พิมพ์หน้านี้ - Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Letter123 ที่ 23-07-2016 16:25:44

หัวข้อ: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 23-07-2016 16:25:44
ระกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ


วันที่ 23/12/2558
ใกล้วันคริสต์มาสแล้วสินะ ทั้งเมืองเริ่มประดับตกแต่งด้วยไฟและต้นคริสต์มาส บรรยากาศคึกครื้น แต่ทำไมเรารู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก ในร้านกาแฟตอนนี้มีคู่หนุ่มสาวมานั่งสวีทกันอย่างไม่เกรงใจคนโสดและหน้าตาไม่ดีอย่างเราเลย ฮ่าๆๆ วันนี้ก็ยังคงเป็นอีกวันที่น่าเบือ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
คนคนนั้นยังเหมือนเดิม ยังคงเปล่งประกายและเป็นที่สนใจของคนรอบข้างเหมือนเดิม เราได้เพียงแค่มองดูห่างๆ ทั้งที่เรียนคลาสเดียวกันบ่อยๆ ทั้งที่เค้านั่งห่างกันแค่เพียงนิดเดียว คนคนนั้นก็จำเราไม่ได้ ฮ่าๆ ทำไงได้ละเรามันแค่ไอ้แว่นหน้าตาบ้านๆ มีดีแค่เรียนเก่งเท่านั้นละ
แค่แอบมองก็พอใจแล้ว
ธนา
23/12/2558
 
ผมปิดไดอารี่เก็บเข้ากระเป๋า แล้วหยิบกรีนทีลาเต้มากิน นั่งมองผู้คนที่เดินกันขวักไขว่ให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เหมือนกับการรักข้างเดียวที่ทำได้แค่แอบมอง






กดติดตามความเคลื่อนไหว(อันน้อยนิด)และอิมเมจได้ที่

https://www.facebook.com/letter123.writer/
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 1 : แอบมอง 23/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 23-07-2016 16:28:05
สายฝนเย็นฉ่ำตอพร่ำมาตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงตอนนี้เวลาเลิกเรียนแล้วยังตกอยู่ ผมเก็บกระเป๋าแล้วเดินเข้าออกจากห้องเรียน เดินเรื่อยๆตามทางเดิน ไอเย็นของสายฝน เสียงฝนตกกระทบ กลิ่นเย็นๆของอากาศทำให้ผมผ่อนคลาย ผมเดินมาถึงที่ประจำ ม้านั่งหลังตึก ยังดีที่ฝนไม่สาดเข้ามา ผมนั่งลงแล้วเปิดกระเป๋าหยิบไดอารี่เล่มเก่าที่หน้ากระดาษเปล่าใกล้หมดแล้ว

            “สงสัยต้องชื้อเล่มหนากว่านี้แล้วละ” ผมบ่นเบาๆก่อนจะกางไดอารี่ นั่งนึกเรื่องราวในวันนี้ อาจารย์สั่งงานอะไรบ้าง สิ่งอะไรใหม่ๆที่ผ่านเขามาในวันนี้ ผมนั่งเขียนอะไรไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายฝนพรำ

            ซ่า

 

            เปียก

           

            บอกได้คำเดียวว่าผมเปียกไปหมดแล้ว เอ่อ ใครแกล้งอะไรผมเนี้ย  ผมเงยหน้าจากการเขียน ผมมองอะไรไม่ชัดเพราะแว่นผมโดนน้ำไปเต็มๆ

            “เฮ้ยย นายเราขอโทษ ไม่คิดว่าจะมีคนอยู่”  ผมกระพริบตาถิ่ๆ ก่อนจะส่ายหน้า ว่าไม่เป็นไร

            ผมลื้อของในเป้เอาผ้ามาเช็ดแว่น แล้วสวมเข้าที่เดิม สมุดผมเปียกหมดแล้ว ผมถอนหายใจ ได้ชื้อใหม่เร็วกว่าที่คิดแฮะ สลัดไล่น้ำออกแล้วยัดลงกระเป๋า ในเมื่อเปียกแล้วก็เดินตากฝนกลับบ้านเลยละกัน

            “เฮ้ๆๆ นาย” เสียงเรียกตามหลังทำให้ผมหันกลับไปมอง

            “เราขอโทษที่เมื่อกี้สาดน้ำลงมาเราไม่นึกว่านายอยู่ตรงนั้น”

            “เอ่อไม่เป็นไรครับ ถ้าไม่มีไรแล้วไปนะครับ” ผมโค้งแล้วเดินออกไปตากฝนเล่นกลับบ้าน ว้าวเย็นจัง ไม่ได้เล่นน้ำฝนมานานแล้วนะเนี้ย รำคาญก็แต่แว่นนี่ละ วันนี้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเหมือนกันนะเนี้ย

 

            “ป่าทำไมตากฝนกลับบ้านละลูก”  แม่ตกใจทันทีที่เห็นผมตัวเปียกซกมายืนอยู่หน้าประตู

            “ป่าแค่นึกสนุกนะครับ” ผมยิ้มพร้อมรับผ้าขนหนูมาเช็ดผม

            “ไม่ได้นะเดี๋ยวไม่สบายมาจะทำไง ไปอาบน้ำไปเดี๋ยวแม่ชงน้ำขิงให้”  ผมเดินขึ้นห้องของตัวเองอาบน้ำแต่งตัวใหม่ เสร็จแล้วมานั่งลื้อของออกจากกระเป๋า เอาผ้าขนหนูซับน้ำออกจากไดอารี่และหนังสือเรียนที่เปียกไปด้วยนิดหน่อย พอรู้สึกว่ามันไม่มีน้ำแล้วก็เดินลงไปเปิดตู้เย็นแล้วเอาทั้งหมดยัดเข้าไปในช่องแช่แข็ง

            “น้ำขิงแม่วางบนเค้าเตอร์ในครัวนะลูกแม่เข้าไปเขียนบทความส่งกองก่อนนะ” ยังไม่ทันที่ผมจะตอบอะไรแม่ก็หายเข้าไปในห้องเรียบร้อย

            “อ่าไม่ชอบน้ำขิงเลยให้ตายเถอะ” รสชาติไม่เท่าไหร่แต่กลิ่นนี่ทำเอาจมูกผมทนไม่ไหว

            ผมเดินกลับไปห้องนอนลื้อตู้เก็บหนังสือเพื่อหาไดอารี่เล่มเก่าที่ซื้อมาเก็บไว้มันเล่มใหญ่ไป ถึงรูปเล่มจะดูสวยก็เถอะ

 

            10/09/2553

            วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เราได้เจอเค้าคนนั้น ถึงแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกตินัก ผมไม่โกรธใครหรอกนะเรื่องที่โดนน้ำสาดเมื่อก่อนกลับนี้ ถึงคนที่สาดจะไม่ใช่คนคนนั้นก็ตาม ก็ตรงนั้นมันไม่ค่อยมีใครผ่าน มีใครมานั่งนอกจากเรา ลงท้ายเราก็ได้เอาเล่มนี้มาเขียน

            เราแอบชอบมานานเท่าไหร่แล้วนะ รู้ตัวอีกทีสายตาก็คอยแอบมอง จนบางครั้งก็คิดว่าตัวเองแอบโรคจิตรึเปล่าเนี้ย 555 ผมแอบชอบผู้ชาย ตอนแรกก็รู้สึกแปลกทั้งที่ไม่เคยมองใครหรือผู้ชายคนไหน หลงรักครั้งแรกดันเป็นผู้ชายซะอย่างนั้น

            ขอแค่ได้แอบมอง ขอแค่ได้แอบชอบ

            ได้แอบรักห่างๆก็พอแล้ว

            ธนา

 

            10/09/2553

 

 

---------------------------------------------

แอบมาลง ก่อนนะคะ

อาจจะช้าหน่อยนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 2 : Time
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 29-07-2016 15:26:10
หลังจากที่ฝนตกทั้งวันทั้งคืน รุ่งเช้าหน้าบ้านผมก็กลายเป็นคลองอัมพวา เนื่องจากปริมาณน้ำที่มากเกินที่จะระบายได้ทัน แล้วผมจะไปโรงเรียนได้ยังไงคุณแม่ก็ยังไม่ตื่นสงสัยว่าเมื่อคืนคงปั่นต้อนฉบับทั้งคืนแน่ๆ ที่ผมชอบเขียนบันทึกนี่ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณแม่ เมื่อคิดได้ว่าคงออกไปโรงเรียนไม่ได้แล้ว ผมเลยโทรแจ้งอาจารย์ที่ปรึกษาว่าจะเข้าเรียนช้าชักหน่อยรอให้น้ำลดพอที่ผมจะปั่นจักรยานที่พึ่งได้คืนมาเมื่อวานไปโรงเรียนได้

            “ผมไปเรียนก่อนนะครับพ่อ” ผมยกมือไหว้รูปคุณพ่อที่วางไว้บนชั้นวาง สะพายกระเป๋าล็อกประตูบ้านเพราะกว่าแม่จะตื่นก็คงตอนผมเลิกเรียนพอดี แล้วไปจูงจักรยานคู่ใจปั่นไปโรงเรียน

            เพราะน้ำท่วมคนส่วนมากก็จะใช้รถยนต์เพื่อการเดินทางผมเลยต้องคอยระวังสึนามิที่บางทีคนขับก็ไม่ระวังและไม่ได้ปราณีคนเดินถนนเลยแม้แต่น้อย ยังดีที่ผมออกสาย น้ำเริ่มลดเหลือแค่เพียงท่วมปริ่มๆเท้าเท่านั้นแต่ก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดีถ้าขับมาเร็วๆ ด้วยการปั่นจักรยานอย่างระมัดระวังที่เต่ายังเดินแซงได้ของผมก็มาถึงโรงเรียน นี่ขนาดในโรงเรียนยังมีน้ำขัง ผมปั่นจักรยานเพื่อไปโรงเก็บรถที่อยู่ด้านหลังตึงใหญ่

            บรืนนนนนน

            ซ่า...........

            สงสัยผมคงมีดวงสมพงษ์กับน้ำนะครับ รถคันหรูที่ขับมาเร็วเหยียบน้ำสาดใส่ผมเต็มๆเหมือนโดนใครคว่ำถังน้ำราดใส่ตัวยังไงยังงั้น เปียกไปทั้งตัวยังดีที่ผมเปลี่ยนกระเป๋าเป็นกระเป๋าหนังสีดำ น้ำเลยไม่ได้ทำร้ายของในกระเป๋าเท่าไหร่คงต้องไปห้องพยาบาลก่อนล่ะนะ ผมปั่นจักรยานไปจนเจอรถต้นเหตุและคนขับกำลังจะลงจากรถ

            “เอ่อ ขอโทษนะครับ” ผมจอดจักรยานแล้วเดินเข้าไปหา

            “เฮ้ย ทำไมเปียกงั้นวะ” อ่าเป็นคนเดียวกับที่สาดน้ำใส่ผมเมื่อวาน

            “คราวหน้าขับรถเบาๆกว่านี้นะครับจะได้ไม่สาดน้ำใส่คนอื่น อีกอย่างขับเร็วแบบนั้นมันอันตรายนะครับ” ผมบอกเสียงเรียบๆ เค้าทำหน้าประหลาดใจ ผมเลยเดินไปจูงจักรยานไปจอดในโรงจอดรถ ในเมื่อเปียกแล้วก็ไม่มีความจำเป็นต้องปั่นละ แล้วผมก็เดินขึ้นตึกเรียน เพื่อนไปห้องพยาบาล

            “เฮ้ นายๆ” เสียงเรียกตามหลังผมมา แต่ผมก็เลือกที่จะไม่สนใจ

            “เรียกแล้วไม่ได้ยินเหรอวะ” มือหนางดึงแขนผมไว้จนผมเซ

            “ได้ยินครับแต่ผมไม่ได้ชื่อนายแล้วอีกอย่างผมต้องรีบไปห้องพยาบาลก่อนที่พื้นจะเปียกกว่านี้” ผมอธิบายให้คนตรงหน้าฟังเพราะใบหน้านั้นแสดงอารมณ์หงุดหงิดจนเห็นได้ชัด

            “นี่ซื่อหรือตั้งใจกวนวะเนี้ย” ผมไม่สนใจคำค่อนแคะของเค้า ผมดึงมือหนาออกแล้วเดินไปห้องพยาบาล ไม่สนใจคนตรงหน้า

           

            “อาจารย์ครับ สวัสดีครับพอจะมีเสื้อให้ผมเปลี่ยนไหมครับ” ผมถามอาจารย์ห้องพยาบาลที่ตอนนี้กำลังนั่งเล่นเกมในมือถืออยู่

            “ป่า!!! ทำไมตัวเปียกอย่างนี้หือ” อาจารย์ขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปบนโต๊ะ

            “มีอุบัติเหตุนิดหน่อยครับอาจารย์” ผมบอกปัดก่อนที่จะวางกระเป๋าไว้ที่พื้น

            “บอกให้เรียกพี่ป่านไง” พี่ป่านทำหน้ามุ่ย นี่เค้าคิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่กัน แต่ก็ยังดีเดินไปหาเสื้อผ้าให้ผมเปลี่ยนพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหญ่ ที่มาขอจากพี่ป่านเพราะแกเป็นคนซุ่มซ่ามเลยมีติดห้องไว้ประจำ เช่นตอนนี้ที่เดินไปนั่งยังสามารถสะดุดขาตัวเองได้

            “ขอบคุณครับพี่ป่าน” ผมส่งยิ้มบางๆให้

            “แล้วนายต้องการอะไรเห็นยืนรอนานแล้ว” หันไปมองก็เจอคนเดิมเพิ่มเติมคือความหงุดหงิด ผมไม่สนใจก่อนที่จะเดินเข้าไปใช้ห้องน้ำของห้องพยาบาล

            พออกมาก็เจอกับเค้าที่นั่งเล่นอยู่บนโต๊ะอาจารย์ แล้วพี่ป่านไปไหนละ

            “ขอโทษด้วยนะพอดีเรารีบไปไม่ทันได้มองเลย”

            “ไม่เป็นไรครับ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียงแล้วเช็ดผม

            “นายชื่อป่าใช่ไหมอยู่ห้องไหน” ผมเหลือบมอง

            “ใช่ครับอยู่ห้องสอง” 

            “อ่าวห้องเดียวกันเองเหรอ เราชื่อแม็คนะ” ผมพยักหน้าแค่ชื่อเค้าผมรู้อยู่แล้วก็ดูโดดเด่นขนาดนั้นนับอะไรกับผมละแค่ห้องเดียวกันเค้ายังจำหน้าผมไม่ได้เลย

            “เป็นอะไรกับอาจารย์ป่านอ่ะ”

            “เป็นลูกพี่ลูกน้องนะครับ”

            “จริงดิไม่เห็นเหมือนกันเลย” ลูกพี่ลูกน้องไม่ใช่แฝดนะครับ คนละพ่อและแม่นะครับไม่ใช่พ่อแม่เดียวกันนี่เอาอะไรคิด

            “นี่หลอกด่าในใจป่ะ” ผมส่ายหน้า ซักพักพี่ป่านก็กลับเข้ามาพร้อมกับไล่แม็คกลับไป ส่วนผมก็โดนบังคับให้กินยาแล้วนอนที่ห้องพยาบาลจนถึงเลิกเรียน ตกลงผมมาโรงเรียนทำไมครับ

            จนถึงเวลาเลิกเรียนพี่ป่านก็บังคับให้ผมไปขึ้นรถกลับบ้านด้วยกัน ก่อนที่จะลงจากรถก็ยังยัดถุงยาใส่มือผมบังคับให้ผมกินตามเวลาอีกต่างหาก ผมทำได้เพียงถอนหายใจ

            เข้าบ้านมาเหมือนกับแม่จะไม่อยู่บ้านหรือว่า

            .

            .

            ผมรีบเดินขึ้นไปห้องแม่ ก็เห็นโพสอิทของแม่แปะไว้หน้าคอม

            “ป่าครับแม่ขอไปหาแรงบันดาลใจชักสองอาทิตย์นะ

            แม่โอนเงินเข้าบัญชีไว้ให้แล้วนะครับ

                                                                        รัก”

            ผมถอนหายใจแล้วเดินเข้าห้องไปเก็บของนั่งเขียนไดอารี่ของวันนี้

 

            12/10/2553

                        วันนี้แม่ก็หนีผมไปเที่ยวอีกแล้วตั้งแต่ที่พ่อเสียไป แม่ก็มักจะออกไปหาแรงบันดาลใจเดือนละครั้งสองครั้ง ผมไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ เพราะมันเป็นความสุขของแม่ ฮ่าๆๆ อีกอย่างผมก็ชินแล้ว

                        อีกครั้งที่ได้เจอแม็ค แล้วเป็นเหตุการณ์ที่ผมต้องเปียกทุกครั้งไป ผมซวยจริงๆวันนี้ทั้งวันผมทำได้แต่นอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลมันเป็นความรู้สึกที่แย่จนไม่อยากจะนึกถึงเลยละ ทั้งๆที่ไม่เป็นอะไรแล้วแต่ก็ยังรู้สึกแย่อยู่ดี

 

                        ขอเวลาผมหน่อยเถอะนะ ให้เวลาผมมากกว่านี้

------------------------------------------------------------------------------

แอบมาลงเรื่องนี้ อีกตอน อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้าาาา
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง 29/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-07-2016 15:39:57
ติดตามน้องป่าต่อค่ะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 3 : Stay
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 30-07-2016 15:52:15
            วันนี้วันเสาร์ อากาศดีมากๆเลยละครับ กลิ่นหอมของขนมปังที่ร้านขนมข้างบ้านที่พึ่งมาเปิดใหม่ลอยตามลมมา ผมซึ่งกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ถึงกับหิวเลยอ่า หอมจังเลย สงสัยผมจะได้ไปอุดหนุนซะแล้ว ผมเก็บสายยางเรียบร้อยแล้วเดินเข้าบ้านไปหยิบกระเป๋าตังแล้วเดินไปร้านขนมข้างบ้าน

            กรุ๊งกริ๊ง  เสียงกระดิ่งดังทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไป กลิ่นขนมอบตลบอบอวนไปทั้งร้าน อ่าหิวชะมัด

            “เอ่อสวัสดีครับ มีใครอยู่ไหมครับ”

            “ครับ รับอะไรดีครับ” เจ้าของร้านเดินออกมาในสภาพหัวเต็มไปด้วยแป้ง

            “ครับผมเอาชูครีมกับขนมปังธัญพืชครับ” พี่เจ้าของร้านรีบเดินมาหยิบขนมใส่กล่อง

            “ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะครับ”

            “ครับ” ผมยิ้มแล้วถือกล่องขนมกลับบ้าน ชงกาแฟซักแก้วนั่งกินกับชูครีม อ่า นี่มันสวรรค์ชัดๆ ผมต้องจองร้านขนมร้านนี้ไว้แล้วนะครับ อร่อยมาก แป้งนุ่มลิ้น แล้วครีมนี่มันสวรรค์ชัดๆนุ่มละลายในปากทันที ในครีมนี่มีอัลมอลต์ผสมอยู่ด้วย มีความสุขมากๆเลยนะครับ

            ปิ๊งป่องๆๆๆๆ

            เสียงกดกริ่งแบบนี้มีเพียงคนเดียวในโลกครับ พี่ป่าน ลูกพี่ลูกน้องคนเดียวของผม

            “มีอะไรเหรอครับพี่ป่าน”

            “ป่าคร๊าบบบบบ ไปเที่ยวกัน” ผมคอตกนีมาแต่เช้าเพื่อชวนผมไปเที่ยวเนี้ยนะ

            “ว่างเหรอครับพี่ป่าน” ผมถามเบื่อหน่าย

            “ไม่ว่างแต่อยากไปเที่ยว” ชัดเจนและตรงตัว ถ้าผมปฏิเสธไปพี่ป่านก็จะโวยวายและกวนผมได้ทั้งวันจนผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย ผมเลยตอบตกลงแล้วบอกให้พี่ป่านรอผมอยู่ด้านล่าง ส่วนผมเลยขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า พอผมลงมาพี่ป่านก็กินชูครีมจนหมด

            “ป่าไปชื้อชูครีมมาแต่ไหนอ่ะ อร่อยมาก”

            “ข้างบ้านไงพี่ป่าน ว่าแต่พี่ป่านจะเที่ยวไหนครับ”

            “ไปเดินห้างกัน” ห๊ะเดินห้างเนี้ยนะครับ ปวดหัวจริงๆกับความคิดของคนๆนี้ นี่อายุมากกว่าผมจริงเหรอ

            พี่ป่านขับรถไปถึงห้างดังใจกลางกรุงเทพ ทั้งคนที่อึกทึกและรถที่เยอะแยะ ความวุ่นวายทำให้ผมเบื่อหน่าย อยากกลับไปนอนที่บ้านแล้ว พี่ป่านพาผมเดินเที่ยวห้าง เข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนผมเวียนหัว

            “พี่ป่านครับพักก่อนนะครับ” ผมหายใจหอบ พี่ป่านคงดีใจมากที่ผมออกมาเที่ยวด้วยจนลืมไป

            “ป่าพี่ขอโทษนะเราไปนั่งพักที่ร้านอาหารก่อนนะ” ผมพยักหน้า พี่ป่านทำหน้าเครียดที่ผมมีอาการหอบ เราเข้าไปนั่งในร้านอาหารพี่ป่านรีบขอน้ำเปล่าจากพนักงานแล้วค้นเอายาในกระเป๋าเป้ของผม เอายาให้ผมทาน ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจเพื่อให้ลมหายใจของผมปรับให้เป็นปกติ

            “พี่ขอโทษนะป่า พี่ไม่น่าเดินเพลินเลย” พี่ป่านมีสีหน้าเครียด ผมส่ายหัวเชิงว่าไม่เป็นไรผมหายใจเป็นปกติเลยชวนพี่ป่านกินข้าวเลยดีกว่าพวกเรากินข้าวให้เรียบร้อยแล้วพี่ป่านตัดสินใจที่จะพาผมกลับบ้าน พี่ป่านส่งผมถึงบ้านเรียบร้อยผมบอกให้พี่ป่านกลับบ้านแต่พี่ป่านดื้อแพ่งเพราะเป็นห่วงอาการผม ผมได้แต่ถอนหายใจยอมรับชะตากรรมผมเลยขึ้นบ้านไปนอนพัก

 

            อึดอัด ร้อน

            ผมรู้สึกทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ท้ายที่สุดผมก็ไม่สบายสินะครับเนี้ย ผมพยายามที่จะลุกแต่อาการมึนหัวก็จู่โจมทันทีที่ผมลุกขึ้นจนต้องทรุดลงนอนกับเตียงเหมือนเดิม นอนซักพักคงจะดีขึ้น.........ละมั้ง  ผมนอนหลับตานิ่งเพราะไม่สามารถขยับไปไหนได้

            “เฮ้ยทำไมตัวร้อนงี้วะ” ผมได้ยินเสียงแว่วๆพร้อมกับสัมผัสเย็นๆที่หน้าผาก ก่อนที่จะได้ยินเสียงวิ่งโครมคราม ซักพักก็มีผ้าเย็นๆวางที่หน้าผาก เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกายของผม

            “ป่า กินข้าวรึยัง” เสียงทุ้มถามผม ใครกันเสียงไม่คุ้นเลยจริงๆ ผมขยับปากเพื่อบอกว่าผมยังไม่ได้ทานอะไร แต่ลำคอแห้งผากแทบไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมา ผมเลยส่ายหน้าเป็นคำตอบ

            “เราว่านายไปหาหมอเถอะนะ เดี๋ยวเราพาไป”  ผมรีบยกมือคว้า

            “มะ.....ไม่ ไม่ไป แค่กๆๆ” เหมือนใช้พลังงานหมดเพียงแค่พูดสองคำ ผมได้ยินเสียงถอนหายใจ

            “งั้นเดี๋ยวเราไปชื้อข้าวก่อนนะ” ผมได้ยินเสียงเปิดประตูออกไป ใครกันนะแต่ถ้าเข้าบ้านมาได้ก็แสดงว่าพี่ป่านคงให้เข้ามาพี่ป่านไปรบกาวนใครกันนะ ผมนอนรอจนเผลอหลับไป

 

            “ป่าๆ ลุกขึ้นกินข้าวก่อนนะ” ผมพยายามลืมตาแต่เปลือกตานั้นหนักอึ้งทำได้แค่พยักหน้า วงแขนแกร่งพยุงให้ผมนั่งพิง

            “อ้าปากนะ” ผมอ้าปากรับโจ๊กอุ่นๆ แต่ผมไม่สามารถรับรสอะไรได้ มันรู้สึกขมและกลืนยากเกลียดเวลาไม่สบายจริงๆ

            “กินอีกนิดนะจะได้กินยา” ผมพยักหน้าก่อนที่จะพยายามกินโจ๊กจนรู้สึกว่าท้องผมไม่ไหวแล้ว

            “กินยานะนี่พี่ป่านบอกไว้” ผมอ้าปากรับยาที่ป้อนแล้วก็น้ำ แล้วผมก็นอนพัก

            ผมรู้สึกตัวอีกทีก็เย็นมากแล้วอาการปวดหัวและตัวร้อนดีขึ้นมาก ผมลุกลงจากเตียง เหนียวตัวจริง ผมเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยผมเดินลงมาด้านล่าง ก็ได้ยินเสียงทีวีที่เปิดไว้ ผมเดินไปดูก็เห็นแม็คนอนหลับอยู่บนโซฟา เฮ้ยมาได้ไงเนี้ย นี่ผมฝันไปรึเปล่า ผมลองดึงแก้มตัวเองดู โอ๊ย เจ็บแฮะ ไม่ได้ฝันไปหรอกเหรอ

            “แม็คๆ ตื่นเถอะ” ผมเขย่าตัว แม็คงัวเงียลุกขึ้นนั่ง

            “อ่าวป่านายเป็นไงบ้างดีขึ้นรึยัง” พูดเฉยไม่ได้ใช่ไหม แม็คยกมือมาวัดไข้ให้ผม “ทำไมยังหน้าแดงๆอยู่” ผมเบี่ยงหน้าหลบสัมผัสที่ได้รับ

            “เราดีขึ้นแล้ว ว่าแต่นายทำไมถึงได้เข้ามาบ้านเรา”

            “อ้อ เรากลัวว่านายจะไม่สบายที่เราเหยียบน้ำใส่นายเลยโทรหาพี่ป่าน เราเลยได้มาหานายที่บ้าน พอมาถึงพี่ป่านก็บอกให้เราขึ้นไปดูนายส่วนพี่ป่านโดนใครลากไปก็ไม่รู้” ผมพยักหน้ารับรู้ พี่ป่านจะเป็นไรไหมนะเห็นแบบนั้นแต่ก็เป็นพี่ชายที่ดีคอยดูแลผมเสมอ

            “นายหิวรึยังเดี๋ยวเราทำกับข้าวให้”

            “เฮ้ยไม่ต้องก็ได้นายพึ่งหายเองนะ”

            “ไม่เป็นไรเราดีขึ้นมากแล้ว เราหายเร็วนะ” ผมเลือกที่จะไม่ฟัง เดินเข้าครัวไป ยังดีที่เมือวานผมไปเดินตลาดซื้อของสดมาไว้ในตู้เย็นไม่งั้นวันนี้คงไม่พ้น มาม่า แน่นอน ผมหุงข้าว เอาหมูบดออกจากตู้เย็น เห็ดหอม ผักบุ้งออกมา

            “ให้เราช่วยไหม” ผมพยักหน้าก่อนจะบอกให้แม็คล้างผักบุ้งและเด็ดผัก ผมหันไปตั้งหม้อต้มน้ำซุปแบบง่ายๆแล้วโคลกหมูกับกระเทียม พริกไทย รากผักชีรวมกัน แล้วตักเป็นก้อนพอดีคำ

            “เสร็จแล้วนะป่า โห หอมอ่ะป่านี่ทำกับข้าวเก่งนะ” ผมสะดุ้งที่อยู่ๆแม็คก็มายืนอยู่ด้านหลัง ผมผงะไปปเล็กน้อย

            “เอ่อพอดีเราทำเองตลอดเวลาแม่ออกไปเที่ยวนะ” ผมหันไปผัดผักบุ้งอีกจาน เสร็จแล้วก็ช่วยกันยกไปตั้งโต๊ะ ผมตักข้าวใส่น้ำซุปเป็นข้าวต้ม ผมชอบทำแบบนี้มันดูข้าวไม่ๆเละ ผมนั่งกินเงียบๆ

            “ป่านายนี่สุดยอดเลยเรียนก็เก่งแถมทำกับข้าวอร่อยอีก”

            “เวอร์แล้วครับ ใครๆก็ทำได้” ผมตอบเขินๆ เรานั่งทานกันเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บจนมาช่วยกันล้างจานเก็บเรียบร้อย

            “งั้นเรากับละนะ” ผมเดินไปส่งที่หน้าบ้าน

            “เราขอบคุณนายมากนะสำหรับวันนี้ ขอโทษที่รบกวนนายด้วยนะ”  แม็คยิ้ม

            “ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรป่าโทรหาเราได้เลยนะเราเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้แล้ว” แม็คบอกผมก่อนที่ขึ้นรถแล้วขับออกไป

            ผมเดินกลับเข้าไปในบ้านล็อกประตูให้เรียบร้อย แล้วเดินขึ้นห้องไป กางไดอารี่ก่อนทีจะจรดปลายปากกาลงไป

            13/10/2553

            วันนี้พี่ป่านลากออกไปข้างนอกแต่เช้ากลับมาดันเป็นไข้ไปซะได้ ที่สำคัญพี่ป่านก็ไม่รู้หายไปไหน โทรติดต่อก็ไม่ได้ หวังว่าวันจันทร์จะเจอพี่ป่านที่โรงเรียน มีเรื่องให้ผมประหลาดใจได้ตลอดคนๆนี้ วันนี้ผมโชคดีมากจนนึกว่าผมฝันไป นี่ผมใช้โชคดีตลอดทั้งปีมาเพื่อแค่ช่วงเวลานี้ใช่ไหม มันเป็นโชคดีที่ผมไม่คิดว่าจะเป็นจริง การที่เค้าได้มาอยู่ใกล้ๆผม ได้อิงแอบซบไหล่อ่าอายจริงๆ  มีความสุขที่สุดเลย พระเจ้าท่านประทานความสุขให้ผมเกินไปแล้ว จนผมไม่สามารถตัดใจได้เลย ถ้าหากวันนั้นมาถึงจริงๆผมจะสามารถตัดใจได้ไหม

                                                                                    ธนา

 

 -----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่3 30/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 30-07-2016 17:55:45
อืมมมมมมมม

ตอนแรกป่านเขียนในสมุด บอกว่าคนที่สาดน้ำไม่ใช่ "คนคนนั้น"
แต่ตอนสามนี่ประมาณว่าแอบชอบแม็ค

เราเข้าใจถูกไหมคะนี่??  :really2:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่3 30/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 31-07-2016 08:42:55
อืมมมมมมมม

ตอนแรกป่านเขียนในสมุด บอกว่าคนที่สาดน้ำไม่ใช่ "คนคนนั้น"
แต่ตอนสามนี่ประมาณว่าแอบชอบแม็ค

เราเข้าใจถูกไหมคะนี่??  :really2:
เง้อออ ต่อให้คนที่สาดไม่ใช่แม็คค่ะ ป่าก็ไม่โกรธ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 4 : change
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 31-07-2016 10:59:35
วันนี้เป็นวันจันทร์ผมอาการดีขึ้นมากแล้วจากวันที่ไม่สบายไปเมื่อวันเสาร์ เพราะได้การดูแลจากแม็ค ผมอบคุกกี้ไว้แต่ก็ชั่งใจว่าจะเอาไปให้ดีไหม ถ้าให้ไปแม็คจะยอมทานรึเปล่า จะดูแปลกๆไหมที่อยู่ๆผู้ชายอบคุกกี้ไปให้ผู้ชายอีกคน ผมเอากล่องคุกกี้ใส่กระเป๋า ล็อคประตูบ้านให้เรียบร้อย คุณแม่ยังไม่กลับมาเลยละครับสงสัยครั้งนี้จะไปยาว เพราะพึ่งโอนเงินเข้าอีกเมื่อวานตอนเย็น ท่าทางคุณแม่จะได้ไอเดียในการเขียนคอลัมน์คงกำลังสนุกสินะ ผมปั่นจักรยานไปโรงเรียน

            เสียงจอแจของนักเรียนที่โวกเวกก่อนเข้าเรียน ผมเดินเข้าห้องโดยไม่มีใครสังเกตเห็น เดินไปนั่งที่โต๊ะของผมที่นั่งริมหน้าต่างหลังห้อง อืมผมชอบที่นั่งนี้ที่สุดเลย ผมวางกระเป๋าก่อนจะหยิบหนังสือเรียนคาบแรกออกมาอ่าน ผมไม่ได้ขยันอะไรหรอกนะครับมันก็แค่ฆ่าเวลาไปงั้น

            “เฮ้ทำไรอยู่นะ” เสียงร่าเริงสดใสดังขึ้นผมเงยหน้าจากหนังสือ ก็เห็นแม็คยืนอยู่ผมมองไปรอบๆเพราะนึกว่าแม็คคงทักเพื่อนที่อยู่ด้านหลังผม

            “เราทักป่านั่นละหันหาใครละนั่น” แม็คพูดขำๆ ก็ใครจะไปรู้ละว่าทักผม ปกติก็ไม่มีใครทักผมอยู่แล้ว

            “เอ่อมีอะไรกับเราเหรอ” ผมถาม ขณะที่แม็คนั่งลงตรงข้ามผม

            “เป็นไงบ้างรู้สึกดีขึ้นไหม” ผมพยักหน้าเชิงบอกว่าผมรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว

            “นั่นแม็คไปคุยกับใครนะ ใช่นายจืดไหม” เสียงซุบซิบที่เหมือนจะไม่ได้เกรงใจว่าผมจะได้ยินรึเปล่า เอ่อนั่นละครับ ผมเป็นคนจืดๆไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ก็อย่ามายุ่งกับชีวิตผมสิ

            “นี่เราคุยกับป่าอยู่นะเงยหน้าหน่อยสิเราไม่ได้คุยกับผมนายนะ”

            “เอ่อจะคุยอะไรละครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองแม็ค

            “นายสายตาสั้นมากเลยเหรอ” แม็คเท้าคางถามผมด้วยความสงสัย ว่าแต่อยากรู้ไปทำไมเนี้ย

            “ก็ราวๆสองร้อยกว่าๆนะครับ” ผมว่าพลางขยับแว่น มันสั้นมาตั้งแต่ประถมแล้ว

            “ไหนลองดูหน่อยชิ” จู่แม็คก็ยืนมือมาแย่งเอาแว่นผมไป เฮ้ย!! ผมยืนมือไปแย่งคืน แต่ก็วืด ผมต้องแพ่งมองแต่ก็เห็นลางๆ

            “โหหห หนามากเลยอะ โอ๊ยเวียนหัว” ก็แน่ละคนสายตาปกติมาใส่แว่นของคนสายตาสั้นสมน้ำหน้าดีไหมเนี้ย

            “เอาคืนมาเถอะครับ” ผมยอมอ้อนวอน เพราะตอนนี้มันแย่มากผมมอเห็นแค่ลางๆ

            “อืมนายไม่ใส่แว่นแล้วดูดีกว่านะ” แม็คว่าก่อนจะคืนแว่นให้ผม ผมรีบคว้าแว่นมาใส่

            “เอ่อเดี๋ยวนะครับแม็ค ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไงที่ช่วยดูแลผมวันนั้น เลยอบคุกกี้มาตอบแทนไม่รู้ว่านายจะชอบไหม” ผมบอก

            “เฮ้ยไหนๆเราชอบกิน” แม็คดูกระตือรือร้นทันทีที่ผมบอก ผมหยิบกล่องคุกกี้ออกมาแล้วยืนให้แม็ค แม็ครับไปก็แกะออกทันที เดี๋ยวนะมันอยู่ในห้องเรียนอยู่เลยนะ ทันทีที่เปิดกล่องกลิ่นคุกกี้เนยก็ฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง  ผมห้ามไม่ทัน ทุกคนในห้องหันมามอง

            “เฮ้ยหอมวะไอ้แม็คมึงกินไรวะ”  เพื่อนคนหนึ่งน่าจะเป็นเพื่อนสนิทของแม็คเพราะเห็นไปไหนด้วยกันบ่อย

            “ของกูเว้ยดูได้มืออย่าต้อง” แม็คปิดกล่องหนีมือเพื่อน

            “อะไรวะหวง นี่นายยังมีเหลือไหมอ่ะ โคตรหอมเลย หิวเลยวะ” ผมสะดุ้งที่อยู่ๆเค้าก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ผม จริงๆก็ยังมีคุกกี้เหลืออีกอยู่ในกระเป๋าอีกอยู่

            “ฮ่าๆๆ ดูป่าทำหน้างงสิไอ้สนิทมึงไปแกล้งป่าไมวะฮ่าๆ” แม็คหัวเราะลั่นที่เห็นผมทำหน้างง ผมทำหน้างงตอนไหน

            “สัส สนิทนี่พ่อกูไอ้เวร  ป่าใช่ไหมอย่าสนใจไอ้แม็คมัน เรากล้านะ” กล้ายิ้มเป็นมิตรให้ผม ผมยิ้มบางๆตอบ แล้วยื่นถุงขนมให้กล้า ที่พอรับก็แกะแล้วหยิบเข้าปาก เคี้ยวแล้วทำหน้าฟิน

            “โคตรอร่อยเลยป่า แล้วทำไมป่าต้องทำมาให้มันด้วย” กล้าชี้มือไปทางแม็ค

            “เอ่อ พอดีเมือวันก่อนเราไม่สบาย แม็คช่วยดูแลเรา เราเลยทำขนมมาตอบแทนที่แม็คช่วยดูแลเรานะ”

            “แล้วมึงไปดูแลป่าได้ไงวะ” ผมสะดุ้งเพราะจู่ๆกล้าก็นั่งลงข้างๆผมแถมยังเอามือกอดคอผมอีก

            “กูไม่ระวังสาดน้ำใส่ป่าสองครั้งเลยไปเยี่ยม เจอป่าไม่สบายอยู่พอดี” แม็คตอบพลางกินขนมไป

            “มึงไม่ระวังเหี้ยไรวะสาดน้ำใส่ป่าตั้งสองครั้ง ทนได้ไงห๊ะป่าเป็นเรานี่มันไม่ได้มานั่งกินขนมแบบนี้หรอกนะ”

            “มันเป็นอุบัติเหตุนะเราไม่ได้โกรธอะไร”  พอผมพูดจบ กล้าทำหน้าตกใจอ้าปากค้างแล้วทำหน้าเศร้า

            “ป่านายนี่เป็นคนดีจริงๆเลย” กล้าทำหน้าเศร้าแล้วซบหน้าลงกับไหล่ผม

            “มากไปมากไป ไปเกาะแกะอะไรป่านักหนา” แม็คลุกมาตบหัวกล้าจนกล้าตกจากเก้าอี้ ผมทนไม่ไหวจนอดขำไม่ได้ สองคนนี่สนิทกันจริงๆ

            “ฮ่าๆๆ” ผมไม่ได้หัวเราะอย่างนี้มาก็นานแล้วนะ สองคนนั้นเลิกที่จะแกล้งกันไปมาแล้วหันมามองหน้าผม

            “ป่านายหัวเราะ” กล้าทักผม ผมหยุดขำแล้วทำหน้าเชิงว่าผมหัวเราะไม่ได้เหรอ

            “นายดูดีนะถ้านายยิ้มและหัวเราะบ่อยๆ” แม็คบอกผม ผมรีบก้มหน้าลงผมหน้าที่ยาวบังใบหน้าที่ขึ้นสีตอนนี้ได้เป็นอย่างดี ผมดูดีจริงๆนะเหรอ ผม.......

            “เฮ้ เป็นไรรึเปล่า” แม็คถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ผมรีบเงยหน้า ส่ายหน้าเชิงบอกว่าไม่เป็นไร

            ผมเปิดหนังสืออ่านทบทวนไปเรื่อย สองคนนั่นก็นั่งแย่งขนมทั้งๆที่มันก็มีเยอะนะแต่แม็คก็ยังไปแย่งกล้ากิน วันนี้โฮมรูมอาจารย์ไม่เข้าทุกคนในห้องเลยนั่งเล่นนั่งคุยกันเจี๊ยวจ๊าว ผมสร้างโลกส่วนตัวนั่งอ่านหนังสือเรียบร้อย ว่าแต่สองคนนั่นยังนั่งอยู่ตรงนี้อีกเหรอ

            “เฮ้ป่านั่งอ่านอะไรตั้งนาน”

            “เฮ้ ป่า ป่าได้ยินไหมนิ” ผมเงยหน้ามอง

            “เอ่อมีไรเหรอครับ”

            “ที่เราถามนี่ไม่ได้ยินเลยใช่ป่ะ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบที่แม็คถาม แม็คถอนหายใจแรงๆทีหนึ่ง

            “เราถามป่าว่านั่งอ่านอะไรอยู่”

            “อ้อ เรานั่งอ่านเนื้อหาที่จะเรียนนะ” แม็คทำหน้าอึ้งๆ

            “ขยันจังนะ อืมถ้าจำไม่ผิดป่าได้ท็อปของชั้นปีตลอดเลยใช่ป่ะ” เอ๋จำได้ด้วยเหรอ แม็คจำได้ด้วย

            “ไม่ขนาดนั้นหรอกนะเราแค่ว่างเลยอ่านเล่นๆนะ”

            “อ่านหนังสือเรียนนี่นะอ่านเล่นๆ แปลกคนจริงๆ” ผมยิ้มรับคำว่าแปลกของแม็ค กล้ายิ้มแปลกๆก่อนจะลุกออกจากที่นั่งแล้ววิ่งไปที่โต๊ะค้นกระเป๋าหยิบหนังสือกับสมุดมา

            “ป่า......... ช่วยสอนนี่ให้เราที” กล้าวางหนังสือฟิสิกส์ลง

            “อ้อได้สิ” ผมพยักหน้าแล้วก็ติวให้กล้า ซึ่งกล้าตั้งหน้าตั้งใจฟังผมอธิบายอย่างตั้งอกตั้งใจ

ผมอธิบายไปเรื่อยๆ

            “อ้อแบบนี้เองเข้าใจแล้ว ป่าอธิบายเข้าใจง่ายจริงๆ” กล้าชมผมแล้วก็นั่งแก้โจทย์ ซึ่งดูดีๆแล้วเป็นการบ้านในคาบก่อนๆนี่น่า ยังไม่ส่งหรอกเหรอ ผมนั่งสอนไปถือว่าเป็นการทบทวนที่เรียนผ่านมาอีกรอบก็แล้วกันนะ แม็คนั่งฟังด้วย แม็คเรียนเก่งมากเลยนะครับได้ติดท๊อปตลอด ทั้งๆที่ก็เป็นคนชิวๆแท้ๆ ไม่เหมือนกับผม

            “เสร็จแล้วววววววววว ยะฮู้ แต๊งมากเลยนะป่า ตอนเที่ยงเราจะเลี้ยงข้าวขอบคุณป่าสอนเข้าใจมากเลย” กล้ายิ้มกว้างก่อนจะวิ่งออกนอกห้องสงสัยจะเอางานไปส่งย้อนหลัง  แม็คมองผม

            “มีอะไรเหรอ”

            “ป่านี่ใจดีนะ”

            “เอ๋?? เราเหรอ เปล่านะครับ” ผมไม่ได้ใจดีอะไรขนาดนั้นซักหน่อย ผมนะเหรอใจดี

 

            “นายนี่น่าสนใจมากๆเลยนะป่า” ยิ่งแม็คพูดผมยิ่งงงกับตัวเองมากเท่านั้น

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะครับบบ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่4 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 31-07-2016 19:04:05
จาก 2553 มา 2558 ยังอยู่ที่เดิม
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่4 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 31-07-2016 19:18:42
จาก 2553 มา 2558 ยังอยู่ที่เดิม
อ๊ากกกเค้าลืมแก้
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day5 : Dream
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 31-07-2016 19:24:44
พระเจ้า ผมใช้โชคดีของผมไปหมดรึยัง เอ๋ ทำไมผมถามอย่างนี้นะเหรอครับ ก็ตอนนี้ผมนั่งกินข้าวเที่ยงกับแม็คและกล้านะสิครับ เอ่อ ปกติผมจะไปนั่งกินคนเดียวกลางสวนแต่ตอนนี้แม็คลากผมมาที่โรงอาหาร ซึ่งเป็นที่ผมเลี่ยงมาตลอดแท้ๆ ทั้งคนที่เยอะแยะมากมาย ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่ตรงโต๊ะเพราะไม่รู้จะไปสั่งร้านไหนดี หรือทำยังไงดี

            “อ่าวทำไมไม่ไปสั่งข้าวละป่า”แม็คที่เดินถือแก้วน้ำกลับมาที่โต๊ะ

            “คือเราไม่รู้ว่าจะไปสั่งยังไงอ่ะ”ผมเกาแก้มอย่างอายๆ

            “อ่าวเหรอแล้วปกติกินไงเนี้ย”

            “คือเราทำข้าวกล่องมาทานเองตลอด ปกติจะกินที่สวนในโรงเรียนนะ” ผมนั่งลง

            “เออจริงดินายทำกับข้าวอร่อย วันพรุ่งนี้เราไปนั่งกินด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวเราไปสั่งให้นะ” แม็คบอกแล้วเดินไปสั่งอาหารให้ผม ซักพักแม็คก็กลับมากพร้อมจานข้าวและก็กล้า

            “ขอบคุณนะครับแม็ค” แม็คโบกมือว่าไม่เป็นไร แล้วนั่งลง ผมเลยนั่งลงกินข้าวบ้าง

            แม็คกับกล้าชวนผมคุยไปเรื่อย ระหว่างกินข้าวผมทำได้แค่พยักหน้าและตอบเป็นบางคำถามเพราะบางเรื่องที่ทั้งสองคุยกันผมก็ตามไม่ทัน สองคนนี้สนิทกันจริงๆ ผมรวบช้อน

            “อ่าวอิ่มแล้วเหรอ กินน้อยจริง” แม็คทักเพราะผมกินข้าวไปได้เพียงครึ่งเดียว

            “เราไม่ค่อยทานอาหารข้างนอกเท่าไหร่นะ” ขืนกินไปอีกคำเดียวผมได้อาเจียนออกมาแน่ๆ เพราะผงชูรสเยอะมาก ผมกินมากไม่ได้ ดังนั้นเลยทำอาหารกินเองเพราะจะได้ไม่มีผงชูรส แม็คพาผมเอาจานไปเก็บ ผมเดินไปชื้อน้ำเปล่า เพื่อล้างปาก ลิ้นยังชาอยู่เลยครับ คราวหน้าผมคงจะกินร้านนี้อีกไม่ได้แล้ว

            “เป็นไรรึเปล่าป่า หน้าซีดๆ” แม็คถาม

            “เราไปห้องพยาบาลก่อนนะ” ผมบอกแล้วรีบเดินผละไปห้องพยาบาลได้ยินเสียงแม็คเรียกไล่หลังแต่ตอนนี้ผมไม่ไหว ผมเปิดประตูห้องพยาบาล

            “ป่า ป่าเป็นไร”  พี่ป่านถามผมเมื่อเห็นว่าหน้าผมซีด

            “พี่ป่าน จะอ้วก” ผมบอกเท่านี้ พี่ป่านก็พยุงผมเข้าไปในห้องน้ำ อาหารที่พึ่งกินไปก็พุ่งออกมา                     

            “ไปกินอะไรมาหืม” พี่ป่านลูบหลังให้ ผมอาเจียนจนไม่เหลืออะไรในท้อง คอของผมแสบไปหมด พี่ป่านเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเซ็ดหน้าให้ผมก่อนที่จะพยุงผมไปที่เตียง ผมนอนลงเพราะเวียนหัวมาก

            “ดืมน้ำก่อนนะ” ผมลุกขึ้นรับแก้วน้ำอุ่นมาจิบ ค่อยรู้สึกยังดีขึ้นมาหน่อย ผมยื่นแก้วน้ำคืนพี่ป่าน

            “นอนพักดีกว่านะ เดี๋ยวตอนเย็นค่อยกลับกับพี่ เดี๋ยวพี่ไปบอกอาจารย์ให้” ผมหลับตา ได้ยินเสียงพี่ป่านรูดม่านปิด ด้วยอาการเวียนหัวผมก็นอนหลับได้ทันที

 

 

            “อืมม” ผมบิดขี้เกียจก่อนทีจะลืมตา นี่มันกี่โมงแล้ว ผมงัวเงียลุกลงจากเตียง อาการเวียนหัวก็ดีขึ้นมาก แต่ตอนนี้รู้สึกหิวจังผมเปิดม่านที่ปิดเตียงออก

            “อ่าวตื่นแล้วเหรอ” ไม่ใช่เสียงพี่ป่านแต่เป็นแม็ค

            “แม็คเหรอพี่ป่านละครับ”

            “อาจารย์ป่านนะกลับไปแล้วละ ลุกไหวไหม นี่นมอาจารย์บอกว่าถ้าป่าตื่นให้บังคับให้ป่ากิน” ผมไม่ใช่เด็กๆนะทำไมต้องสั่งกำชับขนาดนั้นด้วย  ผมรับนมกล่องมาถือไว้ ไม่ยอมกิน ผมไม่ชอบกินนมพี่ป่านนะรู้ดี

            “ไม่ชอบกินเหรอ”

            “อื่มเราไม่ชอบกิน”

            “กินรองท้องก่อนเถอะเห็นอาจารย์บอกว่าป่าอ้วกข้าวเที่ยงออกมาหมดเลยไม่ใช่เหรอกินรองท้องก่อน” ทำไมพี่ป่านบอกแม็คหมดเลยอ่ะ แม็คจ้องเขม็ง ผมเลยยอมกิน เมื่อเห็นว่าผมกินนมหมดกล่องแล้วก็สะพายกระเป๋าขึ้น

            “กลับเถอะเดี๋ยวเราไปส่ง” และผมก็เห็นว่าแม็คถือกระเป๋าผมมาด้วย ผมเลยลุกเดินตามแม็คไปที่รถ

 

            แม็คขับรถมาส่งผมที่บ้าน ผมนั่งนิ่งยังไม่ลงจากรถวันนี้ไปรบกวนแม็คทั้งวัน

            “เอ่อ ขอบคุณมากนะวันนี้เรารบกวนแม็คมากจริงๆ”

            “ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้ากินไม่ได้ก็บอกเราสิไม่ต้องเกรงใจเราขนาดนั้นสิ”

            “เราขอโทษนะ”

            “ไม่เป็นไรเย็นมากแล้วป่าเข้าบ้านเถอะเจอกันวันจันทร์นะ” แม็คยิ้ม ผมยิ้มตอบแล้วลงจากรถแล้วเข้าบ้านไป

            ผมขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนทีจะลงมาทำโจ๊กกินนั่งดูหนังดูซีรี่ย์เล่นไปเรื่อยจนถึงสามทุ่ม ผมตรวจกลอนประตูหน้าต่างชั้นล่างก่อนจะปิดไฟแล้วขึ้นห้องนอน ใกล้จะถึงวันที่แม่บอกว่าจะกลับมาแล้วสินะ นั่งอ่านหนังสือไปซักพักผมก็เปิดไดอารี่

 

 

            16/10/2553

                        วันนี้ก็ไม่สบายอีกแล้วทำไมกันน้า ต้องไม่สบายต่อหน้าแม็คอยู่เรื่อยเลย วันมะรืนนี้ต้องไปหาคุณอาหมอแล้ว ไม่รู้ว่าอาการจะออกมาเป็นยังไง  ตอนนี้ได้เป็นเพื่อนกับแม็ค และกล้าซึ่งเป็นเรื่องที่ผมมองมาโดยตลอด พอมองนานๆก็กลายเป็นแอบชอบได้คุย ได้กินข้าว ได้หัวเราะ กับคนที่เราแอบชอบมาตลอดช่างเป็นเรื่องที่ผมไม่คาดคิด มันรู้สึกดี ดีจนนึกว่าฝันไป ขอบคุณโชคชะตาที่ทำให้ผมได้คุยกับคนที่ผมแอบชอบมาโดยตลอด

 

 

ธนา
--------------------------------------------------------
ป่าป๊อดค่ะ ฮ่าๆๆๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นให้น้า
กดเป็ดให้ทุกคนเลยจ้า
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 31-07-2016 19:30:02
มาต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 31-07-2016 20:56:38
ป่าป่วยเยอะจัง น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 31-07-2016 21:18:02
ป่าชอบใครอะ งงไดอารี่ แมคหรือกล้า กล้า?
แต่บรรยายตอนเจอกันครั้งแรกของทั้งกล้า กับแมคก้เหมือนเพิ่งเคยเจอกัน นี่งง มาเฉลยๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 31-07-2016 21:25:14
แม็คคิดอะไร ป่ะเนี้ยยยย  :hao3:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 31-07-2016 21:40:54
พระเอกต้องแม็คเซ่ะ  :fire:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่5 31/7/2559
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 31-07-2016 23:30:26
ป่า เป็นโรคอะไรกันนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่6
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 01-08-2016 10:31:19
6

            เช้าวันเสาร์ที่อากาศดี ผมรถน้ำต้นไม้เสร็จก็เดินไปซื้อขนมที่ร้านขนมข้างบ้าน กินอาหารเช้าแบบไม่เร่งรีบ แล้วขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาอาหมอที่โรงพยาบาล

            กริ๊ง ๆ

            เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตอนที่ผมกำลังจะออกจากบ้านพอดี

            “สวัสดีครับ”

            “(ป่าลูกรัก วันนี้อาหมอนัดใช่ไหมคะลูก)”

            “ครับแม่ ป่ากำลังจะออกไป”

            “(อย่าฝืนตัวเองนะคะ เดี๋ยวแม่ก็จะกลับแล้วนะ แม่รักลูกนะ)”

            “ผมก็รักแม่ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”  ผมวางสายก่อนที่จะปิดบ้าน เรียกแท็กซี่ไปส่งที่โรงพยาบาล

            กลิ่นที่เหมือนยาฆ่าเชื้อ ผู้คนพลุกพล่านเป็นภาพและกลิ่นที่ผมเคยชิน ผมเดินไปที่เค้าเตอร์

            “อ่าวน้องป่าถึงวันนัดแล้วเหรอคะ” พี่พยาบาลทักผมขณะที่ผมยืดบัตรนัดให้

            “ครับ”

            “ขึ้นไปรอคุณหมอที่ห้องได้เลยนะ ทานอะไรมารึยัง”

            “ทานมาเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณนะครับ” ผมรับใบนัดคืนแล้วเดินขึ้นลิฟท์ขึ้นไปห้องที่คุ้นเคย การป่วยตั้งแต่เด็ก ทำให้ผมไม่สามารถวิ่งเล่นได้เหมือนคนอื่น ออกแดดมากไปก็หน้ามืด วิ่งได้นิดเดียวผมก็หอบแล้ว ยังดีที่การเติบโตมาโดยพี่ป่านเลี้ยงทำให้ผมมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าปกติ ผมเป็นคนที่ทำอะไรช้าสำหรับคนทั่วไป ในเมื่อไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรที่โลดโผนเหมือนคนอื่นทำให้การอ่านหนังสือและเขียนไดอารี่ทำให้ผมมีความสุข ซึ่งนั่นก็เป็นผลพวงที่ทำให้ผลการเรียนของผมสูงกว่าปกติทั่วไปในชั้นเดียวกัน นั่นยิ่งทำให้ผมไม่มีเพื่อนสนิท

            ผมนั่งอ่านหนังสือในห้องของคุณอาหมอ หมดไปหลายเล่ม อื่มหรืออาหมอติดคนไข้ด่วนรึเปล่านะ 

            ปัง โครม

            “โอ๊ยๆ  โทษทีนะป่าอาติดคุยธุระกับผู้อำนวยการอยู่” การมาพร้อมกับเสียงโครมคราม นี่มันเป็นรหัสพันธุกรรมที่สืบทอดกันมาสินะ ทั้งพี่ป่านและคุณอานี่ต้องเป็นเพราะพันธุกรรมแน่ๆ ซุ่มซ่ามเหมือนกันจริงๆ

            “เป็นอะไรมากไหมครับคุณอา” ผมเข้าไปพยุงคุณอาที่กระโดดอยู่ ไม่งั้นได้ล้มใส่ของอย่างอื่นแน่ๆ

            “คุณอานี่ซุ่มซ่ามไม่เปลี่ยนเลยนะครับ”

            “อาก็อยากให้มียาแก้อยู่นะ” คิดว่ามันคงไม่มีทางหายหรอกนะ  ผมพยุงคุณอาไปนั่งที่เก้าอี้

            “ขอบใจๆ วันนี้อาจะตรวจครบเซ็ทเลยนะ เดี๋ยวอาขอเจาะเลือดเอาไปตรวจก่อนนะ แล้วค่อยไปตรวจหัวใจกัน เดี๋ยววันนี้ไปกินข้าวกับอานะ”  คุณอาเอาเข็มมาเพื่อเจาะเลือด

            “ครับ” วันนี้ทั้งวันผมคงได้อยู่โรงพยาบาลนี่ละนะ

            หลังจากที่คุณอาเจาะเลือดแล้วส่งเลือดผมให้แล็บ คุณอาก็ลากผมลงไปที่ศูนย์อาหาร สั่งทั้งของคาว ของหวานมาเต็มโต๊ะ นี่จะกินหมดกันเหรอครับ

            “ป่า” โครม เสียงเรียกพร้อมกับการเตะโต๊ะที่มันก็ไม่ได้ขวางทางอะไร พี่ป่านก็กระโดดมาที่นั่งที่โต๊ะ

            “พี่ป่าน สวัสดีครับ”

            “ป่ามาตรวจวันนี้สินะ สวัสดีครับพ่อ” พี่ป่านยกมือไหว้พ่อก่อนที่จะนั่งจิ้มขนมไทยที่คุณอาซื้อมา อ้อนี่รู้ว่าพี่ป่านจะมาสินะ ถึงได้สั่งของหวานให้ขนาดนี้

            นั่งกินข้าวกันจนเสร็จพวกเราก็พากันขึ้นไปห้องตรวจผมต้องตรวจหัวใจ เพราะหัวใจผมหลังจากการผ่าตัดเส้นเลือดในหัวใจตอนเด็ก ผมต้องมาตรวจหัวใจตลอด และผมดันมีอาการภูมิแพ้เพิ่มมาอีก  ผมนั่งรอผลตรวจที่ห้องพักของคุณอา ส่วนพี่ป่านรายนั้นก็นอนหลับบนโซฟา กินอิ่ม นอนหลับ นิสัยเลี้ยงง่ายดีนะครับ

            “รอนานไหมป่า” และคุณอาก็กลับเข้ามา

            “ไม่เป็นไรครับคุณอา”  สีหน้าคุณอาดูเครียด

            “ป่าผลการตรวจออกมาแล้วนะ หัวใจของป่ามีอาการเต้นผิดจังหวะ แล้วก็ผลเลือดที่ตรวจออกมาเกล็ดเลือดของป่าจางมาก ป่าต้องระวังในเรื่องอาการบาดเจ็บร้ายแรงนะ เพราะการที่เกล็ดเลือดจางทำให้เลือดหยุดไหลช้า ป่า อาว่า ป่าต้องคิดเรื่องที่จะผ่าตัดหัวใจได้แล้วนะ” ผมนั่งนิ่งทันทีที่ได้ยิน ถึงจะทำใจกับเรื่องผลตรวจที่ออกมา แต่ก็เหมือนว่าอาการของผมจะแย่ลง

            “ผมยังไม่อยากผ่าตัดครับแต่ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากรักษานะครับแต่ผมขอเถอะครับให้อยู่ก่อนได้ไหมครับ” ผมไม่อยากเสียช่วงเวลานี้ไป มันเป็นโชคดีที่สุดแล้วของผม ผมขอเวลาอีกนิด

            “อาจะส่งชื่อของป่าเข้าในโปรแกรมรับบริจาคนะ ตอนนี้อาจะให้ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจก่อนนะแล้วจะให้ยาเพิ่มเกล็ดเลือดนะไปรับยาเดี๋ยวอาจะให้ไอ้ป่านไปส่ง”

            “ผมกลับแท็กซี่เองก็ได้ครับ”

            “อาไม่อนุญาต ไปรับยาก่อนนะ” ผมลากลับก่อนจะไปยื่นรับยา พี่ป่านก็พาผมกลับบ้าน

 

            “ขอบคุณครับพี่ป่าน กลับได้แล้วครับดึกแล้ว” ผมไล่พี่ป่านกลับ  เพราะแกตื้อที่จะอยู่ด้วย สุดท้ายพี่ป่านก็ยอมกลับบ้านไปดีๆ ผมทานข้าวเย็น ทานยา แล้วขึ้นไปนอน

            17/10/2553

                        สุดท้ายแล้วเวลาของการที่ผมต้องเลือกก็มาถึง ทำไมกันนะ นี่สินะพระเจ้าถึงประทานโอกาสให้ผมได้คุยกับคนที่ผมแอบมอง ได้เพื่อนใหม่ๆ ผมขอเวลาอีกนิดได้ไหม ขอเวลาที่ผมจะได้เก็บช่วงเวลาต่างๆนี้ไว้ในความทรงจำ ถึงการผ่าตัดจะมีขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์  ขอเวลาให้ผมอีกนิดนะ

 

ธนา

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แอบเอามาแปะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

รักทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่6 1/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-08-2016 14:40:43
ป่าน่าสงสารจัง
ร่างกายไม่แข็งแรง
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day7 : Home Work
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 01-08-2016 16:38:58
ฮัดชิ่ว ฟืดดด

            เสียงจามของผมสนั่นบ้านแต่เช้า หลังจากไปโรงพยาบาลผมก็เป็นแบบนี้ประจำ ผมลื้อเอาแมสมาใส่ แล้วออกไปรดน้ำต้นไม้ตามกิจวัตรประจำวันของผม

            ฮัดชิ่ว แค่กๆ

            อื่มมาเป็นคอมโบเลย  รีบรดน้ำให้เสร็จดีกว่าจะได้ไปทำกับข้าวกินดีกว่า

โฮ่ง โฮ่ง

เสียงเห่าหน้าบ้านดังมา นี่ขาประจำผมมาอีกแล้วสินะ ผมรีบวางสายยางแล้วเดินไปเปิดประตูรั้ว ก็เจอหมาหน้าไม่เต็มบาทพันธุ์ไซบีเรียนั่งลิ้นห้อยอยู่

            “ไงโซนิค หนีออกมาบ้านพี่อีกแล้วเหรอ”

            “โฮ่งๆ” เห่าเสร็จก็วิ่งปรู๊ดดเข้าไปเล่นทีสนามหญ้า กลิ้งไปกลิ้งมา เอ๊ยเปื้อนหมดแล้ว

            “โซนิคไม่เอาไม่เล่นสิ เปื้อนหมดแล้ว” ผมรีบไปดึงมันไว้ โซนิคเป็นหมาของบ้านพี่ป่านเองละครับ ไม่รู้มันแสนรู้หรือมันซื่อกันแน่ มันชอบเล่นกับผมมาก โตมามันก็แอบหนีมาจากบ้านโน้นมาเล่นกับบ้านผมบ่อยๆ ซนจริงๆ

            “โฮ่งๆ” มันวิ่งวนรอบตัวผม แล้วไปคาบสายยางมาหาผม

            “จะเล่นน้ำ ไม่เล่นได้ไหมวันนี้พี่ไม่สบาย” ผมลูบหัวมัน พอบอกแค่นั้นละมันทำหน้าละห้อย งือ ผมเดินไปเปิดก๊อกน้ำ โซนิครีบปล่อยสายยางแล้ววิ่งมาหาผม

            ผมดึงสายยางมาแล้วฉีดน้ำ โซนิดวิ่งไล่งับไปทั่วและเห่าอย่างบ้าคลั่ง

            “ฮ่าๆๆๆๆ โซนิคเบาๆ โอ๊ยยยอย่าสะบัดขนใส่พี่สิ ฮ่าๆๆ แค่กๆ” อ่าผมไม่น่าเล่นนานขนาดนี้เลย ผมรีบไปปิดน้ำพาโซนิคไปเช็ดขน เป่าขนให้แห้งแล้วให้มันเข้าบ้าน ส่วนผมรีบไปอาบน้ำ  ผมเดินลงไปเข้าครัวทำข้าวต้มหมูสับ ส่วนโซนิคเล่นเสร็จก็นอนอยู่บนโซฟาเรียบร้อย ผมทานข้าวทานยาเสร็จ ก็เดินมานอนเล่นที่โซฟา

            ปิ๊งป่อง ปิ๊งป่อง

            เสียงกดกริ่ง ใครกันนะปกติพี่ป่านไม่กดกริ่งหรอกนะครับ รายนั้นนะมีกุญแจส่วนตัว  หรือจะเป็นไปรษณีย์ ผมเดินไปเปิดประตู

            “สวัสดีป่า” เสียงทักพร้อมรอยยิ้มกว้าง

            “มะ ... แม็ค มาได้ไงครับเนี้ย” ผมฝันไปหรือเปล่าเนี้ย หรือเป็นไข้จนเพี้ยน

            “เรามาหานายนั่นละพอดีเราทำการบ้านฟิสิกส์ไม่ได้ เลยจะมาขอให้ป่าช่วยเราหน่อย”

            “ดะ..ได้นะ เข้ามาก่อนครับ” ผมเปิดประตูรั้ว

            “เราเอารถไปจอดข้างในได้ไหม กลัวมันขวางทาง” แม็คชี้ไปทางรถที่แม็คขับมา ผมพยักหน้าก่อนจเปิดประตูรั้วให้แม็คขับรถเข้าบ้าน

            “ป่าทำไมใส่แมสนะ หน้าแดงๆด้วย”

            “เราไม่สบายนิดหน่อยนะ”

            “เรามารบกวนรึเปล่า”

            “ไม่  ไม่รบกวนนะ เข้าบ้านกันเถอะครับ” ผมรีบบอกแม็คแล้วชวนแม็คเข้าบ้าน

            โฮ่งๆๆ ทันทีที่แม็คเดินเข้าบ้าน โซนิคก็เห่าลั่นบ้าน ผมลืมไปเลย

            “โซนิดเงียบนะ นี่เพื่อนพี่เอง” ผมเดินไปลูบหัวมัน

            “หมานายเหรอ มาครั้งก่อนไม่เห็นเลย” แม็คถามผมแล้วเดินมาเล่นกับโซนิค สนิทกันเร็วจริงๆนะครับเนี้ย

            “เปล่าหรอกนี่เป็นหมาของพี่ป่านนะแอบหนีมาเล่นกับเรานะ” ผมเดินไปเอาน้ำมาให้แม็ค

            “ขอบใจนะ” รอยยิ้มกว้างที่เหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของแม็คไปแล้ว

            ผมนั่งลงบนพื้นพรม โซนิครีบมานอนข้างๆให้ผมลูบหัวให้ แม็คเอาหนังสือฟิสิกส์ออกมากาง อ้อเนื้อหาตอนนี้ผมทำเสร็จไปแล้วนี่น่า ผมนั่งสอนให้แม็คจนเงยหน้ามาอีกที ก็จะเที่ยงแล้ว

            “แค่กๆ” ทันที่ผมไอ โซนิคเงยหน้ามาดูผม

            “ไหวไหม หน้าแดงมากเลย” แม็คไม่ถามเปล่า ยืนมือมาแตะที่หน้าผากผม ผมผงะทันที

            “โอ๊ะโทษที “

            “ไม่เป็นไรครับ เราแค่ตกใจเฉย ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นแบบนี้บ่อยๆนะ”

            “เราว่านายไม่ไหวแล้วละ กินยาก่อนดีกว่านะ” แม็คว่าก่อนจะเก็บหนังสือเรียนใส่กระเป๋า

            “แค่กๆไม่เป็นไร แม็คหิวรึยังมันเที่ยงแล้วน่ะครับ” ผมถามก่อนจะลุกเดินไปห้องครัว

            “เฮ้ย นายไหวแน่นะ” ผมชูสองนิ้วให้แม็ค บอกว่าผมยังไหว จริงๆแล้วผมแค่ไอนะครับยังไม่ได้เป็นหวัดแค่ไอนิดหน่อย มั้งครับ  แม็คเดินตามผมเข้ามาในครัว

            “เราทำอาหารรสไม่จัดนะ แม็คทานได้ไหม” ผมถามขณะที่เลือกผักออกมาจากตู้เย็น ของสดใกล้หมดแล้วพรุ่งนี้ไปตลาดก่อนกลับดีกว่า

            “ได้ๆๆ ไม่มีปัญหา นายไหวแน่นะ มาให้เราช่วยดีกว่านะ” แม็คแย่งผักเอาล้าง

            ผมตั้งหม้อเพื่อที่จะทำแกงจืด ผมปรุงรสนิดเดียว แม็คเอาผักมาหัน ผมเลยบอกให้หั่นผักสำหรับหั่นให้ด้วย ผมปรุงผัดผักให้รสจัดกว่าที่ผมกินนิดหน่อย

            “ป่านี่ทำกับข้าวเก่งจริงๆ เรานี่รอกินอย่างเดียวทำไม่เป็นเลย” ผมยิ้ม

            “เราทำกินเองนะเพราะกินผงชูรสไม่ได้นะ เลยทำกินเองนะแล้วคุณแม่ก็ไม่ค่อยอยู่เราเลยต้องทำกินเอง”  ผมพูดไปเรื่อยๆขณะที่ทำกับข้าว

            “ป่านี่พอสนิทแล้วก็คุยเก่งนะ”

            “อ่า เราคุยเก่งเหรอ” ผมปิดเตา ตักกับข้าวใส่จาน แล้วถือไปที่โต๊ะ แม็คถือจานข้าวออกมา ผมเดินไปหยิบขวดน้ำและแก้วมาที่โต๊ะ ผมถอดแมสออกเพื่อกินข้าว แม็คนั่งตรงข้ามผม

            “แล้วการบ้านป่าละ”

            “อ้อเราทำเสร็จก่อนที่จะไปหาหมอแล้วละครับ”

            “หืมหาหมอเป็นไรเหรอ แล้วอีกเรื่องป่าไม่ต้องพูดสุภาพกับเราได้แล้วนะ”

            “ขอโทษด้วยเราไม่ชินนะ แต่จะพยายามนะ”

 

            เรานั่งกินข้าวเงียบๆหลังจากนั้นก็เก็บโต๊ะล้างจานเรียบร้อยก็มานั่งเล่นที่โต๊ะ แม็คนั่งทำงานไปผมก็นอนซบเจ้าโซนิคดูทีวีเงียบจนผมเผลอหลับไป

-------------------------------------------------------------

แท่ แด้

พาร์ทหน้าจะเป็นมุมของแม็คแล้วนะคะ

ผ่านมาเจ็ดตอนในที่สุดก็ได้มีพาร์ทของตัวเอง

อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยเน้อ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-08-2016 17:06:47
 :mew2:

น้องป่า ทำไมไม่ผ่าตัดหัวใจล่ะคะ เปอร์เซ็นต์สำเร็จมีน้อยมากเลยเหรอ?  :ling3:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 01-08-2016 19:02:28
อยากซบโซนิคบ้างงง ในที่สุดก็เป็นแมคเล่าแล้ว รออ่านค่าาา
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 02-08-2016 00:58:24
 :L2: :pig4:

ขอบคุณมากที่อัปเดท บ่อยๆนะ
แต่ว่า ป่า จะไม่ตายใช่ไหมมมมมมม บอกเราที
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่7 1/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 02-08-2016 03:42:39
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมองDay8 : น่ารัก 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 02-08-2016 09:03:24
อ่าสวัสดีครับ พึ่งได้เจอกับผมครั้งแรกสินะ ผมนั่งทำงานฟิสิกส์ในส่วนที่เหลือ ส่วนป่านอนกอดเจ้าโซนิคอยู่ตรงข้าม ผมไม่น่ามารบกวนป่าเพราะป่าดูเหมือนไม่สบายอยู่ แต่ป่าก็ใจดีสอนให้ผม ตั้งแต่เจอกับป่าทั้งที่เจอกันครั้งแรกมันไม่ได้น่าประทับใจอะไรเลย แต่ป่าก็ยังไม่โกรธผม และเป็นอีกครั้งที่ผมสาดน้ำใส่ป่า และผมก็ได้รู้ว่าป่านั้นไม่แข็งแรงเท่าไหร่ และดูเหมือนป่าจะแปลกใจที่ผมเข้าไปคุย หรือไอ้กล้าคุยด้วย เหมือนเป็นคนที่ขี้อายแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ร่าเริงและอ่อนโยน ผมเก็บสมุดลงกระเป๋า

            “ป่า ป่า” ผมเรียกป่าแต่ป่านอนนิ่งไม่ขยับเลย ผมลุกเดินเข้าไปหาป่า ก็เห็นว่าป่านอนหลับไปแล้ว ใบหน้าขาวซีดของป่าแดงระเรื่อ ไข้ขึ้นรึเปล่านะ ผมแตะหน้าผากก็เห็นว่าไม่ได้ร้อนอะไร ผมดึงแมสออกให้ใส่นอนคงจะไม่สบายเท่าไหร่นัก

            “ขอโทษนะ” ผมบอกเบาๆ ก่อนจะอุ้มป่าขึ้น เพื่อพาไปนอนที่เตียงดีๆ ผมเดินขึ้นชั้นสองของบ้าน แล้ววางป่าลงบนเตียงห่มผ้าให้เรียบร้อย ผมเดินลงมาข้างล่าง เห็นเจ้าโซนิคนอนเหงาอยู่

            “ป่ะ โซนิคไปเล่นข้างนอกกัน” ผมเปิดประตูไปที่สวน โซนิควิ่งชนผมออกไปที่สนามหญ้าวิ่งมุดเข้าไปในพุ่มไม้

            “เฮ้ โซนิค ออกมาเร็ว” ผมหยิบเอาตุ๊กตาเน่าๆตัวหนึ่ง ที่วางบนสนามหญ้า ไซนิคหันมาเห็นก็พุ่งมาที่มือผม ผมหลบโซนิควิ่งตามตุ๊กตาเน่าๆ สงสัยจะเป็นตุ๊กตาของมันแน่ๆ เฮ้ยๆอะไรจะวิ่งเร็วขนาดนั้น

            อั๊ก โซนิควิ่งมาชนผมที่ด้านหลังอย่างแรง จนผมล้มลงแล้วมันก็เข้ามาฟัดผมไอ้หมานี่จะไฮเปอร์ไปไหววะ

            “โอ๊ยพอแล้ว พอหนักนะเฟ้ยยย” โซนิคทิ้งตัวลงมาทับผมแล้วกลิ้งไอ้หมานี่ทำไมมันกวนตีนจังวะ แล้วมันก็นอนทับผมอยู่เฉยๆจะเกรียนไปไหม

            “ทำอะไรกันนะครับ” เสียงเล็กๆถามผม

            “อ่าเราพามันมาเล่นนะ” ผมตอบป่า ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า

            “เราว่าแม็คต้องอาบน้ำแล้วละ” ผมก้มดูเนื้อตัวเละไปทั้งตัว ป่ายิ้มกว้างที่เห็นผมเปื้อนทั้งตัว เป็นรอยยิ้มที่ทำให้ป่าดู.....อืมจะว่าไงดี ดูดีมาก ดูมีเสน่ห์จริงๆ

            “เดี๋ยวเราเอาผ้าขนหนูให้นะ” ป่าว่าก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้าน ผมลูบหน้าอ่านี่ผมเป็นไรเนี้ยถึงได้มองว่าป่าสวยวะ กูไหวไหมเนี้ย  ป่าเดินกลับมาพร้อมกลับผ้าขนหนูผมรับก่อนจะเดินขึ้นไปอาบน้ำ ผมพันผ้าขนหนูเดินออกจากห้องน้ำ ผมยืนอยู่ในห้องของป่าเป็นห้องที่ดูมีระเบียบและดูสบายตาเหมือนคนที่อยู่       

            “เราลืมเอาเสื้อให้แม็ค  เฮ้ย!!” ป่าร้องทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเห็นผมยืนอยู่กลางห้อง  ผมกันไปมองป่ายืนหันหลังให้ผม อะไรจะอายขนาดนั้น

            “ป่านายอายอะไรกัน”

            “เอ่อ........แม็คหยิบเสื้อในตู้ได้เลยนะ ระ....เราจะลงไปข้างล่างก่อน” น้ำเสียงตะกุกตะกัก ทำไมมันดูน่าแกล้งจริงๆ ผมเดินเข้าไปหาป่าที่กำลังจะเปิดประตูออกไปแล้วหยุดอยู่ข้างหลังป่า

            “เราให้ป่าหาให้เราดีกว่านะ” ผมก้มลงพูดเบาๆกับป่า ป่าก้มหน้าลงเสี้ยวหน้าที่ผมเห็นนั้นแดงระเรือ

            “อะ.... มะ...แม็คเดินเข้าไปหยิบเลยก็ได้” ป่าบอกเสียงสั่นแล้วยกมือชี้ไปทางด้านหลัง

            “เราเกรงใจป่านะ” ยิ่งผมขยับหน้าเข้าไป ป่ายิ่งตัวสั่น

            “ขะ....เข้าไปหยิบเลยนะ” ป่าร้องก่อนที่จะเปิดประตูแล้ววิ่งออกจากห้องไป

            “หึๆ ฮ่าๆๆๆ” โอ๊ยยน่ารัก ป่านี่น่ารักจริงๆ นี่ผมมองว่าเค้าน่ารักนี่แปลกไหม คำๆนี้เหมาะกับเค้าจริงๆ ผมหยิบเสื้อยืดและกางเกงที่ดูตัวใหญ่ที่สุดในตู้แล้วเดินลงไปข้างล่าง ผมเห็นป่ากอดโซนิคและซุกหน้าลงกับตัวโซนิค

            “เป็นอะไรรึเปล่าป่า” พอผมทักป่าก็สะดุ้ง

            “ปะ...เปล่าๆ” ป่าเดินหันหน้ามาตอบผม

            “อืมเรากวนป่านานแล้วเรากลับเลยละกันนะ ส่วนเสื้อเรายืมก่อนนะ”

            “อะ..อืม เดี๋ยวเราเดินไปส่ง” ป่าปล่อยโซนิคออกจากอ้อมแขนแล้วเดินออกมาส่งผมที่หน้าบ้าน

            “วันนี้ขอบคุณมากเลยนะ”

            “ไม่เป็นไรเรายินดีช่วย” ป่ายิ้มน้อยๆ ผมยิ้มตาม ผมขับรถตรงกลับบ้าน

           

 

                                    ก่อนหน้านี้ผมแค่สนใจแค่ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่แปลกจริงๆแต่พอได้คุย กลับน่าสนใจและน่ารัก นี่ผมมองผู้ชายน่ารักมันแปลกไหม ฮ่าๆๆ แต่คำๆนี้เหมาะกับเค้าจริงๆ ป่าเป็นคนที่ดูแปลกแต่เป็นคนใจดี ทำไมกันนะผมถึงอยากรู้จักเค้ามากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------

เอาพาร์ทของแม็คมาลงสั้นๆเพราะแม็คคงไม่ได้ออกมาอีกนาน

555555555555555 ให้นางโผล่มา นิดหนึ่ง ค่าตัวนางแพง

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเม้นต์

ขอบคุณที่ชอบนิยายของเรานะ

ดีใจมากๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่8 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 02-08-2016 09:23:03
แม็คเคอะ จะออกทั้งทีนี่สั้นจิ๋วเลยนะคะเนี่ย ค่าตัวอย่างแพง

เมื่อไหร่แม็คจะรู้คะว่าป่าเป็นโรคหัวใจอ่า??
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่8 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 02-08-2016 10:31:26
หยอกเข้าไปค่ะ เดี๋ยวคนหยอกนั่นละติดกับเอง หึหึหึ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง day9 : เพื่อนใหม่ 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 02-08-2016 17:46:34
หลังจากที่เมื่อวานแม็คมาให้ผมสอนการบ้านผมขึ้นไปนอนสลบจนถึงเช้าเลย มันสายมากจนผมต้องรีบลุกแล้วอาบน้ำแล้วแทบจะวิ่งลงจากบ้านเลยถ้าวิ่งได้นะครับ ผมถึงจะรีบแต่ก็ทำอะไรเหมือนเดิมไม่ช้าไม่เร็ว สงสัยคงไปถึงโรงเรียนก็คาบสองแน่ๆเลย ด้วยการปั่นจักรยานที่เต่ายังแซงได้ของผม ผมก็มาถึงโรงเรียนในคาบที่สอง ผมเดินถึงห้องเรียนตอนที่อาจารย์สอนเสร็จแล้ว

            “ป่า!! นายพึ่งมาเหรอเรากำลังเป็นห่วงอยู่เลย” ทันทีที่ผมเดินเข้าห้องแม็คก็เรียกแล้วเดินเข้ามาหาผม ทุกคนมองมาที่ผมเป็นสายตาเดียว

            “เอ่อเราตื่นสายนิดหน่อยนะ”

            “เพราะเมือวานเราไปรบกวนใช่ไหม ดีขึ้นรึยัง ไปหาอาจารย์ป่านไหม” แม็คถามผมรัวมากจนผมงงไปหมด

            “ไอ้แม็คมึงถามรัวไปแล้ว และเมื่อวานมึงไปกวนไรป่าห๊ะ”  กล้าเดินเข้ามากอดคอผมก่อนที่จะกันไปคาดคั้นกับแม็ค

            “เมื่อวานกูให้ป่าสอนการบ้านฟิสิกส์ให้ แต่ป่าดูไม่สบายตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”แม็คถอนหายใจเหมือนจะรำคาญที่กล้ามาซักไซร้ถาม

            “เราดีขึ้นแล้วละ พอดีเราตื่นสายนะเลยมาช้า”

            “เพราะเหนื่อยนะสิ”

            “มึงนี่ห่วงจังนะ” กล้าแซวก่อนที่จะปล่อยคอผม

            “ช่างกูเหอะนะ”แม็คว่าก่อนจะเดินกลับที่นั่ง ผมเลยเดินกลับไปที่โต๊ะท่ามกลางความสงสัยของทุกคน อ่าผมรู้สึกเหมือนมีสายตาทิ่มแทงยังไงก็รู้ ผมต้องไปตามงานในสองคาบที่มาเรียนไม่ทัน จนถึงเวลาพักเที่ยง

            “ป่าไปทานข้าวกัน” แม็คเดินมาชวนผม

            “อืม” ผมพยักหน้าตกลงวันนี้ผมตื่นสายเลยไม่ได้ทำข้าวกล่องมาเลยต้องไปทานที่โรงอาหารกับแม็คและก็กล้า เราสามคนเดินมาถึงโรงอาหารแม็คบอกให้ผมนั่งรอที่โต๊ะแล้วแม็คจะไปสั่งข้าวให้ผม

            “ยังมีที่ว่างไหม” ผมนั่งรออยู่จู่ๆก็มีคนเข้ามาถาม

            “เอ่อเรานั่งสามคนน่าจะยังมีที่ว่าอยู่นะครับ” ผมตอบ

            “งั้นเหรอ ดีเลยเราขอนั่งด้วยนะ” เค้ายิ้มกว้างให้ผม ผมเลยพยักหน้าตกลงเอ่อแม็คกับกล้าจะว่าอะไรไหมนะ ซักพักแม็คก็กลับมาพร้อมจานข้าวสองจาน

            “เราสั่งไข่เจียวให้ป่านะ”

            “ขอบคุณมากนะแม็ค” ผมยิ้มในความเอาใจใส่ของแม็คเพราะรู้ว่าผมทานผงชูรสไม่ได้สิ่งที่ผมทานได้ในโรงอาหารคงจะมีแต่ข้าวไข่เจียวนี่ละนะ

            “อ่าวนี่เพื่อนแม็คเหรอ” คนที่มาขอนั่งด้วยก็กลับมาที่โต๊ะเหมือนกัน รู้จักกับแม็คด้วยเหรอเนี้ย

            “พูดไรวะนี่ก็เรียนห้องเดียวกันไง ที่ได้ที่หนึ่งในห้องบ่อยๆนะ”

            “เฮ้ยนายจืดนะเหรอ” เอ่อพึ่งรู้นะครับว่าผมมีฉายาว่างี้นี่เอง

            “ไอ้เต้!!”

            “โทษทีๆเราชื่อเต้นะ” เต้ว่าก่อนจะนั่งลงข้างผม

            “เราชื่อป่านะ” ผมยิ้มบางให้ก่อนที่จะนั่งกินข้าวของตัวเองไป

            “ไม่เหมือนที่คิดไว้เลย ป่านี่ก็น่ารักดีนิ” ผมรู้สึกประหลาดใจกับคำชมนี้แต่ก็ไม่สนใจ

            “แดกข้าวไปไอ้เต้”

            “เออๆ” เต้เลยนั่งนั่งทานข้าวข้างๆผม หลังจากที่ทานข้าวเสร็จผมก็ว่าจะไปตามงาน

            “งานสองคาบเช้าใช่ป่ะ เอาเล็คเชอร์เราไปดูได้นะไม่ต้องลำบากเดินไปหาจารย์แกที่ห้องพักหรอก” เต้เสนอความช่วยเหลือมาให้ผม

            “ช่วยได้มากเลยครับขอบคุณนะเต้”

            “เออนายนี่ก็คุยง่ายนะ มาเป็นเพื่อนกันเหอะ” เต้ยิ้มกว้างให้ผม

            “ครับขอบคุณนะ” ผมยิ้มกว้าง นี่ก็นานแล้วที่ไม่มีใครกล้ามาขอผมเป็นเพื่อนเพราะอะไรก็ไม่รู้นะ แล้วเต้ก็เป็นคนที่ขอผมเป็นเพื่อน

            “เฮ้ๆไม่ต้องทำท่าดีใจขนาดนั้นเลย เราก็เป็นเพื่อนนายใช่ไหมป่า”กล้าเดินมากอดคอผม

            “ป่านี่ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ หืม”แม็คยิ้มให้กับอาการดีใจของผม นี่ผมแสดงออกชัดไปเหรอ

            “ก็เราไม่เคยมีใครมาขอเป็นเพื่อนเลยนี่หน่า” ผมบอกแบบอายๆ

            “จริงดิ๊” กล้าทำเสียงประหลาดใจ

            “หึๆฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ยยคนแบบนี้ก็มีในโลก” ทั้งสามคนหัวเราะลั่นแปลกมากเหรอ ยิ่งผมทำหน้างง สามคนนั่นยิ่งหัวเราะหนักไปอีก อะไรอ่ะ ผมเลยอดไม่ได้ที่จะขำไปกับพวกเค้า 

            ตอนเย็นเต้เอาสมุดเล็คเชอร์มาให้ผม ปกติแล้วถ้าผมไม่ได้มาโรงเรียนหรือมาไม่ทันคาบเรียนผมจะต้องไปขอเอกสารกับอาจารย์ทีหลัง เพราะผมไม่สนิทกับใครเลยวันนี้ผมได้เพื่อนใหม่แล้วเพราะผมได้พูดคุยกับใครเท่าไหร่เลยและผมก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปคุยกับใคร ต้องขอบคุณแม็คที่เข้ามาทักผม ขอบคุณกล้าที่เข้ามาคุยกับผม ผมปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยความรู้สึกสุขใจ

            ผมเปิดประตูบ้านก็ได้กลิ่นหอมๆอบอวลไปทั้วบ้าน เอ๋ คุณแม่เหรอ

            “กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับ”

            “แม่กลับมาเมื่อตอนสายๆนี่เองมาทานข้าวกัน” ผมรีบวางกระเป๋าแล้วเดินไปจัดโต๊ะนั่งทานข้าวกับคุณแม่

            “แล้วคราวนี้คุณแม่ได้อะไรมาบางครับ” ผมถามเพราะปกติที่แม่ออกไปเที่ยวกลับมาแต่ละครั้งนี่ได้ของติดไม้ติดมือมานี่แทบต้องหาห้องเก็บไว้ต่างหาก

            “อ้อแม่ได้ขนมพื้นเมืองมาเยอะเลยละ ถ้าป่าได้ไปกับแม่นะป่าต้องชอบแน่ๆเลย อากาศดีมากเลย”

            “ขนมนี่คุณแม่ชื้อมาแทบแจกได้ทั้งหมู่บ้านเลยนะครับ”

            “โอ๊ยยไม่เยอะหรอกเดี๋ยวแบ่งๆให้เพื่อนบ้านก็คงหมดแล้วนะ” ถึงจะแจกแต่ก็คงจะเหลือเยอะอยู่ดีผมบอกให้แม่ไปพักผ่อนก่อนที่จะเก็บโต๊ะกินข้าวให้เรียบร้อย

            “ผมนอนแล้วนะครับคุณแม่อย่านอนดึกมากนะครับ ฝันดีนะครับ” ผมเปิดประตูห้องไปบอกคุณแม่ที่นั่งพิมพ์งานอยู่คุณแม่หันมายิ้มให้ก่อนที่จะหันไปพิมพ์งานต่อ พอติดลมบนคุณแม่ก็เป็นอย่างนั้นละครับ ผมกลับเข้าห้องและทำกิจวัตรประจำวัน

           

            20/10/2553     

            วันนี้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่ มันเป็นความรู้สึกแปลกๆเหมือนกันแต่อีกไม่นานผมก็ต้องเสิยสิ่งเหล่านี้ไปรึเปล่านะ แค่คิดถึงทำไมผมถึงได้ปวดใจนักนะ จากนี้ไปอีกสี่เดือนคือช่วงเวลาที่แสนวิเศษที่ผมจะได้สัมผัสก่อนที่ผมต้องไปรับการรักษา ขอให้ผมได้รู้จักเค้ามากขึ้นอีกซักนิด

            รักแรกและรักเดียวของผม

 

                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                    ธนา

-----------------------------------------------------------------------

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าาาาาา
คอมเม้นต์เยอะจนตกใจฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่9 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-08-2016 02:18:31
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่9 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-08-2016 03:22:44
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่9 2/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: rubymoona ที่ 03-08-2016 08:58:02
เต้มาจีบป่าใช่ไหมมมมมมม ตอนแรกนึกว่าเป็นสาวแฟนคลับแมคมาแกล้งแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 10 : เร่ิมต้นมิตรภาพ
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 03-08-2016 12:52:39
ผมปั่นจักรยานพร้อมกับหอบถุงขนมที่คุณแม่ชื้อมาเยอะแยะมากมายที่ผมเอาไปแจกเพื่อนบ้านหลายคนก็ยังเยอะอยู่ดี ผมเลยคิดที่จะเอาไปฝากแม็ค กล้า แล้วก็เต้ดีกว่า ผมแยกขนมหวานต่างหากไปให้พี่ป่าน เพราะขานั้นชอบขนมหวานมาก จนคิดว่าพี่ป่านแกจะเป็นเบาหวานเข้าซักวันแต่กินหวานขนาดนี้กับไม่อ้วนเลยซักนิด ผมจอดจักรยานไว้ที่ประจำก่อนทีจะเดินไปที่ห้องพยาบาล

            ก๊อกๆ  ผมเคาะประตูห้อง

            “อ่ะ เข้ามาเลย” เสียงพี่ป่านดังขึ้นพร้อมเสียงโครมครามในห้อง สงสัยจะรีบจนสะดุดอะไรอีกละมั้งเนี้ย ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่ป่านนั่งกุมเท้าอยู่บนพื้น

            “ผมเอาขนมมาให้พี่ป่าน พอดีแม่ชื้อขนมมาเยอะมากนะผมเลยแบ่งเอาขนมหวานที่พี่ป่านชอบมาให้” ผมเดินเอาถุงขนมถุงโตไปวางไว้ที่โต๊ะแล้วเดินไปพยุงพี่ป่านให้ลุกขึ้นยืน

            “พี่เดินไปเตะโต๊ะอีกแล้วใช่ไหมครับพี่ป่าน”

            “อือ พี่เตะมันอีกแล้วไม่ต้องมีเลยก็ได้นะไอ้โต๊ะเนี้ย” พี่ป่านนั่งบนเตียงแล้วก็บ่น ผมได้ยินคำบ่นนี้มาหลายรอบแล้วละครับ

            “ครับๆ พี่ป่านก็ระวังหน่อยสิครับ”

            “หนวกหูจริง” เสียงบ่นหงุดหงิดดังขึ้นจากเตียงถัดไปที่ปิดม่านไว้

            “มีนักเรียนไม่สบายเหรอครับ” ผมถามพี่ป่าน เพราะผมมาโรงเรียนแต่เช้าจะมีใครป่วยแต่เช้าได้กันละ

            “อ่า เอ่อ เพื่อนพี่เอง” พี่ป่านลังเลที่จะตอบ ผมเลยคิดว่าไม่ซักไซ้ดีกว่า

            “งั้นผมขึ้นห้องก่อนดีกว่า ไม่รบกวนดีกว่าครับ” ผมเดินขึ้นห้อง ลบกระดานดำให่สะอาดเรียบร้อย ก่อนที่จะเอาดอกไม้ที่เตรียมไว้มาปักแจกัน แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะของตัวเองผมมักจะมาโรงเรียนแต่เช้า มันเหมือนเป็นนิสัยที่ผมทำเป็นประจำไปเสียแล้ว อากาศตอนเช้านี่มันสดชื่นจริงๆ แล้วก็เริ่มมีเพื่อนร่วมห้องทยอยเข้าห้องมา แต่ก็เหมือนเดิมผมนั่งโดยไม่มีใครมาทัก

            “โย่วหวัดดีป่า” กล้าเดินเข้ามาทักผมทันทีที่เดินเข้าห้องมา

            “สวัสดีครับกล้า” ผมยิ้ม ก่อนที่ค้นเอาถุงขนมที่เตรียมไว้ยื่นให้กล้า

            “ให้เราเหรอ อะไรเนี้ย” กล้ายิ้มกว้างก่อนที่จะนั่งลงเปิดถุงเพื่อดูของข้างใน

            “ขนมนะครับ พอดีแม่พึ่งกลับมาจากไปเที่ยวชื้อมาเยอะเราเลยเอามาให้”

            “โอ๊ยยยยขอบคุณมากเลยนะป่า ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะ ช่วยเรารอดตายเลย ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนะเนี้ย” กล้ายิ้มกว้างขอบคุณผมก่อนที่จะแกะขนมห่อหนึ่งกินอย่างรวดเร็ว ท่าจะหิวมากเลย

            “กินอะไรกันอยู่นะ” เสียงแม็คดังมาจากข้างหลังผมหันไปมอง ท่าทางแม็คเหมื่อนคนที่พึ่งตื่นนอน ผมสังเกตเห็นว่าผมด้านหลังของแม็คกระดกเป็นตูดเป็ดอยู่สองสามปอย

            “หืมหน้าเรามีไรเหรอ”

            “แม็ครีบมากเลยเหรอครับ” ผมกลั้นขำก่อนจาถามแม็ค

            “ก็นะ ทำไมเหรอ” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะหยิบถุงขนมถุงใหญ่ยื่นให้แม็ค แม็คทำหน้างงก่อนที่จะรับไปแล้วเปิดดู

            “โอ๊ะ ของชอบเราเลย ขอบคุณมากนะ ทำไมเยอะอย่างนี้”

            “พอดีแม่เราชื้อของฝากมาเยอะมากเลยละ เราเลยเอาแบ่งให้ทุกคน”

            “โอ๊ะขอบคุณมากเลย นี่ไอ้กล้ามึงหิวอะไรขนาดนั้น” ผมหันไปมองกล้าที่กินขนมหมดไปแล้วสองถุง เอ่อนี่คงจะอิ่มถึงเย็นเลยละมั้งเนี้ย

            “อืมกูหิวมาก กูต้องรีบกินก่อนอาจารย์จะเข้า” ผมขำก่อนที่จะมองหาเต้รอบๆห้อง เต้ยังไม่มาเหรอเนี้ย

            “หาใครเหรอ”

            “เราหาเต้นะ ยังไม่เห็นเลย”  ผมหันไปตอบแม็ค  แม็คหันไปรอบห้องก่อนที่จะเดินเอากระเป๋าไปเก็บแล้วเดินกลับมานั่งโต๊ะข้างๆผม  ผมหันไปมองแล้วก็อดไม่ได้ที่จะขำผมเป็ดด้านหลังเพราะผมไม่เคยเห็นแม็คมีผมเป็ดมาก่อน

            “นี่ๆขำอะไร” กล้าสะกิดผมแล้วกระซิบ

            “ดูผมด้านหลังแม็คสิครับ” กล้าชะโงกตัวข้ามหัวผมไปดู

            “ฮ่าๆๆๆๆ แม็คมึงตอนตื่นนี่ไม่ได้ดูหัวมึงเลยใช่ไหม”

            “หัวกูทำไมวะ” แม็คลูบหัว พอลูบผ่านแล้วมันกระดกขึ้นยิ่งทำให้ดูตลก

            “หึ..... ฮ่าๆๆๆ” ผมอดไม่ได้ที่จะขำออกมา

            “เฮ้ยมันแย่ขนาดนั้นเหรอ” แม็คเอามือมาปิดท้ายทอยไว้

            “กูนับได้ก็เป็ดหลายตัววะฮ่าๆๆ” ที่ขำเพราะไม่เคยเห็นแม็คหลุดแบบนี้เท่าไหร่

            “เออ แม่งเมื่อเช้ากูตื่นสาย แค่อาบน้ำมาทันเข้าเรียนนี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว” แม็คว่าพร้อมกับพยายามลูบผมที่เป็ดอยู่ ผมนั่งหันไปมองกล้าที่ตอนนี้ขนมที่ผมเอามาให้นั้น เหลืออยู่เพียงไม่กี่ห่อ นี่คงจะหิวมากเลยสินะครับ ตอนนี้กล้าจ้องที่ถุงขนมของเต้

            “อันนี้ของเต้นะครับ” ผมรีบคว้าเอาถุงขนมเก็บไว้     

            “ฮ่าๆๆๆๆเราไม่หิวขนาดที่แย่งของเพื่อนกินหรอกนะ” กล้าหัวเราะดัง เรียกความสนใจของทุกคนมองมาที่กลุ่มพวกเรา อ่าสายตาทุกคนทำไมทิ่มแทงมาที่ผมอย่างนี้ละ

            ขณะที่เต้ยังมาไม่ถึงคาบแรกก็เริ่มขึ้น รึว่าเต้จะไม่สบายหรือลาโรงเรียนกันนะ จนกระทั่งพักเที่ยง

            “ป่า~~~~~~~ ไปกินข้าวกานนน” ได้ข่าวว่าพึ่งกินไปก่อนเข้าเรียน ทั้งๆที่กินเยอะขนาดนั้น แต่กล้าก็ไม่อ้วนติดจะบางด้วยซ้ำกินแล้วเอาไปไว้ไหนหมด

            “ตะกละจริงๆ”

            “หุบปากไปเลยไอ้แม็ค”

            “เออๆ ไปกันเถอะป่า เดี๋ยววันนี้เราจะสั่งข้าวให้เอง”  แม็คว่าก่อนจะเดินนำพวกผมออกไป ผมลุกคว้าเอากระเป๋าเงินแล้วรีบเดินตามแม็คไป  ไปถึงโรงอาหารแม็คก็ให้ผมนั่งเฝ้าโต๊ะ ซักพักก็เดินกลับมาพร้อมกับข้าวไข่เจียว

            “อ่ะนี่ของป่านะ” แม็ควางจานข้าวของผมและของตัวเองลง

            “ขอบคุณนะครับ”

            “มาแล้ววววววววว” กล้าบอกพร้อมกับถาดข้าวที่มีกับข้าวสองอย่างและข้าวพูนจานอีกจานใหญ่ พอเริ่มสนิทกันผมยิ่งทึ่งในการกินของกล้า เรานั่งกินข้าวกันใกล้เสร็จเต้ก็เดินหัวฟูเดินมาหาพวกผม

            “สวัสดีครับเต้” เต้ปรือตาพยักหน้าให้ผม ไหวไหมละนั่น

            “มึงเป็นไรวะเต้ ไหวไหม” แม็คถาม

            “กูไหว แต่กูง่วงชิบหายเลย”  เต้พูดไปแต่ก็ตาจะปิดไปแล้ว

            “มึงไปทำอะไรมา เล่นเกมสินะมึง”

            “กูไม่ใช่มึงนะไอ้กล้า กูไปทำงานเหอะ อ่า หิวข้าวซะมัด” เต้พูดแต่ก็ไม่ยอมลุกไปซื้อข้าวผมเลยเลื่อนจานข้าวที่กินได้ไม่กี่คำ

            “กินของเราก็ได้นะ เราอิ่มแล้วละ ถ้าเต้ไม่รังเกียจเรานะ” จริงๆผมก็กินไม่เยอะอยู่แล้ว พูดจบเต้ก็ไม่ตอบว่าอะไรแต่กลับคว้าเอาจานข้าวของผมเอาไปกินแบบไม่ลืมหูลืมตา คงจะหิวจริงๆสินะ

            “ป่าอิ่มแล้วจริงๆนะเหรอ ให้เราสั่งให้ใหม่ก็ได้นะ” แม็คถามผม ผมรีบส่ายหน้า เพราะผมอิ่มแล้วจริงๆ เต้กินเสร็จเหมือนจะยังไม่อิ่ม แถมยังคว้าเอาแก้วน้ำของผมไปกินต่ออีก คงจะหิวจริงๆสินะ หลังจากที่เราก็เดินขึ้นห้อง จากในตอนแรกที่ผมมักแอบหลบไปกินข้าวที่สวนคนเดียวเงียบๆ เดินขึ้นห้องคนเดียว ไม่มีคนสนใจ ไม่มีมีคนคุยด้วย ตอนนี้ผมมีเพื่อนที่ทักทายตอนเช้า ชวนผมคุยเวลาว่าง ผมรู้สึกมีความสุขจริงๆ

            หมับ แรงรั้งที่คอเสื้อผมกระพริบตาแรงๆ

            “เหม่ออะไรของป่า จะชนเสาอยู่แล้ว” อ่า นี่ผมเหม่อขนาดนี้เลยเหรอ

            “แหะๆ” ผมหัวเราะแห้งๆ ให้แม็ค

            “คนหัวดีนี่เหมือนไม่เต็มเลยนะ” นี่ว่าเราใช่ไหมเนี้ย

            “แต่กล้านี่มองยังไงก็ไม่เหมือนคนปกติตลอดเลยนะครับ” พูดจบผมก็รีบเดินหนี โดยที่กล้ายังยืนนิ่ง จนผมเดินมานั่งที่เหมือนเดิม

            “ไอ้ป่า!!!!!!!!! แกว่าฉันเหรออออออออออออ”  นี่จะรู้สึกช้าไปไหม ฮ่าๆๆ แม็คกับเต้เดินตามหลังเข้ามา หัวเราะร่าผมเลยยื่นถุงของฝากให้เต้ เต้คว้าไปแล้วเดินไปนั่งกินที่โต๊ะ

            “เราว่านายเหรอ” ผมหันไปหากล้าที่ทำหน้าบึ้งอยู่

            “หรือว่าไม่ใช่”

            “เราว่าเราไม่ได้ว่ากล้าเลยนะ” ผมยิ้ม กล้าทำหน้างง ก่อนจะหยักหน้า

            “เออไม่ได้ว่าก็ไม่ได้ว่า เราคงเข้าใจผิดไปเอง” กล้ายิ้มให้ผม ผมเลยยิ้มตอบ ทำไมถึงได้ซื่อขนาดนี้นะคนเราผมแอบยิ้มเงียบๆ หมดคาบพักเที่ยงแล้ว ในคาบสุดท้าย อาจารย์แจ้งเรื่องสอบที่เลื่อนเข้ามาเร็วกว่าเดิม เพื่อนทั้งห้องโอดครวญทันทีที่อาจารย์พูดจบ เพราะมีการประเมินสินะ

            “ป่า~~~~~~~~ ช่วยเราที” กล้าเดินมาหาผมหลังจากที่อาจารย์เดินออกจากห้อง

            “เอ่อ...ให้เราช่วยอะไรล่ะครับ”

            “ติวให้เราที ถ้าจะสอบเร็วๆนี้ เราไม่มีอะไรไปสอบแน่ๆ” กล้าว่าพร้อมทำหน้าตาน่าสงสาร

            “ก็ได้นะครับ แต่เราขอทดสอบกล้าก่อนนะว่าต้องติวแก้ตรงจุดไหนบ้าง” ผมบอกยิ้มๆ

            “ป่า นายนี่ฟ้าส่งมาโปรดเราเลย” กล้ากุมมือผมเหมือนขอบคุณพระเจ้า เวอร์ไปไหม

            “เออ ดีเลย ติวให้เราด้วย”

            “เรา..ด้วย.......” เต้ชูมือขึ้นแบบเอื่อยๆ

            “ถ้างั้นเดี๋ยวเราจะย่อเนื้อหาทำทดสอบให้พวกนายก่อนละกัน”

            “พ่อพระมาโปรดเราเลยป่า” ผมส่ายหน้าให้กับความโอเวอร์ของกล้า

            “ป่ากลับเถอะเดี๋ยวเราไปส่งที่บ้านเอง” แม็คชวนผม

            “แต่เราเอาจักรยานมา”

            “ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวเอาไว้ท้ายรถเราก็ได้นี่มันเย็นมันอันตราย”แม็คว่าเสร็จสรรพก่อนที่จะคว้าเอากระเป๋าผมไปถือแล้วเดินออกไปนอกห้อง อะ.อ่าว นั่นกระเป๋านักเรียนเรานะ

            “เรากลับก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอาบททดสอบมาให้” ผมบอกก่อนที่จะรีบเดินตามแม็คไป  ผมตามทันตรงด้านล่างตึกพอดี  การเดินเร็วทำให้ผมถึงกลับหอบ นี่อาการเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอเนี้ย ผมยิ้มเยาะให้กับร่างกายตัวเอง

            “ป่า เป็นอะไรไหม ทำไมหน้าซีดอย่างนี้” แม็ครีบเดินมาถามผม

            “ไม่เป็นไร แม็คจะไปส่งเราทำไม”

            “ก็เพราะป่าเป็นแบบนี้ไงเราถึงต้องไปส่ง” แม็คทำหน้าเข้ม ก่อนจะพยุงผมไปที่รถ แล้วดันผมเข้าไปนั่งแล้วขึ้นรถมา

            “พึ่งรู้ว่าแม็คเผด็จการ” ผมบ่นพึมพำเบาๆ เหมือนได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากข้างตัว แม็คขับรถมาส่งผมที่บ้าน ผมกล่าวขอบคุณแม็คแล้วเข้าบ้านไป อ่า...ความใจดีของแม็คทำให้ผมยิ่งรู้สึกชอบแม็คเพิ่มขึ้นทุกทีๆ

            “อ๊ะ”  จู่ๆหน้าอกผมก็เจ็บแปลบ ขึ้นมาผมนั่งพักนิ่งๆ อาการผมยิ่งหนักลงเรื่อยๆสินะ

 

ขอเวลาอีกนิดเถอะ

 

-----------------------------------------------------------------------------------------

ฮือออ ทำไมเค้าแต่งแล้วมันจะหน่วงลงเรือยๆ

อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า

รักคนอ่าน
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่10 3/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-08-2016 13:28:13
โปะยานอนหลับแล้วให้น้องไปผ่าตัดเลยค้าาาา เอาคุณแม่เซ็นยินยอมก็พอ น้องคิดมากแล้วอาการหนักเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่10 3/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-08-2016 14:00:09
 :L2: :pig4:

กลัว กลัว :m15:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 11 : Five
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 03-08-2016 15:58:14
หลังจากที่เมื่อวานผมมีอาการเจ็บหน้าอก เช้านี้คุณแม่เลยให้คุณอามาตรวจผมแต่เช้า

            “อาว่าวันนี้ป่าพักผ่อนก่อนนะ เรื่องโรงเรียนเดี๋ยวอาให้ไอ้ป่านลาให้ ปกติเราไม่ค่อยฝืนตัวเองเท่าไหร่ทำไมถึงไปวิ่งได้ละหืม” คุณอาตรวจผมไปบ่นไป ผมทำได้แค่ยิ้มบางๆ ผมจะบอกยังไงละครับ เดี๋ยวจะโดนบ่นยาวแน่ๆ

            “วันนี้ก็นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวอาไปคุยกับแม่เราก่อนนะ ”

            “ขอบคุณครับ” ผมพุ่มมือไหว้ คุณอาเดินออกจากห้องไป ผมเอนตัวลงนอน

           

            ตอนเที่ยงแม่ขึ้นมาปลุกผมให้ทานข้าวทานยาผมหลับไปอีกครั้งเพราะฤทธิ์ยา จนกระทั่งตอนเย็น เสียงพูดคุยกันที่ดังขึ้นมา ทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นด้วยความแปลกใจ ใครมากันคุยกับแม่ จนแม่หัวเราะเสียงดังแบบนี้ ผมลุกจากที่นอนเดินลงไปข้างล่างเพื่อดูว่าใครมา

            “เอ๋”  สามคนนั่นมาได้ไง

            “อ่าวป่าเป็นไงบ้าง เรามาเยี่ยมนี่กว่าจะให้ไอ้แม็คขับรถพามา” กล้าทักทันทีที่หันมาหาผม

            “เราไม่เป็นไรมากแต่ หมอว่าให้พักอยู่บ้านก่อนนะครับ”

            “เด็กๆคุยกันไปนะเดี๋ยวแม่ไปทำกับข้าว อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะ” แม่ว่าก่อนที่จะลุกเดินหายเข้าไปในครัว ผมเดินไปนั่งที่โซฟางงๆ

            “เรานึกว่านายไม่สบายหนักเลยเห็นอาจารย์ป่านบอกว่านายไม่สบาย แต่นายก็ดูปกตินะ” เราดูปกติแค่ภายนอกเท่านั้นแหละ ผมส่งยิ้มจางๆให้กล้าแต่ไม่ได้ตอบอะไร

            “แต่หน้ายังดูซีดๆอยู่เลยนะ เราเอาชีทที่อาจารย์แจกมาให้ด้วยนะ” ผมรับชีทมาจากเต้แล้วขอบคุณเบาๆมีเพียงคนๆเดียวที่นั่งเงียบๆไม่ยอมพูดอะไรกับผม ใบหน้าเรียบเฉยนั่นมันให้ความรู้สึกแปลกๆ  กล้าได้กลิ่นหอมโชยมาเลยรีบเดินเข้าไปหาแม่ในครัว ส่วนเต้ก็ไปเข้าห้องน้ำ ความเงียบที่น่าอึดอัด ทำให้ผมทนไม่ไหวต้องเอ่ยปากถาม

            “แม็คโกรธอะไรเหรอ” ผมถามไปเบาๆ แม็คมองหน้าผมแล้วถอนหายใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมาทำให้ผมใจแป้วไป

            “เราทำอะไรผิดรึเปล่า เราขอโทษนะ” ผมยิ่งร้อนรนเพราะไม่เคยเห็นแม็คเป็นแบบนี้

            โป๊ก

            “โอ๊ย เขกหัวเราทำไมอ่ะ”

            “ฮ่าๆๆๆ ป่านายนี่แกล้งสนุกจริงๆ เราแค่เอาคืนไม่ได้โกรธอะไรหรอกนะ ป่าไม่โทรไปบอกเราเลยว่าไม่สบาย กว่าจะรู้ก็ต้องไปถามพี่ป่าน” แม็คแกล้งกันได้นะ เราเคลียดแทบตาย ผมทำหน้าบึ้ง

            “เราไม่มีเบอร์ติดต่อแม็คนะอย่าลืม” แม็คอ้าปากค้าง คงพึ่งนึกได้สินะ

            “เออเราขอโทษ” แม็คเกาหัวอย่างเสียฟอร์ม จนผมหลุดยิ้ม

            “ป่า~~~~ แม่นายทำกับข้าวอร่อยมากกกกกก” กล้าวิ่งมาหาผม

            “อืมแต่แม่เราไม่ค่อยได้ทำหรอกนะ”

            “โอ๊ยยวันนี้ลาภปาก ว่าแต่ป่าเรื่องที่เราตกลงไว้อย่าลืมซะละ”

            “เรื่องอะไรกันครับ”

            “เรื่องติวไงละ” อ้อผมพยักหน้ารับรู้ พรุ่งนี้ผมคงไปเรียนได้ งั้นพรุ่งนี้ค่อยสรุปยังทัน ซักพักแม่ก็เรียกให้พวกเราไปจัดโต๊ะทานข้าว กล้าดูเหมือนจะดีใจกว่าใคร รีบวิ่งนำหน้าก่อนใคร

            “แม่แปลกใจมากเลยนะที่เห็นว่าป่ามีเพื่อนมาเยี่ยม ป่าไม่เคยเล่าว่ามีเพื่อนเลยจะมีก็แต่........” แม่จะพูดอะไรอ่ะ ต้องเรื่องนี้แน่ๆ

            “แม่ครับ” ผมร้องประท้วง แม่อมยิ้มก่อนทีจะพูดต่อ

            “ไม่รู้ว่าเค้าเขียนถึงใครละนะ แม่ดีใจที่ป่ามีเพื่อนที่เป็นห่วงแล้วดูแล” ผมได้แต่ก้มหน้าที่ทำให้แม่เป็นห่วงในเรื่องนี้

            “แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ พวกเราจะดูแลป่าเองครับ” กล้าปากแข็งขัน

            “ขอบใจนะลูก” 

            “แม่ครับหลังจากสอบเสร็จผมขออนุญาตให้ป่าไปเที่ยวทะเลกับพวกเราได้ไหมครับ”  หืมเที่ยว เที่ยวอะไร ทำไมผมไม่เห็นจะรู้เรื่องเลย ผมทำหน้างง แม็คหันมายิ้มให้ผม

            “ได้สิป่าไม่ค่อยได้ไปไหน แต่ยังไงป่าก็ดูแลตัวเองด้วยนะลูก” ผมเข้าใจว่าแม่หมายความว่ายังไง

            “ครับแม่ ผมจะไม่ฝืนตัวเองหรอกครับ”  ตลอดมื้อค่ำที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเสียงหัวเราะที่กล้าเล่าเรื่องตลกๆให้ฟัง ผมเก็บจานไปล้างถึงแม่จะบอกว่าไม่ให้ผมทำก็เถอะ แต่ผมก็ยืนยันที่จะทำ แม็คเก็บจานชุดสุดท้ายเข้ามาในครัว

            “เราไม่รู้เลยว่าจะไปเที่ยวทะเล”

            “เราอยากขอบคุณที่ป่ารับปากจะช่วยติวให้เรานะ จริงๆเป็นความคิดของกล้าละนะ แต่มันโยนให้เราขอ”

            “เรื่องติวมันไม่ต้องตอบแทนเราก็ได้นะ” ผมแค่อยากช่วยเท่านั้น

            “เปล่าหรอกเราแค่อยากให้ป่าไปกับพวกเรา เห็นแม่บอกว่าป่าไม่เคยไปเที่ยวเลยไม่ใช่เหรอเราอยากให้ป่าไปด้วยนะ หรือป่าลำบากใจ” แม็คว่าก่อนที่จะมาช่วยผมล้างจาน

            “ไม่ ไม่ๆ เราไม่ลำบากใจ เราแค่กลัวว่าเราจะเป็นภาระ” เพราะร่างกายของผมไม่เป็นใจเลยในสิ่งที่ผมต้องการจะทำ แม็คช่วยผมล้างจานจนเสร็จได้ยินเสียงโวยวายของกล้าและเต้ ที่เหมือนจะทะเลาะกันเรื่อง.....

            “นายต้องแทน y  ในสูตรนี้สิ โอ๊ยยยยทำไมเข้าใจยากจังวะ” เต้โวยวาย ในขณะที่กล้านั้นทำหน้าเหมือนคนกินยาขม นี่ทำการบ้านกันหรอกเหรอ

            “นี่พวกมึงทำไรกันเนี้ย”

            “แม็คกูทำการบ้านไม่ได้เลยให้ไอ้เต้สอน แต่ดูมันสอนกูดิ สอนไปด่ากูไป คำด่ามันเข้าหัวกูกว่าเรื่องที่มันสอนกูอีก” กล้าฟ้องแม็คทันทีที่แม็คถาม เอ่อ สีหน้าเต้ก็ไม่ต่างกันเลย สงสัยทั้งคนสอนและคนที่ถูกสอนคงเข้ากันไม่ได้สินะ

            “การบ้านวันนี้เหรอ ให้เราทำด้วยสิ”

            “ไม่ต้องเลยป่า เราจะพาพวกนี้กลับแล้ว ป่าไปพักผ่อนได้แล้วนะ”

            “แต่...”

            “ไม่เป็นไรเจอกันพรุ่งนี้นะ เก็บของได้แล้ว แล้วแม่ละป่า” แม็คถามเหมือนพึ่งนึกขึ้นได้

            “แม่คงจะขึ้นห้องไปทานแล้วละ จะกลับแล้วจริงๆนะเหรอ” 

            “อืม ป่าก็พักผ่อนเยอะๆนะ เจอกันพรุ่งนี้นะเดี๋ยวเรามารับ ไปพวกมึงกลับได้แล้ว” แม็คพูดในขณะที่ผมได้แต่มองตาปริบๆ จนผมเดินออกไปส่งทุกคนที่หน้าบ้าน ล็อกประตู อาบน้ำ และเข้านอน ทำไมกันนะ ทำไมผมรอให้ถึงพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว

 

            ผมตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าก่อนที่จะเข้าครัวไปทำกับข้าวเตรียมไว้สำหรับตัวเองและก็แม่ที่ตอนนี้สงสัยจะยังไม่ตื่นแน่ๆ ผมที่กำลังจะกินข้าวก็มีคนมากดออดหน้าบ้านเสียก่อน ผมวางช้อนแล้วเดินไปเปิดประตู

            “อ่าวแม็ค มาแต่เช้าเลยนะครับ”

            “ก็เราตื่นเช้านะเลยออกมารับป่าเลย” แม็คดูลุกลี้ลุกลนแปลกๆเพื่อหาเหตุผลมาตอบผม

            “เข้ามาก่อนสิครับ” ผมเปิดประตูให้แม็คเข้ามา แม็ควางกระเป๋าแล้วนั่งบนโซฟา

            “ทานอะไรมารึยังครับ”

            “ยังเลย”

            “ข้าวต้มหมูทานได้ไหมครับ” ผมถามก่อนที่จะเดินเข้าไปในครัว แล้วตักข้าวต้มออกมาให้แม็ค

            “ได้สิ โทษนะที่มากวนแต่เช้า”  ผมสายหน้าว่าไม่เป็นไร นั่งกินเสร็จผมก็เก็บถ้วยไปล้างให้เรียบร้อย  เราสองคนมาถึงโรงเรียนก็เห็นกล้ากับเต้นั่งอยู่ที่โต๊ะเรียบร้อย เอ๋ทำไมสองคนนี้มาเช้าจังเลยละ  พวกเราพูดคุยกันเล็กน้อยก่อนที่จะถึงคาบแรก  คาบพักพวกเราก็คุยกันเรื่องนัดติวในวันหยุดยาวที่จะถึงนี้  ก็ได้บทสรุปว่าจะมาติวกันที่บ้านผม แล้วจะคุยกันจนเสียงดังลั่นห้องทำไมก็ไม่รู้นะครับเนี้ย

            ตอนเย็นแม็คมาส่งผมที่บ้าน ผมชวนแม็คเข้ามานั่งเล่นในบ้านก่อน เพราะวันนี้ผมรบกวนแม็คมากจริงๆ ทั้งที่บ้านผมก็ไม่ได้เป็นทางผ่านแต่แม็คก็ขับรถมารับมาส่งผมอีก แต่แม็คว่าต้องไปรับลูกพี่ลูกน้อง

            “ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ที่แม็คมาส่ง”

            “ไม่เป็นไรเจอกันพรุ่งนี้นะ” แม็คว่าก่อนจะยิ้มกว้าง ผมโบกมือลา

            หลังจากอาบน้ำเสร็จผมนั่งทำสรุปจนดึก จนแม่เคาะประตูไล่ให้ผมไปนอนจึงปิดไฟล้มตัวลงนอน

 

            รอที่จะให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้วละครับ

-------------------------------------------------------------------------

ทำไมตอนแรกๆมันหน่วงหลังๆมันเรื่อย

ฮ่าๆๆๆ

รักคนอ่าน รักคนเม้นต์ นะคะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่11 3/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-08-2016 18:29:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่11 3/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-08-2016 21:16:57
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่11 3/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 04-08-2016 00:04:54
โรคหัวใจสินะ แล้วอย่างนี้เรื่องจะจบแนวไหนกันนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่11 3/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 04-08-2016 15:30:58
ป่าดูแบบโรครุมเร้ามากอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 12 : สอบไฟนอล
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 07-08-2016 08:47:21
ผมตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืด อาบน้ำทำความสะอาดห้องแล้ว ผมลงมาหุงข้าวไว้ก่อนที่จะหยิบกระเป๋าตังเดินไปร้านขนมที่ผมไม่ได้ไปนานแล้ว เห็นว่าพวกแม็คจะมาหาผมแต่เช้า ผมเลยต้องเตรียมตัวไว้ก่อน ผมเดินเข้าร้านไป

            “สวัสดีครับ อ่าวไม่เห็นมาร้านนานแล้วนะครับ”  พี่คนขายที่วันนี้มาในสภาพสดใสผิดจากที่ได้เห็นทุกครั้งที่มาซื้อ

            “พอดีผมไม่สบายนิดหน่อยนะครับ ผมเอาขนมปังแถวหนึ่งกับชูครีม 6 ชิ้นนะครับผมสั่งเผือที่ว่า กล้าจะกินไม่อิ่ม  ขนมถูกจัดใส่กล่องเรียบร้อย ผมขอบคุณพี่ที่แกแถมปังกรอบมาด้วยหนึ่งถุง เดินกับบ้านด้วยความสุขที่ได้ของฟรี ก็ของฟรีละนะครับใครจะไม่ชอบกันละครับ ผมเข้าบ้านวางถุงขนมไว้บนโต๊ะ เดินกลับไปชงกาแฟ แล้วถือจานมาใส่ขนมก่อนที่จะขึ้นไปปลุกคุณแม่ ผมเคาะประตูอยู่นาน ก็ไม่เห็นแม่มาเปิดซักที นี่นอนหลับจนเพลินหรือไงนะ ผมเปิดประตูเข้าไป     ก็พบ....ความว่างเปล่า มีเพียงโพสอีทสีแสบตาติดอยู่ตรงหน้าคอม อย่าบอกนะว่า.....

            “ป่า อีกไม่กี่วันก็ครบรอบที่ 10 แล้ว ปีนี้แม่จะพาพ่อไปเดทที่ป่าเมืองเหนือนะ พอดีแม่ก็จะได้มาเยี่ยมบ้านเก่าของพ่อเราด้วย อาจจะไม่ค่อยมีสัญญาณเท่าไหร่นะแต่แม่จะติดต่อมาเรื่อยๆ แม่ฝากพี่ป่านไว้แล้วละ แล้วก็อย่าดื้อกับอาหมอนะคะ รักนะลูกรัก นี่เราลืมไปเลยสินะ” ผมยกยิ้ม ทุกปีในวันตายของพ่อ แม่จะออกไปเที่ยวเหมือนกับที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ไปในที่ที่เคยไปด้วยกัน ปีนี้แม่ขึ้นเหนือเลยต้องไปเร็วสินะ ผมวางโพสอิทไว้ด้วยความรัก ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่ที่มีความรักมั่นคงอย่างที่หลายคู่คงทำไม่ได้ หากแต่ความรักที่พ่อมีให้กับแม่ ความรักที่แม่มีให้กับพ่อนั้นมันยิ่งใหญ่ ผมเดินออกจากห้องลงไปด้านล่างเตรียมอาหารเข้าไว้สำหรับตัวเองและทำเผือกลุ่มที่จะมาติวด้วย ผมกำลังหั่นผักอยู่ออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น ผมวางมือสงสัยจะเป็นพวกแม็ค

 

            "อ่าวทำไมพากันมาเร็วจังละครับ" ผมถามตอนที่เดินนำทั้งสามเข้ามาในบ้าน

            “ถามมันสิ ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยด้วยซ้ำตอนที่มันมารับ” กล้าชึ้ไปทางแม็ค ก่อนที่จะนั่งที่โต๊ะทานข้าว ผมหันไปมองแม็ค

            “เราแค่ไม่อยากให้มันเลิกช้า เดี๋ยวป่าจะเหนื่อยซะเปล่า”  ผมรู้สึกหัวใจพองโตกับคำพูดที่เหมือนว่าแม็คจะเป็นห่วงเรา ผมเลยบอกให้ทุกคนนั่งรอก่อน

            “ทานกาแฟกันไหม” ผมถามเพราะเห็นทั้งสามคนอ้าปากหาวก็หลายรอบแล้วผมจัดชูครีมและขนมปังกรอบใส่จาน

            “ได้ก็จะขอบคุณมากเลย เราลืมตาไม่ขึ้นแล้ว” เต้ว่าพลางฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ผมเลยเดินเข้าครัวไปชงกาแฟ

            “เราเอากาแฟดำนะ”

            “เฮ้ย”  ผมร้องด้วยความตกใจ จนเกือบทำแก้วตก จะมาเงียบๆทำไมละครับเนี้ย

            “ตกใจเหรอขอโทษทีพอดีจะเข้ามาช่วยนะ ว่าแต่เรายังไม่เห็นแม่ป่าเลยไม่อยู่เหรอ” แม็คคว้าเอาแก้วสองใบไปถือ ผมเทน้ำร้อนใส่แก้วของแม็คก่อนที่จะเดินนำออกไป

            “พอดีแม่ไปเที่ยวกับพ่อนะ” ผมบอกแล้วยิ้มบางๆ แม็คทำหน้างงแต่ก็เดินตามผมออกมา กลิ่นกาแฟที่ไม่ค่อยได้กลิ่นในบ้านมานานแล้วหอมฟุ้งไปทั่วบ้าน ผมชอบกลิ่นกาแฟถึงผมจะทานไม่ได้ก็เถอะ สองคนนั่นเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้กลิ่นกาแฟ

            “ขอบคุณมากนะ” กล้ารับเอาแก้วกาแฟไปนั่งจิบ

            “ทานชูครีมด้วยสิ ร้านนี้อร่อยมากเลยนะ” ผมเลื่อนจานไปทางกล้า กล้าพยักหน้าเบลอๆแล้วใช้ซ้อมจิ้มชูครีมชิ้นโตเข้าปาก  ก่อนทีจะทำตาโตพยักหน้ารัวๆ

            “โอ้ววนี่มันอร่อยมากเลย เต้มึงลองกินดู” กล้าพูดไปเคี้ยวไป เต้เลยหยิบขึ้นมาทานแล้วทำหน้าซาบซึ้ง อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอครับ ผมมองแม็คที่นั่งจิบกาแฟดำเงียบๆ แม็คยกคิ้วขึ้นนิดๆแล้วตอบผม

            “เราชอบกินขนมหวานนะขอแค่มันไม่มีครีมเราทานได้หมดเราไม่ชอบกินครีมนะ” แม็คทำหน้ายี้ แปลกคนจริงๆ ผมหลุดยิ้ม ทั้งสามทานกาแฟเสร็จผมก็ไล่ให้ไปเตรียมตัวที่ห้องนั่งเล่นส่วนผมเก็บแก้วและจานไปล้างก่อนที่จะตามออกไป ผมหยิบเอาเนื้อหาที่ผมสรุปเตรียมไว้มาด้วย ผมนั่งลงกับพื้นข้างๆแม็ค ได้นั่งใกล้ๆอย่างนี้รู้สึกเหมือนหัวใจมันเต้นระรัว ผมพยายามที่จะสนใจเนื้อหาที่พยายามสอนกล้าที่ตอนนี้เหมือนจะตามหลังพวกเราอยู่เยอะเลยที่เดียวผมเลยต้องติวกล้าเป็นพิเศษ

            “ป่าข้อนี้ถูกแล้วใช่ไหม” แม็คยื่นสมุดมาให้ผมดู ผมหันไปดู

            “ถูกต้องแล้วครับ แม็คจำสูตรนี้ไว้ดีๆนะครับเพราะอาจารย์บอกว่าจะออกช่วงนี้” ผมบอกก่อนที่จะหันไปดูกล้า จริงๆกล้าเข้าใจเร็วมากเลยนะครับ เพียงแต่ต้องจับจุดอธิบายให้เค้าเข้าใจติวกันครึ่งค่อยวันผมเลยบอกให้พักก่อนที่จะเดินเข้าครัวไปอุ่นอาหารที่เตรียมไว้ตั้งแต่เช้า ทุกคนเตรียมตั้งโต๊ะ หลังจากทานข้าวเสร็จผมปล่อยให้ทุกคนนั่งเล่นพักไปก่อนถ้าติดต่อกันมากไปสมองล้าไปเสียก่อน ทั้งกล้าและเต้พอกินข้าวเสร็จก็นั่งดูทีวีที่ผมมีไว้ประดับบ้านเท่านั้น ผมปอกผลไม้ถืออกมาวางไว้ที่โต๊ะ

            “ไหวกันไหมครับ เราว่าวันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่านะครับ” ทันทีที่พูดจบทั้งสองคนก็ตะโกนลั่น แล้วล้มตัวนอนกับโซฟา

            “แต่ผมมีบททดสอบให้ด้วยนะครับแล้วเรื่องที่ติววันนี้พรุ่งนี้ผมจะมีเทสให้ตอนเริ่มติวนะครับ”

            “ป่า!!!!!!!!!”ทั้งสองคนแทบดีดตัวลุกขึ้นไม่ทัน แม็คที่กำลังพักสายตาอยู่ถึงกับลืมตาเพราเสียงตะโกนของสองคนนี้ ผมยิ้มกว้าง

            “กันลืมนะครับ และที่ให้เทสนี่ผมจะได้ติววิชาที่อ่อนให้ส่วนวิชาที่ทุกคนมีพื้นฐานผมจะติวรวมก่อนวันสอบ” ยิ่งผมอธิบายทั้งสองยิ่งคอตก จนแม็คหัวเราะลั่น จริงๆการติววันนี้มีแม็คคนเดียวที่ผมไม่ได้สอนอะไรมากเพราะจริงๆแล้วแม็คก็ติดท็อปของห้อง

            “ดีแล้วพวกมึงจะได้สอบผ่านแบบคาบเส้นเหมือนทุกที วันนี้พอแค่นี้ละกันป่าคงเหนื่อยแล้ว”  แม็คเก็บของลงกระเป๋า เอ่อจริงๆแล้วแม็คเป็นพวกเผด็จการสินะ สองคนทำหน้างงๆ

            “ป่าจ๋า  เราอยู่เล่นที่บ้านป่าได้ไหม” กล้ากระพริบตาปริบๆให้ผม เหมือนหมาตัวโตๆเลยจริงๆนะครับอย่าหลุดบอกกล้าไปนะครับ

            “ได้สิ ยังไงวันนี้เราก็อยู่คนเดียว และสงสัยว่าคงจะอยู่คนเดียวไปทั้งอาทิตย์แน่นอน” ผมนั่งลงข้างๆกล้า

            “นายนี่แปลกคนนะอยู่ได้ไง ไม่เหงาบ้างเหรอ”

            “ไม่หรอกส่วนใหญ่พี่ป่านจะมาอยู่ด้วยนะ” กล้ากับเต้พยักหน้า ผมหันไปมองแม็คที่เอนหลังไปเรียบร้อยอ่าวนี่ไม่กลับแล้วเหรอ ผมมองออกไปข้างนอกเห็นว่าอากาศกำลังดีเลย

            “นี่ออกไปนั่งเล่นที่สนามหลังบ้านดีกว่านะอากาศกำลังดีเลย” ผมบอก ซึ่งทั้งสองคนก็เห็นด้วย ผมเตรียมน้ำกับขนมตามหลังไป แม็คก็ยังนอนอยู่บนโซฟาอยู่ผมไม่อยากกวนเลยเดินออกไปหาทั้งสองคนที่ยึดแปลนอนคนละอัน ผมวางของว่างไว้ที่เสือผืนกว้างก่อนที่จะล้มตัวนอน อ่า อากาศดีจริงๆ ลมพัดอ่อน ทำให้รู้สึกเย็นสบายและแสงแดดอ่อนทำให้มันไม่ร้อนเกินไป

            “บ้านป่านี่อากาศดีจริงๆเลยนะ ต้นไม้เยอะด้วยใครปลูกไว้ มีแต่ต้นสวยๆทั้งนั้นเลย” เต้ถามผม

            “พ่อเราเอง ท่านปลูกไว้ตั้งนานแล้วก่อนที่เราจะเกิดอีก”

            “พ่อป่านี่ท่าทางจะใจดีนะ” กล้าพูดขึ้น

            “ใช่ เท่าที่จำได้นะ พ่อเป็นคนมีเหตุผล เข้มงวด แต่เพราะเป็นห่วงเรา ใจดีกับเรามากเลยละ” ผมนึกถึงตอนเด็กๆที่เวลาผมทำผิดมา พ่อไม่เคยที่จะละเลยพ่อมักจะลงโทษผมแล้วอธิบายให้ฟังว่าสิ่งที่ผมทำมันผิดยังไง และพ่อมักโดนแม่ว่า ว่าพ่อตามใจผมจนเสียคน

            “พ่อป่าเสียไปนานหรือยัง ขอโทษนะที่ถาม”

            “อืมก็ เกือบสิบปีแล้วละ” และความเงียบก็เข้ามาแทรก ทั้งเต้และกล้าต่างก็เงียบไปผมเงียบแล้วค่อยๆหลับตาพัก มีเพียงเสียงลมพัดเบาๆ และกลิ่นขนมปังลอยมาตามลม เรานอนเล่นกันจนถึงบ่ายคล้อย ผมลุกขึ้นกล้ากับเต้เหมือนจะหลับสนิท ผมเดินเข้าไปในบ้าน ก็ไม่เห็นคนที่นอนบนโซฟาเลย แม็คหายไปไหนหรือว่ากลับแล้วงั้นเหรอ

            “ตื่นแล้วเหรอเราเห็นพวกป่านอนอยู่เลยไม่อยากกวนนะ” ผมหันไปตามเสียงแม็คเดินออกมาจาห้องครัว

            “ทำไมไม่ปลุกเราละ”

            “เรากลัวป่าเหนื่อยเลยให้นอนพักดีกว่า” แม็คยิ้มกว้าง อ่ารู้สึกว่าผมจะมีภูมิต้านทานรอยยิ้มของแม็คซะแล้วละครับ

            “ว่าแต่เราจะไปเที่ยวทะเลที่ไหนครับ” ผมถาม

            “อืมเราว่าจะไปใกล้ๆนี่แหละ น่าจะหัวหินเพราะบ้านไอ้กล้ามีบ้านพักที่นั่น” ผมพยักหน้าแล้วเราก็นั่งเงียบ ผมเป็นคนคุยไม่เก่งอยู่แล้วจะให้ผมชวนคุยนั่นยิ่งแล้วใหญ่ ซักพักกล้าก็เดินโซเซเข้ามา และขอเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างหน้าล้างตา

            “ไอ้เต้ยังไม่ตื่นอีกเหรอ” กล้าชะโงกหน้าไปดูที่สวน แล้วยิ้มแปลกๆก่อนที่จะวิ่งที่เปลดึงเปลแรงๆจนทำให้เต้ตกลงมา

            “โอ๊ยแม่งใครวะ พ่อมึงเหอะ สัสกล้า” เต้สบถแต่ก็ลุกไม่ได้เพราะเท้าเกี่ยวกับเปลอยู่ โดยมีกล้ายืนหัวเราะอยู่ข้างๆ เล่นกันอย่างกับเด็กเลยนะครับเนี้ย เต้ที่พยายามจนเอาเท้าลงได้แล้วก็หันมาไล่เตะกล้าไปทั่ว

            “เฮ้กลับกันเถอะมันเย็นแล้วนะเว้ย เล่นอะไรเป็นเด็กๆเลยพวกมึงนี่” แม็คว่าทั้งคนเลยเลิกวิ่งไล่เตะแล้วเดินเข้าบ้านเก็บของแล้วเตรียมตัวกลับบ้านพรุ่งนี้ก็จะติวเข้มกันอีกวัน ก่อนที่อาทิตย์หน้าจะเริ่มสอบกันแล้ว คงจะสอบทั้งอาทิตย์

            “พรุ่งนี้เจอกันนะครับ ผมจะทำอาหารรอนะ”  สองคนนั้นพยักหน้ารัวๆก่อนจะขึ้นรถ

            “ขอบคุณมากนะป่า เจอกันพรุ่งนี้นะ” ผมยิ้มตอบ แม็คขึ้นรถแล้วขับออกไปผมเข้าบ้านเก็บของเรียบร้อยก่อนทีจะขึ้นไปอาบน้ำ ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ เหลือบไปเห็นสมุดบันทึกที่วางเอาไว้อยู่บนโต๊ะ ที่ผมไม่ได้เขียนก็ผ่านมาหลายสัปดาห์แล้ว เพราะผมมีเพื่อนที่ได้คุย ได้ทำอะไรสนุกๆจนผมไม่ได้เขียนอะไรลงไป ผมยิ้มก่อนที่จะล้มตัวลงนอน

            วันนี้เป็นวันขึ้นเขียงของสองคนนะแล้ว หลังจากที่สองวันที่ผ่านมาผมได้เคี่ยวเข็ญและเกลี้ยกล่อมสารพัด ในที่สุดตอนเย็นวันอาทิตย์ก็เห็นผล ทั้งสองคนก็สามารถทำแบบทดสอบผ่านทั้งหมด แต่ก็กว่าจะผ่านก็สองทุ่มพอดีเลยทีเดียว

            “โอ๊ยย ขออย่าให้ความรู้ที่ป่าสอนให้หายไปด้วย” กล้ายกมือขึ้นท่วมหัว ท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมห้องที่มองดูด้วยสายตาประหลาด สงสัยว่าผมจะอัดความรู้มากเกินไป กล้าเลยออกมาล้นแบบนี้

            “หวังว่าจะผ่านการสอบไปด้วยดีนะ”

            “ผมก็หวังว่าอย่างนั้นครับ” ผมหันไปตอบแม็ค ถึงจะรู้สึกวิตกกับอาการของกล้าก็ตาม และการสอบก็เริ่มขึ้น ข้อสอบไม่ค่อยออกนอกจากการที่ผมติวพวกเค้าไปหวังว่ากล้ากับเต้จะรอดนะ ส่วนแม็ครายนั้นผมไม่ห่วงอยู่แล้ว แบบทดสอบที่ให้ทำแม็คทำได้เต็มเลย จริงๆก็ดีใจนะครับที่ได้ใช้วันหยุดกับคนที่แอบชอบ แต่เหมือนอยู่แล้วนี่ถ่วงมากกว่าจะช่วยผม แถมยังว่างเป็นไม่ได้กวนกล้าตลอด แล้วก็ผ่านช่วงแรกข้อสอบสุดท้ายมาแล้ว ผมที่สอบเสร็จก่อนเลยออกมารอด้านนอก ซักพักแม็คก็ตามออกมา

            “สอบได้ไหมครับ” ผมถาม แม็คยิ้มกว้างชูสองนิ้วแล้วมายืนข้างผม

            “คิดว่าสองคนนั่นจะทำได้ไหม”

            “ผมว่าได้แน่นอนครับ” ถ้าไม่สติแตกจนจำที่ติวกันไม่ได้นะครับ เพื่อนๆในห้องเริ่มทยอยออกมา

            “แม็คยืนรอใครเหรอ ไปกินข้าวกับน้อยหน่าไหม” ผู้หญิงในห้องที่อยู่กับแม็คบ่อยๆ เป็นคนที่น่ารักเหมือนตุ๊กตาเลยละครับ

            “เรารอกล้ากับเต้เป็นเพื่อนป่านะ”

            “ป่า... ธนาใช่ไหม” น้อยหน่าหันมาถามผม

            “เอ่อ ใช่ครับ”

            “ไม่ได้คุยกันเลย เราน้อยหน่านะ”

            “เอ่อ..ครับ” เหมือนมีบรรยากาศอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก

            “หิวววว ไปกินข้าวกันป่า” กล้าวิ่งออกจากห้องมากอดคอผม เหมือนอากาศจะโล่งขึ้นทันที

            “แล้วเต้ละครับ”

            “เสร็จแล้วๆๆไปกันๆ” เต้เดินออกจากห้องมาแล้วก็กอดคอผมอีกข้าง สองคนนี่เป็นอะไรกับการกอดคอผมนักหนาครับ

            “ทำได้ไหมละครับ” ผมถาม สองคนนั่นหันหน้าหนีไปทันที

            “เออ อย่าพึ่งถามรอให้พ้นวันนี้กันก่อนเหอะ ไปกินข้าวกันหิวแล้ว”

            “เราไปกินด้วยกันนะ” น้อยหน่าถาม

            “ไปด้วยกันทั้งหมดนี่ละ” แม็คพูดก่อนที่จะเดินนำพวกผม สองคนนั่นก็กอดคอผมเดินตามไปนี่จะติดอะไรผมปานนั้นครับ ผมกับสี่คนยกโขยงมาที่โรงอาหาร ผมรับหน้าที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเช่นเดิม กล้ากลับมาพร้อมกับจานข้าวอีกจานที่ปกติแม็คจะเป็นคนชื้อมาให้ผมซะมากกว่า

            “นี่ของป่านะ ทานได้ใช่ไหม”

            “ได้สิขอบคุณมากครับกล้า”

            “อ่ะนี่น้ำ” ผมพยักหน้าขอบคุณ ซักพักเต้ก็ตามมา แม็คเดินกลับมาพร้อมกับน้อยหน่า ภาพที่ทั้งสองคนเดินคุยมาคู่กันมันดูเหมาะสมจริงๆทำให้ผมอดรู้สึกเจ็บปวดไม่ได้ ผมท่าจะเป็นมาโซนะครับชอบทำร้ายตัวเองจริงๆได้แค่นี้ก็พอใจแล้วครับ ผมยื้อได้เท่านี้เอง

            “ป่าไม่สบายรึเปล่า หน้าซีดๆ”

            “ไม่เป็นไรครับ ทานกันดีกว่าครับ” กล้าก้มลงกินต่อ ผมก้มหน้าทานเงียบๆ เสียงพูดคุยร่าเริงตลอดการทานข้าว หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วเราก็เดินกลับขึ้นห้อง

            “ป่าแล้วแม่กลับมายัง เตรียมเก็บกระเป๋าไว้แล้วหรือยัง” กล้าถามผม

            “นี่จะไปกันแล้วเหรอครับ รีบจังเลยนะครับกล้า”

            “ไม่ได้รีบนะ กลัวนายเก็บของไม่ทันต่างหาก”

            “คิดเรื่องตอนบ่ายนี้ดีกว่าครับ”

            “ป่า!!” กล้าทำหน้าเหมือนจะเข้ามาบีบคอผมที่พูดถึงสอบตอนบ่าย

            “ฮ่าๆๆ” ผมถอยหลังหนีกล้าที่เดินเข้ามา

            “โอ๊ะ ระวัง” ผมถอยหลังจนชนกับคนที่เดินตามหลังมาก

            “ขอโทษนะครับแม็ค”

            “ระวังจะไปชนกับอะไรเข้าละ นายยิ่งซุ่มซ่ามอยู่” แม็คดันหลังหลังผมให้ยืนตรงๆ

            “ไม่คิดเลยนะธนาเป็นคนที่ร่าเริง ปกติไม่เห็นจะคุยกับใครซักเท่าไหร่”

            “ผมไม่ค่อยคุ้นนะครับ”

            “แล้วจะไปเที่ยวที่ไหนกันละเนี้ย แม็คไม่เห็นชวนกันเลย” น้อยหน่าทำหน้าบึ้งด้วยหน้าตาน่ารัก

            “ว่าจะไปเที่ยวบ้านกล้านะ ช่วงปิดเทอมหลังสอบเสร็จนะ”

            “เราไปด้วยได้ไหม”

            “ไปได้สิหน่า” ผมหันหลังแล้วเดินไปหาเต้ โดยไม่สนว่าทั้งสองคนจะคุยอะไร

            การสอบช่วงบ่ายก็ไม่ได้ยากอะไรมากสำหรับผม สอบวิชาสุดท้ายเสร็จแล้วผมเก็บกระเป๋าออกมารอนอกห้อง

            “ป่า” ผมยืนรออยู่นอกห้องพี่ป่านก็เดินเข้ามาหาผมทันที

            “มีอะไรเหรอครับ”

            “ป่าทำเรื่องไว้แล้วหรือยัง”

            “ผมยื่นเรื่องไว้ก่อนสอบเรียบร้อยแล้วครับ หลังจากที่กลับมาจากเที่ยวที่ทะเลผมคงพร้อม” ผมตอบเบาๆ

            “อ้อ เรื่องไปเที่ยวคุณป้าบอกพี่แล้วละ เดี๋ยวพี่จะไปด้วย คุณป้าฝากไว้แล้ว อ๊ะ ห้ามปฏิเสธอาการเราพ่อพี่เป็นห่วง” พี่ป่านลูบหัวผม ผมยกยิ้มบางถึงแม้จะมีคุณแม่เพียงคนเดียว ก็จะมีแต่พี่ป่านที่เป็นเพื่อนเป็นพี่

            “ได้สิครับ ขอบคุณนะครับพี่ป่าน”

            “แล้วบอกเพื่อนรึยัง” ผมนิ่งเงียบ

            “บอกเรื่องอะไรเหรอครับอาจารย์ป่าน” ผมชะโงกหน้าข้ามไหล่พี่ป่านไปดู แม็คเดินออกมาหลังสอบเสร็จ

            “เรื่องอาจารย์จะไปเที่ยวด้วยนะครับ” ผมโผล่งตอบออกไปก่อนที่พี่ป่านจะบอกอะไรออกไป แม็คทำหน้างงแต่ก็ไม่ว่าอะไร

            “เรากลับก่อนนะ” ผมบอกแม็คแล้วจับมือพี่ป่านลากไปที่รถ มาถึงรถพี่ป่านก็บอกให้ผมปล่อยมือ

            “นี่จะลากพี่ไปไหนหือ พี่จะไปส่งอยู่แล้วไม่ต้องลาก” พี่ป่านว่าก่อนจะปลดล็อกรถ

            “ผมเปล่ารีบนะครับ วันนี้รบกวนพี่ป่านไปส่งผมหน่อยนะครับ” ผมว่าก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อยโดยไม่สนใจพี่ป่าน

            ได้ยินแค่พี่ป่านบ่นพึมพำว่าผม แต่ผมไม่สนใจฮ่าๆๆพี่ป่านแกก็บ่นให้ผมแบบนี้ประจำแหละ พี่ป่านขับรถมาส่งผมแล้วก็กลับบ้านไป ว่าแต่ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะออกเดินทางวันไหน อ่ากลับมาก่อนกล้าเลยลืมถามไปเลย ผมค้นเอาโทรศัพท์ที่ผมพกไว้เป็นที่ทับกระดาษ เพราะผมก็ไม่รู้จะโทรไปหาใคร คุณแม่ก็อยู่ตรงที่ไม่มีสัญญาณถ้ามีสัญญาณแม่จะเป็นคนโทรติดต่อผมมาเอง แต่ปกติพี่ป่านก็จะมาอยู่กับผมประจำอยู่แล้ว มีช่วงหลังๆนี่ละที่แวบหายไปบ่อยๆ จนคุณอามาถามกับผมบ่อยๆว่าลูกชายแกอยู่กับผมไหม

            “กล้าครับผมป่านะครับ”

            “(ป่าเหรอ)” เสียงกล้าฟังดูตกใจที่ผมโทรไป

            “ใช่ครับ พอดีผมลืมถามว่าเดินทางวันไหนนะครับ”

            “(เออเราก็ว่าอยู่ เดี๋ยวเราจะไปรับที่บ้านนะประมาณวันศุกร์หน้านะ)” ศุกร์หน้าสินะ

            “ครับพอดีพี่ป่านจะไปด้วยได้ไหมครับสะดวกไหมครับ” คือถ้าพี่ป่านไปไม่ได้ผมก็ไปไม่ได้

            “(เฮ้ยได้ๆ ไม่มีปัญหาอะไร)”

            “ขอบคุณนะครับ”

            “(นี่เบอร์ป่าใช่ไหม เราจะได้เมนไว้ แล้วเจอกันนะ)”

            “เบอร์ผมเองครับ แล้วเจอกันครับ” ผมวางสายไป ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนครั้งแรก ผมรู้สึกดีใจมาก

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------



เราจะไปเที่ยวทะเลกับป่าแล้ววว

เตรียมเก็บกระเป๋ากันเลยคjะ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่1 7/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-08-2016 09:24:22
 :katai4:

แม็คโว้ย ให้น้อยหน่าติดสอยห้อยตามไปทำไมคะ เด๋ยวเจอป่านป่าสวีทกันอย่าร้องนะ  :m31:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่1 7/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-08-2016 12:34:14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่1 7/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 07-08-2016 13:00:02
เหมือนจิดราม่า  :mew5:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่1 7/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 07-08-2016 17:50:41
หืมมมม กลัวใจคนเขียน คนเขียนรังแกน้องป่า!!!
  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่1 7/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 08-08-2016 03:10:09
ทำไมมีลางว่าตอนเที่ยวจะเกิดเรื่อง
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง day 13 : เดินทาง
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 09-08-2016 13:18:49
13

            ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ผมตื่นเต้นจนแทบนอนไม่หลับ พี่ป่านแพ็คกระเป๋ามานอนกับผมตั้งแต่เมื่อคืน พี่ป่านมีห้องอยู่ที่นี่เพราะแกมาพักกับผมบ่อยๆ ผมตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมของไว้กินระหว่างการเดินทาง ผมอบขนม และทำแซนวิสไว้ทานตอนเช้า ผมชงกาแฟใส่แก้วเก็บความร้อนไว้ แล้วชงใส่แก้วรอไว้ให้พี่ป่านตื่น แล้วขึ้นไปอาบน้ำเก็บของลงมาเตรียมไว้ที่ห้องนั่งเล่น นี่ผมไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยนะครับ

            “ฮ้าววว ป่าตื่นเช้าจังเลย”

            “ผมตื่นมาทำขนมไว้กินระหว่างทางนะครับ”

            “โอ้ ขอบคุณสำหรับกาแฟนะ” พี่ป่านนั่งลงทานกาแฟ แล้วโทรศัพท์ผมก็ดัง

            “สวัสดีครับ”

            “(ป่านี่กล้านะเราอยู่หน้าปากซอยแล้วนะ)”

            “โอเคครับเดี๋ยวเราออกไปรอที่หน้าบ้านนะครับ” กล้ากดวางสายไป ผมกับพี่ป่านขนของไปไว้ที่หน้าบ้านก่อนที่ผมจะเช็คความเรียบร้อยภายในบ้านก่อนที่จะล็อกบ้านเรียบร้อย เราสองคนยืนรอไม่นานรถก็มาถึง

            “สวัสดีครับอาจารย์ป่าน” ทันทีที่ประตูเปิดเสียงกล้าก็ลอดออกมา

            “เรียกพี่เหมือนป่าก็ได้ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนแล้วนิ ว่าแต่ใครขับรถมา”

            “คนขับรถบ้านไอ้แม็คนะครับพี่ป่าน” พวกเรารีบเก็บของขึ้นรถแล้วขึ้นบนรถตู้

            “สวัสดีค่ะพี่ป่าน ป่าด้วยนะ”

            “สวัสดีครับน้อยหน่า” ผมยิ้มบางจะพาตัวเองเข้าไปนั่งข้างหลังสุดที่ว่างเพราะแม็คนั่งคู่กับน้อยหน่า กล้ากับเต้นั่งด้วยกัน ผมนึกว่าพี่ป่านจะมานั่งกับผมแต่พี่ท่านดันไปนั่งข้างคนขับ เบาะหลังเป็นของผมคนเดียว และเราก็ออกเดินทาง

            พอพ้นเขตกรุงเทพแสงแดดก็เริ่มส่องแสงทอประกาย ผมเหม่อมองทิวทัศน์ที่ผ่านไปนอกหน้าต่างรถ  ส่วนกล้าและเต้ก็หลับตั้งแต่ผมขึ้นรถมา ส่วนแม็คผมได้ยินเพียงเสียงกระซิบกระซาบกันตอนนี้กล้างัวเงียตื่นขึ้น

            “กล้าเอากาแฟหน่อยไหม”

            “หืมมีด้วยเหรอ”

            “เราชงมาให้กล้าไง” ผมยืนแก้วกาแฟให้กล้า

            “โอ๊ยป่า นายน่ารักจริงๆ แต๊งๆ” กล้ารับเอาแก้วกาแฟไป ผมเลยยื่นกล่องแซนวิสไปให้ด้วย ทันทีที่กล้าเปิดแก้วกลิ่นกาแฟก็ฟุ้งทั่วทั้งรถ ทำเอาเต้พงกหัวขึ้นมา

            “กินด้วยดิวะ”

            ทั้งสองคนกินกาแฟกับแซนวิสอย่างรวดเร็ว ผมนั่งเงียบๆอยู่ข้างหลังพร้อมกับอาการพะอืดพะอมและอาการเวียนหัว  อาสงสัยว่าผมคงจะเมารถแน่ๆ ผมพยายามที่จะข่มตาให้หลับ

            “พี่จอดรถก่อนครับ” ผมได้ยินเสียงพี่ป่านบอกคนขับรถ

            “มีอะไรเหรอครับพี่ป่าน” แม็คถาม

            “ถอยหน่อยพี่จะเข้าไปดูป่า” ผมได้ยินแต่เสียงกุกกักๆ

            “ป่ากินยาหน่อยนะ พี่ว่าแล้วว่าเราต้องเมารถแน่ๆ เราไม่เคยนั่งรถนานขนาดนี้” ผมลืมตาแล้วรับเอายาที่พี่ป่านยืนมาให้กินเข้าไป พี่ป่านจับข้อมือผมเพื่อเช็คการเต้นของหัวใจของผม แล้วถอนหายใจ

            “ยังดีอยู่ ยานี่จะทำให้ง่วงหน่อยนะป่านอนลงเลยเดียวถึงพี่จะเข้ามาปลุกนะ”

            “ขอบคุณครับพี่ป่าน” ผมบอกก่อนที่จะหลับตาลง

            “เดี๋ยวผมไปนั่งกับป่าเองครับพี่ป่าน” ผมได้ยินแม็คบอกพี่ป่านแต่ผมไม่สนใจที่จะลืมตาขึ้นมองได้ยินแต่เสียงกุกกัก

            “เดี๋ยวสิแม็ค” ผมได้ยินเสียงน้อยหน่าเรียกแม็ค ซักพักผมก็รู้สึกว่ามีคนนั่งข้างๆแล้วรถก็เคลื่อนเดินทางอีกครั้ง ผมรู้สึกง่วงแล้วผมก็หลับไป

            “ป่า ป่า ตื่นได้แล้ว ถึงแล้วนะ” ผมงัวเงียลืมตาขึ้น หืมทำไมผมนอนบนหมอนได้ละเนี้ย ว่าแต่บนรถนี่มีหมอนด้วยเหรอ หืม

            “อ่ะ แม็ค” ผมรีบดันตัวลุกขึ้นนั่ง นี่ผมนอนหนุนตักแม็คตั้งแต่เมื่อไหร่

            “ขอโทษนะ แม็คน่าจะปลุกเรา” ผมขยับแว่นให้เข้าที่

            “ไม่เป็นไร อีกอย่างป่านอนน้ำลายยืดด้วยนะฮ่าๆ” ห๊ะจริงเหรอ ผมรีบยกมือปิดปาก มันต้องน่าเกลียดแน่ๆ

            “ล้อเล่นน่า ป่านอนนิ่งจะตาย”

            “แต่มันก็นานนะ ขาแม็คไม่เป็นเหน็บแย่เหรอ”

            “เราแทบไม่รับรู้ถึงความหนักเลยป่าตัวเบามากจนเราไม่รู้สึกว่าป่านอนหนุนตักเราอยู่เลย เราว่าลงไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทันพวกนั้น” ผมหันมองรอบๆเห็นแค่ผมกับแม็คอยู่ด้วยกันสองคน แม็คเปิดประตูรถก่อนที่จะลงไปยืนรอผมด้านนอก ผมเลยเดินลงจากรถ

            “ว้าวว บ้านพักสวยจัง” ผมลงมาก็เห็นบ้านพักหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยหมู่แมกไม้

            “หึๆเข้าไปกันเถอะ” แม็คขำก่อนที่จะเดินนำหน้าผมไปที่บ้านพักผมรีบเดินตามไป

            “ป่าเป็นไงบ้างเห็นนอนหลับพี่เลยไม่ปลุก” พี่ป่านพอเห็นผมก็รีบเดินมาหาผมทันที

            “พี่ป่านทำไมไม่ปลุกผมละ ให้ผมนอนหนุนตักแม็คตั้งนาน” ผมกระซิบเสียงเขียวกับพี่ป่าน

            “ก็พี่อยากเห็นน้องมีความสุขฮ่าๆๆๆ” พี่ป่านขำแล้วเดินหนีผมไป นี่พี่ป่าน ไม่น่าปล่อยพี่ป่านไว้บ้านเลยนี่แอบไปอ่านสมุดบันทึกผมแน่ๆ พี่ป่านนะพอเรื่องคนอื่นนี่รู้สึกไวแต่พอเป็นเรื่องตัวเองนี่เรียกได้ว่าซื่อบื้อเลยทีเดียว

            “กล้าเราอยู่ห้องไหนเหรอครับ” ผมเดินไปถามกล้าเพราะผมยังรู้สึกง่วงๆเบลอๆอยู่นิดหน่อยถึงจะตื่นเต้นที่บ้านพักสวยขนาดนี้ก็เถอะนะครับ

            “เออห้องชั้นสองซ้ายมือนะเด็กเอากระเป๋าขึ้นไปไว้ที่ห้องแล้ว ป่าไปพักเถอะหน้ายังซีดๆอยู่เลย” กล้าแตะที่หน้าผากผมแล้วไล่ผมไปพัก ผมยิ้มบางให้กล้าก่อนจะขอตัวขึ้นไปพัก

            ห้องนอนที่มีเตียงใหญ่ ระเบียงใหญ่ที่มองออกไปจะเห็นทะเลสีฟ้าครามที่เปล่งประกายสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็น ผมคิดถูกจริงๆที่มาเที่ยวครั้งนี้ ความทรงจำนี้ผมจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต ผมล้มตัวลงนอน มองพระอาทิตย์ที่คล้อยต่ำแล้วก็เผลอหลับไป

            ก๊อก ก๊อก

            ผมสะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะประตู อาเหนียวตัวจัง ผมลืมปิดประตูระเบียงลมทะเลที่พัดเข้ามาเลยทำผมเหนียวตัวมากเลยทีเดียว ผมเดินไปเปิดประตู

            “เรามาเรียกป่าไปกินข้าวนะ รู้สึกดีขึ้นรึเปล่า” แม็คนั่นเองที่ขึ้นมาเรียกผม

            “อ่าเดี๋ยวเราลงไปนะขออาบน้ำก่อนนะ”

            “อืมเดี๋ยวเรารอหน้าห้องนะ” แม็คว่า

            “เข้ามารอข้างในก็ได้นะ เดี๋ยวเราก็เสร็จแล้ว” ผมเปิดประตูทิ้งไว้ก่อนที่จะรีบเดินไปคว้าเอาผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรีบอาบน้ำขนาดนั้น ผมรีบอาบน้ำ แต่งตัว

            “เสร็จแล้วเหรอ เร็วจัง”

            “เรากลัวทุกคนรอนะ ไปกันเถอะ” ผมรีบแขวนผ้าขนหนูแล้วจะเดินออกจากห้อง

            “ผมยังเปียกอยู่เลย มานั่งก่อน” ผมเดินไปนั่งตรงปลายเตียงตามที่แม็คว่า แม็คเดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูที่ผมพึ่งแขวนไป เดินมานั่งแล้วเช็ดผมให้ผม เฮ้ยยย

            “ดะ...เดี๋ยว.....เราทำเอง”

            “ไม่เป็นไรจะเสร็จแล้ว” ผมได้แต่นั่งนิ่งๆให้แม็คเช็ดผมให้จนเสร็จ

            “ขอบคุณนะ”

            “ไม่เป็นไรไปกินข้าวกันเถอะ” ผมเดินตามแม็คลงไปข้างล่างที่ทุกคนนั่งรออยู่แล้ว

            “ดีขึ้นรึยังป่า”

            “ดีขึ้นมากแล้วละครับกล้า” ผมหันไปตอบกล้า

            “ดีแล้วพรุ่งนี้จะได้ไปเล่นน้ำกับพวกเราได้” กล้ายิ้มกว้าง ผมทำได้แค่ยิ้มตอบบางๆ

            “ป่านี่ดูบอบบางนะ ป่าจะไปเล่นน้ำได้เหรอ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาจะแย่เอานะ” ผมทำได้แค่ยิ้มบางๆให้น้อยหน่า

            “ไม่ต้องห่วงหรอกครับน้องน้อยหน่าใช่ไหมครับ มีพี่อยู่ทั้งคน เดี๋ยวพี่ดูแลเองถ้าป่าไม่สบาย” พี่ป่านว่าก่อนจะตักปลาสามรสมาใส่จานให้ผม น้อยหน่าทำหน้าเคืองๆ เอ่อพี่ป่านนานๆทีด้านนี้ของพี่ป่านจะโผล่ให้เห็น ผมเลยเลือกที่จะนั่งกินเงียบๆดีกว่า

            “ป่ากินเสร็จไปเดินเล่นที่หาดไหม” เต้กระซิบชวนผม

            “ไปครับ” ผมตอบแล้วรีบทาน ผมทานเงียบๆโดยเลือกที่จะไม่สนใจสายตาของคนที่มองผมตั้งแต่พี่ป่านตอบกลับน้อยหน่าแล้ว ผมรวบช้อนทันทีที่ทานเสร็จ

            “เราขอตัวก่อนนะ” ผมลุกออกจากโต๊ะทานข้าวแต่ไม่ได้เดินกลับขึ้นห้อง ผมเดินออกมานอกบ้าน แสงไฟสีส้มที่ประดับทางเดินสีนวลตา ผมเดินตามทางเดินไปที่ชายหาด ผมถอดรองเท้าแตะไว้ก่อนที่จะสัมผัสผืนทรายที่นุ่ม ลมทะเลพัดเบาๆแต่ก็นำพาอากาศที่เย็นมาสัมผัสผิวกาย

            “ทำไมไม่ใส่เสื้อแขนยาวมาด้วยละ ไม่หนาวเหรอ” เต้ทักผม

            “อ้อเราชอบอากาศแบบนี้นะมันก็ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่หรอกนะ” ผมหยุดรอเต้ก่อนที่จะเดินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงคลื่นยามค่ำคืน

            “ป่า เรามีเรื่องอยากจะถามนายหน่อย” อยู่ดีๆเต้ก็พูดขึ้นมา

            “มีเรื่องอะไรเหรอครับ”

            “เอ่อ.... ป่านายจะออกจากโรงเรียนทำไมเหรอ” ผมหยุดนิ่ง นี่เต้รู้เรื่องนี้ได้ยังไงกันเนี้ย

            “เต้รู้เรื่องได้ยังไงครับ” ผมถามด้วยความแตกตื่น

            “หลังสอบเสร็จเราไปหาอาจารย์ที่ห้องพักครูเราได้ยินพวกอาจารย์คุยกันนะ” ผมรู้สึกชาไปทั้งตัวถ้าหากเป็นก่อนหน้าที่ผมจะได้เจอทั้งสองคน ได้คุยกับคนที่แอบมองมานานแล้วผมคงไม่รู้สึกอะไรแต่ตอนนี้ผมกลับไม่อยากที่จะบอกความจริงให้ทุกคนรู้

            “เราไม่ได้ตั้งใจจะปิดพวกเต้นะ” ผมรีบอธิบาย

            “เราไม่ได้โกรธเราแค่อยากรู้เหตุผล เราเป็นห่วงป่านะอีกไม่นานก็จะจบแล้วเราอยากให้จบพร้อมกัน”

            “เราขอโทษ เราก็อยากจบกับทุกคนนะ แต่คงเป็นไปไม่ได้เรื่องนี้ตกลงกันมานานแล้วละครับ”

            “เป็นเหตุผลที่บอกไม่ได้ใช่ไหมล่ะ” ผมยิ้มตอบ “เฮ่อ นายนี่นะเหมือนจะเป็นคนหัวอ่อนแต่จริงๆนี่ดื้อน่าดูนะ”

            “ขอบคุณที่ชมนะครับ เราดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับเต้ถึงเวลาจะไม่นานแต่เราก็มีความสุขมากนะ”

            “เฮ้ๆทำไมนายพูดเหมือนเป็นลางงี้วะ แต่เราก็ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนกับนายนะรู้งี้น่าจะชวนคุยตั้งนานแล้ว” ผมยืนนิ่ง

            “แล้วนายจะไปไหน เราติดต่อกันได้อยู่ใช่ไหม”

            “ได้สิครับ ถ้าทุกอย่างลงตัวผมจะส่งเมล์มาหานะครับ” ถ้าผมผ่านพ้นช่วงสำคัญไปได้

            “เดินทางเมื่อไหร่”

            “หลังจากกลับจากเที่ยวครับ ผมก็ไปแล้ว”

            “เห้ยยย ทำไมเร็วงี้วะ”

            “นั่นสินะครับ เวลาทำไมมันผ่านไปเร็วจัง” แล้วเราสองคนก็เงียบยืนมองทะเลปล่อยความคิดให้ลอยไป ผมเสียดายเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้เวลานั้นช่างผ่านไปในแต่ละวันมันช่างยาวนาน

            “นายชอบไอ้แม็คเหรอ” อยู่ๆเต้ก็ถามขึ้น เป็นคำถามที่ทำให้หัวใจผมเต้นรัว

            “ก็ชอบสิครับแม็คเป็นคนดีมาก” ผมกลบเกลื่อนไปแบบน้ำขุ่นๆ

            “เราไม่ได้หมายความว่าชอบแบบเพื่อน ชอบแบบคนรักนะเข้าใจใช่ไหม”  ผมทำได้เพียงแค่นิ่งเงียบ เต้รู้ได้ยังไง

            “ทำไมถึงรู้ละครับ” ผมถามเสียงแผ่ว

            “เราสังเกตเอา แรกๆแค่สงสัยแต่สายตานายมันบอกทุกๆอย่างที่นายคิดทำให้เรามั่นใจในสิ่งที่เราสงสัย”

            “โอ๊ยยย.” ผมอยากจะร้องกรี๊ดถ้าผมกรี๊ดเป็นนะ ทำไมกัน ผมทรุดตัวนั่งลง

            “ฮ่าๆๆๆ ป่านี่ดูออกง่ายจริงๆ ชอบมันมานานรึยังละ แปลกใจจริงๆที่มันไม่รู้เรื่อง” เต้นั่งลงข้างๆผม           

            “เราดูออกง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ เราไม่รู้ว่าเริ่มชอบตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีเราก็ชอบไปแล้ว” ผมบอกเบาๆ เต้นั่งยิ้มกว้าง แล้วจู่ๆก็กอดคอรั้งตัวผมเข้าไปใกล้ ก่อนที่จะขยี้หัวผมแรงๆ

            “น่าอิจฉามันจริงๆที่มีคนดีๆแอบชอบมันมาตั้งนาน”

            “เต้ไม่ว่ามันแปลกๆเหรอที่เราเอ่อ...ชอบแม็ค”

            “ไม่นิ ฮ่าๆๆป่านี่น่ารักจริงๆ” และเต้ก็กอดคอผมแล้วหัวเราะผมไม่รู้ว่าเต้หัวเราะอะไรแต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะตาม

            “ออกมานั่งหัวเราะอะไรกันตรงนี้เนี้ย เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี” พวกผมหยุดหัวเราะแล้วหันไปมอง แม็คยืนอยู่ข้างหลังพวกเรา

            “เออมาพอดีเดี๋ยวกูเข้าไปอาบน้ำดีกว่าชักง่วงแล้วอยู่เป็นเพื่อนป่าหน่อย ฝันดีนะป่า” เต้พูดกับแม็คแล้วหันมาขยิบตาให้ผม ทำให้ผมที่กำลังจะขอตามกลับไป ถึงกับพูดไม่ออก คิดอะไรของเค้ากันนะ

            “ไม่หนาวเหรอ หรือว่าไม่อยากนั่งกับเรา” แม็คนั่งลงข้างๆผม

            “ปะ...เปล่าๆ เราแค่กลัวว่าแม็คจะเบือ” ผมหันหน้าไปมองทะเลไม่กล้าที่จะมองคนข้างกาย

            “ไม่หรอก เมื่อกี้นี้เห็นหัวเราะกันเสียงดังเลยนิ” แม็คถามขึ้นลอยๆ

            “เต้คุยสนุกนะครับ” ผมตอบยิ้มๆ

            “นั่นสินะ ไม่หนาวเหรอ”

            “ก็พอไหวครับ อากาศแบบนี้สบายดีออกครับ” แล้วจู่ๆก็เกิดเงียบกันทั้งสองฝ่ายผมก็ไม่รู้จะชวนคุยอะไร เป็นความเงียบที่ให้ความรู้สึกดีถึงแม้ผมจะจากไปในอีกไม่นาน ช่วงเวลานี้ผมอยากหยุดไว้ให้นานที่สุด ช่วงเวลาที่เหมือนโลกหยุดหมุนมีเพียงเราสองคนนั่งอยู่ตรงนี้

            “เข้าบ้านกันเถอะ” แม็คว่าก่อนที่จะลุกขึ้น

 

 

 

                                                            แต่ช่วงเวลานี้ก็อยู่กับเราได้ไม่นาน

 



 อ่าาาาาชักไม่อยากลงต่อ กลัวใจตัวเอง

ป่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

#โดนโบก
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่13 9/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-08-2016 13:31:15
 :katai2-1:

ผ่าตัดเลยค่ะ เป็นไงเป็นกัน!!!  :fire:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่13 9/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-08-2016 13:38:19
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง day 14 : สุดท้ายก็ได้แค่แอบมอง
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 09-08-2016 15:14:29
แสงสีส้มทอประกายที่เส้นขอบฟ้า ความเคยชินทำให้ผมตื่นแต่เช้ามืดประจำถึงแม้ว่าเมื่อวานจะเดินทางไกล ผมยืนมองแสงพระอาทิตย์ที่ค่อยๆลอดผ่านหมู่เมฆกระทบท้องทะเลให้เปล่งประกาย ผมมองดูภาพนั้นเพื่อจดจำ และเหมือนการตอกย้ำว่าเวลาของผมสั้นลงเรื่อยๆ ผมได้แต่ยิ้มให้ตัวเอง ก่อนที่จะไปอาบน้ำเพื่อตัดการคิดฟุ้งซ่านของผมทิ้งไป ผมเดินลงมาข้างล่างยังไม่เห็นมีใครลงมาท่าทางจะยังไม่ตื่นกัน ผมเลยเดินเข้าไปในครัวที่ป้าแม่บ้านกำลังขมักเขม้นล้างผักอยู่

            “มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ”

            “ว๊ายชะนีตกตึกตาย โอ๊ยคุณคะป้าตกใจหมดเลย ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” ป้าสงสัยจะตกใจที่จู่ๆผมก็ทักออกไป

            “ขอโทษด้วยครับผมไม่คิดว่าป้าจะตกใจ” ผมรีบยกมือไหว้ขอโทษ

            “ไม่เป็นไรค่ะป้าขวัญอ่อนปกติไม่มีใครตื่นเช้าเท่าป้าแล้วละค่ะ”

            “มาครับผมช่วย” ผมเดินเข้าไปหยิบผักที่เหลือเข้าไปล้าง

            “ไม่ได้ๆ เดี๋ยวป้าทำเองค่ะ” ป้ารีบเดินมาคว้าผักมือผมแต่ผมยกหลบไป

            “ไม่เป็นไรหรอกครับยังไงผมก็ว่างให้ผมช่วยนะครับ”

            “โถก็ได้ค่ะ” ผมเดินไปล้างผักทั้งหมดใส่ตะกล้า ก่อนที่ไปช่วยหันพริกหวานหลากสีให้เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า เตรียมผักไว้สำหรับทำสลัด

            “คล่องแคล่วเลยนะคะ ท่าทางจะทำปล่อย”

            “ผมทำที่บ้านประจำนะครับคุณแม่ท่านงานยุ่ง”

            “ดีแล้วละคะทำอาหารได้นี่ไปไหนก็ไม่ลำบาก” ผมยิ้ม ช่วยกันจนทำอาหารเช้าเสร็จผมเลยอาสาออกไปจัดโต๊ะ

            “อ่าวป่า ตื่นแต่เช้าเลยนะ”

            “อรุณสวัสดิ์ครับ แม็คเองก็ตื่นเช้านะครับ”

            “นี่ไม่เห็นใส่แว่น”

            “ผมสายตาไม่ได้แย่อะไรมากครับถ้าไม่ใช่ตอนเรียนไม่ต้องใส่ก็พอมองเห็นอยู่นะครับ”

            “แบบนั้นสายตายิ่งไม่เสียแย่เหรอ” ผมทำได้แค่ขำ ก็ผมไม่ค่อยชอบใส่เท่าไหร่แต่มันก็ดันลำบากเวลาอ่านหนังสือ

            “ก็ประมาณนั้นละครับ” ผมจัดโต๊ะเสร็จโดยมีแม็คช่วยอีกมือทุกคนก็เดินลงมาพอดี

            “ป่า~~~~~~ กินข้าวเสร็จไปเล่นน้ำกัน” กล้าวิ่งลงมาพร้อมกับตะโกนลงมา

            “ครับๆมาทานข้าวก่อนเถอะครับ” พอผมรับคำกล้าก็วิ่งมากอดผมทันที มันจะแน่นไปละนะครับ

            “ปล่อยป่าได้แล้วไอ้กล้า” แม็คเดินมาดึงคอเสื้อกล้าลากออกไปจากตัวผม แล้วการทานอาหารเช้าก็เริ่มขึ้นพร้อมกับเสียงทะเลาะกันของเต้และกล้าที่ทะเลาะเรื่องจะไปเล่นเครื่องเล่นอะไรก่อนดี เป็นปัญหาระดับชาติจริงๆเลยนะครับ พี่ป่านลงมาหลังจากที่พวกผมทานข้าวเช้าเสร็จพอดี แกขอแค่กาแฟดำอย่างเดียว

            “ไม่ทานข้าวหน่อยเหรอครับ”

            “ไม่ละพี่กินแค่นี้ก็พอตอนเช้าพี่กินอะไรไม่ลง” ผมได้แต่ทำหน้าหมุ่ย

            “พี่ป่านอีกนิดพี่ก็ปลิวตามลมได้แล้วนะครับ”

            “จ้าๆ บ่นเหมือนพ่อพี่เข้าไปทุกทีนะ” พี่ป่านโบกมือไล่ผม อย่าให้ผมได้เจอคุณอานะ ผมจะฟ้องให้เข็ด เหมือนเด็กเข้าไปทุกที ผมเลยเดินตามพวกเต้ออกไป ผมเดินลงมาที่หาด เต้กลับกล้ากำลังจะขึ้นบานาน่าโบ๊ท กล้าตะโกนชวนผมไปเล่นแต่ผมคงจะไปเล่นไม่ไดหรอกนะ ผมโบกมือปฏิเสธก่อนที่จะนั่งรอที่เตียงผ้าใบดูสองคนนั้นเล่นกันอย่างสนุกสนาน ซักพักทั้งสองคนก็โดนเทลอยคออยู่ในทะเล ผมขำแค่มองดูผมก็รู้สึกสนุกแล้ว

            “ไม่ลงไปเล่นด้วยละ มาทะเลทั้งที” แม็คเดินมานั่งที่เตียงผ้าใบข้างๆ ผมหันไปมอง แม็คเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามสีขาว ผมรีบหันหน้าไปมองทะเล

            “แม็คทำไมไม่รอหน่าเลยละ” หน่าเดินมาหาพวกเราสองคน

            “ก็เราไม่เห็นหน่าเลยลงมาก่อนนะ” หน่ายิ้มกว้างก่อนที่จะนั่งลงข้างๆแม็ค

            “ป่านี่ขาวจังเลยนะ เหมือนคนไม่เคยออกแดดเลย” ผมยิ้มบาง

            “เราไม่ค่อยได้ออกไปไหนนะครับ”

            “อิจฉาจังเลย ผิวก็เนี๊ยนเนียน” จู่ๆหน่าก็เดินมาลูบแขนผม จนผมสะดุ้ง

            “เอ่อเราไม่รู้หรอกนะว่าเนียนรึเปล่านะครับ”

            “ป่านี่ผิวดีกว่าผู้หญิงอย่างเราอีก อิจฉาอ่ะ” เอ่อ.. หน่าจะลูบแขนผมอีกนานไหมครับ ผมขยับตัวหนีนิดหน่อย

            “หน่าไปเล่นบานาน่าโบ๊ทกับเราดีกว่านะ” ผมถอนหายใจโล่งอกเมื่อหน่ายอมเดินตามแม็คไป ผมจะผิวเนียนผิวขาวแล้วมันจะมีประโยชน์อะไรกันละครับ ผมถอนหายใจป้าแม่บ้านยกเอาน้ำและขนมมาให้ ผมขอบคุณ อากาศดีชะมัด ผมนอนอ่านหนังสือที่พี่ป่านฝากป้าแม่บ้านมาให้ผม รู้ใจผมจริงๆ ผมนั่งอ่านไปเรือยๆ

Mac Part

            ผมขึ้นไปเล่นบานาน่าโบ๊ทกับไอ้เต้และได้กล้า น้อยหน่านั่งข้างหน้าส่วนผมนั่งหลังสุดไอ้สองตัวตรงกลางนี่มันจะแต๋วอะไรขนาดนั้น กรี๊ดลั่นซักพักเรือก็หักเลี้ยวทำให้บานาน่าโบ๊ทเทพวกผมลงกลางทะเล เราเล่นกันหลายรอบ ซักพักสองคนนั่นก็ชวนกันขึ้นเรือไปเที่ยวเกาะที่อยู่ห่างไม่ไกลนักแต่ผมขอตัวกลับขึ้นฝั่งเพราะผมรู้สึกแสบที่แขน ผมอาจไปโดนอะไรตอนที่ตกมาจากเรือ ผมขึ้นจากทะเล

            “ไปฟาดกับอะไรวะเนี้ย” แขนผมมีรอยแดงและรอยขีดมีเลือดไหลออกมานิดหน่อย มันไม่เยอะเท่าไหร่แต่พอโดนกับน้ำทะเลก็แสบเอาเรื่องเหมือนกัน ผมเดินมาที่เตียงผ้าใบ คนที่มาเที่ยวแต่เหมือนจะมานอนมากว่าการมาเที่ยว ผมนั่งลงที่เตียงข้างๆคนที่นอนหลับอย่างสบายอารมณ์ ผมนั่งมองผมดำยาวปรกใบหน้าเนียนที่ตอนนี้ไม่มีแว่นตาหนาเตอะปิดปังใบหน้าไปเสียครึ่งหนึ่ง ผมนั่งจ้องใบหน้าที่น้อยหน่าบ่นว่าอิจฉาในผิวขาวของเค้า

            “ตอนนอนนี่เหมือนเด็กจริงๆเลยนะ”  ผมยืนมือปัดผมที่ปรกหน้าป่าออก คนอะไรทั้งที่เป็นผู้ชายแต่ทำไมถึงได้ดู น่ารัก ใช่เค้าเหมาะกับคำนี้ทั้งๆที่เป็นผู้ชายแท้ๆ ผมลูบแก้มที่ขาวซีดแต่ให้สัมผัสนุ่ม และเนียน อืมไม่รู้เนียนรึเปล่าแต่ก็นุ่มกว่าผิวพวกผม ผมเลือนหน้าเข้าไปจนได้กลิ่นหอมที่ไม่เคยได้กลิ่น ขนตายาวที่ผมพึ่งสังเกตเห็นว่ามันยาวเป็นแพหนา แพขนตาเริ่มขยับก่อนที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มจะลืมตาขึ้นมามองผม

            “มะ...แม็ค” ใบหน้าขาวซีดเปลี่ยนเป็นแดงระเรือ ซึ่งผมชอบแบบนี้นะดูเหมือนคนมีชีวิตมากกว่าตุ๊กตาขาวซีดเสียอีก

            “โทษทีทำให้ตืนเหรอ” ผมบอกแต่ยังไม่ขยับไปไหน

            “เอ่อ..แม็คมานานรึยังครับ” ตาโตที่ซ่อนอยู่หลังแว่นเบิกกว้างเมื่อผมยืนหน้าเข้าไปใกล้ อืมตากลมโตและดูใสซื่อ

            “ก็ไม่นาน พอดีมีแผลนิดหน่อยเลยขึ้นมาก่อน” ผมบอกแต่ก็ยังไม่ลุกไปไหน สีหน้าท่าทางของป่าดึงดูดความสนใจของผม

            “เป็นไรมากไหม” ป่าผลักผมออกก่อนที่ลุกขึ้นมาดูผมจนหนังสือหล่น

            “แค่แผลนิดหน่อยเอง” ผมยักไหล่มันแค่แผลนิดเดียวจริงๆ ป่าแตะแผลผมเบาๆราวกับว่ากลัวผมเจ็บ

            “เดี๋ยวเราทำแผลให้ดีกว่านะครับ” ผมพยักหน้าก็ท่าทางเป็นห่วงผมเลยไม่อยากห้ามอะไรทั้งที่แผลแค่นี้ไกลหัวใจเยอะ ป่าลุกจากเตียงรีบเดินกลับเข้าไปเอากล่องยาในบ้านพัก ซักพักก็กลับมา

            “ยืนแขนมาให้เราดูสิ” ผมเอี้ยวตัวให้ป่าดูแผลผมชัดๆ ป่าค่อยๆทำแผลให้ผมอย่างเบามือจนผมแทบไม่รู้สึกแสบเลย

            “ขอบใจมากนะ ป่านี่มือเบาจริงๆ” ผมที่หันไปหาป่าแต่เป็นจังหวะที่ป่าเงยหน้าขี้นมาพอดี นิ่ม นิ่มจริง ตากลมเบิกกว้างเมื่อผมหันไปประจวบเหมาะกับป่าที่เงยหน้าขึ้นมาดี ถึงเป็นการสัมผัสที่เบาเหมือนปุยนุ่น ป่าผงะออกไป

            “อ่าขอโทษนะ”

            “มะ.....ไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ แค่อุบัติเหตุเราเอากล่องยาไปเก็บก่อนนะ” ป่าพูดรัวๆก่อนที่จะลุกขึ้นรีบเดินหนี  โดยลืมกล่องยาไว้ ผมหัวเราะให้กับความเขินอายนั้น

            “เขินได้น่ารักจริงๆนะ” ผมหัวเราะก่อนที่จะนอนพักแล้วหยิบเอาหนังสือที่ตกอยู่ขึ้นมาอ่าน อืม อ่านอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ มันเป็นวรรณกรรมเก่าแก่ ที่กล่าวถึงความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ผมอ่านไปได้สองบท สามคนก็กลับมาจากไปเที่ยวเกาะ หน่ารีบเดินมาหาผม น้อยหน่านี่เป็นผู้หญิงที่น่ารัก ร่าเริง

            “แม็คเป็นอะไรอ่ะ” หน่าเดินมานั่งข้างผมแล้วแตะลงที่แผล

            “อ้อตอนตกลงจากบานาน่าโบ๊ทคงไปฟาดอะไรเข้านะ แต่ไม่เป็นไรมาก ไปเที่ยวเกาะสนุกไหม” ผมถามยิ้มๆ

            “สนุกมากเลยเสียดายที่แม็คไม่ได้ไปหาดที่นั่นสวยมากเลยละ พรุ่งนี้ไปเที่ยวด้วยกันไหม” หน่าทำหน้าอ้อนๆ ผมยิ้ม

            “ได้สิ”

            “แม็คพวกกูไปอาบน้ำก่อนนะ” ผมโบกมือ

            “หน่าไม่ขึ้นไปอาบน้ำก่อนเหรอ”  หน่าไม่พูดอะไร

            “เอ่อ แม็คเรามีเรื่องอยากจะถามนาย”

            “หืมเอาสิ” ผมวางหนังสือแล้วตั้งใจฟังคำถาม

            “แม็คมีคนที่ชอบรึยัง”

            “คนที่ชอบเหรอ.........ยัง” ทำไมหน้าตาเขินๆของป่าขึ้นมาได้ละเนี้ย

            “ดีจัง แม็คเราชอบแม็คคบกับเราได้ไหม” ผมนิ่งหน่าเป็นคนน่ารักและผมก็มีความรู้สึกดีๆให้

            “ได้สิ”

 

            หน่ายิ้มกว้างก่อนที่จะหอมแก้มผมเบาๆแล้วขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ ผมมีคนมาขอคบเรื่อยๆแต่พอคบกันไปได้ซักพักสาวๆพวกนั้นกับบอกเลิกผมเองซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าผมทำอะไรผิด แต่กับหน่าผมรู้สึกสบายใจที่อยู่ด้วยพูดคุยได้ทุกเรื่องผมเลยตกลงที่จะคบด้วยผมคว้าเอาหนังสือกับกล่องยาเดินกลับบ้านเพราะรู้สึกเหนียวตัว ถ้าผมสังเกตระหว่างทางผมอาจจะเห็นใครบางคนยืนอยู่

 

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า

เราไม่มั่นใจเลยฮ่าๆๆๆ เรื่องของป่าเราตั้งใจที่จะเข็นให้จบก่อนเรื่องอื่นๆ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะ หลังจากนี้ก็จะหน่วงไปเรื่อยๆนะคะ

รักทุกคน
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่14 9/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-08-2016 15:25:30
 :a5:

ยังจะหน่วงอีกเหรอคะ ข้ามไปวันผ่าตัดเลยได้ไหม  :katai5:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่14 9/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 09-08-2016 18:00:38
ง่ะ แม็คตกลงเป็นแฟนกับหน่าไปแล้ว
อย่าบอกนะว่าป่ามาเห็นตอนเขาตกลงคบกัน
เจ็บแทนง่ะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่14 9/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 09-08-2016 20:19:51
หมดกัน
น้องป่าคะ
ชอบคนอื่นเถอะ
ปล่อยแม็คให้ไปคบกับชะนีซะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่14 9/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 09-08-2016 20:40:38
น้องป่า เข้มแข็งนะลูก อยากกระโดดตบแม็คสักทีสองที  :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 15 : น้องชายผู้น่ารัก
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 10-08-2016 11:36:46
Pan Prat

            “ป่า”

            “อึก พี่ป่าน” ป่าโผเข้าไปหาพี่ป่านกอดผม ป่าไม่ได้ร้องไห้สะอึกสะอื้นมีเพียงที่น้ำตาไหลออกมาอย่างมากมายโดยไม่มีเสียงเหมือนก๊อกน้ำที่เปิดค้างไว้

            “ป่า ไม่เอาไม่เป็นอย่างนี้สิ ป่าจะแย่เอานะใจเย็นสิ” ผมเริ่มที่ใจไม่ดีเมื่อป่าหอบจนผมทรุดลง

            “ป่าใจเย็นไว้ บ้าเอ๊ย!!!” ผมสบทเมื่อคิดว่าทำไมถึงไม่ได้หยิบเอาโทรศัพท์มาตอนที่เดินออกมาตามหาป่า

            “พี่ป่านทำอะไรครับ” เหมือนพระเจ้าส่งเค้ามาในตอนที่ผมต้องการคนพอ

            “เต้รีบไปหยิบกระเป๋าพี่ที่ห้องสีดำนะ แล้วโทรศัพท์กับกุญแจรถพี่มา เร็ว!!!” ผมรีบสั่งให้เต้ไปเอาของมาให้ผม เต้ทำหน้างงแต่ก็รีบวิ่งไปทันที

            “พะ....พี่ป่าน ขอโทษนะครับ” เขาพึมพำ มาขอโทษบ้าอะไรตอนนี้วะ

            “หยุดพูดเลย ค่อยๆหายใจเข้า หายใจออก อยู่คุยกับพี่ก่อนไม่งั้นพี่จะไม่อภัยตัวเองเลย” ผมจับข้อมือเพื่อเช็คชีพจร จังหวะการเต้นหัวใจของป่ามันเร็วมาก เร็วจนผมกลัว

            “มาแล้วๆพี่ป่าน ป่าเป็นอะไรครับ” เต้ที่วิ่งหัวฟูหน้าตั้งมาหาผม ผมไม่สนใจที่จะตอบก่อนที่จะคว้าเอากระเป๋าสีดำมาเปิดหยิบขวดยาก่อนที่จะฉีดเข้าเส้นเลือดเพื่อลดอัตราการเต้นของหัวใจให้ป่าก่อน เต้นั่งลงข้างป่ามองเงียบๆ ผมขอโทรศัพท์ก่อนที่จะหาพ่อ

            “พ่อ ป่าอาการทรุดหนัก ผมต้องการพาตัวป่ากลับไปที่โรงพยาบาลตอนนี้พ่อจัดการให้ผมด้วย” ผมรีบบอกพ่อก่อนที่พ่อจะพูดอะไรเสียอีก ขณะที่อีกมือหนึ่งก็คอยจับข้อมือป่าไว้ ทำให้ผมโล่งใจที่จังหวะการเต้นมันเริ่มลดความเร็วลง

            “พี่ป่าน ป่าขอโทษ”

            “ป่าพี่จะพาป่ากลับนะ ไม่ต้องห่วงพี่ไม่ยอมให้เราเป็นไรแน่ๆ” ผมลูบหัวเค้าเบาๆ

            “เต้ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะครับ” อาการหนักแล้วยังเป็นห่วงคนอื่นอีกนะ

            “ไม่ต้องพูดแล้วป่า เพราะแม็คใช่ไหม”

            “ไม่....ไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้นละครับ เพราะผมเองต่างหาก ถ้าผมไม่..อยากให้โทษใคร” บ้าเอ้ย

            “พอเลิกพูดได้แล้วป่า เต้ถือของมาให้พี่ที” ผมอุ้มป่าเดินไปที่รถที่ผมติดต่อเช่าไว้เมื่อมาถึงผมวางป่าลงเบาๆเต้รีบเข้ามาดูป่า ผมยังวางใจไม่ได้ที่อาการป่าทรุดแบบนี้มันเริ่มไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมขับรถออกมาเพื่อไปยังโรงพยาบาลที่พ่อได้ติดต่อเอาไว้ ทันทีที่ไปถึงป่าถูกส่งตัวเข้าห้อง Icu ผมไม่น่าปล่อยให้ป่าคลาดสายตาเลย

            “พี่ป่าน ป่าต้องไม่เป็นอะไรครับ” เต้นั่งลงข้างๆผม ใช่ป่าจะต้องไม่เป็นอะไร เราสองคนนั่งรอซักพักหมอก็ออกมาบอกว่าอาการของป่าทรงตัวแล้วแต่ยังต้องให้อยู่ในห้องไอซียูเพื่อดูอาการ

            “เต้เดี๋ยวพี่ไปส่ง”

            “ผม..อยากอยู่เฝ้าป่า”

            “ไม่ได้หรอก หมดเวลาเยี่ยมอีกอย่างตอนนี้ป่าก็หลับอยู่กลับเถอะ” เต้เดินตามผมออกมาเงียบๆ หลังจากขึ้นรถต่างไม่มีใครพูดอะไร

            “เต้รู้ได้ไงว่าป่าชอบแม็ค” ผมถาม

            “ผมรู้เพราะผมสังเกตแต่คนที่สมควรรู้มันดันไม่รู้เอาซะเลย แถมวันนี้มันยังบอกว่าตกลงคบกับน้อยหน่าไปแล้ว” ผมเงียบกับข่าวล่าสุดที่ได้ยิน เพราะก่อนหน้าที่ป่าจะหายไป ตอนที่ป่าเข้ามาในบ้านใบหน้าของป่าบ่งบอกถึงการมีความสุขอยู่แท้ๆ

            “ป่ามันแอบชอบแม็คมานาน ทั้งๆที่ไม่เคยได้คุยเลยด้วยซ้ำ พี่ได้แต่แอบอ่านไดอารี่ของป่าถึงได้รู้ว่าป่าไม่ใช่แค่แอบชอบแต่มอบหัวใจให้แม็คไปแล้ว” ผมเล่าด้วยความหงุดหงิดจะห้ามป่าก็ไม่ได้ เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันได้ซะที่ไหน อาการของป่าก็แย่ลงก่อนที่จะมาได้เป็นเพื่อนกับแม็คแล้ว เรื่องที่ลาออกจากโรงเรียนนี่ก็เป็นเรื่องที่คิดกันไว้แล้วเพียงแต่อาการป่าแย่เร็วกว่าที่ผมคิดไว้

            “ที่ป่าลาออกเพราะป่วยใช่ไหมครับ”

            “ใช่ป่าไม่สบายมานานแล้วเรื่องที่ลาออกนี่ก็เตรียมไว้นานแล้ว” แล้วเราก็เงียบไป พอกลับมาถึงบ้านพัก ได้เวลาทานข้าวเย็นกันพอดี ผมเดินเข้าบ้านมาก็เห็นแม็คกับน้องหน่ากำลังคุยกับกระหนุงกระหนิงก็รู้สึกหงุดหงิด ผมเลยเลี่ยงที่จะเดินเข้าไป ผมเดินขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องป่า เต้เข้ามาช่วยผมเก็บ

            “พี่จะกลับเลยเหรอถ้ามันสองคนถามละ” ป่าเคยขอร้องผมเรื่องหนึ่งก่อนมาเที่ยว คือถ้าอาการทรุดจนต้องเข้าโรงพยาบาลให้ผมไม่ต้องเล่าเรื่องอะไรให้เพื่อนๆฟัง

            “ป่าห้ามให้พี่บอกว่าป่าป่วย”

            “นี่ถ้าผมไม่สังเกตผมก็คงโดนป่าทิ้งไปโดยไม่บอกอะไรสินะครับ”

            “ป่า...ไม่เคยมีเพื่อนเลยนะ ที่ป่าไม่อยากบอกเพราะป่าก็ไม่สามารถที่จะพูดออกไป เพราะป่ารู้ว่าอาการเค้าเป็นหนักแค่ไหน”ผมเก็บหนังสือที่วางบนโต๊ะก่อนที่จะเห็นสมุดไดอารี่ของป่า

            “พี่ให้เราเก็บไว้อ่านในนี้แล้วจะเข้าใจเองว่าป่าเห็นว่าเต้กับกล้าสำคัญแค่ไหน ยิ่งสำคัญป่ายิ่งไม่อยากบอก” ผมย้ายกระเป๋าป่าไปไว้ในห้องของผม

            “ผมจะได้เจอป่าอีกใช่ไหมครับ”

            “ได้สิต้องได้เจอแน่นอน ป่าจะหายดีและกลับมาหาเต้แน่ๆ” ผมบอกทั้งๆที่ในใจก็หวาดกลัวผมรู้ว่าป่าเตรียมใจมานานแล้ว แต่ผมยังทำใจไม่ได้ ถ้าเกิดการรักษาไม่สำเร็จละ ที่ป่าเลือกไม่บอกเพราะเค้าก็ไม่มั่นใจว่าจะได้กลับมาไหม

            “เต้ พี่ป่าน ป่าลงมาทานข้าวได้แล้วครับ” แม็คเรียกเรา ผมกับเต้เดินลงมานั่งที่โต๊ะทานข้าว

            “แล้วป่าละครับ”

            “ไม่สบายนะ” ผมบอกตอนนี้ผมก็ทานอะไรไม่ลง ซึ่งเต้ก็มีสภาพไม่ต่างจากผม

            “เป็นอะไรมาไหมครับ” แม็ครีบถามขึ้น ผมแทบจะบอกความจริงให้แม็คได้รู้แต่ผมสัญญาไว้แล้ว

            “ไม่เป็นไรมากหรอกแต่วันนี้พี่กับป่าจะกลับเลยนะพอดีพี่กับป่ามีธุระด่วนนะ” ผมบอกตัดโดยไม่อยากตอบคำถาม แม็คเหมือนจะถามอะไรแต่หน่ามาชวนคุยเลยหันไปคุยกับเธอแทน ผมถอนหายใจ

            “อ่าวแล้วพี่ไปไงครับ”

            “จะมีคนมารับเดียวพี่ขึ้นเครื่องกลับ” ผมไม่แตะช้อนเลยซักนิดใจผมอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ผมขอตัวลุกจากโต๊ะอาหารขึ้นห้องโทรหาพ่อ

            “(ป่าเป็นไงบ้าง)”

            “ตอนนี้หมอให้นอนพักถ้าอาการดีขึ้นพร้อมเดินทางผมจะพาน้องกลับทันที”

            “(แม่เจ้าป่าตอนนี้ประสานงานกับโรงพยาบาลทางโน้นไว้แล้ว ถ้าป่าแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้เราจะไปกันทันที)”

            “ครับ” ผมวางสายการผ่าตัดคราวนี้มีโอกาส 50-50

            ก๊อกๆ

            “เข้ามาสิ”

            “พี่ป่าน ผมจะไปกับพี่ด้วย เพราะถ้าพี่ลงไปคนเดียวคงผิดสังเกต”

            “ได้สิ ขอบใจมากนะ” ผมยิ้ม

            เต้แอบลงไปนั่งในรถก่อนผมถือของลงมาแล้วบอกลาทั้งสามคน เต้ให้ข้ออ้างว่าท้องเสีย ผมขึ้นรถตู้ที่ทางพ่อติดต่อไว้แล้วเดินทางไปที่โรงพยาบาลเราสองคนมาถึงโรงพยาบาลเต้ขอเข้าไปเยี่ยมผมเลยพาไปป่านอนหลับสนิทหายใจเบาจนผมแทบไม่เห็นทรวงอกขยับ

            “ป่า นี่เต้นะ เรารู้ว่าป่าจะหนีพวกเราไปใช่ไหม เราดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับป่าเหมือนกันนะ ป่าจะเป็นเพื่อนเราเสมอ ป่าต้องกลับมาให้เราว่าให้หนักเลยนะ เราจะรอ” เต้บีบมือป่าก่อนที่จะขอตัวกลับเพราะอยู่นานไม่ได้ ผมนอนเฝ้าป่า        ผ่านไปสองวันป่าถึงได้สติเต็มร้อย ลุกขึ้นนั่งทานข้าวก่อนที่จะนั่งเหม่อ ผมส่งข้อความพร้อมรูปถ่ายไปให้เต้ บอกว่าป่าฟื้นแล้ว เต้ตอบกลับมาว่าอยากมาเยี่ยมใจจะขาดแต่วันนี้ต้องเดินทางกลับแล้วแถมยังฝากบอกป่าอีกว่า แล้วเจอกันนะ อย่าลืมติดต่อมา ผมยืนให้ป่าดู ป่าก็แค่ยิ้มจางๆ ผมรอจนป่าแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้เราก็เดินทางกลับกรุงเทพก่อนที่จะเข้าไปหาพ่อที่โรงพยาบาล

            พ่อตรวจป่าโดยละเอียดก็คิดว่าป่านั้นแข็งแรงพอที่จะเดินทางไกลได้ ผมเดินทางไปกับป่าไม่ได้เพราะงานของผมยังไม่เรียบร้อย  ป่าจึงเดินทางไปพร้อมกับคุณพ่อ

            “ถ้าพี่เคลียทุกอย่างเรียบร้อยพี่จะตามไปนะ” ผมลูบหัวป่า ป่าผอมลงไปอีกแล้วเพียงแต่ดวงตานั้นหม่นหมองแต่เพียงชั่วครู่ก็กลับมาเข้มแข็งเหมือนเดิม

            “ผมจะรอพี่ที่โน่นนะครับ” ป่ายิ้มบางแล้วเข้ามากอดผมแน่น ป่าปล่อยผมแล้วเดินเข้าเกตไป

 

            ผมภาวนา ขอให้ป่าปลอดภัยแลกอะไรก็ได้ ขอแค่ให้น้องชายที่แสนน่ารักของผมปลอดภัย

 

 

--------------------------------------------------------------------

เอาพี่ป่านมาลงบ้าง เห็นนะว่าทุกคนเตรียมปารองเท้าใส่แม็ค

เอาเลยค่ะ 555555 สำหรับแม็ค แม็คถือว่าตัวเองยังไม่ได้ผูกมัดกับใคร

ถึงแม้จะมีความรู้สึกดีๆกับป่าก็ตาม (ซือบือค่ะ) ส่วนใครที่คิดว่าป่าไม่น่าแอบชอบเลย

ในมุมมองที่เค้าที่เคยแอบชอบเพื่อนมาตั้งหลายปี (ระทึกความหลังเลยทีเดียว) 5555

มันเป็นมุมมองที่ได้แต่แอบมอง แอบดีใจ แอบเศร้า อยู่ฝ่ายเดียว

มองรอยยิ้ม ดีใจที่เค้ามาทัก มาเล่นด้วย เศร้าที่เค้ามีแฟน #ซับน้ำตาตัวเองแปบ

มุมมองความรักของเค้าจึงไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านเค้าเท่าไหร่

ดีใจที่ทุกคนชอบนะคะ เราจะหน่วงไปด้วยกันอีกนานคะ

โฮ่ะๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่15 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-08-2016 12:14:22
ม่ายยยยยยยยยยยยยยย

เต้ๆๆๆๆๆๆๆๆ ไปให้กำลังใจป่าด้วยนะ ขอร้อง  :hao5:

/ปารองเท้าใส่หัวแม็ค :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่15 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 10-08-2016 14:10:17
น้องป่าาา หนูต้องกลับมานะลูกกก
 :sad4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่15 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 10-08-2016 15:02:11
ร้องไห้เลยจริงๆ สงสารน้องป่าขั้นสุด ขอให้ปลอดภัยจากการผ่าตัด หายดีเร็วๆ นะ :hao5:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่15 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-08-2016 16:46:27
 :z6: :z6: :z6: :z6: อีแม๊คนิสัยไม่ดี
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 16 : New Life
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 10-08-2016 19:17:45
           
Pha

                                            "ทำไมกันนะ อยู่ไกลคนละซีกโลก แต่หัวใจผมกับไม่อยู่ที่นั่นกับผม

                                                                     ยังจำเรื่องราวต่างๆ ยังคงคิดถึงคนๆเดียว"

 

            “เฮ้ ทำไมไม่รอวะ” เสียงทุ้มเรียกผมเสียงดัง

            “อเล็กซ์ ขอโทษด้วยพอดีคิดว่าจะเดินเล่นไปเรื่อยก่อนไปมหาวิทยาลัยนะ”

            “นายนี่แปลกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน” อเล็กซ์ว่าผม

            ผ่านมาสี่ปีแล้วกับการที่ผมมาอยู่ที่นี่ ผมไม่รู้ว่าคนอีกซีกโลกหนึ่งเป็นอย่างไรบ้าง ผมเลือกที่จะไม่สนใจเอ่ยถึง ถึงแม้ผมจะยังติดต่อกับเต้อยู่ และเต้ก็ไม่ได้พูดถึงแต่ดันส่งรูปมาให้ผมบ่อยๆทำไมกันนะ แต่ผมก็เก็บรูปที่เต้ส่งมาให้ผมอย่างดี ตอนนี้เต้เรียนอยู่ปีสาม ในขณะที่ผมใกล้จบแล้วเพราะสอบเลื่อนขั้น อยู่ที่นี่ผมมีเรื่องให้ทำมากมายเจอผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและภาษา แต่ทำไมบ่อยครั้งผมกับคิดถึงคนๆหนึ่งเป็นประจำ

            สี่ปีที่แล้วผมเดินทางมาที่ลอนดอนเพื่อรับการรักษาผ่าตัดใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ  ผมต้องนอนในโรงพยาบาลสามวันก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัดคุณแม่ตัดสินใจที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะตกลงมาทำงานในบริษัทนิตยสารการท่องเที่ยวทำให้ตัดสินใจที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่เลย  ในวันที่สามพี่ป่านก็บินมาหาผมพร้อมกับของที่เต้ฝากมาให้

            “นี่เต้ฝากมา พี่ไม่รู้ว่าอะไรเต้บอกว่ายังไงก็ต้องส่งให้ป่าโดยไม่บุบสลาย” ผมรับเอากล่องสีน้ำตาลที่ขนาดไม่ใหญ่มากนัก พี่ป่านขอตัวออกไปชื้อกาแฟข้างนอก ผมค่อยๆแกะกล่อง ในนั้นมีจดหมายที่เต้เขียนไว้

            ‘ป่า

            เราโกรธนายมากนะ ที่ไม่ยอมบอกอะไรเราเลยแต่พอได้อ่านบันทึกของนาย เราดีใจที่ได้เป็นเพื่อนกับนายนะ เพราะฉะนั้นนายต้องกลับมา เห็นพี่ป่านบอกว่านายจะย้ายไปอยู่ที่ลอนดอนถาวร ไม่ยอมนะเฟ้ย นายต้องกลับมาให้ฉันด่าก่อนไม่งั้นฉันจะโกรธนายไปตลอดชีวิตเลย

            อิจฉาอ่า ได้ไปอยู่เมืองนอกถ้าเราว่างฉันจะไปหานายนะ ส่งที่อยู่มาด้วยฉันเขียนเมลเขียนที่อยู่ติดต่อไว้ให้นายหมดแล้วถ้านายไม่ติดต่อมา .....ฉันจะเอาความลับนายไปเปิดเผย 555555+ ตอนที่เขียนจดหมายนี้ยังดีที่ยังไม่เปิดเทอมไม่งั้นสองตัวนั่นต้องถามหานายแน่นอน

            ดูแลตัวเองนะ นายจะเป็นเพื่อนฉันตลอดไป

            ปล. หวังว่านายจะชอบของที่ฉันฝากไปให้นะ

ผมยิ้มเต้เพื่อนที่แสนดีของผม ของอะไรกันที่เต้ฝากมา ผมพับจดหมายเก็บเข้าไว้ในซองอย่างทะนุถนอม แล้วดูในกล่อง เป็นสมุดบันทึกเหรอ ผมหยิบออกมาเปิดดู น้ำตาที่แห้งไปไหลออกมาช้าๆ หน้าแรกของสมุดบันทึกเป็นรูปของทั้งสามคนที่ยืนอยู่ชายหาด มีลายมือเต้เขียนไว้

                                    อันนี้ถ่ายก่อนวันกลับ จะได้ไม่ลืมกัน

            จะไปลืมได้ยังไงกันละ ผมปิดสมุดวางไว้ข้างตัว ข้างในมีซองอยู่ผมเปิดออกดู ก็เห็นว่ามันเป็นรูปถ่าย ของคนๆเดียวที่น่าจะเป็นการแอบถ่ายของเต้ ทั้งตอนที่นอนหลับตรงชายหาด ตอนที่กำลังทานอะไรอยู่ ตอนที่ยิ้มกว้าง ตอนที่นั่งเหม่อในรถ

                                    อันนี้พิเศษสำหรับป่า

ผมยิ้มทั้งน้ำตา เต้นะเต้ ผมเก็บรูปใส่ซองเก็บ เก็บของลงกล่อง วันพรุ่งนี้มาถึง ผมเอากล่องให้พี่ป่านเก็บไว้ ผมบอกจะกลับมาเอาเก็บไว้ให้ดี พี่ป่านรับปาก

            “แม่จะรอหนูอยู่ข้างนอกนะ”

            “ผมจะรีบกลับมาครับ” ผมกอดแม่ก่อนที่พยาบาลจะเข็นเตียงผมเข้าห้องผ่าตัด ผมจะต้องกลับมาให้ได้

            ผมตื่นขึ้นมาอีกสามวันหลังจากการผ่าตัด หมอบอกว่าผมจะแข็งแรงในไม่ช้า พี่ป่านบินกลับไทยหลังจากที่ผมฟื้น ผมเลยฝากของไปให้เต้ด้วยพี่ป่านกลับไปก็จะกลับมาทำงานที่โรงพยาบาลแล้ว ผมพักฟื้นนานถึงหนึ่งเดือนถึงได้กลับมาเรียนโดยการเข้าเรียนปีสุดท้ายของไฮสคูล จริงๆก็เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้ามหาวิทยาลัย พอผมหายดีแม่ก็ต้องออกเดินทางไปทำงาน ตอนนี้แม่เขียนคอลัมน์ท่องเที่ยวทำให้แม่ต้องเดินทางบ่อยๆ แต่ผมก็ชิน การที่ผมอยู่ในเมืองที่ไม่คุ้นเคยแรกๆอาจจะลำบากไปเสียหน่อย แต่ผู้คนใจดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ป้าเมรี่ที่อยู่ข้างห้องมักชวนกึ่งบังคับให้ผมไปทานข้าวเย็นด้วยบ่อยๆเพราะเห็นว่าผมอยู่คนเดียว อีกอย่างผมก็ไม่ค่อยไปไหนนัก นอกจากโรงเรียน ห้องสมุด สวนสาธารณะ นี่เป็นอีกอย่างที่ดีมากสวนสาธารณะในลอนดอนนี่สวยมากเลยละครับ ในเวลาว่างๆผมชอบไปนอนเล่นในสวน

            “ป่า เย็นนี้หลานป้าจะมาทานข้าวเย็นด้วยพอดี ป่าจะได้ทำความรู้จักไว้ อเล็กซ์เรียนที่เดียวกันกับป่าแหนะ” ผมที่กำลังช่วยทำอาหารเย็น

            “งั้นเหรอครับ” การได้รู้จักกับคนวัยเดียวกันนี่ทำให้ผมประหม่า

            เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้นผมอาสาไปเปิดประตูแทน ผมเดินไปเปิดประตู ผู้ชายตัวสูงจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมอง ผมน้ำตาลทอง ใบหน้าเข้มได้ได้รูป บ่งบอกได้เลยว่าอยู่โรงเรียนคนๆนี้ต้องป๊อบแน่ๆ

            “อเล็กซ์??” ผมหลุดชื่อออกไป

            “ใช่ นายคงจะเป็นป่าสินะ” ผมเปิดประตูให้อเล็กซ์เข้ามา

            “ใช่แล้วละ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” ผมยืนมือออกไปจับมือทักทาย อเล็กซ์จับมือผมแล้วเดินเข้าไปในห้อง

            “ป้าเมรี่ คิดถึงจังเลยครับ” ผมมองผู้ชายตัวโตที่กอดรัดป้าเมรี่อย่างอ้อนๆ

            “โอ๊ยปล่อยป้าเถอะเดี๋ยวกับข้าวไหม้พอดี”

            “ฮ่าๆๆ ครับผม” อเล็กซ์หอมแก้มป้าเมรี่ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ ผมเดินไปนั่งตรงข้าม

            “นายนี่ถ้ามีลมพัดจะปลิวไหมนี่”

            “ผมคนนะครับไม่ใช่กระดาษ” พูดจบอเล็กซ์ก็หัวเราะลั่น นี่ผมไม่ใช่ตลกคาเฟ่นะครับ

            มื้อเย็นนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ตอนที่กลับห้องอเล็กซ์ก็กลับเหมือนกัน

            “พรุ่งนี้ไปโรงเรียนพร้อมกันนะป่า”อเล็กซ์บอกแล้วก็เดินหนีไปเลยไม่รอคำตอบผมซักคำ อาการของผมหายดีพร้อมที่จะเรียนแล้ว

            ผมตั้งใจเรียนเพื่อสอบเลื่อนเพราะผมเสียเวลาไปนาน ผมอยากจบพร้อมกันกับเต้ โดยมีอเล็กซ์คอยดูแลจากการที่ป้าเมรี่เล่าให้ฟังว่าผมเคยป่วย หลังจากที่รู้แล้วนั้นอเล็กซ์ก็ลากผมไปออกกำลังกายด้วยทุกเย็น จนผมรู้สึกว่าผมเริ่มมีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น ร่างกายแข็งแรงไม่ค่อยป่วยง่ายเหมือนแต่ก่อนแล้ว การมีอเล็กซ์ทำให้ผมเปลี่ยนไปกล้าที่จะพูดกล้าที่จะทำอะไรมากขึ้นแต่หัวใจ....ผมยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป  ตอนนี้ผมไม่เขียนสมุดบันทึกแล้วผมมีเฟสบุ๊คที่มีเพื่อนอยู่เพียง 10 คน  เฟสบุ๊คได้กลายเป็นไดอารี่ของผม ผมอัพรูปที่ผมถ่ายวันละรูปไม่ได้มีข้อความอะไรมากมาย และส่วนมากก็จะมี เต้กับอเล็กซ์ที่เข้ามาคอมเม้นต์ วันนี้ผมอัพรูปใบไม้เปลี่ยนสีที่สวน Green Park

                                      “ I miss those moments. Moments of happiness”

                                    (ฉันคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นช่วงเวลาแห่งความสุข)

ซักพักเต้ก็ตามมาเม้นต์นี่มันก็ดึกแล้วนะถ้าเป็นเวลาฝั่งไทย

            เต้คนเดิมเพิ่มเติมคือความกาก :  คิดถึงฉันก็บอก

ผมอ่านแล้วก็ขำ ก่อนที่จะพิมพ์ตอบเต้ไป

            Pha Thana :Yes. I miss you guy

            เต้คนเดิมเพิ่มเติมคือความกาก :   ไม่ต้องคิดถึงนาน เดือนหน้าฉันจะไปหานาย

            Pha Thana :Really!!  is very good newsI can’t wait to see you guy

            เต้คนเดิมเพิ่มเติมคือความกาก : ฉันจะไปหานะ คิดถึงนายมากกกกก

            Pha Thana :  I miss you too

            เต้จะมาเที่ยวกับครอบครัวเลยจะแวะมาหาผมที่ลอนดอน ผมแทบรอให้ถึงเดือนหน้าไม่ไหว สงสัยว่าผมจะดีใจจนออกนอกหน้า จนอเล็กซ์ถามว่าผมมีเรื่องอะไร

            “เพื่อนฉันจะมาหาละ”

            “ใช่คนที่ชื่อแม็คหรือเปล่า” ผมแทบสะดุดหัวคว่ำ ผมหันไปมองค้อนอเล็กซ์ ที่ยืนขำอยู่

            “ไม่ใช่!! แล้วนายไม่ต้องมาพูดถึงชื่อนี้อีกนะ เต้ต่างหาก” ผมสะบัดหน้าหนี อเล็กซ์นะอเล็กซ์ทำไมต้องพูดชื่อนี้ออกมาด้วย ผมเลี่ยงมาโดยตลอดที่จะเอ่ยถึง แต่อเล็กซ์ยังเอ่ยถึงมันน่านักนะ แล้ววันที่ผมรอก็มาถึงผมไปรอเต้ที่สนามบิน

            “ป่า” ผมหันไปมอง เต้ดูเหมือนไม่เปลี่ยนไปเลย ผมหมายถึงส่วนสูงหน่ะนะ แต่สีผมนี่เปลี่ยนจริงๆสีมิ้นต์มาเลยทีเดียว

            “เต้ นายไม่เปลี่ยนไปเลย” ผมกอดเต้แน่นไม่ได้เจอกันมาสองปีกว่า

            “นายเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ”

            “ฮ่าๆๆ โดนเขี่ยวมาเยอะนะ” ผมช่วยถือกระเป๋า อ่าวไหนว่ามากับครอบครัว

            “แล้วพ่อแม่เต้ละ”

            “แม่กับพ่อนะจะมาหลังจากนี้พอดีติดงาน แต่จริงๆเราดีใจมากกว่าที่ได้เจอนายเลยรีบบินมาก่อน ” ผมยิ้มเราสองคนคุยกันทุกวันถ้ามีโอกาสทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราวของเพื่อนทั้งสามคนที่อยู่ไทย และจดหมายที่เต้ส่งมามักมีรูปของคนคนนั้นเสมอ ผมรู้ว่าเฟสเค้าคืออะไรแต่ผมไม่เข้าไปส่อง พยายามที่จะไม่รู้ว่าเค้ามีเฟส ส่วนกล้ารายนั้นผมยังไม่กล้าคุยด้วยเพราะครั้งสุดท้ายที่เต้บอกกล้าโกรธผม ผมช่วยเต้ขนกระเป๋าไปที่รถอเล็กซ์รออยู่ที่รถอยู่แล้ว

            “เต้นี่อเล็กซ์นะเพื่อนเรา อเล็กซ์นี่เพื่อนเราที่ไทย” ผมแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักเต้ยิ้มก่อนที่จะยืนมือไปจับมืออเล็กซ์

            “ขึ้นรถเถอะป้าเมรี่บอกว่าเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว” อเล็กซ์ยกกระเป๋าไปไว้หลังรถพอขึ้นรถเรียบร้อยก็มุ่งสู่แมนชั่น อเล็กซ์ขนของขึ้นไปที่ห้องโดยที่ผมกับเต้เดินตัวปลิวตามไป ผมให้เต้เอาของไปเก็บก่อนที่จะพาไปห้องของเมรี่

            “นี่เพื่อนของป่าเหรอจ๊ะ น่ารักจริงๆ”

            “สวัสดีครับ” เต้ดูเกรงๆแต่ซักพักก็เดินตามป้าเมรี่ต้อยๆ โดยที่ผมกับอเล็กซ์ได้ยืนมอง

            “นี่จะกลายเป็นหลานรักป้าฉันอีกคนใช่ไหม” อเล็กซ์กระซิบกับผมล้อๆ

            “ทำไงได้ก็หลานจริงๆไม่ค่อยมาหานิ”

            “แต่นั่นได้ข่าวว่าพึ่งเจอกัน” อเล็กซ์ชี้ไปที่เต้

            “เต้ก็เป็นอย่างนี้ละ” ผมหันไปบอกยิ้มๆ นี่เพื่อนผมครับ

            “ว่าแต่พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนละ”ผมส่ายหน้ายังไม่มีคำตอบเพราะผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนเลย

            “งั้นเดี๋ยวเราพาทัวร์เองหึๆ” ผมหันไปมอง อเล็กซ์หัวเราะแบบนี้หมายถึงผมต้องเจอกับเรื่องแปลกๆแน่ๆ

            เรานั่งทานอาหารเย็นด้วยกันพูดคุยกันจนดึกก่อนที่จะแยกย้ายกัน ผมให้เต้เข้าไปอาบน้ำก่อนที่จะเตรียมผ้าห่มเพิ่มเพราะอากาศตอนกลางคืนเริ่มเย็นแล้ว เต้อาบน้ำเสร็จผมก็เข้าไปอาบน้ำต่อ เรานอนเตียงเดียวกันเพราะเตียงผมมันใหญ่พอที่จะนอนได้สองถึงสามคน

            “นายยังคิดถึงเค้าไหม” เต้ที่นอนอยู่ดีๆถามผม

            “ไม่รู้สิเต้ มันเหมือนไม่เคยหายไป มันไม่เคยหายไปเลยเต้” เราสองคนนอนคุยกันแล้วความเงียบก็กลับมา

            “นอนเถอะเต้พรุ่งนี้อเล็กซ์จะพาไปเที่ยว”

            “ว่าแต่อเล็กซ์นี่ใครกัน หือ”  เต้ถามผมด้วยน้ำเสียงที่จะติดคาดคั้นนิดๆ

            “อเล็กซ์เป็นเหมือนพี่ชาย เหมือนเพื่อน เหมือนครอบครัว”

 

            “ดีใจที่ได้ยินอย่างนี้ ไม่งั้น......ชัวร์ๆ” ผมได้ยินแค่ประโยคขึ้นต้นกับคำลงท้าย พอหันไปจะถาม เต้ก็ชิงหลับไป อะไรของเค้า

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทุกคนค่ะ พระเอกเรื่องนี้ยังคงเป็นแม็คนะคะ

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมพระเอกน่าสงสารเยี้ยงนี้

เป็นการปั้นนิยายที่ฮึดมาก ปกติมีฟิลถึงได้เขียนต่อ

หมดอารมณ์หน่วงแล้วนะ (เหรอออออ)

หุๆๆๆๆ รักคนอ่านทุกคน จุ๊ฟฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่16 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: anikarn ที่ 10-08-2016 21:03:11
สงสารแทบขาดใจ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่16 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: mareya.no7 ที่ 10-08-2016 21:07:57
อ้าว เรานึกว่าเต้เป็นพระเอกเสียอีก ตกลงเป็นแม็คหรอกเหรอ 5555
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่16 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-08-2016 22:26:55
อุ๊ยตาย เรานึกว่าเปลี่ยนพระเอกแล้วนะคะนี่ โฮะๆ

แม็คคือใคร เราไม่รู้จัก~
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่16 10/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-08-2016 00:23:57
เต้ - อเล็กซ์ ไหมครับ? อยากให้เป็นแบบนั้นนะ ^^
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 17 : ความรู้สึกที่ขาดหาย
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 12-08-2016 10:07:47
หลังจากที่พี่ป่านและป่ากลับไป ไม่รู้ทำไมผมรู้สึกแปลกๆเหมือนอะไรมันหายไป เราอยู่เที่ยวกันตามกำหนดวันสุดท้ายผมเก็บเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเลยมานั่งเล่นที่ชายหาด ซักพักเต้ก็มานั่งด้วย

            “มึงนี่น่าอิจฉาวะ” จู่ๆมันก็พูดไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย อะไรของมันวะ

            “หืม”

            “เปล่ากูแค่บ่นเฉยๆ แม็คมึงว่าป่าเป็นไงวะ” แล้วทำไมมันต้องถามอะไรของมันวะผมทำหน้างง

            “กูถามก็ตอบเอาความรู้สึกจริงๆนะมึง”

            “ก็นิสัยดี น่ารักดีนะ” ผมยิ้มพอนึกถึงตอนที่ป่าเขินอาย  ไอ้เต้ยิ้มแปลกๆ

            “มึงนี่ไม่น่าอิจฉาแล้ววะ กูโคตรสงสาร โคตรโง่เลยมึง” อ่าวไอ้นี่มึงจะด่ากูทำไมวะ มันด่าผมเสร็จมันก็เดินหนี ว๊อทททท ผมนั่งเล่นอยู่ซักพักก็กลับขึ้นบ้านไปขนของใส่รถแล้วเดินทางกลับ

            ช่วงเวลาปิดเทอมเหลือผมได้แต่นอนเล่นอยู่บ้าน น้อยหน่าชวนผมไปเดินห้างดูหนังแต่ผมไม่อยากออกไปไหนเลยสิงอยู่ที่บ้าน

            “คุณหนูคะสมุดนี่ใช่ของคุณหนูรึเปล่าคะ” ป้าจ๋าถือสมุดมาหาผมที่นอนเล่นอยู่ สมุดอะไร ผมรับมาพลิกดู อืมน่าจะเป็นของป่า ทำไมถึงมาอยู่ในกระเป๋าผมได้

            “ของเพื่อนผมเองครับป้าจ๋าเดี๋ยวเปิดเทอมผมจะเอาไปคืน”

            “เดี๋ยวป้าเอาไปไว้บนห้องให้นะคะ” ป้าจ๋าเดินกลับไปอีกสองวันก็เปิดเทอมแล้วสินะ

            วันเปิดเทอม

            ตอนนี้อยู่ปีสุดท้ายของนักเรียนม.ปลายแล้วสินะ ผมนั่งรอป่าซึ่งปกติแล้วป่าจะมาโรงเรียนแต่เช้า ผมรอจนเข้าคาบเรียน ไม่มีชื่อป่าในตอนเช็ครายชื่อหมายความว่าไง พอหมดคาบผมเดินไปถามอาจารย์

            “อาจารย์ครับแล้วธนาละครับ ทำไมผมไม่ได้ยินอาจารย์เช็คชื่อ” ผมเข้าไปถามอาจารย์

            “อ่าวนี่เธอไม่รู้เหรอว่าป่าลาออกแล้วตั้งแต่ก่อนปิดเทอมแล้วละจ๊ะ” ลาออกหมายความว่าไง ทำไมป่าไม่บอกผม ลาออกตั้งแต่ปิดเทอมทำไมไม่บอกผมละ

            “ขอบคุณครับอาจารย์” ผมยกมือไหว้ก่อนที่จะวิ่งลงไปห้องพยาบาล ผมยืนนิ่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไป คนที่อยู่ในห้องกลับไม่ใช่พี่ป่าน พี่ป่านหายไปไหน

            “อ่าวเป็นอะไรมาจ๊ะ” อาจารย์คนใหม่ถามผม

            “เปล่าครับผมมาหาอาจารย์ป่าน”

            “อ้อพี่ป่านนะเค้าออกแล้วละจ๊ะ เห็นว่าไปช่วยงานคุณพ่อนะ” ผมได้แต่ยืนตัวชา ทำไมทั้งสองคนไม่บอกอะไรผม ผมกลับขึ้นไปเรียนเนื้อหาที่อาจารย์สอนไม่เข้าหัวผมเลย พักเที่ยง

            “แม็คไปทานข้าวกัน” น้อยหน่ามาชวนผม ผมพยักหน้า ไอเต้กับไอ้กล้าตามมา ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างหายไป

            “แม็คมึงเป็นไรวะ ทำไมมึงเหม่อจัง” ไอ้กล้าถามผม

            “ป่าลาออกจากโรงเรียนแล้ว”

            “เฮ้ยลาออกตอนไหนวะ กูนึกว่าวันนี้ป่าลาซะอีก” ผมมองไอ้เต้ที่ทำหน้านิ่งๆกินข้าวเงียบๆไม่โวยวายอะไร

            “เต้มึงรู้อยู่แล้วใช่ไหม” ไอ้เต้ยกคิ้วที่ผมมองแล้วเห็นว่ามันกวนตีน เต้วางช้อน

            “อืมกูรู้อยู่แล้วทำไม”

            “ทำไมมึงไม่บอกกูวะ” ผมลุกกระชากคอเสื้อไอ้เต้

            “แล้วมึงจะโวยวายทำไม แค่เพื่อนลาออก คิดมากไมวะ” มันบอกเรียบๆ

            “ก็......ก็” ผมพูดอะไรไม่ออก

            “จริงๆมึงปล่อยกูได้แล้ว ที่กูไม่บอกก็กูเห็นมึงสวีทกับน้อยหน่าเลยไม่ได้บอก” ผมปล่อยมือจากคอเสื้อที่ตอนนี้ทุกสายตาจ้องมาที่โต๊ะผม ไอ้เต้มันนั่งกินข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำไมผมถึงได้หงุดหงิดอย่างนี้

            “แม็คจะกินน้ำอะไรเดี๋ยวเค้าไปซื้อให้”

 

            “หน่าจะกินไรก็กินไปเถอะ เราขึ้นห้องก่อน” ผมลุกหนีจากโต๊ะไม่สนเสียงโวยวายของน้อยหน่า ทำไมผมรู้สึกหงุดหงิดอย่างนี้นะ ความรู้สึกที่มันกัดกินใจผมนี่คืออะไร



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เอาแม็คมาส่งสั้นๆ

นายยังเป็นพระเอกอยู่ใช่ไหม

หลังจากนี้จะเป็นการเดินเรื่องโดยแม็คประมาณ

4-5 ตอน ต้องขอไปทำอารมณ์ใหม่แปปไม่ค่อยเขียน

ในมุมมองของแม็คเลย

รักคนอ่านนะจุ๊ฟๆ

อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยน้า
 
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่17 12/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 12-08-2016 11:35:05
ดีๆ ให้แม็คกดดันมากๆเลย
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่17 12/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 12-08-2016 15:01:22
 :L2: :pig4:

คนบางคนก็พลาดอะไรๆเพราะความรู้สึกช้า
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่17 12/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: colorofthewind21 ที่ 12-08-2016 21:47:28
รอ...
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่17 12/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-08-2016 23:19:04
อีแม๊ครู้ตัวช้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่17 12/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-08-2016 00:15:35
??.
หวังว่าเต้จะไม่ได้ชอบป่าแนวนั้นนา
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่17 12/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-08-2016 01:25:40
ปล่อยให้นายแม็คเป็นบ้าไปเลย เวลาเขาอยู่แล้วไม่สนใจ แต่พอน้องป่าหายไปกลับอยากจะเจอ //หมั่นไส้ๆ :z6:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 18 : คนในความคิดถึง
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 13-08-2016 09:46:30
ตอนนี้ผมอยู่ปีสาม ยังคงติดต่อกับไอ้เพื่อนซี้สองตัวที่มันเรียนอยู่คนละคณะ ช่วงเวลาที่ผ่านมาสามปีผมยังคงลืมใครบางคนไม่ได้ ทำไมกันนะ

            “เฮ้โทษทีที่ให้รอนาน”

            “ไม่เป็นไรคณะมึงไม่ได้ใกล้โรงอาหารกลางนี่แล้วไอ้กล้าละ” ผมถามไอ้เต้

            “ไม่รู้มันไปเตาะหญิงอยู่ละมั้ง” เต้นั่งลงตรงข้ามผมแล้วคว้าเอากล่องขนมที่มีแก็ตเกจสวยมากขึ้นมา

            “ขนมไรวะ”

            “ช็อกโกแลตอิมพอร์ทจากลอนดอน มีคนส่งมาให้ชิมดูสิ” เต้ยื้นกล่องมาให้ผม ผมหยิบมาชิ้นหนึ่งเพื่อชิม

            “อร่อยดีวะ ใครส่งมาให้วะ”

            “เพื่อนนะ” เต้ยิ้มก่อนนั่งกินช็อกโกแลตนี่มันไม่กินข้าวหรือไงผมเลยลุกไปชื้อข้าวกลับมาได้กล้านั่งจ้วงช็อกโกแลตกับไอ้เต้อยู่ เออดีเว้ยไม่กินข้าวแต่กินขนม หลังจากกินเสร็จพวกเราก็นั่งคุยกันจนใกล้ถึงเวลาเรียนค่อยแยกย้ายกันไป ก่อนไปไอ้เต้ยื่นโปสการ์ดให้ผม ซึ่งมันให้ผมทุกเดือนไม่รู้ว่ามันให้ผมทำไม ผมค่อยๆพลิกโปสการ์ดดูรูปมันเป็นสวนสาธารณะที่มีดอกนาซิสซัสอยู่เต็มสวนไปหมดไม่รู้มันให้ผมทำไม นี่มันให้ผมทุกเดือนพร้อมกับขนมที่ส่งมาให้จากลอนดอน ผมเก็บลงกระเป๋าอย่างทะนุถนอม หลังจากเรียนเสร็จผมปฏิเสธที่พวกเพื่อนในคณะชวนไปเที่ยวกับหญิงคณะบัญชี ผมเลยบอกปัดไป ผมเปิดประตูห้องถอดรองเท้าทิ้งขว้างไว้หน้าประตู วางกระเป๋าไว้ที่โซฟาแล้วไปอาบน้ำ

            ผมนั่งเช็ดผมตรงโซฟาแล้วเอาโปสการดมารวมไว้กับอีก 35 ใบที่ผมเก็บไว้ใต้โต๊ะกระจกที่ตอนแรกเป็นโต๊ะเล็กๆ แต่พอโปสการ์ดใบที่ 15 ก็เต็มแล้วผมเลยไปชื้อโต๊ะยาวมาเลย ผมค่อยๆวางโปสการ์ดลง ทุกฤดูกาล ทุกสถานที่ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้เฝ้าดูชีวิตของใครบางคน ตอนแรกที่ผมได้รับผมคาดคั้นไอ้เต้ให้บอกว่าใครส่งมาให้ แต่มันก็ไม่บอกและบอกว่าให้เก็บไว้แก้คิดถึง คิดถึงใคร ผมเปิดคอมนั่งเล่นเฟสไปเรื่อยๆ

            เต้คนเดิมเพิ่มเติมคือความกาก : ในที่สุดเดือนหน้ากูก็จะได้ไปหาเพื่อนรักฉันแล้วววว I Miss You  อัพสถานะเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว

            นี่มันจะหนีเที่ยวไปหาเพื่อนที่ลอนดอนเหรอวะ ผมไปเม้นบอกมันว่าอย่าลืมของฝาก แต่มันกลับชวนผมไปด้วย คิดว่ากูว่างรึไงฟร้า

            Mac Forever : กูคงว่างไปนะ

            เต้คนเดิมเพิ่มเติมคือความกาก : ถถถถเผือมึงอยากเจอเพื่อนกู

            หน่าคนเดิมเพิ่มเติมคือน่ารัก : ไอ้เต้ จะหนีเที่ยวเมืองนอกเหรอยะ เอาหนุ่มฝรั่งหล่อๆมาฝากฉันด้วย

            เต้คนเดิมเพิ่มเติมคือความกาก : แรด

            หน่าคนเดิมเพิ่มเติมคือน่ารัก : หยาบคาย!!!

            ผมหัวเราะสองคนนี่ยังไงก็อย่างนั้น ผมกับหน่าตกลงเลิกกันหลังจากที่คบกันได้เพียงเดือนเดียว หน่าบอกผมเหมาะที่คบเป็นเพื่อนมากกว่าที่จะคบเป็นแฟน เพราะผมเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องที่สุด อันนี้หน่าพูดนะ เธอบอกว่าผมเหมือนคนอกหักทั้งๆที่ผมกำลังคบกับเธออยู่ นั่นทำให้ผมเริ่มเข้าใจตัวเอง สมุดบันทึกเล่มนั้นยังวางอยู่ที่หัวเตียงผม โดยที่ผมยังไม่กล้าที่จะเปิดอ่าน

           

            ไอ้เต้หนีไปเที่ยวแล้วผมอวยพรให้มันโชคดีและเที่ยวให้สนุก ผมเคลียงานที่ค้างไว้เสร็จนี่มันกี่โมงแล้ววะ ตี 3 เออ ดีนะที่วันนี้เรียนบ่าย ผมเข้าไปเช็คเฟส ดูเพื่อนๆโอดครวญว่างานยังไม่เสร็จฮ่าๆ ผมเลือนดูฟีดข่าวเรื่อยๆ ก็สะดุดกับรูปที่เต้อัพ มันเป็นรูปที่เต้ยืนกอดคอหันหลังให้กับกล้อง ด้านหลังของเพื่อนคนนี้ของเต้ทำให้ผมนึกถึงใครคนหนึ่ง ทำไมกันนะ ทำไมเหมือนอย่างนี้ ผมพยามที่จะหาเฟสเพื่อนของไอ้เต้แต่เหมือนว่าเต้จะไม่ได้แท็กเพื่อนคนนี้เลย

 

            บางทีอาจเป็นแค่คนที่เหมือนกันก็ได้

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ทำไมกันนะพอเป็นพาร์ทแม็คตันมากกก

เหมือนเขียนสั้นมากกก

อ่านแล้วเป็นไง บอกเราด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่18 13/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-08-2016 10:52:54
 :z6:

แม็คนี่มัน

โครตบื้อเลยค่ะ ตามจริง

ถ้าเป็นผญป่านนี้คงมีซิกเซ้นส์สืบจนรู้เลขที่บ้านป่าแล้วม้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง  :m16:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่18 13/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-08-2016 11:05:56
กดดันนายแม็คต่อไป ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่18 13/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-08-2016 11:47:40
 :L2: :pig4:

สั้นจริงๆ 55 งมความในใจจากคนคิดช้า
วันนี้จะมาอีกไหมมมม รอออออ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 19 : บ้านเกิด
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 13-08-2016 14:39:57
ผมตื่นมาแต่เช้าเพื่อทำอาหารเช้าง่ายๆ เต้ยังไม่ตื่นเลย สงสัยว่าจะเหนื่อยจากการเดินทางผมเลยปล่อยให้เต้นอน ผมตั้งโต๊ะเสร็จกริ่งหน้าบ้านก็ดัง ใครกันมาแต่เช้า

            “ครับๆ” ผมรีบเดินไปเปิดประตูเพราะไม่อยากให้เต้ตื่นก่อน

            “อ่าวมาแต่เช้าเลย” อเล็กซ์นั่นเองพูดยังไม่ทันจบอเล็กซ์ก็ผลักประตูเข้ามาในห้องก่อนที่จะไปนั่งที่โต๊ะทานข้าว

            “นี่ตกลงมาแต่เช้านี่เพื่อกินข้าวเช้าบ้านฉันรึไง” ผมวางแก้วกาแฟให้อเล็กซ์

            “ทำไม มากินไม่ได้หรือไง” ยัง ยังกวนตีนไม่เลิก

            “คร๊าบ ใครจะกล้าว่าคุณชายครับ อยากกินเท่าไหร่กินให้อิ่มเลยนะครับ” ผมผลักจานเบคอนไปให้คุณชาย

            “ดีมาก” ไม่สำนึก ชิส์ ที่โน่นผมก็แพ้แม็ค อยู่นี่ผมก็ยังแพ้อเล็กซ์

            “หืม หอมจาง” เสียงยานคางของเต้มาก่อนตัว

            “อรุณสวัสดิ์เต้” ผมเกือบหลุดขำกับสภาพหัวฟูของเต้

            “อืมมม หอมจังอ่ะ เฮ้ย!!ใครอ่ะ” เหมือนจะพึ่งเห็นอเล็กซ์ เต้รีบหลบมาอยู่ข้างหลังผมคงจะอายสภาพตอนตื่นนอน

            “นี่อเล็กซ์ไง” เต้ขมวดคิ้วเพ่งมอง

            “อ้อ พอดีถอดคอนแท็คนะ เลยมองไม่ชัด สวัสดิ์ดี” เต้ทัก อเล็กซ์เหลือบมองก่อนจะพยักหน้าให้แล้วนั่งกินต่อ นิสัยดีจริงๆ

            “เต้ทานข้าวเช้าก่อนค่อยไปอาบน้ำ อเล็กซ์วันนี้จะพาเที่ยวนะ” เต้พยักหน้ารัวๆ แล้วยิ้มกว้าง ผมนั่งทานด้วย เสร็จแล้วเต้ไล่ผมไปอาบน้ำก่อน เต้จะเป็นคนล้างจาน ส่วนอเล็กซ์ เดินหนีไปนั่งดูทีวี นี่ตกลงใครเป็นแขกกันแน่ ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเต้ก็เข้าไปอาบน้ำบ้าง

            “นี่ตกลงจะพาไปเที่ยวไหนอเล็กซ์” ผมถามอเล็กซ์ที่นั่งดูช่องดิสคัพเวอรี่อยู่ น่ารักจริงๆ

            “ไม่รู้ดิ เพื่อนนายอยากจะไปเที่ยวไหน”

            “สถานนีรถไฟคิงส์ครอส!!” เต้ตะโกนออกมาจากห้องนอน ห๊ะ ไปที่นั่นเนี้ยนะ

            “เด็กชะมัด นี่เพื่อนนายหรือรุ่นน้องกันแน่” อเล็กซ์บ่น เพราะที่สถานนีนั้นแฟนของแฮร์รี่ พอตเตอร์จะชอบไปถ่ายรูปที่สถานนีนี้กันไม่ยักรู้ว่าเต้ก็เป็นแฟน

            “พูดอะไรอ่ะ” เต้แต่งตัวเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้อง

            “เปล่า อเล็กซ์ไปกันเลยไหม” ผมหันไปถามอเล็กซ์

            “อืม ไปสิ” แล้วพวกเราก็อพยพไปที่รถ อเล็กซ์พาพวกเรามาถึงสถานนี เต้วิ่งไปที่ชานชาลาที่เก้ากับสิบ เพื่อถ่ายรูป แถมยังลากผมไปถ่าย โดยที่อเล็กซ์เดินหนีไปชื้อกาแฟเย็นกิน ถ่ายรูปกันเยอะจนเต้พอใจ

            “แล้วจะไปที่ไหนต่อเต้”

            “อื่ม อควาเรี่ยมหน่ะ ฉันอยากไป” อืมอควาเรี่ยม ผมก็ไม่ได้ไปนานแล้ว  เราสองคนเดินไปหาอเล็กซ์แล้วบอกว่าจะไปอควาเรี่ยมอเล็กซ์ก็พาไป

            “ว้าววววว สวยมาก” เต้วิ่งเข้าไปดูตู้ปลา

            “ถามจริงที่ไทยไม่อควาเรี่ยมเหรอ” อยู่ๆอเล็กซ์ก็ถาม เต้หันมามอง

            “ขอโทษนะที่มารบกวนแต่ถ้าไม่พอใจก็บอกกันก่อนก็ได้ ฉันก็ไม่อยากรบกวนนายหรอกนะ เดี๋ยวฉันกลับเอง ขอโทษที่รบกวน” เต้พูดจบแล้วเดินหนีไปด้านในอควาเรี่ยม ผมถอนหายใจ อเล็กซ์ทำหน้ายุ่งแล้วหันมาจะถามผม

            “นายกลับไปก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวฉันเที่ยวกับเต้เอง วันนี้วันหยุดนายนิ” ผมบอกตัดเพราะดูเหมือนอเล็กจะไม่ชอบเต้เท่าไหร่ ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนรักทั้งสองคนของผมต้องทะเลาะกัน

            “อะไรของมันวะ ฉันไม่ได้บอกตรงไหนเลยนะเว้ยว่ามันเป็นการรบกวน” อเล็กซ์หันมาโวยวายอธิบายกับผม

            “แต่ที่ฉันเห็นมันไม่ใช่ที่นายอธิบายเลยนะ” ผมกอดอกยืนกดดันที่หน้าตู้ปลานี่ละไม่ต้องไปไหนกันละ อเล็กซ์ทำท่าเก้ๆกังๆ อึกอักเหมือนไม่อยากพูด         

            “ฉันแค่อยากแกล้งเจ้านั่นเฉยๆ ไม่ได้เกลียดอะไรหมอนั่นซักหน่อย” ผมถอนหายใจแรงๆหนึ่งที ลืมไปได้ไง ว่าอเล็กซ์มีนิสัยชอบแกล้งคนที่อยากสนิทด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่าจะได้สนิทกันเร็วๆ

            “แต่เต้เค้าไม่เหมือนฉันนะ นายนี่ก็โตแล้วนะฉันนึกว่านายจะไม่ทำนิสัยเหมือนเด็กๆแบบนี้ ไปขอโทษเต้ซะ ฉันจะเดินเล่นรอแถวนี้ ถ้าเต้ไม่ยกโทษให้ฉันจะไม่คุยกับนาย” ผมยืนคำขาด ไอ้นิสัยเด็กๆแบบนี้นี่ละถึงได้ไม่มีแฟนกับเค้าซักที อเล็กซ์ทำหน้ายุ่งแต่ก็ยอมเดินตามเต้ไป ผมเลยเดินดูปลาไปเรื่อยๆ ก่อนไปหยุดที่ตู้ใหญ่กลางอควาเรี่ยม ผมนึกถึงทะเลเมื่อตอนนั้น ถ้าได้มาดูกับคนนั้นผมจะมีความสุขแค่ไหนกัน ผมยังเลิกคิดไม่ได้อีกแล้ว อเล็กซ์บอกว่าคนแบบผมนี่ไม่มีอยู่บนโลก ผมอาจจะเป็นคนโงที่ชอบคนๆเดียวอยู่ตั้งนานถึงขนาดที่เค้ามีแฟนแล้วผมก็ยังชอบเค้าอยู่ ผมคงโง่จริงๆนั่นละนะ

            “อ่ะ โลมา” ผมเงยหน้าจ้องโลมาที่ว่ายเล่น น่ารักชะมัด

            “ป่า” ผมหันไปตามเสียงเรียก เต้เดินกลับมาพร้อมกันกับอเล็กซ์ ถึงจะทำหน้ายุ่งแต่ก็เหมือนจะดีกันแล้วสินะ

            “ว่าไงเต้”

            “ไปหาไรกินกัน” เต้กอดคอผมแล้วพาเดินออกจากอควาเรี่ยม อเล็กซ์ได้แต่ส่ายหัวแล้วเดินตามพวกผมมา

            หลังจากนั้นพวกเราก็เที่ยวเล่นไปเรื่อยจนถึงวันที่เต้ต้องกลับ ผมมาส่งเต้ที่สนามบิน เต้บ่นว่าเมื่อไหร่ผมจะกลับไปที่ไทยซะที ผมได้แต่ยิ้มแล้วตอบว่าผมจะกลับไปหลังเรียนจบ เรื่องนี้ผมคุยกับแม่ไว้แล้ว แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรบอกแค่ว่าดูแลตัวเองให้ดีๆ เต้ได้ยินก็ดีใจมากบอกว่าถ้าจะมาวันไหนจะมารับ คราวนี้จะเป็นฝ่ายรอ เต้กลับไปแล้วผมกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมทุกวันและผมก็เรียนจบพี่ป่านกับอาหมอบินมาเพื่อร่วมยินดีกับผมส่วนเต้นั้นก็ส่งของขวัญล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ทำเอาผมทั้งขำและโมโห ก็เต้เล่นส่งรูปของเค้ามาเป็นอัลบั้มทุกอิริยาบถ ทุกช่วงเวลานี่จะแกล้งอะไรผมรึเปล่า แถมไอ้ข้อความสุดท้ายนั่นอะไร ‘โปสการ์ดของนาย ฉันให้คนที่ควรให้ไปทั้งหมดแล้วนะ” ให้ใคร ทำไมต้องให้หมายความว่าไงกัน ผมเก็บความสงสัยก่อนที่เก็บของลงกล่องที่ผมเก็บของสำคัญไว้ทั้งหมด  ผมเก็บเอาโปสการ์ดที่ผมถ่ายรูปแล้วเอามาทำโปสการ์ดเพื่อส่งให้เต้ลงกล่อง ผมจัดของเสร็จแล้ว

            “เสร็จแล้วเหรอ ไปกันเถอะเดี๋ยวสาย” อเล็กซ์แย่งกระเป๋าผมไปถือหมด ผมเดินตัวปลิวออกมาจากบ้าน แม่มาส่งผมที่สนามบินกับอเล็กซ์

            “เดินทางถึงที่โน่นก็โทรมาบอกแม่ด้วยนะลูก เดี๋ยวแม่จะหาเรื่องไปทำงานที่โน่นซักเดือน” ผมขำ

            “ครับผมจะโทรมาบอกทันทีที่เท้าถึงสนามบินเลยครับ” ผมกอดแม่ กอดอเล็กซ์ก่อนที่จะลาแล้วเดินเข้าเกตไป

 

            การเดินทางที่ยาวนาน กว่า 12 ซม. ผมก็ได้กลับมายังบ้านเกิดอีกครั้ง

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรายังคงยืนยันนอนยันว่าแม็คเป็นพระเอกฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่19 13/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-08-2016 17:31:06
 :L2: :pig4:

หรือเปลี่ยนพระเอกมาเป็น Alex ดี
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่19 13/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: dilokrittisak ที่ 15-08-2016 21:56:42
เมื่อไหร่ทั้งคู่จะเจอกัน :z3:
แอบขัดใจ
55
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่19 13/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 18-08-2016 21:56:52
หวังว่าแม็คจะรู้ใจตัวเองซะที่นะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง chapter 20 :เพื่อนที่แสนดี
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 27-08-2016 18:31:35
หลังจากที่เดินทางมายาวนาน ผมมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิดินแดนบ้านเกิด หลังจากโทรรายงานคุณแม่ว่าผมมาถึงแล้ว ผมก็ลากกระเป๋าออกมาจากเกต ผู้คนเดินกันขวักไขว่ ผมส่ายตามองหาคนที่คุ้นตา

            “ป่าทางนี้ๆ” พี่ป่านชูมือแล้วตะโกนเรียกผม ผมรีบเดินลากกระเป๋าไปหาพี่ป่าน ทันทีที่ถึงตัวพี่ป่านก็ดึงผมเข้าไปกอด ตอนนี้ผมสูงกว่าพี่ป่านแล้วนิดหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้อเล็กซ์

            “จะมาอยู่ที่นี่เลยใช่ไหม ดีเลยพี่ละคิดถึงเรามากนะแต่พ่อไม่ยอมให้พี่หยุดงานไปหาป่ายาวๆซะที” พี่ป่านบ่นอู้อี้อยู่บ่าผม ไอ้หยุดยาวพี่ป่านนี่เป็นเดือน คุณอาคงจะให้พี่ลาไปหรอกครับ ผมได้แต่คิดในใจ

            “กลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่าไหม ส่งกระเป๋ามาสิพี่จะพาไปที่รถ” คนตัวสูงที่ยืนเงียบอยู่พูดขึ้น ใบหน้าคมเข้มเหมือนมีแรงกดดันแผ่ออกมาจนไม่มีใครที่จะกล้ายืนใกล้ๆ พี่ป่านปล่อยผมจากอ้อมแขนก่อนที่จะบ่นคนตัวสูง ผมเดินตามทั้งคู่ไปที่รถ หลังจากที่ขับรถไปซักพักพี่ป่านเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าต้องแนะนำคนขับรถ

            “อ่ะนี่ป่า นี่พี่เอ็กซ์นะเป็น....เอ่อ...”พี่ป่านดูอึกอักในการแนะนำความสัมพันธ์ ผมรู้สึกสนุกที่พี่ป่านมีปฏิกิริยาแบบนี้

            “พี่เป็นแฟนป่าน ดีใจที่ได้เจอนะน้องป่า ป่านพูดให้พี่ฟังบ่อยๆ” พี่เอ็กซ์ตัดบทในขณะที่พี่ป่านอ้าปากค้างหน้าแดงก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีหันไปมองวิวข้างนอก  ผมเห็นพี่เอ็กซ์ยกยิ้มนิดๆ เอ.....เหมือนมีคนไม่ยอมบอกอะไรผมนะเนี้ย ผมยิ้มบางขอแค่พี่ป่านมีความสุขผมก็ดีใจแล้ว ผมนั่งเหม่อมองนอกหน้าต่างรถ ในที่สุดผมก็ได้กลับมา ไม่รู้ว่าคนๆนี้จะเป็นยังไงบ้าง

            พี่เอ็กซ์จอดรถที่หน้าบ้าน บ้านที่ผมอยู่มาตั้งแต่เกิดแม่ไม่ยอมขายบ้านหลังนี้ถึงแม้อาจจะไม่ได้กลับมาแต่แม่ก็ไม่ขาย ความทรงจำมากมายอยู่ที่บ้านหลังนี้  โดยคุณอาให้แม่บ้านมาดูแลทุกอาทิตย์ ผมช่วยพี่เอ็กซ์ขนกระเป๋าลงจากรถเข้าไปเก็บในบ้าน

            “ขอบคุณนะครับพี่เอ็กซ์ พี่ป่าน” ผมกระพุ่มมือไหว้

            “ไม่เป็นไรป่าเข้าไปพักผ่อนก่อนเถอะพรุ่งนี้เย็นๆพี่จะมารับไปกินข้าวที่บ้านนะ”

            “ครับ ขับรถดีๆนะครับ” ผมโบกมือลา ก่อนที่เดินเข้าบ้าน จะห้าทุ่มแล้วแต่ผมยังไม่ง่วงเลย เข้าเฟสไปเรื่อยก่อนที่จะไปลากเอากระเป๋าเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้ ผมเก็บของออกจากกระเป๋าจัดวางให้เข้าที่ ผมหยิบกุญแจลิ้นชักที่ผมพกติดตัวตลอด เปิดลิ้นชักที่ผมเก็บสมุดบันทึกเล่มเก่าๆไว้ ผมลูบปกก่อนที่จะปิดลิ้นชักไว้เหมือนเดิมก่อนที่จะหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป

            ผมอาบน้ำเสร็จแล้วมานอนกลิ้งเล่นบนเตียง  ก่อนหน้านี้ผมเป็นไอ้แว่นเพราะสายตาผมสั้นมาก อเล็กซ์เห็นแว่นหนาเตอะของผมแล้วหงุดหงิดจับโยนลงมาจากระเบียงห้องแล้วพาผมไปซื้อคอนแท็กเลนส์มาใส่ก่อนจะห้ามผมใส่แว่นเวลาไปข้างนอกอีก ฮ่าๆๆ ผมหยิบโทรศัพท์มา อืมโทรไปตอนนี้จะเป็นการรบกวนไหมนะ แต่ก่อนหน้านี้เห็นเช็คอินที่ร้านเหล้าหลังมออยู่ ผมตัดสินใจที่จะโทรไป เสียงรอสายดังขึ้นไม่นานปลายสายก็กดรับ

            “ฮัลโหลเต้” ผมได้ยินเสียงโหวกเหวกโวบวายลอดออกมาให้ได้ยิน ยังอยู่ที่ร้านเหล้าสินะ

            “(เฮ้ย!! โทรมาได้ไง โทรทางไกลมันแพงนะเว้ย ฮ่าๆๆ)” เต้หัวเราะร่า

            “ใครบอกว่าฉันโทรทางไกลล่ะเต้” ผมกลั้นหัวเราะ

            “(เหี้ย!! อย่าบอกนะว่ากลับมาแล้ว แม่งกลับมาเงียบๆไม่ยอมบอกเลยนะ)” เต้ทำเสียงงอนๆ

            “(สัสเต้ เหี้ยมึงกระแทกหน้ากูเลย... หุบปากไปเลยมึงกูคุยกับเพื่อนอยู่)” เสียงคุ้นหูดังแทรงเข้ามาทำให้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ

            “เอ่อ...ฉันกะจะทำให้นายตกใจนะ” เหมือนจะทำให้ตัวเองตกใจเองเสียมากกว่า

            “(เออโคตรตกใจเลย ของฝากละของฝากไม่มีของฝากนี่ไม่เลิกโกรธ)”

            “ครับๆคุณเต้ ของฝากนะฉันหอบมาให้นายเฉพาะเลยแถมอเล็กซ์ยังฝากของมาให้นายด้วยนะ” ผมขำเมื่อนึกถึงตอนที่อเล็กซ์ฝากของมาให้เต้

            “(อย่าพูดถึง เออนี่มีคนอยากคุยด้วย)” ผมยังไม่ทันตอบอะไรเลย

            “เดี๋ยวสิเต้”

            “(สวัสดีครับ)” เสียงที่เหมือนดูจะทุ้มขึ้นแต่ก็ยังคุ้นหู เป็นเสียงที่ผมอยากได้ยินตลอดที่อยู่ที่โน่น แม็ค!!

            “เอ่อ สวัสดีครับ”

            “(โปสการ์ดที่คุณถ่ายสวยมากเลยนะครับ พอดีเต้ให้ผมมาผมชอบมันมากเลยครับ ขอโทษด้วยนะที่ผมขอคุยด้วย)” เดาไว้ไม่มีผิดเต้นะเต้

            “ไม่เป็นไรครับดีใจที่คุณชอบ เอ่อ ผมขอสายเต้หน่อยได้ไหมครับ” ผมรีบหาทางออกให้ตัวเอง แค่แม็คบอกว่าชอบโปสการ์ดของผม หัวใจผมก้เต้นรัวแล้ว

            “(ไง)”

            “เต้ของฝากนะไม่ต้องเอาเลยนะ” ผมว่าเคืองๆ

            “(อ่าวไหงงั้นนึกว่าจะดีใจซะอีก)”

            “หัวใจจะวายเอานะสิ”

            “(เดี๋ยวคืนเราไปนอนบ้านนายนะ นี่ใกล้กินเสร็จกันแล้วละ เดี๋ยวจะหอบไอ้กล้าไปด้วยมันเมาเหมือนหมาอยู่ข้างๆนี่)” ผมขำ

            “ได้สิครับ” แล้วเต้ก็วางสายไป ผมฟุบหน้าลงกับหมอน แค่ได้ยินเสียงผมยังเป็นได้ขนาดนี้ ถ้าเจอหน้าตรงๆนี่ผมจะทำตัวยังไง โอ๊ยยยย  หัวใจผมทำงานหนักเกินไปแล้วนะเนี้ย ผมนอนกลิ้งบนเตียงเล่นไปเรื่อย ซักพักใหญ่ออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นสงสัยว่าจะเป็นเต้แน่ๆผมรีบเดินลงไปเปิดประตูรั้วให้เต้เอารถเข้ามาจอดในบ้าน

            “ทำไมขับรถมาเองละเต้” ทำไมไม่เรียกแท็กซี่มา

            “เราไม่ได้กินกับพวกนี้หรอก ไอ้กล้ามันอกหักรอบที่ 65 เลยไปเตรียมเก็บศพมันเฉยๆ” เต้บอกก่อนที่จะเปิดประตูข้างหลังที่กล้านอนนิ่งอยู่  ผมกับเต้ช่วยกันพยุงกล้าเข้าบ้าน ทีแรกว่าจะให้กล้าขึ้นไปนอนข้างบนแต่จากน้ำหนักตัวผมกับเต้ลงความเห็นว่าให้มันนอนห้องนั่งเล่นดีกว่า เต้วางกล้าให้นอนบนโซฟา ก่อนที่จะย้ายโต๊ะออกเพราะตัวกล้าคงนอนโซฟาไม่ได้ ผมเลยขึ้นไปขนเอาฟูกกับผ้าห่มลงมา ปูให้กล้านอนเต้เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้กล้า

            “เหมือนดูแลลูกเลยนะ” ผมแซว

            “มีมันเป็นเพื่อนนี่ไม่รู้ว่าโชคดีรึโชคร้ายฮ่าๆๆ” เต้ว่าก่อนจะห่มผ้าให้ ผมไล่เต้ไปอาบน้ำ เสื้อผ้าผมเตรียมไว้ที่ห้องให้แล้ว ผมเดินไปล็อกบ้านปิดไฟ ผมให้เต้นอนห้องพักที่ผมเตรียมเอาไว้แล้ว

            “ฝันดีครับ” ผมบอกก่อนจะเข้าห้องของตัวเอง

            ผมตื่นสายนิดหน่อยเลยรีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยก่อนจะไปเปิดดูห้องเต้ ผมเปิดประตูเบาๆ เต้ยังไม่ตื่น ผมค่อยๆปิดประตูก่อนที่จะเดินลงมาข้างล่าง กล้ายังนอนคุมโปงอยู่ผมเลยเดินไปปิดม่านให้สนิท แล้วค่อยย่องออกจากบ้านเงียบๆ คว้าเอาจักรยานคู่ใจที่ไม่ได้ปั่นมานานมาก ยังดีที่เป็นวันเสาร์ สองคนนั้นคงไม่ได้ทำงานวันนี้หรอกนะ ผมปั่นจักรยานไปซุปเปอร์ใกล้ๆ ยังดีที่แถวนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก ผมเลือกชื้อของที่พอทำแค่มือเดียวพอเพราะตอนนี้ก็จะเที่ยงแล้ว ผมเตรียมทำกับข้าวเงียบๆ เพราะกล้ายังนอนที่ห้องนั่งเล่นอยู่ ทำข้าวต้มหมูสับกับผัดผักรวมน่าจะพอ ยังดีที่บ้านยังมีกาแฟ ผมชงกาแฟไว้ให้ทั้งสองคน ผมขึ้นไปปลุกเต้

            “เต้ตื่นได้แล้ว” ผมเขย่าตัวเต้แรงๆ แต่เต้ปัดมือผมทิ้งแล้วซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม เขย่าเท่าไหร่เต้ก็ไม่ยอมตืน เล่นอย่างนี้ใช่ไหม ผมจับปลายผ้าห่มก่อนที่จะดึงแรงๆ

            ตุ๊บ

            “โอ๊ย ทำไรเนี้ย!!” เต้ลุกนั่งโวยวายก็ผมเล่นเอาจนเต้ตกจากเตียง

            “ก็ปลุกแล้วไม่ตื่นเองนิ สายแล้วนะ ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมบอกเต้ที่นั่งลูบหัวฟูๆ แล้วผมก็เดินออกจากห้องลงไปปลุกคนขี้เมาเมื่อคืน สภาพตอนนี้ดูไม่จืดเลย

            “กล้า กล้าตื่นได้แล้วครับ” ผมเขย่าตัว

            “อืออ กี่โมงแล้ววะ” กล้าถามทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา

            “ 11 โมงแล้วครับ ไปอาบน้ำดีกว่าจะได้รู้สึกดีขึ้นแล้วค่อยทานข้าว” กล้านั่งนิ่งแล้วพยักหน้าแบบเบลอๆ ผมวางผ้าเช็ดตัวกับชุดที่หาตัวใหญ่สุดในบ้านมาให้

            “อืม ...” กล้าจ้องหน้าผมนิ่งเหมือนนึกอะไรอยู่ จะจ้องกันอีกนานไหม

            “เฮ้ย!!! ป่า  ป่าใช่ไหม” ผมแทบหลุดขำกับอาการตกใจของกล้า สร่างเมาเลยรึไง

            “ใช่ ตื่นแล้วก็ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวมากินข้าวกัน” ผมลุกเข้าไปเตรียมของในครัว เต้ลงมาช่วยผมพอดี

            “หิวแล้ววะ ไอ้กล้ามึงไปอาบน้ำได้แล้วเหอะโคตรเน่าเลยมึง”

            “เออๆ”กล้าว่าแล้วรีบวิ่งขึ้นไปอาบน้ำ ห้องน้ำมันไม่หายไปไหนหรอกนะ

            “กาแฟวางอยู่บนโต๊ะนะเต้”

            “ขอบใจวะ แล้วนี่กลับมาได้งานรึยัง” เต้นั่งที่โต๊ะทานข้าว

            “อืมก็ได้งานเป็นผู้ช่วยฝ่ายประสานงานที่โรงแรมนะ”จริงๆผมไม่ต้องทำงานประจำก็ได้แต่เหมือนยิ่งอยู่บ้านเฉยผมไม่ชินเลย พี่ป่านเลยฝากงานให้ซึ่งถ้าผมเดาไม่ผิดโรงแรมของพี่เอ็กซ์แน่ๆ

            “หืม แล้วจะกลับมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยรึเปล่า”  เต้ถามในสิ่งที่ผมก็ยังตอบตัวเองไม่ได้

            “ไม่รู้สิ นี่ข้าวต้มนาย” ผมตัดบทเรื่องที่ผมยังตัดสินใจไม่ได้ในตอนนี้ เต้ยิ้มก่อนนั่งกินเงียบๆ ซักพักกล้าก็เดินลงมาหยุดตรงหน้าผม แล้วจ้องหน้าผมนิ่ง นี่จะยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นตรงนี้ใช่ไหม

            “เอ่อมีอะไรรึเปล่ากล้า” ผมถามเพราะกล้านิ่งมาก นิ่งจนผมกลัว

            “ป่า ไอ้บ้า หนีไปไหนมาวะ รู้ไหมว่ากูคิดถึงเป็นห่วงขนาดไหน” ผมเงียบเพราะผมจริงๆ ผมติดต่อแค่เต้คนเดียวแล้วยังบอกว่าไม่ให้บอกใครอีก

            “เราขอโทษนะกล้า” ผมก้มหน้าลงขอโทษด้วยความรู้สึกผิด

            “ดีใจที่นายกลับมานะป่า” กล้าดึงผมไปกอด ผมยกมือกอดตอบ ดีใจที่กล้าไม่โกรธผม

            “รู้สึกบรรยากาศมันไม่น่ากินข้าววะจะกอดกันอีกนานไหม” เต้เป็นตัวทำลายบรรยากาศซึ้งๆผมกับกล้ารีบผละออกห่างจากกัน ผมยกกาแฟ กับข้าวต้มมาให้กล้า นั่งกินข้าวไปตอบคำถามกล้าไป กล้าถามตั้งแต่ผมหายไปไหน อยู่ที่นั่นเป็นยังไง ถามทุกๆอย่าง ถามกระทั่งเรื่องอเล็กซ์ ผมก็กินไปตอบไปเต้เสริมบางส่วน

            “นี่มึงรู้อยู่แล้วเหรอไอ้ห่าเต้”

            “เออ ทำไมวะ”

            “ทำไมมึงไม่บอกกู แม่งกูโกรธมึงง” แล้วทั้งสองก็ทะเลาะกัน เต้ลำคาญกล้าโวยวายเลยอาสาไปล้างจานให้ กล้ายังคงเป็นเหมือนเดิม คิดยังไงโวยวายออกมา ผมเลยเดินไปเอาของฝากที่เตรียมมาให้เต้ ผมเอาขนมที่ชื้อไว้มาให้กล้าด้วย พร้อมกับกล่องของขวัญของอเล็กซ์ที่บอกว่าอย่าแกะให้เต้แกะได้คนเดียว

            “อ่ะนี่เต้ของฝากนาย ส่วนนี่อเล็กซ์ฝากมา กลับไปแกะที่บ้านนะ ส่วนนี่ของกล้า” ผมยืนของฝากให้กล้าและเต้  สองคนนั่นรับไป พวกเราสามคนนั่งเล่นนั่งคุยไปเรื่อยจนเย็น ทั้งสองคนก็กลับ ก่อนกลับเต้บอกว่าต้องหาวันไปเลี้ยงต้อนรับผมมื้อใหญ่ ก่อนกลับกล้าเหมือนจะพูดอะไรถึงแม็คแต่เต้ปิดปากแล้วลากขึ้นรถผมนี่งงเลย เต้กับกล้ากลับได้ซักพักพี่ป่านก็มารับผมไปทานข้าวเย็นที่บ้าน พี่ป่านบอกว่าวันจันทร์เริ่มทำงานได้เลย คุณอาบอกว่าให้เอารถที่บ้านไปไว้ใช้จะได้สะดวก ผมเกรงใจบอกปฎิเสธแต่คุณอาไม่ยอมรับบังคับให้ผมเอารถไปใช้ ดังนั้นผมเลยต้องขับรถกลับบ้านหลังจากที่ทานข้าวบ้านคุณอาเสร็จ

 

            วันจันทร์นี้ผมก็จะได้เริ่มทำงานแล้ว

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วววววววววววววว ฮ่าๆๆ

แม็คอยู่ไหนครับ มาต่อแล้วน้า

อ่านแล้วเป็นไงบอกเค้าด้วยน้าาาา

รักคนอ่านทุกคน จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่20 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-08-2016 18:52:45
พี่ป่านมีคู่!!!!

งั้นเชียรร์อเล็กซ์เต้จะทันไหมน้อ?

ปอลอ แม็คนี่ครายยยย?
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่20 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 27-08-2016 19:02:11
พี่ป่านมีคู่!!!!

งั้นเชียรร์อเล็กซ์เต้จะทันไหมน้อ?

ปอลอ แม็คนี่ครายยยย?
นั่่นสิคะแม็คนี่ใคร
ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่20 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BBellza ที่ 27-08-2016 19:13:11
 :hao7:  :hao7:  :hao7:
มาแล้วววววววว

เข้ามารอทุกวันเลยยยยย
อย่าหายไปนานนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่20 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 27-08-2016 19:23:52
จะได้เจอกันตอนไหนนะ !!
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมองDay 21 : คนในความคิดถึง
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 27-08-2016 19:34:42
วันแรกของการทำงานผมตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวก่อนที่จะขับรถไปที่โรงแรมหรูย่านกลางเมือง ผมเดินเข้ามาในโรงแรมก่อนที่จะเดินไปที่แผนกพีอาร์ ที่มีพนักงานหน้าตาน่ารักประจำอยู่

            “น้องป่า มาพอดีเลย” ผมที่กำลังจะถามพีอาร์ เสียงพี่เอ็กซ์ก็ทักเสียก่อน

            “สวัสดีครับพี่เอ็กซ์” ผมกระพุ่มมือไหว้ พี่เอ็กซ์รับไหว้ก่อนจะยิ้มบางๆบนใบหน้า

            “ดูไม่แปลกใจนะที่เห็นพี่”  ผมเหลือบมองผู้ชายสองคนที่ยืนเยื้องด้านหลัง ผมยิ้มให้ ทั้งสองคนยิ้มตอบเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะทำหน้าเข้มเหมือนเดิม

            “ก็พอจะเดาได้ลางๆนะครับว่าเป็นธุรกิจของพี่เอ็กซ์” พี่เอ็กซ์ยิ้มบางก่อนหัวเราะเบา

            พี่เอ็กซ์ชวนผมไปทานข้าวก่อนที่จะอธิบายงานให้ผมได้เข้าใจว่าผมต้องทำตำแหน่งผู้ช่วยของพี่เอ็กซ์ แต่ตอนนี้พี่เอ็กซ์อยากให้ผมไปช่วยฝ่ายจัดงานก่อนเพราะพี่หัวหน้าแผนกแกลาคลอด แถมช่วงนี้พี่เอ็กซ์ไม่ได้อยู่ดูแล พี่เอ็กซ์ต้องไปดูธุรกิจที่ฮ่องกง ที่โรงแรมพี่เอ็กซ์ทิ้งให้ลูกน้องคนหนึ่งดูแล ช่วงบ่ายพี่เอ็กซ์พาผมไปที่แผนก งานของผมต้องประสานงานกับคนหมู่มาก หากเป็นเมื่อก่อนผมคงทำไม่ได้แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาเพราะการเพาะปลูกความกล้าจากอเล็กซ์ ที่ทำให้ผมเป็นคนกล้าคิดกล้าทำกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังขี้ขลาดเรื่องเดิม

            วันนี้ผมได้ทำเพียงรู้จักน้องๆพี่ๆทุกคนในแผนก และเรียนรู้งานที่พี่จ๋าแกทำไว้ อืมงานนี้ไม่ได้อาศัยแค่ความเก่งแต่ต้องรู้จักการบริหารจัดการคน จัดการงาน ไม่น่าจะยากเท่าไหร่

            ก๊อก ก๊อก

            “เข้ามาเลยครับ” ผมเงยหน้าจากแฟ้มงานที่กองอยู่เต็มโต๊ะมองคนที่เปิดประตูเข้ามา

            “คุณป่าดึกแล้วนะครับ ผมว่าคุณป่าควรกลับได้แล้วครับ คุณเอ็กซ์ท่านสั่งไว้” ผมถอนหายใจ

            “พี่นัทครับ เรียกผมเฉยๆไม่ได้เหรอครับทำไมต้องเติมคุณด้วยดูแปลกๆนะครับ” พี่นัทคือมือขวาของพี่เอ็กซ์เอง พี่นัทสุภาพกับผมเหมือนทำกับพี่เอ็กซ์ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดจริงๆ

            “เรื่องนี้มันออกจะ..”

            “พี่นัทเป็นหัวหน้าผมนะครับ ผมลำบากใจนะ”

            “เฮ่อ ก็ได้ครับ น้องป่า” ในที่สุดก็ยอมแพ้ ผมเก็บแฟ้ม หอบเอาบางส่วนไว้ในอ้อมแขนเพื่อเอากลับไปอ่านที่บ้าน พี่นัทกลับมาแย่งผมไปถือแล้วเดินไปส่งผมที่รถ ถึงพี่นัทบอกว่าจะพูดกับผมปกติแต่สุดท้ายก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ทำตัวเหมือนบอดี้การ์ดของผมเข้าไปทุกที ผมส่ายหัวกับความยึดติดของพี่นัท ผมขับรถกลับบ้าน หอบแฟ้มงานขึ้นไปอ่านต่อบนห้อง

            - รักเธอคนเดียว แค่เท่านี้ที่ใจของฉันมี คือรักแท้ให้ทุกนาที- 

            เสียงเรียกเข้าดังขึ้นผมรีบลื้อดูใต้แฟ้มเพราะผมก็ไม่รู้ว่าวางเอาไว้ตรงไหน ยังดีที่หาเจอแล้วรีบกดรับก่อนที่จะตัดสาย

            “สวัสดีครับ”

            “(คุณป่าครับ เป็นไงบ้างวะทำงานวันแรก)”  เต้นั่นเอง

            “ก็ดีนะ ดูสนุกดี แต่ตอนนี้อ่านงานอยู่นะ”

            “(นี่วันศุกร์นี้กูกะไอ้กล้าว่างตรงกัน ไปกินข้าวด้วยกันดิ” ผมยิ้มขำ

            “ได้สิ ยังไงเต้ก็โทรนัดมาก่อนนะ”

            “(เอออีกอย่างนะ ฝากบอกอเล็กซ์ด้วย ซักวันฉันจะถลกหนังแล้วเอาไปโยนให้จระเข้แดก!!) เต้ตระโกนเสียงดัง ท่าจะโมโหหนัก ว่าแต่อเล็กซ์ไปทำอะไรให้ละเนี้ย ถึงบอกว่าจะไม่แกล้งแต่สุดท้ายก็ไม่พ้นสินะ

            “ได้ครับได้ อเล็กซ์ทำอะไรให้อีกละ”

            “(ก็ของฝากมันนั่นไง หึย มันน่านัก)” เต้กัดฟันท่าจะเป็นของฝากที่ไม่ธรรมดาเสียแล้วสิ

            “ได้ๆเดี๋ยวเราบอกให้ เดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนนะ เจอกันวันศุกร์” ผมบอกเต้ ก่อนที่จะวางสาย ผมเลยเดินไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวนอน ผมนอนดึกไม่ได้ถึงอาการป่วยจะหายแต่ถ้าผมไม่ดูแลตัวเองให้ดีมีโอกาสที่จะกลับไปเป็นอีก

            หลังจากที่ที่เริ่มงานได้สองสามวันผมก็เริ่มคุ้นเคยกับงานและน้องๆในแผนก ตอนนี้ผมวุ่นในการคุมการจัดงานแต่งงานให้เสร็จก่อนบ่ายสอง ดันมีปัญหาเพราะดอกไม้ไม่พอ จะทำไงดี เจ้าสาวอยากได้งานที่เหมือนหวานๆเหมือนฝันเลยเน้นดอกไม้มาจัดให้เหมือนฝันแต่ดอกไม้ที่สั่งไว้มันดันมีปัญหา ผมให้น้องๆจัดดอกไม้ที่ได้มาก่อน แต่ผมจะแก้ปัญหานี้ยังไงดี

            “นุ่น ไปดูหลอดไฟสีฟ้า สีขาว แล้วก็สีเหลืองให้พี่ที” ผมบอกนุ่น ที่เป็นเลขาของผม เมื่อผมคิดแบบไว้ในใจ

            “ได้ค่ะพี่ป่า” นุ่นรีบวิ่งไป ผมรีบโทรติดต่อกับเจ้าสาว ยังดีที่ฝ่ายเจ้าสาวฟังไอเดียของผมแล้วชอบ ผมรีบร่างแบบแล้วให้น้องช่างไฟเพื่อติดตั้งสายไฟ ชักพักนุ่นก็วิ่งกลับมาพร้อมน้องๆที่วิ่งแบกลังมาคนละสองลัง ผมแจกจ่ายแบบร่างที่ร่างไว้ให้ทุกคน พวกเราเร่งงานจนเสร็จทันเวลา ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอก น้องๆทุกคนเหนื่อยแทบตาย ผมบอกให้ทุกๆคนเปลี่ยนกันพักได้แล้ว ผมยืนอยู่ในงานเพื่อดูความเรียบร้อย

            “น้องป่ายังไม่ได้ทานข้าวเลยใช่ไหมครับ ไปทานข้าวก่อนนะครับ” พี่นัทที่อยู่ๆก็มายืนอยู่ด้านหลัง อะไรจะมาเงียบๆได้ขนาดนี้

            “เดี๋ยวผมดูงานให้เรียบร้อยก่อนนะครับ”

            “ไม่ได้ครับ คุณเอ็กซ์กำชับให้ผมดูแลน้องป่าให้ดีๆ” ผมมองบน นี่ใช้ไม้นี้เลยใช่ไหมพี่ป่าน พี่เอ็กซ์ ผมได้แต่ยินยอมไปทานข้าวกับพี่นัท ผมฝากให้นุ่นดูแลงานให้เดี๋ยวจะกลับมาน้องดูงงๆที่พี่นัทมาตามผมไปทานข้าว ผมนั่งทานข้าวกับพี่นัทเสร็จผมก็รีบกลับไปดูงานต่อ พอผมทานข้าวเสร็จพี่นัทก็หายตัวปั๊บ นี่มาคุมกินข้าวสินะ

            งานเริ่มแล้ว ผมมองเจ้าสาวเจ้าบ่าวที่ยืนตัดเค้ก 8 ชั้น ที่กลางห้องโถงด้วยรอยยิ้ม ความรักสวยงามเสมอ ภาพที่เจ้าบ่าวยกมือเช็ดน้ำตาให้เจ้าสาวนั้นสวยมากทำเอาผมอดไม่ได้ที่จะเอากล้องของน้องที่วางอยู่มาถ่ายเก็บช่วงเวลานั้นได้อย่างพอดี งานจบไปแล้ว ผมดูแลความเรียบร้อยเสร็จก็ 5 ทุ่มแล้ว ผมแทบคลานจะกลับไปที่รถ พอถึงรถผมแปลกใจเมื่อมีคนยืนรออยู่

            “เอ่อมีธุระอะไรรึเปล่าครับ”

            “สวัสดีครับผมฟิล์ม คุณเอ็กซ์ให้ผมมาขับรถให้คุณป่าครับ” ผมนี่อ้าปากค้างไปแล้ว นี่อะไรจะขนาดนั้น แต่ตอนนี้ผมไม่คิดอะไรแล้วครับ ผมไหว้พี่ฟิล์มก่อนจะเปิดประตูเข้าไปนั่งแล้วหลับตาลง

            “คุณป่า ถึงบ้านแล้วครับ”  ผมปรือตามองรอบๆตัว ถึงบ้านแล้วสินะ

            “ครับ แล้วพี่ฟิล์มล่ะครับ”

            “ผมคงต้องเอารถคุณป่าไป เดี๋ยวผมไปนอนบ้านแฟนผมครับ” ผมพยักหน้าเบลอเรื่องคำสุภาพพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน ผมเปิดประตูเข้าบ้านก่อนที่จะสลบตรงโซฟาเพราะผมลืมตาไม่ขึ้นแล้ว

            ปิ๊งป่อง ๆ

            ใครกันทำไมมาแต่เช้า ผมลุกขึ้นโอ๊ยปวดตัวซะมัดนอนคว่ำมาทั้งคืนเลยเหรอเนี้ย ผมเดินหัวฟูไปเปิดประตู

            “อ่าวพี่ฟิล์ม”

            “ผมมารับคุณป่าครับ” พี่ฟิล์มบอกเสียงเรียบๆ นี่มันกี่โมงแล้วเนี้ย ผมรีบหมุนตัวกลับเข้าบ้านเหลือบมองนาฬิกาแวปๆว่าตอนนี้มัน แปดโมงกว่าแล้ว ผมวิ่งตึงตังขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร็วแล้ววิ่งลงไปหาพี่ฟิล์ม

            “ไม่ต้องรีบก็ได้ครับพี่นัทบอกว่าให้คุณป่าเข้าสายได้” พี่ฟิล์มว่าขณะขับรถ

            “พี่ฟิล์มพูดกับผมปกติสิครับ ผมไม่อยากไปสายนิครับ” ผมบอกพี่ฟิล์ม

            “ก็ได้ๆ”  ทันทีที่เป็นกันเองผมก็รู้เลยว่าพี่ฟิล์มเป็นคนยังไง

            ผมรีบขึ้นไปที่แผนก เคลียงานที่ค้างไว้เมือวานก่อนที่จะเริ่มวางแผนงานจัดเลี้ยงตอนเย็นต่อ

            ก๊อก ก๊อก

            “เข้ามาครับ”

            “พี่ป่านี่เอกสารงานเมื่อวานนะคะ แล้วนี่รูปที่พี่ป่าถ่ายพอดีไอ้ต่อมันบอกเอามาให้ มันชมพี่ใหญ่เลยนะคะว่าพี่ถ่ายสวยกว่าเด็กที่จบจากถ่ายภาพมาอีก” ผมรับงานที่นุ่นส่งมาให้

            “วันนี้จัดเลี้ยงที่ห้องโกเมน ห้องหลักนี่พรุ่งนี้มีงานแต่ง แล้วห้องอื่นๆนี่พี่ยังไม่เห็นพีอาร์เค้าส่งงานให้พี่เลย เดี๋ยวนุ่นตามงานให้พี่ด้วยนะ” ผมยิ้มแล้วเปิดแฟ้มไปพูดไป

            “รับทราบค่ะ” นุ่นตเบะ ผมขำให้กับความต๊องของนุ่น

            “เออพี่ป่า เจ้าสาวเมือวานนี้จะเข้ามาตอนบ่ายๆ พี่เค้าขอเจอพี่ป่าด้วยค่ะ” ผมพยักหน้า นุ่นเดินออกจากห้องไป ผมเปิดรูปที่ถ่ายเมือวาน อืม ผมเปิดโปรแกรมแต่งรูปมาแต่งรูปที่ผมถ่ายเมื่อวานก่อนจะทำเป็นโปสการ์ดแล้วปริ๊นออกมา ตอนเที่ยงพี่ฟิล์มก็เอาข้าวขึ้นมาส่งผม อะไรจะบริการดีขนาดนี้ครับ

            “ขอบคุณครับพี่ฟิล์ม”

            “กินไปๆ ตัวนี่จะบางไปไหน บางกว่าแฟนพี่อีก” พี่ฟิล์มโยกหัวผม นี่ละครับพอสนิทกันพี่แกก็กลายเป็นแบบนี้

            “สามประโยคก็พูดถึงแฟน ผมล่ะอยากเห็นหน้าแฟนพี่ฟิล์มจริงๆ คนหลงแฟนเอ๊ย” ผมว่าพี่ฟิล์มนี่ยกมือขู่จะเขกหัวผม

            หลังจากที่ทานข้าวเสร็จพี่ฟิล์มนี่หนีไปแล้วบอกจะไปหาแฟน ผมเดินลงไปห้องรับรองเพราะนุ่นโทรมาบอกว่าเจ้าสาวคนเมื่อวานมาแล้ว

            “สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คู่รักที่นั่งอยู่ในห้องทั้งคู่ยิ้มให้ผม

            “พี่มาขอบคุณน้อง ถ้าไม่ได้น้องเมื่อวานนี้งานพี่แย่แน่ๆ ที่น้องทำให้พี่มันสวยมากพี่ชอบมาก ขอบคุณมากจริงๆนะคะ” เจ้าสาวจับมือผมพร้อมกล่าวขอบคุณ

            “ไม่เป็นไรครับ ผมดีใจที่พี่ชอบนะครับ ต้องขอโทษที่ทางเราไม่สามารถจัดงานได้ตามที่ดิวงานกับพี่เอาไว้”

            “ไม่ต้องโทษเลยค่ะ ที่น้องทำมันดีกว่าที่พี่คิดไว้อีก” เราคุยกันซักพักทั้งสองคนก็ขอตัวกลับ

            “เดี๋ยวครับ ผมขอโทษที่ถ่ายโดยพลการณ์ ผมทำให้นะครับ” ผมยื่นซองน้ำตาลที่ใส่โปสการ์ดไว้ข้างใน ทั้งสองทำหน้างงๆก่อนที่จะรับแล้วกลับไป

            - รักเธอคนเดียว แค่เท่านี้ที่ใจของฉันมี คือรักแท้ให้ทุกนาที- 

            ผมนั่งเคลียงานโดยที่ปล่อยโทรศัพท์ดัง มันดังมากๆเข้าผมลำคาญมากเลยรับสาย

            “ครับ”

            “(ไอ้ป่า คุณมึงจะเสด็จมากี่โมงคร๊าบบบบ กูรอจนรากงอกแล้วนี่)” ซวยละครับผมลืมนัด

            “เอ่อ...เฮ้ย ลืม เค้าลืมอ่า”

            “(ไอ้ป่า ให้เวลา 30 นาที มาช้ากูให้มึงเลี้ยง)” ได้ยินงั้นผมก็กวาดของใส่กระเป๋ารีบวิ่งลงไปลานจอดรถพี่ฟิล์มเอารถมาจอดรอไว้แล้ว ผมรีบพุ่งขึ้นรถ

            “รีบไปไหนกัน”

            “พี่ฟิล์มไปร้านเหล้าหลังมอด่วนๆเลยผมลืมนัด เพื่อนมันเขมือบผมแล้ว” พี่ฟิล์มขำก่อนที่จะออกรถไปตามคำบอกผม

            ท้ายสุด สุดท้ายผมก็มาสาย ผมกับพี่ฟิล์มเดินเข้าไปในร้าน ถาม ทำไมมีพี่ฟิล์มนะเหรอ ก็พี่แกไม่ยอมให้ผมลงมาคนเดียว ยืนยัน นอนยันว่าจะลงมากับผม ครับเอาที่พี่สบายใจ ผมมองหาโต๊ะที่เต้อยู่

            “ทางโน้นรึเปล่าพี่เห็นโบกมือนานแล้ว” ผมมองตามที่พี่ฟิล์มชี้ ใช่เต้จริงๆ

            ผมเดินไปหาเต้กับกล้าที่โต๊ะ ทั้งสองคนทำหน้างงส่งสายตาเชิงถามว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง แต่ทั้งสองคนก็เขยิบที่ให้เราสองคนนั่ง

            “นี่พี่ฟิล์มเป็น..เป็น”ผมควรจะจำกัดความว่าพี่ฟิล์มเป็นไรดี

            “พี่เป็นบอดี้การ์ดให้น้องป่านะ” พี่แกทำหน้าเข้ม

            “โอ้วววว นี่แกไปเป็นเด็กเสี่ยที่ไหนมาวะ” เสียงกล้าครับ วอนนะครับ

            “พี่ฟิล์มเป็นลูกน้องของพี่เอ็กซ์ ว่าที่พี่เขยฉัน” พูดจบพี่ฟิล์มนี่หัวเราะลั่นเลย เต้กับกล้าทำหน้างง

            “พี่เขยคนไหนวะ”

            “พี่ป่าน” ผมหันไปมองพี่ฟิล์มที่นั่งขำจนจะตกเก้าอี้อยู่แล้ว

            “โอ๊ยพี่อยากโทรไปหาบอส เดี๋ยวพี่ไปโทรแป๊บ” พี่ฟิล์มกลั้นขำเดินออกไปมีอะไรขำขนาดนั้น

            “จริงดิวะ” ผมพยักหน้า มันทำหน้าอึ้งๆ

            “มึงมาช้ามึงเลี้ยง” ไอ้เต้ว่า

            “ครับ คุณชายเต้ ตามสบายเลยครับ อยากกินอะไรสั่งได้เลยครับ” ผมบอกไอ้เต้นี่ดีใจอย่างกับถูกหวย ได้ข่าวว่าเป็นทนาย อะไรจะจนขนาดนั้นครับ เต้สั่งอาหารเหมือนจะเกิดสงคราม ทานได้ซักพักพี่ฟิล์มก็กลับเข้ามาทานด้วย นั่งเล่นไปกินไป สามคนนั่นกินเหล้าแต่ผมกินแค่น้ำเปล่า พอเหล้าเข้าปากสามคนนี้ก็ซี้กันทันที  ซี้กันจนถึงขั้นเผาผม

            “นี่ๆพี่ฟิล์มรู้ไหมไอ้ป่านี่มันไม่โง่หรือบ้า ชอบคนคนเดียวมาตั้ง6-7ปี แถมทุกวันนี้ยังชอบอยู่” เต้ ผมแทบจะพุ่งเข้าไปปิดปาก แต่พี่ฟิล์มจับไหล่ผมไว้ นี่อยู่ข้างใครเนี้ย

            “ใครเหรอพี่อยากรู้”

            “อย่าพูดนะเต้ไม่งั้นฉันจะเผานายบ้าง” ผมยิ้มเย็น เต้ชูสองมือยอมแพ้ไม่ว่ากล้าจะเซ้าซี้ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอก นั่งกินไปนานแล้วผมอยากเข้าห้องน้ำ แรกๆพี่ฟิล์มบอกว่าจะไปด้วยแต่ผมบอกว่าผมไปคนเดียวได้ แกเลยบอกว่ารีบไปรีบมา เหมือนมีผู้ปกครองเพิ่ม ผมเดินกลับมาจากเข้าห้องน้ำ ก็เห็นว่ามีคนเพิ่มมาคนหนึ่ง แผ่นหลังทำไมดูคุ้นตาจังนะ ผมเก็บความสงสัยไว้ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ถ้าผมรู้ว่าจะเป็นคนนี้ ผมคงเลือกที่จะไม่เดินกลับมา

            “อ่าวกลับมาแล้ว” เต้ทักผมยิ้มๆ ที่มองดูแล้วเจ้าเล่ห์มาก คนที่นั่งหันหลังหันกลับมาใบหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ

 

            ผมยังไม่พร้อมเลยให้ตายเถอะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แอบมาลงอีกตอน อิๆ รักทุกเม้น
ฮ่าๆๆ บวกเป็ดให้ทุกคน
ขอบคุณที่ชอบนะคะ

หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 27-08-2016 20:46:39
อยากรู้ว่าแม็คจะทำหน้ายังไง ยังคงสงสัยว่าแม็คชอบป่ามั้ย หรือชอบแต่ไม่รู้ตัว แต่คงไม่ใช่รักแน่ๆอ่ะ เพราะนางไม่โหยหาเท่าไหร่ จนตอนนี้ก็ยังรู้สึกแอนตี้แม็คอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-08-2016 21:09:04
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 27-08-2016 21:25:36
เย้ มาต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: hoshinokoe ที่ 27-08-2016 22:32:56
มาต่อเร็วววว
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 27-08-2016 23:59:04
ความรู้สึกเหมือนห่างหายไปนานมากๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 28-08-2016 01:25:43
เต้ เล่นคืนแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-08-2016 04:34:28
เต้ คนร้ายกาจจ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่21 27/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BBellza ที่ 28-08-2016 07:01:15
เต้ นายร้ายยยมากกกกก

แอบมาบ่อยๆ. น้า คิดถึง
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 22 : คนที่คิดถึงทุกลมหายใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 28-08-2016 08:47:38
ผมนั่งกินเหล้าฟังเพลงรอ ไอ้สองตัวที่มันสายเสมอต้นเสมอปลาย ตั้งแต่เรียนจนจบมาทำงานแล้วมันก็ยังสาย ผมเรียนจบแล้วก็เข้าทำงานในโรงแรมในเครือธุรกิจครอบครัว งานหนักจนผมคิดว่าอยากย้อนเวลากลับไปช่วงที่เรียนอยู่ ช่วงที่ได้เจอคนที่ผมไม่เคยลืม ซักพักทั้งสองคนนั่นก็มา มาถึงไอ้กล้าก็คร่ำครวญถึงน้องฟงน้องฟ้าห่าเหวอะไรของมัน คงจะถูกทิ้งอีกแล้วสินะ  พอเหล้าเข้าปากมันก็โวยวาย ยังดีที่นั่งในบริเวรที่เป็นส่วนตัว ผมก็ฟังๆมันบ่นไป ซักพักโทรศัพย์ไอ้เต้ก็ดัง

            “เฮ้ย!! โทรมาได้ไง โทรทางไกลมันแพงนะเว้ย ฮ่าๆๆ” เต้หัวเราะร่า ให้ผมเดาคงเป็นเพื่อนที่อยู่ลอนดอนของมัน หลังจากที่มันไปเที่ยวกลับมา มันก็ได้ของฝากและโปสการ์ดใบสุดท้ายมาให้ผม

            “เหี้ย!! อย่าบอกนะว่ากลับมาแล้ว แม่งกลับมาเงียบๆไม่ยอมบอกเลยนะ” อืมจะดีกว่านี้มากถ้ามึงหันหน้าไปทางอื่น

            “สัสเต้ เหี้ยมึงกระแทกหน้ากูเลย”  ผมว่ามันก่อนจะลูบหน้าเพราะเหมือนจะมีน้ำลายกระเด็นมา ซกมกจริงๆ

            “ หุบปากไปเลยมึงกูคุยกับเพื่อนอยู่”  แล้วกูไม่ใช่เพื่อนมึงรึไงวะ ผมขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่ามันไปเจอกับเพื่อนคนนี้ได้ไง พอเป็นเรื่องเพื่อนคนนี้มันแทบจะลืมผมสองคนไปทันที

            “เออโคตรตกใจเลย ของฝากละของฝากไม่มีของฝากนี่ไม่เลิกโกรธ”  มันทำเสียงง่องแง๊งน่าถีบชิบหาย  ผมเลิกสนใจมันน

            “อย่าพูดถึง เออนี่มีคนอยากคุยด้วย” อยู่ๆมันก็พูดขึ้น แล้วยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ทำปากขมุบขมิบว่า โปสการ์ด  ถึงมันจะเป็นคนยัดเยียดให้ผมในตอนแรกๆ แต่รูปภาพที่ผมได้มาทำให้ผมรู้สึกดี

            “สวัสดีครับ” ผมพูดทัก  รอปลายสายที่เหมือนจะเงียบไปชั่วครู่

            “(เอ่อ สวัสดีครับ)”  เสียงแผ่ว คุ้นหูดังขึ้น

            “โปสการ์ดที่คุณถ่ายสวยมากเลยนะครับ พอดีเต้ให้ผมมาผมชอบมันมากเลยครับ ขอโทษด้วยนะที่ผมขอคุยด้วย”  ไม่ใช่ผมที่ขอคุยด้วยไอ้เต้มันเป็นตัวต้นคิดจริงๆ

            “(ไม่เป็นไรครับดีใจที่คุณชอบ เอ่อ ผมขอสายเต้หน่อยได้ไหมครับ)” ผมสัมผัสได้ถึงความประหม่า แน่ละอยู่ๆก็คุยกับคนที่ไม่รู้จัก ผมยื้นโทรศัพท์คืนให้ไอ้เต้ ที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

            “ไง”

            “อ่าวไหงงั้นนึกว่าจะดีใจซะอีก”  ไอ้เต้ทำหน้าเสียครับ แล้วดีใจนี่คืออะไรครับ

            “เดี๋ยวคืนเราไปนอนบ้านนายนะ นี่ใกล้กินเสร็จกันแล้วละ เดี๋ยวจะหอบไอ้กล้าไปด้วยมันเมาเหมือนหมาอยู่ข้างๆนี่”  แล้วมันก็กดวางสายไป แล้วกลับมานั่งกินเหล้ากับผมต่อ ส่วนไอ้กล้านั่นหลับคาโต๊ะไปแล้ว

            “ไอ้เต้ ทุกวันนี้กูก็ยังไม่เข้าใจมึง ที่มึงให้โปสการ์ดของเพื่อนมึงทุกเดือน” มันปรายตามามองผมก่อนจะถอนหายใจปลงๆ

            “มึงนี่นะตั้งแต่ม.ปลายละที่กูว่าโง่ ทุกวันนี้ก็โง่เหมือนเดิม ไม่ต้องถามหรอกว่ากูให้มึงไปทำไม แต่เมื่อถึงวันหนึ่งมึงจะขอบคุณกู” ครับไอ้เพื่อนเวร สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบอะไรกับมัน ผมได้แต่ส่ายหัวให้กับความลึกลับของมัน ผมช่วยไอ้เต้ลากไอ้กล้าที่เมาเหมือนหมาไปส่งที่รถเต้ ผมรอให้เต้ขับรถออกไปถึงได้กลับไปที่รถของตัวเองแล้วขับกลับบ้าน เพราะมันอยู่ใกล้กว่าคอนโดผม

            “อ่าวมีน ยังไม่นอนเหรอ” ผมทักน้องชายที่ยังนั่งดูทีวีอยู่

            “ยังว่าจะดูบอล แล้วนี่ทำไมกลับมาบ้านได้” มันทำหน้ากวนๆใส่ผม

            “ก็แค่กลับมานอน พี่ไปนอนก่อนพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” ผมขยี้หัว มันหลบแล้วทำหน้าไม่พอใจก็นะ ขึ้นปีสามแล้วแต่ผมยังทำเหมือนมันเป็นเด็ก ผมเดินขึ้นห้องไปนอน  ช่วงวันหยุดผมจะอยู่บ้านใหญ่ วันปกติผมถึงจะไปอยู่ที่คอนโด

            ผมอาบน้ำแต่งตัวลงมาข้างล่าง พ่อกับไอ้มีนนั่งกินข้าวกันอยู่ ผมนั่งลงข้างไอ้มีน

            “เรื่องงานที่โรงแรมเป็นไงบ้าง” พ่อถามเรียบๆ

            “ก็เรื่อยๆครับ” ผมตอบกลับโดยไม่มองหน้า เราสองคนเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ผมยืนกรานปฏิเสธเรื่องการหมั้นกับลูกสาวเพื่อนพ่อ แถมด้วยการบอกความจริงว่ามีคนที่รักแล้วและไม่คิดจะรักใครอีก หลังจากเล่นสงครามเย็นกันมาตลอดสามปี พึ่งได้กลับมาคุยกันหลังจากที่มีนระเบิดลงครั้งใหญ่  เรื่องในครั้งนั้นทำให้ผมรู้อะไรหลายๆอย่างๆ พ่อรักผมมากแค่ไหน มีนโตเป็นผู้ใหญ่แค่ไหน  แต่มันก็ยังขัดเขินเวลาที่คุยกับพ่ออยู่ดี

 

            ผมนั่งเคาะโต๊ะรอเอกสารที่ผมให้เลขาช่วยหาให้นี่มันก็ผ่านมานานแล้วทำไมทำงานไม่ได้เรื่องจริงๆ ผมเปิดประตูออกไปเพื่อตามงาน แต่โต๊ะเลขาหน้าห้องผมกลับว่างเปล่า ให้ตายเถอะ ผมเดินลงไปข้างล่างเพื่อหาคน พนักงานทั้งหมดต่างก้มหน้าก้มตาทำงาน หึ ผมเดินไปที่ห้องพักพนักงาน ยังไม่ทันเปิดประตูไปผมก็ได้ยินเสียงเลขาของผมดังออกมา นี่ว่างขนาดมานั่งนินทาผมเลยเหรอ  ผมเปิดประตูเข้าไป

            “คุณฟ้า เอกสารที่ผมให้หามันมีในห้องนี้ด้วยเหรอ”  หึนี่ขอคนที่เป็นงานให้ผมซักทีได้ไหม เลขาคนนี้พ่อผมเป็นคนแนะนำมา

            “คุณแม็ค ขอโทษค่ะ ฟ้าจะรีบเอาขึ้นไปให้นะคะ” คุณฟ้าลุกลี้ลุกลน ผมคว้าเอาเอกสารที่วางอยู่ที่โต๊ะ

            “คุณฟ้าพรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะครับ” ผมบอกเสียงเย็น ก่อนจะเดินถือเอกสารกลับไปที่ห้องทำงาน ผมคงต้องหาคนมาทำงานที่เป็นคนทำงานจริงๆไม่ใช่จับฉ่ายแบบนี้

            - ครืด ครืด –

            เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้ผมเงยหน้าจากกองเอกสาร ผมกดรับสายโดยไม่มองชื่อ

            “(ไอ้แม็ค มากินข้าวกัน)” เสียงลั่นล้าของไอ้เต้ทำให้ผมสังหรณ์ใจแปลกๆ มันต้องมีเรื่องสนุกแน่ๆ

            “ถ้ากูบอกว่ากูไปไม่ได้ละ” ผมนั่งพิงเก้าอี้

            “(มึงจะต้องเสียใจตลอดชีวิตกูรับรอง ถ้ามึงมามึงจะรู้ว่ากูหมายความว่าไง)” มันหัวเราะเบาๆอะไรของมัน

            “ที่ไหน” ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันมีอะไร ไอ้เต้ถึงอยากให้ผมไป มันบอกสถานที่ผมรับคำก่อนจะนั่งเคลียงานต่อจนเลยเวลานัดไปชั่วโมง ผมเลยรีบเก็บของแล้วไปร้านที่ไอ้เต้บอก ผมเดินเข้าไปเจอมันสองคนนั่งกับใครอีกคนที่ผมไม่คุ้นหน้า

            “ท่านประธานครับนี่พี่ฟิล์ม” ไอ้เต้มันชอบกวนตีนด้วยการเรียกผมว่าท่านประธาน

            “สวัสดีครับพี่ฟิล์ม” ผมยกมือไหว้ พี่ฟิล์มแค่พยักหน้าให้ ผมถอดไทออก ก่อนที่จะปลดกระดุมเม็ดบนออก

            “แล้วไหนเรื่องที่กูจะต้องเสียใจถ้ากูไม่มา” ผมรับแก้วเหล้าจากไอ้กล้า ไอ้เต้ลอยหน้าลอยตาไม่ตอบผม มันมองข้ามไหล่ผมไป แล้วยิ้มร้าย

            “อ่าวกลับมาแล้วเหรอ” มันทักใครชักคนที่อยู่ข้างหลัง ผมหันไปมอง ผมเข้าใจแล้วที่ไอ้เต้บอกว่าถ้าผมไม่มาผมจะเสียใจไปตลอดชีวิต

            ป่า

            ความรู้สึกที่ได้เห็นคนที่เฝ้าคิดถึงมาโดยตลอดมันสับสนปนเปกันไปหมด ทั้งดีใจ ทั้งเคือง อยากจะลุกขึ้นกระชากร่างบางๆเข้ามากอด ป่าทำหน้าตกใจที่เห็นผม มันน่าจะเป็นผมมากกว่านะที่จะตกใจ ป่ายังคงเหมือนเดิม แตกต่างแค่ตอนนี้ไม่ได้ใส่แว่นหนาเตอะ นั่นยิ่งทำให้เห็นตากลมโตที่เคยซ่อนอยู่หลังแว่น ผมยาวประบ่าล้อมกรอบใบหน้าเรียว นั่นยิ่งทำให้ป่าน่ารักกว่าเดิม

            “แม็ค” เสียงหวานที่ผมเฝ้าอยากได้ยินมาตลอด

            “ป่า”

            “จะยืนเรียกชื่อกันอีกไหม นั่งสิ” เต้จัดแจงให้ป่านั่งข้างผม ป่าดูน่ารักเหมือนเดิม แต่ดูเหมือนป่าจะมีเนื้อมีหนังกว่าเดิม ผมนั่งมองป่านิ่งๆ ป่าเลี่ยงที่จะไม่มองและคุยกับผม แต่กลับไปคุยกับพี่ฟิล์มนั่นทำให้ผมหงุดหงิดจริงๆ ผมจะรอทำไมละในเมื่อรอนานขนาดนี้แล้วผมคว้าข้อมือเล็ก

            “โทษทีนะกูกับป่าจะกลับก่อน” ผมบอกทุกคนก่อนจะดึงป่าให้ลุกขึ้นงงๆ แล้วเดินออกจากร้านไปที่รถของผม

            “แม็คเดี๋ยวสิ เรายังไม่ได้บอกพี่ฟิล์มเลย” ป่าพยายามบิดข้อมือออกจากมือผม ทำไมต้องพี่ฟิล์ม

 

            “ป่า ไปกับเราเถอะนะ” ผมคลายมือที่กุมข้อมือบาง ยกมือขึ้นสัมผัสแก้มเนียน ป่าทำหน้าตกใจก่อนที่หน้าเรียวจะถูกย้อมไปด้วยสีแดง ป่าพยักหน้าน้อยๆ ผมยิ้มกว้างก่อนจะเปิดประตูให้ป่าแล้วค่อยขึ้นรถขับออกไป

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เย้ๆเอามาเสิร์ฟร้อนๆ

ตอนนี้มีตังจ่ายค่าตัวพระเอกแล้วค่ะ

สารภาพเลยว่าใกล้จบแล้วนะ #ห๊ะ

จะมีตอนพิเศษแน่นอน สำหรับคู่อื่นๆนั้น

เค้าจะยังเขียนต่อไป  :katai4:แต่ก็ต้องดูก่อนทุกคนอ่านแล้วสนุกไหมฮ่าๆๆ เค้าไม่มั่นใจเท่าไหร่  :o12:

เค้าแต่งเองอ่านเองแต่ก็อยากให้ทุกคนสนุก ทุกคนชอบตัวละครแต่ละตัวเหมือนกับเค้า :hao5:

ตอนต่อไป ....................เตรียมเลือด..................รึเปล่านะ :hao6:

หุๆๆๆๆๆ

 

 
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: tiew93 ที่ 28-08-2016 09:36:41
ตอนนี้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกแม็คเลยค่ะ  :katai2-1: ยอมให้เป็นพระเอกกก็ได้ ฮ่าๆๆๆ
จะจบแล้ววว คนเขียนขยันมากเลย ปรบมือ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 28-08-2016 10:11:46
แม็ค อย่าลืมขอบคุณเต้นะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 28-08-2016 10:33:31
รอตอนต่อไปค่ะ  รอฉากหวานๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 28-08-2016 11:29:37
หวังว่าคราวนี้จะเป็นไปด้วยดี
ว่าแต่จะจบแล้วจริงเหรอคะ อยากอ่านต่อยาวๆๆๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 28-08-2016 11:46:31
ขอให้รักกันด้วยเถอะ  เรื่องสั้นแต่ก็ชอบนะ  สุดๆเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 28-08-2016 12:17:30
รอคู่อเล็กซ์เต้
แม็คนี่รู้ตัวช้าจริงๆ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-08-2016 12:33:52
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: มะลิลา ที่ 28-08-2016 13:55:01
ฮะ!!!!! :a5:
จบ!!!! :ling1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 23 : ผิดที่รู้ตัวช้า
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 28-08-2016 13:57:25
ผมเหลือบมองคนที่นั่งข้างๆที่นั่งเงียบเป็นระยะๆ เหมือนฝันที่ได้เจอกันอีกครั้ง ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเยอะจริงๆ ผมมองจนป่ามองผมกลับ

            “จะมองอีกนานรึเปล่าแม็ค”

            “ก็จะมอง...ไปเรื่อยๆ” ผมยิ้มน้อยๆ ที่ป่าทำหน้ามุ่ยๆ รู้สึกว่าป่าจะน่ารักและแสดงความรู้สึกมากกว่าภาพในความจำของผมเสียอีก ผมแอบยิ้มขำ ดูเหมือนจะร่าเริงกว่าเดิมมากผมขับรถไปที่คอนโดผม

            “พามาที่ไหนเนี้ย” ป่าบ่นเบาๆแต่ผมได้ยิน

            “พามาห้องฉันเอง”ผมยิ้มแต่ป่าทำตาโตแล้วพยายามที่จะดิ้นหนีผม คิดเหรอว่าผมจะปล่อยผมจูงมือป่าเข้าลิฟท์ แล้วพาไปที่ห้องผม ผมปล่อยให้ป่ายืนอยู่กลางห้อง ป่าเหลือบมองแต่ประตูห้อง นี่กะจะหนีอย่างเดียวเลยเหรอ

            “ไปนั่งโซฟาสิ เดี๋ยวเราไปเอาน้ำให้” ผมเดินออกไปที่ห้องครัวป่าค่อยๆเดินไปนั่งที่โซฟา

            “อ่านี่น้ำ” ผมทำเนียนนั่งข้างป่า โดยที่ป่ามัวแต่สนโต๊ะกระจก

            “นี่...แม็คเก็บไว้ตลอดเหรอ” ป่าเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยดวงตาที่คลอด้วยน้ำตา

            “ใช่ แต่จริงๆเราก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นป่าที่ถ่าย พอเห็นโปสการ์ดใบแรกมันทำให้เราคิดถึง ไม่รู้ว่าคิดถึงอะไร เราเลยเก็บรักษาไว้อย่างดี” ผมพูดเบาๆพลางเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเรียว

            “ป่า เราขอโทษที่รู้ตัวช้า ขอโทษที่ทำให้เสียใจ เราคงเป็นอย่างที่ไอ้เต้มันพูดไว้ ว่าเรามันโง่ ความรู้สึกช้า จนต้องเสียเวลาไปตั้งห้าหกปี” ยิ่งผมพูดป่ายิ่งร้องไห้หนัก ผมรั้งตัวป่าเข้ามากอด ถ้าเมื่อตอนม.หกผมไม่โง่เหมือนไอ้เต้ว่า ไม่ความรู้สึกช้า ผมคงได้คนๆนี้มาอยู่ในอ้อมแขนแบบนี้  หลังจากที่ป่าหายไป ผมคอยมองหาคนคนเดียว มันอาจจะเกิดขึ้นเร็วแต่ผมกลับลืมใบหน้าป่า ลืมเสียงหัวเราะ ลืมรอยยิ้มจางๆของป่าไปไม่ได้ แม้จะผ่านมานานแค่ไหน พอได้เต้รู้เรื่อง มันก็ด่าผมทุกครั้งที่ผมเหม่อ แต่ผมก็ว่ามันไม่ได้เพราะมันเป็นความจริง แถมพอหน่ารู้หน่ายิ่งซ้ำผมอีกคน

            “ป่า ขอโทษจริงๆที่รู้ตัวช้า เราโคตรเสียดายเวลาเลย” ผมลูบแผ่นหลังบางที่ยังคงสะอื้ออยู่ในอ้อมกอดผม

            “มะ..ไม่ใช่ความผิดแม็คเลย” เหมือนป่ายังไม่เข้าใจสิ่งที่ผมพูด นิ่งไปซักพักป่าก็ดันตัวออกแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม

            “เสียดาย...เสียดายอะไร”  ป่าทำหน้าสงสัย ใบหน้าเรียวมีคาบน้ำตาจางๆดวงตาแดงก่ำ

            “เสียดาย....เวลาที่เสียไปไง ฉันน่าจะได้ทำแบบนี้ตั้งนาน” ผมฉวยโอกาสที่ป่ายังทำความเข้าใจที่ผมพูด เลื่อนหน้าเข้าไปชิดก่อนจะแนบริมฝีปากลงไปแผ่วเบา ย้ำซ้ำๆอย่างแผ่วเบา ไล่เลียริมฝีปากบางที่เผยอแทรกเข้าไปเพื่อฉกชิมความหวานหยอกเย้าลิ้นเล็กที่ถอยหนี

            “อืม..” เสียงครางหวานหู ผมถอนจูบ รีมฝีปากบางแดงทำให้ผมอกใจไม่ไหวกดจูบเบาอีกครั้ง

            “เสียดายถ้าฉันรู้ใจตัวเองตั้งแต่ตอนนั้นคงได้ทำแบบนี้นานแล้ว” ผมยิ้มเจ้าเล่ห์ ในขณะที่ป่านั้นหน้าแดงก่ำ

            “แม็คนี่ไม่เปลี่ยนไปเลย” ป่าว่าผม แล้วจะดิ้นทำไม ในเมื่อผมไม่ยอมปล่อยแน่ๆกอดแล้วพอดีมือขนาดนี้

            “ฉันไม่เปลี่ยนแต่นายเปลี่ยนไปเยอะมากเลยนะ น่ารักกว่าเดิมมากกก แถมยังดูดีน่าฟัดกว่าเดิมอีก” ผมพูดตรงๆเลยนะ ป่าดูมีเสน่ห์มากกว่าเดิมเสียอีก

            “น่ารักพอเข้าใจแต่น่าฟัดนี่มันยังไงๆนะแม็ค อีกอย่างปล่อยเราได้แล้ว”

            “น่าฟัดยังไง ก็อย่างนี้ไงล่ะ” ผมหอมแก้มเนียนแรงๆทั้งสองข้าง จนป่ายกมือมากันไว้

            “ปล่อยเราเถอะนะ” เสียงหวานทอดสายตาอ้อนๆให้ผม

            “ไม่ปล่อย”

            “เราต้องโทรหาพี่ฟิล์มก่อน ป่านนี้เป็นห่วงเราแย่แล้ว” ได้ยินแล้วผมรู้สึกหงุดหงิด

            “แล้วพี่ฟิล์มเป็นอะไรกับป่า”

            “เป็นพี่ไง พอดีพี่เอ็กซ์ให้มาดูแลเรานะ” สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความซื่อของป่านี่ละ

            “พี่เอ็กซ์นี่ใคร ทำไมต้องให้คนมาดูแลป่าด้วย” ผมถามเสียงเข้ม

            “พี่เอ็กซ์เป็นหัวหน้าเราเอง แถมยังเป็นแฟนกับพี่ป่านอีกเท่าที่เราสังเกตนะ” ได้ยินผมยิ้มกริ่ม

            “นึกว่าเป็นแฟนซะอีก” ผมบ่นอุบ

            “แฟนอะไรในเมื่อเรา.....”อยู่ๆป่าก็เงียบไป ผมชักอยากได้ยินประโยคสุดท้ายแล้ว

            “ในเมื่ออะไรครับ หืม” ผมก้มลงกระซิบ

            “ไม่บอก แล้วก็ปล่อยเราได้แล้วนะแม็ค”  ป่าทำแก้มพองมันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ

            “ไม่ปล่อย ฉันไม่ปล่อยอีกแล้วนะ ป่าคบกับฉันนะ”

            “อะ..อะไรนะ”

            “คบกันนะ ฉันไม่ยอมเสียเวลาแล้ว เถอะนะครับ”  ผมกุมมือป่าไว้ ใบหน้าเนียนแดงซ่าน ตากลมโตคลอไปด้วยน้ำตา ก่อนที่จะไหลออกมา ริมฝีปากบางยกยิ้มบาง

            “ฮึก ไม่มีทางแน่ๆ ไม่มีทางหรอก” ป่าพูดเหมือนย้ำกับตัวเอง

            “ฉันรักป่านะ ขอโทษที่รู้ตัวช้า”

            “ฮึกฉันไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ”

 

            “ฉันถือว่าป่าตกลงคบกันแล้วนะ” ในเมื่อไม่ตอบก็มัดมือชกนี่ละ “ไม่ต้องร้องแล้วนะ เดี๋ยวไม่สบายอีก” ผมไม่รู้ว่าอาการป่วยของป่าเป็นยังไงแล้วบ้างแต่ถึงไม่ป่วยร้องไห้หนักๆนี่ไม่ดีเลย ป่าเช็ดน้ำตา แล้วนั่งก้มหน้าไม่ดิ้นหนีผมอีกแล้ว ผมกอดป่าไว้และผมจะไม่มีวันปล่อยคนๆนี้ออกจากอ้อมกอดเลยเด็ดขาด เหมือนคนในอ้อมกอดนิ่งไป ผมอุ้มป่าเข้าไปนอนให้ห้องนอน เสียงเรียกเข้าที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้น ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

            - P’Film-         

            ผมกดรับ

            “สวัสดีครับ”

            “(คุณแม็คผมมารับคุณป่ากลับ ตอนนี้อยู่หน้าคอนโดคุณ)”

            “พอดีป่าหลับไปแล้วผมจะให้ป่าพักที่นี่ พี่ฟิล์มกลับไปเลยก็ได้นะครับ”

            “(ครับ ฝากบอกคุณป่าด้วยนะครับว่าพรุ่งนี้ผมจะมารับ)” ผมกำลังจะตอบว่าจะไปส่งเองสายก็ตัดไปแล้ว เรื่องอะไรผมจะยอม อาบน้ำเสร็จผมก็สอดตัวเข้าไปในผ้าห่มรั้งคนที่นอนนิ่งมากอด  แล้วหลับตาลง

            แสงแดดอ่อนยามเช้าผมลืมตามองคนที่ยังนอนหลับอยู่ในอ้อมแขนผม  ถ้าผมไม่เสียเวลาขนาดนั้นผมคงได้ตื่นมาเห็นหน้าป่าทุกวัน ผมนอนมองป่าไม่อยากลุกไปทำงานแล้วสิ ถ้าทำอย่างนั้นจริงๆผมคงโดนพ่อมาฟาดกระบาลถึงห้อง คนในอ้อมกอดตื่นแล้วแต่เหมือนยังเบลอๆอยู่

            “อรุณสวัสดิ์” ผมทักป่า ที่ตอนนี้ก้มหน้างุด

            “อะ..อรุณสวัสดิ์ กี่โมงแล้วแล้วเราต้องไปทำงานนะ” ผมเงยหน้ามองนาฬิกาที่โต๊ะ

            “หกโมงเช้าแล้ว ป่าไปอาบน้ำเลยนะเดี๋ยวเราไปส่งที่ทำงาน” ผมตัดใจลุกจากเตียง

            “อือ ไม่ต้องก็ได้มั้งเดี๋ยวเราให้พี่ฟิล์มมารับ” ป่างั้วเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียง โอ๊ยยผมอยากนอนฟัดป่าทั้งวัน คนอะไรยิ่งมองยิ่งน่ารัก

            “ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราไปส่งเอง เดี๋ยวป่าหยิบเสื้อในตู้ได้เลยนะ” ผมว่าก่อนจะเดินไปที่ห้องครัวปล่อยให้ป่าทำธุระส่วนตัวไป ผมทำอาหารเช้าง่ายๆ พอมาอยู่คนเดียวผมก็ต้องอาหารเองบ้างแต่ก็ทำได้ไม่กี่อย่างหรอก ผมตั้งโต๊ะเสร็จแต่ป่ายังไม่ออกมา

            ปิ๊งป่องๆๆ เสียงกดกริ่งหน้าประตูรัวๆใครกันวะมาแต่เช้า ผมเดินไปเปิดประตู

            “อีแม็คคคคคคคคค” เสียงแปดหลอดมาพร้อมกับตัวกระโดดกอดผม

            “หน่า มาได้ไงวะ”

            “มึงกูจะไปเที่ยวที่อิตาลี่ กูเลยเอาลูกมึงมาส่ง” หน่าว่าก่อนจะปล่อยตัวผมแล้วหลบให้เห็นตัวแสบที่ยืนแอบอยู่ข้างหลัง ทำไมไม่โทรมาบอกก่อนวะ

            “แม็ค”  เสียงเรียกเบา ผมรีบหันกลับไป ป่าที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วยืนนิ่งอยู่ข้างหลัง

            “ป่า”

            “แม็คคงไม่สะดวกไปส่งเรา เดี๋ยวเรากลับเอง ขอโทษที่รบกวนนะ” ป่าก้มหน้าไม่กล้าสบตาผม คงเข้าใจผิดไปแล้วแน่ๆ

            “ป่าไม่ใช่แปบที่ป่าเข้าใจนะ” ผมเดินเข้าไปกุมมือที่สั่นเบาๆ

            “ไม่หรอกเราเข้าใจแล้ว ขอโทษนะ”

            “เข้าใจบ้าอะไรล่ะ”  ผมตะคอกทำไมต้องขอโทษด้วย ผมดึงตัวป่าเข้ามากอด ทันทีที่อยู่ในอ้อมกอดผมป่าก็ร้องไห้ โธ่เว้ย ทำไมเป็นแบบนี้ได้วะ

 

 

 

 

 

 

 

            “ป่า แกบอกว่านั่นป่าเหรอฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม กรี๊ดดอีแม็คมึงหลบๆ” เสียงกรี๊ดแปดหลอดที่ผมชินเสียแล้ว แต่ป่าคงไม่ชิน เพราะทันทีที่ได้หน่ากรี๊ดป่านี่สะดุ้ง ผมจำต้องปล่อยป่าออกจากอ้อมแขนเพราะไอ้หน่าฟาดที่ไหล่ผมรัวๆ

            “ป่า ฉันคิดถึงแกมากกกกกกกก” บอกเฉยๆก็ได้มั้งทำไมต้องเข้าไปกอดขนาดนั้นด้วยวะ

            “ถ้าไอ้แม็คมันไม่โง่นะฉันคงไม่ต้องรู้สึกผิดมาหลายปีหรอก ป่าดูเปลี่ยนไปมากเลยนะ น่ารักขึ้นเยอะเลย” ป่าหันมาสบตาผมงงๆ ในขณะที่หน่าก็หมุนตัวป่าเหมือนหุ่น

            “พอแล้วป่าเวียนหัวหมดแล้ว ปล่อยเลยปล่อย” ผมเข้าไปแยก ดึงป่าเข้ามากอด

            “แหมๆได้ข่าวว่าโง่อยู่หลายเดือน พอเจอนี่ไม่ค่อยนะยะ” หน่าค้อนผม แต่ใครสน

            “คุณป๊า ดารินกอดด้วย” ยัยตัวยุ่งชูมือให้ผมอุ้ม แต่หน่าอุ่มขึ้นก่อน

            “ตัวแสบดูคุณป๊าสิได้เจอแฟนแล้วลืมเราเลย” ยัง ยังเล่นไม่เลิก ผมมองคนในอ้อมกอดที่ตอนนี้ทำหน้างงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

            “เลิกเล่นได้แล้วหน่า ป่านั่นดารินลูกยัยหน่าเอง”

            “แล้วทำไมเรียกแม็คว่าป๊า..” ป่าพึมพำ

            “ก็เราเป็นพ่อทูลหัวยัยตัวยุ่งก็เลยเป็นคุณป๊า เลิกคิดมากได้แล้วครับ ฉันรอแค่นายมาตลอดนะ”

            “อ้วกกกกกกกก แล้วทีป่ารอแกละ แหมมาทำเป็นบอกว่ารอแค่ป่า” ผมลืมไปได้ไงว่ายังมีก้างตัวเบอเร่ออยู่ในห้อง ขัดกันจริงๆ

            “ไปไหนก็ไปไป๊ ปล่อยเจ้าตัวยุ่งอยู่นี่ละ”

            “แหมก็ได้ย่ะ ตัวแสบเดี๋ยวอยู่กับคุณป๊านะลูก อย่าดื้อละ เดี๋ยวคุณแม่จะชื้อขนมมาฝาก ฝากด้วยนะแม็ค แล้วเจอกันนะป่า”

            “ไอ้หน่า!!” ผมร้องเพราะหน่าไม่ลาเฉยๆยังมาหอมแก้มอีก หอมเสร็จก็ทำหน้าดีใจก่อนจะโบกมือลา มันน่านัก

            “ฆ่าเชื้อ” ว่าแล้วผมก็หอมแก้มเนียนแรงๆทั้งสองข้าง

            “แม็ค!!” ป่าให้รางวัลผมโดยการฟาดเข้าที่หน้าอกผมแรงๆหนึ่งที

            “คุณป๊า ดารินหิว”  เสียงดารินขัดขึ้นพอดี

            “ครับๆไปทานข้าวกันนะคนดี” ผมก้มลงจะอุ้มดาริน

            “ไม่เอา ดารินจะให้แฟนคุณป๊าอุ้ม” อ่าวลูกผมเมินผมแล้วครับ  ป่าทำหน้างงๆแต่ก็ยอมอุ้มโดยดี พอได้ดั่งใจดารินนี่ยิ้มกริ่ม กอดคอป่าแน่นอะไรจะติดขนาดนั้นครับ ผมปล่อยให้แม่ลูก เค้าอยู่ด้วยกันไป อ่าไม่ใช่เหรอครับ  ผมปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกันส่วนตัวผมขอไปทำธุระส่วนตัวก่อนเน่ามาแต่เช้าแล้ว  ผมแต่งตัวออกมาก็เห็นสองคนนั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟา

            “ไปกันได้แล้วครับ เดี๋ยวเราไปส่งป่าที่ทำงานก่อน”

            “ดารินอยากไปอยู่กับน้าป่า”

            “ไม่เรียกน้านะคะเรียกป่าว่าคุณม๊าสิ”

            “พูดอะไรนะแม็ค เดี๋ยวเหอะ ไปกับน้าเดี๋ยวจะเบือนะครับ”

            “ไม่เอ๊า จะไปกับคุณม๊า” แหมเป็นลูกที่หัวไวจริงๆ ป่าค้อนผมวงใหญ่

            “เอาไงดีอ่ะแม็ค” ป่าส่งสายตาขอความช่วยเหลือเพราะเหมือนดารินจะติดป่ามาก

            “ป่าสะดวกไหมที่จะให้ดารินไปอยู่ด้วย”

            “เราไม่มีปัญหาหรอกนะกลัวแต่น้องจะไม่สนุก”

            “เดี๋ยวเราจะไปหาตอนเที่ยงนะ” ผมยิ้มให้ป่า ที่เหมือนจะเขินทุกครั้งเวลาที่ผมยิ้มให้ ทำให้ผมอดใจไม่ไหวที่จะหอมแก้มแดง

            ผมขับรถไปส่งป่าที่ทำงาน โรงแรมนี้มันโรงแรมในเครืออคิราห์กรุ๊ป หรือว่าพี่เอ็กซ์ที่ป่าพูดถึงคือคุณอคิราห์ ได้เจอเพียงไม่กี่ครั้งแต่ก็รู้ว่าคนๆนี้เป็นคนที่ไม่ควรจะเป็นศัตรูด้วย

            “เดี๋ยวมาหาตอนเที่ยงนะ อยู่กับม๊าอย่าดื้อนะคะคนเก่ง” ผมรีบหลบมือเรียวที่ฟาดมาไม่ยั้ง

            ผมมาทำงานด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ ชักอยากให้ถึงตอนเที่ยงเร็วๆซะแล้วสิ

            “ยิ้มอยู่นั่นละค่ะ คุณแม็ค อารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นค่ะ”  เลขาคนใหม่ที่ผมเอาตัวมาทำงานนี่เป็นเพื่อนสมัยมหาลัยผมเอง ผมถึงทำงานได้อย่างสบายใจเพราะเป็นคนขยัน แถมเป็นคนตรง 

            “นี่ผมดูออกขนาดนั้นเลยเหรอครับ”  นี่แสดงออกชัดขนาดนั้นเลยเหรอ

            “ค่ะ หน้าบานเป็นจานดาวเทียมแล้วค่ะ นี่เอกสารที่คุณขอเมื่อวาน ส่วนนี่เป็นเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ ส่วนเรื่องงานนัดหมายนี่วันนี้ไม่มีนะคะ ถ้าเสร็จงานแล้วคุณแม็คก็ว่างค่ะ” ผมมอองเขม่น

            “งั้นผมเซ็นนี่เสร็จก็ว่างแล้วสินะ คุณก็ถ้าไม่มีงานก็กลับได้เลยนะ” ผมรีบอ่านเอกสารให้เสร็จเพื่อที่จะได้ไปหาที่รักผมซะที

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แค่กๆเนียนกว่าแม็คนี่ไม่มีแล้วค่ะ

สำหรับเรื่องนี้ อีกไม่นานนะจะจบแล้ว

ประมาณได้ห้าหกตอน และตอนพิเศษอีกสองตอน (เท่าที่คิดไว้นะคะอาจจะเกินถ้าแต่งเพลิน)

อ้อตอนนี้เขียนเรื่องสั้นไว้ เดี๋ยวจะเอาลงในเพจให้นะคะ

จบจากเรื่องนี้จะไปแต่น้องเหมียวต่อ ซึ่งที่แพลนไว้ก็น่าจะไม่เกินสิบตอน

ส่วนคู่อื่นๆในเรื่องนี้ยังอยากอ่านกันอยู่ไหม ก็พิมพ์ๆไว้บ้าง

แล้วเจอกันนะจุ๊ฟๆรักคนอ่าน
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่22 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 28-08-2016 14:00:30
นึกว่าจะต้องเคลียร์กันยาวซะอีก ก็ในเมื่อไม่ได้เจอกันมานาน
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่23 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 28-08-2016 16:23:33
เนียนนะแม็ค
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่23 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-08-2016 17:49:06
หวังว่าต่อไปจะราบรื่นนะครับ
รอคู่อเล็กซ์-เต้ ^^
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่23 28/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-08-2016 18:56:40
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Day 24 : พ่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 29-08-2016 10:17:50
“พี่ป่าไปขโมยลูกใครมาคะเนี้ย น่าตาน่ารักน่าชังน่าฟัดมาก” นุ่นเดินเอาแฟ้มมาให้ผมที่ห้อง ก่อนที่จะเดินเข้ามาหาดาริน

            “สวัสดีค่ะ” ดารินยกมือไหว้ เป็นเด็กที่น่ารักจริงๆ

            “ทำอะไรกันอยู่นะ” พี่นัทไม่รู้ว่ามาตั้งแต่ตอนไหนยืนอยู่หน้าประตูห้องทำงานผม

            “สวัสดีครับพี่นัท ดารินสวัสดีอานัทสิครับ”

            “สวัสดีค่ะอานัท” พี่นัทยกมือรับไหว้

            “สวัสดีค่ะตัวเล็กชื่ออะไรคะ” พี่นัทย่อตัวคุยกับดาริน

            “หนูชื่อดารินค่ะ” ดารินยิ้มตาปิด เหมือนกับจะตกหลุมความน่ารักของดารินกันทั้งสองคน พอพี่นัทชวนดารินไปทานขนมผมเลยอนุญาตให้ดารินไปเพราะดารินเหมือนจะอยากไป ผมเลยรีบเคลียงาน

            ก๊อก ก๊อก

            “เที่ยงแล้วนะไม่ไปทานข้าวเหรอ”

            “แม็คมาเร็วจัง” ผมยิ้ม

            “อ่าวตัวแสบละ”

            “อ้อพี่นัทเอาไปเลี้ยงนะ” แม็คทำหน้างงก่อนจะเดินเข้ามานั่งเข้ามานั่งที่โซฟามองผมทำงาน นี่จะจ้องกันทำไมเนี้ย

            “ว่าแต่ไม่ได้ทำงานเหรอ”

            “งานเสร็จแล้วเลขาหมั่นใส้เลยไล่ให้ไปพ้นหน้า”

            “ฮ่าๆๆ จริงๆฉันว่าแม็คอู้มากกว่านะ” ผมดูงานไปซักพักเลยปิดแฟ้มแล้วชวนแม็คไปหาดาริน แม็คเดินเคียงข้างผม ผมเหลือบมองคนที่มองโน้นมองนี่อย่างสนใจ  แม็คดูดีขึ้นกว่าเดิม ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก

            “มองขนาดนี้กลับไปมองที่บ้านไหมครับ” ผมหันหน้าหนีแทบไม่ทัน ไอ้สายตาล้อๆนี่มันน่าจิ้มจริงๆ

            “แม็คนี่ก็มั่วนะ” ผมว่าก่อนจะรีบสาวเท้าเดินหนีแม็คไปที่ห้องทำงานของพี่นัท

           

            ก๊อก ก๊อก

            “ดารินเป็นไงบ้างครับพี่นัท” ผมค่อยโผล่หัวเข้าไป

            “หลับไปแล้วละ นี่กินข้าวรึยังเที่ยงแล้วนะ” พี่นัทกระซิบบอกผมมองไปที่โซฟาก็เห็นว่าดารินนอนหลับเรียบร้อยอยู่บนโซฟา

            “เดี๋ยวว่าจะลงไปทานนะครับ พี่นัทนี่เลี้ยงเด็กเก่งนะครับเนี้ย” ผมเดินเข้าไปขยับผ้าห่มให้คลุมหน้าอก ท่าทางจะหลับยาว

            “พี่เคยเลี้ยงหลานเจ้านายมาก่อนนะ” ผมพยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปทานข้าว พี่นัทบอกว่าจะเป็นคนดูดารินเอง พี่นัทคุยอะไรหลายอย่างกับแม็ค ท่าทางจะรู้จักกันมาก่อน ผมพาแม็คลงไปทานข้าวด้วยกัน

            “นี่ว่างจริงๆเหรอแม็ค” ผมถาม ประธานบริษัทไม่น่าจะว่างจนขนาดมานั่งมองดูผมกินข้าวหรอกนะ

            “ว่างสิเราเคลียงานไว้แล้ว ป่า เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านเรานะ” ผมรีบเงยหน้าทันที

            “ไม่ไปได้ไหม” ผมถามเสียงอ่อย

            “ไม่ได้ครับที่รัก” แม็คยิ้มกว้าง นิสัยเผด็จการของแม็คนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยเหมือนกับรอยยิ้มที่ทำให้ผมไม่สามารถปฎิเสธได้ ผมพยักหน้าตกลง ทานข้าวด้วยกันเสร็จแม็คก็ตามผมขึ้นไปที่ห้องทำงานนี่จะอยู่กับผมจนถึงเย็นจริงๆเหรอ

            “ป๊าขา หนูจะไปกับอานัทนะคะ” ดารินวิ่งเข้ามากอดแม็คทันทีที่เราสองคนเข้ามาในห้องทำงาน

            “อยู่กับป๊าดีกว่านะคะ เดี๋ยวอานัทต้องทำงานนะ” แม็คนั่งลงคุยกับดาริน

            “หนูไม่กวนหรอกนะคะ คุณป๊าให้หนูไปเถอะนะคะ” ดารินส่งเสียงออดอ้อนได้น่ารักน่าชัง

            “ให้ไปเล่นกับผมก็ได้ครับ ดารินไม่ได้กวนอะไรผมหรอกคุณแม็ค”  พี่นัทคนอะไรเนื้อหอมเฉพาะกับเด็ก เด็กๆนี่ติดพี่นัทมากแค่ได้คุยไม่กี่นาที

            “ขอบคุณมากนะครับ” แม็คยิ้มกว้างก่อนจะคุยกับดารินสองสามคำ  แล้วพี่นัทก็พาน้องไป ผมเดินไปที่โต๊ะทำงานเพื่อเคลียงานที่ยังเหลืออยู่ แม็คนั่งเล่นที่โซฟารับแขกในห้อง ผมรู้สึกว่าแม็คจ้องผมอยู่นานแล้ว ผมเงยหน้าจากกองเอกสารไปมองแม็คเชิงถามว่ามองผมทำไม

            “ก็คิดว่าดีใจที่ป่ากลับมา อยากมองไม่ให้คลาดสายตา” ผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนเหมือนอยู่บนเตาไฟ

            “พูดไปเรื่อย” ผมก้มหน้าเอกสารตรงหน้านี่ไม่เข้าหัวผมชักอย่าง

            “พูดจริงนะป่า”

            “แม็ครู้ตอนไหนละ ถ้าเราไม่ไปรักษาตัว แม็คคงไม่รู้ใช่ไหมล่ะ” ผมพูดเคืองๆ ยังจำจูบที่ชายหาดตอนนั้นได้อยู่นะ จูบผมเสร็จหลังจากนั้นก็ตกลงคบกับหน่าเลย ผมเซ็นเอกสารด้วยอาการเคืองๆยิ่งคิดก็ยิ่งเคืองถ้าตอนนั้นผมอาการไม่ทรุด หรือถ้าผมเหมือนคนปกติทั่วไปผมคงเข้าไปต่อยซักที แต่เอาจริงๆถ้าตอนนั้นผมคงไม่กล้าแต่ถ้าเป็นตอนนี้ผมกล้านะ

            “โธ่ป่า เราขอโทษ” ไม่ต้องทำเสียงอ่อยเลย ผมตีหน้านิ่งเปิดเอกสารไปเรื่อย

            “เฮ้ย แม็คปล่อยเรานะ”แม็คเดินมาด้านหลังผมเงียบๆก่อนที่จะอุ้มผมขึ้นจากเก้าอี้ทำงานของผมแล้วเดินมานั่งที่โซฟา ผมไม่ได้ตัวเล็กเหมือนดารินนะจะได้อุ้มเหมือนเบาหวิวแบบนี้ ผมดิ้นแต่วงแขนแกร่งกับรัดผมแน่น ผมเลยเลิกดิ้น

            “เลิกดิ้นแล้วเหรอ” ลมหายใจอุ่นเป่ารดต้นคอ ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ

            “ถ้าดิ้นแล้วจะปล่อยเราไหมล่ะ” ผมแหน็บแล้วนั่งนิ่งๆ

            “หึ” แม็คหัวเราะแต่ไม่พูดอะไรต่อ แม็คซบหน้าลงที่บ่าผม

            “เป็นอะไร” ผมถามคนที่ซบหน้าเงียบแล้วถอนหายใจ

            “ขอโทษ ถ้าวันนั้นพี่ป่านไม่อยู่ด้วย เราคงไม่ได้กอดป่าอย่างนี้” แรงรัดจากอ้อมแขนแน่นขึ้น ผมสัมผัสได้ถึงอาการตัวสั่น

            “แม็คปล่อยเราก่อนนะ” ผมเอี้ยวตัวหันไปหาแม็ค แขนแกร่งปล่อยให้ผมขยับตัวได้ แม็คตอนนี้ดูเหมือนแก้วที่ร้าวหากแตะนิดหนึ่งอาจพังทลายลง แม็ครู้แล้วสินะว่าผมอาการทรุดลงวันนั้น ผมแตะเบาๆที่แก้ม แม็คเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีฟ้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวด ผมไม่ได้โกรธแม็คที่คบกับหน่า เพราะผมเป็นคนที่แอบรักแม็คเอง ตอนนั้นผมคุมตัวเองไม่ได้อาการผมทรุด

            “แม็คไม่ต้องรู้สึกผิดหรอกนะ มันผ่านไปแล้ว เราอยู่นี่แล้วไง”  ผมลูบแก้มเชิงปลอบ มันไม่เหมาะเลยที่จะมีความรู้สึกผิด แม็คจับมือผมแนบลงกับแก้ม

            “ขอบคุณนะที่กลับมา” แววตาที่ส่งมาทำให้ผมรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าลงแต่มือหนากลับจับคางผมให้สบตานิ่ง ก่อนที่ใบหน้าที่ทำให้ผมใจเต้นรัวจะเข้ามาใกล้ ริมฝีปากค่อยๆแตะอย่างแผ่วเบา ก่อนที่ค่อยๆไล่เลียริมฝีปากบาง ผมถอยหนีแต่มือหนากับล็อกท้ายทอยผมไว้

            “อ๊ะ..” แม็คฉวยโอกาสที่ผมอ้าปากจะหยุด แนบริมฝีปากลงมาปลายลิ้นไล่รุกเร้า ยิ่งพยายามหนี แม็คยิ่งรุกไล่ ในหัวของผมขาวโพลน

            “อื่ม อ๊ะ” เสียงครางที่เปล่งออกมาทำให้ผมยิ่งรู้สึกอาย ความเย็นที่แผ่นหลังทำให้ผมรู้สึกตัว ผลักแม็คออก ผมหอบเหมือนไปวิ่งแข่งมา

            “อย่าทำหน้าอย่างนี้สิ” แม็คกระซิบเสียงแหบพร่าก่อนที่จะใช้นิ้วเช็ดที่มุมปากผม

            “พะ..พอแล้ว” ผมห้ามด้วยเสียงแผ่วเพราะมือของแม็คนั้นไม่อยู่นิ่ง ผมรีบจับข้อมือหนาไว้ก่อนที่จะลูบลงต่ำกว่านี้

            “ฮึ่ย อยู่อย่างนี้ซักพักนะ” แม็ครวบตัวของผมไปกอดก่อนที่จะซบลงที่ซอกคอถอนหายใจแรง ผมได้แต่นั่งอยู่บนตักนิ่งๆไม่กล้าขยับ ในใจผมนี่เต้นรัวยังดีที่ผมหายไม่งั้นคงได้หัวใจวายวันละหลายๆรอบ

            “ปล่อยเราลงได้แล้วมั้ง ไม่หนักรึไง”  ผมว่าเบาๆ

            “ไม่หนัก เย็นนี้ไปทานข้าวที่บ้านเรานะ”

            “เอ่อ ..แต่ว่า”

            “นะ” ไม่ต้องมาทำตาอ้อนเลย

            “ก็ได้” ผมตอบรับแม้จะรู้สึกกังวล แม็คยิ้มกว้างที่ทำให้ผมยิ้มบางตอบ

            “ป่ายิ้มแล้วน่ารักจริงๆนะ” ผมหุบยิ้มแทบไม่ทันก็เล่นพูดแบบนี้ทำให้ผมเขินนะสิ ผมรีบพลิกตัวลงจากตักแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ โดยไม่มองหน้าแม็คใครจะไปมองได้ละ เล่นทำหูตาระยิบระยับ ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าคิดเรื่องอะไรอยู่

            ก๊อกๆ

            “พี่เอาคนสวยมาส่ง เย็นแล้วกลับเลยได้นะป่า” พี่นัทพาดารินมาส่ง

            “ขอบคุณมากเลยนะครับพี่นัทที่ดูแลดารินให้”

            “ไม่เป็นไร น้องน่ารักมาก”

            “ดารินเป็นเด็กดีค่ะ” ดารินยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งมานั่งตักแม็ค

            “งั้นเดี๋ยวผมกลับก่อนนะครับพี่นัท แล้วนี่พี่เอ็กซ์จะกลับมารึยังครับ” ผมเก็บข้าวของกับแฟ้ม พลางถามหาพี่เอ็กซ์ที่หายไปร่วมอาทิตย์แล้ว

            “บอสบอกล่าสุดก็ไม่น่าจะเกินวันมะรืนนี้นะ ทำไมเหรอ”

            “เปล่าครับบอกพี่เอ็กซ์ด้วยนะครับว่าให้รีบกับมาง้อพี่ป่านด้วยนะ ช้ากว่านี้ผมไม่รับประกัน” ผมไม่โทรไปบอกหรอกนะครับ ยังไงผมก็เข้าข้างพี่ผมอยู่แล้ว พี่นัททำหน้างงๆ ก่อนจะพยักหน้า

            “มี๊ขากลับเถอะคะ” ผมหันควับไปมองพ่อลูก แม็คยืนนิ่งที่มองก็รู้ว่าแอบกลั้นขำอยู่ พี่นัทยิ้มบาง จะให้โวยวายก็ไม่ได้เพราะดารินเป็นคนพูด อย่าให้ถึงที่ผมก็แล้วกัน

            “มาเดี๋ยวถือให้ป่าจูงมือตัวแสบเถอะ” แม็คแย่งเอางานที่ผมหอบไปถือแล้วเดินนำ ดารินวิ่งมาจับมือผม บอกลาพี่นัทแล้วเดินตามแม็คไปที่รถ

            ผมอุ้มดารินนั่งข้างหลังให้เรียบร้อยก่อนคาดเบลล์ค่อยกลับมานั่งหน้ากับแม็ค ขับรถมาเรื่อยๆแต่ทำไมผมถึงรู้สึกตื่นเต้นจังนะ

            “เป็นอะไรเหรอ”

            “คือ..เราตื่นเต้น” ผมบอกเบาๆ

            “ไม่เป็นไรหรอกน่า” แม็คว่าก่อนเอื้อมมือมาขยี้หัวผม แม็คเลี้ยวเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น รถจอดแล้ว ผมลงจากรถแล้วไปอุ้มดารินที่นั่งงัวเงียจะหลับแล้ว ส่วนแม็คหอบเอางานของผมกับกระเป๋าเป้ของดาริน ผมเดินตามแม็คเข้าไปในบ้าน ดารินหลับสนิทอยู่บนบ่าผม

            “อ่าวคุณหนูทำไมได้กลับบ้านละคะวันนี้” ผู้หญิงสูงวัยที่ดูท่าทางใจดีเดินเข้ามาหาแม็คแล้วเรียกเด็กมารับเอาของที่อยู่ในมือแม็คไปเก็บ

            “อ้อวันนี้พาคนสำคัญมาทานอาหารฝีมือป้าดานะครับ” แม็คยิ้มร่า ป้าดามองมาที่ผม ผมจะยกมือไหว้แต่ก็ติดที่อุ้มดารินอยู่

            “เอ๋คุณหนูคนนี้ คนนั้นใช่ไหมคะ”

            “ใช่แล้วครับ”

            “ตัวจริงน่ารักมากเลยนะคะ” สองคนคุยกันในสิ่งที่ผมงง

            “สวัสดีครับ” ผมค้อมหัวลง

            “ไม่ต้องลำบากหรอกคะคุณป่า เดี๋ยวให้ป้าอุ้มหนูดารินให้นะคะ”

            “ไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวผมพาน้องไปนอนเลยดีกว่าเดี๋ยวจะตื่นงอแง” ผมบอกป้าดา

            “เดี๋ยวผมพาป่าขึ้นข้างบนก่อนนะ แล้วนี่มีนมันกลับมารึยังครับป้า”

            “ยังเลยค่ะ คงจะใกล้จะกลับแล้วละค่ะ” ผมยืนรอซักครู่ แม็คก็เตะเอวผมแล้วพาผมขึ้นข้างบน

            “ไหวไหมให้เราอุ้มดีกว่าไหม”

            “ไหวสิไม่เป็นไรหรอก” แม็คเปิดประตูห้องผมเดินไปที่เตียงค่อยๆวางดารินลงที่เตียงห่มผ้า ดารินที่นอนหลับสนิทเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ เราสองคนเดินออกจากห้อง พอออกจากห้องปุ๊บแม็คก็คว้ามือผมแล้วพาผมไปที่ห้องๆหนึ่ง

            “พามาไหนเนี้ย”

            “ห้องเราเอง ป่าเข้าไปอาบน้ำก่อนเลยก็ได้ กว่าพ่อจะกลับก็อีกชั่วโมง”

            “แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามาเลยนะ”

            “ใส่ของเราก็ได้”

            “แต่เราจะกลับบ้าน”

            “คืนนี้ค้างที่นี่นะ”

 

            ผมไม่รู้ว่าการที่ต้องเจอกับพ่อแม็คหรือการที่ผมต้องค้างที่นี่อย่างไหนหน้าหวาดหวั่นกว่ากัน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

กลับมาแล้วหลังจากไปติ่งที่กรุงเทพ

กลับมาก็ต้องเคลียงาน พึ่งได้มาพิมพ์ต่อ

ขออภัยที่ช้า

ขอบคุณคนที่ยังรอ

รักทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
หมดสต๊อกแล้วนะคะทุกคน
ฮ่าๆ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาพูดคุยกันน้า
เนียนกว่าแม็คไม่มีแล้วค่ะ ส่วนคู่เต้กับอเล็กซ์อาจมาหลังคู่พี่ป่านนะ
จะลงกระทู้นี้ต่อเลย
ทำใจเรื่องการดองนะคะ ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่24 29/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 29-08-2016 11:33:20
เจอป่าปุ๊บ ก็พากลับบ้านเลยนะแม็ค

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่24 29/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: LovEYouOnLy ที่ 30-08-2016 00:19:17
ไม่อยากให่ดองเลยอ่าาา
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่24 29/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 30-08-2016 00:28:18
เร็วกว่านี้ไม่มีแล้ว
แม็ครุกซะไม่ให้ป่าตั้งตัวได้เลยนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่24 29/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 30-08-2016 00:32:37
แม็คดูรีบมาก555
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 31-08-2016 15:24:41
ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินออกมา แม็คนั่งหันหลังให้ผมอยู่บนเตียงเหมือนจะดูอะไรบางอย่าง ผมเอาผ้าขนหนูพาดคอไว้เดินไปหาแม็ค
   “ดูอะไรอยู่เหรอ” แม็คสะดุ้งแล้วหันมาหาผม
   “ทำไมไม่เช็ดผมให้ดีๆ”
   “เดี๋ยวก็แห้งน่า ว่าแต่ดูอะไรอยู่อ่ะ” ผมชะโงกหน้าเพื่อมองว่าแม็คอ่านอะไร
   “นั่งลงเลย” แม็คซ่อนของบางลงใต้ผ้าห่ม แล้วสั่งให้ผมนั่งลง ผมนั่งลงบนเตียงใหญ่แม็คหันมานั่งซ้อนข้างหลังผมคว้าเอาผ้าขนหนูไปเช็ดผม อ่าสบายจัง เหมือนตอนนั้นเลย
   “เหมือนวันนั้นเลยนะที่แม็คเช็ดผมให้ ว่าแต่ตอนนั้นแม็คคิดไงว่าเช็ดผมให้เรา” ผมพูดยิ้มๆ
   “อืม เราก็จำไม่ได้นะ รู้อีกทีก็ทำไปแล้ว” แม็คว่าเรียบๆ ผมยิ้มกว้าง นั่งนิ่งให้แม็คเช็ดผมจนแห้ง แต่แม็คก็ยังลูบผมเล่น ผมเอียงหัวอิงมือหนา
   “ผมป่านุ่มมาก” แม็คพูดเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่า “ผมสีนี้เหมาะกับป่ามากเลยนะ”
   “เหรอ อเล็กซ์เป็นคนเลือกสีนี้”  มือที่กำลังลูบผมหยุดนิ่ง ผมหันไปมองอย่างแปลกใจ หยุดทำไมกำลังสบายเลย
   “อเล็กซ์นี่ใครเหรอเห็นไอ้เต้พูดถึงท่าทางจะสนิทกันมากนะ”  น้ำเสียงเหมือนจะหงุดหงิด
   “สนิทสิ อเล็กซ์คอยช่วยเหลือหลายๆอย่างพาไปเที่ยวตอนอยู่ที่โน่นเลยไม่เหงาเลยละ” ยิ่งพูดยิ่งคิดถึง อเล็กซ์เหมือนเพื่อน เหมือนพี่ชาย
   “นี่เลิกพูดถึงได้แล้ว”
   “โอ๊ยเจ็บนะ” ผมโวยวายเพราะแม็คจากที่ลูบอยู่ดีๆก็ขยี้หัวผมซะฟูหมด
   “หึงรึไง” ผมถามเล่นๆ
   “เออ หึง” ผมรีบหันไปมองแม็คที่ตอนนี้หันหน้าหนีผม ใบหูแดงระเรือ ทำเอาผมยิ้มกว้าง
   “แม็คนี่.... แม็คเขินเหรอ เขินเค้าเหรออออ” ผมลากยืนหน้าไปใกล้แล้วยิ้มกว้างทำเสียงล้อ ไม่เคยเห็นแม็คเสียลุคมาก่อนเลย
   “ล้อเข้าเดี๋ยวจะยิ้มไม่ออก ลงไปข้างล่างกันเถอะ” แม็คพูดขู่แต่ตอนนี้ผมกลับดูเหมือนเป็นอาการของคนกลบเกลือนความอายซะมากกว่า ผมขำแล้วเดินตามแม็คลงไปข้างล่าง  พอดีกับมีคนที่กำลังเดินเข้าบ้านมา
   “อ่าวพี่วันนี้กลับบ้านด้วยเหรอ” น้องชายแม็คเหรอ ตัวเท่าๆกันกับพี่ชายเลย มีความคล้ายคลึงกับแม็คอยู่หลายส่วน
   “ไงมีนกลับมาแล้วเหรอ พอดีเลยพี่มีคนจะแนะนำให้รู้จัก” แม็คจับไหล่ดันผมให้มายืนอยู่ข้างหน้า
   “ใครเหรอ” น้องมีนถามขณะกำลังถอดรองเท้าเงยหน้าขึ้นมามอง
   “นี่ป่า แฟนพี่เอง” ผมหันไปมองแม็ค ทำไมบอกน้องแบบนั้น
   “โอ้วคนนี้เหรอพี่สะใภ้ สวัสดีครับผมมีนนะครับ ได้ยินพี่แม็คพูดถึงมาตั้งนาน ได้เจอตัวจริงน่ารักกว่าที่พี่แม็คพูดเอาไว้ซะอีก” ผมรับไหว้มีนแทบไม่ทัน รอยยิ้มกว้างของมีนเหมือนกับแม็คเลย
   “แม็คนินทาอะไรพี่ไว้บ้างละ”
   “โหยพี่อย่าให้พูดถึงมาผมจะเล่าให้ฟัง” มินเดินมากอดคอผม
   “เฮ้ยๆนั่นมันเกินไปแล้วนะ” แม็ครีบเดินมาแยกผมกับมีน
   “ผมน้องพี่นะ”
   “น้องกูก็หวงเว้ย”  มีนโวยวายแข่งกันกับแม็ค เหมือนกันจริงๆ ผมแอบขำ นับตั้งแต่ที่เจอกันรู้สึกว่าแม็คจะเพิ่มระดับความหวงขึ้นเรื่อยๆ
   แม็คเดินเข้าครัวไปปล่อยให้ผมนั่งคุยกับมีนที่ตอนนี้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย มีนคุยเก่งมาก แถมนินทาพี่ตัวเองให้ผมฟังผมได้รู้อะไรหลายๆอย่างเลย ช่วงที่ผมอยู่เมืองนอก แม็คเป็นยังไง   
   “พี่ป่ารู้ไหม ตอนที่พี่แม็คบอกว่ามีคนที่ชอบแล้วตอนนั้นประมาณพี่แม็คอยู่ปีสามนี่ละมั้ง พ่อพาไปเจอลูกสาวเพื่อนพ่อ พี่ท่านประกาศกลางโต๊ะดินเนอร์ว่ามีแฟนแล้ว แถมยังบอกว่าเป็นผุ้ชาย พูดจบพี่แม็คก็เดินหนีไปเลย จากนั้นก็ทะเลาะกันจนไม่คุยกันเลย” ผมนิ่งอึ้งกับสิ่งที่มีนบอก แม็คบอกพ่ออย่างนั้นเลยเหรอ
   “พอผมรู้ผมไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่หรอกนะ แต่บรรยากาศในบ้านนี่อย่างกับสงครามเย็นจนผมทนไม่ไหวระเบิดออกฮ่าๆๆๆ คิดแล้วก็ขำ แต่ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้วละ” มีนยิ้ม แต่ทำไมผมรู้สึกหนักใจจริงๆ ที่จะเจอหน้าคุณพ่อ
   “พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ยิ้มสิทำหน้าเครียดแบบนี้ไอ้พี่บ้ามันได้ฆ่าผมแน่โทษฐานทำพี่ไม่สบายใจ” มีนยิ้มกว้าง รอยยิ้มที่เหมือนกับแม็คทำให้ผมยิ้มตามได้ไม่ยาก
   “คุยอะไรกันอยู่หืม ท่าทางน่าสนุกนะ เดี๋ยวไปทานข้าวกัน มีนไปปลุกดารินหน่อย” แม็คเดินมานั่งข้างๆผมแล้วคว้ามือผมไปลูบเล่น เดี๋ยวนี้รู้สึกแต๊ะอั๋งผมบ่อยจริงๆนะ นิดๆหน่อยก็เอา แทะโน่นเล็มนี่ตลอดเลยนะ
   “ใช่ซี่ ผมหมดประโยชน์แล้วก็ไล่ มีแฟนก็ลืมน้อง” มินทำหน้าเศร้า
   “ไปดีๆหรือจะให้เตะ” แม็คทำหน้าโหด มีนทำหน้ากวนก่อนจะขึ้นไปปลุกน้องดารีน แม็คจูงมือผมไปที่โต๊ะทานข้าว รอคุณพ่อกลับมาเห็นว่ากำลังจะมาถึงแล้ว อ่าทำไมผมตื่นเต้นอย่างนี้นะ
   “ม๊าใจเต้นแรงจังค่ะ” ดารินที่นั่งบนตักผมพูดขึ้น
   “อ่า ดาริน อาว่า ดารินเรียกอาป่าดีกว่านะคะ” ทำไมจำแต่สิ่งบ้าๆบอๆที่แม็คสอนได้ละเนี้ย
   “ไม่เอ๊า ดารินจะเรียกอาป่าว่าม๊า” ผมแทบจะเอาหัวโขกโต๊ะทานข้าว
   “ฮ่าๆๆ ดารินไฮไฟว์กับอาที ฮ่าๆๆๆๆๆ” มีนหัวเราะดังลั่นแล้วยืนมือมาไฮไฟว์กับดาริน เหมือนกันจริงๆสองคนนี้ ดารินนี่ก็อีกคน
   “หัวเราะอะไรกันดังไปถึงหน้าบ้านเลย” เสียงเคร่งขรึมดัง
   “อ่าวกลับมาแล้วเหรอครับพ่อ”  ผมหันไปมองคนที่เดินเข้ามา
   “ถ้าไม่กลับแกจะเห็นฉันเหรอมีน” คนที่อยู่ตรงหน้าผมดูเหมือนจะดูหนุ่มและดูภูมิฐานกว่าที่ผมคิดไว้อีก คุณพ่อวางสูทลงเก้าอี้ก่อนที่จะรูดไทลง
   “ว่าไงตัวแสบหืม มาให้ปู่หอมที” คุณพ่ออุ้มดารินจากตักผมแล้วฟัดแก้มดาริน
   “สวัสดีครับ” ผมลุกขึ้นยืนก่อนจะยกมือไหว้
   “อืม สวัสดี ป่าใช่ไหม” เสียงที่ติดจะขรึมทำให้ผมเกร็งตัวโดยทันที
   “ครับ”
   “อืมหน้าตาไม่เหมือนกับที่คิดไว้เลยนะ”
   “เอ่อแล้วที่คิดไว้เป็นยังไงเหรอครับ” ผมถามกลับ
   “อืมน่ารักกว่าที่คิดไว้อีก” ผมอ้าปากหวอ เพราะไม่คิดว่าคุณพ่อจะพูดแบบนี้ พอเห็นผมทำหน้าเหวอ คุณพ่อก็ยิ้ม รู้แล้วว่าสองคนนี้ได้รอยยิ้มนี้มาจากใคร พิมพ์เดียวกันชัดๆ
   “พ่ออย่าแกล้งแฟนผม เป็นไงละ น่ารักอย่างที่ผมเล่าไหม”
   “น่ารักจนไม่น่ามาคบกับแก แถมยังโง่ปล่อยให้เค้าหนีไปอยู่เมืองนอก” คุณพ่อยักคิ้วเท่ๆใส่แม็ค โอ๊ยคุณพ่อเท่มากเลยอ่ะ
   “นี่ๆทำตาเคลื้มใส่พ่อทำไม”
   “นี่พอๆกินข้าวเถอะ” คุณพ่อนั่งลงซักพักแม่บ้านก็ยกอาหารเข้ามา การทานอาหารมื้อนี้เรียกได้ว่าเกินความคาดหมายของผม บรรยากาศสบายๆมีเสียงหัวเราะตลอดเพราะคุณพ่อมักจะแหย่ผมให้แม็คโวยวาย โดยมีกองเชียร์คือดารินที่หัวเราะร่า หลังจากทานข้าวเสร็จก็พากันมานั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น
   “นี่แกจะวอแวป่าอะไรขนาดนั้นห๊ะ” คุณพ่อปรายตามาว่าแม็ค เพราะแม็คดูเฉยๆกับนอนหนุนตักผมแล้วคว้ามือไปจับ ถึงแม็คไม่อายแต่ผมกับอายคุณพ่อกับน้องมีน
   “ทำไมพ่อผมพอใจอ่ะ”
   “มึงนี่นะ พ่อขึ้นไปนอนก่อนนะป่า ตามสบายนะ” คุณพ่อยิ้มก่อนจะลุกเดินขึ้นห้อง
   “ครับคุณพ่อ” ผมยิ้มกว้าง
   “นี่ๆพอได้แล้ว”
   “แม็คเป็นอะไรของนาย”
   “หึงมีไรไหม”
   “นั่นพ่อนะแม็ค”
   “ไม่รู้ไม่สน”  ผมแทบจะหมดคำพูดของแม็คอะไรจะเวอร์ขนาดนั้น มีนส่ายหน้าเซ็งๆก่อนจะขอตัวพาดารินไปนอน ปล่อยให้ผมกับแม็คอยู่กันสองคน แม็คไม่ว่าอะไรแต่ลูบมือผมเล่นไปเรื่อย
   “ป่า มาอยู่ด้วยกันเถอะ”
   “ห๊ะ”
   “นะ อยู่ด้วยกันกับเราเถอะ เราไม่อยากเสียเวลาอีกแล้ว” พี่ท่านจะรุกผมไปถึงไหน
   “นี่ถามจริง ชวนเรามาอยู่ด้วยนี่ขอแม่เราหรือยัง” ผมว่าขำๆ ถ้าจะให้มาอยู่ด้วยกันจริงๆผมคงได้เขินตายเข้าซักวัน
   “เฮ้ยจริงสิ ขอเบอร์แม่หน่อยซิ เราจะโทรไป” ผมอ้าปากค้าง
   “แม็คนายจะเร็วไปแล้วนะ นี่ตกลงขอคบเราหรือขอชื้อขายกันแน่ห๊ะ” ผมว่าด้วยความโมโห แม็ครีบเหมือนเล่นขายของนั่นทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด แถมยังรุกหนักจนผมตั้งตัวไม่ทัน
   “เราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะป่า”
   “แม็คเราไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ เราดีใจนะแม็คที่แม็คมาขอคบ แม็คเรายังชอบแม็คไม่เคยเปลี่ยน เราอยากรู้จักแม็คให้มากกว่านี้ แม็คไม่เหมือนคนที่อยู่มอปลายคนที่เราเคยรู้จัก”
   “ป่า เราไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ เราขอโทษ”
   “แม็คเราขอให้เราเรียนรู้กันก่อนนะ”
   “โถก็นี่ไงอยู่ด้วยกันก็เท่ากับเรียนรู้กันไปด้วย นะป่านะครับ” สายตาเว้าวอนที่ส่งออกมาทำให้ผมพูดไม่ออก คนอะไรคิดเองเออเองตลอด
   “นะ นะครับที่รัก”
   ฉ่า เหมือนระบบความคิดผมพังทลาย คำว่าที่รักกับรอยยิ้มที่มีสเนห์ทำเอาผมหน้าร้อนฉ่า
   “ใครที่รงที่รัก อย่ามามั่วน่า” ผมหันหน้านีแม็คที่เอาแต่จ้องหน้าผม แล้วเราก็ปล่อยให้ความเงียบเดินไป
   “ดึกแล้วขึ้นนอนกันดีกว่านะ”แม็คลุกขึ้นดึงตัวผมตัวปลิวตามขึ้นห้องไป พอถึงห้องแม็คเข้าห้องน้ำ ผมนั่งนิ่งๆอยู่ที่เตียง ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าแม็คซ่อนอะไรไว้ใต้หมอนผมขึ้นไปค้นใต้หมอน สมุด สมุดบันทึกเล่มนี้ทำไมมันดูคุ้นๆนะ ผมเปิดดูลายมือก็เห็นลายมือที่คุ้นตา ไม่คุ้นได้ยังไงละ นี่มันสมุดบันทึกของผมนี่หน่า ทำไมมันถึงอยู่กับแม็คได้ ผมเปิดไล่ที่ละหน้า จนถึงวันสุดท้ายที่ทะเล ซึ่งมันควรจะเป็นเช่นนั้น แต่หน้าถัดไปกับมีลายมือที่ผมไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ เขียนอยู่เต็มไปหมด ผมไล่อ่านทีละตัวอักษรยิ่งอ่านยิ่งทำให้ผมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เรื่องราวที่แม็คเขียนไว้ ทั้งความรู้สึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ผมค่อยๆอ่านไปทีละหน้า ทุกตัวอักษร คำว่ารัก และคิดถึง ขอโทษ ผมจดจำทุกๆคำ
   “ยังไม่ง่วงเหรอ” แม็คนั่งลงข้างๆผมตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ผมหันไปมองแม็คที่ดูจะตกใจมากที่เห็นผมร้องไห้ พอผมกลับมาทำไมผมถึงร้องไห้บ่อยจริงๆ กลายเป็นคนเจ้าน้ำตาไปเสียแล้ว
   “ป่า ป่าเป็นอะไรร้องไห้ทำไมครับ” ผมโผเข้าไปกอดแม็คที่ยังงงอยู่  แต่ก็ยังกอดตอบผม
   “เห็นจนได้สินะ”
   ช่วงเวลาที่ผ่านมาเราสองคนมีความรู้สึกไม่ต่างกัน
   “ขอบคุณนะแม็ค” ผมขอบคุณที่รอผม แม็คกอดผมแน่นขึ้น
   “พอแล้วร้องมากปวดหัว ไปล้างหน้าล้างตาดีกว่านะครับคนดี” ผมพยักหน้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา ผมกลับออกมาแม็คก็นอนเล่นอยู่บนเตียง ผมสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มแม็คพลิกตัวมานอนมองหน้ากัน
   “ฝันดีนะครับ” แตะริมฝีปากเบาๆที่หน้าผาก ผมยิ้มกว้าง
   “ฝันดีเหมือนกันนะ” ผมขยับเข้าไปซุกตัวใกล้ๆแม็ค ก่อนจะหลับตาลง คืนนี้ผมคงฝันดีที่สุดแน่ๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
 :katai1: :katai1: ฮอลลลกว่าจะได้ลง คนไข้มาเยอะเกิน 5555555
 :katai4: ปั่นสุดชีวิต ใกล้แล้วนะ ใกล้จบแล้ว
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ใครเม้นเค้าบวกเป็ดให้ทุกคนแล้วนะ
รักนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-08-2016 17:41:29
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 31-08-2016 19:56:41
หวานๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 31-08-2016 20:08:54
พาเข้าบ้านแล้ว หุหุ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-08-2016 20:39:05
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 31-08-2016 23:26:09
 :-[
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 01-09-2016 01:50:23
อบอุ่น น่ารัก
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่25 31/8/2559
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 01-09-2016 04:13:07
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 04-09-2016 16:01:37
หลังจากที่ไปค้างบ้านแม็ควันนั้น ตื่นเช้ามาพวกผมก็แยกย้ายไปทำงานตามปกติ ดารินหน่าก็ไปรับกลับหลังจากที่เสร็จธุระ ผมไปนอนค้างที่บ้านแม็คเป็นบางครั้ง นอนค้างที่บ้านพี่ป่านเป็นบางวัน เพราะอยากแกล้งพี่เอ็กซ์โทษฐานที่ทิ้งพี่ป่านไปหลายอาทิตย์ พี่เอ็กซ์โมโหแทบตายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนใหญ่ผมก็จะนอนที่บ้าน ใครจะกล้าไปนอนกับแม็คกันล่ะ ถึงคุณพ่อจะชวนให้ผมไปนอนที่บ้านบ่อยก็เถอะ คุณพ่อบอกคุยกับผมแล้วสนุกกว่าคุยกับลูกชายที่แสนจะกวนประสาท เอาจริงๆก็เหมือนกันทั้งบ้านนะครับ  เผลอแปบๆก็ผ่านมาได้เกือบปีแล้ว วันนี้เป็นวันศุกร์ ก็เป็นเวลารวมตัวของพวกผมที่ร้านหลังมอ เหมือนเดิม
   “ไง สองสามีภรรยา หวานกันตลอดนะ” กล้าแซวทันที่ที่พวกผมสองคนเดินเข้ามาในร้าน
   “มึงก็แซวได้ทุกครั้งที่ไอ้สองคนมาไม่เบือเหรอ” เต้ว่า ผมนั่งลงก่อนจะรับแก้วที่เต้ส่งมาให้
   “นี่ป่า ไอ้หมอนั่นได้ติดต่อมาไหม”
   “อเล็กซ์นะเหรอไม่นิ ทำไมเหรอ”
   “ก็.....ช่างเหอะ” ผมมองเต้ที่ทำหน้ามุ่ย  ผมแอบลอบยิ้ม อเล็กซ์นิสัยเสียก็ยังแก้ไม่หายจริงๆ นั่งกินไปแต่ผมกินได้แค่น้ำเปล่ากับอาหารเท่านั้นหลังๆมาแม็คก็ไม่กินเหล้าแล้วจะมีก็แต่ที่ไปงานเลี้ยงที่เลี่ยงไม่ได้ถึงได้กิน นั่งคุยกันจนค่อนคืนพวกเราก็แยกย้ายกันกลับ
   “นี่ไปนอนห้องนะ”
   “อืม ได้สิ” ผมตอบรับ แม็คยิ้มกว้างก่อนที่จะกุลีกุจอรีบขับรถกลับคอนโด เรื่องแบบนี้เร็วเชียวนะ ถึงผมจะตกลงคบกันแล้วแต่ว่า  เรื่องที่พวกคุณคิดนะยังไม่มีหรอกนะ ถึงจะไปค้างด้วยกันแต่ก็ไม่มีอะไรลึกซึ้งเกินกว่าจูบ
   ผมอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จก็นั่งอ่านเอกสารที่ต้องใช้ในการประชุมพรุ่งนี้อยู่บนเตียง แม็คมานอนข้างๆมองผม
   “ป่า มาอยู่ด้วยกันเถอะนะ”
   “เอ๋” เอกสารในมือแทบหล่น แม็คลุกขึ้นนั่งมองผมเงียบๆ นี่จริงจังเหรอครับ
   “มาอยู่ด้วยกันที่นี่เถอะนะ ไม่อยากนอนคนเดียวแล้ว” แม็คทิ้งตัวนอนตักผมเงยหน้าคุยกับผม
   “อืม ได้สิ”  ความเคยชินนี่น่ากลัวนะครับ การกลับไปนอนบ้านในแต่ละครั้งกว่าผมจะหลับต้องนอนพลิกไปพลิกมาหลายรอบ เคยชินกับการที่อยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ตื่นขึ้นมามีคนนอนอยู่ข้างกาย พอไม่มีแล้วกับรู้สึกเหงาจนแทบทนไม่ไหว
   “ดีเลย” แม็คว่าก่อนจะหลับตาลงนี่จะนอนหนุนตังผมอย่างนี้เลยเหรอผมปล่อยให้แม็คนอนเล่นไปซักพักก็ปลุกให้นอนดีๆก่อนที่ผมจะซุกตัวเข้าไปอ้อมแขน ก่อนจะหลับไป

   หลังจากที่แม็คชวนอยู่ด้วยกัน แต่จริงๆกับหาเวลาที่จะย้ายของไม่ได้  แม็คเหมือนจะวุ่นมาก ได้ยินเสียงผ่านโทรศัพท์เท่านั้น ผมกลับมาบ้านได้ไม่เท่าไหร่ เต้กับกล้าก็มาหาผมที่บ้าน
   “นี่ป่าไปแต่งตัว อ่ะนี่เสื้อ” เต้ถุงกระดาษที่มีชื่อแบรนด์หรูติดอยู่ ผมนั่งทำหน้างง
   “นี่จะไปใส่ดีๆหรือให้พวกกูสองคนใส่ให้” 
   “บ้ารึไงกล้า” ผมคว้าเอาถุงขึ้นไปเปลี่ยนที่ห้อง
   เสื้อสูทสีขาวแบรนด์อามานี่ ผมเปลี่ยนเสื้อลงมาเสร็จยังไม่ทันได้นั่งทั้งสองคนก็ลากผมขึ้นรถ อะไรกันละเนี้ย ผมงงไปหมดแล้ว รถขับมาถึงบ้านแม็ค มาแค่บ้านแม็คทำไมต้องให้ผมแต่งตัวซะหรูขนาดนี้ด้วย ทั้งสองคนลากผมเข้าบ้าน ทันทีที่เข้ามาในบ้าน ร่างสูงที่คุ้นตาทำเอาผมยิ้มกว้างดีใจที่สุด
   “ อเล็กซ์  ทำไมนายมาอยู่ที่นี่” ผมรีบเดินเข้ากอดทักทาย
   “ไง ดูดีมากเลยนะ” แม็คยิ้มกว้างก่อนจะจับผมหมุนตัว ทำเอาผมเวียนหัว
   “ป่า”
   “แม่ แม่มาได้ไงครับ” ผมตกใจที่เห็นแม่ยืนอยู่ตรงนี้ก็เมื่อวันก่อนยังบอกผมว่าไปตามล่าโลมาสีชมพูที่ลุ่มแม่น้ำอเมซอนอยู่เลย
   “แม่มาเพราะวันนี้เป็นวันสำคัญนิ”
   “อะไรกันครับผมงงไปหมดแล้ว”
   “เดี๋ยวหนูจะรู้เองละค่ะ มาให้แม่กอดที” ผมเดินเข้าไปกอดแม่ คิดถึงจังเลย
   “ดูท่าลูกแม่จะมีความสุขมากเลยนะ” แม่พูดเบาๆ
   “เข้าไปข้างในกันดีกว่านะ เดี๋ยวจะเสียฤกษ์ซะก่อน” แม่จูงมือผมเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่น ผมหันไปมองพวกกล้ากับอเล็กซ์ที่เดินตามเข้ามา พอผมเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นผมก็เข้าใจแล้วว่ามีงานอะไร นี่มันงานแต่ง!!!  ผมมองไปที่ตัวต้นคิดซึ่งก็ไม่ใช่ใคร แม่ดันให้ผมนั่งลงก่อนที่แม่จะนั่งลงที่โซฟา ที่มีคุณพ่อแม็คนั่งอยู่ข้างๆ
   “เป็นความตั้งใจของแม็คเค้าเองล่ะ ว่าอยากทำให้เป็นทางการถึงแม่กับคุณพ่อของแม็คจะรับรู้แต่แม่ก็เห็นด้วยกับแม็ค”  แม่พูด ผมหันมองสมาชิกที่มาในวันนี้ต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของเราคน ผมหันไปมองตัวต้นคิดที่ส่งยิ้มกว้างมาให้ผม
   งานแต่งที่มีแม่ คุณพ่อของแม็ค เพื่อนสนิท และคนที่สำคัญ มันเป็นงานที่อบอุ่นทำให้ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
   “สวมแหวนให้กันนะลูก” แม็คหยิบแหวนทองคำขาววงเกลี้ยงเรียบง่ายสวมเข้าที่นิ้มผม ผมก็หยิบอีกวงสวมให้แม็ค
   “แม่ขอให้รักกันนานๆนะลูก”
   “แกดูแลลูกป่าให้ดีๆนะเว้ย” คุณพ่อลูบหัวผมก่อนจะหันไปว่าแม็ค ผมยิ้มกว้างใส่แม็คที่ตอนนี้ทำหน้าเหม็นเบือ เสร็จพิธีสวมแหวนเสร็จแล้วก็เป็นงานเลี้ยง
   “ขอบใจนะ”
   “ไม่เป็นไรครับที่รัก” มาที่รงที่รักอะไรให้ผมอายละเนี้ย มือหนากุมมือผมแล้วลูบเบาๆ
   “สวีทกันจริงๆ” อเล็กซ์เดินเข้ามาแซว ผมยิ้มกว้างนี่คงมาแกล้งแม็คแน่ๆ
   “ยินดีที่ได้พบนะอเล็กซ์” แม็คยิ้มก่อนจะยื่นมือออกไป อเล็กซ์จับมือทักทายกับแม็ค
   “ดูแลป่าให้ดีๆนะ ถ้าทำให้ป่าเสียใจผมไม่เอาคุณไว้เนี้ย” อเล็กซ์ทำหน้าจริงจัง อเล็กซ์เหมือนเป็นพี่ชายคนหนึ่งของผม แม็คยิ้มบางๆ
   “ไม่มีวันนั้นแน่นอน” แม็คว่า
   และงานเลี้ยงก็จบลง ทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน อเล็กซ์กับแม่ก็กลับไปนอนที่บ้าน ส่วนผมกับแม็คก็ค้างที่บ้าน แม่พูดอะไรแปลกๆก่อนที่จะกลับ ว่าห้ามออกจากห้อง   
   “วันนี้เหนื่อยจริงๆ อาบน้ำก่อนนะแม็ค” ผมถอดสูทตัวนอกแขวนไว้ที่แขวนเสื้อก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำ
   
Mac part
   ผมมองตามหลังป่าที่เดินเข้าห้องน้ำอย่างสบายใจ นี่ไม่สงสัยอะไรหน่อยเลยเหรอ ผมเตรียมงานเซอร์ไพรส์ป่า เตี๊ยมไว้ตั้งอาทิตย์หนึ่งซึ่งทุกคนก็เต็มใจร่วมมือ ป่าดูตกใจมากที่เห็นทุกคนมาในวันนี้ ก่อนที่ป่าจะมาถึงผมได้คุยกับอเล็กซ์ นี่ผมหึงไปได้ไงเนี้ย ก็ดูเหมือนจะชอบไอเต้ แต่ผมไม่รู้ว่าเพื่อนผมมันคิดยังไงกับอเล็กซ์  ผมถอดสูทกับไทออกคว้าเอาผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำเงียบๆ
   ร่างโปร่งที่ยืนหันหลังอยู่ใต้ฝักบัว ผมยาวลู่สายน้ำไหลตามผิวเนียน เอวค่อดที่บอบบางเหมือนผู้หญิง ถ้าหากกอดรัดแรงๆแล้วจะหักหรือเปล่านะ ผมถอดเสื้อผ้าก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านหลัง
   “แม็ค เข้ามาได้ไง” ป่ารีบหันกลับมาทำให้ลื่นผมรีบคว้าเอวบางไว้ก่อนที่จะล้มฟ้าดพื้นห้องน้ำเสียก่อน
   “ระวังหน่อยสิ” เสียงผมแหบพร่า เพราะร่างบางที่แนบชิดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ป่ายกมือกั้นระหว่างเราสองคน
   “มะ.แม็คเข้ามาทำไม” ป่าทำหน้าแดงก่ำ
   “เข้ามาอาบน้ำไง” ผมยิ้มเจ้าเลห์ เราสองคนอยู่ใต้ฝักบัว ป่าก้มหน้าลงชิดกับอกผม
   “ล้างตัวเสร็จแล้วไปแช่น้ำกันดีกว่านะ” ผมก้มลงกระซิบที่ข้างหูก่อนจะอุ้มป่าลงในอ่าง ผมนั่งลงก่อนที่จะรั้งป่าเข้ามานั่งบนต้นขา
   “มะ..แม็ค มันแปลกๆ” ป่านั่งขยุกขยิกบนตักผม นั่นยิ่งทำให้อะไรๆตื่นตัว ป่านิ่งแข็งทือไปแล้ว
   “ป่า ขอนะ” ผมกระซิบที่หูแล้วขบเบาๆ ร่างในอ้อมกอดสั่นเล็กๆ ป่ารู้ว่าผมขออะไร ร่าบางที่ไม่กล้าแม้จะสบตาพยักหน้าเบาๆ ผมแทบจะกระโจนเข้าใส่ แต่นี่เป็นครั้งแรกผมอยากให้ป่ารู้สึกดี  ผมประคองหน้าเนียนก่อนจะมอบจูบที่ร้อนแรง ป่าแม้จะตื่นตกใจแต่ก็จูบตอบอย่างร้อนแรง นี่ละครับได้ครูดี เกือบปีที่ผมได้แต่จูบและแทะเล็มเล็กๆน้อยๆ และวันนี้ก็มาถึง ผมจะทบต้นทบดอกเลยคอยดู
   ผมหมุนตัวป่ามานั่งคร่อม ผมละจากริมฝีปากบางก่อนที่จะไล่ขบเม้มจนเกิดรอย ฝ่ามือลูบไล้จนมาถึงตุ่มไตเล็กๆสีชมพูที่แข็งเป็นไต
   “อ๊ะ” ป่าร้องเมื่อผมกัดยอดอก ผมยกยิ้มก่อนที่จะไล่เลีย ดูดเม้ม จนร่างบางแอ่นกายด้วยความเสียวซ่าน
   “อึก อืม” เสียงครางหวานยิ่งทำให้ผมตื่นตัว  เลือนมือไปกุมแกนกายเล็กก่อนที่จะเร่งมือสโพกน้อยขยับตาม
   “อ๊ะ...อืม.. มะ..แม็ค ไม่ไหวแล้ว อึก อ๊า.....” มือเล็กจิกที่บ่าผม ก่อนที่จะปล่อยน้ำสีขาวออกมา ใบหน้าเรียวชื้นไปด้วยเหงือหายใจหอบแนบแก้ม ผมค่อยๆแทรกนิ้วเข้าไปเบิกทางเพื่อให้พร้อมรับ
   “อ๊ะ เจ็บ”
   “ใจเย็นๆที่รัก ไม่ต้องเกรง หายใจเข้าลึก อืมอย่างนั้นละ” ผมค่อยนิ้วทีละนิ้วแรงตอดรัดที่นิ้วทำให้ผมต้องขบกรามแน่นเสียงครางหวานดังก้อง สะโพกขยับตามจังหวะ ผมถอดนิ้วออกรวดเดียว
   “อ๊ะ”
   “พร้อมนะที่รัก” ผมจับสะโพกไว้ก่อนที่จะค่อยๆแทรกแกนกายเข้าไป
   “อ่า ....”ผมครางทันที่ที่สอดเข้าไปมิด มันให้ความรู้สึกดีจริงๆ แรงตอดรัดจากรอบด้านทำเอาผมแทบถึงในทันที
   “ขอโทษนะ” ผมบอกเพราะคงจะอ่อนโยนไม่ไหวแล้ว ผมจับร่างบางหันหลังโดยให้ป่าคุกเข้าในอ่างใช้มือจับขอบอ่างเพื่อค้ำตัวไว้ ผมค่อยถอดแกนกายเกือบสุดก่อนที่จะกระแทกเขาไปจนมิด
   “อ๊า”
   “อ๊ะ ...อ๊ะ” ผมเร่งจนน้ำในอ่านกระเซ็น ร่างบางโยกไหว
   “อ๊ะ..จะถึงแล้ว แม็ค” ผมกระแทกแรงๆไปสองสามครั้งก่อนที่จะปล่อยในร่างบาง  ผมนั่งโดยที่ป่านั่งบนตักและอะไรๆยังคาอยู่ข้างใน
   “เหนื่อยไหม”
   “อือ”
   “ยังไม่จบหรอกนะที่รัก” ผมหมุนให้ป่าหันหน้ามาก่อนที่จะลุกขึ้นยืน ป่ารีบยกมือกอดคอผมไว้ เอาขาเกี่ยวเอวผมไว้แน่ ภายในยิ่งตอดรัดผมแน่น  ผมเดินไปที่เตียงแล้วค่อยวางก่อนที่เริ่มบรรเลงบทรักอีกครั้ง และอีกครั้ง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เอร๊ยยยเอามาเสิร์ฟแล้วน้าาาาา
เอ็นซีครั้งแรก เขียนอย่างงงๆ ฮ่าๆๆ
เป็นไงบอกเราด้วยนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
รักทุกคน
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 04-09-2016 17:17:58
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-09-2016 17:43:43
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-09-2016 02:38:29
หูยยยยยยย เขาทำอะไรกัน คริคริ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 05-09-2016 02:40:01
เรียบร้อยโรงเรียนแม็ค
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 05-09-2016 06:49:05
อร๊ายยยยยยยย
เค้าแต่งงานกันล้ว

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 05-09-2016 12:59:28
 :pig4: แมคหื่นเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: เปาเปา ที่ 05-09-2016 19:44:37
นับถือความอดทนของแม็คจริงๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-09-2016 21:09:04
เพิ่งมาอ่านคับ อ่านรวดเดียว สนุกมากๆคับ ปลื้มกับตัวละคร วางบุคคลิกและการเดินเรื่องดี อ่านแล้วสนุกมากๆ ขำๆ เคืองๆ 555
 ตอนที่อ่านนี่แบบ เคืองป่าที่แอบรักพระเอกแล้วไม่บอก พอจะไปรักษาตัวที่ต่างประเทศก็ไม่บอกเพื่อนสักคำ จะกลัวอะไรนักหนา
รออ่านต่อนะคับ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่26 4/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 05-09-2016 21:31:07
ยินดีด้วย บ่าว-สาว?
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 บันทึกหน้าสุดท้าย 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 13-09-2016 11:44:45
อืม.. ผมตื่นขึ้นในอ้อมกอดคนที่รัก ผมมองใบหน้าคมที่หลับใหล เมื่อคืนผมถูกเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นอัมพาต ฮืย ผมเลื่อนมือไปบีบจมูก

            “นี่จะลอบฆ่าสามีตั้งแต่คืนแรกเลยเหรอครับที่รัก” ผมสะดุ้งเพราะแม็คดันตื่นก่อน

            “บ้า” ผมดันตัวให้ห่างก็ตอนนี้ทั้งผมและแม็คต่างเปลือยเปล่าและผมรู้สึกว่าอะไรมันเริ่มที่จะตื่นแล้วนะสิ

            “อรุณสวัสดิ์ที่รัก” แม็คว่าก่อนที่จะคว้าตัวผมกอด แล้วพลิกตัวขึ้นคร่อม ผมยกมือดันตัวแม็คไว้ แววตาวาวที่เปล่งประกายความสุข แม็คแนบรีมฝีปากลงมา จากสัมผัสแผ่วเบาเปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน มือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวกายทุกรอยสัมผัสที่มือหนาผ่านทำให้ผมร้อนด้วยความต้องการ

            “อืม พอ....พอได้แล้ว” ผมแทบกลั้นเสียงแทบไม่ไหว แม็คยอมปล่อยผม แต่ก็ยังไม่ลุกออกไปจากตัวผม

            “น่ารักจังเลยนะ ลุกไหวไหม” มือหนาลูบแก้มผมเอียงหน้าซบ

            “ไม่ไหวอ่ะ ปวดไปหมดทั้งตัวแล้วอ่ะ” ผมค้อนคนตัวโต

            “รอเดี๋ยวนะ จะเตรียมน้ำให้” แม็คจูบแผ่วเบาที่หน้าผากก่อนที่จะลุกขากที่นอนที่ทำเอาผมแทบคว้าผ้าห่มมาปิดไม่ทัน

            “อายอะไรกันเมื่อคืนสัมผัสมาหมดแล้วไม่ใช่เหรอ หึๆ”

            “แม็คไม่อายแต่เราอาย” ผมบ่นอุบอิบ ก็แม็คเล่นเดินไปห้องน้ำทั้งๆที่ไม่ใส่อะไรเลยนะสิ คนอะไรหน้าไม่อาย ได้ยินเสียงกุกกักในห้องน้ำซักพักใหญ่แม็คก็เดินออกมาพร้อมกับพันผ้าขนหนูไว้ ยังดีที่พันไว้ไม่งั้นผมไม่กล้าออกจากผ้าห่มแน่ๆ แม็คเดินมาอุ้มผมไปที่ห้องน้ำผมพยายามที่จะคว้าเอาผ้าห่มติดมาด้วยแต่แม็คก็จับโยนทิ้งไปอีกฟาก ที่ผมทำได้คือกอดคอแม็คแน่น แม็ควางผมลงในอ่างที่เปิดน้ำไว้เต็ม น้ำอุ่นทำให้อาการปวดของผมรู้สึกบรรเทาลง

            แม็คก้าวลงมาในอ่างแล้วดึงผมไปกอด มือหนาเลือนลงไปที่สะโพกก่อนจะกดนวดเบาๆ อือ มันทำให้ผมรู้สึกดีจนเอนตัวพิกอกแกร่ง

            “ดีขึ้นไหม”

            “ดีขึ้นมากเลยละ ขอบคุณนะ” ผมเงยหน้าส่งยิ้มกว้าง แม็คส่งยิ้มบางตอบ แช่กันได้ซักพักแม็คอุ้มผมออกจากอ่าง

            “ยืนไหวไหม”

            “อะ..อืม” ผมบอกเสียงแผ่วแม็คปล่อยผมลงแต่ก็ยังพยุงผมไว้ แล้วหยิบเอาผ้าขนหนูมาพันแล้วบอกให้ผมไปแต่งตัว ผมแต่งตัวเสร็จซักพักแม็คก็เดินออกมา วันนี้เป็นวันหยุดพอดี เราสองคนลงมาข้างล่าง ที่ผมมองนาฬิกาก่อนลงมามันเกือบเที่ยงแล้ว

            “วิ้ดวิ้วว เข้าหอคืนแรกจัดหนักเลยนะครับมึง” เต้ที่นั่งเล่นเกมกับกล้าทักทันทีที่เห็นผม

            “สัด แล้วมึงมาอยู่บ้านกูทำไมแต่เช้าห๊ะ”

            “กูไม่ได้อยู่แต่เช้ากูอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน” เต้บอกทั้งตายังมองจอที่กำลังเล่นเกมกับกล้า แสดงว่าทั้งสองคนนี่ไม่ได้กลับกันเลยสินะ ผมนั่งดุสองคนนั่นเล่นเกมส่วนแม็คเดินหายไปในห้องครัว

            “ไงน้องชาย”

            “อเล็กซ์!! พักที่นี่หรอกเหรอ” ผมทำตาโตใส่อเล็กซ์ที่เดินมานั่งข้างผมแต่สายตากับจับจ้องอยู่ที่เพื่อนสนิทที่นั่งเล่นเกมอย่างจริงจัง ที่ตอนนี้รู้สึกว่าจะมาเล่นในชีวิตจริงซะแล้ว

            “ไอ้กล้ามึงโกงกู”

            “กูไม่ได้โกงสัด”

            ครับ นี่โตกันแล้วใช่ไหมแล้วก็เริ่มทะเลาะกัน ผมนั่งยิ้มกับที่ทั้งสองคนนั่นทะเลาะกันผมคิดถูกที่กลับมา อเล็กซ์จู่ๆขยี้หัวผม ผมหันไปมองก็เห็นอเล็กซ์ยิ้มกว้าง ผมรู้ความหมายของรอยยิ้มอเล็กซ์ดี เลยไม่พูดอะไรออกไป

            “ป่ามากินข้าวเดี๋ยวปวดท้องนะ ตอนเช้าก็ไม่ได้กินแล้ว” ผมหันไปตามเสียงเรียก แม็คจัดโต๊ะกับป้าดาอยู่ ถึงว่าแม็คจะเรียกผมแต่คนที่วิ่งไปคนแรกก็คือเต้

            “ไอ้เต้นี่ของเมียกู มึงกลับบ้านได้แล้วไป นี่วันหลังแต่งงานนะเว้ย” แม็คโวยวาย

            “ของเมียมึงก็แหมือนของกูแต่กูไม่เอามึงนะ ทำใจนะเพื่อนยังไงมึงก็จะมีกูอยู่กวนอย่างนี้ ดีใจซะที่มีเพื่อนแบบกู” เต้ว่ากวนๆก่อนจะนั่งรอให้ป้าดาตักข้าว แม็คเหมือนหัวเสียแต่กลับมีรอยยิ้มกว้าง ถึงแม้ว่าจะเขินกับคำเรียกหาของแม็คก็เถอะนะ

            “นั่งทานพร้อมกันนี่ล่ะค่ะ ป้าเตรียมไว้สำหรับทุกคนนั่นละคะ” สิ้นคำป้าตาทุกคนก็ย้ายมานั่งที่โต๊ะทานข้าว ผมนั่งทานเงียบๆกับแม็คที่คอยตักอาหารให้ คอยห้ามทัพระหว่างเต้กับกล้าที่ทำสงครามน้ำลายกันตรงโต๊ะอาหาร

            “นี่ถ้ามึงทะเลาะกันมากๆกูจับมึงสองคนแต่งกันเลยดีไหมห๊ะ”

            “มึงอย่าพูดอะไรให้กูขนลุก”

            “กับไอ้เตี้ยนี่กูยอมถูกกดเลยมึง” กล้ายกมือท่วมหัว ผมขำกับท่าทางนั้น สายตาเหลือบไปเห็นอเล็กซ์นั่งทำหน้านิ่งกินข้าวเงียบๆแต่ผมรู้ดีว่าอเล็กซ์ไม่พอใจ

            “แล้ววันนี้ไม่มีธุระไปไหนกันเหรอ”ผมถาม

            “ทำไมเหรอจ๊ะ กลัวโดนขัดจังหวะหรือไง”  เต้ก็ยังคงเป็นเต้

            “เปล่าเราจะชวนไปเที่ยวทะเล อเล็กซ์ไปด้วยกันนะมาอยู่อาทิตย์หนึ่งใช่ไหมละ”

            “ใช่ ศุกร์หน้าฉันต้องกลับแล้ว”

            “แม็คไปทะเลกันนะ” ผมหันไปชวนแม็ค

            “ครับ นี่จะไปฮันนีมูลทำไมต้องหอบพวกนี้ไปด้วย” แม็คบ่นแต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร ผมยิ้มกว้าง หลังจากกินข้าวเสร็จผมก็โดนไล่ให้ไปนอนพักเพราะแม็คว่าตัวรุมๆ ส่วนพวกนั้นก็นั่งเล่นเกมกันอยู่ด้านล่างสุดท้ายก็ได้ข้อสรถปว่าจะไปเที่ยวที่เดิมกำหนดเดินทางวันพรุ่งนี้ ทำไมรู้สึกตื่นเต้นจังฮ่าๆ เหมือนตอนนั้นเลย

            “ทำไมยังไม่นอน”

            “ตื่นเต้น”

            “ห๊ะ แค่ไปเที่ยวทะเลนี่นะ”

            “ก็จะได้ไปเที่ยวกับแม็คนี่ เหมือนตอนนั้นเลย” ผมพลิกตัวหันไปคุย

            “คราวนี้จะไม่เหมือนครั้งนั้นอีกแล้ว” แม็คว่าก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “นอนได้แล้วครับที่รัก พรุ่งนี้เดินทางจะเหนื่อย ฝันดี”

            “ฝันดีนะแม็ค” ผมซุกตัวในอ้อมกอดของแม็คก่อนที่จะผล่อยหลับไป

 

            ผมตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้าจนแม็คว่าผมตื่นเต้นเหมือนไปครั้งแรก ผนขนกระเป๋าลงมาไว้ข้างล่าง

            “คุณพ่อครับ ป่าจะได้ไปเที่ยวแล้วครับ”

            “นี่ดีใจมาก” คุณพ่อถาม ผมยิ้มกว้างก่อนจะพยักหน้ารัวๆ

            “นี่ตื่นตั้งแต่ไก่โห่”

            “ก็อยากไปนิ” ผมค้อนแม็คก่อนจะกอดคุณพ่อ

            “เที่ยวให้สนุกนะ อย่าลืมสาวมาฝากพ่อซักคน” คุณพ่อว่าขำๆ ผมหัวเราะ

            พวกเต้ กับอเล็กซ์มาถึงที่บ้านก็แปดโมงเช้าพอดี แม็คกับอเล็กซ์ขนของกระเป๋าไปไว้ที่รถ ส่วนพวกผมก็หอบของกินขึ้นรถ แล้วเราก็ออกเดินทางไปเที่ยวทะเลกัน

            “ถึงทะเลแล้ววววววววววววววววววว” ดูเหมือนจะมีคนที่ตื่นเต้นกว่าผมนะ เต้ถอดรองเท้าก่อนที่จะวิ่งไปที่ชายหาด เรามาบ้านพักที่เดิม ผมยิ้มก่อนที่จะเดินตามเต้ไป

            “ป่ามาเล่นเลยตอนนั้นนายเล่นไม่ได้ใช่ไหมล่า” ผมถอดรองเท้าแล้วเดินลงไปเล่นน้ำกับเต้ ซักพักกล้าก็วิ่งพุ่งเข้ามาหาพวกผม เราสองเลยหลบออกข้างๆกล้าเลยพุ่งหลาวลงทะเล โผล่ขึ้นมาไอจนน้ำตาน้ำมูกสภาพดูไม่ได้เลย

            “ฮ่าๆๆๆ กล้าแกดูไม่จีดเลย”

            “ ฮ่าๆๆๆ โอ๊ยกูอยากถ่ายรูปไว้ฮ่าๆๆ”

            “ไอ้พวกบ้ามึงไม่ต้องหัวเราะกูเลยโดยเฉพาะมึงไอ้ป่ามาให้กูจับซะดีๆ” กล้าว่ายน้ำมาทางผม ผมรีบว่ายหนี

            “ไม่เอ๊านะกล้า เต้ช่วยด้วย” ผมว่ายไปหาเต้ เต้กวักน้ำสาดใส่กล้า ผมร่วมมือกับเต้สาดน้ำใส่กล้า จนกล้าสู้ไม่ไหว

            “เฮ้ย” จู่ผมก็โดนดึงไปด้านหลังเซไปกระทบอกกว้าง

            “เล่นสนุกเลยนะ”

            “แม็ค” ผมเงยมองแม็ค

            “อีกเดี๋ยวขึ้นนะ เดี๋ยวไม่สบาย” แม็คเช็ดน้ำที่เกาะอยู่บนหน้าผม

            “อืม”

            “โอ๊ย น้ำทะเลหวานมากกกกกกก”

            “โอ๊ยน้ำตาลกูขึ้น”  สองคนนั่นทำหน้าขนลุกขนพอง มันน่าแกล้งจริงๆ ผมสาดน้ำใส่แก้เขิน พวกนั้นกลับหัวเราะ เล่นสนุกกันซักพักพวกผมก็กลับเข้าบ้าน แยกย้ายกันเข้าห้อง ผมรีบเข้าไปล้างตัวเพราะเหนียวตัว แต่กว่าจะได้ล้างตัวต้องห้ามแม็คที่พยายามขอเข้ามาอาบน้ำด้วย เรื่องอะไรผมจะยอม มันเขินจะตาย อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมนั่งเช็ดผมอยู่บนเตียง แม็คอาบน้ำออกมาก็มาแย่งผ้าขนหนูในมือผมมาค่อยๆซับผมให้ ตั้งแต่คบกันแม็คจะคอยเช็ดผมให้ตลอด มันเป็นความรู้สึกดีที่แม็คทำเสมอต้นเสมอปลาย เสร็จแล้วพวกเราก็ลงไปทานข้าวเที่ยง

            ตลอดที่เที่ยวกันหลายวันทำให้ผมมีความสุขมาก อเล็กซ์มีธุระด่วนจนต้องขอตัวกลับตั้งแต่วันที่สามแล้ว เหมือนจะมีปัญหากับเต้ด้วย ผมมองเต้ว่ามีปัญหาแต่ก็ทำตัวร่าเริง  ผมลงมาเดินเล่นที่ชายหาดตอนเย็นของวันสุดท้าย แสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า

            “มายืนทำอะไรกันหืม” แรงกอดรัดที่เอวทำให้ผมอมยิ้ม

            “คิดอะไรนิดหน่อยนะ”

            “คิดอะไรกันละ”

            “คิดดีใจที่ได้กลับมา ดีใจที่ได้รักแม็ค”

            “ขอบคุณนะที่กลับมา ขอบคุณที่รัก สัญญาจะรักป่าตลอดไปและขอโทษที่ทำให้เวลาสูญเปล่าไปตั้งหลายปี” แม็คกอดรัดแรงขึ้น

            “แม็คไม่ต้องขอโทษเลยนะ เราไม่โกรธไม่เคยเคืองอะไรเลยเราต่างหากที่ผิดไม่ยอมบอกอะไรเลย ที่ผ่านมาก็ปล่อยให้ผ่านไปเถอะนะเลิกคิดมากได้แล้ว” ผมลูบแก้มเบาๆพร้อมกับยิ้มกว้าง

            “ครับที่รัก ขอบคุณนะ” แม็คยิ้มกว้างก่อนที่จะก้มมาหอมแก้มผมทั้งสองข้าง เราสองคนมองพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ผมเอนตัวพิงออกแกร่ง อ้อมแขนที่ให้ความอบอุ่นเสมอตอนนี้ในไดอารี่ของผมไม่ได้เขียนเพียงแต่เรื่องราวของ “ผม” แต่เป็นเรื่องราวของ “เรา” ความรักที่มีเราสองคนช่วยกันเดินเคียงข้างกันตลอดไป

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จบแล้ววววววววววว จุดพลุฉลองงงง

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน

ขอบคุณคอมเม้นต์ทุกคอมเม้นต์

เรื่องแยกของทุกคู่ที่เกริ่นไว้ในเรื่องนี้ จะเขียนต่อแน่นอนค่ะ

ขอบคุณจริงๆที่เข้ามาอ่าน รักทุกคนค่ะ

อยากสอบถามว่าต่อในกระทู้เดียวกันเลยนี่ได้หรือเปล่าคะ

หรือต้องแยกกระทู้
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 13-09-2016 12:03:27
อเล็กซ์ - เต้ นี่ยังไงกันครับ อยากได้เคลียร์ๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-09-2016 12:10:21
จบแล้ว!  ทำไมแม็คโชคดีแบบนี้นะ? ตอนแรกไม่อยากให้แม็คสมหวังด้วยซ้ำ
><
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 13-09-2016 12:23:48
อเล็กซ์ - เต้ นี่ยังไงกันครับ อยากได้เคลียร์ๆ
อเล็กซ์เต้รอก่อนนะคะ ขอเคลียไหดอกก่อนฮ๋าๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 13-09-2016 12:27:44
จบแล้ว!  ทำไมแม็คโชคดีแบบนี้นะ? ตอนแรกไม่อยากให้แม็คสมหวังด้วยซ้ำ
><
สงสารนางเถอะนะฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 13-09-2016 12:35:43
จบแล้ว สนุกมากๆ ประทับใจตอนจบ เห้อออ เรื่องดีๆจบอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-09-2016 13:16:16
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 13-09-2016 13:55:04
 :L2: :L1: :pig4:

อ่านต่อจากเรื่องนี้ก็ดีนะได้วนไปอ่าน ป่ากับแม็คด้วย
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนที่27 13/9/2559
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 13-09-2016 13:56:01
ฮิ้ววววววววววววววววว

เปิดเรื่องใหม่เลยดีกว่าค่ะ
จะได้มีชื่อเรื่องของแต่ละคู่



 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Alex - Tae
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 14-09-2016 11:07:45

Tae

อ๊ากกกกก ผมจะบ้า ใครใช้ให้เพื่อนรักผมเป็นเพื่อนกับไอ้บ้าหน้าตายที่ชอบทำมึนแกล้งผมอยู่เนี้ยแต่ทำไมยิ่งใกล้ชิด หัวใจที่เคยคิดว่าแตกสลายไปแล้วกับเต้นระรัว

Alex

คนอะไรตัวก็เล็กแต่ปากดีชิปหาย น่าแกล้งชะมัด แต่ทำไมยิ่งแกล้งหัวใจผมยิ่งถล่ำลึก แววตาที่ซ่อนความเจ็บปวดคู่นั้นทำให้ผมอยากให้มันหายไป ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอยากดูแล


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกริ่นเป็นน้ำจิ้ม พล็อตยังไม่ถึงไหน


ขอบคุณทุกเม้นนะคะ

เป็นกำลังใจอย่างมาก รักทุกคนนน

หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-09-2016 14:12:02
 :L2: :pig4:

รอเต้ &Alex
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Coffeeblack ที่ 14-09-2016 16:56:52
ชอบฮะ สนุก เป็นรักที่มั่นคงมาก
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 16-09-2016 15:20:07
สงสารป่าา ป่าน่ารักมาก อ่านตอนแรก ๆ นี่แทบหักคอแม็ค 555555
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-09-2016 15:54:48
อเล็กซ์ - เต้ ต่อในกระทู้เดิมหรือเปล่าครับ หรือว่าจะตั้งใหม่ รอติดตามผลงานนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 23-09-2016 11:54:22
ชอบเรื่องนี้นะครับ
แต่ชอบจนถึงก่อนกลับจากเมืองนอก
เพราะเนื้อเรื่องค่อยๆเป็นค่อยๆไป
สนุกมาก บีบคั้นหัวใจ
แต่พอกลับจากเมืองนอก ทุกอย่างดูรีบเร่งไปหมดเลยครับ
แต่โดยรวม ผมก็ยังชอบเรื่องนี้มากอยู่ดีครับ

ขอบคุณครับสำหรับเรื่องสนุกๆ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง แจ้งข่าว 23 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 23-09-2016 16:00:59

เปิดกระทู้ใหม่แล้วน้าาาาาาาา เรือ่งราวของเต้และอเล็กซ์

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=55782.0
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 25-09-2016 04:52:01
ป่า น่ารัก อ๊าาา :mew1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 25-09-2016 10:46:33
นึกว่าตอนพิเศษป่าน-เอ็กซ์จะมาก่อนซะอีก  :hao5:

ช่วงแรก (ก่อนป่าไปตปท.) สนุกดีจ้า เข้าใจอารมณ์คนแอบรัก แอบสงสัยนิดหน่อยว่าเด็กม.6 ตื่นสายไม่เข้าเรียนคาบเช้า กับขับรถโต๋เต๋ไปมา ทำได้ด้วยเหรอคะ?  :really2:

ช่วงหลัง (ป่าเรียนจบกลับไทย) มันรวดเร็วไปนิดนึง ยังงงๆอยู่เลยว่าทำไมแม็คถึงรู้ตัวว่าชอบป่าจริงๆ แล้วทำไมปักใจมาได้ตั้งหลายปีทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหมด้วยซ้ำ

เรื่องนี้จบหวานได้เพราะมีเต้นะเนี่ย  o13
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 25-09-2016 19:46:02
 o13 o13
ขอบคุณค่ะอบแนวนี้มากกกกกกก

นักเขียนสู้ๆ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 10-10-2016 17:42:58
นึกว่าตอนพิเศษป่าน-เอ็กซ์จะมาก่อนซะอีก  :hao5:

ช่วงแรก (ก่อนป่าไปตปท.) สนุกดีจ้า เข้าใจอารมณ์คนแอบรัก แอบสงสัยนิดหน่อยว่าเด็กม.6 ตื่นสายไม่เข้าเรียนคาบเช้า กับขับรถโต๋เต๋ไปมา ทำได้ด้วยเหรอคะ?  :really2:

ช่วงหลัง (ป่าเรียนจบกลับไทย) มันรวดเร็วไปนิดนึง ยังงงๆอยู่เลยว่าทำไมแม็คถึงรู้ตัวว่าชอบป่าจริงๆ แล้วทำไมปักใจมาได้ตั้งหลายปีทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกไหมด้วยซ้ำ

เรื่องนี้จบหวานได้เพราะมีเต้นะเนี่ย  o13
อนึ่งเรื่องนี้เค้าก็ยังมีโปรแกรมที่จะรีไรท์ก่อนที่จะรวมเล่มทั้งสามเรื่องรวมกันอยู่นะคะ ถ้าโปรเจคเต้กับพี่ป่านจบก็คงจะได้มาเกลาภาษาและไทม์ไลน์อีกรอบหนึ่ง
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง Tae - Alex 14 /9/2559 (จบแล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 20-01-2017 13:12:43
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ 1 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 14-02-2017 10:27:12
ตอนพิเศษ

            ผมเดินหัวฟูลงจากห้องทำไมบ้านมันเงียบจังวะ ผมเดินเกาพุงลงมาข้างล่าง เปิดตู้เย็น หือ อะไรแปะอยู่วะ

‘ ไอ้มีน เฮียฝากดูแลบริษัทด้วยนะ จะพาเมียไปฉลองวาเลนไทน์’

            จากที่เบลอๆอยู่ ผมตื่นทันที ไอ้พี่แม็ค ไอ้เฮียเลวววววว ไม่คิดว่าน้องจะไปฉลองวาเลนไทน์ที่ไหนบ้างเหรอวะ เกลียดคนมีเมียเว้ยยยยยยยยยยยยยย

            “แม็คทิ้งงานไว้ให้น้องมีนจะดีเหรอ” คนนั่งข้างๆพูดอย่างกังวล

            “ดีสิปล่อยมันลำบากซะบ้างมันไม่ได้มีเมียเหมือนฉันนิ” ผมเย้าซึ่งก็ได้ผล ป่าหน้าแดงก่ำ ไม่ชินซักทีเมื่อผมเย้า แต่คนขี้อายของผมก็ยังไม่ชินซักที ตอนนี้ผมขับรถลงใต้เพื่อไปกระบี่ พามาฮันนีมูลรอบสอง ก็รอบแรกใครใช้ให้มีตัวเสือกเยอะขนาดนั้นล่ะครับ แทบจะเรียกว่าไม่เป็นการฮันนิมูลแถมยังมีเรื่องวุ่นๆ ผมเลยเลือกที่จะมาฮันนีมูลกับฉลองวาเลนไทน์พร้อมกันครั้งเดียว เพราะเอาจริงๆทั้งผมทั้งป่าต่างมีงานประจำถึงแม้ผมจะใช้ช่วงเวลาวันหยุดด้วยกันแต่ผมก็อยากไปพักผ่อนกันยาวๆ เร่งเคลียงานทั้งอาทิตย์เพื่อจะหยุดยาวโดยโอนงานทุกอย่างให้ไอ้น้องรักรับไป

            “แม็คเหนื่อยไหม แวะพักก่อนไหม” ผมอมยิ้มกับภรรยาตัวน้อยที่ทำให้ผมตกหลุมรักขึ้นทุกวันๆ

            “ไม่ครับ ป่าเหนื่อยรึเปล่า นอนได้นะ” ผมยิ้ม

            “ไม่เอาหรอก” ป่ายิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะชวนผมคุยตลอดการเดินทาง

            กระบี่ ผมจอดรถที่บ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ ผมวางกระเป๋าบนเตียงใหญ่มองดูป่าที่เดินไปเปิดระเบียงบ้านพักออกไปยืนมองทะเลที่สะท้อนแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังคล้อยต่ำ ผมยืนซ้อนหลังก่อนที่จะโอบเอวบาง ใบหน้าเรียวเงยหน้าเปื้อนยิ้มกว้างที่บ่งบอกถึงความสุข

            “ไปอาบน้ำก่อนดีกว่าครับ เดี่ยวจะพาไปทานร้านอร่อย”

            “อืม อาบพร้อมกันไหม” หืม คนขี้อายของผมไม่สบายหรือเปล่า พูดแบบนี้ข้าวเย็นคงไม่ต้องทานแล้ว

            “เอาจริงเหรอ” ผมรั้งเอวบางแนบชิด ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปชิดสัมผัสถึงกลิ่นกายที่หอมที่แสนจะเย้ายวนผม จมูกไล่สูดกลิ่นหอมที่พวงแก้มนุ่มที่ตอนนี้แดงระเรื่อ น่าสัมผัส

            “อือ ไม่เอาอ่ะ หิวแล้วไปหาอะไรกินดีกว่า” ป่าดิ้นเล็กน้อย ผมก้มมองคนที่หน้าแดงก่ำไม่กล้ามองหน้าผม ปล่อยไปก่อนก็ได้ ผมปล่อยมือก่อนที่ป่าจะรีบวิ่งไปหยิบของก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไป

            “หึๆ น่ารักจริงๆนะ” ผมขำให้กับอาการขี้อายของป่า ทำกันจนถึงขั้นไหนแล้วก็ยังอายอยู่อีก

            ซักพักป่าก็อาบน้ำแต่งตัวออกมาผมเลยไปทำธุระต่อ เสร็จแล้วผมก็จูงมือป่าเดินไปร้านอร่อยที่อยู่ไม่ไกลบ้านพักนี้นัก มื้อนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนตรงหน้า

            “ป่า มีความสุขไหม”

            “เรามีความสุขมาก มากจนเมื่อก่อนคิดว่าจะไม่มีวันนี้” มือเรียวกุมมือผมก่อนที่จะลูบเบา ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

            “เราดีใจที่ป่ามีความสุขนะ” ผมยกมือเรียวมาจูบ ทำให้ใบหน้าเนียนแดงก่ำสายตามองไปทั่วร้าน ไม่บ่อยหรอกที่ผมจะทำอะไรแบบนี้ ถึงอยากทำใจจะขาด แต่ภรรยาตัวบางของผมขี้อายจะให้ทำยังไงได้

            “เรามีความสุขทุกวันที่ได้อยู่กับแม็ค”

            “ไม่ต่างกัน และผมยิ่งรักภรรยาคนน่ารักของผมมากขึ้นทุกวัน ” ผมกระซิบเบาๆที่หูก่อนจะขบเม้มติ่งหูเบาๆ ป่าสะดุ้งก่อนที่จะผงะยกมือปิดหูใบหน้าแดงก่ำนั่นยิ่งทำให้ผมยิ้มกว้าง  ผมมองรอบๆก่อนที่จะอดใจไม่ไหว ก้มลงหอมแก้มเนียนฟอดใหญ่ โดยคนที่โดนกระทำส่งค้อนวงโตมาให้ผม หลังจากทานเสร็จผมจูงมือเรียวไปเดินเล่นริมชายหาดขากลับบ้านพัก เราจูงมือกันเงียบๆ ไม่มีคำพูดคุยแต่ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ

            “ไว้หนีไปเที่ยวไกลๆกันอีกไหม”

            “ฮ่าๆ น้องมีนจะได้ฉีกอกแม็คแน่ๆ” แค่นึกผมก็ขำตาม

            “กลับบ้านพักกันเถอะ ชักเหนียวตัวแล้ว” ผมจูงมือป่ากลับบ้านพัก

            ป่ายืนมองซ้ายมองขวาถือผ้าขนหนูไว้แน่น ทำให้ผมแอบลอบยิ้มก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำปล่อยให้ป่ายืนทำใจก่อน คนขี้อายของผมนี่ขี้อายจริงๆนะครับ ตั้งแต่วันที่จัดงานแต่งป่ายิ่งดูขี้อายขึ้นกว่าเดิม เอาจริงๆผมก็ไม่ได้จ้องที่จะจับกดป่าอย่างเดียวหรอกนะ เอาน่า มันก็มีบ้างล่ะที่ผมจ้องจะกดทำไงได้ก็คนที่รักนอนอยู่ข้างๆทั้งวันแต่ผมก็ไม่ทำอะไรป่าหรอกนะถ้าไม่สุดสัปดาห์ เพราะป่าทำงานจะให้ผมทำก็สงสารที่รัก เพราะงานที่ป่ารับผิดชอบมันต้องเดินทำงานไปทั่วโรงแรมถ้าผมทำ ผมคงจะไม่หยุดง่ายๆแต่เอาเข้าจริงๆ ผมแทบไม่ได้แอ้มเพราะงาน งานเท่านั้น

            “ป่าน้ำอุ่นเตรียมเสร็จแล้วนะเข้าไปแช่ได้เลยครับ” ผมเดินออกไปเรียก แล้วดันหลังให้ป่าเข้าห้องน้ำไป ป่าทำหน้างงแต่ก็ทำหน้าโล่งใจ ยังหรอกครับที่รัก ผมลืมบอกไปรึเปล่าว่าห้องน้ำมันไม่มีล็อก หึๆ ผมย่องเบาเดินตัวเปล่าค่อยๆเข้าห้องน้ำ เห็นเพียงร่างบางที่นอนหลับตาแช่น้ำอุ่นในอ่าง ผมก้าวเข้าไปนั่งในอ่าง ป่ารู้ตัวทำตาโตทันทีที่เห็นผมนั่งอยู่ในอ่างด้วย

            “ขะ..เข้ามาทำไมอ่า”

            “ก็ใครชวนเข้ามาอาบน้ำด้วยกันล่ะ”

            “นึกว่าลืมไปแล้วนะ” ป่าบ่นอุ่บอิบ นั่งชันเข่าอยู่ที่มุมอ่าง ผมยิ้มก่อนที่จะเอื้อมมือรั้งป่ามานั่งอยู่ระหว่างขา มือลูบไล้แผ่นหลังเนียนขึ้นลง จูบซับที่ไหล่เนียนสัมผัสได้ถึงอาการสั่นน้อยๆ ยิ่งผมลูบผิวเนียนเท่าไหร่ป่ายิ่งขดตัวพิงอกผม

            “อือ...แม็ค”

            “หืม ..อะไรครับที่รัก”ผมกระซิบเบาๆที่ข้างหูขบเม้มติ่งหูก่อนจะไล่ลงมาที่ลำคอเรียว มือหนาลูบเบาๆที่หน้าท้องเนียน ก่อนจะเลื่อนขึ้นเขี่ยตุ่มไตชมพูที่น่าลิ้มลอง

            “อ๊ะ...อ่า..” เสียงหวานครางเบาๆทำเอาผมแทบทนไม่ไหว หมุนร่างบางให้เข้าหาตัวเอง ฉกชิมริมฝีปากนุ่มลิ้มรสหวาน หยอกเย้าลิ้นเล็กที่หดหนีการไล่ต้อน เสียงจูบดังก้อง

            “อืม .. อ๊ะ..มะ..แม็ค” ป่าร้องทันทีเมือผมจับแกนกายเล็กที่สู้มือรูดรั้งขึ้นลง

            “อ๊ะ. อ๊ะ อืม” ผมมองใบหน้าเนียน ดวงตากมโตปรือฉ่ำน้ำ แก้มแดงระเรื่อ กัดริมฝีปากล่างแน่น ให้ตายเถอะจะเซ็กซี่เกินไปแล้วนะ

            “เซ็กซี่เกินไปแล้วนะครับที่รัก” ผมว่าก่อนที่จะโดนค้อนวงโต แต่ก็ไม่ได้มีผลใดๆ ผมยกยิ้มร้ายก่อนที่จะเลียยอดอกสีชมพูที่ล่อตา

            “อ๊า” ป่าสะดุ้งทันที่ที่ผมเลีย นั่นยิ่งทำให้ผมยิ่งขบเม้ม ดูดดึง มือเรียวสอดเข้าเรือนผมก่อนจะบีบคลายระบายความเสียวซ่าน อืม เสียงครางหวานดังก้อง ทนไม่ไหวแล้ว ผมละมือเพื่อจะหยิบตัวช่วยชะโลมนิ้วก่อนที่จะสอดนิ้วเพื่อขยายช่องทางรักเพื่อรองรับส่วนแข็งขืนที่ตอนนี้พร้อมยิ่งกว่าพร้อม

            “พร้อมนะ” ผมกระซิบถาม ป่าพยักหน้าอย่างอายๆก่อนที่จะขยับตัวทับแกนกาย ผมค่อยๆถอนนิ้วก่อนที่จะกดร่างบางลงครอบแกนกายแข็งขืน

            “อ่าห์” ช่องทางที่บีบรัดทำให้ผมแทบทนไม่ไหว แช่ไว้ซักพักก่อนที่จะเร่งจังหวะ

            “อ๊ะ อ๊ะ..อืม....” เสียงประสานดังก้องลั่นห้องน้ำยิ่งปลุกเร้าอารมณ์ เร่งเร้าจังหวะก่อนที่จะถึงฝั่งฝัน

            “แฮ่กๆ” เสียงหอบของคนที่ซบบนอก

            “น่ารักจังเลยที่รัก” ผมว่าก่อนจะจูบซับที่ขมับไล่ลงที่พวงแก้มแดงระเรื่อ

            “อือ ดะ....เดี๋ยว แม็ค อีกแล้วเหรอ”ป่าทำหน้าตาตื่นเมื่อพบว่าสั่งที่ฝั่งในร่างเริ่มขยับขยายอีกครั้ง

            “เดี๋ยวค่อยพักนะที่รัก” ผมว่าก่อนที่ป่าจะได้รู้ว่าท้ายที่สุดการได้พักคือเกือบรุ่งเช้า เสียงร้อนแรงยังคงดังค่อนคืน

Pha Part 

            “อืม”  ผมส่งเสียงเมือขยับตัวรู้สึกเสียดขัด อ่า ภาพเมือคืนย้อนกลับมาเป็นฉากๆ การเรียกร้องเอาแต่ใจทั้งคืนเมื่อวานของแม็คที่ทำเอาตอนนี้ผมแทบขยับตัวไม่ไหว ทำให้ผมหน้าแดงก่ำ ฮือออ เมือคืนทำไปได้ยังไง

            ยวบ

            “ตื่นแล้วเหรอครับ” คำถามพร้อมกับความชื้นที่แนบลงกับแก้ม

            “อือ”

            “ไหวไหม สั่งอาหารให้แล้ว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้วันนี้คงจะไม่ได้เดินเที่ยวเลย” ไม่พูดเปล่ามือหนาลูบกับแผ่นหลังเปื่อยเปล่า

            “อือไม่ต้องลูบแล้วนะแม็ค” ผมรีบจับมือหนาไว้เพราะจะลูบลงต่ำขึ้นทุกทีๆ แม็คหัวเราะเบาๆก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงหายเข้าไปในห้องน้ำ คนอะไรหื่นจริงๆ ผมลุกขึ้นนั่งพิงหมอนจะให้ลุกไปใส่เสื้อผ้าก็ไม่ไหว ซักพักแม็คก็เดินออกมา

            “ไปแช่น้ำอุ่นดีกว่านะครับ” แม็คว่าก่อนที่ช้อนตัวอุ้มผมขึ้น

            ฉ่า

            ผมจะตายเพราะความอายจริงๆนะเนี้ย

            “อายอะไรกัน เห็นมาหมดทุกอย่างแล้ว”

            เพี๊ยะ

            “หยุดพูดเลยนะ” ผมฟาดเข้าที่อกกว้างแรงๆหนึ่งที ที่คนโดนฟาดได้แต่หัวเราะก่อนจะก้าวยาวๆพาผมไปแซ่ในห้องน้ำ ก่อนทีจะทู่ซี้ขออาบน้ำให้ แต่กลัวขวดสบู่เหลวที่ผมคว้ามาถือเลยบอกจะปล่อยให้ผมแช่น้ำคนเดียว ผมแช่น้ำอุ่นจนน้ำเย็นอาการเจ็บของผมก็ทุเลาจะเหลือก็เพียงการเดินแปลกๆ ผมสวมเสื้อคลุมเดินออกไปก็ไม่เห็นแม็คอยู่ในห้อง ไปไหนนะ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกไปนั่งดูวิวที่ระเบียงหน้าบ้านพัก  ก่อนจะผล่อยหลับไป

            “ป่าตื่นมาทานข้าวก่อนนะ” ผมบิดขี้เกียจ อากาศขัดเสียดดีขึ้นเยอะมาก ผมเดินหัวฟูตามแม็คเข้าไปในห้อง

            “นี่มันอะไรกัน”

            “สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับที่รัก” แม็คว่าก่อนจะยื่นกุหลาบสีขาวช่อโต มาให้ผม

            “อ่า...” ผมพูดอะไรไม่ออกได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม แม็คไม่ค่อยจะทำเซอร์ไพร์แต่การกระทำที่ผ่านมาทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจเสมอ

            “ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้ก็ได้นะ อึก ขอบคุณที่แม็คให้เรา..ทุกวันก็ทำให้เรามีความสุขมากอยู่แล้ว” ผมจับมือหนาไว้แน่น แม็คยิ้มน้อยๆก่อนที่จะเช็ดน้ำตาเบาๆ

            “อยากทำให้ อยากขอบคุณ ขอบคุณนะที่รักกัน ขอบคุณที่ยังกลับมา ขอบคุณที่ไม่ลืมคนโง่ๆที่ไอ้เต้มันบ่นว่าทุกวัน ฉันรักป่านะ” น้ำตาที่เหมือนจะหยุดกลับไหลเหมือนเปิดก๊อก ผมโผเข้ากอดแม็คแน่น

            “เลิกร้องได้แล้วครับ ขี้แยขึ้นเยอะเลยนะ โอ๊ยไม่พูดๆแล้วครับ”  กวนดีนักนะ ผมหยิกเข้าที่ต้นแขนที จะกวนไปถึงไหน

            “ขอบคุณนะครับแม็ค” ผมยืดตัวขึ้นจูบเบาๆที่ริมฝีปากหยักได้รูป แม็คยิ้มร่าเพราะไม่บ่อยนักที่ผมจะจูบก่อน

            “ทานข้าวกันดีกว่านะครับ” แม็คเลื่อนเก้าอี้ให้ผมนั่งผมวางกุหลาบช่อโตไว้ก่อนที่จะนั่งทานอาหารที่เลยเวลามานาน ถึงจะมีการเย้าแย่ของแม็ค การมาเที่ยวครั้งนี้ผมมีความสุขมากจริงๆ ขอบคุณนะครับ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คิดถึงป่ากันไหม เอาตอนพิเศษมาแก้ความคิดถึง

อ่านแล้วเป็นไงบอกเราด้วยนะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ1 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 14-02-2017 10:42:03
ป่ายังน่ารักเหมือนเดิม

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ1 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: cchompoo ที่ 14-02-2017 11:49:26
 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ1 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-02-2017 13:33:47
 :L2: :L1: :pig4:

Happy Valentine's Day
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ1 14/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 14-02-2017 19:09:31
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: Letter123 ที่ 17-02-2017 10:54:50
ตอนพิเศษ หึงหนักมาก
   ผมอยากจะเดินเข้าไปกระชากแขนไอ้ผู้ติดต่องานกับป่าจริงๆไม่รู้เลยเหรอวะ คนนั้นนะของใครผมได้แต่นั่งขบเขี้ยวกัดฟันที่ห้องทำงานป่า
   “คุณแม็คคะ ทำไมทำหน้าน่ากลัวจังเลยค่ะ” น้องนุ่นเลขาป่าเดินเข้ามาทัก นี่ผมทำหน้าตาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ
   “เหรอครับ คุณนุ่นผมถามอะไรหน่อยสิ ไอ้หมอนั่นใครนะ” ผมชี้ไปที่ผู้ชายดูภูมิฐานที่คอยแตะโน่นแตะนี่เมียผมอยู่นั่นล่ะ
   “อ้อ คุณชินค่ะ พอดีต้องดิวงานกับพี่ป่าเพราะจะจัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่นะคะ” ให้ตายเถอะดิวงานทำไมต้องเดี๋ยวโอบไหล่ เดี๋ยวแตะที่เอว โว้ยยยยย ผมไว้ใจเมียตัวเองนะครับ แต่ไม่ไว้ใจคนอื่นที่เข้ามาก้อร่อก้อติกเมียตัวเองจะผิดไหม นับวันป่ายิ่งมีแรงดึงดูดพวกแมลงที่คอยมาใกล้ภรรยาผู้น่ารักของผม ห๊ะ อะไรนะผมเห่อ ไม่ผิดครับเห่อจริงๆ หลังจากที่ไปฮันนิมูนรอบสอง กลับมาป่าก็ต้องมาเคลียงานที่รอการตัดสิน
   “แล้ว(ไอ้)คุณชินนี่มาบ่อยเหรอ”
   “อืม ก็เรียกได้ว่าลงมาคุมงานเองเลยล่ะค่ะ ไม่ค่อยเห็นหรอกนะคะที่จะมีคนมีตำแหน่งใหญ่ๆจะมาตามงานเองแบบนี้” ยิ่งนุ่นพูดมันยิ่งเข้าเค้า ผมลุกเดินออกจากห้องออกไปหาป่า
   “ป่าครับ เที่ยงแล้วไปทานข้าวกันก่อนนะครับ” ผมเดินเข้าไปโอบเอวบางเนียนๆ (ไอ้)คุณชินมองหน้าผมเคืองๆ
   “เที่ยงแล้วเหรอครับ ขอโทษนะพอดีคุยงานนาน แม็คเลยต้องรอนาน” ป่ายิ้มขอโทษ ผมส่งยิ้มกว้างตอบ
   “ไม่เป็นไร ไปกันเลยไหมพอดีคุณพ่ออยากทานข้าวด้วยนะ”
   “เอ๋ คุณพ่ออยู่ที่โรงแรมด้วยเหรอครับ” ป่าทำหน้าตกใจก่อนที่จะทำหน้าเครียดเพราะกลัวให้พ่อรอนาน
   “อ้อคุณพ่อมาคุยธุระแถวนี้นะเห็นว่าเสร็จธุระแล้วจะมา”
   “เอ่อ ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าคุณ...”
   “ขอโทษนะครับคุณชิน นี่แม็คเอ่อ...แฟนผมเอง” ผมมองคนที่หน้าแดงก่ำแนะนำผมให้กับคนตรงหน้า
   “อ้อ เจ้าของแหวนนั่นสินะครับ ผมนึกว่าจะมีหวังซะอีก” อ่าวไอ้หมอนี่
   “ฮ่าๆๆคุณชินอย่าล้อเล่นสิครับ เดี๋ยวเรื่องรายละเอียดผมจะส่งให้อีกทีนะครับ ต้องขอตัวก่อนนะครับ”  ป่ายิ้มขำก่อนที่จะขอตัว ดึงข้อมือผมให้เดินตาม ป่ายื่นแฟ้มให้น้องนุ่นบอกว่าจะไปทานข้าวเที่ยงโดยที่ยังไม่ปล่อยมือผม
   “อารมณ์ดีรึยังครับแม็ค” หืม ผมก้มมองคนข้างกาย
   “เรื่องอะไรครับ”
   “อย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องนะแม็ค” ป่ามองค้อนผม
   “ก็หึงไงครับ” ผมบอกตรงๆ หึงจริงๆนะ
   “แม็ค นั่นก็แค่คุยงานกันเอง” ป่าทำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ
   “เฮ่อ ขอโทษที่ทนไม่ไหว” ผมกุมมือเรียวแน่น
   “แม็ค นี่ขี้หึงจริงๆนะ หึๆ”
   “ไม่ต้องขำเลย ไอ้โอบไหล่ โอบเอวนั่นเป็นใครจะทน” ผมพูดเสียงแข็ง
   “ฮ่าๆๆๆ แม็คไม่รู้หรือไงว่าคุณชินแกล้งนะ”
   “อะไรนะ” ป่าไม่บอกแต่เดินยิ้มกว้างเข้าไปหาพ่อที่ยืนรอที่หน้าห้องอาหารก่อนที่จะเดินคุยกระหนุงกระหนิง ทำไมเหมือนโดนแกล้งไงไม่รู้วะ
********************************************************************
เอามาลงอีกสั้นๆ ดีใจที่ทุกคนยังจำป่าได้
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 19-02-2017 02:31:00
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 24-04-2017 11:44:03
 :pig4: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 15-03-2018 21:30:29
 :-[ :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 16-03-2018 09:06:18
ขอบคุณมากนะคับ :impress2: :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 19-01-2021 13:52:52
คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันเนอะ ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็ยังไม่สายไป ขอให้มีความสุขนะจ๊ะ :katai2-1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 07-02-2021 11:07:42
 :-[
หัวข้อ: Re: Love Diary รักที่แอบมอง ตอนพิเศษ2 17/2/2560
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 23-02-2021 18:44:14
 :pig4: :pig4: :pig4: