Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560  (อ่าน 55440 ครั้ง)

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
ระกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


วันที่ 23/12/2558
ใกล้วันคริสต์มาสแล้วสินะ ทั้งเมืองเริ่มประดับตกแต่งด้วยไฟและต้นคริสต์มาส บรรยากาศคึกครื้น แต่ทำไมเรารู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก ในร้านกาแฟตอนนี้มีคู่หนุ่มสาวมานั่งสวีทกันอย่างไม่เกรงใจคนโสดและหน้าตาไม่ดีอย่างเราเลย ฮ่าๆๆ วันนี้ก็ยังคงเป็นอีกวันที่น่าเบือ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
คนคนนั้นยังเหมือนเดิม ยังคงเปล่งประกายและเป็นที่สนใจของคนรอบข้างเหมือนเดิม เราได้เพียงแค่มองดูห่างๆ ทั้งที่เรียนคลาสเดียวกันบ่อยๆ ทั้งที่เค้านั่งห่างกันแค่เพียงนิดเดียว คนคนนั้นก็จำเราไม่ได้ ฮ่าๆ ทำไงได้ละเรามันแค่ไอ้แว่นหน้าตาบ้านๆ มีดีแค่เรียนเก่งเท่านั้นละ
แค่แอบมองก็พอใจแล้ว
ธนา
23/12/2558
 
ผมปิดไดอารี่เก็บเข้ากระเป๋า แล้วหยิบกรีนทีลาเต้มากิน นั่งมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เหมือนกับการรักข้างเดียวที่ทำได้แค่แอบมอง






กดติดตามความเคลื่อนไหว(อันน้อยนิด)และอิมเมจได้ที่

https://www.facebook.com/letter123.writer/
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-02-2017 10:55:07 โดย Letter123 »

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
สายฝนเย็นฉ่ำตอพร่ำมาตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงตอนนี้เวลาเลิกเรียนแล้วยังตกอยู่ ผมเก็บกระเป๋าแล้วเดินเข้าออกจากห้องเรียน เดินเรื่อยๆตามทางเดิน ไอเย็นของสายฝน เสียงฝนตกกระทบ กลิ่นเย็นๆของอากาศทำให้ผมผ่อนคลาย ผมเดินมาถึงที่ประจำ ม้านั่งหลังตึก ยังดีที่ฝนไม่สาดเข้ามา ผมนั่งลงแล้วเปิดกระเป๋าหยิบไดอารี่เล่มเก่าที่หน้ากระดาษเปล่าใกล้หมดแล้ว

            “สงสัยต้องชื้อเล่มหนากว่านี้แล้วละ” ผมบ่นเบาๆก่อนจะกางไดอารี่ นั่งนึกเรื่องราวในวันนี้ อาจารย์สั่งงานอะไรบ้าง สิ่งอะไรใหม่ๆที่ผ่านเขามาในวันนี้ ผมนั่งเขียนอะไรไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายฝนพรำ

            ซ่า

 

            เปียก

           

            บอกได้คำเดียวว่าผมเปียกไปหมดแล้ว เอ่อ ใครแกล้งอะไรผมเนี้ย  ผมเงยหน้าจากการเขียน ผมมองอะไรไม่ชัดเพราะแว่นผมโดนน้ำไปเต็มๆ

            “เฮ้ยย นายเราขอโทษ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่”  ผมกระพริบตาถิ่ๆ ก่อนจะส่ายหน้า ว่าไม่เป็นไร

            ผมลื้อของในเป้เอาผ้ามาเช็ดแว่น แล้วสวมเข้าที่เดิม สมุดผมเปียกหมดแล้ว ผมถอนหายใจ ได้ชื้อใหม่เร็วกว่าที่คิดแฮะ สลัดไล่น้ำออกแล้วยัดลงกระเป๋า ในเมื่อเปียกแล้วก็เดินตากฝนกลับบ้านเลยละกัน

            “เฮ้ๆๆ นาย” เสียงเรียกตามหลังทำให้ผมหันกลับไปมอง

            “เราขอโทษที่เมื่อกี้สาดน้ำลงมาเราไม่นึกว่านายอยู่ตรงนั้น”

            “เอ่อไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่มีไรแล้วไปนะครับ” ผมโค้งแล้วเดินออกไปตากฝนเล่นกลับบ้าน ว้าวเย็นจัง ไม่ได้เล่นน้ำฝนมานานแล้วนะเนี้ย รำคาญก็แต่แว่นนี่ละ วันนี้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเหมือนกันนะเนี้ย

 

            “ป่าทำไมตากฝนกลับบ้านละลูก”  แม่ตกใจทันทีที่เห็นผมตัวเปียกซกมายืนอยู่หน้าประตู

            “ป่าแค่นึกสนุกนะครับ” ผมยิ้มพร้อมรับผ้าขนหนูมาเช็ดผม

            “ไม่ได้นะเดี๋ยวไม่สบายมาจะทำไง ไปอาบน้ำไปเดี๋ยวแม่ชงน้ำขิงให้”  ผมเดินขึ้นห้องของตัวเองอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เสร็จแล้วมานั่งลื้อของออกจากกระเป๋า เอาผ้าขนหนูซับน้ำออกจากไดอารี่และหนังสือเรียนที่เปียกไปด้วยนิดหน่อย พอรู้สึกว่ามันไม่มีน้ำแล้วก็เดินลงไปเปิดตู้เย็นแล้วเอาทั้งหมดยัดเข้าไปในช่องแช่แข็ง

            “น้ำขิงแม่วางบนเค้าเตอร์ในครัวนะลูกแม่เข้าไปเขียนบทความส่งกองก่อนนะ” ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรแม่ก็หายเข้าไปในห้องเรียบร้อย

            “อ่าไม่ชอบน้ำขิงเลยให้ตายเถอะ” รสชาติไม่เท่าไหร่แต่กลิ่นนี่ทำเอาจมูกผมทนไม่ไหว

            ผมเดินกลับไปห้องนอนลื้อตู้เก็บหนังสือเพื่อหาไดอารี่เล่มเก่าที่ซื้อมาเก็บไว้มันเล่มใหญ่ไป ถึงรูปเล่มจะดูสวยก็เถอะ

 

            10/09/2553

            วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เราได้เจอเค้าคนนั้น ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกตินัก ผมไม่โกรธใครหรอกนะเรื่องที่โดนน้ำสาดเมื่อก่อนกลับนี้ ถึงคนที่สาดจะไม่ใช่คนคนนั้นก็ตาม ก็ตรงนั้นมันไม่ค่อยมีใครผ่าน มีใครมานั่งนอกจากเรา ลงท้ายเราก็ได้เอาเล่มนี้มาเขียน

            เราแอบชอบมานานเท่าไหร่แล้วนะ รู้ตัวอีกทีสายตาก็คอยแอบมอง จนบางครั้งก็คิดว่าตัวเองแอบโรคจิตรึเปล่าเนี้ย 555 ผมแอบชอบผู้ชาย ตอนแรกก็รู้สึกแปลกทั้งที่ไม่เคยมองใครหรือผู้ชายคนไหน หลงรักครั้งแรกดันเป็นผู้ชายซะอย่างนั้น

            ขอแค่ได้แอบมอง ขอแค่ได้แอบชอบ

            ได้แอบรักห่างๆก็พอแล้ว

            ธนา

 

            10/09/2553

 

 

---------------------------------------------

แอบมาลง ก่อนนะคะ

อาจจะช้าหน่อยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-07-2016 19:18:24 โดย Letter123 »

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 2 : Time
«ตอบ #2 เมื่อ29-07-2016 15:26:10 »

หลังจากที่ฝนตกทั้งวันทั้งคืน รุ่งเช้าหน้าบ้านผมก็กลายเป็นคลองอัมพวา เนื่องจากปริมาณน้ำที่มากเกินที่จะระบายได้ทัน แล้วผมจะไปโรงเรียนได้ยังไงคุณแม่ก็ยังไม่ตื่นสงสัยว่าเมื่อคืนคงปั่นต้อนฉบับทั้งคืนแน่ๆ ที่ผมชอบเขียนบันทึกนี่ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณแม่ เมื่อคิดได้ว่าคงออกไปโรงเรียนไม่ได้แล้ว ผมเลยโทรแจ้งอาจารย์ที่ปรึกษาว่าจะเข้าเรียนช้าชักหน่อยรอให้น้ำลดพอที่ผมจะปั่นจักรยานที่พึ่งได้คืนมาเมื่อวานไปโรงเรียนได้

            “ผมไปเรียนก่อนนะครับพ่อ” ผมยกมือไหว้รูปคุณพ่อที่วางไว้บนชั้นวาง สะพายกระเป๋าล็อกประตูบ้านเพราะกว่าแม่จะตื่นก็คงตอนผมเลิกเรียนพอดี แล้วไปจูงจักรยานคู่ใจปั่นไปโรงเรียน

            เพราะน้ำท่วมคนส่วนมากก็จะใช้รถยนต์เพื่อการเดินทางผมเลยต้องคอยระวังสึนามิที่บางทีคนขับก็ไม่ระวังและไม่ได้ปราณีคนเดินถนนเลยแม้แต่น้อย ยังดีที่ผมออกสาย น้ำเริ่มลดเหลือแค่เพียงท่วมปริ่มๆเท้าเท่านั้นแต่ก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดีถ้าขับมาเร็วๆ ด้วยการปั่นจักรยานอย่างระมัดระวังที่เต่ายังเดินแซงได้ของผมก็มาถึงโรงเรียน นี่ขนาดในโรงเรียนยังมีน้ำขัง ผมปั่นจักรยานเพื่อไปโรงเก็บรถที่อยู่ด้านหลังตึงใหญ่

            บรืนนนนนน

            ซ่า...........

            สงสัยผมคงมีดวงสมพงษ์กับน้ำนะครับ รถคันหรูที่ขับมาเร็วเหยียบน้ำสาดใส่ผมเต็มๆเหมือนโดนใครคว่ำถังน้ำราดใส่ตัวยังไงยังงั้น เปียกไปทั้งตัวยังดีที่ผมเปลี่ยนกระเป๋าเป็นกระเป๋าหนังสีดำ น้ำเลยไม่ได้ทำร้ายของในกระเป๋าเท่าไหร่คงต้องไปห้องพยาบาลก่อนล่ะนะ ผมปั่นจักรยานไปจนเจอรถต้นเหตุและคนขับกำลังจะลงจากรถ

            “เอ่อ ขอโทษนะครับ” ผมจอดจักรยานแล้วเดินเข้าไปหา

            “เฮ้ย ทำไมเปียกงั้นวะ” อ่าเป็นคนเดียวกับที่สาดน้ำใส่ผมเมื่อวาน

            “คราวหน้าขับรถเบาๆกว่านี้นะครับจะได้ไม่สาดน้ำใส่คนอื่น อีกอย่างขับเร็วแบบนั้นมันอันตรายนะครับ” ผมบอกเสียงเรียบๆ เค้าทำหน้าประหลาดใจ ผมเลยเดินไปจูงจักรยานไปจอดในโรงจอดรถ ในเมื่อเปียกแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องปั่นละ แล้วผมก็เดินขึ้นตึกเรียน เพื่อนไปห้องพยาบาล

            “เฮ้ นายๆ” เสียงเรียกตามหลังผมมา แต่ผมก็เลือกที่จะไม่สนใจ

            “เรียกแล้วไม่ได้ยินเหรอวะ” มือหนางดึงแขนผมไว้จนผมเซ

            “ได้ยินครับแต่ผมไม่ได้ชื่อนายแล้วอีกอย่างผมต้องรีบไปห้องพยาบาลก่อนที่พื้นจะเปียกกว่านี้” ผมอธิบายให้คนตรงหน้าฟังเพราะใบหน้านั้นแสดงอารมณ์หงุดหงิดจนเห็นได้ชัด

            “นี่ซื่อหรือตั้งใจกวนวะเนี้ย” ผมไม่สนใจคำค่อนแคะของเค้า ผมดึงมือหนาออกแล้วเดินไปห้องพยาบาล ไม่สนใจคนตรงหน้า

           

            “อาจารย์ครับ สวัสดีครับพอจะมีเสื้อให้ผมเปลี่ยนไหมครับ” ผมถามอาจารย์ห้องพยาบาลที่ตอนนี้กำลังนั่งเล่นเกมในมือถืออยู่

            “ป่า!!! ทำไมตัวเปียกอย่างนี้หือ” อาจารย์ขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปบนโต๊ะ

            “มีอุบัติเหตุนิดหน่อยครับอาจารย์” ผมบอกปัดก่อนที่จะวางกระเป๋าไว้ที่พื้น

            “บอกให้เรียกพี่ป่านไง” พี่ป่านทำหน้ามุ่ย นี่เค้าคิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่กัน แต่ก็ยังดีเดินไปหาเสื้อผ้าให้ผมเปลี่ยนพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหญ่ ที่มาขอจากพี่ป่านเพราะแกเป็นคนซุ่มซ่ามเลยมีติดห้องไว้ประจำ เช่นตอนนี้ที่เดินไปนั่งยังสามารถสะดุดขาตัวเองได้

            “ขอบคุณครับพี่ป่าน” ผมส่งยิ้มบางๆให้

            “แล้วนายต้องการอะไรเห็นยืนรอนานแล้ว” หันไปมองก็เจอคนเดิมเพิ่มเติมคือความหงุดหงิด ผมไม่สนใจก่อนที่จะเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำของห้องพยาบาล

            พออกมาก็เจอกับเค้าที่นั่งเล่นอยู่บนโต๊ะอาจารย์ แล้วพี่ป่านไปไหนละ

            “ขอโทษด้วยนะพอดีเรารีบไปไม่ทันได้มองเลย”

            “ไม่เป็นไรครับ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียงแล้วเช็ดผม

            “นายชื่อป่าใช่ไหมอยู่ห้องไหน” ผมเหลือบมอง

            “ใช่ครับอยู่ห้องสอง” 

            “อ่าวห้องเดียวกันเองเหรอ เราชื่อแม็คนะ” ผมพยักหน้าแค่ชื่อเค้าผมรู้อยู่แล้วก็ดูโดดเด่นขนาดนั้นนับอะไรกับผมละแค่ห้องเดียวกันเค้ายังจำหน้าผมไม่ได้เลย

            “เป็นอะไรกับอาจารย์ป่านอ่ะ”

            “เป็นลูกพี่ลูกน้องนะครับ”

            “จริงดิไม่เห็นเหมือนกันเลย” ลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่แฝดนะครับ คนละพ่อและแม่นะครับไม่ใช่พ่อแม่เดียวกันนี่เอาอะไรคิด

            “นี่หลอกด่าในใจป่ะ” ผมส่ายหน้า ซักพักพี่ป่านก็กลับเข้ามาพร้อมกับไล่แม็คกลับไป ส่วนผมก็โดนบังคับให้กินยาแล้วนอนที่ห้องพยาบาลจนถึงเลิกเรียน ตกลงผมมาโรงเรียนทำไมครับ

            จนถึงเวลาเลิกเรียนพี่ป่านก็บังคับให้ผมไปขึ้นรถกลับบ้านด้วยกัน ก่อนที่จะลงจากรถก็ยังยัดถุงยาใส่มือผมบังคับให้ผมกินตามเวลาอีกต่างหาก ผมทำได้เพียงถอนหายใจ

            เข้าบ้านมาเหมือนกับแม่จะไม่อยู่บ้านหรือว่า

            .

            .

            ผมรีบเดินขึ้นไปห้องแม่ ก็เห็นโพสอิทของแม่แปะไว้หน้าคอม

            “ป่าครับแม่ขอไปหาแรงบันดาลใจชักสองอาทิตย์นะ

            แม่โอนเงินเข้าบัญชีไว้ให้แล้วนะครับ

                                                                        รัก”

            ผมถอนหายใจแล้วเดินเข้าห้องไปเก็บของนั่งเขียนไดอารี่ของวันนี้

 

            12/10/2553

                        วันนี้แม่ก็หนีผมไปเที่ยวอีกแล้วตั้งแต่ที่พ่อเสียไป แม่ก็มักจะออกไปหาแรงบันดาลใจเดือนละครั้งสองครั้ง ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ เพราะมันเป็นความสุขของแม่ ฮ่าๆๆ อีกอย่างผมก็ชินแล้ว

                        อีกครั้งที่ได้เจอแม็ค แล้วเป็นเหตุการณ์ที่ผมต้องเปียกทุกครั้งไป ผมซวยจริงๆวันนี้ทั้งวันผมทำได้แต่นอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลมันเป็นความรู้สึกที่แย่จนไม่อยากจะนึกถึงเลยละ ทั้งๆที่ไม่เป็นอะไรแล้วแต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี

 

                        ขอเวลาผมหน่อยเถอะนะ ให้เวลาผมมากกว่านี้

------------------------------------------------------------------------------

แอบมาลงเรื่องนี้ อีกตอน อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้าาาา

ออฟไลน์ golove2

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +277/-6
Re: Love Diary รักที่แอบมอง 29/7/2559
«ตอบ #3 เมื่อ29-07-2016 15:39:57 »

ติดตามน้องป่าต่อค่ะ

 :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 3 : Stay
«ตอบ #4 เมื่อ30-07-2016 15:52:15 »

            วันนี้วันเสาร์ อากาศดีมากๆเลยละครับ กลิ่นหอมของขนมปังที่ร้านขนมข้างบ้านที่พึ่งมาเปิดใหม่ลอยตามลมมา ผมซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ถึงกับหิวเลยอ่า หอมจังเลย สงสัยผมจะได้ไปอุดหนุนซะแล้ว ผมเก็บสายยางเรียบร้อยแล้วเดินเข้าบ้านไปหยิบกระเป๋าตังแล้วเดินไปร้านขนมข้างบ้าน

            กรุ๊งกริ๊ง  เสียงกระดิ่งดังทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป กลิ่นขนมอบตลบอบอวนไปทั้งร้าน อ่าหิวชะมัด

            “เอ่อสวัสดีครับ มีใครอยู่ไหมครับ”

            “ครับ รับอะไรดีครับ” เจ้าของร้านเดินออกมาในสภาพหัวเต็มไปด้วยแป้ง

            “ครับผมเอาชูครีมกับขนมปังธัญพืชครับ” พี่เจ้าของร้านรีบเดินมาหยิบขนมใส่กล่อง

            “ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ”

            “ครับ” ผมยิ้มแล้วถือกล่องขนมกลับบ้าน ชงกาแฟซักแก้วนั่งกินกับชูครีม อ่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ ผมต้องจองร้านขนมร้านนี้ไว้แล้วนะครับ อร่อยมาก แป้งนุ่มลิ้น แล้วครีมนี่มันสวรรค์ชัดๆนุ่มละลายในปากทันที ในครีมนี่มีอัลมอลต์ผสมอยู่ด้วย มีความสุขมากๆเลยนะครับ

            ปิ๊งป่องๆๆๆๆ

            เสียงกดกริ่งแบบนี้มีเพียงคนเดียวในโลกครับ พี่ป่าน ลูกพี่ลูกน้องคนเดียวของผม

            “มีอะไรเหรอครับพี่ป่าน”

            “ป่าคร๊าบบบบบ ไปเที่ยวกัน” ผมคอตกนีมาแต่เช้าเพื่อชวนผมไปเที่ยวเนี้ยนะ

            “ว่างเหรอครับพี่ป่าน” ผมถามเบื่อหน่าย

            “ไม่ว่างแต่อยากไปเที่ยว” ชัดเจนและตรงตัว ถ้าผมปฏิเสธไปพี่ป่านก็จะโวยวายและกวนผมได้ทั้งวันจนผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมเลยตอบตกลงแล้วบอกให้พี่ป่านรอผมอยู่ด้านล่าง ส่วนผมเลยขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอผมลงมาพี่ป่านก็กินชูครีมจนหมด

            “ป่าไปชื้อชูครีมมาแต่ไหนอ่ะ อร่อยมาก”

            “ข้างบ้านไงพี่ป่าน ว่าแต่พี่ป่านจะเที่ยวไหนครับ”

            “ไปเดินห้างกัน” ห๊ะเดินห้างเนี้ยนะครับ ปวดหัวจริงๆกับความคิดของคนๆนี้ นี่อายุมากกว่าผมจริงเหรอ

            พี่ป่านขับรถไปถึงห้างดังใจกลางกรุงเทพ ทั้งคนที่อึกทึกและรถที่เยอะแยะ ความวุ่นวายทำให้ผมเบื่อหน่าย อยากกลับไปนอนที่บ้านแล้ว พี่ป่านพาผมเดินเที่ยวห้าง เข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนผมเวียนหัว

            “พี่ป่านครับพักก่อนนะครับ” ผมหายใจหอบ พี่ป่านคงดีใจมากที่ผมออกมาเที่ยวด้วยจนลืมไป

            “ป่าพี่ขอโทษนะเราไปนั่งพักที่ร้านอาหารก่อนนะ” ผมพยักหน้า พี่ป่านทำหน้าเครียดที่ผมมีอาการหอบ เราเข้าไปนั่งในร้านอาหารพี่ป่านรีบขอน้ำเปล่าจากพนักงานแล้วค้นเอายาในกระเป๋าเป้ของผม เอายาให้ผมทาน ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจเพื่อให้ลมหายใจของผมปรับให้เป็นปกติ

            “พี่ขอโทษนะป่า พี่ไม่น่าเดินเพลินเลย” พี่ป่านมีสีหน้าเครียด ผมส่ายหัวเชิงว่าไม่เป็นไรผมหายใจเป็นปกติเลยชวนพี่ป่านกินข้าวเลยดีกว่าพวกเรากินข้าวให้เรียบร้อยแล้วพี่ป่านตัดสินใจที่จะพาผมกลับบ้าน พี่ป่านส่งผมถึงบ้านเรียบร้อยผมบอกให้พี่ป่านกลับบ้านแต่พี่ป่านดื้อแพ่งเพราะเป็นห่วงอาการผม ผมได้แต่ถอนหายใจยอมรับชะตากรรมผมเลยขึ้นบ้านไปนอนพัก

 

            อึดอัด ร้อน

            ผมรู้สึกทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ท้ายที่สุดผมก็ไม่สบายสินะครับเนี้ย ผมพยายามที่จะลุกแต่อาการมึนหัวก็จู่โจมทันทีที่ผมลุกขึ้นจนต้องทรุดลงนอนกับเตียงเหมือนเดิม นอนซักพักคงจะดีขึ้น.........ละมั้ง  ผมนอนหลับตานิ่งเพราะไม่สามารถขยับไปไหนได้

            “เฮ้ยทำไมตัวร้อนงี้วะ” ผมได้ยินเสียงแว่วๆพร้อมกับสัมผัสเย็นๆที่หน้าผาก ก่อนที่จะได้ยินเสียงวิ่งโครมคราม ซักพักก็มีผ้าเย็นๆวางที่หน้าผาก เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกายของผม

            “ป่า กินข้าวรึยัง” เสียงทุ้มถามผม ใครกันเสียงไม่คุ้นเลยจริงๆ ผมขยับปากเพื่อบอกว่าผมยังไม่ได้ทานอะไร แต่ลำคอแห้งผากแทบไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา ผมเลยส่ายหน้าเป็นคำตอบ

            “เราว่านายไปหาหมอเถอะนะ เดี๋ยวเราพาไป”  ผมรีบยกมือคว้า

            “มะ.....ไม่ ไม่ไป แค่กๆๆ” เหมือนใช้พลังงานหมดเพียงแค่พูดสองคำ ผมได้ยินเสียงถอนหายใจ

            “งั้นเดี๋ยวเราไปชื้อข้าวก่อนนะ” ผมได้ยินเสียงเปิดประตูออกไป ใครกันนะแต่ถ้าเข้าบ้านมาได้ก็แสดงว่าพี่ป่านคงให้เข้ามาพี่ป่านไปรบกาวนใครกันนะ ผมนอนรอจนเผลอหลับไป

 

            “ป่าๆ ลุกขึ้นกินข้าวก่อนนะ” ผมพยายามลืมตาแต่เปลือกตานั้นหนักอึ้งทำได้แค่พยักหน้า วงแขนแกร่งพยุงให้ผมนั่งพิง

            “อ้าปากนะ” ผมอ้าปากรับโจ๊กอุ่นๆ แต่ผมไม่สามารถรับรสอะไรได้ มันรู้สึกขมและกลืนยากเกลียดเวลาไม่สบายจริงๆ

            “กินอีกนิดนะจะได้กินยา” ผมพยักหน้าก่อนที่จะพยายามกินโจ๊กจนรู้สึกว่าท้องผมไม่ไหวแล้ว

            “กินยานะนี่พี่ป่านบอกไว้” ผมอ้าปากรับยาที่ป้อนแล้วก็น้ำ แล้วผมก็นอนพัก

            ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เย็นมากแล้วอาการปวดหัวและตัวร้อนดีขึ้นมาก ผมลุกลงจากเตียง เหนียวตัวจริง ผมเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยผมเดินลงมาด้านล่าง ก็ได้ยินเสียงทีวีที่เปิดไว้ ผมเดินไปดูก็เห็นแม็คนอนหลับอยู่บนโซฟา เฮ้ยมาได้ไงเนี้ย นี่ผมฝันไปรึเปล่า ผมลองดึงแก้มตัวเองดู โอ๊ย เจ็บแฮะ ไม่ได้ฝันไปหรอกเหรอ

            “แม็คๆ ตื่นเถอะ” ผมเขย่าตัว แม็คงัวเงียลุกขึ้นนั่ง

            “อ่าวป่านายเป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง” พูดเฉยไม่ได้ใช่ไหม แม็คยกมือมาวัดไข้ให้ผม “ทำไมยังหน้าแดงๆอยู่” ผมเบี่ยงหน้าหลบสัมผัสที่ได้รับ

            “เราดีขึ้นแล้ว ว่าแต่นายทำไมถึงได้เข้ามาบ้านเรา”

            “อ้อ เรากลัวว่านายจะไม่สบายที่เราเหยียบน้ำใส่นายเลยโทรหาพี่ป่าน เราเลยได้มาหานายที่บ้าน พอมาถึงพี่ป่านก็บอกให้เราขึ้นไปดูนายส่วนพี่ป่านโดนใครลากไปก็ไม่รู้” ผมพยักหน้ารับรู้ พี่ป่านจะเป็นไรไหมนะเห็นแบบนั้นแต่ก็เป็นพี่ชายที่ดีคอยดูแลผมเสมอ

            “นายหิวรึยังเดี๋ยวเราทำกับข้าวให้”

            “เฮ้ยไม่ต้องก็ได้นายพึ่งหายเองนะ”

            “ไม่เป็นไรเราดีขึ้นมากแล้ว เราหายเร็วนะ” ผมเลือกที่จะไม่ฟัง เดินเข้าครัวไป ยังดีที่เมือวานผมไปเดินตลาดซื้อของสดมาไว้ในตู้เย็นไม่งั้นวันนี้คงไม่พ้น มาม่า แน่นอน ผมหุงข้าว เอาหมูบดออกจากตู้เย็น เห็ดหอม ผักบุ้งออกมา

            “ให้เราช่วยไหม” ผมพยักหน้าก่อนจะบอกให้แม็คล้างผักบุ้งและเด็ดผัก ผมหันไปตั้งหม้อต้มน้ำซุปแบบง่ายๆแล้วโคลกหมูกับกระเทียม พริกไทย รากผักชีรวมกัน แล้วตักเป็นก้อนพอดีคำ

            “เสร็จแล้วนะป่า โห หอมอ่ะป่านี่ทำกับข้าวเก่งนะ” ผมสะดุ้งที่อยู่ๆแม็คก็มายืนอยู่ด้านหลัง ผมผงะไปปเล็กน้อย

            “เอ่อพอดีเราทำเองตลอดเวลาแม่ออกไปเที่ยวนะ” ผมหันไปผัดผักบุ้งอีกจาน เสร็จแล้วก็ช่วยกันยกไปตั้งโต๊ะ ผมตักข้าวใส่น้ำซุปเป็นข้าวต้ม ผมชอบทำแบบนี้มันดูข้าวไม่ๆเละ ผมนั่งกินเงียบๆ

            “ป่านายนี่สุดยอดเลยเรียนก็เก่งแถมทำกับข้าวอร่อยอีก”

            “เวอร์แล้วครับ ใครๆก็ทำได้” ผมตอบเขินๆ เรานั่งทานกันเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บจนมาช่วยกันล้างจานเก็บเรียบร้อย

            “งั้นเรากับละนะ” ผมเดินไปส่งที่หน้าบ้าน

            “เราขอบคุณนายมากนะสำหรับวันนี้ ขอโทษที่รบกวนนายด้วยนะ”  แม็คยิ้ม

            “ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรป่าโทรหาเราได้เลยนะเราเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้แล้ว” แม็คบอกผมก่อนที่ขึ้นรถแล้วขับออกไป

            ผมเดินกลับเข้าไปในบ้านล็อกประตูให้เรียบร้อย แล้วเดินขึ้นห้องไป กางไดอารี่ก่อนทีจะจรดปลายปากกาลงไป

            13/10/2553

            วันนี้พี่ป่านลากออกไปข้างนอกแต่เช้ากลับมาดันเป็นไข้ไปซะได้ ที่สำคัญพี่ป่านก็ไม่รู้หายไปไหน โทรติดต่อก็ไม่ได้ หวังว่าวันจันทร์จะเจอพี่ป่านที่โรงเรียน มีเรื่องให้ผมประหลาดใจได้ตลอดคนๆนี้ วันนี้ผมโชคดีมากจนนึกว่าผมฝันไป นี่ผมใช้โชคดีตลอดทั้งปีมาเพื่อแค่ช่วงเวลานี้ใช่ไหม มันเป็นโชคดีที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นจริง การที่เค้าได้มาอยู่ใกล้ๆผม ได้อิงแอบซบไหล่อ่าอายจริงๆ  มีความสุขที่สุดเลย พระเจ้าท่านประทานความสุขให้ผมเกินไปแล้ว จนผมไม่สามารถตัดใจได้เลย ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริงๆผมจะสามารถตัดใจได้ไหม

                                                                                    ธนา

 

 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่3 30/7/2559
«ตอบ #5 เมื่อ30-07-2016 17:55:45 »

อืมมมมมมมม

ตอนแรกป่านเขียนในสมุด บอกว่าคนที่สาดน้ำไม่ใช่ "คนคนนั้น"
แต่ตอนสามนี่ประมาณว่าแอบชอบแม็ค

เราเข้าใจถูกไหมคะนี่??  :really2:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่3 30/7/2559
«ตอบ #6 เมื่อ31-07-2016 08:42:55 »

อืมมมมมมมม

ตอนแรกป่านเขียนในสมุด บอกว่าคนที่สาดน้ำไม่ใช่ "คนคนนั้น"
แต่ตอนสามนี่ประมาณว่าแอบชอบแม็ค

เราเข้าใจถูกไหมคะนี่??  :really2:
เง้อออ ต่อให้คนที่สาดไม่ใช่แม็คค่ะ ป่าก็ไม่โกรธ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 4 : change
«ตอบ #7 เมื่อ31-07-2016 10:59:35 »

วันนี้เป็นวันจันทร์ผมอาการดีขึ้นมากแล้วจากวันที่ไม่สบายไปเมื่อวันเสาร์ เพราะได้การดูแลจากแม็ค ผมอบคุกกี้ไว้แต่ก็ชั่งใจว่าจะเอาไปให้ดีไหม ถ้าให้ไปแม็คจะยอมทานรึเปล่า จะดูแปลกๆไหมที่อยู่ๆผู้ชายอบคุกกี้ไปให้ผู้ชายอีกคน ผมเอากล่องคุกกี้ใส่กระเป๋า ล็อคประตูบ้านให้เรียบร้อย คุณแม่ยังไม่กลับมาเลยละครับสงสัยครั้งนี้จะไปยาว เพราะพึ่งโอนเงินเข้าอีกเมื่อวานตอนเย็น ท่าทางคุณแม่จะได้ไอเดียในการเขียนคอลัมน์คงกำลังสนุกสินะ ผมปั่นจักรยานไปโรงเรียน

            เสียงจอแจของนักเรียนที่โวกเวกก่อนเข้าเรียน ผมเดินเข้าห้องโดยไม่มีใครสังเกตเห็น เดินไปนั่งที่โต๊ะของผมที่นั่งริมหน้าต่างหลังห้อง อืมผมชอบที่นั่งนี้ที่สุดเลย ผมวางกระเป๋าก่อนจะหยิบหนังสือเรียนคาบแรกออกมาอ่าน ผมไม่ได้ขยันอะไรหรอกนะครับมันก็แค่ฆ่าเวลาไปงั้น

            “เฮ้ทำไรอยู่นะ” เสียงร่าเริงสดใสดังขึ้นผมเงยหน้าจากหนังสือ ก็เห็นแม็คยืนอยู่ผมมองไปรอบๆเพราะนึกว่าแม็คคงทักเพื่อนที่อยู่ด้านหลังผม

            “เราทักป่านั่นละหันหาใครละนั่น” แม็คพูดขำๆ ก็ใครจะไปรู้ละว่าทักผม ปกติก็ไม่มีใครทักผมอยู่แล้ว

            “เอ่อมีอะไรกับเราเหรอ” ผมถาม ขณะที่แม็คนั่งลงตรงข้ามผม

            “เป็นไงบ้างรู้สึกดีขึ้นไหม” ผมพยักหน้าเชิงบอกว่าผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว

            “นั่นแม็คไปคุยกับใครนะ ใช่นายจืดไหม” เสียงซุบซิบที่เหมือนจะไม่ได้เกรงใจว่าผมจะได้ยินรึเปล่า เอ่อนั่นละครับ ผมเป็นคนจืดๆไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ก็อย่ามายุ่งกับชีวิตผมสิ

            “นี่เราคุยกับป่าอยู่นะเงยหน้าหน่อยสิเราไม่ได้คุยกับผมนายนะ”

            “เอ่อจะคุยอะไรละครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองแม็ค

            “นายสายตาสั้นมากเลยเหรอ” แม็คเท้าคางถามผมด้วยความสงสัย ว่าแต่อยากรู้ไปทำไมเนี้ย

            “ก็ราวๆสองร้อยกว่าๆนะครับ” ผมว่าพลางขยับแว่น มันสั้นมาตั้งแต่ประถมแล้ว

            “ไหนลองดูหน่อยชิ” จู่แม็คก็ยืนมือมาแย่งเอาแว่นผมไป เฮ้ย!! ผมยืนมือไปแย่งคืน แต่ก็วืด ผมต้องแพ่งมองแต่ก็เห็นลางๆ

            “โหหห หนามากเลยอะ โอ๊ยเวียนหัว” ก็แน่ละคนสายตาปกติมาใส่แว่นของคนสายตาสั้นสมน้ำหน้าดีไหมเนี้ย

            “เอาคืนมาเถอะครับ” ผมยอมอ้อนวอน เพราะตอนนี้มันแย่มากผมมอเห็นแค่ลางๆ

            “อืมนายไม่ใส่แว่นแล้วดูดีกว่านะ” แม็คว่าก่อนจะคืนแว่นให้ผม ผมรีบคว้าแว่นมาใส่

            “เอ่อเดี๋ยวนะครับแม็ค ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงที่ช่วยดูแลผมวันนั้น เลยอบคุกกี้มาตอบแทนไม่รู้ว่านายจะชอบไหม” ผมบอก

            “เฮ้ยไหนๆเราชอบกิน” แม็คดูกระตือรือร้นทันทีที่ผมบอก ผมหยิบกล่องคุกกี้ออกมาแล้วยืนให้แม็ค แม็ครับไปก็แกะออกทันที เดี๋ยวนะมันอยู่ในห้องเรียนอยู่เลยนะ ทันทีที่เปิดกล่องกลิ่นคุกกี้เนยก็ฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง  ผมห้ามไม่ทัน ทุกคนในห้องหันมามอง

            “เฮ้ยหอมวะไอ้แม็คมึงกินไรวะ”  เพื่อนคนหนึ่งน่าจะเป็นเพื่อนสนิทของแม็คเพราะเห็นไปไหนด้วยกันบ่อย

            “ของกูเว้ยดูได้มืออย่าต้อง” แม็คปิดกล่องหนีมือเพื่อน

            “อะไรวะหวง นี่นายยังมีเหลือไหมอ่ะ โคตรหอมเลย หิวเลยวะ” ผมสะดุ้งที่อยู่ๆเค้าก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ผม จริงๆก็ยังมีคุกกี้เหลืออีกอยู่ในกระเป๋าอีกอยู่

            “ฮ่าๆๆ ดูป่าทำหน้างงสิไอ้สนิทมึงไปแกล้งป่าไมวะฮ่าๆ” แม็คหัวเราะลั่นที่เห็นผมทำหน้างง ผมทำหน้างงตอนไหน

            “สัส สนิทนี่พ่อกูไอ้เวร  ป่าใช่ไหมอย่าสนใจไอ้แม็คมัน เรากล้านะ” กล้ายิ้มเป็นมิตรให้ผม ผมยิ้มบางๆตอบ แล้วยื่นถุงขนมให้กล้า ที่พอรับก็แกะแล้วหยิบเข้าปาก เคี้ยวแล้วทำหน้าฟิน

            “โคตรอร่อยเลยป่า แล้วทำไมป่าต้องทำมาให้มันด้วย” กล้าชี้มือไปทางแม็ค

            “เอ่อ พอดีเมือวันก่อนเราไม่สบาย แม็คช่วยดูแลเรา เราเลยทำขนมมาตอบแทนที่แม็คช่วยดูแลเรานะ”

            “แล้วมึงไปดูแลป่าได้ไงวะ” ผมสะดุ้งเพราะจู่ๆกล้าก็นั่งลงข้างๆผมแถมยังเอามือกอดคอผมอีก

            “กูไม่ระวังสาดน้ำใส่ป่าสองครั้งเลยไปเยี่ยม เจอป่าไม่สบายอยู่พอดี” แม็คตอบพลางกินขนมไป

            “มึงไม่ระวังเหี้ยไรวะสาดน้ำใส่ป่าตั้งสองครั้ง ทนได้ไงห๊ะป่าเป็นเรานี่มันไม่ได้มานั่งกินขนมแบบนี้หรอกนะ”

            “มันเป็นอุบัติเหตุนะเราไม่ได้โกรธอะไร”  พอผมพูดจบ กล้าทำหน้าตกใจอ้าปากค้างแล้วทำหน้าเศร้า

            “ป่านายนี่เป็นคนดีจริงๆเลย” กล้าทำหน้าเศร้าแล้วซบหน้าลงกับไหล่ผม

            “มากไปมากไป ไปเกาะแกะอะไรป่านักหนา” แม็คลุกมาตบหัวกล้าจนกล้าตกจากเก้าอี้ ผมทนไม่ไหวจนอดขำไม่ได้ สองคนนี่สนิทกันจริงๆ

            “ฮ่าๆๆ” ผมไม่ได้หัวเราะอย่างนี้มาก็นานแล้วนะ สองคนนั้นเลิกที่จะแกล้งกันไปมาแล้วหันมามองหน้าผม

            “ป่านายหัวเราะ” กล้าทักผม ผมหยุดขำแล้วทำหน้าเชิงว่าผมหัวเราะไม่ได้เหรอ

            “นายดูดีนะถ้านายยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ” แม็คบอกผม ผมรีบก้มหน้าลงผมหน้าที่ยาวบังใบหน้าที่ขึ้นสีตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ผมดูดีจริงๆนะเหรอ ผม.......

            “เฮ้ เป็นไรรึเปล่า” แม็คถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ผมรีบเงยหน้า ส่ายหน้าเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

            ผมเปิดหนังสืออ่านทบทวนไปเรื่อย สองคนนั่นก็นั่งแย่งขนมทั้งๆที่มันก็มีเยอะนะแต่แม็คก็ยังไปแย่งกล้ากิน วันนี้โฮมรูมอาจารย์ไม่เข้าทุกคนในห้องเลยนั่งเล่นนั่งคุยกันเจี๊ยวจ๊าว ผมสร้างโลกส่วนตัวนั่งอ่านหนังสือเรียบร้อย ว่าแต่สองคนนั่นยังนั่งอยู่ตรงนี้อีกเหรอ

            “เฮ้ป่านั่งอ่านอะไรตั้งนาน”

            “เฮ้ ป่า ป่าได้ยินไหมนิ” ผมเงยหน้ามอง

            “เอ่อมีไรเหรอครับ”

            “ที่เราถามนี่ไม่ได้ยินเลยใช่ป่ะ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบที่แม็คถาม แม็คถอนหายใจแรงๆทีหนึ่ง

            “เราถามป่าว่านั่งอ่านอะไรอยู่”

            “อ้อ เรานั่งอ่านเนื้อหาที่จะเรียนนะ” แม็คทำหน้าอึ้งๆ

            “ขยันจังนะ อืมถ้าจำไม่ผิดป่าได้ท็อปของชั้นปีตลอดเลยใช่ป่ะ” เอ๋จำได้ด้วยเหรอ แม็คจำได้ด้วย

            “ไม่ขนาดนั้นหรอกนะเราแค่ว่างเลยอ่านเล่นๆนะ”

            “อ่านหนังสือเรียนนี่นะอ่านเล่นๆ แปลกคนจริงๆ” ผมยิ้มรับคำว่าแปลกของแม็ค กล้ายิ้มแปลกๆก่อนจะลุกออกจากที่นั่งแล้ววิ่งไปที่โต๊ะค้นกระเป๋าหยิบหนังสือกับสมุดมา

            “ป่า......... ช่วยสอนนี่ให้เราที” กล้าวางหนังสือฟิสิกส์ลง

            “อ้อได้สิ” ผมพยักหน้าแล้วก็ติวให้กล้า ซึ่งกล้าตั้งหน้าตั้งใจฟังผมอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ

ผมอธิบายไปเรื่อยๆ

            “อ้อแบบนี้เองเข้าใจแล้ว ป่าอธิบายเข้าใจง่ายจริงๆ” กล้าชมผมแล้วก็นั่งแก้โจทย์ ซึ่งดูดีๆแล้วเป็นการบ้านในคาบก่อนๆนี่น่า ยังไม่ส่งหรอกเหรอ ผมนั่งสอนไปถือว่าเป็นการทบทวนที่เรียนผ่านมาอีกรอบก็แล้วกันนะ แม็คนั่งฟังด้วย แม็คเรียนเก่งมากเลยนะครับได้ติดท๊อปตลอด ทั้งๆที่ก็เป็นคนชิวๆแท้ๆ ไม่เหมือนกับผม

            “เสร็จแล้วววววววววว ยะฮู้ แต๊งมากเลยนะป่า ตอนเที่ยงเราจะเลี้ยงข้าวขอบคุณป่าสอนเข้าใจมากเลย” กล้ายิ้มกว้างก่อนจะวิ่งออกนอกห้องสงสัยจะเอางานไปส่งย้อนหลัง  แม็คมองผม

            “มีอะไรเหรอ”

            “ป่านี่ใจดีนะ”

            “เอ๋?? เราเหรอ เปล่านะครับ” ผมไม่ได้ใจดีอะไรขนาดนั้นซักหน่อย ผมนะเหรอใจดี

 

            “นายนี่น่าสนใจมากๆเลยนะป่า” ยิ่งแม็คพูดผมยิ่งงงกับตัวเองมากเท่านั้น

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะครับบบ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่4 31/7/2559
«ตอบ #8 เมื่อ31-07-2016 19:04:05 »

จาก 2553 มา 2558 ยังอยู่ที่เดิม

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่4 31/7/2559
«ตอบ #9 เมื่อ31-07-2016 19:18:42 »

จาก 2553 มา 2558 ยังอยู่ที่เดิม
อ๊ากกกเค้าลืมแก้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่4 31/7/2559
« ตอบ #9 เมื่อ: 31-07-2016 19:18:42 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day5 : Dream
«ตอบ #10 เมื่อ31-07-2016 19:24:44 »

พระเจ้า ผมใช้โชคดีของผมไปหมดรึยัง เอ๋ ทำไมผมถามอย่างนี้นะเหรอครับ ก็ตอนนี้ผมนั่งกินข้าวเที่ยงกับแม็คและกล้านะสิครับ เอ่อ ปกติผมจะไปนั่งกินคนเดียวกลางสวนแต่ตอนนี้แม็คลากผมมาที่โรงอาหาร ซึ่งเป็นที่ผมเลี่ยงมาตลอดแท้ๆ ทั้งคนที่เยอะแยะมากมาย ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงโต๊ะเพราะไม่รู้จะไปสั่งร้านไหนดี หรือทำยังไงดี

            “อ่าวทำไมไม่ไปสั่งข้าวละป่า”แม็คที่เดินถือแก้วน้ำกลับมาที่โต๊ะ

            “คือเราไม่รู้ว่าจะไปสั่งยังไงอ่ะ”ผมเกาแก้มอย่างอายๆ

            “อ่าวเหรอแล้วปกติกินไงเนี้ย”

            “คือเราทำข้าวกล่องมาทานเองตลอด ปกติจะกินที่สวนในโรงเรียนนะ” ผมนั่งลง

            “เออจริงดินายทำกับข้าวอร่อย วันพรุ่งนี้เราไปนั่งกินด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวเราไปสั่งให้นะ” แม็คบอกแล้วเดินไปสั่งอาหารให้ผม ซักพักแม็คก็กลับมากพร้อมจานข้าวและก็กล้า

            “ขอบคุณนะครับแม็ค” แม็คโบกมือว่าไม่เป็นไร แล้วนั่งลง ผมเลยนั่งลงกินข้าวบ้าง

            แม็คกับกล้าชวนผมคุยไปเรื่อย ระหว่างกินข้าวผมทำได้แค่พยักหน้าและตอบเป็นบางคำถามเพราะบางเรื่องที่ทั้งสองคุยกันผมก็ตามไม่ทัน สองคนนี้สนิทกันจริงๆ ผมรวบช้อน

            “อ่าวอิ่มแล้วเหรอ กินน้อยจริง” แม็คทักเพราะผมกินข้าวไปได้เพียงครึ่งเดียว

            “เราไม่ค่อยทานอาหารข้างนอกเท่าไหร่นะ” ขืนกินไปอีกคำเดียวผมได้อาเจียนออกมาแน่ๆ เพราะผงชูรสเยอะมาก ผมกินมากไม่ได้ ดังนั้นเลยทำอาหารกินเองเพราะจะได้ไม่มีผงชูรส แม็คพาผมเอาจานไปเก็บ ผมเดินไปชื้อน้ำเปล่า เพื่อล้างปาก ลิ้นยังชาอยู่เลยครับ คราวหน้าผมคงจะกินร้านนี้อีกไม่ได้แล้ว

            “เป็นไรรึเปล่าป่า หน้าซีดๆ” แม็คถาม

            “เราไปห้องพยาบาลก่อนนะ” ผมบอกแล้วรีบเดินผละไปห้องพยาบาลได้ยินเสียงแม็คเรียกไล่หลังแต่ตอนนี้ผมไม่ไหว ผมเปิดประตูห้องพยาบาล

            “ป่า ป่าเป็นไร”  พี่ป่านถามผมเมื่อเห็นว่าหน้าผมซีด

            “พี่ป่าน จะอ้วก” ผมบอกเท่านี้ พี่ป่านก็พยุงผมเข้าไปในห้องน้ำ อาหารที่พึ่งกินไปก็พุ่งออกมา                     

            “ไปกินอะไรมาหืม” พี่ป่านลูบหลังให้ ผมอาเจียนจนไม่เหลืออะไรในท้อง คอของผมแสบไปหมด พี่ป่านเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเซ็ดหน้าให้ผมก่อนที่จะพยุงผมไปที่เตียง ผมนอนลงเพราะเวียนหัวมาก

            “ดืมน้ำก่อนนะ” ผมลุกขึ้นรับแก้วน้ำอุ่นมาจิบ ค่อยรู้สึกยังดีขึ้นมาหน่อย ผมยื่นแก้วน้ำคืนพี่ป่าน

            “นอนพักดีกว่านะ เดี๋ยวตอนเย็นค่อยกลับกับพี่ เดี๋ยวพี่ไปบอกอาจารย์ให้” ผมหลับตา ได้ยินเสียงพี่ป่านรูดม่านปิด ด้วยอาการเวียนหัวผมก็นอนหลับได้ทันที

 

 

            “อืมม” ผมบิดขี้เกียจก่อนทีจะลืมตา นี่มันกี่โมงแล้ว ผมงัวเงียลุกลงจากเตียง อาการเวียนหัวก็ดีขึ้นมาก แต่ตอนนี้รู้สึกหิวจังผมเปิดม่านที่ปิดเตียงออก

            “อ่าวตื่นแล้วเหรอ” ไม่ใช่เสียงพี่ป่านแต่เป็นแม็ค

            “แม็คเหรอพี่ป่านละครับ”

            “อาจารย์ป่านนะกลับไปแล้วละ ลุกไหวไหม นี่นมอาจารย์บอกว่าถ้าป่าตื่นให้บังคับให้ป่ากิน” ผมไม่ใช่เด็กๆนะทำไมต้องสั่งกำชับขนาดนั้นด้วย  ผมรับนมกล่องมาถือไว้ ไม่ยอมกิน ผมไม่ชอบกินนมพี่ป่านนะรู้ดี

            “ไม่ชอบกินเหรอ”

            “อื่มเราไม่ชอบกิน”

            “กินรองท้องก่อนเถอะเห็นอาจารย์บอกว่าป่าอ้วกข้าวเที่ยงออกมาหมดเลยไม่ใช่เหรอกินรองท้องก่อน” ทำไมพี่ป่านบอกแม็คหมดเลยอ่ะ แม็คจ้องเขม็ง ผมเลยยอมกิน เมื่อเห็นว่าผมกินนมหมดกล่องแล้วก็สะพายกระเป๋าขึ้น

            “กลับเถอะเดี๋ยวเราไปส่ง” และผมก็เห็นว่าแม็คถือกระเป๋าผมมาด้วย ผมเลยลุกเดินตามแม็คไปที่รถ

 

            แม็คขับรถมาส่งผมที่บ้าน ผมนั่งนิ่งยังไม่ลงจากรถวันนี้ไปรบกวนแม็คทั้งวัน

            “เอ่อ ขอบคุณมากนะวันนี้เรารบกวนแม็คมากจริงๆ”

            “ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้ากินไม่ได้ก็บอกเราสิไม่ต้องเกรงใจเราขนาดนั้นสิ”

            “เราขอโทษนะ”

            “ไม่เป็นไรเย็นมากแล้วป่าเข้าบ้านเถอะเจอกันวันจันทร์นะ” แม็คยิ้ม ผมยิ้มตอบแล้วลงจากรถแล้วเข้าบ้านไป

            ผมขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนทีจะลงมาทำโจ๊กกินนั่งดูหนังดูซีรี่ย์เล่นไปเรื่อยจนถึงสามทุ่ม ผมตรวจกลอนประตูหน้าต่างชั้นล่างก่อนจะปิดไฟแล้วขึ้นห้องนอน ใกล้จะถึงวันที่แม่บอกว่าจะกลับมาแล้วสินะ นั่งอ่านหนังสือไปซักพักผมก็เปิดไดอารี่

 

 

            16/10/2553

                        วันนี้ก็ไม่สบายอีกแล้วทำไมกันน้า ต้องไม่สบายต่อหน้าแม็คอยู่เรื่อยเลย วันมะรืนนี้ต้องไปหาคุณอาหมอแล้ว ไม่รู้ว่าอาการจะออกมาเป็นยังไง  ตอนนี้ได้เป็นเพื่อนกับแม็ค และกล้าซึ่งเป็นเรื่องที่ผมมองมาโดยตลอด พอมองนานๆก็กลายเป็นแอบชอบได้คุย ได้กินข้าว ได้หัวเราะ กับคนที่เราแอบชอบมาตลอดช่างเป็นเรื่องที่ผมไม่คาดคิด มันรู้สึกดี ดีจนนึกว่าฝันไป ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ผมได้คุยกับคนที่ผมแอบชอบมาโดยตลอด

 

 

ธนา
--------------------------------------------------------
ป่าป๊อดค่ะ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นให้น้า
กดเป็ดให้ทุกคนเลยจ้า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
«ตอบ #11 เมื่อ31-07-2016 19:30:02 »

มาต่ออีกนะคะ

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
«ตอบ #12 เมื่อ31-07-2016 20:56:38 »

ป่าป่วยเยอะจัง น่าสงสาร

ออฟไลน์ ดาวโจร500

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
«ตอบ #13 เมื่อ31-07-2016 21:18:02 »

ป่าชอบใครอะ งงไดอารี่ แมคหรือกล้า กล้า?
แต่บรรยายตอนเจอกันครั้งแรกของทั้งกล้า กับแมคก้เหมือนเพิ่งเคยเจอกัน นี่งง มาเฉลยๆ

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
«ตอบ #14 เมื่อ31-07-2016 21:25:14 »

แม็คคิดอะไร ป่ะเนี้ยยยย  :hao3:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
«ตอบ #15 เมื่อ31-07-2016 21:40:54 »

พระเอกต้องแม็คเซ่ะ  :fire:

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
«ตอบ #16 เมื่อ31-07-2016 23:30:26 »

ป่า เป็นโรคอะไรกันนะ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่6
«ตอบ #17 เมื่อ01-08-2016 10:31:19 »

6

            เช้าวันเสาร์ที่อากาศดี ผมรถน้ำต้นไม้เสร็จก็เดินไปซื้อขนมที่ร้านขนมข้างบ้าน กินอาหารเช้าแบบไม่เร่งรีบ แล้วขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาอาหมอที่โรงพยาบาล

            กริ๊ง ๆ

            เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตอนที่ผมกำลังจะออกจากบ้านพอดี

            “สวัสดีครับ”

            “(ป่าลูกรัก วันนี้อาหมอนัดใช่ไหมคะลูก)”

            “ครับแม่ ป่ากำลังจะออกไป”

            “(อย่าฝืนตัวเองนะคะ เดี๋ยวแม่ก็จะกลับแล้วนะ แม่รักลูกนะ)”

            “ผมก็รักแม่ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”  ผมวางสายก่อนที่จะปิดบ้าน เรียกแท็กซี่ไปส่งที่โรงพยาบาล

            กลิ่นที่เหมือนยาฆ่าเชื้อ ผู้คนพลุกพล่านเป็นภาพและกลิ่นที่ผมเคยชิน ผมเดินไปที่เค้าเตอร์

            “อ่าวน้องป่าถึงวันนัดแล้วเหรอคะ” พี่พยาบาลทักผมขณะที่ผมยืดบัตรนัดให้

            “ครับ”

            “ขึ้นไปรอคุณหมอที่ห้องได้เลยนะ ทานอะไรมารึยัง”

            “ทานมาเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณนะครับ” ผมรับใบนัดคืนแล้วเดินขึ้นลิฟท์ขึ้นไปห้องที่คุ้นเคย การป่วยตั้งแต่เด็ก ทำให้ผมไม่สามารถวิ่งเล่นได้เหมือนคนอื่น ออกแดดมากไปก็หน้ามืด วิ่งได้นิดเดียวผมก็หอบแล้ว ยังดีที่การเติบโตมาโดยพี่ป่านเลี้ยงทำให้ผมมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าปกติ ผมเป็นคนที่ทำอะไรช้าสำหรับคนทั่วไป ในเมื่อไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่โลดโผนเหมือนคนอื่นทำให้การอ่านหนังสือและเขียนไดอารี่ทำให้ผมมีความสุข ซึ่งนั่นก็เป็นผลพวงที่ทำให้ผลการเรียนของผมสูงกว่าปกติทั่วไปในชั้นเดียวกัน นั่นยิ่งทำให้ผมไม่มีเพื่อนสนิท

            ผมนั่งอ่านหนังสือในห้องของคุณอาหมอ หมดไปหลายเล่ม อื่มหรืออาหมอติดคนไข้ด่วนรึเปล่านะ 

            ปัง โครม

            “โอ๊ยๆ  โทษทีนะป่าอาติดคุยธุระกับผู้อำนวยการอยู่” การมาพร้อมกับเสียงโครมคราม นี่มันเป็นรหัสพันธุกรรมที่สืบทอดกันมาสินะ ทั้งพี่ป่านและคุณอานี่ต้องเป็นเพราะพันธุกรรมแน่ๆ ซุ่มซ่ามเหมือนกันจริงๆ

            “เป็นอะไรมากไหมครับคุณอา” ผมเข้าไปพยุงคุณอาที่กระโดดอยู่ ไม่งั้นได้ล้มใส่ของอย่างอื่นแน่ๆ

            “คุณอานี่ซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเลยนะครับ”

            “อาก็อยากให้มียาแก้อยู่นะ” คิดว่ามันคงไม่มีทางหายหรอกนะ  ผมพยุงคุณอาไปนั่งที่เก้าอี้

            “ขอบใจๆ วันนี้อาจะตรวจครบเซ็ทเลยนะ เดี๋ยวอาขอเจาะเลือดเอาไปตรวจก่อนนะ แล้วค่อยไปตรวจหัวใจกัน เดี๋ยววันนี้ไปกินข้าวกับอานะ”  คุณอาเอาเข็มมาเพื่อเจาะเลือด

            “ครับ” วันนี้ทั้งวันผมคงได้อยู่โรงพยาบาลนี่ละนะ

            หลังจากที่คุณอาเจาะเลือดแล้วส่งเลือดผมให้แล็บ คุณอาก็ลากผมลงไปที่ศูนย์อาหาร สั่งทั้งของคาว ของหวานมาเต็มโต๊ะ นี่จะกินหมดกันเหรอครับ

            “ป่า” โครม เสียงเรียกพร้อมกับการเตะโต๊ะที่มันก็ไม่ได้ขวางทางอะไร พี่ป่านก็กระโดดมาที่นั่งที่โต๊ะ

            “พี่ป่าน สวัสดีครับ”

            “ป่ามาตรวจวันนี้สินะ สวัสดีครับพ่อ” พี่ป่านยกมือไหว้พ่อก่อนที่จะนั่งจิ้มขนมไทยที่คุณอาซื้อมา อ้อนี่รู้ว่าพี่ป่านจะมาสินะ ถึงได้สั่งของหวานให้ขนาดนี้

            นั่งกินข้าวกันจนเสร็จพวกเราก็พากันขึ้นไปห้องตรวจผมต้องตรวจหัวใจ เพราะหัวใจผมหลังจากการผ่าตัดเส้นเลือดในหัวใจตอนเด็ก ผมต้องมาตรวจหัวใจตลอด และผมดันมีอาการภูมิแพ้เพิ่มมาอีก  ผมนั่งรอผลตรวจที่ห้องพักของคุณอา ส่วนพี่ป่านรายนั้นก็นอนหลับบนโซฟา กินอิ่ม นอนหลับ นิสัยเลี้ยงง่ายดีนะครับ

            “รอนานไหมป่า” และคุณอาก็กลับเข้ามา

            “ไม่เป็นไรครับคุณอา”  สีหน้าคุณอาดูเครียด

            “ป่าผลการตรวจออกมาแล้วนะ หัวใจของป่ามีอาการเต้นผิดจังหวะ แล้วก็ผลเลือดที่ตรวจออกมาเกล็ดเลือดของป่าจางมาก ป่าต้องระวังในเรื่องอาการบาดเจ็บร้ายแรงนะ เพราะการที่เกล็ดเลือดจางทำให้เลือดหยุดไหลช้า ป่า อาว่า ป่าต้องคิดเรื่องที่จะผ่าตัดหัวใจได้แล้วนะ” ผมนั่งนิ่งทันทีที่ได้ยิน ถึงจะทำใจกับเรื่องผลตรวจที่ออกมา แต่ก็เหมือนว่าอาการของผมจะแย่ลง

            “ผมยังไม่อยากผ่าตัดครับแต่ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากรักษานะครับแต่ผมขอเถอะครับให้อยู่ก่อนได้ไหมครับ” ผมไม่อยากเสียช่วงเวลานี้ไป มันเป็นโชคดีที่สุดแล้วของผม ผมขอเวลาอีกนิด

            “อาจะส่งชื่อของป่าเข้าในโปรแกรมรับบริจาคนะ ตอนนี้อาจะให้ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจก่อนนะแล้วจะให้ยาเพิ่มเกล็ดเลือดนะไปรับยาเดี๋ยวอาจะให้ไอ้ป่านไปส่ง”

            “ผมกลับแท็กซี่เองก็ได้ครับ”

            “อาไม่อนุญาต ไปรับยาก่อนนะ” ผมลากลับก่อนจะไปยื่นรับยา พี่ป่านก็พาผมกลับบ้าน

 

            “ขอบคุณครับพี่ป่าน กลับได้แล้วครับดึกแล้ว” ผมไล่พี่ป่านกลับ  เพราะแกตื้อที่จะอยู่ด้วย สุดท้ายพี่ป่านก็ยอมกลับบ้านไปดีๆ ผมทานข้าวเย็น ทานยา แล้วขึ้นไปนอน

            17/10/2553

                        สุดท้ายแล้วเวลาของการที่ผมต้องเลือกก็มาถึง ทำไมกันนะ นี่สินะพระเจ้าถึงประทานโอกาสให้ผมได้คุยกับคนที่ผมแอบมอง ได้เพื่อนใหม่ๆ ผมขอเวลาอีกนิดได้ไหม ขอเวลาที่ผมจะได้เก็บช่วงเวลาต่างๆนี้ไว้ในความทรงจำ ถึงการผ่าตัดจะมีขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์  ขอเวลาให้ผมอีกนิดนะ

 

ธนา

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แอบเอามาแปะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

รักทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่6 1/8/2559
«ตอบ #18 เมื่อ01-08-2016 14:40:43 »

ป่าน่าสงสารจัง
ร่างกายไม่แข็งแรง

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day7 : Home Work
«ตอบ #19 เมื่อ01-08-2016 16:38:58 »

ฮัดชิ่ว ฟืดดด

            เสียงจามของผมสนั่นบ้านแต่เช้า หลังจากไปโรงพยาบาลผมก็เป็นแบบนี้ประจำ ผมลื้อเอาแมสมาใส่ แล้วออกไปรดน้ำต้นไม้ตามกิจวัตรประจำวันของผม

            ฮัดชิ่ว แค่กๆ

            อื่มมาเป็นคอมโบเลย  รีบรดน้ำให้เสร็จดีกว่าจะได้ไปทำกับข้าวกินดีกว่า

โฮ่ง โฮ่ง

เสียงเห่าหน้าบ้านดังมา นี่ขาประจำผมมาอีกแล้วสินะ ผมรีบวางสายยางแล้วเดินไปเปิดประตูรั้ว ก็เจอหมาหน้าไม่เต็มบาทพันธุ์ไซบีเรียนั่งลิ้นห้อยอยู่

            “ไงโซนิค หนีออกมาบ้านพี่อีกแล้วเหรอ”

            “โฮ่งๆ” เห่าเสร็จก็วิ่งปรู๊ดดเข้าไปเล่นทีสนามหญ้า กลิ้งไปกลิ้งมา เอ๊ยเปื้อนหมดแล้ว

            “โซนิคไม่เอาไม่เล่นสิ เปื้อนหมดแล้ว” ผมรีบไปดึงมันไว้ โซนิคเป็นหมาของบ้านพี่ป่านเองละครับ ไม่รู้มันแสนรู้หรือมันซื่อกันแน่ มันชอบเล่นกับผมมาก โตมามันก็แอบหนีมาจากบ้านโน้นมาเล่นกับบ้านผมบ่อยๆ ซนจริงๆ

            “โฮ่งๆ” มันวิ่งวนรอบตัวผม แล้วไปคาบสายยางมาหาผม

            “จะเล่นน้ำ ไม่เล่นได้ไหมวันนี้พี่ไม่สบาย” ผมลูบหัวมัน พอบอกแค่นั้นละมันทำหน้าละห้อย งือ ผมเดินไปเปิดก๊อกน้ำ โซนิครีบปล่อยสายยางแล้ววิ่งมาหาผม

            ผมดึงสายยางมาแล้วฉีดน้ำ โซนิดวิ่งไล่งับไปทั่วและเห่าอย่างบ้าคลั่ง

            “ฮ่าๆๆๆๆ โซนิคเบาๆ โอ๊ยยยอย่าสะบัดขนใส่พี่สิ ฮ่าๆๆ แค่กๆ” อ่าผมไม่น่าเล่นนานขนาดนี้เลย ผมรีบไปปิดน้ำพาโซนิคไปเช็ดขน เป่าขนให้แห้งแล้วให้มันเข้าบ้าน ส่วนผมรีบไปอาบน้ำ  ผมเดินลงไปเข้าครัวทำข้าวต้มหมูสับ ส่วนโซนิคเล่นเสร็จก็นอนอยู่บนโซฟาเรียบร้อย ผมทานข้าวทานยาเสร็จ ก็เดินมานอนเล่นที่โซฟา

            ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง

            เสียงกดกริ่ง ใครกันนะปกติพี่ป่านไม่กดกริ่งหรอกนะครับ รายนั้นนะมีกุญแจส่วนตัว  หรือจะเป็นไปรษณีย์ ผมเดินไปเปิดประตู

            “สวัสดีป่า” เสียงทักพร้อมรอยยิ้มกว้าง

            “มะ ... แม็ค มาได้ไงครับเนี้ย” ผมฝันไปหรือเปล่าเนี้ย หรือเป็นไข้จนเพี้ยน

            “เรามาหานายนั่นละพอดีเราทำการบ้านฟิสิกส์ไม่ได้ เลยจะมาขอให้ป่าช่วยเราหน่อย”

            “ดะ..ได้นะ เข้ามาก่อนครับ” ผมเปิดประตูรั้ว

            “เราเอารถไปจอดข้างในได้ไหม กลัวมันขวางทาง” แม็คชี้ไปทางรถที่แม็คขับมา ผมพยักหน้าก่อนจเปิดประตูรั้วให้แม็คขับรถเข้าบ้าน

            “ป่าทำไมใส่แมสนะ หน้าแดงๆด้วย”

            “เราไม่สบายนิดหน่อยนะ”

            “เรามารบกวนรึเปล่า”

            “ไม่  ไม่รบกวนนะ เข้าบ้านกันเถอะครับ” ผมรีบบอกแม็คแล้วชวนแม็คเข้าบ้าน

            โฮ่งๆๆ ทันทีที่แม็คเดินเข้าบ้าน โซนิคก็เห่าลั่นบ้าน ผมลืมไปเลย

            “โซนิดเงียบนะ นี่เพื่อนพี่เอง” ผมเดินไปลูบหัวมัน

            “หมานายเหรอ มาครั้งก่อนไม่เห็นเลย” แม็คถามผมแล้วเดินมาเล่นกับโซนิค สนิทกันเร็วจริงๆนะครับเนี้ย

            “เปล่าหรอกนี่เป็นหมาของพี่ป่านนะแอบหนีมาเล่นกับเรานะ” ผมเดินไปเอาน้ำมาให้แม็ค

            “ขอบใจนะ” รอยยิ้มกว้างที่เหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของแม็คไปแล้ว

            ผมนั่งลงบนพื้นพรม โซนิครีบมานอนข้างๆให้ผมลูบหัวให้ แม็คเอาหนังสือฟิสิกส์ออกมากาง อ้อเนื้อหาตอนนี้ผมทำเสร็จไปแล้วนี่น่า ผมนั่งสอนให้แม็คจนเงยหน้ามาอีกที ก็จะเที่ยงแล้ว

            “แค่กๆ” ทันที่ผมไอ โซนิคเงยหน้ามาดูผม

            “ไหวไหม หน้าแดงมากเลย” แม็คไม่ถามเปล่า ยืนมือมาแตะที่หน้าผากผม ผมผงะทันที

            “โอ๊ะโทษที “

            “ไม่เป็นไรครับ เราแค่ตกใจเฉย ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นแบบนี้บ่อยๆนะ”

            “เราว่านายไม่ไหวแล้วละ กินยาก่อนดีกว่านะ” แม็คว่าก่อนจะเก็บหนังสือเรียนใส่กระเป๋า

            “แค่กๆไม่เป็นไร แม็คหิวรึยังมันเที่ยงแล้วน่ะครับ” ผมถามก่อนจะลุกเดินไปห้องครัว

            “เฮ้ย นายไหวแน่นะ” ผมชูสองนิ้วให้แม็ค บอกว่าผมยังไหว จริงๆแล้วผมแค่ไอนะครับยังไม่ได้เป็นหวัดแค่ไอนิดหน่อย มั้งครับ  แม็คเดินตามผมเข้ามาในครัว

            “เราทำอาหารรสไม่จัดนะ แม็คทานได้ไหม” ผมถามขณะที่เลือกผักออกมาจากตู้เย็น ของสดใกล้หมดแล้วพรุ่งนี้ไปตลาดก่อนกลับดีกว่า

            “ได้ๆๆ ไม่มีปัญหา นายไหวแน่นะ มาให้เราช่วยดีกว่านะ” แม็คแย่งผักเอาล้าง

            ผมตั้งหม้อเพื่อที่จะทำแกงจืด ผมปรุงรสนิดเดียว แม็คเอาผักมาหัน ผมเลยบอกให้หั่นผักสำหรับหั่นให้ด้วย ผมปรุงผัดผักให้รสจัดกว่าที่ผมกินนิดหน่อย

            “ป่านี่ทำกับข้าวเก่งจริงๆ เรานี่รอกินอย่างเดียวทำไม่เป็นเลย” ผมยิ้ม

            “เราทำกินเองนะเพราะกินผงชูรสไม่ได้นะ เลยทำกินเองนะแล้วคุณแม่ก็ไม่ค่อยอยู่เราเลยต้องทำกินเอง”  ผมพูดไปเรื่อยๆขณะที่ทำกับข้าว

            “ป่านี่พอสนิทแล้วก็คุยเก่งนะ”

            “อ่า เราคุยเก่งเหรอ” ผมปิดเตา ตักกับข้าวใส่จาน แล้วถือไปที่โต๊ะ แม็คถือจานข้าวออกมา ผมเดินไปหยิบขวดน้ำและแก้วมาที่โต๊ะ ผมถอดแมสออกเพื่อกินข้าว แม็คนั่งตรงข้ามผม

            “แล้วการบ้านป่าละ”

            “อ้อเราทำเสร็จก่อนที่จะไปหาหมอแล้วละครับ”

            “หืมหาหมอเป็นไรเหรอ แล้วอีกเรื่องป่าไม่ต้องพูดสุภาพกับเราได้แล้วนะ”

            “ขอโทษด้วยเราไม่ชินนะ แต่จะพยายามนะ”

 

            เรานั่งกินข้าวเงียบๆหลังจากนั้นก็เก็บโต๊ะล้างจานเรียบร้อยก็มานั่งเล่นที่โต๊ะ แม็คนั่งทำงานไปผมก็นอนซบเจ้าโซนิคดูทีวีเงียบจนผมเผลอหลับไป

-------------------------------------------------------------

แท่ แด้

พาร์ทหน้าจะเป็นมุมของแม็คแล้วนะคะ

ผ่านมาเจ็ดตอนในที่สุดก็ได้มีพาร์ทของตัวเอง

อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยเน้อ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day7 : Home Work
« ตอบ #19 เมื่อ: 01-08-2016 16:38:58 »





ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
«ตอบ #20 เมื่อ01-08-2016 17:06:47 »

 :mew2:

น้องป่า ทำไมไม่ผ่าตัดหัวใจล่ะคะ เปอร์เซ็นต์สำเร็จมีน้อยมากเลยเหรอ?  :ling3:

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
«ตอบ #21 เมื่อ01-08-2016 19:02:28 »

อยากซบโซนิคบ้างงง ในที่สุดก็เป็นแมคเล่าแล้ว รออ่านค่าาา

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
«ตอบ #22 เมื่อ02-08-2016 00:58:24 »

 :L2: :pig4:

ขอบคุณมากที่อัปเดท บ่อยๆนะ
แต่ว่า ป่า จะไม่ตายใช่ไหมมมมมมม บอกเราที

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
«ตอบ #23 เมื่อ02-08-2016 03:42:39 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
อ่าสวัสดีครับ พึ่งได้เจอกับผมครั้งแรกสินะ ผมนั่งทำงานฟิสิกส์ในส่วนที่เหลือ ส่วนป่านอนกอดเจ้าโซนิคอยู่ตรงข้าม ผมไม่น่ามารบกวนป่าเพราะป่าดูเหมือนไม่สบายอยู่ แต่ป่าก็ใจดีสอนให้ผม ตั้งแต่เจอกับป่าทั้งที่เจอกันครั้งแรกมันไม่ได้น่าประทับใจอะไรเลย แต่ป่าก็ยังไม่โกรธผม และเป็นอีกครั้งที่ผมสาดน้ำใส่ป่า และผมก็ได้รู้ว่าป่านั้นไม่แข็งแรงเท่าไหร่ และดูเหมือนป่าจะแปลกใจที่ผมเข้าไปคุย หรือไอ้กล้าคุยด้วย เหมือนเป็นคนที่ขี้อายแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ร่าเริงและอ่อนโยน ผมเก็บสมุดลงกระเป๋า

            “ป่า ป่า” ผมเรียกป่าแต่ป่านอนนิ่งไม่ขยับเลย ผมลุกเดินเข้าไปหาป่า ก็เห็นว่าป่านอนหลับไปแล้ว ใบหน้าขาวซีดของป่าแดงระเรื่อ ไข้ขึ้นรึเปล่านะ ผมแตะหน้าผากก็เห็นว่าไม่ได้ร้อนอะไร ผมดึงแมสออกให้ใส่นอนคงจะไม่สบายเท่าไหร่นัก

            “ขอโทษนะ” ผมบอกเบาๆ ก่อนจะอุ้มป่าขึ้น เพื่อพาไปนอนที่เตียงดีๆ ผมเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน แล้ววางป่าลงบนเตียงห่มผ้าให้เรียบร้อย ผมเดินลงมาข้างล่าง เห็นเจ้าโซนิคนอนเหงาอยู่

            “ป่ะ โซนิคไปเล่นข้างนอกกัน” ผมเปิดประตูไปที่สวน โซนิควิ่งชนผมออกไปที่สนามหญ้าวิ่งมุดเข้าไปในพุ่มไม้

            “เฮ้ โซนิค ออกมาเร็ว” ผมหยิบเอาตุ๊กตาเน่าๆตัวหนึ่ง ที่วางบนสนามหญ้า ไซนิคหันมาเห็นก็พุ่งมาที่มือผม ผมหลบโซนิควิ่งตามตุ๊กตาเน่าๆ สงสัยจะเป็นตุ๊กตาของมันแน่ๆ เฮ้ยๆอะไรจะวิ่งเร็วขนาดนั้น

            อั๊ก โซนิควิ่งมาชนผมที่ด้านหลังอย่างแรง จนผมล้มลงแล้วมันก็เข้ามาฟัดผมไอ้หมานี่จะไฮเปอร์ไปไหววะ

            “โอ๊ยพอแล้ว พอหนักนะเฟ้ยยย” โซนิคทิ้งตัวลงมาทับผมแล้วกลิ้งไอ้หมานี่ทำไมมันกวนตีนจังวะ แล้วมันก็นอนทับผมอยู่เฉยๆจะเกรียนไปไหม

            “ทำอะไรกันนะครับ” เสียงเล็กๆถามผม

            “อ่าเราพามันมาเล่นนะ” ผมตอบป่า ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า

            “เราว่าแม็คต้องอาบน้ำแล้วละ” ผมก้มดูเนื้อตัวเละไปทั้งตัว ป่ายิ้มกว้างที่เห็นผมเปื้อนทั้งตัว เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ป่าดู.....อืมจะว่าไงดี ดูดีมาก ดูมีเสน่ห์จริงๆ

            “เดี๋ยวเราเอาผ้าขนหนูให้นะ” ป่าว่าก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมลูบหน้าอ่านี่ผมเป็นไรเนี้ยถึงได้มองว่าป่าสวยวะ กูไหวไหมเนี้ย  ป่าเดินกลับมาพร้อมกลับผ้าขนหนูผมรับก่อนจะเดินขึ้นไปอาบน้ำ ผมพันผ้าขนหนูเดินออกจากห้องน้ำ ผมยืนอยู่ในห้องของป่าเป็นห้องที่ดูมีระเบียบและดูสบายตาเหมือนคนที่อยู่       

            “เราลืมเอาเสื้อให้แม็ค  เฮ้ย!!” ป่าร้องทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเห็นผมยืนอยู่กลางห้อง  ผมกันไปมองป่ายืนหันหลังให้ผม อะไรจะอายขนาดนั้น

            “ป่านายอายอะไรกัน”

            “เอ่อ........แม็คหยิบเสื้อในตู้ได้เลยนะ ระ....เราจะลงไปข้างล่างก่อน” น้ำเสียงตะกุกตะกัก ทำไมมันดูน่าแกล้งจริงๆ ผมเดินเข้าไปหาป่าที่กำลังจะเปิดประตูออกไปแล้วหยุดอยู่ข้างหลังป่า

            “เราให้ป่าหาให้เราดีกว่านะ” ผมก้มลงพูดเบาๆกับป่า ป่าก้มหน้าลงเสี้ยวหน้าที่ผมเห็นนั้นแดงระเรือ

            “อะ.... มะ...แม็คเดินเข้าไปหยิบเลยก็ได้” ป่าบอกเสียงสั่นแล้วยกมือชี้ไปทางด้านหลัง

            “เราเกรงใจป่านะ” ยิ่งผมขยับหน้าเข้าไป ป่ายิ่งตัวสั่น

            “ขะ....เข้าไปหยิบเลยนะ” ป่าร้องก่อนที่จะเปิดประตูแล้ววิ่งออกจากห้องไป

            “หึๆ ฮ่าๆๆๆ” โอ๊ยยน่ารัก ป่านี่น่ารักจริงๆ นี่ผมมองว่าเค้าน่ารักนี่แปลกไหม คำๆนี้เหมาะกับเค้าจริงๆ ผมหยิบเสื้อยืดและกางเกงที่ดูตัวใหญ่ที่สุดในตู้แล้วเดินลงไปข้างล่าง ผมเห็นป่ากอดโซนิคและซุกหน้าลงกับตัวโซนิค

            “เป็นอะไรรึเปล่าป่า” พอผมทักป่าก็สะดุ้ง

            “ปะ...เปล่าๆ” ป่าเดินหันหน้ามาตอบผม

            “อืมเรากวนป่านานแล้วเรากลับเลยละกันนะ ส่วนเสื้อเรายืมก่อนนะ”

            “อะ..อืม เดี๋ยวเราเดินไปส่ง” ป่าปล่อยโซนิคออกจากอ้อมแขนแล้วเดินออกมาส่งผมที่หน้าบ้าน

            “วันนี้ขอบคุณมากเลยนะ”

            “ไม่เป็นไรเรายินดีช่วย” ป่ายิ้มน้อยๆ ผมยิ้มตาม ผมขับรถตรงกลับบ้าน

           

 

                                    ก่อนหน้านี้ผมแค่สนใจแค่ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่แปลกจริงๆแต่พอได้คุย กลับน่าสนใจและน่ารัก นี่ผมมองผู้ชายน่ารักมันแปลกไหม ฮ่าๆๆ แต่คำๆนี้เหมาะกับเค้าจริงๆ ป่าเป็นคนที่ดูแปลกแต่เป็นคนใจดี ทำไมกันนะผมถึงอยากรู้จักเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------

เอาพาร์ทของแม็คมาลงสั้นๆเพราะแม็คคงไม่ได้ออกมาอีกนาน

555555555555555 ให้นางโผล่มา นิดหนึ่ง ค่าตัวนางแพง

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นต์

ขอบคุณที่ชอบนิยายของเรานะ

ดีใจมากๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่8 2/8/2559
«ตอบ #25 เมื่อ02-08-2016 09:23:03 »

แม็คเคอะ จะออกทั้งทีนี่สั้นจิ๋วเลยนะคะเนี่ย ค่าตัวอย่างแพง

เมื่อไหร่แม็คจะรู้คะว่าป่าเป็นโรคหัวใจอ่า??

ออฟไลน์ rubymoona

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-5
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่8 2/8/2559
«ตอบ #26 เมื่อ02-08-2016 10:31:26 »

หยอกเข้าไปค่ะ เดี๋ยวคนหยอกนั่นละติดกับเอง หึหึหึ

ออฟไลน์ Letter123

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +186/-2
หลังจากที่เมื่อวานแม็คมาให้ผมสอนการบ้านผมขึ้นไปนอนสลบจนถึงเช้าเลย มันสายมากจนผมต้องรีบลุกแล้วอาบน้ำแล้วแทบจะวิ่งลงจากบ้านเลยถ้าวิ่งได้นะครับ ผมถึงจะรีบแต่ก็ทำอะไรเหมือนเดิมไม่ช้าไม่เร็ว สงสัยคงไปถึงโรงเรียนก็คาบสองแน่ๆเลย ด้วยการปั่นจักรยานที่เต่ายังแซงได้ของผม ผมก็มาถึงโรงเรียนในคาบที่สอง ผมเดินถึงห้องเรียนตอนที่อาจารย์สอนเสร็จแล้ว

            “ป่า!! นายพึ่งมาเหรอเรากำลังเป็นห่วงอยู่เลย” ทันทีที่ผมเดินเข้าห้องแม็คก็เรียกแล้วเดินเข้ามาหาผม ทุกคนมองมาที่ผมเป็นสายตาเดียว

            “เอ่อเราตื่นสายนิดหน่อยนะ”

            “เพราะเมือวานเราไปรบกวนใช่ไหม ดีขึ้นรึยัง ไปหาอาจารย์ป่านไหม” แม็คถามผมรัวมากจนผมงงไปหมด

            “ไอ้แม็คมึงถามรัวไปแล้ว และเมื่อวานมึงไปกวนไรป่าห๊ะ”  กล้าเดินเข้ามากอดคอผมก่อนที่จะกันไปคาดคั้นกับแม็ค

            “เมื่อวานกูให้ป่าสอนการบ้านฟิสิกส์ให้ แต่ป่าดูไม่สบายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”แม็คถอนหายใจเหมือนจะรำคาญที่กล้ามาซักไซร้ถาม

            “เราดีขึ้นแล้วละ พอดีเราตื่นสายนะเลยมาช้า”

            “เพราะเหนื่อยนะสิ”

            “มึงนี่ห่วงจังนะ” กล้าแซวก่อนที่จะปล่อยคอผม

            “ช่างกูเหอะนะ”แม็คว่าก่อนจะเดินกลับที่นั่ง ผมเลยเดินกลับไปที่โต๊ะท่ามกลางความสงสัยของทุกคน อ่าผมรู้สึกเหมือนมีสายตาทิ่มแทงยังไงก็รู้ ผมต้องไปตามงานในสองคาบที่มาเรียนไม่ทัน จนถึงเวลาพักเที่ยง

            “ป่าไปทานข้าวกัน” แม็คเดินมาชวนผม

            “อืม” ผมพยักหน้าตกลงวันนี้ผมตื่นสายเลยไม่ได้ทำข้าวกล่องมาเลยต้องไปทานที่โรงอาหารกับแม็คและก็กล้า เราสามคนเดินมาถึงโรงอาหารแม็คบอกให้ผมนั่งรอที่โต๊ะแล้วแม็คจะไปสั่งข้าวให้ผม

            “ยังมีที่ว่างไหม” ผมนั่งรออยู่จู่ๆก็มีคนเข้ามาถาม

            “เอ่อเรานั่งสามคนน่าจะยังมีที่ว่าอยู่นะครับ” ผมตอบ

            “งั้นเหรอ ดีเลยเราขอนั่งด้วยนะ” เค้ายิ้มกว้างให้ผม ผมเลยพยักหน้าตกลงเอ่อแม็คกับกล้าจะว่าอะไรไหมนะ ซักพักแม็คก็กลับมาพร้อมจานข้าวสองจาน

            “เราสั่งไข่เจียวให้ป่านะ”

            “ขอบคุณมากนะแม็ค” ผมยิ้มในความเอาใจใส่ของแม็คเพราะรู้ว่าผมทานผงชูรสไม่ได้สิ่งที่ผมทานได้ในโรงอาหารคงจะมีแต่ข้าวไข่เจียวนี่ละนะ

            “อ่าวนี่เพื่อนแม็คเหรอ” คนที่มาขอนั่งด้วยก็กลับมาที่โต๊ะเหมือนกัน รู้จักกับแม็คด้วยเหรอเนี้ย

            “พูดไรวะนี่ก็เรียนห้องเดียวกันไง ที่ได้ที่หนึ่งในห้องบ่อยๆนะ”

            “เฮ้ยนายจืดนะเหรอ” เอ่อพึ่งรู้นะครับว่าผมมีฉายาว่างี้นี่เอง

            “ไอ้เต้!!”

            “โทษทีๆเราชื่อเต้นะ” เต้ว่าก่อนจะนั่งลงข้างผม

            “เราชื่อป่านะ” ผมยิ้มบางให้ก่อนที่จะนั่งกินข้าวของตัวเองไป

            “ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย ป่านี่ก็น่ารักดีนิ” ผมรู้สึกประหลาดใจกับคำชมนี้แต่ก็ไม่สนใจ

            “แดกข้าวไปไอ้เต้”

            “เออๆ” เต้เลยนั่งนั่งทานข้าวข้างๆผม หลังจากที่ทานข้าวเสร็จผมก็ว่าจะไปตามงาน

            “งานสองคาบเช้าใช่ป่ะ เอาเล็คเชอร์เราไปดูได้นะไม่ต้องลำบากเดินไปหาจารย์แกที่ห้องพักหรอก” เต้เสนอความช่วยเหลือมาให้ผม

            “ช่วยได้มากเลยครับขอบคุณนะเต้”

            “เออนายนี่ก็คุยง่ายนะ มาเป็นเพื่อนกันเหอะ” เต้ยิ้มกว้างให้ผม

            “ครับขอบคุณนะ” ผมยิ้มกว้าง นี่ก็นานแล้วที่ไม่มีใครกล้ามาขอผมเป็นเพื่อนเพราะอะไรก็ไม่รู้นะ แล้วเต้ก็เป็นคนที่ขอผมเป็นเพื่อน

            “เฮ้ๆไม่ต้องทำท่าดีใจขนาดนั้นเลย เราก็เป็นเพื่อนนายใช่ไหมป่า”กล้าเดินมากอดคอผม

            “ป่านี่ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ หืม”แม็คยิ้มให้กับอาการดีใจของผม นี่ผมแสดงออกชัดไปเหรอ

            “ก็เราไม่เคยมีใครมาขอเป็นเพื่อนเลยนี่หน่า” ผมบอกแบบอายๆ

            “จริงดิ๊” กล้าทำเสียงประหลาดใจ

            “หึๆฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ยยคนแบบนี้ก็มีในโลก” ทั้งสามคนหัวเราะลั่นแปลกมากเหรอ ยิ่งผมทำหน้างง สามคนนั่นยิ่งหัวเราะหนักไปอีก อะไรอ่ะ ผมเลยอดไม่ได้ที่จะขำไปกับพวกเค้า 

            ตอนเย็นเต้เอาสมุดเล็คเชอร์มาให้ผม ปกติแล้วถ้าผมไม่ได้มาโรงเรียนหรือมาไม่ทันคาบเรียนผมจะต้องไปขอเอกสารกับอาจารย์ทีหลัง เพราะผมไม่สนิทกับใครเลยวันนี้ผมได้เพื่อนใหม่แล้วเพราะผมได้พูดคุยกับใครเท่าไหร่เลยและผมก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยกับใคร ต้องขอบคุณแม็คที่เข้ามาทักผม ขอบคุณกล้าที่เข้ามาคุยกับผม ผมปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยความรู้สึกสุขใจ

            ผมเปิดประตูบ้านก็ได้กลิ่นหอมๆอบอวลไปทั้วบ้าน เอ๋ คุณแม่เหรอ

            “กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับ”

            “แม่กลับมาเมื่อตอนสายๆนี่เองมาทานข้าวกัน” ผมรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปจัดโต๊ะนั่งทานข้าวกับคุณแม่

            “แล้วคราวนี้คุณแม่ได้อะไรมาบางครับ” ผมถามเพราะปกติที่แม่ออกไปเที่ยวกลับมาแต่ละครั้งนี่ได้ของติดไม้ติดมือมานี่แทบต้องหาห้องเก็บไว้ต่างหาก

            “อ้อแม่ได้ขนมพื้นเมืองมาเยอะเลยละ ถ้าป่าได้ไปกับแม่นะป่าต้องชอบแน่ๆเลย อากาศดีมากเลย”

            “ขนมนี่คุณแม่ชื้อมาแทบแจกได้ทั้งหมู่บ้านเลยนะครับ”

            “โอ๊ยยไม่เยอะหรอกเดี๋ยวแบ่งๆให้เพื่อนบ้านก็คงหมดแล้วนะ” ถึงจะแจกแต่ก็คงจะเหลือเยอะอยู่ดีผมบอกให้แม่ไปพักผ่อนก่อนที่จะเก็บโต๊ะกินข้าวให้เรียบร้อย

            “ผมนอนแล้วนะครับคุณแม่อย่านอนดึกมากนะครับ ฝันดีนะครับ” ผมเปิดประตูห้องไปบอกคุณแม่ที่นั่งพิมพ์งานอยู่คุณแม่หันมายิ้มให้ก่อนที่จะหันไปพิมพ์งานต่อ พอติดลมบนคุณแม่ก็เป็นอย่างนั้นละครับ ผมกลับเข้าห้องและทำกิจวัตรประจำวัน

           

            20/10/2553     

            วันนี้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ มันเป็นความรู้สึกแปลกๆเหมือนกันแต่อีกไม่นานผมก็ต้องเสิยสิ่งเหล่านี้ไปรึเปล่านะ แค่คิดถึงทำไมผมถึงได้ปวดใจนักนะ จากนี้ไปอีกสี่เดือนคือช่วงเวลาที่แสนวิเศษที่ผมจะได้สัมผัสก่อนที่ผมต้องไปรับการรักษา ขอให้ผมได้รู้จักเค้ามากขึ้นอีกซักนิด

            รักแรกและรักเดียวของผม

 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                    ธนา

-----------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าาาาาา
คอมเม้นต์เยอะจนตกใจฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่9 2/8/2559
«ตอบ #28 เมื่อ03-08-2016 02:18:31 »

 :L2: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่9 2/8/2559
«ตอบ #29 เมื่อ03-08-2016 03:22:44 »

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด