัดที่อื่นอีก เฮ้ย กูต้องไปแล้ว เดี๋ยวสายอีก” รีบเดิน ๆ ออกไปที่ที่จอดรถ เพราะว่ามันจะหมดพักเที่ยงแล้ว กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หมาคาบไปแดกอีก

“วันนี้ พี่พักที่นี่ใช่มั๊ย” ได้ยินเสียงมันตะโกนไล่หลังมา
“ใช่ ที่เดิมนั่นแหล่ะ ต้องโทรไปจองล่วงหน้าว่ะ หน้านี้มีแขกพักเยอะด้วย” มาถึงรถพอดี เอากระเป๋าโยน ๆ ไว้แค็ปหลัง

“งั้นก็ขับรถดี ๆ นะครับ โชคดีนะครับ ไว้เจอกันที่โรงแรมนะพี่เป้”ไอ้คิด มันยังตะโกนโบกไม้โบกมือ ขอให้ป้าพยาบาลออกมาด่ามึง เสียงดัง เชี่ย นี่มันในโรงพยาบาลนะเฟ้ย

“เฮ๊ย กูคงโชคดีแน่ถ้าไม่ใช่เพราะมึงชอบมาจุ้นอยู่เรื่อย” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ได้แต่พูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะหมุนพวงมาลัย พารถออกไปสู่ท้องถนน












กว่าจะส่งของเสร็จก็ดึกพอสมควร ผมเหนื่อยมากเลย อยากอาบน้ำเต็มที่แล้ว เลี้ยวรถเข้าที่จอดรถใต้ตึกโรงแรมที่มาพักประจำเมื่อมาส่งยาที่แถวนี้ พรุ่งนี้ร้านค้าหยุดงานประจำปี เลยต้องค้าง 2 คืนรอวันถัดไปถึงจะไปส่งของได้ แต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็เบิกค่าที่พักกับบริษัทอยู่แล้ว บิดตัวคลายความเมื่อยล้า เอี้ยวตัวหยิบกระเป๋าเสื้อผ้า ลงจากรถ แล้วเดินตรงไปที่บันไดทางเข้าไปที่ล๊อบบี้ หน้านี้คนมาเที่ยวเยอะครับ ดีว่าผมโทรมาจองก่อน ไม่มีปัญหาครับ ทันทีที่ถึงล๊อบบี้ ก็เห็นไอ้คิดยืนหน้าตึง ๆ อยู่ตรงหน้าน้องส้มรีเซฟชั่นคนสวยที่มีสีหน้าลำบากใจสุดฤทธิ์


“โหย พี่เป้ ขา มาซะที โทรไปก็ไม่ติดโทรศัพท์ยังอยู่ดีมั๊ยเนี๊ยะ” ทันทีที่เห็นหน้าผม น้องส้มแทบจะถลาเข้ามากอด เฮ้ย เห็นงี้กูก็เลือกนะเว้ย (พี่นะพูดเล่น แต่ถ้าน้องจะเล่น พี่ก็เอาคร๊าบบบบ)

“ห๊า...อ่อ แบ็ตหมดน่ะ มีไรเหรอ ส้ม” ก้มลงล้วงมือถือขึ้นมาดู จึงรู้ว่าหน้าจอมืดสนิท แบ็ตหมดไปแล้ว พอหันไปถามน้องส้ม ก็พบว่าน้องยกมือไหว้ท่วมหัว

“พี่เป้ ส้มขอโทษจริง ๆ นะค่ะ น้องที่เข้ามาทำงานใหม่มันสับสนอ่ะคะ หนูลงชื่อจองห้องให้พี่แล้ว แต่พอพี่คิด โทรมาจอง บอกว่าเป็นเซลขายยา น้องมันเลยนึกว่าเป็นคนเดียวกันกับที่ส้มจองไว้ค่ะ”ส้มพยายามอธิบาย ในขณะที่ไอ้คิดก็เริ่มหน้าบูด คาดว่ามันคงมารอนานแล้ว   

“เอ่อ ๆ ไม่เป็นไร แล้วไง..........................ห๊ะ ว่าไงนะ” เหนื่อยก็เหนื่อย อยากพักจะตาย ส้มมันจะพยายามอธิบายอะไรมากว้า เอ๊ะ ว่าแต่มันว่าอะไรนะ หันขวับเหมือนกับจะพึ่งจับประเด็นได้

“ส้มจะบอกว่า ตอนนี้ไม่มีห้องเหลือแล้ว เต็มจนแทบล้นเลยค่ะ พี่เป้ๆ ถือว่าช่วยหนูนะ พี่ให้พี่คิดพักด้วยนะ เดี๋ยวหนูลดค่าห้องให้อีก 30% เลย นะพี่นะ ฮือๆๆ ไม่งั้นพี่คิดกินหัวหนูแน่ ๆ เลย” น้องส้มยกมือไหว้ขอร้อง น้ำตาซึม ก่อนจะถลามาเกาะแขนทำสายตาวิงวอน อย่างน่าสงสาร เฮ้อ ถึงจะไม่อยากจะแบ่งห้องให้ใคร แต่พี่มันก็แพ้น้ำตาคนสวยซะด้วย เลยเผลอตกปากไปไม่ทันคิด เห็นน้องส้มยิ้มแก้มแทบปริ ปากบอกขอบคุณ ๆๆ ไม่ขาด แต่ว่า...ไอ้คิด มึงจะยิ้มปากฉีกตามน้องส้มทำไมว่ะ.............


ภายในห้องสี่เหลี่ยม ที่เปิดแอร์ได้ซักพักก็ทำให้อากาศเย็นฉ่ำไปทั่วห้อง มีเตียงใหญ่คิงไซส์ ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่างบานใหญ่ ไอ้คิดเดินเข้าไปวางกระเป๋าข้างเตียงฝั่งประตูห้อง ผมเลยเดินไปนั่งเก้าอี้ริมหน้าต่างด้วยหน้าตาที่บูดสุด ๆ

แทนไอ้คิดจากที่เห็นมันหน้าตึง ๆ เมื่อกี้ ตอนนี้ทำหน้าระรื่นเชียว แมร่งเป็นบ้าอะไรของมันว่ะ นั่น ผิวปากอารมณ์ดี กดเปิดทีวี แล้วหยิบรีโมท มากดๆๆ ดูช่องรายการต่างๆ เห็นแล้วหงุดหงิดโว้ย

“คืนนี้เค้ามีงานเทศกาลงานประจำปีที่วัดนี่นา ไปกันมั๊ยพี่”หันมาถามหน้าตา สบายอารมณ์ มึงดูหน้ากูดิ๊ ว่ากูอยู่ในอารมณ์ใหน ไอ้เวร

“.......”

“อาราย เงียบ...ไม่เอาหน่า หน้าตาก็ดี ทำหน้าหงิกๆ เดี๊ยวก็แก่เร็วหรอก” ไอ้คนไม่รู้สำนึก ยังตามมาก่อกวนไม่เลิก เดินมานั่งบนเตียง ทำหน้าล้อเลียน

“เรื่องของกู” เซ็งหน้ามันเลยหันไปมองนอกหน้าต่างแทน

“เฮ๊ย พี่จะคิดอะไรมากว๊า คิดยังไงๆ ก็มีแต่ได้กำไร ค่าห้องเบิกมาเต็ม ๆ จ่ายแค่ 70% เอง แถมหารกันคนละครึ่งอีก คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับผม” ตกใจหมด อยู่ ๆ ไอ้คิดมันก็เด้งตัวขึ้นมา เอากำปั้นทุบมือดัง โป๊ะ

“ช่างหัวกูเหอะ” เออ ก็ไม่เถียงล่ะว่ามันคุ้ม แต่แล้วไงว่ะ ก็กูอยากนอนคนเดียวนี่หว่า

“งั้นเดี๋ยวผมเลี้ยงมื้อค่ำ ตอบแทนที่ให้พักด้วยล่ะกัน อิ่มแล้วก็ไปเดิน ๆ ดูน้องหนูแถว ๆ นี้กันมั๊ยพี่” ไอ้ความหน้าด้าน หน้าทนนี่ต้องยกให้มึงเลยไอ้คิด ขนาดกูไม่พูดไม่สนใจ แมร่งก็ยัง ตามรังควาญไม่เลิก เฮ้ยแต่ไอ้ประโยคสุดท้ายน่าสนใจวะ แต่ว่า

“ดูให้ได้ไรว่ะ พักอยุ่ด้วยกัน จะหิ้วขึ้นห้องก็ไม่สะดวก” ใช่ หิ้วขึ้นมาแล้วมีมึงอยู่ในห้องด้วยนี่นะ กูคงทำได้หรอก

“อารายกัน ต่างคนก็ต่างทำซิครับ พี่จะกลัวอะไร อาย หรือกลัวของไม่ขึ้นเหรอครับ ผมมียาดีนะ”ไอ้นี่ มึงจะยื่นหน้ายื่นตาเข้ามาทำไม

“ห่า ของมึงซิไม่ขึ้น” แล้วเสือกมาดูถูก น้องชายกูอีก ไม่อยากคุย ของกูนะ โด่ดีทุกเช้าเว้ย

ด่าไปก็เท่านั้น แมร่งหาได้สลดไม่ มันกลับหัวเราะร่วน เดินอาด ๆ ไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำดื่มมาปิดดื่มจากขวด ไปซะครึ่งขวด ก่อนหันมามองผม เชิงถามว่าผมจะอาบน้ำก่อนมั๊ย ตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์อยากอาบน้ำเว๊ย มันเลยเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไป

(ห่านี่ อารมณ์ดีนะมึง ถ้าต้องใช้ยาล่ะก็ ของบริษัทกูก็มี แถมยังคุณภาพดีกว่าอีกโว๊ย) ชั่ววูบหนึ่งความคิดเลว ๆ ก็แว๊บเข้ามา................ มึงเสร็จกูแน่ ไอ้คิด ว่าแล้วก็คว้ากระเป๋ายาตัวอย่างมาเปิดค้นหา แล้วหยิบยาขึ้นมา 1 ซอง จัดแจงฉีกซอง เทใส่ขวดน้ำที่ไอ้คิด มันกินเหลือครึ่งขวด ไม่ต้องเขย่า ยาก็ละลายหายไปในพริบตา น้ำยังดูใส ไร้ตะกอน (ก๊ากๆๆ คอยดูนะมึง ได้ดิ้นทุรนทุรายแน่)



อาบน้ำนานแมร่ง มึงจะขัดให้ใสไปถึงใหนว่ะไอ้คิด ง่วงชิบหายเลย ว่าแล้วก็เอนหลังกะว่าแค่นอนเล่น ๆ แต่ตัดหลับไปตอนใหนก็ไม่รู้
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2019 23:00:50 โดย limpingping »

ออฟไลน์ done_dirt_cheap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: Love pill (จบในตอน) (24/7/2016)
«ตอบ #1 เมื่อ27-07-2016 21:55:27 »

 :hao6:
อรั้ยๆๆ คิดแกล้งเขา
เด่วกรรมตามทันแน่ 555
ติดตามๆคร่า
 :katai2-1:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: Love pill (จบในตอน) (24/7/2016)
«ตอบ #2 เมื่อ28-07-2016 22:13:55 »

5555 มาเม้น เหมือนนั่งในใจคนเขียนเลย   :กอด1:  ขอบคุณนะคะ
มาต่อแล้ว ชอบใจ ไม่ชอบใจยังไงก็ติ ชม กันได้นะคะ ฝากติดตามเรื่องอื่น ๆ ของคนเขียนด้วยนะคะ  :3123:


*******************************************************




“อ้าว พี่เป้ หลับซะแล้ว พี่เป้ ๆ ตื่น ๆ ไปอาบน้ำ” คนกำลังนอนสบายก็มีมือมาเขย่า ๆ สลึมสลือลืมตามาก็เห็นไอ้คิด มันยื่นหน้าเข้ามา

“ห๊ะ หา เออ ๆๆ ไปอาบน้ำ” ตกใจหมด เห็นหน้ามันใกล้นิดเดียว เด้งตัวขึ้นมาไอ้นี่มึงจะโค้งตัวมาทำไมว่ะ จึงผลักไหล่มันออกให้พ้นทาง แล้วรีบเดินไปหยิบผ้าขนหนู แล้วนี่อะไรว่ะ หัวใจกูเต้นแปลก ๆ แมร่ง กูคงไม่ได้เป็นโรคอะไรนะโว้ย

“รีบ ๆ ไปอาบเลยพี่ เดี๋ยวได้ไปหาอะไรกินกัน” มันเร่งกูยิ๊กๆๆๆ แต่ตัวมันก็ยังเดินเอ่อละเหย พันแค่ผ้าขนหนู เอิ่ม แมร่ง หุ่นดีว่ะ ซิกแพ็ค ชัดเจนมาก ของกูรวมกันเป็น วันแพ็คเรียบร้อยแล้ว   

เป้ คว้าอุปกรณ์อาบน้ำจะเดินเข้าห้องน้ำ ก็หยุดดื่มน้ำจากแก้วที่เททิ้งไว้ไม่ให้เย็นเกินไป แต่ดันหลับไปก่อนจะได้ดื่ม และชำเลืองมอง ก็เห็นว่า ไอ้คิดมันยกขวดน้ำที่เหลือขึ้นดื่มจนหมด เป้ แสยะยิ้ม ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

อ่า ได้อาบน้ำอุ่น หลังจากทำงานมาเหนื่อย ๆ นี่เป็นอะไรที่สุดยอดจริง ๆ เดี๋ยวอาบเสร็จแล้วออกไปหาเบียร์เย็น ๆ อูยยยยยยย แค่คิดก็เปรี้ยวปาก

“คิกๆๆๆ ไอ้คิดมรึง ถ้าไม่กราบตีนกูขอยาแก้ กูจะแกล้งทรมานมึงให้ลงแดงเลย มึงจะได้รู้ว่ายาปลุกบริษัทกู ไม่เป็นสองรองใคร” แต่พอคิดไปถึงยาที่ใส่ลงไปในน้ำให้ไอ้คิดมันดื่มก็สะใจ เล่นกะใครไม่เล่น แมร่ง ดูดิมันจะทำหน้ายังไงเวลาอยากจนหน้ามืด ฮ่าๆๆๆ


เอ๋..........ว่าแต่ไมวันนี้น้ำมันร้อนไปเปล่าว่ะเนี๊ยะ ยิ่งอาบยิ่งร้อนว่ะ



เอ่อ.......กูว่ามันแปลก ๆ ว่ะ รู้สึกคอแห้ง จนต้องกลืนน้ำลาย ท้องน้อยก็รู้สึกวูบไหว มันเหมือนอาการเวลาที่............มีความต้องการเลย ............................................ไอ้ชิบหาย เฮ้ย กูคงไม่ได้ซื่อบื้อวางยาตัวเองโดยไม่รู้ตัวหรอกนะเว๊ย........ ไม่ๆ ไม่ใช่แน่ กูดื่มน้ำของกูเท่านั้นนี่นา เมื่อกี้ก่อนเข้ามาอาบน้ำกูก็แค่ดื่มน้ำในแก้วที่เททิ้งไว้ให้หายเย็นก่อนจะ..............หลับไป




“ไอ้คิด ไอ้เหี้ย มึงวางยากูเหรอว๊ะ”ทันทีที่คิดได้ว่าถูกไอ้คิดมันวางยาใส่แก้วน้ำ ตอนกูหลับแน่ ๆ ก็ความผ้าขนหนูมาพันช่วงล่าง แล้วรีบเปิดประตูห้องน้ำ หมายจะด่ามันเต็มที่


แต่แมร่ง เปิดไปก็เจอมันยืนหน้าเครียด ๆ เอาศอกข้างหนึ่งเท้าประตูห้องน้ำอยู่ก่อนแล้ว เห็นเส้นเลือดที่ขมับมันนูนขึ้นมาเลย มึงจะเครียดอะไรนักหนา ต้องกูซิวะที่ต้องเครียด


“เอา..ยาแก้มาเดี๋ยวนี้เลย..พี่เป้ ไม่งั้นพี่ลำบากแน่” มันกระชากแขนกู แรงจนกูทียังไม่ทันตั้งตัวดีเซไปชนกับตัวมัน ซึ่งมันยังไม่ใส่เสื้ออะไรเลย มีแค่ผ้าขนหนูพันช่วงล่างเหมือนตอนที่มันเดินออกมาจากในห้องน้ำ

ดูเหมือนยาที่กูใส่ให้มันกิน ก็จะออกฤทธิ์แล้วเหมือนกัน กูเลยต้องพยายามทำหน้างง ๆ ซื่อ ๆ ประหนึ่งไม่รู้เรื่องอะไร “เฮ๊ย มึงพูดอะไรของมึง”

“ไม่ต้องมาทำ...มึนเลย..พี่เป้ เล่นไม่รู้เรื่อง มาวางยาผมทำไม” พยายามจะสะบัดมือมันให้ปล่อย แต่แมร่ง แรงเยอะชิบ ไม่พอดูมันยังกดแรงนิ้วจนเจ็บไปหมด

“ยาอะไร ๆ ไม่มี๊”เชื่อโบราณเว้ย ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เอ๊ย ไม่ใช่ ไม่มีหลักฐาน อย่าไปรับเว้ย

“แล้วนี่อะไร?” มันลากผมเดินไปที่ถังขยะ เขี่ย ๆ ให้ดูซองยา หลักฐานมัดตัวดิ้นไม่หลุด มันก็ช่างไปรื้อได้ ซองที่ผมทิ้งไว้ในถังขยะ ขนาดซุกไว้ข้างล่างยังเสือกหาเจอนะมึง

“เออๆๆๆ กูวางยามึง แต่มึงก็วางยากูเหมือนกันไอ้คิด” จนด้วยหลักฐาน ไม่รู้จะไปทางใหนเลยทำเป็นโมโห หาเรื่องมันกลับซะเลย ใช่ มึงก็วางยากูเหมือนกัน

“โอเค ๆ พี่ ผมผิด...ไปแล้ว เอายาแก้มาเร็วๆ จะ...ไม่ไหวแล้ว” เสียงมันดูอึดอัดๆ มันดูมีท่าทีอ่อนลง ยอมปล่อยมือ ทิ้งไว้แต่รอยนิ้วแดงเป็นปึ้น ก่อนจะยกมือสองข้างทำท่ายอมแพ้

“ไม ไม่เอายาบริษัทมึงว่ะ” แกล้งถามไปงั้นแหล่ะ แอบไปรู้มาว่ามันยกตัวอย่างให้ลูกค้าคนล่าสุดไปเมื่อวาน

“โอ๊ย มันหมด..แล้วนะซิพี่ เพิ่งส่งให้..ลูกค้าไปเมื่อวาน รีบๆ เอา..มาเร็ว ๆ เดี๋ยวก็ทน..ไม่ไหวกันพอดี” สะใจโว้ย ดูท่าทางมันคงจะทนแทบไม่ไหวแล้วจริง ๆ ยืนยังไม่ตรงเลย เออ ๆ แกล้งมันพอแล้ว อย่าว่าแต่มึงเลย กูก็ทำท่าจะแย่วะ รีบ ๆ รื้อในกระเป๋า เจอซองยาแก้ ที่ไม่ค่อยจะได้หยิบขึ้นมาบ่อย นอนอยู่ก้นกระเป๋า ส่วนใหญ่ลูกค้าขอตัวอย่างยาปลุกซะมากกว่า ก็รีบ ๆ หยิบซองใสขึ้นมา ...............................เหี้ยล่ะ.. เหลืออยู่เม็ดเดียว เบนสายตาจากถุงยา ไปที่หน้าไอ้คิด หน้ามันดูเครียดกว่าเก่า มันคงเห็นเหมือนกันว่ามียาอยู่แค่เม็ดเดียว ซึ่งหมายความว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอด



ไอ้เหี้ย มันวิ่งอ้อมเตียงมาจะหมายแย่งยา กูเลยโดดขึ้นเตียงวิ่งข้ามไปอีกด้าน แล้วรีบ ๆ ส่งยาแก้เข้าปาก พร้อมกลืนโดยไม่ต้องใช้น้ำ(ความสามารถเฉพาะตัวห้ามลอกเลียนแบบ ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำ)

รอดแล้วกู หันไปยิ้ม และชู 2 นิ้วให้มันหนึ่งที แต่กูว่าไอ้คิดมันไม่รับมุขว่ะ แผ่รังสีสังหารออกมาซะน่ากลัว

“รู้อยู่แล้ว...ใช่มั๊ยว่ามันมียาแก้...แค่เม็ดเดียว” น้ำเสียงมันเครียดขึงขึ้นมาทันที เอ่อ เอาจริง ๆ กูก็ไม่รู้หรอกว่ายาแก้มันเหลือเม็ดเดียว ก็กูไม่เคยเช็คของเลยนี่หว่า

“เออ ก็ต้องรู้ซิวะ กูกะหยอกมึงเล่น ๆ แมร่งเสือกวางยากูกลับซะงั้น  เหี้ย เป็นไงละมึง ทนเอาละกัน” แต่ก็อยากจะแก้เผ็ดมันที่ชอบมาแย่งลูกค้าบ่อย ๆ เลยรับสมอ้างไปซะ

“.........”มันก้มหน้าเงียบ เหงื่อท่วมตัว ดูน่ากลัวว่ะเอาไงดีวะ ชักรู้สึกผิด

“เฮ๊ย ไม่เอาหน่า แล้วๆ กันไป ไปแต่งตัวเร็ว กูจะพาไปหาหญิง ถ้าเจอแล้ว กูยกห้องให้มึงเลย 3 ชั่วโมง” เข้าไปตบบ่ามันเบา ๆ คงต้องไปหาน้องหนูมาแก้เครียดให้มันซะแล้ว


กำลังจะหันหลังจะเดินไปหยิบเสื้อผ้า อยู่ ๆ มือไอ้คิดก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือ จนต้องหันไปดูหน้ามัน ซึ่งตอนนี้เงยหน้าขึ้นมาแล้ว บรึ๊ยยยย หน้ามันแดงก่ำ สายตาของมันฉ่ำปรือ กัดริมฝีปากล่างอย่างคนสกัดกั้นอารมณ์ ขอบอกหน้ามึงหื่นมากไอ้คิด กูกลัว

“รอ..นานขนาด..นั้นไม่ไหว..แล้วล่ะพี่....” เหี้ย เป็นคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในสมองตอนนี้

“เฮ๊ย มึงอย่ามามองกูด้วยสายตาอย่างนั้นนะไอ้คิด ปล่อยกู เดี๋ยวกูเรียกให้บ๋อยหาหญิงส่งมาให้มึงถึงห้องเลย” สายตาของมันที่มองมานี่ เหมือนเสือเห็นเนื้อชิ้นโต แถมมีแลบลิ้นเลียปากอีก อ๊ายยยยยยย กูไม่ใช่อาหารมึงนะโว้ย

“ก็บอกแล้วว่าทนไม่ใหวแล้วโว๊ย” มันตะคอกเสียงดัง ไม่ทันจบก็ลากผมจนเซตามแรงไปที่เตียง

ไอ้ห่านี่ไม่รู้มันเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากใหน เหวี่ยงกูลงที่เตียง แล้วกระโดดขึ้นมาคร่อมกูไว้ ไอ้เหี้ย กูกลัวมึง จริง ๆ แล้วนะไอ้คิด

“ผมเตือนพี่แล้วนะว่าพี่ลำบากแน่” มันพูดเสียงเข้มกัดกรามแน่น ก่อนจะโน้มตัวลงมาที่ซุกที่ซอกคอ ขนลุกอ่ะ

“เฮ๊ย ไอ้คิดใจเย็น ๆ ตั้งสติก่อน มึงดูกูดี ๆ กูเป็นผู้ชายเหมือนมึงนะเว้ย” ขนลุกจนต้องหดคอหนี เอามือดันหน้าดันตัวมันออกเป็นพัลวัน ตอนนี้ผ้าขนหนูที่นุ่งกันไว้หลุดไปใหนแล้วก็ไม่รู้ทั้งคู่ ขอบอกว่าเป็นสถานการณ์ที่อันตรายสุด ๆ
 
“ไม่เป็นปัญหาพี่ ถ้าเป็นพี่เป้ ผมโอเค” มันปัดป่ายมือกูออกและพยายามจะตรึงมือใว้ที่เตียง มองกูอย่างโลมเลีย ทั่วทั้งร่าง ยกยิ้มกว้าง เห็นฟันครบทุกซี่ มึงไม่ต้องมาโปรยเสน่ห์กู ไม่หลงมึงหรอก

แล้วมึงถามกูยัง ว่ากูโอเคมั๊ย เหี้ยอย่าลูบ กูเสียว จะรอช้าให้เสียตัวอยู่ไย อาศัยจังหวะมันก้ม ๆ มาไซร้ มาเลีย ยกขาถีบมันเต็มแรง จนมันหงายลงไปเกือบ ๆ ตกเตียง รีบ ๆ คว่ำลุกคลานจะลงจากเตียง แต่ก็ไม่ทันไอ้คนที่เพิ่งจะหงายไป มันพลิกตัวอย่างไว มาคว้าข้อเท้ากูได้ มันก็ลากกูกลับเข้าไปอยู่ใต้ร่างมันเหมือนเดิม แต่คราวนี้มันนั่งทับท้องกูเอาไว้ ทำให้ถีบมันไม่ได้แล้ว แต่มือกูยังว่างเลยจะต่อยหน้ามัน แต่ก็ไม่ทันมันจับข้อมือกูได้ก่อน ยื้อ ๆ ยุด ๆ กันซักพัก เหนื่อยชิบหาย หายใจเหนื่อยหอบ อยู่ ๆ ไอ้คิดมันก็พลิกตัวกูให้นอนคว่ำ แล้วเอา อะไรบางอย่างมามัดมือกูไพร่หลัง

“แม่ง ผมพยายามจะข่ม ๆ อยู่ พี่....ก็ดิ้นชิบหาย เบียด ๆ จนของ...ผมขึ้นซะขนาดนี้ รับผิดชอบด้วยนะครับ" ไอ้สัด มึงไม่ต้องมาโยนความผิดให้กู กูเห็นแมร่งมันตั้งขึ้นมาตั้งแต่มึงเริ่มซุกซอกคอกูแล้ว ก็ผ้าผ่อนหลุดไปหมดกันทั้งคู่เลยเห็นหมดล่ะ แล้วแมร่งก็แทงสะโพก แทงหน้าขากูตั้งแต่แรกแล้ว หรือมึงจะเถียง


“ไอ้คิด ปล่อยกูเถอะ กูไหว้ล่ะ”ใช้ไม้แข็งไม่สำเร็จ ลองเปลี่ยนมาเป็นไม้นวมดูบ้าง เผื่อรอด มันนิ่งอึ้งมองหน้ากูนิดนึงกูก็นึกว่ามันจะคิดได้ แต่ไม่ใช่เลย ก่อนมันจะพูดประโยคที่ทำเอากูหัวใจจะวาย

“ไม่..ไม่ทันแล้วพี่ ผม..ไม่ไหวแล้ว ทานละนะครับ” ไอ้คิด มึงเห็นกูเป็นซูชิ ซาซิมิ เหรอ ทานละนะครับ พ่องมึงเหรอ ฮือ ๆ  พ่อจ๋า แม่จ๋าช่วยเป้ด้วยคร้าบบบบบบบบบบบบบ



















แรก ๆ ก็พยายามต่อสู้ขัดขืนอยู่นะ ยังไงกูก็ผู้ชาย ไม่ยอมเสียเอกราชง่าย ๆ หรอกครับ  แต่ถูก มันเลีย ๆ จูบ ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ ไปซักพัก ข้าศึกก็แหกด่านเข้ามาได้ พ่ายให้ความต้องการทางกาย มันห้ามเอาไว้ไม่ไหวแล้ว ถึงพยายามร่วมต้านในสมรภูมิ ถึงจะเสียเปรียบมาก เพราะถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ได้แต่ร้อง อาๆ อู้ๆ โอ้ว ๆ จนคอแหบคอแห้ง มันก็ไม่น้อยหน้า ร้อง ซี๊ดๆ ซ๊าด ๆ พูดแต่ แน่นจังพี่ ฟิตชิบหาย อย่าตอดมานักซิครับพี่ (ไอ้เหี้ย ไม่ให้กูตอดมึงก็ออกมาจากตัวกูซิโว้ย ไอ้ควาย) ก็รู้ว่ามันโดนฤทธิ์ยา คงไม่จบแค่รอบเดียวแน่ แต่หลังจากต้องทนแสบ ทนเสียว กระตุกแล้ว กระตุกอีก แมร่ง หลายรอบกู และหลายรอบมึงแล้วนะ ยังไม่หมดฤทธิ์อีกเหรอว่ะ..................ไม่หว๊ายยยยยยยยยยยแล้ว กูจะขาดใจตาย อ๊าๆๆๆๆๆ(เสียงร้องในใจ เพราะร้องจนไม่มีเสียงแล้วเว้ย)

















นะ นะ เหนื่อยจังเลย เหนื่อยแทบขาดใจ ตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ได้นอนเลย มันเพิ่งยอมปล่อยตัว (จริง ๆ ปล่อยน้ำสุดท้าย) เมื่อซักครู่นี่เอง โกรธมันแมร่ง ล่อกูไม่เลี้ยงเลยนะไอ้สัด ทำจนพอใจเลยนะมึง ไม่สนว่ากูจะอ้อนวอน ร้องขอให้หยุดซักเท่าไหร่ เจ็บไปหมดทั้งตัว แสบช่วงล่างจนขยับตัวไม่ถนัด เลยนอนหันหลังให้ไอ้ตัวดี ที่นั่งพิงหัวเตียงสูบบุหรี่ ปุ๋ย ๆ อย่างกับในหนังไทยหลังเสร็จกิจกาม (ขอให้มึงเป็นมะเร็งตาย)

“ไอ้เหี้ย ไอ้งี่เง่า ไอ้วิปริต มึงหน้ามืดขนาดทำกับผู้ชายได้ยังไงว่ะ” พึมพำด่ามัน ซึ่งจริง ๆ คือพูดธรรมดาแต่เสียงออกมาเสมือนรำพึงรำพัน

“โทษตัวเองเหอะพี่ เล่นอะไรพิเรนท์ สมน้ำหน้า” แมร่งยังเสือกหูดีอีก ไม่สำนึกผิดยังมาทับถมกูอีก

“ยังจะตอกย้ำกูอยู่ได้ ก็มึงด้วยไม่ใช่เหรอที่เสือกวางยากู ไม่งั้นยาเม็ดเดียวก็พอแล้ว และกูก็ว่าไอ้ฤทธิ์ยาอ่ะ อย่างมากก็  สอง สามชั่วโมง สอง สามครั้งก็หายแล้ว แต่ไอ้หลายๆ ครั้งหลัง ๆ ไอ้หลาย ๆ ชั่วโมงจากนั้นมันคืออัลไล”อยากหันไปด่ามันจริง ๆ จัง ๆ แต่ก็ปวดร้าวไปทั้งตัว คงได้แต่เอี้ยวหัวไปมองมันอย่างอาฆาต ใช่ ต้นเหตุก็มาจากมันนี่แหล่ะ เสือกใจตรงกันมาวางยากูด้วยอีกคน เรื่องมันถึงเลยเถิด

“ก็กินไปกินมามันอร่อยอ่ะครับ เลยเพลินไปหน่อย ฮะ ๆๆ”ยังมีหน้ามาหัวเราะแหะ ๆ เอามือเกาท้ายทอยแก้เขินอีกนะ ไอ้คนไม่มีสำนึก

“ไอ้เหี้ย มึงทำอย่างนี้กับกูได้ยังไง เอาครั้งแรกของกูคืนมา” หันกลับมาไว้อาลัยให้กับ การเสียเอกราชครั้งแรกอย่าง ปวดร้าว

“อย่ามาเนียนอย่างพี่นี่นะ ไม่เคยมีอะไรกับใคร……….กับผู้หญิงก็ไม่เคยเหรอพี่”มันหัวเราะขำ ก่อนที่จะนิ่ง เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะถามประโยค เสียดแทงหัวใจ

 แมร่ง มึงจะถามตรงอะไรขนาดนั้น ก็เออซิว่ะ กูเด็กต่างจังหวัดนะมึง ขืนยุ่งกับเด็กผู้หญิงในหมู่บ้านมีหวังไม่ถูกจับแต่งงาน ก็ถูกพี่มัน พ่อมันกระทืบม้ามแตก ยิ่งคิดยิ่งอาย อายุปูนนี้แล้ว ไม่เคยมีอะไรกับใครเลย เพื่อนชวนไปเที่ยวก็ไม่กล้ากลัวติดโรค เหี้ย มุดผ้าห่มหายไปเลยดีกว่า

“เฮ้ย เอาจริงดิพี่ จริง ๆ นะพี่ งั้นผมก็เป็นคนแรกของพี่นะซิ” เหี้ย กูอุตส่าไม่ตอบแมร่งยังเสือกพูดขึ้นมาให้กูสะเทือนใจอีก แล้วอะไร ไอ้น้ำเสียงระริกระรี้ ยินดีปรีดานี่มันคืออัลไลลลลลครับ

“หุบปากไปเลยมึง”ตะคอกใส่มันเต็มที่เท่าที่เสียงจะอำนวย แต่ก็ดังกว่ากระซิบนิดนึง

ไม่รู้มันได้ยินรึเปล่า เห็นมันเงียบไป ซักครู่ก็รู้สึกถึงน้ำหนักของไอ้บ้านั่นโถมทับมาทั้งตัว วงแขนแกร่ง กอดรัดกูแน่นเลย ไอ้เหี้ย กูเจ็บนะโว้ย

“จุ๊บ ..ไม่ขอโทษหรอกนะครับ บอกซะก่อน เพราะพี่ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่ส่วนของผม ผมได้พี่แล้ว ก็จะรับผิดชอบพี่เอง” จู่ ๆ มันก็เลิกผ้าห่มออกจากหัวกู ก่อนจะก้มหน้าจูบแก้มกู พร้อมกับพูดจาให้กูยิ่งได้อายที่เสียท่ามัน แล้วมันยังจะให้กูต้องรับผิดชอบอีก มึงจะเอาอะไร๊จากกูอีก ที่ให้ไปก็หมดแล้ว ทั้งตัวเลยนะนั้น กูเห็นมึงไซร้ มึงดูด มึงเลีย ไม่เหลือที่ว่าง กระทั่งส้นตีนกูมึงยังเลียเลย หูย แค่คิดยังเสียวไม่หาย แล้วมึงบอกจะรับผิดชอบกู มึงจะเอาอะไรมารับผิดชอบว่ะ

“ไร ๆๆๆ มึงจะรับผิดชอบแต่งงานกับกูเหรอ” สถานการณ์อย่างนี้ กูยังเกรียนได้อีก

“งั้นก็แต่งงานกับผมนะครับ” เงิบครับ มึงตอบซะกูฮาไม่ออกเลย ได้แต่อ้าปากเหวอ ไอ้สัดมึงไม่ต้องพูดด้วยหน้าตาจริงจังขนาดนั้นก็ได้

“โว๊ย มึงแมร่งบ้า ผู้ชายแต่งงานกันได้ที่ใหน อย่ามาพูดอะไรงี่เง่าๆ นะเว๊ย” ถึงจะเงิบ แต่หัวใจเจ้ากรรมมันเต้นซะกูนึกว่ากูจะเป็นโรคหัวใจมั๊ยเนี๊ยะ หน้าก็ร้อนเพราะหน้าตาจริงจังของมัน จนต้องทำเป็นเสียงดังกลบเกลื่อน

“แต่งได้นะครับ ผมเห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์ เค้าแต่งกันให้เกลื่อน” กวนตีนล่ะมึง พูดประชดเสือกบอกจะทำจริง ๆ ซะไอ้นี่ เซ็งมันจนต้องถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย และดูมันก็ไม่เคยจะรู้สำนึก ยังจะมากุมมือกูขึ้นไปจูบที่หลังมืออีก (รู้สึกเสียว ๆ ยังไงไม่รู้)

“ถ้าไม่แต่ง งั้นเป็นแฟนผมนะครับ”




.............................................................ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ไอ้ๆๆๆๆๆ ไม่รู้จะด่ามันให้เจ็บแสบยังไงแล้ว อึ้งอ่ะอึ้ง

“เฮ้อ สมองมึงมีปัญหาล่ะ เพี้ยนไปแล้วรึไงว่ะ หรือฤทธิ์ยายังไม่จาง ไม่ต้องมาทำเป็นรับผิดชอบ ไม่จำเป็น กูไม่ต้องการ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยกมือไปทาบที่หน้าผากมัน เผื่อแมร่งน้ำออกเยอะไป เลยธาตุไฟแตกซ่าน

“แต่” ยัง ยังไม่หยุดบ้านะมึง จะแต่หาพ่องงงงมึงเหรอ

“เฮ้ย น่ารำคาญว่ะ อย่าเรื่องเยอะ ก็ทำตัวปกตินั่นแหล่ะ คิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นล่ะกัน ผู้ชายเหมือน ๆ กันไม่ได้เสียหายอะไร นึกซะว่าช่วย ๆ กันระบายความเครียด” ไอ้ห่านี่ มึงจะเอาอะไรกับกูนักหนา ลำพังแค่เสียตัวให้มึง กูก็เครียดพออยู่แล้ว มึงอย่ามาอยากแต่ง อยากเป็นแฟน มาเพิ่มความเครียดสะสมให้กูโดยไม่จำเป็นเลย ก็อย่างที่บอกนั่นแหล่ะ ผู้ชายเอากันให้ตายก็ไม่ท้อง แล้วมึงจะมาอยากรับผิดชอบอะไรนักหนาว่ะ ทำลืม ๆ แล้วแค่ต่างคนต่างไปซะก็สิ้นเรื่อง

“อ่า....หึ... คิดได้ไงครับ.............. ระบายความเครียดงั้นเหรอครับ” เอ่อ คิดไปเองรึเปล่าวะว่าน้ำเสียงไอ้คิดมันเย็นยะเยือก ยิ่งมันมาพูดใกล้ ๆหู ชวนให้ขนลุกว่ะ

“............. งั้น......ก็ไม่เกรงใจล่ะนะครับ จะทำจนหายเครียดเลยล่ะ”
จู่ ๆ ไอ้คิดมันก็ก้มลงมากัดหูกู เจ็บจี๊ดจนต้องหดคอหนี แล้วไม่ใช่แค่นั้น มันพูดจบก็พลิกกูให้นอนหงาย กูตกใจตาโต แล้วมันก็โดดขึ้นคร่อมกู กว่ากูจะตั้งสติได้ ไอ้คิดมันก็ ไซร้อยู่ที่ซอกคอกู กูก็สู้ซิวะ เฮ้ย กูกับมึงเพิ่งจะหยุดกิจกามเข้าจังหวะ เมื่อซัก ชั่วโมง สองชั่วโมงที่แล้วนี่เองนะเว้ย แล้วร่างกายกูก็สะบักสะบอมขนาดนี้ ถ้ายังจะต่อก็ตายแหง๋ ๆ แต่แมร่ง สู้แรงมันไม่ได้อ่ะ ถูกมันรุก มันปลุกปล้ำไปอีกหลายรอบ (กูไม่นับแล้ว)ไอ้คิดดดดดด มึงจะอึดไปถึงใหน ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงว๋ะ ส่วนกูไม่ต้องถาม ร้องไม่ออกแล้วคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบ














หลังจากพ้น 2 คืนเราก็เช็คเอาท์ ออกจากโรงแรมก่อนเที่ยงของวัน

“พี่เป้ ค่ะ นี่ใบเสร็จค่ะ” ส้มคนสวยส่งใบเสร็จค่าห้องให้ผม พร้อมยิ้มหวานจ๋อย

“ขอบใจนะส้ม เอานี่ยาที่เคยบอกว่าอยากได้ บำรุงเลือด ทำให้ผิวพรรณดี มีน้ำมีนวล” เกือบลืมเอาของที่น้องเค้าเคยบอกว่าหาซื้อไม่ได้ เลยอาสาจะหามาให้

“ขอบคุณค่ะพี่เป้ ....ไม่สบายเหรอค่ะพี่ เสียงแหบเชียว หน้าซีด ๆ นะพี่ ไหวป่ะเนี๊ยะ” ส้มเอ๊ย จะทักทำไม เรื่องนี้กะจะทำเป็นลืม ๆ อยู่ ไอ้คนข้าง ๆ กูนี่มึงจะยิ้มหน้าบานทำซากอะไร ใช่ซี๊ หน้าใส เลือดฝาดดี มาเลยนะมึง แมร่งกูไม่เข้าใจ กูไม่ใช่คนออกแรง แต่ทำไมกูดูเหมือนถูกสูบพลังไปหมดเลยอ่ะ

“เฮ้ย สบายดี เอานี่เงินค่าทิป” อยากออกๆ ไปให้พ้น ไอ้หน้าตาอยากรู้อยากเห็นของน้องซักทีแล้ว

“.....เอ่อ...ว่าแต่พี่ค่ะ พี่ 2 คนไม่ออกจากห้องมา 2 วันแล้ว ไม่ทราบว่า.............” อีส้ม ว่างมากนะมึง จะช่างสังเกตเกินไปล่ะ อายจนหน้าแดง แค่คิดถึงว่า ทำอะไรกันในห้อง แทบไม่ได้หยุดพักเลย มีแค่ตอนกินข้าว ดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำเท่านั้นแหล่ะ ที่ไอ้ห่าคิดมันยอมให้กูพัก ไอ้สลัด

“ฮะๆๆๆ อ้อเราทำวิจัยยาระหว่างบริษัทกันนิดหน่อย.. เออส้ม คราวหน้าพวกพี่จองห้องร่วมกันอีกนะครับ“ ไอ้ไม่สลด มึงยังหน้าด้าน ๆ ไปตอแหลน้องมันอีก แทนที่จะเดิน ๆ ตามกูออกมาให้ไว ส่วนกูจะเดินออกมาก่อนก็ไม่ได้ เพราะต้องให้มันช่วยพยุงไม่ให้เซล้มลงไปให้ได้อายชาวบ้านเอา แต่แค่นี้ อีส้มมันก็ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ ขยิบตาเหมือนรู้ แล้วหันไปกรี๊ดเบา ๆ กับเหล่าเพื่อนร่วมงานของหล่อน

“ไป ๆ ได้แล้ว มึงไม่ต้องทำงานรึไงว่ะ ไอ้ห่า” รีบ ๆ ลากมันออกไปให้พ้นแก็งส์สาวรีเซฟชั่น ที่มองมาที่เราสองคน ตาเป็นประกาย โลกมันร้อน มากรึไงว่ะ ผู้หญิงสมัยนี้มันถึงชอบดูผู้ชายกินกันเองเนี๊ยะ กูไม่สงสัยเลย ทำไมพวกมึงยังหาผัวไม่ได้ (เฮ้ยยยยย หลบร้องเท้าแป๊บ)



(จบตอน อันนี้ ฝั่งเป้ คราวหน้าเรามาดูฝั่งคิดบ้าง5555)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2016 23:38:44 โดย limpingping »

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Love pill - Kid's part (13/9/2016)
«ตอบ #3 เมื่อ13-09-2016 23:38:53 »

มาแล่ะ  :katai4: เรื่องราวเดิม ๆ เพิ่มเติมคือเป็นมุมมองของอีกคน มาดูกันว่าอะไรๆ ที่เกิดขึ้น มีที่มาที่ไปอย่างไร

**********************************************************






Love Pill - Kid's part



หวัดดีครับ ผมชื่อคณิต อินไชยา ชื่อเล่น คิด ครับ ชื่อผมบ่งบอกเลยว่าเกี่ยวกับวิชาการแน่นอน ครับคนตั้งก็พ่อผมแหล่ะ ท่านเป็นอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์ (ว่าแล้ว) แต่ก็ทำให้ท่านผิดหวังพอสมควร เพราะผมไม่ได้หัวดีมาก เข้ามหาลัยได้ก็บุญแล้ว จบคณะพื้น ๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่น มีดีแค่หน้าตา เคยเป็นเดือนคณะนะครับขอบอก ดีว่ามีน้องสาวเก่งสมใจพ่อ พ่อเลยไม่ค่อยสนใจการใช้ชีวิตของผมเท่าไหร่ จบมาจับพลัดจับพลูมาเป็นเซลล์ขายยาซะงั้น

ตอนแรกที่เริ่มอาชีพนี้ใหม่ ๆ ไม่ง่ายเลย พบเพื่อนร่วมอาชีพ หลาย ๆ คน มีทั้งดี และไม่ดี ยิ่งตอนที่ต้องประสบกับปัญหา จะหาคนยื่นมือเข้ามาช่วยนี่แทบไม่มีเลย ขนาดคนบริษัทเดียวกันยังไม่ค่อยจะเต็มใจช่วยเลย บอกแต่ว่ายุ่ง ๆ ยังช่วยไม่ได้ตอนนี้ เฮ้ย แค่แฟ็กกระดาษให้ผม ไม่ถึง 10 ใบ มันคงไม่ทำให้เจ้แกเสียเวลาซักเท่าไหร่หรอกมั้ง

“อ้าว เอ่อ.. คิด มานั่งทำอะไรตรงนี้” ขณะนั่งกุมขมับ ที่เก้าอี้หินอ่อน ในสวนของโรงพยาบาล ข้าง ๆ ทางเดิน เพราะไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์ตอนนี้ดี ก็มีเสียงทักมากจากทางเดินให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาพบกับเพื่อนร่วมอาชีพ แต่ต่างบริษัท

“..คุณปัญญา” เขาเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าผม

“ทำไมยังมานั่งอยู่ตรงนี้ คนอื่น ๆ เขาเข้าไปเตรียมตัว พรีเซนต์งานกันข้างในแล้ว นี่ผมก็มาสายแล้วนะ” ผมไม่ค่อยได้คุยกับคุณปัญญาบ่อยนัก เห็นกันผ่าน ๆ ตามโรงพยาบาลหรือคลินิก รู้แค่ว่าแก่กว่าผมไม่กี่ปี ท่าทางสุภาพ ใจดี เขาเป็นคนหน้าดีทีเดียว พวกสาว ๆ พยาบาลพูดถึงเขาให้ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ สูงพอ ๆ กันกับผม แต่บางกว่า

“ผม..ผมทำใบเสนอราคาหายครับ” จริง ๆ ไม่ได้หายหรอกครับ แค่มันปลิวลงน้ำ เกิดขึ้นตอนขับรถมาแล้วหยิบเอกสารวางไว้เบาะข้างๆ คนขับจะเปิดกระจกด้านตัวเอง เพราะจะสูบบุหรี่ แต่ดันไปกดปุ่มเปิดกระจกด้านตรงข้ามซะงั้น กระดาษมันเลยปลิวออกไป ตกใจรีบเหยียบเบรกจนตัวโก่ง ดีว่าไม่มีรถตามหลังมา ไม่งั้นเป็นเรื่องแน่ หลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึง ลงจากรถวิ่งไล่ตามกระดาษ จนเห็นมันปลิวลงน้ำจากสะพาน ไปต่อหน้าต่อตา ....อวสานเซลล์แมน.......................

“อ้าว แล้วไม่บอกให้ทางบริษัทแฟ็กมาให้ใหม่ล่ะ?” ครับพี่ ข้อนั้นผมได้ลองแล้วครับ แล้วก็ต้องมานั่งกุมขมับอยู่อย่างนี้ไงล่ะครับ

“โทรไปแล้วครับ แต่เค้าบอกว่ายังไม่ว่างส่งให้ในวันนี้” เซ็งมากไม่รู้จะโกรธเจ้แก หรือจะอนาถกับความซวยของตัวเองดี

“เฮ้ย ได้ไง มันต้องเป็นวันนี้นะ ผอ.เค้าจะเดินทางไปดูงานต่างประเทศ เย็นนี้แล้วนะ แกเลยเรียกพวกเรา มาหมดเพื่อจะได้ตัดสินใจสั่งซื้อนี่แหล่ะ” ไว้อาลัยให้ตัวเองแป๊บ

“..............” ไม่มีสรรพเสียงใด ๆ จะเอ่ยออกมานอกจากสายตาที่สิ้นหวัง

“เอางี้ ผมมีไฟล์รายชื่อยาที่ ผอ. ระบุว่าต้องการสั่งซื้อ เซฟอยู่ใน USB เราไปยืมเครื่องคอมโรงพยาบาลกัน แล้วคุณน่ะมีรายการราคายาทั้งหมดใช่มั๊ย” ผมรู้สึกเหมือนเมฆหมอกมันจางไปในพริบตา ทั้งที่เขาเองก็ยุ่งอยู่ แต่ก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยผม ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งด้วยซ้ำ ส่วนตัวเขานั้นหลังจากช่วยผมเสร็จเขาก็รีบปั่น พรีเซนต์ของตัวเอง จนเกือบไม่ทัน

ผมรู้สึกดีกับเขามากๆ อยากเป็นเพื่อน อยากคุย อยากรู้จักเขาให้มากกว่าแค่ชื่อ จึงพยายามเข้าใกล้เขาทุกวิถีทาง ขนาดพยายามหาตารางงานว่าเค้าไปจังหวัดไหน เวลาไหนบ้าง เพื่อจะได้เจอเขาตลอด จนดูเหมือนจะถูกเหม็นขี้หน้าขึ้นมาซะงั้น (ก็ดันไปแย่งลูกค้าเค้าด้วยนี่นา)

จนวันหนึ่งเรามีโอกาส ได้พักห้องเดียวกัน เพราะน้องที่โรงแรมเข้าใจผิดจองชื่อซ้ำ และเป็นช่วงงานเทศกาล จึงไม่มีห้องเหลือแล้ว บอกตรง ผมดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ ยิ้มแก้มแทบฉีก

และได้มีอะไรกันเพราะความซุกซนของเขา ก็ดันมาใส่ยาปลุกในน้ำดื่มของผม แต่ผมเองก็พิเรนทร์ วางยาเขาเหมือนกัน

ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร จนอาบน้ำเสร็จ และเดินออกมา ก็พบว่าพี่เป้ รอจนหลับไปซะแล้ว ผมเดินเข้าไปจะปลุกให้พี่เขาลุกไปอาบน้ำ แต่ภาพที่เห็น ทำให้ผมชะงัก

พี่เป้ในสภาพเปลือยช่วงบน ผิวขาว นวล ดูน่าสัมผัส ใบหน้าหล่อหลับตาพริ้ม ขนตายาวงอนเป็นแพน่าดู ริมฝีปากสีส้มเผยอเล็กน้อยเห็นแล้วใจหวิว เผลอตัวยื่นมือไปก็ต้องสะดุ้ง เพราะพี่เขาพลิกตัว นึกว่าจะตื่น แต่ก็ยังหลับต่อ

ตอนนี้หัวใจเต้นจังหวะแปลก ๆ หาสาเหตุไม่ได้ หันไปมองคนนอนยั่วไม่รู้ตัว ก็คิดเรื่องพิเรนทร์ ขึ้นมาได้ ผมคว้ากระเป๋ามาเปิดหายา ที่ลูกค้าเรียกร้องมากที่สุดตัวหนึ่ง ยาเม็ดหย่อนลงแก้วน้ำที่พี่เขาเทตั้งไว้ ละลายเร็ว ไร้สี ไร้กลิ่น เป็นคุณสมบัติเบื้องต้นของยาปลุกเซ็กส์ เกือบทุกสำนัก

ผมคิดแค่จะแกล้งเขาเล่น ๆ จะทำทีเป็นเสนอตัวช่วยเขาปลอดปล่อย ถึงผมจะไม่มียาแก้ แต่ผมว่าเขามีแน่ครับ กะว่าจะก่อกวนไม่ให้เขากินยาแก้ ซักพักแล้วค่อยปล่อยให้เขากินยาแก้ ระหว่างคิดผมก็รู้สึกตื่นตัวแปลก ๆ ผมเคยเห็นคนโดนยาแล้ว มันดูเอ็กซ์ ๆ มาก เลยพลอยจิ้นไปถึงว่าถ้าพี่เป้อยู่ในสภาพนั้น จะเอ็กซ์แตกขนาดใหน













“อ้าว พี่เป้ หลับซะแล้ว พี่เป้ ๆ ตื่น ๆ ไปอาบน้ำ” ก้มลงปลุกคนหลับ โดยเขย่า ๆ แขนพี่มันเบา ๆ ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากพี่มันด้วย น้ำหอมยี่ห้อไรวะ หอมดี ได้กลิ่นแล้วเหมือนมันจะของขึ้นว่ะ พี่เป้ สลึมสลือลืมตาขึ้นมา เห็นผมในระยะแค่คืบ ก็ตกใจหน้าเหวอ

“ห๊ะ หา เออ ๆๆ ไปอาบน้ำ” เพราะตกใจ เด้งตัวขึ้นมาเลยหน้าเกือบชนกัน พี่มันดูท่าทางตกใจรีบผลักไหล่ผมออก แล้วรีบเดินไปหยิบผ้าขนหนู

“รีบ ๆ ไปอาบเลยพี่ เดี๋ยวได้ไปหาอะไรกินกัน” ปากก็เร่งพี่มันยิ๊กๆๆๆ แต่ตาก็มองตามเรือนร่างขาว น่าลูบไล้ จนชักไม่อยากหยุดแค่แกล้งพี่มันแล้วซิ

ก่อนพี่เป้ จะเดินเข้าห้องน้ำ ก็หยุดดื่มน้ำจากแก้วที่เขาเทตั้งไว้ ผมเองก็เผลอกลืนน้ำลายยิ่งมองพี่เขายิ่งรู้สึกกระหาย จึงยกขวดน้ำที่เหลือขึ้นดื่มจนหมด หางตาก็มองตามร่างน่าหลงใหล จนเขาเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ

พี่เขาดื่มน้ำนั่นจนหมด เสร็จผมล่ะ เดี๋ยวซักพักคงครางออกมาเลยล่ะ ยิ่งคิดยิ่งฟิน ผมนั่งลงปลายเตียง ทั้งผ้าขนหนูที่พันช่วงล่าง ไม่ได้ไปหาเสื้อผ้ามาใส่ เผื่อฉุกเฉิน จะได้ไม่เสียเวลาถอดอีก

ผมไม่เคยชอบผู้ชาย และไม่เคยคิดจะชอบผู้ชาย แต่ตั้งแต่เริ่มคิดอะไร ๆ กับคน ๆ นี้ ผมก็รู้สึกไม่เหมือนเดิม อยากเจอ อยากคุย อยากสัมผัส หลากหลายความรู้สึก แค่เพียงพี่มันยิ้ม หัวเราะมาให้ หัวใจเจ้ากรรมก็เต้นอัพสเตปทันที เคยแค่คิดเรื่องสัปดน เอาพี่มันมาจิ้นตอนช่วยตัวเอง ไม่คิดว่าจะมีวันที่จะได้ใกล้ชิดขนาดนี้ ตอนนี้ผมบอกไม่ถูก รู้แค่อยากลองลูบหน้าอกแน่น ๆ หรือหน้าท้องแบนราบนั้น อยากจูบ อยากกัด

อึ๊ก

รู้สึกคอแห้งผาก ทั้งที่เพิ่งดื่มน้ำ เสียวท้องน้อยเหมือนมีไฟวิ่งขึ้นมาจากกลางลำตัว ภาพพี่มันดูจะเด่นชันขึ้นมา จนรู้สึกตื่นตัว..................ผมว่าผมมีปัญหาแล้ว

ร้อน เหงื่อแตก เหมือนเลือดสูบฉีดขึ้นสมองเลย ผมว่าพี่มันมีส่วนกับอาการผมแน่ ลุกไปดูที่ถังขยะอย่างรวดเร็ว ..........ชัดล่ะ ซองแบบนี้  ไอ้พี่เป้

เดินไปหน้าประตูห้องน้ำ ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูเปิดออก และพี่มันโวยใส่ก่อนเลย คิดไม่ถึงว่าเราจะใจตรงกัน ผมใส่ยาให้พี่มันกิน พี่มันก็ใส่ยาให้ผมกินเช่นกัน ตอนนี้คงได้แต่หวังพึ่งยาแก้จากพี่มันแล้ว

ท่าทางพี่มันก็คงจะสุดทนแล้ว เลยไม่ต่อปากต่อคำ แล้วไปรื้อยาแก้จากกระเป๋า ก่อนที่จะยกซองใสที่มียาอยู่แค่เม็ดเดียว ...............เหี้ยล่ะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: Love pill - Kid's part (13/9/2016)
«ตอบ #4 เมื่อ14-09-2016 07:29:58 »

คิด ปัญญา  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
แกล้งกันไป แกล้งกันมา
แล้วก็เลยได้กัน
คิด หลงเสน่ห์ปัญญาแล้ว  :mew1: :mew1: :mew1:
รอตอนใหม่ นะะะะะ มายาวๆ ชอบบบบบ
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ BAKA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3025
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-10
Re: Love pill - Kid's part (13/9/2016)
«ตอบ #5 เมื่อ17-09-2016 00:39:13 »

ต่างคนต่างพิเรนทร์ไง 5555

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: Love pill - Kid's part (ต่อ) (17/9/2016)
«ตอบ #6 เมื่อ17-09-2016 18:06:44 »

(มาต่อกันเถอะ ๆ   :katai4: )




ไว้อาลัยให้ตัวเองแป๊บ เริ่มจะทรมานแล่ะ ถ้าไม่ได้ยา ผมรู้เลยว่าจะลงเอยยังไง

รีบวิ่งอ้อมเตียงจะเข้าไปแย่งยา พี่เป้มันก็ไว วิ่งข้ามเตียงไม่พอมันยังเอายาเข้าปากกลืนกรึ๊บ แล้วยังมีหน้า หันมายิ้มตาหยี ชู 2 นิ้ว...............ไอ้พี่เป้ มึง (ไมเมื่อก่อนกูคิดว่ามันสุภาพ เป็นคนใจดีว่ะ)

“รู้อยู่แล้ว...ใช่มั๊ยว่ามันมียาแก้...แค่เม็ดเดียว” ผมถามเพราะคิดว่าพี่มันต้องรู้แน่

“เออ ก็ต้องรู้ซิวะ กูกะหยอกมึงเล่น ๆ แมร่งเสือกวางยากูกลับซะงั้น  เหี้ย เป็นไงละมึง ทนเอาละกัน” นั่นไงพี่มันรู้อยู่ก่อนแล้วจริง ๆ

“.........” งั้นก็ไม่ต้องรู้สึกผิดแล้ว กับสิ่งที่คิดจะทำต่อไป

“เฮ๊ย ไม่เอาหน่า แล้วๆ กันไป ไปแต่งตัวเร็ว กูจะพาไปหาหญิง ถ้าเจอแล้ว กูยกห้องให้มึงเลย 3 ชั่วโมง” เริ่มหายใจแรงขึ้น พยายามกดความต้องการที่รุกเร้า พี่มันก็ตบบ่าเบา ๆ แต่มันสะเทือนถึงกลางกาย ขนลุก

ผึง

ได้ยินเสียงอะไรมั๊ย?



ใช่ มันเป็นเสียงความอดทนสุดท้ายขาดลง คว้าหมับเข้าที่ข้อมือพี่มัน


“ก็บอกแล้วว่าทนไม่ไหวแล้วโว๊ย” ตะโกนเสียงดัง แล้วลากพี่มัน จนเซตามแรงลากไปที่เตียง เหวี่ยงพี่มันลงที่เตียง แล้วกระโดดขึ้นมาคร่อม พี่มันหน้าซีด ปากเหวอ

“ผมเตือนพี่แล้วนะว่าพี่ลำบากแน่” กัดกรามแน่น ก่อนจะโน้มตัวลงมาที่ซุกไซร้ ที่ซอกคอ พี่มันขัดขืน เอามือดันหน้าดันตัว มั่วไปหมด ผ้าขนหนูที่นุ่งกันไว้หลุดไปไหนแล้วก็ไม่รู้ทั้งคู่ ขอบอกว่าเป็นสถานการณ์ที่ ชวนเสียวสยิวสุด ๆ
 
“ไม่เป็นปัญหาพี่ ถ้าเป็นพี่เป้ ผมโอเค” ผมพูดจริง ก็ขนาดไม่โดนยา ผมยังอยากจะปล้ำพี่มันเลย นับประสาอะไรกับมีแรงกระตุ้น ขนาดนี้ พยายามจะตรึงมือพี่มันไว้ที่เตียงไม่ให้ดิ้นหนี สายตาก็มองทั่วทั้งร่างขาวนวล ที่ตอนนี้ขึ้นสีชมพูระเรื่อ น่าดูไปอีกแบบ ยิ้มกว้าง ไม่คิดว่าจะได้มีอะไรกันพี่มันเร็วขนาดนี้

แต่พี่มันก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ ตอนกำลังก้ม ๆ ไซร้ ๆ เมามันลืมตาย พี่มันก็ถีบมาจนหงายหลังเกือบ ตกเตียงแน่ะ แต่ชั่วโมงนี้ อะไรก็ฉุดไม่อยู่แล้วกับความต้องการจากส่วนลึก และจากฤทธิ์ยา รีบพลิกตัวกลับไปคว้าข้อเท้าขาว แล้วลากกลับมาอยู่ใต้ร่างเหมือนเดิม ต้องนั่งทับท้องพี่มันจะได้ใช้ขาไม่ได้แล้ว แต่แค่มือก็ยังเอาเรื่อง ชกต่อยไปมา ยื้อ ๆ ยุด ๆ กันซักพัก กว่าจะปราบพยศได้ เห็นพี่มัน หอบ หายใจ หน้าอกเด้งขึ้นลง ดูเซ็กซี่สุด ๆ ก็ซี๊ดแล้ว พลิกตัวให้นอนคว่ำ แล้วเอา สายยางให้น้ำเกลือที่ตกมาจากระเป๋าพี่มัน ตอนชุลมุนมามัดมือพี่เป้ไพร่หลัง


“พี่ ผม..ไม่ไหวแล้ว ทานละนะครับ” เริ่มตาลายล่ะ เห็นพี่มันเป็นปลาแซลมอน เนื้อสีส้มขาว น่ากินจนน้ำลายไหล




















ก้มไปกัดที่หลังคอพี่เป้ จนอีกฝ่ายร้องครางไม่ได้ศัพท์ เริ่มไซร้ ๆ เลีย ๆ ดูด ๆ ทั่วท้ายทอยขาว จนถึงหัวไหล่เนียนนวล ผิวไม่นิ่มเหมือนผู้หญิง แต่เรียบตึง ลื่นให้รู้สึกดีไม่น้อยเมื่อได้สัมผัส พี่มันหดคอหนี แล้วพยายามขัดขืนจนผลิกตัวหงายขึ้นมาจ้องตาดุ จะอ้าปากด่า ก็ไม่ทันเพราะผมก้มลงอุดปากพี่มันด้วยปากผมเรียบร้อยแล้ว ดูดดึง บดเบียดอย่างเร่าร้อน จนพี่มันยอมเปิดปากให้ได้ส่งลิ้นเข้าไปดูดลิ้นพี่มัน มือซ้ายก็บีบ เค้นคลึงที่หน้าอกเรียบแบน ที่มีเม็ดไตเล็ก ๆ อีกมือก็ลูบไล้ไปตามสีข้าง จนคนใต้ร่างที่ขัดขืน ๆ สยิวจน บิดตัวไปมา กลางกาย ก็เสียดสีกับกลางกายอีกฝ่ายไปมา เป็นการปลุกอารมณ์ ซึ่งก็ได้ผลพี่มันครางฮือในลำคอเพราะถูกจูบปิดปากอยู่

“อาร์ อื่อ” เสียงคราง หวาน ๆ เล็ดลอดออกมาเรื่อย ๆ จนสติเริ่มจะพล่าเลือน ทนไม่ไหวยกขาข้างซ้ายพี่มันพาดบ่า แล้วจับแก่นกายตัวเอง ซึ่งก็พร้อมอยู่ก่อนแล้ว

“เฮ้ย ๆ ไอ้คิด มึงจะเข้าเลยเหรอว่ะ อย่าพึ่งงงงงง มึงไม่มีเจลหรือว่ะ เจลอ่ะเจล” พีมันแหกปากร้องลั่น เรียกสติให้กลับมาชั่วครู่ กลืนน้ำลายกับภาพตรงหน้า ผิวขาวอมชมพูที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อพราว หายใจหอบกระเพื่อมขึ้นลง กลางกายของพี่มันก็ตั้งขึ้นมาแล้วเหมือนกัน หน้าตาพี่มันบอกได้เลยว่าตอนนี้มันก็มีอารมณ์ร่วมเต็มที่แล้ว

จงใจบดเบียดทั้งตัวกับพี่มันให้ได้ยินเสียง “อาซ์ ไอ้เชี่ย มึงจะสีอะไรกูนักหนา แค่นี้ก็แทบจะแตกแล้ว” เพื่อจะเอื้อมไปหยิบเจลจากกระเป๋าสะพาย

รีบ ๆ บีบเจลใส่มือแล้วรูดของตัวเอง และช่องทางของพี่มัน จนชุ่ม แหย่นิ้วเข้าไปหนึ่งนิ้ว พี่มันเด้งก้นขึ้นด้วยความเสียว ยิ่งกระตุ้นให้ผมทนไม่ไหว ถอนนิ้วออก ก่อนจะสอดใส่เข้าไปทีเดียวมิดลำ “อ่าร์ ฟิตชิบหาย”

“อ๊ากกก เจ็บๆๆๆ ไอ้เหี้ย มึงเบ๊าเบา” เสียงด่าพี่มันก็ไม่เข้าหูล่ะ ตอนนี้หน้ามืดได้ที่แล้ว ซอยสะโพกเข้าออกรัวไม่ยั้ง

“ซี๊ดดดด อาร์”ข้างในพี่มันร้อนและนุ่ม แต่ที่สำคัญมันดูด มันตอดจนผมแทบแตกในทันทีที่เริ่มขยับ

“อย่าตอดนักซิครับพี่” ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่ามันตอดหนักขึ้นไปอีก พร้อมกับสายตาดุ ๆ ที่พี่มันส่งมา เหมือนมันอยากจะพูดอะไร แต่เพราะผมกระแทกเอา ๆ พี่มันเลย ได้แต่ร้องครวญครางอย่างเดียว

ไม่นานผมก็กระตุกปลดปล่อยภายในของพี่มัน ส่วนพี่มันก็กระตุกตามมาติด ๆ และเพราะฤทธิ์ยา บวกกับแรงตอดรัดตอนปลดปล่อยของพี่มัน ทำให้ของ ๆ ผมยิ่งขยายตัวขึ้นอีก ฉากเดิม ๆ เริ่มดุเดือดอีก หลายรอบ เพราะหลังจากเริ่มมีสติจากฤทธิ์ยาแล้ว ผมก็ยังไม่อยากหยุด ยิ่งพี่มันร้องคราง เสียงแหบพร่า ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบ ให้พลุ่งพล่าน ฉุดไม่อยู่ ทำให้ผมทำตามใจที่เคยคิดบางอย่างกับพี่มันมานานแล้ว ยิ่งทำยิ่งอยากจนฉุดยังไงก็ไม่อยู่ กว่าจะจบภารกิจก็เกือบเช้า




คำว่าฟ้าเหลืองนี่เมื่อก่อนไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้ซึ้งสุด ๆ เหนื่อย แต่สุขสม จนยังไม่รู้สึกง่วงเลย จุดบุหรี่สูดอัดเข้าปอดเต็มที่ เข้าใจเลยว่าทำไมเวลาดูหนังแล้วพอเสร็จกิจกามกัน ฝ่ายชายมันถึงมานั่งสูบบุหรี่ เพราะมันทำให้สมองโล่ง และคลายอารมณ์ได้นี่เอง หันไปมองหัวไหล่เนียนที่ตอนนี้มีแต่ร่องรอยรักเต็มไปหมด พี่มันนอนหันหลังให้ หลังจากเสร็จกิจกัน ยังไม่ได้ลุกไปทำความสะอาดทั้งคู่เพราะรู้สึกเหนื่อยมาก

“ไอ้เหี้ย ไอ้งี่เง่า ไอ้วิปริต มึงหน้ามืดขนาดทำกับผู้ชายได้ยังไงว่ะ” แว่ว ๆ เสียงพึมพำ จากพี่เป้ ก็อดจะยิ้มกริ่มไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความซุกซนของพี่มัน ผมคงไม่มีโอกาสดี ๆ อย่างนี้ ถึงจะถูกด่าว่าสาดเสียเทเสีย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใจที่ฟูพองของผมสะดุ้งเลย

“ก็กินไปกินมามันอร่อยอ่ะครับ เลยเพลินไปหน่อย ฮะ ๆๆ” ไม่คิดว่าพี่มันจะน่ากินขนาดนี้ ตอนใส่เสื้อผ้าครบก็ว่าน่าดู แต่ตอนไม่มีเสื้อผ้าบนต้วเลยเนี๊ยะ ขอบอกว่า แซ่บ

“ไอ้เหี้ย มึงทำอย่างนี้กับกูได้ยังไง เอาครั้งแรกของกูคืนมา” ได้ยินครั้งแรก ถึงกับขำ หล่อขนาดพี่มัน ไม่มีทางที่จะไม่เคยมีแฟนหรอก “อย่ามาเนียนอย่างพี่นี่นะ ไม่เคยมีอะไรกับใคร……….กับผู้หญิงก็ไม่เคยเหรอพี่” หัวเราะขำ แต่พอมองพี่มันที่นิ่งไม่โต้ตอบ มุดหายเข้าไปในผ้าห่ม เลยคิดว่าเรื่องจริงหรือว่ะ

“เฮ้ย เอาจริงดิพี่ จริง ๆ นะพี่ งั้นผมก็เป็นคนแรกของพี่นะซิ” จากหัวใจที่พองฟูอยู่แล้ว ตอนนี้แทบจะทะลุออกมาเต้นนอกอก จนต้องเอามือจับหน้าอกข้างซ้ายไว้แน่น ใจมันอยากจะตะโกน ย๊าฮู๊ เหี้ยๆ เลย

“หุบปากไปเลยมึง” ได้ยินว่าพี่เป้ พูดว่าอะไร แต่ตอนนี้ ชั่วโมงนี้ไม่สนใจอะไรแล้วคิดแค่รัก เพียงคนตรงหน้าเท่านั้น

“จุ๊บ ..ไม่ขอโทษหรอกนะครับ บอกซะก่อน เพราะพี่ก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ แต่ส่วนของผม ผมได้พี่แล้ว ก็จะรับผิดชอบพี่เอง” เลิกผ้าห่มออก ก่อนจะก้มลงจูบแก้มพี่มัน ดีใจแทบคลั่ง ที่พี่มันเป็นของผมแล้วจริง ๆ ทั้งผมยังเป็นคนแรกของพี่เป้อีก ตอนนี้ยังคิดอะไรไม่ออก แต่ผมอยากให้พี่มันรักผมด้วย

“ไร ๆๆๆ มึงจะรับผิดชอบแต่งงานกับกูเหรอ” พี่มันพูดเหมือนเล่น ๆ

“งั้นก็แต่งงานกับผมนะครับ” แต่ผมเอาจริง แต่งงานเลยล่ะกัน พี่มันจะได้เป็นของผมอย่างเป็นทางการ

พี่เป้ เหวอไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโวยวาย ไม่ยอมแต่ง แต่ผมบอกไว้ ณ ที่นี่เลย ว่าไม่มีทางปล่อยพี่มันให้หลุดมือไปแน่ พี่มันถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเบือนหน้าหนี ผมดึงมือพี่มันขึ้นมาจูบที่หลังมือ พี่มันสะดุ้งหันมามองหน้าแดงแปร๊ด

“ถ้าไม่แต่ง งั้นเป็นแฟนผมนะครับ”



...
............................................................พี่มันอึ้ง จนอ้าปากพะงาบ ๆ 

พอตั้งสติได้ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบจากผม เสียงแข็ง ถึงจะพยายามให้พี่มันยอมรับก็เถอะ

“เฮ้ย น่ารำคาญว่ะ อย่าเรื่องเยอะ ก็ทำตัวปกตินั่นแหล่ะ คิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นล่ะกัน ผู้ชายเหมือน ๆ กันไม่ได้เสียหายอะไร นึกซะว่าช่วย ๆ กันระบายความเครียด”

ปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เหมือนได้ยินเสียงกาน้ำร้อนเดือด ๆ หวีดร้องในหัว

“อ่า....หึ... คิดได้ไงครับ.............. ระบายความเครียดงั้นเหรอครับ” ตอนนี้โกรธ น้อยใจ หงุดหงิด สารพัดอารมณ์ ประดังเข้ามา

“............. งั้น......ก็ไม่เกรงใจล่ะนะครับ จะทำจนหายเครียดเลยล่ะ” อิ๊ออออ ได้ พูดเองนะว่าคลายเครียด งั้นขอบอกเลย ว่าตอนนี้ เครียดดดดดดดดดดดดดดมาก

จะให้ทำจนกว่าผมจะหายเครียดเลย ไอ้พี่บ้า ไอ้คนไม่มีความละเอียดอ่อน ไอ้คนไม่มีหัวใจ จะทำจนกว่าจะยอมรับเป็นแฟนผมเลย คอยดู









ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้ ต้องไปทำงานต่อ ผมคงจะจองห้องต่ออีกซักวัน โธ่ก็ผมยังไม่หายเครียดเลยนี่นา (เห็นพี่มันแลบลิ้น ยกนิ้วกลางไห้ก่อนที่จะขับรถเลี้ยวออกจากโรงแรมไป)

หลังจากนั้น ผมก็หาโอกาสกับพี่เขาเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็ดูพี่เป้ ก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านอะไร กับความสัมพันธ์ของเราแล้ว เหลือแต่ต้องหาหนทางทำให้พี่เขาตกปากรับคำเป็นแฟนผมให้ได้ สู้ ๆ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Love pill - I’m your man. (14/12/2016)
«ตอบ #7 เมื่อ14-12-2016 00:53:47 »

นาน ๆ มาต่อที หวังว่ายังมีคนอ่านอยู่นะ  :mew5:


*************************************





I’m your man.




เวลาเที่ยง ในโรงอาหารของโรงพยาบาลที่มีทั้งญาติคนไข้ คนเจ็บ คนป่วย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล และบุคคลภายนอก มาใช้บริการอย่างอุ่นหนาฝาครั่ง คนเรานี่ก็แปลก ตอนยังปกติก็ไม่ค่อยจะสนใจดูแลสุขภาพ คนดื่มเหล้า สูบบุหรี่ก็ยังดื่มยังสูบ ไม่สนใจคำเตือนข้างขวด ข้างซอง คำแนะนำให้ออกกำลังกาย ก็ไม่สนใจ จนสุดท้ายต้องมาจบลงที่ต้องมาแย่งกันใช้บริการกันอย่างดุเดือด ค่าใช้จ่ายในการเข้าโรงพยาบาลก็แพงขึ้น ๆ ทุกวัน เงินทองที่อุตส่าห์หามาก็ต้องเอามาเสียเป็นค่ารักษาสุขภาพ เฮ้อ มนุษย์


“มองไรว๊ะ” จากที่เหม่อ ๆ มองๆ ไปรอบ ๆ โรงอาหาร ก็ต้องหันมาสนใจคนร่วมโต๊ะที่ เพิ่งจะผลักจานที่เคยเป็นอดีตข้าวขาหมูซึ่งตอนนี้ดูไม่ออกแล้วเพราะไม่มีอะไรเหลือ และกำลังยกก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกชามโตเข้ามาแทนที่ กินขนาดนั้น เอาไปเก็บไว้ที่ไหนกันกับรูปร่างบางอย่างนั้น น่าทึ่งจริง ๆ

“ถ้าไม่กินกูเอานะ” หวานปากล่ะ เล็ง ๆ ไอ้หมูทอดชิ้นนั้นที่มันเหมือนยั่วน้ำลายมาตั้งนานล่ะ ก็ไอ้เจ้าของจานข้าวหมูทอดไข่ดาว มันมัวแต่มองไปมองมาอยู่ได้

เป้จิ้มหมูทอดจากจานของคิดอย่างไม่ลังเล คิดมองก็อดจะขำไม่ได้ กินเก่งจริง ๆ

“เอาอีกก็ได้ครับ”
“จริงอ่ะ ดี ๆ เอามาเลย”
“.....ถ้าไม่พอกินผมไปด้วยเลยก็ได้ครับ”

พรวด
น้ำซุปกับเส้นและผักบุ้งบางส่วน แทบพุ่งออกจากปากของเป้ “ไอ้เหี้ย มึงแม่งไม่มีอะไรจะพูดแล้วหรือว่ะ คิดแต่เรื่องนั้นอยู่ได้ ห่า”

คิดส่ายหัวน้อย ๆ กับกิริยาของคนตรงหน้า หน้าตาก็หล่อล่ะ แต่พูดแต่ละคำ ถ่อย เถื่อนจริง ๆ แต่ถึงไงก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาใส่ใจ เพราะรู้ดีว่าเนื้อแท้แล้ว คนๆ นี้ ดีแค่ไหน และเขารักคน ๆ นี้มากแค่ไหน

“ก็เราไม่ได้เจอกันมาอาทิตย์กว่า ๆ แล้วนี่ครับ” ยังแค้นฝังหุ่นไอ้เพื่อนเลวไม่หาย ชิงตัดหน้าไปพักร้อน ทำให้ต้องโอนงานให้ผมซึ่งประจำอยู่จังหวัดใกล้ ๆ ช่วยส่งแทน เลยแทบไม่มีเวลาไปกุ๊กกิ๊กกับพี่เป้เลย

“ผมคิดถึงพี่มากนะครับ” เป้ทำท่าขนลุก เอนตัวออกห่างเหมือนรังเกียจ

“คืนนี้เราไปหาอะไรกิน...แล้วค่อยไปต่อ...” ผมทำไม่สนใจกับท่าทางงี่เง่า ๆ ของพี่มัน รีบ ๆ ออกปากชวนไปทานข้าวแล้วหลังจากนั้นก็ไม่ต้องบอก อยากกินพี่มันจะแย่อยู่แล้ว ตอนไม่เห็นหน้า ก็ทนคิดถึงแทบไม่ไหว ยิ่งเห็นหน้ายิ่งแทบไม่อยากทนแล้ว

“ไม่ล่ะ กูมีนัดแล้ว”
“ผมดูในเว็บ เค้าแนะนำร้านอาหารอร่อย ๆ ผมว่าพี่ต้องชอบแน่เลย........................นัด นัดกับใคร” ยื่นมือไปกุมมือพี่มันที่วางอยู่บนโต๊ะอีกฝั่ง ลูบเบา ๆ พี่มันไม่ได้ชักมือออกเหมือนทุกที แต่เหมือนเมื้อกี้จะได้ยินพี่เป้มันพูดว่ามีนัด..นัดใครว่ะ?

พี่มันหลบสายตา หน้ามีสีระเรื่อ ท่าทางเขิน ๆ ก่อนจะตอบเบา ๆ “ไม่เกี่ยวกับมึง”

“ไม่เกี่ยวได้ไง ก็พี่เป็นของผะ..” ฉุนขาดกับคำว่าไม่เกี่ยวกันจนต้องเผลอลุกขึ้นตะโกน แต่พี่มันก็รีบ ๆ ลุกเอามือมาอุดปากไว้

ตอนนี้คนทั้งโรงอาหารหันมามองเราสองคนด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น พี่เป้เอามือออกจากปากผม และสบถเบา ๆ ก่อนจะลากผมออกมาจากโรงอาหาร ผมว่าเมื้อกี้ที่ตะโกนว่าน่าอายแล้ว ผู้ชาย สองคนจูงมือกันเดินออกไปน่าจะน่าอายกว่า แต่ดูเหมือนพี่เป้มันจะไม่รู้ตัว



ลากไอ้ตัวป่วนชีวิตกูออกมาที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล ไอ้ควาย มึงไม่ประกาศออกสื่อเลยล่ะ ว่ากูกับมึง..อึ๊ยๆ กัน คนทั้งโรงอาหารหันมามอง แม่งน่าอายชิบหาย อีสาวโต๊ะข้าง ๆ มันหันไปกระซิบกระซาบกับเพื่อนมัน ไม่พอยิ้มให้กูอีก ถึงตั้งแต่..อึ๊ยๆ กับมึง กูจะเริ่มชินกับสายตาพวกสาววายแล้วก็เถอะ แต่ยังไง ๆ ก็ยังทำใจไม่ได้เว้ย

“มึงจะบ้าเหรอ พูดอะไรออกมาวะ คนตั้งเยอะตั้งแยะ มึงไม่อายเหรอไง ...แล้วอีกอย่าง กูไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ กูไม่ใช่ผู้หญิงของมึงนะโว๊ย”

“...OK พี่ไม่ใช่ผู้หญิงของผมก็ได้  แต่ผมเป็นผู้ชายของพี่นะรู้ไว้ซะด้วย ..ไม่ว่าพี่จะทำอะไร จะไปไหน พี่ต้องบอกให้ผมรู้ด้วย” เอ่อ..เริ่มตามมันไม่ทันล่ะ อะไรวะ ผู้หญิงของผม ผู้ชายของพี่ มึนวะ แต่ ๆ ถึงจะมึนกูก็รู้สึกว่ากูถูกเอาเปรียบอยู่ดี

“อย่ามาพูดจาเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกันนะ เราก็แค่....แค่นอนด้วยกัน” ฮึ่ม อุตส่าห์พูดให้พี่มันงง ๆ จะได้หลงกลตกปากรับคำ แต่ดูเหมือนจะไม่ แค่นอนด้วยกันเหรอ อย่างพี่กับผมเค้าไม่เรียกว่าแค่นอนด้วยกันแล้ว บ้านผมเอากันขนาดนั้นเค้าเรียกผัวเมียแล้ว

ไอ้ห่านี่ต้องให้กูพูดประโยคน่าอาย ๆ อย่างนี้อยู่เรื่อย ก็ถึงจะปฏิบัติบ่อย เพราะอารมณ์และธรรมชาติของผู้ชายมันพาไป แต่แค่พูดว่าเอากับมัน ก็รู้สึกร้อนหน้าขึ้นมาทุกที

“แล้วพี่นอนกับผู้ชายคนอื่นรึไงครับ” โว๊ะๆๆ มึงจะมาขึ้นเสียงทำเป็นโกรธกูหาไรวะ ได้ยินคำถามมันก็เลยพาลหงุดหงิด

“มึงจะบ้าเหรอ กูจะไปทำอย่างนั้นกับผู้ชายคนอื่นได้ยังไง”  ไอ้นี่ มึงเห็นกูบ้าผู้ชายรึไงวะ แค่มึงคนเดียวกูก็แทบแย่แล้ว

“นั่นไงๆๆ เพราะอย่างนั้นผมถึงเป็นผู้ชายของพี่ เพราะผมเป็นผู้ชายคนเดียวของพี่ใช่มั๊ย” เอ่อ ยิ่งฟังมันพล่าม กูก็ยิ่งงง

“เอ่อ ๆ ช่างมันเถอะ วู้ มึงอ่ะเรื่องเยอะ เคยพูดไปตั้งหลายหนแล้ว มึงจะมาทำเป็นจริงจังอะไรกันวะ ผู้ชายเหมือน ๆ กัน ต่างคนต่างสนุกกันก็พอแล้ว” .....เกลียดจริง ๆ ไอ้ประโยคแบบนี้ของพี่มัน ทำยังไง ๆ มันก็ไม่หลงกล ยอมเป็นแฟนซักที พูดแต่ว่า ผู้ชายเหมือนกัน ช่วย ๆ กันคลายเครียด ต่างคนต่างสนุกก็พอ พี่อย่าหวังเลยว่าผมจะปล่อยพี่ไปมีคนอื่น

“แต่ผมต้องการมากกว่านั้น”

“มึงไม่ต้องพูด กูรู้มึงจะพูดอะไร” ไอ้คิดมึงปัญญาอ่อน รึไง พูดปาว ๆ อยู่ได้ ว่าอยากเป็นแฟนกู ไอ้นี่มึงเอาหัวแม่ตีนข้างไหนคิด แฟนกูนะต้อง เป็นผู้หญิง สวย ๆ ขาว ๆ นมโต ๆ เว้ย

“ผมยังยืนยันคำเดิม เรามาเป็นแฟนกันเถอะครับ” ไอ้นี่ๆๆๆๆ มึงยังไม่สำนึกอีก แฟนเหี้ยอะไร มึงจะมาพิศวาสอะไรกู เมื่อก่อนเห็นมันควงหญิงไม่ซ้ำหน้า

“เฮ้อ กูว่ามึงไปสงบสติอารมณ์ก่อน แล้วค่อยมาคุยกันใหม่เถอะไอ้คิด มึงมองกูดี ๆ กูกับมึงผู้ชาย เหมือน ๆ กัน มีไอ้นั่นเหมือนกัน แล้วมึงกับกูก็ไม่ใช่เกย์กันทั้งคู่ ยังไงก็ไปกันไม่รอดหรอก เชื่อกูดิ” ตบบ่ามันเบา ๆ พยายามพูดยาว ๆ ให้มันเก็บเอาไปคิด แล้วทำเนียน ๆ ก้าวขาเดินชิ่งหนี

แต่ก็ไม่ไวเท่ามือมันที่เอื้อมมาคว้าแขนไว้ “อย่าพยายามหลอกล่อผม ทำเป็นเปลี่ยนเรื่องซิครับ ตกลงพี่นัดใครไว้?”

หน่ายจริง ๆ ไอ้หมอนี่ ยังเสือกจำเรื่องแรกได้อีก มึงจะตื้อเอาคำตอบให้ได้เลยใช่มั๊ย

“อ้าว ผ.อ. สวัสดีครับ” จู่ ๆ พี่มันที่ทำหน้าหน่าย ๆ ก็ตาโต ยิ้มกว้าง ยกมือไหว้ บุคคลที่สามที่น่าจะอยู่ข้างหลังผม และถ้าบุคคล คนนั้นคือ ผ.อ.โรงพยาบาลแล้ว ผมก็รีบ ๆ หันไปหวังจะแสดงความเคารพด้วยเช่นกัน.................................................................ไหนว่ะ ผ.อ.?







“อ๊ะ!!!! ฮึ่ม ไอ้พี่เป้!!!” กว่าจะรู้ตัวว่าผมถูกพี่มันหลอก หันกลับไปก็เห็นหลังพี่มันวิ่งไว ๆ หายไปแล้ว แม่งเสียรู้มุกเด็กอนุบาลซะได้













ร้านอาหาร หรูที่ตั้งอยู่กลางเมือง ตัวอาคารเป็นไม้ ร่มรื่นปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เถาวัลย์ปกคลุมหลังคา ภายใน โต๊ะเก้าอี้ ถูกจัดไว้ห่าง ๆ พอให้นั่งสบาย ๆ หนุ่มสาวหลายคู่ รวมถึง พนักงานบริษัท ที่มาเป็นกลุ่มก็นั่งดื่มกิน คุยกันอย่างสุขสำราญ

“ขอบคุณที่ชวนเปิ้ลมาทานข้าวนะค่ะ พี่เป้” หญิงสาวหน้าตาสะสวย ปากนิดจมูกหน่อย ที่ถูกแต่งเติมเสริมด้วยเครื่องสำอางค์อย่างสวยงามน่ามอง บวกกับชุดรัดรูปสีฟ้าอ่อนที่หล่อนใส่ ยิ่งส่งให้ ทรวดทรงองค์เอว เด่นชัด สุภัทรา จัดเป็นผู้หญิงที่สวยดูดีมากคนหนึ่ง หล่อนเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ที่ผมไปติดต่องานอยู่ คุย ๆ กันอยู่หลายเดือนแล้ว วันนี้ก็หยอดเล่น ๆ แต่หล่อนรับปากมาทานข้าวด้วย ลักกี้ หล่อนยิ้มเอียงอาย ก่อนจะยกแก้วไวน์ก่อนอาหารขึ้นมา เพื่อชนแก้ว

“อย่าเกรงใจเลยจ้ะเปิ้ล พี่ต่างหากที่รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่เปิ้ลรับปากมาทานข้าวกับพี่” ฮะๆๆๆ ดูไว้ ไอ้คิด ยังไง ๆ มันก็ต้องผู้หญิงละว๊ะ สวย น่ารัก น่าเอ็นดู ตัวเล็ก ๆ บาง ๆ ดูนุ่มนิ่ม น่าถะนุถนอม ไม่ใช่ ไอ้ถึก ล่ำปึ๊ก ตัวอย่างกับควาย แล้วเสือกอยู่ข้างบนกูอีก อย่างมึง


“พี่เป้ทำงานนี้มานานรึยังค่ะ?”
“ก็ราว ๆ ห้าปีได้แล้วครับ”

“พี่เป็นคนที่ไหนคะ คุณพ่อคุณแม่พี่ทำอะไรเหรอค่ะ”
“พี่เป็นคนนครฯจ๊ะ พ่อแม่พี่ทำสวนผลไม้ กับสวนยางครับ”

“นคร? นครปฐม นครสวรรค์ นครราชสีมา?
“ผิดหมดจ้า นครศรีธรรมราชครับ พี่เป็นหนุ่มบ้านนอกคนใต้ หวังว่าสาวเมืองจะไม่รังเกียจนะครับ”

“แหม พี่เป้ล่ะก็ ไม่ต้องมาหยอดเลย เปิ้ลนะคนที่เท่าไหร่แล้วที่พี่พูดอย่างนี้”
“ว้า รู้ทัน อ๊ะ ล้อเล่น เคยพูดกับใครที่ไหน คนแรกเลยนะเนี๊ยะ”

“ไม่ต้องมาทำปากหวานเลย ว่าแต่ที่บ้านเป็นสวน มีกี่ไร่ค่ะ.... งั้นบ้านพี่ก็รวยนะซิ”
“ก็ไม่เท่าไหร่ พ่อพี่เคยเป็นผู้ใหญ่บ้านด้วย ถ้าไปแถวบ้านถามหาผู้ใหญ่ ปิ๊ด ล่ะรู้จักกันทั้งหมู่บ้าน”

“แล้วพี่มีพี่น้องกี่คนค่ะ”
“มีน้องชาย น้องสาวอย่างล่ะคน พี่เป็นพี่ชายคนโตครับ”

“อายุเท่าไหร่กับแล้ว และทำงานหรือเรียนอยู่ล่ะค่ะ”
“ไอ้ปูน น้องชาย เรียนมหาลัย ส่วนยัยปู้ ยังอยู่ ม.ปลายอยู่เลย”

“งั้นถ้าแบ่งสมบัติก็ต้องแบ่งพวกน้อง ๆ ด้วยเหรอค่ะ”
“......เอ่อ ก็ต้องเป็นอย่างนั้นล่ะครับ...”

“สวนแถวบ้านพี่นี่ ขายได้ราคาดีมั๊ยค่ะ”
“....เอ่อ..ไม่รู้ซิครับ พี่ไม่ค่อยอยู่บ้าน..”

“อ้าวถ้าพี่ไม่ค่อยอยู่บ้านแล้ว ส่วนแบ่งของพี่ใครจะดูแลละคะ”
“..หะ หา ยังครับ ยังไม่ได้แบ่ง พ่อแม่พี่ยังไม่ตาย จะแบ่งทำไม”

“อุ๊ย ขอโทษค่ะเปิ้ลไม่ได้หมายความอย่างนั้น”
“......”

“แค่คิดว่าพ่อพี่คงจะระบุแล้วว่าส่วนใหนให้พี่ส่วนใหนให้น้อง เปิ้ลเลยกังวลแทนว่าจะมีคน มาเอาเปรียบพี่เป้นะซิคะ”
“.......”

เหี้ย นี่กูพาสาวมากินข้าว หรือว่ากูมาสัมภาษณ์งานว่ะ ไอ้เปิ้ล มึงจะถามเอาโล่ เอาถ้วยเหรอวะ เฮ้ย ทำไมผู้หญิงมันถามมากจังวะ กูแค่พามึงมากินข้าวมื้อเดียว มึงกะจะเข้ามาล้วงข้อมูลกูทั้งตระกูลเลยหรือวะ แม่ง ไม่เห็นเหมือนไอ้คิดเลย มันไม่เคยถามอะไรกูซักเรื่อง เจอกันทีไรก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขี่กูตลอด อ๊ะ กูจะเอามันมาเปรียบเทียบทำซากไรวะ

 
พอเริ่มคิดถึงมันก็ยิ่งคิดถึงความสัมพันธ์ของเราสองคน แม่งโดนมันทะลวงด่านมาได้ ครึ่งปีแล้ว ก็ยอมรับล่ะว่ามันเก่ง ถึงกูไม่เคยกับใครมาก่อน แต่แค่ที่ทำกับมัน ก็สุขสุดยอดทุกครั้ง แรก ๆ ก็ยะแหยง แต่หลัง ๆ เริ่มชินมั้ง เลยรู้สึกดี แต่ก็ยังรู้สึกอายทุกครั้งที่มีอะไรกัน วุ๊ย ยิ่งคิดยิ่งร้อนหน้า ไอ้คิด มึงนะมึง ทำให้กูแปลก ๆ ไปขนาดนี้ ได้ยังไงกัน

 















กริ๊ก

ไขประตูห้องพักเบา ๆ มือ ก่อนจะแง้มเปิดช้า ๆ ห้องค่อนข้างมืด แต่มีแสงไฟจากห้องน้ำทำให้ยังพอมองเห็นภายในได้บ้าง สงสัยมันจะหลับไปแล้ว เงียบ ๆ ไว้ดีกว่า เดี๋ยวมันตื่นมาจะพูดมากอีก เมื่อเที่ยงก็หนีมันกลับมาก่อน เพื่ออาบน้ำแต่งตัวไปรับยัยเปิ้ล ไปกินข้าว





“อ๊ากกกก” พอหันไปจะปิดประตูก็ต้องตกใจ ไอ้เหี้ย ตกใจหมดกูนึกว่าผีหลอก ไอ้คิดมึงมายืนสิงอะไรอยู่หลังประตู ห๊ะ

“ยะ ยังไม่นอนเหรอมึง” ปกติกูไม่เคยกลัวใครนะเว้ย ตัวต่อตัวนี่มาเลย ไอ้เป้ลุยไม่มีถอย แต่ไอ้คิดหน้านิ่ง ๆ ตอนนี้ ที่แววตาดุ ๆ ของมันสะท้อนกับแสงนีออนจากห้องน้ำ ทำกูเสียวสันหลัง

ถามมัน มันก็ไม่ตอบ เอาแต่จ้องนิ่ง ๆ เลย แข็งใจเดินผ่านมัน ไปหยิบผ้าขนหนูจะเข้าไปอาบน้ำ แต่ก็รู้สึกถึงแผ่นอกและอ้อมแขนที่สัมผัสหลังและเอว ก่อนที่มันจะก้มลงเอาจมูกมาสูด ดมแถว ๆ หลังคอให้รู้สึกเสียว จนต้องหดคอหนี

“เฮ๊ย ทำไรว๊ะ กูเพิ่งกลับมาเหนื่อย ๆ ให้กูอาบน้ำก่อนดิ” เฮ้ย กูไม่ได้ลามกนะเว้ย ก็รู้ ๆ อยุ่ว่าเวลาอยู่สองคนในห้องกับมัน ก็ไม่พ้น ..นั่นกัน

“ตรวจจับแมวขโมย”
“ห๊ะ???”

“ตรวจดูว่ามีใครแอบมา ขโมยกินพี่ไปรึเปล่า” อื่อ นอกจากกลิ่นปกติ ก็มีแค่กลิ่นอาหารติดตัวมาบาง ๆ ไม่ได้กลิ่นน้ำหอมคนอื่น

“ไอ้นี่มึงเป็นหมารึไง ถอย ๆ กูจะอาบน้ำ ก็แค่ไปกินข้าวกันเท่านั้นเอง” ไอ้คิดทำจมูกฟุตฟิต อ้าวไอ้นี่ กูไม่ใช่สัมภาระผ่านด่านนะเว้ย ไม่ต้องมาดม แล้วทำไมกูจะต้องบอกมันเหมือนแก้ตัวเลยวะ

“แค่กินข้าว แล้วไปไหนต่อ ทำไมกลับมาดึกป่านนี้” เค้นต่อ พี่มันอาจจะไปอาบน้ำกลบกลิ่นก่อนกลับมาก็ได้ ถึงได้เพิ่งกลับเอาตอนนี้

“มึงเป็นพ่อกูรึไงซักจริงเว้ย”
“..ไม่ใช่พ่อ เป็นผัว ซักไม่ได้รึไง” เริ่มพาลล่ะ ก็พี่มันไม่ยอมตอบดี ๆ นี่หว่า

“ปล่อยซิวะ ก็ต้องไปส่งน้องเค้าก่อนดิ เค้าเป็นผู้หญิงนะเว้ย ปล่อยให้กลับเองได้ไงอันตราย” ใช้ไม้แข็งมันไม่ปล่อย ก็ต้องใช้ไม้นวม หันไปคุยกับมันดี ๆ ได้ผล ไอ้คิดมันคลายแรงกอดรัดลงนิดหน่อย

 “ไม่ได้ถูกชวนเหรอ” ก้มลงไซร้ท้ายทอยพี่มัน อารมณ์ตึง ๆ คลายลงเล็กน้อย เพราะพี่มันพูดเสียงเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ แถมยังครางเบา ๆ ตอนที่ถูกไซร้

“ชวน....”
“...” จากที่ไซร้ ๆ ซุก ๆ หยุดกึกทันที

“แต่ไม่ได้ไปตามที่ชวนหรอก....ขนาดแค่กินข้าวด้วยกันก็รู้แล้วว่า กัดไม่ปล่อยแน่ถ้าลองได้มีอะไรกันแล้ว” โหย ขนาดแค่กินข้าวมันยังถามยังกะเป็นเมียกูแล้วเลย แถมถามวนไปวนมา ก็แต่ทรัพย์สมบัติกู ขืนเอามันมาเป็นสะใภ้ แม่กูเอาตายแน่ ชีก็แรงส์น้อยซะเมื่อไหร่แม่กู

“หมายความว่าถ้าเค้าให้เล่น ๆ พี่ก็จะเอาใช่มั๊ย” ยั๊วะขึ้นมาปรี๊ด กัดบ่าพี่มันผ่านเสื้อเชิ้ต อย่างหมั่นเขี้ยว

“เฮ๊ย กัดกู เจ็บ ไอ้นี่ โอ๊ย ๆๆๆ ไม่ ไม่เอาหรอก เล่น ๆ ก็ไม่เอา ไม่งั้นมีเมียเป็นร้อยแล้ว” ไอ้หมาบ้านี่ กัดมาได้ ฉีดยายังวะมึง (แต่กูฉีดแล้ว มันนั่นแหล่ะฉีดให้กูทุกที ห่า)

“..ฮึ่ม ตอบดี ๆ นะพี่ไม่งั้นคืนนี้ไม่ต้องนอน” เว๊ยๆๆ ไอ้นี่ ได้ทีเอาใหญ่ กูพี่มึงนะ (ได้ข่าวว่ามึงเป็นเมียมันด้วย)

“โว๊ย ก็คนเค้ามีพ่อมีแม่ และก็เป็นผู้หญิง ไปทำเล่น ๆ ด้วยได้เหรอ หัวอกพ่อแม่คงสลายถ้าลูก ทำตัวเหลวไหล” ยิ้มทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้ยังกรุ่น ๆ โกรธพี่มันอยู่ ใช่ล่ะ คนนี้ไง คนดีของผม ปากร้าย ใจดี

ถูกมันพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้า อ้าปากเตรียมจะด่า แต่ก็ต้องชะงัก กับสายตาหวานเชื่อมที่มันมองมา จนขนลุก มันก้มลงมาเอาจมูกมาคลอเคลีย “อาบน้ำก่อน”

“ไว้ทีหลัง” ไล่งับปากพี่มันที่เอาแต่หลบบ่ายเบี่ยง
“...แต่อยากอาบน้ำอ่ะ” ไอ้เหี้ย มึงจะกินปากกูเหรอ มันเสียวนะเว้ย

“เดี๋ยวเสร็จแล้วก็ต้องอาบอยู่ดี” ล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อพี่มันลูบหน้าอกแบน ๆ แต่ให้ความรู้สึกลื่น ๆ มือดี ของพี่มันจนได้ยินเสียงหายใจหอบถี่
“แต่..มันสบายตัวกว่า..” มึงจะลูบเอาเลขเหรอ ไอ้นี่ เสียววูบไปถึงข้างล่างจนต้องบิดตัวหนี

“งั้นอาบไปทำไป” เรื่องมาก ผมจะทนไม่ไหวแล้วนะ เอายังไง ตกลงจะอาบให้ได้ใช่มั๊ย เออ อาบ ก็อาบวะ ไม่รีรอจับพี่มัน และตัวเองลอกคราบอย่างไว ก่อนจะอุ้มตัวยกพี่มันผ่านประตูห้องน้ำ ไปยืนใต้ฝักบัวก่อนจะเปิดน้ำรดใส่จนเปียกทั้งคู่
“ห๊ะ ไอ้ๆๆ ไม่เอานะมึง มันหนาว” ไอ้นี่มึงจะคึกอะไรนักหนา แล้วทำไมมึงไม่เปิดน้ำร้อนก่อนวะ บรื๊ออออ















“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะทำให้พี่ร้อนขึ้นเอง” ไอ้คิดมันพูดจริง ทำได้จริง แค่มันกดจูบอย่างแรง ๆ พร้อมทั้งบดเบียดร่างกายแนบร่างกูจนแทบไม่มีช่องว่าง กลางกายเราเสียดสีกัน จนกูแทบทนไม่ไหว ไม่รู้ว่าน้ำมันเริ่มร้อน หรือกูเริ่มร้อนกันแน่ ไม่ว่ามือมันสัมผัสโดนตรงไหน มันเหมือนไฟช๊อต จนกูเสียวซ่าน ปากมันก็ยังทำงานอย่างดีเยี่ยมไล้เลียกูแทบจะทั้งตัวจนกูได้แต่ครางเสียงหลง

“อ๊า ๆ ซี๊ดดด พี่หันไปหน่อยซิครับ” หลังจากเล้าโลมกันได้ที่ เลยจับพี่มันหันหลัง พี่มันโก่งบั้นท้ายเหมือนรู้งาน น่ารักจริงคนนี้ ผมคุกเข่าลง ก้มลงกัดแก้มก้นพี่มันจะสะดุ้ง “ไอ้หมาบ้า เจ็บ”

ฮะๆ ๆ โรคจิตนะผมเนี๊ยะ ได้อารมณ์จริง ๆ ตอนพี่มันด่าด้วยเสียงกระเซ่า ๆ อย่างนี้ ไม่รอช้าแยกแก้มก้นพี่มันก่อนจะส่งลิ้นปาดเข้าไปไว ๆ พี่มันร้องครางเสียงหลง แถมยังหนีบขาเข้าหากันคงจะเสียว ผมจับขาพี่มันแยกออกอีกครั้งก่อนจะส่งลิ้นและนิ้วเข้าไปปฏิบัติการเบิกทางจนพี่มันพร้อม

เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องสะท้อนภายในห้องน้ำ ผสมกับเสียงครางของเราสองคน

“อ่ะ อ๊ะ อ๊ะ.. เร็วอีก.. มึง.. กู.กู...” พี่มันเร่งให้เพิ่มจังหวะ คงใกล้ถึงแล้ว ผมเองก็เหมือนกัน พี่มันตอดถี่ยิบจนเสียวซ่าน สะโพกสอบก็กระแทกแรง ๆ ตามบัญชาองค์ชาย ส่งให้เราสองคนถึงฝั่งไล่เลี่ยกัน













ถ้าคิดว่าจบแค่นั้น คุณ...คิดผิด








“ไอ้คิดมึงเสร็จแล้วก็ถอนออกมาซิวะ มึงจะค้างไว้ทำห่าไร” อ๊า ไม่อยากบอกว่าเสียวสุด ๆ เดี๋ยวนี้ไม่เจ็บแล้ว มีแต่เสียวอย่างเดียว เสร็จแล้วมันยังไม่ถอนออกกูว่าแม่งต้องไม่หยุดแค่นี้แน่ จริง ๆ กูก็ยังไม่อยากให้มันหยุด แต่กูก็ทำเป็นไม่เอา ๆ ไม่ได้ขืนบอกมันว่ากูยังอยากอยู่ มันได้หาว่ากูแรดกันพอดี

“ตกลงพี่อยากให้ผมเอาออกจริง ๆ อ่ะ” พี่ครับปากตรงกับไอ้ที่จับน้องชายผมเป็นตัวประกันหน่อยเหอะ ปากบอกให้ปล่อย ๆ แต่ไอ้ช่องทางของพี่มันบีบ มันรัด มันตอด นัวจนผมแทบซี๊ดแล้วครับพี่

“...กูก็แค่ถาม เผื่อมึงอยากเอาออก..อ๊ะ อย่าเพิ่งขยับ” เหี้ยนี่รู้ทัน อ๊าย อาย เลยขมิบตูดไปทีแก้เขิน

“อ๊ะ อาร์ พี่เป้..ซี๊ดดด” ตกลงใครขยับก่อนผมไม่แน่ใจ รู้แต่ตอนนี้ ผมพร้อมลงสนามแล้ว

















เสร็จรอบสองในห้องน้ำ ก็มาลุยกันต่อบนเตียง จำนวนรอบไม่ต้องไปนับ รู้แต่ก่อนจะจบรอบสุดท้าย แสงแรกของวันใหม่ก็ฉายมาพอดี...ราตรีสวัสดิ์


















“เฮ้ย คิด....ถามคำดิ”
“ครับ?...” กว่าจะตื่นกันก็เกือบ ๆ เที่ยง ขยี้ตางัวเงียลุกขึ้นมานั่งได้ พี่เป้ก็ส่งเสียงแหบ ๆ สุดเซ็กซี่ มาเรียกให้หันไปมอง

“มึงไม่อยากรู้เรื่องของกูเหรอ ไม่เคยเห็นมึงถามเลย ว่ากูเป็นใคร พ่อแม่กูทำอะไร ที่บ้านเป็นยังไง” สุดท้ายก็อดจะถามสิ่งที่ค้างอยู่ในใจไม่ได้ ก็ไม่ได้อยากจะเปรียบเทียบสองคนนี้หรอก แค่อยากรู้ว่ามันสนใจแค่มีเซ็กส์กับกูอย่างเดียวหรือเปล่า

“ใครว่าไม่สน อยากถามจะแย่ แต่กลัวถูกพี่รำคาญเอาอะดิ” โหย ลำพังจะทำให้พี่มันเป็นของผมก็เต็มมือแล้ว เรื่องอื่นกะไว้ว่าค่อยทำตอนจับพี่ไว้ในกำมือได้แล้ว

“แล้วทำไม ไม่ถาม?” ตกลงมึงก็อยากรู้เรื่องกูใช่มั๊ย ไม่ใช่แค่กะฟันกู fun  fun อย่างเดียวใช่มั๊ย รู้สึกริมฝีปากมันยกขึ้นมาแปลก ๆ วะ

“ยังไม่ถึงเวลา” ไอ้นี่ทำหน้ากวนส้นต้นได้อีกนะมึง หล่อตายล่ะมึง

“เวลาอะไรของมึง” ไอ้คิดมันไม่ตอบยักคิ้ว เหมือนเรื่องอะไรเหรอ ก่อนจะก้มลงมากระซิบข้างหู ...หน้ากูร้อนขึ้นกับคำตอบของไอ้คิด ก่อนจะหยิบหมอนข้างตัวปาใส่มัน “งั้นก็ไม่ต้องรู้เรื่องกู มันทั้งชาตินี่แหล่ะ ไอ้สลัด”

ไอ้บ้านี่นอกจากจะไม่สำนึก ยังหัวเราะร่วน “พนันกันมั๊ยพี่ ไม่นานหรอก พี่ต้องอยากบอกผมเองเลยล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ”

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อะไรนะ ที่ทำให้ใจสั่นไหว



หมู่นี้ผมรู้สึกแปลก ๆ รู้สึกว่าตัวเองแปลกไป อ้อ ไม่เกี่ยวกับเรื่องนอนกับผู้ชายนะ ใครเคยเป็นบ้างนะ ไอ้ความรู้สึกแบบว่า ใจเต้น เร็วขึ้น แค่เห็นหน้ามัน เวลาไม่เห็นก็คอยมองหา แต่เวลาอยู่ตรงหน้ากลับทำอะไรไม่ถูก

“คุณปัญญาคะ หนิงว่า ไม่ใช่แล้วล่ะ”
“ห๊า คุณรู้ได้ไง” นี่ผมคิดดังไปเหรอ

“ก็นี่มันใบปลิวงานวัดนะซิคะ”
“เอ๋..โอ้ยโทษที หยิบผิดใบ เอานี่ ๆ อันนี้ต่างหาก” ตกใจหมดนึกว่าผมคิดดังเกินไปซะอีก ดันเหม่อหยิบใบปลิวงานวัดให้เจ้าหน้าที่จัดซื้อโรงบาลซะนี่

“เป็นอะไรคะ หมู่นี้เห็นเอ๋อตลอดเลย”
“ไม่มีอะไรครับ สงสัยจะนอนน้อยไปหน่อย” หนิงพูดถูก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเหม่อ มันเริ่มได้ซักพักแล้ว หลังจากนอนกับไอ้หมอนั่น มาได้หลายเดือนแล้ว ก็อย่างที่เคยบอก แรก ๆ มันก็แปลกดี สนุกด้วย ก็ผู้ชายนี่นา แค่ความต้องการทางกาย ใคร ๆ ก็ทำกัน นอนกับเพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือ ใครก็ได้

“กลางคืนทำอะไร ไม่นอนคะ”
“...” หล่อนหรี่หางตามองมาเหมือนรู้เลย ว่าเมื่อคืนผม มีกิจกรรมเข้าจังหวะ ยิ่งคิดถึงคำพูดไอ้คิดมันยิ่งได้อาย (พี่ครับ ผ่อนแรงหน่อย ผมจะขาดใจตายแล้ว) ไอ้เหี้ย มึงต่างหากที่ขย่มกู เอาเป็นเอาตาย ถึงกูจะขมิบสู้ก็เถอะ

“อะฮ้า หน้าแดงอ่ะ ซั่มกะสาว มาละซี่”
“เฮ้ย เปล่า ไม่ได้ซั่มกะสาว” ข้อหาไม่เป็นจริง ทำให้อดที่จะลนลานไม่ได้

“ตกใจอะไร คุณปัญญา อย่าบอกนะว่าซั่มกับหนุ่ม ๆ หะ ฉันล้อเล่น” ล้อเล่นได้ ถูกต้องมากแม่คุณ เล่นเอา เหงื่อตก หน้าซีด หุบปากสนิท


หรือว่าผมจะเริ่มชอบมันวะ....

ไม่รู้เว้ย เจอกันมา 2 ปี ถึงจะมีอะไรกันมาตลอดครึ่งปีแล้ว แต่ก็อย่างที่บอก มันก็ผู้ชาย ผมก็ผู้ชาย ยอมรับล่ะว่ามันเก่ง ลีลาสุโค่ย แรก ๆ ตอนเสียตัวให้มัน ทำใจไม่ได้อยู่พักใหญ่ พยายามหลบหน้ามัน แม่งก็ขี้ตื้อ หน้าด้าน หน้าทน พูดอยู่ได้ จะรับผิดชอบ ๆ แล้วก็บังคับ (กูก็ยอม ๆ ด้วย) มีอะไรกันเรื่อยมา

ถึงตอนนี้ ก็เหมือนเป็นเรื่องปกติที่จะมีอะไรกับมันแล้ว อ้อ มันบอกว่ามันรักผม ไอ้หน้าด้านนี่ มึงพูดได้ไม่อายปาก แต่กูฟังทีไร หัวใจกระตุกทุกที แต่จะให้เชื่อมันเหรอ โนเวย์

ก็ไอ้คิด เมื่อก่อนเห็นมันควงสาวไม่ซ้ำหน้า ไม่ว่าจะลูกค้า พนักงานโรงพยาบาล ก็ไม่เว้น เห็นมันฟันทิ้ง ฟันขว้างตลอด ขนาดสาวนางหนึ่งบอกท้องกับมัน มันยังพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเลยว่า
   “ลูกผมเหรอ อือ งั้นรอให้คลอดออกมาก่อน แล้วไปตรวจ DNA กัน ถ้าใช่ ผมจะรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูเอง.......แต่จะไม่มีงานแต่งงานหรอกนะ อะไร มองหน้าทำไม ตอนเอากันก็เข้าใจกันดีอยู่แล้วนี่ว่า แค่สนุกกัน ถุงยางผมก็ใส่ ฝ่ายคุณก็บอกกินยาคุมแล้ว เฮ้ ไม่เอาหน่า ถ้าจะให้ผมรับผิดชอบ ผมช่วยได้แค่นี้” ครับฟังดูเหมือนไอ้ตัวร้ายในหนังไทย เรื่องใหนซักเรื่องมั๊ย











“เฮ้...ทำไมเงียบไป พี่คิดอะไรอยู่” นี่ผมเหม่อนานไปหน่อยเหรอ กลับมาถึงห้องตอนไหนเน๊ยะ แล้วไอ้นี่มันก็นะ หน้าตามึงเป็นห่วงกูมาก แต่มือมึงที่ล้วงไปด้านหลังกางเกงกู ส่อเจตนารมณ์มาก

“เฮ้ย เอามือออกไป ไอ้นี่ เผลอเป็นไม่ได้ล้วงตลอด” ผลักอกมันออกไป โว๊ะ ยังมีหน้ามาทำหน้าทะเล้นใส่อีก ตกลงมึงห่วงกู หรือห่วงไม่ได้ปี้กูวะเนี๊ยะ

“ฮะๆๆ พี่เป้ก็ ผมก็แค่ล้อเล่น” หลัง ๆ พึ่งมารู้สึกตัว ว่า ไอ้คิดมันพูดจาสุภาพกับผมตลอดเวลาเลย ไม่เว้นแม้แต่ตอนที่มันกำลังกระแทกอยู่ข้างบนผม อ๊ากกกกก นี่กูจะคิดถึงเรื่องแบบนี้ทำไมว่ะ




“ว่าแต่ พี่คิดอะไรอยู่ ผมรุกไปขนาดนั้นแล้ว ถึงพึ่งรู้สึกตัว หือ” ห้ามไปก็เท่านั้น สุดท้ายมันก็มาประกบซ้อนด้านหลัง กอดเอวผมไว้หลวม ๆ ก้มลงจูบซับท้ายทอย ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่าข้างหู ให้ขนคอลุกซู่

“....ก็ ไม่มีอะไร..แค่คิดถึงเรื่องแกเมื่อก่อน ควงหญิงไม่ซ้ำหน้า ฟันแล้วชิ่ง อะไรเงี๊ยะ” หวาบหวามในอก ได้ยินกระทั่งเสียงหัวใจตัวเองที่เต้นถี่รัว

“ห๊า” จากกำลังเคลิ้ม ๆ ก็ตื่นเต็มตา มันจับบ่าผมหันไปเผชิญหน้า พร้อมหน้าตาที่เหมือนจะพูดว่า พี่จะไปสำรวจดาวพลูโตเหรอ

“เอ่อ ..กูถามมึง จริง ๆ นะ คิด ไม่มีผู้หญิงที่รักจริงหวังแต่งบ้างเลยเหรอ” มึงไม่ต้องทำหน้าอึ้งกิมกี่ขนาดนั้น

“....ถาม ทำไมครับ”
“อ๊าว ก็มึงชอบผู้หญิงนี่นา กูเห็น แล้วก็มีเยอะด้วย แล้วทำไมถึงมาบอก....บอกรักกูวะ” พูดเองแล้วก็เขินเอง อึ๊ยยยย ขนลุก

“อยากรู้จริง ๆ อ่ะ”
“เออดิ” เฮ้ย ไม่ต้องยื่นหน้าเข้ามา แค่นี่ก็ร้อนหน้าจะแย่แล้ว

“ยอมเป็นแฟนผมก่อนแล้วจะบอก” ดูมันยักคิ้วหลิวตา ไม่ต้องหว่าน กูไม่หลงมึงหรอก (เพราะกูหลงไปแล้ว อิ๊ๆๆ)

“เอาอีกล่ะ แฟนเฟินอะไร ไอ้บ้านี่” มันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ คำก็เป็นแฟน คำก็คบกัน อยู่นั่นแหล่ะ

“แล้วไงล่ะ ยังไง ๆ พี่ก็ต้องเป็นแฟนผม เราได้กันมาตั้งขนาดนี้แล้ว พี่ยังจะไม่รับผิดชอบผมอีกเหรอ" นับหนึ่งถึงสิบ ทนไว้ ๆ แค่เสียงเห่าเสียงหอน

“ไอ้ดื้อนี่ ก็บอกแล้วไง เดี๋ยวพอห่าง ๆ กันไป มึงก็ลืมกูเองนั่นแหล่ะ ใกล้จะถึงช่วงเปลี่ยนเส้นทางแล้ว ต่อไปก็อาจจะไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลยก็ได้”

“เรื่องนั้นค่อยว่ากัน ยังมาไม่ถึง แต่ยังไง ๆ ผมก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นแฟนพี่หรอกนะ”

“โอ๊ยยยยย มึงนี่พูดยากพูดเย็น ยังไงก็แต่งงานกันไม่ได้อยู่แล้ว ผู้ชายกับผู้ชาย รักกันแล้วไง บอกครอบครัว บอกชาวบ้านได้มั๊ย สังคมก็กดดัน ถึงอยู่กันไปไม่นานก็ต้องเลิกกันอยู่ดี”

“ผมไม่สนหรอกว่าคนอื่นจะรู้ จะให้ประกาศออกสื่อยังได้เลย ถ้าพี่ต้องการความมั่นคงกว่านั้น ผมบอกเลยว่า ครอบครัวผมรู้เรื่องของเราแล้ว”

“เห้ยยยย ไอ้นี่มึงบอกที่บ้านมึงแล้วเหรอ เย้ดเข้ แล้วที่บ้านมึงไม่บ้านแตกเหรอวะ”

“ก็..น่าจะรับได้แล้วล่ะ พ่อผมเป็นครู แกว่าลูกศิษย์แกก็มีแบบนี้อยู่ แต่แค่แกไม่คิดว่าลูกชายคนเดียวของแกจะเป็นเท่านั้นเอง ตอนแรกก็วิ่งหลบเท้าพ่อแทบไม่ทัน แต่ก็ค่อย ๆ คุยกันเรื่อย ๆ สุดท้ายท่านก็ยอมแพ้ ส่วนแม่ผม ก็โอนะ ท่าทางท่านไม่ค้านอะไร ตามใจพ่อตลอด แต่แอบกระซิบว่าอยากเจอพี่อ่ะ”

“เฮอะ ง่ายดีนะมึง ลองเป็นบ้านกูดิ ป๊า ม๊า กูรับไม่ได้แน่ ยิ่งกูเป็นลูกชายคนโตแล้วด้วย ออกจากปากพ่อกูก็มีแต่คำว่า ไอ้เป้ เมื่อไหร่มึงจะแต่งงานวะ เมื่อไหร่มึงจะมีหลานให้กงอุ้มวะ เฮ้อ กูเบื่อ กูไม่ได้อยากเกิดก่อนไอ้ปูน กูอยากใช้ชีวิตโสดนาน ๆ กูยังไม่เคยนอนกับผู้หญิงเลย แล้วทำไมกูต้องมา นอนเป็นผู้หญิงให้มึงวะ”

“ผมไม่เคยเห็นพี่เป็นผู้หญิง ผู้หญิงไม่มีไอ้นั่นหรอก”
“Shut up กูแค่เปรียบเปรยเว้ย”

“ก็อย่างที่ผมพูดละ พี่รับผมเป็นแฟน เราไปบ้านพี่ก่อนก็ได้ ผมจะให้พ่อกับแม่ไปขอพี่”

“อ๊าคคคค ไอ้นี่ มึงฟังกูมั่งมั๊ย มึงอยากตายเหรอ พ่อกูดุนะเว้ย”

“ลูกชายน่ารัก พ่อย่อมต้องดุเป็นธรรมดา”

“ธรรมดาบ้านมึงดิ ก็ไม่ได้น่ารัก กูหล่อ เข้าใจตรงกันนะ”

“พี่ก็ค่อย ๆ คุยกับพ่อพี่ซิ เหมือนผมไง ค่อย ๆ หยดน้ำลงหินเรื่อย ๆ มันต้องกร่อนซักวัน”

“โอ๊ย ถ้าป๊ารู้ ป๊าเอากูตายแน่”

“โหย ไอ้นั่นก็ไม่ได้ ไอ้นี่ก็ไม่ดี งั้นเราก็แอบ ๆ คบกันไปก่อนก็แล้วกัน”
“เออ มันก็คงต้องเป็นอย่างงั้นแหล่ะ .......เฮ้ย ไอ้นี่ทำเนียนนะมึง ใครจะคบกับมึงวะ”

“โธ่พี่ นึกว่าจะตามน้ำซะอีก”
“ไม่เว้ย ไอ้บ้า”

“งั้นผมถามพี่บ้าง พี่มีคนที่รัก หรืออยากจะแต่งงานด้วยมั๊ย”
“...มะ..ไม่มีหรอก” ชั่วแวบที่ได้ยินคำถาม หน้าของมันก็เด่นขึ้นมาในความคิด ไม่จริง ๆ เพราะมันยืนอยู่ตรงหน้าต่างหาก กูแค่ชอบมึง กูยังไม่ได้รักมึง

“แล้วผมล่ะ พี่รู้สึกอย่างไรกับผม”
“......”

“เกลียดผม?” สิ้นสุดคำมัน ก็ต้องหันขวับไปมองหน้ามัน ไอ้คิดมึงเอาอวัยวะส่วนไหนคิดว่ากูเกลียดมึง ถ้ากูเกลียดมึงจริง กูจะให้มึงเขย่าบังลังค์มังกรกู มาตั้งครึ่งปีเหรอ

“ไม่ได้เกลียดผม งั้นรักผมซิ” เอิ่ม อันนี้ก็ยังไม่แน่ใจแต่เป็นคนไทย ต้องบอกไม่ไว้ก่อน

แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ก่อนกูจะส่ายหน้า มันก็เอาสองมือมาประคองแก้มกูไว้แน่น แบบว่ายังไงก็ไม่ให้กูได้มีโอกาสส่ายหน้าแน่ ๆ ก่อนจะฉกจูบอย่างหนักหน่วง

“อื้อ อื้อ”

กว่าจะรู้สึกตัวหลังก็เอนลงไปบนเตียงนอนนุ่ม ๆ เรียบร้อยแล้ว ไอ้คิดขึ้นมาคร่อมอย่างไว ปากก็ยังบดจูบอยู่ไม่หยุด มือขวากำผมของกูให้เงยหน้ารับจูบที่ร้อนแรง ส่วนมือซ้ายก็ลูกคลำน้องชายกูผ่านกางเกงผ้า เสียวจนขนลุกซู่

“หยุด ไอ้นี่ มึง เมื่อคืนยังไม่พออีกเหรอ ให้ร่างกายกูพักบ้างดิวะ”

“วางใจได้พี่ อันนี้ อาหารว่าง เบา ๆ แต่สบายตัว”

ไอ้เห้ยยยยยยยย เบาบ้านมึงดิ หลอกกูว่าอาหารว่างมากี่ครั้งแล้ว สุดท้ายก็บุปเฟต์ชัด ๆ ซัดไม่ยั้ง all you can eat, F..CK YOU.























หลังเสร็จศึก บ่งบอกได้เลยว่าใครเป็นผู้ชนะ ใครผู้แพ้ มึงไม่ต้องมาลูบเอาใจกู กูงอน (โว๊ะ สาวแตกได้อีกกู) น้ำเสียออกไปนี่ หน้าใสเลยนะมึง แล้วดูกูซิ หมดสภาพนอนคว่ำหน้า ซีดเหมือนวิญญาณจะหลุดจากร่าง

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ชอบๆๆๆๆ
พี่คิดโดนจับกินตลอด อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ลืมแปะกฎอ่ะ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ลืมแปะกฎอ่ะ


ขอโทษนะคะลืมไปเลย :pig4:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
อื่มมมมมม เพิ่งเห็นว่าลงยังไม่หมด 55555

****************************************************************


ณ โรงอาหาร โรงพยาบาล

“เอานี่ เอ็นไก่ทอดของโปรดพี่ กินเยอะ ๆ นะครับ” เอาใจพี่มันหน่อย เมื่อคืน ใช้พลังงานกันไปเยอะ

“มึงไม่ต้องมาทำเป็นเอาใจ ยังไงกูก็ยังยืนยันคำเดิม หลังจากนี้เราคงไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะคำสั่งออกมาแล้วว่าต่อไปกูไปจังหวัดไหน” ช้อนที่ตักกับข้าวชะงักไป เพราะคำพูดของพี่มัน เฮ้อ ไม่ใช่ไม่รู้ว่า วันแบบนี้ต้องมาถึง แต่จะให้ทำไงละ คงต้องไปเช็คกับพวกเพื่อน ๆ ว่าใครอยู่จังหวัดที่พี่มันจะไป จะได้ขอเปลี่ยนเส้นทางได้ แต่พอคิดว่าต่อไปก็ต้องเกิดเหตุการณ์อย่างนี้อีก แต่หาคนเปลี่ยนเส้นทางไม่ได้ จะทำยังไงดี ให้แยกกันนาน ๆ ไม่ได้หรอก น่ารักขนาดนี้ เสร็จโจรกันพอดี

ตอนนี้มีอยู่วิธีเดียว


ต้องให้ย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันให้ได้เลย ฮึ พี่ครับ ผมไม่ให้พี่รอดมือผมไปได้หรอก

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เกริ่นนิดนึง เรื่องนี้จริง ๆ แล้ว คือไม่ได้วางแผนวางแนวเรื่องไว้ นึกจะแต่งตอนไหนก็แต่ง อาจจะโดดไปโดดมา
ช่วย ๆ กันรู้เรื่องหน่อยนะคะ  :hao7:


**************************************************************



Meet the Parent -




วันที่ 29 ธันวาคม




อื้อ ปวดเมื่อยตัวไปหมด รู้สึกเหมือนขยับตัวไม่ได้เลย อะไรก็ไม่รู้หนัก ๆ ทับผมทั้งตัว ผีอำเหรอ
ไม่นะ ผมอยู่ห้องนี้มานาน ไม่เคยมีอะของ หยอง ๆ แบบนี้

โห ถ้ามันจะเป็นผี ก็ผีลามกละวะ แม่งล้วงมาจับลูกชายผม ลูบ ๆ คลำ ๆ ไม่พอ ด้านหลังผม
ยังรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง ที่มันพยายามถูไถบดเบียดไปมา แล้วผีบ้าก็ส่งเสียง

“ซี๊ดดดด อ่ารรร พี่ครับ อย่ารัดนักซิครับ มันเสียว”

ให้ต้องหันขวับไปมองมันอย่างเหยียด ๆ เสียว พ่องงงงมึงดิ ไอ้นี่เป็นเอามาก อย่าบอกนะว่ามึงกำลังฝันว่ากำลังเอากะกูอยู่ ของมึงก็อยู่นอกตัวกู แล้วมึงเอาที่ไหนมาครางเสียงกระเส่าว่ากูรัด
มึงฮ๊ะ ไอ้บักคิด


หมั่นใส้ เลยเบิ๊ดกระบาลมันไปทีให้คนที่โดน ตกใจลุกขึ้นนั่งพรึ่บทันที

“โอ๊ย ทำร้ายร่างกายผมทำไมอ่ะพี่เป้”
“ไม่มีอะไรหมั่นใส้เว้ย มึงลุกจากตัวกูให้ไวเลย”

“โธ่พี่ยังเช้าอยู่เลย ดูดิฟ้ายังมืดอยู่เลย”
“ตื่น ๆ มึงไปอาบน้ำเร็ว เดี๋ยวเราต้องออกกันแล้ว สายกว่านี้รถจะติด”

“อ่ะ”
“อ่ะ อะไร?

“มอร์นิ่งคิสอะพี่”
“มึงจะคิสกับตีนกูก่อนมั๊ย ไปเร็ว กูจะได้อาบบ้าง”

“โหย โหดอ่ะ ถ้าไม่อยากช้า ไปอาบพร้อมผมเลยก็แล้วกันดีมั๊ยพี่”
“อาบพร้อมมึง วันนี้ก็ไม่ได้ออกจากกรุงเทพแน่ ไปไม่ต้องมาทำเป็นหื่น”


กว่าจะเข็น ไอ้หื่นสุภาพ เข้าไปอาบน้ำได้ก็เปลืองเนื้อเปลืองตัวไปพอสมควร แม่งไอ้นี่ มันจะหื่นเอา
ถ้วยรางวัลไปถึงไหน เห็นใจกูบ้าง มึงพอใจมึงก็ไป แล้วกูล่ะ ไอ้ที่กำลังขึ้นนี่ใครจะ
รับผิดชอบบบบบบ

 











“ดีนะครับ ที่เราออกกันมาตั้งแต่เช้า รถยังไม่ค่อยติดเลย”
“มันไม่ใช่สงกรานต์เว้ย ปีใหม่ กรุงเทพฯมันมีแลนด์มาร์คสำหรับฉลองปีใหม่เยอะแยะ คนไม่ค่อย
อออกต่างจังหวัดหรอก”

“อ้าว เหรอครับ แล้วทำไมเราต้องออกกันซะเช้าขนาดนี้ละครับ”
“ก็ว่าจะแวะเที่ยวเขื่อนรัชชประภาก่อนนะซิ”

“ก็ดีนะครับ ผมยังไม่เคยไปเลย”
“แล้วมึงจะติดใจ”

“ไม่มีอะไรทำให้ผมติดใจได้เท่าพี่แล้วละ”
“..ไอ้เชี่ย หยอดซะกูนึกว่าบ้านมึงขายขนมครก พอ ๆ เลย มึงง่วงก็นอนไปก่อน ถ้าเหนื่อยกูจะปลุก
มึงมาขับรถต่อ”

“กู๊ดไนท์ครับพี่”

พ่องงงงมึงดิ กู๊ดไนท์ แสงอาทิตย์เริ่มจะขึ้นมาแยงลูกกะตากูอยู่แล้ว เอือมกับความมึนของมันจริง ๆ ไม่รู้ แม่งจะทำหวานทำซึ้งให้กูเขิน ทำห่าไร







ขับไปได้ซักพัก ก็เห็นมันคอพับคออ่อน ไอ้คิดมันหลับง่าย เลี้ยงง่าย โยนอะไรให้มันก็กิน
ไอ้หมาตัวใหญ่


คบกันมาได้นานอย่างไม่น่าเชื่อ ตอนแรกก็คิดว่าแค่หนุกหนาน ไม่ซี ไม่นึกว่ามันจะจริงจัง จนผม
ต้องยอมรับสถานะ .......มะ...เมีย (แค่คิดยังหงุดหงิดเลย สุดหล่อมาดแมนอย่างผมต้องมาใช้
สรรพนามแทนตัวเองว่า มอ สระ เอีย เมีย................เป้รับบ่ได้ Oh nooooooooooooo)

เอ่อ กลับเข้าเรื่อง ๆ นี่ก็จะปีใหม่แล้ว เราไม่มีตารางงานช่วงนี้ทั้งคู่ มันเลยถือโอกาสมาสิงอยู่ที่ห้อง
ผม หลายวันแล้ว แล้วเมื่อวานซืน มันก็ได้ยินผมคุยกับที่บ้านว่าจะกลับบ้านช่วงปีใหม่.....เท่านั้น
แหล่ะ มันรีบ ๆ บอกเลยว่าจะไปกับผมด้วย ถามมันว่าไม่กลับบ้านเหรอ มันบอกว่าสงกรานต์
ค่อยพาผมไปไหว้ครอบครัวมัน ส่วนปีใหม่มันจะถือโอกาส ไปขอผมกับพ่อแม่......

ไม่อยากจะคิด ถ้าพ่อรู้ มีหวังบ้านแตก เลยบอกมันว่าถ้าโอกาสไม่เหมาะ ค่อยบอกคราวหน้าก็ได้
มันก็ท่าทางเข้าใจ ก็ดี




ระหว่างทางก็แวะเข้าห้องน้ำตามปั๊ม และหาของกินทั้งมื้อหลัก และของว่าง ไอ้คิดมันบอกจะขับต่อ
ให้ ผมก็เลยได้พักบ้าง แต่ก็ไม่ได้หลับหรอก เพราะไอ้คนขับมันบอกมือมันไม่ว่าง ให้ผมคอยส่งน้ำ
ส่งขนมป้อนมันอยู่เรื่อย ไอ้นี่มึงจะกิน ก็ไม่ต้องขับซิวะ ลำบากกูจริง ๆ ฮ้วย






ขับมามากกว่า7 ชั่วโมง เราก็เข้ามาในบริเวณ ท่าเรือไปเขื่อน ผมมีเพื่อนมันทำที่พักแพในเขื่อน
เลยโทรบอกมันแล้วล่วงหน้าแล้ว หลังจากฝากรถไว้ที่จอดรถแล้ว ก็สะพายของไปพอคืนเดียว
เพราะพรุ่งนี้บ่าย ๆ ก็กลับเข้าท่าแล้ว

ไอ้คิดมันถือกระเป๋าที่มีทั้งของมันและของผมไว้ ผมเลยเดินตัวปลิวตรงเข้าไปหาเพื่อน

“เฮ้ย ไอ้หนึ่ง บายดีมั๊ยวะมึง”
“เออ ก็เรื่อย ๆ ดีนะมึงโทรมาก่อน ไอ้เป้ แขกกูเต็มหมดแล้ว แต่มีห้องหนึ่งมันมาพรุ่งนี้ตอนเย็น
กูเลยกั๊กให้มึงวัน แล้วนี่มากับใครวะ”

“อ้อ นี่ พะ เพื่อนกูเอง ชื่อคิด มันตามมาเที่ยวบ้านด้วย” พูดแนะนำไอ้คิดโดยไม่หันไปมองหน้ามัน
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องทำหน้าเหม็นแน่ ๆ เลย แล้วมึงจะให้กูแนะนำมึงกับเพื่อนกูว่า เฮ้ย หนึ่ง นี่ผัวกู
นะ รู้จักกันไว้ซิ เชี่ย กูก็อายเป็นนะโว้ย เรื่องบางเรื่องไม่ต้องอยากอวดชาวบ้านหรอก เอาไว้รู้กัน
สองคนก็พอแล้ว


“...ยินดีที่ได้รู้จักครับ พี่หนึ่ง”
“โห สุภาพ เหี้ยๆ เรียกกูพี่? มึงอ่อนกว่าไอ้เป้เหรอวะ”

“ครับ อ่อนกว่า 2 ปี”
“เออวะ ว่าแต่มึงไปคบกันท่าไหนวะ”

“ไอ้หนึ่ง มึงไม่ต้องมาถามมากกูขับรถมาทั้งวัน เหนื่อยโว้ย ไป ๆ พาไปที่พักได้แล้ว” เชี่ย ก็หลายท่า
อยู่นะ อ้าวไอ้ห่า ไม่ใช่ โอ๊ย ไม่เอาแล้ว ขืนมึงยังถามมากกูต้องได้หลุดปากไปแน่ ทำเป็นเสียงดัง
ไล่ ๆ ให้มันพาลงเรือ ได้ยินเสียงไอ้คิดมันหัวเราะหน่อย ๆ ด้วย แม่งมึงรู้เหรอว่ากูคิดอะไรอยู่


วันนี้อากาศดี บ่าย 2 แล้ว แดดไม่มาก เขื่อนเชี่ยวหลาน(อีกชื่อของเขื่อนรัชชประภา) ไม่ได้มานาน
แล้ว เมื่อก่อนเรียนอยู่ตรัง ก็ยกพวกมาเที่ยวบ้านไอ้หนึ่งกันบ่อย ๆ ไม่ว่ามากี่ครั้ง ที่นี่ก็ยังสวย
น้ำในเขื่อน ลึกมาก มองดูเป็นสีเขียวแก่บ้างอ่อนบ้าง ตามความลึก สีสวยเหมือนมรกต รวมทั้งดู
เหมือนอยู่ในหุบเขา แล้วทำให้แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นเขื่อน เผลอคิดว่าเป็นทะเลอันดามันทุกที

เรือหางยาววิ่งสวนไปมากันไม่เว้นว่าง เชื่อแล้วว่าหน้านี้ คนมาเที่ยวกันมาก ผ่านแพที่พักหลายเจ้า
กว่าจะถึงของไอ้หนึ่ง ของมันจะมีล๊อบบี้ (เรียกซะหรู ก็แค่แพเปิดโล่งเอาไว้รับแขก) และขนาบด้วย
เรือนแพข้างละหลายหลัง

“พี่น้ำสวยมากเลย ผมนึกว่าเป็นน้ำทะเลนะเนี่ยะ เลยลองชิมดู มันน้ำจืดนี่นา” ไอ้คิดมันท่าทาง
ตื่นเต้น ชี้นั่นถามนี่ ให้ไอ้หนึ่งพากษ์เกือบไม่ทัน คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่พามันมาที่นี่...............


เอ่อ.........เหมือนผมจะคิดอะไรอย่างกับสาวน้อยเลยว่ะ แหยงง่ะ










“พี่เป้ พี่เป้มาแล้ว”

ทันทีที่ก้าวขึ้นแพ เด็กหนุ่มที่ผมรู้สึกคุ้น ๆ ก็วิ่งเข้ามากอดแขน เขย่าใหญ่เลย

“เอ่อ....ไอ้นิต?”
“ช่ายแล้วเพ่ โหทำเป็นจำกันบ่ได้ ฮ่ะๆๆๆ”

โหย มันต้องจำไม่ได้อยู่แล้วก็ตอนนั้นมันแค่ 10 ขวบ แล้วดูตอนนี้ซิ เป็นหนุ่มน้อย 18 หน้าใสเชียว
ไอ้หนึ่งมันเหมือนพ่อ หล่อแบบเข้ม ๆ ส่วนนิตน้องชายมัน ได้แม่มาเยอะเลย หล่อใสเชียวไอ้หมอนี่

“แล้วนี่ เรียนอะไรอยู่”
“ผมเพิ่งสอบได้ มหาลัย S ที่ตรังนี่แหล่ะพี่ แล้วพี่ล่ะทำอะไรอยู่อ่ะ?”

“อ้อพี่เป็นเซลล์ ของบริษัทผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์น่ะ”
“เอ๋ พี่จบวิศวะไม่ใช่เหรอ ไมไปเป็นคนขายยาอ่ะ?”

“คนขายยา บ้านมึงดิ กูเป็นเซลล์ ก็ขายทุกอย่างแหล่ะ ที่เกี่ยวกับการแพทย์”
“โหย ระดับพี่ทำไมไม่หางานบริษัทดี ๆ ใหญ่ ๆ ละพี่”

“ก็กูชอบงานนี้นี่หว่า ไม่ต้องนั่งเฝ้าโต๊ะ แถมได้ไปที่ต่าง ๆ อีก ได้คุยกับคนเยอะแยะไปหมด”
“เฮ้อ วัยรุ่นไม่ข้าวจาย”

“มึงนี่ ลิ้นไก่พิการเหรอ ช่าย ๆ อยู่นั่นแหล่ะ พูดภาษาไทยถูกต้องไม่เป็นเหรอ ภาษาวิบัติหมด”
“โห พี่อ่ะ ไม่วัยรุ่นเลย ไม่ใจอะ”

“ใจ พ่องงงงงงง”
“เดี๊ยวฟ้องพ่อเลยว่า พี่เป้ด่าพ่อ”

“ด่ามึงอ่ะแหล่ะ ไอ้นี่ลามปาม”

ตบหัวน้องเพื่อนด้วยความเอ็นดู มันก็ไวรีบวิ่งไปหลบหลังพี่มัน จนอดจะขำไม่ได้ แต่พอหันไปมองหน้า ไอ้คิด แม่งหน้าอย่างกับยักษ์ กูรู้มึงคิดอะไรอยู่

ไอ้นี่ มึงจะคิดมากไปทำไม นั่นน้องเพื่อนนะเว้ย กูไม่พิศวาส ผู้ชายคนอื่นหรอก แค่มึงกูก็รำคาญ
จะแย่แล้ว

ไอ้คนขึ้หึงไม่เข้าท่า เดินเข้ามาจับข้อศอกผม มองไปที่ไอ้นิต

“เอ่อ นิตนี่พี่คิดเพื่อนพี่”
“คิด นี่น้องนิต น้องชายคนเล็กไอ้หนึ่ง”

“โหพี่ เพื่อนพี่หล่อจุงเบย”


รู้สึกคิ้วกระตุก ไอ้นิตมันมองไอ้คิดตาแป๋วเชียว มึงอย่าบอกนะว่า มึงนิยม ปลูกป่า....เอิ่ม เหมือนกู

ไอ้คิดพอได้ยินไอ้นิตพูดมันก็หัวเราะทันที หันมายักคิ้วให้ผม ชิ หล่อตายล่ะมึง




เรือนที่ผมได้พักอยู่หลังสุดท้ายปีกขวาของแพ จัดแจงเอาของเข้าไปเก็บในห้อง แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดเพื่อเล่นน้ำ

“ทำไรวะ?”
“ดูน้ำครับพี่ เขียวสวยเชียว ท่าทางลึกมากเลยนะครับ”

“ลึกดิ เล่นน้ำมั๊ย มึงว่ายน้ำเป็นเปล่า?”
“เอ่อ เล่นซิพี่ แต่ว่ายไม่ค่อยเก่งหรอก”

“งั้นเชิญคุณมึงลงไปก่อนเลย”
“เฮ้ยยยยยยยยย”

ตูมมมมม
จังหวะไอ้คิดมันเผลอ ยกเท้าถีบมันลงน้ำ โดยที่มันไม่ทันตั้งตัว เป็นผลให้ไอ้คิดร้องเสียงหลง จมไปนิดนึงก่อนจะทะลึ่งพรวดขึ้นมา หน้าตาเหรอหรา

“พี่เล่นอะไรบ้า ๆ ถ้าผมว่ายน้ำไม่เป็นทำไงอ่ะ”
“ก็กูถามมึงแล้วนี่ก่อนส่งมึงลงน้ำ ฮะๆๆๆ”

“พี่ให้ผมขึ้นก่อน ขอไปเอาเสื้อชูชีพมาใส่ก่อนดีกว่า ผมว่ายไม่ค่อยเก่ง”
“เออ ๆ มะมา ขึ้นมาก่อน”


หน้าตามันตลกดี ขำจนท้องคัดท้องแข็ง แต่ก็เห็นด้วยกับมัน ถ้ามันว่ายน้ำไม่คล่อง ใส่ชูขีพดีกว่า
เพื่อความปลอดภัย เลยเอื้อมไปดึงมือมันที่เกาะไม้ไผ่แพลอยตัวอยู่

ตูมมมมม

“ฮะๆๆๆๆๆ พลาดแล้วพี่”

ไอ้เชี่ย เห็นมันสุภาพหงิม ๆ ตลอด ไม่นึกว่าจะมีมุมร้ายอย่างนี้ พอจับมือกันได้ มันก็ออกแรงดึงผมให้ตกน้ำด้วยกันทันที แม่งไม่ทันตั้งตัว สำลักน้ำเข้าไปด้วย แหวะ

“แค่กๆๆๆ แหว่ะๆๆ มึ..มึง แค่ก แสบนักนะมึง”
“อ้าวก็ได้มาจาพี่นี่แหล่ะ เหว๊อออ”

“ตายซะมึง หนอยจะเอาคืนกูเหรอ อย่าอยู่เลยมึง”

พอตั้งตัวได้ก็โผ เข้าใส่มัน กะจะจับหัวมันกดน้ำ มันก็ปัดป้องเป็นพัลวัน จนพลาดให้มันหลบไปอยู่ข้างหลัง แล้วใช้สองมือกอดทั้งแขนผมให้อยู่นิ่ง ๆ รู้สึกได้ถึงจมูกมันที่เฉี่ยวแก้มไปมา จนต้องหันไปมองค้อน ก็ต้องอึ้งกับสายตาซึ้ง ๆ ที่มันมองมาให้รู้สึกร้อนวูบวาบ





“เอ่อ...ถ้ามากวนฉากเลิฟซีนมึงก็ อภัยด้วยวะไอ้เป้”


“แว๊กกกกกกกกก”

จู่ ๆ เสียงปริศนาก็ทำให้หลุดจากภวังค์ ตกใจที่อยู่ ๆ ไอ้หนึ่งมันนั่งยอง ๆ ริมแพ มองมาที่พวกเรา
ด้วยสายตาหน่าย ๆ  เชี่ยมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง โต๊ะจายโหมะเลย รีบ ๆ แยกกับไอ้คิดแทบไม่ทัน กูว่า
หน้ากูต้องแดงมากแน่ๆ ส่วนไอ้คิดมันก็ยิ้ม ๆ ให้ไอ้หนี่ง

“เชี่ยแม่ง เพื่อนกันเว้ย แมน ๆ เล่นน้ำกัน” แก้ตัวลิ้นพันกัน
“หรออออออ” แต่ดูมันจะไม่ค่อยเชื่อ=_=! เสียงสูงนะมึง

“เออๆๆ แล้วมีอะไร”
“กูจะมาบอกว่า กินข้าวเย็นที่แพมึงนั่นแหล่ะไม่ต้องไปที่เรือนกลาง เดี๋ยวกูให้ไอ้นิตยกเหล้ายาปลา
ปิ้งมาให้”

“เออดีว่ะ จะได้คุยกันได้เต็มที่หน่อย”
“ฮะๆๆๆ เสียดายมึงมาคนเดียวถ้ารวมพวกเพื่อน ๆ ด้วยก็คงดี เอ่อ วันหลังเลี้ยงรุ่นมึงมาด้วยดิ พวกไอ้ติ่ง ไอ้หมวย มันถามหาอยู่เรื่อย”

“เออๆๆ ไว้จัดเมื่อไหร่ โทรบอกกูด้วย ถ้ามาได้กูจะมา”
“OK…..เอ้าเชิญเล่นน้ำ แมน ๆ ของมึงต่อ กูไม่กวนแล่ะ”


เชี่ย ถามว่ากูอายมั๊ย?............มากกกกกกกกกกกกกกกอ่ะ

แม่งต้องรู้ระแคะระคายแน่เลย

“พี่ครับ แมน ๆ เล่นน้ำกันต่อมั๊ยครับ”
“แมนพ่องงงงง เลิก ๆ กูจะขึ้นแล้ว หลับเอาแรงไว้เย้ว ๆ คืนนี้ดีกว่า มึงจะเล่นต่อก็เล่นไป”
“ไม่อ่ะ พี่ขึ้นผมก็ขึ้น”





พอขึ้นมาได้ก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วล้มตัวลงนอน ไอ้นี่มึงจะมาซ้อนหลังกูให้กูเสียวหาอัลไล

“เถิบไปเลยมึง เดี๋ยวไอ้หนึ่งมาเห็นก็กรี๊ดแตกกันพอดี”
“ฮะๆๆๆ พี่หนึ่งไม่ว่าอะไรหรอก”

“มันไม่ว่า กูว่า ถอยไป เดี๋ยวถีบตกแพเลย”
“อ่ะๆๆ OK”





ไอ้นี่กวนตีน........มันไม่นอนซ้อนหลังแต่มันนอนหันหลังชนกับกู มันจะต่างกันตรงไหนวะ ช่างมันกู
เหนื่อย นอนดีกว่า










เสียงเดินบนแพใกล้เข้ามา ผมลืมตาขึ้นมาก็เห็นว่า เผลอตัวหันมานอนกอดพี่มันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
ก็มันเป็นท่าถนัดนี่นา นอนกอดอย่างนี้มาตลอดจู่ ๆ ไม่ให้กอดไม่ได้หรอก

น้องนิตเรียกที่หน้าประตู ผมเลยลุกขึ้นไปเปิดประตู น้องยกถาดที่มีอาหารหลายอย่าง รวมทั้งจาน
ช้อน แก้ว และหิ้วกระติกน้ำแข็งใบใหญ่ โหยแข็งแรงผิดกับรูปร่างเลยแฮะ


“อ้าวพี่เป้ ยังหลับอยู่อีก ตื่น ๆ มากินข้าวได้แล้ว” น้องวางของทุกอย่างหน้าห้อง แล้วชะโงกหน้าเข้า
มาร้องเรียกพี่เป้เสียงใส แต่พี่มันก็ยังไม่ตื่น

“อ้าวไอ้เป้ ยังไม่ตื่นเหรอวะ” ไม่ทันขาดคำ คนพี่ก็ตามมา เอาขาเขี่ยพี่มันที พี่มันคงรำคาญเอามือ
ปัด ๆ แต่ก็ยังไม่ตื่น

“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมปลุกให้ ถ้านอนกลางวันจะตื่นยากครับ”
“............รู้ดีนะน้อง....” อุ๊บ ดูเหมือนผมจะพลาดอะไรไปซะแล้ว พี่หนึ่งหรี่ตามอง

“ก็ไปรบกวนที่บ้านพี่เขาบ่อยครับ” ผมไม่มีปัญหาหรอกครับถ้าพี่หนึ่งหรือใคร ๆ จะรู้ความสัมพันธ์
ของผมกับพี่เป้ อยากให้รู้ด้วยซ้ำ ก็คนของผมหล่อน่ารักจะตาย ไปไหน ๆ ก็มีแต่คนมาเจ๊าะแจ๊ะ

“เออๆๆ ปลุกมันเร็ว ๆ หิวแล้ว”



“พี่ครับ ตื่นได้แล้วครับ พวกพี่หนึ่งรอกินข้าวอยู่” ผมก้มลงนั่งข้าง ๆ เขย่าตัวพี่มันไปหลายที ก็ยังไม่
มีท่าทีจะตื่น เฮ้อตื่นยากครับคนนี้ แต่ผมมีไม้เด็ด

โน้มหน้าไปข้าง ๆ หูพี่มัน เป่าลมเข้าไปเบา ๆ “พี่ครับ ถ้าไม่ตื่นนี่ผมทำอะพี่ไม่รู้ด้วยนะ” มือข้าง
หนึ่งก็ล้วงเข้าไปในกางเกง ลากนิ้วผ่านร่องแยกด้านหลังพี่มัน

“ไอ้เชี่ย หยุดเลยนะมึง เมื่อคืนยังทำไม่พออีกเหรอ” ได้ผลครับ พี่มันค่อนข้างจะระแวงผม เพราะผม
ชอบลักหลับมัน ต่อให้มันง่วงแค่ไหนเจอไม้นี้ผมนี่ ตื่นตาโตเลยครับ ทะลึ่งพรวดขึ้นมานั่งชี้หน้าคาดโทษผม

“ตื่นแล้วไปกินข้าวกันพี่” พี่มันมองมาเหมือนไม่ไว้ใจ โหยทำร้ายจิตใจผมมาก ทำอย่างกับเวลามี
อะไรกันผมขืนใจพี่งั้นแหล่ะ (ก็เห็นให้ความร่วมมือดีทุกที)



“มันทำอะไรมึง?” เสียงพี่หนึ่งมาพร้อมกับหน้าแกที่โผล่มาทางหน้าต่าง พี่เป้หน้าเหวอไปเลย
ลนลานหลบสายตา ยิ่งมีพิรุธนะพี่

“เปล๊า!!!! เอ่อ..เมื่อคืน....เมื่อคืนเล่นไพ่กัน ..เออเล่นไพ่ ฮะๆๆๆ” ไม่เนียนเลยพี่ เปล่าซะ เสียงสู๊ง สูง

“...เออ ๆ มา ๆ กินข้าวกัน แล้วจะได้กินน้ำยอดข้าวต่อ”


พี่เป้หันมาชี้หน้าผมที่อมยิ้มกับ ใบหน้าสีระเรื่อของพี่มัน ก่อนจะออกมานั่งกันหน้าห้อง อาหาร
ไม่ได้หรูหราอะไร ปลาทอด ไข่เจียว แกงส้ม  ผัดผักรวม และ น้ำพริกกับผัก แต่การได้นั่งกิน
ท่ามกลางบรรยากาศขุนเขา สายน้ำ และคนที่รัก มันทำให้เป็นมื้อที่รู้สึกอิ่มเอมใจมากจริง ๆ








หลังอาหารหลักหมด ก็ตามด้วยน้ำยอดข้าวของพี่หนึ่งทันที พี่หนึ่งคุยสนุก มีเรื่องเก่า ๆ สมัยวัยรุ่น
ของพี่เป้มาเผาให้ฟัง ทำให้ผมรู้สึกสนุกมาก แต่พี่เป้ก็คอยบอกว่าไม่จริง ๆ ฮ่ะๆๆๆ  จะเชื่อพี่ก็แล้วกัน

“อ้ายนี่มันหล่อ มันเก่ง เนื้อหอมในหมู่รุ๊นน้องผู้ชาย ปายไหนมาไหน เด็ก ๆ ตามกันเพียบ
แม่งสาว ๆ ก็เข้ามาเยอะนะ แต่มันยังเวอร์จิ้นอยู่เลย ฮะๆๆ รู้มั๊ย มันยังไม่เคยฟันหญิงด้วยซ้ำ”

อ้อทราบครับ ผมพิสูจน์มาแล้ว

“อ้ายเชี่ยหนึ่งมึงจะรื้อฟื้นหาพ่องงงมึงเหรอ ตอนนี้ไม่ช่ายแล้วเว้ย”

“อาราย มึงจะบอกว่ามึงได้ฟันหญิงแล้วเหรอ จริ๊งอ่ะ”

“............ไม่...ไม่รู้อ่ะ....” อดจะขำไม่ได้ พี่มันทำท่ายั๊วะที่ถูกเพื่อนเก่าสบประมาท จะตอบโต้กลับ
แต่ก็ต้องหงายเงิบ  เพราะพูดไม่ออกว่าไม่ใช่ผู้หญิง แต่เป็นผู้ชาย และก็ไม่ได้ฟันเขา แต่ถูกเขาฟัน

“แล้วพี่คิดละครับ มีแฟนรึยัง หล่อขนาดนี้ นี่” ฝ่ายน้องนิตนี่ไม่เมานะครับ พี่หนึ่งห้ามกิน บอกมัน
เมาแล้วเรื้อน เอ่อ ผมว่าไม่เมาก็ท่าทางจะเรื้อนได้ จากนั่งห่าง ๆ ตอนนี้เหมือนแทบจะสิงผมแล้ว
อ้อผมดื่มเข้าไปนิดหน่อย ไม่ได้เมานะครับ


“แล้วน้องนิตละครับ” ผมหันไปเห็นพี่เป้มันหันมามองนิดนึง ก่อนจะทำไม่สนใจหันไปคุยกับพี่หนึ่ง
ต่อ  แล้วเข้าใจอารมณ์อยากหยอกแฟนมั๊ยครับ

“ผมโสดสนิทครับพี่ แต่ตอนนี้ผมอยากสละโสดดด คิกๆๆ” น้องก็น่ารักนะครับ แต่ก็ไม่เท่าผู้ชาย
ของผมหรอกครับ หันมามองอีกครั้งแล้ว

“เหรอครับ ใครนะ ผู้โชคดีที่ทำให้น้องนิตอยากสละโสดน่ะ”

“แหม๋ พี่คิดก็ทำเป็นมาถาม ไม่รู้จริง ๆ เหรอครับ” น้องลุกมาคุกเข่าหันเข้ามาหาผม ก่อนจะยื่นมือ
มาโอบรอบคอ แล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้




พรึ่บ


“เหว๊ออออ”

“อย่ามายุ่งกับของ ๆ พี่นะนิต เดี๋ยวจะโดนไม่ใช่น้อย”

อดจะดีใจไม่ได้ จู่ ๆ พี่เป้มันก็ลุกมาลากคอน้องนิตออกจากผม ไม่พอยังเข้ามานั่งตักกอดคอผม
ด้วย น้องนิตนี่หน้าเหวอไปเลย

“อะไรกัน ไหนว่าแค่เพื่อนไงพี่เป้”
“เอ่อ ก็เพื่อนไง เพื่อนรัก รักเพื่อน มึงเข้าใจช่ายมั๊ย”

“โหยเซ็ง นึกว่าจะได้พี่คิดเป็นแฟนแล้วเชียว มีแฟนแล้วยังมาแกล้งให้ผมมีหวังอีก อ้ออย่าบอกนะ
ว่า แค่อยากให้พี่เป้มันหึง”

อดจะขำไม่ได้ น้องนิตเขาไม่ได้โกรธจริง ๆ จัง ๆ หรอกครับ ท่าทางจะหยอกเล่นซะมากกว่า พี่เป้มัน
ท่าทางจะเริ่มรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป หันไปมองน้องนิต หันไปมองพี่หนึ่งที่ตอนนี้ ถือแก้วค้างคา
ปาก ตาโต แล้วหันมามองหน้าผมที่ยิ้มแก้มแทบปริ





“เฮ้อ กูมาววววแล้ว ม่ายหวายแล้ว ไปนอนดีกว่า” พี่มันจู่ ๆ ก็ลุกขึ้นพรวด เซเล็กน้อย แล้วรีบ ๆ
เดินเข้าห้องหายเงียบไปเลย

ผมหันไปมองพี่หนึ่ง ก็เห็นแกเอาแก้วตั้งไว้แล้ว แหงนหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ ครู่หนึ่งก็หันมาพูดกับผม

“ฮือๆๆๆๆ ไอ้เป้ แม่งไม่เจอพักเดียว มีผัวไปซะแล้ว” ฮะๆๆๆ ผมอดจะขำหน้าพี่หนึ่งที่เต็มไปด้วย
น้ำตาไม่ได้ หันมามองหน้าผมแล้วร้องไห้ ผมว่าพี่เขาเมามากแล้วละครับ ดูซิพูดจาฝากฝังพี่มัน
กับผมด้วย บอกว่าทั้งกลุ่มก็รักและเป็นห่วงพี่เป้มาก กลัวมันจะไปโดนผู้หญิงไม่ดีหลอก เพราะ
มันใจดี อ้อ ไม่ต้องห่วงครับ ผมรับฝากเต็มที่ ไม่ปล่อยให้หลุดไปให้ใครหลอกหรอกครับ






ตกดึก น้องนิตก็เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ กลับไป และกลับมาอีกรอบมาเก็บพี่ชายที่เมาแอ๋ ไม่หือไม่อือแล้ว

“พี่คิด ราตรีสวัสดิ์ครับ พรุ่งนี้ผมจะพาไปเที่ยวกุ้ยหลินเมืองไทย”
“ครับ ราตรีสวัสดิ์เช่นกันน้องนิต”





“อ้อพี่ ดูแลพี่เป้ของผมให้ดีๆ นะครับ คนนี้นี่ผมรักมากมาย อย่าทำให้พี่ผมเสียใจนะครับ รับรองพี่
ได้เจอแก็งส์กระทืบแน่”

ก่อนจะพยุงพี่ชายเดินไป น้องนิตหันมาสบตา ด้วยแววตาว่าไม่ได้ล้อเล่น ก่อนจะบอกให้ผมดูแล
พี่ชายที่รักของเขาดี ๆ ผมก็อดจะยิ้มไม่ได้ เป็นคนที่เนื้อหอมในหมู่น้อง ๆ จริงๆ แฟนผมคนนี้

“ไม่มีวันได้กระทืบพี่หรอกครับน้อง”
“คิกๆๆ ผมไปล่ะ ฝันดีครับพี่”


มองสองพี่น้องเดินจากไป ผมก็นั่งมองท้องฟ้าที่มืดมิด ดวงดาว สุกสว่างไสว เสียงแมลง และ
นกกลางคืน ส่งเสียงมาแว่ว ๆ บรรยากาศน่าประทับใจมากครับ อยากให้พี่มันมานั่งด้วยจัง








“พวกมันไปแล้วเหรอ” อดจะสะดุ้งนิด ๆ ไม่ได้ จู่ ๆ พี่มันก็โผล่หน้ามาทางหน้าต่าง

“อ้าว ยังไม่หลับเหรอพี่”
“...ไม่ได้หลับ...อายมันเลยหนีเข้าห้อง”

“อายอะไร เป็นแฟนผมอายเหรอ”
“มึงไม่ต้องมาดราม่า...ผู้ชายกับผู้ชาย มึงจะให้กูออกข่าวภาคค่ำเลยม่ะ”

“อยากออกเปล่า ผมเห็นในข่าวออกบ่อย เขายกขันหมากไปขอกันเลยนะพี่”
“มึงนี่ ยังจะพูดแบบนี้อีก ไว้มึงเจอพ่อกูก่อน จะอึ้ง”

“ก็นี่แหล่ะผมถึงตามพี่มาด้วย เผื่อสบโอกาสขอได้ เป็นขอ”
“เฮ้อ  ขี้เกียจพูดกับมึงแล้ว ไม่หนาวรึไง เอาผ้าห่ม”

“พี่มานี่ดิ”
“อะไร ...เหวอออ”

พี่มันทำหน้าเซ็ง ๆ แต่ก็ยอมเดินออกมาพร้อมผ้าห่ม ผมคว้าข้อมือพี่มันได้ก็ดึงมันให้มานั่งระหว่าง
ขาผม พี่มันร้องเสียงหลง ผมเอาผ้าห่มมาห่มเราทั้งคู่ เอาคางเกยที่ไหล่พี่มัน อบอุ่นขึ้นมาในทันที

“มึงนี่ ชอบเล่นแผลง ๆ”
“ไม่ได้เล่น อยากให้พี่มานั่งดูดาวด้วยกัน”

“แม่ง โรแมนติกโครตนะมึง”

ถึงจะพูดจาหยาบคาย แต่พีมันก็นั่งพิงอกผม แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า ที่มีแต่ดวงดาวน้อยใหญ่ระยิบระยับ

ผมหอมพี่มันที่หลังคอและที่ไหล่ พี่มันก็หดคอหนี แต่ไม่ได้ว่าอะไร อยากจะลากเข้าห้องแต่ก็อยาก
จะให้ได้ซึมซับบรรยากาศท่ามกลางขุนเขา สายน้ำ และเราสองคน ผมมีความสุขมาก คิดไว้ว่าปี
ต่อๆ ไป ก็อยากจะมีพี่มันอยู่เคียงข้างอยู่อย่างนี้ตลอดไป

ออฟไลน์ Zetnezz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: Love pill - Meet the Parent -29 ธ.ค. (22/8/2017)
«ตอบ #14 เมื่อ22-08-2017 07:36:07 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: Love pill - Meet the Parent -29 ธ.ค. (22/8/2017)
«ตอบ #15 เมื่อ22-11-2017 23:39:58 »

Meet the Parent – ครอบครัวเมีย



วันที่ 30 ธันวาคม



เมื่อคืนพี่มันหลับไปหลังจากนั่งดูดาวได้ไม่นาน ผมเลยอุ้มเข้ามานอนในห้องกัน อากาศหนาวมากแต่ไม่เป็นปัญหา ผมมีเครื่องทำความอบอุ่นส่วนตัว พี่มันก็คงหนาว ขยับเข้ามากอดผมก่อนด้วย
จัดไปครับ อ้อเปล่าจัดอย่างที่ทุก ๆ คนคิด ผมก็แค่นอนกอดกันกลม ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน แต่
2 ชั้น อบอุ่นทั้งกายและใจ



“ฮ้าววววววววว”
“อรุณสวัสดิ์ พี่เป้ จุ๊บ”

พี่มันตื่นมาหาวปากกว้าง ผมที่นั่งมองหน้าพี่มันหลับมาตั้งแต่ตื่นตอนหัวรุ่งแล้ว ก็อดจะยิ้มไม่ได้
คนตื่นนอน หน้าตางัวเงีย ผมเผ้ายุ่งเหยิง ท่าทางเหมือนคนยังไม่ตื่นดี ผมเลยถือโอกาส จุ๊บแก้ม
อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า ได้ผลครับ ตื่นเต็มตาเลย

“พี่ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ นิตบอกว่าให้ไปกินข้าวกันก่อน แล้วจะพาไปดูกุ้ยหลินเมืองไทย”
“เออ ๆ มึงนี่ชอบทำอะไรแบบนี้ กุพึ่งตื่น เมื่อคืนก็เมาซะ ตัวเหม็นไปหมด ยังจะมาหอมอยู่ได้”

“มากกว่าหอมก็ทำได้ครับ ไม่มีรังเกียจหรอก พิสูจน์ได้นะครับ ถ้าไม่เชื่อ”
“พอ ๆๆ หยุดเลยมึง ไม่ต้องเข้ามาใกล้ เออกูเชื่อ ๆ ไอ้หื่นสุภาพ แม่งไปล้างหน้าแล้ว”

อดจะขำพี่มันไม่ได้ อยู่กันมาตั้งนาน เอากันก็นับไม่ถ้วนแล้ว มันยังทำเหมือนคนไม่เคยตลอด
แต่ก็ดีครับ ให้ความรู้สึกเร้าใจเสมอ แล้วไอ้ฉายา หื่นสุภาพของผมนี่ มันคิดได้ไง






เดินออกมาจากห้องพัก ก็ต้องประทับใจอีกครั้งกับบรรยากาศยามเช้าของที่นี่ ลมเย็น ๆ เอื่อย ๆ
พัดโชย หมอกยังมีอยู่ทั่วขุนเขา สายน้ำสีเขียวมรกต เริ่มสะท้อนแสงอาทิตย์ ที่เพิ่งจะแย้ม
บนเส้นขอบฟ้า ผมจับมือคนตรงหน้าที่กำลังจะเดินก้าวไปให้ต้องหยุดหันมามอง ผมผยักหน้าไป
ทางภาพสุดแสนประทับใจ พี่มันก็คงเข้าใจ เพราะก็ยืนมองด้วยสายตาสงบนิ่ง ก่อนจะหันมายิ้มให้

“ดีใจที่มึงชอบที่นี่”
“...ขอบคุณที่พาผมมาครับ”

“อื้อ ไปกินข้าวกันเถอะ”
“...พี่ครับ”

“หือ”
“ผมหวังว่าวันหน้าเราคงจะได้มากันอีกนะครับ”

“อือ ได้ซิ”
“พี่ครับ”

“อะไรอีกห๊ะ”
“รักนะครับ”

“......เออ รู้แล้ว..”
หน้าพี่มันขึ้นสีระเรื่อ แล้วรีบ ๆ หันกลับ เดินไปทางเรือนกลาง เห็นแล้วไม่อยากปล่อยไปกินข้าวเลย ให้ตายเถอะ น่ารักตลอด อดจะยิ้มดีใจไม่ได้ เดี๋ยวนี้พี่มันไม่ปฏิเสธ ความรักของผมแล้ว ถึงจะไม่
ตอบรับเต็มร้อยก็เถอะ




“อรุณสวัสดิ์ครับพี่เป้ พี่คิด เชิญนั่งเลยคร๊าบบบบ”
“เออ  ๆ แล้วพี่มึงอ่ะ?”

“อ้อพี่หนึ่ง อาบน้ำอยู่ พวกพี่กินกันก่อนเลย เดี๋ยวก็มาแล้ว กว่าจะลากขึ้นมาจากเตียงได้”
“ยังไม่สร่างเหรอครับ”

“ท่าทางเมื่อคืนจะหนักไปหน่อยครับ กลับมานั่งร้องไห้ทั้งคืนเลย”
“เฮ้ย มันร้องเรื่องไรว่ะ”

“ไม่รู้ครับ บอกอารมณ์เหมือนพ่อที่ลูกสาวจะออกเรือนเลย ฮะๆๆๆ ตลกดีครับพี่”
“......” อึ้งไปเลย พี่มันคงกลัวเพื่อนจับได้แน่เลย ก็เมื่อคืนมันอยู่ ๆ ก็ลุกมานั่งตักผมเฉยเลย
น้องนิต ก็ยังทำตัวปกติอยู่ ถึงจะทำสายตาล้อ ๆ มาตอนพูดก็เถอะ




ป๊าบ

จู่ ๆ ก็มีฝ่ามือปริศนา ตบหัวน้องนิต คว่ำ เกือบโดนโต๊ะ
“มึง นินทากูเหรอ ไอ้นิต”
“เปล่านินทา พี่อ่ะ ตบซะแรง ก็พูดเรื่องจริงนี่นา”

“เอ่อ...มึงเมื่อคืนมึงจำอะไรได้บ้างวะ ไอ้หนึ่ง” พี่เป้ มีสีหน้ากังวล ตอนถาม ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม
“อ้อ....ถ้าเรื่องที่มึงลุกไปนั่งตักไอ้น้องนั่นล่ะก็ จำได้ซิวะ”

พรวดดดดดดดดดดดด

หลบเกือบไม่ทัน น้ำเปล่าพี่เป้พุ่งพรวด ด้วยความตกใจ หน้าตาเหรอหรา เหงื่อแตกพลั่ก

“มึง สกปรก ดีนะไม่ลงกับข้าว ไม่งั้น อดแดก”
“.......”

“ไม่ต้องทำจ๋อย กุก็สงสัยแต่แรกแล้ว ก็ไอ้คิดมันจ้องกุ อย่างกับกุจะไปแย่งมึงมาจากมัน”
“...เออ ผมเปล่านะพี่หนึ่ง ..พี่เป้อย่ามองผมอย่างนั้นดิ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้น “ งานเข้าผมซะแล้ว
ก็ไม่ได้หึงหวงอะไรนะ ก็รู้ไงว่าเขาเป็นเพื่อนซี้กัน ไอ้จะถึงเนื้อถึงตัวกันมันก็ปกติ แต่หนังตามันก็อด
จะกระตุกไม่ได้ทุกที ก็ไม่รู้ว่าไปแสดงออกให้พี่มันเห็นมากแค่ไหน

“มึงนั่นแหล่ะ ชอบทำท่าทางให้เขาจับได้”
“มึงอย่าไปโทษน้องมันเลย กุก็แค่สงสัย แต่มึ๊งงงงนั่นแหล่ะตัวดี ยืนยันข้อกังขากุโดยการไปนั่งตักมัน”

“....แหะๆๆ กุลืมตัว”
“ พี่หนึ่งไม่มีปัญหากับเรื่องแบบนี้ใช่ไหมครับ”

“...เฮ้อ กุไม่มีความคิดเห็นเว้ย เพื่อนยังไงก็เป็นเพื่อน ส่วนมันจะชอบใครรักใคร กุก็เห็นดีด้วยหมดแหล่ะ”
“ขอบคุณครับพี่”

“เออๆๆ ดูแลเพื่อนกุดี ๆ แล้วกัน อย่าทำให้มันเสียใจละ”
“อย่าห่วงเลยครับ ผมไม่มีวันทำให้พี่เป้เสียใจแน่”

“หยุดเลยพวกมึง กูอายจะแทบแทรกแผ่นดินหนีแล้ว มึงไอ้หนึ่ง ไม่ต้องมาทำตัวเป็นพ่อกุ เที่ยวฝาก
ฝังกูกับมันหรอกหน่า ไอ้นี่ถึงอยากสลัดมันก็เกาะแน่นยิ่งกว่าปลิงอีก พอเลย กินข้าว ๆ”

พี่มันหน้าแดงเถือกเลย ผมไม่เคยเห็น ปกติหน้าด้านจะตาย อย่างมากก็แค่ขึ้นสีระเรื่อ ๆ คงอาย
เพื่อน อายน้องนิต ที่รู้ความจริง แต่ผมดีใจที่สามารถบอกเรื่องของเราให้คนรอบข้างได้รับรู้
ผมวางแผนอนาคตไว้บ้างแล้ว อยากให้พี่มันอยู่ด้วย โดยไม่ต้องปิดบังใคร กะว่าครั้งนี้ไปดูลาดเลา
บ้านพ่อตาแม่ยายก่อน เพราะบ้านผมรู้กันแล้ว นี่สงกรานต์นี้ก็ว่าจะพากลับไปด้วย แม่เร่งอยากเจอ
หน้าลูกสะใภ้ ฮะๆๆๆ





จบอาหารเช้าแล้ว พี่หนึ่งก็เอาเรือหางยาวออก 2 ลำ มีแขกไปกับเราหลายคน ทั้งคนไทย และ
ชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่จะมาเป็นคู่ ๆ หลายคนก็ให้ความสนใจ เราสองคน คงเพราะเห็นเป็นผู้ชาย
ทั้งคู่

อากาศกำลังดี แดดตอนเช้ายังไม่ร้อน แต่ผมก็บังคับให้พี่มันทาครีมกันแดดไว้ก่อน มันก็อิดออด
บอกผู้ชายจะมาสำอาง อะไรนักหนา แต่ก็ยอมให้ทาให้อยู่ดี ที่ทำนี่นอกจากกันแดดแล้วก็ต้องการ
กันคนด้วย ยิ่งไอ้พวกผู้ชาย หรือผู้หญิงที่มันพยายามส่งสายตามาให้ พี่มันก็หลายคนอยู่ ถึงพี่มัน
จะไม่ค่อยสนใจแต่ก็ต้องกันไว้ก่อน

เรือล่องเข้าไปในท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่ สวยงามมากครับ ไม่น่าเชื่อว่าเมืองไทยก็มีทิวทัศน์
อย่างนี้เช่นกัน สมกับสโลแกนกุ้ยหลินเมืองไทยเลยครับ ซักพักก็ล่องเข้าไปบริเวณน้ำตื้น ๆ
ให้พวกเราได้ เล่นน้ำและถ่ายรูปกัน

ต่อจากนั้นก็ไปล่องแพชมถ้ำ และเดินสำรวจกันเป็นที่สนุกสนาน

นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ ยังไปเที่ยวกันต่อ แต่พวกผม กลับกันมาก่อน เพราะจะขึ้นฝั่ง และไป
นครศรีธรรมราชต่อ พี่หนึ่ง และนิต มาส่งถึงฝั่ง ก็ล่ำลากันกันพอหอมปากหอมคอ หมายถึง
น้องนิตมันมาหอมพี่เป้นะครับ แถมยังมองผมด้วยสายตาเหนือกว่าให้รู้สึก อยากตื้บเด็กขึ้นมา
ตะหงิด ๆ ก็รู้หรอกครับว่าน้องมันหยอก




พี่เป้เป็นคนขับรถครับ เพราะบอกว่าแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงแล้ว ไม่อยากมาเสียเวลาบอกทางให้ผมอยู่
ผมก็ คอยจะป้อนน้ำป้อนขนมพี่มัน แต่มันไม่ยอมกินครับ แย่จัง พี่มันจะรู้ไหมนะว่า ผมก็แค่อยาก
ป้อนคนรักก็เท่านั้นเอง เหมือนกับเมื่อวานแหล่ะ ที่อาสาขับ แล้วให้พีมันคอยป้อนนั่น ป้อนนี่ให้
มีความสุขมากขอบอก






ประมาณ 3 ชั่วโมง เราก็มาถึง นครฯ จากถนนมองเห็นหาดลิบ ๆ น้ำทะเลสีฟ้าเข้ม แต่พี่มันบอก
ค่อยพาไปเที่ยว เข้าไปที่บ้านก่อนเพราะจะเย็นแล้ว พีมันโทรบอกที่บ้านแล้วว่าจะมาถึงประมาณ
เย็น ๆ  คุณแม่ของพี่มันคงเตรียมกับข้าวไว้คอยแล้ว



 

ทางเข้าจากถนนใหญ่ก็เกือบ 1 กิโล สองข้างทางเป็นบ้านคน และสวนยาง ดูร่มครึ้ม ถึงบ้านพี่มัน
แล้ว เป็นบ้านสองชั้น ด้านล่างเป็นปูนยกพื้นสูง มีห้องด้านหลัง ด้านหน้าเป็นลานโล่ง
และก็มีเปลผูกไว้ สองสามตัว และชั้นสองเป็นเรือนไม้ แลดูน่าอยู่มากครับ (อยากมาอยู่ในฐานะ
ลูกเขยครับ)  พี่มันเลี้ยวเข้ามาจอดที่ว่าง ๆ หน้าบ้าน ใกล้ ๆ กัน มีซุ้มไม้ เป็นที่นั่ง ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยต้นเฟื่องฟ้า หลากสีสัน ดอกใบหนาดูราวกับกำแพงโอบล้อมซุ้มไม้ น่านั่งเล่น
นอนเล่นมากเลยครับ


“เฮ้ย”
“...ครับพี่?”

“เอ่อ มึง...อย่าทำอะไร ออกนอกหน้ามากนักล่ะ”
“หือ อะไรครับ ออกนอกหน้า?”

“มึงไม่ต้องมาทำมึน กูรู้ว่ามึงรู้ ไอ้นี่ อย่าเพิ่งให้เขารู้ ไว้กูจะหาโอกาสเหมาะ ๆ บอกเขาเอง”
“...ครับพี่” พี่มันทำท่าอึกอักไม่ยอมลงจากรถซักที ไอ้ผมก็นึกว่ามีเรื่องอะไร โถ เรื่องแค่นี่เอง
อย่าห่วงเลยครับพี่ ถ้าสบโอกาส ผมไม่รอช้าแน่ครับ ฮะๆๆๆ


พี่มันก้าวลงจากรถก่อน แล้วเดินตรงไปยัง ชายหญิงสูงวัย ที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน พี่มันไหว้พ่อแม่มัน และ แม่พี่มันก็กอดลูกชาย ด้วยสีหน้าดีใจพร้อมหอมแก้มซ้ายขวา ดูน่ารักดีครับผมว่า

ผมเดินตามลงมา คนทั้งคู่เหมือนจะสังเกตเห็น ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกชาย

“เอ่อ ป๊าครับ ม๊าครับ นี่ คิด ครับ เป็น...รุ่นน้องที่ทำงานที่กรุงเทพฯ ครับ”
“สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่” มารยาท (ว่าที่)ลูกเขยดีเด่น รีบยกมือไหว้ พ่อแม่แฟนทันที

“อ้อเหรอ เออๆๆ มาเที่ยวกันก็ ขอให้สนุกนะ ว่าแต่หิวกันรึยังล่ะ แม่เค้าตั้งสำรับไว้แล้วนะ”
“โอ้ย ผมนี่หิวตั้งแต่แม่บอกจะทำน้ำพริกไว้คอยแล้วครับ”

“ปากหวานนะเรานี่ แล้วลูกคิด กินเผ็ดได้ไหมลูก อาหารทางใต้ค่อนข้างเผ็ดนะ”
“เอ่อ ... ก็คิดว่าพอจะได้ครับ พี่เขาชมฝีมือแม่ไว้เยอะเลยครับ” อันนี้จริงนะครับ ไม่ใช่สอพอ

“จ้า งั้นก็ไปกินข้าวกินปลากันเถอะ อ้อ ปู้ ๆ พี่เขามาแล้วนะ ตั้งโต๊ะกันเถอะ”


“พี่เป้ ๆ ของฝากหนูล่ะ” จู่ ๆ ก็มีสาวน้อย วัยรุ่น หน้าตาน่ารัก วิ่งออกมาจากตัวบ้านเข้ามากอดพี่มัน

“ไอ้ปู้ โตเป็นสาวแล้วนะเรา ยังจะเกาะพี่เขาเป็นเด็ก ๆ อยู่ได้” คุณพ่อตา (ตั้งแต่นี้ผมจะเรียกท่าน
ทั้งสอง ว่าพ่อตา แม่ยายนะครับ เข้าใจตรงกันนะ) ดุลูกสาวไม่จริงจังนัก พี่น้องบ้านนี้ หน้าตาดีกัน
ทั้งบ้านเลย น้องปู้ ก็น่ารักดีครับ ผมว่าเธอต้องป๊อบมากแน่ ๆ เลย สงสัยได้มาจากคุณแม่เยอะ
เพราะคุณแม่พี่เป้ อายุขนาดนี้ยังดูว่าสวยอยู่เลย ส่วนคุณพ่อไหนพี่มันบอกว่าดุมาก เห็นตั้งแต่มา
ถึง แกยังยิ้มไม่หุบเลยครับ เรียกผมลูกด้วย เหมือนแกจะรู้ว่าผมอยากมาเป็นลูกแกอีกคน

“อุ๋ย ใครอ่ะพี่เป้” น้องเพิ่งสังเกตเห็นผม

“อ้อ นี่พี่คิด เป็นเพื่อนพี่”

“สวัสดีคะพี่คิด”
“สวัสดีครับ น้องปู้”

“พี่คิดตัวขาวจัง หนูว่าพี่เป้ขาวแล้วนะ พี่ขาวกว่าพี่เป้อีก”
“อ้อ พี่เป็นคนเหนือจ๊ะ”

“ว้าวคนเหนือขาวขนาดนี้เลยเหรอค่ะ หนูยังไม่เคยไปเลย”
“เอาไว้ ว่าง ๆ ไปเที่ยวบ้านพี่ที่เชียงรายซิ มีสวนลิ้นจี่ ลำไย แล้วก็องุ่น กับสตอรเบอรี่ด้วยนะ”

“จริงเหรอค่ะ หนูชอบสตอเบอรี่ค่ะ อยากไปจังเลย”
“อ้าว ๆ ไอ้ปู้ อย่ามัวแต่คุยอยู่ พี่ ๆ เขาหิวข้าวแล้ว ไป ๆ กินข้าว”

เห็นน้องปู้แล้วก็อดคิดถึง ยัยนวลไม่ได้ ไม่เจอกันเป็นปีแล้ว ปีนี้ก็ม.6 แล้ว ปีหน้าก็คงเข้า มหาลัย
 แต่คงไม่ต้องห่วง น้องผมเรียนเก่ง ได้รางวัลการศึกษา มาประดับบ้านหลายใบแล้ว




อาหารเย็นฝีมือคุณแม่ยาย อร่อยมากขอบอก รสชาดจัดจ้าน สมกับเป็นอาหารทางใต้ ผมงี้ต้อง
เบิ้ล 2 จานเลย คุณพ่อตาก็ชวนคุยถามโน่น ถามนี่ คุณแม่ยายก็น่ารัก เรียกผมลูกทุกคำเลย น้องปู้
ก็น่าเอ็นดูถามถึงแต่ที่เที่ยวทางเหนือ ส่วนพี่เป้ ดูมีความสุขท่ามกลางคนในครอบครัว พูดจาในบ้านก็ดูสุภาพดี หันมามองผมเป็นระยะ ๆ พอกินอะไรอร่อย ๆ ผมก็เผลอตัวตักให้พี่มัน ..............เงียบกันทั้งโต๊ะเลยครับ

“เอ่อ...อะ อร่อยดีครับ พี่ชิมนี่ยัง ...เอ่อ คุณพ่อครับนี่ครับ ผมตักให้ ตักให้คุณแม่ด้วย น้องปู้ด้วย” 
ผมงี้กว่าจะแก้สถานการณ์ให้ทั้งโต๊ะกลับมาคุยกันได้ ก็ต้องทำเป็นตักให้คนโน้นทีคนนี้ที พี่มัน
เหมือนจะเขินหรืออะไรไม่ทราบได้ เห็นหน้าขึ้นสีนิดหน่อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่มองมา
ที่ผมอีกเลย






เสร็จจากมื้ออาหาร คุณพ่อตาก็ชวนให้มานั่งดื่มกันที่ซุ้มไม้ที่หน้าบ้าน คุณแม่แอบกระซิบว่าอย่าให้
คุณพ่อดื่มมาก ห่วงสุขภาพแก แต่ก็เตรียมกับแกล้มมาให้อย่างอลังการ ยุงไม่ค่อยมีเพราะสุมไฟไล่ยุงไว้ไม่ห่าง ลมเย็น ๆ พัดโชย ผมนั่งข้างพี่เป้ คุณพ่อตานั่งอีกฝั่ง

“เอ้าดื่ม ๆ บ้านพ่อไม่มีเหล้านอกนะคงไม่ว่ากัน”
“อ้อ ผมดื่มได้ครับ สมัยเรียนนี่ เหล้าเถื่อนยังต้มกันเองเลยครับ”

“อ้อจริงเหรอ ฮะๆๆ เหมือนกันเลย สมัยพ่อเป็นวัยรุ่นก็ต้มกินกันเองเหมือนกัน”
“อ้าว แล้วไม่สอนผมบ้างล่ะป๊า”

“ก็ลื้อตอนเด็ก ๆ นะขี้โรคจะตาย อะไรนิด อะไรหน่อยก็ไม่สบายแล้ว กว่าจะโตมาได้ แม่แกเขาต้อง
ประคบประหงม จนไม่มีเวลาให้ป๊าเลย”

“เอ๋ อย่างพี่เป้นี่เคยขี้โรคด้วยเหรอครับ”
“อ้าว ไอ้นี่ถามอย่างนี้หมายความว่ายังไง”

“ฮะๆๆๆ เปล่าพี่ ก็ผมเห็นพี่ออกจะแข็งแรง ขนาดเล่นกันทั้งคืน จนเสียงแหบเสียงแห้ง เช้ามายัง
เห็นเดินตัวปลิว อุ๊บบบ” เผลอตัวแซวพี่มันอีกแล้ว ก็เวลามีอะไรกันทั้งคืน ผมเคยเห็นนิยายของ
ยัยนวล มันชอบอ่านนิยาย ผู้ชายเย่อกับผู้ชาย บอกแต่ว่าพอเช้ามาฝ่ายรับจะเจ็บ ปวด เมื่อยจนลุก
ไม่ขึ้น ดีไม่ดีก็ไข้ขึ้นอีกต้องให้พระเอกคอยป้อนข้าวป้อนน้ำ ผมก็อยากทำอย่างนั้นบ้าง แต่ไม่เลย
ยกเว้นครั้งแรก ๆ นอกนั้น พี่มันยังกับม้า ควบกันทั้งคืน เช้ามาไปทำงานเดินตัวปลิวเฉย

“อะไร ๆ เหรอลูก เล่นอะไรกันทั้งคืนเหรอ” พี่มันมองมาตาเขียวปั๊ด ไปสะกิดต่อมอยากรู้คุณพ่อตาซะงั้น

“อ่า..ไม่มีอะไรป๊า ก็...บอลไง ดูมันแข่ง มันเล่นกันทั้งคืนอ่ะ..เชียร์เสียงแหบเสียงแห้งเลย เนอะคิดเนอะ”
ช่างหาข้อแก้ตัวได้ไวว่องมากพี่เป้ นั่นซิ ยิงประตูกันถล่มถลาย วันหลังต้องใช้เป็นรหัสลับกันดีกว่า



ผ่านไปสองกลม คุณพ่อตาท่าจะไม่ไหวแล้วขอตัวไปนอนก่อน บอกว่าคุณแม่ยายให้เคอร์ฟิวแค่นี้
ขืนเกินเวลา ได้โดนไล่ออกมานอนนอกห้องแน่ ฮะๆๆๆ


ใกล้ 5 ทุ่มแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่ผมกับพี่เป้สองคน จริง ๆ ผมก็ไม่ค่อยสันทัดในสุราซักเท่าไหร่ กิน
พอเข้าสังคม พี่เป้ท่าทางเมาแล้ว หน้าแดง ตัวแดงไปหมด จะยกอีกแก้วขึ้นมาดื่ม ผมว่าพอเถอะ

“พี่ เมาแล้ว พอเถอะ”
“หา อาราย ครายมาวววววววววว” เฮ้อ ก็ไอ้คนที่กำลังพูดลิ้นจุกปากอยู่นี่ไง

“ไปพักเถอะครับ พรุ่งนี้เห็นคุณแม่พี่บอกว่าจะใส่บาตรตอนเช้านี่นา เดี๋ยวตื่นไม่รอดกันพอดี”
“ย.ห. อย่าห่วง สบายยยยยย ตื่นได้แน่”

เห็นท่าจะวางแก้วยากผมเลยพยายามฉวยออกจากมือ แต่พี่แกก็ยังไวหลบแก้วไปมา ท่าทางจะ
สนุก ที่ได้เล่น กว่าจะจับแก้วได้ ยื้อกันอยู่ จนพี่มันปล่อย ผมไม่ทันตั้งตัว เหล้าหกรดผมจากหน้าลง
มาที่เสื้อเลยครับ แย่ ๆ


แต่ที่แย่กว่านั้น พอจะหาผ้ามาเช็ด ได้ยินพี่มันพึมพำเบา ๆ ว่าเสียดาย ก่อนที่จะทันได้ทำอะไรก็
ต้อง สะดุดแทบหยุดหายใจ จู่ ๆ พี่มันก็ยื่นหน้าเข้ามาเลียหน้าผม เหมือนลูกแมวกำลังเลียนมเลย
ไม่แค่ที่หน้า ยังเลียลงมาเรื่อย ๆ จากคอลงมาที่ไหปลาร้า และที่อก รู้ล่ะว่าเสียดายอะไร เสียดาย
เหล้าที่หกนี่เอง แต่พี่ครับ เลียกันขนาดนี้พี่ว่าผมควรจะทนไหมครับ.............ใครจะทนก็ทน ผมไม่ทนแล้ว

มองซ้ายมองขวา ปลอดคน กอเฟื่องฟ้าสูงเป็นกำแพงบดบัง ซุ้มไม้จากตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ไฟในบ้านดับไปหลายดวงแล้ว คาดว่าคุณพ่อตาแม่ยายคงนอนแล้ว น้องปู้ เห็นว่ามีกิจกรรมที่โรงเรียน
พรุ่งนี้เช้า เลยนอนไปตั้งแต่หัวค่ำ ทางสะดวกครับ

กดพี่มันที่ไร้ซึ่งอาการขัดขืน แถมยังยิ้มยั่วอีก พี่ครับ ผมรักษาสัญญานะครับว่าจะไม่ทำอะไรออกนอกหน้า แต่พี่เริ่มก่อนอย่างนี้ ผมไม่ผิดนะครับ

“อื้อ อือ” ก้มลงจูบ พี่มัน แล้วขบปากพี่มันเบา ๆ เรียกน้ำย่อย ก่อนจะส่งลิ้นล่วงล้ำเข้าไปในปากพี่
มัน มันก็ไม่ยอมแพ้ เกี่ยวรัดลิ้นดูดดุน จนขนลุกซู่ มือไม้ก็ไม่อยู่เฉย ล้วงเข้าไปสัมผัสผิวเนียนของ
พี่มัน ลูบไล้ช่วงท้องและแผ่นหลัง ให้คนใต้ร่างสยิวจนบิดตัวเร่า ช่วงล่างก็บดเบียด เสียดสีกันไปมา
รับรู้ได้ถึงความต้องการของเราทั้งคู่

“อ่า อ๊ะ คิด ๆ ไม่ไหวแล้ว จับของกูหน่อย” พี่มันท่าทางจะเครื่องติดแล้ว เริ่มเรียกร้องให้ผมสัมผัส
แอ่นเอวขึ้นมาบดเบียดกันมากขึ้น





กำลังก้มหน้าก้มตาเลียหน้าอก แล้วสาละวนกับเม็ดตุ่มไต น่ากัด กะว่าอีกซักนิด ค่อยเผด็จศึกพี่มัน
ก็ต้องตกใจเ พราะจู่ ๆ ก็มีมือใครบางคนมากระชากบ่าให้ลุกขึ้นมาแล้วผลักไปข้างหลัง จนล้มลงไป
ก้นจ้ำเบ้า

“มึงเป็นใครวะ ทำอะไรพี่กู” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไอ้คนกระชากผมมันก็ ถลาเข้ามคว้าคอเสื้อผม
ง้างกำปั้นขึ้นสูง

“เฮ้ย ๆ ไอ้ปูน ๆ อย่า ๆ นั่นเพื่อนพี่เอง” พี่เป้มันก็คงจะตกใจ น่าจะหายเมาเลยล่ะ พูดไม่มีลิ้นพัน
กันเลย วิ่งเข้ามายั้งหมัดไอ้หมอนี่ไว้ได้

ผมรีบ ๆ ลุกขี้นยืน งงๆ นิดหน่อย แต่ซักพักก็เข้าใจ นี่คงจะเป็นน้องชายคนกลางของพี่มันแน่ ๆ เลย
ถ้าดูผ่าน ๆ นี่ คล้ายกันมากเลยครับ เหมือนพี่เป้ ฉบับนักศึกษาเลย น่าสนใจ ๆ แต่ว่ามันมาตอน
ไหนนะ ไม่เห็นได้ยินเสียงเลย (จะได้ยินได้ไง ก็หน้ามืด มัวแต่จะปล้ำพี่มันอยู่)

“เพื่อนเชี่ยอะไร พี่เป้รู้ตัวมั๊ย มันกำลังจะทำอะไรพี่”
“เอ่อ...เบา ๆ ไอ้ปูน เดี๋ยวป๊าตื่น...เฮ้ย ไม่มีอะไรจริง ๆ “

“พี่เป้ ผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ นะ จะเอากันขนาดนั้น จะไม่มีอะไรได้ไง”
“......” พี่มันยกมือขึ้นลูบหน้า หันมามองผม เขม็ง อ้าว ผมไม่ผิดนะ พี่เริ่มก่อน






สุดท้ายก็ต้องจำนนด้วยหลักฐาน พี่มันบอกน้องมันไปว่าเราสองคนคบกันอยู่ แต่ยังไม่อยากให้
พ่อมันรู้ น้องมันทีแรกฮึดฮัด ทำท่าไม่ยอม แต่พี่มันก็พูดจนน้องมันมีท่าทีอ่อนลง


“อะไรกัน ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะชอบผู้ชายด้วยกัน พี่จะบอกป๊ายังไง”
“เอ่อ ปูน พี่ก็ว่าจะหาโอกาสเหมาะ ๆ บอกแหล่ะ แต่แกช่วยเงียบไว้ก่อนได้ไหม”

“ฮี ผมไม่อยากจะเชื่อเลย หมอนี่มันมีอะไรดี มีลูกให้พี่ก็ไม่ได้” ฟังพี่น้องเค้าถกกันเงียบ ๆ ครับ
ดูเหมือนน้องจะเข้าใจผิด น้องครับ พี่ชายน้องเป็นเมียพี่นะครับ

“เออ กูก็ไม่รู้เหมือนกันเว้ย บทมันจะมามันก็มา กูก็ไม่ได้เตรียมใจจะมีแฟนเป็นผู้ชายหรอก แต่ใคร
จะรู้ อยู่ ๆ มันก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต มาทำให้รู้สึกดี จนขาดไม่ได้ ไปซะแล้ว”

“........” น้องมันเงียบไปเลยครับ พี่เป้มันพูดซะผมอยากจับมาจูบให้รางวัลนัก พูดถูกใจ

“กู ไม่ได้คิดปิดบังใครนะเว้ย แค่พยายามหาโอกาสบอกอยู่”
“...อือ เข้าใจแล้ว แต่พี่ผมขออะไรอย่างซิ”

“ห๊ะ มึงจะขออะไรวะ?”
“ผมขอให้พี่มานอนห้องผม และให้พี่เขานอนห้องพี่คนเดียว ถ้าพี่ยังไม่ได้บอกป๊า ผมก็ไม่อยากให้พี่
ทำอะไรกัน ถ้าป๊ารู้ ป๊าจะเสียใจ”

เฮ้ย อะไรกัน ผมงี้ควันออกหู ขออะไรขอได้ ดันมาขอให้ผมแยกห้องกับพี่มันซะนี่ กำลังจะลุกขึ้นประท้วง แต่พี่มันยกมือห้ามไว้

“มึงเงียบ ๆ ไปเลยไอ้คิด....เออก็ได้ปูน กูก็ไม่กะจะทำอะไรให้ป๊าม๊าเสียใจอยู่แล้ว”
“แต่ พี่เป้” ผมพยายามจะค้าน แต่ก็ต้องยอมเพราะ น้องมันบอกว่าถ้าไม่ยอมมันจะบอกพ่อมัน เฮ้อ












ตีหนึ่งกว่าแล้ว แต่ผมยังนอนไม่หลับ จากที่คิดว่าจะได้นอนกอดกันสบายอุรา ดันโดนแยกห้องซะนี่
ไม่รู้ว่า จะเป็นยังไงต่อไป แต่ที่แน่ ๆ คิดถึงพี่มันมากอ่ะ เคยกกเคยกอดมาตลอด ห่างกันแค่ฝา
กั้นห้อง แต่ทำให้กระวนกระวายจนนอนไม่หลับ

ติ้ง

เสียงไลน์ดังขึ้น ใครว่ะ ตีหนึ่งนี่นะ
ที่รัก
   นอนได้แล้ว ไอ้หมาหื่น

               ผมส่งรูปหมาหงอยไป

ที่รัก
   เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่ตื่นไม่ปลุกด้วย

               อยากนอนกอดพี่อ่ะ

ที่รัก
   กลับไปค่อยให้

               คร๊าบบบบผมจะอดทน

ที่รัก
   นอนซะ
   พี่มันส่งรูปโคนี่หลับมาให้

               รักนะครับ ฝันดีฝันถึงผมนะ

ที่รัก
   พี่มันส่งรูปบราวน์ทำหน้าเซ็ง ๆ

อ่า ค่อยยังชั่ว ยิ้มแก้มแทบปริ พี่มันก็คงนอนไม่หลับเหมือนผมแหล่ะ แต่คิดไปคิดมา
นี่มันห้องพี่มันนี่หว่า คิดได้ดังนั้น ไอเดียก็บรรเจิด คว้าหมอน คว้าผ้าห่มขึ้นมาดม อือกลิ่นยังไม่ใช่
ไปเปิดตู้เสื้อผ้า เจอของดีครับ ชุดนักเรียนมอปลายของพี่มัน สีซีดไปแล้ว แต่กลิ่นยังได้อยู่ อาจจะดู
โรคจิตไปหน่อย แต่ขอใช้แก้ขัดก่อนคงไม่ว่ากันนะครับพี่

ฝันดีครับที่รัก

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
Re: Love pill - Meet the Parent - Count down 31 ธันวาคม. (6/3/2018)
«ตอบ #16 เมื่อ07-03-2018 00:32:26 »

Meet the Parent - Count down



วันที่ 31 ธันวาคม


ยืนตัวสั่นมองดูไอ้โรคจิต ที่มันเอาเสื้อนักเรียนสมัย มอปลายของผม มานอนกอด หน้าตาหื่น
อย่างมีความสุขมาก อุตส่า ตื่นแต่เช้าเพื่อมาปลุกมัน แต่พอเปิดประตูเข้ามา ภาพที่เห็นนี่
เหมือนอยากจะถีบมันให้ตกจากที่นอน

แต่เอาเข้าจริง ๆ พอเห็นสีหน้าคนหลับยิ้มแก้มแทบปริ ก็ทำไม่ลง นั่งลงข้างเตียง มองหน้ามัน
ก็ยิ่งเขิน ไอ้บ้านี่ดูมันทำ กับเสื้อผมก็ยังไม่เว้น ไม่รู้ทำไมมารักผมนักหนา ว่าจะปลุกหวาน ๆ ให้
มันแปลกใจ ก็ต้องเปลี่ยนใจ ถ้าไม่ใช่เพราะมือเผลอไปจับโดน ของเหลวเหนียว ๆ บางอย่างที่ติดอยู่ที่กางเกงนักเรียนขาสั้นสีน้ำเงินของผม

ผั๊วะ
“โอ๊ย เหว๊อออออ”

“พี่มาถีบผมทำไมเนี่ยะ โอ๊ย ดีนะไม่ตกเตียง”
“กูจะเตะมึงซ้ำด้วย ไอ้โรคจิต มึงทำอะไรกับชุดกู” ถีบไอ้คนโรคจิต จนมันสะดุ้งตื่นลุกพรวดพราด
จนเกือบทำตัวเองตกเตียงเอง แล้วหันมาแหวใส่ ดู๊ ดู มันยังไม่รู้ตัวอีกว่าทำอะไรผิด ขย้ำคอเสื้อยืดมันขึ้นมา มันทำหน้าเหรอหรา งง ๆ กับข้อกล่าวหา

“อะๆ  อะไร พี่ ผมทำอะไรครับ”
“มึงไม่ต้องทำมึน หลักฐานคามือ มึงทำบัดสีอะไรกับเสื้อนักเรียนกู”

“.......”
“.....” ไอ้คนผิด มองกางเกงขาขาสั้นที่ผมถืออยู่อย่างอาย ๆ ไม่มีคำแก้ตัวใดหลุดจากปาก ผมก็
เงียบ รอว่ามันยังมีอะไรจะพูดอีก

“โธ่ พี่ก็ ความผิดพี่นั่นแหล่ะ เมื่อคืน พี่ยั่วผมก่อน”
“......” อ๊าคคคคคคคคคคค ใบ้แดกเลยครับ เฮ้ย ตกลงความผิดกูเหรอ ที่มึงมาลงที่ชุดกูนี่

ไอ้คนไม่สำนึก หัวเราะแหะ ๆ เอาหัวมาถูไหล่ ประจบ บอกว่า ผิดคนละครึ่ง ก็พี่เลียก่อน ผมเลย
เลียตาม แต่ยังไม่ทันเลียกันเสร็จ น้องผมมันเข้ามาขัดซะก่อน มันเลยค้าง มันว่าถ้าผมไม่ไลน์
เข้ามา มันก็คงแค่นอนค้างเฉย ๆ ไม่ประทุษร้ายทรัพย์สินของผมหรอก ตกลงนี่กูผิดอีกใช่มั๊ย
ที่เสือกห่วงมัน เพราะเมื่อคืน ตีหนึ่งแล้ว ยังได้ยินเสียงมันพลิกตัวอยู่เลย ไอ้ปูนหลับไปแล้ว เลย
ไลน์ไป ให้มันสบายใจ จะได้หลับ ๆ ได้ซะที ไม่นึกว่าจะไปปลุกสัญชาติญาณหื่นมันขึ้นมา เวร





ขี้เกียจสาวความยาว เพราะได้ยินเสียงม๊าเรียกให้ลงไปใส่บาตรได้แล้ว 2 คนรีบ ๆ วิ่งไปล้างหน้า
แปรงฟัน กัน มันไม่ลืมที่จะหาเศษหาเลย พอแปรงฟันเสร็จมันบอกว่า ผมมีอะไรติดฟันอยู่ มันบอกมันจะเอาออกให้ ผมก็ยื่นหน้าเข้าไปหามันดิ ......เสียท่ามันจนได้ โดนมันจับจูบ ซะแทบเข่าอ่อน
ยังมีหน้ามาบอก ถ้าไม่ติดว่าต้องรีบ มันจะทำให้ผมละลายเลย ไอ้เชี่ย แค่นี้ก็เกือบละลายแล้วเว้ย



ทุกคนในบ้านมายืนรอพระกันพร้อมหน้า ผมกับมันที่เดินสมทบหลังสุด โดนมองด้วยสายตาหลากหลายจากบุคคลในครอบครัวผม โดยเฉพาะไอ้ปูน

// พี่ให้ไปตามเพื่อน หายไปนานเลย// ไอ้ปูนกระซิบกระซาบ ทำสายตาจับผิด
// เฮ่ย ไม่มีอะไรก็ไปตามมันเฉย ๆ มันตื่นยาก กว่าจะปลุกมันตื่นได้ // ตอบตามจริงนะเว้ย
มึงไม่ต้อง สำรวจกูขนาดนั้นไอ้ปูน ไม่มีหรอกร่องรอย (เหอ ๆๆ ถ้าจะทำกูทำใต้ร่มผ้าเว้ย)

พอผมไปยืนต่อจากมัน ไอ้คิดก็ต้องยืนต่อจากผม ไอ้ปูนเอาเลยครับ รีบ ๆ เนียน ๆ มาคั่นกลางเลย
ผมไม่ได้ใส่ใจอะไร ใส่บาตร จะยืนตรงไหนก็ได้อยู่แล้ว หันไปคุยกับป๊า ม๊า แล้วก็ยัยปู้ ถึงกิจกรรมวันนี้ ม๊าบอกว่าตอนเย็นจะพา งานบุญปีใหม่ให้ทานไฟเมืองนคร ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
ส่วนป๊าบอกว่าช่วงนี้งดตัดยางเพราะลูกน้อง กลับไปบ้านที่อีสานกันหมดแล้ว ยัยปู้ชวนพวกผม
ไปเที่ยวงานที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น ก็น่าสนใจดี ว่าจะหันมาถามไอ้คิดว่าจะไปไหม ก็เห็นไอ้คิด
มันกระซิบกับไอ้ปูน ก่อนที่ได้ปูนจะทำหน้าเหวอ เดินอ้อมหลังผมมายืนแทรกผมกับยัยปู้
ท่าทางลุกลี้ลุกลน แล้วไม่หันมามองผมสองคนอีกเลย จนต้องหันไปหาตัวต้นเหตุ ไอ้คิดยิ้มตาหยี
ส่งมาให้ อ๊ะ ไอ้นี่มึงทำอะไรน้องกู

ยังไม่ทันชำระความ พระท่านก็เดินมากันพอดี ป๊าม๊า นิมนต์ หลวงลุง และหลวงพี่หลายรูป ทาง
เราก็หลายคน พระองค์แรก ๆ ท่านจึงเดินเลยมาที่พวกผมที่ยืนท้ายโต๊ะ ม๊าจัดของใส่บาตรเป็นชุดๆ
ไว้แล้ว ต่างคนต่างหยิบใส่ แต่ไอ้มือที่จับของใส่บาตรอันที่ผมกำลังจะใส่นี่มันคืออัลไล

หันไปมองหน้ามัน มันก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ ดัน ๆ มือผมใส่ถวายพระเรียบร้อยจนหมด แล้วพวกเราก็นั่งลง
รับพรจากพระท่านกัน

ท่านสวดให้ชุดใหญ่ ไอ้บ้าข้าง ๆ ผมมันก็พนมมือ แต่ก็เอียงตัวมาพิงผมซะเนี๊ยะ เฮ้ย มึงเป็นไรวะ
เสียศูนย์หรือไงวะ

มารู้คำตอบกับการกระทำแปลก ๆ ของมันก็ตอนหลวงลุงท่านสวดเสร็จ ก่อนท่านจะเดินนำขบวน
ต่อไป ท่านก็หันมาให้พรต่อ

“อยู่ดีมีสุขนะโยม ขอให้รักกันมาก ๆ นะ” ท่านว่าเสร็จก็เดินจากไป ทิ้งไว้แต่ปริศนาที่ทุกคนหันมา
มองหน้ากันว่าท่านให้พรใคร จะมีก็แต่ไอ้คนข้าง ๆ ผมนี่แหล่ะ ได้ยินมันตอบท่านเบา ๆ “สาธุ”

ป๊าม๊า และพวกน้อง ๆ หันมามอง ผมทำเป็นไม่รู้เรื่อง ช่วยม๊าเก็บโต๊ะเก็บของ เดินปรี่เข้าบ้าน
ไอ้ตัวดีก็เก็บของตามผมมาติด ๆ มึงจะทิ้งช่วงหน่อยไม่ได้เหรอออออ กลัวบ้านกูไม่รู้เหรอว่ากูพา
ลูกเขยเข้าบ้าน ฮึ้ย ไอ้ผมมันก็ไม่ใช่คนละเอียดอ่อน ตักบาตรก็บ่อย แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าคนที่เขาจับ
ของใส่บาตรด้วยกันนะ ถ้าไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน ก็มีแต่คู่รักกันนี่แหล่ะ........... อายหลวงลุงอ่ะ

 
 

“พี่เป้”
“อ้าว ไอ้อาท” กำลังจัดโต๊ะกินข้าวกันนอกชานบ้าน ก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อ หันไปทางเข้าหน้าบ้าน ก็เห็นรถมอเตอร์ไซด์เข้ามาจอด พร้อมชายหนุ่มรูปร่างดี หน้าตาก็จัดว่าใช้ได้ บรรยายมาซะเยอะ มันชื่อไอ้อาท เป็นเพื่อนซี้ ไอ้ปูน บ้านมันก็อยู่ไม่ไกลนี่แหล่ะ เรียนด้วยกันกับไอ้ปูน มาตั้งแต่
อนุบาล ยันมหาลัย ผมเห็นพวกมันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เมื่อก่อนตามผมแจเลยไอ้พวกนี้

“พี่เป้ คิดถึงจังเลย ไม่กลับบ้านซะนาน” ตั้งขามอไซด์ได้มันก็วิ่งโร่เข้ามาแทบจะกระโดดกอดผม ....
ถ้าไม่ติดว่ามีมือหนึ่งรั้งเอวผมไปข้างหลัง อีกอีกมือหนึ่ง ดึงคอเสื้อไอ้อาทไว้

“มึง พี่กู ไม่ใช่ต้นไม้ให้มึงเกาะ มาทำไรวะ” ไอ้ปูนที่ดึงคอเสื้อ เพื่อนมันไว้ มองหน้าเพื่อนมันหน่าย ๆ

“โหยมึง ก็ไอ้นิตมันโทรบอกกู ว่าพี่เป้กลับมาแล้ว กูก็รีบมาหาดิวะ พี่ที่รักของกูนี่นา” ไอ้อาทตอบ
เพื่อนมัน แล้วหันมายิ้มให้ผมแก้มแทบปริ ........เอ่อ...อาท มึงไม่เห็นเหรอ....ว่าข้างหลังกูนี่...มีไอ
มาร แผ่รังสีออกมาอยู่.....แล้วไอ้ตัวที่กอดเอวกู มึงจะกอดแน่นไปมั๊ย...ดีว่าป๊าม๊าอยู่ในครัวหลังบ้าน

“พี่อาท ไปเที่ยวกับปู้มั๊ย ที่โรงเรียนปู้จัดงานด้วยล่ะ ของกินเพียบ” ปู้ที่ยกของมาจากในครัว เอ่ยทัก
เพื่อนพี่ชายเสียงใส หวังว่ายัยปู้คงไม่ได้เห็นไอ้คิดมันกอดเอวผมนะ

“พี่เป้ไปด้วยมั๊ย?” ดูมันไม่สนใจไอ้คิดเล๊ยยยยย หันมาเอียงคอถามอย่างแบ๊ว

“พี่เป้ พี่คิดไปมั๊ยคะ”
“....ไปก็ดีเหมือนกัน แต่แป๊บเดียวนะพี่จะพาเพื่อน ไปเล่นน้ำ ที่ชายหาดกัน”

“เฮ้ย ไปด้วยดิพี่” ไอ้อาทไม่รอช้าเขย่าแขนผมทันที เฮ้อรับมือเด็กข้างหน้าแล้วก็ต้องรับมือเด็กข้างหลังด้วย

“เอ่อ...ก็ดีเนอะ คิดเนอะ ไปกันหลายคน...สนุกดี” ก็ไม่รู้จะปฏิเสธน้อง ๆ มันยังไงดีนี่ มึงไม่ต้องค้อนกู

“....แล้วแต่พี่” โหย หน้าตากับคำพูดมึงไปคนละทางเลย



สรุปหลังจบมื้อเช้าพวกก็เฮโลกันขึ้นรถผมกัน ยัยปู้ นั่งข้างหน้ากับผม ส่วน 3 หนุ่มนั่งเบาะหลัง
ผมสังเกตว่าไอ้ปูนมันไม่ยอมเข้าใกล้ไอ้คิดเลย ถึงมันจะจิกกัด ประชดประชันบ้าง แต่ไม่เข้าใกล้เลย มีไอ้อาทนั่งคั่นกลาง เหลือบมองไอ้หมาหื่น ก็เห็นมันมองน้องผมขำ ๆ แล้วหันมาขยิบตาให้ผม
ตกลงมึงทำอะไรน้องกูวะ





งานโรงเรียนมัธยม เหมือน ๆ งานตามตลาดนัดเลย มีของมาขาย ทั้งจากนักเรียน ผู้ปกครอง ครู
และบุคคลภายนอก ผู้มาร่วมงานก็มากหน้าหลายตา ห้องยัยปู้ทำซูชิขาย มันเลยบังคับให้อุดหนุน
ไปหลายกล่อง เพื่อน ๆ มันก็น่ารัก ๆ กันทั้งนั้นนนนนนน เสียดายอ่ะ............พี่มีผัวเป็นของตัวเองแล้ว

“ปู้ พี่แกคนไหนอ่ะ หล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย”
“อ้อ นี่ไงพี่คนโตฉันพี่เป้ นี่พี่คนรองพี่ปูน และนี่เพื่อน ๆ พี่ ๆ เขา พี่คิด และก็พี่อาท” ยัยน้องสาว
แนะนำพวกผมเรียงตัวให้เพื่อน ๆ ของมันรู้จัก น้องเขาก็น่ารักอย่างที่บอก มาขอถ่ายรูปกันยังกับ
พวกผมเป็นดาราก็ไม่ปาน

กว่าจะหลุดออกมาได้ ก็เปลืองเนื้อเปลืองตัวกันพอสมควร ปล่อยยัยปู้ไว้กับเพื่อน เพราะต้องอยู่ถึงเย็น พวกเรา4 คนก็เดินไปเรื่อย ๆ มีหลาย ๆ คนมองมาทั้งเด็กผู้หญิง และเด็กผู้ชาย

มีอยู่คนหนึ่งมันเดินเข้ามาหาไอ้คิดเลย กล้ามากน้อง ผมก็ไม่ได้หึงหวงอะไร ก็ดู ๆ น้องเขาก่อน

“พี่ครับ พี่เรียนที่ไหนหรือครับ”
“.....เอ่อ พี่ทำงานแล้ว” กลั้นหัวเราะแทบแย่ ไอ้คิดมันหน้าอ่อนไง เด็กเลยคิดว่ามันยังเรียนอยู่

“พี่ทำงานที่ไหนครับ”
“พี่ทำงานที่กรุงเทพครับ”

“อ้าวพี่ไม่ใช่คนที่นี่เหรอครับ งั้นดีเลย พี่ไปเที่ยวกับพวกผมมั๊ยครับ พวกผมก็มี 4 คน”
“.......” ไอ้คิดไม่ตอบหันมามองหน้าผม ...มองไมวะ น้องเขาถามมึง

“นะครับ ๆ ผมจะพาพี่เที่ยวให้ ทะลุ ปรุโปร่งเลย” ไอ้เด็กน้อยมันเน้นคำว่า ทะลุ ซะแทบหัวใจวาย
เด็กสมัยนี้ มันกล้าดีนะ ไม่ต้องบอกก็รู้ความหมาย ก็สายตามันยั่วยวนซะขนาดนั้น

“เอ่อ..พี่ว่าอย่าดีกว่าครับ”
“ทำไมอ่ะครับ พวกผมไม่ดี ไม่น่ารักเหรอ” มั่นมากไอ้น้อง แต่พวกมันก็ดูใส ๆ น่ารักดีจริง ๆ นั่นแหล่ะ

ไอ้คิดไม่ได้ตอบเด็ก มันหันมาโอบบ่าผมแทน ก่อนจะปล่อยหมัดเด็ด
“พวกน้องก็น่ารักนะครับ......แต่สู้เมียพี่ไม่ได้” ไม่ใช่แค่พูดมันยังหันมาหอมแก้ม ให้ผมต้อง
ตาเหลือก ก็นี่มันกลางฝูงคน คนมาร่วมงานเลยนะครับท่านผู้ช๊มมมมมมมมม

ผู้คนรอบข้างเหมือนจะสตั้นกันไปเลย อายมากกกกกกกกกก หลับหูหลับตา ลากพวกมันออกมา
จากงาน ตรงดิ่งไปขึ้นรถแทบไม่ทัน





“พี่เป้” เสียงแรกของไอ้อาทดังขึ้นหลังจากที่เงียบกันไปทั้งรถ

“.....” ไม่มีเสียงใครซักคนในรถขานรับ

“พี่เป้” มันยังคงเรียก
“...อา.อะไร” จำต้องทำลายความตึงเครียด หันไปมองมันที่นั่งข้างหลัง แบบหวาด ๆ กลัวน้องมัน
รับไม่ได้ พวกมันเคยตามผม เห็นผมเป็นลูกพี่ เป็นฮีโร่ แล้วดูซิ ลูกพี่มันไปเป็นเมียผู้ชายซะแล้ว
อย่าว่าแต่พวกมึงเลย กูก็ยังรับไม่ได้





“ฮือ ๆๆ พี่เป้ ทำไมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วไม่เลือกผมอ่ะ” โอ๊ย อยากจะบ้าตาย กูก็กลั้นหายใจ
แทบตายนึกว่ามึงจะรับไม่ได้ เสือกอยากเป็นแฟนกูอีกคนซะนี่ แล้วดูมันร้องไห้น้ำตาไหลพราก

“หยุดเลยมึง ไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ แล้วจะร้องหาพ่องงงง มึงเหรอ”

“พี่อ่ะ ถ้าชอบผู้ชายทำไมไม่บอก ผมรักพี่มาตั้งหลายปี พี่ไปทำงานกรุงเทพ ผมอุตส่าเก็บความบริสุทธิ์ไว้รอ พี่ทำกับผมอย่างงี้ได้ยังไง ฮือๆๆๆๆ”

อ้าว ไอ้อาท มึงก็อีกคน อยากเถียงใจจะขาดว่ากูไม่ได้ชอบผู้ชาย แต่ก็พูดไม่ออก หลักฐานมันนั่ง
หน้าเครียดมองผมตาเขียวปั๊ด เฮ้ย กูไม่เคยไปทำอะไรให้ความหวังพวกมันนะเว้ย

ป๊าบ

“โอ๊ย ไอ้ปูน มึงตบหัวกูทำไม” เป็นไอ้ปูนที่คงจะอดรนทนไม่ไหว มองเพื่อนมันแบบเหยียด ๆ ก่อนจะตบไอ้อาทหัวทิ่ม
“ไอ้สะตอเรียกพ่อ กูไม่ถีบมึงก็บุญแล้ว หนอยเก็บความบริสุทธิ์ให้พี่กู.......น้องนก น้องออย น้องนิ้ง
ไอ้เชษ ไอ้คม ไอ้เล็ก และไอ้อี ที่กูไม่รู้อีกกี่คน ที่มึงปี้เขาไปทั่ว ห๊ะ?”

“โหย ไอ้เพื่อนเลว มึงไม่อยากได้กูเป็นพี่เขยมึงเหรอ”
“ไม่เว้ย พี่กูไม่ได้เป็นรับแน่กูรู้”

“...........” เงิบครับ ฟังไอ้คู่หูกุมารทองมัน ท๊อกจนกูกะจะถีบมันอยู่แล้ว จนประโยคสุดท้ายของ
ไอ้ปูนนี่แหล่ะ ทำให้ไอ้คิดถึงกับหัวเราะก๊ากกก

“พี่เป้” ไอ้ปูนหันมามองหน้าผมอย่างคาดคั้น

“….อั่ม..เอ่อ...คือ..ปะ..ปกติพี่อยู่ข้างบน” ไม่ได้มุสานะครับ แค่บอกไม่หมดว่าไปทำอะไรอยู่ข้างบน ไอ้คิดตอนนี้มันหัวเราะตายไปแล้วครับ

“เห็นมั๊ยพี่กูอยู่บนเว้ย” มันยังมีหน้าหันไปเยาะเย้ยเพื่อนมันอีก ตกลงมึงไม่เครียดแล้วใช่ไหมไอ้ปูน ที่กูมีแฟนเป็นผู้ชาย










ขับรถตะเวนเที่ยวในเมืองก่อน ส่วนใหญ่ก็ไปไหว้พระกัน เพราะวัดวาเยอะ เที่ยง ๆ ก็ไปหาข้าวกิน
กันแถวหาดทรายแก้ว กินอิ่มก็ไปนั่ง ๆ นอน ๆ ผึ่งพุงรอแดดร่มลมตก ค่อยลงเล่นน้ำ





“พี่เป้”
“อะไรวะ” แดดเริ่มอ่อนแสง ก็เลยกะจะลงเล่นน้ำกัน วางข้าวของเสร็จกำลังจะถอดเสื้อยืด ไอ้คิด
มันก็ยื่นมือมาจับบ่า

“ใส่เสื้อเล่นนะครับ”
“ห๊ะ..มึงว่าไงนะ ให้กูใส่เสื้อเล่น มึงจะบ้า เหรอ กูไม่ได้เอาเสื้อมาเผื่อนะเว้ย เดี๋ยวต้องขับรถกลับอีก”

“นั่นซิครับ พี่คิดจะบ้าเหรอ ผู้ชายที่ไหนเขาใส่เสื้อเล่นน้ำกัน ถอดเลยครับพี่เป้”
ไอ้กุมารอาทหันไปว่าไอ้คิด ก่อนจะหันมายิ้มแก้มแตกให้กู เอ่อ...กูจะไม่กล้าถอดก็เพราะมึงนี่แหล่ะ

“เอ่อ กูว่าใส่ก็ได้ เดี๋ยวค่อยไปซื้อเสื้อตรงร้านค้าเอา” ครับ ทนแรงกดดันจากไอ้คิดไม่ไหว ถ้ายังขืน
เถียงกันเรื่องใส่ ๆ ถอด ๆ สงสัยไม่ได้ลงน้ำกันพอดี

คนอื่น ๆ ถอดกันหมด ยกเว้นผม ไม่รู้แม่งจะหวงอะไรนักหนา ผู้ชายเหมือนกัน นมกูก็ไม่ได้ใหญ่ จะ
ได้ต้องมาคอยนั่งปิดซะหน่อย

ระหว่างเล่นกัน ไอ้อาทก็จู่โจม เข้ามากอด มารัด มาตอดตลอด ไอ้หมาของผม ก็หน้าไม่รับแขกขึ้น
ทุกที ไอ้ปูนไม่สนใจใคร ว่ายน้ำเล่นสบายใจเฉิบ เวรกรรมของกู

ซักพักไอ้คิดก็ลากคอไอ้อาท ออกไปไกลจากผม พอสมควร ผมกลัวมันจะฆาตกรรมน้อง
แต่ที่ไหนได้ เห็นมันลากไปกระซิบกระซาบอะไรก็ไม่รู้ ไอ้อาทตอนแรกทำหน้าไม่ชอบใจ แต่เห็น
มันสองตัว หันมามองผมกับไอ้ปูน ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบกันต่อ จากนั้นสีหน้าไอ้อาท
ดั่งผู้เห็นสัจธรรม มันเอามือทุบฝ่ามือตัวเอง ยิ้มระรื่นหน้าบาน ไอ้ตัวดี ก็หันมายิ้ม แล้วชู 2 นิ้วให้
เฮ้ย ไอ้คิด มึงทำอะไรวะ กระซิบไอ้ปูนซะหน้าเหวอ กระซิบไอ้อาทซะหน้าระรื่น อยากรู้รจน
อดรนทนไม่ได้ ว่ายเข้าไปหาพวกมัน

“พวกมึงกระซิบกระซาบอะไรกัน ห๊ะ?”

“เห็นมั๊ยพี่บอกแล้ว” ไอ้คิดไม่ได้สนใจผมหันไปพูดกับไอ้อาท
“จริงด้วยพี่” ไอ้นี่ก็หันไปยิ้มให้ไอ้คิด ไม่สนใจจะตอบกูอีกคน

“เหว๊อออออ” ยังไม่ทันตั้งตัว ไอ้คิดมันก็พุ่งเข้าใส่ จนล้มลง จมไปทั้งตัว ไม่พอมันยังมาจุ๊บใต้น้ำอีก
ไอ้เชี่ย นี่มึงไม่ได้กำลังถ่ายหนังอยู่ใช่ไหม แม่ง จะมาทำสวีทอะไรตอนนี้ เค็ม ก็เค็ม สำลักน้ำด้วย
ยืนขึ้นมาได้ ว่าจะด่ามันซักหน่อย แต่หามันไม่เจอ

“เฮ้ยยยย” ไอ้ตัวดีมันมาแอบข้างหลัง เอามือกอดผมทั้งตัว ยกขึ้นแล้วเหวี่ยงไปมา จนคนที่เล่นน้ำ
อยู่ใกล้ๆ หันมามองกันใหญ่ ไอ้บ้ามึงไม่อายเขารึไง ผู้ชายตัวถึก ๆ สองคนกอดปล้ำกันนี่

“หยู๊ดดดดดดด มึงเล่นอะไรเป็นเด็กไปได้ไอ้นี่”
“ฮะๆๆ ไม่ดี เหรอครับพี่ ใกล้วันเด็กแล้วด้วย”

“มึงกี่ขวบกันห๊ะ”
“กี่ขวบไม่รู้ รู้แต่มีเมียได้แล้วครับผม”

“มึงไอ้หมาหื่น” แม่งชอบพูดให้กูได้อายเรื่อย แล้วเสียงมันนะเบาซะที่ไหน
“ฮ่ะๆๆๆ” ดันตัวออกจากมันได้จะหันไปแก้แค้น ที่ไหนได้มันสาดน้ำเข้าเต็มหน้าเลย แหว๋ะเค็ม

“เฮ้ย ไม่เอาแล้ว ไม่เล่น อ๊า ไอ้บ้าสาดกูเข้าตาเลย แสบอ่ะ”
“เอ๊ย พี่เป็นอะไร เข้าตาเหรอ มาผมดูให้”

“ฮะๆๆๆ หลงกลกูแล้วไอ้คิด นี่แน่ะๆๆๆๆ” มารยากูก็มีไม่น้อยเว้ย แกล้งทำเป็นน้ำเข้าตา
มันนี่ตาลีตาเหลือกเข้ามาดูไม่ทันระวัง กูได้ทีเลยวักน้ำสาดมันก่อน ชุดใหญ่

“เหว๊ออออพี่ หลอกผมเหรอ นี่แน่ะๆๆๆๆ” มันก็ไม่ยอมแพ้ พอตั้งตัวได้ สองคนก็สู้กันด้วยน้ำทะเล
จนแสบตาไปหมด

เริ่มเหนื่อยบอกมันว่ายอมแพ้แล้ว มันก็เลยหยุดให้ แต่มองไปรอบ ๆ เฮ้ย น้องนุงกูหายไปไหนหมดวะ

มองไปตำแหน่งที่ไอ้ปูนมันเคยว่ายน้ำอยู่ ก็ไม่เจอ เฮ้ย พวกมันหายไปใหนแล้วอ่ะ มองรอบ ๆ ก็ไม่มี

“พี่หาอะไรครับ”
“ไอ้คิด น้องกูกับไอ้อาทล่ะ เฮ้ย มัวแต่เล่นกับมึง มันหายไปไหนกันหมด”

“อ้อ ผมเห็นเดินขึ้นไปที่หาด สงสัยจะไปนั่งนะครับ”
“เออ แล้วก็ไม่บอกกูบ้างให้กูตกใจแทบแย่ นึกว่าน้องหาย...ว่าแต่มึงจะขึ้นรึยัง”

“...พี่ยังอยากเล่นต่อไหมละครับ”
“เล่นรึไม่เล่นก็ได้ แล้วแต่มึงดิ”

“งั้นเล่นอีกซักพักนะครับ ผมไม่ค่อยได้เที่ยวทะเลบ่อย ส่วนใหญ่ไปแต่น้ำตก กับแม่น้ำ”
“..อือ” มันพูดซะกูสงสารเลย ไอ้เด็กดอยนี่ ก็บ้านมันไม่มีทะเลนี่นา ไม่เป็นไรกูเองก็ไม่ได้เล่นน้ำทะเลนานแล้ว







ขับรถกลับไปอาบน้ำอาบท่ากันก่อนที่จะไปที่วัด แต่ขากลับนี่ ไม่รู้ทำไม ไอ้ปูนบอกจะนั่งข้างคนขับ
กับผมท่าเดียว ส่วนไอ้สองตัวข้างหลังขากลับ ไมมันซี้กันนักวะ คุยเล่นหัวกันยังกับ เพื่อนสนิทกัน
ก็ไม่ปาน ถามไอ้ปูนมันก็บอกไม่มีอะไร เฮ้ย ไม่มีอะไรแล้วทำไมมึง หน้าแดงยังงั้นวะ


ป๊าม๊า และยัยปู้ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว พวกผมกว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เกือบ ๆ 6 โมงเย็น แวะรับ
ไอ้อาท ที่บ้านมัน ซึ่งก่อนหน้านี้ไอ้ปูนบอกว่าไม่ต้องไปรับให้มันไปเอง เอ๊ะยังไงกันวะ
เมื่อเช้ากูยังเห็นมันดี ๆ กันอยู่เลย




นั่งพนมมือสวดมนต์ และมองผู้คนที่เข้ามาทำบุญ สวดมนต์กันล้นหลาม นึกทบทวนเรื่องราวที่ผ่าน
มาตลอดทั้งปี ปีนี้ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไปแบบที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน ก็จะอะไรซะอีก
ก็ไอ้ที่นั่งสวดมนต์ข้าง ๆ กันกับผมนี่แหล่ะ ไม่คิดว่าจะมามีอะไรกัน รักมัน แคร์มันมากเท่านี้เลย
แต่ไม่บอกมันหรอก ยอมให้แค่นี้ก็ เหลิงพออยู่แล้ว ว่างไม่ได้จับกูกอดตลอด มันลืมตามาสบตากัน
พอดี ยิ้มให้ในแบบคุณชายจุฑาเทพ ก่อนจะโน้มมากระซิบ

“อยากหรือครับพี่” .....................................ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

คิดได้ยังไงของมึ๊งงงงงงงง นี่ขนาดนั่งสวดมนต์อยู่นะเนี่ย หมั่นใส้มัน ตบหน้าผากมันไปที นอกจาก
มันจะไม่ว่าอะไร เสือกหัวเราะ หึ ๆ อีก ไอ้โรคจิตนี่

“ล้อเล่นครับ ก็เห็นพี่มองมา ทำตาสะลึมสะลือ นึกว่าง่วง เลยจะช่วยให้หายง่วง” แม่งถ้ากูง่วงจริง
ก็หายสนิทละ เจอมุกมึน ๆ ของมึงนี่

“กู ไม่ได้ง่วง ก็แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ถึงปีที่กำลังจะผ่านไป”
“ในปีทีเรื่อยเปื่อยของพี่ มีผมอยู่ด้วยรึเปล่าครับ”

“....ก็..นิดนึง...มึงก็เป็นส่วนในปีนี้ของกูนั่นแหล่ะ” พูดเองก็อายเอง หน้ากูก็ร้อน ๆ นิดหน่อย
ไอ้นี่มันไม่ตอบได้แต่ยิ้ม ๆ ส่งมาให้

“ผมดีใจครับ ที่เป็นส่วนในปีนี้ของพี่ และผมหวังว่าผมจะเป็นทุก ๆ ส่วนในปีต่อๆ ไปของพี่ตลอดไปนะครับ”

“........แล้วแต่มึง...ใคร..ใครห้ามมึงละ” เขินปรอทแตก มึงนี่จะหวานก็ดูสถานที่นิ๊ดนึงก็ดีนะ
นี่มันในวัดในวานะเว้ย แม่งแล้วกูจะเขินทำไมมากมายอย่างนี้นี่

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0
Re: Love pill - Meet the Parent - Count down 31 ธันวาคม. (6/3/2018)
«ตอบ #17 เมื่อ10-04-2018 14:43:41 »

รอตอนต่อไปอยู่นะครับ  :กอด1:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอบคุณนะคะ ที่เข้ามาคอมเม้น สุขสันต์วันสงกรานต์กันนะคะทุกคน  :duck1:



***********************************************


Meet the Parent - Explode



วันที่ 1 มกราคม (ปีใหม่)



เวลาของปีเก่าล่วงไปแล้ว วินาทีย่างเข้าสู่ปีใหม่ ผู้คนแสดงความยินดีกันถ้วนหน้า
ต่างกล่าวสวัสดีปีใหม่กันพร้อมเพรียง ทุกคนหันไปพูดคุย จับมือกัน กอดกันกับคนข้าง ๆ ตัว
ผมเลยทำเนียน ๆ กอดคอพี่เป้ แล้วหอมแก้มพี่มันฟอดใหญ่ มันหันมามองแต่ไม่ได้ว่าอะไร หันไป
มองครอบครัว ก็ไม่มีใครหันมามองเราสองคนเลย

คุณพ่อตาแม่ยาย และน้องปู้ ขับรถกลับไปพร้อมกัน ส่วนน้องอาทลากตัว น้องปูนหายเข้ากลีบเมฆ
มีแต่ข้อความฝากมาทางไลน์ ว่าไม่ต้องห่วง จะดูแลน้องปูนอย่างดี

เอาจริง ๆ พี่ไม่ห่วงหรอกครับ ดีซะอีก ยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว นี่ถ้าไม่ติดมางานบุญที่วัด ก็กะจะ
เอากันข้ามปี ฉลองปีใหม่นะเนี่ยะ แต่ไม่เป็นไร ถึงจะผิดเวลาไปหน่อย แต่ยังไงคืนนี้ก็ไม่มีตัวกวน
แล้ว ได้ทำตามความตั้งใจแน่ ๆ






กลับถึงบ้านพี่มันก็เกือบ ตี 2 ไฟในบ้านดับไปบ้างแล้ว คาดว่าคงจะเข้านอนกันหมดแล้ว พี่มันบอก
ให้ย่อง ๆ เข้าบ้าน ไม่อยากทำเสียงดังให้รำคาญ .....แหม๋ไอ้ผมก็นึกว่าคิดเหมือนผมซะอีก

พอเข้าไปในห้องได้ก็รวบตัวพี่มัน มาวางไว้บนเตียง พี่มันหน้าเหวอ เอามือปัดป้องเป็นการใหญ่
“เฮ้ย มึงจะทำอะไร ไอ้นี่ ตี 2 แล้วนะ นอน ๆ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปใส่บาตรอีก”
“โหยพี่ นี่ปีใหม่แล้วนะ ปีนี้เรายังไม่ได้มีอะไรกันเลย”

“ตรรกะเชี่ย อะไรของเมิ่งงงงงง เอ๊ะ ไอ้นี่ มึงอย่า.. อ๊ะ... อะ”
ไม่ฟังคนทักท้วงให้เสียอารมณ์ พี่มันปลุกง่ายจะตาย ก้มหน้า ก้มตา ปล้ำไซร้ซอกคอและขบที่ติ่งหู
พี่มัน อีกมือก็ล้วงเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตขาวตัวบางเบา ลูบไล้ จากหน้าท้องขึ้นไปที่หน้าอก
ก่อนจะบดคลึงเม็ดตุ่มไต จนพี่มันบิดตัว ครางเสียงหลง

“อื้อ..อือ” จูบปิดปากพี่มัน อย่างเมามัน สอดลิ้นแทงเข้าไปในปากพี่มัน ดูดดุน รัดเรียวลิ้นร้อนให้
คนใต้ร่างหน้าแดงด้วยแรงปรารถนา ไม่ปล่อยเวลาให้พี่มันได้มีเวลาคิดอะไร ยกเสื้อมันขึ้นมาเหนือ
อก ก่อนจะจูบขบเม้นยอดอกให้พี่มันเสียวจนขนลุก ช่วงล่างก็บดคลึงเสียดสีกันไปมาจนรู้สึกได้ถึง
ความแข็งขืนของเราทั้งคู่ ผมพยายามถอดกางเกงของพี่มัน พี่เป้ก็พยายามถอดกางเกงผมเช่นกัน

“พี่ครับ วันนี้อยากอยู่ข้างบนอีกไหมครับ”
“เหว๊อ” ถามแต่ไม่ต้องรอคำตอบ พลิกให้พี่มันขึ้นมานั่งคร่อมที่หน้าอกผม อ๊า good view พี่มันที่
หน้าแดง ตาฉ่ำปรือด้วยแรงอารมณ์ กัดริมฝีปากล่างกลั้นความเสียว เสื้อมันที่เลิกขึ้นไปที่หน้าอก
เผยให้เห็นช่วงลำตัวที่มีมัดกล้ามพองาม ไหวขึ้นลงตามการหายใจที่ถี่กระชั้น ส่วนน้องชายพี่มันก็
ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า ไม่รอช้า ลงลิ้นไปที่ส่วนหัว ชิมของหวาน

“อ๊า..อย่าเพิ่ง .ซี๊ดดด ..กูเสียว อ๊ะ” ชิมเสร็จก็ครอบเข้าไปทั้งลำ พี่มันหนีบขาเข้าหากันเพราะความ
เสียว สองมือเท้าหัวเตียง ห่อปากร้องคราง เริ่มเด้งตัวสวนเข้ามา

มือหนึ่งลูบไล้แผ่นหลังพี่มัน อีกมือก็เริ่มคลำทางเข้าจากแก้มก้น ก่อนจะพยายามทะลวงเปิดทาง
อ่า ขนาดแค่นิ้วยังตอดขนาดนี้ แทบทนไม่ไหว แต่พี่มันยังไม่พร้อม ต้องเบิกทางให้มากกว่านี้อีก

“ไอ้คิด กูไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อะ” พี่มันกระตุกตัวพ่นน้ำรักเข้าเต็มปากผม ก็กลืนไปบางส่วน ที่เหลือก็
เอามาชโลมน้องของผม และช่องทางของพี่มัน

“ทำให้ผมนะครับ ที่รัก” ส่งสายตาหวานไปให้พี่มันยิ่งหน้าแดงเข้าไปอีก ส่งเจ้าลูกชายไปบดเบียด
ช่องทางด้านหลังพี่มัน จนมันยอมที่จะคว้าของผมมาจ่อที่ช่องทางของตัวเอง

“อ๊า.. อ่ะ.. หะ.. อ๊ะ.. หะ..หะ”
“อาร์... ซี๊ด... อะ ช้า ๆ ครับพี่ อะ อา” ช่วย ๆ พี่มันประคองจนผ่านเข้าไปได้ทั้งลำ ก่อนที่มันจะนั่งทับลงมาอย่างคนหมดแรง มือก็ยันที่ท้องผม พยุงตัวเอาไว้ อยากให้พี่มันได้ปรับตัวก่อน แต่ก็ช่าง
ตอดรัดดีเหลือเกิน  เกินที่จะทนได้ ลุกขึ้นมานั่งสวมกอดพี่มันไว้ แล้วเริ่มเด้งเอวเข้าออกจากช้า ๆ
ไปจนเร่งจังหวะถี่ยิบ

พี่มัน ได้แต่ร้องคราง กอดคอผมแน่น ลมหายใจร้อนผ่าวระอยู่แถวซอกคอ เราสองคนเปียกไปด้วย
เหงื่อ ผมดันพี่มันให้นอนหงายก่อนจะจบด้วยท่าเบสิค
















“ไอ้เป้”

“ห๊ะ หา อารายว๊ะ เหว๊อออออออป๊า”
ตกใจ กำลังหลับอยู่ดี ๆ ก็มีเสียงเรียกพี่มันให้ทั้งผม และพี่เป้เด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง ผมงี้ตาโตเลย
ก็คุณพ่อตายืนหน้าเครียด อยู่ที่หน้าประตู มองมาที่พวกผม ที่สภาพไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมื่อคืน
ทำอะไรกัน ส่วนพี่มัน ตอนแรกเหมือนคนยังไม่ตื่นดี จนมองไปเป็นพ่อตัวเอง และหันมามองผม
ที่อยู่ในสภาพล่อนจ้อน มีเพียงผ้าห่มคลุมตัวไว้ ก็ถึงกลับเหวอหน้าซีด

“เกิดอะไรขึ้นป๊า...ว้าย ตาเถร ชีเปลือย” หมดกัน คุณแม่ยายก็ไม่เว้น คงได้ยินเสียงคุณพ่อตา
เลยตามขึ้นมาดูด้วย แกหน้าแดงหลบไปหลังประตูอีกที





ไม่ต้องบอกก็คงทราบสถานะการณ์ของพวกผมแล้วใช่มั๊ยครับ








และในตอนนี้พวกเราก็อยู่กันในห้องรับแขกด้านล่างของตัวบ้าน โดยมี

คุณพ่อตานั่งหน้าเครียด จ้องเขม็ง ไม่พูดอะไรมากว่า 10 นาทีแล้ว ตั้งแต่พวกเราลงมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน

คุณแม่ยาย นั่งข้าง ๆ คุณพ่อตา หน้าขึ้นสึระเรื่อ ท่าทางตกใจมากกว่าจะโกรธ แอบมองผม และพี่เป้ เป็นระยะ ๆ

น้องปูน.....ถึงเธอจะไม่ได้เห็นเหตุการณ์ตรง แต่ก็ได้รับข้อมูลจากคุณแม่ยายแล้ว ดูมีสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย


และพี่เป้กับผม ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม คู่กัน พี่มันหน้าซีด ก้มหน้าก้มตา ไม่สบตาใคร ผมอยากกอด
ปลอบขวัญ ถ้าไม่ติดว่าคุณพ่อตาจ้องเขม็ง ส่วนตัวผมนั้น ก็ตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะถูกจับได้
คาหลักฐานก่อนที่จะได้สารภาพ ท่าจะงานยากกว่าที่คิดซะแล้ว

“...อาเป้ ลื้อ...ลื้อชอบผู้ชายตั้งแต่เมื่อไหร่ห๊ะ?” ในที่สุดคำถามแรกก็ออกมาจากปากคุณพ่อตา
พี่มันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาพ่อตัวเอง

“...ผม...ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”

ปึง
“ผูม่าอ่ะ ขนาดนี้แล้วลื้อยังจะบอกไม่ได้ชอบผู้ชายอีกเหรอ แล้วพวกลื้อทำอะไรกันเมื่อคืน” พี่เป้
ตอบคุณพ่อตาไปเสียงอ่อย ๆ แกคงจะโกรธคิดว่าพี่เป้ไม่ยอมรับความจริง ลุกขึ้นมาตบโต๊ะดังลั่น
ก่อนจะชี้หน้าด่า (ถึงจะฟังไม่ออกภาษาจีน แต่รู้ว่าไม่ใช่คำชมแน่ครับ)

“เอ่อ คุณพ่อครับ ผม....” ผมอ้าปากเตรียมจะอธิบาย
“ไอ้หนุ่ม มึงหุบปากไปเลย นี่เรื่องในครอบครัว” คุณพ่อตาหันมาแหวเสียงดัง  โธ่ ถ้าเป็นเรื่องใน
ครอบครัวละก็ ผมก็ลูกเขยนะครับ (ได้แต่คิดในใจ)




“ลื้อเป็นพี่ชายคนโต เป็นผู้สืบสกุล แล้วลื้อมาเป็นกระเทยอย่างนี้ อั๊วจะมีหลานได้ยังไงว๊ะ”
“ป๊า ผมไม่ใช่กระเทยนะ ถึงจะมีแฟนเป็นผู้ชาย ผมก็ยังเป็นผู้ชายอยู่นั่นแหล่ะ”

“ลื้อกล้าเถียงเหรอ นี่เป็นมานานแล้วซิ ไอ้นี่มันเป็นแฟนคนที่เท่าไหร่ของลื้อละห๊ะ”
“....คน...คนแรก...ป๊า เข้าใจผมหน่อย ผมไม่ใช่ว่าชอบผู้ชายทุกคนนะครับ ....แค่ไอ้คิดเท่านั้น”

“อย่าบอกนะว่ามันมาล่อลวงลื้อ” อ้าว ๆ งานเข้าผมซะแล้ว ถึงจะจริงก็เถอะ คุณพ่อตามีท่าที
ฮึดฮัด ลุกขึ้นมาตรงมากระชากเสื้อผม เตรียมจะชกเต็มที่

“อย่าป๊า/ ป๊าอย่า/ ป๊า” สามเสียงประสานห้าม คุณแม่ยาย และน้องปู้ลุกตามมาฉุดแขน คุณพ่อตา
ไว้ ส่วนพี่มันก็มาจับมือคุณพ่อตาที่กุมเสื้อผมไว้ แล้วเอาตัวเข้ามาบัง

“ป๊า พอเถอะครับ ไม่เกี่ยวกับไอ้คิดหรอก ผมผิดเองที่รักมัน ป๊าอย่าทำอะไรมันเลย”
“.ฮึ๊ย..ไอ้ลูกไม่รักดี” พอคุณพ่อตาลามือจากผมได้ พี่มันก็คุกเข่าลงที่พื้น ก้มลงกราบแทบเท้า
แต่ทางคุณพ่อตาจะไม่หายโกรธ นอกจากจะชักเท้าหนีแล้ว แกยังจะยกขึ้นมาเตะพี่มันอีก

“พี่เป้” ผมงี้รีบถลาเข้าไปรับลูกเตะของคุณพ่อตาแทน แกเตะมาเต็มแรง เจ็บซี่โครงแทบร้าว
ทำให้ล้มกลิ้งกันไปทั้งสองคน โหยคุณพ่อตาครับ ทำอะไรผมก็ทำเถอะครับ แต่คนนี้เป็นยิ่งกว่าดวงใจของผม ผมไม่ยอมให้ใครทำอะไรพี่มันหรอก


“ป๊าอย่า อย่าทำลูกเลย” คุณแม่ยายวิ่งเข้ามาขวางไว้ก่อนที่ลูกเตะที่สองจะตามมา น้องปู้ก็ฉุดมือ
คุณพ่อตาไว้ “ออกไปเลยม๊า จะมาขวางทำไม ไอ้ลูกไม่รักดี เลี้ยงเสียข้าวสุก เกิดเป็นผู้ชายดี ๆ ไม่ชอบ”

“ป๊า นี่ลูกเรานะ เป้มันก็เป็นเด็กดีมาตลอด ไม่เคยทำอะไรให้เราต้องเสียใจเลย ป๊าจะใจเย็น ๆ ฟังมันก่อนได้ไหม”

“ฟังมันเถียงอั๊วเหรอ”
“โอ๊ย ท่าจะไม่ได้เรื่องแล้ว เป้ พาคิดออกไปก่อนไป ไว้ม๊าจะค่อย ๆ คุยกันกับป๊าเอง”

“....ม๊า...”
“พี่เป้ ไปก่อนเถอะ ตอนนี้ป๊ากำลังร้อน พูดอะไรก็ไม่ฟังหรอก”
“พี่ครับ เชื่อคุณแม่เถอะ เราออกไปกันก่อน”

“เออ ไปเล๊ยยยยยย ออกไปแล้วไม่ต้องกลับมา บ้านนี้มีลูกชายแค่คนเดียว”

“...ป๊า…” สิ้นคำป๊า พี่เป้น้ำตาไหลอาบแก้ม ยืนตัวแข็ง ผมต้องบังคับพามันออกมาที่รถ ดันพี่มัน
เข้าไปนั่งข้างคนขับ ก่อนจะรีบ ๆ เดินไปขึ้นด้านคนขับ สตาร์ทรถได้ก็ขับออกไปทันที

ผมขับรถเข้าไปในเมือง ดูท่าคืนนี้คงต้องหาที่พักในเมืองซะแล้ว ตลอดทาง พี่เป้ นั่งนิ่ง หันหน้า
ออกไปนอกหน้าต่าง น้ำตาไหล แต่ไม่มีเสียงสะอื้น

ผมไม่คุ้นชินกับ สภาพของพี่มันอย่างนี้เลย อยากให้มันกลับมา เฮฮา หยาบ เถื่อน เหมือนเดิม
แต่ผมตอนนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะผมเองเป็นสาเหตุหลัก ๆ ของเรื่องเลยก็ว่าได้

เห็นโรงแรมอยู่ข้างหน้า ผมจอดข้างทางก่อนถึงโรงแรม เพื่อพูดคุยกับพี่มันก่อน

“พี่เป้ครับ เราพักโรงแรมนี้ดีไหมครับ”
“.........”

“พี่เป้ครับ”
“หือ? ว่าไงนะ”

“ผมถามว่าเราพักกันที่โรงแรมนี้ดีไหมครับ”
“....พัก..พักทำไม...บ้านกูก็..มี.............” เสียงแผ่วในตอนท้าย ดูเหมือนพี่มันจะเพิ่งนึกได้ว่า
โดนพ่อไล่ออกมาจากบ้าน สิ้นคำ พี่มันก็เงียบไปอีก ก้มหน้าไปอีกครั้ง เฮ้อ






“พี่เป้ครับ ผมถามจริง ๆ นะครับ ถ้าพ่อพี่รับเรื่องของเราไม่ได้ พี่จะเลิกกับผมไหม?” ผมที่ไม่รู้จะหา
คำใดมาปลอบโยนพี่มัน เลือกที่จะเข้าถึงปัญหามากกว่าจะมองโลกสวยหนีความจริง

“...ทำไม...มึงอยากเลิกกับกูเหรอ”
“เฮ้ย เปล่านะพี่ ต่อให้มีอีกสิบพ่อพี่ผมก็ไม่ยอมเลิกกับพี่หรอก”

“แล้วมึงถามทำไม”
“เอ่อ ผมก็ถามพี่ไงว่าพี่จะทำยังไง”

“กูไม่รู้”
“....”

“ถ้าแค่กูคนเดียวกูก็ไม่สนใจอะไรหรอก..........แต่ถ้ามีคนสู้เคียงข้าง กูก็จะสู้...”

พี่มันมองสบสายตาผมแน่วนิ่ง ผมงี้อุ่นวาบไปทั้งหัวใจ ข้ามเกียร์รถไปกอดพี่มันไว้แน่น ผมเลือกรัก
คนไม่ผิดจริง ๆ เขาคนนี้ของผม ทั้งเข็มแข็ง และอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน คำพูดตรง ๆ ไม่ต้องประดิษประดอย

“พี่ครับ ผมพร้อมจะอยู่เคียงข้างพี่เสมอ ไม่ว่าจะยามสุข ยามทุกข์ ยามสบาย ยามป่วยไข้ หรือยาม
เราสองคนแก่ชรา ผมอยากอยู่กับพี่นะครับ”

“...แม่ง มึง พูดอย่างกับงานแต่งงานเลย ไอ้คิด”
“ก็ดีซิครับ งั้นเรามาแต่งงานกันนะครับ”

“มึง อ่ะบ้า ใครเขาจะมาทำพิธีให้วะ”
“ไม่ต้องมีพิธีอะไรหรอกพี่ แค่เรา...สองคน....ให้พวงมาลัยเป็นสักขีพยานรักของเราก็ได้”

“55555 ไอ้บ้า ไอ้งี่เง่า มึงนี่” อ่า พี่มันยิ้มได้ซะที ถึงจะดูฝืน ๆ ก็เถอะ
“พี่ครับ แล้ว…..”

“รอซักพัก ให้ป๊าเย็นลงซักนิด แล้วเราค่อยลุยเข้าไปใหม่”
“พี่ว่าท่านจะเย็นลงได้เหรอครับ”

“ไม่รู้ แต่ก็ต้องลองดู”
“พี่ครับ ...หิวไหม พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย”

“...ไม่ล่ะ กูยังไม่หิว มึงเองก็ยังไม่ได้กินอะไร ไปหาอะไรกินเถอะ”
“ถ้าพี่ไม่กินผมก็ไม่กินครับ”

“เอ๊ะ ไอ้นี่ ท้องใครก็ท้องใครซิวะ ไม่ได้ติดกันซักหน่อย”
“..ท้องอ่ะไม่ติด....แต่ต่ำกว่าท้องติด”

“อารายของมึงวะ”
“........” ผมไม่ได้ตอบพี่มัน แต่ชี้ให้ดูน้องชายของผมที่ตอนนี้ก็ยกตัวขึ้นมาบ้างเล็กน้อยจากการที่ได้
นั่งคร่อมพี่มัน ทำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นมา

ผั๊วะ

“โอ๊ย...พี่ตบผมทำไม”
“ไอ้สันดาร สถานการณ์ดราม่าขนาดนี้ มึงยังมีอารมณ์อีกเหรอวะ ห๊ะ”

“โหยพี่ กับพี่นะต่อให้สถานการณ์ไหน ผมก็เอาได้ทั้งนั้นแหล่ะ”
“ฟังแล้วอยากเสยมึงซักหมัดจริง ๆ เพราะมึงนั่นแหล่ะ เสือกหน้ามืดเมื่อคืน กูบอกแล้ว ว่าอย่า ๆ”

“อะนะอย่า ๆ แล้วใครอ่ะ ถอดกางเกงผมแล้ว ทำร้ายน้องชายผม ก่อนที่ผมจะถอดกางเกงของพี่
ซะอีก”
“อย่ามามั่ว กูนี่นะ ไม่มีทาง”

“งั้นต้องพิสูจน์”
“เฮ้ย ไอ้คิด นี่มันในรถ และเราก็อยู่ข้างถนนนะมึง กระจกแม่งก็ใสเว่อร์”
“ดีซิพี่ ไม่เคยลองกันในรถเลย แถมระทึกอีกต่างหากว่าจะมีใครมาเห็นรึเปล่า”

“ไอ้โรคจิตมึงถอยไปเลย กูไม่มีอารมณ์ กูกำลัง แซด นะเห็นมั๊ย หื่นไม่เข้าเรื่อง”
“ผมก็แค่อยากให้พี่กลับมาร่าเริง”

“เชื่อมึง กูก็โง่แถมบ้าแล้ว”
“แล้วพี่เชื่อผมไหมละ”

“ไม่...เพราะกูทั้งบ้าและโง๋”





















ที่บ้าน

“ป๊า ๆ ทำไม พูดกับลูกอย่างนั้น เห็นหน้ามันไหม ซีดตกใจ จนร้องไห้ ม๊าเลี้ยงมันมา เป้มันไม่ใช่คน
ที่จะร้องไห้ง่าย ๆ ลูกมันคงจะน้อยเนื้อต่ำใจที่พ่อไม่รับฟังมันเลย”

“หยุดเลยม๊า ไม่ต้องมากล่อมป๊า ยังไงก็ไม่กลับคำ อีเป็นผู้ชายนะ แถมเป็นลูกชายคนโตด้วย มา
มีแฟนเป็นผู้ชาย เสียชาติเกิด ฮึ่ม”

“ป๊า ม๊าเป็นคนคลอดมันมานะ ป๊าแค่ยืนมองนอกห้องผ่าตัด ม๊ามีสิทธิ์ในตัวลูกมันมากกว่าป๊าอีก
ม๊าไม่เห็นว่าลูกมันจะทำไม่ดีตรงไหน มันมีคนรักเป็นผู้ชายแล้วทำไม ป๊าก็เห็น คิดก็เป็นคนดี ตลอด
สองสามวันมานี้ ม๊าก็เห็นป๊าชอบคิดไม่ใช่เหรอ”

“นั่นมันก่อนที่จะรู้ว่ามันไม่ใช่แค่เพื่อนกัน ม๊าลื้อหยุดพูดเลย”



“ป๊าค่ะ แล้วถ้าเป็นปู้ละคะ หนูพูดได้ไหม”
“...ปู้...ทำไมลื้อมีอะไรจะพูด ไม่ต้องคิดพูดช่วยพี่ลื้อเลยนะ”

“ป๊า ปู้ไม่พูดถึงเรื่องพี่เป้หรอก ปู้แค่อยากจะบอกว่า ป๊าที่ปู้รู้จัก เป็นผู้ใหญ่บ้าน นักพัฒนา
หัวสมัยใหม่ เข้าใจหัวอกลูกบ้านเสมอมา”
“..........”

“ไม่ว่าใครมีเรื่องทุกข์ร้อนใจ มาหาป๊าก็รับฟัง และช่วยแก้ไขให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีตลอด ถึงบ้าง
เรื่อง จะเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ลงความเห็นกันว่าไม่ดี ไม่ถูกต้อง แต่ป๊าก็ช่วยให้เรื่องมันดีขึ้น ถูกต้องขึ้น”

“อาปู้ ลื้อจะพูดอะไรก็ว่ามาตรง ๆ เลยดีกว่า นิสัยชักแม่น้ำทั้งห้านี่เหมือนใครวะ”

“จะเหมือนใคร ก็เหมือนป๊านั่นแหล่ะ ก็ปู้ดูป๊าเป็นแบบอย่างนี่นา ปู้กะว่าเรียนจบปริญญาตรีแล้ว
จะกลับมาช่วยป๊าพัฒนาบ้านเรา”
“เฮ้อ ลื้อนี่ได้ดังใจจริง ๆ ไม่น่าเกิดเป็นลูกผู้หญิงเล๊ย”
“เป็นผู้หญิงไม่ดีเหรอป๊า”

“เปล่า ๆ ป๊าไม่ได้ว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี แต่ว่า”
“ป๊า ยุคนี้มันไปถึงไหนกันแล้ว ผู้หญิงยังเป็นประธานาธิบดีได้เลย ขับเครื่องบินก็ได้ ไปอวกาศก็ไป
มาแล้วเลย ป๊าว่ายังมีอะไรที่ผู้หญิงทำไม่ได้อีกไหมคะ”

“......ลื้อนี่ ป๊ายอมแพ้ พูดไม่เคยทันลื้อเลย”
“ป๊า ลูกบ้านนี้ไม่ได้มีแต่พี่เป้ และพี่ปูนนะ ยังมีปู้อีกคน ป๊ารักพวกเราเท่ากันไหม”

“....ก็...ก็ต้องรักเท่ากันซิ ถามได้”
“แล้วป๊าฟังลูกบ้านทุกเรื่อง....ป๊าจะไม่ฟังลูกป๊าซักเรื่องเลยเหรอคะ....ถึงพี่เขาจะรักใครชอบใคร
หนูก็ยังเห็นว่าเขาเป็นพี่ชายคนเดิมที่หนูภาคภูมิใจเสมอมา แล้วป๊าละค่ะ เห็นว่าพี่เป้เปลี่ยนไป
ไม่ใช่ผู้ชายเหรอคะ”

“แต่มันมีแฟน..เป็น.....ผู้..ผู้ชาย”
“ป๊าทำยังกับไม่เคยเห็น ในหมู่บ้านเราก็มีคู่รักผู้ชายตั้งหลายคู่ ปู้ยังเห็นเขาก็อยู่กันรักกันดี ป๊าเอง
ก็พูดคุยกับเขาปกติ ยุคนี้นะบ้างประเทศเขาให้เพศเดียวกัน จดทะเบียนสมรสกันได้แล้วนะคะป๊า”

“.....................”
“ป๊าวันนี้เป็นวันปีใหม่ค่ะ ป๊าอยากให้พี่เป้ ฉลองปีใหม่โดยไม่มีครอบครัวเคียงข้างเหรอคะ”

“..............”
“พรุ่งนี้พี่เขาก็คงจะกลับกรุงเทพแล้ว เฮ้อ น่าสงสารจัง คงกลับไปทำงานด้วยหัวใจห่อเหี่ยวน่าดู”

“............”
“หนูว่า..”

“เออๆๆๆ พอแล้ว สงบศึกก็ได้ ไปเรียกมันกลับมาคุยกัน เฮ้อ ผู้หญิงบ้านนี้นี่ น่ากลัวจริง ๆ”
“อ้าวป๊า มาพาดพิงถึงม๊าทำไมเนี่ยะ ไม่เคยทำอะไรที่น่ากลัวเลยนะ”

“แค่ทำให้ป๊ารักได้ ก็น่ากลัวพอแล้วละ”
“แหม๋ ป๊าละก็ นี่แน่ะ ๆๆๆ”


“เอ่อ เชิญป๊าม๊า สวีทกันตามสบายค่ะ ปู้ไปโทรตามพี่เป้ก่อนละ”













“ห๊ะ จริง เหรอ ป๊ายอมคุยดี ๆ แล้ว เหรอ เออ ๆๆ ได้ พี่จะรีบกลับไป ไม่ไกลหรอก แค่ในเมืองเอง ได้” หัวใจพองโต ทันทีที่ยัยปู้โทรมาตามให้กลับบ้าน นึกว่าจะไม่ได้คุยกับป๊าแล้วซะอีก ดีนะ ไม่ม๊า
ก็ยัยปู้นี่แหล่ะ คงจะช่วยกล่อมป๊าให้

“พี่ เอาไง?”
“หันหัวรถกลับบ้านกูซิวะ”

“พี่ว่าพ่อพี่จะยอมรับง่าย ๆ เหรอ”
“ไม่รู้วะ ต้องไปดูก่อน”

“ผมว่าผมหาตัวช่วยดีกว่า”
“ตัวช่วย????”






ทันทีที่ถึงบ้าน ผมกับไอ้คิด เดินตัวลีบ ๆ เข้าไปไหว้ ป๊าและม๊า อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ สายตาป๊า
ยังไม่ค่อยจะเป็นมิตรมากนัก แต่ม๊ายิ้มน้อย ๆ ส่วนยัยปู้ยืนให้กำลังใจอยู่ไม่ไกล

“ป๊า ผมไม่ใช่ว่าชอบผู้ชายจริง ๆ นะป๊า เมื่อก่อนผมก็ชอบผู้หญิง เคยคิดวางแผนจะแต่งงาน มีลูก
เหมือนครอบครัวปกติทั่วไป .........แต่...ผมก็ไม่รู้ ผมรู้จักกับคิดมาก่อนก็ไม่เคยคิดอะไรเกินเลย
กับมันเลย จนถึงวันหนึ่ง ผมก็บอกไม่ได้ ว่าเป็นเพราะอะไร อาจเพราะมันเป็นคนดี มันคอยอยู่
ข้าง ๆ เป็นกำลังใจให้ในยามที่ผมท้อ เป็นทั้งเพื่อน เป็นน้อง เป็นทั้ง...คนรัก ...เป็นครอบครัว ผม
ไม่รู้ว่ามันเป็นความรักจริง ๆ เหรอเปล่า แต่ตอนนี้แผนของผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมว่าเราจะอยู่ดูแลกัน
ไปจนแก่เฒ่า”

“อาเป้ ชีวิตคู่ผู้ชาย มันไม่มีอะไรมาการันตีว่าพวกลื้อจะอยู่กันไปจนแก่เฒ่า ถ้าวันหนึ่งต้องแยกกัน
พวกลื้อจะทำยังไง”

“ผมรู้ป๊า แต่ไม่ว่าจะคู่ไหน ถ้าสิ้นสุดคือสิ้นสุด อะไรก็รั้งไว้ไม่ได้”
“แต่ผมจะไม่ปล่อยให้มีวันนั้นครับคุณพ่อ” กำลังพยายามพูด ยกเหตุและผลนา ๆ ประการ ไอ้คิด
มันก็สวนขึ้นมาให้ทั้งบ้านผมหันไปมอง

“ไอ้หนุ่ม มึงจะเอาอะไรมารับรอง ว่าวันหนึ่ง มึงจะไม่ทิ้งลูกกูไป ไม่ทำให้มันเสียใจ”
“คุณพ่อครับ ลำพังผมคงไม่กล้ารับรอง แต่มีคนรับรองให้ได้ครับ”

“ใคร / ใครว๊ะ /ใครจ๊ะ /ใครค่ะ” ทั้งบ้านผมพร้อมใจกันถามประโยคเดียวกันเป๊ะ

“รบกวนคุณแม่รับสายนี้หน่อยครับ” ไอ้คิดมันกดโทรศัพท์มันยิ๊ก ๆ ก่อนจะอู้คำเมืองสามสี่ประโยค
แล้วส่งโทรศัพท์ให้ม๊าของผม เฮ้ย ไอ้นี่มึงลับลมคมในเยอะจริง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับม๊ากูว่ะ

“ห๊า ม๊าเหรอ?? ...ใครอ่ะ???” ม๊าเองก็มีท่าทีแปลกใจที่อยู่ ๆ คิดก็ส่งโทรศัพท์ให้
“แม่ของผมเองครับ”


“อ้อ...ค่า สวัสดีคะ.... อ้อ...เรียกรีก็ได้ค่ะ ....คะพี่นิต....อ้อทางพี่ทราบแล้วเหรอค่ะ...ค่ะ...งั้นเหรอ
คะ....เหมือนกันเลย วุ่นวายกันน่าดู......เหรอคะ  .....ว๊ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ....ไม่ต้องถึงขนาด
นั้นก็ได้คะ.....ทางเราคงรับไม่ได้หรอกคะ........แต่ว่า.........คือ.....อ้อแค่ลูก ๆ มีความสุข น้องก็
พอใจ แล้วค่ะ ...ฮิๆๆๆ ..โหย น่าไปจัง ไว้ต้องหาเวลาแวะไปบ้างแล้วคะ.........ได้ค่ะ ถ้ายังไงก็เชิญ
เลยค่ะ ทางใต้มีของดีเยอะค่ะ ที่เที่ยวก็พวกทะเลอะไรงี้ .......ดีเลยคะ...คะ...อะไรนะคะ.....
อ้อซักครู่คะ….ป๊า พ่อของคิดเขาอยากคุยด้วยจ๊ะ”


“ห๊า คุยกับป๊านี่นะ....เออ ๆ เอามา........ครับ..........อ้อผมปิ๊ดครับ แล้ว.........อ้อ พี่ชาติ....ครับ
งั้นเหรอ พี่ก็คิดอย่างผมใช่ไหม....ก็มันจริงไหมละพี่.............เอ่อ ทำใจยากจริง ๆ ครับ ....แต่
ทำไงได้ ก็ลูกเรานี่ครับ.....................................


นั่งมองม๊าที่รับโทรศัพท์จากไอ้คิดทีแรกด้วยสีหน้าแปลกใจและกังวล จากนั้นคุยกันซักพัก ก็สีหน้า
ดีขึ้น แถมยังคุยไปหัวเราะไป ท่าทางจะคุยกันถูกคอ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ต่อให้ป๊า บอกว่าพ่อไอ้คิด
จะคุยด้วย ผมงี้มือเย็นเลย กลัวผู้ใหญ่ทะเลาะกัน ป๊ารับโทรศัพท์ซักพักก็เริ่ม มีสีหน้าสลดลง ๆ
คุยกันเงียบ ๆ ไม่เฮฮาเหมือนม๊า หันมามองหน้าพวกผมนิดนึงก่อนจะถือโทรศัพท์เดินห่างออกไป
คุยกับพ่อไอ้คิดต่อ โดยไม่สนใจพวกผมอีกเลย

จนม๊าลุกมากอด ผมก็กอดตอบน้ำตาไหลพราก โอ๊ย ทำไมวันนี้ผมบ่อน้ำตาตื้นจังเลยวะ ม๊าเรียก
ไอ้คิดมาใกล้ ๆ แล้วก็กอดเราสองคนพร้อม ๆ กัน ไอ้คิดมันคุกเข่าลงกราบที่เท้าม๊า

“ขอบคุณครับคุณแม่ ผมดีใจที่คุณแม่ ยอมรับผมเป็นลูกชายอีกคน”
“ทั้งสองคน ก็ดูแลตัวเองดี ๆ มีคู่แล้ว ต้องใจเย็น ๆ เข้าอกเข้าใจกัน ให้อภัยกันนะลูก”

“ม๊าครับ ขอบคุณครับ”
ผมเองก็คุกเข่าลงไปกราบที่เท้าม๊าอีกคน มืออบอุ่นที่คุ้นเคย ลูบศรีษะเราสองคนอย่างแผ่วเบา ผม
รู้สึกดีใจที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้ เป็นลูกของป๊าและม๊านะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-04-2018 21:51:20 โดย limpingping »

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
บทส่งท้าย ทริป ปีใหม่

เขาว่าหลังพายุ ฟ้าจะสวยงาม เห็นท่าจะจริง หลังจากที่ผม โทรไปปรึกษาพ่อกับแม่ของผม
เพื่อขอให้ท่านช่วยพูดกับพ่อและแม่ของพี่เป้ ก็ไม่ได้พูดง่ายซะทีเดียวหรอกครับ ผมทั้งออด
ทั้งอ้อน กว่าพ่อผมจะยอมช่วย ส่วนแม่ผมนะไม่ต้องห่วง อยากเจอพี่เป้ใจจะขาดแล้วมั้ง
ก็ผมเล่นทั้งเล่าเรื่องพี่มัน ส่งรูปพี่มันเวลาเผลอไปให้ แม่เห็นแล้วก็กรี๊ดเลย เร่งวันเร่งคืน
ให้ผมพาสะใภ้คนนี้มาบ้านซะที

ส่วนใจความเนื้อหาที่พวกพ่อ ๆ แม่ ๆ คุยกัน ผมก็ไม่รู้หรอกครับ จนได้มาคุยกันหลังจากที่พ่อพี่เป้
พรากโทรศัพท์มือถือผมไปคุยกับพ่อผม นานมาก

#อ้อ แม่ก็คุยเรื่อย ๆ เปื่อย ๆ ไปนะแหล่ะ แม่ของพี่เป้ น่าจะเป็นคนน่ารักเหมือนลูกชายนะ แค่ฟัง
เสียงยังรู้สึกดีด้วยเลย#  แม่ผมเรียกพี่มันเหมือนที่ผมเรียก ยังแอบฮา ถ้าพี่มันมาได้ยินต้องเหวอแน่

“ครับ แม่พี่เป้ น่ารัก ใจดีด้วยครับ ถ้าทางนี้ไม่ได้แม่พี่เป้ ก็ดูจะเป็นเรื่องยากสำหรับผมเลยอ่ะแม่”

#แม่ก็ไม่รู้จะพูดช่วยแกยังไงดี แม่เลยบอกว่าจะยกที่ดิน ที่เป็นสวนลำไยให้เป็นของรับขวัญพี่เป้
ก็แกบอกแม่เองนี่ ว่าแม่ของพี่เป้ ชอบลำไย”

“ห๊า แม่พูดจริงอ่ะ” สิ้นคำแม่ ผมงี้ลุกขึ้นยืนเลยครับ โอ๊ว ไม่นึกว่าแม่ผมจะใจปล้ำขนาดนี้ คิดได้ไง
ยกที่สวนให้ รับขวัญลูกสะใภ้

#ใช่ซิ แม่เป็นผู้ใหญ่นะ พูดเล่นได้เหรอ ก็ยังไง ๆ แกก็ไม่ยอมปล่อยพี่เป้ให้หลุดมืออยู่แล้วนี่ ยกให้พี่เป้
ก็เหมือนยกให้แกนั่นแหล่ะ แต่แม่พี่เป้ก็บอกว่าไม่เอา ๆ แค่ให้บ้านเรารักพี่เป้เหมือนที่เขารักก็พอแล้ว
อุ้ย ยิ่งคุยด้วยยิ่งถูกใจ ว่าง ๆ พาครอบครัวพี่เป้มาเที่ยวบ้านเราซิ เอ๋ ไม่ซิ แม่เองก็อยากไปเที่ยว
ทะเลทางใต้นานแล้ว เออ เอาไว้หมดหน้าผลไม้ ให้พ่อพาแม่ไปเที่ยวบ้านแม่พี่เป้ดีกว่า# เอ่อ แม่ครับ ไม่เว้นช่องไฟให้ผมได้แทรกเลยนะครับ พูดเอง เออเองเสร็จสรรพ แต่ถูกใจผมมากครับแม่
ขอบคุณครับที่ช่วยเต็มที่ ผมรักแม่ครับ


แล้วทางพ่อผมละครับ คุยอะไรกับพ่อพี่เป้

#แกจะให้พ่อคุยอะไรกับเขา ฟังแค่เสียงเขาก็รู้แล้วว่าไม่แคล้วหัวอกเดียวกัน ลูกชายคนโตทั้งคู่
แกคิดว่าพ่อรับเรื่องของแกได้ง่าย ๆ เหรอ....พ่อนะใช้ชีวิตผู้ชายธรรมดามาตลอด มีเมีย มีลูก
ก็ไม่นึกนี่นา ว่าวันหนึ่งจะมามีลูกสะใภ้เป็นผู้ชาย อ้อ จากที่คุย ๆ กับพ่อของเป้ เขาไม่รู้เหรอว่า
ลูกชายเขาเป็นเมียแก พ่อฟัง ๆ เขาพูดเหมือนแกไปเป็นสะใภ้บ้านเขาเลย# ฮ่ะๆๆๆ ได้แต่หัวเราะออกไป โธ่พ่อครับ ผมว่าให้พ่อพี่เขาเข้าใจผิดนะดีแล้ว ถ้ารู้ตอนนี้ ผมว่าเรื่องมันจะยิ่งจบยากเข้าไป
อีก ถ้าแกรู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของแกเป็นเมียผม ผมถูกไล่กระทืบรอบสองแน่

“เห็นคุยกันนานเลย พ่อคุยอะไรกันอีกเหรอครับ”

#อือ ก็หลังจากปรับทุกข์กันเสร็จ ก็ต่อด้วยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อย เอ่อพ่อเป้เขา ไอเดียดีนะ เขาเล่า
เรื่อง โครงการจัดการโรงอาหาร กับจัดการขยะในโรงเรียน พ่อว่ามันดีมากเลย เอามาใช้ที่โรงเรียน
ได้เลย นี่พ่อก็กะว่าจะลองทำดูก่อน  ถ้าไม่ได้หรือติดขัดยังไง ก็คงต้องพึ่งให้เขาช่วยแนะนำนั่นแหล่ะ#

อึ้งกันเลยทีเดียว พ่อผมก็จัดว่าเป็นคนมั่นใจในตัวเอง และดื้อพอตัว แต่จากที่คุยกัน ดูพ่อจะชื่นชม
พ่อพี่เป้เป็นอย่างมาก เห็นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ ผมคนกลางก็รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ



ยิ้มระรื่นหน้าบานเป็นกระด้ง เข้าไปกอดคอพี่มันที่ยืนกำกับพวกน้อง ๆ ให้ช่วยกันจัดสถานที่สำหรับ
ปาร์ตี้ปีใหม่คืนนี้

“หน้ามึงนะหุบ ๆ ซะบ้าง บานจนจะเป็นกระด้งอยู่แล้ว จะยิ้มอะไรนักหนาวะ เอ้า ๆ พวกมึง ขนเก้าอี้
มาวางด้านนี้บ้างซิวะ ได้ก๊อต เครื่องเสียงมึงเซ็ตเสร็จยังวะ”

“พี่ครับ ปล่อยน้อง ๆ เขาจัดการกันเองเถอะ ไปกินข้าวกัน ข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กิน ข้าวเที่ยงก็ยังไม่
ตกถึงท้อง เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”

“ถึงว่า ท้องมันร้องแปลก ๆ เออ ๆ ไปหาไรกินกัน มึงก็ยังไม่ได้กินนี่หว่า”

“พี่ไม่กินผมก็กินไม่ลงหรอกครับ”
“โหยพี่คะ หวานกันขนาดนี้ น้ำตาลช่วงนี้ก็ราคาตกกันพอดีซิคะ” พี่มันทำหน้าเลี่ยน ๆ กับลูกหยอดผม
แต่น้องปู้นี่ซิแซวจนพี่มันหน้าแดง หันมาค้อนผมก่อนจะเดินเข้าไปในครัว

“ม๊าครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม” เดินตามพี่มันเข้าไปในครัว ก็เจอคุณแม่ยาย(ที่น่ารัก) กำลังขะมักขะเม้นกับการเตรียมอาหารและของว่างในงาน

“อ้อ ไม่ต้องหรอก เสร็จหมดแล้ว ไว้อุ่นอีกทีตอนเย็น หิวละซิ มา ๆ กินกันก่อนเลย เอ่อ ว่าแต่ใคร
เห็น ปูนบ้างนี่ ไม่เห็นหน้าทั้งวันเลย”

“อือ ไม่รู้ครับ คงไปเที่ยว ๆ กับพวกไอ้อาทมั้งครับ” ผมได้ยินคุณแม่ยายถามถึงน้องปูน นี่อดจะสะดุ้งไม่ได้ ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง แล้วไอ้หน้าผมมันคงออกอาการอะไรซักอย่าง พี่มันจ้องเขม็งเลย

“มึง...กูข้องใจนานแล่ะ”
“ครับ อะไรหรือครับพี่”

“เมื่อวานมึงกระซิบกระซาบอะไรกับไอ้ปูน ไอ้อาทวะ?”
“.................” เอ่อ เอาไงดี บอกพี่มันไปจะโกรธรึเปล่าวะ

“มึง จะบอกกูดี ๆ หรือจะบอกทั้งน้ำตา” งืด ไม่พูดเปล่าพี่มันกำคอเสื้อผมพร้อมกับ ยกหมัดขวาเตรียมพร้อม

“.....พี่ครับ ใจเย็น ๆ ผมบอกพี่ก็ได้ แต่พี่ต้องสัญญาก่อนนะว่าจะไม่โกรธผม

“สัญญา...กูจะไม่โกรธ.....ถ้ามันไม่ใช่เรื่องที่ทำให้กูโกรธ”
“โหยพี่เล่นงี้เลย”

“ก็เออซิวะ บอกมานะ”
“เอ่อ.....อ้าวพ่อครับ จะทานข้าวด้วยเหรอครับ”
“เหว๊อ ป๊า” ท่าทางพี่มันขวัญผวาเลย พอผมเรียกคุณพ่อตามากินข้าว แต่ไม่มีหรอกครับ ผมหลอก
พี่มัน คุณพ่อตาไม่ได้เดินเข้ามาหรอกครับ ผมแค่หาทางเอาตัวรอดครับ

“อ้าว ไหนอ่ะป๊ากู?.................ไอ้คิด” ฮะ ๆๆ มุกนี้ คุ้น ๆ กันไหมครับ กว่าพี่มันจะรู้ตัวว่าถูกหลอก ผมก็วิ่งแผ่นแน๊บไปหน้าบ้านแล้ว











ส่วนเรื่องที่ผมกระซิบกระซาบ น้องทั้งสองก็ไม่มีอะไรมาก ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองล้วน ๆ

“...........” ผมมองน้องปูน ที่ทำเนียน ๆ เข้ามาคั่นระหว่างผมกับพี่เป้ ตอนเช้าที่จะใส่บาตร
“...มองไร ไม่ให้เข้าใกล้พี่เป้หรอก”

“....น้องปูนครับ พู่ๆ” ผมก้มไปกระซิบข้างหูน้องปูน ด้วยเสียงเย็นเยือก และเป่าหลังหูจนปูน
ถึงกับขนลุกซู่

“....” น้องยกมือขึ้นปิดหูหน้าแดง
“ปูนรู้ไหมครับ....พี่มีความฝันสูงสุดอยู่อย่างหนึ่ง...” ผมยังคงใช้น้ำเสียงโทนเดิม กระซิบเบา ๆ
ให้ได้ยินกันแค่ 2 เรา

“....”น้องมันหน้าตาเลิ่กลั่ก มองมาทำตาเหลือก

“พี่อ่ะเพิ่งเจอพี่เป้ตอนทำงาน แต่ถ้าเป็นไปได้พี่อยากจะลองมีอะไร ๆ กับพี่เป้ตอนเป็นนักศึกษาจังเลย”

พูดไม่พูดเปล่าผมแลบลิ้นเลียริมฝีปาก พร้อมทั้งจ้องน้องมันเขม็ง

น้องปูนมันรีบ ๆ ชิ่งกลับไปยืนที่เดิม ส่วนพี่มันก็มองผมแบบงง ๆ คงสงสัยว่าผมทำอะไรน้องมัน



ส่วนไอ้น้องอาท........ก็ไม่อยากจะอะไรมันหรอกครับ แต่มันแม่ง กวนตีนผมดีแท้ เกาะแกะ
แทะโลม พี่เป้อยู่ได้ เลยต้องหาทางกำจัดซะ

“อะไร ๆ พี่ ลากผมมาทำไม...” ไอ้น้องอาทมันสะบัดมือผมที่ลากมันออกมาให้ห่างจากพี่เป้ พอสมควร

“พี่อยากคุยด้วย”

“คุยอะไร ผมไม่มีอะไรจะคุยกับพี่”


“น้องไม่รู้เหรอว่าพี่เป้กับพี่เป็นแฟนกัน”
“แล้วไง??”

“พี่จะบอกน้องด้วยความหวังดี แฝงพวงมะม่วงต่อไปก็ไม่ได้กินหรอก”
“.......มันเรื่องของผม พี่จะพูดแค่นี้ใช่ไหม”

ไอ้น้องอาท มองตาขุ่น ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินกลับไปหาพี่เป้



“มะม่วงมันไม่ได้มีลูกเดียวนี่นา ทำไมต้องแย่งกันด้วย”
“............” ได้ผล คำล่อของผม เรียกความสนใจไอ้น้องอาทให้หันมามอง

“ยังไง ๆ มะม่วงลูกใหญ่ พี่ก็กินไปแล้ว น้องจะกินต่อจากพี่......หรือจะสอยลูกใหม่กินคนเดียว....”
“.......” มันจ้องผมเขม็ง แต่พอมันเข้าใจว่าผมต้องการจะสื่ออะไร สายตามันก็เบือนไปมอง มะม่วง
ลูกเล็ก ที่ว่ายน้ำเล่นไม่สนใจใคร

“น้องสนิทกับสองพี่น้องนี้มากไม่ใช่เหรอ ปูนมีอะไรด้อยกว่า มีอะไรที่พี่เป้มีแล้วปูนไม่มีบ้าง
หน้าตาน่ารัก ผิวเนียนลออ กล้ามเนื้อหนั่นแน่น” ไซโครไอ้น้องอาทต่อไปครับ  คิดไปคิดมานี่มัน
โชคสองชั้นเลยนี่หว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว กำจัดศัตรูหัวใจ และกำจัดไอ้น้องขี้หวงพี่ได้อีกคน

“........อือ...นั่นซินะ...ทำไมผมไม่เคยคิดถึงข้อนี้เลย พี่เป้ผมก็รักและเคารพอะนะ แต่ไอ้ปูนนี่มันอยู่
ข้างกายผมมาตลอด............ผมจะมามัวเฝ้ารอพี่เป้ทำไมกัน ในเมื่อไอ้ปูนมันก็อยู่กับผม แต่อย่าว่า
งั้นงี้เลยนะพี่ ผมไม่เคยคิดว่าไอ้ปูนมันจะมาเป็นตัวแทนพี่เป้หรอก ก็ถึงภายนอกจะคล้ายกันซะขนาดนี้
แต่นิสัยใจคอนี่คนละเรื่องเลย เห็นอย่างนี้ ไอ้ปูนมันแสบกว่าที่คิดอีกนะพี่ แล้วพี่ว่ามันจะสนใจผมเหรอ”

“เฮ้ย ไอ้น้อง ถ้ามึงไม่สอย จะนั่งรอมันหล่นลงมาเหรอวะ ระวังเถอะจะมีนกมาจิกกิน ตัดหน้าไปซะก่อน”
เติมเชื้อไปอีกนิด

“ฮึ่ม ไม่ว่าหน้าไหน ก็อย่าหวังว่ามาตัดหน้าผมเลย” และก็ได้ผลครับ มันฮึดฮัด ตรงเข้าไปหามะม่วง
ลูกเล็กที่อยู่อีกด้านทันที




อ๊ะ ๆๆ อย่ามองว่าผมเลวนะครับ ที่ยุให้น้องมันได้กัน ถ้าผมดูไม่ผิด น้องปูนก็ต้องคิดอะไร ๆ กับเพื่อน
สนิทมันบ้างล่ะ ก็อย่างสายตาเศร้า ๆ ของมันที่มองตามเวลาไอ้น้องอาทมันกระดิกหางวิ่งรอบ ๆ พี่เป้


เหอ ๆๆๆ แล้วที่มันหายกันไป 2 วัน 1 คืนแล้วยังไม่กลับมานี่ ผมก็พูดได้คำเดียวครับ

“ก็ไม่รู้ซินะ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-05-2018 20:04:49 โดย limpingping »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
part พี่ ๆ เอาแค่นี้ก่อน ต่อไปมาดู part น้อง ๆ กันบ้างว่าจะ เป็นอย่างไรกันบ้าง เอาใจช่วยน้อง ๆ กันด้วยนะคะ


*******************************

เรื่องของพวกน้อง ๆ – เพื่อนสนิท

เมื่อก่อนผมเคยดีใจเสมอ เวลาที่มีใครต่อใครบอกว่า ผมเหมือนพี่เป้ พี่ชายคนโตของผม


เพราะพี่เป้ เป็นคนเก่ง เป็นคนดี และเป็นที่รักของทุกคน เป็นไอด้อลของผมเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่เด็ก ๆแล้วที่ผมวิ่งตามหลังพี่เป้ และก็คิดอยู่เสมอว่าโตขึ้นก็อยากเป็นอย่างพี่เป้นี่แหล่ะ



“ไอ้ปูน มึงนี่เหมือนพี่เป้เลยว่ะ”
“..อะไรของมึง” จู่ ๆ ไอ้อาทเพื่อนสนิทของผม ที่มัวแต่อู้ นั่งดูรูปในอัลบัมของผม ในขณะที่เพื่อน ๆ
คนอื่น ๆ กำลังสาระวนกับการช่วยกันทำรายงานกลุ่ม กันที่บ้านของผม

“ก็นี่ไง ๆ มึงดูเด่ะ รูปพี่เป้ตอนเรียนมหาลัยอ่ะ เหมือนมึงเด๊ะเลย” ไอ้ตัวดีนอกจากไม่สำนึกว่าไม่ได้
ช่วยอะไรเพื่อน ๆ เลย แถมยังก่อกวนโดยการยื่นอัลบัมเข้ามาวางกลางวงทำรายงาน

“ไหน ๆ โห้ย เหมือนจริงๆ ด้วยว่ะ” พวกเพื่อน ๆ ชะโงกมาดูกันป็นเป็นแถว พอเห็นก็ร้องเห็นพ้อง
ต้องกันพร้อมหน้า

“พี่เป้สบายดีไหม” หลังจากคำถามนี้ของไอ้ทิม จากที่นั่งทำรายงานกัน ก็หันมาถามถึงพี่ชายคนโต
ของผมกันมากมายหลายคำถาม ด้วยความคิดถึง ก็ขวัญใจเด็ก ๆ นี่นา



แล้วตอนนี้ล่ะ?



ผมก็ยังดีใจอยู่ดี ที่ผมเหมือนพี่เป้ จนบางคนแซวเลยว่า เครื่องถ่ายเอกสารที่บ้านผมดี
สำเนาถูกต้อง5555

แต่ไม่รู้ทำไม เวลาคำว่าเหมือนมันออกมาจากปากไอ้อาท มันทำให้ผมหงุดหงิดทุกที



ผมกับไอ้อาทเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ บ้านอยู่ใกล้กัน พ่อแม่สนิทชิดเชื้อกัน
เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาล ยันมหาลัยเลย เรียกได้ว่าทั้งชีวิตของผม ไม่เคยมีวันไหนเลย
ที่ไม่มีไอ้อาท กลายเป็นเรื่องปกติที่เราจะอยู่ข้างๆ กัน เหมือนเป็นอากาศรอบๆ ตัว เบาๆ สบายๆ
ทะเลาะกันบ้าง กวนทีนกันบ้าง ตามประสาเด็กผู้ชาย แต่ก็เข้ากันได้ดี มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกัน
มีอะไรก็แบ่งกันมาตลอด จนบางครั้งผมนึกว่าผมมีน้องชายอีกคนก็ว่าได้


ระหว่างมันกับผม ก็ควรจะเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดา ผมไม่ควรจะมีความรู้สึกอะไรกับมันมาก
เกินกว่าคำว่าเพื่อน แต่..............


ตอนมันริเริ่มมองผู้หญิง ผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ หงุดหงิดงุ่นง่านแปลก ๆ ตอนแรกก็คิดว่า แค่หวง
เพื่อน กลัวเพื่อนมีแฟนแล้วไม่มีเวลาให้เหมือนก่อน พอคิดได้อย่างนั้นก็พอจะรับได้ แต่........


ที่หนักกว่าคือตอนที่มันบอกผมตอน ม.2 ว่ามันชอบพี่เป้พีชายของผม และมันอยากเป็นแฟนพี่เป้
แล้วมันก็เริ่มจีบพี่ชายผมเป็นจริงเป็นจัง มากินมานอนบ้านผม จนน่ารำคาญ แต่พี่ชายผมก็ไม่ได้
สนใจมันเกินกว่าน้องชายคนหนึ่ง บางทีก็หยอกมันบ้างล้อมันบ้าง

จนพี่ชายผมได้งานที่กรุงเทพทำให้ไอ้อาทมันเฮิรท์หนัก มันจึงชวนเพื่อนๆ ไปกินเหล้าจน แม่งเมาเป็นหมา ลำบากผมต้องหิ้วมันกลับมาบ้านของผมก่อน เพราะขืนเข้าบ้านมันทั้ง ๆ เมาแอ๋
มีหวังลุงอี๊ดก้านคอมันสลบแน่


“เฮ้ย เดินดี ๆ ดิว่ะมึง” กว่าจะทั้งแบก ทั้งลากไอ้ขี้เมาเข้ามาถึงในห้องได้ก็เล่นเอาหอบแดก
“..พี่...พี่เป้..ไมไม่รักโผมอ่ะ ทิ้งโผมปายทำงานกรุงเทพทำมายยยย”

“เมาแล้วมั่วนะมึง แหกตาดูบ้างกูไม่ใช่พี่เป้เว้ย” ไอ้คนเมา แม่งก็มั่ว หันมาตีโพยตีพาย เพราะเห็น
ผมเป็นพี่เป้ซะงั้น

“ห๊า..อาราย..ไม่ใช่พี่เป้เหรอ...มึง..อ้ายยยยปูนนนน”
“เออ กูไอ้ปูน เอ้า ๆ มึงนั่งดี ๆ เดี๋ยวกูไปหาผ้ามาเช็ดตัวให้” วางไอ้คนเมาให้มันนั่งลงบนที่นอนได้แล้ว
ก็จะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้มัน




“อือ...อือ..” อย่าเข้าใจอะไรผิดนะครับ ผมกำลังเช็ดตัวให้มันอยู่ ถอดแค่กางเกงยีนส์มันเหลือแต่บอกเซอร์กับเสื้อ แล้วลงมือเช็ดตัว มันคงจะครางเพราะสบายตัวขึ้น


“ปูน เมิงอย่าทิ้งกูปายไหนนะ กูมีแค่เมิงคนเดียวแล้วตอนนี้” มันละเมอเพ้อออกมา


“เฮ้อ ไอ้อาทเอ๊ย มึงมันไม่เจียม พี่กูไม่สนใจมึงหรอก คนเขาไม่ใยดีก็ไปตามอยู่ได้....คนที่อยู่ข้าง ๆ
มึงตลอดเสือกไม่หันมาดู” เห็นมันหลับไปแล้วถึงได้กล้าพูด ไม่อยากให้มันรู้ กลัวมันจะเห็นผมเป็น
ตัวแทนพี่เป้ อยู่เป็นแค่เพื่อนมึงยังดีกว่าเป็นตัวแทนของใครละว่ะ




มหาวิทยาลัย.....


“เฮ้ย ไอ้ทิม เห็นเชี่ยปูนรึเปล่าว่ะ”
“ไม่รู้เว้ย ไม่ได้นั่งเฝ้ามัน แต่หลังเลิกคาบสุดท้าย เห็นมันเดินออกไปก่อนเพื่อนเลย “

“ไรว้า ไหนมันบอกจะไปเล่นบาสกับกู”
“ไอ้อาทมึงก็ปล่อย ๆ เพื่อนมึงมั้งไรมั้งเหอะ”

“ปล่อยไรของมึง กูก็ไม่ได้ไปกักไปขังอะไรมันนี่หว่า”
“หรออออ แม่งเพื่อนมึงออกจะหล่อ และแสนดีซะ แต่กูไม่เคยเห็นมันมีแฟนเลย ถ้าไม่ใช่
เพราะเพื่อนอย่างมึงเกาะมันหนึบแบบนี้ กูว่ามันมีแฟนครึ่งมหาลัยแล้ว”

“ปากดี กูไม่ได้เกาะมันเว้ย ก็แค่บ้านอยู่ใกล้กัน เรียนที่เดียวกัน มึงจะให้กูแยกกะมันตอนไหนว้า”
“เออๆๆๆ เรื่องของพวกมึง ทิมจะไม่ยุ่ง”

“กวนตีนนะมึง เฮ้ย ไอ้โย่ง เห็นไอ้ปูนม่ะ”
“เห็น”

“ที่ไหนวะ”
“หน้ามอ เดินไปกับพี่ปุ๊กคนงาม แม่งถ้าไม่ใช่ไอ้ปูนนะ แฟนคลับพี่ปุ๊กสอยแม่งดับไปแล้ว”

“อะไรนะ พี่ปุ๊กปี 4 นะเหรอ”
“เออ พี่ปุ๊ก ดาวมหาลัยนั่นแหล่ะ”

“เชี่ยแม่ง ไอ้ปูนเจ๋งว่ะ ควงพี่ปุ๊กได้นี่ ไม่ธรรมดา”
“เห็นม่ะ ที่มันไม่มีแฟนนี่ ไม่เกี่ยวกับกูเลย”

“เออๆๆๆ ไม่เกี่ยวมั้ง”
“ไปอาท ไปเล่นบาสกัน พี่กริชรอแย่แล้ว เดี๋ยวถูกด่า”
“อือ.......”






“ปูน ว่างจริงรึเปล่าจ๊ะ พี่เกรงใจจังเลย ต้องให้เธอมาเป็นเพื่อนนี่”
“อ้อ สำหรับพี่ปุ๊ก ผมว่างเสมอล่ะครับ”

“ปากหวานนะเรา นี่ถ้าไม่ใช่หลานรหัสพี่คิงนะ จะเก็บไว้เป็นกิ๊กซักคนนะเนี๋ยะ”
“ฮ่ะๆๆๆ” อดจะหัวเราะให้อารมณ์ขันของพี่ปุ๊กไม่ได้ ผมว่าตอนนี้ ไอ้พวกหน้ามหาลัย มันคงจะ
กระจายข่าวไปทั่วมหาลัยแล้ว ว่าผมเดินควงพี่ปุ๊ก ดาวมหาลัยคนงาม โอ๊ยไม่กล้าคิดครับคนนี้
ก็พี่เขาเป็นแฟนกับพี่คิงปู่รหัสผมนะซิ พี่คิงฝากฝังผมดูแลพี่ปุ๊ก หลังจากแกจบไปแล้ว ผมว่าไม่ต้อง
ดูแลหรอกพี่คิง ก็แฟนพี่คนนี้ธรรมดาที่ไหน ไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว พี่ปุ๊กยังลุยไม่เข้ากับหน้าตา
เลย ถ้าใครขืนมามั่ว กลัวจะเจอพี่ปุ๊กอัดซะก่อนนะซิ (เรื่องพี่เขาลุย ๆ มีแต่คนสนิท ๆ เท่านั้นที่รู้

เพราะเวลาอยู่ มหาลัยก็แอ็บสวยสง่าซะ)


“เดี๊ยวไปหาอะไรกินกันก่อนนะ พี่เลี้ยงเอง ขอบคุณที่มาช่วยพี่เลือกของขวัญวันเกิดให้พี่คิงนะ”
“น่าอิจฉาพี่คิงนะครับ ผมว่าพี่ปุ๊กให้อะไรพี่คิงก็ดีใจทั้งนั้นแหล่ะครับ”

“ไม่ต้องมาอวยพี่เธอเลย ขานั้นถ้าได้ของไม่ชอบก็บ่นเหมือนกันนะ เคยมาแล้ว พี่ซื้อนาฬิกาให้บ่นหูชา
บอกว่าเป็นของที่คนรักกันเขาไม่ให้กันบ้างล่ะ ตินั่นตินี่ สุดท้ายก็ต้องยกนาฬิกาให้น้องชายพี่ไป”

“อ้าว แล้วพี่เอาอะไรให้พี่คิงแทนล่ะครับ”
“....ก็...ไม่ได้...ซื้ออะไรให้ เขาบอกไม่เอาของแล้ว เขาได้มาเยอะแล้ว”

“แล้ว??”
“ปูน.....นี่แหล่ะถึงไม่มีแฟนซะที เฮ้อ ไป ๆ ไม่พูดแล้ว” พี่ปุ๊กหน้าขึ้นสีชมพูระเรื่อ อย่างน่ารัก ตอนนี้
ผมชักจะรู้แล้วว่าพี่เขาให้อะไร








“ขอบใจนะปูน แต่แน่ใจเหรอว่าพี่คิงจะชอบ”
“โหยพี่ แฟนผีเหนียวแน่นซะขนาดนั้น ได้ บ็อกเซ็ท ทีมแมนยูไปนี่ เชื่อผม กรี๊ดสาวแตกแน่ พี่เตรียม
ถ่ายคลิปไว้เลยนะ ผมอยากเห็น ฮ่ะๆๆๆ”

“คิกๆๆๆ ได้เลย จะจัดให้ ว่าแต่จะกลับกับพี่ไหม”
“ก็ดีครับ รบกวนพี่.....ไอ้...ไอ้อาท....” กำลังจะตกปากให้พี่ปุ๊กขับรถไปส่งที่บ้าน ก็เห็นไอ้เพื่อนสนิท
มันเดินไปเดินมาเหมือนมองหาอะไร ก่อนที่มันจะเห็นผม และวิ่งหน้าตั้งเข้ามา

“เฮ้ย ไอ้ปูน”
“อ้าว มาไงว่ะมึง ไม่ซ้อมบาสเหรอ” ไอ้อาทเป็นนักบาสของมหาลัย และวันนี้มันก็ต้องซ้อม เพราะใกล้งานกีฬามหาลัยแล้ว จริง ๆ มันชวนผมไปซ้อมด้วยวันนี้ แต่พี่ปุ๊กมาขอให้ช่วยซื้อของเป็นเพื่อน
จึงไม่ได้ไปกับมัน

“....เอ่อ ...พี่กริช ไม่บาย เลย งดซ้อมว่ะ ...กู..เอ๊ย ผม เลยมาเดินเล่นครับ”  เชี่ยอาท โกหกใครโกหกได้ โกหกกูนี่นะ แค่เห็นมึงพูดกุกกัก แถมหลบตาอีก ก็รู้แล้ว มึงโดดซ้อมชัวร์ แล้วพอหันไปมองหน้าพี่ปุ๊ก แม่งก็รีบเปลี่ยนศัพนามซะเพราะเชียวนะ

“งั้นเหรอจ๊ะ งั้นก็ขอให้สนุกนะ พี่กับปูนจะกลับแล้ว”
“..เดี๋ยวครับ...เอ่อ..ปูน..” พอจะเดินตามพี่ปุ๊ก ไอ้อาทมันก็ดันคว้าข้อมือผมไว้

“.....เฮ้อ...เอ่อพี่ปุ๊ก กลับไปก่อนนะครับ ผมมีธุระกับเพื่อนพอดี” พี่ปุ๊กมองมาทำหน้าแปลก ๆ ส่วนผมถอนหายใจกับความเอาแต่ใจของเพื่อน แต่ผมก็ตามใจมันประจำเองแหล่ะ

“จ๊ะ งั้นก็เจอกันปีหน้านะ บาย” พี่ปุ๊กยิ้มหวาน บอกลาไม่พอยังยื่นหน้ามาหอมแก้มผมอีก อือ...
อันนี้ไม่ปกติ เพราะพี่ปุ๊กไม่เคยทำอย่างนี้ แต่พอมองหน้าพี่เขาก็ยิ่งงง เพราะพี่เขายิ้มแล้วมองไอ้อาท
“ครับ ขับรถดี ๆ นะครับ” ผมว่าพี่เขาเหมือนจะแกล้ง ๆ ไอ้อาทว่ะ และน่าจะได้ผล ไอ้อาทหน้าบูดป็นตูดเลย





“มึงคบกับพี่ปุ๊กเหรอว่ะ”
“หือ...ไม่อ่ะ มึงก็รู้พี่ปุ๊กเป็นแฟนพี่คิง กูไม่อยากโดนพี่คิงกระทืบ”

“แล้วทำไมต้องมาซื้อของด้วยกัน แถมพี่เขายังหอมแก้มมึงอีก ฮึ่ม”
“ก็แค่ชวนมาช่วยซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่คิงไง แล้ว...ไอ้เมื่อกี้ กูก็ไม่เข้าใจ แต่กูว่าพี่เขาไม่คิดอะไรกับกูหรอก”

“แล้วมึงล่ะ คิดรึเปล่า”
“......” ไม่อยากตอบมันครับ กูคิดอะไรมึงอย่ารู้เลย


“เอ่อ พี่เป้จะกลับมาบ้าน และอยู่ช่วงปีใหม่ พ่อกูเลยจะจัดเวที คงได้สนุกกันน่าดู”
“เห้ย จริงอ่ะ พี่เป้จะกลับมาเหรอว่ะ วู้ๆๆๆ” ไอ้อาการดีใจที่โอเวอร์ของมัน ทำให้คิ้วผมกระตุก ๆ

“งั้นกูไปนอนบ้านมึงคืนนี้นะ เผื่อพี่เป้มาตอนเช้า จะได้เห็นหน้ากูคนแรกเลย”
“...เรื่อง ไปนอนบ้านมึงเหอะ ห้องกูดี ๆ แม่งชอบทำรกประจำ แล้วไม่รู้จะมาวันไหน แต่พรุ่งนี้เช้ามีตักบาตร มาได้มึงก็มานะเว้ย”

“เฮ้ย ไม่เอาหน่าไอ้ปูน ให้กูไปนอนบ้านมึงนะๆๆๆ”
“ดูปากกูนะ ไม่ โว้ย” อดจะหมั่นใส้ไอ้ท่าทาง ออดอ้อนของไอ้อาทไม่ได้ หลายปีแล้วนะ มึงยังจะรอ
พี่กูอยู่เหรอว่ะ แค่คิดก็รู้สึกแสบ ๆ ที่อกข้างซ้าย

กว่าจะสลัดมันหลุด แล้วเตะโด่งมันกลับบ้านมันได้ก็เกือบห้าทุ่มแล้ว จากบ้านไอ้อาท ผมเข็นรถมอเตอร์ไซด์ 100 ซี ซี คู่ใจเดินออกมาเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ติดเครื่อง มันดึกมากแล้ว ไม่อยากรบกวนเพื่อนบ้าน และผมก็อยากเดินคิดอะไรเงียบ ๆ ไม่กี่เมตรก็ถึงบ้านผมแล้วครับ

ผมอยากพบพี่เป้มากครับ พี่ไม่ได้กลับมาเป็นปีแล้ว แต่อีกใจก็ไม่อยากให้พี่กลับมาเลย ผมรู้สึก
ตัวเองเป็นคนนิสัยไม่ดี พี่ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนไอ้อาทมันจะชอบพี่ผม มันก็ไม่ผิด ถ้าจะผิด
ก็ผิดที่ผมมั้ง ที่รู้สึกว้าวุ้นอะไรแบบนี้ ถ้าผมบอกพี่ไปตรง ๆ ว่าไอ้อาทมันชอบพี่ พี่เขาจะตอบรับ
รักมันรึเปล่า หรือว่าถ้าไม่ ไอ้อาทมันจะได้เลิกละเมอเพ้อพกซะที เฮ้ออออ








ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เข้าเขตบ้านได้ผมก็จอดมอเตอร์ไซด์ไว้ใต้ถุนบ้าน ล็อกคอเรียบร้อย ง่วงด้วย เหนื่อยด้วย กำลังจะเดินเข้าบ้าน ก็ได้ยินเสียงอะไร อือ ๆ อา ๆ มาจากซุ้มหน้าบ้าน เมื่อกี้มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย เดินผ่านมาไม่ทันสังเกต แต่ถึงสังเกตก็ไม่เห็นหรอกครับ ก็ไอ้ต้นเฟื่องฟ้า มันคลุมซะมิด

ขโมย หรือหมาว่ะ ปล่อยผ่านไม่ได้ต้องไปดูให้รู้ให้เห็นกับตา







อึ้งครับ ภาพตรงหน้าทำผมอึ้งจนไม่สามารถขยับได้เลย ก็ภาพผู้ชายสองคน กำลังจูบกันนัวเนีย
เลยอ่ะครับ นาทีนั้นไม่มีสติคิดอะไรแล้วครับ



“อ่า อ๊ะ คิด ๆ ไม่ไหวแล้ว จับของกูหน่อย” และเสียงนี้ก็เรียกสติของผมให้กลับเข้าตัวทันที
ก็จะอะไรซะอีก ถ้าเสียงนั้นไม่ใช่เสียงของพี่เป้ พี่ชายผมเอง ตอนนั้นไม่คิดอะไรแล้วครับ นอกจาก
คิดว่าพี่ชายผมอาจจะถูกคนรังแก ผมกระชากบ่าไอ้คนที่ก้มหน้าก้มตาไซร้หน้าไซร้ลำตัวพี่ชายผม
ไม่ลืมหูลืมตา แล้วผลักมันไปข้างหลัง จนมันล้มลงไปนั่งที่พื้น

“มึงเป็นใครวะ ทำอะไรพี่กู” มันมองอย่างงง ๆ ผมที่เลือดขึ้นหน้า วิ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อมัน
เตรียมหมัดง้างไว้กะจะชกมันให้เลือด กลบปากเลย

“เฮ้ย ๆ ไอ้ปุน ๆ อย่า ๆ นั่นเพื่อนพี่เอง” แต่ก็ไม่ได้ชกมันดั่งใจหมาย เพราะพี่เป้วิ่งเข้ามาคว้าหมัดผมไว้ซะก่อน

“เพื่อนเชี่ยอะไร พี่เป้รู้ตัวไหม มันกำลังจะทำอะไรพี่” ผมสะบัดมือจากการจับกุมของพี่ชาย จับบ่า
ไอ้พี่เป้ที่ท่าทางเมาไม่รู้เรื่อง เขย่า ในขณะที่ไอ้หมอนั่นมันลุกขึ้นมายืนได้ แต่ไม่ได้เข้ามาทำอะไรผม
มีแต่ยืนมองผมแล้วทำหน้าตา งี่เง่า ๆ

“เอ่อ....เบา ๆ ไอ้ปูน เดี๋ยวป๊าตื่น...เฮ้ย ไม่มีอะไรจริง ๆ”
“พี่เป้ ผมไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ นะ จะเอากันขนาดนั้น จะไม่มีอะไรได้ไง”

“....” พี่เป้เงียบไป ยกมือลูบหน้า หันไปมองไอ้หมอนั่น

“ผมจะบอกป๊า”
“เฮ้ย ไอ้ปูน ไม่มีอะไรจริง ๆ แกฟังพี่ก่อนดิ”

“ไม่ จะให้ฟังอะไร พี่ทำอย่างนี้ได้ยังไง ถ้าป๊าม้ารู้จะเสียใจแค่ไหน พี่เป็นลูกชายคนโตนะ ป๊าฝาก
ความหวังไว้กับพี่มากนะ”

“เอ่อ ปูน ๆ ใจเย็น ๆ ไว้ค่อยคุยกันนะมันดึกแล้ว เดี๋ยวพี่จะค่อย ๆ อธิบายให้แกเข้าใจ”
“พี่ยังจะอธิบายอะไร พี่กับมันเป็นอะไรกัน”

“....”
“ถ้าไม่บอก ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรกันอีกแล้ว”

“เอ่อ... เออ พี่ยอมรับ นี่ไอ้คิด แฟนพี่....”
“อะไรกัน ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะชอบผู้ชายด้วยกัน พี่จะบอกป๊ายังไง”

“เอ่อ ปูน พี่ก็ว่าจะหาโอกาสเหมาะ ๆ บอกแหล่ะ แต่แกช่วยเงียบไว้ก่อนได้ไหม”
“...ฮึ่ม พี่ทำอะไรไม่เคยคิดถึงพวกเราเลย”

“ใครว่า พี่คิดถึงตลอดแหล่ะ นี่เลยพามันมา กะว่าจะบอกป๊า ถ้าสบโอกาส”
“เฮ้อ.........งั้นผมขอให้พี่มานอนห้องผม  และให้พี่เขานอนห้องพี่คนเดียว ถ้าพี่ยังไม่ได้บอก ผมก็ไม่อยากให้พี่ทำอะไรกัน ถ้าป๊ารู้ ป๊าจะเสียใจ”

“ห๊ะ อะไรว่ะ เรื่องดิ”
“มึงเงียบ ๆ ไปเลยไอ้คิด ... เออก็ได้ปูน กูก็ไม่กะจะทำอะไรให้ป๊าม้าเสียใจอยู่แล้ว"

“แต่ พี่เป้”
“ไอ้คิดมึงหยุดเลย เอาตามน้องกูว่านั่นแหล่ะ จะได้จบ ๆ งั้นก็ไปนอน ๆ มึงนอนห้องกู
กูไปนอนห้องไอ้ปูน”










พอเราอยู่กันสองคนในห้องนอนของผม พี่เป้ก็เริ่มเล่าเรื่องราว ว่าพบเจอกันอย่างไร มา
ตกล่องปล่องชิ้นกันด้วยความซุกซนของพี่เป้เอง ก่อนจะตกกระไดพลอยโจน รับไอ้พี่คิดเข้ามา
เป็นส่วนหนึ่งในชีวิต จนคบกันมาจนถึงปัจจุบัน

“พี่รักเขาจริง ๆ เหรอ”
“....รัก..มั้ง”

“พี่แน่ใจได้อย่างไรว่ามันเป็นความรักจริง ๆ พี่อาจจะแค่รู้สึกดี เหมือนอยู่กับเพื่อน หรือยังสับสน
ไม่แน่ใจในตัวเอง อยากลอง หรืออะไรประมาณนี้” คำถามพรั่งพรู ออกจากปากผม จากที่เริ่มด้วย
เรื่องของพี่เป้ หลัง ๆ มันเหมือนเป็นเรื่องตัวเองยังไงไม่รู้

“....พี่ก็ไม่รู้จักความรักหรอก ว่ามันหน้าตาเป็นอย่างไง.....แต่กับไอ้คิด พี่รู้สึกเป็นสุข สบายใจ
ปลอดภัย เวลาที่มีมันอยู่ใกล้ ๆ มันคอยกวนตัวกวนใจ แต่เวลาไม่เห็นหน้าก็คิดถึงมันชิบ ความรู้
สึกคงเหมือนเป็นอากาศรอบ ๆ ตัวมั้ง ขาดไปไม่ได้ ฮ่ะๆๆๆ ชักน้ำเน่าล่ะ”

“แล้วพี่คิดว่าป๊าม้า จะยอมรับได้เหรอครับ ป๊าเป็นคนจีน มีพี่เป็นลูกชายคนโต เขาหวังในตัวพี่มาก
พี่ก็รู้”

“...เฮ้อ ก็ไม่รู้ว่ะ แต่ที่แน่ ๆ ยังไงก็อยากให้เขารับรู้ และยอมรับในความเป็นพวกเรา”
“ถ้าเขารับไม่ได้ล่ะ”

“.......”
“....”

“ตอบยากเว้ย ไว้ให้มันเกิดก่อนแล้วค่อยคิดหาทางออกกันว่าจะทำยังไงดี นอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก”

“....” ผมอิจฉาสายตาที่มุ่งมั่นของพี่เป้มาก พี่ชายผมคนนี้ เป็นคนเข้มแข็ง อดคิดไม่ได้ว่า ไม่ว่าปัญหาจะมากน้อยยังไงพี่เขาต้องผ่านไปได้แน่ ........แล้วผมล่ะ

นอนหันหลังให้พี่ชาย แล้วเริ่มจมอยู่ในความคิดของตัวเองเงียบ ๆ จนรู้สึกเตียงยวบยาบ พี่เป้ลุก
จากเตียง แล้วค่อย ๆ หยิบมือถือ ไปนั่งที่ระเบียง ผมว่าพี่เขาคงติดต่อ กับคนข้างห้องแน่ แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งกับพวกเขาแล้ว


พรุ่งนี้ ค่อยบอกไอ้อาทว่าพี่เป้มาแล้ว มันคงรีบแล่นมาบ้านผมแต่เช้าแน่ ๆ ยิ่งคิดก็ยิ่ง ปวดใจ แค่เรื่องพี่เป้เป็นเกย์ก็ว่าแย่แล้ว
ถ้าป๊ารู้ว่าลูกชายแกทุกคนไม่สนใจผู้หญิง แกจะรับได้ไหมนะ หรือผมควรตัดใจเพื่อตัดปัญหาทุกอย่าง
แล้วกลับมาเป็นลูกชายที่เป็นความหวังของป๊าม้า เป็นน้องชายและพี่ชายที่ดี และเป็นเพื่อนสนิทที่
คิดซื่อ ๆ กับเพื่อน................













คนเราไม่ว่าจะสุข หรือทุกข์ แต่ร่างกายก็ยังต้องการกาพักผ่อน ผมหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ ตื่นมาอีกทีตอนเช้าตรู่ พี่เป้ก็หายไปจากเตียง และจากห้องนอนของผมแล้ว ได้ยินเสียงเอะอะแว่ว มาจากผนังห้องข้าง ๆ ก่อนจะได้ยินพี่เป้ด่าเสียงดัง จับใจความว่าอะไร จิต ๆ อะไรสี ๆ ซักอย่าง ผมไม่อยากสนใจแล้ว ปล่อยไปก่อน เช้าแล้วต้องไปช่วยม้า เตรียมของใส่บาตรแล้ว


เราทุกคนมายืนหน้าบ้านเตรียมพร้อมที่จะใส่บาตรแล้ว แต่พี่สองคนข้างห้อง ผมก็ยังไม่ลงมา
ม้าไปตะโกนเรียกครั้งหนึ่งแล้ว ป๊านั่งที่เก้าอี้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ พับครึ่งหนึ่ง ส่วนเจ้าปู้ก็นั่งอีกด้านอ่าน
หนังสือพิมพ์ฉบับเดียวกับป๊า พอป๊าจะเปลี่ยนหน้าใหม่ มันก็บอกว่ายังอ่านไม่จบ รอก่อน ทำให้
ป๊ากรอกตาอย่างหน่าย ๆ แต่ก็เปิดรอนั่นแหล่ะ

“ปูน..”
“..ครับม้า..”

“เป็นอะไรลูก หน้าตาดูไม่สดชื่นเลย”
“....เมื่อคืนนอนดึกมั้งครับ”

“อย่าประมาทอายุนะ ถึงจะยังเด็ก แต่ก็ต้องพักผ่อนให้พอดี”
“ครับม้า”

ม้าผมน่ารักเสมอ ใจเย็น ใจดี เข้าอกเข้าใจลูก ๆ ตลอด......แล้วถ้าเป็นเรื่องที่ผมกำลังกังวลอยู่นี้
ม้าจะเข้าใจรึเปล่าน้า

“ม้าครับ...”
“หือ”

“....”
“อะไรจ๊ะ มีอะไรจะถามเหรอ หือ”

“ม้า..ถ้า...ถ้า.ถ้าพวกลูก ๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่ม้าคิดไว้ ม้าจะรับได้ไหม จะเสียใจไหมครับ”
ผมตัดสินใจถามสิ่งที่คอยรบกวนใจออกไปจนได้ ม้ามองหน้าผมอย่างพิเคราะห์ ก่อนจะยิ้มหวาน
ยกมือขึ้นมาลูบแก้มผมอย่างอ่อนโยน

“แล้วอะไรล่ะคือสิ่งที่ม้าคิดไว้ หือ”
“...เอ่อ...ก็ แบบ แบบว่ามีชีวิตอย่างคนปกติอ่ะครับ เช่นแต่งงาน มี...มีลูก”
“....” คราวนี้ม้าเงียบไปเลย แต่ก็ยังมองผมไม่วางตาด้วยสายตาที่มีเมตตา

“เอ่อ ผมถามเล่น ๆ ม้าไม่ต้องเก็บไปใส่ใจหรอกครับ...อ่อ พี่ ๆ เขามาพอดี” และก็เป็นผมที่ใจแป้ว
 ไม่อยากรับรู้แล้วว่าม้าจะตอบว่าอย่างไร ดีว่าพวกพี่ ๆ เดินมากันซะก่อน

พี่เป้ยืนต่อจากผม ส่วนพี่คิดยืนหลังสุด ผมมองพี่คิดที่ยืนซะแทบจะสิงพี่ชายผมอยู่แล้ว ก็เกิด
อาการหมั่นใส้ จึงแกล้งขยับไปยืนแทรกพวกพี่ ๆ พี่เป้มองผมอย่างงง ๆ แต่ซักครู่ก็ไม่ใส่ใจ หันไปคุยกับป๊า ม้า และเจ้าปู้ พี่ผมก็เป็นคนแบบนี้แหล่ะ ไม่ค่อยคิดอะไรมาก

จากนั้นก็หันมาพยักหน้ากวน ๆ ใส่พี่คิด พี่คิดก็มองมาหน้านิ่ง ๆ แต่ผมเห็นหางคิ้วแกกระตุกนิด
หนึ่ง ฮ่าๆๆๆ ให้มันรู้ซะมั่ง อย่าหวังว่าจะยกพี่เป้ให้ง่าย ๆ เลย

“...มองไร ไม่ให้เข้าใกล้พี่เป้หรอก”
“....น้องปูนครับ พู่ๆ” พอกวนตีนพี่มันผมก็หันมาสนใจทางครอบครับผมต่อ จู่ ๆ พี่คิดก็ก้มลงมา
กระซิบข้างหูผม แถมน้ำเสียงเย็นเยือก และเป่าหลังหูผมจนขนลุกซู่

“....” ผมงี้ยกมือป้องหูแทบไม่ทัน รู้สึกได้เลยว่าหน้าผมต้องแดงแน่เลย
“ปูนรู้ไหมครับ....พี่มีความฝันสูงสุดอยู่อย่างหนึ่ง...” เสียงเย็น ๆ เบา ๆ ยังคงกระซิบเบา ๆ ให้ได้ยิน
กันแค่ 2 เรา

“....” เริ่มรู้สึกว่าพี่คิดมันหน้าตาหื่นน่ากลัวมากครับ ชักไม่สนุกแล่ะเริ่มมองหาตัวช่วย พี่เป้แม่งก็ไม่หันมามองเลย

“พี่อ่ะเพิ่งเจอพี่เป้ตอนทำงาน แต่ถ้าเป็นไปได้พี่อยากจะลองมีอะไร ๆ กับพี่เป้ตอนเป็นนักศึกษาจังเลย” จ๊าก พูดไม่พูดเปล่าดันแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แล้วจ้องผมเขม็ง ชิ่งซิครับจะอยู่ให้เสียวตูดเหรอ
ไม่รู้ว่าพี่มันพูดจริง พูดเล่น แต่หน้าตาแม่งหื่น น่ากลัวชิบ ส่วนพี่เป้ก็มองผมแบบงง ๆ แต่ก็ไม่ได้พูด
อะไร เพราะพระท่านเดินมาพอดี

แถวเรายาว พระท่านเลยเดินผ่านไปให้ท้ายแถวใส่ซะเลย ป๊า ม้า เจ้าปู้ รวมถึงผมก็ใส่บาตร อาหาร
ที่ม้าจัดไว้เป็นชุด ๆ กันคนละชุด สองชุด พอผมใส่เสร็จก็เหลือบไปเห็นว่าไอ้พี่คิดโรคจิต มันจับชุดอาหารที่จะใส่บาตร อันเดียวกันกับพี่ชายผม เฮ้ย พวกพี่ ๆ มึงไม่อายพระ อายเจ้าหรือว่ะ ผมเริ่มเห็นหลวงลุงท่านมองตาโตอย่างแปลกใจ พวกเราตักบาตรบ่อย หลวงลุงและพระทุกรูปที่วัดก็สนิทสนมคุ้นเคยกันดี

แถมตอนท่านสวดให้พร ไอ้พี่คิดมันยังพนมมือกระแซะพี่ผมอีก โอ๊ย ไอ้พี่เป้ ก็ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้
หนาว ผมว่าหลวงลุงเริ่มเข้าใจล่ะ พอท่านสวดเสร็จ ท่านยิ้มอย่างเอ็นดู พร้อมกับให้พร

“อยู่ดีมีสุขนะโยม ขอให้รักกันมาก ๆ นะ” วางระเบิดเสร็จท่านก็นำขบวนเดินจากไป  ทิ้งไว้ให้บ้าน
ผมทุกคนหันมองหน้ากันเลิกลั่ก ไม่รู้ว่าท่านอวยพรใคร จนมามีเสียงหนึ่งเบา ๆ แต่ได้ยินกันทั้งบ้าน

“สาธุ” ไอ้พี่คิดครับ มันกล่าวคำรับพรหลวงลุง เอาล่ะซิ คราวนี้ท้งบ้านหันไปมองพี่มันสองคนทันที

พี่เป้เหงื่อแตก ทำหน้าตื่นหันมองตาผมก่อนจะทำตัวมีพิรุธ รีบ ๆ เก็บโต๊ะเก็บถาดเดินเข้าบ้านไม่พูดไม่จา

แต่ที่เลวร้ายกว่า คือพี่คิดมันรีบ ๆ เก็บของเดินตามติดพี่ผมเข้าบ้านทันทีเช่นกัน ผมหันช้า ๆ ไปมอง
ป๊ากับม้า และเจ้าปู้ ทุกคนมองตามสองคนนั่นเป็นตาเดียว

“เอ้ย..เอ่อ พี่เป้รีบเก็บ ๆ เดี๋ยวไปงานโรงเรียนเจ้าปู้สาย ไป ๆ” ผมต้องช่วยกลบเกลื่อนด้วยอีกคน เฮ้อ



วิกฤตภาคเช้าตรู่จบไป รอบสาย ๆ ก็มาล่ะ

“พี่เป้”
“อ้าว ไอ้อาท” ชิ ไอ้เชี่ย กูเห็นว่าเวลาไปเรียนนี่ มึงไม่เคยตื่นเช้าขนาดนี้เลย แถมแต่งตัวมาซะหล่อเลยไอ้หน้าหมา พอตั้งขารถมอเตอร์ไซด์ได้ มันก็แทบวิ่งกระโดดมากอดพี่ชายผมเลย

ถ้าไม่ติดว่าไอ้พี่คิดมันกระชากตัวพี่เป้ปลิวติดมือหลบ ส่วนผมก็มือไปไม่ทันคิด คว้าคอเสื้อไอ้แสบ
ไว้ทันทีเช่นกัน
“มึง พี่กู ไม่ใช่ต้นไม้ให้มึงเกาะ มาทำไรวะ”
“โหยมึง ก็ไอ้นิต มันโทรบอกกู ว่าพี่เป้กลับมาแล้ว กูก็รีบมาหาดิวะ พี่ที่รักของกูนี่นา” กูอุตส่า ไม่
โทรไปบอกมัน ไอ้นิตตัวยุ่งดันโทรบอกมันซะนี่ แล้วมึงจะเสียงดังไปไหน มึงไม่แหกตาดูเหรอว่าพี่กู
มีมือมารโอบรอบเอวอยู่ แถมสายตาของพี่คิดที่มองไอ้อาทนี่มันจงอางหวงไข่ชัด ๆ


“พี่อาท ไปเที่ยวกับปู้ไหม ที่โรงเรียนปู้จัดงานด้วยล่ะ ของกินเพียบ” โอ้ ได้ระฆังเจ้าปู้ช่วยไว้พอดี
พี่คิดก็คลายมือจากเอวพี่เป้ แต่ก็ยังยืนซะแทบสิงพี่ผม ผมไม่อยากคิดไปเอง แต่ผมว่าถึงซื่อบื้อ
ขนาดไหน ดูก็น่าจะรู้ว่าพวกพี่มันต้องไม่ใช่เพื่อนกันธรรมดาแน่เลย และเจ้าปู้มันก็มองแว่บนึง

ตกลงหลังมื้อเช้า พวกเราก็ยกโขยงกันนั่งรถพี่เป้ไป โรงเรียนเจ้าปู้ โดยมีปู้นั่งหน้า ส่วนพวกผม 3คน
นั่งข้างหลัง แต่ผมไม่นั่งใกล้ไอ้พี่คิดโรคจิตแน่ ไอ้อาทมันนั่งกลาง ไม่สนใจใครเลย คอยแต่ยื่นหน้า
ไปคุยกับพี่ชายผม

“มึงนั่งดี ๆ ไอ้อาท เดี๋ยวรถเบรก จะหัวทิ่มเอา”
“ห่วงกันจริง ๆ นะครับ น้องปูน” ผมปราม ๆ ไอ้อาทกลัวมันจะเจ็บตัว แต่เจ้าตัวไม่ได้หันมาสนใจ
ผมเลย มีแต่ไอ้พี่ที่นั่งถัดไปนี่แหล่ะที่ ทำเสียงกวนใจผม

“อ้อ ผมก็ห่วง เพื่อน เป็นธรรมดาล่ะครับ” ยิ้มให้พี่คิด พร้อมทั้งจิกกัดเบา ๆ
“เหรอครับ ไม่บอกไม่รู้ว่าห่วง เพื่อน”

“...” หนอย ไอ้พี่คิด มึงจะเน้นคำว่าเพื่อน เพื่อ? แถมยังยักคิ้วกวน ๆ ขำผมอีก







งานโรงเรียนเจ้าปู้ คึกคักมาก มีนักเรียนและผู้ปกครอง ครู ขายของกันเต็มไปหมด บุคคลภายนอก
ก็เข้าร่วมงานได้ จึงมีคนมากหน้าหลายตา พอถึงซุ้มของเจ้าปู้ เขาทำซูชิขาย เลยต้องอุดหนุนน้องๆ
ซักหน่อย พี่เป้ใจดี จ่ายไปหลายกล่องเลย พวกเพื่อน ๆ เจ้าปู้ดูจะตื่นเต้นกับคณะ 4 หนุ่มของเรามาก
“ปู้ พี่แกคนไหนอ่ะ หล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย”
“อ้อ นี่ไงพี่คนโตฉันพี่เป้ นี่พี่คนรองพี่ปูน และนี่เพื่อน ๆ พี่ ๆ เขา พี่คิด และก็พี่อาท”

“ว้าย พี่อาท หนูรู้จักพี่ พี่เป็นนักบาสมหาลัย ใช่ไหมคะ หนูเคยไปเชียร์พี่ด้วย”
“ครับ ขอบคุณครับ”

“พี่เล่นดีมากเลย ว่าง ๆ มาสอนพวกหนูบ้างซิค่ะ เนอะปู้เนอะ ถ้าได้พี่อาท มาเป็นโค้ข ห้องเราต้อง
ชนะแน่เลย”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ” ชิ หน้าระรื่นเชียวนะมึง ไอ้หน้าหม้อ

“พี่อาทขาขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ”
“ได้ ๆ “

“แล้วไม่อยากถ่ายกับพวกพี่ด้วยเหรอครับน้อง” หมั่นใส้หน้ามัน จึงดึงพี่เป้ และพี่คิด เข้ามาในเฟรมด้วย

“ว้าย ๆ งั้นพวกฉันถ่ายด้วย ๆ” ครับ กลายเป็นถ่ายหมู่ วีฟี่ไปเรียบร้อย สมใจผมเลยล่ะครับ
น้องคนนั้นกระเด็นไปอยู่ขอบเฟรมเลย ตรงกลางก็มีแต่พวกผมนี่แหล่ะ หึๆๆๆ







“โหย เด็กผู้หญิงสมัยนี้มือไวว่ะ” พี่เป้บ่นเมื่อเราหลุดจากกลุ่ม สาวนักล่ามาได้ และทิ้งเจ้าปู้ไว้
เพราะน้องต้องอยู่จนถึงตอนเย็นเลย

“เอ๋ มีใครทำอะไรพี่เป้เหรอครับ” ไอ้พี่คิดขมวดคิ้วถามหน้าเครียด
“ก็ไม่รู้มือใครมันล้วงเข้ามาในเสื้อกูนะซิ”

“...เรากลับไปหาคนร้ายกันเถอะ”
“เฮ้ย มึงจะโหดไปไหน นั่นเด็กผู้หญิงทั้งนั้นนะ” เฮอะ ดูไอ้พี่คิดมันหักกำปั้น แล้วจะหันหลังเดิน
กลับไป แล้วน่ากลัวว่ะ พี่เป้รีบ ๆ ห้ามแทบไม่ทัน



เดินกันไปซักพักก็มีเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพี่คิด ดูก็รู้ว่าจะเข้ามาจีบ
ไอ้พี่โรคจิตแน่ ชักน่าสนใจ หันไปมองพี่ชายผม ก็ไม่เห็นจะมีอาการหึงหวงอะไรเลย บางทีก็ยิ้มและหัวเราะด้วย

ส่วนเด็กคนอื่นในกลุ่มก็ส่งสายตาเชิญชวนมาทางพวกเรา ที่เหลือ โดยเฉพาะไอ้อาท ตกลงมึงชอบ
พี่กูจริงๆ ใช่ไหม กูเห็นใครมองมึงก็มองเขา ชักรมณ์เสีย

ขณะที่ไอ้น้องมันรุก ไอ้พี่คิดก็พยายามจะเลี่ยง แต่น้องเขาก็ไม่เลิกยั่วยวน จนขนาดพี่เป้ยังหน้าเหวอ

“เอ่อ..พี่ว่าอย่าดีกว่าครับ”
“ทำไมอ่ะครับ พวกผมไม่ดี ไม่น่ารักเหรอ” โหย มั่นหนังหน้ามากไอ้น้อง ก็คงมั่นได้ล่ะ ก็มันน่ารักกัน
จริง ๆ นี่นา

“พวกน้องก็น่ารักนะครับ .......แต่สู้เมียพี่ไม่ได้” เชี่ยแม่ง ไอ้พี่โรคจิตมึงกล้าพูดได้ไงว่ะ
พูดไม่พูดเปล่า มันโอบบ่าแล้วหอมแก้มพี่ชายผมที่ตอนนี้ตาเหลือกไปแล้วครับ

เสียงงึมงำดังขึ้นรอบตัวทันที หลังจากที่ผู้เห็นเหตุการณ์ทุกคนสตั้นไป 5 วินาที ไอ้หนุ่มหน้ามนถึงกับหน้าเหวอ

พี่เป้พอได้สติ ก็หลับหูหลับตาลากพวกเราออกจากงาน ทั้ง ๆ ที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึง ...เอ่อ ผม
ไม่เคยเห็นพี่ชายผมเป็นแบบนี้มาก่อนเลย












ภายในรถที่ยังคงจอดอยู่ในที่จอดรถ ทุกคนเงียบกริบ ไอ้พี่คิดโรคจิต ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ยิ้มตาเป็นสระอิเลย พี่ชายผม ก้มหน้าฟุปไปกับพวงมาลัย เห็นแต่หูแดง ๆ เป็นหลักฐาน

ส่วนผมก็ได้แต่มองคนโน้นคนนี้ที

“พี่เป้” หันไปมองไอ้อาท ที่เมื่อกี้มันยังหน้าเหมือนคนวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว กลับมาจ้องพี่ชายผมเขม็ง และเรียกเสียงดัง แต่ก็ไร้วี่แววตอบกลับจากคนด้านหน้า


“พี่เป้” มันเรียกเสียงดังขึ้น จนพี่ผมเริ่มยกหัวขึ้นมา แล้วค่อย ๆ หันมามองไอ้อาทอย่างหวาด ๆ ไอ้พี่คิดก็มองมาเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไร












“ฮือ ๆๆ พี่เป้ ทำไมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วไม่เลือกผมอ่ะ” ตายแพ็บ กูก็นึกว่ามึงจะดราม่า เรื่องที่
พี่กูมีแฟนเป็นผู้ชาย เสือกเป็นเรื่องตัวเองซะนี่ แล้วยังหันมาทำหน้าเบ้ น้ำตาไหลพราก กูไม่เห็นใจมึงหรอก

“หยุดเลยมึง ไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ แล้วจะร้องหาพ่องงงง มึงเหรอ”

“พี่อ่ะ ถ้าชอบผู้ชายทำไมไม่บอก ผมรักพี่มาตั้งหลายปี พี่ไปทำงานกรุงเทพ ผมอุตสาเก็บความบริสุทธิ์ไว้รอ พี่ทำกับผมอย่างงี้ได้ยังไง ฮือๆๆๆๆ”


ขนาดด่ามันแล้ว มันก็ยังไม่หยุดฟูมฟาย พี่เป้มองมันอย่างสมเพช แล้วไม่วายหันไปมองหน้าพี่คิด
ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหึงสุด ๆ ก็อดจะหมั่นใส้มันไม่ได้

ป๊าบ

“โอ๊ย ไอ้ปูน มึงตบหัวกูทำไม” ก็จะให้มึงหยุดฟูมฟาย น่าทุเรศ ๆ อย่างนี้นะซิว่ะ

“ไอ้สะตอเรียกพ่อ กูไม่ถีบมึงก็บุญแล้ว หนอยเก็บความบริสุทธิ์ให้พี่กู.......น้องนก น้องออย น้องนิ้ง
ไอ้เชษ ไอ้คม ไอ้เล็ก และไอ้อี ที่กูไม่รู้อีกกี่คน ที่มึงปี้เขาไปทั้ว ห๊ะ?” มึงอย่าให้กูขุดขึ้นมานะ ไอ้หน้า
หม้อ พอจู๋ตั้งได้ แม่งก็เห็นมันฟันทั้งผู้ชาย ผู้หญิงไปทั่ว แก่แดดนะมึง

“โหย ไอ้เพื่อนเลว มึงไม่อยากได้กูเป็นพี่เขยมึงเหรอ”
“ไม่เว้ย พี่กูไม่ได้เป็นรับแน่กูรู้”

“............” ผมที่ภาคภูมิใจในความเป็นแมนของพี่ชาย ถึงพี่ผมจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่ผมก็ไม่คิดว่า
พี่ผมจะเป็นรับ แน่นอน ..............เอ๊ะ แล้วไอ้สัญญาณเงียบฉี่จากพี่เป้ มันหมายความว่าอะไรวะ
แล้ว ไอ้พี่คิดโรคจิต มึงจะหัวเราะทำแป๊ะมึงเหรอ

“พี่เป้” เพื่อความชัวร์ ผมไม่รีรอที่จะหันไป หาความกระจ่างจากพี่ชายผมทันที

“....อั่ม..เอ่อ...คือ..ปะ..ปกติพี่อยู่ข้างบน” นั๊นไงเห็นไหม ไม่ผิดจากที่ผมคิดจริง ๆ โด่ไอ้พี่คิดมันคง
จะอายละซิเป็นเมียพี่กู ดูมันก้มหน้าลงไปซุกเข่าตัวเอง ตัวสั่นเชียว

“เห็นมั๊ยพี่กูอยู่บนเว้ย” ผมยิ้มสะใจให้ไอ้อาท ที่ทำหน้าเซ็ง ๆ







หลังจากการคุยกันอย่างเปิดอก ไอ้อาทก็ยังบ่น ตลอดทางว่า จะรอพี่เขาเลิกกัน โถ ไอ้ควาย
ยังจะมีหวังอีก

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
สลับกันไปมา คงไม่ทำให้งงนะคะ ฝาก พวกน้อง ๆ ไว้ในอ้อมใจด้วยน้าาาาา  :mew1:


*************************************************





“สาธุ ขอให้เขาเลิกกัน ๆ”

ป๊าบ

“เฮ้ย ไอ้ปูน มึงตบหัวกูอีกแล้วนะ วันนี้กี่รอบแล้ว”  แม่งตบเอา ตบเอา หัวคนนะไม่ใช่ลูกวอลเลย์
ตบขนาดนี้ ถ้าคืนนี้กูฉี่รดที่นอน จะทำไง

“มึง เข้าวัดเข้าวาก็ไม่เว้น ปากเสีย ไปแช่งเขาเลิกกัน ๆ ได้ไงว่ะ”
“ทำไม มึงเดือดร้อนไร มึงอยากได้มันเป็นพี่สะใภ้มึงเหรอ ฮ่ะ”

“.......” ใบ้แดกซิมึง หนอย มีกูเป็นพี่เขยดี ๆ ไม่เอา ไปเข้าข้างไอ้หน้าวอกนั่นอยู่ได้

“.......เฮ้อ ...จะคนไหนกูก็ไม่อยากให้พี่กูได้พวกมึงหรอก แต่ทำไงได้พี่กู ท่าทางจะชอบเขาแล้วนี่นา”

“ได้กันก็เลิกกันได้ ผู้ชายด้วยกัน แต่งงานกันไม่ได้หรอก”
“มึงพูดดีไป ถึงเขาเลิกกัน พี่กูก็ไม่เลือกมึงหรอก”

“ทำไม กูไม่ดีตรงไหน ออกจะหล่อ บ้านกูก็รวย รับรองพี่มึงไม่ลำบากแน่” ฟังแล้วฉุน เลยคว้า
คอเสื้อไอ้เพื่อนตัวดี ให้มาฟังสรรพคุณกูใกล้ ๆ ......อะไรว่ะ ทำไมมันหน้าแดง ๆ สงสัยตากแดดเยอะวันนี้

“ปล่อยกูเลยมึง...หล่อตายล่ะ” มันปัดมือผมออก แล้วหันหลังเดินไปทางที่ พวกพี่เป้ กำลังเดินหยอดเงินทำบุญตามวันเกิดใส่บาตร กันกระหนุงกระหนิง น่าหมั่นใส้ ชะมัด






มีเหรอผมจะยอมแพ้ วันนี้ทำอะไรมากไม่ได้ ได้แต่กวนประสาท ไอ้พี่คิดไปก่อน ไม่ว่าพี่เป้จะเดินไป
ทางไหน ผมก็คอยเดินตาม เดินแทรก ไม่ให้ไอ้หน้าวอก เข้าใกล้ พี่เป้ได้ เวลากินข้าวเที่ยงกัน ผมก็
ชิงนั่งด้านเดียวกับพี่เป้ คอยชวนคุย ตักกับข้าวให้ ทำตัวน่ารัก ๆ เอาใจพี่มันสารพัด รับรองพี่มันไม่
ว่าผมหรอก ผมรู้จักพี่เป้ดี





อิ่มกันแล้ว ก็นั่งย่อยซักพัก รอแดดร่มซักนิด พวกเราก็พร้อมจะลงเล่นน้ำ ผมกับไอ้ปูนลุกขึ้นมา
ถอดเสื้อเตรียมเล่นน้ำ ก็เห็นพี่เป้ กับไอ้พี่คิดมัน เถียงกันเรื่อง ให้พี่เป้ใส่เสื้อเล่นน้ำ หึ ไอ้ขี้หวง
กูรู้นะ มึงคิดอะไรอยู่ เพราะถ้าเป็นกู กูก็ไม่ให้พี่เป้ ถอดเสื้อโชว์คนอื่นหรอก แต่ตอนนี้มันใช่เวลา
ที่จะคิดแบบนั้นเหรอ กูก็อยากเห็นพี่เป้ถอดเสื้อนะเว้ย

“เอ่อ กูว่าใส่ก็ได้ “ อ้าว ไหงงั้นล่ะพี่ ผมอุตส่า สนับสนุนความคิดที่จะถอดเสื้อเล่นน้ำของพี่ ทำไมหักหลังผมซะล่ะ หรือพี่มันจะรู้วะ ว่ากูคิดอะไรอยู่ ไม่นะ กูก็ยิ้มสุภาพซะขนาดนั้น (เหรออออ)

“พี่มึง แม่งไม่รู้จะใส่เสื้อเล่นน้ำทำไม ผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ”
“.....กูว่าพี่กูไม่กล้าถอดก็เพราะหน้ามึงนี่แหล่ะ เก็บอาการบ้างนะมึง น้ำลายน่ะ ปาด ๆ ซะบ้าง”

เฮ้ย กูก็ไม่ได้คิดอะไรนะเว้ย กำลังจะพยายาอธิบายให้ไอ้ปูนฟัง มันก็ไม่สนใจ เดินลงทะเลไปก่อนเลย


“พี่เป้ เล่นกระโดดน้ำกัน”
“พี่เป้ มาว่ายแข่งกัน”
“พี่เป้ พี่เป้”

สารพัดมารยาจะงัดมาใช้ ยังไงผมก็ได้เปรียบ พี่มันเอ็นดูผมเป็นทุนอยู่แล้ว ไอ้พี่คิดมันไม่ได้เข้าใกล้
พี่เป้ของผมหรอก ฮิๆๆ สมน้ำหน้า หน้าเป็นตูดไปเถอะมึง




หมับ

“เหวอ อะไร ๆ พี่ ลากผมมาทำไม...” จู่ๆ ไอ้พี่คิดมันก็ลากคอผมออกห่างจากพี่เป้ ไปพอสมควร
แม่งจะหาเรื่องเหรอว่ะ อ่ะได้ จัดให้ ผมสะบัดมือพี่มันทันที

“พี่อยากคุยด้วย”

“คุยอะไร ผมไม่มีอะไรจะคุยกับพี่” มึงไม่ต้องมาพี่ กูไม่มีพี่เว้ย กูมีแต่น้อง


“น้องไม่รู้เหรอว่าพี่เป้กับพี่เป็นแฟนกัน”
“แล้วไง??” ยิ่งฟังยิ่งเจ็บใจ ยังจะมาตอกย้ำอีก ตอนนี้ผมกำหมัดแน่น ระงับโทสะแล้วนะ

“พี่จะบอกน้องด้วยความหวังดี แฝงพวงมะม่วงต่อไปก็ไม่ได้กินหรอก”
“.......มันเรื่องของผม พี่จะพูดแค่นี้ใช่ไหม” แม่งบ้าว่ะ จู่ ๆ คุยเรื่องมะม่งมะม่วงห่าอะไรของมัน
ไม่อยากจะเสวนาให้หงุดหงิดแล้ว


“มะม่วงมันไม่ได้มีลูกเดียวนี่นา ทำไมต้องแย่งกันด้วย”
“............”  แต่พอหันหลังจะเดินไปหาพี่เป้ ไอ้พี่คิดมันก็พูดอะไรบางอย่างที่สะกิดใจผม จนต้องหัน
ไปมอง พี่มันทำหน้านิ่ง ๆ มองผมไม่วางตาเช่นกัน

“ยังไง ๆ มะม่วงลูกใหญ่ พี่ก็กินไปแล้ว น้องจะกินต่อจากพี่......หรือจะสอยลูกใหม่กินคนเดียว....”
“.......” ผมก็จ้องพี่มันเขม็ง สมองอันชาญฉลาดของผม ก็เริ่มประมวลผล คำพูดของพี่มันที่พยายามจะสื่ออะไรบางอย่าง................ อ่า....มันเป็นเช่นนี้เอง พอเข้าใจสิ่งที่พี่มันสื่อ สายตาผม
ก็เบือนไปมอง ไอ้มะม่วงลูกเล็ก ที่มันกำลังว่ายน้ำเล่นไม่สนใจใคร

“น้องสนิทกับสองพี่น้องนี้มากไม่ใช่เหรอ ปูนมีอะไรด้อยกว่า มีอะไรที่พี่เป้มีแล้วปูนไม่มีบ้าง
หน้าตาน่ารัก ผิวเนียนลออ กล้ามเนื้อหนั่นแน่น” ระหว่างที่สายตาผมกำลังมัวแต่มอง ไอ้มะม่วงลูกเล็ก
ข้างหูผม ก็ได้ยินแต่เสียง ไอ้พี่คิดมันพูดอะไรบางอย่างให้ผมยิ่งต้องใช้สมองคิดมากขึ้น

ใช่ ผมรู้จักสองพี่น้องนี้มาตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ เล็ก ๆ พ่อแม่ชอบเอาผมและไอ้ปูนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด
บางทีก็ฝากกันเลี้ยง จนผมนึกว่าเราเป็นพี่น้องกัน ผมชอบที่จะอยู่กับไอ้ปูนมาก มันเป็นคนดี
เป็นคนเก่ง มีน้ำใจ รักเพื่อน จนโตหน่อย ผมก็คิดว่าถ้าผมได้เป็นแฟนพี่เป้ ผมก็จะมีฐานะเป็นพี่เขย
ไอ้ปูนมัน แล้วผมก็จะได้อยู่กับมันตลอดไป





.....ตกลง ผมรักใครกันแน่?






“........อือ...นั่นซินะ...ทำไมผมไม่เคยคิดถึงข้อนี้เลย พี่เป้ผมก็รักและเคารพอะนะ แต่ไอ้ปูนนี่มันอยู่
ข้างกายผมมาตลอด............ผมจะมามัวเฝ้ารอพี่เป้ทำไมกัน ในเมื่อไอ้ปูนมันก็อยู่กับผม แต่อย่าว่า
งั้นงี้เลยนะพี่ ผมไม่เคยคิดว่าไอ้ปูนมันจะมาเป็นตัวแทนพี่เป้หรอก ก็ถึงภายนอกจะคล้ายกันซะขนาดนี้
แต่นิสัยใจคอนี่คนละเรื่องเลย เห็นอย่างนี้ ไอ้ปูนมันแสบกว่าที่คิดอีกนะพี่ แล้วพี่ว่ามันจะสนใจผมเหรอ”

“เฮ้ย ไอ้น้อง ถ้ามึงไม่สอย จะนั่งรอมันหล่นลงมาเหรอวะ ระวังเถอะจะมีนกมาจิกกิน ตัดหน้าไปซะก่อน” 


“ฮึ่ม ไม่ว่าหน้าไหน ก็อย่าหวังว่ามาตัดหน้าผมเลย” แค่คิดว่าถ้าไอ้ปูนต้องเป็นของคนอื่นนี่ ผมก็เดือดซะจนจะเป็นไฟอยู่แล้ว ไม่ได้ยังไง ๆ มันก็ต้องเป็นของผมคนเดียว ก็เราอยู่ข้าง ๆ กันมาตลอด
นี่นา มันก็ต้องเป็นของผมซิ ผมรีบ ๆ เดินฝ่าเกลียวคลื่น ไปหาไอ้มะม่วงลูกเล็กที่อยู่อีกด้านทันที

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
"มะม่วงลูกเล็ก"

*****************************************




ดีจังที่วันนี้อากาศไม่ร้อนมาก แดดร่มลมตก การได้ออกกำลังกายนี่ช่วยให้ จิตใจที่อ่อนล้าได้ชาร์ต
พลังงานอีกครั้งจริง ๆ ..........................................................เอ่อ..อือ นี่ผมเวิ่นเว้ออะไรอีกว้า


ผมไม่ได้อยากจะดราม่าหรืออะไรนะ แต่ที่ได้อาทมันเกาะแกะ แซะพี่ผมทั้งวัน มันรบกวนจิตใจผมจริง ๆ

ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมต้องทนเป็นตัวแทนพี่ชายผม เพื่อจะอยู่ข้าง ๆ มันไปตลอด จะทำได้ไหม
ผมจะชินกับความรู้สึกนี้ได้ไหม เฮ้อออออออออออ





ตูม

“เฮ๊ยยยยย เหวออออออออ”


สิ้นเสียงอุทาน ผมโดนไอ้อาทมันโดดมาทับตอนกำลังว่ายน้ำใจลอยเพลิน ๆ ก็ถึงกับจมลงไปใต้ทะเล ให้สำลักน้ำต้องโผล่พรวดขึ้นมาอย่างทุลักทุเล

“อ๊อก แค่กๆๆๆ อ่ะๆๆ”
“เฮ้ย ๆๆๆ ปูน กูขอโทษ”

“ไอ้เชี่ย โดดทับมาได้ ถ้ากูสำลักน้ำตายจะว่ายังไง”
“เฮ้ย ตลกล่ะมึง น้ำลึกแค่อก ไม่ทำมึงตายหรอก”

“พูดไป น้ำแค่เข่ายังเคยทำคนตายมาแล้วนะเว้ย”
“เออ กูไม่ปล่อยมึงตายหรอก กูจะผายปอดให้จนมึงฟื้นเลย คอยดู”

จบคำไอ้เพื่อนตัวแสบ ผมงี้หน้าร้อนผ่าวเลย แค่คิดว่ามันจะไม่ปล่อยให้ผมตายไปต่อหน้าต่อตา
จะช่วยผายปอดให้อีก ตอนแรกก็จะไม่คิดเข้าข้างตัวเองแล้ว แต่สายตามันที่มองมา ทำให้ผมเชื่อ
จริง ๆ ว่ามันไม่มีวันปล่อยผมไปแน่



“เป็นไรว่ะมึง หน้าแดง ๆ ร้อนเหรอ ตากแดดกันมาทั้งวัน มึงระวังไม่สบายนะเว้ย...กู..กูเป็นห่วง”
เชี่ยรอบสอง เป็นเชี่ยไรของเมิง มองกูร้อนแรงไม่พอ ยังมาหยอดกูอีก กินไรผิดมาป่ะวะ

“กู..กูสบายดี มึงอ่ะ ไม่เป็นเหาฉลามพี่กูแล้วเหรอ”
“...กู..กู..บ้าใครเป็นเหาฉลามพี่มึง แค่นาน ๆ พี่เขากลับมาที กูก็อยากเทคแคร์บ้างก็เท่านั้น”

“หรอออออ”
“หึงรึไง”

อ๊าคคคคคคคคคคคคค อยากเอาหัวโขกก้อนหิน (แต่ในทะเลไม่มี) แก้เขิน ใครหึงมึง กู...กูแค่....

“ใคร ไม่มี๊”
“เสียงสูงนะมึง”

“เฮ้ย มึงหลีกเลย ไร้สาระ กูจะขึ้นแล้ว”
“เดี๋ยวดิ กูมีอะไรจะคุยด้วย”

“คุยไร ไม่ว่างเว้ย” ผมรู้สึกเหมือนมันจะบอกรักผมเลย ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ ก็ผมเคยมีคนมา
บอกรักไม่น้อย ประสบการณ์เพียบ แต่ผมบอกแล้วว่าไม่พร้อมจะเป็นตัวแทนพี่เป้ให้มันหรอก
ที่ทำได้ดีที่สุดตอนนี้คือ หนีดีกว่า

“เฮ้ย อย่าเพิ่งขึ้นซิว่ะ”
ผมรีบ ๆ ขึ้นมาบนฝั่งอย่างรวดเร็ว เดินตรงไปคว้าเสื้อผ้า เร่งฝีเท้าไปทางห้องน้ำ โดยทำเป็นไม่ได้ยินเสียงไอ้อาทที่ก็ขึ้นจากทะเลตามผมมาติด ๆ

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
"เจ้ามดแดง"

***********************************************






ผมเดินตามไอ้ปูนเข้าไป ในห้องน้ำชายที่ไม่มีใครเลย ดูท่าทางมันหวาด ๆ ชักเท้าจะหันหลังกลับ แต่ก็ติดว่าผมขวางประตูอยู่พอดี

มันทำท่าจะเดินสวนผมออกไป แต่เรื่องอะไรจะปล่อยให้มันหนีไปอีก ยังไงก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องให้ได้
ผมจึงคว้าเข้าที่แขนมัน แล้วลากไอ้ปูนเข้าไปในห้องอาบน้ำที่อยู่ในสุด แล้วลงกลอนทันที

“เฮ้ย ทำไรของเมิง” สีหน้าไอ้ปูนดูจะวิตกมากจนเสียงมันสั่น ๆ ทำไมผมไม่เคยรู้เลยว่ามันจะดูน่ารักขนาดนี้

“ก็มึงหนีกูทำไม ไม่ทำอย่างนี้มึงจะยอมคุยกับกูดี ๆ เหรอ”
“เฮ้ย คุยกันก็ได้ แต่มึงออกไปก่อนกูจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ”

“ก็อาบไปดิ ทำยังกับไม่เคยอาบน้ำด้วยกัน มากูอาบด้วย”
“เฮ้ย มึง ออกไป นั่นมันตอนเด็ก ๆ กะเปี๊ยก ๆ นี่โตแล้วใครเขาอาบด้วยกันว่ะ”

“ทำไมกับใครกูก็อาบด้วยหมดแหล่ะ เวลาซ้อมบาสเสร็จยังแก้ผ้าอาบน้ำกันเลย...อ่อ แต่มึงหนีกลับ
ไปอาบน้ำที่บ้านทุกทีนี่หว่า...ทำไมว่ะ...จะว่าไป หลังขึ้นมัธยม มึงก็ไม่เคยอาบน้ำกับกูเลยนี่หว่า
ชวนทีไรก็อ้างโน่น อ้างนี่ตลอด.......คิดอะไรกับกูปะวะ”

“บ้าเหรอมึง...กู..กู ไม่ได้...”
“มึงคิดไม่คิดก็ไม่สน แต่กูคิด”

“เฮ้ย ไอ้อา..”
ไม่รอให้มันได้ประท้วงอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ผมก้าวเข้าหามัน เอามือสองข้างล็อกหัวมันไว้ แล้วประกบปากปิดการสนทนาทั้งหมดทันที

ไอ้ปูนดูจะตกใจมาก มันเริ่มดิ้น และมือแปะป่ายไปมา ผมก็ไม่รอช้าเอาตัวบดเบียดมันจนแนบไป
กับผนังห้องอาบน้ำ มันอ้าปาก คาดว่าจะด่า แต่ก็เป็นโอกาสที่ผมจะลุกล้ำเข้าไปในโพลงปากมัน
และส่งลิ้น เข้าไปโลมเลีย เกี่ยวรัดเรียวลิ้นเล็กของมัน จนเจ้าคนโดนจู่โจมเริ่มอ่อนระทวย

ผมขยับหน้าให้ได้มุมที่จะจูบจะดูดดื่มความหวานจากริมฝีปากคู่งามที่ผมได้แต่มอง และเก็บเอา
ไปฝัน เป็นภาพลาง ๆ จนคิดไปเองว่าเป็นพี่เป้ แต่จริง ๆ แล้ว ผมรู้อยู่ตลอดว่าใคร คือคนที่ผมอยาก
อยู่ด้วยตลอด

“อือ..เค็มนะมึง ไหนใครว่าจูบหวานว่ะ” ถอนจูบที่รู้สึกเหมือนเนิ่นนาน เป็นศตวรรษ มามองหน้าคน
ในอ้อมแขน ไม่รู้เลยว่ามือสองข้างของมันมาโอบหลังโอบเอวผมตอนไหน แต่ภาพหน้าไอ้ปูนที่
หลับตาพริ้ม หน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก และริมฝีปากอิ่มที่ผมทั้งกัดทั้งดูดจนแดงเจ่อ ยิ่งกระตุ้นความเป็นชายของผมให้แทบทนไม่ไหว

“....”
“ปูน..กู...”





“เฮ้ยปวดขี้ชิบ พวกมึงไปก่อนเดี๋ยวกูเสร็จจะตามไป”

ยังไม่ทันจะพูดอะไร ก็มีเสียงคนเข้ามาในห้องน้ำ ผมมองไปทางต้นเสียงก่อนที่จะหันกลับมามองไอ้ปูน
.ซึ่งตอนนี้มันลืมตาขึ้นมามองผมแล้ว ด้วยใบหน้าที่ยังคงสีชาด พร้อมกับพูดเสียงเบา ๆ ว่า

“เชี่ย มึง เล่นไม่รู้เวลา หลีกกูจะออกไปแล้ว”
“เฮ้ย ปูนกูไม่ได้เล่น ๆ นะเว้ย จะออกไปทำไม ไม่อาบน้ำแล้วเหรอ”

“ไม่แล้ว กูค่อยไปอาบที่บ้าน หลีกๆๆ”
ผมที่ไม่รู้จะรั้งมันทำไม เพราะดันมีมารคอหอยเข้ามา จึงหลีกให้มันเปิดประตูออกไปก่อน......ส่วนผม
หึๆๆๆๆๆๆ.............ก็ช่วยตัวเองซิครับ จะรอไร ลูกพ่อ สงบใจไว้มึง ไว้วันหลังมึงได้แม่มึงมาช่วยแน่(เพลีย)









กว่าจะสงบศึกกับน้องชายได้ ก็เมื่อยมือไปหมด ทุกคนขึ้นกันมาหมดแล้ว ไอ้ปูนไม่มองหน้าผมเลย
เดินดุ่ม ๆ ไปเปิดประตูข้างคนขับขึ้นไปนั่งเฉยเลย ผมกับพี่คิดเลยขึ้นด้านหลัง (เอ่อ คำว่าด้านหลัง
นี่ชักทำผมคิดไปไกลแล้วซิ) หันไปมองหน้าพี่คิดมันก็ ทำหน้าหื่นมองพี่เป้ ผมว่ามันก็คงคิดไม่ต่าง
จากผมหรอก หันมองกันก็หัวเราะ และเริ่มที่จะคุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย ดู ๆ ไป พี่คิดมันก็เป็นคนดี
นะผมว่า ไม่งั้นพี่เป้ของผมคงไม่ชอบพี่มันหรอก


ผมลงก่อนที่บ้าน และนัดแนะกันว่าพี่เป้จะมารับผม ที่บ้านหลังจากอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จแล้ว ก่อนรถจะจากไป ผมได้ยินเสียงไอ้ปูนแว่ว ๆ ว่าไม่ต้องไปรับมัน ให้มันไปเอง ฮ่ะๆๆๆ ถึงไม่เห็นหน้า
ผมก็รู้ว่าหน้ามันยังแดงอยู่เลย น่ารักไปล่ะเมิงงงงง









ตอนนี้ทุกคนนั่งฟังพระสวดมนต์ข้ามปีกันอยู่ครับ แต่ผมนี่ซิ อย่าว่างั้นว่างี้เลยครับ กลัวบาป อยู่ในวัดในวาแท้ๆ แต่ดันไม่สนใจพระสวดเลย ได้แต่นั่งมอง ไอ้ปูน ในชุดเสื้อผ้าฝ้ายสีขาว กางเกงเลสีครีม ที่นั่งพนมมืออยู่ข้าง ๆ ผม ยิ่งพิจ ยิ่งมอง ก็เห็นว่ามันช่างน่ารักจริง ๆ เลย

“มองอะไร ตั้งใจสวดมนต์ซิมึง”
“เฮ้ยปูน กูจริงจังนะเว้ย”

“จริงจังไรของเมิง สวดมนต์ ๆ ซิควรจะต้องตั้งใจ”
“กูชอบมึงจริง ๆ นะเว้ย”

“มึงมันไอ้หมาเดือนสิบ กูเห็นมึงก็เอาเขาไปทั่วแหล่ะ”
“อ้าว ด่ากูซะงั้น ไรอ่ะ มึงไม่เชื่อใจกูเหรอ”

“จนถึงเมื่อเย็นมึงยังบอกรักพี่กูนักหนา มาตอนนี้มึงจะให้กูเชื่ออะไรมึง”
“พี่มึงกูก็รัก...เอ๊ย ไม่ใช่ กูก็แค่อยากเป็นคนในครอบครัวมึง จะได้อยู่กับมึงตลอดไปไง แต่กูลืม
นึกไปว่ากูเป็นแฟนมึงเลยไม่ดีกว่าเหรอ ฮะๆๆๆ”

ไอ้ปูนไม่ได้พูดโต้ตอบอะไรอีก มันหลับตาลง และสวดมนต์ต่ออย่างไม่สนใจจะคุยกับผมอีก เฮ้อ
ท่าทางมันจะใจแข็งไม่ใช่น้อยเลย เอาไงดีว่ะ ผมจะพิชิตใจมันได้ไหมนะ ถึงผมไม่รู้ว่ามันชอบผู้ชาย
ด้วยกันหรือเปล่า แต่จากจูบเมื่อเย็น ก็ตอบโจทย์ผมได้เลยว่า มันไม่รังเกียจจูบของผมแน่นอน
ก็หน้ามันเคลิ้มซะขนาดนั้น และอีกอย่าง คนอย่างไอ้ปูน ถ้ามันไม่สมัครใจจริง ๆ คงคว่ำผมลงไป
กองอยู่กับพื้นแล้ว

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
มีความสุข  ได้อ่านต่อและ   :mew1:
อาท  จีบปูนให้ได้นะ เอาใจช่วย 
แต่คิดว่าต้องได้แน่ๆ     :-[

คิด  เป้   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
ขอบคุณที่ติดตามกันมานะคะ ดีใจที่ทำให้มีความสุข ตอนนี้รวม ๆ กันเล่านะ แยกกันให้ออกนะว่าใครเป็นคนเล่า

*************************************************




Tonight i celebrate my love for you



วินาทีของปีใหม่ก้าวเข้ามา ทุก ๆ คนรอบข้าง กล่าวสวัสดีปีใหม่ ทั้งยังกอดกันอย่างชื่นมื่น พี่ชาย
ผมเอง กับแฟนของเขาก็เช่นกัน ทั้งคู่ดูสดชื่น และดูรักใคร่กันดี จนน่าอิจฉา

ตลอดเวลาที่พระท่านสวดมนต์ ไม่มีบทไหนเข้ามาในโสตประสาทผมเลย มีแต่คำบอกรักที่ไม่รู้ว่า
จริงแท้แค่ไหน แต่มันก็ทำให้ความรู้สึกที่เคยเก็บไว้ลึกสุดในหัวใจ กลับพองโต และกระดี้กระด้า
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมไม่แสดงออก ไม่อยากให้ไอ้อาทมันรู้ว่าผม ดีใจแค่ไหน ที่มันหันมามอง
ผมจริง ๆ จัง ๆ ไม่ใช่ในฐานะตัวแทนพี่เป้

จบงานสวดมนต์ข้ามปี ไอ้อาทคว้าข้อมือผมลากออกมาจากครอบครัว เพื่อไปกับพวกเพื่อน ๆ ที่
มันมาสวดมนต์ด้วยเหมือนกัน เอาดีได้แป๊บๆ จริงพวกมึง สวดมนต์เสร็จ ก็กะเมากันเลยใช่ไหม
พระธรรมไม่ได้ช่วยเล๊ยยยยยยยย




“พิมพ์อะไรอยู่ว่ะ”
“อ้อ ไลน์บอกพี่เป้ ว่าไม่ต้องห่วงมึง เดี๋ยวกูจะดูแลให้อย่างดีเลย”

“พูดไป ไม่ใช่สุดท้ายเมาเป็นหมา เหมือนเคย จนกูต้องมานั่งดูแลมึงเหรอ ฮ๊ะ”
“เฮ้ย ไม่เมาหรอกวันนี้ กูยังมีอะไร ๆ จะทำกับมึงอีก จะปล่อยเมาเละจนพลาดได้ไง”

“อะไร ๆ มึงจะทำอะไร”
“หึๆๆๆ เดี๋ยวดิ บอกก่อนมึงก็ไม่ตื่นเต้นดิ”

ไอ้ตัวแสบมันทำหน้าตาทะเล้น ก่อนจะเลียริมฝีปากให้ผมต้องขนลุกซู่










แหะ ถ้าซื้อหวย ก็ถูกไปแล้ว เมาเป็นหมาตามเคย ตีสามแล้ว อย่าว่าแต่ไอ้อาทเลย ตอนนี้กูเห็น
หมาเมานอนตายเกลื่อน

“เฮ้ย ไอ้ทิม ไป ๆ ลุกขึ้นไปนอนบนห้องไป ๆ พวกมึงด้วย ไอ้โย่ง ไอ้ชาติ เฮ้ย ลุก ๆๆ”
“ห๊า ไรน้า ไม่หวายแล้ว กูจะนอนตรงนี้แหล่ะ กุดดดดหน๊ายยยยย คร่อกกกกกก”

“อ้าวเหี้ยล่ะพวกมึง เฮ้อ ลำบากกูทุกที ไม่เข้าใจจริง ๆ ทำไมกูยังทนคบพวกมึงอยู่ได้ตั้งนานวะ”

ปากก็บ่นแต่ก็ดูแลพวกมันมาตั้งแต่ประถมแล้ว ได้แต่ส่ายหัว ไปหยิบผ้าห่ม หมอน มาให้พวกมันได้
นอนกัน กลางคืนอากาศหนาว แม่งเดี๋ยวจะพลอยไม่สบายกัน

เสร็จสรรพ ก็หันมาดูไอ้ตัวแสบ ไอ้อาทคอพับคออ่อนอยู่ที่พื้น จะให้มันนอนที่นี่ด้วยก็ไม่มีที่แล้ว
ไอ้พวกนั้นยึดพื้นที่นอนกันหมด คงต้องเอามันขึ้นไปนอนบนห้องไอ้ทิมแทน

“เฮ้ย ๆ อาทลุกๆๆ”
“อืออออ อ่า อารายยยยยเหยอออ”

“ไปนอนบนห้องไปมึง”
“อืออออ”

เฮ้อ อือ ๆ อา ๆ ไม่รู้เรื่อง กว่าจะพยุงมันเดินขึ้นบันได จนถึงห้องนอนไอ้ทิม ก็เหนื่อยแทบแย่

“เฮ้ย อาทเดินดี ๆ ค่อย ๆ มึง จะถึงเตียงแล้ว”
“จริงเหรอ”





“เหว๊อออออออออออออ”

ตกใจที่ดูมันตอบเหมือนไม่ใช่คนเมายังไม่พอ มันยังผลักผมลงบนเตียงอีก จนร้องเสียงหลง

“ฮะๆๆๆ ตกใจเหรอมึง”
“อะไรว่ะ มึงแกล้งเมาเหรอ ไอ้อาท”

“ฮะๆๆๆ ก็เออซิว่ะ ถ้าไม่แกล้งเมามึงก็คงหนีกลับบ้านไปก่อนแล้วซิ กูรู้ทันหรอกหน่า”
“ทำไมต้องหนีด้วยล่ะ”

“ห๊ะ มึงว่าอะไรนะ”
“....ก็มึงบอกว่ามีอะไรจะ...จะทำกับกูไม่ใช่เหรอ”











ป๊าดดดดดดดดด เลือดกำเดาแทบพุ่ง ไอ้ปูนที่กึ่งนั่งกึ่งนอน บนเตียงในท่าล่อแหลม แถมยังพูดจา
น่ารักชวนให้จินตนาการเตลิดเปิดเปิง ด้วยใบหน้าขึ้นสีระเรื่อ หลุบตาลงต่ำ ช่างน่า....จริง ๆ

ผมงี้แทบอยากกระโดดขึ้นคร่อมมัน แต่ยังก่อนครับ ไม่อยากให้มันตกใจกลัว ต้องค่อย ๆ ตะล่อม

“ปูน มึงโอเคใช่ไหม”
“โอเค อะไร”

“ก็ คืนนี้มึงโอเคนะ”
“ถ้ากูไม่โอเคล่ะ”

“ถ้ามึงไม่โอ กูก็ไม่บังคับมึงหรอกนะ” ไม่จริ๊งงงงงง กูแค่พูดให้ดูดีเท่านั้น ยังไงคืนนี้มึงต้องเป็นของกู
“...กู...” อ๊ายเชี่ย อย่าทำหน้าแดงแล้วกัดปากล่างซิว่ะ แม่งเซ็กซี่ไปแล้ว

“กูจูบมึงได้ไหม”
“...อือ..” ตายๆๆๆ ใครก็ได้ตีหัวกูที ใครสั่งใครสอนให้มึง ผงกหัวตอบรับ แล้วหลบสายตา น่ากินชิบ

ครั้งนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน ผมไม่ได้ใช้แรงขืนใจมัน เราสองคนมองกันเล็กน้อย ก่อนไอ้ปูนจะค่อย ๆ หลับตาลง เอียงหน้าเล็กน้อยให้ริมฝีปากของเราสัมผัสกัน แผ่ว ๆ แค่แตะ ๆ กัน แล้วค่อย ๆ ผละออกมา

“มึงรู้สึกยังไงบ้าง”
“...เอ่อ..ไม่..กูไม่รู้”

ผมยิ้มกับคำตอบไม่ประสาของไอ้ปูน ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหาอีกฝ่ายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ลึกล้ำยิ่ง
กว่าครั้งแรก ผมขบริมฝีปากล่างเน้น ๆ จนไอ้ปูนมันครางเบา ๆ กระตุ้นอารมณ์ผมมาก ผมประกบปากกับมันอีกแนบสนิท และเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ ปลายลิ้นของเราผลัดกันรุก ผลัดกันรับ อย่างไม่มี
ใครยอมกัน

“อือ อือ” เสียงไอ้ปูนครางไม่เป็นภาษา เนื้อตัวมันสั่นเล็กน้อย ผมคร่อมเข่าข้ามตัวไอ้ปูน แล้วค่อยๆ
ใช้มือจับบ่ามัน ให้ค่อย ๆ เอนตัวนอนลงบนที่นอน ทั้งที่ยังจูบกันอย่างเมามัน

สองมือก็ไม่รอช้า ล้วงเข้าไปใต้เสื้อผ้าฝ้ายตัวบางของมัน ลูบไล้ช่วงตัวที่มีกล้ามท้องพองามเรื่อยลงมาจนถึงขอบกางเกงเล รู้สึกได้ว่าไอ้ปูนมันสยิวจนท้องมันสั่น

“อย่า..”
“ห๊า ทำไมอ่ะ” เฮ้ย อย่ามาเบรกตอนนี้นะมึง ของกูตั้งซะขนาดนี้ ถ้ามึงไม่ยอมนี่ กูปล้ำมึงแน่

“ไปปิดไฟก่อนดิ กู..กูอาย”
“ปิดทำไม สว่างซิดี กู อยากเห็นมึงทุกสัดส่วนนะ”

“....แต่...”
“ไม่ต่งไม่แต่แล้ว มึงอย่าแกล้งกูดิว่ะ มึงไม่เห็นเหรอว่ากูตั้งขนาดนี้แล้ว เอ๊ย ไม่ใช่ คือ แบบมึงก็มีอารมณ์แล้วนี่”
โอ๊ยยยยยย มึงจะมาอง มาอายอะไรตอนนี้ กูนี่จะอึดอัดตายแล้วถ้าไม่ได้มึงนี่ เกือบเผลอแสดงธาตุแท้ รีบเบี่ยงประเด็นแทบไม่ทัน

“งั้นกูถอดเสื้อให้มึงนะ”
“อือ เอาดิ” พูดง่าย ๆ อย่างนี้ค่อยน่ารักหน่อย เราลุกขึ้นมาคุกเข่าบนเตียง ไอ้ปูนยื่นมือมาค่อย ๆ
แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของผมช้า ๆ ยิ่งสร้างความพอใจให้ผมมากขึ้นไปอีก ผมกดจมูกหอมแก้มมัน ไป
ฟอดใหญ่ มันหันมาค้อนนิด ๆ แต่ผมไม่สนใจ เริ่มไซร้ซอกคอมันรอไปพลาง ๆ กลิ่นประจำกายมัน
ไม่ใช่น้ำหอม แต่เหมือนกลิ่นโลชั่นดอกไม้ไทย ยิ่งสูดยิ่งชื่นใจ ผมลงลิ้นไปที่หลังหูมัน ไอ้ปูนหดคอหนี แล้วเบี่ยงตัวออก มาอยู่ด้านหลังผม ค่อย ๆ ถอดเสื้อเชิ้ตจากบ่าของผมลงมาเรื่อย ๆ มันจูบที่
กลางหลังของผมต่ำลงเรื่อย ๆ ไปจนถึงสะโพก ผมงี้สยิวจนต้องแอ่นตัวไปตามจังหวะการจูบของมัน


“เขาว่าครั้งแรกมันเจ็บอ่ะ”
“หือ...ไม่ต้องกลัวหรอก กูจะไม่ทำให้มึงเจ็บ”

“มึงจะไม่ทำให้กูเจ็บจริง ๆ นะ”
“อือ กูจะอ่อนโยน มึงไว้ใจกูได้เลย”

“อือ กูไว้ใจมึง”

สิ้นคำไอ้ปูน ผมจะหันไปจูบมัน

















แต่










“เฮ้ย อะไรว่ะ” เหมือนตกจากสวรรค์ จู่ ๆ ไอ้ปูนก็ผลักผมล้มคว่ำลงบนเตียง พอจะลุกขึ้นก็รู้สึกได้ว่า
มือถูกพันธนาการด้วยเสื้อเชิ้ตของผมเอง ตามมาด้วย ไอ้ปูนที่นั่งทับมาบนหลังของผม

“ไอ้ปูน เล่นอะไรบ้า ๆ มึงปล่อยกูนะเว้ย”
“ไม่อ่ะ”


“เฮ้ย อะไรว่ะ ก็ไหนมึงบอกว่าโอเคไง”
“กูก็โอเคไง”

“มึงหมายความว่าไงว่ะ”
“กูก็หมายความตามที่กูพูดนั่นแหล่ะ”

“แล้ว มึงมามัดกูทำมายยยย”
“ก็เดี๋ยวมึงขัดขืน”

“ห๊า ไอ้ปูน อย่าบอกนะว่ามึง”
“อื้อ กูโอเคไง แต่ก็ไม่ได้บอกมึงนี่ว่ากูจะรับให้มึง”

“เฮ้ย ได้ไงอ่ะ มึง กูไม่เคยนะเว้ย”
“อื้อ ก็ดีแล้วนี่ กูจะได้เป็นคนแรกของมึง แล้วจะไม่มีใครได้มึงอีก กูไม่อนุญาต”

“ไอ้ปูน อย่านะมึง มึงเคยเหรอ ทำกับผู้ชายน่ะ มันไม่ง่าย นะเว้ย ดีเทลเยอะมากกกกก ให้กูจัดการ
เถอะ ประสบการณ์กูเพียบ มึงจะสุขสุดยอดเลย กูรับประกัน”
“เก็บประสบการณ์มึงไว้เถอะ แล้วรอรับประสบการณ์ใหม่ที่กูจะมอบให้ได้เลย”

“เฮ้ยยยยยย ไม่นะ ไอ้ปูน กูขอ...”
“ได้ดิขอมากูก็จัดให้”



จ๊ากกกกกกกกกกกกก เชี่ยปูน มันล้วงมือมาปลดกระดุม และรูดซิบกางเกงยีนส์ของผม ก่อนที่จะ
ดึงลงไปที่ปลายเท้าอย่างง่ายดาย (ทำไมวันนี้กูไม่นุ่งสกินนี่มาว่ะ) รับรู้ได้ถึง ส่วนแข็งขืนของไอ้ปูน
ที่มันทาบทับอยู่บนกางเกงชั้นในปราการด่านสุดท้ายของผม (ที่ไม่รู้มันจะช่วยอะไรได้ไหม) มันบดเบียดของมันกับร่องทางด้านหลังผม อย่างหนักหน่วง จนผมเสียวสะท้านเกร็งไปทั้งตัว

ไอ้ปูน ระดมจูบ เลีย หลังของผม สยิวจนอารมณ์ประทุ (มึงจะเทคนิคดีเกินไปแล้ว กูไม่เคยเห็นมัน
มีแฟนเลย มึงไปฝึกมาจากไหนนนนน ทำกูเสียวซะเยี่ยวแทบเล็ด) ทั้งจูบ ทั้งลูบ ทั้งเลีย จนถึงหลังคอ มันไซร้หลังหูผม แล้วครางเบา ๆ ให้ยิ่งสั่นสะท้าน

“อือ มึงไม่ทำให้กูเจ็บจริง ๆ ด้วย แต่กูไม่รับประกันนะว่ากูจะไม่ทำให้มึงเจ็บ”
“ฮือๆๆๆ ไอ้เชี่ยปูนนนนนนนนนนนนนน”























อือ ดีเทล เยอะอย่างที่ไอ้อาทมันบอกจริง ๆ ผู้ชายด้วยกันนื่ ไม่ง่ายเลย แถมแรงมันก็ไม่น้อย
ดิ้นไปดิ้นมาอยู่ได้ ปล้ำกันอยู่นาน จนเหนื่อยหอบทั้งคู่

“แฮ่กๆๆๆ ไอ้ปูน วันนี้พอก่อนเถอะ กูขอโทษ ๆ อย่าทำไรกูเลยนะ”
“เฮ้อ มึงก็ดิ้นอยู่นั่นแหล่ะ เสียพลังงานโดยไม่จำเป็นจริง ๆ”

“ก็ กูไม่เคยนี่หว่า จะให้ทำใจยอมมึงง่าย ๆ ไม่ไหวหรอก”
“เฮ้ย แต่มึงก็เคยทำมาเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ น่าจะเข้าใจว่าต้องทำอย่างไงไม่ใช่เหรอ”

“...กู....กูโกหก...”
“ห๊ะ อะไรนะ?”

“กูบอกว่ากูโกหก กูไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน”
“อ้าวก็ที่มึงมาเที่ยวเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังล่ะ?”

“...ก็แบบว่า ...โม้ไงมึง ก็แม่งดูถูกกูว่าไม่ประสีประสา กูก็เลยเกทับซะเลย”
“..............” เอ่อ ต้องบอกว่าคำสารภาพของไอ้อาท กระทบใจผมมากครับ ก็มันเล่นคุยซะจนนึกว่า
เป็นเรื่องจริง ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธมัน เพราะคำขี้โม้ของมัน ทำให้ผมเสียใจมานักต่อนัก มึงจะรู้ไหม เวลา
มึงมาพูดว่าไปได้กับใคร ต่อใคร ผมงี้ หัวใจแทบสลาย แค่มันบอกว่ารักพี่ชายผมก็ว่าแย่แล้ว ยังเสือก
เที่ยวไปปี้คนโน่นคนนี้ให้ต้องเจ็บช้ำน้ำใจเป็นคำลพสอง

“ไม่เคยจริง ๆ เลย ...ไม่ว่ากับผู้หญิง หรือผู้ชายเหรอ”
“ก็เออซิว่ะ”










ผมที่จวนตัวจนต้องสารภาพความจริง ว่าไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน อาย ก็อาย ไอ้ปูน แต่ถ้ายัง
คงสถานการณ์อย่างนี้ back vergin ของผมคงอยู่ในภาวะวิกฤตแน่ ๆ และดูท่าจะได้ผล ไอ้ปูนมัน
หยุดกระทำชำเราผมแล้ว นั่งมองผมพูดตาแป๋ว แล้วมันก็ลุกจากตัวผมไปซะที เฮ้อ รอดแล้วกู












 แต่ผมคิดผิด





“เฮ้ย อะไรว่ะ” ผมที่นอนคว่ำหน้า ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก็ต้องตาเหลือกอีกครั้ง
เพราะจากที่คิดว่ามันเลิกความคิดที่จะเอาผมแล้ว ลุกออกไป ที่ไหนได้ จู่ ๆ มันก็ กลับมานั่งทับหลัง
ผมอีก แต่ครั้งนี้มันนั่งหันหน้าไปทางขาของผมแทน

ผมที่รู้สึกว่า แม่งเชี่ยแล้ว ก็ต้องรู้สึกว่าโครตเชี่ยเลย ก็ไอ้ปูนมันดึงปราการด่านสุดท้ายของผมลงไปกองที่หัวเข่าผม แล้วก็ป้ายบางอย่างที่รู้สึกเย็น ๆ ที่ช่องทางด้านหลังของผม

“ตอนแรกกูก็ว่าจะแค่หยอกมึงเล่น ๆ นะไอ้อาท .....แต่มึงทำตัวเองนะ เสือกกล้าหลอกแม้กระทั่งกู
ไม่พอ ยังเสือก จะมาล้อเล่นกับหัวใจกูอีก ......กูก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไอ้ทิมมันมีเจล เพราะแม่งชอบ
พาเด็กมานอนด้วยบ่อย ๆ มันบอกว่าฟิตเกิน ต้องมีตัวช่วย กูก็ต้องการตัวช่วยว่ะ”

“เฮ้ย ไอ้ปูน อ๊ะ อ่ะ” ปากก็จะโวย แต่ไอ้ร่างกายที่ไอ้ปูนมันเริ่มต้นลูบไล้ ทั้งล้วงทั้งควักจนหน่วงไป
ทั้งช่วงล่าง ก็ทำให้เผลอครางออกมา





“มึงเป็นของกูนะ ไอ้อาท อย่านอกใจกูอีกนะ คำพูดก็ไม่ได้ รู้ไหม ...กู..กูรักมึงนะ รักมานานแล้วด้วย”

จากที่ดิ้น ๆ นี่หยุดดิ้นเลยครับ คำบอกรักของไอ้ปูน มาพร้อมกับหยดน้ำ ที่กระทบกับหลังของผม
ใจผมรับรู้ได้ถึงความรักที่มันมีให้มาตลอด เพียงแต่เพราะความเป็นเด็ก และความใกล้ชิด ทำให้
เผลอตัวทำอะไรไร้สาระ และทำร้ายจิตใจมันโดยไม่รู้เดียงสา ผมควรชดเชยให้มันซินะ


“...ปูน ...ปล่อยมือกูเถอะ กูยอมแล้ว กูอยากจะกอดมึงด้วยสองมือกู ปล่อยกูนะ”
“....อาท...”









ไอ้ปูนจับที่มือของผม แล้วมันก็โน้มตัวทาบทับหลังของผม พร้อมทั้งกระซิบคำที่ทำให้ผมสั่นสะท้าน
“ปล่อย มึงก็ไม่ยอมกูหรอก ปล่อยให้โง่ ไอ้อาท กูอยู่กับมึงมากี่ปี แค่นี้ตอแหลกูไม่ได้หรอก”

“จ๊ากกกกกกกกกกกกกก เชี่ยปูนนนนนนนนนนนนนนนนนน” ไอ้เชี่ย เสือกรู้ทันกูอีก เคยไหมที่กูจะ
หลอกมึงได้ ไอ้เชี่ยยยยยยยยยยยย
















ผมจับขาไอ้อาทให้มันอยู่ในท่าคุกเข่า หัวของมันยังคงจมอยู่กับหมอน อือ โตขึ้นเยอะนะมึง ก้นมัน
ก็อวบอัดดี เห็นแล้วน่าตีชะมัด

เผี๊ยะ

“โอ๊ย มึง เจ็บนะโว้ย ไอ้ซาดิสต์”
“ปากดีนะมึง แต่ก็ชอบล่ะซิ ดูของมึงซิพอกูตีก้นหน่อย นี่กระดิกหางเลยนะมึง”

“ไอ้เชี่ย หางพ่องงงง อ๊า อ่ะ อ่ะ” ผมไม่สนใจเสียงมัน ปากและลิ้นก็สาละวนกับหลังคอ แล้วเริ่มไซร้
ซอกคอมัน มือข้างหนึ่งก็บดขยี้หัวนมเม็ดน้อยของมัน ส่วนอีกข้างก็จัดการน้องชายมัน ของมัน
ขยายตัวเพิ่มอีก ท่าทางมันจะอึดอัดมาก เริ่มมีเสียงครางให้ผมร้อนไปด้วย


ผมปลดกางเกเลของผมออกอย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มต้นถูไถของผม กับด้านหลังของมันจากช้า ๆ เป็น
ถี่ระรัว ไอ้อาทตัวสั่นระริก เด้งหน้าเด้งหลัง เหงื่อของเราสองคน ผสมผสานกันจน เปียกไปหมด

“อ๊ะ อา พอแล้ว”
“อะไร พออะไร”

“อึดอัดอ่ะ มึงเข้ามาเลยมา กูไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ่ะ อ่ะ”
หึ ๆ ท่าทางผมจะรุกหนักไปหน่อย ไอ้อาทครางเสียงหลง เป็นฝ่ายเรียกร้องผมเองซะนี่ ผมเองจริง ๆ
ก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว แต่จะเข้าไปก็ไม่ง่ายถึงจะมีเจลช่วยแล้วก็เถอะ ผมพยายามขยายช่องทางให้มัน
ก่อนที่จะรู้สึกได้ถึงความพร้อม ผมจ่อของผมตรงช่องทางของมัน รับรู้ได้ถึงการตอดรัด ทั้งที่ยังไม่ได้
เริ่มเข้าไปเลย

เริ่มกดเข้าไปทีละน้อย ไอ้อาทร้องเสียงหลง จะบิดเอวหนี ผมต้องจับเอวมันไว้แน่น แล้วเริ่มสาวเข้า
ออกช้า ๆ ทีละนิด จนเข้าไปเกือบมิด

“ซี๊ดดด อาร์ มึงอย่าเพิ่ง อย่าตอดรัวอย่างนี้ กูจะไปไม่รอดเอา”
“โอ๊ยยยย เจ็บอะมึง”

“ทนหน่อยนะมึง ผ่อนลมหายใจหน่อยมึง กูจะไม่ไหวแล้วววว”
“โอ๊ย.. ฮ่ะๆๆๆ ไอ้กระจอก จะล่มปากอ่าวเหรอมึง” น่าน เจ็บแล้วยังมีอารมณ์มาแซวกูอีก เดี๋ยวมึงจะรู้สึก

“ใครบอกมึง ว่ากูจะแตก....ที่บอกว่าไม่ไหวนี่ คือกูทนไม่เอามึงแรง ๆ หรอก”
“อ่ะ อ๊า ไอ้เชี่ยปูนนนนนน” เป็นไงล่ะมึง ปากดีไม่เข็ด สิ้นคำผมก็เริ่มซอยไม่ยั้ง ไอ้อาทดิ้นพล่าน ปากก็ร้องครวญครางไม่หยุด แต่แทนที่มึงจะเรียกกูว่าไอ้เชี่ย เรียกกูว่าที่รักจะดีกว่า











ไม่ต้องถามว่าราตรีนี้ยาวนานแค่ไหน ไม่เคยรู้สึกว่ามันนานนนนนนนนนนมากกกกกกกกก ขนาดนี้
ได้ปูนแม่งอึดชิบหาย มึงแดกดีม้า มาเหรอไงว่ะ ควบกูยังกับเป็นจ๊อกกี้ แถมยังอึดอีก กูงี้แตกทัพไป
สองสามรอบแล้ว แม่งมันยังไม่แตกเลย กว่าจะแตกนี้กูก็เพลียจนสลบ


มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีผ้าชุบน้ำเย็น ๆ เช็ดเนื้อตัว และเช็ดหน้าให้นี่แหล่ะ

“ฟื้นแล้วเหรอมึง”
“...อือ...อือ...กี่โมงแล้วว่ะ”

“เพิ่งจะ 6 โมงเช้า มึงนอนต่อเถอะ กูเช็ดทำความสะอาดให้แล้ว” โห 6 โมงเช้าเหรอ ผมรู้สึกเหมือน
ทำกับมันนานเลย มาดูสภาพตัวเองก็เห็นว่าอยู่ในชุดนอนของไอ้ทิมเรียบร้อยแล้ว ไอ้ปูน ยังคง
เปลือยช่วงบน ส่วนข่วงล่างมันก็เป็นกางเกงบาสของไอ้ทิม

ยิ่งมองมันก็ยิ่งอาย ตกลงนี่กูเป็นเมียมึงเหรอเนี่ยะ ผิดคอนเซ็บว่ะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น ไอ้ปูนมันเป็น
คุณชาย รูปหล่อ ดูบอบบางไง ถ้าใคร ๆ รู้ว่ากูเป็นเมียมึงนี่ ภาพพจน์กูเสียหายหมด ต่อไปใครจะ
เรียก กู หล่อ เถื่อน ถึก ว่ะ

“เป็นไร นอนดิ ไม่ต้องสนใจไอ้พวกข้างล่างหรอก กว่ามันจะฟื้น ก็คงบ่ายโน้น” ไอ้ปูน มันคงเข้าใจ
ว่าที่ผมทำหน้าปุเลี่ยน ๆ เพราะกังวลว่าไอ้พวกข้างล่างจะรู้ความสัมพันธ์ของเรา

“มึงอ่ะ ทำลายภาพพจน์กูป่นปี้หมด ถ้าใครรู้ว่ากูเป็นเมียมึงนี่ อายเขาตายเลย”
“ฮ่ะๆๆ อ้อ กูก็นึกว่าห่วงเรื่องอะไร ไอ้บ้า ไว้กูให้มึงอยู่ข้างบนบ้างก็ได้”

“เฮ้ย มึงพูดแล้วไม่คืนคำนะมึง คืนคำนี่ขอให้ หำมึงหดนะเว้ย”
“ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ ไอ้ปัญญาอ่อน ถ้าของกูหดมึงจะเสียดาย กูเห็นคราง เอาอีก ๆ จนกูสนองให้แทบไม่ทัน”

อ๊ายยยยยยยยยย เชี่ย เอาความจริงมาพูดนะมึง ก็ตอนอารมณ์มันพีค ๆ แม่งปากก็ไปตามอารมณ์ละวะ

“แม่ง พ่อแม่มึงจะว่าไรป่ะว่ะ พี่ชายมึงก็มีแฟนเป็นผู้ชาย มึงก็มาได้กูอีก”
“...ไม่รู้ว่ะ แต่กูว่าพี่กูคงจัดการได้ ขานั้นเขาเก่งอยู่แล้ว ส่วนกูก็คงตามน้ำพี่กูไป แต่พ่อมึงนี่ดิ ต้อง
ดีใจแน่เลย ก็แกอยากดองกันกับบ้านกูแทบแย่ กูเห็นแม่งชง ทุกที ว่าอยากได้เขยบ้านกู ฮ่ะๆๆๆ”

“เชี่ยล่ะมึง พ่อกูหมายถึง ให้กูเป็นเขยบ้านมึง คู่กับน้องปู้ต่างหาก”
“ฮ่ะๆๆๆ งั้นพ่อมึงก็สมหวังอย่างแล้วล่ะ”

“สมหวัง? อย่าบอกนะว่ามึงจะให้กูแต่งกับไอ้ปู้ แล้วมึงจะลอบเป็นชู้กับกู”


ป๊าบบบบบ

“โอ๊ย ตบหัวกูอีกแล้วนะมึง” แม่งได้กูแล้ว ก็ไม่เห็นแม่งจะอ่อนโยนกับกูเลย
“ตบมึง เพราะความคิดบัดสีมึงนี่แหล่ะ ใครจะไปเป็นชู้มึง แล้วที่กูพูดนี่ไม่ได้หมายถึงมึงเฟ้ย”

“อ้าวไม่ได้หมายถึงกู แล้วใครอ่ะ.........อย่าบอกนะว่า..........”
“เออ น้องมึง ไอ้เอส ต่างหาก”


“ห๊ะ ไอ้เอส ....กับใคร .....นี่มึงนอกใจกูเหรอไอ้ปูน”


ป๊าบบบบบบบบบบ


“ตบหัวกูทำไมอีกว่ะ...”
“ตบให้ความคิดปัญญาอ่อนของมึงนี่แหล่ะ ไอ้เอส กับน้องสาวกูต่างหาก”

“ห๊า น้องปู้นี่นะ เฮ้ย ไอ้เอสมันเพิ่ง ป.6 เองนะเว้ย ส่วนไอ้ปู้มัน ม.6 แล้วนะ มันห่างกันตั้งหลายปี
มันไปสป๊าคกันตอนไหนว่ะ”
“เฮ้อ มึง...วัน ๆ มึงรู้อะไรบ้าง มันเป็นแฟนกันมาเป็นปีแล้ว....กูเห็นตอนน้องมึงมันมาสารภาพรัก
น้องกูที่สวนหลังบ้านพอดี .....ไม่นึกว่าไอ้เอสมันพูดจาดี เป็นผู้ใหญ่ ผิดกับพี่ชายปัญญาอ่อนมันจริง ๆ”

“มึงว่ากูหลายทีแล้วนะ แล้วไอ้ปู้มัน โอเค ได้ยังไงว่ะ”
“ฮ่ะๆๆๆ มึงไม่รู้อะไร ไอ้ปู้มันชอบน้องมึงมานานแล้ว ไม่งั้นมันไม่คบด้วยหรอก”

“แม่ง ถึงว่า กูเห็นมันขยันมาบ้านกูจริง ๆ กะเลี้ยงต้อยนี่เอง”
“ฮ่ะๆๆๆ มึงก็พูดเกินไป กูเห็นต้อยแม่งก็มอง พี่สาวข้างบ้าน ตาละห้อยเชียว กูว่ามันก็เหมาะสมกันดี”

“ฮ่ะๆๆๆ เออ ๆ งั้นครอบครัวเราก็ได้ดองกันจริง ๆ แล้วซิ”
“ฮ่ะๆๆๆ นั่นดิ”










หลังจากรับรู้เรื่องราวของพวกน้อง ๆ ผมก็ทำท่าจะหลับใหลไปด้วยความอ่อนเพลีย รู้สึกได้ถึงอ้อมกอด
อบอุ่นจากไอ้ปูน............เอาวะ เห็นแก่มึงรักกูมากหรอกนะ กูจะยอมให้มึงก็ได้ แต่มึงก็อย่าลืมล่ะ
ว่ามึงบอกจะให้กูอยู่ข้างบนบ้าง ฮึ๊ย อย่าให้ถึงคราวกูบ้างนะ จะทำให้มึงแม่ง ครางจนเสียงแหบเลย
ฮ้าววววววววว แต่วันนี้ไม่ไหวจริง ๆ แล้ว ราตรีสวัสดิ์นะครับ.....ที่รัก

ออฟไลน์ Keane

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-0

ออฟไลน์ limpingping

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-0
เรื่องเข้าใจผิดกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ของสองเรา

ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ เรื่องนี้คงต้องเบรคไว้ก่อน จริง ๆ ยังมีอีก แต่ไม่มีเวลาเลยช่วงนี้
เกรงว่าถ้าไม่ปิดจ๊อบ อาจจจะปลิวไปซะก่อน ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนจริง ๆ ค่ะ
เมื่อมีโอกาส อาจจะมาเพิ่มเติมเป็นระยะ ๆ นะคะ

***************************************

“เฮ้ย ไอ้ปูน เดี๋ยวดิ รอกูก่อน” แม่งเดินเร็วชิบหาย ดีนะวันนี้พระจันทร์เต็มดวง เลยมองเห็นทางไม่ยาก ไม่งั้นวิ่งตามมันขนาดนี้ กูคงได้ลงไปจับกบกลางสวนบ้านตัวเองแน่





“............”  แฮก ๆๆๆ เหนื่อยนะเว้ย สุดท้ายก็จับตัวมันให้หันมาได้ ไอ้คุณชายมันก็ทำหน้าเครียดมองกุตาเขียวเชียว อย่าๆ กุไม่กลัวมึงหรอก
 

“อ้าวไอ้นี่ เฮ้ย มึงฟังกูก่อน”
“หุบปากไปเลย ไอ้ หมาหื่น มึงไม่ต้องมาแก้ตัว” แน๊ะๆๆๆ ยังทำเป็นสะบัด กุไม่ปล่อยมึงหรอก


“แก้ตัวเชี่ยไรว่ะ ก็มันไม่มีอะไรจริง ๆ นี่หว่า มันเป็นอุบัติเหตุ”
“ขี่กันขนาดนั้น อุบัติเหตุเชี่ยมึงนะซิ”

“เฮ้ย ไม่ได้ขี่ ๆ มึงก็ฟังกุอธิบายก่อนดิว้า”
“..............”


“โอ้ย มึงอย่ามาทำซึนตอนนี้นะเว้ย กุรักมึงจะตาย กุจะไปนอกใจทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง”
“....กุไม่อยากฟังมึงพูดเยินตัวเอง มีอะไรก็ว่ามา เร็ว ๆ เลย ถ้าไม่กุจะกลับไปนอนบ้านแล้ว”

“อ้าว ไหนบอกจะนอนบ้านกุว้า เอ๊ยๆ ๆ ไม่นอกเรื่องแล้ว เอาจริงๆ นะ ก็ระหว่างรอมึงใต้ตึกอ่ะ ไอ้ฝนมันหอบหนังสือ หอบไอ้นั่น ไอ้นี่ยังกับบ้าหอบฟาง เดินลงมาก่อนมึงนิดเดียวเอง กุก็จะเข้าไปช่วยมันถือ แต่แขนกุดันไปเกี่ยวสายกระเป๋ามัน เลยพากันล้มลงมา ดีว่ามันลงมาจะถึงพื้นอยู่แล้ว แล้วหลังจากนั้นก็ตามที่มึงเห็นนั่นแหล่ะ ถ้ามึงจะสังเกตนะ มันคงลงมาก่อนหน้ามึงแป๊บเดียว ถ้ากุจะมีอะไรกับมันจริง กุคงต้องใช้เวลามากกว่านั้นว่ะ 5555 ของกุอึดมึงก็รู้.......โอ๊ย” 

“เชี่ย โบกหัวกุอีกแล้ว มึงอยากได้ผัวความจำเสื่อมเหรอฮ๊ะ” เชี่ยปูน มึงสาบานได้ไหมว่ามึงรักกุนี่ เห็นชอบตบหัวกุประจำเลย


“ไม่โบก ความจำมึงก็ไม่ดีอยู่แล้ว ใครผัวใครเมีย มึงยังจำไม่ได้เลย”

“จำไม่ดีอะไร ยังไงกุก็ต้องได้เป็นผัวมึงเข้าซักวันแหล่ะ มึงอ่ะหลอกกุทุกที แม่งท่านั้นท่านี้ สุดท้ายกุก็โดนซอยทุกที เซ็งเป็ด” แก้แค้น 10 ปีไม่สายเว้ย แต่แม่งเสียท่ามันทุกที



“เป็ดมึง กุไม่รู้ แต่ใส้กรอกมึงอร่อยดี”

“เชี่ยปูนมึง....” แม่ง พูดไม่พูดเปล่า เชี่ยเอาลิ้นเลียปากด้วย ทำกุหน้าแดง สติกระเจิงไปไม่เป็นเลย







“...อือ ก็นะ หึงหน้ามืดไปหน่อย ขอโทษนะครับ” เห๊อะ มึงไม่ต้องมาทำประจบ บีบแขนบีบไหล่ หนอยทำมาเป็นสำนึกผิด

“แหม๋ทำมาเป็นครับ ทีเมื่อกี้ด่ากุซะเสียหมา มึงเตรียมตัวเลย พรุ่งนี้ได้เป็นข่าวดัง ทั่วมอกันอีกแน่ อีฝนมันตาระยิบเลย มึงไม่เห็น ชอบนักกับจับคู่มึงกับกุไปเมาส์ กับพวกขาวายนะ”

“อาราย มึงยังไม่ชินอีกเหรอ ใคร ๆ เขาก็รู้กันหมดแล้ว ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“มึงๆๆๆ ใครมันจะไปชินวะ สายตาสอดรู้สอดเห็นมองอยู่ได้ทุก ๆ วัน”

“ก็อย่าไปสนใจดิว้า”
“ใช่ซี่ ก็คุณชายปูน นี่นา ใครว่าอะไรก็ยิ้มนิ่ง ๆ สยบเขาไปหมด สุดท้ายแม่งก็มาเล่นกุคนเดียว กุอายเขานะเว้ย” แรก ๆ ที่พวกแม่งรู้ว่าเราเป็นแฟนกัน แม่งก็แซวกันแบบ วัวหาย บ้านพังกันเลยทีเดียว แรก ๆ พวกมันก็แซวคู่นะเว้ย แต่ไอ้คุณชายมันไม่ได้สะท้านอะไร ใครแซวมาก็ยิ้ม ๆ จนแม่งเลิกแซวกันไปเอง กรรมเลยมาตกที่กุ เพราะยังไง๊ยังไง กุก็ไม่ชินกับการถูกแซวกับผู้ชายว่ะ





“....มึงอายที่มาคบกับกุเหรอ....” เฮ้อ แจ็คพ็อตมาแล่ะ
“หือ อ้าว ไอ้นี่มาซึนอีกแล่ะ กุไม่ได้อายที่คบกับมึง กุก็แค่ ๆ เขินอ่ะ” แค่เขินนะ เรื่องอายไม่มีหรอก คบคุณชายปูนมีแต่จะยืดอ่ะ ขนาดมันมีข่าวคบกับกุที่เป็นผู้ชาย พวกผู้หญิงยังไม่วายตามมันอีกเป็นพรวน บางคนก็มองกุยังกะจะกินเลือดกินเนื้อ หาว่ากุทำให้คุณชายมันเสียคน แม่ง พวกนางไม่รู้อะไรซะแล้ว ไอ้คุณชายมันไม่เสียเว้ย มันได้.................กุจะพล่ามทำไมเนี๊ยะ





“แล้ววันนี้ค้างบ้านมึงได้เหรอ ลุงอี๊ดไปไหนว่ะ” เอ่อ มึงพลิกเร็วไปนะ กลับลำตามเกือบไม่ทัน

“อ้อ พ่อกุไปงานเลี้ยงบ้านเพื่อนไง ได้ยินว่าพ่อมึงก็ไปด้วยนี่หว่า” ใช่แล้ว วันนี้ที่บ้านไม่มีใคร พ่อไม่อยู่ ไอ้เอส ไปเข้าค่าย ทางสะดวก อิ๊ๆๆๆ


“อ่อ นั่นดิ  เมื่อเช้าเหมือนได้ยินพ่อบอกอยู่เหมือนกัน” ชอบเวลาไอ้ปูนมันทำท่าคิด แบบตามองบน แล้วเอานิ้วชี้แตะปาก มึงโครตน่ารักเลยรู้ตัวป่ะ

“ฮ่ะๆๆๆ คนความจำดี ก็มีพลาดได้เหมือนกันเหรอคร๊าบบบ” โมเม้นนี้ กุว่า คืนนี้กุคงทำสำเร็จแน่ เสร็จกู





“พูดมากกุกลับบ้านกุดีกว่า”
“เฮ้ย ไม่อาวๆ ไปนอนกับกุนะ น้าๆๆๆ” อ้อนเข้าไว้ ได้แน่ อิ๊ๆๆๆ



“อือ ไปก็ได้ ว่าแต่ที่บ้านมึงมึไรกินป่ะวะ เริ่มหิวแล้วอ่ะ” เย้ ในที่สุดมันก็ยอมเดินตามมา
“อ้อ มีๆๆๆ มีใส้กรอกกับไข่ 2 ฟอง ฮ่ะๆๆๆ  โอ๊ย”

“เชี่ยปูน โบกกุอีกแล้วนะมึง” โอ๊ย หัวคนนะไม่ใช่ลูกบอล ตบมาอยู่ได้

“ทะลึ่งนะมึง เดี๋ยวกุจะกินให้เรียบเลย” อ๊าย ยกโทษให้ ไอ้ปูนหน้าแดงเป็นลูกตำลึงเลย มันขาวไง ภายใต้แสงจันทร์ ยังเห็นหน้ามันขึ้นสีระเรื่อ ทำมาเป็นอาย กุเห็นตอนมึงรุกกุนี่ ไม่มีคำว่าปราณีเลย


“เฮ้ย วันนี้ไม่มีทางได้กินกุง่าย ๆ หรอกเว้ย” กุล็อกคอมันมาจุ๊บปากมันเบา ๆ ก่อนจะหลิ่วตาท้าทาย

“เอ๊อ กุจะคอยดู” มันก็โอบเอวตอบ เราสองคนสัมผัสกันแผ่ว ๆ ไปตามทางจนขึ้นไปบนบ้าน และมุ่งตรงไปยังห้องนอนของกุ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-05-2019 23:01:11 โดย limpingping »

ออฟไลน์ กาแฟมั้ยฮะจ้าว

  • Let me hug you tight, and I’ll make you feel how important you are.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +570/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด